LOVE LIKE LEMON : 10
[/b]
ผมลืมตาตื่นเพราะแสงอาทิย์มัยแยงเข้ามาในลูกตาผม ตอนนี้เวลาประมาณ 11.30 ครับ ผมตื่นสายได้ครับเพราะวันนี้ไม่มีธุระที่ไหน ถือว่าเป็นวันพักผ่อนหลังจากที่เหนื่อยเมื่อวาน เหนื่อยทั้งกายและใจเลยครับ
ผมทำเหมือนเดิมทุกครั้งที่ตื่นก็ หยิบโทรศัพท์มาเช็ค แล้สผมก็เห็นข้อความค้าบอยู่ เป็นของที่มะนาวครับ เป็นข้อความเกี่ยวกับการเปิดแคสติ้งของแบรนเสื้อผ้า ที่จะจัดโชว์ในแฟชั่นวีคในอีกสองอาทิตย์ พี่มะนาวให้ทุกคนใน lemon modeling ไปแคสด้วยครับ
ผมอ่านแล้วตอบคอนเฟริมว่าผมไป ผมเห็นในแชทมีไอ้แบลคที่ตอบแล้ว ฟู พี่ซุปเปอร์ พี่ข้าวโพด แล้วก็โมเดลอีกหลายคนเลยครับ ส่วนวันเวลาก็คือพรุ้งนี้พี่มะนาวนักรวมตัวกัน 10.00 ที่สถานที่แคสติ้งเลยครับ ไกลอยู่เหมือนกันนะเนี่ย
อ๋อ มีข้อความค้างจากไอ้แบลคด้วยครับ
พี่เจไปยังไงอะพรุ้งนี้
ไม่รู้เลย นะแบลคไปยังไง
ขับรถดิพี่ พี่อะอยู่ไกล ชิบหาย
งั้นแบลครรับมารับพี่ตรงอนุสาวรีย์ได้มั้ยนะ
ทีอย่างนี้พูเดีไม่มี กูมึงเลยนะ
ได้ปะล่ะนี่พี่นะ พี่แก่แล้ว
ได้ค้าบ เจอกันพี่
คุยกับไอ้แบลคเสร็จผมก็จัดการตัวเอง อย่าคิดลามากนะครับ ผมไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันต่างหาก โกนหนวดด้วย ตอนนี้โคนผมสีดำเริ่มขึ้นแล้วครับ สงสัยผมต้องหาเวลาไปฟอกสีโคนผมซะแล้วจะได้ดูไม่น่าเกลียด เพราะว่าคอมการ์ดที่เพิ่งถ่ายไปของผมเป็นผมสีบลอนด์สว่างไงครับ ถ้าลูกค้าจะจ้างก็จะดูคอมการ์ดก่อน ผมก็เลยต้องทำผมและตัดผมให้เหมือนคอมการ์ดตลอดเวลา
พอพูดถึงการ์ดถ่ายคอมการ์ดเมื่อวานผมก็รู้สึกดีมากๆเลยครับ เหมือนว่าอาชีพโมเดลของผมมันเริ่มแล้ว ต่อไปนี้ผมสัญญากันตัวเองไว้เลยว่าจะตั้งใจทำงาน
แล้วอีกอย่างที่ทำให้รู้สึกดีก็คือพี่เอ็นครับ ผมได้เจอพี่เอ็น ฮ่าๆ ตอนนี้ก็คิดถึงอยากเจออีก ผมว่าผมเริ่มเก่งแล้วครับ ใจผมไม่ค่อยเต้นแล้ว ครั้งหน้าผมจะคุยกันพี่เอ็นเยอะๆกว่านี้ให้ได้เลย ว่าแล้วก็เปิดส่องเฟสบุคพี่เอ็นหน่อยดีกว่า
ฮ่า ไม่มีอะไรอัพเดทเลยครับ สงสัยพี่เค้าไม่ค่อยเล่นโซเชียล พี่เอ็นชอบบแชร์เพลงแปลกๆ ผมไปเสริชหาข้อมูลมาเรียกว่าเพลง electronic music เป็นเพลงที่มีแต่ดนตรีสังเคราห์เสียงประหลาดๆ ไม่ใช่ edm นะครับ ผมเคยฟัง edm มันมาก ตื๊ดๆสนุก แต่ที่พี่เอ็นฟังเป็นเหมือนเพลงที่เปิดในห้างอะครับ มีกลิ่นความแฟชั่น เดินช้อปปิ้งเลือกเสื้อผ้า ไม่มีท่องฮุกอะไรทั้งนั้น ฟังยากมาก ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่ถ้าพี่เอ็นเปิดผมก็ฟังหมดแหละครับ
ผมนึกขึ้นมาได้ว่าไปแคสพี่เอ็นก็ต้องไปเหมือนกันนิครับ ผมก็จะได้เจอพี่เค้าอีกแล้ว พรุ้งนี้ พรหมลิขิตชัดๆ ไอ้บ้าเอ้ย พรุ้งนี้ไอ้เจจะต้องไม่ใจเต้นหน้าแดงต่อหน้าพี่เค้าอีกแล้ว ต้องทำตัวให้เป็นปกติที่สุด จะได้รู้จักพี่เค้าเยอะๆ
ผมกินข้าวเสร็จแล้วครับ วันนี้เป็นวันว่าง ผมขอนั่งเล่นเกมดีกว่าหลังจากไม่ได้เล่นมาหลายวัน อัดอั้น แก๊งในเกมต้องขาดสมาชิกทีมฝีมือดีไป ไม่ต้องร้องนะน้องๆ พี่มาแล้ว จะพาทีมไปสู่ชัยชนะ งั้นผมขอตัวไปเล่นเกมก่อนนะครับ
3 ชั่วโมงผ่านไป
เพื่อนๆในทีมเลิกเล่นกันหมดแล้วอะสิ ตอนนี้ก็ใกล้เวลาเย็นแล้ว คงจะไปหาข้าวกินกันกับแฟน ใช่สิครับ ผมมันไม่มีแฟน เพื่อนๆก็ไปทำงาน ผมต้องกินข้าวคนเดียวแบบนี้มาหลายเดือนแล้วครับ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะอย่างน้อยผมก็มีคนให้คิดถึงแล้วตอนนี้ ฮ่าๆ
ตื้อดึ่ง / เสียงข้อความ
พี่เจไปกินหมูกะทะกัน ผมมาทำธุระแถวหอพี่พอดี -
จริงป่าว มาทำไรอะ -
ธุระอะพี่ มึงจะถามไรนักหนา ลงมารอหน้าหอ -
อะไรเนี่ยกูยังไม่ได้บอกว่าจะไปเลย -
เร็วๆดิ๊ -
เออ แปปนึงๆ -
ไอ้แบลคครับ มันมาทำอะไรแถวนี้ก็ไม่รู้ไม่ได้ใกล้บ้านมันเลยซักนิด แต่ก็ดีผมจะได้มีเพื่อนกินข้าว ผมเปลี่ยนชุดจากชุดเก่าๆ ย้อยๆ เป็นกางเกงวอร์มขายาว เสื้อยืดธรรมดา ใส่หมวกด้วยครับ หมูกระทะมันเหม็นผมไม่อยากสระผม ก็ผมมันเสียงนิครับมันแห้งช้า
ผมลงมาเจอไอ้แบลคนั่งรออยู่หน้าลอบบี้ สภาพมันเหมือนเพิ่งตื่นนอน นี่มันไปทำธุระอะไรของมันมาเนี่ยทำไมไม่แต่งตัวดีดี ผมสงสัยนิดหน่อยแต่ไมไ่ด้ใส่ใจอะไร ผมไม่อยากจะไปยุ่งเรื่องของใครมาก
ถึงร้านหมูกระทะแล้วครับ ไม่ได้กินนานเลย ก็ผมไม่ค่อยมีคนมานั่งเป็นเพื่อนอะครับ หมูกระทะที่ไหนนั่งกินคนเดียว เหงาแย่เลย ไอ้แบลคก็สั่งๆๆๆ ผมก็เอาตามนั้นเลยครับ ผมกินได้หมดไม่ซีเรียส
พอหมูหมาเสริฟผมก็จัดแจงใส่ผัก ย่างหมูตามปกติแต่ไอ้แบลคหนะสิครับ กำลังเล่นเกมอยู่ ดูจริงจังมาก ไม่สนใจหมูเลย มันเริ่มหอมแล้วเนี่ย
ผมกินไป สามชิ้นแล้วแบลคยังไม่จบเก็บเลยครับ ผมเลยเอาหยิบช้อนไปจิ้มที่มือมัน มันก็จับช้อนไว้แบบไม่รู้ตัว เฮ้ยแล้วก็เล่นเกมมือเดียวก็ได้โว้ย อะไรจะติดขนาดนั้นอะ
“ เอาหมูใส่ช้อนให้ทีพี่ ”
“ สบายจังเลยนะมึง เห็นกูเป็นใครเนี่ย ”
“ เร็วๆ อยากกินแล้ว เกมมันไม่จบ ”
ผมก็คีบหมูแล้ววางใส้ช้อนมัน แบลคก็ยกช้อนเข้าปากแบบอัติโนมัติ สบายสุดๆ ผมว่าอีกนิดผมต้องเคี้ยวหมูให้แล้วล่ะ แต่ผมเข้าใจนะครับเพราะว่าผมก็เป็นเกมเมอร์เหมือนกัน ก็เกมมันต้องเล่นนี่เนอะ ฮ่าๆ
“ เอาอีีก ”
“ ได้จ้า รอแปปนึงนะน้องแบลค ”
แล้วผมก็หันไปเห็นต้นไม่ที่ปลูกอยู่ข้างโต๊ะ ร้างคงเอาไว้ตกแต่งครับ ผมแกล้งมันดีกว่า เด็ดใบไม้จากต้นแล้วเอาใส่ช้อนมัน แล้วไอ้แบลคก็เอาเข้าปากไป
“ แหยะอะไรอะ เหมือนใบไม้เลย… เห้ยพี่ มันแดกได้ป่ะเนี่ย ขมปี๋ เดี๋ยวเหอะมึงพี่เจ กูจะรูดใบทั้งต้นยัดปากมึง ”
“ ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ก็มึงเล่นแต่เกมอะไม่เห็นสนใจกูเลย ”
ผมขำมากครับ เพราะมันกินใบไม้ไป ผมว่าคนปกติสัมผัสแรกก็น่าจะรู้แล้วนะ แค่ไอ้โง่แบลคมันดันเคี้ยวสองที โครตฮา แล้วมันก็โวยวายด่าผมใหญ่โต แต่อย่างน้อยมันก็เลิกเล่นเกมแล้วมานั่งกินดีดี
พอกินเสร็จแบลคมาส่งผมที่หอ แล้วก็ขับรถกลับบ้านครับ ผมนัดเวลากันแบลคเรียบร้อยแล้วสำหรับการไปแคสพรุ้งนี้ แบลคให้ผมโทรปลุกเหมือนเดิมครับ เพราะว่าต้องไปรับไอ้ฟูด้วย ผมก็ตกลงตามนั้น
ผมขึ้นห้องแล้วยกน้ำเปล่ากระดกไป 1 ขวดลิตร เพราะว่าหมูกระทะผงชูรสมันเยอะครับ มันจะทำให้หน้าผมบวมโซเดียมได้ การกินน้พตามแล้วฉี่ออกมาช่วยได้ครับ ผมเคยลองแล้ว ไม่งั้นผมคงหน้ากลม ๆ แคสพรุ้งนี้แน่
ผมนั่งย่อยซักพักก็ไปอาบน้ำ วันนี้ผมขอบำรุงหน้าซักหน่อยตื่นมาจะได้ชุ่มฉ่ำ ฮ่าๆ แล้วผมก็ทิ้งตัวลงบนเตียงหยิบหนังสื่อขึ้นมาอ่าน เล่นนี้ชื่อ “ ปลาที่ว่ายน้ำในสนามฟุตบอล ” เป็นหนังสือปรัชญา ผมไปหาซื้อมาอ่านเพราว่าผมเห็นในเฟสบุคครับ มีคนคนนึงเอาบางส่วนในหนังสือมาพิมพ์ไว้แล้วมันน่าสนใจมากๆ
ตอนนี้ผมอ่านถึงเรื่อง อวกาศครับ ผู้เขียนได้ตั้งคำถามบางอย่างว่า
“ เราเรียนรู้เรื่องจักรวาลไปทำไม มันไม่ทำให้เราท้องอิ่ม หรือทำให้โลกดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทำไมต้องเสียเงินทองจำนวนมหาศาลสร้างกล้องดูดาวและดาวเทียม เฝ้ามองการเคลื่อนที่ของดวงดาว ดาราจักร ทำไมต้องทุ่มเททรัพยากรมากมายสร้างจรวด ทำไมต้องศึกษาว่าจักรวาลกว้างใหญ่เพียงไร หรือมีสิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือไม่ การศึกษาจักรวาลก็เป็นเหมือนพยายามไล่จับสายรุ้งที่เป็นภาพลวงตา ”
สุดท้ายเนื้อหาก็ได้ให้คำตอบไว้ในช่วงสุดท้ายของบทว่า
“ ก็คงไม่ต่างอะไรจากศิลปะ ที่มนุษย์ยอมเสียเงินเสพทั้งๆที่ไม่อิ่มท้อง ”
ก็ดูเข้าใจง่ายดีสำหรับเด็กเอ๋อๆอย่างผม ผมว่าอวกาศยังมีอะไรให้เราสำรวจอีกเยอะ ศิลปะก็เช่นกัน ยิ่งเวลาเปลี่ยนไปก็จะเกิดศิลปะรูปแบบใหม่มาเรื่อยๆ และคงมีอีกหลากหลายแบบมากมายที่มนุษย์คงยังไม่ค้นพบ
อ่านเพลินมากครับจนผมลืมเวลาที่ต้องนอน เหมือนผมหลุดมาในโลกของผมคนเดียว ในโลกนี้มีแต่จินตนาการของผมเท่านั้น ผมเคยแต่งนิยายแฟนตาซีผจญภัยอยู่เรื่องหนึ่งครับ แต่งไว้ตอน ม.5 นานมากแล้วครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังจำเนื้อหาได้อย่างแม่นยำ จริงๆนี่เป็นอีกหนึ่งความฝันของผมด้วยครับ ผมอยากมีหนังสือเป็นของตัวเอง เอาไว้ถ่ายทอดโลกแห่งจินตนาการของผมให้คนอื่นรู้ แต่ตอนี้ผมต้องนอนแล้วครับ ขอให้คืนนี้ฝันถึงพี่เอ็นด้วยนะ
zzZZ
.
.
.
.
.
โว้ย ผมเมารถตู้มาก กว่าจะมาถึงอนุสาวรีย์ขับเหวี่ยงมากนึกว่าพายุ ยังดีที่ผมไม่อ้วก ตอนนี้ผมรอแบลคมารับอยู่ครับ ผมเพิ่งวางสายจากมันไปเอง เห็นกว่าใกล้ถึงแล้วผมเดินไปรอดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลารอกันไปกันมา
ไม่นานรถไอ้แบลคก็มาจอดครับ ผมจะเปิดประตูหลังแต่ไอ้ฟูนั่งอยู่ ไอแบลคก็โวยวายบอกให้ผมมานั่งข้างหน้า มันกลัวผมเมารถครับ ก็ดีผมยังมึนๆกันรถตู้อยู่เลยตอนนี้
“ กินข้าวยังพี่ ”
“ กินแล้วๆ ขอเปิดแอร์เย็ๆนะ เมารถมาก ”
พูดจบมันก็ปรับแอร์ให้ผมทันที วันนี้ว่านอนสอนง่ายไม่กวนตีน ส่วยไอ้ฟูก็หลับไปแล้วครับ นอนสบายเลย
ถึงแล้วครับสถานที่แคสติ้งเป็นตึกๆหนึ่ง ในซอยลึกพอสมควร ด้านหน้ามีร้านขายของชำ มีโมเดลเยอะมากครับมานั่งรอกันอยู่หน้าตึก หน้าก็จะซ้ำๆเหมืนอที่ไปแคสคราวนั้น ทุกคนคงอยากได้งานนี้เพราะว่าเป็นแฟชั่นวีคของไทยเลยนะ พวกผมก็เช่นกัน
แต่ดูสภาพแล้วผมจะเอาอะไรไปสู้นายแบบคนอื่นสูง 180 กว่ากันทั้งนั้นบางคน 190 แถมเท่อีก หมดนี่แทบไม่หวังอะไรเลย ไอ้แบลคก็เช่นกันครับ
ผมบอกไอ้แบลคว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำในตึกครับ ต้องขึ้นบันไดไปชั้นสอง พบว่าในดึกยังมีโมเดลนั่งเรียงกันรอแคสติ้งครับ อีกเยอะมากๆ ผมตรงเข้าห้องน้ำ ผมแอบมองดูเพราะว่าห้องแคสอยู่ใกล้ห้องน้ำพอดีครับ แต่ประตูปิดไว้ ไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่โมเดลที่ต่อแถวรอเข้าไป
ผมแค่อยากหาที่เงียบๆอะครับ ยังมึนหัวอยู่เลยจากรถตู้เวรนั่น ผมก็นั่งประมาณ 10 นาทีเลยครับ สงบดีไม่เสียงดังวุ่นวายเหมือนข้างนอก ที่ตะโกนเรียกกันตลอดเวลา จนไอ้แบลคทักมาบอกว่าพี่มะนาวมาแล้วผมถึงออกไป
พี่มะนาวมาถึงแล้วจริงด้วย แล้วก็ Lemon model คนอื่นๆ ตอนนี้เป็นภาพที่เท่มากๆเลยครับ ยืนคุยเฮฮาดูไม่มีความเครียดซักนิดเลย
“ ไปขี้มานานจังวะพี่เค้าไปเลขคิวกันหมาหมดแล้ว รีบไปเลย ”
“ เอ้าหรอเอาตรงไหนๆวะ ”
“ ชั้นสองหน้าห้องน้ำอะ ไปๆ ”
อ่าวไม่เห็นมีเลยตอนแรก หรือผมไม่สังเกตุเองฮ่าๆ ไม่เป็นไรผมรีบเดินไปเอา แต่ต้องหยุดเพราะมีเสียงเรียกไว้ก่อน
“ เจ ๆ รอพี่ด้วย ”
“ … ”
เสียงพี่เอ็นครับ สงสัยเพิ่งมา ข่มใจไว้ ไม่ตื่นเต้น ไม่ต้องเขิน ทำตัวปกติไว้ไอ้เจ
“ ครับๆ ”
แล้วพี่เอ็นก็เดินตามผมมา ไปชั้นสอง ผมเห็นล้วครับ โต๊ะที่รับบัตรคิวผมกับพี่เอ็นได้ลำดับต่อกันเลย จากนั้นก็เดินลงไปข้างล่างเพราะอีกเป็นร้อย กว่าจะถึงพวกผม
พอมาถึง ชอบมากครับ เหล่า lemon model ถือเบียร์คนละกระป๋อง กระดกกันอยู่หน้าดึกแคสติ้ง ตอนนี้ยังไม่เที่ยงเลยครับก็เริ่มกันเลย แล้วก็คุยสนุกเฮฮายิ่งกว่าเดิน เม้ามอยเรื่องแคสกันไป พี่เอ็นก็ไปซื้อมาแล้วครับ และแล้วทุกคนก็มีเบียร์ในมือ
คึยเล่ยกันไปยาวๆเลยครับ เหมือนปาร์ตี้เฉยเลย ผมเจอเพื่อนผมตอน ม ปลายด้วยครับ เป็นผู้หญิงเต้นบ้าๆบอมาด้วยกันไม่น่าเชื่อว่าจะมาเป็นนางแบบแล้ว สวยมากๆ ชื่อเฟิร์นครับ ผมแทน ผมหยิก หน้าคมๆ ผมทักทาย เฟิร์นก็รีบขึ้นไปหยิบใบคิวครับ
อยู่ดีดีผมก็มานั่งข้างพี่เอ็นเฉยเลย ฮ่าๆ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย ไม่ตื่นเต้นแล้วคับเพราะมันกรึ่มๆ ฮาๆ พอแอลกอฮอล์เข้าปากอะไรๆมันก็กล้ามากขึ้น เดี๋ยวกินทุกวันเลย หมั่นไส้นัก
“ เจกินมานานแล้วแล้ว ”
“ ถึงก่อนพี่ ประมาณ 10 นาทีมั้งครับ ”
“ อ๋อ เราสายเลย ”
พี่เอ็นคุยกับผมด้วยฮ่าๆ ผมไม่รู้จะชวนคุยอะไรเลย พี่เอ็นก็เหมือนกันมั้ง คงคุยไม่เก่ง พูดเสร็จก็กระดกเบียร์แล้วผมกันพี่เอ็นก็นั่งฟังพี่มะนาวกับพี่ซุปเปอร์คุยกัน ฮาดีครับ เพราะพี่ซุปเปอร์ชอบพูดคำตลกๆออกมา
เบียร์หมดกันแล้วครับ พอดีเลยก็มีคนตะโกนเรียกคิวพวกไอ้เบลคไป lemon medel ได้คิวติดๆกันเลยครับ ยกเว้นผมกันพี่เอ็นที่ไปเอาในช้า
พวกนั้นก็เดินขึ้นไป ตอนนี้เหลือพี่มะนาว พี่เอ็นแล้วก็ผม นั่งกรึมๆกันสามคน ซักพักพี่มะนาวโทรศัพท์เข้าเลยเดินออกไปหาที่เงียบๆคุย เหลือแค่เราสองคนแล้วโว้ย
“ ตื่นเต้นอีกป่าว ”
“ แคสอะนะพี่ ”
“ ป่าว….ที่อยู่ใกล้เราอะ ”
“ -///- ”
ตอนแรกก็ไม่ใจเต้นหรอก พอได้ยินเท่านั้นแหละ รัวเป็นกลองเลยครับ แล้วยิ่งกรึมเลือดก็สูบฉีด หน้าผมแดงง่ายมาก คราวนี้ไม่ต้องให้ใครบอกเลยครับผมรู้ตัว
“ ล้อเล่นเรื่องแคสติ้งอะ ”
“ อ๋อออ นิดหน่อยครับ ”
โล่งอก นึกว่าจะพูดอะไรแปลกออกมาอีกไอ้พี่เอ็น ไอ้บ้า
“ ฟังเพลงแบบที่เราแชร์หรอ ”
เวรกำ ผมไม่ได้ชอบฟังซะหน่อย ผมแค่กดไลค์เพราะว่าผมอยากให้พี่สนใจแค่นั้นเอง เอาไงดีวะเนี่ยตอบไงดี
“ ฟังได้ครับ ผมลองฟังหมดแล้ว ”
“ ดีจัง ”
ดีจัง….. อะไรดีจัง บ้าป่าวอย่ามาพูดให้คิดไปไกลนะ เพลงดีใช่มั้ยล่ะ แน่ๆ ไอ้บ้าเอ้ย สมงสมองไปหมดแล้ว ใจเต้นอีกแล้ว โอ้ยยย ทำไรไม่ถูกละ พี่มะนาวกลับมาทีเถอะ
“ ครับ ”
ตอบได้แค่นี้อะ ไม่รู้จะตอบอะไรแล้ว โง่จริงๆไอ้เจ ไหนบอกว่าจะชวนเค้าคุยให้มากกว่านี้ มึงดันเสือกตอบ ครับ แค่นั้นหรอ ก็มันลนนิ มันเขิน ใจเต้นไปหมดแล้ว กรึมๆอีก ความรู้สึกอะไรวะเนี่ย วุ่นวายไปหมด ตอนนี้ผมได้แต่นั่งก้มหน้า เอามืิอจิกเก้าอีกปูนจนจะแตกแล้ว
“ น่ารัก ”
“ หะ ”
พี่เอ็นพูดว่าน่ารักป่าววะ ได้ยินผิดมั้งไม่พูดหรอก เค้าจะพูดทำไม ไอ้บ้า เราไม่ได้น่ารักขนาดนั้น โว้ยย เขินโว้ย ชอบเราอะดิ แน่จริงก็จีบเลย โสด จีบดิ เร็วๆ
“ หมาอะ ”
“ อะ อ๋ออ.. ”
ผมเงยหน้าเจอหมาจริงๆด้วย ไอ้หมาเวรนี่มาต้งแต่เมื่อไร หมาบ้านใครเก็บไปเดี๋ยวนี้เลยนะ คำว่าน่ารักจากปากพี่เอ็นต้องเป็นของไอ้เจคนนี้คนเดียวเท่านั้น ไอ้หมาบ้า ไปชิ้วๆ
“ อ้าา น่ารักจริงด้วย ชื่อไรหรอเนี่ย ”
อยู่ดีดีผมก็ใช้เสียงสอง แล้วเอามือลูบหัวหมาเฉยเลย แบบไม่รู้ตัว พี่เอ็นเค้าจะดูออกปะวะว่าเราไม่ได้รักหมาจริงๆ
“ เจ…..ก็ ”
“ โว้ยยย มาแล้วคนแม่งโครตเยอะเลยพี่ ข้างในดีไซเนอร์นั่งเรียงกันเป็นแถบ พี่ซุกเปอร์ผ่านเข้ารอบด้วยตอนนี้ไปลองชุดอยู่ แต่ข้างในแอร์เย็นโครต นางแบบสวยๆเพียบใช่มะไอ้ฟู พี่มะนาวไปไหนละ เค้าในเดินอย่างเดียว เดินไปงั้นๆแหละ แต่แม่งไม่ด้สนใจแบลคเลย เซง”
เหมือนได้ยินว่าพี่เอ็นเรียกชื่อแล้วจะพูดอะไรซักอย่าง แต่เสียงไอ้แบลคก็โว้ยวายมาก่อนเลย ก่อนที่ตัวมันจะเดินเข้ามาซะอีก พูดมากแถมเสียงดัง ไอ้เด็กผีนี่ชอบมาขัดจังหวะตลอดอะไรวะ มาถึงก็บ่นๆ อะไรของมันอยู่คนเดียว
“ น่ารักเหมือนกัน ”
อะไรวะพี่เอ็นอยู่ดีดีก็พุดน่ารักเหมือนกัน ชมไอ้หมานี่อีกแล้วหรอ ใครมีมีดมะจะแทงมัน ไฟแช็คก็ได้ เผ่าทั้งเป็นซะเลย เอาไปทำซุปกระดูกหมาให้ไอ้แบลคมันแดกแล้วเงียบๆไป ขัดจังหวะจริงไอ้เด็กผี คนก็กวนตีน หมาก็มารความรัก โกรธ !!
อ๊ะ มัวแต่โกรธ ถึงคิวผมแล้วครับ ตั้งใจๆ ผมเดินขึ้นไปที่ห้องแคสติ้ง เช้าที่ละ 10 คนเหมือนเดินครับ คิวผม ก็มีพี่เอ็น แล้วก็เฟิร์นเท่านั้าที่รู้จัก ผมได้คุยกันเฟิร์นครับเพราะก่อนหน้านี้ผมติดตามโซเชียลของเฟิร์นได้รู้มาว่า เฟิร์นป่วยครับ ต้องพักงานไปหลายเดือนเลย เป็นโรคอะไรปมไม่รู้อะครับแต่รู้ว่าเฟิร์นเดินไม่ได้เลย เลยถามว่าหายหรือยัง เฟิร์นตอบว่าหายแล้วครับแต่กล้างเนื้อที่ขายังไม่ค่อยแข็งแรง
ไม่นานพวกผมก็ถูกเรียกเข้าไปในห้องแคสครับ เป็นห้องยาว ทางเข้ามีเก้าอี้ให้โมเดลนั่งรอ มองไปสุดห้องเป็นโต๊ะของดไซน์เนอร์ประมาณ 5 - 6 คน หลายแบรนด์เลยครับ ผมนั่งรอตามลำดับ
ผมเห็นเด็กผู้ชายที่กำลังเดินอยู่ เท่าที่ดูคือยังเดินแบบไม่เป็น น้องน่าจะอายุไมถึง 17 ด้วยซ้ำ เดินไปยิ้มไป ทางทีมงานแคสติ้งก็บอกให้เดินบอกให้เดินใหม่โดนมีโมเดลลิ่งของน้องสอนเดินกันตรงนั้น ผมไม่เข้าใจนิดหน่อยว่าทำไมน้องเดินไม่ได้ถึงได้มีโอกาสเดินใหม่ สมองผมมันคิดไม่พ้นเรื่องเส้นสาย นี่แหละครับคงเป็นด้านมืดของวงการแฟชั่น แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรขนาดนั้นเพราะผมคิดว่าทุกที่มันก็ต้องมี
ถึงคิวผมแล้วครับ ดีไซน์เนอร์ขานชื่อ เจ ผมก็ลุกไปยินประจำที่จุดเริ่ม เป็นกางเดินแบบทามกลางโมเดลเก่งๆ และดีไซเนอร์ชื่อดังหลายๆท่าน ไม่มีเพลงบิ้วอะไรทั้งนั้น ผมก็เดินไปอย่างที่พี่มะนาวสอน แต่พวกเขาไม่มีท่าทีจะสนใจเลย ผมเข้าใจไอ้แบลคแล้วครับ พอเดินวันครับรอบ พี่คนนึงก็ขอบคุณนะคะที่มา ผมก็กลับมานั่งรอ
พี่เอ็นก็เช่นกันครับ ผมมองว่าพี่เอ็นเดินดีมากๆเลยนะ แต่ก็ไม่สนใจ ก็เข้าใจได้ครับคงไม่ตรงคาแรกเดอตร์ที่แต่แบรนด์วางไว้ ไม่ใช่ว่าพี่เอ็นเดินไม่ดี ต่อไปถึงคราวเฟิร์นครับ
มีดีไซเนอร์คนนึงพูดชมเฟิร์นว่าสวยมากหน้าตาแบบนี้ไม่มีมาบ่อยๆ ชอบมากจริงๆ แต่พอเฟิร์นเริ่มเดินปุ๊ปผมเห็นได้ชัดเลยครับว่าเฟิร์นกังวลมา เฟิร์นเดินเหมือนเจ็บขา ขาไม่ค่อยมีแรงประมาณนั้นอะครับ
พี่ดีไซเนอร์ก็พูดย้ำว่า เดินไมไ่ด้เลยนะ แต่หน้าสวยมาก พูดวนอยู่แบบนี้ ผมมองหนา้เฟิร์นเพื่อนผม น้ำตาเริ่มคลอแล้วครับ ผมสงสารมาก พี่เค้าให้โอกาสเฟิร์นเดินอีกรอบก็ยังเป็นเหมือนเดินครับเฟิร์นกลั้นน้ำตาไว้ได้จนเดินเสร็จ พวกเราออกไปคุยกัน
“ ไม่เป็นไรนะมึง ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ”
“ มึงคือกูอะไม่ได้เดินมาเป็นเดือนเพิ่งหายป่วย เลยไมไ่ดแตะรองเท้าส้นสูงเลย มันเหมือนกูต้องเริ่มหัดเดินใหม่อะมึง ”
“ แล้วมึงเสียใจหรอที่ไม่ได้ อยากได้งานนี้หรอ ”
“ ที่กูร้องไห้ไม่ใช่เพราะว่าไม่ได้แต่เพราะโดนกดดัน กูไม่ชอบเล เค้าไม่เอากูซะดีกว่ามาพูดเหมือนว่าชอบหน้าตากูแล้วด่ากูเดินไมไ่ด้ แล้วเค้าก็พูดอยู่แบบนี้มันเหมือนให้ความหวังว่ะมึง ”
“ อย่างน้อยเค้าก็ยังชมหน้าตามึง ดูกูสิกู เค้าไม่มองกูซักนิด ไม่ต้องเครียด ๆ สู้ ๆ ”
ผมปลอมใจเพื่อนครับ แต่ไม่รู้ทำไมผมเศร้าเองเฉยเลย ฮ่าๆ แต่นิดหน่อยไม่เป็นไรมาก ไอ้เจคนแข็งแกร่ง ส่วนเฟิร์นก็เดินไปคุยโทรศัพท์กับพี่โมเดลลิ่งของเฟิร์น
ผมกันพี่เอ็นเดินมาเล่าให้พี่มะนาวฟัง ทั้งเรื่องเดิน เรื่องเด็กเส้น พี่มะนาวบอกว่าไม่เป็นไรหรอกยังมีอีกงานนึงที่ต้องไปแคส พี่ส่งรูปไปให้ดีไซเนอร์ดูแล้ว พี่ๆเค้าอยากเจอตัวเจ วันที่เปิดแคสให้ไปด้วย
ผมได้ยินอย่างนั้นก็มีความหวังขึ้นมานิดนึง ถึงวันนี้ผมไม่ได้งานก็ไปไม่เป็นไรครับ แต่ผมได้คุยกับพี่เอ็นด้วยแหละ ฮ่าๆ พอนึกถึงช่วงเวลานั้นก็มีความสุขทันทีเลยนี้ นี่สินะที่เค้าว่าความรักจะช่วยเยี่ยวยาหัวใจ
แล้ว lemon model ก็แยกย้ายกันกลับ แบลคบอกว่าจะไปส่งผม วันนี้ใจดีจัง แต่ก็ยังไม่เลิกกวน มันบอกว่าจะส่งผมแค่ท่ารถตู้ให้ผมกลับเอง เด็กผี หลอกให้ดีใจ แบลคมันคงต้องไปธุระต่อมั้งครับ
“ ไว้เจอกันนะเจ เรากลับแล้ว บ้ายบาย ”
“ ครับพี่เอ็น ”
ผมเขินแทบตายตอนที่พี่เอ็นพูดกับผม ต้องมาแอบยิ้มคนเดียว วันนี้มีความสุขมากๆอีกวัน ได้คุยดับพี่เอ็นมากขึ้น เหมือนทำแต้มไปทีละนิด ถือว่าดีนะครับเพราะว่าวันนี้ผมไม่เป็นลม หรือเพราะกินเบียร์เข้าไปเลยกล้าพูดก็ไม่รู้
ผมบอกลาทุกคนตรงนั้น แล้วขึ้นรถกลับบ้านครับ เฮ้ออ มีความสุขจังเลย.
.
.
.
.
.
TBC