สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

๑.   สนใจสั่งจอง
5 (55.6%)
๒.   ขอคิดดูก่อน
4 (44.4%)
๓.   ไม่สนใจ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 5

ปิดการโหวต: 31-05-2012 00:47:21

ผู้เขียน หัวข้อ: สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน  (อ่าน 212405 ครั้ง)

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่าคงไม่มีเหตุร้ายเข้ามาในครอบครัวของสานฝันนะ   :monkeysad:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๓๐

“เราจะเริ่มหากันจากที่ไหน” ไลล่าถามพลางมองไปรอบๆย่านการค้า ที่มีคนหนาแน่นในยามค่ำคืน
“สเตฟานปิดกั้นจิตอีกแล้ว พวกเราคงต้องลองหาไปเรื่อยๆ” โจชัวร์ตอบด้วยเสียงเคร่งเครียด
“แน่ใจเหรอว่าจะยังอยู่ที่นี้ ป่านนี้หนีไปที่อื่นแล้วมั๊ง” ไป่เทียนมองไปรอบๆอย่างเบื่อหน่าย
“ถึงจะไม่แน่ใจ ข้าก็จะต้องค้นหาต่อไป แต่ข้ามั่นใจว่า ชายหนุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสเตฟาน จะต้องอยู่ที่ไหนซักแห่ง ในประเทศแถบนี้”
“คนรักของสเตฟานงั้นเหรอ” ไลล่าพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
“พูดมากไปแล้ว” โจชัวร์หันไปตวาดใส่ “สเตฟานต้องไม่มีใครอื่น นอกจากข้าเท่านั้น”
ไล่ล่า ก้มหน้าลง ซ่อนแววตาที่แสดงความไม่พอใจไว้ ในขณะที่ไป่เทียนมองดูด้วยความสะใจ
“ไปได้แล้ว พวกเจ้าแยกย้ายกันไปออกตามหา แล้วถ้าต้องการจะหาอาหาร ก็อย่าก่อเรื่อง”
พูดจบโจชัวร์ก็แยกตัวเดินออกไป ไลล่าและไป่เทียนมองหน้ากันแว่บหนึ่ง ก่อนจะแยกย้ายกันไปคนละทิศทาง
........................................................................................
..........................................
“คุณซื้อบ้านหลังนี้ไว้นานแล้วเหรอ” ภูริทัตถามดังๆ เพราะอีกฝ่ายนั่งอยู่บนโซฟายาวในห้องรับแขก ขณะที่เขากำลังเดินดูเครื่องประดับห้อง
“ก็ตั้งแต่ผมมาอยู่เมืองไทยเมื่อครั้งก่อน” สเตฟานตอบพลางจิบกาแฟทีละนิด

หลังอาหารเย็นผ่านไป ทรงเดชขอตัวเข้าไปพักผ่อนในห้องพักบนชั้นสอง ปล่อยให้คนทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
“เปียโนหลังนี้ท่าทางจะเก่ามาก” ภูริทัตเดินมายังเปียโนซึ่งตั้งอยู่ทางมุมหนึ่งของห้อง พลางใช้นิ้วกดไปบนลิ่มนิ้วที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ของคีย์บอร์ดไปเรื่อยๆ เสียงนุ่ม แต่ค่อนข้างกังวาน ดังไปทั่วในอณูของอากาศ “ผมอยากฟังคุณเล่นเปียโนจัง”
สเตฟานยิ้มน้อยๆ วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะเตี้ย เดินมานั่งลงบนเก้าอี้เปียโน แล้วเริ่มพรมนิ้วลงไป เพลง La Vie En Rose ที่มีท่วงทำนองอันอ่อนหวาน ก็ดังขึ้น ภูริทัตยืนจ้องมองท่าทางที่บรรเลงเพลงอย่างมีความสุขของสเตฟาน ด้วยสายตาวาววับ เขาจำได้ว่า วันแรกที่ได้เห็นสเตฟานภายในลอบบี้ของโรงแรม สเตฟานก็ทีท่าทางแบบนี้เหมือนกัน

“จริงสิ ผมมีเรื่องจะถามคุณ ต่อจากเมื่อตอนกลางวัน” ภูริทัตถามพลางนั่งลงข้างๆสเตฟาน บนเก้าอี้เปียโน
สเตฟานหันไปมองหน้าภูริทัต เหมือนจะถามว่าภูริทัตต้องการรู้เรื่องใด
“เรื่องที่ว่า คุณแพ้แสงแดด แต่วันนี้...”
“ผมเคยบอกคุณว่าผมแพ้แดด” สเตฟานตอบก่อนที่ภูริทัตจะถามจบ “แต่ผมไม่เคยบอกว่าผมออกไปไหนตอนกลางวันไม่ได้ วันนี้คุณก็เห็นแล้ว” สเตฟานพูดพลางไล่นิ้วไปตามลิ่มนิ้วของเปียโน เท้าซ้ายที่เหยียบเพดเดิลตัวกลางไว้ ทำให้เสียงเปียโนแผ่วเบาลง “ท่ามกลางกิ่งไม้ที่หนาแน่นในสวนที่นี่ แสงแดดวันนี้ก็อ่อนจางมาก ผมพอจะทนไหว ความจริงผมเองก็อยากจะเห็นโลกตอนกลางวันบ้าง เหมือนอย่างที่ผมเคยทำได้มาก่อน”
“แบบนี้คุณก็ออกไปเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า หรือไปกินข้าวในร้านอาหาร ตอนกลางวันได้บ้างสิ” ภูริทัตยิ้มอย่างดีใจ
“แต่มันเสี่ยงเกินไป และค่อนข้างลำบากกับการที่จะต้องคอยระวังตัว ถ้าสถานที่เหล่านั้นมีแสงแดดส่องถึง ผมก็อาจเป็นอันตรายได้ แต่ที่นี่…” สเตฟานมองไปรอบๆห้อง “ผมมั่นใจว่าที่นี่ผมจะปลอดภัย แล้วถ้าวันไหนอากาศดีเหมือนวันนี้ ผมก็ยังพอจะออกไปที่สวนได้บ้าง”

ภูริทัตมองไปรอบๆห้องบ้าง ห้องนั่งเล่น ที่ใช้เป็นห้องรับแขกในตัว ค่อนข้างจะกว้างขวาง หน้าต่างบานใหญ่ สูงเกือบจรดเพดานห้อง สามารถเปิดกว้างได้เพื่อถ่ายเทอากาศ ผ้าม่านหนาหนัก คงพร้อมจะปิดกั้นแสงอาทิตย์จากภายนอกได้อย่างสิ้นเชิง หากเจ้าของบ้านต้องการ ชุดเก้าอี้โซฟาพร้อมโต๊ะเตี้ยๆ ทรงยุโรป โทนสีขรึม เหมาะกับบ้านไม้ทรงยุโรปหลังนี้
“แต่คุณก็ยังเลือกที่จะใช้เวลาอยู่ที่โรงแรมของคุณ หรือตามที่พักในต่างจังหวัด มากกว่าที่นี่” ภูริทัตถามต่อ
“ช่วงที่ผมกลับมาใหม่ๆ การพักที่โรงแรมมีความสะดวกสบายมากกว่า ทั้งในแง่การเดินทาง และการติดต่อเรื่องงาน ถึงผมจะชอบที่นี่มากกว่า แต่ผมก็ยังไม่พร้อม ที่จะใช้ที่นี่เป็นที่พักถาวร”
“ทำไมล่ะ” ภูริทัตเอื้อมมือไปกุมมือของสเตฟานไว้ ทำให้สเตฟานต้องหยุดเล่นเปียโนลง
“ผมอยากจะเก็บที่นี่ไว้ เพื่อเป็นที่พักสุดท้ายของผม ถ้าคนคนนั้นยินยอมปล่อยให้ผมเป็นอิสระ”
“ใครเหรอ ... หรือว่าเป็นคนที่กำลังตามหาคุณอยู่"
สเตฟานพยักหน้ายอมรับ
“ทำไมต้องรอให้เค้าปล่อยคุณให้เป็นอิสระล่ะ ผมไม่เข้าใจ คนคนนั้นใช้อะไรข่มขู่บังคับคุณ ทำไมคุณต้องกลัวเค้าด้วย”
“เมื่อก่อนนี้ เขาบังคับผมได้ทุกอย่างจริงๆ” สเตฟานก้มหน้าหลบสายตาของภูริทัต “ตอนนี้ ถึงเขาจะบังคับผมไม่ได้อีกแล้ว แต่ผมก็ยังกลัวว่า เขาจะทำร้ายคนที่อยู่รอบตัวผม ทำร้ายคนที่ผมรัก เหมือนที่เขาเคยทำ”

คำว่า ‘ทุกอย่าง’ ที่ออกจากปากของสเตฟาน ทำให้ภูริทัตถึงกับขมวดคิ้ว เมื่อคิดไปถึงเรื่องราวบางเรื่อง แต่เมื่อเห็นท่าทางที่ซึมเศร้าลงไปถนัดตาของอีกฝ่าย  ก็อดเกิดความสงสารไม่ได้

“แล้วถ้าเค้าไม่ยอมปล่อยคุณล่ะ มันจะไม่มีวิธีไหนเลยเหรอ ที่จะทำให้เค้าวางมือจากคุณ”
“มี ... มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้น” สเตฟานเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ
“ทำยังไง” ภูริทัตถามด้วยความกระตือรือร้น
“ชีวิตของเขา หรือไม่ก็ชีวิตของผม ผ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะต้องดับสูญ เมื่อนั้น ผมถึงจะเป็นอิสระ”
“เรื่องราวมันร้ายแรงขนาดนั้นเชียวเหรอ” ภูริทัตหน้าตาตื่น จ้องใบหน้าด้านข้างของสเตฟานนิ่ง สักพักก็สงบอารมณ์อันพลุ่งพล่านได้ “ผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณมาบ้าง แต่ต่อไปนี้ผมจะดูแลคุณ” ชายหนุ่มกอดร่างของอีกฝ่ายไว้แนบแน่น “ ถึงผมจะให้อะไรคุณได้ไม่มากกับที่คุณให้แก่ผม แต่ผมจะปกป้องคุณเอง ... สานฝัน ... ผมจะปกป้องคุณตราบนิรันดร”
........................................................................................
..........................................
ภูริทัตเอื้อมมือไป หวังจะโอบกอดร่างของคนที่คิดว่านอนอยู่ข้างๆ แต่ก็พบกับความว่างเปล่า จึงลืมตาขึ้นมองหาเจ้าของร่าง ที่แลกเปลี่ยนสัมผัสกันอย่างมีความสุข และเขาได้กกกอดไว้แนบแน่น ตลอดคืนที่ผ่านมา แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามา ทำให้รู้ว่าเป็นเวลาสายมากแล้ว ชายหนุ่มลุกจากเตียงนุ่ม เดินเข้าห้องน้ำไป และปิดประตูลง อีกเกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา จึงได้ออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น เมื่อผ่านการอาบน้ำชำระกายเรียบร้อยแล้ว ใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างพอใจ กับเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ กางเกงขายาวสีครีม กับเสื้อโปโลสีเขียวสดใส คิดว่าคงเป็นสเตฟานนั่นเอง ที่จัดเตรียมไว้ให้

“ตื่นแล้วเหรอ องค์ชาย” เสียงทักทายเมื่อภูริทัตเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น
ภูริทัตหันไปตามเสียง ก็เห็นทรงเดชนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟา ในมือถือหนังสือพิมพ์ กำลังยิ้มให้เขา แทนการตอบ ภูริทัตกลับกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง
“คุณสเตฟานไม่อยู่หรอกครับ กลับไปแล้ว”  ทรงเดชยิ้มขัน เพราะท่าทางของภูริทัตทำให้รูทันที ว่าชายหนุ่มคิดอะไร
“กลับไปที่ไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่” ภูริทัตหันไปถาม
“กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม ตั้งแต่เมื่อตอนเช้ามืดแล้วครับ ว่าแต่คุณจะทานอาหารเช้าเลยมั๊ย”
“ไม่หล่ะ นี่มันสิบโมงกว่าแล้ว ผมขอเป็นกาแฟดีกว่า”
“งั้นก็เชิญที่โต๊ะอาหารนะคร๊าบ เดี๋ยวผมไปนั่งเป็นเพื่อน”
โดยไม่รอคำตอบ ทรงเดชก็ลุกขึ้นเดินนำไปยังห้องอาหาร บนโต๊ะขนาดใหญ่ มีเคครื่องต้มกาแฟตั้งอยู่ พร้อมกับชุดโถเคลือบ บรรจุน้ำตาล ครีมเทียม นมข้น นมสด ภูริทัตนั่งลงตรงข้ามทรงเดช แล้วจัดการหยิบแก้วกาแฟที่วางเตรียมไว้แล้ว รินกาแฟจากโถแก้ว แล้วปรุงสำหรับตนเอง
“มีของรองท้องด้วยนะครับ” ทรงเดชซึ่งนั่งลงก่อนหน้านี้  เลื่อนที่วางขนม ที่มีลักษณะเป็นชั้นๆ จากกลางโต๊ะมาไว้ตรงหน้า
ภูริทัต มองผ่านครอบพลาสติกใสเข้าไป ก็มองเห็นว่า มีทั้งเค๊ก พาย ทาร์ต สารพัดแบบและสีสัน เป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ แล้วยังมีครัวซองค์ตัวเล็กๆ ดูน่ากิน จึงเปิดรอบพลาสติก ใช้ช้อนส้อมจิ้มแต่เค๊ก ที่เป็นเค๊กชอคโกแลตหลายชิ้น กับทาร์ตบลูเบอรี่๒ชิ้น ใส่ลงในจานใบเล็ก แล้วค่อยๆกินกับกาแฟ
“เห็นคุณกินแล้วน่าอร่อย ผมเอามั่งดีกว่า”
ทรงเดชพูดแล้วก็จัดการปรุงกาแฟสำหรับตนเอง แล้วใช้ช้อนส้อมจิ้มพายและทาร์ต ใส่จานเล็กๆที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอง กินพลาง จิบกาแฟพลาง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“นี่คุณเอามาจากโรงแรมเหรอ” ภูริทัตถามขึ้นเมื่อกินเค๊กไปได้หลายชิ้น
“ทำไมคิดว่าผมเอามาล่ะ”
“อ้าว ก็เมื่อเช้าคุณไม่ได้ไปส่งสเตฟานที่โรงแรมเหรอไง คุณนี่ตื่นเช้าดีนะ” ภูริทัตถามพลางจ้องหน้า
“เอ้อ...” ทรงเดชอึกอึก “อ๋อ คืองี้นะ เมื่อเช้าน่ะรถของโรงแรมเค้ามารับไง แล้วเอาเค๊กติดรถมาด้วย”
“คุณบอกว่าสานฝันเค้ากลับไปตั้งแต่เช้ามืด รถก็น่าจะออกจากโรงแรมซักตีสี่ ไม่ก็ตีห้าสิ แล้วเค๊กพวกนี้มันทำตั้งแต่เมื่อคืนเหรอ ถึงได้มีมาส่งที่นี่ได้ตั้งแต่เช้า”
“โธ่ ... คุณภูริทัต” ทรงเดชหัวเราะเบาๆ “จะบอกให้นะ เค๊กตามโรงแรมน่ะ เค้าเริ่มทำกันตอนตีสองตีสามทั้งนั้นแหละ กว่ามันจะเสร็จก็ตั้งหลายชั่วโมงนะ เราต้องทำให้ทันตอนหกโมงเช้า ขืนเอาเค๊กค้างคืนให้ลูกค้ากินก็แย่สิครับ”
“อืม มันก็จริงนะ แต่ดูสิ จัดมายังกับเข้าไปกินในเบเกอรี่เลย เหมือนเพิ่งจัดมาใหม่ๆ”
“ก็มาจัดที่นี่แหละครับ คุณสเตฟานจัดให้เชียวนะ ยังบอกเลยว่าให้เอาพวกเค๊กชอคโกแลตมาเยอะกว่าอย่างอื่น เพราะคุณชอบ”
ภูริทัตยิ้มจนแก้มแทบปริ แล้วก็กินเค๊กกับกาแฟต่ออย่างเอร็ดอร่อย

ทรงเดชรู้สึกโล่งใจที่สามารถแก้ไขสถานการณ์ไปได้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ คุณปู่ของเขาก็ย้ำให้ระวัง อย่าให้เป็นพิรุธใดๆขึ้นมาได้เด็ดขาด ภูริทัตไม่รู้หรอกว่า สเตฟาน ‘เดินทาง’ ไปโรงแรมนำขนมเหล่านี้มาด้วยตัวเอง ในช่วงเวลาเพียงไม่ถึงนาทีเท่านั้น เพราะตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทรงเดชได้บอกฝ่ายเบเกอรี่ ให้จัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย และให้นำไปวางไว้บนโต๊ะภายในห้องทำงานของทรงศักดิ์ เพื่อที่สเตฟานจะได้ไปนำมาได้ทันที และเมื่อสเตฟานนำขนมเหล่านี้มาถึง ก็จัดวางลงบนที่วางขนมด้วยตนเอง ก่อนจะ ‘เดินทาง’ กลับไปสู่ห้องพักส่วนตัวภายในโรงแรมนั่นเอง

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
สุดท้ายยังไงก็คงต้องแตกหักกันไปข้างละมั๊งนะ เพราะโจชัวคงไม่ยอมแน่ๆ อยากรู้จริงๆ ว่าภูริทัตจะทำไงเมื่อรู้ความจริง

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
สเตฟานนี่ช่างแสนดีจริง ๆ  ถ้าภูริทัตรู้ความจริง จะยอมรับได้ไหมเกี่ยวกับสเตฟาน  :เฮ้อ:


sNow

  • บุคคลทั่วไป
อ่า่นเรื่องนี้ไป ก็ใจสั่นไป

กลัวสานฝันจะใจอ่อน ไม่กล้าฆ่าโจชัวร์เวลาปะทะกันจัง ยิ่งใจอ่อนอยู่

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เรื่องไม่ค่อยเดินเลยตอนนี้
แต่อ่านแล้วรู้เลยว่าต้องตายันไปข้างนึงแน่ๆ แล้วจะรออ่านต่อ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
รออ่านตอนหน้าค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ภูริทัต เริ่มจับผิดได้เยอะขึ้นทุกทีแล้ว จะปิดไปได้อีกนานแค่ไหนน้อ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
เหมือนเหตุการณ์กำลังจะไปถึงจุดที่ต้องเผชิญหน้ากันแล้วไม๊ :z3:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ความรักของภูริทัต จะช่วย สานฝัน ได้บ้างมั้ย  :monkeysad:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
รอลุ้นต่อไป :3123:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
โจชัวร์เริ่มเข้ามาใกล้ขึ้นทุกขณะ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากันสักวันหนึ่ง อะไรจะเกิดขึ้นนะ
บวก 1 จ้า ขอบคุณนะ

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
น้องตั้มจ๋า...... :กอด1:
ใครจะเป็นอะไรยังไงก็ตาม
ขอแค่ "สานฝัน" ปลอดภัยไร้กังวลก็แล้วกันนะจ๊ะ  :o8:
น้องตั้มคนดี๊ คนดี ไม่ทำร้ายจิตใจแฟนๆใช่ไม๊จ๊ะ 
ไม่งั้น  o18 หึๆๆ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
หลงไปนาน

ได้กลับมาอ่านอีก

สนุก ๆ ๆ

ชอบ ๆ ๆ ๆ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
หลงไปนาน

ได้กลับมาอ่านอีก

สนุก ๆ ๆ

ชอบ ๆ ๆ ๆ
หลงไปอ่านเรื่องอื่นจนเพลินอะดิ  :laugh:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๓๑

โจชัวร์กับพวกทั้งสามเดินเกาะกลุ่มกัน สายตาสอดส่ายไปทั่วเพื่อค้นหา ก่อนหน้านี้โจชัวร์สัมผัสได้ถึงจิตของคนที่ตนกำลังตามหา แล้วจู่ๆก็หายไปอีกครั้ง ในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นภายในโรงแรมแห่งนี้ ท่ามกลางผู้คนในชุดสูท และชุดราตรี การแต่งกายแบบคนเดินถนนทั่วไปของทั้งสามคน จึงดูเด่นสะดุดตา ความมีเสน่ห์ที่แปลกประหลาดของโจชัวร์ ใบหน้าสะอาดสะอ้านของไป่เทียน และผิวคล้ำที่เนียนนวลรวมกับรูปร่างอันอวบอันของไลล่า ทำให้ชายหนุ่มและหญิงสาวหลายคนในงานนั้น ลอบมองด้วยความสนใจ หากเป็นยามปรกติ ทั้งสามคงไม่รีรอที่จะคว้าใครสักคนมาเป็น ‘เหยื่อ’ สำหรับคืนนี้ แต่ตอนนี้ ทั้งสามต้องตามหาคนผู้หนึ่งให้เจอก่อน แล้วจู่ๆไป่เทียนซึ่งเดินรั้งท้ายสุดก็หยุดฝีเท้าลงกระทันหัน เหม่อมองดูคนที่ตนเห็นอย่างตะลึงลาน

ตรงหน้าต่างบานใหญ่ของห้องจัดงาน ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ทำให้ผิวสีขาวอมชมพู ยิ่งดูสดใสราวกับมีประกายเปล่งออกมา เรือนผมสีทองทำให้ใบหน้านั้นดูสะอาดสะอ้าน รอยยิ้มที่กระจายออกมาจากดวงตาสีเขียวมรกต และริมฝีปากสีชมพูนั้น ทำให้รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยน ความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ผิดกับรอยยิ้มของบุคคลซึ่งดูคล้ายคลึงกันราวกับฝาแฝด แต่มักมีรอยยิ้มที่แสดงถึงอำนาจ และเยาะหยันอยู่เสมอ ไป่เทียนรู้ได้ทันทีว่า ชายหนุ่มผู้นั้นคือบุคคลที่ ‘นาย’ ของตนกำลังตามหาอยู่

... บอกโจชัวร์ว่า ผมจะรออยู่ที่สวนดอกไม้ข้างล่าง ...

ไป่เทียนหันไปมองว่าใครมาพูดอยู่ข้างๆ เพราะเสียงนั้นชัดเจน แต่แผ่วเบาราวกับผู้พูดมายืนกระซิบอยู่ข้างหู แต่ก็ไม่พบผู้พูด และเมื่อหันกลับไป ชายหนุ่มผมสีทองคนนั้นก็หายไปเสียแล้ว
“มีอะไร” เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นข้างตัว ทำให้ไป่เทียนหันไปหา
“เมื่อกี้ผมเจอแล้ว”  ไป่เทียนบอกหน้าตาตื่น
“เจออะไร” โจชัวร์ขมวดคิ้ว
“สเตฟาน” ไป่เทียนบอกช้าๆ “ ผมคิดว่าต้องใช่แน่ๆ ผมเจอสเตฟาน”
“อยู่ที่ไหน” โจชัวร์ถามด้วยความตื่นเต้นจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง
“เค้าบอกว่าจะไปรออยู่ที่สวนข้างล่าง”
โจชัวร์ได้ยินก็เดินไปยังประตูเข้าออกอย่างรวดเร็ว โดยมีไป่เทียนและไล่ล่าเดินตามไป
“ทำไมไม่จับตัวไว้ ปล่อยไปได้ยังไง” ไลล่าถามอย่างฉุนเฉียว ระหว่างที่กำลังเดินตามโจชัวร์ออกไป
ไป่เทียนไม่ตอบ เพราะรู้ว่าคนถามไม่ได้ต้องการคำตอบนัก

ภายในสวนดอกไม้ของโรงแรม ซึ่งมีลักษณะเป็นลานกว้างเป็นวงกลม รอบๆมีไม้ดอกซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้พุ่มขนาดย่อม ตรงกลางมีน้ำพุขนาดใหญ่ ข้างๆน้ำพุมีชายในชุดสูทสีขาว ยืนหันหลังอยู่ เรือนผมสีทองสะท้อนแสงไฟรอบๆเป็นประกาย
“สเตฟาน” โจชัวร์ ส่งเสียงเรียกเมื่อเดินเข้ามาแล้วมองเห็นด้านหลังของชายคนนั้น
ชายในสูทสีขาวค่อยๆหันหน้ามาทางคนทั้งสาม โจชัวร์เฝ้ามองดูจนแทบจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ ไลล่าเหลือบมองดูท่าทางที่ตื่นเต้นของโจชัวร์ด้วยความขุ่นเคือง ว่าทำไมถึงได้ให้ความสนใจกับแวมไพร์ตนนี้นักหนา เพียงเพราะความเหมือนกันของรูปร่างหน้าตาเท่านั้นหรือ คิดแล้วก็เบนสายตากลับไปที่ชายในชุดสูทสีขาวนั้นอีกครั้ง
“อา...” ไลล่าถึงกับอุทาน ยกมือขึ้นแตะริมฝีปาก
ใบหน้าภายในวงหน้ารูปไข่ ใต้เรือนผมสีทอง ราวพิมพ์เดียวกันกับโจชัวร์ แทบจะไม่ผิดเพี้ยน แต่รอยยิ้มที่สดใสราวกับแสงอาทิตย์ในยามเช้า ดูอบอุ่นเหมือนอากาศในฤดูใบไม้ผลิ แตกต่างกับท่าทีอันเย็นชาของโจชัวร์เสียเหลือเกิน

“สเตฟาน ในที่สุดข้าก็ตามหาเจ้าจนพบ” โจชัวร์พูดด้วยน้ำเสียงยินดี ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความปิติ
“ผิดแล้ว” เสียงทุ้มนุ่มหูปฏิเสธ “ไม่ใช่ท่านหาข้าพบ แต่ข้าออกมาพบกับท่านต่างหาก”
“ยังไงก็ช่าง เจ้าต้องไปกับข้า ติดตามข้าเหมือนที่เคยเป็น” โจชัวร์พูดพลางเดินเข้าไปใกล้
“หากท่านก้าวเข้ามาอีกเพียงก้าวเดียว ข้าจะจากไปทันที และท่านจะไม่มีวันหาข้าพบอีกเลย” สเตฟานยังพูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
โจชัวร์ชะงักเท้าลง เพ่งมองดูอีกฝ่ายแน่วนิ่ง
“ไม่มีประโยชน์หรอก ข้าเคยบอกแล้วว่า ท่านไม่อาจบังคับข้าได้อีก ไม่ต้องลองอีกแล้ว”
หัวคิ้วของโจชัวร์ขมวดเข้าหากัน หรือว่าสเตฟานมีพลังอำนาจมากกว่าเขาแล้วจริงๆ แต่ยังคิดไม่ออกว่าทำไมสเตฟานถึงได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างง่ายดาย ทั้งๆที่หลบหนีมาตลอดช่วงเวลาหลายร้อยปี
“ข้ามาเพื่อขอร้องท่านอีกครั้ง” สีหน้าของสเตฟานเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “ขอให้ข้าได้เป็นอิสระ อย่างน้อยในช่วงเวลานี้”
“เพื่อมนุษย์ที่เจ้ารักน่ะรึ” โจชัวร์โพล่งออกมาด้วยความโกรธ “ไม่มีวัน ข้าจะต้องควานหาตัวมนุษย์ผู้นั้นให้พบ แล้วทำลายมันซะ”
“ถ้าข้าขอแลกเปลี่ยนล่ะ”
“แลกเปลี่ยน ... ชีวิตของมนุษย์ผู้นั้นกับการได้เจ้ากลับคืนมาน่ะหรือ”
“ใช่”
“ฮ่าๆๆ” โจชัวร์แหงนหน้าหัวเราะ “เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร ข้าคือโจชัวร์ผู้ให้กำเนิดเจ้าขึ้นมา ข้าเป็นนายของเจ้า” โจชัวร์เค้นเสียง “เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับข้า สิ่งที่ข้าต้องการข้าจะต้องได้มา ทั้งตัวเจ้า และชีวิตของมนุษย์ผู้นั้น”
“ถ้าเช่นนั้นข้าคงไม่มีทางเลือก” สีหน้าของสเตฟานหม่นหมองลง “ถ้าท่านทำร้ายมนุษย์ผู้นั้น ข้าคงต้องขัดขวางสุดความสามารถ ทั้งๆที่ข้าไม่ต้องการทำร้ายท่านเลยแม้แต่น้อย”
“ทำร้าย ... เจ้าน่ะหรือจะทำร้ายข้าได้ วันนี้เจ้าหนีให้พ้นจากเงื้อมือข้าให้ได้เสียก่อนเถอะ ไป่เทียน ... ไลล่า”
ไม่มีเสียงตอบรับมาจากคนทั้งสอง
“ไป่เทียน ไลล่า จับสเตฟานให้ข้า”
ไม่มีปฏิกิริยาใดๆจากคนทั้งสองเช่นเคย โจชัวร์จึงหันไปดู ก็พบว่าทั้งสองคนยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น และเมื่อหันหน้ากลับไป สเตฟานก็หายไปเสียแล้ว

โจชัวร์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วเดินไปตบหน้าไป่เทียนและไลล่าอย่างแรง จนคนทั้งสองล้มลงกับพี้น นั่นแหละจึงได้สติ ทั้งสองคนยกมือกุมแก้ม แล้วค่อยๆลุกขึ้นมองโจชัวร์อย่างเกรงกลัวและงุนงง เมื่อมองไปทางน้ำพุ ก็พบว่าสเตฟานไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว
“พวกเจ้าเป็นอะไรไป ทำไมถึงได้ยืนนิ่ง ไม่เข้าไปจับตัวสเตฟานตามที่ข้าสั่ง” โจชัวร์พูดด้วยความโกรธ กรามขบกันจนเป็นสัน เส้นเอ็นบริเวณลำคอโปดปูน ดวงตาสีฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ผม...ผมไม่รู้ ผมจำได้แค่ว่าสเตฟานหันมา แล้วผมก็ถูกตบ”
“ชั้นด้วย ... นี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วสเตฟานหายไปไหนแล้ว” ไลล่าย้อนถาม
“พวกเจ้ายังมีหน้ามาถามข้าอีกหรือว่าเกิดอะไรขึ้น” โจชัวร์โกรธมากขึ้น “มันหนีไปแล้ว หนีไปอย่างรวดเร็วและไร้ร่องรอย เพียงแค่ชั่วแวบเดียวที่ข้าหันหน้ามาดูพวกเจ้า แล้วหันกลับไป สเตฟานก็หายไปเสียแล้ว แต่ก็น่าแปลก” โจชัวร์ข่มสติให้เยือกเย็นลง “สเตฟานจากไปอย่างรวดเร็วเกินไป และเงียบเกินไป ไม่มีแม้แต่เสียงฝีเท้า หรือการเคลื่อนไหว แล้วน่าแปลกที่พวกเจ้าถูกสะกดไว้ได้”
“หรือว่า สเตฟานใช้ชาร์มอายส์กับพวกเรา” ไลล่าออกความเห็น
“เป็นไปไม่ได้ ชาร์มอายส์มีผลกับมนุษย์เท่านั้น ใช้กับแวมไพร์ด้วยกันเองไม่ได้” ไป่เทียนไม่เห็นด้วย “แล้วถึงสเตฟานจะเป็นแวมไพร์ก่อนหน้าพวกเราหลายร้อยปี ก็ไม่น่าจะมีอำนาจมากพอจะสะกดพวกเราไว้ได้”
“แต่ที่ข้าเห็น สเตฟานสะกดพวกเจ้าไว้ได้จริงๆ” โจชัวร์พูดพลางคำรามในลำคอ “ทำไมมันถึงได้มีอำนาจเพิ่มขึ้นถึงขนาดนี้ได้ ข้าไม่น่าหยุดมือเลยเมื่อตอนที่สเตฟานขู่ข้าไม่ให้เข้าใกล้ อย่างน้อยตอนนั้น ข้าก็คงได้รู้ว่า มันมีพลังทำอะไรได้อีกบ้าง และคงจะพอคาดเดาถึงที่มาของพลังนั้นได้”
ไลล่า และไป่เทียนหันมองหน้ากัน แล้วหันไปมองโจชัวร์ที่หันกลับไปมองน้ำพุอย่างเหม่อลอย
“สเตฟาน เจ้าดูงามขึ้นมาก” โจชัวร์พึมพำเบาๆ “ข้าต้องเอาเจ้ากลับมาอยู่ข้างกายข้าให้ได้"
................................................................................
......................................
สเตฟานยืนอยู่ข้างเตียง มองดูใบหน้าที่กำลังหลับไหลของชายหนุ่มด้วยความรัก สักพักก็นั่งลงบนขอบเตียง ยื่นมือปัดปอยผมบริเวณทัดดอกไม้ อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปจุมพิศเบาๆที่หน้าผากเนียนนั้น แล้วถอนใบหน้าออกมามองดูคิ้วที่ดกหนา ดวงตาที่ปิดสนิท เสียงลมหายใจแผ่วเบาจากคนที่กำลังหลับไหลอยู่
“ภูริทัต ... เด็กน้อย ... ดวงใจของผม” สเตฟานพูดเสียงแผ่วเบา “ผมไม่ยอมให้เค้ามาทำร้ายคุณได้เด็ดขาด ผมตัดสินใจแล้ว ถ้าเขาทำร้ายคุณ ผมจะปกป้องคุณให้ได้ ถึงแม้จะต้องใช้พลังเพื่อการทำลายก็ตามที”

ภูริทัตลืมตาขึ้นมา เพราะรู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาอยู่ใกล้ๆ แต่ก็พบกับความว่างเปล่า ลุกขึ้นมาเปิดโคมไฟตรงหัวเตียง มองไปรอบๆห้อง ก็ไม่เห็นอะไร จึงปิดไฟ แล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้งหนึ่ง

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
มาขอร้องครั้งสุดท้าย กลายเป็น เหมือนประกาศสงครามเลย...เอาใจช่วยสเตฟาน

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
หู้ววววว

แล้วจะเป็นไงต่อไปเนี่ย
หลงไปนาน

ได้กลับมาอ่านอีก

สนุก ๆ ๆ

ชอบ ๆ ๆ ๆ
หลงไปอ่านเรื่องอื่นจนเพลินอะดิ  :laugh:


ป่าวน๊า....... พี่ตั้ม

ปล. แล้วพี่ตั้มไม่ไปไหนหรอครับ สงกรานต์นี้
426

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 o13 o13 o13
แหมๆตอนนี้เขียนออกมาได้น่าลุ้นจริงๆเกือบจะได้ปะทะกันแล้วสินะ
เป็นไปได้ว่า โจชัวร์ อาจมีโอกาสพ่ายให้แก่ สเตฟานก็เป็นได้
แล้วจะรออ่านต่อไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ตาม
แต่ที่รู้อย่างหนึ่ง คือ เรื่องนี้จบเศร้าอีักแล้วสิ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB

ปล. แล้วพี่ตั้มไม่ไปไหนหรอครับ สงกรานต์นี้
426
ม่ายอะ เดี๋ยวโดนสาดน้ำแล้วจะไม่สบาย ... ไม่มีใครไปมาชวนไปไหนด้วยแหละ  :laugh:
แล้วสภาพหลายๆอย่าง ... อยู่บ้านน่าจะปลอดภัยที่สุด  :sad4:

แต่ที่รู้อย่างหนึ่ง คือ เรื่องนี้จบเศร้าอีักแล้วสิ  :เฮ้อ:

ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไงดีกับตอนจบ คิดไว้ ๒-๓ แบบแล้ว  :o211:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-04-2009 22:08:36 โดย บุหรง »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
แต่ที่รู้อย่างหนึ่ง คือ เรื่องนี้จบเศร้าอีักแล้วสิ  :เฮ้อ:
ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไงดีกับตอนจบ คิดไว้ ๒-๓ แบบแล้ว  :o211:
:a5: :a5: :a5:
ชัวแล้วละว่าจบไง  :m16:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีปีใหม่ไทย สุขสันต์วันสงกรานต์ทั้งคนแต่งและคนอ่านทุกคนจ้า

มันมีแววว่าจะจบเศร้าฉายชัดเหมือนกันนะเนี่ย
สเตฟานคงชนะโจชัวร์ได้ แต่จะได้อยู่กับภูริทัตหรือไม่อันนี้น่าหวั่นใจจริงๆ
บวก 1 แต้มขอบคุณจ้า

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ใกล้ แล้วสิ  :เฮ้อ:

ป.ล. สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
คิดไว้ 2-3 แบบแล้ว ก็อย่าเลือกแบบที่เศร้าๆ ละกันนะคะ 

มารอลุ้นตอนต่อไปค่ะ  :L2:


imageriz

  • บุคคลทั่วไป
รอลุ้นตอนต่อไปด้วยคน

:L2:สุขสันต์วันปีใหม่ไทย :L2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ใกล้จะจบแล้วเหรอค่ะ  ขอแบบไม่เศร้าได้ม้ายยยยยยยยยย  :z3:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
อย่าจบเศร้าเลย
เบื่อแล้ว 55

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
จะปกป้องได้รึเปล่าหนอ :impress2:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
แล้วตอนจบ 2-3แบบของน้องตั้มนี่เป็นแบบไหนอ่ะ
1. เศร้าเล็กน้อย ถึงปานกลาง  :monkeysad:
2. โศกเศร้าสะเทือนใจ เสียน้ำตากันเป็นโอ่งๆ  :m15:
หรือ 3. ทนความเศร้าไม่ไหว  สติแตกกันถ้วนหน้า   :o12:

ชั้นละหวั่นใจกะตอนจบจริงจิ๊งงงงงงง
ขอจบแบบhappying ending น้ำตาซึมเพราะความสุขได้ไหมจ๊ะ   :z1:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
แล้วตอนจบ 2-3แบบของน้องตั้มนี่เป็นแบบไหนอ่ะ
1. เศร้าเล็กน้อย ถึงปานกลาง  :monkeysad:
2. โศกเศร้าสะเทือนใจ เสียน้ำตากันเป็นโอ่งๆ  :m15:
หรือ 3. ทนความเศร้าไม่ไหว  สติแตกกันถ้วนหน้า   :o12:

ชั้นละหวั่นใจกะตอนจบจริงจิ๊งงงงงงง
ขอจบแบบhappying ending น้ำตาซึมเพราะความสุขได้ไหมจ๊ะ   :z1:
ทำยังกะเราเขียนแต่เรื่องเศร้า ...  :o
เขียนจบไปแล้ว ๔ เรื่อง จบแบบมีความสุขตั้้ง ๒ เรื่อง

เรื่องนี้ อาวงายดีหนอ  :oni3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด