][Short Story][ - คืนเหงา ... กับเงาในใจ : After Yesterday Before Tomorrow
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ][Short Story][ - คืนเหงา ... กับเงาในใจ : After Yesterday Before Tomorrow  (อ่าน 36826 ครั้ง)

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :z13:
จิ้ม x อิๆ
อ่านตอนนี้แล้ว  :haun4: :haun4: :haun4:
ไม่คิดว่า น้องจิน้อยจะเชิญชวนให้ค้างคืนกันต่ออีกคืนอิๆ
แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2009 16:22:44 โดย newykung »

ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
:z13:
จิ้ม x อิๆ
อ่านตอนนี้แล้ว  :haun4: :haun4: :haun4:
ไม่คิดว่า น้องจิน้อยจะยเชิญชวนให้ค้างคืนกันต่ออีกคืนอิๆ
แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ


นายเอกเราออกอาการเมาแล้วคันส์นิด เอิ๊กๆ  :-[

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
บรรยายได้ดีเลยจ้า ครั้งแรกจริงหรอชักไม่อยากเชื่อ  :z1:

ไม่รุนแรงกำลังดี อยากอ่านอีกตอน จะจบรึยังนะ 


ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
ตอนสุดท้ายแล้วนะครับ เนื้อหาหลักที่ตั้งใจไว้คงจบลงแค่นี้ละ ส่วนเรื่องอื่นๆ ขอให้เขียนได้เยอะกว่านี้อีกนิด อาจจะเอามาลงให้อ่านเล่นกันครับ มีในมืออยู่อีก 2 เรื่องที่แต่งค้างไว้ เป็นเรื่องยาว สองแนวครับ ไม่ใช่แนวชีวิตแบบเรื่องสั้นเรื่องนี้ ยังไงก็ฝากผลงานไว้ด้วยนะคับ
อย่าลืมรออ่านบทพิเศษที่เสริมเนื้อหาให้จบสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นนะครับ


ตอนที่ 6

นาฬิกาบอกเวลา 9 โมงเช้า
รังสิมันต์ปลุกจิรัฏฐ์ให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ตัวเขาเองเผลอหลับไปอีกรอบเมื่อตอนเช้า
จิรัฏฐ์ตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าที่งุนงงและงัวเงีย

'ตื่นแล้วหรอครับพี่แซค'
'เอ่อ คือว่าเรื่องเมื่อคืนนี้'
ชายหนุ่มทอดเสียงลงต่ำ พลางทิ้งให้หายไปลำคอ แล้วจึงเอ่ยคำที่เหลือออกมา
'ผมขอโทษครับ'

รังสิมันต์ยิ้มให้จิรัฏฐ์
'จะขอโทษพี่ทำไมครับ ในเมื่อพี่เองก็ไม่ได้เสียหายอะไร'
'จิฟังพี่นะครับ'
ชายหนุ่มเว้นระยะสนทนาเพื่อสูดลมหายใจเข้าปอด

'พี่ไม่รู้นะครับ ว่าเมื่อก่อนจิจะผ่านอะไรมาบ้าง หรือจิจะเคยมีใคร
หรือใครจะทำให้เราเสียใจ แต่วันนี้ พี่จะดูแลจิเอง ถ้าจิจะให้โอกาสนั้นกับพี่'
'พี่คงให้คำสัญญาไม่ได้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
แต่สิ่งหนึ่งที่พี่อยากให้เรารู้คือ พี่จะรักเราและดูแลเราให้เท่ากับชีวิตของพี่นะครับ'
'จิจะให้โอกาสพี่ไหมครับ'

.
.
.
.
.
.
.
.
.

และเช่นเดิมกับครั้งก่อนๆที่ผ่านมา เมื่อจิรัฏฐ์ได้ยินคำถาม
ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆให้กับอีกฝ่ายแทนคำตอบ
พลางซุกตัวลงในผ้าห่ม อิงแอบกับอกอุ่นและกอดรังสิมันต์ไว้แน่นราวกับจะไม่มีวันปล่อยให้เขาห่างหายไปจากข้างกายเลย


ชีวิตของคนเราทุกคนล้วนมีที่ผิดพลาดกันไปบ้าง ไม่มีใครถูกต้องเสมอแต่ก็ไม่มีใครผิดพลาดตลอดเช่นเดียวกัน
ชีวิตคู่ก็เปรียบเสมือนเรือ เมื่อวันนึงเราไม่สามารถไปด้วยกันได้เราก็คงต้องสละออกจากนาวาลำนั้น
เพื่อล่องไปในทะเลกว้างเพียงลำพัง และเมื่อมีเรือลำใหม่เข้ามารับให้เราแอบอิง ก็จงทำวันนั้นให้ดีที่สุด
อย่าให้ต้องนึกเสียใจในภายหลัง ว่าทำไมวันนั้นเรายังไม่ได้ทำสิ่งใด

แม้ในบางค่ำคืน เราจะเหน็บหนาวและเปล่าเปลี่ยวใจไปบ้าง ขอจงมองไปยังวันพรุ่งนี้ ซึ่งยังคงมีอยู่เสมอ
ในวันถัดไป พระอาทิตย์ก็ยังคงสาดแสงเช่นเดิม เหมือนกับวันวานที่ผ่านมา
ไม่ได้มีสิ่งใดที่แปรผันไปเลย สิ่งเดียวที่จะผันแปรไปก็คือใจของเราเอง

เงาที่อิงแอบในใจและคอยทำร้ายตัวเรา จงใช้ความรัก ความดี ความศรัทธาปัดเป่าให้มันจางหายไป
ในทุกครั้งที่เกิดปัญหา ขอให้หนักแน่นกับตัวเองและเข้มแข็งเข้าไว้
ไม่ว่าพายุ ความเจ็บช้ำหรือความเศร้าโศกจะโหมกระหน่ำมาเพียงใดก็ตาม จงลุกขึ้นสู้
อย่าละทิ้งศรัทธาในตัวเอง และศรัทธาต่อผองเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ขอให้ความรักจงอยู่เคียงคู่กับทุกๆคนครับ ....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2009 01:16:44 โดย express_men »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
จบได้ประทับใจ  o13 ขอบคุณที่นำเรื่องราวมาให้อ่านกัน พร้อมข้อคิดในการใช้ชีวิตรัก

แล้วจะติดตามเรื่องต่อๆไปจ้า  :L2: :L2:

 :pig4:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 o13 o13 o13
อ่านแล้วเป็นปลื้มอะ ความรักอยากให้มันอยู่คู่กับทุกคนจังเลยอะ
เพราะว่าที่ใดมีรักที่นั้นย่อมีความสุขด้วย อิๆ
แล้วจะรออ่านเรื่องยาวต่อน๊า
บอกตรงๆอ่านเรื่องนี้แล้วประทับใจในตัว จิ จังอะ
ชอบทั้งชื่อบวกกับบุคลิกที่คล้ายคลีงกับตัวละครที่เคยคิดไว้นะถ้าจะเขียน

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
มาจิ้มไว้ก่อน เด๋วมาอ่าน
อ่านแค่ตอนแรกไปถึง "จ๊อกก จ๊อกกก" และ 5555
เด๋วออกไปกินข้าวกะงานสุมหัวมากมาย
แต่จะมาอ่านแน่นะจ๊าา

จุ๊บจุ๊บบ


ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17
 :-[ :o8:

ได้กันเร็วมากกก

หวังว่าึความรักของทั้งคู่จะยั่งยืนตลอดไปนะ

จบสวยดีชอบ

 :z2: :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






imageriz

  • บุคคลทั่วไป
 :pig4: ขอบคุณที่นำเรื่องดี ๆ น่ารักมาให้อ่าน
แล้วจบอย่างมีความสุข  o13

 :L2: :L2: :L2:

Glucose

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าชีวิตจริงมันจะลงเอยด้วยดี
อย่างในนิยาย มันก็คงจะดีนะครับ



 :L3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2009 23:07:18 โดย Glucose »

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: ][Short Story][ - คืนเหงา ... กับ
«ตอบ #42 เมื่อ07-02-2009 00:40:12 »

 o13 o13

บรรยายฉากเอ็นซีได้สวยมากคะ ใช้คำที่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึก กิริยาที่อ่อนไหว ได้อย่างสละสลวย

ดูเป็นฉากเอ็นซีที่ดูอบอุ่นและอ่อนโยนมากๆเลย

ถึงจะเป็นช๊อตฟิค แต่ก็สามารถดึงอารมณ์ร่วมได้ดีมากๆเลยคะ ทั้งเศร้าใจ กินใจ บีบน้ำตาได้หลายตุ่มเลยคะ



ถ้าแต่งอีกจะติดตามต่อๆไปนะคะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆๆๆๆๆๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2009 03:11:22 โดย mecon »

benzadic_acid

  • บุคคลทั่วไป
เขียนได้ครับครับ ... ให้กำลังใจนะครับ  สู้ๆ เขียนต่อไปนะครับ

mmzmay

  • บุคคลทั่วไป
ชอบจังงงงงงง

คำที่พี่ใช้บรรยาย

แบบ

มันไม่ใช่แค่บรรยายอ่ะ

มันเป็นการพรรณนา
ประมาณนั้นๆ

55
ซึ้งด้วย่อะ

แบบ อบอุ่นนนนนนนนนน

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

สิ่งที่ทำเป็นประจำเมื่อโดนทิ้ง

แต่งตัวสวยๆ แต่งหน้าฉ่ำๆ  พรมน้ำหอมทุกซอกทุกมุม  แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  หน้าเชิด  คอตั้ง  อกตึง  แล้วเดินออกจากห้องไปหาผู้ชายรายใหม่ต่อไป อิอิ



อิเจ้

ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
oaw_eang   อกตึงแค่ไหนขอพิสูจน์ได้ไม๊คร๊าบบบบ
[=[May*Z]=]   ติดพรรณาโวหารมากไปนิดครับ กำลังพยายามปรับปรุงให้น้อยลงเพื่อจะได้ไม่เยิ่นเย้อเกินในเรื่องต่อๆไป
benzadic_acid   ขอบคุณที่ตามมาอ่านครับ
mecon     เรื่องต่อๆไปมีครับ กำลังเร่งเขียนอยู่ ผมลองเอาเรื่องนี้มาแปะๆไว้ดูหน่ะครับ ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ อย่าลืมอ่านตอนพิเศษตอนเรื่องนี้นะครับ เพื่อความสมบูรณ์
Glucose   ชีวิตของเราจะจบสุขหรือจบเศร้าอยู่ที่เรากำหนดในวันนี้ครับ ถ้าวันนี้ทำดีแล้ว วันข้างหน้าก็คงไม่เสียใจที่ได้กระทำไปหรอกครับ
imageriz  ขอบคุณที่ติดตามอ่านเช่นกันครับ
Mint        ต้องเร่งเรื่องของทั้งคู่หน่ะครับเลยดูจะเร็วไปหน่อย ไม่งั้นมันจะยืด ไม่เป็นเรื่องสั้น เอิ๊กๆ
ExecutioneR  แปะไว้แล้วอ่านยังหว่า ?
nana     ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ +1 ให้นะครับ
newykung  ลองเขียนดูซิครับ เขียนแล้วบอกด้วยนะครับจะได้ตามอ่าน
Poes     ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในการตั้งกระทู้มากๆครับ อย่าลืมอ่านบทสรุปนะครับ

ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
AFTER YESTERDAY BEFORE TOMORROW

13 กุมภาพันธ์ 2552

6 เดือนให้หลัง นับจากวันแห่งความเศร้าและความเหงาในยามค่ำคืน

--------

'ตื่นได้แล้วเด็กน้อย สายแล้วนะครับ'

ห๊าวววววววว ...

หนุ่มร่างบางค่อยดันกายให้โผล่พ้นกองผ้าห่มผืนหนา เขาค่อยๆลุกขึ้นมายืนโงนเงนอยู่ได้ซักพักจึงนั่งกลับลงไปที่เตียงอีกครั้ง เสื้อนอนตัวโคร่งสีขาวยับยู่ยี่ กางเกงบ็อกเซอร์สีขาวที่แสนสั้น เผยให้เห็นต้นขาวขาวผ่องได้รูป ผมเผ้าที่ดูยุ่งเหยิง นัยย์ตาปรือๆแสดงให้เห็นว่าหนุ่มน้อยยังตื่นไม่เต็มที่มากนัก รังสิมันต์เห็นภาพเหล่านี้จนชินตาในทุกๆเช้า แต่เขาไม่เคยนึกเบื่อเลย เขากลับชอบและเต็มใจที่จะได้เห็นในทุกๆวัน หนึ่งในกิจวัตรประจำวันของเขาคือต้องแซะให้คนขี้เซาตัวเล็กลุกขึ้นจากเตียงก่อนที่เขาจะออกไปทำงานในยามเช้า

'มาให้พี่จุ๊บแก้มก่อนออกไปทำงานหน่อยซิครับ'

จ๊บ จุ๊บ จุ๊บ

ชายหนุ่มก้มลงหอมที่แก้มของหนุ่มร่างบาง 3 ครั้ง พลางซุกไซร้เล่นเล็กน้อย
หนุ่มน้อยหน้าใสทำหน้าตายับยู่ยี่

'พอเลยพี่แซค เดี๋ยวเสื้อผ้าพี่ก็ยับหมดพอดีอะ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยเหม็นขี้ฟันจะแย่อยู่แล้ว'
จิรัฏฐ์พูดกับแฟนหนุ่มร่างหนา พลางผลักอีกฝ่ายออกไปเบาๆ แล้วลุกขึ้เพื่อเตรียมกระเป๋าให้คนรัก

'วันนี้ตอนบ่ายพี่งานยุ่งไม๊ครับ'
หนุ่มน้อยออกปากถามในขณะที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดเอกสารให้อีกฝ่าย

'ไม่ยุ่งมากครับ มีประชุมตอนเช้าเสร็จ 11 โมง เคลียร์เอกสารอีกนิดหน่อยราวๆบ่าย 2 โมงก็น่าจะว่างแล้ว จิมีอะไรหรือเปล่า'
'ก็ไม่มีอะไรครับ พอดีผมเห็นโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่องใหม่หน่ะครับ เลยอยากจะไปดู น่าจะเข้าบรรยากาศดี'
หนุ่มน้อยตอบกลับมา ก่อนจะส่งกระเป๋าเอกสารให้รังสิมันต์ที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว

'เรื่องอะไรละ' ชายหนุ่มเอ่ยปากถามคนชวนตรงหน้าก่อนจะรับกระเป๋าไป
'บีฟอร์วาเลนไทน์ ก่อนรักหมุนรอบตัวเรา ครับ ไปดูด้วยกันนะพี่ นะ...นะ...'
'เอ จะไปดูดีไม๊น๊า รึไม่ไปดี' หนุ่มร่างสูงตอบกลับคนตัวเล็กด้วยอาการกระเซ้าพลางส่งสายตาวิบวับให้อย่างล้อเลียน

'พี่อะ ใจร้าย ไปดูกับผม นะคราบ นะนะ นะคราบ'
จิรัฏฐ์อ้อนคนตรงหน้าด้วยการเข้าไปเคล้าคลอ พลางจุ๊บที่แก้มเบาๆทั้งซ้ายและขวา ทำให้หนุ่มร่างสูงอารมณ์ดีขึ้นมา
'อื่มมมม ค่อยชื่นใจหน่อย งั้นเดี๋ยวพี่เสร็จงานจะโทรมาบอกนะครับ จิจะได้แต่งตัวรอพี่ไว้ เดี๋ยวพี่กลับมารับเอง' ชายหนุ่มบอกคนรักก่อนจะออกจากห้องไป
'อ่อ ชวนเพื่อนๆเราด้วยละ ตอนเย็นดูหนังเสร็จจะได้ไปทานข้าวกันพร้อมกับเพื่อนๆ นะครับ'
ชายหนุ่มทิ้งท้ายไว้ก่อนจะรีบออกไปทำงาน ปล่อยให้จิรัฏฐ์อยู่บ้านคนเดียวและสาละวนกับการทำความสะอาดบ้าน
.
.
'บ้าที่สุด ทำไมไม่ทิ้งไปนะ จะเก็บซองถุงยางเอาไว้บูชารึไง'
หนุ่มน้อยบ่นพึมพำเบาๆ ขณะเก็บกวาดเศษซากอุปกรณ์ที่พวกเค้าทั้งสองคนเพิ่งจะใช้ร่วมกันเมื่อคืนนี้


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เวลาเพียงไม่นาน จิรัฏฐ์ก็ทำความสะอาดบ้านเสร็จ ชายหนุ่มเงยหน้าดูนาฬิกา 9 โมงกว่าแล้ว หาอะไรกินก่อนดีกว่า ...  เสียงตู้เย็นถูกรื้อค้นดังกุกกัก หนุ่มน้อยค้นเจออาหารสดหลายอย่างที่รังสิมันต์ขยันพาเขาไปซื้อมาตุนไว้ในตู้  ดีละ วันนี้จะลงมือทำอาหารเช้าทานเอง เพื่อสุขภาพที่ดี สู้เว้ยยย ...... หนุ่มน้อยหน้าใสคิดในใจก่อนจะลงมือล้างผักหลายชนิดที่เขาบรรจงเลือกออกมา  ชายหนุ่มมีความสุขกับการทำอาหาร เขาชอบทานผักเมนูในวันนี้จึงมีแต่ผักนานาชนิด เช่น ผัดผักรวมมิตร ต้มจืดผักกาดขาว และก็ยำไข่ดาวที่กินคู่กับผักสลัด

หนุ่มน้อยจัดที่นั่งทานอาหารซึ่งเป็นโต๊ะเล็กๆ ขนาดพอนั่งเพียงแค่สามถึงสี่คนอยู่มุมซ้ายมือของครัวขนาดย่อม เนื้อที่คอนโดซึ่งไม่ได้กว้างใหญ่มากนักทำให้เขาต้องจัดสัดส่วนต่างๆในห้องให้เป็นระเบียบ ชายหนุ่มตกแต่งห้องด้วยสีเอิร์ทโทนน้ำตาลอ่อนและมีสีน้ำตาลเข้มแซมอยู่บ้างในบางจุด ดูกลมกลืนกับเครื่องครัวชุดทันสมัยบนเคาน์เตอร์หินอ่อนสีขาว ห้องนั่งเล่นซึ่งชายหนุ่มดัดแปลงมุมนึงให้เป็นที่ทำงานส่วนตัว มีโซฟายาวขนาดพอนั่งได้ 4-5 คน ตั้งไว้สำหรับรับรองเพื่อนฝูงของเขาที่แวะมาเยือนเสมอๆ และโต๊ะทำงานที่รกรุงรังไปด้วยหนังสือหลากหลายประเภทวางอยู่เคียงข้างกับโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่ง

ปีที่ผ่านมาเขาได้รับของขวัญวันเกิดเป็นโทรทัศน์จอพลาสม่าสีดำขนาดใหญ่ 42 นิ้วที่รังสิมันต์ซื้อให้ หนุ่มน้อยตั้งมันไว้เคียงข้างชั้นวางหนังสือที่สูงจรดเพดาน ช่วยเสริมให้ห้องนั่งเล่นดูดีขึ้นไม่น้อย ในบางเวลาทั้งจิรัฏฐ์และรังสิมันต์จะเช่าภาพยนตร์สารพัดเรื่องมาแล้วนั่งดูด้วยกันสองคน ขนมน้ำ ถูกผลัดกันป้อน บางครั้งจิรัฏฐ์นอนหนุนตักอีกฝ่าย แต่ในบางครั้งก็สลับกัน เสียงหัวเราะคู่กันของทั้งสองในยามที่ดูหนังตลก คอเมดี้ มักจะมีออกมาให้ได้ยินอยู่เป็นระยะๆ แต่ครั้งใดที่ดูหนังสยองขวัญรังสิมันต์คงต้องคอยกอดปลอบหนุ่มร่างบางอยู่บ่อยครั้ง เขารู้ดีว่าหนุ่มน้อยนั้นขวัญอ่อนนัก และเช่นเดียวกันหากดูหนังดราม่าด้วยกันเมื่อใดหนุ่มร่างสูงก็ต้องคอยซับน้ำตาให้คนรักของเขาเสมอๆ รสชาติชีวิตคู่ที่ต่างฝ่ายต่างโหยหา และวันนี้พวกเขาทั้งสอง คงได้เติมเต็มซึ่งกันและกันแล้ว

จิรัฏฐ์นั่งทานอาหารมื้อเช้าอย่างมีความสุขในขณะที่กำลังเลือกชมรายการต่างๆซึ่งกำลังแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์

~~~RRRRR~~~

โทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา ในมุมนึงของห้องนั่งเล่นส่งเสียงดังขึ้น

'หวัดดีไอ้นพ กูกำลังจะโทรหามึงพอดีเลย' หนุ่มน้อยส่งเสียงทักทายเพื่อน
'เออ กูรู้ใจมึงไง ว่าแต่มีอะไรกับกูละมึง'
'ก็ไม่มีอะไร คืนนี้พี่แซคให้ชวนพวกมึงไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ร้านไหนกูยังไม่รู้'
'อ๊ะ อ๊ะ ...' ชายหนุ่มคู่สนทนาของจิรัฏฐ์ส่งเสียงจิ๊จ๊ะ
'จะดีรึ เหอะๆ กลัวว่ากูจะไปขัดจังหวะสวีทของมึงกับพี่เขาอะดิ' นพดนัยหยอกเพื่อนรักกลับมา
'เออน่ามึง ไปเหอะ นะนะ นะนพนะ พี่แซคเค้าอุตสาห์ชวน น๊าาาาาาา...' ชายหนุ่มเริ่มออดอ้อนเพื่อนรัก
'พอเลยมึง อย่ามาทำเสียงหวานกับกู ขนลุกหว่ะ'
'เชี่ยนิ กูอุตสาห์พูดดีๆด้วย ตกลงมึงจะไปไหม บอกมาดิ' หนุ่มหน้าใสเริ่มจะอารมณ์เสียเล็กๆ
'คร๊าบบบ ไปคร๊าบบบบ เดี๋ยวโทรชวนสองคนนั้นเอง รู้ร้านแล้วบอกกูด้วยละ ไปละ งานเข้า ตุ๊ด ตุ๊ด ...'
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของนพดนัยที่ล้อเลียนจิรัฏฐ์ส่งท้าย ทำให้หนุ่มน้อยหน้าใสนั่งบ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่คนเดียว

เวลาเดินผ่านเลยไปอย่างไม่รู้ตัว พักเดียว ยังไม่ทันที่จิรัฏฐ์จะได้หยิบจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ล่วงเข้าบ่ายสองโมงแล้ว
ชายหนุ่มสนทนาทางโทรศัพท์กับรังสิมันต์ซึ่งโทรมานัดแนะเวลาและสถานที่ จากนั้นจึงค่อยต่อสายหาเพื่อนสุดที่รักแล้วแจ้งสถานที่อีกรอบ

สถานที่ที่จะไปทานอาหารมื้อค่ำคืนนี้ เป็นหนึ่งในร้านโปรดย่านทองหล่อ บรรยากาศดี เต็มไปด้วยสีเขียวของแมกไม้และการตกแต่งร้านแบบไทยประยุกต์ ซึ่งแน่นอนเพราะรังสิมันต์รู้ดีว่าแฟนของเขาชอบความเป็นธรรมชาติจึงเลือกร้านนี้ หนุ่มร่างสูงบอกให้จิรัฏฐ์แต่งตัวรอเขาไว้ เขาจะกลับมารับที่ห้องในอีกราว 30 นาทีเพื่อไปชมภาพยนตร์ด้วยกันตามที่จิรัฏฐ์ร้องขอ หนุ่มน้อยอยากชมที่ SFWorld ด้วยเหตุผลง่ายๆ โรงเยอะ คนไม่มาก ส่วนตัวดี ซึ่งแซคเองก็ไม่ขัด ไม่ว่าแฟนของเขาจะอยากได้อะไรหากมันไม่มากเกินไปและสมควรเขาก็จะยินดีให้ทุกอย่าง เว้นเพียงแค่หน้าที่บนเตียง ที่หนุ่มร่างสูงไม่ยอมให้ใครแย่งหน้าที่นั้นแน่ๆ

จิรัฏฐ์เลือกแต่งชุดสบายๆ กางเกงขาสี่ส่วนลายทหารตัวเก่งที่ผ่านการใช้งานมาพอสมควรทำให้สีซีดๆ และริมขอบเปื่อยเล็กน้อยดูเท่ไปอีกแบบ ชายหนุ่มใส่เสื้อกล้ามสีขาวขนาดพอดีตัวและสวมเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีชมพูอ่อนลายทางทับด้านบนอีกชั้น ไม่ติดกระดุมพร้อมกับพับแขนเสื้อขึ้น ส่งผลให้ดูดีไปอีกแบบ ต่างจากชุดเดิมๆที่เคยใส่ สีผิวที่ขาวอยู่แล้วเมื่อใส่สีชมพูอ่อนเข้าไปยิ่งขับสีผิวให้ดูผ่องมากขึ้น กางเกงสีเขียวขี้ม้าเบรคความสว่างไว้ได้แบบพอดี รองเท้าหุ้มส้นสีน้ำตาลใส่พร้อมถุงเท้าหุ้มข้อเข้ากันพอดีกับชุดแบบง่ายๆสบายๆ แต่ก็ยังไม่ลดทอนความน่ารักของหนุ่มน้อย

ใบหน้าขาวใส ริมฝีปากแดงระเรือ ผมสั้นดูสะอาดตา ไม่ว่าจิรัฏฐ์จะใส่ชุดไหนก็น่ารักเสมอในสายตาของรังสิมันต์ หนุ่มน้อยลงมารอชายผู้เป็นที่รักด้านหน้าอาคารเพื่อที่จะได้ไปทันเวลาฉายหนัง รอบ บ่าย 3 โมงครึ่ง ซึ่งกว่าจะภาพยนตร์จะฉายจบก็คงพอดีกับเวลามื้อเย็นที่นัดกันไว้กับหลายๆคน


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จะเกิดอะไรขึ้นเย็นนี้นะ ??? ถึงจะได้ทำให้เรื่องราวจบลงแบบสมบูรณ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2009 15:18:20 โดย express_men »

a_lex

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้จะเกิดอะไรขึ้น
รีบมาต่อเร็วๆนะครับ

+1 ให้สำหรับเรื่องดีๆ

ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


'สวัสดีค่ะ' เสียงพนักงานสาวหน้าหวานเอ่ยทักขณะที่ทั้งคู่กำลังซื้อตั๋วชมภาพยนตร์
'วันนี้ชมเรื่องอะไรดีคะ' เสียงพนักงานคนเดิม
'บีฟอร์วาเลนไทน์สองที่ครับ'
'ค่ะ เป็นรอบบ่ายสามโมงครึ่งนะคะ ด้านนี้หน้าจอค่ะ แถวเออยู่ด้านบนสุดค่ะ เชิญเลือกที่นั่งได้เลยค่ะ'

ชายหนุ่มสองคนปรึกษากันเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจเลือกที่นั่งตรงกลางของแถวซี เพื่อให้มีความเป็นส่วนตัว
หนุ่มน้อยสังเกตจากผังที่นั่งในรอบนี้มีผู้ชมเพียงแค่ไม่กี่คน หนังรักคงยิ่งหวานมากยิ่งขึ้นเพราะไม่มีการรบกวนจากเพื่อนร่วมโรง

'ขอบคุณมากค่ะ โอกาสหน้าเชิญใช้บริการใหม่นะคะ'

จิรัฏฐ์รับตั๋วมาพลางเดินคุยกับรังสิมันต์ไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงหน้าโรงภาพยนตร์

'จิเอาน้ำไหมเดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้ เอาขนมอะไรด้วยหรือเปล่า' หนุ่มใหญ่ถามหนุ่มน้อยด้วยความเป็นห่วงกลัวคนตัวเล็กจะหิว
'ไม่เป้นไรครับพี่ เข้าโรงเถอะ ผมอยากดูหนังไตเติล' หนุ่มน้อยร่างบางบอก

หลายๆคนหันมามองดูภาพชายหนุ่มสองคนที่จูงมือกันเข้าโรงหนัง หนุ่มร่างสูงคมเข้มดูอบอุ่น กับหนุ่มน้อยหน้าใสที่ดูร่าเริง คงจะเป็นคู่ที่มีความสุขเป็นแน่แท้ หลายๆคนนึกอิจฉาภายในใจ ถึงแม้ว่าความรักของทั้งคู่จะไม่ได้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ประเพณี แต่ทั้งสองคนก็ดูเหมาะสมและยังไม่ได้ทำตัวที่เกินเลยหรือเสื่อมเสียจึงไม่จำเป็นที่ใครจะต้องมาตั้งแง่ รังเกียจ

สภาพบรรยากาศภายในโรงภาพยนตร์ แสงสลัวที่มาจากจอภาพกำลังฉายฉากที่พระเอกกับนางเอกกำลังอยู่ในอารมณ์สับสน ไม่มั่นใจต่อการตัดสินใจที่กำลังจะมาถึง ความตึงเครียดที่เกิดขึ้น เมื่อคนนึงตัดสินใจเอ่ยปากบอกรักขอแต่งงาน ในขณะที่อีกฝ่ายเอ่ยปากบอกเลิกกัน คำพูดสองประโยคที่ออกมาพร้อมๆกัน แต่ความหมายแตกต่างกันยิ่งนัก ฝ่ายหนึ่งเสมือนน้ำเย็นที่คอยหล่อเลี้ยงหัวใจ แต่อีกฝ่ายเหมือนกับฟที่เผาพลาญความรักให้มอดไหม้ เมื่อคนนึงเตรียมแหวนมาเพื่อบอกรัก แต่กลับเปลี่ยนใจเป็นเลิก แต่อีกคนเตรียมหัวใจมาเพื่อบอกเลิกแต่กลับเปลี่ยนใจเป็นรัก ความจริงของชีวิตคู่ที่อาจจะทำร้ายซึ่งกันและกันหากเราปราศจากความเข้าใจกัน การพูดคุยคงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ก่อนที่อะไรๆจะสายไป ก่อนที่รักจะหมุนรอบตัวเรา ... ทำวันนี้ให้ดีหรือยัง

รังสิมันต์บีบมือของจิรัฏฐ์เบาๆ เสมือนกับจะบ่งบอกอะไรบางอย่างผ่านความรู้สึกนั้น ชายหนุ่มคงตั้งใจจะบอกว่า พี่จะไม่มีวันทำเช่นนั้นกับคนที่พี่รักแน่นอน
จิรัฏฐ์ยังคงจ้องสายตาไปที่จอภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องในขณะที่ถึงจุดไคลแมกซ์ของเนื้อหา
เพลงประกอบดังขึ้นมาในฉากที่สำคัญๆ เสียงร้องที่ได้อารมณ์ ดนตรีประกอบที่ขับกล่อมความรู้สึก เพิ่มความซาบซึ้งให้กับเนื้อหาหนังยิ่งนัก
หนุ่มน้อยคงจะเมื่อยจากการนั่งชมเป็นเวลานาน

'พี่ครับ ขอผมพิงหน่อยน่ะ'

ไม่มีคำตอบใดๆดังมาจากปากอีกฝ่าย มีเพียงแต่มืออบอุ่นที่โอบคนตัวเล็กข้างกายเข้ามาพิงไว้กับไหล่หนากว้างของเขา
เครื่องปรับอากาศภายในโรงภาพยนตร์ยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างดี ส่งกระแสลมเย็นออกมาสม่ำเสมอ
หนุ่มร่างใหญ่จึงกอดคนข้างๆของเขาเพื่อให้ความอบอุ่นถ่ายทอดถึงกัน

ภาพยนตร์รักเรื่องแรกของทั้งคู่ที่ดูด้วยกันอย่างเป็นทางการจบลงแล้ว แต่ในความเป็นจริงชีวิตรักทั้งคู่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเพียงเท่านั้น
อาจจะต้องเผชิญเรื่องราวที่ทดสอบความรักของคนทั้งคู่อีกมากมาย อาจจะจบลงด้วยดีแบบหนังรักเรื่องนี้ หรืออาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้...ไม่มีใครรู้

ยิ่งกับคนข้างกายของรังสิมันต์ หนังจบแต่อารมณ์ไม่จบอย่างเห็นได้ชัด
เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วกับรอยยิ้มที่มีอยู่บนใบหน้าของจิรัฏฐ์คือสิ่งที่หนุ่มร่างสูงปรารถนายิ่งนัก
'โหยพี่ ผมกะไว้แล้วเชียว ว่าทั้งหมดต้องเป็นเรื่องของคนๆเดียวกัน เห็นมะผมบอกแล้วก็ไม่เชื่อ'
'ผมว่านะพี่ เรื่องนี้อะ นางเอกสวยดีอะ ไดอาน่าสวยมากๆอะ ชอบผมทรงนี้จัง สวยกว่าตอนไว้ผมยาวเยอะเลย พี่ว่ามะ'
'อ่อ อีกอย่างอะ มุขขำมากๆอะ เรื่องแก๊สน้ำตากับขาขาดคิดได้ไงเนี่ย'
สารพัดคำพูดที่หนุ่มน้อยชวนอีกฝ่ายสนทนา แต่ไม่มีคำตอบมาจากปากของหนุ่มร่างสูงมีเพียงรอยยิ้มที่เอ็นดูและสายตาที่รักใคร่มองมาเพียงเท่านั้น

'แต่จะว่าไปนะพี่ อิจฉาอาร์ตี้อะ มีแฟนด้วย ตอนเรียนมอปลายไม่เห็นมีใครมาจีบผมบ้างเลย เซ็งอะ'
'ดีออก พี่ว่า'
'ดียังไงอะพี่ ไม่มีคนจีบอะ จะดีได้ไง นึกๆไปแล้วเสียดาย'
'ดีแล้ว ถ้าตอนนั้นมีคนจีบ เราจะเหลือมาถึงมือพี่หรอครับ' ชายหนุ่มร่างสูงพูดกับคนรักพลางส่งสายตาวาววับให้
'บ้าอะ พี่พูดไรก็ไม่รู้ ผมไม่คุยด้วยแล้ว' หนุ่มน้อยอายหน้าแดงพลางทุบไปที่ไหล่หนาของคนข้างกายหลายครั้ง
'โอ้ยยยยยย เจ็บจัง คนน่ารักมือหนักจริงๆ' รังสิมันต์ยังคงแหย่หนุ่มน้อยต่อ
'บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมไม่คุยด้วยแล้ว' หนุ่มน้อยหน้าแดงเดินหนีไป ทำให้อีกฝ่ายต้องออกเดินตามง้อ

'เดินช้าๆหน่อยซิครับ จิ พี่เดินตามเราจะไม่ทันแล้วนะ คนอะไรตัวก็เล็ก ทำไมเดินเร็วจริง'
'แล้วรักผมไม๊ละ' หนุ่มน้อยถามคนร่างสูงด้วยสีหน้างอง้ำ
'รักไปแล้วนี่ครับ ทำไงได้ละ อย่างอลพี่นะครับคนดี นะนะ' รังสิมันต์ง้อคนตรงหน้าเขาด้วยอารมณ์ดี

ครืดดดดดดด ครืดดดดดด ครืดดดดดดด

เสียงโทรศัพท์มือถือของรังสิมันต์กำลังสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงของชายหนุ่มเพื่อบ่งบอกว่ามีสายโทรเข้ามา
ชายหนุ่มรับสายด้วยความรีบร้อนพูดคุยเพียงแค่ประโยคสองประโยคก็วางสายไป แล้วหันไปบอกกับคนข้างๆ

'จิเดินเล่นคนเดียวซักพักนะครับ พี่ขอตัวไปทำธุระแป๊บนึง เดี๋ยวพี่โทรหาเรานะ แล้วเราค่อยไปทานข้าวกัน'

จากนั้นหนุ่มร่างสูงก็หันหลังให้พลางรีบเดินออกไปทันที ปล่อยให้จิรัฏฐ์ยังยืนงง จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าอะไรเป็นอะไร
แต่หนุ่มน้อยหน้าใสก็ตัดใจไม่คิดอะไรมาก เขาเดินดูของเพลินๆไปเรื่อยๆ ไล่จากชั้น 5 มาชั้นที่ 4 ลงมายังชั้น 3 และกำลังจะไปที่ชั้น 2

15 นาทีผ่านไป

จิรัฏฐ์เดินผ่านมุมซ้ายมือของลิฟท์ชั้นสอง เขามองเห็นใครบางคน รูปร่างสูงที่คุ้นตา เสื้อผ้า ท่าทาง ถึงแม้จะมองข้างหลังแต่เขาาจำได้แม่น เพราะนั่นคือแผ่นหลังของคนที่เขารัก แต่ชายหนุ่มรูปร่างสูงสะโอดสะองอีกคนข้างๆรังสิมันต์ละเป็นใคร ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนานดูสนิทสนมกันมากนัก หนุ่มร่างสูงคมเข้ม แฟนของเขากำลังจูงมืออีกฝ่ายเดินเข้าร้านจิวเวอรี่หรู จิรัฏฐ์มองไปยังภาพเหล่านั้นด้วยความไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกับเขาและรังสิมันต์ ยิ่งเมื่อรวมไปด้วยความสงสัยในใจว่าชายอีกคนนั้นเป็นใครกัน ทำให้เขาติดสินใจแอบมองอย่างเงียบๆจากภายนอกร้าน

หนุ่มน้อยนักสืบจำเป็นเริ่มหายใจติดขัด นัยย์ตาเริ่มแดงช้ำ น้ำใสๆคลอเคลียอยู่ เมื่อเขามองเห็นภาพเหล่านั้น
รังสิมันต์กำลังสวมแหวนทองคำขาวเกลี้ยงๆวงงามให้กับอีกฝ่ายอย่างบรรจง แล้วพากันพูดคุยด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งคู่เต็มไปด้วยรังสีแห่งความสุขที่กำลังอาบไล้บุคคลทั้งสอง ชายหนุ่มจับมืออีกฝ่ายที่สวมแหวนวงนั้นขึ้นมาพิจารณาด้วยสายตารักใคร่ พนักงานร้านที่ยิ้มให้ทั้งสองคนด้วยความยินดี ในขณะที่อีกฝ่ายบรรจงพิจารณาแหวนวงน้อยบนนิ้วนางข้างซ้ายอย่างประณีตแล้วยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับหนุ่มร่างสูง...แฟนของจิรัฏฐ์ พี่แซคที่หนุ่มน้อยรัก

ใครกัน แล้วแหวนวงนั้นคืออะไร เขาไม่ใช่หรือ บุคคลที่สมควรจะได้รับมันมาสวมไว้บนนิ้วนาง แต่ทำไมกลายเป็นคนๆนั้น ใครกัน แล้วทำอย่างนี้กับเขาได้อย่างไร
น้ำตาที่ไม่รินไหลมานานแล้ว เริ่มหยดหยาดลงมาอีกครั้ง
ทำไม ทำไม ..... ? ? ?

จิรัฏฐ์ไม่อาจจะทนมองภาพเหล่านั้นด้วยความบาดตาบาดใจได้ เขาตัดสินใจไปสงบสติอารมณ์ภายในห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ความรู้สึกอิ่มเอมที่ได้จากการชมภาพยนตร์ มลายหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือแต่ความคลางแคลงใจ ความงุนงง ความเศร้าที่เข้ามาถาโถมอีกครั้ง หัวใจที่ร้าวรานเพราะความคิดที่เสียดแทงอย่างโหดร้าย อย่างไรก็ตามเขาต้องทนมันให้ได้ เขาต้องออกไปเผชิญหน้ากับความจริง แม้มันจะโหดร้ายเพียงใดก็ตาม
เค้าจะต้องเอาชนะมันไปให้ได้ ตัวเขาเกิดมาเพียงแค่คนเดียว ถ้าจะต้องอยู่คนเดียวต่อไป เค้าก็ต้องอยู่ให้ได้
ชายหนุ่มปาดน้ำตาออกจากใบหน้า เขาล้างหน้าเพื่อชำระล้างคราบแห่งความเสียใจ ก่อนจะค่อยๆย่างก้าวอย่างมั่นคงเพื่อออกจากห้องน้ำไปเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงไม่ว่าสิ่งนั้นจะคืออะไรก็ตาม ...


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่า ตอนหน้าก็จะปิดฉากเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แล้วคราบ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2009 15:33:35 โดย express_men »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
งะค้างๆๆๆๆๆๆๆๆ รีบมาลงเลยเห็นบอกว่าบทสรุปนะเนี่ย  :z3: :z3: :z3:
เรื่องนี้ขอไว้เรื่องนึงละกานจะไม่วิเคราะห์ลงลึกให้อ่านน๊า
เพราะ นิว แอบประทับใจในตัวละครในเรื่องไม่อยากพูดถึงเค้าคนนั้นในทางต่างๆอิๆ

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
 :z13: น้องนิว มาไว จริง ๆ 


จะรอตอนต่อไปนะ  :L2:

หวังว่าสิ่งที่จิเห็นเป็นแค่เพียงการเข้าใจผิดเท่านั้นนะ  :monkeysad:

benxine

  • บุคคลทั่วไป
เห้อ.....ไม่มีความเห็นเลยอ่ะ



รออ่านตอนจบดีกว่า!!!~



:m15: :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ทำไมเป็นงี้ล่ะ  :z3: :z3: หรือว่าพี่แซคไปซื้อไว้ให้ จิ

mecon

  • บุคคลทั่วไป
ม่ายยยยยยยยยย หนุ่มน้อยอย่าเข้าใจผิดนะ

พี่แซ็คเค้ามะได้เป็นคนหลายใจอะไรแบบนั้น แค่วางแผนผิดพลาดนิดหน่อย


โอ๋ๆๆ น้องจิ

benzadic_acid

  • บุคคลทั่วไป
นายๆ  มาเขียนต่อเด๋วนี้เลย  โหย...มาจะผลิกผันอะไรตอนใกล้จะจบ..

ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
แอบมาโฆษณางานเขียนเรื่องต่อไปคราบ ก่อนที่จะลงบทบริบูรณ์ของเรื่องสั้นเรื่องนี้


ท่ามกลางความมืดมิดยามค่ำคืน อีกหนึ่งชีวิตในความมืดมนแห่งรัตติกาล
กับความเหงา ความอ้างว้างที่เหน็บหนาวและเนิ่นนาน
เผชิญกับความเดียวดายในทุกราตรี ชั่วนิจนิรันดร์
แต่วันนี้ สิ่งเหล่านั้น มันจะมลาย หายไป
ร่วมลุ้นไปกับละอองแห่งไอรัก
อีกไม่นาน ที่นี่ เร็วๆนี้


-----------------------------------

อย่าลืมติดตามกันนะคราบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2009 21:58:15 โดย express_men »

ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
เสียงกลุ่มเพื่อนๆของเขาสังสรรค์กันอย่างมีความสุข ดังลอยเข้ามากระทบโสตประสาทของจิรัฏฐ์แต่แล้วมันก็เหมือนกับสายลมที่พัดผ่านเลยไป ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจกับเสียงรอบข้าง สติ สัมปชัญญะยังคงมุ่งคิดไปถึงสิ่งที่ตนเองพบ สิ่งที่ตนเองเห็น แม้จะยังไม่ได้คำตอบจากใจที่แน่นอนแต่มันก็รบกวนอารมณ์เขาอยู่ไม่น้อย

ยิ่งเมื่อนึกย้อนเหตุการณ์กลับไปก็ยิ่งทำให้เขาลังเลและไม่มั่นใจมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่จิรัฏฐ์ได้ออกมาจากห้องน้ำแล้ว หนุ่มน้อยเดินเล่นไปเรื่อยๆเพื่อดับความคิดฟุ้งซ่านที่ยังคงวนเวียน เขาเดินมาพบกับรังสิมันต์โดยบังเอิญ ที่ชั้นล่างสุด ทั้งคู่จึงไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์หากัน รังสิมันต์ดูมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มมีความสุข ราวกับได้สิ่งของที่ตนรักกลับคืนมาหลังจากที่มันสาปสูญไป แต่จิรัฏฐ์นั้นเล่า ถึงแม้สีหน้าจะเรียบเฉยไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆออกมาแต่ภายใต้ความนิ่งสงบนั้น ความคิดและความรู้สึกกำลังขัดแย้งกันอย่างรุนแรง เหมือนสภาพอากาศในยามที่พายุกำลังก่อตัว

'ไปขึ้นรถเถอะครับ เดี๋ยวเราได้ไปทานข้าวกัน เมื่อกี้นี้เพื่อนพี่โทรมาบอกว่าพวกเขาถึงที่ร้านแล้ว พวกนพก็รอจิอยู่แล้วนะ'

ประโยคเดียวจริงๆที่ทั้งคู่สนทนากัน
จิรัฏฐ์ไม่ได้โต้ตอบอะไรกับบทสนทนาของอีกฝ่าย ได้เดินตามไปเงียบๆเพื่อไปขึ้นรถยนต์คันหรู

ตลอดระยะทางจากเซ็นทรัลเวิลด์มาถึงร้านยานทองหล่อ ถึงแม้จะไม่ไกลมากนัก แต่จิรัฏฐ์ก็ไม่ได้พูดคุยกะอะไรกับแฟนหนุ่มของเขาเลย ต่างฝ่ายต่างนั่งเงียบๆ หนุ่มน้อยหันหน้าออกมองนอกหน้าต่างรถตลอดเวลา ในขณะที่อีกฝ่ายเคาะนิ้วมือบนพวงมาลัยพลางฮัมเพลงเล่นอย่างอารมณ์ดี

บรรยากาศตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายออกไปเมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึงสถานที่จุดหมายปลายทาง สวนอาหารทรงไทยประยุกต์ตั้งอยู่กลางความร่มรื่นของแมกไม้ รังสิมันต์จองโต๊ะที่เป็นมุมสงบๆส่วนตัวเอาไว้แล้ว โต๊ะเก้าอี้ถูกจัดไว้ใต้ร่มไม้ด้านข้างของร้าน ภายในรั้วไม้ระแนงที่กางกั้นอาณาเขตของสวนอาหารไว้ ทางเดินที่ปูด้วยศิลาแลงสีส้มแดงดูสวยงามและมีเสน่ห์เมื่อต้องแสงไฟสีเหลืองนวลที่ประดับไว้เพื่อให้แสงสว่าง ทิวทัศน์ด้านข้างเป็นเรือนทรงไทยไม้หลังงามที่มีแสงไฟสีเปลือกไข่ส่องเพื่อเพิ่มบรรยากาศ ริมข้างๆโต๊ะอาหารห่างไปไม่ไกลนักที่น้ำพุเล็กๆกำลังพ่นละอองอยู่

จิรัฏฐ์เดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตำแหน่งเดียวที่ยังคงว่างอยู่ ข้างๆรังสิมันต์

'สวัสดีครับน้องจิ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ' เสียงทักทายจากเพื่อนของรังสิมันต์
'ครับผม สองสามเดือนได้แล้ว' หนุ่มน้อยตอบรับพลางยิ้มให้เล็กน้อยพอเป็นพิธี
'จิ วันนี้ไปดูหนังมาหรอแก ชั้นอยากดูมากเลยแต่ติดที่ไม่มีแฟนชั้นเลยอดดู ไม่อยากดูคนเดียวหว่ะ หนังสนุกไม๊แก' พลอยเอ่ยปากถามจิรัฏฐ์จากฝั่งตรงข้ามของเขา
'อือ ก็ดี' ชายหนุ่มตอบสั้นๆ
'ตอบสั้นจริงแกนิ เป็นไรป่าววะ' พลอยถามโดยไม่ได้สนใจเอาคำตอบ

'ชั้นละอิจฉาแก พรุ่งนี้ก็วาเลนไทน์แล้วชั้นยังไม่มีแฟนเลย สงสัยคงต้องแห้งเหี่ยวต่อไปอีกปี เห้อออออออ'
พลอยส่งเสียงถอนหายใจ พลางทำท่ามองรังสิมันต์อย่างเพ้อฝัน
'น้อยๆหน่อยเถอะแก หน้าตาอย่างแกใครเค้าจะเอา ขึ้นคานไปเถอะ ชั้นว่า ชัวร์' ต้อยแกล้งกัดเพื่อนสาวด้วยวาจา
'นั่นซิ ขนาดส้วย สวย สวยจนคนเมิน แบบต้อยยังต้องแห้งเหี่ยวเลย เนอะ' นพดนัยหยอกเพื่อนสาวร่างตุ้ยนุ้ย
'นพเงียบไปเลย ใครบอกชั้นไม่สวยยะ ชั้นเนี่ยละสวยสุดบนโต๊ะนี้ แกหน่ะส่งกุ้งให้จิหน่อยซิ มันชอบกิน'
ต้อยส่งเสียงบอกนพดนัยที่นั่งอยู่ใกล้ๆกับจานกุ้งเผาตัวโตมากกว่าใคร
'แหมที่จิละแกเป็นห่วง ไม่เห็นแกจะยิบอะไรให้กูกินมั่งเลย มึงนิเพื่อนรักจริงจริ๊งงงงง'
นพดนัยแกล้งเน้นเสียงให้ยานๆ เพื่อเหน็บแนมสาวต้อย

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับการทานอาหารมื้อค่ำ
โดยที่ปราศจากเสียงของจิรัฏฐ์เป็นองค์ประกอบ ชายหนุ่มเลือกนั่งเงียบๆมองเพื่อนคนอื่นๆคุยกัน

กลุ่มเพื่อนของจิรัฏฐ์ซึ่งประกอบไปด้วย นพดนัย พลอยและต้อยมาถึงที่ร้านเป็นกลุ่มแรก จึงได้เตรียมสั่งอาหารไว้รอทุกๆคนล่วงหน้า ถัดจากนั้นมาไม่นาน เพื่อนของรังสิมันต์อีกสองคนก็ตามมาสมทบ ก่อนที่บุคคลทั้งสองจะตามมาเป็นคู่สุดท้าย กลุ่มเพื่อนๆของทั้งสองคน พูดคุยกันอย่างสนิทสนม สรวลเสเฮฮา เบียร์หลายขวดถูกยกมาเสริฟและก็ค่อยๆพร่องลงไปอย่างช้าๆ

กลุ่มหนุ่มโสดและสาวสวยทั้งหมด หากไม่นับจิรัฏฐ์และรังสิมันต์คู่รักคู่เดียวในโต๊ะ พวกเขาก็ยังคงรื่นเริงได้ แม้จะเป็นคืนก่อนวันวาเลนไทน์ เพราะพวกเค้าตระหนักถึงความสำคัญของเพื่อนมากกว่าความรักที่อาจไม่ยั่งยืน ถึงแม้วันนี้พวกเขาจะยังไม่มีใครให้บอกรัก แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีเพื่อน เพื่อนที่คอยเคียงข้างเราเสมอมา

'พี่เอกอะ แย่งกุ้งตัวสุดท้ายผมไปได้ไง ไม่ยอมด้วยอะ จะกินอีก สั่งมาเลย' เสียงนพดนัยโวยวายเพื่อนของรังสิมันต์
'นพอยากช้ากว่าพี่เองช่วยไม่ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า' หนุ่มใหญ่ที่ถูกต่อว่าหัวเราะออกมาอย่างขำขันที่แกล้งเพื่อนรุ่นน้องได้
'ว่าแต่แกเถอะ แซค นึกไงชวนพวกข้ากับน้องๆเค้ามาด้วยวะ '
' คืนนี้แกกับจิน่าจะสวีทกันสองคนนี่หว่า จะได้หวานรับวาเลนไทน์' เอกถามรังสิมันต์
'ก็ไม่มีอะไร แค่อยากเจอ กับมีเซอร์ไพรส์นิดๆแค่นั้นละ แต่คงต้องรบกวนพวกมึงกับน้องๆเค้า'
'เซอร์ไพรส์อะไรวะ'
'เอาน่า ถ้าบอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์ซิมึง' รังสิมันต์เอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี
'เออเนอะ จริงของมึง ไม่ถามก็ได้วะ'

เอกเอ่ยตัดบทสนทนาก่อนที่จะตั้งหน้าตั้งตาแกล้งนพดนัยต่อไป รังสิมันต์มองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าเพื่อนของเขาชอบนพดนัย แต่ไม่มั่นใจว่านพดนัยจะเป็นบุคคลจำพวกเดียวกับตนหรือไม่ จึงไม่กล้าพูดด้วยตรงๆหรือทำอะไรบุ่มบ่าม ถึงแม้รังสิมันต์จะพยายามถามจิรัฏฐ์หลายครั้ง แต่คำตอบเดียวที่ได้รับมา คือ ไม่รู้  แถมท้ายด้วยอาการงอนของหนุ่มน้อยที่กล่าวหาว่า เขาแอบชอบนพดนัย จึงมาถาม ชายหนุ่มจึงปิดปากเงียบไม่ถามเรื่องนี้อีก

ทุกคนยังคงพูดคุยอย่างสนุกสนาน การสนทนาเปลี่ยนเรื่องราวไปเรื่อยๆ ทั้งสภาพดินฟ้าอากาศ การเมือง หรือเรื่องขำขันในการทำงานของแต่ละคน ใบหน้าทุกคนดูจะเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ คงเว้นแต่หนุ่มน้อยหน้าใสที่ใบหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ จนกระทั่งเวลาเริ่มลวงเลยมากขึ้น สามทุ่มกว่าๆแล้ว อาหารบนโต๊ะเริ่มหายไปจนเกือบหมด จวนจะถึงเวลาของของหวานและผลไม้แล้ว

'วันนี้ดูเงียบๆไปนะครับ เป็นอะไรหรือเปล่าเรา' รังสิมันต์ถามหนุ่มน้อยคนข้างกายด้วยความเป็นห่วง
'ไม่เป็นไรครับพี่ กำลังคิดอะไรเพลินๆครับ' หนุ่มน้อยตอบสั้นๆด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดีมากนัก
'วันนี้จิไม่ค่อยกินอะไรเลยนะ ไม่หิวหรือครับ'
'ครับ'

จิรัฏฐ์นึกน้อยใจคนข้างกายเขาที่ไม่ได้ใส่ใจเขาเลย นับตั้งแต่มาถึงในร้าน จะมาถามอะไรเอาป่านนี้ละ ... หนุ่มน้อยคิดในใจ เขาไม่อยากแตะต้องอาหารใดๆทั้งนั้น ความน้อยใจ ความสับสน ความไม่เข้าใจ ประเดประดังเข้ามา ลำคอที่แห้งผาก สายตาที่เริ่มจะปกปิดความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่ ชายหนุ่มเสหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืน เพื่อให้น้ำตาที่กำลังจะรินไหลออกมาค่อยๆย้อนคืนสู่แหล่งกักเก็บอย่างช้าๆ เขาปั้นสีหน้าที่มีรอยยิ้มเพื่อให้ทุกๆคนสบายใจ ถึงแม้เขาเองจะยังคงสับสน ฟุ้งซ่านมากเพียงใดก็ตาม

'จิ เอาไอศครีมไหมครับ จำได้ว่าเราชอบกินวะนิลา เดี๋ยวพี่ไปสั่งให้ เอารสเดิมนะครับ'
แฟนหนุ่มของจิรัฏฐ์ถามมายังหนุ่มน้อยแต่เขาไม่ได้รอคำตอบแต่กลับลุกหายไปทันทีที่พูดจบ
จิรัฏฐ์ไม่เข้าใจทำไมต้องไปสั่งเองด้วยในเมื่อจะเรียกให้พนักงานเสริฟมารับออร์เดอร์ไปก็ได้


--------------------------------------------------------------------------------------


ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
แก้วแชมเปญถูกมาเสริฟโดยบริกรหนุ่มหน้าตาดี แต่ละแก้วตั้งไว้ข้างๆเหล่าเพื่อนฝูงของบุคคลทั้งสอง ในจำนวนที่พอดีกับบุคคล ภายในแก้วว่างเปล่าปราศจากสิ่งใด ... สีหน้าของบุคคลทั้งโต๊ะพากันมองด้วยความงุนงง ทำไมยกมาแต่แก้ว แล้วแชมเปญละไปไหน มีเพียงแค่คนๆเดียวเท่านั้นที่ยังคงระบายรอยยิ้มออกมาอย่างสม่ำเสมอ นั่นก็คือ รังสิมันต์

'กำลังสงสัยละซิ ว่าทำไมเขายกแก้วมาเสริฟ แต่ไม่เอาขวดแชมเปญมาด้วย '
'ใจเย็นๆยังไม่ถึงเวลา กินของหวานกันก่อนแล้วกัน'

บริกรหลายคนพากันเดินขบวนนำของหวานมาเสริฟตามรายการที่สั่งไว้
บางคนสั่งไอศครีม บางคนเลือกทานฟรุตสลัด บางคนก็เลือกทานเป็นเยลลี่รสหวาน
เสียงพูดคุยเบาๆกลับมาดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆกับการทานของหวาน เว้นไว้เพียงแค่รายการของจิรัฏฐ์เท่านั้นที่ยังไม่ถูกนำมา
เมื่ออาหารถูกนำมาเสริฟจนครบแล้ว  หลายๆคนเริ่มทานไปบ้างจนใกล้จะหมด
ของหวานรายการสุดท้าย คือไอศรีมวะนิลา จึงถูกนำมาเสริฟ

'ค่อยๆทานนะครับ จิ พี่เห็นเราไม่ค่อยทานอาหารเลยวันนี้ พี่เป็นห่วงนะครับ'

จิรัฏฐ์พยักหน้าตอบรับ พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ได้สดใสมากนัก
ชายหนุ่มค่อยๆตักไอศครีมรสชาติโปรดที่วันนี้เขาไม่อยากทานเลยแม้เพียงน้อยเข้าปากอย่างช้าๆ
เสียงไวโอลินค่อยๆดังชัดมากขึ้น เมื่อนักดนตรีเดินอย่างช้าๆเข้ามาสีคันชักที่ข้างโต๊ะของรังสิมันต์
เสียงเครื่องสีที่หวานซึ้งบาดอารมณ์ในบทเพลงรักเข้ากับช่วงเทศกาลแบบพอเหมาะ เรียกความสนใจจากบุคคลทั้งโต๊ะไปจากอาหารตรงหน้า
ในขณะเดียวกัน ขวดแชมเปญสุดหรูถูกนำมาเสริฟวางไว้ที่ปลายโต๊ะอาหาร พร้อมกับบริกรหนุ่มที่ยืนรอบางสิ่งบางอย่างอยู่

กรึ๊บ ...

เสียงดังมาจากปากของจิรัฏฐ์เบาๆ หนุ่มน้อยค่อยๆคายบางสิ่งบางอย่างออกมาจากปาก
เสียงพูดคุยบนโต๊ะเงียบกริบลงราวกับถูกนัดหมายมาล่วงหน้า
สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังหนุ่มหน้าใส และวัตถุสีเงิน วงงามในมือของเขา
รังสิมันต์ยิ้มอย่างพอใจ

'ขอพี่ก่อนนะครับ'
หนุ่มร่างสูงหยิบวัตถุสีเงินออกไปจากมือน้อยๆของจิรัฏฐ์ พลางใช้น้ำเปล่าชำระล้างให้สะอาด
ท่ามกลางสายตาเพื่อนๆที่ยิ้มให้อย่างยินดีกับบุคคลทั้งสอง แต่ จิรัฏฐ์ยังคงงุนงงและตามเรื่องราวไม่ทัน

'แต่งงานกับพี่นะครับ'
ประโยคสั้นๆ ที่ทำให้ผู้ที่ได้รับฟังแทบจะหยุดลมหายใจเอาไว้ ราวกับว่าโลกนี้หยุดหมุนลงตรงหน้า

'วันนี้พี่ให้เพื่อนพี่ช่วยเลือกแหวนทองคำขาววงนี้ให้จิ เพราะพี่เลือกเครื่องประดับไม่เป็น'  ชายหนุ่มทิ้งช่วงคำพูดไว้
'แต่พี่ก็ตั้งใจจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คนที่พี่รักมากที่สุด จิจะแต่งงานกับพี่ไหมครับ'
ชายหนุ่มคุกเข่าลงกับพื้น พลางยกแหวนวงน้อยขึ้นส่งให้จิรัฏฐ์ ทำอาการเสมือนชายหนุ่มที่กำลังขอความรักกับหญิงสาว
กลุ่มเพื่อนของทั้งสองฝ่ายพากันเงียบกริบ เพื่อรอฟังคำตอบของหนุ่มหน้าใส เสียงดนตรีหวานที่ดังแว่วมาช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูลงตัวมากยิ่งขึ้น

จิรัฏฐ์มีสีหน้าที่บ่งบอกถึงความดีใจแต่ก็เขินอายอย่างเห็นได้ชัด
เรื่องราวต่างๆที่เขาคาดคิดไปเองนั้นถูกเฉลยออกมาจนหมดสิ้นแล้ว ด้วยแหวนวงนี้
และด้วยคำขอแต่งงานคำนี้ เค้ามีหรือที่จะปฏิเสธได้ ในเมื่อรักชายหนุ่มร่างสูงคนตรงหน้าไปหมดแล้วทั้งหัวใจ

จิรัฏฐ์พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะตอบสั้นๆว่า
'ครับพี่'

เสียงเฮของเหล่าเพื่อนๆดังขึ้น พร้อมๆกับที่แชมเปญถูกรินลงแก้วทุกใบ
จิรัฏฐ์กอดรังสิมันต์ไว้แนบแน่นหลังจากที่หนุ่มร่างสูงสวมแหวนวงงามลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของจิรัฏฐ์
หนุ่มน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในวงแขนแกร่ง รังสิมันต์จูบเบาๆที่ใบหน้าเพื่อซับน้ำตาให้คนรักของตน

'ผมนึกว่าพี่จะทิ้งผมไปแล้วซะอีก ฮึก ฮึก ฮึก' ชายหนุ่มยังคงสะอื้นเล็กน้อย
'พี่รักเราขนาดนี้จะทิ้งเราได้ยังไงละครับ ทีหลังเห็นอะไร ไม่เข้าใจก็ถามพี่นะครับ อย่าคิดไปเองนะ'
'ตอนนี้ก็จำไว้ด้วยนะครับ ว่าเราเป็นของพี่แล้ว อย่างสมบูรณ์นะครับ'
'จิครับ พี่แซครักเรามากนะ'
หนุ่มน้อยปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากหัวใจของอีกฝ่าย

กลุ่มเพื่อนๆยังคงมองบุคคลทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มที่แสดงความยินดี กับการขอแต่งงานของรังสิมันต์ในคืนก่อนวันวาเลนไทน์
'ชั้นละอิจฉาจิจริงๆเลยนะแก ไม่รู้จะมีใครทำแบบนี้กับชั้นบ้างไม๊' พลอยกระซิบเบาๆกับต้อยที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
'เอาละพวกเรา ดื่มให้คู่บ่าวสาวหน่อยคร๊าบบบบ' เอกแกล้งแซวจิรัฏฐ์และรังสิมันต์

ทุกคนบนโต๊ะพร้อมใจกันยกแก้วขึ้น ไม่เว้นแม้แต่สองหนุ่มที่กำลังตระกองกอด
จิรัฏฐ์หน้าแดงเพราะอายเพื่อนๆและทุกๆคนที่พากันจ้องมองพวกเขาสองคน ไม่เว้นแม้แต่เหล่าบริกรและนักดนตรี
'เอ้า ชนแก้ว.......'
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
เสียงเฮดังลั่นมาจากกลุ่มเพื่อนๆ พร้อมๆกับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ให้รังสิมันต์จูบเจ้าสาวของเขา
'เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวหน่อยคราบบบบบ' เสียงเพื่อนคนเดิมของรังสิมันต์เอ่ยยุ

จูบ จูบ จูบ จูบ จูบ
ทุกๆคนพร้อมใจกันพูดเพื่อให้ทั้งสองคนทำตามคำร้องขอ

รังสิมันต์จึงรวบจิรัฏฐ์เข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้งก่อนจะบรรจงจรดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากคู่งาม
เขามอบความรัก ความหวัง และความปรารถนาอย่างหวานซึ้งด้วยรสจูบที่หวานล้ำ ก่อนที่ชีวิตรักของทั้งคู่จะเดินหน้าต่อไป

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ชีวิตของคนทั้งคู่คงจะเริ่มต้นด้วยกันอย่างสมบูรณ์แล้วค่ำคืนนี้ ค่ำคืนก่อนวันแห่งความรัก
แต่ชีวิตของพวกเขาจะก้าวเดินไปข้างหน้าเช่นไร สวยงามมากน้อยแค่ไหน คงไม่มีใครให้คำตอบได้
นอกจากตัวของพวกเขาเอง


บริบูรณ์



--------------------------- *************** ------------------------------

อ่านจบแล้วติชมกันได้นะครับ จะได้เป็นข้อปรับปรุงในการเขียนเรื่องครั้งต่อๆไป

Express_men
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2009 22:00:00 โดย express_men »

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ขอเดาว่าเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากในหนังแน่ๆ เลย อิอิ

เย้ๆ  ว่าแล้วก็ไปดูเรื่องนี้บ้างดีกว่า  :mc4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด