อูฮิบบูกี .. รักนี้แค่คุณ *3 (16/08/2564)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อูฮิบบูกี .. รักนี้แค่คุณ *3 (16/08/2564)  (อ่าน 1283 ครั้ง)

ออฟไลน์ AUGUSTLOVE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2021 23:17:24 โดย AUGUSTLOVE »

ออฟไลน์ AUGUSTLOVE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
Re: อูฮิบบูกี .. รักนี้แค่คุณ
«ตอบ #1 เมื่อ23-07-2021 18:56:50 »

โปรย ..



น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้มนวล เมื่อความรู้สึกทุกอย่างถูกระบายออกมา ร่างเพรียวถูกรวบเข้ามากอดรัดไว้แนบอกกว้าง ดวงตาคู่สวยเบิกโพลง เมื่อริมฝีปากอุ่นจัดสัมผัสลงที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่ออย่างร้อนแรงจนผิวกายร้อนผ่าวตามไปด้วย
   “ผมจะลบทุกสัมผัสพวกนั้นออกให้หมด ผมสัญญา”
   ดวงตาคู่คมมองใบหน้าหวานด้วยความรู้สึกรักและหวงแหน ริมฝีปากหยักลึกพรมจูบไปจนทั่วทั้งใบหน้า ลำคอระหง ใบหูเล็ก บางครั้งเบาบาง บางคราวลึกล้ำ หัวใจทั้งสองดวงเต้นโครมครามเลือดในกายสูบฉีดรุนแรงจากความกระหายและต้องการในกันและกัน
   “ผมรักคุณ ซินเดอเรลล่าของผม”



   ชีวิตของคนๆ หนึ่งคงไม่เรียกร้องอะไรมากมายนัก หวังก็เพียงว่าความรักที่เกิดขึ้น

        จะเป็น .. รักแท้ และ .. รักเดียว




ออฟไลน์ AUGUSTLOVE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
1

แสงสว่างบนเวทีค่อยๆ มืดมิดลงไปพร้อมกับเสียงเพลง ผู้ชมในโรงละครต่างตั้งตารอพบเจ้าชาย เพียงครู่ชายหนุ่มท่วงท่าสง่างามก็เดินออกมากลางเวทีและขับขานเพลงรักฝากผ่านสายลมไปถึงหญิงงามสักคนให้รับรู้ ทุกคนในโรงละครต้องมนต์สะกดอยู่ในภวังค์
“อะไรของมันวะ ดันมาท้องเสียวันนี้ แล้วเอาไง !”
เสียงห้วนสั้นบ่งบอกอารมณ์ร้อนของชายฉกรรจ์ที่กำลังกุมขมับเดินไปมาอยู่หลายรอบรอนักแสดงแทนที่ตกลงเป็นมั่นเหมาะว่าจะมา แต่กลับมามีปัญหาระหว่างทางเสียก่อน
“ใจเย็นเถอะครับพี่ อีกเดี๋ยวคงมา”
คนจัดหานักแสดงแทนไม่ทันเริ่มร้อนตัว เพราะเมื่อวานชักชวนทีมงานไปฉลอง แต่หนึ่งในนักแสดงตัวสำคัญดันมาท้องเสียอย่างรุนแรง
“จะให้รอได้ไง อีกสิบนาทีต้องเข้าฉากแล้ว คงต้องหาเอาแถวนี้”
ผู้กำกับกวาดสายตาเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำลังยืนสนทนากับตัวประกอบซึ่งกำลังรอเข้าฉาก จึงเดินเข้าไปหา กะส่วนสูง ช่วงอกและขนาดรองเท้าเสร็จก็หันไปบอกทีมเสื้อผ้าที่ยังยืนหน้าเครียดกันอยู่
“เอานายคนนี้ไปเล่นแทน บทก็ไม่ได้พูดอะไร แค่เต้นรำกับซินเดอเรลล่าเท่านั้น”
คนที่ตกใจกลับไม่ใช่คนที่จะต้องแสดงแทน แต่เป็นตัวประกอบที่ยืนหน้าเหลอหลาออกอาการ
“ไม่ได้หรอกครับพี่”
“เพราะอะไร หรือแกจะแสดงเป็นเจ้าชาย ห๊ะ ไอ้พล !”
“ใครจะแยกร่างได้ครับ ผมเป็นทหารก็พอแล้ว ไม่กล้าอาจเอื้อมเป็นถึงเจ้าชายหรอก”
พลวัฒน์ยืนหน้านิ่วด้วยความลำบากใจ
“แล้วให้ทำไง เจ้าชายต้องมีสองคน คนหนึ่งต้องเข้าไปเปลี่ยนชุด อีกคนต้องมาแสดง และนี่ดันมาท้องเสีย จะให้ฉันทำไงบอกมาซิ !”
เสียงตวาดเข้ม ก่อนหันไปส่งสัญญาณบางอย่างให้สาวเทียมร่างกำยำกว่าห้าคน
“สุดยอดไปเลยฮ้า”
หนึ่งในห้าคนเดินตรงเข้ามาพิจารณาสักพัก ก็ยกมือเรียกทีมเสื้อผ้าที่เหลือเดินตรงรี่มาสมทบ
ดวงตาคู่คมตวัดมองเพื่อนสนิทราวจะขย้ำ ก่อนจะก้าวถอยห่าง แต่ไม่พ้นชายเทียมทั้งห้าเดินเข้าใกล้ระยะประชิด ไม่พอยังล๊อกแขนทั้งสองแนบสนิทจนขนลุกไปทั้งตัว
“อะไรวะ ปล่อยนะโว๊ย !”
เสียงตะโกนก้องได้เพียงเท่านั้น ก็ถูกสาวเทียมอีกสองคนกอดรัดหน้าหลังพาไปห้องแต่งตัว
ชายหนุ่มสวมบทบาทตัวประกอบถึงกับหน้าถอดสี มองร่างที่ถูกกึ่งลากกึ่งฉุดที่กำลังหายไปจนตาละห้อยอย่างน่าสงสาร
“จะรอดไหมวะเนี่ย !”

หลังเสียงแตรดังขึ้น ราชาและราชินีเสด็จมาร่วมงาน กลางเวทีใหญ่จึงมีนักแสดงร่วม 70 ชีวิต สวมใส่หน้ากากแต่งกายด้วยอาภรณ์สมฐานะแขกคนสำคัญ เสียงเพลงเริ่มต้นบรรเลงบ่งบอกว่าเจ้าชายกำลังจะเสด็จออกมา แต่ทว่าข้างเวทีกลับมีการยื้อแย่งชักเย่อเล่นกันอยู่
“เฮ้ย !”
เสียงอุทานหลุดมาเพียงคำเดียวหลังจากถูกถีบกระเด็นออกมา รอบกายโอบล้อมไปด้วยสาวๆ กว่า 40 คน มองไปที่จุดเดิมเห็นผู้กำกับเวทีเหยียดยิ้มกว้างในผลงานของตนเอง ส่วนพลวัฒน์ยืนหน้าเหี่ยวแห้งอยู่ข้างๆ
“แกนอนไอซียูลืมวันลืมคืนแน่”
เสียงลอดไรฟันอย่างคาดโทษ สายตาคมมองหาใครที่แสดงเป็นซินเดอเรลล่าตามที่ทีมงานพูดกรอกใส่หู ให้เดินไปหาคนนั้นแล้วโค้งขอเธอเต้นรำ
“คนไหนวะ ?”
ความหนักใจเข้ามาแทนที่ความโกรธ เพราะสายตาทุกคนทั้งบนเวทีและผู้ชม ต่างรอลุ้นระทึกให้เจ้าชายพบนางซิน ตัดสินใจมองหาหญิงสาวสักคนที่คิดว่าใช่ แต่ไม่มีใครสะดุดตา
เพียงครู่ หญิงสาวแต่งกายชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนระบายชายกระโปรงด้วยลูกไม้สีชมพูเข้มก็วิ่งพรวดพราดมากลางเวที เหมือนมีใครสักคนผลักให้กระเด็นอย่างไม่ทันตั้งตัวมากกว่าจะสมัครใจมาด้วยตนเอง
ร่างเพรียวยืนนิ่ง เมื่อเริ่มตั้งหลักได้ก็กวาดสายตามองรอบ สักพักก็ถอนหายใจ หันมองมากลางเวที เหยียดกายตั้งตรงก้าวย่างดังพญาหงส์ แววตาใต้หน้ากากประดับด้วยทองคำดุจพญาเหยี่ยว ริมฝีปากเรียวบางโดดเด่นสีชมพูระเรื่อเม้มแน่นแสดงออกถึงความประหม่า
“เธอสินะ ซินเดอเรลล่า .. ของฉัน”
ชายหนุ่มพึมพำพร้อมเสียงหัวใจเต้นระทึก เมื่อมองสบเรียวปากอิ่ม ก่อนเลื่อนขึ้นเพ่งสีรัตติกาลภายในแววตากลมโตช่างน่าหลงใหลสะกดใจ อยากเข้าไปกระชากหน้ากากสีทองอร่ามออกจากใบหน้า แล้วจับจองเป็นเจ้าของเรือนร่างอรชรน่าทะนุถนอมนั้น เริ่มจากริมฝีปากบาง แล้วลากลงมาซุกไซ้ซอกคอระหง พร้อมรอลุ้นการตอบสนองกลับของเธอ
ทว่าความคิดยังไม่สิ้นสุด เท้าก็ทำหน้าที่เดินไปหยุดยืนเบื้องหน้า พลางกล่าวเสียงเรียบสะกดความต้องการของหัวใจ
“จะรังเกียจหรือไม่ หากผมจะขอคุณเต้นรำ”
คนตรงหน้ามีทีท่าลังเลเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือเนียนมาวางทาบทับบนฝ่ามือใหญ่
“มีเรื่องอะไรน่าขำนักหรือ ?”
ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไพเราะที่สุดเท่าที่เคยพูดออกมา เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ พลางโอบรัดกอดร่างบอบบางเข้ามาแนบอก
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ .. คิดว่ามีบทพูดแบบนี้ด้วยเหรอ”
ชายหนุ่มนึกย้อนถึงการกระทำของตัวเองเมื่อครู่ ใช่สิ จริงๆ ก็แค่เข้ามาโค้งขอเธอเต้นรำเพียงเท่านั้นก็พอ
“คงงั้น”
เขาไม่กล้ามองสบแววตาอ่อนโยนแฝงลึกด้วยเสน่ห์เย้ายวน หากแต่เสียงหัวใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ จนบางครั้งต้องกลั้นหายใจเพราะกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน
   จะกระทั่งเสียงเพลงเริ่มเบาลงแทนที่ด้วยเสียงนาฬิกาตีบอกเวลา ร่างเพรียวรีบผละออกจากอ้อมอกกว้างตามบทที่ได้รับมอบหมายมา หากแต่วงแขนแข็งแรงกลับไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น แต่รัดแน่นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
   “ตอนนี้คุณต้องปล่อยแล้ว”
   เสียงพูดเบาๆ เพื่อให้ได้ยินกันเพียงสองคน พยายามจะผละจากไป แต่ก็ไม่สำเร็จ เสียงนาฬิกาเหลืออีกเพียงห้าครั้ง และต้องวิ่งไปให้ถึงบันไดขั้นสุดท้ายด้วยระยะห่างเกือบ 10 เมตร จึงเหลือเวลาไม่มากนัก
   “ขอโทษนะ”
   สิ้นคำ รองเท้าส้นสูงกว่า 3 นิ้วก็กระแทกลงบนรองเท้าบู๊ตยาวของชายหนุ่ม
   “โอย”
   เขาสะดุ้ง พลายคลายอ้อมแขนออก แต่เพียงไม่กี่อึดใจก็สามารถไขว่คว้าร่างเพรียวกลับมาไว้ในอ้อมกอดได้อีกครั้ง
   ฝ่ายหนึ่งผลักอย่างแรง ส่วนอีกฝ่ายรั้งไว้จนสุดกำลัง แต่ทั้งสองเหมือนแม่เหล็กคนละขั้วที่พยายามจะดูดเข้าหากันเสมอ
   สุดท้ายฝ่ายที่อ่อนแอและตัวเล็กกว่าก็ต้องพ่ายแพ้ ร่างเพรียวถูกดึงเข้ามาซบแนบชิดอยู่กับอกอุ่น ใบหน้าอยู่ใกล้ระยะประชิดเพียงลมผ่าน สัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ปลายจมูก และเสียงหัวใจที่แข่งกันเต้นแรงจนระรัว
   ดวงตากลมโตใสแจ๋วเบิกกว้างด้วยความตกใจถึงขีดสุด เมื่อได้รับสัมผัสบางอย่างบนเรียวปากบาง อ่อนหวานแต่ก็เร่าร้อน งดงามและพาให้เคลิบเคลิ้มจนแทบจะคุมสติตัวเองไว้ไม่อยู่
   “ไอ้ !”
   มือเรียวผลักคนตัวโตกว่าให้ห่างออกไป ทั้งโกรธทั้งอายผสมปนเปกันจนยุ่งเหยิงไปหมด ก่อนจะสะบัดหน้าหนีและวิ่งลงบันไดไปทางข้างเวที โดยไม่ลืมที่จะทิ้งรองเท้าไว้ให้ดูต่างหน้าตามบทบาทที่ต้องทำอย่างถูกต้องทุกประการ
   ชายหนุ่มยืนนิ่งค้างตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด เพราะสาวแต่ละคนที่เคยคบต่างมีความต้องการที่จะได้ลิ้มรสหอมหวานจากริมฝีปากอุ่นนี้ แต่ไม่มีใครเคยได้รับความซาบซ่านเร้าอารมณ์ให้เคลิ้มฝัน ทว่าเธอคนนี้กลับกล้าที่จะปฏิเสธ
   “แล้วพบกัน .. ซินเดอเรลล่าของผม”

   ร่างเพรียวยืนหน้านิ่วอย่างหงุดหงิดอยู่ภายในห้องแต่งตัวของนักแสดงทางด้านหลังเวที มือเนียนจัดแจงถอดหน้ากากพลางถอดชุดที่แสนจะน่ารำคาญให้ออกจากตัว ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็นชุดของตัวเองตามเดิม ตลอดเวลาปากจิ้มลิ้มยังคงพึมพำและบ่นยืดยาวไม่ยอมหยุด
   เฌอพัชญ์ เด็กหนุ่มวัยเพียง 22 ปี เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศอังกฤษ และเพิ่งเดินทางกลับมาเมืองไทยได้เพียงแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น
เขาเป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์จนอายุได้ 3 ขวบเศษ ก็มีคุณตาใจดีคนหนึ่งรับอุปการะส่งเสียให้เล่าเรียนรวมทั้งดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง หากแต่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นหน้าของท่านเลยแม้สักครั้งเดียว
“ฉันไม่ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อเจอเรื่องอย่างนี้นะ นี่มันอะไรกัน บ้าที่สุด”
   เฌอบ่นอุบอิบไม่เลิก เมื่อต้องมาสูญเสียจูบไปให้กับคนแปลกหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว
   จูบ .. นั่นมันคือจูบแรกเชียวนะ !
   “ฉันขอโทษนะแก คงมีการเข้าใจผิดกันนิดหน่อยมั๊ง”
   นันทพรรีบแก้ตัว พลางดึงมือของเพื่อนเข้าไปเคลียร์ที่มุมเงียบๆ ภายในห้อง นึกคิดทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวที ในสายตาเห็นเพียงว่าชายร่างสูงคนนั้นทำทีแค่ก้มลงไปจุมพิต แต่ไม่คาดคิดว่าคนๆ นั้นจะกล้าจูบจริงๆ ซึ่งไม่มีในบทเลยสักนิดเดียว
   “ไม่ผิดแล้วล่ะ มันจริง ฉันโดนจูบจริงๆ บ้าเอ้ย !”
   นันท์มองใบหน้าใสที่เห่อแดงของเพื่อนด้วยสีหน้าจืดเจื่อน เธอกับเฌอเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า จวบจนเมื่อเฌอถูกคุณตาส่งไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในอังกฤษเป็นเวลาถึงสี่ปีเต็ม แต่ก็ยังคงติดต่อกันเรื่อยมา รับรู้มาตลอดว่าเพื่อนคนนี้เป็นเดือนเงียบของมหาวิทยาลัย ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยพูด นิ่ง เงียบ สีหน้าเรียบเฉยอยู่ตลอดเวลา
แต่ด้วยหน้าตาที่น่ารักและแสนจะดึงดูด ท่าทางการวางตัวที่ดูดีแฝงด้วยเสน่ห์บางอย่าง ทำให้มีชายหนุ่มและหญิงสาวคอยตามจีบไม่เว้นว่าง แต่ก็ยังไม่เคยมีใครพิชิตใจที่เข้มแข็งดวงนี้ได้สำเร็จ
จนมีชายหนุ่มชาวอาหรับหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งเท่านั้นที่เฌอพัชญ์ให้ความสนิทสนมด้วย แม้จะไม่ได้คบหาเป็นแฟนกัน แต่ทุกคนต่างก็ลงความเห็นว่าเป็นแบบนั้น และส่งผลให้ผู้คนทั้งมหาวิทยาลัยอกหักไปเป็นแถบๆ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็กลายเป็นเพียงอดีตไปแล้ว
“ใจเย็นๆ นะ เอาเป็นว่าฉันขอโทษแกจริงๆ ที่ทำให้แกต้องมาเจออะไรแบบนี้”
นันท์เอ่ยขอโทษจากใจจริงๆ ด้วยรู้จักนิสัยของเพื่อนรักเป็นอย่างดี หากไม่เป็นเพราะตัวเองท้องเสียซะก่อน ก็คงไม่ต้องให้เพื่อนมารับบทแสดงแทนแบบนี้หรอก
“อืม ช่างมันเหอะ”
เฌอพัชญ์ผ่อนลมหายใจระบายเบาๆ พยายามตั้งสติอีกครั้ง
“แล้ววันนี้แกจะพักที่โรงแรมจริงเหรอ น่าจะไปพักที่บ้านฉันนะ”
“ฉันพักที่โรงแรมสะดวกกว่าน่ะ เอาไว้เราค่อยนัด เฮ้ย !”
เสียงร้องอุทานด้วยความตกใจ เมื่อได้รับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
“เป็นอะไรแก !”
นันทพรถามด้วยความตกใจไม่แพ้กัน
“แหวน แหวนของฉัน”
เฌอพัชญ์ละล่ำละลักเสียงสั่นเครือ ดวงตากลมโตวูบไหวด้วยความเสียใจ เพราะแหวนวงนั้นมีความสำคัญมาก แหวนเพียงวงเดียวที่ติดตัวมาตั้งแต่เล็กๆ สมบัติมีค่าเพียงชิ้นเดียวที่หลงเหลือไว้เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตนของเขา
แต่ว่าตอนนี้ .. มันหายไปแล้ว !






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 o13

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 :pig4: :pig4:รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:

ออฟไลน์ AUGUSTLOVE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
2

   เฌอพัชญ์ตื่นมาพร้อมกับความปวดหัว เมื่อคืนแทบไม่ได้หลับได้นอนเลยสักนิด รู้สึกพะว้าพะวงเกี่ยวกับแหวนที่ยังคงหาไม่เจอ แม้ว่านันทพรจะไปช่วยหาจนทั่วโรงละครแล้วก็ตาม
   ร่างเพรียวลุกจากเตียงนอนและไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดใหม่ ก่อนจะก้าวเดินออกไปจากห้อง มุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง
   ลานจอดรถในห้างใหญ่ช่วงใกล้เที่ยงแทบไม่มีที่ว่าง เขาต้องขับรถเช่าสภาพดีเยี่ยมสีดำวนอยู่หลายรอบ กว่าจะเจอก็เล่นเอาเสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง
   โทรศัพท์มือถือมีสายเรียกเข้า เป็นนันทพรที่โทรมาถามว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนแล้ว ทำให้ขาเรียวต้องรีบเร่งเข้าไปภายในตัวห้างอย่างรวดเร็ว หลังจากจอดรถเรียบร้อย
   พลั่กกก !
   แรงปะทะอย่างรุนแรงทำให้ร่างเพรียวบางเซถลาจนเกือบจะหงายหลังล้มลง หากไม่ได้วงแขนแข็งแรงของใครบางคนมาคว้าไว้ได้ทันเสียก่อน
   ดวงตาโตเงยมองร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา ความรู้สึกแรกคือคุ้นเคย หากแต่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
   ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาหมดจด แม้จะมีผิวขาว แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกบอบบาง กลับดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อยกยิ้มน้อยๆ ด้วยความพึงพอใจอะไรบางอย่าง ดวงตาคู่คมสีดำสนิทที่มีประกายวิบวับซุกซ่อนอยู่ในนั้นกำลังจับจ้องมองมาราวกับจะกลืนกิน
   จะบ้าเหรอ ไม่ใช่ขนมนะ !
   “ขอโทษ ขอบคุณครับ”
   มือเรียวผลักคนตัวโตกว่าที่ทำราวกับจะไม่ยอมปล่อยให้ออกห่างไป
   “พี่จอม !”
   หน้าใสหันไปมองตามทิศทางของเสียงที่ได้ยิน ก่อนจะเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมา
   “อ๊ะ”
   เสียงอุทานเพียงแผ่วเบาด้วยความตกใจ เมื่อถูกรวบตัวเข้าไปกอดอีกครั้งด้วยร่างสูงใหญ่ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เพราะตอนนี้กำลังถูกชายแปลกหน้าที่หน้าตาหล่อเหลาปล้นจูบไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
   “อื้ออ !”
   มือเรียวเล็กทุบตีที่บ่าหนา หัวใจเต้นแรงระรัว เหมือนร่างกายขาดออกซิเจนอย่างกะทันหันจนเริ่มจะหน้ามืด
   “พะ พี่จอม !”
   เด็กหนุ่มยืนมองตาค้างอ้าปากพะงาบๆ หน้าซีด ตัวสั่นกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า
   “ทำไมพี่จอมทำแบบนี้ล่ะ แล้วนี่มัน มันเป็น”
   จอมทัพยอมปล่อยริมฝีปากสวยให้เป็นอิสระ แต่วงแขนแกร่งกับโอบกระชับร่างเพรียวบางที่ยืนโงนเงนมาไว้แนบกายอย่างสนิทแน่น หันไปมองทางเด็กหนุ่มด้วยสีหน้าเรียบเฉย
   “นี่แฟนพี่”
   สั้นๆ กระชับ เหมือนจะเข้าใจ แต่รับรองได้เลยว่ายังมีอีกสองคนตรงนี้ที่ได้ยิน และไม่เข้าใจเลยสักนิด
   “ไหนพี่บอกว่าไม่ชอบผม ไม่ได้ชอบผู้ชาย แล้วทำไม”
   “เบียร์ พี่พูดจริง ที่ว่าไม่ได้ชอบนาย ส่วนเรื่องที่พี่ไม่ได้เปิดตัวว่าชอบผู้ชายน่ะ เพราะ”
   เสียงห้าวลึกพูดค้างไว้ หันมาทางด้านข้าง ก่อนจะจูบเบาๆ ที่ศีรษะเล็กของคนในอ้อมกอดด้วยท่าทางแสนรัก
   “แฟนพี่เขาขี้อาย จริงไหมจ๊ะ .. ที่รัก”
   เฌอพัชญ์หันมามองร่างสูงที่ยืนอยู่เคียงข้าง ดวงตาคู่หวานกระพริบปริบๆ อย่างมึนงงยังไม่หาย มาเมืองไทยได้แค่หนึ่งอาทิตย์ แต่ถูกจูบไปแล้ว 2 ครั้ง หนำซ้ำยังเป็นคนแปลกหน้าด้วยกันทั้งสิ้น คิดแล้วอยากจะเป็นลมซะสามตลบ
   “ไม่ขำ”
   “หืมม ?”
   เสียงทุ้มขานรับในลำคออย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก หน้าหล่อเหลาโน้มเข้าไปใกล้ๆ คนตัวบางที่ยืนนิ่ง แววตาโตที่ตอนแรกสวยซึ้ง ตอนนี้ราวกับมีประกายแลบแปลบปลาบอยู่ในนั้น
   “ไม่ตลกนะโว๊ย !”
   “โอ๊ย”
   จอมทัพร้องลั่นเมื่อหมัดหนักๆ ถูกปล่อยออกมาจากมือเล็กๆ อย่างไม่ทันได้ระวัง มือหนายกขึ้นมาลูบดั้งจมูกของตัวเองจากความปวดร้าวราวกับดั้งจะหัก ดวงตาคมมองตามร่างเพรียวที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งหนีไปจนลับสายตา รอยยิ้มบางๆ ระบายอยู่ที่มุมปากบนใบหน้าหล่อเหลา พร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ บางอย่างที่เกิดขึ้นในหัวใจ
   “แสบจริงนะ ตัวแค่เนี้ย”

   เฌอพัชญ์ก้าวเดินฉับๆ ไปที่ร้านอาหารด้วยสีหน้าบูดบึ้งจนไม่มีใครกล้าเดินเฉียดเข้ามาใกล้ แม้หน้าหวานๆ จะยังดูน่ารักไม่เปลี่ยนแปลง แต่ตอนนี้ก็ดูน่ากลัวไปพร้อมๆ กันอีกด้วย
   หน้าเรียวกัดกรามแน่นอย่างข่มใจอดกลั้น แม้ว่าไม่เคยคิดอยากจะมีเรื่องมีราวกับใคร อยากเป็นแค่คนธรรมดาที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายไปวันๆ แต่ก็ใช่ว่าจะยอมให้ใครมารังแกกันได้ง่ายๆ
   การใช้ชีวิตในต่างประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน ดินแดนที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและอิสรเสรี ทำให้ต้องพบเจอเรื่องราวมากมาย ความเข้มแข็งเท่านั้นจึงจะอยู่รอด หากอ่อนแอก็จะเป็นเบี้ยให้คนอื่นจับเดิน เขาไม่เคยยอมแพ้และรู้ซึ้งในสัจธรรมข้อนี้ของชีวิต หากจะอยู่อย่างสงบก็ต้องทำตัวให้สงบ หากมีใครรุกรานก็พร้อมจะสู้อย่างหมาจนตรอก
   หลายปีในมหาวิทยาลัยจึงไม่เคยเอาเรื่องอะไรมาให้ปวดหัวโดยเฉพาะเรื่องความรัก เพราะหลายครั้งเคยได้ยินเพื่อนๆ ทะเลาะกันก็เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งนั้น จึงพยายามหลีกเลี่ยงตัวเองให้หลุดพ้น
   ทั้งๆ ที่พยายามจะระวังตัว แต่สุดท้ายก็ต้องมาผิดหวังเพราะความไว้ใจคนๆ หนึ่ง คนที่สอนให้เขาได้เรียนรู้ว่าความจริงใจไร้ความหมาย หัวใจช่างเป็นสิ่งไร้ค่า หากไร้ซึ่งเงินทองหรือเกียรติยศ
   
   ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามานั่งในรถเศษเหล็กสี่ล้อสภาพเก่าสุดๆ จนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามอง ก่อนจะหันไปหัวเราะต่อกระซิกกันด้วยความเวทนาและนึกขันว่ายังมีคนกล้าใช้รถแบบนี้อยู่อีกหรือ
   ชายหนุ่มดันที่บังแดดหน้ารถลงมา เพื่อสำรวจดูบนใบหน้าของตัวเอง และพบว่ากลางดั้งโด่งๆ มีร่องรอยแดงๆ ช้ำๆ อย่างเด่นชัด
   “หมัดหนักชะมัด”
   เสียงบ่นเบาๆ อย่างไม่ได้จริงจังนัก จะว่าไปก็สมควรอยู่หรอกที่จะโดนแบบนี้ จะเดินซื้อของให้สบายใจเสียหน่อย แต่กลับมาเจอเด็กหนุ่มช่างตื๊อที่คอยตามวนเวียนและอยากจะเอาตัวเองวางบนพานแล้วถวายต่อเขาซะเหลือเกิน ขนาดเดินหนีมาก็ยังตามไม่เลิกราอีก ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบที่หน้าห้องน้ำเมื่อครู่นั้น
   แต่จะว่าไป รสจูบจากริมฝีปากของผู้ชายด้วยกัน .. ก็ไม่ได้เลวร้ายแบบที่คิดเลยนะ !
   จอมทัพรู้สึกตัวจากภวังค์แห่งความคิดทั้งมวล เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมา มือหนาหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต เสียงทุ้มกรอกไปตามสาย
   “ว่าไงไอ้พล ได้เรื่องหรือยัง ?”
   “ขอโทษอย่างแรงว่ะนายหัว ซินเดอเรลล่าของนายก็มาเล่นแทนแบบนายเหมือนกัน และที่เหมือนกว่านั้นคือไม่ยอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ส่วนคนที่ต้องแสดงจริงๆ ก็ไม่ยอมพูดอะไร บอกเพียงแค่ว่าคนๆ นั้นเพิ่งกลับมาจากอังกฤษ”
   พลวัฒน์กล่าวเสียงเรียบเรื่อยตามข้อมูลที่ได้รับรู้มา
   “เนี่ยนะ แค่เนี้ยนะ”
   “เออสิวะ แค่คืนเดียวหาได้ขนาดนี้ก็ดีถมไป”
   “เหอะ”
   จอมทัพเบ้ปากน้อยๆ เมื่อได้ยินคำโอ้อวดของเพื่อน อุตสาห์ใจดีไม่คิดบัญชีที่ทำให้เขาต้องไปแสดงละครบ้าๆ บอๆ นั่น โดยให้ไปตามสืบหาข้อมูลของซินเดอเรลล่าปริศนาแทน แต่กลับไม่มีข้อมูลอะไรเป็นเบาะแสเลยสักนิด
   “แกชอบเขาจริงๆ เหรอวะ ?”
   พลวัฒน์ถามเสียงขรึม เพราะไม่เคยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้มาก่อน แม้ว่าจะมีคนเข้ามาให้เลือกมากมาย แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าเพื่อนรักจะให้ความสนใจใคร
   “จริง”
   “แล้วจะเจอกันอีกได้ยังไง”
   จอมทัพล้วงหยิบแหวนวงน้อยจากในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมา ซึ่งทำมาจากทองคำขาวฝังเพชร 9 เม็ดโดยรอบ โดยมีภาษาอาหรับเขียนกำกับไว้ด้านในว่า “อู ฮิบ บู กี” ริมฝีปากสีสดจูบลงไปเบาๆ ด้วยท่าทางทะนุถนอม ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามด้วยความรู้สึกจากใจ
   “ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร ต่อให้อยู่ไกลกันสุดขอบฟ้า ฉันก็จะตามหาให้พบ และทำทุกอย่างให้มาเป็นของฉันให้ได้ !”



ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:

ออฟไลน์ AUGUSTLOVE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
3

   ร่างเพรียวนั่งนิ่งมึนงงอยู่ภายในล๊อบบี้ของโรงแรมที่พักอยู่ ประชาสัมพันธ์ของโรงแรมโทรขึ้นไปแจ้งว่ามีคนมาขอพบ และบอกแค่ว่ามีธุระสำคัญมาก เขาคิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จึงยอมลงมาพบแต่โดยดี จนตอนนี้ที่ต้องมานั่งเผชิญหน้ากับชายวัยสามสิบต้นๆ ที่เป็นชาวอาหรับหน้าตาคมเข้ม และแนะนำตัวเองว่าเป็นบอดี้การ์ดที่ถูกส่งมาเพื่อรับตัวเขากลับประเทศ
   บ้าไปแล้ว นี่กำลังมีใครเล่นตลกกับชีวิตนี้กันแน่นะ !
   “เชิญคุณชายกลับไปกับพวกผมเถอะครับ”
   อัมนะห์พูดภาษาไทยอย่างชัดเจนด้วยน้ำเสียงสุภาพ ไม่มีวี่แววคุกคาม หากแต่เป็นเพราะหน้าตาที่เรียบสนิท ทำให้คนที่ได้ยินกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
   “คือ แบบว่า ผมว่าคุณคงมีอะไรเข้าใจผิดแล้วล่ะ”
   ดวงตาโตเหลือบมองไปทางชายชุดดำใส่สูทที่ยืนอยู่รายรอบ รวมทั้งนั่งอยู่ในโต๊ะข้างๆ ไหนจะที่ยืนอยู่ตรงประตูนั่นอีก ก่อนจะหันกลับมามองคนตรงหน้าอีกครั้ง
   “คือผมเป็นเด็กกำพร้า"
   “คุณปู่ของคุณชายเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดทั้งหมด คุณปู่จะเป็นคนเล่าให้ฟัง เมื่อคุณชายเดินทางกลับไปถึงครับ เชิญเถอะครับ เราเสียเวลามามากแล้ว”
   เฌอพัชญ์เดินมาเคียงข้างกับอัมนะห์ โดยมีชายชุดดำเดินตามหลังมาอีกเป็นขบวน พยายามตั้งสติ มองซ้ายมองขวา แต่บริเวณนี้ก็แทบจะไม่มีใครอยู่เลย และอีกอย่างก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหากขัดขืน
   “คุณ !”
   ร่างเพรียวสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงร้องทักดังใกล้ๆ ดวงตาโตลุกวาวเมื่อเห็นคนตรงหน้า ก่อนจะรีบคว้ามือหนาและกระชากอย่างแรงให้ก้าววิ่งออกมาด้วยกัน
   “คุณ ช่วยผมด้วย !”
   จอมทัพแม้จะยังมึนงงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยอมวิ่งตามคนตัวเล็กกว่ามาแต่โดยดี
   “พวกนั้นเป็นใคร ?”
   เสียงทุ้มเอ่ยถาม ร่างสูงวิ่งนำหน้าเพราะขายาวกว่า และเป็นฝ่ายดึงเฌอพัชญ์ที่วิ่งช้ากว่าให้ตามมา
   “ผม ไม่ ไม่รู้”
   เฌอพัชญ์วิ่งไปหอบไปและตอบกระท่อนกระแท่น คงเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายกระมัง วิ่งเพียงเท่านี้เลยเหมือนใจจะขาดอยู่แล้ว
   “คุณติดหนี้ใครไว้หรือเปล่า ?”
   จอมทัพถามเสียงเรียบ ไม่มีท่าทางเหนื่อยอ่อน ดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆ
   “เปล่า”
   “ไปค้ำประกันเงินกู้ให้คนอื่น ?”
   “ไม่มี"
   “แย่งแฟนชาวบ้าน ?”
   “ไม่เคย"
   “เป็นกิ๊กกับพวกนักเลง ?”
   “นี่คุณ จะมากไปแล้วนะ ผมไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย อ๊ะ !”
   ปากจิ้มลิ้มถูกปิดเอาไว้ด้วยมือหนา ตัวเล็กๆ ถูกรวบเข้ามาอยู่ในวงแขนแกร่งจนแนบสนิทแทบไม่มีอากาศให้ลอดผ่าน
   “ตกลงคุณจะหนี หรือเรียกให้พวกเขาตามมากันแน่”
   เสียงทุ้มถามชิดใบหูขาวผ่องจนร่างเพรียวที่อยู่ในอ้อมอกอุ่นถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัว
   “อือ”
   เฌอพัชญ์พยักหน้าเบาๆ เป็นสัญญาณว่ารู้เรื่องแล้ว เพื่อให้ปล่อยซะที
   “รีบไปกันเถอะ”
   จอมทัพยอมปล่อยคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ แต่กลับคว้ามือเรียวไว้และจับจูงให้วิ่งตามมาจนถึงลานจอดรถที่อยู่ทางด้านหลังโรงแรม มองเห็นรถส่งพิซซ่ากำลังสตาร์ทเครื่องรอ เลยหันขวับมองหน้าหนุ่มน้อยที่วิ่งมาด้วยกัน เป็นจังหวะเดียวกับที่พวกชายชุดดำโผล่มาตรงประตูโรงแรมพอดี
   “คุณอยากกินพิซซ่ามั๊ย ?”
   “ไม่ขำ รถคันไหนของคุณ”
   แต่ดูเหมือนใบหน้าหวานจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ตลกด้วยเลยสักนิด
   ร่างสูงยักไหล่น้อยๆ ด้วยท่าทางสบายๆ วิ่งนำไปที่รถช๊อปเปอร์สีดำสะท้อนเงาแสงไฟวูบวาวสวยงาม เมื่อขึ้นไปนั่งคร่อมและสตาร์ทรถ ร่างเพรียวก็กระโดดขึ้นนั่งซ้อนท้ายอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องให้มีใครเอ่ยบอก
   “จับแน่นๆ ล่ะ”
   เสียงทุ้มเอ่ยสั่ง และเร่งเครื่องรถหนี ตามสัญชาตญาณที่ร้องบอกเตือนว่าหากรู้ว่าจะแพ้ อย่าได้คิดสู้ เพราะนั่นเท่ากับแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม อีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่า ไม่ควรเสี่ยง หลบไปตั้งหลักก่อนน่าจะเป็นการดีกว่า
   ดวงตาคมมองกระจกส่องหลัง ยังคงไม่ปลอดภัย เพราะมีรถขับตามและยังสลัดไม่พ้น ไม่คิดว่าจะได้เจอเรื่องน่าตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน แต่ก็น่าสนุกกว่าการที่จะต้องไปนั่งรอพลวัฒน์อยู่ที่โรงแรมเฉยๆ เป็นไหนๆ
   จอมทัพมองซอกซอยตรงหน้าที่ใกล้จะถึงอีกราว 100 เมตร และตัดสินใจแล่นเข้าไป เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา วกไปวนมาจนจำทางกลับไม่ได้ นานเกือบชั่วโมงก็มาจอดรถที่หน้าบ้านร้างเก่าๆ หลังหนึ่ง
   “คงพ้นแล้ว”
   “เหรอครับ”
   เฌอพัชญ์ปล่อยแขนที่กอดเอวร่างสูงจนแน่นให้คลายออก ระบายลมหายใจยาวและก้าวลงจากรถ เดินไปตามเส้นทางที่รถเลี้ยวเข้ามา เพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา และคงจะจริงเพราะไม่มีแสงไฟหรืออะไรให้เห็น นอกจากแสงสว่างจากเสาไฟมุมถนน
   “ขอบคุณมากนะครับ”
   เสียงใสเอ่ยบอกด้วยความจริงใจ ถ้าไม่ได้คนๆ นี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง
   “ไม่เป็นไร”
   จอมทัพบอกเสียงเรียบ มือหนายกขึ้นเสยผมไปทางด้านหลังอย่างลวกๆ ไม่เป็นทรง แต่ใบหน้าหล่อเหลาก็ยังดูดีไม่เปลี่ยนแปลง
   “แต่ผมไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใคร”
   คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ก่อนจะระบายรอยยิ้มนิดๆ ที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
   “อืม ถ้างั้นผมมีวิธีให้คุณตอบแทน”
   ร่างสูงลุกยืนและเดินเข้ามาใกล้ โน้มศีรษะลงมาอย่างเนิบช้า ลมหายใจจากปลายจมูกโด่งรินรดแก้มนวลของคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดลึกยาวหวังกักเก็บความเย้ายวนนี้ไว้ให้ฝังลึกในจิตใจ
   เฌอพัชญ์ตัวแข็งนิ่งค้างพลางกลืนน้ำลายลงคอ ผิวกายร้อนวูบวาบ เสียงหายใจกระชั้นเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ หน้าใสแดงระเรื่อ ไม่รู้ว่าเหนื่อย ร้อน หรืออายกันแน่
   “หึๆ”
   ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ไม่นึกเลยว่าเจอกันสองครั้ง เขาก็เกือบจะอดใจไม่ไหวจูบริมฝีปากสีสวยนี่อีกซะแล้ว
   “ผมก็โรแมนติกนะคุณ จะให้มีอารมณ์ในบรรยากาศแบบเนี้ยนะ คงไม่ไหวหรอก”
   “คุณ !”
   มือเนียนผลักร่างสูงใหญ่ออกเต็มแรง นึกโมโหคนตรงหน้ารวมทั้งตัวเอง ที่หลงเคลิบเคลิ้มเผลอไผลไปเสียได้
   “เอาน่า ผมรู้ว่าเสน่ห์ของผมใช้ได้กับผู้หญิงและผู้ชายทุกคน”
   “จะบ้าหรือไง ใครจะไปคิดอย่างนั้น”
   หน้าใสแดงก่ำด้วยความหมั่นไส้และฉุนจัดจากความหลงตัวเองของชายหนุ่ม
   “ผมล้อเล่นน่า ผมไม่ทำอะไรหรอก ถ้าคุณไม่เต็มใจ”
   “เฮอะ”
   เฌอพัชญ์เบ้หน้าน้อยๆ จากสิ่งที่ได้ยิน ถ้าจำไม่ผิด เมื่อวานนี้ก็ถูกขโมยจูบโดยไม่เต็มใจไม่ใช่เหรอไง
   “คุณจะเอายังไงต่อ ?”
   จอมทัพเลิกล้อเล่น และเปลี่ยนกลับมาอยู่ในโหมดจริงจัง
   หน้าหวานเปลี่ยนสีหน้าไปมาหลายรูปแบบอย่างใช้ความคิด เพื่อนในประเทศไทยก็มีเพียงคนเดียวคือนันทพร แต่หากติดต่อไปก็ไม่แน่ใจว่าคนพวกนั้นจะตามมาเจอหรือเปล่า เพราะขนาดว่าตัวเขาพักอยู่ที่ไหน ห้องอะไร ก็ยังรู้ได้ขนาดนี้ เกรงว่าอันตรายจะมาเยือนเพื่อนแบบไม่ได้ตั้งใจ
   “ผม”
   “คิดไม่ออกก็มากับผม”
   เสียงทุ้มเอ่ยบอก พลางก้าวขายาวๆ ขึ้นไปนั่งคร่อมบนรถมอเตอร์ไซด์ตามเดิม
   “แต่ว่า”
   “เอาน่า อย่าคิดมาก แฟนก็ต้องช่วยแฟนสิ”
   “หา อ่า ห๊ะ !”
   ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ อย่างไม่แน่ใจว่าหูตัวเองเพี้ยนไปหรือเปล่า นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเอง ก่อนจะชี้ไปที่ร่างสูง ทำแบบนี้สลับไปสลับมา
   “หึๆ อือฮึ ก็คุณกับผมไง เมื่อวานคุณเป็นที่รักของผมใช่ไหมล่ะ .. วันนี้ผมก็เป็นแฟนคุณไง”




 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อูฮิบบูกี .. รักนี้แค่คุณ *3 (16/08/2564)
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-09-2021 09:48:07 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด