█ █ NINE LIVES █ █ (เรื่องสั้นตอนเดียวจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: █ █ NINE LIVES █ █ (เรื่องสั้นตอนเดียวจบ)  (อ่าน 2069 ครั้ง)

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



************************************************************************************************************

ผลงานที่ผ่านมา


นิยาย :
ต่างขั้ว - THE CONTRAST (#เตติณ จบแล้ว)
??ใจเย็นกับเป็นไท (#ใจเย็นกับเป็นไท จบแล้ว)


************************************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2

NINE LIVES




ข้ามีเรื่องเล่าของตัวเองอยู่หลายเรื่อง ก่อนจะมาเป็นปีศาจแมวที่จำแลงกายในร่างของแมวจรจัด

เรื่องแรก ในชาติก่อน ข้าเคยเป็นเจ้าป่า

เป็นสิงโตที่ครอบครองพงไพร สัตว์ใดหน้าไหนล้วนหวาดกลัวข้า ยามเสียงคำรามข้ากึกก้อง สิ่งที่ตามมามีเพียงความเงียบสงบ ทุกตนสยบแทบเท้าข้าด้วยความกลัวตาย ไม่มีผู้ใดอีกแล้วที่มีอำนาจเหนือข้า

ชาติต่อมา ข้าเป็นเสือโคร่ง เป็นพญาของป่าเร้นลับ ซุ่มโจมตีจากเงาอย่างเงียบเชียบ คร่าชีวิตของเหยื่อให้สิ้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัว

ชาติที่สาม ข้าเป็นเสือดำ เฝ้ามองและครอบครองทัศนียภาพจากมุมสูงของต้นไม้ และขบเคี้ยวเหยื่ออยู่เบื้องบนที่ไม่มีใครกล้ากล้ำกรายยื้อแย่ง

นั่นคือเรื่องเล่าของข้า ข้าผู้เคยยิ่งใหญ่เหนือใคร

แต่ในชาติบัดนี้ ข้าตกต่ำอับจน เป็นแมวจรที่หลงร่อนเร่ในสังคมมนุษย์ ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ว่าเป็นตัวอัปมงคลเพียงเพราะขนสีดำสนิท ข้าเป็นลางร้ายของผู้คนแม้อยู่ในร่างอ่อนแอเช่นนี้

ช่างน่าขัน มนุษย์กลับกลัวสัตว์ที่ตัวเล็กกว่าตนเองหลายเท่า

มนุษย์ผู้น่ารังเกียจ

อย่างไรก็ดี ร่างปีศาจของข้านั้นไม่ได้มีอำนาจต่อกรมากนัก อาจเพราะเทพเจ้าเองก็มิเว้นที่จะชิงชังข้า จึงสาปข้าให้อยู่ในร่างน่ารังเกียจ ครึ่งคน ครึ่งสัตว์

ใบหน้าของข้านั้นแบ่งสันปันส่วนระหว่างแมวและมนุษย์ โครงหน้าและผิวเป็นของมนุษย์ แต่องค์ประกอบคือแมว ข้าตาโต ดั้งโด่งรั้น จมูกเป็นปุ่มเหมือนแมว ปากมีเขี้ยวเล็กๆ และมีหนวดอยู่ตรงแก้ม หูแหลมแบบแมวอยู่บนศีรษะ

ข้ามีอุ้งเท้าทั้งสี่เหมือนแมว ซ่อนกรงเล็บแหลมคมไว้ตะปบเหยื่อ มีหางฟูฟ่อง ส่วนที่เหลือคือกายแบบมนุษย์

ข้าปราดเปรียว ว่องไว เงียบเชียบ ดังเงาที่เร้นกายใต้จันทร์ แต่อย่างไรก็ดี ข้าปลอดภัยกว่าที่จะอยู่ในร่างของแมวดำ

ยิ่งไม่เป็นจุดเด่นเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัย

ยิ่งซ่อนกลิ่นอายของตัวเองได้ดีเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งสอดแนมมนุษย์ได้ดีเท่านั้น

ข้าดำรงชีวิตด้วยการขโมย เฝ้ามองเพื่อรู้ว่าเวลาไหนควรขโมย และควรขโมยอย่างไร แต่นับวันข้าก็ยิ่งรู้จักมนุษย์ โดยเฉพาะมนุษย์หน้าโง่ที่ข้าคาดการณ์อนาคตของพวกมันได้ทุกครั้ง ว่าจะพบหายนะในชีวิตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

มนุษย์หน้าโง่นั้นคือมนุษย์ที่ไว้ใจผู้อื่น

มนุษย์ที่ให้ใจกับผู้อื่นมากเกินไป ย่อมพบกับหายนะ

ข้าเฝ้ามองมนุษย์ที่ตกในวังวนเช่นนั้นไม่รู้จบ และไม่ว่าไปที่ไหนก็เป็นเฉกเช่นกัน

จนวันหนึ่ง ข้าเร่ร่อนไปหยุดที่โรงดาบแห่งหนึ่ง หลังจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต้นแม่น้ำรู้แกวว่าควรเก็บข้าวของอย่างไรให้พ้นเงื้อมมือแมวขโมยอย่างข้า ข้าถูกดึงดูดเพราะกลิ่นอาหารกลางวันของโรงฝึกดาบ มันเป็นอาหารที่ตระเตรียมให้เหล่าเด็กชายที่ฝึกซ้อมรบเป็นทหารหากมีสงคราม

ข้าเฝ้ามอง รอเวลา หาช่องทางหนีทีไล่

ครั้งแรกข้าขโมยสำเร็จ ได้ปลาตัวหนึ่งมาจากในครัว แม่ครัวไม่ทันระวังและไม่แม้สังเกตเมื่อกลับมาแล้ว

เป็นเช่นนั้น ข้าจึงป้วนเปี้ยนที่โรงฝึกแห่งนี้ เฝ้ารอมื้ออาหารอีกครั้ง สำรวจส่วนอื่นๆ ของโรงฝึก เดินเยื้องย่างในร่างแมวจรเหนือรั้วกำแพง ได้ยินเสียงดาบไม้กระทบกระแทกกัน เสียงร้องใส่อารมณ์ราวกับจะช่วยให้แข็งแกร่งขึ้น เสียงหายใจอันเหนื่อยหอบ ได้กลิ่นมนุษย์ เหงื่อมนุษย์ เหม็นคลุ้งไม่น่าเข้าใกล้ แต่ตอนที่ข้ากำลังจะเดินหนีไปที่อื่น เสียงเอะอะโวยวายก็รั้งข้าให้หยุดยืนมอง

ที่มาของเสียงคือเด็กคนหนึ่งที่ถูกผลักทรุดลงไปกับพื้น ถูกก่นด่าเหยียดหยาม ทั้งเด็กคนอื่นยังร่วมผสมโรง พอจับใจความได้ว่าอ่อนแอ น่ารังเกียจ และอีกคำ ไอ้เด็กกำพร้า

ข้าเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจนัก ต่อให้เด็กกำพร้าที่ว่านั่นจะถูกเตะเข้าที่กลางตัวก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่พอได้เห็นว่ามันหยัดยืนลุกขึ้นสู้ แววตาโกรธเกรี้ยวและไม่ยอมแพ้ ข้าจึงเปลี่ยนใจ ยืนมองอย่างอยากรู้ว่าจุดจบจะเป็นเช่นไร

เด็กคนนั้นกรีดตะโกนเหมือนรวบรวมพลังก่อนหยิบดาบไม้พุ่งเข้าเอาคืน แม้จะถูกสวนกลับเอาง่ายๆ จนจวนเจียนเซล้ม แต่ก็ยังพยายามหยัดยืนและพุ่งเข้าไปใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ ที่เห็นเป็นเรื่องน่าขัน สุดท้ายแล้วฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่าคงคร้านจะเล่นสนุก ถีบอัดเข้าที่ท้องจนทรุดลงกับพื้นอีกครั้ง แต่ก่อนจะถูกรุมทำร้ายไปมากกว่านี้ เสียงทุ้มกังวานของชายคนหนึ่งก็เอ็ดตะโรให้หยุดชะงัก น่าจะเป็นครูฝึกของโรงดาบแห่งนี้ ทุกคนจึงเกรงกลัวและถอยให้ห่างจากร่างอันสะบักสะบอม...ที่ยังพยายามหยัดยืนลุกขึ้นมาใหม่

ข้าหมดความสนใจแค่นั้น แต่ก่อนเดินจากไป ข้าสังเกตและจดจำหน้าของเด็กกำพร้าคนนั้นไว้ จุดเด่นคือแผลเป็นรอยบากพาดขวางลงมาทางซ้ายของริมฝีปาก

แล้วข้าก็ลืมไป ไม่ได้สนใจอะไรอีกนอกจากอาหารมื้อค่ำ

คืนนั้น ข้าได้กินปลาจนอิ่มท้อง ตั้งใจหาที่นอนอุ่นๆ สักที่แถวนั้น แต่ระหว่างที่เดินหา ข้าได้ยินเสียงตวัดดาบ บังเกิดความสงสัยว่าดึกดื่นค่ำคืนเช่นนี้ยังมีใครฝึกดาบอีกหรือ จึงเดินไปดูให้หายแคลงใจ

ด้านหลังโรงฝึกไร้แสงไฟ ดวงตาที่มองเห็นชัดในความมืดของข้าพบเด็กที่ถูกรุมกลั่นแกล้งเมื่อกลางวัน เจ้านั่นกำลังฝึกซ้อม ปากที่มีรอยบากหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน แต่มือยังกำดาบไว้มั่น ตวัดออกไปในอากาศ แม้ท่ายืนไม่มั่นคง ดูโซซัดโซเหมือนหมาหิวโซ แต่ก็นานทีเดียวกว่าร่างนั้นจะทรุดลงนอนกับพื้น

ครั้งนี้ไม่มีการหยัดยืนลุกขึ้นมาใหม่แม้ข้าจ้องมองอยู่นาน อะไรบางอย่างดลใจข้าให้กระโดดลงจากกำแพงไปดูเด็กคนนี้ใกล้ๆ

ใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง ข้าเห็นเสื้อผ้าและเนื้อตัวมอมแมม เห็นลำตัวขยับไหวตามจังหวะหายใจเหนื่อยหอบ ได้กลิ่นน่าชังของเหงื่อมนุษย์ ก่อนจะได้ยินเสียงท้องร้องโครกครากและเสียงบ่นครวญว่า ‘หิว’ ฟังดูน่าอดสูสิ้นดี

แต่ขณะที่ข้าจะเดินจาก เจ้ามนุษย์กลับเงยหน้าขึ้นมา ประสายตากับข้า

สายตานั้นทั้งสิ้นหวังและมีหวัง แข็งกร้าวและอ่อนโยน สะกดข้าให้ยืนนิ่งเหมือนยามเฝ้ามองดวงจันทร์

ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะในลำคอ



เจ้าแมว ข้าคงน่าสมเพชมากสินะ



มนุษย์เด็กเอ่ย แต่ความจริง 'เด็ก' ที่ข้าว่านั้นก็อยู่ในร่างที่แก่เกินจะเป็นเด็ก ขณะเดียวกันก็เยาว์เกินจะเป็นผู้ใหญ่

ครึ่งๆ กลางๆ เหมือนร่างครึ่งคนครึ่งสัตว์ของข้ากระมัง

เจ้ามนุษย์ขยับตัวลุกขึ้น เดินโซเซไปนั่งพิงเสาของโรงฝึก เหมือนต้องการพักให้หายเหนื่อย



เจ้าดูผอมนัก



คงเพราะข้ายังไม่ได้เดินไปไหน เจ้านี่จึงพูดกับข้าอีกครั้ง



ไว้ถ้าข้าแย่งมื้อเย็นได้ จะแบ่งให้เจ้าแล้วกัน



ทั้งที่พูดเช่นนั้น แต่ท้องกลับร้องครวญครางโครกครากขึ้นมาอีกให้น่าเย้ยหยัน ขนาดตนเองยังเอาไม่รอด แล้วใยจึงคิดเป็นที่พึ่งของผู้อื่นอีกเล่า



อา เจ้าคงไม่เชื่อข้าสินะ



มนุษย์บ่นพึมพำ ชวนให้ข้านึกสงสัยและแปลกใจว่าจะมาคาดหวังอะไรกับแมวดำจรจัดที่นำอัปมงคลอย่างข้า

ไม่รังเกียจข้าหรือไร

ข้าอยากเอ่ยถาม แต่ก็ได้เพียงเก็บงำไว้ในใจ



ปกติก็ไม่มีใครเชื่อข้าอยู่แล้ว



มนุษย์เอ่ยคำ ฟังดูตัดพ้อ



แค่ฟังข้าเสียหน่อยแล้วกัน เพราะมนุษย์หน้าไหนก็ไม่มีใครฟังข้า ข้าแค่อยากพูดให้ใครสักคนฟังก็เท่านั้น



เป็นคำขอร้องที่ดูอับจนหนทางและน่าสมเพช ข้าอยากจะหัวเราะเยาะเย้ยเหมือนที่มนุษย์ชอบใช้ทำร้ายกัน แต่เพราะสนใจว่าเจ้านี่จะพูดอะไร จึงแค่เสหน้าไปทางอื่น ขณะที่หางตวัดไหวไปมาเชื่องช้า



เจ้าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือจะไม่แม้สนใจก็ไม่เป็นไร ข้าแค่อยากพูดออกมา...ว่าพ่อข้าไม่ได้ฆ่าตัวตายหนีความผิด



หางของข้ายังตวัดไปมา ดวงตาของข้ายังคงมองไปทางอื่น กระทั่งมนุษย์ผู้นี้เอ่ยอีกประโยค ข้าจึงหันกลับไปมอง



พ่อข้าเสียใจที่ผู้คนไม่เชื่อเขา



ได้ฟัง มีประโยคหนึ่งดังชัดในหัว

พ่อของเจ้าเป็นมนุษย์หน้าโง่

ข้าคิดเช่นนั้น มองเด็กตรงหน้าที่ใช้ดาบไม้ยันพื้นเพื่อหยัดยืน ดูทุลักทุเล ทั้งเหนื่อยอ่อนหิวโซ และเจ็บปวดจากบาดแผล แต่ก็ยังพยายามเดินกลับไป

ข้าไม่ได้มองเจ้านั่นจนลับสายตา ย้ายกายไปหาที่นอนอุ่นๆ ในคืนนี้ สุดท้ายได้โกดังเก็บของของบ้านหลังหนึ่งเป็นที่ซุกหัวนอน แต่ก่อนนอนคืนนั้น เรื่องของเจ้ามนุษย์เด็กกลับวนเวียนอยู่ในหัวข้า ไม่ใช่เรื่องที่มันเล่าให้ฟัง แต่เป็นเรื่องที่มันหยัดยืนไม่ยอมแพ้ทั้งที่อ่อนแอและกระจอก

ภาพที่เจ้านั่นใช้ดาบไม้ยันกายพาร่างที่โซเซก้าวเดินต่อไป เป็นภาพที่วนเวียนในหัวข้า ด้วยสงสัยว่ามนุษย์ผู้นี้จะพาชีวิตตัวเองไปเส้นทางใดกันแน่

มันวนเวียนเช่นนั้นกระทั่งข้าจมนิทรา

เช้ารุ่งขึ้น ข้าตื่นขึ้นเพราะเสียงพูดคุยของมนุษย์ รู้ตัวว่าพวกมันเข้ามาในโกดังก็ตอนที่พวกมันเห็นข้าเสียแล้ว หนึ่งในนั้นปาค้อนใส่ข้าให้ต้องรีบกระโจนหนี

แต่โชคร้ายที่ไม่พ้น





**พื้นที่ไม่พอ ต่อด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2

ข้าโดนหัวค้อนฟาดที่ขาหลัง เจ็บร้าวเหมือนโดนสายฟ้าฟาด แลบแปลบปลาบไปตามกล้ามเนื้อ แต่ไม่มีเวลาหยุดชะงัก ข้าต้องวิ่งต่อ วิ่งให้เหมือนที่พวกมันอยากไล่ข้าไปให้พ้น จนในที่สุดข้าก็กลับมาที่โรงฝึกดาบที่ไม่มีใครจะสังเกตตัวตนของข้า แอบหลังพุ่มไม้และเลียแผลของตัวเองที่แดงช้ำจากการถูกทำร้าย

ข้าเจ็บ และรู้สึกเกลียดชังมนุษย์

เกลียดที่พวกมันเหยียดหยามทุกสิ่งที่แตกต่างจากพวกมัน อย่าว่าแต่ปีศาจ มนุษย์ด้วยกันพวกมันก็ไม่เว้น

แม้บาดแผลของข้าจะฟื้นฟูได้รวดเร็ว แต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวัน ระหว่างนี้ข้าคงเดินกะเผลกน่ารำคาญ จึงตัดสินใจซ่อนกายเงียบงัน นิ่งเฉยไม่เคลื่อนไหวใด และรอเวลาจนกว่าฟ้าจะมืดลง

ข้าผล็อยหลับท่ามกลางเสียงประดาบ ผ่านไปหนึ่งมื้อถึงตื่นขึ้น สำรวจแผลที่ขาหลังพบว่ายังบวมช้ำ แต่ไม่นานคงทุเลาและยุบลง ข้าขยับเปลี่ยนอิริยาบถ นอนหมอบและหลับรอจันทรามาเยือน

ในที่สุด ข้าตื่นขึ้นเมื่อความมืดปกคลุม โรงฝึกเงียบสงัด มีเพียงเสียงเดียวที่ยังดังไม่ต่างจากเมื่อวาน เป็นเสียงของดาบไม้ที่เหวี่ยงตวัดในอากาศ เสียงหอบหายใจของเจ้าเด็กนั่น หูของข้ากระดิกไหวเหมือนมีอะไรสะกิดให้ขัดใจ

ข้าสำรวจแผลตัวเอง มันดีขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่หายสนิท และเจ็บร้าวทุกครั้งที่เท้าย่ำพื้น ข้าจึงยังต้องเดินกะเผลกอยู่เล็กน้อย

เมื่ออกจากพุ่มไม้ ความหิวทำให้ข้ามุ่งไปยังครัว หวังว่าอาจมีอะไรหลงเหลือ ไม่เช่นนั้นก็เป็นเสบียงที่ตระเตรียมไว้รุ่งขึ้น



เจ้าแมว ขาเจ้าเป็นอะไร



ข้าชะงักการย่างก้าวเมื่อเจ้าเด็กนั่นดันสังเกตเห็นข้า อาจเพราะขาที่บาดเจ็บจึงทำให้การย่ำเท้ามีเสียง อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ได้หันไปมองและตั้งใจเดินต่อ



เดี๋ยวก่อน



อีกครั้ง มันเรียกข้า เดินมาดักหน้าอย่างถือวิสาสะ ข้าชะงักถอยตอนที่เจ้ามนุษย์ย่อตัวนั่งยองตรงหน้า



ขอข้าดูหน่อย



มันเอ่ย ยื่นมือมาตรงหน้าช้าๆ อย่างระมัดระวัง ข้าแปลกใจที่ตนเองลังเล และในที่สุดมือมนุษย์ก็เข้าถึงตัวข้า มันอุ่นจนรู้สึกดี ขณะเดียวกันก็ชวนให้ร้อนรนว่ามือนั้นจะนำอันตราย

และคิดไม่ทันขาดคำ เจ้ามนุษย์ก็สบโอกาสอุ้มข้า เผลอหลุดร้องท้วงไปเสียงดังแต่ก็ได้ยินเสียงจุ๊ปากให้เงียบไว้ มันอุ้มข้าจากด้านหลัง จับหัวไหล่ทั้งสองข้างของข้าไว้ ความจริงแล้วข้าใช้สองขาหลังถีบข่วนก็คงหนีได้ง่ายดาย

แต่เพราะข้าสงสัยว่าเด็กคนนี้จะทำอะไร จึงแค่รอดู

เจ้ามนุษย์เดินมาถึงหน้าประตูโรงฝึก วางข้าลง ทีแรกข้ายังสงสัยว่าทำไม ก่อนเข้าใจเมื่อมันพินิจแผลที่ขาหลังของข้าอย่างเบามือ เพิ่งนึกได้ว่าหลังโรงฝึกนั้นมืดเกินไปที่มนุษย์จะเห็นอะไรได้ชัดเจน

เด็กชายไม่พูดอะไรเมื่อละมือจากตัวข้า ทำเพียงทวีความสงสัยด้วยการแกะผ้าพันแผลที่แขนของตัวเองออก แล้วนำมันมาพันแผลที่ขาหลังของข้าเสียแทน

ข้าไม่แน่ใจว่ารู้สึกเจ็บหรือไม่ในตอนนั้น อาจเพราะนิ่งอึ้งเกินจะประมวลผลอะไรได้ รู้ตัวอีกทีเจ้ามนุษย์ก็ยกมือขึ้นลูบหัวข้าเสียแล้ว



เจ้าเชื่องกว่าที่คิดนะ



เอ่ยเช่นนั้น พร้อมระบายยิ้มจากริมฝีปากที่มีรอยบาก



ขอให้หายในเร็ววัน



เป็นถ้อยสุดท้ายของเด็กชายก่อนหยัดยืนลุกขึ้น หยิบดาบไม้หันหลังเดินจากไป ท่าเดินยังคงไม่มั่นคงและดูหิวโซ ครั้งนี้ข้ามองเจ้านั่นเดินไปจนลับสายตา

คืนนั้นข้าไม่ได้หลับใหล เพราะตาสว่างจากการนอนทั้งวัน เสียงหรีดหริ่งเรไรกังวานในเงียบงัน แหงนมองจันทร์เห็นจันทร์เต็มดวงงดงาม แต่ในหัวข้ากลับมีภาพของเจ้ามนุษย์เด็กวนเวียนซ้ำไปมา และหัวใจกลับเจ็บร้าวเหมือนโดนค้อนเล็กๆ ตอกเข้าใส่เมื่อนึกถึงรอยยิ้มที่มีรอยบากพาดผ่านไม่น่าดูน่าชมนั้น

มนุษย์หน้าโง่

ข้าตัดบทห้วงคิดนั้น เดินจากจุดที่แหงนเงยมองพระจันทร์ ออกสำรวจเลียบแม่น้ำ เดินตามทิศที่กระแสน้ำพัดผ่าน ข้าเดินไปเรื่อยๆ จนแผลที่ขาหายสนิทเมื่อข้าเดินไปจนพบอีกหมู่บ้านที่ไกลออกไป แต่ข้ายังไม่คิดปักหลัก เพียงตรวจสอบให้แน่ใจถึงที่ไปในคราต่อไป

เช้านั้นข้ามุ่งหน้ากลับโรงฝึกดาบ และมาถึงเมื่อยามโพล้เพล้ นึกอยากแกะผ้าพันแผลออกแต่ไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะกลับร่างปีศาจ ข้าใช้ร่างแมวลอบเข้าครัวที่อาหารปรุงเสร็จเรียบร้อย อาศัยทีที่มนุษย์ไม่ระแวดระวังฉกปลาย่างมาสองตัว ทุลักทุเลเพราะเป็นร่างแมวที่ทำได้เพียงคาบอาหารไว้ในปาก แต่เมื่อเข้าที่เข้าทางก็กระโจนแผล็วออกมา วิ่งออกไปไกลจากตัวบ้านเรือนที่มีมนุษย์อาศัย ซ่อนกายเฝ้ารอหลังพุ่มไม้ เล็มกินปลาตัวหนึ่งที่ขโมยมาได้ จนอาทิตย์ลับฟ้า ข้าจึงกลับร่างเป็นปีศาจแมว ร่างที่ข้าสามารถใช้ปากสื่อสารพูดคุยได้

ตอนนั้นเองที่ผ้าพันแผลหลุดออก ข้าหยิบมันขึ้นมาจากพื้น และใช้มันพันข้อมือเสีย

เมื่ออยู่ในร่างปีศาจ ข้ายืนสองขา ความสูงและขนาดกายเทียมเท่ามนุษย์ ทำให้ยากจะซ่อนเร้น ข้าจึงรอให้ท้องฟ้ามืดสนิท รอให้ทุกชีวิตหลบตัวใต้เงา หลับใหลและไม่รับรู้ถึงตัวตนของข้า เมื่อถึงเวลานั้นจึงออกจากที่ซ่อน มุ่งตรงไปยังด้านหลังของโรงฝึกดาบ

และเหมือนเดิม ข้ายังได้ยินเสียงฝึกดาบเพียงลำพังของเด็กคนนั้น ได้ยินเสียงหอบหายใจ กระทั่งเสียงร้องโครกครากของแมลงหิวในกระเพาะ ข้าก็ได้ยิน

เป็นเช่นนั้นข้าจึงกระโดดขึ้นนั่งยองบนกำแพง ปรากฏกายในความมืดที่มนุษย์คงมองเห็นข้าได้ไม่ชัดนัก



เจ้ามนุษย์



ข้าไม่รู้จะเรียกอย่างไร จึงเรียกด้วยชื่อดังกล่าว อย่างไรก็ตามมันได้ผล เจ้ามนุษย์หันมามองตามคำเรียก แรกทีเดียวมันตกใจจนผงะถอยและสะดุดล้มลงก้นจ้ำเบ้า ก่อนจะลนลานหยิบดาบไม้และหยัดยืนขึ้นมา ไม่ได้วิ่งหนี แต่หันดาบไม้มาทางข้า



เจ้าเป็นใคร



เด็กชายถาม ข้าไม่ได้ตอบ เพียงกระโจนลงไปที่พื้นให้มันผงะถอยไปอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามนุษย์เห็นชัดแค่ไหนในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์สาดส่อง แต่อย่างน้อยคงเห็นว่าข้ายื่นสิ่งใดให้ เพราะข้าเห็นสายตาที่จับจ้อง ก่อนจะเงยมองข้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย แต่ถึงเอ่ยถาม ข้าไม่คิดตอบอะไร และวางปลาย่างที่รองด้วยใบไม้ลงกับพื้นเบื้องล่างในเมื่อมนุษย์ไม่ยื่นมือมารับไว้



ตอบแทนที่รักษาแผลข้า



ข้าเอ่ยและหันหลังกลับ เตรียมมุ่งหน้าออกจากโรงฝึกแห่งนี้และไม่กลับมาอีก



เดี๋ยวก่อน



ทว่าเจ้ามนุษย์เรียกรั้ง



เจ้าจะไปไหน จะไปเพราะข้าเห็นร่างจริงของเจ้าหรือเปล่า?



ข้าไม่ได้หันกลับไปมอง แต่ก็ยังไม่ก้าวเดินออกไปเช่นกัน



เจ้า...ไม่ต้องกลัวว่าข้าจะเอาไปบอกใครหรอก หรือต่อให้ข้าบอกก็ไม่มีใครเชื่อข้าอยู่ดี



ประโยคที่ได้ยินทำให้นึกขัน เหตุใดมนุษย์คนนี้จึงเปิดเผยถึงความน่าสมเพชของตนได้ไม่อายปากเพียงเพื่อรั้งข้าไว้



ดังนั้น อยู่คุยกับข้าเสียหน่อยเถอะ



ถึงตรงนี้ ข้าไม่ใคร่เข้าใจมนุษย์ผู้นี้นัก เพราะข้าไม่เคยพบมนุษย์ที่อยากนั่งคุยกับปีศาจ

อย่างไรก็ตาม ความแปลกพิสดารหรือความน่าเวทนาไม่ได้ทำให้ข้าใจอ่อนหันกลับไปสนทนาด้วย ข้าเพียงกระโดดข้ามกำแพงไป คืนร่างเป็นแมวดำ และหาที่ซุกหัวนอนเพื่อเก็บแรงเดินทางในวันรุ่งขึ้น ข้าจะหลับไปให้ถึงอีกราตรี ตั้งใจไว้ว่าจะใช้ร่างปีศาจเดินทางเพราะร่างแมวนั้นเชื่องช้ากว่าหลายเท่า

ไม่นาน ข้าหลับลงเพราะความเหนื่อยอ่อน หลับลึกยาวนานไม่ฝันใด แล้วสะลึมสะลือตื่นเพราะเสียงจ้อกแจ้กจอแจของมนุษย์ยามฟ้าสว่างในบางห้วง ลืมตัวสงสัยว่ามีเสียงของเด็กคนนั้นบ้างหรือไม่ในบางขณะ จนเมื่อราตรีมาถึงอีกครา ข้าตื่นเต็มตา แหงนเงยมองดวงจันทร์ที่ยังดูเต็มดวง ได้ยินเสียงหรีดหริ่งเรไรบรรเลงเพลงไม่ให้เป็นดึกสงัด แต่กลับนึกรำคาญใจ หงุดหงิดงุ่นง่านเร่งตนเองให้เดินออกจากที่ซ่อน แล้วลังเลอยู่ในฝีเท้า จิตใจรวนเรจนรู้ดีว่าต้องจัดการให้จบให้สิ้น

ข้ามุ่งกลับไปยังโรงฝึกดาบ ตัดสินใจแน่วแน่ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ใช้ร่างแมวกระโดดขึ้นไปบนกำแพง และแทนที่เสียงเรไร ข้าได้ยินเสียงตวัดดาบจนเหนื่อยหอบของเด็กชายผู้อ่อนแอ

อะไรไม่รู้ได้ทำให้ข้ามั่นใจว่าเจ้านี่จะไม่ละความพยายาม และจะมาแอบฝึกดาบเพียงลำพังทุกคืนวัน กระนั้นข้าก็ยังอยากรู้ว่าชีวิตของมันจะดำเนินไปทางใด

จะพบกับหายนะ หรือจะเอาชนะมันได้

อาจจะหายนะ

ข้าให้คำตอบกับตัวเองทดแทนที่จะไม่อยู่เฝ้าดูจนถึงจุดจบ บอกตัวเองว่าพอใจเช่นนั้น หยัดยืนเตรียมหันหลังกลับ



เจ้าแมว



แต่ความตั้งใจกลับต้องชะงัก



ข้าแย่งมื้อเย็นมาได้แล้ว



คำพูดของมันทำให้ข้านึกย้อนถึงวันแรกที่พบกัน เป็นคำที่ข้ายังนึกเย้ยหยันเมื่อได้ฟังครั้งแรก แต่ตอนนี้ เมื่อหันไปมอง ข้าเห็นปลาย่างบนมือของเด็กชาย ยืนยันว่าทำได้จริงดังที่พูด



นี่ของเจ้า



พลันเมื่อข้าได้ฟังถ้อยนั้น จากรอยยิ้มที่มีรอยบากพาดผ่าน ข้ารู้สึกเหมือนถูกค้อนเล่มเล็กๆ ตอกเข้าที่หัวใจจนเจ็บร้าว และอาจถูกทุบแตกเป็นเสี่ยงในไม่ช้าหากไม่รับมันไว้

สุดท้ายข้ากระโจนลงไปหา แต่เป็นในร่างของปีศาจ สังเกตสายตาของเจ้าเด็กตรงหน้าแล้วยิ่งรู้สึกแตกร้าว

ไม่มีความเกลียดชังอยู่ในแววตาแม้แต่น้อย

ข้าตั้งใจจะเอ่ยถามว่า 'ทำไม' ในตอนที่รับอาหารนั้นไว้ แต่ถูกชิงเอ่ยถามเสียก่อน



ข้าเคยเล่าเรื่องของข้าไปแล้ว เล่าเรื่องของเจ้าบ้างสิ



ทั้งน้ำเสียง และท่าทียิ่งบ่งชัดว่าไม่มีความชิงชัง ไม่มีความหวาดกลัวในตัวข้า เจ้ามนุษย์เพียงเดินไปนั่งพิงเสา วางดาบไม้ลงด้านข้าง และรอข้าไปสนทนาด้วย เพียงเท่านั้น ไม่มีอื่นใด

และอาจเพราะตลอดหลายชีวิตที่ผ่านมาของข้าไม่เคยพบเจออะไรเช่นนี้ สุดท้ายแล้วข้าจึงเดินไปนั่งลงข้างๆ แต่ไม่เอื้อนเอ่ยถ้อยใด กินอาหารที่มันเก็บไว้ให้ ทั้งที่ซ้ำซากจำแต่เหมือนว่ามันอร่อยกว่าที่เคย จนเผลอเลียมือต่อหน้ามนุษย์ ให้รีบลดมือเก็บพร้อมความกระดาก

จากนั้น ข้าจึงเริ่มเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของข้า

เรื่องที่ข้าเคยเป็นราชสีห์ ปกครองพงไพร เล่าถึงบริวารที่ข้ามี และจบลงเพียงเท่านั้น พึงพอใจที่มนุษย์ไม่ได้มีแววตาแคลงใจสงสัย

ขณะเดียวกันก็กลับไม่ชอบใจในความวางใจของมัน



พรุ่งนี้มาอีกสิ ข้าจะรอเจ้าเหมือนเดิม



นั่นเป็นคำพูดของมนุษย์ตอนที่ข้าลุกเดินจาก ข้าไม่ได้ให้คำตอบ แต่ก็ไม่ได้บอกลา ซึ่งนั่นทำให้ข้ารู้เลยว่าจะนึกด่าทอตนเองที่ไม่ทำตามที่ตั้งใจไว้ตอนแรก

ข้าไม่ได้มาที่โรงฝึกในคืนนี้เป็นครั้งสุดท้าย หาข้ออ้างให้ตนเองว่าชีวิตของปีศาจช่างยาวนาน คงไม่เป็นไรหากจะเสียเวลาไปกับสิ่งที่จนเองต้องการค้นหาคำตอบ

ข้าอยากรู้ว่าชีวิตของเด็กคนนี้จะเดินต่อไปในทางใด และจะไปด้วยสภาพโซซัดโซเซหรือยืดอกขึ้นเดินอย่างผึ่งผาย

เป็นเช่นนั้น ข้าจึงกลับมาเล่าเรื่องของตนเองในคืนถัดมาและถัดมา เล่าถึงอดีตชาติที่เคยเป็นพญาเสือโคร่ง และเจ้าแห่งเสือดำ เมื่อหมดเรื่องจะเล่า ข้าคิดว่าเด็กชายคงเอ่ยเรื่องของตัวเองออกมาบ้าง



เจ้าไม่บอกข้าเลยว่าในแต่ละชาติ เจ้าตายอย่างไร



ทว่ามันกลับยังไถ่ถามลามปาม



ข้าเล่ามามากพอแล้ว เจ้าล่ะ ทำไมถึงฝึกดาบอย่างหนักอยู่เพียงลำพัง



ถ้าแข็งแกร่งก็มีอำนาจ และถ้ามีอำนาจ ไม่ว่าเราจะพูดหรือไม่ ใครก็ฟังเราไม่ใช่หรือ



เด็กชายเอ่ยตอบ ไม่ลังเล แววตาที่ทั้งอ่อนโยนแข็งกร้าว จำได้ว่ามันเคยฉายแววมีหวังผสมปนเปกับสิ้นหวัง แต่บัดนี้ข้าเห็นแต่แววตาที่มุ่งมั่นแน่วแน่

ที่เคยโดนปรามาสว่าอ่อนแอ ก็เป็นเพียงลมปากของมนุษย์ที่จิตใจอ่อนแอยิ่งกว่า

ข้ารู้แล้วว่ามนุษย์ผู้นี้จะเดินไปในทางใด

ไม่ใช่หนทางของมนุษย์หน้าโง่ เพราะเจ้านี่ไม่ได้ไว้ใจใคร เพียงไม่เกรงกลัวเท่านั้นเอง



นี่ ขอจับหูเจ้าหน่อยได้ไหม



พลันคำนึงคิดถูกหยุดชะงัก ด้วยคำเอ่ยขอที่สมกับเป็นเด็ก ขณะเดียวกันก็ตำหนิได้เช่นกันว่าโตเกินจะเป็นเด็กแล้ว



ข้าไม่ไว้ใจให้เจ้าจับง่ายๆ หรอกเจ้ามนุษย์



ไม่ไว้ใจอย่างนั้นหรือ



ใช่ และถ้าเจ้าไว้ใจใครง่ายๆ เจ้าก็จะเป็นมนุษย์หน้าโง่



ข้าเอ่ยเช่นนั้น ให้แววตาของเจ้ามนุษย์ฉายแววสงสัยไม่เข้าใจ ปากที่พาดด้วยรอยบากเหยียดตรงไม่บ่งอารมณ์ใด และไม่ให้ได้เอื้อนเอ่ยคำ ข้าก็แปลงกายกลับเป็นร่างแมวและกระโจนข้ามรั้วกำแพงไป

ข้าตั้งใจจะไปจากที่นี่เมื่อค้นพบแล้วว่าเจ้าเด็กนั่นจะก้าวต่อไปในทิศทางใด อย่างน้อยก็ไม่ใช่หายนะ ข้าคิดเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไร ข้าก็เลือกจะเอ่ยลากับเจ้านั่นเป็นครั้งสุดท้าย จึงหลับใหลรอฟ้าสว่าง วนไปจนความมืดโรยตัวลงอีกครั้ง

เหมือนเดิมที่ข้ายังเห็นเด็กชายฝึกดาบ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มันดูแข็งแรงขึ้นทั้งที่ผ่านไปไม่กี่วัน หรือความจริงแล้วอาจสะสมมาเป็นแรมปีแต่ไม่มีใครล่วงรู้ ท่าทีจับดาบของเจ้ามนุษย์ดูแกร่งกร้าวกว่าที่เคย ข้าเฝ้ามองจากบนรั้วกำแพง แต่เจ้านั่นก็กลับสัมผัสได้ถึงตัวตน หันมามองข้า ลดดาบไม้ในมือลง และยกยิ้มบางเป็นการทักทาย

เห็นดังนั้นข้าจึงกระโดดลงไปหา ไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ข้าเอ่ยลาดังที่ตั้งใจ



ข้าต้องไปจากที่นี่แล้ว



อีกครั้งที่มุมปากของเด็กชายกลับไปเหยียดตรงไม่บ่งอารมณ์ใด เห็นเพียงบาดแผลเป็นรอยบากเท่านั้นที่ชัดเจน ก่อนที่จะเอ่ยคำ



อยู่ต่ออีกสักหน่อยไม่ได้หรือ



ข้าไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ต่อแล้ว



ข้าเป็นเหตุผลให้เจ้าอยู่ต่อไม่ได้หรือ



คำที่ได้ยินเป็นคำที่ไม่คาดคิด ข้าไม่รู้จะโต้ตอบออกไปอย่างไร ทำได้เพียงยืนนิ่ง มองมือของเด็กชายที่เอื้อมมือมาตรงหน้าข้า ปล่อยให้สัมผัสไล้เข้าที่แก้มอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอื้อมสัมผัสขึ้นไปยังใบหู ให้ข้ารู้ตัวว่าอวัยวะส่วนนี้ไวต่อสัมผัสแค่ไหน รู้สึกถึงอุณหภูมิที่อุ่นจนน่ารำคาญ และน่ารำคาญยิ่งกว่าเมื่ออุณหภูมิรุ่มร้อนนั้นมาจากภายในอกของตัวเองตอนที่ถูกลูบหัวอย่างแผ่วเบา ราวกับข้ากำลังอยู่ในร่างของแมวตัวเล็กๆ



อยู่กับข้าเถอะ



ข้าไม่รู้ว่าทำไมมนุษย์ผู้นี้ถึงอยากให้ข้าอยู่ด้วยนัก อาจเพราะโดดเดี่ยว เพียงลำพัง แต่ข้าเชื่อว่าในภายภาคหน้า มันจะไม่โดดเดี่ยว จะมีคนคอยติดตามเคียงข้างที่เหมาะสมและไม่ใช่ปีศาจอย่างข้า ขณะเดียวกันจิตใจก็ยอกย้อนว่ามนุษย์อาจต้องการข้าจริงๆ  – หมายถึงปีศาจแมวอย่างข้าเพียงผู้เดียว

พลันเสียงโวยวายก็ทำให้ข้าหลุดจากห้วงคิด รวมถึงหลุดจากภวังค์ มันเป็นเสียงตะโกนโหวกเหวกของมนุษย์อื่น ทั้งยังหลายต่อหลายคน ปรากฏตัวมาพร้อมคบเพลิงและดาบภายในมือ ทั้งดาบเหล็กและดาบไม้ รุมดักทั้งหน้าและหลัง ให้ปีศาจอย่างข้าไร้ซึ่งทางออก รุมตะโกนก่นด่าว่าปีศาจ ตัวประหลาด ต้องกำจัดมัน ฆ่ามันให้ตาย จนข้ารู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง

หนึ่งในเสียงโหวกเหวกที่ข้าจับใจความได้นั้นทำให้รู้ว่าพวกมันดักรอข้าอยู่ รอเวลาที่ข้าจะมาหาเจ้ามนุษย์ผู้นี้ ข้าปวดร้าว คิดเสียใจที่พลาดท่าไว้ใจมนุษย์ แม้แค่คนเดียวก็นำหายนะมาได้ แต่พลันก็ได้เห็นการกระทำที่ชวนให้หัวใจร้าวรอนยิ่งกว่า ในเมื่อเด็กชายจับดาบไม้ในมือขึ้นมา ไม่ได้หันมาทางข้า แต่หันหน้าไปยังมนุษย์ทุกคนที่หันดาบมาทางข้า

เจ้าเด็กนี่กำลังประกาศตัวเป็นศัตรูกับทุกคน...เพียงเพื่อปกป้องข้า

ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงทำให้หัวใจข้ารวดร้าวเหลือเกิน มันรวดร้าวมากเสียจนไม่อาจเอ่ยถามออกไปว่า 'ทำไม'



เจ้าบอกว่าถ้าไม่อยากเป็นมนุษย์หน้าโง่ อย่าไว้ใจใคร



พลันเสียงของเด็กชายเอ่ย ก้องกังวานท่ามกลางผู้คนที่รุมล้อมและตีวงแคบเข้ามาเรื่อยๆ



ในหลายชีวิตที่ผ่านมาของเจ้า กระทั่งชีวิตของปีศาจ ความจริงแล้วเจ้าก็อยากไว้ใจใครสักคนไม่ใช่หรือ



เสียงก้องกังวานนั้นทะลุทะลวงเข้ามาในโสตประสาท



เพราะเจ้าเป็นแมวหน้าโง่ตั้งแต่ยอมนั่งคุยกับข้าแล้ว



...และจิตใจของข้า



ถ้อยคำของเด็กชายจบลงตรงนั้น มันถูกโหมทับด้วยเสียงกรีดตะโกนราวกับคำราม ทั้งที่เป็นดาบไม้แต่กลับไม่กลัวดาบเหล็กแม้แต่น้อย ข้าเห็นเด็กชายพยายามสู้ มันทำให้ข้าเหมือนเห็นตนเองในอดีตชาติของราชสีห์ ข้าแก่ตัว หมดเขี้ยวเล็บ หมดอำนาจพ่ายแพ้ให้สิงโตหนุ่มและถูกยึดครองทุกสิ่งอย่างแม้แต่ลูกเมียที่เคยรักและไว้ใจ ข้าอยู่เพียงลำพัง หดหู่ อ่อนแอ หิวโซ และอดตาย

แต่เด็กชายที่อยู่ตรงหน้าข้า แม้ไร้เขี้ยวเล็บแต่ยังมีจิตใจที่แหลมคม แข็งแกร่ง และแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้ผู้ถือครองดาบเหล็กพลาดท่า ด้ามดาบร่วงหล่นหลุดจากมือเพราะการโจมตีของเด็กชาย

เมื่อนักดาบไร้ซึ่งดาบก็ย่อมเป็นบุคคลธรรมดา เด็กชายรู้ดีจึงยึดแย่งมาเป็นของตนเอง ตวัดดาบเว้นระยะจากการถูกโจมตี ให้ได้พักหายใจและปิดช่องโหว่ แต่ก็ยังยากที่ต้องต่อกรกับคนนับสิบเพียงลำพัง

มือของข้าสั่นไหว อยากจะแปลงกายกลับเป็นแมวตัวเล็กและหลบหนีไปจากตรงนี้ แต่ข้าทิ้งเจ้ามนุษย์ไม่ได้ ทิ้งเหมือนที่ข้าเคยถูกทิ้งให้ตายอย่างโดดเดี่ยวในถ้ำของพญาเสือโคร่งที่ถือเกียรติยิ่งกว่าอะไรดีไม่ได้ และในจังหวะที่ข้าตั้งท่าพร้อมสู้ ดาบทุกเล่มก็มุ่งเข้ามาที่เด็กชาย ชวนให้ใจหายก่อนเปลี่ยนเป็นตะลึงพรึงเพริดที่เจ้ามนุษย์ตั้งรับเอาไว้ได้ ก่อนจะกรีดตะโกนอีกครั้งและดันออกไปให้อีกฝ่ายแตกพ่าย

ในห้วงวินาทีสั้นๆ ข้านึกสงสัยว่าเจ้ามนุษย์นั้นเอาพละกำลังมาจากไหน

พละกำลังที่ข้าไม่มีในชาติที่เป็นเสือดำและถูกมนุษย์ล้อมจับและฆ่าตายด้วยคมหอกคมดาบจนรังเกียจฝังใจมาถึงชาตินี้

ทว่าข้าไม่มีเวลาปล่อยใจสั่นระริกไปมากกว่านี้ แม้เจ้ามนุษย์สามารถตอบโต้ศัตรูให้แตกกระเจิง แต่นั่นอาจเป็นแรงเฮือกสุดท้าย เสียงหายใจหอบดังชัด และกำลังจะถูกตีวงล้อมเข้ามาอีกครั้ง นั่นจึงถึงทีข้าที่เข้าประจันหน้า ใช้ความรวดเร็วหลบทุกการโจมตี และโต้กลับด้วยกรงเล็บที่ซ่อนเอาไว้

พิษร้ายจากรอยแผลที่ข้าสร้างทำให้กลุ่มศัตรูหยุดชะงัก สุดท้ายข้าตวัดเหวี่ยงคบเพลิงเข้าไปในโรงฝึก เพื่อให้ไฟไหม้ช่วยถ่วงเวลาหนี เมื่อเด็กชายเห็นดังนั้นก็ผุดยิ้มบนรอยบาก ตวัดดาบใส่คนที่ยังคิดเข้าสู้ ก่อนเอื้อมมาฉุดมือข้าให้วิ่งหนีออกไปทางประตูใหญ่

ข้าวิ่งตามที่เจ้ามนุษย์วิ่งนำข้า แม้ความจริงแล้วข้าจะวิ่งเร็วกว่าหลายเท่า แต่เมื่อได้วิ่งเคียงข้างมนุษย์ผู้นี้ก็ไม่เลวนัก

จนเมื่อมองกลับไปไม่เห็นใครตามมาแล้ว เด็กชายหยุดพัก เหนื่อยหอบ โน้มตัวเอามือยันเข่าตนเองแต่ก็ไม่ยังปล่อยมือจากด้ามดาบ ข้าเองก็เหนื่อยหอบเช่นกัน แต่สายตายังเหลือบมองเด็กชาย เนื้อตัวมอมแมมไม่ต่างจากแรกเจอ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือความแข็งแกร่ง

และข้าควรคิดว่าเจ้านี่เป็น 'เด็กหนุ่ม' ได้แล้วกระมัง

พลันเจ้ามนุษย์หนุ่มเงยหน้าขึ้นมองข้า ก่อนจะผุดยิ้มบนปากที่มีรอยบากนั้น



ยังไม่เคยถามเลยว่าเจ้าชื่ออะไร



ชานชื่อของเจ้ามาเสียก่อนสิ



ข้าต่อรอง เจ้ามนุษย์จึงหยัดยืนขึ้นเต็มความสูง ผึ่งผายไม่หิวโซ และนิ่งไปเล็กน้อยเหมือนขบคิด ก่อนสบตาข้าแล้วเอ่ยตอบ



เรียกข้าว่า ‘มนุษย์หน้าโง่’ แล้วกัน



แล้วข้าก็แปลกใจในคำตอบนั้น



ข้าเป็นมนุษย์หน้าโง่...ของแมวหน้าโง่อย่างเจ้า



ไม่แน่ใจว่าดวงตาที่โตอยู่แล้วของข้าจะยิ่งโตเข้าไปอีกหรือไม่เมื่อได้ยินประโยคที่ตามมา ที่แน่ใจคือตอนนี้อุณหภูมิมือของมนุษย์ช่างอบอุ่น แม้มันลูบเข้าที่หัวของข้า ข้าก็ยอมให้ ด้วยทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนเหมือนปลอบประโลมความโดดเดี่ยวที่เคยเจอมาตลอดหลายชาติภพ

พลันรุ่มร้อน...เมื่อมันเสยปอยผมของข้าขึ้น เพื่อจุมพิตลงบนหน้าผาก

ด้วยอารามตกใจและทำอะไรไม่ถูก ข้าเผลอส่งเสียงร้องแง้วแบบที่ร่างแมวพึงมีออกไป ทำให้เจ้ามนุษย์หัวเราะ ขบขันเสียเต็มประดาจนข้าร้อนหน้า จึงทำให้ข้าหาวิธีหยุด

ซึ่งวิธีหยุดของข้าก็คือการงับลงไปที่รอยบากบนปากนั้น เจ้ามนุษย์ชะงัก ให้ข้าได้ช่องว่างขานเรียกออกไป



เจ้ามนุษย์หน้าโง่



เด็กหนุ่มยิ้ม และขานกลับ



เจ้าแมวหน้าโง่



ก่อนจะจุมพิตลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้ที่ริมฝีปากของข้า เนิบช้า และดูเหมือนจะทำให้เข้าใจได้ถึงคำว่านิรันดร์

หรือหากข้าต้องตาย และเกิดใหม่ไปใช้ภพชาติที่เหลือดังที่มนุษย์ชอบกล่าวขานกันว่าแมวนั้นมีเก้าชีวิต ข้าก็ยินดี หากจะได้เจอเจ้า และใช้ชีวิตด้วยกันตลอดภพชาติที่เหลือนั้น






**************************************************************************
ถ้าชอบคอมเม้นติชมจะดีใจมากเลยค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นในธีมปีศาจ

เช่นเดียวกับเรื่อง █ █ FLY WITH THE ARCHER █ █   >>> https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66269.0 ค่ะ

ติดแท็ก #ปีศาจแมวเก้าชีวิต กันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
รู้สึกเหมือนแม่ที่เฝ้าดูลูกเติบโตเลยค่ะ น้องโตเป็นหนุ่มแล้ว เข้มแข็งและเท่ห์มากเลย
 :pig4:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ดีที่น้องแมวยอมอยู่ต่อ...เลยได้เจอคนที่ควรไว้ใจ    :catrun:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
งือออ ท่านแมวมีความน่าเกรงขามและน่ารักไปพร้อมกันน
จากนี้ก็มีคนให้ไว้วางใจแล้วนะ ร้องแง้วๆ ออดอ้อนเจ้ามนุษย์หน้าโง่ได้แล้วนะ เจ้าแมวน้อยย

ออฟไลน์ patompong888

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 เจ้าแมวหน้าโง่&เจ้ามนุษย์หน้าโง่  :katai2-1:
                  :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ nittanid33333

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ดีต่อใจจจจจจจจจจจจจจจจจจจ :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด