Road To แม่กำปอง
------------------------------
ที่ห้องเรียน
ผมนั่งเปิดหาข้อมูลของหมู่บ้านแม่กำปอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองอีกสักนิด ความจริงผมอ่ะก็พอรู้เรื่องราวคร่าวๆของหมู่บ้านแม่กำปองแห่งนี้มาบ้างแล้ว ว่าเป็นหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา มีลำธาร ธรรมชาติที่สวยงาม ชาวบ้านมีอาชีพทำไร่ชา ใบเมี่ยง จนเริ่มมีคนที่ชื่นชอบธรรมชาติและหลงเสน่ห์หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้มาท่องเที่ยวกันมากขึ้น ชาวบ้านก็ริเริ่มจัดตั้งกลุ่มโฮมสเตย์ ทำที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ ไว้รองรับนักท่องเที่ยว จนกลายเป็นรายได้หลักของชุมชน ใช่ครับ "โฮมสเตย์" คือสิ่งที่ผมสนใจ และอยากให้หมู่บ้านแม่กอดมีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวแบบนั้นบ้าง ผมจึงต้องไป...แม่กำปอง
"ว่าไง ไอ้ธารา มึงจะบอกกูสองคนได้หรือยังครับว่าจะส่งโครงงานเรื่องอะไร" ไอ้โทนมายืนเอาแขนท้าวโต๊ะพร้อมกับก้มหน้ามาถามผม
"อ่ะนี่ พวกมึงเอาไปอ่านกันเอง" ผมยื่นสมุดที่จดรายละเอียดคร่าวๆเกี่ยวกับโครงงานที่จะนำเสนอคุณครูให้ไอ้โทนไอ้ทิวไปอ่าน
"ห้ะ แม่กำปอง" พวกมันสองคนส่งเสียงขึ้นมาพร้อมๆกัน แล้วก็มองหน้าผม ที่นั่งเต๊ะท่าหมุนปากกาเล่นอยู่ตรงหน้ามัน
"อืม ใช่ กูว่าจะทำเกี่ยวกับเรื่องโฮมสเตย์ เพราะฉะนั้น พวกเราต้องไปแม่กำปอง"
"นี่มึงทำไมไม่ทำเรื่องง่ายๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านเราวะ ไม่ต้องไปไหนไกล" ไอ้ทิวบอกผม
"ออกไปเปิดโลกบ้างเหอะมึงอ่ะไอ้ทิว มึงจะเป็นลูกแหง่ติดบ้านแบบนี้ตลอดเวลาไม่ได้นะเว้ย" ผมว่าไอ้ทิว เพราะมันอ่ะ ติดบ้านมากกก กว่าจะแงะออกไปไหนที ต้องไปอัญเชิญถึงเตียงนอน
"เออ กูก็คิดเหมือนไอ้ธารา ออกไปเปิดโลกกันบ้างเหอะพวกเราอ่ะ มึงอย่าลืมนะว่าที่แม่กอดเนี่ย ไม่มีมหาวิทยาลัยให้มึงเรียน ยังไง จบม.6 เราก็ต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่อป่าววะ" ไอ้โทนพูด
"ไม่ ไม่ ไม่นะ กูจะไม่แยกจากพวกมึง กูจะตามไปเรียนต่อด้วย อย่าทิ้งกูนะ ไอ้ธารา ไอ้โทน" ไอ้ทิวเข้ามาอ้อนวอนพวกผม เห็นแล้วสงสารมันจริงๆ ลูกชายคนเล็กก็งี้แหล่ะครับ พ่อแม่ตามใจ แต่ผมก็ลูกชายคนเล็กนะ ยังไม่เป็นลูกแหง่ ติดบ้านเท่าไอ้ทิวเลย ไอ้โทนยิ่งกว่าผมอีก นั่นลูกชายคนเดียว มีพี่สาวสองคน แม่มันนี่หวงมากกกกกกกก
"เออๆ อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องเรียนต่อเลย เอาเรื่องโครงงานนี่ก่อน มึงสองคนโอเคกับกูมั้ยหล่ะ ถ้าโอเค กูจะได้เอาไปเสนอคุณครูเลย" ผมถามมันสองคนเพื่อความแน่ใจ
"โอเค ดิวะ ไปไหนไปกัน" ไอ้โทนบอกผมด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
"มึงอ่ะไอ้ทิว" ผมหันไปถามไอ้ทิว
"โอเคคร้าบบบ โทน ธาราไปไหน ทิวไปด้วยยยย"
"ดี งั้นก็เรียบเรียงใหม่ก่อน จะได้พร้อมส่ง" ผมบอกมันสองคนแล้วก็เริ่มเขียนรายงานส่งครูอย่างจริงจัง โดยมีไอ้โทนและไอ้ทิว ค่อยช่วยผมอีกแรง
ได้เวลาส่งงาน
ผมยื่นสมุดที่เขียนรายงานโครงการส่งให้คุณครูพร้อมกับยืนรอด้วยท่าทางเรียบร้อย คุณครูอ่านแล้วก็ทำหน้าตาแปลกใจ พร้อมกับเงยหน้ามามองพวกผม
"เอ่อ มีอะไรผิดหรือเปล่าครับคุณครู" ไอ้โทนถามคุณครู
"ไม่ๆ ไม่มีอะไรผิดจ้ะ มันเป็นแนวความคิดที่ดีมาก น่าสนับสนุน พวกเธอเก่งมากที่คิดโครงงานนี้ขึ้นมา แต่ว่า นี่คิดจะไปเที่ยวกันด้วยหล่ะสิเนี่ย ใช่มั้ย ไอ้สามหน่อ" คุณครูถามพร้อมกับจ้องหน้าจับผิดพวกผม
"เอ่อ มันก็มีบ้างครับเรื่องเที่ยวน่ะ ปิดเทอมทั้งที อยู่แต่บ้านเบื่อแย่เลยครับ" ผมบอกคุณครู
"ผมรับรอง ได้งานแน่นอนครับครู พวกผมจะไม่ทำให้ผิดหวังเลยครับ" ไอ้โทนบอกคุณครูด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"เอาหล่ะๆ ครูอนุญาติให้พวกเธอทำโครงงานเรื่องนี้ ยังไงก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะ เที่ยวให้สนุกนะจ้ะลูกศิษย์ที่รักของครู"
"ขอบคุณคร้าบบบ คุณครู" พวกผมยกมือไหว้ขอบคุณครูที่อนุมัติโครงงานนี้ด้วยความดีใจ
ด่านแรกผ่านแล้ว ยังมีด่านที่สอง สามและสี่ นั่นก็คือบรรดาพ่อแม่ของพวกผมนั่นเอง
"ไอ้โทน มึงกลับไปคุยกับแม่ดีๆนะ หรือไม่ก็ไปช่วยล้างจานที่ร้านก็ได้ เผื่อเขาจะได้อนุญาติให้ไป" ผมบอกไอ้โทน
"มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก ห่วงไอ้ทิวโน่น ไอ้ลูกแหง่" ไอ้โทนโบ้ยไปให้ไอ้ทิว
"แล้วมึงอ่ะ ตัวตั้งตัวตี เหมือนพ่อแม่ปล่อยให้ไปง่ายๆเลยเนอะ" ไอ้ทิวว่าผม
"เออ กูตั้งใจแล้ว เราต้องไปได้ดิวะ พ่อแม่กูคงไม่มีปัญหาหรอก" ผมบอกพวกมัน แต่ในใจก็ค่อนข้างกังวล เพราะแม่ผมอ่ะ หวงมากกกกก ผมมีพี่น้องสามคนครับ คนโตเป็นผู้หญิง ห่างจากผม6ปี ชื่อพี่ธัญ เป็นหมอฟันครับ เปิดคลีนิกอยู่ที่ตลาดในตัวอำเภอครับ คนที่สองเป็นผู้ชาย พี่ธีร์ ห่างจากผม2ปีครับ ตอนนี้พี่ธีร์ เรียนวิศวะอยู่ที่กรุงเทพฯ เกี่ยวกับเหมืองแร่ ตามรอยคุณพ่อของผมที่เป็นวิศวกรเหมืองแร่ที่แม่เมาะครับ ส่วนแม่ของผมเป็นแม่บ้านเฉยๆ จึงมีเวลาดูแลผมอย่างเต็มที่ ตอนแรกก็ยังมีพี่ชายให้คอยห่วง แต่พอพี่ธีร์ไปเรียนที่กรุงเทพฯ นานๆจะได้กลับมาซักที เหลือผมคนเดียว ความห่วงใยของแม่จึงมาลงที่ผมเต็มๆครับ
"เอางี้มะ เดี๋ยวโรงเรียนเลิก เราไปบ้านไอ้ธารากันก่อน ไปขอพ่อแม่มันด้วยกัน แล้วค่อยไปบ้านกู สุดท้ายยากสุดก็บ้านมึง ไอ้ทิว" ไอ้โทนออกความคิด
"เออ ก็ดี มีพวกมึงไปช่วยพูด น่าจะง่ายขึ้น" ไอ้ทิวบอกพวกผม
พวกผมก็ตกลงตามนั้น
หลังโรงเรียนเลิก ที่บ้านของผม
"สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่" พวกผมสวัสดีพ่อกับแม่ ที่กำลังนั่งคุยกันที่ศาลาตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน
"อ้าว สวัสดีจ้ะเด็กๆ มาทำการบ้านกันหรอวันนี้ นี่แม่เพิ่งอบเค้กกล้วยหอมเสร็จใหม่ๆเลย เดี๋ยวแม่ไปเอามาให้กินนะ นั่งคุยกับพ่อไปก่อนนะลูก" แม่ผมพูดแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน พวกผมก็หันไปมองที่พ่อพร้อมๆกัน
"ไง มีอะไร พูดมา" พ่อเอ่ยปาก เหมือนรู้ทันพวกผม
"เอ่อ พ่อครับ ปิดเทอมนี้พวกผมต้องไปทำโครงงานกันครับ" ผมเปิดฉากบอกพ่อ
"อืม แล้วไง ไปที่ไหน"
"แม่กำปองครับ"
พ่อผมทำหน้าแปลกใจ
"ก็ไปสิ ไม่ไกลนี่" พ่อบอกผม ผมนี่ถึงกับถอนหายใจ เพราะโล่งงงงใจที่พ่ออนุญาติ
"เชี่ย ทำไมง่ายจังวะ" ไอ้โทนเอี้ยวตัวมากระซิบบอกผม
"ง่ายแบบนี้ไม่ดีหรือไงวะ" ผมหันไปบอกไอ้โทน
"แล้วจะไปกันกี่วันหล่ะ" พ่อถามผม
"อาทิตย์นึงครับ" ผมบอกพ่อ
"ห้ะ อาทิตย์นึง" ไอ้ทิวหันมาถามผม พร้อมกับสีหน้าตกใจ เพราะพวกผมยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องระยะเวลาว่าจะไปกี่วัน
"พอหรออาทิตย์นึง คิดว่าจะเก็บรายละเอียด ข้อมูล ได้ครบมั้ยหล่ะ" พ่อถามผม
"พอครับพ่อ ผมกลัวแม่เป็นห่วง ไม่อยากไปนาน" ผมบอกพ่อ
"ไปไหน ใครจะไปไหน ธารา" แม่ที่เดินเข้ามานั่งข้างๆพ่อพร้อมกับจานเค้กกล้วยหอม เอ่ยปากถามผม
"เอ่อ ไปทำโครงงานครับแม่"
"ที่ไหน"
"เชียงใหม่ครับ แม่กำปอง"
แม่ฟังแล้วก็เงียบไป แต่ผมก็พอดูออกว่า แม่ไม่อยากให้ไป
"เอาน่า คุณ ลูกมันก็โตๆกันแล้ว ปล่อยมันออกไปดูโลกภายนอกบ้างเหอะ ปีนี้ธารามันก็ม.6แล้ว เดี๋ยวเรียนจบมันก็ต้องไปเรียนต่อแบบเจ้าธีร์ พ่อบอกกับแม่
"จะหนีแม่กันหมดแล้วลูกบ้านนี้" แม่ผมพูดตัดพ้อ
"แม่ครับ ผมไม่หนีแม่ไปไหนหรอกครับ ผมไปอาทิตย์เดียวเอง" ผมบอกแม่พร้อมกับเข้าไปกอดแม่
"ผมไปทำงานส่งครูนะครับแม่ ไม่ได้ไปเกเรที่ไหนเลย"
"แล้วทำไมต้องไปไกลขนาดนั้นด้วยหล่ะ ที่แม่กอดนี่ ทำไม่ได้หรอ แถวๆบ้านเราเนี่ย" แม่ถามผม
"ก็ทำได้ครับ แต่โลกไม่จำครับแม่" ไอ้โทนพูดติดตลก แม่ผมก็หัวเราะ
"พวกผมทำเกี่ยวกับเรื่องโฮมสเตย์ครับแม่ ก็เลยต้องไปหาข้อมูลที่นั่น แม่ให้ผมไปนะครับ สัญญาเลย ไม่ดื้อ ไม่เกเรแน่นอน" ผมบอกแม่
"จ่ะ ไปก็ไป ดูแลกันด้วยหล่ะพวกเราน่ะ" แม่บอกพวกผม
"ขอบคุณครับแม่ เค้กกล้วยหอมอร่อยที่สุดในโลกเลยครับ" ไอ้ทิวบอกแม่ผม พร้อมกับเคี้ยวเค้กกล้วยหอมเต็มปาก
"ระวังติดคอเหอะเจ้าทิว ดูทำเข้า ธาราเข้าไปเอาน้ำมาให้ทิวกับโทนสิลูก" แม่บอกผม
ผมเข้าบ้านไปเอาน้ำมาให้ไอ้ทิวไอ้โทน มันก็นั่งคุยอยู่กับพ่อแม่ของผม เป็นเรื่องปกติครับ ผมสามคนอ่ะเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก มันสองคนเลยเข้านอกออกในบ้านผมได้สบายๆ
"พ่อครับแม่ครับ งั้นเดี๋ยวพวกผมขอตัวก่อนนะครับ ต้องไปขออนุญาติที่บ้านไอ้โทนกับไอ้ทิวด้วยครับ" ผมบอกพ่อกับแม่ แล้วก็พากันออกมาจากบ้าน แม่ผมยังฝากเค้กกล้วยหอมให้ไอ้โทนกับไอ้ทิวหิ้วกลับบ้านด้วย ส่วนพ่อผมก็บอกว่าถ้าบ้านไหนไม่อนุญาติก็โทรหาพ่อ เดี๋ยวไปช่วยพูดให้
ที่ร้านอาหารของแม่ไอ้โทน พวกผมไปถึงก็ช่วยกันเช็ดโต๊ะ เก็บจานชาม ด้วยเพราะเป็นกิจการครอบครัว ไม่มีลูกจ้าง แม่ไอ้โทนเป็นแม่ครัวเอง ฝีมือเด็ดสุดในแม่กอด เรียกว่าเป็นตัวตึงแม่กอดเลยครับ แล้วก็มีพ่อมันคอยเป็นลูกมือ รับแขก พวกผมค่อนข้างกลัวแม่ไอ้โทนเพราะเป็นคนพูดจาโผงผาง ตามสไตล์แม่ค้า แต่ลึกๆแล้วก็ใจดีครับ ส่วนพ่อมันนี่ใจดีมากกกกกกก
"ทำดีแปลกๆ ไปทำผิดอะไรกันมาห้ะ บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้ลูกไม่รักดี" แม่ไอ้โทนที่เดินออกมาจากหลังครัว เข้ามาดึงหูไอ้โทน
"โอ้ยยย ป่าวๆครับแม่ ไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครที่ไหนครับ" ไอ้โทนบอกแม่มัน พร้อมกับเอามือจับหูที่โดนดึงจนแดง
"แล้วทำไมอยู่ๆถึงพากันมาเช็ดโต๊ะ เก็บจานชาม ร้อยวันพันปีไม่เคยจะทำ"
"สวัสดีครับแม่" ผมกับไอ้ทิวยกมือไหว้สวัสดีแม่ไอ้โทน ป้าสายใจแกก็รับไหว้
"ดื่มน้ำเย็นๆให้ชื่นใจก่อนครับแม่ ใจจะได้ร่มๆ" ไอ้โทนวางแก้วน้ำตรงหน้าแม่มัน แม่มันก็ยกไปดื่ม
"ส่วนนี่ก็เค้กกล้วยหอมจากบ้านไอ้ธาราครับ แม่มันฝากมาให้" ไอ้โทนเอาเค้กกล้วยหอมวางตรงหน้าแม่ของมัน
"จะบอกแม่ได้หรือยังว่ามีเรื่องอะไร" แม่ไอ้โทนเงยหน้ามาถามพวกผม
"คืองี้ครับแม่ ปิดเทอมนี้พวกผมต้องไปหาข้อมูลทำโครงงานส่งครูที่แม่กำปอง อาทิตย์นึงครับ" ผมบอกแม่ไอ้โทน
"ไปซักสองอาทิตย์เลยไม่ได้หรอ อยู่บ้านมันก็ไม่ได้ช่วยทำอะไร" แม่ไอ้โทนบอกพวกผม
"โห่ แม่ ทำเป็นพูดดี นี่ถ้าผมต้องไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย จะมาร้องไห้ขี้มูกโป่งคิดถึงผมไม่ได้นะครับ" ไอ้โทนว่าแม่ตัวเอง
"หึ กลัวจะมีคนร้องไห้เพราะคิดถึงกับข้าวฝีมือแม่มากกว่า" แม่ไอ้โทนโต้กลับ มวยถูกคู่จริงๆครับแม่ลูกคู่นี้ ฮ่าๆ
"สรุปว่าแม่อนุญาติให้ผมไปใช่ไหมครับ" ไอ้โทนถามย้ำแม่อีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ
"อืม อนุญาติ แต่ถ้าไปมีเรื่องกลับมา มึง...ตายยยยย" แม่ไอ้โทนพูดแล้วก็ทำท่ามือเชือดคอ ขู่ไอ้โทน
"โห่แม่ เกินป๊ายยยยยย ผมนี่ไม่เคยสร้างเรื่องปวดหัวให้แม่เลยนะครับ เนี่ยวันนี้จะช่วยล้างจานทั้งร้านเลยก็ได้ครับ เช็ดโต๊ะด้วยก็ได้ ยังไงไอ้ทิว ไอ้ธาราก็ต้องช่วยผมอยู่แล้ว ใช่มะ พวกมึง" ไอ้โทนหันมาถามพวกผม
"เอ่อๆ ครับๆ" ผมกับไอ้ทิวจำยอม ไหลไปตามน้ำกับไอ้โทน
"งั้นก็ดีเลย คนงานล้างจานไม่มาด้วยวันนี้ มีลูกๆมาช่วยก็ดีเลย" แม่ไอ้โทนบอกพวกผม
"แต่ว่าแม่ครับ ตอนนี้ผมขอไปบ้านไอ้ทิวก่อนนะครับ ไปขออนุญาติพ่อกับแม่ของมัน" ไอ้โทนบอกแม่
"อืม ไปๆ รีบไป จะได้รีบกลับมาช่วยงานที่ร้าน" แม่มันรีบไล่พวกผม
ผมพากันเดินออกจากร้าน ผ่านหลังครัวเห็นถ้วยชามกองโตแล้วก็ขนลุก...แล้วเจอกันนะเจ้าถ้วยชามทั้งหลาย ไอ้โทนนะไอ้โทน ไม่น่าหาเรื่องเล้ยยยยย
ที่บ้านของไอ้ทิว
"ไปเลยลูก ม๊าอนุญาติ เดี๋ยวม๊าเก็บกระเป๋าให้เลยมั้ยเจ้าทิว"
"ยังครับม๊า ใจเย็นๆครับ ทิวยังไม่ไปตอนนี้"
บ้านไอ้ทิวกลายเป็นว่าง่ายที่สุด
"ม๊า ขยั้นขยอทุกวันหยุด ให้ออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านบ้าง นอกจากบ้านโทนกับบ้านธารา เจ้าทิวก็ไม่ไปที่อื่นเลย เอาแต่อยู่ในห้องเล่นเกมส์ทั้งวัน นี่โทนกับธารามาชวนเจ้าทิวออกไปข้างนอกบ่อยๆนะ อยู่ติดบ้านแบบนี้ ไม่ไหวๆ ไม่โตซักที"
"โถ่ ม๊าาาา อย่าเผาทิวต่อหน้าเพื่อนดิคร้าบบบ" ไอ้ทิวเข้าไปกอดม๊าของมัน
"เออ นี่ครับม๊า เค้กกล้วยหอม แม่ไอ้ธาราฝากมาให้ครับ" ไอ้ทิวผละออกจากม๊าของมันแล้วก็ไปหยิบเค้กกล้วยหอมมาให้
เสร็จจากบ้านไอ้ทิว สรุปว่าพวกผมได้ไฟเขียวทั้งสามบ้าน อนุญาติให้ไปแม่กำปอง
เย็นนั้นพวกผมกลับไปที่ร้านของไอ้โทน ไปช่วยเป็นเด็กเสิร์ฟ เก็บโต๊ะ ล้างจาน ส่งอาหาร จนถึงเวลาร้านปิด แม่ไอ้โทนก็ทำกับข้าวเลี้ยงพวกผม กินซะอิ่มแปล้ พุงกางเลยครับ อร่อยมากกกก สมชื่อตัวตึงแม่กอด
ผมสามคนชนแก้วน้ำอัดลมกัน.....เส้นทางสู่แม่กำปอง กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วววววว
.
.
..............................