<<ผมจะไปเกณฑ์ทหาร>> #นิยายอ่านนอกเวลา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<ผมจะไปเกณฑ์ทหาร>> #นิยายอ่านนอกเวลา  (อ่าน 22483 ครั้ง)

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :laugh: 'งานนี้มีค้าง

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
สวัสดีค่ะ หลงเข้ามาอ่านเรื่องนี้ เห็นชื่อเรื่องคิดว่าเป็นนิยายสะท้อนชีวิต แต่จริง ๆ เป็นนิยายที่แอบตลก ดีนปากแข็งมากจริง ๆ :laugh: เหมือนมีความขัดแย้งในตัวเองตลอด เวลาคิดในใจแล้วตั้งสติได้นี่แอบขำ จริง ๆ เราต้องไม่คิดถึงพี่เขานะคะ ส่วนพี่แท ชอบมาก ๆ ที่เขาพูดจาสุภาพค่ะ  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
น้องมีแววโดนล่อลวงสูงมากกค่ะ
สูงพอๆกับแววว่าจะโดนหมอฉุดเลยยย

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove




                                                    ผมจะไปเกณฑ์ทหาร

                                                            บทที่ 4




                การฝึกทหารใหม่เดินทางมาถึงสัปดาห์ที่สิบอันเป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว ในอีกไม่กี่วันก็จะมีงานรับประกาศนียบัตรและงานเลี้ยงฉลองให้กับทหารใหม่ในค่าย และต่อจากนี้พวกเราจะแยกย้ายกันไปฝึกอาชีพที่ทางกรมจะจัดขึ้น ใครสมัครมาเป็นทหารเกณฑ์ก็จะอยู่จนครบหนึ่งปี ส่วนใครจับใบดำใบแดงก็จะต้องอยู่จนครบสองปีตามกำหนด และระหว่างนี้ทางค่ายทหารอนุญาตให้กลับบ้านในวันเสาร์อาทิตย์ได้ด้วย


               “พวกมึงจะเลือกไปฝึกหน่วยไหนกันวะ”


               ไอ้คำแพงถามขึ้น มันตื่นเต้นกว่าเพื่อนเพราะอยากมีวิชาความรู้ เผื่อออกไปจะได้ลืมตาอ้าปากดีกว่าขับวิน


              “ไปเรียนช่างซ่อมกันไหม จบไปจะได้ไปเปิดร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า”


                ไอ้ป๋องเสนอ ผมเห็นด้วยกับมันนะ บางทีผมอาจเลือกงานช่างด้วยเพราะตัวผมเองนอกจากเต้นกับร้องเพลงก็ไม่เป็นอะไรสักอย่าง เรียนเพิ่งจะจบมอหกศึกษาผู้ใหญ่นี่แหละ


               “แม่ง ไม่มีสอนวิชาแฮกเกอร์หรือวะ” เสียงไอ้กาวทะลุกลางปล้อง “อุตส่าห์ได้มาเกณฑ์ทหาร กูนึกว่าแผนกสอนคอมพิวเตอร์เขาจะสอนวิชาจารชนให้บ้าง เผื่อตอนออกจากกรมจะได้ไปสมัครหน่วยงานลับอย่างเรื่องมิชชั่นอิมพอสสิเบิล”


              “มึงนี่เข้าข่ายเพ้อเจ้อละเนี่ย มิชชั่นอิมพอสสิเบิลมันมีแต่ในหนังโว้ย ของจริงมีแต่หน่วยของเจมส์บอนด์ว่ะ ทางอังกฤษเขาปิดข่าวไว้” ไอ้ป๋องพูดทำลายความฝันของไอ้กาวอย่างสิ้นเชิง


               “นอนกันได้แล้ว สัส มีสาระชิบหาย สารเลวล้วนๆ พรุ่งนี้เขามีอบรมชุบชีวิตคน เอ๊ย ฟื้นคืนชีพ เดี๋ยวจะได้ไปนอนให้เขาปั๊มกันจริงๆหรอก”


                  ผมไล่พวกมันให้กลับไปเตียงนอนก่อนจะล้มตัวลง อากาศอ้าวช่วงดึกทำให้ผมกระสับกระส่ายไปมา แม่ง ทำไมมองเห็นหน้าไอ้พี่แทนลอยมาด้วยวะ


               “บ้า ผมจะต้องไม่คิดถึงหน้าพี่สิ ไอ้คนบ้า”


                ผมใช้หมอนปิดหน้าตัวเองก่อนจะข่มตาให้หลับลงได้อย่างยากเย็น







                มั่ย มั่ยชั่ยน้า.....//ตีอกชกหน้าเปิดประตูออกตะโกนก้องหน้ากรม


              แต่ความจริงคือผมได้แต่เดินตามเพื่อนๆทหารเกณฑ์เข้าไปในโรงยิมที่ปกติใช้สำหรับแข่งกีฬาอย่างวอลเล่ย์บอลหรือแบดมินตัน แต่วันนี้พวกเรานั่งเรียงแถวเป็นระเบียบอยู่บนพื้นจนเกือบเต็มพื้นที่ ส่วนด้านหน้ามีโต๊ะสำหรับจัดวางอุปกรณ์สาธิตในการอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน แล้วอะไรที่ทำให้ผมหัวใจเต้นแรงน่ะหรือครับ ดูที่โต๊ะวิทยากรสิ ไอ้คนที่ทำให้ผมเกือบนอนไม่หลับนั่งโปรยยิ้มอยู่นั่นไง


                “การฝึกของพวกเราใกล้จะจบหลักสูตรแล้วนะครับ การอบรมในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึก”


                จ่าพิชิตหัวหน้าครูฝึกส่งเสียงดังอธิบายให้พวกเราเข้าใจ


                “ในการรบจริงหรือแม้แต่ในเหตุการณ์ไม่คาดคิด หากเราพบผู้ที่หัวใจหยุดเต้น เราจะมัวแต่ลนลานไม่ได้ ทุกคนต้องตั้งสติและช่วยให้หัวใจของเขากลับมาเต้นอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เรามีวิทยากรที่เชี่ยวชาญมากเพราะท่านเป็นหมอทหาร ขอเสียงปรบมือให้กับร้อยเอกนายแพทย์แทนไท ตระการพันธ์”


                เสียงปรบมือดังขึ้นกราวใหญ่ ร่างสูงสูงในชุดทหารก้าวมายืนอยู่เบื้องหน้า เขากวาดสายตามองผู้รับการอบรมจนมาหยุดลงที่ผมซึ่งนั่งอยู่ตรงแถวสาม เหี้ย รู้งี้เดินช้าๆ นั่งแถวสุดท้ายดีกว่า


               “ก่อนอื่นต้องยินดีกับทหารใหม่ทุกคนที่ผ่านการฝึกอย่างเข้มข้นจนมาถึงวันนี้ ทุกคนดูเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมากนับจากวันแรกที่เดินทางมาที่กรมแห่งนี้ และจะยิ่งภาคภูมิใจมากขึ้นไปอีกหากเราจะสามารถช่วยชีวิตคนได้”


                เสียงแม่งนุ่มไปอีกครับ เวลายืนเด่นให้ความรู้ไม่ได้ขัดเขินเลยสักนิด จนผมเผลอจ้องมองแต่เขาอย่างลืมตัว โอ๊ยไอ้ดีน มึงกะพริบตาบ้างก็ได้


                “ที่หมออธิบายทฤษฎีไปคร่าวๆนี้คงจะทำให้ทหารใหม่เข้าใจมากขึ้น เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาชมการสาธิตก่อนจะให้ฝึกจริงดีกว่า ขอเชิญตัวแทนมาสักคน มาเป็นหุ่นให้หมอสาธิตให้ชม พลทหารดรัณก็แล้วกัน”


                 อ้าว ไอ้พี่ เล่นง่ายนะครับ


                ผมลุกขึ้นก้าวออกไปด้านหน้า พี่แทนบอกให้ผมนอนลงกับพื้นเป็นหุ่นให้เขาสาธิตขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ


              “อันดับแรกนะครับ หากเราพบคนหมดสติ เราต้องควบคุมสติตนเองอย่าตื่นตระหนก และตรวจดูความปลอดภัยรอบๆก่อน อย่างเช่นมีสายไฟรั่วไหม หรือว่าอุบัติเหตุที่อาจเกิดซ้ำอีก เมื่อไม่มีเราก็รีบจัดท่าคนที่หยุดหายใจและปลุกเขาเสียงดังๆ ถ้าเขาหายใจก็จับเขานอนตะแคงเพื่อไม่ให้มีอะไรขัดขวางทางเดินหายใจ”


                พี่แทนอธิบายขั้นตอนจนถึงตรงนี้เขาก็ย่อตัวลงมาคุกเข่าด้านข้าง ผมเงยหน้ามองมุมเงยของไอ้พี่มันจนรู้สึกว่าหัวใจจะหยุดเต้นจริงๆ หน้าแม่งคมจนเฉือนหัวใจกูแล้วครับไอ้พี่


                 “แต่ถ้าเขาไม่หายใจเราก็เริ่มทำตามขั้นตอนได้เลยด้วยการคลำชีพจรที่คอ”


                 นิ้วร้อนแตะลงมาต้นซอกคอของผมทั้งที่สายตายังกวาดมองคนเข้ารับการอบรม ผมแอบสะดุ้งกับสัมผัสที่ชวนใจเต้น โอ๊ย มึงจะลูบไปมาทำไมวะ


                “เมื่อไม่มีชีพจรเราก็เริ่มต้นด้วยการเปิดปากเขาให้โล่งและเป่าลมหายใจลงไป”


               เหี้ยยยย


               ไอ้พี่ มึงจะทำแบบนี้กับกูม่ายยยด้ายยย


                ผมสะดุ้งโหยงเมื่อพี่แทนโน้มตัวลงมาปิดปากผมด้วยปากของเขา มือใหญ่บีบกรามของผมให้เปิดทางกว้าง ลมหายใจอุ่นไหลลงมาให้ช่องปากพร้อมกับลิ้นหยุ่นที่ฉกวูบเหมือนงูพิษระลอกหนึ่ง แวบเดียวแค่นั้นแต่ผมแม่งผวาไปทั้งตัว


                  ผมถูกไอ้พี่มันจูบปากต่อหน้าเพื่อน!
   

                  เขาผละปากออกไปแล้ว เสียงเพื่อนทหารชูหน้าสลอนมองการสาธิต ผมร้อนวูบไปทั้งตัวแต่ไอ้พี่แทนกลับสีหน้าปกติเหลือเกินทั้งที่มันเพิ่งจะจูบผมไป


                 “ทำแบบนี้อีกครั้งแล้วค่อยเริ่มปั้มหัวใจ”


                มาอีกแล้ว ไอ้คนฉวยโอกาส ฮือ


                 ผมไม่กล้าดิ้นรนเพราะกลัวคนอื่นผิดสังเกต ได้แต่นอนนิ่งหลับตาปี๋เหมือนคนหยุดหายใจจริงๆตอนที่ไอ้พี่มันประกบปากปล่อยลมหายใจพร้อมกับลิ้นมันเข้ามา คราวนี้นานหลายวินาทีจนได้ยินเสียงถอนหายใจของพี่มันก่อนจะผละออกไป
ไอ้พี่แทนแอบสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะกล่าวกับพวกเราต่อ


                  “แต่หมอจะบอกว่า วิธีที่หมอเพิ่งอธิบายไปมันเก่าแล้ว”


                “อ้าวหมอ แล้วสอนทำไมครับ”


                 เออใช่ กูแม่งถูกจูบฟรีเลยสัส


                 “สอนเพื่อบอกว่าเมื่อก่อนเขาทำแบบนี้ แต่ตอนนี้มันมีงานวิจัยใหม่ออกมา บอกว่าไม่ต้องเป่าลมลงไป หากไม่มีชีพจรให้เริ่มปั๊มหัวใจได้เลยในอัตราหนึ่งร้อยถึงหนึ่งร้อยยี่สิบครั้งต่อนาที โดยการฝึกให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายๆ เราจะฝึกการปั๊มหัวใจโดยใช้เพลงสุขกันเถอะเราเป็นต้นแบบ ว่าอัตราที่ถูกต้องควรจะตรงจังหวะกับเพลงนี้ แต่ไม่ใช่ว่าตอนช่วยชีวิตคนจริงๆ จะมาเปิดเพลงนี้นะ ไม่อย่างนั้นเรานี่แหละจะตายก่อน คนตรงหน้าใกล้ตายกลับมาเปิดเพลงสุขกันเถอะเราอยู่ได้”


                น้ำเสียงนุ่มกลั้วมุกตลกเบาๆ เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนทหารของผมได้ ไม่มีใครสนใจที่กูถูกวิทยากรแอบล่วงเกินเลยโว้ย ไอ้พวกเพื่อนเลว


                  พี่แทนสอนขั้นตอนการนวดหัวใจว่าให้ใช้ส้นมือวางซ้อนกันบนกระดูกหน้าอก โดยให้อยู่เหนือลิ้นปี่ประมาณสามเซนติเมตร และเมื่อวางถูกตำแหน่งแล้วก็ไม่ควรยกขึ้นหรือเคลื่อนที่ ออกแรงจากไหล่ไม่ใช่แขน หากใครแขนงอถือว่าทำผิดโดยกดลึกลงไปหนึ่งนิ้วครึ่งถึงสองนิ้ว


                “เข้าใจกันแล้วก็จับกลุ่มแยกกันไปตามฐานนะครับ พี่ๆทหารเสนารักษ์ พี่ๆพยาบาลทุกคนรอให้ความรู้อยู่แล้ว เมื่อเวียนครบก็กลับมานั่งที่ ขอให้ทุกคนตักตวงความรู้จนชำนาญเลยนะ”


                 เมื่อพี่แทนพูดจบบรรดาพลทหารก็ลุกขึ้นไปตามฐานที่มีเจ้าหน้าที่รออยู่แล้ว เหลือแต่ผมนี่แหละที่ยังนอนอึ้งอยู่ที่เดิม พี่แทนย่อตัวลงนั่งพลางส่งยิ้มกระชากใจให้ผม


                 “น้องดีนจะนอนอู้อีกนานไหมครับ เดี๋ยวเก็บฐานไม่ทันเพื่อนนะ”


                แหม กลัวผมเก็บฐานไม่ทัน ไอ้พี่มึง


                ผมเด้งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนเกือบปะทะกับไอ้พี่มันที่โน้มเข้าหา ผมสะบัดหน้าร้อนวูบวาบหนีเขา


                “พี่หลอกแต๊ะอั๋งผม เป่าลมอะไรกันถึงต้องมีลิ้นติดมาด้วย”


                “คิดถึงดีนนี่ครับ คิดถึงปากแดงๆ ช่างพูด ดีนไม่คิดถึงพี่เหรอ”


                แน่ะๆ มีมุกจีบด้วยโว้ย ก้าวหน้าใหญ่แล้ว แหม มองตาเชื่อมเชียว นี่หมอหรือกล้วยเชื่อมวะ


                 “ผมไม่ง่ายนะพี่ ไอ้วันนั้นเกิดขึ้นได้เพราะผมเมา ผมจะไม่หลงกลพี่อีกแล้ว”


                  ผมพูดเสียงแข็ง ไม่อยากให้เขาคิดว่าผมเป็นคนใจง่าย ศักดิ์ศรีมันต้องมีบ้างใช่ไหมครับ ไอ้จะให้ยอมทุกครั้งน่ะมันไม่ได้ อีกอย่างผมกับเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย จะเรียกแฟนนี่ยังไม่ได้เริ่มจีบกันด้วยซ้ำ


                เหี้ย ทำไมหัวใจผมถึงอ่อนยวบยิ่งกว่าฟองน้ำใช้แล้วอีกวะ ตอนที่ไอ้พี่มันทำหน้าเศร้า สายตาผิดหวังของเขาเมื่อสบตาทำให้ผมเจ็บแปล๊บเลย


                  “ถ้าพี่ทำให้ดีนคิดแบบนั้นพี่ก็ขอโทษด้วย พี่ไม่ได้คิดว่าดีนเป็นคนง่ายเลย และพี่ก็ไม่ได้หลอกดีนด้วย แค่รู้สึกว่าดีนเป็นเด็กน่ารักและพี่ก็ชอบเวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกันแค่นั้นเอง ต่อจากนี้พี่จะไม่กวนใจให้ดีนรู้สึกไม่ดีอีกแล้ว”


                 “เอ่อ ... พี่”


                  ใจหายวาบตอนที่พี่แทนเดินหันหลังจากผมไป เขาเดินไปนั่งยังที่นั่งวิทยากรและไม่มองมาทางผมอีก ผมฝืนใจไปฝึกตามฐานทั้งที่หัวใจบินไปจากตัว พี่แทนไม่มองผมจริงๆนะ


                 “ทุกคนเก่งมาก หวังว่าจะจำความรู้ในวันนี้ไปช่วยเหลือคนอื่นกันได้นะครับ ใครที่หัวใจหยุดเต้นเราก็ซีพีอาร์กันไป ส่วนใครที่หัวใจหยุดรักก็ปล่อยให้เขาไปพบคนที่ดีกว่าเรา”


               เสียงหัวเราะของเพื่อนทหารดังลั่น ในขณะที่คนปล่อยมุกยิ้มขรึม ดวงตาคมของพี่แทนมองทางผมอย่างเจ็บช้ำ ส่วนผมได้แต่ปฏิเสธใจตัวเอง ไม่สิ เราจะเจ็บปวดไปกับสายตาและข้อความตัดพ้อเหล่านั้นไม่ได้ เรากับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย ฮือ ทำไมขอบตาร้อนผ่าวเลยวะ


                พี่แทนกล่าวปิดการอบรมและจากไปโดยทิ้งตะกอนขุ่นๆไว้ในหัวใจของผม แล้วเมื่อไหร่ตะกอนพวกนี้จะหายไป เมื่อไหร่ที่ผมจะกลับมาเป็นพลทหารดรัณคนเดิมได้สักทีเล่า ผมได้แต่มองตามหลังรถตู้ของโรงพยาบาลจนกระทั่งลับสายตา





มีต่ออีกนิด...



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2018 18:35:26 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...




                 ช่วงสุดท้ายของการฝึกไม่ได้หนักหนาเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา พวกเราฝึกเดินสวนสนามเพื่อใช้ในวันสุดท้ายของการฝึกที่นายทหารระดับสูงจะมาชมและแจกประกาศนียบัตรให้ แต่แทนที่ผมจะยินดีในความสำเร็จอีกขั้น ผมกลับห่อเหี่ยวใจจนถึงวันนี้ วันที่ผมขึ้นไปรับประกาศนียบัตรจากมือแม่ทัพภาค


                    “มึงเมายากันยุงเหรอไอ้ดีน กูเห็นทำหน้าหมาหงอยมาหลายวันแล้ว”


                    ไอ้กาวบัดดี้ตัวแสบถามขึ้นหลังจากรับใบประกาศมาแล้ว ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่


                  “มึงเคยเผลอพูดอะไรออกไปทำร้ายจิตใจคนอื่นไหววะกาว”


                   “บ่อยไป” เพื่อนสนิทในค่ายตอบพลางยักไหล่ “กูมันพวกพูดจาไม่คิดโว้ย มาฝึกทหารเนี่ยถึงได้ดีขึ้น มึงไปพูดปากหมาอะไรกับใครก็ไปขอโทษเขาสิวะ เขาคงไม่ใจร้ายกับคนสำนึกผิดหรอกน่า”


                   แต่คนๆนั้น เขาไม่ให้โอกาสผมเลย ผมยังไม่เจอไอ้พี่มันตั้งแต่เมื่อวันก่อนที่เผลอพูดคำนั้นออกไป ถ้าเขาเปิดโอกาสผมจะขอโทษเขา ไม่ว่าเขาจะมองผมด้วยสายตาเช่นเดิมหรือไม่


                    โรงยิมกลางค่ายถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่สังสรรค์ในวันสุดท้ายของการฝึกเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน วันนี้เป็นวันปล่อยผีเป็นครั้งแรกหลังจากเราเข้ามาอยู่ในค่ายทหารได้สามเดือน และในวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ พวกเราได้รับอนุญาตให้กลับไปเยี่ยมบ้านได้ แต่ต้องไปกลับในชุดทหาร เสียงดนตรีดังกึกก้อง อาหารและเครื่องดื่มมีเต็มที่ คนร่วมงานก็คือนายทหารชั้นผู้ใหญ่เกือบทั้งค่าย ครูฝึกและพวกเราเหล่าพลทหาร


                  ในฐานะที่ผมมีชื่อเสียงเพราะเป็นไอดอลนักร้อง เพื่อนๆให้ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มนักร้องประจำวงทหารใหม่โดยมีเพื่อนทหารคนอื่นมาตั้งวงเล่นดนตรีและผลัดกันร้องเพลง สลับกับการเชิญแขกผู้ใหญ่ในงานขึ้นมาร้องด้วย ตอนที่ผมพักอยู่ข้างเวทีหัวใจก็พลันเต้นรัวทันทีเมื่อเห็นพี่แทนเดินเข้ามาในงาน


                    ร่างสูงเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่ง เขาทำความเคารพนายทหารผู้ใหญ่ท่านอื่น ผมได้แต่มองเขาในอิริยาบถต่างๆด้วยความคิดถึง ได้แต่ถามตัวเองว่าควรหรือเปล่าที่จะตัดรอนเขาออกไปจากชีวิต ทั้งที่พี่แทนก็เอ่ยปากแล้วว่าอยากสานสัมพันธ์ด้วย แต่คิดมาถึงตรงนี้ผมก็อดรู้สึกผิดในความปากเสียของตัวเองไม่ได้


                   ถึงคิวของผมขึ้นร้องบนเวที ผมบอกเพื่อนว่าจะร้องเพลงอะไรเมื่อเพื่อนในวงพยักหน้าว่าเล่นได้ผมก็จับไมโครโฟนขึ้นมา


                 “เพลงนี้ผมขอมอบให้กับคนที่เคยถูกทำร้ายจิตใจ อยากจะบอกว่าบางทีเราก็โง่เกินกว่าจะรู้ว่าทำอะไรลงไปจนต้องเจ็บเสียเองถึงจะเข้าใจนะครับ”



เพิ่งรู้ตัวก็เหมือนว่ามันจะสายเกินไป เธอนั้นไม่คืนกลับมา
เพิ่งเข้าใจว่ารักที่เธอให้ฉันมันมากมาย แต่ฉันเอง
ที่ทำให้รักต้องจบลง และเธอต้องเสียใจ
อยากจะขอพูดความในใจ อาจฟังแล้วมันง่ายเกินไปที่ฉันทำ

อยากจะ ขอโทษ ขอโทษเธอจากคนที่โง่เขลา ที่เพิ่งเข้าใจคำว่ารัก
ขอโทษ แม้รู้มันไม่มีความหมาย อยากขอโทษเธอจากใจถึงแม้ว่าเธอไม่อยากจะรับฟัง
ภาพเก่าเก่าเมื่อครั้งที่มีเธอนั้นยังคงอยู่ ทุกครั้งที่ไปที่เดิม
ไม่มีใคร มาเติมให้เต็ม ใจฉันยังรักเธอ แต่ฉันเองที่ทำให้รักต้องจบลง และเธอต้องเสียใจ

อยากจะขอพูดความในใจ อาจฟังแล้วมันง่ายเกินไปที่ฉันทำ
อยากจะ ขอโทษ ขอโทษเธอจากคนที่โง่เขลา ที่เพิ่งเข้าใจคำว่ารัก
ขอโทษ แม้รู้มันไม่มีความหมาย อยากขอโทษเธอจากใจถึงแม้ว่าเธอไม่อยากจะรับฟัง

ขอโทษ ขอโทษเธอจากคนที่โง่เขลา ที่เพิ่งเข้าใจคำว่ารัก
ขอโทษ  แม้รู้ว่ามันไม่มีความหมาย อยากขอโทษเธอจากใจถึงแม้ว่าเธอไม่อยากจะรับฟัง
(เพลงขอโทษ วงเคลิ้ม)



                เสียงปรบมือดังขึ้นเมื่อผมร้องจบ จากเมืองไทยไปนานก็ร้องได้แต่เพลงเก่าๆแบบนี้ ตลอดทั้งเพลงผมได้แต่พยายามจะสบตากับพี่แทนเพื่อบอกให้รู้ว่าผมร้องเพลงนี้ให้เขา พี่แทนมองขึ้นมานัยน์ตาราวกับจะตัดพ้อจนผมเดินกลับเหมือนหมาหงอย เพื่อนที่เป็นพิธีกรขึ้นมาบนเวทีดำเนินรายการต่อ


                 “คุณผู้กองหมอแทนไทสุดหล่อมาในงานสักพักแล้วนะครับ เรียนเชิญมาขับร้องเป็นเกียรติแก่พวกเรา ขอเสียงปรบมือให้คุณหมอด้วยครับ”


                  เขาลุกจากที่นั่งตรงมายังเวที สบตากับผมแวบหนึ่งก่อนจะเดินขึ้นไปด้านบนแล้วร้องเพลง



ยากเพียงใดที่จะไม่รัก ยากยิ่งกว่านั้นถ้าจะไม่แคร์
เมื่อเราเองต่างมีข้อแม้ และมีเงื่อนไขที่ใจต้องยอมรับมัน
ต่อให้รักมากมายเท่าไร คงต้องยิ่งไกลจากเธอเท่านั้น

อยากอยู่ใกล้เธอสักแค่ไหน ก็คงต้องห่างไว้
ก็เพราะไม่อยากหวั่นไหวไปมากกว่านี้
ให้เรามีระยะห่างไว้ เมื่อทำได้เท่านี้
เก็บความรู้สึกที่แสนดี ให้มันอยู่ในใจ

เมื่อใจเราต่างคนต่างรู้ ว่าไม่อาจยืนคู่กันและกัน
หนึ่งก้าวที่เธอห่างจากฉัน ไม่ทำให้รักของเรามันจางหายไป
แต่ว่ารักมากมายเท่าไร คงต้องยิ่งไกลจากเธอเท่านั้น
(เพลงระยะห่าง แม็กซ์ เจนมานะ)




                เนื้อเพลงที่บ่งบอกถึงความน้อยใจและเจียมตัวทำให้ผมใจหาย เขาเดินลงจากเวทีผ่านไปโดยไม่มองหน้า และนั่นทำให้ความอดทนของผมหมดลง ผมหันไปบอกเพื่อนว่าจะไปห้องน้ำก่อนจะก้าวตามแผ่นหลังนั้นไปอย่างไม่ลังเลอีกแล้ว



                                                       TBC

                                          แหม น้องดีนลูก ชอบก็บอกว่าชอบ มัวแต่ซึนไม่ได้นะลูก

                                    :m18: :m18: :m18: :m18: :m18: :m18: :m18:








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2018 18:36:11 โดย Belove »

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อุ้ยเค้าควรไปง้อกันที่รร.ขเางนอกเนอะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ไปง้อข้างนอก
น้องจะรอดไหมมมม :o8:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :z1:  น้องดีนไปง้อพี่แทนท่าไหนน๊าาาา     :pig4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 876
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สนุกเช่นเคย  :pig4:
ง้อให้สำเร็จนะน้องดีน   :hao6:

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
งอน นานๆ ไป นะคะ พี่ หมอ แทน.. ให้ น้อง กันเอา ตัว เข้า แลก ก่อน... 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เราอาจเห็นต่างแต่เราว่าดีนแค่หวั่นไหวไปกับสัมผัสรึเปล่าพอหมอแทนมาทำสายตาตัดพ้อเลยรู้สึกผิด ซึ่งเราว่าเป็นแผนหมอมัน คือเราอยากให้ดีนถอยจริงๆนะใช้ชีวิตทหารไปก่อนรอให้แน่ใจไม่ใช่วิ่งเข้าหาตามแผนของหมอแทนแบบนี้

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ต้องตามไปอ่านทีอื่นแล้วสินะTT

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                         ผมจะไปเกณฑ์ทหาร

                                                                บทที่ 5



                 ผมคิดว่าพี่แทนรู้นะว่าผมเดินตามหลังมา แต่เขาไม่ยอมหันกลับมามองสักนิด จนกระทั่งใกล้ถึงห้องน้ำที่แยกออกจากโรงยิมทางด้านหลังผมจึงตัดสินใจเรียกเขา


                 “พี่แทน ผมอยากคุยกับพี่”


                 ได้ผล แผ่นหลังที่ผมเดินตามหยุดชะงัก เขาหันกลับมาฝืนยิ้มทำหน้าเศร้าใส่ผม


                “น้องดีนมีอะไรจะคุยกับคนฉวยโอกาสอย่างพี่หรือครับ”


                 ผมเม้มริมฝีปากเหมือนเด็กถูกขัดใจที่พี่แทนเหมือนจะไม่สนใจผมแล้ว ว้อยย กูมาง้อนะไอ้พี่ สนใจกูด้วยครับ แต่จะพูดอะไรออกไปกระดากใจเพราะมีทหารเดินมาเข้าห้องน้ำหลายคน ยังไม่อยากให้เรื่องของผมกับพี่แทนหลุดออกไปเข้าหูใครด้วย


               “ตรงนี้คนเยอะ หาที่คุยที่มันเงียบหน่อยดีไหมครับ”


               “เรื่องสำคัญหรือครับ”


              อ้าว ไอ้พี่ เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว...


            “พี่แทนคิดว่าเรื่องของเรามันสำคัญไหมล่ะครับ”


            โดน ฮ่าๆๆๆ จ๋อยสิ ผมนี่นอกจากร้องเพลงกับเต้นแล้วยังเทคคอร์สการแสดงด้วยนะครับ ไอ้เรื่องทำหน้าน้อยใจตัดพ้อโอปป้าดีนนี่ถนัดนัก


              “ถ้าสำคัญมาก ไปที่บ้านพักของพี่ก็ได้ครับ ไม่ไกลเท่าไหร่”


              พี่แทนเดินนำผมไปที่รถกระบะคันเดิมที่เคยขับรถไปส่งผมที่บ้านในวันแรกที่เราพบกัน ผมเดินตามเขาไปขึ้นรถ คุณหมอทหารไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวจนเขาขับรถมาจอดหน้าบ้านพักแพทย์ในเขตโรงพยาบาลค่าย เป็นบ้านสองชั้นเล็กๆ ตั้งเรียงกันอยู่สามหลัง ผมตามพี่แทนเข้าไปในบ้าน จนกระทั่งเขาปิดประตูลง เรายืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องโถงเล็กๆที่มีชุดรับแขกขนาดพอเหมาะตั้งอยู่ เขาทำหน้าขรึมใส่ผม


              “เงียบพอที่ดีนจะต่อว่าพี่ได้แล้วครับ มีอะไรก็พูดออกมาเลย”


              พอจะต้องพูดจริงๆผมก็พูดไม่ออกซะงั้น ขี้ขลาดว่ะไอ้ดีน มึงเป็นทหารนะโว้ย ผมสูดหายใจเข้าปอดลึกรวบรวมความกล้าเงยหน้าสบตาพี่แทน


               “ผมไม่ได้เกลียดพี่แทนนะครับ แต่พี่ก็ต้องเข้าใจผมด้วย เรามีอะไรกันตั้งแต่ยังไม่รู้จัก ไม่ได้เห็นหน้ากันเต็มตาด้วยซ้ำ เป็นใครก็ต้องรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป ผมไม่อยากให้พี่มองผมแบบนั้น”


              เงียบ...


             มีเข็มหล่นบ้างไหมเผื่อผมจะได้ยิน


            พี่แทนมองผมด้วยสายตาที่เดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ นานจนผมหายใจขัดไปหมดก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะคลี่ออก ยิ้ม พี่แทนยิ้ม!


              “ประโยคแรกที่พูด น้องดีนคิดอย่างนั้นจริงๆใช่ไหมครับ”


               งงเด้ งงเด้ ประโยคไหนวะ


             “ที่บอกว่าไม่ได้เกลียดพี่น่ะครับ พูดจริงใช่ไหม”


             ไอ้ที่กูพยายามอธิบายทั้งหมดยาวยืดมันไม่ได้มีผลกับการรับรู้ของพี่แทนเลยใช่ไหมวะ ไอ้พี่มันจับใจความได้แค่เนียะ แล้วผมจะพูดที่เหลือตั้งเยอะทำไม


             “ตอบพี่มาสิครับ”


              “เอ่อ.. ครับ”


             แหม อีพี่ยิ้มหน้าบานเหมือนจานดาวเทียมPSI เขายื่นมือมาคว้ามือผมไปกุม


              “พี่ต้องการแค่นี้แหละ เรื่องที่ดีนกังวลพี่ไม่เคยคิดเลย อย่ามองตัวเองในแง่ลบนะครับ”


              ทำเสียงนุ่ม เขินโว้ย แต่เดี๋ยวนะ พี่แทนโกรธผมอยู่ไม่ใช่เหรอ


              “หายโกรธผมแล้วหรือครับ”


               พี่แทนส่ายหน้าและยังไม่ยอมปล่อยมือผม เขากุมแน่นหนาจนเหงื่อเริ่มซึมออกมาบนฝ่ามือของผม


              “ไม่ได้โกรธสักหน่อย”


             “อ้าว แล้วที่ไม่ยอมมองหน้าผมล่ะ” โวยวายสิครับ กูก็คิดมากไปสิ


             “อยากให้ดีนมาง้อไงครับ”


             ฉิบหายล่ะ ตกหลุมไอ้จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ไอ้พี่แทนมึ้งงงง


              กำลังจะเปิดปากต่อว่า ไอ้พี่ก็กระชากผมเข้าไปกอด รัดแน่นจนผมดิ้นหนีไม่ได้ เขาเอียงหน้าเข้าหาบดปากลงมาที่ปากของผม มุมขยี้นั้นได้องศาจนผมสำลักน้ำลายตัวเอง ทันใดนั้นพี่แทนก็ตวัดลิ้นเข้ามาคลอเคลียอยู่กับลิ้นของผม เขาบังคับให้ผมเดินถอยหลังจนขาชนกับโซฟารับแขกและหงายหลังลงไป ตัวหนักล้มทับจนผมหมดอิสรภาพ


               “อื้อ”


              ตาลอยคว้างเลยทีนี้พลทหารดรัณครับ สติครับ เรียกมันกลับมาสิครับ ตายห่าแล้ว อีพี่มันเลิกชายเสื้อยืดทหารของผมขึ้นแล้ว


               “อึก พี่ พี่แทน อย่าเพิ่งครับ”


               ผมพยายามห้ามเขาจนพี่แทนยอมหยุดจูบ เขาผละลิ้นออกมาแต่แม่งเสือกมาดูดหน้าอกผมแทน จ๊าก ไอ้พี่ ตรงนั้นจุดอ่อนกูโว้ย


             “เราต้องคุยกันก่อน ฮื้อ พี่


              ผมว่านะ ลิ้นพี่แทนมันต้องไม่มีกระดูก ถ้าเป็นแรปเปอร์ก็คงเป็นสายสับ เขาตวัดให้ปลายลิ้นสัมผัสยอดอกของผมคล้ายไม่ตั้งใจ มันบางเบาแต่กลับกระตุ้นจนผมดิ้นหลังไม่ติดเบาะโซฟารับแขกแล้ว


              “เรา อึก ต้องคุยกัน อื้อ แค่เราลองเรียนรู้กันไปก่อน ถ้าเราเข้ากันได้แล้วเราค่อยมาคุยกันใหม่ อูย เสียวโว้ย”


              ผมห่อปากจนเสียงที่ออกมาฟังกระเส่าจนน่าตกใจ แต่ที่ควรจะตกใจกว่าคือเพิ่งรู้ว่ากางเกงทหารมันร่นไปกองอยู่ตรงหน้าขาตอนไหนก็ไม่รู้


              “เข้ากันได้แบบไหนครับ ให้พี่ทดลองการเข้ากันได้ของเราสองคนดีไหมครับ”


             นิ้วยาวใหญ่ที่นวดเฟ้นรอบรอยจีบพับทแยงตัวแล้วสอดลึกเข้าไปทันที ผมผวาแอ่นกายอย่างลืมตัวเปิดโอกาสให้พี่แทนละเลงลิ้นอีกรอบ นิ้วยาวโยกควงวนซ้ายป่ายขวาจนผมเผลอยกขาตั้งชัน พี่แทนรีบคว้าโอกาสนั้นคลึงนิ้วที่สองแล้วสอดตามเข้าไปทันที


             “โอ๊ย พี่แทน”


              ผมนี่กดหัวไอ้พี่มันไว้กับหน้าอกเลยครับ พี่แทนเม้มปากดูดดึงยอดอกของผมสลับกันสองข้างไม่ให้น้อยหน้า มาถึงตอนนี้กางเกงของผมยิ่งร่นไปหมิ่นเหม่อยู่ตรงปลายเท้า และที่สำคัญกว่าคือไอ้ปืนใหญ่ของพี่แทนจ่อยิงหน้าประตูของผมแล้ว แหม ไอ้พี่ มึงเป็นเดอะกันเนอร์หรือไงโว้ย มึงจะมาถล่มทีมหงส์แดงอย่างกูไม่ได้   (ทีมฟุตบอล Arsenal ฉายา ไอ้ปืนใหญ่ หรือ The Gunner)


               “พี่จะพิสูจน์ให้แทนยอมรับว่าเราเข้ากันได้”


              ไอ้พี่แทนเงยหน้ามองผมตาฉ่ำ แค่แวบเดียวที่เผลอผมก็โดนยิง อ๊ากสสสสส ขีปนาวุธชอนไชเป้าหมายเตรียมเผด็จศึก โว้ย พี่จะยิงจนเป้าผมแตกเลยหรือไงครับ


              “ฮึก โอ๊ย พี่แทน ใจเย็น”


              กูยังมีหน้าไปเตือนเขาเนาะ มึงนี่แหละใจเย็นไอ้ดีน ขาสองข้างของคุณมึงน่ะเกี่ยวเอวไอ้พี่มันไว้ เรียบร้อย!


             “ดีนชอบให้พี่แรงตรงไหนดีครับ ตรงนี้หรือเปล่า”


             เสียงแหบกระซิบถาม เอวก็ประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะไม่มีหยุดพัก  พี่แทน พี่เป็นยักษ์ใช่ไหม ไอ้ยักษ์ไม่มีเพชร


            “พี่แทน ตรงนั้นเลยครับ อูย”


             เป้าผมจะขาดแล้วครับ พี่แทนทะลวงใส่ผมจนโซฟาโยกดังเอี๊ยดอ๊าด ซิปกางเกงทหารของพี่แทนกระแทกถุงเนื้อจนแสบไปหมด แต่ยิ่งรู้สึกว่ามันเร้าอารมณ์ให้ยิ่งเตลิด


              “อยากเปลี่ยนท่าไหมครับ”


         ไอ้พี่กระซิบถามนัยน์ตาวาววามอย่างคนกำชัยชนะ ผมที่เพิ่งจะหยุดแหงนหน้าส่งเสียงครางกลืนน้ำลายเหนียวคออึกใหญ่


             “ท่าไหนดีพี่”


             ทำไมถึงไม่ปฏิเสธไอ้ดี๊นนนน  แต่ก็อยากเปลี่ยนท่าไง เมื่อยขาอ้ะ ฮือ


             พี่แทนสอดแขนเข้ามาใต้เอวของผมแล้วยกผมขึ้นมา เขาขยับเปลี่ยนเป็นนั่งอยู่บนโซฟาโดยที่ผมกลายเป็นนั่งคร่อมกางขาโอบเอวเขา พี่แทนขยิบตาให้พลางยุผม


               “อยากลองคุมเกมบ้างไหมครับ พี่ยกให้ดีนได้ตำแหน่งศูนย์หน้าไปเลย”


               เขินก็เขิน สยิวก็สยิว อยากลองก็อยาก เอาวะ ผมลองขยับเอววนซ้ายวนขวาบดคลึงจรวดที่อยู่ข้างในไปเรื่อยๆ  เหี้ย เสียวได้ใจจริงๆ


             “อา เก่งมากครับน้องดีน”


              ไอ้พี่พิงกายกับโซฟา มือใหญ่จับเอวของผมไว้แล้วกดให้ท่อนเนื้อยิ่งฝังลึก ผมนี่ร้องซี้ดเลย


              “หายเหนื่อยหรือยังครับ ถ้าหายแล้วน้องดีนเต็มที่ได้เลยนะครับ”


              ผมทดลองยกตัวขึ้นลงช้าๆอย่างไม่คล่องแคล่วนัก จะยกตัวสูงไปก็กลัวมันจะหลุดจากกัน จะกระแทกแรงก็กลัวทำแม่งหัก แต่พอลองสักพักก็เริ่มจับจังหวะได้ว่าแรงแค่ไหนถึงจะพอเหมาะ และเมื่อตั้งตัวได้ผมก็พริ้วเลยสิครับงานนี้ ได้ยินพี่แทนเงยหน้าส่งเสียงต่ำๆทุ้มๆจากลำคอก็ยิ่งสะใจ กูจะทำพี่มันครางบ้างละ


              “โอ ดีน ดีมาก จังหวะนี้พี่ชอบ”


              ผมเริ่มออกแรงจนหอบ มันใช้พลังงานเสียยิ่งกว่าวิ่งรอบค่ายทหารเสียอีก พี่แทนคงรู้ว่าผมเหนื่อย มือใหญ่ที่วางอยู่ตรงเอวจึงรั้งให้ผมอยู่นิ่งในท่าลอยตัวนิดๆ


             “จูบให้กำลังใจพี่หน่อยนะครับ พี่จะได้มีแรงพาดีนขึ้นสวรรค์”


              อ่อยว่ะ แต่ก็อยากจูบเขา ผมก้มหน้าลงไปจูบที่ริมฝีปากแห้งผากนั่น โลมเลียให้ชุ่มชื้นด้วยน้ำลายของผม พี่แทนยื่นลิ้นออกมา ผมเลยดูดลิ้นเขาช้าๆ เออ กูนี่ก็ขี้ยั่วจริงแฮะ


               พี่แทนส่งเสียงคำรามเหมือนสิงโต ทันใดนั้นเขาก็ซอยเอวใส่ผมยิกๆอย่างกับเครื่องจักร  อาการซอยถี่ยิบจนโซฟาแทบพังนั่นทำให้ร่างกายของผมบิดพล่านจนต้องคว้าเจ้าดีนน้อยไว้ในกำมือ


             “อึก พี่แทน ไม่ไหวแล้วครับ อ๊า”


              ผมเกร็งไปทั้งตัวตอนที่น้ำคาวหลั่งรดเต็มมือ เงยหน้ากลั้นหายใจตาค้างไปหลายวินาทีก่อนจะกลับมาหายใจหนัก พี่แทนเองก็คงใกล้จะถึงฝั่งเต็มที เขาจับผมหย่อนลงไปด้านล่างจนไหล่ติดพื้นแต่ส่วนเอวยังอยู่กับเขา พี่แทนกลั้นใจสาวเองไม่ยั้ง ผมยังรู้สึกได้ถึงความคับแน่นอึดอัดของเขายามอยู่ในร่างผม สีหน้าของเขาเหมือนจะเจ็บปวดแต่ก็ฟินไปด้วย พี่แทนเร่งความเร็วเต็มที่ก่อนจะดึงปืนใหญ่ออกมาขัดลำแล้วปลดปล่อยใส่ลำตัวของผมจนเป็นสาย


                เขาดึงผมให้ขึ้นมานอนหอบบนโซฟาอยู่บนร่างหนาของเขา มือใหญ่โอบกอดรอให้ผมหายเหนื่อย


              “เราเข้ากันได้ไหมครับดีน”


               สีหน้ายิ้มแย้มด้วยความสุขสมทำให้ผมสะบัดหน้าหนีเพราะความขัดเขิน หน้านี่ร้อนซู่ไปหมด


              “ผมไม่ได้หมายความว่าเข้ากันแบบนี้ ไอ้พี่แทน เดี๋ยวเหอะ”


               ผมทุบไหล่เขาดังพลัก ไอ้พี่แม่งยังทำหน้าระรื่นได้อีก


              “ผมหมายถึงว่าเราต้องเรียนรู้นิสัยของกันและกันว่าจะไปกันได้ไหมต่างหากเล่า ส่วนเรื่องนี้มันไม่เกี่ยว”


             จิ้งจอกเฒ่าทำสีหน้าเจ้าเล่ห์


              “อย่างนั้นก็หมายความว่า เรื่องการเข้ากันได้ของร่างกายไม่เกี่ยวกับการเรียนรู้นิสัย พี่สามารถทำแบบนี้กี่ครั้งก็ได้ จนกว่าดีนจะบอกพี่ว่านิสัยเราไปกันได้ดีใช่ไหมครับ”


               ผมนี่อ้าปากหวอเลยสิครับ ขอโทษที่คิดว่าพี่เป็นคนดี ฮึ้ย เสียท่าอีกแล้วกู


              “แต่ตอนนี้เราควรจะกลับไปที่งานเลี้ยงก่อน ไม่อย่างนั้นเขาคงสงสัยว่าคนดังหายไปไหน”


                พี่แทนจับผมให้ลุกนั่ง เขาเดินไปหยิบกระดาษมาเช็ดคราบบนร่างกายและใส่กางเกงคืนให้ แหม สุภาพบุรุษเหลือเกินนะไอ้พี่


               “เดินไหวไหมครับ”


                ผมยิ้มแห้ง ใครโดนโจมตีแล้วจะไม่บาดเจ็บบ้างวะครับ พี่แทนช้อนอุ้มผมเดินออกจากบ้านไปยังรถกระบะของเขาแล้วขับกลับไปที่งานเลี้ยง พอจอดรถเขาก็เอ่ยปาก


              “พรุ่งนี้ทหารใหม่กลับบ้านได้เป็นครั้งแรก พี่พาดีนกลับบ้านดีไหมครับ”


               สบายกูละ ยิ่งไปไหนมาไหนไม่เป็นอยู่ด้วย ผมพยักหน้ารับพี่แทนจึงได้จูบผมอีกครั้งก่อนที่เขาจะลงจากรถและเดินกลับเข้าไปในงานโดยไม่มีใครสังเกต


              “อ้ายดีน หายหัวปายหนายมา”


              ไอ้กาวที่เมาเต็มที่ยกมือชี้หน้าผม เพื่อนคนอื่นก็สภาพแทบคลานได้แล้ว


             “กูไปขี้มา”


             ผมส่ายหัวให้กับพวกมันก่อนที่จะหันไปสบตากับพี่แทน นัยน์ตาวิ้งๆนั่นทำให้แก้มร้อน


            “ไป จะแดกเหล้าก็แดก เดี๋ยวงานจะเลิกแล้ว”






มีต่ออีกนิด....





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2018 20:15:18 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


อ่านต่อตรงนี้...




                งานเลิกเที่ยงคืน พวกเรากลับเข้าโรงนอน คนที่ยังเหลือสติก็ไปอาบน้ำจนสบายตัวอย่างผมคนหนึ่ง ไอ้พวกเมาเรื้อนก็โดนหิ้วปีกเหวี่ยงลงเตียง ผมหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่ใช่เพราะเมาเหล้า แต่เพราะเมา... โอ๊ย ไม่พูด เขิน!


               “ฝันดีนะครับพี่แทน”


                ผมกระซิบกับตัวเองเมื่อมองเห็นพี่แทนหลังเปลือกตา ไม่ช้าผมก็หลับสนิทจนกระทั่งใกล้สว่างที่ตื่นเพราะมีใครเขย่าปลุก


              “ดีน เหี้ยดีน ตื่นสิวะ”


              ไอ้กาวตัวเรื้อนนั่นเอง ผมยกมือขยี้ตาด้วยความโมโห แม่ง กำลังฝันว่ากอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับไอ้พี่แทนอยู่เลย


              “ปลุกกูทำเหี้ยอะไรไอ้กาว”


              มันยิ้มแหยหน้าเจี๋ยมเจี้ยม


             “กูปวดขี้ ก็เลยลุกไปห้องน้ำ เหี้ยแม่ง ขี้เป็นเลือดอะมึง สงสัยเพราะลาบหงส์แดงสูตรจ่าพิชิตทำพิษ ทำไงดีวะดีน”


              ดังนั้น เฮ้อ ผมต้องแหกขี้ตาพาไอ้กาวมาโรงพยาบาลตั้งแต่ฟ้าเพิ่งสาง ดีที่โรงพยาบาลในค่ายทหารคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ผมพามันมาส่งที่ห้องฉุกเฉิน รอมันไปด้วยหาวไปด้วย พักใหญ่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อไอ้กาววิ่งหน้าตื่นออกมา


              “ดีน กลับเหอะ”


               มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้


              “เหี้ยอะไรของมึง ตรวจเสร็จแล้วเหรอ”


             ผมถามด้วยความเป็นห่วงจริงนะครับ มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้


             “ไม่ตรวจแล้ว ฮือ ไอ้หมอเวรห้องฉุกเฉินโรคจิตมันจะจกก้นกู”




                                                   TBC


          บอกอีกครั้งว่านิยายเรื่องนี้ไม่มีพล็อตอะไรเลย เนื่องจากสมองละลายไปกับ #วิมานไม้สน ไปหมดแล้ว

                              ใครอยากอ่านแบบไหนนำเหนอมาเลยจ้า เดี๋ยวไปยำๆให้


                                                    :m12: :m12: :m12: :m12: :m12: :m12:








ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
กรี๊ดนึกว่าจะไม่ลงที่นี่แล้ว กอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่าหัยปัยน้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นึกแล้วว่า ดีนต้องเสร็จไอ้พี่แทนแน่   :เฮ้อ:
ตอนที่บอกจะคุยเรื่องสำคัญไปคุยบ้านพี่ แล้วจริง   :z1: : :pighaun: :haun4:
เจ้าเล่ห์ซะขนาดนั้น  :m20: :laugh:

แต่ที่กาวไปรพ.ทหาร แล้ววิ่งออกมาเพราะโดนหมอโรคจิตจกก้น   o22 o22 o22
มีหมอคนอื่นที่เป็นเกย์อีกหรือ   :hao3:
หรือว่าเพิ่งจะเป็นเหมือนหมอแทน 
หมอโรคจิตคนนั้น คงไม่ใช่หมอแทนหรอกนะ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
บันเทิงจริงๆค่ะค่ายนี้
น้องดีนจ๋า ชอบก็บอกว่าชอบเถอะจ้า เก็บแรงเถียงไว้ครางดีกว่า

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ชอบมากกกกกกกกกกก รู้สึกได้ผ่อนคลายอ่านสนฉัตรแล้วเครียดหนัก

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด