เพราะความรัก (Because of love) Chapter 9 updated 11/02/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะความรัก (Because of love) Chapter 9 updated 11/02/2019  (อ่าน 2165 ครั้ง)

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

[/left]
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-02-2019 20:51:16 โดย lonelyboy »

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: เพราะความรัก (Because of love)
«ตอบ #1 เมื่อ25-01-2019 03:07:26 »

สวัสดีครับ มีนิยายมาให้อ่านกันครับผม ฝากติดตามนิยายเรื่องแรกของผมด้วยนะครับบบบ  :-[

หากรักแล้วมันเจ็บ ทำไมมนุษย์จึงต้องรัก
เป็นแฟนกัน รักกัน ก็ทะเลาะกัน เป็นห่วงเค้า กลัวเค้าหมดรัก เกิดทุกข์
รักกันอยุ่ด้วยกัน ไม่มีปัญหากัน แต่วันนึงก็ต้องตายจากกัน ก็เกิดทุกข์
หรืออย่างนายเอกของเรื่อง รักเค้าทั้งๆที่เค้าไม่รัก โดยเฉพาะความรักที่มีให้กับเพื่อน แต่ก็ยังดันทุรันในสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าจะนำพามาซึ่งความสุข
มาช่วยกันค้นหาคำตอบของความรักครั้งนี้
สุดท้ายแล้ว บทสรุปจะลงเอยอย่างไร ฝากติดตามกันด้วยนะครับ


Chapter 1

“เห้ยๆ มึง รีบๆเลย ทางนี้ไอ้พีท” ผมวิ่งมาตรงจุดนัดพบของผมกับเพื่อนๆหน้าตึกเรียนด้วยความกระเสือกกระสน ก็ไอ้โทรศัพท์บ้านี่ดิครับ ไม่ยอมปลุกผมให้ลุกออกจากเตียง ทั้งๆที่ผมก็ตั้งเวลาไว้แล้ว แถมยังมาเป็นเอาวันที่มีสอบแบบนี้ด้วย สอบวันแรกก็ซวยเลยจริงๆ
“ทำไมมึงมาช้านักวะ เพื่อนๆเค้าติวรอมึงมาเป็นชั่วโมง” ไอ้ฟ้าครับ มันเป็นเพื่อนคนแรกของผมตั้งแต่เข้าปี 1 มาใหม่ๆ เราสนิทกันตั้งแต่มีกันอยู่สองคน จนกลุ่มเราเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
“เออ กูก็มาละนี่ไง” ผมนั่งลงข้างๆมัน พร้อมกับวางกระเป๋า

กลุ่มเรามีกันทั้งหมด หลักๆห้าคนครับที่เรียนด้วยกันทุกวิชา ส่วนที่เหลือคือเข้าๆออกๆแล้วแต่จังหวะวิชา เริ่มด้วยไอ้ฟ้าที่เพิ่งทักผมไปมักกี้ มันเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมเลยก็ว่าได้ มีอะไรก็คอยช่วยเหลือผมได้ตลอด ไฟที่ห้องโดนตัดผมก็ไปนอนบ้านมัน ไม่มีเงินกินข้าวก็โทรยืมมัน คือมันช่วยได้ทุกเรื่องจริงๆ
ต่อมาคือไอ้วินครับ ไอ้นี่คือเดือนคณะผู้ทรงอิทธิพลในมหาลัยครับ หล่อลากกกกกกก ไปไหนสาวๆก็ตามกรี๊ด แต่ติดตรงที่มันออกแนวคุณชายหน่อยๆ มีความเล่นตัวสูง จะได้แอ้มมันนี่ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆครับ
คนที่สามคือใบชา ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม ใบชาเป็นคนห้าวๆ เป็นเจ้าแม่ในตัวจัดการของทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องนำเที่ยว ยัยนี่เป็นหัวโจกของทั้งหมด นัดกินเหล้าแต่ละครั้งที่มีมันไปด้วยนี่คือ เช้าเป็นเช้า ถึงไหนถึงกัน นอนกองเรียนกันอยู่ข้างถนน เพราะเมาก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วครับ และด้วยนิสัยห้าวๆแมนๆของยัยนี่ก็เลยไม่มีเพื่อนผู้หญิงมากนัก

“มึงติวหน้านี้ให้กูหน่อย กูไม่เข้าใจเลยสักประโยค” ผมรีบเอาชีทที่เราปลิ้นแจกกัน (ทั้งคณะ) ขึ้นมาละเปิดหน้าที่ผมอ่านกี่รอบก็ไม่เข้าใจขึ้นมา มันยากจริงๆนะครับ ผมไม่เข้าใจตั้งแต่บรรทัดแรกจนบรรทัดสุดท้าย
“เดี๋ยวกูติวให้ได้” ส่วนไอ้คนที่เดินมานั่งลงข้างๆผมคนนี้มันชื่อ ไอ้พอร์ช ครับ ไอ้พอรฺชเป็นคนเฟรนลี่ มีเสน่ห์ เจ้าชู้ ไฟแรง ถ้าไอ้วินเป็นตัวดึงดูดสาวๆ ไอ้นี่เป็นตัวสารต่อหลังจากสาวๆมาติดเบ็ดแล้ว ด้วยความที่มันเป็นคนไม่ตั้งใจเรียน ลงเซ็คใหม่ๆไปเรื่อย มันเลยเป็นคนสุดท้ายที่เข้ามาในกลุ่มครับ แต่ก็ถือว่าสนิทกันเร็วมากด้วยความอัธยาศัยดีของมัน และที่สำคัญเลย มันคือคนที่ผมแอบหลงรัก…

ใช่ครับ ผมแอบรักมันแบบเงียบๆ ผมก็อาจเป็นอีกคนนึงที่หลงเสน่มันเหมือนกับคนอื่นๆ เพราะมันเป็นคนดูแล เทคแคร์ทุกคนดี รวมถึงผมด้วย ตัวผมที่ไม่เคยมีใครมาเอาใจใส่ขนาดนั้น ใจมันบางอยู่แล้ว เลยหลงเสน่มันไปง่ายๆแหะๆ แต่ด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกัน ละมันก็ชอบผู้หญิง ผมก็ต้องทำใจสิครับ แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกินด้วยความที่เราเรียนด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน ต้องเจอกันทุกวัน ถ้าคนที่เคยแอบรักคงรู้นะครับว่าการตัดใจมันไม่ง่ายเลย และยิ่งการที่ผมกับมันชอบเล่นถึงเนื้อถึงตัว หยอกล้อกันเข้าขั้นเพื่อนยังงง จนกลายมาเป็นคู่จิ้นของคณะ มันยิ่งทำให้ผมถลำลึกเข้าไปเรื่อยๆ

“หน้าโง่ๆอย่างมึงอะนะ จะติวให้กู มึงเอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะไอ้เหี้ย” ผมแขวะมันด้วยความหมั่นไส้ แต่มันก็โง่จริงๆครับ เพราะมันถึงแม้มันจะได้เกรดดี (หลังจากดร็อปมาแล้ว) แต่มันก็ไม่ใช่คนตั้งใจเรียนอะไร แถมยังได้คะแนนน้อยกว่าผมตลอด
“มึง มาดูถูกกูแบบนี้ไม่คูลเลยเพื่อน หน้าเนี่ยย กูอ่านสิบรอบ ทบทวนทั้งคืน”
“หราาาาาาา”
“ใช่ เพราะว่ากูรู้ไงว่ามึงไม่ถนัดเรื่องนี้ กูเลยอ่านเตรียมมาเพื่อมาติวให้มึง” มันพูด พร้อมกับส่งสายตาหวานๆมาให้ผม ก็เนี่ยเพราะมันเป็นอย่างเงี้ยผมถึงตัดใจไม่ได้สักที ถึงจะรู้ว่ามันแค่เล่นๆก็เถอะ
“เออๆ ติวมาดิ” ผมพูดพร้อมกับหลบตามันแก้เขิน (กูนี่โดนเล่นง่ายมาก)
“เห้ย ไอ้วิน จัดการเพื่อน”
“เอ้า ไอ้เหี้ย ไหนมึงบอกว่า มึงติวมาแล้ว” ใบชา หยิบชีทขึ้นมาตบหัวมันอย่างรุนแรง (สะใจข้ายิ่งนัก)
“ไอ้เหี้ยยเจ็บบบบบ” มันพูดพร้อมกับเอามือลูบหัว “กูก็รอพวกมึงติวให้กูเหมือนกันเนี่ย ก่อนพวกมึงจะเชื่ออะไร ช่วยด้วยดูหน้ากูด้วยนิดนึงครับ หน้าอย่างกูจะเข้าใจบทเรียนที่แสนยากนี้ไหมครับ คุณเพื่อนใบชา?” พวกผมส่ายหน้ากับความกวนของมัน


ก่อนจะถึงเวลาขึ้นสอบ ผมอาสาไปซื้อน้ำเปล่าให้ทุกคน ไอ้พอร์ชอาสามาช่วยผมถือครับ มาช่วยเฉยๆก็ดีหรอก แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมมึงต้องมาเดินกอดคอกูขนาดนี้ -*-
“เห้ย มึงเดินดีๆได้ไหมวะ กูร้อนนน ไอ้เชี่ย” ผมพยายามผลักมันออกไป แต่มันไม่ยอมครับ แต่ยังรัดแน่นกว่าเดิม
“ก็กูคิดถึงมึงไง ไม่เจอหน้าตาตั้งหลายชั่วโมง” มันพูด พร้อมกับขยิบตาให้ผมหนึ่งที ผมเลยเหยียบเท้ามันไปหนึ่งที ด้วยความหมั่นไส้
“โอ้ย เจ็บบบบบ! ทำไมที่รักทำแบบนี้ละครับ” มันทำหน้าสงสาร พร้อมกับความเรียกผมว่าที่รัก… ใช่ครับ เวลาอยู่กันสองคนมันชอบทำตัวแปลกๆ แถมมีสรรพนามแปลกมาใช้เรียกผมเสมอ ยิ่งคนจิ้น มันก็ยิ่งชอบเล่น
“ใครที่รักมึงวะ” ผมหันไปด่ามัน “ป้า น้ำเปล่า 5 ขวดครับ ไอ้พอร์ช มึงจ่ายไปเลย ทำตัวน่ารำคาญ”
“ได้ค๊าบบบบ” มันยอมหยิบเงินจ่ายป้าแต่โดยดี ด้วยความที่ผมไม่อยากให้มันมาเดินกอดคอผมอีก เพราะอายคนระหว่างทางเดินกลับ ผมเลยบังคับให้มันถือถุงน้ำทั้งหมด ซึ่งมันก็แอบหันไปบ่นงุบงิบๆคนเดียว


ก่อนขึ้นสอบ มันเอาชีทผมไปเขียนอะไรไม่รู้ยุกยิกๆอยู่คนเดียว ก่อนจะแอบยื่นมาให้ผม ผมทำหน้ารำคาญมันหนึ่งทีก่อนจะรับมาไว้ในมือ บนหัวกระดาษมีข้อความที่มันเขียนว่า ขอให้สอบได้นะครับ  พร้อมกับรูปหัวใจ ผมมองหน้ามันก่อนจะเอา ปากกาผมไปขีดๆทิ้ง ก่อนจะหันไปถอนหายใจใส่มัน ทั้งๆที่ในใจ มีแต่ความวูบวาบและความเขินอาย 55555 (เห้อ)


วันนี้ข้อสอบยากมากถึงยากที่สุด ผมตั้งหน้าตั้งตาเขียนอย่างตั้งใจ จนปวดมือไปหมด (ตาปลากูจะขึ้นไหมเนี่ย) แต่ด้วยความที่ผมก็ค่อนข้าง อ่านมาดี ด้วยระยะเวลาหนึ่งวันเศษๆ แหะๆ ทำให้ผมพอถูๆไถๆ ไปได้ แต่มีเรื่องเดียวที่ผมรู้สึกรำคาญใจมากๆเลย นั่นก็คือ ผมนึกถึงไอ้พอร์ชอยู่ตลอดเวลา มันเหมือนกับเวลาที่คุณนั่งสมาธินะครับ เค้าให้คุณโฟกัสที่ลมหายใจเข้าออก แต่พอสักพัก สติของคุณก็หลุดไปคิดเรื่องอะไรไม่รู้มากมาย แต่คุณก็พยายามกลับมาโฟกัสที่ลมหายใจ ซึ่งมันยากมาก และผมไม่มีสมาธิทำข้อสอบเลย
ผมหันไปมองหน้าไอ้ตัวต้นเรื่องที่นั่งอยู่ข้างหลังผมแต่คนละแถว ปรากฏว่ามันก็กำลังมองมาที่ผมเช่นเดียวกัน แถมยังยิ้มซะหวานเลย ผมส่งสายตาค้อนให้มันหนึ่งที ก่อนมันจะส่งจุ๊บมาให้ผม (กูตายอย่างสงบไปเลยจ้า) ก็เพราะมันเป็นแบบนี้ไง ผมถึงตัดใจจากมันไม่ได้สักที ใครก็ได้ช่วยบอกผมทีเถอะครับว่าควรทำยังไงกับมันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


*****


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ยังไงอย่าเพิ่งหนีหายไปไหนกันนะครับ รับรองว่าเนื้อเรื่องจะสนุกและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆครับผม มาติดตามกันว่าความรักของพีทกับพอร์ช จะสมหวังดั่งใจรึป่าว รอลุ้นไปพร้อมๆกันครับ :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-01-2019 21:54:41 โดย lonelyboy »

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ตามค่ะ

ดูซิว่าจะรักกันแบบไม่ใช่แค่คู่จิ้นมั้ย :mew1:

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Chapter 2

หลังจากสอบเสร็จปิดภาคการเรียนที่หนึ่ง พวกผมก็ครื้นเครงกันเลยทีเดียวครับ อีกอย่างหนึ่งคือ ที่ๆพวกผมเรียนเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน เพราะฉนั้นจึงไม่ต้องมีความกังวลกับกิจกรรมใดๆ หมายความว่ากิจกรรมก็มีถ้าอยากเข้า แต่ถ้าไม่เข้า ก็ไม่มีผลกับอะไรทั้งนั้นนะครับ นี่คือข้อดี มันทำให้พอพวกผมสอบเสร็จ ก็คือจบกันไป รอไปเรียนเปิดเทอมทีเดียว

คืนนี้ยัยหนอนชาเขียว นัดพวกเราทุกคนออกไปดื่มสังสรรค์ในย่านทองหล่อเพื่อเป็นการฉลองสอบเสร็จ ผมจึงกินข้าวรองท้องไว้ตั้งแต่หกโมง จะได้ไม่หิว ที่สำคัญคือจะได้เสียเงินกับแค่แอลกอฮอลอย่างเดียว ประหยัดดี หุๆ

ตืด ตืด ตืด      ไอ้พอร์ชโทรมาครับ ผมยิ้มด้วยความอารมณ์ดี แค่มันโทรมาหาผมก็ดีใจแล้วครับ

“ว่าไงครับหนุ่มฮอต”  ผมพูด

(แต่งตัวเสร็จรึยังครับคุณพีท จะออกไปพร้อมผมไหม)

“เอาดิ เจอหน้าเกทเวย์ป่าว”

(ได้ครับ เดี๋ยวมึงรอตรงนั้นละโบกแท็กซี่ไปพร้อมกัน)

“เออ ออกมาเลยนะเว้ย อย่าให้รอ”

(รับทราบครับผม ออกแล้วครับบบบ)


ผมออกมาถึงได้แปปเดียว ก็เห็นไอ้พอร์ชเดินออกมาจากหัวมุม เดินยิ้มมาแต่ไกลเลย วันนี้มันหล่อมากครับ แม้จะใส่แค่เสื้อยืดธรรมดา แต่ไม่รู้ทำไมมันดูหล่อเป็นพิเศษ T///T
ผมกับไอ้พอร์ชอยู่บ้านแถบๆเดียวกันครับ แต่อยู่คนละซอย ซอยบ้านผมจะถึงก่อนบ้านมัน เพราะฉนั้นเวลาเราจะนัดกันไปไหน ที่ๆใกล้ที่สุดของพวกเราทั้งสองคนคือ เก็ทเวย์เอกมัย จนมันกลายเป็นจุดนัดพบของเราไปแล้ว

“เห้ย ทำไมวันนี้หล่อจังวะ” ผมแซวมัน

“มึงก็ใช่ย่อยที่ไหน โคตรน่ารักเลย” มันพูด พร้อมกับเอามือมายีหัวผม ไอ้บ้าเอ้ย ผมกุเสียทรงหมด กว่าจะเซ็ทได้ทรงนี้นี่ใช้เวลาหลายนาทีเลยนะ

เรารอแท็กซี่สักพักนึงก่อนที่จะขึ้นไปนั่ง ไอ้ใบชาถึงคนแรกเลยครับ ส่วนไอ้วินกับฟ้าก็ถึงแล้วเหมือนกัน ตอนนี้พวกมันโทรตามผมยิกๆเลย พวกมึงรอก่อนแปปนึงได้ม๊ายยยยยย

“วันนี้กูมีข่าวดีอยากบอกพวกมึงด้วยวะ โดยเฉพาะมึง” มันพูด พร้อมกันหน้ามายิ้มให้ผม

“ข่าวดีอะไรของมึงวะ” ผมทำหน้างงๆ
“มันเป็นเซอร์ไพรเว้ย แต่รับรองมึงต้องตกใจ” มันขยิบตา ก่อนจะหันหน้ากลับไปกดโทรศัพย์ตามเดิม ข่าวดีอะไรของมันวะ?

เมื่อมาถึงร้านเหล้าพวกเราก็มองหาโต๊ะทันทีเลยครับ ยัยหนอนชาเขียวโบกไม้โบกมือจากริมข้างในร้านห่างจากเวทีพอสมควร พวกผมจึงเดินไป วันนี้ร้านคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาด้วย แต่ปกตินี่คนอย่างเยอะเลยครับ
“วี๊ดวี๊ว คู่จิ้น มาด้วยกันเหรอค้าาาาา พวกมึงนี่น่ารักจังนะ ไม่ห่างกันเลย” ทุกคนหัวเราะรวมทั้งไอ้พอร์ชด้วย ผมเลยเอานิ้วดีดจมูกยัยหนอนชาเขียวหนึ่งที นี่กูพึ่งมาถึงมึงก็เล่นกูเลยนะ
ผมนั่งลงข้างไอ้ฟ้า ก่อนที่ไอ้พอร์ชจะขอแลกที่กับไอ้วิน เพื่อนั่งข้างๆผม
“มึงต้องอะไรขนาดนั้นวะ ไอ้พอร์ช มึงจะห่างกันไมไ่ด้เลยรึไง” ไอ้ฟ้าประท้วงครับ
“กูก็ต้องอยากนั่งข้างเมียกูดิวะ” ทุกคนในโต๊ะส่งเสียงโห่ครับ รวมทั้งผมด้วย

ทั้งคืน ทุกคนคุยกันอย่างออกรสครับผม โดยเฉพาะเรื่องข้อสอบที่แสนโหด และคนที่ดูเครียดที่สุดก็คือไอ้ฟ้าครับ มันบอกว่ามันทำข้อสอบของวิชาสุดท้ายไม่ได้เลย กามัั่วอย่างเดียว แต่มันก็บ่นอย่างนี้ประจำแต่ก็เห็นมันได้เกรดดีตลอด
“มึงยังดีไอฟ้า ต่อให้มึงสอบไม่ได้ แต่คะแนนเก็บในห้องมึงผ่านชัวร์ แต่ของกูนี่ดิ ไม่ได้ส่งตั้งสามงงาน” ไอ้วินพูดขึ้นมาบ้าง
“เอาน่าพวกมึง เลิกพูดเรื่องเครียดๆกันได้ละ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป พระพุทธเจ้าเค้าสอนให้มนุษย์ปล่อยวาง มึงไม่เคยเรียนศาสนาหรอ แดกๆ ชนๆ” ใบชาพูดปรามเพื่อนๆก่อนจะยกแก้วขึ้นมาชนกับพวกผม

ส่วนไอ้พอร์ชก็ดูมีความสุขเป็นพิเศษครับคืนนี้ แถมยังชงเหล้าให้ผมไม่หยุด บริการดีมาก ขนาดตอนผมจะไปเข้าห้องน้ำมันยังต้องเดินมากับผม ไม่รู้จะติอะไรผมนักหนาช่วงนี้ แต่ก็นะ มันทำให้ผมอิ่มเอมในจิตใจเหลือเกิน คริๆ
“ไอ้พอร์ช กูเห็นมึงจ้องนาฬิกาและยิ้มๆอยู่คนเดียว เป็นไรวะ ศรีธัญญาไหมมึง” ใบชาพูดขึ้น ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมัน เพราะเห็นไอ้พอร์ชจ้องนาฬิกาตลอด ไม่รู้จะรีบไปไหนรึป่าว
“พวกมึง เดี๋ยวกูมีไรมาเซอร์ไพร แปปนะเดี๋ยวมา” มันพูดจบก็ลุกเดินออกไปไหนไม่รู้ครับ
“เซอร์ไพรอะไรของมันวะ” ไอ้ฟ้าพูดขึ้น “มึงรู้ป่าวพีท” ผมได้แต่ส่ายหน้า หรือจะเป็นเซอร์ไพรพิเศษที่มันพึ่งพูดถึงตอนอยู่บนแท็กซี่

ผ่านไปไม่ถึงห้าหน้าที่มันก็เดินกลับเข้ามา พร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผมรู้สึกเหมือนผมเคยเห็นเธอจากที่ไหนสักที่มาก่อน เธอสวยมากครับ หุ่นดี ตอนนั้นใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะกลัวมันเป็นจะเป็นแบบที่ผมคิด
“สาครับ นี่เพื่อนๆพี่” น้องสาไหว้พวกผมทุกคน ในขณะที่ทุกคนยังงงๆอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น
“นี่น้องสา แฟนกูเอง เป็นรุ่นน้องที่มหาลัยเราไง พวกมึงจำได้ป่าว” วินาทีนั้นเอง หัวใจของผมหล่นลงมาอยู่ที่ตาตุ่ม ส่วนคนอื่นก็โห่ แซว พร้อมกับหาเก้าอี้มาให้น้องสานั่ง
“เห้ย มึงไปมีแฟนตอนไหนวะ พวกกูไม่เห็นรู้เลย” ไอ้วินพูดขึ้น
“กูคุยกันมาสักพักละวะ เพิ่งขอน้องเค้าเป็นแฟนก่อนสอบนี่เอง วันนี้ทุกอย่างลงตัว เลยพามาเปิดตัว”
“โห่ มึงนี่เก็บเก่งเนอะ น้องสาทำไมถึงตกลงเป็นแฟนกันมันอะ มันเหี้ยไอ้นี่อ่ะ เจ้าชู้ด้วย” ใบชาพูดขึ้น พร้อมกับที่ไอ้วิน ไอ้ฟ้าพร้อมใจกับหัวเราะ
“เห้ยพวกมึง ทำไรให้เกียรติกูนิดนึง คนนี้กูจริงจังเว้ย ใช่ไหมค่ะสา” มันพูดพร้อมกับเอามือโอบเอวน้องสา ก่อนจะหันหน้าไปจุ๊บแก้มน้องสาหนึ่งที
ตอนนั้นในหัวของผมมันตื้อไปหมด มันหนักมาก ผมรู้สึกเหมือนยังประมวลเหตการณ์ไม่ทัน ทั้งงง ทั้งสับสน ถึงไอ้พอร์ชมันจะเป็นคนเจ้าชู้ ไปมีอะไรกับคนนู้นที คนนี้ที แม้ผมจะเสียใจทุกครั้ง แต่ก็ไม่เท่ากับครั้งนี้ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มันพาใครสักคนมาเปิดตัวกับเพื่อนๆ ผมได้แต่ทำเป็นฝืนยิ้ม ในขณะที่ทุกคนกำลังต่างพากันแซวไอ้พอร์ชกับน้องสา แต่ในใจผมกลับแทบไม่ได้ยินอะไรเลยแม้แต่เสียงเพลง ไม่รู้ว่าผมจะทนนั่งอยู่แบบนี้ได้ถึงเมื่อไหร่
“เห้ยพีท มึงเป็นอะไรวะ หน้าซีดๆ ไม่สบายรึปาว” ไอ้ฟ้าที่นั่งอยู่ข้างๆผมเอามือมาจับหน้าผากผม พร้อมกับถามด้วยความเป็นห่วง ทุกคนจึงหันหน้ามาดูว่าผมเป็นอะไรรึป่าว
“ป่าวๆ กูมึนหัวนิดหน่อยวะ เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำแปปนะ” ผมรีบลุก และเดินไปทางห้องน้าพร้อมกับความงงงวยของทุกคน แต่ผมทนนั่งอยู่แบบนี้ไม่ไหวจริงๆ ความรู้สึกมันมวลในท้องเหมือนอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่ร้อง ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไงดี

นานกว่าสิบนาทีที่ผมเข้าไปนั่งระงับอารมณ์สติของตัวเองในห้องน้ำ นี่ผมพร้อมจะออกไปเผชิญสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้รึยัง หรือผมควรจะทำอย่างไรดี แต่ที่รู้ๆ ผมไม่อยากจะกลับไปนั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ มองไปที่โต๊ะ เห็นพวกมันกำลังกินเหล้าชนแก้วกันอย่างมีความสุข ไอ้พอร์ชยังเอามือโอบเอวน้องสาไว้ตลอด บางทีก็ซบไหล่
เห็นภาพแบบนั้นผมจึงตัดสินใจเดินออกจากร้านไปแบบเงียบๆ เรียกแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน ผมรู้สึกมวลท้อง รู้สึกหายใจไม่ออก แม้จะไม่มีน้ำตาสักหยดแต่มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานจริงๆครับ จนผมต้องบอกให้พี่แท็กซี่ช่วยเร่งแอร์ให้หน่อย ก่อนที่ไลน์จะเด้งขึ้น

Fah
พีท มึงตกส้วมตายไปยังวะ ออกมาได้แล้ว

เห้ยพวกมึง กูขอโทษจริงๆวะ กูโคตรปวดหัวเลย กูขอกลับก่อนนะ
Fah
อ้าวว เห้ยย

Baicha
มึงเหี้ยมากทิ้งพวกกูได้ไงเนี่ย แทนที่จะบอกกันก่อน

กูขอโทษจริงๆวะ พวกมึง ไว้เจอกันนะ
Fah
เออๆ ถึงบ้านแล้วทักมา


ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง ผมไม่มีสิทธิไปโกรธอะไรมัน เราไม่ได้เป็นอะไรกัน เราเป็นแค่เพื่อน
“ขอโทษนะเว้ยไอ้พอร์ช วันนี้กูไม่ไหวจริง” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ผมจะต้องตัดใจจากมันให้ได้ ผมรู้มันคิดกับผมแค่เพื่อน ผมอยากจะเป็นเพื่อนที่ดีของมัน ที่มันสนิทใจด้วยได้ อยากจะยินดีกับมันเวลามันมีความรักดีๆ ผมไม่อยากเป็นแบบนี้ แต่คืนนี้ผมยังไม่พร้อมจริงๆ...

*****

เป็นไงกันบ้างครับสำหรับตอนสอง  :o8: นี่เพิ่งเริ่มต้นนะครับ เรื่องราวยังอีกยาวไกล ยังไงช่วยคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับทุกคน สัญญาว่าจะมาโพสลงทุกวันครับ

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนพิเศษ 1

“นายๆ ชื่ออะไรอะ” ผมหันไปตามเสียง นี่มันไอ้คนที่ชื่อพอร์ชนิ (ทุกคนรู้จักเพราะความเจ้าชู้ของมัน)
“พีท ว่าไง?” ผมตอบ
“เราพอร์ชนะ กลุ่มนายเต็มยังอ่ะ ขออยู่ด้วยได้ป่ะ” ผมพยักหน้า เท่าที่จำได้ ผมไม่เคยเห็นมันในคลาสนี้เลย สงสัยไม่เคยมาเรียน


และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักกับมัน มันเป็นคนหน้าตาดีครับ อัทธยาศัยดี ด้วยความที่ผมเป็นคนนิ่งๆ อาจจะไม่ถึงกับเก็บตัว แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่ ยกเว้นคนที่เป็นเพื่อน ซึ่งจริงๆกว่าจะมาเป็นเพื่อนที่ผมสนิทใจได้ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่กลับมัน มันไม่ใช่แบบนั้น หลังจากวันนั้นเราสองคนก็ตัวสนิทกันเป็นปลาท่องโก๋ ไปไหนไปกัน ทั้งดูหนังฟังเพลง ถึงจะมีเพื่อนๆคนอื่นอยู่ด้วย แต่เราคุยถูกคอมากที่สุด ส่วนใหญ่จะตีกันด้วยซ้ำ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม คนถึงมองว่าพวกผมเป็นคู่จิ้นกัน เพราะเวลาเราเจอกันต้องเป็นอันทะเลาะ หยอกล้อกัน กวนตีนกันตลอด

“ไอ้เชี่ยพอร์ช พวกหยิบหมูกูไปทำไมเนี่ย” มันแย่งหมูจากจานผมไปครับคุณผู้ชม ในจานยิ่งมีน้อยอยู่ๆ
“ก็กูหิวไง แล้วเมื่อตอนเที่ยงมึงแดกชาบูไปแล้วใช่ไหมเหรอ กูว่ามึงได้รับโปรตีนเพียงพอแล้วนะสำหรับวันนี้ แดกเยอะ เดี๋ยวก็อ้วนหรอก กูไม่อยากเห็นมึงอ้วน” มันพูดพร้อมกับเคี้ยวหมูตุ้ยๆ อันที่เพิ่งขโมยจากผมไป
ผมโมโหมาก เลยพยายามหยิบอะไรสักอย่างจากจานมันมา
“ฮ่าๆ มึงแดกผักตกแต่งจานเป็นด้วยเหรอวะ” มันพูด ผมมองดูในตะเกียบ ไอ้เชี่ยนี่มันผักที่เค้าใช้ตกแต่งจานนิ แต่ไม่เป็นไร แดกได้เหมือนกันนั่นแหละ ทำไมกูแดกผักชีมันแปลกตรงไหนวะ
“พี่ครับๆ เอาผักที่เอาตกแต่งจานมาอีกหน่อยครับ เพื่อนผมมันชอบ” มันตะโกนบอกเด็กเสริฟในร้าน พร้อมกับหัวเราะ
“ไอ้เชี่ยมึงแกล้งกู ไม่ต้องเลย” ผมพูดมันงอลๆ มันเลยเอามือมากอดคอผม สักพักมันก็เลื่อนมือไปจั๊กจี้เอวผม เพราะมันรู้ว่าผมเป็นคนบ้าจี้
“พอแล้วๆ อะไรของมึงเนี่ย” ผมพูด พร้อมกับกระทุ้งศอกมันไปหนึ่งที


“เห้ย พวกมึงรู้ป่าว ไอ้พีทแม่งชอบแดกผักชีที่เค้าเอาไว้ตกแต่งจานอะ จนต้องขอเบิ้ลอีกจาน แต่เอาแค่ผัก” มันพูดขึ้นมาในกลางโต๊ะอาหารวันหนึ่ง ในขณะที่พวกผมกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่
“จริงหรอวะไอ้พีท มึงไม่เหม็นเหรอวะ” ไอ้ฟ้าถาม
“แล้วมึงไปชอบแดกมันตอนไหน พวกกูไม่เห็นรู้เลย” ใบชาพูดขึ้นบ้าง
“พวกมึงอย่าไปเชื่อมัน มันกวนส้นตีนกู” ผมพูด ก่อนจะใช้หลอดเป่าน้ำแข็งใส่หน้ามัน
“มึงเล่นไรเนี่ย เลอะเทอ” มันพูด ก่อนจะล็อคคอผมให้ดมจักแร้มัน ละมึงเนี่ยไม่สกปรกเลยนะ อี๋จะอ้วก


เราเป็นเพื่อนกันมาสองปี ส่วนผมมาชอบมันตอนไหนนะเหรอครับ ตัวผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนเวลาเห็นมันไปกับสาวๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย ตอนแรกผมแค่คิดว่ามันเป็นอาการของคนหวงเพื่อน แต่ด้วยความที่เราแกล้งกันตลอด บางทีผมคิดว่ามันอาจจะเริ่มขึ้นจากตรงนั้น เราคุยกันได้ทุกเรื่อง ผมอยู่กับมันแล้วผมรู้สึกสบายใจ มีความสุข สามารถเป็นตัวของตัวเอง ผมสามารถเล่าเรื่องส่วนตัวให้มันฟังได้ทุกเรื่อง ส่วนมันก็เล่าเรื่องต่างๆให้ผมฟังมากมาย ถึงเวลามันมีหญิงมันจะหายๆไปบ้าง แต่เวลามันเลิกกัน (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเวลาอันสั้นๆ) มันก็กลับมาหาผมเสมอ อีกอย่างหนึ่งเลยคือมันเป็นคนช่างเอาใจ ชอบเอาใจใส่ แถมยังจำรายละเอียดต่างๆของผมได้เสมอ ซึ่งบางทีผมเองยังไม่เคยสังเกตุตัวเองด้วยซ้ำ

“พี่ครับ ขอโค้กหนึ่งขวด” มันสักโค้กมาทั้งๆที่ปกติมันไม่กิน ผมจึงถามมัน
“มึงสั่งโค้กมาไมวะ มึงไม่กินไม่ใช่เหรอ”
“กูไม่ได้สั่งมาให้กู กูสั่งมาให้มึงนั่นแหละ แดกแต่โค้ก มึงต้องเพลาๆลงบ้างนะเว้ย” มันพูด “มึงอะ แดกแต่โค้ก แถมกินข้าวนิดเดียว โค้กมันทำให้มึงอิ่มเร็วรู้ป่าว แล้วพอมึงแดกเยอะๆ มึงก็ฉี่บ่อยไม่มีสมาธิเรียน แถมมันยังทำให้มึงเป็นเบาหวานอีก กูเปนห่วง” มันพูด พร้อมกับทำสีหน้าจริงจรัง "นี่กูจะให้มึงแดกเป็นวันสุดท้าย"

ถึงมันจะไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไรมากมาย แต่มันเป็นคนเอาใจใส่ และจิตใจดีนะครับ ผมไม่เคยเห็นมันโกรธใคร หรือว่าให้ใครมาก่อน มันพูดแต่ในด้านบวกๆของคนอื่นเสมอ ถึงแม้บางทีมันโดนเพื่อนด่า แต่มันก็ไม่เคยโกรธใครเลยสักที ทุกอย่างมันมากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดผมก็ยอมรับกับตัวเองว่าผมคงชอบมันเข้าให้แล้ว

“มึงว่าหนังสนุกป่าววะ” ผมถาม
“เออ หนุกดี กูสงสารคู่เกย์ในหนังว่ะ ทำไมชีวิตแม่งลำบากจังวะ คนจะรักกันทำไมต้องสนใจคนอื่นด้วย ความรักมันห้ามกันได้ที่ไหน” พอมันพูดประโยคนั้น ผมรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“มึงไม่รังเกียจเกย์เหรอวะ” ผมถาม
“รังเกียจทำไม คนเหมือนกัน ละอีกอย่างนี่มันปีไหนแล้ว กูเชื่อในเรื่องความเท่าเทียมกันของทุกเพศเว้ย ความรักแม่งไม่มีเพศ พรหมแดน หรือศาสนาวะ คนมันจะรักกันยังไงมันก็รัก ถ้ามันเป็นสิ่งที่ผิดจริง ธรรมชาติเค้าไม่สร้างขึ้นมาหรอก”
ผมอยากจะกอดมันมาก คำพูดคำจาพระเอกสาสสส มึงไปจำมาจากไหนวะเนี่ย

และเพราะตัวตนของมันที่เป็นแบบนี้ มันทำให้ผมรักมันขึ้นทุกวันๆ โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ตัว มันทำให้คนที่ขี้เกียจอย่างผม ต้องออกไปเรียนทุกกคลาส ถึงบ้างคลาสไม่มีเช็คชื่อก็ยังต้องไป เพียงเพราะอยากจะไปเจอหน้ามัน ถึงเจ้าตัวจะมาบ้างไม่มาบ้างก็เถอะ แต่ผมอยากไปรอมัน เพราะทุกนาทีที่ผมได้เจอ ได้อยู่กับมันช่างมีค่าเหลือเกิน มันกลายเป็นความรักที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนวันนี้อยากจะถอนตัว มันก็สายเกินไปซะแล้ว



ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คอมเม้นติชมได้เลยนะครับผม ชอบหรือไม่ชอบยังไง สามารถบอกได้เลยครับ  :hao7: :o8:

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Chapter 3

“พวกมึงเอาน้ำอะไรป่ะ” ใบชาถามขึ้น ก่อนพวกผมทุกคนจะส่ายหน้า ขณะที่พวกเรานั่งอยู่โรงอาหาร รอเรียนคลาสแรกของเทอม ใช่ครับ นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้ติดต่อกับไอ้พอร์ชอีกเลย ส่วนมันเองก็ไม่ได้ติดต่อผมเช่นกัน คงจะวุ่นวายอยู่กับแฟนของมันนั่นแหละ ถามว่าผมทำใจได้หรือยัง ก็ตอบได้เลยว่า ยังหรอกครับ แต่ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาผมก็พยายามไม่เช็ค Social ไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ ทำได้แค่หาอะไรทำไปวันๆพอให้มันลืมเรื่องของมันได้บ้าง ถึงผมจะมีน้อยใจบ้างก็เถอะที่มันไม่ติดต่อมาเลย
“แล้วนี่ ไอ้พอร์ชยังไม่มาหรอวะ มีใครติดต่อมันได้บ้าง” ไอ้ฟ้าครับ มึงจะเอ่ยชื่อมันขึ้นมาทำมายยยย นี่ยังเช้าอยู่เลย ให้เวลากุปรับตัวหน่อยก็ไม่ได้
“ไม่เลยวะ โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ ไอ้นี่มีแฟนแล้วหายเงียบตลอด” ไอวินตอบ ซึ่งมันก็จริง ปกติมันโทรหาผมเช้าสายบ่ายเย็น แต่นี่ไม่ติดต่อมาเลยเป็นเดือน แล้ววันนี้ก็ไม่รู้จะมาเรียนไหม
“กูว่าคาบแรก มันยังไม่มาหรอก มันมานู่น วันที่สามที่สี่หลังจากเปิดเรียนตลอด” ไอ้ฟ้าพูดพร้อมกับสายหน้าเบาๆ
“มึงเป็นคู่จิ้นกันไม่ใช่หรอ ไม่ได้ติดต่อกับมันเลยเหรอวะ” ไอ้วินหันมาถามผม ผมก็ได้แต่ส่ายหัวครับ

คลาสวันแรกผ่านไปโดยไม่มีอะไรมาก อาจารย์ก็พูดเหมือนเดิมทุกครั้งที่เริ่มต้นเทอม จะเรียนอะไรบ้าง การให้คะแนนเป็นยังไง รู้งี้ผมไม่มาซะก็ดี ฝากพวกนี้ฟังเอา เปลืองค่ารถซะจริง
“เห้ยยย พวกมึง เรียนคาบนี้เหมือนกันหรอว่ะ” พวกผมหันไปพร้อมกันตามเสียงเรียก และนี่ก็คือ เจนนี่ครับ เจนนี่เป็นคนสวย เป็นดาวโรงเรียน พวกเราเคยเรียนด้วยกันบ่อยๆตอนปี 1 แต่หลังจากปีสองเป็นต้นมา เจนนี่ก็ได้ทำการลงเรียนซัมเมอร์แซงหน้าพวกผมไปหลายตัวอยู่ เลยทำให้ไม่ค่อยมีวิชาที่เหลือตรงกันสักเท่าไหร่
“อีเจนนนนนน กูโคดคิดถึงมึงเลย เป็นไงบ้างวะ” ใบชารีบวื่งเข้าไปกอดเจนนี่เพื่อนรักเพราะไม่ได้เจอกันนาน แต่ก็ถูกละครับ การเรียนมหาวิทยาลัย จะได้เจอเพื่อนที่เคยเจอกันตั้งแต่ปี 1 มันง่ายซะที่ไหน นอกจากเรียนคนละคลาสแล้ว แถมต่างคนต่างเรียนเสร็จก็ขึ้นรถกลับบ้านทันที ไม่มีใครเดินไปเดินมาในมอให้เจอตัวง่ายๆขนาดนั้น
“มึง นี่วิน รู้จักยัง” ใบชาแนะนำเจนนี่ให้วินได้รู้จัก ด้วยความที่วินเพิ่งมาเรียนกับพวกผมตอนปี 2 ส่วนไอ้พอร์ชมาเจอกันตอนหลังสุดเลย ทำให้พวกนี้ไม่รู้จักเจนนี่ วินกับเจนนี่หันมายิ้มให้กันเบาๆ ก่อนเจนนี่จะหันไปเม้าแตกกับใบชาต่อ
“เจนนี่ละมึงกับไอ้ต้นเป็นไงบ้างวะ ยังคบกันอยู่ป่ะ” ไอ้ฟ้าถามเจนนี่ถึงต้น เพื่อนพวกเราตั้งแต่สมัย ปี 1 ครับ เคยเรียนด้วยกัน คลาสสองคลาส รู้จักเพราะเป็นแฟนเจนนี่
“เออ กูจะหาผัวใหม่ละเนี่ย แม่ง รำคาญมัน เล่นแต่เกมส์” เจนนี่ตอบติดตลก ผมจำได้ว่าตอนนั้นสองคนนี้เป็นคู่ที่น่าอิจฉามาก เพราะมันตัวติดกันเว่อ เจอเจนนี่ต้องเจอต้น เจอต้นต้องเจอเจนนี่
“ไปหาไรกินกันต่อไหม กูหิวอ่ะ ไม่ได้เจอพวกมึงนานอยากเม้าด้วย” เจนนี่เสนอครับ พวกผมที่ไม่ได้มีธุระไปไหนต่ออยู่แล้ว เพราะวันนี้มีเรียนแค่คาบเดียวจึงตอบตกลง

พวกผมตัดสินใจมากิน MK Live ที่ Emquartier ร้านประจำครับ ด้วยความที่แต่ละคนมีแต่สายสุขภาพกันทั้งนั้น (เหรอ) ฮ่าๆ จริงๆแล้วเพราะพวกผมชอบกินอาหารประเภทต้มๆเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าอาหารประเภทปิ้งย่างมันหนักท้อง กินแล้วรู้สึกไม่สบายตัว เวลาพวกเรานัดกันไปกินข้าว ก็เลยมักจบลงด้วยที่ร้านหม้อไฟบ้าง MK บ้าง แล้วแต่สถานการณ์
“ว่าแต่ไอ้เชี่ยพอร์ช แม่งหายไปเลยจริงๆวะ จะไม่มาก็ไม่คิดจะโทรบอกเพื่อนมั่งเลย” ใบชามันบ่น
“เออ ปล่อยๆมันเหอะมึง เวลามันมีแฟนแม่งก็เป็นงี้แหละ” ไอ้ฟ้าพูดก่อนจะคีบหมูใส่ปาก
เวลาพูดถถึงไอ้พอร์ชทีไร มู้ดแอ่นโทนผมเปลี่ยนทันที ผมไม่อยากเป็นแบบนี้เลยแต่ก็ต้องพยายามทำใจให้เข้มแข็งเข้าไว้
“แล้วนี่วินยังไม่มีแฟนเหรอคะ?” เจนนี่ถามขึ้น ใบชาผลักหัวมันเบาๆหนึ่งที
“อะไรอีเจน มึงไม่ต้องมาอ่อยเพื่อนกูเลย มีผัวแล้วนะมึงอ่ะ ละอีกอย่าง ไอ้วินมันเล่นตัวจะได้ จีบมันไม่ง่ายนะเว้ย” เจนนี่หัวเราะแห้งๆ ส่วนไอ้วินนี่นั่งนิ่งตั้งแต่มา ไม่ค่อยพูดค่อยจาเลยครับ สงสัยจะเขินสาว ผมเลยคีบปลาหมึกให้มันสองชิ้น
“อะไอ้วิน กูเห็นมึงชอบกิน” มันหันมามองหน้าผม ก่อนจะยิ้ม มันหันไปตักหมูในหม้อก่อนจะเอามาใส่ถ้วยผม…..  มึงเล่นอะไรเนี่ย?????
“อะ ไอ้พีท กูเห็นมึงชอบกิน” มันพูด ก่อนจะยิ้มอีกรอบ เล่นเอาซะผมเขินเลยครับ
“ไอ้เชี่ยยยยย” อยู่ดีๆใบชาก็ตะโกนขึ้น พร้อมกับวางตะเกียบในมืออย่างรุนแรง
“อะไรของมึงอีหนอนชาเขียว ผีเข้ามึงเหรอ” ไอ้ฟ้าถามด้วยความงง
“นั่นมันน้องสา แฟนไอ้เหี้ยพอร์ชนิ แม่งมาเดินกับใครวะ” ใบชาพูด ก่อนจะชี้ไปที่ข้างนอก
น้องสาจริงๆด้วยครับ เธอเดินมากับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ไอ้พอร์ช อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับพวกเรา
“เพื่อนเค้ารึป่าวมึง คิดมาก” ไอ้ฟ้าพูด
“เพื่อนแม่มึงสิ เดินโอบกันขนาดนั้น กูว่ากิ๊กแม่งชัวร์” ใบชาหันไปพูดกับไอ้ฟ้า
“เอาไงดีวะ มึงว่าไอ้พอร์ชรู้เรื่องนี้ยัง? ไอ้เหี้ยนี่ก็ติดต่อไม่ได้เลย” ใบชาพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ตอนแรกผมนึกว่ามันจะโทรหาไอ้พอร์ช แต่เปล่าเลย มันหยิบโทรศัพท์เพื่อขึ้นมาถ่ายรูปครับ
“ชา มึงรอบคอบมากเว่อ ดีๆถ่ายไว้เลย ละส่งไปให้ไอ้วิน” ไอ้ฟ้าสนับสนุน
นี่น้องสามีกิ๊กจริงๆเหรอ ตอนนี้ผมเป็นห่วงไอ้วินมากครับ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง ไม่รู้ว่ามันรู้เรื่องหรือยัง แล้วมันหายไปไหน ทำไมมันไม่ติดต่อเพื่อนๆเลย อย่างน้อยมันก็น่าจะติดต่อกันมาบ้าง

วันนี้เราแยกกันหลังจากกินข้าวเสร็จครับ แต่ละคนก็ต่างพยายามติดต่อไอ้พอร์ชแต่ไม่มีใครติดต่อมันได้สักคน ผมก็ได้แต่หวังว่ามันคงจะมาเรียนในอีกวันสองวันนี้ พวกผมจะได้ถามไถ่ข่าวสารมันบ้าง ยิ่งมันเงียบไปแบบนี้พวกเราทุกคนก็ยิ่งเป็นห่วง

ตืด ตืด ตืด เป็นใบชาครับที่โทรเข้ามา ผมกดรับสายทันที

“โหลๆ”

{มึงติดต่อมันได้ยังวะ นี่กูส่งรูปไปให้มันดู มันไม่กดเข้ามาอ่านเลยวะ}

“ยัง ถ้ากูติดต่อมันได้ กูคงบอกพวกมึงไปแล้ว”

{มึงเอางี้ ถ้าพรุ่งนี้มันยังไม่มาเรียน เดี๋ยวพวกเราลองเข้าไปหามันที่บ้านละกัน} ใบชาเสนอ

“Good idea ได้ๆ ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันละกันมึง”

ผมกดวางสาย เตรียมตัวจะเข้าไปอาบน้ำ ผมเป็นห่วงมันมาก ทุกคนก็เป็นห่วงมันเหมือนกัน แต่คงทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้

ตืด ตืด ตืด มันโทรมาทำไมอีกเนี่ย

“ฮัลโหล อะไรของมึงอีกเนี่ย กูจะอาบน้ำ”

{พีท...}

เป็นเสียงของไอ้พอร์ชครับ ผมจึงดูหน้าจอโทรศัพท์เพื่อความชัวร์ เป็นมันจริงๆด้วย

“พอร์ช มึงหายไปไหนมาวะ เพื่อนๆเค้าเป็นห่วงกันแทบแย่ มึงบอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย”

{มึงออกมาหากูหน่อยได้ไหม ตอนนี้ นะ} เสียงมันเศร้ามากครับ เหมือนมันกำลังจะร้องไห้

“เห้ยๆใจเย็นก่อน มึงอยู่ไหน ละมึงเป็นไรเนี่ย”

{เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ตอนนี้กูอยู่ข้าง่ล่างคอนโดมึง ลงมาหน่อยได้ไหม กูอยากเจอมึง}

ผมกดวางสาย ใส่เสื้อผ้าหลวมๆและลงไปหามันทันที ผมทั้งโกรธทั้งเป็นห่วงมันก็หน้านี้ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกดีใจขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยเวลามันมีปัญหา มันก็คิดผม…...


*****

ผ่านมาตอนที่สามแล้วนะครับ เพื่อนๆชอบตอนพิเศษไหมครับ? เดี๋ยวจะเขียนอีกเยอะๆเลยครับ แล้วมาลุ้นกันต่อนะครับ ว่าไอ้พอร์ชมันหายไปไหนมา แล้วมันหาพีทเพราะอะไร  :hao5:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2019 00:39:24 โดย lonelyboy »

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
คนหล่อโดนสาวหักอกแน่ๆ เลย  :sad4:

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Chapter 4

เมื่อผมลงมาถึงข้างล่างคอนโด ผมก็เห็นมันทันทีครับ นั่งอยู่ตรงล็อบบี้ ตอนนี้ค่อนข้างดึกแล้วจึงแทบไม่มีผู้คนอยู่เลย ไอ้พอร์ชใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น กำลังนั่งเหม่ออะไรสักอย่าง แววตาของมันเศร้ามากครับ ถึงผมจะรู้สึกสงสารมัน แต่ตอนนี้ในใจของผมกับพองโตที่ได้เห็นหน้ามัน นี่ก็เกือบเดือนแล้วที่ผมไม่ได้เจอมันเลย หน้าของมันรับกับจมูกโด่งที่ได้รูป ดวงตาของมัน ริมฝีปาก ผิวของมันที่ออกแทนๆนิดๆจากการเล่นกีฬา ดูสุขภาพดี สำหรับผมแล้วมันคืือคนที่เพอร์เฟ็คที่สุดเลยครับ

ผมเดินตรงเข้าไปหามัน มันคงสังเกตเห็นผมด้วยหางตาก่อนจะหันหน้ามา มันลุกขึ้นและเดินมากอดผมโดยไม่ได้ทันตั้งตัว โลกทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง ผมตัวแข็งถือทำอะไรไม่ถูก มันกอดผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนผมจะหายใจไม่ออก แต่ผมกับรู้สึกดี นี่สินะอ้อมกอดของคนที่เรารัก หากมันจะกอดผมจนขาดอากาศหายใจและตายลงไปตรงนี้ผมก็ยอม

To die by your side is such a heavenly way to die.

“พีท กูคิดถึง” มันพูด ก่อนที่จะผละออก มันจ้องเข้ามาในตาผม สายตาของมันเหมือนกำลังรอให้ผมพูดอะไรสักอย่าง
“มึงหายไปไหนมา?” มันยิ้มบางๆกับคำถามของผม มันเป็นสายตาและรอยยิ้มที่ทำลายล้างมาก และแล้วความโกรธทั้งหมด ความน้อยใจ ที่ผมมีให้มัน มันหายไปหมด ความคิดถึงที่มีมันมากล้นจนผมเองก็อธิบายไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้มันจะมายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้วแต่ดูเหมือนมันจะยังไม่พอ สิ่งเดียวที่ชัดที่สุด ณ นาทีนั้น  คือ ผมไม่สามารถหยุดรักมันได้เลย

…….

มันพาผมออกมานั่งร้านเหล้าย่านเอกมัย ด้วยชุดเสื้อยืดกับเกงขาสั้นของผม -*- ขอบคุณมาก…. มันเล่าให้ฟังว่าที่มันหายไปเป็นเดือนเพราะมันอยู่แต่กับน้องสา ก็ตามคาดนั่นแหละครับ มันพาน้องเค้าไปทุกที่ที่อยากไป ทั้งขึ้นเหนือลงใต้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงไม่ได้ติดต่อเพื่อนๆเลยตลอดช่วงเวลาเดือนกว่าๆที่ผ่านมา จนเมื่อสองสามวันที่แล้ว มีผู้ชายคนหนึ่งโทรมาหามัน ซึ่งคนๆนั้นบอกกับมันว่าน้องสาเป็นแฟนเค้าและคบกันมาสี่ปีแล้ว และอยากให้มันเลิกวุ่นวายกับน้องสาสักที ตอนแรกมันบอกว่ามันก็ยังไม่เชื่อเพราะน้องสาไม่มีทีท่าเลยว่ากำลังปิดบังอะไรอยู่ และมันก็เชื่อใจว่าน้องสาไม่หลอกมันแน่ๆ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่น้องเขาจะทำแบบนั้น มันจึงไปคุยกับน้องสาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ น้องสาก็ตกใจสิครับว่ามันรู้เรื่องได้ยังไง จนสุดท้ายน้องเค้าเลยสารภาพว่ามีแฟนอยู่แล้วจริงๆ แต่ว่าระหองระแหงกันอยู่ แต่น้องก็ชอบไอ้พอร์ชมากจึงไม่กล้าบอกความจริง ที่พีคที่สุดคือ เมื่อไอ้พอร์ชบอกให้น้องสาเลือก น้องบอกว่ายังเลือกไม่ได้และขอให้ไอ้พอร์ชรอน้องเขาได้ไหม นี่และครับ เหตุผลว่าทำไมมันจึงมาหาผมที่คอนโด มันบอกว่ามันเสียใจมากและไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ตอนแรกมันคิดว่าทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี

“แล้วเป็นแบบนี้มึงจะเอายังไงต่อวะ” ผมถาม

“ก็ไม่เอายังไงอะ กูเหลือแค่ต้องตัดใจให้ได้ แต่คิดแล้วมันก็น่าโมโห มาหลอกกูได้ลงคอ” มันพูดพร้อกมกับทำหน้าคับแค้นใจ “แล้วมึงเป็นไงบ้างวะ ปิดเทอมไปไหนมา”

มันถาม ซึ่งผมก็ไม่รู้จะตอบมันว่าอะไร เพราะปิดเทอมที่ผ่านมาผมไม่ได้ไปไหนเลย พยายามทำตัวให้ยุ่งๆไปวันๆ จะได้ไม่คิดถึงมัน แล้วผมก็เล่าให้มันฟังว่าพวกผมเป็นห่วงมันมาก และมันควรที่จะไปเรียนได้แล้ว

“กูขอเวลาทำใจอีกสองสามวันวะ ชั่งแม่งเหอะ เลิกพูดเรื่องนี้ มาชนแก้วดีกว่า” มันพูด พร้อมกับยกแก้วขึ้นมาเตรียมรอชน

“แล้วอีกอย่าง” มันพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ผม “ตอนนี้กูมีมึงอยู่ตรงนี้แล้ว กูไม่เป็นไรแล้ว” ก่อนจะขยิบตาหนึ่งที

พอมันพูดจบ ผมจึงจัดการดึงทิชชู่ออกมาจากกล่องและโยนใส่มัน ถ้าพูดเล่นได้แบบนี้ แสดงว่ามันคงไม่เป็นไรแล้วแหละครับ

พวกเราสองคนกินเหล้าหมดไปหนึ่งกรมเต็มๆ โดยเฉพาะไอ้พอร์ชนี่กินเยอะเป็นพิเศษ จนเมาเหมือนคนไม่รู้เรื่องเลยครับตอนนี้ ผมจึงพามันจ่ายตังละออกมาเรียกแท็กซี่

“ไอ้พีททททท” มันเรียกชื่อผม “มึงกลับเลย ไม่ต้องไปส่งกูหรอกกกก กูกลับเองด้ายยยยยย” มันพูด แถมยังทิ้งน้ำหนักตัวลงเรื่อยๆ นี่ขนาดมึงกลับได้ยังอยู่ในสภาวะทิ้งตัวขนาดนี้เลย จะรอดไหมเนี่ย

“มึงหุบปาก และทำตัวให้เบากว่านี้ ยังไงกูก็จะไปส่ง”

“ม่ายยยยยต้อง มันลำบาก อึก มึง” เป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ พูดยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย

“มึงหุบปากไป”

ผมพามันขึ้นแท็กซี่ ซึ่งพอขึ้นมาได้สักพักมันก็หลับเป็นตายเลยครับ

และด้วยความที่มันเมาหลับเหมือนหมา ผผมจึงต้องแบกมันออกจากแท็กซี่ เข้าไปส่งมันถึงในบ้าน

“มึง ตื่นก่อน กุญแจบ้านมึงอยู่ไหน?” ผมเขย่าตัวมัน พยายามทำเสียงให้เบาที่สุดเพราะพ่อแม่มันคงหลับไปแล้ว

“นี่...” มันชี้เข้าไปในกระเป๋ากางเกง ผมจึงเอื้อมมื้อไปล้วงหาดู

“อ่าา ใกล้แล้ว” แล้วมันมาทำเสียงอุบาตอะไรวะ???? ผมพยายามหาแต่ก็หาไม่เจอสักทีเพราะต้องผ่านทั้งโทรศััพ กับกระเป๋าตังลงไป

“ล้วงมาตรงข้างๆอีกได้ไหมว่ะ กูรู้สึกดีจัง ใกล้ถึงตรงนั้นแล้ว อ่าา” มะนพูด ก่อนจะทำหน้าเยิ้มๆ

“ทะลึ่ง! นี่มึงเมาจริงปะเนี่ย” ผมเอ็ดมันไป พร้อมกับบเหยี่ยมเท้ามันหนึ่งที มันทำหน้าทะเล่น

และแล้วผมก็เจอกุญแจที่อยู่ลึกแสนลึกสักที ที่หนักที่สุดคือผมต้องอุ้มมันขึ้นบรรไดนี่แหละครับ พอถึงห้องผมเลยโยนมันลงบนเตียงและจัดแจงให้มันนอนดีๆ  หุ้ยยย เหนื่อยจริงวุ้ย แต่ก่อนที่ผมกำลังจะลุกออกจากเตียงเพื่อกลับ มันกลับดึงมือผมไว้

“ไม่ต้องไป นอนนี่แหละ” มันพูดพร้อมกับมองหน้าผม

“แต่ว่า…..”

“ไม่ต้องเถียง ลงมานอนเดี๋ยวนี้” มันพูดเสียงเข้ม สายตามันดูจริงจังมาก

ผมไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะมันไม่ยอมปล่อยมือ จึงตัดสินใจนอนลงไปข้างๆมัน >///<

พอผมนอนได้ไม่ถึงห้านาที มันก็ลุกขึ้นเพื่อเดินไปปิดไฟ สงสัยจะสร่างเมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ทันได้กลับมาถึงเตียง อยู่ดีๆมันก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นๆ จนหมด เหลือไว้แต่กางเกงในสีขาวของ Calvin Klein

“เห้ย มึงทำอะไรวะ”

“กูร้อน ปกติกูไมไ่ด้ใส่อะไรนอน นี่ยังดีนะกูใส่กางเกงใน ทำไมอายไรวะผู้ชายด้วยกัน” มันพูดก่อนจะเดินกลับมานอนที่เตียงและเขยิบเข้ามาข้างๆผม ผมไม่ได้พูดอะไรต่อได้แต่ตัวแข็งถือ เสียงหายใจมันดังมากครับถึงแม้ว่ามันจะสร่างบ้างแล้ว แต่ฤทธิแอลกอฮอลคงทำให้มันร้อยข้างในพอสมควร ในขณะที่ผมกำลังคิดเพลินๆอยู่นั้น อยู่ดีๆมันก็พลิกตัวมาทักผม พร้อมกับดึงผมเข้ามากอก มันกอดผมแน่นมากจนแทบหายใจไม่ออก T////T แถมมันยังมีแค่กางเกงในตัวเดียวด้วย ผมรู้สึกถึงสิ่งยุ่นๆที่มาดุนต้นขาของผมตอนนี้ครับ หน้าของผมร้อนผ่าว

“เห้ยยยย มึงมากอดกกูทำไมมม ปล่อยนะเว้ย” ผมประท้วง

“เหอะน่า นอนนิ่งๆดิ” มันพูดพร้อมกับกอดแน่นขึ้น ผมไม่รู้จริงๆครับว่าจะทำอย่างไร พยายามดิ้นก็แล้ว แต่ยิ่งดิ้นเหมือนมันก็ยิ่งแน่นขึ้นเรื่อยๆ ผมจึงยกเลิกความพยายามลงในที่สุด

“พีท” มันพูดขึ้นมา

“ขอบคุณนะ ที่อยู่เป็นเพื่อน”

-///-
 
To be continued
******


เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับตอนนี้ สรุปพอร์ชชมีใจให้พีทรึป่าว คิดยังไงกันแน่ทำไมถึงต้องมาลวนลามกันแบบนี้ด้วยบ้าจริง  :hao6:

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Chapter 5

ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาในขณะที่หัวของผมยังรู้สึกหนักอึ้งจากฤทธิแอลกอฮอล ผมหันไปมองไอ้พอร์ชที่ยังนอนกอดผมไม่ปล่อยตั้งแต่เมื่อคืน มันนอนยังไงของมันวะท่าเดียวทั้งคืน แต่เดี๋ยวก่อนนะ! ผมรู้สึกว่าสิ่งที่นิ่มๆเมื่อคืนที่ดุนขาผมอยู่ ตอนนี้มันทั้งร้อนและแข็งอย่างกับหิน >///< บ้าเอ้ย ผมควรจะทำยังไงดี? ผมพยายามแกะมือมันออกจากตัวผม แต่ยิ่งผมพยายามแกะเท่าไหร่ มันก็ยิ่งกอดผมมากขึ้น ส่วนไอ้นั่นของมันก็ยิ่งเสียดสีต้นขาผมแรงขึ้น…….. เอาไงดี ถ้าผมต้องอยู่แบบนี้ต่อไปผมตายแน่ๆ

“ไอ้พอร์ช เห้ย ตื่นได้แล้ว” ผมพยายามเรียกเพื่อปลุกมัน

“ฮืมมม” มันส่งเสียงในลำคอครับ พร้อมกับกระชับตัวผมเข้าไปให้แน่นขึ้น

“ไอเชี่ย ตื่นได้แล้ว” ผมพยายามใช้เสียงที่ดังยิ่งขึ้น เพื่อให้มันรู้ว่าผมต้องการจะลุกออกไปจริงๆ

“อะไรวะ นอนต่ออีกนิดนึงไม่ได้เหรอ” มันลืมตา พร้อมกับถามผม

“มึงจะนอนมึงก็นอนไป ปล่อยกูได้แล้ว อีกอย่างมึงช่วยเลิกเอาไอ้นั่นมาสีขากูซักที” ผมพูด มันนิ่งไปสักพักหนึ่งก่อนที่หน้ามันจะขึ้นสีแดงระเรื่อ

“เออวะ แหะๆ โทษๆ เช้าๆก็เงี้ย” มันพูดก่อนจะปล่อยผม พร้อมกับขยับตัวไปอีกฝั่งหนึ่งของเตียง

“อีกสองชั่วโมงมีเรียนนะเว้ย มึงลุกไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวกูจะได้ไปอาบต่อ” ผมบอกมัน

มันพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนและบิดตัว แต่มีสิ่งที่ทำให้ผมถึงกับหัวใจเกือบ”วาย”อีกรอบ พร้อมกับกลืนน้ำลายดังเอื้อก ก็ไอ้นั่นของมันยังไม่อ่อนตัวลง แถมยังแข็งดันทะลุกางเกงในสีขาวของมันออกมาจนเห็นบางส่วน ขนาดของมันชั่งน่ากลัว กางเกงในตัวเล็กแค่นั้นไม่มีทางที่จะปิดมิด  >///<  มันคงสังเกตเห็นผมจ้องมันตาไม่กระพริบ มันเหล่ตามองผมหนึ่งทีก่อนจะยิ้ม

“เป็นไง ใหญ่อะดิ ชอบป่าว?” มันพูดพร้อมกับขยิบตาให้ผมหนึ่งที

“K เลิกเล่นและไปอาบน้ำได้แล้ว” ผมพูดพร้อมทั้งปาหมอนใส่มัน มันหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินหายเข้าห้องน้ำไป

ผมนั่งนิ่ง รู้สึกได้ถึงเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย นี่ผมคงต้องนั่งอยู่ในผ่าห่มนี้ไปสักพักเพื่อให้จิตใจสงบลง และอะไรๆอย่างอื่นในตัวสงบลงไปด้วย

……

พวกผมมาถึงมหาลัยก่อนเวลาขึ้นเรียนประมาณ 15 นาที พอพวกเรามาถึงก็เห็นเดอะแก๊งนั่งรอก่อนอยู่แล้ว ทุกคนมาเช้าพร้อมหน้าพร้อมตามากครับ ทั้งไอ้ฟ้า วิน ใบชา ร่วมด้วย เจนนี่ สงสัยอยากจะมาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น (มองเพื่อนไงร้ายมาก พวกมันอาจจะอยากมาให้ทันเวลาเรียนจริงๆก็ได้ ฮ่าๆ)
ไอ้ฟ้ากับไอ้วินเมื่อเห็นไอ้พอร์ชก็รีบร้องโห่วิ่งเข้าไปกอดปลอบใจเพื่อน ส่วนยัยใบชาก็เดินมาตบหัวมันหนึ่งทีพร้อมกับกร่นด่ามันเรื่องที่มันหายไป ไม่ยอมติดต่อเพื่อน
สุดท้ายแล้วก่อนขึ้นเรียน ไอ้พอร์ชก็ต้องอธิบายและเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกมันฟังอีกที ทุกคนพอได้ฟังแล้วก็รู้สึกโกรธและเคืองน้องสาไปตามๆกันที่ทำกับมันได้ลงคอ
“ว่าแต่ ไอ้พอร์ชอกหักแค่นี้ มึงถึงกับต้องไปเสียตูดให้มันเลยเหรอวะไอ้พีท?” ไอ้ฟ้าพูด ทำให้ผมที่กำลังดูดน้ำอยู่แทบสำลัก ทุกคนร่วมใจกันหัวเราะและแซวผมอย่างพร้อมเพรียง ส่วนไอ้พอร์ชได้ตั้งแต่นั่งยิ้มๆ
“ก็เชี่ยละ มึงนี่กวนตีนกูแต่เช้าตลอดเลยนะ” ผมปาชิ้นมะม่วงในมือใส่มัน
“เห็นเค้าบอกกันต่อๆมาว่าของไอ้พอร์ชใหญ่อลังการ จริงป่าววะ?” ไอ้ฟ้าถามต่อ ทำเอาผมต้องสำลักน้ำอีกรอบ
“กูจะไปรู้ไหมครับ อยากรู้มึงก็ไปขอมันดูดิ มาถามกุทำซากอะไร”
“มึงก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่บอกๆเค้าไปละ” ไอ้พอร์ชพูดขึ้นมานิ่งๆ ทำเอาวงแทบแตก พวกมันโห่กันทั้งโต๊ะ อีกทั้งยังแซวผมใหญ่ จนผมต้องหันไปกลับไปดูดน้ำแก้เขิน ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้ามันก็ยิ่งทำให้ผมร้อนผ่าวที่ใบหน้า


ไม่อยากจะเชื่อว่าคลาสแรกของวันนี้ก็โดนงานกลุ่มเลย  ผมยังรู้สึกติดลมกับการไม่ต้องทำอะไรช่วงปิดเทอมอยู่เลยครับ แต่วันนี้เราต้องเริ่มคิดหัวข้อรายานกันแล้ว อาจารย์อยากให้เราทำวิดีโอเกี่ยวกับการเชิญนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทย เสนอออกมายังไงก็ได้ให้ดูสนุกสุดที่สุด พวกเราตอนแรกก็คิดไว้หลายสถานที่เหมือนกันที่อยากจะไปถ่าย แต่สุดท้ายเราก็ได้ข้อสรุปกันว่าไปพัทยาดีที่สุด เพราะไอ้วินมีบ้านที่นัั่น แถมยังใกล้กรุงเทพอีกด้วย



และในคืนนั้นด้วยความที่ไอ้พอร์ชยังทำใจไม่ค่อยได้ และไม่อยากอยู่คนเดียว ไอ้ฟ้า ไอ้วิน ใบชา และผมก็เลยต้องออกมานั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนมัน ผมกะว่าวันนี้จะกินไม่เยอะ เพราะเมื่อวานนี้กินไปแล้ว ถ้าแม่รู้ว่าลูกชายอย่างผมเอาเงินที่แม่ส่งให้ มากินแต่เหล้าแบบนี้ ไม่รู้ท่านจะรู้สึกยังไง (พอร์ชมึงเหี้ยมาก) แต่สิ่งที่ผมยังติดใจอยู่คือ การที่ไอ้พอร์ชมันกอดผมเมื่อคืน มันคิดอะไรกับผมรึป่าว หรือผมแค่กำลังให้ความหวังตัวเองเพราะปกติผมกับมันก็ถึงเนื้อถึงตัวกันอยู่แล้ว ผมไม่อยากจะคิดไปเองแบบนี้ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงเพราะตัวมันเองก็ยังตัดใจจากน้องสาไม่ได้

พวกเราอยู่กันจนถึงบาร์ปิด ส่วนคนที่เมาแอ๋พูดจาไม่รู้เรื่องก็ยังคงเป็นไอพอร์ชเหมือนเดิม

“พวกมึงไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวกูไปส่งมันเอง” ผมพูดกับไอ้วินและไอ้ฟ้าหลังจากที่เราส่งใบชาขึ้นแท็กซี่ไปก่อน พวกมันพยักหน้ารับรู้ก่อนจะโบกแท็กซี่ เพราะมันสองคนบ้านอยู่ทางเดียวกัน

หลังจากที่พวกเราขึ้นแท็กซี่มาแล้วไอ้พอร์ชก็ยังคงสไตล์เดิม หลับไม่รู้เรื่อง ผมมองหน้ามันก่อนจะถอนหายใจยาวๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะตัดใจจากน้องสาได้ และผมก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวผมเองเมื่อไหร่จะตัดใจจากมันได้ หรือผมควรจะสารภาพรักกับมันดี? แต่ในใจผมก็กลัว กลัวถ้าพูดไปแล้วมันจะเปลี่ยนไป กลัวมันจะรังเกียจผม ถ้าเราไม่ใช่เพื่อนกัน ทุกอย่างมันคงง่ายกว่านี้

เมื่อแท็กซี่มาถึงหน้าบ้านไอ้พอร์ช ผมจึงปลุกให้มันตื่นและพยุงมันออกมาเพื่อไปส่งมันในบ้าน

“รอแปปนึงนะพี่” ผมบอกพี่แท็กซี่ให้รอ พร้อมกับพยุงตัวที่แสนหนักของมันเข้าไปในบ้าน พร้อมกับเอากุญแจบ้านของมันที่ผมเอามาเก็บไว้กับตัวต้งแต่ก่อนขึ้นแท็กซี่มาไขกุญแจ

“ไอ้พอร์ช มึงขึ้นไปเองได้ใช่ไหม กูกลับก่อนนะ” ผมบอกมันก่อนจะหันหลังออกมา

“พีท” มันเรียกผม

“อะไร” ผมหันกลับไปถามมัน

“นอนกับกูอีกคืนได้ไหม….”
******

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพราะความรัก (Because of love) Chapter 5 updated 27/01/2019
« ตอบ #9 เมื่อ: 27-01-2019 04:16:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pepperpro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เนื้อเรื่องสนุกดีนะครับ แต่ยังเจอคำผิดบ้างนิดหน่อย ค่อยปรับปรุงไปนะ รออ่านตอนต่อๆไปจ้า

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เหมือนพอร์ชให้ความหวังเพื่อนเลย  :z10:
แต่จริงๆ ก็คงแค่เหงา เพราะเพิ่งอกหัก ไม่อยากอยู่คนเดียวสินะ

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Chapter 6

ข้อเสียหลักๆของการอยู่กรุงเทพเลยคือ รถมันสามารถติดได้ทุกช่วงเวลาจริงๆ และโดยเฉพาะช่วงเช้าแบบนี้ ผมรู้สึกว่าชีวิตแบบนี้เป็นชีวิตค่อนข้างเครียด ถ้ากรุงเทพรถไม่ติดขนาดนี้ผมคิดว่า นี่น่าจะเป็นอีกเมืองที่น่าอยู่สุดๆอีกหนึ่งเมืองของโลกเลยครับ เพราะด้วยความที่เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ อาหารอร่อยู ผู้คนมาจากหลากหลายถิ่น ทำให้แม้จะรถติด รถชน ไฟไหม้ ควันมลภาวะเยอะ หลายคนก็ไม่คิดที่จะอยากออกไปใช้ชีวิตที่อื่น แม้จะบ่นว่าเบื่อก็ตาม
ทำไมผมต้องมาบ่นอะไรแบบนี้นะเหรอครับ? ก็เพราะว่าเช้านี้เราต้องไปให้ทันเข้าคลาสให้ได้ ถ้าเลทเกิน 15 นาที จะถือว่าขาด รุ่นพี่ และผองเพื่อนที่เคยลงคลาสนี้หลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าจบยาก งานเยอะ แุถมถ้าสายเกิน 15 นาทีจะถือว่าขาด และที่แย่ยิ่งกว่าแย่ก็คือ คลาสนี้เป็นคลาสเช้า เริ่มเรียน 8 โมงตรงเด๊ะ

อ้อ แล้วถ้าถามว่าเมื่อคืนนี้สรุปผมนอนไหน ก็ไม่ต้องเดาให้ยากครับ เพราะสุดท้ายผมก็ยอมใจอ่อนนอนบ้านไอ้พอร์ชนั่นแหละ ใจจริงผมก็ไม่อยากนอนนะครับ เพราะทุกครั้งที่อยู่กับมัน ผมรู้สึกว่าตัวเองยิ่งถลำลึกเข้าไปเรื่อยๆ ความรู้สึกมันยิ่งมากขึ้นทุกวัน ทั้งๆที่เจ้าตัวเค้าก็ไม่ได้รู้หรอกครับว่าเค้าให้ความหวังผมอยู่ แต่ว่า ผมก็ไม่สามารถทิ้งให้มันอยู่คนเดียวได้เหมือนกัน เพราะผมเป็นห่วงมันกลัวมันจะคิดมากนะครับ

เมื่อผมกับไอ้พอร์ชมาถึงคลาส ก็ดูเหมือนอาจารย์จะเริ่มสอนไปบ้างแล้ว แม้จะเพิ่งเลทมาแค่ 5 นาทีก็ตาม และดูเหมือนว่าเพื่อนๆทุกคน นอกจากเราสองคนจะมาถึงก่อนแล้ว
“หวัดดี พรรคพวก” ผมนั่งลงข้างไอ้วินพร้อมกับทักทายทุกคน ส่วนไอ้พอร์ชก็นั่งถัดไปจากผม
“มึงไม่ได้กลับห้องเหรอเมื่อคืน” ไอ้วินถามขึ้น พยายามให้เสียงเบาที่สุดเพื่อไม่รบกวนการสอนของอาจารย์
“อ่อ เออใช่ กูไปนอนเป็นเพื่อนไอ้พอร์ช” ผมตอบ พยายามโฟกัสกับสิ่งที่อาจารย์กำลังพูด
“เหรอ มึงไปทุกวันเลยนะ……  ถ้ากูขอให้มึงมาอยู่เป็นเพื่อนกูบ้าง มึงจะมาไหมวะ”  ผมไม่ค่อยได้ยินในสิ่งที่ไอ้วินพูดครับเพราะกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน ยิ่งประโยคสุดท้ายยิ่งได้ยินไม่ค่อยชัด แต่ผมไม่อยากถามมันอีกรอบว่ามันพูดว่าอะไร ผมเลยเงียบๆไป พยายามฟังอาจารย์ ผมคิดไว้แล้วว่าวิชานี้ยังไงผมก็ต้องเอา A มาได้


“ไอ้เชี่ย วันแรกแม่งก็สั่งงานซะยับเลย” ยัยใบชาบ่นหลังจากที่พวกเราเดินออกมาจากคลาสเรียน แต่ก็จริงของมันนะครับ แค่วันแรกนี่สั่งให้ทำ Report เป็น 20 หน้า อาจารย์บอกว่าวิชานี้เน้นค้นคว้าเอง ถ้ามีอะไรสงสัยค่อยมาถาม
“กูว่าเราโชคดีนะเว้ย ที่เอาวิชานี้มาไว้เทอมสุดท้าย เพราะเทอมนี้เราลงวิชาน้อยสุด” ไอ้ฟ้าเสริม
“ก็จริง” ใบชาพูด ก่อนจะอาสาไปซื้อน้ำ แล้วลากไอ้ฟ้าไปช่วยถือ
“พวกมึงจะแดกไรวะ” ผมถามไอ้วินกับไอ้พอร์ช ในขณะที่เราดูร้านข้าวต่างๆในโรงอาหาร เพราะไม่รู้ว่าจะกินอะไร สุดท้าย พวกผมก็เลยสั่งข้าวหมูทอดคนละจาน เพราะง่ายสุดแล้ว

“ใบชา กูไปได้ยินข่าวอะไรดีๆมา เกี่ยวกับมึง” ไอ้ฟ้าพูดขึ้น ในขณะที่เรากำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ แถมมันยังทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ใบชาด้วย และไม่รู้ว่าเพราะอะไรใบชามันถึงได้ทำหน้าเหมือนคนมีพิรุธแบบนั้น
“มึงพูดเรื่องอะไร” ใบชาพูด ก่อนจะหลบสายตา
“ก็มีสายของกู มาเล่าให้ฟังว่าน้องเมฆปี1 กำลังตามจีบมึงอยู่” พวกผมถึงกับวางชอนข้าว ใบชามีคนมาจีบ??? 55555 รู้จักกับมันมาตั้งหลายปี ไม่เคยเห็นใครมาจีบมัน แล้วก็ไม่เคยเห็นมันจะชอบใครด้วย พวกผมเลยตื่นเต้นเป็นพี่เศษ
“อะไร เมฆไหนวะ ไม่มี๊” มันทำหน้าลุกลี้ลุกลน พร้อมกับขึ้นเสียงสูง
“เห้ย จริงป่ะเนี่ย มึงจะขายออกกับเค้าแล้วเหรอวะ 5555” ไอ้พอร์ชเชียร์
“พวกมึงมั่วละ กูไม่ได้อะไรกับน้องเค้าซะหน่อย”
“เออๆ พวกกูไม่ได้อะไร มึงจะมีผัวพวกกูก็ดีใจด้วย แต่ก็ควรจะมาเล่าให้เพื่อนฟังบ้าง แค่นั้นแหละ” ไอ้ฟ้าพูด
“เออ ถ้ากูมีเดี๋ยวกูบอก แต่ตอนนี้กูยังไม่มีไง” ใบช้าค้าน ก่อนทุกคนจะยอมแพ้ ไม่ถามอะไรมันต่อ
และด้วยความหิว วันนี้ผมกินเลยกินข้าวหมดเร็วเป็นพิเศษ สงสัยเพราะตั้งแต่ตื่นมายังไม่ได้กินอะไร มาถึงก็เข้าห้องเรียนเลย แต่เอาจริงๆ ข้าวจานเดียวนี่ไม่สามารถทำให้ผมอิ่มได้เลยครับ ว่าดังนั้น ผมก็เลยเอาซ่อมไปจิ้มหมูในจานของไอ้พอร์ช ก่อนจะเอาเข้าปากอย่างอร่อย
“เชี่ยไรเนี่ย” มันพูดพร้อมกับเอามือมาบังจานมันไว้
“ก็กูยังไม่อิ่มอ่ะ” ผมพูดอ้อนๆ พร้อมกับพยายามจิ้มหมูในจานมันอีก
“อ่ะ เอานี่ไปก็ได้” ผมหันมาตามเสียง ปรากฏว่าคือไอ้วินครับ มันจิ้มหมูในจานมันมาให้ผม
“วิน มึงน่ารักวะ ขอบคุณนะ” ผมพูดด้วยความดีใจก่อนจะตบไหล่มันเบาๆ
“อะ เอาของกูไปก็ได้ กูล้อเล่น กูไม่ใช่คนขี้หวงแบบนั้น” แล้วไม่รู้ด้วยผีตัวไหนเข้าสิงไอ้พอร์ชอยู่ดีๆมันก็เกิดเปลี่ยนใจ ตักหมูในจานมันมาให้ผม
“มึงก็กินไปดิ พอร์ช อะพีทเอาของวินไปอีกนะ” ไอ้วินพูดขึ้นบ้าง ก่อนจะจิ้มหมูในจานมันมาให้ผมเพิ่ม
“ไม่ๆ เอาของกูนี่” ไอ้พอร์ชครับ ตอนแรกแค่ใช้ซ่อมจิ้ม ตอนนี้กลับใช้ช้อนตักมาให้ผมตั้งหลายชิ้น
“เอาของวินไปเลยก็ได้พีท วินอิ่มพอดี” ไอ้วินพูดก่อนจะใช้ช้อนตักหมูทั้งหมดมาให้ผม
“เอ่อ… คือ”  ผมพยายามจะพูดว่าไม่ต้อง ด้วยความงงพฤติกรรมของคนทั้งสอง อยู่ดีๆจะมาใจดีอะไรหนักหนา
“เอาของกูไปหมดเลยก็ได้ กูก็อิ่มแล้วเหมือนกัน เอาข้าวด้วยไหม?” ไอ้พอร์ชครับ ก่อนจะเลื่อนจานทั้งจานมาให้ผม
“โอ้ยยยยยยยย” ใบชาตะโกนขึ้นมา “ปัง!” ก่อนที่เธอจะเอาแบ้งห้าสิบตบลงบนโต๊ะ “มึงเอาเงินไปซื้อจานใหม่แดกเลยพีท กูเลี้ยงเอง พวกมันจะได้เลิกวุ่นวายสักที กูรำคาญ!” เจ๊มาทีเดียว วงแตกเลยครับ
“กูรู้สึกอิ่มขึ้นมาพอดีเลย แหะๆ ไม่เป็นไร” ผมพูด
“ว่าแต่ ไอ้พอร์ช กุได้ข่าวว่าน้องสาเขาเลิกกับแฟนเค้าแล้วนิ มึงไม่ได้คุยอะไรกับน้องเค้าเลยเหรอวะ” อยู่ดีๆไอ้วินก็พูดขึ้นมาครับ ผมหันหน้าไปมองไอ้พอร์ช มันนิ่งมากเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“เหรอ...อืม” ไอ้พอร์ชพูด ก่อนจะมองเหม่อออกไปทางอื่น ผมคิดว่ามันน่าจะเพิ่งรู้เหมือนกัน เพราะสีหน้ามันตกใจนิดหน่อย ณ ตอนนั้นคงไม่ใช่มันคนเดียวหรอกครับที่ใจเสีย ตัวผมเองก็ใจเสียเหมือนกัน ผมคงกลัว กลัวว่ามันจะกลับไปหาน้องสา กลัวมันจะกลับไปคืนดีกับเค้า ผมกลัวว่าสิ่งที่ผมมีในสองสามวันนี้ มันจะหายไป

........


และแล้วคืนนั้นพวกเราก็ไปจบกันที่ผับเหมือนเดิม ยกเว้นไอ้ฟ้าครับ เพราะมันต้องไปกินข้าวกับอากงอาม่าอะไรของมันก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าอาทิตยนี้จะเป็นอาทิตย์ที่พวกผมออกติดกันทุกวัน ผมคงต้องห้ามปรามพวกมันมั่งแล้ว แต่ว่า… วันนี้ผมขอเอ็นจอยให้เต็มที่ก่อนแล้วกัน อิอิ 

พวกผมดื่มกันได้สักพักใหญ่ๆ อยู่ดีๆใบชาก็ชวนพวกเรากลับ เพราะนางต้องตื่นไปหัวหินกับที่บ้านแต่เช้า แถมยังบังคับให้ไอ้วินไปส่งด้วย อ้างว่าดึกแล้ว แล้วอีกอย่างนางเพิ่งมีประสบการณ์ไม่ดีจากแท็กซี่คันเมื่อคืน เพราะแท็กซี่มีท่าทีไม่น่าไว้ใจ แต่ไอ้พอร์ชยืนยันที่จะอยู่ครับ เพราะมันเจอพวกรุ่นพี่ที่มันรู้จักเลยจะไปรวมโต๊ะกับเค้า ผมเลยกะว่าจะอยู่รอไปส่งมัน กลัวมันจะไปเมาไม่รู้เรื่อง


ผมเดินออกมาส่งไอ้วินกับใบเฟินขึ้นแท็กซี่
“พีท มึงแน่ใจเหรอวะว่าจะไม่กลับพร้อมกัน กูวนไปส่งมึงก่อนได้” ไอ้วินถาม
“ไม่วะ กูอยู่รอเป็นเพื่อนมันดีกว่า”
“มึงเป็นห่วงเพื่อนได้ แต่ทำอะไรก็ควรมีขีดจำกัดบ้าง มันก็โตแล้วทำไมมึงต้องไปห่วงอะไรมันขนาดนั้นวะ” มันพูดขึ้นเสียงเหมือนจะโกรธ
“เออ ไอ้วิน ขึ้นรถ ไอ้พีทมันอยากอยู่ก็ให้มันอยู่ มึงจะไปอะไรกับมันวะ เร็ว! กูจะรีบกลับไปนอน” ใบชาพูดก่อนจะผลักให้ไอวินเข้าไปในรถ

ผมเดินกลับเข้ามาในผับ พร้อมกับคิดถึงเรื่องที่ไอ้วินพูด มันก็จริงครับ ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องทำอะไรแบบนี้ ผมรู้แค่อย่างเดียวว่าผมอยากอยู่เป็นเพื่่อนมัน

“ขอบใจมากนะเว้ย ที่อยู่เป็นเพื่อน” มันหันมาพูดกับผมพร้อมกับยีหัวเมื่อผมกลับมาถึงที่โต๊ะ ผมยิ้ม ก่อนจะมองหน้ามัน ความคิดมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัว ก่อนที่นักดนตรีบนเวทีจะเริ่มร้องเพลง

 “ ~ ขอโทษที่ฉันเอง ไม่อาจเป็นเหมือนเดิม อย่างที่เธอต้องการ Oh baby
แค่เพื่อนเท่านั้น พยายามเข้าใจ แต่ทำไมในใจของฉันยังสั่น Oh baby ~ ”

ผมไม่รู้ว่าผมควรทำอย่างไรต่อไป ถ้าน้องสากลับมาละ? แต่ต่อให้ไม่มีน้องสายังไงมันก็คิดกับผมแค่เพื่อนอยู่ดีใช่รึป่าว?

“ ~ เธอ เธอคงไม่รู้ว่าเพื่อนเธอคนนี้
ภายในใจนั้นข้างใน ได้เปลี่ยนไปแล้ว~ ”

มันจะรู้ไหมว่าผมรู้สึกอย่างไรกับมัน ว่าผมไม่ได้คิดกับมันแค่เพื่อนมานานสักพักแล้ว หรือผมควรจะบอกมันดี? มันหันมายิ้มให้ผม ก่อนจะยื่นแขนมากอดคอผม พร้อมกับร้องเพลงไปกับนักดนตรี… และไม่รู้ด้วยฤทธิแอลกอฮอลหรืออะไร จิตใจของผมเริ่มล่องลอย…...

“ ~ เปลี่ยนไปเป็นรัก รักจนหมดหัวใจ
รักเพียงแต่เธอ ขอเพียงให้เธอได้รู้
ไม่มีอีกแล้ว เพื่อนที่เธอไว้ใจ
เหลือเพียงแต่คนคนหนึ่ง ที่เก็บซ่อนความรักไว้ไม่ไหว
ถ้าเธอไม่คิดอะไรอย่างนั้น ก็แค่ทำว่าฉันไม่เคยพูดไป ~ ”

To be continued..



.*********


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับตอนนี้ เดี๋ยวตอนหน้าเรื่องจะเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วครับผม ยังไงฝากติดตามด้วยนะครับ

ส่วนเรื่องพิมผิด ต้องขออภัยด้วยนะครับ เดี๋ยวรอบหน้าจะพยายามตรวจทานให้ดีขึ้นก่อนโพสลงนะครับผม

อีกคำถามคือ ทุกคนอยากให้เรื่องนี้มี NC รึป่าวครับ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2019 00:48:58 โดย lonelyboy »

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ดูสิว่าจะกลับไปคบกับสาอีกมั้ย  :z10:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
 :mew1:

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Chapter 7


เคยรู้สึกกันไหมครับว่า บางทีก็รู้สึกอิจฉาคนอื่นที่เค้าชอบใคร รักใคร ก็ได้ความรักกลับมา บางทีเห็นคู่ที่เค้าเดินจับมือกัน แสดงความรักต่อกัน ก็แอบคิิดไม่ได้ว่า ทำไมจะต้องเป็นเราที่ต้องตกหลุมรักกับคนที่เค้าไม่มีทางที่จะชอบเราเลย จากผู้คนนับล้านบทโลกใบนี้ เราคือคนในกี่เปอเซนต์กันที่ต้องผิดหวังจากความรัก บางครั้งรู้สึกโกรธ รู้สึกน้อยใจ แต่เราก็เรียกร้องอะไรไม่ได้เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกับเค้า จะเรียกร้องไปในฐานะอะไร? ถึงจะร้องไห้ให้ความรักกี่ครั้งก็ต้องเรียนรู้ที่จะเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง



“มึง เดี๋ยวกูมานะ” ไอ้พอร์ชหันมาตะโกนบอกผม ท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม ผู้คนรอบกายมากมายต่างเอ็นจอยกับเสียงเพลง บางกลุ่มก็เล่นเทแอลกอฮอลใส่ปากทีละคนโดยไม่ผสม บางคนที่มาเป็นคู่ก็ยืนจูบกันในมุมอัน ดูเหมือนว่าทุกคนกำลังมีความสุขและกำลังดื่มด่ำกับค่ำคืนนี้ ยกเว้นผม……

ใช่ครับ เหตุผลที่ผมพูดแบบนั้น เพราะผมรู้ว่าไอ้พอร์ชมันกำลังจะเดินไปไหน

เมื่อสิบนาทีที่แล้วในขณะะที่พวกเรากำลังดื่มเหล้าและร้องเพลงกันอยู่ น้องสา กับกลุ่มเพื่อนอีกสองสามคนเดินเข้ามาในผับ เธอเห็นพวกเรา ส่วนพวกเราก็มองเห็นเธอ โดยเฉพาะไอ้พอร์ชที่กำลังร้องเพลงอย่างสนุกสนานถึงกับหยุดฉงักไปทันที ก่อนที่น้องสาจะเดินไปที่โต๊ะของเพื่อนเค้า และในระหว่างสิบนาทีที่ผ่านมา ผมมองเห็นว่าน้องสากับไอ้พอร์ชยืนนิ่ง จ้องตากัน ผมพยายามดึงความสนใจของไอ้พอร์ชให้รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือความเงียบ จนกระทั่งน้องสาเดินออกไป นั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้พอร์ชบอกผมว่าเดี๋ยวกลับมา ก่อนจะเดินไปเช่นกัน

จิตใจผมตอนนี้ทั้งเป็นกังวล หลากหลายอารมณ์ประดังเข้ามาจนผมรู้สึกจุก ผมไม่รู้ว่าผมยังยืนอยู่ตรงนี้เพราะอะไร หรือควรจะทำอย่างไรต่อ ป่านนี้เค้าคงเคลียร์กันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ผมรู้ว่าความจริงมันต้องเป็นแบบนั้น ทั้งๆ ที่ในลึกๆ ผมหวังว่า ไอ้พอร์ชจะแค่ไปเข้าห้องน้ำ หรือ ออกไปสูบบุหรี่ อย่างมากที่สุดคือออกไปเคลียร์กับน้องสาเพื่อยุตติเรื่องราวทั้งหมด ก่อนจะกลับมาหาผม เพื่อนคนนี้ที่ยังรออยู่เสมอ



หลังจาก 20 นาทีที่ผมยืนนิ่ง ไม่ไหวติง ความคิดนับล้านแล่นผ่านในหัว ผมเห็นไอ้พอร์ชเดินกลับมาคนเดียว ผมยิ้ม… นี่มันจะเป็นแบบที่ผมหวังไว้จริงๆ ใช่ไหม ไอ้พอร์ชกับน้องสาได้ยุตติความสัมพันธ์อย่างถาวรแล้ว

“พีท” มันพูดขึ้นเมื่อเดินกลับมาถึงโต๊ะ

“มึงกลับไปก่อนนะ กูมีธุระ” ผมรู้สึกเหมือนตัวเองหูอื้อขึ้นมาทันใด ผมมองหน้านิ่ง โดยไม่ได้พูดอะไร ทุกอย่างหนักอึ้ง

“มึงกลับเองได้ใช่ไหม เดี๋ยวไว้เจอกันพรุ่งนี้” มันตบไหล่ผมสองที ก่อนจะเดินกลับไปทางที่มันพึ่งจากมา ผมมองเห็นน้องสาเดินออกมาจากฝั่งห้องน้ำเช่นกัน ผมไม่รู้หรอกครับว่าเค้าสองคนจะไปทำอะไรกัน หรือไอ้พอร์ชจะไปไหน ในนาทีนั้นผมหันออกมาแล้วรีบเดินออกจากผับ ก่อนที่น้ำตาของผมจะไหล…


ผมเพิ่งรู้ตัวว่าจริงๆ แล้ว ผมรู้สึกทั้งเหนื่อย ทั้งอิดโรย จากการเที่ยวติดๆ กันหลายวันแถมยังตื่นเช้าทุกวัน ผมไม่ได้รู้ตัวเลย เพราะผมเป็นห่วงแต่ไอ้พอร์ช กลัวว่ามันจะอยู่ได้ไหม มันจะเหงารึป่าว ใครจะอยู่เป็นเพื่อนในช่วงเวลาที่มันอกหัก ผมคิดถึงแต่เรื่องของมัน…. ใครจะรู้ว่าเวลาเพียงไม่กี่วัน ผมจะโดนทิ้งให้มาเดินเตรดเตร่ข้างถนนคนเดียวแบบไม่มีจุดหมายแบบนี้ แหะๆ ใช่ครับ ผมยังไม่ได้เรียกแท็กซี่เพราะผมยังไม่รู้สึกอยากกลับห้อง ผมยังคงอยากเดินไปเรื่อยๆ คิด และทบทวนทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้น พอลองนึกจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ผิดอะไร ผมเองที่ผิด ผิดที่ไปมีใจให้กับมัน……





Turn down the lights

ช่วยปิดไฟทุกดวงในห้องนี้

Turn down the bed

จัดเตียงนี้ให้พร้อม

Turn down these voices inside my head

และหยุดเสียงต่างๆ ในหัวของฉัน

Lay down with me

เอนตัวลงข้างๆ ฉัน

Tell me no lies

และพูดแต่ความจริงให้ฉันฟัง

Just hold me close, don't patronize

ดึงฉันเข้าไปไว้ใกล้ๆ และ ไม่ต้องกลัว

Don't patronize me

ไม่ต้องกลัวฉัน

'Cause I can't make you love me if you don't

เพราะฉันไม่สามารถทำให้เธอรักฉันได้ หากเธอไม่คิดจะรัก

You can't make your heart feel something it won't

เธอก็ไม่สามารถบังคับหัวใจตัวเองในสิ่งที่มันไม่มีทางเป็นไปได้

Here in the dark, in these final hours

ในความมืดมิดนี้ ณ ช่วงเวลาสุดท้าย

I will lay down my heart and I'll feel the power

ฉันจะปล่อยวางหัวใจของฉัน และรับรู้ถึงพลังแห่งความสุข

But you won't, no you won't

แต่เธอคงจะไม่รู้สึกอะไร

'Cause I can't make you love me, if you don't

เพราะฉันไม่สามารถบังคับให้เธอมารักฉันได้ หากเธอไม่คิดจะรัก



[/i]



แปลกดีเหมือนกัน ความรู้สึกของผมเมื่อก่อน ผมรู้สึกว่าระยะทางระหว่างสถานบันเทิงย่านประจำของพวกเรา กับคอนโดของผมมันชั่งห่างไกลกันเหลือเกิน แต่วันนี้ผมกลับไม่รู้สึกอย่าง ผมเดินกลับมาถึงห้องโดยไม่ได้นึกถึงเวลาเลยว่าผ่านไปเท่าไหร่แล้ว แต่สิ่งที่ผมรู้อย่างเดียวคือ ค่ำคืนนี้มันชั่งยาวไกลกว่าเส้นทางมาก


ตืด ตืด ตืด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมมองเห็นว่าเป็นไอวินจึงกดรับ

{พีท ถึงบ้านรึยัง} ผมไม่รู้ว่ามันจะหาว่าผมเป็นคนโง่รึป่าว ถ้ามันรู้ว่าผมถูกทิ้งให้กลับคนเดียว ทั้งๆ ที่มันก็บอกแล้วว่าให้กลับไปตั้งแต่ตอนนั้น


“เพิ่งถึง ว่าไงวะ” ผมถาม


{แล้วไอ้พอร์ชละ}


“..... ไม่รู้เลย” ผมตอบครับ มันคงจับน้ำเสียงเศร้าๆ ของผมได้



{ไม่เป็นไร แค่มึงถึงบ้านก็ดีแล้ว} ผมเงียบ ส่วนมันก็เงียบ แต่ยังไม่ยอมวางสาย


“วิน” ผมพูด


{ว่าไง? }


“ขอบคุณนะ.....”




To be continued….

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2019 22:41:56 โดย lonelyboy »

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ยังดีที่มีวินนะพีท :ling3:

ออฟไลน์ AmPnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โอยยย ไม่อยากให้รักสามเศร้าเลย ไม่อยากให้เพื่อนแตกกัน ไม่ดีค่ะๆ

ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Chapter 8

มีพี่ๆรุ่นก่อนๆ บอกพวกผมเสมอว่าช่วงปีแรกๆให้ลงวิชาอัดๆกันไปเลย แล้วช่วงปีสุดท้ายจะได้สบาย ซึ่งพวกผมก็ทำตาม และมันก็เป็นอย่างที่เค้าว่าจริงๆครับ ปีสุดท้าย งานแต่ละชิ้นจะค่อนข้างเป็นงานที่ใหญ่พอสมควร เพราะฉนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ควรที่จะเรียนน้อยๆ อิอิ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอาทิตย์ที่ผ่านมาพวกผมยุ่งกันมากเกี่ยวกับการคิดโปรเจ็คต่างๆ เพราะพวกเราอยากทำมันออกมาให้ดีที่สุดในเทอมสุดท้ายของการศึกษานี้ ผมอยากรีบเรียนให้จบ และอยากทำอะไรที่มันได้ตังเร็วๆ

ถ้าถามถึงเรื่องราวเห็นการของผมกับไอ้พอร์ชนะเหรอครับ? หลังจากวันนั้นผมก็พยายามตีตัวออกมา เพราะผมรู้แล้วว่าการที่เราไปพยายามกับคนที่เค้าไม่มีวันที่จะรักเราได้ มันไม่เกิดประโยชน์ แถมยังเสียสุขภาพจิตป่าวๆ ตอนนี้ผมเลยกำลังพยายามที่จะตัดใจจากมัน แล้วผมจะทำให้ได้ สุดท้าย เราจะได้เป็นเพื่อนที่สนิทใจกันเหมือนเดิม อีกอย่างหนึ่ง เราก็จะเรียนจบกันแล้ว ผมอยากให้มีแต่ความทรงจำดีๆระหว่างเรา และกลุ่มผองเพื่อน นั่นเป็นเหตุผลว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไม่ค่อยได้รับโทรศัพท์มัน ถึงมันจะโทรมาบ่อยๆก็เถอะ ที่มหาวิทยาลัยเลี่ยงไม่ได้ เพราะเราอยู่กลุ่มเดียวกัน ทั้งกลุ่มเพื่อนและกลุ่มงาน เพราะฉนั้นที่ผมทำได้คือ พยายามไม่ใส่ใจมันและใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับพวกไอ้ฟ้ามากกว่า และที่สำคัญเลยคือตั้งใจเรียน ผมคิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้ทุ่มเทกับงานได้อย่างเต็มที่

“พวกแม่ง สายชิบหาย ทั้งๆที่กูก็บอกแล้วว่า เจอกัน 9 โมง พวกมันทำอะไรกันอยู่ว่ะ มึงโทรตามแม่งดิ๊พีท” ใบชาบ่นด้วยความหัวเสีย วันนี้เป็นวันที่เรานัดกันไปทำงานที่พัทยาครับ ไปทั้งหมดสามวัน ถึงกรุงเทพเช้าอีกทีก็เช้าวันจันทร์นู่น และด้วยความที่เราจะไปพักกันที่บ้านพักตากอากาศของไอ้วินและไปโดยรถตู้ของที่บ้านมัน พวกเราทุกคนก็เลยนัดกันว่า ให้มาเจอที่บ้านไอ้วินเวลา 9 โมง และ 9 โมงครึ่งเป็นเวลาล้อหมุน

ใบชามาถึงเป็นคนแรก ใส่หมวกพร้อมต้อนรับกับชายทะเล ส่วนผมมาถึงเป็นคนที่สอง แทบไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยครับ ขาดเหลือค่อยไปหาซื้อเอาข้างหน้า ตอนนี้ที่ยังไม่มาเลยก็คือไอ้พอร์ช ไอ้ฟ้า และเจนนี่ครับ ผมจึงไล่โทรมาตามทีละคน ซึ่งแต่ละคนก็มีข้ออ้างต่างๆกันไป ไม่แปลกใจเล้ยยยย

และแล้วหนึ่งชั่วโมงถัดมา ทุกคนก็เริ่มทยอยกันมาถึง

“พวกมึง ช้าาาามาากกกก” ใบชา พูดพร้อมกับกรอกตา ในขณะที่พวกที่มาถึงทีหลังกำลังทยอยขนข้องขึ้นรถ
“เออ อิชา ไปกี่โมงมันก็ถึงเหมือนกันนั่นแหละ มึงหยุดบ่นได้ละ” เจนนี่สวน
“กูอยากรีบถ่ายรีบทำให้มันเสร็จมะ เผื่อพลาด ต้องถ่ายแก้อีก”
“ค้าาาคุณแม่” เจนนี่พูด ก่อนที่พวกเราทุกคนจะขึ้นมานั่งบนรถ เตรียมตัวออกเดินทาง

เจนนี่กับใบชานั่งด้วยกันแถวหน้าสุด ส่วนแถวถัดมาเป็นไอ้พอร์ชกับไอ้ฟ้า แถวสุดท้ายเลยคือผมกับไอ้วินครับ ทุกครั้งที่ต้องนั่งรถตู้ผมจะเลือกนั่งหลังสุดเป็นปกติ ผมรูสึกว่ามันสบาย แถมยังได้อยู่เงียบๆด้วย

หลังจากรถออกจากบ้านไอ้วินได้ไม่ถึงสิบนาที พวกเราก็เริ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน ร้องเพลง กินขนม มันเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆครับได้อยู่กับเพื่อนๆ ทำอะไรบ้าๆด้วยกัน ผมไม่คิดว่าหลังจากเราเรียนจบแยกย้ายไปทำงานกันแล้ว จะยังมีเวลาให้กันแบบนี้รึป่าว จากที่เห็นๆหลายคนที่สัญญากันดิบดีว่าต้องอยู่ด้วยกันเหมือมเดิมหลังเรียนจบ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ต่างคนก็ต้องต่างแยกย้ายไปมีชีวิตของตัวเอง ยิ่งโตขึ้น ภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบก็ยิ่งเยอะขึ้น ไม่สามารถกลับมาเป็นแบบสมัยเรียนได้อีก อาจจะนานๆทีเจอกัน แต่มันไม่มีทางเป็นเหมือนเดิม เพราะฉนั้นสิ่งที่เราควรทำคือเก็บเกี่ยวทุกช่วงเวลาดีๆ และเอ็นจอยไปกับมัน

“ฟังเพลงด้วยกันไหม” ไอ้วินหันมาถาม ก่อนจะยื่นหูฟังหนึ่งข้างมาให้ผม
ผมรับมาอย่างงๆ ก่อนที่จะตั้งใจฟังเพลงที่ไอ้วินเปิด มันถือว่าเป็นคนที่มีรสนิยมทีเดียวครับ ส่วนใหญ่เพลงที่มันฟังจะมาจากยุค 80 - 90 อย่าง Oasis หรือ the beatles
“กินขนมไหม” ไอ้พอร์ชหันหน้ามา พร้อมกับยื่นซองขนมมาให้ผม ผมจึงปฏิเสธมันไป
“ทำไมไม่กิน หรือจะเอาน้ำไหม” มันหันไปหยิบน้ำที่ผมชอบ (โค้ก) มาให้ ผมด้วยความที่รำคาญเลยรับมาแบบปัดๆ
“เอาไปวางไว้ข้างๆแบบนั้นทำไม กินเลยไหม เดี๋ยวกูเปิดให้” มันพูด
“เออ เดี๋ยวกุแดกเองถ้ากุอยาก มึงอะไรเนี่ย” ผมพุูด ก่อนจะทำเป็นหลับใส่มัน เพราะขี้เกียจคุย

อยู่ดีๆผมก็รู้สึกเหมือนมีคนโยนอะไรใส่หน้าผม ผมจึงลืมตาขึ้นมา เห็นไอ้พอร์ชกำลังฉีกกระดาษสีขาวมาพับเป็นก้อนๆ ก่อนจะโยนมาใส่ผมอีกรอบ
“อะไรของมึงเนี่ย” ผมพูด พร้อมกับลุกไปตบหัวมันหนึ่งที
“อยากแกล้ง 0_0” มันพูดก่อนจะโยนมาใส่ผมอีกเรื่อยๆ
“ไอ้เหี้ยพอ กูจะนอน” ผมพูด พร้อมกับพยายามไปแย่งเศษกระดาษในมือมัน แต่มันหลบเร็วมากครับ แถมยังเอาไปซ่อนไว้ข้างหลัง
“พวกมึงเลิกเล่นไรเป็นเด็กๆดิ๊ กูจะนอน” ไอ้ฟ้าบ่นด้วยความรำคาญ ก่อนจะแย่งกระดาษจากมือไอ้พอร์ชมาเก็บไว้เอง

หลังจากศึกอันใหญ่หลวง พวกผมก็กลับมาสู่ความสงบอีกรอบ
“กูก็ชอบเพลงนี้เหมือนกันเลย” ผมหันไปบอกไอ้วิน หลังจากที่มันเพิ่งเปิดเพลง Aubrey ของ วง Bread “กูชอบอ่ะ ที่มึงเปิดมีแต่เพลงเพราะๆ”
ไอ้วินยิ้ม “จริงเหรอ งั้นเดี๋ยวกูทำเพลลิสท์ไว้ให้แล้วกัน มึงจะได้เก็บไว้ฟัง” มันเสนอ
“เห้ย จริงอ่อวะ ขอบคุณมาก” ไอ้วินมันเป็นคนดีจริงๆครับ ถ้าเป็นผมนี่เหรอ คงไม่เสียเวลาไปนั่งจัดเพลลิสให้เพื่อนหรอก
“เอาขนมไหม ^^” มาอีกแล้วครับไอ้ตัวปัญหา ยื่นขนมมาให้ผมอีกแล้ว
“ไอ้พอร์ช เอางี้ เดี๋ยวถ้ากูอยากแดก กูจะหยิบแดกเอง โอเคป่าว” ผมพูด
“ไม่หิวเหรอ งั้นเอาน้ำไหม เดี๋ยวแกะให้ 0_0” ไอ้นี่ สงสัยจะพูดไม่รู้เรื่องจริงๆ แถมยังมาทำตาแป๋วใส่กูอีก
ผมเลยตัดปัญหาด้วยการหยิบขนมจากมือมันมากินจะได้จบๆเรื่องไป


พวกเรามาจอดแวะปั๊มก่อนจะถึงพัทยาครับ เพราะผมปวดฉี่มากกกกกกกกกกก หลังจากที่แดกน้ำสองขวดที่ไอ้พอร์ชมันบังคับ ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายเข้าเซเว่นเพื่อไปซื้อสะเบียงมาตุนเพิ่ม

“ไอ้พีท รอด้วย” ไอ้พอร์ชวิ่งตามผมมา ในขณะที่ผมกำลังเดินไปทางห้องน้ำ พร้อมกับเอามือของมันมากอดคอผม ผมสะบัดมือมันออกครับ เพราะร้อนมาก ปวดฉี่ด้วย
“ทำไมเดี๋ยวนี้กูกอดมึงไม่ได้” มันพูดเสียงนิ่ง
“มึงเป็นไรเนี่ย กูแค่ร้อน”
“มึงนั่นแหละเป็นไรกันแน่ อาทิตยนี้มึงไม่สนใจกูเลย แถมยังมักกี้อีก ปกติมึงควรนั่งกับกู แต่นี่มึงไปนั่งฟังเพลงกระหนุงกระหนิงกับไอ้วิน เพราะอะไร?” มันยังตื้อผมไม่เลิก
(ก็เพราะว่ากูอยากตัดใจจากมึงไงไอ้โง่) “เห้ย กูว่ามึงคิดมากไปเองวะ ไม่มีอะไร” ผมตอบปัดๆ
“ถ้ากูทำอะไรให้มึงไม่พอใจ มึงบอกกูได้เลยนะเว้ย” มันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แต่บางทีกูไม่รู้ตัวว่ากูทำอะไรให้มึงโกรธรึป่าว กูไม่ไช่คนฉลาดอะไรขนาดนั้น มึงก็รู้” เออ กูรู้
“กูไม่ได้โกรธอะไร มึงพอใจยัง”
“แล้วทำไมมึงต้องหวงตัวด้วย” มันถามต่อ
“กูไมไ่ด้หวง กูจะไปห้องน้ำ”
“ไม่ใช่แค่ตอนนี้ มึงเป็นแบบนี้ทั้งอาทิตย์เลย กูกอดนิดกอดหน่อยไม่ได้ มึงไม่ยอมสกินชิพกับกูเลย”
“พรวดดดด!” ผมหลุดขำเสียงดังมาก หลังจากมันพูดประโยคนั้นออกมา สกินชิพ? 555555
“สกินชิพ? มึงไปเอาศัพท์อะไรแบบนี้มาจากไหนวะ ฮ่าๆๆๆๆ” ผมขำไม่หยุด พร้อมกับจิ้มพุงมันเป็นเชิงหยอกล้อ
“ไม่รู้อ่ะ ก็จำๆเค้ามาอีกที -///-” มันพูด ก่อนจะเริ่มหน้าแดง
เป็นจังหวะเดียวกับที่เราเดินมาถึงอีกฝั่งของห้องน้ำที่เป็นที่ลับตาคน ผมจึงตัดสินใจทำตามสัญชาติญาณของตัวเอง โดยการเข้าไปกอดมัน ผมจะไม่ปฏิเสธตัวเองว่าผมไม่คิดถึงมันเลย จริงๆแล้วผมคิดถึงมันมากครับ อยากเล่นกับมัน อยากแกล้งมัน แต่ผมเจ็บเหลือเกินกับการที่ต้องเป็นอยู่แบบนี้ ไอ้พอร์ชดูท่าเหมือนจะตกใจ แต่สุดท้ายมันก็กอดผมตอบเช่นกัน
“พอใจยัง” ผมถาม
“อืม...” มันตอบ

นีผมยอมใจอ่อนอีกแล้วเหรอเนี่ย มันจะต้องเป็นแบบนี้อีกกี่ครั้งกันนะ? ผมถามตัวเอง





To be continued


ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
พีทททททททครับ
ใจแข็งหน่อยลูก
งี้จะตัดใจได้เหรอ  :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพราะความรัก (Because of love) Chapter 8 updated 29/01/2019
« ตอบ #19 เมื่อ: 29-01-2019 21:01:59 »





ออฟไลน์ lonelyboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0


Chapter 9

พวกเรามาถึงบ้านที่พัทยาเกือบบ่ายโมง ถือว่าช้ากว่ากำหนดพอสมควร เพราะจริงๆแล้วพวกเรากะว่าจะรีบเอาของมาเก็บที่บ้านไอ้วินตั้งแต่เที่ยง แล้วออกไปหาอะไรกินแถวหาดจอมเทียน พวกเราตกลงเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากกินอาหารทะเล แต่เนื่องจากเรามาถึงช้ากว่ากำหนดขนาดนี้ พวกเราจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนมื้ออาหารไปเป็นตอนเย็นแทน แล้วกินอะไรง่ายๆไปก่อน เพราะเรามีเวลาแค่สองวันในการถ่ายทำโปรเจ็ค แล้วอีกอย่างคือ พวกเรากลัวแสงมันจะหมดก่อน

งานที่พวกเราคิดกันไว้คือ จะเน้นถ่ายกิจกรรมที่เกี่ยวกับด้านทะเล และความใจดีของคนไทย คนท้องถิ่น เช่น ชาวประมง เป็นวิดีโอสิบนาที ง่ายๆสั้นๆ  และตัดต่อฉับๆ ให้แต่ละฉากไม่น่าเบื่อ พระเอกของงานนี้เลยก็คือไอ้ฟ้า เพราะมันเป็นคนเดียวที่ถ่ายและตัดต่อเป็น ฮ่าๆๆ ส่วนคนอื่นก็คงรอให้กำลังใจอย่างเดียว เพราะไม่มีใครทำอะไรเป็นเลย

บ้านของไอ้วินที่พวกเรามาพักกันเป็นบ้านพักตากอากาศของครอบครัวมันครับ ซึ่งอยู่ติดทะเล ตอนที่พวกเรามาถึง ทุกคนตื่นเต้นกันมาก เพราะบ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่ขนาดหากันไม่เจอ แต่สวย ดูโมเดิ้น มีทั้งหมด 3 ห้องนอน ก็เลยได้ผลสรุปออกมาว่า ใบชานอนกับเจนนี่ ไอ้ฟ้านอนกับไอ้วิน ส่วนผมได้นอนกับพอร์ชครับ อิอิ

พวกผมเริ่มจากการเก็บภาพบรรยากาศต่างๆ จริงๆพวกเราไม่มีใครรู้เลยครับว่างานจะออกมาเป็นยังไง เพราะว่าพวกเรารู้แค่คร่าวๆว่าอยากได้ประมาณนี้ ค็อนเซ็ปโดยรวม แต่ไม่มีใครเห็นภาพแบบชัดเจนว่าอยากได้ภาพอันไหนบ้าง มันเลยกลายเป็นว่าเราถ่ายไปเรื่อยๆ แล้วค่อยเอาวิดีโอทั้งหมดมานั่งดูแล้วค่อยตัดต่อ และด้วยความมืออาชีพของไอ้ฟ้า บวกกับความขี้เกียจของพวกเรา ที่ต้องมาเดินตาม ทำอะไรก็ไม่เป็น ในอากาศที่ร้อนมากถึงมากที่สุด พวกเราจึงตัดสินใจที่จะหยุดการถ่าทำแต่เพียงเท่านี้ (สำหรับวันนี้) ซึ่งพวกเรารู้นะครับ ว่างานมันน่าจะชุ่ยมาก แต่แหม มาทะเลกับเพื่อนขนาดนี้ทุกคนก็ต้องห่วงเล่นมากกว่าทำงานอยู่แล้ว ขนาดเจ้าแม่ตัวตั้งตัวตีอย่างใบชายังเป็นคนเอ่ยขึ้นมาคนแรกว่าคงถึงเวลาที่พวกเราต้องไปเอ็นจอยอย่างอื่น

ส่วนไอ้พอร์ชวันนี้มันดีกับผมมากๆครับ หลังจากที่เรากอดกันหลังห้องน้ำปั๊ม (วัท เดอะ ฟัค?) เราก็คุยหยอกล้อกันมาตลอด ส่วนมันก็พยายามสรรหานั่นนี่ มาให้ผมกินเรื่อยๆ แถมยังเดินตัวติดผมไม่ไปไหนเลย เห้อ สุดท้ายผมก็ใจอ่อนอยู่ดี จริงๆผมก็ไม่อยากที่จะเป็นแบบนี้หรอก แต่ว่าพอเขากลับมาทำดีกับเรา มันก็ทำให้เราใจอ่อนได้ง่ายๆ ส่วนเรื่องมันกับน้องสาเป็นอย่างไรบ้างหลังจากคืนนั้น ผมเองก็ไม่กล้าถาม กลัวถ้าถามแล้วปรากฏว่ามันยังรักกันดี ผมกลัวผมเจ็บอีก ผมเลยไม่อยากจะไปสนใจตรงนั้น มันจะอะไรยังไงกับใครก็เรื่องของมัน

“พวกมึงว่าเราไปกินข้าวกันเลยดีป่ะ กุเริ่มหิวอีกละ” ใบชาพูดขึ้น ในขณะที่พวกเรากำลังเดินกลับมาที่รถ โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนกันต่อดี

“ไปเลยก็ดีเหมือนกันนะ เพราะร้านที่กุจะพาพวกมึงไปตอนเย็น ร้านจะเต็มเร็วมาก” ไอ้วินเสริม

พวกเราจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ร้านอาหารทันที

เมื่อมาถึงทุกคนก็จัดเต็มเลยครับ แต่ละคนนี่สั่งเหมือนไม่เคยมีโอกาสได้กินข้าวมาก่อน โดยเฉพาะกุ้งกับปูนี่คือจัดเต็มมากๆ
“พวกมึง กุเลิกกับไอ้ต้นละนะ” เจนนี่พูดขึ้น ดึงความสนใจจากทุกคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน
“จริงดิ ทำไมว่ะ” ใบชาถาม
“ไม่รู้ดิ พวกกูคงคบกันมานานเกินไปมั้ง มันเลยไม่มีอะไรตื่นเต้นแล้ว” เจนนี่ตอบ “แต่ก็จบกันด้วยดินะ คือตัวมันเองก็เข้าใจ กูก็เข้าใจ”
แต่เจนนี่กับไอ้ต้นมันก็คบกันมานานมากแล้วจริงๆครับ นี่ก็จะเข้าปีที่สี่แล้ว ยิ่งถ้าคบกันตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นยังไงมันก็ต้องมีอาการเบื่อกันอยู่แล้ว
“เออ พอร์ชละมึงกับน้องสาเป็นไงมั่งวะ” ใบชาถามขึ้น ทุกคนเหมือนเฉยๆกับเรื่องไอ้พอร์ชไปแล้ว เพราะว่ามันก็คบๆเลิกๆแบบนี้มาตลอด ผมก็อยากจะเฉยๆให้ได้เหมือนคนอื่นๆบ้าง เหมือนเพื่อนรับฟังปัญหาของเพื่อน แต่บอกเลยว่าตอนนี้นั้น หูผึ่ง! เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าความสัมพันธ์พวกมันไปถึงไหนแล้ว ผมจะได้ทำใจ
“ก็ไม่ได้คุยกันแล้ว” มันตอบ น้ำเสียงนิ่ง
“เอ่า ทำไมเป็นงั้นวะ วันนั้นยังเห็นว่าพวกมึงไปด้วยกันอยู่เลย” ไอ้ฟ้าถามบ้าง
“กูว่ามันคงเป็นไปไม่ได้หรอก จริงๆกูกับเค้าก็ต่างกันเกินไป ชั่งมันเถอะ กินข้าวดีกว่า อาหารมาแล้ว” มันพูดแล้วแบบตัดๆ พร้อมกับก้มหน้าก้มตากิน ผมรูสึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้ยินมันพูดแบบนั้น

พอเช็คบิลมา อาหารนี่แพงตามคาดเลยครับ ผมเองนี่แทบสำลักน้ำที่เพิ่งกินเข้าไป แต่ถือว่านานๆที จริงๆพวกเราก็ไม่ได้มาเที่ยวอะไรกันแบบนี้บ่อยเท่าไหร่

ก่อนกลับมาถึงที่พัก เราคุยกันแล้วว่าเย็นนี้จะซื้ออาหารไปทานกัน พร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอลต่างๆ โดยที่ไอ้วินก็หน้าใหญ่มาก เพราะอาสาเป็นคนจัดการค่าใช้จ่ายเรื่องเครื่องดื่มทั้งหมด
“มึงนี่ป๋ามากเพื่อน” ไอ้ฟ้าแซว
“นิดหน่อยเอง” ไอ้วินพูด พร้อมกับขยิบตาหนึ่งที
ซึ่งอาหารที่เราซื้อมากินที่บ้าน ก็ไม่ต่างอะไรกับที่เราไปกินที่ร้านมักก้เลยครับ เมนูเดิมๆ ทั้งกุ้ง ปู และอาหารทะเลต่างๆ แต่ก็อย่างว่า มาเที่ยวทะเลทั้งทีนี่เนอะ พอเรากลับมาถึง เราก็จัดเต็มเลยครับ เปิดเพลงเสียงดัง ดื่มแอลกอฮอล พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

“มึงๆ เรามาเล่นเกมกันดีกว่า” ไอ้ฟ้าเสนอ “Truth or dare ไหม” และเมื่อพวกเราที่กำลังกรึ่ม   ๆได้ที่ เพราะนั่งกินติดต่อมานานเกิน 4 ชั่วโมงแล้วจะตอบตกลง
“ใบชา มึงคนแรก” ไอ้ฟ้าพูด ทุกคนพร้อมกับนั่งกลั้นหายใจ เพราะไม่รู้ว่าแต่ละคนจะได้ทำอะไรพิเลนๆบ้าง “โอเค มึงจะเอา Truth หรือ Dare”
“เอ่อออออ Truth ละกัน” ใบชาพูด
“จริงรึป่าวที่มึงคบกับน้องปีหนึ่งที่มาจีบมึงแล้ว โดยที่ไม่ยอมบอกพวกกู”  ทุกคนนิ่ง จ้องไปที่ใบชา มันนี่หน้าแดงใหญ่เลยครับ
“เออออ ตามนั้น” ใบชาพูด พร้อมกับเอามือปิดหน้า พวกผมนี่ล้อมันหนักเลย ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายกันทุกคน
“นานยังวะ ทำไมมึงถึงไม่บอกพวกกู” เจนนี่ถามด้วยความกระตือรือล้น
“มึงๆ ทีละคำถามค่ะ ถ้าอยากรู้ก็รอรอบหน้านะคะ” ใบชายิ้มอย่างมีเลศนัย
“ไอ้ฟ้า ตามมึงบ้าง” ใบชาหันไปจ้องไอ้ฟ้า
“Truth หรือ Dare”
“Dare ก็ได้” ไอ้ฟ้าตอบ
“กูขอท้าให้มึง ดื่มเหล้าในแก้วนี้ให้หมด โดยไม่ต้องผสม” ใบชายื่นแก้วที่มีแต่เหล้าเพียวๆไปให้ไอ้ฟ้า
ไอ้ฟ้ายักไหล่ พร้อมกับยกแก้วนั้นขึ้นมาดื่มทีเดียวจนหมด พวกผมเห็นแล้วอยากอ้วกมากครับ มันกินเข้าไปได้ยังไง!!!

“อีเจน ตามึงละ Truth or dare” ใบชาหันไปทางเจนนี่ ส่วนเจนนี่กลืนน้ำลายดังอึ๊ก ก่อนจะเอ่ยขึ้น “Dare ละกัน อีเหี้ย กูต้องมาทำไรวะเนี่ย?”
“กูขอๆ รอบนี้” ไอ้ฟ้าพูดแย่งใบชา
“ในเมื่อเพื่อนเราเพิ่งโสดทั้งคู่ กูขอท้าให้มึง จูบกับ…….. ไอ้พอร์ช” เมื่อมันพูดจบ ทุกคนส่งเสียงโห่เชียร์อย่างสนุกสนาน มีแต่ผมเท่านั้น ที่หัวใจหล่นมาอยู่ตาตุ่มอย่างฉับพลัน เหมือนผมกำลังประมวลผลทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น เจนนี่ก็ทำหน้าตกใจเช่นกัน ส่วนไอ้พอร์ชนั่งหน้านิิ่ง
ทุกคนนั่งนิ่ง รอลุ้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ก่อนที่เจนนี่จะลุกข้ามมาฝั่งไอ้พอร์ช พร้อมกับจับหน้าไอ้พอร์ชไว้แล้วประกบปากทันที! แม้ทุกคนจะส่งเสียงดังเชียร์ขนาดไหน มีแต่ผมเท่านั้นที่รู้สึกว่าตัวเองหูอื้อไปหมด รู้สึกหายใจไม่ออก อยากจะวิ่งออกไปจากตรงนี้ แต่ก็ทำไม่ได้
เมื่อมันทั้งสองแยกออกจากกัน เจนนี่ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ส่วนไอ้พอร์ชที่ดูเหมือนจะไม่ทันตั้งตัวกับเหตุกาณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ก็ได้แต่ยิ้มเบาๆ ผมรู้สึกร้อนจนบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าด้วยฤทธิของแอลกอฮอลหรืออะไรก็ตาม

“ตาไอ้ วินบ้าง” ใบชาเปลี่ยนความสนใจไปที่ไอ้วิน “Trurth or dare คะ คุณเพื่อน”
ไอ้วิน ทำหน้าลังเลใจอยู่นิดๆ ก่อนจะตอบ “truth ละกัน”
“กูรู้ว่ามึงมีคนที่มึงกำลังแอบชอบอยู่ กูอยากรู้ว่า คนๆนั้นคือใคร” ใบชาพูด ทุกคนหันไปจ้องหน้าไอ้วินอย่างรอคำตอบ ส่วนไอ้วินได้แต่ทำหน้านิ่ง แต่อยู่ดีๆมันก็หันมามองหน้าผม
“คนที่กูชอบก็คือ……” พวกผมนั่งรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“คือ……” มันพูดพร้อมกับทำสีหน้าลังเล
“........” พวกผมนิ่ง ตั้งใจฟัง
“กูบอกไม่ได้จริงๆวะ”
พวกเราถึงกลับนั่งไม่ติดที่ พร้อมกับที่ไอ้ฟ้าตบกะโหลกมันหนึ่งที อุส่าลุ้นตั้งนาน เมื่อไอ้วินตอบไม่ได้ มันจึงต้องแดกเหล้าในแก้วตัวเองให้หมด

“ไอ้พอร์ช ตามึงละ Truth or dare” ใบชาถาม
“Truth สิครับ”
“มึงจูบกับผู้หญิงไปละ ทีนี้กุอยากให้มึงจูบกับผู้ชายมั่ง” ใบชาพูด ผมรู้สึกถึงเลือดที่มันกำลังร้อนผ่าวในตัว มึงอย่าบอกนะอีใบชา ว่ามึงจะ..
“หันไปจูบคู่จิ้นมึงให้กูดูหน่อย ไอ้พีทอ่ะ” ทุกคนสั่งเสียงร้องโห่ขึ้นมาอย่างดัง ส่วนตัวผมนี่ไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงกับสถานการณืนี้ มักกี้ผมเกือบร้องไห้ที่มันจูบกับเจนนี่ แต่ตอนนี้เป็นผมที่กำลังจะได้จูบกับมัน ฮือออ ช่วยด้วย ทำไงดี
ไอ้พอร์ชยิ้มนิดๆ “สบายมาก” มันพูดจบ ก็ดึงผมที่นั่งอยู่ข้างๆไปจูบ ความรู้สึกตอนนัั้นเหมือนกับผมกำลังหลุดเข้าไปอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง ทุกคนร้องโห่กันอย่างสนุกสนาน แต่ผมรู้ว่าตอนนี้ตรงหน้าผมมีแต่มันเท่านั้น ริมฝีปากของมันช่างนุ่มและอ่อนโยน ร่างกายของผมถึงขนาดอ่อนแอลงทันที ไม่มีการขัดขืนใดๆทั้งนั้น เลือดในร่างกายสูบฉีดขึ้นจนตัวผมร้อนผ่าวไปหมด ช่วง ณ เวลานั้นไม่รู้ว่ามันนานเท่าไหร่ แต่ในความรู้สึกผมมันช่างยาวนานเหลือเกินที่ผมหลุดเข้ามาอยู่ในภวังนี้ และผมไม่อยากให้มันจบลงเลยจริงๆ….

“ไอ้เหี้ย แม่งได้วะ” ไอฟ้าพูดพร้อมกับหัวเราะ ดึงทำให้ผมรู้สึกตัวขึ้นหลังจากที่ไอ้พอร์ชมันถอนริมฝีปากออกไป ผมนั่งหน้านิ่งไม่รู้ว่าควรจะแสดงอาการออกไปอย่างไรดี ไม่กล้ามองหน้าใครทั้งสิ้นที่อยู่บริเวณนั้น
“เอ้า แล้วไว้อินอ่ะ” ผมถามขึ้นหลังจากที่สังเกตุได้ว่า ไอ้วินไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
“มันลุกออกไปไหนไม่รู้ ตอนที่พวกมึงกำลังจูบกัน สงสัยไปเข้าห้องน้ำมั้ง มาๆต่อ” ไปชาพูด พร้อมกันหันไปสนใจในการเล่มเกมต่อ

คืนนี้พวกผมนั่งกินกันต่อจนเวลาล่วงเลยไปสักพัก ก็ไม่มีทีท่าว่าไอ้วินจะกลับมา สงสัยจะไปนอนแล้วมั้ง พวกเราจึงตัดสินใจแยกย้ายกันเข้าห้องนอน ส่วนตัวผมที่กำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่ีเกิดขึ้นทั้งสองเหตุการณื ทั้งการที่ไอ้พอร์ชกับเจนนี่จูบกัน กับการที่ไอ้พอร์ชจูบผม มันยังวนเวียนอยู่ในหัวผม ผมกำลังประมวลเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น

“เปิดเพลงฟังก่อนนอนหน่อยดิ” ไอ้พอร์ชพูดขึ้น หลังจากที่พวกผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เตรียมตัวที่จะนอน ถึงจะเมามากแต่ยังไงพวกเราก็ต้องอาบน้ำครับ เพราะไปผจญภัยมาทั้งวัน ทั้งร้อน เหงื่อก็ออก
“มึงอยากฟังเพลงอะไรอะ” ผมถาม ก่อนมันจะหันมาทางผม พร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่น
“อะไรก็ได้ที่มึงชอบ” มันยิ้ม ผมคิดสักพัก จึงตัดสินใจเลือกเพลงที่มีเนื้อหาตรงกับสิ่งที่ผมอยากจะบอกมันที่สุด
“โอเคเลือกได้ละ มึงน่าจะเคยฟังนะ”
“เพลงไรวะ”
“Make you feel my love” ผมพูด พร้อมกับหน้าที่แดงขึ่้นมาอย่างช่วยไมไ่ด้ ผมไม่รู้ว่าไอ้พอร์ชจะสังเกตเห็นไหม เพราะว่าเรายังไม่ได้ปิดไฟ แต่มันก็ไม่ได้พุดอะไร ได้แต่ยิ้ม

“When the rain is blowing in your face
And the whole world is on your case
I could offer you a warm embrace
To make you feel my love

เมื่อปรอยของสายฝนได้โปรยไปโดนใบหน้าของคุณ
และโลกทั้งใบทำให้คุณต้องไม่สบายใจ
ฉันอยากจะมอบอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นนี้
เพื่อทำให้คุณได้รับรู้ถึงความรักที่ฉันมีให้

When the evening shadows and the stars appear
And there is no one there to dry your tears
Oh, I hold you for a million years
To make you feel my love

เมื่อแสงยามบ่ายได้เริ่มอันตรธานหายไป และแทนที่ด้วยดวงดาวมากมาย
แต่ไม่มีใครสักคนที่อยู่ตรงนั้นเพื่อซับน้ำตาของคุณ
ฉันจะโอบกอดคุณไว้อย่างนั้นเป็นร้อยๆปี
เพื่อทำให้คุณได้รับรู้ถึงความรักที่ฉันมีให้

Go to the ends of this Earth for you
To make you feel my love

เพื่อคุณฉันจะเดินทางไปสุดขอบโลก
เพื่อทำให้คุณได้รับรู้ถึงความรักที่ฉันมีให้

I know you haven't made your mind up yet
But I will never do you wrong
I've known it from the moment that we met
No doubt in my mind where you belong
ฉันรู้ว่าคุณคงยังไม่ได้ตัดสินใจ
แต่ฉันจะไม่มีวันทำให้คุณต้องผิดหวังหรือเสียใจ
ฉันรู้ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกัน
ไร้ซึ้งข้อสงสัย ว่าคุณนั้นเหมาะจะอยู่ตรงไหน

I'd go hungry; I'd go black and blue
And I'd go crawling down the avenue
No, there's nothing that I wouldn't do
To make you feel my love

ฉันจะยอมทนกับความหิวและความเศร้าเสียใจ
ยอมแม้กระทั้ง คลานไปตามพื้นถนน
ไม่มีสิ่งไหนเลย ที่ฉันจะไม่ทำเพื่อคุณ
เพื่อทำให้คุณได้รับรู้ถึงความรักที่ฉันมีให้


To make you feel my love

เพื่อทำให้คุณได้รับรู้ถึงความรักที่ฉันมีให้

The storms are raging on the rolling sea
And on the highway of regret
The winds of change are blowing wild and free
You ain't seen nothing like me yet

พายุได้โหมกระหน่ำบนเกลียวของมหาสมุทร
และบนเส้นทางแห่งความเสียใจ
สายลมที่แปลผันได้ทำการพัดอย่างบ้าคลั่งและอิสระ
คุณยังไม่เคยเห็นสิ่งไหนเหมือนฉันมาก่อน

I could make you happy, make your dreams come true
There's nothing that I wouldn't do
Go to the ends of this Earth for you
To make you feel my love, oh yes
To make you feel my love

ฉันสามารถทำให้คุณมีความสุข
ทำให้ความฝันของคุณกลายเป็นจริง
ไม่มีสิ่งไหนที่ฉันจะไม่ทำ
จะเดินทางไปสุดขอบโลกเพื่อคุณ

เพื่อทำให้คุณได้รับรู้ถึงความรักที่ฉันมีให้

เพื่อทำให้คุณได้รับรู้ถึงความรักที่ฉันมีให้”
เมื่อเพลงจบลง ผมก็เห็นว่ามันหลับไปแล้ว หลับซะสนิทเลย -*- สรุปมันจะอินกับเพลงที่ผมให้ฟังไหมเนี่ย

คืนนั้นผมนอนยังไงก็ไม่หลับจริงๆครับ เพราะเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นคืนนี้มันมากเกินกว่าผมจะรับไหว ผมเล่นเหตุการณ์เดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาในหัว ทั้งเรื่องที่ไอ้พอร์ชจูบกับเจนนี่ แล้วเรื่องที่เราจูบกัน ผมจึงตัดสินใจเดินออกมาที่ห้องครัวแบบเงียบๆ เพราะผมอยากทบทวนเหตการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่านี้ เมื่อผมเดินออกมาก็เห็นสภาพบ้าน คือมันเละมากจริงๆ พวกเราทิ้งของกระจัดกระจายโดยที่ไม่มีคนเก็บ แต่ก็อย่างว่า แต่ละคนนี่เมากันมาก พรุ่งนี้ค่อยมาเก็บละกัน

ในระหว่างที่ผมกำลังรินน้ำอยู่นั้น เจนนี่ก็เปิดประตูออกมา

“อ้าว ยังไม่หลับเหรอ” เจนนี่ถาม มื่อเจอผม
“ยังเลย แล้วนี่ทำไมยังไม่นอนอะ” ผมถาม ในขณะที่กำลังเก็บน้ำเข้าตู้
“นอนไม่หลับอะ” เจนนี่พูด ก่อนจะเดินมาเปิดตู้เย็นเช่นกัน สงสัยจะหิวน้ำ
“เออ งั้นกูไปนอนละ” ผมพูด

“พีท” ในระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องครัว เจนนี่ก็เรียกผม

“มึงชอบไอ้พอร์ชใช่ไหม”

มันพูด ก่อนที่หัวใจผมจะหยุดนิ่ง….

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :katai1:  :katai1: โดนเพื่อนรู้ความลับซะแล้ว

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :3123:
เพื่อนถามต้องตอบน๊า
 :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด