[Shot story] เรื่องสั้นๆของนาคกะครุฑ♡ ╹อัพตอน ๒╹ ๒๙.๑๐.๖๒
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Shot story] เรื่องสั้นๆของนาคกะครุฑ♡ ╹อัพตอน ๒╹ ๒๙.๑๐.๖๒  (อ่าน 2552 ครั้ง)

ออฟไลน์ ศศิชา.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



**********************************************

╰(*´︶`*)╯♡ เรื่องยาวที่กำลังออนแอร์
... แสงสว่างของติ (Drama&Mpreg) ...
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2019 19:06:41 โดย ศศิชา. »

ออฟไลน์ ศศิชา.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Shot story - เรื่องสั้นๆของนาคกะครุฑ


     ผมนั่งจ้องหน้ากระดาษที่ว่างเปล่ามาได้ร่วมครึ่งชั่วโมง โดยมีซาวน์ดเป็นเสียงติดบิ๊กไบค์แต่ไม่ขับออกไปสักทีมาได้ร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วเช่นกันอยู่เป็นเพื่อน

     เพื่อนบ้านฝั่งขวาคือพ่อหนุ่มเซอร์ขับบิ๊กไบค์ที่ไม่รู้ว่าทำอาชีพอะไร วันๆอยู่ติดบ้านไม่ต่างจากผม ว่างๆก็ติดเครื่องบิ๊กไบค์เล่นเหมือนไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี แต่ที่แน่ๆตัดอาชีพรับราชการไปแล้วหนึ่งด้วยรอยสักพร้อยทั่วตัวบ่งเอกลักษณ์ความอินดี้เฉพาะบุคคล

     ส่วนเพื่อนบ้านฝั่งซ้ายคือหมาพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ 3 ตัวที่เป็นมิตรกับทุกคนยกเว้นยามประจำหมู่บ้าน ได้ยินเสียงจักรยานปั่นผ่านไม่ได้เป็นต้องเห่ากรรโชกรับจนน่าปวดหัว มีข้อดีอยู่อย่างคือในวันนั้นถ้าอยากรู้ว่ายามอู้ไม่อู้ให้เงี่ยหูฟังเสียงเห่าดูก็แล้วกัน

     ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์มีเจ้าของ แต่เจ้าของของพวกมันไม่ค่อยอยู่ติดบ้านสักเท่าไหร่ นานทีจะมานอนค้างสักคืนสองคืนแล้วก็หายยาวไปเป็นสัปดาห์

     ผมคิดว่าพวกมันคงจะต้องเหงาน่าดู ...แต่ผมก็ไม่ได้มีเวลาว่างขนาดจะไปนั่งเล่นเป็นเพื่อนหมาเพราะความสงสารหรอก

     ผมเหม่อลอยมองนาฬิกาติดผนังเหนือโน้ตบุ๊คขึ้นไป ผ่อนลมหายใจแล้วลมหายใจเล่า....

     ...เดดไลน์จ๋า...

     ...ลาก่อนจ้า...

     ผมมีอาชีพเป็นนักเขียนครับ นักเขียนที่เริ่มจะไส้แห้งตามคำสบประมาทของผู้ชายที่เป็นพ่อของพ่อ

     ก็ปู่นั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าตัวเองจะลำดับเยอะให้ยุ่งยากไปเพื่ออะไร

     ผมเคาะปากกาขนาด .38m หมึกลื่นยี่ห้อโปรดบนหน้าปกหนังสือจดโน้ตสีน้ำตาลอ่อน เป็นสมุดโน้ตเล่มที่เท่าไหร่แล้วผมเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน แรกๆผมเคยเขียนลำดับเลขแปะไว้หน้าปกอยู่ แต่หลังๆเป็นเพราะเริ่มขี้เกียจจนเกินไปเลยทำให้แปะเลขบ้างไม่แปะเลขบ้าง ผลสุดท้ายเล่มหลังๆมานี้ไม่เคยแปะเลขเรียงลำดับความคิดเหมือนกับเล่มก่อนๆเลย เลยทำให้บางอย่างออกจะเรียงมั่วซั่วกันอยู่บ้าง

     ครับ ผมหมายถึงสมองที่กำลังจะขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงของผมนี่ล่ะ ทั้งที่ควรจรดนิ้วบนแป้นพิมพ์เพื่อบรรยายฉากจบของนิยายให้เสร็จสมบูรณ์สักที กลับเอาแต่นั่งคิดมั่วซั่วปล่อยเวลาไว้แล้วออกนอกทะเลไปไกล....

     ...น้ำ...

     ร่างกายมีปฏิกิริยาตามคำสั่งของสมองทันที ผมกดเซฟ... ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าจะเซฟไปทำไมในเมื่อมันยังคงเป็นหน้ากระดาษที่ว่างเปล่าอยู่...ลุกขึ้นจากเก้าอี้เกมมิ่งที่ซื้อมาตอนลดราคาวันที่ 11 ของเดือน 11 ในเว็บไซต์ช้อปออนไลน์ลาซานญ่า ปกติแล้วถึงจะขี้เกียจแค่ไหนแต่ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ผมมักจะขับรถออกไปเลือกและต้องลองด้วยตัวเองเท่านั้น

     แต่เป็นเพราะตอนนั้นคำว่า Sale ตัวอักษรสีแดงมันล่อตาล่อใจเกินไปจริงๆ แถมเวลาซื้อกับจำนวนของที่เหลืออยู่ยังสุดจะจำกัด ด้วยความกลัวของหมดเร็ว...ไม่รู้ตอนไหนที่มือเผลอกดซื้อพร้อมโอนเงินออกไป...

     แบบนี้จะเรียกว่าเป็นทาสการตลาดได้หรือเปล่า?

     ผมเดินลงไปชั้นล่างตรงเข้าห้องครัว หยิบแก้วประจำที่อันนี้ไม่ใช่ของเซลแต่เป็นของขวัญจับฉลากเมื่อ 2 ปีก่อนที่ทางสำนักพิมพ์จัดเลี้ยงให้เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ เหมือนกับจะรู้ว่าผมต้องจับได้ของตัวเองแน่ๆ อีกฝ่ายเลยยัดแต่ของชอบของผมซึ่งล้วนแต่เป็นลายการ์ตูนแมวสีชมพูลิขสิทธิ์มาให้จนเต็มกล่อง

     แก้วกระเบื้องในมือผมแล้วหนึ่ง

     เสื้อยืดที่ผมใส่อยู่เป็นสอง

     แผ่นรองเมาส์...ปลอกหมอนอิง...สมุดโน้ตสองเล่ม
........รวมทั้งกระดาษพับรูปหัวใจเล็กๆสีชมพูหวานแหววอีกเต็มกล่อง ที่ตอนนี้ผมย้ายนำไปใส่ไว้ในโถแก้วตั้งวางโชว์อยู่บนโต๊ะคอมแล้วนั่นล่ะ

     โต๊ะคอมอยู่ในห้องนอน แล้วจะโชว์ใครได้ล่ะ?

     ผมกดน้ำจากเครื่องทำน้ำเย็นแล้วดื่มน้ำเย็นๆลงคอจนเริ่มรู้สึกเย็นชุ่มชื้นขึ้นมาบ้าง

     ในสมองของผมตอนนี้มีแต่คำว่า ‘เย็นๆ เย็นโว้ย’

     เพราะรีบดื่มมากเกินไป ตอนนี้เลยจี๊ดไปเลยทั่วขั้วสมอง

     ยืนพักหมองสักพักก่อนเอาแก้วไปล้างน้ำเปล่าแล้วคว่ำไว้ในที่คว่ำจานข้างๆซิ้งค์ แต่คิดไปคิดมากดน้ำเอาไว้ดื่มดับกระหายตอนสมองแล่นที่มักจะแล่นแบบขาดๆเกินๆทุกที ...ก็น่าจะดี

     คิดปุ๊บก็ทำปั๊บ หยิบแก้วที่เพิ่งล้างขึ้นมาวางบนตะแกรงแล้วกดน้ำ จากนั้นก็แค่รอให้มันเต็ม

     ผมยืนพิงเคาน์เตอร์ครัวถอนหายใจตอนนี้ในสมองโล่งมากจริงๆ เหมือนไม่มีรอยหยัก ไม่มีเส้นเลือดคอยไหลเวียนหล่อเลี้ยง...ว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่เลย.........

     ‘อีกสามชั่วโมงครึ่ง’
     ...ก็เกือบเที่ยงคืนพอดี...

     ‘รีบเข้า ไม่งั้นข้าจะไปยืนเร่งเจ้าถึงที่บ้าน’
     ...มาไม่ได้หรอก หมาข้างบ้านไม่ถูกกับคนแปลกหน้า...

     ‘พวกมันเชื่องผ่านทีไรก็กระดิกหางให้ทุกที......ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนข้างบ้านของพวกมันจะเชื่องแล้วกระดิกหางให้ข้าเหมือนอย่างพวกมันสักที’
    ...ข้าไม่ใช่หมา...

    เสียงในหัวเงียบไปแล้ว สงสัยจะลัดวงจร

     ...ครุฑโง่เง่า...

-

     เสียงเครื่องบิ๊กไบค์เงียบหายไปได้เกือบสองชั่วโมงแล้ว ในที่สุดคงได้เวลาเขาเข้านอนเสียที แต่ผมยังคงนั่งอยู่กับที่ หน้าโต๊ะคอมพร้อมขนมจุกจิกที่เผลอหยิบติดมือมาเป็นเสบียงฉุกเฉิน

     ไม่รู้ว่าเพราะความเงียบสงบที่ได้รับกลับคืนมา หรือว่าเป็นเพราะขนมพวกนี้กันแน่ แต่สุดท้ายผมก็เคาะต้นฉบับนิยายจนจบสมบูรณ์ได้สักที ก่อนเดดไลน์ตั้งหนึ่งชั่วโมงแน่ะ

     ผมมองหน้ากระดาษที่เคยว่างเปล่าเรียงรายอัดแน่นไปด้วยตัวอักษรด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ว่าจะเรื่องสั้นเรื่องยาว ไม่ว่าจะมีคนอ่านติดตามเยอะหรือแทบไม่มีเลย ผมก็รู้สึกภูมิใจเหมือนกันหมด

     ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มหลังจากกดส่งต้นฉบับไปให้บก.จอมจู้จี้ผ่านทางอีเมลล์เรียบร้อย เอนหลังพิงเก้าอี้เกมมิ่งทาสการตลาด

     ...ปู่ครับ ไส้ผมไม่เคยแห้งเลยครับ...
     ...เพราะว่าผมดื่มน้ำทุกวัน แล้วแบบนี้มันจะไปแห้งได้ยังไง...

     จำได้ว่าผมเคยตอบ(หรือเถียง?)ปู่กลับไปอย่างนั้น หลังจากนั้นปู่ก็เงียบและไม่พูดอะไรเกี่ยวกับอาชีพของผมอีก

     ผมไม่ใช่หลานคนเดียวของปู่ ในคลอกที่ไม่เล็กขนาดนั้น ปู่ผิดหวังกับผมก็ยังมีหลานคนอื่นๆเหลือให้คาดหวังได้ต่อ

     แต่พ่อนี่สิ ไม่เคยคุยกับผมอีกเลยหลังจากผมเลือกที่จะเดินออกมาเพื่อใช้ชีวิตของตัวเอง

     ในความคิดของพ่อ ผมคงไม่ใช่ลูกชายคนโตของเขาอีกต่อไปแล้ว

     แต่ในความคิดของผม ผมยังเป็นลูกพ่อเสมอ

     ลากเข้าดราม่าจนหน้าจอโน้ตบุ๊คดับ ผมก้มลงหยิบถังขยะขนาดเล็กข้างโต๊ะคอมมารองกวาดถุงรวมถึงเศษขนมทิ้ง ปัดไม้ปัดมือบิดขี้เกียจนิดหน่อยผมก็ลุกจากเก้าอี้แล้วโดดขึ้นเตียงที่อยู่ด้านหลังทันที

     สำหรับจอมขี้เกียจโต๊ะทำงานอยู่ใกล้เตียงนอนเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้วจริงๆ

     วางหมอนอิงสองใบเรียงไว้ข้างขวา บางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นหรืออาจมองเห็นจะได้ไม่สามารถมานอนได้เพราะที่เต็ม ส่วนข้างซ้ายมีตุ๊กตาแมวสีชมพูตัวใหญ่เกือบเท่าตัวผมนอนรอให้กอด ผมไม่รอช้าคว้ากอดหมับยกขาก่าย เผลอครางออกมาเพราะความรู้สึกสุขสบาย นั่งหลังขดหลังแข็งมาตั้งนาน อะไรจะดีไปกว่าการได้นอนกอดตุ๊กตาแมวสุดที่รักแล้วหลับไปอีกล่ะครับ

     ความจริงผมคิดว่ายังไม่ทันได้หลับสนิทด้วยซ้ำ

     แสงสีทองอ่อนจางทอระยิบระยับแยงวาบสาดเข้าตา เพียงช่วงเวลาสั้นๆมันก็สลายหายไปเหมือนไม่เคยเกิดปรากฏการณ์ประหลาดแบบนั้นขึ้นมาก่อน

      ยามประจำหมู่บ้านคงไม่กล้าขนาดส่องไฟฉายขึ้นมาบนห้องผมหรอกครับ แถมวันนี้ยังไม่ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านฝั่งซ้ายเห่ากรรโชกเลยด้วย คาดได้ว่ายามคงอู้งานไม่เข้ามาตรวจเช็คซอยบ้านผมอีกเช่นเคย

     ละเลยต่อหน้าที่แบบนี้ต้องคอมเพลน

     แสงสว่างสีทองเจิดจ้าแต่คราวนี้เหมือนจะมีสีแดงวาบแทรกอยู่ สาดสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ตำแหน่งเดิมแน่ๆหน้าระเบียงห้องนอนผมนี่ล่ะ

     ผมถอนหายใจแล้วตัดสินใจว่าจะไม่สนใจดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงปิดตาไปซะ

     แต่ผ้าห่มผืนหนาไม่สามารถกันแสงวาบนั้นได้.....ทรงพลังเกินไปแล้ว..........มันวาบๆแว้บๆประหนึ่งเป็นไฟเธคเลยทีเดียว

     ประเดี๋ยวทอง ประเดี๋ยวแดง
     ดูสับสนชวนวิงเวียนจริงๆ

     “เจ้าบ้านั่น....”ผมพึมพำกัดฟันกรอดจนเผลอขบลิ้นตัวเองเข้า“โอ้ะ โอ้ย!”

     แก๊กๆๆ

     เสียงเคาะกระจกระเบียงรัวขึ้นมาทันที

     “ภุชคินทร์! ภุชคินทร์! เป็นอะไรหรือเปล่า!?”

     แก๊กๆๆๆๆ

     “คิน! อนุญาตให้เราเข้าไป เดี๋ยวนี้!”
     “คิดว่าเจ้าเป็นใคร กงการอะไรมาออกคำสั่งกับข้า! อูย...”เผลอกระแทกเสียงหนักไปหน่อย ฟันกระทบแผลสดใหม่บนลิ้น ผมแสบเข้าทรวงเลยทีเดียว

     อยากดุดันบ้างแต่ไม่เคยเป็นผลเลยสักครั้ง

     “ภุชคินทร์ ข้านับหนึ่ง....”
     “เออ! เข้ามาๆ ...โอ้ยๆ”

     ผมว่าผมได้กลิ่นเลือด
     อวลอยู่ในปากตัวเองเลยนี่ล่ะ

     ให้มันได้อย่างนี้สิ

     “ภุชคินทร์!”

     เรือนร่างสูงใหญ่กำยำแทบบดบังตัวผมมิด ...ซึ่งอันที่จริงก็บังมิดไปเลยจริงๆนั่นแหละ... พรวดพราดเข้ามาไม่พอยังถือวิสาสะนั่งลงบนเตียงแล้วโอบรวบตัวผมปะทะเข้ากับอกแข็งๆนั่นอีก

     ซีกหน้าข้างขวาของผมกระแทกเข้ากับอกแข็งๆ เจ็บอย่างจังเลยไอ้บ้าเอ้ย

     “เศวตโรหิต เจ้า...!”
     “คินเป็นอะไร เราได้กลิ่นเลือด”

     ถ้าบอกตรงๆว่ากัดปากตัวเองมันต้องหัวเราะเยาะผมแน่ๆ

     แต่เดี๋ยวก่อน....
     ผมเขม่นมองหน้าไอ้ตัวใหญ่ยักษ์แต่ไม่ใช่ยักษ์ จนมันสะดุ้งรีบพลิกลิ้นเปลี่ยนแปลงคำในประโยคคำพูดใหม่แทบทันที

     “เจ้าเป็นอะไร ข้าได้กลิ่นเลือด”

     อืม ...ต้องแบบนี้สิ

     แคว้ก!

     “เฮ้ย! ทำอะไรของเจ้า?!”
     “เจ้าตอบช้า ไม่ทันใจ ข้าก็จะตรวจหาแผลให้น่ะสิ”

     แค่จะหาแผลถึงขั้นต้องฉีกเสื้อกันเลยหรือ?

     “เสื้อน้องแมวชมพูของข้า....”ผมคอตกก้มลงมองเสื้อยืดตัวโปรดที่ขาดวิ่นด้วยน้ำมือของครุฑโง่ตัวหนึ่งแล้วรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก จะว่าเสียใจที่เสียเสื้อตัวโปรดไปก็เสียใจไม่สุด

     ความจริงแล้วอายมากกว่า จะยกมือขึ้นปิดนมก็ไม่ได้เมื่อทั้งสองมือถูกมือหนาแค่ข้างเดียวรวบจับไว้แน่น

     ชักเริ่มทะแม่ง

     “เดี๋ยวข้าหาซื้อมาให้เจ้าใหม่ก็ได้ เอาแบบลิมิเตดเลยดีหรือไม่? แต่ตอนนี้เจ้าต้องให้ข้าทำแผลให้เจ้าก่อนนะภุชคินทร์”

     “เจ้าครุฑโง่เง่า...ข้าไม่ได้-”ผมอยากจะอธิบาย

     แต่

     “เฮ้ย! จับตรงไหนของเจ้าน่ะ!”
     “ข้าให้เจ้าจับหน้าท้องของข้าคืนก็ได้นะ”

     ผมมองตามมือของตัวเองที่ถูกจับลากไปวางลงบนกล้ามเนื้อเปลือยเปล่าสีทองแดงขึ้นลอนสวยงามตามคำพูด เพิ่งสังเกตว่ามันไม่ได้ใส่เสื้อ มีเพียงกางเกงยีนขายาวขาดเข่าตัวหนึ่งเท่านั้นที่บดบังช่วงล่างไว้

     “กางเกงตัวนี้เจ้าเป็นคนให้ข้า”

     ผมถลึงตาเมื่อแก้มของมันขึ้นสี

     “ก็แค่ของขวัญจับฉลาก....”
     “นั่นเพราะเจ้ารู้ว่าข้าจะต้องได้จับของเจ้าแน่ๆ”

     อย่าเรียงคำพูดผิดแล้วชวนให้รู้สึกสองแง่สองง่ามแบบนั้นจะได้ไหม

     “ภุชคินทร์...”
     “ข้าแค่เผลอกัดลิ้นตัวเองเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงทีนี้เจ้าจะปล่อยข้าได้หรือยัง”
     “ภุชคินทร์ ....ปล่อยไม่ได้หรอก”

     บางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นและอาจจะกำลังจะได้เห็นดุนดันฝ่ามือของผมขึ้นมา

     เอ๊ะ ทำไมมือผมเลื่อนไปวางอยู่บน‘นั้น’ได้กัน?

     ดวงตาสองคู่ต่างสีมองสบประสาน

     ผมเผลอเลียริมฝีปาก

     และหลังจากนั้นก็โดนครุฑตัวยักษ์โถมเข้าใส่แบบฉับพลัน

     ผมถอนหายใจ
     เครียดกับต้นฉบับมาหลายเดือนแล้วได้ปลดปล่อยออกบ้างก็น่าจะดีเหมือนกัน

     “อ๊า โรม... แรงอีก..แรงๆ อื้ออ”ช่วงขาสั่นสะท้านถูกจับกระชับพร้อมแรงโหมอัด ...ตอกยับเหมือนเครื่องยิงตะปูที่สวิตซ์ของมันเสียจนเจ้าของไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป

     ...สมพรปากจริงๆ...

-

     ชีวิตของผมออกจากชายคาบ้านแทบนับครั้งได้

     “อ้าว สวัสดีครับพี่คิน”

     ก็เหมือนกับเพื่อนบ้านฝั่งขวาที่ทั้งที่อยู่บ้านติดกันแต่กลับไม่ค่อยได้เจอหน้า เจอแต่เสียง ได้ยินแต่กับหู ....หมายถึงเสียงติดบิ๊กไบค์น่ะ อันนั้นสม่ำเสมอเสียยิ่งกว่าอะไร

     มันคันปาก
     อยากถามเหลือเกินว่าจะติดเครื่องไว้ทำไมถ้าไม่คิดจะขับมันออกไป?

     “อ่า ไง”สุดท้ายก็ไม่ได้ถามแถมยังลืมชื่อไปแล้ว แห้งเลย....หมายถึงหน้าผมตอนนี้.......

     ผมอุดสายยางให้น้ำลอดออกมาเป็นฝอยๆเพื่อฉีดรดพุ่มกุหลาบ บางทีผมควรคิดเรื่องติดสปิงเกอร์ได้แล้ว แต่ก็กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้ออกมาจากบ้าน เลยได้แต่ปัดๆมันไว้ก่อน

     “เมื่อไหร่จะดอกอ่ะพี่?”

     ...อันนี้ดอกอยู่แล้ว...

     เอ๊ะ พ่อหนุ่มเซอร์มันหมายถึงผมหรือกุหลาบ?

     “ดอกกุหลาบบ้านพี่อ่ะ เมื่อไหร่มันจะออกดอกสักที ผมเห็นพี่ออกมารดน้ำมันทีไร มันก็ยังมีแค่พุ่มเขียวๆอยู่แบบไหนแบบนั้น”

     “เราออกจากบ้านด้วยเหรอ?”

     “เปล่า... ผมมองพี่จากห้องอัดเพลงบนบ้าน โน่นน่ะพี่ หน้าต่างที่มีม่านปิดทึบอยู่บานเดียวนั่นอ่ะ”

     ผมมองตามนิ้วชี้เรียวยาวที่ยกขึ้นชี้ไปยังบานหน้าต่างบนชั้นสองที่อยู่เยื้องซ้ายจากจุดที่ผมยืนอยู่ไปนิดหน่อย ก่อนจะเลื่อนลงมองหน้ายิ้มๆที่มีหนวดหร่อมแหร่มพร้อมกับผมหยิก หรือเขาเรียกว่าหยักศก? ยาวประบ่า ยุ่งเหยิงเล็กน้อย

     ....อันที่จริงแล้วยุ่งมากจนผมอยากจะยื่นหวีไปให้สางปมสักหน่อย

     ติดที่ว่าหวีไม่ได้อยู่กับตัว

     “อ้อ เป็นถ้ำมองเหรอ?”ผมถามเสียงใคร่รู้แต่ใจจริงไม่ได้อยากรู้สักเท่าไหร่ แล้วเบนทิศจากพุ่มกุหลาบไปรดต้นเชอร์รี่แทน

     ผมขมวดคิ้ว

     รู้สึกว่าพันธุ์ต้นไม้พวกนี้มันจะไม่ค่อยเข้ากับสภาวะอากาศของภูมิประเทศหรือเปล่านะ มันถึงไม่ออกดอกออกผลมาให้ได้ชื่นใจสักที

     แต่คิดไปคิดมา... ช่างมันเถอะ มีพุ่มเขียวๆใบเขียวๆพอให้เจริญหูเจริญตาบ้างก็พอแล้ว

     “เฮ้ย! ผมเปล่านะพี่”
     “เหรอ”บอกตามตรงว่าผมไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ เกือบลืมไปแล้วด้วยว่าก่อนหน้านี้ทิ้งคำถามไว้ว่าอะไร

     ผมเดินไปปิดก๊อกรอจนน้ำไหลออกมาน้อยจนแทบไม่ไหลแล้วจึงค่อยพันสายยางม้วนเก็บเข้าที่

     “พี่คิน ผมไม่ได้ตั้งใจจะถ้ำมองพี่จริงๆนะ ก็แต่งๆเพลงอยู่แล้วมันแต่งไม่ออก สมองไม่โล่งผมเลยเปิดหน้าต่างรับลม รับสีเขียวเบิร์นสมอง ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเจอพี่ยืนรดน้ำแทบทุกครั้งเลย แต่จริงๆแล้วผม-“

     ผมเห็นว่าทุกอย่างเริ่มจะยืดยาว เลยเผลอจ้องตาเด็กเซอร์เขม็ง

     สังเกตเห็นแสงสีทองอ่อนจางสะท้อนดวงตาฝ่ายนั้นเรียบร้อย ผมจึงค่อยกะพริบตาที่เริ่มแสบเพราะเบิกค้างนานไปหน่อย

     เด็กบิ๊กไบค์ตัวแข็งทื่อ กระทั่งดวงตายังแข็งค้าง.... ปากด้วย ผมห่วงว่าเขาอาจจะน้ำลายย้อยหมดปากได้เลยใจดีจะยื่นมือไปดันคางขึ้นให้

     “คิน”

     แต่มือข้างนั้นกลับถูกรวบจับ พร้อมกันกับเอวที่ถูกรวบกอดหมุนให้หันไปหาอกแข็งๆ อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ

     “บอกแล้วว่าอย่ากินเวย์”
     “บอกแล้วเหมือนกันว่ามันเป็นกรรมพันธุ์”

     ผมยกมือขึ้นลูบกล้ามเนื้อสีทองแดงเบาๆ ล่อตาล่อใจจนเกือบเผลอกัดเข้าให้ ...ยังดีที่ยั้งตัวทัน........

     เลยตีไปหนึ่งเปี๊ยะแทน

     “ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง เราเคยบอกคินแล้วว่าอย่าใช้พลัง”

     ยังไม่พอขออีกหนึ่งเปี๊ยะ

    “บอกว่าไม่เราไม่คินไง”

     ดวงตาที่ยังคงแสบอยู่ถูกปลายนิ้วแตะลูบที่หางตาเบาๆ

     หัวถูกจูบ

     แก้มถูกหอม

     “ก็นี่มันยุคไหนแล้ว”
     “มันไม่วินเทจ....”

     เอ... หัวผมเอนไปซบอกครุฑตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?

     หน้าม้าปลิวเลยเพราะอีกฝ่ายถอนหายใจออกมา

     “เจ้านี่...ช่างออดอ้อนนักนะ ภุชคินทร์”
     “เศวตโรหิต...”

     “เจ้านาคมากตัณหา”

     ตัวของผมถูกโอบอุ้มขึ้น ความรู้สึกรุ่มร้อนร่านราคะแผดเผาไปทั่วสรรพางค์กาย ริมฝีปากปล่อยเสียงครางเครือไม่ยอมหยุด

     บางคราเหมือนมนุษย์.....บางคราราวกับไม่ใช่

     และเมื่อผิวหนังบางส่วนเปิดเปลือยเผยให้เห็นริ้วเกล็ดสีทองเจือจาง

     เมื่อนั้นผมคล้ายสิ้นสตินึกรู้ไปในทันที

........

     ครุฑในร่างมนุษย์หุ่นกำยำที่กำลังอุ้มประคอง‘คู่’ไว้ในอ้อมแขนผุดรอยยิ้มอ่อนหวานแสนรักใคร่ ก่อนเหลือบมองมนุษย์ที่หลงไปในมนต์ของนาคาจนแข็งค้างดวงตาแข็งทื่อคลายมีแววตะหนกทอประกายเบาบางออกมา

     เขาทอดถอนใจ

     “อ๊า ...อื้ออ ร้อน ครุฑ...อ้ะ สัมผัสข้า สัมผัสข้าเสียที!”ก้มลงมองร่างในอ้อมแขนอีกครั้ง ถอนหายใจอีกครา

     “เอาเถอะ...”

........

     เอาเถอะอะไร?!

     มนุษย์ที่ถูกแช่แข็งโดยไม่ทันรู้ตัวได้แต่กรีดร้องในใจ แต่ภายนอกคือความนิ่งค้างตึงแข็งอยู่กับที่ ขยับไม่ได้แม้แต่จะกระพือขนตา

     ได้แต่มองสองร่างหายลับไปในบ้านข้างๆ อยู่ริมรั้วกำแพงเตี้ยบ้านตัวเองด้วยหัวใจที่เจ็บปวดเหลือแสน.....

     จะไป‘สัมผัส’อะไรกันต่อก็ให้ช่วยปล่อยตูไปก่อนจะได้ไหม?!

     โฮ่ง! โฮ่ง!
     บรู๊ววววววว~



- จบ -


เรื่องสั้นนี้เกิดขึ้นเพราะเราต้องการตัดฟามเครียดจากเรื่องยาวค่ะ.... :katai1:
หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2019 19:03:01 โดย ศศิชา. »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ดีงาม..มมมมมมมมมม  o18 o18 o18

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
มีความไม่วินเทจ ฮา

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
มีความเผ็ชคู่ แง้ ดีมากๆๆๆเลยภุชคินทร์คือยั่วๆจ้าแม่ น้องเซอร์ข้างบ้านยังแอบถ้ำมองอะ ชอบชื่อพระเอกมากค่ะ รู้เลยว่าดุๆๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด แซ่บมากกก!!!  :heaven

ออฟไลน์ ศศิชา.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Shot story - เรื่องสั้นๆของนาคกะครุฑ (( ๒ ))


เพื่อนบ้านของผมชื่อ‘พี่คิน’ จริงๆแล้วพี่เขาชื่อ‘คิน’แต่เพราะเขาอายุมากกว่าผมเลยเรียกเขาว่า‘พี่คิน’

พี่คินทำงานแล้วผมเองก็ทำงานแล้ว หน้าพี่คินเด็กกว่าผมด้วยซ้ำแต่พี่เขาเคยบอกว่าตัวเองอายุมากกว่าผมเป็นรอบที่ร้อยเห็นจะได้ ....แต่ผมไม่เห็น ไม่เห็นว่าพี่คินจะดู‘เป็นลุง’หรือ‘เป็นปู่’หรือว่า‘ทวดของทวด’ตรงไหน?

พี่คินหน้าตาดี เป็นผู้ชายตัวไม่เล็กแต่ค่อนข้างแบบบางเล็กน้อย และนั่นหมายถึงเมื่อเอามาเทียบกันกับตัวผมที่หนากว่าสูงกว่าน่ะนะ แขนขาพี่เขาเรียว หุ่นก็ดีได้สัดส่วน เครื่องหน้าคมตามแบบฉบับผู้ชายทว่าผมกลับรู้สึกว่าพี่คินเป็นคนหน้าหวานชวนให้หลงได้ง่ายๆ จมูกของเขาโด่งปลายจมูกกลมมนได้รูปดูแล้วน่ารักดี และตากลมสีดำสนิทของเขาก็เหมือนกับมีแรงดึงดูดไร้ที่มาบางประการหยุดสายตาของผมเอาไว้ไม่ให้อาจละออกไปจากเขาได้

ราวกับต้องมนต์สะกด
ความรู้สึกคงคือๆอะไรเทือกนั้น

ผมเคยไถเว็บไซต์แล้วเจอบทความบทความหนึ่ง เขาบอกว่าปกติแล้วมนุษย์ไม่มีคนไหนตาสีดำแบบดำสนิทจริงๆ บางคนที่เห็นว่าดำก็แค่เป็นสีน้ำตาลที่เข้มมากๆเท่านั้น แต่ไม่ใช่สีดำ ...ไม่ดำวับวาวเหมือนกับพี่คิน

ครั้งแรกที่เจอกับพี่เขาผมรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังจะตกหลุมรัก

แต่ก็แค่‘จะ’เพราะยังไม่ทันได้โยนตัวเองลงหลุมแบบเต็มอกเต็มใจก็ต้องอกหัก ยังไม่ทันได้รักก็อกคุดไปซะก่อน

หลังจากได้แต่แอบมองพี่คินผ่านหน้าต่างแทบทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งผมก็ได้เจอกับศัตรูหัวใจเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

....เมื่อถูกตาคมๆสีน้ำตาลอ่อนตวัดมองขึ้นมา ผมถึงได้รู้ตัวว่า.... อ่า ถูกผัวเขาจับได้ซะแล้ว

กอดรัดพันตูกันนัวเนียไม่อายฟ้าไม่อายดินขนาดนั้น คงไม่ใช่ญาติพี่น้องกันแน่นอน

ชีช้ำยิ่งกว่าเมื่อคนที่มักเริ่ม‘กอดรัดพันตู’ก่อนทุกครั้งล้วนเป็นพี่คินคนดีของผมทั้งสิ้น

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงแอบปลื้มพี่เขาเงียบๆคนเดียวอยู่ดี

จนกระทั่งวันนี้

‘อ้อ เป็นถ้ำมองเหรอ?’
‘เฮ้ย! เปล่านะพี่’
‘เหรอ’

เป็นครั้งที่สองที่ได้คุยกับพี่คิน แต่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มองหน้าพี่คินแบบชิดใกล้ติดขอบจอขนาดนี้....

พี่คินทำหน้ามึนๆ แต่อันที่จริงผมว่าเขาไม่ได้ทำแต่คงเป็นคนหน้ามึนๆเบลอๆแบบนี้อยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังน่ารักมากอยู่ดี และเพราะได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้ถึงได้เห็นว่าพี่คินสูงกว่าที่ผมเคยคะเนไว้ก่อนหน้าเยอะ เกือบเท่าผมที่สูง 189 ซม.เลยทีเดียว

ผมรีบเอ่ยปากอธิบายเพราะว่ากลัวพี่คินจะเข้าใจถูก ....ครับ ผมถ้ำมองพี่เขาจริงๆนั่นล่ะแต่ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยนะ ผมว่าตัวผมยังไม่โรคจิตถึงขั้นนั้น แค่แอบชอบ แอบมองอยู่ห่างๆแค่นี้ก็ได้ชื่นหัวใจแล้ว

เฉามาเกือบ 6-7 ปี วันๆก็ได้แต่แต่งเพลงขายกินเงินลิขสิทธิ์อยู่ติดบ้าน แทบไม่ได้ออกไปไหน เพื่อนฝูงหลังจากเรียนจบแยกย้ายไปทำงานทำการก็ค่อยๆห่างหายไปทีละคนสองคน จนตอนนี้นับนิ้วได้ที่ยังคงติดต่อแชทคุยกันบ้างก็นับได้แค่หนึ่งเดียวเท่านั้นจริงๆ

ในหัวผมดราม่าไปได้หลายตลบ แต่ภายนอกไม่รู้แล้วว่าอธิบายลากยาวแค่ไหนให้พี่คินฟัง เพราะเมื่อรู้สึกตัวอีกที....

ผมก็ขยับตัวไม่ได้ซะแล้ว

ดวงตาของพี่คินที่ผมมองว่าสวย คล้ายจะไม่ใช่สีดำสนิทเหมือนอย่างเดิมที่เป็นมาไปชั่ววูบหนึ่ง

ไม่ใช่สีน้ำตาลเข้มเพราะการเข้าใจผิด

...มนุษย์เราต่อให้มีการกลายพันธ์ุทางพันธุกรรมใดๆ ย่อมไม่มีทางมีตาสีนี้ได้แน่นอน

ดวงตาเรืองประกายทอแสงสีทองเหมือนกับดวงอาทิตย์แบบนี้

มันคงจะน่าตื่นเต้นอยู่ถ้าไม่ใช่เพราะว่าดวงตาคู่นั้นทำให้ผมต้องตัวแข็งหน้าตึงแม้จะกระพือขนตายังทำไม่ได้

ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวผม แต่ก็พอจะฉุกคิดได้อยู่ว่านี่มันไม่ใช่สถานการณ์ปกติแล้วนะเว้ย

‘ผัวพี่คิน’มองผมด้วยสายตาสมเพชเวทนา.... ในความหมายเชิงเปรียบเปรยน่ะครับ เขาอุ้มพี่คินที่อะไรจะตัวอ่อนปวกเปียกได้ถึงขนาดนั้นก็สุดที่ผมจะเดาอาการ ไม่พอยังถูแก้มไถศีรษะไปกับท่อนแขนที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อพร้อมครางฮืออย่างน่าสงสาร

ดูออดดูอ้อน ดูน่ารักน่าฟัด ดู...

‘อ๊า ...อื้ออ ร้อน ครุฑ...อ้ะ สัมผัสข้า สัมผัสข้าเสียที!’
‘เอาเถอะ...’

เอาเถอะอะไร?!

ผม! ....มนุษย์ที่ถูกแช่แข็งโดยไม่ทันรู้ตัวได้แต่กรีดร้องในใจ แต่ภายนอกคือความนิ่งค้างตึงแข็งอยู่กับที่ ขยับไม่ได้แม้แต่จะกระพือขนตา

ได้แต่มองสองร่างหายลับไปในบ้านข้างๆ อยู่ริมรั้วกำแพงเตี้ยบ้านตัวเองด้วยหัวใจที่เจ็บปวดเหลือแสน.....

จะไป‘สัมผัส’อะไรกันต่อก็ให้ช่วยปล่อยตูไปก่อนจะได้ไหม?!

โฮ่ง! โฮ่ง!
บรู๊ววววววว~


และครับ นั่นคือสถานการณ์ก่อนหน้า ส่วนนี่คือสถานการณ์ปัจจุบันของผม... ‘นายติณะ’ ยังคงแข็งค้างจอดสนิทอยู่ที่เดิมพร้อมกับความคิดบางอย่างที่กำลังโชติช่วงโชติชวาลแล่นพล่านอยู่ในหัวสมอง

ใช่แน่ๆว่ะ ผมว่าจะต้องใช่แน่ๆ
พี่คินแม่ง....

เมดูซ่า! พี่คินจะต้องเป็นทายาทเมดูซ่าแน่นอน ไอ้ณะฟันธงเลยเว้ย!

ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในความรู้ไม่เท่าทันของตัวเอง

ผมเคยไถเจอตำนานเกี่ยวกับเมดูซ่าอยู่(ช่วยไม่ได้จริงๆที่เวลาว่างของผมมีมากเหลือเกินจนแทบจะไถอ่านบทความหมดแล้วทุกบอร์ดบนโลกใบนี้) ....ผมประชดตัวเอง แต่ก็อ่านมาเยอะจริงๆนั่นล่ะ คนไทยอ่านหนังสือไม่เกินสองบรรทัดที่ไหนวะ นี่! อย่างน้อยก็ผมแล้วหนึ่งที่ไม่ใช่

ตำนานว่าไว้ว่า....เมดูซ่าเพราะว่าหน้าตางดงามจนเกินหน้าเกินตาเมียซุส เลยถูกนางสาปให้มีงูหลายตัวเลื้อยอยู่บนหัว สภาพน่าเกลียดน่ากลัวแบบนั้นแน่นอนว่าความงดงามอันเลื่องลือของเมดูซ่าเป็นอันต้องสิ้นชื่อไป

คำสาปที่มาพร้อมกันก็คือการที่ใครก็ตามเมื่อได้จ้องตากับเมดูซ่าแล้ว จะทำให้คนคนนั้นแข็งค้างกลายเป็นหินในทันที เหมือนอย่างผมในตอนนี้

ผมคิดว่าตัวเองจะต้องกลายเป็นหินประดับสวนไปแล้วแน่ๆ....

จากตอนนั้นจนถึงตอนนี้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วผมเองก็บอกไม่ได้ รู้แต่ว่าพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินเต็มที และไม่นานท้องฟ้าสีแสดก็ถูกความมืดสลัวของยามค่ำคืนเข้ากลืนกิน

จากความคิดฟุ้งซ่านก็เริ่มเข้าสู่สภาวะปลงตกในที่สุด

พี่คินแม่งโคตรใจร้าย-........

เสียง ตุบ มาพร้อมกับที่ผมทิ้งตัวลงนอนแผ่หราอยู่บนพื้นสนามหญ้าที่ไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าของบ้านสักเท่าไหร่ หมดเรี่ยวหมดแรง หอบเหนื่อยอ่อนทั้งที่ไม่ได้ไปออกกำลังกายหรือทำอะไรหนักหนาสาหัสมา

แค่นิ่งและแข็งค้างอยู่กับที่เพราะโดนคำสาปของคินดูซ่าเข้า

เอาว่ะ ผมไม่ได้กลายเป็นหินเหมือนอย่างที่คิด หรือว่าพี่คินจะไม่ใช่ทายาทเมดูซ่าวะ? แล้วพี่คินเป็นอะไร? ผมไม่ย้อนกลับไปคิดว่าพี่แกเป็นแค่คนธรรมดาไร้พิษภัยเหมือนอย่างแต่ก่อนแน่

ผมถลกยกชายเสื้อยืดขึ้นปาดน้ำลายตรงคาง อเนจอนาถมากแต่ลุกขึ้นไม่ไหวจริงๆครับ คงต้องรอสักพักให้สารร่างปรับสภาพได้ และพิธีกรรมสตาร์ทน้องไบค์ตัวน้อยเพื่ออุ่นเครื่องคงเป็นอันต้องพับเก็บไปก่อนในตอนนี้

ผมถอนหายใจ จะหาดาวในกทม.ดูเห็นจะยากเกินจริงๆนั่นล่ะ เพราะผมนอนมองสักพักแล้วขนาดพระจันทร์ยังโผล่มาให้เห็นแค่เสี้ยวเดียว นอกนั้นถูกพุ่มเมฆสีดำกลืนกินไปจนเกือบหมด

เมฆสีดำ...
เมฆ...

แต่‘เมฆก้อนนั้น’ดูแล้วไม่คล้ายจะเป็นเมฆหรือเปล่า?

หรือจะเป็นอุกาบาต? ฝนดาวตก?

“เชี่ย... อะไรวะนั่น?”ผมเผลออุทานออกมาก่อนที่หูสองข้างเหมือนจะดับพึบไปกะทันหันหลังจากได้ยินเสียงสิงโตคำรามลั่นจนกลบเสียงหมาหอนเห่าระงมซอย

ผมตะเกียกตะกายลุกขึ้นนั่ง ยืนไม่ไหวก็คลานแม่งไปนี่ล่ะ! ระหว่างที่‘บางสิ่ง’พุ่งตรงจากฟ้ามายังบ้านของผมประหนึ่งติดจีพีเอสเอาไว้ ลำแสงสีขาววาบเจิดจ้าขึ้นมาจนผมต้องหลับตาปี๋ ตัวนี่คลานสะเปะสะปะไปหมด ไม่รู้แล้วว่าทิศไหนเป็นทิศไหน

ตุบ!

เหมือนจะชนกับอะไรบางอย่างฟูๆนิ่มๆ...เพราะว่าเบรกไม่ทัน และรู้สึกได้ว่าหน้าของผมทิ่มลงไปใน‘นั้น’เข้าอย่างจัง

‘สิ่งนั้น’ครางครืดคราดขึ้นมาเหมือนไม่ค่อยชอบใจ ผมเองก็อยากครางครืดคราดใส่มันบ้างเพราะไม่ชอบใจเหมือนกันที่ถูกขวางทาง สุดท้ายก็เลยถอนหายใจหนึ่งเฮือกออกไปหนักๆแทน

ผมลืมตาขึ้นมอง คิดในใจว่าหมาบ้านไหนมันหลุดเข้ามาบ้านผมอีก-

แต่ก็ต้องชะงัก กลืนเสียงชิ้วเข้าลำคอไป

ริมฝีปากสีแดง อุ้งเท้าทั้งสี่ก็เป็นสีแดง มีแนวแดงตั้งแต่หัวตลอดจนถึงหลัง แผงคออ่อนนุ่มสีขาวเหมือนกับสีของลำตัวแต่ขอบกลับแต้มแดง มองๆไปก็ดูคล้ายกับผ้าพันคอสักยี่ห้อหนึ่งที่เคยเห็นผ่านตา

มันยืนเหยียดตรงเหมือนกับสิงโตที่กำลังแผ่แม่เบี้ยประกาศศักดาแก่สัตว์อ่อนแอที่ต่ำต้อยกว่าว่ามันแกร่ง มันเจ๋งยิ่งกว่าไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า ตัวของมันเหมือนจะเปล่งแสงได้ โดยเฉพาะภายใต้ความมืดมิดในยามกลางคืนแบบนี้

บ้านผมยังไม่ได้เปิดไฟและมันก็เหมือนกับรูปปั้นที่ใส่โคมไฟไว้ข้างใน

“ตัว... ตัวอะไรวะ?”

เสียงคำรามประหนึ่งเสียงฟ้าร้องดังขึ้นอีกครั้งจนผมที่อยู่ในท่าคลานเป็นต้องทรุดลงนอนดีดดิ้นยกสองมือขึ้นปิดสองหู ความทรมานแสนสาหัสแล่นเข้าโจมตี และผมรู้สึกได้ถึงน้ำข้นเหนียวหนืดบนฝ่ามือทั้งสองข้าง....

‘ติณะสิงหะ’

ติณะเฉยๆเว้ย ไม่มีเติมสิงหะ ไม่ใช่นามสกุลตูด้วย ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่าผมยังเมาอยู่ในคำสาปของคินดูซ่าอยู่ และนี่คือความฝัน ...แค่ความฝันของก้อนหินอะไรก้อนหนึ่ง....

ปากแดงๆนั่นไม่ได้ขยับแต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่า‘มัน’กำลังคุยกับผมอยู่ล่ะวะ?!

‘ช่างแสบสันยิ่งนัก เจ้าหลอกให้ข้าวิ่งวนอยู่ในเขาพระหิมพานต์เป็นเพลาราวชั่วกัปชั่วกัลป์ แต่เจ้ากลับ..!!’

ไม่สิๆ หูผมดับอยู่ เสียงอื่นไม่ได้ยินแล้วจะได้ยินเสียงสัตว์ประหลาดที่ไม่มีตัวตนนี่ได้ยังไง-

ตุบ

แทบกระอักครับ ...อุ้งเท้าไม่เล็กเลยวางทับลงบนอก ขยี้อีกทีกดแรงอีกสักหน่อย ผมว่าผมมีสิทธิ์ลาโลกนี้แล้วไปเกิดใหม่อีกทีในโลกหน้าได้เลย

‘ข้าไกรสรสีหะไม่เคยต้องพ่ายให้กับผู้ใด ไม่เคยหลงในกลอุบายชั่วช้าของเทพบุตรคนธรรพ์ผู้ไหน แต่กับเจ้า! ...ข้ากลับหลงเชื่อในเพทุบายอันตื้นเขินของติณะสิงหะเช่นเจ้า!’

อ่า...
เหมือนว่าผมกำลังถูกสิงโต? ไกรสรอะไรสักอย่างนี่.... ตัดพ้อ?

“อึก”แรงเหยียบบนอกหนักหน่วงกว่าครั้งไหนเหมือนว่าเจ้าตัวรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร

....คิดอีกทีไม่น่าจะใช่การตัดพ้อมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งอะไรเทือกนั้นหรอกครับ ผมคิดว่าอีกไม่นานน่าจะถูกไอ้สิงอะไรนี่ฆาตกรรมตายคาที่เพราะไปเพิ่มความโกรธาให้มันเสียมากกว่า

ติณะไม่เติมสิงหะงงจังครับ
สลบไปทั้งๆที่ตูยังคงงงอยู่นี่ล่ะว่าสรุปทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นมาในวันนี้นั้น....

มันเรื่องอะไรกันล่ะวะ?!!

........

ไกรสรสีหะทอดมองเรือนร่างที่สลบไสลไปแล้วของมนุษย์ด้วยดวงตาสีแดงชาด ก่อนร่างใหญ่โตของมันจะค่อยๆสลายกับราวไอหมอกที่ไร้สสาร

คงเหลือไว้แต่เพียงเรือนร่างกำยำสูงใหญ่ของมนุษย์ผู้หนึ่งในกางเกงผ้าสโหร่งสีขาวสลับแดงเท่านั้น

แข่งกันวิ่งเล่นไปยังยอดเขาของป่าหิมพานต์อยู่ดีๆ ...เหตุไฉนจึงลงมาจุติที่ไตรภูมิภพนี้ได้เล่า?

มันโอบอุ้มร่างมนุษย์ของติณะสิงหะขึ้นกระชับไว้ในอ้อมแขน เหลือบแลดวงตาคู่คมวาวขึ้นมองไปยังบ้านหลังเคียงข้าง มุมปากขยับยิ้มก่อนหมุนกายเดินกลับเข้าไปใน‘รัง’ของติณะสิงหะ

ชะงักฝีเท้าลงเล็กน้อยเมื่อแลเห็นราชรถรูปร่างแปลกประหลาด

หัวคิ้วมุ่นเป็นรอยยับ
จมูกพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่ใคร่พอใจ

“เจ้าหนีข้าเพื่อมาควบขี่เจ้าสิ่งต้อยต่ำนี้แทนอย่างนั้นหรือ?”

หากติณะได้ยินคงได้โวยวายจนกล่องเสียงแตกตายกันไปข้าง

...น้องไบค์ไม่ต้อยต่ำนะเว้ย! นี่แกรู้ราคาค่างวดของมันมั้ยห๊ะสิงโตโง่!...

และก็เพราะไม่รู้น่ะซิ ตื่นมาอีกที...น้องไบค์ของติณะก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว......

........

ในบ้านหลังข้างเคียง

“ราชสีห์เหรอ? ข้าเพิ่งเคยเห็นตัวเป็นๆกับตา”ภุชคินทร์ดวงตาวับวาว มองตามหลังเปลือยขาวจั๊วะของ‘ราชสีห์’ที่เอ่ยถึงไปจนสิ่งที่เห็นถูกแทนที่ด้วยสีดำ

มืดสนิทเพราะว่าถูกปิดตาไว้ไม่ให้มอง

ลำคอร้อนผ่าวเพราะถูกขบกัดอย่างไม่คิดจะเบาแรง

ผ้าขนหนูถูกกระตุก ...แต่แค่เบาๆมันก็หลุดติดมือผู้กระทำไปซะแล้ว

ภุชคินทร์ทอดถอนหายใจ
ใจง่ายจริง....

ร่องทางคับแคบถูกเบียดเสียดสีด้วยส่วนร้อนผ่าวใหญ่โต เขาครางเสียงสั่นเครืออยู่ในลำคอเมื่อส่วนร้อนนุ่มถูกเติมจนเต็มแน่นหนั่น

“อะ ปิดก่อน.. อือ อย่าเพิ่งกัด ปิดม่านก่อน”ภุชคินทร์จิ๊ปากอย่างขัดใจ

ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มยิ่งพาให้รู้สึกขัดใจหนักกว่าเดิม

“เจ้ากับข้า ใครกันแน่ที่บ้า..อ๊า บ้าตัณหาน่ะ ห๊ะ!”

เสียงเข้มเสียงแข็ง แต่ก็เหมือนเดิมที่ไม่เคยดุดันรอดเลยสักครั้ง

สะโพกของเขาสั่นสะเทือน ....เลือนลั่นไปทั่วทั้งตัวอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขายังมองไม่เห็นเพราะถูกมือใหญ่ปิดไว้

“คิน...”หัวใจของเขากระหน่ำเต้นเมื่อได้ยินเสียงแหบพร่ากระซิบเพรียกข้างๆหู ลำตัวถูกพลิกกลับก่อนเนื้อก้นแน่นจะถูกกระชับอุ้มแตงขึ้น

สองแขนเกาะเกี่ยวลาดไหล่กว้างหมับทันที

...ก่อนเป็นฝ่ายโน้มหน้าลงตะโบมจูบอย่างร้อนเร่าพลางเอ่ยเร่งเร้าให้กระทำหนักขึ้นกว่าเดิม

ช่างราชสีห์หายาก
ตอนนี้ในหัวของภุชคินทร์มีแต่ครุฑสีกายเพลิงเบื้องหน้าเพียงเท่านั้น

“อ๊า~ เศวตโรหิต...เศวต...อ๊ะ...โรม... อื้ออ~”

ราคะร้อนร่านแผดเผากลืนกินจิตนึกรู้ตามสัญชาตญาณชาติเผ่าพันธุ์

หากดวงใจกลับหลอมรวมพันเกี่ยวไว้ด้วยจิตใคร่รักเพียงผู้นี้ ....เพียงเศวตโรหิตของเขาผู้นี้เท่านั้น....


- จบ(๒) -
อาจมีต่อถ้ามีพล็อตค่ะ อย่างตอนนี้จู่ๆก็ว้าบเข้ามา
น่าจะกลายเป็นนิยายรักของเหล่าสัตว์วิเศษในป่าหิมพานต์ไปแล้ว ฮ่าๆ
จิบน้ำเย็นๆแล้วค่อยๆอ่านนะคะ ดีใจที่มีคนชอบค่ะ :pig4:


ภาพประกอบ


เครดิท : https://thematter.co/pulse/himmapan-beast-and-where-to-find-them/12444
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2019 20:09:54 โดย ศศิชา. »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ต่อ ๆ คู่งสิงห์ก็น่าสนใจ

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ติณเจอเนื้อคู่แล้วรอคู่สิงห์นะคะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
อ้าวน้องติน นึกว่าเป็นเมะนะเห็นถ้ำมองพี่คินไง แหม๊ๆๆๆ ตอนต่อไปต้องเป็นคู่สิงห์แล้วล่ะ  :hao7:  5555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Piechicofic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สัตว์หิมพานต์ และคู่ของพวกเขา สนุกมากค่า '-'
ถึงอ่านชื่อตัวละครไม่เก่ง แต่ชอบความว้าบไปมา เหาะเหินต่างๆ

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ชอบมากๆเลยค่ะ
ทั้งพล็อตทั้งคาแร็คเตอร์ตัวละคร
อ่านซ้ำไปสามรอบแล้วและคงกลับมาซ้ำอีกหลายๆรอบเลย
รอคนเขียนมาอัพต่อนะคะ

 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2020 00:22:00 โดย tasteurr »

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อยากไปส่องบ้านนู้นอ่ะค่ะ
พอไปแย้มดูหน่อยริ้ววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด