ไม่เคย (ไม่รัก) [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่เคย (ไม่รัก) [END]  (อ่าน 1917 ครั้ง)

ออฟไลน์ waterway_may

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ไม่เคย (ไม่รัก) [END]
« เมื่อ29-10-2019 15:04:42 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


ไม่เคย (ไม่) รัก
[/b]


เราจะมาแค่ตอนเดียวยาวๆ จนจบ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านะคะ ผิดพลาดประการใดขอภัยมา ณ ที่นี้

อาจจะมีคำผิดบ้าง ต้องขออภัยค่ะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2019 21:11:11 โดย waterway_may »

ออฟไลน์ waterway_may

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ไม่เคย (ไม่รัก) ตอนเดียวจบ
«ตอบ #1 เมื่อ29-10-2019 15:19:36 »

เราเป็นแฟนกัน แต่เราไม่เคยจับมือกัน เราไม่เคยกอดกัน เราไม่เคยบอกใคร และเราไม่เคยบอกรักกัน ความรักที่ผ่านมาตลอด 6 ปี เราไม่เคยพูดว่ารักกันเลยสักครั้ง เหมือนแค่มองหน้าก็รู้ แต่ความจริงแล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่าเราเป็นแฟนกัน

“วี” ผมทิ้งของที่ซื้อมาลงกับพื้น เมื่อเข้ามาในห้องนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของผมกำลังจูบอยู่กับคนที่เขาชอบมาตลอด นัท คนที่วีบอก
ผมเสมอถ้านัทคบกับเขาความรักของเราก็ยังเหมือนเดิม

ไม่รักกันเหมือนเดิม

“วอร์ม” วีนั่งหงุดหงิดก่อนจะหันไปบอกผู้ชายร่างเล็กที่คร่อมตัวเขาอยู่ “นัทครับกลับไปก่อนนะ เพื่อนพี่วีกลับมาแล้ว ไม่สะดวก”

“แล้วอย่าลืมไปหานัทนะพี่วี” เขาไม่เพียงพูดแต่หันไปจูบคนที่นั่งก่อนจะเดินชนไหล่ของผมออกไป

“ไม่รู้ว่าอยู่กับนัท ขอโทษ”

“วันหลังก็โทรมาสิ”

“โทรแล้ววีไม่รับ แล้วทำไมต้องพาเขาเข้ามาในที่ที่ของเรา” วีเคยสัญญากับผมว่าจะไม่พาใครเข้ามาในที่ที่ผมอยู่ วีจะมีใครหรือจะนอนกับใครผมไม่เคยห้ามเขาเลยสักครั้ง แต่ผมขอเเค่อย่างเดียวอย่าพามาที่นี่ ที่ที่ผมอยู่

“ที่ของเรา วอร์มคงลืมไปนี่ห้องวี”

“...”

“เราต้องขออนุญาติวอร์มหรือไง ถ้าเราจะพานัทมาที่นี่ ที่นี่ห้องวีที่ส่วนตัวของวี”

“วอร์มก็ลืมไปสำหรับวอร์มแล้ว มีแค่นัทที่ทุกอย่างดูเป็นเซฟโซนทั้งหมด”

“วีเคยบอกวอร์มแล้วใช่ไหม สำหรับนัทคือข้อยกเว้น”

“ขอไปสูบบุหรี่สักหน่อย”

“ไหนบอกว่าเลิกแล้ว” วีถามผมแต่ผมกลับเดินออกไปที่ระเบียงก่อนจะค้นกระเป๋าหยิบซองบุหรี่ออกมาแล้วอัดสารพษทำร้ายร่างกายลงปอด ปล่อยควันสีเทาออกมาล่องลอยกับสายลม สายตาของผมทอดยาวไปยังเเสงไฟของเมืองลวงด้านหน้า

เวลานี้วีไม่เดินออกมาหาผมหรอก เขารู้ถ้าผมอยากดูดบุหรี่เมื่อไหร่ผมอยากอยู่คนเดียว ผมอยากใช้ความคิด คิดว่าผมจะอยู่ได้ไหมถ้าไม่มีคนในห้องนั้น ผมจะเป็นยังไงถ้าสักวันผมเดินออกไปจากห้องนี้ ห้องที่ผมอยู่มา 6 ปีตลอดเวลาที่คบกัน

ผมปล่อยควันออกจากปากครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะอัดเข้าไปอีกมวน คนที่อยู่ในห้องเดินออกมาก่อนจะแย่งบุหรี่ผมแล้วทิ่มลงที่กระถางต้นไม้

“พอแล้วจะดูดให้ตายหรือไง” ตายก็ดี “ไปอาบน้ำนอนเถอะ ดึกแล้ว”

“วี” ผมเรียกคนตรงหน้าเสียงเบา

“อืม”

“ขอถามครั้งสุดท้าย” สุดท้ายแล้วจริงๆ “กับวอร์ม วีรักวอร์มบ้างไหม”

สายตานิ่งๆของวีตอบผมแล้ว “ขอโทษ”

ผมหลับตาลง ก่อนจะลืมตาแล้วยิ้มบางให้วี “ไปหาน้องนัทเถอะ คงรอแล้ว” ผมเดินเข้าไปในห้องนอน ก่อนะมองวีที่ปิดประตูลง แสงไฟข้างนอกดับหมด ยกเว้นห้องนอนที่ผมอยู่ ผมค่อยๆลากกระเป๋าเดินทางออกมาวางที่เตียง เก็บทุกอย่างลงกระเป๋า ของที่วีซื้อให้ ผมขอทิ้งมันไว้ที่นี่ ทิ้งมันให้หมด ให้มันอยู่กับวี เพราะมันไม่ใช่ของงผมอีกแล้ว

ผมเก็บทุกอย่างลงกระเป๋าแล้วลากมันไปที่วางที่เดิม พรุ่งนี้แล้วสินะที่ผมจะออกจากห้องนี้ไป ห้องแห่งความทรงจำของผม


(วี)

ตีสาม

ความจริงแล้วผมไม่ได้ออกไปหานัท ผมออกไปหาเพื่อนที่วันนี้เรานัดทำงานกลุ่ม ช่วงชีวิตปีสี่ งานเยอะจนผมเลือกไม่ถูกว่าจะทำอะไร เพราะในมหาลัยผมกับวอร์ม ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน มันเลยดูเหมือนไม่ค่อยสนิท

ผมกลับเข้ามาในห้องที่ตอนนี้วอร์มหลับอยู่บนเตียง ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดนอนก่อนจะเดินมานอนด้านข้างคนที่หลับ ดึงคนตัวเล็กมากอดเอาไว้อย่างเคยชิน พร้อมหลับตาลงเหมือนทุกคืน


ผมบิดตัวเล็กน้อยเมื่อควานหาคนข้างไม่เจอ วันนี้เป็นวันหยุดวอร์มไม่ตื่นเช้าขนาดนี้นี่หน่า แต่ก็เป็นปกติที่วอร์มจะตื่นก่อนผม วอร์มมักออกไปบีบยาสีฟันไว้ให้ผม ลุกขึ้นไปทำอาหารเช้าที่จะส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้อง เช้านี้อยากกินข้าวต้มหมู วอร์มจะรู้ไหมว่าผมน่ะอยากกิน

จะว่าไปไม่เห็นมีกลิ่นอะไรเลย อย่าบอกนะว่าตื่นสาย ผมยิ้มกับตัวองเบาๆ ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินไปที่ห้องน้ำ วันนี้ไม่มียาสีฟันบีบไว้ให้ ตื่นสายแน่ๆเลยวอร์ม

ผมจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาที่โถง ไม่มีกลิ่นอาหาร ไม่มีเสียงฮัมเพลงของวอร์ม วอร์มน่ะชอบฮัมเพลงที่ฟังไม่เป็นภาษาอยู่คนเดียวเวลาอยู่หน้าเตา โยกตัวบาๆตอนหั่นผักหรือจะหยิบจับอะไรมักมีเสียงของวอร์มเสมอ

“วอร์ม” ผมตะโกนเรียกไม่มีเสียงที่ตอบกลับมา “วอร์มครับ”  ผมเดินออกมาเรื่อยๆจนถึงห้องครัว ทุกอย่างยังอยู่ที่เดิมไม่มีการเคลื่อนย้าย เหมือนไม่มีคนมายุ่งกับส่วนนี้

“วอร์ม” ผมเริ่มเดินหาอีกรอบ มองไปรอบๆห้องไม่มีวอร์ม วอร์มไปไหน วอร์มไม่เคยหายไปแบบนี้ “วอร์ม วีไม่เล่นนะ”

ผมเดินเข้าไปดูกระเป๋าเดินทางสีดำที่เคยตั้งอยู่ข้างเตียงไม่มี เปิดตู้เสื้อผ้า ของของวอร์มหายไปหมด แต่เสื้อผ้าที่ผมซื้อให้วอร์มไม่หยิบออกไปเลยสักนิด ผมเริ่มวิ่งไปดูในห้องน้ำของของเขาหายไปหมด ทำไมเมื่อกี้ผมไม่สังเกตุ ทำไมผมไม่เอะใจตั้งแต่ไม่มีการบีบยาสีฟันไว้ให้

“วอร์ม วีไม่เล่นนะครับ” ผมเดินมายังโถงอีกครั้งกระดาษขนาดเอสี่วางอยู่พร้อมลายมือที่ผมมองแปปดียวก็จำไว้ว่าเป็นของใคร
ถึงวี

อ่านจดหมายเเล้วคงตื่นแล้วใช่ไหม ขอโทษนะวันนี้ไม่ได้ทำข้าวต้มหมูไว้ให้ ต่อจากนี้วีต้องหากินเองแล้วนะ วอร์มไม่ได้อยู่ทำให้วีแล้ว ต่อจากนี้วีจะได้ไม่ต้องตื่นขึ้นมาบ่นวอร์มที่ร้องเพลงเสียงดังตอนทำอาหารให้แล้วนะ วีอยู่ได้ใช่ไหมถ้าไม่มีวอร์ม แน่นอนล่ะวีอยู่ได้ ขอโทษที่ออกมาโดยไม่ได้บอก ขอโทษนะที่วุ่นวายมากไป ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวพื้นที่ส่วนตัวของวีก็มาก แต่ต่อไปนี้วางใจนะครับวี วอร์มไม่ยุ่งกับวีอีกแล้ว วีอาจจะสบายใจก็ได้ที่ไม่มีวอร์ม วีดูแลตัวเองดีๆนะครับ อย่านอนดึก อย่าลืมกินข้าวเช้า ไปเรียนก็อย่าขับรถเร็วนาฬิกาปลุกมีก็ตั้งปลุกเผื่อเวลากินข้าวด้วย แล้วเจอกันที่มหาวิทยาลัยนะครับ ทำตัวเหมือนเดิม ไม่ต้องสนใจกันเหมือน ไม่ต้องรักกันเหมือนเดิม แต่วอร์มรักวีนะครับ

 รัก (วอร์ม)


“วีครับกินข้าวเร็ว…”
“วีอย่าเอาถุงเท้ามาตากตรงนี้”
“แปรงฟันต้องลืมตานะวี”
“เอาจานมาวอร์มล้างเอง วีชอบทุ่มจานแตกหมด”
“วอร์มทำงานตรงนี้นะครับ วีไปนอนเลย”
“วี…”
“วี...รักวอร์มบ้างไหม”


ผมมองไปรอบๆห้องมันกว้างไปหรือเปล่าว่ะ มองไปทางไหนก็เจอวอร์ม ไม่ว่าจะที่ครัว ระเบียง ห้องน้ำหรือห้องนอนมันมีวอร์มไปหมด ผมพึ่งรู้วันนี้ ห้องมันกว้างเกินไปเมื่ออีกคนไม่อยู่ คนที่อยู่กับผมมา 6 ปี คนที่ไปโดยไม่บอกผม ใจร้ายเกินไปหรือเปล่าว่ะ
วอร์มชอบว่าผมใจร้าย แต่รู้ไหมว่าตัวเองน่ะใจร้าย ใจร้ายที่ทิ้งผมไว้ตรงนี้ที่ห้องนี้ ที่มีแต่ความทรงจำตลอด 6 ปี ส่วนตัวเองหนีไปโดยไม่เอาอะไรที่เป็นความทรงจำออกไปเลย

ใจร้าย ใจร้ายมากเกินไปแล้ว

“ไม่เอาอะไรไปเลยนะวอร์ม แม้กระทั่งของที่วีซื้อให้” ผมทิ้งตัวลงที่พื้น ไม่มีอีกแล้วสินะ เสียงเล็กๆที่คอยบ่นผม เสียงเล็กๆที่คอยฮัมเพลงแบบไ่เป็นภาษา รอยยิ้มที่ไม่เคยมีครั้งไหนไม่ยิ้ม ไม่ว่าจะโกรธ งอน ดีใจ หรือเเม้กระทั้งตอนผมบอกว่า ไม่รัก


“วอร์มมึงโทรมไปไหม” ผมหันไปมองบุคคลที่เดินเข้ามา เราทั้งสองเรียนที่คณะวิศวะโยธาด้วยกันทั้งคู่ ความจริงเเล้วเรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมและตอนนี้ก็เป็นปีสุดท้ายของการเรียน ก่อนจะหมดเทอมพวกเรามีไปฝึกงานช่วงปิดเทอมก่อนจะกลับมาเรียนอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วรอรับปริญา “แล้วหอใหม่เป็นไงบ้าง”

“ก็ดี ประตูด้านล่างล็อคแน่นหนา มีรปภ.เฝ้า ห้องก็มีคีย์การ์ด”

“ย้ายทำไมจะจบแล้ว”

“ที่นี่ใกล้กว่า ขี้เกียจตื่นเช้าแล้วอยากตื่นสายบ้าง” วอร์มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันมาสบตากับผม เพียงเสี้ยวนาทีสายตาคู่นั้นหันไปมองหาที่นั่งทันที

“สวัสดีวี มาเช้าจัง” ผมพยักหน้า “ปกติมานี่แทบวิ่ง”

“แหมแว่นเเซวจริงมาเช้าบ้างไม่ได้หรือไง” ผมยักไหล่อย่างไม่สนใจ สายตาที่มองวอร์มอยู่ก็ยังคงมอง

“แอล กูไปนั่งก่อนนะ ตามมาแล้วกัน” วอร์มก็เป็นแบบนี้ ทำตามทุกอย่างที่ผมบอก

“อยู่ที่คณะ ไม่ต้องคุยกันก็ได้เนาะคนอื่นจะได้ไม่สงสัย”

“ได้ดิ ถ้าวีต้องการ”

“วอร์ม”

“หืม” ขอบคุณที่ยังตอบ

“วีขอคุยด้วยหน่อย”

“ตรงนี้ก็ได้”

“แน่ใจหรือ” ผมย้ำอีกครั้ง วอร์มที่วางกระเป๋าลงก่อนจะนำไปที่ด้าน

“เดี๋ยวกูมานะแอล”

“...”

“วอร์ม ทำไมออกมา”

“...”

“ทำไมถึงทิ้งกันมา”

“วอร์มเหนื่อยเเล้ววี” คนตรงหน้าเสียงสั่น ก้มหน้าไม่เงยขึ้นมามองหน้าผมเลยสักนิด “ไม่รักกันทำแบบนี้ก็ถูกแล้วจริงไหม”

“วอร์ม”

“เลิกกันนะวี” ยิ้มอีกแล้ววอร์มยิ้มอีกแล้ว แต่เป็นยิ้มที่เศร้ามากเลยรู้ไหม “จบกันแค่นี้”

“อย่าเจ็บอีกเลยนะวอร์ม” ผมลูบหัวคนตรงหน้าเบาๆ “วีอยากให้วอร์มเจอคนดี”

“ขอถามหน่อยได้ไหม”

“6 ปีของเรามันสำคัญกับวีบ้างไหม”

“สำคัญสิวอร์ม วอร์มน่ะเป็นทุกอย่างให้วีเลยนะ”

“ทำไมวีไม่รักวอร์มเลย”

“เพราะวีรักนัทไง” ผมตอบตามความจริง นัทคือคนที่ผมชอบมาตั้งแต่ปี 2 วอร์มรู้ดี และรู้มาตลอด ผมคิดว่าผมรักวอร์มได้ แต่เมื่อ
เจอนัทผมรู้ว่าผมรักนัท นัทเป็นผู้ชายตัวเล็กไม่ต่างจากวอร์ม นัทน่ารักยิ้มง่าย ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ก็แค่นั้น ผมรู้ผมเห็นแก่ตัว แต่ผมปล่อยวอร์มไปไม่ได้ แล้ววอร์มก็ไม่ไป ผมรักนัทแต่รู้สึกดีกับวอร์ม อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ม.4 ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาวอร์มดีกับผมมากจริงๆ ดีจนผมรู้สึกว่าวอร์มไม่ควรมาเจอคนเลวๆแบบผม คนที่ไม่แน่นอน คนที่วอร์มก็รู้ว่าผมไม่ได้รักวอร์มเลย

“เข้าใจแล้ว” วอร์มจับมือผมออก ก่อนจะหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง ยิ้มอีกแล้ว ยิ้มแบบนี้ผมจะทำอะไรได้ อยากดึงมากอดมาปลอบ
“วอร์มไปแล้วนะ”

“วอร์ม”

“ครับ”

“มาหาวีได้เสมอ”

“...”

“ไม่กลับไปแล้ว วอร์มไม่กลับไปหาคนที่ไม่รักวอร์มแล้ว วอร์มอยากรักคนที่เขารักวอร์มแล้วแล้วครับวี”

เห็นไหมบอกแล้วว่าวอร์มน่ะใจร้าย

“ถ้าอยากกลับมาได้เสมอ”

“กลับไปเป็นคนที่วีไม่รัก ไม่เอาแล้ว”

“...” วอร์มไม่กลับมาแล้ววี ไม่มีวอร์มแล้วเหมือนโลกหายไปครึ่งนึงเลยว่ะวี ผมได้แต่มองวอร์มที่ก้าวออกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีสิทธิดึงกลับมาเลย

-วีรภัทร-

"วอร์มครับ เช้านี้...ไม่สิวอร์มไม่อยู่แล้ว"  ผมบอกตัวเองเบาๆ สายตาที่มองไปรอบๆห้อง ทุกอย่างมันดูเงียบ เงียบไปหมด

ผมคิดถึงเสียงฮัมเพลงเบาๆของคนที่ชอบเต้นอยู่หน้าเตา รอยยิ้มที่มันมักปรากฏทุกวันตอนนี้มันแทบจะไม่เหลืออยู่เลย

“หิวแล้วล่ะ มาเร็วข้าวต้มหมูมาแล้ว”

“เหนื่อยไหมวอร์ม” ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความพร่ามัว เหมือนฝันเลยว่ะ ฝันที่หลับมา 6 ปี พอตื่นขึ้นมาคนในฝันก็หายไปแล้ว
“ขอโทษ”

Rrrrr

ผมหน้าจอที่ปรากฏคนที่ผมชอบขึ้นมา นัทโทรหาผมแบบนี้ทุกวัน แม้ตอนที่วอร์มอยู่ผมก็ยังรับ แม่งดูเป็นคนเหี้ยมากๆ แฟนตัวเองที่นั่งอยู่ยังต้องทนฟังผมคุยกับคนอื่นเสียงอ่อน เสียงหวาน

"ครับนัท"

(พี่วีไม่มาหานัทเลย)

"ช่วงนี้พี่วียุ่งๆนะครับ"

(เครียดหรอ)

"ครับ"

(ไปดูหนังกันนะครับ นัทจะจองไว้)

"ได้เลยครับ" ผมทิ้งตัวลงที่โซฟา หลับตาลงทันที

"วี วอร์มอยากไปดูหนัง"
"วีเหนื่อยครับ"
"งั้นนอนเถอะ วอร์มไม่ไปแล้ว"  วอร์มไม่เคยแม้แต่จะบังคับผมไป แค่บอกว่าเหนื่อยคนตัวเล็กก็จะรีบออกไป ไม่วุ่นวาย ไม่เซ้าซี้
หรือกวนอะไร มีแต่จะหาผ้าเย็นๆ มาเช็ดตัวตัวให้ผมเพื่อให้ผมผ่อนคลายขึ้น


“นัทจะดูเรื่องอะไรครับ”

“เรื่องนี้ครับ” คนตัวเล็กชี้ไปที่โปสเตอร์หนัง “เดี๋ยวนัทไปซื้อตั๋วนะครับ”

“เอางี้ครับ นัทไปซื้อของกินเถอะคนน้อย เดี๋ยวพี่ไปซื้อตั๋วเอง”

“น่ารักจังครับ” คนตัวเล็กเอื้อมมือมาจะบิดแก้มแต่ผมหลบก่อน ผมไม่ชอบให้ใครจับหน้า “ขอโทษครับ”

“ไม่เป็นอะไรครับ ไปเถอะ” ผมบอกคนตัวเล็กเบาๆ พร้อมยกยิ้มให้คนตัวเล็กรีบวิ่งไปซื้อป็อปคอร์นทันที ผมเลือกเดินมาต่อแถว
ซื้อตั๋ว แล้วผมก็เจอวอร์มที่กำลังค้นกระเป๋าตังอยู่ เมื่อเงยหน้าขึ้นมา เราทั้งคู่ต่างห่างกันแค่นิดเดียว แต่แววตาของวอร์มมันดูว่างเปล่าจนผมไม่รู้ว่าวอร์มคิดอะไรอยู่

“สวัสดี” ผมเอ่ยทัก แต่คนตรงหน้ากลับหันไปคุยกับพนักงานต่อเมินคำพูดของผม

“เอาที่ E15 ครับ”

ผมได้แต่มองตามวอร์มอย่างเงียบๆ ไม่คิดจะทักกันหน่อยหรือไง อย่างน้อยเราก็คบกันมาตั้ง 6 ปีนะวอร์ม

“เอาที่ข้างๆคนเมื่อกี้ 2 ที่ ครับ”

“เป็น E16 E17 นะคะ”

“ครับ” ผมยื่นธนบัตรสีม่วงไป รอรับเงินทอนก่อนจะเดินไปหานัทที่ยืนรออยู่”

“ไปกันเถอะพี่วี”

“ไปครับ”

ผมเดินเข้ามาในโรงหนัง ก่อนจะทิ้งตัวลงที่เก้าอี้มองดูหนังที่ฉายไป ถ้าจำไม่ผิดมันคือหนังเรื่องเดียวกับที่วอร์มชวนผมมาดูเมื่อปีที่แล้ว มันคือหนังที่วอร์มชอบมาก แต่นี้หนังฉายไปเกือบยี่สิบนาทีเเล้วคนข้างๆผมยังไม่เดินเข้ามาอีก จะเป็นอะไรหรือเปล่า ผมชักหวั่นใจกำลังจะลุกไป แต่เป็นวอร์มที่เดินเข้ามาพอดี
วอร์มนั่งลงเหมือนผมไม่ได้อยู่ตรงนี้ ไม่ทักทายหรือเเม้จะมองหน้ากัน เราจบกันไม่ดีหรือไง เราจบกันด้วยดีไม่ใช่หรือ

“สูบบุหรี่มาหรือ”

“อืม” คำตอบสั้นๆ ที่ไม่มีการพูดกันต่อ

“วอร์ม”

“นี่ที่โรงหนังเงียบด้วยครับ” ผมหันไปมองหน้าวอร์มก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงคนตัวเล็กไปด้วย

“พี่วี พี่วี”

“ปล่อยวอร์ม”

“เราต้องคุยกัน”

“วอร์มไม่มี วอร์มดูหนังอยู่”

“วีไม่เข้าใจ ทำไมเราต้องทำเหมือนไม่รู้จักกันล่ะวอร์ม”

“...”

“เราเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรือวอร์ม” ผมถามคำถามที่คาใจออกไป

“เพื่อน”

“ใช่เพื่อน”

“วอร์มเป็นเพื่อนกับคนที่รักไม่ได้หรอก วอร์มรักวีมากกว่านั้นไปแล้ว”

“...”

“ให้กลับไปเป็นเพื่อน วอร์มทำไม่ได้แล้ววี” คนตัวเล็กฉายแววตาที่อ่อนแอออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“วอร์มต้องอดทน”

“อดทนอีกแล้วหรือวี 6 ปีที่ผ่านมาวอร์มยังอดทนไม่พอหรือ ทำไมต้องเป็นวอร์ม ทำไมเป็นวอร์มที่เลิกรักก็ไม่ได้ หาคนใหม่ก็ไม่
ได้ ทำใจไม่ให้คุยก็ไม่ได้ ทำไมต้องเป็นวอร์มตลอดเลยล่ะวี”

“วีขอโทษ”

“วอร์มขอร้องได้ไหมวี”

“ว่าไง”

“ต่อจากนี้อย่าคุยกันอีกได้ไหม อย่าเจอกันอีกได้ไหม ทำเป็นมองไม่เห็นกันได้ไหม วอร์มสัญญาว่าจะหายไป”

“ได้ไงล่ะวอร์ม เราเรียกเอกเดียวกัน ที่ฝึกงานก็ลงที่เดียวกัน ยังไงก็ต้องเจอกัน” ผมตอบตามความจริง อาจารย์ให้เลือกที่ฝึกงาน
ตั้งแต่ปีสาม เราขึ้นปีสี่มาก็ไดรับเมลล์ว่าได้ไปฝึกที่ชลบุรีด้วยกัน ตั้งแต่ปิดเทอมจนจบ เราได้เจอกันทุกวันอยู่แล้ว

“วอร์มเปลี่ยนที่ฝึกแล้ว”

“วอร์ม”

“ขอโทษนะ ทีมก็ไปฝึกกับวี วีกมีเพื่อนไป”

“วอร์มแลกกับทีมงั้นหรอ” คนตรงหน้าพยักหน้าเบาๆ บ้าไปแล้ว “นั่นมันที่โคราชเลยนะวอร์ม”

“อื้ม วอร์มรู้”

“วอร์ม ทำไม”

“ตอนนั้นที่เราเลือกเรายังคบกัน เราเลยเลือกด้วยกัน แต่ตอนนี้เราเลิกกันแล้ว” ผมสาบานเลยว่าผมเกลียดรอยยิ้มที่ฝืนของวอร์ม

“ห่างกันได้ ไม่ใช่ปัญหา”

“ทำไมไม่บอกกันบ้าง”

“บอกแล้ววีจะไปกับวอร์มหรือไง”

“ก็ใช่”

“ถ้าวีรู้สึกผิดกับคำสัญญา วีคิดเสียว่าเรื่องในอดีตเป็นความฝัน” ฝัน 6 ปีน่ะหรือ

“วีครับ เราไปฝึกงานที่ชลบุรีกันนะ วันพักเรากก็ไปเล่นน้ำทะลกัน”

“อะไรของวอร์ม”

“นี่ไงที่ฝึกใกล้ๆทะเลอย่างน้อยเหนื่อยๆไปเดินเล่นก็ยังดี”

“โอเค เราไปฝึกด้วยกัน”

“เย้ ขอบคุณครับวี”

“วอร์มกลับแล้ว” คนตรงหน้าหันไปแล้วไม่มองกลับมาอีก วอร์มยอมจริงๆหรือ ไหนบอกว่ารักผมไง รักแล้วปล่อยผมไปแบบนี้หรือ
ไง



ในวันที่มีเรียน ผมเดินเข้าห้องมาตามปกติ มองที่เก้าอี้ตัวเดิมที่วอรืมชอบนั่ง แต่วันนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาคนที่มาแต่เช้า ไม่มีเลย วันนี้
จะขาดเรียนหรือไง

“แม้ไงล่ะมึง กูบอกเเล้วพี่แทนจีบมึงนะวอร์ม กูโคตรชอบพี่เขาอย่างกับคุณชายหมอ จบไปแล้วคิดดูดหน้าที่การงาน ฐานะ สังคม
แม่งดีสุดๆ”

ผมหันไปมองอีกครั้งเมื่อคนที่ผมพึ่งนึกถึงเดินเข้ามา พร้อมกับเพื่อนในกลุ่มของเขา

“เวอร์ไปแล้วแอล พี่แทนแค่ทักเฉยๆ”

“เฉยๆอะไรวอร์ม พี่แทนจีบมึงจะเป็นปีอยู่แล้วนะ ใจอ่อนให้พี่กูบ้างเถอะ”

“เพราะเป็นพี่มึงไง”

“วอร์ม มึงก็โสด พี่กูก็โสดคบกันเลยดิ กูเชื่อว่ามึงจะมีความสุข”

จีบมาเป็นปี หมายความว่าไง ตลอดเวลาที่ผ่านมาวอร์มมีคนเข้ามาจีบด้วยหรือ ทำไมผมไม่รู้ ผมไม่เคยรู้เลยว่าแฟนของผมมีคนมาจีบแถมยังเป็นหมออีก

“มองไรมึงวี”

“มองไม่ได้หรือแว่น”

“แว่นพ่อง” ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปหาวอร์มที่ยืนถือดอกไม้มา ช่อใหญ่ส่ะด้วย คิดดูสิผมเป็นแฟนกับวอร์มมา 6 ปี ผมไม่
เคยให้วอร์มแบบนี้เลย “ดูมึงชอบดอกทิวลิปนะวอร์ม”

“ชอบดิ” แววตาเล็กๆเงยขึ้นมามองผม “เพราะมันเป็นดอกไม้ที่กูชอบมาตลอด”

“ให้เลือกระหว่างทิวลิปกับกุหลาบ”
“ทิวลิป”
“หืม คนทั่วไปเลือกกุหลาบนะ”
“เพราะทิวลิปคือการตกหลุมรัก”
“วอร์ม”
“เอาไปให้น้องนัทสิ บอกว่าวีตกหลุมรักน้องอย่างหมดหัวใจ”
“มึงตกหลุมรักใคร”
“รักคนที่เขาไม่รักกู” วอร์มหัวเราะเบาๆ “กูล้อเล่น ไปนั่งเถอะ”
“วี วอร์มแค่อยากรู้ วาเลนไทน์นี้วีจะทำอะไร”
“อยู่กับวอร์มไง”
“จริงหรือ”
“จริงดิ วอร์มอยากได้อะไรไหม”
“ทิวลิป”
“ได้ดิ”
ผมสัญญาว่าจะเอาทิวลิปไปให้วอร์ม สัญญาว่าจะอยู่กับวอรืฒในวันวาเลนไทน์แต่ผมก็ต้องผิดสัญญา เพียงเพราะนัททักมาหาผม ผมทิ้งทุกอย่าง ทิ้งคำสัญญากับวอร์มในตอนเช้าที่เราบอกว่าจะอยู่ด้วยกัน ผมออกไปกับนัท กลับเข้าห้องมาก็มองวอร์มที่นั่งอยู่ในห้องกอดเข่าดูทีวีอยู่ที่โถงกว้า วอร์มหันมายิ้มให้ผมก่อนจะเดิเข้ามาหา
“ไปหานัทมาหรือ”
“อืม”
“ไปพักเถอะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” ผมพยักหน้ารับเบาๆ เดินผ่านเคาเตอร์ห้องครัวที่มีเค้กก้อนน้อยๆวางอยู่
“ทำเค้กหรือ”
“เปล่าครับ แอลเอามาให้” โกหกไม่เนียนเลยนะวอร์ม แป้งเปื้อนขนาดนี้ยังโกหกเลย
“กินไหม วียกไปให้”
“วอร์มว่าจะทิ้งมันน่ะ วีไปพักเถอะ”
“วอร์ม วีขอโทษ”
“เรื่องอะไร”
“ปีนี้วาเลนไทน์ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย”
“ปีหน้าจะอยู่ด้วยกันไหม” วอร์มถามมาอย่างเเผ่วเบา
“อยู่สิ”
แต่ใครจะรู้ว่าปีหน้าของผมไม่มีอยู่จริง ไม่มีการให้ผมกลับไปแก้ไข ไม่มีการให้ผมได้ขอโทษที่ทำให้วอร์มรอ
ไม่มีวอร์มที่ฉลองวาเลนไทน์ด้วยกันในปีต่อๆไป  ไม่มีวอร์มในทุกๆเทศกาลที่จะผ่านเข้ามาเหมือน 6 ปีที่แล้ว



- วรกร -


“กูถามมึงได้ไหมวอร์ม” แอลที่นั่งสงสัยผมที่มองไปทางวีถามขึ้น มันคงสังเกตมานานแล้ว “ตอบกูตามความจริงนะวอร์ม”

“พูดมาสิ”

“กับไอ้วี มึงชอบมันใช่ไหม” ผมไม่รู้ว่าจะตอบเพื่อนยังไงดี จะให้ตอบว่าเคยเป็นแฟน หรือผมจะตอบว่าผมยังรักวีอยู่ ผมต้องตอบ
ยังไง “สายตาที่มึงมองมัน กับที่มันมองมึงตอนนี้เหมือนคนที่รักกัน”

ถูกที่ผมรักวี แต่วีไม่ได้รักผม

“วีมันมองมาทางนี้ตลอดเลยนะ เหมือนอยากคุยกับมึง กูสงสัยมากวอร์ม มึงกับมันจบจากที่เดียวกัน ไม่สนิทกันหรือ”

“แอล กูอยากคุยกับมึง”

“เอ๊า มึงก็พูดอยู่ ไม่สบายหรือไง”

“เรื่องวี” มันกำลังที่จะด่าผมชะงักไปสักครู่ก่อนจะตั้งสติแล้วมองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ

“ไอ้วี ทำไมว่ะ มันทำอะไรมึง” แอลรีบจับตัวและใบหน้าผมทักไปมา

“กูเคยคบกัน”

“ก็เเค่เคย ห๊ะ คบกัน” ผมรีบเอามือตะครุบปากเพื่อนรักที่กำลังโวยวายจนทุกคนหันมามองรวมถึงวีด้วย ถ้าวีรู้ว่าผมบอกเรื่องนี้กับ
คนอื่น วีจะโกรธไหม วีจะไม่รักผมไปมากกว่าเดิมไหม แต่ว่า วีไม่เคยรักผมอยู่แล้วนี่หน่า

“เบาดิ”

“มึงเล่ามาเลยวอร์ม คบกันมานานแค่ไหนแล้ว” ผมชูนิ้ว 6 นิ้วขึ้นมา “ออ 6 วัน แค่ 6 วัน อย่าคิดมากเลยมึง เลิกกันแล้วมองหน้า
ไม่ค่อยติดหรอก”

“เปล่า 6 วัน 6 ปี” ผมบอกเสียงเรียบ

“มึงอย่าล้อกูเล่นวอร์ม”

“6 ปีจริงๆ”

“ไอ้เหี้ย มึงทนมาได้ไงว่ะวอร์ม 6 ปีเลยนะมึง 6 ปีที่มึงไม่ได้บอกใครเลย มึงรักกันจริงหรือเปล่าว่ะ”

“รักดิ กูอ่ารักวี” ผมก้มหน้าลงเล็กน้อย “แต่วีไม่ได้รักกู” จังหวะที่ผมพูดจบแอลดึงผมเข้าไปกอดทันที ผมรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองอ่อนแอ อ่อนแอมากๆ คำที่ผมอยากบอกทุกคนว่าผมเป็นแฟนกับวี ในที่สุดผมก็ได้พูด พูดในวันที่เราเลิกกัน พูดในวันที่ผมอยากร้องไห้มากกว่ายิ้ม


ออฟไลน์ waterway_may

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ไม่เคย (ไม่รัก) ตอนเดียวจบ
«ตอบ #2 เมื่อ29-10-2019 15:20:44 »

“ร้องออกมาวอร์ม มึงร้องออกมา ร้องให้แม่งมันเห็น ร้องให้มันรู้ว่ามึงน่ะรักมัน” ยิ่งคำพูดแอลยิ่งพูดมากแค่ไหน ผมก็ย่งร้องมันออกมา โชคดีที่มันยังเช้า เพื่อนคนอื่นๆยังไม่มาแล้วยังเป็นเเค่กลุ่มที่เรียนในเซคมีไม่ถึง 20 คน “ร้องเสร็จมึงห้ามร้องไห้อีก กูไม่อนุญาติให้มึงร้องเเล้ววอร์ม อย่าไปเสียน้ำตาให้คนที่ไม่เห็นค่ามึง อย่าไปร้องให้คนที่ไม่ได้รักมึง วอร์ม มึงยังมีป๊า หม่าม๊า กูที่รักมึงนะ”

“บ่นเป็นป๊าเลยนะมึง” ผมเงยหน้าขึ้นมา มองไอ้แอลที่ทำหน้าให้ตึงเเบบป๊าผมชอบทำ

“หัวเราะแล้ว เด็กขี้เเงของกู” มันเล่นยีศีรษะผมทันทีที่พูดจบ จะเอ็นดูกูแบบเด็กไปทำไม อายุก็เท่ากัน

“วอร์ม”

“อื้อ ว่าไงมึง” ผมตอบรับไอ้แอลที่เรียกขึ้น

“กูรู้ว่ามันยาก แต่มึงต้องเข้มแข็ง ห้ามคิดมากเข้าใจไหม”

“กูรักมึงนะ”

“อี๋ ขนลุก ฮ่าฮ่า”

ผมหันไปมองวีอีกครั้ง ก่อนจะเท้าคางแล้วมองวีที่กำลังคุยกับเพื่อนในกลุ่มอยู่ ขออย่าให้วีโทษตัวเองเลยที่ผมเป็นแบบนี้ เพราะผมเลือกเอง ผมเลือกที่จะอยู่ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าวีไม่อยากให้อยู่

“วอร์ม วีมีเรื่องจะบอก”
“อะไรครับ”
“วันนี้วีเจอเด็กนิเทศน์ ตัวเล็กๆ ขาวๆ พึ่งเข้ามาใหม่ ชื่อว่าน้องนัท น่ารักมากๆเลย”
“...”
“วีอยากได้เบอร์น้องเขา”
“วีก็ไปขอสิครับ”
“วีไม่กล้า วอร์มช่วยวีหน่อยได้ไหม” ผมได้แต่เงยหน้ามองวีที่กำลังยิ้มอยู่ วีจะรู้ตัวไหมนะว่าตัวเองยิ้มกว้างมากๆเลยนะ มากกว่าที่เคยยิ้มให้ผมอีก
“คนไหนครับวี” วียื่นโทรศัพท์มือถือตัวเองมาให้ผมดู รูปของวีกับน้องที่ถ่ายเมื่อเช้านี้ วีได้ลงแข่งกีฬา เลยต้องเดินขบวน แล้วนิเทศกับวิศวะ ดันอยู่ใกล้ๆกัน วีคงเจอตอนนั้น “วีรีบไหม”
“อยากได้พรุ่งนี้เลย” วีพูด้วยสีหน้าตื่นเต้น “วอร์มขอให้วีหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้ครับ แต่สัญญาของเรา”
“วีจะไม่พาน้องมาที่นี่ครับวอร์ม” วียกสามนิ้วขึ้นมา ทำท่าสัญญา ก่อนจะดึงโทรศัพท์ไป เดินเขาห้องไป ปล่อยให้ผมนั่งลงที่โซฟาอยู่คนดียว
ถ้ามันเป็นความสุขของวี วอร์มยอมก็ได้
เช้าวันงานกีฬา ผมเดินเข้าไปที่พักของนักกีฬา ก่อนจะมองหาวีที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าตรียมลงสนามอีกหนึ่งชั่วโมง
“วี ไปกับวอร์มหน่อยได้ไหม”
“ไปไหน วีจะลงสนามแล้ว”
“อีกตั้งหนึ่งชั่วโมง ได้ไหมวี”
“ไปไหนบอกวีก่อน”
“จะพาไปขอเบอร์น้องนัทไง”
“ไป” วีรีบตอบรับทันที ไม่ต้องรอให้ผมพูดย้ำ รู้เเล้วว่าอยากได้ แต่ช่วยเก็บอาการหน่อยได้ไหม วอร์มยังเป็นแฟนวีนะ
“ถ้านัทคบกับวีนะ ความรักเราก็ยังเหมือนเดิม” ไม่รักกันเหมือนเดิมสินะวี
“ไปๆ พูดเยอะจริง” ผมดันหลังวีให้เดินนำหน้าไป วีที่ดูมีความสุขพิเศษจนผมออกอาการหมั่นไส้
“คนนี้” วีชี้ไปที่น้องที่กำลังเเต่งตัว เป็นหลีดคณะเสียด้วย
“หืมมม เดือนวิศวะมาทำอะไร นัทพี่วีมาหาว่ะ” เสียงเพื่อนที่เป็นหลีดด้วยกันตะโกนเรียกน้องนัทให้หันมา
น้องนัทที่ตัวเล็กๆ ปากแดงๆตัวขาวๆ สเป็กวีเขาล่ะ เดินเข้ามาหาเราทั้งสองด้วยความเขินอาย
“น้องนัทใช่ไหม พี่ขอเบอร์น้องได้ไหม เพื่อนพี่ วีน่ะให้มาขอแต่ไม่กล้ามาเอง”
“พี่วีก็ เดินเข้ามาสิครับ นัทให้ได้ตลอดนั่นเเหละ” ผมมองน้องที่เดินผ่านผมไป ก่อนจะไปเกาะแขนวีด้วยความดีใจ ที่วีนั้นเข้ามาขอ ผมหลับตาลงช้าๆ พร้อมความเจ็บปวดที่เเล่นเข้าสู่หัวใจ เจ็บดี จุกดี


“เย็นนี้ไปกินข้าวบ้านกูไหมวอร์ม แม่ถามหา”

“ไปดิ ผู้ใหญ่ชวนทั้งที”

“โทรหาพี่แทนก่อน บอกว่าให้รีบกลับ วรกรจะไปกินข้าวด้วย” ผมพลักหัวเพื่อนรักเบาๆ ไอ้สีหน้าล้อเลียนนี่นะ ขอให้บอกเลย

ผมก้มมองช่อดอกทิวลิปก่อนจะยิ้มออกมา ผมจะเปิดใจให้พี่ไดไหมนะพี่หมอ พี่หมอจะสามารถรักษาแผลใจให้ผมได้ไหม แล้วถ้าผมไม่ชอบพี่หมอ ผมจะเหมือนให้ความหวังพี่หมอหรือเปล่า



“อะแฮ่ม จะขึ้นรถไหมครับพี่แทน”

“แอล ไปนั่งหลัง” ผมมองหน้าพี่แทนที่กำลังไล่น้องตัวเองไปอยู่ด้านหลังโดยตัวเองเดินมาเปิดประตูให้ผมขึ้นไปนั่งข้างหน้า จน
แอลตีไหล่ผมเบาๆ แต่ก็ดันผมให้ขึ้นไป ผมโค้งตัวเล็กน้อยเชิงขอบคุณ ใบหน้ายิ้มแย้มของพี่หมอปรากฏขึ้น ผู้ชายที่อายุราวๆ 30 ประสบความสำเร็จทางด้านอาชีพของตัวเอง หาได้ยาก แต่พี่หมอกับเป็นคนคนนั้นที่ประสบความสำเร็จแต่อายุยังน้อย

“พี่หมอเลิกงานไวหรือครับ”

“ครับวันนี้พี่มีแค่เวรเช้า”

“ไม่น่าลำบากมารับ”

“ลำบากอะไร พอกูโทรไปบอกว่ามึงจะมากินด้วย รีบเชียง ปกติกว่าจะกลับบ้าน พ่อกับแม่แทบไปลากมาจากโรงพยาบาล” ได้โอกาส แอลรีบฟ้องผม จนพี่หมอส่งสายตาดุๆผ่านกระจกหลัง

“ไม่ค่อยกลับบ้านหรือครับ”

“งานเยอะมากครับวอร์ม”

“เหนื่อยไหมครับเป็นหมอ”

“เหนื่อยครับ แต่สนุกดี วอร์มล่ะเหนื่อยไหมเรื่องเรียนน่ะ”

“น้องแท้ๆไม่เคยถาม น่าน้อยใจชะมัด” แอลบ่นอุบก่อนจะมองออกไปทางหน้าต่าง ทำท่าทางงอนพี่ชายอย่างจริงจัง

“งอนแบบนี้ I phon xs คงไม่เอา พี่ขายทิ้งดีกว่า อุตสาห์รู้มาว่าเรียนหนักกำลังจะออกไปฝึกงาน เลยซื้อให้”

“เอา” คนมีฟอร์ม รีบเข้ามาคว้า ถุงในโทรศัพท์มือถือแล้วไปเปิดดูทันที “ฮื้อออ สีใหม่พี่แทนขอบคุณครับ” เจ้าตัวรีบฉีกยิ้มทันที
ถ้ากระโดดหอมแก้มพี่ชายได้คงทำไปแล้ว

ในจังหวะพี่แทนเลี้ยวรถเข้าบ้าน คนขับรถประจำบ้านพี่แทนรีบวิ่งมายืนรอ พร้อมรับกุญแจเอารถไปเก็บ ผมเดินเข้าบ้านตามพี่แทนกับแอลไป บ้านหลังนี้ผมมาบ่อย เพราะส่วนมากแม่ชอบชวนมาทานเข้า และก็ทำรายงาน


“วอร์ม แม่ชวนไปกินข้าว”
“แม่หรือครับ”
“อื้ม แม่บอกคิดถึงกลับข้าวฝีมือวอร์ม”
“แม่ทำอร่อยกว่าวอร์มอีก”
“คุณหญิงคงขี้เกียจทำ”
“แล้ววีว่าวอร์มทำอร่อยไหม”
“ถามทำไมหึ” วีวางมือลงบนศีรษะ พร้อมยิ้มออกมาเบาๆ
“วอร์มแค่อยากรู้”
“อาหารของวอร์ม อร่อยที่สุดเลย” ผมยิ้มออกมาทันที น้อยครั้งที่วีจะชมผมแบบนี้ และน้อยครั้งที่วีจะยิ้มให้ผม “อยู่ทำให้วีไปนานๆนะ”
คนอ้อนทิ้งตัวลงมานอนที่ตัก ก่อนจะหลับตาลง ผมนั่งมองวีที่หลับสนิทไปแล้วมือของผมลูบศีรษะวีเบาๆ อย่างเคยชิน แสดงต่อกันในห้องของเราก็พอแล้วเนาะ


“กับข้าวไม่อร่อยหรือวอร์ม”

“ออ เปล่าครับคุณป้า”

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูก ไม่ถูกปากบอกป้าได้นะ"

"อร่อยมากครับ ผมแค่คิดอะไรนิดหน่อย"

"ทานกุ้งนะวอร์ม"

"ทานกุ้งเยอะๆวอร์ม วีแกะให้แล้ว" ผมก็ยังคงคิดถึงการกระทำของวีตลอด ทุกช่วงเวลาผมมีวีมาตลอด 6 ปีถึงมันจะไม่ใช่ช่วง
เวลาที่อยู่ด้วยกันตลอด แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่วีทำให้ผมให้ผมมาตลอดเช่นกัน


-วีรภัทร-

“วีครับ เช้าแล้วกินข้าวก่อนนะครับ วันนี้มีออกพื้นที่ต้องกินข้าวเช้านะ”

“วอร์ม” ผมสะดุ้งตื่น มองไปรอบๆเพื่อหาคนที่ยืนยิ้มให้ผมเมื่อกี้ที่ข้างเตียง “ไม่มีวอร์ม”
เหงื่อเม็ดเล็กๆที่ผุดออกมาตามไรผม ที่อากาศรอบข้างออกจะเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ผมลุกขึ้นนั่งก่อนจะหันไปมองกรอบรูปเล็กๆข้างเตียง ผมตั้งมันไว้ตอนวอร์มออกไปจากห้อง ผมตั้งมันไว้เตือนความทรงจำว่าเมื่อก่อนนี้ผมมีวอร์มอยู่ข้างๆ วอร์มอยู่กับผม ให้ผมทำร้ายวอร์มวนไปมาอยู่แบบนี้
ใจอยากให้วอร์มกลับมา แต่ถ้าวอมร์กลับมาวอร์มจะเจ็บอีกไหม วอร์มจะยิ้มเหมือนทุกวันนี้หรือเปล่า ผมป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ผมไม่อยากให้วอร์มไม่มีความสุข

Rrrrr

(พี่วีครับ มารับนัทได้ไหม รถนัทเสียครับ”

“พี่กลับค่ำครับวันนี้”

(ไม่มานัทงอนนะครับ)

“พี่ขอโทษครับนัท” ผมปฏิเสธนัทเป็นครั้งแรก ปกติแล้วไม่ว่าจะเช้าขนาดไหน หรือดึกขนาดไหนผมพร้อมที่จะออกไปรับนัท ออกไปทั้งๆที่วอร์มจะห้ามขนาดไหน ผมก็ยังดื้อรั้นขอออกไป โดยไม่สนใจว่าคนข้างกายผมจะรู้สึกยังไง

“พี่กลัวนัทรอ”

(ให้นัทไปรอคณะพี่วีสิครับ) คนในสายยังคงดื้อรั้น

“วันนี้พี่ออกพื้นที่ ถ้ารอนัทจะรอคนเดียวนะครับ”

(ก็ได้ครับ แค่พี่วีมารับ เดี๋ยวนัทกลับกับเพื่อน นะครับ นะครับ)

“ก็ได้ครับ”

สุดท้ายผมก็ต้องไปรับนัทมามหาวิทยาลัยพร้อมกัน สำหรับนัทยังไม่ใช่แฟน นัทยังเป็นคนที่ผมคุยตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่ผมไปขอ
เบอร์ ผ่านมาสองปี ผมก็ยังให้นัทป็นแฟนไม่ได้ เพราะอะไรผมก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะนัทไม่เคยร้องขอ ผมเองก็ไม่เคยเสนอ

ผมเกรงใจวอร์ม ผมกลัววอร์มเสียใจ ถึงผมจะทำวอร์มเสียใจหลายรอบแล้ว ผมก็แคร์แฟนผมเหมือนกัน



“ขอบคุณนะครับพี่วี” ว่าจบนัทก็เขย่งเท้าขึ้นมาหอมแก้มผม พร้อมเดินออกไปหาเพื่อนในกลุ่มของตัวเองทันที ทิ้งผมให้ตกอยู่ในสายตาของ วอร์ม

วอร์มรีบเดินก้าวเท้าให้ไวขึ้น ไม่สนใจว่าข้างหน้าจะเป็นอะไร ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงพูดไปว่า ‘แล้วไงก็เลิกกันแล้ว’ แต่ตอนนี้ผมก้าวเท้ายาวๆตามวอร์มไป ก่อนจะดึงแขนคนที่รีบหนีให้มาประชิดตัว

“วีไม่ได้อยากให้น้องเขาหอมแก้มนะ เขาทำเอง วีไม่รู้เรื่อง” ผมรีบอธิบายให้วอร์มเข้าใจ คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามอง ยกมือขึ้น
มาจับหน้าผมทันที

“บอกวอร์มทำไม ลืมไปแล้วหรือว่าเราเลิกกันแล้ว” เสียงเรียบๆ แต่กระแทกใจผมเต็มๆ เจ็บและจุกเป็นแบบนี้นี่เอง สิ่งที่วอร์มเจอเป็นแบบนี้นี่เอง ตอนที่ผมบอกวอร์ม วอร์มเจ็บแบบนี้ไหม

“วอร์ม” ผมรีบจับมือวอร์มให้ค้างอยู่ที่หน้าของตัวเอง จับอยู่แบบนั้น ผมกลัวว่ามันจะไม่ได้จับมันอีกแล้ว จะไม่ได้แตะมันอกแล้ว

จู่ๆความกลัวมันก็แล่นเข้ามาในสมอง กลัวที่จะต้องเสียคนตรงหน้าไป

“เป็นอะไร”

“กลัว”

“กลัวอะไร”

“กลัววอร์มหายไป”

“ตอนวอร์มอยู่วีไล่วอร์ม ตอนนี้วอร์มก็ออกมาแล้วไงครับตามที่วีต้องการ” ไม่ ผมไม่ต้องการแบบนี้


“วอร์ม วีบอกวอร์มว่าไง เรื่องของนัท”
“วี วอร์มไม่ได้ตั้งใจ วอร์มไม่ได้ตั้งใจรับสายนัท มันตกใจ”
“ทำไมของของวี วอร์มต้องยุ่งทุกอย่างด้วย โทรศัพท์เป็นของของส่วนตัววี ทำไมว่ะ” เสียงผมที่ตะคอกใส่วอร์มที่ตอนนี้ตัวเล็กลงไปอีก วอร์มมองผมด้วยน้ำตาที่มันไหลออกมาอาบทั้งสองแก้ม
“วอร์มขอโทษ”
“แล้วไง วีจะอธิบายนัทว่าไง”
“บอกว่าวอร์มเผลอกดรับสิ”
“นัทไม่ได้โง่นะวอร์ม ถ้าวอร์มไม่อยู่ห้องเดียวกับวี นัทคงคิดแบบอื่นได้”
“วีไล่วอร์มแล้วหรือ”
“จะไปไหมล่ะ จะไปก็ไป” ผมพูดด้วยอารมณ์ที่โมโห ไล่วอร์มตั้งหลายรอบ ด้วยความคิดที่ว่าครั้งวอร์มไม่ออกไปไหนหรอก คงเข้าห้องนอนเหมือนเดิม ไม่นานเดี๋ยววอร์มก็หายแล้วเราก็จะมานั่งกินข้าวด้วยกน แต่ครั้งนี้ผิดไป วอร์มเดินออกจาห้อง ออกไปพร้อมน้ำตา ออกไปโดยไม่พูดอะไรกับผมอีก
เวลาผ่านไปยันเที่ยงคืน วอร์มเดินกลับเข้ามาพร้อมถุงข้าว มองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มที่ดูว่าวอร์มฝืน ฝืนอีกแล้ว
“กินข้าวก่อน วีคงหิว” หิวหิวมากด้วย นั่งรอวอร์มมาทั้งวัน รอวอร์มมากินข้าวพร้อมกัน
“ของวอร์มล่ะ” ผมท้วงขึ้นเมื่อเห็นข้าวแค่กล้องเดียว
“กินแล้ว วีทานเถอะ”
“นั่งเป็นเพื่อนหน่อย” คนตัวเล็กยอมเดินมานั่งตรงข้าม พร้อมหยิบหนังสือเล่มเก่าที่อ่านไม่จบขึ้นมาอ่าน ไม่พูด ไม่มีเสียงของวอร์มหลุดออกมาเลย บรรยากาศที่เงียบจนน่าอึดแัด ผมยอมเป็นฝ่ายชวนอีกคนคุย แต่ก็เป็นการถามคำตอบคำ
“ไม่เห็นอร่อยเหมือนวอร์มทำเลย”
“กินไปเถอะ เวลาวอร์มไม่อยู่วีจะได้กินได้”
“ไหนบอกว่าจะทำให้กินตลอดไปไง”
“ไม่มีคำว่าตลอดไปหรอกวี ไม่แน่พรุ่งนี้วอร์มอาจจะป่วย อาจจะออกจากห้องนี้ไป หรืออาจจะตายก็ได้” วอร์มพูดมันได้ธรรมชาติมากๆ “วอร์มอาจจะไม่ได้อยู่กับวีตลอดไป วีต้องหัดทำอย่างอื่นบ้างนะ หัดทำกับข้าว หัดกินข้าวที่ไม่ใช่ฝีมือวอร์มบ้าง กินมา 6 ปีไม่เบื่อหรือไง” วอร์มพูดติดตลก แต่ผมรู้ว่ามันไม่ตลก
ระหว่างเราอะไรๆก็เปลี่ยน
“บางทีน้องนัทอาจจะทำอร่อยกว่าวอร์มก็ได้”
“เตรียมจะไปแล้วใช่ไหม” ผมถามทั้งๆที่ตาของวอร์มยังมองหนังสือ “จะไม่อยู่ด้วยกันแล้วหรือ”
“จะไปไหนได้ วอร์มรักวีขนาดนี้”


“ไหนบอกว่าจะไม่ไปไหน ไหนบอกว่ารักกัน”

“...”

“ไหนวอร์มบอกว่าจะอยู่ทำกับข้าวให้วี ไหนบอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันเรื่อยๆ”

“ร้องไห้ทำไม” มือเล็กเอื้อมมาเช็ดน้ำตาของผม “ไม่เหมือนวีเลย”

“...”

“ไม่อายน้องหรือไง ปี4 แล้วนะวี” ผมไม่ตอบแต่ส่ายหัวเเทน ตอนนี้ช่างแม่งมันก่อน ใครอยากพูดอะไรก็ปล่อยมันไปก่อน

“วอร์ม ถ้าวีอยากจะแก้ตัว”

“อย่าเลยวี ถ้าวีอยากทำมันจริงๆ สองปีที่ผ่านมา วีคงทำมันไปแล้ว”

“...”

“วีคงไม่ให้วอร์มเจ็บซ้ำๆแบบนั้นหรอก มันเจ็บนะวี ที่เราคบกัน แต่เราบอกใครไม่ได้ มันเจ็บที่เราพูดคำว่ารักไม่ได้ จับมือกันก็ไม่
ได้ กอดกันก็ไม่ได้ วอร์มไม่อยากกลับไปอยู่ในวงจรแบบนั้นอีกแล้ววี วอร์มอยู่กับมันมา 6 ปีแล้ว วีไม่งสารวอร์มหรือ” ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นคนร้องไห้ขึ้นมาเอง ร้องจนน่าสงสาร วอร์มเป็นคนร้องไห้ที่น่าสงสารที่สุด

“วอร์ม อย่าร้องครับ”

“วีสงสารวอร์ม ปล่อยวอร์มออกจากวงจรนี้ได้ไหม ให้วอร์มออกไปแบบนี้ไม่ดีหรอ”

“วอร์มไม่รู้หรือว่าวีเห็นแก่ตัว” ผมพูดออกไปก่อนจะมองหน้าวอร์ม ใบหน้าเรีบเฉยมองหน้าผมอย่างนิ่งๆ แววตาที่วูบไหวไปมา
ทำให้ผมเดาไม่ออกว่าวอร์มคิดอะไร

“วอร์มเจอคนที่รักวอร์มแล้ว”

“มันเป็นใคร”

“พี่ชายของแอล”

“คนที่เอาดอกไม้ให้วอร์ม”

“อืม”

“แล้ววอร์มก็รักมัน”

“...” คนตัวเล็กเลือกที่จะนิ่ง ก่อนจะหันไปอีกทาง มือผมที่จับวอร์มไว้ปล่อยมันลงให้ไปขนานกับลำตัว ผมจ้องมองใบหน้าที่ยิ้ม
ให้ผมตลอดเวลา ตอนนี้มันไม่มีใบหน้านั้นอีกแล้ว มีแต่ใบหน้าที่คอยหันหนีผม

“เขาดีไหมวอร์ม เขาดูแลวอร์มดีไหม”

“เขาใส่ใจวอร์ม เขาพาวอร์มไปกินข้าว เขาจำวันเกิดวอร์มได้ เขามารับและไปส่งวอร์ม เขาพาวอร์มไปเจอแม่ของเขา วันสำคัญ
ต่างๆเขาก็มีของมาให้วอร์ม และเขาเข้าใจวอร์ม” วอร์มระบายยิ้มออกมาน้อยๆ ก็ดีแล้ว วอร์มมีความสุขก็ดีแล้ว เขาคนนั้นทำให้
วอร์มทุกอย่าง อย่างที่ผมไม่เคยทำให้ ยอมรับก็ได้ว่าเวลา 6 ปี ผมไม่เคยทำให้ผมยิ้มได้แบบนี้เลย


“สุขสันต์วันเกิดครับวี” ปีนี้เป็นปีแรกที่เราคบกันและเป็นวันเกิดครั้งแรกของผมที่มีวอร์มทำเค้กให้ มีใครบอกไหมว่าเค้กของวอร์ม
อร่อยมาก
หลังจากนั้นทุกๆปี ผมจะมีเค้กวันเกิด และคนทำก็เป็นคนเดิมทำให้ตลอด คำอวยพรที่วอร์มมอบให้ รวมถึงคำขอพรที่วอร์มมักแย่งผมไปอธิฐานก่อนเสมอ  ผมไม่เคยเบื่อเค้กรสชาดเดิมๆ หน้าเดิมและคนทำเลยสักครั้ง จนผมเกิดการตั้งคำถามขึ้นมา ทำไมคนที่ทำให้ผมในทุกๆวัน แบบเดิมๆ ผมไม่เคยเบื่อมันเลย จนกระทั่งผมมีใครอีกคนเข้ามา ทุกอย่างมันเริ่มเบื่อ ทั้งๆที่ผมกินเเบบนี้มาแล้ว 5 ปี
“พี่วี Happy Birthday to you Happy Birthday to you Happy birthday Happy birthday to พี่วี มีความสุขมากๆนะครับ นัทขอให้พี่วีเรียนจบไวๆ อยู่กับนัทไปนานๆนะครับ” วันเกิดในปีที่ 6 ผมเลือกออกมาฉลองกับนัท ผมไม่ได้กลับเข้าห้องไปตั้งแต่เลิกเรียน
ผมคิดไว้ว่าเที่ยงคืนแล้ววอร์มคงนอนแล้ว คนตัวเล็กคงไม่รอผมหรอก แต่ผิดคาด ตอนห้าทุ่มที่อีกไม่กี่นาทีจะเที่ยงคืน วอร์มยังคงนั่งรอผมที่โซฟาเดิม เหมือนกับทุกๆปีที่ผ่านมา ใบหน้าที่ยิ้มแย้มตอนผมเปิดประตูเข้า พร้อมร่างบางที่ถือเค้กเข้ามา
“ยังไม่เที่ยงคืน วีเบาเค้กก่อนนะ แล้วอธิฐาน ปีนี้วอร์มไม่แย่งแล้ว”
“ไม่ล่ะ วีไปฉลองมาแล้ว” ผมเตรียมจะเดินเลี่ยงไปอีกทางแต่วอร์มยังคงยื่นเค้กมา
“นะนะ วอร์มอุตส่าห์ทำให้แล้ว วีชอบไม่ใช่หรือ”
“วอร์ม วีเหนื่อย”
“แค่เป่าเอง” ผมปัดเค้กในมือของวอร์มทิ้งลงพื้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง วอร์มที่มองตามเค้กที่ร่วงลงไป “วี”
“วีเบื่อแล้วอ่ะวอร์ม 6 ปี วอร์มทำแต่สิ่งเดิมๆ เค้กเหมือนเดิม รสชาดเหมือนเดิม หน้าตาเดิมๆ วอร์มคิดจะเปลี่ยนบ้างไหม”
“ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย”
“วีเบื่อวอร์มได้ยินไหม”
“ก็จริง” วอร์มก้มลงไปเก็บเค้กที่กองกับพื้นใส่ถังขยะ “มันผ่านมา 6 ปีแล้วนี่เนาะ วอร์มผิดเองที่ไม่ยอมเปลี่ยน ทั้งๆที่วีเปลี่ยนไปตั้งนานแล้ว”
“...”
“ขอโทษวีด้วย วีคงกินข้าวมาแล้ว วอร์มไปเก็บตรงนี้แล้วไปล้างจานต่อดีกว่า” ผมมองไปยังโต๊ะอาหารที่วอร์มเตรียมไว้ ถ้าให้เดา วอร์มคงรอผม แล้วยังไม่ได้กินอะไร
“กินอะไรหรือยัง”
“ดื่มนมแล้ว” เสียงเล็กสั้นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงก้มเก็บเศษเค้ก พร้อมหยิบผ้ามาเช็ดจนพื้นไม่เหลือเศษอะไร วอร์มเดินไปที่โต๊ะอาหารก่อนจะเททุกอย่างลงถัง
“...”
“สุขสันต์วันเกิดครับวี” เสียงอวยพรที่แผ่วเบาจนผมแทบไม่ได้ยิน มันเบาและหายไปพร้อมวอร์มที่หิ้วถุงขยะไปทิ้ง ผมหันไปมองจนสุดสายตา เข้าไปอาบน้ำรอนอนพร้อมวอร์ม แต่ไร้วี่แววที่วอร์มจะเข้ามาในห้อง
เวลาตี 2 ผมที่พลิกตัวไปมา มองประตูห้องนอนแต่ก็ไม่ยอมเปิดเข้ามาสักที จนผมเองต้องเป็นคนเปิดออกไป วอร์มที่นอนกอดตัวเองบนโซฟาตัวใหญ่ ไม่มีหมอน ไม่มีผ้าห่ม
“โกรธกันหรือไง หนีมานอนตรงนี้อีกแล้ว” ผมพูดเบาๆ ก่อนจะช้อนตัวคนหลับให้เข้าไปในห้องนอน วางลงเบาๆ พร้อมจูบลงไปที่หน้าผากของวอร์ม แล้วดึงมากอดเอาไว้หลวมๆ ไม่ให้วอร์มอึดอัด


“เขาดีจังเนาะวอร์ม”

“...”

“แค่ไม่กี่เดือน เขาทำให้วอร์มมากกว่าวีที่อยู่กับวอร์มมาตั้ง 6 ปี”

“อืม...พี่แทนทำให้วอร์ม แต่คนที่วอร์มอยากให้ทำให้คือวี มันเป็นวีมาตลอดเลยรู้ไหม”

“...”

“วอร์มมองอะไร มองไปทางไหน วอร์มเจอแต่วี วีที่ทำให้วอร์ม วีที่คอยดุวอร์ม วีที่ดูแลวอร์มตอนป่วย วีที่หัดทอดไข่ดาวให้วอร์ม
จนเราต้องสั่งอาหารมากินแทน” วอร์มหัวเราน้อยๆ “วอร์มจำมันได้ วอร์มอยากย้อนไปตอนเราอยู่มัธยม ตอนที่เราคบกันใหม่ๆ ที่วีไม่ต้องบอกรักวอร์ม แต่วอร์มกูรับรู้ว่าวีไม่ได้เกลียดวอร์ม วีที่จับมือวอร์มเบาๆ ตอนเรานอนด้วยกัน วีที่ดึงวอร์มเข้าไปกอดตอนวอร์มได้คะแนนไม่เต็ม10”

“วอร์ม”

“วอร์มอยากให้เรากลับไปตอนนั้น ตอนที่วอร์มมีแค่วี แล้ววีก็มีแค่วอร์ม ไม่มีน้องนัท ไม่มีการทะเลาะกัน ไม่มีวีที่ปัดเค้กวอร์มทิ้ง
ไม่มีวีที่ไล่วอร์ม ไม่มีวีคนใจร้ายคนนี้”

“วีขอโทษ”

“วอร์มต้องการวีมาตลอดเลยรู้ไหม จนวันนั้นที่วีผิดสัญญา สิ่งที่วอร์มบอกตัวเองมาตลอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วอร์มจะไม่ปล่อย
มือวี มันถึงที่สิ้นสุดแล้ว วีเลือกที่จะทำผิดสัญญา ความอดทนของวอร์มก็ถึงที่สุดแล้วเช่นกัน”



-วีรภัทร-

ความอดทนของคนมันมีขีดจำกัด ในวันที่ผมคิดว่า ไม่ว่าจะยังไงวอร์มก็ไม่มีทางไปจากผม ไม่ว่าเราจะทะเลาะกันหนักขนาดไหน วอร์มจะอยู่ข้างๆผมเสมอ แต่ผมนั่นคิดผิด ผิดมหันต์ ในวันที่ผมรู้ตัว คือวันที่วอร์มไม่อยู่กับผมแล้ว

“ทีม กูอยากคุยกับมึง”

(ตอนนี้หรือ...กูอยู่ข้างนอกว่ะ)

“ฮึก กูไม่รู้จะพูดกับใครแล้วทีม” ผมกลั้นน้ำตาสุดฤทธิ์ หลังจากเดินออกมาจากวอร์ม “รอมึงว่างก็ได้”

(ไอ้วี มึงอยู่ไหน)

“ห้อง”

(กูจะรีบไป)

ผมนั่งอยู่ที่โซฟายาว ไม่รู้ว่าควรทำอะไร ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องมานั่งจมปักอยู่ที่ที่ห้อง สายเรียกเข้าที่โชว์เบอร์ของนัท นับสิบสายผมเลือกที่จะไม่รับ ผมอยากจะกดปิดเครื่อง แต่ถ้าวอร์มโทรเข้ามาล่ะ วอร์มจะโทรหาไม่ติด ปกติวอร์มชอบโทรมาตอนสองทุ่ม เวลาที่เราไม่ได้คุยกัน

“มึงหวังอะไรของมึงว่ะวี” ผมมองเบอร์ที่อยากโทรหาใจจะขาด แต่ทำได้แค่กดปิดหน้าจอให้ไฟมันดับลง

“ไงเพื่อนรัก บอกมาจะคุยอะไร แล้วนี่สภาพมึงเป็นเหี้ยอะไรขนาดนี้”

“ทีม กูทำผิดกับคนคนนึงว่ะ”

“น้องนัท” ผมส่ายหัวทันที “หืมแล้วใคร”

“วอร์ม กูทำผิดกับวอร์ม”

“วอร์ม มึงสนิทกันหรือไง”

“กูเคยคบกัน”

“ไอ้วี มึงไม่สบายจนเพี้ยนแล้วหรือไง”

“ไม่ได้เพี้ยน”

“จะเป็นไปได้ไง อยู่มอมึงยังไม่คุยกันเลย”

“...”

“แต่เดี๋ยวนะ มึงจริงจังป่ะเนี่ย”

“กูแม่งเหี้ย ทำร้ายวอร์มซ้ำแล้วซ้ำอีก”

“ไหนเล่า” ไอ้ทีมที่นั่งลงมาข้างๆผม ก่อนจะจ้องผมด้วยสีหน้าจริงจัง ผมเล่าเหตุการณ์ปัจจุบันให้มันฟังจนหมด มือหยาบๆของ
มันเข้ามาผลักผมเบาๆ “เหี้ย มึงคบกับเขามา 6 ปี แต่ไม่เคยบอกรักวอร์มให้เขาได้ยินเลยเนี่ยนะ มึงรักจริงหรือว่ะวี ปล่อยวอร์มไป
ไม่ดีกว่าหรือ”

“ใครบอกว่ากูไม่เคยบอกรักวอร์ม” คนเป็นแฟนกัน มีหรือไงที่ผมไม่เคยบอก ใช่ผมมันไม่ใช่พวกกล้าพอที่จะบอกรักวอร์มต่อหน้า
แต่กล้าที่จะทำเลวๆต่อหน้า


“วี ปีนี้ไปลอยกระทงกันไหม ในมอมีที่ลอยกระทงด้วยนะ” วอร์มวิ่งมาพร้อมโทรศัพท์ที่โชว์รูปปโปรโมทงานลอยกระทง
“วอร์มอยากไปหรือไง”
“ใช่สิ ตั้งแต่เข้ามาเรียน วอร์มไม่ค่อยได้ไปไหนเลย วอร์มไม่ได้ทำกิจกรรมแบบวีนะ”
“ไหนมานี่ดิ” ผมกวักมือเรียกอีกคนก่อนจะดึงวอร์มลงมานั่ง ผมทิ้งตัวลงบนตัก “ขอพักเอาแรงหน่อยนะ คิดไว้เลยจะกินอะไร ตื่นแล้วไปหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยไป”
“เย้ วีน่ารักที่สุดเลย” วอร์มยิ้มออกมาน้อยๆ แต่ใบหน้าที่แสดงความดีใจนั้นออกมาเยอะจนผมอดยิ้มตามไม่ได้ มือเล็กเลื่อนมาจับหน้าของผม แล้วเปลี่ยนไปลูบผมเบาๆ “สักหนึ่งทุ่มวอร์มปลุกนะครับ”
“หกโมงก็ได้ แค่อยากนอนฉยๆ ขับรถกลัวจะง่วง” วอร์มพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะลดเสียงทีวีลง วอร์มดูหนังตาแป๋ว จ้องมองทีวี โดยไม่รู้ว่าผมยังไม่ได้หลับ มือของผมเลื่อนไปกุมมือวอร์มเอาไว้ คนตัวเล็กก้มลงมามองด้วยสีหน้าว่าไม่นอนหรือ ผมส่ายหัวแทนคำตอบ วอร์มเลยกลับไปมองทีวีต่อ ผมยังคงเล่นิ้วของวอร์มไปเรื่อยๆ จนเจ้าตัวปิดทีวี แล้วหันมาหาผมอีกรอบ
“แล้ววีบ่นว่าง่วงนะ วอร์มโกรธนะครับ”
“โกรธวีทำไม”
“พอวีง่วง วีก็อยากกลับไง แล้ววอร์มก็ยังอยากเดินต่อ แต่ไม่อยากขัดใจวี”
“อย่าบอกว่าที่ตลอดมา” คนตัวเล็กพยักหน้ายอมรับ อยากเดินต่อแล้วทำไมไม่บอก
“แต่งานนี้ไม่ยอมนะ” วอร์มกอดอกมอง “วอร์มต้องได้ลอยกระทงแล้วเดินเที่ยวก่อน”
“สัญญา งานนี้วีจะให้วอร์มเดินจนขาลากเลย”

ในงานตอนหนึ่งทุ่ม ในมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดเป็นงานลอยกระทงชั่วคราว ถูกประดับด้วยไปหลากหลายสี เป็นดวงเล็กๆตามซุ้มต่างๆ ก็มีของมาขาย ทั้งของกินของเล่น และกระทงหลากหลายรูปแบบวางเรียงรายกัน
“ลอยกระทงก่อนไหมวี แล้วค่อยไปเดินเที่ยว”
“ตามใจวอร์มสิ งานนี้วอร์มนำเลย”
“ขอบคุณครับ” มือเล็กยกขึ้นมาแตะหน้าผมเบาๆ ผมเคยบอกใช่ไหมว่าไม่ชอบให้ใครแตะหน้า เรื่องนี้วอร์มคือข้อยกเว้นวอร์มสามารถแตะหน้าผมได้ทุกเวลาถ้าต้องการ และผมไม่เคยคิดที่จะหลบด้วย
“วีร้านนี้สวย” วอร์มรีบจูงมือผมเข้าไปที่ซุ้มขายกระทง วอร์มเลือกกระทงของตัวเองก่อนจะหันมาถามผม “วีเอาอันไหนครับ” แต่ผมส่ายหน้าเเทนคำตอบ
“ได้ไง ไหนบอกตามใจวอร์มไง”
“ก็ตามใจวอร์มไง”
“วีไม่ลอยหรือ”
“วีลอยอันดียวกับวอร์มไง” คนที่กำลังจะเถียงอ้าปากค้าง ก่อนจะก้มหน้าหงุด แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว แล้วมือก็เปลี่ยนเป็นกระทงอันใหญ่ขึ้น ผมจัดการจ่ายเงินแล้วหยิบกระทงของวอร์มมาถือไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างเอื้อมไปจับมือวอร์มหลวมๆ พาวอร์มมาที่สระน้ำที่จัดไว้สำหรับลอยกระทง เราทั้งคู่จุดธูปและเทียนก่อนคนข้างๆจะนั่งลงแล้วตั้งใจอธิฐาน
เรื่องอธิฐานน่ะไว้ใจวอร์มเลย “ขอให้วีอยู่กับวอร์มนานๆ รักวีนะ” ผมยกมือถือขึ้นมากดถ่ายรูปวอร์มไว้ แล้วรีบเก็บเมื่อคนข้างๆส่งกระทงมา “อ่ะ”
“ความจริงต้องอธิฐานพร้อมกันไม่ใช่หรือ” ผมรับมาก่อนจะจับมือวอร์มมาแตะด้วย
“ขอให้วอร์มอยู่กับผมนานๆ ผมรักวอร์มนะ” ผมพูดในใจ เมื่อลืมตาขึ้นมามองหน้าวอร์มที่กำลังจ้องผมอยู่ คงไม่พ้นว่าผมอธิฐานอะไรอีกแน่ๆ
“อธิฐานไรหรือ”
“ไม่บอก ถ้าบอกก็ไม่สมหวังสิ”
“ได้ไงอ่า เมื่อกี้วีได้ยินที่วอร์มพูดแล้ว จะเป็นจริงไหมเนี่ย” คนที่บ่นไปยกกระทงไป ได้แต่โวยวายกับตัวเอง เป็นภาพที่ผมหาได้ยาก
“ต้องเป็นจริงสิ” เพราะผมก็ขอแบบเดียวกับวอร์ม ถ้าวอร์มไม่เป็นจริง ของผมก็ต้องเป็นจริงถูกไหม


“ไอ้วี มึงบอกว่ารักวอร์ม แต่เขาไม่เคยได้ยินเลยเนี่ยนะ”

“กูไม่รู้จะทำยังไงนี่หว่ามึง”

“มึงควรคิดได้แล้วนะวี ว่าที่มึงทำอยู่ตอนนี้เป็นเพราะมึงรัก หรือมึงแค่รู้สึกไม่ชินที่วอร์มไม่ได้อยู่กับมึง หาคำตอบให้ตัวเอง ก่อนที่จะสายไป”

“กูรัก” ผมตอบได้แบบไม่ต้องลังเล ผมจะไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว

“ตอบไวแบบนี้มึงคิดดีหรือยังวี”

“คิดดิกูคิดมาตลอดนั่นแหละ แต่มีนพึ่งปรากฏตอนวอร์มออกไปแล้ว”

“ก็ดี กูจะช่วยมึงเอง แต่มึงต้องจัดการทุกอย่างให้จบ กับน้องนัทอะไรนั่นมึงควรเลิกสักที”

“ถ้าวอร์มไม่ให้อภัยกู” ผมกลัว กลัวไปหมด

“นั่นเป็นส่งที่มึงกับวอร์มทำมาสิ้นสุดแล้ว”


ออฟไลน์ waterway_may

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ไม่เคย (ไม่รัก) ตอนเดียวจบ
«ตอบ #3 เมื่อ29-10-2019 15:21:22 »


ผมเดินเข้ามาในคราสเรียนเป็นคนเเรกของเซคชั่น ผมต้องการมาเจอวอร์มที่นี่ ในเวลาที่ไม่ค่อยมีคน และก็เป็นอย่างที่ผมคิด เมื่อวอร์มเดินเข้ามาพร้อมแอล ใบหน้าที่ดูอวบอิ่มขึ้น สดใสขึ้น ทำให้ผมอยากจะเข้าไปคุย คุยให้รู้เรื่องไปเลย

“แหม เดี๋ยวนี้พี่กูมารับ ไปส่งทุกวัน ดูเหมือนเพื่อนกูจะมีความสุข เมื่อไหร่จะคบสักทีว่ะ” แอลที่พยายามพุดใหผมได้ยิน เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาแอลไม่ทักทายผมแต่กับมองหน้าผมเหมือนไม่พอใจ แอลคงรู้เรื่องผมกับวอร์มแล้ว

“เสียงดังทำไมคุยกันแค่นี้” วอร์มยังคงดุเบาๆ

“วอร์มมึงนี่มัน…” แอลที่กำลังบ่นเพื่อนตัวเอง จู่ๆไอ้ทีมก็เดินเข้ามาลากแอลออกไปจากห้อง พร้อมส่งสัญญาณให้ผมเข้าไปคุยกับอีกฝ่ายที่ทิ้งตัวลงแล้วหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน “ไอ้ทีมปล่อยกู๊…”
เมื่อทางสะดวก ผมเดินตรงเข้าไปหาวอร์ม หยุดอยู่ตรงหน้า มองวอร์มที่กำลังช้อนตาขึ้นมามองผมอย่างสงสัย

“มีอะไรหรือ”

“วีอยากคุยกับวอร์ม ถ้าครั้งนี้มันเป็นไปไม่ได้ วีจะไม่ฝืนแล้ว วียอมที่จะปล่อยวอร์มไปจริงๆ”

“วี”

“ฟังก่อนได้ไหม” วอร์มหยุดแล้วมองผมอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยังยอมฟังกัน “วีขอโทษ ในทุกๆเรื่องที่ผ่านมา วีรู้ว่ามันสายไป วีรู้ว่า
วอร์มมีคนอื่นกำลังเข้ามาในใจ แต่วอร์มรู้ไหมวีน่ะ บอกรักวอร์มทุกๆวันเลยนะ ถึงวอร์มจะไม่ได้ยินแต่วีบอกวอร์ทุกวันเลย”

“...”

“ในวันสงกรานต์ที่เราไปไหว้พระกัน วีอธิฐานแบบที่วอร์มบอกด้วยนะ วีขอให้วอร์มอยู่กับวีในทุกๆวัน และทุกๆปี ในวันลอยกระทง
ปีแรกที่เราไปในมอ วีบอกรักวอร์มผ่านกระทง ในวันที่วอร์มโวยวายกลัวว่ามันจะไม่เป็นจริง แต่วอร์มรู้ไหมภาพวอร์มตอนนั้นยังคงฝังลึกอยู่ในนี้” ผมชี้ไปที่หัวใจตัวเอง “และมันยังคงอยู่ในนี้” ผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์รูปวอร์มที่กำลังอธิฐาน

“วีถ่ายตอนไหน”

“ตอนที่วอร์มแย่งกระทงไปอธิฐานคนเดียวน่ะสิ” ผมพูดติดตลก

“วี”

“จำวันที่เราไปเที่ยวกันได้ไหม วันที่วอร์มหนีวีออกไปเดิตลาดไนท์ แล้วไม่ยอกมปลุกกัน วีตามหาวอร์มแทบแย่ เดินหาในทุกๆที่
แต่พอวอร์มกับมา วีต้องนั่งนิ่งๆ เพื่อให้วอร์มรู้ว่าวีโกรธ แต่วอร์มกับคิดว่าวีพึ่งตื่น วียังจำได้อยู่เลยนะ”

“ก็วีพึ่งตื่น”

“วีพึ่งบอกเมื่อกี้ว่าวีตามหา ไม่ฟังวีอีกแล้ว” ผมยกมือขึ้นไปดึงแก้มคนขี้เถียง

“เจ็บนะ”

“วอร์ม ถ้าวีอยากจะขอโอกาส”

“วี วอร์มไม่อยากเจ็บอีแล้ว”

“วันเดียวได้ไหม ถ้ามันไม่ใช่จริงๆ วีบอกแล้วไงว่าวีจะไม่ฝืน พรุ่งนี้วันเกิดวอร์ม ขอให้วีได้ทำอะไรสักอย่าง วีรู้ว่ามันเทียบกับที่วอร์มทำให้ไม่ได้ แต่วีก็อยากทำให้”

“กับน้องนัทเป็นยังไงบ้าง” ผมถอนหายใจออกมายาวๆ คุยกันอยู่เรื่องของเราทำไมไปเรื่องของนัทได้

“วอร์ม” ผมเรียกเบาๆ วอร์มหัวเราะออกมาก่อนจะแตะหน้าผมอย่างเคยชิน

“แค่อยากรู้”

“ไม่ได้คุย ไม่ได้คบและจะไม่ทำอีกแล้ว”

“น้องจะยอมหรือ คุยกันมาเป็นปีแล้วนะ”

“ไม่สนแล้ว ต่อไปนี้ วียอมใจร้ายกับทุกคน ยกเว้นวอร์ม อย่างน้อยก็แค่วอร์มคุยกับวี”

“ไม่มีคำว่าตลอดไป วีรู้ใช่ไหม”

“ขอแค่เวลาสั้นๆก็ได้วอร์ม วีขอแค่เวลาสั้นๆ ถ้าพรุ่งนี้วีไม่ใช่แล้ว วอร์มบอกวีได้เลยนะ”

“อื้ม” วอร์มตอบรับเบาๆ ก่อนจะยิ้มให้ผมเหมือนทุกครั้ง รอยยิ้มที่ดูไม่ฝืน กับมือที่ยังลุบแก้มผม ยิ่งทำให้ผมคิดถึงวอร์มในทุกๆวัน ที่ผมมีวอร์ ต่อให้หลังจากพรุ่งนี้ผมไม่มีวอร์มแล้ว ผมก็จะยอมรับมันจากใจจริง


“วี” เสียงเรียกที่ตะโกนลั่นบ้านทำให้ผมต้องรีบลุกออกจากเตียงไป “แอบทำอาหารอีกแล้วหรือไง”
“เปล่า” ผมรีบบ่ายเบี่ยง ใครจะกล้าตอบว่าทำล่ะ วอร์มน่ะ ไม่ยอมให้ผมทำอาหารตั้งผมทอดไข่ไหม้ตอนวอร์มป่วย
“เปล่าอะไร นี่ห้องครัวเละยิ่งกว่าผ่านสงครามโลกอีกนะ จะทำให้น้องนัทหรือไง”
“แค่อยากลองทำ”
“น้องได้เป็นมะเร็งกันพอดี” คนที่บ่นก็ยังคงบ่น โดยไม่ถามผมเลยว่าผมฝึกทำอาหารทำไม ไม่ใช่เพราะทำให้นัทหรอก รายนั้นไม่ชอบอะไรที่ผมทำให้เลยสักอย่าง ที่ผมมาทำอาหารเพราะคนที่บ่นผมตั้งหาก เวลาไหนที่วอร์มป่วย วอร์มจะได้คิดได้ว่า ยังมีผมที่คอยดูแล ไม่ใช่เอะอะๆ สั่งอย่างเดียว ผมอยากดูแลวอร์มบ้าง อยากทำให้วอร์มบ้างเท่านั้นเอง เท่านั้นจริงๆ



-วีรภัทร-

พรุ่งนี้เป็นวันหยุด และยังคงเป็นวันเกิดของวอร์ม ผมโทรตามเพื่อนรักอย่างทีมให้เข้ามาสอนทำเค้กให้ทันทีหลังเลิกเรียน
เค้กช็อกโกแลตคือสิ่งที่วอร์มโปรดปรานมากที่สุด ผมเลยเหมาคิทแคทมาเพื้อตกแต่งให้วอร์ม ได้กินในสิ่งที่ชอบวอร์มต้องอารมณ์ดี

"ทำเค้ก มึงแน่ใจนะวี" ตอนแรกก็แน่ใจแหละ แต่พอมันพูดไม่แน่ใจเลย "ซื้อไหม แค่มึงทอดไข่ยังไหม้เลย"

"ก็มีมึงไงทีม"

"ทำมากี่อย่างแล้วเคยสำเร็จไหม ครั้งก่อนจะเผาครัวกู เพราะอยากทำอาหารให้วอร์ม"

"ก็วอร์มสั่งห้ามกูให้ทำในห้องไง" ผมเถียงขาดใจ

"รักเขามากขนาดนั้น เขาจะกลับมาไหมน้อ"

"..." จี้ใจดำให้สุด

"ทำเลวกับเขาไว้เยอะ คิดว่าเค้กแค่นี้เขาจะกลับมาไหม"

"ไม่มาก็ไม่เป็นอะไร ขอแค่กูได้ทำให้วอร์มก็พอ" ผมหันไปสนใจเค้กที่เริ่มจะทำก่อนจะ คิดถึงใบหน้าวอร์มที่กำลังอบขนม



"วันนี้ วอร์มเสนอเค้กนมสดไม่หวาน สำหรับคนที่พึ่งเเข่งกีฬาเสร็จ"
"เอาวางไว้ก่อน" หน้างอๆของวอร์มที่แสดงออกมาแว๊บเดียวก็มันจะหายไปเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่แสนจะมีความสุขออกมา "เอา
พายใส่ตู้เย็นให้วีหน่อย นัทซื้อมาให้น่ะ"
"ได้ดิ" วอร์มรับมันไปถือเอาไว้ ส่วนตัวผมเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ เตรียมตัวมากินเค้กที่วอร์ม ทำให้ อากาศแบบนี้เค้กของวอร์มจะช่วยเยียวยาใจของผมและจะช่วยให้ผมหายเหนื่อยได้เสมอ
"วอร์มไปข้างนอกก่อนนะวี" เสียงตะโกนบอก หายไปพร้อมเสียงปิดประตู ผมใช้เวลาสักพัก หลังอาบน้ำก็เดินมาที่ตู้เย็น มองหาเค้กที่ปกติจะตั้งอยู่หน้าสุดเพื่อให้ผมหยิบออกมาง่ายๆ  แต่วันนี้กลับไม่มีอยู่
"ไปไหนล่ะ" ผมเหลือบตาลงไปมอง เค้กที่อยู่ในถังขยะ ถ้าไม่ผิดเป็นก้อนเดียวกันที่วอร์มทำให้ผมเมื่อกี้ ก่อนที่ผมจะไปอาบน้ำ ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปตามหาวอร์มที่ด้านล่าง คนตัวเล็กที่กำลังยืนมองแสงไฟในเมืองยามค่ำคืน มแงไปอย่างไร้จุดหมาย มองดูแว๊บเดียวก็รู้ วอร์มกำลังร้องไห้
"วอร์ม มายืนตากลมทำไม"
"อ้าววี มาทำไรข้างล่าง"
"มา..เอ่อ"
"ช่างมันเถอะ ขึ้นห้องไปไป๋" ผมมองหน้าวอร์มอย่างไม่เข้าใจ มาถึงก็ไล่เลย
"ไม่ไปพร้อมกันหรือ"
"วอร์มขอยืนตรงนี้สักพัก"
"ไปยืนที่ระเบียงห้อง" ผมไม่ฟังคำเถียงของวอร์ม แต่จับมือวอร์มแล้วกระตุกให้เจ้าตัวตามมา
"เค้กยังไม่ได้กินเลยนะ"
"มันร่วงน่ะ แหะแหะ" เจ้าตัวยิ้มจนตาหยี ที่แท้ก็ร่วงนี่เอง "วันหลังทำให้ใหม่นะ"
"อื้อจะรอ"




"อ้าวยิ้มๆ ใส่น้ำตาลได้แล้ว" ไอ้ทีมฟาดผมทีหนึ่งแล้วก็ส่งน้ำตาลมาให้

"ใส่ไข่เลยไหม"

"คนให้เข้ากันก่อน"ผมทำตามไอ้ทีมจนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการตกแต่ง ไอ้ทีมช่วยผมแกะซองคิทแคทก่อนจะหักมันออกเป็น
ชิ้นๆ เพื่อมาตกแต่ง ผมมองมันและตั้งใจทำจนสุดฝีมือ และได้แต่หวังว่าวอร์มจะชอบมัน

"เสร็จแล้ว"

"เหนื่อยชิบหายสอนคนอย่างมึง"

"อย่าบ่นได้ป่ะ" ผมบอกไปก้อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาแล้วกดถ่ายรูปเอาไว้

"งั้นกูกลับก่อน มีธุระว่ะ"

"ขอบใจมึงมาก" ผมโบกมือลาไอ้ทีมแล้วยกเค้กไปใส่ตู้เย็นทันที

ผมรีบกดส่งข้อความหาอีกคนเพื่อตัดความสัมพันธ์ อย่างน้อยถ้าไม่มีวอร์ม ผมก็ขอไม่มีใคร

"นัท พี่ขอโทษแต่เราหยุดไว้แค่นี้เถอะ"

ตลอดเวลานัทไม่ได้ควงแค่ผม ผมรู้ เขาเลยไม่ถามหาความสัมพันธ์กับผม กับไม่เคยร้องขออะไรนอกจากอีกคนไม่ว่างเขาเลยมา
หาผม ผมกับนัทนิสัยเหมือนๆกัน ทำเพื่อให้อีกคนของตัวเองเสียใจ แต่นัทแล้วเขาไม่ได้สูญเสียคนรักไปแบบผม



ในเวลาเช้า ผมรีบตื่นและแต่งตัวออกไปรับวอร์มที่หน้าห้อง วอร์มยังคงไม่บอกว่าผมว่าตัวเองพักที่ไหน และผมก็ไม่อยากก้าวก่ายชีวิตวอร์มมากนัก ผมกลัววอร์มจะลำคาญผม

“วันนี้วีตื่นเช้าจังครับ” วอร์มใส่ชุดสบายๆเหมือนทุกครั้ง เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสันพอดีเข่า

“ตื่นรอวอร์ม กลัววอร์มไม่มา”

“สัญญากันเเล้วไง” วอร์มเดินเลี่ยงเข้ามาในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟาตัวเดิมที่ตัวเองชอบนั่ง คนตัวเล็กมองไปรอบๆห้อง

“อยากกลับมาอยู่ไหม” ผมเอ่ยถามวอร์มที่กำลังมองรอบๆห้อง คนตัวเล็กหันมามองหน้าผมแล้วส่ายหัว ผมก็ทำใจไว้แล้วว่ายังไง
วอร์มก็ไม่กลับมาหรอก

“วี วางแผนยังไงบ้าง”

“วีไม่ได้วาง วีอยากตามใจวอร์ม วันนี้วอร์มอยากทำอะไรไหม”

“หิวหรือยัง”

“อื้ม หิวแล้ว” วอร์มที่ดูคล่องแคล่วเวลาที่อยู่ในครัว คนตัวเล็กเปิดตู้เย็นก่อนจะหยิบของสดออกมาเพื่อเตรียมทำอาหาร ท่าทางที่ดูมีความสุขของวอร์มทำให้ผมไม่อยากขัด แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง วอร์มไม่ฮัมเพลง ไม่เต้นหน้าเตา มีแต่ร่างบางๆยืนหั่นอาหารอย่างนิ่งเฉย

คิดถึงวอร์มในตอนนั้น


...วอร์มร้องเพลง…
“วอร์ม”
“See the little bunnies sleeping till it’s nearly noon
Shall we wake them with a merry tune?
They`re so still, are they ill?” **
ผมยังคงมองวอร์มที่กำลังเต้นตามเพลงที่ตัวเองร้อง
“No! Wake up bunnies!” จู่วอร์มก็กระโดดเข้ามาหาผม พร้อมดึงผมเข้าไปเต้นด้วย ตามท่าของตัวเอง
“Hop little bunnies, hop, hop, hop
Hop little bunnies, hop, hop, hop
Hop little bunnies, hop, hop, hop
Hop little bunnies, hop and stop” แล้วตัวเล็กก็หยุดหัวเราะแล้วเข้ามากอดผมไว้
** Sleeping Bunnies
“เพราไหม”
“วอร์มร้องเพลงอะไร”
“Sleeping Bunnies ไง วีไม่เคยฟังหรอ”
“เคยฟังจากวอร์มนี่แหละ หาเพลงมาร้องแต่ละวัน”
“เพราะออก”



“See the little bunnies sleeping till it’s nearly noon” ผมเริ่มร้องเพลงที่วอร์มเคยร้อง แต่ดูเหมือนว่าวอร์มจะแค่หันมายิ้มแล้วหันไปทำกับข้าวต่อ ผมจึงหยุดร้องเพลงแล้วนั่งรอวอร์ม

“ไม่ได้เรื่องเลยเนาะ วันเกิดวอร์มทั้งทีวอร์มต้องมาทำอาหารให้วีกินอีก”

“เสร็จแล้ว วอร์มไปรับสายพี่แทนก่อนนะ” คนตัวเล็กวางอาหารไว้ก่อนจะเดินไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ผมทำได้แค่มองตามวอร์มออกไป มองดูวอร์มที่ยิ้มและหัวเราะตลอดการคุยกับคนของวอร์ม ซึ่งผมไม่เคยทำให้วอร์มได้เลย ผมไม่เคยทำให้วอร์มยิ้มได้เลย
ผมเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างลวกๆเมื่อวอร์มเดินเข้ามา

“ทำไมวีตาแดง”

“เมื่อกี้เหมือนอะไรเข้าตาวีก็ไม่รู้ เลยขยี้”

“วอร์มเคยบอกวีว่าไง ห้ามขยี้ตา” คนตัวเล็กรีบเดินเข้ามาหาผมทันที ก่อนจะตีแขนอย่างที่เคยทำ เอาตัวเองนั่งลงบนหน้าขาผม
แล้วขยับตาเองเข้ามาดูที่ตา

“วีตาแดงจังครับ” วอร์มรีบเดินมาหาผมทันที เมื่อกี้ยังอยู่หน้าเตาอยู่เลย
“วีเเสบตา”
“ขยี้อีกแล้ว” มือบางฝาดลงบนท่อนแขนก่อนจะหาผ้าผืนเล็กๆมาเช็ด “หยอดยาหน่อยนะวี จะไดไม่อักเสบ”
“วอร์มหยอดให้วีหน่อยนะ”
“ครับ ปกติวอร์มก็ทำให้” ฝ่ามือที่แตะลงแก้มผมเบาๆ ก่อนจะลุกไปหายามาหยอด


วอร์มก็ยังเป็นวอร์ม ที่ห่วงทุกคน กลัวทุกคนจะเจ็บแต่ตัวเองเจ็บได้อดทนได้งั้นหรือ
ยิ่งผมเห็นวอร์มมีความสุขแบบนี้ ผมยิ่งไม่อยากดึงวอร์มให้มาอยู่กับผมเลย

“ยาอยู่ไหนครับวี”

“ไม่ต้องหรอก วีไม่ได้ขยี้แรง”

“วีไม่ดูแลตัวเองเลย จะไม่ให้วอร์มห่วงได้ยังไง”

“กลับมาดูเเลวีสิวอร์ม” ทุกอย่างในห้องดูเงียบกว่าปกติ ผมเลยต้องเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้วอร์มหนักใจ “ไหนๆวันนี้ก็วันเกิดวอร์ม
แล้ว ไปดูหนังกันไหม”

“ไม่อยากไปเลย”

“งั้นไปเดินเล่นไง วอร์มชอบเดินเล่น”

“ยังเช้าอยู่ ออเย็นนี้วอร์มมีนัดกับพี่แทน วีไปกับวอร์มนะ”

“ได้สิ” ผมตอบรับวอร์มก่อนคนตัวเล็กจะยิ้มให้ผมอย่างทุกครั้ง

“วอร์ม”

“ครับวี”

“สุขสันต์วันเกิด” ผมหยิบรูปที่ใส่กรอบมาให้วอร์ม เป็นรูปที่วอร์มกำลังอธิฐานในวันลอยกระทงนั่นแหละ “วีอยากให้วอร์มมีความสุขมากๆ อย่าเจ็บ อย่าร้องไห้อีกเลยนะครับวอร์ม”

“วี”

“ช่วยฟังเพลงที่วีอยากร้องให้ได้ไหม”

“ไปหัดร้องเพลงมาหรือไง”

“มอบให้วอร์มไง”

“อ่ะฟัง”

“อยากจะบอกว่าฉันเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย

ใส่ใจดูแลเธอสักนิดก็ไม่เคย .... ไม่เคยเลย

แต่เธอคือเรื่องที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้น­กับฉัน

ฉันรู้ว่าเธอเหมาะสมคู่ควรกับสิ่งที่ดีกว่­า

วันที่สับสนรู้ไว้ว่าเธอนั้นมีค่า

โฉมงามที่ใครเค้าตามใฝ่หา

อยู่ที่ใดใครๆก็ตามไขว่คว้า

อยากจะบอกว่าฉันเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย

ใส่ใจดูแลเธอสักนิดก็ไม่เคย .... ไม่เคยเลย

วันๆก็เอาแต่เมาอยู่อย่างนั้น

ฉันนั้นอาจเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดของเธอ

แต่เธอคือปาฎิหาริย์ที่ฉันไม่เคยพบเจอ

ฉันรักเธอ .... โปรดอยู่ดูแลคนเมาคนนี้ตลอดไปจะได้ไหม”***

***best thing illslick

 ผมร้องจบก็พุ่งเข้าไปกอดวอร์มไว้ นี่อาจจะเป็นกอดสุดท้ายที่ผมมอบให้วอร์มได้ และอาจเป็นกอดสุดท้ายที่ผมมีสิทธิ์กอดวอร์ม

“วีครับ”

“ขอวีอยู่แบบนี้สักพักนะวอร์ม แล้วหลังจากนี้ วอร์มจะเดินออกไปก็ได้” คนในอ้อมกอดพยักหน้ารับ ผมอยากจะซึมซับอ้อมกอดนี้
ไว้ให้นานที่สุด ผมอยากจะกอดวอร์มให้นานที่สุด ให้นานกว่า 6 ปีที่ผมได้โอกาสแต่ผมไม่เคยใช้มันให้คุ้ม

“...”

“อยากกลับยัง” ผมถามวอร์มหลังคลายกอดออกมา “ให้วีไปส่งไหม”

“สัก 1 ทุ่มค่อยไปก็ได้ วีขอวันนี้ 1 วันไม่ใช่หรือ”

“กลัววอร์มอึดอัด”

“...”

“ไปนอนกันเถอะ หน้าวียังง่วงอยู่เลย” ผมมองหนาวอร์มอย่างไม่เข้าใจ “วอร์มจะนอนด้วย”

ผมเผลอยิ้มออกมากับความใจดีของวอร์มอีกแล้ว วอร์มที่ชอบใจดี เป็นแบบนี้อีกแล้ว



1 ทุ่มตรง ผมขับรถมาส่งวอร์มที่ร้านอาหาร น่าจะเป็นที่ที่วอร์มนัดกับหมอแทนเอาไว้ วอร์มยังไม่ยอมให้ผมกลับ ดึงผมลงมานั่งรอที่โต๊ะ โดยวอร์มยังสั่งอาหารไว้ให้ผมกินระหว่างรอ

ถามว่าเจ็บไหม ก็เจ็บแหละ แต่ผมอยากให้วอร์มมีความสุขแล้ว ไหนๆก็วันเกิดวอร์มแล้วตามใจให้ตัวเองเจ็บสักวันจะเป็นอะไร วอร์มทนเจ็บมากี่ปี ยังได้เลย ผมเเค่นี้เอง ไม่เท่ากับที่วอร์มเจ็บเลยสักนิด

"สุขสันต์วันเกิดครับวอร์ม" ผมมองบุคคลที่สามเดินเข้ามาในร้านอาหารพร้อมเค้กก้อนใหญ่ปักเทียนสุดสวยไว้ เดินถือเข้ามาหา
วอร์มที่นั่งอยู่กับผม

เจ้าของวันเกิดรู้ตัวเองดีรีบลุกไปหาพร้อมอธิฐานในใจ เป่าเทียนทุกเล่มให้ดับหมด โดยไม่สนใจว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้

"ขอบคุณครับพี่แทน" เจ้าตัวยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่เคยยิ้ม ยิ้มมากกว่าตอนที่อยู่กับผม

"พี่ขอให้วอร์มมีความสุขมากๆนะ" มือของเจ้าของเค้ก เอื้อมมือมาลูบผมวอร์มเบาๆ แล้วส่งยิ้มให้กัน

ผมไม่อาจมองภาพนั้นได้นาน สมองและขาของตัวเองค่อยๆขยับลุกออกมา มองเค้กที่วางอยู่ข้างๆ แล้วยกมันวางไว้ตรงนั้น วอร์ม
จะเห็นมันหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ตอนนี้หมดเวลาของผมแล้ว หมดวันเกิดวอร์ม หมดสัญญาที่ให้ไว้กับวอร์ม ผมจะไม่ฝืนถ้ามันไม่ใช่

ผมรู้แล้วว่าตอนนี้มันไม่ใช่ วอร์มที่กำลังสวมกอดอีกคน มันยิ่งทำให้ผมรู้ว่า เวลาที่เราคบกันมาต่อให้นานแค่ไหน มันก็ทำให้เห็นว่าถ้าไม่ดูแล ในก็พร้อมจะไปเสมอ

ผมยิ้มตามรอยยิ้มวอร์ม ถึงแม้ว่าตาของผมมันจะมีน้ำใสๆไหลออกมา

ถึงเวลาที่วีจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับวอร์มแล้ว หายไปแบบไม่ต้องลากัน

ผมเก็บของทุกอย่างใส่ในมือ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปเงียบๆ ตรงนั้นวอร์มมีคนดูแลแล้ว หมดห่วงได้แล้ววี

"มีความสุขจริงๆแล้วนะวอร์ม"

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
Re: ไม่เคย (ไม่รัก) ตอนเดียวจบ
«ตอบ #4 เมื่อ29-10-2019 16:38:01 »

สมน้ำหน้าจริง ๆ นะ

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ไม่เคย (ไม่รัก) ตอนเดียวจบ
«ตอบ #5 เมื่อ29-10-2019 21:05:23 »

:z6: ให้วี
วอร์มทนสภาพแบบนั้นได้ยังไงตั้งหกปี

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ไม่เคย (ไม่รัก) ตอนเดียวจบ
«ตอบ #6 เมื่อ29-10-2019 22:44:52 »

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ไม่เคย (ไม่รัก) [END]
«ตอบ #7 เมื่อ31-10-2019 13:26:16 »

จบแล้วหรอ  แต่ก็สมน้ำหน้า ใจร้ายกับเค้าก่อน ใจร้ายมากๆด้วย แล้วมาหาว่าวอร์มใจร้ายอีก ตัวเองบอกรักในใจแล้วแล้ววอร์มจะรู้มั้ย
หน่วงๆ ชอบจัง

ออฟไลน์ Fufufeel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ไม่เคย (ไม่รัก) [END]
«ตอบ #8 เมื่อ04-11-2019 19:05:58 »

ให้วอร์มไปเจอคนที่ใส่ใจวอร์มจริงๆก็ดีแล้ว ใครจะอยู่กับคนที่ทำร้ายซ้ำๆอะ อ่านแล้วเจ็บแทนวอร์มเลย

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: ไม่เคย (ไม่รัก) [END]
«ตอบ #9 เมื่อ29-05-2020 01:15:14 »

เออไปเถอะวี ให้วอร์มเจอคนดีๆรักจริงแท้แน่อน ไม่เมินไม่กั๊กกันแบบนั้น สนุกอ่ะ หน่วงดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ไม่เคย (ไม่รัก) [END]
« ตอบ #9 เมื่อ: 29-05-2020 01:15:14 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด