รักไสยไสย แก้วมาลูนเขียน จันทร์ 26 เมษายน พศ.2564 1.54 (ตอนที่ 6)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักไสยไสย แก้วมาลูนเขียน จันทร์ 26 เมษายน พศ.2564 1.54 (ตอนที่ 6)  (อ่าน 1559 ครั้ง)

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-05-2021 20:51:19 โดย แก้วมาลูน »

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คำโปรย
   “ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา” ความรักที่เกิดจากอำนาจไสยศาสตร์จะเป็นความสุขที่แท้จริงหรือ เราทุกคนต่างก็ตอบหาคำตอบ

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขียนนะครับ(แบบจริงๆจังๆ) ผิดถูกประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มือใหม่หัดเขียน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2021 01:53:11 โดย แก้วมาลูน »

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รักไสยไสย
บทนำ
   ความรักในโลกนี้มีมากมายหลากหลายรูปแบบ เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ความรกนั้นมีทั้งรักแบบด้านดีทำให้เกิดพลังบอก แต่บางคนก็ใช้ความรักที่เห็นแก่ตัวทำร้ายคนอื่นหรือแม้กระทั่งคนที่ตัวเองรัก การใช้ความรักไปในทางไหนนั้นขึ้นอยู่กับตัวเราเองแล้วว่าจะใช้ไปในทางไหน
   “เฮ้ย! ไอ้โอ๊ตพี่หมอมึงเปลี่ยนสาวควงอีกแล้วว่ะ” ไอ้จอมเพื่อนสนิทของผมพูดอย่างอึ้งๆเมื่อเห็นพี่ดีน หรือพี่หมอที่ผมเรียก เดินควงสาวสวยผ่านหน้าพวกผมไปยังรถคันหรู ผมได้แต่มองตามตาละห้อย ทำไงได้ล่ะในเมื่อผมก็แค่คนที่แอบรักพี่หมอมานาน จะให้ไปสารภาพ เพราะเคยทำไปแล้วเมื่อนานมากแต่พี่หมอบอกว่าเค้าไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมก็เลยได้แต่เฝ้ามองแบบนี้มาตลอดหลายปี ความรักของผมก็เป็นรักอีกรูปแบบหนึ่งบนโลกใบนี้ ซึ่งเป็นรักที่ได้แต่เฝ้ารอไม่รู้มันจะสมหวังเมื่อไหร่ ก็ได้แค่หวังเท่านั้น
   “ทำใจโว๊ยเพื่อน ถ้าเป็นกูนะจะทำของใส่เลยจบ” ไอ้ภูพูดพลางมองตามไปจนสุดสายตา
   “ไอ้ภู มันไม่ใช่ทางออกของปัญหานะมึง” ผมรีบแย้ง
   “แหมนะ กูจะบอกให้ทุกวันนี้รักอย่างเดียวมันไม่สมหวังหรอกโว๊ยเพื่อน มันไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล มันไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถาแหละวะ” ภูพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
   “มึงก็รู้นี่ว่าพี่ชายไอ้โอ๊ตมันเก่งทางนี้ มึงจะให้พี่ชายมันทำเสน่ห์ให้มันงั้นดิ?” จอมพูด
   “เฮ้ย! ไม่เอาถ้ากูชอบใครสักคนกูไม่อยากจะใช้อะไรแบบนี้หรอก พี่กูบอกว่าของแบบนี้มันไม่ยั่งยืนหรอก ทำได้มันก็เสื่อมได้ มันไม่ใช่ทางออกเสมอไปหรอกว่ะภู”
   “เออสิ กูเห็นมึงเฝ้ามองพี่มันมาตั้งหลายปีแล้ว กูล่ะเจ็บแทนมึงว่ะ พี่มันก็ขยันเป็นคนควงเหลือเกิน มึงนี่ก็ช่างทนจริงนะโอ้โอ๊ต” ภูพูดด้วยสีหน้าที่เห็นใจเพื่อพลางตบบ่าผมไปด้วย
   “เอาน่า กูไหวของใจพวกมึงมากนะ ปะๆกูจะไปเลี้ยงนมปั่นหลังมอ” ผมพูดติดตลกทำให้วงสนทนาเราดูครึกครื้นไม่เครียดกันจนเกินไป สุดท้ายแล้วรักของผมจะเป็นอย่างไรก็ให้เวลาตัดสินกันเถอะครับ

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนที่ 1 ได้เรื่อง
   ร้านนมปั่นหลังมอคึกคักไปด้วยนักศึกษา ต่างคนต่างนั่งคุยกันสนุกสนานแน่นขนัดเต็มร้านในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน บรรยากาศสบายๆคลายเครียดหลังจากที่ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยกับการเรียนกันมาทั้งวัน พวกผมสามคนก็มานั่งจมปุกกันอยู่ที่ร้านนมปั่นตามที่ชวนกันมา
   ในแก๊งค์มีกันสามคน คบกันมาตั้งแต่เรียนมอต้นจนตอนนี้พวกผมเข้าปีหนึ่งแล้วครับ ยังตามกันมา ด้วยความชอบที่เหมือนกัน ทำให้เราเรียนที่เดียวกันสาขาเดียวกันโดยที่ไม่ได้แยกกันไปไหน แก๊งค์เราก็จะมีผมโอ๊ต ไอ้จอมและไอ้ภู ไปไหนมาไหนด้วยกันเรียกว่าเป็นเพื่อนตายแทนกันได้
   “นี่ไอ้โอ๊ต มึงยังจะแอบรักพี่หมอของมึงไปถึงเมื่อไหร่วะ?”ไอ้ภูเปิดประเด็นขึ้นมา ทำให้ผมกับได้จอมมองหน้ากับโดยอัตโนมัติ
   “กูไม่รู้ว่ะ จนกว่ากูจะทนไม่ไหวแล้วเลิกรักพี่มันไปเองละมั๊ง”
   “เอาน่า ไอ้โอ๊ตมันแอบรักพี่หมอมันมาหลายปีมึงก็เข้าใจมันหน่อยสิวะ” ไอ้จอมเป็นคนกลางมันจะเป็นฝ่ายเกลี้ยกล่อมประนีประนอมผมกับไอ้ภูอยู่เสมอๆ เพราะไอ้ภูมันไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นักที่เห็นผมเจ็บเพราะเห็นพี่ดีนควงสาวบ่อยๆไม่ซ้ำหน้า แต่ผมเข้าใจมันนะเพราะมันเป็นหวงผม ส่วนไอ้จอมมันก็ห่วงผมนะแต่มันก็คอยปลอบผมมากกว่าคอยปรามเหมือนไอ้ภู
   “มึงเนี่ยก็ให้ท้ายมันเข้าไป กูสงสารเวลาไอ้โอ๊ตมันเสียใจนะมึง กูห่วงมันเพราะกูไม่อยากเห็นมันเสียใจนะไอ้จอม”
   “กูก็รู้ แต่มึงก็ต้องเข้าใจมันนะว่าไอ้โอ๊ตมันรักของมันมาตั้งนาน จะให้หักดิบเลิกชอบปุบปับแบบมึงมันทำไม่ได้หรอก”
   “เฮ้อ กูก็อยากให้ไอ้โอ๊ตมันตัดใจซะที ไม่ก็ให้พี่มันทำเสน่ห์ดิ” ไอ้ภูเปิดประเด็นนี้อีกแล้ว
   บ้านผมมีกันสามพี่น้อง พี่โอมเป็นพี่ชายคนโต ผมโอ๊ตเป็นคนกลาง มีน้องสาวอีกคนคือเอม พี่โอมเรียนจบแล้วรับช่วงต่อกิจการที่บ้านพร้อมๆกับเป็นหมอไสยศาสตร์ ส่วนเอมกำลังเรียนอยู่มอห้า ด้วยความที่พี่โอมสนใจศึกษาด้านนี้ ซึ่งเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วของเพื่อนผมทั้งสองคนทำให้ไอ้ภูชอบเปิดประเด็นนี้อยู่บ่อยๆ แต่ผมก็ยังยันคำเดิมนะครับว่าไม่ทำเด็ดขาด เพราะความรักต้องเกิดจากใจเท่านั้น ไม่ใช่เกิดจากอำนาจวิชาไสยศาสตร์และพี่โอมก็ไม่สนับสนุนให้ใครทำแม้พี่โอมเองจะทำได้ก็เถอะ
   “ไม่อ่ะ กูไม่เคยคิดจะทำว่ะ” ผมพูดกับไอ้ภูรอบที่ร้อย
   “มึงนี่ก็นะไอ้ภู เอาเป็นว่าปล่อยให้มันตัดสินใจของมันเองเถอะ” ไอ้จอมพูดตัดจบ เราสามคนก็คุยเรื่องเรียนบ้างสัพเพเหระกันไปเรื่อยเปื่อย


   “อ้าวพึ่งถึงบ้านหรอวะโอ๊ต” เสียงพี่โอมร้องถามมาเมื่อผมกำลังเดินขึ้นบนห้อง
   “ใช่ พอดีแวะไปกินนมปั่นหลังมากับพวกไอ้จอมไอ้ภูมาอ่ะ”
   “แล้วนี่เอมยังไม่กลับบ้านหรอ?” ผมถามพี่โอมต่อ
   “ยังไม่เลิกเรียนพิเศษ ป๊ากับลังไปรับมันละ”
   “อ่อโอเค งั้นเดี๋ยวโอ๊ตอาบน้ำก่อน”
   “เออๆ ป๊ากลับมาแล้วเดี๋ยวพี่มาเรียก จะได้ลงไปกินข้าวกัน”
   ผมปิดประตูห้องทิ้งตัวลงบนเตียงนอนอย่างคนหมดพลังงาน นี่พี่หมอเปลี่ยนคนควงอีกแล้วหรอ? พออยู่คนเดียวกับตัวเอง ผมจะคิดฟุ้งซ่านไปหมด ยิ่งเห็นภาพบาดตานี้แล้วใจผมแทบจะหยุดเต้น มันเป็นความรู้สึกจุกๆอยู่ในอก จะร้องก็ร้องไม่ออก เพราะมันร้องจะไม่มีอะไรจะร้องแล้ว ผมแอบรักพี่หมอมานานแล้วตั้งแต่ตอนอยู่มอต้น เพื่อนผมสองคนก็รับรู้มาตลอด แล้วทั้งปลอบทั้งดุผมตลอดเช่นกัน ไอ้จอมเพื่อนตัวเล็กไซส์เดียวกับผม มันเป็นคนใจเย็นแก้ไขปัญหาด้วยการประนีประนอมเก่ง มันเป็นคนมองโลกในแง่ดี ส่วนไอ้ภูไอ้เพื่อนหุ่นยักษ์นิสัยจะค่อนข้างหัวร้อน มันจะหงุดหงิดบ่อยๆถ้ารู้ว่าผมเจ็บจากพี่หมอมา มันเป็นคนปากร้ายแต่มันก็เป็นห่วงผมไม่แพ้ไอ้จอม ถ้าผมไม่มีเพื่อนสองคนนี้คอยเคียงข้างป่านนี้ไม่รู้ผมจะเป็นยังไง
   หลังจากที่ทำใจได้สักพักผมก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่ตัว พอดีกับพี่โอมมาเคาะประตูเรียกพอดี ผมจึงลงไปกินข้าวข้างล่างพร้อมพร้อมหน้าพร้อมตากับทุกคนในครอบครัว บ้านผมเป็นบ้านคนจีนป๊ากับม๊ามีอาชีพค้าขายทำธุรกิจเล็กๆนำเข้าอาหารแห้งต่างจากเมืองจีน เช่น พวกผักดองเห็ดหอมแห้ง อาหารแห้งอย่างอื่นเข้ามาขายทั้งขายปลีกหน้าร้านทั้งขายส่งตามร้านอาหารจีนที่จะมารับซื้อไปประจำ โดยที่พี่โอมคอยช่วยป๊ากับม๊าอีกแรง และในบางครั้งพี่โอมก็จะไปหาหลวงปู่ที่วัดเพื่อนร่ำเรียนวิชาคาถาอาคม โดยจะไปค้างที่วัดต่างจังหวัดเป็นอาทิตย์ถึงจะกลับบ้าน ป๊ากับม๊าก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่เคยห้าม ป๊ากับม๊าเป็นคนหัวสมัยใหม่อะไรที่ลูกชอบก็ไม่เคยห้ามพร้อมสนับสนุนเต็มที่อีกต่างหาก เรื่องที่ผมชอบพี่หมอก็เหมือนกันป๊ากับม๊าก็รู้ แถมยังคอยให้กำลังใจไม่เคยกีดกันหรือมีอคติแต่อย่างใด
   ผมถือว่าผมโชคดีมากที่มีป๊ากับม๊าคอยเข้าใจในตัวผม โดยปกติลูกคนจีนจะเข้มงวดมาก โดยเฉพาะลูกชายดูจะเป็นความหวังของพ่อแม่ หวังสืบต่อธุรกิจและสกุลแต่งงานมีลูกมีหลาน แต่ป๊ากับม๊าผมบอกว่า ไม่เคยเสียใจเลยถ้าผมจะชอบผู้ชาย ขอแค่ผมเป็นคนดีก็พอแล้ว
   “เอ็งไม่ต้องคิดมากหรอกว่าป๊ากับม๊าเอ็งจะเสียใจ ป๊าดีใจและภูมิใจกับพวกเอ็งทุกๆคนนะ แค่พวกเอ็งเป็นคนดีของสังคมไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แค่นี้ป๊าก็พอใจแล้ว” ป๊าพูดในระหว่างที่พวกเรากำลังล้อมวงกินข้าวกันห้าคน
   “ครับป๊า” พี่โอมขานรับพร้อมรอยยิ้ม
   “ม๊าก็ยังห่วงโอ๊ตนะ ม๊าไม่อยากเห็นโอ๊ตทุกข์เพราะพี่หมอของโอ๊ตนะลูก” ม๊าพูดพลางตักกับข้าวใส่จานผม
   “โอ๊ตยังไหวครับม๊า ถ้าวันนึงโอ๊ตทนไม่ไหวโอ๊ตคงถอยออกมาเองแหละม๊า”
   “อืม ยังไงก็ยังมีครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างนะโอ๊ต” ป๊าพูด
   “ครับป๊า โอ๊ตยังไหว”


   บรรยากาศเช้าวันใหม่ที่เริ่มต้นด้วนความจอแจของรถราบนท้องถนนอย่างเช่นทุกวัน ผมตื่นตอนเช้ารีบอาบน้ำแต่งตัววันนี้จะรีบเข้ามอหน่อย เพราะท้ายคาบจะมีสอบย่อยเลยต้องทำเวลานิดหน่อย ลงมาข้างล่างก็เจอเอมนั่งกันข้าวอยู่
   “อ้าวเอม วันนี้รีบไปโรงเรียนเหมือนกันหรอ?”
   “ใช่พี่โอ๊ต วันนี้เหมือนเค้าบอกบีทีเอสขัดข้องเองเลยว่าจะเผื่อเวลาน่ะ”
   “อ้าว จริงดิ”
   “อือใช่ พี่ไปอยู่ไหนมาเนี่ย” น้องสาวผมส่ายหน้าแบบเอือมๆ
   “งั้นพี่ไปกินมื้อเช้าที่มอดีกว่าเดี๋ยวสาย ไปละนะ” ผมว่าพลางลุกขึ้น พอดีกับมีสายเข้าพอดี อ่อไอ้ภูโทรมานั่นเอง
   “ว่าไงพี่หมียักษ์แห่งสาธร” ผมแหย่มันครับ
   “เอออารมณ์ดีแล้วสินะมึง”
   “ก็ปกติปะวะ กูบอกแล้วว่ากูไหว แล้วนี้ว่าไงวะโทรมาแต่เช้า”
   “มึงออกมาหน้าบ้านเลยกูกับไอ้จอมจอดรอมึงอยู่ละ”
   “เฮ้ย จริงดิ” ผมดีด้าใหญ่เลย น้องสาวผมมองอยู่เลยส่ายหัวให้อีกที
   “เออสิวะ เร็วๆเดี๋ยวไม่รอ”
   สรุปวันนี้ไม่ต้องโหนรถไฟฟ้าไปเรียนครับ ไอ้ภูกับไอ้จอมมารับพอดีเลย
   “แล้ววันนี้มารับกูวะ?” ผมถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้
   “กูรู้ว่าว่าวันนี้รถไฟฟ้าจะขัดข้อง ไอ้ภูก็รู้เลยจะมารับมึงไง”
   “หรอวะ กูไม่เห็นรู้”
   “มึงไปอยู่ไหนมาเนี่ย” อ้าวพูดเหมืองน้องผมเลย
   “ก็อยู่บ้านสิวะ”
   “เออๆรีบไปกันได้ละ” ไอ้จอมตัดบท
   เช้าวันนี้บรรยากาศในห้องเรียนค่อนข้างจะน่าเบื่อ ช่วงแรกทำการเรียนการสอนปกติ พอถึงท้ายคาบก็มีการสอบย่อย ซึ่งเวลาในการทำข้อสอบเรียกน้อยนิดเหลือเกินเทียบกับเนื้อหาที่สอบ
   “โหดสัสรัสเซียมากครับ กูอยากรู้จริงๆว่าอาจารย์ใช้อารมณ์ไหนออกข้อสอบวะ” ไอ้ภูหมียักษ์แห่งสาธรบ่นกระปอดกระแปด หลังจากที่ทำข้อสอบด้วยความหัวเสีย
   “กูว่าก็ไม่ได้ยากอะไรนะไอ้ภู กูยังพอทำได้เลย”
   “เออไอ้โอ๊ต ไอ้หัวกะทิมึงทำได้มึงก็ไม่บ่นนี่” มันยังบ่นต่อ
   “ก็ถ้ามึงตั้งใจ มึงทำได้แน่นอน กูว่ามันก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้นมั้ยวะ กูก็พอทำได้อยู่นะ” ไอ้จอมพูดยิ้มๆพลางส่ายหัวให้ไอ้ภู
   “เออๆ เอาเป็นว่าเที่ยงนี้กินข้าวที่ไหนดีวะ?” ไอ้ภูเปิดประเด็นใหม่
   “กินข้าวไหนดีโอ๊ต?” ไอ้จอมหันมาถามอีกคน
   “ไปหลังมอดีมั้ย อยากกินร้านข้าวที่เปิดใหม่ว่ะ” ผมเสนอ
   “เออดีๆ ไปกันๆ” ไอ้จอมสรุป
   เดอะแก๊งค์ของเราก็ยกโขยงกันมาร้านข้าวเปิดใหม่หลังมอ เป็นร้านใหม่ตกแต่งสวยงาม ดูร่มรื่นบรรยากาศดีมากๆ อาหารก็ราคานักศึกษาผู้มีรายได้น้อยอย่างพวกผมจริงๆ เราสามก็ได้โต๊ะนั่งบริเวณระเบียงที่ยื่นไปในสระ น้ำใสมากมีปลาคาร์พว่ายไปมาฝูงใหญ่นั่นเพลินๆดีเหมือนกัน ผมไม่เรื่องมากให้เป็นหน้าที่ไอ้เพื่อนสองงคนจัดการสั่งข้าวมา นั่งเล่นรอข้าวเพลินๆ เพื่อนผมสองคนก็คุยกันหนุงหนิงไปเรื่อยๆ แต่หูผมดันได้ยินเสียงทุ้มหน้าฟังของใครคนหนึ่งเหมือนกำลังเดินเข้ามาในร้าน
   “เฮ้ยไอ้โอ๊ต พี่หมอมึงมาว่ะ” ไม่ต้องสืบครับ ไอ้จอมกระซิบกับผม
   “เออกูรู้แล้ว มึงไม่ต้องบอกกูหรอก แค่เงากูยังจำได้เลย”
   ไอ้ภูหมียักษ์ไม่ได้พูดอะไรได้แค่มองพวกผมสองคนกระซิบกระซาบกัน แล้วพี่หมอก็พาสาวสวยมานั่งโต๊ะข้างๆเรานี่เองครับ   
   “พี่ดีนคะ บรรยากาศในร้านนี้ดีจังนะคะ”
   “น้องพลอยชอบหรอครับ วันหลังพี่พามาบ่อยๆดีมั้ยครับ” พี่หมอพูดพลางยิ้มตาหยี
   “จริงๆนะคะ พลอยชอบร้านแบบนี้ที่สุดเลยค่ะ”
   ได้ยินแล้วยิ่งเจ็บ ผมนั่งตัวแข็งทื่อเป็นรูปปั้น เจ็บมากเจ็บหน่วงอยู่ในอก ทำไมต้องบังเอิญเจอกันบ่อยๆนักไม่รู้ เจอกันแต่ละครั้งพี่เค้าก็จะมีสาวสวยเคียงข้างตลอด  ผมได้แต่นั่งมองภาพบาดตานั้นด้วยหัวใจที่เจ็บหน่วง ไอ้ภูกับไอ้จอมมองผมด้วยสายตาที่ห่วงใย
   “เออกูยังไหว อย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั้นสิพวกมึงอ่ะ”

   “ไปร้านอื่นก็ได้นะโอ๊ต เดี๋ยวกูไปยกเลิกข้าวที่สั่ง” ไอ้ภูพูดด้วยสายตาหวงใย
   “ไม่เป็นไรหรอกน่า กูชินแล้ว ไหนๆก็สั่งไปแล้วจะยกเลิกทำไม”
   “ไม่ไหวบอกพวกกูได้นะ” ไอ้จอมพูดพลางบีบไหล่
   “เออน่า กูไหวเพื่อนพวกมึงสบายใจได้”
   “ให้มันจริง” ไอ้ภูพูด
   หลังจากที่อาหารมาพวกผมก็ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวกันจริงๆจังแบบไม่มองที่ไหนเลย รีบกินจะได้รีบลุก อาหารที่ร้านนี้ก็รสชาติดีนะ แต่ผมกินไม่ค่อยลงเหมือนมีก้อนอะไรจุกอยู่ที่อก เราสามคนก็กินกันเงียบๆ สักพักได้ยินเสียงเลื่อนของเก้าอี้ พี่หมอลุกไปห้องน้ำครับ พวกผมก็มองหน้ากัน อยู่ๆไอ้จอมก็สะกิดผมให้มองที่สาวสวยที่ร่วมโต๊ะกับพี่หมอ
   “อะไรวะไอ้จอม” ผมกระซิบ ไอ้จอมไม่พูดแต่ไอ้ภูกำลังพยักเพยิดหน้าให้ผมมองไปที่โต๊ะนั้น
   “ฉิบหายแล้วมึงไอ้โอ๊ต” ไอ้ภูพูดเบาๆ
   




ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนที่ 2 ยาเสน่ห์
   ภาพที่ผมเห็นนั้นทำให้ผมอึ้งมาก สาวสวยที่ชื่อพลอยกำลังโรยผงอะไรบางอย่างลงในแก้วน้ำพี่หมอ และแน่นอนมันคงไม่ใช่ของดีอะไรแน่นอนหรอก ในมุมมองของคนที่ซึมซับเรื่องไสยศาสตร์มากจากพี่โอมสันนิษฐานไว้ในใจเลยว่าพี่หมอโดนยาเสน่ห์แน่นอน ไม่ใช่ยาปลุกอะไรพวกนี้แน่เพราะนี่มันในร้านข้าวข้อนั้นจึงปัดตกไป แน่นอนว่ายาเสน่ห์เป็นยาที่นิยมมากในสมัยก่อน
   “ท่าไม่ดีแล้วว่ะโอ๊ต” ไอ้จอมพูด
   “เล่นของแรงเลยนะโอ๊ต” ไอ้ภูพูดด้วยสีหน้าตื่นๆ
   “ทำไงดีวะพวกมึง” ผมถามความเห็น
   “เอางี้” ไอ้จอมหาทางออกพร้อมทั้งกระซิบบอกพวกเราให้ทำตามแผน
   ก่อนที่พี่หมอจะกลับมาที่โต๊ะผมก็แกล้งเดินไปสะดุดทำแก้วน้ำที่ใส่ยานั่นร่วงแตกทันที

   เพล้ง!

   แก้วน้ำที่ใส่ยาร่วงแตกเสียงดังคนทั้งร้านหันมามองผมเป็นตาเดียว
   “โอ๊ะ ขอโทษทีครับ เดินไม่ทันระวัง” ผู้หญิงที่ชื่อพลายมองตาขวาง
   “นี่คุณจะหาเรื่องฉันใช่มั้ย?” เธอแว้ดเสียงใส่ผม
   “ป่าวนี่ครับ” ผมตอบหน้าตาย
   “นี่มันอะไรกันครับพลาย” พี่หมอเดินออกมาทำหน้างง
   “ป่าวค่ะพี่ดีน แค่มีคนซุ่มซ่ามทำแก้วแตก” เธอทำสีหน้ามีพิรุธตอบพี่หมอ
   “อ่อครับ แล้วพลอยเป็นอะไรมั้ยครับ” ห่วงกันจริงนะ
   “ไม่เป็นไรค่ะ เรากลับกันดีกว่านะคะ”
   ในระว่างที่เธอกำลังเดินผ่าน ผมกระซิบกับเธอข้างหูพอให้ได้ยินกันสองคน
   “รู้นะว่าจะทำอะไร ลูกไม้ตื้นๆแบบนี้ไม่ดีเลยนะ” เธอเบิกตาโพลง พร้อมกับจ้องผมอย่างอาฆาต

   หลังจากที่ทุกอย่างสงบลง ผมก็ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง
   “เฮ้ย มึงเป็นไรไอ้โอ๊ต” ไอ้จอมรีบถาม
   “กูจะโดนพี่หมอเกลียดป่าววะ”
   “มึงยังจะห่วงเรื่องนี้อีก ที่มึงทำเพราะมึงจะช่วยเค้านะ” ไอ้ภูพูดอย่างโมโห
   “ก็นั่นแหละ พี่หมอเค้าไม่รู้นี่ว่ากูจะช่วยเค้า” ผมพูดอย่างปลงๆ
   “กินเสร็จแล้วก็กลับกันเถอะ บ่ายมีเรียนต่อ” ไปจอมพูดเสร็จก็เดินไปคิดเงิน


   ตลอดบ่ายผมเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเลย ใจผมพะวงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเที่ยงจนถึงตอนนี้พวกเราก็นั่งจมปุกกันอยู่ที่ร้านนมปั่นเจ้าเดิม
   “เฮ้ยไอ้โอ๊ต ไอ้ยานั่นกูว่าแม่งต้องไม่ดีแน่ๆเลยว่ะ ว่าต่มันคือยาอะไรวะ”
   “ยาเสน่ห์” ผมตอบ
   “เออกูพอเดาได้ ว่าแต่มันคืออะไรวะ” ไอ้ภูถามขึ้น
   “เออๆกูก็อยากรู้เหมือนกันมันคือยาแบบไหนกันวะ” ไอ้จอมพูดด้วยสีหน้าอยากรู้
   “อยากรู้หรอ?” ผมถาม
   “เออสิวะ!” มันพูดขึ้นพร้อมกัน
   “เลี้ยงนมปั่นกูดิ” ผมยวน
   “เออ มึงจะกินสิบแก้วก็ก็จ่ายได้” ไอ้หมียักษ์พูดด้วยสีหน้าเอือมๆ
   “เล่าได้แล้วๆ กูอยากรู้” ไอ้จอมเร่ง
   “เออๆเล่าแล้วๆ” ผมตอบมัน
   “คือยาเสน่ห์พวกนี้น่ะ มันเป็นยาที่ไว้ใส่ในอาหาร ใครได้กินเข้าไปจะหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเชียวล่ะ?”
   “มันขนาดนั้นหรอวะ?” ไอ้ภูทำหน้าสงสัย
   “เออสิ พี่โอมเคยเจอเคสแบบนี้ พอแก้ได้แต่ยากอยู่เหมือนกัน”
   ยาเสน่ห์นี้เป็นยาที่ทำโดยพิสดาร มีหลายสูตรหลายตำรับหลายสายวิชา มีทั้งของไทย ของเขมร ของมลายู รวมๆแล้วเป็นวิชาที่แรงเอาเรื่องอยู่มาก เพราะใครโดนยาเสน่ห์พวกนี้แล้วจะหลงคนคนนั้นจะโงหัวไม่ขึ้นเลย ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอะไรทั้งสิ้น อยากจะอยู่แต่กับคนนั้น ถ้าห่างกันก็จะเพ้อหาตลอดเวลา นับว่าเป็นยาที่อันตรายมากไม่แพ้วิชาเสน่ห์แขนงอื่นเลย
   “กูเริ่มกลัวว่ะไอ้โอ๊ต” ไอ้จอมทำหน้าสยอง
   “ทางป้องกันคือ มึงต้องมีสติ อย่าไปกินของของใครสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะของพวกนี้จะทำมันง่ายมาก แต่เวลาแก้ยากมาก”
   “มึงอ่ะระวังให้มากเลยไอ้ภู เวลาไปเที่ยวกลางคืนอ่ะ” ผมเตือนมัน
   “ยังไงวะ” ทำหน้างงอีก
   “ใครยื่นอะไรให้กินก็ระวังๆหน่อย โชคดีก็เจอแค่ยาปลุก ถ้าซวยมึงก็โดนยาเสน่ห์”
   “จริงดิวะ?” มันทำหน้าตื่น
   “เออสิ พวกสวยๆนี่น่ากลัวนะมึงระวังไว้หน่อยก็ดี”
   “เออๆกูจะระวังไว้” มันตอบรับคำด้วยสีหน้าจริงจัง
   “เอาจริงๆนะ ยาพวกนี้มันมีอยู่จริงหรอวะ โลกมันไปไกลแล้วนะมึง” ไอ้จอมซักต่อ
   “มีสิ มีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่ที่ว่ามึงจะรู้รึไม่รู้ว่ามันมี”
   “ทำไมมันถึงได้ทำให้คนหลงหนักอะไรขนาดนั้นวะ” ไอ้ภูถาม
   “เพราะกรรมวิธีในการทำมันทำได้ยาก และพิสดารมาก”
   “จริงหรอวะ” มันสองคนพูดพร้อมกัน
   “ใช่ เปลืองตัวพอสมควรเลยแหละ แต่ทำแล้วได้ผมแรงมาก”
   ไอ้ภูกับไอ้จอมตาโตกับสิ่งที่ได้รับรู้ พวกมันคบกับผมมานานก็จริง แต่เรื่องพวกนี้ไม่ได้เป็นประเด็นที่จะได้คุยหรือสนใจกันมากนัก ผมก็อาศัยฟังจากพี่โอมเล่าให้ฟังและคอยเตือนมาตลอด เพราะยาพวกนี้เป็นสิ่งที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเรื่องพวกนี้ก็จางหายไปบ้างตามเวลา แต่ก็ไม่ใช่จะหายไปทั้งหมดเพราะบางทียังคงรักษาสืบทอดเอาไว้ และใช้ได้ผลจริงอยู่
   เช่นกันกับวิธีการรักษาและแก้ยาเสน่ห์พวกนี้ก็ยังรักษาและสืบทอดกันไว้ เพื่อแก้ทางกันมาตลอดทุกยุคทุกสมัย การทำเสน่ห์นั้นง่ายมาก แต่การแก้การถอนนั้นยากกว่าเพราะกลวิธีการทำนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละวิชาว่าทำมาแบบไหน ฝ่ายแก้ก็จะรู้ทางกันอยู่ก็จะหาทางแก้กันไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่แก้อาถรรพ์เหล่านี้จะเก่งกว่าคนทำหรือไม่ เพราะถ้าคนทำเก่งกว่าคนแก้ ก็จบเกมคนแก้บางรายก็ถึงแก่ชีวิตก็มีเพราะของคนทำแรงกว่า คนแก้สู้ไม่ได้นั่นเอง
   “แล้วเวลาเค้าทำ เค้าทำกันยังไงวะ” ไอ้จอมถาม
   “สิ่งที่มึงจะรู้ต่อไปนี้ ไม่ใช่สิ่งที่กูพูดเกินจริงนะบอกไว้ก่อน เพราะเค้าทำกันแบบนั้นจริงๆ”
   “แสดงว่ามันต้องไม่ธรรมดาอ่ะดิ” ไอ้ภูตาโต
   “สุดๆของความพิสดาร” ผมบอกพวกมัน
   ถ้าจะพูดถึงการทำยาเสน่ห์แล้ว เป็นสิ่งที่ทำได้ยากและพิสดารมาก โดยมากยานี้ผู้หญิงจะทำใส่ผู้ชายกัน แล้วพวกเราก็นั่งคุยกันถึงเรื่องนี้อย่างออกรสออกชาติ โดยมากผมจะเป็นคนเล่าให้เพื่อนทั้งสองคนฟังเพราะผมพอจะมีความรู้เรื่องนี้จากประสบการณ์ของพี่โอมด้วย


   “เอาล่ะถึงบ้านมึงละไอ้โอ๊ต” ไอ้ภูพูดพร้อมกับบิดขี้เกียจ
   “เออๆ ลงไม่กินน้ำกินไรกันก่อนมึงด้วยไอ้จอม” ทั้งสองคนมองหน้ากัน
   “เออดีเหมือนกันว่ะ ไม่ได้มาบ้านมึงนานละ ไปทักทายป๊ากับม๊าหน่อย” ไอ้จอมพูด
   แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นหลังจากที่เราสามคนลงมาจากรถ กำลังจะเข้าบ้านก็มีแสงไฟจากรถคันหนึ่งส่องวาบมาที่พวกผมสามคน พร้อมทั้งเบรกเสียงดังเอี๊ยดไม่ดังนัก
   “งานเข้าแล้วมึงไอ้โอ๊ต” ไอ้ภูพูดคนแรก
   “เอาแล้วไงไอ้โอ๊ต” เสียงไอ้จอมตามมา
   ผมต้องอึ้งอีกรอบของวันเมื่อรถคันนี้ที่ผมจำได้อย่างแม่นยำ จะใครซะอีกล่ะ รถพี่หมอดีนของผมไงครับ ทำไมตามผมมาถึงบ้านได้เนี่ย ผมนึกๆเสียวสันหลังวาบต้องเรื่องเมื่อกลางวันแน่ๆเลย นั่นพี่หมอลงจากรถมาแล้ว หน้าเรียบนิ่งแต่หล่อกระชากใจมาก ผมก็ยังกลัวอยู่ดีแหละ ตอนนี้ผมหัยรีหันขวางมองซ้ายมองขวาไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสองก็ยืนมองตาปริบๆ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
   “มึงต้องจำเรื่องราวนี้ไปอีกนานแน่ เดือนมหาลัยมาหาถึงบ้าน” ไอ้ภูพูด
   “ไอ้จอมไอ้ภูทำไงดีวะ” ผมชักจะเหงื่อตก
   “กูก็ไม่รู้ว่ะ” ไอ้จอมทำหน้าแหยๆ
   พี่หมอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม แล้วพูดด้วยสิ่งนิ่งๆว่า
   “ขอคุยด้วยหน่อย”
   ผมมองเพื่อนสองคนอย่างขอความช่วยเหลือ มันสองคนทำหน้าเจื่อนๆแล้วไอ้จอมก็พูดขึ้นว่า
   “เดี๋ยวกูสองคนเข้าไปรอในบ้านก่อนละกันนะ” อ้าวนี่มึงทิ้งกูเลยหรอ
   

   ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนพี่หมอพูดขึ้นก่อน
   “เมื่อกลางวันไปทำไรไว้หรอ?” เสียงพี่หมอนิ่งมาก
   “ก็ ปะ เปล่านี่ครับ” เสียงสั่นเลยผม
   “แน่ใจหรอไม่ได้ทำไรจริงๆน่ะ”
   “นะ น่ะ แน่ใจครับ”
   “แล้วที่พลอยเล่าให้ผมฟังคืออะไร คุณไปข่มขู่อะไรพลอย” แม่เสือสาวนั่นเล่นงานผมแล้ว เอาไงดีวะ
   “ผมไม่ได้ข่มขู่อะไรเธอจริงๆนะครับ” พี่หมอจ้องผมอย่างเอาเรื่อง
   “ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้อีกผมจะเอาเรื่องคุณ”
   แต่มันไม่มีอะไรจริงๆนี่ครับ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”
   “ช่างเถอะ ผู้ร้ายปากแข็งครั้งต่อไปอย่าได้เจอกันอีกเลยนะ”
   “...”


วันนี้รีบมาอัพก่อนไฟดับ พายุเข้าดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ นิยายยุคโควิด
ป.ล. วันนี้เป็นวันจันทร์ซ้อนจันทร์ คือเป็นวันจันทร์ขึ้น 15 ค่ำ ทางไสยศาสตร์ถือเป็นวันสเน่ห์ครับ นิยมอาบน้ำกลางแจ้งตอนเที่ยงคืนเพื่อเสริมสเน่ห์ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-04-2021 05:10:05 โดย แก้วมาลูน »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ให้ความสนใจนะครับ ดีใจมากมีคนมาอ่าน ค่ำๆจะมาลงอีกตอนนะครับ

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนที่ 3 ชายแปลกหน้า
   พี่หมอพูดจบลงแค่นั้น เหมือนใจผมแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี โดนที่คนแอบรักมาหลายปีพูดจาทำร้ายน้ำใจกันแบบนี้ เหมือนเรียวแรงมันหายไปหมด หลังจากที่พี่หมอขับรถออกไปแล้ว ผมแหงนหน้ามองท้องฟ้าเพื่อที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วค่อยๆเดินเข้าไปในบ้าน ในอกผมตอนนี้รู้สึกร้อนและชามาก มันเป็นความรู้สึกบีบแน่นอยู่ในใจมันทรมานมาก โดนพี่หมอเกลียดซะแล้ว
   “เฮ้ยมึง โอเคป่าววะ” ไอ้ภูถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เมื่อเห็นสภาพผม
   “ไม่โอเค ก็ต้องโอเคแหละว่ะ” ผมแทบไม่มีแรงตอบพวกมันแล้ว
   มันสองคนเลยพาผมขึ้นมาบนห้อง ไอ้ภูนั่งบนเก้าอี้โต๊ะอ่านหนังสือผมพร้อมทั้งกอดอกทำหน้ากังวล ไอ้จอมโอบไหล่ผมพร้อมตบเบาๆเป็นการปลอบโยน
   “ปะ วันนี้กูจะพามึงเมาเอง” ไอ้ภูชวน
   “มึงเอาจริงดิวะ?”
   “เออน่า เดี๋ยวกูบอกที่บ้านมึงให้ ถ้ากลับไม่ไหวก็นอนห้องกู”
   “ไปเหอะน่าโอ๊ต ครั้งนี้กูว่ามึงไปซะหน่อยก็ดี” ไอ้จอมชวนอีกคน

   บรรยากาศในร้านเหล้าแห่งในในย่านสถานบันเทิง ต่างคึกคักไปด้วยผู้คนที่มีสีหน้ารื่นเริง ต่างโยกย้ายกันอย่างสนุกสนานตามจังหวะเสียงเพลงที่คลอเคล้า แต่ในใจผมตอนนี้ก็รู้สึกตื้อตันไปหมด เพื่อนทั้งสองพาผมมายังโต๊ะที่จองไว้ในร้าน โดยรวมแล้วในร้านถือว่าดีคนเยอะก็จริงแต่ไม่ได้อึดอัดจนเกินไป เสียงเพลงก็ดังในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ดังมากจนต้องตะโกนโหวกแหวกคุยกัน
   “เต็มที่นะโอ๊ต กูให้มึงเต็มที่เลยวันนี้ เดี๋ยวพวกกูสองคนเก็บซากมึงเอง” ไอ้ภูพูดแหย่
   “ไม่ขนาดนั้นมั้ง”
   “เอาน่าพวกกูอยู่ทั้งคน เต็มที่สบายใจได้” ไอ้จอมพูด
   ตอนนี้ผมยังไงก็ได้ทั้งนั้น ผมยกแก้วแล้วแก้วเล่า เพื่อนก็ขยันเชียร์จังเลย กี่แก้วผมไม่รู้ตัวเลย ผมรู้สึกว่าเหล้าในแก้วมันไม่มีรสชาติอะไรเลย ความรู้สึกมันชาไปหมด ผมปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร ร้องไห้ซบไหล่ไอ้ภูอยู่อย่างนั้น มันก็ไม่ว่าอะไร ผมคิดอยู่นะถ้าผมไม่มีเพื่อนสองคนนี้ ตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะเป็นยังไง การมีเพื่อนที่ดีคอยเป็นที่ปรึกษาเวลาเราทุกข์ใจนี่มันช่วยได้เยอะจริงๆครับ
   “กูไม่มาววววววว ครายว่ากูมาวววว” อ้อแอ้แล้วครับเสียงผมตอนนี้
   “เออ ไม่เมาหรอกจัดไปอีกแก้ว” ไอ้จอมยุ
   “จัดปายยยย โอ๊ตชอบ”
   บางครั้งผมก็พบว่าการที่เราได้เมา ได้ร้องให้ได้ระบายกับเพื่อนมันช่วยได้จริงๆ ตอนนี้ผมลืมเรื่องพี่หมอไปชั่วขณะ ผมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ได้มากขึ้น ตอนนี้ผมเริ่มช้าลงแล้วถามว่าเมามั้ย เมามากครับ แต่จิบๆเรื่อยๆแล้วคุยกันครับ อยู่ไอ้จอมกับไอ้ภูก็มองหน้ากัน
   “มึงสองคนเป็นรายวะ”
   “เออป่าวหรอก ไม่มีอะไร” ไอ้จอมปัด
   “หืม? แน่ใจนะมึง”
   “เออไม่มีอะไรหรอกน่า” เสียงไอ้ภู
   ดื่มไปสักพักรู้สึกปวดฉี่ ไปเข้าห้องน้ำสักหน่อยดีกว่า
   “พวกมึง เดี๋ยวก้ไปห้องน้ำแป๊บน๊า”
   “เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” ไอ้จอมรีบพูด
   “ไม่เป็นราย กูหวายยย”
   “มึงไหวจริงดิ” ไอ้ภูถาม
   “เอออออออ ยังไหวว้อยย”
   ผมก็เดินโซเซ คำสะเปะสะปะไปตามเรื่องจนถึงห้องน้ำ  หลังจากทำธุระเสร็จผมก็ล้างมืออยู่กำลังมึนๆกรึ่มๆได้ที่เลย  เดินโซเซออกมาแล้วก็ชนกับอะไรบางอย่าง
   ตุ๊บ!
   “งื้ออออออออ อารายเนี่ย” ผมบ่นออกมา
   “ขอโทษทีครับ” เสียงคุ้นๆ
   “เดินดีๆหน่อยได้มั้ยคุ๊ณ ผมเมาครับ”
   “อ่อ เมาหรอกหรอ” เสียงทำไมคุ้นจัง
   ว่าแล้วจะของเสียงนั้นก็ประคองผมลุกขึ้น ผมเลยเผลอกอดคอเจ้าเสียงนั้น ทำไมมันช่างอบอุ่นอย่างงี้นะ ขอจูบสักทีได้มั้ย ไหนๆคนที่ชอบก็เกลียดแล้ว ตามใจตัวเองสักครั้งหน่อยเถอะ สติผมไม่เหลือแล้วผมคว้าคนด้านหน้ามาแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม เสียงลิ้นเราดังจ๊วบจ๊าบดังมาก แต่ตอนนี้ไม่สนใจใครแล้ว ตอนนี้ผมหลงไหลเจ้าของริมฝีปากนี้มาก เขาจูบเก่งมาก เทียบกับผมที่ไม่เป็นประสาแล้ว ผมนี่โดนเจ้าของลิ้นร้านและเล็บริมฝีปากอย่างหิวกระหาย
   “หึหึ เร่าร้อนไม่เบาเลยนะ เห็นหงิมๆแบบนี้” เสียงนี้ทำไมคุ้นจัง
   “คุณช่วยผมหน่อยยยย ผะ ผะผมไม่ไหวแล้ว”
   “ได้สิ ขอเอาคืนสักหน่อยละกันนะ” พูดจาอะไรแปลกๆ
   ฉับพลับร่างผมก็ลอยหวือขึ้น ด้วยความที่กลัวร่วงลงไป ผมจึงคว้าคอคนคนนั้นเอาไว้
   ตอนนี้ผมไม่รู้สึกตัวอะไรทั้งสิ้น เขาอุ้มผมมาที่รถของเขาผมก็ให้ความร่วมมือเขาอย่างดี ใจผมแหลกสลายมามากพอแล้วขอประชดชีวิตตัวเองสักวัน ไปกับใครที่ไม่รู้จัก ผมรู้สึกมึนมากแต่ยังพอมีสติเล็กน้อย ระหว่างที่เขาขับรถไปเรื่อยๆ
   “อืม กูกลับแล้ว” สงสัยคุยโทรศัพท์
   “เออน่า ไม่มีอะไรหรอกกูแค่เบื่อๆอยากกลับแล้ว”
   “โอเค”
    สักพักโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมก็สั่น เออว่ะออกมาลืมเพื่อนลืมฝูงเลยเลยคว้าออกมาตัดสินใจรับ
   “ว่า?”
   “ไอ้โอ๊ต มึงอยู่ไหน?” เสียงไอ้หมียักษ์รถยนต์
   “อืม ไม่รู้ว่ะ”
   “เฮ้ย มึงไปไหนวะ กูมาหาที่ห้องน้ำไม่เจอ”
   “กูสบายดี ไม่ได้เป็นไรแค่นี้นะไว้คุยกัน”
   “เฮ้ย! เดี๋ยว”
   ติ๊ด!
   ผมกดตัดสายทิ้งทันที ก่อนจะปิดเครื่อง เอาเป็นว่ามันสองคนรับรู้ละว่าผมยังอยู่ดี แต่ตามนิสัยมันสองคนแล้วก็ยังห่วงผมอยู่ดี

   รถจอดลงยังคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ผมถูกเขาประคองเข้าลิฟต์ ระหว่างที่ลิฟต์กำลังพาเราขึ้นไปชั้นที่เป็นห้องของเขา เราจูบกันอีกครั้งจูบแบบหิวกระหายซึ่งกันและกัน สมองของผมโล่งอย่างประหลาด รู้สึกอบอุ่นกับสัมผัสของเขาเหลือเกิน ทั้งอบอุ่นทั้งร้อนแรงเหมือนจะแผดเผาเราสองคนให้ละลายลงตรงนี้
      
   หลังจากที่ประตูห้องเปิดออกเราสองคนก็จูบกับแบบดุเดือดเหมือนโหยหากันมานานแสนนาน มันเป็นความรู้สึกใหม่ที่ผมได้สัมผัส มันวาบหวิวซ่าบซ่าน เหมือนเจอในสิ่งที่ตามหามานาน หัวใจของผมเต้นถี่รัวลืมความเศร้าความเสียใจก่อนหน้านี้ไปหมด แทนที่ด้วยความรู้สึกใหม่ที่ผมเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับมันจากเขาที่มอบให้อยู่ตอนนี้ ความรู้สึกแปลกใหม่กับคนแปลกหน้าทำให้ผมหลุดลอยเหมือนอยู่อีกโลก จู่ๆเขาก็หยุดแล้วกระซิบกับผม
   “อยากลองอะไรมั้ย?”
   “อะ อะไรหรอ?”
   “สิ่งที่จะทำให้คืนนี้เรามีความสุขกันสุดๆไปเลยล่ะ”
   “อือ ก็ได้”
   สักพักเค้าก็กลับมาพร้อมน้ำแก้วนึง
   “ดื่มสิ”
   ผมที่มองอะไรไม่ชัดเจนเลยด้วยความเมาแม้แต่หน้าเค้าจนถึงตอนนี้ ผมก็ยังจำไม่ได้ว่าเค้าหน้าตาเป็นไง คิดว่าคงหล่ออยู่ละมั๊ง แต่เสียงเค้านี่คุ้นมาก เหมือนผมจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
   ผมกระดกน้ำนั้นอย่างรวดเร็ว นี่มันน้ำผลไม้นี่นา สงสัยคงผสมมาในนี้แน่ๆ
   “เก่งมาก” เสียงทุ้มชม
   “หมดแก้วแล้วพอใจยางงง”
   “ไปที่ห้องกันเถอะ”

   บรรยากาศห้องที่ไฟสลัว เขาเดินจูงมือผมไปที่ห้องนอนของเค้า เราจูบกันบนเตียงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้รู้สึกแปลกออกไป ผมรู้สึกความร้อนวูบวาบในร้างกาย อยากจะปลดปล่อยทุกอย่างออกมา ผมเริ่มหายใจแรงขึ้น ใจเต็มแรงขึ้น ร้อนวูบวาบที่ใบหน้า ยิ่งผู้ชายคนนี้จูบ ยิ่งผู้ชายคนนี้สัมผัสไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย ผมรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าจี๊ดเข้ามาในร่างกาย ครั้งแรกของผมกับผู้ชายแปลกหน้า

   ทำไมผมถึงมีอาการแบบนี้ล่ะ หรือว่าจะแบบสิ่งที่ผสมให้ผมกินในน้ำผลไม้แก้วนั้น มันต้องใช่แน่ๆ ร่างกายผมเริ่มมีความต้องการมากขึ้น เราช่วยกันเปลืองผ้าอย่างร้อนรน แต่เหมือนยิ่งรีบจะยิ่งช้า ทำให้รู้สึกทรมานเป้นอย่างมาก ให้อารมณ์ที่แปลกออกไป ความต้องการเราสองคนปะทุขึ้นอย่างแรงกล้า ในหัวผมเคว้งหมุนวนไปหมด ตามอารมณ์ที่เขาชักนำ เราถอนจูบกับออกมองหน้ากันในความสลัว
   “คะ คุณใส่อะไรลงในน้ำแก้วนั้น”
   “ยาปลุกเซ็กส์ไงล่ะครับ”
   “ยะยาปลุกเซ็กส์หรอ?”
   “ครับใช่แล้ว ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่กินนะ ผมก็กินด้วย”
   หลังจากนั้นเขาก็จูบผมต่อ ไฟในร่างกายเราทั้งสองคนต่างเริ่มลุกโชนขึ้นมาแล้ว ผมจะไม่โทษใครทั้งสิ้นมันเป็นการตัดสินใจของผมเอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
วันนี้ช่วงค่ำ คนเขียนลงตอนต่อไปนะครับผม ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะครับ ดีใจที่มีคนตามอ่านผลงานครับ ^^

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนที่ 4 คำขอโทษ
   ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อแสงจากข้างนอกสาดเข้ามา พร้อมกับอาการเจ็บแสบข้างล่าง ผมนิ่วหน้าด้วยความทรมาน ลำคอแห้งผากกระหายน้ำ รวมทั้งอาการปวดหัวจากยาปลุกเมื่อคืน ผมแทบไม่มีแรงลุก ได้แต่หยีตาด้วยความรำคาญ
   “ตื่นแล้วหรอ?” เสียงนี้มัน...
   
   ผมหันขวับมองเจ้าของเสียงนั้น

   “...”

   ผมอึ้งมาก เป็นสิ่งที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน พี่หมอนั่นเองทำไมถึงเป็นเค้าล่ะ เสียงที่มันคุ้นๆที่แท้มันคือเสียงพี่หมอนี่เอง ความเมาทำให้ผมพร่าเลือนสติหายเลยไม่รู้ตัวว่าเป็นเค้า ผมนิ่งค้างอยู่นานมาก
   “นี่...” ผมแทบพูดไม่ออก
   “ก็เพิ่มเจอกันเมื่อวาน จำไม่ได้แล้วหรอครับ” เขาเหยียดยิ้ม
   “อะไรกัน ทำไมเป็นพี่ล่ะครับ”
   “ก็คุณเองนี่ที่เป็นคนเริ่ม”
   ผมอึ้ง เริ่มร้อนที่ขอบตา น้ำตาพาลจะไหลให้ได้
   “อีกอย่างคุณเต็มใจ ผมไม่ได้บังคับคุณนะ”
   “ถ้าผมรู้ว่าเป็นพี่...”
   “ทำไมหรอครับ?”
   ผมพูดอะไรไม่ออกเลยน้ำตาที่กลั้นไว้พลันไหลออกมาเป็นเขื่อนแตก
   “...”
   “จะคิดอะไรมากล่ะ ผมกับคุณก็แค่สนุกๆกันนิดหน่อย ไม่มีอะไรเสียหายเลยนี่”
   “...”
   “เมื่อคืนนี้เร่าร้อนสุดๆเลย ครั้งแรกของผมกับผู้ชายเลยนะเนี่ย”
   พี่หมอแสนดีที่ผมเจอมาตลอดมันเปลี่ยนไป ผมเองที่เห็นเพียงแต่ด้านที่เค้าแสดงออกให้ทุกคนรับรู้ มาวันนี้เหมือนโดนทุบเข้าอย่างแรง พี่หมอที่แสนดีที่ผมแอบรักไม่ใช่คนนี้ คนที่ร้ายกับผมเพียงเพราะเพื่อความสนุกของตัวเองหรอ แค่เมื่อวานที่เค้าเกลียดผมก็เจ็บพอแล้ว ยังหิ้วผมขึ้นห้องเพื่อความสนุกของเขาหรอ ผมร้องไห้ออกมาโดยที่เขาไม่แม้แต่จะสนใจด้วยซ้ำ
   หลังจากนั้นผมก็รีบลุกขึ้นทั้งๆที่เจ็บอยู่นั้นแหละ ผมจะต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ว่าแล้วก็หยิบเสื้อผ้าของตัวเองที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นขึ้นมารีบใส่ให้ตัวเองอย่างเร็วที่สุด พอกันทีผู้ชายเลวๆแบบนี้ เสียเวลาที่ผมแอบรักมานานปี ความผิดหวังเข้าจู่โจมหัวใจ ผมเคยคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีมากคนหนึ่ง แต่มันก็แค่เปลือก ผมลืมคิดไปว่าทุกคนนั้นย่อมต้อมีด้านมืดของตัวเองทั้งนั้น ผมลืมถึงข้อนี้จริงๆและผมไม่เจอเจอด้านมืดของเขา จากที่ผมได้สัมผัสมาแล้ว มันทำให้ผมควรที่จะคิดตัดใจได้สักทีผู้ชายใจร้ายคนนี้
   “จะกลับแล้วหรอ?” เขาเหยียดยิ้ม
   “...”
   “ตามสบายนะ ไม่ส่งนะครับ”
   ผมเดินปาดน้ำตา พร้อมกับออกจากห้อง


   “ไอ้โอ๊ต เมื่อคืนมึงหายไปไหนมามึงบอกพวกกูมาเลยนะ”
   ตอนนี้ผมนั่งหน้าเบื่อให้ไอ้จอมนั่งซักครับ ไอ้หมียักษ์นั่งหน้ามุ่ยอยู่อีกมุม มันสองคนมาที่บ้านผมหลังจากที่ผมเปิดโทรศัพท์ แว้ดใส่ชุดใหญ่ แล้วมันก็รีบดิ่งมาที่ห้องนอนผม
   “เฮ้อ...กูจะเริ่มไงดีวะ”
   “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มึงเล่าได้นะ” ไอ้ภูเสียงอ่อย
   “กูขอเวลาหน่อยได้มั้ยวะ ตอนนี้ก็ไม่พร้อมจะเล่า”
   “อืม ไม่เป็นไรกูเข้าใจ มึงยังมีพวกกูสองคนนะ” ไอ้จอม
   “ดูแล้วกูว่ามึงเหมือนจะไม่สบายนะ” เสียงไอ้ภู
   “ก็นิดหน่อยแหละ ขอบใจพวกมึงสองคนมากที่เป็นห่วงกู”
   “เอางี้ เดี๋ยวกูลงไปข้างล่างทำไรมาให้มึงกิน ไอ้ภูมึงไปซื้อยามาให้มันหน่อย” เสียงไอ้จอมสั่ง
   “อืม ได้มึงนอนพักเถอะ เดี๋ยวพวกกูมา”
   ดีหน่อยที่วันนี้เป็นวันเสาร์ไม่ต้องไปเรียน แต่บ้านผมตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย พี่โอมกับป๊าม๊าออกไปที่ร้านกันตั้งแต่เช้ามืดอยู่แล้วทุกวัน ส่วนเอมก็ไปเรียนพิเศษ ฉะนั้นที่บ้านก็มีแค่ผมอยู่คนเดียว ตอนผมกลับมาบ้านก็ไม่เจอใครแล้ว พอสองคนนั้นลงไปข้างล่าง ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง จากที่คิดว่าจะตัดใจจากผู้ชายใจร้ายคนนั้น น้ำตามันจะพาลจะไหลอีก ทำไมผมถึงโชคร้ายแบบนี้ ทำไมต้องทำให้คนที่ผมแอบรักมานานขนาดนี้เกลียดผม แถมผมยังเมาไม่รู้เรื่องให้เขาพาผมขึ้นห้องอีก แต่ก็นั่นแหละผมทำตัวเองผมจะโทษใครได้

   เช้าวันจันทร์วันแสนจะน่าเบื่อ เราสามคนนั่งเล่นกันอยู่ที่โรงอาหารคณะ ซึ่งมีพื้นที่เท่าแมวดิ้นตาย โดยที่ผมกับไอ้จอมนั่งคุยกันสัพเพเหระ ระหว่างรอไอ้ภูกำลังโซ้ยข้าวด้วยความหิวโหย
   “นี่ๆไอ้โอ๊ตมึงเห็นอะไรมั้ย?” ไอ้จอมสะกิดผมยิกๆ
   “อะไรมึงเนี่ย สะกิดจนกูจะถลอกแล้ว
   “นู้นๆ” มันบุ้ยปากไปตรงทางเข้าโรงอาหาร
   ผมลองมองไปตามที่ไอ้จอมบอก ออร่าขาวใสวิ้งๆเดินเข้ามาในโรงอาหารมาแต่ไกล อ่อไอ้คนที่ผมจะพยายามตัดใจนั่นแหละครับ ไม่รู้มาทำไมถึงนี่ สงสัยมาหาสาวสักคนละมั๊ง เพราะในมือเห็นถือช่อดอกไม่เล็กๆน่ารักมาด้วย
   “ใครหรอวะ ไม่เห็นรู้จัก” เสียงหึหึ ของไอ้ภูดังขึ้น ตอนนี้มันก็ยังกินข้าวอยู่ข้าวเต็มปากเชียวนะมึง
   “แหม มึงลืมเดือนมหาลัยของมึงไปแล้วหรอ พี่หมอดีนไงมึง” ไอ้จอมมันพูด
   “หรอวะ กูเคยชอบคนแบบนี้ด้วยหรอวะ?”
   “อ้าวไงพูดงั้นวะ มึงเป็นไรป่าววะ” ไอ้จอมทำหน้างง ส่วนไอ้หมียักษ์นี่จองผมเขม็งเลยครับ
   “ก็ป่าวหรอก กูแค่รู้สึกว่ามันทำให้กูเสียเวลาชีวิตเท่านั้นเอง”
   “แปลว่าตอนนี้มึงเลิกชอบพี่หมอของมึงแล้วหรอ?”
   “กูกำลังจะพยายาม” มันสองคนมองหน้ากัน

   ออร่าใสวิ้งนั่นเดินเข้ามาในโรงอาหาร สักพักก็หยุดยืนแล้วมองไปรอบๆโรงอาหารอันน้อยนิดของคณะผม พร้อมกับช่อดอกไม้เล็กๆนั่น สาวๆชาวคณะถึงกับออกอาการด้วยว่าเดือนคณะแพทย์บวกเดือนมหาลัยมาปรากฏตัวที่คณะผม ซึ่งเป็นคณะที่มีเปอร์เซ็นต์ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เลยทำให้สาวๆชาวคณะแสดงอาการสนอกสนใจเป็นพิเศษ
   “คณะเราแม่งก็สาวไม่เยอะอะไร แล้วมันมาทำไมวะ?” ไอ้ภูพูดมันอิ่มแล้วครับ กำลังจะดูดน้ำชาเย็นของมัน
   “มันก็น่าแปลกนะ รึว่าคณะเรามีสาวสวยวะ” ไอ้จอมพูดขึ้น
   “โดนของใครเค้าเข้ามั้ง” ผมพูด
   “เออนะ ใครๆแม่งคนอยากทำของใส่ดีกรีเดือนมหาลัยขนาดนี้ หล่อบ้านรวยครบ” ไอ้จอมพูด
   “กูคนนึงล่ะไม่ ต่อให้ไม่ทำก็ไม่เอาแล้ว เสียเวลา”
   “โอ้โห วันนี้เพื่อนกูเป็นไรวะ เกรี้ยวกราดแต่เช้า” ไอ้ภูพูดยิ้มๆ
   “ไม่ได้เป็นไร กูคงคิดได้ว่ะ”
   “เฮ้ยๆ มองมาทางเราด้วยว่ะ” ไอ้จอมสะกิดอีกแล้ว
   “เค้าก็มองไปรอบๆแหละมั้ย?” ไอ้ภูเถียง
   “แต่พี่เค้าเดินมาทางนี้ด้วยนะ” ไอ้จอมเถียงกลับ
   พี่หมอเดินมาทางนี้จริงๆครับ หลังจากที่มองรอบแล้วแล้วก็มองมาทางนี้ เหมือนเจอเป้าหมายแล้ว ไม่ใช่จะเดินมาหาผมนะ เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วนะ คนแบบนี้ผมไม่ชอบอีกแล้ว ไม่อยากเป็นของเล่นสนุกใครอีกแล้ว ผมมองตามที่เพื่อนสองคนเถียงกัน จู่ๆพี่หมอก็เดินมาหยุดที่โต๊ะพวกผม สองคนนั้นเลิกลั่กครับ ส่วนผมก็นั่งก้มหน้าสิครับ ไม่อยากจะมองหน้าพี่มันด้วยซ้ำ
   “อ่อ ตามหาอยู่ตั้งนานอยู่นี่เอง” ตามหาใคร?
   “ไม่ทราบว่าพี่ตามหาใครครับ” ไอ้จอมถาม
   “คนนี้เพื่อนคุณใช่มั้ยครับ” เค้าถามไอ้จอม
   “อ่อ ใช่ครับนี่เพื่อนผมเอง ทำไมหรอครับ?”
   “งั้นขอคุยด้วยหน่อย” เอาอีกแล้วขอคุยด้วยมีเรื่องทุกที
   “ผมว่าคุยกันตรงนี้ก็ได้มั๊งครับพี่ เพื่อนผมคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยโอ๊ต” เสียงไอ้ภู
   “ไม่รู้ว่ะ” ผมสับสนมาก
   “ครู่เดียวครับ ผมคุยไม่นาน เดี๋ยวผมไปรอตรงนั้นละกันนะครับ” เขามองไปบริเวณข้างโรงอาหารที่มีโต๊ะนั่งเรียงรายอยู่ใต้ต้นไม้
   ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี หลังจากที่เขาเดินลงไปรอผมข้างล่าง
   “จะดีหรอวะ?” ไอ้จอมพูด
   “ท่าไม่ค่อยดีนะกูว่า” ไอ้ภูออกความเห็น
   “ไม่เป็นไร กูต้องทำใจละ มันจะได้จบๆซะที”
   “เอางั้นรึ” ไอ้ภูถาม
   “เออ แปบบเดียวเดี๋ยวกูมา
   ผมเดินตรงไปยังที่เขารอผมอยู่ เขายิ้มให้ผมมาแต่ไกล ทำไมวันนี้มาแปลก ดูใจดีดูเป็นพี่หมอคนที่ผมแอบชอบคนนั้น
   “พี่มีอะไรกับผมครับ”
   “ผมอยากจะมาขอโทษคุณ”
   

   


ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนที่ 5 เช้าถึงเย็นถึง
   “ขอโทษผม?”
   “ใช่ผมจะมาขอโทษคุณเรื่องคืนวันศุกร์”
   “ทำไมล่ะครับ พี่พูดเองว่าสนุกๆกัน จะมาวุ่นวายกับผมอีกทำไม”
   “คือผมอยากจะขอโทษจริงๆ ที่ทำให้รู้สึกไม่ดี”
   “ผมว่า พี่เลิกมาวุ่นวายกับผมดีกว่า”
   “เอาเป็นว่าผมขอโทษคุณจริงๆ ครั้งหน้าผมจะมาใหม่ ช่วยรับไว้ด้วย” เขายื่นช่อดอกไม้ให้ผม
   “ผมว่าผมรับไว้ไม่ได้หรอก” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ
   “ยังไงก็รับไว้เถอะนะครับ ยังไม่ยกโทษให้ผมก็ไม่เป็นไร” เข้ายื่นให้
   “เฮ้อ ก็ได้ครับ ถ้าลำบากก็ไม่ต้องมาอีกก็ได้ครับ เรียนหมอนี่เค้ามีเวลาว่างกันขนาดนี้เลยหรอครับ” เขาฟังแล้วยิ้ม เป็นยิ้มที่ทำให้ผมใจละลายได้ทุกทีสิน่า แล้วดอกไม้ช่อนั้นก็มาอยู่ในมือผมจนได้
   “ก็ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ครับ แต่อยากมาขอโทษจริงๆ”
   “ที่ผมรับไว้ ไม่ได้หมายความว่าผมยกโทษให้นะครับ ไม่อยากให้เสียน้ำใจที่หิ้วมา”
   “ครับ แค่นี้ก็ดีแล้วครับ ไว้ผมจะมาใหม่”
   “ไม่ต้องก็ได้ครับ เกรงใจ”
   “ไปนะ ไว้จะมาใหม่” ยังคงไม่ยอมอยู่ดีสิน่า
   ผมมองรถหรูของเขาที่ขับออกไปจนลับสายตา พลางมองดอกไม้ที่อยู่ในมือมันคือดอกยิปโซสีม่วงฟ้าสลับกัน อืมเข้าใจเลือกจริงๆนะคุณหมอ ดูดีๆแล้วมันไม่ใช่ช่อดอกไม้นี่นา นี่มันยิปโซทั้งต้นอยู่ในกระถางเล็กๆหุ้มด้วยกระดาษให้เราเอาไปเลี้ยงต่อได้

   กำลังจะตัดใจอยู่แล้วแท้ๆ มาทำแบบนี้อีกทำไมก็ไม่รู้ เหตุการณ์เมื่อสักครู่เหมือนเอาพี่หมอคนเดิมที่ผมรู้จักกลับคืนมา แต่เรื่องเมื่อคืนวันศุกร์ก็ทำให้ผมเสียใจไม่น้อยเหมือนกัน มันทำให้ผมสับสนในหัวมากตอนนี้ ความคิดตีกันวุ่นวายไปหมด ผมควรจะทำอย่างไรดี
   “มึงมีอะไรจะเล่ามั้ยทีนี้” เสียงนิ่งๆของไว้ภูถามมา ผมมองดอกไม้ที่อยู่ในมือ
   “กูว่ามึงต้องเล่าแล้วหล่ะ” ไอ้จอมพูดอีกคน
   “เฮ้อ ถึงเวลากูต้องเล่าให้พวกมึงฟังใช่มั้ย?”
   “เออ” มันสองคนเออพร้อมกัน
   “เลี้ยงนมปั่นกูสิ แล้วกูจะเล่า”
   “คราวนี้กูเลี้ยงเอง หึ” ไอ้จอมกระแทกเสียง
   “ดีมาก งั้นเย็นนี้เดี๋ยวว่ากันที่ร้านนมปั่นนะ” ผมพูดยิ้มๆ
   ดอกยิปโซที่ผมถืออยู่ตอนนี้ คงเป็นที่กล่าวขวัญกันทั้งคณะ ดีไม่ดีคงทั่วมอแล้วแน่ๆ อยู่ๆก็มีเดือนมหาลัยปีสามมายื่นดอกยิปโซให้เด็กผู้ชายถาปัตปีหนึ่งหน้าตาธรรมดาๆ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว

   “ตอนนี้มึงเป็นที่รู้จักของคนทั้งมอแล้วมึงเอ๊ย” เสียงไอ้ภู
   “ทำไมวะ?” ไอ้จอมเป็นคนถาม
   “ก็มึงดูสิ มีคนถ่ายรูปที่มึงสองคนยืนคุยกันลงโซเชียล” ผมตาโต
   “ไหนๆ มึงแชร์มาให้กูดูมั่ง”
   โหยชัดแจ่มแจ้งแดงแจ๋มากครับ รูปผมกับพี่หมอยืนคุยกันเมื่อเช้า ได้ทุกมุมชัดทุกฉอด มันคงเป็นเรื่องราวกระหึ่งไปทั่วมอแน่ ถึงว่าตอนที่ผมเดินเข้ามาในร้านนมปั่น พวกผู้หญิงหลายคนมองผมแปลกๆแถวยังมีซุบซิบกันอีก
   “สร้างงานให้กูอีกแล้ว เฮ้อ” ผมบ่น
   “ที่แน่ๆมึงต้องเล่าให้พวกกูฟังก่อน ที่มาของดอกยิปโซกระถางจิ๋วนี้อ่ะ” ไอ้จอมพูดพร้อมชำเลืองตามองดอกไม้เจ้าปัญหา
   “ก็พี่หมอให้มาเมื่อเช้าไง”
   “มึงก็รู้นะว่าพวกกูหมายถึงเรื่องอะไร อย่าเฉไฉ” ไอ้จอมเค้น
   “รึว่าเกี่ยวกับเรื่องที่มึงหายไปเมื่อคืนวันศุกร์” หืมไอ้ภูมึงนี่แม่นจังวะ
   “เออๆ กูเล่าแล้ว”
   ผมดูดนมปั่นไปอึกใหญ่ พลางมองซ้ายมองขวาเมื่อคนในร้านไม่ได้สนใจผมจึ่งเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ให้มันทั้งสองฟัง
   “นี่พี่หมอเปิดซิงมึงหรอ?” ดังเลยนะมึงไอภู มึงนี่พูดซะกูอายเลยนะ
   “ไอ้หมีเบาๆดิวะ แค่นี้กูก็เป็นข่าวใหญ่ทั่วมอแล้วนะ”
   “เฮ้ย! มันเรื่องจริงหรอวะ” ไอ้จอมพูดหน้าตื่น
   “กูโกหกพวกมึงมั๊ง เรื่องเมื่อเช้ากูจ้างพี่หมอมาสร้างกระแส” ผมประชด
   “ไม่ใช่ๆ อย่าพูดงั้นดิพวกกูแค่ตั้งตัวไม่ทัน” ไอ้จอมพูด
   “มันเหนือความคาดหมายพวกกูมากนะ” เสียงไอ้ภู
   “กูก็ไม่คิดเหมือนกัน ว่ามันจะเกิดขึ้นกับกู” ผมถอนหายใจ
   “แล้วทีนี้มึงจะเอาไงต่อ รวมทั้งดอกไม้เจ้าปัญหานี่ด้วย” ไอ้ภูถาม
   “ดอกไม้ก็คงเลี้ยงตามปกติ แต่คนนี่กูไม่รู้วะ ไม่รู้เค้าจะมาไม้ไหนจะเอายังไง”
   “กูว่ามันแปลกๆอยู่นะ วันก่อนแม่งยังควงสาวอยู่เลย มาวันนี้แม่งตามมึงต้อยๆมันยังไงๆอยู่นะ” ไอ้จอมตั้งข้อสงสัย
   “นั่นแหละที่กูข้องใจอยู่ตอนนี้” ผมพูด
   “มันก็ต้องดูไปยาวๆว่ะ ของแบบนี้ต้องใช้เวลา” ไอ้ภูออกความเห็น
   “ตอนนี้กูก็ยังสับสนอยู่ ว่าพี่หมอต้องการอะไร รึจะเอาไงกะกูแน่ ตอนกูตื่นมาเจอเค้าเหมือนเค้าสะใจที่ได้เอาคืนกู แต่พอเมื่อเช้าเหมือนเค้าหงอยๆยังไงไม่รู้ว่ะ” ผมสับสนมากครับตอนนี้
   “ก็เอาอย่างที่ไอ้ภูว่าละกันนะมึง ดูๆไปก่อนอย่าพึ่งอะไรทั้งนั้น เราไม่รู้ว่าเค้าจะมีจุดประสงค์อะไร” ไอ้จอมสรุป
   “อ่อแล้วยังมีอีกประเด็นที่กูเคืองอยู่นะ คือแม่งมึงยอมกินยาปลุกบ้าบอนั่นทำไมวะ” ไอ้ภูหน้ามุ่ย
   “กูก็ไม่รู้ว่ะ อารมณ์พาไปแล้วก็ไม่คิดว่านั่นคือพี่หมอ”
   “เออเจริญพวงล่ะมึง” มันพูดพร้อมเอามือตบหน้าผากตัวเอง
   “ไอ้ภูมึงอย่าพึ่งไปซ้ำเติมอะไรมันเลย แต่นี้เพื่อนมึงก็จะแย่ละนะ”
   “กูพูดเพราะห่วงมันนะไอ้จอม”
   “มันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับแหละวะ เอออย่าน้อยกูก็เคยได้กับเดือนมหาลัย” ผมพูดอย่าปลงๆ
   “เออออออออออ มีไรก็บอกพวกกู มึงยังมีพวกกูไอ้หมา” จะปลอบรึจะด่าวะไอ้หมี
   “อือ กูก็มีมึงสองคนนี่แหละ ถ้าไม่มีมึงสองคนกูก็แย่เหมือนกัน” ผมพูดจากใจจริง
   “ละนี่กลับกับพวกกูนะวันนี้” ไอ้จอมชวน
   “ก็ดีเหมือนกันขี้เกียจโหนบีทีเอสกลับ”
   หลังจากที่นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยสมควรแก่เวลาแล้ว เราก็ลุกเตรียมกับบ้านกัน โดยที่วันนี้ไอ้ภูก็เป็นคนเลี้ยงนมปั่นเช่นเคย เพราะไอ้จอมบอกไม่มีอารมณ์เลี้ยง อย่างงี้ก็ได้หรอ? เราสามคนเดินคุยไปกันที่รถตามปกติ แต่จู่ๆเพื่อนสองคนก็หยุดเดิน
   “อะไรวะ หยุดทำไม” ผมถามมันสองคน
   “เช้าถึงเย็นถึงเลยว่ะ” เสียงไอ้ภู
   ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย คนเมื่อเช้าที่มาหาผมนี่เอง นี่คนเรียนแพทย์เค้าว่างขนาดนั้นเลยหรอวะ? เช้าถึงเย็นถึงขนาดนี้ กำลังยืนพิงรถหรูรออยู่ลานจอดรถร้านนม ยืนเขี่ยโทรศัพท์เล่นเหมือนรอใครสักคน เรียกสายตาประชาชีบริเวณนี้ได้มากเลยทีเดียว
   “มึงก็พูดไปไอ้ภู เค้าอาจจะไม่ได้รอกูก็ได้” ผมพูด
   “รอรึไม่รอเดี๋ยวมึงก็รู้” มันพูดเย้ยผม
   “เอาไงล่ะโอ๊ต” ไอ้จอมถาม
   “ไม่รู้ว่ะ” ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาไง
   จู่ๆไอ้หมีใจกล้า เดินตรงดิ่งไปหาคนที่ยืนพิงรถอยู่เลยครับ จะร้องหาก็ร้องห้ามไว้ไม่ทัน ไอ้หมีเอ๊ยมึงอย่าหาเรื่องให้กูนะมึง ผมสองคนมองหน้ากันกับไอ้จอม
   “เชี่ย ไอ้หมีแม่งนอกบทอีกแล้วนะมึง ไม่ปรึกษากันก่อนเลย” ไอ้จอมบ่น
   “โอ๊ยตาย มึงทำไรลงไปไอ้หมี” ผมมองบน
   คนที่กำลังยืนเขี่ยโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้น
   “พี่มาทำไรแถวนี้ครับ?” ไอ้ภูถาม
   “พอดีผมมีธุระกับเพื่อนคุณน่ะ” เขาพูดแล้วมองมาที่ผม
   “พี่มีธุระอะไรกับเพื่อนผมหรอครับท” ไอ้ภูถามต่อ
   “จะกลับกันแล้วใช่มั้ย พี่ยืมตัวเพื่อนเราหน่อยสิเดี๋ยวไปส่งเอง” ไอ้ภูเหวอเลยครับ
   “ว่ายังละมึง” ไอ้จอมกระซิบถาม
   พี่หมอยังคงยืนนิ่งมองมาที่ผม พร้อมกับที่ไอ้ภูที่ค่อยๆชำเลืองหันกลับมาที่ผมทำสีหน้าเป็นเชิงถามว่ามึงจะเอายังไง
   “เอาไงดีวะเนี่ย” ผมพึมพำ
   “มึงต้องตัดสินใจแล้วนะ” ไอ้จอมพูด
   อยู่เสียงไอ้ภูก็ดังสำทับมาอีก
   “ผมว่าคงจะไม่ได้หรอกครับ” เสียงไอ้ภูจริงจังมาก
   “ทำไมล่ะ?” พี่หมอถาม มองไอ้ภูด้วยสายตานิ่งๆ ขนาดว่าไอ้ภูสูงแล้วนะ มันยังต้องแหงนหน้าคุยกับพี่หมออยู่เลยครับ
   “เพื่อนผม ผมไม่ยอมให้เพื่อนไปกับพี่หรอกครับ ผมห่วงเพื่อนผมเหมือนกัน” จริงจังมากมึง
   “ผมก็ไม่ได้จะทำอะไรเพื่อนคุณนะ แค่จะไปส่งน้องที่บ้านแค่นั้นเอง” อย่าวางมวยกันนะพี่หมอ
   “พี่มีเหตุผลอะไรทำไมจะต้องไปส่งเพื่อนผมให้ได้ล่ะครับ” ใจเย๊นไอ้หมี
   “งั้นถามเจ้าตัวเขาดีกว่า ว่าจะเอาไง” เขาเดินมาหยุดต่อหน้าผม ไอ้ภูตอนนี้เหวอรับประทานมากครับ
   “ว่าไง เราให้พี่ไปส่งมั้ยครับ” คือเมื่อเช้ายังคุณอยู่เลย ตอนนี้พี่กับเราแล้วหรอ? โอ๊ยใจผมเต้นแรงมากครับ ผมแทบละลายเลยทีเดียว จากที่เคืองๆอยู่กำลังสับสนเหมือนมันหายไปในพริบตาเลยครับ อำนาจความรุนแรงออร่าเดือนมหาลัยนี่มันทำลายล้างความโกรธความสับสนจริงๆ
   “นะครับ” มึ๊งงงงงงงงงงง กูจะเป็นลม ดอกไม้ตั้งแต่เมื่อเช้าที่อยู่ในมือแทบร่วงครับ แม่งพี่หมอจะอ้อนอะไรเบอร์นี้
   “อะ อ่ะเอ่อ...” พูดไม่ออกครับ อ้ำอึงมากตอนนี้
   หน้าตาพี่หมอคือเว้าวอนมากครับ โอ๊ยทำไงดีครับเนี่ยผมชักจะโกรธเค้าไม่ลงแล้วเนี่ย
   “ว่ายังไงล่ะมึง” ไอ้ภูเดินมาทำหน้าดุใส่ผม
   “วันนี้กูของใจมึงมากนะที่เลี้ยงนมปั่นกู เจอกันพรุ่งนี้นะ”
   “...” ไอ้ภูกับไอ้จอม




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2021 21:35:48 โดย แก้วมาลูน »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
วันนี้ตอนค่ำๆมาลงตอนต่อไปให้นะครับ

ออฟไลน์ แก้วมาลูน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนที่ 6 มื้อเย็นที่บ้าน
   เสียงข้อความจากไลน์ดังรัวแบบถี่ยิบเหมือนปืนกล จนผมต้องตั้งปิดเสียงเอาไว้ ตอนนี้ในไลน์กลุ่มเราสามคนผมโดนไอ้หมีกับไอ้จอมสวดแบบไม่ต้องหายใจหายคอเลยทีเดียว จะว่าผมใจง่ายก็ตามครับแต่ผมคิดไปคิดมาหน้าอย่างผมนี่จะมีโอกาสแบบนี้สักกี่ครั้ง ผมอยากลองคว้าโอกาสนี้ไว้กับตัวบ้าง คงไม่เป็นการเห็นแก่ตัวหรอกใช่มั้ยครับ ผมแทบจะพิมพ์ตอบพวกมันสองคนไม่ทันมันสวนผมทุกข้อความเลย คนขับมองผมอย่ายิ้มๆพลางส่ายหัว
   “เพื่อนเรานี่ท่าทางจะหวงนะ” พี่หมอพูดยิ้มๆ
   “ก็ไม่เชิงหรอกครับ มันไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่” ผมพูดพลางมองดอกยิปโซในมือ
   “เพื่อนเราไม่โอเคเรื่องอะไร เรื่องพี่ใช่มั้ย?”
   “ประมาณนั้นครับ”
   “อืมพี่ขอโทษนะที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี แถมยังทำเพื่อนเรารู้สึกไม่ดีด้วย” พี่หมอพูดด้วยสีหน้ากังวล
   “ครับ” ผมไม่ได้อธิบายอะไรทั้งสิ้นเพราะเรื่องนี้พี่หมอผิดจริงๆ
   “งั้นวันนี้พี่เลี้ยงข้าวนะครับ”
   “เอ่อ ไม่เป็นไรครับปกติผมกินข้าวที่บ้านครับ” ผมรีบปฏิเสธ
   “หืมดีจังเลย กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวใช่มั้ยครับ”
   “ก็ใช่ครับ ปกติที่บ้านจะกินข้าวพร้อมกันทั้งครอบครัวมื้อเย็น”
   บ้านผมถือเป็นเรื่องปกติครับ เพราะมือเช้าพี่โอมป๊ากับม๊าจะไปที่ร้านตั้งแต่ยังไม่สว่าง จะเป็นผมสองคนกับเอมที่กินข้าวเช้าทีหลังสุด และมื้อกลางวันจะเป็นป๊ากับม๊าครับที่กลับมากินข้าวกลางวันที่บ้าน เพราะท่านจะไปที่ร้านแค่ครึ่งเช้าให้พี่โอมอยู่ร้านและปิดร้านตอนเย็น ถ้าช่วงไหนที่พี่โอมไปหาหลวงพ่อนอนค้างที่ต่างจังหวัดป๊าก็จะอยู่แทนครับตอนเย็น แล้วม๊าก็จะทำกับข้าวจะมีผมช่วยถ้าว่างกับเอมเป็นลูกมือม๊า แล้วเราจะลงมือกินข้าวพร้อมกันถือเป็นเรื่องปกติของบ้านเราครับ ถ้าใครไม่สะดวกก็จะบอกไว้ล่วงหน้าไม่ต้องรอกัน
   “งั้นพี่ขอฝากท้องที่บ้านเราได้มั้ยครับ?” พี่หมอหันมาพูดพร้อมกับยิ้มตาหยี ใจเต้นแรงอีกแล้วเอาไงดีครับ ผมตั้งตัวแทบไม่ทัน อยู่ๆพี่หมอจะมากินข้าวบ้านผม
   “จะดีหรอครับ”
   “ดีสิครับ” ดีตรงไหนเนี่ย
   “เดี๋ยวผมถามที่บ้านก่อนนะครับ” จะนั้นผมก็ถามไปในใลน์กลุ่มครอบครัว ว่าจะพาเพื่อนมากินข้าวด้วยวันนี้ ทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะปกติเพื่อนผมสองคนชอบไปฝากท้องบ้านผมบ่อยๆอยู่แล้วเลยไม่มีปัญหาอะไร

   “อ้าวนึกว่าภูกับจอม ไม่ใช่หรอกหรอ?” ป๊าถามอย่างแปลกใจ
   “เอ่อ ไม่ใช่ครับนี่พี่หมอดีนครับ” ผมแนะนำ
   “สวัสดีครับ”พี่หมอไหว้ป๊ากับม๊า
   “เอ้อๆ สวัสดี” ป๊าพูดพร้อมกับม๊าที่รับไหว้พยักหน้าน้อยๆ
   “นี่พี่โอมครับพี่ชายคนโต” ผมแนะนำต่อ
   “สวัสดีครับ” พี่หมอทักทาย
   “อืม สวัสดี” พี่โอมรับไหว้
   “นี่น้องสาวผมครับเอม”
   “สวัสดีค่ะ” พี่หมอหยักหน้ายิ้มน้อยๆ น้องสาวผมหน้าแดงมาก เขินอะไรขนาดนั้น
   ตอนนี้ป๊ากับม๊าอมยิ้มมองหน้ากันแล้วชำเลืองมองมา ส่วนพี่โอมจ้องมาที่ผมกับพี่หมอนิ่งๆ ส่วนเอมนั่งจ้องยิ้มหน้าแดง ทุกคนในบ้านมองมาที่ผมกับพี่หมอ ทำไมรู้สึกเขินอย่างนี้เนี่ย สักพักพี่โอมก็ทำลายความเงียบขั้น
   “เอ้ากินข้าวๆกัน เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นซะก่อน” ผมสะดุ้ง
   “เนอะๆ กินข้าวกัน” ม๊าพูดยิ้มๆ
   ตลอดมื้อนั้นเป็นมื้อที่รู้สึกเขินๆมาก ป๊ากับม๊ากถามพี่หมอบ้างตามเรื่องตามราว ส่วนเอมถามเรื่องเรียนต่อบ้างตามความสนใจ แต่พี่โอมนี่สิส่วนใหญ่จะจ้อมานิ่งๆซะมากกว่า หลังจากเสร็จมื้ออาหารผมก็เดินมาส่งพี่หมอที่หน้าบ้าน
   “ขอบคุณนะสำหรับมื้อเย็นวันนี้ บ้านเราดูอบอุ่นมากเลย” พี่หมอพูดขึ้น
   “ก็ปกตินะครับ บ้านผมกินข้าวกันแบบนี้ทุกวัน”
   “อืมน่ารักดี” ทำไมเขินจังแค่คำว่าน่ารักดี  โอ๊ยยยยยยย
   “งั้นพี่กลับแล้วนะ ไหนๆแล้วขอไลน์มั่งสิ” หืม เดี๋ยวนะจะขอไลน์เลยหรอ?
   “เอ่อก็ได้ครับ”ผมพิมพ์ไอดีไลน์ลงในเครื่องพี่หมอ
   “ขอบคุณนะครับ งั้นพี่กลับก่อนนะถึงแล้วจะทักบอก” ยิ้มละลายมาก
   “เดี๋ยว!” ไม่ใช่ผมครับ แต่เป็นเสียงพี่โอมที่กำลังเดินมา
   ผมกับพี่หมอมองหันขวับ เห็นพี่โอมกำลังเดินหน้านิ่งมา เอาแล้วโว้ยจะมีอะไรอีกมั้ยเนี่ย ตอนอยู่บนโต๊ะกินข้าวพี่โอมก็นิ่งๆดุอยู่ ปกติพี่โอมจะเป็นคนคุยสนุกจะตาย แต่วันนี้กลับเงียบแถมยังมองแรงมาใส่พี่หมอด้วย มันต้องมีอะไรแน่ๆเลยจากที่ผมมองพี่โอมตอนนี้เหมือนยมทูตพร้อมกระชากวิญญาณมาก
   “คุยด้วยหน่อยสิ โอ๊ตเข้าบ้านไปก่อนม๊าเรียกแน่ะ”
   ผมทำไรไม่ได้เพราะเป็นคำสั่งของพี่ชาย รองจากป๊ากับม๊าที่มีอำนาจที่สุดในบ้านก็พี่โอมนี่แหละ ฉะนั้นผมกับเอมต้องเชื่อฟังพี่โอมอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
   “เอ่อ งั้นขับรถดีๆนะครับ ถึงแล้วทักมาบอกทีนะครับ” ผมจะทำไรได้ก็ได้แค่บอกลาพี่หมอสั้นๆง่ายๆก่อนจะเดินเข้าบ้านมา ผมนั่งรอพี่โอมอยู่ข้างล่างมองออกไปนอกบ้านเห็นผู้ชายตัวสูงสองคนกำลังยืนคุยกัน สักพักใหญ่ก่อนพี่โอมจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน
   “คุยไรกันหรอพี่โอม นานจัง”
   “เอาน่าเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” จ้าผู้ใหญ่มีความลับ
   “ง่า ความลับไรเยอะแยะเนี่ย”
   “ป่าวหรอกน่า เรื่องสัพเพเหระทั่วไปน่ะไม่มีไรจริงๆ”
   “แล้วทำไมต้องคุยตามลำพังล่ะ”
   “โว๊ะ! ก็ต้องคุยกันส่วนตัวนิดนึงสิผู้ใหญ่จะคุยกัน”
   “แหม ไม่อยากให้รู้ก็บอกมาเหอะ”
   “เอาน่า ขึ้นไปข้างบนได้ละ น้ำก็ยังไม่อาบนี่” แหมพอเถียงไม่ออกก็เปลี่ยนประเด็นเลยนะ
   หลังจากที่โดนไล่ขึ้นมาอาบน้ำ ผมก็จัดการตัวเองอย่างเรียบร้อย นอนตีพุงเขี่ยโทรศัพท์เล่นอยู่บนเตียง สักพักก็มีแจ้งเตือนเข้ามา อ่อไลน์พี่หมอนั่นเอง
   นศพ.ดีน “พี่ถึงบ้านแล้วนะครับ”
   นศพ.ดีน “สติกเกอร์หมีโบกมือ”
   ชายโอ๊ตแห่งบ้านตระกูล อ “ครับผม” ผมตอบเค้าได้แค่นี้ ไม่รู้จะชวนคุยอะไรต่อจริงๆ
   นศพ.ดีน “ทำอะไรอยู่ครับ” งื้อพี่หมอชวนคุยว่ะ ผมบิดไปบิดมาอยู่บนเตียงพลางมองดอกยิปโซกระถางน้อยที่อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ
   ชายโอ๊ตแห่งบ้านตระกูล อ “ไม่ได้ทำไรครับ แล้วพี่หมอล่ะครับ” โอ๊ยถามเองก็เขินเอง
   นศพ.ดีน “พึ่งถึงบ้านน่ะครับ ว่าจะอาบน้ำแล้วอ่านหนังสือครับ” ขยันมากมายพี่หมอ ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองขี้เกียจจังวะ เอาเถอะเด็กถาปัตจะมีอะไรให้อ่านมากมายนี่ก็ปีหนึ่งเองเนอะ
   ชายโอ๊ตแห่งบ้านตระกูล อ “งั้นผมไม่กวนแล้วครับ ฝันดีล่วงหน้าครับ” จริงๆอยากคุยต่อนะแต่พี่หมอจะอ่านหนังสือนี่หว่า
   นศพ.ดีน “ฝันดีเช่นกันครับน้องโอ๊ต” งื้อ อยากจะกรี๊ดลั่นห้อง พี่หมอบอกฝันดีผมจะแคปไปอวดไอ้สองตัวนั่นดีมั้ยนะ

   “ไอ้ตัวดี มึงสารภาพมาเลยนะเรื่องเมื่อวานนี่ยังไงของมึง” เสียงไอ้หมีบ่นพึ่มพำขณะที่เราสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงอาหารรอเข้าเรียน โดยที่ไอ้จอมนั่งกินข้าวอยู่
   “ก็ไม่มีอะไร ก็เค้าไปส่งกูแล้วไปกินข้าวบ้านกูอ่ะ”
   “เดี๋ยว เค้าไปกินข้าวบ้านมึง?” ไอ้จอมที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่มองขวับเลยครับ กูผิดอะไรเนี่ย
   “อือ” ผมตอบเสียงอ่อย
   “โอ๊ย ทำไมมึงแรดแบบนี้วะ เมื่อวานยังตีโพยตีพายซึมยังกับหมา พอเค้ามาง้อหน่อยก็แรดพาเค้าเข้าบ้านเลย ร้ายนะมึงเนี่ย” ไอ้หมียักษ์พูดแล้วเอามือตบหน้าผากตัวเอง
   “อะไร แรดตรงไหนก็ป่าวนะ ก็สถาณการณ์มันพาไปอ่ะ ใช่มั้ยไอ้จอม”
   “...” ไอ้ห่าจอมแม่งเงียบครับ กินข้าวต่อเฉย
   “มึงเนี่ยน๊า สรุปคือมึงหายเคืองพี่เค้าแล้วใช่มั้ยเนี่ย”
   “ก็นะ มึงก็รู้ว่ากูแอบชอบพี่เค้ามานานแค่ไหน”
   “เออกูรู้ แต่ก็นะมึงว่ามันไวไปมั้ยล่ะ?”
   “ก็นะ มึงจะให้กูทำไงล่ะ เรื่องมันก็มาขนาดนี้แล้ว” ผมถียงมัน
   “แล้วพี่โอมว่าไง”
   “ก็ไม่ว่าไง แค่เห็นพี่เค้าคุยกับพี่หมอนิดหน่อย”
   “คุยอะไรวะ” ทีนี้ไอ้จอมเงยหน้าถาม
   “ไม่รู้พี่โอมไม่ได้บอก กูถามก็ไม่บอก”
   “มีน้องแรดอย่างมึงพี่โอมคงลำบากใจ” ไอ้หมีบ่น
   “มึงนี่แม่ง กูไม่ได้แรด”
   แล้วเช้านี้ก็เป็นเช้าแห่งการโต้เถียงของผมกับไอ้หมียักษ์โดยที่ไอ้จอมนั่งกินข้าวแบบชิวๆฟังผมสองคนเถียงกัน เอาจริงๆคือผมไม่ได้แรดอย่างมันว่าซะหน่อย ตอนนั้นพี่หมออาจจะแกล้งผมก็จริงแต่เค้าก็ไม่ได้บังคับหรือว่าข่มขืนผมซะหน่อย ผมสมยอมเองแค่ไม่รู้ตัวว่าเป็นพี่หมอ จะว่าโกรธก็โกรธตอนเช้าที่พี่เค้าพูดจาร้ายๆใส่ ผมไม่โอเคที่เค้าพูดกับผมเลย แต่สุดท้ายพี่หมอก็ยังมาขอโทษผมผมก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วกัน อย่างน้อยมันก็เป็นเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นกันคนที่แอบรักมานานอย่างผม แค่นี้ผมก็ถือว่าดีมากแล้ว จากคนที่เคยมองอยู่ห่างๆตอนนี้ได้ใกล้ชิดมากขึ้น ได้พูดคุย แม้กระทั้งเข้ามาเจอกันคนที่บ้าน แต่เหตุการณ์เริ่มมันอาจจะข้ามขั้นไปหน่อยน่ะนะ
   “เอาแล้วๆ มีเรื่องแล้วมึง” ไอ้หมีอีกแล้วครับท่าน
   “อะไรของมึงวะ มีอะไรอีกเนี่ย”
   “นู่นๆพี่หมอมึงไง” ไอ้หมียื่นปากไปด้านหลังผม ทำให้ผมต้องหันกลับไปมองตามโดยอัตโนมัติ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด