ผมเป็นหอย ส่วนเขาเป็นหมึก (บทที่12) (10/3/64) ++++++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมเป็นหอย ส่วนเขาเป็นหมึก (บทที่12) (10/3/64) ++++++  (อ่าน 9524 ครั้ง)

ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารัก ชอบตั้งแต่เป็นเรื่องสั้น อยากรู้ว่าพี่หมึกสายไปสะดุดตีน เอ๊ย! สะดุดตาอะไรน้องหอยชักตีนเข้าถึงได้อุ้มน้องกลับมาเลี้ยงที่บ้าน :man1: :man1:

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นี่มันนิยาย​รักษ์​โลก​นี่น่า

เอ็นดู​น้อง​หอย​
อยาก​ได้​ยินความคิด​ของ​พี่​หมึก​บ้าง​ค่ะ​

ออฟไลน์ larza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
บทที่3

หลังจากที่เขารู้ว่าผมแอบหนีไปด้านนอก เขาก็พาผมออกมาเที่ยวข้างนอกบ่อยๆ





เอาจริงผมไม่ได้อยากออกมาเที่ยวขนาดนั้น ตอนแรกที่ลงทุนขุดดินจนมาถึงข้างนอกได้เพราะอยากหนีล้วนๆ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ดูจะจับจ้องพฤติกรรมผมเป็นพิเศษเหมือนกลัวว่าจะหนีไปอีก





แต่ความจริงผมก็ไม่ได้คิดหนีแล้ว อยู่เฉยๆ ก็มีปลาหมึกเอาอาหารมาให้ ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายออกไปโดนนักล่าไล่กิน อย่างน้อยชีวิตแบบนี้ก็ไม่ได้แย่





ตอนที่อยู่ในถ้ำเบื่อๆ ผมก็ขุดดินเล่นหรือไม่ก็ใช้เท้าวาดรูป พอปลาหมึกใกล้มา ผมก็จะใช้เท้าลบๆ พื้นอย่างรวดเร็ว





ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้เขาเห็น แต่ผมรู้สึกไม่ดีเวลาที่คนอื่นเห็นรูปที่ตัวเองวาด





ผมขีดเขียนอย่างใจลอย ไม่รู้ว่าเขากลับมาตั้งแต่เมื่อไร พอผมกำลังจะใช้เท้าลบ เขาก็รั้งตัวผมเอาไว้





ปลาหมึกยื่นหน้ามาดูสิ่งที่ผมขีดเขียนบนพื้นเหมือนสนใจ ผมเลยอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับตัว





รูปที่ผมวาดเป็นรูปปลาหมึก แน่นอนว่าผมอยากวาดตัวเอง แต่เพราะไม่รู้ว่าหน้าตาตนเองเป็นยังไง ผมเลยวาดเขาแทน





แต่รูปที่ออกมาก็ไม่ได้วาดรู้เรื่องหรือสวยเท่าไร ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็คงไม่เข้าใจ ผมเลยเฉยๆ ไม่ได้มีท่าทีลนลานอะไรตอนที่เขาเห็นรูปที่ผมวาด





จากนั้นปลาหมึกก็ใช้หนวดเขี่ยบนพื้น





ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะลบ แต่เปล่า อีกฝ่ายใช้หนวดขีดเขียนอะไรบางอย่างบนพื้นอยู่พักหนึ่งแล้วค่อยละออกมา





ผมมองด้วยความสนใจ แต่ก็มองไม่ออกเลยขยับตัวถอยหลังมา จากนั้นถึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายวาดอะไร





ผม?





เดี๋ยว





ผมงงจนพูดไม่ออก พอเห็นแล้วคิดว่าน่าจะใช่ตนเองจริงๆ ก็นิ่งไปพักใหญ่





ปลาหมึกวาดรูปได้???





ผมเพิ่งรู้ว่าปลาหมึกก็วาดรูปเป็น แต่เหมือนผมจะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ผมเลยถอยออกมาดูแบบงงๆ แล้วก็เดินไปเดินมา





เหมือนปลาหมึกจะเข้าใจผิดว่าผมอยากดูแบบชัดๆ เขาเลยใช้หนวดรัดตัวผมแล้วก็ยกให้สูงขึ้น





แวบแรกที่ร่างกายลอยขึ้นจากพื้น ผมขดตัวเข้าไปในเปลือกหอยอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อรู้สึกได้ว่าเปลือกหอยไม่ได้กระทบกระเทือนกับพื้น ผมเลยชะโงกหน้าออกมาดู





เมื่อดูจนพอใจแล้ว ผมเลยใช้ขาเขี่ยเข้าที่หนวด จากนั้นเขาถึงยอมปล่อยผมลงบนพื้น ผมเดินเตาะแตะไปที่ตรงนั้นแล้วใช้เท้าลบสิ่งที่ตนเองวาด





ผมไม่คิดว่าเขาจะวาดรูปตัวผมหรอก สัตว์ไม่สามารถวาดรูปได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงมีภาษาเหมือนมนุษย์แล้ว





นี่คือข้อแตกต่างอีกอย่างของมนุษย์กับสัตว์ ผมสามารถวาดรูปได้ก็จริง แต่ไม่สามารถวาดสิ่งที่ไม่เคยเห็นหรือสิ่งที่อยู่ในจินตนาการ สิ่งที่สามารถวาดได้มีแค่ภาพที่เคยเห็นเท่านั้น





มันเป็นเรื่องที่น่าอิจฉาอย่างหนึ่ง ระหว่างที่กำลังใช้เท้าลบภาพบนพื้น ปลาหมึกก็ใช้หนวดดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น แล้วขยับตัวหลบมาที่ด้านในส่วนลึกของโพรง





ผมงุนงง อยากจะถามว่ามีอะไร แต่นึกขึ้นมาก่อนว่าตัวเองพูดไม่ได้ แล้วปลาหมึกก็พูดไม่ได้ด้วย ผมเลยอยู่นิ่งๆ ไปก่อนเพื่อรอดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป





'น้ำขุ่นชะมัด'





ผมนิ่งไปเมื่อได้ยินเสียงในหัวดังขึ้น พอมองออกไปข้างนอกก็ไม่เห็นอะไร แต่รู้สึกได้ถึงกระแสน้ำที่เคลื่อนไหวและกระเพื่อมอย่างรุนแรง





พอมีมนุษย์เข้ามาใกล้ ผมจะได้ยินเสียงความคิดของพวกเขา วิธีนี้ทำให้ผมรอดตายมาได้ตลอด





โชคยังดีที่เสียงนี้เบา แสดงว่าไม่ได้อยู่ใกล้มาก แต่ก็ไม่ไกลจากพวกเราเท่าไร ผมรู้สึกกลัวเลยขดตัวเข้าไปหลบอยู่ในเปลือกหอย





เหมือนปลาหมึกจะรู้สึกว่าผมกลัว เขาเลยแหย่หนวดปลาหมึกเข้ามาด้านในเปลือกหอยแล้วเขี่ยกับจิ้มราวกับจะแสดงความเป็นห่วง





ผมรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ เลยยื่นเท้าเขี่ยตอบ หนวดปลาหมึกถึงหดกลับไปในที่สุด





เหมือนกับว่าเขาพอใจแล้ว ปลาหมึกเลยไม่ได้แหย่หนวดเข้ามาด้านในอีก





ผมขดตัวนิ่งๆ รอให้มนุษย์จากไปจนไม่ได้ยินเสียงความคิด จากนั้นจึงค่อยโผล่หัวออกมา





ตอนที่โผล่หัวออกมาจากเปลือกหอย ผมเพิ่งเห็นว่าปลาหมึกยังกอดเอาไว้อยู่





ผมรออยู่สักพัก พอไม่เห็นว่าเขาจะขยับไปไหน ผมเลยยื่นเท้าไปสะกิด เขาถึงคลายหนวดออก





ผมเดินเตาะแตะไปบนพื้นโคลน ทว่าเดินไปได้ไม่ไกล ปลาหมึกก็คว้าตัวผมเอาไว้แล้วพาว่ายขึ้นไปด้านบน





สงสัยมันคิดว่าผมอยากจะออกไปเที่ยวข้างนอก ผมอยู่เฉยๆ แต่เริ่มมาขัดขืนอย่างจริงจังตอนที่มันว่ายพาขึ้นสู่เหนือน้ำด้านบน





ผมกลัวบนบกมากที่สุด การอ่านใจมนุษย์ได้ทำให้ผมรับรู้ว่าด้านบนมีสิ่งมีชีวิตอันตรายอยู่เพียบ และยิ่งรู้ว่ามนุษย์อาศัยอยู่บนบกเป็นหลัก ผมก็ยิ่งไม่อยากขึ้นไป





มนุษย์มองพวกเราเป็นแค่หนึ่งในอาหารจำนวนมาก โดยหลักแล้วมนุษย์กินแทบทุกอย่าง ผมยังนึกอยู่เลยว่ามีสัตว์ตัวไหนกินมนุษย์เป็นหลักบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่มี





แน่นอนว่าผมที่ขัดขืนแบบจริงจังสู้แรงปลาหมึกไม่ได้ เขาดูไม่สะทกสะท้านอะไร เหมือนจะไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าผมพยายามขัดขืนอยู่





ไอ้บ้านี่





สงสัยที่มนุษย์บอกว่าปลาหมึกฉลาดจะไม่ใช่เรื่องจริง แค่อ่านความรู้สึกผม เขายังอ่านไม่ออกเลย





ผมขดตัวในเปลือกหอยด้วยท่าทีเซื่องซึม คิดเอาไว้แล้วว่าบนบกต้องเป็นสถานที่โหดร้ายเหมือนนรกถึงได้มีสัตว์อันตรายเต็มไปหมด





ถ้าขึ้นไปด้านบนแล้วจะเอาชีวิตรอดยังไงดี ผมคิดวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้นก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ อีกนิดเดียวก็จะพ้นผืนน้ำแล้ว--





ทว่าภาพด้านบนกลับเป็นภาพที่ผิดจากที่คาดไว้





ภาพตรงหน้าเป็นผืนทรายและต้นไม้ที่ขึ้นสูง เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นพระอาทิตย์และท้องฟ้า





ดวงตาผมไม่ได้ดีเท่ามนุษย์ แต่ก็รู้สึกได้ว่าภาพตรงหน้าสวยและงดงามมาก ดูไม่น่ากลัวเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้ตอนแรก





แต่ก็น่ากลัวอยู่ดี





มันน่ากลัวเพราะเป็นสถานที่ที่ผมไม่รู้จัก ผมขดตัวเข้าไปในเปลือกหอยเพราะหวาดระแวงกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ขณะพยายามเขี่ยเท้าเพื่อเป็นเชิงบอกให้เขาว่ากลับเถอะ





แต่ปลาหมึกก็ไม่รู้ความนัยที่ผมอยากสื่อแม้แต่น้อย พวกเราอยู่กันต่ออีกสักพักท่ามกลางความหวาดระแวงของผม จากนั้นจึงค่อยกลับลงไปสู่ท้องทะเลเหมือนเดิม





มันโชคดีที่เป็นครั้งแรกของพวกเรา แต่ไม่เกิดเรื่องอะไรก็เท่านั้น





ถึงเหนือน้ำขึ้นไปจะอันตราย ทว่าผมก็รู้สึกว่ามันเป็นภาพที่งดงามมากจริงๆ





-------------------------









[Talk]


เตือนไว้ก่อนว่าเรื่องนี้มีเรทนะคะ

ออฟไลน์ shinyface

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
เปนหอยยังแซ่บ เรทมาเลยค่ะ ชอบบบบ 555+

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้องๆจะเรทกันยังไง? รอ..ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ   :hao6:

ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :จ้อบจัง1: รอ....เรท

ออฟไลน์ Peterpanmama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ปูเสื่อรอเลยจ้า

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เรื่องนี้น่ารักมากจริงๆ ยิ่งนึกภาพตามยิ่งไม่อยากกินเลย 555 จะมีพาร์ทของพี่หมึกบ้างมั้ยนะ อยากรู้จังว่าพี่หมึกคิดอะไรบ้าง

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
หอยกลับปลาหมึกน่าสนใจ

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารัก​ น่ารัก​ น่ารัก​เต็มไปหมด
รอเรทนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
น้องหอยกับพี่หมึกจะเรทททททททททททททท อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ larza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
บทที่4

เมื่อได้เคยลองขึ้นไปเหนือน้ำครั้งหนึ่ง ความหวาดกลัวที่มีมาตลอดก็ลดลง พอมีครั้งแรกจึงมีครั้งที่สองและครั้งที่สามตามมา แล้วความกลัวที่มีมาตลอดก็หายไปไหนไม่รู้

แต่ผมก็ยังไม่กล้าขึ้นบนบก ผมทำเพียงแค่ขึ้นไปเหนือน้ำ จากนั้นก็กลับลงมาข้างล่างเหมือนคนขี้ขลาด เพราะสัญชาตญาณสอนให้ผมระวังตัวอยู่ตลอดเวลา

ช่วงพักหลังมานี้ปลาหมึกไม่ได้พาผมไปไหนอีก เขามีท่าทีกระสับกระส่ายแปลกๆ จากนั้นก็มีพฤติกรรมแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด

จากที่ปล่อยให้ผมอยู่อย่างอิสระ แล้วออกไปหาอาหาร เขากลับจับจ้องผมอยู่ในโพรงเงียบๆ แทบจะไม่กะพริบตา ราวกับกลัวว่าหากละสายตาแวบเดียว ผมก็จะหายไปต่อหน้าเขา

ความรู้สึกนี้ทำให้ผมหนาววูบวาบแปลกๆ ถึงกับต้องพยายามขุดดินเพื่อหลบซ่อนสายตาของเขา แต่ปลาหมึกก็จะพยายามขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วใช้หนวดหนึบๆ นัวเนียใส่

นี่มันอะไร ผมงงมาก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือแย่อย่างที่คิด เลยปล่อยให้เขาใช้หนวดนัวเนียต่อไป

จากนั้นเขาก็เข้ามากอด แล้วใช้หนวดสอดเข้ามาด้านในรู

ผมตัวแข็งค้าง ยังไม่ทันหายงงว่ามันคืออะไร ผมก็ใช้เท้าแหย่กลับเพราะคิดว่าเขาคงอยากเล่นด้วย แต่มันกลับคว้าตัวผมเอาไว้แน่น

ความรู้สึกที่มีหนวดตะปุ่มตะป่ำและเมือกสัมผัสทำให้ผมสะดุ้ง พยายามขดตัว แต่เขากลับสอดอะไรบางอย่างเข้ามาด้านในเพิ่มอีกอย่าง

เดี๋ยว

หนวดปลาหมึกดึงร่างของผมออกมาจากเปลือกหอย หนวดอันหนึ่งกอดรัดผมเอาไว้แบบไม่แน่นนัก ขณะที่อีกหนวดพยายามเย้าแหย่ด้วยการถูไถไปมาบนตัวผม

ผมขดตัวหลบด้วยความจั๊กจี้ แต่หนวดนั้นยังคงตามรังควานไม่หยุด มันถูไถไปมาบนตัวผม ผมเลยใช้เท้าเขี่ยหนวดนั้นกลับ

ความหนึบที่หนวดปลาหมึกทำให้ผมรู้สึกเคลิ้มหน่อยๆ จนไม่ได้ดิ้นหนีอีก ผมเขี่ยที่หนวดนั้นจนมันบิดไปมาเหมือนกำลังเขินอาย

จากนั้นหนวดปลาหมึกที่ถูไถผมก็หลุดออกมา

ผมอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ตอนที่เห็นหนวดปลาหมึกเส้นนั้นหลุดออกมาผมถึงกับแตกตื่น กระวนกระวายพยายามเอาหนวดเส้นนั้นกลับไปต่อ แต่ต่อยังไงก็ไม่ติด

แทนที่ปลาหมึกจะลนลานกับท่าทีของผม มันกลับยัดหนวดปลาหมึกเส้นยักษ์ที่หลุดออกมาใส่เท้าผม

หนวดปลาหมึกเส้นใหญ่นั้นติดหนึบกับร่างจนผมต้องพยายามดันมันออก แล้วก็จ้องมองหนวดที่อยู่บนพื้นสลับกับหนวดที่ขาดออก

เหมือนเคยได้ยินว่าถ้าหนวดปลาหมึกขาดเมื่อไร มันจะงอกเส้นใหม่ได้ แต่ทำไมมันถึงไม่เห็นจะงอกหรือเพราะต้องใช้เวลานานกว่านี้หน่อย

ผมใช้เท้าดึงหนวดปลาหมึกอันนั้นเข้ามากอด เหมือนเขาจะให้หนวดอันนี้กับผม?

แต่เพื่ออะไรกัน..

ผมงงไปหมด ท่าทีที่เปลี่ยนไปทำให้ผมกระสับกระส่าย เขาเอาผมใส่เข้าไปในเปลือกหอยเหมือนเดิม ก่อนที่จะเอาหนวดปลาหมึกอันที่หลุดนั้นยัดเข้าไปในเปลือกหอยด้วย

จากนั้นเขาก็ดึงตัวผมเข้ามากอด แล้วหลับไป ปล่อยให้ผมงงกับการกระทำของเขาจนไม่ได้ขยับตัวไปไหน

แล้วหลังจากวันนั้น ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป

………...

…..

ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากที่เขาสละหนวดชิ้นหนึ่งให้กับผม พฤติกรรมก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

จากที่เคยออกไปหาอาหารแล้วเอากลับมาให้ บางครั้งเขาก็ลืมเอามาให้ผม ผ่านไปนานวันเข้า ปลาหมึกก็มองผมแบบงงๆ เหมือนไม่มีความทรงจำในหัว

ผมงงกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขา หนวดชิ้นนั้นยังคงอยู่กับผม ตอนที่แตะแล้วเปิดดูข้างใน ผมเหมือนจะเห็นว่ามีอะไรบางอย่างออกมาด้วย แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

พอเห็นว่าพฤติกรรมอีกฝ่ายเปลี่ยนไป ผมก็พยายามเอาหนวดชิ้นนั้นไปติดคืนให้ แต่มันติดไม่อยู่ แถมบริเวณที่หนวดขาดก็ไม่มีทีท่าว่าจะงอกขึ้นมา

ถ้าผมเป็นมนุษย์ก็คงดี อย่างน้อยผมจะได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ผ่านไปนานวัน ปลาหมึกก็เริ่มออกไปหาอาหารแล้วไม่กลับมาอีกหลายวัน เขาแทบไม่แตะต้องตัวผมเหมือนก่อน ซ้ำยังดูมีท่าทีล่องลอยแปลกๆ

ผมกำลังตงิดใจ ไม่ใช่ว่าหนวดตรงนั้นที่ขาดออกไปคือส่วนสมองใช่ไหม

เพราะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร นานวันเข้าปลาหมึกก็มีท่าทีแปลกไปจนผมกระวนกระวาย สุดท้ายด้วยความที่ทนไม่ได้ ผมเลยคิดว่าตนเองควรจะขึ้นบก

บางทีถ้าขึ้นบก ผมอาจจะได้ข้อมูลมาว่าทำไมปลาหมึกจึงมีพฤติกรรมแปลกไป แต่ปัญหาคือผมต้องเข้าไปใกล้มนุษย์มากพอที่จะสามารถอ่านความคิดอีกฝ่ายได้ แถมไม่ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนจะรู้เรื่องของปลาหมึกเสียด้วย

เพียงแค่คิดผมก็เริ่มกลัวขึ้นมา

ความใคร่รู้สลับกับความกลัวเหวี่ยงไปมาในหัว หลังจากใช้ความคิดพักใหญ่ ผมก็ตัดสินใจได้ว่าจะลองขึ้นบนดูสักครั้ง

ถ้าผมหลบซ่อนในดิน มนุษย์ไม่น่าจะเห็น พวกเขาไม่ให้เวลาหรือสนใจสิ่งมีชีวิตที่เล็กจิ๋วแบบผมหรอก ถ้าไม่ได้ตั้งใจจะกิน

ผมทิ้งหนวดอันนั้นไว้ในโพรง จากนั้นก็เดินต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนจากพื้นโคลนเพื่อขึ้นมาสู่บนบก ยิ่งเห็นแสงสว่างใกล้มากเท่าไร ผมก็ยิ่งขุดดินเพื่อหลบด้วยความกลัวมากเท่านั้น

ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรืออย่างไร ขณะที่ผมกำลังขึ้นไป ผมก็ได้ยินเสียงของมนุษย์สองคนคุยกัน

แน่นอนว่าผมฟังบทสนทนาของพวกเขารู้เรื่อง คลับคล้ายกับว่าสมองผมเชื่อมกับสมองของพวกเขา เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ ผมก็พยายามค้นหาข้อมูลจากในสมองนั้น

สองคนนี้ดูเหมือนว่าจะทำงานเกี่ยวกับพวกสัตว์น้ำหรือนิเวศพอดี ผมรู้สึกว่าตนเองโชคดีมาก จากนั้นก็แอบดูข้อมูลในสมอง

พอดูจนเสร็จแล้ว ผมก็พบว่าตนเองไม่น่ารู้เลย

เดี๋ยวก่อน ผมงง สรุปที่หมอนั่นทำกับผมด้วยการเอาปลาหมึกมาแหย่ๆ นี่คือการผสมพันธุ์เหรอ แล้ว...แล้ว… ผมขดตัวเข้าในเปลือกหอย ไม่รู้ทำไมถึงอับอายแปลกๆ ยิ่งรู้ว่าหนวดปลาหมึกที่เขาสละทิ้งมาให้คืออะไร ผมก็ยิ่งอายจนพูดไม่ออก

ประเด็นคือผมแม่งนอนกอดอิหนวดอันนั้นแทบทั้งวันทั้งคืนด้วย ..

ไม่ได้การล่ะ ผมชักเครียด ขณะที่คิดว่าตัวเองต้องรีบกลับไปรั้งปลาหมึกเอาไว้เป็นการเร่งด่วน ร่างของผมก็ลอยหวือขึ้นเหนือน้ำทันที

พวกมนุษย์จ้องมองผม ก่อนจะพูดคุยกัน "นี่ไง ได้ตัวอย่างงานวิจัยแล้ว"

งานวิจัยอะไร.. ผมขดตัวหนีเข้าไปในเปลือกหอยด้วยความกลัว จากนั้นพวกเขาก็พูดคุยอะไรบางอย่างกันต่อ ก่อนจะโยนผมลงไปในถังน้ำ

จากนั้นผมก็ถูกพาตัวไปในที่ไกลแสนไกล ที่ที่แม้แต่ตนเองยังไม่รู้จักด้วยซ้ำไป

ความทรงจำต่อจากนั้นค่อนข้างติดขัด ขาดหายและไม่เป็นรูปเป็นร่าง ทว่าเมื่อตื่นขึ้นมาอีกที ผมก็พบว่าตนเองอยู่ในโลกที่ไม่รู้จักเสียแล้ว

---------

[Talk]

ตอนนี้สั้นแบบไม่มีข้อแก้ตัวจริงๆค่ะ คือมันเขียนยากมากกกกกกก

ตอนหน้าจะเริ่มเปลี่ยนแนวเรื่องแล้วนะคะ

ป.ล.เวลาหมึกผสมพันธุ์ มันจะแจกไอ้นั่นให้ตัวเมียค่ะ อารมณ์แบบสลัดทิ้งเลยแล้วคาไว้ในนั้น เราเรียกอวัยวะส่วนนั้นว่าhectocotylus

ป.ล.2 รอดูเฉลยตอนหน้านะคะว่าทำไมปลาหมึกถึงเปลี่ยนไป


ออฟไลน์ shinyface

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
'เปลี่ยนแนวเรื่อง'

ไม่น่าไว้ใจอย่างรุนแรงงงง

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
เปลี่ยนแนวเรื่อง?
แกงกะทิหอยจุ๊บ?
ผัดพริกปลาหมึก?
#แนวTriller
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2020 22:38:24 โดย GBlk »

ออฟไลน์ rsmrypngpth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องหอยเป็นคน แน่ๆ !!!
ไม่งั้นจะเรทยังไง ฮ่าๆๆๆ
Welcome to my world จ่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อะไรคือเปลี่ยนแนวเรื่อง...รอลุ้นจ้า  :call:

ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หูย ลุ้นอ่ะว่าต่อไปจะเป็นยังไง นักเขียนสู้ๆนะ ตามอ่านอยู่จ้า  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
จะเป็นอย่างไงต่อ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
น้องหอยถูกจับไปแล้ว หมึกจะทำยังไงละเนี้ยะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
น้องถูกจับไปแล้ววว  :ling1:

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
เปลี่ยนแนวเรื่องรืออัลไลลลลลล ทำไมพี่หมึกเปลี่ยนปัยยยยยย. ถ้าน้องหอยกลายเป็นหอยผัดเผ็ดจะเครียดและเลิกกินหอยผัดเผ๊ดไปครึ่งปี ฮือออออออ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
น้องงงงงง น้องโดนหิ้วใส่กระป๋องไปแล้วววพี่หมึก!

จะเปลี่ยนแนวอัลไรรรร ลุ้นมากกกก น้องในร่างใหม่ หรือจะจับน้องผัดเผ็ด  :katai5:

ออฟไลน์ larza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
บทที่5

ปลาหมึกหลังจากผสมพันธุ์ มันจำความจำเสื่อมแล้วตายลง

นั่นเป็นข้อมูลที่ผมเพิ่งรับรู้หลังถูกจับตัวมา จากนั้นผมก็โดนโยนเข้าบ่อเพาะเลี้ยง พวกมนุษย์เฝ้าดูพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของผม แล้วก็คอยจดบันทีกตลอดเวลา

หลังจากจดบันทึกได้สักพัก ประมาณสองหรือสามวัน พวกเขาก็โยนหอยตัวเมียลงมา

แน่นอนว่าผมไม่มีอารมณ์จะผสมพันธุ์เพราะมัวแต่กังวลเรื่องของปลาหมึก ผมเลยเดินเตาะแตะในถังไฟเบอร์กลาสแบบกระวนกระวาย

สุดท้ายพอพวกมนุษย์เห็นผมไม่ยอมผสมพันธุ์สักทีแม้ว่าจะผ่านไปเป็นสัปดาห์ พวกเขาก็ระบายน้ำออกในถัง

จะทำอะไร..

ผมงง แล้วสักพักเขาก็ปล่อยน้ำเข้ามาด้านใน เหมือนจะคุยกันว่าเพื่อกระตุ้นให้ผมผสมพันธุ์อะไรสักอย่าง ผมเลยทำเป็นยืนอยู่นิ่งๆ เหมือนว่าป่วยหรือใกล้ตายแล้ว พวกมนุษย์จะได้เลิกยุ่งแล้วปล่อยผมไปสักที

ปรากฎว่าพอเห็นผมยืนนิ่งเหมือนใกล้ตาย พวกมนุษย์ก็คุยกันว่าจะจับผมไปปิ้งกินดีไหม

ชิบหาย

ผมเริ่มคิดแล้วว่าอย่างน้อยๆ ตัวเองก็ควรเดินหรือเคลื่อนไหวอะไรบ้างสักอย่าง แต่ก็ได้แค่คิด ยังไม่ทันได้เริ่มทำอะไร พวกมนุษย์ก็ใส่สารอะไรบางอย่างลงมาในน้ำ ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าเป็นอะไร แต่หลังจากนั้นผมก็รู้สึกเคลื่อนไหวหรือเดินไม่ออกจริงๆ แล้วก็อยู่นิ่งๆ

จากนั้นภาพทุกอย่างก็ดับลง

…………………………..

……………

ตอนที่ตื่นขึ้นมา ผมก็พบว่าตนเองมาอยู่ที่อื่นแล้ว

ผมคงจะไม่รู้สึกอะไร หากว่าของในสภานที่นี้ไม่ได้มีขนาดเล็กลงจากที่เคยรู้สึกได้ ผมขยับตัวเล็กน้อยเพื่อกวาดตามองรอบๆ ดูเหมือนว่าที่นี่น่าจะเป็นแกลอรี่หรือทางเดินที่เอาไว้โชว์งานศิลปะแบบที่พวกมนุษย์ชอบดูกัน

แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

ผมเดินไปตามทางแบบงงๆ ทางข้างหน้ามืดมากจนผมไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดลงที่ตรงไหน ผมเลยหยุดเดินหลังจากเดินมาได้สักพักแล้วหันมามองภาพข้างทางแทน

ตอนนั้นผมถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่ามันมีอะไรปกติ

ผมมองภาพศิลปะที่อยู่บนผนังทางเดิน จากนั้นผมก็แปลกใจที่พบว่าตนเองสามารถมองเห็น ‘สี’ และสิ่งของได้แบบที่ไม่ใช่เป็นแค่เงาตะคุ่มๆ อีกต่อไป

“อะไรน่ะ”

ผมหลุดอุทานออกไป ก่อนจะเงียบลงเมื่อเพิ่งรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆ

เดี๋ยว แล้วทำไมผมพูดได้???

ผมงงจนยืนนิ่งไปพักใหญ่ พอก้มลงมองก็พบว่าตัวเองยังเป็นหอยเหมือนเดิม แต่ดูเหมือนว่าขนาดตัวผมจะใหญ่ขึ้น ขนาดเกือบเทียบเท่ามนุษย์ได้ ผมลากตัวเองมายืนที่หน้างานศิลป์ชิ้นหนึ่ง มันเป็นรูปของสถานที่ที่ผมไม่รู้จัก ด้านในภาพนั้นมีสีเขียวและน้ำสีฟ้า งดงามชนิดที่ว่าแทบจะละสายตาไม่ได้

มีความเป็นไปได้สองทางว่าทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ข้อแรกคือเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความฝัน ข้อที่สองคือผมโดนพวกมนุษย์รมยาอะไรไม่รู้จนเห็นภาพหลอน

แต่ปกติเราสามารถฝันเห็นในสิ่งที่ตนเองไม่เคยเห็นได้ด้วยหรือไง

ผมยื่นมือออกไปสัมผัสที่กรอบรูปนั้น จากนั้นถึงเพิ่งสังเกตว่าตัวเองมีมือด้วย มือคล้ายกับมนุษย์อีกต่างหาก ผมรีบชักมือกลับมาดู แล้วก็ละสายตากลับมามองที่รูปนั้นอีกครั้ง

"สวยไหม" เสียงของใครบางคนเอ่ยขึ้นด้านหลัง "มันคือทุ่งหญ้ากับทะเลสาป เป็นภาพบนบกน่ะ"

ผมสะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบหันไปมองด้านหลัง จากนั้นถึงได้เห็นว่าสิ่งที่อยู่ด้านหลังผมเป็นนก

แต่มันไม่ใช่นกธรรมดา มันเป็นนกที่มีขนาดใหญ่มาก ขนของมันเป็นสีขาวสะอาดทั้งตัวยกเว้นดวงตาที่ดำสนิท

น่าแปลกที่ผมรับรู้ได้ทันทีว่ามันคือนกพิราบ

ทั้งชีวิตขึ้นบกแค่สามหรือสี่ครั้ง ผมยังไม่มีโอกาสได้เห็นนกด้วยซ้ำ

เหมือนกับที่ผมรู้ได้ทันทีว่าสีบนภาพเป็นสีเขียวกับสีฟ้า ทั้งที่ไม่เคยเห็นสีมาก่อน

"ที่นี่คือที่ไหน.." ผมเอ่ยถาม จากนั้นจึงขยับตัวถอยห่างออกมาเล็กน้อย "คือผมฝันหรือ"

"ไม่ใช่ความฝัน" นกพิราบตัวนั้นว่าก่อนจะใช้ปีกคว้าตะเกียงที่แขวนอยู่ติดผนังขึ้นมาถือ "ตามมา เดี๋ยวฉันพาออกไปจากที่นี่"

ผมงุนงง แต่ก็เดินตามไปแต่โดยดี รอบข้างผมเต็มไปด้วยกำแพงที่ขนาบกันยาวจนไม่เห็นทางออก บรรยากาศวังเวงและมืดสนิทจนแทบไม่ได้ยินเสียงของอะไรเลย

ผมเหลียวมองข้างทาง จากนั้นจึงได้เห็นว่ารูปภาพที่แขวนอยู่บนกำแพงนั้นก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากรูปแรกที่เป็นทุ่งหญ้า ภาพที่สองก็เริ่มมีสิ่งมีชีวิต มีมนุษย์ ภาพต่อๆ ไปก็เป็นภาพของมนุษย์ที่กำลังสร้างบ้านขึ้นมาจากไม้

"มันคือวิวัฒนาการมนุษย์หรือ" ผมถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"มันคือภาพเหตุการณ์ในอดีตน่ะ" นกพิราบนั้นว่า ก่อนจะเหลือบตามามองทางเขา "เธอรู้จักคำว่าวิวัฒนาการจากไหน"

ผมชั่งใจเล็กน้อยก่อนเอ่ย "..จากความคิดมนุษย์"

"มีสัตว์น้อยตัวที่อ่านความคิดมนุษย์ได้" นกพิราบว่าก่อนเดินอย่างเร่งรีบ ท่าทางเหมือนจะบินแล้วด้วยซ้ำ "รีบไปกันเถอะ ถ้าอยู่ที่นั่นเธอจะกลายเป็นคนพิเศษทันที"

ผมรีบคว้าปีกนั่นเอาไว้ "เดี๋ยว ไปไหน--"

"ไปยูโทเปียน่ะ"

ผมเคยได้ยินคำว่ายูโทเปียมาก่อน มันคือสถานที่ที่ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีใครได้รับสิทธิที่พิเศษเหนือใคร แต่สถานที่พวกนั้นเป็นความฝัน

หรือบางทีมันเป็นแค่ชื่อเมืองเฉยๆ

"แล้วที่นี่คือที่ไหน" ผมเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่นแม้ว่าจะยังมีสิ่งที่คาใจ ตอนนี้ผมอยากรู้คำตอบของข้อนี้มากกว่า

"มันคือเส้นเวลา เป็นสถานที่ที่เข้ามาได้เมื่อตายแล้ว"

"เหมือนโลกหลังความตาย? "

"จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ไม่ใช่ทีเดียว" นกพิราบว่าก่อนจะส่งเสียงในลำคอ "เหมือนตรงที่เข้ามาได้ตอนตายแล้ว"

ผมตายแล้ว?

น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเสมือนว่ามันเป็นเรื่องของคนอื่น ไม่มีแม้แต่ความเศร้า เสียใจหรือคะนึงหาด้วยซ้ำ

"แล้วจากนี้จะเป็นยังไงต่อ" ผมถามด้วยน้ำเสียงงุนงง "ไปสวรรค์หรือ"

"จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ไม่ใช่สวรรค์ในแบบที่เธอรู้จักจากมนุษย์หรอก" ทันทีที่เอ่ยจบ นกพิราบก็เดินช้าลงเมื่อเห็นรูปหนึ่ง ผมเหลือบตามองตาม จากนั้นถึงเห็นว่าเป็นภาพโลกที่ถูกน้ำท่วมจนไม่เหลืออะไรเลย "ใกล้จะถึงแล้ว มีสัตว์ตัวไหนที่อยากเป็นหรือเปล่า"

ผมงุนงง "หมายถึงอะไร"

"ที่โลกใหม่นี้เธอจะเป็นสัตว์ตัวไหนก็ได้ที่อยากเป็น" นกพิราบว่าก่อนจะชะงักฝีเท้าเมื่อถึงรูปหนึ่ง มันเป็นรูปที่ไม่ต่างจากรูปแรกสุดที่ผมเห็น แต่เขียวชะอุ่มและมีสัตว์อาศัยอยู่เต็มไปหมด

และในภาพนั้นก็ไม่มีมนุษย์เลยแม้แต่คนเดียว

"เป็นได้ทุกอย่างเลย? "

"ใช่"

ผมชั่งใจคิดเล็กน้อย "แล้วเป็นมนุษย์ได้ไหม"

นกพิราบเงียบไปเล็กน้อย วูบหนึ่งผมเห็นความประหลาดใจบนใบหน้าของมัน ทั้งที่สีหน้าของอีกฝ่ายแทบจะไม่เปลี่ยนเลยด้วยซ้ำ

"ได้สิ" นกพิราบว่าก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ผม มันก้มหน้าลงแล้วหยิบกระจกในกระเป๋าขึ้นมาแล้วยื่นให้ผมดู "แบบนี้ได้หรือเปล่า"

เงาบนกระจกนั้นสะท้อนให้เห็นถึงใบหน้าของมนุษย์เพศชาย ผมเดาไม่ถูกว่าอายุของร่างที่ผมใช้นั้นอายุเท่าไร แต่ดวงตาของผมเป็นสีเขียวอมฟ้าคล้ายกับน้ำทะเล เรือนผมสีดำสนิท ด้านหลังถักเปียยาว

ผมเผลอเลื่อนมือขึ้นมาจับใบหน้าของตนเองโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็เลื่อนไปจับผมด้านหลัง ความรู้สึกประหลาดใจทำให้ผมสัมผัสใบหน้าของตนเองด้วยความตื่นเต้นเหมือนกับได้พบของเล่นใหม่

"ร่างนี้อายุเท่าไร"

"อายุยี่สิบเอ็ด" นกพิราบว่าขณะที่ยังคงถือกระจกค้างไว้ "ชอบร่างนี้หรือเปล่า"

"ชอบสิ" ผมรีบตอบ จากนั้นจึงรับรู้ว่าโทนเสียงของตนเองแปลกไปเล็กน้อย "ถ้าไปอยู่ที่โลกนั้น ผมจะตายได้ไหม"

"ตายได้ถ้าต้องการความตาย" มันว่าก่อนจะเอียงคอเล็กน้อย "ชอบก็ดีแล้ว แต่ถ้าเลือกเป็นมนุษย์จะต้องผ่านการทดสอบความเป็นมนุษย์ก่อนนะ ถึงสามารถออกไปใช้ชีวิตในโลกนั้นได้"

"แบบทดสอบความเป็นมนุษย์? "

"มันคือแบบทดสอบว่าคนนั้นมีความเป็นมนุษย์พอหรือเปล่า ถ้าไม่มีความเป็นมนุษย์พอ จะถูกฝึกเพิ่มจนกว่าจะมีความเป็นมนุษย์"

"เพื่ออะไร" ผมไม่เข้าใจเท่าไร "สุดท้ายแล้วพวกเราก็เป็นสัตว์อยู่ดี ไม่มีทางเข้าใจมนุษย์จริงๆ หรอก"

"มันเป็นกฎน่ะ" นกพิราบว่าก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อ "ตามมาสิ ห้องทดสอบอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้หรอก"

กฎอะไร ตายไปแล้วทำไมถึงยังมีกฎระเบียบในโลกหลังความตายอีก ผมเดินตามไปทั้งที่ยังคงมีคำถามหลายอย่างค้างคาในหัว

"ที่ผ่านมามีสัตว์อยากเป็นมนุษย์เยอะไหม"

"มีไม่กี่ตัว จากล้านตัว มีสัตว์อยากเป็นมนุษย์แค่ตัวเดียว"

"ทำไมล่ะ"

นกพิราบยักไหล่ "พวกเราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว ส่วนมากก็เลือกเป็นในสิ่งที่ตัวเองเคยเป็นทั้งนั้น"

"ที่โลกนั้นไม่มีมนุษย์เลยหรือ"

"ไม่มี" นกพิราบว่าจากนั้นก็หยุดยืนอยู่ที่รูปหนึ่ง มันเป็นรูปคล้ายกับห้องทำงานที่มนุษย์ชอบใช้ ผมเหลือบตามองเข้าไปด้านใน ขณะกำลังงงว่าต้องทำอะไร อีกฝ่ายก็พูดย้ำ "เข้าไปสิ"

"เข้ายังไง? "

ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถามอะไรเพิ่ม ร่างของผมก็ถูกผลักเข้าไปหารูปภาพทันที ผมรีบหลับตาอย่างรวดเร็วด้วยความกลัวว่าร่างกายตนเองจะชนเข้ากับผนัง

ทว่าแทนที่จะชน ร่างผมกลับกลิ้งลงไปบนพื้นที่เย็นเยียบ ขณะที่พยายามลุกขึ้นยืน เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

"อ้าว" อีกฝ่ายเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงประหลาดใจแบบที่ผมมักจะได้ยินจากมนุษย์บ่อยๆ "ยินดีต้อนรับ"

ผมเงยหน้าขึ้น จากนั้นถึงได้เห็นว่าร่างที่อยู่ตรงหน้าผมกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน อีกฝ่ายมีรูปลักษณ์แบบมนุษย์ เรือนผมสีแดง ที่ใบหน้านั้นแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม

ไม่ต่างจากมนุษย์เลย

อีกฝ่ายลุกขึ้นยืน ดูเหมือนว่าร่างตรงข้ามนั้นจะสูงเท่าผม เขาเดินเข้ามาใกล้ ย่อตัวลงตรงหน้า ทันใดนั้นผมก็รีบขยับตัวถอยหลังเล็กน้อย

อย่างว่า ถึงผมจะกลายเป็นมนุษย์แล้ว แต่ผมก็ยังคงกลัวมนุษย์อยู่ดี

"ฉันชื่อเซีย" อีกฝ่ายว่าทั้งๆ ที่ยังคงยิ้ม ก่อนจะยื่นมือมาให้ "ยินดีที่ได้รู้จัก"

ผมงุนงง แต่คิดว่านี่คงเป็นหนึ่งในการทดสอบล่ะมั้งเลยยื่นมือไปจับ จังหวะที่สบตากันนั้น ผมถึงเห็นว่านัยน์ตาอีกฝ่ายเป็นสีแดง

ดูเหมือนว่าดวงตานี้น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้คนตรงหน้าแตกต่างจากมนุษย์ที่ผมรู้จัก เพราะมนุษย์ปกติไม่มีทางมีดวงตาสีแดง

ระหว่างที่ผมกำลังใช้ความคิด เซียก็ผละมือออก จากนั้นจึงค่อยลุกขึ้นยืน แม้กระทั่งท่าเดิน การแสดงออกและอารมณ์ยังดูเหมือนมนุษย์เลย

ผมลุกขึ้นยืนแบบงงๆ รู้สึกว่าแข้งขาอ่อนแรงไปหมด แต่ก็พยายามลากเท้าเดินมาจนถึงเก้าอี้ที่ตรงข้ามกับโต๊ะจนได้

"คุณเองก็เป็นสัตว์หรือ"

"ประมาณนั้น" อีกฝ่ายว่าขณะนั่งลงที่เก้าอี้เลื่อน จากนั้นก็ลากล้อเข้ามาใกล้โต๊ะ "แต่นายคงไม่รู้จักหรอก ฉันอยู่มานานแล้ว"

"นานแค่ไหน"

"ก่อนมนุษย์จะเกิด"

นานมาก ผมกะพริบตา ในหัวนึกได้อยู่แค่สัตว์ไม่กี่ประเภท "คุณเป็นไดโนเสาร์หรือ"

เซียหลุดหัวเราะ "เปล่า ฉันเป็นสัตว์น้ำน่ะ"

"แล้วคุณเป็นสัตว์อะไร"

"อันที่จริงที่นี่มีกฎห้ามถามว่าเคยเป็นสัตว์อะไรมาก่อน" เซียว่า ก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาหมุน ท่าทางดูเป็นกันเองจนผมลดความรู้สึกตึงเครียดลง "แต่บอกนายเป็นกรณีพิเศษก็ได้ ฉันเคยเป็นฉลามน่ะ"

"ตอนนี้ก็ยังมีฉลาม"

"แต่ไม่ใช่เป็นพันธุ์ที่มีอยู่ตอนนี้" เซียแย้ง "พวกเราสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว"

ในหัวผมนึกถึงฉลามเผ่าพันธุ์หนึ่งทันที ได้ยินมาว่ามันเป็นฉลามพันธุ์ที่ตัวใหญ่ที่สุด แต่ข้อมูลเกี่ยวกับมันก็มีไม่มากเท่าไรเพราะมันเป็นสัตว์ที่สูญพันธ์ไปนานแล้ว แม้แต่มนุษย์ก็ยังรู้จักชื่อของมันไม่กี่คน

ผมพยายามเค้นความทรงจำ จำไม่ได้ว่าฉลามพันธุ์นั้นมีชื่อว่าอะไร แต่รู้สึกว่าชื่อจำค่อนข้างยาก

"คุณดูไม่ค่อยดุร้ายเท่าไร"

"โดยปกติก็ไม่มีสัตว์ตัวไหนดุร้ายตั้งแต่แรกหรอก" เซียว่าขณะวางปากกาลง จากนั้นก็ค้นกระดาษที่อยู่บนโต๊ะ "พวกเราแค่ทำเพื่อความอยู่รอดเรียกว่าสัญชาตญาณก็ได้มั้ง”

ผมเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “แล้วคุณจะให้ผมทดสอบอะไร”

“ไม่เชิงทดสอบหรอก” ทันทีที่เซียเอ่ยจบ มือก็หยิบกระดาษขึ้นมาวางบนโต๊ะ “มันคือการประเมินน่ะ พร้อมจะเริ่มการทดสอบหรือยัง”

“แล้วถ้าผมประเมินไม่ผ่าน..”

“ก็กลับไปเป็นสัตว์เหมือนเดิม”

นี่มันกฎเกณฑ์อะไรกัน ผมกะพริบตาปริบๆ จากนั้นก็ก้มหน้ามองในกระดาษ สลับกับมองเซียที่กำลังยกยิ้ม “พร้อมหรือยัง”

ผมส่ายหน้า

“งั้นมาเริ่มกันเถอะ”

ผมจ้องมองเซียแบบแทบจะไม่กะพริบตา รู้ว่าเขาเข้าใจความหมายของการส่ายหน้าแน่ๆ แต่อีกฝ่ายจงใจแสร้งทำเป็นไม่รู้ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะถามผมทำไมถ้าไม่อยากให้เวลาเตรียมตัว

แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่ายังไงผมก็เลือกอะไรไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

----------------------------------------



[Talk]



อย่างที่เคยบอกทุกคนว่าเนื้อหาตอนนี้จะพลิกจากตอนก่อนที่ผ่านมามากๆ เลยลังเลอยู่นานว่าจะอัพตอนนี้ดีไหม เพราะพลิกแนวจนกลัวคนอ่านเท555555

อ่านแล้วรู้สึกยังไงคอมเมนต์ได้นะคะ กังวลกับตอนนี้มาก หรือถ้าอ่านแล้วสงสัยตรงไหนถามได้ค่ะ

ยังไงน้องหอยก็จะเป็นน้องหอยไปจนจบเรื่อง ข้างในยังเป็นสัตว์เหมือนเดิม เดี๋ยวอ่านตอนหน้าก็เฉลยอะไรหลายๆ อย่างเอง





เกร็ดความรู้

-หลังหมึกผสมพันธุ์กับหมึกตัวเมีย ไอ้นั่นจะหลุดแล้วก็กลายเป็นความจำเสื่อม จากนั้นก็จะอายุสั้นลงอย่างรวดเร็วและตายค่ะ

-ถังไฟเบอร์กลาสเป็นถังที่ไว้เพาะเลี้ยงหอยชักตีน ปกติเวลาต้องการกระตุ้นการสืบพันธุ์ก็จะทำการปล่อยน้ำเข้าน้ำออกบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้หอยชักตีนตัวผู้อยากสืบพันธุ์

ออฟไลน์ shinyface

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
มันช่างลุ้นมากนะเนี่ย 5555

แต่พ่อปลาหมึกนี่ อืม.....แปลกๆ

มาไวๆน้าค้า

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ตายซะงั้น

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เกินคาดไปมาก..กกกกก แต่ตามอ่านต่อ ไม่เทแน่นวล เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนจ้า  :กอด1:

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ทำไมชีวิตน้องหมึกมันดราม่าขนาดนี้ ฮือออออ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
น้องหอย จะอัพเกรดเป็นมนุษย์แล้วว
ว่าแต่พี่หมึกอยู่ไหน? ตายแล้วจะอัพเกรดเหมือนน้องไหม เมื่อไหร่จะเจอกัน พี่หมึกจะจำน้องหอยได้ไหม หรือลืมแล้วลืมเลย แง้งง รอลุ้น :hao5:

เป็นกำลังใจให้นะคะ คือถ้าเป็นเรื่องยาว จะเป็นแค่น้องหอยกับพี่หมึกใต้ท้องทะเลไปเรื่อยๆ ก็คงไปต่อไม่ได้
ถึงจะอยู่ในร่างมนุษย์ข้างในก็คือน้องหอยอยู่ดี ประเด็นสำคัญถ้ายังเป็นหมึก มันเศร้าเด้อ ผสมพันธ์เสร็จความจำเสื่อมแล้วตายเนี่ย  :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2020 16:19:25 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
น้องหอยได้ไปดีแล้ว พี่หมึกน่าสงสาร แล้วเป็นมนุษย์จะจำอะไรได้มั้ยนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด