[เรื่องสั้น] Music by Photo : พี่ชายในรูป [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Music by Photo : พี่ชายในรูป [END]  (อ่าน 4317 ครั้ง)

ออฟไลน์ Remember505

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ






----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Music by Photo : พี่ชายในรูป

สายตาผมกลับไปสะดุดกับเสี้ยวหน้าใครบ้างคนที่ยืนหันข้างให้ผมอยู่ไกลๆ ผมโคตรคุ้น...
ไม่คุ้นก็แย่แล้วเปิดหน้าจอเห็นอยู่ทุกวัน


#พี่ชายในรูป

Re:member
28042018

Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ Remember505

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0



               “มึงเอารูปใครขึ้นหน้าจอวะ”

             

               “ไม่รู้ดิ”

 

               “เอ้า! แล้วมึงไปเอารูปเขามาได้ยังไง”

 

               “ช่วงที่ไปช่วยงานพี่กูที่มอแล้วถ่ายติดมา” ป่าวหรอก ผมจงใจยกกล้องขึ้นถ่ายเลยต่างหาก

 

               “แล้วมึงเอารูปเขามาขึ้นหน้าจอ เดี๋ยวเขาก็หาว่ามึงเป็นสต๊อกเกอร์หรอก”

 

               “ไม่หรอก เขาไม่รู้จักกู และกูก็ไม่รู้จักเขา” ผมยักไหล่ไม่ใส่ใจ มันแน่อยู่แล้ว คนที่ไม่รู้จักกัน แถมเรียนก็คนละจังหวัดอีก ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเรียนที่ไหน แต่ดูแล้วเขาคงไม่ใช่เด็กถิ่นอีสานแถวนี้หรอก ผิวดีแถมยังสว่างเหมือนคนไม่เคยเจอแดดขนาดนั้น

 

               “แล้วทำไมมึงเอารูปเขามาขึ้นหน้าจอวะ รูปอื่นมีเยอะแยะ”

 

               “รูปสวยดี”

 

               “รูปหรือคนในรูป”

 

               “เสือก” ผมด่ากระแทกหน้าไปตรงๆ แต่เหมือนคนโดนด่าจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยแถมยังยิ้มกริ่มทำหน้าตาล้อเลียนผมไม่หยุด จนผมต้องเขกหัวมันไปแรงๆ จนมันร้องโอ๊ยดังลั่น

             

               “แค่นี้ก็ต้องลงไม้ลงมือกับเพื่อน ไอ้คนนิสัยไม่ดี” ผมง้างมือขึ้นเตรียมเขกหัวมันอีกรอบ พอเห็นท่าทางของผมแบบนั้น คนกวนตีนก็รีบเอามือปิดปากตัวเองทันที

 

               “อารมณ์ดีแล้วหรือไงมากวนตีนกูเนี่ย”

 

               “แน่นอน กูติดแล้ว ที่เดียวกับมึงเลย พวกที่เหลือก็ด้วย”

 

               “กูไม่ได้รักพวกมึงขนาดนั้น”

 

               “กูจะถือว่าเป็นคำบอกรัก”

 

               “เอาที่เพื่อนสบายใจ”

 

               “ไม่เล่นกับกูเลย” ผมอดขำกับหน้าบูดๆของมันไม่ได้ จนเก็บเสียงไว้ไม่อยู่ “ขำเหี้ยไร กูติดแล้ว เลี้ยงกูเลย!”

 

               “กูก็ติดป่าววะ”

 

               “คนรวยหุบปากไป” ผมยักไหล่ เลิกเถียงกับมัน เห็นแบบนั้นมันเลยกดโทรศัพท์โทรหาพวกที่เหลือทันที “โหล มีคนเลี้ยงเหล้า”

 

 

 

 

               รับน้องไม่ใช่เรื่องตลก...

 

               สำหรับคนโดนละเลงสีเต็มตัวแบบผม แล้วไม่ใช่สีธรรมดาด้วยนะ สีทาบ้าน...

             

               “น้องอยู่นิ่งๆดิวะ” ขนาดอยู่ไม่นิ่งหัวผมยังส้มได้ขนาดนี้  ถ้าอยู่นิ่งจะไม่กลายเป็นพระพุทธรูปเลยหรือวะ

 

               “ละเลงขนาดนี้เกลียดผมตั้งแต่ชาติปางไหนเนี่ยพี่”

 

               “เดี๋ยวมึงจำหน้าพวกกูไม่ได้”

 

               “ผมจำฝังใจไปแล้วครับ” ผมพูดจบเสียงหัวเราะคลื่นก็ดังก้องทั่วอาณาบริเวณ จากที่คนในคณะสนใจอยู่แล้ว คราวนี้คณะข้างๆเลยได้หันมามองกันเป็นพรวน แต่สายตาของผมกลับไปสะดุดกับเสี้ยวหน้าใครบ้างคนที่ยืนหันข้างให้ผมอยู่ไกลๆ ผมโคตรคุ้น

 

              ไม่คุ้นก็แย่แล้ว เปิดหน้าจอเห็นหน้าอยู่ทุกวัน

 

               “ขนาดดุริยางค์ยังหันมามอง มึงภูมิใจได้เลยว่าวันนี้มึงหล่อมาก”

 

               “ผมต้องขอบคุณพวกพี่ใช่มั้ยเนี่ย”

 

               อืม ผมอาจจะต้องขอบคุณพวกพี่จริงๆ

 

 

 

               รับน้องผ่านไปได้ด้วยดี สีที่หัวผมก็ยังอยู่ดีเช่นกัน ขนาดนี่ผ่านมาเป็นอาทิตย์ ผมยังเอาออกไม่หมดเลย สมกับสโลแกน ‘สีทนได้’ ของเขาจริงๆ  และตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย

               อาจจะเพราะมหาลัยมันกว้าง

               อาจจะเพราะเวลาของเรามันสวนกัน

               อาจจะเพราะมนุษย์หลายพันในรั้วไม่กี่ไม่กี่ร้อยไร่มันคงเยอะเกินไปที่จะมองหากันเจอ

               แต่จะเพราะอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้ผมยังโอเคดี ไม่ได้อยากตามหาใคร

 

               แต่มันจะจริงน่ะหรอ...

 

 

 

               ชีวิตมหาลัยของผมก็ไม่มีอะไรมาก แค่ต้องดูแลตัวเองมากๆ  เรื่องเรียนไม่ใช่ปัญหากับผมเท่าไหร่ เพราะมันไม่ได้เรียนเยอะเหมือนตอนเรียนมัธยม แต่แค่เรียนยากกว่านิดหน่อย

               อารมณ์เหมือนเราหัดขี่จักรยานนั้นแหละ ตอนเด็กเราขี่จักรยานคันเล็กมีล้อ 4 ล้อ เพราะยังทรงตัวเองไม่ได้ พอโตขึ้นมาหน่อยก็เปลี่ยนคันที่ใหญ่ขึ้นแต่ก็ยังมี 4 ล้อ นั้นก็เพราะเรายังถูกมองว่าเป็นเด็กอยู่ แต่พอโตมาจนจักรยานคันใหญ่ขึ้นมากๆ ล้อ 2 ล้อที่เอาไว้เสริมช่วยพยุงเราในตอนแรกมันไม่สามารถใส่ได้แล้ว เราก็ต้องมาหัดจักรยาน 2 ล้อที่คันใหญ่กว่าเดิม ทรงตัวยากกว่าเดิม บางคันก็ไม่ใช่สำหรับเรา ไม่ชอบสีบ้าง ไม่ชอบเบาะบ้าง ไม่ชอบทรงจักรยานบ้าง กว่าจะหัดกว่าจะหาคันที่ขี่ถนัดอาจจะเสียเวลาไปมาก บางคนล้มแล้วขยาดกับการขี่มันไปเลยก็มี

               เอาจริงๆผมว่าช่วงขี่จักรยาน 4 ล้อมันอันตรายกว่าจักรยาน 2 ล้ออีก ถ้าขี่ไม่ระวังก็มีสิทธิล้มได้มากกว่า ที่น่ากลัวกว่าแผลที่ได้จากจักรยานล้มก็คงเป็นสายตากับคำกล่าวว่าของคนที่ไม่รู้จักเวลามองมานั้นแหละ

           

 

 

               “ใส่เสื้อสีอะไรครับ” ผมถามลักษณะของคนปลายสายเพื่อจะได้หาได้ง่ายๆ เนื่องด้วยวันนี้ที่คณะผมจัดงานตลาดคณะ คนจึงค่อนข้างเยอะกว่าปกติมาก และด้วยความซุ่มซ่ามของผมไม่รู้ว่าไปทำโทรศัพท์ตกหายไปตอนไหน โชคดีที่พอผมยืมของเพื่อนโทรหาก็มีคนรับ และเขาก็บอกว่ากำลังจะเอาโทรศัพท์ของผมไปให้ประชาสัมพันธ์พอดี

 

               “เสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ดำครับ แล้วคุณล่ะ”

 

               “ผมเสื้อเทา กางเกงยีนส์ดำครับ” ผมตอบกลับพร้อมกวาดสายตามองหาคนที่มีลักษณะเหมือนที่ปลายสายบอก แต่ชะเง้อมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็นคนใส่เสื้อสีขาวกับกางเกงสีดำเลยสักคน

               จนเมื่อมีแรงสัมผัสเบาๆสะกิดลงที่ไหล่ขวาผม และเหมือนเป็นปฎิกิริยาร่างกายมันตอบกลับอัตโนมัติไปเอง โดยการหันหลังกลับทันที แต่แล้วพอสายตาผมโฟกัสภาพตรงหน้าได้ว่าเป็นใครร่างกายกลับหยุดนิ่งแข็งค้างเหมือนถูกจับสตาฟ คนตรงหน้ายกโทรศัพท์ออกจากหู หันหน้าจอมาทางผมเหมือนกำลังจะถามว่าใช่ของผมรึป่าว

 

               “เก็บดีๆล่ะ ระวังหายอีก” เหมือนหัวผมจะพยักตอบรับไปโดยที่สมองยังไม่ได้สั่งการ คนตรงหน้าเลยยื่นสมาร์ทโฟนสีดำสนิทมาให้ผม

 

               “ขอบคุณครับ” ผมยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์เจ้าปัญหา ภาวนาให้เจ้าตัวไม่เห็นรูปหน้าจอโทรศัพท์ผม แต่แล้วความหวังนั้นก็ถูกทำลายลงเมื่ออีกคนเอ่ยประโยคถัดมา

 

               “รูปหน้าจอสวยดีนะครับ ผมขอได้ไหม”

 

 

 

               พี่คนนั้น : ) : ช่วงนี้เราว่างมั้ย

 

               ผมเลิกคิ้วให้กับข้อความที่แปลกกว่าทุกวันของใครอีกคน แต่ก่อนที่ผมจะประมวลผลข้อความที่ถูกส่งมาเสร็จมือผมก็ดันกดส่งข้อความไปเสียแล้ว

 

               น้องคนนั้น : ) : ว่างอยู่ครับ

 

               ไม่หรอก จะว่างได้ยังไงพึ่งได้โปรเจคมาหยกๆ ใบรายละเอียดยังคามืออยู่เลย แต่ทำไมผมตอบไปแบบนั้นก็ไม่รู้ มือมันไปไวกว่าความคิดเสียอีก

 

               พี่คนนั้น : ) : พอดีพี่มีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย

 



 

               “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะมึง” ผมยักไหล่ใส่คนถาม มือก็กดตอบกลับคนในแชทไปด้วย “ชอบพี่เขาแล้วก็บอก คนในรูปน่ะ”

 

               “ไม่เสือกนะ” ผมตอบพร้อมทำหน้านิ่งเป็นการกวนตีนมันในที

 

               “ชอบก็จีบไอ้สัด ชักช้าระวังหมาคาบไปแดกล่ะ” ผมหยิบหนังสือเรียนบนโต๊ะเคาะหัวมันไปที ข้อหาปากหมาเกินความจำเป็น

 

 

 

               “โหย กำลังหิวเลย” ถุงขนมผมถูกดึงจากมือไปค้นหาของกินทันทีที่ผมยื่นไปตรงหน้า แต่สายตาผมไม่ได้สนใจที่จุดนั้น กลับเป็นใครอีกคนที่ตอนนี้หายตัวไปไหนไม่รู้

 

               ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมกลายเป็นพนักงงานส่งข้าวส่งน้ำให้นักดนตรีคณะดุริยางค์ อาจจะตั้งแต่ที่พี่เขาขอให้ผมช่วยเรื่องถ่ายรูปโปรโมทวง อาจจะตั้งแต่ที่ผมเลือกที่จะเอาเรื่องราวของพวกเขามาทำโปรเจคไฟนอล และยิ่งรู้จักพวกพี่เขาผมก็ยิ่งอยากถ่ายทอดให้คนภายนอกได้รู้ ว่ากว่าจะเป็นการแสดงหนึ่งเพลง พวกพี่เขาต้องร้องและเล่นมันซ้ำไปซ้ำมาเป็นร้อยๆครั้ง อยากให้ผู้คนได้เข้าใจว่า รอยยิ้มของคนฟังคือรอยยิ้มของนักดนตรีมันเป็นแบบไหน อยากให้ทุกคนได้รู้ได้เห็นเหมือนที่ผมได้รับรู้

             

               “มันนอนอยู่หลังโซฟานั้นน่ะ” ผมพยักหน้าให้กับพวกรุ่นพี่และมองตามสายตาพี่เขาไปยังโซฟาหนังตัวยาวสีน้ำตาลเข้ม ที่ถูกว่างให้หันหลังให้เครื่องดนตรีในห้องแต่หันหน้าเข้าหน้าต่างบานใหญ่แทน เดินอ้อมไปยืนด้านหน้าโซฟา พยายามลงเท้าให้เบาที่สุดเพราะไม่อยากรบกวนคนนอนหลับ ช่วงนี้เห็นซ้อมหนักกันน่าดู

               แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมาโฟกัสคนบนโซฟา กดนิ้วลงชัตเตอร์ช้าๆ  ไม่ว่าคนนี้จะทำอะไร มันก็ดูน่ามองน่าเก็บไว้ไปเสียหมด จนตอนนี้คอมผมอาจจะแรมเต็มเพราะรูปพี่เขาแน่ๆ จากทีแรกมีแค่หนึ่งตอนนี้ผมคงมีไม่ต่ำกว่าห้าร้อย แต่เสียงชัตเตอร์มันคงจะดังเกินไปจนทำให้ที่กำลังหลับอยู่ลืมตาตื่น

 

               “ขอโทษที่ปลุกครับ” ผมก้มหัวสำนึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้อีกคนตื่น ทิ้งตัวลงนั่งพื้นตรงหน้าพี่เขา

 

               “ไม่เป็นไรๆ เรามานานหรือยัง” เงยหน้ามองอีกคนที่กำลังดันตัวลุกขึ้นนั่งพลางขยี้ตาตัวเองไปด้วยแต่อีกมือก็ยื่นมายีหัวผมเบาๆคล้ายการบอกว่าไม่ถือสาอะไร

 

               “เพิ่งมาเมื่อกี้ครับ” ผมตอบพลางยกมือขึ้นไปปาดหยดน้ำสีใสที่ค้างอยู่ตรงหางตาพี่เบาๆ กว่าจะรู้ตัวว่าการกระทำของตัวเองมันแปลกก็ตอนที่เห็นพี่ชะงักไป ผมจึงรีบชักมือกลับทันที แต่มันคงจะเปลี่ยนบรรยากาศแปลกๆรอบตัวไม่ทันเสียแล้ว “ขอโทษครับ” ผมบอกออกไปหวังให้บรรยากาศมันดีขึ้น พี่ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ มันไม่ได้อึดอัด แต่มันให้ความรู้สึกเก่อๆพิกล

 

               “กลับไปนอนก่อนไปมึง” เสียงหนึ่งของเพื่อนพี่เขาดังแทรกขึ้นทำลายบรรยากาศแปลกๆของพวกเราลงก่อนที่มันจะกลายเป็นความเงียบชวนอึดอัด พี่เลยหันไปมองเพื่อนด้านหลังทั้งที่ท่าทางยังดูงัวเงียอยู่ คิ้วเรียวเข้มขมวดปมขึ้นนิดๆ

 

               “ซ้อมอีกรอบก่อน”

 

               “พักเสียงบ้างเถอะ เดี๋ยวก็ได้พังก่อนแข่งแล้วจะแย่เอา”

 

               “แต่กู...”

 

               “พักหน่อยเถอะครับ ตอนกลางวันเสียงพี่แหบลงนะ” อาจจะดูเป็นการเสียมารยาทไปหน่อยก็เถอะที่ผมพูดแทรกทั้งที่อีกคนมีอายุมากกว่า แต่จะให้ผมทำยังไงได้ คำว่าน่าเป็นห่วง มันก็ลอยฟุ้งเต็มหัวผมไปหมดจนต้องพูดบอกให้อีกคนพักบ้าง ถึงผมจะชอบเวลาที่พี่ร้องเพลง แต่ถ้าถึงวันจริงแล้วร้องไม่ได้ตามที่ตั้งใจมันคงแย่น่าดู และสิ่งที่ผมบอกไปก็ไม่ใช่เรื่องโกหก เสียงพี่เขาแหบกว่าทุกวัน น่าจะเกิดจากการใช้เสียงติดกันนานหลายวันและวันละหลายชั่วโมง ถึงจะเล็กน้อยก็เถอะ

             

               “อื้อ” คำตอบรับเสียงอู้อี้แทบฟังไม่ได้ยินทำให้ผมยิ้มออก แต่ก่อนที่คนตรงหน้าผมจะได้ลุกจากโซฟาตัวยาวเสียงเพื่อนพี่เขาก็ดังแทรกเรียกให้เจ้าตัวหันควับจนน่ากลัวว่าคอจะเคล็ดเอาได้อยู่ไม่น้อย

 

               “พรุ่งนี้ไม่ซ้อมนะเว้ย วันนี้จะไปแดกเหล้า”

 

               “ไปด้วย”

 

               “มึงควรไปพัก”

 

               “พวกมึงจะทิ้งกูเหรอ”

 

               “พวกกูเป็นห่วงมึงต่างหาก” แค่ปากที่ยืนออกมานิดๆก็พอรู้แล้วว่าไม่พอใจที่เพื่อนจะหนีไปเที่ยวโดยไม่ให้ตัวเองไปด้วย

 

               ไม่รู้ว่าจะขำหรือจะสงสารดี พวกเพื่อนๆพี่เขาชอบบ่นให้ผมฟังว่าพี่เขามีฮอร์โมนแปลกๆ เอาไว้ดึงดูดเพศเดียวกัน ขนาดบางทีพาแฟน(เก่า)ไปด้วยยังกันไม่ให้ผู้ชายเข้ามาทักไม่ได้เลย

 

               “ถ้ามึงเมาใครจะแบกมึงกลับ วันนี้กูไม่ให้มึงค้างห้องกูแน่ๆ”

 

               “เออพวกกูด้วย”

 

               “พวกเหี้ย” ปากบางขมุมขมิบออกมาเบาๆแต่คนที่อยู่หากันไม่ถึงครึ่งเมตรอย่างผมได้ยินชัดจนอดขำไม่ได้ จนเจ้าตัวหันกลับมามองผมเขม็ง แต่ตาเรียวใสๆนั้นมันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด ผมเลยลุกขึ้นยืนเพื่อหนีสายตานั้นแทน ไม่อย่างนั้นคงได้ขำออกมาจริงจังจนโดนโกรธแน่ๆ

 

               “ผมไปด้วยได้มั้ยครับ ถ้าพี่เมาเดี๋ยวผมพากลับเอง พวกพี่จะได้ไม่โดนงอนด้วยไง” ผมเสนอความคิดเพราะยังไง หลังๆมานี่พี่ก็ไปค้างห้องผมบ่อยอยู่แล้ว

 

               “ใครงอน” 

 

               “เอ่อ.. ผมหมายถึงโกรธน่ะครับ” ผมแก้คำถูกให้คนฟังสบายใจ “หรือพี่จะกลับล่ะครับ”

 

               “ไม่ดิ” อดอมยิ้มกับคำตอบที่ตอบเร็วจนผมไม่ต้องลุ้นแทบไม่อยู่

 

               “งั้นเก็บของเลย กูขี้เกียจซ้อมล่ะ” จบประโยคนั้นทุกคนก็พร้อมว่างเครื่องดนตรีที่ถืออยู่อย่างไว เก็บเร็วกว่าตอนเอาออกมาตั้งซ้อมเสียอีก

 

 

 

               จริงอย่างที่พวกเพื่อนๆพี่เขาบอก หลังจากมาหย่อนตัวลงนั่งในร้านได้ไม่ถึง 15 นาที ค็อกเทลแก้วแรกจากใครสักคนก็ถูกบริกรยกมาเสิร์ฟ หลังจากนั้นก็มีตามมาอีกเรื่อยๆจนผมที่เป็นแค่คนร่วมวงยังรู้สึกรำคาญแปลกๆ บางคนก็ถึงกับเดินเข้ามาทักเอง จนเพื่อนพี่เขาขอแลกที่กับผม โดยให้เหตุผลว่า “วันนี้กูปกป้องมึงไม่ได้นะครับ เดี๋ยวคะแนนลด ตกเหยื่อไม่ได้” ทีแลกผมก็ไม่เข้าใจความหมายหรอก แต่ยิ่งนั่งนานผมก็เริ่มเข้าใจด้วยตัวเองมากขึ้น

 

               “ขอโทษนะครับ ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ ”

 

               “พอดีที่เต็มแล้วน่ะครับ” คนที่ตอบกลับไม่ใช่พี่ แต่เป็นเพื่อนของพี่ที่นั่งอยู่โซฟาข้างๆ

 

               “ผมนั่งตรงนี้ก็ได้ครับ” คนมาใหม่ว่าพลางทิ้งตัวลงนั่งที่วางแขนโซฟาข้างพี่ จนเจ้าตัวผงะขยับมาเบียดผม “ขอรบกวนหน่อยนะครับ” เขาหันมาส่งยิ้มให้พี่ที่กำลังขมวดคิ้วมองอยู่เช่นกัน คิ้วเรียวขมวดเป็นปมเล็กๆพอให้ผมเดาออกว่าเจ้าตัวเองก็คงจะไม่ได้ชอบที่ถูกรุกหนักแบบนี้เหมือนกัน ถึงสีหน้าจะไม่ได้แสดงออกมาก อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่อีกคนดื่มไป ที่ทำให้พี่เงียบและหน้านิ่งกว่าปกติมาก แต่นั้นก็ยังดึงดูดเพศเดียวกันได้อยู่ดี

 

               “ใส่เสื้อหน่อยมั้ยครับ” ผมก้มถามคนข้างๆพอให้ได้ยินกันสองคน ในขณะที่คนมาใหม่เริ่มชวนคนทั้งวงคุยนั่นคุยนี่ไปเรื่อย แต่สายตาที่หันมามองพี่กลับจ้องลึกลงตรงแผงที่กำลังขึ้นสีชมพูจางๆ เพราะเจ้าตัวดันเป็นคนขี้ร้องที่ไม่เข้ากับสีผิวขาวจัดของตัวเองเอาเสียเลย พอเข้ามาในร้านและหาที่นั่งได้เลยถอดเสื้อไหมพรมตัวโคร่งที่ใส่ทับเสื้อกล้ามคอกว้างแขนกว้างด้านในออก

 

               “ร้อน” คนเริ่มเมาส่ายหัวปฏิเสธพลางขยับตัวเบียดผมเข้ามาอีก ผมเลยได้แต่พยักหน้ารับรู้ “เบียด”

 

               “หื้ม” ผมเลิกคิ้วก้มมองคนข้างๆอีกรอบ ก็เห็นปากสีระเรื่อยื่นออกมานิดๆ คนข้างๆผมกำลังไม่พอใจ? เห็นแบบนั้นผมเลยยืดตัวนั่งหลังตรงทำให้เห็นว่าคนที่นั่งแขนโซฟาอยู่ทีแรก ตอนนี้กำลังใช้แขนพาดพนักพิงแล้วเอียงตัวมาทางพี่จนแทบจะเรียกว่าสิงร่าง

 

               ผมไม่รู้ว่าความหงุดหงิดมันเริ่มตั้งแต่คนที่เท่าไหร่ แต่คนนี้คงเป็นคนสุดท้ายที่ดึงฟิวส์ผมขาด

             

               หึ เดี๋ยวรู้เลยว่าสิงร่างจริงๆเป็นยังไง

 

               “พี่ ผมขอโทษนะครับ” ผมก้มลงบอกคนข้างๆก่อนที่จะใช้แขนข้างหนึ่งสอดใต้ข้อพับขาส่วนอีกข้างก็โอบช่วงเอวพี่เอาไว้ แล้วออกแรงรั้งให้อีกคนลอยมานั่งระหว่างขาผมแทน ความง่วงที่สะสมมาบวกกับแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำให้คนโตกว่าคงประมวลผลไม่ทันจึงทำได้แค่นั่งนิ่ง ผิดกับคนมาใหม่พี่พยายามเบียดพี่จนตอนนี้หล่นลงมานั่งเบาะโซฟาแทนคนตัวขาว สายเอาเรื่องถูกตวัดมามองผมทันที

 

               แต่ใครสนล่ะ

 

               ผมวางคางเกยไหล่คนด้านหน้า เอียงหน้าจ้องเขม็งอีกคนไม่ต่างกัน สงครามเย็นถูกสร้างขึ้นนานนับสิบนาทีจนคนมาใหม่ลุกเดินกลับไปโต๊ะเดิมของตัวเองโดยไม่พูดอะไร พอเห็นแบบนั้นผมเลยยืดตัวขึ้นเพื่อเพิ่มระยะห่างของผมกับพี่ขึ้นมาหน่อย เพราะรู้สึกปวดๆที่อกข้างซ้ายขึ้นมาตุบๆ ไม่รู้ว่าจะเต้นอะไรนักหนา เต้นขนาดนี้ผมว่าพี่คงได้ยินแน่ๆ

               แต่เหมือนคนด้านหน้าจะไม่ให้ความร่วมมือกับผมเอาเสียเลย เพราะทันทีที่ผมยืดตัวขึ้นพี่เขาก็ทิ้งตัวพิงผมลงมาประหนึ่งผมเป็นเบาะโซฟาส่วนตัว แผ่นหลังเย็นๆแนบกับแผงอกของผมจนหาช่องว่างไม่เจอ

           

               “หูย...” เสียงโห่แซวดังขึ้นรอบโต๊ะ แต่จุดโฟกัสของผมมันดันมีแค่คนตรงหน้า ได้แต่อมยิ้มกับตัวเองเหมือคนบ้าพลางก้มกระซิบกับคนโตกว่าให้พอได้ยินกันสองคน

 

               ตอนนี้ผมได้พิสูจน์กับตัวเองแล้วว่า ไม่ว่าจะลองพยายามยังไง

 

               “พี่ครับ"

 

               ผมไม่สามารถทนดูพี่อยู่กับคนอื่นได้

 

               "หื้ม"

 

               และควรถึงเวลาที่ผมจะทำอะไรให้มันชัดเจนเสียที

 

               "ผมจีบพี่นะ"

 

 

- END -

ออฟไลน์ Remember505

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
- SP 01-


               ผมนอนนิ่งๆมองคนในกอดมาร่วมสิบนาทีเห็นจะได้ ไม่อยากขยับตัวมาก หนึ่งเพราะกลัวจะทำให้คนหลับอยู่ตื่น ส่วนอีกข้อคือผมอยากนอนอยู่ท่านี้นานๆ

 

               พี่เป็นผู้ชายที่ไม่ได้ตัวใหญ่อะไรมาก แต่ก็ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานชายไทยทุกอย่าง ตัวที่สูงน่าจะเกือบๆร้อยแปดสิบ ไม่ได้ตัวบางเกินไป ออกจะเป็นคนมีกล้าเนื้อหน่อยๆ เวลากอดเลยรู้สึกว่ามันพอดีมือ ผิวสีขาวจัดใสจนแทบเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังตัดกับผมสีน้ำตาลเข้มดูนุ่มจนผมอดไม่ได้ที่จะเอาจมูกไปเกลี่ยเล่น

 

               “อื้ออ” อีกคนขยับซุกเข้าหาผมเพื่อหนีจากการถูกรบกวนที่เกิดจากตัวผมเอง

 

               ก่อนที่เจ้าตัวจะเงยหน้าขึ้นมาหาผมทั้งที่ตายังไม่ลืมเสียด้วยซ้ำ ทำให้ปลายจมูกพี่ชนกับปลายจมูกผมพอดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเด้งตัวหนีแทบไม่ทันเพราะไม่อยากให้พี่ได้ยินเสียงหัวใจของผม แต่ตอนนี้เหรอ รัดให้สิงร่างรวมกันได้ผมคงทำไปแล้ว 

 

              แปลกดีที่พอยอมรับตัวเองแล้วอะไรๆมันก็เข้าใจง่ายขึ้น

 

               “...” ผมมองอีกคนปรือตาขึ้นมองผมอย่างงัวเงีย ยกมือขยี้ตาตัวเองแรงจนผมต้องจับออก

 

               “เราตื่นนานรึยัง” ผมพยักหน้าตอบเบาๆ ทำให้ปลายจมูกของเราเกลี่ยกันไปมา เหมือนอีกคนจะชะงักไปชั่วขณะ แก้มขึ้นสีชมพูจางๆจนผมอยากฝังจมูกให้จมลงให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำได้แค่ห้ามใจตัวเอง

 

               “ปวดหัวมั้ย” เลือกที่จะหาเรื่องคุยก่อนที่ผมจะสติหลุดฟัดพี่ไปจริงๆ

 

               “นิดนึง” อีกคนตอบเสียงงัวเงียทำท่าจะมุดตัวนอนต่อ จนผมต้องรั้งไว้ก่อน

 

               “งั้นลุกไปล้างหน้าก่อนครับ จะได้มากินข้าว เผื่อจะดีขึ้น” ขืนให้นอนต่อมีหวังปวดหนักกว่าเดิมแน่ๆ

 

               “ง่วง”

 

               “กินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับมานอนครับ ลุกเร็ว” ผมคลายแขนออกจากการกอดรัดอีกคน แต่เหมือนอีกคนจะยิ่งกระชับกอดแน่นขึ้น “หื้ม” ถึงปกติพี่จะชอบงอแงตอนตื่นก็เถอะ แต่วันนี้ดูจะอ้อนผิดปกติแหะ ผมเลยก้มไปแกล้งพูดข้างๆหูอีกคน “ถ้าไม่ลุกผมจะลักหลับแล้วนะ”

 

               “อะไร” พอผมพูดจบอีกคนก็ผละตัวออกจากผมทันที จนผมหลุดขำ

 

               “กินข้าวกันเร็ว ผมหิวแล้ว” บอกพร้อมกับรั้งคนข้างๆให้ลุกขึ้นด้วย พอเห็นว่าผมคงไม่ยอมปล่อยให้นอนต่อเจ้าตัวเลยลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย ผมเลยโทรสั่งข้าวจากข้างล่างขึ้นมารอคนโตกว่าแทน

 

               ไม่นานข้าวที่สั่งก็มาส่งพร้อมกับอีกคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ผมเลยเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันบ้าง พอออกมาอีกทีก็เห็นว่าอีกคนจัดโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

 

               “วันนี้พี่ไปไหนไหมครับ” คนถูกถามส่ายหัวตอบ

 

               “เราจะไปไหนรึป่าวล่ะ”

 

               “ไม่ครับ เดี๋ยวทำโปรเจคต่อน่ะครับ”

 

               “งั้นเดี๋ยวช่วย ถือว่าแลกกับที่ช่วยทำโปรโมทให้” ผมกำลังจะอ้าปากปฏิเสธพี่ก็พูดขันขึ้นทันที พอจะขยับปากพูดต่อก็โดนขึงตามองดุจนผมต้องพยักหน้ารับ

 

 

 

               การนั่งจ้องหน้าจอคอมหลายชั่วโมงส่งผลให้ตาล้าพอสมควร แต่ดูคนโตกว่าจะหนักกว่าผมพอสมควร จากการที่เห็นกระพริบตาถี่ขึ้น ยกมือบีบหัวคิ้วบ่อยทั้งสัปหงกจนผมสงสาร เลยรั้งตัวอีกคนขึ้นมานั่งตัก

 

               “ง่วงก็นอนครับ” ก้มบอกคนบนตักพลางลูบผมกล่อมให้อีกคนพักสายตา

 

               “อื้ออ” แต่ดูคนโตกว่าจะดื้อเอาการ ขยับตัวยุกยิกเหมือนจะไม่ยอมหลับ จนผมต้องละมือจากเมาส์ยกมือขึ้นปิดตาอีกคนแทน

 

               “นอนนะครับ” ผมพูดขึ้นเบาๆพร้อมเกลี่ยปลายจมูกกับขมับคนบนตัก กดสูดกลิ่นหอมจากกลุ่มผมนุ่ม มืออีกข้างก็ลูบผมกล่อมเบาๆ จนจากแรงขืนตัวทีแรกกลายเป็นการขยับซุกพร้อมกับทิ้งน้ำหนักมาที่ตัวผม ลมหายใจสม่ำเสมอจากคนโตกว่าทำให้ผมรู้ว่าอีกคนหลับไปแล้ว

 

               ผมก้มมองคนบนตัก อมยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า พึ่งรู้ว่าตัวเองยิ้มเก่งขึ้นแค่ไหนก็ตอนนี้

 

 

ตอนที่มีอีกคนอยู่ข้างๆ

: )



-END-





ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักแฮะ... :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
รอตอนืต่อไปค่ะะะ เพราะยังไม่ได้เป็นแฟนเรยยย~~~ยังไม่ได้คำตอบจากพี่เรยว่าให้จีบป่าวววว
อิ.อิ มาต่อนะๆๆๆ  :mew1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
อมยิ้มเลย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
น่ารัก :o8:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เบาๆ สบายๆๆ~~  :กอด1:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โง้ยยยยยชอบบบบน่ารักมากกกก อยากอ่านต่อหลังเขาคบกันเลยค่า เขิน :katai2-1:

ออฟไลน์ wichiwiwie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักกกกกก ><

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MoMoKoJaNg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารัก  :katai1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
อยากรู้ความรู้สึกคนพี่อ่ะ :z13: :z13:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น่ารักกกกกกกกกก  :mew1:

ออฟไลน์ ✪PATTY✪

  • เมี๊ยวววว~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
    • http://facebook.com/NKM.SNK

ออฟไลน์ skysky

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
น่ารัก :)

ออฟไลน์ ชอบอ่าน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมดจริงๆ

ออฟไลน์ patompong888

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

   :-[  :impress2:

ออฟไลน์ magmild

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักมากกกก คนพี่ขี้อ้อนกว่าที่คิดอีก เจ้าแมวววว :mew3:

ออฟไลน์ p2w1990

  • ความหล่อผมถึงมันจะอยู่ลึก.....แต่มันก็มีอยู่จริง (ปะ) ?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
หรือจะเป็นบุพเพสันนิวาส ขอบคุณคุณที่แบ่งปันครับ o13

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด