เรือผี (เรื่องสั้นจบในตอน)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรือผี (เรื่องสั้นจบในตอน)  (อ่าน 1837 ครั้ง)

ออฟไลน์ antivirus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2

“เรือผี”


คุณเคยเจอใครที่ทำให้คุณขาดเขาไม่ได้รึป่าว
คนที่แค่รอยยิ้มเดียวของเขา ก็เปลี่ยนอารมณ์ที่ขุ่นเคืองของคุณเป็นรอยยิ้มกว้างโดยไม่รู้ตัว
คนที่แค่พูดอะไรหวานๆ คุณก็พร้อมจะเชื่อเขาหมดหัวใจ



ผมอิจฉาตัวเองทุกครั้ง ที่ตื่นขึ้นมาแล้วเจอใครคนนั้น หลับตาหมดแรงอยู่ในอ้อมกอดของผม
แต่คุณไม่ต้องอิจฉาผมหรอก เพราะแค่คำว่าหวง ผมยังไม่มีสิทธิ์พูดเลย





“ซีรี่ย์เรื่องใหม่ที่ต้องจิ้นกับน้องเค กังวลเรื่องฟีดแบคของแฟนคลับไหมคะ” 
นักแสดงหนุ่มยิ้มตาหยีอย่างที่เขาชอบทำ หัวเราะอย่างจริงใจก่อนจะส่งต่อหลายคำ
เพื่อเป็นคำตอบให้กองทัพนักข่าวชายหญิง ที่ดาหน้าจ่อไมค์ถามเขาอยู่

“โชคดีครับที่แฟนคลับผมเข้าใจ เล่นกับใครเค้าก็ตามสนับสนุนหมดครับ”

หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดการคนสนิท ที่จะสรรหาคำมาบอกว่าหมดเวลาสัมภาษณ์เขาแล้ว ปล่อยเขาเป็นอิสระสักที ไม่นานเกินรอ ไมค์ เครื่องอัดเสียง มือถือ ทุกอย่างที่นักข่าวจะใช้ประโยชน์ได้ก็อันตรธานหายไป

เสียงอื้ออึงในหัวซาลง ตอนนี้คงเหลือไว้แต่เสียงวิ้งๆ มันแผ่วเบาแต่ก็ไม่ยอมเงียบไปสักที
ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเสียงที่มีอยู่จริงหรือแค่เสียงในอุปทาน ปืนเคยบอกเขาว่ามันเป็นแค่เศษซากของเสียงผู้คน นักข่าว แฟนคลับ หรือใครๆ  ที่ได้เจอตลอดทั้งวันเท่านั้น พรุ่งนี้มันก็จะหายไป

“วันนี้ขับรถกลับเองได้ไหม พี่รีบทำธุระด่วน” ดาราหนุ่มพยักหน้ายิ้มสั้นๆ
เขาก็อยากขับรถเองมาตลอดแต่ผู้จัดการสาวไม่ยอม บอกว่าทำงานหนักกลัวจะหลับใน
 
นั่งมองมือถือ ผ่อนลมหายใจตัวเองทิ้งความรู้สึกเหนื่อยหน่ายไปตามอากาศ แล้วก็ต้องผิดหวังที่ยังพบว่า ความหน่ายเบื่อยังคงอยู่ ไม่ปลิวไปตามอากาศอย่างที่ตนต้องการ และต่อให้เขาถอนหายใจจนสิ้นใจ ความเบื่อโลกที่มีมากมายในตอนนี้ก็คงตายตามติดเขายังโลกหน้าอยู่ดี

การต้องรอใครสักคนที่ไม่มีเวลาสิ้นสุด ไม่รู้แม้กระทั่งจะเจอคนที่รอไหม
ความหวังที่มีมากเท่ากับความกลัว นั่นแหละเป็นที่มาของการเบื่อโลกในครั้งนี้

‘งานเสร็จไวจะรีบมาหานะ คิสสถึงมั๊กๆ’ 
เจ้าของน้ำเสียงน่ารักชอบใช้ชื่อของเขาแทนคำที่ออกเสียงเหมือนกัน ถึงแม้บางครั้งจะคนละความหมายก็ตาม

‘มันเป็นการใช้คำพ้องเสียง ที่ไม่ต้องพ้องความหมายตามหลักภาษาไทย’ ใครคนนั้นเคยบอก

เรื่องนี้มันย้อนแย้งหน่อยๆ ตรงที่คนนั้นไม่มีความพยายามในการจะสะกดคำให้ถูกต้องตามหลักภาษาด้วยซ้ำ แต่ก็ยังยกเรื่องคำพ้องเสียงมาอ้าง ตอนอยากเรียกชื่อเขา ราวกับว่าตัวเองเป็นผู้ชำนาญการใช้ภาษา มันเป็นความย้อนแย้งที่คนนั้นทำแล้ว

"น่ารักชะมัด"

ระหว่างที่ความคิดล่องลอยไปถึงคนที่รอคอยมาร่วมชั่วโมง เรื่องราวที่จำได้ก็ทำให้เขามีรอยยิ้มบนหน้าได้บ้างแต่เหมือนเขายังไม่คู่ควรที่จะมียิ้มในตอนนี้ โปรแกรมสื่อสารสีเขียวที่ใช้ทุกวันก็เด้งข้อความ จากคนที่ไม่เก่งในเรื่องการสะกดคำ

Sniper rifle : ไม่ได้ลอใช่มะ
Kissme: ยังไม่เลิกกองเหรอครับ 
Sniper rifle : เลิกแร้วแต่มากับพวกพี่ๆ คืนนี้กลับดึกนะจ่ะ


ไม่มีอารมณ์แก้คำผิดให้ อย่าว่าแต่คำง่ายๆ ที่อีกฝ่ายสะกดผิดเลย
ความรู้สึกของคนรอไม่ซับซ้อน ปืนยังไม่เข้าใจ

ทั้งที่บอกแล้วว่าวันนี้จะรอฉลองวันครบรอบหกเดือนด้วยกัน จำได้ว่าเขาย้ำไปหลายรอบด้วย
ว่าเย็นนี้อยากหอม เย็นนี้อยากกอด  จะไม่รู้สึกแย่คูณสิบขนาดนี้ ถ้าอีกฝ่ายไม่รับปากหนักแน่น

‘คิสรอปืนนะจะรีบกลับมาคิส’
‘งั้นเลิกกองแล้วโทรมาเผื่อวนไปรับเลย จะได้กลับด้วยกัน แวะซื้ออะไรมากินที่ห้อง’


ตอนที่เสนอไอเดียนั้นอีกฝ่ายก็เห็นดีเห็นงามไม่มีอิดออดสักนิด



ย้อนไปหกเดือนก่อนหน้านี้

ปืนเป็นดาราในสังกัดเดียวกันกับผม เราแทบจะไม่มีผลงานร่วมกัน แต่ความที่คู่จิ้นของปืนดันเป็นพี่ชายคนสนิทที่สุดของผม เวลาเจอพี่ผมก็จะเจอปืนด้วย เวลาไปกินข้าวกับพี่ชายคนนั้น     ผมก็เจอปืน พี่ชายคนนั้นเขามีแฟนแล้ว ผมเพิ่งอกหัก และปืนก็โสด

ผมเคยพยายามกล่าวโทษอารมณ์ศิลปินของตัวเอง ความเหงา ความใกล้ชิด
ที่ทำให้ผมเผลอใจไม่ให้จีบเขาไม่ได้ จนสุดท้ายผมก็รู้ว่าเราใจตรงกัน

ทั้งที่ความจริงมีแค่เหตุผลเดียวที่ผมจีบเขา คือ เขาน่ารัก

ความน่ารักในแบบที่ไม่โจ่งแจ้ง เรียบง่าย แต่เป็นธรรมชาติที่เขามีจนล้นทะลัก
ทำให้ใจผมต้านไม่ไหว ยิ่งหัวใจผมอ่อนแอ  คิดว่าผมจะรอดเหรอ
ไม่รอด  รักไปแล้วหมดใจ

หกเดือนกับความรักในความลับ ไม่มีคำว่ารัก ไม่มีคำสัญญา ไม่มีการเร่งเร้าใดๆ
อย่างเดียวที่ทำให้ผมแน่ใจ ว่าเรายังใจตรงกัน มันอาจฟังดูเหมือนคนคิดไปเองอยู่บ้าง

นั่นคือ เวลาผมจูบเขา ไม่เคยมีการปฎิเสธ เขามักจะตอบรับเนิ่นนานและหวานล้ำ

จนถึงตอนนี้ไม่ต้องมานั่งสงสัย ไม่ต้องมานั่งรอคำว่ารัก ผมเลือกจะรักในแบบที่เขาหยิบยื่นให้
ผมยังไม่นอน เค้กในตู้เย็นแต่งหน้าด้วยตุ๊กตาน้องหมายังคงรอคนมาชิม
รูปทรงและรสชาติผมตั้งใจสั่งมาเพื่อเอาใจคนคนเดียว คนที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงา


ตีสองแล้ว

Sniper rifle : เลิกแร้วแต่มากับพวกพี่ๆ คืนนี้กลับดึกนะจ่ะ

ข้อความในไลน์ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ผมควรส่งข้อความไปถามเขาดีไหมว่า ดึก นี่มันกี่โมง
ตีสองเรียกว่าดึกหรือยัง ไม่ได้อยากกวน แค่อยากรู้ ผมจะได้ตั้งปลุกเพื่อตื่นมาอีกทีตอนเขามา

‘คิสรอปืนนะจะรีบกลับมาคิสส’   

ประโยคอ้อนกับรอยยิ้มสดใส ที่ล่อลวงผมให้กระโจนใส่ความหวัง โดยไม่เหลือเผื่อใจเลยสักนิด
แม้ว่าหลายชั่วโมงที่เขาทิ้งให้ผมรอ จะทำให้รู้ว่าผมไม่ได้เป็นอะไรนอกจากทรมานใจ แต่ความทรมานใจยังไม่นับเป็นความเจ็บปวดหรอกหรือ ผ้าห่มนวมหนาถูกใช้เป็นผ้าเช็ดหน้าชั่วคราว น้ำที่ไหลออกมาจากตา ไร้เสียงสะอื้น ผมไม่ได้ร้องไห้ ผมแค่กลั่นความทรมานจากการรอคอย เป็นน้ำใสๆ ก็เท่านั้น

เวลาร่างกายเราบาดเจ็บจนเลือดไหลเราก็จะรู้สึกเจ็บแผล แต่ตอนที่ หัวใจเราบอบซ้ำ จากการโดนทำร้าย จนน้ำใสไหลออกจากตา มันแย่กว่าหลายเท่า บางทีผมก็รู้สึกเศร้าไปถึงวิญญาณ ขนาดเวลาหลับความเจ็บปวดนั้นก็ตามติดไปด้วย ช่างน่าตลก ผมทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ แต่สุดท้ายผมก็ห้ามใจไม่ให้ห่วงเขาไม่ได้อยู่ดี

เขาชอบเที่ยว ชอบดื่ม ชอบสนุก ไปกับกลุ่มเพื่อนพี่น้องก็จริง  แต่ทุกครั้งที่ไปที่แบบนั้น ผมก็เห็นมีคนใจกล้า อยากเล่นของสูงอย่างปืนแทบทุกครั้ง ทั้งพระเอก นายแบบ กระทั่งคนทั่วไป
ที่คิดว่ามีดีพอ เข้าหาเขาจนผมเหนื่อยที่จะหึง ผมไม่เคยบอกเขาว่าผมหึงหรอกนะ

อย่าตอนนี้ นิ้วผมจิ้มเข้าไปส่องดูความเคลื่อนไหวของเขาจากแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า ไอจี
ปืนไม่อัพอะไร แปลว่าเขาเมามากจนเล่นมือถือไม่ไหว นั่นทำให้ผมต้องกดเลื่อนหาจากเพื่อนที่เขาไปด้วย ทุกคนไม่มีใครอัพอะไรเลย มันเป็นเรื่องแปลก แปลกมาก เกลียดตัวเองที่อยู่ๆผมก็ฉลาดขึ้นมา รู้ทันทีว่าเขา..โกหก..


ทำไมต้องโกหก ที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำแบบนี้ มีอะไรไปไหน เราบอกกันตามจริง
ผมไม่ใช่คนไร้เหตุผลเขาก็รู้ และถึงผมไม่พอใจก็ตามอาละวาดไม่ได้ ก็แค่คนไม่มีตัวตน
น้ำตาเหือดแห้ง ใต้ตาผมคงบวมแดงไปหมดแล้ว แต่ช่างเถอะผมไม่สนใจเลยสักนิด

“แก๊กก”  เสียงเปิดประตูห้องเขามาแล้ว

“มาแล้วคร๊าบบ”  เสียงหวานฟังดูมึนเมาดังเข้ามา
พร้อมกับประตูห้องนอนที่เปิดออก แค่ให้เขาแทรกร่างเข้ามาได้และปิดลง

“หลับอยู่เหรอ” ปืนคงเห็นผมนอนเงียบ เขาเลยเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ
แน่นอนว่าในนั้นมีชุดนอนผ้าเช็ดตัว แถมแปรงสีฟันที่มียาสีฟันบีบทิ้งไว้ให้ด้วย 
จะมีใครทำให้ล่ะถ้าไม่ใช่ผมคนนี้

สมองส่วนลึกอยากจะถามอยากจะเคลียร์ทุกอย่าง เขาไปไหนมา ไปกับใคร
แต่ผมก็ไม่กล้า แค่คิดว่าเขาจะเห็นตาบวมๆของผม ความกล้าก็แทบติดลบ
ไม่อยากทะเลาะกัน ไม่อยากทำตัวเป็นเจ้าของ ไม่อยากให้เขาอึดอัดและยังไม่พร้อมจะเสียเขาไป

คืนนั้นจบลงที่ร่างเล็กซุกตัวเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกับผม แค่เขาขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ
อ้อมแขนไม่รักดีก็อ้ากว้าง รับร่างเขาเข้ามากอดแน่น หัวใจที่โกรธขืนก็เต้นรัวพองคับอก
กับแค่หัวเล็กๆ มุดซุกเข้ามาแนบชิด แค่ได้กลิ่นหอมจากสบู่ กลิ่นตัวเขาผสมกลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจอุ่น

แพ้ทุกทาง แพ้อย่างที่เคยแพ้มาตลอด

อย่างน้อยเขาก็ไม่เป็นอะไร
อย่างน้อยผมก็ยังได้กอดตัวเขา
แค่นี้ก็ดีเกินพอ.....สำหรับวันครบรอบของเรา

"สุขสันต์วันครบรอบครับ ฝันดีนะ"  ผมส่งจูบลงไปที่กลางกระหม่อม ฉวยช่วงเวลาที่ปืนให้ผม สูดกลิ่นหอมของเส้นผมนุ่มของเขาอย่างไม่รู้เบื่อ  ขณะที่เขาหลับสนิทไปแล้ว รอยยิ้มก็กลับมาเป็นของผมอีกครั้ง


ตอนเช้าผมตื่นมาพร้อมกับคนที่ยังสงบนิ่งในอ้อมกอด ขนตาหนางอนกับใบหน้าขาวราวนมสด
ผิวเนียนดูอิ่มนุ่มแม้ยังไม่ได้สัมผัส ผมใช้ปากย้ำพวงแก้มอมชมพูอยู่หลายครั้งกว่าเจ้าของแก้มน่าหอมจะรู้สึกตัว
                                                     
“อืออ ขอห้านาที” เขาหมายถึงขอนอนต่ออีกห้านาทีห้ามผมรบกวน แบบนี้ทุกทีถ้าเขากลับมาดึกก็จะตื่นสาย สุดท้ายเราก็มีเวลาให้กันจริงๆ แบบไม่นับเวลานอน เพียงน้อยนิด เพราะคิวงานเขาเยอะ บางทีถ่ายซีรี่ย์ข้ามวัน นอนที่คอนโดเขาเป็นอาทิตย์ก็เคยมี ผมได้แต่ถามตัวเองว่าทำไม
ทำไมถึงยอมทนอยู่กับเขาแบบนี้ 

คำตอบคือ


“คิสอะไรอยู่”  เขาลืมตาถาม ดวงตาแดงๆตอนเขาตื่นนอน หัวยุ่งไม่เป็นทรงเหมือนที่เห็นปรกติ

เขาน่ารัก ใช่นั่นแหละเหตุผลที่ผมยังอยู่


จุ๊บบ!!  ริมฝีปากของผมถูกปากของเขาเตะเพียงเสียววินาที
เขาคลี่ยิ้มเหมือนดอกไม้บานยามเช้า มันดูสดใสไปหมด ขับไล่ความหม่นเศร้าที่ผมมีไปเสียสิ้น

“มีเรื่องจะเล่าให้ผมฟังไหมครับ” ผมเปิดทางให้เขาสารภาพผิดเรื่องเมื่อคืน
ทั้งที่ก็ไม่ได้โกรธ หรือน้อยใจแล้วแม้แต่นิดเดียว

“มาใกล้ๆ ผมสิ” เขาใช้แค่ปลายนิ้วกระดิกเรียกผม
 ผมดันศอกโน้มหูไปจ่อปากเขาที่นอนหนายอยู่แทบจะทันที

“ปืนหิวแล้วครับ” ประโยคกระซิบออดอ้อนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากรู้ แต่มันกลับทำให้ผมยิ้มได้อีกครั้ง โอเค ตอนนี้ผมจะทำอะไรได้ นอกจากลุกไปหาอาหารเช้าให้คุณปืนก่อนที่เขาจะโมโหหิว


“อร่อยจัง”  เขาพูดกับอาหารเช้าบนโต๊ะที่กินไปเกือบหมดแล้ว แต่สายตาเย้ายวนจ้องมาที่ตาผมอย่างไม่มีเหนียมอาย  ดวงตาที่มีทั้งเชิญชวน และซุกซน กลายเป็นผมเองที่ต้องเขินกับสายตาของเขา

“จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าเมื่อคืนไปไหนมา ไม่หวงปืนเลยใช่ไหม น่าน้อยใจ”
แล้วก็กลายเป็นผมที่ต้องง้อเขา ทำไมปืนมีอิทธิพลกับผมมากขนาดนี้ เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ ตั้งแต่เราคบกันมาไม่เคยมีสักครั้งที่ความผิดของเขาจะมีอยู่จริง  และถึงมันจะเหมือนมีจริงมันก็ถูกยกมาให้เป็นของผมแทน เหมือนกำหนดมาแล้วว่า หน้าที่ง้อ คือหน้าที่ผมไม่ใช่ของเขา

“กินเค้กกันเถอะ”  ผมตัดบทเขาคงรู้แล้วว่ารอบนี้ผมอาจจะไม่พอใจแต่เลือกจะไม่พูด
เค้กขนาดพอดี ถูกวางลงเป็นของหวานหลังอาหารเช้า มีตัวหนังสือเขียนว่า   6 month anniversary

เขายิ้มกว้าง ก้นงอนย้ายมาทับลงบนตักผม สองแขนเล็กโอบรอบคอผม
“ขอบคุณนะคิส” คำขอบคุณที่ผมเห็นกลับเป็นภาพที่ผมชินตา เขาทำหน้าแบบนี้กับนางเอก
ในซีรี่ย์ เขายิ้มแบบนี้กระทั่งการนั่งตัก และการโอบคอแบบนี้เขาก็ทำกับคู่จิ้นของเขา
ระหว่างที่ผมกำลังกล่อมให้ตัวเองเลิกฟุ้งซ่านอยู่นั้น  เหมือนเขาจะรู้ทันผมไปหมด


“กินเค้กกันเถอะครับ อย่าคิสมาก” ผมหยิบช้อนตักเค้กแล้วป้อนส่งให้เขา เขาอ้าปากงับแล้วป้อนกลับให้ผม  การป้อนของเขามันพิเศษกว่า ตรงที่เป็นการป้อนจากปากเขา มาสู่ปากของผม
เราไล่เลียเค้กไอติมในปากของกันและกัน มันทั้งหวาน เย็น แม้จะละลายเร็วเกินไปหน่อย
จนต้องเร่งจังหวะการดูดจูบเพื่อไม่ให้มันไหลเปื้อนลงมาที่ซอกคอของอีกฝ่าย

แต่มันก็ไม่ทันอยู่ดี

“เลอะเทอะหมดแล้วครับ” ผมตำนิไม่จริงจัง เพราะเขาเอาแต่ใจและผมก็เป็นคนตามใจเขาเอง
“ไม่เห็นเป็นไรแค่นี้ผมจัดการได้”  ปืนสามารถใช้ปากงับเลียไอติมส่วนที่ละลายไหลเปื้อนที่มุมปากผม เรื่อยลงไปที่ซอกคอขาว ในระหว่างที่ผมพยายามหายใจให้ทันกับสัมผัสจากลิ้นร้อนนั้น

เขาก็เลิกเสื้อนอนสีขาวผมขึ้น และทำให้ผมเป็นคนอยากถอดมันทิ้งให้พ้นทางเขาซะเอง
ผมมันใจง่ายเวลาอยู่กับปืน แต่ก็นั่นแหละเวลาเขารุกแบบนี้ผมมองหาทางที่จะหนีหายไม่ได้จริงๆ มันเหมือนทางตันที่มองขึ้นไปก็เป็นกำแพงหนาสูงท่ามหัวไปถึงชั้นบรรยากาศ ไม่มีทางออก  ไปต่อไม่ได้ และผมก็อ่อนแอเกินกว่าจะยอมหันหลังกลับ

ไอติมหยดสุดท้ายจบลงที่ขอบกางเกง

แต่ระหว่างเรามันแค่เพิ่งเริ่มต้น

“คุณเป็นคนพิเศษที่สุดของผมจำเอาไว้คิส” 

แค่นั้นแหละที่ผมต้องการ

แค่ให้ผมรู้ว่าผมอยู่เหนือทุกคนของเขา แม้จะเป็นแค่ประโยคลวงล่อ  ผมก็มีความสุขกับคำหวานของเขามากมายแล้ว หัวใจของผมมันมักน้อย แค่คำหวานลวงหลอก ผมก็พร้อมจะเชื่อและพอใจแล้ว  ผมยกร่างเล็กมานอนทับที่โซฟากลางห้องและเขาก็ไม่ขัดขืน  แถมมีประกายบางอย่างในตาเขา สาดส่องมาที่ใจผมไม่หยุด

หัวใจผมเต้นแรงจนเจ้าของมันเหนื่อย 
เหงื่อไหลซึมตามกรอบหน้า ทั้งที่เครื่องปรับอากาศบอกอุณหภูมิแค่ยี่สิบองศา

“รู้ไหมเวลาผมตีกลอง ผมมักจะคิดถึงเรื่องของเรา”  ผมสารภาพตรง ๆ
“ยังไง”  เขาถามกลับตามประสาคนที่มั่นใจในตัวเอง และชอบให้ย้ำว่าตัวเองเป็นที่หนึ่ง

“มันจะเริ่มต้นที่จังหวะสม่ำเสมอ และร้อนแรงจนผมแทบคลั่ง” 
เวลานี้สายตาหื่นกระหายของผมคงปิดไม่มิด

“บ้า คำนั้นผมต้องพูดสิ” ปืนหยอกเย้า เขาไม่ใช่คนขี้อายเหมือนภาพลักษณ์ที่แฟนคลับเห็น
ปืนตัวจริงมีถ้อยคำ มีสายตา มีท่าทางที่พร้อมจะทำให้คนทั้งโลกเขินอายได้
แม้บางครั้งปืนจะดูอ่อนหวานน่ารัก   แต่บางครั้งก็ดูเฉยเมยไร้ความรู้สึก

“อะไร” ผมแสร้งทำไม่เข้าใจ แต่อมยิ้มรอคำตอบ

“คิสต่างหากทำให้ปืนคลั่ง คลั่งจะตายอยู่แล้ว”
เสียงเบากระเส่าปลุกเร้าอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นได้ดี แต่ไม่ว่าจะอยากแค่ไหนเราก็ไม่ได้ไปต่อ
เมื่อเสียงเครื่องมือสื่อสารของเขาดังขึ้น ผู้จัดการของเขาโทรตามบอกว่าคิวงานเลื่อนเร็วกว่ากำหนดเดิม วันนี้เขามีโปรโมทซีรี่ย์ภาคต่อที่แสดงกับคู่จิ้นของเขา หลังจบงานมีพบปะแฟนคลับและตามด้วยไปกินข้าวกับคู่จิ้นคนเดิมต่อ ซึ่งผมคงได้กระอักเลือดตายทั้งวันอย่างไม่ต้องสงสัย

“คืนนี้มาใช้คืนทั้งต้นทั้งดอกนะครับ” หน้าขาวซบที่ไหล่ผมอ้อนขอความเข้าใจ นิ้วเรียวลากไล้ไปทั่วกล้ามท้องของผม

ถึงจะไม่เข้าใจผมก็จะยิ้มให้เขาแล้วบอกว่าผมโอเค  เพราะผมก็มีหน้าที่คู่จิ้นเหมือนกัน ถ้าเขาเข้าใจงานผม ผมก็ต้องเข้าใจงานเขาด้วย  ทว่ามันไม่เหมือนกันตรงที่ 

ผมรักเขามากกว่า ที่เขารักผม เลยทำให้ผมหวงเขามากกว่า ที่เขาหวงผม
นั่นแหละที่เป็นปัญหาของผมที่เขาไม่เคยรู้

“ไปรับได้ไหมครับ” ผมพยายามต่อรอง
“ไม่ได้เดี๋ยวแฟนคลับเห็น มีบางคนตามไปที่ร้านอาหาร” ความพยายามไม่เคยเป็นผล รู้อยู่แล้วแค่ลองถามดู



งานเลิกห้าโมงเย็น พบปะแฟนคลับคงไม่น่าเกินสองชั่วโมง กินข้าวให้เต็มที่สามชั่วโมง
แต่ตอนนี้กำลังจะตีหนึ่ง ผมยังไม่เห็นเค้ากลับมา เช็คจากไอจีสตอรี่ของพี่ผู้จัดการของเขา

กำลังสนุกกับพี่ชายคนสนิทของเขาในร้านคาราโอเกะ หน้าเขาดูเมา ร้องเพลงเศร้าเหมือนแอบรักใครอยู่ เป็นอีกคืนที่ผมต้องใช้ผ้าห่มแทนผ้าเช็ดหน้า ความสงสัยเรื่องเดิมยังไม่คลาย เรื่องใหม่ก็ประดังเข้ามา  ความอัดอั้นตันใจ กลั่นออกมาเป็นหยดน้ำสีใสจนผมรู้สึกเหนื่อยล้า

ผมต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ นอนมองกำแพงหนาเพียงลำพัง
เงยขึ้นไปหาจุดตัดของกำแพงกับท้องฟ้าจนเหมื่อยคอ ทั้งเหงาทั้งเศร้า
แต่มันไม่มากพอให้ผมไม่หันหลังกลับไปสักที

ทำไม?

Sniper rifle  : ไม่กับนะ ไม่ต้องลอ
Kissme : ครับ ดูแลตัวเองด้วย


เป็นอีกครั้งที่ไม่มีอารมณ์สนใจแก้คำผิดที่เขาส่งมา บางทีมันอาจไม่ผิดที่เขามักจะสะกดคำผิด
มันอาจไม่ผิดที่เขาเป็นแบบนี้ ปล่อยเลยความรู้สึกของผมจนเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
แต่มันอาจผิดที่ผม ผมหลงเขามากเกินเส้นที่เราตกลงกันไว้

เราเป็นคนพิเศษ ที่นอนด้วยกัน หอมกัน จูบกัน ผ่านค่ำคืนที่ต้องการใครสักคนไปด้วยกัน
แต่เมื่ออีกคนต้องการพื้นที่ส่วนตัว อีกคนต้องไม่ทำตัวเป็นเจ้าของ




“คุณดูสิวันก่อนที่เราไปเดินห้าง มีแฟนคลับแอบถ่ายเราด้วย ในทวิตแท็กคู่ของเรามีแต่คนชอบ”
“มันใช่เวลามาเช็คเรตติ้งไหมครับ” ผมไม่ค่อยชอบหรอกที่เขาสนใจแต่มือถือแม้ว่าบทรักของเรามันจบลงแล้ว และเขาก็นอนทอดร่างเปลือยเปล่าขาวเนียนให้ผมลูบไล้อยู่ ไม่ได้หนีไปไหน

ส่วนเรื่องแท็กคู่ของเราในทวิตนั่น ผมชอบเข้าไปดูนะ  มันทำให้ผมรู้ว่า ยังมีพื้นที่ให้เป็นที่ของเราสองคนจริงๆ และมีคนยอมรับคอยเชียร์เราอยู่

คนนี้สิคู่จริงเค้าแอบคบกันนะพวกเทอออ   #คิสปืน
(ผมก็ไม่แน่ใจว่าความจริงเราแอบคบกันรึป่าว ถ้าคำว่าคบมีสิทธิ์เป็นเจ้าของ  ผมก็ต้องเสียใจด้วย ผมกับปืนเรายังไม่ได้คบกันครับ)

ถ้าคุณคิสจะมองน้องปืนขนาดนี้กินเข้าไปเลยเถอะคะ  #คิสปืน   แนบรูปผมใส่แว่นมองปืนตาหวานเยิ้ม
ขนาดมีแว่นบังสายตาผมจ้องปืนยังทะลุออกมาชัดเจน อันนี้ก็เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน
(ผมกินไปแล้วล่ะ ขอบอกว่าปืนหวานมากเลยด้วย)

คู่โรมิโอจูเลียตของช้านน  #คิสปืน

“อ่ะ ไหนบอกไม่ใช่เวลา อ่านไม่หยุดเลยนะ” ผมโดนจับได้ซะละว่าแอบอ่านกับเขาด้วย
“โรมิโอจูเลียตเลยเหรอ” ผมยังยิ้มกริ่มกับฉายาที่เป็นของเราสองคน

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นละครับคุณไม่ชอบเหรอ” เขาทำหน้ายู่เหมือนไม่ชอบใจนักกับฉายาที่ว่า

“คิสรู้ใช่ไหมว่า...จูเลียตแกล้งตาย ส่วนโรมิโอคิดว่าคนที่เขารักตาย เขาเลยกินยาพิษตายตาม
ปืนว่าโรมิโอจูเลียตโง่และบ้ามาก คิสครับ....”  เขาหยุดเล่าแล้วเว้นช่วงรอให้ผมตอบรับ

“ครับ” ผมขานรับกระชับกอดกดหัวทุยเข้ามาแนบอก รอฟังถ้อยคำสำคัญจากคนสำคัญ

“ถ้าวันหนึ่งปืนไม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร อย่างเดียวที่ปืนอยากให้คุณทำเพื่อปืนคือ อยากให้คุณยิ้มและใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขนะ”

เหมือนมีก้อนอะไรมาจุกจ่อที่คอ ขอบตาร้อนผ่าว ทำได้แค่หลับตาลงปล่อยหยดน้ำใส
ไหลรินจากสองเปลือกตาอย่างห้ามไม่อยู่   เจ็บลึกที่หัวใจแต่แสบจนสั่นไหวที่ลำคอ

'ถ้าวันหนึ่งปืนไม่อยู่ตรงนี้แล้ว ผมอยู่ไม่ได้หรอก’
ได้แต่ตอบเขาในใจ

ไร้เสียงสะอื้นเหมือนทุกครั้ง แต่มันเจ็บกว่าหลายสิบเท่าเพราะครั้งนี้ ผมไม่ได้มโนจนเจ็บไปเอง
แต่มันมาจากปืนที่เอ่ยคำพวกนั้นออกมา เขาไม่ค่อยใช้น้ำเสียงจริงจังแบบนี้บ่อยนัก
เขาแทบจะไม่เคยเผยความรู้สึกมุมนี้ให้ผมรับรู้  มันเลยยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่

ถึงจะรู้ตัวดีว่าสักวันเรื่องของเราก็จะเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น
แต่ผมก็ยังไม่พร้อมให้เป็นวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ หรือเร็วๆนี้

“ตอนนี้อยู่กับผมแบบนี้ไปก่อนนะ ผมอยากกอดคุณ ปืน...ผมระ”

คำว่ารักของผมยังพูดออกไปไม่เต็มคำ ปากอิ่มของเขาก็มาดูดกลืนคำนั้นไปเสียแล้ว
เราจูบกันนานจนความเจ็บที่ผมมีเริ่มจางลง  จูบของเรามันขมเพราะน้ำตาหรือขมเพราะความหวั่นใจที่ผมมีกันแน่วินาทีที่ปากเขาประกบปากผม ผมรู้ทันทีว่าไม่มีสิทธิ์พูดคำนั้นออกไป

คำว่า...รัก....

ถึงผมจะอยากพูดแต่เขาคงไม่อยากฟังมันอยู่ดี ความรักของผมกับปืนมันมีแต่ในความมืด
เมื่อความสว่างสาดส่อง ผมก็ต้องกลับไปยืนในที่ของผม เขาก็ต้องกลับไปในที่ของเขา 
คำว่าเราไม่เคยมีตัวตนมาตั้งแต่เริ่ม

 คงเหมือนที่แฟนคลับบางกลุ่ม ตั้งคำจำกัดความให้ความสัมพันธ์ของเราสองคน

“เรือผี”   



.......................................................................
ไม่รู้ว่าชอบเรือผีลำนี้รึป่าว แรงบันดาลใจบวกความมโนของไรต์ ฝึกเขียนดราม่าอยู่
อยากได้คำติชม มีตอนเดียว ถ้ามีคนชอบเยอะๆ ค่อยว่ากันอีกที
[/size]



ฝากเรื่องยาวค่ะ
 
แหวนแต่งงานของผม

สายลมและคมมีด

 :pig2: :กอด1: :-[
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: เรือผี (เรื่องสั้นจบในตอน)
«ตอบ #1 เมื่อ12-11-2018 13:31:09 »

ฟินแบบไม่ฟิน  :mew2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: เรือผี (เรื่องสั้นจบในตอน)
«ตอบ #2 เมื่อ12-11-2018 14:32:48 »

เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด