ผู้มาจากร้านขายของเล่นมือสอง ตอนที่ 12 ( 21-11-2019 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้มาจากร้านขายของเล่นมือสอง ตอนที่ 12 ( 21-11-2019 )  (อ่าน 8428 ครั้ง)

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :กอด1:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ตามเลย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ตามอ่านจนถึงตอนพีคพอดีเลย

ออฟไลน์ Kunnmingkwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตอนที่11 สิ่งที่เผยออกมา

พระอาทิตย์สาดแสงเข้ามาในห้องเตียงนอนสองชั้น ที่ในยามนี้ข้าวของกระจัดกระจาย และสองชีวิตที่อยู่ตรงมุมห้องเจ้าของเล่นงัวเงียตื่นขึ้นมา

“ตื่นแล้วหรอ”คิมหันต์ทักทายมันด้วยรอยยิ้ม

“ปวดตา”แน่ล่ะไม่แปลกที่มันรู้สึกแบบนั้น นี่คือผลกระทบของการร้องไห้อย่างหนัก

“ลุกก่อนสิ เดี๋ยวฉันไปเอาแผ่นเจลในตู้เย็นมาให้”

 “คิม ไม่ได้นอนเลยหรอครับ”
ก่อนที่เขาจะเดินออกไป มันก็ชิงถามขึ้นมา

“อื้อ”
“ขอโทษนะครับ ที่เมื่อคืน ทำตัวงี่เง่า”ประโยคเดิมที่เคยเกิดขึ้นตอนที่เจ้าของเล่นออกไปทำรายงานคู่ แต่เปลี่ยนคนพูดจากเขาเป็นมัน และแน่นอนคำตอบที่จะได้ยินก็คือ

“ไม่เป็นไร ฉันไม่เคยโกรธนายซักครั้ง”ทั้งสองให้อภัยกันได้เสมอ

“ขอบคุณครับ”

“เดี๋ยวฉันทำแผลให้”
คิมหันต์มองไปที่หลังมือของเจ้าของเล่น เอื้อมมือไปหยิบขวดยาและอุปกรณ์ทำแผลที่พกติดตัวมาตลอดตั้งแต่มันชอบอ้างว่าหกล้มมือฟาดพื้น

“……..”

“ทำไมต้องทำแบบนี้”

“……..”

“ตะวันตอบ”

“ผมแค่อยากลองแบ่งความเจ็บ จากตรงนี้มาที่ตรงนี้”
มันพูดแล้วเลื่อนมาจากหน้าอกข้างซ้ายไปที่หลังมือ

“แล้วแบ่งได้ไหม”

“……..”
มันไม่ตอบอะไร เพียงแต่ส่ายหัวไปมา แทนคำตอบว่าไม่ได้
คิมหันต์ดึงเจ้าของเล่นมากอด เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้รู้ว่าสิ่งที่เขารู้สึกกับมัน ไม่ได้ทึกทักไปเองคนเดียว มันไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ที่มีตำหนิ แต่ตรงกันข้ามมันคือ ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์หรืออะไรก็แล้วแต่คนจะนิยามเรียก แต่สำหรับเขาตอนนี้มันคือก้อนเนื้อที่เต้นได้ที่ยังทำให้มีชีวิตอยู่ ที่สมบูรณ์แบบที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมา

“ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมคนที่คิดค้นนายขึ้นมา เขาถึงคิดว่านายไม่มีความรู้สึก”

“ทำไมหรอครับคิม”

“ก็เขาทดลองนายด้วยเครื่องมือต่างๆ พอไม่ได้ดั่งใจ ก็คิดว่าสิ่งที่ทำมันยังไม่สมบูรณ์ยังไร้ซึ่งความรู้สึกและจบลงด้วยการทอดทิ้งโดยไม่สนใจ”

“……...”

“มันไม่มีเครื่องมือไหนหรอกนะที่ใช้วัดความรู้สึกของสิ่งประดิษฐ์ได้”

“ครับ ผมเคยเห็นแต่ เครื่องวัดการเต้นของหัวใจ เครื่องวัดชีพจร ที่ทำมาเพื่อมนุษย์”

“แต่ฉันมี”


“……..”เจ้าของเล่นมีสีหน้าสงสัยกับสิ่งที่เขาพูดมันไม่เคยเห็นคิมหันต์ประดิษฐ์หรือสนใจอะไรพวกนี้ จะมีก็แต่หลังๆมานี่ที่เริ่มอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับพวกปัญญาประดิษฐ์ แล้วเขาจะมีของที่ว่าได้อย่างไงกัน

“นี่ไง”เขาเอื้อมมือมาจับหน้าอกด้านซ้ายของตะวัน และอีกมือจับที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง รักที่ต้องสัมผัสด้วยรัก
จริงของเหมันต์ ~ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีความรู้สึก ต้นไม้ยังต้องการน้ำเพื่อหล่อเลี้ยง หรือแม้แต่สิ่งของที่ใช้ไปนานๆมันยังรู้สึกว่าซักวันหนึ่งมันต้องพัง~

“ไม่ทำให้ตัวเองเจ็บอีกแล้วนะตะวัน”

“ครับ แต่”

“หืม”

“คิมบอกใช่ไหมครับ ว่ามีอะไรให้บอก ให้ถาม”

“ใช่ ฉันพูด”

“ที่ผมถามคิมถึงกลไกธรรมชาติของร่างกาย จริงๆแล้วไม่ได้เกิดขึ้นตอนหลับ แต่เป็นเพราะพรรษชลใช่ไหมครับ”

“หึ หึ”
ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว แต่ก็ไม่อยากมีอะไรปิดบังให้เข้าใจผิดกันเขาไม่อยากให้มันทรมานแบบเมื่อคืนอีกแล้ว

“……….”มันตั้งใจฟังคำตอบจากเขา

“ฉันทำตัวไม่ดีให้นายสงสัยตั้งแต่เมื่อไรกัน”

“………”
มันยังคงส่ายหน้าแทนคำตอบ

“วันนั้นที่สะมิหรา จำได้ไหมว่าฉันเจอใครอีกนอกจากพรรษชล”

“ไม่มีแล้วครับ”

“มีนายนึกดีๆสิ”

เจ้าของเล่นครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วชี้มือมาที่ตัวเอง

“ก็คนนั้นแหละที่ทำให้ฉันมีกลไกธรรมชาติของร่างกายที่ไม่ได้เกิดตอนหลับ”

“แต่ผมเป็นผู้ชาย แล้วก็ไม่ได้เป็น….”
มันตั้งใจจะพูดว่าไม่ได้เป็นคน

“ฉันมีอะไรที่ต้องกังวลหรอตะวัน ครอบครัวก็มีแค่นาย สังคมก็มีแค่นาย ทั้งชีวิตก็มีแค่นาย”

“แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชายก็ต้องคู่กับผู้หญิง เพื่อมีครอบครัว มีทายาทนะครับ”
ถึงใจจะไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้นแต่เจ้าของเล่นก็มีทฤษฎีและเหตุผลเสมอ

“ฉันอยากมีแค่นาย”

“ครับ”

“แล้วนายล่ะ อย่าเอาหน้าที่อะไรมาอ้างอีกนะฟังไม่ขึ้นแล้ว”
คนที่เหมือนรู้ทันของเล่นพูดดักขึ้นมาก่อน

“ผมก็อยากมีแค่คิม”

“อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ
”คำว่าแฟนที่ต้องศึกษาดูใจ คงไม่จำเป็นสำหรับทั้งคู่ ตลอดเวลา 10กว่าปีที่ผ่านมามากพอแล้ว

“ผมจะไปไหนได้ล่ะครับ”

“หมายถึงไม่มีที่ไปหรอ”

“ไม่ใช่ครับ หมายถึงไปไหนจากคนนี้ไม่ได้แล้วอยากอยู่ด้วยตลอดไป”
คำพูดที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้ยิน อดไม่ได้ที่จะดึงมันเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง

“ฉันรักนายนะ”

“ผมก็รักคิมครับ”

คำว่ารักแผ่วเบาแต่ก้องอยู่ในก้อนเนื้อที่เต้นได้ของทั้งสอง

ออฟไลน์ Kunnmingkwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ผู้มาจากร้านขายของเล่นมือสอง
«ตอบ #34 เมื่อ28-10-2019 15:29:41 »

เขียนมาถึงตอนนี้รู้สึกโล่ง รู้สึกว่าแบบปมหนึ่งที่ใหญ่มากคลายลงแล้ว ต่อไปเจ้าของเล่น ก็ทำอะไรตามใจตัวเองมากขึ้น  :กอด1:

ออฟไลน์ Kunnmingkwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ผู้มาจากร้านขายของเล่นมือสอง
«ตอบ #35 เมื่อ30-10-2019 23:57:32 »

ตอนร่างนิยายครั้งแรก คิมหันต์ก็จะดุๆหน่อย แต่พอเจ้าของเล่นดูแลไปดูแลมา ก็เลยออกมาหงอๆแบบนี้555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 :man1: :pig4: :man1:

ออฟไลน์ Kunnmingkwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ผู้มาจากร้านขายของเล่นมือสอง
«ตอบ #37 เมื่อ14-11-2019 00:02:57 »

ตะวันทำให้เกิดหน้าร้อน ถ้าไม่มีตะวันก็ไม่มีคิมหันต์

ออฟไลน์ Kunnmingkwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตอนที่12 เรื่องในอดีต

4 ปีก่อนหน้า
14 กุมภาพันธ์


เด็กผู้ชาย ในชุดนักเรียนกางเกงน้ำเงิน สะพายกระเป๋าเป๋ เดินตรงมาที่ผม ในมือของเขาถือดอกไม้จำนวนหนึ่ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันมาจากผู้หญิง

“กลับบ้านกันตะวัน”

“ครับคิม”
ผมตอบรับ หยิบดอกไม้ที่วางไว้ข้างตัวแล้วเดินไปหาเขา ไม่ใช่แค่คิมหรอกที่มีคนเอาของมาให้ในวันแห่งความรักแบบนี้ ตัวผมเองก็เช่นกัน

“พี่ตะวันคะ คือหนูได้บัตรส่วนลดไอติมหน้าโรงเรียนมา อยากจะชวนพี่ไปกินด้วยกัน”ผู้หญิงแก้มสีชมพู วิ่งตรงมาที่ผม ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นมีหรือที่จะปฏิเสธ ผู้หญิงน่ารักๆแบบนี้

“ขอโทษนะครับ พี่ไม่สะดวก” ตั้งแต่วันนั้น วันแรกที่ได้เจอกับคนใจดีคนหนึ่ง คนที่พาผมออกมาจากร้านของเล่นที่แสนว่างเปล่า คนที่แบ่งเตียงนอนชั้นล่างให้ คนที่กินแต่สเต็ก มันบด และน้ำส้มในตอนเช้าอย่างไม่เคยเบื่อ ไม่รู้ว่าหลงรักความใจดีนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าบางครั้งก็แอบเห็นแก่ตัวที่อยากให้เก็บความใจดีนั้นแค่คนเดียว

“งั้นไม่เป็นค่ะ แต่ช่วยรับนี่ไว้หน่อยนะคะ หนูตั้งใจเลือกมาให้พี่เลย”เธอยื่นกล่องของขวัญแล้วก้มหน้า ซึ่งเดาได้ว่าอาจจะเป็นท่าทีของความเขินอาย

“ขอบคุณครับ”

“กลับเถอะตะวัน”
เขาพูดหลังจากผู้หญิงคนนั้นเดินออกไป

“ครับคิม”
พวกเราโบกรถแท็กซี่ กลับบ้านเหมือนทุกวัน คิมเอนหลังลงเบาะอย่างอ่อนแรง ตัวผมเองก็เหมือนกันวันแห่งความรักนี่หนึ่งปีมีครั้งแต่ทำให้รู้สึกเหนื่อยกว่าทุกวัน ผมรูดซิปกระเป๋าเป้ มือเอื้อมไปหยิบกล่องเหล็กสี่เหลี่ยม เดิมทีจะซื้อรูปหัวใจแต่ไม่กล้า ภายในบรรจุช็อคโกแล็ตที่พึ่งหัดทำ ลองชิมดูแล้วรสชาติพอใช้ได้ ในใจคิดมาตลอดวันว่าจะให้ดีไหม แต่วันนี้มันคือวันแห่งความรักไม่ใช่หรอ แล้วมันจะผิดอะไร ถ้าจะพยายามทำอะไรซักอย่าง ให้คนที่เรารู้สึก “รัก”

“คิมลองชิมดูนะครับ ผมพึ่งหัดทำ”สุดท้ายก็ให้ไปจนได้

“…”เขาไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็ยื่นมือมารับ แล้วเปิดดูทันที

“ถ้ากินแล้วชอบบอกได้นะครับ วันหลังผมจะทำให้อีก”

“ให้ฉันในโอกาสอะไร”

“ก็มันเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องทำอาหาร ต้องดูแลคิมอยู่แล้วครับ”
ปากไม่ตรงกับใจอีกแล้วนะตะวัน แต่จะให้พูดอย่างไงในเมื่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของ คิดมาตลอดว่าผมเป็นพวกไร้ความรู้สึก ถ้าบอกไปจะรับได้ไหมก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นเก็บไว้ตลอดไปแบบนี้ดีแล้ว

“สมกับเป็นคำตอบของตะวันจริงๆ”เขาพูดแล้วหยิบช็อคโกแล็ตใส่ปาก

“รสชาติเป็นอย่างไงครับ”

“อร่อยดีนะ แต่กินเยอะๆก็ไม่ดีพวกของหวานทำให้อ้วน และเป็นสาเหตุของหลายๆโรค”

“…”
นั่นสินะ ทั้งที่ใส่ใจทุกรายละเอียด แต่ก็พลาดจนได้

“นายทำมาให้ฉันปีละครั้งก็พอทุกๆวันนี้ของปี ฉันจะต้องได้กินชอคโกแล็ต”เขายิ้มให้ผม สำหรับตะวัน คิมหันต์ก็ยังเป็นคนที่ใจดีเสมอ จะว่าไปคิมก็ได้ขนมทุกปีแต่ไม่เห็นจะอยากเปิดกิน ทำไมครั้งนี้ ช่างเถอะคงเป็นเพราะเขาเห็นผมเป็นเหมือนญาติเลยไม่อยากจะทำร้ายจิตใจ

“ลุงครับผมให้”ก่อนลงจากรถคิมหันต์ยื่นเงินค่าโดยสาร แถมด้วยดอกไม้และกล่องของขวัญที่ได้มาตลอดทั้งวันให้คนขับแท็กซี่ ลุงรับไปด้วยสีหน้างุนงง

“คิมครับ แต่”

“หรือนายอยากเก็บไว้”
ยังไม่ทันจะตอบอะไรเขาก็เดินเข้าไปในบ้าน

“เปล่าครับ แค่สงสัยเฉยๆ”

(ตอนเด็กมีเพิ่มนะคะ)

ปัจจุบัน
“กอดหน่อย”เขาอ้าแขนกว้าง รอการเติมเต็มจากเจ้าของเล่น

“ครับคิม”มันเดินเข้ามา กอดตอบเขา ไม่ต้องมีแล้วข้ออ้างที่ว่าหน้าที่

“นายรักฉันตั้งแต่ตอนไหน”

“เริ่มรู้สึกตั้งแต่ตอนที่ พาผมมาอยู่ด้วยแล้วล่ะครับ”

“ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเริ่มรู้สึกกับนายตั้งแต่ตอนไหน แต่มันค่อยๆเกิดขึ้น และวันที่นายเป็นลมแดดฉันก็รู้เลยว่าเสียนายไปไม่ได้”
มันยิ้ม เขาก็ยิ้ม ถ้าบอกความรู้สึกต่อกันเร็วกว่านี้ ไม่ต้องรอให้มีปัญหา คงจะมีความสุขกันไปตั้งนานแล้ว

“คิมไปข้างล่างก่อนไหมครับ เดี๋ยวผมเก็บห้องก่อน” เจ้าของเล่นมองไปทาง ข้าวของ เตียงนอนที่พังระเนระนาดด้วยฝีมือตัวเอง

“เดี๋ยวฉันช่วยเก็บ”

“มันเป็นหน้า…”

“หยุดพูดคำนี้เพราะความเคยชินะตะวัน สำหรับเราไม่มีคำว่าหน้าที่ของใคร คนใดคนหนึ่งอีกแล้ว”

“ครับคิม ขอบคุณครับ”


“ว่าแต่ฉันเริ่มกลัวแล้วสิ”

“กลัว?”
เจ้าของเล่นมีท่าทีสงสัย กับคำที่เจ้าของพูด

“ก็เข้าใจผิดแล้วพังห้องนอนขนาดนี้ ถ้าต่อไปเข้าใจผิดอีกก็กลัวจะไม่มีบ้านอยู่นะสิ”

“คิม”
มันทำตาขวาง อย่างที่ไม่เคยทำ กับสิ่งที่เขาพูด

“โอเค ไม่แกล้งแล้ว”

ไลน์ ไลน์ ไลน์


คลิปหนึ่งปรากฏขึ้นบนไลน์กลุ่มค่ายอาสา เมื่อตะวันกดเข้าไปดูก็เห็นผู้ชายสองคนที่ร่างกายเปลือยเปล่ากำลังทำกิจกรรมอะไรซักอย่าง แต่ยังไม่ทันที่จะเห็นมากกว่านั้นคิมหันต์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็แย่งโทรศัพท์ไป

“อย่าดูเลย”

“ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูครับ แต่ในกลุ่มค่ายอาสาไม่รู้ว่าคลิปอะไรเลยกดเข้าไป”

“ฉันไม่อยากให้นายดูอะไรพวกนี้”

“ครับ”

“ฉันหวง”

“ก็ยังไม่ได้ดูเลย คิมมาแย่งไปก่อน”

“เสียดายที่ไม่ได้ดู?”

“ไม่เสียดายหรอกครับ ไม่เคยดู แล้วก็ไม่อยากดูด้วย ไม่รู้จะดูไปทำไม”
มันรีบตัดบท กลัวอีกคนจะเข้าใจผิด

“ถึงเวลาจะให้ดู จะค่อยเป็นค่อยไป แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”เขาบอกอย่างหนักแน่น เวลาที่เหมาะสมคือหลังจากเรียนจบแล้วแต่งงาน เขายังอยากให้เกียรติมันเหมือนตอนที่คิดว่าตัวเองรู้สึกอยู่ฝ่ายเดียว ที่พูดหมายถึงเขาและมันจะค่อยๆเป็นค่อยๆไปด้วยกัน ถึงจะเก่งเรื่องอื่นขนาดไหนแต่สำหรับเรื่องนี้แล้ว ทั้งสองถือว่าไร้ประสบการณ์ อย่าว่าแต่กับผู้ชายด้วยกันเลยกับผู้หญิงก็ไม่เคย

“คิมนี่ขี้หวงนะครับ”พอเห็นท่าทีหนักแน่นของคิมหันต์ก็อดแซวไม่ได้

“ก็พอๆกับอะไรที่พังห้องเมื่อคืนนั่นแหละ”

ไลน์ ไลน์ ไลน์

ลมหนาว:มึงเล่นอะไรของมึงเนี่ย

:) :โทดๆ กูตั้งใจจะส่งไปแกล้งมึงไม่ทันดูว่าเป็นไลน์กลุ่ม

ลมหนาว:ยกเลิกข้อความเลย น้องอยู่กันเยอะ

:) : (ยกเลิกข้อความ)

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :3123:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ผู้มาจากร้านขายของเล่นมือสอง
« ตอบ #39 เมื่อ: 21-11-2019 16:07:52 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
น่าสนใจดีค่ะ เล่าเรื่องได้เร็ว น่าติดตาม ภาษาดี  ยังไม่เจอคำผิดนะคะ  ภาพประกอบน่ารัก

ดูสิว่า หนึ่งคนกับหนึ่งสิ่งจะพัฒนาความรักนี้ไปอย่างไร

ขอออกตัวก่อนว่า เราเป็นผู้อ่านที่ชอบอ่านงานที่มีความสมเหตุสมผล อันนี้เป็นนิสัยและรสนิยมในการอ่านค่ะ แม้แต่ในเรื่องแฟนตาซีมันก็มีความสมเหตุสมผลอยู่เสมอ นี่คนละเรื่องกับความสมจริงหรือความเป็นจริงนะคะ

เอาล่ะ ที่เกริ่นมาก็เพื่อจะบอกว่า เนื้อเรื่องนี้มีความแฟนตาซีนิด ๆ ทำให้เอามาหักล้างบางจุดที่เรารู้สึกว่ามันไม่สมจริงได้ เช่น การที่ตะวันต้องกิน เติบโต หรือป่วย (ในความเป็นปัญญาประดิษฐ์ น่าจะมีความเป็นหุ่นยนต์ มีชิ้นส่วนที่เป็นจักรกลมากกว่า)

ในส่วนของความสมเหตุสมผล เรารู้สึกว่าบางจุดอาจจะหลุดจากบุคลิกที่วางไว้ เช่น การที่คิมไม่รู้เลยว่าตะวันมีความรู้สึก เพราะตะวันแสดงอารมณ์ออกมา เช่น ยิ้มรับเหมันต์ คนที่อยู่ด้วยกันตลอดหรือมองแต่ตะวันอย่างคิมไม่น่าพลาด

ตอนที่พรรษมาทำงานที่บ้าน แล้วไปทำในห้องนอน เรารู้สึกว่ามันแปลก เพราะบ้านหลังใหญ่ น่าจะมีพื้นที่ที่เป็นส่วนกลางให้ใช้งานมากกว่าแค่ห้องนอน และคนหวงของอย่างคิมไม่น่าจะพาคนนอกเข้าห้องนอนค่ะ

อีกประเด็นคือ ตอนเปิดเรื่องทำให้เรารู้สึกว่า การมีหุ่นยนต์/ AI ใช้งานในบ้านเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไป แม้ว่าตะวันจะแตกต่าง แต่ก็เหมือนกับว่าคนอื่น ๆ ในเรื่องไม่ได้มีประสบการณ์หรือคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้เลย ตรงนี้อาจจะเป็นเราเองที่จินตนาการไปเกินขอบเขตเนื้อเรื่องที่คุณเล่าถึงน่ะค่ะ

ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องการนำเสนอนิดหน่อยค่ะ

1. บทสนทนา อาจจะใช้ตัวหนังสือปกติ ไม่ต้องใช้ตัวหนาก็ได้ค่ะ พอใช้ตัวหนาแล้วเรารู้สึกว่าเป็นการเน้นใจความ น่าจะเป็นบทพูดที่สำคัญ พอหนาทั้งหมด เรารู้สึกว่ามันลายตาค่ะ
2. การแบ่งช่วงของเนือเรื่องเมื่อมีการเปลี่ยนฉาก อาจจะใช้ ---------------- (เส้นทึบไปเลยก็น่าจะให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน) เพื่อเป็นการแบ่งให้เห็นชัดว่าเนื้อความก่อนหน้าจบไปแล้ว เราอ่านเพลิน ๆ ยาว ๆ ก็เอะใจว่ามันคนละเรื่องแล้วนี่นา ลองดูนะคะ


ขอให้รับรู้ว่าเราไม่ได้ติหรือหาจุดจับผิดนะคะ เรารู้สึกอยากคุยกับคุณ Kunnmingkwan เพื่อแชร์สิ่งที่คิดค่ะ

สู้ ๆ นะคะ  เราจะรออ่านเรื่องของคิมและตะวันตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Kunnmingkwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่าสนใจดีค่ะ เล่าเรื่องได้เร็ว น่าติดตาม ภาษาดี  ยังไม่เจอคำผิดนะคะ  ภาพประกอบน่ารัก

ดูสิว่า หนึ่งคนกับหนึ่งสิ่งจะพัฒนาความรักนี้ไปอย่างไร

ขอออกตัวก่อนว่า เราเป็นผู้อ่านที่ชอบอ่านงานที่มีความสมเหตุสมผล อันนี้เป็นนิสัยและรสนิยมในการอ่านค่ะ แม้แต่ในเรื่องแฟนตาซีมันก็มีความสมเหตุสมผลอยู่เสมอ นี่คนละเรื่องกับความสมจริงหรือความเป็นจริงนะคะ

เอาล่ะ ที่เกริ่นมาก็เพื่อจะบอกว่า เนื้อเรื่องนี้มีความแฟนตาซีนิด ๆ ทำให้เอามาหักล้างบางจุดที่เรารู้สึกว่ามันไม่สมจริงได้ เช่น การที่ตะวันต้องกิน เติบโต หรือป่วย (ในความเป็นปัญญาประดิษฐ์ น่าจะมีความเป็นหุ่นยนต์ มีชิ้นส่วนที่เป็นจักรกลมากกว่า)

ในส่วนของความสมเหตุสมผล เรารู้สึกว่าบางจุดอาจจะหลุดจากบุคลิกที่วางไว้ เช่น การที่คิมไม่รู้เลยว่าตะวันมีความรู้สึก เพราะตะวันแสดงอารมณ์ออกมา เช่น ยิ้มรับเหมันต์ คนที่อยู่ด้วยกันตลอดหรือมองแต่ตะวันอย่างคิมไม่น่าพลาด

ตอนที่พรรษมาทำงานที่บ้าน แล้วไปทำในห้องนอน เรารู้สึกว่ามันแปลก เพราะบ้านหลังใหญ่ น่าจะมีพื้นที่ที่เป็นส่วนกลางให้ใช้งานมากกว่าแค่ห้องนอน และคนหวงของอย่างคิมไม่น่าจะพาคนนอกเข้าห้องนอนค่ะ

อีกประเด็นคือ ตอนเปิดเรื่องทำให้เรารู้สึกว่า การมีหุ่นยนต์/ AI ใช้งานในบ้านเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไป แม้ว่าตะวันจะแตกต่าง แต่ก็เหมือนกับว่าคนอื่น ๆ ในเรื่องไม่ได้มีประสบการณ์หรือคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้เลย ตรงนี้อาจจะเป็นเราเองที่จินตนาการไปเกินขอบเขตเนื้อเรื่องที่คุณเล่าถึงน่ะค่ะ

ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องการนำเสนอนิดหน่อยค่ะ

1. บทสนทนา อาจจะใช้ตัวหนังสือปกติ ไม่ต้องใช้ตัวหนาก็ได้ค่ะ พอใช้ตัวหนาแล้วเรารู้สึกว่าเป็นการเน้นใจความ น่าจะเป็นบทพูดที่สำคัญ พอหนาทั้งหมด เรารู้สึกว่ามันลายตาค่ะ
2. การแบ่งช่วงของเนือเรื่องเมื่อมีการเปลี่ยนฉาก อาจจะใช้ ---------------- (เส้นทึบไปเลยก็น่าจะให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน) เพื่อเป็นการแบ่งให้เห็นชัดว่าเนื้อความก่อนหน้าจบไปแล้ว เราอ่านเพลิน ๆ ยาว ๆ ก็เอะใจว่ามันคนละเรื่องแล้วนี่นา ลองดูนะคะ


ขอให้รับรู้ว่าเราไม่ได้ติหรือหาจุดจับผิดนะคะ เรารู้สึกอยากคุยกับคุณ Kunnmingkwan เพื่อแชร์สิ่งที่คิดค่ะ

สู้ ๆ นะคะ  เราจะรออ่านเรื่องของคิมและตะวันตอนต่อไปนะคะ
ขอบคุณค่าาา รู้สึกดีใจมากๆที่มีคนมองตัวละครของเราแล้วเสนอความคิด ในอีกมุมมองหนึ่ง ชอบความคิดที่ว่าคิมไม่น่าพลาด ถ้าตะวันมาอ่านตรงที่ว่าคิมที่มองแค่ตะวันคงจะรู้สึกดีแน่ๆ ส่วนเรื่องตัวละครไม่เคยชินกับความเป็น ai หรือปัญญาประดิษฐ์ เพราะคนรอบตัวของคิมและเจ้าของเล่นในตอนนี้ยังเป็นเพียงนักศึกษา แต่รอติดตามตอนต่อๆไปนะคะ แล้วก็ขอบคุณมากๆที่ช่วยแนะนำเรื่องพวกการใส่ตัวหนา หรือเมื่อถึงช่วงเปลี่ยนตอน น้อมรับฟังทุกคำติชมค่าาา  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2019 07:44:50 โดย Kunnmingkwan »

ออฟไลน์ Kunnmingkwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตะวัน

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด