สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

๑.   สนใจสั่งจอง
5 (55.6%)
๒.   ขอคิดดูก่อน
4 (44.4%)
๓.   ไม่สนใจ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 5

ปิดการโหวต: 31-05-2012 00:47:21

ผู้เขียน หัวข้อ: สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน  (อ่าน 212756 ครั้ง)

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
รักหลายเส้ากันเหลือเกิน
 
แต่ขอให้คู่ภูริทัตกะสานฝันหวาน ๆ ละกันนะคะ

รอลุ้นตอนต่อไปค่า  :L2:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
มันจุ้นละมุ่นกันจริง ๆ วุ้ย ไอ้แก๊งค์นี้  :really2:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
อืม..วุ่นวายจริงๆ แล้วภูริทัตไม่เอะใจกับรังสรรค์เลยเนอะ...เหอๆ เชื่อใจ หรือ ไม่ทันได้เอะ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
มาไขข้อข้องใจครับ ขอตอบแบบรวมๆเท่าที่พอจะนึกออก  o18

ทรงเดช ครั้งแรกหลายคนคงคิดว่า ตัวละครที่จะมาคอยสร้างความแตกแยก เพิ่มขึ้นอีกตั่วหนึ่งแล้ว แต่ก็คงจะสบายใจกันได้ (???) เพราะทรงเดชรู้ตัวตนที่แท้จริงของสเตฟาน คงไม่กล้าคิดอะไรแบบนั้น ส่วนที่ว่าทำไมยังแสดงท่าทางเหมือนจะหลงรักสเตฟานอีกคน ... คงจะค่อยๆเฉลยออกมาในตอนต่อๆไป  :o10:

รังสรรค์ ก็คงจะไม่ทำให้ภูริทัตคิดอะไรในแง่ลบมากนัก เพราะตัวรังสรรค์เองก็ได้บอกความรู้สึกของตัวเองออกมาหมดแล้ว และจากท่าทีของสเตฟาน รังสรรค์ก็พยา่ยามที่จะตัดใจ ตัวละครตัวนี้ คงไม่สร้างปัญหาในเรื่องความแตกแยกของภูริทัต กับสเตฟาน แต่จะสร้างปัญหาอื่นอีกหรือเปล่า ... ต้องรอตอนต่อๆไป  :laugh:

สเตฟาน ตกลงว่าเป็นอะไรกันแน่ หลายคนคงพอเดาออกแล้ว แต่หลายคนคงยังสงสัยอยู่ แล้วกรีนอายส์คู่นั้น มีพลังอะำไร และมากน้อยแค่ไหน ... ก็ต้องรอตอนต่อๆไปเช่นกัน   :o

สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ และขอบคุณทุกๆคำติชม และทุกๆกำลังใจนะครับ  o1

sNow

  • บุคคลทั่วไป
^
^
จิ้มคุณบุหรง

พลังของกรีนอายส์ สำคัญอยู่ที่มันเป็นคู่ใช่มะล่ะ o18 อิอิ

น่าติดตามอยู่ทุกตอนเลยนะคะ


ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เข้ามาบอกว่า...
กฏข้อที่ 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณถูกแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด  คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกัน

การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน
แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต
และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น

ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ    เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ
ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง

***ส่วนการพูดคุยนั้น  ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์
ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย
ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่ห้องอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ***


ต่อไปนี้จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของดิฉันในฐานะโมฯ นะคะ
เพื่อธำรงไว้ซึ่งกฏระเบียบของเล้าฯ  ไม่ได้ทำไปเพราะสาเหตุส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น
ถ้าใครไม่สบายใจได้การปฏิบัติหน้าของดิฉัน  เชิญตั้งกระทู้เพื่อสอบถามได้ที่ "ห้องพูดคุยทั่วไป" นะคะ
เพราะห้องนั้นเรามีไว้ให้พูดคุย ซักถาม แสดงความคิดเห็น-คิดถึง ต่อกันได้อย่างอิสระ
ผิดจากห้องนี้ซึ่งเป็นห้องนิยายที่เปรียบไปก็คล้ายกับห้องสมุดกลายๆ
ดังนั้นหากต้องการจะพูดคุย-ไต่ถามกันก็เชิญได้ที่ห้องพูดคุยนะคะ
แล้วดิฉันจะได้เรียนชี้แจงเป็นรายบุคคล และถี่ถ้วนนะคะ
หวังว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้อ่าน  แฟนคลับ  นักโพสต์ และนักเขียน นะคะ


โพสต์ได้  เล่นได้  แต่อย่าพากระทู้ออกทะเลก็พอ
สงสารคนที่จะเข้ามาอ่านนิยายบ้าง  หาเนื้อนิยายอ่านยากมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เราเตือนคุณแล้วนะคะ
เจ้สอง  กะเทยอาวุโส  อิอิ  :bye2:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
มารอชมฉากวันวาเลนไทน์ของสเตฟานกะภูริทัต  :o8:
ไม่ว่าปูหรือโจชัวร์ อย่ามาป่วนเชียว
ไม่งั้นโดน  :beat:

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งจะเข้ามาอ่านคะ

เนื้อเรื่องน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของ แวมไพร์ส กับ แวมไพร์ส

แวมไพร์ส กับ มนุษย์  และ มนุษย์กับมนุษย์  ซึ่งทุกอย่างเชื่อม

โยงกัน ทำให้เกิดความสนุกในการน่าติดตาม 

+1 ให้คะ รออ่านตอนต่อไปคะ  :L2: :L2: :L2:



ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๒๖

“ปู่จะไปอยู่ดูแลทางโน้น ทุกอย่างที่นี่ก็เตรียมไว้หมดแล้ว ถึงวันนั้นแกก็ทำให้ดีๆแล้วกัน อย่าให้มีอะไรเป็นพิรุธ” ทรงศักดิ์พูดอย่างเป็นงานเป็นการ
“รับรองเลยครับปู่ ผมจะจัดการไม่ให้พลาดเลย แต่ผมว่าปู่ไม่น่ากังวลอะไร คุณทัตไม่ใช่คนละเอียด คงไม่สังเกตว่ามีอะไรผิดปรกติ ว่าแต่คุณปู่เถอะ จัดการทางโน้นให้เรียบร้อยแล้วกัน” ทรงเดชพูดแล้วขมวดคิ้ว
“แกสงสัยอะไรอีก ถึงขมวดคิ้วแบบนั้น”
“ผมสงสัยว่า เรื่องระหว่าคุณสเตฟานกับคุณภูริทัต มันจะจบยังไงน่ะสิครับ”
ทรงศักดิ์ได้ฟังก็ถอนหายใจ เอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้ ประสานมือกันไว้บนโต๊ะ
“แกสงสัยไปก็ทำให้ต้องคิดมาก” ทรงศักดิ์พูดช้าๆ “ปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมันเถอะ คุณท่านคงคิดไว้แล้ว ว่าจะจัดการยังไงต่อไป”
“น่าสงสารนะครับ ชีวิตคนเราน่ะ จะสูญเสียคนที่ตนรักกี่ครั้งกันเชียว แล้วคุณสเตฟานเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าผ่านเรื่องแบบนี้มามากมายแค่ไหน”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อน ปู่ไม่รู้ แต่ตั้งแต่ปู่ดูแลคุณท่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ปู่เห็นคุณท่านมีความรัก บางทีปู่ก็คิดเหมือนกับแก ปู่ยังคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นความสุขหรือความทุกข์กันแน่ สำหรับคุณท่าน”
.........................................................................
................................
“สวัสดีครับ คุณภูริทัต จำผมได้มั๊ยครับ” เสียงที่พูดมาตามสาย ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้ว
“จำไม่ได้หรอกครับ” ภูริทัตตอบไปด้วยเสียงขุ่นๆ ทำให้เพื่อนบนโต๊ะอาหารหันมามองเป็นตาเดียวกัน
“ผมทรงเดชเองครับ” ตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“คุณมีธุระอะไรกับผม”
“อย่าเพิ่งโกรธสิครับ” น้ำเสียงเหมือนจะเดาอารมณ์ของชายหนุ่มได้ “คุณปู่ให้ผมโทรมาถามคุณว่า คุณเตรียมอะไรไว้รึยัง สำหรับวันพฤหัสฯที่จะถึงนี้”
“เกี่ยวอะไรกับคุณด้วยล่ะ” แล้วภูริทัตก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆอีกครั้งหนึ่ง
“ท่าทางคุณจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะครับ ผมเข้าเรื่องเลยดีกว่า วันพฤหัสคุณมาที่โรงแรมซักทุ่มนึงนะครับ คุณปู่จัดห้องพิศษไว้สำหรับให้คุณทานอาหารเย็นกับคุณสเตฟาน แล้วเที่ยงคืนทางเราจัดรถไว้ส่งคุณกลับบ้าน ... ถ้าคุณจะกลับนะครับ” คราวนี้อีกฝ่ายหัวเราะเสียงดัง
สิ่งที่ได้ยินทำให้ภูริทัตรู้สึกงุนงง เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้พบทรงเดช ก็คิดมาตลอดว่า อีกฝ่ายอาจจะมาเป็นศัตรูหัวใจกับตัวเอง แต่ฟังจากน้ำเสียงที่พูดมา เหมือนจะสนับสนุนให้เขาได้ใช้เวลาในคืนนั้น อยู่กับสเตฟานเสียด้วยซ้ำ
“คุณคิดอะไรของคุณ” ภูริทัตถามเสียงเรียบๆ
“เรื่องอะไรครับ”
“ก็...” ภูริทัตเหลือบมองดูสายตาที่แสดงความสนใจของทั้งสามคน “ที่คุณมาจัดการเรื่องพวกนี้ให้ผม คุณคิดอะไรกันแน่”
“ผมเปล่า ... คุณปู่ผมต่างหากที่เป็นคนจัดการ ผมแค่รับคำสั่งให้คอยดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะคุณปู่ผมสั่งไว้ก่อนไปต่างประเทศ ว่าแต่คุณเถอะ คืนนั้นคุณจะมาได้หรือเปล่าครับ”
“ทำไมผมจะไปไม่ได้”
“ไม่ทราบสิครับ อาจจะมีคนนัดคุณไว้ก่อนแล้วก็ได้ อย่างเช่น” เสียงเงียบไปพักหนึ่ง “อย่างเช่นคุณกรกฏ”
“เค้าจะมาชวนผมทำไม” ภูริทัตพูดแล้วเหลือบสายตามองไปทางกรกฏ
“ผมก็แค่ยกตัวอย่าง ตกลงว่าคุณจะมาได้มั๊ยครับ”
“ถ้าผมไม่ไปล่ะ”
“งั้นผมจะลองชวนคนอื่นดูดีมั๊ย อืม...ใครดีนะ คุณรังสรรค์ ดีมั๊ย”
“คุณไม่ไปซะเองล่ะ” พูดพลางหันไปมองหน้ารังสรรค์ สายตาไม่พอใจของเขา ทำให้รังสรรค์เลิกคิ้วเหมือนจะถามว่ามีอะไรหรือ
“ถ้าคุณสเตฟานยอมนะครับ” เสียงหัวเราะเหมือนจะแสดงว่าถูกใจในคำถามและคำตอบของตัวเอง “ผมล้อเล่น คุณภูริทัตอย่าถือสาล่ะ ผมมันคนสนุกสนาน พูดอะไรตลกไปวันๆ บางทีก็อยากจะแกล้งคนเล่น ก็เลยทำให้คนเข้าใจผิดบ่อยๆ คุณเองก็อย่าเข้าใจผมผิดไปอีกคนล่ะครับ เอาเป็นว่าวันพฤหัสทุ่มตรง ผมจะรอคุณที่ลอบบี้โรงแรมแล้วกันนะครับ” โดยไม่ฟังคำตอบ ก็วางสายไปทันที

ภูริทัตเอาหูฟังบลูธูทเก็บใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อ ไม่สนใจตอบคำถามที่เต็มไปด้วยความสนใจของกรกฏ และปรีชา แต่กลับมองดูรังสรรค์ด้วยแววตาครุ่นคิด
“มองทำไมวะ หันมาพิศวาทข้าแทนเหรอไง” รังสรรค์อดถามไม่ได้
“ข้ายังไม่ได้เตรียมของขวัญให้สานฝันเลยหว่ะ แล้วเมื่อกี้นายทรงเดชโทรมา บอกว่าสานฝันเค้าเตรียมที่ไว้กินข้าวเย็นด้วยกัน จะไปดีมั๊ยวะ”
“วันวาเลนไทน์น่ะสิ” ปรีชายื่นหน้ามาถาม ภูริทัตพยักหน้ายิ้มๆ
“ช่างเป็นพ่อบุญทุ่มจริงๆนะ ทั้งรถรับส่ง ทั้งตั๋วเครื่องบิน คราวนี้อาหารมื้อพิเศษ” คำพูดของกรกฏ ทำให้ภูริทัตหน้าเสีย
“พูดแบบนี้ หาว่าพี่เอาแต่รับของของเค้ารึเปล่า” คำถามของภูริทัต ทำเอากรกฏหน้าเสีย ที่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม
“ข้าว่าเอ็งอย่าคิดมากเลยหว่ะ ไปตามนัดเถอะไม่ต้องซื้ออะไรเป็นของขวัญหรอก แค่นั้นเค้าก็ดีใจมากแล้ว”
รังสรรค์หยุดคิดอยู่ชั่วครู่ก็เข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างที่ริมหูของภูริทัต
“จริงเหรอวะ” ภูริทัตถามด้วยอาการตกใจ เบิกตาโต
“อื้อ ... เอ็งอย่าคิดมากเรื่องที่เค้าทำให้เอ็งเลย เพราะถ้าใครมีตำแหน่งขนาดนั้นจริงๆ เผลอๆจะทำยิ่งกว่านี้อีก คงปรนเปรอซะจนเอ็งสำลัก แต่นี่ข้าก็เห็นว่าทุกครั้งที่เค้าให้อะไรเอ็ง มันก็เป็นโอกาสพิเศษทั้งนั้น เอ็งลองไปคิดดูแล้วกัน”
พูดแล้วรังสรรค์ก็ตบบ่าเพื่อนเบาๆ ไม่สนใจกับสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ของปรีชาและกรกฏ
.........................................................................
................................
“ผมคิดอยู่แล้วว่าคุณต้องมา” ทรงเดชยิ้มทักทายเมื่อเดินเข้ามายืนตรงหน้าชายหนุ่ม สายตามองสำรวจไปที่มือของภูริทัต “ไม่มีดอกไม้ซักช่อเหรอครับ”
“ผมคิดว่าไม่ค่อยจำเป็น แล้วมันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ถ้ามีใครเห็นผมให้ดอกไม้กับท่านประธาน ในวันวาเลนไทน์แบบนี้”
“คุณรู้” ทรงศักดิ์ขมวดคิ้ว แล้วก็ยิ้มออกมา “คุณรังสรรค์บอกสินะครับ แต่ก็ดีเหมือนกัน เผื่อคุณจะเข้าใจอะไรมากขึ้น”
“สานฝันอยู่ไหน”
“สานฝัน” ทรงเดชขมวดคิ้ว “ใครครับ”
“ผมหมายถึงสเตฟาน”
“อ้อ” ทรงเดชเลิกคิ้ว “สานฝัน ... คุณเข้าใจเรียกนะครับ แต่สงสัยผมคงจะเรียกตามคุณไม่ได้” ทรงเดชพูดกลั้วหัวเราะ “เชิญดีกว่าครับ คุณสเตฟานคงรอนานแล้ว ทางนี้ครับ”
พูดจบทรงเดชก็เดินนำไป โดยมีภูริทัตเดินตามไปยังลิฟท์ และเมื่อเข้าไปในลิฟท์แล้ว ภูริทัตก็เห็นทรงเดชหยิบกุญแจขึ้นมาไขช่องด้านล่างของลิฟท์ แล้วกดปุ่มบางปุ่ม ก่อนจะกดปุ่มแสดงตัวเลขชั้นบนสุด แล้วหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“ต้องขอโทษนะครับ ที่ต้องขอผูกตาคุณไว้” ทรงเดชพูดพลางกางผ้าคาดตาสีดำออกมา “ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกน่า ไม่งั้นทั้งปู่ทั้งคุณสเตฟานเล่นงานผมถึงตายแน่” ทรงเดชพูดแล้วก็หัวเราะอีกเมื่อเห็นสีหน้าของภูริทัต
ด้วยคำพูดรับรองนั้นเอง ภูริทัตจึงยอมให้ทรงเดชใช้ผ้าผูกตาเขา และเมื่อลิฟท์หยุดลง ก็รู้สึกว่ามีมือนิ่มๆ มาจับมือเขาไว้
“ถึงแล้วเหรอ” ภูริทัตถามออกไป แล้วก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยตอบมา
“ใกล้แล้วครับ ผมจะพาคุณไปเอง” เสียงพูดช้าๆอย่างอ่อนโยน
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกชื่อคนที่จูงมือตนออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าถูกจูงเดินออกมาจากลิฟท์แล้ว
“ผมต้องขอใช้ที่อุดหูกับคุณด้วยนะครับ” เสียงพูดใกล้ๆใบหู แล้วภูริทัตก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างนิ่มๆ ถูกใส่เข้าไปในรูหู
มือของชายหนุ่มถูกบีบเบาๆ ก่อนที่มือนั้นจะดึงให้เขาเดินตามไป วูบหนึ่งที่ภูริทัตรู้สึกว่า อุณหภูมิรอบตัวเปลี่ยนแปลงไปอย่างกระทันหัน มีทั้งความเย็นและความร้อนหลายระดับมาสัมผัสกับผิวกาย และยังสัมผัสคล้ายกับมีสายลมแรงมากระทบถูกตัว นั่นเป็นความรู้สึกในช่วงไม่กี่วินาที แต่ก็เป็นระยะเวลาที่ทำให้เกิดความฉงนไม่น้อย ว่าเขาเดินผ่าน หรือเดินเข้าไปสู่ทางเดินแบบใดกันแน่

“ถึงแล้วครับ” เสียงเบาๆกระซิบที่ริมหู เมื่อจุกยางที่อุดหูถูกถึงออกไป
ผ้าปิดตาถูกแกะออกเป็นลำดับต่อมา ดวงตาของชายหนุ่มเห็นแต่ความมืดมิด แล้วแสงไฟก็ค่อยๆสว่างขึ้น จากเทียนเล่มหนึ่งที่อยู่บนเชิงเทียนริมห้อง แล้วแสงเทียนก็สว่างขึ้นทีละดวง ทีละดวง ราวกับมีคนค่อยจุดมันขึ้น ภูริทัตมองดูแสงเทียนที่ค่อยๆสว่างขึ้นทีละเล่มนั้นอย่างพิศวง จนเทียนเล่มสุดท้ายบนโต๊ะเล็กๆในห้องสว่างขึ้น แสงเทียนทำให้มองเห็นว่าห้องนั้นเป็นห้องกว้าง คงเป็นห้องพักห้องหนึ่งในโรงแรม เพราะมีเตียงใหญ่ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของห้อง มีโต๊ะเล็กๆพร้อมเก้าอี้สองตัว ตั้งอยู่อีกด้านหนึ่ง บนโต๊ะมีจานชามอาหารวางอยู่หลายใบ ตามมุมห้องประดับไปด้วยดอกไม้หลากสี ด้านที่น่าจะเป็นหน้าต่างถูกปิดไว้ด้วยผ้าม่านหนาหนัก
“คุณทำได้ยังไง” ภูริทัตอุทานเบาๆ
“อะไรเหรอครับ” แล้วสเตฟานมายืนอยู่ข้างๆภูริทัต
“ก็เทียนพวกนั้น” ภูริทัตหันมามองหน้าคนข้างๆ แล้วหันกลับไปที่เชิงเทียนบนโต๊ะ ที่เทียนเล่มสุดท้ายบนเชิงเทียนสว่างขึ้น
“เล่นกลไงครับ” สเตฟานตอบยิ้มๆ
“เล่นกล ... คุณทำอะไรให้ผมแปลกใจอยู่เรื่อยเลยนะ”
“ทานอาหารกันก่อนนะครับ คุณคงจะหิวแล้ว ไม่รู้ว่าคุณจะชอบหรือเปล่า”
สเตฟานเดินนำไปที่โต๊ะตัวนั้น ภูริทัตเดินตามไปแล้วนั่งลง มองดูอาหารต่างๆบนโต๊ะ เห็นว่าส่วนใหญ่เป็นอาหารจีน มีทั้งผัดหมี่ เป็ดปักกิ่ง ปลานึ่ง ต้มจืด ของทอดสารพัดอย่าง อย่างละสามสี่ชิ้น
“น่ากินจังครับ” ภูริทัตยิ้มกว้าง
“ของหวานเป็นเค๊กชอคโกแลตเหมือนเดิมนะครับ อยู่ในตู้เย็น หรือคุณอย่างจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ผมจะได้โทรสั่ง”
“คุณก็รู้ว่านั่นน่ะของโปรดผม”
“งั้นทานเถอะครับ อาหารจีน ถ้าเย็นแล้วจะไม่อร่อย”
สเตฟานเปิดจุกไวน์ แล้วรินใส่แก้วให้ภูริทัต และสำหรับตนเอง ภูริทัตเองกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่สเตฟานจิบไวน์ไปเรื่อยๆ พลางมองดูชายหนุ่มด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
เรทติ้งตกเหรอ  ไม่ตกมั้งตั้ม  เพียงแต่เป็นเสือซุ่มหลบซ่อนน่ะ ไม่ชอบแสดงตัว

อย่าน้อยใจไปนะ เค้าตามอ่านเสมอหล่ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






imageriz

  • บุคคลทั่วไป
ราตรีนี้ยังอีก ยาวไกล ชิมิ :-[

รอตอนต่อไปนะคะ  :z2: :z2: :z2:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
ยังอ่าน และติดตามอยู่ค่า
ปล.จะไม่มีฉาก..นั้นเลยเหรอ 55

sNow

  • บุคคลทั่วไป
ดินเนอร์กลางแสงเทียน โรแมนติกมาก

สานฝันชอบเซอร์ไพรซ์ให้อยู่เรื่อยเลย

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ทั้งปิดตา ทั้งอุดหู
สานฝันพาภูริทัตไปที่ไหนหละเนี่ย
สงสัยพาหายตัวแวบไปที่อื่นรึเปล่า ถึงต้องปิดบังขนาดนั้น
บวก 1 ให้เช่นเคย ขอบคุณจ้า
สนุกจริงๆนะ ชอบๆ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
^^
^^
โอ้ โอ๋ .... ได้จิ้มคืนพี่น้ำตาลแล้ว  :z1:

สานฝันค่อย ๆ เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองแล้ว แม้แต่เพียงทีละเล็ก ทีละน้อยก็ตาม

เป็นกำลังใจให้นะครับ อย่าน้อยใจเรื่องเรทติ้งเลย ตั้ม +1 เพิ่มกำลังใจในการโพส  :กอด1:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
เรื่องเรทติ้งตกอะ เพราะเทียบจากเรื่องที่แล้ว ผู้มาเยือนยามวิกาล
เรื่องนั้นเรทติ้งกระฉูดดดดดดดดดดดดดดดดด
เพราะมีฉาก อิโรติค(???) มาให้คนอ่านได้ตื่นเต้นกันเป็นระยะๆ   :-[
เลยเขียน signature แซวคนอ่านตะหากล่ะ อิ อิ อิ  :laugh:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป



เพิ่มความหื่นอีกนิดก็ได้นี่ครับ

หรือว่า . . .

. . .จขกท.  หื่นไม่เป็นซะแร้ว

แวะมาให้กำลังใจครับ



ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB



เพิ่มความหื่นอีกนิดก็ได้นี่ครับ

หรือว่า . . .

. . .จขกท.  หื่นไม่เป็นซะแร้ว

แวะมาให้กำลังใจครับ


อึ๊ยยย .... ผมไม่เคยหื่นนะฮับ  :sad4:
เรื่องที่แล้ว เขียนลำบากมากๆ ไปยืมหนังสือเพื่อนมาอ่านเป็นตั้งเลย ว่าเขียนยังไง
ยังมะมีคนสอนเลยฮับ  :laugh:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
สงสัยสานฝันจะพานายภูไปออนทัวร์ประเทศอื่น เพื่อจะได้ ... กันเต็มที่ แบบไม่ต้องกลัวว่าจะโดนตามเจอ  :z1:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป



เพิ่มความหื่นอีกนิดก็ได้นี่ครับ

หรือว่า . . .

. . .จขกท.  หื่นไม่เป็นซะแร้ว

แวะมาให้กำลังใจครับ


อึ๊ยยย .... ผมไม่เคยหื่นนะฮับ  :sad4:
เรื่องที่แล้ว เขียนลำบากมากๆ ไปยืมหนังสือเพื่อนมาอ่านเป็นตั้งเลย ว่าเขียนยังไง
ยังมะมีคนสอนเลยฮับ  :laugh:





เด๋วพี่สอนเองคร๊าบบบบบบบบ


อิอิอิ  แอบหื่นแบบออกนอกหน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
มื้อนี้ดูเป็นพิเศษจังเลย มีอะไรหรือเปล่า o18

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
5555+ ไม่รู้สึกว่าเรทติ้งตก....เพราะตามอ่านตลอด อิอิ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
มื้อนี้ท่าจะหวานเป็นพิเศษรึเปล่าคะ เหมือนจะพาข้ามมิติ ข้ามประเทศกันเลยเนอะ

รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่า  :3123:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ไปแอบหวานกันสองคน :laugh:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๒๗

ประเทศอังกฤษ
ในโกดังเก็บของอันมืดมิดแห่งหนึ่ง ร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติงราวซากศพ ภายในซอกหลืบอันยากจะเข้าถึง พลันลืมตาโพลงขึ้นมา ดวงตาสีฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันราวกับโกรธแค้นผู้อื่นจนไม่อาจอภัยได้
“สเตฟาน ... เจ้า ... เจ้า ...”
ความรู้สึกแทบจะทะลักล้นออกจากทรวงอก โจชัวร์ได้แต่พร่ำเรียกชื่อนั้นอย่างซ้ำซาก เพราะไม่อาจทำอะไรได้ ความรู้สึกอันเปี่ยมสุขจากการร่วมรัก ที่เขาสัมผัสได้จากจิตของอีกฝ่าย ยิ่งทำให้เขาคลั่งแค้น เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจับความรู้สึกเช่นนี้ได้ ยามที่เขาคิดว่าได้ปรนเปรอความสุขให้แก่อีกฝ่ายอย่างเต็มที่ ความโกรธยิ่งทวีคูณ เมื่อรู้ตัวว่าตนเองถูกหลอกให้ห่างออกมาถึงครึ่งโลก หากเป็นยามค่ำคืน เขาคงไม่รอช้าที่จะเร่งรีบออกเดินทางให้เร็วที่สุด ถึงแม้จะใช้เวลา ๒-๓ ราตรี กว่าจะเดินทางถึงเขต ที่เป็นเกาะเล็กๆแห่งนั้นก็ตามที แต่ก็เริ่มเอะใจขึ้นมาบ้าง ว่าสเตฟานติดตามมนุษย์คนนั้น เดินทางมาถึงครี่งโลก แล้วเดินทางกลับไปอีกซีกโลกหนึ่งอีกครั้ง หรือมีเพียงเสตฟานเพียงผู้เดียวในการเดินทางครั้งนี้
..............................................................................
.......................................
“กรีนอายส์”
ภูริทัตยกแขนข้างหนึ่งยันศรีษะตัวเองไว้ พลางลูบไล้สร้อยคอที่อยู่บนลำคอขาวผ่อง มาจนถึงอัญมณีที่อยู่ในกรอบแพลทตินั่ม คล้ายคลึงกับชิ้นที่อยู่บนลำคอของเขา
“ใช่ครับ อัญมณีนี้เรียกว่ากรีนอายส์” สเตฟานเปลี่ยนเป็นนอนตะแคง ยกมือไปสัมผัสอัญมณีอีกชิ้นหนึ่ง ที่ร้อยอยู่กับสายสร้อยทองคำ “อัญมณีคู่นี้จะสื่อถึงกัน ให้เจ้าของได้รู้ถึงความเป็นไปของอีกฝ่ายหนึ่ง ที่สวมใส่มันไว้”
“คุณเล่านิทานให้ผมฟังอีกแล้ว” ภูริทัตไล้มือไปบนแก้มนวลสีขาอมชมพู “ผมไม่มีของขวัญอะไรให้คุณเลย ผมขอโทษ”
“เพราะคุณใช้เงินซื้อสร้อยเส้นนี้” สเตฟานยื่นมือไปลูบคลำสร้อยคอทองคำ ที่อยู่บนลำคอของภูริทัต “ความจริงคุณอยากจะซื้อให้ผมด้วย แต่เงินคุณไม่พอ” สเตฟานพูดยิ้มๆ
“คุณรู้ได้ยังไง” ภูริทัตเลิกคิ้ว ตาโตด้วยความสงสัย
“ผมบอกแล้ว ว่ากรีนอายส์เป็นสื่อ” พูดแล้วสเตฟานก็หัวเราะ เมื่อเห็นสีหน้าที่ปั้นยากของภูริทัต “ผมล้อเล่นน่ะครับ ผมแค่เดาเพราะครั้งที่แล้วคุณยังสวมสายสร้อยที่เป็นโลหะชุบอยู่เลย”
“คุณช่างสังเกต แต่ผมสิคืนนี้ถึงเพิ่งจะรู้ว่าคุณใส่กรีนอายส์ไว้เหมือนกับผม” มือของภูริทัตเลื่อนมาจับที่อัญมณีบนลำคอของอีกฝ่ายอีกครั้ง “กรีนอายส์เหรอ ... ผมเพิ่งสังเกตชัดๆ ว่าประกายของมันเหมือนประกายในดวงตาของคุณจริงๆ”

พูดแล้วภูริทัตก็จ้องมองดวงตาของสเตฟานแน่วนิ่ง แล้วค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปประทับริมฝีปาก ลงบนเปลือกตาที่หลับพริ้มลง ลากเลื่อนลงมาสู่แก้มนุ่ม และริมฝีปาก ก่อนจะค่อยๆบดเบียดลงอย่างรุนแรง ซึ่งอีกฝ่ายก็โต้ตอบกลับมาเช่นกัน ฝ่ามือทั้งสองคู่ต่างสัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย ด้วยความเร่าร้อนขึ้นทีละน้อย ร่างกายแนบชิดสัมผัสกันแนบแน่น ดวงประทีปของความปรารถนาในร่างกายของคนที่ตนรัก ถูกจุดให้ร้อนขึ้นทีละนิด จนถึงจุดที่ดวงประทีปดวงนั้นมอดไหม้จนหมดเชื้อลง แล้วดวงประทีปดวงใหม่ก็ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง และจบลงด้วยความสุขสมของคนทั้งสอง จนใกล้เวลาเที่ยงคืน ทั้งสองจึงผลัดกันอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า และในช่วงหนึ่งที่ภูริทัตกำลังหยิบก้านไม้พันสำลีสำหรับทำความสะอาดช่องหูอยู่นั่นเอง ก็ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปรกติ ชายหนุ่มหยิบกล่องใส่ก้านไม้พันสำลี หรือคอตตอนบัท ขึ้นมาดูอีกครั้ง ตัดสินใจถือมันออกมาจากห้องน้ำ แล้วใส่ลงไปในกระเป๋ากางเกงขณะที่กำลังแต่งตัว
“ผมจะพาคุณกลับ ต้องให้คุณลำบากอีกครั้งนะครับ” สเตฟานพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ ภูริทัตคิดไปว่าอีกฝ่ายคงยังอาลัยอาวรณ์ไม่แพ้กัน
สเตฟานค่อยๆผูกผ้าปิดตาอย่างเบามือ แล้วจุกยางเล็กๆก็ถูกใส่ในรูหูของเขา มือนิ่มจับมือของเขาบีบเบาๆ แล้วเริ่มพาเขาออกเดิน สัมผัสของอุณหภูมิที่แปลกประหลาด ทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจอีกครั้งหนึ่ง เดินไปอีกสักพักจึงหยุดลง แล้วจุกยางที่หูก็ถูกดึงออก ตามด้วยผ้าปิดตา
“เดี๋ยวผมจะให้รถของทางโรงแรมไปส่งคุณ” เสียงพูดพร้อมกับรอยยิ้มของทรงเดช ทำให้ภูริทัตประหลาดใจ เหลียวมองไปรอบๆ พบว่ายืนอยู่หน้าลิฟท์ที่ประตูเปิดค้างไว้ “คุณสเตฟานไปแล้วครับ” เหมืนทรงเดชจะรู้ว่าเขามองหาใคร
..............................................................................
.......................................
เที่ยงคืนแล้ว แต่กรกฏยังนั่งมองดูคนที่เดินอยู่บนถนนอย่างเบื่อหน่าย แล้วเมื่อคิดถึงถึงคนที่ตนมีใจปฏิพัทธ์ ว่ากำลังมีความสุขอยู่กับบุคคลอื่น ก็ต้องขุ่นเคืองใจ แล้วก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้นเมื่อนึกเปรียบเทียบตัวเองกับคนผู้นั้น เพราะรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าในทุกๆด้าน มิหนำซ้ำคนผู้นั้นยังมาปรากฏตัวที่หลังตน แต่กลับทำให้คนที่ตนหลงรัก หันไปสนใจได้ แม้แต่คนที่เขาคิดจะเก็บไว้เป็น ‘ตัวสำรอง’ ก็ดูเหมือนจะมีใจให้กับคนคนนั้นเสียอีก

กรกฏยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ แล้วสายตาก็สะดุดเข้ากับคนสองคนที่เดินควงแขนกันอยู่ คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มคนแรกแต่งตัวง่ายๆ เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีด ร่างสูงกำยำ ผมสั้นเกรียน ใบหน้าหล่อเหลาเอาการ ชายหนุ่มผมอีกคนในชุดเสื้อโคทสีเขียวกำมะหยี่ กลับเป็นคนที่เขารู้จักดี
“สเตฟาน”
เขาเรียกชื่อนั้นออกมาเบาๆ นึกสงสัยถึงการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของชายหนุ่มชาวต่างชาติผู้นี้  และยังปรากฏตัวในลักษณะที่ชวนให้คิดว่า มีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มที่เดินควงแขนอยู่ด้วย ในรูปแบบที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จึงลุกขึ้นเดินออกจากร้านติดตามคนทั้งสองไปห่างๆ ผ่านย่านที่มีร้านค้าและคนเดินกันอย่างขวักไขว่ จนถึงซอยแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้คนบางเบา คนทั้งสองเดินเลี้ยวเข้าไปในซอยนั้น ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยวไร้ผู้คน เมื่อเดินไปถึงบริเวณก้นซอยอันมืดมิด ชายหนุ่มร่างสูงก็ผลักให้ร่างขาวนวล ซึ่งมีผมสีทองเป็นประกายนั้นพิงร่างไปกับผนังตึก แล้วใบหน้าคมเข้มก็ก้มลงไปหาใบหน้าซึ่งมีผิวขาวอมชมพู ก่อนที่ริมฝีปากสีแดงเข้มจะประทับลงไปบนริมฝีปากสีชมพูราวกับกุหลาบ ร่างสูงบึกบึนก็เหมือนจะหยุดค้างอยู่กับที่สักพักหนึ่งก็ถูกผลักให้ออกห่าง แล้วชายหนุ่มผมทองก็เดินออกมา โดยที่ชายหนุ่มร่างสูงผู้นั้นยืนนิ่ง ไม่ได้แสดงอาการขัดขวางใดๆ แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จนกรกฏต้องขยี้ตาด้วยความประหลาดใจ

ร่างของชาวต่างชาติผมสีทองในชุดเสื้อโคทสีเขียวเข้ม ค่อยๆเลือนหายไปในอากาศ

เมื่อมองกลับไปยังชายหนุ่มอีกคน ก็เห็นว่ากำลังเดินอย่างเหม่อลอยออกมาจากซอยนั้น
“คุณ ... คุณ” กรกฏเดินเข้าไปตบไหล่ชายคนนั้น
“อะไรครับ” ชายหนุ่มรู้สึกตัวกันกลับมามองร่างเล็กๆของกรกฏ แล้วยิ้มกว้าง
“เมื่อตะกี้นี้ สเตฟานเค้าทำอะไรคุณน่ะ”
“สเตฟาน ... ใครกันครับ” ชายหนุ่มพูดพลางยกมือขึ้นลูบคาง
“ก็ฝรั่งที่เดินเข้าไปในซอยกับคุณเมื่อกี้ไง”
“ฝรั่งที่ไหนกันครับ แล้วผมก็เดินคนเดียวกำลังจะไปทางโน้น” ชายหนุ่มยกมืออีกข้างชี้ไปทางด้านที่มีคนเดินอยู่ขวักไขว่ “มีแต่คุณนั่นแหละที่มาเรียกผม” พูดพลางสำรวจกรกฏตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ก็ผมเดินตามพวกคุณมาจากทางโน้น” กรกฎชี้มือไปทางแผงร้านค้าที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ “พอมาถึงตรงนี้ พวกคุณก็เดินเข้าซอยนั้นไป แล้วคุณก็เดินออกมาคนเดียว”
“คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “ผมเดินเล่นของผมอยู่คนเดียว ว่าจะเดินต่อไปอีกหน่อย แต่จู่ๆก็เกิดเปลี่ยนใจ ทำไมคุณถึงบอกว่ามีคนมากับผม”
“แต่ว่า...” กรกฏรู้สึกลำคอแห้งผาก นี่เขาตาฝาดไปหรืออย่างไร
“แต่ว่าอะไรครับ หรือว่า...” ชายหนุ่มยิ้มแล้วก้มหน้าลงจนแทบจะชิด จนกรกฏรับรู้ถึงลมหายใจที่แฝงไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ “คุณสนใจผม ก็เลยหาเรื่องเข้ามาคุยกับผม”
กรกฏได้ยินก็ตาโต คิดจะเถียงอะไรต่อไป แต่ริมฝีปากก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากหนา มือหยาบใหญ่ยื่นมาประคองศรีษะของเขาไว้ จูบนั้นค่อยๆรุนแรงขึ้น จนเขาอดตอบสนองไปไม่ได้ เมื่อริมฝีปากคู่นั้นถูกถอนออกไป ก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าแดง
“เราไปหาที่เงียบๆคุยกันดีกว่า คุยกันไป หาอะไรแก้เหงา ในคืนที่คนอื่นเขาอยู่กันเป็นคู่ ดีมั๊ยครับ”
..............................................................................
.......................................
“ผมเห็นจริงๆนะพี่” กรกฏพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็ตอนเที่ยงคืนน่ะ พี่เพิ่งจะแยกกับเค้า แล้วจะไปโผล่ที่นั่นได้ยังไงกัน”ภูริทัตพูดอย่างเอือมระอา กับการสรรหาเรื่องราวมาพูดของเพื่อนรุ่นน้อง
“นั่นสิ แล้วยิ่งบอกว่าจู่ๆก็หายวับไปกับตา คนนะไม่ใช่ผี” ปรีชาพูดกลั้วหัวเราะ
“แต่ผมเห็นจริงๆนะ” กรกฏยังไม่ยินยอม
“แล้วอีกคนที่ไปด้วยกันล่ะ เค้าหายตัวไปด้วยรึเปล่า” รังสรรค์ถามช้าๆ
“เอ้อ...เปล่า พอสเตฟานหายตัวไปซักพัก เค้าก็เดินออกมาจากซอย” กรกฎก้มหน้าลง ใช้ช้อนส้อมเขี่ยข้าวในจานเบาๆ
“แล้วเค้าไม่ตกใจเหรอ ที่จู่ๆคนที่มาด้วยหายวับไปน่ะ”
“ก็ตอนนั้นเค้ายืนแข็งทื่อยังกับโดนสะกดจิต ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ยืนยันว่าเดินอยู่คนเดียว” กรกฏพยายามอธิบาย
“ปู เรื่องความคิดน่ะเราห้ามกันไม่ได้ แต่ปูจะทำอะไรคิดหน่อยสิ เราน่ะเหลวไหลขึ้นทุกวันนะ” รังสรรค์พูดดุๆ

กรกฏขบริมฝีปาก ใบหน้าแดงกล่ำ ไม่พอใจที่ถูกดุ เหลือบตามองดูก็เห็นภูริทัตมองตัวเองด้วยสีปน้าไม่พอใจ แม้แต่ปรีชา ก็ยังมองเขาด้วยสีหน้าไม่เชื่อถือ ด้วยความโกรธ จึงหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา ลุกออกจากที่นั่ง เดินไปจ่ายเงินค่าอาหารด้วยตัวเอง แล้วเดินออกจากร้านไป

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


ขอบคุณนะครับที่มาต่อ








ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :man1:  ยังอ่านอยู่นะจ๊ะ เรื่องนี้เรทติ้งยังดีอยู่จ๊ะ  :man1:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
โจชัวร์เริ่มรู้สึกแล้วอ่ะ จะหนีไปได้อีกนานแค่ไหนเนี่ย  :serius2:

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
แล้วความลับจะแตกมั้ยเนี๊ย สานฝัน ภูริทัต ก็หยิบของติดมือกลับมา

ส่วน ปู ก็เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ว่าแต่ ภู หยิงอะไรออกมาจากห้องน้ำนะ

แล้วข้อสงสัยกับการเห็น สเตฟาน มันคืออะไร

รีบมาเฉลยด่วนนะครับ ตั้ม +1 ให้ก่อนเลย  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด