Part 61
“เฮ้ออออ อิ่มแปล้เลยยยยย” ไอ้หนูล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดสภาพ มันยังใส่ชุดที่ไปเล่นบาสมาอยู่เลยครับ เปลี่ยนก็แค่เสื้อที่ตอนนี้กลายมาเป็นเสื้อยืดมีแขนตามปกติแล้ว
“อย่ามานอนเตียง ตัวสกปรกอยู่ ไปอาบน้ำไป๊” ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวของมันมา แล้วโยนลงบนหัวอีกฝ่ายปิดหน้าปิดตาไปหมด
“เหนื่อย อิ่ม ไม่ไหวแล้ว….ตาจะปิด” มันไม่ได้พูดเปล่า แต่วางแขนแปะลงแผ่หลาอย่างหมดแรง ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
“มิกกี้….ไม่เอา ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”
“….”
“เร็ว ลุก”
เมื่อมันได้ยินเสียงเข้มอย่างนั้นก็ไม่กล้าแล้วล่ะครับ ค่อยๆ กระดุกกระดิกตัวเล็กน้อย แล้วยันตัวเองขึ้นแบบงัวเงียปนขี้เกียจ หน้าตามู่ทู่เป็นตูดลิงเลยทีเดียว

“จะอาบฝักบัวรึว่าอ่าง?” ผมถามมันเผื่อว่าถ้าลงอ่างจะได้เปิดน้ำอุ่นแช่ไว้
“ผักบัวก็พอ…ขี้เกียจหง่ะ” ไอ้ตัวยุ่งมันว่างั้น แต่ตัวก็ยังคงนั่งอยู่ปลายเตียงแบบสลึมสลือกึ่งหลับกึ่งตื่น
ว่าแล้วผมเลยถอดเสื้อและกางเกงออกบ้าง เดินเลยไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ของตัวเองแล้วเข้าห้องน้ำไป จัดการเปิดน้ำอุ่นทิ้งไว้เล็กน้อย และเดินมาหยิบแปรงสีฟัน…. ไม่นานก็จัดการธุระส่วนตัวเสร็จ จึงค่อยๆ หย่อนตัวลงอ่างอาบน้ำ

เฮ้อออ…แบบนี้สิค่อยผ่อนคลายหน่อย ผมวางหัวลงด้านบน แล้วหลับตา แต่ก็ต้องหรี่ตาขึ้นมามองเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ
“ลงด้วยๆ” ไอ้มิกกี้เดินยิ้มร่ามาทางผม มันนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว กำลังอ้าแขนไปดึงเครื่องปกปิดกายออกเพื่อก้าวลงมาในอ่างเดียวกับผม….แต่ก็ต้องชะงัก
“ไปอาบฝักบัวสิ เมื่อกี้บอกขี้เกียจลงอ่างนี่”

ก็แค่กะจะแกล้งไอ้ตัวแสบนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ท่าทางจะไปสะกิดต่อมขี้น้อยใจมาตั้งแต่บ่ายเข้า มันเลยทำหน้าบึ้ง หันหลังกลับทันที แล้วปลดผ้าขนหนูไปพาดกับราว เดินเข้าไปในห้องกระจกไม่ห่างจากอ่างอาบน้ำมากนัก และเปิดฝักบัวอาบคนเดียว
ผมมองแบบงงๆ แต่ก็อดขำออกมาไม่ได้ ….ไอ้มิกกี้มันแอบสะดุ้งนิดๆ ไม่ให้เสียฟอร์มเพราะไม่ได้รอให้น้ำมันอุ่นก่อน เลยโดนน้ำเย็นสาดกระเซ็นใส่ไปทั้งตัวจนต้องรีบเด้งหลบแทบไม่ทัน
สักพักพอน้ำอุ่นแล้ว…สังเกตได้จากไอร้อนที่เกาะตามผืนกระจก เจ้าหนูก็ตั้งใจอาบซะจนไม่ได้หันมามองผมแม้แต่น้อย หน้าก็หงิกซะจนไม่รู้จะหงิกยังไง
เห็นแบบนั้นเลยปล่อยไปไม่ได้ ยิ่งไอ้วับๆ แวมๆ เหมือนจงใจให้เห็นเป็นบางส่วนเนี่ยยิ่งทำให้หายใจติดขัด ไหนจะก้นขาวๆ อกสวยๆ นั่นอีก….ผมค่อยๆ ลุกออกจากอ่างให้เบาที่สุด และเดินเข้าไปในห้องกระจก สงสัยมันจะกำลังคิดอะไรอยู่แน่ๆ ถึงไม่ได้ยินเสียงผมเปิดประตูเข้าไป
ไอ้มิกกี้กำลังเอื้อมมือไปปิดฝักบัว เพราะล้างฟองสบู่เสร็จแล้ว (จะอาบเร็วไปไหน!?) แต่ผมคว้ามือนั่นไว้ก่อน เจ้าหนูดูจะตกใจนิดๆ แต่พอเห็นว่าเป็นผมก็หันหน้ากลับไป พยายามสะบัดมือออก โถๆ…เด็กน้อยเอ้ย ดูไม่ออกเล้ยยยว่างอนอยู่เนี่ย ช่วยทำให้มันเนียนกว่านี้หน่อยได้มั้ย หึหึ
“เฮีย…ปล่อยดิ ผมอาบเสร็จแล้ว” มันดิ้นเล็กน้อยเมื่อผมค่อยๆ ดันจนด้านหน้าผมแนบไปกับแผ่นหลังเจ้าตัวแบบเต็มๆ
“แต่ชั้นยังไม่เสร็จเลยนี่” ผมพูดไปด้วย เริ่มซุกไซร้เข้าซอกคอไอ้หนูไปด้วยแล้วครับ มือก็อยู่ไม่สุข…ลูบไล้ไปตามหน้าอกหน้าใจอีกฝ่าย
“นู้น ไปอาบในอ่างเด้ อย่ามาอาบตรงนี้ ตรงนี้ที่ผม!....เฮียยยยยยยยย ปล่อยยยยยยยยยย” คราวนี้มิกกี้เริ่มจะดิ้นรุนแรงแล้วครับ แต่ก็เหมือนจะเกรงๆ อยู่….รู้อยู่แล้วล่ะว่ามันไม่กล้าทำอะไรผมแรงหรอกรายนี้น่ะ
“เปลี่ยนใจแล้ว จะอาบตรงนี้…ทำไม งอนเหรอ หืม?”
เจ้าหนูในอ้อมแขนผมทำหน้าพิลึก เหมือนจะปฏิเสธว่าไม่ได้งอน แต่ก็ทำไม่เนียน เลยทำหน้าเซ็งๆ เลี่ยนๆ กลบเกลื่อนไปเรื่อย มันเอื้อมมือไปหมุนฝักบัวปิดแล้ว แต่ตัวก็ยังยืนนิ่งอยู่แบบนั้น
“เฮียอ่ะ….”
“หืม?” ผมเงยหน้าขึ้นจากซอกคอหอมกลิ่นสบู่กรุ่นๆ แล้วเปลี่ยนไปจูบขมับอีกฝ่ายแทน
“…รักผมจริงรึเปล่า?” ถึงตาที่ผมต้องอึ้งไปบ้าง สองมือที่กอดหลวมๆ กลับรัดแน่นขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ทำไมถึงถามแบบนั้น” รู้ตัวเลยครับว่าเสียงแข็งขึ้นมาทันที
“ก็…ไม่รู้สิ เหมือนบางทีเฮียก็แค่เอ็นดูผมแบบเด็กๆ อ่ะ บางทีก็เหมือนจะรำคาญ” ตัวมิกกี้ค่อยๆ หดลงตามแรงกอดของผม
“จะให้บอกกี่ครั้งมิกกี้…”
“ถ้าชั้นเอ็นดูแบบน้อง คงไม่รู้สึกแบบนี้หรอก”
ว่าแล้วผมก็ดึงมือเจ้าหนูมาสัมผัสกับท่อนลำของตัวเองที่เริ่มจะแข็งกึ่มๆ ตั้งแต่เห็นมันยืนอาบน้ำยั่วแล้ว
“เอ้ยยยย” ไอ้มิกกี้มันร้องเสียงหลง ก็ไม่รู้จะร้องทำไม…เพราะน่าจะรู้ตั้งแต่ตอนผมจับมันมากอดแล้วล่ะ ทิ่มก้นอยู่วะขนาดนั้น
ผมก้มลงขบใบหูอีกฝ่ายเบาๆ แล้วบังคับมือมันที่กำลังกำของผมอยู่ให้ขยับขึ้นลงตามความยาว บี้นิดๆ ตรงส่วนปลายจนต้องเผลอครางฮือในลำคอ
“อะ…เฮียแมร่ง หื่นว่ะ”
หึหึ ผมได้แต่หัวเราะพร้อมกับยิ้มมุมปากไปด้วย มือคว้าหมับเข้าที่ของรักของหวงไอ้หนูมันบ้าง ดูมันจะแอบสะดุ้งเล็กน้อยจนต้องผงะ ถอยหลบ แต่ยิ่งมันหลบ ก้นมันก็ยิ่งถูไถไปกับท่อนลำของผมที่ตอนนี้แข็งเป๊กรออยู่ด้านหลังแล้ว
สุดท้ายก็หนีไม่พ้น…มันเลยต้องยอม ส่งเสียงร้องซี๊ดซ้าดในลำคอตามไปด้วย ดูท่าทางมันคงไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นัก เพราะมืออีกข้างก็ต้องอ้อมมาข้างหลังเพื่อจับของผมรูดแน่น ส่วนอีกมือก็ยันกับกำแพงไว้เพื่อทรงตัว ว่าแล้วเลยจับมันให้หันหน้ามาเผชิญกับผมซะ
“ซี้ดดด…โอยยย เฮีย…” ไม่แปลกที่ไอ้หนูจะร้องซะเสียงหลง ก็เพราะโดนผมก้มลงไปกัดและเม้มที่เนินอกเบาๆ ข้างล่างก็ทั้งรูดทั้งเน้นแบบนั้นจนขาสั่นพั่บๆ จนมือทั้งสองข้างต้องมาเกาะหลังผมไว้
ผมใช้เท้าเกี่ยวเก้าอี้ตัวเล็กที่ใต้ฝักบัวมาใกล้ๆ แล้วดึงขาเจ้าหนูให้พาดขึ้นไปข้างบน ตอนนี้มันเลยยืนถ่าง…ง่ายต่อการปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่
“ถูสบู่ให้ด้วยสิ…มิกกี้” ผมไม่พูดเปล่า แต่เอื้อมไปหยิบก้อนสบู่มาจับยัดใส่มืออีกฝ่าย สีหน้ามันตอนนี้นี่ดูแปลกดี จะทรมานก็ไม่ใช่…จะเสียวก็ไม่เชิง
“เฮีย ไม่เอา…อึ๊” เสียงหายใจสะดุดเมื่อโดนนิ้วโป้งผมบี้ตรงกลางส่วนปลายเบาๆ
“เร็วสิ มิกกี้”
เจ้าหนูยอมรับสบู่ไปแต่โดยดี แล้วค่อยๆ ลูบไล้ตั้งแต่ช่วงบ่าผม จนต่ำลงมาถึงหน้าอกอย่างเก้ๆ กังๆ จะมาว่าผมอย่างเดียวก็ไม่ได้นะ…เพราะไอ้ตัวนี้ก็ใช่ย่อย มันวนถูจนฟองฟ่อดเน้นแถวหน้าอกหน้าใจผม…โดยเฉพาะหัวนม เล่นเอาเสียวจนตัวเกร็งทีเดียว
ผมเลยก้มลงไป ใช้ปากช้อนปากอีกฝ่ายเข้าหากัน เราแลกลิ้นกันอย่างรุนแรงแบบที่ไม่ได้ทำมานานแสนนาน ไอ้หนูเองก็ไม่ยอมแพ้ มันอ้าปากรับลิ้นผมพร้อมกับส่งลิ้นตัวเองเข้ามาพัวพันไปด้วยจนส่งเสียงจ๊วบจ๊าบลั่นห้องน้ำ
“อ๊ะ อ๊ะ….อ๊ะ โอยย” มิกกี้ร้องเสียงดังเมื่ออยู่ๆ ก็โดนผมเลื่อนมือเปื้อนสบู่ไล้ไปทางประตูหลัง ใช้นิ้วกลางควานหาทางเข้า และไล้วนไปมาสักพัก จนสุดท้ายก็สอดเสือกเข้าไปที่ละนิด ส่วนมืออีกข้างก็สาละวนเล่นอยู่กับพวงแฝดสองใบของมันจนไอ้หนูบิดตัวงอไปมา
“เสียวเหรอครับ หืม? คนเก่ง”
มิกกี้ไม่ตอบ เสียงหายใจระรวยขาดเป็นช่วงๆ บ่งบอกได้ว่าคงจะไม่พ้นจากที่ถามเท่าไหร่นัก ไหนจะตาที่หลับปี๋ ปากเผยอสลับกับกัดริมฝีปากตัวเองเป็นบางครั้ง และเสียงครางซี๊ดในลำคอทำเอาผมแทบอยากจะกลืนกินไอ้คนตรงหน้าไปทั้งตัว….
อย่ายั่วกันนักจะได้มั้ย!
ไม่รู้มันคิดยังไง…อยู่ๆ ก็เลื่อนมือตัวเองจากที่เกาะบ่าผมแน่น ไปลูบไล้ใต้พวงแฝดตัวเอง และไถลไปข้างหลังเรื่อยจนสัมผัสกับนิ้วของผมที่ฝังอยู่ในตัวมันและกำลังขยับเข้าออกไปมา มือน้อยนั่นค่อยๆ สำรวจดูบริเวณประตูหลังตัวเอง มันจับเขี่ยไปมาจนรู้ได้ว่ามีนิ้วสองนิ้วกำลังควานลึกอยู่ภายใน
“เฮีย….แสบอ่ะ” สงสัยจะเพราะน้ำสบู่ครับ มันถึงได้บ่นแบบนี้ แต่ไม่ค่อยจะแน่ใจว่าแสบหรือเสียวกันแน่ ก็ไอ้มืออุ่นนั่นกลับจับมือผมให้ฝังลึกลงไปมากกว่าเดิม
แล้วก็อย่างว่า…
“อะ…อะ โอยยย อืออออออ” อีกฝ่ายปิดตาแน่น มันจิกแขนผมแบบจังหวะเดียวกับที่ด้านหลังตอดรัดนิ้วผมจนแทบขาด เจ้าหนูกระตุกตัวเกร็งไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยพ่นน้ำสีขาวจางออกมาเปื้อนมือ หน้าท้องและหน้าขาผม
เสียงหอบหายใจที่ช้าลงบอกให้รู้ว่าหยาดสุดท้ายถูกรีดออกมาจนหมดไม่เหลือแล้ว ผมเลยค่อยๆ ดึงนิ้วออกมาจากประตูหลังไอ้ตัวยุ่ง มันสะดุ้งเกร็งนิดหน่อยก่อนที่จะถอนหายใจโล่งเมื่อไร้สิ่งแปลกปลอมในร่างกาย
ไอ้หนูมันเงยหน้าขึ้นมา….พวงแก้มแดงจัด ตาเยิ้มหยดเหมือนยังอยู่ในภวังค์จนผมถึงกับต้องกลืนน้ำลายดังเอือก… รีบช้อนคออีกฝ่ายขึ้นมาประกบปากทันที มิกกี้ตอนนี้ก็ได้แต่ร้องอืออาไปตามประสา สบู่นี่หล่นลงพื้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ว่าแล้วก็รีบเปิดฝักบัวอีกครั้งเพื่อล้างตัวแบบลวกๆ ผมดึงผ้าเช็ดตัวมาซับๆ ถูๆ ไอ้หนูแล้วรีบดึงตัว…ที่จริงเรียกว่าลากน่าจะถูกกว่ามาที่เตียงนอน ไม่สนแล้วครับว่ามันจะเปียกจะชื้นขนาดไหน รีบผลักตัวอีกฝ่ายลงไปยังฟูกนุ่มทันที
“อ่ะ ซี้ดดด…ย..อย่าเพิ่งจับ” ไอ้มิกกี้มันจะเป็นคนที่พอถึงไปแล้วจะต้องเว้นช่วงไปพักนึงครับ ถ้ายิ่งไปจับไอ้นั่นของมันตอนเสร็จใหม่ๆ ล่ะก็จะเสียวมาก …และผมก็ชอบแกล้งมันซะด้วยสิ
“ทำไมล่ะ…แค่นี้ทำหวงเหรอ” ผมหัวเราะในลำคอ แล้วทำเป็นเผลอไปโดนจนไอ้หนูมันสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีก ตัวบิดเร่าด้วยความเสียว
“เฮีย…อย่า ผ…ผมจะตายอยู่แล้ว” ยิ่งลูบต้นขามันนะ ยิ่งจุดอ่อน เนื้อนี่เต้นระริกจนอยากจะกัดงับให้เขี้ยวฝังเนื้อจริงเลยเชียว!
ไม่รอช้า…ผมรีบย่อตัวลง แล้วจ่อท่อนลำของตัวเองที่แข็งจวนเจียนระเบิดเข้ากับประตูหลังเจ้าหนูทันที
ถึงตาชั้นมั่งล่ะเด็กน้อย…
“อึ๊! อื้ออออออ! โอยยย….อา”
“อืมมมมมม…ซี้ด” ผมถึงกับกลั้นหายใจเมื่อไอ้ลูกรักของตัวเองมุดเข้าไปในถ้ำแคบทีละนิด มันรัดตอดทุกทิศทางแบบไม่ให้มีพื้นที่เล็ดลอดเลยทีเดียว ผมเสียวกระสันจนแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดเสียเดี๋ยวนั้น…อีกฝ่ายคงไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพียงแค่คงจะมีเจ็บปนมาด้วยไม่มากก็น้อย เพราะมันเหงื่อแตกพลั่ก มือจิกที่นอนจนเส้นเอ็นขาวปูดนูน
“ไหวมั้ย มิกกี้?” ผมถามเสียงกระเส่า…สะโพกก็ขยับไปด้วยแบบไม่ให้เสียเวลา
เจ้าตัวยุ่งไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้าน้อยๆ จนผมอยากจะก้มลงไปงับพวงแก้มนั่นให้ขาดด้วยความหมั่นเขี้ยว… น่ารักจริงๆ เลย ให้ตายเถอะ!!
ผมเร่งขยับสะโพกเมื่ออารมณ์พุ่งขึ้นสูงเรื่อย ไอ้หนูเองก็เริ่มมีครางเสียงหวานขึ้นเรื่อย…เดาไม่ยากว่าเริ่มรู้สึกอีกรอบแล้วแน่ๆ เห็นอย่างนั้นเลยนึกสนุก…ผมดันตัวอีกฝ่ายให้เข้าไปชิดจนเกือบติดกับหัวนอน แล้วค่อยๆ ดึงมือมันให้ลุกขึ้น มิกกี้เองก็ทำตามอย่างว่าง่าย ทั้งหน้าทั้งตานี่เยิ้มไปหมดแล้วเหมือนคนละเมอไม่ค่อยจะได้สติ
ทันทีที่เจ้าหนูมันยันตัวขึ้นตาม ผมก็เป็นฝ่ายนอนลงแทน…ดูเหมือนว่ามันจะรู้แล้วล่ะว่าผมต้องการอะไร ถ้าเป็นปกติคงจะมีด่าว่าเหน็บแหนมบ่นหยอยๆ แล้วแน่ๆ
ภาพตรงหน้านี่ทำเอาผมแทบจะไปซะเดี๋ยวนั้น….
ร่างขาวๆ ที่ตอนนี้เริ่มกลายเป็นสีแดงแค่บางส่วนกำลังนั่งยองๆ อยู่บนตัวผม เข่าชันขึ้นแผ่อ้าออกจนเห็นทุกส่วนสัดเต็มตา มือข้างนึงวางลงบนหน้าท้องผม ส่วนอีกข้างวางลงบนที่นอนแบบเก้ๆ กังๆ เลยลงมาตั้งแต่หน้าอกชุ่มเหงื่อจนถึงสะดือ….และส่วนนั้นที่แข็งชันอีกครั้ง มันกระดอนขึ้นลงตามจังหวะที่เจ้าของขยับ จนผมทนไม่ไหวต้องเอื้อมมือไปจับไว้ และช่วยจนเจ้าตัวแหงนหน้า เม้มปากแน่น บิดตัวเบียดกับท่อนลำผมไปมาจนมันแทบจะขาดเป็นเสี่ยงๆ
“ฮะ…ฮะ….ฮะ….อืออออ” มิกกี้ร้องตามจังหวะที่ประสานกัน ผมเองก็ช่วยขยับสะโพกตามจนอีกฝ่ายหัวสั่น ตัวสั่นกระเด็นกระดอนมั่วไปหมด
และเมื่อรู้ว่าจวนจะถึงจุดหมายแล้วจึงยันตัวลุกขึ้น ดันหน้าตัวเองเข้าไปขบกัดยอดอกไอ้หนูนิดหน่อยพอกระสันจนอีกฝ่ายต้องแอ่นตามและกระแทกสะโพกตัวเองลงมาไม่หยุดหย่อน….มันเองก็ใกล้แล้วเช่นกัน
“ม…ไม่ไหวแล้ว…ไม่ไหวแล้ว เฮีย…ผ..ผม”
ผมไม่รอช้า รีบคว้าคอไอ้หนูมาจูบอย่างรุนแรงแลกลิ้นและกดปากไว้แบบนั้น จนกระทั่งเราสองคนตัวสั่นระริก หลั่งน้ำออกมาแทบจะพร้อมกัน เราสองคนยังคงประกบปากอยู่อย่างนั้นแม้ลมหายใจจะแผ่วเบาลงแล้ว…ผมค่อยๆ ละออกจากริมฝีปากนุ่มชื้น แล้วโลมเลียเฉพาะภายนอกจนเจ้าหนูมันสะอึกและยังกระตุกไม่หาย
สักพัก…มิกกี้ก็หมดเรี่ยวแรง หลับตาก้มลงซบที่บ่ากว้างทั้งๆ ที่ยังนั่งทับท่อนลำของผมอยู่
“…ตายของจริงก็งานนี้แหล่ะ” มันพูดเสียงแหบ ทำเอาเรียกเสียงหัวเราะจากผมได้ไม่น้อย
“อะไรกัน แค่นี้ก็ตายแล้วงั้นเหรอ ว่าจะขออีกซักรอบซะหน่อย หึหึ” ผมแกล้งเย้า แล้วจูบลงที่หัวชุ่มเหงื่อ
“เหอออออ ฆ่ากันเหอะ…กักขังชั้นเทิดดดด กักขังชั้นปายยยย ชั้นไปทำอะรายยยให้เธอเคืองโกรธธธธ”
ดูมันสิครับ ยังจะมีอารมณ์มาฮาทั้งๆ ที่แรงแค่จะเปิดเปลือกตาแทบไม่มีด้วยซ้ำ! ว่าแล้วก็เลยค่อยๆ ลุกโดยที่ยังแช่ท่อนลำไว้ในตัวเจ้าหนู เพราะขืนดึงออกมาตอนนี้มีหวังเลอะเทอะแน่นอน แค่นี้ก็อุ่นวาบ…น้ำสวนออกมาต้องรีบอุ้มอีกฝ่ายไปล้างเนื้อล้างตัวแล้ว
“เฮีย…” มิกกี้เรียกผมขึ้นในขณะที่กำลังจะปิดไฟนอน ตอนนี้เราทั้งคู่อาบน้ำอีกรอบหอมกรุ่นเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนเจ้าหนูมันก็อยู่ในชุดนอนเน่าๆ สุดรักของมันไปตามเรื่อง
“ว่าไง?” ผมรวบอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอด หันไปหอมที่หน้าผากเบาๆ
“…ถ้าได้วันไปแน่นอนแล้วช่วยบอกผมซัก 4-5 วันก่อนไปได้มั้ย จะได้แบบ…ทำใจไว้ก่อน” อยู่ๆ เจ้าหนูก็เปิดประเด็นเครียดขึ้นมาจนผมแทบตั้งตัวไม่ทัน
“ทำไม… ไปได้ยินอะไรมาอีกล่ะ”
“เปล่า ก็…ก็พี่มาร์ชบอกมา” ไอ้คนนอนข้างๆ พูดกระอักกระอ่วนเหมือนไม่อยากจะเอ่ยปากเท่าไหร่
“บอกอะไร?”
“เฮีย…เฮียจะไปแล้วใช่มั้ย…”
ผมล่ะอยากจะจับเจ้ามาร์ชมาตีก้นซะให้เข็ด ให้ตายเถอะ! มันจะปากโป้งไปบอกมิกกี้ทำไมฟะ!! หลังจากที่กร่นด่าในใจแล้วก็หันไปมองอีกฝ่ายที่นอนตาแป๋วท่ามกลางแสงจันทร์ เฮ้อออ…แต่มันอาจจะดีก็ได้ที่มาร์ชบอก เพราะว่าถ้าผมต้องบอกเองคงทำไม่ได้ นี่ก็พยายามเลี่ยงไม่พูดเรื่องนี้มานานมากแล้ว อาจจะถึงเวลาต้องจัดการให้มันเรียบร้อยแล้วล่ะมั้ง
ถึงจะรู้ว่ายิ่งยื้อเวลาต่อไป ไอ้หนูมันจะยิ่งเจ็บ…แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะพูดออกไปอยู่ดี
นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึก ‘ขี้ขลาด’ จริงๆ ไอ้แดนเอ้ยยยย
“…อืม” ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นมากขึ้นจนมิกกี้แทบจะมาเกยอยู่บนอก
“เฮีย….เฮีย!”
ผมสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ เจ้าตัวยุ่งมันตะโกนเสียงดังราวกับจะเรียกให้ตื่นจากภวังค์ แล้วมันก็ปีนขึ้นมานั่งอยู่บนตัวผม สองมือจับใบหน้าให้หันตรง…เพื่อจะได้จ้องมองกันได้เต็มตา
“ฟังผมนะ… เฮียไม่ต้องเป็นห่วง เข้าใจมั้ย ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ผมอยู่ของผมได้ แค่นี้มันไม่ตายหรอก เฮียชอบพูดไม่ใช่เหรอ….ผมไม่ตายหรอก”
ผมนอนฟังอีกฝ่ายพูด ทั้งๆ ที่ประโยคมันช่างดูเข้มแข็ง แต่ทำไมถึงรู้สึกมือที่จับหน้าตัวเองอยู่ถึงสั่นระริกชอบกลนะ…
“ก็แค่เหงานิดหน่อย แต่ผมไม่เป็นไร…ได้ยินมั้ย ผมไม่เป็นไร”
“…มิกกี้” ผมพยายามจะเอื้อมมือไปกอดมัน แต่กลับโดนปฏิเสธด้วยการที่มันยืดตัวตรง แล้วดันมือผมออกห่างด้วยการประสานมือเข้าหาแทน
“ถ้าเฮียเป็นห่วงผม ผมก็จะเป็นห่วงเฮียมากๆๆ มากกว่าล้านเท่า ถึงผมจะอยากอยู่กับเฮียก็เถอะ แต่ก็รู้ว่าทางนั้นเองก็สำคัญ อย่ากังวล อย่าลังเล…. อย่าอยู่กับที่เพียงเพราะเหตุผลแค่เผมเลย” ในขณะที่ผมกำลังฟังและประมวลทุกอย่างเข้าสมองอยู่นั้น มิกกี้ก็บ่นออกมาเบาๆ ว่า ‘อายเหมือนกันแหะ…พูดแบบนี้ดูหลงตัวเองชะมัด’ เล่นเอาผมต้องลอบยิ้มออกมาเหมือนกัน
“แต่คนมันรักนี่…รักก็ต้องห่วง ต้องหวงเป็นธรรมดา” ผมยิ้มบอกอีกฝ่าย แล้วยกมือขึ้นลูบที่พวงแก้มใสเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“ผมก็รัก….ทั้งห่วง ทั้งหวงเหี้ยๆ เลย” ผมตีแก้มมันเล็กน้อยโทษฐานที่พูดคำหยาบ จนมันเผลอทำปากยื่นบอกว่า ’ก็แค่อยากให้คล้องจองอ่ะ’
“อย่าพูดแบบนั้นอีกนะมิกกี้… การที่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ทำให้ชั้นย่ำอยู่กับที่ซะหน่อย ต่อให้การงานประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่ถ้าไม่มี….”
“เฮียจะมีผมตลอดแหล่ะ ตลอดจนกว่าเฮียจะเป็นฝ่ายทิ้งผมไป” ไอ้หนูรีบพูดแทรก มันซุกหน้าลงบนกับฝ่ามือใหญ่ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเหมือนพยายามกลั้นบางอย่างเอาไว้เสียเต็มประดา
“ใครจะทิ้งกัน…. จะบ้ารึไง ทิ้งก็ตายพอดี ของหายากแบบนี้สะสมไว้ค่อยขายทอดตลาดคงได้หลายตังค์”
ผมแกล้งเย้าอีกฝ่ายเล่นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะตึงเครียด แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งบ้างจนเราสองคนนั่งประจันหน้ากันแบบเต็มๆ
“ผมรักเฮีย….”
“ชั้นก็รักเหมือนกัน…เด็กน้อย” ผมดึงหน้ามิกกี้เข้ามาใกล้ แล้วก้มลงประทับจูบแผ่วเบา…แต่เนิ่นนาน
“ถ้าเฮียรักผม…เฮียต้องไปนะ ไปแบบไม่ลังเลด้วย”
“ทำไมไล่กันจัง หืม?” ทำไมถึงรู้สึกแอบน้อยใจไม่ได้ ผมน่ะจะบ้าตายกับการที่ต้องห่างมัน แต่ดูมันกลับอยากให้ผมไปเสียเหลือเกิน
“ไม่ได้ไล่… แต่ผมเองก็อยากจะเป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน ถ้าผมอยู่กับเฮียไปเรื่อยๆ แบบนี้มีหวังสมองคงกลวงเข้าซักวัน…”
“หึหึ กลวงก็ดี จะได้เลี้ยงง่ายๆ”
“เฮียยย ผมจริงจังนะเนี่ยยยย” มันโวยวายเล็กน้อย ก่อนที่จะเงียบลงอีกครั้ง
“ผมจะตั้งใจเรียน จะมีจุดมุ่งหมายในชีวิต จะดูทุนเรียนต่อด้วยจะได้เตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ ไม่ก็หาที่ฝึกงานดีๆ เวลาจบจะได้เครดิตไฮโซหน่อย ผมจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น พยายามมากขึ้น….”
“แต่สิ่งเดียวที่ผมจะไม่เปลี่ยน….ผมจะรักไอ้เฮียบ้าของผมคนเดียวนะครับ”
ร่างข้างๆ พลิกตัวเล็กน้อย แล้วจึงค่อยสงบลง เสียงหายใจรวยรินสลับกับจังหวะขึ้นลงตรงหน้าอกทำให้ผมรู้ว่าคงหลับสนิทแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม…คืนนี้ผมถึงยังข่มตาให้หลับไม่ได้ คงเป็นเพราะเรื่องที่คุยกันก่อนนอน
ว่าแล้วก็กระชับตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดในอ้อมอกแน่น…แต่ช้าๆ เพราะกลัวว่าจะไปปลุกให้ตื่น
กลิ่นหอมแบบนี้ ตัวนิ่มลื่นแบบนี้ คิ้ว ตา แก้ม จมูก ปาก….ทุกส่วนของมัน จะให้ผมทำใจต้องห่างไปได้ยังไง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะพามันไปด้วยทั้งอย่างนั้น แต่ก็ด้วยเหตุผลที่ผมเองก็ไม่อาจปฏิเสธ…
“ผมไม่ไปเรียนที่นู่นตอนนี้แน่ๆ ยังไงก็ต้องจบที่ไทยก่อน…แล้วถ้าเฮียจะชวนแค่ให้ไปตอนซัมเมอร์ก็อย่าเลยดีกว่า เพราะถ้าอย่างงั้นผมคงไม่ยอมกลับมาชัวร์ๆ…. อย่าทำให้ผมลำบากใจเลยนะ”
ดูมันสิครับ… ตอนนี้เลยทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอเวลา… เวลาที่เราต้องจากกันจริงๆ ทำไมถึงได้ดูหดหู่ขนาดนี้น่ะเหรอ? ก็เพราะถ้าไปช่วงแรกๆ ผมมั่นใจว่าไม่ได้กลับไทยสักพักแน่นอนเพราะไหนจะต้องเริ่มต้นทำงานนับตั้งแต่หนึ่งใหม่ มันคงยุ่งวุ่นจนคิดไม่ได้ว่า….หนึ่งปีเนี่ย จะได้กลับมามั้ย เผลอๆ อาจจะเลยเถิดเป็นหลายปีเลยก็ได้
โอย…รักชะมัด รักนะไอ้เด็กน้อย
ผมกระซิบบอกเบาๆ ที่ข้างใบหู แล้วประทับจูบลงไปแทบทุกสัดส่วนตรงหน้า แทรกจมูกลงบนเส้นผมหนานุ่ม สูดกลิ่นอายของเจ้าหนูเข้าเต็มปอด…
คืนนั้นเป็นคืนแรกในชีวิตจริงๆ ที่นอนไม่หลับ…เพียงเพราะเสียดายเวลา เสียดายทุกๆ อย่างตรงหน้า กลัวว่าจะพลาดเวลาที่จะได้สัมผัส…ได้จดจำทุกสิ่งทุกอย่างของคนที่ผมรักไปแม้แต่วินาทีเดียว
แต่สุดท้ายก็โทษใครไม่ได้….เพราะตัวผมเอง เป็นฝ่ายเลือกที่จะจากไป
++++++++++++++
