☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 18 - |25.3.2019| p.4 -END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 18 - |25.3.2019| p.4 -END  (อ่าน 28404 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 4 - |20.10.2018|
«ตอบ #30 เมื่อ20-10-2018 22:52:27 »

สงสัยปมชีวิตน้องเตยมากเลย  :confuse:

น้องเป็นอะไร และอยากรู้ด้วยว่าค้างฟ้าไปเจอน้องเตยได้ยังไง

นี่ก็ดราม่าไปหน่อยๆแล้วค่ะคุณแรคคูล  :hao5: มาต่อตอนใหม่เร็วๆนะคะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 4 - |20.10.2018|
«ตอบ #31 เมื่อ21-10-2018 04:57:33 »

เตยมีปมอะไรกับกลางคืน  :hao4:

ออฟไลน์ benji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 4 - |20.10.2018|
«ตอบ #32 เมื่อ26-10-2018 10:54:15 »

มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่เยอะกว่าที่เราคิด ทั้งค้างฟ้า เตย และเนต อาจจะรวมถึงหยกด้วย น่าติดตามมาก

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 5 - |26.10.2018| p.2
«ตอบ #33 เมื่อ26-10-2018 16:54:55 »

5: Dawn



ตลอดเวลาทั้งคืนผมพยายามหาอะไรมากระแทกโซ่เหล็กให้มันพัง แต่ไม่ได้ผล มีแต่ข้าวของที่โดนกระแทกลงโซ่พังเสียเอง รวมถึงข้อเท้าของผมที่ถลอกจนเลือดไหลมากขึ้นเรื่อยๆ



ผมไม่ได้ดูเวลาว่าผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้ว หมกมุ่นและจริงจังกับการปลดพันธนาการตัวเองจนไม่รู้ว่ายามเช้ามาถึง



แสงอาทิตย์แรกของวันมาพร้อมกับร่างของคนที่ผมรอคอยมาตลอดสองคืน



ค้างฟ้าเปิดประตูเข้ามา มองไปรอบๆ ห้องที่มีสภาพยับเยิน ซ้ำยังมีกลิ่นเน่าบูดจากอาหารเย็นที่ผมโยนทิ้ง เขาตวัดสายตามาที่ผม



ในทีแรก ผมคิดว่าผมจะต้องกลัวกับสายตาโมโหของเขา



แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น



เขากวาดตามองสภาพห้อง สายตาของค้างฟ้าไร้ซึ่งความโกรธ ไร้ซึ่งความตกใจ ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ผมไม่เข้าใจว่าสายตาแบบนี้หมายความว่าอย่างไร แต่พอเขาเดินตรงเข้ามาหา ผมก็ถอยหนีตามสัญชาตญาณ



แม้จะรู้ว่าตัวเองจะหนีได้ไม่ไกล แต่ผมต้องระวังตัวไม่ให้เขาเข้ามาทำร้ายผมได้



จนสุดมุมห้อง ค้างฟ้าคว้าผมเข้าไปกอด



กระซิบอย่างแผ่วเบา



“ขอโทษนะ”



เขากอดแน่นขึ้น เอ่ยคำซ้ำวนไปมา “ขอโทษนะ”



“...พี่ฟ้าปล่อยให้เตยอยู่คนเดียวทำไม”



“พี่ขอโทษ”



“สารเลว”



“ขอโทษนะ...เตยเหนื่อยแล้ว ไปนอนกันนะ”



“คงนอนตรงนี้ไม่ได้แล้ว”



“พี่รู้ เราไปนอนห้องเตยกัน”



“ผมถูกพี่ล่ามขาอยู่”



“เดี๋ยวพี่จะเอาออกให้”



ไม่ว่าเปล่า ทันทีที่เขาพูดจบ ค้างฟ้าคลายอ้อมกอด ก้มลงคุกเข่าหน้าผม เอื้อมมือจับที่ข้อเท้า หยิบกุญแจในกระเป๋าเสื้อ ใช้มันปลดพันธนาการ



“เลือดออกเยอะเลย เดี๋ยวพี่ทำแผลให้นะ”



“เตยเจ็บ”



“ขอโทษ”



เขากอดผมอีกครั้ง ผมอยากจะผลักเขาออกไปแล้ววิ่งหนีเขาไปให้พ้นๆ หรือไม่ก็ทุบตีเขาแรงๆ สักทีให้สมกับสิ่งที่เขาทำ แต่สิ่งที่ผมทำคือซุกซบอยู่ในอ้อมกอดเขา สูดดมกลิ่นกายของเขาทั้งๆ ที่ในใจบอกว่าเกลียดที่เขาทำแบบนี้นักหนา



แต่ผมกลับห้ามตัวเองไม่ได้เลยเมื่ออยู่กับเขา



ค้างฟ้าอุ้มผม พาผมออกจากห้องเน่าๆ เละเทะนี้ ผ่านห้องรับแขก ออกไปยังส่วนโถงของลิฟท์ กดไปที่เลขชั้นล่างที่อยู่ถัดลงมา ใช้บัตรแสกนเพื่อเข้าห้องของผม...ที่ค้างฟ้านั่นแหละซื้อให้ เพียงแค่เราไม่ค่อยได้ใช้มันเท่าไหร่



เขาวางผมลงที่เตียง ผมนับถือร่างกายของเขาที่ยกผมจากอีกห้องมาถึงห้องนี้ได้ ระยะทางไม่ได้ใกล้ แถมผมก็ไม่ได้ตัวเบา แต่เขาก็ทำราวกับอุ้มแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น



ค้างฟ้าลงมือล้างแผลให้ผมก่อนอันดับแรก และเริ่มทำแผลในลำดับถัดมา ผมมองเขาที่คุกเข่าอยู่ต่อหน้า พร้อมกับขยับมือแต้มยาทาแผลอย่างคล่องแคล่ว มองขวัญบนหัวเขา เส้นผมสีดำที่ลู่ปรกบดบังใบหน้าคมคายที่ล้นไปด้วยเสน่ห์ ระหว่างเราไม่มีคำพูดหรือบทสนทนาใด



จนกระทั่งเขาพันผ้าพันแผลให้ผมเสร็จ ผมเอ่ยบอก



“ผมเกลียดพี่ฟ้า”



“พี่รู้ พี่ขอโทษ”



“พี่ทำแบบนี้ทำไม”



“พี่จะไม่ทำอีก...”



ผมสะอึก หาเสียงตัวเองไม่เจอเมื่อเขาไม่ตอบคำถามผม ซ้ำยังเฉไฉพูดเรื่องอื่น



“เดี๋ยวเช็ดตัวให้นะ เตยจะได้นอนสบายๆ”



ค้างฟ้าลุกขึ้น เดินเข้าห้องน้ำไป ไม่นานก็ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่ชุบน้ำหมาดๆ เขาบรรจงเช็ดตัวผมตามร่างกายแต่ละส่วน สัมผัสแผ่วเบาจนแทบเคลิ้ม



“เตยคงเหนื่อยแล้ว หลับเถอะ พี่อยู่ตรงนี้”



เขาบอกเมื่อเช็ดตัวให้ผมจนเสร็จ พร้อมเอนตัวผมให้ลงไปนอนบนเตียงนุ่ม ฝ่ามือลูบไล้ที่เส้นผมอย่างแผ่วเบา สัมผัสของค้างฟ้าที่ผมคุ้นเคยทำให้ผมผ่อนคลายอย่างน่าเจ็บใจ โมโหตัวเองที่ขัดขืนเขาไม่ได้ อยากจะอาละวาดให้สาแก่ใจกับที่เขาทำกับผม ทุบตีเขาให้ช้ำไปข้าง แต่ที่ผมทำก็คืออยู่นิ่งๆ ปล่อยให้ตัวเองทำตามคำพูดของเขา



“ตื่นมาพี่ก็จะหายไปใช่ไหม”



“ไม่หายไป พี่สัญญา”



สัญญาบ้าอะไร เถียงเขาอยู่ในใจ



“เตยเกลียดพี่ฟ้า”



“พี่รู้”



“เตยเกลียดพี่”



ผมพยายามบอกเขาจนสติสุดท้าย ค้างฟ้าลูบหัวผมจนผมผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของเขา แสงอาทิตย์เพิ่งส่องสว่างเริ่มต้นวันใหม่ไปพร้อมๆ กับการนอนสลบไสลของผม



ผมตื่นมาพร้อมกับตะกายไปที่วางข้างตัว ไม่มีร่างของค้างฟ้า ไม่มีไออุ่นข้างกาย ผมรีบผุดตัวลุกขึ้นนั่ง กวาดตามองก็เห็นร่างคุ้นเคยยืนอยู่ที่โซนครัวพร้อมได้กลิ่นอาหาร ถึงได้ถอนหายใจ ห้องนี้เล็กกว่าห้องค้างฟ้าค่อนข้างมาก เป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมกว้างๆ ที่จัดเป็นโซน ดังนั้นผมที่อยู่บนเตียงจึงสามารถมองได้ทั่วห้อง



“พี่ฟ้า?”



ผมเอ่ย เสียงแหบพร่า ลำคอแห้งผากเพราะกระหายน้ำ



เขาหันมาสบตากับผม ปิดเตาแก๊ส หยิบแก้วน้ำที่บรรจุน้ำไว้เต็มแก้วอยู่ก่อนแล้วเดินมาทางผม หยิบยื่นแก้วน้ำให้ผมดื่ม



“พี่ทำอาหารใกล้เสร็จแล้ว กินด้วยกันนะ”



ผมกัดขอบแก้วน้ำ เสียงฟันกระทบกับแก้วใสดังแก๊กๆ ไม่ตอบเขา แต่ก็ไม่ปฏิเสธ จนค้างฟ้านำอาหารมาให้ถึงที่ผมถึงยอมปล่อยมือจากแก้วน้ำ



ค้างฟ้าหยิบโต๊ะเล็กมากางที่เตียงคร่อมตัวผมไว้ ราวกับผมเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลอย่างนั้น จากนั้นเขาก็นำอาหารที่เขาเพิ่งทำเสร็จสดๆ ร้อนๆ มาวางเรียงหน้าผม ขยับตัวมานั่งข้างๆ



เขาคนอาหารที่มีควันร้อนในถ้วย ใช้ช้อนตักมันขึ้นมาก่อนเป่าลมใส่เบาๆ ยื่นมาจ่อปากผม



“...ผมเกลียดพี่ฟ้า”



เขายิ้ม



และผมก็กินมัน



ผมเกลียดตัวเองที่ไม่เคยต้านทานเขาได้ เลยพาลไปเกลียดเขาที่สุดท้ายแล้วไม่ว่ายังไงผมก็ต้องยอมเขาตลอดมา เกลียดเขาที่เป็นคนเดียวที่ทำให้ผมต้องยอมขนาดนี้



แม้ว่าเขาจะบังคับผมได้ แต่สุดท้ายเขามักจะเลือกไม่บังคับผม ปล่อยให้ผมทำตามใจชอบ แล้วค่อยพาตัวกลับมาทำโทษ รสของบทลงโทษที่แผดเผาจนผมไหม้กลายเป็นจุล รุนแรงแต่หอมหวาน บทลงโทษที่ไม่เคยมีครั้งไหนน่ากลัวเท่าครั้งนี้



เขาไม่เคยขังผมให้อยู่คนเดียวแบบนี้



แต่ใช่ว่าไม่เคยขัง เพียงแต่ก่อนหน้านั้นผมยังหาทางพาใครเข้าห้องได้ แต่ครั้งนี้ไม่ ไม่มีสักทางเลยที่ผมจะหลุดพ้นจากความมืดของค่ำคืนคนเดียว เขาทำให้ผมดุร้าย บีบบังคับให้บ้าคลั่ง เพราะฉะนั้นผมจะไม่คิดว่าตัวเองผิด เขาต่างหากที่ทำให้ผมเป็นเช่นนี้



“อิ่มหรือยัง เอาเพิ่มไหม”



ผมส่ายหน้าเมื่อข้าวคำสุดท้ายถูกกลืนสู่ท้อง ส่วนค้างฟ้าก็จัดการเก็บจานไปไว้ที่อ่างล้างจาน



“เตยง่วงไหม พักต่อก็ได้”



ผมไม่ได้ตอบ อันที่จริงก็ยังง่วงอยู่เล็กน้อย แต่การอดนอนหรือนอนน้อยเป็นหนึ่งในความสามารถของผม ผมจึงเลือกที่จะปฏิเสธการนอนหลับ



“เตยอยากกินของหวานๆ”



“อยากกินอะไรครับ เดี๋ยวพี่ให้คนไปซื้อมาให้”



“พุดดิ้ง”



เขาหันมาส่งยิ้มให้ผม เอ่ยถามถึงยี่ห้อพุดดิ้งที่ผมชอบเพื่อยืนยันคำตอบ ก่อนกดโทรศัพท์หาคนของเขา



“พี่ฟ้า”



“ครับ?”



“คิดถึงเตยไหม”



“คิดถึงสิ”



“...”



“ทำไมหรือครับ อยากได้อะไรอีก หืม”



“กอดเตยไหม”



ตั้งแต่ที่ผมตื่นมาวันนี้ ผมเห็นใบหน้าของค้างฟ้าประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขายิ้ม และกระตุกยิ้มมากขึ้นเพื่อตอบรับกับคำขอของผม



“ไม่กินพุดดิ้งแล้วเหรอ”



“ไว้กินทีหลัง...หลังกินค้างฟ้า”



เขาหัวเราะในลำคอ ขยับมากอดผมไว้แนบแน่นสนิทจนเราทั้งคู่จมลงไปในเตียงนุ่ม หัวใจผมเริ่มเต้นระส่ำเมื่อเห็นเขาคร่อมอยู่บนร่างตัวเอง



ผมอยากจะเกลียดเขาจริงๆ อยากจะเกลียดใบหน้าของเขา น้ำเสียงของเขา กลิ่นของเขา การกระทำของเขา และสัมผัสของเขา แต่ทั้งหมดของค้างฟ้า ผมชอบมัน



ผมเสพย์ติดเขา



นั่นคือสิ่งที่ผมเกลียดที่สุด



ผมปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกทีละเม็ด ในขณะเดียวกันค้างฟ้าก็จับปลายคางผมเชิดขึ้นให้รับจุมพิตของเขา ผมจูบเขากลับ ปลดกระดุมจนเม็ดสุดท้าย เสื้อเชิร์ตตัวบางแหวกออกให้อีกฝ่ายลูบจับผิวเนื้อข้างใน



เขาถอดเสื้อผมอย่างง่ายดาย ร่างกายของผมเปลือยเปล่า ถูกจับกดแนบกับเตียงใหญ่ ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน ไม่ช้า เขาก็พันธนาการร่างผมไว้โดยสมบูรณ์ อีกมือเปิดลิ้นชักข้างเตียง หยิบอุปกรณ์ร่วมรัก



ส่วนผมแยกขาสองข้างออก พร้อมรับตัวตนของเขา



ค้างฟ้าเริ่มจูบผมอีกครั้ง ครานี้นิ้วมือเรียวสวยของเขาขยับเข้าไปสำรวจภายในตัวผมอย่างช่ำชอง เขารู้จักร่างกายผมทุกซอกทุกมุม รู้ว่าตรงไหนคือจุดที่จะทำให้ผมอ่อนระทวย รู้ดีเสียยิ่งกว่าตัวผมเอง



อารมณ์ของผมเข้าสู่จุดร้อนระอุอีกครั้ง เหงื่อกาฬไหลย้อยจากขมับสู่ปลายคาง ส่วนสะโพกขยับโยก หวังให้เขาเลิกใช้นิ้วแล้วเอาอย่างอื่นเข้ามาเสียที แต่ค้างฟ้าก็ยังคงหยอกล้อผมอยู่อย่างนั้น เนิ่นนานกว่าปกติจนทรมาน



“พี่ฟ้า...”



ผมเรียกชื่อเขา ร้องหาตัวตนของเขา ส่งสายตาอ้อนวอนให้เขา ค้างฟ้ารับรู้ทุกการกระทำของผม



เขายกยิ้ม หัวเราะขำเสียงเจือจาง ถอนนิ้วออกจากตัวผม เปลี่ยนเป็นละเลงเล่นส่วนปลายที่ตั้งชูชัน ผมกรีดร้อง ทรมานจนน้ำตาไหล อยากให้เขารีบพาผมไปยังฝั่งฝันเหมือนที่ผ่านมาเสียที



เขาบีบส่วนปลาย หยอกล้อ ไม่ทำตามคำขอร้อง



“ไม่ไหวแล้วหรือ”



ผมส่ายหน้า ไม่ไหว พร่ำร้องเรียกชื่อของเขาไม่หยุด



“พี่ฟ้า...พี่ฟ้า...”



“เด็กน้อย”



“ค้างฟ้า...”



ผมอยู่ใต้พันธนาการของเขาอย่างสมบูรณ์ ไม่สามารถดิ้นรนขัดขืน คล้ายสัตว์ที่ติดกับดักนายพราน



เขาก้มจูบลงที่หน้าผาก อ่อนโยนและแผ่วเบา สองมือรั้งรูดจนผมทะยานขึ้นสู่ฝั่งฝัน สะโพกแอ่นขึ้น ปลายเท้าจิกเกร็ง ความรู้สึกยอดเยี่ยมถาโถมเข้ามาอาบร่างกายของผมที่สั่นสะท้าน



“พี่ฟ้า...เข้ามา...”



ถ้าหากเขาเป็นนายพรานที่ดักจับสัตว์ร้ายแล้วล่ะก็...ผมคงเป็นสัตว์พิเศษ ที่เอ่ยคำสั่งกับเจ้านายได้



เขายินยอมทำตามคำขอที่คล้ายจะเป็นคำสั่ง ผสานเข้ามา รวมสองร่างเป็นหนึ่งเดียวกัน








หลังจากหลับไปอีกตื่น สิ่งที่ผมพอใจมากที่สุดก็คือเห็นค้างฟ้านอนชันตัวพิงหัวเตียงอยู่ข้างกาย เขาสูบบุหรี่ ปล่อยควันดำออกมาจากปาก เหม่อมองจนมันลอยเจือจาง ยกมือสูบมวนบุหรี่อีกครั้ง และเขาก็หันมาสบตากับผม



ค้างฟ้ายกยิ้ม



พ่นควันออกช้าๆ พร้อมกับขยับตัวมาประกบจูบ



จูบรสควันบุหรี่ทำให้ผมร้อนแผดอยู่ในอก



ผมเคลื่อนตัวไปนั่งคร่อมเขา แลกรสจูบ บดเบียดลิ้นร้อนไล่ชิมน้ำหวานในโพรงปากของอย่างตะกละตะกราม จุมพิตแสนหวานจบลงตรงที่เขาดูดริมฝีปากล่างของผมเป็นการปิดท้าย



“พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง”



“แปดโมง” ผมบอก ซบใบหน้าลงที่ซอกคอเขา ผมเรียนเช้าแทบทุกวัน และคิดว่าเขาคงรู้ เพียงแค่ถามเพื่อยุติอารมณ์ปรารถนาที่กำลังจะเกิดขึ้นเฉยๆ



“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”



ผมพยักหน้า ขดตัวอยู่ในอ้อมกอดเขา ปกติค้างฟ้ามักจะให้ผมไปเรียนพร้อมเน็ต ป้องกันไม่ให้ผมหล่นหายกลางทาง ครั้งนี้ก็ไม่ได้ต่างกัน



“พี่ฟ้าจะไปทำงานหลายๆ วันอีกไหม...”



“ไม่ไปแล้ว”



“จริงหรือ”



“อืม อยู่กับเตย...ไม่ดีเหรอ”



“แล้วไม่ไปอยู่กับคุณเอมเหรอ”



“...”



เขาไม่ตอบ กดจูบลงมาที่หน้าผากของผมหนึ่งครั้ง แทนการยุติบทสนทนา



ผมขยับกอดเอวเขาแน่นขึ้น รู้แก่ใจว่าเขามีใครอยู่แล้ว ไม่คิดจะเป็นเจ้าของ ไม่คิดจะผูกสัมพันธ์ ไม่คิดจะมอบความรู้สึก แต่ห้ามหัวใจไม่ให้เต้นระรัวเวลาอยู่กับเขาไม่ได้สักที



ผมจะไม่ชอบเขา ไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้ชอบผม



แต่เพื่อตัวผมเอง



ผมจะไม่ยอมให้ตัวเองตกอยู่ในวังวนของความเน่าเฟะ



ความรักมันงี่เง่าและน่าสะอิดสะเอียนสิ้นดี







#น้ำค้างฟ้าขุ่น






ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 5 - |26.10.2018| p.2
«ตอบ #34 เมื่อ26-10-2018 17:19:25 »

เตยมีเรื่องฝั่งใจอะไรกับกลางคืนเนี่ยแล้วคุณเอมคือใครอี๊กก  :katai1:

ออฟไลน์ benji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 5 - |26.10.2018| p.2
«ตอบ #35 เมื่อ26-10-2018 18:33:16 »

คุณเอม แค่แฟน หรือ ภรรยา

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 5 - |26.10.2018| p.2
«ตอบ #36 เมื่อ26-10-2018 21:54:24 »

ปวดใจ

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 5 - |1.12.2018| p.2
«ตอบ #37 เมื่อ01-12-2018 22:44:32 »

6: Dandelion



รถยนต์คันหรูแล่นจอดหน้าตึกเรียน ค้างฟ้าทำตามคำพูด มาส่งผมตรงตามเวลา เน็ตนั่งมาด้วยและพอมาถึงที่หมาย เขาก็ลงจากรถอย่างรู้งาน ผมหันไปหาสารถีในวันนี้ ยกยิ้มให้เขา ไม่รอให้เขาส่งยิ้มกลับมา ผมขยับตัวเคลื่อนหาเพื่อประกบจูบ สอดลิ้นเข้าไป ค้างฟ้าจูบตอบอย่างไม่คิดห้าม



ในรถหรูติดฟิลม์ดำ ข้างในเปิดแอร์เย็นฉ่ำทว่าอุณหภูมิของเรากลับร้อนสูง ร่างกายร้อนผ่าว



ละเลงเล่นน้ำหวานอีกสักพักผมจึงเป็นฝ่ายถอนจูบออก



“เดี๋ยวสาย”



บอกเหตุผลให้เขาฟัง ยกยิ้ม ขยับตัวเปิดประตูออกจากรถ



“เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”



ผมพยักหน้า ปิดประตู เห็นเน็ตยืนรออยู่ไม่ไกล พอผมเดินเข้าไปหา เขาก็เดินนำขึ้นตึกเรียนไป



เป็นในรอบหลายวันที่ผมมาเรียนอย่างมีความสุข ...คิดว่าอย่างนั้นนะ อย่างน้อยตอนนี้ผมก็ยิ้มไม่หุบ



ค้างฟ้าไม่ได้มาส่งผมไปเรียนมาปีกว่าแล้ว อันที่จริงมันไม่ได้สำคัญอะไร แต่พอเขากลับมาทำเหมือนเดิมมันทำให้ผมรู้สึกว่าความรู้สึกตัวเองได้เติมเต็ม



ไม่ได้เพราะชอบหรืออะไร



เพราะคิดว่าเขาจะไม่ไปไหนแล้วต่างหาก



เนื้อหาระหว่างคาบเรียนช่างไร้สาระเมื่อเทียบกับรอเวลาเลิกเรียน รอเจอเขาอีกครั้ง ทั้งวันผมมีแต่ค้างฟ้าอยู่ในหัว จนแทบคลั่ง สุดท้าย ผมเรียกเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่แอบออกมาสูบบุหรี่นอกห้องเรียน พาเขาไปยังห้องน้ำชั้นบนสุด ที่ซึ่งไร้คนใช้งาน ลงกลอนล็อกไว้ไม่ให้ใครเข้ามาขัดจังหวะ



กระหน่ำความคิดถึงที่มีต่อค้างฟ้าใส่ไอ้หมอนี่อย่างเต็มที่ เราร่วมรักกันในห้องน้ำเหม็นอับ



ผมไม่มีปัญหากับพื้นที่สกปรก กลับกันด้วยซ้ำ ในสถานที่แบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงครั้งแรกที่ได้เจอค้างฟ้า



กามอารมณ์เปลี่ยนจากคุกรุ่นเป็นร้อนรุ่ม ผมปล่อยให้เขาพาตัวตนของเขาเข้ามาในร่าง สอดกระแทกซ้ำๆ จนเราปลดปล่อยไปสู่ฝั่งฝัน



จากนั้นก็พร้อมกลับเข้าห้องเรียนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น



ผมปล่อยให้หมอนั่นออกไปก่อน จัดการทำธุระของตัวเองจนเสร็จสิ้นถึงได้ออกตามไปทีหลัง



ระหว่างทางเดิน ผมเดินสวนรุ่นน้องคนนั้น...คนเดียวกับที่ค้างฟ้าบุกเข้าห้องเขา สีหน้าของเขาอึมครึมลงทันทีที่เห็นหน้าผม ผมสบตาผ่านเขาไปแวบเดียว ก่อนจะถูกคว้าไว้ไม่ให้เดินต่อ



“พี่เตย”



“อะไร”



เขาทำหน้าลังเล แต่สุดท้ายก็พูดออกมา “พี่ทำแบบนี้กับผมทำไม”



“ทำอะไร”



“มีอะไรกับผม ทั้งๆ ที่พี่มีคนอื่นอยู่แล้ว”



“อย่าห่วงเลย...เธอไม่ใช่คนแรกหรอกที่เตยทำแบบนี้ด้วย”



“พี่เตย!”



เขาขึ้นเสียง ราวกับว่ามันจะข่มขู่ผมได้ ผมหงุดหงิดที่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง รุ่นน้องคนนี้ ชื่ออะไรผมยังจำไม่ได้เลย



ผมสะบัดข้อมือที่ถูกเขาพันธนาการไว้ ตั้งท่าจะเดินออกห่าง แต่ครานี้กลับถูกอีกฝ่ายรั้งไว้ด้วยคำพูด



“ผมชอบพี่”



ที่น่าสะอิดสะเอียน



“เตยเกลียดคำนั้น” ผมบอกเขา มองแววตาที่อ่อนลงคล้ายจะมีน้ำใสรื้นในดวงตา ผมกล่าวต่อ “น่าขยะแขยงออก”



พร้อมกับเดินจากเขาไปโดยไม่หันกลับไปมองอีก รู้สึกอยากอาเจียนให้กับคำพูดของเขา พยายามปัดเรื่องนี้ให้ออกจากหัว ปั้นหน้าให้เป็นปกติ



ผมพักหายใจเล็กน้อยก่อนเข้าห้องเรียน เพื่อนร่วมห้องคนนั้นกลับมาถึงก่อนนานแล้ว และคงไม่มีใครรู้ความลับของเรา...



แต่เน็ตคงรู้ เขาหันมามองผมนานกว่าปกติ ดันแว่น แล้วหันกลับไป คงเตรียมตัวฟ้องค้างฟ้าแล้วแน่ๆ แต่แล้วไง ถ้าเขารู้แล้วจะขังผมแบบวันนั้นอีกหรือ คงไม่แล้ว ผมนั่งนึก พยายามสลัดเรื่องราวน่ารังเกียจก่อนหน้าทิ้ง คิดถึงใบหน้าของค้างฟ้าแทน คงจะดีแน่ๆ ถ้าเขาจะลงโทษผมแบบรุนแรงเหมือนแต่ก่อน



บทลงโทษที่ทำให้ผมหลอมละลายบนเตียง



คิดแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้ อยากกลับไปให้เขากอดจะแย่










“วันนี้เตยตั้งใจเรียนมากเลย ทำควิซในห้องได้ด้วย”



“อืม”



“พี่ฟ้ามีรางวัลให้เตยไหม”



“เตยอยากได้อะไรล่ะ”



“...เน็ตฟ้องอะไรใช่มั้ย”



ผมว่า เอียงคอมองเสี้ยวหน้าค้างฟ้าที่ไม่มีรอยยิ้มประดับ ราวกับกำลังหงุดหงิด ไม่สนใจเรื่องเล่าของผมเหมือนทุกที



“แล้วเราไปทำอะไรมาล่ะ”



ผมยิ้ม ดีใจที่ได้พยศใส่เขา



“เตยแค่คิดถึงพี่ฟ้า”



ว่าพร้อมขยับเข้าไปโน้มคอเขาให้รับรสจูบของตัวเอง เขาจูบกลับ แต่ไร้อารมณ์



น่าเบื่อ



ผมถอนริมฝีปากออก



“พี่ฟ้าไม่โกรธเตยเหรอ”



“โกรธ”



“แล้วทำไมไม่ลงโทษ...แรงๆ”



เขาถอนหายใจ ขยับมือดันเกียร์รถเดินหน้าพาหนะสี่ล้อ ขับออกไป



ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง คิดว่าถ้าเขารู้เรื่องที่ผมแอบไปมีอะไรกับเพื่อนร่วมคลาสแล้วเขาคงโมโห จับผมกลืนทั้งตัวแบบทุกที ไม่ใช่การนั่งเงียบทำหน้าบึ้งตึงแบบนี้



“เน็ตไม่น่าไปฟ้องพี่ฟ้าเลย”



ผมบอกคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่หลังรถ เน็ตนั่งนิ่งราวกับเป็นแค่วัตถุชิ้นหนึ่ง เขาเงยหน้ามาสบตากับผมด้วยแววตาเฉยชาเพียงครู่เดียว ก่อนก้มอ่านหนังสือในมือต่อไป ไม่ได้พูดอะไร



ผมถอนหายใจ หงุดหงิดกว่าเดิม



หงุดหงิดที่อะไรไม่เป็นไปตามใจ



ค้างฟ้าขับรถมาหยุดที่จุดรับส่งใต้คอนโด เขาเอ่ยคำสั่งให้ผมลงจากรถ เมื่อสองขาแตะพื้น สองมือใหญ่ของเขาคว้าผมเข้าคอนโดไป ทิ้งให้เน็ตนำรถที่ยังไม่ถูกดับเครื่องไปยังที่จอด ส่วนพวกเราก็ตรงขึ้นห้อง



ห้องค้างฟ้ากลับสภาพมาเป็นดังเดิมอย่างรวดเร็ว ผมไม่ทันได้สังเกตอะไรมากมายก็ถูกเขาโยนลงเตียง กระชากเสื้อผ้าขาดคามือ



 “อยากให้ทำอย่างนี้ใช่ไหม”



ผมกระตุกยิ้ม เมื่อบทลงโทษที่แสนหอมหวานกำลังรอคอยอยู่ตามหวัง



ผมคว้าเขาเข้ามาบดจูบ เริ่มต้นที่จะตกลงไปในไฟร้อนแผดเผา



น่าเสียดายจังหวะรุ่มร้อนที่ค้างฟ้ามอบให้แค่เพียงตอนแรก ช่วงหลังมาเขาปรับจังหวะให้ช้าลง ค่อยๆ ขยับเนิบนาบ ประคองร่างผมคล้ายกลัวมันจะแตกสลาย



ผมไม่พอใจ ไม่ชอบสัมผัสอ่อนโยน คร่ำครวญขอร้องให้เขาอย่าได้ใจดี



แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ตอบรับคำร้องขอ



ไม่รู้ว่านี่เป็นความใจดีหรือใจร้ายของเขากันแน่ แต่สำหรับผม เขาใจร้าย



ค้างฟ้ารวบตัวผมไว้ในอ้อมแขน หัวเราะขำให้กับคำบ่นของผมพร้อมกับลูบหัวเบาๆ ไล่ไปจนถึงต้นคอที่มีรอยสักที่เป็นชื่อของเขา นิ้วเรียวเกลี่ยมันซ้ำๆ คลึงชื่อตัวเองที่ผนึกบนผิวเนื้อของผมช้าๆ



“เตยไม่ชอบแบบนี้” ผมบอกเขา รอบที่หลายร้อย แต่ก็ไม่สามารถปัดมือเขาออกไปจากต้นคอได้



เขาถอนมือออก ก้มจูบแทนที่สัมผัสเดิม



“เตยของพี่”



“พี่ฟ้า...ใจร้าย”



“เตยก็ใจร้าย...”



“ตรงไหนกัน”



“ถ้าเตยไม่ชอบให้พี่ทำเบาๆ พี่ก็ไม่ชอบให้เตยทำกับคนอื่น”



“ทำไมล่ะ” ผมถาม ขยับมือไปกุมมือของเขา ลูบไล้วงแหวนของค้างฟ้าที่สวมไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย สัญลักษณ์ที่บอกว่าเขาไม่ใช่ของผม



ค้างฟ้าไม่ตอบ ชักมือหนี กอดผมแรงขึ้น



“เตยไม่อยากรู้เหตุผลหรอก”



“...”



ผมพยายามนึกความคิดในหัวเขา แต่นึกไม่ออก ได้แต่ฟังเสียงหัวใจของเขาที่เต้นอย่างสงบ จังหวะหัวใจที่เพราะกว่าเสียงเพลงไหนๆ ผ่อนคลายจนเคลิ้ม



“ไม่ชอบแบบนี้เลย...” ผมว่า แต่ยังคงนอนนิ่งให้เขาลูบหัว



“ไม่ต้องกังวลหรอก” เขาบอก “ยังไงพี่ก็มีเอม”



“...นั่นสินะ”



สิ้นประโยค ผมปิดตาลง ด่ำดิ่งในความมืด









ช่วงนี้ค้างฟ้ามาส่งผมทุกวัน มันก็ดีที่ได้อยู่กับเขานานๆ แต่อีกใจก็กลัว เขาไม่เคยทำดีกับผมนานขนาดนี้ มันแปลกไปจนน่ากลัว



“มองอะไร”



“พี่ฟ้าจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่”



“ก็เรื่อยๆ จนกว่าเตยจะเรียนจบมั้ง...ไม่ดีเหรอ?”



“ไม่รู้ มันแปลก”



“อย่าคิดมากเลย”



เขาว่า ยกยิ้มมุมปากบางเบา หันหน้าตรง ตั้งหน้าขับรถต่อไปจนถึงที่หมาย ไม่ว่าเขาจะมีเป้าหมายอะไร แต่ต่อจากนี้ผมคงต้องระวังตัวให้มากขึ้น



คนใจดีมักใจร้าย



“เน็ตว่า...” ผมตั้งท่าจะเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่นั่งข้าง แต่ก็ตัดสินใจเงียบเสียก่อน



“อะไร”



“ไม่มีอะไร”



คิดว่าไม่ถามเขาดีกว่า เดี๋ยวเน็ตเอาไปบอกค้างฟ้าอีก ช่วงนี้เขาดูแปลก ผมไม่อยากให้เขารู้ว่าตัวเองคิดอะไร จะว่ากลัวก็ได้



ค้างฟ้าน่ะน่ากลัว



เน็ตไม่เซ้าซี้ ตั้งหน้าตั้งตาจดเลคเชอร์เมื่ออาจารย์เข้าห้อง ทำตัวเป็นเด็กเรียนอย่างทุกที ส่วนผมไม่ทำอะไรนอกจากนั่งเหม่อไปเรื่อยๆ ผมรู้ว่าเน็ตจดให้ผมแล้ว และเนื้อหาในคาบนี้ก็ค่อนข้างน่าเบื่อ



พอว่างๆ ก็เลยหยิบโทรศัพท์มาคุยกับหยก



ป่วนเขาในเครื่องมือสื่อสารจนเขาไม่ตอบกลับ เดาว่าหยกคงรำคาญ ผมหัวเราะในลำคอ หยกเป็นคนเดียวที่ผมยังติดต่ออยู่ เป็นคนเดียวที่ผมคุยได้นาน ผมชอบนิสัยหยก ชอบที่เขาแสดงอะไรออกมาตามความคิด ชอบคือชอบ เกลียดคือเกลียด ไม่มีลับลมคมใน อีกอย่างคือหน้าตาเขาน่ารักน่าชัง ทำอะไรก็ไม่อยากโกรธ



ผิดจากค้างฟ้า ผมไม่ค่อยรู้ว่าเขาคิดอะไร แม้จะอยู่กับเขามานานก็ตาม



อารมณ์ค้างฟ้าแปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บางทีก็ตามไม่ค่อยทัน แต่ผมเชื่อว่าถ้ายิ้มให้เขาแล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี



ช่วงนี้เขาไม่ค่อยออกไปไหน ผมเลยออดอ้อนได้เต็มคราบ กอดของเขาทำให้ผมได้เติมเต็ม และหวังว่าเขาจะยอมทำตามใจผมแบบนี้ไปเรื่อยๆ



แต่อย่างว่า ค้างฟ้าไม่ใช่คนที่จะยอมใคร เมื่อวันนี้เขาไม่กอดผมเหมือนทุกที



“ทำไมไม่กอด”



“กอดอยู่นี่ไง”



“พี่ฟ้าก็รู้ว่าเตยไม่ได้ถึงกอดแบบนี้”



“กอดแบบนี้ไม่ดีตรงไหน”



เขาไม่รอให้ผมตอบ จับผมซุกเข้าไปในอ้อมแขนมากกว่าเดิม ลูบหลังคล้ายกอดกล่อมเด็กน้อย ไล่ขึ้นมาลูบต้นคอที่สลักชื่อเขาไว้ด้วยสัมผัสแผ่วเบา



“นอนเถอะ”



“...พี่ฟ้าก็รู้ว่าเตยไม่ชอบแบบนี้”



“...”



“ทำแบบนี้เดี๋ยวเตยกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนนะ”



“พี่ไม่ให้เตยไปนอนกับใครหรอก”



“งั้นก็กอดเตย”



“กอดอยู่”



“พี่ฟ้า เตยไม่ต้องการแบบนี้”



“ไม่ดีตรงไหน พักสักวันจะเป็นไรไป” เขาว่า จูบลงกลางกระหม่อมจนผมสะดุ้ง มันไม่ชิน...ไม่ชินเอามากๆ



ปกติเราไม่ค่อยนอนกอดกันเฉยๆ นานๆ เท่าไหร่ เขาไม่ค่อยได้อยู่กับผมบ่อยนัก และเมื่อได้อยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่ผมจะป่วนเขาได้สำเร็จ



แต่อย่างที่บอกว่าค้างฟ้าน่ะเดาอะไรไม่ได้



เขากระชับอ้อมกอด กักขังไม่ให้ผมขยับตัวหนีไปไหน มืออีกข้างลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา สัมผัสอ่อนโยนจนน่าขนลุก



“ถ้ายังไม่นอนอีกจะจุ๊บนะ”



เป็นคำขู่ที่ฟังดูปัญญาอ่อน ไร้ซึ่งความน่าเกรงขาม แต่ผมกลัว



เลยยอมนอนข่มตานิ่งเพื่อไม่ให้เขาทำตัวอ่อนโยนไปมากกว่านี้



ผมกลัวหัวใจตัวเองจะลอยไปเหมือนดอกแดนดิไลออน โดนสายลมพัดไปอย่างไม่หวนกลับ พยายามบังคับหัวใจใส่โซ่ล่ามไว้ ไม่ให้มันลอยไปไหน แต่ไม่สามารถบังคับให้มันไม่เต้นแรงไม่ได้เลย



ท่ามกลางความเงียบสงัด มีเพียงเสียงหัวใจผมที่ร้องดังลั่น



และผมหวังว่ามันจะเป็นหัวใจดวงเดียวในห้องที่เต้นอย่างบ้าคลั่ง










หายไปเพราะเครียดค่ะ เขียนไม่ออก 555555

แต่ยังเขียนอยู่นะะ ตั้งใจจะเขียนให้จบ แต่อาจจะช้าสักหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ

ไม่รู้ทำไมจู่ๆ มันมาดราม่าได้ขนาดนี้ 5555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมากๆ ค่ะ TvT



#น้ำค้างฟ้าขุ่น

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 6 - |1.12.2018| p.2
«ตอบ #38 เมื่อ02-12-2018 07:38:19 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yodyahyee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 6 - |1.12.2018| p.2
«ตอบ #39 เมื่อ03-12-2018 16:02:17 »

ปมมันเยอะจัง แถมไม่แง้มมาเลยซักนิด แต่ชอบๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 6 - |1.12.2018| p.2
« ตอบ #39 เมื่อ: 03-12-2018 16:02:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 6 - |1.12.2018| p.2
«ตอบ #40 เมื่อ05-12-2018 07:52:19 »

เป็นกำลังใจให้นะคะ ปมเยอะมากเลยค่ะ ฮื่ออ กลัวแล้ว

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 6 - |1.12.2018| p.2
«ตอบ #41 เมื่อ05-12-2018 09:41:30 »

รู้สึกพีคขึ้นเรื่อยๆ เลยค่ะ
คู่นี้เค้าเจอกันยังไง แล้วที่ผ่านมาเตยใช้ชีวิตแบบไหน
ค้างฟ้ามีครอบครัวแล้วใช่ไหม แล้วทำไมยังมาทำแบบนี้

เตยแค่ไม่อยากรัก แต่ไม่ใช่ไม่รัก รักมากเกินไปด้วยซ้ำ
สภาพจิตใจเตยคือย่ำแย่มากนะ ร้องขอความมีตัวตนจากอีกคน

แต่เตยใช้ชีวิตน่ากลัวเกินไปแล้ว จะเพื่ออะไรก็เหอะ
คนเรามีวันพลาดได้เสมอ กลัวเตยจะพลาดสักวัน


ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 6 - |1.12.2018| p.2
«ตอบ #42 เมื่อ05-12-2018 09:46:38 »

แปลกไปหมด

ออฟไลน์ benji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 6 - |1.12.2018| p.2
«ตอบ #43 เมื่อ08-12-2018 08:46:46 »

ค่ะ คิดอะไรไม่ออกเหมือนเดิมค่ะ ปมยังคงขมวดแน่นเช่นเคย รอตอนต่อไปค่ะ นานก็รอไหวค่ะ สู้ๆๆนะคะคนเขียน

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 6 - |1.12.2018| p.2
«ตอบ #44 เมื่อ08-12-2018 11:46:03 »

ถ้าฟ้าคู่กับเตยจะดูพอดีมากๆ

ส่วนเตยก็ให้ไปหาหมอรักษาหรือไม่ก็ห้องรับบริการฟรีเซ็กไปเลย

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 6 - |1.12.2018| p.2
«ตอบ #45 เมื่อ10-12-2018 00:21:17 »

  :pig4:  ดูมีปมที่ทับซ้อนกันไปหมด ทั้งพี่ฟ้าทั้งเตย เผลอๆป่วยทั้งคู่อ่ะ ไม่มีใครปกติ  :ruready

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 7 - |20.12.2018| p.2
«ตอบ #46 เมื่อ20-12-2018 00:02:13 »

7: Dusk



เสียงหวีดร้องดังขึ้นในความมืด เสียงเล็กแหลมฟังดูคุ้นหูและคุ้นเคย เสียงขอร้องอ้อนวอนอย่างไร้ศักดิ์ศรี ถ้อยคำที่ผมจำมันได้ขึ้นใจก่อนจะเรียนรู้ว่าโลกนี้ช่างเน่าเฟะ



ผมเปิดเปลือกตา จ้องเขม็งในความมืด



เสียงแหลมหายไปแล้ว อันที่จริงมันไม่ได้หายไปไหน หวีดร้องอยู่ในความฝันทุกวัน



เสียงของผม



ในห้องมีเพียงความมืดและความเงียบ มีเสียงเครื่องปรับอากาศดังแผ่วแต่มันก็เงียจนได้ยินเสียงหายใจตัวเอง ผมกวาดสายตามองรอบห้องในความมืด



ขยับตัวกวาดมือไปยังเตียงฝั่งข้างๆ



ทันทีที่ปลายนิ้วมือผมสัมผัสถึงไออุ่นของร่างกายใครสักคน ผมพลันโล่งใจ ในหัวเรียบเรียงความคิดอยู่สักพักก่อนจะนึกได้ว่าคนข้างกายผมคือค้างฟ้า ผมขยับยิ้ม



กอดแผ่นหลังเขาไว้



ค้างฟ้าปลุกผมตอนสาย วันนี้เป็นวันหยุด ผมไม่มีเรียนและเขาก็ไม่ต้องทำหน้าที่ไปส่งผมให้น่าขนลุก



แต่ที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้ก็น่าขนลุก ค้างฟ้ากินข้าวเช้าพร้อมกับผม... ใช่ว่าไม่เคยทำแบบนี้ แต่ไม่ได้ทำมานานแล้วต่างหาก ในเวลาธรรมดาแบบนี้ ผมเคยชินกับการไม่มีเขามากกว่า



“มองอะไร”



ค้างฟ้าถามพร้อมกับหัวเราะหึๆ เมื่อเห็นผมจ้องเขาสลับกับอาหารในจาน



“เปล่า”



เขาไม่คะยั้นคะยอเอ่ยถามอะไรอีก เรานั่งกินข้าวเงียบๆ ด้วยบรรยากาศประหลาด และเมื่อข้าวคำสุดท้ายถูกผมตักเข้าปาก ค้างฟ้าก็เอ่ย



“วันนี้วันหยุด...พี่ว่าจะไป...”



ผมรู้คำในช่องว่างแทบทันที “บ้านคุณเอม?”



“...ประมาณนั้น”



“อาจจะไม่กลับด้วยใช่ไหม”



“ไม่หรอก จะกลับมา”



ผมไม่หวังแล้วกันนะ นึกคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป ทำเพียงพยักหน้ารับรู้



“เตยอยากไปไหนมั้ย”



“ไม่เป็นไร มีงานต้องทำ” ผมบอกเขา มีงานเยอะจริงๆ เสียแต่ส่วนใหญ่เน็ตเป็นคนทำให้เวลาผมเถลไถล หากแต่ครั้งนี้ผมควรพึ่งพาตัวเองเสียบ้าง



ไม่ช้าค้างฟ้าก็ออกจากห้องไป



ผมจมอยู่กับความเงียบได้ไม่นานก็เปิดเพลงจากเพลย์ลิสต์ที่ค้างฟ้าทำไว้ให้ ส่วนใหญ่ผมมักไม่ค่อยอยู่ห้องทำอะไรแบบนี้นัก เพียงแค่...ช่วงนี้ค้างฟ้าทำดีกับผม ก็เลยอยากทำตัวว่าง่ายกับเขาบ้าง



รู้ทั้งรู้ว่าความใจดีของเขามันจอมปลอม



ไม่มีใครใจดีกับผมได้ตลอดไป คนใจดีไม่มีในโลก



มีแต่คนใจร้ายและใจร้ายกว่าก็เท่านั้น



รู้ทั้งรู้ แต่ยังแอบคาดหวัง



ผมสะดุ้งตื่นมากลางดึก ด้วยเสียงกรีดร้องที่ดังลั่นในฝัน ทำตามสัญชาตญาณเดิม ยกมือควานหาคนข้างกาย



ว่างเปล่า ไม่มีร่างของใครนอนอยู่



การที่ผมไม่เจอเขาในห้องนอนหลังจากตื่นนอนไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ แต่พอเขาอยู่กับผมนานๆ จนเริ่มชิน มาวันนี้จู่ๆ เขาก็หายไปเลยทำให้ผมสะกิดใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้คิดว่ามันแปลก



แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว



ผมถอนหายใจ



หลังจากที่สะดุ้งตื่น ผมก็ไม่ได้หลับต่อ จนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้น เป็นรุ่งเช้าที่เงียบเหงา



วันนี้ดูท่าต้องไปเรียนกับเน็ตเหมือนเคย



ผมไม่ควรเก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ อย่างไรเสียค้างฟ้าก็ไม่เคยรักษาคำพูดได้อยู่แล้ว แต่ลึกๆ ในใจก็แอบหัวเสียอยู่หน่อยๆ ทำไงได้ ผมอยากอยู่กับเขานี่



อย่างน้อยก็ดีแล้วที่เขาไม่ล่ามผมไว้เหมือนครั้งก่อน



หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ เน็ตก็รอรับผมอยู่หน้าห้อง ก่อนที่เราจะไปมหาลัยด้วยกัน



นับจากวันนั้น ค้างฟ้าก็หายไปเกือบครบอาทิตย์แล้ว ผมรอเขากลับห้องคืนแล้วคืนเล่า นั่งคุยกับความเงียบจนจะเป็นบ้า นอนไม่หลับโต้รุ่งอยู่หลายคืน มีบางคืนที่หมดสติหลับไป แต่ก็ใช่ว่าจะได้นอนเต็มอิ่ม



ไม่มีค้างฟ้า ไม่มีเซ็กซ์ ยังไงผมก็นอนไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ



คืนนี้ผมจึงตั้งใจไม่กลับไปรอเขาอีกแล้ว นั่งรถตรงไปยังที่อยู่ที่คุ้นเคย รอให้หยกลงมารับขึ้นห้อง ตัดสินใจกกกอดร่างเล็กไว้คลายเหงา



หยกยอมเล่นกับผม แต่ก็แค่ครู่เดียว พอผมและเขาต่างปลดปล่อยเสร็จ เขาก็ล้มตัวนอนทันที ปฏิเสธจะต่ออีกรอบจนผมขยับตัวเข้าไปกอดเขา ล้วงมือไล้ผ่านผ้าห่ม



“พอแล้วเตย”



ผมคงมาหาเขาบ่อยจนหยกยอมเรียกชื่อผมแทนคำว่าคุณแล้ว มันทำให้ผมรู้สึกดีที่มีคนเรียกชื่อ



“อีกนิดนึงนะ”



“พอแล้ว ผมง่วง”



ผมที่ปัดป่ายไปทั่งตัวหยกต้องชะงัก เพราะร่างเล็กขยับหนีใส่พร้อมที่จะไม่ใส่ใจในสัมผัสใดๆ ของผมอีก โถ่ หยกใจร้ายจัง เมื่อสะกิดไปกี่รอบก็ไม่ได้ผล ผมเลยยอมนอนเฉยๆ คว้าเขามากอด ข่มตาให้หลับแทน



พอลืมตาตื่นมาก็ไม่พบใครในห้อง หยกคงออกไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ผมผิดหวังที่คืนนี้ค้างฟ้าไม่ได้มาทวงผมกลับเหมือนคืนก่อน ทั้งพอผมกลับไปเขาก็ไม่โผล่หน้ามาที่คอนโดยามเช้า ไหนบอกว่าจะไปส่งผมทุกวันไง...



ผมจะเอาอะไรกับคำพูดลมปากของเขา



สมองผมควรสั่งให้ตัวเองชินได้แล้ว แต่ยังปวดใจทุกครั้งเมื่อคิดถึงคำพูดที่ไม่เป็นจริง มันน่ารำคาญที่พอหัวใจผมมันปวดแปลบๆ สมองเลยสั่งการให้คิดถึงเรื่องนี้วนไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า



หงุดหงิด น่าโมโห ผมโกรธตัวเองที่เอาแต่คิดถึงเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า



เขาจะไปไหนผมไม่เกี่ยว คำสัญญาของเรามีไม่กี่ข้อเท่านั้น และข้อสำคัญคือผมต้องรออยู่ที่ห้องเขาทุกคืนที่เขาจะกลับมา และทุกคืนที่เขาจะกลับมา เขาจะต้องกอดผม แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เป็นหลายคืนแล้วที่ผมเฝ้ารอเขาในวันที่เขาบอกจะมา หากคว้าไขว่ได้แต่ความว่างเปล่า



แน่นอนว่าพอเขาผิดสัญญา ผมก็เลิกสนใจคำพูดของเขา ทำตัวแหกกฎคืนใส่เขาบ้าง ค้างฟ้าดูไม่ค่อยพอใจนักหรอก แต่เขาเองก็ทำตามคำพูดไม่ได้



ทำไม่ได้แล้วจะพูดทำไม จะปล่อยให้ผมอยู่กับคำลวงไปถึงเมื่อไหร่



ผมไม่ชอบตัวเองที่รอเขาเป็นหมารอเจ้าของ แค่ปลอกคอที่เป็นชื่อเขาก็มากพอแล้ว



ผมเบื่อ ผมเกลียด คิดว่าเขาแตกต่างจากคนอื่นแท้ๆ แต่ประสบการณ์สี่ปีที่อยู่ร่วมกันมา ก็ได้ให้คำตอบในวันนี้ว่าค้างฟ้าเองก็ไม่ได้ต่างจากคนพวกนั้น



ผมเสียใจ ผิดหวัง หงุดหงิด ผมไม่ใส่ใจการเรียนไปทั้งวัน เน็ตหันมาดุ แต่ผมไม่มีอารมณ์ไปเถียงเขา



ราวกับมีไฟร้อนน่ารำคาญลุกไหม้อยู่ในใจ ร้อนรุ่นจนคันยิบๆ ที่หน้าอก อยากจะอาเจียนเอามันออกมาให้หมดสิ้น ให้ความรู้สึกผมกลับมาเป็นปกติ



เป็นความรู้สึกแปลกหน้าที่ผมไม่ชอบใจ และไม่อยากทำความรู้จักมัน



หัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับคอนโดที่ไม่มีใครเช่นเดิม ผมยกโคมไฟฟาดกล้องวงจรปิดที่ค้างฟ้าเพิ่งติดใหม่จนมันพังอีกครั้ง เสียงโครมครามทำให้เน็ตเข้ามาดู



มองตาเขา “เตยจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว”



“ใจเย็นก่อน”



เขาเดินเข้ามา แต่ผมเย็นไม่ไหว มันบ้าอะไร ทำไมผมต้องทนอยู่กับชีวิตแบบนี้ตั้งหลายปี เขาไม่ใช่พระเจ้าที่มอบทุกความต้องการให้ผมอีกต่อไปแล้ว



เขาก็แค่คนเลี้ยงสัตว์ที่ไม่ได้เรื่อง



เน็ตกำข้อมือผมไว้ ใช้อีกมือจับโคมไฟที่ผมถืออยู่ก่อนค่อยๆ นำมันออกจากมือผม



“ค้างฟ้าจะกลับมาวันไหน”



“...”



เน็ตหลบตา ไม่ตอบ



“งั้นเตยจะไป”



“จะไปไหน รออยู่เฉยๆ ไม่นานเขาก็กลับ”



“อีกนานแค่ไหน”



“...”



เน็ตให้คำตอบผมไม่ได้ ผมตั้งท่าจะออกจากห้องนี้



ทว่ามือใหญ่ดึงมือผมไว้ไม่ให้ก้าวออกจากกรงทอง สิ้นสุดความอดทน ผมสะบัดหน้าหันไปหาเขา พุ่งไปจูบเน็ตเบียดริมฝีปากของตัวเองเข้ากับของเขา พยายามใช้ลิ้นดันริมฝีปากอีกฝ่ายให้เผยอออก จนเขาผลักผมกระเด็น ล้มลงไปกองกับพื้น



เน็ตเช็ดปากตัวเอง สายตาใต้กรอบแว่นที่ฉายมาทำให้ผมไม่เข้าใจ เขาไม่พูดอะไรอีก เดินออกจากห้อง ปิดประตูขังผมไว้อีกครั้ง



ผมหลับตา...



นอนแผ่อยู่บนพื้นหินอ่อนเย็นเยียบ



พอกันที



“จะไปไหน”



พระอาทิตย์ตกดิน แสงสุดท้ายของวันหมดลงไปนานแล้ว ผมเปิดประตูห้องออก ตรงไปยังโถงลิฟท์ ก่อนโดนเสียงคุ้นเคยดังขัดขึ้นมา เสียงนั้นคงจะรั้งผมได้ถ้าหากว่าเขาเป็นค้างฟ้า ไม่ใช่เน็ต



“ไปหาหยก” ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไรกลับมา ไม่รอคำอนุญาต เน็ตไม่ใช่เจ้านายผม แต่การบอกสถานที่จะทำให้เขายอมปล่อยผมออกไปง่ายขึ้น ผมเข้าไปในลิฟท์ กดชั้นล่างสุด เน็ตไม่ได้ตามออกมาและผมก็ขึ้นรถตรงไปหอหยกอย่างที่บอก



ในห้องหยกมืดสนิท เขาคงกำลังจะเข้านอน เสียแต่ผมมาขัดจังหวะ ความรู้สึกอึดอัดในใจต้องการระบายออก และสถานที่ที่ผมนึกถึงที่แรกก็คือที่นี่



“เป็นอะไรไป” เจ้าของเสียงน่ารักถาม ผมกอดเขาไว้ ซุกหน้าลงแผ่นหน้าอกเล็ก



“เหนื่อย”



“เรียนหนักเหรอ?”



“คิดว่าเป็นเรื่องนั้นจริงๆ น่ะเหรอ”



หยกหัวเราะเสียงใส เอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ สัมผัสอ่อนโยนน่าโหยหาจนหายใจไม่คล่อง



“เจ้าของไปไหนล่ะ”



“ไม่รู้” ว่าพร้อมซุกหาเขามากกว่าเดิม



“งั้นคืนนี้กอดผมไปก่อน” ผมพยักหน้า กดเขาลงบนเตียง หยกส่งเสียงหัวเราะอีกครั้ง “ไม่ใช่กอดแบบนี้”



ผมทำหน้าไม่เข้าใจ



“นอนกอดกัน กอดเฉยๆ”



ถึงจะไม่ตรงความคิดที่ต้องการ แต่ผมก็เหนื่อยเกินกว่าจะโต้เถียง หลายคืนแล้วที่นอนไม่หลับ ผมยอมให้อีกฝ่ายใช้แขนเล็กๆ นั่นโอบตัวผมไว้



ท่ามกลางความเงียบ ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองและหยก ดังเป็นจังหวะช้าๆ ผมสบตากับความมืด จ้องมองมันราวกับพยายามค้นหาอะไรบางอย่าง



“ชอบเขาเหรอ”



น้ำเสียงใสถามแทรกความคิดล่องลอย



“ชอบใคร?”



“ค้างฟ้า”



“ไม่ได้ชอบ”



“ไม่ได้ชอบแล้วทำไมถึงเป็นอย่างนี้”



“เป็นยังไง?”



“เหมือนคนอกหัก”



“ไม่ได้อกหัก” จะอกหักได้อย่างไรในเมื่อผมยังไม่เริ่มต้นตกหลุมรัก “ผมไม่ได้ชอบเขาด้วยซ้ำ”



“เตยอาจจะชอบเขาแต่ไม่รู้ตัวก็ได้”



“ไม่มีทางหรอก” ผมบอก



ไม่ได้ชอบค้างฟ้า ที่ผ่านมาผมอยู่กับเขาเพราะผลประโยชน์ เขาเองก็เช่นกัน ระหว่างเราจะไม่มีความรักหรือความชอบ ไม่มีสายสัมพันธ์ ตกลงกันไว้แล้ว และผมกำลังหัวเสียเรื่องนี้ เรื่องที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากครอบครองเขามากกว่านี้ หงุดหงิดที่เขาไม่มาหา ผิดคำสัญญาซ้ำๆ



“เตยคิดถึงเขาขนาดนี้ ไม่ชอบแล้วเป็นอะไร”



“ผมคิดถึงเขาเพราะหวังผลประโยชน์ต่างหาก”



“ผลประโยชน์อะไร”



“...”



ผมไม่ตอบ หยกก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เป็นเวลานานที่เรานอนจมอยู่ในความเงียบ



“ทำไมหยกถึงชอบเขา”



“...”



ผมเอ่ยถามหยกในความเงียบ มั่นใจว่าหยกคงรู้ว่าเขาที่ผมว่าคือใคร



“ทำไมถึงร้องไห้ให้เขา ทั้งๆ ที่เขาทำร้ายหยกซ้ำแล้วซ้ำเล่า”



“...”



“เพราะชอบงั้นหรือ”



“...อาจจะ”



“แค่เหตุผลเดียวก็ทำให้ไร้ซึ่งเหตุผลทุกอย่างเลยหรือ”



“คนที่เป็นทุกอย่างของหัวใจ...สักวันเตยจะเข้าใจ”



“ผมไม่มีวันเข้าใจหรอก”



“...”



“ผมเกลียดคำนี้”



“...”



“ใครๆ ก็ล้วนใช้คำว่าชอบทำร้ายคนอื่น”



“ไม่เสมอไปหรอก การที่เตยไม่เจอคนที่ดีด้วย ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีอยู่จริงเสียหน่อย”



ผมไม่เอ่ยเถียง แต่ไม่ตอบเขา และไม่ได้เชื่อในประโยคนั้นเต็มร้อย เราจมอยู่ในความมืดและสงัด บดเบียดแลกไออุ่นให้กัน ก่อนนิทราจะพรากหยกไปจากผม คนตัวเล็กนอนนิ่ง ลมหายใจขึ้นลงคงที่ เขาคงมีฝันที่ดี



หลังจากที่พูดคุยกับความเงียบ สุดท้ายผมก็ได้ข้อสรุป



ผมแกะตัวเองออกจากเขา ลุกขึ้นจากเตียง จงใจวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ก่อนเดินลงไปที่หน้าคอนโด ถัดไปไม่กี่เมตรมีตู้เอทีเอ็มอยู่ ผมควักกระเป๋าตังค์ หยิบการ์ดเอทีเอ็มที่ค้างฟ้าทำให้ผมออกมา ใช้มันกดเงินในบัญชีจนหมด นำธนบัตรทุกใบใส่กระเป๋ากางเกง



จากนั้นก็วางกระเป๋าตังค์ทิ้งไว้



เดินออกไปไม่กี่ร้อยเมตรก็เจอรถแท็กซี่จอดให้รอบริการ อาจเพราะที่พักของหยกอยู่กลางใจเมือง มีบริการขนส่งรายล้อมคอยบริการ หรืออาจเป็นชะตาลิขิตที่รอให้ผมต้องทำเช่นนี้ ผมขึ้นรถไปไม่รอช้า จุดหมายปลายทางคือที่ที่ผมจากมานานแสนนาน





ในเมื่อค้างฟ้าให้สิ่งที่ผมต้องการไม่ได้ ข้อตกลงที่เคยมีก็ไม่มีใครทำตาม ผมก็แค่กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อน



ค้างฟ้ามอบเงิน มอบที่อยู่แสนสะดวกสบาย แลกกับการที่ผมต้องไปเรียนอย่างหนักแทนเขา และคอยรองรับอารมณ์และเซ็กซ์ที่เขาเอาลงกับคุณเอมไม่ได้ คำพูดที่เขาเคยกล่าวมามีแค่นี้ ข้อสัญญาง่ายๆ ที่ฟังแล้วผมมีแต่จะได้เปรียบ



แต่นานเข้ากลับยิ่งอึดอัด เหมือนถูกขังอยู่ในกรง ผมไม่ใช่หมาบ้าน แต่เป็นแมวจรเร่ร่อนที่ไม่ชอบการถูกกักขัง กฏสองข้อที่เขากล่าวมาผมทำให้ได้ แต่เขาทำให้ไม่ได้ เราอยู่ด้วยกันมาสี่ปี แต่เกือบปีแล้วที่ค้างฟ้าเปลี่ยนไป ไม่กอดผมแบบรุนแรงเหมือนก่อน เขาอ่อนโยนขึ้นจนน่าขยะแขยง และนั่นผมไม่ต้องการ



การที่ผมต้องการเขาในยามที่เขาไม่อยู่นั้น ผมเองก็ไม่ต้องการ



คราวนี้อะไรหลายอย่างที่ผ่านมาทำให้ผมตัดสินใจเด็ดขาด เลิกแล้วต่อคนที่ชื่อค้างฟ้าเสียที ค้างฟ้าจะไม่สามารถตามหาผมได้อีก ผมรู้ว่าเขาติดจีพีเอสที่โทรศัพท์มือถือของผม และแม้ว่าไม่ได้หาในกระเป๋าตังค์ แต่ผมคิดว่ามันต้องมี จึงเลือกทิ้งทุกอย่างไว้ที่หอหยก หากเขาจะเห็นผมจะจากกล้องวงจรปิด เห็นทะเบียนแท็กซี่ที่ผมขึ้น แต่เขาจะไม่สามารถรู้ได้ว่าผมไปที่ไหน



ผมลงจากแท็กซี่กลางถนน เปลี่ยนคันกลางทางเพื่อที่จะได้แน่ใจว่าเขาจะหาผมไม่เจอ ผมเดินไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีแท็กซี่ก็คงต้องเดินถึงเช้า แต่โชคดีที่ไม่เป็นเช่นนั้น มีรถรับส่งสีเขียวเหลืองจอดรับผม และยอมพาไปส่งที่จุดหมายปลายทางด้วยราคาที่แพงกว่าปกติสองเท่า



ที่นี่ห่างไกลจากย่านแสงสี ย่านที่คนดีๆ อย่างเขาไม่คู่ควรลงมาคลุกคลี



เราควรต่างคนต่างอยู่ ตักตวงผลประโยชน์ซึ่งกันและกันต่อไป ผมหงุดหงิดทั้งตัวเองและค้างฟ้า ที่ตอนนี้เราไม่ได้เป็นแบบนั้น



หงุดหงิดที่เขาทำตัวอ่อนโยนกับผมแล้วผมดันชอบ หงุดหงิดที่พอเขาทำให้ผมคุ้นเคยกับมันแล้วก็จากไป หงุดหงิดที่ตัวเองไม่เหมือนก่อน หงุดหงิดที่ตัวเองคิดถึงเขามากไป หงุดหงิดที่สุดท้ายแล้วเขาก็มีคุณเอม…



...แต่ผมไม่มีใคร



รถจอดถึงจุดหมายแล้ว ผมยื่นเงินให้คนขับ ก่อนออกมาเดินเตร่ในสถานที่ที่เงียบสงัดและรกร้างราวกับไม่ใช่สถานที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวต แต่เชื่อเถอะว่าที่นี่มีคนอาศัยอยู่กันเนืองแน่น ผมแค่ต้องเดินเข้าไปลึกอีกหน่อย



ผมเตะก้อนกรวดข้างทาง มองมันกลิ้งไปโดนเสาไฟฟ้า กระเด้งกลิ้งกลับมาไม่กี่ตลบก่อนหยุดลง



พร้อมกับเห็นร่างของใครบางคนยืนอยู่ไม่ไกล



สองร่างนั้นแฝงตัวอยู่ในเงาตะคุ่ม กลิ่นบุหรี่ลอยโชยมาก่อนที่จะเห็นหน้าคนสูบ พวกเขาเดินเข้ามาทางผม ส่งเสียงร้องทัก



“ดูสิ ใครกลับมา”



ผมยิ้ม ในเมื่อค้างฟ้าให้สิ่งที่ผมต้องการไม่ได้ ผมก็แค่กลับมาเป็นเหมือนเดิม



สะกดจิตหัวใจตัวเองให้ด้านชา



เงินที่ค้างฟ้าให้มามันมากพอที่จะอยู่ได้สบายๆ แต่ผมเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยทำงาน งานที่ได้เงินครั้งละมากๆ เช่นกัน



ผมเดินไปหาพวกเขาทั้งสอง เมื่อมาถึงระยะที่เห็นหน้าแล้ว ผมจ้องมอง จำหน้าไม่ได้หรอก แต่พวกเขารู้จักผม แสดงว่าคงเป็นลูกค้าเก่า





 “ครั้งนี้คิดแพงนะ สนใจไหม”










เป็นตอนที่ชั่งใจว่าจะลบแล้วเขียนใหม่ดีมั้ย

แต่สุดท้าก็เอามาปัดๆ ฝุ่นแทนค่ะ

*มีเรื่องต้องเรียนให้ทราบว่าต่อจากนี้เนื้อหาอาจจะหนักหน่อยนะคะ*

ไม่ใช่แนวใครสามารถหยุดอ่านได้น้า T_T



ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 7 - |20.12.2018| p.2
«ตอบ #47 เมื่อ20-12-2018 05:51:25 »

ปวดใจมากจริงๆ ค่ะ เตยเริ่มต้นจากอะไรนะ
เจออะไรมาบ้าง แล้วทำไมไม่เลือกที่จะหลีกหนี
ถึงจะหนีจากค้างฟ้าไป แต่ก็ไม่น่ากลับไปจุดเดิม
ที่บอกว่าทำให้ด้านชา มันไม่ช่วยหรอก
กลัวจะเจ็บกว่าเดิมนะเตย

ค้างฟ้าคือคำลวง ทำไมไม่ชัดเจนล่ะ

ออฟไลน์ IamLonelygirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 7 - |20.12.2018| p.2
«ตอบ #48 เมื่อ20-12-2018 09:30:13 »

น้องงงงงงงงงงงงเตยยย
น่าสงสารอ่พฮือออ
แบบบบน้องมีปมในใจเยอะ
ค้างฟ้ามาทำแบบนี้อีก
สงสารอ่ะฮือ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 7 - |20.12.2018| p.2
«ตอบ #49 เมื่อ23-12-2018 00:44:45 »

ทำไมค้างฟ้าต้องโกหกเตย ก่อนที่จะมาเป็นสัตว์เลี้ยงของค้างฟ้าเตยต้องผ่านอะไรมาบ้าง รู้สึกว่าไม่อยากให้เตยกลับไปอยู่จุดเดิมเลยค่ะ ดูหม่นๆค่อนไปทางดำเลย ปมเยอะเหลือเกิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 7 - |20.12.2018| p.2
« ตอบ #49 เมื่อ: 23-12-2018 00:44:45 »





ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 7 - |20.12.2018| p.2
«ตอบ #50 เมื่อ23-12-2018 10:36:10 »

 :o12: :o12:

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 8 - |28.12.2018| p.2
«ตอบ #51 เมื่อ28-12-2018 17:23:57 »

8: Determine



ห้องสี่เหลี่ยมเต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่รก กลิ่นเหม็นอับทับด้วยกลิ่นเหงื่อและราคะลอยคลุ้งจนรู้สึกคลื่นเหียน ฟูกนอนสกปรกวางอยู่บนพื้นห้องที่โสโครกไม่ต่างกัน ผมไม่แน่ใจว่าระหว่างนอนบนฟูกกับพื้นอะไรจะสะอาดกว่ากัน



ผมตื่นแล้ว จ้องมองแสงแดดที่เล็ดลอดสาดเข้ามาทางหน้าต่างบานเล็ก มองละอองฝุ่นที่ลอยคลุ้งและเห็นชัดขึ้นเมื่อมันอยู่ในเส้นทางเดินของแสงอาทิตย์ ฝุ่นเม็ดเล็กลอยวนในอากาศ เนิบช้า คล้ายกับว่าไม่มีวันตกลงสู่พื้น



สองคนนั้นคงออกไปนานแล้ว และผมควรจะลุกขึ้นมาจัดการตัวเองเสียที น้ำกามเหนียวเปรอะตัวผมจนไม่สบายตัว ฝุ่นคลุ้งที่ลอยอยู่เต็มห้องทำให้หายใจเต็มปอดไม่สะดวก ผมชันตัวลุก เดินไปยังมุมห้องที่มีโอ่งใส่น้ำอยู่พร้อมกับขันที่ลอยเหนือน้ำ ผมใช้มันตักอาบราดตัว ชำระสิ่งสกปรกเลอะเทอะ



ดีที่สองคนนั้นไม่ได้มีรสนิยมชอบผู้ชาย เขาใช้ผมระบายความใคร่ทางปากเท่านั้นทำให้ช่องทางของผมไม่ต้องทำความสะอาดเพิ่มเติมอะไร ผมแน่ใจว่าถ้าพวกระยำอย่างพวกมันจะทำ ก็คงไม่สวมถุงยางหรอก



จัดการหยิบเอาเสื้อตัวเดิมขึ้นมาใส่ ผมเห็นแบ็งค์สีเทาวางเกลื่อนอยู่ไม่ไกลจากเสื้อผ้า



ผมเก็บเงินที่ได้มาใส่กระเป๋ากางเกง อย่างน้อยพวกมันก็ให้เงิน แถมไม่ขโมยเงินที่เหลือของผมไป แม้ว่าเมื่อคืนพวกมันจะน่ารังเกียสุดๆ ก็ตาม



ปัดฝุ่นสองสามทีก่อนออกจากห้องเหม็นหืน



แสงอาทิตย์เจิดจ้าส่องมาจนแสบตา ผู้คนในย่านนี้เริ่มออกมาข้างนอกบ้านกันแล้ว ส่วนใหญ่มักจะสุมหัวสูบบุหรี่หรืออย่างอื่นด้วยกัน



“โอ๊ะ นั่นมันใครกันเน้อ หน้าคุ้นๆ” เสียงแซวจากกลุ่มคนไม่ไกล ผมยกยิ้มมุมปากให้เขา ไม่แปลกอะไร ในย่านนี้เรารู้จักกันแทบทุกคน ผมน่าจะหมายถึง...พวกเขารู้จักผมกันแทบทุกคนมากกว่า



ผมเดินไปหาพวกนั้นที่กำลังป่นผงสีขาวสู่บ้องกระบอกสูบ



“เอาไหม”



ผมส่ายหน้า “ขอบุหรี่ดีกว่า”



คนที่อยู่ใกล้ตัวผมที่สุดยื่นบุหรี่หนึ่งมวนตามคำขอให้ เขาดูท่าทางน่าจะเป็นมิตรที่สุด



 ผมรับมาพร้อมยัดเงินจำนวนหนึ่งให้ ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ



 “ขอบคุณ”



ใครสักคนขยับที่ให้ผมนั่งลงข้างๆ ก่อนส่งไฟแช็กให้ ผมคาบบุหรี่ไว้ในปาก จุดไฟแช็กให้เปลวไฟเผาไหม้ปลายบุหรี่ สูบมันเข้าปอดก่อนปล่อยควันดำออกมา



พวกกลุ่มคนที่อยู่ข้างๆ เองก็จุดเผาสิ่งที่ผมคุ้นเคยกับมันดี จนกระทั่งค้างฟ้ามาทำให้ผมต้องเลิกกับมันไปนานหลายปีทีเดียว



ที่ผ่านมา ผมเคยใช้มันเพื่อหลบหนีจากเหตุการณ์ที่ตามหลอกหลอนบางอย่าง ผงแห่งความฝันช่วยให้พวกเราไม่ต้องเผชิญหน้ากับความจริง



ควันสีขาวเข้าสู่ร่างกาย ตัดขาดจากโลกเข้าสู่จินตนาการ ในที่ซึ่งทุกอย่างสบายราวกับฝัน น่าเสียดายที่ผมไม่เลือกใช้มันอีก เพราะคำขอของใครบางคนที่ผมไม่จำเป็นต้องยึดติดก็ได้ แต่ผมก็ยังคงทำตาม



ตอนนี้ควันดำควันขาวลอยฟุ้งไปในอากาศ ผมเหม่อมองมัน รู้สึกว่าตัวเองไร้น้ำหนัก ปล่อยให้ตัวเองลอยเคว้งคว้าง หลับตาเพื่อหลีกหนีจากโลกแห่งความจริง ตัวตนผมว่างเปล่าจากข้างใน มันว่างจนแทบจะหาตัวตนของตัวเองไม่เจอ



ผมหัวเราะเบาๆ ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ



“เอาอีกไหม”



ใครคนหนึ่งถามเมื่อเห็นบุหรี่มนปากผมใกล้จะหมดมวน ผมส่ายหน้า มากพอแล้ว



“เห็นว่าหายไปตั้งสี่ปี”



“...” ผมเหลือบตามองเขา ผู้ชายผมยาวประบ่า ใบหน้าเริ่มมีริ้วรอยยับย่น คงแก่กว่าผมหลายปี สวมเสื้อคลุมแจ็กเก็ตสีเขียว ส่งยิ้มบางให้ผม สงสัยคงเป็นคนที่นี่



ผมจำหน้าใครที่นี่แทบไม่ได้หรอก อันที่จริงต้องบอกว่า ส่วนใหญ่จะไม่ได้มองหน้ามากกว่า...



“สี่ปีนี่ไปไหนมา” เขาถาม



“ไปมหาลัย”



“โอ้โห ไปเรียนรึไง จบไหม”



ผมส่ายหน้า เขาหัวเราะก๊าก คนอื่นๆ ก็หัวเราะตาม เสียงหัวเราะไปในเชิงเยาะเย้ย ผมยกยิ้ม ไม่แปลกหากมันจะน่าหัวร่อ พวกเราที่อยู่ที่นี่ไม่สมควรได้รับการศึกษาตั้งแต่แรกแล้ว สี่ปี...ที่เรียนไม่จบ สาเหตุคงเพราะคณะผมต้องเรียนหกปี แต่ผมก็หนีออกมากลางเทอม...ต่อให้จบสี่ปีก็คงไม่จบจริงๆ



คนที่ส่งเสียให้ผมเรียนคงเสียดายค่าเทอมแย่



เพราะเป็นตัวเองคงเสียดายที่ทุ่มเงินหลายหมื่นหลายแสนมาให้อะไรแบบนี้... ไม่สิ ถ้าเป็นผมคงไม่ส่งเสียตัวเองเรียนตั้งแต่แรก ในเมื่อสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ด้วยวิธีอื่น



“แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหน”



“ไม่รู้สิ” ผมยิ้มให้คนแปลกหน้า “คงแล้วแต่คุณ”



อีกฝ่ายจ้องกลับมาอย่างรู้ความหมาย ผมจากที่นี่มานานแล้ว บ้านเก่าคงไม่เหลือสภาพ และถ้าเลือกได้ ผมก็ไม่อยากจะกลับไปที่นั่น คืนนี้ผมจะอยู่ที่ไหน ขึ้นอยู่กับเขาตัดสินใจ ถ้าเขาเลือกผม คืนนี้ผมจะไปอยู่กับเขา แต่ถ้าไม่...ก็คงไปหาคนอื่นเพื่ออยู่ด้วยอยู่ดี



“กินนี่หน่อยมั้ย”



ชายคนเดิมถาม เขาส่งแซนวิชหน้าตาบูดเบี้ยวมาให้ผม เขาให้ ผมก็รับ อันที่จริงนอกจากความสามารถเรื่องการอดนอนแล้ว ผมยังอดข้าวได้หลายวัน



เสียแต่ผมกินดีอยู่ดีมาหลายปี ตอนนี้ท้องร้องโครก สูญเสียความสามารถในการอดอาหาร กลับไปไม่ชินเสียแล้ว อาหารไม่ตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อวาน แถมเมื่อคืนยังใช้พลังงานเยอะ เลยรับมากินอย่างไม่อิดออดเล่นตัวให้วุ่นวาย กัดแซนวิชต่อชีวิตโดยทันที



ความเงียบเข้าปกคลุมสักพัก ก่อนที่เขาจะเอ่ยออกมา “ยังเช้าอยู่ แต่ไปบ้านกูมั้ย”



ผมส่งแซนวิชคำสุดท้ายเข้าปาก แลบลิ้นเลียปลายนิ้วที่เลอะซอส



พยักหน้า



ผมเดินตามชายแปลกหน้ากลับบ้านเขา ในตอนกลางวันแสกๆ สภาพบ้านเขาไม่ต่างจากห้องที่ผมจากมาในตอนเช้าสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ข้าวของเครื่องใช้เยอะกว่า และสะอาดกว่านิดหน่อย เขาเดินขึ้นชั้นสอง เปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อยืดมาหนึ่งตัว โยนให้ผม



“เห็นว่าไม่มีเสื้อใส่”



“ขอบคุณ”



ผมส่งยิ้มให้เขา แม้ว่าผมจะมีธนบัตรจำนวนมาก มันมากพอที่จะซื้อเสื้อราคาถูกๆ ได้หลายตัว และมากพอที่จะเช่าห้องพักราคาถูกอยู่ได้หลายเดือน เพียงแต่ผมไม่ปฏิเสธเสื้อโกโรโกโส รับน้ำใจของเขา ทำตามที่เขาบอก เกียจคร้านเกินกว่าจะคิดมาก



“รู้จักชื่อกูหรือยัง”



ผมส่ายหน้า



เขาเอ่ยเชื่อตัวเองออกมา เสียแต่ผมไม่คิดจะจดจำ



ผมพยักหน้ารับ ถอดเสื้อตัวเก่าที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นออก เปลี่ยนเป็นตัวใหม่ที่เขาส่งมาให้



“ชื่อพวกเราเข้ากันดี...ว่ามั้ย”



ผมยิ้ม “นั่นก็ต้องลองดูก่อนว่าจะเข้ากันได้มั้ย”



พูดจาสองแง่สองง่ามให้เขาตีความหมายเอง ทั้งๆ ที่ชื่อเขาไม่แม้แต่จะผ่านหูผมด้วยซ้ำ เขาหัวเราะร่า



“ไม่ต้องใส่เสื้อแล้ว เดี๋ยวก็ต้องถอด”



เขาว่า กระโจนใส่ผมที่ยังใส่เสื้อไม่เรียบร้อยดี ล้มแผ่สู่แผ่นฟูกแข็ง



ในห้องที่เปื้อนฝุ่น แสงอาทิตย์ยังคงสาดส่องมาในห้อง ฟูกเตียงเหม็นอับ พื้นไม้อับชื้นขึ้นเชื้อรา ผนังปูนที่สีลอกออกมาเป็นแผ่น สถานที่และการกระทำเหมือนจะคุ้นเคยแต่ไม่คุ้นชิน ผมและเขา กลิ่นเหงื่อและกลิ่นกาย ตัณหาและราคะ



เซ็กซ์ของพวกเราเริ่มต้นขึ้น



เขาตอกแก่นกายตัวเองเข้ามาจนมิด ผมขบปากตัวเองแน่น หาใช่ความเสียวซ่าน...หาใช่ความเจ็บปวด หัวสมองผมขาวโพลน หมุนคว้างเหมือนลูกข่าง และสุดท้ายก็หัวเราะออกมา



“ขำอะไร”



“เปล่า ทำต่อเถอะ”



เขามีสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย แต่หลังจากที่ผมขยับสะโพกเย้าแหย่ เขาก็กลับมาเหมือนเดิม กระแทกตัวใส่ผมไม่ยั้ง ผมอ้าขาออก รองรับแก่นกายแข็งร้อนที่สวนเข้าสวนออกราวกับสัตว์ป่า



แบบนี้ต่างหากที่ผมพอใจ



ไร้เมตตา ไร้ความอ่อนโยน เพียงใช้ร่างกายอีกฝ่ายเพื่อปลดปล่อยอารมณ์



แบบนี้ต่างหาก ไม่ใช่อ้อมกอดอบอุ่นที่คอยประคองร่างผม ไม่ใช่จังหวะเนิบช้าที่กลัวว่าผมจะพัง...ไม่ใช่แบบนั้น



สัมผัสของค้างฟ้าเป็นความรู้สึกที่ไม่คาดว่าจะได้รับ ผมร้องขอเขาเสมอว่าอย่าทำแบบนี้...เพราะผมไม่รู้จะโต้ตอบกับมันยังไง อย่าอ่อนโยน อย่าทำเหมือนผมเป็นของล้ำค่าที่เปราะบาง อย่าทำเป็นใส่ใจ เมื่อสุดท้ายแล้วคุณจะบดขยี้มัน ไม่ต่างจากใครต่อใคร



ผมรีบสลัดความคิดเก่าๆ ออก



น้ำตารื้น เชิดหน้าขึ้น แอ่นสะโพก อ้าขากว้างกว่าเดิม



บอกตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็จบ



.



ผมออกจากบ้านหลังนั้นมาตอนสี่ทุ่ม หลังจากที่คิดๆ ดูแล้ว ผมน่าจะเอาเงินไปเช่าที่อยู่เองมากกว่า ถึงอย่างนั้นบ้านของหมอนั่นอาจจะยังใช้เป็นที่อยู่ให้ผมได้อีกสักพัก จนกว่าจะหาบ้านใหม่ได้



แต่ที่ผมออกมากลางดึกเพราะทนความหิวในท้องที่ร้องประท้วงไม่ไหว แซนวิชชิ้นเดียวเมื่อก่อนอาจจะอยู่ท้องแต่ตอนนี้ไม่สามารถประทังความหิวได้ จึงตั้งใจจะไปร้านสะดวกซื้อแถวนี้ โดยใช้เงินที่เขาให้มานั่นแหละ มันไม่ได้มาก แต่คิดเสียว่าเป็นค่าเสื้อก็แล้วกัน



ร้านสะดวกซื้อเปิดไฟสว่างโร่ ผมสาวเท้าเปิดประตูเข้าไป ตรงไปยังชั้นวางขนมปัง ยืนเพ่งพิจมองมัน เลือกว่าชิ้นไหนที่เหมาะจะอยู่ในท้องผมในตอนนี้



“เตย?”



ผมหันไปทางต้นเสียง เมื่อได้ขนมปังไส้ครีมมาอยู่ในมือ



“...กายเหรอ?”



ในที่แบบนี้ ผมจำหน้าใครแทบไม่ได้นอกจากคนคนนี้ เธอเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ผมแปลกใจที่สี่ปีผ่านมาแล้ว เธอก็ยังทำงานอยู่ที่เดิมเหมือนเคย



“กลับมาทำไมอีก”



กายบอก มองผมด้วยสายตาผิดหวัง คำทักทายแรกคล้ายเป็นการเอ่ยไล่



“ทำไมเหรอ เตยกลับมาไม่ได้หรือไง”



“ไม่ใช่...แต่ตอนนั้น...เตยไปก็ดีแล้ว กลับมาในที่แบบนี้อีกทำไม”



ผมไม่ได้ตอบอะไร ยื่นขนมปังกับขวดน้ำเปล่าไว้บนเคาน์เตอร์ให้เธอคิดเงิน



“เตยมีเวลาไหม อยากคุยด้วย...”



“เอาสิ”



ผมว่า รับเงินทอนจากเขามา กายมุดเข้าไปหลังร้าน เอ่ยบอกพนักงานอีกคนว่าขอตัวไปทำธุระเดี๋ยวเดียว ก่อนจะพาผมออกมา กายพาผมเดินลัดเลาะไปตามบาทวิถี



“เตย...กลับมาทำไมหรือ”



“ไม่อยากให้เตยกลับมาเหรอ”



“อืม ไม่อยาก” กายว่า เงยหน้าขึ้นมองผม “ตอนที่เตยบอกจะไปกับคนนั้น เราคิดว่าดีแล้ว เตยจะได้มีความสุข เขารวยไม่ใช่เหรอ ไหนบอกจะให้ที่อยู่ ให้การศึกษา...”



“อืม เตยมีความสุข...” ผมวรรค ครุ่นคิด “แค่พักเดียว”



“เขาทำอะไรไม่ดีใส่เตยเหรอ”



“เขาผิดคำพูด”



“ยังไง เล่าให้กายฟังได้มั้ย”



ผมพยักหน้า ฉีกซองขนมปังออก กินมันเข้าไปพร้อมๆ กับเล่าชีวิตช่วงสี่ปีให้เธอฟัง เราหยุดนั่งพักข้างถนนที่ดูสะอาดที่สุด เพราะเหนื่อยที่จะเดินต่อ



“เพราะแค่นี้เองเหรอ”



เรื่องเล่าจบ กายประเมินว่ามันเล็กน้อย ไม่คุ้มค่า



“เตยได้เรียนสูง ได้อยู่ที่หรูๆ มีเพื่อน มีคนคอยเลี้ยงดูขนาดนี้ แต่หนีออกมาเพราะเขาไม่อยู่เนี่ยนะ เขาไม่มาหาก็เรื่องของเขาสิ เตยมีความสุขไม่ใช่หรือ”



“กายรู้ได้ไงว่าเตยมีความสุข” ผมพูดเสียงแข็ง “เตยคิดทุกวันว่าทำไมเตยต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”



“แต่นั่นก็ดีกว่าตอนที่เตยอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ”



“ไม่ได้ดีกว่ากันตรงไหน”



“เตยกำลังเดินถอยหลังอยู่นะ เตยจะจมอยู่กับที่แบบนี้ไม่ได้นะ”



“กายเลิกตัดสินแทนเตยเถอะ ที่เตยทำอยู่ไม่ได้เรียกว่าถอยหลัง ไม่ได้เรียกว่าจม เตยแค่ไม่พอใจในที่ใหม่ เลยกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมต่างหาก” ผมถอนหายใจ “ชีวิตที่เตยชินกับมันมาเป็นสิบปี...คงดีกว่า”



เผลอยกมือลูบรอยสักที่เป็นชื่อของเขา



รอยสักชื่อของเขาถูกผนึกไว้ด้วยความเดียงสา ในตอนนั้น ผมคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเจ้าของชื่อนี้ ไร้เดียงสาจนน่าขำ ที่ผ่านมายังเรียนรู้ไม่พออีกเหรอ



ควรจะรู้ตัวได้แล้วว่าโลกนี้ไม่มีใครใจดี



“กายคิดว่าเตยจะมีความสุขเสียอีก...”



“ก็มีนะ ตอนนี้เตยก็มีความสุขดี”



กายมองหน้าผม สายตาของเธอจ้องผมไม่วางตา นานหลายวินาที



“เตยไม่ได้กำลังโกหกอยู่ใช่ไหม”



ผมยิ้มให้อีกฝ่าย “กายก็รู้ว่าเตยโกหกไม่เป็น”



คราวนี้เธอหลุบตามองต่ำ “เตยอาจจะกำลังหลอกตัวเองอยู่ก็ได้”



“กายเลิกคิดแทนเตยได้แล้ว เตยตัดสินใจแล้ว”



“...ขอโทษ กายแค่อยากให้เตยมีความสุข...”



“อืม...”



“คืนนี้พักที่บ้านกายไหม”



“ได้เหรอ”



“ได้สิ กายอยู่คนเดียวมาหลายปีแล้ว” เธอว่า



เมื่อก่อนเธออาศัยอยู่กับพ่อและพี่ชาย แต่ตอนนี้กลับบอกว่าอยู่คนเดียวมาหลายปี ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้น แต่ไม่คิดจะถามกาย ไม่ได้อยากรู้ด้วย



ระหว่างห้องเหม็นฝุ่น เหม็นกลิ่นตัวของหมอนั่น กับห้องหอมกลิ่นหวานๆ ของกาย แน่นอนว่าผมเลือกอย่างหลังโดยทันที



และคืนนี้ผมก็ได้ที่พักใหม่








“นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ไปอยู่กับอีกาย”



ผมออกจากบ้านกาย ตั้งใจว่าจะลองเดินหาหอพักแถวนี้ดูก่อน ทว่าดันเจอกับหมอนั่น เจ้าของเสื้อผ้าที่ผมใส่อยู่ตอนนี้ เขาดูไม่สบอารมณ์ที่ผมหายไปทั้งคืน เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงมาพร้อมกับพวกแก๊งค์พี้ยาเมื่อวาน และดูท่าคงจะไม่ได้เสพย์ยามา ถึงได้อารมณ์เหวี่ยงเช่นนี้



“โทษทีที่ไม่ได้บอกก่อน บังเอิญเจอกันเฉยๆ”



ผมยิ้มให้เขา



“ทำไม เงินที่กูให้น้อยไปหรือไง”



“อืม น้อยเกินไป ที่ยอมเพราะเห็นว่าให้เสื้อนี่มาหรอกนะ”



“ไอ้เตย...”



ผมยืนเฉย จ้องหน้าเขา หมอนั่นท่าทางหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาฉายแววโมโห ผมรู้...คนพวกนี้มักจะอารมณ์ไม่แน่นอน ไม่ช้าเขาก็เอ่ยถ้อยคำถากถางอย่างที่ผมคิดไว้



“กูเห็นหน้ามึงมาตั้งแต่มึงเสียงยังไม่แตก วิ่งร้องเจี๊ยวจ๊าวไปทั่ว”



“แล้วทำไมหรือ...? หรือชอบตอนนั้นมากกว่า?”



“เข้าเมืองไปสี่ปีนี่นิสัยเปลี่ยนไปเยอะนะ”



ผมยักไหล่ อันที่จริงไม่ได้คิดว่าตัวเองเปลี่ยนไปตรงไหน



“ไปชุบตัวกับเสี่ยที่ไหนมาล่ะ ถึงได้เก่งขึ้นเนี่ย ผิวพรรณก็ผุดผ่อง โถ หนูเตยที่ร้องไห้จ้าในวันนั้นกูยังจำได้อยู่เลย”



ผมหัวเราะขำ ชุบตัวมาเหรอ อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ได้อาบน้ำอุ่น ได้รับการดูแลมากมาย ทาโลชั่นประทินผิวราคาแพง กินอาหารที่ทำมาจากวัตถุดิบอย่างดี



“เพราะอย่างนี้ถึงได้ขึ้นค่าตัวไง ลุงคงไม่มีปัญญาจ่ายหรอกใช่มั้ย”



“ไอ้...!”



เขาทำท่าจะเข้ามาใช้ความรุนแรงใส่ผม...แต่มีคนห้ามเขาไว้ คงเป็นพวกเพื่อนของเขาเมื่อตอนนั้น เมื่อขยับตัวไม่ได้ ไอ้หมอนั่นก็เลยใช้คำพูดด่าทอผมต่อ



“อีตัวอย่างมึงคงทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนอ้าขาล่ะสิท่า วันๆ ของมึงก็มีอยู่แค่นี้”



“มันต่างจากวันๆ เอาแต่พี้ยายังไงเหรอ ลุงทำอย่างอื่นเป็นด้วยเหรอนอกจากดูดยากับเอาอย่างหมา”



“ไอ้เวร!” เขาพยายามเข้ามาหาผม แต่ยังโดนดึงรั้งไว้ จึงทำได้แค่จ้องมองอย่างหยามเหยียด และใช้จิตใจบิดเบี้ยว พูดถ้อยคำน่ารังเกียจออกมา



 “กูยังจำได้อยู่เลย วันที่มึงร้องห่มร้องไห้ ร้องหาแม่จ๋า แต่สุดท้ายแม่งก็ไม่มีใครชายตาแลมึง มีแต่เอาไอ้นั่นยัดเข้าไป แต่มึงก็ดูชอบใจนี่หว่า ใช่มั้ยล่ะ”



ผมมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย แต่มุมปากกลับกระตุกรอยยิ้ม อดีตเมื่อครานั้นผมไม่เคยลืม มันหลอกหลอนและสถิตอยู่ทุกครั้งในยามฝัน



หลังจากเหตุการณ์นั้นผมถึงได้ยอมแพ้ต่อการอ้อนวอน เลิกศรัทธาพระเจ้า ไม่เอาตัวเองไปยึดเหนี่ยวกับสิ่งไหน ทำใจมองโลกอันเน่าเฟะที่มีแต่มนุษย์เห็นแก่ตัว ผู้คนพวกนี้สอนให้ผมรู้จักพึ่งพาตัวเอง สอนให้ผมหาวิธีเอาตัวรอดไปวันๆ สอนให้ผมเสพติดเซ็กซ์ สอนให้ไร้รัก สอนให้ผมปรับตัวให้เข้ากับพวกมัน



ผมไม่ได้วิ่งหนีจากที่นี่ แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดบอกผมว่าค้างฟ้าจะทำให้ผมมีชีวิตที่ดี



มันเป็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่นาน การตัดสินใจไปอยู่กับเขาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทาง การกระทำของเขาที่แปลกไปในช่วงหลังทำให้ผมอึดอัด เลยเลือกกลับมาอยู่ที่เดิม



ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป หวนระลึกถึงความหลัง ไอ้หมอนั่นเลยพูดต่อ



“หลังจากนั้นมึงก็เอาแต่ขายตัวนี่ วันนั้นแม่งเปิดโลกมึงดีใช่มั้ยล่ะ ถึงได้มาเอาดีทางนี้ โถ อีเตย ทำมาเป็นร้องห่มร้องไห้”



มันน่าเศร้า ที่ความเศร้าของผมถือว่าเป็นความบันเทิงสำหรับใครหลายๆ คน



ผมสบตากับเขา



หัวเราะออกมา



ได้ยินเสียงหัวเราะของตัวเองดังก้องไปทั่วท้องฟ้า










ส่งท้ายปีไปกับเสียงหัวเราะของน้องเตย TvT

#น้ำค้างฟ้าขุ่น



ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 8 - |28.12.2018| p.2
«ตอบ #52 เมื่อ29-12-2018 07:15:56 »

ไร้คำพูดใดๆ  :ling2: :ling2:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 8 - |28.12.2018| p.2
«ตอบ #53 เมื่อ31-12-2018 10:16:54 »

บีบหัวใจมากเลยค่ะ
อดีตที่เจ็บปวด นำมาสู่การกระทำที่บอบช้ำ
เตยมีชีวิตที่ดีแล้ว แต่ก็เลือกจะกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิม
คงคิดว่ามันช่วยบรรเทาและลบล้างได้
ชีวิตต้องเจออะไรมาบ้างนะ ความคิดเตยถึงสับสนแบบนี้


ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 9 - |6.1.2019| p.2
«ตอบ #54 เมื่อ06-01-2019 18:43:54 »

9: Dust



สภาพในบ้านเก่ากว่าที่ผมคิดไว้ แผ่นพื้นผุพังขึ้นเชื้อรา ฝุ่นเกาะเต็มข้าวของเครื่องใช้ กระจกทุกบานแตกยับเยิน เศษกระจกกระจายนาบอยู่กับพื้นพร้อมกับมีฝุ่นกลบอีกที ก้าวขาลงน้ำหนักทีนึงฝุ่นก็ลอยคลุ้ง สภาพที่นี่ดูไม่ได้เสียยิ่งกว่าบ้านร้างในที่ไหนๆ



บ้านเก่าของผม



ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก แต่ระหว่างวันผมไม่มีอะไรทำ ไม่มีความจำเป็นต้องโต้เถียงกับแก๊งค์พี้ยาที่หาสติไม่ได้ ระหว่างที่หาหอพักใหม่เลยแวะกลับมาดูหน้าอดีตกันเสียหน่อย



สภาพบ้านเรียกได้ว่ารกร้างและผุพังจนไม่มีใครกล้ามาเข้าอยู่ แม้แต่คนจรจัด หรือแมวจรสักตัวก็ยังไม่มี เป็นบ้านที่ตั้งทิ้งไว้เปลืองพื้นที่อย่างไร้ค่า



ผมเตะเศษกระจก ปัดมันให้พ้นจากทางเดิน



บันไดน่าจะเก่าจนใช้การไม่ได้ ผมไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขึ้นขั้นแรก จ้องชั้นสองของบ้านอย่างเหม่อลอย อาจจะดีแล้วก็ได้ที่ผมไม่ได้ขึ้นไปบนนั้น มันอัดแน่นไปด้วยความทรงจำหลากหลายมากมายเกินไป ตัวบ้านไม่ใหญ่มาก ใช้เวลาไม่นอนก็เดินครบทุกห้อง สภาพดูไม่ได้สักห้อง ยิ่งห้องครัวมีซากหนูตาย นกตาย แมลงวันบนตอม ส่งกลิ่นเน่าเหม็นเต็มไปหมด



ผมสงสัยว่าทำไมตอนนั้นไม่ขายบ้านหลังนี้ไปนะ อย่างน้อยก็น่าจะได้เงินต่อชีวิตอีกหน่อย



แต่คิดไปคิดมา ตอนนั้นผมน่าจะเด็กเกินกว่าจะจัดการเรื่องพวกนี้ได้ เลยทำได้แค่ปล่อยมันไป และคิดว่าที่แบบนี้คงไม่มีใครอยากซื้อต่อ



ผมเลิกสนใจบ้านเก่าไร้ค่า เปิดประตูบ้านที่ไม่ได้ลงกลอนออกมารับแสงแดด เดินออกมาจากซอยเปลี่ยวร้างได้สักพักผมก็เห็นร่างของกายกำลังวิ่งเข้ามาหา



“เตย กายหาที่พักให้เตยได้แล้วนะ”



“จริงหรือ ที่ไหนล่ะ”



“อยู่ถัดไปไม่กี่ซอยนี่เอง เจ้าของบอกให้เข้าไปดูได้เลย ไปด้วยกันนะ”



“อื้ม”



ผมเดินตามกายไป เปลี่ยนจากระยะเดินตามเป็นเดินเคียงข้าง กายเป็น...เรียกว่าเพื่อนก็ได้อยู่มั้ง เธออยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กๆ เราเคยเล่นด้วยกัน จนกระทั่งเติบโตขึ้น เรานอนด้วยกัน ก็เท่านั้น



หอพักอยู่ไม่ไกลจากย่านเดิมที่ผมเคยอยู่ ห้องเล็กเท่าแมวดิ้นตายแต่สภาพดูดีกว่าบ้านเก่าของผม หรือห้องเหม็นฝุ่นห้องนั้นเยอะ ผมตกลงกับเจ้าของหอพัก พร้อมที่จะย้ายเข้าทันทีเพราะไม่มีสัมภาระติดตัว และมีเงินมากพอจะจ่ายค่ามัดจำ



อาจเพราะอยู่กับค้างฟ้านานเกินไป ผมเลยไม่ค่อยอยากไปคลุกคลีกับฟูกเหม็นฝุ่น แม้ว่าจะเติบโตมากับมันก็ตาม



และถึงแม้ว่าห้องที่ผมเช่าอยู่...ผมอาจจะไม่ได้ใช้มันเพื่อนอนบ่อยๆ



สุดท้ายแล้วยังไงผมก็คงวิ่งโร่อ้าขาให้ใครต่อใครเหมือนเคย เพราะไม่สามารถนอนคนเดียวได้



หรือถ้าสามารถคนพาพวกนั้นมานอนที่นี่ได้ก็ดี การมีที่ซุกหัวนอนไปวันๆ ทำให้ผมพอจะสบายใจขึ้นมาได้นิดหน่อย อย่างน้อยตอนกลางวันผมก็สามารถมาขลุกอยู่ที่นี่ได้ ไม่ต้องออกไปเดินเตร่ให้พวกนั้นพูดอะไรเสียดหู



ผมใช้เวลาว่างในการซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเข้าห้อง รวมถึงเสื้อผ้า ยาสามัญและที่ขาดไม่ได้คือพวกอุปกรณ์สำหรับทำเซ็กซ์ หมดเวลาในช่วงกลางวันไปกับการหาซื้อของพวกนี้ พอพระอาทิตย์ตกดิน ผมก็ได้แต่นอนพักเอาแรง



และออกหากินเมื่อนาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่ม



ถิ่นแถวนี้ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี เสียแต่ไม่ได้กลับมาตั้งสี่ปี อะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มเปลี่ยน อย่างร้านยาดองที่เคยตั้งเป็นเพิงอยู่กลางซอยก็ขยายร้านใหญ่ขึ้น มีร้านแสงสีที่ผมไม่รู้จักผุดขึ้นมาสองสามร้าน



คืนนี้ ผมได้ใครสักคนกลับมาจากร้านสักร้านแถวนั้น



กอดก่ายแลกราคะให้ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งคืน และอีกหลายๆ คืน



ผมไม่ได้นับวันว่าจากค้างฟ้ามานานเท่าไหร่แล้ว แต่คาดเดาเอาน่าจะประมาณอาทิตย์กว่าๆ... คืนวันผ่านไปโดยที่ผมทำตัวเหมือนเดิม กิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม ออกไปหาใครสักคนมานอนพักพิงด้วยเหมือนเดิม



แต่ที่แตกต่างคือความฝันที่ตามหลอกหลอนไม่ใช่เรื่องเดิม



ผมสะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว...



ความฝันที่ปลุกให้ผมตื่นเป็นเรื่องราวที่ผมอยู่กับค้างฟ้า... เรื่องที่เขาทำดีด้วย เรื่องที่เขาทำไม่ดีด้วย ไม่รู้ทำไม พอผมตื่นมาท่ามกลางความมืด ความรู้สึกแรกคืออึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก คนที่นอนข้างๆ ยังคงหลับใหลไม่รู้ตัว และผมก็ไม่ต้องการปลุกคนแปลกหน้าให้ตื่น



ผมอึดอัดได้สักพักก็ปวดใจ... น่าจะเรียกว่าอย่างนั้นนะ ตรงกลางอกเหมือนถูกบีบรัดให้หายใจไม่ออก พร้อมด้วยหลายความรู้สึกแปลกหน้าที่ประดังประเดเทเข้ามา



ความรู้สึกแปลกใหม่ ใช้เวลานานกว่าที่เคยในการปรับตัวให้เป็นปกติ และคืนนั้นผมก็ไม่หลับจนถึงเช้า



สมัยที่ผมยังเด็กมีเรื่องราวเลวร้ายมากมายเกิดขึ้น เรื่องราวในครั้งนั้น คล้ายมีคนสักมันไว้ในสมอง ฝังแน่น สลักลึก ไม่เลือนหาย คมชัดอยู่ในความรู้สึก



ในตอนนี้ เรื่องราวของค้างฟ้าเองก็ไม่ได้ต่างจากเมื่อก่อนเท่าไหร่นัก ในเรื่องของความทรงจำที่ฝังแน่น ลบไม่ออก ผมไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่ตัดสินใจกลับมาแล้วแท้ๆ ทั้งๆ ที่ตัดสินใจเลิกสนใจเขาแล้วแท้ๆ



ฝ่ามือยังคงเผลอลูบรอยสักที่เป็นชื่อของเขาทุกทีที่เผลอใจลอย



บางครั้งรู้ตัว บางครั้งไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่ผมคิดว่าตัวเองไม่รู้ตัว



“ผมเริ่มยาวแล้นะ ตัดผมไหม”



คนเมื่อคืนออกไปแล้ว เป็นกายที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันในช่วงบ่ายแก่ๆ ผมลูบเส้นผมตัวเองที่เริ่มจะยาวอย่างที่กายว่า เคยคิดว่าไว้อย่างนี้ก็ดี มันช่วยปิดรอยสักที่ต้นคอผมได้...ถึงแม้จะไม่ช่วยอะไรมากมาย เพราะสุดท้ายผมก็แหวกเส้นผมยาวนั่นไปลูบมันอยู่ดี



คำถามของกายง่ายๆ แต่ผมคิดอยู่นาน



“เล็มแค่ปลายก็ได้ มันดูไม่เป็นทรง เดี๋ยวไม่หล่อนะ”



ผมหัวเราะเบาๆ พยักหน้าให้กายทำตามใจชอบ เธอมีความสามารถหลายด้าน ตั้งแต่เด็กผมเห็นกายดิ้นรนเลี้ยงตัวเอง รับงานหลายอย่าง รายรับหลายทาง รวมถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นในแต่ละสายงานด้วย เพราะอย่างนี้ผมถึงไว้ใจให้เธอตัดผมให้อย่างง่ายดาย



เธอดูเหมือนอยากพาตัวเองเข้ามาในชีวิตผม และเหมือนจะเป็นอย่างนั้นมากขึ้นทุกที



ผมไม่ชอบคนแบบนี้เท่าไหร่



กับค้างฟ้าเองก็เช่นกัน เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่เป็นมากกว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมเตียง แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมชีวิตผมต้องการเขามากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเพียงแต่เขาทำตัวเหมือนเดิมก็คงไม่จบแบบนี้...



คิดถึงเขาอีกแล้ว...



เสียงกรรไกรตัดเล็มปลายผมไปทีละส่วน ผมปล่อยให้ความคิดตัวเองไหลไปกับเสียงฉับๆ จนกระทั่งกายตัดผมให้เสร็จสรรพ



“แบบนี้ค่อยดูดีขึ้นหน่อย”



“ขอบคุณ”



เธอยิ้ม เดินไปหยิบไม้กวาดมากวาดเศษผมที่ตกกระจายอยู่บนพื้นห้อง



“คืนนี้จะออกไปไหนรึเปล่า” เธอเอ่ยถาม



“คงไป”



“เตยไม่ได้พักมาหลายคืนแล้วนะ...เดี๋ยวก็เสียสุขภาพหรอก”



“แบบนี้แหละดีแล้ว” ผมว่า การที่ไม่มีคนนอนข้างกายทำให้ผมประสาทเสียกว่ามีเซ็กซ์กับคนแปลกหน้า



“งั้นคืนนี้เป็นเราได้ไหม...”



“กายจะไม่ทำอะไรเตยน่ะสิ”



กายทำหน้าบูด หน้าเสียที่ผมรู้ทัน



“คืนนี้เตยอย่าไปไหนเลยนะ เอายานอนหลับไหม เดี๋ยวกายหาให้ มีคลินิคที่กายรู้จักหมออยู่บ้าง”



“เตยไม่ต้องการยาบ้านั่น”



“แต่...”



“กายออกไปเถอะ เตยอยากอยู่คนเดียว”



ผมเอ่ยไล่ พร้อมกับลุกขึ้นยืน ไล่ต้อนเธอไปที่ประตู



“กายเป็นห่วงเตยนะ”



“เตยรู้ ขอบคุณ แต่ไม่เป็นไร”



ดันเธอออกไป ปิดประตูตัดขาดความหวังดี



ผมเกลียดยา เกลียดฤทธิ์ของมันที่อยู่เหนือการควบคุมของร่างกาย เกลียดที่ตัวเองบังคับร่างกายไม่ได้เพราะมัน เพราะเหตุนี้ถึงได้ปฏิเสธยานอนหลับมาโดยตลอด การที่เราควบคุมตัวเองไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับผม...



เมื่อก่อนผมคุ้นเคยกับยานอนหลับมากชนิด มากจนเกินพอ มากจนขยะแขยงและไม่อยากรับมันเข้าไปในร่างกายอีก ยานั่นเป็นสิ่งเลวร้ายสำหรับผม กดประสาทผมไว้ให้ไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืน...ต่ออะไรก็ตามที่กระทำใส่ผม



ผมล้มตัวนอนบนเตียง



วันนี้เหนื่อยจริงๆ อย่างที่กายว่า...



พอนอนนิ่งนานๆ เข้าสุดท้ายแล้วกลไกร่างกายก็บังคับให้ผมหลับใหล



หลังจากหลับไปได้งีบหนึ่ง ผมก็ตื่นมาพร้อมอาการปวดหัวสุดๆ ที่ห้องมียาแก้ปวดเตรียมไว้อยู่แล้วผมจึงไม่ต้องออกไปร้านยาในเวลานี้ ผมเปิดลิ้นชัก หยิบซองยาเทเม็ดยาออกมาหนึ่งเม็ด กรอกมันเข้าปากพร้อมกับน้ำเปล่า



ในระหว่างนั้น สายตาผมเหลือบไปเห็นถุงยาอื่นๆ นอนระเกะระกะอยู่ในลิ้นชัก



เรื่องราวในอดีตย้อนมา... เมื่อก่อนผมไม่มีเงินจ่ายค่ายาเสพติด แต่มันมีวิธีอื่น...วิธีที่ผมได้เรียนรู้จากพวกคนแถวนี้ และเคยนำมันไปใช้ตอนอยู่กับค้างฟ้า



เขาขอให้ผมเลิกยา ผมทำตาม ไม่ซื้อยาเสพติดโดยตรง...หากแต่มันมียาแก้หวัดและยาแก้ไอบางตัวที่ทำหน้าที่ได้คล้ายๆ กับผงยาสีขาวนั่น ผมสามารถใช้มันได้โดยไม่เป็นที่สงสัย เพียงผสมยาสองชนิดนี้กับยาแก้แพ้หรือน้ำดื่มบางอย่าง



ตัวยาพาให้เคลิ้มลอย หลุดจากโลกความจริงได้ชั่วคราว ค้างฟ้าไม่รู้ว่าผมใช้วิธีนี้ในแทนการเสพยา แต่หลังๆ มาผมเลิกใช้มันอย่างถาวร...จนมาถึงวันนี้



แม้มีความคิดอยากจะใช้มันอีกครั้ง แต่อีกใจผมก็ไม่อยาก



การพาตัวเองหนีออกจากโลกความจริงสร้างความสุขให้เราได้แค่ชั่วคราว แต่ที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้ว่าสุดท้ายยังไงผมก็ต้องกลับมาเผชิญกับความโหดร้ายอยู่ดี



ปิดลิ้นชัก ผมล้มตัวนอนอีกครั้ง ทำตามที่กายว่าราวกับเป็นแมวเชื่องๆ



หลับตา หลับใหลไปตามลำพัง...และสะดุ้งตื่นกลางดึกเหมือนทุกที ก็เพราะแบบนี้ จะให้ผมนอนคนเดียวได้ยังไง



ผมหงุดหงิดเล็กน้อย มันน่าหงุดหงิดเสมอเวลานอนไม่พอ แต่ทำไงได้ ผมเลือกจะใช้ชีวิตอย่างนี้เอง มันอาจจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เพียงแค่ผมคงคิดไม่ออก...ที่ผ่านมาก็ลองทำมันทุกทาง สุดท้ายการจบด้วยวิธีนี้ การมีเซ็กซ์กลายเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผมในตอนนี้แล้ว



ผมจมอยู่กับความคิดเก่าลอยวนในหัว ทั้งๆ ที่ติดสินใจไปแล้วแท้ๆ แต่กลับหวนย้อนคิดว่าผมทำแบบนี้แล้วมันถูกมั้ยนะ และเผลอคิดถึงเขาอย่างห้ามไม่ได้อีกแล้ว...ป่านนี้จะทำอะไรอยู่



มีความรู้สึกหนึ่งที่วูบวาบอยู่ในใจเมื่อนึกถึงภาพที่เขาตามหาผม



แต่อีกความคิดก็มากดทับมันไว้ กระซิบบอกข้างหูตัวเองว่าค้างฟ้าไม่มีทางทำอย่างนั้นหรอก เราไม่ได้สำคัญต่อกันมากขนาดนั้น เขาคงหาคนใหม่แทนที่ผมได้อยู่แล้ว



เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว



ผมเองก็ควรเลิกเรื่องนี้ได้แล้ว เพราะสุดท้ายตัวเองก็ไม่ได้ต่างกัน  ผมพาตัวเองออกห่างจากเขาเพื่อที่ตัวเองจะไม่ต้องอึดอัดเวลาอยู่ร่วมกัน ไม่ต้องคอยมองหาว่าเมื่อไหร่เขาจะมาหา หลบหนีพาตัวเองมาที่ไกลจากค้างฟ้าเพื่อที่จะได้ลบเขาออกไปจากความทรงจำ



เขาคงแย่หน่อยล่ะที่เงินที่เขาส่งเสียผมเรียนมันกลายเป็นไร้ค่า แต่ผมไม่ใคร่จะสนใจเรื่องนั้น ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าค้างฟ้าให้ผมเรียนแทนเขา เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องยุ่งกับงานบริหารที่บ้าน แต่ไม่มีผมยังไงเขาก็หาวิธีอื่นได้ ผมเป็นแค่หมากตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งของเขา



ผมเห็นแก่ตัวเพื่อที่จะได้ปกป้องตัวเอง จากมนุษย์เห็นแก่ตัวที่มีความคิดเพียงพยายามหาทางทำลายมนุษย์ด้วยกัน



แต่ไหนแต่ไรมา มนุษย์ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว...



การได้กลับมาอยู่ที่นี่ผมคิดว่ามันน่าจะดีกว่ารอค้างฟ้าที่ผิดคำพูดตัวเองเสมอ แต่กลับเป็นว่าอยู่ที่นี่แล้วผมฟุ้งซ่านกว่าเก่า อย่างหาสาเหตุไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าทำไมต้องคิดถึงเขาอีก...



ตอนที่เขาพาผมออกจากที่นี่ ผมไม่มีความคิดอาวรณ์ถึงมันเลยสักครั้ง แต่พอผมออกมาจากที่ที่มีค้างฟ้า...ผมกลับเลิกคิดถึงมันไม่ได้ มันน่าหงุดหงิด ผมควรควบคุมความคิดตัวเองได้มากกว่านี้



เพียงแต่ไม่รู้ว่าตอนไหน กลางคืนที่ไม่มีแม้แต่กลิ่นของค้างฟ้าทำให้ผมอึดอัดมากกว่าเดิม...








#น้ำค้างฟ้าขุ่น


ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 9 - |6.1.2019| p.2
«ตอบ #55 เมื่อ09-01-2019 01:16:28 »

 :katai1: หน่วงจริงอะไรจริง สงสารน้องเตยอ่ะ เราเข้าใจการนอนไม่หลับนะคะ มันน่าหงุดหงิดมาก ชีวิตไม่แฮปปี้เลย  :sad4: รอตอนหน้าจ้า น้องจะเอาไงต่อเนี่ย ขอบคุณคุณแรคคูลมากค่ะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 9 - |6.1.2019| p.2
«ตอบ #56 เมื่อ09-01-2019 21:05:50 »

เตยไม่รู้ตัวว่ารักค้างฟ้า  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 9 - |6.1.2019| p.2
«ตอบ #57 เมื่อ10-01-2019 01:29:17 »

แงงงงง หน่วงมาก สงสารเตยที่ต้องเผชิญกับความรู้สึกและอาการนอนไม่หลับ
อยากให้เตยได้พบทางออกซักทีอ่ะ ไม่อยากให้ทำร้ายตัวเองไปเรื่อย ๆ
 :ling3: :ling3: :sad4: :sad4: :o12: :o12: :hao5: :hao5: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 9 - |6.1.2019| p.2
«ตอบ #58 เมื่อ12-01-2019 13:56:21 »

 o13 :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ☁ Dirty Dew #น้ำค้างฟ้าขุ่น - 9 - |6.1.2019| p.2
«ตอบ #59 เมื่อ13-01-2019 14:09:24 »

อึดอัดมาก คิดว่าจะพอร์นๆ นัวๆ แต่โหดมากค่ะ แง  :ling3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด