[ เรื่องสั้น ] จันทร์ข้างแรม | Until the New Moon (เรื่องสั้นตอนเดียวจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ เรื่องสั้น ] จันทร์ข้างแรม | Until the New Moon (เรื่องสั้นตอนเดียวจบ)  (อ่าน 2125 ครั้ง)

ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************





จันทร์ข้างแรม | Before the New Moon





[/i]
’สิ้นแรมสิบผ้าเมื่อใด เจ้าก็จักหายไปตลอดกาล’
















Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-11-2018 17:01:37 โดย _MindSky »

ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1


       “..ดวงวิญญาณใดกระทำการอันมีผลต่อบ่วงกรรมของผู้อื่น ดวงวิญญาณนั้นจักถูกจองจำไปชั่วกัปชั่วกัลป์”

       “…”

       “ได้ยินอย่างนี้แล้วเจ้ายังจะอยากไปช่วยชายที่เจ้ารักอีก ฤา ไม่” 

       ร่างทะมึนสีดำผู้เป็นเจ้าแห่งดวงวิญญาณของมนุษย์และทุกสรรพสิ่งประกาศเกล้ากังวานไปทั่วบริเวณเมื่อชายหนุ่มที่พึ่งสิ้นอายุขัยหมาดๆอยากจะกลับขึ้นไปบนโลก

       ‘ศศิน’ ชายหนุ่มวัยยี่สิบปีผู้เป็นเจ้าของรูปร่างใบหน้าหวาน คิ้วคมจมูกโด่ง และปากสีระเรื่อที่พอรวมๆกันแล้วเขาก็เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนนึงเลยทีเดียว แต่ว่าไม่ใช่ไปในทางหล่อเข้มแบบคนไทย ศศินจะออกไปทางตะวันตกซะมากกว่า

       ศศินแอบรักคนๆนึงที่เป็นผู้ชายด้วยกัน เขาคนนั้นอายุมากกว่าศศินเกือบสิบปีและไม่ได้มีใจให้ศศินเลยแม้ซักเสี้ยวเดียว แต่ศศินก็ยังเต็มใจที่จะมอบความรักให้เขาคนนั้นจนหมดทั้งหัวใจ

       ‘ธนา’ อดีตนักโทษค้ายาเสพติดคือคนที่ลูกผู้ว่าการตำรวจอย่างศศินรัก



       ธนาเป็นลูกคนขับรถของบ้านศศิน เพราะงั้นพวกเขาจึงเห็นหน้าค่าตากันมาตั้งแต่ตอนที่ศศินยังเป็นแค่เด็กอนุบาลแล้ว

       ธนาเป็นเพื่อนคนแรก เป็นครูคนแรกที่คอยสอนให้เขาทำนู่นทำนี่เป็น และยังเปรียบเสมือนพี่ชายแท้ๆของเขาอีกด้วย ธนาคือคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสนุกที่สุด คอยสร้างเสียงหัวเราะ และคอยเข้าใจเด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างเขาได้เป็นอย่างดี

       นานวันเข้าเด็กน้อยไร้เดียงสาที่ว่าได้เริ่มเรียนรู้อะไรมากขึ้น ความรู้สึกวาบหวิวที่ใจก็ทำให้เขารู้ตัวแล้วว่าที่เขารู้สึกกับธนามันไม่ใช่แค่เพื่อนหรือพี่ชาย

       เขาตกหลุมรักธนาเข้าเต็มเปา



       หากแต่มันไม่ใช่รักที่สมหวัง.. เมื่อศศินอายุได้สิบขวบคนที่เขามีใจให้อย่างธนาถูกจับข้อหาค้าและเสพยาเสพติด บ้านท่านผู้การวุ่นวายในทันทีเมื่อมีข่าวว่าคนงานในบ้านเป็นคนค้ายาเสพติด

       ดังนั้นแล้วธนาจึงถูกกำจัดให้พ้นๆไปด้วยการนำเข้าห้องลูกกรงในเรือนจำโดยไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายให้มากความ ไม่มีการสืบสวน ไม่มีการค้นหาความจริงใดๆให้กระจ่างใสชัดเจน

       จริงๆแล้วธนาไม่ได้ค้ายาเสพติด ..เขาถูกคนใจทรามยัดยาจำนวนมากไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์เพื่อหลบหนีจากตำรวจที่กำลังวิ่งไล่ล่า แต่แพะโชคร้ายอย่างเขาก็ไม่สามารถส่งเสียงอวดครวญร้องขอความยุติธรรมใดๆได้

       ศศินเป็นคนเดียวที่รู้ความจริงว่าคนที่เขารักนั้นไม่มีความผิด แต่ก็ไม่สามารถปริปากโต้แย้งกับผู้เป็นพ่อได้เลย

       เวลาผันผ่านไปจนเกือบครบทศวรรษ แพะรับบาปตัวนั้นจึงได้ถูกปล่อยตัว ศศินยอมมีปากเสียงกับพ่อเพื่อออกไปหาธนาที่พึ่งจะออกจากเรือนจำ เขาไม่สนแล้วว่าคนเป็นพ่อจะด่าว่ายังไง ก็ในเมื่อครั้งก่อนตอนที่เขาเว้าวอนให้ปล่อยธนาไปพ่อเองก็ไม่สนใจใยดีเขาเหมือนกัน



       ศศินอยู่กินกับธนาที่หอใกล้ๆกับมหาลัย เขาให้เหตุผลกับอดีตนักโทษว่าเป็นห่วงบวกกับรู้ว่ายังไม่มีที่ไป เพราะงั้นการมาอยู่ด้วยกันซักระยะเวลานึงน่าจะพอให้ตั้งตัวได้ ซึ่งธนาเองก็ยินดีที่จะรับสินน้ำใจนี้ไว้

       ..แต่เมื่อคนสองคนอยู่ด้วยกันและหนึ่งในนั้นกำลังมีใจให้อีกคนที่สภาพเหมือนลูกไก่ในกำมือ ก็แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วเรื่องอย่างว่ามันก็ต้องเกิดขึ้น ในคืนนั้นศศินและธนาต่างบอกรักกัน มีความสุขด้วยกันจนเสร็จสม ก่อนจะผล็อยหลับไปพร้อมๆกัน

       …ทว่าหลังจากวันนั้นธนากลับทำตัวเหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย ราวกับแท้จริงแล้วคำบอกรักในวันนั้นเป็นเพียงคำลวงที่เอ่ยออกมาตอนกำลังเสพสมความสุข

       ศศินพยายามนึกเข้าใจหัวอกผู้ชายแท้ๆว่าคงจะเข้าใจเรื่องแบบนี้ยาก การยอมรับว่าตัวเองได้เมียเป็นผู้ชายเหมือนกันนั้นมันอาจจะน่าละอาย เพราะงั้นธนาก็เลยทำเป็นนิ่งเฉยเพื่อไม่ให้เกิดความละอายขึ้นในใจ เด็กน้อยผู้ใสซื่ออย่างศศินคิดแบบนี้

       ถึงจะพยายามคิดแบบนั้นแล้วมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังเสียใจอยู่ดี.. แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ..เขาไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าธนาไม่เคยรักกัน

      สุดท้ายแล้วศศินก็เลยเลือกที่จะมองข้ามมันไปถึงแม้ในใจจะเจ็บปวด



       ทว่าโชคร้ายได้กลับมาหาธนาอีกครั้งและยังพ่วงให้ศศินเดือดร้อนไปด้วย ธนาบอกว่าเขากำลังถูกตามล่า มีคนจะมาฆ่าเขา พอเด็กน้อยได้ยินแบบนั้นก็ตกใจอยู่ไม่น้อย ธนาขอร้องให้ศศินช่วย ..เขายังไม่อยากตาย

       เด็กอ่อนต่อโลกอย่างศศินที่รักคนๆนี้หมดหัวใจพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงรับรู้

       ‘ผมจะช่วยพี่เอง พี่ไม่ต้องห่วง ผมสัญญาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่ปล่อยให้พี่เป็นอะไรไปแน่นอน’ ศศินลั่นคำสัญญาด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะถูกพี่ของเขารวบเข้าไปไว้ในอ้อมกอด

       



       เขาพาธนาไปรู้จักกับเพื่อนๆที่มหาลัย เพราะในใจไม่อยากให้ธนาเครียดเพราะความกลัวจนเกินไป

       ถึงแม้ธนาจะอายุใกล้เลขสามเข้าไปแล้วแต่เด็กพวกนี้ก็ไม่ได้คิดมากอะไร กลับกันพวกเขายังเข้ากันได้ดีซะอีก

      .. ดีซะจนเขาคู่หนึ่งงอกขึ้นบนหัวศศิน



       ธนาแอบมีสัมพันธ์ลับกับเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มของเขา ซึ่งมันเกิดขึ้นมานานเท่าไหร่แล้วเขาเองก็ไม่ทราบ แต่ดูจากปฏิกิริยาของทั้งคู่แล้วมันก็คงไม่ต่ำกว่าเดือนหรือสองเดือนแน่ๆ เผลอๆอาจจะคบกันแล้วก็ได้

       เด็กน้อยอย่างเขาก็ยังคงเป็นเด็กน้อยอยู่ดี ศศินไม่รู้จะจัดการกับสิ่งที่ตัวเองเจอยังไงจึงได้แต่ร้องห่มร้องไห้ ขอร้องอ้อนวอนคนที่เขารักว่าให้เลิก ทั้งๆที่เขากับธนาไม่ได้เป็นอะไรกันเลยด้วยซ้ำ

       ทว่าธนากลับรับฟังคำขอของเขาและให้คำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะเลิก หัวใจของเด็กน้อยจึงกลับมาปริ่มไปด้วยความสุขอีกครั้ง

       ก็..เป็นแบบนั้นมาจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตของเด็กน้อย

 

       ศศินจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ธนาโดยอาศัยคอนโดของเพื่อน ทุกๆคนต่างสนุกสนาน เฮฮา บรรยากาศอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ

       พอค่ำหน่อยงานเลี้ยงนี้ก็เริ่มมีแอลกอฮอล์มาเกี่ยวข้อง พวกเขาต่างดื่มกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ศศินเองก็ปวดตุบๆอยู่ที่หัวไม่แพ้กัน ถึงจะสภาพนี้แต่ก็ยังหลงเหลือเค้าของความสนุกอยู่ ..ทุกๆอย่างดำเนินไปแบบนั้นจนเวลาล่วงเลยเป็นครึ่งค่อนคืน



       00.02

       ศศินที่ปวดหัวตุบๆลุกขึ้นด้วยความเหนื่อยเพลียหลังจากผล็อยหลับอยู่ตรงโซฟาเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ เขาเกาหัวตัวเองอย่างเซ็งๆที่ต้องตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉี่แบบนี้

       ไม่นานนักเขาก็มาหยุดที่หน้าห้องน้ำที่เป็นจุดหมาย ทว่าศศินกลับยืนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้นไม่ได้เปิดประตูเข้าไป ..ดวงตาเบิกโพลงจนต้องยกมือขึ้นมาปิดปาก

       “อ..อื้อ อ๊า พี่ธนา เบาๆสิคะเดี๋ยวคนอื่นก็ตื่นหรอก”

       “ช่างมันไปสิ พี่ขอเถอะนะนานๆพี่จะได้ทำเมียสุดที่รักของพี่ซักที”



       หัวใจเขาแตกสลาย น้ำตาเม็ดใสไหลลงอาบสองแก้มอย่างห้ามไม่ได้ จู่ๆสองขาก็ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาดื้อๆจนยากที่จะทรงตัวไว้ได้ ศศินสะอื้นอย่างหนักหน่วงภายใต้ฝ่ามือที่ยกขึ้นมาป้องปาก



       เจ็บ.. เจ็บที่เชื่อใจ ..เจ็บที่ไว้ใจ นี่คือสิ่งตอบแทนที่เขาควรจะได้จริงๆหรอ..



       ศศินพาร่างอันบอบช้ำของตัวเองออกมาจากตรงนั้นก่อนจะเดินโซซัดโซเซไปออกไปจากที่นี่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดที่นี่อีกต่อไป

       เด็กน้อยที่กำลังร่ำไห้วิ่งออกไปที่รถก่อนจะขับมันออกไปอย่างไร้จุดหมาย

       บ้านหรอ? ไม่มีหน้าจะกลับไปหรอก..

       กลับหอ? ที่นั่นก็มีแต่ความทรงจำระหว่างธนากับเขา



       เด็กน้อยเหยียบคันเร่งหนักขึ้นด้วยอารมณ์ขุ่นมัวที่กำลังฟาดฟันกันอยู่ในใจ เขาไม่รู้ว่าจะไปไหน แค่ขับตรงต่อไปเรื่อยๆแบบนี้เท่านั้น



       Rrrrrrrr

       จมจ่อมอยู่กับความเจ็บปวดได้ไม่นาน จู่ๆเสียงสั่นครืดก็ดังขึ้นมา ต้นตอของเสียงนี้มาจากโทรศัพท์ปุ่มกดรุ่นเก่าของคนที่เขารักนั่นเอง เด็กน้อยหันมามองอยู่ครู่หนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์ ในใจอยากจะเอาค้อนมาทุบโทรศัพท์นี้ทิ้งด้วยซ้ำเผื่อเจ้าของมันจะเจ็บแบบที่เขาเจ็บบ้าง

       ไม่นานนักโทรศัพท์นั้นก็เงียบไป หากแต่กลายเป็นข้อความตัวอักษรมาแทน เด็กน้อยหันไปมองด้วยความหงุดหงิดใจ

       …ทว่าเมื่อสายตาได้เห็นข้อความนั้นใจเขาก็หล่นฮวบไปอยู่ปลายเท้าทันที



       ‘กูเจอมึงแล้ว ถ้ายังไม่มีเงินมาคืนกู..’



       ‘กูจะฆ่ามึง’



       ..เป็นจังหวะเดียวกับที่หน้ารถได้ชนกับราวกั้นทางโค้งจนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เด็กน้อยมัวแต่ใส่ใจอยู่กับข้อความไม่ทันได้ตั้งตัว หน้าผากขาวจึงโขกเข้ากับพวงมาลัยอย่างแรงจนหมดสติ

       ตัวรถกำลังลอยค้างเติ่งอยู่กลางอากาศโดยมีด้านล่างเป็นผืนน้ำกว้างใหญ่ ..ก่อนจะถูกแรงดึงดูดโลกดึงให้ร่วงลงสู่ผืนน้ำในเสี้ยววินาที

       …ไม่นานนักรถคันนั้นก็ได้จมดิ่งลงจนแตะกับพื้นดินใต้น้ำ เด็กน้อยที่หมดสติไปด้วยแรงกระแทกถูกมวลน้ำบีบอัดเข้าทุกทิศทุกทาง จนสุดท้ายแล้วมวลน้ำนั้นก็เริ่มไหลเข้าไปในปอด

       ..เฮือกสุดท้ายของชีวิต ศศินรู้สึกตัวขึ้นมาเพราะกลไกของร่างกายที่ปลุกให้เขาตื่นเพื่อจะได้เอามวลน้ำนี้ออกไปจากปอด แต่ก็ดูเหมือนจะสายเกินไปเสียแล้ว เด็กน้อยสำลักน้ำจนแสบคอแสบจมูก เขาพยายามดิ้นเพื่อจะออกไปจากตัวรถ แต่ก็ทำได้แค่ปัดกวาดสองแขนของเขาไปมั่วซั่วด้วยความทรมาน ศศินผลักประตูรถ ผลักหลังคารถ ผลักมั่วซั่วไปแบบไม่รู้ทิศทาง เป็นแบบนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะค่อยๆทุเลาการดิ้นรน ...จนแน่นิ่งไปในที่สุด

       หนึ่งนาทีให้หลัง…หัวใจน้อยๆของเขาก็ได้หยุดการทำงาน

       





       “มิใช่ว่าข้าจักมิรู้ดอกหนาว่าชะตาชีวิตที่ผ่านมาของเจ้านั้นเป็นอย่างไร ข้าเห็นมาแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกเรื่องราว ทุกเหตุการณ์”

       “…”

       “แม้แต่ความเศร้าในใจเจ้าข้าก็รับรู้ได้”

       “…”

       “เจ้ายินดีที่จะสละวิญญาณเพื่อช่วยเขาคนนั้น ฤา ไม่”

       “ผม..”

       “จงคิดดีๆก่อนจักเอ่ยสิ่งใดออกมา ถ้อยคำที่เจ้าจะให้คำตอบแก่ข้าจักเป็นถ้อยคำที่จะตัดสินวิญญาณของเจ้า”

       “…”

       “เจ้ารู้ ฤา ไม่ ว่า ‘ความรัก’ เป็นสิ่งจอมปลอมมันไม่เคยมีอยู่จริง ..เว้นแต่จักเป็นรักแห่งบิดามารดา”

       “ผมรู้..”

       “เจ้ายังมีโอกาสพบรักครั้งใหม่อีกในชาติต่อไปหลังจากที่เจ้าชดใช้กรรมในสงสารวัฏ”

       “…”

       “เหตุใดเจ้าจึงยังคงเป็นกังวลกับชีวิตของชายผู้นั้นมากนัก”

       “ผมรักเขา”

       “สิ่งนี้ข้ารับรู้ได้ หากแต่เจ้ามิมีปัจจัยใดอื่นแล้ว ฤ”

       “..ผม..อยากตอบแทนเขา”

       “…”

       “เขาไม่ใช่คนดี ..ผมรู้ แต่สำหรับผมเขาคือฮีโร่”

       “…”

       “ฮีโร่ที่ช่วยผมเดิน.. ฮีโร่ที่สอนผมให้จับตะเกียบให้เป็น ฮีโร่ที่สร้างความสุขให้ผมได้เป็นอย่างดี ฮีโร่ที่คอยดูแลผมตั้งแต่เด็ก อยู่กับผม เล่นอะไรไร้สาระกับผมทั้งๆที่เขาโตแล้ว”

       “…”

       “ ..นอนด้วยกัน เล่านิทานให้ผมฟัง ดึงผมเข้าไปอยู่ในเซฟโซนที่ปลอดภัยที่สุดซึ่งก็คือ้อมกอดของเขา”

       “…”

       “เขาเป็นคนดี เขาไม่ควรที่จะมาเจอเรื่องราวแบบนี้เลย ทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายให้ฮีโร่ของผมเป็นแพะรับบาปล่ะครับ?”

       “…”

       “ผมสัญญากับเขาไว้แล้วว่าจะปกป้องเขา ..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

       “เหตุใดเจ้าจึงให้คำมั่นสัญญาเล่า เจ้ามิรู้ ฤ ว่าพลังของคำสัญญานั้นมันทรงพลังเพียงใด”

       “ผมไม่รู้ ผมก็แค่อยากปกป้องเขา”

       “…”

       “ปกป้องคนที่ผมรัก”

       “แต่เขามิได้มีใจให้เจ้าเลยหนา”

       “ผมรู้”

       “…”

       “ผมรักเขา..เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว”

       “ข้าจักถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหนา จงไตร่ตรองดูดีๆเถิด ..ช่วยคนที่เขาไม่ได้รักเจ้าเลยแลกกับวิญญาณของตัวเจ้าเองนี่น่ะหรือที่สมควร”

       “…”

       “..วิญญาณเอ๋ยจงตอบต่อกู ..จงให้คำมั่นแก่กู มึงจักยอมเสียสละวิญญาณของมึงเพื่อคนที่มึงรัก ฤา ไม่”

       “ผมนายศศิน วิวัฒชัยตระกูล”

       “…”

       “ผมยินดีเสียสละวิญญาณของผมครับ”

















       จู่ๆก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาจนบดบังทุกสิ่งอย่าง ศศินหลับตาปี๋เพราะทนต่อแสงนั้นไม่ไหว แต่ถึงจะหลับตาแสงสว่างนั้นก็ยังคงชัดเจน



       ‘เจ้าจักมีตัวตนก็ต่อเมื่อจันทรคติเดือนนี้ผันเปลี่ยนเป็นข้างแรม และจักเกิดขึ้นยามที่อาทิตย์ได้อัสดงลับขอบฟ้าแลแสงจันทร์ขึ้นมาแทนที่แล้วเท่านั้น’



       ‘จงจำไว้เถิด …กายหยาบที่เจ้าเป็นนั้นจักอ่อนแรงลงเรื่อยๆตามแสงของจันทร์’



       ‘สิ้นแรมสิบห้าเมื่อใด…เจ้าก็จักหายไปตลอดกาล’





  ต่อด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 แรมหนึ่งค่ำ

       ศศินสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้นจากการหลับไหลบนเตียงนอนในห้องสี่เหลี่ยมอันคุ้นตา

       เด็กน้อยยกแขนขึ้นมามองดู ก่อนจะจับไปตามลำตัวของตัวเองเพื่อพิสูจน์ถึงการมีชีวิต

       เขาดีใจจนเนื้อเต้น นี่เขากลับมามีชีวิตอีกครั้งจริงๆน่ะหรอ? ไม่อยากจะเชื่อเลย..

       ภายนอกหน้าต่างนั้นมืดทะมึน หากแต่ยังคงมีแสงสว่างจากดวงกลมสีทองนวลที่ส่องประกายอยู่บนฟากฟ้า

       ศศินไม่รู้ว่านี่มันผ่านมาจากวันที่เขาเสียชีวิตนานเท่าไหร่แล้ว แต่ในห้องนี้เขาไม่พบร่องรอยของพี่เขาเลย เสื้อผ้าในตู้ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆหายไปหมดสิ้น

       ความสงสัยเกิดขึ้นในใจ ธนาจะไปอยู่ที่ไหนได้ล่ะ เงินเขาแทบไม่มีเลยซักบาท

       เด็กน้อยไร้เดียงสาเกิดความกังวลร่วมด้วย นี่ไม่ใช่ว่าเขากลับมาช้าเกินกว่าที่จะปกป้องคนที่เขารักหรอกนะ

        ศศินไม่รอช้า เขารีบลุกขึ้นก่อนจะออกไปตามหาพี่ธนาที่เขาเป็นห่วง



       บนถนนอันว่างเปล่าไร้รถราขับผ่านที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เด็กน้อยใช้สองขาของตนวิ่งตามหาคนที่เขารักไปอย่างไร้จุดหมายด้วยใจที่ร้อนรน

       ทว่าเขาคงเร่งรีบจนเกินไป ศศินลืมใส่รองเท้าออกมา ฝ่าเท้าตอนนี้ที่ได้วิ่งมาจนไกลจากหอตัวเองแล้วเริ่มถลอกลอกออก หนูน้อยนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดที่รู้สึก แต่ก็ยังคงวิ่งต่อไปทั้งแบบนั้น

       ‘พี่ธนา พี่! ได้ยินผมมั้ย พี่อยู่ไหน’



       เวลาผันผ่านไปอย่างเนิ่นนานจนใกล้จะย่ำรุ่ง สองขาของเด็กน้อยเริ่มเหนื่อยล้าจนก้าวขาแทบไม่ได้

       ‘กูจะฆ่ามึง’ ตัวอักษรที่เขาเห็นในวันนั้นฉายซ้ำขึ้นมาในหัว ฉุกให้เด็กน้อยรวบรวมแรงที่มีก่อนจะพยุงสารรูปตัวเองเดินต่อไป หนูน้อยตะโกนเรียกหาธนาไปแบบไม่มีทิศทาง

       ฉึก

       เศษแก้วแหลมคมทิ่มลึกเข้าไปในฝ่าเท้านุ่มที่กดทับลงมาโดยไม่ระวัง หากแต่ศศินก็ยังคงเดินไปต่อ และยังคงทำสิ่งไร้ค่าที่เขาทำอยู่ต่อไป

       ‘ธนา พี่ธนา!’ เสียงที่เริ่มแหบพร่าตะโกนเรียกความว่างเปล่าท่ามกลางความมืด



       แสงอาทิตย์สีส้มเริ่มสาดส่องแต่มแต้มท้องฟ้าสีทะมึนแล้ว เด็กน้อยมองตามแสงนั้นอย่างสิ้นหวัง ก่อนร่างของเขาจะค่อยๆหายไป



       ‘อยู่ตรงนั้น ...พี่มีความสุขรึเปล่า?’





       แรมสองค่ำ

       เด็กน้อยรู้สึกถึงการมีชีวิตอีกครั้งบนเตียงนอนเตียงเดิม ทว่าวันนี้กลับแปลกออกไป ทันทีที่ศศินนั้นตื่นขึ้นเสียงกุกกักจากตรงประตูก็ดังเข้ามาในโสตประสาท

       ‘..ศศิน?’ ชายผู้เป็นที่รักเปิดประตูเข้ามาก็เป็นต้องตกใจเมื่อเห็นเด็กน้อยที่หายตัวไปร่วมอาทิตย์นั่งนิ่งอยู่บนเตียง

       ‘ดีใจจังที่พี่ปลอดภัย’ หนูน้อยน้ำตารื้นเอ่อเมื่อได้เห็นชายที่เขาเฝ้าตามหามาตลอดคืนที่ผ่านมายังคงปลอยภัย ธนามาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ แต่เสื้อยืดตัวนั้นที่ธนาใส่เด็กน้อยจำได้ดีเลยว่าเขาเป็นคนซื้อให้

       ‘นี่ไปไหนมา หื้ม?’ พี่ชายเดินเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะถูกเด็กน้อยโผกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว คนอายุมากกว่ามองดูเด็กน้อยที่กำลังซุกหน้ากับแผงอกตนเองยิ้มๆอย่างเอ็นดู ก่อนจะลูบหัวเบาๆ ‘พี่ไม่เป็นไรหรอก’

       เขาไถ่ถามกันและกันถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา หนูน้อยที่ไม่สามารถตอบตามความเป็นจริงได้นั้นก็ได้แต่โกหกไป ‘ผมกลับบ้านไปหาพ่อ คุยเรื่องพี่’ ‘ผมจะทำให้พี่กลับไปใช้ชีวิตแบบธนาคนเดิมให้ได้ พี่ต้องกลับมามีความสุขอีกครั้ง’

       คนฟังได้ยินงั้นแล้วก็ตื่นเต้นดีใจจนอยู่นิ่งไม่ได้ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้สัมผัสความสุขที่แท้จริงเลย นานเท่าไหร่แล้วที่เขาใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง

       ‘พี่ต้องระวังตัวนะ ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียว พี่ก็รู้ว่ามีคนจ้องจะทำร้ายพี่อยู่ ผม..ผมเป็นห่วง’

       ‘พวกมันเงียบไปซักพักแล้วล่ะ พี่ไม่เป็นไร สงสัยพวกมันจะได้ทุนคืนแล้วมั้ง ทุนค่ายาที่มันเสียไปหลังจากที่เอายาพวกนั้นมายัดไว้ในรถพี่’

       ‘ใจเย็นๆนะครับ ..อย่ากังวลไปเลย’

       ‘..ทำไมพี่โชคร้ายแบบนี้วะศศิน ยาพี่ก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวด้วยเลย ทำไมต้องมาพัวพันอยู่กับมันไม่รู้จักจบจักสิ้น’

       ‘ไม่เป็นไรนะพี่.. มันจะผ่านไป …เดี๋ยวมันก็ผ่านไป’

       ‘เมื่อไหร่ล่ะศศิน พี่ต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่’

       ‘อีกสิบสามวัน …สิบสามวันครับ แล้วทุกอย่างจะจบ’

       ‘ทำไมต้องสิบสามวัน ศศินรู้ได้ยังไง’

       ‘ผมบอกไม่ได้ แต่พี่จะปลอดภัย ไม่มีใครทำอะไรพี่ได้อีกต่อไป’



       พี่ชายที่เข้ามาเอาของที่ลืมไว้เมื่อได้ยินแบบนั้นพร้อมด้วยสีหน้าจริงจังแบบซื่อๆของน้องคลี่ยิ้มออกมา ก่อนจะลูบหัวเด็กน้อยอย่างเอ็นดู แล้วดึงแก้มนุ่มๆนั่นจนยืด

       ‘ศศินนี่นะจะปกป้องพี่? ฮ่าๆ โอเคครับ เด็กดื้อ’

       สงสัยคืนนี้เขาคงต้องนอนที่นี่ซะแล้ว



       ‘ผมอยู่ข้างๆพี่แล้ว จะอยู่ข้างๆแบบนี้…ตลอดไป’



       แรมสามค่ำ

       ศศินตื่นขึ้นมาบนเตียงๆเดิมอีกครั้ง คืนก่อนเขาหัวใจพองโตจนแทบจะทะลุออกมาจากอกเมื่อพี่ชายของเขานอนกอดเขาทั้งคืน เพราะงั้นคืนนี้ตราบใดที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เด็กน้อยก็หวังอยู่นิดๆว่าจะได้นอนภายใต้อ้อมกอดอุ่นนั้นอีกคืน



       หากแต่มันไม่เป็นอย่างที่หวัง คืนนี้ไม่มีธนา มีแต่เสียงซุบซิบหน้าประตูที่ดังเข้ามาในโสตประสาทของเขา

       ลางสังหรณ์บางอย่างมันชัดเจนอยู่ในใจ…

       ‘แม่งอยู่ในห้องนี้แหละ เมื่อวานกูเห็น’

       ‘เอาไงดีพี่ พังเข้าไปเลยเปล่า จัดการมันให้จบๆ ไหนๆมันก็ไม่มีเงินมาให้เราอยู่ละ’

       ‘ตามใจมึง ไม่ต้องยิงหรอกนะ ค่อยๆเอามีดกรีดมันก็พอ ให้มันรู้ถึงความเจ็บปวดที่เราต้องเจอ’

       ‘ดีเลยพี่ หงุดหงิดมาตั้งแต่ถูกคนของนายใหญ่ทืบละ ขอระบายหน่อยดีกว่า’



       เด็กน้อยไม่รอช้าให้คนโสมมพวกนี้ได้พูดอะไรต่อ เขาเปิดประตูต้อนรับอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ

       ‘อ่าว ไหนมึงบอกห้องนี้ไง’

       ‘ห้องนี้ ไอ้เด็กนี่น้องไอ้เหี้ยนั่น กูจำได้’

       ‘พี่ต้องการอะไร’ เด็กน้อยถาม

       ‘ถามโง่ๆ พี่มึงอยู่ไหน ไปตามตัวมันมาถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัวแทนมัน’

       ‘ผมไม่รู้’

       ‘ตอแหล เมื่อวานกูยังเห็นมึงยังอยู่ด้วยกันอยู่เลย’

       ‘ผมไม่รู้! พวกพี่ต้องการเงินใช่ไหม? กี่บาทผมหามาให้ได้’

       ‘เด็กอย่างมึงเนี่ยนะ?’

       ‘เออ! หามาให้พี่ได้แล้วกัน กี่บาทพี่พูดมา’

       ‘สองแสน! ไหนมึงจะไปหามาจากไหน’

       ‘คืนพรุ่งนี้เดี๋ยวผมเอาให้พี่เลย’

       ‘เดี๋ยว’

       ‘…’

       ‘กูจะรู้ได้ไงว่ามึงไม่ได้โกหก’

       ‘…’

       ‘ไหนๆก็ไหนๆแล้วมึงหาพี่มึงมาให้กูทืบไม่ได้ มึงก็โดนแทนมันไปก่อนแล้วกัน!’

       เท้าข้างนึงยกขึ้นมาก่อนจะถีบเด็กน้อยจนเซล้มไปกับพื้นห้อง และทันทีที่เด็กน้อยล้มลงสองคนนั้นก็เข้ามาข้างในในทันที

       ประตูถูกปิดล็อคอย่างแน่นหนาก่อนจะมอบหมัดหนักๆลงบนแก้มสีระเรื่อ ความเจ็บปวดรับรู้ได้ในเสี้ยววินาทีเมื่อเลือดบนริมฝีปากของเด็กน้อยซิบออกมา

       ‘เดี๋ยวก่อนนะ’ หนึ่งในสองคนนั้นเอ่ยขึ้นมาหลังจากเดินไปทางถังขยะที่อยู่ในห้อง ‘ซากถุงยางกับเจลพวกนี้มันคือไรวะ?’

       อีกคนที่เป็นคนอัดหมัดใส่โหนกแก้มใช้เท้าถีบลงที่ท้องอย่างรุนแรงก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับเพื่อนของตน ศศินทำได้แค่นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับนอนขดงอกุมท้องตัวเอง

       ‘พวกมึง..เอากัน? ผู้ชายกับผู้ชายเนี่ยนะ’

       ‘งั้นกูรู้ละว่าจะมัดจำไอ้เด็กนี่ยังไงดี’

       ‘…’

       ‘มึงมาให้พวกกูปลดปล่อยดีกว่า กูอยากมาหลายวันละ’



       ค่ำคืนที่สามแห่งการมีชีวิตอยู่ก็จบลงอย่างโหดร้ายโดยที่เด็กน้อยอย่างเขาไม่สามารถขัดขืนอะไรเลย แม้แต่ส่งเสียงก็ไม่อาจทำได้เพราะคนโสมมทั้งสองยัดเยียดสิ่งนั้นทั้งข้างล่างและช่องปาก

       น้ำตาเม็ดใสไหลลงหยดแล้วหยดเล่าอย่างเจ็บปวดทรมาน แม้จะพนมมือขึ้นมาขอร้องแต่ก็ไม่สามารถหยุดการกระทำนี้ได้เลย



       ‘ไม่เป็นไร …ผมยอมเจ็บถ้าเจ็บแล้วได้เห็นพี่มีความสุข’





       แรมสี่ค่ำ

       ‘น..นี่ครับ เงิน’

       ‘โห มึงหามาได้จริงหรอวะ ขอบคุณนะโว้ย’

       ‘แค่นี้ พี่ผมก็จะปลอดภัยแล้วใช่ไหม?’

       ‘เออ แค่นี้แหละ’

       ‘สัญญานะ’

       ‘เออ แต่ช่างแม่งไปก่อน วันนี้กูขออีกละกัน ถือว่าเป็นคำขอบคุณ ฮ่าๆ’

       เสียงหัวเราะร่วนอย่างสะใจดังก้องในหัวกระตุกต่อมความกลัวให้ทำงาน เด็กน้อยตัวสั่นงันงกพร้อมด้วยน้ำตา ก่อนจะถูกกระทำอีกครั้งโดยที่ไม่อาจขัดขืน

       ไม่เป็นไร.. ไม่เป็นไรศศิน แค่นี้ยังไม่ถึงเสี้ยวความทรมานก่อนนายจะตายเลย ไม่เป็นไร.. ยอมไปเถอะ พี่ธนาจะได้..ปลอดภัย

       หนูน้อยเฝ้าข่มใจตัวเองไม่ให้กลัวก่อนจะหลับตายอมจำนนต่อความทุกข์ทรมานนั้นเพื่อแลกกับความปลอดภัยของชายที่เขารัก

     

       ‘ที่ผ่านมา…มีความสุขรึเปล่า?’

       



       แรมแปดค่ำ

       ดวงจันทร์สีทองอร่ามครึ่งวงสาดแสงส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า

       ผ่านมาหลายวันแล้วแต่ศศินก็ยังไม่ได้เจอธนาเลยตั้งแต่วันนั้น คืนก่อนหน้านี้ศศินเคยออกไปตามหาแล้วแต่ก็ไร้ค่าเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยของธนาเลยแม้ซักเสี้ยวเดียว



       คนโสมมพวกนั้นยอมเงียบไปด้วยเงินสองแสนที่เขาให้ ศศินวางใจไปได้เปราะนึงที่พวกนั้นไม่มารบกวนหรือมาวอแวแถวหอพักเขาอีก แต่ในใจกลับไม่เป็นสุขเลยซักนิด

       พี่หายไปไหนล่ะ? ไม่ห่วงผมแล้วหรอ? ไปอยู่ไหนทั้งๆที่ ‘บ้าน’ ของเราอยู่นี่..



       สองขาที่ก้าวไปอย่างไร้จุดหมายอย่างคืนที่ผ่านมาก็ยังทำเหมือนที่เคยทำต่อไป ศศินก้าวเดินก้าวแล้วก้าวเล่าไม่คิดหยุดหย่อนเพื่อที่จะตามหาธนา ในใจยังคงหวัง อยากเจอธนาอีกแม้เพียงครั้งเดียวก็ยังดี …ก่อนที่เขาจะต้องไป



       ‘อันนี้อร่อย พี่รู้ว่าหนูต้องชอบแน่ๆเลย’ เสียงอันคุ้นหูดังเข้ามาในโสตประสาทของเด็กน้อยจากร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่เขากำลังเดินผ่าน

       ‘…’ เด็กน้อยหันไปตามต้นตอของเสียง ก่อนจะต้องยืนแน่นิ่งอยู่แบบนั้น

       พี่ธนา…กับเธอคนนั้นที่เขาเรียกว่า ‘เมีย’



       ‘พี่ หนูอยากได้กระเป๋าใบนี้จัง เนี่ยดูสิ เพื่อนหนูเขามีกันหมดเลยอะ สวยเนอะ พี่ซื้อให้หนูหน่อยสิ’

       ‘โห.. สามหมื่นเลยนะนั่น พี่จะไปมีเงินที่ไหนล่ะครับ’

       ‘โห่พี่ ก็เป็นซะอย่างงี้อะ น่าเบื่อ’



       เด็กน้อยยืนมองภาพบาดตาบาดใจตรงหน้าให้น้ำตาร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงโลกได้ซักพัก ก่อนจะหันกลับแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆด้วยความเสียใจ



       ‘ผมไม่เจ็บหรอก พี่ไม่ต้องห่วงผม ผมยังยิ้มได้อยู่เลย เนี่ย..เห็นมั้ย’




ต่อด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
แรมเก้าค่ำ

       ตื่นขึ้นมาที่เดิมรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่ตื่นได้ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตู ธนานั่นเอง ชายผู้เป็นที่รักกลับมาหาเขาแล้ว

      ‘ศศิน มีตังค์ให้พี่ยืมสามหมื่นมั้ย’

      ‘…’

      ‘พี่จำเป็นต้องใช้ มีมั้ยครับ ไม่มีก็ไม่เป็นไร’

      สุดท้ายแล้วศศินก็ให้เงินจำนวนนั้นแก่เขาไป ทั้งๆที่ในใจก็รู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งจำเป็นที่ธนาบอกมันคืออะไร คนเป็นพี่พอได้เงินแล้วก็ไม่พูดอะไรต่อนอกจากเดินกลับไปหน้าตาเฉย



       ที่หอนี้เป็นที่ที่มีแต่ความทรงจำของเขากับธนาเต็มไปหมด กลิ่นของความสุขเมื่อครั้งอดีตยังคงอบอวลชวนให้นึกถึงเสมอ

       เด็กน้อยหยิบเสื้อยืดของธนาที่อยู่ในตะกร้าขึ้นมา ก่อนจะวางลงบนเตียงนอน ใช้มือรีดทุกกระเบียดนิ้วไม่ให้เสื้อยับ ก่อนจะล้มตัวลงนอน และกอดเสื้อตัวนั้นทั้งน้ำตา

 

       ‘ผมรักพี่นะ ถึงจะไม่มีผมแล้วแต่พี่ต้องมีความสุขนะ ขุดหาความสุขให้เจอ’





       แรมสิบสามค่ำ

       เด็กน้อยรู้สึกตัวขึ้นบนเตียงๆเดิม หากแต่คืนนี้เขากลับรู้สึกอ่อนเพลียจนแทบจะลุกไม่ไหว

      ‘นี่คง..ใกล้จะถึงเวลาแล้วสินะ’ เด็กน้อยมองแขนสีไข่ของตัวเองก่อนจะลูบไล้ตามตัวแล้วใช้สองแขนอันไร้เรี่ยวแรงโอบกอดตัวเอง

       อีกไม่นานก็จะไม่มีศศินอีกต่อไป

       อีกไม่นานก็จะไม่มีร่างกายให้รู้สึกถึงการมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว..





       ปังปังปังปัง!!

       “ศิน.. ศศิน ช่วยพี่ด้วย เปิดประตูให้พี่ก่อน พวกมันมาอีกแล้ว!!!” เสียงคุ้นหูกรีดร้องลั่นพร้อมกับใช้มือใหญ่ทุบลงบนประตูอย่างรุนแรง

       หนูน้อยที่กำลังเศร้าโศกเสียใจเมื่อได้ยินดังนั้นความรู้สึกเมื่อครู่ก็อันตธานหายไปทันทีแล้วถูกแทนที่ด้วยความเป็นห่วงที่เป็นห่วงธนาอย่างสุดหัวใจ

       “เข้ามาก่อนพี่!” เด็กน้อยเปิดประตูให้พี่ชายของเขาเข้ามา ทั้งคู่ต่างตื่นตระหนก ลนลานจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว โดยเฉพาะธนาที่ตัวสั่นเป็นลูกนกก็ยิ่งแล้วใหญ่

       “พี่ใจเย็นๆก่อน พวกมันทำร้ายพี่ไม่ได้หรอก ผมไม่มีทางปล่อยให้มันทำร้ายพี่ ขอแค่พี่บอกผมก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้พวกมันอยู่ไหน”

       “พี่..พี่..”

       “พี่ใจเย็นๆก่อน ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” เด็กน้อยจับมือคนอายุมากกว่าไว้แน่น พยายามส่งความเข้มแข็งไปเพื่อบรรเทาความอ่อนแอและความกลัวที่ธนากำลังเผชิญ

       “มันบุกมาหาพี่ที่บ้านแฟนพี่”

       “…” ราวกับมีดแหลมกรีดลงกลางใจ คิดไม่ผิดเลยว่าสองคนนี้เป็นมากกว่าเพื่อนหรือพี่น้องกัน

       “เนตรเป็นแฟนพี่จริงๆหรอ..”

       “…”

       “…”

       “ใช่..เนตรเป็นแฟนพี่”

       “อยู่ตรงนั้น …พี่มีความสุขรึเปล่า?”

       “…”

       “อา.. ช่างเถอะ เล่าให้ผมฟังต่อดีกว่าครับ ฮ่าๆๆ ทำไมผมถึงถามอะไรแบบนี้กันนะ”

       “..ม..มันมีปืนด้วย มันจะยิงพี่ พี่เลยรีบหนีออกมาก่อน พี่ไม่รู้จะไปไหนพี่เลยมาที่นี่”

       “ดีแล้วที่พี่มาที่นี่”

       “ศศินจะช่วยพี่หรอ..? ช่วยพี่จริงๆหรอ”

       “ครับผมจะช่วยพี่ พี่ไม่ต้องกลัวเลยนะ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว…อยู่ข้างๆพี่”

       “…”

       “ฮีโร่ของผมเป็นคนเก่ง เพราะฉะนั้นฮีโร่ของผมต้องไม่ร้องไห้นะครับ” ใช่ ธนากำลังสะอื้นไห้ออกมาด้วยความกลัวที่กัดกินหัวใจจนหมดสิ้น เด็กน้อยที่เห็นท่าทางของชายที่เขารักแล้วก็สงสารขึ้นมาจับใจ ฝ่ามือเล็กเอื้อมใบแตะบนกลุ่มผม ก่อนจะลูบเบาๆเหมือนที่คนๆนี้เคยทำกับเขา

       “สมัยเด็กๆตอนที่ผมร้องไห้…พี่ก็ทำแบบนี้”

       “…”

       “ผมหยุดร้องในทันทีเลยที่ฝ่ามืออุ่นๆของพี่ลูบลงบนหัว ผมจำความรู้สึกอุ่นใจที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้ดี ผมอยากให้พี่รู้สึกแบบที่ผมรู้สึกบ้าง”

       “…”

       “ไม่ร้องนะพี่นะ”

       “…”

       “ผมอยู่ข้างๆพี่แล้ว จะอยู่ข้างๆแบบนี้ …ตลอดไป”



       ชายอายุมากกว่าสบตากับเด็กดื้อที่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง ยอมรับว่าตอนนี้เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นแล้วจริงๆกับคำพูดของคนตรงหน้า

       “ตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหน มันตามพี่มารึเปล่า”

       “..ไม่รู้ พี่ไม่รู้ น่าจะไม่ตามมาแล้ว” ความโกรธคุกรุ่นอยู่ในใจของศศิน ไหนบอกว่าได้เงินแล้วจะไปไง? ทำไมผิดคำพูดแบบนี้

       “ดีแล้วล่ะ …พี่โอเคขึ้นมั้ย?” เด็กน้อยถามไถ่อาการคนตัวสั่น

       “…”

       “จริงสิ ถ้าผมกลัว พี่ก็ชอบทำแบบนี้” ศศินอ้อมไปกอดคนอายุมากกว่าจากทางด้านหลัง ก่อนจะซบใบหน้าไว้กับไหล่ข้างขวา

       ครั้งหนึ่งคนๆนี้เคยทำแบบนี้กับเขาเหมือนกันตอนที่เขาบอกว่าเขากลัวผี และใช่..การกอดแบบนี้ทำให้ความกลัวในใจของเขาตอนนั้นมันลดลงไปได้เยอะเลย

       “พี่หายกลัวรึยังครับ” เสียงหวานของเด็กดื้อดังอยู่ใกล้หู ลมหายใจร้อนๆของเด็กนี่เป่ารดข้างคอของธนา

       ความกลัวในใจเขาเริ่มทุเลาลงจริงๆ..



       “ศศิน” ธนาเอี้ยวตัว ก่อนจะหันหน้าไปหาน้อง ใบหน้าของเด็กดื้ออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงคืบ

       “…”

       คนตัวเล็กกว่าสบตากับเขา สายตาที่มองมานั้นน่าแปลกที่สำหรับธนาแล้วเหมือนมันกำลังจะดูดกลืนทุกๆสิ่งในตัวเขา ไหนจะริมฝีปากสีระเรื่อนั่นที่อยู่ห่างจากปากเขาเพียงเสี้ยวนิ้ว

       “ผมรักพี่นะ” ศศินพูดออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ซึ่งมันทำให้คนตรงหน้าของเขาหัวใจเต้นถี่รัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอกเลยทีเดียว

       เสี้ยววินาทีต่อมาริมฝีปากสีระเรื่อนั่นก็ตกเป็นของเขาทันที..

       ลิ้นร้อนของธนาสอดเข้าไปในเรียวปากนุ่มเพื่อตักตวงความหวานของรสจูบ เด็กดื้อหลับตาพริ้ม..ก่อนจะตอบสนองต่อลิ้นนั้นด้วยการใช้ลิ้นนุ่มของตัวเองคลอเคลียภายในโพรงปาก



       “…” หลายนาทีต่อมาร่างของเด็กดื้อก็ถูกวางนอนลงบนเตียงนุ่ม โดยมีธนากำลังอยู่บนร่างของเขา สายตาจากดวงตาคู่ล้ำของทั้งสองปะทะกัน เขาส่งผ่านความรู้สึกทางสายตานั้นโดยไม่ต้องเอ่ยเอื้อนอะไร

       ‘พี่ก็รักศศินนะ’ เด็กน้อยขอเข้าข้างตัวเองละกันว่าสายตาหยาดเยิ้มของคนตรงหน้ากำลังส่งสารนี้ถึงเขา



       เนิ่นนานจนเวลาผันผ่านไปร่วมสองชั่วโมง ชายทั้งสองที่พึ่งเสร็จจากการประสานความรักซึ่งกันและกันนอนกอดกันอย่างแนบชิด

       ธนายอมรับว่าการมีเซ็กส์กับเด็กน้อยคนนี้มันทำให้เขารู้สึกดีเสมอ และรู้สึกดีกว่าการมีเซ็กส์กับผู้หญิงเสียอีก

       ถึงแม้ไม่ได้วาบหวามอะไร ซ้ำยังเป็นไปอย่างละมุนละม่อมอ่อนโยน  แต่เขากลับรู้สึกตื่นเต้น มีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

       “พี่มีความสุขมั้ยครับ”

       “พี่หรอ.. พี่มีความสุขมากเลย เราล่ะ?”

       “ผมก็มีความสุขเหมือนกัน”

       “เจ็บรึเปล่าศศิน? พี่ขอโทษนะ”

       “ไม่เป็นไร …ผมยอมเจ็บถ้าเจ็บแล้วได้เห็นพี่มีความสุข”



       ค่ำคืนที่หนูน้อยไร้เดียงสาเฝ้ารอก็มาถึง ..คืนที่จะได้หลับไหลไปในอ้อมกอดอุ่นของพี่ชายที่เขารักสุดหัวใจ

       ธนานอนกอดน้องจากทางด้านหลังพร้อมกับซบใบหน้าลงตรงหลังคอ …ไม่นานนักทั้งสองคนผล็อยหลับไป



       ทว่า… ในคืนวันเดียวกันนั้น เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องกลบกลืนความมืดมิด คนโสมมพวกนั้นก็ได้กลับมาอีกครั้ง..



       “กูบอกแล้วว่าแม่งอยู่นี่! นี่ไงไอ้สัดนอนกกกันยังกะกกลูกหมา!”

       “เฮ้ย จะทำอะไรน้องกู! ปล่อย!”

       “พี่! หนีไป หนีไปซะ ออกไปทางหน้าต่าง ออกไป!!!!” ศศินน้ำตาไหลอาบแก้มพร้อมกับตะโกนบอกให้ธนาออกไปจากตรงนี้อย่างสุดเสียง ทำได้เพียงเท่านี้เพราะเด็กน้อยถูกพวกมันรวบแขนไว้ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือพี่ของเขาได้อย่างที่ตั้งสัจไว้เลย

       “จะให้พี่ทิ้งศศินหรอ? พี่จะทำได้ไง!”

       “ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น พี่ไปเลย ไปเดี๋ยวนี้… ออกไป” เด็กน้อยดิ้นรนทั้งน้ำตา เสียงที่เปล่งออกไปเริ่มอ่อนลงๆเพราะความเหน็ดเหนื่อย แสงจากพระจันทร์เสี้ยวกำลังจะถูกบดบังจากแสงอาทิตย์ในอีกไม่ช้า

       “พี่ขอโทษนะ..”

       “ไอ้เหี้ย! มึงไปจับไอ้เวรนั่นมา อย่าให้มันหนีไปไหนได้ เสร็จแล้วเอาไปให้บ้านวิวัฒชัยตระกูลเลย!”



       ...เปลวไฟร้อนแรงสีแดงสดค่อยๆปะทุขึ้นตามกายหยาบปลอมๆของวิญญาณตนนี้

       “!!!” เสียงกรีดร้องอย่างทรมานจากความเจ็บปวดดังระงมไปทั่วบริเวณเมื่อเปลวไฟอันร้อนแรงเริ่มแผดเผาร่างกายที่เขาสิงสถิต

       “เฮ้ย!” คนพวกนั้นตกใจอย่างสุดขีดเมื่อเห็นภาพอันน่าสะเทือนใจตรงหน้า จู่ๆก็มีไฟลุกตามตัวของเด็กน้อยที่เขากำลังตรึงร่างไว้ด้วยแขนแกร่ง

       “เหี้ย โอ๊ย!” ชายคนนั้นอวดครวญด้วยความเจ็บปวดจากประกายไฟที่โดนตัวเขา



       ใช่แล้ว นี่ต่างหากคือการแตกสลายหายไปยามเมื่ออาทิตย์อุทัยของศศิน

       แสงจันทร์หายไปเมื่อไหร่ไฟนรกก็จะเผาร่างกายเขาทันที แผดเผาจนกว่าจะมอดไหม้จนเหลือแค่ธุลีสีดำ



       ‘พี่ก็รักเราเหมือนกันนะ’




ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
  แรมสิบสี่ค่ำ

       ศศินรู้สึกตัวขึ้นท่ามกลางบรรยากาศเงียบเหงาในความมืดดังเดิม หากแต่วันนี้ค่อนข้างมืด ..มืดจนในใจของเด็กน้อยรู้สึกหวั่นกลัว

       ข้างนอกมีพระจันทร์เสี้ยวสีเลือดกำลังแสยะยิ้มต้อนรับค่ำคืนอันแสนโหดร้ายของศศิน



       บ้านวิวัฒชัยตระกูล? บ้านของเขาเองไม่ใช่หรอ..



       เด็กน้อยไม่รอช้า เขารีบออกไปเพื่อจะไปยังบ้านหลังนั้นทันที

       ไม่นานนักเขามาถึงที่หมาย และไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรให้มากความเลย เมื่อยามหน้าประตูเห็นว่าคุณหนูกลับมาบ้านแล้วเขาก็รีบเปิดประตูต้อนรับทันที



       “ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับคุณศศิน ไปไหนมาครับกลับดึกเชียว” ลุงอายุมากกว่าโค้งคำนับให้เขา เด็กน้อยยกมือขึ้นปัดๆเป็นเชิงว่าไม่ต้องแสดงความเคารพอะไรกันก็ได้ ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้านด้วยความเร่งรีบ



       ทำไมต้องจับพี่ธนามาที่นี่กันล่ะ? ความสงสัยเกิดขึ้นในใจ



       และไม่นานต่อจากนั้นเด็กน้อยไร้เดียงสาก็ได้รับรู้



       “มึงคิดหรอว่าเงินสองแสนที่มึงให้กูมามันจะทำให้มึงรอด? โถ ไอ้โง่เอ๊ย มึงนี่โง่เหมือนพ่อมึงจริงๆ” เสียงคุ้นหูดังเข้ามาในโสตประสาททันทีที่ศศินแทรกตัวเข้าไปในบ้าน

       เสียงของพ่อ..



       “รู้รึยังว่าที่พ่อมึงตายก็เพราะเป็นแบบนี้?”

       “…”

       “เหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูกจริงๆ!”

       “คุณ…ทำอะไรพ่อผม..”

       “ก็…เอาปืนลั่นกระบาลแบบนี้ไง!” ชายวัยใกล้ชรายกกระบอกปืนขึ้นมาจ่อหัวเด็กหนุ่มเจ้าของโชคชะตาอันแสนโหดร้าย แต่ก็แค่ขู่เท่านั้น เขายังไม่ได้เหนี่ยวไก

       “ไอ้ชั่ว!!!” “ไอ้ตำรวจชั่ว!!!!”

       ผัวะ!!

       กระบอกปืนแข็งๆฟาดลงบนแก้มนุ่มของเด็กหนุ่มคนนั้น

       “แค่ยามึงยังไปส่งให้กูไม่ได้มึงยังมีหน้ามาพรากลูกกูไปอีกหรอวะไอ้เด็กเวร!!” ชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของศศินตวาดลั่น ส่วนหนูน้อยที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลก็เริ่มปะติดปะต่อชิ้นส่วนเรื่องราวอะไรหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน



       ‘ศศิน ถึงศศินจะรู้ว่าความจริงเป็นยังไงแต่ไม่ต้องไปบอกใครหรอกนะ พี่เป็นห่วงเรา’

       ‘ทำไมล่ะ?’

       ‘พี่แค่ถูกยัดยา ติดคุกไม่นานก็ได้ออกมาแล้ว ..ออกมาหาศศิน’



       ‘พ่อ ทำไมพ่อถึงจับพี่ธนาเข้าคุกเลยอะ ปกติมันมีขั้นมีตอนไม่ใช่หรอ!! ทำไมทำแบบนี้!’

       ‘ยังจะต้องทำขั้นทำตอนอะไรอีก มึงก็เห็นอยู่เต็มตาว่ามันผิด แล้วนี่ใครสั่งใครสอนให้ขึ้นเสียงใส่กูวะไอ้ศิน’

       ‘ผิดหรอ..? พี่ธนาผิดอะไรล่ะ ผิดที่ไม่ยอมรับยาจากมือพ่องั้นหรอ!!!’

       ‘ไอ้ศิน! ระวังปากหน่อย ไอ้ลูกนอกคอก’

       ‘ให้อยู่คอกเดียวกับพ่อผมไม่อยู่หรอก ..ทำไมพ่อทำแบบนี้ ทำไม..’

       ‘ไม่อยากอยู่มึงก็ไปให้พ้นๆตากูซะ ไป๊!’



       ศศินได้รู้แล้วว่าพ่อของตนผู้ที่ใครๆต่างเคารพยำเกรงแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร อาชีพตำรวจที่อุตส่าห์ร่ำอุตส่าห์เรียนจนได้ไต่เต้าขึ้นเป็นถึงผู้ว่าการ สุดท้ายแล้วเงินและอำนาจที่พ่อเขามีก็พรากพ่อที่แสนใจดีคนเดิมของเขาไป



       ‘ธนา พี่ฝากไปส่งนี่หน่อย’

       ‘อะไรอ่ะพี่?’

       ‘ไม่รู้เหมือนกัน คุณท่านฝากมา’

       ‘เฮ้ยพี่! ไม่เอา ไม่ไป อะไรเนี่ย!’

       ‘มึงไปแทนกูหน่อยไม่ได้รึไงวะ กูไม่ว่างไอ้สัด กูว่างกูไปเองแล้ว’

       ‘ไม่ไปพี่ อย่าเอาของแบบนี้มายุ่งกับผม’

       ‘อะไรกันฮึ?’

       ‘คุณท่าน..’

       ‘ผมใช้ให้ไอ้ธนามันไปส่งของที่ท่านสั่งครับ แต่มันไม่ยอมไป’

       ‘ช่างมันปะไร มันไม่ยอมไปก็เอาเสื้อผ้ามันไปโยนทิ้งนอกบ้านให้หมด’



       ‘ท่านครับ ผมบังคับให้มันไปได้แล้ว แต่ว่าไอ้ธนาโดนจับครับ เอายังไงดีครับท่าน นั่นไม่ใช่น้อยๆเลยนะครับ’

       ‘เดี๋ยวเรื่องนี้กูจัดการเอง ไอ้เด็กเวรนี่ก็โง่จริงๆ’

       ‘มีอีกเรื่องครับ ตอนนี้นักข่าวมาเต็มเลยท่าน ทำยังไงดีครับ’

       ‘กันออกไปให้หมด’



       ‘ท่านครับ ฝั่งนู้นเขาโทรมาหาเราหลายรอบแล้วว่ายาที่เขาสั่งเมื่อไหร่จะได้’

       ‘อะไรอีกวะ!’

       ‘เขาทวงมาหลายรอบแล้วนะครับท่าน’

       ‘อยากได้ก็ให้มันไปเอาที่สถานีตำรวจเองสิวะ! โว้ยหงุดหงิดโว้ย ไอ้เด็กเหี้ยนั่นทำเรื่องวุ่นวายไปหมด คอยดูนะออกมาเมื่อไหร่กูจะฆ่าให้ตาย’



       “ผมไม่ได้พรากใครไปไหนทั้งนั้น! ศศินเขาอยากอยู่กับผม!” ธนาประกาศเกล้าอยากไม่เกรงกลัวต่ออำนาจยักษ์ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ความอดทนที่กลั้นมาตลอดขาดสะบั้นลงแล้ว

       “เด็กอยากมึงนี่มันเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ เอาตัวมันไป!” คนเป็นพ่อชี้นิ้วสั่งลูกน้องให้เอาตัวธนาไปเพื่อปลิดชีวิต แต่หนูน้อยที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดกับตาแสดงตัวออกมาซะก่อน

       “พ่อหยุด!”

       “…” คนเป็นพ่อหันมาตามเสียง ทว่าทันทีที่ได้เห็นว่าเป็นใครอารมณ์ที่ครุกรุ่นอยู่แล้วก็ปะทุขึ้นมา

       ไอ้ลูกเมียน้อยนี่ก็อีกคน.. กูอุตส่าห์ดูแลดิบดี สุดท้ายหมาอย่างพวกมึงก็ยังจะเป็นขี้เรื้อน

       “ศศินมาทำไม ออกไป!” ธนาร้องลั่นด้วยความเป็นห่วง

       “..ผมมาช่วยพี่แล้ว” เด็กดื้อหันไปยิ้มตอบ ก่อนจะประกาศเกล้าออกคำสั่งต่อพวกลิ่วล้อของพ่อตัวเอง “ปล่อยเขา”

       “…” หากแต่ไม่มีใครทำตามที่เขาสั่งแม้ซักคน

       “ลูกกูได้ตายห่าจากกูไปนานแล้ว ต่อแต่นี้จะไม่มีใครเคารพมึงอีกแล้วไอ้ศิน” คนเป็นพ่อคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์บอกแก่เขา “เอาตัวมันไป”

       “พี่ธนา!!!” เด็กน้อยทำได้แค่ส่งเสียงเรียก แต่ก็ไม่สามารถหยุดคนเหล่านั้นได้ ร่างโทรมของพี่ชายเขาถูกลากออกไปแล้ว

       “ทำไม..ทำไมพ่อทำแบบนี้อีกแล้ว..” น้ำตาเม็ดใสไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ครั้นจะวิ่งตามออกไปพวกลิ่วล้อก็ขวางทางจนทำได้แค่ยืนอยู่ตรงนั้น

       “สั่งสอนมึงไงไอ้ลูกเวร!” คนเป็นพ่อชี้หน้าด่า “มึงหนีไปกับมันมึงไม่สนใจใยดีกูบ้างหรอว่ากูจะรู้สึกยังไง”

       ถึงจะด่าว่ายังไงสุดท้ายแล้วคนเป็นพ่อก็ยังเป็นพ่ออยู่ดี

       “แล้วพ่อรู้สึกยังไงหรอ? ดีใจ? มีความสุข?”

       “…”

       “พ่อเห็นแก่ตัวขนาดไหนพ่อรู้รึเปล่า.. ผมไม่เคยมีความสุขเลยตลอดเวลาที่อยู่กับพ่อที่บ้านหลังนี้ ...พี่เขาเป็นคนเดียวที่เป็นความสุขของผม แต่พ่อก็ยังจะทำร้ายเขา.. หยุดเถอะนะ หยุดเถอะนะพ่อ”

       “…”

       “ปล่อยเขาไปเถอะนะพ่อนะ.. ปล่อยเขาไป เขาไม่เคยเกลียดพ่อเลย จงรักภักดีกับพ่อมาตลอด แต่ผมเนี่ย.. ผม.. เกลียดพ่อจะตาย ทำผมไม่ดีกว่าหรอ.. ทำผมดีกว่านะพ่อนะ..”

       “มึงเคย..เห็นกูเป็นพ่อบ้างมั้ยวะ”

       “…”

       “ทำไมมึงไม่สงสารกูบ้าง.. มีใครที่รักกูจริงๆบ้างหรอในชีวิตนี้ แม่มึง แม่เลี้ยงมึง พี่สาวมึง หรือแม้แต่มึงเองก็ยังคิดแบบนี้กับกู..”

       “…”

       “กูทำทุกอย่างเพื่อความสุขของพวกมึง ถึงแม้กูจะไม่ได้รับความสุขตอบแทนมาเลย..”

       “ศศิน!!” เสียงของธนาดังขึ้น เขาวิ่งอย่างเร็วรี่เข้ามาในบ้านเพื่อมาหาน้องของเขา สภาพที่สะบักสะบอมแทงลึกลงไปในใจของคนที่เห็นอย่างศศิน

       “สงสัยต้องให้กูลงมือเอง..” คนเป็นพ่อโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาหยิบปืนกระบอกนั้นที่เคยยิงขู่ขึ้นมาจ่อไปที่หัวของธนา ทันทีที่คนอื่นๆเห็นแบบนั้นก็แตกตื่นกันไปหมดทั้งแม่บ้าน หรือแม้แต่พวกลิ่วล้อ



       ชายหนุ่มเจ้าของโชคชะตาโหดร้ายเมื่อเห็นปลายกระบอกปืนชี้ตรงมาที่หัวของตัวเองแบบนั้นแล้วจึงยอมจำนนต่อมัน ก่อนจะหันมาหาเด็กดื้อที่อยู่ข้างๆเขา

       เขาคลี่ยิ้มบางๆ สบตากับเด็กดื้อ



       “ที่ผ่านมา…มีความสุขรึเปล่า?” คนตัวสูงกว่าเอื้อนเอ่ยด้วยสายตาที่พร่าเบลอไปด้วยม่านน้ำตา

       “…” น้ำตาเม็ดใสไหลอาบแก้มเด็กดื้อ เขาจับมือพี่ของเขาไว้แน่นเพื่อหวังคลายความกลัวที่จะเกิดขึ้นในจิตใจของธนา เขารู้ดี และเขาไม่อยากให้คนตรงหน้ากลัว

       “ตอบพี่ก่อน..”

       “ครับ ..ผมมีความสุขมาก”

       ปัง!!!!!!!!

       ไกปืนที่ถูกเหนี่ยวถูกปล่อยออก เม็ดกระสุนความเร็วสูงพุ่งไปเสียบแทงทะลุกลางแผ่นหลังบาง..

       “ศศิน!!!”

       หนูน้อยกอดพี่ชายของเขาเพื่อใช้ตัวเองเป็นเกราะกันกระสุนให้ฮีโร่คนเก่งของเขา

       เลือดสีสดหยดแหมะลงบนพื้นกระเบื้องสีเบจ ท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้น เด็กน้อยคลายอ้อมกอดออกมาหลวมๆเพื่อสบตากับคนที่เขารักอีกครั้ง ..สีหน้าของพี่ที่เขาเห็นนั้นดูร้อนรนไปหมด คนตรงหน้าเขาพูดอะไรซักอย่างออกมา แต่หูเขาตอนนี้มันก็อื้ออึงจนไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้ว

       มือเล็กเอื้อมไปแตะแก้มพี่ เขามองดูใบหน้าของคนผู้เป็นที่รักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบางๆ

        “ผมไม่เจ็บหรอก พี่ไม่ต้องห่วงผม ผมยังยิ้มได้อยู่เลย เนี่ย..เห็นมั้ย”

        “…” พี่มองรอยยิ้มของน้องด้วยหัวใจที่แตกสลาย สายตาของน้องเริ่มเลื่อนลอย จนสุดท้ายแล้วร่างของน้องก็แน่นิ่งไปในที่สุด



       ธนาถูกผู้เป็นพ่อที่กำลังกรีดร้องอย่างเจ็บปวดผลักออกไป เขายกร่างลูกของเขาขึ้นมาในอ้อมอกถึงแม้ขาสองข้างจะสั่นเทาจนแทบทรงต่อไม่อยู่แล้ว แต่ผู้เป็นพ่อก็ยังจะฝืนเดินไปทีละก้าวทีละก้าวเพื่อพาลูกน้อยที่กำลังเจ็บไปโรงพยาบาล

       

       ‘ผมไม่ได้ไปไหนไกลหรอก... อยู่ตรงนี้ ‘ศศิน’ เฝ้ามองพี่จากตรงนี้... บนท้องฟ้า’’





     

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1




       คืนเดือนดับ

       ศศินรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งในบรรยากาศเดิมๆ ห้องเดิมๆ ลำตัวของเขาไม่มีบาดแผลใดๆ ทุกอย่างปกติราวกับถูกรีเซ็ทใหม่ หากแต่วันนี้ที่เขารู้สึกตัวขึ้นมานั้นเขากลับไม่ได้คนเดียว ใครคนหนึ่งกำลังนอนตัวสั่นอยู่ข้างๆเขา

       “…” เด็กน้อยขยับพลิกตัว ซึ่งพอขยับก็ทำให้ได้รู้ว่าเขากำลังนอนทับอะไรบางอย่างอยู่ ..เสื้อ? เสื้อของเขานี่..

       ศศินเปรยสายตาไปมองคนที่กำลังนอนตัวสั่น ก่อนจะพบว่านั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ธนานั่นเอง…ชายที่เขาพลีชีวิตเพื่อช่วยเหลือ อา..แต่จะเรียกว่าชีวิตก็คงไม่เต็มปากเต็มคำเท่าไหร่

       อย่าบอกนะว่าธนาก็นอนร้องไห้กอดเสื้อเหมือนที่เขาเคยทำ..



       “โอ๊ย..” หากแต่แม้เพียงแรงที่จะลุกขึ้นนั่งศศินก็ไม่สามารถทำได้ ร่างกายของเขาเบาหวิวจนแทบจะเหมือนไร้น้ำหนัก แขนขาไร้เรี่ยวแรงใดๆ

       “…?” ทันทีที่ได้ยินเสียงอวดครวญธนาก็ปรือตาขึ้นมา เขามองไปตรงหน้าก่อนจะพบกับใครคนหนึ่ง …ที่ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อคืน

       “พี่..พี่ร้องไห้หรอ” เด็กน้อยเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าที่แดงก่ำเต็มไปด้วยคราบน้ำตาของพี่ธนา

       “ศศิน?” เขากะพริบตาปริบๆ แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าคนโชคร้ายอย่างเขายังมีโชคร้ายกว่านั้นนั่นคือกำลังถูก …ผีหลอก!

       “..ครับ?” เด็กน้อยที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรต่อจากที่ตัวเองหยุดหายใจไปเมื่อคืนทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจอาการตาเบิกโพลงด้วยความตกใจของคนตรงหน้า

       “นะโมตัสสะ..” คนขี้กลัวสวดมนต์ในทันที เด็กน้อยหลุดขำ ก่อนจะจับมือที่กำลังพนมอยู่ ..มีความโคตรท้าทายต่อพระศาสนาเวอร์ๆ

       “ไม่ต้องกลัวผมหรอก ผมไม่เคยคิดทำร้ายพี่”

       “…”

       “แน่ะ ยังจะสวดอีก สวดแค่นี้ผมจะไปสะทกสะท้านอะไรเล่า” เด็กน้อยหัวเราะร่วนไม่หยุดเมื่อเห็นคนนอกรีตจากศีลจากธรรมอย่างพี่เขากำลังสวดมนต์

       “ศ..ศศิน..จริงๆหรอ” คนเป็นพี่ตะกุกตะกักเงยหน้าขึ้นสบตากับสิ่งที่ตนคิดว่าเป็นวิญญาณ แต่ก็แปลกใจเพราะคนตรงหน้าไม่ได้โปร่งแสงเหมือนที่เคยเห็นในหนัง แถมคำพูดคำจายังชัดเจนกระทัดรัดไม่ได้หย่อนยานแบบช่วยยยด้วยยยย อีกทั้งยังไม่ได้ใส่ชุดผ้าดิบสีขาวยาวๆ แล้วก็มีขาด้วย..ไม่ได้จางหายไปกับอากาศ

       “ผมเอง ไม่ใช่ผมแล้วจะเป็นใคร” ทันทีที่ได้ยินเด็กดื้อตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอันคุ้นชินเขาก็โผกอดทันที

       “…” คนเป็นพี่สะอื้นไห้ซุกไซร้กับไหล่และข้างๆคอของเด็กน้อยพลางบ่นพึมพัมว่าเป็นห่วงแทบแย่ คิดว่าจะตายจริงๆแล้วซะอีก อย่าไปไหนนะ ฯลฯ

       “อย่าร้องไห้สิ ยิ้มสิครับ แบบนี้” เด็กดื้อคลายอ้อมกอดก่อนจะพยายามรวบรวมแรงดึงแก้มพี่จนยืด แต่ก็ได้แค่เดี๋ยวเดียวเพราะตัวเองเหนื่อยล้าเกินกว่าจะทำอะไร …นี่คงเป็น..คืนสุดท้ายแล้วสินะ?

       “เกิดอะไรขึ้น พี่นึกว่าเราจะเป็นอะไรไปจริงๆซะอีก นี่หมออำพี่เล่นใช่มั้ย หรือพี่กำลังฝันอยู่” ธนาพร่ำสิ่งที่คิดออกมารัวๆ

       “พี่ครับ” เด็กน้อยที่เห็นปฏิกิริยาลนลานของอีกฝ่ายแล้วก็หลุดขำ

       “พ่อเราก็โกหกพี่ใช่มั้ย.. อะไรวะเนี่ย ทำไมมีแต่คนโกหกพี่อะ..” นั่น ยัง ยังไม่หยุด

       “พี่ธนาครับ”

       “…”

       “ก้มมาหน่อย.. ผมลุกไม่ไหว..” คนฟังทำหน้างง แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร ธนาก้มลงไปหาใบหน้าหวาน และทันทีที่ก้มลงไปก็ถูกเจ้าเด็กดื้อคนนี้ขโมยจูจุ๊บของเขาไป

       “ไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว นี่ผมเอง” เด็กดื้อยิ้มที่ได้เห็นท่าทีน่ารักๆของคนเป็นพี่

       “จูบได้ไหม? ไม่ใช่ผีจริงๆใช่ไหม?” พี่เมื่อได้ยินแบบนั้นก็คลี่ยิ้มบางๆออกมา แต่ว่ามันไม่ใช่ยิ้มบริสุทธิ์ มันเจ้าเล่ห์!

       “โธ่ ยังจะสงสัยอีก” เด็กน้อยอิดออด ก่อนจะถูกขโมยจูจุ๊บบ้าง

       “ไหน ยังไม่แน่ใจเลย เอาใหม่ซิ” แล้วก็โดนขโมยไปอีกรอบ

       ”ฮื่มม ยังเลยแฮะ” แล้วก็อีกรอบ



       ก่อนจะจบด้วยการทาบริมฝีปากอุ่นประกบกัน รสจูบแสนหอมหวนนี้ยังคงอบอวลไปด้วยความอ่อนโยนเสมอ เด็กดื้อหลับตาพริ้มยอมจำนนกับความหอมหวานที่พี่เขามอบให้

       เวลาผันผ่านไปอย่างเชื่องช้า พี่เขาก็ยังคงบรรจงจูบกับเด็กดื้ออยู่แบบนั้น เม็ดน้ำตาใสเม็ดหนึ่งไหลพาดผ่านข้างแก้มของศศิน

       มันไม่ใช่หยดน้ำตาจากความเจ็บปวดหรือเศร้าสร้อยแต่ว่าเป็นหยดน้ำตาแห่งความสุข ศศินมีความสุขเหลือเกินกับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ ในใจก็อยากให้เป็นแบบนี้ต่อไป แต่เขาก็รู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นอย่างนั้น

       “พี่ครับ” เด็กน้อยสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะผ่อนออก ความรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายขณะหายใจนี่ ศศินจะจดจำไปไม่มีวันลืมแน่นอน

       “ว่าไงเด็กดื้อ”

       “พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรเลยนะ ผมเลือกเอง”

       “…”

       “..ผมก็แค่..อยากตอบแทนพี่”

       “…”

       “พี่อาจจะไม่ใช่คนดี ..แต่สำหรับผมพี่คือฮีโร่”

       “…”

       “ฮีโร่ที่ช่วยผมเดิน.. ฮีโร่ที่สอนผมให้จับตะเกียบให้เป็น ฮีโร่ที่สร้างความสุขให้ผมได้เป็นอย่างดี ฮีโร่ที่คอยดูแลผมตั้งแต่เด็ก อยู่กับผม เล่นอะไรไร้สาระกับผมทั้งๆที่พี่โตแล้ว”

       “…”

       “ ..นอนด้วยกัน เล่านิทานให้ผมฟัง ดึงผมเข้าไปอยู่ในเซฟโซนที่ปลอดภัยที่สุดซึ่งก็คือ้อมกอดของพี่”

       “…”

       “พี่เป็นคนดี พี่ไม่ควรที่จะมาเจอเรื่องราวแบบนี้เลย ทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายให้ฮีโร่ของผมเป็นแพะรับบาปกันนะ?”

       “ศศิน..?”

       “ผมสัญญากับพี่ไว้แล้วว่าจะปกป้องพี่ ..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

       “สัญญาหรอ? จริงสิ ทำไมต้องสัญญากับพี่ล่ะ”

       “ผมไม่รู้ ผมก็แค่อยากปกป้องพี่”

       “…”

       “ปกป้องคนที่ผมรัก”

       “…”

       “ผมรู้ ว่าพี่อาจจะไม่ได้รักผม”

       “…”

       “แต่แค่ผมรักพี่..เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว”

       “ศศิน..? ทำไมพูดแบบนี้ พี่ไม่เข้าใจ รู้สึกผิดอะไร?”

       “ไม่สำคัญหรอกครับ ขอแค่พี่อย่ารู้สึกแบบนั้นขึ้นมาก็พอ” เด็กดื้อคลี่ยิ้มให้พี่ของเขา “คืนนี้นอนกอดผมอีกได้ไหม?”

       “ทำไมจะไม่สำคัญล่ะ เราพูดมาแบบนี้แล้วจะไม่ให้พี่คิดมากเลยหรอครับ หื้ม” ถึงคนโตกว่าจะบ่นอิดออดแต่ก็ยังทำตามที่เด็กน้อยขอ เขาขยับกลับไปนอนลงข้างๆศศิน ก่อนจะใช้แขนแกร่งสร้างเซฟโซนพาดผ่านลำตัวของเด็กดื้อ

       “ผมไม่ได้อยากให้พี่คิดมาก ผมแค่อยากให้พี่คิดถึงผม” ได้ยินแบบนั้นแล้วหัวใจที่พองโตของธนาก็สั่งการให้เขาไปหอมแก้มน่าฟัดนั่นฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยว

       “ถ้าพี่เป็นความดันขึ้นมา พี่จะโทษเราคนเดียวเลยข้อหาทำให้พี่คิดถึงมากๆ” คนโตกว่า รวมคำว่า ‘คิดมาก’ กับ ‘คิดถึง’ เข้าด้วยกันจนทำดาเมจกลับไปให้เด็กดื้อในอ้อมแขนจนแก้มขึ้นสีระเรื่อ

       “เป็นแบบนั้นไม่ดีแล้วล่ะสิ”

       “เป็นห่วงพี่หรอ?”

       “ลำบากหมอ”

       “…” สาบานได้ไหมว่าที่บอกรักกันนั่นคือความจริง

       “ล้อเล่นวุ้ย นี่ก็”

       “ไม่เห็นเราทำตัวล่อตีนแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่สมัยเด็กๆนู่นมั้ง...ใช่มั้ย เด็กดื้อ” ธนาบีบจมูกคนในอาณัติด้วยความเอ็นดู

       “แล้วไม่คิดว่าผมจะล่ออย่างอื่นบ้างหรอ”

       “…”

       “อย่างเช่น..” เด็กน้อยแกล้งถลุมตามองต่ำไปช่วงเอวของพี่เขา แน่ะพอได้กวนแล้วก็กวนใหญ่เลยทีนี้ ดื้อสมกับที่พี่เขาเรียกจริงๆนั่นแหละ

       “แล้วถ้าล่อแล้วได้จริงๆล่ะ” คนโตกว่ายิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะขึ้นมาบนร่างของเด็กดื้อ

       “เป็นไงครับ ล่อพี่อีกสิ?” พี่ก็ยังคงเล่นหูเล่นตาไปอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งน้อง ส่วนน้องจากตอนแรกที่ซ่าๆตอนนี้ก็เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วว่าพี่มันจะทำจริงๆ และ..พี่มันก็ทำจริงๆ

       ตัดภาพไปที่โคมไฟ





       “พี่ครับ” เด็กน้อยส่งเสียงเรียกพี่ธนาหลังจากที่พึ่งตุ้งแช่กันมาจนตอนนี้ใกล้จะเช้าแล้ว

       “ครับ ว่าไงยอดนักขี่ม้า” น้องถึงกับงุดหน้าก้มหนีทันทีเลยทีเดียวเชียว

       ”…พี่แซวได้เลวมาก” ก่อนจะทุบหมัดลงกับอกแกร่งนั่นเบาๆเอาคืน

       “ฮ่าๆ”

       “หัวเราะก็ปลอมมาก โห่ หมดมู้ดเลยพี่อะ ผมกำลังจะซีเรียส”

       “เรื่องซีเรียสเรื่องไหนกันที่เด็กดื้อแบบเราอยากจะพูด?” ธนายังคงน้ำเสียงก่อกวนหัวใจนั้นต่อไป ไม่ใช่แค่หัวใจจริงๆก็ล่อตีนด้วย

       “พี่ สมมุติว่า…วันนึงผมไม่อยู่กับพี่แล้ว พี่จะอยู่ได้มั้ย.. พี่จะมีความสุขรึเปล่า..”

       “…”

       “ขอโทษนะที่ถามอะไรแปลกๆ อีกอย่างพี่ก็น่าจะอยู่ได้อยู่แล้ว พี่มีคนให้รู้จักอีกตั้งมากมาย แฟนของพี่ด้วย”

       “วันนั้นที่พี่บอกว่าพวกนั้นมันไปบ้านแฟนพี่ ..พี่ไปบอกเลิกเขาแล้วล่ะ”

       “…”

       “พี่พึ่งรู้ตัวเองว่าไม่ได้รักเขาจริงๆ”

       “…”

       “ถ้าไม่มีเราหรอ.. พี่คงกลับไปปลูกผักปลูกหญ้าที่บ้านเกิดนู่นละมั้ง อ้อจริงๆก็มีเลี้ยงวัวเลี้ยงควายด้วย พี่จะทุกกิจกรรมเลยที่ทำแล้วลืมความเศร้าที่ไม่มีเราไปได้ แต่ถ้าไม่เหลืออะไรให้ทำแล้วก็อาจจะนั่งคุยกับไส้เดือนล่ะมั้ง ส่วนความสุขพี่จะพยายามหามันมาให้ได้แม้แต่ต้องขุดลงไปลึกขนาดไหน”

       “อะไรของพี่วะเนี่ย55555” ในใจ ‘เหี้ยไรวะไอ้สัด555555’

       “ไม่รู้เหมือนกัน ไม่อยากคิดถึงวันนั้นเท่าไหร่”

       “…”

       “ชื่อของเรา.. ‘ศศิน’ แปลว่าพระจันทร์ใช่มั้ยล่ะ ถ้าไม่มีเราอยู่ข้างๆพี่แล้ว พี่คงต้อง...นั่งมองจันทร์ทุกคืนละมั้ง เผื่อจะให้ความรู้สึกเหมือนได้นั่งมองเรา”

       “…”

       “เออแต่มันควรจะเป็นพี่รึเปล่าวะที่จากเราไปก่อน”

       “…”

       “เอางี้ดีกว่า ใครจากไปก่อนแพ้ แต่คนชนะต้องไปนั่งคุยกับไส้เดือน” คนอายุมากกว่าพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก ซึ่งมันก็ทำเอาคนอายุน้อยกว่าหัวเราะไปด้วยได้ดีเลยทีเดียว หากแต่เสี้ยวลึกๆของเสียงหัวเราะกลับเป็นความเศร้าโศกที่ไม่สามารถเอ่ยออกไปได้

       “ตกลงตามนี้นะครับ” พี่เขาพูดเองเออเองไปเลยเด้อ ณ จุดๆนี้

       “พี่ครับ”

       “หืม?”

       “ผมรักพี่นะ ถึงจะไม่มีผมแต่พี่ต้องมีความสุขนะ ขุดหาความสุขให้เจอ”

       “…”

       “นะครับ”

       “พี่ก็รักเราเหมือนกันนะ”

       “…” เด็กดื้อผัวใจพองโต เลือดสูดฉีบไปกระจุกอยู่ที่พวงแก้มตุ่ยๆของเขาอย่างหนัก

       “มาดูกันดีกว่าว่าใครกันแน่จะต้องไปขุดหาความสุข”



       เด็กดื้อกับพี่ของเขายังคงคุยกันสัพเพเหระหาสาระไม่ได้ต่อไปแบบนั้นจนไม่นานนักคนเป็นพี่ก็หาวหวอดใหญ่อัดหน้าน้องหนูในอ้อมกอด ถามว่าใครจะยอมอะ เด็กดื้อเอาคืนสิรออะไร หาวอาจจะยังคอนโทรลลมกลิ่นที่ต้องการพ่นไม่ได้ แต่อ้าปากเสกพระพายแบบที่เขาทำนี้คนเป็นพี่รับกลิ่นปากเข้าไปเต็มๆ

       ล้อเล่นหน่า มันก็ไม่ได้เหม็นขนาดนั้น ดูดิพี่เขายังจูบกลับด้วยความหมั่นไส้เด็กดื้อของเขาเลย

   

       ‘ฝันดีนะครับพี่’ น้องบอกพี่

       ‘ฝันดีครับ’ พี่บอกน้อง ...เป็นคำหวานที่ดังอยู่ข้างๆหูคำสุดท้ายที่ศศินจะได้ยิน อาจจะดูน่าเศร้าแต่ศศินกลับคลี่ยิ้มบางๆออกมา

       …เป็นยิ้มที่มีความสุขที่สุด



       ศศินรอให้คนที่เขารักหลับจนสนิทเผลอกรนเสียงโลกแตกออกมาก่อนจะรวบรวมพละกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดเอาแขนที่พาดผ่านตัวเขาออก ก่อนจะพยุงตัวเองลงมาจากเตียงแล้วเดินไปหาเศษกระดาษมาเขียนอะไรยุกยิกๆ



       ท้องฟ้าเริ่มปรากฎแสงสีส้มสาดส่องกลบความมืดมิด ศศินเห็นอย่างนั้นแล้วจึงหันกลับมามองคนที่กำลังฝันหวานเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินหลีกไปที่ระเบียงเพื่อไม่ให้ความร้อนของเปลวไฟรบกวนพี่เขา



       การกลับมามีชีวิตอีกครั้งนึงทั้งๆที่ตายไปแล้วแลกกับดวงวิญญาณที่จะไม่มีสิทธิ์ไปผุดไปเกิดได้อีกเพราะเหตุผลแค่อยากจะมาช่วยชีวิตคนที่เขารัก สำหรับใครอื่นถ้ามารู้เข้าคงจะนึกขำ

       มันไม่โอเวอร์เกินไปหน่อยหรอกับอีแค่ความรักเนี่ยนะ?

       ศศินเกิดขึ้นมาได้ก็เพราะความรัก เติบโตมาได้ก็เพราะความรัก สิ่งที่หล่อหลวมให้ศศินเป็นศศินจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตก็คือ ‘ความรัก’ ดังนั้นสำหรับเขาแล้วความรักเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีความหมายกับเขามากที่สุด

       แล้วพอวันดีคืนดีเขาก็มารู้ใจตัวเองว่าความรักที่เขายึดมั่นถือมั่นทั้งหมดนั่นมีผู้เป็นเจ้าของอยู่เพียงหนึ่งเดียวคือธนาแล้ว

       ..เขาก็พร้อมจะสละให้หมดสิ้นทุกสิ่งเพื่อความรัก การปกป้องคนที่เขารักถึงแม้จะต้องแลกด้วยตัวเขาเองสำหรับศศินแล้วมันก็คุ้มค่า

       

       ‘ความรักทำให้คนตาบอด’ คำนี้ยังคงเป็นคำสัจจริง มีความหมายคร่าวๆว่าเมื่อใดที่คนเรามีความรักเมื่อนั้นสิ่งที่ผิดก็จะเห็นเป็นถูก แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดก็แล้วแต่ ความรักยังเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอหากเรารู้จักรักใครซักคนขึ้นมาจริงๆอย่างมีสติ

       และสำหรับศศิน ธนาคือคนๆนั้น

       





มีจดหมายที่ศศินเขียนถึงธนาต่ออีกนิดหน่อยด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ถึงพี่ธนา…





ขอบคุณพี่ที่คอยดูแลผมมาตลอด

ขอบคุณที่สร้างเสียงหัวเราะ และสร้างรอยยิ้มให้ผม

ขอบคุณที่บ้าบอ ปัญญานิ่มกว่าหมอนรองคอไปด้วยกัน





ขอบคุณที่ช่วยเหลือกันมาตลอด

ขอบคุณที่สอนให้ผมทำนู่นทำนี่เป็น

แล้วก็สอนให้ผมรู้จักรักใครซักคน

ขอบคุณมากๆเลยครับพี่ธนา



ความทรงจำดีๆที่มีพี่อยู่ในนั้น ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ

รักพี่นะ





ผมไม่ได้ไปไหนไกลหรอก อยู่ตรงนี้ ‘ศศิน’ เฝ้ามองพี่จากตรงนี้ …บนท้องฟ้า


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
สงสารน้อง...ขอให้มีความสุขจริงๆ  :call:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
นี่ละน้อความรัก... อ่านไปก็เฮ้ออิน้องไป  :เฮ้อ:
จบบริบูรณ์แล้วใช่ไหมคะ เพราะเราท้อแท้แร้ววว สงน้อง :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
 :hao5:
สงสารน้อง
ยิ่งได้อ่านตอนสุดท้ายที่ทำให้รู้จักตัวตนของน้องยิ่งเสียใจ
จะขอให้น้องไปเกิดใหม่มีชีวิตรักดีๆก็ไม่ได้ :mew6:

 :pig4:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
 :o12: สงสารน้องนะ  ธนาน่าจะรู้ความจริงสักนิดก็ดี

ออฟไลน์ _MindSky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
น้ำตาเทียน
แนวดราม่าเหมือนกันค่ะ แต่เนื้อหาค่อนข้างรุนแรงกว่ามาก ลองอ่านดูก่อนได้นะคะ ถูกใจไม่ถูกใจไม่ว่ากัน  :กอด1:

ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ samesterx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หน่วงเลย ถึงสุดท้ายธนาจะรู้ตัวว่ารักศศินมากกว่าผู้หญิงคนนั้น แต่มันก็สายไปอยู่ดี น้องไม่อยู่มาตั้งนานแล้ว ฮือ ศศินเข้มแข็งมากกกก เข้มแข็งจนถึงวินาทีสุดท้ายจริงๆ

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
 :m15: ความรักหนอความรัก สายแล้วไปธนา หน่วงมากอ่ะ มันเศร้า แต่สนุกกกกกกกก ชอบ  :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด