Part 17
“ก็…จูบทำไมล่ะ”
ผมนั่งนิ่งโดยมือทั้งสองยังคงยึดเก้าอี้ที่อีกฝ่ายนั่งเอาไว้ใกล้ตัว… เจ้าหนูจากที่มันเบือนหน้าหนี กลับค่อยๆ หันกลับมามองหน้าผมเมื่อเห็นว่าไม่ได้คำตอบที่ต้องการ กลายเป็นผมเองที่ต้องหันหน้าหนีมัน ให้ตายเถอะ!
“….ไปเรียนป่ะ” ผมบอก แล้วลุกหนี
“ไม่ไป” ไอ้มิกกี้ยังคงนั่งนิ่ง สองมือกอดเข่าตัวเองบนเก้าอี้ แล้วซุกหน้าลงกับขาตัวเอง
“เดี๋ยวเหอะ! ทำไมเป็นเด็กแบบนี้ห๊ะ!”
“เด็กแบบนี้แล้วทำไม! ทีผู้ใหญ่ยังเป็นแบบนี้เลย!” เจ้าหนูขึ้นเสียง ทำหน้าบูดตาขวางใส่ผม มันจะแค้นอะไรกับที่ผมว่ามันเด็กมากมายวะเนี่ย…
“อย่ามาหาเรื่องนะ…” ผมกัดฟันกรอด ยืนท้าวสะเอวมองหน้าอีกฝ่ายที่นั่งจุ้มปุ้ก จ้องมาด้วยสายตาไม่ลดละเช่นเดียวกัน
“เฮียแหล่ะหาเรื่อง…หาเรื่องมาบ่ายเบี่ยงได้ตลอดอ่ะ”
ผมยืนนิ่งอยู่สักพัก…แล้วจึงค่อยหย่อนตัวเองลงเก้าอี้ตัวเดิมที่หันหน้าเข้าหาไอ้มิกกี้ เจ้าหนูถดตัวเองถอยหลังไปกว่าเดิมจนหลังชิดพนักพิง มันหดขาหดแขนหันหน้าหนีผมเหมือนงอน จนกระทั่งผมดึงเก้าอี้มันให้เข้ามาใกล้ตัวมากขึ้นนั่นแหล่ะระยะของเราจึงชิดมากกว่าเดิม
“อยากรู้จริงๆ รึเปล่าล่ะ?” ผมโน้มคอตัวเองไปแทบชิดกับใบหน้าอีกฝ่าย กระซิบเข้าที่แก้มมันเบาๆ เจ้าหนูหดคอหนีผมแล้วหลับตาปี๋ ก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองผมแบบกล้าๆ กลัวๆ พยักหน้า…กลืนน้ำลาย
“…จะบอกรึเปล่าล่ะ” นั่น ยังเล่นปากเล่นคำได้อีก แสบจริงเลย…
“แล้วจะรู้ไปทำไม?” ผมยังคงกระซิบแผ่วเบา คลอเคลียอยู่ข้างแก้มใสอีกฝ่าย
“…ก็แค่อยากรู้” มันตอบเสียงค่อยจนแทบจะกลืนหายเข้าไปในลำคอ… นั่นทำให้ผมเผยรอยยิ้มออกมาทันที ติดกับชั้นล่ะเจ้าเด็กน้อย
“…ก็แค่อยากจูบ”
ผมลอกเลียนแบบประโยคที่อีกฝ่ายตอบมาเป๊ะๆ ไอ้หนูถึงกับกัดฟันจ้องผมเขม็ง หายใจฟึดฟัดราวกับไม่ค่อยพอใจในคำตอบของผมเท่าไรนัก เสียง แง่ง…ลอยออกมาให้ได้ยินในลำคอ เล่นเอาผมกลั้นหัวเราะเกือบไม่อยู่ เอะอะๆ ก็จะกัดตรูอยู่เรื่อย คราวหลังจะให้กัดที่ปากซะหนำใจ หึหึ
“ประสาท ฮึ่ย” ไอ้มิกกี้มันคงไม่สบอารมณ์ที่เห็นผมยิ้มเหมือนคนบ้า
“ไอ้คนที่ชอบทำเสียงแง่งๆ เหมือนหมานี่ไม่ประสาทกว่าเรอะ?” ผมพูดไปกลั้วหัวเราะไป…แกล้งเด็กมันสนุกอย่างนี้นี่เอง พอเริ่มจับจุดอ่อนอีกฝ่ายได้ก็เริ่มมันส์แล้วครับ (ปกติโดนมันปั่นหัวมาตลอด ถึงเวลาตรูเอาคืนแล้ว หึหึ)
“โว้ยย ประสาทๆๆๆๆๆ” มันยกขาขึ้นจะเตะผม แต่เหมือนจะไม่กล้า เลยลงที่เก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่แทน…
“ฮ่าๆๆ ไปเรียนได้แล้วไป๊”
ผมลุกขึ้นหัวเราะกับอาการหัวเสียของคนตรงหน้า เห็นแล้วฮาชะมัด ไอ้หนูเองก็เดินตึงตังๆ หนีผมออกจากห้องไปทันที แน่ะ…การหันหน้ามาค้อนอีกทีนึงด้วย ขำชิหาย
หลังจากที่เจ้าหนูออกจากห้องผมไปแล้ว อาการหัวเราะงอหงายก็ค่อยๆ หยุดลงทันที ผมเดินทิ้งก้นตัวเองลงบนโซฟาตัวนิ่ม แล้วถอนหายใจเฮือกกกก… เมื่อกี้นี้ตัวผมเองก็ใจจะหายวาบเอาเสียดื้อๆ อยู่ๆ ก็มาถามคำถามอะไรแบบนี้จะให้ตอบยังล่ะฟะ เพราะตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจูบไอ้หนูไปทำไม เลยได้แต่ทำเป็นเล่น ทำเป็นฮากลบเกลื่อนไปอย่างนั้น

ที่สำคัญ…เมื่อกี้…ตอนนั่งใกล้กัน ผมก็เกือบจะเผลอจูบเจ้าหนูอีกรอบเสียแล้ว ปากแดงๆ ที่ถูกเจ้าของเม้มแน่นยามรอคอยคำตอบ หรือ ยามที่ต่อล้อต่อเถียง มันดูแล้วช่างยั่วยวนเหลือเกิน… ไหนจะกลิ่นหอมอ่อนๆ ของแกงกระหรี่จากแก้มใส ตัวสั่นเทาเล็กน้อยเมื่อผมเข้าใกล้ ให้ตายเถอะ…มันน่าจับขย้ำให้รู้แล้วรู้รอด!
เป็นเอามากแหะไอ้แดน นี่มรึงหลงเด็กซะแล้วเหรอเนี่ย ตายห่าล่ะงานนี้…
ผมกุมขมับตัวเอง หัวมันปวดไปหมดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง… ไอ้ปวดหัวน่ะยังไม่เท่าไหร่ โชคดีที่ยังไม่ปวดข้างล่างไปด้วย ไม่งั้นมีเฮแน่งานนี้ เฮ้อออออ
วันนั้นทั้งวันผมเลยแก้เครียดด้วยการนั่งทำงานให้มันลืมเรื่องน่าปวดหัวไปเสีย…ทฤษฎีของผมก็คือ หาเรื่องเครียดกว่าให้มันลืมเรื่องเครียดน้อยไปให้หมด เออ…มันก็ได้ผลทุกครั้งไปแหล่ะครับ ผมนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ พร้อมกับเช็คดูรายการสินค้าเปรียบเทียบระหว่างที่อเมริกาและไทยไปด้วย
มัวแต่ทำงานเพลินจนลืมดูเวลา ท้องเจ้ากรรมมันเลยเริ่มร้องประท้วงแหล่ะครับ… หิวเว้ย! สองมือลูบท้องตัวเองป้อยๆ แล้วเดินไปในครัวหาอะไรกินในตู้เย็น…เหมือนเดิม มีแต่ของสดวางเรียงรายเต็มไปหมด

แล้วสายตาก็พลันไปเห็นหม้อแกงกะหรี่ที่เหลือทิ้งไว้บนเตา อืมมมม ทำไงดีวะ… ผมลองเอานิ้วจิ้มดู อืมมม เย็นแล้วอ่ะ แต่ยังอร่อยแหะ ก็น่าจะกินได้แหล่ะวะ… ไม่ตายหรอก อีแค่นี้
ว่าแล้วก็ไปหาจานมา กำลังจะตักเศษแกงกะหรี่ที่เหลือใส่…
“ไม่อุ่นก่อนล่ะ” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาจากข้างหลัง ส่งผลให้มือผมชะงักไปชั่วขณะ
“ยังไง?” เอาล่ะ อย่าเพิ่งด่าผมก่อนนะครับ…ก็คนมันไม่เคยเข้าครัวนี่หว่า จะเอาอะไรมากมาย
“ก็แค่เปิดแก๊สแค่เนี้ย ทำไม่เป็นอีก มีครัวไว้ทำไมเนี่ย” มันว่า เดินตึงๆ เข้ามาเปิดแก้สแล้วคนแกงให้ผม
“มีไว้ให้คนอื่นทำให้ไง” ผมว่า อมยิ้มกับอาการหน้าบูดบึ้งของอีกฝ่าย…สงสัยยังไม่หายงอนผมแหงๆ เด็กน้อยเอ้ย…
“ระวังเหอะ…สักวันจะไม่มีคนทำให้” มันบ่นเบาๆ ส่วนผมก็ทำเป็นไม่ได้ยิน เดินไปนั่งกระดิกขาพิงโต๊ะกินข้าวเพื่อรอ
“แล้วนี่ยังไม่ไปเรียนอีกรึไง?” ผมถามขึ้น มองคนตรงหน้าที่กำลังเติมนู่นเติมนี่ใส่หม้อไปพลาง
“ไม่มีเรียน”
“แล้วไม่ต้องไปตามงานรึไง หยุดเป็นสัปดาห์เนี่ย ติด F จะหัวเราะให้ฟันหลุด หึหึ” ผมส่ายหน้าด้วยความระอากับเจ้าหนูใจแตกตรงหน้า
“…อยากลองติดอยู่เหมือนกัน ไอ้แต่ A แต่ A…เบื้อเบื่อ เอิ้ก” มันหันมายักคิ้วให้ผม พร้อมกับทำสีหน้ากวนตีนใส่ เห็นแล้วอยากจีบตีก้นเสียให้เข็ด!
“ที่สำคัญ…ไม่มีงานให้ตามด้วย เพราะว่าสัปดาห์นี้น่ะมันกีฬามหาลัย…เค้าไม่มีเรียนกัน แว่ โดนหลอกแล้ว”
อ่าว เวงงงงงงงงงงงงงง ไอ้เด็กเปรตนัท มรึงหลอกกรู!!!! ก็ไอ้เวงนั่นมันบอกผมว่าไอ้มิกกี้ไม่ได้ไปเรียนเป็นสัปดาห์แล้ว ไอ้เรารึก็ไม่เอะใจอะไร ถึงว่ามันแต่งชุดเล่นไปมหาลัย…แถมยังทำหน้ายียวนกวนส้นพระบาทอีกต่างหาก ป่านนี้มันคงหัวเราะสาแก่ใจที่หลอกคนอย่างผมได้ คอยดูเถอะ…หนอย เดี๋ยวมึงโดนแน่ไอ้ห่านัท!
ผมยืนกัดฟันกรอดๆ ด้วยความเคียดแค้น… จนอีกคนที่ยืนในห้องสังเกตเห็น มันหัวเราะเอิ้กอ้ากด้วยความสะใจ ก่อนจะหันไปคนแกงกระหรี่บนเตาต่อ… ผมจิ๊จ๊ะในปากอย่างขัดใจ แต่แล้วความหมองมัวก็ลดลงเมื่อได้กลิ่นหอมหวานลอยมากระทบเข้ากับจมูกเต็มๆ เค้าว่ายิ่งเคี่ยวนานยิ่งอร่อยสงสัยจะจริงแหะ ก็ตอนนี้รู้สึกกลิ่นมันหอมกว่าเมื่อเช้าอีกครับ …เอ หรือเพราะผมหิวกันแน่นะ
ว่าแล้วก็เดินเข้าไปกะจะแอบชิมสักหน่อย….ก็มันหิวนี่หว่า แต่ไอ้มิกกี้นี่ก็ยืนบังอยู่ได้ ปัดโธ่…คนจะกิน
ก็เลยช่วยไม่ได้ครับ ผมเข้าไปยืนซ้อนด้านหลังเจ้าหนูที่หน้าเตา… เพราะมันยืนขวางนะเนี่ย จริงจริ๊ง
“อา…หอมจัง” ไม่รู้ว่าหอมไอ้ที่อยู่ในหม้อ หรือ หอมไอ้คนตรงหน้านี่ดี
“ก..กลับไปนั่งที่ไป๊ จะเสร็จแล้ว” มันสะดุ้งตกใจนิดๆ เมื่อเห็นว่าผมเข้ามาประชิดแบบไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว แล้วจึงดันศอกใส่ผมเป็นเชิงไล่
“ไม่เอา…หิวแล้ว อยากกินเร็วๆ”
“มายืนแบบนี้ก็ไม่เห็นเคยช่วยอะไร… ทำอะไรเป็นบ้างหะ”
“เป็นเว้ย…. มา ช่วยคน”
ผมยื่นมือไปกุมมือเจ้าหนูที่กำทัพพีอยู่ แล้วช่วยมันคนแกงเบาๆ แก้มก็แนบอยู่กับอีกฝ่าย กลิ่นหอมของแกงและแก้มขาวมันผสมปนเปกันไปหมดจนแยกไม่ออก… แต่ดูเหมือนแก้มคนจะหอมกว่านิดนึงนะ… หึหึ ตอนแรกไอ้ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ แต่พอเจ้าหนูมันทำท่าอิดออด จะขยับหนีผม เลยยิ่งอยากแกล้งเข้าไปใหญ่ สองมือหนารั้งเอวอีกฝ่ายไม่ให้กระเถิบหนี
มาคิดดูอีกที…ภาพแบบนี้มันเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามันเลยเว้ยเฮ้ย!?
“ส…เสร็จแล้ว ปล่อยได้แล้ว จะกินมั้ยเนี่ย” ไอ้หนูถามตะกุกตะกัก มือยังกำทัพพีแน่น ส่วนอีกมือก็กำลังใช้ความพยายามในการแกะมือปลาหมึกของผมออก
“กินสิ ตักเร็วๆ หน่อย” ผมคลายมือออกจากตัวเจ้าหนูนิดนึง ปล่อยให้มันเดินไปหยิบจานมาตักข้าวและตักแกงกระหรี่ราดลงไปทับอีกทีให้
“เอาเนื้อเยอะๆ ไม่เอาผัก” ผมชี้นิ้วสั่งเมื่อเห็นว่ามันเริ่มตักแครอทเยอะเกินไปแล้ว
“มาตักเองเลยม่ะ” ไอ้มิกกี้มองผมแบบเซ็งๆ แล้วยื่นทัพพีให้
“ไม่เอา ตักให้หน่อย เร็ว หิว”
“เรื่องมากก็ตักเองดิ๊!” นั่น…มีการมองผมด้วยหางตาอีกครับ มันน่านักนะ…ทำให้แค่นี้ก็ไม่ได้
“จะตักไม่ตัก” ตอนนี้ผมเลยจัดการด้วยแนบตัวเองลงไปชิดกับหลังมันมากขึ้นจนด้านหน้าของเจ้าหนูชนกับเคาท์เตอร์ สองมือยกขึ้นดันโต๊ะด้านหน้าเอาไว้ กั้นทั้งซ้ายขวาไม่ให้มันออก พร้อมกับกระซิบที่ข้างหู…ดูซิ จะทำอะไรได้
“โอ๊ยยยย เออๆ!” มันกระทืบเท้าสองสามที ส่งเสียงฟึดฟัดขัดใจก่อนที่จะลงมือตักเนื้อให้ผมมากขึ้นจนพูนจาน ประชดเปล่าวะเนี่ย?!
“พูดเพราะๆ ด้วย” ผมเบียดตัวเองเข้าไปให้หนักกว่าเดิม…
“ครับบบบบบบบบบบ ไอ้เฮีย!”
“เก่งมาก เด็กดีต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่อย่างนี้สิ ค่อยน่ารักหน่อย” ผมหัวเราะในลำคอ แล้วหยิบอีกจานยื่นให้มัน
“อะไร?” เจ้าหนูเงยหน้าขึ้นมามองผมแบบงงๆ
“ไม่กินรึไง ตักสิ”
จากสายตาแบบซื่อบื้อพอรู้เรื่องก็รับจานจากมือไปแบบเหวี่ยงๆ น่านนน…มองตาขวางได้อีก มันตักใส่จานตัวเองแบบลวกๆ ผมยังคงยืนดูมันอยู่แบบนั้น แล้วยิ้มให้ตัวเอง… น่ารักจริงๆ ให้ตายเถอะ ผมเริ่มจะเข้าใจและยอมรับแล้วว่าท่าทางตัวเองจะหลงเข้าวังวนไอ้เด็กน้อยเรื่องมากนี่ไม่รู้ตัวซะแล้ว แย่แล้วสิ… เหมือนจะถอนตัวลำบากแล้วเสียด้วย
แต่เรื่องอะไรจะบอกล่ะ… ในเมื่อแกล้งมันแล้วสนุกขนาดนี้
“มองอยู่ได้ จะกินม้ายยยยยยยยยยยยยย” ไอ้มิกกี้หันหน้ามาตะโกนใส่หูผมเต็มๆ จนอื้อไปชั่วขณะ ถึงกับต้องถอยหลังออกมาสะบัดหัวสองสามทีให้คลายความงง มันได้โอกาสรีบหยิบจานข้าวตัวเองวิ่งปรู๊ดไปนอกห้อง นั่งแปะลงบนโซฟาตัวโปรดของผม แล้วหยิบรีโมทเปิดทีวีทันที
“เฮ้ย! อย่าไปนั่งกินตรงนั้น! มานี่!” ผมตะโกนเรียกอีกฝ่ายให้กลับมากินที่ตะในห้องครัว แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือหน้าตายียวนกวนประสาทกับลิ้นยาวๆ ของมัน นั่น…ยกเท้าขึ้นพาดกับพนักพิงอีก ล้างเท้ายังว่ะนั่น!?
ผมได้แต่ถอนหายใจด้วยความหน่าย แต่พอเห็นรอยยิ้มยียวนที่ส่งให้ พร้อมกับท่าตักข้าวเข้าปากยั่ว แล้วก็อดขำไม่ได้… เอาสิวะ อยากเล่นอะไรก็เล่นไป คราวหลังเล่นด้วยแล้วเล่นไม่ออกล่ะจะจ๋อย กรูจะปราบให้หายพยศเลยคอยดู!

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แอร๊ยยยย ตายค่ะตายยยยย เฮียจะจัดการแร้ววววววววววว
อ่อย รูปสุดท้ายกรุ้มกริ่มได้อีก หุหุหุหุ ชอบบบบบ หาเองบ้าเอง 