เราแอบชอบนาย Extra E2 (ตอนพิเศษ) P.2 [10.03.2019] - END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เราแอบชอบนาย Extra E2 (ตอนพิเศษ) P.2 [10.03.2019] - END  (อ่าน 20506 ครั้ง)

ออฟไลน์ เอ็ม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Extra E1 “Teenagers” (R)

สัปดาห์สอบปลายภาคผ่านไป~

“ถ้าว่าง ๆ แม่จะไปเยี่ยมเราที่บ้านนะจ๊ะดัซ ยังไงฝากดูดอนด้วยแล้วกัน... ไม่คิดเลยลูกชายจะมีแฟนหน้าตาน่ารักขนาดนี้ คบกันก็ชวนกันติวหนังสือไม่ใช่ชวนกันออกนอกลู่นอกทางให้แม่เป็นห่วง...”

“ครับผม~” การที่ถูกแม่ของดอนพูดแบบนี้ด้วยอยู่บ่อยครั้งผมเองก็เขินเป็นเหมือนกันนะ ทุกอย่างดูผิดคาดมากจริง ๆ แม่ของคนตัวสูงดีเกินไปจนบางทีผมเกรงใจ จะมีก็แต่พี่ชายของดอนที่จนมาถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย คนอะไรหน้านิ่งตึงตลอดเวลา ถ้าหากถูกต่อยมาจะทำไง ฮืออออ... แต่เจ้าตัวเหมือนจะไม่ค่อยกลับบ้านนะ เห็นดอนบอกมาแบบนั้น อาชีพแพทย์ก็งานหนักแบบนี้แหละใช่มั้ยล่ะ

“พอมีตัวเล็กแม่ก็จะลืมดอนเลยใช่ไหมครับ...”

“ตาดอนไม่สำคัญสำหรับแม่แล่ว... แม่จะเอาตัวเล็กมาอยู่ที่บ้าน ดูหน้าตาน่ารักนี่สิ อื้อออ... ไม่คิดเลยว่าอ่านนิยายวายทุกวันแล้วลูกชายจะทำให้ความฝันแม่สมหวัง...” เอ่อ... เดี๋ยวนะแม่ ก็ถึงว่าทำไมดอนบอกว่าแม่ชอบอ่านนิยาย แล้วอย่าบอกนะว่านิยายที่อ่านคือนิยายวาย? ผมไม่เคยอ่าน แต่เพื่อนผู้หญิงในห้องชอบคุยเรื่องนี้กันอยู่บ่อยครั้ง มันเป็นนิยายเกี่ยวกับชายรักชายใช่ไหมล่ะ

“เจ้าของตัวเล็กตัวจริงอยู่ตรงนี้แล้ววว... แม่ไม่มีสิทธิ์นะครับ”

“ดะ ดอน...” ชอบพูดให้เขินตลอดเลย เจ้าของอะไรล่ะ!? จะว่าไปนี่ก็นั่งอยู่หลังบ้านดอนมาได้สักพักแล้ว แม่ของดอนต้องไปทำงานแต่ทำไมยังไม่เห็นไปสักที วันนี้วันจันทร์ สอบเสร็จเพิ่งปิดเทอมได้สามวันแม่ของดอนก็ชวนมานั่งคุยกันที่บ้าน หลังจากหลายวันมาแล้วที่ดอนแนะนำผมให้ท่านรู้จัก โล่งอกไปทีที่ท่านไม่ได้รังเกียจผมแต่อย่างใด... หลังบ้านของดอนจะเป็นสวนหญ้ามีม้าหินอ่อนให้นั่งเล่นใต้ร่มไม้ บรรยากาศค่อนข้างเย็นสบายเลยแหละครับ นั่งอ่านหนังสือได้เพลิน ๆ เลยทีเดียว

“น้องเขินหมดแล้วเนี่ย เราน่ะชอบหยอด...”

“น้องอะไรล่ะ ตัวเล็กรุ่นเดียวกันกับดอนนะครับ”

“ก็จะทำไม แม่จะเรียกดัซว่าน้อง อีกอย่างดัซก็อายุน้อยกว่าตาดอนด้วย” แม่กับลูกเถียงกันได้น่ารักจังเลยอะ ผมมองแล้วแอบยิ้มตลอดเลย ดอนเถียงคนไม่เก่งหรอกจากที่ผมรู้จักมา เจ้าตัวมักจะยอมตลอดเหมือนตอนนี้ที่ทำหน้างอนแล้วหันหนี แต่ถามว่าแม่สนใจไหมก็ไม่ ผมรู้สึกหลงรักคนทั้งสองแล้ว

“แม่จะไปทำงานแล้วนะ วันนี้ที่ทำงานแม่ให้เข้าสายเพราะมีปรับปรุงเรื่องระบบไฟฟ้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วยังไม่เสร็จ” เหมือนที่ทำงานแม่ผมเลย วันนี้แม่ก็ไปสายเหมือนกัน เห็นบอกว่าอะไรนี่แหละจำไม่ได้เพราะมัวแต่รีบไม่ได้ฟัง คนตัวสูงก็ไปรับแต่เช้าด้วยไม่รู้จะรีบไปไหน

“รีบไปเลยยย…”

“ตาลูกคนนี้…”

หมับ…

“แม่ไปก่อนนะตัวเล็ก…” แม่ลุกขึ้นมาดึงผมที่นั่งบนเก้าอี้ไปกอดซุกอยู่ที่ท้องจนต้องชะงัก ก่อนจะยอมอยู่เฉย ๆ ให้ท่านกอด ให้ความรู้สึกเหมือนแม่ตัวเองกอดเลย ก่อนที่ท่านจะปล่อยแล้วเดินอ้อมไปขยี้หัวดอน ตรงเข้าไปในบ้านปล่อยให้ผมอยู่กับคนตัวสูงสองต่อสอง

“แม่ของดอนน่ารักอะ”

“ลืมดอนแล้วมั้ง น่าจะรักตัวเล็กมากกว่าแล้ว…”

“อื้อออ… งอนเหรอหืม?” เห็นใบหน้าหล่อทำเป็นงอน ๆ ผมเลยต้องขยับเข้าไปจับแก้มคนตัวสูงแล้วดึงเล่นเบา ๆ ให้ดอนยิ้ม ตาคมเอาแต่มองผมด้วยสายตานิ่ง ๆ ก่อนจะดึงผมไปกอดซะจนแทบจะตกเก้าอี้ พักนี้เราสนิทกันมากขึ้นจนไม่รู้สึกเขินเวลาจะพูดอะไรออกไปแล้ว

จุ๊บ…

“ดะ ดอน! ปล่อยเลยนะ”

“ไม่…”

“ดัซหายใจไม่ออกแล้ว” ตัวก็โตแรงก็เยอะ ดึงไปกอดทีนี่แทบจะขาดใจตาย ถึงจะรู้สึกดีที่คนตัวสูงเป็นคนกอดก็เถอะ หน้าผมเอาแต่ซุกอยู่กับอกอุ่น ๆ สักพักถึงโดนผละออกมามองหน้า เขินเลยนะ! เมื่อกี้ยังจุ๊บหัวอีกด้วย

“เรียกแทนตัวเองว่าดัซด้วย น่ารักจังครับ…”

“…” เมื่อกี้ผมเรียกตัวเองว่าดัซเหรอ? ไม่รู้แหละคงลืมตัวมั้ง แต่ยังไงก็ช่างดอนปล่อยแล้วถือว่าผมเป็นอิสระ

“ตอนไหนจะเริ่มติวอะ”

“ตัวเล็กไม่กินข้าวเช้าก่อนเหรอ…” เจ้าตัวถามในขณะเก็บจานเค้กตรงหน้าให้เป็นระเบียบ เตรียมถือเข้าไปเก็บในบ้าน

“เมื่อกี้เราเพิ่งกินเค้กก้อนโตไปด้วยกันนะ อีกอย่างอีกไม่นานก็จะเที่ยงแล้วรอกินข้าวเที่ยงดีกว่าไหม ดัซไม่หิวแล้วด้วย”

“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ งั้นเราขึ้นไปอ่านหนังสือดีกว่า วันนี้ตัวเล็กติวอิ้งให้ดอนก่อนนะ”

“ได้เลย~”

“อ้อนผมเหรอครับ?” ลุกขึ้นดอนก็หันมาถามจนผมเลิกคิ้ว พอนึกได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองตอบเสียงหวานจึงชะงักเขินแล้วหันหนี ใบหน้าคมกระตุกยิ้มให้ก่อนเราทั้งสองจะเข้าไปในบ้านแล้วขึ้นไปยังห้องของคนตัวสูง จากนั้นก็ไม่มีใครรอช้าเพราะเวลาค่อนข้างสำคัญผมจึงได้เริ่มติวอังกฤษซึ่งเป็นวิชาถนัดและสอบได้อันดับท็อป ๆ ของสายชั้นมาโดยตลอดให้เจ้าของห้อง อันดับท็อป ๆ คะแนนซ้ำกันมีหลายคนเพราะมีแต่คนเก่ง ๆ มันจึงไม่ได้ดูน่าตื่นเต้นสักเท่าไร เว้นเสียแต่คนที่ได้เต็มมีแค่ไม่กี่คน

#WriterPart

“ตรงนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม มันอาจจะยังไม่ชัดเจน ดอนต้องเห็นรูปประโยคถึงจะเข้าใจ เดี๋ยวดัซเขียนให้ดู ประธานบวก…”

“…” ทั้งสองนั่งติวหนังสือกันบนพื้นห้องซึ่งมีโต๊ะญี่ปุ่นไว้วางเอกสารในการติว สองร่างนั่งชิดติดกันเนื่องจากร่างเล็กกำลังสอน แต่เขาจะหารู้ไม่ว่าการที่เด็กวัยรุ่นสองคนอยู่ในห้องด้วยกันซ้ำยังเป็นแฟนกันมันจะมีแรงดึงดูดทางเพศมากแค่ไหน เจ้าของใบหน้าคมแทนที่จะสนใจในหารติวกลับรู้สึกว่ากลิ่นตัวหอม ๆ ของอีกฝ่ายที่กำลังร่ายคำสอนออกมานั้นดึงดูดเสียจนต้องเผลอมองใบหน้าใสตาไม่กะพริบ

“เนี่ย… มันก็จะมีแค่นี้เอง ดอนเก็ตรึเปล่า?”

กึก…

“…” จังหวะที่จะหันมาถามคนข้าง ๆ แต่ใบหน้าของคนตัวสูงกลับอยู่ใกล้ ๆ ซ้ำยังมองเขาอยู่ก่อนหน้าแล้วจึงทำให้ชะงักเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมถึงได้ใจสั่นแบบนี้ ซ้ำตอนนี้ยังเหมือนคนตัวสูงกำลังนั่งขัดสมาธิซ้อนตัวเขาอยู่หน่อย ๆ ใบหน้าคมค่อย ๆ ขยับเข้าหานั่นยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นระรัว ดอนกำลังตั้งสติไม่อยู่นั่นคือสิ่งที่คิดได้มือเล็กจึงยกขึ้นไปดันที่ไหล่แกร่งไว้แล้วหันหนี มันนานมาแล้วที่เขาทั้งสองไม่ได้จูบหรือสัมผัสกัน ซึ่งรู้สึกเหมือนยังไม่ชินเลยที่ต้องทำแบบนี้

“ตะ ติวหนังสือ”

“ตัวเล็ก…” เสียงเรียกอ้อน ๆ ทำให้ใบหน้าใสต้องหันไปเลิกคิ้วทำหน้าเครียด

“ผมไม่ไหว…” ใบหน้าคมซุกลงที่ไหลเขา มือหนาวางอยู่บนโต๊ะกำหมัดไว้แน่นเสียจนดัซยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่

“ผมเองก็เด็กผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่ง… แต่ไม่เคยได้ผ่อนคลายเลย”

“ดอน…” ทำไมถึงเอาแต่ซุกอยู่ที่ไหล่เขาเหมือนกำลังเก็บกดอะไรสักอย่าง เขาเองก็เครียดเหมือนกันนะที่คนตัวสูงเป็นแบบนี้

“รู้ว่ามันอาจเหมือนไม่ให้เกียรติคนที่ผมรัก…”

“…”

“แต่เราทำแบบนั้นกันไม่ได้เหรอครับ?”

ตึกตักๆ

“…” ทำแบบนั้น? จูบแบบสอดลิ้นเข้าหาและทำให้ของสงวนสัมผัสกันเหรอ? แค่คิดเขาก็รู้สึกกลัวแล้ว… แต่ที่คนตัวสูงหมายถึงมันคืออะไร หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งรู้สึกกังวลและเขินอาย รู้ว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังรู้สึกอะไรบางอย่าง เหมือนเจ้าตัวจะเก็บอารมณ์เอาไว้แทบจะไม่ได้

“ผมขอโทษ… ถ้า-”

“ระ เราแค่กลัว…” กลัวที่จะลองทำ ครั้งแรกของเขานะ! รู้ว่าผู้ชายสองคนเขาทำอะไร ๆ กันยังไง แต่ไม่เคยได้ค้นหาหรือสืบข้อมูลดู มันไม่ใช่เรื่องที่เด็กวัยรุ่นอย่างเขาควรสนใจไม่ใช่เหรอ? ถึงแม้วิชาสุขศึกษาจะได้เรียนมาค่อนข้างเยอะแล้วก็ตาม แต่ที่ดอนบอกมันหมายถึงการทำแบบไหนกันแน่

“มันอาจจะเจ็บ… แต่ดอนจะทำให้เบาที่สุด”

“…” เจ็บ?

“แต่ถ้าตัวเล็กกลัวจริง ๆ ดอนจะไม่ทำแล้วใช้มือแทนเหมือนตอนนั้นก็ได้…” ฮืออ… อะไรเนี่ย ทำไมเขาต้องมาตกอยู่ในภาวะกดดันแบบนี้ด้วย แอร์ในห้องไม่ได้ทำให้ใจเย็นลงเลยจริง ๆ เขาไม่อยากทำให้ดอนผิดหวัง แต่ก็แอบกลัว ๆ นี่ก็แฟนคนแรก ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าแฟนกันต้องทำยังไงบ้าง เรื่องแบบนี้มันเหมาะสมแล้วเหรอ…

“ดะ ดอนจะทำแบบไหน?” ใบหน้าใสขึ้นสีแดงระเรื่อถามคำถามที่สงสัยออกไปอย่างใสซื่อ สองสายตาสบประสานกันไม่กะพริบ นั่นยิ่งทำให้รอยยิ้มหล่อจุดขึ้นบนใบหน้าคมอย่างนึกเอ็นดูแฟนของเขา

“ทำเหมือนคนที่เป็นแฟนกันเขาทำกันยังไงล่ะครับ…” เอ่ยจบใบหน้าคมก็ขยับเข้าประกบริมฝีปากคนตัวเล็กทันที ใครจะไปรู้ว่าแฟนตัวเล็กคนนี้หน้าตาน่ารักน่าฟัดซะขนาดไหน ดัซตกใจถึงขั้นยกมือทั้งสองข้างขึ้นกำเสื้อยืดของคนตัวสูงไว้แน่น สิ่งอุ่นชื้นนุ่ม ๆ ลื่น ๆ รุกล้ำเข้าหาในโพรงปากเสียจนรู้สึกเคลิบเคลิ้มตาม กลิ่นหอมและรสหวานจากเค้กที่กินผสมปนเปกันไปหมด ทำไมกัน… ทำไมร่างกายถึงปฏิเสธการกระทำอันแสนน่าอายนี่ไม่ได้เลย ความคิดในหัวตีวนไปมั่วเสียจนไม่รู้อะไรเป็นอะไร คล้าย ๆ ตัวเองกำลังอยู่บนปุยเมฆนุ่ม ๆ หลับตาปี๋ไม่กล้าลืมขึ้นไปมองคนตรงหน้า แค่นี้ก็แทบจะหัวใจวายอยู่แล้ว

“อือออ…” ลิ้นอุ่นของร่างสูงทำให้เขารู้สึกอ่อนเพลียลงอย่างเห็นได้ชัด อวัยวะสำคัญของร่างกาย ณ อกข้างซ้ายเต้นแรงเสียจนเหมือนคนเป็นโรคหัวใจ สักพักกลับรู้สึกเริ่มหายใจไม่ออกจึงได้ทุบไปที่อกคนตรงหน้าจนใบหน้าคมต้องผละออก ใบหน้าหล่อส่งสายตาอ่อย ๆ เคลิ้ม ๆ มาให้ยิ่งทำให้ดัซชะงัก แต่เขากลับ… มีอารมณ์ขึ้นอย่างไม่รู้ตัว มือหนาทั้งสองข้างสัมผัสเอวบางไว้หลวม ๆ ยังคงไม่ปล่อยไปไหน ดอนเล่นงานเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเลย

“ผมขอโทษ…”

“…”

“แต่เรามารีบทำมันให้เสร็จแล้วติวหนังสือกันต่อดีกว่าครับ…”

พรึบ!

“อ๊ะ!” เอ่ยจบร่างของคนตัวเล็กก็ถูกอุ้มขึ้นจนดัซชะงักรีบตวัดมือกอดท้ายทอยแกร่ง ดอนจะทำอะไร? เขากลัว… ร่างสูงค่อย ๆ วางร่างเล็กลงบนเตียงนอนเบา ๆ นั่นทำให้รู้ว่าการกระทำต่อจากนี้ต้องไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้วแน่ ๆ

“ดะ ดอน… ดัซกลัว” เสียงสั่นแผ่วออกไปบอกคนตัวสูงที่กำลังขึ้นมาคร่อมพร้อมหันหน้าหลบสายตาคมที่มองมา

“อยู่กับดอนไม่มีอะไรที่ตัวเล็กต้องกลัว…” ร่างสูงไม่รอช้ารีบก้มลงไปประคองใบหน้าใสให้หันมารับบทจูบอีกครั้ง ถามว่าร่างบางขัดขืนไหมก็ไม่ เขาเองก็ผู้ชายคนหนึ่งที่สามารถมีอารมณ์แบบนั้นขึ้นมาได้ มันน่าอายและดูไม่เหมาะสมก็จริง แต่วัยรุ่นอย่างเขา ๆ จะหลีกเลี่ยงได้ยังไงในเมื่อสิ่งแวดล้อมตอนนี้มันเอื้ออำนวย

“อื้ออ…” การตวัดลิ้นเริ่มระรัวขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ร่างของดัซไม่อาจที่จะต้านทานแรงราคะนี้ได้ ดอนโจมตีเขาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัวเลยจริง ๆ ใจที่นึกกังวลคงทำได้แค่นึก แต่จะปฏิเสธได้ยังไงในเมื่อชายตัวสูงหักห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้เสียแบบนี้ เขาเองก็พลอยที่จะตกอยู่ในมนต์สะกดของเจ้าตัวไปด้วย… สักพักมือหนากลับสอดเข้ามาเลิกเสื้อของดัซขึ้นเสียจนเจ้ากรรมชะงักสั่น เห็นเช่นนั้นดอนจึงต้องผละใบหน้าออกมามอง

“ใจเย็น ๆ …”

“...”

“เชื่อใจดอนนะครับ”

“ดะ ดอน...”

จุ๊บ…

“อึก…” ใบหน้าคมก้มลงจุ๊บที่หน้าผากเนียนเป็นการปลอบโยน ก่อนการกระทำแสนน่าอายจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เสียงครางหวาน ๆ แผ่วขึ้นเบา ๆ ดัซไม่สามารถเอ่ยห้ามคนที่เอาแต่ลากสิ่งเปียกชื้นไปมาบนซอกคอตัวเองได้แล้ว เจ้าของมือหนาผละออกไปถอดเสื้อของเจ้าตัวออกแล้วโยนลงทิ้งข้างเตียง ร่างกายของเด็กอายุจะ 18 ดูสมส่วนมีกล้ามที่หน้าท้องจนใคร ๆ เห็นเป็นต้องใจสั่น เจ้าของใบหน้าหวานเผลอมองจนหน้าแดงก่อนจะรู้สึกตัวเลยจำต้องหันหนี ก่อนจะชะงักที่ดอนพุ่งจุดสนใจกลับมาที่เขาและถอดเสื้อของเขาออก เผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนของคนตัวเล็กที่ทำให้ใบหน้าหล่อยกยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจในรูปร่างของแฟนหนุ่ม แฟนหนุ่มตัวเล็กที่รู้สึกรักรู้สึกหวง แต่ดัซกลับเขินอายเสียจนอยากจะหายไปจากตรงนี้เสียให้รู้แล้วรู้รอด

“แฟนดอนน่ารัก…”

“ดะ ดอน!”

“หึ ๆ เดี๋ยวก็มีความสุขด้วยกันแล้วครับ~” เอ่ยจบใบหน้าคมก็ก้มลงไปใช้ปากสัมผัสที่เม็ดไตสีชมพูจนร่างเล็กสะดุ้งผวา ดัซครางด้วยความเสียว มือนุ่มเผลอยกขึ้นจับที่ผมหนาไว้อย่างลืมตัว นี่มันความรู้สึกอะไรกัน... ทำไมถึงรู้สึกดีแบบนี้ ทั้งตื่นเต้นและเขินอายไปในเวลาเดียวกัน ความเสียวซ่านแพร่กระจายไปทั่วทั้งร่าง ดอนทำให้เขาใจสั่นจนเหนื่อยสั่นไปหมดแล้ว…

“ยะ อย่า...” เอ่ยห้ามยังไม่ขาดคำกางเกงของเขาก็ถูกดึงลงจนไหลมาอยู่ที่หน้าแข้ง และยิ่งต้องตกใจขึ้นไปอีกเมื่อคนตัวสูงดึงชั้นในที่มีไว้ปกปิดส่วนสำคัญลงไปด้วย ตาคมก้มลงมองอะไร ๆ ขนาดไม่ใหญ่ที่เริ่มขยายตัวก่อนจะเลื่อนมือไปสัมผัส

“อะ อ๊ะ ดะ ดอน...” ร่างบางพยายามใช้มือของเขาปัดป้องมือหนาออกแต่กลับไม่เป็นผล เมื่อเริ่มออกแรงขยับเขายิ่งดิ้นเสียจนคนทำจำต้องก้มลงไปจูบปลอบ ในสมองดัซตอนนี้ไม่มีสติสัมปชัญญะแล้วจริง ๆ มันเบลอไปหมดเหมือนครั้งก่อน ทุกอย่างดูหมุนติ้ว ๆ ทั้งมีความสุขแล้วปวด ๆ ที่ท้องน้อย รู้ตัวอีกทีก็เหมือนตัวเองนั่งอยู่บนรถไฟเหาะ วิ่งขึ้นไปยังจุดสูงสุดแล้วถูกปล่อยลงมาตามรางที่สูงชัน พร้อมของเหลวบางอย่างปลดปล่อยออกมาจนเลาะที่มือคนตัวสูง ร่างเล็กหายใจหอบด้วยความเหนื่อย เขาเกือบจะสลบ… ไม่ใช่ไม่รู้ว่ามันคือจุดสุดยอด แต่เขาเพิ่งได้รู้สึกมันจริง ๆ ร่างกายมันมีของแบบนั้นจนสามารถปลดปล่อยออกมาได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมถึงเหนื่อยจนต้องหลับตานอนหายใจหอบ รู้ตัวเองอีกทีก็ถูกจับให้อ้าขาออกจนต้องลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ เจ้าของมือหนานำของเหลวที่ได้จากคนตัวเล็กลงไปทาที่ช่องทาง

“อ๊ะ! ดะ ดอน!”

“ตัวเล็ก… ใจเย็น ๆ ครับ”

“มะ ไม่นะ...” มือทั้งสองข้างบีบไหล่แกร่งไว้ ยิ่งสิ่งแปลกปลอมที่เรียกว่านิ้วเรียวค่อย ๆ รุกล้ำเข้ามาอย่างช้า ๆ ยิ่งทำให้ดัซเจ็บจนต้องกัดฟันกรอด ดอนเปลี่ยนสีหน้าเป็นกังวลขึ้นทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของคนรักใต้ร่างไม่ปฏิเสธแต่กลับรัดนิ้วเขาเสียจนรู้สึกแน่น นั่นทำให้ต้องก้มลงไปประกูบจูบที่ริมฝีปากเจ้ากรรมอีกครั้งเพื่อความผ่อนคลาย

“อึก อื้อออ…” น้ำใส ๆ เริ่มไหลออกจากตากลม เขาลืมตาขึ้นสบกับอีกคนที่จูบปลอบ ซ้ำยังเริ่มขยับนิ้วเข้าออกอย่างช้า ๆ มันเจ็บ… เขาเจ็บจริง ๆ ทำไมถึงได้เจ็บแบบนี้ ถึงแม้ดอนจะขยับเข้าออกได้แล้วแต่ก็ยังไม่ชิน ร่างสูงผละใบหน้าออกแต่ข้างล่างยังทำงานไม่หยุด ผ่านไปสักพักจึงได้เริ่มเพิ่มนิ้วเป็นสองนั่นยิ่งทำให้คนตัวบางน้ำตาแตกพราก ใจหนึ่งนึกเห็นใจร่างเล็กและกังวล แต่หากไม่ทำตอนนี้จะไปทำตอนไหนในเมื่อเขาคิดที่จะรักกับตัวเล็กไปอีกนาน ผ่านไปหลายนาทีกว่าด้านหลังของร่างบางจะพร้อม

“ผมขอโทษ…” ใบหน้าคมซุกลงที่ซอกคอขาวของคนที่ร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิด มาถึงขั้นนี้แล้วแต่กลับสงสารคนตัวบางเสียจนไม่อยากฝืนทำอะไรต่อ… ไม่อยากฝืนทำอะไรต่อทั้ง ๆ ที่อะไร ๆ ปวดหนึบไปหมดแล้ว ได้ยินร่างบางกลับไม่ได้ปฏิเสธ มือนุ่มค่อย ๆ เลื่อนมาลูบที่ผมหนาเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่น้ำตายังคลอเบ้า ทนเจ็บมาถึงขั้นนี้แล้ว เสียน้ำตาจนแทบจะไม่มีให้เสียแล้ว…

“ระ รีบ…” เสียงแผ่วนั้นทำให้ดอนชะงักผละออกมามองใบหน้าใส ได้รับคำสั่งแล้วมีเหรอที่เขาจะรอช้า เลื่อนมือไปถอดกางเกงตัวเองลงพร้อมชั้นใน ทำให้อะไร ๆ ขนาดไม่ธรรมดาที่พร้อมใช้งานโผล่ออกมาให้คนตัวเล็กเห็นจนจำต้องหันหนี ในใจทำได้เพียงแค่คิดว่าตัวเองจะตายไหม สิ่งนั้นมันใหญ่เกินไป ใหญ่กว่าสองนิ้วที่ร่างสูงสอดใส่เข้ามาในตอนแรก เขาต้องทนเพื่อความรักใช่หรือไม่ ต้องทนเพื่อคนที่เขารักใช่รึเปล่า เรายอมดอนแล้วหนิ…

สวบ…

“อึก...” เพียงแค่ส่วนแรกยังทำให้ร่างเล็กรู้สึกเหมือนร่างแทบแตกเป็นเสี่ยง ๆ น้ำใส ๆ ที่เบ้าตาคิดไว้ว่าคงไม่มีอีกแล้วแต่กลับเริ่มไหลรินอีกครั้ง เนื้ออุ่นรัดกายเสียจนดอนสติแทบจะเตลิด มันรู้สึกดีเกินไป นี่เหรอการกระทำที่คิดอยากจะลองมานาน มันรู้สึกดีขนาดนี้เลยเหรอ… ร่างเล็กรัดเขาเกินไปจนต้องก้มลงไปประกบจูบให้เจ้าตัวผ่อนคลาย ไม่งั้นคงไม่ไหวแน่ ๆ

“อืม…” ลิ้นนุ่มพยายามตอบโต้และบอกกับจิตใต้สำนึกว่าไม่สามารถหยุดได้แล้ว เจ็บจวนจะขาดใจตายแต่ต้องทนไว้ว่าทุกอย่างมันจะโอเค โชคยังดีที่การเบิกทางในตอนแรกทำให้ทุกอย่างราบรื่นเร็วขึ้นกว่าที่คิด ไม่นานกลางกายของชายตัวสูงก็ถูกสอดเข้ามาเสียจนสุดท่อน ความคับแน่นและความเจ็บทำให้ร่างเล็กต้องตวัดเรียวแขนขาวขึ้นกอดรอบคอแกร่ง ซ้ำยังเผลอจิกเล็บลงที่แผ่นหลังของคนตัวสูงอย่างลืมตัว ดอนเจ็บแต่เขาไม่ได้คิดที่จะห้ามร่างเล็กเลยแม้แต่น้อย รู้ว่าร่างบางต้องเผลอลืมตัวไปแล้วแน่ ๆ ไม่เคยทำเเบบนี้กับใครมาก่อน พอได้ทำทำไมถึงได้รู้สึกดีเช่นนี้ ไม่รู้ว่าคนใต้จะรู้สึกเจ็บมากเพียงใด แต่เขาไม่ไหวแล้วจริง ๆ

ชึ่บ…

“อื้ออ…” แรงราคะในสมองทำให้ไม่สามารถคิดอะไรได้อีกแล้ว สะโพกแกร่งขยับซอยเข้าออกจากเนิบ ๆ เป็นถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ ความเสียวซ่านไหลไปตามเส้นประสาทสัมผัส รู้สึกดีจริง ๆ ยิ่งรู้สึกดียิ่งรู้สึกรักและหวงคนใต้ร่าง สองแขนแกร่งสอดเข้ากอดรอบเอวบางไว้แน่น

สวบ ๆ

“อืม...” เสียงครางทุ้มต่ำลอดออกมาด้วยความเสียว มันช่างเร่าร้อนเสียเหลือเกิน ร่างบางทำได้เพียงครางและกอดร่างสูงที่ซุกหน้าอยู่กับซอกคอเขาไว้ไม่ยอมปล่อย ความกลัวและกังวลทำให้จำต้องกอดชายผู้เป็นแฟนไว้แน่น อย่างน้อยชายคนนี้ก็ยังไม่ทิ้งเราไปไหน ยังอยู่กับเราตลอดเวลา ความเจ็บจนแทบใจจะขาดในตอนแรกในตอนนี้เริ่มมีบางช่วงที่ความเสียวซ่านแทรกขึ้นซ่อน นี่คือครั้งแรกของเขา นี่คือครั้งแรกที่ทำกับคนที่เขารัก ร่างสูงไม่แม้แต่จะหยุดขยับเลยจริง ๆ ซ้ำยังเริ่มออกแรงขยับเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนได้ยินเสียงเนื้อสัมผัสกัน

“อะ อ๊ะ อื้อ…” เสียงครางหวาน ๆ จากทั้งสองประสานกันดังขึ้นไม่ขาด เหงื่อกาฬบนผิวของสองร่างผุดขึ้นสัมผัสกันจนรู้สึกวาบหวิว ดอนเร่งความเร็วหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเจ้าตัวเริ่มรู้สึกเสียวจนแทบจะปลดปล่อย

“อืม...”

“ดะ ดอน… อะ อ๊ะ!”

“ผะ ผมไม่ไหว…”

สวบ!

“อ่า…” ไม่นานร่างสูงก็กดกลางกายเข้าไปคายังช่องทางคับของคนตัวเล็ก ก่อนจะปลดปล่อยของเหลวเข้าไปในร่างของเจ้ากรรมจนคนตัวบางสัมผัสได้ถึงความอุ่น มันถูกต้องแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้… ความเหนื่อยล้าทำให้เจ้าตัวกอดและซุกหน้าไว้ที่ซอกคอขาว ๆ ไม่ยอมผละออกไปไหน เขารักคนตัวเล็ก รักมาก ๆ เลยด้วย…

“ผะ ผมขอโทษ…”

“…” ดัซทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากหายใจหอบ เขาเหมือนจะเป็นลมอยู่รอมร่อ ได้แต่ประคองสติตัวเองไว้

“แต่ดอนรักตัวเล็กนะครับ ไม่ยอมให้ใครแย่งตัวเล็กไปเลยด้วย…”

“ดะ ดอนเอาออกไปก่อน…”

“รักผมไหม?”

“อะ อื้ม… ไม่รักคงไม่ยอมหรอก”

“หึ ๆ”

จุ๊บ…

Contact Me
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-03-2019 12:38:19 โดย เอ็ม »

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตัดจบด้วยความร้อนแรงจนเตียงแทบไหม้  :z1:

ออฟไลน์ เอ็ม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Extra E2 “Dawn’s birthday”

“แล้วพักนี้มึงไปหาดอนบ่อยป่ะวะ?”

“อาทิตย์หนึ่งก็บ่อยอะ ส่วนมากดอนมารับกูไปนั่งอ่านหนังสือที่บ้าน ร้านกาแฟ บางทีก็เดินห้างไรงี้ แต่กูเกรงใจดอนเหมือนกัน บางทีอยู่บ้านคุยกันผ่านโทรศัพท์น่าจะดีกว่า” พูดถึงเรื่องติวหนังสือแล้วนึกถึงเรื่องเมื่อสัปดาห์ก่อนขึ้นมาทันที หน้ามันจะแดงขึ้นมาตลอดเลยอะ ดอนทำให้ผมเจ็บจนเดินลำบาก เหมือนจะป่วยเลยด้วยซ้ำ แต่คนตัวสูงก็ดูแลผมอย่างดีจนอาการมันดีขึ้น ช่วงสองสามวันแรกหลังจากทำเรื่องแบบนั้นยอมรับว่าเขินทุกครั้งที่อยู่ใกล้คนตัวสูง แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้วครับ ดอนเองก็เหมือนจะไม่ได้สัมผัสร่างกายผมเลยด้วย ใช่สิ! ผมไม่ต้องการให้ดอนแตะเนื้อต้องตัวไปมากกว่านี้หนิ ไม่ใช่รังเกียจแต่แค่กังวลและเขินอาย

“ดีแล้ว… ยังดีที่มึงชอบใครคนนั้นแล้วเขาก็ชอบมึง…” ทำไมเลย์มันพูดเหมือนกำลังแอบชอบใครอยู่เลย วันนี้เลย์มันมาเล่นกับผมที่บ้านแต่เช้า ก็นั่งดูหนังคุยกันอยู่ห้องรับแขกนี่แหละ ส่วนแม่ไปทำงาน ปิดเทอมแล้วไม่ค่อยมีอะไรให้เครียดไปนอกเสียจากเตรียมตัวเรื่องสอบเข้ามหา’ ลัย จะขึ้นมอหกแล้วนะเว้ย มีอะไรอีกหลาย ๆ อย่างให้ตื่นเต้นเลย เจอกับคุณครูคนใหม่ ๆ การเรียนใหม่ ๆ กิจกรรมใหม่ ๆ

“มึงโอเคใช่ไหม? กูยอมรับเลยนะว่ารู้สึกแย่ที่พอคบกับดอนแล้วไม่ค่อยได้อยู่กับมึง…”

“กูโอเค… ไม่ใช่เรื่องที่จะมางี่เง่าใส่มึงหนิ อีกอย่างเพื่อนคนอื่น ๆ ก็มี ถ้ากูมีแฟนบ้างก็คงแบ่งเวลาไปสนใจแฟนเหมือนกัน…” ตามันมองโทรทัศน์ปากก็บอกออกมา พวกเราดูซีรี่ส์ในเน็ตฟลิกซ์เรื่องหนึ่งอยู่ ซึ่งผมเองนี่แหละที่สมัครเพราะคิดว่ามันช่วยฝึกภาษาได้ดี พูดถึงเรื่องที่ผมไม่ค่อยได้อยู่ไอ้กับเลย์ก็แอบกังวล แต่ดีแล้วที่มันเข้าใจ ผมแคร์เลย์มันมาก ๆ เลยนะ ไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึกแต่หลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับตัวมัน ในชีวิตมีไม่กี่คนที่ผมจะแคร์ได้มากขนาดนี้ ถึงมันจะไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรเลยก็ตาม

“สรุปเรื่องเรียนต่อมึงจะเข้าที่ไหน?”

“อยู่ในใจนี่แหละ…”

“บอกกูไม่ได้?” มันหันมากระตุกยิ้มแล้วผลักหัวผมเล็กน้อย จะขึ้นมอหกแล้วนิสัยผลักหัวเพื่อนยังไม่คิดจะเลิกอีกนะ ไม่สิ… ก็หัวผมคนเดียวนี่แหละ หรือเพราะตัวไม่สูงถึงโดนผลักบ่อย ๆ

“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ เอออย่าลืมชีตรวมศัพท์ที่กูบอกให้ถ่ายเอกสารให้ด้วย ป้ากูบ่น ๆ ว่าให้เริ่มลงมือได้ละ อุตส่าห์ไม่ให้กูเฝ้าร้านแล้ว อีกอย่างพอเห็นมึงติวหนังสือกับผัว-”

ตุบ!

“หยาบคายไอ้เลย์!”

“ฮ่า ๆ ๆ โทษที ๆ ๆ” มันยกมือขึ้นบังแล้วหัวเราะเหมือนทุกครั้ง แต่ผมดันเขินขึ้นน่ะสิ มาผงมาผัวอะไรล่ะ!?

“เออก็เห็นมึงติวหนังสือกับดอนบ่อย ๆ กูก็เริ่มมีไฟแล้ว ปิดเทอมมึงก็รู้ว่ากูไม่ค่อยได้ไปไหน จะมีก็แต่ไปเล่นบาสกับพวกไอ้บอมไอ้คีย์มัน…”

“เดี๋ยว ๆ มึงไปสนิทกับพวกนั้นตั้งแต่ตอนไหน?” บอมกับคีย์นี่คนหน้าตาดีห้องศิลป์ญี่ปุ่นเลยนะ เห็นเล่นบาสบ่อย ๆ

“นี่ใคร… เลย์สุดหล่อห้องสิบสามนะครับ”

“…” เออแล้วแต่มึงเลยเลย์ ผมทำได้เพียงกลอกตามองบนก่อนจะลุกเดินขึ้นไปเอาชีตรวมศัพท์ยอดฮิตที่ถ่ายแล้วเย็บไว้มาให้ไอ้เพื่อนคนนี้

“อ่ะ ร้อยหนึ่ง…”

“สัส… กับเพื่อนมึงก็ไม่เว้นเหรอ?” มันรับไปเปิดดู แต่ก็รู้แหละว่าผมล้อเล่น ผมจึงเดินกลับไปนั่งที่เดิม

“เอาไปก็จำ ๆ ด้วยนะเลย์ มึงยิ่งไม่ค่อยถนัดอังกฤษด้วย อย่าลืมว่าแกตมันสำคัญเกือบทุกคณะ”

“รู้แล้วแม่…”

“เดี๋ยวเหอะ…” น่าทุบจริง ๆ จะว่าไปแล้วพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญของคนที่ผมรักนี่นา ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงนึกขึ้นได้น่ะเหรอ พอดีหันไปมองปฏิทินแล้วเห็นวันที่ที่ตัวเองวงกลมไว้ แค่คิดหน้าก็แดงขึ้นมาแล้ว เจ้าตัวเหมือนไม่ว่างตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทักแค่มาบอกว่าจะไม่ได้ตอบแชตหรือโทรมาหา ผมเองก็สงสัยน่ะสิ ใจมันไม่สงบเลยด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยดอนก็บอกไว้ เมื่อเช้าจึงทักไปอีกรอบแต่ดอนก็ยังไม่ตอบเลย นี่ก็เกือบเที่ยงแล้วด้วย สงสัยจังว่าทำอะไรอยู่ พวกเราไม่ค่อยได้นอนด้วยกันหรอกนะครับ ไม่ใช่นอนแบบนั้นนะ! หมายถึงผมไปค้างคืนบ้านดอนหรือดอนมาค้างคืนบ้านผม แค่นอนเฉย ๆ ก็มีบ้างแต่ไม่ได้บ่อยนัก เพราะตอนกลางวันก็คุยกันและเห็นหน้ากันบ่อยจนชินไปแล้ว บ้านก็อยู่ห่างกันพอสมควร แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับคนตัวสูงเลยจริง ๆ

แต่วันนี้…

‘อยากให้ดอนมาค้างคืนด้วยจัง…’ ผมไม่ได้คิดเรื่องทะลึ่งนะ! แต่อุตส่าห์เตรียมแผนการทุกอย่างไว้แล้ว ของก็ซื้อไว้แล้วด้วย สักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจึงได้รีบเลื่อนมือไปหยิบขึ้นมาดู ในใจหวังให้เป็นคนที่กำลังคิดถึงและมันก็เป็นเช่นนั้น มีเหรอที่ดัซคนนี้จะไม่รีบบอกคุณชายเลย์แล้วออกไปรับข้างนอก เพราะต้องการความส่วนตัว

(ตัวเล็กผมขอโทษที่ไม่ได้ตอบแชตหรือโทรไปนะครับ…) เสียงเหมือนรีบร้อนที่จะพูด

“ดอนทำอะไรอยู่ เราแค่แอบกังวล ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ มีธุระหรือมีปัญหาอะไรรึเปล่า?” รู้ว่าไม่ควรยุ่งแต่ผมเหมือนทนไม่รับรู้อะไรไม่ได้เลยอะ ฮือออ…

(งอนผมรึเปล่าเนี่ย พี่กับแม่พาดอนไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดเลยไม่ได้คุยกับตัวเล็กเลย โทรศัพท์ก็ถูกยึดไม่ให้ใช้ แต่พอกลับมาถึงก็รีบโทรหาตัวเล็กเลย…)

“…” แค่ได้ยินสีหน้าก็แดงขึ้นแล้วนะ เว่อร์อีกแล้วนะดัซไอ้อาการแบบนี้

(อย่างอนผมนะครับ เดี๋ยวจะรีบไปหา ขอเวลาแป๊บหนึ่ง…)

“ดอนไม่ต้องรีบก็ได้… เราแค่เป็นห่วงดอน ไม่ได้งอนสักหน่อย”

(น่ารักแบบนี้ไง อยู่ใกล้ ๆ จะไม่ปล่อยไว้แน่ ๆ)

“ดะ ดอน!”

(ฮ่า ๆ ๆ เดี๋ยวผมไปหานะครับ เดี๋ยวจะไปนอนค้างบ้านตัวเล็กเลย แค่นี้นะครับ)

“ดอน เดี๋ยว…” ทำไมต้องชิ่งกดตัดสายด้วยกลัวผมไม่อนุญาตรึไงกัน จะมานอนที่บ้าน? ทำไมเจ้าตัวเหมือนรู้ทันเลยอะว่าผมอยากให้มาค้างที่นี่ ผมเดินกลับเข้าไปในห้องมองเลย์มันที่เหมือนเตรียมตัวจะกลับจนต้องเลิกคิ้ว

“จะไปไหน?”

“กลับ…”

“เดี๋ยว ๆ ทำไมรีบกลับอะ?” พอดอนจะมานี่ก็จะกลับเลยแบบนี้เหรอ?

“กูมาตั้งแต่เช้าแล้วนะดัซ อีกอย่างสุดที่รักมึงจะมาหาแล้วไม่ใช่รึไง?”

“…” อะไรของมัน ผมยังคงเลิกคิ้วจนมันสะพายกระเป๋าสะพายข้างขึ้นแล้วขยี้หัวผมแรง ๆ ก่อนเดินออกจากบ้านไปจนผมต้องออกมาส่ง อะไรของคุณชายเลย์ จะว่าไปเนี่ยผมเห็นมันโพสต์แปลก ๆ ลงในเฟซบุ๊กด้วยนะ ลืมถามไปเลย เหมือนมันกำลังเหน็บใครสักคน แต่ช่างเถอะ…

‘ฮือออ… ดอนจะมาหา!’ ต้องสนใจอีกคนที่หายหน้าหายตาไปตั้ง 1 วัน!




________________________________________




ปิ๊ง~

หมับ!

“อื้ออ… ผมคิดถึง~” ก้าวขาเข้ามาในบ้านเลยก็ถูกดึงเข้าไปกอดเลย ดอนชอบอ้อนแบบนี้อะ เจ้าตัวตอนนี้ใส่ยีนส์เดฟสีดำกับเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มลายธรรมดา เตรียมกระเป๋าเป้มาอย่างดี ส่วนผมกางเกงขาสั้นประมาณเข่าพร้อมเสื้อยืดสีขาวธรรมดา ใบหน้าคมซุกลงที่หัวผมแล้วถูไปมา ตัวก็โตกอดก็แน่น ใจสั่นไปหมดแล้วนะ แต่ความคิดถึงทำให้จำต้องหันกลับไปหาแล้วยกแขนขึ้นสวมกอดคนตัวสูงกลับ เอาแต่ซุกหน้าอยู่ที่อกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไว้แบบนั้น คนนิสัยไม่ดี! ทำให้คิดถึง…

“ปล่อยได้แล้ว…” ถ้าไม่บอกจะไม่ยอมปล่อยจริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย มือหนาผละออกมาจ้องหน้าผมพลางยิ้มให้ไม่หยุด เอาแต่จ้องอยู่นั่นแหละ เราก็เขินเป็นนะดอน!

“น่ารัก~”

ตุบ…

“พอเลย…” ยกมือขึ้นไปทุบอกเจ้าตัวด้วยใบหน้าเหมือนพร้อมระเบิดก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโซฟาตามด้วยคนตัวสูง นึกได้ว่าดอนคงเหนื่อยเลยรีบลุกขึ้นไปหยิบน้ำเย็น ๆ มาให้ เจ้าตัวรับไปพร้อมคำขอบคุณเหมือนทุกครั้ง

“เนี่ยผมคิดถึงจนไม่สนใจหน้าใครเลยตอนไปทำธุระกับครอบครัว”

“ปะ ปากหวาน… แล้วดอนถูกพี่แดนยึดโทรศัพท์เหมือนเดิมเหรอ?” เราสองคนนั่งห่างกันพอสมควร ด้วยความที่โซฟามันกว้างด้วยแหละมั้ง แต่หลังถามคำถามเสร็จเจ้าตัวก็วางขวดน้ำไว้แล้วขยับมาหาพร้อมเอนหัวลงที่ไหล่ผมทันที

“ดอนยังไม่ได้นอนมาตั้งแต่เมื่อคืนเลย กลับมาถึงก็รีบมาหาตัวเล็ก…”

“หืม… ทำไมไม่นอนก่อนล่ะ” จริง ๆ เลย… ทำไมไม่พักผ่อนก่อนมาหา แล้วนี่ขับรถมาทั้ง ๆ ที่เพลียแบบนี้เลยเหรอ หัวหนักเริ่มเปลี่ยนเป็นนอนหนุนตักผม ยกขาขึ้นมาขดไว้บนโซฟาแล้วหลับตา ขนาดขดแล้วยังยาวจนสุดโซฟาเลย ใบหน้าคมดูหล่อเหลาเสียจริง ๆ ผู้ชายคนนี้พูดจาไพเราะกับทุก ๆ คนยกเว้นเพื่อนสนิท แล้วยิ่งพอเห็นความตั้งใจที่จะทำอะไรของเจ้าตัวแล้วกลับคิดว่าทำไมเราต้องงอนที่เจ้าตัวไม่ทักหรือโทรหา รู้สึกงอนไม่ลงเลยจริง ๆ มือค่อย ๆ เลื่อนไปลูบผมหนาเบา ๆ ดอนหลับตาและเหมือนอยากจะหลับจริง ๆ สงสัยคงเพลียสินะ

“ดอนขึ้นไปนอนข้างบนไหม?”

“อื้อ… ผมอยากนอนหนุนตักตัวเล็ก…” ครางตอบแต่ไม่ยอมเปิดตาขึ้นมามองเลย ทำไมถึงรู้สึกเอ็นดูคนตัวสูงขนาดนี้ ไหน ๆ ดอนก็เหนื่อยเราก็นั่งดูหนังไปให้เจ้าตัวนอนแล้วกัน พยายามเปิดเสียงให้เบาที่สุด และเหมือนดอนจะหลับไปแล้วครับ…

‘คนดื้อ…”




________________________________________




ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง~

#WriterPart

ร่างเล็กที่คิดไว้จะให้คนตัวสูงนอนหนุนตักตอนนี้ดันเผลอหลับจนคนตัวโตอุ้มขึ้นมานอนบนห้องแล้ว เจ้าของใบหน้าใสที่ผล็อยหลับโดยไม่ยอมผละออกไปไหน นั่งให้เขาหนุนตักอยู่นานสองนาน จะเมื่อยขาไหมก็ไม่รู้แต่ที่รู้ ๆ คือดอนนึกเอ็นดูจนต้องขึ้นมานอนกอดแล้วเผลอหลับไปด้วยกันอยู่บนเตียง ใบหน้าใสซุกเข้าหาความอุ่นเนื่องจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องยังคงทำงาน ไม่ใช่ว่าดอนเป็นคนเปิดแต่เขาลืมปิดไว้ตั้งแต่เช้า หากผู้เป็นแม่รู้ก็คงจะโดนบ่นจนหูบานเป็นแน่แท้ ก่อนจะขึ้นมาร่างสูงก็จัดการทุกอย่างแล้วเรียบร้อย ล็อกประตูบ้านพร้อมกับปิดทีวี

ทั้งสองเผลอหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่ที่รู้ ๆ คือคนตัวเล็กตอนนี้ที่เหมือนจะกำลังรู้สึกตัว ด้วยความที่ยังคงงัวเงียจึงเอาแต่หลับตาซุกอยู่กับเสื้อของคนตัวสูง กลิ่นประจำของใครคนนั้นที่เขาคุ้นชิน ในที่สุดดอนก็มาหาเขาแล้วหลังจากที่หายหน้าหายตาไปทำธุระกับครอบครัวมา ความคิดถึงทำให้ตอนนั้นเผลอยกมือขึ้นสวมกอดเจ้าตัวกลับ ซ้ำยังให้ดอนหนุนตักอีกด้วย แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้รู้สึกเหมือนตัวเองสบายแปลก ๆ

“อ๊ะ! ดะ ดอน…” เสียงตกใจดังขึ้นเสียจนคนตัวสูงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามอง เขาพลิกตัวจากนอนกอดร่างบางไปเป็นมองเพดาน นี่เขาหลับไปนานแค่ไหน หันไปมองคนตัวเล็กที่ลุกขึ้นนั่ง เจ้าตัวเหมือนจะตกใจจนเขากระตุกยิ้มแล้วยกมือไปคว้าร่างเล็กลงมานอนกอด

“อื้ออ… ปล่อยเลย”

“ตัวเล็กเผลอหลับ”

“ระ เราหลับเหรอ? แล้วขึ้นมาได้ไง?” ถามทั้ง ๆ ที่ยังถูกกอดรัดไว้อยู่ในอ้อมอก ใบหน้าใสเงยขึ้นมองคนที่เอาแต่ซุกหัวของเขาจนดอนต้องผละใบหน้าออกมามองใบหน้าใส

จุ๊บ…

“อ๊ะ! ดอน!” แรงจุ๊บที่หน้าผากทำให้ดัซยิ่งชะงัก เขารีบดันอกแกร่งออกแล้วลุกขึ้นนั่งทันที โชคดีที่คนตัวสูงปล่อย ชอบทำให้ใจสั่นอยู่เรื่อยเลย! แล้วนี่นอนหลับไปนานแค่ไหนเนี่ย ไม่ใช่ไม่เคยถูกคนตัวสูงนอนกอด แต่แค่แอบตกใจที่อยู่ดี ๆ มานอนอยู่บนห้อง

“ขอบคุณที่ให้นอนหนุนตักนะครับ แถมยังให้นอนกอดด้วย…”

“…” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเพราะความเขิน ใบหน้าใสร้อนผ่าวขึ้นเสียจนต้องขยับหนีลงจากเตียงไปยืนมองคนตัวสูงที่นั่งยิ้มหราส่งมาให้ มาเลยก็ทำให้ใจสั่นเลยนะ!

“ดอนรักแฟน~”

“ดอน!”




________________________________________




เวลา 23:50 น.

“ตรงนี้ดอนก็เอากริยามาใส่ แค่นี้ก็เสร็จแล้ว…”

“เข้าใจแล้วครับ” เจ้าของใบหน้าคมตอบก่อนที่ดัซจะเลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ในใจนั้นเริ่มตื่นเต้นขึ้นทุกทีที่เห็นเวลาบนหน้าจอ

‘อีกไม่นานแล้วสินะ…’ เขาเอ่ยขึ้นในใจก่อนจะหันไปมองคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ดอนกำลังตั้งใจทำแบบฝึกที่เขาเพิ่งสอนไปเมื่อกี้ เหมือนร่างสูงจะเข้าใจเกี่ยวกับรูปประโยคในภาษาอังกฤษมากขึ้นแล้วตั้งแต่เขาติวให้ คณิตกับฟิสิกส์ที่ให้เจ้าตัวสอนดัซเองก็เข้าใจขึ้นเป็นถัง แบบนี้รึเปล่าที่เขาเรียกว่าคบกันช่วยกันติวหนังสือ

“เดี๋ยวเรามานะ ดอนทำแบบฝึกรอไปก่อน…” ได้ยินตาคมจึงละจากแบบฝึกหัดหันไปมองตามร่างบางที่ลุกขึ้นจะเดินไปยังประตู

“ดัซไปเอาของแป๊บหนึ่ง ดอนทำแบบฝึกหัดรออยู่ข้างบนนี่แหละ…” กลัวว่าดอนจะตามลงไป ร่างสูงยิ่งดื้อ ๆ อยู่ด้วย ดูสายคมนั่นสิ… มันดูย้อนแย้งกันตรงที่ทั้ง ๆ ที่ดอนมีดวงตาที่คมเฉียบ ยิ่งเวลามองด้วยสายตานิ่ง ๆ มักจะยิ่งทำให้คนอื่นกลัว แต่กับเขาดอนมักจะส่งความอ่อนโยนมาให้ตลอด บางครั้งก็แป๋วเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว คิดว่าเจ้าตัวแกล้งแต่ที่จริงคือไม่รู้เรื่องรู้ราวจริง ๆ เหมือนที่บางทีเขาเองก็ไม่ทันเจ้าตัว

“โอเคครับ…” เมื่อได้รับคำตอบดัซจึงได้รีบลงไปยังชั้นล่าง ในมือมีโทรศัพท์ที่คอยดูเวลาเพราะมันจะต้องตรงแปะ ๆ ไฟในห้องครัวถูกเปิดขึ้นพร้อมร่างบางที่ตรงไปหยิบเค้กที่เตรียมไว้ในตู้เย็นออกมาวางบนโต๊ะ ตอนนี้แม่เขาคงนอนหลับไปแล้ว แต่ยังไงเขาก็ได้บอกท่านไว้แล้วเหมือนกันว่าต้องใช้ไฟ เลยถูกกำชับให้ระวัง มือเล็กกำลังถือไฟแช็กจุดเทียนเลขสิบแปดที่ตั้งอยู่ตรงกลางเค้กช็อกโกแลตที่สั่งร้านทำ หน้าเค้กมีเขียนว่าแฮปปี้เบิร์ดเดย์เป็นตัวย่อภาษาอังกฤษพร้อมชื่อคนตัวสูง หลังจุดเสร็จมือบางจึงเลื่อนไปหยิบโทรศัพท์มาดูซึ่งมันเหลือเพียงไม่ถึงหนึ่งนาที สองขาเรียวจึงได้รีบเดินออกจากห้องครัวพร้อมด้วยสองมือถือเค้กขึ้นไปบนห้อง ดัซวางเค้กลงบนตู้เล็ก ๆ ที่มีไว้วางของโชว์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาอีกครั้ง วินาทีที่มองจอโทรศัพท์ตัวเลขก็เปลี่ยนทันที

เวลา 00:00 น.

ก็อก ๆ ๆ

“…” เห็นเช่นนั้นจึงได้รีบสอดโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับเคาะห้องสามครั้งแล้วรีบหันไปหยิบเค้กขึ้นมาถือไว้ หัวใจดวงน้อยสั่นไม่เป็นจังหวะ ผู้ชายคนนี้โตเร็วจริง ๆ ยังไม่ขึ้นมอหกเลยด้วยซ้ำแต่ทำไมถึงอายุถึงสิบแปดเร็วขนาดนี้ มันทำให้ดัซรู้สึกอุ่นใจที่เจ้าตัวมีวุฒิภาวะมากขึ้นแล้ว เขาเองยังอีกหลายเดือนเลย…

แกร็ก…

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู… ยู~ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู… ยู~ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์… แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู… ดอน~” คนเปิดประตูออกมาถึงกับชะงักตาค้างมองใบหน้าใสร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดให้เขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เขารู้ว่าตัวเล็กน่ารักแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะน่ารักขนาดนี้ ตอนแรกยังแอบงง ๆ ว่าทำไมเจ้าตัวไม่ยอมเปิดประตูเข้ามาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ล็อก แต่ใครจะไปรู้ว่าภาพตรงหน้ามันทำให้ผู้ชายคนนี้รู้สึกซึ้งใจมากแค่ไหน ในใจอยากจะดึงคนตัวบางเข้ามากอดเพราะรู้สึกตื้นตันใจ มันยิ่งทำให้เขาหลงรักตัวเล็กขึ้นไปอีก

“ดอนรีบเป่าเร็ว…” เสียงใสดังขึ้นทำให้ร่างสูงจำต้องออกจากภวังค์ รอยยิ้มหล่อ ๆ จุดขึ้นบนใบหน้าคมก่อนจะโน้มศีรษะลงไปเป่าให้เปลวไฟบนเทียนเล่มนั้นดับ ควันสีขาวจาง ๆ ลอยตามขึ้นมานิด ๆ ก่อนจะหมดไป กลิ่นมันช่างหอมเสียเหลือเกิน

“สุขสันต์วันเกิดน๊า~ ดัซยังไม่ได้ซื้ออะไรให้ดอนเลย แต่มีเค้กให้ก่อนนะ…” ร่างเล็กบอกพลางเดินเอาเค้กเข้ามาวางลงบนโต๊ะญี่ปุ่น ดอนจึงปิดประตูก่อนจะหันมาสนใจร่างเล็ก ๆ ที่ทำตัวน่ารักน่าหอมมากเกินไปเสียจนเขาใจสั่น เห็นหลังของเจ้าตัวมือหนาจึงได้รีบคว้าเอวบางเข้ามากอดไว้จนดัซชะงัก จมูกคมซุกลงที่หัวนุ่มหอม ๆ ไม่ยอมปล่อย แทนที่ดัซจะชะงักและร้องบอกให้ปล่อยแต่เขากลับยอมอยู่เฉย ๆ ให้คนตัวสูงกอดไว้แบบนั้น ใคร ๆ ต่างก็อยากให้แฟนตัวเองมีความสุข เขาเองก็อยากให้ดอนมีความสุขเหมือนกัน

“ขอบคุณครับ…” บอกแต่ยังคงซุกอยู่ที่หัวของเขา ดัซจึงจำต้องหันกลับไปมองใบหน้าคมพร้อมระบายยิ้มให้เจ้าตัวได้เห็น

“สุขสันต์วันเกิดนะ…”

“…ผมรักตัวเล็ก…”

หมับ…

“…” ถูกดึงเข้าไปซบอกไว้อีกแล้ว ร่างสูงมักจะเป็นแบบนี้ตลอดตอนที่ดีใจกับอะไรบางสิ่งมาก ๆ ซึ่งเขาเองก็ชอบแบบสุด ๆ สองแขนเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นสวมกอดคนตัวโตกลับและซุกหน้าอยู่กับอกอุ่น ๆ นั้นไว้

“เราก็รักดอน…”

Contact Me

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น่ารัก  :-[

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
น่ารักมากๆเลยจ้า :katai2-1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
งื้อออออ อยากให้มีตอนต่ออีก
น่ารักทั้งคู่เลย  :hao7: :o8:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด