บทส่งท้าย
บริเวณป้ายรถประจำทางในยามเย็นในวันหนึ่ง ผู้คนมากมายหลากหลายวัย ต่างจดจ่อรอเฝ้ารถโดยสาร สายที่จะนำพาพวกเขาเหล่านั้น ไปสู่ยังจุดหมายปลายทาง ในระหว่างนั้น.. เสียงเอ่ยทักเบาๆที่ดูนอบน้อมและประหม่า เอ่ยทักชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเฝ้ามองรถโดยสารสายที่เขารอคอย..
“ พี่ครับ.. พี่.. ”
ชายหนุ่มหันมาตามเสียงเอ่ยทักนั้น ก็พบว่า.. เป็นเด็กหนุ่มในชุดนักเรียน ซึ่งคาดว่า.. น่าจะเป็นเด็กนักเรียนมัธยม เขามองเด็กหนุ่มคนนั้น แล้วเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“ มีอะไรหรือครับน้อง? ”
“ คือ.. คือว่า.. คือผมอยากจะรบกวน เอ่อ.. คือ.. ผมไม่มีตังค์อ่าครับ คือแบบว่า ผมทำเงินหายหมด ไม่มีค่ารถกลับบ้านครับ ตอนแรกว่าจะเดินกลับ แต่นี่ผมเดินมา 2 ป้ายรถเมล์แล้ว มันเหนื่อยมากครับ ไม่ไหวจริงๆ รบกวนพี่หน่อยนะครับ ขอแค่พอค่ารถเมล์ก็พอครับ ผมเดินไม่ไหวจริงๆ ครับ ”
เด็กหนุ่มเอ่ยตอบพร้อมทำหน้าแหยๆ แล้วก้มมองพื้น ด้วยท่าทีประหม่าอายและเกรงใจ เขามองดูแล้วรู้สึกว่า เด็กคนนี้น่าจะไม่ได้โกหกมาขอไถเงิน จึงรู้สึกสงสารและเห็นใจ จึงหยิบแบงค์ 20 ส่งให้แล้วเอ่ยว่า..
“ 20 นี่พอถึงบ้านไหมน้อง คงพอช่วยได้แค่นี้เอง ”
“ พอครับพี่ ขอบคุณครับ ”
หนุ่มน้อยยกมือไหว้แล้วรับเงินไป พร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า
“ ความจริง แค่พอค่ารถเมล์ก็พอแล้วครับ พอได้ถึงปากซอย ผมนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าไปแล้วไปเอาเงินที่บ้านจ่ายค่ารถมอเตอร์ไซค์ก็ได้ครับ ผมเกรงใจพี่จังเลย อายด้วยครับ แต่ไม่รู้จะทำไงจริงๆ ขอบคุณพี่มากนะครับ ”
“ ไม่เป็นไรหรอกน้อง ช่วยๆกันไป ”
หน่อยและแป๋ม ลอบมองการสนทนาของเด็กหนุ่มและชายหนุ่มคนนั้น แล้วหันมามองหน้ากัน แล้วแป๋มก็เอ่ยกับหน่อยว่า..
“ พี่หน่อย ผมว่า.. ผมคุ้นๆนักเรียนคนนั้นนะ ฟังจากที่เขาคุยกัน ผมจำได้ว่า.. ผมเคยเห็นเขาขอเงินพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่ป้ายรถเมลล์แบบนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว แล้วก็ใช้คำพูดแบบนี้เป๊ะๆเลย ”
“ พี่ก็กำลังจะบอกแป๋มว่า.. น้องคนนั้นก็เคยมาขอเงินพี่ โดยใช้คำพูดแบบนี้เป๊ะๆเลยเหมือนกัน ”
“ จริงเหรอพี่ แล้วทำไมเขาจึงทำเงินหายบ่อยขนาดนั้น? ”
“ ก็นั่นน่ะสิ พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ เออ..แป๋ม รถมาแล้ว เราไปกันเถิด ”
แล้วหน่อยและแป๋มก็พากันขึ้นรถประจำทาง โดยไม่ได้สังเกตุว่าเด็กหนุ่มคนนั้นไปทางไหน หรือขึ้นรถสายอะไรไป
.
.
.
.
ในมุมลับตาถัดจากป้ายรถประจำทางแห่งนั้น เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนคนนั้น ล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบเอาเงินออกมานับดู แล้วก็พบว่า.. มันมีจำนวนเกือบ 100 บาทแล้ว เขาเหยียดยิ้มมุมปาก พร้อมรำพึงกับตัวเองเบาๆ
“ ได้เกือบร้อยแล้ว คนสมัยนี้ใจอ่อนกันง่ายจริงๆ แค่ตีหน้าเศร้าหน่อยเดียวก็ได้เงินใช้แล้ว เดี๋ยวเดินหาเหยื่ออีกสักป้ายสองป้ายรถเมล์ ค่อยกลับบ้านดีกว่า เย็นมากแล้ว เดินมากๆ ชักจะรู้สึกเมื่อยๆ หึหึ ”
เขาหัวเราะเบาๆกับตัวเอง ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินมุ่งตรงไปยังป้ายรถเมล์ถัดไป..
. . . .
ในค่ำคืนนั้น..
เป็นอีกคืนหนึ่งที่แม่ของแป๋มไปต่างจังหวัดและหน่อยก็มานอนเป็นเพื่อนแป๋มเหมือนเช่นดังเคย หน่อยปิดหน้านิยาย เมื่อเขาอ่านบทส่งท้ายของนิยายเรื่องนี้จบลงหลังจากที่เขาอ่านนิยายเรื่องนี้มาหลายรอบแล้ว เขาเหลือบมองมายังแป๋มที่นั่งเคียงกันอยู่บนเตียงและกำลังมองเขาอ่านนิยายอยู่เงียบๆ หน่อยสบตาแป๋ม แล้วหน่อยก็เอ่ยถามแป๋มว่า..
“ แป๋ม.. ในนิยายของแป๋มเนี่ย.. ทำไมแป๋มถึงคิดว่าเด็กที่มาขอเงินที่ป้ายรถเมลล์เป็นจะคนแบบนี้ล่ะ ในวันนั้นเราก็ไม่เห็นนี่นาว่าเขาไปทางไหนต่อ เพราะเรามัวรีบขึ้นรถเมลล์กัน ”
“ แล้วพี่หน่อยไม่สงสัยบ้างเหรอ? ว่าทำไมเขาจึงทำเงินหายบ่อยจัง ”
“ อืม.. จะว่าไป.. พี่ก็สงสัยนะ จริงสิ.. พี่ว่า.. ก็คงจะเป็นแบบที่แป๋มเขียนจริงๆนั่นแหละ ว่าแต่.. ทำไมแป๋มต้องเอาเรื่องเด็กที่ป้ายรถเมลล์มาลงตอนเปิดเรื่อง แล้วก็ตอนปิดเรื่องล่ะ? ประทับใจอะไรเขาหนักหนาเหรอแป๋ม? ”
“ ก็ไม่หรอก ก็แป๋มกะจะให้มันแหวกแนวเล่นไปงั้นแหละ นิยายนะพี่ไม่ใช่ชีวประวัติ พี่จะไปคิดอะไรมากล่ะ หึหึ ว่าแต่.. พี่อ่านไม่รู้กี่รอบแล้ว ไม่เบื่อบ้างหรือไง? ”
“ เบื่อจะแย่แล้ว ก็อ่านๆไปงั้นแหละ ก็แป๋มอยากเขียนมาให้พี่อ่านทำไมล่ะ หึหึ ”
พูดจบหน่อยก็ดึงจมูกแป๋มเล่นเบาๆ แล้วดึงแปํมมากอดพร้อมขยี้หัวแป๋มเล่นแบบหยอกเย้า
“ เป็นงั้นไป พี่นี่จริงๆเลย ชอบก็ยอมรับมาเถิด ไม่ต้องมาทำเขินหรอก หึหึ เออ.. เข้านอนกันเหอะพี่ ดึกแล้วชักจะง่วงๆ ”
“ อืม.. ก็ดีเหมือนกัน พี่ก็ง่วงๆแล้ว คืนนี้อากาศเย็นๆเนอะ เรานอนกอดกันดีกว่านะแป๋ม อุ่นดี มา.. แป๋ม มาให้พี่หอมทีหนึ่งก่อน ”
หน่อยโอบแป๋มมาสูดดมกลิ่นแก้มด้วยความรักใคร่ แล้วทั้งคู่ก็ปิดไฟเข้านอนเคียงกันในคืนที่อากาศหนาวเย็น เพราะในยามนี้.. อยู่ในช่วงฤดูหนาว อากาศภายนอกจึงดูจะเยือกเย็นและเหน็บหนาว
แต่..
ภายในหัวใจของคนทั้งคู่ กลับไม่รู้สึกหนาวเลย มันกลับรู้สึกอบอุ่น และอบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความรักความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความรักที่ค่อยๆก่อตัวด้วยความชิดใกล้และเติบโตขึ้นมาตามกาลเวลา..
ณ ยามนี้ เรื่องราวความรักของเด็กหนุ่มคู่นี้คงยังไม่มีตอนจบ เพราะ.. ตอนจบของนิยายรักของคนทั้งคู่นั้นยังมาไม่ถึง มันเพิ่งจะเริ่มต้น และค่อยๆดำเนินต่อไป และสักวัน.. เมื่อเวลานั้นมาถึง.. คนทั้งคู่คงจะให้คำตอบแด่กันและกันได้เอง ว่านิยายเรื่องนี้ ควรจบลงอย่างไร?
. . . .
ฉันดีใจที่มีเธอ
ในโลกที่มี ความวกวน ในโลกที่ทุกคนต้องดิ้นรน
ที่สับสน ร้อนรนจนใจ นั้นแสนเหนื่อย ในโลกที่ความทุกข์ท้อใจ
ได้เดินผ่านเข้ามาเรื่อยๆ จนบางครั้งไม่รู้จะข้ามไปเช่นไร
แต่ยิ่งชีวิต ยิ่งผ่าน ยิ่งได้พบ ยิ่งเจอ กลับทำให้ฉันยิ่งคิด ในใจ
ฉันดีใจทีมีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบอะไร ฉันรู้และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
ในอุปสรรค ที่มากมาย ในความหวาดหวั่น ที่วุ่นวาย
และอนาคต ในปัจจุบัน และ อดีต ในความเจ็บปวดที่ต้องเจอ
ที่ไม่เคยคุ้นเลยสักที ไม่เคยรู้วันพรุ่งนี้ต้องเจอกับเรื่องใด
แต่ยิ่งชีวิต ยิ่งผ่าน ยิ่งได้พบ ยิ่งเจอ กลับทำให้ฉันยิ่งคิด ในใจ
ฉันดีใจทีมีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบอะไร ฉันรู้และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
แต่ยิ่งชีวิต ยิ่งผ่าน ยิ่งได้พบ ยิ่งเจอ กลับทำให้ฉันยิ่งคิด ในใจ
ฉันดีใจทีมีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบอะไร ฉันรู้และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
ฉันก็รู้ และฉันอุ่นใจ ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่กับฉัน..
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านนะครับ
ผมหวังว่า.. นิยายเรื่องนี้คงพอให้ความบันเทิงได้บ้าง
อ่านจบแล้วแนะนำติชมกันได้นะครับ
เผื่อว่า.. มันจะได้เป็นแนวทางให้ผมได้นำไปปรับปรุงแก้ไข
เพื่อผมจะได้พัฒนาและเขียนเรื่องใหม่มาให้อ่านกันอีกครับผม
ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ และได้พบกับความรักที่สมหวัง
แล้วพบกันใหม่นะครับ บ๊ายบาย..