MY BLUE #น้ำเงินของผม
“โอเคครับ เดี๋ยวพาร์ทนี้ต้องขอหยุดไว้ตรงนี้ก่อนนะครับทุกคน แต่พาร์ทหน้าผมว่าน่าจะเป็นพาร์ทสุดท้ายแล้วล่ะ ลงช้าก็อย่าว่ากันนะจ๊ะ ซียู!!” ทันทีที่สิ้นเสียงทุ้มๆอันน่าฟังของ
เซฟ เจ้าตัวก็จัดการเซฟวิดีโอเกมที่อัดเอาไว้ก่อนจะจัดการแบคอัพไฟล์ไว้กันไฟล์เสีย และเริ่มตัดต่อวิดีโอทันทีเพื่อที่จะได้ลงคลิปให้คนที่ติดตามได้รับชม
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยร่างสูงก็ลุกออกจากเก้าอี้พลางบิดขี้เกียจเพื่อไล่อาการเมื่อยล้าและยืดเส้นยืดสายก่อนจะจัดการปิดไฟทั้งหมดในห้องนี้ที่เขาเอาไว้เล่นเกม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนที่อยู่ตรงข้ามกัน
ภายในห้องนอนถูกเปิดแอร์เอาไว้จนเย็นฉ่ำ บนเตียงมีก้อนผ้าห่มอยู่ ภายในก้อนผ้าห่มมีร่างเล็กของใครบางคนกำลังหลับตาพริ้มอย่างสบาย
เซฟพยายามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุดเพราะกลัวว่าคนบนเตียงที่กำลังหลับสบายอยู่นั้นจะตื่นขึ้นมา เขาแทรกกายลงไปในผ้าห่มผืนเดียวกับอีกคนก่อนจะรวบตัวคนที่เล็กกว่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน แต่ก็ไม่วายทำให้อีกคนรู้สึกตัวอยู่ดี
“อื้อ.. เสร็จแล้วหรอ” คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “กี่โมงแล้วอ่ะ”
“ตีสองกว่าๆแล้ว นอนต่อเถอะ” เซฟขยับผ้าห่มให้คลุมทั้งตัวเองและร่างของอีกคนให้พอดี ก่อนกดจูบลงไปบนพวงแก้มนิ่ม แล้วพูดขึ้น “ฝันดีนะ
บลู”
“งืม ฝันดีเซฟ” ร่างเล็กตอบด้วยเสียงอันงึมงัมก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมๆกัน
.
.
.
เช้านี้บลูตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งที่หน้าท้อง ร่างเล็กค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา ก่อนจะหยีตาลงเนื่องจากแสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา เขาพยายามปรับสภาพตาให้ชินต่อแสงแดดแล้วค่อยๆมองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่าสาเหตุที่ทำให้เขาหนักอึ้งที่หน้าท้องก็เป็นเพราะท่อนแขนที่มีกล้ามแบบพอเหมาะกำลังรัดตัวของเขาอยู่ พร้อมกับปลายคางของอีกคนที่กดอยู่บนหัวของเขา เท่ากับว่าตอนนี้เขากำลังจมอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน
บลูกวาดมือหาโทรศัพท์มือถือไปรอบๆเพื่อมาดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ9โมงแล้ว เขาค่อยๆยกแขนของอีกคนออกก่อนจะลงจากเตียงเพื่อไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ และอาบน้ำเลยในเวลาเดียวกัน
หลังจากจัดการธุระส่วนตัวและอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว บลูก็เดินมาที่ห้องครัวก่อนจะเปิดตู้เย็นเพื่อหาวัตถุดิบมาทำอาหารเช้าง่ายๆให้ทั้งเขาและอีกคน เขาลงมือหุงข้าวก่อนจะทำหารเช้าจากวัตถุดิบอันน้อยนิดที่มีอยู่
ไม่นานเมนูง่ายๆอย่างผัดผักและต้มจืดเต้าหู้ก็เสร็จเรียบร้อย ก่อนที่จะตั้งโต๊ะอาหารเขาสำรวจว่ามีอะไรที่ขาดหรือต้องซื้อเพิ่มบ้างก่อนจะลิสต์ไว้ในมือถือเพราะว่าวันนี้เขาคงต้องออกไปซื้อของมาไว้เพิ่ม
เมื่อสำรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วบลูจึงมุ่งตรงไปที่ห้องนอนเพื่อไปปลุกอีกคนที่กำลังนอนหลับอยู่
“เซฟ ตื่นได้แล้ว” บลูนั่งลงบนเตียงข้างๆร่างที่นอนอยู่ก่อนใช้มือเขย่าตัวของอีกคนเบาๆ “ตื่นนนนน กินข้าวกันนนนน”
“อืม ตื่นแล้ว” เสียงแหบแห้งของคนตัวสูงตอบกลับมาก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นนั่งและทิ้งตัวนอนลงบนตักของร่างเล็กในเวลาต่อมา
“ไม่ต้องเลย ตื่นๆๆ”บลูพูดพลางบีบแก้มของอีกเป็นจังหวะ
“จุ๊บๆกูก่อนแล้วเดี๋ยวกูตื่นเลย” เซฟพูดก่อนจะทำปากจู๋เพื่อรอรับสัมผัสจากอีกคน
จุ๊บ
“ไปล้างหน้าแปรงฟันเลย” บลูก้มลงจุ๊บอีกคนตามคำขอก่อนจะไล่ให้อีกคนไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย “เดี๋ยวไปรอข้างนอก”
สิ้นเสียงของบลูร่างสูงก็ลุกออกจากตักของอีกคนแล้วลงจากเตียงแต่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป เจ้าตัวก็หันกลับมาหาคนตัวเล็กที่ยังนั่งอยู่บนเตียงก่อนจะขโมยหอมแก้มอีกคนดังฟอดแล้วเดินเอ้อระเหยเข้าห้องน้ำไป
บลูส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆก่อนที่เดินออกจากห้องนอนแล้วกลับไปที่ห้องครัวอีกครั้งเพื่อเตรียมโต๊ะอาหารให้พร้อมระหว่างรออีกคนจัดการตัวเองเสร็จ
ร่างสูงของอีกคนเดินเข้ามาในห้องครัวเป็นเวลาเดียวกับที่บลูวางแก้วน้ำเย็นทั้งสองใบลงบนโต๊ะพอดี ทั้งคู่จึงนั่งลงในที่ประจำของตัวเองและเริ่มลงมือทานอาหารเช้าทันที่
"เออ เดี๋ยววันนี้จะไปห้างนะ" เมื่อเริ่มทานอาหานไปได้สักพักบลูก็เป็นคนเริ่มพูดก่อน "ของสดหมดแล้วอ่ะ"
"เดี๋ยวไปด้วย"
"อ้าว แล้วจะไม่อยู่สตรีมหรอ" บลูถามขึ้นเพราะเห็นว่าปกติเซฟจะชอบสตรีมเกมช่วงกลางวัน ส่วนกลางคืนจะเป็นช่วงอัดคลิปเกม
"ไม่อ่ะ อยากไปห้างกับแฟน" เซฟตอบก่อนจะมองหน้าอีกคน "ไม่ได้ไปไหนกับแฟนนานแล้ว กลัวแฟนงอน"
"บ้า ใครจะงอนเล่า" บลูพูดก่อนจะตักข้าวเข้าปากแก้เขิน
"ก็กูอยากใช้เวลากับมึงเยอะๆอ่ะ วันๆกูเอาแต่อยู่ในห้อง กูกลัวมึงจะเบื่อ"
"เซฟ มันเป็นงานของมึงนะ แล้วอีกอย่างเราก็เป็นแฟนกันมาตั้งนาน กูเข้าใจมึงอยู่แล้ว"
เซฟเป็นเกมเมอร์และเป็นยูทูปเบอร์ชื่อดังที่มียอดผู้ติดตามในยูทูปเกินกว่า3ล้านซัพ และมีผู้ติดตามในช่องทางสตรีมเกินกว่า7หมื่นแอคเคาท์ทำให้เจ้าตัวต้องคอยแอคทีพตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เสียผู้ติดตามไป
ส่วนบลูนั้นไม่มีงานประจำเพราะที่บ้านเป็นเจ้าของธุรกิจชุดชั้นในสตรี และไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงานกับที่บ้านด้วย เพราะครอบครัวกลัวว่าบลูจะอายที่ต้องมาทำธุรกิจนี้
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ติดตามเซฟอยู่เข้าใจว่าบลูคือผู้ช่วยของเซฟ เพราะบางครั้ง
บลูก็ต้องช่วยเป็นตากล้องให้เวลาที่อีกคนออกไปอัดวิดีโอบล็อก
"อือ กูชอบนะที่มึงเข้าใจกู" เซฟพูดขึ้นก่อนนะเอื้อมมือไปจับมือของอีกคนที่วางอยู่บนโต๊ะ "ขอบคุณนะบลู"
"หูยยย เจ้าหมาเซฟหงอยไปเลย" บลูวางช้อนที่ถืออยู่ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบผมสีทองที่ตอนนี้เริ่มจะมีโคนดำแทรกขึ้นมาแล้วของอีกคน "กินข้าวต่อเร็ว ได้ไปข้างนอกกัน"
.
.
.
เกือบๆ11โมงเป็นเวลาที่ทั้งคู่มาถึงห้างพอดี เซฟจัดการถอยรถเข้าซองจอดรถให้เรียบร้อยก่อนที่ทั้งคู่จะลงจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้างทันทีเนื่องจากอากาศที่ร้อนระอุของประเทศไทย
"ทำผมมั้ย โคนดำขึ้นเยอะแล้ว" บลูถามขึ้นเมื่อหันไปเห็นร้านประจำของอีกคน
"ก็ดี อยากเปลี่ยนสีแล้ว"
เมื่อตัดสินใจได้ทั้งคู่ก็รีบเดินไปที่ร้านทำผมทันที ร้านนี้เป็นร้านของรุ่นพี่ที่รู้จัก ทำให้ทั้งสองคนมาใช้บริการที่นี่บ่อยๆ
“อ้าว ได้ฤกษ์มาทำผมแล้วหรอพ่อคนดังในโลกโซเชียล” ทันทีที่เซฟก้าวเท้าเข้าไปในร้าน เขาก็ถูก
พี่ส้มสาวสองผู้เป็นเจ้าของร้านเข้ามาทักทันที
“ดีครับพี่สมชาติ” เซฟทักทายเจ้าของร้านกลับด้วยถ่อยคำที่กวนเล็กน้อย แต่เนื่องจากทั่งคู่เองก็สนิทกันอยู่แล้วจึงถือเป็นเรื่องปกติ
“โอ๊ยอิเซฟ กวนนักนะ”
“หวัดดีครับพี่ส้ม” บลูที่ตามเข้ามาติดๆก็ทักทายเจ้าของร้านเช่นเดียวกัน
“อุ๊ยตาย น้องบลูมาด้วยหรอเนี่ย” ทันทีที่ส้มเห็นบลูเข้าจึงรีบเข้าไปกอดทักทายรุ่นน้องตัวเล็กทันที บลูเป็นน่ารักมาก จึงไม่แปลกที่เขาจะเอ็นดูเป็นพิเศษ “หนูคบมันเป็นแฟนได้ไงลูก กวนขนาดนี้”
“พี่ส้มอย่าพูดดังสิครับ เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” บลูรีบพูดขึ้นมาก่อนจะมองไปรอบร้านเพื่อดูว่ามีใครได้ยินหรือไม่
“พี่ลืมเลย โทษทีนะ” ส้มขอโทษด้วยความรู้สึกผิด เพราะเรื่องที่ทั้งสองคนคบกันเป็นเรื่องที่รู้ในหมู่คนสนิทและครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
“ไม่เป็นไรครับพี่” บลูพูดก่อนจะหันไปหาเซฟที่กำลังมองมาที่ตน “เดี๋ยวกูไปนั่งรอตรงนั้นนะ” พูดก่อนชี้นิ้วไปที่โซฟาสำหรับนั่งรอที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และเซฟก็ตอบรับโดยการพยักหน้าให้ก่อนที่คนตัวเล็กจะเดินออกไปทันที
“แล้ววันนี้จะทำผมสีไร หรือจะเติมสีเดิมดี” ส้มถามก่อนจะพากันไปที่เก้าอี้สำหรับย้อมผม
“ย้อมดำแล้วไฮไลท์สีน้ำเงินอ่ะ ได้มั้ย” เซฟตอบก่อนจะใช้มือเสยผมแล้วชี้จุดที่ต้องการให้เป็นสีน้ำเงิน “ไม่ต้องเยอะมาก สัก3-4จุด”
"โห ย้อมดำเลยหรอ เสียดายอ่ะ" ส้มพูดก่อนจะเริ่มลงมือทาเบบี้ออยตามจุดต่างๆเพื่อป้องกันสีย้อมผมไปติด
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ ผมเบื่อสีทองแล้วว่ะ”
“โอเค งั้นจัดไป”
เมื่อตกลงเรื่องสีผมที่จะทำกันเรียบส้มก็เริ่มลงมือย้อมสีผมทันที ระหว่างที่ย้อมผมทั้งคู่ก็คุยกันถึงเรื่องที่ผ่านมาและถามสารทุกข์สุขดิบตามประสาคนสนิท
หลังจากที่ย้อมผมจนหมดทั้งหัวส้มก็ขอปลีกตัวไปทำงานอย่างอื่นพร้อมบอกว่าจะมาล้างสีผมให้เมื่อถึงเวลา
คล้อยหลังที่ส้มเดินออกไปแล้วเซฟก็หยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะส่งข้อความไปหาคนตัวเล็กที่นั่งรอเขาอยู่
SAVE:
เบื่อมั้ย
BLUE:ม่ายยยย
ไปซื้อชานมมากินอ่ะ
แต่มึงไม่ชอบเลยไม่ได้ซื้อมาให้อ่ะ
*รูปภาพ*
อีกคนตอบกลับข้อความมาพร้อมกับแนบรูปถ่าย เป็นรูปเซลฟี่ของคนตัวเล็กคู่กับชานมไข่มุกของโปรดของเจ้าตัว ดูแล้วน่ารักไม่เบา นิ้วเรียวของเซฟก็กดเซฟรูปของอีกคนโดยอัตโนมัติ
SAVE:
อย่ากินเยอะ
เดี๋ยวไปกินข้าวกัน
BLUE:อะเค
เล่นเกมรอนะ
หลังจากที่คนตัวเล็กขอไปเล่นเกมเซฟก็เช็คฟีตแบ็กของตัวเองตามโซเชียลต่างๆ ก่อนจะไล่อ่านคอมเม้นของคลิปที่ลงไว้ก่อนจะออกมาข้างนอกจนถึงเวลาที่ส้มมาล้างสีผมให้
.
.
.
หลังจากเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ด้านคนตัวเล็กที่เล่นเกมจนแบตมือถือแทบจะหมด คนตัวสูงก็ยังทำผมไม่เสร็จ บลูตัดสินใจหยิบไอแพดขึ้นมาก่อนจะกดเข้าแอพพลิเคชั่นสีแดงเพื่อหาอะไรดู ก่อนที่เขาจะไปสะดุดตากับคลิปหนึ่ง เป็นคลิปที่แฟนคลับทำขึ้นมา มันคือคลิปวิดีโอที่รวมโมเม้นระหว่างเซฟกับ
แบร์ ยูทปเบอร์หนุ่มน้อยชื่อดังอีกช่องหนึ่งที่มีกระแสเป็นคู่จิ้นกัน
บลูดูไปเรื่อยๆด้วยอารมณ์ที่ปกติจนจบคลิป ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมาก เขาเข้าใจดีว่าเซฟไม่ได้คิดอะไรกับหนุ่มน้อยคนนั้น ถึงแม้ว่าแบร์จะทักมาบ่อยแค่ไหนก็ตามแต่เซฟไม่เคยตอบกลับเลยนอกจากเรื่องงาน ซ้ำบางครั้งเจ้าตัวยังเอาแชทระหว่างตัวเองกับแบร์มาให้เขาอ่านอีกด้วย
เซฟกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดจึงทำทุกอย่างให้เขาสบายใจและไม่มีอะไรที่ปิดบังกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีสักครั้งเลยที่เขาจะไม่ไว้ใจเซฟ เราอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจและความไว้ใจที่เรามีต่อกัน จึงทำให้เราคบกันได้นาน
“บลู” ในระหว่างที่บลูกำลังเพลิดเพลินกับการ์ตูนหมีสามตัวเซฟที่ทำผมเสร็จแล้วก็เดินออกมาหาอีกคนทันที
ทันทีที่บลูละสายตาจากหน้าจอไอแพดขึ้นไปมองหน้าอีกคนพลันหัวใจของคนตัวเล็กก็กระตุกเหมือนตอนที่เขาโดนจีบตอนแรกๆ
เซฟในผมทรงนี้ดูดีมาก มันคือทรงBowl Cutสีดำที่ดูสบายๆและเป็นธรรมชาติบวกกับผมม้าที่ไม่ยาวจนเกินไปและมีไฮไลท์สีน้ำเงินอยู่เป็นจุดๆ
“บลู ทรงนี้เป็นไงบ้าง” เซฟมั่นใจมากว่าบลูจะต้องชอบทรงนี้ แต่เมื่อเห็นว่าบลูเงียบไป ความมั่นใจของเซฟก็เริ่มลดลงทันที “ไม่ดีหรอวะ”
“ดี ดีมากเลย” บลูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงลอยๆ นั่นเรียกความมั่นใจของเซฟกลับคืนมาได้เป็นอย่างดี
“ป่ะ กินข้าวกัน” ร่างสูงชวนคนตัวเล็กไปทานข้าวเพราะตอนนี้เป็นเวลาบ่ายกว่าๆแล้ว
“ไปสิ” ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเตรียมตัวที่จะออกจากร้าน บลูก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “แล้วพี่ส้มอ่ะ”
“ลาแทนแล้ว ข้างในคนเยอะ” เซฟตอบก่อนที่จะจูงมืออีกคนให้ออกจากร้านไป
ทั้งคู่เลือกเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างยาโยอิเพราะบลูบ่นว่าอยากกินมาหลายวันแล้ว ในตอนที่กำลังจะเดินเข้าร้าน ก็มีกลุ่มเด็กผู้หญิงในชุดนักเรียน2-3คนวิ่งเข้ามาทัก ทำให้มือของทั้งคู่ที่จับจูงกันอยู่หลุดออกจากกันทันที
“พี่เซฟรึเปล่าคะ” เด็กผู้หญิงที่สูงที่สุดในกลุ่มเป็นคนเริ่มถาม
“อ่า ใช่ครับ หล่อๆอย่างนี้มีคนเดียว” เซฟตอบกลับก่อนจะเป็นฝ่ายถามบ้าง “แล้วน้องๆโดดเรียนกันมาหรอ มันยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนหนิ”
“ไม่ใช่ค่ะพี่ วันนี้เรียนแค่ครึ่งวัน” ก็เป็นเด็กผู้หญิงคนเดิมที่ตอบคำถามก่อนจะเอ่ยขอสิ่งที่พวกเธอต้องการ “ขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยคะพี่”
ยังไม่ทันที่เซฟจะได้ตอบคำถามเธอก็ยัดมือถือที่เปิดแอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายรูปไว้อยู่แล้วใส่ในมือของบลูที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ถ่ายให้หน่อยสิ” สิ้นเสียงของเธอ เด็กผู้หญิงทั้งสามคนก็เดินเข้าไปชิดตัวของเซฟทันที
บลูจัดการถ่ายรูปให้น้องๆไปสองสามรูปก่อนที่ทั้งสามคนจะขอตัวไปดูหนัง แต่ก่อนที่จะไปเซฟก็ย้ำว่าอย่าพึ่งลงรูปตอนนี้ เพราะเขาตั้งใจว่าจะสตรีมอยู่แล้ว
หลังจากที่เด็กทั้งสามคนเดินจากไปแล้วทั้งคู่ก็รีบเข้าไปนั่งในร้านและสั่งอาหารทันที ใช้เวลาไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟทั้งคู่จึงลงมือทานอาหารทันทีโดยไม่มีการพูดคุยใดๆทั้งสิ้น เพราะต่างคนต่างหิวกันมากแล้ว
ผ่านไปประมาณ10นาทีอารหารที่สั่งมาก็เริ่มพร่องไปจนเกือบจะหมด เซฟก็เป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน
“เมื่อกี๊มึงโอเครึเปล่า” เซฟถามขึ้นถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
“เรื่องไรล่ะ” บลูถามกลับก่อนจะวางตะเกียบที่ถืออยู่ไว้บนชาม “ที่น้องเขาใช้กูถ่ายรูปอ่ะหรอ”
“ใช่ น้องเขาพูดไม่มีหางเสียงกับมึงเลย” เมื่อนึกถึงตรงนี้เซฟก็รู็สึกไม่ดีขึ้นมา เพราะทุกครั้งเวลาที่ไปไหนมาไหนกับบลู อีกคนมักได้รับการปฏิบัติที่ไม่ค่อยจะดีเสมอ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะพฤติกรรมที่จิ้นจนเกินไปของแฟนๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ชินแล้ว” บลูตอบก่อนจะเริ่มจับตะเกียบอีครั้ง “ถ้าเป็นแบร์น้องเค้าก็คงจะดี๊ด๊าใหญ่เลยล่ะ”
“ไม่เอา ไม่พูดแบบนี้” เซฟเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่งอแงเล็กน้อย
“ฮ่าๆ กูรู้” บลูพูดก่อนจะคีบเกี๊ยวซ่าชิ้นสุดท้ายในจานใส่ปากของอีกคน “กินเร็ว จะได้ไปซื้อของกัน”
.
.
.
หลังจากที่ทั้งคู่ทานอาหารจนหมดแล้ว พวกเขาก็ลงมาที่ชั้นของซุปเปอร์มาเก็ตและเดินเลือกซื้อของทันที บลูเปิดรายการที่ลิตส์ที่ไว้ในมือถือและหยิบของได้อย่างแม่นยำ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นของที่ซื้อเป็นประจำกันอยู่แล้วจึงใช้เวลาไม่นานในการเลือก
“เย็นนี้จะให้กูทำหรือจะซื้อเข้าไป” เมื่อเดินมาถึงโซนที่เป็นของสดบลูก็ถามขึ้น
“อยากกินที่มึงทำ” เซฟตอบเพราะบลูทำอาหารอร่อยมาก อร่อยว่าบางร้านเสียด้วยซ้ำ เขาจึงอยากกินบ่อยๆ
“แล้วจะกินไรดี” บลูถามพลางเดินไปที่ตู้ที่มีเนื้ออยู่ “กินสเต๊กมั้ย หรือแกงกะหรี่ดี”
“แล้วแต่ มึงทำอะไรก็อร่อย”
“งืม งั้นเย็นนี้สเต๊กเนื้อแล้วเดี๋ยวตุ๋นแกงกะหรี่ไว้กินพรุ่งนี้เนาะ” บลูตัดสินใจและเริ่มเลือกเนื้อทันที
ทั้งคู่ช่วยกันเลือกซื้อของสดกันอยู่สักพัก ระหว่างที่เดินก็มีคนเข้ามาทักบ้างประปราย เมื่อเลือกของสดเสร็จ ทั้งคู่ก็เดินไปที่เคาท์เตอร์คิดเงินทันที บลูเป็นคนเดินนำไปก่อนส่วนเซฟเข็นรถตาม
เมื่อเดินผ่านโซนหนึ่งเซฟก็หยุดเดินทันที มันคือล็อกของถุงยางอนามัยที่มีให้เลือกสรรค์อย่างมากเลย
“บลู เอานี่ป่ะ” เซฟเรียกบลูให้หันกลับมาพร้อมกับชี้ไปของที่อยู่ตรงหน้า เมื่อเห็นดังนั้นบลูจึงรีบเดินเข้ามาประชิดตัวอีกคนทันที
“อย่าเสียงดังสิ” บลูพูดก่อนจะมองไปรอบๆด้วยความเขินอายเล็กน้อย
“ไม่มีใครเค้ามาสนใจเราหรอกหน่า” เซฟก็มองไปรอบๆเช่นเดียวกัน “ว่าไง นานแล้วนะ” เซฟถามย้ำอีกครั้งก่อนจะก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูอีกคน “อยากว่ะ”
“ไอ้บ้านี่” บลูพูดด้วยอาการที่หน้าแดงหูแดงและเตรียมจะเดินหนีอีกคน แต่ก่อนที่จะไปบลูก็พูดก็ขึ้นมาเบาๆว่า “อยากเอาก็ซื้อเลย” แล้วเดินหนีไป
“หึ” เซฟขำในลำคอและยิ้มที่มุมปากก่อนจะเลือกที่เป็นไซส์ของตัวเองและแบบที่อีกคนนั้นชอบแล้วเข็นรถตามอีกคนที่ไปรออยู่ที่เคาท์เตอร์คิดเงินอยู่แล้ว
.
.
.
ใช้เวลาอยู่บนท้องถนนสักพักทั้งคู่ก็ฝ่าการจราจรที่เริ่มจะติดขัดของเย็นวันศุกร์มาถึงบ้านที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน
เมื่อเข้ามาถึงในบ้านเซฟก็เดินไปทิ้งตัวที่โซฟาที่ตั้งอยู่ ส่วนบลูก็เริ่มเอาของที่ซื้อมาไปจัดวางตามที่ต่างๆและเก็บของสดเข้าตู้เย็น ก่อนจะเตรียมตัวในการทำมื้อเย็น
“จะ5โมงแล้วอ่ะ เดี๋ยวไปสตรีมแปปนะ” ในตอนที่บลูกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมของ เซฟก็เดินเข้ามาให้ห้องครัวเพื่อบอกว่าตนกำลังจะไปสตรีมแล้ว
“อ้าว แล้วจะลงสตรีมกี่โมง” บลูถามเพื่อที่จะได้กะเวลาถูก
“หกครึ่งก็ลงแล้ว”
“โอเค ดีๆนะ อย่าพูดคำหยาบเยอะ” บลูพูดเตือนเพราะเซฟมักเผลอผู้คำหยาบออกมาเวลาที่เจ้าตัวอินกับเกม
“เคครับที่รัก” เซฟรับคำก่อนจะเดินออกมาจากห้องครัวและเดินเข้าห้องที่เข้าจัดไว้เล่นเกมที่อยู่เยื้องๆกัน
เมื่อเข้ามาในห้องเขาก็จัดการเปิดไฟ เปิดแอร์ และเปิดคอมก่อนเซ็ตอัพสตรีมให้เรียบแล้ว ดูมุมกล้องที่ตั้งเอาไว้และเริ่มสตรีมทันที
ทันทีที่สตรีมของเขาถูกเผยแพร่ออกไปผู้คนก็เริ่มเข้ามาเม้นทักทาย และส่งบิทกับโดเนทให้แก่เขา
ติ๊ง!
“ขอบคุณโดเนท100บาทจากน้องวาวาครับ”
ติ๊ง!
“ขอบคุณ5พันบิทจากน้องฝ้ายครับ”
ติ๊ง
“ขอบคุณ1พันบิทจากคุณไก่ครับ”
“โห ใจเย็นนะทุกคน ยังไม่ได้เริ่มเล่นไรเลยเนี่ย” เซฟพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทั้งโดเนทและบิทแจ้งเตือนมาไม่ขาดสาย
mexfeb : สีผมใหม่หล่อมากเลยค่า “ฮ่าๆ ขอบคุณครับน้องกุม” ตอนนี้เริ่มมีคอมเม้นเข้ามามากมาย เขาจึงไล่อ่านคอมเม้นก่อนที่จะเริ่มเล่นเกม
BEARRYBOY : ทรงผมนี้หล่อจังฮะ ในขณะที่เขากำลังไล่อ่านคอมเม้นอยู่นั้น แบร์ ผู้ซึ่งมีกระแสเป็นคู่จิ้นกับเขาก็เข้ามาเม้น
“ขอบคุณครับน้องแบร์”
BEARRYBOY : ทำไมไม่ตอบแชทผมเลยยยย “มือถือพี่พังครับ” เซฟตอบตัดบททั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วมือถือของเขาไม่ได้พังสักนิดแถมมันยังสภาพใหม่เอี่ยมอ่องเนื่องจากพึ่งจะซื้อมาได้ไม่นาน
ตอนนี้คอมเม้นส่วนใหญ่กลายเป็นคอมเม้นที่หวีดคู่จิ้นไปเสียแล้ว เขาจึงอ่านข้ามคอมเม้นพวกนั้นไปก่อนจะมองหาคอมเม้นที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาโดยตรง
wansao_ : วันนี้เห็นพี่นั่งกินข้าวกับพี่บลูด้วย พี่บลูน่าร้ากก “ฮ่าๆ ขอบคุณครับเดี๋ยวบอกบลูให้นะ”
bai_fern : พี่เซฟชอบสีไรคะ “สีน้ำเงินฮะ”
runrunrun : สเปคพี่เป็นยังไงคะ “คนที่ดูน่ารักแล้วก็เซ็กซี่ครับ” ในตอนที่ตอบคำถามข้อนี้ เซฟก็นึกไปถึงอีกคนที่กำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว
savebeargirl : พูดถึงน้องแบร์แน่เลย กี๊ดๆ “ไม่ใช่ละน้อง” เซฟตอบคำถามนั้นเป็นคำถามสุดท้ายก่อนที่เขาจะเริ่มเล่นเกม “วันนี้มาแค่หกครึ่งนะ เดี๋ยวจะไปกินข้าวกับบลู”
หลักจากนั้นเขาก็เริ่มเล่นเกมยอดฮิตอย่างพับจี หรือ PLAYERUNKNOWN’S BATTLEGROUNDS เป็นเกมแนว Tactical-FPS Survival Open World โดยจะจำกัดจำนวนผู้เล่นสูงสุด 100 คนต่อ 1 Match เริ่มต้นพร้อมๆกัน หากใครสามารถเอาชีวิตรอดไปจนถึงคนสุดท้ายได้ ก็จะเป็นฝ่ายชนะ ในปัจจุบันมีสตรีมเมอร์ที่แจ้งเกิดจากเกมนี้อย่างมากมาย
เซฟเล่นเกมและตอบคอมเม้นจนเวลาล่างเลยไปจนถึง6โมง10 เขาก็ออกจากเกมและมาอ่านคอมเม้นเพื่อเตรียมลาทุกคน
savebeargirl : ทำไมต้องไปกินข้าวกับคนชื่อบลูด้วยคะ “เพราะพี่อยู่บ้านเดียวกันครับ”
ติ๊ง!
“เซฟบลูจงเจริญค่ะ ฮ่าๆ ขอบคุณ1หมื่นบิทจากน้องวันเสาร์ด้วยน้า ให้มาเยอะจัง” หลังจากอ่านบิทสุดท้ายที่ส่งมาเขาก็ตัดสินใจที่จะลงสตรีมทันที
“เดี๋ยววันนี้เซฟขอตัวก่อนนะครับทุกคน พอดีหิวข้าวแล้ว ส่วนคลิปพาร์ทต่อคงจะภายวันสองวันนะครับ คืนนี้คงจะไม่ได้อัดเพราะติดภารกิจนะครับ ยังไงก็บอกฝันดีกันไปเลยนะฮะ ตอนนี้ก็ขอตัวก่อน ซียูจ้ะ”
เมื่อเขาปิดสตรีมแล้วเขาก็จัดการปิดคอมไปเลยทันทีเพราะยังไงวันนี้เขาก็คงไม่ได้เข้ามาในห้องนี้อีกแล้ว เพราะว่าคืนนี้เขามีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ
เซฟจัดการปิดแอร์ปิดไฟในห้องให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไปหาอีกคนที่อยู่ในห้องครัว เมื่อไปถึงเขาก็เห็นอีกคนกำลังง่วนอยู่หน้าเตา เขาจึงเดินเข้าไปประชิดแล้วสวมกอดอีกคนจากด้านหลังทันที
“หอมจัง” ว่าแล้วเซฟก็หอมแก้มอีกคนดังฟอดใหญ่ๆ
“ลงสตรีมเร็วจัง” บลูพูดเมื่อเห็นว่านาฬิกาบอกเวลาว่าตอนนี้ยังไม่หกโมงครึ่งดี
“หิวแล้วเลยลง”
“อ้าว งั้นกินเลยมั้ย”
“อือ เดี๋ยวกูจัดโต๊ะให้” สิ้นเสียงร่างสูงๆของเซฟก็จัดการจัดโต๊ะอาหารทันที เขาวางจานสเต๊กทั้งสองจานไว้ตรงข้ามกันอย่างที่เคย ก่อนที่จะไปหยิบแก้วน้ำมาเติมน้ำเปล่าก่อนจะนำไปวางไว้ข้างจานอาหาร
บลูที่กำลังง่วนอยู่กับการเคี่ยวแกงกะหรี่ก็ละมือออกจากตรงนั้นทันทีเพราะเห็นว่าโต๊ะอาหารถูกจัดเสร็จแล้ว และเซฟก็นั่งรออยู่แล้ว
ทันทีที่บลูนั่งลงที่ที่ประจำของตัวเอง ทั้งคู่ก็เริ่มลงมือทานอาหารทันที
“แล้ววันนี้เป็นไงมั่ง” ทุกครั้งที่เซฟสตรีมบลูจะถามเสมอว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“ก็ดีอ่ะ ไม่มีคอมเม้นป่วน คนโดเนทกับบิทเยอะ” เซฟพูด ก่อนจะตักสลัดใส่จานอีกคน “วันอาทิตย์เราเอาไปทำบุญกันเหอะ”
“เอาสิ จริงๆไปพรุ่งนี้ก็ได้นะ ยังไงก็วันเสาร์” บลูตอบก่อนจะตักสลัดที่อีกคนตักให้เข้าปาก
“หึ ตื่นไม่ไหวหรอก” เซฟยิ้มมุมปากก่อนส่งสายตาที่มีเลศนัยย์ไปให้อีกคน
“ฮึ่ย บอกว่าอย่าพูดแบบนี้ตอนกินข้าวไง กินไปเลย ไม่คุยแล่ว!” บลูพูดก่อนจะตัดสเต๊กในจานตัวเองแล้วยัดใส่ปากอีกคน
“ครับๆ” เซฟรีบเคี้ยวเนื้อที่อีกคนป้อนให้ก่อนจะรับคำ
.
.
.
(มีต่อด้านล่างค่ะ)