บทที่หนึี่ง ร้ายฝึกหัด
VILE! DO I?-หน้าเป็นมิตรจิตแอบร้าย!
"เกลียดนัก! ฉันเกลียดแก ...ฮือๆ ...ทำกับฉันอย่างนี้ได้ไง ทำได้ยังไง เลว! เลวมาก! แกทำลายความไว้ใจฉัน...แก" เสียงแหลมแผดดังสนั่นภายในห้องคอนโดมีเนียมขนาดมาตรฐานเหมือนขังคนไว้ในระฆังใบใหญ่ที่มีใครสักคนกระหน่ำตีอยู่ด้านนอก มือเรียวกระหน่ำทุบตีชายหนุ่มหน้าใสสูงสล้างลำตัวบางเหมือนหนุ่มไอดอล ฝ่ามือพุ่งปะทำเขาใส่ใบหน้าไม่ยั้งโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาปัดป้องพันละวัน อีกทั้งความคมของเล็บสีสวยที่ถูกแต่งอย่าดูดีฝากรอยขีดข่วนจนแสบร้อนตามผิวหนังจนดวงตาทั้งสองข้างเอ่อชื้นด้วยน้ำตา ผลของแผลเหล่านั้นแสบๆ เจ็บๆ คันๆ แต่ยังทนได้ครั้นจะให้ตบตีผู้หญิงโต้ไปดูจะใช้พละกำลังเกินเลยใครรู้เข้าจะเป็นข้อติฉินนิทาเขาได้ ความเกรียวกราดโมโหโธโสถูกปลอดปล่อยผ่านมือทั้งสองนานหลายนาที หญิงสาวที่คงจะเคยดูดีแต่ตอนนี้ใกล้เคียงกับคนบ้าไร้สติควบคุมตัวเองอย่างไงอย่างงั้น
"อะไรกันครับพี่! หยุดทำร้ายผมซักทีได้ไหม พูดกันให้รู้เรื่องก่อน" หนุ่มรุ่นน้องพยายามใช้น้ำเสียงสุขุมเข้าปลอบอารมณ์และดึงสติหญิงรุ่นพี่
"ฮือ ฉันต้องพูดอะไร ถามตัวแกเองสิ โปรเจคฉันแกเอาไปอย่างหน้าด้าน ๆ ยังมีหน้ามาตีหน้าซื่อถามฉันว่าทำอะไรอีกเหรอ"
เปรี๊ยะ! ฝามือเรียวเล็กฟาดมาหนักๆ บนใบหน้าจนชาไปครึ่งหนึ่ง เมื่อได้โอกาสเด็กหนุ่มรุ่นน้องกำลังอึงกับความเจ็บฝ่ามือเดิมก็ได้ฟาดไปบนใบหน้าอ่อนเยาว์วัยกอีกครั้งอย่างเต็มแรง รอยแดงเต็มรูปฝ่ามือประทับอยู่บนใบหน้าทั้งสองข้างอย่างไม่ต้องสงสัย
"ระยำนัก...รุ่นน้องที่ฉันไว้ใจ" มือบางพลักชายร่างสูงกว่าล้มลง แล้วค่อมทับโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกคนได้ต่อต้าน
"นี่คือความรู้สึกของฉัน" คนอารมณ์ร้ายระดมมือตบและตีทั่วตัวมัวไม่หมดตีได้ตี ตบได้ตบ หมัดลอยไปกระทบร่างกายหลายแห่ง
รู้สึกเจ็บปวดเหรอ...ไม่เลย คนที่เจ็บปวดไม่ใช่ผมแน่นอน คนโดนสารพัดมือและหมัดบัดออกทันบ้างปล่อยให้โดนบ้างบางส่วนที่เห็นพ้นเสื้อผ้า หน้าตาเด็กหนุ่มไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับหญิงอารมณ์ร้อนเป็นไฟคนนี้
"ทำอะไร! หยุดนะ! หยุดก่อน!" ร่างสูงใหญ่เปิดประตูออกมาจากห้องที่น่าจะเป็นห้องนอนของเจ้าของห้องในขณะ เหตุเพราะกมลออกมาคุยด้านนอกนานเกินไปและเสียงผู้หญิงที่เอะอะโอยวายเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยดี
"ใครอีกล่ะที่แกจะไปสวมงานเขาอีก ขอฉันดูสิ...?" สาวรุ่นพี่สติหลุดหันขวับมายังต้นเสียงของชายหนุ่มผู้เข้าร่วมปาร์ตี้คนใหม่ ร่างของเธอถูกยกให้ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจากที่นั่งคล่อมร่างไร้ทางสู้เบื้องล่างด้วยกำลังแขนกำยำ
"อเดล! คุณทำอะไรน่ะ" มือหนารีบเดินไปฉุดผู้หญิงที่นั่งคร่อมเพื่อนร่วมสายงาน เตรียมพร้อมจะทำร้ายคนเบื้องล่างได้ทุกเวลา ทั้งที่อีกฝ่ายอยู่ในท่าเสมือนไร้ทางสู้ให้แยกออกมา
"คุณ! นี่มันอะไร? บอกสินี่มันอะไร? บอกสินี่มันบ้าอะไร!" เมื่อหญิงสาวได้เห็นใบหน้าชายที่โผล่หน้าออกมาจากห้องรุ่นน้องคนเคยสนิทความมึนงงสับสนประสมประสานการถูกหักหลังความรู้สึกมากล้นที่มีนั้นแสดงออกทางสีหน้าแทบจะทันที
‘โดนสวมเขา’...แฟนหนุ่ม รุ่นน้องคนสนิท ห้องของรุ่นน้องสารเลวนี่ ไม่มีคำพูดไหนดังกว่าประโยคนี้สะท้อนอยู่ในหัว
"ใจเย็นก่อนมันไม่มีอะไรทั้งนั้น เมื่อคืนผมเมากลับบ้านไม่ไหวเลยนอนที่นี่" เหมือนบุคคลที่สามจะรู้ดีว่าเขาเองทำให้สถานการณ์ดูแย่ขึ้นไปอีก
"เมากลับบ้านไม่ไหว" หญิงสาวหันควับไปยังชายเดินโซเชพึ่งลุกขึ้นยืนได้ เล็บได้รูปสวยที่บรรจงตัดแต่งไว้อย่าดีฉีกขาดจนปาดลึกไปถึงผิวข้างของขอบเล็บ เธอจงใจกระชากเสื้อเชิ้ตของหนุ่มหนุ่มใบหน้าชวนมองจนกระดุมกระเด็นหล่นกระจายลงบนพื้น
แคว๊ก! เสื้อผ้าเหมือนเป็นใจให้มือเรียวๆ ไร้แรงมากนักกระชากขาดได้โดยง่าย ร่างเพรียวสมส่วนผิวสีน้ำผึ้งสะท้อนแสงยามเช้าตรู่น่ามองจนหญิงสาวหมั่นไส้อยากกระชากแขนขาทิ้งให้หายไปจากสายตา
"เหรอ? แล้วนี่อะไร มดกัด? หมาขบ!" ดวงตากลมโตของฝ่ายหญิงสาวที่มองกลับมาหาคำตอบพร้อมด้วยคำพูดเผ็ดร้อน จนทำเอาชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักถึงกับอธิบายไม่ถูกเพราะเขาเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ตัวเองก็ยังตกใจกับร่องรอยบนแผ่นอกบางนั่นเช่นกัน
"ผม...นี่คุณหยุดแว๊ด ๆ เป็นคนไร้สาระสักทีได้ไหม!" ด้วยความหงุดหงิดและอาจด้วยอีกหลายสาเหตุที่ตัวเขาเองก็ยังสับสนและหาคำอธิบายไม่ได้ทำให้เผลอตวาดกลับไป แต่กว่าจะรู้ตัวใบหน้าซีกหนึ่งก็ชาดิกจนเขาเองไม่ทันจะได้พูดอะไรออกไป
เปรี๊ยะ!พลัก!! ฝ่ามือบางร่วมกับหมัดน้อย ๆ ลอยมากระทบแก้มและมุมปากอย่างพอดีพอดีบนแก้มทั้งซ้ายและขวานี่เป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้มึนงงที่สุดในรอบหลายปี
"ถ้าคิดว่าทุกอย่างที่คุณกับไอ่เลวระยำนี่ทำกับฉัน มันไร้สาระคุณมันก็ควาย! รอโดนสวมเขา!ได้เลย"
"อเดล!!" เสียงแข็งตวาดกลับจนหญิงสาวถึงกับชะงักพยัคฆ์ไม่เคยขึ้นเสียงใส่เธอ เพราะมันใช่มั้ย... เพราะไอ้เด็กวานซืนชื่อกมล ที่มีเชื้อชาติเดียวกันใช่ไหมอะไรๆ ถึงเชื่อมติดกันได้ง่าย!
"ทำไม...โครงการของฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันคิดและทำมากับมือ โดนคนหน้าด้านโกยผลประโยชน์เชิดเอาทั้งตำแหน่งการงาน และความทุ่มเทไปต่อหน้าต่อตา อ๋อ! หรือคุณสมรู้ร่วมคิดกัน" หญิงรุ่นพี่ไม่เหลือสติที่จะควบคุมความอดทนของตัวเองรัวคำพูดมากมายร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธ
มาถึงตอนนี้จะให้เธอคุมตัวเองคงทำได้ไม่ง่ายนัก เมื่อตื่นมาตอนเช้าต้องพบกับคำสั่งระงับโปรเจคชิ้นสำคัญของตัวเอง และเป็นงานชิ้นเอกของบริษัทพร้อมกับข้อความสั้น ๆ ในอีเมลล์ แม้แต่จะสื่อสารกันทางคำพูดก็ไม่มี ทิ้งไว้เพียงข้อความที่เข้าใจได้เพียงว่า โครงการนี้ได้ถูกระงับ จงพาตัวออกจากโปรเจคนี้ไป...(
เขาก็ไม่ได้พูดแบบนั้นนะแม่คูณใจเย็นหน่อยค้าเดี๋ยวผู้ชายหายหมดฟาดงวงตีงาไปทั่วแบบนี้) 'เราได้โปรเจคใหม่ที่เหมาะสมและมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำไปใช้ได้จริงและทันทีดังนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้ คุณกมลรองหัวหน้าโปรเจคจะรับงานต่อจากนี้เป็นต้นไป เรามีงานโปรเจคใหม่ให้คุณอเดลได้รับช่วงต่อโปรดเข้าประชุมโปรเจคในวันจันทร์หน้าเวลาตามนัดหมายด้วย’ ข้อความทั้งหมดคงจะไม่อารมณ์เดือดขนาดนี้ ถ้าคนคุมโปรเจคคนใหม่ไม่ใช่รุ่นน้องที่ตัวเธอตัดสินความไว้เนื้อเชื่อใจด้วยคำพูดง่าย ๆ ว่าถูกชะตาทำให้เธอให้ความไว้วางใจมากกว่าคนวิจัยร่วมคนอื่น ๆ
"โครงการนั่นเป็นของกมลจริง ผมกับเขาคุยกันก่อนหน้าคุณมาก่อนแล้ว" เมื่อพยัคฆ์ต้องการจะอธิบายแต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ตั้งใจฟังอะไรต่อมิอะไรได้อีกต่อไปแล้ว
"เหรอพยัคฆ์ ก่อนหน้าที่มันจะเข้าแผนกหรือเปล่าคุณคุยกับมันก่อนฉันเป็นแฟนคุณหรือเปล่า"
"ใจเย็นก่อนได้ไหม" ชายหนุ่มพยามใช้น้ำเย็นเข้าลูบเพราะอีกคนเดือนพล่านยิ่งกว่าองศาของน้ำร้อน
"ใจเย็น?...หึ!...เล่นรักกับเพศเดียวกันจนสมองฝ่อสินะ!"
เปรี๊ยะ! มือผู้ชายตบเบาแค่ไหนเมื่อโดนหน้าผู้หญิงสักคนหนึ่งสร้างความเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจอีกทั้งความอับอายโหมเข้าใส่จนอยากจะหนีไปให้พ้นจากตรงนี้ แต่ปากไวด้วยความโกรธสุดจะห้ามไว้ได้ให้อยู่แค่ในความคิดได้เธอไม่เสียใจที่พูดมันออกมา
"พี่ยัค!" กมลถึงกับตาค้างกับเหตุการณ์ที่ได้เห็นตรงหน้า
"ผมขอโทษ" มือหนาพยายามรั้งร่างของหญิงสาวมาสวมกวดแทนคำขอโทษ แต่อีกฝ่ายเบี่ยงตัวออกห่างจากท่อนแขนแข็งแกร่ง ชายหนุ่มที่เคยอบอุ่นอ่อนโยนกล้ายกมือตบหน้าเธอเพราะรุ่นน้องตัวร้ายนี่
"อย่าเลย...เก็บคำขอโทษคุณไว้เก็บเอาไว้โทษตัวเองแล้วกัน" หญิงสาวกล่าวจบก็ผละหนีไปไม่เหลือเยื้อขาดใย
ช่วงเวลาเหมือนหยุดชะงักให้พยัคฆ์ตกอยู่ในห้วงความคิดตัวเอง เขาควรวิ่งตามไปปรับความเข้าใจหรือรอให้อเดลใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยเข้าหาพูดคุยเรื่องวันนี้อีกครั้ง
หรือเขาควรปล่อยให้แฟนตัวเองเดินจากไปแล้วความสัมพันธ์เป็นอันสิ้นสุด...หรือเขาควรอยู่ที่นี่เพราะร่องรอยพวกนั้นบนร่างกายกมล เขาควร....
"พี่ยัค" น้ำเสียงแผ่วเบากับความเบาหวิวด้วยฝ่ามือบนแผ่นหลังกว้างเรียกสติเขาให้กลับมา เพื่อนร่วมงานร่างเล็กขานชื่อเรียกแบบสั้นๆ มีเพียงกมลเท่านั้นที่เรียกเขาด้วยชื่อนี้
"ฉันกลับก่อนแล้วกัน" ชายหนุ่มผู้เป็นต้นเหตุทะเลาะวิวาทให้ใหญ่โตไปอีกขอตัวหลบจากสถานการณ์ตรึงเครียดเรื่องนี้ไปก่อน
"ผม...ผมขอโทษ" น้ำเสียงตะกุกตะกักผลุบหายเข้าไปในลำคอยิ่งทำให้คนฟังเหมือนตัวต้นเหตุให้คนร่างบาง ต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้
"อย่าคิดมากน่ะ ...ผมไปก่อนนะ เรื่องโปรเจคน่าจะเข้าบอร์ดวันจันทร์ ผมว่ากลมคงโชคดีอย่างน้อยก็กว่าวันนี้" รอยยิ้มจริงใจปรากฏเด่นชัดอยู่บนริมฝีปากหยักน่ามอง
"พี่ยัค...ถ้ารุ่นพี่คิดว่าผมเอาโปรเจคไปก็ให้พี่เขาทำต่อเถอะครับ"
"อย่าคิดมากน่า ผมกับอเดลคุยเรื่องนี้กันก่อนจริงและความจริงที่ว่าของกลมดีกว่าของอเดลเป็นเรื่องจริง ไม่ต้องคิดมาก ไว้เจอกันที่แผนก" มือหนาประคองไหล่บางที่สั่นน้อย ๆ คล้ายกับจะปลอบใจว่าไม่มีอะไรมากอย่าพึ่งกังวลไป
พยัคฆ์เป็นหัวหน้าแผนกระดับสูงรวมทั้งเป็นที่ปรึกษาหลากหลายโครงการของบริษัท รุ่นพี่อาวุโสเรียกเพื่อนร่วมงานที่เข้ามาทีหลังอย่างสนิทสนมจากกมลเป็นกลม เพราะแก้มยุ้ยๆ น่าฟัดทั้งสองข้างของเจ้าตัว กมลเข้ากับคนได้ง่ายเข้ากับใครก็ได้ไม่สร้างปัญหาและมักทำตัวหน้ารักแต่เรื่องงานถึงไหนถึงกันทุ่มเทตั้งใจจริงจัง
"พี่ยัคเลือด!" นิ้วเรียบทาบลงบนมุมปากอย่างแผ่วเบาให้ผิวเนื้อซับรอยเลือดให้จางจากรอยแผลแตก ความร้อนผ่านปลายนิ้วมือปะทะความเจ็บปวด จนเกิดเป็นความรู้สึกแปลกใหม่จนคนถูกสัมผัสต้องยืนแข็งเกร็งตัวไม่ให้กระดุกตระดิกไปไหน
"?" ดวงตาสุขสกาวเหมือนแมวน้อยจ้องไม่กระพริบเมื่อพยัคฆ์อยู่ดีๆ ก็ตัวแข็งทื่อกระทันหัน
"เอ่อ! ไม่เป็นไร หน้าน้องกลมก็.." มือของพี่ร่วมงานประคอมหน้าตาจิ้มลิ้มที่มีรอยแดงเป็นปื้นทั้งสองข้าง
"ไปเคลียร์เรื่องของพี่สองคนก่อนดีกว่าครับ" กมลเบี่ยงตัวหนีสัมผัสที่คาดว่าอ่อนโยนบนฝ่ามือนั่น ไม่อยากคิดไกลทุกอย่างต้องรู้จักขอบเขตอยู่ในลิมิตเดินสายกลางแล้วจะไม่เจ็บปวด
"ไปนะแล้วเจอกัน อย่าลืมทายาด้วย" เมื่อคำสั่งสุดท้ายสิ้นสุดชายหนุ่มตัดสินใจกลับเข้าไปเก็บกระเป๋าและเสื้อนอกที่เจ้าของห้องเตรียมไว้พร้อมบนโซฟา เพื่อนร่วมงานกลมบอกเขาว่าเมื่อคืนมาโดยรถแท็กซี่ส่วนรถของเจ้าตัวจอดไว้ที่สถานีรถไฟใกล้กับคลับที่กลุ่มของพวกเขาไปดื่มสังสรรค์กัน กุญแจรถถูกยื่นให้เขารับไว้แล้วจากไปด้วยใบหน้าครุ่นคิดและสับสน
คลิ๊ก!! เสียงประตูแนบสนิทตามระบบคีย์การ์ดทุกสรรพนิ่งสนิทยกเว้น... "หึ..ฮ่ะๆ ...ฮ่าๆ" กมลส่งเสียงหัวเราะที่อดกลั้นไว้นานรอให้การละครเรื่องนี้จบไปเสียก่อนเขาจะได้ระเบิดความสะใจได้อย่างเต็มเสียง
“ฉันเกลียด! เกลียดแก” เสียงเล็กเสียงน้อยทำน้ำเสียงและท่าทางล้อเลียนอเดลพนักงานสาวรุ่นพี่ที่โดนปั่นจนหัวหมุน(แกมันร้ายนายกมล)
"ใครใช้ให้มารักผมไม่ทราบ? ไม่เคยขอ! ทำเองทั้งนั้น!" (ต๊าย!ฉันเป็นอเดลฉันจะฟาดก้นแก)
มือเรียวถอดเสื้อเชิ้ตประกอบฉากออก ทายาบาง ๆ บนรอยช้ำสีแดงตามแผงอกบรรเทาอาการอักเสบของผิวหนังรู้สึกพอใจกับรอยบนเนื้อตัวเองถึงจะเจ็บแต่มันก็สุดคุ้ม
เขาใช้น้ำยาเช็ดเครื่องสำอางลบรอยจ้ำแดงรอยปื้นยาวออกช้าๆ จนเผยผิวสีน้ำผิ้วสวยหาได้มีรอยตำหนิใดๆ จากการกระทำรักๆ ใคร่ๆ
ตากลมโตมองไปยังเตียงนอนที่ยับย่นยู่ยี้ อยากให้เข้ามาดูอุปกรณ์ประกอบฉากชิ้นนี้จัง เสียดายที่อุตส่าห์รื้อผ้าคลุมจัดร่องรอยการนอนจนสภาพเหมือนผ่านศึกรักชิงสวาทมาร่วมค่อนคืนแต่กลับไม่ได้ใช้
กมลนั่งทรุดตัวอยู่ตรงปลายเตียง เอียงคอมองตรงไปข้างหน้าไร้การจัดจดต่อสิ่งใดเป็นพิเศษ เขากำลังคิดหลักฐานที่เขาสร้างขึ้นมาหลักล้างถ้าพี่อเดลไม่ยอมเลิกลาหาเหตุต่างๆ มาคัดค้านเขา...โครงการนั่นจะทำยังไงให้เป็นของเขาโดยสมบูรณ์! สะอาดไร้ราคีไม่ให้ใครมานินทาลับหลังว่าเขาขโมยงานรุ่นพี่มาเป็นของตน
“แซมเพื่อนรัก กมลเองนะ” เขาโทรหาชายข้ามเพศเพื่อนสุดรัก กรอกความต้องการให้เพื่อนตัวดีไปปลอบใจรุ่นพี่สาวสุดสวยสายหวานที่เจ้าตัวหมายตาไว้ จะให้เพื่อนมันขุดทองคงไม่ได้เร่งให้มันเจาะเขื่อนให้น้ำกระจายไปเลยจะเข้าท่ากว่า (อุ้ยอินายน่าตีจริงๆ)
‘ร้ายนักนะเจ้าตัวแสบ ระวังเจอตอกระทุ้งจนจุกร้ายไม่ออกแล้วกัน’ เพื่อนปลายสายตักเตือนด้วยความหวังดีแต่ก็ขอบใจที่หาโอกาสเปิดทางให้เขาได้จังหวะดีๆ เหมาะเจาะแบบไม่เจาะจงจะได้ทำความรู้จักอย่างสนิทใจเสียที ไม่ต้องระวังแฟนเจ้าตัวจะดักต่อยจนต้องคอยพกอาวุธไว้ป้องกันตัว
ร่างบางปล่อยโทรศัพท์หลุดจากมือไปกองบนที่นอน นั่งทบทวนเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อคืนยันตอนเช้าอีกครั้ง และจัดการห้องนอนตัวเองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยจัดเก็บเครื่องดื่มที่ประเคนให้พี่ยัคกรอกเข้าปากเรียกว่าแบบไม่หยุดให้หายใจ คนตัวใหญ่ท่าจะชอบให้เขาประจบประเจง
"บ้ายอชะมัดจะหาเมียยังไงก่อนคออ่อนแบบนี้!" เขาหันไปมองกองกระป๋องเบียร์ที่มีอยู่ครึ่งโหลแค่นั้นแต่พี่ยัคเมามาก่อนแล้วยังจะมาต่อเบียร์กับเขาได้อีกก็ไม่น่าคออ่อนสินะ หรือมันยังไง?
กมลกระเด้งตัวเดินไม่ดูหยิบยาเคลิ้มที่ได้มาจากเพื่อนที่โต๊ะข้างเตียงออกมาพิจารณาหลังจากใช้ไปแล้วสองสามหยด คนที่ถูกว่างยาไม่ใช่คนอื่นไกล เขาใช้มันกับพี่ยัคผู้เป็นทั้งหัวหน้างานและพี่ที่แสนดีในที่ทำงานสุดเคร่งเครียดที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน
ไม่มีอันตรายไม่ใช่สารเสพติดที่เป็นตัวยาที่ทำให้เคลิ้มสนุกไปกับเสียงเพลงและเรื่องอย่างว่าของคนชอบปาร์ตี้ แปลกจัง...เมาเหล้าแต่ดื้อยามีคนแบบนี้ด้วย!
TBC... น้องกลมของเราร้ายใช่ไหมล่ะ
ฝากติดตามตอนต่อไปนะคะทุกคน ตอนนี้กำลังจัดการกับนิยายแฝดอัพทีสองเรื่องงานหนักเหลือเกิน