@@[Lovely My Clumcy] รุ่นพี่สุดเซอร์กับนายเซ่อซ่า ตอน.11 Up Date 10/May/2020@@
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@[Lovely My Clumcy] รุ่นพี่สุดเซอร์กับนายเซ่อซ่า ตอน.11 Up Date 10/May/2020@@  (อ่าน 3051 ครั้ง)

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


รุ่นพี่สุดเซอร์กับนายเซ่อซ่า
Lovely My Clumcy


เก้า กรกช : ไม่คิดเลยว่า คนรักความสงบอย่างผม จะต้องมาปราบได้เด็กแว่นจอมพยศ ใครๆก็บอกว่ามันเซ่อซ่า แต่ผมว่ามันกวนประสาทมากกว่า

นับ นับหนึ่ง : ถึงผมจะเป็นเด็กแว่น แต่ก็ไม่ได้เซ่อซ่าอย่างที่ใครๆพูด ถ้าคิดจะปราบ ก็กำราบผมให้ได้ละกัน




ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ไว้ด้วยนะครับ

:mew1: :mew3: :mew1: :mew3: :mew1: :mew3:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-05-2020 23:58:07 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7


ตอนที่1 : จุดเริ่มต้นของเด็กแว่น


ก๊อกๆ ก๊อกๆ ธาราเคาะประตูห้องปลุกน้องชาย


"ไอ้นับ ตื่นได้ละ กูให้เวลา10นาที อาบน้ำแล้วลงไปเจอที่รถ"

"ม่ายยยย ผมยังไม่อยากตื่น"

"มึงอย่าดื้อ อีก10นาทีถ้ามึงไม่ลงไปเจอกูที่รถ กูจะขึ้นมาลากคอมึงลงไปเอง"

"โห้ยยยย ไรวะเนี่ย" นับหนึ่งผุดลุกขึ้นมานั่งบนเตียง พร้อมกับเอามือขยี้หัว แสดงอาการไม่สบอารมณ์ ที่โดนธาราพี่ชายคนกลางมากวนใจแต่เช้า เขาบ่นพึมพำๆ แต่ก็ยอมลงจากเตียงเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่โดยดี
.

นับหนึ่ง สุริยะวงศ์  น้องชายคนสุดท้องของบ้านสุริยะวงศ์ อายุ18ปี สูง175 เซนติเมตร ผิวขาว น่าตาน่ารัก ซุ่มซ่าม และเซ่อซ่า นับหนึ่งมีพี่ชายอีกสองคน พี่ชายคนแรก ชื่อว่า นที สุริยะวงศ์ อายุ28ปี สูง185 หล่อคมเข้ม มีสเน่ห์ที่รอยยิ้ม เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เขากำลังจะได้เข้าไปเรียนต่ออีกไม่นานนี้ ส่วนพี่ชายคนกลางชื่อ ธารา สุริยะวงศ์ อายุ 21 สูง180 หนุ่มตี๋หล่อนักกีฬา เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆค่อนมหาวิทยาลัย แต่เป็นพี่ชายที่หวงน้องชายมากๆ ทั้งสามคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านหรู ซึ่งพ่อกับแม่ซื้อไว้ให้สามคนพี่น้องอยู่ด้วยกัน โดยให้พี่นที เป็นคนจัดการดูแลน้องๆ เพราะพ่อกับแม่ต้องเดินทางไปดูแลธุรกิจที่ต่างประเทศบ่อยๆ ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่กับลูกๆซักเท่าไหร่ พี่นทีจึงเปรียบเสมือนทั้งพ่อ แม่ และพี่ชายในเวลาเดียวกัน


"ไอ้นับ เสร็จหรือยัง" เสียงธาราตะโกนเรียกน้องมาจากชั้นล่าง

"เสร็จแล้วคร้าบ กำลังลงไป อย่าใจร้อนดิ" นับหนึ่งตะโกนตอบพี่ชาย พร้อมกับวิ่งลงบันไดไปยังชั้นล่าง

"อ้าว คุณหนูนับ ค่อยๆเดินก็ได้ค่ะ จะรีบไปไหนคะเนี่ย พี่หมอนตั้งข้าวต้มอร่อยๆไว้รอในห้องทานข้าวแล้วนะคะ"

"ผมไม่มีเวลาแล้วครับพี่หมอน ถ้าช้ากว่านี้พี่ธาราเอาผมตายแน่ ผมไปก่อนนะครับ" นับหนึ่งตอบพี่แม่บ้านแล้วก็รีบวิ่งออกไปหาธาราที่รถ

เขาพาร่างมานั่งหอบ แฮ่กๆอยู่บนรถ ธาราหันมามองน้องชายแล้วก็อมยิ้มนิดๆพร้อมกับส่ายหัวกับสภาพของน้องชายตัวดี

"พี่จะพาผมไปไหนแต่เช้าเนี่ย"

"ตัดแว่น"

"ห้ะ ตัดแว่น"

"เออ พ่อกับแม่บอกไว้นานละว่าให้พามึงไปตัดแว่น"

"อี๋...ไม่เอาอ่ะ ผมไม่ใส่แว่นนะ"

"ไม่ได้ มึงสายตาสั้นลงทุกวันๆ จะรอให้ตาบอดก่อนรึไง"

"ใส่คอนแทคเลนส์ก็ได้นี่นา" นับหนึ่งเถียงพี่ชายด้วยเสียงอ่อยๆ เพราะเขารู้ว่าเสนออะไรไปตอนนี้ พี่ชายของเขาก็คงไม่ยอมเด็ดขาด

"ยังไงมึงก็ต้องตัดแว่น ส่วนคอนแทคเลนส์ จะใส่ก็ไม่ว่า แต่หลักๆมึงก็ต้องใส่แว่น เข้าใจมั้ย"

"ครับพี่" นับหนึ่งตอบพี่เสียงเบา แล้วก็เอนเบาะรถพร้อมกับหลับตานอน


เอี้ยดดดดดดดดด....!!


"เชี่ยยยยย ชนมั้ย" นับหนึ่งตกใจตื่นพร้อมกับอุทานออกมาเสียงดัง เพราะธาราเบรครถกระทันหัน

"ชนเหี้ยไร แม่งอยู่ๆก็มาตัดหน้า ดีนะกูเบรคทัน" ธาราพูดออกมาอย่างหัวเสีย

"เห้อ ตกใจหมด ขับรถดีๆหน่อยดิครับ"

"คร้าบ เจ้านาย ตกใจหรอ โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ" ธาราหันมาพูดหยอกเล่นกับน้องชาย พร้อมกับเอื้อมมือขวาไปตบเบาๆตรงหน้าอกข้างซ้ายของนับหนึ่ง ซึ่งเป็นการกระทำที่เขาเคยชิน เวลาที่น้องชายตกใจหรือกลัวอะไร เขาก็จะเอามือไปตบเบาๆตรงหัวใจของนับหนึ่งเพื่อเป็นการปลอบใจ


ที่ห้างสรรพสินค้าย่านชานเมือง


"เป็นไง เห็นชัดขึ้นมั้ย"

"โคตรชัดเลยอ่ะครับพี่ธารา มันเยี่ยมมาก"

"เออ ดีแล้วๆ ไอ้เด็กแว่น ฮ่าๆ มึงนี่ พอใส่แว่นก็น่ารักไปอีกแบบ"

"จริงหรอครับพี่ ผมยังหล่อ ยังน่ารักอยู่ใช่ป้ะ"

"เออ มึงแม่งโคตรหลงตัวเอง" ธาราบอกน้องชายแล้วก็ส่ายหัวกับความเด๋อด๋าของน้องชายตัวเอง

นับหนึ่ง สวมแว่นแล้วก็เดินไปดูโน่น ดูนี่ เพราะที่ผ่านมาสายตาของเขามันสั้นลงๆ จนมองระยะไกลไม่ชัด และนั่นเป็นสิ่งที่กวนใจเขามาก แต่เพราะไม่อยากเป็นมนุษย์แว่น นับหนึ่งก็เลยไม่บอกใคร จนเมื่อตอนที่ไปเรียนพิเศษเขานั่งหลังห้องแล้วมองเห็นที่ติวเตอร์จดบนกระดานไม่ชัด ก็เลยเป็นอุปสรรคต่อการเรียน นับหนึ่งเลยมาปรึกษาพี่ธารา จนต้องพากันมาตัดแว่นในวันนี้


"ค่อยๆเดินนะ ใส่แว่นแรกๆคงยังไม่ชิน ยิ่งเซ่อซ่าอยู่ด้วยมึงอ่ะ"

"โห่พี่ ผมโตแล้วนะ"

"โตยังไงก็ยังเด็กกว่ากู อย่าเถียง"

"คร้าบบบบ แล้ว..เราจะไปไหนกันต่อ"

"หาไรกิน กูหิวละ"

"พี่เลี้ยงนะ"

"กูก็เลี้ยงมึงมาตลอดป่าววะ"

"ชาบู" นับหนึ่งบอกพี่ชาย

"แต่เช้าเลยหรอ"

"อือ ผมหิว"

"เออๆ ตามใจ"

"รักพี่ที่สุด"

"ปากดีนะมึง"

สองพี่น้องพากันเดินหาร้านชาบูที่อยากกิน นับหนึ่งถึงจะมีแว่นใส่และมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น แต่เขาก็ยังคงไม่ชินกับสิ่งแปลกปลอมที่อยู่บนใบหน้าอยู่ดี


"พี่ธารา ผมเข้าห้องน้ำแป้บนะ ปวดฉี่"

"เออ งั้นกูรอหน้าห้องน้ำนะ"

"ครับๆ"

นับหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แต่เพราะความรีบร้อน ทำให้ปะทะกับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี


"โอ๊ะ....!!" กลิ่นแป้งโคโดโมะ

 นับหนึ่งสูดสัมผัสความหอมนั้นในระหว่างที่ชนเข้ากับร่างของใครบางคน กลิ่นแป้งโคโดโมะที่เขาชอบใช้หอมอ่อนๆมาจากร่างสูงใหญ่นั้น


แว่นร่วง...


"ข่ะ..ขอโทษครับ" นับหนึ่งพูดขอโทษพร้อมกับย่อตัวลงเอามือควานหาแว่น

"นี่ครับแว่นของน้อง"

"ขอบคุณครับ" นับหนึ่งกล่าวขอบคุณแล้วก็รับแว่นมา โดยที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองว่าใครกันที่หยิบแว่นให้เขา

ทั้งสองแยกจากกัน คนนึงจากไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ได้เห็นท่าทางโก๊ะๆ เซ่อๆของเด็กแว่นหน้าตาน่ารัก อีกคนนึงจากไปพร้อมกับกลิ่นแป้งโคโดโมะที่หอมกรุ่นอยู่ในความรู้สึกที่ดี

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7

ตอนที่.2 : เด็กแว่นฝึกหัด


  นับหนึ่งทำธุระส่วนตัวเสร็จด้วยความทุลักทุเล เพราะเจ้าตัวยังไม่คุ้นชินกับอุปกรณ์เสริมบนใบหน้า เขายังคงเอามือขยับแว่นบ่อยๆ เพราะรู้สึกเหมือนโดนอะไรบีบจมูกและรำคาญขาแว่นที่เกี่ยวใบหูของเขาอยู่

"อืมมม ใส่แว่นก็หล่อไปอีกแบบ มึงแม่งน่ารักว่ะไอ้นับหนึ่ง" เด็กแว่นฝึกหัดยืนพึมพำกับตัวเองอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ

"ไอ้นับ ช้าจังวะ" เสียงของธาราที่เดินเข้ามาตามในห้องน้ำ ทำลายอารมณ์สุนทรีย์ของนับหนึ่งจนหมดสิ้น เขาทำหน้าเบ้ แล้วก็หันไปมองพี่ชายด้วยสีหน้าเฉยชา จนอีกฝ่ายที่เข้ามาตาม ชะงักไป

"ใจเย็นดิครับ ผมเพิ่งจะหัดใส่แว่นนะพี่ ทำอะไรยังไม่ค่อยถนัด"

"เออๆ แค่นี้ทำเป็นมองแรง เสร็จยังหล่ะ กูหิวละ"

"เรียบร้อยแล้วครับ ป่ะ กินชาบูกั้นนนนนน" นับหนึ่งพูดเสียงสูงพร้อมกับจูงมือพี่ชายออกมาจากห้องน้ำ

"ปล่อยมือกูได้ละ คนแม่งมองกัน คงคิดว่ากูกับมึงเป็นแฟนกัน" ธาราบอกนับหนึ่งพร้อมกับดึงมือของตัวเองออกมาจากการจูงของน้องชาย

"โถ่ พี่ธารา คงไม่มีใครคิดบ้าๆแบบนั้นหรอก ผมกับพี่สำเนาถูกต้องขนาดนี้ ใครไม่เชื่อว่าเป็นพี่น้องกันก็บ้าแล้ว" นับหนึ่งพูดพร้อมกับหันไปยิ้มให้พี่ชาย

ธารากางแขนคว้าตัวน้องชายเข้าไปกอดคอ การกระทำของสองพี่น้อง ตกอยู่ในสายตาของคนคนนึง....



ที่ร้านขายโทรศัพท์


แฟนไอ้เด็กแว่นนั่นหรอวะ แม่งหน้าเหมือนกันชิบ


"ไอ้เก้า รุ่นนี้มึงว่าไง โอเคป่าววะ"

"ไอ้เก้า"

"ไอ้เก้า"

"ไอ้เชี่ยเก้า" เสียงเรียกสุดท้าย พร้อมกับแรงตบจากฝ่ามือของเพื่อนที่ปะทะกับศรีษะของเก้า ทำเอาร่างสูงของเขาเซไปเล็กน้อย


"มึงเหม่ออะไรวะเนี่ย"


"ป่าวๆ ไม่มีไร"

"กูให้มึงดูรุ่นนี้ มึงโอเคมั้ย กล้องดี ลำโพงดี ราคาจับต้องได้" ข้าวตัง เพื่อนคู่หูของเก้า ยื่นโทรศัพท์มาให้เขาพิจารณา

"ชวนกูมาดูโทรศัพท์ แต่มึงเอาแต่เหม่อ"

"กูไม่ได้เหม่อ เออ เอาเครื่องนี้ก็ได้ เท่าไหร่วะ ไปจัดการให้กูที เดี๋ยวกูมา" เก้าพูดพร้อมกับยื่นกระเป๋าสตางค์ให้กับข้าวตัง ก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปจากร้านขายโทรศัพท์


"เอ้า ไอ่เก้า ไอ้เพื่อนเชี่ย" ข้าวตังพึมพำด่าเพื่อน แล้วก็จัดการเรื่องโทรศัพท์ให้เก้า


เก้าวิ่งออกมาตามหาเด็กแว่น ที่เขาเจอในห้องน้ำ


"หายไปไหนเร็วจังวะ ไอ้เด็กแว่น" เขาพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองหาเด็กแว่นคนนั้น พลันสายตาของเขาก็เห็นแว้บๆว่าเด็กแว่นกับคนที่เดินมาด้วยกัน กำลังเดินเข้าไปในร้านชาบูไม่ไกลจากที่เขายืนอยู่

"อ้าว เก้า มาทำอะไรที่นี่เนี่ย" เสียงทักทายจากสาวสวยสองคน ทำเอาเก้าต้องหยุดชะงัก

"เอ่อ เรา..เรามาซิื้อโทรศัพท์ใหม่น่ะ" เก้าหันไปตอบเพื่อนทั้งสองคนของเขา

"แล้วไหนหล่ะโทรศัพท์"

"ไอ้ตังกำลังซื้อให้อยู่ที่ร้านอ่ะ นั่นไง มันมาพอดีเลย" เก้าบอกเพื่อนทั้งสองคน พร้อมกับชี้มือไปยังข้าวตังที่เดินออกมาจากร้านโทรศัพท์


"อยู่นี่เองไอ้เก้า มึงนี่นะ ทิ้งกูได้ อ่ะ เอาไปโทรศัพท์ของมึงอ่ะ" ข้าวตังต่อว่าเพื่อนแล้วก็ส่งถุงใส่กล่องโทรศัพท์พร้อมกับกระเป๋าสตางค์คืนให้เก้า


"เออ ขอบใจ เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าว"


'โอเค นั่นเป็นสิ่งที่มึงควรจะทำครับไอ้เก้า ฟ้า ขวัญ ไปกินข้าวด้วยกันดิ วันนี้มีเจ้ามือเลี้ยง" ข้าวตังเอ่ยปากชวนเพื่อนสาวทั้งสองคนไปกินข้าวด้วยกัน

"อืม ก็ดีนะ นานๆเก้าจะออกจากป่าซะที  แต่เก้าไม่ต้องเลี้ยงก็ได้ ช่วยๆกันออกเนอะ" ฟ้าเอ่ยปากแซวเก้า

"ว่าแต่เราจะกินอะไรกันดีอ่ะ"

"ชาบู เราอยากกินชาบู" เก้าพูด และเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้เพื่อนเลือกที่จะกินอย่างอื่น ด้วยการเดินตรงดิ่งไปยังร้านชาบูที่เด็กแว่นนั่น เดินเข้าไป


"อ่าว ไอ้เก้า นึกจะไปก็ไป เออๆ ชาบูก็ชาบูวะ" ข้าวตังพูดพร้อมกับพาเพื่อนผู้หญิงทั้งสองคนเดินตามเก้าไปที่ร้านชาบู


เก้าเดินเข้าไปในร้านชาบู เขามองหาเด็กแว่นคนนั้น พร้อมกับหาโต๊ะว่างที่อยู่ในระยะที่สายตาของเขาจะมองเห็นการกระทำของเด็กแว่นคนนั้นได้ตลอดเวลา



ในร้านชาบู


"กินให้คุ้มนะมึง หัวละตั้งสี่ร้อย"

"รู้แล้วคร้าบ ผมจะกินห้าร้อยเลย จะได้คุ้มเกินคุ้ม" นับหนึ่งลอยหน้าลอยตาต่อปากต่อคำกับพี่ชายด้วยความทะเล้น

การกระทำของเขา อยู่ในสายตาของเก้าตลอดเวลา

แม่ง โคตรน่ารักเลยว่ะ  เก้าคิดในใจ แฃ้วแอบยิ้มออกมา

"พี่ธารา จะกินน้ำอะไรครับเดี๋ยวผมไปเอามาให้"

"อืม...น้ำชาก็ได้"

"ครับๆ รอแป้บบบ" นับหนึ่งบอกพี่ชายแล้วก็ลุกออกจากโต๊ะเดินไปยังที่กดน้ำ


ในจังหวะที่เขาก้มตักน้ำแข็ง แว่นก็หลุดและร่วงลงไปในที่ใส่น้ำแข็ง

"อุ๊ย..." นับหนึ่งอุทานด้วยความตกใจ พร้อมกับเอามือลงไปควานหาแว่นตาของเขา

เด็กหนุ่มรู้สึกว่ามีคนมายืนข้างๆ คงจะรอตักน้ำแข็ง เขาจึงหันไปขอโทษ

"ขอโทษครับ พอดีแว่นของผมตกลงไปในนี้" นับหนึ่งพูดแล้วก็ก้มหน้าก้มตาควานหาแว่นตา พอหยิบแว่นขึ้นมาได้ เขาก็เอามาสวมใส่เลย แต่ก็มีมือของใครคนนึงมาจับมือของเขาห้ามไม่ให้เขาใส่แว่น

"แว่นตกลงไปในนั้น สกปรกจะตาย จะเอามาใส่เลยได้ยังไง" เสียงทุ้มพูดกับนับหนึ่ง เด็กหนุ่มชะงักไป พร้อมกับเงยหน้าไปมองคนที่จับมือของเขาอยู่ กลิ่นแป้งโคโดโมะ....หอมอ่อนๆมาจากร่างสูงของคนนั้น


เก้า กรกช นาวีพานิชย์ หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ปีสองคณะเกษตรศาสตร์เจ้าของส่วนสูง187 จมูกโด่งเป็นสันรับกับเรียวคิ้วเข้มๆ ปากกระจับได้รูป มีไรหนวดอ่อนๆ ทำให้ใบหน้าหล่อคมนั้นดูเข้มขรึมขึ้นมา และที่สำคัญเขากำลังจะรับตำแหน่งประธานเชียร์ ในการรับน้องใหม่ประจำปีนี้ของคณะเกษตรศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยที่นับหนึ่งกำลังจะเข้าไปเรียนด้วย และแน่นอน นับหนึ่ง กำลังจะเป็นนักศึกษาใหม่ของคณะนี้เช่นกัน

"เอ่อ ขอบคุณนะครับ งั้นผมขอตัวเอาแว่นไปเช็ดให้สะอาดก่อนนะครับ" นับหนึ่งบอกกับคนตรงหน้า เก้าปล่อยมือที่จับมือของนับหนึ่ง แล้วเด็กแว่นก็เดินออกไป


"อ่าว ไหนหล่ะน้ำ" ธาราเอ่ยปากถามน้องชาย ที่เดินกลับมาโดยปราศจากน้ำที่เจ้าตัวบอกว่าจะไปเอามาให้

"เอ้อ ลืมเลย พอดีผมทำแว่นตกลงไปในถังตักน้ำแข็ง พอหาแว่นเจอก็เดินกลับมาเลย งั้นเดี๋ยวผมกลับไปเอาน้ำมาให้นะครับพี่ธารา" นับหนึ่งบอกพี่ชายแล้วก็หันหลังจะไปเอาน้ำมาให้ แต่ธาราก็เอื้อมแขนของเขาไปคล้องเอวน้องชายเอาไว้

"มึงไม่ต้องไปละ นั่งลง เดี๋ยวกูไปเอามาให้เอง อ่ะ..เอาผ้านี่ไปเช็ดแว่นซะ" ธารายื่นผ้าเช็ดหน้าที่เขาพกติดตัวให้น้องชายเอาไปเช็ดแว่นตา




ที่โต๊ะของเก้า


"ไอ้เก้า"

"อือ มีไร"

"มึงว่า ไอ้ผู้ชายคนนั้น หน้าตาคุ้นๆป่าววะ" ข้าวตังถามเก้า พร้อมกับพยักเพยิดหน้าให้ดู ธาราที่ยืนกดน้ำอยู่

"ไม่เคยเห็น ไม่รู้จัก" เก้าตอบข้าวตังแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินชาบูด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"แต่..กูว่ากูเคยเห็นมันที่ไหนซักที่นี่แหล่ะ"

"แหม่ จะเห็นที่ไหนหล่ะ ก็ที่มหาวิทยาลัยนั่นแหล่ะ นั่นอ่ะ ธารา เด็กวิศวะที่ฮอตๆไง"

"อือ ใช่ๆ ธาราออกจะฮอต ใครๆก็รู้จัก แถมพี่ชายของธาราก็เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษอยู่ที่มหาวิทยาลัยของพวกเราด้วยนะ อาจารย์นที คนพี่หล่อเข้ม ส่วนคนน้องก็หล่ออย่างที่พวกเธอเห็นนี่แหล่ะ"

"ทำไมเราไม่เคยเห็น"

"ก็แหม่ วันๆเก้าเคยออกจากชมรม เคยออกจากคณะบ้างมั้ยหล่ะ หมกตัวอยู่แต่ชมรม แปลงเกษตร แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปทำความรู้จักคนอื่น โซเชี่ยลรึ มี แต่ก็ไม่เล่น มีไว้ทำไม ห้ะ..พี่เก้าสุดหล่อ"

"พวกเธอก็พูดเกินไป ก็นี่ไง เราซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่แล้ว รองรับโซเชี่ยลเต็มที่ ว่าแล้วก็ลองกล้องหน่อยดีว่า เห็นไอ้ตังบอกว่า รุ่นนี้กล้องถ่ายรูปอย่างเจ๋งอ่ะ" เก้าหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเขาขึ้นมาแล้วก็ถ่ายรูปเขากับเพื่อนๆ

และเขาก็ไม่ลืมที่จะแอบถ่ายเด็กแว่นคนนั้นเอาไว้ด้วย

"นี่ๆ พวกเธอว่าถ้าเราไปขอถ่ายรูปธาราจะดีมั้ยอ่ะ"

"บ้าดิ จะดีหรอ เป็นผู้หญิงไปขอถ่ายรูปผู้ชาย" ข้าวตังว่าเพื่อน

"ดีๆ ไปเลย เอาโทรศัพท์เราไปถ่ายก็ได้" เก้าพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้กับฟ้าและขวัญ

"อ่าว ไอ้ห่าเก้า แทนที่จะห้ามเพื่อน กลับสนับสนุนอีกนะมึง เออๆ ตามใจจะทำอะไรก็ทำเลย" ข้าวตังพูดออกมาแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินชาบูตรงหน้า



ที่โต๊ะชาบูของนับหนึ่ง

อุปสรรคในการกินบังเกิดขึ้นกับนับหนึ่งแล้ว เมื่อไอควันจากหม้อชาบู ทำให้แว่นของเขาเป็นฝ้าเล็กน้อย ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นยากลำบากต่อการกิน

"แว่นบ้าไรเนี่ย มองไม่ชัดเลย เจอไอชาบูก็เป็นฝ้า" นับหนึ่งบ่นออกมา

"ก็หัวมึงแทบจะจุ่มลงไปในหม้อชาบูอยู่แล้ว แว่นจะเป็นฝ้าก็ไม่แปลก เงยหน้าขึ้นมากินดีๆ" ธาราบอกน้องชายพร้อมกับเอาสองมือของเขาจับหัวนับหนึ่งให้เงยหน้าขึ้นออกมาห่างจากหม้อชาบู


"ก็มันมองไม่เห็นนี่นา"


"ใส่แว่นแล้วจะมองไม่เห็นได้ยังไง"


'อย่าดุดิคร้าบ เดี๋ยวกินชาบูไม่อร่อยนะ" นับหนึ่งเงยหน้าขึ้นมายิ้มแล้วก็ทำหน้าทะเล้นใส่พี่ชายพร้อมกับคีบชิ้นเนื้อในหม้อชาบูไปวางไว้ในจานของธารา

"เฮ้อ มึงนี่นะเมื่อไหร่จะโตวะเนี่ย จะเข้ามหาลัยอยู่ละ" ธาราว่าน้องชาย แต่เขาก็ไม่อาจกลบเกลื่อนใบหน้าเปื้อนยิ้มไปได้ เพราะความทะเล้นเซ่อซ่าของนับหนึ่งที่ทำให้เขาทั้งรักและหวงน้องชายคนนี้มากๆ


"ธารา สวัสดีค่ะ"

"เอ่อ สวัสดีครับ" ธาราหันไปพูดทักทายกับสองสาวฟ้าและขวัญ

"เอ่อ เรา คือ...เราขอถ่ายรูปธาราได้มั้ยคะ"

"อ่อ ได้สิครับ ไม่มีปัญหา ถ่ายเรากับน้องก็ได้ครับ"

หลังจากที่ธาราอนุญาติ ฟ้าและขวัญก็เอาโทรศัพท์ของเก้า ถ่ายรูปธารากับนับหนึ่ง แล้วก็ขอตัวกลับไปที่โต๊ะ

"ทำไม เขาต้องมาขอถ่ายรูปพี่ด้วยอ่ะครับ"

"เพราะกูหล่อมั้ง" ธาราตอบน้องชายแล้วก็อมยิ้ม เพราะลึกๆแล้วเขาก็รู้สึกเขินเหมือนกันที่อยู่ๆก็มีคนมาขอถ่ายรูปแบบนี้

"แสดงว่าที่มหาวิทยาลัยพี่ธาราของผมต้องฮอตมากแน่ๆ" นับหนึ่งพูดกับพี่ชายพร้อมกับทำหน้าทะเล้นไปตามประสา

"เดี๋ยวมึงก็รู้"



ที่โต๊ะของเก้า

"ตัวจริงเจอใกล้ๆแล้วหล่อ หน้าใสมากอ่ะ คนอะไรโคตรหล่อ"

"นิสัยดี สุภาพ พูดเพราะ โคตรเทพบุตร"

"พอๆ เราไม่อยากฟัง เลิกชมมันได้ละ ชาบูจะไม่อร่อย" ข้าวตังพูดออกมา

"โหยยย ข้าวตัง เธออิจฉาธาราหรอ"

"ไม่อิจฉาหรอก แต่ก็นิดหน่อย ฮ่าๆ แม่งหล่อ รวย สมบูรณ์แบบ"

"ไอ้เก้า มึงก็เหมิือนกัน หล่อ รวย สมบูรณ์แบบ เสียอย่างเดียวมัวแต่เข้าป่า นี่ถ้ามึงโผล่หน้าออกจากชมรม ออกจากแปลงเกษตรไปให้คนอื่นๆเห็นบ้าง มึงจะฮอตไม่แพ้ไอ้ธาราเลยนะเว้ย"

"ช่างเหอะ กูไม่อยากฮอต"

"แหม่ ถ่อมตัวจังเลยนะคะท่านประธานเชียร์สุดหล่อ" ขวัญเอ่ยปากแซวเพื่อนตรงหน้า


"เออ น้องคนนั้นที่มากับธาราก็น่ารักนะ เด็กแว่นมุ้งมิ้ง"


"แล้วเธอได้ถามป่าวว่า ไอ้เด็กแว่นนั่นเป็นใคร" เก้าถามเพื่อนสาวทั้งสองคนในทันทีที่เธอพูดถึงเด็กแว่นคนนั้น

"ไม่ได้ถามอ่ะ เก้าอยากรู้ไปทำไมหรอ"

"ป่าวๆ ไม่มีไรก็เห็นว่ามาด้วยกัน"

"แต่เห็นธาราบอกว่าน้องนะ น่าจะน้องชายธารา หน้าคล้ายๆกันอยู่"

"แฟนไอ้ธารามั้ง" ข้าวตังพูดขึ้น ทำเอาเก้าถึงกับชะงักไป

"บ้าดิข้าวตัง ธาราจะมีแฟนเป็นผู้ชายได้ยังไง เธอนี่ก็พูดเว่อร์"

"นั่นแหล่ะ เนื้อคู่ ยิ่งหน้าเหมือนอาจจะเป็นเนื้อคู่กันก็ได้"

"ไร้สาระ มึงอ่ะไอ้ตัง แฟนเฟินเชี่ยไร" เก้าว่าข้าวตัง แล้วเขาก็ลุกออกจากโต๊ะ กะว่าจะเดินไปตักไอติมมากิน เพื่อดับความร้อนลุ่มในหัวใจ เขาอยากรู้ว่าเด็กแว่นคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับธารา แต่การที่จะเอาความคิดไปใส่ร้ายคนคนนึงว่าเป็นเกย์ก็คงจะไม่ยุติธรรมนัก

"พี่ครับ ตักไอติมเสร็จหรือยังครับ" เสียงใสของใครคนนึงดังขึ้น ทำเอาเก้าตื่นจากภวังค์ เขาหันไปมองเด็กแว่นที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อรอตักไอติมต่อจากเขา ก็รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมา ดวงตากลมโตที่อยู่ภายใต้แว่นนั้น ทำให้เก้ารู้สึกไม่เป็นปกติสุข


"เอ่อ ขอโทษครับ น้องจะกินอะไรเดี๋ยวพี่ตักให้ก่อนก็ได้ครับ"


"งั้นผมรบกวนด้วยนะครับ ขอช็อกโกแลตกับมะนาวครับ ผสมกันไปเลยอร่อยดี เปรี้ยวกับหวาน แหะ แหะ" นับหนึ่งบอกเก้าพร้อมกับยิ้มแบบทะเล้นตามสไตล์ของเขา

เก้าตักไอติมเสร็จแล้วก็ส่งให้นับหนึ่ง

"ขอบคุณครับพี่ พี่ลองกินดูนะครับ ช็อกโกแลตกับมะนาว อร่อยที่สุดในจักรวาลเลยครับ" นับหนึ่งขอบคุณเก้าแล้วก็แนะนำให้เก้ากินไอติมแบบเดียวกับที่เจ้าตัวกิน ก่อนที่จะเดินกลับไปที่โต๊ะ

เก้าเดินกลับมาที่โต๊ะ พร้อมกับไอติมรสช็อกโกแลตกับมะนาวที่ผสมกันอยู่ในถ้วย ทำเอาเพื่อนๆ โดยเฉพาะข้าวตัง ถึงกับทำหน้าแปลกใจแกมตกใจ เพราะใครๆก็รู้ว่า เก้า ไม่ชอบกินช็อกโกแลต..!!



**รอติดตามตอนต่อไปนะครับ ฝากคอมเม้นติ-ชมด้วยนะครับ

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7
ตอนที่.3 : สะกดรอยตาม


ที่บ้านของนับหนึ่ง

"ไอ้ธา เมื่อไหร่แกจะพาน้องไปซื้อชุดนักศึกษา อาทิตย์หน้ามหาวิทยาลัยก็จะเปิดแล้ว ยังไม่เตรียมตัวกันอีก" นทีเอ่ยปากถามน้องชายคนกลาง ในขณะที่ทั้งสองคนนั่งดูหนังอยู่ในห้องรับแขก

"พรุ่งนี้แหล่ะครับ พอดีผมไม่มีโปรแกรมไปไหน"

"อือ แล้วนี่นับหนึ่งมันหายไปไหนหล่ะเนี่ย"

"ผมอยู่นี่ครับพี่ที ดูสิผมใส่แว่นแล้วหล่อมั้ยครับ" นับหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องรับแขก เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆธารา แล้วก็ทำหน้าทะเล้นใส่นทีพี่ชายคนโต

นที เห็นน้องชายคนเล็กกลายเป็นเด็กแว่น ก็ได้แต่ยิ้มและขำให้ท่าทางของน้องชาย

"อือ ใส่แว่นก็ดูดีไปอีกแบบ ระวังตัวด้วยหล่ะ ยิ่งใส่ก็ยิ่งเซ่อซ่า ฮ่าๆ" นทีว่าน้องแล้วก็หัวเราะออกมา ทำเอาคนโดนว่าทำหน้ามุ่ย

"เออ พี่ธาราครับ พรุ่งนี้เราจะไปซื้อชุดนักศึกษากันใช่ไหมครับ"

"อือ มึงมีไร ไม่ว่าง หรือไม่ไป"

"โห่ ไปดิครับ แต่ผมขอพาไอ้วินไปด้วยนะพี่"

"อือ ก็พาไปดิ"

"งั้น ผมขอออกไปบ้านไอ้วินแป้บนะครับ ไม่เกินสองทุ่มเดี๋ยวกลับเข้ามาบ้าน"

"อืม ถ้ากลับผิดเวลา มึงโดน โทรศัพท์เอาติดตัวไปด้วยหล่ะ" ธาราบอกน้องชาย

"คร้าบบบพ่อ"

"ไอ้นี่มันทะเล้นจริงๆ เข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ดูแลกันดีๆก็แล้วกันน้องชายแกอ่ะ ไอ้ธา" นทีบอกกับธารา

"น้องผมก็น้องพี่เหมือนกันแหล่ะครับ"

"เออ แกก็ปล่อยๆมันบ้าง มันโตแล้ว ยังเลี้ยงเหมือนไข่ในหิน" นทีบอกธาราแล้วเขาก็เดินออกไป

"ไข่ในหิน" ธาราพูดออกมาเบาๆแล้วก็ทำสีหน้าครุ่นคิด




นับหนึ่งขี่จักรยานไปยังบ้านของวิน ซึ่งเป็นเพื่อนที่เขาสนิทมากที่สุด บ้านของวินอยู่ถัดจากบ้านของนับหนึ่งไปไม่กี่หลัง


ที่หน้าบ้านของวิน


"ไอ้วิน ไอ้วินอยู่ป่าว"

"อ้าว ไอ้นับ มีไรป่าววะมาหาเอาจนมืดค่ำ" วิน วิ่งออกมาเปิดประตูรั้วให้นับหนึ่ง

"ไม่ๆ กูไม่เข้าไปหรอก มึงอ่ะ ออกมาข้างนอก ไปปั่นจักรยานเล่นกับกู"

"ห้ะ ปั่นจักรยานเล่น ตอนนี้เนี่ยนะ" วินถามนับหนึ่งแล้วก็ทำหน้าแปลกใจ

"เออ ตอนนี้แหล่ะ"

"มึงจะพากูไปไหน แล้วนี่มึงไปตัดแว่นมาใส่ตั้งแต่ตอนไหนวะเนี่ย เด๋อชิบ ฮ่าๆ" วินเอ่ยปากถามเพื่อนแล้วก็หัวเราะออกมาที่เห็นเพื่อนรักใส่แว่น จนแปลกตาไป

"เออน่า มึงอย่าถามมากเลย พี่ธาราเพิ่งพากูไปตัดแว่นมาวันนี้ เดี๋ยวกูจะพามึงไปกินนมอุ่นๆที่หน้าหมู่บ้าน" นับหนึ่งบอกกับวิน

วินทำสีหน้าครุ่นคิด แล้วก็เดินออกมาพร้อมกับปิดประตูรั้วบ้าน

"ให้กูขี่ให้ซ้อนมั้ย" วินถามนับหนึ่ง

"ไม่เป็นไร เดี๋ยววันนี้กูขี่ให้มึงซ้อนเอง"

"มึงแน่ใจนะ แต่กูเชื่อใจมึง มึงใส่แว่นแล้วคงเห็นได้ชัดกว่าเดิม คง
ไม่พากูชนถังขยะแบบวันนั้นอีก ฮ่าๆ" วินว่าเพื่อนแล้วก็หัวเราะออกมา

"ไอ้เพื่อนเชี่ย ว่ากูนะมึง"


นับหนึ่งขี่จักรยานพาวินนั่งซ้อนกินบรรยากาศรอบๆทะเลสาบใหญ่ของหมู่บ้าน ถนนเส้นนี้เป็นเส้นหลักของหมู่บ้านที่จะออกไปยังซุ้มประตูใหญ่ที่เป็นทางเข้า-ออก ของหมู่บ้าน ริมทะเลสาบจะมีสวนสาธารณะ มีเครื่องออกกำลังกาย นับหนึ่งกับวินชอบไปนั่งคุยกันที่ชิงช้าริมทะเลสาบ ซึ่งในตอนเย็นๆก่อนตะวันตกดิน ก็จะมีคนมาออกกำลังกาย เต้นแอโรบิก หรือไม่ก็วิ่งไปตามทางรอบทะเลสาบที่ทางหมู่บ้านทำไว้เป็นลู่สำหรับวิ่งออกกำลังกายโดยเฉพาะ



ที่หอ LKB Place

"ไอ้ตัง มึงมีเฟซบุ๊คไอ้ธาราอะไรนั่นป่าววะ" เก้าเอ่ยปากถามข้าวตัง ที่กำลังนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าจอโน๊ตบุ๊ค

"ไม่มี แต่ก็คงจะหาได้ไม่ยาก มึงถามทำไมวะ จะเข้าไปส่องเฟซมันหรอ"

"เออ"

"เห้ย บ้าไปแล้วไอ้เก้า ทำไมอยู่ๆมึงถึงสนใจไอ้ธาราขึ้นมาวะ มึงรู้มั้ยว่ามันเป็นหนึ่งในทีมสโมสรนักศึกษา แล้วมันก็ต้องมาตรวจการทำงานของมึง"

"ตรวจการทำงานของกู ตรวจอะไรวะ" เก้าเอ่ยปากถามเพื่อน พร้อมกับทำสีหน้าสงสัย

"ก็การทำกิจกรรมเชียร์ของคณะเราไง มึงก็รู้ว่าสโมสรนักศึกษากับเชียร์คณะเราอ่ะมีปัญหากันทุกปี แล้วเชียร์คณะเราแรงขนาดไหน มึงก็น่าจะรู้"

"ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย กูว่ากูควบคุมได้ว่ะ"

"เออๆ เดี๋ยวกูจะลองเสิร์ชดูให้นะ มันนามสกุลอะไรนะ"

"เดี๋ยวกูไลน์ถาม ฟ้ากับขวัญดีกว่า น่าจะได้เรื่องกว่าการมานั่งหาเอง" เก้าบอกกับข้าวตัง

"ได้ละ ธารา สุริยะวงศ์" เก้าพูดออกมาแล้วก็จัดการค้นหาเฟซบุ๊คของธารา

"เชี่ย เพื่อนเต็ม ทำได้แค่กดติดตาม อะไรจะฮอตขนาดนั้นวะ ไอ้ธารา" เก้าถึงกับอุทานออกมา เมื่อพบว่าเฟซบุ๊คของธารานั้นไม่สามารถกดเพิ่มการเป็นเพื่อนได้อีก เขาทำได้แค่กดติดตามธาราเท่านั้น

"เออ พรุ่งนี้กูจะกลับไปนอนที่บ้านนะ พอดีวันเกิดหลานสาวกู มึงไม่ต้องรอกูกินข้าวนะ ฝากไปรดน้ำข้าวโพดที่แปลงด้วย"

"ได้คร้าบ เจ้านาย" ข้าวตังบอกเพื่อน แต่เขาก็เกิดความสงสัยที่อยู่ๆเก้าเกิดอยากรู้จักกับธาราขึ้นมา

เก้าเอนตัวนอนลงบนเตียง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็เปิดดูรูปของเด็กแว่น...เด็กแว่นที่ทำให้เขามีรอยยิ้ม



ที่บ้านของวิน

นับหนึ่งปั่นจักรยานมาส่งวินที่หน้าบ้าน หลังจากที่ทั้งสองคนพากันไปกินนมอุ่นๆกับขนมปังปิ้งที่ร้านหน้าหมู่บ้านเสร็จเรียบร้อย

"พรุ่งนี้อย่าลืมนะมึง เจอกัน9โมงที่หน้าบ้านกู" นับหนึ่งบอกวิน

"เออ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูโทรปลุกมึงเอง ไอ้เด็กแว่น" วินบอกนับหนึ่งแล้วก็หัวเราะ

"เชี่ย แซวกูอยู่ได้นะไอ้วิน"

"โอ๋ๆ อย่างอนกูนะ มึงใส่แว่นแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ" วินเดินเข้ามาตบไหล่นับหนึ่งเบาๆเพื่อปลอบใจ

"เออ เข้าบ้านได้แล้วมึงอ่ะ" นับหนึ่งผลักตัววินออก แล้วก็ปั่นจักรยานกลับบ้าน

"กูไปละ พรุ่งนี้เจอกัน"


ตอนเช้า


ธารา พานับหนึ่งกับวินไปที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อหาซื้อชุดนักศึกษาและอุปกรณ์การเรียน ในขณะที่พวกเขาเดินผ่านร้านขายตุ๊กตา นับหนึ่งก็สะดุดตากับ ตุ๊กตาแมวน้ำสีเทาๆตัวอวบอ้วนน่ากอด ที่วางโชว์อยู่หน้าร้าน

"เห้ย อุ๋งๆ น่ารักอ่ะ พี่ธา ไอ้วิน แวะดูแป้บนึง" นับหนึ่งพูดแล้วก็เดินปรี่เข้าไปในร้านขายตุ๊กตานั้น


ในขณะเดียวกัน เก้า ก็อยู่ในร้านนั้นด้วย เขาแวะมาเดินห้างก่อนกลับบ้าน เพื่อหาของขวัญวันเกิดไปให้หลานสาว

"ไอ้วิน ดูดิ ตัวโคตรนุ่ม น่ากอด" นับหนึ่งกอดคอวินแล้วพาเดินไปยังชั้นวางตุ๊กตาอุ๋งๆ พลางหยิบตุ๊กตาขึ้นมาลองกอด

"เออ ตัวนุ่มจริงว่ะ"

"เอามะ กูกับมึงคนละตัว ไว้นอนกอด เวลากูไปนอนบ้านมึงก็จะได้มีอุ๋งๆไว้กอดด้วย" นับหนึ่งบอกกับวิน

"เออๆ เอาดิ"

"ดีมากไอ้วิน กูโคตรรักมึงเลย เพราะมึงอ่ะชอบตามใจกู นี่ถ้าขอพี่ธาราคงไม่ได้ซื้อ อันนี้กูเอาไปอ้างได้ว่ามึงก็ซื้อเหมือนกัน"

"มึงนี่โคตรเลวนะไอ้นับ เอากูไปอ้างกับพี่ธาราอีก ไอ้เพื่อนเชี่ย ฮ่าๆ" วินต่อว่าเพื่อน แต่เขาก็หัวเราะออกมากับความคิดของนับหนึ่ง ที่อยากได้ตุ๊กตาอุ๋งๆแต่ก็กลัวพี่ชายจะว่า จนต้องเอาเพื่อนไปเป็นข้ออ้าง


นั่นมันไอ้เด็กแว่นนี่หว่า มากับใครอีกวะเนี่ย มีกอดคอกันด้วย   เก้าคิดในใจ หลังจากที่เขาเห็นว่านับหนึ่งกับวินมาซื้อตุ๊กตาด้วยกัน ตัวละครที่เพิ่มขึ้นมาอย่างวิน ทำให้เก้าเกิดความสงสัยอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็เลยสะกดรอยตามทั้งสองคนที่เดินออกจากร้านไป

แล้วเขาก็พบว่า ยังมีธาราอีกคนที่ยืนรอเด็กทั้งสองคนนั้นอยู่

"ไอ้ธารา" เก้าพึมพำชื่อของธาราออกมาเบาๆ หลังจากที่เห็นว่าธาราเดินมาสมทบกับเด็กสองคนนั้น แล้วก็พากันเดินไป  เก้าก็เดินตามทั้งสามคนนั้นไป จนกระทั่งทั้งสามคนเดินไปที่ลานจอดรถ แล้วก็ขับรถกลับออกไป

"ไอ้ธารา ไอ้เด็กแว่น แล้วก็ไอ้เด็กหล่อ เห้อ...ไอ้เก้า มึงเป็นบ้าอะไรของมึงวะเนี่ย ทำไมต้องมาอยากรู้จักไอ้เด็กแว่นนั่นด้วยวะ" เก้าสบถออกมาด้วยความสงสัยในตัวของเขาเอง


ที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน

หลังจากกลับมาจากซื้อชุดนักศึกษาเรียบร้อยแล้ว นับหนึ่งกับวินก็พากันไปนั่งเล่นที่ชิงช้า ที่สวนสาธารณะริมทะเลสาบของหมู่บ้าน

"ไอ้วิน มึงกินน้ำไร เดี๋ยวกูไปซื้อมาให้"

"ชาเขียวเย็นๆซักขวด"

"อือ รอแป้บ" นับหนึ่งบอกวิน แล้วก็เดินข้ามถนนไปยังร้านค้า

"พี่นับหนึ่ง" เสียงใสๆของใครคนนึง เรียกชื่อนับหนึ่ง

"อ้าว น้องเกรซ มาเดินเล่นหรอครับ" นับหนึ่งหันไปตามเสียงเรียกก็เจอกับเด็กผู้หญิงอายุราวๆสามขวบกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหาเขา เขาก็เลยอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมา

"พอดีวันนี้วันเกิดน้องเกรซค่ะ พี่เลยพาออกมาเดินเล่น เพราะที่บ้านกำลังเตรียมจัดงานวันเกิดให้แกอยู่ น้องนับไปร่วมงานด้วยกันสิคะ" พี่เลี้ยงที่มากับน้องเกรซบอกกับนับหนึ่ง

"อ่อ Happy Birth Day นะครับน้องเกรซ ยังอยู่ที่สวนสาธารณะอีกนานใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมกลับไปเอาของขวัญมาให้น้องเกรซครับ"


"ไม่เป็นไรค่ะน้องนับ ไม่ต้องเอาอะไรมาให้หรอก"

"ไม่เป็นไรครับ น้องเกรซต้องชอบแน่ๆ รอแป้บนึงนะครับ"


นับหนึ่งซื้อน้ำไปให้วินที่นั่งรออยู่ แล้วเขาก็รีบปั่นจักรยานกลับไปที่บ้าน เพื่อไปเอาตุ๊กตาอุ๋งๆที่เพิ่งจะซื้อมา เอามาให้เป็นของขวัญวันเกิดกับน้องเกรซ


"โถ่ ไอ้พ่อพระ อุตส่าห์ซื้ออุ๋งๆมานอนกอด ก็เอาไปเป็นของขวัญวันเกิดน้องเกรซอีก แล้วคืนนี้จะกอดอะไรครับ ไอ้นับ" วินพูดแกมแซวเพื่อน หลังจากที่รู้ว่านับหนึ่งเอาตุ๊กตาอุ๋งๆที่ซื้อมา ให้เป็นของขวัญวันเกิดกับน้องเกรซไปซะแล้ว

"กู ก็...ไปนอนบ้านมึงไง ไปกอดอุ๋งๆของมึง ได้ป่ะ ไอ้วิน"

"อือ ได้ดิ กูยกให้มึงกอดทั้งคืนเลย"

"จริงนะไอ้วิน"

"เออ กูเคยโกหกมึงด้วยหรอ"

"ไม่เคย"

"ฟ้ามืดละ กูว่าเรากลับบ้านกันเถอะ มึงกินข้าวเสร็จถ้าจะมานอนกับกูก็โทรมาละกัน เดี๋ยวกูเดินมารับที่หน้าบ้าน" วินบอกกับนับหนึ่ง


"ได้เลยครับไอ้วิน"

นับหนึ่งกับวินพากันปั่นจักรยานกลับบ้าน เก้าที่กำลังนั่งแท็กซี่เข้าบ้านก็เห็นนับหนึ่งกับวินที่กำลังปั่นจักรยานอยู่พอดี เป็นความบังเอิญที่ทำให้เก้ารู้สึกว่า เขากับเด็กแว่น อยู่ใกล้กันอย่างไม่น่าเชื่อ

"เฮ้ย..ไอ้เด็กแว่นกับไอ้หล่อนั่นนี่หว่า" เก้าพูดออกมาเบาๆหลังจากที่เห็นนับหนึ่งกับวินกำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน


"พี่ครับๆ จอดข้างหน้านี่แหล่ะครับ" เก้าบอกให้แท็กซี่จอดในทันที เพราะเขาต้องการที่จะตามทั้งสองคนนั้นไปดูว่าบ้านอยู่ซอยไหนในหมู่บ้านเดียวกันกับเขา

"ไอ้เด็กแว่น มึงอยู่หมู่บ้านนี้ด้วยหรอวะ ทำไมกูไม่เคยรู้เลย" เก้าพูดออกมา พลางกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ตามสองคนที่ปั่นจักรยานไป

เก้าตามไปจนถึงบ้านของนับหนึ่ง เขาหลบอยู่ข้างหลังรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ข้างกำแพงรั้วบ้านของนับหนึ่ง พร้อมกับแอบมองนับหนึ่งที่กำลังเปิดประตูรั้วบ้าน


"อุ๊ป...!!"  ร่างสูงของเก้า โดนใครบ้างคนจับไว้พร้อมกับเอามือมาปิดปากของเขา


"อย่าเสียงดัง มึงมาสะกดรอยตามน้องกูทำไม" ธาราคือผู้ที่ปิดปากและจับตัวเก้าเอาไว้ เขาเอ่ยปากถาม คนที่มาสะกดรอยตามน้องชายของเขา


ณ ตอนนี้ เก้ารู้สึกว่าตัวเองพลาดมาก เขากำลังตกที่นั่งลำบากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2020 23:06:43 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7


ตอนที่.4 : เกือบซวยแล้วไอ้เก้า


"ว่าไง มึงเป็นใคร แล้วมาสะกดรอยตามน้องกูทำไม" ธาราเอ่ยปากถามเก้า ในขณะที่เขากอดรัดและเอามือปิดปากร่างสูงใหญ่ของเก้าเอาไว้ ด้วยขนาดตัวที่ใกล้เคียงกัน ทำให้เก้าไม่อาจดิ้นหลุดไปจากการจับกุมของธาราได้

"ปล่อยกูก่อน กูอธิบายได้" เก้าปัดมือของธาราที่ปิดปากเขาอยู่ออกไป พร้อมกับพูดบอกธารา ในหัวก็คิดหาคำแก้ตัวที่เหมาะสมเพื่อให้ธาราไม่สงสัยมากไปกว่านี้

ธารายอมปล่อยเก้าให้เป็นอิสระ แต่เขาก็ยังคงยืนดักเก้าเอาไว้ จนอีกฝ่ายเดินถอยจนไปติดกับกระโปรงหลังของรถที่จอดอยู่

"มึงเป็นใคร" ธาราถามเก้าเสียงเข้ม

"ธารา มึงฟังกูก่อน"

ธาราทำหน้าแปลกใจ ที่เก้าเอ่ยชื่อของเขาออกมา

"มึงรู้จักกู" ธาราถามเก้า อีกฝ่ายก็พยักหน้าให้ ธาราเข้าใจได้ทันทีเพราะเขาเห็นเสื้อที่เก้าใส่อยู่เป็นเสื้อของมหาวิทยาลัยเดียวกับที่ตัวเองเรียนอยู่เหมือนกัน

"มึงจะตอบคำถามกูได้หรือยัง ถ้าไม่ตอบกูไม่ปล่อยมึงแน่" ธาราพูดขู่เก้า


ไอ้นี่แม่ง หวงน้องชิบ..!!  เก้าคิดในใจ ตอนนี้เขาเริ่มมีเหงื่อซึมออกมา เพราะโดนกดดันจากอีกฝ่าย ในหัวก็กำลังคิดหาคำตอบที่ออกมาดูดีที่สุด


"เอ่อ กู...เอ่อ..."

"ตอบมา"

"คืองี้ กูกำลังเดินกลับบ้าน เห็นน้องมึงปั่นจักรยานมากับเพื่อน แล้ว แล้วมีคนแอบตาม กูก็เลยตามมาดูอีกทีเผื่อมันจะทำอันตรายน้องมึง" เก้าตอบออกไปตามที่สมองคิดออกมาได้ในตอนนี้

"มึงกำลังจะบอกกูว่า มีคนแอบตามน้องกูอยู่ก่อนแล้ว" ธาราถามย้ำเก้า

"เออ ใช่ๆ มีคนตามน้องมึงมา กูก็เลยตามมาดูไง ถ้ามันทำร้ายน้องมึงกูก็จะได้เข้าไปช่วย"

"แล้วไอ้คนที่ตามน้องกูมันหายไปไหนแล้ว ลักษณะท่าทางเป็นยังไง" ธาราซักไซร้เก้า ด้วยความเป็นห่วงน้องชายของตัวเอง

"กูก็ เห็นไม่ค่อยชัดนะ แต่ว่ารูปร่างท้วมๆหน่อย แต่กูคิดว่ามันคงอาจจะมาแค่ดูลาดเลา เพราะพอมันเห็นกูมันก็รีบวิ่งหนีไป"


"อืม กูเข้าใจแล้ว ขอโทษที่ทำไม่ดีกับมึงเมื่อกี้ เออ มึงชื่ออะไร" ธาราเอ่ยปากขอโทษเก้าแล้วก็ถามชื่อ

"ไม่เป็นไร กูเข้าใจว่ามึงเป็นห่วงน้อง อีกอย่างกูก็ทำลับๆล่อๆเอง ไม่แปลกที่มึงจะสงสัย"

"กูชื่อเก้า"

"โอเค ยังไงก็ขอบใจนะเว้ยไอ้เก้า แล้วมึงเรียนคณะไรเนี่ย"

"เกษตร" เก้าตอบธารา ด้วยความโล่งใจที่ธารามีท่าทีที่ดีขึ้น

"เห้ย จริงดิ พอดีเลย น้องชายกูก็กำลังจะเข้าคณะเกษตร ยังไงกูฝากมันด้วยนะ" ธาราบอกเก้าแล้วก็เอื้อมมือไปตบไหล่เก้าเบาๆ

"ว่าแต่ น้องมึงชื่ออะไรวะ ไอ้เด็กแว่นนั่น" เก้าได้ทีเลยถามข้อมูลจากธารา

"อ๋อ มันชื่อไอ้นับ ยังไงถ้าเจอมันที่คณะก็ฝากดูแลมันด้วยละกัน"

"ไอ้นับ" เก้าพูดชื่อออกมาเบาๆ

 งั้น กูขอตัวกลับบ้านก่อน" เก้าบอกธารา

"บ้านมึงหลังไหนอ่ะ ให้กูไปส่งมั้ย" ธาราถามเก้า

"ถัดจากบ้านมึงไปสามซอยอ่ะ ไม่เป็นไรกูเดินกลับเองได้ ชิวๆ"

"โอเค ไงก็ขอบใจนะ สำหรับวันนี้"

"เออ มึงก็ระวังๆไว้ด้วย กูก็ไม่รู้ว่าคนที่ตามน้องมึงมีจุดประสงค์อะไร" เก้าบอกกับธารา

"อืม กูจะระวังตัว ไว้เจอกันเว้ย ไอ้เก้า" ธาราบอกเก้าแล้วก็เดินกลับเข้าบ้านไป


ส่วนเก้า พอธาราเดินไป เขาก็เป่าปากออกมาด้วยความโล่งอก ที่เอาตัวรอดจากสถานการณ์เมื่อครู่มาได้อย่างหวุดหวิด ถ้าตอบคำถามธาราไม่ได้เขาคงแย่แน่ๆ แต่เขาก็นึกขำตัวเองที่กล้าโกหกธาราไปแบบนั้น แถมยังกำชับธาราให้ระวังตัวอีก เพราะความเป็นจริงคนร้ายที่ว่า ก็คือตัวของเขาเอง


ที่บ้านของเก้า

เก้าเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีกลับมาที่บ้านของเขา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของนับหนึ่งไปอีกสามซอย เขาเปิดกระเป๋าสะพายพร้อมกับหยิบตุ๊กตาอุ๋งๆ แบบเดียวกับที่นับหนึ่งซื้อ ออกมาจากกระเป๋าเพื่อเอาไปให้เป็นของขวัญแก่หลานสาว


"อาเก้ามาแล้ว" เสียงใสๆของน้องเกรซ เรียกชื่ออาเก้า ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งมากอดอาเก้า เก้าดึงหลานสาวตัวน้อยเข้าไปกอดแล้วก็หอมแก้มฟอดใหญ่ พร้อมกับมอบตุ๊กตาอุ๋งๆให้เป็นของขวัญ


"แฮปปี้เบิร์ทเดย์ นะครับ หลานอา"


"ตุ๊กตาอุ๋งๆเหมือนของพี่นับเลย" น้องเกรซพูดออกมาพร้อมกับอุ้มตุ๊กตาอุ๋งๆกลับไปที่โต๊ะ ซึ่งกำลังจะทำการเป่าเค้กกัน

เก้ายกมือไหว้สวัสดี แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ ที่นั่งอยู่พร้อมหน้าตรงนั้น

"ปิดไฟด้วยนะเก้า"


เก้าปิดไฟ แล้วก็เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะล้อมวงร้องเพลงHappy Birth Day ให้กับน้องเกรซ


Happy Birth Day To You........
.
.
.
.
 ฟู่วววววว......


เก้าเดินไปเปิดไฟ หลังจากที่น้องเกรซเป่าเทียนเสร็จเรียบร้อย


"นี่ถ้าไม่ใช่วันเกิดหลาน แกก็คงไม่กลับมาใช่มั้ย"  พี่ชายของเก้าเอ่ยปากถามน้องชาย

"โถ่ พี่ครับ ช่วงนี้เตรียมกิจกรรมที่คณะ ก็เลยไม่ค่อยได้กลับ"

"แกก็ตอบแบบนี้ทั้งปี"

"เอาน่าคุณ อย่าไปว่าน้องเลย มาๆกินเค้กกันดีกว่า" พี่สะใภ้ของเก้าพูดขึ้น เพื่อเบรกอารมณ์ขุ่นมัวที่กำลังจะเกิดขึ้น

ความสัมพันธ์ของเก้ากับพี่ชายไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเมื่อตอนที่พ่อของเก้าทิ้งแม่ไปมีภรรยาใหม่ พ่อของเก้าได้พาเก้าออกจากบ้านไปด้วย ทิ้งให้แม่อยู่กับพี่ชายคนโต ต่อมาพ่อของเก้ามีปัญหากับภรรยาใหม่และธุรกิจที่ทำอยู่ประสบความล้มเหลว ก็นำเก้ากลับมาให้แม่ช่วยเลี้ยง และพ่อก็หนีไปบวชจนถึงทุกวันนี้ ด้วยเหตุนี้พี่ชายของเก้าก็เลยโกรธพ่อและก็พาลไม่ค่อยชอบเก้าเท่าไหร่นัก อาจจะเพราะเก้ามีใบหน้าคล้ายพ่อ

"คืนนี้นอนที่บ้านเลยนะเก้า" แม่บอกกับเก้า

"ไม่เป็นไรครับแม่ เดี๋ยวผมก็กลับแล้ว"

"กลับมาบ้านทั้งทีจะไม่นอนที่บ้านหน่อยหรอลูก" แม่ของเก้าบอกกับลูกชาย

"ช่างมันดิแม่ ไม่อยากนอนก็กลับไป" พี่ชายพูดประชดเก้า

"ก็ได้ครับแม่ คืนนี้ผมนอนที่บ้านก็ได้" เก้าบอกกับแม่แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องรับแขก


"อาเก้าดูสิคะ อุ๋งๆสองตัวเลย" น้องเกรซอุ้มตุ๊กตาอุ๋งๆสองตัวมาอวดเก้า


"อ้าว ทำไมมีสองตัวหล่ะครับเนี่ย ไหนบอกอาเก้าซิ ว่าใครให้มาอีกตัวนึง" เก้าพูดพร้อมกับอุ้มหลานสาวตัวน้อยมานั่งตัก


"พี่นับให้มาค่ะ"


"พี่นับ" เก้าพูดชื่อออกมาเบาๆ


"พอดีเมื่อตอนเย็นพี่ดาด้าพาน้องเกรซออกไปเดินเล่นที่ริมทะเลสาบ เจอน้องนับที่ร้านขายน้ำ พอรู้ว่าวันนี้วันเกิดน้องเกรซน้องนับเลยปั่นจักรยานไปเอาของขวัญมาให้น้องเกรซค่ะ น้องนับนี่น่ารักจริงๆ ใส่แว่นแล้วก็ยิ่งน่ารัก"  พี่ดาด้า ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของน้องเกรซพูดขึ้นมา

"อืม ดาด้า เดี๋ยวตัดเค้กแบ่งไปให้น้องนับด้วยนะ แกอุตส่าห์ให้ของขวัญมา" พี่สะใภ้ของเก้าบอกกับพี่เลี้ยง

"ได้ค่ะ"

"เอ่อ เดี๋ยวผมเอาไปให้เองก็ได้ครับ มืดแล้วพี่ดาด้าออกไปจะอันตรายครับ" เก้าอาสาที่จะเอาเค้กไปให้นับหนึ่งด้วยตัวเอง เพราะเขาหวังว่าครั้งนี้อาจจะได้เจอนับหนึ่งแบบจังๆ

"น้องเก้ารู้หรอคะว่าบ้านน้องนับหลังไหน" พี่ดาด้าถามเก้า เขาก็ชะงักไปนิด

"เอ่อ ไม่รู้ครับ แหะ แหะ พี่ดาด้าบอกผมก็ได้ว่าหลังไหน คงหาไม่ยาก" เก้าแกล้งบอกว่าไม่รู้ว่าบ้านนับหนึ่งหลังไหน

"บ้านเลขที่123/9 ซอยหนึ่ง ถัดจากเราไปสองซอยค่ะ ประตูรั้วไม้สีน้ำตาล มีต้นดอกปีบอยู่หน้าบ้าน ทะเบียนรถที่จอดในบ้าน...."


"พอแล้วครับพี่ดาด้า ไม่ต้องละเอียดขนาดนั้นก็ได้ ฮ่าๆ" เก้าพูดแล้วก็หัวเราะออกมา


"แหม่ ก็พี่เป็นติ่งบ้านนั้นนี่คะ สามพี่น้องหล่อทั้งสามคนเลย น้องนับพอใส่แว่นยิ่งน่ารักที่สุด"


'พี่นับน่ารัก ใจดีด้วย ให้อุ๋งๆเกรซ" น้องเกรซพูดออกมาแล้วก็กอดตุ๊กตาอุ๋งๆทั้งสองตัวไว้แน่น

"เค้กได้แล้วค่ะน้องเก้า รีบไปรีบมานะคะ พี่รู้สึกว่าเหมือนฝนใกล้จะตกแล้ว ฟ้าแลบแปร้บๆ แฮ่ๆ" พี่ดาด้านำกล่องเค้กมาให้เก้าเพื่อเอาไปให้นับหนึ่ง

เก้าปั่นจักรยานตรงไปที่บ้านของนับหนึ่ง พอถึงหน้าบ้าน หัวใจของเขาก็เต้นแรง เขานั่งคล่อมจักรยานตั้งสติอยู่สักครู่ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปกดกริ่งที่ประตูหน้าบ้าน

"มาหาใครคะ" แม่บ้านวิ่งออกมาถามเก้า

"เอ่อ ผมมาจากบ้านของน้องเกรซครับ พอดีวันนี้วันเกิดน้องเกรซ เลยแบ่งเค้กมาให้น้องนับครับ"

"เค้ก" แม่บ้านทำหน้าแปลกใจ

"ใช่ครับ เค้กครับ พอดีน้องนับให้ของขวัญวันเกิดน้องเกรซไป น้องเกรซเลยให้เอาเค้กมาให้ครับ"

"อ่อ เข้าใจแล้วค่ะ งั้นเชิญเข้ามาในบ้านก่อนนะคะ"

"ครับๆ"

 แม่บ้านเลื่อนเปิดประตูให้เก้า เก้าก็เดินเข็นจักรยานตามเข้ามา แล้วอยู่ๆเขาก็หยุด


"เออ ป้าครับ ผมฝากเค้กไปให้น้องนับดีกว่า ฝนเหมือนจะตก ผมขอตัวกลับบ้านก่อนดีกว่า ฝากขอบคุณน้องนับด้วยนะครับ สำหรับของขวัญที่ให้น้องเกรซ" เก้าพูดแล้วก็ยื่นกล่องใส่เค้กให้กับป้าแม่บ้าน แล้วเขาก็เข็นจักรยานออกจากบ้านของนับหนึ่ง ชายหนุ่มเดินเข็นจักรยานไปตามทางกลับบ้าน อากาศค่อนข้างเย็น เพราะมีลมฝนพัดมาเบาๆ แต่เก้ากลับรู้สึกร้อนรุ่มจนมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นที่ใบหน้า



ทำไมมึงไม่เข้าไปวะไอ้เก้า เผื่อจะเจอไอ้เด็กแว่นนั่น มีโอกาสแล้วเชียว มึงนี่ใจเสาะชิบ

 เก้านึกตำหนิตัวเองในใจ ที่ไม่กล้าเข้าไปในบ้านของนับหนึ่ง ทั้งๆที่มีโอกาส แต่อีกใจหนึ่งด้วยตำแหน่งประธานเชียร์ของเขา เขาจะให้นับหนึ่งรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด จนกว่ากิจกรรมเชียร์จะจบลง ถ้าเขากับนับหนึ่งรู้จักกันในตอนนี้ พอเปิดเทอม การเป็นประธานเชียร์ของเขาก็อาจจะเป็นปัญหา และสร้างความสงสัยให้กับนับหนึ่งได้ เพราะประธานเชียร์ก็มีกฏของประธานเชียร์ ที่จะไม่เปิดตัวหรือไม่สามารถพูดคุยกับใครๆได้โดยเฉพาะน้องปีหนึ่ง


ที่บ้านของนับหนึ่ง


 นับหนึ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ลงมากินนมอุ่นๆที่ป้าแม่บ้านเตรียมเอาไว้ให้ดื่มก่อนนอน แต่เขาก็ต้องแปลกใจ เพราะวันนี้มีจานใส่เค้กวางไว้ด้วย

"ป้าครับ นี่เค้กของใครครับ" นับหนึ่งเอ่ยปากถามป้าแม่บ้าน

"เค้กของน้องเกรซค่ะ แกคงฝากพี่ชายแกให้เอามาให้ เห็นว่าคุณหนูนับให้ของขวัญวันเกิดน้องเกรซไปแกก็เลยเอาเค้กมาให้ค่ะ"


"อ๋อ ใช่ครับ ผมเอาตุ๊กตาให้เป็นของขวัญวันเกิดน้องเกรซ ว่าแต่น้องเกรซมีพี่ชายด้วยหรอครับ ผมไม่เคยเห็นเลย"


"ป้าก็ไม่ทราบค่ะ แต่คนที่เอาเค้กมาให้น่าจะรุ่นเดียวกับคุณธารา หล่อ สูงเชียวค่ะ พูดก็เพราะ กิริยาดีมาก แต่แกรีบกลับบ้านเพราะกลัวว่าฝนจะตก เลยไม่ได้เอาเข้ามาให้ด้วยตัวเองค่ะ แกยังฝากขอบคุณ คุณหนูนับด้วยนะคะ"


"อ่อ ครับป้า ขอบคุณนะครับ" นับหนึ่งบอกป้าแม่บ้านแล้วก็นั่งกินเค้กกับนม พร้อมับคุยไลน์กับวิน นัดแนะให้วินมารับ เพราะคืนนี้เขาจะไปนอนที่บ้านวิน ไปกอดอุ๋งๆของวิน

ธาราเดินเข้ามานั่งข้างๆนับหนึ่ง


"พี่ธาครับ วันนี้ผมขอไปนอนบ้านไอ้วินนะครับ"


"ไม่ได้" ธาราตอบมาสั้นๆ และน้ำเสียงทุ้มต่ำแบบนั้น ทำให้นับหนึ่งไม่กล้าต่อรองและถามเหตุผลใดๆ เพราะยังไงธาราก็ไม่อนุญาติให้ไปแน่นอน

นับหนึ่งไลน์บอกวิน ว่าวันนี้คงไม่ได้ไปนอนด้วยแล้ว หลังจากนั้นก็ขึ้นห้อง ธาราก็ตามขึ้นมาเขาตามน้องชายเข้าไปในห้อง จัดการรูดเปิดม่าน ตรวจตราหน้าต่างว่าปิดเรียบร้อยดีหรือไม่ ทำเอานับหนึ่งที่นั่งอยู่บนเตียงแปลกใจกับการกระทำของพี่ชายคนกลาง


"พี่ทำอะไรครับเนี่ย" เขาเอ่ยปากถาม


"ก็ดูว่ามึงปิดหน้าต่างดีหรือเปล่า ตรงห้องมึงมีไฟส่อง หรือมืดเกินไปหรือเปล่า"


"ทำไมต้องตรวจดูขนาดนั้นหล่ะครับ ผมคงไม่ถึงกับปีนหน้าต่างหนีพี่ออกไปนอนบ้านไอ้วินหรอก" นับหนึ่งกำลังเข้าใจผิดว่าที่ธารามาตรวจดูห้องของเขา เพราะกลัวว่าเขาจะปีนหนีออกไป


ธารา หันกลับไปมองน้องชาย เขาเดินไปหย่อนตัวนั่งบนเตียงแล้วเอื้อมแขนไปโอบไหล่นับหนึ่งให้เข้ามาใกล้ๆ


"มึงก็ตั้งแง่กับกูมากเกินไป กูไม่เคยคิดว่ามึงจะหนี พอดีว่าวันนี้กูรู้มาว่ามีคนแอบตามมึง แล้วก็ไม่รู้ว่ามันมาดีหรือมาร้าย แต่พอดีมีเพื่อนที่มหาลัยที่กูรู้จัก เห็นว่ามีคนตามมึงมันก็เลยตามมาดู มึงไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ช่วงนี้มึงก็อย่าออกไปไหนค่ำๆมืดๆ มันอันตราย เข้าใจมั้ย" ธาราอธิบายให้น้องชายเข้าใจ


"ครับพี่ ผมขอโทษที่เข้าใจผิดครับ" นับหนึ่งขอโทษธารา แล้วก็ยิ้มออกมาได้


"นอนได้แล้ว ไม่ต้องล๊อคห้องนะ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำแล้วจะเข้ามานอนด้วย" ธาราบอกนับหนึ่ง


"คร้าบ ไม่มีอุ๋งๆให้กอด ผมกอดพี่ก็ได้"


"เออ เดี๋ยวกูพาไปซื้อใหม่ อุ๋งๆอะไรของมึงนั่นอ่ะ"


ธาราบอกน้องชายแล้วเขาก็เดินออกจากห้องไป นับหนึ่งมองตามร่างสูงของพี่ชายแล้วก็ยิ้มออกมา ที่รู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงเขามากขนาดไหน



ที่บ้านของเก้า

เก้าเดินจูงจักรยานจนมาถึงบ้าน ตลอดทาง เขาคิดแค่เรื่องของนับหนึ่ง อีกใจนึงก็เสียดาย ที่เมื่อกี้ไม่เข้าไปในบ้านของนับหนึ่ง ถ้าเขาเข้าไปก็คงจะได้เจอเด็กแว่นนั่นแน่ๆ

"เฮ้ออออ" เขาถอนหายใจออกมาแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน

"อาเก้ามาแล้ว" เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งเข้ามาหาอาเก้าของเขา

"อ้าว อุ๋งๆไปไหนหมดแล้วหล่ะ ขออาเก้าไปนอนกอดตัวนึงได้ไหมครับ"

"ได้สิคะ" น้องเกรซบอกเก้าแล้วก็วิ่งไปหยิบตุ๊กตาอุ๋งๆมาให้เก้าหนึ่งตัว

"ตัวนี้ของพี่นับ เกรซให้อาเก้ายืมไปนอนกอดคืนนึงนะคะ" เด็กหญิงบอกกับเก้า

"ขอบคุณครับน้องเกรซ ไปเข้านอนได้แล้วเดี๋ยวอาเก้าไปส่งที่ห้องนะครับ" เก้าพูดแล้วก็อุ้มน้องเกรซไปส่งที่ห้องนอน


หลังจากนั้นเขาก็กลับมาที่ห้องของตัวเองพร้อมกับตุ๊กตาอุ๋งๆ ที่หลานสาวตัวน้อยให้มา


"ตัวนี้ของพี่นับหรอ" เก้าทิ้งตัวนอนลงบนเตียง แล้วก็ยกตุ๊กตาอุ๋งๆขึ้นมาดู เขาเผลอยิ้มออกมา


"หึ... ไอ้นับ ไอ้เด็กแว่น มึงเกือบทำกูซวยแล้วรู้มั้ย" เก้าพูดกับตุ๊กตาอุ๋งๆ แล้วเอาก็เอาตุ๊กตานั้นมากอดแนบกับหน้าอกของตัวเอง จนหลับไป.....



**เกือบซวยแล้วไงพี่เก้าของช้านนนนนนน :เฮ้อ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2020 20:08:23 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ความผิดตัวเองแท้ๆมาโทษนับได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7



ตอนที่.5 : เด็กแว่นเฟรชชี่


"ไอ้นับ เสร็จยัง"

"วันแรกก็จะพากูสายเลยนะมึง"

เสียงธาราตะโกนเอ็ดน้องชายลั่นบ้าน เพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก แต่นับหนึ่งก็ตื่นสาย


"มาแล้วคร้าบบบบ ใจเย็นดิครับพี่" นับหนึ่งวิ่งลงบันไดลงมาด้วยความเร่งรีบ

"ใจเย็นเชี่ยไร วินมันมารอตั้งนานละ วันนี้เปิดเทอมวันแรกมึงก็น่าจะรู้ ว่ารถติดบรรลัย"

"ผมจะรู้ได้ไงว่ารถติด ก็เพิ่งไปมหาวิทยาลัยวันแรกนี่ครับ" นับหนึ่งเถียงพี่ชาย ทำเอาคนโดนเถียงถึงกับหยุดแล้วหันหน้ามามอง นับหนึ่งก็ชะงักไปที่เห็นสายตาคมกริบของธาราที่บ่งบอกว่า เขากำลังทำให้ธาราไม่พอใจ

"ขอโทษครับ" นับหนึ่งเอ่ยปากขอโทษพี่ชายเสียงอ่อยๆแล้วก็เดินเลี่ยงออกไปหาอนาวินเพื่อนของเขาที่มานั่งรออยู่หน้าบ้าน เพื่อติดรถของธาราไปมหาวิทยาลัยด้วยกัน


"วันนี้มีกิจกรรมอะไรมั้ย" ธาราเอ่ยปากถามในขณะที่ทุกคนพร้อมอยู่บนรถ

"มีรับน้องตอนเย็นครับ เลิกทุ่มนึง" วินตอบธารา

"อืม เดี๋ยวพี่รอรับนะ เสร็จแล้วก็โทรมาละกัน"

"ครับ พี่ธารา" วินตอบธารา แต่นับหนึ่งนั่งเงียบ จนธาราแปลกใจ ก็เลยหันไปมองน้องชายที่นั่งซึมอยู่ข้างๆ

"กูพูดเนี่ย ได้ยินมั้ย" ธาราถามนับหนึ่ง แต่น้องชายก็ยังเงียบอยู่

"ไอ้นับ ไอ้นับ" วินที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง เอื้อมมือมาตบไหล่สะกิดนับหนึ่งเบาๆ จนอีกฝ่ายรู้สึกตัว

"เอ่อ มีไรครับ" นับหนึ่งสะดุ้ง ที่วินมาสะกิด

"มึงนั่นแหล่ะ เป็นอะไร" ธาราถามน้องชาย

"ผมรู้สึกผิดที่เถียงพี่"

ได้ยินคำตอบของน้อง ธาราก็ยิ้มออกมา แล้วเอื้อมมือไปลูบผมน้องชายเบาๆ

"โถ่ กูก็นึกว่าเป็นอะไร"

"ก็พี่โกรธผม"

"มึงเป็นน้องกูนะ โกรธแป้บเดียวก็หาย เข้ามหาลัยแล้วมึงก็โตได้แล้ว ไอ้เด็กแว่น" ธาราบอกน้องชายพร้อมกับเอามือขยี้ผมนับหนึ่งด้วยความหมันเขี้ยว

"ผมเสียทรงหมดครับพี่" นับหนึ่งทำหน้ามุ่ยพร้อมกับจับมือธาราออกไปวางข้างๆตัว

"หล่อแล้วครับ ใส่แว่นก็ยิ่งหล่อ" ธาราแซวน้องชายตัวเองที่กำลังเอามือปัดๆทรงผมให้เข้าที่เข้าทาง วินก็นั่งขำกับท่าทางของเพื่อน เขาเองก็ยังไม่ชินนักที่อยู่ๆเพื่อนหล่อใสอย่างนับหนึ่งกลายมาเป็นเด็กแว่นแบบนี้



ที่มหาวิทยาลัย


ธาราจอดรถส่งนับหนึ่งกับวินที่หน้าคณะ วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก และเป็นวันที่คณะต่างๆจัดกิจกรรมรับน้องเข้าคณะ ซึ่งก็ยังไม่มีการเรียนการสอนในวันนี้ มีแต่กิจกรรมสันทนาการและกิจกรรมFirst Cheer's ในตอนเย็น

"อย่าลืมนะ เสร็จกิจกรรมแล้วโทรหาพี่ เดี๋ยวมารับหน้าคณะ" ธาราเปิดกระจกชะโงกหน้าออกมาเตือนน้องชายอีกครั้ง

"ครับ เดี๋ยวผมโทรหานะครับ"

"อืม ไปเข้าคณะได้ละ" ธาราบอกน้องชายแล้วก็ขับรถออกไปที่คณะตัวเอง


นับหนึ่งกับอนาวิน ยืนอยู่หน้าคณะด้วยหัวใจที่เต้นแรง เห็นเพื่อนๆพากันเดินเข้าไป พร้อมกับมีรุ่นพี่มารอรับเต็มไปหมด ได้ยินเสียงกลองที่ตีเป็นจังหวะสามช่าดังมาจากข้างในคณะ

"เชี่ย แม่งน่าสนุกว่ะไอ้นับ" วินหันมาบอกนับหนึ่ง

"ป่ะ กูพร้อมละ เราเข้าคณะกันเถอะ" นับหนึ่งบอกวินแล้วก็พากันเดินเข้าคณะ


"ยู้วฮูวววว สุดหล่อทั้งสองคนเข้ามาลงชื่อตรงนี้ก่อนนะคะ" เสียงรุ่นพี่ผู้ชายร่างใหญ่แต่ใจสาว เรียกทั้งสองคนพร้อมทั้งกวักมือเรียก นับหนึ่งกับวินก็เดินเข้าไปตรงเต๊นท์รายงานตัวที่พี่ๆนั่งอยู่

"พี่ชื่อเลดี้นะคะ น้องสองคนชื่ออะไรกันบ้างคะ" พี่เลดี้ เอ่ยปากทักทายนับหนึ่งกับอนาวิน

"ผมชื่ออนาวินครับ"

'ผมชื่อนับหนึ่งครับ"

"อู้ยยย ชื่ออย่างหล่ออ่ะ อนาวินกับนับหนึ่ง"

"หล่อๆอย่างนี้ก็ต้องติดดาวสิคะ" พี่เลดี้เอาสติ๊กเกอร์รูปดาวสีแดงมาติดที่หน้าอกของนับหนึ่งและวินคนละดวง

"อีเลดี้ สองคนนี้ขอติดห้าดาวเลยได้ป้ะ คือแบบหล่อห้าดาวมากอ่ะ" รุ่นพี่ผู้หญิงเดินเข้ามาบอกพี่เลดี้

"อีบ้า น้องเค้าเป็นคนนะไม่ใช่ไก่ จะได้มาหล่อห้าดาว แบบนี้กูให้สิบดาวเลยคร่าาาา"

"แหม่ สองคนมึงนี่นะพอได้แล้ว น้องมันเขินจนหน้าแดงแล้วนั่น"

"เดี๋ยวมารับป้ายชื่อแล้วก็เดินไปเข้าซุ้มกับเพื่อนๆได้เลยนะครับทั้งสองคน" พี่ผู้ชายตัวสูงหน้าหล่อเดินเข้ามาบอกนับหนึ่งกับวิน นับหนึ่งอ่านชื่อที่อยู่บนป้ายคล้องคอ "พี่ตัง อาชวิน #ปี2"


["ข้าวตัง อาชวิน ศิริพุทธา" หนุ่มตี๋หล่อสุดฮอตอีกคนของคณะเกษตร เป็นเพื่อนสนิทของเก้า ชื่อเล่นจริงๆคือข้าวตัง แต่เขาชอบให้คนอื่นเรียกว่าตังเฉยๆ และยังชอบบอกคนอื่นว่าเขาชื่อสตางค์ ไม่ใช่ข้าวตัง เพราะข้าวตังชื่อเหมือนผู้หญิง]


นับหนึ่งกับวินได้รับป้ายชื่อแล้ว ทั้งสองคนก็พากันเดินไปที่ซุ้ม เสียงกลองดังใกล้เข้ามามากขึ้น ยิ่งเดินเข้าใกล้ซุ้ม หัวใจของนับหนึ่งก็เต้นแรงด้วยความตื่นเต้น


มันเริ่มขึ้นแล้วใช่มั้ยวะ ชีวิตเฟรชชี่ นับหนึ่งคิดในใจ


"ไอ้นับ พร้อมป่าวมึง" อนาวินหันมาถามเพื่อน

นับหนึ่งพยักหน้าให้วินแทนคำตอบแล้วก็เป็นฝ่ายกอดคอพาวินเดินลอดเข้าไปในซุ้ม

"ว๊ายยย สองคนนี้ติดดาวมาด้วย"

"ระบบคัดกรองของเราทำงานได้ดีจริงๆ ฮ่าๆ"

"น่ารักมากน้องแว่นคนนั้น" เสียงแซวจากรุ่นพี่สันทนาการ ทำเอานับหนึ่งออกอาการเขินจนแก้มแดง

พอทั้งสองเข้าไปในซุ้มก็เดินเป็นแถวตามเพื่อนๆเข้าไปในตึก เสียงกลองดังออกมาจากข้างในตึกนั้น เสียงกรี้ด เสียงร้องเพลง ดูน่าสนุก พอเดินเข้าไปในตึกก็ไปโผล่ที่ลานสนามหญ้าที่อยู่ใจกลางของตึกพอดี ในสนามหญ้านั้น พี่ๆสันทนาการกำลังล้อมวง โดยมีน้องปีหนึ่งนั่งอยู่ตรงกลาง นับหนึ่งกับวินก็พากันไปนั่งต่อแถวกับเพื่อนๆ

"อ้าว เรามาแจวกันดีกว่าค่ะน้องๆ"

"แจวมาแจวจ้ำจึ้ก น้ำนิ่งไหลลึก นึกถึงคนแจว"

"แจวหล่ะมาแจวจ้ำจึ้ก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว"

"แจวเรือจะไปซื้อน้ำผึ้ง แจวเรือจะไปซื้อน้ำผึ้ง"

"ขอเชิญน้องๆ ปีหนึ่งงงงง ลุกขึ้นช่วยแจว อ้าว แจวหล่ะมาแจวจ้ำจึ้ก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว...."


กิจกรรมสันทนาการของพี่ๆกับน้องๆปีหนึ่งดำเนินไปเรื่อยๆ และเป็นไปด้วยความสนุกสนาน นับหนึ่งกับอนาวินก็ทำความคุ้นเคยกับชีวิตเฟรชชี่ได้เป็นอย่างดี




ที่โรงอาหารของคณะ


"เชี่ย แม่งโคตรเหนื่อย แต่สนุก" นับหนึ่งพูดกับวิน ในขณะที่ทั้งสองคนเดินถือจานข้าวมองหาโต๊ะว่างเพื่อนั่งกินข้าว แต่ ณ เวลานี้ โรงอาหารเต็มไปด้วยผู้คน และโต๊ะก็แทบไม่มีที่นั่ง


"โห่ ไม่มีโต๊ะว่างเลยอ่ะ" นับหนึ่งบ่นออกมา

"ไอ้นับ ตรงนั้นมีที่ว่าง" วินบอกนับหนึ่งแล้วก็ชี้ให้ดูเก้าอี้ที่ว่างอยู่หนึ่งตัว

"เก้าอี้ตัวเดียวจะนั่งยังไงวะ"

"มึงก็นั่งกับกูไง นั่งตักกูนี่แหล่ะ"

"เชี่ย มึงเมื่อยขาตายเลย"

"เออ เอาน่า ดีกว่าไม่มีที่นั่งกินข้าวนะเว้ย รีบกินรีบออกไป คนเยอะ กูไม่ค่อยชอบว่ะ" วินบอกนับหนึ่ง

"นายๆ เราขอนั่งด้วยได้มั้ยครับ" นับหนึ่งเอ่ยปากถามคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว แต่คนนั้นใส่หูฟังอาจจะไม่ได้ยินที่นับหนึ่งพูด เขาก็เลยเอามือไปสะกิดไหล่ให้รู้สึกตัว คนโดนสะกิดเงยหน้าขึ้นมามองนับหนึ่ง พร้อมทั้งถอดหูฟังออก

"เอ่อ เราขอนั่งกินข้าวด้วยนะครับ"

"อื้ม ได้สิครับ แต่เก้าอี้มีตัวเดียวอ่ะ นายจะนั่งกันยังไง"

"ไม่เป็นไร เรานั่งตักไอ้วินได้ กินข้าวแป้บเดียวก็ออกไปละ" นับหนึ่งตอบแล้วก็ส่งยิ้มให้ ก่อนที่เขาจะนั่งลงบนท่อนขาของวินแล้วก็กินข้าว


"เอ่อ นายชื่อไรครับ เราวิน ส่วนนี่ไอ้นับ" วินแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่

'เราชื่อทิวครับ"


["ทิว ทัศน์ พานิชพิพัฒน์" น้องชายคนละแม่ของ ทาวน์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของธาราพี่ชายของนับหนึ่ง เมื่อแม่ของทิวเสียชีวิต พ่อของทิวก็รับตัวทิวมาอยู่ด้วย เพราะทิวไม่เหลือญาติพี่น้องคนไหนอีกแล้ว พอเข้ามหาวิทยาลัยทิวต้องมาอยู่กับทาวน์โดยที่ทาวน์ก็ไม่ได้ยินดีที่จะให้น้องชายต่างมารดาคนนี้มาอยู่ด้วยซักเท่าไหร่นัก]


"ว้ายๆ อร้ายๆ น้องหล่อสิบดาวของพี่ ทำไมนั่งกินข้าวกันแบบนี้หล่ะคะ" เสียงของพี่เลดี้ ที่ทักนับหนึ่งกับวิน ทำเอาทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงหันมามอง แล้วก็พากันยิ้มกับท่านั่งกินข้าวของนับหนึ่งที่นั่งอยู่บนตักของวิน


"เอ่อ พี่...พี่เลดี้" นับหนึ่งทำหน้าเลิกลั่ก ที่เห็นพี่เลดี้เข้ามาแซว


"ใช่ค่ะ พี่เลดี้เอง รู้มั้ยว่าพี่ฟิน นั่งกันแบบนี้พี่คิดไปไกลถึงดาวอังคารแล้วค่ะลูก"


"ก็เก้าอี้เหลือแค่ตัวเดียวนี่ครับพี่ ผมก็เลยนั่งตักไอ้วิน" นับหนึ่งตอบพี่เลดี้แล้วก็ยิ้มอย่างเขินๆ ยิ่งตอนนี้มีสายตาหลายคู่ที่มองมายิ่งทำให้นับหนึ่งรู้สึกหน้าร้อนผ่าวๆ ผิดกับวินที่ยังก้มหน้าก้มตากินข้าว


"ไอ้นับ กูอิ่มละ มึงนั่งกินข้าวไปเลย เดี๋ยวกูไปซื้อน้ำมาให้กิน เออ ทิว นายเอาน้ำอะไรเดี๋ยวเราซื้อมาให้"

"เอ่อ น้ำเปล่าก็ได้ ขอบใจนะ"

วินลุกจากเก้าอี้ไปซื้อน้ำ นับหนึ่งก็เลยนั่งกินข้าวอย่างสบายๆ เขาสังเกตเห็นที่ตรงหน้าอกของทิว ก็มีดาวติดอยู่เหมือนกัน

"นี่นายก็โดนติดดาวด้วยหรอ" นับหนึ่งเอ่ยปากถามทิว

"อืม ไม่รู้จะติดทำไม บางคนก็ไม่โดนติดดาว" ทิวตอบด้วยความสงสัย

"สงสัยนายหล่อมั้ง พี่เค้าก็เลยติดดาวให้"

"งั้นนายก็หล่อด้วย เพราะโดนติดดาวเหมือนกัน" ทิวบอกนับหนึ่ง แล้วก็หัวเราะ

วินซื้อน้ำกลับมาที่โต๊ะ แล้วก็ยืนอยู่ข้างๆนับหนึ่ง จนนับหนึ่งกินข้าวเสร็จ ทั้งสามคนก็พากันออกมาจากโรงอาหาร


ที่ห้องสโมสรคณะ

กลุ่มพี่ว้าก กำลังเตรียมตัวเพื่อทำหน้าที่ในช่วงบ่าย เก้า อยู่ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบ ด้วยเสื้อนักศึกษาแขนยาวนุ่งทับในกับกางเกงแสลค รองเท้าหนังสีดำ ผูกไทน์ของมหาวิทยาลัย พร้อมกับเซตผมเรียบร้อย ทำให้เขาดูหล่อ สมาร์ทผิดหูผิดตาจนเพื่อนๆอดไม่ได้ที่จะแซว


"แหม่ พอออกจากป่าก็เป็นผู้เป็นคนเลยเนอะ"

"พี่เก้าออกจากป่าแล้ว จากซาตานกลับกลายมาเป็นเทวดา"

'มึง ทาร์ซานหรือซาตาน พูดใหม่ๆ"

"ซาตานแหล่ะถูกแล้ว คนอะไรโคตรดุ"

"พอละๆ เดี๋ยวกูหลุดมาดพี่ระเบียบ พวกมึงจะเดือดร้อน เพราะต้องมาช่วยกูตอนโดนรุ่นพี่ซ่อม" เก้าพูดขู่เพื่อนๆ

"นี่ๆ น้องปีหนึ่งคณะเราปีนี้นะ งานโคตรดีอ่ะ ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็เริ้ดเริ่ด" เลดี้เดินเข้ามาในห้องสโมสรพร้อมกับเปิดรูปจากในกล้องดูภาพน้องๆที่ทีมตากล้องของคณะถ่ายมาจากกิจกรรมเมื่อเช้า

"โดยเฉพาะน้องแว่นสุดหล่อ"

เก้า เมื่อได้ยินเลดี้พูดถึงน้องแว่นสุดหล่อ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ไอ้เด็กแว่น นับหนึ่ง ของเขาก็เรียนที่คณะนี้เหมือนกัน เก้ารีบพุ่งตัวไปหาเลดี้ทันที

"เลดี้ ไหนขอดูหน่อยดิ้ ไอ้น้องแว่นคนไหนวะ"

เลดี้หันมามองเพื่อนด้วยความแปลกใจ

"นี่ไง น้องนับหนึ่ง เก้ารู้จักด้วยหรอ" เลดี้พูดชื่อนับหนึ่งออกมา แล้วก็เปิดรูปในกล้องให้เก้าดู

"เห็นมะ น่ารักจริงๆ ขนาดใส่แว่นนะ ตากลมโตใสๆ หน้าตาขี้เล่น เรานี่โคตรคลั่ง เด็กอะไรน่ารักจริงๆ" เลดี้พูดขึ้นพร้อมกับสายตาเป็นประกาย

"ใช่น้องแว่นที่นั่งตักเพื่อนกินข้าวในโรงอาหารเมื่อตอนกลางวันป่ะเลดี้" เพื่อนอีกคนถามเลดี้

"ใช่ๆ นั่นแหล่ะน้องนับหนึ่ง ส่วนคนที่โดนนั่งตักอ่ะ ชื่อน้องวิน เห็นแล้วชั้นก็ฟินอ่ะแก อยากให้เป็นแฟนกัน"


"ไร้สาระ" เก้าพูดขึ้น แล้วก็ส่งกล้องกลับคืนให้เลดี้ ทำเอาเลดี้ถึงกับหน้าเหวอๆไป ที่เก้าพูดว่าไร้สาระ

"เป็นไรอ่ะไอ้เก้า ไอ้ประธานเชียร์ขี้เก็ก" เลดี้ว่าเก้าที่กำลังเดินไปนั่งหลบมุมเงียบๆ เพื่อทำสมาธิกับบทบาทประธานเชียร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน


หึ ไอ้เด็กแว่น มาวันแรกก็ฮอตเลยนะมึง  เก้าคิดในใจเมื่อเขานึกถึงนับหนึ่ง เด็กแว่นของเขา


กิจกรรมสันทนาการในช่วงบ่ายก็เสร็จสิ้นลงไป ซึ่งนับหนึ่งและวินก็ได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกหลายคน แต่ตอนนี้หลักๆก็ ก็มีนับหนึ่ง วินและทิว ที่อยู่ด้วยกันตลอด


พี่ๆสันทนาการเก็บอุปกรณ์ออกไปจากลานสนามหญ้า บรรยากาศเปลี่ยนไปในทันที มีรุ่นพี่อีกกลุ่ม เข้ามาจัดระเบียบน้องๆปีหนึ่ง ให้เข้าแถวแยกชาย-หญิง คนละฝั่ง รุ่นพี่ที่เข้ามา นับหนึ่งเห็นว่ามีพี่ตัง คนที่สวมป้ายชื่อให้เขาด้วย พี่ตังเข้ามาจัดแถวน้องๆผู้ชาย พอเห็นนับหนึ่งก็เหมือนจะยิ้มให้ แต่พี่ตังก็ไม่ได้พูดอะไรกับนับหนึ่ง

หลังจากที่จัดระเบียบน้องๆให้เข้าแถวแยกชายหญิงเรียบร้อยแล้ว กลุ่มพี่ๆกลุ่มแรกก็ออกไปจากสนาม


"ก้มหน้าหลับตาลงไปครับ" มีเสียงตะโกนสั่งพวกเขามาจากด้านหลัง เสียงเข้ม ทุ้ม ดังก้องไปทั่วลานสนามหญ้า ทุกอย่างเงียบกริบ หัวใจของนับหนึ่งเต้น ตึกตัก ตึกตัก ด้วยความตื่นเต้น


"นี่มันอะไรวะเนี่ย" วินที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาพูดกับนับหนึ่งเบาๆ

"กูก็ไม่รู้ว่ะ"


เวลาผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง


"เงยหน้าขึ้นได้ครับ" เสียงเข้มทุ้มเสียงเดิมพูดสั่งพวกเขา ทุกคนก็เงยหน้าขึ้น


ภาพที่เห็นในตอนนี้ก็คือ มีกลุ่มรุ่นพี่ผู้ชาย ยืนล้อมรอบน้องๆที่นั่งอยู่ ส่วนเบื้องหน้านั้นมีเวทีเล็กๆไม่สูงมากนักตั้งอยู่
อยู่ ด้านหลังของเวทีเป็นผืนผ้าสีประจำคณะ มีตราประจำคณะติดอยู่ พร้อมกับแผ่นป้ายผ้า เขียนว่า กิจกรรมเชียร์คณะเกษตร ประจำปี2561

"สวัสดีครับ ว่าที่น้องๆของพวกผมทุกๆคน" รุ่นพี่ตัวสูงที่ยืนอยู่บนเวทีพูดขึ้น นับหนึ่งเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงนั้น เขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหน แต่ก็นึกไม่ออก

"ทำไมต้องเป็นว่าที่ด้วยวะ" วินหันมาถามนับหนึ่ง

"กูก็ไม่รู้ว่ะ กิจกรรมเชียร์ของคณะเราได้ข่าวว่าโหดสัส" นับหนึ่งบอกวิน เขารู้เรื่องนี้เพราะได้ยินเพื่อนๆพูดกันตอนไปเข้าห้องน้ำ และนี่ก็อาจจะเป็นการเริ่มต้นกิจกรรมเชียร์ อย่างที่เขาได้ยินเพื่อนๆพูดมาก็ได้


ทางด้านเก้าที่ยืนอยู่บนเวที เขาพยามยามรักษามาดเนี้ยบของประธานเชียร์ เพื่อให้น้องๆรู้สึกเกรงกลัว แต่ในตอนนี้ กลับกลายเป็นว่า น้องๆต่างพากันปลื้มพี่ประธานเชียร์คนนี้ ถึงแม้ว่าจะพูดกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงดุดันและท่าทีเคร่งขึมก็ตาม

"พี่ประธานเชียร์โคตรหล่อเลยว่ะ"

"พี่ประธานเชียร์หล่อเนอะเธอ"

'หล่อๆแบบนี้ยอมมานั่งให้ดุ ทุกวันเลย"

"ยอมเข้าเชียร์ทุกวัน ถ้าได้เจอพี่ประธานเชียร์"

เสียงเพื่อนๆทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างก็พากันพูดถึงพี่ประธานเชียร์ ในช่วงเวลาพักเบรก พี่ประธานเชียร์กำลังเข้าไปอยู่ในใจของน้องๆทุกคน แต่คงไม่ใช่กับนับหนึ่ง เพราะตอนนี้นับหนึ่งโฟกัสไปแต่กิจกรรมเชียร์ ไม่ใช่พี่ประธานเชียร์ โถ่ นับหนึ่งผู้ซื่อบื้ออะไรเช่นนี้



"เฮ้อ...จบซะทีวันแรก พี่ว้ากแม่งโหดจริง เสียงดังสัส" วินพูดบ่นออกมาในขณะที่ทั้งสามคนกำลังเดินออกจากคณะ

"ไอ้นับมึงโทรบอกพี่ธารายังว่าทำกิจกรรมเสร็จแล้ว" วินถามนับหนึ่ง

"อือ กูไลน์บอกละ มันกำลังมารับ เออ ไอ้ทิวมึงอ่ะกลับไง พักไหนบ้านหรือหอ" นับหนึ่งหันไปถามเพื่อนใหม่คนแรกของเขา

"กูอยู่หอ"

"ดีว่ะ อยู่กับใครอ่ะ กูมานอนหอมึงบ้างได้ป่ะ อยากรู้ว่านอนหอจะเป็นยังไง" วินหันไปถามทิวอย่างสนใจ

"อยู่กับพี่ชายกูว่ะ พี่กูก็เรียนที่นี่"


เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่รู้จักกัน สรรพนามเรียกแทนตัวก็กลายมาเป็นคำง่ายๆที่ติดปาก บ่งบอกว่า ผู้ชายเข้ากันได้ง่าย


"อ่อ งั้นก็อดไปนอนหอมึงเลย" วินพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

"สุดหล่อสามคน น้องนับหนึ่ง น้องวิน น้องทิว กลับกันยังไงคะเนี่ย อยู่หอไหนกันอ่ะ" พี่เลดี้เดินเข้ามาถามหนุ่มๆทั้งสามคน

"ผมกับไอ้วินอยู่บ้านครับ ส่วนไอ้ทิวอยู่หอครับ"

"อ๋อ ค่ะๆ ไงก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะ กลับดีๆหล่ะ ฝนจะตกละ พรุ่งนี้เจอกัน"

"ครับ สวัสดีครับพี่เลดี้" ทั้งสามคนยกมือไหว้สวัสดีพี่เลดี้ แล้วก็เดินออกมาหน้าคณะ


ธาราจอดรถรออยู่แล้วที่หน้าคณะ


"นั่นพี่ธารามารอละ แล้วพี่มึงอ่ะมารับยังไอ้ทิว ฝนจะตกละเนี่ย" นับหนึ่งหันไปถามทิว

"เออ มึงสองคนกลับเถอะ เดี๋ยวฝนตก"

"แล้วพี่มึงหล่ะ" วินถามทิวอีกครั้ง

"ยังไม่มาเลย กูโทรบอกละเดี๋ยวก็คงมา"

"เออ งั้นพวกกูกลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน" นับหนึ่งบอกทิวแล้วก็เดินไปขึ้นรถ


"เป็นไง กิจกรรมวันนี้" ธาราเอ่ยปากถามน้องชาย

"ก็ดีครับ สนุกดี แต่พี่ว้ากแม่ง โคตรเสียงดัง"

"เออ ฟังๆไปเถอะ ตลกดีไม่ต้องเครียด"



ที่หน้าคณะ ทิวก็ยังคงยืนรอพี่ชายมารับ จนตอนนี้ฝนเริ่มลงเม็ดเปาะเปะ พี่ชายของทิวก็ยังไม่มารับ

"พี่ทาวน์ครับ ถึงไหนแล้วครับ"

"มึงรีบป่ะ ถ้ารีบก็เดินกลับมาเอง"

"ฝนลงเม็ดแล้วอ่ะครับ"

"ก็ช่างแม่งดิ ถ้ามึงรอไม่ได้ก็กลับมาเอง กูไม่ไปรับแม่งละ กลับมาเองเลย"

ทิวทำหน้าเสีย หลังจากที่พี่ชายวางสายไป เขายื่นแขนออกไปรองรับน้ำฝน เห็นว่าฝนยังตกไม่หนักมาก เขาก็เลยตัดสินใจเดินกลับหอ....


ช้านสงสารทิววววววว :mew6:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
อิพี่ทาวน์ใจร้าย

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7
ตอนที่.6 : ไอ้เสือของเด็กแว่น



    ผ่านไป1อาทิตย์ กับชีวิตเฟรชชี่มหาวิทยาลัยของนับหนึ่ง ตอนนี้นับหนึ่งเริ่มปรับตัวได้กับกิจกรรมเชียร์ของคณะที่แม้ว่าจะดูโหดไปเพราะมีพี่ว้าก แต่น้องๆทุกคนก็เต็มใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมเชียร์เพราะมีพี่ประธานเชียร์สุดหล่อ ที่รุ่นน้องทุกคนพากันปลื้มโดยเฉพาะรุ่นน้องผู้หญิง ทั้งๆที่ตอนนี้ทุกคนต่างก็ยังไม่รู้จักชื่อของพี่ประธานเชียร์คนนี้เลยด้วยซ้ำ ได้แต่เรียกว่าพี่ประธานเชียร์ แต่พี่ประธานเชียร์สุดหล่ออย่างเก้า ก็เข้าไปนั่งในใจของน้องๆซะแล้ว


"เสร็จกิจกรรมแล้วจะโทรหานะครับพี่ธารา" นับหนึ่งบอกกับธาราก่อนที่จะลงจากรถ

"เออ เดี๋ยววันนี้กูก็มาคณะมึง"

"มาทำไมอ่ะ" นับหนึ่งถามพี่ชายด้วยความสงสัย

"ก็ไปตรวจกิจกรรมเชียร์ของคณะมึงไง"

"ทำไมต้องตรวจด้วยอ่ะครับ"

"โว้ะ ถามอะไรมากมาย ไปๆ เข้าคณะได้แล้ว" ธาราว่าน้องชายแล้วก็ขับรถออกไปยังคณะของตัวเอง นับหนึ่งก็ยืนทำหน้างง มองตามรถของพี่ชายที่ขับออกไป

"แค่นี้ทำเป็นดุ" นับหนึ่งพูดออกมาเบาๆ

"เออน่า ป่ะเข้าคณะกันเถอะเรา" วินตบไหล่เบาๆปลอบใจเพื่อน แล้วก็กอดคอพานับหนึ่งเข้าคณะ

"เออ ไอ้ทิวมายังวะเนี่ย มึงโทรหามันยัง" นับหนึ่งหันไปถามวิน

"กูไลน์ไปแล้ว แต่มันยังไม่เปิดอ่านเลย มึงดูดิ" วินตอบนับหนึ่งพร้อมกับเปิดหน้าโทรศัพท์ให้ดู

"กูว่ามึงตั้งกลุ่มไลน์ของเราสามคนเลยดีกว่า ลากไอ้ทิวเข้ามาด้วย" นับหนึ่งออกความเห็น

"เออๆ ดีเหมือนกัน"

ได้กลุ่มไลน์แล้ว สำหรับสามหนุ่ม นับหนึ่ง วิน และทิว กลุ่มไลน์ NTV


ที่ห้องเรียนของนับหนึ่ง


"นับหนึ่ง วันนี้หายไปไหนหนึ่งคนอ่ะเนี่ย ปกติจะแพคสามนี่นา" เพื่อนผู้หญิงเข้ามาทักนับหนึ่ง หลังจากที่เห็นว่าวินกับนับหนึ่งเดินเข้ามาในห้องเรียน แต่วันนี้ไม่มีทิวมาติดมาด้วย


"อ่อ ไอ้ทิวยังไม่มาครับ ไลน์ไปมันก็ไม่ตอบ โทรหาก็ไม่รับสาย" นับหนึ่งตอบเพื่อนแล้วก็เดินไปหาที่นั่ง

จนอาจารย์เข้าห้องมาเช็คชื่อแล้ว ทิวก็ยังไม่มา นับหนึ่งกับวินกระวนกระวาย เพราะทิวไม่เคยเงียบไปแบบนี้

"ไอ้วิน ไอ้ทิวมันเป็นไรป่าววะ เงียบตั้งแต่เช้าติดต่อก็ไม่ได้" นับหนึ่งหันไปถามวิน

"กูก็นั่งอยู่กับมึงเนี่ย จะรู้มั้ยหล่ะ กูก็ห่วงมันเหมือนกัน"

"อือ กลางวันมันอาจจะมาก็ได้ เพราะวันนี้เรามีเรียนจนถึงตอนเย็น คงไม่ได้เข้าเชียร์" นับหนึ่งบอกวิน แล้วก็หันไปตั้งใจจดเลคเชอร์บนกระดานหน้าห้อง


ที่ห้องของทิว

"พี่ทาวน์ พี่ขังผมไว้ในห้องทำไมครับ ผมมีเรียนเช้านะครับ" ทิวโทรศัพท์หาทาวน์ที่ล๊อกประตูด้วยแม่กุญแจจากด้านนอกขังเขาไว้ในห้อง

"กูไม่ได้ขัง แต่กูลืมไปว่ามีมึงอยู่ด้วย"

"พี่กลับมาเปิดประตูห้องให้ผมก่อนได้มั้ยครับ ผมจะรีบไปเรียน"

"ไม่ทันละ กูเข้าห้องเรียนก่อนนะ เดี๋ยวตอนเที่ยงกลับไปเปิดห้องให้"

ตู้ด...ตู้ด...ตู้ดดด.....


หึ หึ ไอ้ทิว กูจะทำให้มึงอยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วก็ไปจากกูเร็วๆ  ทาวน์คิดในใจหลังจากวางสายจากน้องชาย



ทาวน์วางสายไป ทิวทรุดตัวนั่งลงไปบนเตียง น้ำตาเอ่อขึ้นมา ตั้งแต่มาอยู่กับทาวน์ที่นี่ เขาก็โดนกลั่นแกล้งทุกอย่างจากพี่ชายคนนี้ และเขาก็รู้ว่าทาวน์ไม่ได้รู้สึกยินดีเลยซักนิดที่อยู่ๆก็มีทิวมาอยู่ด้วย แต่เขาก็ต้องอดทน

ทิวเปิดไลน์ พอเห็นว่ามีข้อความจากทั้งนับหนึ่งแล้วก็อนาวิน เขาก็ตอบกลับไป



ที่ห้องเรียนของนับหนึ่ง


"เฮ้ย ไอ้ทิวตอบกลับมาละ" วินบอกนับหนึ่ง

ทิว : เดี๋ยวตอนเที่ยงกูไปกินข้าวด้วยนะ ถึงแล้วจะโทรหา

นับหนึ่งกับวินอ่านข้อความไลน์ที่ทิวส่งมาหา แล้วก็สบายใจที่ทิวยังปกติดี

"เฮ้อ กูก็นึกว่าแม่งไม่สบาย สงสัยจะตื่นสาย" นับหนึ่งบอกวิน

"อือ กูว่าอยู่หอก็ดีอย่างเนอะ ได้นอนตื่นสาย จะไปไหน ทำอะไรก็ได้"

"เราขอพ่อแม่มาอยู่หอกันป่ะ มึงกับกูอยู่ด้วยกัน" นับหนึ่งออกความคิด

"พ่อแม่กูอ่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่พี่มึงอ่ะดิจะยอมหรอ" วินบอกนับหนึ่ง

"เออ นั่นดิ พี่ธาราโคตรจะห่วงกูเลย ไม่รู้จะห่วงอะไรนักหนา กูโตแล้วนะเนี่ย" นับหนึ่งพูดระบายความรู้สึกกับวิน

"เออน่า กูเข้าใจพี่เค้านะเว้ย คนที่มีน้องอ่ะก็ต้องเป็นห่วงกันแบบนี้แหล่ะ กูดิโคตรเหงา เป็นลูกคนเดียว พี่น้องก็ไม่มีให้เล่นด้วย กูเห็นมึงกับพี่ธาราก็ยังนึกอิจฉาเลย อย่างน้อยมึงก็มีพี่ชายที่ดูแลมึงได้นะเว้ย" วินบอกนับหนึ่ง

นับหนึ่งหันไปมองวินแล้วก็ยิ้มให้

"นี่ไง มึงก็มีกูไงไอ้วิน กูเล่นกับมึงได้ ดูแลมึงได้ ให้มึงดูแลกูก็ได้ด้วย"

"เออ มึงกับกูคงอยู่ด้วยกันไปอีกนาน" วินบอกนับหนึ่งแล้วก็ยิ้มให้เด็กแว่นที่นั่งข้างๆ




ตอนเที่ยง ที่ห้องของทิว


ทาวน์กลับมาที่ห้อง เพื่อเปิดประตูให้ทิวได้ออกไปเรียน

"พี่ทาวน์ครับ วันนี้ผมขอตังค์เพิ่มได้หรือเปล่าครับ ต้องเอาไปถ่ายเอกสารงานกลุ่มอ่ะครับ"

"ที่กูให้มึงก็เอาไปใช้ให้พอดิ เอาไปแค่นั้นแหล่ะ จะมาขอเพิ่มอะไรอีก อยู่กับกูอย่าเรื่องมาก" ทาวน์ตอบน้องชาย แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป

ทิวยืนนิ่ง เขาล้วงเงินจากกระเป๋ากางเกงออกมามองดูแบงค์100บาท ที่อยู่ในมือ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป เพราะกลัวว่าถ้าขืนอยู่ต่อคงจะโดนทาวน์ขังไว้ในห้องจนไม่ได้ไปเรียนอีกแน่ๆ

วันนี้เพื่อนๆเก็บตังค์ค่างานกลุ่มคนละ50บาท เงินที่ทาวน์ให้มา แค่จ่ายค่างานกลุ่มก็ครึ่งนึงแล้วแล้ว แล้วจะเอาที่ไหนจ่ายค่าวินมอเตอร์ไซค์ แล้วก็ซื้อข้าวกินอีก



ที่โรงอาหารคณะเกษตร



"ไอ้ทิว ถึงไหนแล้ววะ"

"หน้าคณะแล้ว พอดีกูเดินมาอ่ะ เลยช้าหน่อย โทดทีว่ะ"

"เออๆ ไม่เป็นไร มึงจะกินไร เดี๋ยวกูสั่งไว้รอ" นับหนึ่งถามทิว ทิวก็เงียบไป พลางคิดว่าถ้าเขากินข้าว เงินที่มีจะไม่พอทำอย่างอื่นแน่ๆ

"เอ่อ กูไม่กินอ่ะ พอดีกินจากที่หอมาแล้ว พวกมึงกินกันไปเลย เดี๋ยวกูไปหาที่โรงอาหารนะ"

"ป่ะ เราไปซื้อข้าวกัน ไอ้ทิวบอกว่ามันกินมาแล้ว" นับหนึ่งหันไปบอกวิน แล้วทั้งสองคนก็พากันไปซื้อข้าว

"นับหนึ่งกินไร" เพื่อนผู้หญิงหันมาถามนับหนึ่ง

"ข้าวไข่เจียวครับ"

"มันกินเป็นอยู่อย่างเดียวแหล่ะไอ้นับอ่ะ" วินเดินเข้ามาบอกเพื่อนแล้วก็กอดคอนับหนึ่งตามความเคยชิน

"แหม่  สองคนนี้ตัวติดกันตลอดเลยนะ"

"ก็เพื่อนกันนี่ครับ เพื่อนกันตั้งแต่คลอดออกมาเลยมั้ง ฮ่าๆ" นับหนึ่งบอกเพื่อนแล้วก็หัวเราะ

"มึงก็เว่อร์ไปไอ้นับ"

"ข้าวมึงได้ละ ไปรอกูที่โต๊ะนะเดี๋ยวตามไป" วินบอกนับนึงพลางหยิบจานข้าวไข่เจียวมาให้นับหนึ่ง

นับหนึ่งรับจานข้าวมาจากวิน แล้วก็หันหลังเดินกลับไปที่โต๊ะ


โอ๊ะ...!! ฟลุบ....

ด้วยความเซ่อซ่าหรืออาจจะอะไรก็แล้วแต่ ทำให้นับหนึ่งหันไปชนกับคนคนนึง จนจานข้าวร่วงคว่ำลงไปที่พื้น

"เฮ้ย ขอโทษครับ" นับหนึ่งก้มหน้าก้มตาขอโทษแล้วก็ย่อตัวลงนั่งเพื่อเก็บเศษข้าวใส่จานไปทิ้ง

"ไอ้นับ ซุ่มซ่ามจังวะ" วินรีบเข้ามาช่วยเพื่อนเก็บข้าวที่ตกอยู่ที่พื้น


ส่วนคนที่เดินมาจนนับหนึ่งหันไปชน ก็หันมามองแล้วก็จะมาช่วยเก็บเศษอาหาร แต่เขาโดนเพื่อนอีกคนรั้งเอาไว้ แล้วดึงตัวให้รีบเดินออกไปจากตรงนั้น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นพากันเงียบกริบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่ประธานเชียร์ที่ทุกคนเห็นโดนดึงตัวออกไปจากตรงนั้นในทันที โดยที่นับหนึ่งไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าคนที่เขาหันมาชน คือประธานเชียร์

"เด็กๆไปล้างมือกันเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าเก็บกวาดเองนะ" ป้าแม่บ้านเข้ามาบอกนับหนึ่งกับวิน

"ขอบคุณครับป้า" ทั้งสองคนยกมือไหว้ขอบคุณป้าแม่บ้าน แล้วก็พากันไปล้างมือที่ห้องน้ำ

"มึงนี่ซุ่มซ่ามจริง ไปรอที่โต๊ะไป เดี๋ยวกูซื้อข้าวไปให้" วินบอกนับหนึ่ง หลังจากล้างมือเสร็จเรียบร้อย

นับหนึ่งเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ ทิวเดินมาหาแล้วก็นั่งข้างๆนับหนึ่ง

"อ่าว ไอ้ทิว เป็นไรวะ หน้าตาซึมมาเชียวมึง" นับหนึ่งทักทายเพื่อนที่มานั่งข้างๆ ด้วยท่าทางหมดแรง พร้อมกับมีเม็ดเหงื่อซึมบนใบหน้า

"ป่าวๆ ไม่มีไร เดินมาเหนื่อยอ่ะ"

"วินมอไซค์ก็มี มึงจะเดินมาทำไม แดดร้อนขนาดนี้"

"ก็ตอนกูออกมาไม่มีวินมอไซค์ซักคัน ก็เลยเดินมา" ทิวพูดแก้ตัวไป ทั้งๆที่วินมอเตอร์ไซค์ก็มี แต่ค่าวินจากหอมาถึงคณะก็15บาทแล้ว เขาอยากจะเก็บตังค์ไว้เผื่อค่าใช้จ่ายอื่นๆมากกว่า


"ไง ไอ้ทิว ตื่นสายหรอมึง ถึงไม่มาเรียนตอนเช้า" วินพูดทักทายทิว พร้อมกับวางจานข้าวให้นับหนึ่ง

"อ่ะนี่น้ำกูซื้อมาเผื่อ" วินยื่นขวดน้ำเปล่าให้ทิว

"อือ ขอบใจนะ" ทิวรับน้ำเปล่าจากวินมาเปิดดื่มด้วยความกระหาย

"อ่ะนี่กินขนมป่ะ กูมีแซนวิช ซื้อมาตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินเลย" นับหนึ่งเปิดกระเป๋าหยิบแซนวิชให้ทิว ทิวอยากจะปฏิเสธ แต่เขาก็ต้องรับมากิน เพราะยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้า


หลังจากกินข้าวเสร็จ ทั้งสามคนก็พากันเดินไปรอที่หน้าห้องเรียน ตอนนี้มีเพื่อนๆจับกลุ่มนั่งรอเข้าห้องเรียนกันอยู่

"นับ รู้มั้ยว่าคนที่เดินชนนับที่โรงอาหารอ่ะใคร"

"ใครหรอ ถ้าเรารู้นะจะต่อยแม่ง อดกินข้าวไข่เจียวเลย" นับหนึ่งตอบเพื่อน ด้วยอารมณ์กึ่งๆโมโห จากเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน

"เอ่อ นับจะกล้าต่อยหรอคนนั้นอ่ะ"

"กล้าดิ ก็แม่งทำให้เราไม่ได้กินข้าว แถมไม่มาช่วยเก็บกวาดอีกนะ คนอะไรโคตรไม่มีน้ำใจ คำขอโทษก็ไม่มี"


อีกด้านหนึ่งของกำแพง เก้า ยืนแอบฟังการคุยกันของนับหนึ่งกับเพื่อน เขาเดินมาได้ยินด้วยความบังเอิญ ชายหนุ่มก็เลยยืนแอบฟัง


"หึ มึงจะต่อยกูเลยหรอ ไอ้เด็กแว่น" เก้าพึมพำออกมาเบาๆ แล้วเขาก็เดินหลบออกไปจากตรงนั้น



"นั่นอ่ะ พี่ประธานเชียร์นะ นับกล้าต่อยหรอ"

ทันทีที่ได้ยินคำตอบจากปากเพื่อน นับหนึ่งก็ทำหน้าเหวอ

"เชี่ย เกือบซวยละกู มีรุ่นพี่ได้ยินที่กูพูดเมื่อกี้ป่าววะ" นับหนึ่งหันไปปรึกษาวินกับทิว ทั้งสองคนก็ขำกับท่าทีของนับหนึ่ง

"ฮ่าๆ มึงนี่นะ ทีตอนพูดเมื่อกี้หล่ะไม่คิด" วินว่าเพื่อนแล้วก็หัวเราะ

"ตอนเข้าเชียร์มึงเสร็จแน่ไอ้นับ พี่ว้ากจับมึงไปขังเดี่ยวแน่ๆ ฮ่าๆ" ทิวขู่นับหนึ่ง จนเจ้าตัวนึกภาพตามว่าโดนพี่ว้ากรุมด่าอยู่คนเดียว

"เชี่ย ไม่หรอกเว้ย วันนี้สาขาเราเรียนจนเย็น ไม่ได้เข้าเชียร์"

"พรุ่งนี้ก็ยังมี มึงไม่รอดแน่ไอ้เด็กแว่น ฮ่าๆ"

"ไอ้วิน มึงอย่าขู่กูดิ ถ้ากูโดนแบบที่ไอ้ทิวบอกจริงๆ มึงสองคนต้องช่วยกูนะ ไอ้วิน ไอ้ทิว" นับหนึ่งบอกเพื่อนด้วยหน้าตาเลิกลั่ก จนเพื่อนๆที่อยู่ตรงนั้น อดขำไม่ได้กับท่าทางของนับหนึ่ง


"นับหนึ่งนี่โคตรน่ารักเลยเนอะ"

"ใช่ๆ ดูโก๊ะๆ น่ารักน่ากอด แบบอยากได้เป็นตุ๊กตาวางไว้บนเตียงนอนเลยอ่ะ"

"ได้ข่าวว่าพี่ชายของนับหนึ่งก็หล่อนะ แถมยังเป็นอาจารย์สอนที่นี่ด้วยหล่ะ"

"พี่ชายคนกลางก็หล่อ เราเคยเห็นตอนขับรถมาส่งนับหนึ่งที่หน้าคณะ"

กลุ่มเพื่อนผู้หญิงพากันพูดถึงนับหนึ่ง โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ยิน




ตอนเย็นหลังจากเรียนเสร็จเวลาหนึ่งทุ่ม



"เฮ้อ โคตรปวดหัวเลย วันนี้เรียนเต็มๆทั้งวัน" วินพูดพลางทำท่าบิดขี้เกียจ

"กูนี่ล่องลอยละครับ หิวข้าว หิวขนม หิวนม" นับหนึ่งบ่นออกมา

"ห้ะ หิวนม" ทิวพูดออกมา

'อือ นมอุ่นๆก่อนนอนซักแก้วนะ หลับสบาย" นับหนึ่งหันไปบอกทิว ทิวก็พยักหน้าเข้าใจ

"มึง กูว่าเรารีบกลับกันเหอะ เหมือนฝนจะตกว่ะ มึงโทรบอกพี่ธารายัง"

"มันไลน์มาบอกกูละว่ารออยู่ที่คณะเราแล้วอ่ะ วันนี้มันมาดูเชียร์ของคณะเรา"

"พี่ธาราอ่ะนะ มาดูเชียร์ของคณะเรา" วินหันมาถามนับหนึ่ง

"อือ มันบอกว่ามันเป็นผู้ตรวจการณ์อะไรซักอย่างนี่แหล่ะ สโมสรนักศึกษามั้ง"

"อ๋อ"

"เออ ไอ้ทิว มึงก็รีบกลับห้องเลย เดี๋ยวฝนตกหนักจะกลับไม่ได้" วินหันไปบอกทิว ทิวก็พยักหน้าให้


ทั้งสามคนเดินลงมาถึงหน้าตึก ทิวก็แยกตัวไปเพื่อกลับหอ นับหนึ่งกับวินก็เดินไปรอธารามารับตรงจุดที่นัดกันไว้


เมี้ยว....เมี้ยว....


"เสียงแมวร้อง" นับหนึ่งพูดออกมา พลางมองหาต้นเสียงว่ามาจากไหน


เมี้ยว...เมี้ยวว


นับหนึ่งกับวินช่วยกันมองหาแมว


"นั่นไงไอ้วิน แมวมันอยู่บนต้นไม้" นับหนึ่งบอกวินแล้วก็ชี้มือไปที่ต้นไม้ที่มีแมวปีนขึ้นไปติดอยู่บนนั้น มันคงจะหนีหมาที่ไล่กัด


"เอาไงดีวะ จะเอามันลงมายังไงอ่ะ" นับหนึ่งปรึกษาวิน

"มึงยืนดูมันก่อนนะ เดี๋ยวกูไปหาไม้ยาวๆมาเขี่ยมันลง" วินบอกนับหนึ่งแล้วก็วิ่งไปหาไม้


นับหนึ่งเดินเข้าไปออกแรงเขย่าต้นไม้ เผื่อว่าแมวจะตกลงมา แต่นั่นกลับทำให้แมวเกาะแน่นขึ้นไปอีกเพราะกลัวตก


จู่ๆ ฝนก็เทกระหน่ำลงมา นับหนึ่งหลบฝนไม่ทันก็เปียกฝน  แมวน้อยตัวนั้นก็ยิ่งร้องดังไปกันใหญ่


"ไอ้นับ พี่ธารามาแล้ว ขึ้นรถเถอะ" เสียงวินตะโกนเรียกนับหนึ่ง


"แล้วแมวหล่ะ จะปล่อยมันไว้อย่างนี้หรอ"


"เออ กลับบ้านก่อน เดี๋ยวมันก็ลงมาได้เองแหล่ะ"


"มึงบอกให้พี่ธารารอก่อน กูขอเอาแมวลงมาก่อน มันเปียกฝน สงสารมัน ไหนๆกูก็เปียกละ" นับหนึ่งบอกวิน แล้วเขาก็ออกแรงเขย่าต้นไม้นั้นอีก



เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงง



"เชี่ยยยย" นับหนึ่งนั่งก้มหน้าด้วยความกลัว เขากลัวเสียงฟ้าร้องมากที่สุด


เมี้ยว....เมี้ยววววว


เสียงแมวน้อยร้องอยู่ใกล้ๆนับหนึ่ง เขาค่อยๆลืมตาเงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าเจ้าแมวน้อยตกลงมายืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้านับหนึ่ง มันวิ่งเข้ามาหานับหนึ่งที่ก็นั่งตัวสั่นด้วยความกลัวเสียงฟ้าร้องอยู่เช่นกัน


"คุณ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ มานั่งตากฝนทำไม" เสียงที่คุ้นหูดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนนั่งลงข้างๆนับหนึ่ง เขาค่อยๆหันไปมอง


"พี่ประธานเชียร์" นับหนึ่งพูดออกมาเบาๆ


"ทำไมยังไม่กลับบ้านอีกครับ"

"เอ่อ แมวครับ มันติดอยู่บนต้นไม้ผมพยายามช่วยมันลงมา"


"ไอ้นับ เป็นไงบ้าง" พี่ธาราวิ่งมาดึงตัวนับหนึ่งให้ยืนขึ้น

เขายืนขึ้นมาพร้อมกับแมวน้อยที่นอนขดตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของนับหนึ่ง


"ไอ้...." พี่ธารากำลังจะเอ่ยปากเรียก พี่ประธานเชียร์ แต่ก็โดนพี่ประธานเชียร์ดึงตัวออกไปซะก่อน


"ทำเป็นไม่รู้จักกู อย่าเพิ่งให้น้องๆรู้ว่ากูเป็นใคร" เก้าบอกกับธารา ธาราก็พยักหน้าเข้าใจ เพราะเขารู้ว่าบทบาทประธานเชียร์จะเปิดเผยกับน้องๆปีหนึ่งไม่ได้


"ป่ะ ไอ้นับ กลับบ้านกัน" ธาราเดินกลับมาดึงตัวนับหนึ่งให้ไปที่รถ


"แล้วแมวหล่ะครับ"


"ส่งมันมาให้ผม เดี๋ยวผมดูแลมันเอง"


"ครับพี่ งั้นผมฝากไอ้เสือด้วยนะครับ" นับหนึ่งพูดกับพี่ประธานเชียร์พร้อมกับส่งแมวสีส้มที่เขาตั้งชื่อให้ว่า ไอ้เสือ ไปให้ ก่อนที่จะเดินกลับไปขึ้นรถกลับบ้าน


ที่ห้องสโมสรคณะ

เก้าอุ้มแมวน้อยกลับมาที่ห้องสโมรสรนักศึกษาของคณะ อันเป็นที่รวมพลของทีมงานกิจกรรมเชียร์ สตาฟต่างๆก็พากันมาประชุมสรุปงานกันที่ห้องนี้


"อ่าว ไอ้ประธานเชียร์ ไปเอาลูกแมวมาจากไหนวะนั่น"

"หน้าตึกอ่ะ สงสารมันเลยเอามา"

"อู้ยยย ดูสิ ตัวสั่นน่าสงสาร มาๆเดี๋ยวเราเอาไปดูแลให้"

"อืม ฝากด้วยนะ เราไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน"


ชื่อไอ้เสือหรอ เดี๋ยวไปเป็นแมวชมรมก็แล้วกันนะ ไอ้เสือ เก้าคิดในใจแล้วก็ยื่นแมวส่งให้เพื่อน อีกใจหนึ่งเขาก็นึกถึงเด็กแว่น ได้ใกล้กันขนาดนี้แต่ก็ทำความรู้จักกันไม่ได้


ไอ้เสืออออ :t3:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ไอ้เสือ มีคนคอยดูแลแล้ว

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7

ตอนที่.7 : ผมยังไม่ใช่พี่คุณ


"ไง เปียกเป็นหมาเลยมึง" ธาราหันไปว่าน้องชายที่นั่งตัวสั่นอยู่ข้างๆ พลางเอี้ยวตัวไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กๆที่เบาะหลังของรถ

"อ่ะ เอาไปคลุมตัวไว้ก่อน เดี๋ยวจะเป็นหวัด" เขาส่งผ้าห่มผืนนั้นให้น้องชาย

"ขอบคุณครับ" นับหนึ่งพูดขอบคุณพี่ชายแล้วรับผ้ามาห่มคลุมตัวที่เปียกปอนเอาไว้ แต่ถึงยังไงเขาก็ยังหนาวสั่นอยู่ดี

"พี่ธารามาทำอะไรที่คณะผมหรอครับ" วิน ที่นั่งอยู่ด้านหลังเอ่ยปากถามขึ้น

"พี่มาตรวจกิจกรรมเชียร์ของคณะเกษตรครับ"

"ทำไมต้องตรวจด้วยอ่ะครับ" นับหนึ่งหันมาถามพี่ชายด้วยความสงสัย

"ก็ เผื่อว่ามีการใช้ความรุนแรง หรือทำเกินกว่าเหตุ จะได้สั่งระงับกิจกรรมได้ไง" ธาราหันมาบอกน้องชาย

"ผมว่าก็ไม่ค่อยรุนแรงนะครับ แต่บางทีก็โดนสั่งวิดพื้นบ้าง สตาฟเสียงดังบ้าง แรกๆก็กลัวแต่ตอนนี้ผมชินละครับ วันนี้พวกผมมีเรียนก็เลยไม่ได้ไปเข้าเชียร์ครับ" วินบอกกับธารา

"แล้วมึงอ่ะไอ้นับ เป็นไงบ้าง" ธาราถามนับหนึ่ง ในขณะที่อีกฝ่ายนั่งเหม่อคิดถึงชะตากรรมของแมวน้อยตัวนั้น ไอ้เสือ ของนับหนึ่ง

"ไอ้นับ..ไอ้นับ" วินเอื้อมมือมาตบไหล่นับหนึ่งเบาๆ

"อื้อ มีไร มึงมีไรไอ้วิน" นับหนึ่งสะดุ้งตื่นจากภวังค์แล้วหันไปถามวินด้วยหน้าตาตื่นๆ

"ก็พี่ธาราถามมึงว่าเข้าเชียร์เป็นยังไงบ้าง มึงก็เอาแต่นั่งเหม่อ มัวคิดถึงใครอยู่วะ ฮ่าๆ" วินพูดแล้วก็หัวเราะกับท่าทางของนับหนึ่ง

"เป็นเอามากนะมึงเนี่ย ไอ้เด็กแว่น" ธาราว่าน้องชายแล้วก็เอามือมาขยี้ผมบนหัวของนับหนึ่งเล่น

"ก็..ดีครับ สนุกดี พอทนได้" นับหนึ่งตอบธารา

"เออ พี่ธาราครับ พี่รู้จักกับพี่ประธานเชียร์ด้วยหรอครับ" วินถามธารา

"ประธานเชียร์ คนไหนหรอ?"

"ก็คนที่มาเอาลูกแมวไปไง นั่นแหล่ะประธานเชียร์"  นับหนึ่งตอบพี่ชาย

"ใช่ครับพี่ธารา พี่คนนั้นแหล่ะคือประธานเชียร์ เพื่อนๆผู้หญิงกรี้ดมากเลยครับ แต่ผมว่าพี่เขาก็หล่อ เท่ห์ดีด้วย ผมอยากเป็นประธานเชียร์แบบนั้นบ้างจัง" วินบอกกับธารา

"ก็เท่ห์ดีนะ แต่ชนผมจนจานข้าวตกแล้วไม่ช่วยเก็บ นิสัยไม่ดีเลยครับ แย่มากๆ" นับหนึ่งได้โอกาสฟ้องพี่

ธาราได้ยินที่นับหนึ่งกับวินพูดถึงเก้า ก็ยิ้มออกมา นี่ถ้าทั้งสองคนรู้ว่าเขารู้จักกับเก้า คงตกใจ

"เรื่องที่มันชนมึง เดี๋ยวกูไปบอกมันให้นะ ให้มันมาขอโทษมึง เอามั้ย" ธาราถามนับหนึ่ง

"เฮ้ย ไม่เอาๆ พี่อย่าไปบอกนะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ช่างเหอะ" นับหนึ่งรีบบอกธารา หัวใจของเขาเต้นแรง เพราะกลัวว่าพี่ชายจะเอาเรื่องไปบอกกับพี่ประธานเชียร์จริงๆ

"โถ่...ไอ้นับ กูก็นึกว่าจะแน่ มึงยังบอกว่าจะต่อยเขาอยู่เลย ฮ่าๆ" วินได้ทีซ้ำเติมเพื่อน แล้วก็หัวเราะ

"ก็ตอนแรกกูไม่รู้ว่าเป็นพี่ประธานเชียร์นี่หว่า แล้วนี่เขาจะดูแลแมวให้กูดีป่าววะ แล้วกูจะได้เจอแมวตัวนั้นอีกมั้ยวะ"

"พรุ่งนี้มึงเจอพี่เขามึงก็เข้าไปถามสิ จะได้รู้ว่าแมวตัวนั้นเป็นยังไงบ้าง" วินบอกนับหนึ่ง

"เออ พรุ่งนี้ ตอนจบเชียร์เดี๋ยวกูไปถามพี่เขาดีกว่า" นับหนึ่งพูดออกมาด้วยความสบายใจ พลางคิดไปถึงเหตุการณ์พรุ่งนี้ เขาจะต้องได้เจอไอ้เสือ ลูกแมวที่เขาช่วยเอาไว้

"พี่ธารา ผมซื้ออาหารแมวไปให้พี่เขาดีไหมอ่ะ เขาจะได้เอาไปให้ไอ้เสือกิน"

"นี่มึงตั้งชื่อแมวแล้วด้วย" ธาราถามน้องชาย พร้อมกับยิ้มออกมา

"ครับ มันชื่อไอ้เสือ เพราะตัวมันลายสีส้มเหมือนเสือเลย"

"เออๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้พาแวะซื้ออาหารแมว"

"ขอบคุณคร้าบ พี่ชายผมโคตรใจดีเลย"


ทั้งสามคนกลับมาถึงบ้าน ฝนก็ยังคงตกอยู่


"ขอบคุณครับพี่ธารา"

"ไอ้นับกูไปบ้านก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้เว้ย" วินลงจากรถแล้วก็ขอบคุณธาราที่มาส่ง แล้วก็หันไปพูดกับนับหนึ่งก่อนจะกลับไปที่บ้านของตัวเอง

"เออ เจอกันพรุ่งนี้" นับหนึ่งบอกวินแล้วก็เข้าบ้านไปพร้อมกับธารา

"รีบไปอาบน้ำสระผมเลย เดี๋ยวเป็นหวัด"

"คร้าบ" นับหนึ่งรับคำพี่ชายแล้วก็รีบขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ


ที่ห้องชมรมเกษตร

"นอนตรงนี้แล้วกันนะไอ้เสือ" เก้า วางกรงของเจ้าเสือไว้ในห้องของชมรมเกษตร จริงๆมันเป็นห้องประชุม แต่เขากับเพื่อนๆมักจะมานอนที่นี่ เวลาต้องเตรียมงานทำกิจกรรมต่างๆของคณะ ซึ่งชมรมจะเป็นที่ๆทุกคนมักจะมานั่งเล่น พักผ่อน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือแม้กระทั่งมาทำกับข้าวกินร่วมกัน

"ไอ้ตัง ชมรมเรามีอาหารแมวป่าววะ" เก้าหันไปถามข้าวตัง เพื่อนสนิทของเขา

"ไม่มีหรอก มึงเดินไปถามชมรมสัตวบาลสิ มีแน่นอน"

"เออ ใช่ๆ งั้นเดี๋ยวกูมา มึงดูแมวไว้ก่อนนะ" เก้าบอกกับข้าวตัง แล้วเขาก็เดินออกไปที่ชมรมสัตวบาล ซึ่งเรียกกันสั้นๆว่า คลีนิก เพราะที่นี่จะเป็นที่ที่รับฉีดวัคซีน ทำหมันให้กับสัตว์เลี้ยงฟรีๆ คนทั่วไปก็เลยเรียกว่าคลีนิก

ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับอาหารเม็ดสำหรับลูกแมว เก้านั่งป้อนอาหารให้เจ้าเสือ แมวน้อยกินด้วยความหิว

"ดูแลดีจริงนะมึง สรุปว่ามึงไปได้มาจากไหนวะ" ข้าวตังถามเก้าพร้อมกับอุ้มเจ้าเสือไปเล่น

"น้องปีหนึ่งช่วยมันไว้ กูก็เลยเอากลับมาดูแลต่อ กะว่าเอามาเป็นแมวชมรมเนี่ย" เก้าบอกกับข้าวตัง

"อ๋อ โชคดีไปนะไอ้เสือ มาอยู่ชมรมอ้วนเป็นหมูแน่ๆ ตัวผู้ซะด้วย" ข้าวตังพูดกับเจ้าเสือที่ทำหน้าตาเด๋อด๋า คงจะแปลกที่แปลกทาง

"มึงต้องเตรียมของอีกเยอะเลยนะถ้าจะเลี้ยงมันไว้ที่นี่จริงๆ"

"ต้องเตรียมอะไรวะ" เก้าถามข้าวตัง

"เอ้า นี่มึงไม่เคยเลี้ยงแมวหรอ มันก็ต้องมีเบาะนอน กระบะทรายไว้ขี้เยี่ยว ชามใส่ข้าว ใส่น้ำ มึงจะมาเลี้ยงมันทิ้งๆขว้างๆไม่ได้นะ" ข้าวตังบอกกับเก้า

"เออๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูให้เพื่อนผู้หญิงจัดการให้ เห้อ ไอ้เสือ จะเลี้ยงมึงนี่ มากเรื่องจังวะ" เก้าพูดกับแมวน้อย


เมี้ยววววววว


"เห็นมั้ย มันรู้ด้วยว่ามึงพูดอะไร ฮ่าๆ" ข้าวตังบอกกับเก้าแล้วก็หัวเราะออกมา


เก้านั่งมองเจ้าเสือที่ตอนนี้ กำลังเดินสำรวจรอบๆห้องชมรม มันดมนู่น ดมนี่ เจออะไรก็เอาเท้าเขี่ยเล่นตามประสาแมวที่กำลังซุกซน เขานั่งคิดไปถึงเด็กแว่น ที่ช่วยแมวตัวนี้เอาไว้


"ฮึ...ไอ้เด็กแว่น ตากฝนช่วยแมว ขอให้ไม่เป็นหวัดนะ" เก้าพูดออกมาเบาๆ แล้วก็ยิ้มเมื่อเขาคิดถึงใบหน้าเซ่อซ่าของเด็กแว่นคนนั้น


ที่ห้องนอนของนับหนึ่ง


ฮัด...เช้ยยยยย..!!


"ใครนินทากูวะเนี่ย" นับหนึ่งพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับทำจมูกฝืดๆ

"ไงหล่ะ หวัดกินแน่ๆ มากินยาแล้วค่อยนอน" ธาราเข้ามาในห้องพร้อมกับยาและแก้วน้ำ

"ขอบคุณครับ" นับหนึ่งขอบคุณพี่ชายแล้วก็รับยามากิน

"ฝนแม่งตกทั้งคืนแน่ๆ" ธาราพูดพลางเดินไปดูตรงหน้าต่าง พร้อมกับปิดม่าน

"ไม่ต้องปิดม่านหรอกครับ ผมอยากนอนดูฝนตก"

"เดี๋ยวฟ้าแลบฟ้าร้องมึงก็นอนไม่ได้อีก" ธาราหันมาว่าน้องชาย

"พี่ก็มานอนกับผมดิ น้าาามานอนด้วยกัน" นับหนึ่งได้ทีอ้อนพี่ชาย

"เออๆ เดี๋ยวไปปิดแอร์ที่ห้องก่อน"

"มาเร็วๆนะคร้าบ ผมกลัว"

"อ้อนตีนใช่มั้ยเนี่ย" ธาราพูด แต่เขาก็ยิ้มด้วยความเอ็นดูน้องชาย



ตอนเช้า ธารา นับหนึ่ง และอนาวินก็พากันออกจากบ้านไปเรียน

"อย่าลืมแวะซื้ออาหารแมวนะครับ"

"เออ รู้แล้วน่า"

"เออ ไอ้นับ ถ้าวันนี้มึงไม่ได้เจอไอ้เสือ จะทำยังไงวะ" วินถามนับหนึ่ง

"ได้เจอดิ ยังไงเราก็ต้องเจอพี่ประธานเชียร์อยู่ดี แค่เข้าไปถามเขาก็คงจะบอกมั้งว่าไอ้เสืออยู่ที่ไหน"

"แล้วถ้าเขาไม่คุยกับมึงอ่ะ ขนาดชนมึงจนจานข้าวตกเขายังไม่ช่วยเก็บเลย"

"แต่เมื่อวานเขาก็คุยกับกูนะ ยังถามเรื่องไอ้เสืออยู่เลย แล้วเขาก็เป็นคนเอาไอ้เสือไปดูแลต่อ"

"เออๆ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อนมึงละกัน" วินบอกนับหนึ่ง นับหนึ่งก็พยักหน้าให้เพื่อน


วันนั้นทั้งวัน นับหนึ่งแทบไม่เป็นอันเรียน เขามัวแต่นั่งคิดถึงไอ้เสือ แมวตัวน้อยที่เขาช่วยเอาไว้


"อยากเข้าเชียร์เร็วๆว่ะ" นับหนึ่งพูดขึ้น

"เชี่ย ไอ้นับ มึงเป็นไรวะวันนี้ เกิดอยากเข้าเชียร์ขึ้นมา" ทิวหันมาถามเพื่อนด้วยความแปลกใจ

"ก็เมื่อวานนี้ตอนที่แยกย้ายกันกลับบ้าน แล้วฝนตก ไอ้นับแม่งช่วยแมวเอาไว้แล้วพี่ประธานเชียร์ก็เอาไปดูแลต่อ" วินเล่าเรื่องราวให้ทิวฟัง

"เชี่ย พี่ประธานเชียร์ซะด้วย" ทิวพูดด้วยความตกใจ

"วันนี้ไอ้นับก็เลยจะรอถามพี่ประธานเชียร์ว่าเอาแมวไปไว้ที่ไหน มันก็เลยมีอาการอย่างที่เห็นนี่แหล่ะ" วินบอกกับทิว

"อือ เข้าใจละ ว่าแต่ พี่ประธานเชียร์เขาจะคุยกับมึงหรอวะไอ้นับ กูเห็นแม่งทำตัวลึกลับจะตาย ขี้เก็กอีกต่างหาก" ทิวบอกกับนับหนึ่ง

"ไม่รู้ดิ ก็ต้องลองเข้าไปถามดูก่อนอ่ะ เพราะมีพี่เขาคนเดียวที่จะรู้ว่าไอ้เสืออยู่ที่ไหน" นับหนึ่งบอกกับทิว ตอนนี้เขาเริ่มเกิดอาการไม่แน่ใจที่จะได้เข้าไปคุยกับพี่ประธานเชียร์ซะแล้ว ไม่แน่วันนี้เขาอาจจะไม่ได้เจอไอ้เสือก็ได้


หลังจากจบกิจกรรมเชียร์ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่หนักหน่วงมาก นับหนึ่งและเพื่อนๆผู้ชายโดนสั่งทำโทษด้วยการวิดพื้นไปหลายครั้ง ส่วนเพื่อนผู้หญิงก็โดนสั่งทำโทษด้วยการลุกนั่ง และแน่นอนคนที่สั่งก็คือไอ้พี่ประธานเชียร์คนนั้นนั่นเอง


"แม่ง ใจร้าย ไอ้พี่ประธานเชียร์ ระบมแขนไปหมดเลยเนี่ย" นับหนึ่งบ่นกับวินและทิวพร้อมกับเอามือนวดๆแขนของตัวเอง


"อ่าว เชี่ยนับ เมื่อตอนบ่ายมึงยังบ่นว่าอยากเจอพี่เขาอยู่เลย ตอนนี้มาว่าเขาใจร้ายซะแล้ว" ทิวพูดกับนับหนึ่งแล้วก็หัวเราะออกมา


"เฮ้ย ไอ้นับ นั่นๆ พี่ประธานเชียร์ รีบตามไปเลยมึง" วินบอกนับหนึ่งพร้อมกับชี้ให้ดูร่างสูงของเก้า ที่กำลังเดินไปที่ไหนซักแห่ง นับหนึ่งก็วิ่งตามไป


"พี่ครับ หยุดก่อน พี่ประธานเชียร์ หยุดก่อนครับ" นับหนึ่งวิ่งตาม พลางตะโกนเรียกพี่ประธานเชียร์ของเขา


เก้าที่กำลังเดินไปห้องกิจกรรม ได้ยินเสียงเรียกก็หยุดชะงัก เขาหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเด็กแว่นนับหนึ่งกำลังวิ่งมาหาเขา


"เชี่ยละ ไอ้เด็กแว่น เดี๋ยวสตาฟคนอื่นเห็นมึงจะซวย" เก้าพูดเบาๆกับตัวเอง เพราะถ้ามีสตาฟคนอื่นมาเห็นว่านับหนึ่งคุยกับเขา นับหนึ่งจะต้องโดนสตาฟเล่นงานเอาแน่ๆ


"พี่ประธานเชียร์ครับ"


นับหนึ่งเรียกเก้า พร้อมกับหยุดยืนหอบ แฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อย เก้ายืนหันหลังให้รุ่นน้องเด็กแว่นที่เขาอยากเจอนักหนา แต่ไม่ใช่ในช่วงเวลานี้


"คุณ กลับไปซะ" เขาออกปากสั่งรุ่นน้อง ด้วยน้ำเสียงเข้มดุ แต่ก็ไม่ได้หันหน้ามามองคนที่อยู่ข้างหลัง

"พี่ครับผมอยากรู้ว่า..."


"ผมบอกให้คุณกลับไป"


"แต่พี่ครับ..." นับหนึ่งพยายามจะถามเก้าเรื่องไอ้เสือ


"ผมยังไม่ใช่พี่คุณ กลับไปเดี๋ยวนี้" เก้าหันมาตวาดใส่นับหนึ่ง ทำเอาคนโดนตวาด ตกใจ


หลังจากตวาดรุ่นน้องเด็กแว่นเสร็จ เขาก็ฝืนใจเดินต่อไป เพื่อไม่ให้รุ่นน้องโดนทำโทษจากสตาฟคนอื่นๆที่อาจจะบังเอิญผ่านมาเห็น


"ผมแค่จะถามเรื่องแมว"


"ทำไมผมคุยกับพี่ไม่ได้อ่ะ ทำไม"


"ไอ้พี่...แม่งงงง" นับหนึ่งตะโกนไล่หลังร่างสูงที่เดินจากเขาไป ด้วยความโมโห


"ไอ้นับ มึงใจเย็นๆก่อน" วินกับทิววิ่งเข้ามาหานับหนึ่ง พร้อมกับพูดปลอบใจเพื่อน


"ใจเย็นก่อนไอ้นับ พี่เขาอาจจะรีบก็ได้"


"ไอ้เด็กแว่น พี่ขอโทษ อยากคุยด้วยนะ แต่ไม่ใช่วันนี้" เก้าพูดกับตัวเองด้วยความรู้สึกเสียใจที่ต้องตวาดน้องกลับไปแบบนั้น



สุดใจร้ายอ่ะ พี่ประธานเชียร์  :angry2: :m16:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ใจร้ายจังครับ,,,

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เดี๋ยวน้องไม่คุยด้วยจะรู้สึก

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องนับอย่าเพิ่งร้องนะครับ พี่เก้าเขาต้องวางตัว //รอพี่เขาก่อนเนอะ

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7


ตอนที่.8 : ร้ายมาร้ายกลับไม่โกง



"เชี่ย ไอ้พี่ประธานเชียร์แม่ง" นับหนึ่งแสดงความไม่พอใจออกมา จนวินและทิวต้องเข้ามาช่วยสงบสติอารมณ์

"ไอ้นับ ใจเย็นๆก่อนมึง พี่เขาอาจจะมีเหตุผลของเขาก็ได้ มึงนั่งลงก่อน" วินเข้าไปพูดกับนับหนึ่งพร้อมกับดันไหล่นับหนึ่งให้นั่งลงที่โต๊ะไม้หินอ่อน

นับหนึ่งยังคงมีอารมณ์คุกรุ่น นอกจากเขาจะไม่ได้เจอไอ้เสือแล้ว พอคิดถึงคำว่า "ผมยังไม่ใช่พี่คุณ" ที่พี่ประธานเชียร์พูดกับเขาเมื่อกี้ก็ยิ่งทำให้โมโห

"ถ้าพวกมึงได้ยินที่ไอ้พี่ประธานเชียร์แม่งพูดนะ มึงต้องโมโหเหมือนกู" นับหนึ่งบอกกับวินและทิว

"พี่เขาพูดอะไรกับมึงวะ ถึงทำให้มึงโมโหขนาดนี้" ทิวถามนับหนึ่ง

"ก็แม่งไล่กู แล้วบอกว่า ผมยังไม่ใช่พี่คุณ"

"เห้ย พูดแบบนี้เลยหรอ" ทิวพูดออกมาด้วยความตกใจ

"ก็เออดิ ก็ได้ ในเมื่อแม่งพูดแบบนี้ กูก็ไม่ใช่น้องมันเหมือนกัน" นับหนึ่งพูดออกมา ทำเอาวินถึงกับตกใจ เพราะเขาไม่เคยเห็นนับหนึ่งแสดงความก้าวร้าวออกมาขนาดนี้

"เดี๋ยวๆ ไอ้นับ มึงใจเย็นๆก่อน จะพูดอะไรคิดให้ดีก่อน พี่เขาก็คงมีเหตุผลของเขา" วินนั่งลงข้างๆนับหนึ่งเขาเอามือไปลูบไหล่ของนับหนึ่งเบาๆ เผื่อว่าจะช่วยให้เพื่อนอารมณ์เย็นลงได้

"นั่น ใช่พี่ตังป่าววะ" ทิวชี้ให้วินกับนับหนึ่งดูรุ่นพี่คนหนึ่งที่กำลังเดินเข้าไปในตึก

"เออ ใช่ๆพี่ตังเพื่อนพี่ประธานเชียร์ เขาอาจจะไปหาพี่ประธานเชียร์ก็ได้นะ มึงฝากเอาอาหารแมวไปให้พี่เขาดิ" วินบอกกับนับหนึ่ง

"พี่ครับ พี่ตังครับ" วินและทิวส่งเสียงเรียกข้าวตัง ที่กำลังจะเดินไปห้องสโมสรคณะ ทำเอาข้าวตังหยุดชะงักกับเสียงเรียกของน้องๆ

ทั้งสามคนวิ่งไปหาข้าวตัง ที่หยุดรอพวกเขาอยู่

"อ่าว มีอะไรกันครับเนี่ยเด็กๆ ยังไม่กลับบ้านอีกหรอ"

"ผมรอพี่ชายมารับอ่ะครับ" นับหนึ่งบอกกับข้าวตัง

"เอ่อ พี่ตังครับ พี่เห็นพี่ประธานเชียร์เอาลูกแมวไปบ้างหรือเปล่าครับ" นับหนึ่งถามข้าวตัง อีกฝ่ายทำหน้าครุ่นคิด

"ประธานเชียร์หรอ มีลูกแมวด้วย" ข้าวตังพูดออกมาเบาๆ และเขาก็นึกได้ว่าคงจะเป็นลูกแมวที่เก้าเอาไปเลี้ยงที่ชมรม

"อ้อ นึกออกละครับ ตอนนี้มันไปอยู่ที่ห้องชมรมละ มีคนดูแลอย่างดี นี่อย่าบอกนะว่าพวกเราเป็นคนจับแมวตัวนั้นได้อ่ะ" ข้าวตังถามทั้งสามคน

"ไม่ใช่พวกผมหรอกครับ ไอ้นับครับ ไอ้นับเป็นคนจับได้ แล้วพี่ประธานเชียร์ก็เอาไปดูแล" วินบอกกับข้าวตัง

"อ่อ น้องนับนี่เองที่เป็นคนช่วยแมวตัวนั้นไว้ มันชื่อไอ้เสือใช่มั้ย"

"ใช่ครับพี่ ถ้าผมจะไปหาไอ้เสือได้หรือเปล่าครับ" นับหนึ่งพูดออกมาด้วยความดีใจ สีหน้าของเขาดีขึ้น ที่รู้ว่าแมวที่ตัวเองช่วยไว้ยังอยู่ดี

"ได้สิครับ แต่คงไม่ใช่วันนี้นะ พี่ไม่มีเวลาแล้ว ต้องไปประชุมน่ะ"

"อ่อ ครับพี่ เสียดายจัง ผมอยากเจอไอ้เสือ" นับหนึ่งบอกกับข้าวตัง ด้วยสีหน้าผิดหวังที่จะไม่ได้ไปเจอไอ้เสือ

ข้าวตังมองน้องเด็กแว่นทำหน้าสลดก็ยิ้มด้วยความเอ็นดู

"พรุ่งนี้นะครับ เดี๋ยวพี่พาไปหาไอ้เสือเอง พี่สัญญา"

"เย้ จริงๆนะครับพี่ตัง งั้นวันนี้ผมฝากเอาอาหารไปให้ไอ้เสือหน่อยนะครับ" นับหนึ่งพูดแล้วก็ยื่นถุงอาหารแมวที่ซื้อมาให้กับข้าวตัง ข้าวตังก็รับไป

"ขอบคุณพี่ตังนะครับ" ทั้งสามคนขอบคุณข้าวตังแล้วก็ขอตัวกลับ เพราะรถของธาราขับมาจอดรอนับหนึ่งกับวินพอดี

"ไอ้ทิว เจอกันพรุ่งนี้นะ กูกลับบ้านก่อนพี่มารับละ" นับหนึ่งบอกทิว แล้วก็วิ่งไปขึ้นรถของธาราที่จอดรออยู่ด้วยความโล่งใจ อย่างน้อยพรุ่งนี้เขาก็จะได้เจอไอ้เสือ

ทิวมองตามรถของธาราที่ิวิ่งออกไป ในใจของเขาก็นึกอิจฉานับหนึ่งกับวิน ที่มีพี่คอยขับรถมารับมาส่ง ไม่เหมือนกับตัวเองที่กลับห้องไปก็ต้องมีปัญหากับพี่ชายทุกที


"เฮ้อ...สบายใจละ พรุ่งนี้พี่ตังจะพาไปหาไอ้เสือ" นับหนึ่งพูดออกมาด้วยความสบายใจ

"กูไปด้วยนะ" วินบอกนับหนึ่ง

''มึงต้องไปกับกูอยู่แล้วไอ้วิน แล้วมึงจะหลงรักไอ้เสือ"

"เออ พี่ตังแม่งโคตรดีเลยเนอะ ไม่เหมือนไอ้พี่ประธานเชียร์ ไม่ใช่สิ แม่งไม่ใช่พี่กู"

"เชี่ยนับ ไม่เอาอย่าพูดแบบนี้เลยมึง" วินเอื้อมมือมาตบไหล่นับหนึ่งเบาๆ

"อะไร มีปัญหาอะไรกับไอ้ประธานเชียร์อีก" ธาราที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยปากถามน้องชาย

"ไอ้นับมันโกรธพี่ประธานเชียร์ครับพี่ธารา" วินบอกกับธารา

"ก็วันเนี้ย ผมเขาไปถามกะว่าจะให้เขาพาไปดูไอ้เสือจะได้เอาอาหารไปให้มันด้วย แต่แม่งบอกผมว่า ผมยังไม่ใช่พี่คุณ แถมยังไล่ผมกลับอีกด้วยแล้วตัวเองก็เดินหนีไป จะไม่ให้โมโหได้ไงอ่ะ"

ธาราได้ยินที่นับหนึ่งฟ้อง ก็พอจะเข้าใจกับการกระทำของเก้า ที่แสดงท่าทีและคำพูดกับนับหนึ่งแบบนั้น เพราะนั่นเป็นกฏของประธานเชียร์ที่ห้ามพูดคุยกับน้องนักศึกษาใหม่นอกเหนือจากเวลาเข้ากิจกรรมเชียร์

"ประธานเชียร์มึงมันร้าย" ธาราบอกกับนับหนึ่ง เขาอยากรู้ว่าท่าทีของน้องชายจะเป็นยังไง

"ใช่พี่ แม่งร้าย พี่มาสั่งยุบกิจกรรมเชียร์ของคณะผมเลย นะๆ ประธานเชียร์แม่งจะได้หน้าแหก" นับหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงสะใจ

"มึงก็เกินไปไอ้นับ ยังไงเขาก็รุ่นพี่มึง เขาจะทำอะไรก็คงมีเหตุผล เดี๋ยวมึงก็รู้เอง" ธาราบอกกับน้องชาย

"ไม่รู้ ผมไม่รู้ รู้แต่ว่าเขาไม่ใช่พี่ผม และผมก็ไม่ใช่น้องเขา"

"เฮ้อ มึงนี่นะ เมื่อไหร่จะโตวะเนี่ย" ธาราว่าน้องชายพร้อมกับส่ายหัวในความงอแงของน้องชายตัวเอง



ที่ห้องสโมสรคณะเกษตร


"ไอ้เก้า อ่ะนี่ อาหารแมวของไอ้เสือ" ข้าวตังยื่นถุงอาหารแมวที่นับหนึ่งฝากมา ให้กับเก้าที่กำลังเล่นกับเจ้าเสืออยู่

"มึงซื้อมาหรอ" เก้าเงยหน้ามาถามข้าวตัง

"ไอ้น้องนับฝากมาให้"

"น้องนับเด็กแว่นที่น่ารักๆอ่ะนะข้าวตัง" เพื่อนผู้หญิงหันมาถามข้าวตัง ข้าวตังก็พยักหน้าให้

"ใช่แล้วครับ น้องนับหนึ่งนั่นแหล่ะ"

"นี่อย่าบอกนะว่าน้องปีหนึ่งที่เก้าบอกว่าช่วยแมวไว้ คือน้องนับหนึ่งอ่ะ"

"อืม ใช้" เก้าบอกกับเพื่อน

"หูย น่ารักอ่ะ นี่คงอยากจะเจอแมวที่ตัวเองช่วยไว้น่ะสิ เลยซื้ออาหารมาให้"

เก้าฟังที่เพื่อนผู้หญิงพูดก็ยิ่งนึกเสียใจกับเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น ไม่รู้ว่าเด็กแว่นจะโกรธหรือเปล่า
เขาหยิบถุงอาหารแมวมาไว้กับตัวเอง ถุงอาหารที่เด็กแว่นคงตั้งใจเอามาให้เขาไปให้ไอ้เสือกิน แต่ก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูด

"พี่ขอโทษนะ ไอ้เด็กแว่น" เก้าพึมพำเบาๆกับตัวเอง
 


ที่ห้องของทิว

ทิวกลับมาถึงห้อง เขาเข้าห้องไปก็เจอกับทาวน์ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียง ประตูระเบียงเปิดอยู่ทำให้กลิ่นบุหรี่เข้ามาในห้อง

"พี่ทาวน์ครับ ผมปิดประตูระเบียงนะครับ กลิ่นบุหรี่มันเข้ามาในห้องอ่ะ"

"ทำไมวะ ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ มึงก็ไปอยู่ที่อื่น กูอยู่ของกูมาก็ทำแบบนี้อ่ะ" ทาวน์หันมาว่าน้องชาย

"ไม่ปิดก็ได้ครับพี่ ขอโทษครับ" ทิวขอโทษพี่ชาย แล้วก็เปิดประตูระเบียงไปเหมือนเดิม

"เอาผ้าในตะกร้าลงไปซัก แล้วก็รอจนกว่าผ้าจะเสร็จค่อยขึ้นมา" ทาวน์สั่งทิวให้เอาผ้าไปซัก

"ครับพี่" ทิวหยิบเสื้อผ้าที่บางส่วนหล่นอยู่ที่พื้นใส่ตะกร้า แต่จังหวะที่ทิวยกตะกร้าผ้า มือไปโดนเสื้อบอลซึ่งเป็นผ้าลื่น ทำให้ตะกร้าผ้าหลุดมือ หล่นกระแทกพื้นห้อง ทาวน์รีบเข้ามาในห้องพร้อมกับต่อว่าน้องชาย

"มึงไม่พอใจหรอ แค่ให้เอาผ้าลงไปซักแค่นี้"

"ป่าวครับพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำหล่น"

"มึงประชดกู มึงมานี่" ทาวน์พูดแล้วก็ดึงคอเสื้อทิวเข้าไปหาแล้วก็ออกหมัดต่อยไปที่มุมปากของทิว จนล้มลงไป

''ไป มึงจะไปไหนก็ไป ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้เลย" ทาวน์ออกปากไล่น้องชายออกจากห้อง เขาเดินเข้ามาดึงตัวทิวขึ้นแล้วก็ผลักออกไปจากห้อง ก่อนที่จะปิดประตูล๊อกห้อง ไม่ให้ทิวเข้า

"พี่ทาวน์ ให้ผมเข้าห้องเถอะครับพี่ ผมขอโทษ" ทิวยืนเคาะประตูห้องเรียกทาวน์ แต่ทาวน์ก็ไม่ได้สนใจ เขายืนเรียกพี่ชายอยู่นาน แต่คนข้างในห้องก็ไม่สนใจ เขาก็เลยลงมานั่งที่โต๊ะไม้หินด้านล่างของหอ

ง่วงก็ง่วง เหนื่อยก็เหนื่อย หิวก็หิว ทิวก็เลยนั่งฟุบหลับที่โต๊ะไม้หินหน้าหอ


ข้าวตัง เสร็จจากประชุมที่ห้องสโมสรเขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับหอ เพื่อมาอาบน้ำแล้วก็จะกลับไปนอนที่ห้องชมรมกับเก้า ในขณะที่กำลังจะเดินเข้าหอ เขาก็เห็นคนฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ ตอนนี้เที่ยงคืนกว่าๆ เขาเดินเข้ามาดูว่าใครกันที่มาฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะในเวลานี้


"คุณ...คุณ" ข้าวตังเขย่าตัวคนที่ฟุบหลับอยู่เบาๆ พร้อมกับเอ่ยปากเรียก


ทิวงัวเงียตื่นขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นมาดูว่าใครกันที่มาปลุกเขา


"อ้าว น้องทิว ทำไมมาหลับอยู่ตรงนี้ครับเนี่ย แล้วปากไปโดนใครต่อยมา" ข้าวตัง ตกใจที่รู้ว่าคนที่เขาปลุกคือทิว น้องคณะของเขา แถมยังมีรอยช้ำที่มุมปากอีกด้วย


"ไม่มีอะไรครับพี่ตัง ผม เอ่อ..." ทิวไม่รู้ว่าจะตอบข้าวตังอย่างไรดี เขาเลยอ้ำๆอึ้งๆ

"มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ เข้าห้องไม่ได้หรอ ลืมกุญแจหรือรูมเมทไม่อยู่" ข้าวตังถามรุ่นน้องด้วยความเป็นห่วง

"เอ่อ ผม..."

"โอเค ไม่ต้องตอบพี่ละ ไปห้องพี่ก่อนก็แล้วกัน" ข้าวตังบอกกับทิว พร้อมกับดึงแขนทิวเพื่อให้ขึ้นห้องไปด้วยกัน


"ไอ้ทิว ขึ้นห้อง"

ทิวหันไปตามเสียงที่เรียกเขา ก็พบว่า ทาวน์พี่ชายของเขายืนอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าหอ เขารู้สึกแปลกใจ ที่อยู่ๆทำไมพี่ชายถึงลงมาเรียกเขาขึ้นห้อง ข้าวตังเองก็เกิดความสงสัยเช่นกันว่าผู้ชายคนนี้คือใคร แต่เมื่อดูแล้วใบหน้าของผู้ชายคนนั้นกับทิวคล้ายกันมาก คงจะเป็นพี่น้องกัน


"เอ่อ พี่ตังครับนี่พี่ชายผม" ทิวบอกข้าวตัง

"อ่อ โอเคครับ พี่ชายกลับมาพอดี งั้นน้องทิวกลับห้องเถอะครับ" ข้าวตังบอกทิว แล้วก็หันไปยิ้มให้ทาวน์ แต่อีกฝ่ายกลับแสดงสีหน้าเรียบเฉย

"ขอบคุณครับพี่ตัง" ทิวขอบคุณข้าวตังแล้วก็เดินเข้าหอไปพร้อมกับทาวน์

"ไอ้นั่นมันเป็นใคร" ทาวน์เอ่ยปากถามน้องชาย

"รุ่นพี่ที่คณะครับ"

"มึงจะขึ้นห้องกับมัน"

"ป่าวครับ"

"ก็เห็นอยู่ว่ามึงจะไปกับมัน"

"ครับ ก็กะว่าจะไปนอนห้องพี่เขาก่อน"

"ใจง่ายเนอะมึง ใครชวนไปไหนก็ไป"

"ก็ผมเข้าห้องไม่ได้ จะให้ไปนอนที่ไหนหล่ะครับ"

"เถียงกู มึงอยากโดนต่อยอีกใช่มั้ย"

"ไม่ครับพี่ ขอโทษครับ"

"หุบปาก แล้วก็เข้าไปอาบน้ำนอน" ทาวน์ออกคำสั่งน้องชาย


ตอนเช้า นับหนึ่งออกอาการร่าเริงเป็นพิเศษ เพราะวันนี้พี่ข้าวตังสัญญาว่าจะพาไปหาไอ้เสือ ในขณะเดียวกันที่ห้องชมรม เก้านำปลอกคอที่มีกระดิ่งมาใส่ให้กับไอ้เสือ


"แหม่ๆ น่าหมันไส้ ไอ้เสือมีปลอกคอแล้ว" เพื่อนผู้หญิงที่คอยช่วยเก้าดูแลไอ้เสือออกปากแซวเมื่อเห็นว่าเก้าเอาปลอกคอมาใส่ให้ไอ้เสือ

"เออ ไอ้เก้า เดี๋ยววันนี้กูจะพาไอ้น้องนับมาดูไอ้เสือนะ"

"ไม่ต้องพามา" เก้ารีบบอกข้าวตัง

"อ่าว ทำไมวะ นี่กูสัญญากับน้องเขาไว้แล้วว่าวันนี้จะพามาดูไอ้เสือ"

"เรื่องนั้นเดี๋ยวกูจัดการเอง" เก้าบอกกับข้าวตัง

"ได้ไงวะ ก็กูสัญญากับน้องไว้แล้ว ถ้าน้องเจอกูจะให้กูบอกว่าไงอ่ะ"

"ก็บอกยังไงก็ได้ ที่มึงจะไม่ต้องพามันมา"

"แต่น้องมันอยากเจอไอ้เสือมากเลยนะมึง"

"เออ กูรู้ เดี๋ยวกูจัดการเอง"

"เออๆ ตามใจมึง เป็นเหี้ยไรอีกวะเนี่ย" ข้าวตังบอกเก้า แล้วก็ทำหน้า งงๆ กับเพื่อนตัวเอง

เก้านั่งมองไอ้เสือที่กำลังเล่นกับกระดิ่งที่ปลอกคอตัวเอง เขายิ้มออกมา ที่เขาต้องบอกกับข้าวตังไปแบบนั้น เพราะเขาอยากเป็นคนพานับหนึ่งมาดูไอ้เสือด้วยตัวเองต่างหาก

ในช่วงท้ายของกิจกรรมเชียร์ในวันนี้ สตาฟกำลังปล่อยให้น้องๆท่องเพลงเชียร์ที่เพิ่งจะสอนร้องไปในวันนี้

"นายนับหนึ่ง สุริยะวงศ์ ลุกขึ้นยืนแล้วออกมาด้านหลังครับ" เสียงสตาฟประกาศเรียกชื่อนับหนึ่ง

"เชี่ย เรียกกูทำไมวะเนี่ย" นับหนึ่งพึมพำกับตัวเองแล้วหันไปมองหน้าวินที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนที่จะลุกเดินออกไปด้านหลังตามที่สตาฟบอก

"เดินตามผมมา" สตาฟสั่งให้นับหนึ่งเดินตามไป

สตาฟคนนั้นพานับหนึ่งไปยังห้องๆนึงที่ปิดไฟมืด เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันที


"คุณนั่งรออยู่ตรงนี้นะครับ" สตาฟบอกกับนับหนึ่งแล้วก็ออกไป เหลือแต่เขาคนเดียวในห้องมืดนั้น  ซักพักก็ปรากฏเงาร่างสูงของใครคนนึงเดินเข้ามา


"คุณอยากเจอแมวใช่มั้ย" เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยปากถามขึ้น นับหนึ่งรู้ได้ในทันทีว่านั่นเป็นเสียงของไอ้พี่ประธานเชียร์

"ครับ"

"อยากเจอจะทำยังไงถึงจะได้เจอ" เสียงคนที่เอ่ยปากถามยังคงดังมาจากด้านหลังของเขา

"พี่ข้าวตังบอกว่าวันนี้จะพาไปครับ"

"ไอ้ตังไม่มาเรียน มันไปธุระ"

"อ้าว แล้วงี้ผมก็ไม่ได้เจอไอ้เสือน่ะสิ"

"ใช่"

"อะไรวะเนี่ย" นับหนึ่งลืมตัว สบถคำพูดไม่เพราะออกมา

"คุณวะกับใคร"

"ไม่ใช่กับคุณก็แล้วกัน เพราะคุณไม่ใช่พี่ผม" นับหนึ่งนึกหมันไส้กับคำพูดเมื่อวาน วันนี้เขาเลยเอาคืนบ้าง ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับสะอึกไป


// เล่นกูแล้วมั้ยหล่ะ ไอ้เด็กแว่น // เก้าพูดในใจ


"ปากดี" เก้าบอกนับหนึ่ง

"ก็พี่ เอ้ย ก็..คุณปากดีกับผมก่อน" นับหนึ่งบอกกับประธานเชียร์ของเขา

"ผมอยากเจอไอ้เสือ"

"คุณได้เจอแน่"

"วันไหนหล่ะครับ"

"ไม่ใช่วันนี้"

"อะไรวะ ทำไมปัญหาเยอะจัง" นับหนึ่งทนไม่ไหว ก็เลยหันไปตะโกนใส่พี่ประธานเชียร์ด้วยอารมณ์โมโห

"เชี่ย เบาๆ" เก้านั่งลงเอามือปิดปากนับหนึ่ง

กลิ่นแป้งโคโดโมะจากตัวของพี่ประธานเชียร์ กลิ่นนี้ที่เขาเคยได้กลิ่นจากที่ไหนซักที่

"อย่าโมโหดิ"

"ปล่อยผม"

"ไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะหายโกรธผม"

"เป็นพี่ก็ไม่ใช่ อย่ามาโดนตัวผม" นับหนึ่งบอกกับเก้า พร้อมทั้งพยายามปัดมือเก้าที่กอดรัดเขาอยู่ออกไป

// ได้กอดแล้ว กูไม่ปล่อยง่ายๆแน่ๆ ไอ้เด็กแว่น // เก้าคิดในใจ และตั้งใจแกล้งน้องต่อไป

"คุณโกรธผมเมื่อวานนี้" เก้าปล่อยนับหนึ่งให้เป็นอิสระ แล้วก็พูดคุยกับน้องดีๆ

"ครับ"

"ผมขอโทษละกัน" เก้าขอโทษน้อง

"แล้วผมจะไปเจอไอ้เสือได้หรือยัง"

"คุณได้เจอแน่ แต่ไม่ใช่วันนี้ รู้ไว้แค่ว่า มันมีความสุขดี มีคนดูแลอย่างดี และอาหารที่คุณซื้อให้ มันก็ได้กินแล้ว"

"โหย แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้เจอมันหล่ะครับ" นับหนึ่งพูดแล้วก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง

"จบกิจกรรมเชียร์"


"เชี่ย อีกตั้งหนึ่งอาทิตย์ ผมอยากเจอมันวันนี้ พี่ตังก็สัญญาแล้วว่าจะพาไปหาไอ้เสือ"


"ก็วันนี้ไอ้ตังไม่มา มันจะพาไปหาได้ยังไง"


"งั้นพี่ก็พาผมไปสิครับ พี่เป็นคนเอาไอ้เสือไป พี่ต้องรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน"


"ผมไม่ใช่พี่คุณไม่ใช่หรอ" เก้าถามย้อนคำพูดของนับหนึ่ง เพื่อยั่วโมโหเด็กแว่นตรงหน้า และก็ได้ผล


"โอเคครับ คุณไม่ใช่พี่ผม และก็จำไว้เลยว่าผมก็ไม่ใช่น้องของคุณ ผมแค่อยากเจอแมวของผม ผมไม่ได้อยากเจอคุณ ถ้ายังเรียกผมมาห้องมืดๆแบบนี้อีก ผมฟ้องพี่ชายผมแน่ พี่ชายผมชื่อธารา เป็นผู้ตรวจการณ์กิจกรรมเชียร์ คุณน่าจะรู้จักนะครับ ผมขอตัวครับ" นับหนึ่งบอกกับเก้า แล้วก็เดินออกมาจากห้อง เก้าก็ไม่รั้งตัวไว้ เพราะทำอะไรตอนนี้เกิดเด็กแว่นนับหนึ่ง โวยวายขึ้นมาจะเกิดปัญหาใหญ่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วแน่ๆในตอนนี้ก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนับหนึ่งที่ดูเหมือนจะเริ่มไม่ค่อยดีนัก

"จะฟ้องไอ้ธาราหรอ ฟ้องดิ ฟ้องเลย" เก้าพูดท้าทายออกมาเบาๆกับตัวเอง เขานึกขำตอนที่นับหนึ่งขู่เขาว่าจะฟ้องพี่ชาย แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมาแปลกๆ นี่ถ้านับหนึ่งเกิดโกรธและเกลียดเขาขึ้นมาจริงๆ เขาจะทำยังไง


ทิวก็น่าสงสาร เก้าก็น่าเห็นใจ งื้อออ  :ling3: :ling1:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ให้พี่ธาราจัดการเลย หึ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7


ตอนที่.9 : เจอไอ้เสือแล้ว


เช้าวันต่อมา ที่หน้าคณะเกษตร ธาราจอดรถส่งนับหนึ่งและอนาวิน

"ขอบคุณครับพี่ธารา" นับหนึ่งและอนาวินกล่าวขอบคุณธาราที่ขับรถมาส่ง

"ไอ้นับ วันนี้พี่มารับสองทุ่มนะ รออยู่ที่เดิมนะ ห้ามไปไหน" ธาราเปิดกระจกโผล่หน้าออกมาบอกน้องชาย

"ครับพ้ม" นับหนึ่งหันมาบอกพี่ชายพร้อมทำท่าตะเบ๊ะแบบทหาร และสีหน้าทะเล้นๆ

"เฮ้อ เมื่อไหร่แม่งจะโตซักทีวะ" ธาราพูดเบาๆกับตัวเอง แล้วก็ขับรถออกไป

"ไอ้นับ ไอ้วิน รอกูด้วย" ทิวตะโกนเรียกเพื่อนทั้งสองคนแล้วก็วิ่งไปหานับหนึ่งกับอนาวิน

"เชี่ย ทำไมวันนี้มาเช้าได้วะไอ้ทิว" นับหนึ่งถามทิวพร้อมกับเอาแขนไปกอดคอทิว

"มันก็ต้องพัฒนากันบ้าง กูตื่นเช้าก็เลยมาเช้าไง ป่ะกินข้าวกัน หิวว่ะ" ทิวตอบนับหนึ่งแล้วก็ออกปากชวนไปกินข้าวเช้า

"เฮ้ย ไอ้นับ นั่นพี่ตังนี่หว่า" วินบอกนับหนึ่งแล้วก็ชี้ไปที่ข้าวตังที่กำลังเดินอยู่คนเดียวไม่ไกลจากทั้งสามคน

"เออ ใช่พี่ตังจริงๆด้วย กูกำลังอยากเจออยู่พอดี" นับหนึ่งพูดแล้วก็วิ่งไปดักหน้าข้าวตัง เขากางแขนกั้นไม่ให้ข้าวตังเดินต่อ ทำเอาข้าวตังตกใจกับการกระทำของรุ่นน้อง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นนับหนึ่งเขาก็พอจะรู้สาเหตุที่นับหนึ่งทำแบบนี้

"พี่ตังครับ พี่ผิดสัญญาผม" นับหนึ่งบอกข้าวตังด้วยสีหน้าจริงจัง

"เอ่อ น้องนับ พี่ขอโทษครับ คือ..เอ่อ" ข้าวตังถึงกับไปไม่เป็น เขารู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นเรื่องพาไปหาไอ้เสือแน่ๆ และก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เพราะเป็นคำสั่งของเก้า ที่ไม่ให้เขาพานับหนึ่งไปหาไอ้เสือที่ห้องชมรม

"งั้น วันนี้พี่พาผมไปหาไอ้เสือนะครับ"

"เอ่อ วันนี้..พี่..."

"อย่าบอกนะว่าพี่ไม่ว่างอีกอ่ะ" นับหนึ่งถามข้าวตัง พร้อมทำสีหน้าเคร่งขรึม ทำเอาคนตรงหน้าอยากจะขำกับท่าทางของน้องแต่ก็ทำไม่ได้


"คือ พี่มีเรียนถึงค่ำเลยอ่ะครับ"


"ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ วันนี้ผมอยู่คณะถึงสองทุ่ม พี่คงไม่เลิกเรียนหลังสองทุ่มหรอกนะครับ"


// เชี่ยละ ไอ้เด็กแว่นนี่แม่ง ตื้อจริงๆ // ข้าวตังพูดในใจ ตอนนี้เขารู้สึกเป็นรองอยู่มาก กับการต่อรองครั้งนี้


"ว่าไงครับพี่ตัง จะพาผมไปดูไอ้เสือไหมครับ"

"เอ่อ น้องนับครับ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันนะเรื่องนี้"

"พี่ตังคร้าบ" นับหนึ่งขยับแว่นแล้วทำเสียงออดอ้อนข้าวตัง

"ไปกินข้าวกัน ป่ะ พี่เลี้ยงเอง" ข้าวตังเปลี่ยนเรื่องเพื่อหันเหความสนใจของเด็กแว่นตรงหน้า

"พี่อย่าเปลี่ยนเรื่องดิ"

"เดี๋ยวไปคุยกันที่โรงอาหารละกัน ป่ะๆ" ข้าวตังกอดคอพานับหนึ่งไปโรงอาหาร

"เดี๋ยวครับพี่ตัง พี่ต้องเลี้ยงข้าวไอ้วินกับไอ้ทิวเพื่อนผมด้วยนะ"

"โอเคครับ ได้เลยๆ มากันให้หมดเลยมา"

"ไอ้วิน ไอ้ทิว พี่ตังเลี้ยงข้าวเว้ย ตามมาๆ" นับหนึ่งหันไปตะโกนพร้อมกับกวักมือเรียกวินกับทิวที่ยืนดูอยู่ห่างๆ แล้วก็เดินไปโรงอาหารกับข้าวตัง


ที่โรงอาหารคณะเกษตร

"สวัสดีครับพี่ตัง" วินกับทิวยกมือไหว้สวัสดีข้าวตัง

"สวัสดีครับน้องวินน้องทิว เออ น้องทิว เมื่อคืนเป็นไงบ้าง" ข้าวตังเอ่ยปากถามทิว ถึงเรื่องเมื่อคืน

"ไม่มีอะไรครับพี่ตัง ขอบคุณพี่นะครับที่ปลุกผม" ทิวบอกข้าวตัง

"อืม ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว "

"เฮ้อ โชคดีจังวันนี้พี่ตังเลี้ยงข้าว" นับหนึ่งที่ดูเหมือนจะสบายใจที่สุดพูดออกมาพร้อมกับตบพุงของตัวเอง

"กินอะไรดีน้าาาา จะกินเยอะๆเลย เพราะมื้อนี้ ฟรี ฮ่าๆ"

"ไอ้เชี่ยนับ เกรงใจพี่ตังบ้าง พี่เขาอุตส่าห์เลี้ยง" วินบอกเพื่อน

"ก็พี่ตังผิดสัญญากับกู" นับหนึ่งบอกวิน แล้วก็หันหน้าไปทางข้าวตัง

"เออ พี่ขอโทษ ป่ะไปซื้อข้าวกัน จะกินอะไรก็ตามสบายเลย เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"

"ขอบคุณครับพี่ตัง ใจดี สปอร์ตแบบนี้ ผมขอเป็นน้องรหัสพี่นะครับ" นับหนึ่งบอกข้าวตัง ข้าวตังก็ขำๆกับการกระทำของเด็กแว่นที่ยืนข้างๆเขา

เด็กแว่นนับหนึ่งเพลิดเพลินกับการกินข้าวจนลืมเรื่องสัญญาที่ข้าวตังจะพาไปหาไอ้เสือไปเสียสนิท


หลังจากกินข้าวเสร็จ ทั้งสามคนก็ขอบคุณข้าวตังที่เลี้ยงข้าวเช้า แล้วก็ขอตัวไปเข้าเรียน


"เออ ไอ้นับ มึงยังไม่เล่าให้กูฟังเลยนะ ว่าเมื่อวาน พี่สตาฟเขาเรียกมึงออกไปไหน" วินถามนับหนึ่ง

"อ่อ เชี่ย แม่ง โคตรกวนตีน" นับหนึ่งพูดออกมา เมื่อเขาคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่ได้คุยกับพี่ประธานเชียร์

"ใครกวนตีนมึงวะ" ทิวถามนับหนึ่ง

"ก็ไอ้พี่ประธานเชียร์อ่ะดิ"

"เชี่ย นี่มึงอย่าบอกนะว่า มึงโดนเรียกออกไปพบกับพี่ประธานเชียร์"

"เออ"

"เรื่องอะไรวะ"

"ไร้สาระ อย่าสนใจเลย"

"เรื่องไอ้เสือหรอ" วินถามนับหนึ่ง

"อือ"

"แล้วเขาได้พามึงไปหาไอ้เสือป่ะ"


"ไม่อ่ะ แม่งบอกว่ารอจบเชียร์ก่อน ถึงจะพากูไปหาไอ้เสือ"


"โห อีกตั้งนาน" ทิวพูดขึ้น


"ก็เออดิ แต่กูไม่สนหรอก พี่ตังบอกแล้วว่าไอ้เสืออยู่ห้องชมรม กูจะไปหามันเอง"


"เชี่ย ไอ้นับ อย่าทำแบบนั้นเลยมึง รอจบเชียร์เดี๋ยวก็ได้เจอแล้ว ใจเย็นๆ" วินรีบออกปากห้ามเพื่อน


"ไม่อ่ะ ถ้ามึงไม่ไปกับกู กูก็จะไปคนเดียว"


"ไอ้นับ ดื้ออีกละมึง"

"กูไม่สนครับ กูต้องได้เจอไอ้เสือก่อนจบเชียร์" นับหนึ่งบอกวิน วินก็ได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของเพื่อน บทจะดื้อก็ดื้อจริงๆ


หลังจากเรียนภาคบ่ายเสร็จ ก็ถึงเวลาของการเข้ากิจกรรมเชียร์ของนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง นับหนึ่ง วิน และทิวเดินตามแถวเพื่อเข้าไปยังลานเชียร์ ในระหว่างทางนั้น ทีมสตาฟก็ได้ออกมายืนดูน้องๆปีหนึ่งด้วย และหนึ่งในนั้นก็มีเก้า พี่ประธานเชียร์สุดหล่อของน้องๆยืนอยู่ด้วย

"ไอ้นับ พี่ประธานเชียร์มายืนดูพวกเราว่ะ" วินที่เดินอยู่ข้างหลังของนับหนึ่งพูดขึ้นมา

"ช่างแม่งดิ"

"เชี่ยนับ" วินเอ่ยปากว่าเพื่อน


นับหนึ่งเดินผ่าน เก้า ที่ยืนอยู่ เขาปรายตาไปมองด้วยสายตาเฉยชา และก็ได้รู้ว่าอีกฝ่ายก็มองมาที่เขาเหมือนกัน ทำเอาเจ้าตัวหลบสายตาแทบไม่ทัน เก้าเห็นท่าทีของนับหนึ่งที่หลบสายตาของเขาก็ยิ้มนิดๆที่มุมปาก

"ไม่แน่จริงนี่หว่า ไอ้เด็กแว่น" เก้าพูดเบาๆกับตัวเอง


"ฟู่ววว" นับหนึ่งเป่าลมออกมาจากปาก

"เป็นไรวะไอ้นับ" ทิวที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาถามนับหนึ่งเบาๆ

"ก็เมื่อกี้อ่ะดิ ไอ้พี่ประธานเชียร์แม่ง มองกู"

"แสดงว่ามึงก็มองพี่เขาอ่ะดิ มึงถึงรู้ว่าพี่เขามองมึง" ทิวบอกนับหนึ่งแล้วก็ยิ้มๆ ทำเอานับหนึ่งรู้สึกหน้าร้อนผ่าวๆขึ้นมาทันที

"เชี่ย ไอ้นับทำไมมึงหน้าแดง" ทิวแซวนับหนึ่งอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเพื่อนหน้าแดง

"เชี่ยทิว อย่าแซวกูดิ ไม่แดงเว้ย" นับหนึ่งบอกทิวแล้วก็ถอดแว่นออก พร้อมกับเอาสองมือมาลูบๆแก้มของตัวเอง

 กิจกรรมเชียร์เริ่มขึ้น และเมื่อถึงช่วงเวลาที่ประธานเชียร์อย่างเก้า ต้องขึ้นมาพูดคุยกับน้องๆ นับหนึ่งที่วันนี้ได้นั่งอยู่แถวหน้าสุด ก็เกิดอาการเกร็งๆ ประหม่าขึ้นมาในทันที

"พี่ประธานเชียร์มาแล้ว" ทิวเอี้ยวตัวมากระซิบข้างๆหูนับหนึ่ง

"เออ กูรู้แล้วน่า"

"อย่าหน้าแดงดิ"

"เชี่ยทิว หุบปาก" นับหนึ่งหันไปว่าเพื่อนเบาๆ และเขาก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวๆขึ้นมา เมื่อสายตาเหลือกขึ้นไปเจอกับหน้าของพี่ประธานเชียร์ สายตาคมกริบของคนที่ยืนอยู่ด้านหน้ามองมาที่เขา ใช่...ไอ้พี่ประธานเชียร์กำลังมองเด็กแว่นอย่างเขาอยู่


นับหนึ่งรีบก้มหน้า เพื่อหลบสายตาคู่นั้น


"เงยหน้าครับ"

เสียงออกคำสั่งจากพี่ประธานเชียร์ ทำเอาเด็กแว่นอย่างนับหนึ่งสะดุ้ง

"การเข้าเชียร์ มันทำให้พวกคุณหดหู่มากขนาดนั้นเลยหรอครับ"

"ทำไมต้องนั่งก้มหน้า"

นับหนึ่งรู้สึกว่า เสียงต่อว่าจากพี่ประธานเชียร์นั้น กระแทกมาถึงเขาโดยตรง จึงนั่งยืดตัว เงยหน้าประจันกับสายตาคมกริบของพี่ประธานเชียร์สุดหล่อข้างหน้า

เก้ายิ้มเยาะที่มุมปาก ทันทีที่นับหนึ่งเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา ทำเอาอีกฝ่ายรู้สึกร้อนลุ่มจนเหงื่อซึมตามใบหน้าและฝ่ามือ

///ไอ้พี่เชี่ยแม่ง ยิ้มเยาะกูนะ/// นับหนึ่งคิดในใจเมื่อเห็นรอยยิ้มเยาะที่มุมปากของเก้า


"ผมจะถามคำถามพวกคุณ ผมเรียกใครคนนั้นยืนขึ้นนะครับ" เก้าบอกน้องๆด้วยน้ำเสียงเข้มดุ ทำเอานักศึกษาปีหนึ่งที่นั่งอยู่เงียบกริบ


เก้าจัดการเรียกน้องผู้หญิงสองคน และน้องผู้ชายสองคน คนแรกคือวิน เพื่อนของนับหนึ่ง และอีกคนที่เขาเลือกก็คือ เด็กแว่น นับหนึ่งนั่นเอง

"คุณยืนขึ้นครับ" เก้าเรียกและชี้มือมาที่นับหนึ่ง ทำเอาเจ้าตัวสะดุ้ง

"เอ่อ ผะผมหรอครับ" นับหนึ่งชี้นิ้วที่ตัวเอง

"เออ มึงนั่นแหล่ะไอ้นับ ยืนดิ" ทิวหันมาบอกนับหนึ่ง

นับหนึ่งยืนขึ้น พร้อมกับสีหน้านิ่งเฉย เมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาปะคะคารมกับพี่ประธานเชียร์

 เก้าถามคำถามน้องผู้หญิงสองคน จนมาถึงน้องผู้ชาย เขาถามวินเป็นคนแรก วินตอบจบ ก็ถึงคิวของนับหนึ่ง

"คุณ เตรียมตัวตอบคำถามนะครับ" เก้าบอกนับหนึ่ง

"ครับ" นับหนึ่งเงยหน้าไปตอบเก้า พร้อมกับส่งสายตาเรียบเฉย ทำเอาอีกฝ่ายชะงักไปเหมือนกัน


"แก ดูเก้ากับน้องนับหนึ่งดิ ทำไมชั้นฟินวะแก"

"เออ เคมีแม่งได้ ไอ้เก้าแม่งหน้าแดง จริงเว้ย ไอ้เก้าแม่งหน้าแดงดูดิ ฮ่าๆ"

เพื่อนๆที่ยืนดูอยู่ในลานเชียร์ พากันพูดถึงเก้าและนับหนึ่ง

// เชี่ย ไอ้เด็กแว่น กูจะแพ้มึงไม่ได้ // เก้าคิดในใจ

"เอาหล่ะ ผมจะถามคุณแล้วนะครับ คุณอยากได้รุ่นคณะและเข้ามาเป็นน้องของพวกผมหรือเปล่าครับ" เก้าถามนับหนึ่ง

"อยากได้สิครับ ผมอยากได้รุ่นที่ถูกต้องตามวิธีการที่คณะกำหนดขึ้นมาครับ ส่วนการเป็นน้องของพี่ๆผมว่าผมเลือกได้ครับว่าอยากจะเป็นน้องของใคร"

ทันทีที่นับหนึ่งตอบจบ ก็มีเสียงฮือฮาเกิดขึ้นในลานเชียร์ ทั้งเพื่อนๆปีหนึ่งเองและนักศึกษาศิษย์ปัจจุบันที่อยู่ในลานเชียร์

นับหนึ่งยืนประจันหน้ากับเก้า ที่ตอนนี้ก็เงียบ หลังจากได้ฟังคำตอบของนับหนึ่ง เขาทำหน้านิ่งขรึม และบอกให้นับหนึ่งนั่งลง

"ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ คุณนั่งลงได้"

"ขอบคุณครับ" นับหนึ่ง ขอบคุณประธานเชียร์ แล้วก็นั่งลง

"ไอ้เชี่ยนับ ทำไมตอบแบบนั้นวะ" ทิวรีบหันมาถามนับหนึ่ง

"ก็กูตอบตามความจริงอ่ะ"

"มึงก็พูดไม่ไว้หน้าพี่เค้าเลย"

"ช่างแม่งเหอะ" นับหนึ่งบอกทิว แต่เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ ที่ตอบแบบนั้นออกไป

เสียงฮือฮาจบลง เมื่อเก้า เดินกลับเข้าไป และบรรดาสตาฟก็กลับเข้ามายืนล้อมพวกเขา ก่อนที่จะปล่อยให้กลับบ้าน


ในขณะที่ทั้งสามคนเดินออกมาจากลานเชียร์

"ไอ้นับ มึงทำไมตอบแบบนั้นวะ พี่ประธานเชียร์แม่ง เงียบไปเลยอ่ะ" วินถามนับหนึ่ง

"ไม่รู้ว่ะ กูพูดออกไปเองอ่ะ กูก็ไม่รู้เหมือนกัน"

"มึงควรไปขอโทษพี่เขานะเว้ย"

"ไม่อ่ะ กูไม่ได้ทำไรผิด" นับหนึ่งบอกเพื่อนแล้วก็เงียบไป

 ทิวขอตัวกลับห้องไปก่อน เหลือวินกับนับหนึ่งที่รอธารามารับ ตอนนี้เพิ่งจะทุ่มกว่าๆ อีกนานกว่าธาราจะมารับ นับหนึ่งกับวินก็นั่งรอตรงโต๊ะม้าหินที่เดิม


ที่ห้องสโมสรคณะเกษตร


"ไอ้เก้า ไอ้เด็กแว่นนั่นแม่งเฟี้ยวว่ะ กล้าประกาศสงครามกับมึง"

"ช่างเหอะ มันก็ตอบถูกของมัน" เก้าบอกเพื่อน

"แต่ทำไมเราฟินอ่ะ เวลาที่เก้าคุยกับน้องนับหนึ่ง"

"เราว่าพยศไม่เบานะเนี่ยน้องนับอ่ะ เห็นเป็นเด็กเนิร์ดแบบนั้น แต่วันนี้ประกาศสงครามกับประธานเชียร์ซะละ"

"ไม่เบาจริงๆ วันนี้มาขอเป็นน้องรหัสตังด้วยอ่ะ ถ้าพรหมลิขิตมีจริงคงได้มาเป็นน้องรหัสตังแน่ๆ ไอ้เด็กแว่น ฮ่าๆ"

"กูว่า แม่งได้เป็นน้องรหัสไอ้เก้าแน่นอน เฟี้ยวๆแบบนี้ ต้องมาให้พี่เก้าปราบ ฮ่าๆ"

"ไอ้เก้า กฏคณะเรามีไว้ว่า ห้ามจีบน้องรหัสนะเว้ย ฮ่าๆ"

"มึงไม่รู้หรอว่า กฏมีไว้แหก" เก้าบอกเพื่อน แล้วก็เดินไปนั่งหลบมุมตรงที่ประจำ


// หึ ไอ้เด็กแว่น จบเชียร์เมื่อไหร่ จะเล่นคืนให้สาสมเลย // เก้าคิดในใจ


ทางด้านนับหนึ่งกับวินที่นั่งรอธารามารับ ก็เริ่มเบื่อกับการรอ วินก็นั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ ส่วนนับหนึ่งก็คิดถึงแต่ไอ้เสือ และเขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

"ไอ้วิน มึงรอกูตรงนี้นะ เดี๋ยวกูมา"

"มึงจะไปไหนไอ้นับ"

"ไปหาไอ้เสือที่ห้องชมรม"

"เห้ย ไม่นะ อย่าไป มึงรู้หรอว่าห้องชมรมอยู่ไหน"

"ไม่รู้หรอกแต่มันก็น่าจะอยู่แถวๆห้องที่กูไปมาเมื่อวานนี้"

"เชี่ยนับ อย่าเสี่ยงเลยมึง"

"เอาน่า ก็กูอยากเจอไอ้เสือ มึงรอกูอยู่ที่นี่นะ ถ้าพี่ธารามารับมึงก็โทรหากู" นับหนึ่งบอกวิน แล้วก็รีบวิ่งเข้าอาคารไป


"ไอ้เชี่ยนับ เดี๋ยวก็ซวยอีกหรอก" วินบอกเพื่อน แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว นับหนึ่งหายเข้าไปในอาคารแล้ว เขาได้แต่มองตามเพื่อนไปด้วยความเป็นห่วง


ในอาคารเรียน นับหนึ่งพยายามนึกภาพเมื่อวานที่เขาเดินตามพี่สตาฟมา และเขาก็เจอห้องที่มีป้ายติดว่า ชมรมเกษตร ในห้องปิดไฟมืด นับหนึ่งเอามือไปจับลูกบิดประตู มันเปิดได้ เขาเลยค่อยๆเปิดประตูแล้วก็เข้าไป


เมี้ยวววว


"ไอ้เสือ" เขาเรียกชื่อไอ้เสือ เมื่อได้ยินเสียงแมวอยู่ที่ไหนซักที่ในห้องนี้ แสงไฟจากทางเดินด้านนอกส่องเข้ามาตรงช่องกระจกของประตู เมื่อสายตาปรับชินกับความมืดได้ เขาก็มองเห็นกรงของไอ้เสือ นับหนึ่งหาจนเจอที่เปิดไฟ เขาเปิดไฟแล้วก็รีบเข้าไปเปิดกรงเอาไอ้เสือออกมา


"เจอแล้ว ไอ้เสือ ไหนมาขอพี่อุ้มหน่อย"


เมี้ยยยวววววว  ไอ้เสือเมื่อเห็นหน้านับหนึ่งมันก็ร้องออกมา


"อ้วนกว่าตอนที่เจอครั้งแรกเยอะเลย มีปลอกคอซะด้วย" นับหนึ่งจับปลอกคอของไอ้เสือขึ้นมาดู มันเป็นสายสีฟ้า มีตัวอักษรว่า No.1

"No.1 คือไรวะ" นับหนึ่งพึมพำกับตัวเอง ที่เห็นข้อความบนปลอกคอของไอ้เสือ


เขานั่งเล่นกับไอ้เสือจนเพลิน และรู้สึกดีที่เห็นไอ้เสือปลอดภัยและได้รับการดูแลอย่างดี เขามองไปรอบๆห้องชมรมตอนนี้ ที่เหมือนเป็นอาณาจักรของไอ้เสือย่อมๆ มีกรง ห้องน้ำแมว ชามใส่น้ำและอาหาร ชั้นวางถุงอาหาร ถุงทรายแมว มุมของเล่น แค่นี้เขาก็สบายใจ


"ใครเปิดไฟในห้องชมรมไว้วะ"

นับหนึ่งได้ยินเสียงพูด เหมือนกับว่าจะมีคนเข้ามาในห้องชมรม

"เชี่ยละ มีคนมา" นับหนึ่งพูดกับตัวเอง เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ห้องชมรมเรื่อยๆ เขาอุ้มไอ้เสือไปหลบตรงหลังตู้เอกสาร

แล้วก็มีคนเปิดประตูเข้ามาในห้องชมรม ไฟในห้องถูกปิดและคนปิดไฟก็ออกจากห้องไปพร้อมกับปิดประตู

นับหนึ่งค่อยๆออกมาจากที่ซ่อนตัว เขาเอาไอ้เสือเข้าไปไว้ในกรง

"เดี๋ยวพี่มาเยี่ยมใหม่นะไอ้เสือ" นับหนึ่งบอกไอ้เสือ แล้วก็เปิดประตูจะออกจากห้อง แต่ว่า....ประตูล๊อค !!


"เชี่ย ห้องล๊อค ซวยแล้วกู" 


นับหนึ่งเปิดประตูออกไปไม่ได้ เพราะห้องโดนล๊อคด้วยแม่กุญแจที่คล้องอยู่ด้านนอก

เด็กแว่นเริ่มลนลาน เหงื่อซึมออกมา จะทำยังไงหล่ะทีนี้ เพราะความดื้อของตัวเองแท้ๆ



ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เอาละสิ โดนขังแล้วไงทีนี้,,,

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
น้องโดนขังอะ ช่วยน้องด้วย

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7



ตอนที่.10 : บทลงโทษของผู้บุกรุก


 นับหนึ่งกระวนกระวาย ลุกลนเมื่อรู้ตัวว่าโดนขังซะแล้วในตอนนี้ เขาล้วงกระเป๋ากางเกงหวังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาวินที่รออยู่ข้างนอก แต่นั่นกลับทำให้นับหนึ่งใจเสียมากขึ้นไปอีก เพราะว่าในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างของเขาไม่มีโทรศัพท์

"เชี่ย ไม่ได้เอาโทรศัพท์มา" นับหนึ่งพึมพำออกมาเบาๆ เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่า เขาเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย ไม่ได้เอาติดตัวมาด้วย

นับหนึ่งเดินไปเปิดไฟแล้วพยายามกระแทกประตู พร้อมกับเรียกให้คนช่วยอยู่พักนึงแต่ก็ไม่เป็นผล ไม่มีเสียงตอบรับจากใครเลยซักคน


เมี้ยววววว เสียงไอ้เสือร้องดังออกมา


"ไอ้เสือ พี่จะทำไงดี พี่โดนขัง" นับหนึ่งเดินเข้าไปเปิดกรงหยิบไอ้เสือออกมากอดไว้ เด็กแว่นน้ำตาคลอ ทุกคนต้องเป็นห่วงเขาแน่ๆ พี่ธารา ไอ้วิน นึกๆไปเขาไม่น่าดื้อที่จะมาหาไอ้เสือเลย นับหนึ่งขยับตัวไปนั่งใกล้ๆประตูเขาเอาหูแนบกับประตูเผื่อจะได้ยินใครผ่านมาทางนี้


เขาเหลือบมองนาฬิกา นี่ก็ใกล้สองทุ่มตามเวลาที่พี่ธาราจะมารับแล้ว ไอ้วินคงกระวนกระวายอยู่แน่ มันอาจจะกำลังวิ่งตามหาเพื่อนที่แสนจะดื้ออยู่ก็ได้ แต่ไอ้วินไม่มีทางหาห้องนี้เจอแน่ๆ เพราะเป็นที่ที่ปีหนึ่งทุกคนแทบไม่เคยเดินผ่านมาทางนี้เลย


ที่ลานจอดรถคณะ

"ไอ้ตังรอกูแป้บนะ กูไปห้องชมรมแป้บ ลืมเอกสารไว้ว่ะ จะแวะไปดูไอ้เสือด้วย" เก้าบอกกับข้าวตัง

"เออ อ่ะนี่กุญแจ เมื่อกี้กูก็เข้าไปใครแม่งลืมปิดไฟก็ไม่รู้" ข้าวตังบอกกับเก้าพร้อมกับส่งกุญแจให้เก้า

"พี่ธาราครับ นั่นไงพี่ตังกับพี่ประธานเชียร์" วินบอกกับธาราแล้วลากแขนธาราวิ่งมาหาเก้า ที่กำลังจะเดินไปห้องชมรม

"ไอ้เก้า" ธาราเรียกเก้า ทำเอาคนโดนเรียกถึงกับหยุดชะงัก แล้วทำหน้างงๆ ว่าทำไมธารากับอนาวิน ถึงยังอยู่ที่คณะในเวลานี้

"พี่ประธานเชียร์ชื่อเก้า" วินพึมพำออกมา ธาราได้ยิน ก็รู้ตัวว่าเขาพลาดเสียแล้ว ที่พูดชื่อเก้าออกมา แต่ตอนนี้เขาเป็นห่วงน้องชายของเขามากกว่า

"มีไรวะไอ้ธารา ทำไมยังอยู่ที่นี่" เก้าถามธาราโดยไม่สนใจว่าอนาวินก็อยู่ตรงนั้นด้วย

"คือ ไอ้นับครับ ไอ้นับหายไป" อนาวินพูดขึ้นมา

"ห้ะ ไอ้เด็กแว่น หายไปไหน" เก้าถามอนาวิน เขารู้สึกเป็นห่วงและกระวนกระวายขึ้นมาในทันที

"มันบอกผมว่าจะไปหาไอ้เสือที่ห้องชมรมครับ"

ทันทีที่อนาวินพูดจบ เก้ารีบวิ่งไปที่ห้องชมรมในทันที แล้วเขาก็พบว่า ไฟในห้องชมรมถูกเปิดอยู่ ซึ่งเมื่อกี้ข้าวตังเพิ่งบอกเขาว่าปิดไฟที่ห้องชมรมไปแล้ว แต่ตอนนี้ไฟเปิด ต้องมีคนอยู่ในนั้นแน่ๆ

เขาจัดการไขกุญแจแล้วเปิดประตู ก็พบกับนับหนึ่งที่นั่งกอดไอ้เสืออยู่ ทันทีที่เก้าเปิดประตูเข้าไป นับหนึ่งเห็นก็โผเข้ากอดเก้าในทันที

"พี่ ฮือออออ" เขารู้ว่านับหนึ่งคงไม่ทันเห็นว่าเป็นใคร พอรู้ว่ามีคนมาช่วยก็เลยเผลอกอดเอาไว้

ทั้งๆที่อยากจะรวบตัวเข้ามากอด แต่ก็ไม่กล้า เก้าทำได้แค่ยกมือขึ้นมาลูบหลังของนับหนึ่งเบาๆ

//หึ ได้โอกาสละ ขอเอาคืนหน่อยเถอะไอ้เด็กแว่น// เก้าคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เขาผลักตัวนับหนึ่งออก

นับหนึ่งเมื่อรู้ว่า คนที่เปิดประตูเข้ามา แล้วเขาโผเข้ากอดเป็นใคร ก็ชะงักไป รีบถอดแว่นยกมือปาดน้ำตา

"คุณบุกรุก" เก้าพูดกับนับหนึ่งเสียงเข้ม

"ผมไม่ได้บุกรุก ผมแค่มาหาแมวของผม"

"ผมไม่ได้อนุญาติให้คุณมา คุณขัดคำสั่งผม"

"ต้องโดนทำโทษ" เก้าตอกย้ำเข้าไปอีกเมื่อเห็นว่า เด็กแว่นตรงหน้าเงียบไป ตอนนี้เขาเป็นต่อแล้ว ต้องจัดการให้หนัก

"ไอ้นับ" อนาวินที่ตามมาพร้อมกับธาราและข้าวตัง วิ่งเข้าไปหาเพื่อนที่กำลังนั่งจนมุมอยู่

"ไอ้วิน" นับหนึ่งเรียกวิน แล้วเขาก็มองไปเห็นธาราพี่ชายของเขายืนอยู่ตรงประตูห้อง

"พี่ธารา" เขาเรียกชื่อธาราเสียงอ่อย ในใจคิดว่างานนี้คงโดนธาราตำหนิแน่ๆ

"คุณเป็นพี่ชายของนายนับหนึ่งใช่ไหมครับ" เก้าหันไปพูดกับธารา พร้อมกับขยิบตาให้ ธารารู้ในทันทีว่าเขาต้องทำยังไง

"เอ่อ ใช่ครับ ผมเป็นพี่ชายนับหนึ่ง"

"พี่บอกเขาไปดิว่าพี่เป็นอะไร" นับหนึ่งบอกธาราให้บอกเก้าไปว่าเป็นผู้ตรวจการกิจกรรมเชียร์

"คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ตอนนี้คุณคือคนทำผิด" เก้าหันไปตวาดนับหนึ่ง ทำเอาเด็กแว่นหน้าจ๋อยไป

"เอาหล่ะ ในฐานะที่คุณเป็นพี่ชาย ผมจะถือว่าคุณเป็นผู้ปกครองและอยู่ในเหตุการณ์นี้พอดี ผมจะบอกว่าการที่นักศึกษาปีหนึ่งเข้ามาที่ห้องชมรมในเวลานี้และยังอยู่ในช่วงกิจกรรมเข้าเชียร์ ถือว่ามีความผิดโทษฐานบุกรุกและไม่เชื่อฟังคำสั่งรุ่นพี่ เพราะฉะนั้น ผมขออนุญาติยึดป้ายชื่อของนายนับหนึ่ง และนับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปคุณไม่ต้องไปเข้าเชียร์ เข้าใจไหมครับ เอ่อคุณผู้ปกครองจะอนุญาติไหมครับ" เก้าหันไปถามธารา

นับหนึ่งในตอนนี้เริ่มหน้าเสียแล้ว เพราะเขากำลังจะถูกพี่ประธานเชียร์ยึดป้ายชื่อ

"อนุญาติครับ คนทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ" ธาราบอกกับเก้า

"ไม่ ผมไม่ได้ผิดอะไร อย่ามายึดป้ายชื่อผม พี่ธาราพี่บอกไปสิว่าพี่เป็นผู้ตรวจการกิจกรรมเข้าเชียร์อ่ะ พี่ช่วยผมสิครับ" นับหนึ่งร้องบอกธารา เขาไม่อยากโดนยึดป้ายชื่อ แต่ก็ไม่ทันแล้ว เมื่อเก้าเอื้อมมือมาปลดป้ายชื่อที่ติดเข็มกลัดอยู่ตรงหน้าอกเสื้อของนับหนึ่งออกไป เขามองตามการกระทำของเก้า แล้วก็น้ำตาซึมออกมา

"ผมแค่เข้ามาหาไอ้เสือ ทำไมต้องทำโทษผมด้วย ผมไม่ได้ผิดอะไร ผมแค่เข้ามาหาแมวของผม" นับหนึ่งยืนขึ้นแล้วก็พูดกับเก้า ด้วยความเสียใจ แล้วก็วิ่งออกไปจากตรงนั้น

"เฮ้ย ไอ้นับ" อนาวินเรียกเพื่อนแล้วก็วิ่งตามนับหนึ่งออกไป

"ขอโทษนะ ธารา" เก้าเอ่ยปากขอโทษธารา ที่เขาลงโทษนับหนึ่ง

"ขอโทษกูทำไม กูดิต้องขอบคุณมึงที่มาเปิดห้องช่วยไอ้นับอ่ะ"

"เออ พอดีกูลืมเอกสารไว้อ่ะเลยเดินมาเอา ใครจะไปรู้ว่าแม่งจะกล้าเข้ามาหาไอ้เสือถึงที่นี่ น้องมึงนี่แม่งดื้อจริงๆ" เก้าบอกกับธาราแล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อเขานึกถึงความดื้อของเด็กแว่น

"เออ แม่งก็ดื้องี้แหล่ะ มันช่วยแมวตัวนี้ไว้มันก็รักของมันอ่ะเนอะ"

"พรุ่งนี้ดิ กูไม่รู้จะทำยังไงเลย" เก้าพูดออกมา

"งานยากหน่อยนะมึง เดี๋ยวกูจะช่วยพูดให้เผื่อมันจะเข้าใจและดีขึ้น" ธาราเดินเข้ามาตบไหล่เก้าเบาๆ เก้าก็พยักหน้าให้ ในใจก็ครุ่นคิดว่า เขาทำกับนับหนึ่งเกินไปหรือเปล่า


บนรถของธารา ในขณะที่กำลังกลับบ้าน นับหนึ่งนั่งเงียบมาตลอดทาง

"อะไรที่เขาห้าม ทีหลังก็อย่าทำสิ จะได้ไม่มีปัญหาแบบนี้อีก" ธาราพูดขึ้น

"หึ คงจะไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้วแหล่ะครับ ก็ยึดป้ายชื่อไปแล้ว พรุ่งนี้ผมก็ไม่ต้องเข้าเชียร์"

"เดี๋ยวมึงก็ได้คืนน่ะไอ้นับ เชื่อกูดิ พี่เขาไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก" วินบอกเพื่อน

"ให้คืนกูก็ไม่เอา อยากยึดก็ยึดไป"

"ไม่เอาน่าไอ้นับ กิจกรรมเชียร์มันก็แค่เกมส์อ่ะ มึงอย่าดื้อ" ธาราปรามน้องชาย

"พี่ก็น่าจะช่วยผมบ้าง"

"ก็มึงทำผิดจริง"

"เข้าไปหาแมวนี่นะผิด"

"เออ กูเข้าใจว่ามึงอยากเจอไอ้เสือ เขาไม่ได้ห้ามมึงไปหาไอ้เสือ แต่เขาห้ามมึงไปห้องชมรมในช่วงนี้ แต่มึงก็ยังดื้อที่จะไปทั้งๆที่รู้ว่าไอ้เสืออยู่ในห้องชมรม  มึงคิดเอาเองว่ามึงผิดเพราะอะไร" ธาราอธิบายให้น้องชายฟัง

นับหนึ่งนั่งเงียบไป

"รุ่นพี่อ่ะ เขาจัดกิจกรรมเชียร์ขึ้นมา มึงไม่รู้หรอกว่าเขาต้องต่อสู้กับอะไรบ้าง ยิ่งเชียร์ของคณะมึง ถ้ามันไม่ดีจริงมันไม่มีมาจนถึงรับรุ่นมึงปีนี้หรอก คนชอบก็มี คนต่อต้านก็มี รุ่นพี่ที่เขาทำงานก็เหนื่อยเหมือนกัน กับแค่เวลาไม่กี่อาทิตย์ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป กูพูดตอนนี้มึงอาจจะยังไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าไอ้กิจกรรมเชียร์นี่อ่ะมันให้อะไรกับมึงบ้าง มึงจะรู้ก็ต่อเมื่อมึงผ่านไปได้จนถึงวันจบกิจกรรมเชียร์ แต่อยากให้มึงรู้ไว้ว่า มึงเป็นน้องชายกู กูก็ห่วงก็รัก ถ้ากิจกรรมเชียร์นี้แม่งไม่เป็นประโยชน์ กูก็คงทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้มึงเข้าร่วมกิจกรรม กูพูดแบบนี้มึงเข้าใจหรือยัง" ธาราบอกกับน้องชายที่นั่งเงียบอยู่ เขาหวังว่านับหนึ่งจะเข้าใจในเจตนาของเขาและที่สำคัญคือเข้าใจในสิ่งที่เก้าทำ และจะไม่มีปัญหาในวันพรุ่งนี้


นับหนึ่งนั่งเงียบอยู่นาน เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่


"ครับพี่ธารา ผมขอโทษ พรุ่งนี้ถ้ามีโอกาสผมจะไปขอโทษพี่ประธานเชียร์ครับ"

ธารายิ้มได้เมื่อได้ยินสิ่งที่น้องชายพูดออกมา อีกใจเขาก็โล่งอก ที่ดูเหมือนว่านับหนึ่งจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อกี้นี้

นับหนึ่งเอง เมื่อเขาได้ยินที่ธาราพูด ก็ทำให้คิดอะไรได้ในหลายๆอย่าง ถ้าเขาอดทนรอตามที่พี่ประธานเชียร์บอก เขาก็จะได้เจอไอ้เสือในแบบที่ไม่ต้องมีความผิดแบบนี้

แต่ตอนนี้เขาโดนยึดป้ายชื่อไปแล้ว และคงไม่ได้เข้าเชียร์อีกต่อไป แล้วเขาจะได้รุ่นไหม จะได้เป็นน้องของพี่ๆไหม เขาเริ่มกังวล

"ไม่เป็นไรนะไอ้นับ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปเข้าเชียร์ จะไปขอป้ายชื่อจากพี่เขามาให้มึงเอง" วินบอกกับเพื่อน

"กูจะไปขอโทษพี่เขาพรุ่งนี้ แต่กูจะเจอพี่เขาไหมก็ไม่รู้" นับหนึ่งพูดกับวิน

"พรุ่งนี้มึงก็ไปดักที่ลานเชียร์ตอนเชียร์เสร็จสิ ยังไงก็เจอแน่ๆ ไม่ก็ให้พี่ข้าวตังพาไปหาเลย"

"เออ จริงด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปดักรอตอนมึงเชียร์เสร็จ แล้วกูจะขอโทษพี่เขา"

"ดีมาก ไอ้นับเพื่อนวิน" อนาวินเอื้อมมือมาตบไหล่ของนับหนึ่ง


นับหนึ่งคิดถึงภาพตอนที่เก้าเปิดประตูเข้ามาแล้วเขาโผเข้าไปกอด กลิ่นแป้งโคโดโมะที่หอมติดตัวของเก้า ทำให้เขารู้สึกแปลกๆกับพี่ประธานเชียร์คนนี้ขึ้นมา


//พรุ่งนี้ผมจะไปขอโทษพี่นะครับ// นับหนึ่งคิดในใจ แล้วก็ยิ้มออกมา

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7

ตอนที่10 : รอก่อนนะไอ้เด็กแว่น



 เช้าวันต่อมาที่โรงอาหารกลางน้ำของคณะ

"ไอ้นับ ป้ายชื่อมึงไปไหนวะ เดี๋ยวก็ไม่ได้เข้าเชียร์หรอก" ทิวถามนับหนึ่ง ด้วยความสงสัย

"เอ่อ กู กู" นับหนึ่งอึกอัก ไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไง ในใจของเขารู้สึกเศร้าที่วันนี้คงจะไม่ได้เข้าเชียร์กับเพื่อนๆ

"ป้ายชื่อมันหายอ่ะ เดี๋ยววันนี้ว่าจะไปบอกพี่สตาฟ" วินรีบตอบขึ้นมาแทนนับหนึ่ง ด้วยความเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนว่าตอนนี้คงรู้สึกเสียใจจากเหตุการณ์เมื่อวาน

นับหนึ่งก็ได้แต่พยักหน้าให้

วันนี้ทั้งวันนับหนึ่งไม่เป็นอันเรียน เพราะมีแต่เพื่อนๆเข้ามาถามเขาถึงป้ายชื่อที่หายไป ทำให้เขาวิตกมากขึ้นเรื่องที่จะไม่ได้เข้าเชียร์กับเพื่อนๆในวันนี้

หลังจากเรียนในภาคบ่ายเสร็จ ก็ถึงเวลาของกิจกรรมเข้าเชียร์ นับหนึ่งไม่ได้ตั้งแถวเพื่อเข้าไปในลานเชียร์พร้อมกับเพื่อนๆเหมือนเคย เพราะวันนี้เขาไม่มีป้ายชื่อ พี่สตาฟก็เลยไม่ให้เขาเข้าไปในลานเชียร์ นับหนึ่งเลยเดินไปนั่งโต๊ะไม้หินเพื่อรอเวลาหลังเลิกเชียร์ เขาจะได้ไปขอโทษพี่ประธานเชียร์ตามที่ตั้งใจไว้


ที่ห้องสโมสรนักศึกษาของคณะ


"ไอ้เก้า ได้ข่าวว่ามึงยึดป้ายชื่อของไอ้น้องเด็กแว่นมาหรอ" เพื่อนสตาฟเดินเข้ามาถามเก้า

"เออ"

"ว้าย อีเก้า อีประธานเชียร์โหด ยึดป้ายชื่อน้องนับของชั้นทำไมยะ" พี่เลดี้โวยวาย ใส่ประธานเชียร์

"ก็แม่ง" เก้าชะงักไป เขาไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไงดี จะตอบว่าเพราะนับหนึ่งแอบเข้ามาหาไอ้เสือถึงห้องชมรม ก็คงไม่เป็นผลดีต่อตัวนับหนึ่งแน่ๆ

"ช่างเหอะ เรามีเหตุผลของเราก็แล้วกัน" เก้าบอกกับเพื่อนๆแล้วก็เดินออกไปจากตรงนั้น ทิ้งให้เพื่อนๆจับกลุ่มสนทนากันต่อถึงเรื่องที่เขายึดป้ายชื่อของนับหนึ่ง

เก้าเดินเลี่ยงออกมาข้างหลังห้องสโมสรคณะ เพื่อเตรียมตัวที่จะไปลานเชียร์ทำหน้าที่ประธานเชียร์ ในระหว่างนั้นเขาเหลือบไปเห็นเด็กแว่นนับหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หินริมสระน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับลานเชียร์ นับหนึ่งนั่งหันหน้ามองไปที่ลานเชียร์ ซึ่งตอนนี้เพื่อนๆของเขากำลังเดินเข้าแถวไปที่ลานเชียร์

เก้ายืนแอบดูนับหนึ่ง เขาก็รู้สึกเสียใจ แต่ทำไงได้ เกมส์มันเริ่มไปแล้วยังไงก็ต้องเล่นต่อไป เขาล้วงป้ายชื่อของนับหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วเอามือลูบมันอย่างแผ่วเบา

"อดทนหน่อยนะไอ้เด็กแว่น อีกสองวันพี่จะคืนให้" เก้าพูดเบาๆกับตัวเอง เขากะเวลาไว้ว่าอีกสองวันจะถึงวันศุกร์ และวันนั้นเขาจะคืนป้ายชื่อให้นับหนึ่ง และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านไปด้วยดี ถ้าเขาคืนให้ในวันนี้มันจะดูไม่สมเหตุสมผลและอีกใจหนึ่งเขาก็อยากจะแกล้งเด็กแว่นนับหนึ่งอีกซักหน่อย


"เฮ้ย ไอ้เก้าป่ะ เตรียมเล่นเกมส์กันดีกว่า" เพื่อนสตาฟเดินมากอดคอเก้าแล้วก็พาเขาเดินไปตามเส้นทางลับโดยเฉพาะของพวกสตาฟ เพื่อน้องๆจะได้ไม่เห็นเวลาที่พวกสตาฟเดินไปที่ลานเชียร์


ทางด้านนับหนึ่ง เขาได้ยินเสียงเพื่อนร้องเพลงเชียร์ดังมาจากฝั่งตรงข้าม ก็ใจเสีย เขาอยากกลับไปนั่งร้องเพลงเชียร์กับเพื่อนๆ


"น้องนับ" มีเสียงเรียกนับหนึ่ง เขาหันไปดูก็ปรากฏว่าเป็นพี่ข้าวตังที่เดินมานั่งโต๊ะไม้หินตัวเดียวกับเขา

"พี่ตังครับ ผมอยากเจอพี่ประธานเชียร์"

"อยากเจอมันทำไมหล่ะ จะเอาป้ายชื่อคืนหรอ"

"ไม่ครับ ผมอยากจะขอโทษพี่เขาอ่ะครับ ส่วนป้ายชื่อ..." นับหนึ่งพูดถึงป้ายชื่อ เขาก็ก้มหน้า ยิ่งได้ยินเสียงเพลงที่เพื่อนๆร้องดังมาจากลานเชียร์ น้ำตาก็ซึมออกมา

"ส่วนป้ายชื่อ ก็แล้วแต่พี่เขาเลยครับ" นับหนึ่งพูดเสียงสั่น แล้วเงยหน้ามามองข้าวตัง

ข้าวตังก็ชะงักไปที่เห็นเด็กแว่นตรงหน้าตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้

"ไม่ต้องร้องไห้นะน้องพี่" ข้าวตังเอื้อมมือไปลูบหัวนับหนึ่งเบาๆด้วยความเอ็นดู เขาเข้าใจดีกว่าเก้ากำลังทำอะไรอยู่ และก็เข้าใจตัวนับหนึ่งด้วย และทำอะไรไม่ได้มากนอกจากนั่งปลอบใจน้องไปก่อนในเวลานี้

"พี่ตังครับ พี่พาผมไปหาพี่ประธานเชียร์ได้หรือเปล่าครับ" นับหนึ่งถามข้าวตังอีกครั้ง

"อืม พี่ขอดูก่อนแล้วกันนะ ว่าวันนี้หลังเลิกเชียร์สตาฟเขาเลิกประชุมกันกี่โมง ถ้าเลิกดึกน้องนับคงต้องกลับบ้านก่อน"

"ครับพี่" นับหนึ่งบอกข้าวตังแล้วก็นั่งก้มหน้า

"ไม่เอาน่า อย่าก้มหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยววันนี้กลับบ้านไปก็ให้น้องวินสอนเพลงแล้วกันว่าวันนี้เขาร้องเพลงอะไรกัน เข้าใจไหมครับ"

"เข้าใจครับพี่" นับหนึ่งบอกข้าวตังแล้วก็หันกลับไปมองเพื่อนๆในลานเชียร์ ข้าวตังก็มองนับหนึ่งด้วยความเห็นใจ และที่เขาต้องมาอยู่เป็นเพื่อนนับหนึ่งในตอนนี้ก็เพราะว่าเก้าขอร้องให้เขามาอยู่กับนับหนึ่งนั่นเอง


หลังจากกิจกรรมเชียร์ในวันนี้เสร็จสิ้นลง สตาฟปล่อยนักศึกษาใหม่ออกมาจากลานเชียร์ นับหนึ่งกับข้าวตังก็พากันเดินไปรอวินกับทิว

"ไอ้นับ มึงไปอยู่ไหนมาวะ" วินถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

"ตรงข้ามลานเชียร์แหล่ะ พี่ข้าวตังค์มาอยู่กับกู ขอบคุณนะครับพี่" นับหนึ่งบอกวินแล้วก็หันไปขอบคุณข้าวตัง

"ไม่เป็นไรครับ งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวไปห้องสโมฯก่อนนะครับ" ข้าวตังบอกน้องๆแล้วก็เดินไปที่ห้องสโมสรนักศึกษา


ที่ห้องสโมสรนักศึกษา

"เป็นไงบ้างวะ" เก้าเดินเข้ามาถามทันทีที่เห็นข้าวตังเดินเข้าไปข้างในห้องชมรม

"ก็ซึมๆไป น้องมันบอกว่าอยากเจอมึง อยากขอโทษมึงอ่ะ" ข้าวตังบอกเก้า

"หึ อยากขอโทษกูหรอไอ้เด็กแว่น" เก้าพูดออกมาเบาๆแล้วก็ยิ้มออกมา

"เออ ไงก็ขอบใจมึงมากนะ พรุ่งนี้อีกวันละกัน ให้น้องมันสำนึกผิดอีกซักวัน" เก้าบอกกับข้าวตัง

"นี่คือกูต้องไปอยูกับน้องมันอีกวันนึงใช่ป้ะ" ข้าวตังถามเพื่อน

"ใช่ครับ ช่วยกูหน่อยนะ"

"เออๆ ได้ ได้เสมอครับท่านประธานเชียร์" ข้าวตังพูดประชดเก้า

"เออ มึงไม่มีประชุมอะไรใช่มั้ยวันนี้" ข้าวตังหันมาถามเก้า

"มีสรุปงานตอนสองทุ่มอ่ะ รุ่นพี่ปี4จะเข้ามา นี่กูว่าจะไปหาไอ้เสือก่อนมึงจะไปกับกูป่าว" เก้าเอ่ยปากชวนข้าวตัง

"เออ ไปดิๆ กูแค่อยากจะบอกว่ามึงอย่าออกไปเพ่นพ่านข้างนอก เดี๋ยวไอ้น้องนับเห็นมึงมันก็จะวิ่งมาหาอีก เพราะกูบอกน้องมันไปว่ามึงมีประชุมคงมาเจอไม่ได้ในวันนี้"

"อ๋อ เออๆ ป่ะหาไอ้เสือกัน" เก้าบอกข้าวตังแล้วก็พากันเดินไปห้องชมรม เพื่อไปหาไอ้เสือ

ทางด้าน วิน ทิว นับหนึ่งก็นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะไม้หินเพื่อรอเวลาที่พี่ธาราจะมารับกลับบ้าน

"ไอ้ทิววันนี้มึงไม่ต้องรีบกลับหอหรอวะ" วินถามทิว

"เดี๋ยวพี่ชายกูมารับที่นี่อ่ะ" ทิวตอบวินด้วยรอยยิ้ม

ความสัมพันธ์ระหว่างทิวกับพี่ทาวน์ ดีขึ้นมาก ตั้งแต่วันที่พี่ทาวน์เห็นว่าทิวจะขึ้นห้องกับข้าวตังในวันนั้น อีกอย่างธาราก็มักจะเล่าเรื่องของน้องชายให้ทาวน์ฟังบ่อยๆ เลยทำให้ทาวน์รู้สึกว่าการเป็นพี่ชายคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และการที่มีน้องชายมาให้ดูแลก็นับว่าเป็นหน้าที่ของพี่ชายที่ดีที่ต้องทำ เหมือนอย่างที่ธาราทำกับนับหนึ่งน้องชายของเขา ทาวน์เลยเริ่มเปิดใจกับทิวน้องชายคนละแม่ของเขามากขึ้น


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2020 22:42:12 โดย ฟูจิซัน »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด