Naughty Boy
___________________________
เสียงพูดบรรยายจากอาจารย์ประจำวิชายังคงพล่ามต่อเนื่องในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเรียนแม้ว่าอีกเพียงไม่กี่นาทีข้างหน้าเวลาของคาบเรียนนี้จะหมดลงก็ตาม ปากกาด้ามพลาสติกราคาถูกในมือผมถูกหมุนควงเป็นรอบที่ร้อยพร้อมกับสายตาที่จ้องมองไปที่เข็มของหน้าปัดนาฬิกาหน้าชั้นเรียน
“สำหรับวันนี้ผมขอจบการบรรยายไว้เท่านี้...ส่วนอาทิตย์หน้าจะบอกแนวข้อสอบมิดเทอมนะครับ”
ชายวัยกลางคนปิดอุปกรณ์สื่อสารพร้อมกับหันไปเก็บข้าวของใส่ลงไปในกระเป๋าเอกสาร
เสียงพูดจอแจของเหล่านิสิตชายหญิงค่อยๆดังขึ้นตามลำดับ ต่างคนต่างหันหน้าเข้าหากลุ่มของตัวเองเพื่อพูดคุยกันตามนิสัยของสัตว์สังคม
ท่ามกลางความวุ่นวายขนาดย่อมและเสียงหัวเราะเฮฮา
มีเพียงผมคนเดียวที่โดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางคนนับร้อย...
ผมเริ่มเก็บอุปกรณ์การเรียนและสมุดโน๊ตลงกระเป๋าเป้อย่างเชื่องช้าตามนิสัยที่เข้ากับบุคลิกที่ใครต่อใครก็มักตราหน้าว่ามัน’โคตรเฉิ่ม’ อาจจะเป็นเพราะกรอบแว่นหนาเตอะที่สวมใส่และการแต่งกายที่ถูกระเบียบมหาลัยมาเรียนทุกวัน เลยทำให้ภาพลักษณ์ของผมมันโคตรจะเรียบร้อยและจืดชืด
“จะกลับแล้วเหรอยู”
‘บาส’ เพื่อนผู้ชายร่วมสาขาคนเดียวที่ผมรู้จักมาตั้งแต่งานรับน้องของคณะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าผมลุกออกจากโต๊ะเลคเชอร์
“อืม”
“พรุ่งนี้เจอกันนะ” เขายิ้มให้ตามฉบับของคนอัธยาศัยดี…เขี้ยวเล็กๆที่โผล่ออกมาให้เห็นทำให้เขาดูมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ
บาสเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายเพราะเขาเป็นคนเฮฮาและมนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยม ผิดกับผมที่ดูยังไงมันก็โคตรบื้อแถมยังมนุษย์สัมพันธ์ย่ำแย่ขั้นสุด
ไม่มีเพื่อน...ไม่มีใครอยากเข้าหา
...และไม่อยากจะเข้าหาใคร
‘ยูกิ’ คือชื่อของผม...ผมเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น แต่เกิดและโตที่เมืองไทยเพราะมีเพียงแม่คนเดียวที่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เล็กๆ ส่วนพ่อนั้นเสียไปก่อนที่ผมจะเกิดซะอีก
บางคนอาจจะคิดว่าการเป็นลูกครึ่งต้องดูโดดเด่นและมีหน้าตาที่ดี...แต่เห็นทีทฤษฎีนี้คงใช้กับผมไม่ได้
ลักษณะโดดเด่นที่ใครต่อใครนึกอิจฉาแท้จริงแล้วมันคือหลุมดำที่ปลูกฝังในใจผมมาตั้งแต่เด็ก อาจเป็นเพราะความผิดพลาดทางกรรมพันธุ์บางอย่างจึงทำให้ดวงตาที่ปกติควรเป็นสีดำไม่ก็สีน้ำตาลเข้มเหมือนคนเอเชียทั่วไปกลับกลายเป็นสีเทาอ่อนเหมือนคนตะวันตก
แต่ดีหน่อยที่เส้นผมยังคงเป็นสีดำไม่อย่างนั้นตอนเรียนมัธยมผมคงถูกฝ่ายปกครองมองเขม่นแน่นอน
เพราะมีสีตาที่ค่อนข้างแปลกอีกทั้งยังมีผิวกายขาวซีดเหมือนพวกขี้โรค มันเลยส่งผลให้ไม่มีเด็กคนไหนกล้าเข้ามาเล่นกับผมเลยตั้งแต่จำความได้
จากที่นึกน้อยใจและโดดเดี่ยว...ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความเคยชินไปซะแล้ว
จืดชืด เย็นชา ไม่มีอะไรน่าสนใจ เป็นโนบอดี้ในสังคม
นั่นแหละตัวผม
ตั้งแต่เล็กจนโตผมมองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่างผู้คนในชีวิตอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนซี้ที่สนิทกันแต่พอลับหลังกลับนินทาอีกฝ่ายซะจนไม่มีชิ้นดี หรือจะเป็นคนใหญ่คนโตที่มีหน้ามีตาในสังคม...ต่อหน้าพูดอย่างแต่ลับหลังกลับเป็นอีกอย่าง และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมเลือกที่จะปลีกตัวแยกออกมาจากสังคมจอมปลอมแบบนั้น
ไม่ได้ปิดกั้นใคร...แต่ก็ไม่ได้เปิดรับอย่างหน้าชื่นตาบาน
มากคน...มากปัญหา
นั่นคือสิ่งที่ผมเรียนรู้มาตลอดยี่สิบเอ็ดปีตั้งแต่ลืมตาดูโลก
ติ๊ด!
เสียงแตะคีย์การ์ดดังขึ้นก่อนที่บานประตูจะถูกเปิดออก ผมเดินเข้าไปเปิดสวิตช์ไฟในห้องตามความเคยชิน จนทั่วทั้งห้องที่เคยมืดถูกแทนที่ด้วยแสงสว่างจากหลอดไฟ
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณบ่ายสามกว่า...ผมคงนอนพักสักงีบแล้วค่อยตื่นขึ้นมาหามื้อเย็นทาน
จริงๆแล้วผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ดันฟลุกสอบติดมหาลัยรัฐชั้นนำของประเทศได้ พอแม่รู้แม่เลยลงทุนซื้อห้องชุดที่คอนโดแห่งหนึ่งให้เพื่อเป็นของขวัญ ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ มันก็เป็นแค่ห้องชุดมือสองสภาพธรรมดาไม่ได้หรูหราอะไร เพราะคนรู้จักของแม่ร้อนเงินเขาเลยตัดใจขายให้ในราคาที่ถูกกว่าราคาจริงอยู่มาก
ผมอาศัยอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว ส่วนแม่ก็จะคอยแวะเวียนมาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้งเมื่อท่านว่างจากงาน แต่หลังๆมานี้ผมไม่ได้เห็นหน้าแม่มาเกือบจะห้าเดือนแล้ว ดีหน่อยที่ยังได้โทรศัพท์คุยกันเลยพอจะแก้คิดถึงได้บ้าง
เสื้อนิสิตเนื้อบางถูกปลดกระดุมออกจนหมดเกลี้ยงก่อนจะถูกโยนส่งๆไปกองไว้ที่มุมห้อง ผมมองภาพสะท้อนของตัวเองผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้งที่ปลายเตียง ผิวกายขาวจัดขึ้นสีแดงระเรื่อชื้นเหงื่อจนเสื้อกล้ามที่สวมทับชั้นแรกนั้นเปียกชุ่ม
พอเลื่อนสายตาลงมามองพื้นผิวที่ดันตัวนูนขึ้นบริเวณแผ่นอกทั้งสองข้างมันก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือขึ้นมาลูบปัดผ่านเจ้าสิ่งนั้นแผ่วเบา
เสื้อกล้ามถูกถอดออกไปจนเหลือเพียงเนื้อตัวช่วงบนที่เปลือยเปล่า จิวเงินทั้งสองชิ้นที่เจาะทะลุผ่านยอดอกสองข้างกระทบเข้ากับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศจนเย็นเฉียบ
เครื่องประดับเนื้อเงาส่องกระทบกับแสงไฟจนวาววับ
ผมเจาะมันมาร่วมหนึ่งเดือนแล้ว...ตอนนี้อาการบวมลดลงแต่ก็ยังคงมีความรู้สึกเจ็บแปลบอยู่บ้างตอนที่สัมผัส
บางคนอาจจะมองว่ามันประหลาด แต่ผมกลับมองว่ามันเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มาตอบสนองความน่าเบื่อของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่สวมทับไว้เพียงเสื้อนิสิตเนื้อบางแล้วปล่อยให้เจ้าจิวเล็กๆดุนดันเนื้อผ้าขึ้นมาเล็กน้อยเผื่อใครจะทันได้สังเกตเห็นมัน...และนั่นมันก็เป็นอีกหนึ่งความตื่นเต้นที่ผมพึ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้
พวกโรคจิตชอบโชว์คงไม่ใช่คำบัญญัติตัวผม...แต่การซ่อนเร้นอะไรบางอย่างภายใต้ตัวตนที่จืดชืดต่างหากคือความสนุกที่แท้จริง
“อะ” เสียงครางเผลอหลุดร้องเมื่อปลายนิ้วสะกิดโดน
ความรู้สึกตื่นตัวดันชั้นในขึ้นมาจนบริเวณกลางกายนั้นนูนเด่นผ่านกางเกงสแล็คเนื้อหนา
ริมฝีปากถูกขบกัดเพื่อระงับความต้องการเอาไว้
...นี่พึ่งจะตอนบ่าย แสงแดดยังคงสาดส่องอย่างร้อนแรงผ่านผ้าม่านเนื้อบางเข้ามาในห้อง มันคงจะไม่ดีนักถ้าผมจะทำอะไรตามใจตัวเอง
...แต่บ้าฉิบ! เจ้าตัวซนด้านล่างดันไม่ให้ความร่วมมือกันเลย
ปราการชิ้นสุดท้ายถูกสลัดออกไปกองรวมกับเสื้อเชิ้ตนิสิต ชั้นในสีดำเคลื่อนตัวมากองอยู่ที่ข้อพับเข่าตอนที่ผมทิ้งตัวลงนอนบนฟูกนุ่ม ฝ่ามือถูกลดลงไปปรนเปรอเจ้าลูกชายจนมันสั่นระริกกระตุกรับเป็นจังหวะ กลุ่มขนเบาบางที่กระจายอยู่รอบฐานลุกชูชันตอนที่ปลายนิ้วคลึงเน้นบริเวณส่วนยอดจนน้ำใสๆปริ่มล้นออกมา
“ฮึ..ก” ริมฝีปากถูกขบเม้มจนขาวซีดเมื่อจังหวะการรูดรั้งเริ่มรัวเร็ว
เพียงไม่นานหยาดน้ำขาวจางก็ทะลักล้นออกมาเปรอะบริเวณหน้าท้อง...เพราะเมื่อคืนนี้เอาออกค่อนข้างมากวันนี้มันเลยหลงเหลือเจือจางกว่าปกติ
ผมหอบหายใจหนักเมื่ออุณหภูมิในร่างกายทะลุขึ้นสูงขัดกับลมแอร์เย็นเฉียบที่เป่ารดลงมาบนผิวกาย
สุดท้ายก็ห้ามความต้องการเอาไว้ไม่ไหวพร้อมกับลุกเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อนำกล่องอะไรบางอย่างออกมาวางไว้ที่ปลายเตียง
...มันพึ่งถูกเก็บหลังจากใช้งานไปไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงซะด้วยซ้ำไป
ฝากล่องถูกเปิดออกอย่างเบามือคล้ายกับกลัวว่าจะมีใครมารับรู้พฤติกรรมที่ไม่ปกติของตัวเอง ภายในกล่องสีดำมี ‘ของเล่น’ แก้เบื่อหลายชิ้นที่นอนเรียงรายกันอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
พวกมันเป็นโลกอีกหนึ่งด้านของผมที่ไม่มีคนได้รู้จัก...และผมก็จะไม่ยอมให้ใครเข้ามารับรู้อย่างแน่นอน
โรคจิต? หรือวิปริต? นั่นไม่น่าจะใช่คำที่ถูกต้องมากนัก
สำหรับตัวผมมันก็เป็นเพียงแค่รสนิยมทางเพศอย่างหนึ่งก็เท่านั้น
ก็แค่ของเล่นที่ใครต่อใครเรียกว่าSex toyหรือดิลโด้
แต่พวกมันพิเศษมากกว่านั้นนิดหน่อย เพราะมีลักษณะที่แตกต่างจากของคนธรรมดาและมีขนาดที่ใหญ่กว่าก็เท่านั้น อารมณ์คล้ายๆกับของเจ้าพวกปีศาจหรือเอเลี่ยนที่เห็นได้บ่อยๆในเว็ปสำหรับผู้ใหญ่ในหมวดหมู่Monster cock เพราะทั้งสัมผัสที่ขรุขระและสีสันที่น่าหวาดหวั่นจึงทำให้ใครต่อใครหวาดกลัวที่จะสัมผัสมัน
..แต่ไม่ใช่ผม...ตรงกันข้ามผมกลับหลงใหลเจ้าพวกแท่งนุ่มนิ่มนี่จนแทบเรียกได้ว่าถึงขั้นเสพติด
ไม่ใช่ว่าไม่เคยลองขนาดของมนุษย์ธรรมดาทั่วไป...ผมมีทุกไซส์ไม่ว่าจะเป็นเอเชียหรือพี่บิ๊กเบิ้มอย่างไซส์ผู้ชายผิวสี
แต่พวกมันทั้งหมดก็ไม่สามารถที่จะเติมเต็มความต้องการของผมได้เพียงพอ ความตื่นเต้นที่มีตอนที่ชำแรกสอดใส่กลับเริ่มเจือจาง...จากขนาดเพียงไม่กี่นิ้วถูกขยับขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุดก็เหมือนสวรรค์จะเข้าข้างเมื่อทางพี่เจ้าของเว็ปไซต์เจ้าประจำที่ผมสั่งของเล่นนั้นมีสินค้าตัวใหม่มาให้ลอง
‘Monster’ นั่นคือชื่อหมวดสินค้าตัวใหม่ที่ผมกดคลิกเข้าไปเยี่ยมชมด้วยความสนใจ...
ตอนแรกที่เห็นก็นึกขำเพราะพวกมันหน้าตาประหลาดแถมสีสันยังดูน่ากลัวอีก ทั้งดำเมี่ยมและม่วงคล้ำหลากสีสันละลานตาไปหมด แต่เส้นเลือดที่พันอยู่รอบลำท่อนใหญ่กลับทำให้ผมรู้สึกวูบโหวงที่ท้องน้อยอย่างรุนแรง ช่องทางภายในที่ร่านเร่าตอดตุบเรียกร้องต้องการอย่างรุนแรงคล้ายกับโสเภณีที่ตายอดตายอยากมานานทั้งๆที่ตอนนั้นยังมีแท่งซิลิโคนขนาดเก้านิ้วเสียบคาไว้อยู่
ชิ้นแรกที่ลองสั่งมาคือเจ้าแท่งสีดำขนาดสิบนิ้วที่มีผิวตะปุ่มตะป่ำคล้ายแท่งนวดไม้ที่เห็นกันตามท้องตลาด หลังจากที่ได้ลิ้มลองรสชาติของสิ่งแปลกปลอมมันทำให้ผมตื่นเร้ามากกว่าที่เคย คืนนั้นผมเสร็จติดต่อกันไปห้ารอบเพียงเพราะเจ้าท่อนสีดำเมี่ยมของเอเลี่ยนที่ขยับเข้าออกในช่องทางข้างหลัง
ทุกๆครั้งที่ผิวสัมผัสขรุขระหยาบกระด้างครูดเข้ากับผนังเนื้อมันทำให้ผมล่องลอยเห็นสวรรค์จนแทบเสียสติ เป็นการถูกเติมเต็มอย่างบ้าคลั่งที่สามารถทำให้ผมอิ่มตื้อไปสามวันเต็มเพราะช่องทางด้านหลังบวมระบมจนแทบเดินไม่ไหว
แต่เหตุการณ์เก่าๆก็เริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อเจ้าดำสิบนิ้วไม่สามารถทำให้ผมตื่นเต้นได้เหมือนอย่างเคย
หลังจากนั้นออเดอร์ในตะกร้าสิ้นค้าในเว็ปเซ็กส์ทอยของผมก็มีแต่เจ้าซิลิโคนรูปทรงประหลาดหน้าตาพิลึกพิลั่น และมีชื่อแปลกๆตามความสนุกของเจ้าของร้าน
ม้ายูนิคอร์น,เอลฟ์,ยักษ์,มังกร หรือแม้กระทั่งของพรีเดเตอร์ก็ถูกผมขึ้นขย่มมาแล้วทั้งนั้น...
แต่สินค้าล่าสุดที่พึ่งกดสั่งไปเมื่อสามวันก่อนต่างหากที่ผมกำลังตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ มันเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ออกมาต้อนรับช่วงฮาโลวีนที่ผ่านมา แต่คงเหลือจากการถูกเลือกไม่ก็รูปร่างหน้าตามันน่ากลัวกว่าใครเพื่อน พี่เจ้าของร้านเลยส่งข้อความมาเสนอขายให้ผมในราคาที่ถูกกว่าหน้าเว็ปอยู่มาก
‘Satan 15 inch’ ...เจ้าแท่งเนื้อสีม่วงคล้ำปลายหัวแดงก่ำมันเลื่อม รอบท่อนลำมีเส้นเลือดขดตัวอ้อมส่งเสริมให้มันดูน่ากลัวคล้ายกับของสัตว์ประหลาดที่หลุดออกมาจากนรก
ผมใช้เวลาในการตัดสินใจไม่ถึงห้านาที ค่าขนมที่เก็บมาร่วมสามเดือนก็ถูกโอนไปไถ่ตัวเจ้าแท่งเนื้อสีคล้ำนั่นทันที
...อดใจรอไม่ไหวแล้วสิ..
แท่งนุ่มนิ่มสีเขียวแก่ที่ถูกสมมติว่าเป็นของเจ้ายักษ์โทรลหน้าโง่ถูกเลือกออกมาใช้ปรนเปรอผมในวันนี้
มันเป็นของเล่นตัวล่าสุดที่ผมกำลังหลงใหลและติดงอมแงม ทั้งขนาดที่อวบใหญ่เท่าต้นแขนและท่อนลำที่ยาวถึงสิบสามนิ้วทำให้ตอนนี้มันขึ้นแท่นลูกรักของผมแล้วเป็นที่เรียบร้อย
แต่เพียงอีกไม่นานก็คงได้ลงไปนอนอยู่ในกล่องกับเพื่อนๆที่เหลือเพราะลูกรักคนใหม่ของผมกำลังจะเดินทางมาหาในไม่ช้า
มันทั้งใหญ่กว่า...และยาวกว่าของเจ้ายักษ์หน้าโง่นี่เป็นไหนๆ
เจลหล่อลื่นถูกบีบออกมาในปริมาณที่ค่อนข้างมากเพื่อลดระดับความเจ็บเสียด ความเหนียวหนืดถูกปาดไล้นวดคลึงเจ้าแท่งสีเขียวคล้ำจนมันเปียกเยิ้มไปครึ่งท่อน เท่านี้ก็พร้อมแล้วที่มันจะเข้ามาเติมเต็มดับความหิวกระหายของผม
ปลายหัวบานถูกถูไถอยู่รอบปากทางสร้างความคุ้นชินก่อนจะออกแรงกดเพื่อให้มันสามารถแทรกตัวเข้ามาได้
“อะ..อึก” ผมเบ้หน้าด้วยความรู้สึกเจ็บ แต่ก็ยังใจกล้าเงยหน้าขึ้นดูจังหวะที่ท่อนเอ็นของเจ้ายักษ์โทรลค่อยๆผลุบหายเข้าไปในช่องทางด้านหลังอย่างเชื่องช้า
สองขาแยกฉีกออกกว้างเพื่อเปิดทางให้อสูรกายดุนดันตัวเข้ามาให้ได้มากที่สุด
เพียงครึ่งท่อนเท่านั้นที่ภายในท้องผมจะสามารถรับมันเอาไว้ได้
แท่งเนื้อเขียวคล้ำถูกดันเข้าออกจนเกิดเสียงเหนอะหนะน่าอายตอนที่มันกระทบเข้ากับแก้มก้มของผม ความรู้สึกตึงแน่นที่ท้องน้อยทำให้ผมต้องผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อคุมจังหวะไม่ให้เผลอบีบรัดมันจนแน่นเกินไป ตุ๊กตาหมีที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อตอนเด็กๆถูกดึงมานอนหนุนเอาไว้เพื่อให้ถนัดยิ่งขึ้น
ของเล่นสองชิ้นถูกผมใช้งานไปพร้อมกัน...
เจ้าตุ๊กตาหมีที่เคยถูกกอดถูกหอมจากเด็กชายตัวเล็กในอดีตกลับกลายมาเป็นเบาะรองสำหรับเด็กหนุ่มที่หิวกระจายท่อนลำของพวกสัตว์ประหลาดจำลองอย่างร่านเร่า
เด็กผู้ชายคนอื่นอาจจะมองพวกมันเป็นตัวร้ายในการ์ตูนที่ได้อ่านหรือในอนิเมชั่นที่ได้ดู แต่สำหรับผมเจ้าพวกปีศาจทั้งหลายกลับคล้ายกับพระเอกของเรื่องมากกว่า
“ฮ้าห์!” ปลายเท้าจิกเกร็งลงบนผืนผ้าปูจนยับย่นเมื่อความต้องการใกล้ถึงฝั่งฝัน เสียงร้องครวญครางเหมือนอีตัวดังขึ้นไม่ขาดสาย ยิ่งท่อนเนื้อใหญ่ทะลวงเข้ามาลึกผมก็ยิ่งกรีดร้องสบถคำหยาบออกมาอย่างถึงพริกถึงขิง
ถ้าทุกคนในห้องเรียนได้มาเห็นไอ้เฉิ่มในมุมนี้ล่ะก็...มีหวังตาค้างกันไปเป็นแถบ
หัวนมทั้งสองข้างที่มีจิวขนาดเล็กเจาะผ่านถูกบีบเคล้นอย่างหนักหน่วงจนมันตั้งยอดชูชัน ปลายนิ้วที่ถูกดูดดึงจนเปียกน้ำลายลูบไล้แผ่นอกจนเปียกชุ่ม มุมปากเปียกเยิ้มเพราะผมครางอยู่ตลอดเวลาจนน้ำลายไหลย้อยออกมาเปียกไปถึงลำคอ
“อ...จะถึงแล้ว อ..อึก อ๊าส์!” ร่างกายผมสั่นเทิ้มกระตุกอยู่สองสามทีเมื่อถึงปลายทางแห่งความสุข หยดน้ำใสถูกรีดเค้นออกมาบนแผ่นท้อง ผมตัวเกร็งโอบรัดของเจ้ายักษ์โทรลเอาไว้แน่นจนภายในรู้สึกแสบร้อนจากการเสียดสี
ผมทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อนให้ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศช่วยเป่ารดความร้อนเร่าให้จางหาย ก่อนสติการรับรู้จะค่อยๆเจือจางลงเมื่อรู้สึกเพลีย...และหลับไปพร้อมกับเจ้าแท่งซิลิโคนใหญ่ยักษ์ที่ยังคงเสียบคาช่องทางผมอยู่
สะดุ้งตัวตื่นอีกทีฟ้าข้างนอกก็มืดสนิทนาฬิกาพรายน้ำบนหัวเตียงขึ้นแสดงให้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ผมค่อยๆประคองตัวลุกขึ้นแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกอึดอัดในช่องท้อง พอก้มลงมองก็เผลอหลุดขำเพราะเจ้าตัวเขียวมันยังคงนอนมุดอยู่ข้างในตัวของผมแน่น
ผล็อบ!
“อะ..” เสียงคล้ายกับเวลาที่เปิดจุกไม้ก๊อกของขวดไวน์ดังขึ้นตอนที่ของเจ้ายักษ์โทรลถูกถอดถอนออกจนสัมผัสได้ถึงลมเย็นที่พัดผ่าน ช่องทางของผมยังคงเป็นรูกว้างหุบไม่ลงเพราะพึ่งถอนสิ่งของขนาดใหญ่ออกไป ในท้องรู้สึกวูบโหวงทันทีเมื่อไร้เจ้าลูกรักตัวเขียว
ผมนำมันไปทำความสะอาดก่อนจะเอาไปเก็บลงไว้ในกล่องกับพวกเพื่อนๆตามเดิม
เสียงท้องร้องเป็นการปะท้วงว่าตอนนี้ควรหาอะไรกินทำให้ผมกลับเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายก่อนจะสวมชุดลำลองสบายๆเพื่อลงไปหาอะไรกินที่ร้านสะดวกซื้อข้างคอนโด
อาหารกล่องแช่แข็งและน้ำอัดลมเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยสำหรับมื้อดึก
ผมยืนรอพนักงานเวฟข้าวกล่องอยู่เพียงไม่นานก็ถึงคิวชำระเงิน ขนมปังและขนมขบเคี้ยวถูกหยิบออกมาจากตะกร้าเพื่อวางเรียงเตรียมยิงบาร์โค้ด และแล้วเจ้าขวดทรงเรียวที่วางอยู่เชลฟ์ทางขวามือก็ดึงดูดให้ผมต้องหันไปมอง เจลหล่อลื่นขวดสีเหลืองส้มสูตรอุ่นถูกหยิบมาวางบนเคาน์เตอร์พร้อมกันทีเดียวสามขวด
ที่มีอยู่มันใกล้หมดซื้อไปสต็อคเอาไว้จะดีกว่า
พนักงานผู้ชายที่คุ้นหน้าคุ้นตาแต่ไม่เคยพูดกันเงยหน้าขึ้นมามองผมแป๊ปนึงก็ก้มหน้ากลับไปคิดเงินต่อ ในใจเขาอาจจะกำลังสงสัยว่าไอ้เฉิ่มอย่างผมจะเอาเจลพวกนี้ไปทำอะไร หรือไม่ก็อาจจะกำลังสงสัยว่าทำไมซื้อไปแค่เจลแต่ถุงยางกลับไม่เคยซื้อ
...ก็ตามท้องตลาดมันไม่มียี่ห้อไหนที่จะสามารถสวมใส่ให้เจ้าพวกลูกรักของผมได้เลยนี่
แต่แล้ววันนี้ผมก็จับสังเกตเขาได้อย่างหนึ่ง พนักงานชายคนนั้นดูลนลานแปลกๆซ้ำยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตาคิดเงินจนเผลอปัดเจลขวดหนึ่งตกลงมาจากเคาน์เตอร์ มันกลิ้งมาหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของผมพร้อมกับเขาที่ออกปากขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
ผมก้มลงหยิบเจ้าขวดทรงเรียวขึ้นมาก่อนจะส่งยื่นกลับไปให้ เขามือไม้สั่นเล็กน้อยซ้ำใบหูยังแดงก่ำก่อนจะแอบจดจ้องมาแถวๆแผ่นอกของผม
อา...เป็นเพราะเจ้าจิวสองข้างที่ดุนดันเสื้ออยู่ใช่ไหมที่ทำให้พนักงานชายคนนี้ดูขัดเขินกว่าทุกวัน
เพราะก่อนลงมาผมหยิบเพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาวเนื้อบางมาใส่มันเลยเห็นอะไรต่อมิอะไรไปหมด
...และนั่นมันก็เป็นความตั้งใจของผมเอง
“ส...สามร้อยยี่สิบห้าบาทครับ”
ผมยิ้มบางเบาก่อนจะยื่นแบงก์ห้าร้อยไปให้ รออยู่สักพักก็รับเงินทอนและถุงข้าวของมาถือไว้ก่อนจะเดินออกไปจากร้านสะดวกซื้อโดยไม่ได้สนใจอีกว่าพนักงานคนนั้นจะคิดเกี่ยวกับตัวผมยังไง
...ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะลองสานต่อเผื่อได้ลิ้มลองรสชาติของชายหนุ่มวัยกลัดมันที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่...ภายในร่างกายของผมมันร้องเรียกหาแต่เจ้าของเล่นพวกนั้นอยู่ทุกวินาที แค่คิดช่องทางก็เต้นตุบจนทำให้ต้องเร่งจังหวะฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะได้ขึ้นไปหาอะไรมาเติมเต็มความหิวกระหายอันน่าอายนี้
แต่ทันทีที่เดินผ่านบริเวณล็อบบี้พี่ๆนิติของคอนโดก็แจ้งมาว่าเมื่อช่วงเย็นมีพัสดุมาส่งผมเลยไม่รอช้าที่จะมุ่งตรงไปที่ห้องเมลล์ของทางคอนโด ก่อนจะใช้กุญแจไขล็อคเกอร์ออก
แล้วสิ่งที่ทำให้ผมต้องยิ้มอย่างอารมณ์ดีก็คือกล่องพัสดุขนาดใหญ่จากปลายทางที่คุ้นเคย
ผมอุ้มมันไว้แนบกายก่อนจะกดลิฟต์กลับขึ้นห้องด้วยหัวใจที่เต้นแรง...ตื่นเต้นจนเหงื่อซึมออกมาเต็มฝ่ามือ
พอประตูห้องถูกเปิดออกถุงจากร้านสะดวกซื้อก็ถูกวางไว้บนเคาน์เตอร์อย่างไม่คิดจะใส่ใจ ตอนนี้ความหิวของผมถูกปัดตกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยเพราะอยากจะดูของเล่นชิ้นใหม่มากกว่า
ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอนก่อนจะวางกล่องพัสดุไว้บนปลายเตียง คัตเตอร์ถูกกรีดลงบนเทปปิดกล่องอย่างระมัดระวัง หลังจากที่ฝากล่องเปิดออกก็ทำให้ผมต้องตื่นตะลึงกับขนาดของเล่นชิ้นใหม่
แผ่นกันกระแทกที่ห่อหุ้มไว้หนาแน่นถูกแกะออกด้วยมือที่สั่นเทา และพอได้เห็นตัวสินค้าก็ทำเอาผมแทบหลุดร้องเสียงหลง
นี่มันโคตรบ้า!
ขนาดมันใหญ่กว่าต้นแขนของผมซะด้วยซ้ำไป!
แท่งซิลิโคนสีม่วงคล้ำขนาดใหญ่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ส่วนปลายของมันเป็นสีแดงช้ำไล่ระดับลงจนเข้มที่ปลายโคน เส้นเลือดที่ปูดโปดรอบท่อนเอ็นดูน่ากลัวและสมจริงมากกว่าทุกๆชิ้นที่ผมเคยสั่งมา มันดูมันเลื่อมและวาววับราวกับว่าสิ่งๆนั้นมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ผมเอื้อมมือไปสัมผัสผิวเนื้อนุ่มนั่นอย่างกล้าๆกลัวๆแล้วก็ต้องชักมือกลับเมื่อรู้สึกร้อนผ่าวที่ปลายนิ้ว
...ผมอาจจะจินตนาการสูงไปเอง
...แต่ยอมรับเลยจริงๆว่าของเจ้าซาตานมันดูน่ากลัวและ...น่าขึ้นขย่มมากกว่าทุกชิ้นที่ผ่านมา..
เพียงแค่คิดก็แทบจะทนไมไหวเมื่อนึกภาพว่าเจ้าดุ้นยักษ์นี่กำลังสอดแทรกเข้ามาเติมเต็มความต้องการของผม
น้ำลายเหนียวหนืดถูกกลืนลงลำคออย่างยากลำบากตอนที่ไล้ปลายนิ้วไปตามเส้นเอ็นปูดโปน
ผมกัดริมฝีปากจนซีดเพื่อระงับความอยากที่กำลังปะทุขึ้นสูง รู้ตัวอีกทีเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นก็ถูกถอดออกมากองไว้ที่ข้างเตียง ผมเดินเปลือยออกไปหยิบเอาขวดเจลหล่อลื่นที่พึ่งซื้อออกมาจากถุงร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนเตียงเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับของเล่นชิ้นใหม่
มันใหญ่และยาวกว่าเจ้าพวกที่นอนแอ้งแม้งอยู่ในกล่องซะอีก...ซ้ำยังดูน่าหวาดกลัว ขนาดผมที่คลั่งไคล้อะไรแบบนี้ยังแอบสั่นตอนที่เห็นมันผงกหัวตั้งชันชี้หน้า
คล้ายอสูรกายที่พร้อมฉีกทึ้งร่างของเหยื่อให้เจ็บปวดยังไงยังงั้น
“เป็นเด็กดีนะ” ผมนั่งทับเข่าหันหน้าเข้าหาเจ้าแท่งยักษ์ ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าแอ่นตัวลงไปใช้ลิ้นแลบเลียส่วนปลายสีแดงคล้ำเบาๆ ขนาดของมันใหญ่จนแทบจะบังหน้าผมมิด ลองอ้าปากให้กว้างเพื่อครอบครองมันแต่ก็ไร้ผลเมื่อกลืนกินเข้าไปได้แค่ส่วนปลายก็เจ็บจนปากแทบฉีก
...แล้วส่วนนั้นของผมจะรับมันไหวไหม..
“อื้มม” ผมครางเครือออกมาอยากถูกอกถูกใจกับของเล่นชิ้นใหม่ ลิ้นตระหวัดเลียเส้นเลือดปูดโปนอย่างหิวกระกายพร้อมกับใช้ฟันขบกัดมันจนขึ้นรอย
...ยิ่งทำยิ่งสะใจ...ไม่เคยรู้สึกสะใจเท่านี้มาก่อน
เจลหล่อลื่นถูกบีบชโลมลงบนท่อนลำจนมันเปียกชุ่ม เจ้าแท่งสีม่วงคล้ำแท่งนี้ทำให้ผมต้องใช้เจลในปริมาณที่มากกว่าทุกๆชิ้นที่ผ่านมา
สัมผัสอุ่นร้อนของเจลที่เคลือบบนผิวขรุขระมันวาวจนทำให้ผมต้องแอบกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง จิวสองอันที่เจาะอยู่บนยอดอกถูกบีบเคล้นจนผิวกายบริเวณนั้นขึ้นรอยแดงเถือก ผมขยับหน้าอกถูไถเข้ากับเจ้าแท่งซิลิโคนยักษ์อย่างเสียวซ่าน พร้อมกับใช้ส่วนรูที่ปลายหัวเขี่ยยอดอกไปมา
“ฮ้าห์” ท่อนลำสีม่วงคล้ำตัดกับผิวกายขาวเนียนได้เป็นอย่างดี ผมใช้มันตีหน้าอกตัวเองอยู่สักพักก็เปลี่ยนท่าทางใหม่
จัดการตั้งมันให้ตรงก่อนจะคุกเข่าขึ้นเหนือปลายหัวแดงก่ำ แล้วค่อยๆทิ้งน้ำหนักตัวลงไปครอบครองอสูรกายอย่างหิวกระหาย
“อ...ฮ่ะ อึก” เพราะก่อนหน้านี้ช่องทางของผมโดนเจ้าโทรลเบิกทางไว้ก่อนจนหลวมโพรกเลยทำให้เจ้าปีศาจสีคล้ำขยับเข้ามาได้ง่ายขึ้น แต่เพราะขนาดของมันที่ใหญ่กว่ามากทำให้ผมต้องเบิกตากว้างเมื่อรู้สึกรวดร้าวจนแสบระบม
“อื้อ!” เพราะทนไม่ไหวเลยเผลอทิ้งน้ำหนักตัวลงไปทีเดียวจนทำให้เจ้าเอ็นท่อนใหญ่ผลุบหายเข้ามาได้เกือบครึ่ง เนื้อผิวขรุขระหยาบกระด้างครูดไปกับผนังอ่อนทำเอาผมต้องแอ่นตัวขึ้นด้วยความซ่านเสียวและจุกเสียด หน้าท้องแบนราบของผมตึงแน่นและโป่งนูนออกมาเล็กน้อยตอนที่เจ้าอสูรกายมันมุดเข้ามาข้างใน
แต่เพราะขนาดที่ใหญ่เกินกว่าจะรับไหวจึงทำให้ผมไม่สามารถขยับมันเข้าออกได้ตามใจ ทำได้เพียงแค่หมุนควงและกระดกเอวรับนิดหน่อยเท่านั้น
เนื้อตัวผมสั่นสะท้านตอนที่ส่วนปลายกระแทกโดนเข้ากับจุดกระสันอย่างจัง ผมเหลือกตามองฝ้าเพดานอย่างล่องลอยตอนที่ขยับหมุนควงสะโพกเนิบนาบเป็นวงกลม ก่อนจะต้องเกร็งตัวแน่นเมื่อรู้สึกเสียวซ่านเกินจะรับไหว
“อ๊า! ข...เข้ามาลึกกว่านี้!” ปลายทางสุดท้ายทำให้ผมควบคุมสติไม่อยู่ แม้ช่องทางจะฝืดเคืองแต่ความบ้าบิ่นกลับทำให้ผมขึ้นขย่มเจ้าแท่งเนื้อซาตานอย่างลืมอาย ความสุขสุดยอดที่ไม่เคยได้รับทำให้ผมร้องครางอย่างเสียสติ
เพียงเสี้ยววินาทีผมกลับจินตนาการไปถึงเจ้าปีศาจตัวสีแดงที่ใครต่อใครนั้นหวาดกลัว ยิ่งจินตนาการว่ามันกำลังสอดใส่ท่อนเนื้อใหญ่เข้ามาอย่างรุนแรงและย่ำยีผมอย่างบ้าคลั่งก็ทำเอาหัวใจเต้นรัวเร็วจนปวด
ช่องทางละโมบหุบกินแท่งเนื้อแน่นไม่ยอมปล่อยก่อนแก่นกายจะกระตุกฉีดพุ่งหยาดน้ำออกมาจนเปื้อนเปรอะผ้าปูที่นอน
“อ...สุด..ยอด” ผมครางกระเส่าก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหงายทั้งๆที่ยังมีแท่งซิลิโคนรูปร่างประหลาดเสียบคาเอาไว้
รู้สึกร้อนผะผ่าวไปทั้งตัวจนต้องควานหารีโมตแอร์มาลดอุณหภูมิลง
และเพราะวันนี้เสร็จสมไปหลายครั้งอีกทั้งยังไม่มีอะไรตกถึงท้องมันจึงทำให้ผมรู้สึกอ่อนเพลียอยู่ไม่น้อย เลยตัดสินใจได้ว่าจะขอนอนพักก่อนส่วนพวกอาหารที่ซื้อมาค่อยตื่นมากินวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน
ก่อนที่สติรับรู้จะเลือนหาย ความคับแน่นและอึดอัดในท้องทำให้ผมตัดสินใจที่จะดึงเอาเจ้าท่อนยักษ์ออกไปก่อน แม้จะนึกเสียดายแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อความรู้สึกสบายในการพักผ่อน