อำนาจรั(ก)ษ์ #รักษ์เพชร บทที่ 14 18.04.63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อำนาจรั(ก)ษ์ #รักษ์เพชร บทที่ 14 18.04.63  (อ่าน 4959 ครั้ง)

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
สู้กันซักตั้ง  :hao3:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ต่างคนต่างมีความลับ

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 10

เลือก (ที่จะ) ตั้ง



ข้อห้ามของคืนก่อนเลือกตั้ง



มาตรา 57 ห้ามทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด นับแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง ดังนั้น หลังเวลา 18.00 น. ก่อนวันเลือกตั้ง จะต้องหยุดปราศรัย หยุดหาเสียงทันที ฝ่าฝืนต้องระวางโทษตามมาตรา 147 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



มาตรา 76 ห้ามกระทำการใดๆ โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิได้ หรือขัดขวางหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ ที่เลือกตั้งหรือเข้าไป ณ ที่ลงคะแนนเลือกตั้ง หรือมิให้ไปถึง ณ ที่ดังกล่าวภายในกำหนดเวลาที่จะลงคะแนนเลือกตั้งได้ ฝ่าฝืนต้องระวางโทษตามมาตรา 152 จำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี



มาตรา 155 ผู้ใดขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตเลือกตั้งระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้งต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีดังกล่าวใช้บังคับกับวันลงคะแนนเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งหรือเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย



มาตรา 156 ผู้ใดเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใดๆ เกี่ยวกับผลของการเลือกตั้งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี





“โตๆ กันแล้ว” หากลงเล่นการเมืองแต่ไม่รู้ข้อห้ามดังกล่าวก็ไม่ควรที่จะเขียนแม้แต่ใบสมัคร เผ่าเพชรนั่งมองข้อห้ามที่ส่งผ่านไลน์ของพรรค ก่อนจะส่ายหน้า



เรื่องแค่นี้มันควรที่จะรู้ตั้งแต่เริ่มแรกไม่ใช่มาย้ำ ซึ่งการย้ำถือเป็นเรื่องดีแต่มันก็สามารถสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้เรื่องแต่มีดีกรีเป็นผู้สมัครสส.ในเขตต่างๆ



พรรคที่ประชาชนต่างไว้วางใจ ตอนนี้เผ่าเพชรเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาเลือกพรรคถูกหรือไม่ พรรคที่ตอบโจทย์อุดมการณ์ แต่ไม่ตอบโจทย์ด้านการทำงาน



เผ่าเพชรนอนเช็คข้อมูลและกระแสต่างๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะทวิตเตอร์ที่มีแฮชแท็ก #คืนหมาหอนก่อนเลือกตั้ง ก่อนที่เขาจะมาสะดุดกับโพสต์บางอย่าง



‘แฉนักการเมืองดัง หลังเลือกตั้ง’



เผ่าเพชรคลิกเข้าไปดูในลิงก์ก่อนจะเห็นเป็นเพียงแค่รูปเงาที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร พร้อมกับมีข้อความสั้นๆ ที่ไม่สามารถจับใจความที่จะสื่อได้ เผ่าเพชรเลยคลิ๊กออกและเลิกเล่นโทรศัพท์ หันมานั่งสมาธิสวดมนต์ก่อนนอนเหมือนอย่างทุกคืน ช่วงนี้เขาตั้งการสมาธิมากกว่าที่ผ่านมา สาเหตุหนึ่งก็คงเป็นเพราะ...





คืนวันงาน



หลังจากที่ภาคินแยกตัวออกไป เผ่าเพชรวิ่งกลับเข้าไปด้านในงาน เขามองหารักษ์แต่ไม่เจอทำให้เผ่าเพชรลุยเดี่ยวเข้าไปคนเดียว ห้องที่เขาจะไปก็คงไม่พ้น ‘ห้องควบคุม’



ในใจของเผ่าเพชรภาวนาให้สามารถเข้าไปในห้องควบคุมได้ และสิ่งที่เขาตามหาจะต้องมีหลักฐานเพื่อที่จะใช้ป้องกันตัวของเขาเองในอนาคต



เผ่าเพชรมาถึงห้องควบคุมก่อนจะมองซ้ายขวาเพื่อดูว่าระหว่างนั้นจะมีคนเข้ามาไหม เมื่อเห็นว่าทางสะดวกเขาจึงค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องควบคุม



“ขอร้องเถอะ...” หน้าจอแสดงผลของกล้องวงจรปิดทุกตัวอยู่ตรงหน้าเผ่าเพชรในตอนนี้ เขาขอแค่ได้หลักฐานมาแค่นั้นก็เพียงพอ



สองมือสั่นด้วยความรีบร้อนและตื่นเต้น ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะมีคนจับได้ อีกใจก็อยากจะรีบปล่อย แต่เขารู้แน่ว่าถ้าเขาปล่อย ไม่ใช่เรื่องยากที่ภาคินจะรู้ว่าเป็นฝีมือของเขา และอีกอย่างถ้าเขาใช้เรื่องนี้ขู่ภาคินมันก็ไม่ต่างจากการหาเรื่องใส่ตัว แต่สิ่งที่บีบให้เขาทำก็คือ...ภาคินล้ำเส้นของเขาก่อน



“ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว...” เผ่าเพชรกดเข้าไปยังไฟล์เก็บรวบรวมวิดีโอของกล้องวงจรที่อยู่ในงาน ก่อนจะหามุมที่สามารถมองเห็นพวกเขาได้ชัดที่สุด เมื่อรู้ว่ากล้องตัวไหนเผ่าเพชรไม่รอช้าที่จะดูดไฟล์ออกมา และค้นหากล้องวงจรตามเส้นทางที่ภาคินพาหงส์ไป



“ชัดสุดแค่นี้เหรอวะ?!” เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเผ่าเพชรเอาซะเลยเพราะกล้องวงจรสิ้นสุดแค่เส้นทางภายในงาน เพราะนอกอาคารหรือทางไปห้องน้ำหรือเส้นทางอื่นๆ ไม่สามารถใช้งานได้ “เชี้ย!” อาการตอนนี้เรียกได้ว่าหัวเสีย เมื่อไม่ได้ข้อมูลตามที่เขาต้องการเผ่าเพชรรีบออกจากห้องทันที



ตุบ!



ด้วยความที่รีบออกมานั้นทำให้เผ่าเพชรไม่ทันได้มองทำให้เขาชนเข้ากับใครบางคนจนตัวของเขาล้มไปกองอยู่ที่พื้น



“ไอ้เพชร?”



“ไอ้รักษ์! ...อุ๊บ!” รักษ์รีบเข้ามาปิดปากเผ่าเพชรก่อนจะลากเผ่าเพชรเข้าไปหลบอีกมุมหลังจากที่รักษ์ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาทางนี้



“เบา” รักษ์กระซิบข้างๆ หูของเผ่าเพชรเบาๆ และดันตัวของเผ่าเพชรให้เข้ามาแนบชิดอยู่ที่อกของเขา



“เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วใช่ไหมครับ?” เสียงของบุคคลที่สามดังออกมาจากห้องควบคุม ซึ่งรักษ์เองตั้งใจฟังว่าพูดอะไร ส่วนเผ่าเพชรเหมือนวัวสันหลังหวะเริ่มรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น



“ไอ้รักษ์...”



“เบา” รักษ์พูดเสียงดุเมื่อเผ่าเพชรเอาแต่เรียกชื่อของเขา



“กล้องนั้นมันใช้งานไม่ได้ครับนาย ครับผมเช็คดูแล้ว อะไรนะครับ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นมีใครเข้ามานะครับ ครับเดี๋ยวผมจะเดินดูรอบๆ” ถ้าคนปลายสายคือภาคิน เผ่าเพชรแน่ใจว่าภาคินอาจจะสงสัยเขาก็เป็นไปได้



“.......” มือหนาของรักษ์ที่ปิดปากของเผ่าเพชรอยู่กระชับให้แน่นขึ้น ส่วนอีกมือเขากระชับอ้อมกอดของเผ่าเพชรให้ขยับเข้ามา



เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาทางที่เขาหลบอยู่ รักษ์เองก็ลุ้นเพราะถ้าเจอเขากับเผ่าเพชรอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างจบแน่ แผนการที่เขาโกหกพ่อก็คงจะจบลงไปพร้อมๆ กัน



“คงไม่มีใครหรอกมั้ง”



“ฟู่....”



“หรือมีวะ?”



“.....!!!”



“ครับนาย ครับ ผมกำลังกลับ”



“ฟู่...” ครั้งนี้รักษ์หายใจได้เต็มปอดจริงๆ หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นหันหลังเดินออกไป เมื่อแน่ใจแล้วเขาจึงค่อยๆ ปล่อยมือออกจากปากของเผ่าเพชร



“มึงเข้าไปทำอะไร?” รักษ์ลุกขึ้นยืนก่อนที่จะยื่นมือให้เผ่าเพชรจับเพื่อที่จะดึงตัวของเผ่าเพชรขึ้น



“แล้วมึงมาทำอะไร?”



“กูถามมึงก่อน”



“กูแค่มาหาอะไรบางอย่าง” เผ่าเพชรหลบสายตาของรักษ์ก่อนจะกระแอ่มเบาๆ พร้อมกับเปลี่ยนเรื่อง “กูว่าเรากลับกันก่อนดีกว่าที่จะมีสายของพ่อมึงมาเห็น”



“ให้ไปส่งไหม?”



“แล้วมึงไม่ไปส่งหงส์อะไรนั่นหรอ”



“หงส์กลับไปแล้ว เหลือแต่มึงนั่นแหละ”



“เดี๋ยวกูกลับเอง มึงก็กลับดีๆ ก็แล้วกัน” เผ่าเพชรบอกลารักษ์ตั้งแต่ตรงนั้นก่อนที่เขาจะหันหลังเดินกลับออกมา



ทั้งคู่ต่างมีอะไรบางอย่างปิดบังกัน และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เผ่าเพชรต้องนั่งสมาธิเพื่อสงบสติในทุกๆ คืน หลังจากวันนั้น





กลับมาที่ปัจจุบัน



เผ่าเพชรข่มตานอนตลอดทั้งคืน แต่ด้วยความตื่นเต้นบวกกับความกังวลทำให้เผ่าเพชรนอนหลับได้ไม่เต็มที่ และต้องตื่นมาประชุมในช่วงเช้าก่อนจะออกมายังสถานที่เลือกตั้งในเขตของตัวเอง ระหว่างนั้นมีนักข่าวที่รอสังเกตการณ์เลือกตั้งวิ่งเข้ามาล้อมพร้อมกับยื่นไมค์สัมภาษณ์เผ่าเพชร



“ผมขออนุญาตไปใช้สิทธิ์ก่อนนะครับ” เผ่าเพชรตอบเลี่ยงๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล



“คิดเห็นอย่างไรกับข่าวลือในสังคมออนไลน์ที่พุ่งเป้ามาที่คุณไหมคะ?” เผ่าเพชรถึงกับขมวดคิ้วทันทีที่มีนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง



“ผมยังไม่ทราบข่าวอะไรเลยนะครับ”



“ก็ข่าวที่ว่า....”



“ผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วผมจะรีบมาตอบคำถาม ขอบคุณครับ” เผ่าเพชรอาศัยจังหวะที่นักข่าวกำลังถามฝ่าวงล้อมออกมาและเข้าคูหาเลือกตั้งทันที



การเลือกตั้งเป็นการเลือกตั้งบัตรใบเดียว ที่เลือกทั้งรัฐบาลและสส.เขตของตน ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่ถ้าถามว่ามีข้อเสียไหมตอบเลยว่ามี เพราะถ้าสส.เขตเราไม่ได้อยู่ในพรรคที่เราต้องการให้เป็นรัฐบาลก็จบ หรือถ้าอยากให้พรรคนี้เป็นรัฐบาลแต่ถ้าสส.เขตของเราไม่ดีหรือไม่ชอบก็ไม่สามารถเลือกรัฐบาลตามต้องการได้เหมือนที่ผ่านมา



เผ่าเพชรหย่อนบัตรลงในหีบเลือกตั้ง จังหวะที่เขาหย่อนมีเสียงแฟรชจากนักข่าวถ่ายสาดเข้ามา เขาเองก็มีเรื่องให้กังวลใจอยู่เหมือนกัน คือเรื่องที่นักข่าวถามเขาก่อนที่จะเข้ามาในคูหา ข่าว? ถ้าจะเปรียบเทียบอาการของเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างจากกินปูนร้อนท้อง เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำหลายๆ อย่างจะถูกเปิดเผยออกมาตอนไหน แต่เขาเองก็เตรียมใจเอาไว้อยู่แล้วตั้งแต่เลือกที่จะทำ



“ครับ” เผ่าเพชรเดินออกมาจากคูหาพร้อมกลับมาที่เดิมเพื่อให้นักข่าวสัมภาษณ์ตามที่บอกไว้ในตอนแรก



“ข่าวที่ว่าคุณเผ่าเพชรเคยเป็นเพื่อนสนิทกับคุณรักษ์เรื่องจริงไหมคะ? แล้วเรื่องที่ว่าพวกคุณสองคนแตกคอกันจนต้องมาอยู่กันคนละพรรคนี่จริงแท้อย่างไรคะ?” เผ่าเพชรถึงกับงงทันทีที่นักข่าวถาม มันผิดคาดกับสิ่งที่เขาคิด



“ผมกับคุณรักษ์เคยเรียนที่คณะเดียวกันครับ ส่วนเรื่องแตกคอหรือไม่ผมว่าผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขานะครับ หรือเขามีปัญหาอะไรกับผม?” เผ่าเพชรเลือกที่จะตอบคำถามของนักข่าวไปในเชิงว่างระเบิดเอาไว้ให้รักษ์แก้ และอีกอย่างก็คือถ้ามาในทางนี้สิ่งที่เผ่าเพชรทำได้คือ ทำเหมือนพวกเขาสองคนมีปัญหากันจริงๆ



“แสดงว่าข่าวที่ปล่อยมานี่เรื่องจริงใช่ไหมคะ แล้วอย่างนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณเผ่าเพชรเหรอคะถ้าได้รับการเลือกตั้ง”



“กระทบ? กระทบกับผมอย่างไรเหรอครับ?”



“ก็แบคของคุณรักษ์ค่อนข้าง..”



“ผมขออนุญาตไม่ตอบหรือพูดถึงบุคคลที่สามนะครับ แล้วก็ขอบคุณที่ให้เกียรติสัมภาษณ์ผม ผมขอตัวก่อนนะครับ” เผ่าเพชรโค้งให้บรรดานักข่าวก่อนจะเดินขึ้นรถเพื่อตรงไปยังพรรคของเขา เพื่อรอดูผลคะแนนการเลือกตั้งทั่วประเทศ ระหว่างนั้นเผ่าเพชรเช็คข่าวตามที่เขาได้รับมา ก่อนจะรู้ทันทีว่านั่นคือฝีมือของรักษ์



รักษ์พยายามทำให้เหมือนว่าเขาและเผ่าเพชรเป็นศัตรูคู่อริกันเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจบางอย่างของความสัมพันธ์พวกเขา และอีกอย่างถ้าต้องไปเจอกันในสภาจะได้ไม่ข้อสงสัย และอีกเรื่องก็คือเพื่อกันพ่อของเขาออกจากเผ่าเพชร



“ไอ้รักษ์รมต.ช่วยพ่อดีลตำแหน่งมาได้” รักษ์นั่งอยู่บนรถตู้กับผู้เป็นพ่อของเขาหลังจากที่ไปเลือกตั้งในเขตของตน



“กระทรวงไหน”



“เกรดซี”



“ก็โอ แล้วคราวนี้ไปแย่งเก้าอี้มาได้ไงอีกล่ะพ่อ” เรื่องการตามหาเก้าอี้หรือดีลเก้าอี้ตำแหน่งต่างๆ เป็นเรื่องถนัดของทรงเกียรติมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะเรื่องผลประโยชน์ถ้าเขาจัดการทุกคนจะได้อย่างเท่าเทียมกันหมด และจะไม่มีปัญหาภายหลัง ทำให้ทรงเกียรติได้ฉายาทางการเมืองว่า ‘เกียรติเกี่ยทุน’ แม้จะเป็นฉายาที่ไม่ได้ดูดีนัก แต่เขาก็น้อมรับเอาไว้



“พรรคร่วม”



“ถามจริง ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลขึ้นมา?”



“ได้อยู่แล้วไอ้หนู สถานการณ์ตอนนี้อย่างไงก็ทางของเรา” ทรงเกียรติพูดอย่างภาคภูมิใจ “ถ้าแกเชื่อฟังพ่อแบบนี้ อยากได้อะไรพ่อก็หามาให้แกได้ทุกอย่าง”



“ผมต้องภูมิใจที่มีพ่อแบบนี้ใช่ไหมครับ?”



“พ่อทำทุกอย่างก็เพื่อแก” แม้ว่าผมจะไม่ต้องการ... นั่นเป็นสิ่งที่รักษ์คิดแต่ไม่ได้พูดออกมา เขาเลือกที่จะเงียบจนกระทั่งถึงพรรค



มีนักข่าวมากมายมารอสัมภาษณ์และสังเกตการณ์อยู่ที่หน้าพรรค รักษ์กับพ่อจึงไม่สามารถเลี่ยงให้สัมภาษณ์



“สวัสดีครับ/สวัสดีครับ” รักษ์ยกมือพร้อมกับฉีกยิ้มให้กับนักข่าวที่กรูกันเข้ามา



“เป็นอย่างไรบ้างคะท่าน ลูกชายจะเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองครั้งแรก” นักข่าวยื่นไมค์ไปที่ทรงเกียรติที่ยิ้มให้ตามสไตล์นักการเมืองรุ่นเก๋า



“ก็ดีใจมั้งครับ จะได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องผมเองก็ยังไม่อยากหวังอะไรมาก” ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเป็นคนบอกเองว่าอย่างไรลูกชายของเขาต้องได้



วงการการเมืองก็ไม่ต่างอะไรจากวงการบันเทิง หน้ากากที่ใส่หนากว่าหลายชั้น



“แต่ท่านใหญ่มากเลยนะคะ ไม่น่ายากที่จะให้ลูกชายขึ้นมา”



“ผมใหญ่เหรอครับ? ผมก็พึ่งจะรู้ตัวว่าใหญ่เหมือนกัน” รักษ์หันไปมองพ่อของเขายิ้มๆ และเขาก็รู้ได้ทันทีว่านิสัยแบบนี้ของเขา เขาได้ใครมา



“คุณรักษ์ครับข่าวที่ออกมาเมื่อคืนว่าคุณมีเรื่องกับสส.ฝั่งตรงข้ามนี่มีมูลมากน้อยแค่ไหนครับ?”



“ใครเหรอครับ? ผมไม่เห็นรู้ตัวเลยว่ามีเรื่องกับใคร ผมออกจะเป็นมิตร ใช่ไหมพ่อ” รักษ์หันไปเลิกคิ้วถามพ่อของเขาด้วยท่าทางติดตลกเพื่อไม่ให้บรรยากาศซีเรียสมาก



“ขออนุญาตเอ่ยชื่อถึงได้ไหมครับ เพื่อจะชัดเจนมากขึ้น”



“ถ้าเขาไม่ฟ้องก็เชิญครับ”



“คุณเผ่าเพชร.. ได้ข่าวมาว่าเคยเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ตอนนี้คุณทั้งคู่มีปัญหากันใช่ไหมครับ เพราะทั้งคู่ไม่ได้อยู่พรรคเดียวกัน”



“ทีละประเด็นเลยนะครับ อย่างแรกผมกับเขาเราเป็นเพื่อนร่วมคณะไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น สองนะครับผมกับเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ส่วนเรื่องที่อยู่คนละพรรคผมว่ามันเป็นเรื่องของอุดมการณ์และความชอบมากกว่านะครับ ผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้” ทรงเกียรติเฝ้าดูสถานการณ์ระหว่างที่ลูกชายของเขาตอบเกี่ยวกับเผ่าเพชร คนที่เขาหมายหัวเอาไว้อยู่ เมื่อเห็นลูกชายตอบด้วยท่าทางไม่สะดุดและไม่มีพิรุธเขาจึงเบาใจไปหนึ่งเรื่อง



“แต่คุณก็เคยโจมตีคุณเผ่าเพชรหลายประเด็นเลยนะคะ”



“ผมนี่นะโจมตีคนอื่น? คุณจำผิดคนรึเปล่าครับ ฮ่าๆ ถ้าจะโจมตีก็คงมีแค่เรื่องดีเบตหรือแลกเปลี่ยนมุมมองทางการเมืองมากกว่า ผมบอกแล้วว่าผมไม่เคยมีปัญหาหรือมีเรื่องกับใคร พวกคุณนี่มองผมเป็นคนอย่างไงกันครับเนี่ย” รักษ์พูดพร้อมกับหัวเราะเล็กๆ “เลือกตั้งกันรึยังครับเนี่ย? อย่าลืมไปใช้สิทธิ์กันนะครับ ผมขอตัวพาพ่อเข้าไปด้านในก่อน สวัสดีครับ” ก่อนจะไปรักษ์ยกมือไหว้นักข่าวก่อนจะเดินพาพ่อเข้าไปด้านในตึกของพรรค ซึ่งเป็นที่รวมตัวของผู้สมัครเพื่อวางแผนกันต่อไปกับเกมการเมืองในอนาคต ถ้าได้สส.ก็ต้องดูว่าจะเป็นเสียงข้างมากหรือไม่ เพราะถ้าไม่การดีลพรรคร่วมก็จะตกมาที่ผู้เป็นพ่อของเขา...



คิดถึงมึงฉิบหายเลยไอ้เพชร ป่านนี้จะเป็นไงบ้างวะ ขอให้เราทั้งคู่เจอกันในสภา เหมือนที่มึงฝันนะ



รักษ์ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจเพราะเขาไม่สามารถติดต่อเผ่าเพชรได้ในระหว่างนี้ และเขาเองก็อยากเห็นเผ่าเพชรในสภาต่อสู้กับเขาอย่างที่ฝันจริงๆ ข้างในเป็นคู่แข่งแต่ถ้านอกเป็นคู่รัก

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 11

ล้ม..ต้องเหยียบซ้ำ



นาทีลุ้นระทึกก็มาถึงหลังจากที่เลยเวลาปิดหีบมาได้หลายชั่วโมงบางพื้นที่มีการนับคะแนนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและบางพื้นที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จ มีทั้งผู้สมัครที่รู้ผลคะแนนของตนและยังไม่รู้ หนึ่งในนั้นคือเผ่าเพชรที่นั่งลุ้นอยู่กับหน้าจอแสดงผลการนับคะแนนเขตของตน และมีลูกน้องที่สังเกตการณ์อยู่ในพื้นที่จริง โทรศัพท์ของเผ่าเพชรสั่นอยู่อย่างนั้นแต่ไม่มีทีท่าว่าเผ่าเพชรจะกดรับ จนกระทั่ง....



“......!!!”



“เพชร! ยินดีด้วย!!”



“เผ่าเพชรยินดีด้วยนะเว้ย!”



“เป็นสส.สอบผ่านแล้ว”



ครื่นนนน



เผ่าเพชรเหมือนหูดับไปชั่วขณะ ดวงตาพร่ามัว หัวใจสั่นระรัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผลคะแนนโชว์เด่นอยู่บนหน้าจอพร้อมกับรูปของเขา..



ทุกอย่างตอนนี้ไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่? เผ่าเพชรรีบวิ่งออกมายังด้านนอกก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ เวลาตื่นเต้นหรือทำอะไรไม่ถูกเผ่าเพชรจะเครียด สิ่งที่ทำให้มันบรรเทาลงได้ก็คือบุหรี่เย็นๆ ที่นานๆ ทีเผ่าเพชรจะหยิบมันขึ้นมาใช้ เผ่าเพชรใช้เวลาอยู่กับตัวเองด้านนอกสักพักก่อนจะเดินกลับเข้าไปในพรรค



เมื่อก้าวเข้าไปด้านในทุกคนต่างเข้ามาแสดงความดีใจให้กับเผ่าเพชร แม้กระทั่ง...



“ยินดีด้วยนะคุณเผ่าเพชร”



“ขอบคุณครับท่าน” เผ่าเพชรยกมือไหว้ขอบคุณภาคินเล็กน้อยก่อนที่ภาคินจะเดินไปแสดงความยินและปลอบใจแก่สส.สอบตกจนครบทุกคน



‘เจอกันครับ :)



รักษ์สั่งข้อความสั้นๆ มาให้เผ่าเพชรโดยไม่ติดต่ออะไรมาอีกเลย ส่วนเผ่าเพชรตอนนี้เข้าสู่การเตรียมตัวและเร่งให้ลูกทีมของเขาทำ infographic เพื่อโพสต์ลงในช่องทางออนไลน์ของเขา เรียกได้ว่าคืนนี้ทั้งคืนเผ่าเพชรแทบจะไม่ได้นอนเพราะเตรียมตัวแถลงอยู่ที่พรรคพร้อมกับสส.ท่านอื่นๆ





“ดีลครับ”



(......ตกลงตามนี้)



ภาคินนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องทำงานเพียงลำพังเพราะเขากำลังลุ้นให้สส.ฝ่ายตรงข้ามได้เก้าอี้น้อยที่สุด ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าอย่างไรตนก็ไม่มีทางที่จะได้เป็นรัฐบาล แต่อย่างน้อยการทำให้รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสมมากที่สุดเพื่อย่นระยะการทำงาน



“ไปตามนี้” เผ่าเพชรถูกเรียกตัวเข้ามาในห้องทำงานของภาคินเพื่อที่จะได้รับมอบหมายงานบางอย่างจากหัวหน้าพรรค



“ครับ?”



“ทันทีที่เปิดสภาคุณจะไม่ใช่แค่สมาชิกพรรคอีกต่อไป ถึงภายนอกพรรคของเราจะดูทันสมัยแต่อย่างลืมว่า..ผลประโยชน์ของพรรคก็สำคัญ เขตที่คุณรับผิดชอบนั้นจำได้ใช่ไหมว่าใครสนับสนุน”



“จำได้ครับ” เผ่าเพชรหยักหน้า และเรื่องที่เขาวิตกกังวลอีกเรื่องหนึ่งก็คือ สาเหตุที่ทำให้เขามีชื่อเสียงขึ้นมานอกจากสิ่งที่เขาพยายามดันตัวเองแล้ว อีกหนึ่งอย่างก็คือการได้รับการสนับสนุนจากทางผู้ใหญ่ในภาคธุรกิจที่ดีลกับพรรคของเขาอยู่ ถ้าเขาชนะการเลือกตั้งคนที่เขาจะต้องดูแลเป็นอันดับหนึ่งคือคนพวกนั้นไม่ใช่ประชาชนอย่างที่เขาต้องการ แต่ถึงอย่างไรเผ่าเพชรเองก็จะไม่ทิ้งอุดมการณ์ที่เขาหมายมั่นเอาไว้



“พรุ่งนี้คุณช่วยเข้าไปขอบคุณเขาด้วยนะ”



“ผมต้องเข้าไปเหรอครับ? พรุ่งนี้ผมต้องไปขอบคุณชาว...”



“แวะไปก่อน อะไรที่สำคัญคุณน่าจะรู้อยู่นะ” เป็นอีกครั้งที่เผ่าเพชรต้องก้มหน้ายอมรับ ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องของภาคิน “อีกอย่างประชาชนก็อย่างพึ่ง รอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากกกต.ก่อน อะไรๆ มันก็ไม่แน่นอน”



การทำงานที่รักแต่สภาพแวดล้อมแบบนี้ก็ทำให้เขาไม่มีความสุขเหมือนกัน หรือเขาเหมาะกับอาชีพอื่นมากกว่า? ณ เวลานี้เผ่าเพชรเองก็ไม่แน่ใจ แต่ในเมื่อเขาเลือกเส้นทางนี้แล้วเขาก็ต้องไปให้สุด



เวลาเดียวกัน...



“เก็บอาการไม่อยู่เลย?”



“พ่ออย่าหาเรื่องผม” รักษ์รีบหุบยิ้มทันทีที่ได้เห็นรายชื่อของเผ่าเพชรโชว์หราอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ ทรงเกียรติที่เข้ามาพอดีถึงกับไม่พอใจ



“ก็เห็นทำหน้าภูมิใจนักภูมิใจหนา อย่าลืมว่าแก..”



“ก็บอกว่าไม่ได้ยุ่งกันแล้ว ผมจะยินดีกับมันผมก็ไม่มีสิทธิ์เลยว่างั้น? เกินไปไหมครับพ่อ” รักษ์เองก็ไม่เข้าใจว่าพ่อของเขาจะจงเกลียดจงชังอะไรเผ่าเพชรนักหนา ถ้ารู้ว่าตอนนี้เขาสองคนยังติดต่อกันอยู่คงไม่อกแตกตาย



“ไปเตรียมตัว” ทางเกียรติถอนหายใจออกมาอย่างเหลืออดแต่ไม่ได้ต่อว่าอะไรลูกชายของเขาต่อ



“เตรียมตัวอะไร”



“แถลงการณ์ของพรรค”



“ออกหมดแล้วเหรอ”



“มีเวลาดูข่าวของมันแต่ไม่มีเวลาดูข่าวของพรรคตัวเอง”



“เจอกันข้างนอกแล้วกันพ่อ” ด้วยความที่ไม่อยากทะเลาะทำให้รักษ์ยอมแพ้และเป็นฝ่ายเดินหนีผู้เป็นพ่อออกมาจากห้องพักของเขา นี่ก็อาจจะเป็นอภิสิทธิ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เขามีห้องพักส่วนตัวอยู่ในที่ทำการของพรรคเหมือนผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ



“ยินดีด้วยนะรักษ์”



“อ่าวคุณนนท์ ยินดีกับสมัยที่สองด้วยนะครับ” ระหว่างทางเดินรักษ์บังเอิญเจอเข้ากับ ‘นนท์’ หัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้เป็นสมัยที่สอง



“ผลยังไม่เป็นทางการเลยรักษ์”



“อย่างไงก็คุณนนท์ครับ เชื่อผมเถอะ”



“เจอกันข้างล่าง”



“ครับ” หลังจากที่ทักทายกับหัวหน้าพรรคเสร็จ รักษ์ลงมายังด้านล่างของพรรคที่สมาชิกคนอื่นๆ กำลังรวมตัวกันอยู่ ทันทีที่รักษ์เข้าไปร่วมวงทุกอย่างก็เหมือนปกติ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าหัวข้อการสนทนาของคนเหล่านั้นจะคือรักษ์ก็ตาม ถ้าถามว่ารักษ์รู้ตัวไหม เขารู้ แต่เขาเองก็ไม่ได้ว่าแปลกอะไรเพราะเขารู้ตัวดีว่าเขาเหนือกว่าคนอื่น เป็นธรรมดาที่จะมีคนไม่พอใจ



“ยินดีด้วยนะรักษ์”



“ครับพี่ ยินดีเหมือนกันครับ”



“พ่อคงยิ้มใหญ่แล้ว ได้ตำแหน่งปาร์ตี้ลิส”



“อ่า..ไว้ผมจะถามพ่อให้นะครับ” และเรื่องที่เขาจะต้องเจอประจำก็คือการลากพ่อของเขาเข้ามาในเกือบๆ ทุกๆ บทสนา แต่นั่นเขาก็ชินแล้วเหมือนกัน





การแถลงข่าวและการนำเสนอข่าวในวันนี้คงไม่พ้นผลการเลือกตั้งและการวิเคราะห์แนวโน้มในการจัดตั้งรัฐบาลของนักวิชาจากหลากหลายสถาบัน มีทั้งการวิเคราะห์เก้าชิงเก้าอี้ในฝ่ายพรรคร่วม และการโยกย้ายของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งก็มีให้เห็นในทุกๆ สมัยของการเมือง



การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นการลงมติของ ส.ส. เท่านั้น ใช้คะแนนเสียงจาก ส.ส. 251 เสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรี (อ้างอิงจากรัฐธรรมนูบ 40,50) กกต. มีเวลา 60 วัน ที่จะนับคะแนนและประกาศผลอย่างเป็นทางการ ระหว่างนี้ กกต. อาจใช้อำนาจที่มีเพื่อ “เขี่ย” ผู้สมัครส.ส. ของพรรคอื่นออกจาสนามการเลือกตั้งได้



และนี่คือแผนการสุดท้ายของทรงเกียรติที่จะใช้จัดการหนามที่ขวางทางลูกชายของเขา...



“ไอ้รักษ์เอานี่ไปยื่นให้กกต.กับราม”



“หลักฐานอะไร ใครทำผิดการเลือกตั้งอีก?” รักษ์ขมวดคิ้วทันทีที่พ่อของเขายื่นซองเอกสารบางอย่างให้กับรักษ์หลังจากที่แถลงการณ์ขอบคุณประชาชนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยกับคะแนนเสียงที่ได้



“รามรู้”



“แต่ผมไม่รู้”



“ไม่รู้สักเรื่องก็ได้” รักษ์หันหน้าไปมอง ‘ราม’ ที่มีศักดิ์เป็นอาของเขาถึงแม้อายุจะห่างกันเพียงแค่ห้าปีก็ตาม ทำให้รักษ์เรียกรามว่าพี่แทนที่จะเรียกอา



“ไปถึงแล้วก็รู้เอง” รามมีนิสัยไม่ต่างจากรักษ์เพียงแต่เขามักจะนิ่งและเลือดเย็นกว่ารักษ์เป็นหลายร้อยเท่า อย่างเช่นในวันนี้



“พี่ราม..มันเกี่ยวกับผมเหรอวะ?”



“เดี๋ยวพี่ไปรอที่รถ” รามเลือกที่จะเดินหนีออกไปแทนที่จะตอบคำถามของรักษ์ เพราะเรื่องนี้เขาไม่เกี่ยวคนที่เกี่ยวก็คือพี่ชายของเขา ถึงแม้ว่าตอนนี้รามจะไม่เล่นการเมืองหรือเข้ามาทำหน้าที่ในบทบาทใหญ่ๆ แต่ในหลายๆ แผนการที่ทำให้พรรคประสบความสำเร็จได้หนึ่งในนั้นก็คือราม ฝ่ายกลยุทธ์ที่มีแต่คนอยากดึงตัวไปร่วมงาน ทั้งบริษัทเอกชนใหญ่ๆ แต่รามเลือกที่จะทำงานอยู่ที่พรรคกับพี่ชายอย่างทรงเกียรติที่เปรียบเสมือนพ่อแท้ๆ ของเขาอีกคน



“พ่อ ถามจริงพ่อจะเล่นอะไรอีก”



“เล่นเหรอ? พ่อไม่ได้เล่นนะ”



“ตอนนี้พ่อกำลังเล่น”



“เดี๋ยวก็รู้ แค่ทำตามที่บอก แล้วต่อจากนี้แกจะเลือกอะไรก็เรื่องของแกไอ้รักษ์” จากสายตาและคำพูดของผู้เป็นพ่อรักษ์รู้ได้ทันทีว่านั่นมันหมายถึงการตัดสินใจของเขาซึ่งมันอาจจะเกี่ยวข้องกับเผ่าเพชรอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาต้องผ่านมันไปให้ได้



“พี่ราม พี่บอกผมเถอะ” ระหว่างไปที่กกต.รักษ์พยายาม้างปากของรามเพื่อให้บอกว่าเอกสารในซองนั้นคืออะไร ถึงแม้ว่ารักษ์จะฉลาดและทันคนแต่..ถ้าพ่อเอารามเข้ามาเกี่ยวข้องรักษ์เองก็ไม่แน่ใจว่าจะรับมือไหวหรือเปล่า



“ถึงแล้วมึงก็รู้”



“พี่รามพี่ก็รู้ว่า...”



“มึงเลือกเอง มึงเลือกที่จะผูกมันเอง มึงก็ต้องแก้เอง”



“ผมผูกเองแต่พี่ก็ต้องมาช่วยผมผูกก็ได้ไหม”



“ถ้ามันจะสนุกกูก็ช่วยผูกไง” รามหันมายักคิ้วให้รักษ์ด้วยสีหน้ากวนๆ “ไม่ต้องเครียด เรื่องนี้มันอาจจะทำให้อะไรง่ายขึ้นก็ได้”



“......” เขาก็ขอภาวนาให้เป็นอย่างที่รามพูด





สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง



รักษ์และรามลงจากรถทันทีที่เข้ามาถึงหน้าศูนย์ราชการซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อรักษ์ปรากฏนักข่าวหลายสำนักวิ่งกรูเข้ามาทันที



“คุณรักษ์มายื่นอะไรเหรอคะ?” รักษ์หันไปมองรามเพื่อให้รามตอบแทนเพราะตอนนี้เขาไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารในซอง



“เอกสารการทุจริตของสส.เขตครับ” สิ่งที่รามพูดเรียกเสียงฮือฮาของนักข่าวจากหลายสำนักเพราะนี่เป็นข่าวแรกของวันหลังจากผ่านการเลือกตั้งมาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง “ต้องเอามาให้กกต.ตรวจสอบข้อเท็จจริง”



“พอจะบอกได้ไหมคะว่าเป็นข่าวอะไร”



“ก็เป็นข่าวที่พวกคุณจับตามองครับ”



“เรื่องแฉใช่ไหมครับ?”



“ก็...รักษ์เปิดให้ผมที” รักษ์รับเอกสารจากมือของรามด้วยความรู้สึกร้อนรุ่ม ถึงแม้เขาจะไม่สามารถแสดงอาการผ่านสีหน้าได้ แต่เหงื่อในมือของเขาเริ่มออกบ่งบอกว่าตอนนี้เขากำลังประหม่าหากเอกสารที่ออกมามันเกี่ยวกับเผ่าเพชร



“มือคุณรักษ์สั่นรึเปล่าครับ”



“ครับ?” รักษ์ที่พยายามเรียกสติกลับมา ก่อนจะตัดสินใจดึงเอกสารออกมาทีเดียว “การทุจริตของสส.เขต XXX...”



แชะๆๆๆ



เสียงรัวแฟรชสาดเข้ามาทันทีที่เอกสารปรากฏอยู่ตรงหน้านักข่าว รักษ์หายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเอกสารที่เขาถืออยู่อาจจะตัดอนาคตทางการเมืองของเผ่าเพชร แต่เขาก็จำเป็นจะต้องอ่านรายละเอียดด้านใน



“ผู้ช่วยคุณเผ่าเพชรสส.เขต XXX ใส่ซองช่วยงานศพเข้าข่ายเป็นความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. คือเสนอให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง นี่เป็นรูปครับ ผมขอบอกรายละเอียดแค่นี้พอนะครับ” รักษ์เก็บเอกสารใส่ซองเหมือนเดิม



“แสดงว่าคุณรักษ์กับคุณเผ่าเพชรก็ไม่ถูกกันอย่างนั้นเหรอคะ ตามที่ข่าวออกมา?”



“ผมเคยตอบไปแล้วนะครับว่าไม่เกี่ยว แต่ที่ผมมาวันนี้ในฐานะคนที่ไม่สามารถมองข้ามการกระทำผิดแบบนี้ได้ ถึงมันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ถูกใช่ไหมครับ?”



“อ่า..แล้วเรื่องที่ว่า...”



“ขอตัวรักษ์ก่อนนะครับ” รามเป็นฝ่ายตัดบทสนทนาขึ้นมาเมื่อเห็นรักษ์เริ่มที่จะตอบไม่ตรงคำถาม เขาเองก็เห็นใจแต่ในเมื่อมันเป็นกลยุทธ์ของพรรคเขาเองก็ต้องทำ



“ขนาดนี้เลยเหรอวะพี่..พี่มึงแม่ง”



“ไปถามพ่อมึง” รักษ์รู้ดีว่าเผ่าเพชรไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน โดยเฉพาะคนที่เคารพกฎกติกาทุกอย่าง เพียงแต่ว่าครั้งนี้เผ่าเพชรหละหลวมกับลูกน้องของเขามากเกินไปโดยไม่รู้ว่ารู้น้องของเผ่าเพชรจะตลบหลังแบบนี้ ถ้ากกต.ให้ใบเหลืองก็มีสิทธิ์เลือกตั้งใหม่ แต่ครั้งนี้เผ่าเพชรต้องรักษาชื่อเสียงของตัวเองเพื่อให้คนในพื้นที่ไว้วางใจอีกครั้ง แต่ก็อาจจะยากเพราะข่าวที่ออกมามันอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์



“ถามแน่ แต่พี่มึงช่วยอยู่เฉยๆ ไม่ต้องมายุ่ง”



“มึงลืมเหรอว่าสั่งกูไม่ได้ไอ้รักษ์?”



“เหี้ยไม่เปลี่ยน”



“ไม่ต่างจากมึงครับ”









“ยินดีด้วยนะเผ่าเพชร..พึ่งได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งแต่ไม่คิดว่าจะดับไวขนาดนี้” เผ่าเพชรนั่งมองข่าวที่ได้รับพร้อมกับภาพของรักษ์ที่ปรากฏขึ้นมาเด่นหราอยู่ตรงหน้า



“ครับพี่อิน เสียใจด้วยนะครับ สส.สอบตกตั้งแต่รอบแรก”



“ไอ้เพชร!”



“ผมพูดแรงเหรอครับ? พี่ถึงต้องตะโกนใส่ผม งั้นขอโทษนะครับแต่ผมตั้งใจ” ด้วยความที่โมโหและโกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้เผ่าเพชรเก็บของและเตรียมที่จะเดินหนีเพื่อควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองให้คงที่กว่านี้ เพราะอีกไม่นานเขาก็คงจะถูกเรียก



“อย่าอวดดี”



“ถ้ามีดีผมก็คงต้องอวด”



“เก่งให้ได้ตลอดนะมึง”



“ครับ” เผ่าเพชรเดินผ่านหน้าอินไป ระหว่างนั้นในหัวของเขากลับว่างเปล่า ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน เหมือนหลอกให้ดีใจแล้วถูกถีบซ้ำให้ตกเหว แต่เขาจะปีนกลับขึ้นมาได้หรือไม่ก็คงเป็นเรื่องของอนาคต แต่ตอนนี้เผ่าเพชรคิดอย่างเดียวว่า



เจ็บนี้ไม่มีวันลืม...







เปิดตัวไอเทมลับ พี่รามแฟนเราเอง อิอิ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ถึงจะรักจะเข้าใจ แต่เหมือนยิ่งเป็นเส้นขนาดที่ยิ่งห่างกันไปเรื่อยๆ

จองพี่รามมมมมมมม  :hao5:


ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เจอเหตุการณ์ขนาดนี้ก็ทำใจยากอยู่นะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เล่นแรงมากนะ

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 12

คำขอโทษที่ไม่ได้ยิน



เผ่าเพชรถูกเรียกตัวเข้าไปพบกับกรรมการบริหารพรรคเพราะข่าวที่ออกมาทำให้เกิดการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกันยกใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องของลูกน้องของเผ่าเพชรที่เป็นผู้กระทำผิด เผ่าเพชรพลาดเองที่ไม่ได้ตรวจสอบลูกน้องให้ละเอียด และการกระทำที่มีหลักฐานแบบนี้ดีไม่ดีเขาอาจจะถูกใบแดงและหมดสิทธิ์การเป็นสส.ในเขตพื้นที่



“ทั้งหมดก็อย่างที่ผมชี้แจงไปครับ..” เผ่าเพชรโค้งศีรษะให้กับคณะกรรมการพรรคทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมพร้อมกับชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น



“เอาเป็นว่าทางเรารับสิ่งที่คุณพูด แต่คุณต้องไปชี้แจงให้กกต.รับทราบในวันที่นัด ทางนั้นเองก็ยังไม่ได้สรุปอะไร” เผ่าเพชรหยักหน้าตอบรับ



“ผมขอโทษทุกๆ คนในที่นี้จริงๆ ครับ ครั้งนี้ผมพลาดเอง”



“ช่วงนี้เราก็คงเจรจากับฝั่งนู้นได้ เพราะถ้าจำนวนเก้าอี้ของเขาไม่ได้เป็นเสียงส่วนใหญ่ เดี๋ยวเขาก็โล่มาหาเรา บางทีการใช้เก้าอี้ไม่กี่ตัวต่อรองมันน่าจะมีลุ้น”



“แต่ประชาชนไม่ได้โง่นะครับ แค่เราขยับตัวเขาก็จับทางเราถูก ชื่อเสียงของพรรคมันจะเสียหาย ดีไม่ดีอาจจะมีชื่อพรรคแค่สมัยเดียว”



“อย่าพึ่งด่วนสรุปครับ เดี๋ยวผมจะส่งคนไปเจรจาถ้าเขาไม่ได้โล่มาหาเราก่อน” เผ่าเพชรนั่งเงียบและฝั่งในสิ่งที่พวกผู้ใหญ่ประชุมกัน





วันนี้ตลอดทั้งวันเผ่าเพชรไม่มีแรงที่จะทำอะไรแค่เขาลากสังขารตัวเองกลับมาถึงคอนโดได้ก็ดีนักหนา ตลอดทั้งวันโทรศัพท์ของเขาแทบจะไม่หยุดแจ้งเตือนจนเผ่าเพชรตัดสินใจปิดเครื่องเพื่อไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น การหนีปัญหาเป็นวิธีที่เผ่าเพชรเกลียดที่สุด แต่เวลานี้เขากลับใช้มันเพื่อป้องกันตัวเอง



เผ่าเพชรคิดย้ำอยู่กับสิ่งที่รักษ์กระทำในวันนี้พร้อมกับชั่งน้ำหนักต่างๆ จนเผ่าเพชรได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า มันเป็นความผิดของใคร ของเขาหรือของรักษ์? ส่วนลูกน้องของเขาที่กระทำผิด เผ่าเพชรเชื่อว่ามันมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอีกมากกว่าที่เห็น



“ไปอาบน้ำดิ กูทำข้าวเย็นไว้ให้” เผ่าเพชรที่เขามาถึงในห้องไม่มีเรี่ยวแรงที่จะสังเกตเห็นไฟในห้องที่เปิดอยู่ ทำให้เขาไม่รู้ว่ารักษ์เขามาในห้องของเขาตั้งนานแล้ว



“มึงยังกล้ามาหากูอีกเหรอ?” เผ่าเพชรหันไปมองรักษ์ที่เดินออกมาจากห้องครัวในภาพเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คสีดำมีผ้ากันเปื้อนพันหลวมๆ อยู่ที่เอว



“แยกแยะหน่อยดิ”



“แยกแยะ?! มึงใช้ส้นตีนคิดเหรอวะ?” คำว่าแยกแยะที่หลุดออกมาจากปากของรักษ์ทำให้เผ่าเพชรถึงกับหมดความอดทนเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้มันรุนแรงกว่าที่เขาจะอยู่เฉย



“ใจเย็นดิ”



“เย็นก็เหี้ยละ มึงก็รู้ว่ากูรอวันนี้มานานแค่ไหน ความฝันของกูคือการได้เข้าไปทำงานในสภาแต่มึงกำลังทำลายความฝันของกู!” รักษ์เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเผ่าเพชรด้วยสีหน้ารู้สึกผิด



“มึงก็รู้ว่ากูไม่มีทางเลือก...” รักษ์โน้มศีรษะของเขาซบลงที่ไหล่ของเผ่าเพชร



“แต่มึงเลือกที่จะทำร้ายกู?”



“เขาวางแผนให้กูกับมึงเป็นศัตรูกัน”



“กูไม่รู้จะพูดอะไรเลยว่ะไอ้รักษ์” เผ่าเพชรก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อให้ศีรษะของรักษ์ที่อยู่บนไหล่ของเขาออก



“ถ้ากูขอโทษล่ะ” รักษ์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเผ่าเพชรอีกครั้ง



“ตอนนี้กูไม่รับ” เผ่าเพชรเดินหันหลังเข้าไปในห้อง เขารู้ว่าอย่างไงวันนี้รักษ์คงไม่ยอมออกจากห้องของเขาไปแน่ๆ ถ้าเขายังเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้เขายอมรับเลยว่าหัวใจเขาบอบช้ำจริงๆ แค่หน้าของรักษ์เขาก็ไม่อยากเห็น



รักษ์ปล่อยให้เผ่าเพชรเข้าไปสงบสติอารมณ์ของตัวเองเขาเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับโดยเฉพาะการที่เขาทำแบบนั้น เขาเองก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าไม่ได้ตั้งใจ เพราะลึกๆ แล้วนั้นเขากลับมองว่าสิ่งที่เขาทำไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เผ่าเพชรเองที่พลาดให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น เขาก็เป็นเพียงแค่ฝ่ายที่ตอกย้ำความผิดของเผ่าเพชรเท่านั้นเอง



เผ่าเพชรเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพกางเกงวอร์มตัวเดียวตามตัวของเขามีน้ำเกาะอยู่เล็กๆ ผมที่ผ่านการสระมาไม่มีการเช็ดให้แห้งใดๆ



เผ่าเพชรเปิดประตูระเบียงออกไปสูดอากาศด้านนอกที่มีลมอ่อนๆ โดยที่ไม่ลืมหยิบบุหรี่ออกมาด้วย เวลานี้สิ่งที่ทำให้เขาคลายเครียดได้เล็กน้อยก็น่าจะเป็นบุหรี่ เผ่าเพชรพ่นควันสีเทาออกมาพร้อมกับเท้าแขนไว้ที่ระเบียงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอยู่อย่างนั้น



รักษ์ที่เห็นว่าเผ่าเพชรเข้ามาในห้องนานแล้วเขาจึงถือวิสาสะตามเข้ามา และภาพที่เขาเห็นเผ่าเพชรอยู่ริมระเบียงพร้อมกับควันสีเทา เป็นภาพที่หายากที่สุดเท่าที่เขาคบกับเผ่าเพชรมา ครั้งนี้รักษ์เชื่อแล้วว่าเผ่าเพชรเครียดจริงๆ เพราะคนที่จัดระเบียบกับร่างกายตัวเองอย่างดีมาตลอดอย่างเผ่าเพชรไม่เคยปล่อยให้ผมตัวเองเปียกอยู่อย่างนี้ รักษ์มองหาผ้าเช็ดผมประจำของเผ่าเพชรก่อนจะเดินไปหยิบและเปิดประตูระเบียงออกไปเผชิญกับเผ่าเพชรอีกครั้ง



“เช็ดผมไหม?”



“ถ้ากูอยากเช็ดกูก็ไม่ปล่อยให้ผมกูเปียกแบบนี้หรอก” เผ่าเพชรหันมามองรักษ์ด้วยสายตานิ่งๆ พร้อมกับยื่นบุหรี่ที่เหลืออยู่ครึ่งมวลส่งให้รักษ์ “เอาไหม?”



“ไม่”



“ตามใจ” เผ่าเพชรยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเหมือนเดิม



“สิ่งที่กูทำ กูไม่ขอโทษนะ”



“อืม”



“แต่กูต้องทำอย่างไงวะเพื่อไม่ให้มึงอยู่ในสภาพแบบนี้” รักษ์ตัดสินใจขยับเข้าไปหาเผ่าเพชรใกล้ๆ พร้อมกับทิ้งศีรษะลงบนไหล่ของเผ่าเพชรอีกครั้ง “กูต้องทำไงวะไอ้เพชร”



“......”



“ถ้ามึงทำแล้วก็ทำให้สุด”



“มึงประชดกูรึเปล่า?”



“กูอยู่ในสถานะที่ประชดมึงได้เหรอวะ” รักษ์เอาศีรษะของตัวเองออกจากไหล่ของเผ่าเพชรก่อนที่เขาจะผลิกตัวของเผ่าเพชรให้กลับมาเผชิญหน้ากับเขา



“ตอนนี้มึงกำลังประชดกู”



“......”



“มึงเครียด มึงโมโห แต่กูอยากให้มึงถามตัวเองดีๆ ว่านั่นมันคืออะไร มึงมีเหตุผลในทุกๆ เรื่องไอ้เพชร หรือว่าแค่กูเป็นคนทำ? ถ้าคนอื่นทำมึงจะมีสภาพแบบนี้ไหมวะ” รักษ์พยายามพูดกับเผ่าเพชรด้วยเหตุผล “ถ้าลูกน้องมึงซื่อสัตย์ไม่ทำแบบนั้น วันนี้มันก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้”



“กูเข้าใจ ถ้าลูกน้องกูมันทำแบบนั้นจริงๆ โดยที่ไม่มีมือของคนอื่นยื่นเข้ามาช่วยสนับสนุนมันกูรับได้ว่านั้นคือความผิดของกูที่พลาดเอง แต่นี่..คนที่อยู่ข้างๆ กูทุกคนล้วนถูกซื้อโดยพ่อของมึง แล้วมึงจะให้กูคิดไงวะ?” ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานแต่เผ่าเพชรมั่นใจว่านั่นคือฝีมือของพ่อรักษ์แน่ๆ เพราะขนาดขู่ฆ่าเขายังเคยโดนตรงๆ เลย โดยเฉพาะเรื่องเสี่ยงที่รักษ์มาอยู่กับเขาตอนนี้ ถ้าพ่อของรักษ์รู้...เขาเองก็คงไม่รอด “บอกพ่อมึงว่าอย่ามายุ่งเรื่องของกูดิ”



“......”



“แล้วกูก็จะไม่สนใจว่ามึงจะเล่นงานกูวิธีไหน ถ้าวิธีนั้นมันไม่สกปรกแบบนี้” เผ่าเพชรพูดจบก็เดินกระแทกไหล่ของรักษ์เข้าไปด้านใน ส่วนรักษ์เอง....



“ไอ้เพชร”



“.....”



“มันอาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวนะ แต่กูกับพ่อไม่ใช่คนเดียวกัน กูยังคงเหมือนเดิม...” รักษ์ตามเผ่าเพชรเข้ามาด้านในห้องกับดึงตัวของเผ่าเพชรเข้ามากอดไว้หลวมๆ “กูยังเหมือนเดิม”



“.......”



“เอาไว้มึงเย็นลงแล้วเราค่อยมาคุยกันนะ กูไปรอข้างนอก” รักษ์ปล่อยเผ่าเพชรออกก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องนอนไป ส่วนเผ่าเพชรทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอนพร้อมกับคิดในสิ่งที่รักษ์พูดออกมา



ถ้ากลับกันเขาเป็นฝ่ายที่ได้ข้อมูลนั้นมาเขาก็คงจะทำไม่ต่างจากที่รักษ์ทำเหมือนกัน แต่สิ่งที่เขารับไม่ได้คือการบีบบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมจากพ่อของรักษ์ เขารู้ดีว่าพ่อของรักษ์อยากให้รักษ์หลุดพ้นจากเขาโดยต้องใช้วิธีต่างๆ แต่บางครั้งมันก็เกินไป โดยเฉพาะการกระทำแบบนี้ ถ้าเขาเป็นผู้หญิงเรื่องมันจะลงเอยแบบนี้ไหม? หรือเพียงแค่เขาเป็นเกย์และเกย์คนนี้ก็รักษ์กับลูกชายของเขา



ทำไมเขาต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว...?



“ไอ้รักษ์การที่เราเป็นเกย์มันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอวะ?” เผ่าเพชรเดินออกมาจากห้องพร้อมกับพุ่งคำถามใส่รักษ์ที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง



“เดี๋ยวๆ อันนี้เรื่องไหน?”



“กูหาต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเจอแล้ว การที่กูเป็นเกย์มันผิดขนาดนั้นเลยเหรอวะ? ถ้ากูเป็นผู้หญิงแล้วคบกับมึงเรื่องทุกอย่างมันจะเป็นแบบนี้ไหมวะ?”



“เดี๋ยวๆ มึงมานั่งนี่ก่อน” รักษ์ที่จับต้นชนปลายไม่ถูกลุกขึ้นมาดึงตัวของเผ่าเพชรให้นั่งลงข้างๆ เขา



“กูอยากรู้ มึงตอบกูดิ”



“ฟังนะ ถึงมึงเป็นผู้หญิงจริงๆ อย่างไงมันก็ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอยู่ดี เพราะกูไม่ได้ชอบผู้หญิงอยู่แล้วถ้าจะเปลี่ยนจริงๆ ก็คือตัวกูต้องเลิกเป็นเกย์ซึ่งมันไม่ได้เลิกง่ายๆ เหมือนเลิกบุหรี่ และการที่มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันก็เพราะค่านิยมของพ่อกูที่หัวโบราณไม่ยอมรับในสิ่งที่กูเป็น เขาพยายามบีบทั้งกูและมึงไม่ใช่แค่มึงคนเดียวไอ้เพชร แต่กูแค่อยากให้เราจับมือกันเอาไว้ให้แน่ๆ กูไม่รู้ว่ามันจะจบเมื่อไหร่แต่ถ้ากูยังมีลมหายใจอยู่ กู...จะไม่ให้ใครทำร้ายมึงนอกจากตัวกูเอง” รักษ์ดึงศีรษะของเผ่าเพชรเข้ามาซบอกของเขา “ได้ยินเสียงหัวใจกูไหม มันไม่เคยเปลี่ยนเลย”



“ไอ้รักษ์กูเลี่ยน”



“เข้าใจกูใช่ไหม?”



“ก็พอจะเข้าใจ” รักษ์ยิ้มเล็กๆ พร้อมกับก้มลงหอมที่ศีรษะของเผ่าเพชรเบาๆ ด้วยความเอ็นดู “แต่ไอ้ที่บอกว่าคนที่ทำร้ายกูได้คือมึงคนเดียวหมายความว่าไงวะ?”



“ก็ตามนั้น ถ้าจะไม่ให้กูทำร้าย มึงก็หัดทำให้กูจับผิดไม่ได้ เพราะถ้ามึงมีช่องว่างเมื่อไหร่กูไม่ปล่อยแน่”



“มึงก็ระวังตัวให้ดี อย่าคิดว่ากูไม่กล้า”



“รู้ว่ากล้า แต่ก็ลงมือสักทีสิวะ” เผ่าเพชรดันตัวเองออกจากตัวของรักษ์



“ขี้เกียจคุยเรื่องนี้แล้วว่ะ กูอยากคบกับมึงแบบเมื่อก่อนที่ไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้เข้ามาเกี่ยว” เผ่าเพชรคิดถึงเวลาเกือบแปดปีที่ผ่านมา เขายอมรับเลยว่าความรักของเขาทั้งสองไม่ได้หวือหวาเหมือนคู่อื่นๆ ทั้งคู่คบกันแบบเพื่อนมากกว่ามีอะไรก็จะคอยสนับสนุนกัน แต่พอมาคราวนี้ที่ทั้งสองเริ่มโตขึ้นความคิดความอ่านเริ่มเปลี่ยนไปคนละทางแต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือความรักที่ทั้งคู่มีให้กัน



“เรามาตั้งกฎกันไหม”



“กฎอะไรวะ”



“ก็ ถ้าถึงเวลาพักเราทั้งคู่จะไม่พูดถึงเรื่องงาน”



“ทำอย่างกับมึงจะมาอยู่กับกูได้บ่อยๆ” เผ่าเพชรเค้นยิ้มออกมาเพราะสิ่งเดียวที่เป็นตัวขัดขวางก็คือพ่อของรักษ์ เผ่าเพชรรู้ว่าอย่างไงก็ไม่มีทางยอมแน่ๆ โดยเฉพาะการที่รักษ์เอาเวลามาอยู่กับเขา



“ทำไมจะไม่ได้” รักษ์ยกยิ้มมุมปากด้วยสายตาเจ้าเล่ห์



“กูบอกพ่อว่ากูกับหงส์เราคบกันแล้ว กูย้ายมาอยู่ที่คอนโดของหงส์ที่อยู่คอนโดเดียวกับมึง...”



“เดี๋ยวๆ แล้วหงส์เกี่ยวอะไรวะ ถ้าพ่อมึงถามหงส์...” ยังไม่ทันที่เผ่าเพชรจะพูดจบประโยค รักษ์ยื่นนิ้วมาแตะที่ริมฝีปากของเผ่าเพชรเบาๆ



“กูทำให้หงส์บอกพ่อกูได้แบบนั้นก็แล้วกัน ถ้าไม่อย่างนั้นกูคงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้..”



“ถ้าพ่อมึงจับได้”



“กูก็พามึงหนี”



“ง่ายเนอะ” เผ่าเพชรเลิกสนใจรักษ์ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องครัว กับข้าวที่รักษ์ทำไว้มีอยู่สามอย่างง่ายๆ โดยเฉพาะเมนูที่เผ่าเพชรชอบไม่ว่าจะเป็นไข่เจียวหมูสับ ต้มยำกุ้งและผัดผักรวม



“กินไม่เรียกเลยนะมึง”



“ก็คิดว่ามึงกินแล้ว” รักษ์ทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามกับเผ่าเพชร



“มึงไม่กินรึไง ถ้ากินก็ไปตักข้าว”



“ไม่อ่ะ อยากนั่งดูมึงกินแบบนี้” ไม่พูดเพียงอย่างเดียว รักษ์กลับนั่งเท้าคางมองเผ่าเพชรกินข้าวด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข แต่กว่าจะมีความสุขได้ก่อนหน้านี้เขาก็เครียดแทบตายเหมือนกัน ยอมรับกันตรงๆ เลยว่าเวลาที่เผ่าเพชรเครียดรักษ์มักรับมือไม่ถูก โดยเฉพาะเรื่องที่เครียดมีสาเหตุมาจากเขา



“โรคจิตนะมึง”



“แค่กับมึง” หลังจากที่เผ่าเพชรกินข้าวเสร็จ ทั้งคู่พากันเข้ามาในห้องนอน เผ่าเพชรอยู่อีกมุมนั่งฟังเพลงและอ่านหนังสือ ส่วนรักษ์นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์เงียบๆ



ทั้งคู่ต่างมีกิจกรรมของตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน เรียกได้ว่ามีพื้นที่ให้กับสิ่งที่ชอบได้เต็มที่ รักษ์จะติดเกมเผ่าเพชรไม่เคยว่าหรือเอาเรื่องนี้มาทะเลาะเลยสักครั้งเพราะเขาเองก็ไม่ต่างจากรักษ์ ถ้ามีเกมไหนที่เขาอินมากๆ เผ่าเพชรจะไม่รับรู้เรื่องราวของโลกภายนอกเลย ส่วนรักษ์เองก็ไม่เคยเอาเรื่องความชอบของเผ่าเพชรมาเป็นประเด็นในการทะเลาะ จะมีบางครั้งที่เผ่าเพชรอินมากๆ แล้วไม่สนใจสิ่งอื่นๆ รักษ์จะต้องคอยหาข้าวหาน้ำมาให้เผ่าเพชร ทั้งคู่จะทำอย่างนี้สลับกัน แต่ปัจจุบันเวลาที่จะเล่นเกมแทบจะไม่มีเพราะหน้าที่การงาน และความกังวลที่ว่าถ้าตัวเองสนใจอะไรมากเกินไปจังหวะนั้นอาจจะถูกโจมตีจนไม่ได้แก้ต่างและเรื่องอาจจะบานปลาย เผ่าเพชรเลยพับเกมที่เคยชอบเก็บเอาไว้ก่อนตราบใดที่เขายังมีหน้าที่ที่รับผิดชอบ



นิยามความรักของทั้งคู่คือ ไม่ต้องตัวติดกัน ไม่จำเป็นต้องทำกิจกรรมด้วยกัน ไม่ต้องนั่งเช็คโทรศัพท์หรือตามหึงหวงไปทั่ว ต่างคนต่างใช้ชีวิตตราบใดที่หัวใจของทั้งคู่ยังไม่เปลี่ยนก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องกังวล



“ขอให้กูกับมึงเป็นแบบนี้ได้นานๆ นะ” เผ่าเพชรพับหนังสือเก็บหลังจากที่เห็นว่ารักษ์หลับคาโทรศัพท์มือถือโดยที่หน้าจอยังคงค้างเกมเอาไว้อยู่



เผ่าเพชรสำรวจใบหน้าของรักษ์เงียบๆ ใบหน้าที่เป็นของเขา..จะเป็นแบบนี้ให้นานที่สุดเท่าที่เขาจะทนไหว



ปล.มาช้าแต่เขามาน้าา

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อย่าปล่อยมือกันเลย  :ling3: :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 13
คนที่สาม

เผ่าเพชรออกจากคอนโดมาก่อนรักษ์เพราะวันนี้เขามีนัดสอบสวนจากกกต.ในเรื่องที่เกิดขึ้น ระหว่างนั้นเขาก็ได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการพรรคว่าเขาจะไม่ถูกตัดสิทธิ์แต่อาจจะได้ใบเหลืองคือการเลือกตั้งใหม่ในเขตพื้นที่ของเขา ถ้าโชคดีเขาอาจจะได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งแต่ถ้าโชคไม่ดี...อย่างน้อยๆ คะแนนที่เลือกเขาก็สามารถสะสมเพื่อเป็นคะแนนของปาร์ตี้ลิสต่อไป

“ขอบคุณครับ” เผ่าเพชรรวบเอกสารใส่กระเป๋าหลังจากที่เข้ามาสอบสวนเสร็จ โดยที่มีผู้ตามประกบอยู่ข้างๆ สองคน ซึ่งคนที่ตามมาประกบคือคนที่พรรคของเขาจัดหามาให้เพื่อเลี่ยงนักข่าวที่ดักรออยู่ด้านหน้า

“คุณเพชรออกทางด้านหลังน่าจะไม่เจอนักข่าวครับ”

“.......” เผ่าเพชรนิ่งคิดสักพักก่อนที่เขาจะเดินออกไปทางประตูด้านหน้าเพราะ..เขาเองก็อยากจะใช้พื้นที่สื่อเหมือนกัน

แชะๆ

“มาแล้วๆ” และเป็นอย่างที่ผู้ติดตามบอกไม่มีผิดเมื่อเผ่าเพชรเดินออกมาข่าวต่างวิ่งกรูเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังเผ่าเพชรพร้อมกับยื่นไมค์มาจ่อตรงหน้า

“เป็นอย่างไรบ้างคะคุณเผ่าเพชร”

“ต้องรอตรวจสอบครับ ผมพูดอะไรมากไม่ได้” เผ่าเพชรยิ้มเล็กๆ ให้กับนักข่าว

“แล้วจริงอย่างที่คุณรักษ์ยื่นเรื่องที่กกต.ไหมครับ?”

“เรื่องนี้จริงครับ แต่ต้องมีการตรวจสอบอีกทีเพราะภาพดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่ทับซ้อนกัน อีกอย่างนะครับงานนั้นก็เป็นงานของญาติไม่ใช่คนอื่นไกลเลย แต่อย่างไงผมก็ต้องเคารพการตัดสินของกกต.ครับ”

“คุณเผ่าเพชรดูมั่นใจนะคะว่าตัวเองไม่ผิด”

“อ่า..ผมดูเป็นแบบนั้นเหรอครับ?” เผ่าเพชรตอบออกมาด้วยท่าทางชิวๆ

“แล้วถ้าได้ใบเหลืองคุณเผ่าเพชรคิดว่าจะได้รับการเลือกอีกไหมคะ? เพราะข่าวที่ออกมาก็เป็นกระแสเหมือนกัน โดยเฉพาะเขตใจกลางเมืองอย่างเขตของคุณเผ่าเพชร”

“ผมมั่นใจว่าถ้าไม่เปลี่ยนใจจากผม ทุกอย่างมันจะเป็นไปตามที่ผมหาเสียงครับ”

“ขออนุญาตถามนะครับ เรื่องที่คุณเผ่าเพชรกับคุณรักษ์ตกลงคือเป็นอย่างที่ในข่าวนำเสนอรึเปล่าครับ?”

“เรื่องที่เป็นคู่อริหรือศตรูอะไรทำนองนี้ใช่ไหมครับ ผมว่าผมเคยตอบไปแล้วนะ”

“ช่วยยืนยันอีกทีได้ไหมครับ?” ในเมื่อนักข่าวต้องการจะรู้เผ่าเพชรก็จัดให้ และเหมือนเดิมว่าเขาตอบแบบปลายเปิดและทิ้งไว้ให้คนไปตีความกันเอง

“ก็...ส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ แต่ทางเขาผมไม่รู้จริงๆ แต่ถ้าเขาคิดดีเหมือนที่เขาเคยให้สัมภาษณ์คราวก่อน ทุกคนว่าผมจะมายืนอยู่ตรงนี้ไหมครับ เอ่อ..ขอตัวก่อนนะครับ พอดีโทรศัพท์เข้ามา” เผ่าเพชรหยิบโทรศัพท์ที่สั่นขึ้นมาส่วนผู้ติดตามสองคนทำหน้าที่ในการแหวกทางให้เผ่าเพชรเดินออกจากวงล้อมของนักข่าว

“ทางนี้ครับ” ผู้ติดตามคนหนึ่งเดินนำเผ่าเพชรมาที่รถตู้ เผ่าเพชรก้าวขึ้นรถก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงเหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่าตกใจคือผู้ติดตามของเขาไม่ได้ขึ้นมาด้วย ทำให้ตอนนี้บนรถตู้มีเพียงเผ่าเพชรคนขับรถและ....ราม!

“สวัสดีครับ” รามกล่าวทักเผ่าเพชรขึ้นมาก่อนในช่วงที่เผ่าเพชรชะงักเพราะเห็นรามอยู่บนรถตู้ ซึ่งขามาเขามากับผู้ติดตามเท่านั้น

“ไวดีนะครับ”

“ผมไม่อ้อมเลยนะ ขอโทรศัพท์ด้วยครับ” รามแบมือตรงหน้าเผ่าเพชรพร้อมกับมองหน้าเผ่าเพชรไปด้วยนิ่งๆ “อย่าให้ผมต้องทำมากกว่านี้เลยนะครับ” เผ่าเพชรหันไปมองคนขับรถตู้ซึ่งก่อนหน้าเป็นคนของพรรค แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่คนเดิม เผ่าเพชรใช้หางตาสำรวจก่อนจะพบว่านี่ไม่ใช่รถคันเดิมที่เขามา

“คุณเล่นแบบนี้เลยเหรอ?”

“ผมก็ไม่ได้อยากทำ แต่นี่มันก็งานของผมเหมือนกัน หวังว่าจะให้ความร่วมมืออย่างดีนะครับ” เผ่าเพชรยื่นโทรศัพท์ของเขาให้กับราม “พูดง่ายแบบนี้ก็จบ” รามกดปิดเครื่องทันทีก่อนจะเก็บโทรศัพท์ของเผ่าเพชรไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขา

“มีอะไรก็พูดมาครับ”

“ใจร้อนอย่างที่ไอ้รักษ์บอกจริงๆ ครับ”

“......!!”

“ไม่ต้องตกใจเพราะเรื่องนี้ไอ้รักษ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย สบายใจได้” เผ่าเพชรนึกถึงคำพูดของรักษ์ที่เคยบอกเขาเกี่ยวกับราม ในสมัยที่เขายังเรียนอยู่มัธยมด้วยกัน รักษ์เคยบอกว่าถ้าวันไหนเผ่าเพชรเจอรามวันนั้นจะเป็นวันที่ต้องตัดสินใจ ซึ่งเผ่าเพชรไม่เคยเข้าใจจนกระทั่งถึงวันนี้

“แล้วมีอะไรกับผมเหรอครับ?”

“เอาเอกสารนี่ไปอ่านก่อนนะครับ” เผ่าเพชรรับเอกสารจากมือของราม “ผมจะพูดให้ฟังเล่นๆ ระหว่างที่คุณอ่านก็แล้วกัน ถ้าคุณตกลงย้ายมาฝั่งคุณก็จะถูกมองว่าทรยศประชาชนแต่คุณจะได้เงินค่าทรยศแบบสมเหตุสมผลซึ่งพรรคของคุณไม่มีวันให้และทางเราจะต้อนรับและปกป้องคุณอย่างดีที่สุด แต่ถ้าคุณไม่รับข้อเสนอก็เท่ากับว่าหลังจากนี้อะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ...ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเหมือนกัน”

“ถามตามตรงนะครับ ใครส่งคุณมา?”

“อย่าถามในสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้ว”

“งั้นผมขอถามว่า ถ้าเกลียดผมแล้วจะเอาผมไปอยู่ใกล้ๆ ทำไม”

“คุณนี่อ่อนต่อโลกหรือว่าโง่นะครับ แต่ผมจะช่วยตอบให้นะ ถ้าคุณไม่ชอบใครแต่เขาอยู่ไกลคุณจะควบคุมยาก แต่ถ้าเขาอยู่ในมือของคุณก็เท่ากับว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ จริงไหมครับ? อ่อ! ผมพูดให้คุณกลัวรึเปล่า ลืมๆ สิ่งที่ผมพูดไปก็แล้วกันนะครับ พอดีผมขี้เล่น” คำว่าขี้เล่นที่หลุดออกมาจากปากของรามนั้นไม่ได้เล่นตามน้ำเสียงหรือสีหน้าที่แสดงออกมาเลย

“ผมมีเวลาเท่าไหร่ในการตัดสินใจ”

“อยากได้เวลานานเท่าไหร่ล่ะครับ?”

“ก่อนเปิดสภา” เผ่าเพชรเสนอ

“นานไปครับ”

“แต่ถ้าไม่ได้ผมก็ไม่มีอะไรที่จะต้องตกลง”

“อ่า...หัวรั้นจังนะครับ” รามยื่นมือออกมาจับปลายผมของเผ่าเพชรเบาๆ ก่อนจะปล่อยมือออก “ผมหวังว่าเรื่องนี้คงเป็นเรื่องของเราสองคนนะครับ”

“.....”

“แค่ผมกับคุณ” เผ่าเพชรมองหน้ารามนิ่งๆ โดยที่ไม่ตอบอะไรกลับมา ส่วนรามเองพยายามที่จะยิ้มแต่รอยยิ้มที่เขาพยายามมักจะออกมาในรูปแบบที่ไม่ค่อยน่าดูสักเท่าไหร่ “เข้าห้องน้ำได้นะครับ เชิญ” รามยื่นโทรศัพท์ของเผ่าเพชรคืนก่อนที่ประตูอัตโนมัติของรถตู้จะเปิด

“.....”

“โชคดีครับ” เผ่าเพชรลงจากรถยืนมองหน้ารามที่โบกมือให้เขาพร้อมกับประตูที่ค่อยๆ เลื่อนปิดลงและรถก็ขับออกจากตรงที่เผ่าเพชรยื่นอยู่ช้าๆ จนกระทั่งลับสายตา...

“.....” ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาอยากจะกระทืบหน้าใครสักทีจนกระทั่งมาเจอกับราม บางทีการใช้กำลังอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด


รามเองก็ไม่อยากจะเข้ามาเจรจาในเรื่องที่เขาไม่ถนัดแบบนี้ เพราะเขาถนัดอยู่กับการนั่งในห้องเย็นๆ วางแผนและส่งมอบให้คนอื่นทำ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงมือเอง มันก็สนุกอยู่เหมือนกันเวลาที่เห็นเหยื่อมีท่าทีร้อนใจเหมือนกับสีหน้าของเผ่าเพชรในวันนี้ เขารู้ว่าไอ้ข้อเสนอที่เขายื่นไปเผ่าเพชรไม่มาทางตอบรับแน่แต่แค่พูดทางอ้อมว่าขอเวลา ซึ่งจริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้จะยื่นข้อเสนออะไรอยู่แล้ว เพราะที่เขามาวันนี้ก็เพราะอยากเห็นท่าทีและใบหน้าแฟนของหลานรักอย่างรักษ์กับตาตัวเองสักครั้งจะได้ว่างเกมกันต่อว่าเขาจะเดินหน้ารุกอย่างไรให้ทั้งคู่.....

“มาสายนะพี่” รักษ์เงยหน้าขึ้นจากรายงานที่เขาอ่านอยู่ทันทีที่ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก

“มีธุระให้จัดการนิดหน่อย”

“ธุระไรวะ พี่ออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อไหร่” รักษ์ขมวดคิ้วถามพร้อมกับปิดรายงานเพื่อหันมาสนใจรามแทน “วันๆ ผมเห็นอยู่แต่ที่นี่ไม่ก็บ้าน”

“ถ้ามันมีอะไรน่าสนใจกูก็ต้องออกบ้างเป็นธรรมดา”

“เดี๋ยวๆ เกี่ยวกับผมรึเปล่าวะ? พ่อสั่งให้พี่ไปทำอะไรอีก” รักษ์ไม่ไว้วางใจท่าทีของรามเลย โดยเฉพาะไอ้การยิ้มมุมปากพร้อมกับทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งท่าทางแบบนี้โคตรจะมีพิรุธในสายตาของรักษ์

“ดูออกเหรอ?”

“พี่ราม ผมขอเถอะ อย่ายุ่งเลยพี่ พี่กลับไปทำงานที่พี่ถนัดเถอะ ส่วนเรื่องของผมถ้าพ่อเขาอยากจัดการก็ให้เขาจัดการเอง” ถ้าให้เลือกระหว่างพ่อกับรามรักษ์ไม่ลังเลที่จะเลือกพ่อของเขาเลย เพราะอย่างน้อยพ่อเขาทำให้เจ็บทีเดียวแบบไม่ทรมานเหมือนที่รามทำ

“มึงกังวลอะไรวะ คิดมาก” รามเดินเข้ามาตบไหล่ของรักษ์เบาๆ

“ถ้าเรื่องที่ผมคิดมากมันคือคนที่พี่กำลังเล็ง หยุดเถอะพี่ บอกตามตรงว่าผมกลัว พี่แม่งน่ากลัวฉิบหาย” รักษ์ยอมรับตรงๆ ว่าเขากลัวรามเพราะรามมักจะทำอะไรที่เขาคาดไม่ถึงเสมอ ถ้าเขาหัวไวแล้วคนอย่างราม...มันยิ่งกว่าเขาหลายระดับ

“ไม่เชื่อกูรึไง”

“......” รักษ์เลือกที่จะเงียบแทนที่จะตอบ เพราะลึกๆ แล้วเขาไม่เคยเชื่อในสิ่งที่รามกำลังทำเลย และสิ่งที่เขากังวลคือการที่รามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา มันจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ หวังว่าเผ่าเพชรจะไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งที่รามกำลังเดินเกมอยู่เพื่อบรรลุเป้าหมายที่พ่อของเขาวางเอาไว้


00.25 น.

รักษ์กลับเข้ามาที่คอนโดของเผ่าเพชรในช่วงเที่ยวคืนกว่าเพราะว่าวันนี้เขามีนัดกินเลี้ยงเพื่อเกลี่ยนข้อตกลงระหว่างใครหลายๆ คน ทำให้รักษ์จำเป็นต้องกลับมาพร้อมกับหงส์ แต่เมื่อถึงชั้นของเขารักษ์ออกมาก่อนและปล่อยให้หงส์ขึ้นไปคนเดียว ซึ่งนั่นเป็นข้อตกลงระหว่างเขากับหงส์ที่ทำกันเอาไว้ ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปเรื่องของหงส์ก็จะหลุดไม่ต่างกัน เผลอๆ มันอาจจะเรื่องใหญ่กว่าเรื่องของเขาได้

“ยังไม่นอนเหรอวะ” รักษ์เปิดประตูเข้ามาก่อนจะเห็นว่าเผ่าเพชรนั่งอยู่ที่พื้นหลังพิงโซฟาด้านหน้ามีกระป๋องเบียร์วางอยู่หลายกระป๋อง

“เอาไหม?”

“เอา” รักษ์ถอดเนกไทปลดกระดุมคอก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ เผ่าเพชร

“มึงกินมาเหรอ?” เผ่าเพชรเปิดกระป๋องเบียร์ก่อนจะยื่นให้รักษ์

“นิดหน่อย วันนี้ไปกินเลี้ยงมา”

“ไหวเหรอวะ”

“ไหว แล้วมึงเป็นไรถึงต้องกินเบียร์” รักษ์ยกเบียร์ขึ้นกระดกพร้อมกับหันหน้าไปมองเผ่าเพชร

“เครียดเรื่องงาน แต่ไม่มีอะไร กูเอาอยู่” สายตาที่เผ่าเพชรมองรักษ์มันเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง ความรู้สึกที่รักษ์เองก็ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนั้นมันหมายความว่าอย่างไง

“อยากจูบมึงว่ะ”

“จูบดิ” เผ่าเพชรยื่นหน้าเข้าไปหารักษ์นิ่งๆ ก่อนที่เขาจะหลับตาเพื่อรอรับสัมผัสจากรักษ์ “กูขออยู่เฉยๆ นะ”

“อืม กูจัดการเอง” รักษ์วางกระป๋องเบียร์ลงพร้อมกับมือที่ไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกจนหมดก่อนจะโยนเสื้อออกไปให้พ้นทาง มืออีกข้างของเขาช้อนหลังเผ่าเพชรเอาไว้เพื่อประคองให้เผ่าเพชรขยับเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ ริมฝีปากของรักษ์ประกบลงบนริมฝีปากของเผ่าเพชรด้วยความกระหาย นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้มอบความหวานให้แก่กัน วันนี้รักษ์สัญญาว่าเขาจะชดเชยให้เผ่าเพชรเต็มจำนวนที่ขาดหายไป..

“ไหวนะ”

“อืม กูไหว” ร่างกายของทั้งคู่เปลือยเปล่าอยู่บนพื้นพรม ทั้งสองกอดรัดจนร่างกายผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีเสียงครางให้รำคาญมีเพียงเสียงหอบหายใจที่ดังอยู่ภายในห้องผสมกับกลิ่นเบียร์ บรรยากาศในตอนนี้เป็นบรรยากาศที่ทำให้เขาทั้งคู่ผ่อนคลายมากที่สุด จนกระทั่ง....

“พี่รามได้มาหามึงไหม?” รักษ์ถามเผ่าเพชรหลังจากที่ทั้งคู่จบกิจกรรมบางอย่าง

“ถามทำไมวะ” เผ่าเพชรที่นอนอยู่บนแขนของรามหันหน้าไปถาม

“พี่รามแม่งเข้ามายุ่งเรื่องของกูมากเกินไป”

“มึงพูดเหมือนกลัว”

“กลัวดิ ถ้ามึงรู้จักพี่รามเหมือนที่กูรู้จัก” เผ่าเพชรเริ่มกังวลเมื่อเขาเห็นสีหน้าของรักษ์ พร้อมกับพูดเบรกเพื่อไม่ให้บรรยากาศตอนนี้เสีย ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วเขากลัวว่าเขาจะหลุดพูดเรื่องที่เขาเจอรามในวันนี้

“ไม่ต้องพูดเรื่องงานไง ไหนเราตกลงกันเอาไว้แล้ว”

“มันไม่ใช่เรื่องงาน แต่มันเรื่องของเราถ้าพี่รามมันเข้ามายุ่งกูกลัวว่ามึงจะ...” รักษ์ก้มลงมองเผ่าเพชร “กูเชื่อใจมึงได้ใช่ไหม?”

“เชื่อใจกูดิไอ้รักษ์ ที่ผ่านมากูเคยเป็นแบบนั้นเหรอ?”

“กูเชื่อใจมึง แต่กูไม่เชื่อใจพี่กู พี่รามอันตรายกว่าที่มึงคิด ถ้ามึงเคยเจอมึงจะรู้” เผ่าเพชรรับรู้ถึงความน่ากลัวที่รักษ์พยายามจะสื่อ เพราะวันนี้เขาได้เห็นกับตาของเขาแล้ว

“ไม่ต้องเครียด มันไม่มีอะไร”

“อืม” เผ่าเพชรเลือกที่จะเก็บเรื่องวันนี้เอาไว้เพียงคนเดียว...

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ภายใต้การควบคุมของ.. ‘ราม’


ถ้าพวกมันแข็งพอที่จะไม่ให้ผมแทรกเข้าไป เมื่อนั้นผมจะหยุดและยอมแพ้เอง..ทุกอย่างมันก็แค่เกม ถ้าถามว่าผมได้อะไรจากการเข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เหรอ? อื้ม.. ผมอาจจะเบื่อทำงานแบบเดิมๆ ที่เดิมๆ ผมอาจเจอะเจอคนอื่นๆ บ้างก็เท่านั้น อีกอย่างก็อาจจะเป็นการอัพสกิลของผมมั้ง

ถ้าเกมการเมืองมันง่ายไป เกมรักมันก็อาจจะเป็นอีกเกมที่ต้องงัดออกมาเล่นไม่ใช่เหรอ?

ถ้าความรักไม่มีสีสันมันก็ไม่สนุกนะครับ

ผมยอมเป็นสีสันให้คุณนะ ควรจะดีใจซิ :)

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
พี่รามมมม เกมแก้เบื่อของพี่ สร้างสีสันให้เขากลัวกันหมดเแล้ววว :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-04-2020 15:35:29 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แค่นี้ก็มีสีพอแล้วคุณพี่  :mew5:

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 14

จับมือไว้ให้มั่น



Ram’ s talk



ก็อย่างที่เคยบอกไปครับ บางทีเกมการเมืองก็ไม่ได้น่ากลัวสำหรับความสัมพันธ์แต่สำหรับเกมความรัก ตัวนี้แหละครับที่จะทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์มานัดต่อนัดแล้ว แปดปีมันก็จบได้เหมือนกัน อ่อ! ถ้าถามว่าทำไมผมต้องทำถึงขนาดนี้ทั้งๆ ที่รักษ์เปรียบเสมือนน้องชายแท้ๆ ของผม และผมก็มีศักดิ์เป็นอาของรักษ์ ไม่ยากครับ คำเดียวสั้นๆ เพราะผมอยากเห็นว่าความรักที่รักษ์มันเคยอวยให้ผมฟังอยู่บ่อยครั้งมันจะเปราะบางเพียงเพราะอาอย่างผมเข้าไปไหม ผมว่าผมหวังดีกับหลานชายของผมนะครับ เพราะถ้าคนคนนั้นไม่ได้ซื่อสัตย์และมั่นคงกับหลานผมก็ไม่คู่ควร



“ผมสงสารรักษ์นะพี่ พี่ทำเกินไป” ผมกำลังโกหก



“แกอย่าใจดีกับมันไอ้ราม”



“แต่ครั้งนี้พี่ทำเกินไป”



“บอกฉันทีว่าตอนนี้แกรู้สึกอย่างที่แกพูดจริงๆ” พี่รินจ้องหน้าผมด้วยสายตาจับผิดปนรู้ทัน คนที่ทันผมจริงๆ ก็มีแค่พี่รินนี่แหละ อ่อ! พี่รินหรือชื่อที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ ‘ทรงเกียรติ’ คือพ่อของรักษ์



“ผมดูออกเหรอ?”



“ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เกิดไอ้ราม”



“แต่ผมจะย้ำอีกครั้งนะพี่ว่าพี่จะเอาแบบนี้จริงๆ เหรอ ถึงใจผมจะสนับสนุนพี่ก็เถอะ”



“ฉันตามใจมันมาเยอะแล้ว ฉันเคยให้มันเลือกทางเดินเอง ถ้ามันเลือกทางอื่นฉันก็คงไม่บังคับ แต่มันดันเลือกทางเดินนี้ฉันก็ต้องสนับสนุนมันให้ถึงที่สุดเท่าที่พ่ออย่างฉันจะทำได้ ทางนี้แกก็รู้ว่ามันไม่ได้ง่ายไม่ได้สวยงามขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นคนอย่างแกคงไม่เลือกที่จะอยู่ในที่เงียบๆ แบบนี้ทั้งๆ ที่ความสามารถของแกไปได้ไกลกว่าไอ้รักษ์”



“สรุปพี่เอาแค่เลิกใช่ไหม?”



“อืม”



“ดีล ผมไม่รับรองนะว่าจะสำเร็จเพราะผมไม่เคยทำงานข้างนอกแบบนี้มาก่อน แต่จะคอยรายงานพี่ก็แล้วกัน อ่อ! อย่าลืมส่งเอกสารมาให้ผมนะพี่ เรื่องที่จะดีลตำแหน่งผมจะได้วางแผนรับมือพวกที่มันต่อรองเยอะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมไปนะ”



“ไอ้ราม แกก็หัดออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างอย่าอยู่แต่ในห้อง อย่าทำแต่งาน”



“ถ้าผมเบื่อผมไปเอง แต่ตอนนี้ผมว่าผมยังไม่เบื่อ”



“ถ้าเงินไม่พอใช้ก็บอก”



“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่”



“แกก็เหมือนลูกชายของฉันไอ้ราม”



“อย่ารักผมมากกว่าลูกชายแท้ๆ ของพี่ก็แล้วกัน” ผมพูดกับพี่รินแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องของพี่ริน ซึ่งจังหวะที่ผมออกมานั้นสวนกับรักษ์ที่เข้ามาในบ้านพอดี อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้



“ไม่เคยเห็นพี่รามเข้ามาบ้านสักที” รามเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ



“มีเรื่องมาปรึกษาพี่ริน”



“คงไม่ใช่เรื่องของผมหรอกมั้ง” หัวไวจริงๆ หลานชายของผม



“ก็ไม่แน่”



“ถ้าพี่กับพ่อล้ำเส้นผมเมื่อไหร่ ผมก็คงไม่อยู่เฉยแน่ๆ พี่ราม” สายตาของรักษ์ที่มองมาทางผมด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าไม่ได้พูดเล่น



“อย่าคิดมาก” ผมเดินมาตบไหล่รักษ์เบาๆ “พี่ไปก่อนนะ”



“ครับ” รักษ์เดินเข้าไปในห้องของพี่ริน ส่วนผมก็หมดธุระแล้ว ตอนนี้ก็คงจะกลับไปทำงานที่ไม่ต้องเจอผู้คนมากมายที่ห้องของผม... แต่ก่อนจะกลับไปที่ห้องผมขอบังเอิญไปเจอใครบางคนก่อนน่าจะดีกว่า





Paophet’ s talk



ตอนนี้ผมยังคงทำงานอยู่ที่พรรคไม่รู้ว่าจะเสร็จตอนไหนพอดีกับที่ไอ้รักษ์ไลน์มาบอกว่าตอนนี้มันจะกลับไปนอนที่บ้าน ผมเลยลงมาซื้ออะไรกินด้านล่างก่อนที่จะขึ้นไปทำงาน



“กินแต่ของไม่มีประโยชน์จะปวดท้องเอานะครับ” ผมที่กำลังฉีกพลาสติกที่ห่อถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกหันไปมองใครบางคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆ “บังเอิญจังนะครับคุณเผ่าเพชร”



“บังเอิญไกลนะครับ” ผมหันกลับมาสนใจสิ่งตรงหน้าต่อ



“ถ้าไม่รังเกียจผมขอนั่งทานด้วยได้ไหมครับ?”



“ครับ” ผมถือถ้วยบะหมี่ออกมาจากร้านสะดวกซื้อหลังจากที่ใส่น้ำร้อนเสร็จ ส่วนคุณรามเดินล้วงกระเป๋าตามออกมาโดยที่ไม่ได้ซื้อของก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามผม



“ผมมาเอาคำตอบเรื่องเมื่อวันนั้น” ผมคีบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นกินโดยที่เส้นยังไม่ทันอืดดีทั้งๆ ที่ปกติแล้วผมจะต้องรอให้เส้นอืดก่อน แต่ตอนนี้ผมขอแค่รีบกินและรีบออกจากตรงนี้ก็พอ ผมไม่อยากอยู่ใกล้บุคคลอันตรายอย่างที่ไอ้รักษ์มันเตือน



“ยังไม่ถึงกำหนดนี่ครับ”



“แต่เท่าที่ผมจำได้ เราไม่มีเดดไลน์นี่ครับ” คิ้วทั้งสองข้างของคุณรามเลิกขึ้น “ว่าไงครับ คิดได้รึยัง”



“ถ้าจะเอาคำตอนนี้ผมก็คงจะต้องบอกว่าผมไม่สนใจข้อเสนอของคุณ” ผมยกถ้วยบะหมี่ขึ้นซด “ขอบคุณที่อุตส่าห์ยื่นข้อเสนอดีๆ มาให้ผม” ผมยกหลังมือขึ้นมาเช็ดปากหลังจากที่จัดการบะหมี่หมดในเวลาอันรวดเร็ว



“ไปแล้วเหรอครับ?”



“ครับ ขอตัวนะครับ” ผมรวบถ้วยบะหมี่ตรงหน้าขึ้นเตรียมจะไปทิ้งขยะ แต่อยู่ๆ มือของคุณรามกลับยื่นมาจับที่แขนของผมเอาไว้ “มีอะไรครับ?”



“ผมทำให้คุณกลัวหรือไม่พอใจอะไรรึเปล่าครับ?” อยู่ๆ น้ำเสียแข็งๆ ที่ผมได้ยินมาหลายครั้งกลับเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงนุ่มทุ้มอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนบวกกับสายตาที่เปลี่ยนไป? เขาจะมาไม้ไหนอีก



“มีอะไรจะคุยกับผมนอกจากเรื่องนั้นอีกไหมครับ” ผมตัดสินใจนั่งลงที่เดิม “มาเปิดอกคุยกันแบบผู้ชายเลย คุณมีอะไรกับผม?”



“มันออกจะน่าอาย” ผมหรี่ตามองคนตรงหน้าที่ทำท่าเขินอายได้ขัดตาที่สุด “และดูเห็นแก่ตัว”



“ครับ?”



“ผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้” ผมเสียดายบะหมี่ที่กินไปถ้าจะอ้วกออกมา “มันอาจจะดูแปลกบวกกับคุณอาจจะรู้อะไรมาจากรักษ์เกี่ยวกับผม แต่เชื่อเถอะครับถ้าคุณรู้จักผมด้วยตัวเองบางทีสิ่งที่คุณได้ยินมาอาจจะไม่ใช่แบบนั้น”



“......”



“คุณกับรักษ์เลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอครับ?” ผมรู้ว่าเขารู้ว่าผมกับไอ้รักษ์ยังคงไม่ได้เลิกกัน แต่ถ้าผมยอมรับออกมานั่นก็เท่ากับว่าเรื่องทุกอย่างมันจะวุ่นวายมากกว่าเดิม และการที่เขาพูดแบบนี้ออกมาก็เท่ากับว่าเขากำลังบีบผม “ผมว่าผมมีสิทธิ์นะ”



“เล่นกับผมไม่สนุกหรอกครับ”



“ผมยังไม่ได้ลองเลย จะสนุกหรือไม่สนุกผมขอลองเล่นด้วยตัวผมเอง ผมไม่อยากฟังจากปากของคุณ” ผมว่าถึงเวลาที่ผมต้องบอกลาจริงๆ จังสักที



“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ” คราวนี้ผมลุกออกมาจริงๆ โดยที่ไม่ได้หันไปมองว่าเขาจะมีสีหน้าอย่างไร บอกตามตรงผมรับมือกับเรื่องแบบนี้ไม่ถูก



ถ้าผมบอกไอ้รักษ์เกี่ยวกับเรื่องนี้มันจะต้องกังวล แต่ถ้าผมไม่บอกแล้วมันมารู้ทีหลังก็เท่ากับว่าผมปิดบัง



เชี้ยเอ้ย!! แค่เรื่องงานก็ปวดหัวจะแย่ ยังมาเจอกับเรื่องประสาทแดกแบบนี้อีก แล้วแบบนี้จะไหวไหมวะเนี่ย





“ไหนว่ากลับไปนอนบ้าน?” ผมกลับมาที่ห้องอีกทีในช่วงเกือบๆ ตีหนึ่ง เปิดประตูเข้ามาเจอกับไอ้รักษ์ที่นั่งพิมพ์อะไรบางอย่างอยู่ที่โซฟาภายในห้อง



“ทะเลาะกับพ่อ”



“โอเคไหมนิ?”



“โอก็แย่ละ กูเบื่อฉิบหายที่จะต้องทำแบบนี้ กูอยากลากหนีไปที่อื่นให้แม่งจบๆ” ไอ้รักษ์ปิดคอมเสียงดังก่อนที่จะหันมามองหน้าผมด้วยแววตาหงุดหงิดจากเรื่องที่มันเจอ “กินอะไรมายัง?”



“กินมาม่ามาแล้ว”



“กูทำอะไรให้กินไหม?” ถึงแววตามันจะหงุดหงิดแต่สิ่งที่มันแสดงออกมาตอนนี้มันทำให้หัวใจของผมสั่นไหว ถึงจะคบกันมานานแต่ผมก็ไม่เคยหยุดหวั่นไหวให้กับมันเลย



“มึงแสนดีอะไรขนาดนี้วะ?”



“เป็นอะไรของมึง?”



“ถ้าไม่มีมึงกูจะอยู่ไงวะ รีดผ้าก็ห่วย ทำกับข้าวก็หมาไม่แดก ชอบลืมปิดแอร์ ไม่เคยเปิดหน้าต่างห้อง คบกับมึงแล้วกูเคยตัวฉิบหาย!” ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ไอ้รักษ์



“งอแงอะไรของมึง”



“ดูมึงทำดิวะ”



“แล้วชอบไหมล่ะ”



“ชอบ” ไอ้รักษ์ดึงศีรษะของผมเข้ามาซบที่ไหล่ของมัน “ไอ้รักษ์ถ้าเรามีวันหยุด..ไปเที่ยวกันไหม? นานเท่าไหร่แล้ววะที่ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้อยู่ดีเนอะ ถ้าคืนไหนกูฝันถึงมึงคืนนั้นกูโคตรมีความสุขเลย เพราะในความฝันกูไม่ต้องกังวลอะไรเหมือนอย่างตอนนี้”



“เหนื่อยไหม?”



“เหนื่อย”



“อดทนอีกนิดนะ”



“เออ”



“อีกไม่กี่วันก็เลือกตั้งซ่อมแล้ว กูเป็นกำลังใจให้นะ ไม่ได้ก็ลาออกมาอยู่เฉยๆ กูหาเลี้ยงเอง”



“ขอกูแต่งงานเลยดิถ้างั้น”



“ขอได้ขอไปแล้วไอ้เพชร ไอ้เวร” ไอ้รักษ์ก้มลงมาจูบที่หน้าผากของผมเบาๆ ก่อนจะผลักออก “ถ้าเราจับมือกันแน่นก็ไม่มีใครมาแทรกเราได้เนอะ”



“ใครจะกล้าแทรก.....” ผมพูดได้ไม่เต็มเสียงจริงๆ เพราะคนที่จะแทรกมาปรากฏตัวให้ผมเห็นบ่อยขึ้น แต่ผมมั่นใจในความรู้สึกของผมว่าคงจะไม่หวั่นไหวไปเพราะคนคนเดียวที่จะมาทำลายความสัมพันธ์ผมกับมัน



“มันมีแล้วกัน” ผมว่าไอ้รักษ์ก็คงจะรู้อะไรมาบ้าง



“ถ้าตอนนั้นกูเลือกเรียนคณะอื่น ป่านนี้เราคงมีความสุขกันไปแล้วแหละ” ตอนมัธยมผมมีอยู่สองเป้าหมายถ้าไม่เรียนรัฐศาสตร์ผมก็คงจะเรียนเภสัชกลับไปทำงานอยู่ที่บ้านต่างจังหวัดหรือไม่ก็อาจจะเปิดร้านเล็กๆ แถวที่ทำงานของไอ้รักษ์



“เภสัชอะนะ”



“อืม ที่เราเคยไปดูกันว่าถ้ากูเรียนจบมึงจะซื้อตึกแถว แถวๆ พรรคมึงให้กูเปิดร้านยา” ไอ้รักษ์มันอยู่กับผมตั้งแต่มัธยม อยู่ด้วยกันชนิดที่ว่ามันรู้ว่าผมมีเป้าหมายอะไรบ้างในชีวิต



“ก็ตอนนั้นมึงแม่งเสน่ห์แรงฉิบหาย กูก็ต้องเอามาอยู่ใกล้ๆ หูใกล้ๆ ตากู” ตอนนั้นช่วงมอห้าผมจำได้ว่าเป็นช่วงที่มีคนเข้ามาทำความรู้จักไม่ขาดสายจนไอ้รักษ์ต้องตามติดผมไปทุกที่



“มึงก็เวอร์”



“ก็กูหวงของกู”



“เออ กูไม่ไปไหนหรอกไม่มีใครทำให้กูหวั่นไหวได้เท่ามึงแล้ว”



“มึงพูดตรงๆ กูก็เขินนะเว้ย!” นานเท่าไหร่แล้วที่ผมกับไอ้รักษ์ไม่ได้นั่งคุยกันด้วยท่าทีสบายๆ แบบนี้ ถึงแม้ว่าในหัวของผมจะมีเรื่องที่หนักอยู่ก็ตาม



ผมจะทำอย่างไงให้คุณรามเลิกยุ่งและเลิกวางแผนที่จะเข้ามาใกล้ผม ผมคงจะยินดีถ้าเรารู้จักกันในฐานะญาติของไอ้รักษ์ ไม่ใช่....สถานะที่เป็นแบบนี้



ทุกคนคงจะไม่จบถ้าผมไม่ยอมเลิกยุ่งกับไอ้รักษ์ เอาเถอะ มันคงต้องมีสักวันที่เราสองคนกลับมารักกันได้แบบที่ไม่ต้องกังวลอะไรเหมือนเมื่อก่อน อย่างน้อยก็พ้นช่วงนี้ไป

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ๊ยยยยยยยย ขอคนช่วยสองคนนี้หน่อยค่า  :katai1:

ออฟไลน์ lolli_candy99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารทัคู่เลยอะ :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ชอบฟิลเวลาที่อยู่ด้วยกันดีต่อใจมากกกกกกกก

พี่รามไม่ต้องยุ่งกับเขา มายุ่งกับเรานี่  :hao7:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด