[เรื่องสั้น] สุดปลายขอบฟ้า บทที่ 2 - 28/04/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] สุดปลายขอบฟ้า บทที่ 2 - 28/04/62  (อ่าน 7163 ครั้ง)

ออฟไลน์ Miss Midnight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

สารบัญ
บทนำ
บทที่ 1
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2019 14:41:01 โดย Thei12 »

ออฟไลน์ Miss Midnight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
บทนำ


ภาพในกระจกสะท้อนร่างโปร่งบางของเด็กหนุ่มวัยรุ่นผิวขาวจัด ผมธรรมชาติหยักศกเล็กน้อยเเละเป็นสีน้ำตาลเข้มรับกับแก้วตากลมทั้งคู่ มันคงสวยซึ้งกว่านี้มากหากปราศจากเเววเศร้าสร้อยที่ฉายออกมา ริมฝีปากรูปกระจับมีร่องรอยฟกช้ำเล็กน้อย หากภายในกลับคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด


ตามเนื้อตัวของ ‘ภัทร’ เป็นรอยเขียวช้ำหลายแห่ง และมันก็คงจะกลายเป็นสีเข้มขึ้นจนไม่น่ามองในอีกหลายวันถัดไป เด็กหนุ่มไม่ได้ใส่ใจที่จะหยิบหลอดยาซึ่งมีไว้สำหรับทาแผลฟกช้ำภายนอกเพียงแต่เปิดก๊อกอ่างล้างมือ ใช้น้ำชะรอยเเผลถลอกเลือดซิบให้สะอาดหน่อย


ร่างกายของเขามีแต่รอยมือเเละรอยฟันหลายเเห่ง แน่นอนว่ามันเจ็บ หากไม่น่าเชื่อว่าภายในใจของภัทรกลับชอกช้ำได้มากกว่า


...เจ็บนิดเดียว ไม่เป็นไร…


หยาดน้ำตาไหลทะลักออกมาคล้ายทำนบกั้นเขื่อนถูกทุบจนแหลกลาญ นี่ไม่ใช่หนแรกที่ภัทรร้องไห้ ทุกครั้งที่น้ำตาไหลหลั่งออกมา เด็กหนุ่มคิดว่ามันคงมากเพียงพอแล้ว


น่าประหลาดที่มันยิ่งไหลออกมาเยอะและกินเวลายาวนานขึ้นในทุกครั้ง


เขาสูดหายใจลึกนึกมหัศจรรย์ใจกับความทนทายาดของร่างกายตัวเอง เขาสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระออกไปแล้วใช้สองมือวักน้ำจากก๊อกล้างหน้าล้างตาลวก ๆ นาฬิกาข้อมือที่ยังไม่ถูกถอดบอกเวลาว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงฟ้าจะเริ่มสาง


เขามีความหวังกับวันใหม่เสมอ


เด็กหนุ่มปลดเสื้อนักศึกษาที่เลอะเทอะไปด้วยคราบฝุ่นและคราบเลือด เขานึกจะทิ้งมันลงถังขยะแต่เเล้วก็เปลี่ยนใจเพราะชุดนักศึกษาชุดนี้นั้นมาจากร้านขึ้นห้าง คุณภาพอย่างที่คนมีสตางค์ใส่กัน


แรงจากน้ำฝักบัวสาดกระทบแผลตลอดร่างกาย น่าประหลาดที่ภัทรไม่รู้สึกเจ็บปวด คงจะเป็นเพราะห้วงคำนึงของเขาจดจ่ออยู่กับใครอีกคนที่ไล่เขามาอาบน้ำ


ใครอีกคนที่เพิ่งจะปิดประตูห้องออกไปเพราะอารมณ์ฉุนเฉียว


 ภัทรเปลี่ยนชุด โยนชุดนักศึกษาเเช่ไว้กับน้ำยาขจัดคราบ เอาไว้เขาจัดการเก็บกวาดห้องนี้เสร็จ น่าจะได้เวลาที่จะเอามันไปโยนใส่เครื่องซักผ้าพอดี


เด็กหนุ่มเดินขโยกออกมาจากห้องน้ำ ไม่ได้สนใจข้อเทาบวมปูดของตัวเองเท่าสภาพภายในคอนโดพื้นที่กะทัดรัดซึ่งระเกะระกะไปด้วยเศษขยะ ภัทรหยิบถุงพลาสติกไม่ได้ใช้งานใกล้มือมากอบเอากระป๋องเบียร์ เเละถุงขนมว่างเปล่าใส่ลงไป


เขาไม่ชอบกลิ่นบุหรี่เท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องทำตัวให้ชิน มือเรียวคว้าเอาที่เขี่ยบุหรี่เทเศษก้นกรองใส่ถุง พร้อมทั้งเศษกระดาษและเศษไม้บาร์ซ่าสำหรับใช้ในงานตัดโมเดลที่ถูกเขี่ยไว้ข้างเเผ่นรองตัดก็ถูกกวาดทิ้งด้วย


“โอ๊ย”


ภัทรถอนใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนซึ่งอยู่ร่วมห้องเดียวกันลืมว่าควรจะหักเศษคัทเตอร์แยกใส่ไว้ในขวดน้ำที่เขาเตรียมไว้ให้ เศษคัทเตอร์แหลมคมอันน้อยจึงซ่อนตัวอยู่ในกองเศษไม้ เพียงเอามือรูดก็กินเข้าเนื้อ


เขาไม่ได้โทษอีกฝ่ายเพียงคนเดียว ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตัวเขาเองไม่รู้จักเรียนรู้ที่จะระวัง ถูกบาดมาตั้งกี่หนต่อกี่หนก็ยังไม่หลาบจำ


ภัทรโกยเศษขยะทั้งหมดลงถุง มัดเอาไว้เตรียมจะเอาไปทิ้ง เขาเปิดน้ำชะเเผลที่ปลายนิ้วอีกหนก่อนจะเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำเเผล มือเรียวราออกจากผ้าก็อซสีขาวสะอาด

เขานิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจเก็บกล่องใส่อุปกรณ์ทำเเผลไว้ที่เดิม เลือกที่จะไปหยิบเอากระดาษทิชชู่มาพันรอบนิ้ว ใช้เทปกระดาษพันปิดมันเอาไว้อย่างที่ใครอีกคนเคยทำให้ตอนที่ห้องนี้ยังไม่มีแม้กระทั่งเบตาดีน


‘ปิดชั่วคราวไปก่อน ไว้งานเสร็จเดี๋ยวพี่จะไปซื้อยาที่เซเว่นมาใส่ให้’


นิ้วชี้ปูดโปนเพราะการทำเเผลที่ไม่ถูกสุขลักษณะนักทำให้ภัทรอุ่นใจ อย่างน้อยก็ยังเคยมีเรื่องดีเกิดขึ้นกับเขา สัมผัสอบอุ่นจากมือรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย เรื่อยเลยมาจนเป็นพี่เลี้ยงในที่ฝึกงานยังคงชัดเจนในความรู้สึก


เเสงสีทองแต่งเเต้มขอบฟ้าด้วยฝีมือของธรรมชาติ คอนโดที่ภัทรอยู่ไม่ได้อยู่ในชั้นสูงเสียดฟ้าพอจะมองเห็นทิวทัศน์กว้างไกล เขาเพียงแต่เห็นแสงอาทิตย์ค่อย ๆ ฉาบเคลือบผืนฟ้าเปํนสัญญาณว่าวันใหม่กำลังมาเยือน


 น่าเสียดายที่ภัทรน่าจะได้ยืนมองมันนานกว่านี้อีกสักหน่อย หากภาพในครรลองสายตากลับค่อย ๆ มืดดำราวกับมีใครมาปิดสวิตช์


ใครบางคนเคยพูดไว้ว่าชีวิตในแต่ละวันนั้นไม่ต่างอะไรกับการพนันในกงล้อโชคชะตา


วันนี้ภัทรอาจจะโชคร้าย แต่วันข้างหน้า ภัทรจะมีโชคดี


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ Poopookung

  • จงจำไว้เสมอว่า ต้องสู้อย่าท้อถอย ยังมีคนอีกหลายคนรอดูเราอยู่ O(∩_∩)O
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนจบไม่เศร้าใช่มั้ยคะ อยากให้น้องโชคดีอย่างที่หวัง  :ling1:

ออฟไลน์ Miss Midnight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
บทที่ 1
   




ตอนนี้คงเป็นช่วงที่นักศึกษาวัยยี่สิบสองปีตื่นเต้นที่สุดวันหนึ่ง พวกเขากำลังจะได้เริ่มต้นจำลองชีวิตการทำงานนอกรั้วมหาวิทยาลัย นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมชั้นปีสี่แต่ละคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานในบริษัทหรือหน่วยงานที่ตัวเองประสงค์


ภัทรเองก็เป็นหนึ่งในคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกฝึกงานในบริษัทเอกชน เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาเดินออกจากลิฟต์บนตึกสูงอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ครั้งนี้เขามาคนเดียว ไม่มีเพื่อนที่มหาวิทยาลัยมาด้วยเลยสักคน


“เอ้า เด็กใหม่มา ใครเป็นพี่เลี้ยงมารับขวัญน้องมันหน่อยเว้ย” ชายวัยสามสิบที่เดินผ่านมามองภัทรปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นนักศึกษาฝึกงาน เสียงห้าวตะโกนดังสนั่นเรียกพนักงานที่กระจุกตัวอยู่ในโซนออฟฟิศมาดู


“พี่เลี้ยงไม่อยู่ แต่กูเนี่ยอยู่” ชายวัยห้าสิบกลาง ๆ เดินออกมาจากโซนนั้น ประโยคมึงมาพาโวยทำเอาเหล่าสถาปนิกหดหัวกันเป็นเเถบ


“สวัสดีครับ ผมมีนัดฝึกงานวันเเรก มีเอกสารจากทางมหาวิทยาลัยมาให้ด้วยครับ” ภัทรยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม ในขณะที่อีกคนรับไหว้ก่อนจะผายมือเข้าไปยังออฟฟิศ


“มา เข้ามาก่อน วันนี้ยังไม่มีโต๊ะให้นะ”


ภัทรจำได้ว่าชายคนนี้เป็นเจ้าของบริษัท เมื่อวันที่เขามาสัมภาษณ์ก็เป็นคุณอาคนนี้ที่ใจดีรับเขาเข้ามาฝึกงานโดยไม่ถามคำถามประลองปัญญาให้มากความ


เขาเพียงแต่เปิดดูพอร์ตที่ภัทรพกมาด้วย ส่งต่อไปให้รุ่นพี่สถาปนิกที่อยู่อีกห้อง ไม่ถึงห้านาทีภัทรก็ได้รับคำยืนยันว่าทางบริษัทจะรับเขาให้เป็นนักศึกษาฝึกงาน


ภัทรถูกเหวี่ยงมาไว้มุมหนึ่งของห้องทำงาน ได้ยินเเว่ว ๆ ว่าวันนี้จะให้เขาร่วมใช้โต๊ะกับพี่เลี้ยงที่จะคอยดูเเลภัทรตลอดสองเดือนที่จะอยู่ที่นี่ เด็กหนุ่มชำเลืองมองข้าวของบนโต๊ะ มันไม่ได้มีอะไรมากนัก มีคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่หน้าจอความละเอียดสูงกำลังเรนเดอร์ภาพ


มุมอีกครึ่งหนึ่งของโต๊ะทำงานมีโมเดลที่ยังต่อค้างไว้ กาวหลอดเล็กไม่ได้ถูกปิดฝาเพราะความไม่ใส่ใจหรือความเร่งรีบคนเพิ่งมาใหม่ก็ไม่อาจบอกได้ มือเรียวถือวิสาสะเอื้อมไปปิดหลอดด้วยกลัวว่ามันจะเเห้งจนต้องทิ้ง


“ไง มาวันแรกก็ซนเลย?”


ภัทรสัมผัสได้ว่ามีเเรงกดจากการเท้าเเขนบนพนักพิงเก้าอี้ เขาปล่อยเจ้าหลอดกาวไว้ที่เดิม หดมือกลับเข้ามาราวกับจับถูกของร้อน เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเงาซึ่งทอดทับเเสดงไฟอยู่เหนือศีรษะ


 “พะ… พี่”


“เออ พี่สิ ไม่ใช่ลุงที่ไหน” เสียงห้าวขัดเขา การปราฏตัวของผู้พูดทำให้ดวงตากลมของเด็กฝึกงานเบิกกว้าง


เขาพิจารณาดวงหน้าสลักเสลา คิ้วเข้ม ตาโต จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักได้รูปพร้อมกับผิวสีน้ำผึ้ง ภัทรไม่คิดเลยว่าวันนี้จะเป็นวันโชคดีของเขา


...พี่คุณเองก็ทำงานอยู่ที่นี่…


คุณานนท์นั่งลงข้างกับภัทร ชายหนุ่มเพียงแต่เงยหน้ามองจอ ดูว่าเมื่อไหร่สิ่งที่ทำไว้จะเสร็จสิ้นเสียที ภัทรผิดหวังเล็กน้อยที่เขาจำกันไม่ได้ แต่อย่างไรก็ไม่ได้คาดหวังแต่อย่างใด


เป็นธรรมดาที่ทานตะวันทุกต้นจดจำพระอาทิตย์ได้ ทว่าพระอาทิตย์คงไม่มีทางจดจำทานตะวันได้ครบทุกต้น


พี่คุณเรียนอยู่ปีสี่ ในขณะที่ภัทรเรียนอยู่ปีหนึ่งในคณะสถาปัตยกรรม น่าเสียดายที่ภัทรได้เห็นเขาเพียงไม่กี่ครั้ง ก่อนที่เขาจะจบการศึกษา คุณานนท์เป็นนักศึกษาที่จบไปด้วยเกียรตินิยมเหรียญทอง งานโปรเจ็คเเละวิทยานิพนธ์ของเขาทุกชิ้นยังคงถูกเก็บไว้โชว์ที่คณะ


ภัทรคลั่งไคล้ผลงานของอีกฝ่ายพอ ๆ กับตัวตน เด็กหนุ่มไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเขาเองจะอยู่ในการดูเเลของพี่คุณไปตลอด


หากนี่เป็นฝัน เขาก็ขอให้เป็นฝันที่ไม่มีใครมาปลุกให้ตื่น


“เอ้า นั่งหน้าเป็นปลาทองอยู่ได้ ชื่ออะไร” คุณานนท์หรี่ตามองเด็กเอ๋อตรงหน้า เขาถามชื่อเป็นรอบที่สามเเล้วยังมานั่งอ้าปากหวอใส่อยู่ได้


“ชะ ชื่อ ภัทรครับ” เสียงอ่อน ๆ ของอีกฝ่ายทำให้เขากระตุกยิ้ม เขาเป็นพวกเห็นเหยื่อไม่ได้ไม่ต่างอะไรกับสุนัขจิ้งจอกที่วิ่งไล่ฝูงแกะจนเเตกกระเจิง


“ดัง ๆ หน่อย เสียงเเค่นั้นคนเขาจะนึกว่าคุยกับแม่ซื้อ” คุณทำท่าแคะหู เขาสั่งให้ภัทรเอ่ยชื่อตัวเองอีกหน


“ชื่อภัทรครับ!”


เสียงแว่วหวานดังไปทั้งฟลอร์ พนักงานเกือบสิบชีวิตหันมามองภัทรเป็นตาเดียวในขณะที่เด็กหนุ่มอยากจะม้วนตัวให้เล็กที่สุดเเล้วหนีหายจากตรงนี้ไปเสียเลย


“น้องแม่ง...ตลกดีว่ะ” คุณานนท์หัวเราะในลำคอ ได้ยินเสียงเเว่ว ๆ ว่าไอ้คุณมันรับน้องใหม่อีกเเล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ยี่หระอะไร


“ทำอะไรได้บ้าง ตัดโมได้มั้ย” คุณานนท์เห็นว่างานบนหน้าจอคงไม่เสร็จง่าย ๆ เขาจึงเบนเข็มมาที่โมเดลซึ่งยังประกอบไม่เสร็จ


“ตัดได้ครับ” ภัทรพยักหน้าหงึก ๆ พยายามควบคุมหัวใจไม่ให้สั่น


“เออดี ถ้าตัดไม่ได้จะไล่ออกตอนนี้เลย” มือใหญ่หยิบเอาคัตเตอร์สีฟ้าที่เขาเพิ่งจะซื้อมาใหม่แต่ไม่ได้ใช้เพราะเห็นว่าสีมันน่ารักเกินไปหยิบให้อีกฝ่าย


“ตัดสี่เหลี่ยมไซส์นี้ให้กูหกอัน เจาะหน้าต่างให้ด้วย ดูดี ๆ อย่าเจาะมั่วนะ”


กระดาษอาร์ตถูกส่งมาให้เด็กหนุ่มพร้อมกระดาษเอสามเเผ่นใหญ่ซึ่งมีรายละเอียดว่าภัทรจะต้องตัดกระดาษอยางไรเพื่อที่จะให้ตรงสเป็คชิ้นส่วนของโมเดลอาคารหลังนี้


ภัทรค่อย ๆ ทำงานทีละชิ้นอย่างใจเย็นในขณะที่รุ่นพี่กำลังนั่งจ้องเด็กฝึกงานอย่างประเมิน คุณเห็นว่าภัทรทำงานเนี้ยบมากก็จริง แต่เรื่องความเร็วนี่ไม่เอาอ่าวเลยสักนิด


“ถามจริงนะ ตอนโปรเจ็คมึงได้นอนมั้ยเนี่ย ตัดช้าขนาดนี้”


“ผมนอนวันละหกชั่วโมงทุกวันครับ” ภัทรเงยหน้าขึ้นมองพี่เลี้ยงที่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เชื่อถือ ขนาดเขาที่ว่าทำงานเร็วงานโหด ก็ยังมีวันที่ต้องโต้รุ่ง


“โกหกเป็นพีน็อคคีโอ้นะโว้ย จมูกยาว ๆ เลย” คนพูดชี้ที่จมูกตัวยเอง หากทำให้อีกคนหัวเราะออกมาได้ ถ้าพี่คุณเป็นพีน็อคคีโอ้คงน่าขัน และน่ารักด้วย


“พี่เป็นไปคนเดียวเถอะ” ภัทรยิ้มกว้างขวาง ไม่นึกว่าจะมีวันหนึ่งที่เขาจะได้เฉียดใกล้พี่คุณถึงขั้นหยอกล้อกันได้


“เย็นนี้กินอะไรดี” คุณานนท์เอนหลังพิงเก้าอี้ ขบคิดถึงมื้อเย็นที่มักจะมีการพาน้องเข้าใหม่ไปเลี้ยงเป็นพิธี สาตาเขาทอดมองเด็กหนุ่มที่ก้มหน้าก้มตาตัดโมเดลอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วก็รู้สึกคุ้นหน้าค่าตาอย่างประหลาด


“อันนี้กูต้องเซ็นทุกอาทิตย์ใช่ป่ะ” สมุดฝึกงานมีตราสถาบันเด่นชัดของภัทรถูกอีกคนหยิบขึ้นมา นาทีนี้คุณได้คำตอบเเล้วว่าเขาคงจะเคยเห็นเด็กนี่ผ่าน ๆ ที่มหาวิทยาลัย


“ครับ ผมต้องเขียนว่าผมทำอะไรบ้าง พี่ก็ให้คะแนนผมตามช่องนี้ แล้วก็เขียนความเห็นทุกสัปดาห์” ปลายเล็บเจียรมนชี้ลงในเเต่ละส่วนของหน้ากระดาษแล้วอธิบายอย่างตั้งอกตั้งใจ


ตลอดวันภัทรช่วยให้โมเดลของคุณานนท์คืบหน้าไปมากโข ดูเหมือนภัทรจะตัดช้าไม่คล่องเเคล่ว หากเมื่อคำนวณเวลากับผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็ต้องถือว่าว่องไวมากทีเดียว


“หมดเวลางานก็เลิกงาน เเบบขยายค่อยมาตัดพรุ่งนี้” พี่เลี้ยงสะกิดภัทร เขาลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง เก็บของใส่กระเป๋าสะพายอย่างว่องไว


“ไว ๆ เดี๋ยววันนี้พาไปกินชาบู” คุณเอ่ยเท่านั้นก่อนจะเดินนำภัทรไปสมทบกับพี่สถาปนิกคนอื่น ที่นี่เป็นออฟฟิศขนาดเล็กตาดูท่าเเล้วความอบอุ่นเเละสัมพันธภาพของพนักงานไม่เล็กตาม





 ร้านชาบูที่ว่าเป็นร้านชาบูญี่ปุ่นที่เปิดสาขาในเมืองไทยมาหลายปีเช่าพื้นที่อยู่ชั้นล่างสุดของตึกเดียวกันกับออฟฟิศ ภัทรกินได้ไม่เยอะนักเพราะเขาไม่สันทัดที่จะรับประทานเนื้อ ในขณะที่อีกคนซึ่งนั่งข้างกันได้แต่กินเอากินเอาราวกับว่าพรุ่งนี้อาหารจะหมดโลก


“แบ่งน้องบ้างไอ้เหี้ย ให้มาดูเเลไม่ใช่ให้มาเเย่งกิน” พี่สถาปนิกอีกทีมทั้งปรามทั้งหัวเราะ


“ก็ผมเป็นเหี้ยไง” คุณานนท์ยักคิ้วให้อีกฝ่าย พลางใช้ตะเกียบมาดักตะเกียบของภัทร เเล้วขโมยเนื้อลายหินอ่อนของรุ่นน้องชิ้นนั้นเข้าปากไปต่อหน้าต่อตา


“มีพี่นิสัยไม่ดีก็ทน ๆ เอาหน่อยนะ” ทุกคนหัวเราะ ภัทรเองก็ด้วยเมื่อคนข้างกายเเสร้งทำเป็นคนนิสัยไม่ดีด้วยการคีบเอาเนื้อของภัทรไปอีกชี้น


ภัทรไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไรด้วยเขาก็เริ่มจะอิ่ม ไม่รู้ว่าคนพวกนี้มีพื้นที่กระเพาะกี่เอเคอร์กันถึงดูคล้ายจะไม่มีวันอิ่มเลย


“อ่ะ กูให้” เนื้อชิ้นที่ดีที่สุดในถาดถูกต้มจนสุกพอดีแล้วคีบมาไว้ในจานของภัทร เด็กหนุ่มได้เเต่มองตามรุ่นพี่อย่างตั้งคำถาม


เขาไม่เข้าใจว่าอยู่ ๆ อีกฝ่ายจะมาคีบให้กันทำไม ตอนนี้ใจเขาเต้นเเรงจนเกือบจะกระดอนออกมาอยู่เเล้ว


 “ครับ”


“ใช้คืนที่ขโมยไป” เขาพูดโดยไม่มองหน้า มือใหญ่ยังคงง่วนกับการตักไอ้นั่นใส่ไอ้นี่อย่างสนุกสนาน


“ขอบคุณครับ”


เมื่อสิ้นสุดมื้ออาหารภัทรอิ่มก่อนทุกคนจริง ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเขารับประทานของหวานไปถึงสองถ้วย ภัทรยกมือไหว้ขอบคุณเจ้ามือและพี่คนอื่น ๆ  ที่กำลังเเยกย้ายกันกลับบ้าน


“ภัทรกลับยังไง” เสียงพี่สถาปนิกสาววัยสามสิบเอ่ยขึ้น ทุกคนมีรถเป็นของตัวเอง ใครไม่มีก็พึ่งพาอาศัยกันหมดเเล้ว เหลือเพียงเเต่เจ้าเด็กน้อยคนนี้


“เดี๋ยวผมกลับรถเมล์ครับ ไปไม่ไกลมาก” สถานที่ปลายทางที่ภัทรเอ่ยถึงทำให้ใครอีกคนหันขวับ


“งั้นกลับกับกู อยู่ใกล้กัน”


คนตัวสูงดึงสายกระเป๋าภัทรเอาไว้ คุณานนท์ปล่อยให้ภัทรล่ำลากับรุ่นพี่ที่ยังไงก็ต้องเจอกันพรุ่งนี้อยู่ดีพอหอมปากหอมคอ  ภัทรเดินตามพี่คุณไปยังลานจอดรถจนพบว่าเขาไม่ได้มีรถยนต์ แต่เป็นรถบิ๊กไบค์สัญชาติญี่ปุ่นสีดำตลอดคัน


“มึงนี่” วันนี้ภัทรไม่เเน่ใจว่าเขาได้ยินคำนี้จากพี่คุณกี่หน อีกฝ่ายยื่นหมวกกันน็อคอีกใบให้เขา ทว่าภัทรไม่คุ้นชินกับการใส่มันจนทำให้อีกฝ่ายหมดความอดทนดึงตัวเขาไปใส่ให้เเทน


“ขอบคุณครับ” อันที่จริงภัทรของคุณเจ้าหมวกใบใหญ่นี้ด้วย มันช่วยอำพรางใบหน้าที่กำลังขึ้นสีของเขาได้ดีนักเชียว


“เออ จับดี ๆ ถ้าตกลงไปกูไม่กลับมาเก็บนะ”


ภัทรกระโดดขึ้นซ้อนท้ายรุ่นพี่ เขากำชายเสื้อของอีกฝ่ายไว้ เเต่เจ้าของเสียงห้าวดุดันกลับหันมาพูดกับเขาหนักเเน่น


“กอดเลย ตัวเเค่นี้ถ้าตกลงไปไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตเเล้ว” คุณานนท์รู้ตัวดีว่าเขาขับรถเร็ว ไอ้ท่าทีเก้กังอย่างนี้หากไม่ให้กอดไว้คงรังแต่จะเกิดอุบัติเหตุเสียเปล่า ๆ


 ระหว่างทางภัทรกอดเอวเขาเเน่นขึ้น คงเป็นเพราะการจราจรไม่ติดขัดเเล้วอีกฝ่ายถึงขับรถได้คล่องตัวจนภัทรไม่กล้าเงยหน้ามองทาง เด็กหนุ่มสัมผัสได้ว่าโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อนอกของอีกฝ่ายสั่นไม่หยุด แต่พี่คุณก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะจอดรถ


ในที่สุดเจ้าบิ๊กไบค์ก็ชะลอตัวลงเมื่อเข้าเขตคอนโด ภัทรเเปลกใจนิดหน่อยที่ไม้กระดกนั้นยกขึ้นโดยที่เขาไม่ต้องให้สัญญาณหรือเเตะคีย์การ์ด


“ถึงเเล้ว จะนั่งจนเช้าเลยมั้ย” เสียงดุ ๆ ของพี่เลี้ยงทำให้ภัทรสะดุ้ง เด็กหนุ่มคลายอ้อมกอดที่เเทบจะเรียกได้ว่ารัดออก ก่อนจะกระโดดลงจากรถ คงเป็นเพราะสมองของเขายังคงชินกับความเร็วหวิดตายอยู่ เมื่อสองเท้าเเตะพื้นภัทรก็เเทบทรุด


“ไหวมั้ยเนี่ย นี่มึงเป็นคนหรือเต้าหู้ไข่วะ” คุณานนท์ส่ายหัวอย่างระอาใจ หากใบหน้ากลับประดับด้วยรอยยิ้มเอื้อเอ็นดู


“หัดเเกะเอง ใส่เอง วันหลังจะติดรถไปกูไม่ใส่ให้นะ ชักช้า” เจ้าของหมวกกันน็อคไม่ได้สนใจภัทรอีก เขาหยิบเอาโทรศัพท์ที่สั่นเหมือนจะสั่นไปจนถึงโลกหน้าขึ้นมาดู


อ่านข้อความเเล้วได้เเต่หัวเสีย กดโทรกลับไปยังเบอร์ปลายทางเเล้วก็เห็นว่าเขาถูกบล็อกเบอร์เเละการติดต่อจากทุกเเอพลิเคชั่น


“นี่เต้าหู้ กินเหล้าเป็นป่ะ” กว่าภัทรจะสะบัดหัวหลุดออกจากหมวกก็กินเวลาไปนานทีเดียว เผลอพักเดียวภัทรก็ได้ชื่อใหม่


จะชื่ออะไรก็ได้ที่พี่คุณเรียก จะเรียกหมูเรียกหมาเขายังยอมเลย


“กินได้ครับ แต่ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง ผมรักสุขภาพ” ภัทรเอ่ย


“เสียใจด้วยที่วันนี้มึงเลี่ยงไม่ได้” คุณานนท์เลิกคิ้ว เขาโอบรอบคอรุ่นน้องแล้วก้าวออกไปยังร้านสะดวกซื้อใกล้ ๆ


“พี่ไม่กลับบ้านหรอ บัตรก็ไม่ได้เเลกเดี๋ยวรปภมาไล่หรอก” ดวงตาคู่กลมสวยมองคนแก่วัยกว่าอย่างสนเท่ห์ หากได้รับคำตอบเป็นมะกอกลูกใหญ่กลางหน้าผาก


“ใครจะไล่ กูอยู่ตึกนู้น” นิ้วชี้ยาวของพี่คุณชี้ไปคนละทิศกับตึกของเขา ภัทรอยากจะตบหน้าผากตัวเองสักที่ที่จุดใต้ตำตอ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยู่คอนโดเดียวกับพี่คุณมานานเเค่ไหนเเล้ว


ที่สุดเเล้วเด็กหนุ่มก็เลี่ยงไม่ได้ ภัทรเดินหน้าไปยังร้านสะดวกซื้อ เห็นพี่คุณคว้าเอาตะกร้าขึ้นถือ ตรงดิ่งไปยังโซนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 


“จะกินขนมอะไรก็ไปหยิบ กูไม่ได้อยากทรมานทรกรรมเต้าหู้ไข่ขนาดนั้น” พี่คุณโบกมือไล่เขาไปยังโซนขนม ส่วนตัวเองก็เเทบจะกวาดเบียร์ทั้งเชลฟ์ลงมา


“ทำไมอยู่ดี ๆ พี่ถึงจะกิน” ภัทรมองเสี้ยวหน้าคมสันเเล้วก็เกิดคำถาม มันคงไม่ใช่อารมณ์ศิลปินที่นำภาให้เขาต้องมาเดินเปิดเบียร์จิบไปคุยไปกับอีกฝ่าย


“โดนทิ้ง” เสียงแหบห้าวเอ่ยขึ้นเท่านั้นเเล้วก็ยกเบียร์ดื่มจนหมดกระป๋อง คุณหย่อนมันลงถังขยะก่อนจะพาเด็กที่เขาบังคับให้ติดสอยห้อยตามเขามาด้วยขึ้นห้องพัก


“งั้นพี่ก็โสดแล้วถูกมั้ย” 


“เออ!” น้ำเสียงกระเเทกกระทั้นทำให้ภัทรตัวลอย ทีเเรกเขาไม่ได้คาดหวังว่าพี่คุณจะต้องครองโสดประหนึ่งเพศสมณะเพราะเขาก็รู้ดีมาตลอดว่าพื้นที่ข้างกายของคุณานนท์ไม่เคยว่าง เด็กหนุ่มคิดตื้น ๆ แต่เพียงว่าเมื่ออีกฝ่ายไม่มีพันธะ ก็คงไม่ผิดที่เขาจะเดินหน้า


วันนี้คือวันโชคดีของเขาจริง ๆ ด้วย


 ภัทรเดินผ่านเข้าห้องนอนของรุ่นพี่ไปด้วยหัวใจลิงโลด ถึงพลาสติกใส่เครื่องดื่มมากกว่าสิบกระป๋องถูกวางลงที่โต๊ะเล็กหน้าโซฟา ภัทรทิ้งตัวลงข้างรุ่นพี่ เขาเเกะถุงขนมออกมาเเบ่งเเต่อีกฝ่ายโบกมือปฏิเสธ เขาจึงได้เเต่นั่งเล็มขนมกรุบกรอบไป นั่งมองคนที่ซดเบียร์เเทนน้ำเปล่าไป


จริง ๆ ภัทรหวังว่าจะได้ยินได้ฟังเรื่องราวอย่างละเอียด หากพี่คุณกลับไม่เอ่ยอะไรออกมาเเม้เเต่คำเดียว ทั้งท่าที่เหนื่อยหน่ายเเละดวงตาวูบไหวนั้นยากเกินเเก่การคาดเดาของเด็กหนุ่ม


“กูแค่ไม่เข้าใจว่าทุกวันนี้กูยังดีไม่พออีกหรือไง” คนแก่วัยกว่าเปรย มือข้างที่ถือกระป๋องเปล่าใบที่หกโยนมันออกไปทางถังขยะเเต่พลาดเป้า เขาไม่สนใจ เอื้อมมือคว้ากระป๋องที่เจ็ดขึ้นมาเปิด


“พี่ดีกว่าที่ใคร ๆ รู้อีก” ภัทรนั่งจ๋อง ในมือถือมันฝรั่งทอด


“หึ.. ไม่หรอก ขนาดกูให้เขาทุกอย่างเขายังไปเลย” คุณแค่นหัวเราะ มือใหญ่คล้ายจะถือกระป๋องเเทบไม่อยู่ ดวงตาของเขาฉ่ำเยิ้มไปหมด


“แล้วถ้าผมขอพี่จะให้มั้ย” ภัทรขยับตัวเข้าใกล้ร่างสูงใหญ่ที่คล้ายจะเริ่มคุมสติตัวเองไม่ได้ ร่างเล็กบางแนบชิดจนกลิ่นเเอลกอฮอล์ที่อีกฝ่ายดื่มลอยมาปะทะจมูก


“ถ้าให้เเล้วมึงจะทิ้งกูไปอีกคนรึเปล่า” คุณานนท์ตอบคำถามด้วยคำถาม เขารู้สึกว่าเห็นหน้าเจ้าเต้าหู้ไข่ใกล้กว่าปกติ


“ไม่ไปหรอก ไม่ทิ้ง” มือเรียวเเตะลงบนเสี้ยวหน้าคมสัน ภัทรเห็นว่าอีกคนไม่ปฏิเสธเเล้วก็นึกย่ามใจ


“งั้นจะเอาอะไรมึงเอาไปเลย เงินอูยู่นกระเป๋า โน๊ตบุ๊คอยู่บนโต๊ะ จะหยิบอะไรก็เอาไปเลย” พี่คุณเริ่มชักจะเลอะเทอะ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ บัดนี้ตะกายขึ้นมานั่งบนตักเเล้ว


 “ผมไม่ได้อยากได้ข้าวของเงินทองอะไร ผมเเค่อยากได้ตรงนี้” ภัทรวางลงมือลงบนกึ่งกลางหน้าอกที่กระเพื่อมไหวตามจังหวะหายใจ


“จะเอาอะไรก็เอาไปเถอะ” คนเมาโบกมืออย่างตัดรำคาญ


“งั้นผมขอนะ” ภัทรทวน ดวงตากลมใสเเจ๋วสบกับนัยน์ตาหวานเชื่อม เมื่อคุณานนท์พยักหน้า เด็กหนุ่มที่นั่งลงบนตักจึงโน้มหน้าลงไปเอ่ยปาก ‘ขอ’ อย่างใกล้ชิด



---------------------------------------------------------------

เขาก็ให้กันง่ายดีนะคะ  :-[




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2019 00:27:21 โดย Thei12 »

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เต้าหู้ไข่กล้าขอพี่ก็กล้าให้
//จะจบแบบพลอตในทวิตมั้ยคะจะได้เกียมตัวเกียมใจถูก

ออฟไลน์ Poopookung

  • จงจำไว้เสมอว่า ต้องสู้อย่าท้อถอย ยังมีคนอีกหลายคนรอดูเราอยู่ O(∩_∩)O
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อันนี้ใช่พล็อตเดียวกับคุณหมีใช่มั้ยอ่ะคะ ถ้าใช่นี่คือเราอ่านแค่พล็อตยังดาวน์เลยอ่ะฮืออออ :hao5:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
พี่คุณใจร้ายมากๆอ่ะจากบทนำ เห็นแล้วอยากกอดน้องไว้แน่นๆ ฮือ โอ๋นะลูก อย่าไปรักคนแบบนี้เลย แต่ถ้าไม่รัก พล็อตนี้ก็จะไม่เกิด สู้ไปด้วยกันนะคะคนดี  :hao5:

ออฟไลน์ nanwrsptm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แงงง เจ้าเต้าหู้  กอดนะะะะ

ออฟไลน์ jazumine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ถ้าจบแบบในพลอต เราอยากได้จุดจบของคู่หญิงร้ายชายเลวด้วย

Sent from my BLL-L22 using Tapatalk


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ถ้าไม่รักก็ปล่อยไป จะไปทำร้ายเค้าทำไม แค่พลอตก็น้ำตาคลอแล้ว :hao5:

ออฟไลน์ moonoi1000

  • I'm a realist dreaming the impossible
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ึใจบางไปหมด กลัวตัวเองใจวายสงสารน้อง

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
จากเม้นท์ก่อนหน้า...แลดูจะเศร้า    :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Fonjae333

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อย่าไปรักคนใจร้ายยย

ออฟไลน์ Miss Midnight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
สุดปลายขอบฟ้า บทที่ 2 - 28/04/62
«ตอบ #14 เมื่อ28-04-2019 14:39:56 »

บทที่ 2



เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์เเผดเสียงร้องดังไปทั่วห้องกว้าง มือใหญ่ควานสะเปะสะปะหามันอย่างทุกวันก่อนจะเลื่อนมือกดปิด


แต่วันนี้ไม่เหมือนกันกับวันอื่น


ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงผิวเนื้ออุ่นร้อนที่กกกอดเขาไว้ราวกับจะไม่ปล่อยไปเกินระยะสุดมือคว้า ผ้าห่มนวมสีน้ำเงินเข้มไม่ได้ปกคลุมร่างกายของคนทั้งสองตามหน้าที่ หากมันกองอย่างหมิ่นเหม่อยู่ปลายฟูกราวกับเป็นเครื่องประดับเตียงชิ้นหนึ่งเท่านั้น


คราวนี้คุณานนท์ตื่นเต็มตาโดยไม่ต้องให้นาฬิกาปลุกดังอีกเป็นครั้งที่สอง ทั้งเขาเเละเจ้าเด็กฝึกงานหมาด ๆ ต่างก็เปลือยกายล่อนจ้อนซ้ำยังนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ต่อให้หัวสมองว่างเปล่าจำอะไรไม่ได้ก็สมควรที่จะเข้าใจว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นอย่างไม่ยากเย็นนัก


เขาควานหากางเกงที่ตกอยู่แถวนั้น แต่กลับไปไม่พบ เมื่อมองออกไปอีกหน่อยจึงค่อยเห็นว่ามันถูกสะบัดทิ้งไว้อย่างไม่ไยดีหน้าประตูห้องนอน


คุณกุมขมับ ไม่อยากจะจินตนาการว่าเมื่อคืนทั้งเขาเเละเด็กนี่จะร้อนเเรงกันปานใด


“เชี่ย…” เสียงแหบห้าวสบถเมื่อพยายามสะกิดปลุกภัทร หากอีกฝ่ายกลับนอนนิ่งไม่ไหวติง ชายหนุ่มใจหายวูบ กลัวว่ามันจะตาย


   หากเมื่อเห็นว่าเเผ่นอกบางยังขยับเคลื่อนไหวขึ้นลงตามจังหวะลมหายใจเขาค่อยคลายใจ เขาพลิกตัวภัทรให้คลายอ้อมกอดจากตัวเขาเสียทีเพราะความอึดอัด


   ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนมีหินหนักเป็นร้อยเป็นพันตันถมถ่วงอยู่ในอก เขาหายใจไม่เต็มปอดนักเมื่อชายผ้าห่มซึ่งปกคลุมเบื้องล่างของภัทรเลื่อนออก


   เขาเห็นทุกส่วนสัดของเด็กหนุ่มอย่างเต็มตา เนื้อตัวของอีกฝ่ายมีเเต่ร่องรอยฝากรักของเขาเต็มไปหมด เพียงมองก็รู้ว่าเมื่อคืนคงไม่มีตารางนิ้วใดบนตัวภัทรที่ไม่ถูกเขาสัมผัส ผ้าปูที่นอนสีอ่อนกว่าผ้าห่มเลอะเทอะคราบน้ำรักเป็นด่างดวง หากคุณานนท์ไม่ได้โง่จนเกินไปนักเขาก็คิดว่าสีเข้มกวาคราบน้ำอะไรต่อมิอะไรคงจะเป็นเลือด


   ผู้ชายไม่ได้มีเยื่อพรหมจรรย์อย่างผู้หญิงที่น่าจะมีเลือดออกในยามร่วมรักครั้งแรก ทว่ามันคงเกิดจากการฉีกขาดของอะไรสักอย่าง เขารู้สึกคลื่นเหียนเล็กน้อย ด้วยไม่ได้นึกรักใคร่หรือปรารถนาเด็กผู้ชายเป็นทุนเดิม


ในหัวมีเเต่คำว่า ‘ซวย’ ผุดขึ้นในทุกซอกมุมความคิดอย่างกับดอกเห็ด


“นี่… เต้าหู้” เขาเขย่าตัวเด็กหนุ่ม


“ภัทร ตื่นได้เเล้ว” เเรงจากมือใหญ่นั้นยังมากจนเรียกได้ว่าไม่ปราณีปราศรัย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบสนอง


“อือ… ขออีกสิบนาที ผมระบมไปทั้งตัว” ภัทรพูดทั้งที่ยังลืมตาไม่ขึ้น


“อย่างอแงน่า ลุกขึ้นมา” คุณเสยผมอย่างระอาใจ เขาเคยมีประสบการณ์ครั้งเดียวแล้วแยกย้ายมาก็มาก หากบรรดาผู้คนเหล่านั้นไม่เหมือนภัทร ทั้งหมดมาจากคนที่อยู่คนละขั้ว ไม่มีตัวตนในชีวิตจริงของกันเเละกัน เมื่อเสร็จสมแล้วก็ต่างคนต่างไป


เเต่เด็กนี่กลับทำให้เขาเป็นกังวลอย่างประหลาด สังหรณ์ใจว่าเรื่องวุ่นวายคงตามมาไม่จบสิ้นเเน่


   พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทีเเม้เเต่จะขยับเขยื้อน เขาจึงใช้มุกลากขาลงจากเตียงที่ไม่ว่าจะทำกับใครก็ได้ผลชะงัดทุกรายไป 


   “พี่คุณ ผมเจ็บ!” เเค่ออกเเรงดึง ยังไม่ถึงขั้นตกเตียงภัทรก็โวยวายเสียงดัง อีกฝ่ายพลิกตัวนอนตะเเคงฝังใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาเอาไว้กับกลุ่มหมอน


   เจ็บที่ตัวก็มาก เจ็บที่ใจทั้งที่คิดไว้ว่าคงไม่ได้รับการปฏิบัติที่อ่อนโยนอ่อนหวานนั้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยสักนิด


   “ทำไมตัวร้อนจังวะ จะป่วยตายมั้ยเนี่ย” เจ้าของห้องพึมพำ เขาเลื่อนมือจากข้อเท้ากลมกลึงขึ้นไปยังปลีน่องขาวสะอาด ยิ่งจับยิ่งแน่ใจว่านี่ไม่ใช่อุณหภูมิปกติของผิวเนื้อมนุษย์


   เวร… เอากันจนเป็นไข้นอนซมเลยหรือไง


   คุณานนท์กลอกตา เขาเหลือบไปเห็นเข็มสั้นเเละเข็มยาวของนาฬิกาเเขวนผนังเรือนโตแล้วก็พบว่าระยะวิกฤติกำลังจะมาถึง ในสมองของชายหนุ่มคิดเเก้ปัญหาเร็วจี๋ หากช้ากว่านี้อีกสินาทีเขาอาจะไปทำงานสาย คุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา รัวนิ้วพิมพ์ข้อความชี้เเจงว่าเจ้าเด็กฝึกงานน่าจะเกิดอาการอาหารเป็นพิษ ทั้งอาเจียนทั้งถ่ายไม่หยุดตั้งแต่ตอนที่เขามาส่ง คาดว่าวันนี้น่าจะไปทำงานไม่ไหว โดยที่ตอนนี้เขายังดูเเลภัทรอยู่ไม่ห่าง คงจะไปทำงานสายกว่าปกติสักนิด


คนปั้นน้ำเป็นตัวลอบถอนหายใจเมื่อมีคนกดเข้ามาอ่านพร้อมทั้งตอบรับโดยไม่ตะขิดตะขวงใจอะไร  เขาเลื่อนมือไปเปิดอ่านข้อความส่วนอื่น ๆ แล้วก็พบว่าอะไรที่คิดว่าหนักอกหนักใจมากอยู่เเล้วยังหนักได้มากเกินกว่านี้อีก


เเฟนสาวของเขาที่คบกันมาไม่น้อยกว่าสามปีปลดบล็อกเเอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ทั้งหมดเมื่อคืนนี้เเล้วส่งข้อความขอโทษขอโพยกึ่งตัดพ้อในขณะเดียวกันมาถึง


แน่นอนว่ามันจบท้ายด้วยการขอคืนดี


คุณทำเเค่เพียงอ่านเเละรับทราบ หากไม่ได้ตอบข้อความใด ๆ กลับไปเมื่อตัวปัญหายังครองเตียงเขาอยู่เเบบนี้ ทุกอย่างยากไปหมดเมื่อภัทรมีสถานะเป็นเด็กฝึกงานในความดูเเล


หากมันเอาไปเเพร่งพรายว่าได้เสียต่อกันเเล้ว เขาคงไม่พ้นจะถูกตราหน้าว่าเป็นสมภารกินไก่วัด  หึ.. กินลูกไก่เลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้คงไม่เเคล้วจะโดนนายเรียกตัวไปด่า ร้ายหน่อยก็คงมีผลกับการประเมินเงินโบนัสประจำปี


อย่างไรก็ตามเขาต้องตกลงกับภัทรให้รู้เรื่องก่อน


ชายหนุ่มเจ้าของห้องส่ายหัว รู้ตัวว่าเวลานี้ให้ใช้ไม้เเข็งน่าจะมีเเต่เสียกับเสีย ชายหนุ่มลุกยืนจนเต็มความสูง สภาพด้านนอกห้องนอนทำให้เขาปวดหัวยิ่งกว่าเก่า


เสื้อผ้าของทั้งเขาเเละภัทรกระจัดกระจายอยู่บนโซฟา กระป๋องเบียร์เปล่าเรียงรายอยู่บนโต๊ะ มีบางส่วนกลิ้งตกลงมาที่พื้นเเละหกเลอะเทอะ ถุงพลาสติกและซองขนมกระจายว่อนอยู่ที่พื้น ชายหนุ่มใช้เท้าเขี่ยเศษซากอารยธรรมทั้งหายเเล้วก็พบว่าเเม้กระทั่งซากซองถุงยางอนามัยก็ยังกองอยู่รวมกัน


“อย่างน้อยก็ใส่ถุงล่ะวะ” คุณานนท์พึมพำ กอบเอาทุกอย่างลงถุงทิ้งขยะ ชายหนุ่มเดินเรื่อยเลยเข้าไปในส่วนครัวขนาดย่อม มันไม่มีอะไรมากมายนัก ในตู้เย็นมีเพียงน้ำเปล่า ไข่ไก่สดสองใบที่เหลือติดเเผง เบียร์อีกสองสามกระป๋องที่เขาเเทบจะลืมไปเเล้ว เเละไอศกรีมรสวนิลาในช่องเเช่เข็ง


เขาหัวเสียนิดหน่อยที่ไม่มีอะไรมีสารอาหารมากพอจะเป็นประโยชน์ต่อคนป่วยเลยสักอย่าง คุณพลิกเเผงไข่พลาสติกที่ได้มาจากร้านสะดวกซื้อหาวันหมดอายุเพื่อยืนยันให้เเน่ใจว่ามันจะยังไม่เน่าเสีย เเล้วจึงหยิบมันออกมาใบหนึ่ง


ชายหนุ่มหยิบหม้อใบเล็กออกมาตั้งน้ำ คอยจนมันเดือดปุดเเล้วจึงค่อยหย่อนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ค้นเจอพร้อมกับตอกไข่ใส่สารอาหารที่มากที่สุดในมื้อนี้ลงไป


   เขารอไม่นานนักทุกอย่างก็สุก ชายหนุ่มเทมันลงถ้วยเคลือบ เทผงปรุงรสตามลงไปเป็นอย่างสุดท้ายเเล้วคนให้เข้ากัน นำมันออกไปยังห้องนอน เขาได้เเต่วางถ้วยบะหมี่ไว้ที่หัวเตียง นึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่เกิมาเขายังไม่เคยบริการใครขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ


   “กินข้าวก่อนจะได้กินยา”


   “พี่กินก่อนเลย ผมไม่หิว” อันที่จริงภัทรรู้สึกร้าวระบมเกินกว่าจะอยากลุกขึ้นไปรับประทานอะไร ท้องร้องพักเดียวเดี๋ยวก็หาย แต่ไอ้ที่เจ็บระบมไปทั้งช่วงล่างนั้นคล้ายจะไม่มีทางหายไปได้โดยง่าย


   “ดื้อฉิบหาย ต้องให้กูจับยัดไหม” คุณคล้ายจะหมดความอดทนเต็มแก่ เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดจะต้องนอนเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น การกระทำที่หาความอ่อนโยนไม่ได้จึงถูกส่งมอบให้เด็กหนุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจนัก


   ภัทรถูกกระชากให้ลูกขึ้นนั่ง ยังไม่ทันจะได้ยัดชามใส่มือเด็ก คุณานนท์ก็ชะงัก น้ำตาของภัทรไหลอาบแก้มขนเขาใจไม่ดี เริ่มปักใจเชื่อกับคำพูดของอีกฝ่ายที่ว่าเจ็บระบมไปทั่วเรือนกาย แต่อีกใจก็กลัวว่ารูปการณ์จะออกมาคล้ายละครน้ำเน่า


   เขากลัวจับใจว่าเด็กนี่จะเรียกร้องให้รับผิดชอบ


   ภัทรเห็นเเววตาวูบไหวของอีกฝ่าย เขาหวังลึก ๆ ว่าพี่คุณคงนึกสงสารกันอยู่ไม่มากก็น้อย นาทีนี้คงไม่สำคัญว่าตัวเขาเองจะรู้สึกไร้ค่าจากการปฏิบัติของอีกคนมากเท่าไหร่ หากเขาเองที่จะต้องไขว่คว้าสิ่งที่ต้องการ ภัทรต้องเดินเกมให้ไวที่สุดเพื่อที่จะครอบครองพื้นที่ข้างกายชายที่หมายปองมาตลอดหลายปี


ที่ตรงนั้นควรเป็นของภัทร ไม่ปล่อยหลุดมือไปให้เป็นของใคร 


“ผมอยากคุยกับพี่” เด็กหนุ่มนั่งตัวตรง พยายามเก็บซ่อนความประหวั่นเอาไว้ให้ลึก หากเขานิ่ง เขาจะชนะในนัดนี้เเน่


“พูดมา กูไม่ได้จะมายืนทื่อ ๆ เป็นเสาประดับห้องหรอก” คุณานนท์ประชดประชัน


“พี่เป็นคนแรกของผม” ภัทรสบตาเขา พูดช้าเเละชัด หมายจะตอกฝังถ้อยคำเหล่านั้นลงไปในมโนสำนึกของอีกฝ่าย


“อย่างน้อยพี่ก็ควรจะรับผิดชอบอะไรบ้าง” ภัทรมองเขา เเสร้งทำทีเป็นต่อกว่าทั้งที่ในใจเหลวอ่อน


“รู้จักคำว่าวันไนท์แสตนด์มั้ย” คุณานนท์เลิกคิ้ว นึกหมั่นไส้ท่าทีหยิ่งยโสของอีกฝ่าย ทั้งที่ตอนทำงานด้วยก็เป็นรุ่นน้องที่น่ารักไม่เลว ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงต่างกันราวฟ้ากับเหวขนาดนี้ได้


“นั่นควรจะเกิดขึ้นหลังจากเราสองคนต้องรับรู้ตรงกันครับ สำหรับเมื่อคืนเเล้วการข่มขืนไม่เรียกว่าวันไนท์เเสตน” คุณไม่รู้หรอกว่าเมื่อคืนเขาทำอะไรลงไปบ้าง หากอีกฝ่ายไม่เต็มใจป่านนี้เขาคงโดนเด็กนี่สาปส่งหรือไม่ก็เเจ้งตำรวจจับไปนานเเล้ว


“กูจำอะไรไม่ได้สักแอะ แล้วถ้าไอ้เรื่องที่มึงไม่ได้เต็มใจนี่มันไม่จริงขึ้นมา..”


“งั้นเราก็ไปโรงพยาบาลด้วยกันครับ ผลตรวจจะบอกได้ทุกอย่าง... ว่าพี่เลี้ยงในสถานประกอบการใช้เเรงทีมีมากกว่ากระทำย่ำยีกับเด็กฝึกงานยังไงบ้าง” ภัทรเว้นวรรค สบตาเขาอย่างถือดี “ฉาวดีเนอะ พี่ว่ามั้ย” 


“มึงนี่แม่ง!”


คุณานนท์กัดฟันกรอด เขาไม่กล้าเสี่ยงเมื่อเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของภัทร ในขณะเดียวกันชายหนุ่มไม่ได้อยากเลิกรากับคนที่เขานึกรักอย่างสุดหัวใจมาโดยตลอดเพื่อมาคบกับเด็กที่เล่ห์เหลี่ยมเเพรวพราวอย่างนี้เสียเมื่อไหร่


หากไม่ใช่ว่าเมา คุณคงประหลาดใจว่าเหตุใดกันจึงไปคว้าเอาเด็กนี่ขึ้นเตียง เพราะเพียงแค่ความรู้สึกพิศวาสเขายังไม่มีเเม้ปลายก้อย!


“โวยวายไปก็เท่านั้น พี่คิดมาดีกว่าว่าจะเอายังไง” ภัทรเงียบลง เพิ่งจะระลึกได้ว่าเขาบีบคุณานนท์มากเกินไป เส้นเลือดในตาอีกฝ่ายเเดงก่ำ จดจ้องมาคล้ายกับอยากจะฉีกเนื้อเขาเป็นชิ้น ๆ


“กูกลับมาคบกับเเฟนกูเเล้ว” เสียงทุ้มห้าวเอ่ยขึ้นอย่างปราศจากเยื่อใย ใจของภัทรขาดวิ่นเมื่อได้ฟัง ลมปากที่ว่าถูกทอดทิ้งของอีกฝ่ามลายไปเพียงชั่วข้ามคืน


“เลิกกับเขาซะ ถ้าไม่อยากเป็นไอ้หื่นทำเสียชื่อทั้งสถานประกอบการและลามไปถึงมหาวิทยาลัย” เด็กหนุ่มเม้มปากเเน่นไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ทำนั้นลึกล้ำหรือตื้นเขิน


จะอย่างไรเขาก็มาไกลเกินกว่าจะย้อนกลับไปได้  หากถอย คุณานนท์ก็มีแต่จะยิ่งชิงชัง สู้เดินหน้าเเล้วอาศัยความใกล้ชิดเป็นสะพานให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจดูจะเป็นไปได้ง่ายกว่า


“เอาอย่างนี้ ผมจะใจดีกับพี่สักหน่อย... เราจะคบกันเเค่สองเดือนเท่านั้น ถ้าฝึกงานเสร็จแล้วพี่ยังยืนยันว่าไม่อยากเห็นหน้าผมอีก ผมก็จะทำตามนั้น”


ร่างกายของคุณานนท์สั่นเทิ้มเหมือนจะบ้าได้จริง ๆ เขาถูกล้อมเอาไว้เเล้วปิดทางออกทุกประตู หากความเกลียดชังมีมาตรวัด มันคงพุ่งทะลุปรอทแน่แล้ว


“แค่สองเดือน แล้วอย่าเสนอหน้ามาให้กูเห็นอีก!”


คุณานนท์ออกมาจากห้องพัก เขาโกรธจัดอย่างที่ไม่เคยโกรธมาก่อน หากไร้สติอีกเพียงนิดคงจะพุ่งเข้าไปบีบคออีกฝ่ายจนตายคาเตียงได้ไม่ยาก


ความกดดันถั่งโถมเข้าใส่ไม่ต่างอะไรกับเกลียวคลื่นซัดสาดหน้าผาชัน ตลอดวันเขาทำงานอย่างไม่มีความสุข ยิ่งมีเเต่คนถามไถ่ถึงสุขภาพเด็กในความดูเเลเขายิ่งชิงชัง


คุณานนท์หมดใจจะดูเเลคนป่วยไข้ เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าภัทรจะได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยนั้นหรือไม่ เเม้กระทั่งยาแก้ปวดที่ตั้งใจจะหยิบให้เขาก็ยังทิ้งมันไว้ในลิ้นชักตามเดิม


หากฉลาดพอจะบีบคั้นเขาอย่างนั้น การจะลุกขึ้นมาหาหยูกยากินเองคงไม่เกินความสามารถเท่าไหร่นัก


ตลอดวันโทรศัพท์คุณเข้าเกือบจะตลอดเวลา เป็นเเฟนสาวของเขานั่นเอง เขารู้สึกหนักอึ้งไปหมด ศีรษะปวดเเปลบเพราะความเครียด


สองเดือนจะว่าสั้นก็สั้น จะว่ายาวก็ยาว


ชายหนุ่มถอนใจอย่างปลงตก คิดว่าตัวเองควรจะรีบสะสางภาระที่เกิดขึ้นก่อน จึงได้เเต่ส่งข้อความไปหาหญิงสาวซึ่งน่าจะรอคอยข้อความของเขาตลอดวัน


‘ห่างกันสักพักเถอะ’


นิ้วใหญ่กดส่งข้อความอย่างสุดฝืน ขอเพียงได้เคลียร์หมากกระดานนี้ ทุกอย่างจะได้กลับไปเป็นปกติสุขในอนาคตอันสั้น


เด็กภัทรจะฝึกงานจบและกลับไปเรียนปีห้า ส่วนเขาเองก็จะยังทำงานที่นี่ต่อไปพร้อมทั้งเตรียมวางเเผนงานแต่งงานที่วางแผนไว้ในปีข้างหน้า





กว่าภัทรจะมีเเรงลุกขึ้นจากเตียงก็เวลาก็ล่วงเลยไปครึ่งค่อนวัน เด็กหนุ่มเดินกระย่องกระเเย่งไปเข้าห้องน้ำ จุกเสียดไปหมดทั้งช่องท้อง ตาคู่สวยของเขาบวมช้ำจากการร้องไห้อย่างหนัก


เขาวาดหวังไว้สวยหรูเกินไปว่าพี่คุณคงไม่ลังเลที่จะรับผิดชอบ


รับผิดชอบอย่างนั้นหรือ ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มสมเพชตัวเอง อะไรเป็นอะไรเขารู้ดีอยู่เเก่ใจ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ความผิดของพี่คุณเลยสักกระผีก


ร่างบางเปิดน้ำฝักบัว ปล่อยให้สายน้ำชะล้างเอาคราบคาวออกจากร่างกาย เขาอาบน้ำจนสะอาดเอี่ยมเเม้จะทราบดีว่าอย่างไรก็ล้างเอาความมืดดำในใจออกไปไม่ได้


ภัทรรู้ว่าเวลานี้ตัวของเขาร้อนผ่าวอย่างกับกองไฟ หากเลือกที่จะไม่ใส่ใจ มุ่งตรงไปที่เตียงหมายจะรวบเอาผ้าปูที่นอนเข้าเครื่องซักผ้า เด็กหนุ่มพิจารณาร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้เป็นคราบ


...มันเป็นเพียงความใคร่เท่านั้นเอง...


เขาก้มลงดึงเอาผ้าปูที่นอนออกจากมุมเตียงเเต่ละด้าน เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าดวงตาพร่าเบลอด้วยจุดสีดำไปชั่วขณะ เขามันเป็นพวกความดันต่ำ อะไรนิดอะไรหน่อยก็ล้มได้ง่าย ๆ


ซอกหลืบความคิดหนึ่งส่งเสียงเเววออกมาว่าเขาอาจจะตายได้หากไม่ดูเเลตัวเองให้ดี กระนั้นอีกเสียงหนึ่งก็แทรกแซงขึ้นทันควัน


‘จะตายน่ะ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ’


ภัทรอมยิ้ม ดวงตาทอประกายเเห่งความสุขออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาเจ็บปวดและสิ้นหวัง เด็กหนุ่มจะพึงระลึกไว้เสมอว่าความตายไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างที่ใครบางคนเคยบอกไว้


ภัทรเหลือบไปเห็นถวยบะหมี่กึ่งสะเร็จรูปเเห้งกรัง อย่างน้อยพี่คุณก็ยังมีเเก่ใจหยิบยื่นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กันบ้าง เขาไม่กล้าทิ้งมันลงถังขยะเพราะไม่รู้ว่าในอนาคตเขาจะได้รับความเอื้อเฟื้อพวกนี้อีกหรือไม่


สุดท้ายเเล้วเขาจึงหยิบมันมาเติมน้ำเเละอุ่นด้วยไมโครเวฟทั้งที่เส้นบวมอืดเต็มทน ด้านบนที่สัมผัสอากาศเเห้งเเข็งดูไม่น่ากิน


อร่อยที่สุด… อาหารฝีมือพี่คุณอร่อยที่สุดแล้ว


ภัทรปาดหยดน้ำใสที่ไหลจากตา ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนเจ้าน้ำตาตั้งเเต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในขณะนี้เขารูสึกอย่างไร


ตื้นตัน?


หดหู่?


หรือเเม้กระทั่งสังเวชตัวเอง ?


...ภัทรไม่เเน่ใจสักนิด...


หลักจากรับประทานอาหารเเล้ว ภัทรเจียดเงินที่จ่ายค่ายาแก้อักเสบเเละยาเเก้ไข้ที่ร้านขายยาข้างร้านสะดวกซื้อ ตระหนักได้ว่าเพิ่งจะทำงานวันที่สองเขาก็โดดงานเสียแล้ว


เขาเห็นถ้อยคำโกหกลื่นไหลของคุณานนท์ในห้องเเชทเเล้วก็รู้สึกสบายใจ อย่างน้อยก็คงไม่มีใครซักไซ้อะไรมากมายนัก


ภัทรนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ อากาศร้อนจัดทำให้เขาเหงื่อออกท่วมตัว กว่าจะมีใครสักคนเดินกลับขึ้นไปบนตึกเดียวกับตึกของพี่คุณเขาก็รอจนเกือบหลับ


เด็กหนุ่มกำกุญเเจสำรองที่ค้นเจอในกระป๋องสำหรับใส่ปากการะหว่างที่กำลังสอดส่องดูความเป็นอยู่ของเจ้าของห้องในขณะที่ออกไปทำงานพลางคิดว่าเขาจะนำมันไปปั๊มเอาไว้อีกสักดอกเเล้วเก็บไว้กับตัว


ตอนนี้พี่คุณคงทั้งโกรธทั้งเกลียด ไม่เป็นไร.. ภัทรจะค่อย ๆ ตะล่อมเขา จะดีกับเขาอย่างที่คนอื่นไม่เคยดีด้วย จะเป็นทุก ๆ อย่างอย่างที่เขาอยากให้เป็น


ขอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ขอให้เขาได้อยู่ใกล้ชิด ได้รักเเละดูเเลพี่คุณอยู่ตรงนี้ก็เพียงพอเเล้ว


ภัทรหยิบกระดาษโพสท์อิทสีอ่อนขึ้นมา จรดปลายปากกาลูกลื่นที่คว้าได้เเถว ๆ นั้นลงไป กลั่นกรองเอาความรู้สึกทั้งหมดออกมาเป็นถ้อยคำสั้น ๆ


‘ผมขอโทษ’


ขอโทษที่วุ่นวาย


ขอโทษที่เข้ามาเป็นตัวภาระในชีวิตพี่


ขอโทษที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้ราบรื่นตั้งแต่ต้น


เด็กหนุ่มทอดมองถ้อยคำเหล่านั้นครู่ใหญ่แล้วสุดท้ายก็เปลี่ยนใจ สองมือเรียวฉีกมันออกเป็นสองส่วน ทิ้งมันลงถังขยะใกล้มือคล้ายถ้อยความนั้นปราศจากความหมายเเละไร้ราคา เขาจรดปลายปากกาลงไปอีกหน จงใจเเปะโน้ตในที่มองเห็นง่าย


‘พรุ่งนี้ผมจะติดรถไปทำงานด้วย หวังว่าพี่จะรอ’


--------------------------------------------------------------
อย่าไปรักคนใจร้ายเลยรูกเเม่

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องภัทรพยายามทำตัวร้าย ไม่เบาเลยนะ แง 
แต่อิพี่มันร้ายกว่าหนูมากๆๆๆๆเลยรู้มั้ยคะ!!

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
มองเห็นแต่ความเจ็บปวด  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ jin_kazu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่เห็นวี่แววของความสุขเลย น้องภัทรรูกกก  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด