ตอนที่.5 : เด็กแว่นเฟรชชี่
"ไอ้นับ เสร็จยัง"
"วันแรกก็จะพากูสายเลยนะมึง"
เสียงธาราตะโกนเอ็ดน้องชายลั่นบ้าน เพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก แต่นับหนึ่งก็ตื่นสาย
"มาแล้วคร้าบบบบ ใจเย็นดิครับพี่" นับหนึ่งวิ่งลงบันไดลงมาด้วยความเร่งรีบ
"ใจเย็นเชี่ยไร วินมันมารอตั้งนานละ วันนี้เปิดเทอมวันแรกมึงก็น่าจะรู้ ว่ารถติดบรรลัย"
"ผมจะรู้ได้ไงว่ารถติด ก็เพิ่งไปมหาวิทยาลัยวันแรกนี่ครับ" นับหนึ่งเถียงพี่ชาย ทำเอาคนโดนเถียงถึงกับหยุดแล้วหันหน้ามามอง นับหนึ่งก็ชะงักไปที่เห็นสายตาคมกริบของธาราที่บ่งบอกว่า เขากำลังทำให้ธาราไม่พอใจ
"ขอโทษครับ" นับหนึ่งเอ่ยปากขอโทษพี่ชายเสียงอ่อยๆแล้วก็เดินเลี่ยงออกไปหาอนาวินเพื่อนของเขาที่มานั่งรออยู่หน้าบ้าน เพื่อติดรถของธาราไปมหาวิทยาลัยด้วยกัน
"วันนี้มีกิจกรรมอะไรมั้ย" ธาราเอ่ยปากถามในขณะที่ทุกคนพร้อมอยู่บนรถ
"มีรับน้องตอนเย็นครับ เลิกทุ่มนึง" วินตอบธารา
"อืม เดี๋ยวพี่รอรับนะ เสร็จแล้วก็โทรมาละกัน"
"ครับ พี่ธารา" วินตอบธารา แต่นับหนึ่งนั่งเงียบ จนธาราแปลกใจ ก็เลยหันไปมองน้องชายที่นั่งซึมอยู่ข้างๆ
"กูพูดเนี่ย ได้ยินมั้ย" ธาราถามนับหนึ่ง แต่น้องชายก็ยังเงียบอยู่
"ไอ้นับ ไอ้นับ" วินที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง เอื้อมมือมาตบไหล่สะกิดนับหนึ่งเบาๆ จนอีกฝ่ายรู้สึกตัว
"เอ่อ มีไรครับ" นับหนึ่งสะดุ้ง ที่วินมาสะกิด
"มึงนั่นแหล่ะ เป็นอะไร" ธาราถามน้องชาย
"ผมรู้สึกผิดที่เถียงพี่"
ได้ยินคำตอบของน้อง ธาราก็ยิ้มออกมา แล้วเอื้อมมือไปลูบผมน้องชายเบาๆ
"โถ่ กูก็นึกว่าเป็นอะไร"
"ก็พี่โกรธผม"
"มึงเป็นน้องกูนะ โกรธแป้บเดียวก็หาย เข้ามหาลัยแล้วมึงก็โตได้แล้ว ไอ้เด็กแว่น" ธาราบอกน้องชายพร้อมกับเอามือขยี้ผมนับหนึ่งด้วยความหมันเขี้ยว
"ผมเสียทรงหมดครับพี่" นับหนึ่งทำหน้ามุ่ยพร้อมกับจับมือธาราออกไปวางข้างๆตัว
"หล่อแล้วครับ ใส่แว่นก็ยิ่งหล่อ" ธาราแซวน้องชายตัวเองที่กำลังเอามือปัดๆทรงผมให้เข้าที่เข้าทาง วินก็นั่งขำกับท่าทางของเพื่อน เขาเองก็ยังไม่ชินนักที่อยู่ๆเพื่อนหล่อใสอย่างนับหนึ่งกลายมาเป็นเด็กแว่นแบบนี้
ที่มหาวิทยาลัย
ธาราจอดรถส่งนับหนึ่งกับวินที่หน้าคณะ วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก และเป็นวันที่คณะต่างๆจัดกิจกรรมรับน้องเข้าคณะ ซึ่งก็ยังไม่มีการเรียนการสอนในวันนี้ มีแต่กิจกรรมสันทนาการและกิจกรรมFirst Cheer's ในตอนเย็น
"อย่าลืมนะ เสร็จกิจกรรมแล้วโทรหาพี่ เดี๋ยวมารับหน้าคณะ" ธาราเปิดกระจกชะโงกหน้าออกมาเตือนน้องชายอีกครั้ง
"ครับ เดี๋ยวผมโทรหานะครับ"
"อืม ไปเข้าคณะได้ละ" ธาราบอกน้องชายแล้วก็ขับรถออกไปที่คณะตัวเอง
นับหนึ่งกับอนาวิน ยืนอยู่หน้าคณะด้วยหัวใจที่เต้นแรง เห็นเพื่อนๆพากันเดินเข้าไป พร้อมกับมีรุ่นพี่มารอรับเต็มไปหมด ได้ยินเสียงกลองที่ตีเป็นจังหวะสามช่าดังมาจากข้างในคณะ
"เชี่ย แม่งน่าสนุกว่ะไอ้นับ" วินหันมาบอกนับหนึ่ง
"ป่ะ กูพร้อมละ เราเข้าคณะกันเถอะ" นับหนึ่งบอกวินแล้วก็พากันเดินเข้าคณะ
"ยู้วฮูวววว สุดหล่อทั้งสองคนเข้ามาลงชื่อตรงนี้ก่อนนะคะ" เสียงรุ่นพี่ผู้ชายร่างใหญ่แต่ใจสาว เรียกทั้งสองคนพร้อมทั้งกวักมือเรียก นับหนึ่งกับวินก็เดินเข้าไปตรงเต๊นท์รายงานตัวที่พี่ๆนั่งอยู่
"พี่ชื่อเลดี้นะคะ น้องสองคนชื่ออะไรกันบ้างคะ" พี่เลดี้ เอ่ยปากทักทายนับหนึ่งกับอนาวิน
"ผมชื่ออนาวินครับ"
'ผมชื่อนับหนึ่งครับ"
"อู้ยยย ชื่ออย่างหล่ออ่ะ อนาวินกับนับหนึ่ง"
"หล่อๆอย่างนี้ก็ต้องติดดาวสิคะ" พี่เลดี้เอาสติ๊กเกอร์รูปดาวสีแดงมาติดที่หน้าอกของนับหนึ่งและวินคนละดวง
"อีเลดี้ สองคนนี้ขอติดห้าดาวเลยได้ป้ะ คือแบบหล่อห้าดาวมากอ่ะ" รุ่นพี่ผู้หญิงเดินเข้ามาบอกพี่เลดี้
"อีบ้า น้องเค้าเป็นคนนะไม่ใช่ไก่ จะได้มาหล่อห้าดาว แบบนี้กูให้สิบดาวเลยคร่าาาา"
"แหม่ สองคนมึงนี่นะพอได้แล้ว น้องมันเขินจนหน้าแดงแล้วนั่น"
"เดี๋ยวมารับป้ายชื่อแล้วก็เดินไปเข้าซุ้มกับเพื่อนๆได้เลยนะครับทั้งสองคน" พี่ผู้ชายตัวสูงหน้าหล่อเดินเข้ามาบอกนับหนึ่งกับวิน นับหนึ่งอ่านชื่อที่อยู่บนป้ายคล้องคอ "พี่ตัง อาชวิน #ปี2"
["ข้าวตัง อาชวิน ศิริพุทธา" หนุ่มตี๋หล่อสุดฮอตอีกคนของคณะเกษตร เป็นเพื่อนสนิทของเก้า ชื่อเล่นจริงๆคือข้าวตัง แต่เขาชอบให้คนอื่นเรียกว่าตังเฉยๆ และยังชอบบอกคนอื่นว่าเขาชื่อสตางค์ ไม่ใช่ข้าวตัง เพราะข้าวตังชื่อเหมือนผู้หญิง]
นับหนึ่งกับวินได้รับป้ายชื่อแล้ว ทั้งสองคนก็พากันเดินไปที่ซุ้ม เสียงกลองดังใกล้เข้ามามากขึ้น ยิ่งเดินเข้าใกล้ซุ้ม หัวใจของนับหนึ่งก็เต้นแรงด้วยความตื่นเต้น
มันเริ่มขึ้นแล้วใช่มั้ยวะ ชีวิตเฟรชชี่ นับหนึ่งคิดในใจ
"ไอ้นับ พร้อมป่าวมึง" อนาวินหันมาถามเพื่อน
นับหนึ่งพยักหน้าให้วินแทนคำตอบแล้วก็เป็นฝ่ายกอดคอพาวินเดินลอดเข้าไปในซุ้ม
"ว๊ายยย สองคนนี้ติดดาวมาด้วย"
"ระบบคัดกรองของเราทำงานได้ดีจริงๆ ฮ่าๆ"
"น่ารักมากน้องแว่นคนนั้น" เสียงแซวจากรุ่นพี่สันทนาการ ทำเอานับหนึ่งออกอาการเขินจนแก้มแดง
พอทั้งสองเข้าไปในซุ้มก็เดินเป็นแถวตามเพื่อนๆเข้าไปในตึก เสียงกลองดังออกมาจากข้างในตึกนั้น เสียงกรี้ด เสียงร้องเพลง ดูน่าสนุก พอเดินเข้าไปในตึกก็ไปโผล่ที่ลานสนามหญ้าที่อยู่ใจกลางของตึกพอดี ในสนามหญ้านั้น พี่ๆสันทนาการกำลังล้อมวง โดยมีน้องปีหนึ่งนั่งอยู่ตรงกลาง นับหนึ่งกับวินก็พากันไปนั่งต่อแถวกับเพื่อนๆ
"อ้าว เรามาแจวกันดีกว่าค่ะน้องๆ"
"แจวมาแจวจ้ำจึ้ก น้ำนิ่งไหลลึก นึกถึงคนแจว"
"แจวหล่ะมาแจวจ้ำจึ้ก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว"
"แจวเรือจะไปซื้อน้ำผึ้ง แจวเรือจะไปซื้อน้ำผึ้ง"
"ขอเชิญน้องๆ ปีหนึ่งงงงง ลุกขึ้นช่วยแจว อ้าว แจวหล่ะมาแจวจ้ำจึ้ก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว...."
กิจกรรมสันทนาการของพี่ๆกับน้องๆปีหนึ่งดำเนินไปเรื่อยๆ และเป็นไปด้วยความสนุกสนาน นับหนึ่งกับอนาวินก็ทำความคุ้นเคยกับชีวิตเฟรชชี่ได้เป็นอย่างดี
ที่โรงอาหารของคณะ
"เชี่ย แม่งโคตรเหนื่อย แต่สนุก" นับหนึ่งพูดกับวิน ในขณะที่ทั้งสองคนเดินถือจานข้าวมองหาโต๊ะว่างเพื่อนั่งกินข้าว แต่ ณ เวลานี้ โรงอาหารเต็มไปด้วยผู้คน และโต๊ะก็แทบไม่มีที่นั่ง
"โห่ ไม่มีโต๊ะว่างเลยอ่ะ" นับหนึ่งบ่นออกมา
"ไอ้นับ ตรงนั้นมีที่ว่าง" วินบอกนับหนึ่งแล้วก็ชี้ให้ดูเก้าอี้ที่ว่างอยู่หนึ่งตัว
"เก้าอี้ตัวเดียวจะนั่งยังไงวะ"
"มึงก็นั่งกับกูไง นั่งตักกูนี่แหล่ะ"
"เชี่ย มึงเมื่อยขาตายเลย"
"เออ เอาน่า ดีกว่าไม่มีที่นั่งกินข้าวนะเว้ย รีบกินรีบออกไป คนเยอะ กูไม่ค่อยชอบว่ะ" วินบอกนับหนึ่ง
"นายๆ เราขอนั่งด้วยได้มั้ยครับ" นับหนึ่งเอ่ยปากถามคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว แต่คนนั้นใส่หูฟังอาจจะไม่ได้ยินที่นับหนึ่งพูด เขาก็เลยเอามือไปสะกิดไหล่ให้รู้สึกตัว คนโดนสะกิดเงยหน้าขึ้นมามองนับหนึ่ง พร้อมทั้งถอดหูฟังออก
"เอ่อ เราขอนั่งกินข้าวด้วยนะครับ"
"อื้ม ได้สิครับ แต่เก้าอี้มีตัวเดียวอ่ะ นายจะนั่งกันยังไง"
"ไม่เป็นไร เรานั่งตักไอ้วินได้ กินข้าวแป้บเดียวก็ออกไปละ" นับหนึ่งตอบแล้วก็ส่งยิ้มให้ ก่อนที่เขาจะนั่งลงบนท่อนขาของวินแล้วก็กินข้าว
"เอ่อ นายชื่อไรครับ เราวิน ส่วนนี่ไอ้นับ" วินแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่
'เราชื่อทิวครับ"
["ทิว ทัศน์ พานิชพิพัฒน์" น้องชายคนละแม่ของ ทาวน์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของธาราพี่ชายของนับหนึ่ง เมื่อแม่ของทิวเสียชีวิต พ่อของทิวก็รับตัวทิวมาอยู่ด้วย เพราะทิวไม่เหลือญาติพี่น้องคนไหนอีกแล้ว พอเข้ามหาวิทยาลัยทิวต้องมาอยู่กับทาวน์โดยที่ทาวน์ก็ไม่ได้ยินดีที่จะให้น้องชายต่างมารดาคนนี้มาอยู่ด้วยซักเท่าไหร่นัก]
"ว้ายๆ อร้ายๆ น้องหล่อสิบดาวของพี่ ทำไมนั่งกินข้าวกันแบบนี้หล่ะคะ" เสียงของพี่เลดี้ ที่ทักนับหนึ่งกับวิน ทำเอาทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงหันมามอง แล้วก็พากันยิ้มกับท่านั่งกินข้าวของนับหนึ่งที่นั่งอยู่บนตักของวิน
"เอ่อ พี่...พี่เลดี้" นับหนึ่งทำหน้าเลิกลั่ก ที่เห็นพี่เลดี้เข้ามาแซว
"ใช่ค่ะ พี่เลดี้เอง รู้มั้ยว่าพี่ฟิน นั่งกันแบบนี้พี่คิดไปไกลถึงดาวอังคารแล้วค่ะลูก"
"ก็เก้าอี้เหลือแค่ตัวเดียวนี่ครับพี่ ผมก็เลยนั่งตักไอ้วิน" นับหนึ่งตอบพี่เลดี้แล้วก็ยิ้มอย่างเขินๆ ยิ่งตอนนี้มีสายตาหลายคู่ที่มองมายิ่งทำให้นับหนึ่งรู้สึกหน้าร้อนผ่าวๆ ผิดกับวินที่ยังก้มหน้าก้มตากินข้าว
"ไอ้นับ กูอิ่มละ มึงนั่งกินข้าวไปเลย เดี๋ยวกูไปซื้อน้ำมาให้กิน เออ ทิว นายเอาน้ำอะไรเดี๋ยวเราซื้อมาให้"
"เอ่อ น้ำเปล่าก็ได้ ขอบใจนะ"
วินลุกจากเก้าอี้ไปซื้อน้ำ นับหนึ่งก็เลยนั่งกินข้าวอย่างสบายๆ เขาสังเกตเห็นที่ตรงหน้าอกของทิว ก็มีดาวติดอยู่เหมือนกัน
"นี่นายก็โดนติดดาวด้วยหรอ" นับหนึ่งเอ่ยปากถามทิว
"อืม ไม่รู้จะติดทำไม บางคนก็ไม่โดนติดดาว" ทิวตอบด้วยความสงสัย
"สงสัยนายหล่อมั้ง พี่เค้าก็เลยติดดาวให้"
"งั้นนายก็หล่อด้วย เพราะโดนติดดาวเหมือนกัน" ทิวบอกนับหนึ่ง แล้วก็หัวเราะ
วินซื้อน้ำกลับมาที่โต๊ะ แล้วก็ยืนอยู่ข้างๆนับหนึ่ง จนนับหนึ่งกินข้าวเสร็จ ทั้งสามคนก็พากันออกมาจากโรงอาหาร
ที่ห้องสโมสรคณะ
กลุ่มพี่ว้าก กำลังเตรียมตัวเพื่อทำหน้าที่ในช่วงบ่าย เก้า อยู่ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบ ด้วยเสื้อนักศึกษาแขนยาวนุ่งทับในกับกางเกงแสลค รองเท้าหนังสีดำ ผูกไทน์ของมหาวิทยาลัย พร้อมกับเซตผมเรียบร้อย ทำให้เขาดูหล่อ สมาร์ทผิดหูผิดตาจนเพื่อนๆอดไม่ได้ที่จะแซว
"แหม่ พอออกจากป่าก็เป็นผู้เป็นคนเลยเนอะ"
"พี่เก้าออกจากป่าแล้ว จากซาตานกลับกลายมาเป็นเทวดา"
'มึง ทาร์ซานหรือซาตาน พูดใหม่ๆ"
"ซาตานแหล่ะถูกแล้ว คนอะไรโคตรดุ"
"พอละๆ เดี๋ยวกูหลุดมาดพี่ระเบียบ พวกมึงจะเดือดร้อน เพราะต้องมาช่วยกูตอนโดนรุ่นพี่ซ่อม" เก้าพูดขู่เพื่อนๆ
"นี่ๆ น้องปีหนึ่งคณะเราปีนี้นะ งานโคตรดีอ่ะ ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็เริ้ดเริ่ด" เลดี้เดินเข้ามาในห้องสโมสรพร้อมกับเปิดรูปจากในกล้องดูภาพน้องๆที่ทีมตากล้องของคณะถ่ายมาจากกิจกรรมเมื่อเช้า
"โดยเฉพาะน้องแว่นสุดหล่อ"
เก้า เมื่อได้ยินเลดี้พูดถึงน้องแว่นสุดหล่อ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ไอ้เด็กแว่น นับหนึ่ง ของเขาก็เรียนที่คณะนี้เหมือนกัน เก้ารีบพุ่งตัวไปหาเลดี้ทันที
"เลดี้ ไหนขอดูหน่อยดิ้ ไอ้น้องแว่นคนไหนวะ"
เลดี้หันมามองเพื่อนด้วยความแปลกใจ
"นี่ไง น้องนับหนึ่ง เก้ารู้จักด้วยหรอ" เลดี้พูดชื่อนับหนึ่งออกมา แล้วก็เปิดรูปในกล้องให้เก้าดู
"เห็นมะ น่ารักจริงๆ ขนาดใส่แว่นนะ ตากลมโตใสๆ หน้าตาขี้เล่น เรานี่โคตรคลั่ง เด็กอะไรน่ารักจริงๆ" เลดี้พูดขึ้นพร้อมกับสายตาเป็นประกาย
"ใช่น้องแว่นที่นั่งตักเพื่อนกินข้าวในโรงอาหารเมื่อตอนกลางวันป่ะเลดี้" เพื่อนอีกคนถามเลดี้
"ใช่ๆ นั่นแหล่ะน้องนับหนึ่ง ส่วนคนที่โดนนั่งตักอ่ะ ชื่อน้องวิน เห็นแล้วชั้นก็ฟินอ่ะแก อยากให้เป็นแฟนกัน"
"ไร้สาระ" เก้าพูดขึ้น แล้วก็ส่งกล้องกลับคืนให้เลดี้ ทำเอาเลดี้ถึงกับหน้าเหวอๆไป ที่เก้าพูดว่าไร้สาระ
"เป็นไรอ่ะไอ้เก้า ไอ้ประธานเชียร์ขี้เก็ก" เลดี้ว่าเก้าที่กำลังเดินไปนั่งหลบมุมเงียบๆ เพื่อทำสมาธิกับบทบาทประธานเชียร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน
หึ ไอ้เด็กแว่น มาวันแรกก็ฮอตเลยนะมึง เก้าคิดในใจเมื่อเขานึกถึงนับหนึ่ง เด็กแว่นของเขา
กิจกรรมสันทนาการในช่วงบ่ายก็เสร็จสิ้นลงไป ซึ่งนับหนึ่งและวินก็ได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกหลายคน แต่ตอนนี้หลักๆก็ ก็มีนับหนึ่ง วินและทิว ที่อยู่ด้วยกันตลอด
พี่ๆสันทนาการเก็บอุปกรณ์ออกไปจากลานสนามหญ้า บรรยากาศเปลี่ยนไปในทันที มีรุ่นพี่อีกกลุ่ม เข้ามาจัดระเบียบน้องๆปีหนึ่ง ให้เข้าแถวแยกชาย-หญิง คนละฝั่ง รุ่นพี่ที่เข้ามา นับหนึ่งเห็นว่ามีพี่ตัง คนที่สวมป้ายชื่อให้เขาด้วย พี่ตังเข้ามาจัดแถวน้องๆผู้ชาย พอเห็นนับหนึ่งก็เหมือนจะยิ้มให้ แต่พี่ตังก็ไม่ได้พูดอะไรกับนับหนึ่ง
หลังจากที่จัดระเบียบน้องๆให้เข้าแถวแยกชายหญิงเรียบร้อยแล้ว กลุ่มพี่ๆกลุ่มแรกก็ออกไปจากสนาม
"ก้มหน้าหลับตาลงไปครับ" มีเสียงตะโกนสั่งพวกเขามาจากด้านหลัง เสียงเข้ม ทุ้ม ดังก้องไปทั่วลานสนามหญ้า ทุกอย่างเงียบกริบ หัวใจของนับหนึ่งเต้น ตึกตัก ตึกตัก ด้วยความตื่นเต้น
"นี่มันอะไรวะเนี่ย" วินที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาพูดกับนับหนึ่งเบาๆ
"กูก็ไม่รู้ว่ะ"
เวลาผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง
"เงยหน้าขึ้นได้ครับ" เสียงเข้มทุ้มเสียงเดิมพูดสั่งพวกเขา ทุกคนก็เงยหน้าขึ้น
ภาพที่เห็นในตอนนี้ก็คือ มีกลุ่มรุ่นพี่ผู้ชาย ยืนล้อมรอบน้องๆที่นั่งอยู่ ส่วนเบื้องหน้านั้นมีเวทีเล็กๆไม่สูงมากนักตั้งอยู่
อยู่ ด้านหลังของเวทีเป็นผืนผ้าสีประจำคณะ มีตราประจำคณะติดอยู่ พร้อมกับแผ่นป้ายผ้า เขียนว่า กิจกรรมเชียร์คณะเกษตร ประจำปี2561
"สวัสดีครับ ว่าที่น้องๆของพวกผมทุกๆคน" รุ่นพี่ตัวสูงที่ยืนอยู่บนเวทีพูดขึ้น นับหนึ่งเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงนั้น เขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหน แต่ก็นึกไม่ออก
"ทำไมต้องเป็นว่าที่ด้วยวะ" วินหันมาถามนับหนึ่ง
"กูก็ไม่รู้ว่ะ กิจกรรมเชียร์ของคณะเราได้ข่าวว่าโหดสัส" นับหนึ่งบอกวิน เขารู้เรื่องนี้เพราะได้ยินเพื่อนๆพูดกันตอนไปเข้าห้องน้ำ และนี่ก็อาจจะเป็นการเริ่มต้นกิจกรรมเชียร์ อย่างที่เขาได้ยินเพื่อนๆพูดมาก็ได้
ทางด้านเก้าที่ยืนอยู่บนเวที เขาพยามยามรักษามาดเนี้ยบของประธานเชียร์ เพื่อให้น้องๆรู้สึกเกรงกลัว แต่ในตอนนี้ กลับกลายเป็นว่า น้องๆต่างพากันปลื้มพี่ประธานเชียร์คนนี้ ถึงแม้ว่าจะพูดกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงดุดันและท่าทีเคร่งขึมก็ตาม
"พี่ประธานเชียร์โคตรหล่อเลยว่ะ"
"พี่ประธานเชียร์หล่อเนอะเธอ"
'หล่อๆแบบนี้ยอมมานั่งให้ดุ ทุกวันเลย"
"ยอมเข้าเชียร์ทุกวัน ถ้าได้เจอพี่ประธานเชียร์"
เสียงเพื่อนๆทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างก็พากันพูดถึงพี่ประธานเชียร์ ในช่วงเวลาพักเบรก พี่ประธานเชียร์กำลังเข้าไปอยู่ในใจของน้องๆทุกคน แต่คงไม่ใช่กับนับหนึ่ง เพราะตอนนี้นับหนึ่งโฟกัสไปแต่กิจกรรมเชียร์ ไม่ใช่พี่ประธานเชียร์ โถ่ นับหนึ่งผู้ซื่อบื้ออะไรเช่นนี้
"เฮ้อ...จบซะทีวันแรก พี่ว้ากแม่งโหดจริง เสียงดังสัส" วินพูดบ่นออกมาในขณะที่ทั้งสามคนกำลังเดินออกจากคณะ
"ไอ้นับมึงโทรบอกพี่ธารายังว่าทำกิจกรรมเสร็จแล้ว" วินถามนับหนึ่ง
"อือ กูไลน์บอกละ มันกำลังมารับ เออ ไอ้ทิวมึงอ่ะกลับไง พักไหนบ้านหรือหอ" นับหนึ่งหันไปถามเพื่อนใหม่คนแรกของเขา
"กูอยู่หอ"
"ดีว่ะ อยู่กับใครอ่ะ กูมานอนหอมึงบ้างได้ป่ะ อยากรู้ว่านอนหอจะเป็นยังไง" วินหันไปถามทิวอย่างสนใจ
"อยู่กับพี่ชายกูว่ะ พี่กูก็เรียนที่นี่"
เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่รู้จักกัน สรรพนามเรียกแทนตัวก็กลายมาเป็นคำง่ายๆที่ติดปาก บ่งบอกว่า ผู้ชายเข้ากันได้ง่าย
"อ่อ งั้นก็อดไปนอนหอมึงเลย" วินพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
"สุดหล่อสามคน น้องนับหนึ่ง น้องวิน น้องทิว กลับกันยังไงคะเนี่ย อยู่หอไหนกันอ่ะ" พี่เลดี้เดินเข้ามาถามหนุ่มๆทั้งสามคน
"ผมกับไอ้วินอยู่บ้านครับ ส่วนไอ้ทิวอยู่หอครับ"
"อ๋อ ค่ะๆ ไงก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะ กลับดีๆหล่ะ ฝนจะตกละ พรุ่งนี้เจอกัน"
"ครับ สวัสดีครับพี่เลดี้" ทั้งสามคนยกมือไหว้สวัสดีพี่เลดี้ แล้วก็เดินออกมาหน้าคณะ
ธาราจอดรถรออยู่แล้วที่หน้าคณะ
"นั่นพี่ธารามารอละ แล้วพี่มึงอ่ะมารับยังไอ้ทิว ฝนจะตกละเนี่ย" นับหนึ่งหันไปถามทิว
"เออ มึงสองคนกลับเถอะ เดี๋ยวฝนตก"
"แล้วพี่มึงหล่ะ" วินถามทิวอีกครั้ง
"ยังไม่มาเลย กูโทรบอกละเดี๋ยวก็คงมา"
"เออ งั้นพวกกูกลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน" นับหนึ่งบอกทิวแล้วก็เดินไปขึ้นรถ
"เป็นไง กิจกรรมวันนี้" ธาราเอ่ยปากถามน้องชาย
"ก็ดีครับ สนุกดี แต่พี่ว้ากแม่ง โคตรเสียงดัง"
"เออ ฟังๆไปเถอะ ตลกดีไม่ต้องเครียด"
ที่หน้าคณะ ทิวก็ยังคงยืนรอพี่ชายมารับ จนตอนนี้ฝนเริ่มลงเม็ดเปาะเปะ พี่ชายของทิวก็ยังไม่มารับ
"พี่ทาวน์ครับ ถึงไหนแล้วครับ"
"มึงรีบป่ะ ถ้ารีบก็เดินกลับมาเอง"
"ฝนลงเม็ดแล้วอ่ะครับ"
"ก็ช่างแม่งดิ ถ้ามึงรอไม่ได้ก็กลับมาเอง กูไม่ไปรับแม่งละ กลับมาเองเลย"
ทิวทำหน้าเสีย หลังจากที่พี่ชายวางสายไป เขายื่นแขนออกไปรองรับน้ำฝน เห็นว่าฝนยังตกไม่หนักมาก เขาก็เลยตัดสินใจเดินกลับหอ....
ช้านสงสารทิววววววว