Part 21
หลังจากที่ยืนคิดอะไรบางอย่าง รับลมเย็นสักพัก… ผมก็แบกเจ้าหนูลงมาข้างล่าง ไอ้มิกกี้หลับไปได้ครู่หนึ่งแล้ว ผมค่อยๆ ย่อตัวลงแล้วดึงตัวอีกฝ่ายเข้าไปในรถ ค่อนข้างจะทุลักทุเลเล็กน้อย แต่ดีที่มันหลับสนิท เลยไม่ได้สะเทือนอะไรมาก
พอมาถึงคอนโด ผมก็อุ้มเจ้าหนูมาจากรถ จนกระทั่งมาถึงห้อง…หย่อนตัวมันลงเตียงนุ่มทันที
“เฮ้ออ หนักชะมัด” มันก็ใช่ว่าตัวเล็กเสียที่ไหนล่ะครับ พอวางลงปุ๊บ ผมถึงกับต้องปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว
“อือ…” เจ้าหนูครางเล็กน้อยด้วยความสบายเมื่อหลังแตะกับเบาะนุ่ม มันรีบควานหอหมอนแล้วสอดแขนและซุกใบหน้าเข้าหาความนุ่มทันที
ผมได้แต่ยืนท้าวสะเอว มองไอ้ตัวยุ่งที่นอนยิ้มสบายใจ เห็นแล้วก็อดส่ายหัวด้วยความเอ็นดูไม่ได้… จึงเดินออกจากห้องไปจัดการพวกข้าวของต่างๆ และอาบน้ำอาบท่า …ส่วนไอ้มิกกี้… ไม่ต้องอาบแล้วก็ได้มั้งรายนั้น ไม่ตื่นแล้วแหงๆ
ดังนั้นผมเลยหยิบเอาผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาดๆ ใส่ถังน้ำเล็กมาวางที่เตียง มองดูไอ้มิกกี้ที่นอนถีบผ้าห่มจนตกเตียง เฮ้อออ เกิดมาเพิ่งเคยบริการคนเมาก็นี่แหล่ะ…. ว่าแล้วก็จับมันพลิกไปพลิกมาเพื่อถอดเสื้อออก และเช็ดเนื้อเช็ดตัวจนทั่ว ใส่เสื้อใหม่ให้มัน… พอมาเปิดตู้ก็เพิ่งจะสังเกตว่าเกือบครึ่งนึงของตู้ผมกลายเป็นเสื้อผ้าของเจ้าหนูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
แปลกดีมั้ยล่ะครับ… ทั้งๆ ที่ห้องก็อยู่ข้างกันแค่นี้เอง นี่ผมปล่อยให้มันเข้ามามีอิทธิพลและมีส่วนสำคัญในชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
“….ผ้าห่ม” ผมแอบสะดุ้ง หันไปมองต้นเสียงที่นอนหลับตา แต่คิ้วขมวด มือควานหาผ้าห่มที่เคยคลุมกายสะเปะสะปะ
“เอ้า ก็เตะออกเองเมื่อกี้” ผมเดินไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้ไอ้ตัวยุ่ง มันรีบดึงขึ้นมาคลุมหน้าคลุมตาทันที
ไอ้มิกกี้ทำปากแจ่บๆ ทำหน้าพึงพอใจ แล้วจึงไปเฝ้าพระอินทร์ต่อ ผมเห็นแล้วก็ขำนะ ความจริงไอ้นี่น่ะก็ไม่ได้เด็กอะไรขนาดนั้นแล้ว แต่ดูมันทำตัวตอนอยู่กับผมสิครับ แตกต่างกับตอนอยู่กับเพื่อนๆ มาก ทั้งอ้อน ทั้งงอแง เอาแต่ใจ แล้วยังชอบเถียงว่าตัวเองไม่ใช่เด็กอีก
“เด็กชัดๆ เลย ไอ้แสบเอ้ย” ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆ มัน คืนนี้นอนหนาวแน่เลยไอ้แดน ก็ไอ้มิกกี้ดันล่อดึงผ้าห่มไปม้วนตัวเองจนหมด งั้นสงสัยต้องนอนกอดไอ้ดักแด้ตัวนี้แก้หนาวแทนซะแล้วมั้ง…
……………………………..
โอย….หนัก อะไรวะเนี่ย ผมรู้สึกขยับเขยื้อนตัวไม่ได้แปลกๆ แต่กลิ่นหอมข้าวโพดที่ลอยมาแตะจมูกนี่คืออะไรวะ อยากตื่น… แต่ก็ไม่อยากตื่น ว่าแล้วก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง
“กรูว่าละ…” ผมบ่นออกมาเบาๆ เมื่อเห็นร่างคุ้นเคยขึ้นมาทับบนตัวผม เดี๋ยวนี้มันเลื่อนขั้นแล้วนะ เมื่อก่อนนี่แค่นอนชิดๆ ต่อมาเริ่มแทรก ขาพาดก่ายไปมา ส่วนตอนนี้… แม่ง ล่อขึ้นมาทับทั้งตัวเลย
“เฮ้ มิกกี้… ตื่นยังเนี่ย?”
ใบหน้าขาวอยู่ห่างจากปากผมไม่ถึงคืบ เสียงหายใจเป็นจังหวะจะโคนบ่งบอกว่าเจ้าตัวยังคงหลับสนิทแม้ว่าแดดภายนอกจะเริ่มสาดส่องเข้ามาจนแสบตาแล้วก็ตาม อยู่ๆ ก็นึกอยากลองแกล้งไอ้ตัวเล็กขึ้นมา ผมยกนิ้วขึ้นเขี่ยตากับแก้มมันเล่น… เจ้าหนูส่งเสียงครางอือ แล้วปัดออก คิ้วขมวดแน่นด้วยความรำคาญ ผมเลยลองเอาเกลี่ยปากสีแดงสดของมัน… ไล้ตั้งแต่มุมปากจนถึงตรงกลาง …นิ่มจังแหะ…
“อือ… เดี๋ยวกัดนิ้วขาดเลย” ไอ้มิกกี้อยู่ๆ ก็ครางขึ้น เล่นเอาผมตกใจไปเหมือนกัน
“หึหึ ตื่นอยู่เหรอเนี่ย… อย่ากัดนะ แต่ถ้าอมก็โอเค” ผมแกล้งเย้ามันเล่น
“อมทำไม เค็ม -*-“ ไอ้มิกกี้ทำหน้าแหยงๆ ก่อนที่จะหลับตาต่อ
“ป่ะ…ลุกได้แล้ว อย่าหลับสิ ไปอาบน้ำอาบท่า เมื่อคืนก็นอนเน่า ไปๆ” ผมดันตัวอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น ดูมันสิครับ… ทำเป็นไม่มีแรง แขนขาร่วงลงกับที่นอน แต่ตัวนี่ออกแรงต้านผมเต็มที่
“ม่ายอาวววววววววววว มึนหัวง่ะ ขอนอนอีกนิดนะ อืออ”
“ลุก!”
เจ้าหนูยังคงงอแงไม่เลิก มันพยายามดึงผ้าห่มกลับจากผม …ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ที่อยากให้มันลุกน่ะ เพราะกรูหิว! รีบไปทำอะไรให้กินหน่อยเด๊ะไอ้มิกกี้! ผมรีบคว้าผ้าห่มกลับ เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าสู้ไม่ได้เลยได้แต่นอนทำตาขวางปากยื่นใส่ แต่สักพัก…มันก็ก้มลงมองตัวเอง
“เฮียเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผมเหรอ??” มันก้มลงจับเสื้อตัวเองไปมา แล้วเงยหน้าถามผมงงๆ
“เปล่า เมื่อคืนแกละเมอลุกขึ้นมาเปลี่ยนเอง แถมยังเต้นระบำหน้าท้องโชว์อีก” ผมยืนยิ้ม… แล้วพับผ้าห่มเก็บ
“ไอ้เฮีย อย่ามาสตอฯ นะ ….สรุปเฮียเป็นคนเปลี่ยนใช่มั้ย!?”
“อาฮะ มีปัญหาไรวะ -*-“ ผมตอบเซ็งๆ ท้องก็ร้องจ๊อกๆ แม่ง… เมื่อวานแดรกแต่เหล้า ข้าวไม่ได้แตะสักนิด ไอ้มิกกี้ก้มลงมองกางเกงขายาวของตัวเอง แล้วอยู่ๆ ก็ส่องเข้าไปข้างใน …ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เฮ้อออ … โด่ๆ ไม่กล้าเปลี่ยน กกน ให้อ่ะดิ๊~~” คนที่นอนอยู่บนเตีงยกเท้าขึ้นมาข้างนึง นอนยักคิ้วหลิ่วตาทำหน้ากวนพระบาทาส่งมาให้อย่างภูมิใจ

“…จะเอามั้ยล่ะ?”
คราวนี้มันตาโตเลยครับ ยิ่งพอเห็นผมวางผ้าห่มลงกับพื้น ยิ้มทั้งปากทั้งตา… มันนี่ถึงกับถอยหลังกรูดจนเกือบตกเตียง
“เฮ้ยๆ! ไม่เอาเฮีย! พูดเล่น! ไม่อ๊าวววววววววววววววว” ไอ้มิกกี้ร้องลั่นเมื่อผมคว้าที่ข้อเท้ามันไว้หมับ แล้วออกแรงดึงเข้ามาหาตัวจนมันหงายหลังลงกับที่นอน ดิ้นไปมา…
“ไหน… ขอดูหน่อยซิ ไอ้หนอนน้อย” ผมพยายามฝืนดึงกางเกงตัวเหี่ยวของอีกฝ่าย โดนที่มันเองก็ดึงต้านไว้คนละทิศคนละทาง
“ปล่อยยยยย ไม่เอา ไม่เล่นนะเฮียยยย” ไอ้หนูร้องโวยวายไป หน้าแดงไป… คงเพราะทั้งอายทั้งต้องออกแรงฝืนไม่ให้ผมดึงกางเกงมันลง
“น่า ก็เมื่อกี้บอกเองนี่ว่าทำไมไม่ให้เปลี่ยน มามา เดี๋ยวช่วยนะ ไม่ต้องเกรงใจ หึหึ”
เพื่อคอมพลีทมิชชั่นการกลั่นแกล้งเด็กน้อย… ผมรีบกระโดดขึ้นเตียงแล้วนอนทับอีกฝ่ายที่นอนดิ้นพล่านๆ อยู่ โดยใช้เข่าทั้งสองคร่อมขามันไว้ไม่ให้ดิ้นหนีได้ เจ้ามิกกี้ยิ่งร้อง ยิ่งดิ้นมากขึ้น แต่ท่านี้…ยิ่งพยายามดิ้นยิ่งเจ็บครับ ผมเลยได้ใจหัวเราะหึหึ ตรึงข้อมือทั้งสองของมันกับที่นอนทันที
“ไม่เอา… ไม่เล่นจริงๆ นะ ผมไม่เล่นนะ” เสียงไอ้หนูเริ่มสั่นเครือ… มันส่ายหน้าไปมาจนหัวแทบหลุด
“นิดเดียวน่า อายอะไร มีเหมือนๆ กัน…”
ผมเริ่มหน้ามืด ก็มาถึงขนาดนี้แล้วจะให้หยุด(แกล้ง)ได้ไง ว่าแล้วเลยลงมือต่อ ดึงกางเกงเจ้าหนูลงต่ำจนเห็นบรีฟสีดำที่มันใส่ตั้งแต่เมื่อคืน… ในขณะที่ผมกำลังดึงกางเกงตัวเล็กลงจนเห็นเนินหนอนน้อยพร้อมขนพรอมแพรมของมันเท่านั้น…
“ฮึก…ฮึก” ตอนแรกก็ว่าแปลกเพรามันเริ่มไม่ขัดขืน แต่หลับตาปี๋… เสียงสะอื้นดังขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มทำให้ผมตกใจมากจนต้องรีบปล่อยมือออกจากแขนและกางเกงมัน
“เฮ้ย ร้องไห้ทำไม!?” ผมรีบดันตัวเองขึ้นไประดับเดียวกับเจ้าหนู ละมือทั้งสองข้างมาจับแก้มใสที่อาบไปด้วยน้ำตา มันรีบเอามือตัวเองมาปิดหน้าปิดตา ดึงกางเกงขึ้น…
“ฮึก…ปล่อย”
“ขอโทษ… ไม่ร้องนะ ขำๆ เอง” ผมพยายามปลอบ แต่กลับทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลง
“แต่ผมไม่ขำ!” มันผลักผมออก แล้วลุกขึ้นกำกางเกงตัวเองลวกๆ ทั้งน้ำตา
เฮ้อออ อะไรวะ!? เล่นๆ กันแค่นี้ สมัยผมกับเพื่อนนี่ไม่เห็นจะมีอาย แข่งชักว่าวใครไกลกว่ากันด้วยซ้ำ… ทำไมเด็กเดี๋ยวนี้มันเปราะบางคุณหนูกันจริงเลย แต่ก็ได้แค่คิดน่ะแหล่ะครับ …ความเป็นจริงคือ ผมรีบลุกขึ้น แล้วตามไปดึงตัวอีกฝ่ายไว้
“ไม่เอาน่ะ… เมื่อกี้ยังไม่ทันเห็นอะไรเลย โกรธทำไมเนี่ย” มันสะบัดแขนผมออก หันมามองตาเขียว… ปากเบะ อะไรเล่า ก็คนมันปลอบไม่เป็นนี่หว่า!
ผมได้แต่ยืนเงอะงะ พอมันปัดออกก็เปลี่ยนมาจับอีกข้าง พอมันสะบัดออกอีกก็เปลี่ยนมาจับต้นแขนแทน จนหลังๆ เริ่มรำคาญเลยดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดซะงั้น
“ฮึก… ไม่เอา ปล่อย อย่ามายุ่ง” ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าหนูถึงยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่า แผ่นหลังเล็กนั่นสะท้านตัวโยนจนผมต้องจับไว้
“ขอโทษ…ขอโทษนะ ต่อไปจะไม่แกล้งแล้ว” ผมตอบตะกุกตะกัก มือก็ลูบหัวลูบหางไอ้มิกกี้ไปด้วย
“ไม่เชื่ออ่ะ เฮียชอบทำแบบนี้…” มันยังคงสะอื้นไม่หาย แล้วดันตัวผมออกจะเดินออกนอกห้อง ผมเลยรีบคว้าตัวมันไว้แล้วกอดอีกครั้ง ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมกอดมันจากข้างหลังแทน
ไม่รู้ทำไม… ผมเห็นน้ำตามันแล้วรู้สึกใจไม่ดีเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยจะแคร์ความรู้สึกใครมากขนาดนี้ จะโกรธก็โกรธ จะเกลียดกรูก็เกลียดไป ใช่ครับ..ผมเป็นพวกมั่นใจในตัวเองสูง ทุกวันนี้เลยมีเพื่อนไม่มาก เพราะคนที่เข้าใจและรับในนิสัยได้มีน้อย… แต่พอใครรักก็รักจริง ส่วนเรื่องคนรัก อย่าให้ต้องพูดเลย ผมมันคนขี้รำคาญ… มีก็แค่แก้ขัด พอคุณเธอทั้งหลายเริ่มออกลายผมก็ทิ้งอย่างไม่ใยดี หรือพวกคู่นอนค้างคืนผู้ชายทั้งหลาย… ส่วนใหญ่ก็จะร่านแบบไอ้ชินทั้งนั้น แค่ผมไปให้เห็นหน้าก็คร้านจะแก้ผ้ารอแทบไม่ทัน
แต่กับเจ้ามิกกี้… แค่นี้กลับร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ถ้าเป็นคนอื่นผมคงเซ็ง แล้วเดินหนีไปแล้ว… แต่เพราะอะไรกัน ผมทนไม่ได้… ผมทิ้งมันไปแบบนี้ไม่ได้
ไอ้มิกกี้ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อผมโผเข้าไปกอดเต็มแรง แล้วซุกหน้าลงกับกกหูของมัน …สองมือที่ยกขึ้นมาปาดน้ำตาก็ถูกจับกระชับแน่นด้วยมือใหญ่ทั้งสองข้าง ผมแนบริมฝีปากตัวเองเข้ากับขมับคนข้างหน้าที่ยืนสั่นเทาเล็กน้อย
“อย่าโกรธเลยนะ จะไม่ทำอีกแล้ว… จริงๆ” ผมกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู เสียงร้องไห้เงียบไปแล้ว… เจ้าหนูยืนนิ่งให้ผมกอดอยู่แบบนั้น
“.... ก็อายนี่” อยู่ๆ มันก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบซักพัก ผมเอียงหน้าไปมองเจ้าหนูที่พอเห็นว่าผมมองหน้ามันก็รีบก้มหนีงุดๆ …โห แก้มมันนี่แดงยิ่งกว่าตรูดลิงอีกครับ ฮ่าๆ
“อายทำไม” ผมพยายามกลั้นหัวเราะแล้วถามเสียงเรียบ
“ก็…ผมไม่เคยให้ใครดูมาก่อนนี่” มันว่า พยายามดิ้นหนีออกจากผม แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ได้หนีเพราะโกรธ แต่เพราะอายต่างหาก
“หึหึ”
“หัวเราะอะไรเล่า!” เจ้าหนูโวยวาย เริ่มกลับมาทำหน้าเครียดใส่ผมอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด
“เปล่าๆ โทษที… แค่คิดว่าน่ารักดีน่ะ” ปุ้ง..นี่อาจเป็นเสียงจากหัวของไอ้มิกกี้เม้าส์ครับ หน้ามันแดงแผ่ไอร้อนฉ่าออกมาจนผมรู้สึกได้
“ค…ใครน่ารัก ปล่อยเลยไอ้เฮียบ้า ใครจะไปกร้านโลกแบบเฮียล่ะ… อ๊ากก ปล่อยยยโว้ยย” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ผมเลยยิ่งรัดตัวมัน แล้วยกขึ้นเหวี่ยงไปมาทั่วห้อง เจ้าหนูโวยวายเสียงดัง ทำให้ผมทรงตัวไม่ค่อยอยู่ เกือบล้มหน้าคะเมนกันทั้งคู่แล้ว… แต่หลังๆ ไอ้เสียงง๊องแง๊งนั่นกลับเริ่มเจือหัวเราะแทนเสียแล้ว
“ฮะๆ ปล่อย… จะล้มแล้วๆ!” ไอ้มิกกี้ร้องลั่นตอนที่ผมสะดุดกับขอบเตียง… แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะตอนนี้เราทั้งสองหล่นตุบลงมาที่นอนอีกครั้ง โดยที่มีผมเป็นคนรองรับแรงกระแทก ในอ้อมแขนมีไอ้หนูหลับตาปี๋ล้มลงตาม
“อูยย เจ็บ…” ผมรีบปล่อยมือมาลูบๆ คลำๆ คางตัวเอง เพราะหัวมันน่ะสิดันกระแทกใส่เต็มแรง
“อ๊ะ ขอโทษครับ… เจ็บมากเปล่า?” เจ้าหนูรีบดันมือผมออก แล้วพลิกตัวมาดูอาการคนข้างล่างทันที แต่หน้าตายังคงขำไม่เลิก นี่ตกลงมรึงสงสารหรือสมน้ำหน้ากรูกันแน่วะ!?

ให้ตายเถอะ! ใบหน้าที่ดูกังวลเล็กน้อย เพราะคิ้วที่ขมวดแน่น ปากแดงเผยอโดยไม่รู้ตัว…มันช่างมีมนต์สะกดเหมือนหลายๆ ครั้งก่อนหน้านี้..ที่ทำให้ผมอยากจะยื่นหน้าเข้าไป แล้วกดริมฝีปากตัวเองเข้ากับอีกฝ่ายเหลือเกิน
แต่แล้วสามัญสำนึกก็เหมือนจะคอยรั้งคอเอาไว้ ไม่ให้ทำอะไรไปเกินเลยกว่านั้น… ก็คดีเก่ายังมีนี่ครับ แค่แกล้งดูกระเจี๊ยวเล็กๆ (รู้ได้ไง?) ของมันเท่านั้น มันยังร้องจ้า โกรธเป็นวรรคเป็นเวร นี่…ถ้าผมแกล้งจูบล่ะก็ สงสัยได้โกรธกันข้ามวันข้ามคืนแน่ๆ
แถมครั้งแรกที่จูบมันไป…ก็ตอนอีกฝ่ายเมาเสียด้วย คราวนี้สร่างเต็มตา ไม่แน่อาจมีลูกเตะให้เป็นของแถม
ในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรไปมั่วซั่วอยู่นั้น… ก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าสายตาตัวเองกำลังจ้องมองที่ริมฝีปากสีสดของเจ้าหนูอย่างไม่รู้ตัว ข่มใจ…ไอ้แดน ข่มใจ… ผมเฝ้าท่องโดยไม่ได้ฟังว่าไอ้คนข้างบนที่ใช้มือนุ่มลูบคางผมเล่นกำลังพูดอะไร ข่มใจ…ข่มใจ...ข่มใจ
แต่อยู่ๆ ก็รู้สึกถึงใบหน้าขาวนันค่อยๆ เลื่อนลงมาต่ำ ปากแดงก็ลดลงมาตามด้วย… ผมเริ่มเข้ามาใกล้ปากผมเรื่อย…เรื่อย ไอ้ใจเจ้ากรรมก็ดันเต้นตึกตักๆ จนแทบจะกระเด็นออกมานอกอก ให้ตายเถอะ! ระ..หรือว่าไอ้มิกกี้จะจูบผม!?
ริมฝีปากคู่สวยนั่นเลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ… ใกล้อีก… ใกล้…
อ่าว ไหงมันต่ำเกินไปแล้ววะ เฮ้ย ต่ำเกินไปแล้ว!
“ฟู้วววว หายแล้ว ไม่เจ็บแล้วนะ”
อยู่ๆ เจ้ามิกกี้ก็เป่าลมอุ่นๆ เข้าที่คางผมครับ มันเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้จนตาหยี เล่นเอาผมหายใจไม่ทั่วท้อง หัวใจมันเต้นระส่ำกว่าเดิม ใบหน้านี้ ตาเล็กๆ นี้ จมูกโด่งๆ นี้…แก้มขาวใส บวกกับปากสีแดงสด… ทำให้ผมห้ามใจตัวเองต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ถ้ามันโกรธก็ค่อยหาวิธีง้อเอาทีหลังละกันวะ!
ผมเอื้อมมือไปคว้าหมับเข้าที่ท้ายทอยอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว…แล้วพลิกตัวให้ตัวเองมีชัยเหนือร่างกายอีกคน จังหวะนั้นที่เจ้าหนูตกใจจนเผลอร้องออกมา ผมก็ประกบปากตัวเองเข้ากับกลีบปากสีสวยนั่นทันที
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไร้ซึ่งคำบรรยายใดๆให้ลึกซึ้ง~~