Writer ไรท์เตอร์ || Up ตอนที่ 15 : น้องอายุ 17 เอง 22/06/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Writer ไรท์เตอร์ || Up ตอนที่ 15 : น้องอายุ 17 เอง 22/06/2019  (อ่าน 7027 ครั้ง)

ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0]http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................         
                                                 

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Writer
 
ไรท์เตอร์
 
คุณเคยแอบชอบใครสักคนไหม
 
แอบชอบทั้งที่
 
ยังไม่เคยเห็นหน้า
 
ยังไม่เคยได้ยินเสียง
 
สัมผัสด้วยตาแค่
 
ผ่านตัวอักษร

.
.
.


สวัสดีค่ะ เป็นครั้งแรกที่เขียนนิยายเลย ฝากติดตาม ด้วยนะคะ

TW : @Mugglej1

สารบัญ

Writer 1 : หนุ่มวาย 

Writer 2 : ชิปเปอร์

Writer 3 : New World NC10+

Writer 4 : ปรับความเข้าใจ

Writer 5 : Artto

Writer 6 : คุณหนูกับพ่อบ้านเป็นเหตุ

Writer 7 : พบกันครั้งแรก

Writer 8 : ความรักของคนเขียนนิยาย

Writer 9 : เจอกันที่มิลค์พลัส

Writer 10 : พี่ยังไม่อยากNCกับเราบนรถ

Writer 11 : โอกาสอันแสนวิเศษ

Writer 12 : บอกด้วยจูบ

Writer 13 : น้ำวนต้องอยู่ด้านบนเท่านั้น!!

Writer. 14 : คนหลงเมีย

writer 15 : น้องอายุ 17 เอง

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2019 22:48:27 โดย mugglej »

ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
​Writer 1 : หนุ่มวาย


คุณเคยชอบคนที่ไม่เคยรู้จักไหม

แม้แต่หน้าก็ยังไม่เคยได้เห็น

เรียนที่ไหนก็ยังไม่รู้

รู้แค่ว่า...

ภาษาที่เขาใช้มันมีเสน่ห์เหลือเกิน

จนผม

รู้สึก

ตกหลุมรักเขา


.   .   .   .   .   .

"อ่ะ แด๊ด เบา!"

"อื้มม เบฟแอ่นก้นขึ้นมาอีก"

"ดะ แด๊ดฮะ มันแรง ปะ ไป อ่ะ อ่ะ อ่ะ"

"จะออกแล้วเบฟ อึก"

ปึก ปึก ปึก !

.
.
.
.

"ไอ้วน กูหิว! เมื่อไรจะเลิกอ่าน"

"เออ รู้แล้วแปปนึง จะจบแล้ว"

โถ่เอ้ย กำลังจะถึงจุดพีคแล้วเชียว ไอ้แมททิวเพื่อนตัวโตดันเรียกผมไปกินข้าวเสียก่อน

 ถ้าจะให้ไล่ระดับความสำคัญระหว่างข้าวกับนิยาย ผมบอกเลยว่านิยายยืนหนึ่งครับ ก็นิยายที่ผมอ่านอยู่ เป็นงานของไรท์เตอร์ที่ผมไม่ได้ตั้งใจจะกดเข้าไปอ่านแต่มือมันไปโดน สุดท้ายก็ลองอ่านดู พอได้อ่านจบไปหนึ่งเรื่อง เรื่องที่ สอง สาม สี่ มันก็ตามมาเรื่อยๆจนกลายเป็นว่า

'Artto'

กลายเป็นไรท์เตอร์ในดวงใจผมไปแล้ว

"มึงจะกินไร" ผมปิดแอปอ่านนิยายในมือถือผมแล้วหันไปถามทิว

"กระเพราปลาหมึก"

"ตามสั่งหรอวะ ขี้เกียจรอ" ผมย่นจมูกใส่ทิว ก็มันขี้เกียจรอผมอยากรีบกลับมาอ่านนิยายของพี่อาร์ทโตะให้จบ

"อะๆ จะกินอะไรก็แล้วแต่มึงละกัน"

"ก๊วยเตี๋ยวนะ! ได้ไวรีบกินจะได้รีบกลับ"

"เออ จะรีบอะไรหนักหนาวะ" ไอ้ทิวส่ายหน้าให้ผมก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามผม ก็คนมันรีบนิ!

. . .

ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผมและเพื่อนทิวพากันกินก๊วยเตี๋ยวและกลับบ้าน

"จะรีบไปไหนวะ กูนึกว่าเส้นจะติดคอตายละไอ้ห่า"

"เออ ก็กูมีธุระ บาย เจอกันพรุ่งนี้นะ" ผมโบกมือลาไอ้ทิวแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านทันที โดยปล่อยให้ทิวยืนเกาหัวสงสัยในท่าทีร้อนรนของผม

จะไม่ให้ผมรีบได้ไง แอปนกฟ้าในมือถือของผมมันสั่นถี่ๆขนาดนี้ ทำไมถึงสั่นน่ะหรอครับ เพราะผมตั้งแจ้งเตือนไว้ถ้าไรท์เตอร์อาร์ทโตะ อัพสถานะ ไม่ว่าจะกดไลก์ แชร์ หรือโพสสถานะ ผมตั้งให้ขึ้นหมด!!

ผมรีบเข้าห้องล็อคกลอนประตูแล้วคว้ามือถือขึ้นมาเช็คทันที

' เป็นไงครับ NC ตอนล่าสุด ผมยังรู้สึกว่ามันไม่ดีพอเลย ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับ '

ผมไล่สายตาอ่านข้อความอย่างไว ก่อนนิ้วเล็กของผมจะจิ้มตอบทันที

' Replaying to @artto.sa-n  พี่อาร์ทโตะเขียนดีมากค่ะ หนูแทบจะละลายแล้ว อ่านวนประมาณแปดล้านรอบก็เขินแปดล้านรอบ งื้อออออ อย่าคิดแบบนั้นเลยนะคะ '

ผมกด replay ทันทีเมื่อเขียนเสร็จ ทุกครั้งที่ผมเมนต์ให้พี่อาร์ทโต๊ะ ผมพยายามสร้างคาร์แลคเตอร์สาวน้อยตัวเล็กผมยาวประบ่าเรียนอยู่ม.ปลาย จะทำไงได้ละครับ ก็นิยายวาย มีผู้ชายแท้ๆที่ไหนเขาอ่านกัน ผมขอยืนยันนะ ว่าผมเป็นผู้ชายแท้ๆ!

ติ้ง !

เสียงโทรศัพท์แจ้งเตือนดังขึ้น ผมรีบเปิดดูทันที

' Replaying to @mama098765 ขอบคุณครับ กำลังใจเต็มเปี่ยม!! '

เฮือกกก

ข้อตอบกลับของพี่อาร์ทโตะ ทำให้ผมเขินตัวแทบระเบิด

ผมล็อคมือถือและโยนลงบนเตียงก่อนจะเอาหน้าซุกกับหมอน พอนึกถึงพี่อาร์ทโตะ หน้าผมมันก็เห่อร้อนขึ้นมา คนบ้าอะไรตัวอักษรดูดีชะมัด

พอสติเริ่มกลับมา ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูอีกที แล้วเปิด IG เพื่อเข้าไปดูสตอรี่ของพี่อาร์ทโตะ พี่เขาก็อัพ บลูบลู แมวอายุ4 เดือนนอนอ้วนอยู่บนโซฟา

ผมพอจะทราบว่าถ้าพี่อาร์ทโตะอัพทวิตเตอร์ เขาก็จะอัพIG ส่วนตัว และเฟซบุ๊คเพจของเขาจะอัพหลัง 2 ทุ่ม ส่วนเฟซบุ๊คส่วนตัวของพี่อาร์ทโตะ ผมไม่รู้หรอกครับว่าเขาอัพอะไร เพราะเขาตั้งค่าไม่ให้ใครเห็นหากไม่ใช่เพื่อน ผมก็ได้แต่ส่องรูปโปรไฟล์ว่าเปลี่ยนเป็นรูปอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะอัพหน้าโปรไฟล์เป็นหน้า บลูบลู เท่านั้น

สงสัยใช่ไหมครับว่าผมเป็นหนุ่มวายได้อย่างไรและติดตามทำไมถึงไรท์เตอร์ขนาดนี้

ผมจะเล่าให้ฟังแบบสั้นๆกระชับแล้วกัน

ย้อนกลับไปเมื่อ 3 เดือนก่อน

เรื่องมันเริ่มจากผมต้องไปทำงานกลุ่มกับเพื่อนผู้หญิงในห้อง เพราะผมมาสายและกลุ่มที่ผมทำงานด้วยประจำก็เต็มซะแล้ว ผมจึงต้องไปขออาศัยอยู่กับกลุ่มหญิงล้วนที่ค่อนข้างเงียบ....มาก

พอก้นผมแปะลงบนเก้าอี้ สาวๆในกลุ่มก็แจกแจงงานที่พวกเราต้องทำส่งในคาบนี้ ขณะที่เรากำลังตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็งนั้นเสียงสาวแว่นมัดผมหางม้าหน้านิ่งก็เรียกผมทำให้ผมต้องเงยหน้ามองเธอ

"นี่ๆ นายชื่อน้ำวนใช่ไหม"

"อื้อ" ผมตอบเธอกลับไปแล้วก้มหน้าก้มตาเขียนต่อ ผมอยากรีบทำให้เสร็จรีบกลับไปหาพวกไอ้ทิวจะแย่อยู่แล้ว เกิดมาไม่เคยต้องอยู่กับผู้หญิงเยอะขนาดนี้

"น้ำวน ตัวเล็กจังเลยนะ ถึงจะไม่ขาวแต่ผิวก็เนียน แถมอยู่กับทิวก็บ่อย" เธอบรรยายรูปร่างบางเล็กของผมไม่หยุดปาก ส่วนผมก็ก้มหน้าก้มตาทำต่อไป

"นี่น้ำวน ถามจริงๆนะ" น้ำเสียงของเธอนิ่งมากขึ้นจากตอนแรก ทำให้ผมต้องเงยหน้ามามองคู่สนทนา

"ว่า"

"นาย  เป็นแฟนกับทิวหรอ"

"ห่ะ!/ไอ้เปิ้ล/เปิ้ลลลลล!/อีเปิ้ลล อีบ้า" เมื่อประโยคคำถามจบไป เสียงดังโวยวายก็ตามมา เสียงแรกผมเองครับ ถัดไปก็เพื่อนในกลุ่มผมเอง

"นักเรียนเงียบๆหน่อยค่ะ" หลังจากอาจารย์กล่าวเตือน พวกเรารีบเอามือปิดปากแล้วก้มหน้าสุ่มหัวกันอีกครั้ง

"เราเป็นผู้ชาย เราไม่ได้ชอบผู้ชาย ไม่ได้เป็นเกย์" ผมกระซิบบอกเปิ้ลเบาๆ

"แล้วไง ไม่เป็นเกย์ก็เป็นแฟนกับผู้ชายได้ปะ"

"เปิ้ล แกใจเย็นก่อน น้ำวนตกใจหมดแล้ว" สาวแว่นผมสั้นกระซิบบอกเปิ้ลอีกที

"เปิ้ล เขาเป็นเพื่อนกัน แกต้องใจเย็นๆ คู่ชิปพวกเราแตกตื่นหมดแล้ว" สาวแว่นถักเปียอีกคนกระซิบบอกเปิ้ลอีกครั้ง

"ถ้าอดโมเมนดีๆจะทำยังไง" สาวถักเปียไม่ใส่แว่นก้มหน้าพูดเสียงอ่อย

คู่ชิป โมเมน คืออะไรวะ ?

"เดี๋ยวๆ ที่พวกเธอพูดคืออะไร??" สามสาวหันมามองหน้าเลิ่กลั่กกันก่อนจะกระซิบกระซาบจนผมเองก็ไม่ได้ยินว่าพวกเธอคุยอะไรกัน

"พวกเรามีเรื่องจะสารภาพ" อยู่ๆเปิ้ลก็หันหน้ามาคุยกับผม

"คืองี้น้ำวน พวกเราเป็น สาววาย" ผมเอียงคอใส่เปิ้ล

สาววาย คืออะไรวะ ?

"สาววายก็คือคนที่ชื่นชอบชายรักชาย" สาวแว่นถักเปียพยายามชี้แจ้งให้ผมฟัง

"อีแพร พูดให้มันดูดีหน่อยดิ สาววายคือผู้ที่มีจิตใจอันบริสุทธิ์และมีแต่ความปรารถณาดีให้กับคู่ชิปไม่เคยต้องการสิ่งตอบแทน ขอแค่ได้มองตามซอกตึกหรือตามรูกำแพงห้องน้ำ เพื่อเก็บโมเมนดีๆที่หายาก เพราะพวกเราเหนื่อยจะพายเองเหลือเกิน" สาวแว่นผมสั้นเสริมให้อีกครั้ง

ที่ฟังมาผมว่ามัน...น่ากลัวกว่าที่แพรบอกอีก

"เออ.. เอาเป็นว่า พวกเราชิปนายกับทิว แต่มันไม่ได้ร้ายแรงหรือไม่ดีกับพวกนายนะ" เปิ้ลจับไหล่ผมก่อนจะล่วงมือถือขึ้นมาเปิดแอปอะไรสักอย่างในมือถือ

"อ่ะ นายโหลดแอปนี้แล้วเข้าไปที่หมวดหมู่วาย ลองหาอ่านดูสักสองสามเรื่อง ถ้านายรับได้เราจะให้นายอ่านเรื่องที่เราแต่ง"

"เฮ้ยยย เอาจริงดิเปิ้ล" แพรหันมาทำตาโตใส่เปิ้ลทันที

"เออ กูคิดดีแล้ว คนที่ชิปมาอยู่นี้ทั้งทีกูก็อยากให้เขาได้อ่านผลงานของกู ค่อยๆเสพนะน้ำวนถ้านายโอเคเราจะให้แอคเราไปอ่าน" เปิ้ลหันไปคุยกับแพรก่อนจะหันมาคุยกับผม

นี้มัน

เรื่องบ้าอะไรกันเนีย


ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 2 : ชิปเปอร์

สุดท้ายแล้วคาบเรียนวันนี้งานกลุ่มก็ไม่เสร็จ เปิ้ลจึงอาสาเอากลับไปทำเองทั้งหมดเพื่อเป็นการขอโทษที่ทำให้ผมขวัญเสีย

"ไงมึง อ่านการ์ตูนจนตื่นสายละสิ" ทิวทักผมตามปกติของมันก่อนจะลากเก้าอี้มานั้งข้างๆผม

"อื้ม กูดองไว้เกือบร้อยตอน คิดว่าอ่านแปปเดียวน่าจะจบ พอหันมาดูนาฬิกาอีกทีแม่งจะตี3แล้ว ดูดเวลาชีวิตชิบหาย"

"มึงนี่นะ เราอยู่ม.6แล้วนะเว้ย ช่วงนี้ก็งดไปก่อน ได้มหาลัยค่อยอ่าน เข้าใจไหม" พูดจบมันก็ยกมือขึ้นมาขยี้หัวผม

"โอ้ยๆ อย่าแกล้งกันดิวะ" ผมรีบดันมือมันออกจากหัวผม แม้จะดันยังไงก็ไม่หลุดออกไปสักที คนบ้าอะไรแรงโคตรเยอะ

"เขาจับหัวกันด้วยมึง คิกๆๆ" ผมหันไปตามเสียงของกลุ่มสาววาย

จับหัว แล้วมันทำไมอะ?

"กูเป็นห่วงมึงนะ กูก็อยากให้มึงได้เข้ามหาลัยดีๆ" ทิวพูดจบก็ยกมือออกจากหัวผมแล้วย้ายมากอดคอของผมแทน

"เฮือกกก! เขากอดคอกันแล้ว"

"ใครไหวไปก่อน ตอนนี้เราไม่ไหวจริงๆ" ผมได้ยินเสียงของเปิ้ลและแพรคุยกันอยู่ข้างหลังผม แต่รอบนี้ผมไม่หันไปหรอก หันไปก็ไม่เข้าใจว่าคุยอะไรกัน

"เออ รู้แล้ว มึงก็ด้วยนะ" ผมเอาหน้าซุกไหล่ไอ้ทิวก่อนจะเอาหน้าถูกับไหล่มันแรงๆแบบที่ผมชอบทำกับมันเป็นประจำ

"เชี้ยยยย กัปตันกูชงกันแรงขนาดนี้ ชิปเปอร์อย่างพวกกูไม่ต้องพายแล้ว กูขอโยนไม้พาย!"

"อีเมย์เสียงดัง! อะ อ่าว มึงจะไปไหน รอพวกกูก่อน"

หลังจากผมได้ยินเสียงสาวผมสั้นใส่แว่น เธอน่าจะชื่อว่าเมย์ ตะโกนลั่นห้อง แล้วลุกพรวดออกไป ทำให้บรรดาสาววายก็วิ่งตามออกไปข้างนอกทันที

ชิปเปอร์ กัปตัน ไม้พาย

แก็งนี้เขามีศัพท์ใหม่มาตลอด

"แก็งแว่นเขาเป็นไรกันวะ" ทิวก้มลงถามผม ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปหามัน

"จะไปรู้หรอ ว่าแต่มึง รู้จักสาววายปะวะ"

"อ่อ สาววายก็พวกคลั่งชายรักชายไง"

"เป็นไงวะ กูเห็นแก็งสาวแว่นเขา..." ผมกำลังจะเล่าเรื่องที่แก็งสาวแว่นเขามโนเรื่องที่ผมกับไอ้ทิวเป็นแฟนกัน แต่ผมก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่ามันไม่เรื่องควรจะเล่า

"แก็งแว่นทำไมวะ??"

"อ่อ เปล่าๆ กูว่าเขาประหลาดดี ว่าแต่มึงรู้จัดสาววายด้วยหรอวะ?" ผมรีบปฏิเสธแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที ถ้าเผลอหลุดปากไปสาววายอาจจะโดนไอ้ทิวอาระวาดใส่ก็เป็นได้

ไอ้ทิวมันขาโหด ใครหาเรื่องผมนิดหน่อยก็ไม่ได้ มันให้เหตุผลว่าเพราะผมเป็นคนข้างบ้านถ้าผมเป็นอะไรขึ้นมา แม่มันคงฟาดหลังลาย

"ก็พอมีความรู้อยู่บ้าง น้องกูมันชอบเอามาเผยแพร่ให้ฟัง"

"มันเป็นยังไงวะ"

"น้องกูบอกว่า สาววายคือคนที่ชอบชายรักชาย หรือผู้ชายที่ดูแลผู้ชายเหมือนเป็นแฟนกันมั้ง เห็นแล้วมันชุ่มชื้นหัวใจมากเลยค่ะพี่แมททิว~ " ไอ้ทิวอธิบายให้ผมฟังและดัดเสียงเหมือนน้องของมันในประโยคสุดท้าย

"อ่อ"

"เออ อย่าไปสนใจเลย กูไปนั้งที่ก่อนนะ จะเริ่มคาบคณิตแล้ว"

"เออ"

หลังจากจบบทสนทนาเพิ่มความรู้เรื่องสาววาย ผมและไอ้ทิวก็แยกย้ายไปนั้งที่ของตัวเองเพื่อเริ่มเรียนวิชาแสนรัก

.

.

.


เวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงเย็น ซึ่งเป็นเวลากลับบ้านของพวกเรา ผมกับไอ้ทิวก็รอกลับบ้านพร้อมกันตามเคย ช่วงที่ผมกำลังจะออกจากประตูโรงเรียน ผมพึ่งสังเกตว่าแก็งสาววายนั้งอยู่ที่ม้าหินอ่อนบริเวณประตูทางออกของโรงเรียน

เมื่อผมกับไอ้ทิวกำลังเดินผ่านแก็งสาววาย ผมชำเลืองมองพวกเธอนิดหน่อย สิ่งที่ผมเห็นคือ พวกเธอสะกิดกันให้ดูผมกับไอ้ทิวทั้งโต๊ะ อยู่ๆคำพูดของเมย์ก็ลอยเข้ามาในหัวผมทันทีกับประโยคที่ว่า

'ขอแค่ได้มองตามซอกตึกหรือตามรูกำแพงห้องน้ำ เพื่อเก็บโมเมนดีๆที่หายาก'

เชื่อแล้วครับ เธอมาตามดูผมกับไอ้ทิวจริงๆ ผมรีบคว้ามือไอ้ทิวแล้ววิ่งออกนอกประตูทันที

"ฮะ เฮ้ยๆ เดี๋ยวดิวะ มึงจะรีบวิ่งไปไหนเนีย"

"อ่อ เออ กู... ปวดท้องขี้อะ รีบกลับกันเถอะนะ" ผมรีบหาข้ออ้างทันที ใครจะไปกล้าพูดละว่ากลัวแก็งสาววาย!

"เอ้า แล้วไม่บอกแต่แรก จริงๆแวะเข้าห้องน้ำในโรงเรียนก่อนก็ได้ บ้านก็ไม่ใช่ว่าจะเดินสามก้าวถึง" ทันดึงแขนผมเหมือนจะให้กลับเข้าไปในโรงเรียนอีกครั้ง

"มะ ไม่เป็นไร รีบกลับบ้านเถอะ กูขี้ที่บ้านแล้วมันสบายใจกว่า"

"เออๆ แล้วแต่มึง" ไอ้ทิวพูดจบผมก็รีบลากมันกลับบ้านทันที ส่วนไอ้ทิวก็ไม่ได้ว่าอะไรและรีบเดินตามผม

ตอนนี้ผมอยากรู้จะแย่อยู่แล้ว ว่าสิ่งที่สาววายทำอยู่มันคืออะไร มันต้องขนาดนี้เลยหรอ!





ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 3 : New World NC10+

หลังจากผมแยกกับทิว ผมก็รีบเข้าทันทีและโหลดแอปนิยายที่เปิ้ลแนะนำเมื่อเช้า ตอนนี้ใจผมร้อนมาก ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่แก็งสาววายทำกับผมมันคืออะไร แล้วอะไรดลใจให้พวกเธอตามติดชีวิตผมขนาดนี้ พวกเธอจะรู้ไหมว่าสิ่งที่พวกเธอกำลังทำอยู่มันคือการ คุกคาม

เมื่อแอปนิยายดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อย ผมรีบเปิดแอปและเข้าไปที่หมวดหมูนิยายวายทันที

ณ ตอนนี้หน้าจอมือถือของผมเต็มไปด้วยนิยายวาย หลากหลายแนว

สิ่งที่ผมเห็นในตอนนี้มันเหมือนเป็นการเปิดโลกใบใหม่ของผมเลยก็ว่าได้ ผมคิดว่าศัพท์ที่สาววายใช้ในวันนี้มันประหลาดอยู่แล้ว พอเจอคำว่า

'7P'
'SM'
'NC18+'

ผมรู้สึกว่าศัพท์เหล่านี้มัน เข้าใจยากกว่าเยอะ

แต่ผมเลือกที่จะปัดความสงสัยทิ้งแล้วใช้นิ้วจิ้มแรนดอมนิยายสักเรื่อง

ผมเลือกเรื่อง "คำว่าเฟรนสะกดง่ายกว่าแฟนหรอ?"

บทนำ
คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นเนื้อหาชายรักชาย หากไม่ถูกใจรบกวนคลิกออกจากหน้านี้ค่ะ

โอ้โห นักเขียนคนนี้โคตรโหด เอาใจผมไปเลย

ผมชอบความแน่วแน่ของนักเขียนจึงเลือกอ่านเรื่องนี้ ผมเริ่มเปิดอ่านตั้งแต่บทที่หนึ่งและบทต่อๆไป

เนื้อหาของเรื่องเป็นแนว ผู้ชายแอบรักเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน มีดราม่าเกือบทั้งเรื่อง เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆจนถึงตอนหนึ่งที่มีคำว่า NC20+

โดยเซนต์ของผมแล้ว ถ้ามีตัวเลขแล้วตามด้วยเครื่องหมายบวก มันต้องเป็นเรื่องที่มีแนวโน้มว่ามีฉากวาบหวิวแน่ๆ แต่ผมคิดว่านิยายมันคงให้ความรู้สึกได้ไม่มากเท่าภาพและเสียง ผมจึงจิ้มไปที่ตอน NC20+

. . .
"ถ้ามึงรักกูจริงก็ให้กูเอาดิวะ" ร่างสูงผลักคนที่ตัวเล็กกว่าลงบนเตียง

"มึงจะทำอะไร ยะ อย่านะ อื้ออ" มือเล็กที่พยายามปัดมือของตัวโตกว่าออก ถูกรวบขึ้นเหนือศีษระ ก่อนที่จะถูกริมฝีปากหนาทาบลงบนริมฝีปากเรียว

ลิ้นร้อนของทั้งสองค่อยๆเกี่ยวตวัดพันกัน จนกระทั้งคนที่อยู่ใต้ร่างคนตัวโตอ่อนระทวยร่างสูงจึงยอมผละริมฝีปากออก

"อื้ออ อะ อย่าพึ่งถอด อ๊ะ "

"จุ๊บ ไม่เป็นไร กูสัญญาว่าจะไม่ทำมึงเจ็บ" บูมจูบลงบนหน้าผากของมีนเบาๆหลังจากดึงกางเกงชั้นในสั้นสีฟ้าอ่อนลงมาจนถึงข้อเท้า

"จริงนะ"

"อืม กูจะไม่ทำมึงเจ็บ" ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนที่ตัวโตกว่า จนกระทั้งได้รับคำตอบที่ทำให้รู้สึกว่า มันมาจากหัวใจ ในตอนนี้เหมือนมีเปลวไฟจุดประทุขึ้นมาอีกครั้ง จนทำให้ทั้งคู่มอบจูบอันดูดดื่ม

นิ้วยาวของบูมค่อยๆสอดเข้าไปในรูเล็กที่ไม่มีใครเคยได้สัมผัส และค่อยๆเพิ่มนิ้ว จากหนึ่งเป็นสองแล้วค่อยๆเพิ่มจังหวะดึงเข้าออกๆ

"อ่ะ บูมไม่ไหว ละ แล้ว เอาของบูม นะครับ"

"สัสเอ้ย ทำไมมึงต้องอ้อนกูแบบนี้" ร่างสูงดึงนิ้วออกจากรูรักก่อนจะรีบถอดกางเกงออกและค่อยๆดันแกนกายเข้าไปในรูที่พึ่งจะเปิดทาง...
​.
.
.

เหี้ย!

ผมกดออกจากแอปนิยายทันทีที่บูมกำลังใส่แกนเข้าไปในกายมีน นี้สินะ NC20+ !

ตอนนี้ผมกำลังเอาหน้าซุกกับหมอนนิ่งๆ ความรู้สึกในใจมันแปลกๆ หนังรักก็เคยดูมาเยอะ ฉากอย่างว่ามันก็มีในหนังฝรั่งอยู่หลายเรื่อง แต่ทำไมแค่ตัวอักษรที่บรรยายการมีความสัมพันธ์ทางกายระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย มันถึงทำให้ร่างกายของผมรุ่มร้อนแปลกๆ   ผมไม่เคยคิดจะอ่านอะไรพวกนี้หรอกครับ เพราะผมคิดว่าตัวหนังสือมันสื่อความรู้สึกได้ไม่ดีเท่าภาพและเสียง แต่ตอนนี้ทัศคติเรื่องนิยายของผมมันเปลี่ยนไปแล้ว!

อยู่ๆ ในสมองของผมก็เกิดความสงสัยขึ้นว่า แค่สอดนิ้วเข้าไปในรูแล้วชักเข้าชักออก มันเสียวขนาดนั้นเลยหรอ สำหรับผู้ชายอย่างเรามันต้องรูดอนาคอนด้าสิถึงจะเสียวสิ

ความสงสัยที่เกิดขึ้นเพราะนิยายวาย ถ้าไปถามใครๆ เขาต้องหาว่าผมเป็นเกย์แน่ นอกจากจะทดลองด้วยตัวเอง

ผมจึงตัดสินใจถอดกางเกงของตัวเองออกแล้วนั้งลงบนเตียง ผมค่อยๆยกขาตัวเองแยกออกแล้วนั้งในท่าที่ถนัด จากนั้นก็ใช้นิ้วกลางค่อยๆสอดเจ้าไปในรูเล็กของผม

"อ๊ะ" ผมครางเบาๆเพราะรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่กำลังเข้าไปในร่างกาย

ผมค่อยๆชักนิ้วเข้าออกตามที่นิยายบรรยายไว้ มันรู้สึกแปลกๆอีกแล้ว ทั้งเสียวทั้งอึดอัด

"อะ อื้ออ"  ความรู้สึกแปลกๆในร่างกายทำให้ผมเผลอร้องออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้

ผมเริ่มขยับนิ้วเข้าออกเร็วขึ้นเป็นจังหวะ ทุกครั้งที่นิ้วผมกระแทกไปโดนจุดๆหนึ่งในร่างกาย มันทำให้ผมเสียวไปหมด

ในใจตอนนี้ผมคิดถึงบูมที่เพิ่มนิ้วเข้าไปข้างในทำให้ผมอยากลองดูบ้าง ผมจึงค่อยๆสอดนิ้วชี้เพิ่มเข้าไปพร้อมกับชักนิ้วเข้าออกช้าๆ จนกระทั้งนิ้วทั้งสองเข้าไปในรูน้อยๆของผมจนถึงช่วงกลางของนิ้ว...

"อะ โอ้ย เจ็บบบบ" นิ้วชี้ที่ยังสอดเข้าไปไม่ถึงข้อนิ้ว ต้องรีบดึงออกเพราะเจ็บรูก้นตัวเอง

"เจ็บชิบหายเลย ฮือออ" ผมก้มดูรูเล็กๆของตัวเอง มันเริ่มเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ฮือ เจ็บ

ตอนนี้ในใจก็อยากจะถามมีนเหลือเกินว่า

นายทน 2 นิ้วได้ยังไง ไม่เจ็บหรอ!!



ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 4 : ปรับความเข้าใจ

หลังจากเสร็จกิจ(?)ผมต้องนอนนิ่งๆเพราะความเจ็บจากด้านหลังของผม ยอมรับครับว่านิ้วแรกมันฟินมาก แต่พอเพิ่มนิ้วที่สองเข้าไป

รับไม่ไหวจริงๆ

ผมเริ่มรู้สึกแสบๆที่รูด้านหลัง เลยลองเปิดพัดลมแล้วนอนอ้าขาในท่า18+ ให้ลมผ่านเข้ามา เพราะคิดว่ามันคงทุเลาความเจ็บลง

แต่จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ติ้ง!

ขณะที่ผมกำลังนอนอยู่ จู่ๆก็มีเสียงแจ้งเตือนไลน์จากมือถือของผมดังขึ้น ผมจึงค่อยๆเอื่อมมือไปหยิบมือถือช้าๆ แล้วเปิดหน้าจอ

เปิ้ลไง : น้ำวน เราขอโทษนะ 
NW : ขอโทษเราเรื่องอะไรหรอ?
เปิ้ลไง : ก็เรื่องที่เราไปเฝ้านาย ทั้งที่บอกไปว่าไม่ร้ายแรงแต่...พวกเราก็ทำให้นายกลัวใช่มั้ย ฮือออ ขอโทษนะน้ำวน
NW : อ่อเรื่องนั้นเอง อื้ม...เรากลัวจริงๆ
เปิ้ลไง : ขอโทษจริงๆนะ สัญญาจะไม่ทำอีก
NW : อ่า ถ้าเธอไม่ทำอีกเราก็โอเค

ผมล็อคหน้าจอโดยไม่รออ่านข้อความจากเปิ้ล ตอนนี้อารมณ์ของผมมันแปรปรวน ไม่รู้จะต้องโกรธเปิ้ลที่ให้ผมอ่านนิยายวาย หรือจะโกรธตัวเองที่บ้าบิ่นไปอ่านนิยายตาทที่เปิ้ลแนะนำ และเหมือนผมจะพึ่งนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันน่าอายเป็นบ้า

ผมพยายามข่มตาลงแล้วนึกเรื่องอื่นให้หายฟุ่งซ่าน ก่อนจะใส่กางเกงให้เรียบร้อยแล้วไปอาบน้ำชำระร่างกาย เผื่อความรู้สึกที่ผ่านมา มันจะถูกชำระไปพร้อมกับน้ำที่กระทบบนตัวผม

.
.
.


ตอนนี้เป็นเวลา 7โมงตรง ผมยืนรอไอ้ทิวที่เก่าเวลาเดิม เพิ่มเติมคือขอบตาคล้ำของผม เมื่อคืนผมคิดว่าการอาบน้ำจะทำให้ผมลืมเรื่องที่ทำไปก่อนหน้านั้น แต่สุดท้ายแล้วพอปิดไฟแล้วหลับตา

สิ่งที่อ่านไปมันดันปรากฏขึ้นในหัวของผมเป็นฉากๆ และชัดเจนมาก

จนทำให้ความรู้สึกที่คิดว่าอาบน้ำไปแล้วน่าจะหายไป ดันกลับมาและชัดเจนกว่าเดิม แต่ผมไม่ได้ช่วยตัวเองแบบก่อนหน้านี้นะครับ ผมเลือกที่จะคิดถึงเรื่องอื่นแทนอย่างเช่น การ์ตูนตอนจะไปพระเอกจะได้ดาบในตำนานไหม พรุ่งนี้ผมจะไปซื้อข้าวห่อไข่ทันหรือเปล่า วิชาประวัติศาสตร์จะสั่งการบ้านเพิ่มไหมนะ กว่าจะได้นอนจริงๆ ก็เกือบตี 3 แล้ว

ความมืดนี้มันน่ากลัวจริงๆเลยนะครับ

"เฮ้ย ไปได้แล้ว ยืนเอ๋ออยู่ได้"

"เออ" ไอ้ทิวเดินมาตบไหล่ผมอย่างไม่ทันตั้งตัว

เจ็บชะมัด

"ทำไมใต้ตาคล้ำแบบนั้นวะ อ่านการ์ตูนดึกอีกแล้วหรอ" มันทักผมเรื่องใต้ตาทันทีที่เราเดินไปตามทางฟุตบาท

"นิดหน่อย"

"กูบอกแล้วใช่ไหมว่าให้เบาๆบ้างเรื่องการ์ตูน" ตามเคยครับ ไอ้ทิวยังคงบ่นประหนึ่งเป็นแม่คนที่สองของผมตามเคย ในใจผมนี้อยากจะตะโกนใส่มันเหลือเกินว่า กูไม่ได้นอนดึกเพราะอ่านการ์ตูนแต่กูมีอารมณ์โว้ย แต่ก็ทำได้แค่เก็บไว้ในใจใครมันจะกล้าไปพูด

"อือ"

"เออ ดี พูดให้มันรู้เรื่องหน่อย" มันจับหัวผมโยกไปโยกมา

"อื้อออ  เลิกแกล้งกูสักที"

"กรี๊ดดดดด อีเปิ้ล  ช็อตเด็ดเว้ยมึง ดูนั้นดิ"

ผมรีบหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย จะเป็นใครไปได้ละนอกจาก

แก็งสาววาย

"เมย์ พอแล้วรีบไปเรียน"

"อะไรวะ นั้นคู่ชิปเรานะ เฮ้ยๆ เบาๆดิวะ" ผมเห็นเปิ้ลดึงแขนเมย์เข้าโรงเรียนไปโดยไม่สบตาผมเลย การกระทำของเปิ้ลทำให้ผมแปลกใจไม่น้ย จนเริ่มรู้สึกตัวว่าผมลืมอะไรไป

ผมลืมไปเลยว่า คุยกับเปิ้ลค้างไว้เมื่อคืน !!!

ผมรีบปลดล็อคมือถือเพื่อเช็คข้อความจากเปิ้ลเมื่อคืนทันที

เปิ้ลไง : ไม่โกรธเราจริงๆใช่ไหม
เปิ้ลไง : ....
เปิ้ลไง : ถ้าน้ำวนไม่สบายใจเรื่องที่เราจิ้นนายกับทิว ต่อไปนี้เราจะเลิกตามพวกนายเพื่อความสบายใจ แล้วเราจะลบนิยายที่เราเคยเขียนไว้ ขอโทษนะน้ำวนที่ทำให้นายไม่สบายใจ อย่าโกรธกันเลยนะ
เปิ้ลไง : สติ๊กเกอร์เด็กผู้หญิงร้องไห้
เปิ้ลไง : สติ๊กเกอร์เด็กผู้หญิงยกมือไหว้และมีคำพูดว่า 'ขอโทษ'

หลังจากที่ผมอ่านข้อความของเปิ้ลทั้งหมด ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้อ่านไลน์ของเพื่อนมันก็ตีขึ้นมา ทั้งที่เปิ้ลสัญญาว่าจะไม่ทำอีก แต่ตอนนั้นผมไม่มีอารมณ์ตอบจริงๆ

"มึงเข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวกูไปทำธุระแปปนึง"

"เออ รีบมาแล้วกัน เจอกันที่ห้องนะ"

ผมโบกมือลาไอ้ทิวแล้วรีบวิ่งไปหาแก็งสาวแว่นทันที ยังไงวันนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ทั้งเรื่องที่เอาผมไปมโนว่าเป็นแฟนกับไอ้ทิว และเรื่องนิยายวายที่คาใจผม

ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่ถึงที่นั้งที่แก็งสาววายชอบมานั้งกัน

"เออ หวัดดีทุกคน" ผมทักสาวๆในโต๊ะ ก่อนจะนั้งลงข้างๆเปิ้ล

"เอ่อ... เราขอโทษนะ เปิ้ลเล่าให้ฟังหมดแล้ว" เมย์ทักผมเป็นคนแรกในโต๊ะ

"อืม จริงๆเรามีเรื่องจะคุยกับทุกคนแหละ"

"พวกเราหรอ ??" แพรหันมาถามผมด้วยความสงสัย

"ใช่ ทุกคน"

"..."

"..."

"..."

"..."  ปกติสี่สาวจะตะโกนจอแจเสียงดังจนเป็นเรื่องปกติ แต่พอเข้าโหมตเงียบขนาดนี้มันก็ทำให้ผมประหม่าไม่น้อย

"คือ ตอนแรกเรายอมรับว่ากลัวที่พวกเธอมาตามเฝ้าดูเรากับไอ้ทิวเลยวิ่งหนีออกนอกโรงเรียนไปเมื่อวานนี้ แต่เมื่อคืนเปิ้ลมาขอโทษเราแล้ว และสัญญากับเราแล้วว่าจะไม่ตามเราแบบนั้นอีก เราก็ไม่ติดใจอะไร เพราะฉะนั้นไม่ต้องถึงขั้นลบนิยายหรอก"

"ฮือออ ขอบคุณนะน้ำวนที่ไม่โกรธเรา" เปิ้ลคว้ามือผมมาจับไว้ แล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

"ไม่ต้องร้องหรอกน่า เพื่อนกัน แต่อย่าทำอะไรที่มันดูคุมคามเราขนาดนั้น เราก็แค่ผู้ชายตัวเล็กๆ สู้พวกเธอสี่คนไม่ได้หรอก"

"ฮ่าๆ อย่าพูดเหมือนพวกเราเป็นหญิงฉกรรจ์สิ" เมย์ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองระหว่างขำ

"ยังไงพวกเราต้องขอโทษน้ำวนอีกครั้งนะ" แพรเงยหน้าขึ้นมาขอโทษผม หลังจากที่เธอก้มหน้าก้มตาฟังผมพูด

"อื้ม เราไม่โกรธแล้ว แต่เรามีเรื่องจะถามน่ะ"

"ว่ามาเลย พวกเราพร้อมตอบทุกปัญหาที่น้ำวนต้องการคำตอบ"

"เออ  คือ... เราอยากรู้ศัพท์ของนิยายวายเช่น 7P SM มันคืออะไรหรอ"

"..." อยู่ๆก็เกิดความเงียบขึ้นมาหลังจากผมถามพวกเธอ มันเป็นเป็นประโยคต้องห้ามหรอ?

"อะ เอ่อ น้ำวนไปเจอคำพวกนี้มาจากไหนหรอ" จากปกติเปิ้ลจะเป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่รอบนี้เธอกลับทำหน้าเลิ่กลักกับประโยคคำถามของผม

"ก็นิยายวายที่เธอให้เราลองไปอ่านไง"

"จะ เจ็ดพีเลยหรอวะ"

"น้ำวนคงไม่ได้อ่านหรอก" ผมได้ยินเมย์หันไปกระซิบกระซาบกับแพรสองคน เจ็ดพีมันทำไมหรอ

"แล้วน้ำวนอ่านเรื่องไหนไปหรอ" เปิ้ลหันมาถามผมเพื่อดึงความสนใจจากสองสาวฝั่งตรงข้าม

"คำว่าเฟรนสะกดยากกว่าแฟนหรอ"

"อ่ออออออออออ  ค่อยโล่งอกหน่อย เรื่องนั้นยังไม่เรทมาก แต่ดราม่าหนักพอสมควร"

"หัวใจจะวาย เราก็นึกว่าอ่านเจ็ดพี" เปิ้ลทำหน้าโล่งใจใส่ผม ส่วนโมที่นั้งเงียบมานานก็ทำหน้าไม่ต่างจากเปิ้ลสักเท่าไร

"มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ"

"ถามว่าแย่ไหม ก็แย่ แต่จริงๆก็แล้วแต่รสนิยมของผู้อ่าน มันขีดเส้นตายไม่ได้หรอก" แพรบอกกับผม

"จะอธิบายยังไงดี เหมือนเราชอบกินลูกอมเลยกินมันไปในปริมาณมากๆ ทั้งที่รู้ว่ากินมากไปก็ไม่ดีแต่ก็ยังจะกินเพราะมันอร่อยจนหยุดกินไม่ได้" เปิ้ลอธิบายเสริมขึ้นมา แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ดี ว่าสรุปมันดีหรือไม่ดี

"เฮ่อ เอาหูมานี้มา" เปิ้ลกวักมือเรียกผมให้หันมาทางเธอ

"มันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร แต่ถ้านายเข้าวงการนี้เดี๋ยวก็เข้าใจเอง" เปิ้ลทิ้งท้ายให้ผมก่อนที่จะกระซิบบอกเรื่องที่ผมอยากรู้   




ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Writer ไรท์เตอร์ || Up ตอนที่ 5 : Artto
«ตอบ #5 เมื่อ08-05-2019 13:45:58 »

Writer 5 : Artto

ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน นักเรียนทั้งหลายทั้งชายและหญิงออกมาจากห้องเรียนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆทั้งหลายอยากให้มาถึง ยกเว้นผม

ถามว่าดีใจไหมที่เลิกเรียน ก็ดีใจครับ แต่ถามว่าเสียใจไหม ก็เสียใจครับ เพราะอะไรหรอ คงเพราะเรื่องที่คุยกับสาววายเมื่อเช้านี้ ทุกครั้งที่ผมว่างสมองไม่ต้องมาคิดเรื่องอะไร มันก็จะวกกลับมาคิดเรื่องเมื่อเช้าตลอด หรือที่ใครๆเรียกกันว่า ฟุ่งซ่าน
ย้อนกลับไปเมื่อเช้าก่อนเริ่มเรียน
.
.
.
"เฮ่อ เอาหูมานี้มา"
"มันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร แต่ถ้านายเข้าวงการนี้เดี๋ยวก็เข้าใจเอง"
ผมเอียงหูไปหาเปิ้ลตามที่บอก
"7P หมายถึงการมีเซ็กส์พร้อมกัน 7 คน หรือ P ย่อมาจาก people หมายเลขข้างหน้าคือจำนวนคน ส่วนSM คือความรุนแรงทางเพศ ถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้ google มี" เปิ้ลค่อยๆผละหน้าออกจากหูของผมแล้วยิ้มแห้งๆให้ ส่วนตัวผมนั้น
นิ่งสนิท
.
.
.
จนมาถึงตอนนี้ผมก็ยังนิ่งอยู่ ในช่วงเวลาว่างไม่มีอะไรทำ สมองผมมันก็จะกลับมาคิดถึงเรี่องคำตอบของเปิ้ล มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว แต่ผมก็รู้ดีว่าไม่ควรจะถามต่อ ผมคิดทบทวนจนเกิดความสงสัยว่า 7P และ SM มันสมควรหรอ มันควรจะ...

"เฮ้ย เป็นไรเนีย กูเห็นมึงแปลกๆตั้งแต่ไปทำธุระตอนเช้าแล้วนะ"

"เอ่อ เปล่าๆ คิดไรนิดหน่อย" ไอ้ทิวผลักหัวผม จนความคิดฟุ่งซ่านของผมหายไปทันตา

"คิดไรของมึงวะ บอกกูได้ปะ กูนี้กูเกิลเคลื่อนที่เลยนะ ไม่มีอินเตอร์เน็ตก็ตอบได้ทุกเรื่อง" เหมือนมันจะรู้ว่าผมต้องการคำตอบจากเรื่องที่กำลังคิดอยู่ เลยเสนอตัวเพื่อแก้ไขปัญหาที่ผมยังแก้ไม่ได้สักที

"งั้นกูขอถามหน่อย"

"ว่ามาเลยเพื่อน"

"เอ่อ...ถ้ามึงบังเอิญไปเจอเรื่องประหลาดที่ไม่คิดว่าบนโลกนี้จะมี มึงจะตกใจไหมวะ"

"ตามธรรมชาติของมนุษย์ก็ต้องตกใจดิวะ"

"แล้วมึงจะทำยังให้หายตกใจ"

"กูหรอ ก็...ถ้าชอบกูก็จะศึกษา แต่ถ้าไม่ก็ปล่อยผ่านไป"

"..."

"มันอาจจะเป็นเรื่องประหลาดสำหรับเรา แต่เป็นเรื่องปกติของคนอื่นก็ได้ เรื่องบางเรื่องมึงก็ไม่ควรคิดเยอะ มันรกสมอง"

"แล้วมึงไปเจอเรื่องอะไรมาล่ะ"

"..." ผมนิ่งไม่ได้ตอบมันไป

"เออ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร กูก็แนะนำได้แค่นี้แหละ" จากที่มันเดินประกบข้างผม ก็เปลี่ยนเป็นเดินกอดคอผมแทน ผมรู้ว่ามันกำลังปลอบใจผมทางอ้อม ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก ปล่อยให้มันกอดคอผมกลับบ้าน

ไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไร แต่เมื่อผมรู้สึกตัวอีกที ก็ถึงประตูหน้าบ้านแล้ว

"เจอกันพรุ่งนี้นะมึง "

"อือ"

"เลิกคิดมากได้แล้ว " ไอ้ทิวผลักหัวผมหนึ่งทีเน้นๆ ก่อนที่มันจะเดินเข้าบ้านของตัวเอง

"ไอ้สัส"

"เจอกันพรุ่งนี้" มันตะโกนบอกผมโดยไม่ได้หันหน้ามาแล้วเดินเข้าไปในบ้านของตัวเอง

ตัวผมเองก็กำลังเดินเข้าบ้านตัวเองตามปกติที่ทำเหมือนทุกๆวัน เมื่อผมเปิดประตูเข้าห้องตัวเอง ผมโยนทุกสิ่งลงข้างๆเตียง ก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียง

มึนหัวไปหมดแล้วครับ ผมคิดไม่ตกเลยว่าควรจะเลิกคิดไหม หรือควรจะไปต่อดี จริงๆผมไม่ต้องมาคิดเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ในใจของผมเหมือนกำลังแบ่งฝั่งกัน ฝั่งหนึ่งบอกให้หยุดเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องไปรับรู้ผู้ชายที่ไหนเขาอ่านเรื่องแบบนี้เกย์ก็ไม่ใช่จะไปอยากรู้ทำไม แต่อีกฝั่งก็กลับบอกให้ผมหาเรื่องอื่นอ่านต่อไปอ่านเพื่อหยุดความอยากรู้ ตอนนี้ความรู้สึกของผมมันตีกันมั่วไปหมดและเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด

ผมตัดสินใจหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา แล้วเปิดหน้าแอปอ่านนิยายจิ้มไปหมวดที่คุ้นเคย รอบนี้ผมจะอ่านเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ามันเกินกว่าที่ผมรับได้ผมจะเลิกอ่านมันซะ แต่ถ้าผมอ่านแล้วรู้สึกดีแบบรอบที่แล้ว ผมก็จะอ่านต่อไป

ผมหลับตาลงแล้วใช้นิ้วจิ้มลงไปที่หน้าจอหนึ่งที ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมาเพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

' รักแรกของผม '

นั้นคือชื่อเรื่องนิยายที่ผมเปิดได้
.
.
.

บทนำ

ความรักของผู้ชายหนึ่งคนที่มีให้ผู้ชายอีกหนึ่งคน ความรักที่ผมมอบให้เขาใครๆก็ต่างมองว่ามันคือความรักที่เพื่อนมีให้กับเพื่อนอีกคน

ผมไล่อ่านบทนำไปเรื่อยๆ น่าจะเป็นแนวเพื่อนรักเพื่อนอีกตามเคย สงสัยช่วงนี้เขาแอบรักเพื่อนตัวเองกัน ทำไมผมถึงไม่เคยคิดกับไอ้ทิวแบบนั้นเลยนะฮ่าๆ

ผมเลื่อนอ่านมาเรื่อยๆจนมาสะดุดคำสุดท้ายของหน้าแนะนำนิยาย

เนื่องจากผมเป็นผู้ชายอาจจะแต่งไม่ถูกใจใคร ต้องขออภัยด้วยนะครับ

"ผะ ผู้ชายหรอวะ" จากที่ผมคิดว่าจะอ่านเล่นๆเพื่อลบล้างความอยากรู้อยากเห็น มันกลับทำให้ผมมีความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว ผู้ชายอ่านนิยายวายผมว่าแปลกแล้วนะ

แต่นี้มัน ผู้ชายเขียนนิยายวาย

​ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายแท้ๆหรือเปล่า และสิ่งที่ระงับอาการอยากรู้ได้คือการ ศึกษาเรื่องของเขาผ่านตัวอักษร

ผมเริ่มอ่านนิยายตั้งแต่บทแรกตามเคย จนไปถึงตอนล่าสุดที่เขาเขียนค้างเอาไว้ เนื้อเรื่องคือผู้ชายที่แอบชอบเพื่อนสนิทตัวเองเหมือนบทนำที่เกริ่นเอาไว้ แต่น่าแปลกที่ผมรู้สึกว่านักเขียนคนนี้เขียนสนุกดีผมดูชื่อuserของผู้แต่งแล้วเข้าไปดูที่โปรไฟล์ของเขา ผมจึงทราบว่านักเขียนผู้นี้มีนามปากกาว่า

Artto

​เขามีผู้ติดตามค่อนข้างเยอะ และมีนิยายที่ติดท็อปชาร์ทอยู่หลายเรื่องแน่นอนว่า เขาก็แต่งนิยายไว้เยอะพอสมควร ผมเลยเลือกนิยายของเขาสักเรื่อง เรื่องที่ผมเลือกมันไม่มีฉากวาบหวิวอะไร เหมือนเป็นเรื่องแรกๆที่เขาแต่งเอาไว้ เป็นเรื่องฟิลกู๊ดมั้งผมเห็นในรีวิวเขียนเอาไว้ บางฉากระหว่างพระเอกกับนายเอกทำให้ผมเขินเหมือนกัน ทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ

ผมอ่านเรื่องแรกจบเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เป็นเวลาตี 3 เหมือนเมื่อวานนี้เป๊ะ ผมจึงล็อคหน้าจอมือถือ แล้วเข้านอนทันที เพราะผมยังไม่อยากตื่นสาย


เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมยังต้องมายืนรอไอ้ทิวที่เดิม ในส่วนของเช้าวันนี้สำหรับผมมันแจ่มใสกว่าเมื่อวาน เพราะนิยายของคุณอาร์ทโตะ ยังรู้สึกอบอุ่นหัวใจไม่หายเลย

"เมื่อวานหน้าเป็นตูด วันนี้ยืนยิ้มยังกับคนบ้า" เสียงของแมททิวทำให้ผมตื่นจากภวังค์

"อะ อ่าวมาตั้งแต่เมื่อไร"

"ก็นานพอที่เห็นมึงยืนยิ้มแล้วบิดไปบิดมา เป็นไรวะ หายเครียดแล้วหรอ"

"เออ หายแล้ว" ผมตะโกนเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง เขินอะไรน่ะหรอครับ ก็เขินที่ไอ้ทิวมันเห็นอาการบ้าๆของผม

"ก็ดีที่หายเครียด มึงเครียดแล้วกูแกล้งไม่สนุก"

"โอ้ย ไอ้สัสผลักทุกวัน กูโง่ลงกันพอดี" ตามเคยครับ บนเเสร็จผลักหัว

"ฮ่าๆ กลัวทำไมวะ มึงโง่อยู่แล้ว โอ้ย อย่าหยิกกู เขียวหมดแล้ว"

"สมควร" ผมบิดแขนมันไปหนึ่งที ก่อนจะเดินนำหน้ามันไป

"เออ อย่าให้ถึงทีกูบางละกัน"

"สวัสดี น้ำวน" ผมหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นหู จะเป็นใครได้นอกจาก เปิ้ล หัวหน้าแก็งสาววาย

"หวัดดี"

"เป็นไงบ้าง ได้อ่านนิยายอื่นบ้างหรือเปล่า"

"เอ่อ ไอ้ทิวเจอกันที่ห้อง" ผมโบกมือให้ไอ้ทิวก่อนจะลากเปิ้ลออกไปที่อื่น

"แฮ่กๆ ลากเราออกมาทำไมเนี่ย"

"เปิ้ล อย่าพูดเรื่องนิยายต่อหน้าคนอื่นสิ"

"ทำไมละ"

"..."

"หน้านายแดง หรือว่าเขินหรอ??"

"..."

"เขินจริงดิ น่ารักอะ ขอถ่ายรูปเก็บไว้ได้ไหม"

"มะ ไม่ได้ หยุดนะ" ผมพยายามแย่งมือถือจากเปิ้ลเพื่อไม่ให้เธอถ่ายรูปผม

"ฮ่าๆๆ โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว ว่าแต่เมื่อคืออ่านเรื่องอะไรไปละ หน้าบานเชียว"

"ฤดูใบไม้ผลิ กับ รักแรกชองผม"

"อ่อ เฮ้ย นั้นพี่อาร์ทโตะแต่งนิ"

"รู้จักหรอ"

"รู้จักสิ พี่เขาดังมากๆเลยนะ เพราะเป็นผู้ชายเขียนด้วยแหละ แต่เรายอมรับว่าเขาเขียนดีมากจริงๆ"

"อ่อ"

"เรื่องอื่นก็สนุก น้ำวนก็ลองไปหาอ่านดู NC แซ่บมาก!"

"เขาแต่ง NC ด้วยหรอ"

"ใช่ แต่งแซ่บจนต้องร้องขอชีวิตเลย"

สมองผมค่อยๆประมวลผลตามที่เปิ้ลบอก อยู่ๆหน้าของผมมันก็เห่อร้อนขึ้นมา

"อ่าว หน้าแดงอีกแล้ว น้ำวนไม่สบายหรือเปล่า"

"ปะ เปล่า เราสบายดี ขอตัวนะ"

"โอเค เจอกันที่ห้องนะ"

"อืม"

ผมโบกมือลาเปิ้ลแล้วรีบเดินตรงไปที่ห้องเรียน

ผู้ชายเขียนฉากผู้ชายด้วยกันมีอะไรกันได้จริงๆหรอ เรื่องนี้ผมว่ามันต้องพิสูจน์



ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 6 : คุณหนูกับพ่อบ้านเป็นเหตุ NC 10+

การเรียนของวันนี้ผ่านไปด้วยดี ผมกลับบ้านพร้อมไอ้ทิวตามเคย พอถึงบ้านผมก็เดินตรงเข้าห้องโยนกระเป๋าไว้ข้างๆเตียงแล้วล้มตัวนอนลงเหมือนเดิม

วันนี้ผมตั้งใจจะอ่านนิยายของพี่อาร์ทโตะเรื่องอื่นต่อ เมื่อตอนพักเที่ยงเปิ้ลแนะนำให้ผมอ่านเรื่อง 'แผนลับแผนรัก' เธอสปอยว่า เป็นเรื่องของคุณหนูขี้เหวี่ยงกับพ่อบ้านมาดนิ่ง เรื่องราวประมาณว่าพ่อบ้านเป็นเด็กกำพร้าถูกเก็บมาเลี้ยงในคฤหาสน์ของนักธุรกิจคนหนึ่ง พอคุณพ่อบ้านโตขึ้นมีสกิลการดูแลงานบ้านขั้นสูงเลยถูกทาบทามให้เป็นพ่อบ้านของคฤหาสน์ และดูแลคุณหนูของบ้านหลังนี้ เปิ้ลเล่าเพิ่มเติมว่า จริงๆคุณหนูไม่ได้ขี้เหวี่ยงแต่เหวี่ยงใส่พ่อบ้านเพราะเขิน และเปิ้ลก็ทิ้งท้ายกับผมว่า 'เวลาคุณพ่อบ้านหึงฟินมากน้ำวน ต้องอ่านนะ!'

​ผมเปิดแอปนิยายอย่างชำนาญ แล้วจิ้มไปที่นักเขียนที่ผมติดตามเพื่อค้นหาเรื่อง แผนลับแผนรัก ผมนอนอ่านอยู่บนเตียงไปเกือบ 10 ตอน รู้สึกว่าคุณหนูขี้เหวี่ยงจริงๆ ถ้าผมเป็นพ่อบ้านคงเอาไม้ฟาดหัวไปแล้ว เด็กอะไรดื้อเป็นบ้า

ผมไล่อ่านจนมาถึงตอนกลางๆ มีคำว่า NC20++ มันทำให้ผมต้องกลืมน้ำลายอย่างยากลำบากอีกครั้ง พอนึกถึงเพศสภาพคนแต่ง อยู่ๆหน้าของผมมันก็เห่อร้อนขึ้นมา ก่อนจะจิ้มไปที่ตอนนี้

ตอน NC20+ เป็นเรื่องต่อจากตอนที่แล้ว หลังจากพีท คุณหนูของคฤหาสน์ไปดื่มกับเพื่อนจนเมาหัวทิ่ม โดยมีคุณพ่อบ้านไปรับกลับมา ระหว่างทางพีทก็หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้างตามประสาคนเมา ฉาก20+ มันคือตอนที่ทั้ง 2 ล้มลงบนเตียง จากนั้นก็จูบกันแล้วก็มีเซ็กส์กันบนเตียง พี่อาร์ทโตะบรรยายเซ็กส์ของทั้งสองคนได้อย่างละเอียด มันละเอียดจนผมต้องค่อยๆดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองอย่างไม่รู้ตัว ฉากสุดท้ายของตอนนี้คือพ่อบ้านกระแทกคุณหนูพีทจนตัวเองสำเร็จความใคร่ในตัวของคุณหนูพีท และเริ่มบนรักใหม่อีกรอบ

เมื่ออ่านจบ ผมรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองมันแปลกๆ เลยก้มลงไปมองที่เป้าตัวเอง

เชี้ย...

เป้าของผมมันตุง!!

ไม่นะ ผมไม่ใช่เกย์ ทำไมแค่อ่านนิยายวายฉาก20+ มันถึงแข็งได้ละ

ผมค่อยๆหลับตาลง แล้วพยายามสงบสติอารมณ์ ไม่สัมผัสน้ำวนตัวน้อยในกางเกง พยายามคิดเรื่องที่ทำให้อารมณ์ของผมสงบลง ได้สิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนี้คือ

ผู้ชายที่แต่งนิยายเรื่องนี้

ผมอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร เขาอายุเท่าไร เขาเรียนที่ไหน เขาสูงเท่าไร เขาจะมีริมฝีปากหนาแบบคุณพ่อบ้านไหมนะ แล้วเขาจะอ่อนโยนเหมือนพ่อบ้านหรือเปล่า ถ้าผมเมาแบบพีทเขาจะอุ้มผมมาที่เตียงไหม แล้ว...เขาจะกระแทกแรงแบบที่เเขียนไว้หรือเปล่า

พรึ่บ!

ความอดหมดลงทันที ผมถกกางเกงตัวเองลงถึงข้อขา ค่อยๆใช้มือล่วงเข้าไปในกางเกงในสีขาว ควักเอาแกนกายของตัวเองออกมา น้ำใสๆจากรอยจีบบนยอดแกนกายค่อยๆไหล่ลงมาหยดลงบนปลายนิ้วโป้ง ผมกำแกนของตัวเองไว้ไม่แน่นมากแล้วรูดเนื้อหุ้มขึ้นลงช้าๆ ในสมองก็มโนภาพของพ่อบ้านร่างสูงที่กำลังกระแทกคุณพีทตัวเล็กบนเตียงคิงไซต์

"อื้มมมม"

ผมรูดแกนกายเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ที่กำลังก่อขึ้นในหัวของผม ยิ่งชักเร็วมากเท่าไร ความรู้สึกเสียวซ่านที่ปลายแกนกลางยิ่งทวีคูณมากขึ้น

"อ๊ะ พี่อาร์ท วนจะเสร็จ อ่าาาา"

ผมชักแกนกลางของตัวเองอีกสามครั้งสุดท้าย ก่อนน้ำข้นขุ่นจะพุ่งออกมากจากรูจีบกลางแกนกลาง เป็นสัญญาณว่าผมเสร็จกิจของวันนี้แล้ว

ผมนอนหอบด้วยความเหนื่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จริงๆผมควรจะเสร็จนานแล้ว แต่อะไรดลใจให้ผมกลั้นมันไม่ยอมให้ตัวเองเสร็จสักที ผมนอนพักให้ตัวเองหายเหนื่อยก่อนจะลุกขึ้นมาเช็ดคราบต่างๆและทำความสะอาดตัวเอง แล้วกลับมานั้งนิ่งๆบนเตียง

ผมนั้งทบทวนตัวเองนิ่งๆ ระหว่างที่ผมช่วยตัวเอง สิ่งที่ผมคิดอยู่คือการร่วมรักของคุณหนูและพ่อบ้าน แต่มันมีอะไรแปลกๆ แปลกตรงไหนหรอครับ

มันแปลกตรงที่ผมจินตนาการว่าผมคือคุณหนูกำลังโดนพี่อาร์ทกระแทกอยู่บนเตียง !!

ความทรงจำสุดท้ายที่จำได้คือ ผมครางชื่อพี่อาร์ทโตะก่อนจะเสร็จ

"...ชิบหายแล้ว กูเอาพี่อาร์ทไปชักว่าวหรอเนีย"

ร่างเล็กล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนแรงและเขินอาย

ผมเอื่อมมือไปหยิบมือถือแล้วปลดล็อคหน้าจอแล้วค้นหา Artto ลงใน Google สิ่งที่ปรากฏคือ ผลงานของพี่อาร์โตะ และกระทู้ตามเว็บต่างๆที่พูดถึงพี่อาร์ทโตะ ผมจิ้มเข้าไปในลิ้งค์ของ แนะนำตัว Artto


ผมชื่ออาร์ทครับ นามปากกา Artto อายุ 22 ปี อย่าลืมมาพูดคุยกันใน Face Book Page: Artto-San Twitter: @artto.san นะครับ


เมื่อผมเห็นชื่อแฟนเพจและทวิตเตอร์ จะรออะไรละครับ ผมรีบกดติดตาม follow ทุกช่องทางทันที แต่เหมือนผมจะนึกอะไรขึ้นมาได้

ผู้ชายที่ไหนเขาอ่านนิยายวายกันวะ

พอคิดได้ผมรีบตาม unfollow ทุกช่องทาง แล้วสมัคร user ใหม่ทั้งหมดภายใต้ชื่อว่า โมเม ​ทำไมต้องชื่อโมเม เพราะผมก็คิดชื่ออื่นไม่ออก

ผมใช้ชื่อโมเมติดตามพี่อาร์ททุกช่องทางที่เขาแนะนำ ผมไล่อ่านสิ่งต่างๆที่เขาเคยโพสไว้ในโซเชียล การตามอ่านสิ่งต่างๆที่เขาเคยโพสเอาไว้ มันทำให้ผมได้รับรู้ตัวตนของเขามากขึ้น พี่อาร์ทมีแมวชื่อ บลูบลู เจ้าแมวสายพันธุ์ ขาวมณี ดวงตาสีฟ้า พี่อาร์ทเรียนมหาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียง คณะที่เรียนน่าจะเป็นเกี่ยวกับภาษา ชอบกินน้ำอัดแก๊ส ไม่ชอบอากาศร้อน

ผมไล่อ่านโพสต่างๆของเขาทั้งหน้าเพจและทวิตเตอร์จนกระทั้งผมเห็นเขาโพสข้อความลงทวิต

'ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อย่าลืมดูแลตัวเองนะครับ เพราะผมป่วยซะแล้ว ฮ่าๆ'

​มือเจ้ากรรมของตัวเองดันไวกว่าความคิด ผมพิมพ์ลงบนแป้นพิมพ์แบบไม่ได้คิดอะไร

' Replaying to @artto.sa-n  หายไวๆนะคะ '

เมื่อนิ้วเล็กๆของผมจิ้มส่งข้อความถึงเขา เหมือนพึ่งนึกขึ้นได้ว่า ทำอะไรผิดพลาดไปอีกแล้ว ผมรีบโยนมือถือของตัวเองไปอีกฝั่งของเตียง

"ทำอะไรลงไปอีกแล้วเนียกู"

ติ่ง!

ผมรีบเขยิบร่างของตัวเองไปหยิบมือถือแล้วเปิดจอเพื่อดู

' Replaying to @moma098765 ขอบคุณครับ ดูแลตัวเองด้วยละตัวเล็ก '

"...."

หลังจากเปิดอ่านข้อความตอบกลับของพี่อาร์ท คำถามในหัวมันผุดขึ้นมาอีกครั้ง

เขาเป็นใครวะ หน้าก็ไม่เคยเห็น เสียงก็ไม่เคยได้ยิน

มีสิทธิ์อะไรมาทำให้เราใจเต้นแรงขนาดนี้!!


ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 7 : พบกันครั้งแรก

หลังจากเหตุการวันนั้นผ่านไป หลังจากที่ผมได้รู้จักไรท์เตอร์อาร์ทโตะ ผมเริ่มสืบหาเขาในโซเชียลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค ไอจี อีเมลล์ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพี่อาร์ททั้งหมด ยิ่งได้รู้จักเขา ผมยิ่งรู้สึกหลงไหลเขามากขึ้น ผู้รู้สึกว่าพี่อาร์ทมีเสน่ห์มากๆ ยิ่งผมได้อ่านสเตตัสต่างๆของเขาผ่านช่องทางในโซเชียลต่างๆ ผมยิ่งรู้สึกดีกับเขา ผมยอมรับว่ารู้สึกดีกับเขาผ่านตัวหนังสือ ทัศนคติต่างๆในโซเชียล จนความรู้สึกในตอนนี้มันกลายเป็นความ 'รัก' ไปแล้ว 

กลับมาที่ปัจจุบัน

ผมนอนดูดน้ำโค้กอยู่บนเตียงแสนรักของตัวเอง เปิดพัดลมจ่อหน้าให้อากาศรอบตัวเกิดการหมุนเวียนไปทั่วห้อง ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย ถ้าไม่เปิดพัดลมกับดื่มน้ำเย็นๆในช่วงนี้ต้องตายแน่ๆครับ  ผมนอนอ่านนิยายเรื่องใหม่ของพี่อาร์ท พออ่านจบก็เม้นฟิดแบคตามปกติที่ผมทำมาตลอด 3 เดือน ตอนนี้ผมเป็น top fan ในเพจเฟซบุ๊คของพี่เขาด้วยละ เม้นจนใครๆในเพจจำผมได้ แต่ก็รู้จักผมในนามของ น้องโมเม เด็กผู้หญิงเรียนม.ปลาย แฟนนิยายของพี่อาร์ทโตะ

ติ่ง!

​ขณะที่ผมกำลังนอนอ่านการ์ตูนที่ค้างไว้ จู่ๆก็มีเสียงแจ้งเตือนในเฟซบุ๊คดังขึ้น ผมรีบเข้าไปดูเพราะข้อความมันขึ้นว่าแจ้งเตือนนั้นมาจากพี่อาร์ท

'สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่ติดตามผมอยู่ ในวันที่ 19 ที่กำลังจะมาถึง ผมมีอีเว้นต์แจกลายเซ็นที่บูธ XX ในงานหนังสือ อย่าลืมมาหากันนะครับ '

พะ พี่อาร์ทมีงานแจกลายเซ็นที่งานหนังสือ!!!

ผมรีบเปิดปฏิทินดูวันที่พี่อาร์ทแจกลายเซ็น ซึ่งตรงกับวันอาทิย์ที่กำลังจะมาถึง ตอนนี้ผมตื่นเต้นจนมือถือที่อยู่ในมือสั่นอย่างเห็นได้ชัด ใครจะไม่ตื่นเต้นละครับ เขาเป็นถึงนักเขียนคนโปรดของผมเชียวนะ

ติ่ง!

​ระหว่างที่ผมกำลังตื่นเต้นเรื่องที่จะได้ไปพบพี่อาร์ทโตะตัวเป็นๆ เสียงแจ้งเตือนก็ดังอีกครั้ง แต่รอบนี้เป็นกลุ่มสาววาย

พวกเราจิ้นน้ำอาร์ทวน

เปิ้ลไง : รูป
เปิ้ลไง : เห็นยังน้ำวน โอกาศมาแล้ว กรี๊ดๆๆๆ
NW : เห็นแล้ว ตื่นเต้รมาหๆเลย
เปิ้ลไง : ใจเย็นๆ ค่อยๆพิมพ์ ฮ่าๆๆๆๆ
NaMo : นาทีนี้อาร์ทวนต้องมาแน้วววว

เปิ้ลส่งรูปสเตตัสในเพจเฟซบุ๊คของพี่อาร์ทโตะทางไลน์ให้ผม ผมก็รีบพิมพ์ตอบเปิ้ลกลับไปทั้งที่มือยังไม่หยุดสั่น ตื่นเต้นเป็นบ้า นี่ผมจะได้เจอพี่เขาจริงๆหรอเนี่ย

ผมโยนมือถือลงบนข้างตัวเอง นอนลงบนเตียงนิ่งๆเพื่อสงบสติอารมณ์ เรื่องนี้เปิ้ลรู้ดีว่าใครว่าผมปลื้มพี่อาร์ทโตะมากแค่ไหนเพราะเราคุยกันเรื่องผู้ชายคนนี้ทุกวัน ครับ คุยเรื่องของพี่อาร์ทโตะกับแก็งสาววายทุกวัน พอพวกเธอรู้ว่าผมมีไรท์เตอร์คนโปรดเป็นของตัวเอง พวกเธอก็ค่อยซัพพอร์ตผมเต็มที่ ค่อยเป็นหูเป็นตาให้ทุกอย่าง รวมไปถึงการสืบเรื่องแฟนของพี่อาร์ทโตะ

แพรเล่าให้ฟังว่า เธอมีจิตสัมผัสว่าพี่อาร์ทมีแฟนแล้ว เพราะช่วงนี้เขาโพสสเตตัสหวานๆหน้าเพจตลอดซึ่งมันผิดวิสัยผู้ชาย แต่โมก็แย้งขึ้นมาว่าพี่อาร์ทโตะอาจจะเป็นเกย์ฝ่ายรับก็ได้ สุดท้าก็กลายเป็นสงครามขนาดย่อมๆในแก็งว่า พี่อาร์ทมีแฟนหรือเป็นเกย์ สำหรับผมนาทีนี้ให้เป็นรุกหรือรับได้หมดแล้วครับ ขอแค่ได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาก็พอ

เสียงไลน์ยังดังไม่หยุด ถ้าให้ผมเดาสาวๆคงกำลังมโนเพ้อพบระหว่างผมกับพี่อาร์ท ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติผมเลยไม่ได้ใส่ใจมากนัก ผมเลือกที่จะถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำเงียบๆคนเดียว


เวลาผ่านไปเหมือนโกหกเผลอแปบๆ นี้ก็เป็นวันที่ผมรอคอยแทบทั้งอาทิตย์ ผมและแก็งสาววายนัดเจอกันหน้างานเพราะภายในงานคนเยอะมาก ถ้านัดเจอกันในนั้นเกรงว่าจะไม่เจอกัน ผมเลยเป็นคนเลือกสถานที่นัดกันเจอกันเป็นหน้างาน คิดว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา

ตอนนี้เป็นเวลา 11 โมงตรง ผมนัดกับสาวๆ11โมงครึ่ง แต่ความตื่นเต้นที่มันมีมากเกินความจำเป็นของผมทำให้เมื่อคืนนอนไม่หลับ ส่งผลให้ต้องออกมาจากบ้านไวกว่าปกติและถึงก่อนเวลา ผมยืนกอดหนังสือนิยายของพี่อาร์ทโตะที่พึ่งพรีออเดอร์ทางอินเตอร์เน็ตเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วไว้แน่น ตอนนี้มือผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทำไมมันตื่นเต้นขนาดนี้วะ เกิดมาไม่เคยเป็นมากขนาดนี้มาก่อน

"อ่าวน้ำวนมาไวจัง"

"เฮ้ย ทำไมหน้าแดงขนาดนั้นละ"

"ดะ แดงหรอ" ผมหันหน้าไปตามเสียงเรียกของเปิ้ล แต่ก็ต้องรีบจับแก้มตัวเองทันทีที่เมย์ทักเรื่องหน้าของผม

"น่าจะตื่นเต้นมั้ง อาการงี้อะ" ส่วนโมก็ไม่ได้พูดเปล่า เอามือมาจิ้มแก้มผมอีก

"อย่าแกล้งน้อง เข้าไปกันได้แล้ว" แพรผู้เป็นนางฟ้าของผมดันหลังผลักหลังพวกเราห้าคนเข้าไปในงาน

ภายในงานบูทต่างๆถูกจัดให้เป็นสัดส่วนหมวดหมู่ เพื่อให้ผู้เข้ามาร่วมงานตามหาหนังสือที่ต้องการได้ง่ายยิ่งขึ้น ตามกำหนดการที่พวกเราไปศึกษามา พี่อาร์ทโตะต้องให้สัมภาษณ์ที่บูทXXกับสื่อที่เกี่ยวข้องกับนิยายตอนเที่ยงและเริ่มแจกลายเซ็นต์ในเวลาเที่ยงครึ่ง

"น้ำวน เราไม่ไปด้วยนะ ต้องไปรอแจกลายเซ็นต์ของพี่เอ็มตอนเที่ยงเหมือนกัน"

"เราก็ต้องไปต้องไปขอของพี่โอด้วย ขอโทษนะ" โมกับเมย์ชูนิยายของไรเตอร์คนโปรดให้ผมดูเพื่อเป็นการแสดงหลักฐานว่าต้องไปจริงๆ

"อืม ไปดิเราอยู่ได้ เปิ้ลกับแพรก็อยู่"

"ใช่ เพราะพี่ไรเตอร์ที่ฉันชอบไม่มาสักคน ฮึ่ย" เปิ้ลบ่นปอยๆให้ตัวเอง

"ฮ่าๆ เราด้วย" แพรเสริม

"งั้นไปก่อนนะ พวกแกดูแลลูกสาวของแก็งเราด้วย"

"เออ"

โมบอกลาผมและอีกสองคนก่อนจะเดินจูงมือเมย์จนหายเข้าไปในฝูงชน ใครลูกสาวของแก็งวะ?

"น้ำวนไปเร็ว จะเที่ยงแล้ว"

"อ่อ ปะๆ" แพรเร่งให้ผมรีบไปที่บูทเป้าหมายที่เราต้องไป

ผมเดินจนมาถึงบูทที่พี่อาร์ทโตะต้องแจกลายเซ็นต์ ตอนนี้มือผมเย็นและชุ่มไปด้วยเหงื่อ มันเป็นอาการที่จะเกิดขึ้นเสมอเมื่อผมรู้สึกตื่นเต้นและประหม่า

"มาแล้ว กรี๊ดหล่อวะอีแพร กูจะเป็นลม"

"สะ สูงมาก ขาวออร่า..." แพรหยิบยาดมขึ้นมาอุดจมูกตัวเองข้างหนึ่ง

ผมหันไปตามเสียงกรี๊ดย่อมๆที่มาเป็นระยะ จนได้พบกับพี่ อาร์ทโตะ ตัวเป็นๆ ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็คสีน้ำเงินกับรองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาด เดินเสยผมในระยะ10ก้าว ละ...หล่อชิบหาย!

"อีแพร ดูลูกสาวกูด้วย เป็นลมแล้วมั้ง"

"น้ำวน เอ่อ..น้ำลายไหลแล้ว"

"อ่ะ ขอโทษๆ"  แพรสะกิดผมเบาๆก่อนจะยืนทิชชู่ให้ผม ทำให้สติที่มันลองลอยกลับเข้ามาอีกรอบแล้วรีบหยิบทิชชู่จากมือแพรมาเช็ดมุมปากของตัวเองทันที นี้ผมน้ำลายไหลเชียวหรอ

"พวกเราเข้าไปดูใกล้ๆกันเถอะ" เปิ้ลผลักผมกับแพรให้เข้าไปใกล้บูทมากขึ้น

ตอนนี้หน้าบูทที่พี่อาร์ทโตะให้สัมภาษณ์เต็มไปด้วยเหล่าบรรดานักอ่านที่ติดตามงานของพี่เขา ไม่ว่าจะเป็นสาวเล็กสาวใหญ่และหนุ่มๆก็มีประปราย รวมถึงตัวผมด้วย

"สวัสดีครับ ผมอาร์ท นามปากกาอาร์ทโตะ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาพบทุกคนในงานนี้นะครับ ขอบคุณทุกคนนะครับที่คอยติดผลงานและให้กำลังใจผมมาตลอด เพื่อเป็นการตอบแทนทุกคน ผมสัญญาว่าจะสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานของตัวเองให้ดีมากขึ้นกว่านี้ครับ"

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

คำกล่าวเปิดตัวจากชายร่างสูงผู้เป็นที่นิยมของนักอ่านทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจนทำให้คนในบริเวณนั้นต้องเข้ามาดูด้วย

"โอ้ย หน้าหล่อ เสียงหล่อ คำพูดก็หล่อ เป็นคนที่หล่อทุกอณูรูขุมขนเลยว่ะ"

"อือ ถ้าไม่หล่อจริงแสกกลางแบบไอดอลเกาหลี ไม่รอด"

"โมเมย์พลาด/โมเมย์พลาด" เปิ้ลกับแพรซุบซิบกันสองคนก่อนจะพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

"เอาละค่ะ ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงครึ่งแล้ว นักอ่านท่านไหนที่ต้องการขอลายเซ็นต์ของคุณอาร์ทโตะ รบกวนต่อแถวตามที่เส้นสีฟ้านะคะ"

สิ้นเสียงพิธีกร มวลมหาประชาชนที่มารอพี่อาร์ทก็รีบวิ่งกรู่ไปตามที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้

"อ่าว น้ำวนยืนเอ๋อทำไมเล่า ไปเข้าแถวดิ"

"แล้วพวกเธอละ"

"พวกเราไม่ใช่ติ่งพี่อาร์ทสักหน่อย น้ำวนไปเถอะ" แพรผลักผมเข้าไปในแถวที่ถูกกำหนดไว้

ผมเดินไปตามแรงที่แพรผลัก ก่อนเข้างานผมสั่นแค่มือ แต่ตอนนี้มันสั่นไปหมดแล้ว พอเดินมาถึงแถวก็กลายเป็นว่าผมคือคนสุดท้ายของแถว

"พะ แพร อยู่กับเราก่อนได้ไหม ตะตื่นเต้นจะตายแล้ว ห่า...ฟู่" ผมรั้งแขนแพรไว้ก่อนจะอ้าปากรับลมเข้าปอดแล้วค่อยพ่นออกช้าๆ มันตื่นเต้นจนหายใจไม่ทัน

"โอเค ใจเย็นๆนะ น้ำวนคนเก่ง น้ำวนทำได้" แพรลูบหลังผมเบาๆเป็นการให้กำลังใจ

"อื้ม น้ำวนทำได้" ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ต้องทำได้อยู่แล้ว

การแจกลายเซ็นต์เป็นไปได้ด้วยดี มีเสียงกรี๊ดกราดเป็นระยะ แต่ยังไม่มีใครเป็นลมตาย ผมก้มหน้ามองเท้าตัวเองที่กำลังก้าวเข้าไปใกล้พี่อาร์ทโตะเรื่อยๆ มือซ้ายกำหนังสือนิยายแน่น มือขวาก็มีแพรค่อยลูบไว้ตลอดทาง ถ้าผมไม่มีแพรตอนนี้สติผมต้องแตกแน่ๆ จนแล้วจนเล่า การรอคอยที่แสนเนินนานก็สิ้นสุดลง

"น้ำวน ถึงแล้ว"

"น้องครับ"

ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากแรงเขย่าของแพร แต่ก็ต้องมาตกใจเพราะคนตรงหน้า

"เราไปก่อนนะ"

"แพรจะไปไหนอยู่กับเราก่อนไม่ได้หรอ" ผมคว้าแขนแพรไว้

"อีแพร รีบออกมาได้แล้ว" เสียงตะโกนจากด้านหลังทำให้แพรต้องยิ้มแห้งๆให้ผม

"แฮะๆ ขอโทษด้วยนะน้ำวน" แพรค่อยๆแกะมือผมออกแล้วตรงดิ่งไปหาเปิ้ลทันที

"เลิกล่ำลาแฟนได้แล้ว มาคุยเรื่องของเราดีกว่านะครับ" พี่อาร์ทเอามือเท้าคางก่อนจะยิ้มให้ผม

ไอ้หัวใจบ้า อย่าเต้นแรงนักสิวะ

"ไม่ใช่แฟนครับ" ผมค่อยๆวางนิยายลงบนโต๊ะ แล้วเลื่อนเข้าไปใกล้ตัวพี่เขา

"ทำไมมือสั่นขนาดนั้นละ หืม " พี่อาร์ททำท่าจะเซ็นหนังสือให้แต่ก็เงยหน้าขึ้นมาถามอาการของผมก่อน

"ผะ ผมหิวข้าว ครับ"

"แล้วทำไมไม่ทานมาก่อนละ หืม...หน้าแดงมากๆเลย ไม่สบายหรือเปล่า" ไม่ว่าเปล่า พี่อาร์ทค่อยๆยื่นมือขึ้นมาเพื่อวัดอุณภูมิที่หน้าผากของผม

"สบายดีครับ!!" ผมเผลอตะโกนออกไปเมื่อมือของพี่อาร์ทสัมผัสกับหน้าผากของผม

"ฮ่าๆ โอเคครับ ชื่ออะไรละ"

"น้ำวนครับ"

"ชื่อน่ารักจัง"

เฮือกกกกกกกก

พี่อาร์ทเซ็นหน้าหนังสือให้ผมเสร็จก็ยื่นคืนผมทันที

"มีอะไรจะคุยกับพี่ไหมครับ" พูดจบชายตรงหน้าก็ยิ้มให้ผม

"เราจะได้เจอกันอีกไหมครับ"

"ยังไม่มีงานนะ แต่ถ้าอยากคุยก็ทักในทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊คมาก็ได้ ถ้าว่างพี่ก็ตอบตลอดครับ"

"ขะ ขอบคุณครับ" ผมรีบคว้าหนังสือนิยายตัวเองแล้วรีบเดินออกมจากโต๊ะนั้นทันที

"ทักมานะ พี่รอ" เสียงพี่อาร์ทตะโกนตามหลังมาทำให้ต้องรีบจ้ำออกจากบริเวณนั้นให้ไวที่สุด

บ้าจริง ใครไหวไปก่อนเลย!

Artto Part

​หลังจากที่ผมตะโกนตามหลังเด็กที่ชื่อน้ำวนไป คนตัวเล็กก็เหมือนจะเร่งความเร็วจนตัวเซ ฮ่าๆตลกเป็นบ้า อาการเขินจนตัวสั่นหน้าแดงผมเจอบ่อยครับ มันเกิดจากความตื่นเต้นที่ได้มาเจอผม ตอนแรกๆก็ไม่ชินเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็เริ่มชินและขอบคุณพวกเขาตลอด ถ้าไม่ได้แรงสนับสนุนของนักอ่านทุกคนผมคงไม่มีวันนี้แน่ แต่สำหรับน้ำวน เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น แฟนบอย ตื่นเต้นขนาดนั้น น้ำวนเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กผิวสีน้ำผึ้ง ดวงตากลมโต เห็นแล้วมันอดแกล้งไม่ได้จริงๆ ยิ่งแซวหน้าก็ยิ่งแดง ผมหวังว่าเขาจะทักผมมาจริงๆนะ


ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 8 : ความรักของคนเขียนนิยาย

หลังจากที่ผมได้ลายเซ็นของพี่อาร์ทผมก็รีบฝ่าฝูงชนออกมาหาเปิ้ลกับแพร ระหว่างทางที่กำลังไปหาเปิ้ลกับแพรผมเกือบสะดุดขาตัวเองหัวทิ่ม ก็เพราะพี่อาร์ทดันตะโกนตามหลังบอกให้ผมทักเขามาด้วย แม้จะได้ยินแค่ไกลๆแต่แขนและขาของผมดันอ่อนแรงขึ้นมาซะทั้งอย่างงั้น เป็นผู้ชายอันตรายกับร่างกายและหัวใจผมชะมัด

"เป็นไง คุยอะไรกับพี่เขาบ้าง" แพรรีบเข้ามาประคองผมเมื่อเห็นว่าผมเดินแทบจะไม่ไหว

"นิดหน่อย"

"นิดหน่อยนี้คืออะไร เล่า! เล่าให้หมด" เปิ้ลรีบแทรงเข้ามาระหว่างผมกับแพร

"ก็...เรามือสั่น พี่เขาก็ถามว่าเราเป็นอะไร เราเลยบอกไปว่าหิวข้าว แล้วเขาก็ทักว่าเราหน้าแดงเลยเอามือมาอังที่หน้าผากของระ..."

"กรี๊ดดด  อีแพรน้ำอาร์ทวนของเราโคตรเรียลเลยว่ะ"

"อย่าพึ่งสติแตกสิเปิ้ลน้ำวนยังเล่าไม่จบเลย อ่า...เล่าต่อเลย" ยังไม่ทันพูดจบเปิ้ลก็กรี๊ดแทรกขึ้นมา ทำเอาผมไปไม่ถูกเลย​ แต่ก็ได้แพรมาเบรคเอาไว้เสียก่อน

"เราก็บอกเขาว่าไม่เป็นไร เขาก็ถามชื่อเราแล้วเซ็นหนังสือให้ พอเซ็นเสร็จเขาก็ถามเราว่าอยากคุยอะไรไหม เราเลยถามว่าจะได้เจอกันอีกไหม พี่เขาก็ตอบว่ายังไม่มีงานแต่ให้ทักในทวิตหรือเฟซมา ถ้าว่างจะตอบ"

"อ๊ากกกกก  ดีมากลูกสาวกู ดีมากกกกกกก" ผมกลั้นหายใจแล้วเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวบรัด พอเล่าจบเปิ้ลก็โผเข้ามากอดผมแล้วลูบหัวปอยๆ พึมพำว่าดีมากไม่หยุด ก่อนจะผละออกผมออกจากตัวเธอ แล้วก้มลงมาจ้องหน้าผม

"น้ำวน ต้องทักพี่เขาไปนะ"

"อันนี้แพรเห็นด้วย โอกาสมาแล้ว"

"อืม ว่าจะใช้แอคโมเมทักปะ..."

"ไม่ได้/ไม่ได้นะ" แพรกับเปิ้ลพูดพร้อมกัน

"ทำไมละ"

"น้ำวน ตอนนี้พี่อาร์ทรู้จักน้ำวนในฐานะน้ำวนนะ ไม่ใช่โมเม ถ้าทักเขาไปในฐานะโมเมมันจะมีประโยชน์อะไร" เปิ้ลอธิบายให้ผมฟัง

"อันนี้เราเห็นด้วยกับเปิ้ลนะ น้ำวนต้องใช้เฟซตัวเองทักไป ไม่งั้นวันนี้ที่เรามาหาพี่เขาก็เท่ากับสูญเปล่า"

"แต่ โมเมคือแฟนคลับพี่เขานะ เราจะทิ้งได้ไง" ครับ โมเมคือบุคคลที่ผมสร้างขึ้นมา ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาโมเมเธอคือตัวแทนความกล้าของผมแล้วผมจะทิ้งเธอไปได้ยังไง ถึงจะเป็นแค่ตัวละครสมมุติก็เถอะ แต่ผมเชื่อว่าพี่อาร์ทจำเธอได้ เพราะความรูสึกของผม เมโมคือคนที่ส่งมันไปหาพี่อาร์ทตลอด

"เฮ่อ ตามใจน้ำวนแล้วกัน" เปิ้ลถอนหายใจ

"มาแล้วจ้า" โมกับเมย์เดินจูงมือกันมาหน้าบานทั้งคู่ พอจะรู้ได้เลยว่าฟินขนาดไหน

"โม เมย์เป็นไงบ้าง" ผมถามสองสาวที่เข้ามาใหม่

"ฟินมากเวอร์ ได้จับมือพี่โอด้วยแก ฮือออ วันนี้จะไม่ล้างมือเลยคอยดู"

"อี๋ สกปรก"

"แหมมมมมโม ฉันเห็นนะว่าแกไปขอหอมแก้มพี่เอ็ม โรคจิตชิบหาย"

"เห็นได้ไง!!"

"โอ้ย ฉันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแหละ แกไปขอหอมแก้มพี่เขา แล้วพี่เอ็มก็พูดว่า แฮะๆ อย่าทำเลยเนอะ แล้วเขาก็ยิ้มหน้าแห้งๆให้แกไง ถ้าฉันเป็นพี่เอ็มนะ จะลุกขึ้นกระโดดถีบยอดหน้าให้ ข้อหาอนาจารในที่สาธารณะ" เมย์ทำท่าจะลุกขึ้นมากระถีบโมจริงๆ

"โอ้ย พอๆ เลิกตีกันได้แล้ว" แพรรีบห้ามทััพระหว่างโมกับเมย์ก่อนที่จะเกิดสงครามกลางงานหนังสือ

"น้ำวนเป็นไงบ้าง" เมย์หันมาถามผม

"เอ่อ ก็ดีนะ แฮะๆ"

"น้ำวนก็บอกพวกมันไปสิวะ พี่อาร์ทให้ทักไปหา" เปิ้ลกอดอกยักคิ้วแล้วบอกเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นกับผมให้สองสาวที่พึ่งมาใหม่ได้รับรู้

"ห๊าาาา/ห๊าาาาา" ทางด้านสองสาวที่ได้ยินจากเปิ้ลถึงกับอ้าปากกว้างร้องพร้อมกัน

"ฟินไม่ฟินให้ภาพมันเล่าเรื่อง" แพรยื่นโทรศัพท์มือถือให้สองสาวดู

"เฮ้ยยย  ขนาดนั้นเลยหรอวะ" โมกับเมย์ดูรูปในมือถือสลับกับมองหน้าผม

"อะไรหรอ" เพราะท่าทีของสองสาวที่ดูภาพในมือถือทำให้ผมเกิดความอยากรู้อยากเห็นว่าพวกเธอดูอะไรกัน ผมจึงเลยชะโงกหน้าเข้าไปดู

ภาพที่เห็นคือพี่อาร์ทยื่นมือขึ้นมาอังหน้าผากของผมแล้วมองผมด้วยสายตาที่ยากจะเดาได้ว่าคิดอะไรอยู่ ส่วนผมก็หลับตายืนตัวตรง ตรงแก้มมีริ้วแดงระเรื่ออ่อนๆ

"ยังกับปกนิยาย"

"สิ่งที่ได้ทำกับพี่โอไปคือเทียบไม่ติดกับน้ำวนเลยอะ"  โมกับเมย์พูดขึ้นมายังกับคนที่วิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว​ ใจจริงผมอยากจะแย่งมือถือจากสองสาวแล้วลบรูปทิ้ง แต่มาคิดอีกทีนั้นมันเป็นรูปคู่รูปแรกของผมกับพี่อาร์ทเชียว ไว้ค่อยขอแพรดีกว่า

"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เรากลับกันเลยไหม" ผมเอ่ยปากชวนสี่สาวกลับบ้าน

"โอเค งั้นกลับกันเลยแล้วกัน" แพรพยักหน้ารับรู้แล้วตอบผม

พอตกลงกันได้พวกเราก็แยกย้ายกลับบ้านกัน ระหว่างทางกลับก็พูดคุยกันเรื่องไรท์เตอร์ที่ได้เจอ หนังสือนิยายที่ได้ไปจับจองเป็นเจ้าของ รวมทั้งเรื่องของผม พวกเธอรวมหัวกันแซวผมไม่หยุดปาก ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน

Artto Part

"เมื่อไรอาร์ทจะเลิกเขียนนิยายเกย์สักที แป้งหมี่อายเพื่อนจะแย่อยู่แล้ว" เสียงใสของสาวผู้เป็นแฟนของชายหนุ่มที่กำลังขับรถกลับเอ่ยขึ้น

"นี้มันเป็นงานของอาร์ท อาร์ทว่าเราคุยกันเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วนะ"

"ก็หลายรอบแล้วไงอาร์ท แป้งหมี่ไม่ชอบที่มีพวกเด็กจิตวิปริตมายืนกรี๊ดแฟนตัวเอง ไหนจะเด็กผู้ชายที่มายืนตัวสั่นอยู่หน้าอาร์ท ขยะแขยงชะมัด"

"แป้งหมี่!!"

"ทำไมละอาร์ท แป้งหมี่พูดความจริง คนที่อ่านเรื่องระหว่างผู้ชายกับผู้ชายได้กันนี้คือคนปกติหรอ อาร์ทก็เหมือนกันเลิกสักทีได้ไหม" หญิงสาวส่งสายตาไม่พอใจให้กับแฟนหนุ่ม

"พวกเขาไม่ใช่คนวิปริต อาร์ทอธิบายให้ฟังหลายรอบแล้ว มันเหมือนนิยายชายหญิงทั่วไป เมื่อไรแป้งหมี่จะเข้าใจสักที"

"เหอะ! ทำเป็นเข้าใจเรื่องความรักดี แล้วแป้งหมี่ละ อาร์ทเคยเข้าใจบ้างไหม เพื่อนที่มหาลัยล้อแป้งหมี่ทุกวันว่ามีแฟนเป็นเกย์ แต่งนิยายชายรักชาย ไหนจะพวกบ้าที่เรียกตัวเองว่าสาววายมายืนดอมๆมองๆอาร์ทอีก ฮึก... แป้งหมี่อาย เข้าใจกันบ้างไหม ฮือ" หยดน้ำใสๆไหลลงมาจากดวงตาของหญิงสาวผู้เป็นแฟน ผมเห็นท่าจะไม่ดีจึงหักพวกมาลัยเข้าไปจอดรถในปั๊มน้ำมันข้างหน้า

"อาร์ทขอโทษ" ผมค่อยๆดึงหญิงสาวผู้เป็นที่รักเข้ามากอดเพื่อปลอบประโลมเธอ

"เลิกนะ เลิกเขียนมันซะ"

"...."

"อาร์ท"

"..."

"ฮึก ทำไมละอาร์ท นิยายพวกนั้นมันสำคัญกว่าแป้งหมี่หรอ"

"อาร์ทเขียนมันมาตั้งแต่ก่อนเจอแป้งหมี่"

"..."

"พวกเขารอผลงานของอาร์ทอยู่ อาร์ททิ้งมันไม่ได้ และแป้งหมี่ก็สำคัญกับอาร์ท"

"อาร์ทต้องเลือก" หญิงสาวตัวเล็กร่างอรชอนผลักแฟนหนุ่มของเธอออก

"ต้องเลือก ระหว่างแป้งหมี่กับนิยายบ้าๆนั้น"

"อาร์ทขอโทษ"

"อาร์ท!!!"

"..."

"ได้อาร์ท ฮึก งั้นเราก็จบกันแค่นี้แหละ"

*ปัง!*

หญิงสาวร่างเล็กใช้แขนปาดน้ำตาตัวเองก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินออกไป ผมยังคงนั้งนิ่งอยู่ในรถคิดถึงแฟนสาวที่พึ่งบอกเลิกผมไป ผมเลือกที่จะไม่ตามเธอไป

เรื่องราวระหว่างแป้งหมี่กับผมมันสั่นคลอนมาได้เกือบครึ่งปีแล้วครับ หลังจากที่ผมขอเธอคบเมื่อปีก่อน ผมหลงรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเธอ แป้งหมี่เป็นคนใจดี ยิ้มเก่ง เข้ากับคนง่าย ผู้หญิงตัวเล็กผมยาวประบ่า ริมฝีปากบางที่คอยยิ้มให้ผมในยามที่เรามีความสุข มือเล็กๆที่คอยจับจูงกับไปที่ต่างๆ ร่างบางที่เข้ามากอดผมในยามที่ผมต้องการกำลังใจ ผมรักทุกอย่างที่เป็นเธอ แป้งหมี่เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อทราบว่าผมเขียนนิยายแนวBL เธอไม่พอใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ทราบเรื่องนี้ แต่ผมก็พยายามอธิบายเพื่อให้เธอเปิดใจกับเรื่องนี้ ในตอนแรกมันก็เหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ช่วงหลังที่ผ่านมา เพื่อนของเธอหลายคนเริ่มทราบเรื่องที่ผมแต่งนิยายจากปากของนักอ่านที่ติดตามงานของผมซึ่งพวกเขาก็เรียนที่เดียวกับพวกเรา ทำให้เพื่อนของแป้งหมี่แซวผมและเธอมาตลอด น้ำที่หยดลงหินทุกวันยังมีกร่อน นับประสาอะไรกับใจคน เธอโดนเพื่อนแซวโดนล้อทุกวันว่ามีแฟนเป็นเกย์บาง ระวังโดนผู้ชายแย่งไปบ้าง จนเธอเริ่มไม่พอใจจึงขอร้องให้ผมหยุดเขียนนิยาย แต่ผมคิดว่านิยายมันไม่ผิด ความรักระหว่างเพศเดียวกันก็ไม่ผิด มันผิดที่คนมากกว่าที่มองเป็นเรื่องตลกและไม่ยอมเปิดใจรับ สำหรับผม ผมคิดว่าความรักมันไม่มีข้อจำกัด เราสามารถรักแบบไหนก็ได้ ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน จะชายรักหญิง ชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง ผมว่ามันไม่ผิด ความรักสำหรับผมยังเป็นสิ่งสวยงามเสมอ

ทั้งที่เขียนนิยายให้มันจบได้แฮปปี้เอนดิ้งมาตลอด แต่ทำไมคนเขียนถึงไม่แฮปปี้เอนดิ้งแบบนิยายละ

ผมปลดล็อคมือถือตัวเองเพื่อเช็คฟิดแบคนิยายตอนล่าสุดที่ผมพึ่งลงไปเมื่อคืน ในยามที่ผมไม่มีกำลังใจ ผมเลือกที่จะเปิดคอมเมนต์ของนักอ่านตั้งแต่คอมเมนต์แรกจนมาถึงอันล่าสุด ส่วนใหญ่ก็บอกให้ผมกลับมาต่อไวๆ สู้ๆบ้าง เป็นกำลังใจให้บ้าง รวมทั้งหวีดตัวละครในนิยาย มันทำให้ใจผมฟูแบบไม่มีสาเหตุ

อยากขอบคุณพวกคุณจังเลยนะ

ส่วนใหญ่ชื่อยูสเซอร์ที่ใช้ก็จะเป็นชื่อตัวของนักอ่าน ผมจำได้เกือบหมดละครับว่ามีใครบ้าง รวมทั้งคนที่มาขอลายเซ็นวันนี้ด้วย ผมเลื่อนหน้าจอเล่นจนไปหยุดที่ยูสเซอร์ของโมเม ผมจำได้ว่าน้องบอกผมในเพจเฟซบุ๊คว่าจะมาแต่วันนี้ผมยังไม่ได้เขียนชื่อโมเมลงในหนังสือสักเล่ม ผมเปิดแอปพลิเคชั่นอักษรเอฟสีฟ้าแล้วโพสข้อความลงไปในเพจ

'วันนี้เป็นไงบ้างครับ มีใครไปหาผมบ้างมารายงานตัวกันเร็ว !!!'

เมื่อนิ้วกดไปที่ Post ข้อความตอบกลับก็เด้งเข้ามาอย่างล้นหลาม ผมก็ไล่อ่านแบบที่เคยทำมาตลอด ก็มีคนบอกติดเรียนบ้าง มาไม่ทันบ้าง มาหาแล้วบ้าง

แต่น้องโมเมยังไม่ตอบเลย

ปกติน้องโมเมจะตอบไว ตอบเยอะ จนได้ตำแหน่ง Top fan ของเพจไปครอง ตำแหน่งนี้มีคนได้ไปประมาณ30คนครับ และผมก็จำได้ทุกคน รู้สึกว่าเหล่าบรรดา Top fan ของเพจทุกคนจะมาหาผมทุกคน ยกเว้นน้องโมเม

"สงสัยมีธุระมั้ง"

ติ่ง!

เสียงแจ้งเตือนข้อความของเพจดังขึ้น ผมจึงใช้นิ้วเลื่อนไปเปิดดู มันทำให้ผมถึงกับยิ้ม

Asawin Numwon : สวัสดีครับ นี้น้ำวนเองนะ
Artto : สวัสดีครับ
Asawin Numwon : ผมคิดถึงพี่จังเลย อยากเจอพี่อีกจัง
Artto : จริงหรอครับ
Asawin Numwon​ : จริงครับ มาเจอน้ำวนอีกได้มั้ยครับพี่อาร์ท นะครับ
Asawin Numwon​ : ทเฟระำ้ะำส้
Asawin Numwon​ : สำไยะานภถฟำะ
Artto : ...

ผ่านไปเกือบ 5 นาทียังไม่มีข้อตอบกลับมาจากน้ำวน ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กเขาเกิดครึ้มอกครึ้มใจอะไรมาทักหาผม คิดว่าจะไม่กล้าทักซะแล้วอีก แต่นี้เล่นชวนผมออกมาเจอเชียว เขากล้านัด ผมก็ต้องกล้าเจอครับ

Artto : พรุ่งนี้ 6 โมงเย็นที่สยาม สะดวกไหมครับ

ผมรอคำตอบจากเจ้าตัวเล็กเกือบนาทีแต่ไม่มีวี่แววว่าจะตอบกลับมา ในขณะที่ผมกำลังจะกดออกจากแอปก็มีข้อความเด้งขึ้นมา

Asawin Numwon​ : ว่างครับ

............................



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 Writer 9 : เจอกันที่มิลค์พลัส

"ทุกคนพรุ่งนี้เจอกันนะ"
"เออ อย่ามาสายนะเปิ้ล" ​ระหว่างที่พวกเรากำลังล่ำลากลับบ้าน จู่ๆเปิ้ลก็คว้าแขนผมไว้
"น้ำวน บ้านน้ำวนอยู่ซอยห้าปะ"
"ใช่ๆ ทำไมหรอ"
"งั้นเราไปด้วยสิ แถวนั้นติดกับซูปเปอร์มาร์เก็ต เราจะไปซื้อน้ำปลาให้แม่อะ"
"ไปสิ" ผมพยักหน้าให้เปิ้ลก่อนที่จะโบกมือลาทุกคนอีกครั้ง
"น้ำวนทักพี่อาร์ทไปยังอะ"
"ยะ ยังเลย"
"หุ้ย ต้องทักนะ"
"รู้แล้วน่า" ผมกับเปิ้ลเดินมาจนถึงซูปเปอร์มาเก็ตหน้าปากซอยบ้านผม
"บ้าจริง แบทหมดได้ไงเนีย เอ่อ...น้ำวนเราขอยืมมือถือโทรหาแม่หน่อยได้ไหมอะ" ผมเห็นเปิ้ลกดๆจิ้มมือถือตัวเอง ที่นิ่งสนิทจนต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากผม
"ได้สิ อ่ะ" ผมปลดล็อคมือถือของตัวเองแล้วยื่นให้เปิ้ล
"ขอบใจนะ ขอยืมแปปนึง"
เปิ้ลเดินหายเข้าไปในซูปเปอร์มาเก็ต ตอนแรกผมตั้งใจยืนรอเปิ้ลอยู่ข้างหน้า แต่อากาศที่นี้มันร้อนจนผมทนไม่ไหวเลยเดินเข้าไปข้างใน
ผมเดินหาเปิ้ลอยู่สักพักใหญ่ก็เจอเพื่อนสาวที่กำลังใช้นิ้วจิ้มๆลงบนมือถือของผม
"เปิ้ลทำไร!"
"ปะ เปล่าๆ" ปากก็พูดว่าเปล่า แต่มือยังกดจึกๆไม่หยุด ผมรีบวิ่งเข้าไปประชิดตัวเปิ้ลทันที แม่สาวร่างสูงก็วิ่งหนีผมไม่คิดชีวิตเช่นกัน
"เปิ้ล เอาคืนมานะ อ่ะ!" อยู่ๆเปิ้ลก็หยุดวิ่งกลางคัน ทำให้หน้าของผมกระแทกเข้ากลางหลังของเธอจังๆ
"คืนก็ได้" เธอหันหน้ากลับมาหาผมแล้วยื่นมือถือคืน ผมรีบคว้ามือถือสุดที่รักของผมกลับมาทันที
ผมรีบเปิดดูแอปพลิเคชั่นล่าสุดที่ถูกเปิดใช้งาน นั้นคือแมสเสจเฟซบุ๊ค คนที่คุยด้วยล่าสุดคือ Artto ใจผมร้อนรน รีบเปิดอ่านดูว่าเปิ้ลคุยอะไรไว้

Asawin Numwon : สวัสดีครับ นี้น้ำวนเองนะ
Artto : สวัสดีครับ
Asawin Numwon : ผมคิดถึงพี่จังเลย อยากเจอพี่อีกจัง
Artto : จริงหรอครับ
Asawin Numwon​ : จริงครับ มาเจอน้ำวนอีกได้มั้ยครับพี่อาร์ท นะครับ
Asawin Numwon​ : ทเฟระำ้ะำส้
Asawin Numwon​ : สำไยะานภถฟำะ
Artto : ...

"ปะ เปิ้ล ทำอะไรเนีย!!" เมื่อผมอ่านข้อความที่เปิ้ลเขียนแล้วส่งไปให้พี่อาร์ทโดยเฟซของผมเอง ข้อความหลังๆน่าจะเกิดจากตอนที่เปิ้ลวิ่งหนีผมเมื่อครู่นี้
"น้ำวน โอกาสมันไม่ได้ง่ายๆแบบนี้ตลอดไปหรอกนะ " เธอตบไหล่ผมเบาๆ
"..." ผมก้มหน้ากำมือถือแน่น อยากจะโกรธเปิ้ลให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ผมไม่มีอารมณ์จะมาโกรธเปิ้ลตอนนี้ ในหัวของผมเหมือนมีเสียงเบาๆที่พูดซ้ำไปซ้ำมาตลอดว่า ซวยแล้ว จะเอาไงต่อดี ทำไงดีวะ
"เราขอโทษนะ แต่เราหวังดีกับน้ำวนจริงๆ"

ติ่ง!

อยู่ๆเสียงข้อความจากมือถือของผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง ผมรีบเปิดดูทันทีว่าใครทักมา รวมทั้งเปิ้ลที่ชะโงกหน้าเข้ามาดูด้วยเช่นกัน​

Artto : พรุ่งนี้ 6 โมงเย็นที่สยาม สะดวกไหมครับ

ผมไล่อ่านทุกตัวอักษรที่พี่อาร์ทตอบกลับมา อ่านทวนประมาณ3-4รอบ
"กรี๊ดดด อย่านิ่งสิน้ำวน ตอบเร็วๆ" เปิ้ลเขย่าแขนผมด้วยความตื่นเต้นไม่หยุด จะเอาไงดี ตัวผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้เปิ้ลเช่นกัน สมองของผมตอนนี้มันโล่งเหมือนถนนกรุงเทพในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
"ถ้ายังไม่ตอบเดี๋ยวเราตอบเอง!"
"เดี๋ยว เปิ้ล ยะ..." เปิ้ลพูดจบก็ดึงมือถือของผมไปพิมพ์ ตัวผมยังไม่ทันเอ่ยปากห้าม เปิ้ลก็ส่งโทรศัพท์มือถือคู่ใจคืนผมทันที
"อ่ะ เราช่วยน้ำวนได้แค่นี้แหละ ไปก่อนนะ ...โหลแม่จ๋า น้ำปลาไส้ตันหมดเอายี่ห่ออื่นได้ปะ" เปิ้ลโบกมือลาผมแล้วหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาโทรหาใครสักคน ถ้าให้เดาคงจะเป็นคุณแม่ของเธอ
ไหนบอกว่าแบทหมดละ?
ผมก้มลงมองจอมือถือของตัวเองเพื่อดูช้อความที่เปิ้ลตอบกลับพี่อาร์ท

Asawin Numwon : ว่างครับ

ชิบหาย!
ผมไปว่างตอนไหน

ติ่ง!

ติ่ง!

ไม่นานนักเสียงข้อความก็เด้งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ถ้าผมเปิดอ่านแล้วเกิดเจอประโยคที่ไม่ดีต่อใจ ผมกลัวว่าตัวเองจะเป็นลมกลางมาร์เก็ต ผมตัดสินใจวิ่งออกนอกซูปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อกลับไปที่บ้านของตัวเองให้เร็วที่สุด
ผมวิ่งจากซูปเปอร์มาร์เก็ตมาถึงบ้านของตัวเองโดยใช้เวลาเพียงชั่วพริบตา มันแทบจะทำลายสถิติโลกได้เลย ผมคิดว่านะ
ผมเปิดประตูห้อง วางกระเป๋าไว้ตำแหน่งเดิมแบบที่เคยทำทุกวัน ล้มตัวนอนลงบนเตียงที่คุ้นเคย ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทาบอกตัวเองแล้วหลับตาลงเพื่อทำจิตใจให้สงบ
ตึกตัก...ตึกตัก
"จะเปิดแล้วนะ" ผมบอกตัวเองเบาเพื่อทำให้บรรยากาศรอบกายไม่เงียบจนเกินไป ก่อนจะชูมือที่จับโทรศัพท์ขึ้นบนฟ้าแล้วปลดล็อคหน้าจอเพื่อดูข้อความจากคนสำคัญของผม

Artto : ครับ น้ำวนยังเรียนอยู่ใช่ไหม
Artto : โรงเรียนเราไกลจากสยามมากหรือเปล่า เปลี่ยนสถานที่ได้นะครับ เอาตามที่เราสะดวกเลย

ผมอ่านข้อความที่ถูกส่งกลับมาวนอยู่แบบนั้นประมาณ 3 - 4 รอบ สมองก็กำลังวิเคราะห์ตามว่าสิ่งพี่อาร์ทพิมพ์มากลับมาเขาเรียกว่า เป็นห่วง หรือเปล่า
"ป เป็นห่วงอะไรเล่า พึ่งเคยเจอกันเอง" ผมพึมพำกับตัวเองแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง ผมไม่ได้เขินนะ ผู้ชายที่ไหนเขาเขินผู้ชายด้วยกันละ!
ผมเปิดหน้าตัวเองออกจากผ้าห่มแล้วหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความตอบกลับพี่อาร์ท มาถึงขนาดนี้แล้ว เอาวะ!!

Asawin Numwon : ไม่ไกลครับ ขึ้นบีทีเอส 3 สถานีก็ถึงแล้ว
Artto : โอเคครับ งั้นเจอกันที่ไหนดีละ
Asawin Numwon : แล้วแต่พี่อาร์ทเลยครับ
Artto : ถ้าอย่างงั้น ร้านมิลค์พลัสที่สยาม สะดวกไหมครับ?
Asawin Numwon : ครับ
Artto : เจอกันนะครับเจ้าตัวเล็ก

ประโยคล่าสุดที่ผมได้อ่าน เจอกันนะตัวเล็ก มันให้มือไม้ผมอ่อนยวบแบบไม่ทราบสาเหตุ คำว่าตัวเล็ก พี่อาร์ทมักจะใช้เรียกนักอ่านเกือบทุกคนจนมันดูเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับผม มันไม่เคยเป็นเรื่องปกติเลยสักครั้ง ได้อ่านคำว่าตัวเล็กทีไร ใจมันต้องสั่นแปลกๆตลอด ผมยอมรับว่าหลงรักเขาผ่านตัวหนังสือ แต่ไม่คิดว่ามันจะมากขนาดนี้ ในใจฝ่ายดีก็ค่อยเตือนตัวเองตลอดว่าเขาเป็นผู้ชายและผมเองก็เป็นผู้ชาย เรื่องความรักแบบในนิยายมันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน เพราะมันเป็นแค่นิยาย แต่ในความรู้สึกลึกๆผมก็คิดว่ามันเป็นไปได้
ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ผมสะบัดผ้าออกจากตัวเองแล้วทิ้งทุกอย่างลงบนเตียงเพื่อมุ่งหน้าออกจากห้องไป...
"แม่ วนหิวข้าวมีอะไรกินบ้าง"

.
.
.

ตลอดวันจันทร์ที่แสนมืดหมนของใครหลายๆคนรวมทั้งตัวผมเอง มีสิ่งต่างๆมากมายถาโถมเข้ามาไม่เคยหยุด ทั้งการบ้านเอย รายงานเอย สอบย่อยเอย ไหนจะหัวใจที่มันไม่ยอมหยุดสูบฉีดเลือดสักที ทำไมหัวใจของผมถึงทำงานหนักหรอครับ เพราะมันใกล้จะถึงเวลานัดระหว่างผมกับพี่อาร์ทแล้ว

"ทิวกูไปก่อนนะ" ผมลุกขึ้นเก็บหนังสือดินสอของตัวเองใส่กระเป๋า
"อ่าว ไปไหนวะ ไม่กลับด้วยกันหรอ"
"วันนี้มีธุระ"
"เดี๋ยวนี้ธุระเก่งนะมึง ติดสาวอะดิ้" ไอ้ทิวมันแซวผมไม่พอยังจะมาขยี้หัวกันอีก ผมเสียทรงหมด
"ไม่มีโว้ย"
"สู้ๆนะน้ำวน" อยู่ๆสี่สาววายก็ปรากฏตัวตรงหน้าผม
"เมื่อวานขอโทษแทนเปิ้ลด้วยนะ" แพรสบตาผมแล้วเอ่ยคำขอโทษกับเรื่องเมื่อวานที่เกิดขึ้น
"ไม่เป็นไร เราไปก่อนนะ"
"มีไรโทรมานะ" เปิ้ลตะโกนตามหลังเมื่อผมเดินออกไป ผมจึงชูนิ้วเป็นสัญญาลักษณ์โอเค เพื่อให้สาวๆสบายใจว่าผมจะติดต่อพวกเธอเมื่อมีปัญหา
"ไอ้วนมันไปไหนอะเมย์"
"เป็นเพื่อนกันก็ถามเองดิ"
"ก็มันไม่บอกอะ บอกกูหน่อยดิ อยากใส่ใจ"
ผมเดินมาขึ้นบีทีเอสแล้วนั้งจากจากสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมอรภูมิมาถึงสถานีสยาม ปกติผมมาสยามไม่บ่อยหรอกครับ ไม่รู้จะเดินให้เมื่อยทำไม ของกินแถวนี้ก็แพง สู้เก็บเงินไว้ซื้อการ์ตูนดีกว่า
ผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงร้านมิลค์พลัสสถานที่ที่พี่อาร์ทนัดผม ระหว่างทางมันก็มีสิ่งรอบกายให้ดูจนลืมเรื่องพี่อาร์ทไปเลย แต่พอมาถึงหน้าร้านจริงๆ ใจผมมันดันเต้นไม่หยุด
ผมเปิดประตูร้านเข้าไปมองหาผู้ชายที่พึ่งจะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว ผมเดินเข้าได้ไม่ลึกเท่าไรก็ได้เจอกับผู้ชายที่ทำให้ผมใจสั่นแบบไม่มีสาเหตุอีกครั้ง ชายหนุ่มที่นั้งโต๊ะมุมขวาสุดอยู่ในชุดมหาลัยผูกเนคไทสีผมเงิน สวมแว่นผมเผ้ากระเซอะกระเซิง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ผมกลับคิดว่ามันก็ดูดีไปอีกแบบ
"สวัสดีครับพี่อาร์ท" ผมเดินเข้าไปใกล้ๆโต๊ะที่เขานั้งอยู่แล้ว แล้วยกมือขึ้นไหว้คนที่มีอายุมากกว่า
"อ่าวมาแล้วหรอ ไปสั่งน้ำกัน" พี่อาร์ทลุกขึ้นแล้วคว้ามือผมขึ้นมาจูงเดินไปที่เค้าเตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่ม
ตึกตัก...
ไอ้ใจบ้า อย่าพึ่งมาเต้นตอนนี้สิ
"เอาลาเต้เย็นแก้วนึงครับ ตัวเล็กเอาอะไร"
"อะ เอานมช็อคกะ แลต ครับ" ผมเผลอพูดตะกุกตะกัก เพราะอาการตื่นเต้นที่ไม่ยอมอันตรธารหายไปเสียที
"เอานมช็อคโกแลตเพิ่มอีกหนึ่งครับ แล้วก็ขอขนมปังปิ้งราดช็อคโกแลตอีกที่นะครับ "
"ทั้งหมด 150 บาทค่ะ"  ผมกำลังจะล่วงมือเข้าไปในกระเป๋าตังค์เพื่อหยิบเงินจ่ายพนักงาน
"ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่จ่ายเอง" พี่อาร์ทจับมือผมเอาไว้เพื่อไม่จ่ายค่าขนมและเครื่องดื่ม
"เดี๋ยวรบกวนที่โต๊ะ ไม่เกิน 15 นาทีคะ" พี่อาร์ทพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะจุงมือผมกลับไปนั้งที่เดิม
"ไงตัวเล็ก คิดยังไงชวนพี่ออกมาเจอข้างนอกละ"
"เอ่อ ผม.." ไม่รู้จะตอบยังไงดี ว่าความจริงผมไม่ได้เป็นคนนัด
"หืม ว่าไงครับ" พี่อาร์ทยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ จนระยะห่างของเราค่อยๆน้อยลงเรื่อยๆ
"มะ ไม่รู้ครับ" ผมเผลอผลักคนตัวสูงออกห่างจากตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ
"ฮ่าๆ หน้าแดงอีกแล้วนะ อยู่กับพี่ป่วยบ่อยจังเลย" ฝ่ามืิอใหญ่ของคนพี่ขยี้ลงบนหัวของผม ปกติไอ้ทิวมันก็ขยี้ผมแบบนี้แต่ความรู้สึกที่พี่อาร์ททำกับผมมันกลับแตกต่างออกไป มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
"..."
"โอเคๆ พี่ไม่แกล้งแล้ว ขอบคุณนะครับที่ชวนพี่ออกมา" อยู่ๆแววตาของพี่อาร์ทก็เปลี่ยนไปแม้มันจะแค่แวบเดียว แต่ผมก็สังเกตุทัน มันเป็นแววตาที่ดูเศร้าแปลกๆ
"ขอบคุณน้ำวนทำไมครับ"
"จริงๆ เมื่อวานพี่โดนแฟนบอกเลิกมา" เมื่อจบคำพูดของชายตรงหน้า ร่างของผมมันก็ชาไปหมด มีแฟนแล้วหรอ
"..."
"ไม่รู้ว่ามันสมควรไหมที่จะเล่าเรื่องพวกนี้ให้นักเขียนฟัง แต่..."
"เล่ามาเถอะครับ ถ้ามันทำให้พี่สบายใจ" แม้ผมจะไม่อยากฟัง แต่ผมก็ไม่อยากให้พี่อาร์ทไม่สบายใจ
"เธอขอให้พี่เลิกเขียนนิยาย เพราะโดนเพื่อนที่มหาลัยแซวว่าคบผู้ชายแต่งนิยายBL มันเป็นแบบนี้มาตลอดครึ่งปี พี่ทำทุกวิถีทางให้รักของเรามันดำเนินไปได้ด้วยดี จนกระทั้งเมื่อวานเธอให้พี่เลือกระหว่างนิยายกับเธอ สุดท้ายพี่เลือกนิยาย"
"..."
"แล้วเธอก็ทิ้งพี่ไปแบบทุกครั้ง" ระหว่างฟังผมไม่กล้ามองหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย น้ำเสียงที่ผมได้ยินจากปากพี่อาร์ทมันทำให้รู้ว่าเขารักแฟนของเขามากแค่ไหน
ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผู้ชายตรงหน้าเมื่อเขาเงียบไป สิ่งที่ผมเห็นคือน้ำใสๆที่ไหลลงมาที่แก้มของพี่อาร์ท
"พะ พี่อาร์ท ไม่ร้องนะ" ผมรีบหยิบทิชชูขึ้นซับที่แก้มชายตรงหน้า
"พี่ไม่รู้จริงๆ ว่าทำถูกไหม"
"..."
"ถ้าพี่เลิกเขียนนิยาย พี่ขอโทษนะ" พอพูดจบเขาก็ยิ้มให้ผม
ผมไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้ารักแฟนของเขามากแค่ไหน และไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นรักพี่อาร์ทมากเพียงใด แต่ผมน่ะก็ รัก พี่เขาไปแล้วเหมือนกัน
ผมเลื่อนมือตัวเองไปจับมือร่างสูง ลูบไล้ไปมาช้าๆเป็นการปลอบประโลมให้คนพี่สบายใจ ก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดความในใจไป
"ถ้าพี่อาร์ทเลิกเขียนนิยาย น้ำวนจะอยู่ยังไง"
"..."
"ใครจะไม่รักพี่ก็ช่างเขา แต่น้ำวนรักพี่ รักนิยายของพี่ รักตัวหนังสือของพี่ รักทุกอย่างที่เป็นพี่"
.........................................................................................

ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 10 : พี่ยังไม่อยากNCกับเราบนรถ

ในช่วงชีวิตหนึ่งของมนุษย์ความรักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่เลือกสถานที่ ไม่เลือกเวลา และไม่มีข้อจำกัด แต่ถ้าความรักเกิดขึ้นแค่กับคนใดคนหนึ่ง คำว่ารักจะถูกลดสถานะเหลือไว้แค่คำว่า แอบชอบ เท่านั้น อาการของคนแอบชอบที่พบได้บ่อยคือ ใจสั่น มือเย็น กระสับกระส่ายคล้ายจะวูบอยู่ตลอดเวลา ยิ่งคนๆนั้นเข้าใกล้เรามากเท่าไร สมองจะสั่งให้ร่างกายส่วนต่างๆของเราหยุดทำงานแบบไม่มีสาเหตุ หรือบังคับให้เป็นนักวิ่งสี่คูณร้อย หนีคนที่แอบชอบไปให้ไกลที่สุด
การบอกความในใจก็ถือเป็นอีกหนึ่งอาการแอบชอบที่ทำกันบ่อย แต่วิธีนี้ผู้ปฏิบัติต้องยอมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
หลังจากที่ผมบอกพูดมันออกไป เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน อากาศรอบกายนิ่งสงัด ผมไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ถูกต้องไหม ทั้งที่ใจสั่นจนจะเป็นบ้า แต่เพราะคำว่า โอกาส ที่เปิ้ลกับแพรพูดบ่อยๆมันแวบเข้ามาในหัว อาจดูเหมือนตัวร้ายในละครหลังข่าวที่เข้าหาพระเอกในช่วงเขากำลังอ่อนแอเพื่อช่วงชิงหัวใจให้เป็นของตนเอง โอกาสแบบนี้มันไม่ได้มีตลอดไป รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง
ผมมองชายตรงหน้าอย่างไม่ลดละสายตา ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้มองตากันแบบนี้อีกไหม มันอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายของผม
"รักของน้ำวนคืออะไร"
"..."
"รักในแบบพี่น้อง"
"..."
"รักแบบนักอ่านที่ชื่นชอบนักเขียน"
"..."
"หรือรักแบ..."
"พีท!"
"พีท?"
"น้ำวนรักพี่อาร์ทแบบพีท"
"..."
"พีท ฮึก ที่รักคะ คุณพ่อบ้าน" พูดยังไม่ทันจบประโยค ใบหน้าของพี่อาร์ทค่อยๆเลือนลางเพราะน้ำใสๆที่กำลังบดบังม่านตาของผม
"..."
"ตลอดสามเดือน น้ำวนอ่านนิยายทุกเรื่องของพี่"
"..."
"อ่านจนชอบนิยายของพ พี่ ฮึก ชอบความคิดของพี่ ชอบความอ่อนโยนที่พี่มีให้นักอ่านทุกคน "
"..."
"ชอบจนต้องเป็นโมเม น้ำวน ฮึก อิจฉาโมเม อะ อื้อออ" ชั่วพริบตาเดียว ร่างสูงของนักเขียนโน้มริมฝีปากเข้ามาประกบเรียวปากเล็กของร่างบาง ก่อนจะค่อยๆผละออกอย่างอ้อยอิ่ง
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสองฝ่าย ผมที่สมองยังไม่สามารถประมวณผลใดๆได้ในขณะนี้ ทำได้แค่นั้งนิ่งๆสูดลมหายใจให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ส่วนผู้ชายตรงหน้าผมก็ยังไม่พูดอะไรเช่นกัน
โชคดีตรงที่เราทั้งคู่นั้งนั้นเป็นมุมอับสายตาคนทำให้เหตุการณ์เมื่อครู่ไม่มีใครได้ทันเห็น เพราะมันเกิดขึ้นไวมาก มากจนผมเองยังคิดว่ามันเป็นแค่ความฝัน ริมฝีปากของคนสองคนสัมผัสกัน เขาเรียกว่าอะไรนะ จูบหรือเปล่า เดี๋ยวนะ เมื่อกี้
พี่อาร์ทจูบผม
 เมื่อสติกลับมา ปัญญาจึงบังเกิด ดวงตาที่กลมอยู่แล้วเบิกกว้างกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ผมยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้คืออะไร
"เอ่อ น้ำวน พี่ขอ..."
ปึก!
พี่อาร์ทยังไม่ทันพูดจบ ผมผลักเก้าอี้ที่นั้งอยู่ให้ออกห่างตัวเองแล้วคว้ากระเป๋าวิ่งออกนอกร้านโดยไม่หันกลับมาอีก
Artto Part
​ผมมองร่างล็กวิ่งออกไปจากร้านจนสุดสายตา รู้ดีว่าสิ่งที่ทำไปเมื่อครู่มันไม่ใช่เรื่องดี ผมกำลังทำร้ายจิตใจน้ำวน อยากวิ่งตามคนตัวเล็กไป แต่น้ำวนวิ่งออกไปไวจนผมไม่ทันสังเกตุว่าวิ่งออกไปทางไหน ถึงจะตามออกไปตอนนี้คงไม่เจอ
ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมอยากทำความรู้จักกับเด็กผู้ชายตัวเล็กที่วิ่งหนีผมออกเมื่อครู่นี้
ผมหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา เปิดแอปตัวอักษรเอฟสีน้ำเงินเข้ม ค้นหาคำว่า Asawin Numwon
หน้าจอมือถือปรากฏหน้าโปรไฟลของเด็กผู้ชายตัวเล็กตากลมแป๋ว ในชุดนักเรียนม.ปลาย ยืนฉีกยิ้มชูสองนิ้ว ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นรูปนี้ผมคิดว่า
น่ารักดี
นิ้วยาวสัมผัสกับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ สไลด์จอเพื่อดูไทม์ไลน์เฟซบุ๊คของคนน้อง ทำให้ได้รับรู้เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับคนตัววเล็ก ตั้งแต่ ชื่อโรงเรียน ระดับชั้นที่กำลังศึกษาอยู่ ชื่อเพื่อนในห้อง รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่ร่วมทำกับเพื่อนในห้อง ใช้เวลาค่อนข้างนานในการเลื่อนดูไทม์ไลน์ชีวิตของเจ้าตัวเล็ก เนื่องจากเขาไม่ได้ตั้งค่าแอคเค้าท์ให้เป็นส่วนตัว ทำให้ร่างสูงเลื่อนดูเพลินจนใช้เวลาเกือบยี่สิบนาที
ผมกดเข้าแอปแมสเสจแล้วพิมพ์ข้อความหาคนตัวเล็ก
Artto : อยู่ไหนแล้วครับ
ครืดดๆ
เสียงสั่นจากมือถือในฝามือหนาสั่นเนื่องจากมีคนโทรเข้ามาผ่านแมสเสจเฟสบุ๊ค
Asawin Numwon Call

Numwon Part
สองขาเล็กวิ่งออกจากมิลค์พลัสโดยไม่ได้สนใจชายที่นั้งอยู่ในร้านแม้แต่น้อย สมองมันสั่งให้วิ่งออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เท้าทั้งสองหยุดเคลื่อนไหวเนื่องจากความล้าที่เกิดจากการวิ่ง ผมเงยหน้าขึ้นมองบริเวณรอบกาย พยายามคิดว่าจุดที่ยืนอยู่คือที่ไหน สองเท้าค่อยๆเดินวนไปรอบๆบริเวณนั้นเพื่อลื้อฟื้นความจำ ปกติเวลามาสยามผมมากับไอ้ทิวตลอด ทิวจะเป็นคนนำทางไปทุกตรอกซอกซอยโดยไม่มีหลงทาง แต่ครั้งนี้ผมมาคนเดียว เดินวนเท่าไรก็ไม่มีความรู้สึกว่าคุ้นเคยสักที
ผมล่วงกระเป๋ากางเกงนักเรียน หยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคจอเพื่อดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง เปิ้ลบอกผมว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้โทรมา แต่ตอนนี้ถ้าผมโทรบอกให้เพื่อนคนใดสักคนออกมาในเวลานี้ คิดว่าคงไม่ดี น้ำตาเจ้ากรรมค่อยๆลื้อขึ้นมาอีกครั้ง ผมไม่เคยต้องมาอยู่คนเดียวในที่แบบนี้เลย
ติ่ง!
เสียงข้อความดังขึ้น ทำให้ผมเผลอกดเข้าไปด้วยความตกใจโดยไม่รู้ว่าใครทักมา
Artto : อยู่ไหนแล้วครับ
เมื่อเห็นชื่อของคนที่ตนเองพึ่งจะหนีเขาออกมา ทำให้น้ำตาที่คอดแห้งไปเมื่อครู่ค่อยๆกลับมาอีกครั้ง
ผมรีบกดโทรผ่านแมสเสจของเฟซบุ๊ค ตอนนี้ผมไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว
'ฮาโหล น้ำวนอยู่ไหน'
'พี่อาร์ท ฮึก มารับ'
'เด็กดีไม่ร้องนะ อยู่ไหนครับ'
'มะ ไม่รู้ครับ'
'ตรงนั้นมีอะไรบ้าง เดี๋ยวพี่เดินไปรับ'
'ฮึก มีโรงหนัง กะ เก่าๆ'
'โอเคครับ ยืนรอพี่ข้างหน้านะ'
'อือ'
ผมกดวางสายจากพี่อาร์ท แล้วยืนรอตามที่บอก
ผ่านไป10นาที ร่างสูงในชุดนักศึกษาหลุดลุ่ยวิ่งตรงมาทางคนตัวเล็ก
"น้ำวน แฮ่กๆ ขอโทษที่ให้รอนาน พี่..."
หมับ
"ฮึก ฮือออ" ผมเข้าไปกอดพี่อาร์ททันที่ที่เขาเข้ามาประชิดตัวผม
"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะพี่อยู่นี้แล้ว" คนตัวโตกว่าลูบหัวคนในอ้อมกอดช้าๆ
"..."
"ตัวพี่เปียกเหงื่อ ไม่เหม็นหรือไงครับ" ผมซุกอกคนตรงหน้าแล้วส่ายหน้าเบาๆเพื่อให้ร่างสูงรับรู้
"โอเค งั้นเรากลับบ้านยังไง" พี่อาร์ทประคองหน้าของผมขึ้นมา
"บี ฮึก ทีเอส ครับ"
"งั้น ให้พี่ไปส่งไหม ดึกแล้วมันอันตราย" ผมพยักหน้าให้คนตรงหน้า เพราะขาของผมตอนนี้ก็แทบไม่มีแรงจะเดินแล้ว
"ปะ" พี่อาร์ทจูงมือผมไปที่รถของเขา แล้วเปิดประตูฝั่งคนนั้งให้ผมก่อนที่ตัวเองจะเดินไปอีกฝั่ง
เมื่อคนทั้งคู่ประจำที่นั้งของตัวเอง รถคันสวยค่อยๆแล่นออกจากจุดที่จอด
"บ้านน้ำวนอยู่ไหนครับ"
"ถนนพหลโยธิน ซอย 5 ครับ"
เมื่อบทสทนาถามตอบจบลง บรรยากาศความเงียบภายในรถกลับมาอีกครั้ง ผมหันหน้ามองวิวนอกกระจกรถฆ่าเวลา
"น้ำวน พี่ขอโทษนะ" ขณะที่รถกำลังติดไฟแดง พี่อาร์ทเอื้อมมือจากคันเกียร์มากุมมือผมไว้ลวมๆ ทำให้ผมต้องหันหน้าไปหาคนพี่
"น้ำวนต่างหากที่ต้องขอโทษ"
"จะขอโทษพีี่ทำไม พี่เป็นคนจูบเรานะ"
"..."
"เลี้ยวข้างหน้าใช้ไหมครับ"
"ครับ" พี่อาร์ทชักมือมาจับเกียร์รถอีกครั้ง เพื่อเลี้ยวเข้าซอย
รถสีดำเงาสนิท จอดหน้าบ้านของร่างเล็ก มือสวยที่กำลังเปิดประตูรถเพื่อกลับเข้าบ้านของตนเองต้องชะงักเมื่อฝามือหนาดึงข้อมือของคนตัวเล็กไว้ก่อน
"เดี๋ยว"
"..." ผมหันไปตามแรงของคนร่างสูงจนทำให้ใบหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ
"..." ใบหน้าคนพี่ค่อยๆ เลื่อนเข้ามาใกล้กันจนทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน
ฝามืออีกข้างของร่างหนาค่อยๆคว้าเอวคอดของคนตัวเล็กเพื่อให้ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น คนน้องที่ตัวเล็กกว่าเผลอขย้ำคอเสื้อของคนพี่อย่างลืมตัว
"เปิดปาก" ร่างสูงผละริมฝีปากออกก่อนจะบอกให้เจ้าตัวเล็กของเขาเปิดริมปากออก
เหมือนมีมนต์สะกดเมื่อชายนักเขียนสั่งอะไร ร่างกายมันก็ปฏิบัติตามโดยไม่คิดจะปฏิเสธแม้แต่น้อย
ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกันอีกครั้ง เรียวลิ้นของชายหนุ่มในชุดนักศึกษาค่อยๆล่วงล้ำเข้าไปในโพรงปากของนักอ่านตัวเล็กๆ เด็กน้อยในเวลานี้เมื่อถูกรุกล้ำจากคนพี่อยากจูบตอบเหลือเกิน แต่ด้วยความใสซื่อไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ที่ไหน จึงพยายามสอดลิ้นสู้คนพี่ แต่ก็ถูกลิ้นอุ่นๆของคนตรงหน้าเกี่ยวไว้ตลอด
เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนตัวเล็กที่พยายามจูบตอบนักเขียนร่างหนาเอาเป็นเอาตาย หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ทำอยู่เขาเรียกว่า ยั่ว ยิ่งเจ้าตัวเล็กบดริมฝีปากเข้าหาเขามากเท่าไร เลือดร้อนในร่างกายมันยิ่งเดือดพลาน มือเล็กๆของนักอ่านตัวน้อยหมดเรี่ยวแรงที่จะดึงคอเสื้อของคนพี่เพื่ระบายอารมณ์ ค่อยๆตกลงไปวางตรงกลางหว่างขาของคนตรงหน้า
ดวงตาหวานฉ่ำที่กำลังเคลบเคลิมกับสัมผัสแปลกใหม่ต้องเบิกกว้าง เมื่อมือของเขาไปโดนอะไรแข็งๆกลางกางเกงนักศึกษาของคนพี่
เป็นผู้ชายเหมือนกันทำไมจะไม่รู้!
ทั้งสองผละริมฝีปากออกจากกันอีกครั้ง โดยครั้งนี้ดวงหน้าของคนน้องแดงมากกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะขาดออกซิเจนนานเกินกว่าปกติ หรือ มือเจ้ากรรมไปสัมผัสอะไรที่ไม่ควร ริมฝีปากเรียวในตอนนี้บวมฉ่ำไปด้วยน้ำใสๆของทั้งคู่
"เอ่อ ฝันดีนะตัวเล็ก" ฝามือหน้าลูบแก้มอวบๆของคนตรงหน้าที่กำลังมองเขาตาแป๋ว
"พี่อาร์ท"
"..."
"ทำไมมันแข็ง" คนตัวเล็กถามคนพี่ด้วยความสงสัย แค่นักเขียนคนโปรดจูบตนเองก็ว่าปราฏิหารแล้ว แต่ตอนนี้ความเป็นชายของคนพี่กำลังแข็งต่อหน้าเขาอยู่
"พี่ขอโทษ อย่าใส่ใจเลย"
"น้ำวนมีเรื่องจะสารภาพ"
"..."
"น้ำวนเคยอ่านNC คิดว่าตัวเองเป็นนายเอก พี่เป็นพระเอกแล้ว...เอาไปช่วยตัวเอง" คนตัวเล็กกัดริมฝีปากตัวเองเมื่อสารภาพบาปกับคนพี่ที่เคยทำไว้
"..." ร่างสูงกำหมัดแน่น ไม่คิดว่าตัวเองจะมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีเด็กผู้ชายตัวเล็ก มาบอกรัก มาจูบ และมาสารภาพเรื่องแบบนี้!
"เสร็จด้วย"
"น้ำวน!" คนตัวโตกว่าเผลอขึ้นเสียงกับร่างบางอย่างลืมตัว ไม่ได้โกรธเลยสักนิด แต่เขาแค่กลัวว่าความอดทนที่มีอยู่มันจะหมดลง
"นะ น้ำวนขอโทษ จะไม่ทำแล้ว อย่าโกรธกันนะ" คนที่ตัวเล็กกว่าคิดว่าต้องโดนโกรธแน่ๆรีบเข้าไปสวมกอดคนตรงหน้าอย่างลืมตัว
"พี่ไม่ได้โกรธ แต่พี่ยังไม่อยากNC กับเราบนรถ ของน้ำวนก็ทิ่มขาพี่เหมือนกันเนีย" คนพี่กอดตอบเจ้าตัวเล็กของเขาก่อนจะใช้มืออีกข้างกุมเป้าของคนตรงหน้าเพื่อพิสูจน์คำพูดตนเอง
"พะ พี่อาร์ท" เรียวหน้าของนักอ่านตัวน้อยแดงฉ่าขึ้นทันทีเมื่อ คุณนักเขียนบีบเบาๆที่กล่องดวงใจของเขา
"หยุดนะอาร์ท" ไม่ว่าเปล่า คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูงหวานฉ่ำ
ไม่ไหวแล้วโว้ย
ความผิดชอบชั่วดีขาดสะบั้น ร่างสูงรวบเอวคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน มืออีกข้างปลดกระดูมเสื้อคนตัวเล็กอย่างลนลาน จมูกคมเป็นสันได้รูปซุกไซร้ต้นคอคนตัวเล็กกว่า จนคนตรงหน้าหมดเรี่ยวแรงจะขัดขืน...
ก๊อกๆ
"เฮ้ย น้ำวน แม่มึงให้กูมาตามมึงเข้าบ้าน เปิดเลยไอ้สัส กูจะรีบไปป้อม"

..........................
ศิลธรรมอันดีงามขาดสะบั้น...ไอ้แมททิว!!!!!

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ Philosophy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
กำลังจะ NC อยู่แล้วเชียว แมทธิววววววววววว  :ling1:

ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 11 : โอกาสอันแสนวิเศษ

ปังๆ !

เสียงฝ่ามือกระทบกับประตูรถดังขึ้นและรุนแรงกว่าครั้งก่อน ส่วนร่างสูงก็ไม่ลดละแรงราคะภายในกายซุกไซร้ต้นคอคนที่ตัวเล็กกว่าตรงหน้าอย่างไม่ลดละความพยายาม

"พะ พี่อาร์ท อ่ะ พอก่อน" นักเขียนร่างหนาซุกหน้าเข้าไปถึงท้ายทอยของนักอ่านตัวเล็กก่อนจะใช้ลิ้นสากเลียไล่มาถึงต้นคอแล้วดูดเบาๆจนเกิดรอยสีกุหลาบจางๆ

ปัง !

"ไอ้วน ออกมาได้แล้ว"
"อาร์ท พอ!" ผมผลักผู้ชายตรงหน้าเพื่อเรียกสติที่กำลังกระเจิดกระเจิงอยู่ให้กลับมา เขาไม่พูดอะไรต่อแต่ค่อยๆเขยิบออกจากผมแล้วทำหน้างอใส่

ผมหันไปเปิดกระจกให้เห็นแค่ตา ถ้าเห็นทั้งตัวเกร็งว่าเพื่อนทิวจะช็อค...

"มีไร"
"เข้าบ้านได้แล้ว กูจะรีบไปตีป้อมกับไอ้นัท"
"เดี๋ยวเข้า มึงก็เข้าไปก่อนดิ"
"กูก็ไม่ได้อยากตามแต่แม่มึงเขาสั่งมา เห็นว่ามึงจะลงมาจากรถแต่ก็ไม่ยอมออกมาสักที เขาเป็นห่วงเลยให้กูมาตาม แล้วถ้ามึงไม่ออกมาแม่กูก็ไม่ให้เข้าบ้าน" มันอธิบายให้ฟังยาวเหยียด พอเข้าใจได้ทำไมถึงตามขนาดนั้น

ผมหันไปมองคนหน้างอเล็กน้อย สภาพพี่อาร์ทตอนนี้ผมกระเซิงชุดนักศึกษายับยู่ยี้ไม่ต่างจากผมเท่าไร ใครเห็นก็ดูรู้
ว่าไปทำอะไรกันมา

"เออ แปปนะเดี๋ยวกูขอเก็บกระเป๋าก่อน" ผมสร้างเรื่องเพื่อถ่วงเวลาจัดการเสื้อผ้าผมเผ้าตัวเองให้เข้าที่ก่อนจะออกไปหาไอ้ทิว
"ผมเข้าบ้านก่อนนะ ขอบคุณนะครับที่มาส่ง" ผมยกมือไว้ชายตรงหน้าก่อนถูกมือหนาดึงแขนไว้
"เดี๋ยว"
"..."
"พี่ไปด้วย"
"ไปไหนครับ?"
"บ้านน้ำวนไง"
"..." ผมหน้าเหวอ คิดไม่ออกว่าต้องพูดอะไรกับคนตรงหน้า
"4ทุ่มแล้วนะ จะให้พี่ขับรถกลับห้องจริงๆหรอครับ"
"..."
"ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น..."
"ก็ได้ครับ พี่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน" นักเขียนเจ้าปัญหายังไม่ทันพูดจบ คนตัวเล็กกว่ารีบแทรกขึ้นมาเพราะในใจก็เป็นห่วงคนพี่กลัวจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริงๆ
"งั้นน้ำวนติดกระดุมให้พี่หน่อย พี่มองไม่เห็น" ไม่รู้ว่ากระดุมเม็ดบนสุดที่เสื้อของพี่อาร์ทหลุดตอนไหน ผมก้มมองมือที่ประสานอยู่บนตักตัวเองเพื่อเรียบเรียงสิ่งที่ต้องทำในสมอง
"ไอ้วน เร็วๆ"
"เร็วสิครับ เพื่อนตามแล้ว" ผมเงยหน้ามองร่างสูงเพียงเสี่ยววินาที ก่อนจะรีบติดกระดุมบนเสื้อของเขา ติดไปมือก็สั่นไป ไม่น่าไปมองหน้าพี่อาร์ทเลย
"สะ เสร็จแล้วครับ"
"เก่งมาก"

จุ๊บ!

"อ่ะ" ผมรีบเอามือปิดหน้าผากตัวเองหลังจากถูกชายตรงหน้าจูบเข้าที่หน้าผากเบาๆ
เขินจะตายอยู่แล้ว
"ไปได้แล้ว เพื่อนรอ" ผมพยักหน้าเบาๆก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ
"กว่าจะเสด็จลงมาได้ เก็บอะไรวะช้าชิบหาย"
"กระเป๋าไง กูลืมรูดซิป ของในกระเป๋าล่นเต็มรถเลย" ผมเฉไฉกุเรื่องน้ำเป็นตัว
"โง่ชิบหาย" แล้วไอ้ทิวก็เชื่อตามที่คิดเอาไว้
"เอ่อ... นี่พี่อาร์ท วันนี้เขามาค้างบ้านกู" ผมแนะนำร่างสูงให้เพื่อนข้างบ้านได้ทำความรู้จัก
"สวัสดีครับ ผมชื่อทิวเป็นเพื่อนไอ้วน"
"สวัสดีครับ" พี่อาร์ทยิ้มให้ให้ทิวอย่างเป็นมิตร
"ใครวะ มึงรู้จักคนหล่อๆแบบนี้ด้วยหรอ" มันกระซิบถาม
"รุ่นพี่ เขามาแนะแนวมหาลัยให้"
"รุ่นพี่ไหนวะ ทำไมกูไม่รู้จัก"
"เออไม่ต้องรู้หรอก กูเข้าบ้านละ" ผมโบกมือลาไอ้ทิวแล้วลากพี่อาร์ทเข้าบ้านตัวเอง

เมื่อประตูบ้านสีขาวนวลถูกเปิดออก สาวผมยาวในชุดนอนสีฟ้าอ่อนนั้งอ่านนิตยาสารบนเก้าอี้ไม้เหมือนรอใครสักคน
"กว่าจะเข้าบ้านมาได้นะเจ้าลูกคนนี้" หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยถามลูกชายที่พึ่งก้าวเข้ามาในบ้านได้ไม่ถึงนาที
"เอ่อ นี้พี่อาร์ทครับ" ผมผายมือไปทางพี่อาร์ทเพื่อแนะนำให้แม่ได้รู้จัก
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีจ่ะ ทำไมกลับบ้านกันดึกจัง"
"น้องน้ำวนเขามีความสนใจจะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับผมเลยมาขอคำแนะนำครับ" พี่อาร์ทตอบด้วยสีหน้าจริงจัง ซึ่งเนื้อหาที่พูดไปไม่มีความจริงเลยสักนิด
"คุยอะไรกัน ทำไมดึกขนาดนี้ละ หืม?"
"เอ่อ น้ำวนชอบชวนพี่เขานอกเรื่องเลยกลับดึกครับ"
"เฮ่อ ต้องขอโทษแทนน้องด้วยนะคะที่ทำให้เสียเวลา"
"ไม่เป็นไรครับผมเต็มใจ" ร่างสูงยิ้มให้หญิงวัยกลางคนผู้เป็นแม่ของน้ำวน
"เอ่อ แม่ครับวันนี้พี่อาร์ทนอนค้างบ้านเรานะ พอดีมันดึกแล้วน้ำวนไม่อยากให้พี่อาร์ทกลับดึก"
"อ่อ โอเคจ่ะ งั้นรีบไปอาบน้ำกันได้แล้ว"
"ครับ/ครับ" ผมพยักหน้าให้แม่ก่อนดึงร่างสูงเข้าห้องตัวเองแล้วล็อคประตู

"เอ่อ พี่ไปอาบน้ำก่อนเลย" ผมหยิบผ้าขนหนูยื่นให้พี่อาร์ท  ร่างสูงหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที
ผมวางสัมภาระต่างๆไว้จุดเดิมที่เคยอยู่แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง ในใจตอนนี้มันเต้นโครมคราม ใครจะคิดจะฝันว่าคนที่เราปลื้มผลงานเขาจะมาค้างแรมที่ห้องตนเอง แถมกอดจูบกันอย่างเร้าร้อนอยู่บนรถโดยไม่อายฟ้าอายดินแม้แต่น้อย ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาหัวใจที่เต้นอยู่มันก็เต้นแรงกว่าเก่า

ผ่านไปเกือบ 20 นาที ร่างสูงออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเปลือยท่อนบ่นโชว์ซิกแพคหกลูกเรียกกันอย่างสวยงาม ยืนมองคนตัวเล็กนอนหลับบนเตียง

"ไปอาบน้ำได้แล้วตัวเล็ก" นักเขียนร่างหนาเดินมานั้งข้างเตียงแล้วสะกิดให้คนน้องลุกขึ้นอาบน้ำ 
"อื้อ แปปนะแม่ วนขอ5นาที"
"งั้น... นาทีละจุ้บดีไหมครับ" นิ้วเรียวของร่างสูงเกลียเส้นผมที่ปกหน้าเจ้าตัวเล็กให้เห็นใบหน้าของคนหลับได้ชัดขึ้น
"..."

จุ้บ!

ริมฝีปากหนาจูบลงที่หน้าผาก เลื่อนมาจูบแก้มซ้าย แก้มขวา ปลายจมูก จนกระทั้งถึงริมฝีปาก ก่อนตัดสินใจรวบเจ้าตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมแขน แล้วใช้มืออีกข้างประคองเรียวหน้าไว้ค่อยๆบีบแก้มนิ่มให้ปากเล็กผละออกเพื่อสอดลิ้นเข้าไปสัมผัสลิ้นของคนตรงหน้า

เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาขวางทางออกซิเจน ร่างเล็กค่อยๆลืมตาขึ้นเพื่อหาต้นเหตุที่ทำให้อากาศสำหรับร่างกายขาดหายไป

ดวงตากลมโตมองชายตรงหน้าที่กำลังพยายามดันลิ้นเข้ามาในโพรงปากของตนเองอยู่ สองแขนของคนตัวเล็กพยายามดันตัวเองให้ออกจากอ้อมกอดคนตรงหน้า แต่ยิ่งดิ้นมากเท่าไนกลับรู้สึกว่าอ้อมกอดของคนพี่ยิ่งแน่นขึ้นเรื่อยๆ

"อย่าดื้อสิตัวเล็ก" ร่างสูงผละริมฝีปากออกจากร่างบางเมื่อรู้ว่าเจ้าตัวตื่นแล้ว
"พี่ทำแบบนี้ทำไม" ผมมองหน้าร่างสูงตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ หรือเขารู้ว่าผมรักเลยทำตามอำเภอใจตัวเองโดยไม่สนหัวใจของผม
"..."
"พี่จูบน้ำวนทำไม "
"อยากจูบ"
"..."
"พี่อยากรู้ ทำไมยิ่งเข้าใกล้เราพี่ถึงอยากสัมผัส" คนตรงหน้าจ้องเข้ามาในดวงตาของผม เหมือนต้องการจะสื่ออะไรสักอย่าง
"พี่แค่มีอารมณ์ทางเพศ" ผมตอบเขาไปตามจริง
"..."
"เราพึ่งเคยเจอกันแค่ 2 วันมันเป็นความรักไม่ได้หรอก" ผมหันหน้าไปอีกทางเพราะน้ำใสๆกำลังจะลื้อขึ้นมา วันนี้ผมร้องไห้ไปกี่รอบแล้วนะ
"น้ำวนก็ไม่เคยเจอพี่ทำไมถึงกล้าบอกรักพี่ละ"
"ก็ ฮึก กลัว จะไม่ มี อะ โอกาส" ผมมตอบพี่อาร์ทไปทั้งแบบนั้น จะรอให้น้ำตาหยุดไหลก็กลัวจะไม่ทันการ
"โอ๋ ร้องอีกแล้ว" นักเขียนตัวโตเห็นท่าไม่ดี ดึงคนน้องเข้ามากอดแล้วลูบหลังเบาๆ
"ฮึก .."
"เป็นแฟนกับพี่นะ"
"ห่ะ??" ผมผลักพี่อาร์ทออกห่างจากตัวเองเล็กน้อยแล้วเงยหน้ามองคนตรงหน้า
"น้ำวนเป็นแฟนกับพี่นะครับ" เขาพูดเน้นย้ำเน้นชัดอีกครั้งหนึ่ง
"ตะ แต่เราพึ่งรู้จักกันแค่ 2 วันเอง "
"น้ำวนบอกรักพี่เพราะกลัวไม่มีโอกาส พี่ก็ขอน้ำวนเป็นแฟนเพราะกลัวไม่มีโอกาสเหมือนกัน"
"..."
"น้ำวนน่ารัก"
"..."
"ถ้าพี่ไม่รีบขอ พี่อาจจะไม่มีโอกาสแล้ว เพราะต้องมีคนมาจีบน้ำวนเยอะแน่ๆ"
"พี่พูดอะไร" ผมเอียงคอมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
"ไม่รู้ตัวเลยหรอ ว่าเราน่ารักแค่ไหน" ฝ่ามือหน้าที่เริ่มจะคุ้นเคยค่อยๆสัมผัสแก้มผมเบาๆ
"..."
"น้ำวนน่ารัก เป็นสาเหตุหนึ่งที่พี่อยากสัมผัส" ร่างสูงตรงหน้าค่อยๆรวบเอวของคนตัวเล็กกว่ามาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง
"เพราะพี่หื่นมากกว่า" ผมเอาหน้าซุกอกแกร่งแล้วพูดเบาๆกับเขา
"ฮ่าๆ ก็เลือกหื่นกับน้ำวนไง"
"ไม่เชื่อ"
"จองไว้แล้วนะ" จู่ๆพี่อาร์ทก็ก้มลงใช้จมูกซุกไซร้บนหัวผม
"..."
"ที่คอ ดูดจองไว้แล้ว"
ผมรีบคลำๆจับๆบริเวณคอตัวเองแล้วรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ต้องเป็นตอนที่อ้ทิวมาตามแน่ๆ
"ทำไว้ทำไม" ผมเงยหน้าถามคนพี่อีกครั้ง
"พี่กลัวโดนแย่ง" คนตรงหน้าส่งสายตาเจ้าชู้ให้ผม หึ่ย อย่าไปทำแบบนี้กับใครเชียวนะ ผมไม่ยอม!
"ใครเขาจะมาแย่งน้ำวนกัน"
"พี่ยังไม่รู้ แต่ต้องขู่ไว้ก่อน"
"จะกลัวทำไม เราสิต้องกลัว" ผมกลับไปซุกอกพี่อาร์ทอีกครั้งแล้วพรึมพรำคนเดียว เราสิต้องกลัวโดนแย่ง
"ถ้ากลัวก็คบกับพี่สิ"
"..."
"จะช้าหรือเร็วก็ต้องคบกันอยู่ดี"

ในเมื่อโอกาสมาแล้ว

"ก็ได้"

"..."

ถ้าไม่รีบคว้ามันเอาไว้

"น้ำวนเป็นแฟนกับพี่อาร์ทก็ได้"

ไม่ว่าพี่อาร์ทจะคบกับผมเพราะอะไร ผมจะไม่ทิ้งโอกาศอันแสนวิเศษนี้แน่นอน

---------------------------------------------



ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 12 : บอกด้วยจูบ

คืนวันนั้นหลังจากผมตกลงคบกับพี่อาร์ท ผมก็อาบน้ำแล้วเข้ามานอนตามปกติ แต่พิเศษตรงที่คืนนั้นมีนักเขียนคนดังที่พึ่งเปลี่ยนสถานะเป็นแฟนไม่ถึงชั่วโมงนอนกอดผมไว้ทั้งคืน ช่วงแรกก็รู้สึกเขินอายอยู่บ้าง แต่​​เพราะเหตุการณ์เมื่อเย็นทำให้เหนื่อยจเผลอหลับไป

"น้ำวน" เสียงโทนทุ้มต่ำ กระซิบข้างหูเรียกคนที่กำลังนอนซุกอกร่างหนา
"อื้ออ... ขอห้านาที" คนน้องแนบหน้าตัวเองซุกอกคนตรงหน้าเอ่ยงอแงขอนอนต่อ
"จะเจ็ดโมงแล้วนะครับ เข้าแถวสายเดี๋ยวถูกทำโทษนะ" เมื่อเห็นนักอ่านตัวน้อยออดอ้อนขอนอนต่อ คนเป็นแฟนก็อดก้มหัวลงฟัดเจ้าตัวเล็กไม่ได้ ใจหนึ่งก็อยากนอนกกไว้แบบนี้ทั้งวัน แต่นี้มันวันอังคาร น้องยังเรียนมอปลายและต้องเข้าแถวเคารพธงชาติตามระเบียบของโรงเรียน
"อ่ะ ตะ ตื่นแล้ว" เด็กน้อยที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอกสบายใจอยู่ในอ้อมกอดของแฟนหนุ่มต้องตื่นเพราะกำลังถูกคนตรงหน้าฟัดที่หัวของตนเอง แม้จะไม่ได้แรงมากแต่ก็สร้างความรำคาญให้ตัวเขาไม่น้อย
จุ้บ!
"Morning kiss" ยังไม่ทันจะลืมตา ริมฝีปากของใครบางคนแนบลงสัมผัสกับริมฝีปากอิ่มของคนน้องแผ่วเบา
"พี่อาร์ท!!!"
"ตื่นเต็มตาแล้วก็ไปอาบน้ำครับ" ชายร่างสูงยิ้มให้แฟนหนุ่มตายี่ ก่อนจะดันให้ลงจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียน
เด็กหนุ่มค่อยๆลุกลงจากเตียงด้วยความงัวเงีย ถอดเสื้อไว้ข้างเตียงเหมือนที่ทำเป็นกิจวัตประจำวันก่อนเข้าห้องน้ำ ขณะที่กำลังดึงกางเกงลงเกือบถึงสะโพก สมองเหมือนเริ่มทำงานและนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ห้องคนเดียว คนตัวเล็กค่อยๆหันหลังกลับไปดูว่ามีใครอยู่บนเตียงหรือไม่
เต็มตา!
ภาพของร่างสูงกำลังจับจ้องมาที่ก้นของเขาด้วยดวงตาแวบวับเป็นประกาย คล้ายกับว่ากำลังลุ้นให้กางเกงบนร่างเขาหลุดลงมาเสียที
"ถอดเร็ว เดี๋ยวไปสายนะ"
พลับ!!
"โรคจิต" ผมดึงกางเกงตัวเองขึ้น โยนเสื้อข้างๆเตียงใส่หน้าเขาแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
"ฮ่าๆๆ รีบๆออกมา ถ้าช้าพี่เข้าไปตามนะ"
"ไม่!!" ผมตะโกนออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง ตอนติดตามในทวิตไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ทำไมตอนนี้กลายเป็นแบบนี้ซะได้

ใช้เวลาไม่นานทั้งผมและพี่อาร์ทก็อาบน้ำแต่งตัวกันเรียบร้อย เพียงแต่เสื้อผ้าของพี่อาร์ทยังต้องใส่ชุดเก่าไปก่อนแล้วค่อยไปเปลี่ยนที่ห้องเพราะผมตัวเล็ก้กินกว่าที่เขาจะยืมชุดผมไปใส่ได้ ระหว่างแต่งตัวพี่อาร์ทก็คอยกอดคอยแกล้งไม่เคยห่าง แทนที่จะแต่งตัวเสร็จตั้งนานแล้ว ก็ต้องมาเสียเวลาดึงมือดึงแขนปลาหมึกของพี่อาร์ทออก

"จะสายแล้ว" ผมยู่ปากมองนาฬิกาในมือถือของตัวเองเดินตีคู่มากับพี่อาร์ทออกจากบ้าน
"เพราะใครนะ" คนพี่ควงกุญแจรถอย่างสบายอารมณ์
"ใครละ" ผมหันขวับตาขวางใส่คนข้างๆ
"โอ๋ๆ ยังเป็นแฟนกันไม่ถึง24ชั่วโมง จะกัดพี่แล้วหรอ"
"พี่อาร์ท!!"
"ฮ่าๆ ไม่แกล้งแล้วดีกันๆ" นักเขียนในชุดนักศึกษายู่ยี่ทำท่าจะเข้ามากอด แต่ก็โดนดันไว้ก่อน
"ไม่ได้นะ อยู่ข้างนอก"
"อ่อ งั้น ในรถได้ใช่ไหมครับ"
"มะ ไม่รู้" ตอนแรกก็ว่าจะปฏิเสธ แต่ผมดันไปบอกเขาว่าข้างนอกไม่ได้ ถ้าไปบอกว่าไม่ได้อีกมันก็จะดูงี่เง่าไป
"งั้นขึ้นรถเลย เดี๋ยวพี่ไปส่ง" ร่างสูงเปิดประตูให้แฟนเด็กในชุดนักเรียน
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวน้ำวนไปเอง"
"อย่าดื้อ ขึ้น"
"ก็ได้ ทำไมต้องดุน้องด้วย"
"น้องดื้อต้องดุ" คนพี่ค่อยๆดันคนตัวเล็กเข้าไปในรถแล้วเอื้อมมาคาดเข็มขัดให้
"ไม่ต้องดูแลดีขนาดนี้ก็ได้ น้ำวนดูแลตัวเองได้น่า"
"ช่วงนี้พี่มีเวลาก็อยากเทคแคร์" ร่างสูงปิดประตูรถ ก่อนจะเดินไปฝั่งคนขับ
"อะไรกัน พึ่งจะเป็นแฟน พูดเหมือนจะทิ้งกันซะแล้ว" คนน้องพึมพร่ำกับตัวเองคนเดียว
"ไม่ได้ไปไหน แต่อีกสองอาทิตย์พี่สอบ อาจจะไม่มีเวลาให้เราเกือบทั้งเดือน"
"ทำไมนานจัง" 
"เรียนมหาลัยมันไม่ง่ายนะครับ งานกลุ่มงานเดียวกิจกรรมในคณะ ไหนจะสอบอีก" เมื่อเห็นคนตัวเล็กข้างๆหางลูหูตกก็อดจะอธิบายไม่ได้​
​"น้ำวนเข้าใจ" พอรู้ว่าอีกไม่กี่อาทิตย์ต้องห่างกับแฟนหนุ่มก็อยากอ้อนคนพี่ขึ้นมา ผมเอนหัวอิงไหล่หนาของคนขับรถจำเป็น
"ตั้งใจสอบนะครับ น้องรอ"
ฟอดดดดดด
"กำลังใจเต็มเปี่ยม" หนุ่มนักศึกษาตัวสูงก้มลงหอมแก้มแฟนหนุ่ม
"พี่อาร์ท ฮึย" อยากจะผลักคนตรงหน้าออกไปให้ไกลตัวแก้เขิน แต่นึกถึงตอนที่เขาไม่อยู่กลายเป็นว่าแขนเจ้ากรรมดันสอดเข้าไปกอดแขนคนขับซะงั้น   

เมื่อไม่มีใครโต้ตอบสนทนากัน บรรยากาศภายในรถจึงถูกความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าการมีแฟนมันเป็นอย่างไง เพราะนี้เป็นครั้งแรกของผมแถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันอีก แล้วแบบนี้ใครต้องดูแลเอาใจกันละ ผมก็ผู้ชายแมนๆนะ

"ถึงแล้วครับ" พี่อาร์ทกระซิบข้างหูเบาๆทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง
"อ่ะ ขอบคุณครับที่มาส่ง" ผมดีดตัวเองขึ้นจากแขนคนพี่แล้วยกมือขึ้นไหว้ แต่ก็ถูกรั้งแขนไว้อีกครั้งแบบเมื่อคืน
"เดี๋ยวครับ"
"หืม"
"ขอกำลังใจหน่อย" ร่างสูงใช้นิ้วชี้จิ้มที่ริมฝีปากของตัวเองเป็นสัญญาณบอกให้ทำอะไรสักอย่าง อยากจะแกล้งไม่รู้จริงๆ
"นี้มันหลังโรงเรียนนะ"
"ไม่เป็นไร ฟิล์มรถพี่มืด" เขายักคิ้วให้ผมทีหนึ่ง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำเพื่ออะไร แต่คนเห็นอย่างผมรู้สึกอยากเอาอะไรสักอย่างตีแรงๆเพราะหมั่นไส้ชะมัด
นักเขียนร่างสูงค่อยโค้งตัวลงมาให้ใบหน้าของตนเองอยู่ในระดับเดียวกับนักอ่านตัวเล็ก ก่อนที่ริมฝีปากของพวกเขาจะสัมผัสกันเบาๆและผละออกช้าๆ
"อยากจูบอีกจัง" เมื่อสัมผัสอันแผ่วเบาของทั้งคู่จบลง ร่างสูงของคนพี่ก็ยิ้มทะเล้นแกล้งน้องอีกครั้ง
"บ้า" ผมตีไหล่เขาเบาๆ แล้วหยิบกระเป๋าเพื่อเข้าโรงเรียน
"น้ำวน"
"ครับ?"
"พี่ต้องคิดถึงน้ำวนแน่ๆเลย"
"น้ำวนก็คิดถึงพี่" ผมเอ่ยบอกเขาแล้วมองตาคนตัวสูงตรงหน้า ไม่รู้ว่าคำพูดของเขาเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน แต่ผมน่ะ
...คิดถึงเขาจริงๆ
"พี่ว่าเรามาทำข้อตกลงกันดีกว่า"
"..." ผมเอียงคอมองคนพี่อย่างสงสัย
"ต่อจากนี้ไป ถ้าน้ำวนอยากบอกรักหรือบอกว่าคิดถึง ให้บอกด้วยจูบ คิดถึงมากแค่ไหนก็จูบแรงๆเท่านั้น"
"ห๊า!" จากที่รี่ตามองพี่อาร์ทด้วยความสงสัยต้องเบิกกว้างเพราะคำตอบของคนตรงหน้า
"น้ำวนทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ พี่เลยอยากให้เรารับรู้มันด้วยการกระทำมากว่าคำพูดของพี่"
"น้ำวนเชื่อ"
"คิดว่าพี่ไม่รู้หรอ"
"..."
"ไม่เป็นไร ให้ร่างกายมันบอกน่ะดีแล้ว" พูดจบร่างสูงค่อยเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้....

ก๊อกๆ!

เหมือนเหตุการณ์ครั้งนี้จะเคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมรีบผละตัวออกจากคนตรงหน้าแล้วหันไปมองที่กระจก

อีกแล้ว...ไอ้ทิว

"ฮะ ฮ่าๆ เพื่อนทิวอีกแล้ว" ร่างสูงหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าใครที่เคาะประตูรถ
"..." ผมก้มหน้ามองกระเป๋าตัวเองแก้เขิน

เกือบจะจูบอีกแล้ว

"ไปได้แล้วตัวเล็ก จะสายแล้วนะ"
"ครับ"
"คิดถึงพี่เมื่อไรอย่าลืมมาบอกด้วย... " พูดจบคนพี่ก็ทำปากจู๋มาทางผม
"ไม่คิดถึงหรอก!" ผมรีบคว้ากระเป๋าแล้วรีบออกมาจากรถทันที เป็นแฟนกับพี่อาร์ททำไมเปลืองตัวยังงี้นะ

"มากับพี่อาร์ทหรอวะ" เมื่อเท้าก้าวออกจากรถ ทิวเพื่อนรักก็รีบทักผมทันที
"เออ พี่เขามาส่ง"
"เหยดด ถึงว่าไม่มาสักที กูอยากมีรุ่นพี่แบบนี้บ้างว่ะ" มันเงยหน้าขึ้นเหมือนกำลังเคลิ้มฝันเรื่องอะไรสักอย่าง จะบอกเพื่อนว่ารุ่นพี่คนนั้นกลายเป็นแฟนตัวเองแล้วก็กลัวจะเป็นการทำลายฝันของเพื่อน
"น้ำวน" สาวแว่นและพ้องเพื่อนเดินเข้ามาหาผม
"สวัสดีทุกคน"
"เป็นไงบ้าง" โมเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นออกหน้าออกตา
"เอ่อ เดี๋ยวค่อยคุยกันตอนเที่ยงนะ จะสายแล้ว" ผมเลี่ยงบทสนทนาเพราะยังไม่พร้อมเล่าตอนนี้
ขืนเล่าไป โดนแซวแน่ๆ
"จริงด้วย พวกเรารีบไปกันเถอะ" แพรมองนาฬิกาข้อมือตัวเองก่อนจะทำหน้าตาตื่นชักชวนให้ทุกคนรีบไปเข้าแถว

เวลาผ่านมาจนถึงตอนเย็นผมยังคงกลับเดินกลับบ้านกับไอ้ทิวเพื่อนรักเหมือนเดิม เดินคุยกันเรื่องการ์ตูนตอนใหม่ที่พวกเราชอบดูด้วยกัน และเรื่องที่มันตีป้อมกับไอ้นัทแล้วแพ้ยับเพราะคนในทีมไม่ยอมให้ความร่วมมือ ส่งผลให้ผมต้องรับกรรมฟังมันบ่นเรื่องนี้ตลอดทาง
"เออ เมื่อเที่ยงมึงไปไหนมาวะ ทำไมไม่กินข้าวกับพวกกู"
"อ่อ กูมีเรื่องต้องคุยกับแก็งสาวๆนิดหน่อย"
"เดียวนี้ติดแก็งนี้จัง หรือว่า..." ไอ้ทิวก้มลงมาหาเพราะส่วนสูงของไอ้ทิวค่อนข้างจะมากว่าแล้วจ้องตาผม
"ไรมึง" ผมรีบหลบตามันอย่างลืมตัว หรือว่ามันจะรู้เรื่องผมกับพี่อาร์ทแล้ว​
"หรือมึง ...เป็นแฟนกับสาวในแก็งนั้น"
"เพ้อเจ้อละ"
"เออ คำว่าเพื่อนมันไม่สำคัญกับมึงไง เรื่องแค่นี้ยังจะปิดบังกัน น้อยใจว่ะ" มันหันหน้าหนีผมแล้วเดินตีตัวออกห่าง
"ตัวเท่ายักษ์ ยังเสือกน้อยใจอีก" ผมกระโดดตบหัวมันทีหนึ่งเน้นๆ เผื่อความน้อยใจของมันจะลดลงบ้าง
"โอ้ย! ตบกูอีกนะ จำไว้เลย" มันเบี่ยงตัวหนี
"โอ๋ๆ กูขอโทษ ไม่ได้ปิดบัง แต่กูไม่ได้เป็นแฟนกับคนในแก็งนั้นจริงๆ"
"เรียกเช้าเรียกเที่ยงเรียกเย็น ไม่ได้เป็นแฟนแล้วเป็นไรวะ" มันมองหน้าผมอย่างสงสัย
"เป็นเพื่อนไง ทีมึงยังเรียกกูเช้าเที่ยงเย็นทุกเวลาก่อนแดกข้าวเลย"
"เออว่ะ" ทิวหยุดยืนครุ่นคิดเรื่องเพื่อนตัวเล็กของเขา
"..."
"กูเชื่อก็ได้ แต่วันหลังจะไปไหนบอกกูด้วย จะได้ไม่ต้องรอมึง วันนี้กูเกือบกินข้าวไม่ทัน"
"เออ ขอโทษ"
"ไม่เป็นไร เจอกันพรุ่งนี้"
"บาย"
ผมแยกกับทิวแล้วเดินเข้าบ้านตัวเอง เมื่อเที่ยงแอบเข้าไปคุยกับแก็งสาววาย ทีแรกคิดว่าจะคุยแค่แปปเดียว แต่5สาวถามโน่นนั้นนี้จนทำให้กลับไปกินข้าวกับแมททิวไม่ทัน และตัวผมเองก็กินข้าวไม่ทันเช่นกัน เลยต้องทนหิวจนถึงเย็น
เรื่องที่ผมคุยกับสาวๆก็ไม่พ้นพี่อาร์ท ตอนนี้พวกเธอรู้แล้วว่าผมเป็นแฟนกับพี่อาร์ท ทำให้พวกเธอกรีดร้องจนอาจารย์บริเวณนั้นมาตักเตือนเรื่องการใช้เสียง แต่เรื่องพี่อาร์ทมานอนค้างที่บ้านกับความบัดสีที่เกิดขึ้นบนรถและบนเตียงผมไม่ได้เล่า เก็บไว้เป็นความลับของพวกเราดีกว่า
ติ่ง!
ระหว่างที่ผมกำลังเปิดประตูห้องนอน เสียงแจ้งเตือนข้อความในมือถือดังขึ้น จะเป็นใครไม่ได้เลยนอกจาก พี่อาร์ท
ร่างสูงส่งรูปตัวเองใส่กางเกงวอร์มตัวเดียวโชว์ร่างท่อนบน ในอริยาบทก้มหน้าพิมพ์งานอย่างบ้าคลั่ง พร้อมข้อความสั้นๆ
'อยากกอดแฟน'
ฉ่าาา!!
จู่ๆใบหน้าใสก็ขึ้นสีแดงระเรื่อทันทีเมื่ออ่านข้อความจบ ผมคิดว่าพี่อาร์ทกำลังต้องการกำลังใจเลยตอบกลับไๆปก่ำกึ่งระหว่างเอาใจกับกำกวง
'ก็มาดิครับ'
เมื่อกดส่งข้อความกลับไป อีกฝั่งขึ้นอ่านทันทีแต่ไม่มีการตอบกลับมา ผมวางกระเป๋าแล้วถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำเพราะอากาศแบบนี้ผมไม่สามารถทนร้อนได้

ใช้เวลาในการอาบน้ำไม่ถึง 20 นาที เมื่อแต่งตัวเรียบร้อย ผมโดดลงนอนบนเตียงอย่างสบายใจก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าร่างสูงตอบข้อความกลับมาหรือยัง แต่ก็พบความว่างเปล่าของแจ้งเตือน คิดว่าเขาน่าจะปั่นงานอยู่คงอยากได้แค่กำลังใจเลยไม่ตอบกลับมา
ครื้น!
เสียงสั่นจากโทรศัพท์ในมือผมดังขึ้น หน้าจอปรากฏแค่เบอร์ขึ้นมา และเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ผมชั่งใจสักพักว่าควรรับไหมจนกระทั้งสายนั้นตัดไป และโทรกลับมาอีกครั้ง จากเซ้นส์ของผมถ้าเป็นเบอร์ที่โทรผิดน่าจะโทรแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าโทรกลับมาซ้ำต้องจงใจโทรหาแน่ๆ ผมจึงกดรับไป
'สวัสดีครับ'
('น้ำวน ออกมาหาพี่หน่อย’)
'ห่ะ??’
('ก็เราบอกให้พี่มา พี่ก็มาแล้วนี้ไง')
'เดี๋ยวนะ พี่อาร์ทหรอครับ'
('ใช่ พี่อยู่หน้าบ้านน้ำวน ออกมาหาพี่...')

ยังไม่ทันฟังพี่อาร์ทพูดจบ ผมรีบวิ่งออกมาดูหน้าบ้าน และได้พบกับชายร่างสูงในชุดกางเกงขาวอร์มสีดำแบบในรูปที่ส่งมา เสื้อยืดคอกลมสีขาว รองเท้าแตะสีดำ ผมกระเซิงไม่ได้ถูกจัดทรง สวมแว่นตาอันเดิมที่ใส่ประจำ ถือโน๊ตบุ๊คคู่ใจ ดูจากสภาพคนตรงหน้าพอจะเดาได้ว่าเขารีบมากแค่ไหน

"มากอดหน่อย" เมื่อเจอกัน คนพี่รีบวิ่งเข้ามาทำท่าจะเข้ามากอดผมทันที
"ดะ เดี๋ยวพี่อาร์ท นี้มันข้างนอกนะ" ผมรีบยกมือขึ้นห้ามแล้วถอยไปข้างหลังเพื่อไม่ให้พี่อาร์เข้าใกล้
"โหย แฟนเหนื่อยนะครับ อยากได้กำลังใจ" เขาทำท่าจะเข้ามากอดผมให้ได้
"ไปกอดข้างใน" ผมทำหน้าดุคนตรงหน้า
"โอเค" เมื่อพูดจบ ร่างสูงรีบดันคนตัวเล็กเข้าห้องและสวมกอดทันที
"อื้ออ พี่อาร์ท เบาๆ" คนตัวเล็กทำได้แค่กอดตอบและลูบหลังเบาๆ
"เหนื่อยจังคุณแฟน" พูดจบคนพี่เอาหน้าซุกลงบนต้นคอของแฟนเด็ก
"อะ เอ่อ...สู้ๆนะครับ น้องเป็นกำลังใจให้" ผมพยายามรวบรวมสติและให้กำลังใจพี่อาร์ทไป ทั้งที่ตอนนี้แรงจะกอดแทบจะไม่มีเพราะเขินคนตรงหน้า
"วันนี้นอนด้วยได้มั้ยครับ"
"ห่ะ??"
"นะครับ เวลาพี่อยู่กับน้ำวนรู้สึกมีแรงทำงานตลอด"
"เอ่อ..."
"พี่เหนื่อยมากเลย ขาดน้ำวนเหมือนขาดกำลังใจ ถ้าไม่ไ.."
"ก ก็ได้ครับ" ผมรีบยกมือปิดปากพี่อาร์ทไม่ให้พูดต่อ เพราะถ้าเขายังพูดต่อเกรงว่าหัวใจมันจะทำงานหนักเกินไปจนน็อคเสียก่อน เป็นแฟนกันยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำไมอ้อนเก่งขนาดนี้นะ


ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer 13 : น้ำวนต้องอยู่ด้านบนเท่านั้น!!  NC18+

   เวลาผ่านไปล่วงเลยมาเกือบเดือนที่ผมและพี่อาร์ทเป็นแฟนกัน ระหว่างนี้พี่อาร์ทต้องสอบและส่งโปรเจก ทำให้ผมและพี่อาร์ทไม่ได้เจอกันเลยรวมถึงนิยายที่เขียนไว้ต้องหยุดอัพ

   ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีพี่อาร์ท อยู่ได้สบายมากเพราะที่ผ่านมาผมก็อยู่ได้โดยไม่มีแฟนมาเกือบ17ปี แต่เอาเข้าจริงตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาผมกับพี่อาร์ทตัวแทบจะติดกัน อีกฝ่ายมานอนที่บ้านผมเกือบทุกวัน อ้างว่าไม่เห็นหน้าแต่งนิยายไม่ไหว มารับมาส่งไม่เคยขาด ส่วนครอบครัวผมก็โดนพี่อาร์ทตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยนิสัยที่สุภาพเข้ากับคนง่ายของเขาทำให้เป็นที่รักของผู้ใหญ่ได้ในเวลาไม่ช้า

   กลับมาที่ผมตอนนี้ สารภาพจากใจ โคตรคิดถึงพี่อาร์ทเลย ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วอาการติดแฟนมันเป็นอย่างไง หลายครั้งที่ผมส่งข้อความไปหาอีกฝ่ายเขากลับตอบมาแค่สติ๊กเกอร์ ผมพยายามบอกตัวเองว่าเขายุ่งอยู่ แต่มันก็...

อดน้อยใจไม่ได้จริงๆ

“รอบนี้นะ ไอ้นัทแม่งตีแต่มังกร กูแหกปากให้มาช่วยกูแม่งก็มัว… เฮ้ย ฟังกูอยู่เปล่าไอ้วน”
“ห่ะ อะไรนะ” ระหว่างทางกลับบ้านทิวบ่นเรื่องเกมเมื่อคืน แต่ผมใจลอยจนไม่ทันได้ฟัง
“เป็นไรเหม่อบ่อยจังวะ”
“เอ่อ เปล่าๆ”
“อ่านการ์ตูนจนไม่ได้นอนอีกใช่ไหม”
“นิดหน่อย แฮ่ๆ” ผมตามน้ำไอ้ทิวไป
“จะสอบแล้ว พักๆบ้าง”
“มึงบอกตัวเองเถอะ เล่นเกมทุกวัน”
“กูเล่นก็จริง แต่กูพักผ่อนเพียงพอไม่เคยเหม่อลอยแบบมึง เออ ว่าแต่พี่อาร์ทเขาไปไหนวะ ไม่เห็นมารับส่งมึงเลย”
“สอบ!!” ผมกระแทกเสียงใส่ไอ้ทิวอย่างลืมตัว ได้ยินชื่อแล้วอารมณ์มันขึ้นไม่มีสาเหตุ
“อ่อ แล้วมึงจะเสียงดังทำไม” มันเกาหัวด้วยความสงสัย
“ปะ เปล่า”
“เอ่อ ไอ้วนกูมีเรื่องจะถามมึง”
“หืม”
“วันนั้นกู เอ่อ… กู”
“มีไรก็พูดมาดิวะ อ้ำอึ้งทำไม” ผมหยุดเดินหันมามองหน้าไอ้ทิว
“มึงนั้นแหละ ถ้ากูถามต้องตอบด้วย”
“เออ”
“ตอบแน่นะ”
“เออ แต่ถ้ามึงไม่ถามกูจะไม่ตอบแล้ว”
“เอ่อ วันนั้นกูเห็นมึงกับพี่...”
“กูกับพี่อะไรมึง” มันหยุดพูดนานจนผมต้องเรียกสติให้มันพูดต่อให้จบ
“มึงกับพี่อาร์ท หอมแก้มกันหน้าบ้าน มึงกับพี่เขาเป็น… เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันจริงๆ หรอวะ”
“...”  แดกจุดไปแล้วครับ ไม่รู้จะตอบเพื่อนทิวยังไงดี ไอ้ทิวมองผมด้วยสีหน้าระอักกระอ่วน
“ไหนมึงบอกว่าจะตอบกูไง”
“เอ่อ กูกับพี่อาร์ทเป็น...”
“น้ำวน!” เสียงตะโกนเรียกชื่อผมจากด้านหลังทำให้ผมและไอ้ทิวหันไปมองหาต้นเสียงพร้อมกัน ส่วนคนที่เรียกจะเป็นใครไปได้นอกเสียจาก
พี่อาร์ท
“อ่ะ” ยังไม่ทันตั้งตัวร่างสูงในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาโผลกอดผมแน่นจนหายใจแทบไม่ออก ไม่รู้ว่าที่หายใจไม่ออกเพราะแรงกอดหรือความคิดถึงที่มันจุกอกกันแน่
   แขนผมสวมกอดคนข้างหน้าไม่มีอิดออด กดหน้าลงบนแผงอกซูดกลิ่นความเป็นชายของรุ่นพี่เข้าเต็มปอด คลายความคิดถึงที่สะสมมานานนับเดือน
“ชัดเลย...” เสียงแมททิวเรียกสติของเราทั้งคู่จนผมเผลอผลักพี่อาร์ทออก
“ชัดไรมึง แค่กอดมันก็เรื่องปกติปะวะ” ผมเชไชพูดให้ดูเป็นเรื่องปกติ
“งั้นมากอดกูบ้างดิ” มันอ้าแขนออกรอกอดผม
“หยุด” ไม่ว่าเปล่า คนพี่คว้าเอวผมไว้ให้อยู่ข้างกายตนเอง อีกมือชี้หน้าแมททิว
“ก็ปกติ… ปกติก็เหี้ยแล้ว สรุปมันยังไงครับพี่อาร์ท” แมททิวโวยวายกับตัวเองเสียงดังก่อนจะหันกลับขอคำตอบจากรุ่นพี่ข้างกายผม
“รุ่นพี่กู/เมียพี่เอง” ผมและพี่อาร์ทตอบกลับไปพร้อมกันเพียงแต่คำตอบไม่เหมือนกัน
“ห่ะ!!” ไอ้ทิวแสดงสีหน้าตกใจขั้นสุด นั้นหมายความว่ามันไม่ได้สนใจคำตอบของผมแม้แต่น้อย
“ไอ้วน มึงเป็น...เมียพี่อาร์ทหรอวะ!!” ประโยคแรกเหมือนมันจะยังไม่ค่อยมีสติเท่าไร แต่ประโยคหลังเสียงดังชัดเจนจึงไม่ต้องสงสัยว่าสติของมันกลับมาครบรึยัง
“ไม่ กูเป็นผัว”
“ห่ะ/ห่ะ” เสียงอุทานตกใจพร้อมกันจากสองหนุ่มตรงหน้า
“พี่อาร์ท พี่สลับตำแหน่งกับไอ้วนหรอ” มันเผยสีหน้าท่าทางสงสัยถามพี่อาร์ทด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“สลับห่าอะไร กูอยู่ข้างบน กูเป็นผัว”
“เฮ่อ พี่ขอตัวก่อนนะ” ยังไม่จะเถียงแก้ตัวกับไอ้ทิวจบพี่อาร์ทบอกลาไอ้เด็กยักษ์แล้วลากแขนผมเข้าบ้านและเปิดประตูเข้าห้องนอนผมทันที

“ปล่อยผมนะ”
“พี่ว่าเรื่องนี้เราต้องคุยกัน” พี่อาร์ทดันตัวผมให้นั้งบนเตียงส่วนตัวเองนั้งลงบนพื้นหว่างขาผม
“อ่ะ ละ แล้วพี่จะนั้งตรงนั้นทำไม ลุกขึ้นมา”
“อยากเห็นหน้าชัดๆ”
ฉ่า!
ผมจำไม่ได้จริงๆว่าล่าสุดหน้าผมแดงฉ่าแบบนี้เมื่อไร แต่อยู่ใกล้นักเขียนคนนี้ทีไร มีเรื่องให้หน้าขึ้นสีทุกที
“ลงมานั้งตรงนี้” คนพี่ตบตักตัวเองเป็นสัญญาณให้ผมลงไปนั้งตรงนั้น เหมือนมีเวทมนต์สะกดจิตให้ผมต้องลุกขึ้นจากเตียงแล้วสอดขาตัวเองเข้าไปหว่างเอวนักเขียน สองขาตั้งฉากแนบชิดเอวของคนตรงหน้า
“จะคุยอะไร” ผมช้อนตาขึ้นมองคนพี่
“น้ำวนจะอยู่ข้างบนหรอครับ” พี่อาร์ทวาดแขนกอดเอวให้ร่างกายเราแนบชิดกันมากขึ้น แต่มันกระทันหันเกินไปจนทำให้แขนผมเกิดปฏิกิริยาต่อต้านจับบ่าคนตรงหน้าไว้ดันออกเบาๆ
“รู้หรอครับว่าอยู่ข้างบนต้องทำยังไง หืม” ไม่ว่าเปล่า คนพี่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนใบหน้าของเราห่างกันไม่เกินหนึ่งนิ้วมือ
“ระ รู้สิครับ”
“ทำยังไงครับ” คนพี่หยักคิ้วเชิงยั่วยุให้ผมทำในสิ่งที่เขาถาม
ผมเลื่อนใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้เพื่อให้ริมฝีปากของตนแนบกับริมฝีปากของคนตรงหน้า ก่อนจะผละออก แต่ยังไม่ทันได้ขยับไปไหน ฝ่ามือคนพี่จับศีรษะของผมไม่ให้ขยับไปไหนแล้วพยายามดูดดุนริมฝีปากของผมให้ผละออกก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปเชื่อมต่อกันภายในโพรงปาก ฝ่ามือเล็กของผมขย้ำคอเสื้อคนตรงหน้าเมื่อรู้สึกว่าอากาศภายในปอดกำลังจะหมด ทำให้พี่อาร์ทต้องยอดผละริมฝีปากออกด้วยความเสียดาย
น้ำเชื่อมสีใสค่อยๆยืดออกระหว่างที่ริมฝีปากของเราทั้งคู่หลุดออกจากการเชื่อมต่อกัน ภาพพี่อาร์ทหายใจฟืดฟัดด้วยสีหน้าอารมณ์เหมือนกำลังต้องการอะไรสักอย่าง มันทำให้ใจของผมสั่นไม่น้อย
“ถ้าน้ำวนจะอยู่ข้างบนต้องทำแบบนี้นะครับ” คนตรงหน้าลูบไล้ใบหน้าของผม ส่งสายตาหวานเชื่อมในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“อืม น้ำวนจะอยู่ข้างบน”
“งั้นให้พี่สอนนะ” พูดจบชายตรงหน้าก้มหน้าลงซุกไซร้ต้นคอคนตัวเล็ก มือหนาค่อยๆปลดเข็มขัดนักเรียนและถอดกางเกงของคนน้องออกทำให้เหลือแค่ชั้นในสีขาวบางปกปิดส่วนกลางกาย
“จะสอน ทำไมต้องถอดกางเกงน้อง” ผมพยายามดันแขนของพี่ให้หยุดดึงชั้นในของตัวเองออก แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของคนตรงหน้าได้แม้แต่น้อย ทำให้ป้อมปราการด้านสุดท้ายที่ปกปิดแกนกายผมไปกองอยู่ที่พื้นห้องเสียแล้ว
   ตอนนี้บนร่างกายของผมเหลือแค่เสื้อนักเรียนตัวโคร่ง ชายเสื้อปกปิดเพียงต้นขาเท่านั้น
“ตัวเล็กชิบ” คนพี่ใช้มือลูบไล้วนอยู่ที่สะโพกผมไม่หยุดมือ
“ตัวเล็กก็เป็นผัวได้น่า อะ อาร์ท ทำอะไร!! อ่ะ อื้ออ หยุดนะอาร์ท เอานิ้วออก” แค่หลุดปากคำว่าผัว นิ้วยาวของคนพี่สอดเข้ามาในช่องรักที่ไม่เคยมีใครได้รุกล้ำเข้ามายกเว้น...นิ้วผมเอง
“กำลังสอนอยู่ไงครับ”
“อะ อาร์ท อย่าพึ่งใส่นิ้วเข้ามา มา น้องเจ็บ อ่ะอะ” คนตัวเล็กร้องห้ามคนพี่น้ำตาคลอเพราะกลัวจะเจ็บช่องด้านหลังเหมือนคราวก่อน
“โอ๋ๆ ตัวเล็กมีโลชั่นทาผิวไหมครับ” นักเขียนร่างสูงค่อยๆดึงนิ้วออก
“มีแต่เบบี้ออย”
“ดีเลย เอามาให้พี่หน่อยสิครับ” ผมพยักหน้าก่อนจะเดินไปหยิบเบบี้ออยในห้องน้ำให้พี่อาร์ท
“จะให้พี่สอนตรงนี้หรือบนเตียงดี”
“เตียง” พูดจบผมรีบกระโดดลงนั้งบนเตียง คนพี่ระบายยิ้มอ่อนลุกขึ้นนั้งบนเตียง
“ขั้นแรกต้องเปิดทางก่อน” ผมเอียงคอมองหน้าชายตรงหน้าด้วยความสงสัย พี่อาร์ทกวักมือให้มานั้งบนตักเหมือนเดิม ผมคลานไปนั้งท่าเดิมอย่างว่าง่าย
   ร่างสูงปิดฝาเบบี้ออย เทของเหลวภายในขวดชะโลมนิ้วของตนเองทั้งสามนิ้ว ก่อนจะก้มลงประกบริมฝีปากอีกครั้ง ลิ้นเรียวแทรกเข้าในโพรงปากของร่างเล็กตรงหน้า ค่อยๆลุกล้ำดูดดุนลิ้นร้อนให้กลับมาเชื่อมกันอีกครั้ง นิ้วชี้เรียวยาวของคนพี่สอดเข้าไปในรูลับสอดใส่คว้านหาจุดกระสันของร่างเล็ก
“อ่ะอะอะ อาร์ท อื้ออ ตรงนั้นมัน” นิ้วของคนพี่กดลงบนผนังนุ่มภายในช่องรัก จนกระทั้งโดนจุดเสียวของร่างเล็กทำให้เจ้าตัวผละริมฝีปากร้องเรียกชื่อคนตรงหน้า และดันสะโพกตัวเองให้นิ้วยาวเข้าได้ลึกขึ้น
“มันทำไมครับ”
“อะ อ่ะ น้อง เสียว อาร์ท มันจะออก อะอะ อ่าาาา” พึ่งจะสอดนิ้วเพิ่มเข้าไปได้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้น คนตัวเล็กตรงหน้าคราง แทบขาดใจก่อนจะปลดปล่อยน้ำออกจากแกนกายของตัวเองเปื้อนเต็มกางเกงนักเขียนร่างหนา
“น้ำวนทำกางเกงพี่เลอะหมดแล้ว ถอดออกให้พี่หน่อยสิครับ” ร่างเล็กบนตักก้มหน้ามองกางเกงคนพี่ด้วยความลังเล ก่อนจะปลดเข็มขัดแล้วถอดกางเกงให้ด้วยท่าทางไม่รีบร้อนทั้งที่ใจตอนนี้สั่นไปหมด
“เสียวไหมตัวเล็ก” ฝ่ามือหนาจับคางร่างบางช้อนขึ้นเพื่อให้ตนเองเห็นใบหน้าคนรักได้ชัดขึ้น
“อือ”
“พี่อยากเสียวบ้างจัง ให้พี่เสียวด้วยได้ไหมครับ”
“อือ” ร่างเล็กก้มหน้าลง ให้คำตอบกับคนตรงหน้าเบาๆ แต่มันก็ดังพอทำให้คนพี่ได้ยินชัดแจ๋ว เมื่อได้รับคำอนุญาตจากคนรัก เขารีบถอดเสื้อชั้นในออกด้วยความร้อนรน

ร่างสูงในร่างเปลือยเปล่า โชว์ซิกแพคที่นักอ่านตัวน้อยได้เห็นทีไรเป็นต้องใจสั่นตลอด ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองแล้ววาหลังจากนั้นต้องโดนสอนเรื่องอะไรบ้าง เพราะตัวน้ำวนเองก็ผ่านการอ่านนิยายฉากวาบหวิวมาหลายเรื่องแล้ว และเรื่องเหล่านั้นก็มาจากชายตรงหน้า
คนพี่หยิบถุงยางออกจากกระเป๋ากางเกงนักศึกษาก่อนจะฉีกซองหยิบถุงยางไซส์55 ออกมาแล้วยื่นให้คนตัวเล็ก
“ใส่เป็นไหมครับ”
“ไม่เป็น” 
“เดี๋ยวพี่สอน” มือหนาจับมือของอีกคนให้วางจุกถุงยางไว้บนยอดเจ้าโลกแล้วใช้อุ้งมือคนน้องลรูดถุงยางลงมาจนสุดโคน
“ยะ ใหญ่ชะมัด” ร่างเล็กบ่นกระปิดกระปอยกับความใหญ่ของโตของนักเขียน เมื่อเทียบกับของตัวเองแล้ว คนละเรื่องเลย
“ขั้นต่อไป น้องอยากรุกหรือรับ”
“รุก!!” ผมพูดชัดเต็มเสียง ให้คนตรงหน้ารับรู้

น้ำวนต้องอยู่ด้านบนเท่านั้น!!

“โอเค” พูดจบร่างหนาของนักเขียน ช้อนตัวคนรักขึ้นก่อนจะดันสะโพกสวยกดลงทับแกนกลางของตัวเอง
“อะ อาร์ท ทำอะไร! อ่าา ไหน บอก จะให้น้องรุก ” ผมสะดุ้งเมื่อแท่งร้อนใหญ่ของคนตรงหน้ากำลังรุกล้ำเข้ามาในกายของผม
“รุกไง อื้มม ลุกขึ้นมาขย่มพี่”
“อาร์ท! อื้อ แน่น จุก” ผมรู้สึกว่าแกนแกายของคนพี่เข้ามาสุดทางของผมแล้วเพราะตอนนี้มันทั้งแน่นและจุกท้องไปหมด
“ขย่มเร็วที่รัก พี่โคตรเสียว” คนพี่ก้มลงจูบซับลงที่ขมับและกระแทกขึ้นมาเป็นระยะ
เมื่อถูกคนใต้กายกระแทกขึ้นมากดจุดกระสันในร่างกาย นักอ่านตัวน้อยเสียวซ่านจนต้องออกแรงขย่มแท่งร้อนเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง แรงขย่มคนบนร่างทำให้เตียงที่เขาร่วมรักกันเกิดเสียงอี๊ดออดตามแรงขย่มของร่างบาง
“อาร์ท เสียวไหม”
“อื้มม เสียวครับ พี่ไม่ไหวแล้ว”
“อ่ะ อาร์ทเบา อะอะอะ เบาๆ ” ร่างหนาดันคนตัวเล็กลงนอนราบกับเตียง ก่อนจะโถมแรงที่มีทั้งหมดเข้าไปในช่องลับของคนรัก
   แรงกระแทกจากร่างสูงทำให้คนน้องสั่นไหวไปทั้งกาย แกนกายน้อยมีขนาดเล็กลงเนื่องจากพึ่งปลดปล่อยไปกลับมาขยายอีกครั้งเนื่องจากแรงของคนพี่ที่กระแทกโดนจุดอ่อนไหวของร่างกายไม่หยุดๆ จนเผลอครางเรียกคนตรงหน้าไม่หยุดปาก
“อาร์ท ระ รุนแรง”
“เมียพี่รัดแน่นขนาดนี้ ใครจะทนได้”
“อะ น้องไม่ได้ ระ รัด”
“ซี๊ด  ไม่ไหวแล้ว พี่ขอแตกในนะครับ” ยังไม่ทันจะได้ห้ามร่างสูงถอดแกนกายออกแล้วดึงถุงยางทิ้งข้างเตียงและสอดแท่งร้อนกลับเข้ามาอีก
“อะ อ่ะ อาร์ท อ่าาาา”
“อ่า” ร่างสูงส่งกระแทกใส่ร่างบางจนต้องใช้แขนคล่องคอไว้ไม่ให้ตัวเองหลุกออกจากวงโคจร จนกระทั้งฝ่ายคนรักตัวเล็กถึงฝั่งฝันก่อน ทำให้รูรักตอดรัดแกนแกานใหญ่เป็นจังหวะที่น้ำรักพุ่งออกจากรอบจีบแกนกาย ยิ่งช่องรักตอดรัดมากเท่าไรเรี่ยวแรงในร่างกายคนพี่กลับเพิ่มทวีคูณมากขึ้น  หนุ่มนักเขียนกระแทกเข้ามาในกายคนบนเตียงสองสามครั้งก่อนจะกระตุกแท่งร้อนของตนเองเล็กน้อยเพื่อปล่อยน้ำในตัวของคนรัก

   เสร็จกิจไม่ถึงสิบวินาที คนพี่คว้าตัวคนน้องมากอดกกไม่ยอมให้อากาศรอบกายเข้ามาแทรกแทรงระหว่างกันและกัน
“รัก”
“...”
“รักน้ำวนนะครับ”
“น้องก็รักอาร์ท”
“งั้นพี่ขออีกรอบ”
“ห่ะ! หยุดนะอาร์ท อื้มมม” สิ้นห้ามของคนตัวเล็ก ไม่ช้าก็กลายเป็นเสียงครางหวานเรียกคนรักดังระงมในห้องนอน ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลนัก

ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Writer. 14 : คนหลงเมีย

ร่างของเด็กน้อยผิวสีน้ำผึ้งเปลือยเปล่าแต่งแต้มไปด้วยรอยกลีบกุหลาบจางๆ นอนกอดก่ายชายผู้เป็นที่รัก มีเพียงผ้าห่มผืนบางปกปิดสะโพกของทั้งสองไว้

ร่างสูงนอนมองใบหน้าของเจ้าเด็กแก้มป่องที่ตนเองจัดการกินรวบหัวรวบหางเมื่อวานนี้ ทีแรกเขาตั้งใจแค่จะสั่งสอนให้คนน้องรู้ตำแหน่งของตนเอง แต่เรื่องราวกลับตาลปัตรกลายเป็นว่าตัวเองเห็นทรวดทรงก้นงอนๆของน้อง สติสัมปชัญญะทั้งหมดเลือนหายไปซะได้ เมื่อเรื่องมันไปไกลถึงขนาดนั้น ทั้งตัวเขาและน้ำวนเองก็ไม่สามารถหยุดแรงราคาที่ก่อขึ้น สิ่งที่ต้องทำในตอนนั้นคือเซฟเซ็กส์ ตัวอาร์ทเองการมีเซ็กส์กับแฟนสาวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สิ่งสำคัญคือป้องกัน เขาจึงต้องพกถุงยางเอาไว้เสมอ แต่พอเอาเข้าจริงๆ เห็นเมียครางเรียกชื่อตัวเองไม่หยุด นอนบิดอยู่ใต้ร่างเขา

มันยิ่งทำให้อาร์ทอยากจะปลดปล่อยความเป็นตัวเขาทั้งหมดเข้าไปในร่างกายของน้ำวน

ไม่ให้ไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว!

"น้ำวนครับ"
"อื้ออ" ร่างสูงใช้เสียงแหบกระซิบเรียกคนรักให้ตื่นจากการนอน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเสียเท่าไร เพราะคนตัวเล็กกลับเอียงใบหน้าซุกอกเพื่อหาไออุ่น
"ตื่นเร็ว วันนี้ต้องไปเรียนนะครับ"
"น้องลุกไม่ไหว" น้ำวนเงยหน้าขึ้นแต่ดวงตายังคงเป็นสนิท
จะให้ลุกไหวได้ไง ก็เขาสองคนบรรเลงบทเร้าร้อนกันตั้ง 6โมงเย็นถึง3ทุ่ม
"งั้นตัวเล็กนอนไปก่อนนะ วันนี้พี่มีเรียน" พูดจบร่างสูงทำท่าจะลุกออกจากเตียง ทำให้เจ้าตัวเล็กของเขาดวงตาเบิกกว้างขึ้นทันที
" อะ อาร์ท จะทิ้งน้องหรอ"
"วันนี้.." กำลังจะอ้าปากอธิบายว่ามีเรียน แต่ตัวเองกลับโดนควีนดราม่าจากคนรักซะงั้น
"ใช่สิ ฮึก... ก็ได้ไปหมดแล้วไง ทั้งร่างกาย ทั้งจิตใจ น ไหนจะแตกในอีก ฮึก ถ้าเป็นผู้หญิง น้องคงท้องไม่มีพ่อแล้ว" กลัวว่าพี่จะไม่เห็นภาพ เจ้าตัวเล็กหันก้นงอนเข้าหาคนรัก อ้าขาออกเล็กน้อยเพื่อให้คนตรงหน้าได้เห็นว่าเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น
ภาพที่ร่างสูงได้เห็นคือก้นเนียนๆ ที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยจูบของเขาและคราบน้ำขุ่นๆที่ไหลออกมาจากรูแสนรักเป็นระยะๆเมื่อคนตัวเล็กพยายามขมิบรูเล็กไล่น้ำภายในร่างกายให้ไหลออกมา
เมียใคร ทำไมช่างยั่ว!
"พี่ไม่ได้ทิ้ง แต่พี่ไปเรียน" ไม่ว่าเปล่าเขาดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดปลอบ มือข้างหนึ่งก็ลูบหลัง อีกข้างก็ลูบสะโพกผาย
"...ฮึก"
"งั้น วันนี้มานอนที่คอนโดพี่ไหม พี่จะได้มีเวลาดูแล"
"..."
"อยู่กับบลูบลู ให้มันดูแลน้ำวนแทนพี่ไปก่อน"
"บ้า แมวที่ไหนจะดูแลคนได้"พอพูดถึงชื่อแมวที่ตนเลี้ยงอยู่ คนตรงหน้ากลับยิ้มกว้างออกมาทั้งที่ดวงตายังมีคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่
"ไปกับพี่นะ เรียนเสร็จจะรีบกลับมาดูแล" ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่นักเขียนคนเก่งมีอาการอยากคลอเคลียร่างเล็ ตลอดเวลา เขาเอาแก้มตัวเองถูกไปมากับแก้มของอีกคน
"เอ่อ แล้ว น้ำวนจะบอกแม่ยังไง" จะพากลับรังรักด้วยแต่ลืมไปสนิทว่าคนรักยังเรียนอยู่ม.ปลาย
"เดี๋ยวพี่ไปขอแม่น้ำวนให้"
"จริงนะ!" เด็กน้อยแสดงสีหน้าดีใจอย่างเก็บไม่อยู่ แต่คนพี่นี้สิกังวลใจไม่หาย
"ครับ ไปอาบน้ำกัน"
"พี่อาร์ท คือ...น้ำวนลุกไม่ไหว"
"..."
"ที่ก้น มันเสียดๆแปลกๆ รู้สึกไม่สบายตัวเลย"
"อ่อ ฮ่าๆ เดี๋ยวพี่เอาออกให้" อดขำไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าของคนรักทำท่าทีไม่สบายใจกับอาการแปลกๆของร่างกายตัวเอง
"จะขำน้องทำไม"
"ฮะ ฮ่าๆ โอเค ไม่ขำแล้ว ไหนพี่ขอดูหน่อย" ร่างสูงแหวกขาเรียวขึ้นเพื่อดูช่องทางที่เขาใช่ร่วมรักกันเมื่อวาน รูเล็กปิดสนิทแต่กลับมีรอยสีแดงเนื่องจากถูกเสียดสีเมื่อวาน ไหนจะคราบน้ำและร่องรอยต่างๆที่ยังหลงเหลือไว้ ทีแรกตั้งใจจะเอาของเหลวภายในออก แต่ตอนนี้เขายอมรับว่าเริ่มมีอารมณ์และอยากจะใส่ของเหลวภายในกายซ้ำเข้าไปอีกรอบ
"เร็วๆสิอาร์ท"
อึก...
เสียงกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ของร่างสูง ยิ่งคนน้องเร่งมากเท่าไร ปฏิกิริยาทางร่างกายที่เห็นได้ชัดคือขมิบช่องน้อยเร่งเขา แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ทำอยู่คือผิดมหัน
"อื้ม น้ำเยอะนะ พี่ว่าเราไปเอาออกในห้องน้ำดีกว่า จะได้ไม่เลอะ"
"จริงหรอ งั้นน้องไปรอในห้องน้ำนะ"
"หึหึ ครับเมีย"
ร่างสูงเดินตามคนตัวเล็กเข้าห้องน้ำเงียบๆ ไม่แสดงท่าทีอะไร เพราะถ้าน้องได้ล่วงรู้ความในใจ เกรงว่าเช้าวันนี้จะอดกินเด็ก...
 
เป็นเวลานานพอสมควรที่ทั้งสองกว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้  สองหนุ่มเดินออกมาจากห้องนอนโดยมีคนตัวเล็กใช้กำปั่นทุบที่อกคนพี่ไม่หยุดมือ
"อาร์ท คนนิสียไม่ดี หึย!" ร่างบางสะบัดหน้าหนีแฟนหนุ่ม ตอนแรกก็คิดว่าจะเอาน้ำออกให้ ไหงกลายเป็นใส่น้ำเข้าไปอีก
"มันคือบทลงโทษ ที่เรามายั่วพี่"
"ไม่ได้ยั่วนะ"
"โอเคๆ ไม่ยั่วก็ไม่ยั่ว" นักเขียนหนุ่มรีบห้ามทัพก่อนที่เขาจะโดนคนรักสวนกำปั่นเข้ามาที่ไหล่ไม่รู้จบ
"อ่าว สองหนุ่มจะไปเรียนกันแล้วหรอ" เสียงเรียกจากสาวที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเอยทักทาย
"ครับ" อาร์ทตอบกลับไปแค่ประโยคสั้นๆ ทำให้คนตัวเล็กมองกลับมาเหมือนมีอะไรอยู่ในใจแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ก็รู้ๆกันอยู่

เรื่องที่ต้องพาคนตัวเล็กไปนอนคอนโด

การพาใครสักคนไปนอนที่คอนโดสำหรับอาร์ทไม่ใช่เรื่องยาก แต่นี้เด็กอายุ17 สถานะเมียเด็กของเขา การที่ต้องพาเด็กอายุยังไม่18บริบูรณ์ไปไหนมาไหน เราก็ต้องทำการขออนุญาตผู้ปกครองก่อน

ตอนแรกก็คิดว่าไม่ยากเสียเท่าไร แต่พอมาอยู่หน้างานจริงๆ ใจกลับสั่นแปลกๆ

เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจ้าตัวเล็กมานอนกอดกก

"เอ่อ คุณน้าครับ วันนี้ผมขออนุญาตพาน้ำวนไปนอนที่คอนโดผมได้ไหมครับ" ร่างสูงพยายามใช้น้ำเสียงโทนนุ่มน่าฟัง ถือเป็นกลยุทชักจุงใจผู้ใหญ่ให้รับฟัง
"มีอะไรกันหรือเปล่า ทำไมถึงต้องพาน้องไปนอนคอนโดเชียว"
"น้ำวนทำการบ้านภาษาไทยไม่ได้ วันนี้พี่อาร์ทก็ติดเรียนกลับดึกมาบ้านเราไม่ได้ น้ำเลยจะขอไปค้างที่นู่นครับ" คนตัวเล็กร่ายยาวไม่มีพักหายใจ
"งั้นหรอ มันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอคะลูก"
"จะ จำเป็นครับ วิชานี้คะแนนไม่เคยดี แต่พี่อาร์ทเก่งมาก" เมื่อเห็นคนตัวเล็กแถสีข้างถลอกไปหมด ทำให้ร่างสูงแอบขำไม่ได้ เมื่อก่อนชอบบ่นว่า อาร์ทติดน้ำวนมากไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาเห็นได้ชัดเจนว่าใครติดใครกันแน่
"งั้น แม่อนุญาตก็ได้ แต่มีปัญหาอะไรโทรบอกทันทีนะ แม่ฝากน้องด้วยนะอาร์ท"
"ครับ/ขอบคุณครับแม่" ทั้งสองประสานเสียงบอกคุณแม่คนตัวเล็ก
คุณแม่จะรู้ไหมนะ ว่าคนที่ฝากฝั่งให้ดูแลคือคนร้ายชัดๆ!
 
"ยังเจ็บอยู่ไหมครับ" เมื่อเข้าไปนั้งภายในรถ คนพี่ดึงมือเล็กขึ้นมากุมไว้ ลูบเบาๆด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าระหว่างเดินมาท่าเดินของน้ำวนมีลักษณะแปลกๆ คนทั่วไปอาจจะมาว่าน้องเจ็บขา แต่แฟนอย่างเขานี้แหละที่รู้ดีที่สุด!
"เวลาเดินมาสีๆกันอะ รู้สึกแสบๆคันยังไงไม่รู้"
"ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น"
"ทะลึง!"
"จริงๆ ถ้าน้ำวนรุกพี่บ่อยๆ อาการนี้จะไม่เกิดอีก"
"ไม่รุกแล้ว"
"สรุปว่ายอมเป็นรับแล้ว?"
"อะ อาร์ท จะถามอะไรหนักหนา"
"ฮ่าๆ โอ้ยๆ อย่าตีผัว" เมื่อเห็นคนข้างโวยวาย ทำให้ร่างสูงอดขำท่าทีของน้องไม่ได้ แต่ทุกอย่างมักจบด้วยฝ่ามือของน้ำวน
 
รถสีดำคู่ใจเลี้ยวเข้ามาในคอนโดย่านมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ร่างสูงขับเข้าไปด้วยความชำนาญทาง น้ำวนคนตัวเล็กนั้งติดกระจกตามองออกไปดูภายนอกไม่รู้เบื่อ ตอนนี้เขาตื่นเต้นมากที่จะได้มาคอนโดนักเขียนคนโปรดไหนจะได้เจอเจ้าบลูบลู ใครมันจะลักกี้แฟนได้เท่าน้ำวนขนาดนี้!
เมื่อรถจอดในที่ๆถูกกำหนดไว้ คนพี่จูงมือน้องขึ้นลิฟไปขั้น20 ห้องที่ตนเองอยู่ ส่วนเจ้าตัวเล็กของเขาตื่นเต้นจนแสดงออกมาทางสีหน้าเช่นกัน
"หิวไหม แวะหาไรกินก่อนหรือเปล่า" ก่อนจะขึ้นลิฟ ร่างสูงถามเจ้าตัวเล็กเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เพราะถ้าเขาไปเรียนน่าจะไม่มีเวลากลับมาดูแลได้ทันที
"งั้นพาน้ำวนเข้าเซเว่นก่อน"
"ครับ" พูดจบทั้งคู่เดินจูงมือไปร้านสะดวกซื้อบริเวณคอนโด ดูผิวเผินก็เหมือนพี่น้องพากันซื้อของ
"ทั้งหมด 359 บาทครับ" น้ำวนวางของทุกอย่างที่ตนอยากกินลงเค้าเตอร์ เมื่อคิดเงินเสร็จ พนักงานก็บอกยอดเงินตามปกติ เว้นแต่สายตาหยาดเหยิมที่ถูกส่งมาให้คนตัวเล็ก
ขณะที่เด็กน้อยของเขาก็ไม่ได้ใส่ใจพนักงานเซเว่นเลยแม้แต่น้อย เพราะมัวแต่หาเงินจ่ายค่าขนม ส่วนคนพี่นั้นก็มองพนักงานไม่วางตาเช่นกันน
เมื่อไรจะเลิกมองเมียเขาสักที
"เดี๋ยวพี่จ่ายเอง" ผมยื่นแบงค์พันให้พนักงาน
"หู้ย ทำไมวันนี้พี่อาร์ทป๋าจัง"
"แล้วปกติพี่ไม่เลี้ยงเราหรอ"
"เลี้ยงจนเกรงใจ แฮะๆ" น้ำวนพูดเบาๆ แต่ผมก็พอจะจับใจความได้
"เงินทอนครับ"
"เมียพี่คนเดียวเลี้ยงได้อยู่แล้ว" เมื่อพนักงานยื่นเงินทอนให้ ผมจงใจเน้นคำว่า เมีย ให้เขารู้ว่าเจ้าตัวเล็กเป็นของใคร ทำให้คนบริเวณนั้นได้ยินถึงกับเลิ่กลัก รวมทั้งพนักงานเซเว่นคนนั้น
ป๊าบ!
"พี่อาร์ท" ถ้าไม่มีฝ่ามือปิดท้ายต้องไม่ใช่น้ำวนของจริง ถึงผมจะโดนน้องฟาดเข้าให้ แต่แขนก็ยังตวัดไปโอบเอวอย่างไม่รู้สึกเขินอาย พร้อมหันหลังกลับไปหาพนักงานพูดออกปากอย่างไม่มีเสียงว่า
'อย่า ยุ่ง กับ เมีย กู'
 
เวลาผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งวัน อาร์ทโตะ นักเขียนคนเก่งได้ทำการสร้างอาณาเขตประกาศว่าตนมีแฟนแล้วในเซเว่นบริเวณข้างเขียง ไม่เคยคิดว่ามาก่อนว่าอาร์ทจะเป็นคนหวงแฟนขนาดนี้
ทั้งสองจูงมือเข้าลิฟไปที่ชั้น20อีกครั้ง เมื่อเข้าไปในห้องคอนโด ภายในถูกตบแต่งด้วยวอลเปเปอร์โทนน้ำเงินเทา ทุกอย่างถูกวางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ดวงตาคู่กลมสอดส่องหาสิ่งที่คนพี่เคยพูดเอาไว้ นั้นก็คือ...
"บลูบลู!" คนตัวเล็กวิ่งเข้ากอด บลูบลู เจ้าแมวสายพันธ์ขาวมณีดวงตาสองสีตัวอ้วนตุบ
"บลู วันนี้ฝากดูแม่ครึ่งสันนะ เดี๋ยวพ่อรีบไปเรียนรีบกลับ"  ร่างสูงย่อตัวลงนั้งข้างน้ำวน สั่งเสียให้แมวสุดที่รักดูแลคนรักของตน
"พ่อแม่อะไรเล่า" ในอ้อมแขนกอดเจ้าแมวอ้วนไว้ไม่ห่างกาย นั้งมองคนตัวสูง
"พี่เป็นพ่อ น้ำวนเป็นแม่ไง"
"เพ้อเจ้อ น้องไปคลอดลูกเป็นแมวไว้ตอนไหน"
"น่าจะเร็วๆนี้แหละ"
"พี่อาร์ท!" เจ้าตัวเล็กทำท่าจะง้างมือฟาดอาร์ท แต่โชคดีที่เจ้าตัวรู้ทันหลบได้เสียก่อน
"ฮ่าๆ พี่ไปเรียนก่อนนะครับ มีอะไรโทรหาได้ทันที ขนมพี่เอาไปวางด้านโน่นหมดแล้ว"
"อื้อ รีบกลับมานะครับ" ร่างบางช้อนตามองคนพี่อน่างออดอ้อน ทุกครั้งที่ถูกส่งสายตาแบบนี้มาทีไร เขาไม่สามารถปฏิเสธความต้องการขคนน้องได้สักครั้ง แต่นี้คือเรื่องของอนาคต เขาต้องรีบเรียนให้จบเพื่อปากและท้องของเมียและลูก(?)
"อาร์ท~" น้ำวนถลาเข้ามาหาหนุ่มนักเขียน เขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อให้ตัวเองอยู่ในระดับเดียวกับคนรัก ก่อนจะประกบริมฝีปากของตนเองกับร่างสูง
เคยพูดกันไว้ว่าถ้ายิ่งรักหรือยิ่งคิดถึงให้บอกมันออกมาผ่านจูบ ซึ่งน้ำวนก็แสดงออกมาได้น่าพอใจ จนคนพี่อยากจะทิ้งการเรียนมานอนกกคนรักใจแทบขาด
ริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกจากกันช้าๆ ดวงตาทั้งสองประสานกันจนต่างฝ่ายต่างเข้าใจถึงความในใจ
ไม่อยากจากกันเลย
"พี่ต้องไปแล้ว เฝ้าห้องดีๆนะครับ" คนตัวโตลูบหัวเจ้าตัวเล็กของเาเบาๆ
"ตั้งใจเรียนนะครับ"
คนพี่เปิดประตูห้องเดินออกไปอย่างอ้อยอิ่ง กว่าจะก้าวออกได้แต่ละที ต้ิงหันมามองน้อง จนคนถูกมองรู้สึกล้าใจ
ต่างคนต่างติดกันแฃะกันแบบนี้
คิดภาพตอนเลิกกันไม่ออกเลย
ผมกออบลูบลูเตรียมจะเข้าไปนอนกินขนมให้สบายใจแต่แล้ว...

ปังๆ!

เสียงทุบประตูทำให้ผมต้องหันหลังกลับไปดูอีกครั้ง ในใจก็คิดว่าพี่อาร์ทอาจจะลืมของ ทำให้ผมเผลอเปิดประตูออกอย่างไม่คิดอะไร

"พี่ลืม.."
"อาร์ทอยู่ไหน"
หญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดมหาวิทยาเดียวกับพี่อาร์ท ยืนกอดอกถามหาคนรักของผม
"ไม่อยู่ครับ แล้วคุณเป็นใคร"
"แฟนอาร์ทไง หลบไปนะ" ใช่ว่าจะสู้แรงผู้หญิงไม่ได้ แต่ผมไม่มีแรงจะสู้กับเขามากกว่า

ไหนบอกว่ารักกัน แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
 
-------------------------------



ออฟไลน์ mugglej

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
writer 15 : น้องอายุ 17 เอง

“อาร์ท อาร์ท นี่แป้งหมี่เอง” หญิงสาวแทนตัวเองว่าแป้งหมี่ เดินเข้ามาในห้องอย่างชำนาญทางและร้องเรียกหาเจ้าของห้อง

แฟนพี่อาร์ทหรอ

...แล้วเราล่ะ

   ผมยืนกอดเจ้าบลูบลูมองคนที่พึ่งเข้ามาเยือน เดินวนหาคนรักของตนเอง และของเธอ
“นี่นาย เห็นอาร์ทไหม” เธอหันกับมาถาม
“ไปเรียนครับ”
“หรอ แล้วนายเป็นใคร มาอยู่ห้องอาร์ทได้ไง” เธอเริ่มมองผมหัวจรดเท้า กอดอกซักประวัติผม
“เอ่อ เป็นรุ่นน้องพี่อาร์ทครับ” ไม่รู้จะบอกอย่างไง แต่ผมเลือกตอบความจริงก่อนหน้านี้ออกไป
“รุ่นน้อง ทำไมมาอยู่ห้องอาร์ทได้ล่ะ ปกติอาร์ทไม่ให้ใครเข้าห้องง่ายๆนะ” หญิงสาวยืนจ้องหน้ายิงคำถามมาทางผมไม่หยุด
“มา...ดูบลูบลูครับ น้องไม่ค่อยสบาย” ผมยืนกอดเจ้าบลูแน่น
“หรอ ถ้าอาร์ทมาฝากบอกด้วยว่าแฟนมาหา ให้รีบโทรกลับภายในเย็นนี้ ถ้ายังอยากกลับมาเป็นเหมือนเดิม” พี่สาวตรงหน้าฝากข้อความถึงพี่อาร์ท ก่อนจะเดินออกจากห้องปล่อยทิ้งความอึดอัดใจไว้ที่ผมเพียงคนเดียว

แม้เธอจะเดินออกจากห้องไปแล้ว แต่ความขุ่นเคืองใจยังไม่จางหายไป ผมยืนกอดเจ้าบลูบลูอยู่ตรงที่เดิม ย้อนนึกถึงคำพูดหญิงสาวที่แทนตนเองว่าเป็นแฟนพี่อาร์ท แล้วไหนบอกว่า

เลิกกันแล้ว

แล้วตอนนี้ผทเป็นอะไรของเขา

หรือกำลังปกปิดเรื่องของเราอยู่

ยิ่งคิดหาเหตุผลร้อยแปดที่ผมไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ น้ำใสๆรอบดวงตาก็ค่อยๆลื้อขึ้นมา ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง

“เมี้ยว~”
“อ่ะ ขะ ขอโทษนะบลู” ผมยกแขนข้างหนึ่งปาดน้ำตาของตัวเองเพื่อไม่ให้ไหลไปโดนเจ้าบลูอีก

ความเศร้าที่มีอยู่ในหัวใจทำให้ผมลืมไปว่ามีสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งตัว ที่พี่อาร์ทแทนตัวว่า ลูก อยู่ในอ้อมอกของผมอยู่

“เมี้ยว แผล่บๆ” เจ้าก้อนขนในอ้อมแขน ตะกายตัวขึ้นมาอยู่ในระดับหน้าผม ใช้ลิ้นเลียน้ำตาบนแก้มที่กำลังไหลลงมา เหมือนมันกำลังปลอบประโลมให้ผมคลายความเสียใจ
“อย่า เลียนะบลู” ผมพยายามดันเจ้าอ้วนบลูกให้ออกห่าง แต่ก็ทำไมไม่สำเร็จ เพราะความอ่อนแอในใจผมมันส่งผมให้ร่างกายไม่สามารถขยับได้

เพราะร่างกาย...ต้องการกำลังใจ


“ฮึก… พ่อบลูโกหก นะ ไหนบอกรักน้ำวนไง” ไม่อาจจะทนกับความเสียใจได้ ผมกอดบลูบบูแน่น ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร

พี่อาร์ทคนโกหก



กว่าขาทั้งสองข้างจะก้าวออกมาจากคอนโดที่ตอนนี้มีคนรักตัวน้อยอยู่กับเจ้าแมวอ้วนในห้อง มันเป็นอะไรที่แสนจะยากลำบาก

นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ตื่นเต้นกับความรักขนาดนี้

“เฮ้ย หายหน้าหายตาเลยนะมึง” เสียงเรียกของ เอกเพื่อนร่วมคลาส ที่เมื่อก่อนเจอกันบ่อยมากกว่าแฟนสาวเนื่องจากต้องทำงานกลุ่มร่วมกันทุกวิชา เรียกคนที่พึ่งเดินออกจากลิฟ
“ว่าไง” ผมทักมันสั้นๆ
“ก็ถามอยู่ว่าหายไปไหน ตอบมาสิวะ”
“อ่อ แฟนงอแงก็เลยต้องรีบกลับ”
“คืนดีกับแป้งหมี่แล้วหรอวะ” คำถามของเอกทำให้ผมต้องชะงัก เพราะทุกคนเกือบทั้งมหาลัยทราบดีว่าผมเป็นแฟนกับแป้งหมี่ และพึ่งเลิกกันไปเมื่อเกือบสองเดือนที่แล้ว ผมเองก็ไม่ได้เปิดตัวแฟนคนล่าสุด
“ไม่ใช่ แฟนใหม่น่ะ”
“ห๊าา!! มึงมีแฟนใหม่แล้วหรอ ทำไมไม่อัพเดทเพื่อนเลยวะ” เอกตาโตเสียงดันขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่า คุณเพื่อนอาร์ทของเขามีแฟนใหม่ ทั้งที่เป็นคนหล่อหน้าตาดี รักครอบครัว ทะเลาะกับแป้งหมี่กี่ครั้งกี่รอบก็กลับมาคืนดีกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบทุกครั้ง แต่รอบนี้เจ้าตัวกลับบอกว่าที่หายหน้าหายตาไปเพราะ ไปดูแลแฟนใหม่ เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายจริงๆ
“เงียบๆดิวะ จะเสียงดังทำไม” ผมยกชี้ทาบปากตัวเองเป็นสัญญาณให้ไอ้เพื่อนร่วมชะตากรรมเงียบเสียงลง
“ใครวะ แฟนใหม่ แล้วแป้งหมี่นี้เลิกจริงหรอวะ เป็นไปไม่ได้ ไอ้หล่อรักครอบครัวแบบมึงมีแฟนใหม่จริงๆดิ แม่สาวน้อยคนนั้นเป็นใคร เล่าให้หมด!”
“มึงใจเย็นๆก่อน เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังหลังจบคาบนี้” ผมยกมือห้ามปรามเพื่อนให้ถามคำถามแล้วดันหลังมันเข้าห้องเรียน


กว่าจะจบคาบบรรยายสามชั่วโมงเต็ม เล่นเอาพลังงานในร่างกายเกือบหมด แต่เมื่อคิดถึงเจ้าตัวเล็กที่นอนรออยู่ที่ห้องขาทั้งสองข้างก็ทำท่าจะออกตัวกลับห้องทันทีถ้าไม่โดนใครร้องห้ามไว้เสียก่อน

“ไอ้อาร์ท หยุดเลย อย่าลืมที่สัญญากันไว้เมื่อเช้า!” เอกตะโกนเรียกผมไว้ทำให้ต้องหยุดหันไปมอง

เฮ้ออ เสียเวลาชิบหาย

“เออ อยากรู้เรื่องอะไร กูรีบ”
“รีบไปไหนวะ ห้องมึงไม่หายหรอก”
“ห้องไม่หายแต่เมียกูรออยู่”
“ห่ะ เมีย??” ผมใช้เสียงที่ไม่ดังมาก แต่ไอ้เพื่อนตัวดีกลับได้ยินชัดทุกคำพูด
“เออ เมียกูนอนรออยู่ที่ห้อง ให้กูกลับไปนอนกอดของๆกูได้หรือยัง”
“...” คนได้ยินคำว่าเมียเต็มปากเต็มคำของอาร์ทถึงกับไปต่อไม่ถูก ก็ไอ้คำพวกนี้มันเคยพูดซะที่ไหน
“ถ้าไม่มีอะไรกูไปละ”
“เดี๋ยวๆ กูไปห้องมึงด้วย”
“ไปทำไม” มือเอกดึงแขนผมไว้
“กูอยากเห็นหน้าเมียมึง”
“...”
“จะปิดเพื่อนหรอวะ” ใจจริงก็ไม่คิดจะปิด แต่กลัวคนตัวเล็กที่ห้องจะตกใจซะมากกว่า
"เปล่า"
"เออ งั้นกูไปด้วย" เอกยกแขนขึ้นกอดคออาร์ทพากันเดินกลับคอนโด

ระหว่างทางผมเล่าเรื่องระหว่างตัวเองกับน้ำวนให้มันฟัง ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก และได้คบกันมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนเรื่องแป้งหมี่ผมก็ระบายความในใจไปเกือบหมด เอกรู้ดีเรื่องที่อาร์ทเขียนนิยายแนวชายรักชาย ตัวเอกก็ไม่คิดว่าแปลกตรงไหน เพราะเพื่อนสมัยม.ปลายก็เขียนกันเยอะ และเขาก็รู้เรื่องที่แป้งหมี่มีปากเสียงกับอาร์ทเรื่องการเขียนนิยายมาโดยตลอด ผมเล่าว่าแรกๆก็ยังทำใจไม่ค่อยได้เพราะผมก็คบกับเธอมานาน แต่เมื่อความเห็นเราไม่ตรงกัน ท้ายที่สุดก็ต้องจบกันไป แล้วเริ่มต้นใหม่ในทางของตัวเอง มันก็เห็นด้วยกับผม และเอาใจช่วยเรื่องระหว่างผมกับน้ำวนให้มันราบลื่นไปด้วยดี ไม่ค้องมีเรื่องกวนใจแบบตอนที่คบกับแป้งหมี่

"น้ำวนนี่อยู่มหาลัยเราหรอวะ ไม่คุ้นชื่อเลย" ระหว่างทางเข้าคอนโดเอกยังคงสรรหาคำถามไม่หยุดปาก
"ม.6"
"ม.6 มหาลัย6 มีด้ว… เดี๋ยวๆน้ำวนอยู่ม.6??"
"เออ"
"18ยังวะ"
"17 "
"มึงกินเด็กหรอวะไอ้อาร์ท ระวังติดคุกนะมึง"
"เออ อีกไม่กี่เดือนก็18แล้ว"
"มึงมันร้าย กูอยากเห็นหน้าน้องน้ำวนจัง" ผมไม่ได้ตอบกลับอะเพราะกำลังไขกุญแจเข้าห้องอยู่

เมื่อห้องเปิดออก ภายในห้องกลับมืด ไม่มีเแสงไฟสอดส่องออกมา ผมมองไปที่เค้าเตอร์ที่วางขนมไว้ให้คนตัวเล็ก ทุกอย่างยังวางไว้อยู่ที่เดิม

"ทำไมห้องเงียบจังวะ "
"ฮึก.."

จู่ๆก็มีเสียงเหมือนคนกำลังสะอื้นร้องไห้อยู่ ผมเปฺิดไฟในห้องแล้วกวาดตามองหาต้นเสียง ก่อนจะพบกับเจ้าตัวเล็กนั้งกอดเข่าอยู่มุมห้อง ข้างๆมีเจ้าแมวอ้วนนอนคดตัวอยู่

"น้ำวน…" ภาพที่ได้เห็นทำให้ใจตกหวบลงไปถึงเท้า ผมรีบเดินเข้าไปกอดคนที่กำลังนั้งอยู่

"อะ อาร์ท ฮึก..  ไหนบอกรักน้ำวนไง ทำไม ฮืออ" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากสวยรีบเอ่ยสวนขึ้นทันที ทำให้คนพี่ถึงกับทำอะไรไม่ถูก

ใช่ เขารักน้ำวน แล้วทำไมน้องต้องร้องไห้

"อาร์ทรักน้ำวน รักแค่คนเดียว" ผมลูบหลังให้เจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดสงบลง
"นี่ น้องน้ำวนหรอครับ" บรรยายเต็มไปด้วยความตึงเครียดและงุนงงแต่กลับถูกทำลายด้วยคำถามของคนพึ่งมาใหม่

"ฮึก." เมื่อเห็นว่าภายในห้องไม่ได้มีแค่สองคน คนตัวเล็กมุดหน้าเข้าหาแผ่นอกคนพี่และไม่ตอบกลับอะไร

"เออ" ผมหันกลับไปตอบมันแล้วหันกลับมาใช้จมูกสูดดมกลิ่นบนหัวของคนในอ้อมกอด
"น้ำวนเป็นอะไร บอกพี่ได้ไหมครับ"
"พี่อาร์ท มีแฟนแล้ว" คนตัวเล็กพูดอู้อี้ในลำคอ แต่ก็จับใจความได้ไม่ยาก
"ใช่ พี่มีแฟนแล้ว ก็น้ำวนไง"
"ไม่ ผู้หญิง ฮึก ตัวเล็กๆ สวยๆ" น้ำวนเงยหน้าขึ้นมาพยายามบอกความจริงที่ตัวเองได้เห็นแข่งกับเสียงสะอื้นในร่างกาย
"ทำไมถึงบอกว่าเขาเป็นแฟนพี่ครับ"
"เขามาหาที่ ห้อง ละ ฮึก แล้วบอกว่าเป็น ฟ..แฟนพี่ ให้ติดต่อกลับไป ถ้าอยาก กลับไปเป็นเหมือนเดิม" คนตัวเล็กพยายามอธิบายให้ผมฟัง จากที่ฟังมาเดาไม่ยากว่าต้องเป็นแป้งหมี่
"ที่ไหน ตอนไหนครับ"
"ที่ห้อง ตอนพี่ออกไปแปปนึง"
"โอ้วววว แฟนเก่าพบแฟนใหม่" เมื่อน้องพูดจบ ไอ้ธาตุอากาศด้านหลังก็รีบแทรกขึ้น
"แล้วน้ำวนได้คุยกับเขาไหมครับ" 
"คุย เขาถามน้องเป็นใคร ก็บอกว่าเป็น...รุ่นน้อง" เมื่อพูดถึงคำว่ารุ่นน้ำ น้ำตาก็เหมือนจะลื้อขึ้นมาอีกครั้ง

ไม่อยากเป็นรุ่นน้องเสียหน่อย

"โอ๋ๆ ถ้าวันหลังใครถามแบบนี้อีกต้องพูดออกไปนะว่าเป็นแฟนอาร์ท" ผมกดหัวน้องลงกับบ่าของตัวเองแล้วลูบหัวเบาๆ
"แล้วเขาเป็นแฟนอาร์ทหรอ" คนรักตัวเล็กค่อยๆดันหัวตัวเองขึ้นเพื่อสบตากับร่างสูงหาคำตอบที่อยากรู้มาเกือบทั้งวัน
"แฟนเก่าครับ"
"จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม"
"กลับ"
"..." คำตอบสั้นทำให้เจ้าตัวเล็กใจสั่นไม่น้อย...จะกลับไปสินะ
"กลับไปทำไม เมียอาร์ทอยู่นี้"
"อาร์ท!!!  ฮือออ" ใจของน้องที่วูบลงไปในตอนแรก กลับมาโล่งขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ฟังประโยคเต็มๆ อยากโกรธคนขี้แกล้ง แต่ตอนนี้มันรักมากกว่าต้องไปโกรธไปงอนเสียอีก
"โอ๋ พี่รักน้ำวนแค่คนเดียวนะครับ"
"แหวะ" คนที่ยืนมองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นได้แต่ยืนโก่งคออยู่คนเดียว เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปี1 พฤติกรรมโอ๋แฟนเด็กแบบนี้ เป็นครั้งที่พึ่งเคยเห็นจริงๆ
"น้ำวนก็รักพี่อาร์ทคนเดียว" เด็กน้อยช้อนตามองรุ่นพี่คนรักด้วยดวงตาสั่นไหวที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา แววตายั่วยวนที่ผมเห็นกี่ครั้งก็ไม่อาจจะอดใจไหว

ใบหน้าคนพี่โน้มลงจนทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน เรียวลิ้นหนาสอดเข้าไปในโพรงปากอุ่น เพื่อลิ้มรสชาดที่เขาโหยหามาเกือบทั้งวัน คนตัวเล็กที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเผลออ้าปากออกทำให้ลิ้นของทั้งคู่สัมผัสกันมากขึ้น ยิ่งเวลาผ่านไป ความเร้าร้อนภายในโพรงปากของทั้งคู่ยิ่งทวีคูณขึ้น

ร่างสูงดันคนตัวเล็กติดกำแพง มือล่วงเข้าไปในสาบเสื้อนักเรียนเพื่อหาไออุ่นจากเด็กตรงหน้า จนลืมไปว่าด้านหลังมีใครบางคนกำลังมองอยู่

"ไอ้อาร์ท กูดูอยู่!"
"อ่ะ อาร์ท เพื่อนพี่อยู่ด้านหลัง" เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่หลุดออกจากกัน คนน้องพยายามบอกให้หยุดการกระทำราคะนี้

"ชิส์ มึงออกไปเลย" ใบหน้าที่กำลังซุกไซร้อยู่แถวยริเวณต้นคอคนรัก เงยขึ้นอย่างหัวเสีย เมื่อกิจกรรมเข้าจังหวะของพวกเขาต้องจบลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่า มีบุคคลที่สามอยู่ในห้อง

ปกติอาร์ทไม่ใช่คนแบบนี้ เคยพูดไปแล้วว่ามันเป็นหนุ่มหล่อรักครอบครัว เรื่องติดเรทเพื่อนแบบเขาไม่เคยเห็น แค่แป้งหมี่ทำท่าจะหอมแก้ม เจ้าตัวยังเบรคไว้และให้เหตุผลว่ามันไม่งาม ปกติของมันคือต้องหยุดที่ตัวมันหรือแฟน ไม่ใช่มาไล่เพื่อนอย่างเขาออกไป เชื่อแล้วว่าหลงเมียจริงๆ

"อย่าไล่พี่เขาสิ อาร์ทต่างหากต้องหยุด เมื่อเช้ายังไม่พออีกหรือไง"
"จะพอได้ไง น้ำวนตัวหอม อยากดมอีก" ไม่ว่าเปล่าคนตัวสูงทำท่าโน้มลงมาจะซุกไซร้ที่ต้นคอต่อ
"พะ พอแล้ว น้องง่วง พาไปนอนหน่อยนะครับ" คนตัวเล็กยกแขนทั้งสองอ้าออกหวังให้รุ่นพี่พาเข้าห้องนอน
"โอเคครับ" ว่าจบร่างสูงอุ้มคนรักเข้าห้องนอนอย่างว่าง่าย เป็นภาพที่บุคคลที่สามอย่างเอกเห็นแล้วอยากจะคลื้นไส้ขึ้นมาเสียอย่างงั้น

เกือบได้ดูหนังสดละกู


ภายในห้องนอน ร่างสูงของคนพี่กำลังพยายามจับเจ้าตัวเล็กแก้ผ้าออกเพื่อเปลี่ยนชุดนักเรียนเป็นชุดที่สบายตัวขึ้น เนื่องจากเสื้อผ้าของอาร์ทมีขนาดใหญ่ไป ทำให้น้ำวนใส่ได้เพียงแค่เสื้อเชิ้ดตัวเดียว ส่วนกางเกงนั้นหลวมเกินไป

"ห้ามใส่กางเกงใน" ผมเอ่ยบอกเจ้าตัวเล็กที่นั้งหน้าบูดอยู่บนเตียง
"ทำไม น้องใส่กางเกงพี่อาร์ทไม่ได้นะ"
"จะใส่ทำไม อากาศมันไม่ถ่ายเท เดี๋ยวก็ไม่หายเจ็บรูหรอก"
"ทะลึ่ง!"
"ไม่ พี่จริงจัง เมียห้ามใส่นะครับ ถ้าไม่หายในเร็วๆนี้พี่ขาดใจตายแน่" เขาพูดจริงๆ ถ้าน้องใส่ชั้นในทันจะไม่สบายตัว นอนบิดไปบิดมา ช่องทางหลังมันเสียดสีกันเมื่อไรจะหายสักที
"กะ ก็ได้"
"ดีมากเด็กดี พี่ขอไปคุยกับเพื่อนก่อนนะครับ"

จุ้บ

"รีบมานะ น้องรอนอนกอดด้วย" เมื่อถูกคนตัวโตจุ้บที่เหม่งหนึ่งที ก็รีบอ้อนให้รีบกลับมานอนกอดตัวเองไวๆ
"ครับผม"


"นี่ใช่คุณอาร์ทโตะตัวจริงหรือเปล่าครับ" เมื่อออกมาจากห้อง ชายตัวสูงไล่เลี่ยกับเขาที่นั้งอยู่บนโซฟา เอ่ยแซวเพื่อนคลั่งเมีย
"เออ กูเอง"
"กูตกใจมากที่มึงกลายเป็นไอ้แก่หื่นกาม"
"กูยังไม่แก่"
"ฮ่าๆ เป็นครั้งแรกที่เห็นมึงอุ้มใครเข้าห้องนะ" เป็นครั้งแรกจริงๆที่เห็น แม้แต่แป้งหมี่ เขายังไม่เคยเห็นเลย
"น้องเจ็บ ก็เลยต้องอุ้ม"
"เจ็บอะไรวะ"
"เจ็บ…" ไม่รู้จะตอบเพื่อนไปว่าอะไรดี เพราะเขาก็มือใหม่สุดๆกับเรื่องแบบนี้ และไม่รู้ว่าเพื่อนจะเข้าใจไหม
"อย่าบอกนะว่ามึง กินแล้ว"
"...เออ"
"ไอ้เหี้ยเอ้ย แค่เป็นเด็กผู้ชายอายุ17 กูก็ตกใจมากพอแล้ว นี้มึงกินน้เขาไปแล้วอีก เฮ่ออออ" มันถอนหายใจลากยาวออกมา
"กูพยายามแล้ว แต่ใจไม่แกร่งพอ"
"..."
"กับเด็กคนนี้ มันเหนือความคาดหมายที่กูจะควบคุมได้"
"มึงรักน้องเขาจริงๆ หรือแค่อยากลอง"
"ตอนแรกกูแค่อยากลองคบดู"
"..."
"อยากลองเริ่มต้นกับคนที่รักกูจริงๆ"
"แล้วตอนนี้ละ"
"ยิ่งเวลาผ่านไป กูยิ่งหลงรักน้ำวน เป็นเด็กที่กูอยู่ด้วยแล้วโคตรมีความสุข ไม่ห้ามกูเรื่องเขียนนิยาย แถมสนับสนุนอีก"
"ทั้งที่น้องมันเป็นผู้ชายนะ"
"เออ กูไม่เคยสนใจเรื่องเพศอยู่แล้ว ถ้ารักก็คือรัก"
"โว้ย หล่อจังวะเพื่อนกู ฮ่าๆ" เอกเขยิบเข้ามาใกล้อาร์ทแล้วตบไหล่แบบที่ชอบทำประจำ โดยทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในสายตาของเด็กน้อยอายุ17 ที่ทั้งคู่กำลังพูดถึงอยู่

"น้ำวนก็รักพี่นะ คิกๆ"




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2019 22:49:05 โดย mugglej »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
รออ่านต่อค่ะ
 :3123:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด