Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทห้าผมงัวเงียตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมาพอดิบพอดีกับที่เสียงกดออดหน้าห้องดังขึ้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงไอ้วิทย์ไปเปิดประตูและตามมาด้วยเสียงคนคุยกันอยู่ด้านนอก
'ซันอยู่ไหน'
'อยู่ในห้องนอนนู่น มันยังหลับอยู่เลย'
'อืม เดี๋ยวกูไปปลุกเอง'
ตายห่า เสียงไอ้ท๊อปนี้หว่า!! ทำไงดีวะกู จะลุกหนีตอนนี้ก็ไม่ได้ซะด้วย เอาวะ...แกล้งนอนต่อมันเลยแล้วกัน คร้อกกกกก
เสียงเปิดประตูห้องพร้อมเสียงฝีเท้าบ่งบอกว่ามีคนมาหยุดข้างฟูกนอนผม ผมหลับตาปี๋แกล้งหลับต่อ พยายามปรับลมหายใจตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นไม่งั้นเดี๋ยวมันรู้ว่าตื่นอยู่
"ซันครับ ตื่นได้แล้ว"
ซันครับ บ บ... ห๊ะ นั่นชื่อกูเหรอวะ?! เดี๋ยวก๊อนนนนน อะไรมันจะนุ่มนวลขนาดนั้นพ่อคุ๊นนนนน
ผมขยับตัวเปลี่ยนท่านอนหนีมัน แต่ข้างในใจคืออยากจะมุดหนีให้พ้นแต่ก็ทำได้แค่นอนตัวเกร็งอยู่กับที่เท่านั้น สักพักก็รู้สึกถึงแรงยุบของที่นอนจากด้านหลังและตามด้วยมือคนข้างหลังที่คว้าตัวผมเข้าไปกอด
"ซันไม่อยู่ท๊อปนอนไม่หลับเลย"
มันกระซิบเสียงเบาชิดใบหูชวนให้สยิวกิ้ว คำพูดและการกระทำของมันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนจนผมเผลอใจเต้นระส่ำ
"อื้มมมม" ผมแกล้งส่งเสียงรำคาญค่อยๆลืมตามองคนที่ก่อกวนกัน แต่แทนที่มันจะปล่อยแขนออกจากตัวผม มันกลับพลิกตัวเองขึ้นมาคร่อมกักผมไว้ซะงั้น
"ตื่นแล้วเหรอครับ กลับห้องเรากันดีกว่าเนอะ"
เช๊ดดดดดด ยิ้มละลายตับละลายม้ามมากพ่อ ไม่อยากจะยอมรับเลยว่ามันหล่อแต่มันก็ดันหล่อจริงๆแหละ หล่อจนกูแสบตาไปหมดละเนี่ย อ่าวๆ แล้วนั่นมึงจะทำอะไร จะเข้ามาใกล้กูทำไม ออกไป๊!!
"เฮ้ยๆ ถ้าตื่นแล้วก็ลุกไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว มาจู๋จี๋กันในห้องคนอื่นหน้าไม่อายจริงๆเลยพวกมึงนี่"
เสียงไอ้วิทย์มันยืนบ่นทำหน้าเหม็นเบื่อ แต่สำหรับผมคือเสียงจากสรรค์ชัดๆ เพราะไม่งั้นไอ้หน้าวอกมันคงจะเขมือบผมไปแล้วเป็นแน่ ไอ้วิทย์โยนผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้ตรงหน้า ผมเลยได้ทีรีบผลักไอ้ท๊อปที่คร่อมอยู่ออกไปไกลตัวและรีบเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาทันที
"ขอบใจมึงมากนะวิทย์"
ไอ้หน้าวอกหันไปขอบใจเพื่อนผมและเดินจูงมือผมออกจากห้องไปหน้าตาเฉย แต่ก่อนที่ผมจะโดนลากตัวออกไป ไอ้วิทย์มันก็รั้งแขนผมไว้ได้ทัน มันกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
"อย่าลืมคุยกับไอ้ท๊อป" ผมพยักหน้ารับตามคำบอกแม้ใจจริงจะน้ำตาตกในแล้วก็ตาม...มึงไม่คิดจะรั้งกูไว้หน่อยเหรอเพื่อนนนน
.
.
ไอ้ท๊อปมันพาผมกลับมาห้องที่คอนโด มันโถมกายเข้ากอดผมไว้ทันทีหลังจากที่ประตูห้องปิดลง ผมเกือบล้มหน้าคะมำแต่โชคดีที่มีแขนของไอ้ท๊อปรัดผมไว้แน่นพอ
"ซันอย่าทำแบบนี้อีกนะ...อย่าหนีท๊อปไปอีกนะ"
ไหล่กว้างของมันสั่นไหวน้อยๆ อดสงสารมันไม่ได้เลยเผลอลูบแผ่นหลังกว้างเพื่อปลอบใจ ตัวแม่งก็เท่าควายดันร้องไห้เป็นเด็กสามขวบซะงั้น...ผมถอนหายใจปลงตก เอาวะ ไอ้ท๊อปคนนี้มันคนละคนกับไอ้ท๊อปนั่น ลองตามน้ำมันไปก่อนแล้วกันวะ
"เออไม่หนี แล้วก็เลิกร้องไห้ได้แล้ว"
"สัญญากับท๊อปแล้วนะ ท๊อปรักซันนะครับ"
"เอออออ รู้แล้ว ปล่อยกูได้แล้วมันอึดอัด"
"จุ๊บก่อนแล้วจะปล่อย" มันจับผมหมุนตัวให้เผชิญหน้ากันพร้อมกับก้มหน้ามาถูไถแถวซอกคอผมไปมาจนเริ่มขนลุกซู่
"จุ๊บบ้าจุ๊บบอมึงสิ ปล่อย!"
"นะครับ จุ๊บๆก่อน"
ผมยืนกระอักกระอวนทำอะไรไม่ถูกกับคำขอมัน นี่ผมต้องทำแบบที่มันขอจริงๆเหรอวะเนี่ย กูจะอ้วก!!
จุ๊บ!!
เสียงปากกระทบปากดังขึ้น ไอ้หน้าวอกมันจูบผม!! อ๊ากกกกก
สองมือหนาของมันยึดหน้าผมเอาไว้ ก่อนที่มันจะโน้มริมฝีปากเข้ามาขบเม้มปากผมเบาๆ ไม่นานมันก็ผละออกและปล่อยผมให้เป็นอิสระ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของมันแต้มอยู่บนฝีปาก มันเดินเลี่ยงไปทางกล่องใบใหญ่ทั้งหลายที่วางเกลื่อนอยู่
"ซันมาช่วยกันสิ จะได้จัดเสร็จเร็วๆ"
ไอ้ท๊อปหันมากวักมือเรียกผมที่ยังยืนตาค้างอยู่อย่างงั้น ชีพจรในอกซ้ายเต้นระรัวอย่างช่วยไม่ได้ นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย!!!
.
.
แกว้ก ๆ ๆ ... ผมกวาดมือไปมาเพื่อหาต้นตอเสียงน่ารำคาญ คว้ามันมากดปิดได้ก็โยนไปอีกทาง
"ซันนนนน ตื่นได้แล้ว"
เสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังมาจากนอกห้องนอน กลิ่นหอมๆของอะไรบางอย่างโชยมาเตะจมูก แต่ทั้งหมดที่ว่ามานั้นก็ไม่ได้เรียกความสนใจของผมได้มากกว่าที่นอนนุ่มๆที่นอนอยู่ตอนนี้
"ตื่นได้แล้วไอ้ขี้เซา เดี๋ยวไปเรียนสายนะ"
มืออุ่นๆของไอ้คนที่ส่งเสียงน่ารำคาญไม่แพ้เสียงนาฬิกาปลุกกำลังยีหัวผมเหมือนลูบขนหมาก็ไม่ปาน
"ฮื้มมมม จะนอน" ผมบ่นพึมพำเอาผ้าห่มมาคลุมโปงหนี แต่ยังไม่ทันจะได้หลับต่อดีไอ้หน้าวอกมันก็แหกปากแทรกขึ้นมา จนผมต้องตะกายลุกจากเตียงในทันที
"ถ้าไม่ลุกกูจะปล้ำมึงเดี๋ยวนี้แหละ ไม่ต้องไปมันแล้วมหาลัยน่ะ!!"
"เออๆลุกแล้วโว้ย อย่าแม้แต่จะคิดนะมึง"
ผมชี้หน้าคาดโทษมันทั้งที่ยังเมาขี้ตา นอนก็แทบไม่หลับเพราะมึงคนเดียวเลย แม่งนอนกอดกูทั้งคืนจนกระดิกตัวไปไหนก็ไม่ได้ไม่รู้จะกอดอะไรนักหนา กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เล่นเอาเกือบเช้า ง่วงชิบหาย!!
"ลุกแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่า จะได้มากินข้าวก่อนไปเรียน"
มันพูดสั่งปาวๆขณะทำตัวเป็นแม่ศรีเรือน ยิ่งมันใส่ผ้ากันเปื้อนลายหวานแหว๋วแม่งยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่ มันเดินมาเก็บหมอนและผ้าห่มที่ผมเพิ่งลุกขึ้นเมื่อกี้ให้เรียบร้อย
"แม่งบ่นอย่างกับแม่เลยวุ้ย!"
ผมบ่นขึ้นขณะถือผ้าขนหนูเดินเข้าไปอาบน้ำ ได้ยินเสียงแว้ดๆของไอ้หน้าวอกไล่หลังแล้วอยากจะหยิบฝักบัวเขวี้ยงใส่หัวมันแทน!!
"ไม่ใช่แม่แต่เป็นผัวเว้ย!"
.
.
ผมกับไอ้ท๊อปมาถึงมหาลัยในช่วงเก้าโมงครึ่ง มันจอดรถที่หน้าตึกเรียนของคณะ ซึ่งสภาพมหาลัยของที่นี่นั้นไม่ต่างกับมหาลัยที่ๆจากมาซักกะนิด
"ตอนพักกลางวันเดี๋ยวท๊อปโทรหานะ จะได้ไปกินข้าวด้วยกัน"
"มากินด้วยทำไม? มึงก็ไปกินกับเพื่อนมึงสิ"
"พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ" มันทำโทษด้วยการดึงปากผมจนยืดจนกลายเป็นปากเป็ด
"มันเจ็บนะเว้ย!" ผมปัดมือมันทิ้ง จะให้กูพูดกระหนุงกระหนิงกับมึงก็คงไม่ใช่เรื่องมั้งไอ้นี่!!
"เจ็บสิดีจะะได้ไม่ต้องพูดอีก แล้วคนเป็นแฟนกันเขาก็ต้องไปไหนมาไหนด้วยกันเปล่าวะซัน"
นั่นไง มาอีกละ ไอ้โหมดงอนแล้วทำหน้างอๆใส่ของมันเนี่ยะ คิดว่ามันน่ารักน่าชังหรือยังไงวะ เห็นทีไรอยากจะทุบมันทุกที
"เฮ่อ แล้วแต่มึงละกัน กูจะไปเรียนแล้ว"
ผมตอบมันไปส่งๆจะได้จบเรื่อง ไม่งั้นมันก็งอนอยู่แบบนี้ล่ะ ผมมองหน้าไอ้ท๊อปที่ยกยิ้มพอใจกในคำตอบ มือซ้ายมันเอื้อมมาลูบหัวผมเล่นก่อนที่จะรั้งหัวผมเข้าไปประกบฝีปากอย่างดูดดื่มแทน
"อื้อออ!! ไอ้-เ" โอยยยยย ให้กูได้ด่าก่อนได้มั้ยวะเนี่ยะ ดูดเอาๆอยู่นั่นแหละ!!!
มันเปลี่ยนตำแหน่งจากปากมาที่ต้นคอผม ดูดดึงตรงนั้นแรงๆจนเจ็บแปล๊บ ผมกระชากหัวที่จัดแต่งทรงไว้เนี้ยบของมัน มันอุทานร้องเสียงหลงแต่กลับไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไรแถมยังยิ้มกรุ้มกริ่มให้อีกตั้งหาก
"อ้ะ ไปได้" มันโน้มตัวมาเอื้อมเปิดประตูรถฝั่งผมให้ มือหนาผายออกเชิญผมให้ลงจากรถ
ห๊ะ แบบนี้ก็ได้เหรอวะ!! ผมลงจากรถด้วยอาการงุนงงจนลืมเรื่องที่ถูกจูบไป เดินตรงไปยังม้านั่งใต้ตึกคณะที่มีเพื่อนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ไอ้วิทย์มองเลยด้านหลังผมไปยังรถยนต์ของไอ้ท๊อปที่เพิ่งออกตัวไปเมื้อกี้
"หน้ามึงดูมีคำถามนะ"
"คุยกันแล้ว?" มันเลิกคิ้วถามด้วยความอยากรู้ แต่ก็เปลี่ยนเป็นถอนหายใจแทนเมื่อคำตอบของผมมีเพียงส่ายหน้าให้มันเท่านั้น
"กูก็นึกว่าคุยกันแล้ว เห็นจู๋จี๋กันในรถตั้งนานสองนาน"
"พูดไปเรื่อย ใครมันจะไปจู๋จี๋กับไอ้นั่นกันวะ"
"มึงไม่เห็นสภาพตัวเองเลยสินะ คอแดงเป็นปื้ดยังบอกว่าไม่ได้จู๋จี๋อีก"
นิ้วมันจิ้มมาบริเวณผิวเนื้อที่ปกเสื้อนักศึกษาดันปิดไม่มิด ผมรีบตะครุบคอเสื้อตัวเองไว้แน่นจนไอ้วิทย์ยิ้มล้อ
"มอร์นิ่งคุณเพื่อนนน" ไอ้จั๊ดที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้แหกปากทักพวกผมจนสะดุ้งโหยงกันเป็นแถบ
"ไรของพวกมึงวะ ทำขวัญอ่อนกันไปได้"
"ไอ้ห่านี่ โผล่มาไม่ให้สุ่มให้เสียงกูก็ตกใจมั้ยวะ"
"แหมๆ ตั้งแต่มีผัวนี่แต๋วแตกนะมึง"
"ไอ้สัดจั๊ด เดี๋ยวกูถีบปากแตกเลย"
"ฮ่าๆๆๆ...อุ้ยๆ ที่คอนั่นอะไรอ่าตัวเองงง กี้วๆ"
"กี้วๆบ้านมึงสิ!!" ผมถกแขนเสื้อเตรียมไฝ้วกับมันเต็มที่ แต่ก็ถูกไอ้วิทย์ลุกขึ้นมาห้ามทัพเสียก่อน
"พอเลยพวกมึง จะไปเรียนมั้ยหรือจะแดกหัวกันอยู่ตรงนี้ กูจะได้ขึ้นไปก่อน"
"เออ ไป!!"
ผมกับไอ้ห่าจั๊ดประสานเสียงก่อนจะวิ่งกันตัวปลิวตามหลังไอ้วิทย์ไปติดๆ
.
.
จ๊อกกกกก...
"หิวข้าวเว้ยยยย ในที่สุดก็ถึงเวลาพักเที่ยงที่รอคอย" ไอ้จั๊ดยกแขนลูบหน้าท้องที่ร้องโจ้กจ้ากเพราะน้ำย่อยในกระเพาะเริ่มกำลังทำงาน
"ไปดิเพื่อน จะรออะไรล่ะ"
ผมคว้าคอไอ้จั๊ดกับไอ้วิทย์มากอด พากันมุ่งหน้าไปที่โรงอาหารของคณะทันที... เอ เหมือนผมจะลืมอะไรไปสักอย่างเลยหว่าาา แต่ช่างมันเต๊อะ
ณ โรงอาหาร
"โทรหาทำไมไม่รับ?"
ผมชะงักช้อนที่กำลังตักข้าวเข้าปาก มองใบหน้าหงิกงอของไอ้ท๊อปที่ยืนตัวสูงชะลู่อย่างกับยักษ์ปักหลัก มันแทรกตัวลงมานั่งคั่นกลางระหว่างผมกับไอ้วิทย์ทั้งที่ฝั่งไอ้จั๊ดนั่งก็ยังว่างอยู่แท้ๆ ไอ้วิทย์ที่ตัวเล็กกว่ามันมากแทบกระเด็นตกจากเก้าอี้ มันเลยจำใจลุกเดินไปนั่งข้างไอ้จั๊ดแทน
ตัวแม่งก็ใหญ่อย่างกับยักษ์ ยังกล้ามานั่งแทรกกลางพวกกูอีกนะ เฮ่ออออ
"ตกลงทำไมไม่รับสาย"
อ่ออออออ มันนี่เองที่ผมลืม
"ก็ไม่ได้ยินเสียงนี่หว่า...เอาน่าๆ ไหนๆก็เจอกูแล้วเลิกทำหน้าขี้ไม่ออกสักทีเถอะ นี่กูแบ่งข้าวให้เลยนะ เลิกงอนได้แล้ว"
ผมเลื่อนจานข้าวผัดกระเพราไข่ดาวตัวเองที่เพิ่งจ้วงได้แค่คำเดียวไปให้ตรงหน้ามัน เพื่อหวังให้มันอารมณ์ดีและเลิกทำหน้าเป็นตูดซักที เห็นแล้วรำคาญลูกตามากๆ
"ขอบคุณนะครับ"
กรี๊ดดดดดดดด!! เสียงกรี้ดกร้าดลั่นโรงอาหารเมื่อไอ้หน้าวอกที่ยิ้มจนแก้มปริหันมาหอมแก้มผมท่ามกลางนักศึกษานับไม่ถ้วน ดวงตาผมเบิกกว้างแทบถลน ไม่คิดว่ามันจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าประชาชีทั้งหลาย ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนทั้งสองที่ทำตาเล็กตาน้อยล้อเลียนผมกันใหญ่
"ทำห่าอะไรของมึงเนี่ย หน้าไม่อาย!!"
ผมก่นด่ามัน มือก็ถูที่แก้มด้วยความอายปนขนลุก แต่ไอ้ท๊อปกลับลอยหน้าลอยตาตักข้าวในจานกินอย่างสบายใจเฉิ่ม...หนอยยยย ไอ้หน้าวอก ไอ้หน้าปูซีเมนต์!!!
"มึงอายอะไรของมึงวะ กูเห็นปกติมึงก็สมยอมตลอด แทบจะสิงกันตลอดอยู่แล้ว"
"มึงอย่ามามั่วไอ้จั๊ด นี่มันในมหาลัยนะเว้ย"
"โอ้ยยยยย พวกมึงสองคนเคยสนที่ไหน แถมคนทั้งมอเขาก็รู้ๆอยู่ว่าพวกมึงเป็นแฟนกัน"
"ห๊ะ!? มะ มึงว่ายังไงนะ ...ทะ ทั้งมหาลัยเลยเหรอ"
ผมหันไปมองไอ้วิทย์และไอ้ท๊อปที่พร้อมใจกันพยักหน้ารับ ยืนยันว่าไอ้จั๊ดฉายยาปากสว่างนั้นพูดความจริงทั้งปวง
ผมแทบจะมุดแผ่นดินหนี ไม่นะ แล้วแบบนี้ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้ ไอ้ซันรับบ่ด้ายยยยย!!
'******************************************
มีหลัวขี้อ้อนก็ต้องทำใจหน่อยนะจ๊ะน้องซัน
