[เรื่องสั้น] วันที่เธอลงมาจากท้องฟ้า [ตอนเดียวจบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] วันที่เธอลงมาจากท้องฟ้า [ตอนเดียวจบ]  (อ่าน 1983 ครั้ง)

ออฟไลน์ larza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

***************************************************************************************

Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ larza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
อ้างถึง
"เขาที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมตัดสินใจว่าจะฆ่าตัวตาย

หลังจากที่เตรียมวันและแผนการฆ่าตัวตายมาอย่างดี เขาก็ขึ้นไปดาดฟ้าเพื่อที่จะทำตามสิ่งที่ตัวเองคิดไว้

แต่แล้วเมื่อขึ้นมาถึงดาดฟ้า เขากลับเจอชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังจะฆ่าตัวตายพอดี"

------------------------------------------------------------------


ชีวิตของผมนับได้ว่าสมบูรณ์แบบในสายตาของใครหลายๆ คน


ฉลาด หน้าตาดี ได้ทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ ไต่เต้าขึ้นตำแหน่งๆ ระดับผู้จัดการตั้งแต่อายุ28 มีครอบครัวที่อบอุ่นแถมมีเพื่อนรอบตัวในที่ทำงานและชีวิตจริงเยอะไปหมด


ชีวิตที่ดีแบบนี้มีแต่ญาติๆ และเพื่อนๆ อิจฉา


แต่ผมตั้งใจว่าจะฆ่าตัวตาย


อาการที่อยากจะฆ่าตัวตายไม่ใช่เพียงแค่ความคิดชั่ววูบ ความคิดในหัวที่ว่าจะฆ่าตัวตายมันวนเวียนมาหลายสัปดาห์แล้ว แถมผมยังเตรียมการในเรื่องของการตายเป็นอย่างดี


เหลือเพียงแค่อย่างเดียวคือการลงมือทำเท่านั้น


ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงต้องฆ่าตัวตาย ทั้งที่มีเพื่อนๆ มากมาย แต่กลับไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะสามารถคุยหรือปรึกษาในยามคับขันได้ ครอบครัวที่ดูเหมือนจะอบอุ่นกลับไม่เคยเข้าใจความรู้สึกจริงๆ ของผมแม้แต่ครั้งเดียว


เมื่อฉลาดและเก่ง ความคาดหวังย่อมต้องสูง ยิ่งถ้าไต่เต้าขึ้นตำแหน่งระดับผู้จัดการได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ความกดดันยิ่งมากขึ้น ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลนี้ผลักตัวผมให้ไปยืนอยู่ที่ขอบเหวช้าๆ


หลายครั้งที่พอกลับจากที่ทำงานมาอยู่ในคอนโดอันแสนเงียบเหงา ผมก็รู้สึกอ้างว้างจนไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร หลายครั้งที่ผมพยายามไตร่ตรองถึงเหตุผลที่ตัวเองต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ทว่ากลับไม่มีเหตุผลดีๆ ทำให้ผมรู้สึกมีชีวิตยืนหยัดต่อ


บางวันผมเหนื่อยมากจนอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาออกมาแม้แต่หยดเดียว


ถ้าตาย ทุกอย่างจะดีแค่ไหนกันนะ


ไม่ต้องแบกรับความเครียด ความกดดัน ความรู้สึกว่างเปล่า ความรู้สึกอ้างว้างที่เผชิญทุกๆ วันอีก


เพียงแค่คิดว่าไม่ต้องแบกรับความรู้สึกเหล่านั้นอีกแล้ว ผมก็คิดอย่างจริงจังว่าต่อจากนี้จะฆ่าตัวตาย ไม่ว่าอย่างไรใครก็เปลี่ยนความคิดของผมไม่ได้


พอเตรียมการมาหลายอาทิตย์ เมื่อถึงวันที่ตั้งใจว่าจะฆ่าตัวตายผมก็ขึ้นมาอยู่ชั้นดาดฟ้าของตึกนี้


ทุกอย่างควรจะจบลงอยู่แค่นั้น ชีวิตของผมไม่ควรจะมีต่อ ทว่าทันทีที่เปิดประตูของชั้นดาดฟ้าแล้วลมเย็นๆ ตีแสกเข้าหน้า ผมถึงกับกะพริบตาถี่เมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่


ทีแรกผมคิดว่าอีกฝ่ายขึ้นมาสูดอากาศด้านบนเฉยๆ ทว่าเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นเริ่มปีนรั้ว ผมก็รีบวิ่งเข้าไปหาแล้วตะโกนด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าจนแม้แต่ตัวเองยังตกใจ


“ทำอะไรของคุณน่ะครับ!”


ผมจะถามออกไปทำไมเนี่ย ดูยังไงก็รู้อยู่แล้วว่าไอ้หมอนั่นจะฆ่าตัวตาย


วินาทีก่อนที่อีกฝ่ายจะข้ามไปได้สำเร็จ ผมก็รีบคว้าข้อมือของร่างนั้นเอาไว้ด้วยสีหน้าตื่นๆ เหงื่อเย็นๆ ผุดซึมบนใบหน้า แม้ลมเย็นที่พัดผ่านก็ไม่ช่วยคลายอาการตื่นตระหนกของผมไปได้


ผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้าผมมีใบหน้าที่ดูดีพอสมควร แวบแรกที่ผมเห็นใบหน้าอีกฝ่ายเต็มๆ ผมยังสะดุ้งวาบในใจ ในหัวพยายามนึกว่าอีกฝ่ายเป็นดาราที่ไหนหรือเปล่า ทว่ากลับไม่มีข้อมูลอยู่ในหัวผมแม้แต่นิดเดียว


อีกฝ่ายดูจะตกใจมาก เขาพยายามสะบัดมือของผมออก ทว่าผมกลับรั้งมือของเขาเอาไว้อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย หลังยื้อยุดกันอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มตรงหน้าก็ดูจะหมดอารมณ์ฆ่าตัวตาย อีกฝ่ายยอมปีนข้ามฝั่งกลับมาดีๆ แล้วมองผมด้วยสีหน้าแปลกประหลาด


“ผมจะทำอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ” ชายตรงหน้าว่าพลางพ่นลมหายใจ “คุณต่างหากที่ขึ้นมาทำอะไรบนนี้”


ผมลืมจุดประสงค์ไปแล้วว่าตัวเองขึ้นมาทำอะไร พอถูกอีกฝ่ายถามผมก็กะพริบตา จากใบหน้าตื่นตระหนกเริ่มแปรเป็นความรู้สึกกระอักกระอ่วนแทน


เออว่ะ


ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะมาฆ่าตัวตาย แต่พอเห็นคนกำลังจะฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาแล้วผมก็ดันลืมว่าตัวเองจะมาฆ่าตัวตายไปเสียสนิท


แล้วผมจะไปช่วยทำไม


ความจริงผมน่าจะชวนอีกฝ่ายมาฆ่าตัวตายด้วยกัน แต่พอนึกแล้วมันก็ดูตลกๆ จะชวนคนที่ไม่รู้จักมาฆ่าตัวตายด้วยกัน


“ผมขึ้นมาสูบบุหรี่”


ความจริงแล้วผมไม่สูบบุหรี่หรอก แต่แค่พูดแก้ตัวไปอย่างนั้น ขืนถ้าบอกว่าจะขึ้นมาฆ่าตัวตายเหมือนกันคงโดนอีกฝ่ายตบหน้าเข้าพอดี


ชายหนุ่มตรงหน้าถอนหายใจเฮือก ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินกลับไปยังทางประตูโดยไม่ได้พูดอะไรอีก ผมลังเลไปเล็กน้อยก่อนจะคว้าข้อมือเอาไว้แล้วพูดอย่างรวดเร็วจนลิ้นเกือบพัน


“คือว่า ถ้ามีอะไรอยากเล่าให้ฟังก็เล่าได้นะครับ ผมไม่อยากให้คุณฆ่าตัวตายเลย”


ไม่รู้ว่าผมไปเอาความกล้าที่ไหนมาพูด ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ตั้งใจจะมากระโดดตึกฆ่าตัวตายเหมือนกัน แต่ดันเสนอหน้าจะไปเป็นที่รับฟังให้คนอื่นเสียอย่างนั้น


ช่างมัน ถือว่าทำบุญเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย อย่างน้อยถือว่าได้ช่วยคน พอช่วยเสร็จผมก็ไปกระโดดแม่งเลย


ชายหนุ่มตรงหน้าเงียบไป แวบแรกผมนึกว่าจะโดนปฏิเสธหรือโดนชกเลยแอบขยับเท้าถอยหนีเผื่อเกิดอะไรขึ้นมาจะได้หนีทัน ทว่าอีกฝ่ายกลับพูดขึ้นมาแค่ว่า “พรุ่งนี้คุณว่างหรือเปล่า”


หือ?


“ก็ว่าง..”


“ถ้าอย่างนั้นเจอกันที่นี่เวลาเดิมนะครับ” อีกฝ่ายขยับยิ้มให้แล้วเอ่ย “จากนั้นผมถึงจะเล่าให้คุณฟัง”


เพราะเหตุนี้แผนการฆ่าตัวตายของผมในวันนี้และวันต่อๆ ไปจึงล้มเหลวอย่างรวดเร็ว


……………………………………………….


…………………………


หลังจากนั้นผมก็มาตามเวลาที่อีกฝ่ายนัดเอาไว้


ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงจะต้องมา ทว่าผมไม่อยากปล่อยให้อีกฝ่ายฆ่าตัวตายเลย ถึงแม้ว่าผมตั้งใจจะฆ่าตัวตายตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็ตาม


อย่างว่า ผมคงเห็นค่าชีวิตของคนอื่นมากกว่าตัวเอง


ตอนที่เปิดประตูขึ้นดาดฟ้ามา ผมเห็นว่าอีกฝ่ายยืนรอก่อนอยู่แล้วแถมกำลังสูบบุหรี่อยู่ด้วย เมื่อผมสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ ชายหนุ่มจึงรู้สึกตัวแล้วหันมามองผม


“คุณมาจริงๆด้วย”


ในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความประหลาดใจจนแม้แต่ผมยังสัมผัสได้


“ผมไม่ชอบผิดสัญญา” ผมว่าพลางสาวเท้าเข้าไปใกล้ แต่เว้นระยะห่างไว้นิดหน่อยเพราะไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ “ผมชื่อเอก”


“ตุลย์” อีกฝ่ายแนะนำตัวกับผมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มือก็ยื่นบุหรี่มาให้มวนหนึ่ง “เอาไหม?”


ผมส่ายหน้า ตุลย์เลิกคิ้วเล็กน้อย อีกฝ่ายหยิบบุหรี่ที่อยู่ในปากออกพลางสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้จนประชิดตัวอย่างรวดเร็ว


ผมสะดุ้งด้วยความที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร ในขณะที่ตุลย์โน้มใบหน้าลงมาที่ซอกคอผม ใกล้จนกระทั่งรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวแล้วพึมพำขึ้นเบาๆ “คุณโกหกผม”


“โกหก?”


ผมที่กำลังยังมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกกับพฤติกรรมของอีกฝ่ายเลยยืนนิ่งแช่เท้าอยู่กับที่ ตุลย์ผละตัวออกมาแล้วถึงค่อยตอบ


“ขอโทษด้วยที่เสียมารยาท” ตุลย์ว่า แต่สีหน้ากลับไม่มีความสำนึกผิดแม้แต่นิดเดียว “เสื้อผ้าของคุณไม่มีกลิ่นบุหรี่เลย คุณโกหกผมว่าสูบบุหรี่อย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ”


ผมเงียบเพราะไม่รู้จะโต้ตอบอะไรต่อในเมื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นถูกทุกประการ


“ความจริงแล้วคุณเองก็ขึ้นมาฆ่าตัวตาย ผมพูดถูกหรือเปล่า?” ตุลย์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่ามุมปากกลับขยับยิ้มขื่นๆ “ในเมื่อคุณจะฆ่าตัวตาย คุณก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่อยากตาย คุณไม่น่ามาห้ามผมเลย”


“ผมขึ้นมาสูบบุหรี่จริงๆ แต่วันนี้ผมแค่ไม่อยากสูบเท่านั้น” ผมยืนกราน พอเห็นว่าผมยังคงยืนยันคำพูดตัวเองเหมือนเดิม ตุลย์ก็ยื่นบุหรี่มวนหนึ่งให้


“งั้นพิสูจน์สิครับ”


ผมรับบุหรี่มาแบบงงๆ แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่มีไฟแช็ค พอเอ่ยปากขอจากอีกฝ่าย ชายหนุ่มก็ส่งให้ผมทันที


ช่างมัน สูบแค่ครั้งเดียวคงไม่ติดหรอก


ผมก้มมองบุหรี่ในมือ ก่อนจะใส่เข้าไปในปาก มืออีกข้างถือไฟแช็กแล้วจุดไฟใกล้ๆ กับปลายบุหรี่ ทว่าทันทีที่สูบเข้าไปผมก็สำลักควันแล้วไอค่อกแค่กจนหน้าแดง


ไม่มีอะไรน่าอายเท่ากับการบอกว่าตัวเองสูบบุหรี่เป็น แต่ดันสำลักควันตั้งแต่วิแรกที่สูบแล้ว ผมไอถี่ๆ ติดกันหลายครั้ง ก่อนพยายามสูดอากาศสดชื่นให้เข้ามาในปอดเพื่อลดกลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้น


ตุลย์หัวเราะออกมาพลางเอื้อมมือมาดึงบุหรี่จากมือผม อีกฝ่ายโยนบุหรี่ลงกับพื้นแล้วใช้เท้าขยี้เพื่อดับไฟ “ทำไมคุณเอกถึงอยากฆ่าตัวตายล่ะครับ?”


เมื่อถูกต้อนมาถึงจุดนี้ ผมก็ได้แต่ยอมรับออกมาอย่างน่าอาย “ผมแค่คิดไม่ออกว่าผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกทำไม เลยคิดจะฆ่าตัวตาย”


“อ้อ” อีกฝ่ายรับคำ สีหน้าดูเหมือนจะเข้าใจ “เหตุผลจริงๆ ไม่ได้มีแค่นี้หรอก เพียงแต่คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังเครียดอะไรหรือจะบ่นกับใคร พอเก็บสะสมนานวันเข้าคุณเลยคิดแบบนี้มากกว่า ถ้ามีอะไรอยากเล่า จะเล่าก็ได้นะครับ”


“ไม่ได้เครียดอะไรจริงๆ” ผมยืนกรานก่อนจะเริ่มพูด “แค่รู้สึกเหนื่อยจากการทำงาน เหงาแล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมีชีวิตอยู่มากกว่า”


“แล้วทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยล่ะครับ?”



พออีกฝ่ายซักถาม ผมก็เล่าไปเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกเครียดหรือเสียใจอะไร ทว่าพอถูกตุลย์ถามมากๆ เข้า รู้สึกตัวอีกทีผมก็ร้องไห้ออกมาหน้าตาเฉย


ไม่มีใครถามว่าผมรู้สึกยังไงมานานมากแล้ว


ถึงจะมีคนรอบตัวอยู่รายล้อม แต่ไม่มีใครเลยที่สนใจเรื่องของผม พอผมเล่าเขาก็แค่รับฟังผ่านๆ ไม่ได้สนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังมากนัก


จากนั้นผมก็กลายเป็นคนที่ไม่ชอบเล่า เวลามีอะไรก็เก็บเงียบเอาไว้ ทำได้เพียงแค่บอกปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไรทุกๆ วัน


ทว่าความจริงแล้วข้างในผมไม่เคยรู้สึกโอเคอย่างที่ตัวเองปลอบ พอเก็บสะสมทุกอย่างมากขึ้น ไม่รู้จะไปลงที่ไหน ผมเลยตั้งใจจะจบมันทุกอย่างด้วยการฆ่าตัวตาย


ตุลย์ไม่ได้พูดหรือตัดสินอะไร แค่ถามและรับฟังผมเงียบๆ แล้วกอดผมเอาไว้แน่น แต่ผมกลับรู้สึกสบายใจขึ้นเหมือนได้ยกอะไรบางอย่างที่ทับถมมานานในอกออกไป


และแล้วความสัมพันธ์ของพวกเราก็เริ่มต้นจากตรงนี้


…………………………………………..


……………………….


ทุกวันผมกับตุลย์จะนัดกันเจอที่ดาดฟ้าเสมอ พวกเราไม่เคยแลกเปลี่ยนเบอร์หรือไลน์เพื่อความสบายใจของทั้งคู่ รวมถึงไม่เคยถามว่าอีกฝ่ายเป็นใครหรือทำงานอะไร เพื่อที่ความสัมพันธ์จะได้อยู่แค่นี้ไม่ก้าวก่ายไปมากกว่านั้น


หลายครั้งที่ผมพยายามจะเค้นถามเหตุผลที่ตุลย์อยากฆ่าตัวตาย ทว่าอีกฝ่ายกลับพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะไม่พูด หรือถ้าเล่าก็พูดเพียงแค่ว่า ‘ผมเองก็คงไม่เห็นว่าชีวิตมีค่ายังไงเหมือนคุณ’ ราวกับไม่อยากจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง


พอได้คุยกับตุลย์สักสองสัปดาห์กว่า ความรู้สึกอยากฆ่าตัวตายก็หายไปจากในหัวผมตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ประจวบกับช่วงนั้นเริ่มมีงานเข้ามามากขึ้น ผมเลยแทบจะไม่มีโอกาสได้ไปพบกับอีกฝ่ายเหมือนเดิมอีก


ทุกครั้งที่เหนื่อยผมมักจะชอบคิดถึงตุลย์ ไม่ว่าจะเป็นเสียง อ้อมกอด กลิ่นบุหรี่หรือช่วงเวลาที่ได้อยู่กับอีกฝ่าย พอคิดถึงหลายๆ ครั้งเข้าผมก็เริ่มรู้สึกว่าที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน


เพียงแค่กอดตุลย์ผมก็หายรู้สึกเศร้า ลืมเลือนความรู้สึกทุกข์ที่ทับถมเป็นกองพะเนินจนมืดมิด


หากเป็นไปได้ผมก็อยากจะรู้จักอีกฝ่ายมากกว่านี้


แต่เพราะข้อตกลงที่ว่าจะไม่บอกข้อมูลกันและกันเพื่อความสบายใจในการพูดและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าควรจะทำให้ความสัมพันธ์ก้าวหน้าไปมากกว่านี้ได้ยังไง


หลังจากเลิกงาน ผมก็รีบรุดไปสถานที่นัดพบกับตุลย์ ทว่าทันทีที่มาถึงที่ดาดฟ้าผมก็เห็นอีกฝ่ายยืนรอก่อนอยู่แล้ว


“ผมเกือบจะกลับบ้านเพราะนึกว่าวันนี้คุณไม่มาแล้ว”


ตุลย์ว่าพลางยิ้มแบบหยอกๆ ให้ ผมสูดลมหายใจ กล้ำกลืนความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างลงในลำคอ ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาว่าตุลย์ตั้งใจจะฆ่าตัวตายตอนนั้น เขาก็คงไม่คาดคิดว่าคนอย่างอีกฝ่ายจะอยากฆ่าตัวตาย


“ช่วงนี้ผมติดงานน่ะครับ”


“วันนี้อยากเล่าอะไรให้ฟังไหมครับ?”


ทีแรกผมตั้งใจว่าจะเล่า แต่พอคิดอีกทีแล้วผมยังไม่เคยได้ฟังเรื่องราวของอีกฝ่ายบ้างเลย จากที่จะเล่าเรื่องที่พบเจอมาผมเลยเก็บทั้งหมดลงไปในลำคอแล้วถามกลับ “ที่ผ่านมาคุณตุลย์ฟังผมเล่ามาเยอะพอแล้ว ถ้าคุณมีอะไรอยากเล่า จะเล่าให้ผมฟังก็ได้นะครับ”


พริบตาหนึ่งเขาเห็นความลังเลฉายชัดอยู่ในแววตาอีกฝ่าย ทว่าตุลย์กลับเพียงแค่ยิ้มรับ “ผมไม่มีเรื่องอะไรจะเล่าหรอก”


“ผมสาบานว่าจะไม่บอกใคร” ผมยืนยัน พยายามพูดกล่อมให้อีกฝ่ายสบายใจขึ้น “อีกอย่างผมไม่รู้จักอยู่แล้วว่าคุณเป็นใคร เพราะฉะนั้นเล่าได้นะครับ”


ตุลย์เงียบไปนานมาก นานจนผมคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่เล่าแล้ว ท่ามกลางความเงียบอันเนิ่นนานอีกฝ่ายพูดขึ้นเบาๆ ว่า “คุณเอกเคยรู้สึกว่าชีวิตไม่มีทางออก มีแต่ทางตันไหมครับ”


“เคยครับ”


“แล้วคุณทำยังไง..?”


“พอผ่านไปสักพักผมถึงเริ่มหาทางออกได้”


“ผมไม่มีเวลาแล้ว” ตุลย์พูดก่อนหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ “..ผมเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วจริงๆ”


ประโยคสุดท้ายนั้นสั่นพร่าอย่างชัดเจน


“คุณตุลย์..?”


ผมเรียกชื่อของอีกฝ่ายเบาๆ ทว่าตุลย์กลับทิ้งบุหรี่ลงกับพื้น พอใช้เท้าขยี้ดับไฟเสร็จ ชายหนุ่มก็สาวเท้าเดินตรงเข้ามาหา


ยังไม่ทันที่จะได้ทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร อีกฝ่ายก็โน้มใบหน้าเข้ามาหอมแก้ม สัมผัสนั้นอุ่น นุ่มละมุนเหมือนปุยสำลี และรวดเร็วมากราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแค่ความฝัน


ตุลย์รีบผละตัวออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เดินตรงไปเปิดประตูดาดฟ้าออกแล้วหันหลังให้


“ขอโทษด้วยครับที่พูดอะไรก็ไม่รู้ให้ฟังแล้วก็ทำกิริยาเสียมารยาทใส่” ตุลย์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบาลงจนผมแทบจะไม่ได้ยิน “ที่ผ่านมาผมดีใจมาก ขอบคุณจริงๆ ครับ”


หลังจากที่ตุลย์จากไป อีกฝ่ายก็ทิ้งของต่างหน้าไว้เพียงบุหรี่ที่ตกหล่นอยู่บนพื้น ผมเหม่อมมองประตูบานนั้นอยู่นาน


ลางสังหรณ์หรือความรู้สึกอะไรบางอย่างบอกกับผมว่าตุลย์อาจจะไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว


…………………………………………………


……………………….


ตุลย์ไม่กลับมาที่ดาดฟ้าอีกแล้วจริงๆ


ไม่รู้ว่าเพราะผมพยายามซักไซร้ประวัติของอีกฝ่ายมากเกินไปจนเขาอึดอัดเลยไม่ยอมมาอีก หรือเพราะตุลย์ไม่มีเวลาเหลือแล้วอย่างที่พูด ดังนั้นอีกฝ่ายจึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย


ไม่แม้แต่จะบอกว่าไปไหนหรือบอกว่าเป็นใคร


ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองชอบตุลย์ตอนที่ขึ้นไปดาดฟ้านั้นทุกๆ วัน พยายามจะสูบบุหรี่ที่ตัวเองไม่ชอบเพียงเพื่อให้ได้นึกถึงอีกฝ่าย พอรู้สึกว่างเปล่าเคว้งคว้าง ผมก็ขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้วพูดกับตัวเองคนเดียวเสมือนว่าอีกฝ่ายยังคงอยู่ที่นี่ คอยรับฟังผมโดยที่ไม่ตัดสินอะไรเหมือนเดิม


แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นได้แค่นั้น การที่ไม่มีแต่พยายามแสร้งว่ามี มันไม่ได้หลอกให้ผมรู้สึกดีขึ้น


ทำไมตอนที่สังหรณ์ใจว่าตุลย์จะไม่มาอีกแล้ว ผมถึงไม่พูดความในใจออกไปให้จบๆ นะ อย่างน้อยการที่ถูกอีกฝ่ายรังเกียจ มันก็ยังดีที่ได้พูดความในใจออกไป


วันนี้ผมก็ขึ้นมาบนดาดฟ้าเหมือนเดิม ขึ้นมาด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้เจอกับตุลย์สักวัน


ทั้งๆ ที่มันผ่านไปเกือบเดือนกว่าแล้ว..


มันยังเป็นไปได้อีกหรือว่าอีกฝ่ายจะกลับมา ผมไม่กล้าคาดหวังสูง ในขณะเดียวกันก็ไม่กล้าที่จะห่างหายออกไปจากที่นี่ อย่างน้อยความหวังนั้นก็ยังผลักดันให้ผมรู้สึกว่าชีวิตยังมีคุณค่าอยู่บ้าง


แต่พอเปิดประตูดาดฟ้าออกมา ผมกลับเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่


ดูจากสภาพของเธอแล้วผมคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะอยู่มัธยมปลาย ผมจับลูกบิดดาดฟ้าทิ้งค้างไว้อย่างนั้นอย่างไม่กล้าขยับตัวเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้าดี


ท่าทางของเด็กสาวคนนั้นดูไม่ได้เหมือนตั้งใจจะมาฆ่าตัวตาย แต่แค่มาสูดอากาศด้านบนนี้เฉยๆ


ผมตั้งใจจะปิดประตูกลับไปเงียบๆ แล้วมาใหม่อีกทีวันพรุ่งนี้ ทว่าเมื่ออีกฝ่ายหันมาเห็นเข้า เธอก็ผุดลุกขึ้นแล้วเดินตรงมายังทางผม


“คุณเอกใช่ไหมคะ?” เด็กสาวแนะนำตัวกับผม ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ “หนูชื่อมีนานะคะ เป็นน้องสาวของตุลย์”


ตุลย์..


ชื่อของอีกฝ่ายที่ไม่ได้ยินมานานทำให้ผมหัวใจพองโตขึ้น ในใจปริ่มล้นไปด้วยความยินดี ผมยิ้มให้กับอีกฝ่ายก่อนจะรีบตอบรับ “ใช่ พี่ชื่อเอก”


มีนายื่นซองสีน้ำตาลซองหนึ่งให้ ก่อนจะขยับยิ้ม “อันนี้พี่ตุลย์สั่งให้หนูเอามาให้คุณค่ะ”


ผมรับซองสีน้ำตาลนั้นมา ในใจนึกสังหรณ์ไม่ดีอย่างน่าประหลาด แต่ผมก็แกะซองนั้นออกมาต่อหน้าอีกฝ่ายแล้วดูสิ่งที่อยู่ด้านใน


ข้างในเป็นสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง


…………………………………………….


……………………


พอได้อ่านสิ่งที่อยู่ในสมุดบันทึก ผมถึงได้รู้ว่าตุลย์มีปัญหาอะไรบ้าง


ดูเหมือนว่าตุลย์จะถูกอาแท้ๆ ข่มขืนตั้งแต่ยังเด็ก แถมยังเล่าให้พ่อหรือแม่ฟังไม่ได้เพราะว่าอาเป็นคนที่พ่อกับแม่เคารพนับถือมาก ซ้ำยังเป็นคนที่ทำให้พ่อแม่ของตุลย์มีงานทำจนถึงทุกวันนี้


ดังนั้นหากบอกออกไป มีความเป็นไปได้ว่าพ่อแม่จะไม่เชื่อเขา


พอตุลย์ย้ายที่อยู่อาศัยจะไปพักที่อื่น อาก็ตามมาขู่ว่าถ้าหนีออกไปจะทำให้พ่อแม่ตกงาน


สุดท้ายตุลย์เลยจำใจต้องอยู่ในบ้านหลังนั้นต่อ ทนรับการกระทำที่ตัวเองไม่สมยอมทุกอาทิตย์


จากนั้นอาก็ตั้งใจจะพาตุลย์ไปอยู่บ้านเดียวกัน อีกฝ่ายเลยจะฆ่าตัวตาย ในขณะที่ผมบังเอิญมาเจอเขาก่อน


อีกฝ่ายเขียนเล่าปัญหาทุกอย่างให้ฟังหมดว่าทำไมถึงได้รู้สึกอยากฆ่าตัวตาย รวมถึงความขมขื่นและเหตุผลที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วย


ในบันทึกหน้าสุดท้ายเขียนเอาไว้ว่า ขอโทษที่ตัดสินใจทำแบบนี้ ที่ผ่านมาดีใจมาก รวมถึงอวยพรว่าขอให้ผมมีชีวิตที่ดีขึ้น


ผมเหม่อมองข้อความในบันทึก ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกตกใจอย่างไหนก่อนระหว่างที่รู้ว่าตุลย์เองก็ชอบผมกับตุลย์ได้จากโลกนี้ไปตลอดกาลแล้ว


สุดท้ายตุลย์ก็ตัดสินใจจบชีวิตไปเพราะรู้สึกเหนื่อยกับการที่ต้องทนอยู่บนโลกใบนี้ต่อ


ผมอยากจะบอกอีกฝ่ายว่าหากเป็นไปได้ ผมก็จะพาเขาหนีไปด้วยกัน แต่เพราะอีกฝ่ายเลือกให้ทุกอย่างจบแบบนี้ ผมก็เข้าไปขัดขวางหรือห้ามไม่ได้อีกแล้ว


ตุลย์ไม่มีวันรู้หรอกว่าเขาสำคัญกับผมถึงขนาดไหน


เขาเป็นคนเดียวที่รับฟังผม แม้แต่เรื่องที่ไม่มีใครอยากฟัง อีกฝ่ายก็ยังชื่นชอบที่จะได้ฟังจากผม


ผมยอมให้ตุลย์จากผมไป แต่ปรารถนาให้อีกฝ่ายใช้ชีวิตอย่างมีความสุข


บางทีทางเลือกนี้อาจจะทำให้ตุลย์มีความสุขที่สุดแล้วก็เป็นได้


…………………………………..


………………….


ผมกลับมาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ มือข้างหนึ่งถือสมุดบันทึกเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างถือถุงที่เพิ่งซื้อตอนขากลับ


ผมวางถุงนั้นลง ก่อนจะเดินไปเปิดแอร์จนห้องเย็นฉ่ำ  จากนั้นก็เดินกลับมาใส่ถ่าน ไม้ กระดาษเข้าไปด้านในเตา


ผมหยิบไม้ขีดไฟขึ้นมาจุดก่อนจะโยนเข้าไปในนั้น สายตาจ้องมองเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงแล้วเอนตัวลงนอนกับพื้น


ควันลอยออกมาจากเตาไฟอย่างต่อเนื่อง ผมหลับตาลง ปล่อยให้ควันโอบล้อมตัว แม้ในยามนี้กลิ่นควันก็ทำให้ผมนึกถึงตุลย์


พระเจ้าช่างใจร้าย ฉุดกระชากผมขึ้นไปจากนรกให้ได้พบกับความสุข ก่อนจะไล่ผมให้กลับมาตกในนรกขุมที่ลึกยิ่งกว่าเดิม


ในคราแรกผมยังพอมีเรี่ยวแรงกระเสิอกกระสน ดิ้นเร่าหนีจากเปลวไฟที่กัดกร่อนจากด้านใน ทนมีลมหายใจแบบไร้ความหวังในแต่ละวัน


พอความหวังนั้นถูกหยิบยื่นมาให้ และถูกริบรอนกลับไป เปลวไฟก็เผาผลาญพลังชีวิตผมจนหมดสิ้น


จนถึงตอนนี้ผมไม่มีเรี่ยวแรงเหลือที่จะปีนกลับขึ้นไปแล้ว


แต่ช่างเถอะ


ผมยิ้มขื่นๆ แม้จะหลับตาลง ทว่ารู้สึกได้ชัดถึงควันไฟที่ปกคลุมรอบตัว


ผมรู้สึกเหนื่อยและอ่อนแรงมาก แต่รู้สึกอย่างนั้นได้ไม่นาน ความง่วงก็เริ่มเข้าครอบงำ


จะอย่างไหนก็ไม่สำคัญแล้ว


ถึงอย่างไรทุกอย่างก็จะจบลงแค่ตรงนี้


จากนั้นผมก็จะได้ไปพบตุลย์อีกครั้ง


-----------------------------------------------------------------------

[Talk]

อยากลองเขียนแนวTragedyบ้างค่ะ ไม่ได้เขียนมานานแล้วกลัวมือฝืดTT

ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเขียนออกมาดราม่า แต่พอลองมาคิดดูแล้วอยากลองเขียนฉากจบโหดร้ายบ้างค่ะ







ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2

ออฟไลน์ Chanik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :sad4: :sad4: :o12: รวดร้าวมากจริงๆ

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1

ออฟไลน์ mameaw.omg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หน่วงจุกๆ :hao5: :o12:  ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตึงๆมึนๆหวังว่าเอกจะได้ไปพบตุลย์อีกครั้งนะ

ออฟไลน์ Fufufeel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารตุลย์อ่ะ มันควรมีทางออกที่ให้เลือกมากกว่านี้สิ ของตุลย์คงมีแต่ทางตันมันถึงออกมาเป็นแบบนี้ อาเนี่ยควรได้รับผลกรรมอะไรบ้างอ่ะ เลวเหลือเกิน หวังว่าทั้งคู่จะได้เจอกันนะ

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
เหมือนอ่านเรื่องของสองคนที่เปรียบกับขอนไม้ลอยน้ำมาเจอกัน พอได้อาศัยเป็นเพื่อนคู่กันในท้องทะเลอันกว้างใหญ่เวิ้งว้าง แล้วไม่นานก็ต้องจากไปทางใครทางมันตามแต่กระแสคลื่นจะพัดพาไป อ่านแล้วก็ได้แต่คิดว่า...สักวันหนึ่งถ้าหากเราตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้นบ้าง...ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเช่นกัน คงปล่อยให้เหตุการณ์มันคลี่คลายตามแต่จะเป็น

ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
มันหน่วง มันจุกอกไปหมด  :hao5: คิดว่าจะช่วยกันฮีลใจจนรอดกันทั้งคู่ แต่ใครจะรู้เล่าว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ฮือออออ โทนเรื่องดีนะ ชอบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด