Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ{ตอนที่12 คนข้างๆ} 10/02/63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ{ตอนที่12 คนข้างๆ} 10/02/63  (อ่าน 13424 ครั้ง)

ออฟไลน์ nut2557

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ฟังเขาจ้ะฟังเขาหน่อย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
กินอิ่ม นอนหลับ เลี้ยงง่ายจริงลูกเอ๊ย
แต่คุณพ่อท่าจะเลี้ยงยาก   :mew4: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
คุณพ่อปีศาจ
ตอนที่ 11 ความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนเดิม

ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเมื่อคุณลูฟหลับไปแล้ว ผมมองใบหน้าของเจ้านายที่แม้แต่ตอนนอนคิ้วเข้มก็ยังคงขมวดเข้าหากัน ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ยกมือขึ้นไปจับกับมือใหญ่

“เรื่องที่ฉันต้องไปทำ ที่ฉันไม่กลับบ้าน”

“................”


“เธอช่วยฟังหน่อยได้ไหม”


เมื่อคิดตามมันทำให้คิ้วของผมก็ขมวดเข้าหากันไม่ต่างจากคนหลับ

‘แม่ของคิวปิดติดต่อมา ว่าอยากได้คิวปิดไปเลี้ยงเอง’
หัวใจของคุณพ่อคงแทบจะหยุดเต้นเมื่อได้ยินแบบนั้น ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ตัวคุณพ่อเองก็รู้ดีว่าดูแลน้องได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถ้าหากได้ไปอยู่กับแม่อาจจะทำให้น้องมีความสุขมากกว่า แต่ถ้าถามคุณพ่อว่ายอมไหม คำตอบก็คงจะเป็นแบบเดียวกับผม….

ไม่ยอมแน่นอน

ฝ่ายนั้นทำอะไรได้ไม่มากเพราะถ้าไปสู้กันในศาลตัวคุณพ่อก็คงจะใช้อำนาจทั้งหมดที่มีทำให้ตัวเองชนะ แต่สิ่งที่ทำให้คุณพ่อเครียดจนไม่หลับไม่นอนคือฝ่ายนั้นขอเจอลูก ขอถามความสมัครใจของลูกว่าจะไปอยู่กับคุณแม่ไหม ถ้าลูกยอม…...คุณพ่อก็ทำอะไรไม่ได้

ผมบีบมือคนป่วยให้แน่นขึ้นเพราะแค่นึกภาพว่าหากตัวเองยืนประจัญหน้ากับคุณแม่ของคิวปิดแล้วจะทำยังไงดี นึกเปรียบเทียบกับตัวเองว่าถ้าหากพ่อมารับจะยอมไปอยู่ด้วยไหม คำตอบของผมชัดเจนว่าไปแน่นอนเพราะแม่ไม่ได้ต้องการผมเลยแม้แต่น้อย แต่ในกรณีนี้ คุณพ่อรักและต้องการให้น้องอยู่แต่ไม่เคยแสดงออกไป มุมมองของคิวปิดคุณพ่อคงใจร้ายมาก

ผมเดินถือกะละมังและถาดอาหารออกมาจากห้องนอนใหญ่อย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงไปรบกวนคนหลับ

“คุณก้าน”
เมื่อเดินออกมาจากห้องเจ้านายก็เจอคุณชัชยืนทำหน้าเป็นกังวลอยู่หน้าห้อง ผมพยักหน้าเบาๆ เราเดินมานั่งที่โซฟาที่ห้องนั่งเล่นหลังจากที่ผมเอาข้าวของไปเก็บเรียบร้อย

“คุณท่านบอกแล้วใช่ไหมครับ”
คุณชัชเป็นคนเริ่มบทสนทนาก่อน ผมพยักหน้ารับ

“ผมควรจะทำยังไงดีครับ”
ผมถามเสียงสั่นน้ำตาคลอ คุณชัชขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นแล้วลูบหัวเบาๆ

“คุณหนูต้องเลือกคุณท่านแน่ๆครับ ผมมั่นใจ”
แต่ผมไม่มั่นใจเลย

“คุณชัชเล่าเรื่องของเธอให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากรู้ว่าเธอเป็นคนยังไง”
คุณชัชทำสีหน้าลำบากใจก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ

“เธอทำหน้าที่แม่ได้ดีครับ มีความรับผิดชอบดูแลคิวปิดได้ดีมากๆ แต่ในหน้าที่ภรรยา……..”
คุณชัชหยุดพูดไปเหมือนกับกระอักกระอ่วนใจที่จะพูด แต่ผมที่นั่งจ้องเขาอยู่ไม่วางตาทำให้เขาไม่มีทางเลือก

“เพราะเป็นการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก คุณท่านกับภรรยาจึงมีปากมีเสียงกันบ่อยๆ หนักสุดคุณท่านก็ไม่กลับบ้านเลยเป็นอาทิตย์ ห้องนอนก็แยกกัน ท้ายที่สุดคุณเบลเธอก็มีคนอื่น คุณท่านจับได้จึงขอหย่า เธอยินดีเซ็นใบหย่าและรับเงินไปจำนวนหนึ่งแล้วหายไป ตอนนั้นคุณหนูเพิ่งอายุ2ขวบกว่าเองครับ”
ไม่ได้แต่งกันเพราะความรักงั้นหรอ คลุมถุงชนแบบที่คนรวยๆชอบทำกันสินะ

“สำคัญเลยนะครับคุณก้าน ผู้ชายที่เป็นชู้กับคุณเบลคือลูกน้องคนสนิทของคุณท่าน หลังจากที่คุณท่านไล่ผู้ชายคนนั้นออกไปผมจึงได้ขึ้นมาแทน”
ผมช็อคสุดขีดเมื่อได้รู้อดีตของผู้ชายที่ผมแอบเรียกในใจว่าปีศาจ ไม่คิดมาก่อนว่าคุณลูฟจะเจอเรื่องบัดซบแบบนั้นมาเหมือนกันแบบเดียวกับที่ผมเจอ มิน่าล่ะดูเขาจะเข้าใจความรู้สึกของผมนัก

“จากนั้นคุณท่านก็ไม่มีความสัมพันธ์กับใครอีกไม่ว่าจะในฐานะคนรักหรือคนสนิท พอคุณก้านได้เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้คุณท่านก็ดูใส่ใจคุณก้านดีจนผมแอบคิดว่าบางทีคุณก้านอาจจะช่วยท่านได้”
ผมก็อยากจะช่วยนะแต่ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกันแน่ คนอย่างเขาดูจะไม่ไว้ใจใครง่ายๆผมเลยไม่รู้ว่าเขาจะยอมไว้ใจผมหรือเปล่า

“พอคุณเบลติดต่อมาว่าจะขอเจอคุณหนู คุณท่านก็ทำแต่งานแล้วบอกคุณเบลว่าไม่มีเวลากลับไปที่บ้านเพราะงั้นคุณเบลจึงเข้ามาที่บ้านไม่ได้ถ้าคุณท่านไม่อยู่”
ผมพยักหน้าเข้าใจทันทีว่าทำไมคุณลูฟถึงไม่ยอมกลับบ้าน แต่ก็ไม่ทำให้ผมหายโมโหหรอกนะ โมโหมากกว่าเดิมอีก อย่างน้อยก็น่าจะให้ผมช่วยเหลืออะไรบ้างสิ

“ช่วงที่เขาป่วยผมจะดูแลเอง ขอบคุณที่เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังนะครับ”
คุณชัชยิ้มรับ

“ฝากด้วยนะครับ ถ้าคุณท่านดื้อก็ให้คุณก้านดื้อกว่าไปเลย ให้มันรู้ไปว่าถ้าคุณก้านดื้อแล้วจะมีใครชนะ”
ผมยืนขมวดคิ้วรู้สึกแปลกๆกับประโยคของคุณชัช ผมไม่ได้ร้ายอะไรขนาดนั้นไหมอะ
แต่คนพูดก็เดินหายขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้านเรียบร้อยแล้วผมเลยไม่ได้ถามต่อว่าที่เขาพูดมันหมายความว่ายังไง

วันต่อมาผมก็เข้าไปดูคุณลูฟในห้องเหมือนเดิม แต่เมื่อผมเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าเตียงว่างเปล่า เปิดผ้าห่มดูก็ไม่เห็นใคร
นี่คุณลูฟหนีออกจากบ้านหรอ หรือว่าแอบไปทำงานที่ห้องทำงาน? หนอยยยยยย กล้าขัดคำสั่งของผมงั้นหรอ บอกให้พักผ่อนจะได้หายเร็วๆไง ดื้อเรอะ!!!

“เป็นอะไร ทำหน้าประหลาด”
ผมสะดุ้งหลุดจากความคิดเมื่อเสียงดุๆของเจ้าของบ้านเรียกสติอันฟุ้งซ่านของผม เขาอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำและมีกลิ่นสบู่เหลวประจำตัวหอมฉุย อ๋อ……..ไปอาบน้ำมาหรอกเรอะ นึกว่าแอบไปทำงานซะอีก

“ฉันทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า ทำไมมองฉันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อแบบนั้น”
คิ้วของเจ้านายขมวดเข้าหากันพร้อมกับเดินอ้อมมาขึ้นเตียงตรงฝั่งที่ผมยืนอยู่

“เปล่าครับ ผมคิดว่าคุณแอบไปทำงานซะอีก กำลังจะโกรธเลยดีนะที่คุณมาซะก่อน”
ผมบ่นแล้วยื่นมือไปจับมือคนป่วยเพื่อวัดอุณหภูมิของร่างกาย

“นับวันยิ่งเหมือนเมียฉันเข้าไปใหญ่”
คนป่วยบ่นเบาๆพร้อมส่ายหัวไปมาด้วย…...แต่ขอโทษเถอะผมได้ยิน!

“ผมไม่อยากได้คนบ้างานมาเป็นสามีหรอกครับ พอดีขี้เหงา”
สายตาคมตวัดมามองผมทันทีที่ผมพูดจบ เอ่อ……..ผมเผลอไปจี้จุดอะไรของเขาหรือเปล่านะ

“ใช่ซิ ฉันมันเอาแต่ทำงาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะนอกใจฉันได้เสียเมื่อไหร่”
ผมชะงักมือที่ลูบๆคลำๆแขนของคุณลูฟอยู่ เลือดสูบฉีดขึ้นมาที่หน้าจนรู้สึกได้ว่าหน้าร้อนแล้วจ้า เผลอๆร้อนกว่าคนป่วยแล้วตอนนี้ ดูเหมือนคุณลูฟจะเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา เขามองหน้าผมแล้วอึกๆอักๆในลำคอเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง

ส่วนผมก็เอาแต่ยืนเขินทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรแกล้งเมินมันไปดีไหมแต่จะให้เมินยังไงวะ! เมื่อกี้โดนดาเมทไปเต็มๆหัวใจ ไอ้บ้าเอ๊ย คุณลูฟประชดประชันแม่งโคตรน่ารักเลยพับผ่า!!!

“ฉ…...ฉันหมายถึง ถ้าสมมติว่าเธอเป็นเมียฉันจริงๆ”
ยิ่งคุณลูฟแก้ตัวมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งหน้าแดงเข้าไปอีก ดูเหมือนเขาเองก็รู้ว่าที่พูดมาไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากทำให้สถานการณ์มันกระอักกระอ่วนมากกว่าเดิม

“ก้านใบ…..”

“ครับๆ ผมรู้แล้ว แต่ว่า……..”
เขาจ้องหน้าผมรอดูปฏิกิริยา แต่มันยิ่งทำให้ผมไม่กล้าสบตาเลย

“ผมไม่ได้มีนิสัยนอกใจสักหน่อย”

“............”
เกิดความเงียบขึ้นจนได้ยินเสียงแอร์ ขนาดแอร์ในห้องไม่ได้เสียงดังมากผมยังได้ยินมันชัดเจนขนาดนี้ นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่กันวะเนี่ย คือไม่ได้อยากได้เจ้านายมาเป็นสามีหรืออะไร ไม่ได้หวังสูงถึงขนาดนั้นก็แค่แหย่เล่น ใช่ๆ………..แหย่เล่นเองขำๆ
แค่เงยหน้าขึ้นไปแล้วบอกว่าล้อเล่นก็จบ

“ก้านใบ”
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับสายตาของเจ้านายที่จ้องมาที่ผมอยู่แล้ว เป็นสายตาที่ผมไม่เข้าใจเลย ไม่ได้โกรธ ไม่ได้ยิ้ม เป็นสายตาที่ว่างเปล่าจนผมต้องขมวดคิ้ว

“ฉันจะทำให้เธอเจ็บปวด บางทีฉันก็ทำแต่งานจนลืมวันสำคัญๆ ถ้าเธอบอกว่าเธอขี้เหงา เธอจะต้องเหงาแน่นอน”
ผมส่ายหัวไปมา เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว(แต่ถ้าได้จริงๆก็ดี แฮ่!)

“ผมแค่อยากเป็นคนสำคัญของคุณบ้าง คุณสามารถบอกผมได้ทุกเรื่อง ปรึกษาผมได้ ระบายความรู้สึกเวลาเหนื่อยๆ บ่นเรื่องงานก็ได้ถ้ามีอะไรที่มันไม่ราบรื่น คุณสามารถเรียกหาผมได้เสมอเลย ผมขับรถเป็นแล้วไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหนผมก็จะไปหาคุณ”
ผมพูดยาวเหยียดแม้ประโยคหลังๆเสียงจะสั่นไปบ้างเพราะน้ำตาที่พร้อมจะพากันทะลักทลายออกมา แต่มันคือความรู้สึกจากใจของผมจริงๆ แค่ให้ผมช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง ให้เป็นที่ต้องการของใครสักคน…..ขอแค่นั้นจริงๆ

“ก้านใบ เด็กดี”
มือใหญ่ยกขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ ผมได้ยืนก้มหน้าก้มตาให้เขาลูบหัวเหมือนหมา

“คุณนั่นแหละนอนพักได้แล้ว ตัวก็ร้อนยังจะไปอาบน้ำอีก เกิดช็อคล้มหัวฟาดในห้องน้ำขึ้นมาผมคงได้งานเพิ่มเป็นดูแลคุณพ่อด้วยอีกคน”
ผมว่าแล้วจัดนู้นจัดนี่ หันไปแกะแผ่นเจลลดไข้ที่เตรียมมาให้คนป่วยโดยเฉพาะ แต่พอหันกลับมาก็เจอคุณพ่อจ้องหน้าผมอยู่อีกแล้ว โว้ย จ้องบ่อยขนาดนี้ปริ๊นท์รูปผมมาแปะที่หน้าประตูเลยไหมครับ

“จ้องผมอีกแล้วนะครับ”
ผมเอ็ดเบาๆ

“บ่นเก่งจริงๆ”
ผมมองเจ้านายตาขวาง ก่อนจะค่อยๆแปะแผ่นเจลลดไข้ลงไปเบาๆบนหน้าผากของเขา

“เธอทำเหมือนฉันเป็นเด็ก”
เจ้านายผมยังบ่นไม่เลิก ไม่รู้ว่าบ่นจริงหรือแค่จะกวนประสาทผมเฉยๆ แต่ผมไม่สนใจดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ถึงคอ

“นี่ก็ด้วย”
คราวนี้บ่นปลงๆเหมือนบ่นกับตัวเองมากกว่า

“คุณไม่ใช่เด็กหรอกครับ เพราะเด็กอย่างคิวปิดพูดง่ายกว่าเยอะ บอกให้กินก็กินบอกให้นอนก็นอน ไม่มามัวบ่นอุบอิบแบบนี้หรอก”
ผมบ่นเข้าไปอีกบทแต่คราวนี้คนถูกบ่นหัวเราะออกมาเบาๆ

“คิวปิดชอบคนดุหรอกหรอเนี่ย”
ผมทำหน้างอ

“ผมไม่เคยดุน้อง”


“เธอตามใจลูกชายฉันมากไปแล้วก้านใบ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่อ่อนโยน ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนดุจริงๆ

“ก็น้องไม่เคยทำตัวไม่ดีกับผม”
ผมพูดเสียงเบา

“งั้น…...ถ้าฉันเชื่อฟังเธอ เธอก็จะตามใจฉันเหมือนกันหรือเปล่า”
บร้าาาาาาาาา!!!! พูดอะไรออกม๊าาาาาาาาาาาาาาาาา กรี๊ดดดดดดดด ผมกรีดร้องในใจเมื่อคุณลูฟพูดพร้อมทำสีหน้าเหมือนจะอ้อน มันอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากการเป็นไข้หรือเจลลดไข้นั่นมีฤทธิ์ทำให้สมองของผู้ใช้ถูกควบคุม หรือด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ผม เขิน มาก!! คุณลูฟไม่ควรทำสีหน้าแบบนั้นใส่ผมเลยพับผ่า วันนี้โดนดาเมทที่หัวใจสองรอบแล้วนะ ไอ้ก้านต้านไม่ไหวล้าววววววววววว

“ผม…...ผม คือ ผมไปดีกว่า ถ้าคุณต้องการอะไรก็เรียกนะครับ”
ผมพูดตะกุกตะกักเหมือนคนติดอ่างเรียกเสียงหัวเราะหึหึจากคนป่วยไปอีก เพราะงั้นผมควรไป ไปไหนก็ได้ให้พ้นจากตรงนี้อะ แม่งจะบ้าตาย….T-T

“พี่ก้านนนนนนนนนนนนนนนนนน”
ทันทีที่ผมออกมายืนกุมใจที่หน้าห้องเสียงของคิวปิดก็ดังนำเจ้าตัวมาซะอีก ผมมองไปทางต้นเสียงก็เห็นร่างเล็กวิ่งดุ้กๆเข้ามาหา

“ว่าไงครับคิวปิด”
ผมย่อตัวลงไปรับเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมกอด

“พี่ชัชพูดไม่รู้เรื่องเลย”
คนที่เดินตามหลังคิวปิดมาคือคุณชัชที่เกาหัวแล้วยิ้มแหยๆ

“ไหน คุณชัชว่าอะไรครับ”

“คิวปิดบอกว่าคิวปิดเป็นแฟนกับพี่ก้าน พี่ชัชก็บอกว่าไม่ใช่ๆ เถียงคิวปิดอยู่ได้”
เด็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแถมทำหน้าเครียดไปอีก ปวดหัวกับคนพ่อเสร็จก็ต้องมารับมือกับคนลูกต่อ ก้านอยากพ้ากกกกกกกก




“แกเห็นที่พี่แก้วโพสต์หรือเปล่า”
ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ผมยืนเท่าไหร่พร้อมกับเริ่มบทสนทนาด้วยระดับเสียงที่ไม่ปกปิดเท่าไหร่ ผมขยับออกมาให้ห่างเล็กน้อยเพราะไม่อยากเป็นคนเสียมารยาทไปแอบฟังเขาคุยกันโดยไม่ได้ตั้งใจ……….แต่เมื่อกี้อะไรเกี่ยวกับพี่แก้วหรือเปล่านะ?

“เกี่ยวอะไรกับคนเก่าวะ”
เสียงบทสนทนาหยุดลงแค่ตรงนั้นแต่พวกเธอยังไม่ได้เดินออกไป อยู่ๆขนผมก็พากันลุกเกรียวราวกับโดนวิญญาณร้ายจ้องอาฆาต พอหันไปมองผู้หญิงกลุ่มนั้นก็นั่นประไร จ้องผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อทั้งๆที่ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย

ผมค่อยๆล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดเข้าไปในแอปที่น่าจะเป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ ซึ่งสิ่งที่ผมเห็นมันเหมือนหมัดที่มองไม่เห็นพุ่งมาอัดที่ท้องผมจนจุกไปหมด

KingKaew KK
ถ้ายังลืมคนเก่าไม่ได้ ถ้ายังรักยังคิดถึงขนาดนั้นแล้วมาคบกับเราทำไมวะ

Issara Mew และคนอื่นๆอีก 385Like

ความเพื่อนรักของผมแหละ กดไลค์เร็วชิบหายแล้วดูคอมเมนท์สินั่นเหยียบร้อยเข้าไปแล้ว ขอไม่กดเข้าไปอ่านแล้วกันกลัวทำใจไม่ได้ แต่ว่าเลยนะ….

กู เกี่ยว เหี้ย อะ ไร อีก!
นี่คือประโยคแรกที่ผมคิดหลังจากที่อ่านข้อความนั้นจบ ซึ่งคนเก่าที่คนเพ่งเล็งมากที่สุดจะเป็นใครไปได้นอกจากผมอะ นี่มันจงใจชัดๆ ผมยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แถมพี่ฟานก็พูดเองกับปากว่าไม่ได้รักผม เพราะงั้นไม่มีทางที่พี่ฟานมันจะอาลัยอาวรณ์ผมเป็นแน่ มันเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้วนอกจากการจัดฉาก

สารเลว! อยู่ใครอยู่มันไม่เป็นใช่ไหม อยากเจ็บจริงเดี๋ยวก้านจัดให้ เพราะก้านไม่ใช่เหยื่อของคุณอีกต่อไป!!!!!

“ก้าน”
ในขณะที่ผมยืนกำมือถือด้วยความคับแค้นใจอยู่คนเดียวก็มีใครบางคนวิ่งเข้ามาหา ทำให้ผมสังเกตว่าฝนเริ่มลงเม็ด และคนที่วิ่งมานี่ก็เปียกฝนเล็กน้อยด้วย

“หวัดดีครับ”
ผมยกมือไหว้รุ่นพี่ตามมารยาทแม้ก่อนหน้านี้จะไม่ได้ไหว้เลยก็เถอะ ถือว่าแลกกับการที่มาจิกกัดเหน็บแนมผมก็แล้วกัน

“กลับบ้านไม่ได้หรอ”
หน้าตาผมเหมือนคนกลับบ้านไม่ได้มากหรอครับ เหมือนลูกหมาโดนทิ้งอะไรแบบนี้หรอ

“ผมรอคนมารับครับ แล้วพี่คิมล่ะครับไม่กลับบ้านหรอ”
ถามเป็นมารยาทกลับไปโดยที่สีหน้าของผมก็ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น คนที่อยากรู้คงจะเป็นผู้หญิงกลุ่มนั้นมากกว่าด้วยซ้ำ หูบานเป็นกระด้งแล้วแม่คุณ

“ก็ว่าจะกลับแต่เห็นก้านยืนอยู่ตรงนี้คนเดียว นึกว่ากลับบ้านไม่ได้พี่เลยว่าจะไปส่ง”
ผมพยักหน้ารับรู้ อย่างที่ผมเคยบอกไปเมื่อนานมาแล้วว่าพี่คิมกับผมเคยสนิทกันมากตอนที่ผมยังคบกับพี่ฟานอยู่เพราะงั้นผมก็ไม่ได้เกลียดเขามากเพราะเขาก็โดนหลอกเหมือนกัน แต่ให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมทั้งหมดผมก็ทำไม่ได้แล้ว

ไม่มีอะไรเหมือนเดิมได้อีกต่อไป……..

“มายด์ล่ะครับ ปกติเห็นกลับด้วยกันตลอด”
ผมถามหาคนที่มักจะเดินตามหลังพี่คิมเสมอแต่วันนี้กลับไม่เห็นเงา

“เห็นบอกว่ามีธุระสำคัญน่ะ พี่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร”
เมื่อจบคำของพี่คิม ระหว่างเราก็ตกอยู่ในความเงียบ ฝนที่ตกปรอยๆเมื่อกี้ก็เริ่มเทลงมาหนักขึ้นกลายเป็นเสียงฝนที่เข้ามาแทนความเงียบที่น่าอึดอัดนี่ ก็ดี ทำเป็นฟังเสียงฝนไปแล้วกัน

“ช่วงนี้……..มีปัญหา……….”
เป็นเพราะเสียงฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้ผมไม่ได้ยินเสียงของพี่คิมเลย ได้แต่ยืนมองปากของเขาที่พะงาบขึ้นลงแต่ไม่เข้าใจสักคำ ไม่คิดจะถามต่อด้วยเอาสิ อยากพูดก็พูดไปไอ้ก้านไม่ฟังไม่สนใจ ฟังเสียงฝนยังไพเราะกว่าเป็นไหนๆ

“คุณก้านนนนนนน ผมมาแล้วคร้าบบบบ”
ในขณะที่หูของผมรับฟังเสียงจากธรรมชาติอยู่นั้นก็มีเสียงของใครสักคนดังเข้ามาแทนที่ ผมหันไปมองทางต้นเสียงก็เห็นคุณชัชที่สวมชุดสูทวิ่งถือร่มเข้ามาหาผม

“ระวังลื่นครับคุณช้าชชชช”
ผมตะโกนลั่นอย่างตกใจ ยิ่งจังหวะที่เขาลื่นพรืดใจผมตกไปอยู่ตาตุ่ม ดีที่ไม่ล้มก้นกระแทกพื้นให้เจ็บๆกันไป

“ขอโทษที่มาช้าครับคุณก้าน”
คุณชัชก้มหัวขอโทษขอโพยใหญ่ ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมก็เป็นลูกจ้างเหมือนกัน ไม่ต้องก้มหัวให้ผมก็ได้ ไอ้ก้านจะร้อง

“ไม่เป็นไรครับ ที่จริงให้ผมกลับเองก็ได้ไม่น่าลำบากมารับเลย”
ผมพูดแล้วรับร่มสีดำคันใหญ่ที่คุณชัชยื่นมาให้

“ผมไม่ได้มารับคุณก้านนานแล้วให้เป็นหน้าที่ของผมดีกว่าครับ ไปครับคุณท่านรออยู่บนรถ”
ผมเลิกคิ้วแปลกใจ

“คุณลูฟมาด้วยหรอครับ”
ผมถามแล้วชะเง้อมองเข้าไปภายในรถ เห็นเป็นเงาว่ามีคนนั่งอยู่ที่เบาะหลัง……….มาจริงๆด้วย

“คุณท่านกลับจากบริษัทพอดี เลยให้แวะมารับคุณก้านเลยครับ เอ๊ะ……”
คุณชัชตอบผมก่อนจะสังเกตว่ามีใครบางคนยืนจ้องพวกเราอยู่ พี่คิมนั่นเอง ดูเหมือนคุณชัชจะจำพี่คิมได้จึงดันให้ผมไปยืนหลบข้างหลัง

“มีอะไรกับคุณก้านหรือเปล่าครับ”
สีหน้าของเขาจริงจัง น้ำเสียงก็ดุต่างจากที่คุยกับผมเมื่อกี้เลย

“ผมแค่คุยกับน้อง”
พี่คิมตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมกัน ผมเริ่มปวดหัวตุบๆเมื่อเหมือนจะเห็นสงครามกำลังจะเริ่มในไม่ช้า

“ผมไม่อนุญาตให้คุณเข้าใกล้คุณก้าน”
คุณชัชก็เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย แต่พอก่อนก้าน มึงต้องห้ามไหมล่ะ

“คุณชัช……”

“มีอะไรกัน”
เอาล่ะ พ่อมา!! ท่าทางพวกเราจะลีลาท่ามากไปหน่อย คุณพ่อปีศาจจึงเดินลงมาตามด้วยตัวเอง ผมได้ยินเสียงกรี๊ดทะลุเสียงฝนออกมาเมื่อคุณลูฟก้าวเข้ามาภายใต้หลังคาที่เราใช้หลบฝนอยู่

“ผมกำลังสืบสวนผู้ชายคนนี้ครับ”
คุณชัชตอบคุณพ่อเสียงเข้มและจริงจัง สายตาคมเลื่อนปราดไปหาพี่คิมที่ยืนกำหมัดเตรียมซัดเต็มที่

“นายกลับขึ้นรถไปก่อน”
ดูเหมือนคุณพ่อจะไม่ได้สั่งผมเพราะหันไปพูดกับคุณชัช คุณชัชก้มหัวเป็นการรับคำสั่งก่อนจะกางร่มแล้วกลับขึ้นรถไป จะว่าไปคุณพ่อแกก็เดินลงมาโดยที่ไม่มีร่มเลยนี่นา ดีที่ระยะทางจากรถมาตรงนี้ไม่ได้ไกลมากทำให้คุณลูฟไม่ได้เปียกอะไรมากนักแต่ในทางเทคนิคก็คือเปียกอยู่ดี แล้วคือเพิ่งหายไข้ไงถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าคนอื่นผมคงจะฟาดไหล่คุณพ่อปีศาจแสนดื้อไปสักที

“รุ่นพี่ของเธอหรอ”
คราวนี้คุณพ่อถามผมแน่นอน

“ใช่ครับ พี่คิมนี่คุณลูซิเฟอร์เจ้านายของผมครับ ส่วนนี่พี่คิมครับคุณลูฟ”
ประโยคหลังผมหันไปพูดกับคนตัวใหญ่ คุณลูฟพยักหน้าเงียบๆ

“ผมคิดว่าคุณคงไม่ห้ามให้ลูกน้องพูดคุยกับคนอื่นหรอกนะครับ”
เป็นพี่คิมที่พูดขึ้นมาก่อน เจ้านายของผมยืนนิ่งไม่ได้ตอบอะไร จนพี่คิมชักจะโมโหขึ้นไปอีก ถ้าเขาต่อยคุณลูฟขึ้นมาล่ะก็ผมต่อยกลับแน่คอยดู

“ไปกันเถอะ คิวปิดน่าจะเลิกเรียนแล้ว”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเรียบๆ ผมพยักหน้ารับแล้วหยิบร่มขึ้นมากาง คุณลูฟไม่ได้สนใจพี่คิมอีกต่อไปส่วนผมแค่หันไปก้มหัวลาเท่านั้นไม่ได้พูดอะไร ผมชูร่มขึ้นสูงเพื่อให้มันกันฝนให้คนตัวสูงด้วย แต่……….คือเขาสูงมากไง สูงจะเท่าเสาไฟแล้วนั่นพวกคุณคิดว่าไงล่ะ

ไม่ว่าจะด้วยความสมเพชเวทนาหรืออะไรก็ตามแต่มือใหญ่เอื้อมมาคว้าก้านร่มจากมือของผมเอาไปถือเอง

“ขอบคุณครับ”
ผมก้มหน้าพูดเขินๆ กลายเป็นว่าตอนนี้เจ้านายของผมคือคนกางร่มให้ผมซะงั้น แม้จะเป็นระยะทางแค่สั้นๆแต่ดีจังที่ผมได้มายืนตรงนี้

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ผมได้ยืนอยู่ตรงนี้ตลอดไป

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ไม่มีความสัมพันธ์ไหนที่จะคงอยู่ตลอดไป แต่ถ้าหากมั่นใจเราทำได้ ฮึ่มมม :laugh:
ตัดเข้าตอนสานสัมพันธ์ไปแบบงงๆเลยค่ะ คงไม่มีใครสังเกต ฮ่าๆๆๆๆๆ
หยอกเล่นนนนนนนนนน แต่ก็อยากให้ได้กันจะแย่อยู่แล้วอะแงๆ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
นังแก้วนี่ก็สรรหาเรื่องได้ตลอด

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
รีบมาต่อเร็วๆนะค้าาาา  :impress2:
ต่อจากเรื่องของน้อง ก็มาอ่านเรื่องของพี่ต่อ อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
รีบมาต่อเร็วๆนะค้าาาา  :impress2:
ต่อจากเรื่องของน้อง ก็มาอ่านเรื่องของพี่ต่อ อิอิ

วางแผนเขียนตอนพิเศษของคู่น้องอยู่เหมือนกันค่ะ
คิดถึงอะเนอะ ฮือ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เมื่อไหร่ยัยพี่สาวจะโดนแหก  :fire:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai1: นั้นดิ...ยัยพี่สาวกะไอ้แฟนเก่สชั่วๆนั้นจะโดนแหกเมื่อไร :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
รีบมาต่อเร็วๆนะค้าาาา  :impress2:
ต่อจากเรื่องของน้อง ก็มาอ่านเรื่องของพี่ต่อ อิอิ

วางแผนเขียนตอนพิเศษของคู่น้องอยู่เหมือนกันค่ะ
คิดถึงอะเนอะ ฮือ

ว้ายๆ คิดถึงพี่ซุสทันทีเลยค่าาาา อุ้ย คิดถึงน้องผ้าด้วย 55555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
คุณพ่อปีศาจ
ตอนที่12 คนข้างๆ

[Kim’s part]

“คิม”

“............”

“ไอ้คิม!”
ผมสะดุ้งเมื่อมีอะไรบางอย่างฟาดเข้ามาที่หลังของผมอย่างแรง พอหันกลับไปมองก็เห็นไอ้ฟานยืนหน้ามุ่ยอยู่

“มีอะไรวะ”
ผมถามเสียงอ่อน ไอ้ฟานส่ายหัวแล้วเข้ามานั่งข้างๆ

“เหม่อหรือถอดจิตวะ เรียกตั้งนานแม่งก็ไม่สนใจ”
มันบ่น

“แล้วมึงมีอะไร”
คราวนี้มันมองหน้าผมอย่างจริงจังผมเลยขมวดคิ้วทำสีหน้าจริงจังขึ้นมาบ้าง

“เมื่อวานมีคนเห็นมึงยืนคุยอยู่กับก้าน”
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ เรื่องก้านสินะ

“แล้วไงวะ”
ผมถามกลับ ใบหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์

ผมรู้ว่าผมไม่ใช่คนดีนักและเรื่องที่ผมจะบอกนี้มันจะทำให้มีคนเกลียดผมเพิ่มแน่ๆแต่……………...ผมชอบก้าน ชอบก่อนที่น้องจะคบกับไอ้ฟานซะอีก ผมเจอน้องตอนปี1 ดูเงียบเรียบร้อยไม่สุงสิงกับใครแต่ยิ้มให้อย่างจริงใจเสมอ

รู้ตัวอีกทีก็มองหาแต่ก้าน เก็บรอยยิ้มของก้านมาเพ้อฝันบ้าบอไปคนเดียว ยังไม่ทันที่ความรักของผมจะคืบหน้าไปไหน ไอ้ฟานก็เดินพาน้องเข้ามาหาผมแล้วพูดประโยคที่เหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางใจ

‘นี่ก้านใบปี1 แฟนกู’
โดนเพื่อนรักคาบไปแดก โคตรเจ็บใจแต่ทำได้แค่ยิ้มให้แล้วบอกยินดีด้วยเพื่อน เป็นการอวยพรเพื่อนแบบฝืนและตอแหลชิบหาย แต่ความสัมพันธ์นั้นก็ทำให้ผมได้ใกล้ชิดกับก้านมากขึ้น รู้สึกกับน้องมากขึ้นและเพ้อฝันมากขึ้น……...เพ้อว่าวันหนึ่งก้านอาจจะเลิกกับฟานแล้วผมก็จะปลอบใจ แต่ทุกอย่างผิดไปหมดเพราะก้านมีคนใหม่จึงทิ้งเพื่อนผมไป ผมโกรธ ผมโมโห ผมหน้ามืดไปหมดเพียงเพราะผู้ชายคนใหม่ของก้าน ‘ไม่ใช่ผม’

“มึงเป็นเพื่อนรักกูนะเว้ยคิม กูไม่อยากเจ็บเพิ่ม”
ผมหันไปมองหน้าเพื่อนตรงๆแบบจ้องลึกลงไปในแววตาเพื่อควานหาความเจ็บปวดที่เพื่อนบอก

“แล้วมึงกับแก้วเป็นยังไงกันบ้าง”
เปลี่ยนเป็นถามสถานการณ์ของเพื่อนกับแฟนมัน เพราะช่วงนี้เหมือนมีเรื่องบางอย่างให้ผิดใจกันอยู่ แก้วบอกว่าเป็นเพราะฟานยังลืมก้านไม่ได้ แต่ฟานบอกว่าแก้วคิดไปเอง มันไม่เคยคิดจะกลับไปหาก้านอีกแล้ว ไม่เคยแม้แต่จะคิดถึง

“ก็ยังไม่ได้คุยกัน พอกูโทรไปก็ตัดสาย ส่งข้อความไปก็ขึ้นอ่านแต่ไม่ตอบ”
ผมพยักหน้ารับรู้

“แล้วคิดว่าโอเคไหมที่คบกับแก้ว”
ฟานถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะยิ้มบาง

“ก็อยากจะคบไปให้นานที่สุด”
ผมมองหน้าเพื่อนโดยไม่ได้พูดอะไร

‘ก้านหรอ? น้องก็น่ารักดีรู้สึกว่าอยากอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนานๆ’
ไม่รู้ว่าเพื่อนผมมันคบกับใครก็จริงจังไปหมด หรือนั่นเป็นแค่คำโกหกที่ชินปากกันแน่ ที่รู้ๆผมเริ่มไม่มั่นใจซะแล้วว่าสามารถเชื่อคำพูดของเพื่อนต่อไปได้ไหม

“นี่…..แสดงว่าเมื่อวานมึงเจอคนใหม่ของก้านแล้วใช่ไหม”
ผมถอนหายใจออกมาเสียงดัง อะไรนักหนากับก้านอีกแล้ว มือถือของเพื่อนถูกยื่นมาตรงหน้าผมพร้อมมีภาพของผมที่ยืนประจัญหน้ากับเจ้านายของก้านซึ่งเจ้าตัวก็ยืนอยู่ข้างๆกัน

หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ทุกคนในมหา’ลัยให้ความสนใจเสมอถ้าเป็นเรื่องของฟานหรือก้าน

“นั่นเจ้านายก้าน”
ผมตอบโดยที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก แม้เวลาที่นึกถึงใบหน้าของผู้ชายคนนั้นแล้วมัน………..

สายตาที่มองมาเหมือนอยู่เหนือทุกอย่าง เพียงน้ำเสียงเรียบๆกับถ้อยคำไม่กี่ประโยคก็ทำให้ก้านตอบกลับอย่างจริงใจและกระตือรือร้น และตอนที่ทั้งคู่เดินกลับไปที่รถ ผู้ชายคนนั้นหันมามองผม………….เหมือนผมเป็นแมลงน่ารำคาญตัวหนึ่งเท่านั้น

“มึงเชื่อหรอวะ ก้านทิ้งกูไปนะเว้ย”

“ก็ไม่เห็นก้านมันจะมาวุ่นวายมึงกับแก้วเลยนี่หว่า ถ้ามึงอยากรู้ว่าก้านมีคนใหม่จริงไหมทำไมไม่คุยกับน้องมันดีๆวะ”
ผมหันไปพูดกับเพื่อนอย่างที่ใจคิด ฟานพูดกรอกหูผมทุกวันว่าก้านทิ้งมันไป ทำไมต้องทำแบบนี้กับมันด้วย แต่ฟานไม่เคยคิดจะเข้าไปถามก้านด้วยซ้ำทั้งๆที่ผมก็อยากรู้ใจจะขาดเหมือนกัน

หลายครั้งที่ผมทนเห็นเพื่อนคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดไม่ได้จะลากมันเข้าไปถามจากก้านให้ชัดๆว่าทำแบบนี้ทำไม ยังมีหัวใจอยู่หรือเปล่าแต่เพื่อนผมปฏิเสธตลอด ผมก็ไม่เคยเอะใจเลย

‘คนโดนทิ้งนี่มีความสุขจังเลยนะครับ แต่คนที่ทิ้งเขาไปอย่างผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ ใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข’

อะไรที่มันทำให้ผมเชื่อหมดใจว่าก้านเป็นคนนิสัยไม่ดีขนาดนั้นทั้งๆที่ที่ผ่านมาน้องเป็นแค่เด็กน่ารักคนหนึ่ง แสดงออกอย่างซื่อตรง เป็นห่วงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ

พอมาคิดทบทวนดูแล้วก็อย่างที่ผมบอกไป……..แค่หึง โกรธที่ผู้ชายคนใหม่ของก้านไม่ใช่ผมเท่านั้นเอง

[Part End]

“คิวปิด อย่าวิ่งสิครับ”
ไม่ทันแล้ว น้องวิ่งไปนู้นแล้วครับ ผมได้แต่มองตามแล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า เป็นคุณชัชที่ต้องวิ่งตามน้องไปผมจึงไม่ต้องห่วงว่าน้องจะหายยืนหอบแฮ่กๆอยู่กับที่

วันนี้ไม่รู้คุณพ่ออารมณ์ดีมีความสุขมาจากไหนถึงได้พาผมกับคิวปิดมาเที่ยวอย่างกะทันหันแบบนี้ ที่ว่ากะทันหันเพราะพอไปรับคิวปิดที่โรงเรียนเสร็จคุณพ่อก็สั่งให้คุณชัชขับรถเลยมาที่ทะเลใกล้ๆกับกรุงเทพทันที หน้าน้องคือตื่นเต้นจนปิดไม่มิด น่ารักจนอยากกอดให้จมอก แง

“อายุแค่นี้ วิ่งนิดวิ่งหน่อยก็หอบซะแล้ว”
บ่นแต่ก็ยื่นขวดน้ำเปล่ามาให้ผม

“ขอบคุณครับ”

“เป็นเด็กที่ร่าเริงจริงๆ”
คุณพ่อพูดแล้วมองตามหลังน้องที่วิ่งลงน้ำไปนู้นแล้ว คุณชัชลังเลว่าควรจะทำยังไงดีเพราะตัวเองใส่สูทเต็มยศจะกระโดดตามน้องลงไปในน้ำก็กระไรอยู่  แต่ถ้าไม่ตามลงไปน้องอาจจะเป็นอันตรายได้

“ใช่ครับ ถ้าวันนึงน้องไม่สามารถยิ้มได้แล้วผมก็คงต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
ผมพูดพร้อมกับเดินเข้าไปตรงจุดที่น้องเล่นน้ำอยู่เพราะในที่สุดคุณชัชก็ตัดสินใจถอดสูทของตัวเองโยนไว้บนหาดทรายแล้วลงน้ำตามคิวปิดไป

“ฉัน………”

“ว่าไงครับ”
ผมก้มลงเก็บสูทของคุณชัชมาพาดไว้บนท่อนแขนแล้วหันไปถามคุณพ่อเพราะดูเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เงียบไป

“ฉันกลัว”
ผมเอียงคอสงสัย ใบหน้าของคุณพ่อมองทอดลงไปที่ผืนน้ำโดยที่ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร มองไปอย่างนั้นเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่างจากผืนน้ำสีฟ้าใสแจ๋ว

“เรื่องคุณเบลหรือเปล่าครับ”
แม้หลังจากนั้นเราจะไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้แต่ต่างคนก็ต่างรู้ดีว่ามันยังไม่จบ อย่างเช่นการหนีมาเที่ยวในครั้งในผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าเขาพามาเพราะอารมณ์ดี อาจจะแค่ไม่อยากพาลูกชายกลับบ้านก็ได้

“เรื่องนั้นเพราะฉันมีเธอเลยไม่กังวลเท่าไหร่”
ผมยิ้มรับแต่ใจคือโคตรกังวล! ทำไมคุณพ่อถึงมั่นใจนักว่าน้องจะเลือกผมมากกว่าแม่ตัวเองล่ะครับ

“แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันแสดงออกไปว่ารักลูกมากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งกลัว”
คุณพ่อหันมาสบตาผมที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว

“ฉันไม่ใช่คนดี”
ผมส่ายหัว ขยับเข้าไปจับมือใหญ่ของคุณพ่อไว้

“แล้วคนดีของคุณคืออะไรครับ”

“คือเธอ”
อะ……...ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาจะมาจีบกันหรืออะไร แต่คือคุณพ่อก็หยอดเก่งมาก หยอดหน้าตายคนฟังเขินจนตัวจะบิดคนพูดหน้านิ่งเหมือนโดนฉาบปูน ผมไม่รู้จะพูดอะไรดีเลยทำเป็นมองคุณชัชที่สอนคิวปิดว่ายน้ำอยู่ป๋อมแป๋ม…..น่ารักน่าเอ็นดู

“พี่ก้านนนนนนน”
เสียงเรียกสดใสของน้องทำให้ผมยิ้มออกมาได้ไม่ยาก ร่าเริงสดใสกว่าพระอาทิตย์แล้วครับน้องคิวปิด

“คืนนี้หลังจากส่งคิวปิดเข้านอน มาหาฉันที่ห้องด้วย”
พูดจบคุณพ่อก็ก้าวถอยหลังไป3ก้าว ผมเอียงคอสงสัยว่าทำไมคนตัวใหญ่ต้องไปยืนเสียไกลขนาดนั้นแต่งงได้ไม่นานก็เข้าใจเพราะหยดน้ำที่สาดเข้ามาเต็มหน้าของผม ถือว่าแม่นไม่น้อยที่ทำให้ผมเปียกได้ตั้งแต่ใบหน้าจนถึงรองเท้า ผมเอี้ยวตัวไปมองคุณพ่อที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงชิลๆ แกล้งผมสินะ!!

“เย้ๆพี่ก้านตัวเปียกแล้วมาเล่นกับคิวปิดเลยยยย”
แล้วร่างเปียกปอนของคิวปิดก็วิ่งดุ้กๆขึ้นมาลากผมให้ลงน้ำไปด้วยกัน



ก๊อก ก๊อก

“ขออนุญาตครับคุณลูฟ”

“เข้ามาเลย”
ผมค่อยๆเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างเบามือเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้านายก่อนจะปิดลงอีกครั้งเมื่อผมพาตัวเองเข้ามาอยู่ในห้องพักชั่วคราวของคุณลูฟเรียบร้อย
เจ้าของห้องนั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง สายตาจ้องไปที่อะไรบางอย่างที่ถืออยู่ในมือ

“จะยืนอยู่ตรงนั้นทั้งคืนเลยไหมฉันจะได้ไปเอาหมอนกับผ้าห่มมานอนเฝ้าเธอตรงนี้”
ผมย่นหน้าเมื่อคุณลูฟพูดใส่โดยที่ไม่ได้หันมามองผมด้วยซ้ำ

“พูดว่า‘มานั่งตรงนี้สิ’มันจะไม่สั้นกว่าเหรอครับ”
ผมตอบประชดกลับแต่ก็เดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับเจ้านาย สายตาคมเลื่อนจากของในมือมามองหน้าผม

“เดี๋ยวนี้รู้สึกจะเถียงเก่งขึ้นจริงๆไม่กลัวฉันแล้วหรือไง”
ถึงเจ้าตัวจะพูดแบบนั้นแต่สีหน้าก็ดูไม่ได้โกรธอะไรอยู่ดี

“ก็กลัวครับ แต่พอได้เถียงคุณแล้วผมสนุกนี่นา”
ผมตอบแล้วยิ้มกว้างเอาใจ คุณพ่อส่ายหัวไปมาอย่างระอาก่อนจะยื่นของในมือมาให้ผม

มันคือรูปภาพ…..รูปครอบครัว

“รูปครอบครัวของฉันรูปสุดท้าย”
คุณลูฟพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่แสดงอารมณ์ ผมกวาดสายตาดูรูปภาพในมือ มีเด็กผู้ชาย3คนในรูปนี้และพวกเขายิ้มกว้างมาก……...เดี๋ยวนะ คือผมนึกภาพไม่ออกว่าคุณลูฟกับคุณซุสจะยิ้มกว้างได้เบอร์นี้ ส่วนน้องชายอีกคนของคุณลูฟผมยังไม่เคยเจอ ด้านหลังของเด็กชายทั้ง3คน มีหญิงชายคู่หนึ่งยืนส่งยิ้มใจดีมาที่กล้อง โห…..คุณแม่ของคุณลูฟสวยมากส่วนคุณพ่อก็หล่อเหมือนกัน

“มันนานมาแล้วจนฉันเกือบลืมว่าครั้งหนึ่งเราเคยเป็นครอบครัวที่มีความสุขมากที่สุด”
มือใหญ่ยื่นมาหยิบรูปภาพในมือของผมกลับไป เขาลูบมันเบาๆอย่างกลัวว่ามันจะเสียหาย

“นานเท่าไหร่แล้วที่ฉันพยายามเป็นลูกชายคนโตที่ดีของพ่อจนทอดทิ้งน้องให้ต้องเผชิญอยู่กับความรู้สึกแตกร้าวเพียงคนเดียว กว่าจะรู้ว่าพ่อที่ฉันเทิดทูนจนหมดใจไม่ได้ดีอย่างที่ฉันคิดก็สูญเสียน้องชายไปแล้ว”
เขาหันมามองหน้าผมอีกครั้งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“แม้จะพยายามเท่าไหร่วันเวลาของฉันและน้องก็กลับมาไม่ได้ เป็นลูกชายที่พังทลายและเป็นพี่คนโตที่ไม่ได้เรื่อง จนมีคิวปิดถึงได้คิดว่าถ้าฉันไม่ทำอะไรเลยคงจะดีกว่า”

“..........”

“แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ ฉันเป็นพ่อที่ล้มเหลว”
ผมยื่นมือไปจับมือใหญ่แล้วบีบแน่น

“ไม่ใช่นะครับ คุณก็แค่กลัวว่าจะล้มเหลวแต่ยังไม่ได้ล้มเหลวเสียหน่อย เริ่มตอนนี้ก็ยังทันนะครับ”
คิวปิดไม่เคยเกลียดคุณพ่อเลยแม้ว่าคุณพ่อจะไม่ใส่ใจและบางครั้งก็พูดจาร้ายๆใส่ น้องยังหวังว่าสักวันคุณพ่อจะไปส่งน้องเข้านอน จุ๊บหน้าผากแล้วบอกว่าฝันดีนะคิวปิด
หวังว่าสักวัน……..

“และไม่ว่าคุณจะกำลังกลัวอะไรอยู่ ผมจะอยู่ข้างคุณเหมือนกับที่คุณอยู่ข้างผม”
ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจังมากที่พอรู้ตัวอีกทีก็เขินหน่อยๆเพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยให้คำมั่นที่แน่วแน่ขนาดนี้กับใครมาก่อน ซึ่งคุณลูฟเองก็คงรู้สึกประหลาดๆถึงได้หลุดยิ้มออกมาทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เศร้ามากขนาดนั้น

“แล้วเธอล่ะ คิดจะตามหาพ่อไหม”
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อคุณลูฟพูดถึงพ่อ ผมหันกลับมาทิ้งตัวลงกับโซฟาเหม่อมองออกไปข้างหน้า

“ผมไม่เคยรู้ว่าทำไมพ่อถึงทิ้งผมไป”
‘ถ้ามันรักแกแล้วทำไมไม่เอาแกไปด้วยล่ะ’ คำพูดใจร้ายของแม่ในวันนั้นกลับเข้ามาในหัว บอกตรงๆว่าผมก็แอบคิดตามว่านั่นสิ ทำไมพ่อถึงไม่พาผมไปด้วยแต่ก็เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ จะว่าไม่รักก็คงไม่ใช่เพราะพ่อเป็นคนเดียวในบ้านนั้นที่รักผม

“ผมเลิกหวังไปแล้วว่าพ่อจะกลับมารับผมไปอยู่ด้วย”

“แล้วถ้าตอนนี้พ่อของเธอมารับเธอล่ะ จะไปไหม”
ผมรู้สึกได้ถึงสายตาของคนถามจ้องมาที่ผมแม้ผมจะไม่ได้หันไปมองก็ตาม ผมเคยตอบคำถามนี้กับตัวเองไปแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่พอวันนี้คนถามเป็นคุณลูฟ……..ผมกลับลังเล

“อยู่ที่ว่าคุณและคิวปิดยังต้องการผมอยู่หรือเปล่า”
คราวนี้ผมค่อยๆหันไปมองปฏิกิริยาของคุณพ่ออย่างลุ้นระทึก ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกอะไรไหมกับคำพูดที่แฝงความหมายของผม แต่ผมหมายความแบบนั้นจริงๆ จะอยู่จนกว่าจะไม่มีใครต้องการแล้ว

“ถึงมันจะเป็นเวลาแค่สั้นๆ แต่ฉันรู้สึกว่าไม่อยากปล่อยเธอไปแล้วล่ะ”

ตึกตัก ตึกตัก

ผมรู้สึกได้ว่าหัวใจของผมกำลังสั่นและมันเต้นแรงเกินความจำเป็นไปเยอะเลย ผมไม่รู้ว่าเขารู้สึกอะไรกับผมมากน้อยแค่ไหน แต่ผมรักความอ่อนโยนของเขา รักที่เขาแสดงออกว่าเป็นห่วงผม รักที่เขาเชื่อใจผม แม้สิ่งที่ผมบอกไปเขาจะไม่เคยแสดงออกกับคนอื่นเลยแต่มันกลับทำให้ผมได้ใจ

‘เพื่อให้ได้รับความรักและเป็นคนสำคัญสำหรับใครสักคนผมจึงยอมคบกับผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าชอบผมมาก’
ผมเคยบอกเอาไว้แบบนั้นและใช่…..ตอนนี้ผมก็ยังคิดแบบนั้นอยู่
เพื่อได้รับความอ่อนโยน ความห่วงใย ความเชื่อใจจากคุณลูฟ ตอนนี้ผมพร้อมที่จะทำทุกอย่าง

“เธอก็เหมือนเด็กหลงทาง จะปล่อยทิ้งเอาไว้ฉันก็กลัวว่าเส้นทางที่เธอเดินไปจะสวยงามไหมหรือเธอจะเจอกับอะไร ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่างฉันคงรู้สึกแย่ไปตลอดชีวิต เหมือนกับตอนที่ซุสพยายามจะบอกแต่ฉันไม่สนใจ”
มือใหญ่ยื่นมาลูบหัวผมแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงมาจับแก้ม

“พ่อฆ่าแม่”
คิ้วของผมค่อยๆขมวดเข้าหากันช้าๆเมื่ออยู่ๆคุณลูฟก็พูดประโยคน่ากลัวออกมา

“ซุสพูดไปร้องไห้ไป แต่ฉันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟและเกือบจะทำรุนแรงกับน้องชายที่อายุแค่8ขวบ ‘ขอโทษพ่อเดี๋ยวนี้’ ฉันตวาดน้องทั้งที่น้องกำลังร้องไห้เหมือนจะขาดใจ”

‘ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นหรอกนะ!!’
ผมตวาดต่อและยิ่งทำให้ซุสร้องไห้หนักกว่าเดิม เขาทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรงแต่ผมยังโกรธ แค่แม่เพิ่งเสียทุกคนก็เสียใจมากพออยู่แล้ว ที่ซุสพูดมานั่นรู้ความหมายหรือเปล่าว่ามันร้ายแรงแค่ไหน


“หลังจากนั้นซุสก็กลายเป็นเด็กเก็บตัว ไม่พูดไม่จากับใครในครอบครัวอีกเลย อาเรสบอกว่าซุสงี่เง่าเอาแต่ใจเหมือนเด็กขี้แพ้ชวนตี โกรธพี่กับพ่อเพราะไม่มีใครเข้าข้าง ฉันนึกว่าแป๊บเดียวซุสจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ตั้งแต่นั้นมาไม่มีวันไหนเลยที่เราจะคุยกันดีๆโดยที่ไม่ทะเลาะกัน จนเข้ามหา’ลัย ซุสก็หอบเสื้อผ้าออกจากบ้านไป”
ผมนั่งฟังคุณลูฟอย่างตั้งใจและรู้สึกเข้าใจเขาอย่างบอกไม่ถูก รอยร้าวในครอบครัวที่ต่างคนต่างไม่ผสาน จนท้ายที่สุดรอยร้าวนั้นก็แตกออก

มีบางคนอยากให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมจึงพยายามจะซ่อมแซมมัน แต่สายไปแล้ว……...เพราะแตกออกจึงกระจัดกระจายหายไป ไม่สามารถผสานมันได้อีก คนที่ไม่ยอมแพ้จึงต้องนั่งมองเศษเหล่านั้นด้วยหัวใจปวดร้าวที่ไม่คิดจะซ่อมมันให้เร็วกว่านี้

คุณลูฟยังจมอยู่กับมันจึงเจ็บปวด น่าสงสาร

“แล้วที่น่าตลกคืออะไรรู้ไหม”
ดวงตาของคนเล่าเริ่มคลอไปด้วยน้ำตา แต่เพราะเก็บความรู้สึกเก่งมากเกินไปจึงไม่ปล่อยให้มันไหลลงมา และถึงแม้จะเก็บน้ำตาไว้ได้แต่เขาไม่สามารถซ่อนความเศร้าเสียใจที่อยู่บนหน้าไว้ได้เลย

“ผ่านไปเป็นสิบปีฉันถึงได้รู้ว่า ‘พ่อฆ่าแม่’ เป็นเรื่องจริง”
เป็นผมเองที่ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาอาบแก้มเงียบๆ ทั้งเศร้ากับเรื่องที่ได้ยินทั้งสงสารที่คนตรงหน้ายังคงอดทนไม่ร้องไห้ออกมา ผมลุกขึ้นไปกอดคนตัวใหญ่เบาๆให้ใบหน้าของเขาซบลงมาที่ท้องของผม เพื่อที่จะไม่เห็นหน้าของเขา…..ให้เขาได้ร้องไห้บ้าง

“ฉันรู้ในทันทีว่าฉันได้ทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตลงไปแล้ว สายตาของซุสที่มองมาในวันที่ความจริงถูกเปิดเผยมันทำให้ภาพในวันนั้นหวนกลับมาอีกครั้ง เขาต้องเก็บความจริงนี้เอาไว้เพียงคนเดียว ร้องไห้คนเดียวมาตลอด ฉันอยากขอโทษและกลับไปเป็นพี่ชายที่พึ่งพาได้ของน้องอีกครั้ง”


“ผมว่าคุณทำได้นะครับ”
วงแขนใหญ่ของคุณพ่อยกขึ้นมากอดรอบเอวของผมแล้วดึงผมเข้าไปใกล้ขึ้น

“ตอนนี้โลกของซุสมีความสุขแล้ว มีผ้าใบเป็นคนรักและมีลูกชาย2คน ฉันพยายามเข้าใจว่าน้องมีความสุขแล้วมันเพียงพอแล้ว ไม่ต้องมีฉันในโลกของเขามันดีที่สุดแล้วแต่ว่าฉันก็ยังเจ็บปวด”

“คุณลูฟ……”

“เพราะงั้นอยู่กับฉันหน่อยนะ เพราะฉันยังไม่ยอมแพ้ทั้งเรื่องลูกแล้วก็เรื่องน้อง ถ้ามีเธอคอยช่วยคิดว่าคงจะทำได้ดีกว่านี้”
ผมค่อยๆยิ้มออกมาบางๆเพราะรู้สึกเหมือนได้เลื่อนขั้น สิ่งที่ผมปรารถนาที่สุดเป็นจริงแล้ว

คือการได้เป็นคนสำคัญของใครสักคน

"ครับ แม้ว่าคนทั้งโลกจะเกลียดคุณแต่ผมจะอยู่กับคุณครับ"


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ไม่มีอะไรจ้า เขาแค่คุยกันเฉยๆ

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอใช้โอกาสนี้ประกาศเลยแล้วกันเกี่ยวกับการมาลงนิยายสายบางอาทิตย์(ที่ค่อนไปทางบ่อยมาก)
เพราะในบางอาทิตย์ฟิวต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดนะคะ เลยไม่ได้อยู่ห้องตีพุงลงนิยายอย่างสบายใจ กลับมาถึงกรุงเทพฯก็3-4ทุ่ม เลยทำให้ลงนิยายเลทค่ะ

เลยอยากให้ทุกคนทราบไว้ว่าถ้าบางอาทิตย์ไหนหายไป ให้รู้ไว้ว่าพี่ทำงานเด้อแต่จะมาลงให้อีกครั้งในวันจันทร์แน่นวล ไม่หายจ้า

******ในส่วนเนื่อเรื่องตอนถัดๆไปนี้ จะเริ่มเกี่ยวข้องกับความรักและการวางแผนเอาคืนให้สาสมของนุ้งก้านแล้วนะคะ
สำหรับใครที่กำลังรอช่วงนี้อยู่.........รอไปเรื่อยๆค่ะ มันมาทีละนิด แหะๆ

ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ jpjiraporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
รับทราบค่ะ  รอนะคะ   :katai5: :katai5: :katai5:  รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เขาแค่จีบกัน คิดไรมากกกก555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
มาถึงตอนนี้ฉันรู้ว่าคินรักก้าน


และฉันก็รู้อีกว่า


อิฟานทันแอบรักคินมันเลย


จีบก้านตัดหน้าคินและที่มันไปจีบนังแก้ว


เพราะมันกลัวว่าแก้วจะเข้ามายุ่งกับคิน


เพราะแก้วกับก้านสนิทกับคิน


ฉันเข้าใจถูกใช่ใหมในจุดนี้


ส่วนคุณลูฟก็กระจ่างแล้วเน๊าะ


คุณเขาเล่าออกมาหมดแล้วนี่นา


เหลือแต่พ่อน้องก้านนิ่แหละ


หายไปใหนหนอ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
รู้สึกว่าคุณพ่อจะอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆ
ดูแลน้องก้านดีๆนะคะ

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อ้ายยย มีความคืบหน้าไปอีกขั้น  :impress2:

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
 :katai5: :katai5: :katai5: รอค่ะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รออยู่เด้อ~

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ gakuen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอเสมอค่ะ

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
รออออออออออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด