▲..ต้องโทษพระจันทร์☽..▼ #พี่ดีนน้องยาง || ตอนที่15 *24/09/18 [P3]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▲..ต้องโทษพระจันทร์☽..▼ #พี่ดีนน้องยาง || ตอนที่15 *24/09/18 [P3]  (อ่าน 9939 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ เช้าวันพุธ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2

ตอนพิเศษ : Live on Instagram






NamyoungP started a live video. Watch it before it ends.



“ลองเล่นดู ไม่รู้จะมีคนดูมั้ย”


“ทำอะไร”


“ยางลองไลฟ์ในไอจีดู วันก่อนเห็นไอ้ฝุ่นมันเล่น น่าสนุกดีอ่ะ มีคนเข้ามาดูเป็นพันเลย ของยางจะมีคนดูถึงสิบคนมั้ยนะ”


“งั้นพี่ไปนั่งที่อื่น”


“ไม่เอาสิ พี่ดีนเล่นกับยางด้วย นั่งคนเดียวมันแปลกๆอ่ะ”


“ไม่เอา ไม่ชอบ”


“น๊า~พี่ดีน อยู่กับยางก่อน”


“มึงนี่มัน”


“อ๊ะนี่ไง มีคนเข้ามาดูแล้ว 154 คน โหยยยย มีคนดูเราเป็นร้อยเลยอ่ะพี่ดีน นี่ๆดูสิ”


“ไหน”


“นี่ไง ตรงหน้าจอ มันจะมีบอกว่ามีคนดูอยู่เท่าไร”


“มาจากไหนเยอะแยะ”


“โอโห เกือบ 500แล้ว ไอจีมันเอ๋อมั้ยเนี้ย ไม่น่าจะมีคนเข้ามาเยอะขนาดนี้”


‘น้องน้ำยางงงงงงง’
‘น้องยางงง สวัสดีจ้า’
‘พี่ดีนโคตรหล่อ’



“สวัสดีคร้าบบบ เดอะมูนหนึ่งแปด โอ๊ะ มีคนชมว่าพี่ดีนหล่อด้วย”


“พี่ไปดูทีวีดีกว่า”


“ไม่เอา พี่ดีนอย่าหนี นี่ไงเห็นมั้ย มีแต่คนบอกว่าไม่ให้พี่ดีนไป”


‘พี่ดีนนนนนนนนนน ไม่ให้ไปค่า’
‘พี่ดีนอยู่ก่อน’
‘พี่ดีน ด๊อนโก’



“เออๆๆ วุ่นวายชะมัด”


“แฮ่ๆ พี่ดีนไม่ได้โกธรนะครับ อย่าเข้าใจผิด พี่ดีนแค่เขินนิดหน่อย”


“กูไม่ได้เขิน”


“นานๆออกกล้องที จะเขินก็ไม่แปลกหรอกครับ”


“ก็บอกว่าไม่ได้เขิน!!”


“โอเคครับๆ ไม่เขินเนอะ”


‘น้องยางกับพี่ดีนทำอะไรอยู่’
‘มาไลฟ์บ่อยๆนะ’
‘น้องยางน่ารักกกกก ยิ้มแล้วโลกสดใส’
‘Hello from Taiwan’


“ตอนนี้หรอครับ ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ ตอนนี้เราอยู่กันที่บ้านพี่ดีน รอให้รถไม่ติดแล้วจะกลับหอกันครับ หู้ยยย พี่ดีน มีคนมาจากไต้หวันด้วย พี่ดีนทักทายเขาหน่อยเร็ว”


“มึงก็คุยไปดิ”


“ยางพูดอิ๊งไม่เก่งอ่ะ สำเนียงไม่ดี พี่ดีนทักเขาหน่อยเร็วเดียวเขาน้อยใจนะ”


“อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะหน่า”


“เอาหน่อยเร็ว พี่ดีนทักเขาหน่อย นั่นไงมาอีกแล้ว”


‘I love u guys so much from Taiwan’
‘พี่ดีนไม่ดุน้อง’
‘ว๊ายยย พี่ดีนดุแล้ว อยากโดนพี่ดีนดุ’
‘พี่ดีน ครางชื่อหนูหน่อย’



“ฮ่าฮ่าฮ่า ทำไมทุกคนตลกจังเลยครับ”


“พี่ดีนเร็ว ทักทายหน่อย คุยบ้างสิครับ ยางคุยอยู่คนเดียวเลย”


“Hi”


“แค่นี้เองหรอ”


“ก็เออ ยางบอกให้พี่ทัก ก็ทักแล้วไง”


‘กรี๊ดดดด พี่ดีนโหมดอบอุ่น’
‘พี่ดีนน่ารักกกก แทนตัวเองว่าพี่แบบนี้แล้วโคตรดีย์เลออออ’
‘พี่ดีนครางชื่อหนูหน่อย ครางชื่อหนูบ้างงงง’



“คอมเม้นอันนี้อะไรวะ ครางชื่ออะไร”


“ฮ่าฮ่าฮ่า ครางชื่อคืออะไรหรอครับ ชื่ออะไรอ่ะ พี่ดีนจะได้ครางถูก”


“กูไม่ทำ”


‘พี่ดีนดุหนู อร๊ายยย ดุก็ได้ ดุก็ดีย์’
‘พี่ดีนนน ด่าหนูบ้าง ด่าหนู’



“ฮ่าฮ่าฮ่า เขาอยากให้พี่ดีนด่าอ่ะ”


“จู่ๆจะให้กูด่า ประสาท”


‘กรี๊ดดดดด นอนหลับฝันดีแล้วค่า ได้ยินพี่ดีนด่าแล้ว’
‘พี่ดีนเกี้ยวกร้าดดดดดดดด’
‘พี่ดีนโหมดนี้ คือกร้าวใจมว๊ากกกกก’



“ฮ่าๆๆ ทำไมทุกคนตลกอ่ะ ยางขำจนปวดท้องแล้ว ฮ่าๆๆ”


“นั่งดีๆดิ เดี๋ยวก็ตกเก้าอี้ ขยับมา”


‘วร๊ายยยยย มีใครแคปทันบ้าง พี่ดีนกอดเอวน้องยาง’
‘เราแคปทัน ตามไปในทวิตโลดดด’
‘กรี๊ดดด น่ารักกกกกกกกกก’
‘ไม่ต้องชิปแล้วค่า คู่นี้คือเรียลลลล’
‘การได้รักคู่นี้คือนิพพาน’
‘#พี่ดีนน้องยาง’
‘#พี่ดีนน้องยาง น่ารักกกกกกกกกกก’
‘น้องยางลงรูปคู่พี่ดีนบ่อยๆนะคะ อยากเห็น’
‘ทำไมไม่ลงรูปคู่กับพี่ดีนบ้างเลย’



“ทำไมไม่ลงรูปคู่หรอครับ อืมมมม ยางไม่ค่อยชอบถ่ายรูปอ่ะ พี่ดีนก็ไม่ชอบถ่าย เลยไม่ค่อยมีรูปที่ถ่ายด้วยกัน”


‘ไม่ถ่ายรูปคู่กันเลยหรอ’
‘ลงรูปคู่หน่อยน๊า อยากเห็น’


“มีรูปที่ถ่ายด้วยกันครับ แต่ไม่ได้ลงเลย”


‘พี่ดีนไม่ลงรูปน้องในไอจีบ้างหรอคะ ลงรูปคู่ด้วยยิ่งดี ลงรูปพี่ดีนก็ได้ ไม่เอารูปวิวแล้ว’
‘พี่ดีนลงรูปอื่นนอกจาก ทะเล ต้นไม้ บ้างสิคะ’
‘พี่ดีนลงรูปน้องยางหน่อยยย’



“ยุ่ง”


“พี่ดีนชอบถ่ายภาพวิวครับ รูปตัวเองไม่ค่อยมีหรอก”


‘พี่ดีนไม่ถ่ายรูปน้องยางบ้างหรอคะ’
“ถ่าย ถ่ายน้ำยางเยอะสุดแล้ว แต่มันไม่รู้ตัวหรอก’
‘เหม็นความรัก’
‘วี๊ดดดด โมเมนต์’
‘ลงรูปน้ำยางบ้างสิคะพี่ดีน’
‘I don’t understand what they said but they are SO CUTE’



“ไม่ลง จะเก็บไว้ดูคนเดียว”


“จริงหรอ พี่ดีนเอามาให้ยางดูบ้าง ถ่ายตอนไหนอ่ะ”


“ก็ถ่ายตลอด มึงไม่รู้เอง”


“ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”


‘พี่เขาหวง’
‘พี่เขางก’
‘พี่เขาจะเก็บไว้ดูคนเดียว’
‘#เหม็นความรัก #พี่ดีนน้องยาง’



“ไม่ได้งก แต่ทำไมต้องเอามาลงอ่ะ”


“ยางจะได้ขโมยรูปมาลงบ้างไง พี่ดีนถ่ายรูปสวยอ่ะ แบ่งยางบ้างสิ”


“อยากได้ก็ขอเองดิ ไม่เห็นต้องให้ลงก่อนแล้วก็อปไปใช้ต่อ”


“พี่ดีนไม่เคยบอกว่าถ่ายรูปยางไว้ด้วย”


“พี่ก็ถ่ายให้ยางประจำ บ่นอะไร”


“ไม่ใช่สิ มันต้องมีรูปที่เผลอๆใช่มั้ยอ่ะ”


“มี”


“ส่งให้ยางด้วย ยางชอบรูปเผลอๆ”


“เออๆๆ”


‘ฮัลโหลลลล พวกเรายังอยู่ตรงนี้นะคะ เผื่อลืม’
‘โอ้ยยย น่ารักกกก แบบนี้ต้องมาไลฟ์บ่อยๆนะ’
‘มีใครเซฟไลฟ์นี้ไว้บ้าง เราขอ’
‘พีดีนทำอะไรค่า ก้มหน้าตลอด ไม่มองจอเลย’



“พี่ดีนเล่นเกมในมือถืออยู่ครับ พี่ดีนๆ มีคนถามว่าทำไมถึงไม่ชอบให้ถ่ายรูป”


“ยังไง”


“ยังไงหรอครับ ที่ไม่ชอบให้ถ่ายรูป”


‘เวลาเจอพี่ดีน จะเข้าไปขอถ่ายรูปแล้วโดนปฏิเสธหมดทุกคนเลย จนตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปขอพี่ดีนถ่ายรูปเลย’


“เขาบอกมีคนเคยขอพี่ดีนถ่ายรูป แล้วพี่ดีนไม่ให้”


“ก็ไม่ทำไม ไม่ให้ก็คือไม่ให้”


“ทำไมล่ะครับ”


“ก็จะถ่ายไปทำไมอ่ะ กูไม่ใช่ดารา”


“เขาก็คงปลื้มไง เหมือนไอ้ฝุ่นไม่ใช่ดารายังมีคนชอบเข้ามาขอถ่ายรูปเลย ยางก็มีนะ”


“ก็กูไม่ชอบ วุ่นวายอะไรเล่า”


“ฮ่าฮ่า หงุดหงิดแล้วครับทุกคน”


“ปิดได้ยัง”


“แปปนึงนะครับ อุ้ยย คนดูเกือบหนึ่งพันคนแล้วอ่ะ”


“ไม่มีอะไรทำกันหรือยัง มาดูอะไรกันเยอะแยะ ไม่ใช่หมีแพนด้า”


“ฮ่าฮ่าฮ่า”
“มีคนถามว่า ถ้าเจอพี่ดีนกับน้องยางขอเข้าไปถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคะ….ได้คร้าบบ มาถ่ายได้เลย”


“ไม่ได้”


“อ้าว ทำไมอ่ะ”


“จะถ่ายมึงก็ถ่ายไป อย่ามาถ่ายกู”


“ขอโทษนะครับ พี่ดีนไม่ให้ถ่ายแล้ว แต่ถ่ายยางคนเดียวได้นะ ยางยินดีต้อนรับทุกคนเลยยยยยย”


‘น้องยางน่ารักกกก’
‘ยิ้มเมื่อกี้น่ารักมากเลยลูก’



“น้องยางอุ๋งๆให้ดูหน่อย….. อุ๋งยังไงครับ อุ๋งเองหรอ แบบนี้หรอ”


‘โอ้ยยย อุ๋งเองยังน่ารักกกกกกก ให้พี่ดีนทำ พี่ดีนอุ๋งน้องหน่อยยย’


“พี่ดีน เขาอยากเห็นอุ๋ง”


“อุ๋งอะไร”


“แบบนี้ไง พี่ดีนยืนมือมาแบบนี้ แล้วยางเอาหน้าไปเกยไว้บนมือพี่ดีนแบบนี้”


‘เป็นลมมมมมมมมมมมม น้องยางงงงง’
‘โคตรน่ารักกกก ที่บ้านมีน้องยางอีกมั้ย’
‘อยากมีน้องยางเป็นของตัวเอง’



“ฮ่าฮ่าฮ่า เขาอยากเห็นพี่ดีนอุ๋งบาง มาครับ เอาหน้ามาวางไว้บนมือยางเร็ว”


“ไม่เอา”


“พี่ดีนนน อย่าปัดมือยางทิ้งสิ นะๆ เอาหน้ามาวางบนนี้ วิเดียวก็ได้”


“ไม่เอาไง รำคาญ”


“ฮ่าฮ่าฮ่า นะๆ นิดนึงนะพี่ดีน”


“ไม่เอา”


“อ๊ะๆ ไม่ต้องหันหน้าเขาจอก็ได้ หันมาทางยาง นะครับ ทีนึง”


“มีงนี่มัน”


‘แคปโลดดดดดดดดดดด’
‘โอ้ยยยน่ารัก ช็อตเมื่อกี้’
‘พี่ดีนยอมน้องคนเดียวเลย’
‘ปากบอกไม่ แต่สุดท้ายก็แพ้ทางน้อง’
‘งื้อออ รักคู่นี้’
‘น้ำยางน่ารัก ขอจีบได้มั้ยครับ’



“คนนี้ใคร”


“ไหนครับ”


“เขาบอกจะจีบมึง ใคร”


“ไหนอ่ะ”


‘แอบชอบน้ำยางมานานแล้ว จีบได้มั้ยครับ’


“ไม่ได้!!! แฟนกู”




- LIVE VIDEO WAS END -



“อ้าวพี่ดีน กดปิดเฉยเลยอ่ะ”


“เออ!!! พอ!! ไม่ต้องเล่นมันแล้ว”


“ยังไม่ทันได้บอกลากันเลย”


“ไม่ต้องลาแล้ว ทีหลังก็ไม่ต้องไลฟ์แล้วนะ”


“ทำไมอ่ะ”


“ไม่ชอบ”


“ง่ะ ยางขอโทษ ครั้งหน้าไม่บังคับพี่ดีนมาเล่นด้วยกันแล้ว ยางเล่นคนเดียวก็ได้ พี่ดีนไม่ชอบใช่มั้ยอ่ะ”


“พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น อย่าทำหน้าแบบนี้สิ”


“ก็พี่ดีนพูดเองว่าไม่ชอบ”


“ก็ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย"


“ครับ ครั้งหน้าจะไม่บังคับพี่ดีนแล้ว ขอโทษ”


“พี่ไม่ได้โกธร แต่ไม่ชอบให้ใครมาจีบยาง”


“แหนะ หวงยางด้วยหรอ”


“แฟนใครใครก็หวง” 



Dean97 just posted a photo.

Liked by NamyoungP, Thepee, and Ryuichi and 1,435 others

Dean97 I’m already taken @NamyoungP



Rainbow1234: กรี๊ดดดดดดดดดด รูปคู่รูปแรก
Tarnny67: พี่ดีนคนจริง
Bowvy: พี่ดีนไม่ว่างแล้วนะจ้ะ
Earn11: เขามีเจ้าของแล้ว
Sandy88: แคปชั่นนี้แปลว่า มีแฟนแล้วห้ามจีบ
Tryyyy980: #พี่ดีนน้องยาง
Nanny43: เอาอีกค่ะกัปตัน ลงมาอีกค่ะ เยอะๆเลยค่ะ
NamYoungP: #ห้ามจีบแฟนหวง



Tbc.





แอบมาแปะ ไ่ม่ได้ต่อเนื่องอะไรกับเรื่องหลักเลยค่ะ
มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบของเราเอง 55555555555
เจอกันใหม่ตอนที่ 9 นะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์และกำลังใจค่าาา
รักนะ

ใครเล่นทวิตแล้วอยากติดแท็กก็ใช้ #พี่ดีนน้องยาง ได้นะคะ
ว่าแต่จะมีใครเล่นด้วยมั้ย 555555555

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
น้องยางน่าร้ากกกกก  ส่วนพี่ดีน ให้ตำแหน่งคนขี้หึง2018!!

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
รู้สึกว่าพีดีนเขาก็หวงน้ำยางมากอ่ะ
ปากร้ายใจดีตลอด

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
ซาหนุกกกกก รอค่ะ

ออฟไลน์ เช้าวันพุธ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2


ตอนที่ 9 พาเข้าบ้านแต่ไม่ให้ขึ้นห้อง




   บ้านของพี่ดีนอยู่ห่างจากห้างสรรพสินค้าที่พวกเราไปมาไม่ไกลเลยครับ แต่เพราะการจราจรในตัวเมือง ทำให้ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงบ้านของพี่เขา บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในซอกซอยลึก ถ้าให้ผมมาอีกครั้งคงจำทางเข้าไม่ได้ เพราะต้องเลาะซอยนู้นโผล่ซอยนี้ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาอยู่หลายครั้ง จนมาเจอบริเวณบ้านพักอาศัยที่มีแนวรั้วกั้นบริเวณบ้านแต่ละหลังเรียงรายอยู่เต็มบริเวณแต่ไม่ได้รู้สึกแออัด ไม่น่าเชื่อเลยครับว่าจากปากซอยซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้า และเต็มไปด้วยตึกสูง ร้านรวงมากมาย แต่พอขับลึกเข้ามาในซอยก็จะเจอย่านบ้านพักอาศัย ในตอนแรกผมเข้าใจว่าบ้านพี่เขาคงเป็นหมู่บ้านแถบชานเมืองเหมือนอย่างบ้านไอ้ฝุ่น หรือแม้แต่ญาติๆของผมที่ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในเมืองหลวง


เพราะรั้วกำแพงสูงจนมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่หลังผนังสีขาวนี้บ้าง เมื่อรถขับผ่านรั้วเข้ามาในบริเวณบ้าน ทำให้ผมมองเห็นบรรยากาศข้างในได้เป็นครั้งแรก


บ้านพี่ดีนมีขนาดกลาง ไม่ถือว่าใหญ่ฟูฟ่าเหมือนอย่างในละครหลังข่าวที่บ้านพระเอกมักจะเป็นคฤหาสน์หลังโต สิ่งที่ผมรับรู้ได้ในตอนนี้คือบ้านดูอบอุ่น และที่สำคัญร่มรื่นมากเลยครับ ไม่คิดว่าบ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจะมีบรรยากาศร่มรื่นได้ขนาดนี้


พี่ดีนจอดรถไว้บริเวณหน้าบ้าน ไม่ได้เข้าไปจอดตรงโรงรถที่ผมเห็นอยู่ทางซ้ายมือก่อนจะดับเครื่องแล้วลงไปจากรถ แม้พี่ดีนไม่เอ่ยบอกอะไรกับผม แต่ก็ทราบโดยอัตโนมัติว่าคงต้องลงจากรถด้วยเช่นกัน


ผมก็ได้แต่ยืนหันซ้ายหันขวาไม่กล้าก้าวไปไหนเพราะเริ่มประหม่า แล้วจู่ๆก็มีสุนัขตัวใหญ่ขนสีทองสองตัววิ่งเข้ามาชาร์ตผม จนสะดุ้งหงายหลังไปพิงกับตัวรถ


“อ๊ะ” ผมอุทานขึ้นมาเพราะกำลังตกใจ ไม่ใช่เพราะกลัวหมาหรอกนะครับ แต่จู่ๆวิ่งเข้าใส่ไม่ให้ซุ่มให้เสียงก่อนแบบนี้ เล่นเอาใจหายใจคว่ำเหมือนกันนะ แถมมาถึงก็กระโดดเอาขาหน้ามาเกาะตรงพุงผมทั้งสองตัวเลย ท่าทางขี้เล่นน่าดูเลยน้า


“เดนเด็น ไม่เอา” พี่ดีนเอ่ยปามหมาทั้งสอง คงคิดว่าผมกลัว ก่อนจะเดินแทรกเข้ามากั้นผมไว้จากเจ้าตัวอ้วนขนฟู

“ชื่อเดนเด็นหรอครับ” ผมคิดในใจว่าพี่ดีนตั้งชื่อหมาได้มุ้งมิ้งดีแฮะ เพราะเจ้าสองตัวนี้เป็นสุนัขพันธุ์ โกลเด้นรีซีฟเวอร์ครับ

“ป่าว แต่กูเรียกแบบนี้”

“แล้วชื่ออะไรครับ”

“รูฟี่ กับ ช็อปเปอร์”

“วันพีชหรอ”

“อื้อ พี่กูตั้งให้”

ผมพยักหน้างึกงักก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้ๆเจ้าสองตัว แล้วทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า ลูบหัวน้องหมาที่ตอนนี้เริ่มสงบลงเพราะมีพี่ดีนคอยห้าม

“ไม่กลัวหรือไง”

“ไม่ครับ ผมชอบ”

“เมื่อกี้ทำท่าเหมือนกลัว”

“แค่ตกใจครับ จู่ๆวิ่งเข้ามา” ผมเอ่ยบอกพร้อมโน้มตัวเข้าไปกอดเจ้าขนนุ่มตรงหน้า ไม่รู้ว่าตัวนี้คือรูฟี่หรือช็อปเปอร์ “น่ารักจัง ขนนุ๊มนุ่ม”

“ลุกขึ้นมาก่อน อย่าพึ่งไปเล่น เดี๋ยวมันไม่ปล่อยไปไหนนะ”









เมื่อได้ยินแบบนั้น ผมก็ผละออกมาจากเดนเด็นแล้วลูบหัวมันไปตัวละที ก่อนจะเดินตามพี่ดีนเข้าบ้าน

“แม่ล่ะครับ” พี่ดีนเดินเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นห้องนั่งเล่น เพราะมีทีวีจอยักษ์ตั้งอยู่หน้าโซฟาตัวใหญ่ที่มีผู้ชายวัยกลางคนที่ดูภูมิฐานนั่งอยู่ ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดีเพราะเคยเจอที่มหาลัยมาก่อน ท่านอธิการบดีของมหาลัยผมเองครับ

หู้ยยย อยากได้ลูกเสือ ต้องเข้าถ้ำเสือ ประโยคนี้เคยได้ยินมานานแล้วครับ

แล้วลูกแมวแบบผมจะเอาตัวรอดได้มั้ยนะ ขาชักจะสั่นแล้วครับ ฮืออ 




“อยู่ในครัว ทำกับข้าวกันอยู่” คุณพ่อพี่ดีนเอ่ยตอบคำถามลูกชาย โดยมีผมซึ่งยืนหลบอยู่ข้างหลังเขาอย่างประหม่า

“พาใครมาด้วยล่ะ”

“น้องที่มหาลัยครับ”

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ด้วยความเคารพก่อนจะส่งยิ้มที่มีติดตัวกลับไปให้ ถึงแม้ว่าคุณพ่อพี่ดีนท่าทางดูใจดี แต่ผมก็อดเกร็งไม่ได้เลยครับ หนึ่งคือเขาเป็นพ่อของผู้ชายที่ผมแอบชอบ และสองเพราะหน้าที่การงานของท่าน

“ไหว้พระเถอะลูก”

และผมก็ใจชื่นเมื่อได้ยินประโยคถัดมา ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้ยินคำรับไหว้ที่น่ารักนั้น

“อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับหอแล้วกัน ออกไปตอนนี้รถก็ติด” พ่อพี่ดีนเอ่ยชวน เมื่อผมตามไปนั่งลงบนโซฟาข้างๆพี่เขา

“ดีนเอาแฟ้มขึ้นไปเก็บให้แม่ก่อนนะครับ” พี่ดีนเอ่ยบอกคุณพ่อ ก่อนจะหันมาบอกผมว่า ‘เดี๋ยวกูมา’

แล้วก็ทิ้งผมไว้ในห้องนั่งเล่นกับท่านอธิการบดี และเจ้าเดนเด็นทั้งสอง ที่ตัวหนึ่งนอนแผ่หลาอยู่หน้าทีวี กับอีกตัวที่นอนซุกเท้าผมอยู่

“ท่านอธิการชอบดูสารคดีหรอครับ” ผมเอ่ยชวนคุย เพราะกลัวว่าจะเงียบเกินไป และมันคงจะไม่ดีเท่าไรเมื่ออยู่ตามลำพังกับผู้ใหญ่แล้วเอาแต่นั่งนิ่ง ไม่พูดไม่จา

“เรียกอย่างอื่นเถอะลูก เรียกลุงหรือพ่อก็ได้” ท่านตอบกลับมาอย่างใจดีจนอาการเกร็งในตอนแรกเริ่มจางหาย

“คุณลุงชอบดูสารคดีหรอครับ” ใจจริงอยากเรียกคุณพ่อด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจเรียกคุณลุงดีกว่า

“อืม เราดูได้มั้ย หรือจะให้ลุงเปลี่ยนไปช่องอื่นก็ได้นะ”

“ไม่เป็นครับ ไม่เป็นไร ผมชอบดูสารคดีเหมือนกันฮ่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับงูจะรีบกดข้ามเลย”

“ลุงก็ไม่ชอบเรื่องแมลง” คุณพ่อพี่ดีนยิ้มขำกับท่าทางของผม ก่อนจะเรียกเจ้ารูฟี่หรือช็อปเปอร์ก็ไม่รู้ ไอ้ตัวที่นอนแผ่อยู่หน้าทีวีหน่ะครับ ตอนนี้มันย้ายมานั่งตรงหน้านายใหญ่ของบ้าน คุณพ่อพี่ดีนตบเบาะข้างตัวสองสามที ก่อนเจ้าตัวขนนุ่มจะกระโดดขึ้นไปนอนเกยคางบนหน้าตัก ผมมองการกระทำนั้นแล้วเผลอยิ้มออกมา

“แล้วเราชื่ออะไร เรียนอยู่ปีไหนรึ”

“ขอโทษครับ ลืมแนะนำตัวเลย ผมชื่อน้ำยาง พึ่งเข้าปีหนึ่งครับ”

“คณะเดียวกับเจ้าดีนหรือเปล่า”

“เปล่าครับ ผมเรียนทันตะ แต่พักอยู่ห้องตรงข้ามกับพี่ดีน เลยบังเอิญได้รู้จักกันครับ”

“อืม ดีแล้วล่ะ อยู่คนเดียวก็ช่วยๆกันดูแล”

“ครับ” ผมยิ้มรับ ในใจคิดว่าท่านน่ารักจัง ทั้งคำและสายตาที่ใช้มองผม จนอดคิดถึงพ่อกับคุณปู่ไม่ได้เลยครับ ท่าทางใจดีเหมือนผู้ใหญ่ที่บ้านผมเลย

“แล้วเราเป็นคนที่ไหนรึ”

“สุราษฏร์ธานีครับ”

“อย่างนี้นี่เองถึงได้ชื่อน้ำยางใช่มั้ย” ผมยิ้มรับ พยักหน้าอย่างแข็งขัน “แล้วมาอยู่ไกลบ้านแบบนี้ เหงามั้ยลูก ปรับตัวได้หรือยัง”

“เริ่มปรับตัวได้แล้วครับ ช่วงแรกๆก็เหงาเพราะยังไม่ชินเท่าไหร่ แต่พอทำกิจกรรมแล้วก็ยุ่งๆเรื่องเรียนก็ลืมเหงาไปเลยครับ”

“รับน้องสนุกหรือเปล่า พวกพี่เขาทำอะไรรุนแรงเกินไปมั้ย”

แย่แล้วครับ รู้สึกเหมือนกำลังถูกท่านกำลังสัมภาษณ์เรื่องกิจกรรมของมหาลัยเลยแฮะ


“ไม่มีครับ บางกิจกรรมอาจจะเหนื่อยไปบ้าง แต่พวกพี่เขาไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเกินกว่าเหตุเลยครับ คุณลุงวางใจได้เลย” ผมเอ่ยอย่างจริงจังและพยักหน้าหงึกๆ จนชายวัยกลางคนตรงหน้าหัวเราะ


“พ่อครับ แม่เรียกให้ไปทานข้าว” พี่ดีนโผล่เข้ามาในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยชวนพวกเราให้ย้ายทัพไปยังอีกห้อง


“มึงมานี่ก่อน”


ทันทีที่เดินออกมาจากห้องนั่งเล่น พี่ดีนก็คว้ามือผมไว้ ก่อนจะลากผมไปทางบันไดขั้นชั้นสอง


ตอนแรกก็แอบดีใจ นึกว่าพี่ดีนจะพาผมไปทัวร์ห้องนอนตัวเอง

แต่เปล่าเลยครับ

พี่แกลากผมไปยังห้องน้ำใต้บันได ก่อนจะดึงมือผมไปจ่อใต้ก๊อกน้ำตรงอ่างล้างมือ

ปัดโธ่ อดเห็นห้องพี่ดีนเลย


“มึงเล่นกับหมา ต้องล้างมือก่อนกินข้าว”

“ขอบคุณครับ” ผมพึมพำเอ่ยขอบคุณ ตอนที่พี่ดีนหยิบขวดเจลล้างมือมาบีบให้

ยิ่งรู้จัก ยิ่งชอบพี่เขามากขึ้นกว่าเดิมอีก

ถ้ายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไอ้ยางคงหลงรักพี่ดีนในเร็ววันนี้แน่ๆ

 






เมื่อเราเดินมาถึงห้องทานข้าว ก็พบกับผู้หญิงที่มีโครงหน้าคล้ายคลึงกับพี่ดีน ผมรับรู้ได้ทันทีเลยครับว่าท่านคือคุณแม่ของพี่ดีน ตอนนี้กำลังยุ่งกับการจัดโต๊ะอาหาร เมื่อเงยหน้ามาสบตากัน ผมก็ยิ้มทักทายไปก่อนจะยกมือไหว้สวัสดี

“น้องน้ำยางใช่มั้ยลูก มามา ทานข้าวกันจ้ะ” คุณแม่พี่ดีนสวยมากเลยครับ แถมยังใจดีด้วย ผมยิ้มรับแล้วเดินต้อยๆตามหลังพี่ดีน จนเจ้าตัวหันมามองก่อนจะแอบขำที่ผมตามติดเป็นลูกเจี๊ยบ
 
“นั่งนี่” พี่ดีน เลื่อนเก้าอี้ให้ผม เป็นสัญญาณบอกตำแหน่งว่าให้ผมนั่งตรงนี้ ข้างๆเขา

โต๊ะทานข้าวบ้านนี้เป็นโต๊ะกลมครับ ไม่ใช่โต๊ะสี่เหลี่ยมที่มีเจ้าบ้านนั่งหัวโต๊ะ แบบนี้ค่อยลดอาการประหม่าลงได้หน่อย เพราะดูไม่เป็นทางการจนเกินไป

“พอทานได้มั้ยลูก” คุณแม่พี่ดีนเอ่ยถามผม เมื่อเราเริ่มทานอาหารกันไปได้สักระยะ

“ทานได้ครับ อร่อยมากเลย” เอ่ยตอบท่านไปตามตรง ผมเป็นคนทานได้ทุกอย่าง ทุกประเภท และกินอะไรก็อร่อยไปหมด แต่อาหารมื้อนี้อร่อยมากจริงๆครับ เขาถึงบอกว่ากินข้าวที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่ากินที่บ้าน

“แม่ชอบแกงส้มทางใต้มากเลย ได้ยินจากพ่อเขาว่าหนูเป็นคนใต้ใช่มั้ยจ้ะ”

“ใช่ครับ คุณป้าทานเผ็ดได้หรอครับ” เพราะแกงส้มทางใต้รสชาติแตกต่างกับแกงส้มที่กรุงเทพมากเลยครับ แกงส้มที่นี่จะออกรสหวานกว่า และมีกลิ่นกระชาย ผิดจากแกงเหลืองของทางใต้ที่มีความเผ็ดและเปรี้ยวนำ

“ไม่เอาลูก เรียกคุณแม่ดีกว่า คุณป้าฟังดูแก๊แก่”

“แฮ่ ขอโทษครับ”

“ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ไม่ได้จะว่าหนู แค่ได้ยินแล้วรู้สึกแก่ยังไงก็ไม่รู้” คุณแม่พี่ดีนหัวเราะสดใส จริงๆแล้วท่านยังดูสาวอยู่เลยนะครับ แต่เพราะผมเรียกคุณพ่อพี่ดีนว่าคุณลุงแล้วจะเรียกคุณแม่พี่ดีนว่าคุณน้า กลัวพ่อพี่ดีนจะน้อยใจ ก็ลุงกับป้าต้องคู่กันสิครับ

“ดูสิ แม่เธอไม่ยอมแก่ แล้วให้น้องเรียกฉันว่าลุงอยู่คนเดียว” คุณพ่อพี่ดีนเอ่ยประท้วงอย่างหยอกล้อ ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะดีขึ้นจากเดิมจนผมไม่เกร็งแล้วครับ ชักจะหลงรักทุกอย่างที่เป็นของพี่ดีนเข้าแล้วสิ

“คุณลุงก็ไม่แก่ครับ ยังหล่ออยู่เลย” ผมรีบเอ่ยตามความคิดของตัวเอง ไม่ได้จะประจบเลยนะครับ

“ไม่แก่แต่เรียกลุงไม่หยุดหมายความว่ายังไงรึ”

“ง่า ผม..” หันไปมองหน้าพี่ดีน ส่งสายตาให้พี่เขาช่วย แต่เจ้าตัวกลับก้มหน้าทานข้าวต่อเสียเฉย ทำเป็นไม่เห็นผม แต่แอบลอบยิ้มนี่คืออะไรครับ


ไม่คิดจะช่วยกันเลยอ่ะ




“พี่ดีนน” ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา ก่อนจะใช้ข้อศอกสะกิดแขนพี่แกเบาๆ 

“อะไร”

“คุณพ่อพี่ดีน จะโกธรหรือเปล่า” แล้วก็แอบกระซิบถาม

“ก็อย่าเรียกเขาว่าลุง”

“ลุงล้อเล่น จะเรียกลุงหรือพ่อก็ตามใจเถอะ ไม่ต้องทำหน้าคิดมากแบบนั้น” ดูเหมือนพ่อพี่ดีนจะแอบมองผมอยู่ครับ ท่านถึงได้เอ่ยขึ้นหลังจากที่ผมกระซิบคุยกับลูกชายเขา

“ครับ แต่คุณลุงยังไม่แก่จริงๆนะครับ

“เอ้า ลุงก็ลุง” พ่อพี่ดีนขำเสียงดัง เมื่อได้ยินประโยคนั้น ก่อนจะสรุปให้เรียกท่านว่าลุงต่อไปได้

“ว่าแต่น้องน้ำยางหน้าคุ้นๆเหมือนกันนะ”

“ครับ?” จู่ๆคุณแม่พี่ดีนก็เอ่ยทักขึ้นมาให้ผมต้องเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“แล้วไปรู้จักกับพี่ดีนได้ยังไงจ้ะ”

“เจอกันครั้งแรกที่งานลอยกระทงของมหาลัย สมัยที่ผมขึ้นมาสมัครเรียนพิเศษครับ แล้วบังเอิญห้องผมอยู่ตรงข้ามห้องพี่ดีนพอดี เลยตีเนียบเข้าไปทักพี่ดีนเสียเลย” ผมเล่าขำๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เราเจอกันในแต่ละครั้ง


“ไม่ใช่เพราะมึงยุ่งไม่เข้าเรื่องหรือไง ชีวิตกูเลยเหมือนมีลูกหมาตามติด”


“ดีนลูก” แม่พี่ดีนเอ่ยปามพี่เขาเสียงเข้ม เมื่อได้ยินลูกชายตัวเองพูดกับผมแบบนั้น


“ก็น้องมันวุ่นวายจริงๆอ่ะแม่”


“ดีนเคยบ่นว่าอยากมีน้องชายไม่ใช่หรือลูก นี่ไงได้น้องน้ำยางมาเลี้ยงแล้ว” คุณแม่พี่ดีนเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขำ ขณะที่มองหน้าลูกชายที มองหน้าผมที


“ก็ตอนนั้นยังเด็ก แต่ตอนนี้ไม่อยากมีแล้ว”


ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่น้ำเสียงพี่ดีนฟังดูเศร้าๆ

สงสัยจะคิดไปเอง พี่แกคงไม่ได้เศร้า แต่อาจจะนึกรำคาญผมอยู่ลึกๆก็ได้ เหอะๆ

ก็ผมชอบเอาตัวเองไปวุ่นวายกับพี่เขาจริงๆนี่นา 







“ขับรถกลับดีๆนะลูก ถึงแล้วโทรมาบอกแม่ด้วย ไว้แวะมาอีกนะจ้ะน้องยาง” คุณแม่พี่ดีนเอ่ยบอกเมื่อท่านเดินมาส่งพวกเราที่รถ โดยมีคุณพ่อพี่ดีน และเจ้าตัวยุ่งสองตัวเดินตามมาด้วย


“ครับ ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ อร่อยมากๆเลย” ผมเอ่ยขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้ท่านทั้งสอง

“ไว้ครั้งหน้าแม่จะลองทำอาหารใต้” คุณแม่ยิ้มสวย ก่อนจะเดินเข้ามาสวมกอดผมเป็นการบอกลา หลังจากที่เจ้าตัวพึ่งหันไปกอดลูกชายคนเล็ก

ผมชะงักและจมอยู่ในอ้อมกอดของคุณแม่พี่ดีนอยู่นานไม่ยอมผละออก จนท่านยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ

“เหงาๆคิดถึงบ้าน ก็บอกให้พี่เขาพามานอนที่นี่ก็ได้นะจ้ะ”

คงเป็นเพราะผมจำอ้อมกอดของแม่ไม่ได้ พอได้กอดคุณแม่พี่ดีนเลยรู้สึกแปลกๆ ทั้งอบอุ่น และโหยหา ผมพยักหน้าอยู่ในอ้อมอกของท่านก่อนจะตัดใจผละออกมาทั้งๆที่ยังอยากกอดให้นานอีกหน่อย

“ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นยางขอมาที่นี่อีกนะครับ”

“ได้ตลอดเวลาเลยจ้ะ”

 







“เป็นอะไร ง่วงหรือไง”

คงเป็นเพราะผมยังจมอยู่กับบรรยากาศในบ้านหลังนั้น จนไม่ได้ชวนพี่ดีนคุยเหมือนอย่างเคย

“เปล่าครับ แค่กำลังคิดว่าบ้านพี่ดีนอบอุ่นจัง ผมชอบ”

“ก็ปกติเหมือนบ้านคนอื่นนั้นแหละ”

“พ่อแม่พี่ดีนก็ใจดี”

“พ่อมึงก็ใจดี กูจำได้ว่ามึงเคยบอกแบบนั้น”

“ใจดีครับ บ้านผมใจดีทุกคนเลย”

“แล้วเป็นอะไร ทำไมดูเหม่อๆ”

“ผมคงคิดบ้านมั้งครับ”

“เดี๋ยวก็ปิดเทอมแล้ว จะกลับบ้านหรือเปล่า”

“กลับครับ พี่ดีนเคยไปเที่ยวสุราษฏร์หรือเปล่า”

“เคยไปสมุยกับเขื่อนเชี่ยวหลาน”

“ไว้ครั้งหน้าไปเที่ยวบ้านผมมั้ย รับรองว่าอันซีนสุราษฏร์แน่ๆ”

“หึ มีงนี่ชวนกูไปนู้นไปนี่อยู่เรื่อย”

“ก็…อยากให้พี่ดีนไป”

“ไม่คิดว่ากูจะรำคาญบ้างหรือไง”

“คิดแค่ว่าไม่อยากให้รำคาญครับ” ผมเอ่ยอ่อมแอ้ม เพราะแอบคิดไปว่าพี่เขาอาจจะเริ่มรำคาญขึ้นมาจริงๆแล้วก็ได้ “แต่ถ้ารำคาญเมื่อไหร่ก็บอกนะครับ ผมจะได้ไม่ทำ”


“ก็ไม่ได้รำคาญ แต่ถ้ารำคาญเมื่อไรจะบอก”

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอเบอร์พี่ดีนหน่อยนะครับ จะได้ติดต่อกันสะดวกๆไง”

“นี่ยังไม่สะดวกอีกหรือไง”

“ต้องมีเบอร์กันไว้สิครับ รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีเบอร์ติดต่อกัน มันก็ออกจะแปลกๆอยู่นา”

“แค่นี้มึงก็ได้เข้าถึงบ้านกูแล้วนะ”

“แต่ยังไม่มีเบอร์พี่ดีนในมือถือเลย” สรุปจะไม่ให้เบอร์กันจริงๆหรือไง ทำไมเล่นตัวแบบนี้หึพี่ดีน

“เออๆ เอามือถือไปโทรเข้าเครื่องมึง” เจ้าตัวเอ่ยเหมือนจะฉุน แต่ก็ยอมส่งมือถือเขามาให้ผม

“รหัสปลดล็อกครับ” ผมยิ้มรับ ก่อนจะชะงักไปหนึ่งจังหวะ เพราะหน้าจอติดรหัสผ่าน

“มึงนี่น่ารำคาญ 1357”

ผมหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง เมื่อพี่ดีนเอ่ยประโยคเดิมซ้ำๆว่าผมน่ารำคาญ แต่ก็ยังยอมทำตามอยู่ดี

คนอะไรน่ารักจังเลยน้า~



Tbc.







มาแล้วววว~ ไปบ้านพี่ดีนรอบนี้ไม่เจอพี่ริวนะคะ
แต่ไปครั้งหน้าจะเจอมั้ยน้าาา~~ อิอิ
ที่วางโครงเรื่องไว้ตัวน้องน้ำยางไม่ใช่คนที่เราเดายากเลยค่ะ เป็นเด็กที่ไม่มีตื้นลึกหนาบางอะไรเลย
มีแต่แก้มกลมๆอย่างเดียว 55555 ส่วนพี่ดีนนั้น~ เราค่อยๆทำความรู้จักพี่เขาไปพร้อมน้องแล้วกันนะคะ
เรื่องนี้ไม่ซับซ้อน และไม่ดราม่าแน่นอนจ้า วางใจได้เลย
เพราะเราแต่งไว้ฮีลลิ่งตัวเอง  5555
จริงๆเรื่องนี้ไม่ได้ใช่เรื่องแรกที่เราแพลนจะแต่ง
ก่อนหน้านี้เขียนอีกเรื่องไว้ที่ยังไม่ได้เอาลง เขียนได้แค่สองสามตอนก็ขอเบรคไว้ก่อนเพราะต้องวางโครงเรื่องดีๆ เลยเบรคตัวเองด้วยการแต่งเรื่องเบาๆเรื่องนี้ขึ้นมาฝึกมือก่อน แต่เขียนไปเขียนมาเริ่มรักพี่ดีนกับน้องยาง
หวังว่าใครที่เข้ามาอ่านจะเริ่มหลงรักพวกเขาเหมือนเรานะคะ
เรื่องนี้ตัวละครไม่เยอะค่ะ อาจจะมีพูดถึงหลายคนที่อยู่รอบตัวทั้งคู่ แต่พวกเขาเหล่านั้นแทบจะไม่มีบทบาทไรเลย กร้ากกก แต่ตัวละครยังออกมาไม่ครบนะคะ
เป็นนิยายที่ไม่ลงรายละเอียดถึงคู่รอง เน้นไปที่พี่ดีนน้องยางเท่านั้นเลยค่ะ
ใครเล่นทวิตเตอร์เข้าไปพูดคุยกันที่ #พี่ดีนน้องยาง ได้นะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และกดให้กำลังใจจ้า
รักเลยยยย

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่ดีน บ่นน้องแต่ก็ยอมน้องตลอด

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ไม่อยากได้น้องแล้ว...อยากได้อย่างอื่นหรือเปล่านะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
พี่ดีนสายซึนจิงๆ 55555555

ออฟไลน์ เช้าวันพุธ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2


ตอนที่ 10 ไปเดินตลาดในมอด้วยกันมั้ยครับ 





-ดีน-



   ผมเลิกคิ้วขึ้นมองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างชีทที่กำลังจดรายละเอียดเพิ่มเติมจากอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้อง
เมื่อเหลือบไปเห็นข้อความที่ถูกส่งมา ผมจึงละมือจากชีทตรงหน้า วางปากกาลง ก่อนจะหยิบมือถือมาปลดล็อก แล้วเข้าสู่หน้าสนทนาของโปรแกรมแชทที่ช่วงนี้ใช้บ่อยเป็นพิเศษ เพราะมีคนส่งข้อความมาวุ่นวายอยู่เรื่อยๆ

NamyoungP. 
พี่ดีนนนน ยางเลิกเรียนแล้วนะครับบบบ  15:23
ให้ยางเดินไปหาที่คณะมั้ยยยยยย
วันนี้จารย์ปล่อยเร็ว
อเมซิ่งมากๆอ่ะ ดีใจจจจจจจจ


ผมลอบส่ายหน้าเมื่อนึกถึงใบหน้าใสกับแก้มกลมๆ ของเด็กห้องตรงข้าม หลังจากให้เบอร์ติดต่อมันไปวันนั้น ชีวิตผมก็ไม่สงบอีกเลย จริงๆก็ไม่สงบตั้งแต่มันเอาขนมมาจิ้มเสื้อผมแล้วล่ะ

ผมจำหน้าน้องได้ตั้งแต่ตอนนั้น ใครจะลืมลง

ถึงแม้ว่าผมมันจะยาวขึ้นจากเดิม ที่เจอกันครั้งแรกในคืนวันลอยกระทง ก็ตอนนั้นผมมันยังเกรียนตามแบบฉบับเด็กมัธยมอยู่เลย แต่ผมกลับจำมันได้แม่น เพราะแววตาซุกซนนั้นยังคงเหมือนเดิม

ไอ้เด็กจุ้นจ้านคนนั้น

Dean
15:25 แล้วแต่
มึงไม่เอาของไปเก็บห้องก่อน?

NamyoungP.
ของยางไม่เยอะครับ ถือไปได้เลย 15:25
ของพี่ดีนเยอะหรือเปล่า
จะกลับหอก่อนมั้ยครับ

Dean
15.31 ไม่เยอะ
ไปเลยก็ได้

NamyoungP.
โอเคฮ้าบบบบบบ 15.32
งั้นยางเดินไปรอพี่ที่คณะเลยนะ
ตั้งใจเรียนนะครับ ยางไม่กวนแล้วววว

Dean
15.36 อื้อ
กูเลิกสี่ครึ่ง รอไป

NamyoungP.
ได้เลยยยยยย 15.36
-สติกเกอร์-


ผมอ่านข้อความสุดท้ายที่น้ำยางส่งมาให้ ก่อนจะยิ้มนิดๆ เมื่อคิดไปว่าเจ้าตัวพึ่งบอกผมเองว่าให้ตั้งใจเรียน มันจะไม่รบกวนผม แต่ยังคงส่งข้อความมาไม่หยุด

“ยิ้มอะไรของมึง ขนลุก”

ไอ้ปีย์แอบกระซิบถาม เมื่อผมวางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะตามเดิม ก่อนจะหันไปหยิบปากกาเตรียมตัวกลับมาโฟกัสที่อาจารย์ฝรั่งหน้าห้อง

“เปล่า”

“เปล่าอะไร กูเห็นอยู่”

“เสือก”

“แหน่ มีความลับนะมึง”

“ความลับเหี้ยไร เรียนไป เดี๋ยวจอร์ชก็ไล่ออกนอกห้อง” ผมกระซิบเบาๆ บอกไอ้ปีย์ปิดท้าย ก่อนที่เราจะนั่งเงียบกันตามเดิม
คณะของผมเป็นภาคอินเตอร์ การเรียนการสอนเกือบทุกวิชาจะเป็นอาจารย์ต่างชาติที่เก่งมากๆ และแน่นอนว่าทุกท่านค่อนข้างจะเคร่งครัดในเวลาเรียน

กฎของอาจารย์ต่างชาติมีไม่มาก แต่ทุกคนแทบจะยึดหลักเดียวกัน

หนึ่ง ตรงต่อเวลา ต่อให้ช้าเพียงหนึ่งนาที แต่ถ้าแกเริ่มสอนแล้วจะได้รับสายตาคาดโทษ พร้อมกับหันไปมองนาฬิกาให้รู้ว่า คุณมาสาย

ถ้าไม่พูดอะไรแสดงว่าให้รีบเดินไปหาที่นั่ง

แต่ถ้าได้ยินประโยชน์ที่ว่า ‘Sorry, You are late’ นั่นหมายความว่า คุณไม่อนุญาตให้เข้าห้องเรียน เชิญกลับไปได้ และแน่นอนว่าคะแนน attendance ในคาบนั้นจะหายไป ถ้าหายเกิน 3 ครั้ง ก็ไม่มีสิทธิ์สอบ ต้อง withdraw แล้วลงเรียนใหม่ในเทอมถัดไป 

สอง จะแอบหลับ อ่านการ์ตูน เล่นมือถือ อะไรก็แล้วแต่พวกคุณ ผมมีหน้าที่สอน ใครตั้งใจเรียนก็ได้รับสิ่งที่สอนไป แต่ถ้าใครไม่สนใจจะเรียน ก็เรื่องของคุณ แต่ห้ามส่งเสียงดังรบกวนคนอื่น ถ้าอาจารย์แกได้ยินก็จะไล่ออกจากห้องทันที
ส่วนตัวผมชอบกฎระเบียบแบบนี้ เหมือนให้สิทธิ์เราเลือกเอง แต่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น

หลังจากจบประโยค ‘ Have a good weekend’ ของจอร์ช เป็นสัญญาณจบคาบเรียนของสัปดาห์นี้ ผมเอ่ยพึมพำขอบคุณอาจารย์ ก่อนจะเก็บชีทและปากกาลงกระเป๋า ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ โต๊ะพับในห้องเรียนรวมแบบนี้นั่งไม่เคยสบาย

“มึงไปไหนต่อวะ กินเหล้ามั้ยคืนนี้” ประโยคนี้ดังมาจากไอ้ชัช

“กูก็อยากวะ แต่มึงไม่นัดล่วงหน้า คืนวันศุกร์แบบนี้กูไม่อยากไปเสี่ยงยืนรอโต๊ะแล้วไม่ได้เข้านะโว้ย เสียอารมณ์” ไอ้ปีย์บ่นขึ้นมาทันที เพราะร้านประจำที่พวกมันชอบไปเป็นร้านฮิตติดลมบนที่ไม่ว่าวันไหนๆ คนก็แน่นจนต้องจองโต๊ะล่วงหน้าหลายวัน

“กูก็บายวะ คืนนี้จะบินไปภูเก็ต มีนัดเล่นเซิร์ฟแล้ว” ไทเกอร์มันกิจกรรมนอกห้องเรียนเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวสปอร์ต

“ เอ้า สรุปคือไม่ไป”

“อาทิตย์หน้ามั้ยล่ะ เดี๋ยวกูโทรไปจองโต๊ะวันนี้เลย” ไอ้ปีย์ขันอาสา

“เออ ศุกร์หน้าล่ะกัน แล้วพวกมึงไปไหน แดกข้าวก่อนมั้ย”

“เรานัดที่บ้านไว้แล้วอ่ะ คงต้องขอตัว โกเมนเนะ” ผมหันไปมองริวเมื่อได้ยินเจ้าตัวเอ่ยขอตัว พร้อมกับกล่าวขอโทษด้วยคำพูดที่ชอบใช้

“ไม่เป็นไร มึงต้องไปกินข้าวกับพ่อนี่เนอะ ยังไงกูล็อกตัวมึงศุกร์หน้าแล้วกัน ไปคลายเครียดกันหน่อย” ไอ้ปีย์หันไปบอกริว แล้วก็ได้รอยยิ้มของอีกฝ่ายคืนกลับมา

“ดีนจะกลับบ้านเลยมั้ย เราแวะไปส่งได้นะ” ริวหันมาคุยกับผม เมื่อเราเริ่มเคลื่อนทัพออกจากห้องเลคเชอร์

“ไม่เป็นไร เราคงไม่กลับวันนี้”

“แล้วมึงไปไหนวะ” ไอ้ชัชเอ่ยถามขึ้นเมื่อมันได้ยินผมตอบริว

“นัดน้ำยางไว้ ว่าจะไปเดินตลาดในมอ”

“แหน่ เดี๋ยวนี้มึงติดน้องน้ำยางจังเลยนะ กิ๊กกันหรอวะ”

“ก็มันอยู่หอเดียวกับกู”

“คนอยู่หอเดียวกับมึงมีเป็นสิบ ไม่เห็นมึงจะคุยกับใคร”

รำคาญไอ้พวกนี้ฉิบหายเลย

“ดีนสนิทกับน้องน้ำยางหรอ” คราวนี้เป็นฝ่ายริวที่เอ่ยถามผมบ้าง

“ก็ สนิทมั้ง” ผมเองก็ไม่รู้ว่าระดับไหนถึงเรียกว่าสนิท

“พึ่งรู้จักกันไม่ใช่หรอ”

“ก็….รู้จักมาหลายปีแล้ว” จริงๆก็พึ่งรู้จักกันจริงจังตามที่ริวเข้าใจ แต่ไม่รู้ทำไมผมกลับเอ่ยบอกริวไปแบบนั้น

“นั่นไงน้องน้ำยางมานั่งรอมึงแล้ว” ไอ้ปีย์เอ่ยขึ้น พร้อมกับหันมาตีไหล่ผมเต็มแรง ก่อนจะยิ้มล้อ

เป็นบ้าอะไรของมึงว่ะ ตีกูทำเหี้ยไร


“น้องยางคร้าบบบบบบ มาหาพี่ชัชหรอ” เป็นไอ้ชัชที่วิ่งไปหาไอ้เด็กจุ้นจ้านที่นั่งดูน้ำโค้ก แก้มมันยุ้ยเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือแก้มมันขึ้นสีแดงจางๆเหมือนลูกพีช สงสัยจะร้อน

“สวัสดีครับ” มันยิ้มร่าตามแบบฉบับของมัน ไอ้เด็กนี่มันยิ้มง่าย ไม่ว่าจะอยู่ไหนอารมณ์ไหนก็จะเห็นมันยิ้มอยู่บ่อยๆ

“น้องยางมาหากูไม่ใช่มึง” คราวนี้เป็นไอ้ปีย์ที่ตบหัวไอ้ชัชไปหนึ่งที

“ผมมาหาพี่ดีนครับ” แต่ไอ้เด็กตรงข้ามห้องกลับเอ่ยขึ้นมาเสียตรงทื่อ ไม่ได้คิดจะรับมุกเพื่อนผมเลยสักนิด สงสัยจะตามไม่ทัน

“ฮ่าฮ่าฮ่า สมน้ำหน้าเชี้ยปีย์ ได้ยินชัดมั้ย”

“มึงก็ด้วยแหละไอ้สัด” ไอ้ปีย์หน้าบูด หันไปด่าไอ้ชัช

“พวกพี่ๆไปเดินตลาดด้วยกันมั้ยครับ” น้ำยางมันคงเห็นท่าไม่ดี เลยรีบเอ่ยชวน ถ้าเป็นคนอื่นคงเข้าใจว่าพวกเวรนี่มันล้อเล่น แต่ให้ผมเดา น้ำยางมันต้องคิดจริงจังว่าไอ้สองคนนี้เคืองมันอยู่ ถึงได้รีบชวนด้วยสีหน้าแบบนั้น

เพราะชอบทำหน้าตาน่าแกล้งแบบนี้ไง

“พวกกูไปด้วยได้มั้ย” เป็นไอ้ชัชที่หันถามผม ให้ต้องขมวดคิ้วยุ่ง อยากไปก็ไปสิวะ จะถามกูทำไม

“แล้วแต่มึง พ่อกูไม่ได้เป็นเจ้าของตลาด”

“แต่พ่อมึงเป็นคนเซ็นอนุญาตให้เปิดตลาดมั้ยล่ะ” ก็ถูกอย่างที่มันว่า

“พี่ริวไปด้วยกันมั้ยครับ” น้ำยางมันเปลี่ยนสีหน้ากลับมายิ้มตามเดิม เมื่อได้ยินผมคุยกับไอ้ชัชไอ้ปีย์ ก่อนจะหันไปถามริวที่ยืนอยู่ข้างๆผม

“ไม่ล่ะ ขอตัวนะ” ริวเอ่ยสั้นๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้น้ำยางนิดๆ ผมแอบเห็นสีหน้าน้ำยางสลดลงไปนิดนึงด้วย ไม่รู้ในหัวมันคิดอะไรอีก

“งั้น ขับรถดีๆนะครับ” เป็นน้ำยางที่เอ่ยประโยคนี้

“อื้อ เรากลับก่อนนะ” ริวรับคำ ยิ้มให้น้องมันนิดหน่อย ก่อนจะหันมาเอ่ยลาพวกผม





ครั้งนี้ผมจะไม่พลาด ต้องลากพวกมันไปยังร้านอาหารตามสั่งเจ้าดังเป็นที่แรก ที่นี่มีเมนูหลากหลายทั้งส้มตำ ข้าว และก๋วยเตี๋ยว ถ้าปล่อยให้เดินรอบตลอดก่อน รับรองไว้ไอ้เด็กข้างๆผมมันต้องได้ของกินมาเต็มมือ แล้วไม่ยอมกินข้าวอีกแน่ๆ

จากที่แอบสังเกต น้ำยางมันตัวเล็ก ไม่ใช่เด็กอ้วนอะไร แต่ก็ไม่ได้รูปร่างผอมบางเหมือนอย่างริว

น้ำยางมันเตี้ย มีเนื้อมีหนังเหมือนคนสุขภาพดีตามปกติ แต่พอเห็นของที่มันชอบกินแล้วชักเครียด

ไม่รู้ว่ามันเคยตรวจสุขภาพจริงจังหรือเปล่า อยากจะรู้จริงๆว่าไขมันและน้ำตาลในเลือดมันจะสูงขนาดไหน

มันไม่ใช่เด็กติดขนมหรือสายของหวาน

จะเรียกให้ถูกคือมันกินได้ทุกอย่าง แล้วก็ดูจะมีความสุขมากที่ได้กิน

เด็กจริงๆ



“เอามาม่าต้มยำรวมมิตรครับ” น้ำยางมันบอกไอ้ปีย์ที่กำลังจดเมนูอาหารลงกระดาษ พวกเราตัดสินใจสั่งมากินด้วยกัน ตอนนี้รายการอาหารเกือบเต็มหน้ากระดาษแล้วครับ ทั้งที่มากันแค่ 4 คนแท้ๆ

“มาร้านข้าวแล้วยังจะสั่งมาม่า” ผมเอ่ยบอกมัน ไม่เข้าใจว่าจะกินมาม่าทำไม

“ก็มันเป็นเมนูแนะนำ เห็นมั้ยครับ สั่งกันหมดทุกโต๊ะเลย”

แต่ก็จริงอย่างที่มันบอก

“พี่ดีนเอาอะไรเพิ่มอีกมั้ยครับ” น้ำยางมันถามผม ก่อนจะขยับมาใกล้เสียจนไหล่เราชิดกัน แล้วมันก็หยิบเอาเมนูในมือผมไปพลิกไปมา เหมือนจะชวนผมหาเมนูเพิ่ม

“สั่งไปเยอะแล้ว”

“แต่พี่ดีนไม่เห็นสั่งอะไรเลย อ๊ะ เอาอันนี้มั้ยครับ กุ้งอบวุ้นเส้น ปูผัดผงกะหรี่ก็มีนะ พี่ดีนชอบอาหารทะเลใช่มั้ยอ่ะ”

“ที่สั่งมาก็เยอะแล้ว เดี๋ยวกินไม่หมด” ผมตัดปัญหาด้วยการคว้าเมนูในมือน้ำยางมาปิด ก่อนจะเลื่อนไปทางซ้ายมือผมให้พ้นจากตัวมัน

“ง่ะ ยังดูไม่หมดเลย พี่ดีนเอามาก่อน” มันก็ดื้อตามแบบของมันเหมือนเคย หันมาทำหน้ามุ่ยใส่ผม แล้วเอื้อมมื้อไปคว้าเอาเล่มเมนู แต่ผมก็ดันมันออกห่างไปให้ไกลกว่าเดิม

“พี่ดีนเอามาดูก่อนนนน”

“พอแล้ว เดี๋ยวมึงก็สั่งอีก กินที่สั่งมาให้หมดก่อน”

“เอามาดูเฉยๆก็ได้” มันยังไม่ยอมแพ้ ผมมองหน้ามุ่ยๆ ที่แก้มขึ้นสีอมชมพูเพราะอากาศร้อน

“ไม่ต้องดู ไม่กินร้านอื่นหรือไง”

โอเคครับ ผมจับทางมันได้แล้ว เพราะหลังจบประโยคนี้ มันก็นิ่ง หันไปคว้าแก้วน้ำของตัวเองขึ้นมาดื่ม

ผมลอบยิ้มเมื่อเห็นมันยอมสงบ เหมือนลูกหมาจริงๆแฮะ ก่อนจะหันไปเห็นสายตาของเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ไอ้ปีย์ที่ในมือยังกำปากกาไว้ เงยหน้าขึ้นมาจ้องผม

และไอชัชที่ถือเมนูเปิดค้างไว้ แต่สายตาไม่ได้อยู่ตรงนั้น

“เอ้า พอแล้วไอ้เหี้ย สั่งมาถมที่หรือไง” แล้วก็เป็นไอ้ชัชที่ได้สติก่อนใคร เปลี่ยนไปคว้ากระดาษจนเมนูในมือไอ้ปีย์ก่อนจะตบหัวเพื่อนข้างกายเบาๆ ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเห็นว่าผมจับได้ว่าพวกมันแอบมองผมกับน้ำยางอยู่

ได้แต่ถอนหายใจกับตัวเอง หันไปมองเด็กวุ่นวายข้างๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับชาวบ้านเขาเลย เพราะเปลี่ยนไปนั่งไถทวิตเตอร์ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย

ผมพึ่งรู้ว่ามันติดโชเชี่ยล

แต่ไม่ได้ติดแบบที่ชอบโพสอะไรเยอะแยะ

แต่มันชอบส่องคนอื่นทั้งวัน

ก็ไม่เห็นมันจะโพสอะไร นอกจากกดแชร์ร้านอาหาร สถานที่เที่ยว และแชร์โพสต่างๆเพื่อเอาส่วนลดตามร้านค้า

ที่รู้เพราะมันจัดการเอามือถือผมไปกดเป็นเพื่อน กดติดตาม ในทุกแอพพลิเคชั่นที่มันและผมใช้


บอกแล้วว่าน้ำยางมันน่ารำคาญ




“น้องยางกินเผ็ดโคตรเก่ง กูยอมแพ้เลย” ไอ้ปีย์มันพูดขึ้นมาหลังจากซัดโค้กหมดไปสองขวด

“ชินครับ อาหารใต้รสจัดทั้งนั้นเลย”

“จะเปลี่ยนจานใหม่มั้ย” ผมถามมันหลังจากหันไปเห็นว่าในจานมันมีเศษซากหอมใหญ่ ต้นหอม ผักชีฝรั่ง อยู่เต็มขอบจานไปหมด แต่ก็ไม่ได้ดูสกปรกอะไร

“ไม่เป็นไรครับ น่าเกลียดหรอ” น้ำยางมันเงยหน้ามาถามผม สีหน้ามันดูกังวลอีกแล้ว ไม่รู้กังวลอะไรของมัน

“เปล่า เดี๋ยวมึงกินไม่ถนัด จานใบเล็ก”

“สบายมาก” เจ้าตัวหันมายิ้มกว้างให้ผมจนตาหยี ปากมันแดงเพราะรสชาติอาหารที่จัดจ้าน

ได้ยินมันกินไป สูดน้ำมูกไป คงจะเผ็ดเอาเรื่องอยู่ แต่ก็ยังสู้ไม่ถอย

สายกินจริงๆ ไอ้เด็กนี่





-น้ำยาง-


   หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็มาเดินเล่นในตลาดกันต่อครับ


ผมชอบตลาดในมอมาก เพราะของกินเต็มไปหมด แล้วยังมีของพวกของใช้ เสื้อผ้า กระเป๋า อีกเพียบ และที่สำคัญ ราคาไม่แพงเลยครับ เป็นมิตรต่อเด็กๆ นักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้แบบพวกเรามาก ผมได้เสื้อยืดสีม่วงมาหนึ่งตัว กับเคสมือถือลายหมีสามตัว ที่ยืนซ้อนกันเป็นชั้นๆ ไม่รู้มันชื่อว่าอะไรกันบ้าง แต่น่ารักจนผมอดใจไม่ไหว ต้องซื้อมาเปลี่ยน


พี่ปีย์ กับ พี่ชัช ก็ได้เคสใหม่มาคนล่ะอัน แต่พี่ดีนกลับยืนรอพวกเราเลือกของอยู่เงียบๆ ไม่ได้ซื้ออะไรอยู่คนเดียว

“อันนี้ก็น่ารัก พี่ดีนไม่ชอบหรอ” ผมยื่นเคสลายหมีสีน้ำตาลทำหน้าบึ้ง เห็นแล้วนึงถึงพี่ดีนเลยครับ หน้าเหมือนเป๊ะ
ผมคิดในใจก่อนจะหัวเราะออกมา ตอนที่หยิบเคสนั้นไปเทียบกับหน้าพี่ดีน

“ไม่เอา” เจ้าตัวทำหน้ายุ่งเหมือนหมีในเคส ก่อนจะปัดมือผมออก
ผมยิ้มขำ ก่อนจะหยิบเคสลายหมีหน้าบึ้งกับเคสอีกอันที่ตัวเองเลือกไว้ ไปจ่ายตัง

“อยากกินไอติมอ่ะ” ผมบ่มงึมงำกับตัวเอง เมื่อเราเดินผ่านร้านขายไอติมโบราณ ผมจำชื่อได้แล้วครับว่าคนที่นี่เขาเรียกกันแบบนี้

“ยังไม่อิ่มอีก”

“ก็มันยังเผ็ดๆอยู่เลย อยากได้อะไรเย็นๆ”

“ไปซื้อน้ำเปล่ามากินดิ”

“ไม่เอาอ่ะ ไม่เหมือนกัน” พี่ดีนไม่เข้าใจอีกแล้ว เวลาเผ็ดๆ คนเรามันต้องกินอะไรเย็นๆหวานๆไปล้างปากสิ “พี่ชัชพี่ปีย์ กินไอติมมั้ยครับ” หันไปชวนพี่สองคนก็ได้

“เอาดิ” นั่นไง ไม่ผิดหวังเลย

ผมยิ้ม วิ่งไปหาพี่ปีย์พี่ชัชที่เดินนำหน้าอยู่ก่อน แล้วพวกเราก็มุ่งตรงไปยังร้านขายไอติม โดยมีพี่ดีนเดินตามอยู่ข้างหลัง


“กินบ้าง”

ผมเหลือบตาขึ้นไปมอง พี่คนหล่อที่เดินอยู่ข้างๆ

“แล้วเมื่อกี้ไม่ซื้ออ่ะ” แหนะ เห็นมั้ยล่ะ ตัวเองก็อยากกิน ทำเป็นเข้ม

“จะแย่งมึงกิน งกหรือไง”

“อ่ะ” ผมยืนไอติมรสชาไทยในมือไปให้พี่ดีน เจ้าตัวเอื้อมมือมาคว้าข้อมือผมที่ถือไอติมไว้ แล้วกัดลงมาคำใหญ่

“ฮื่ออ หาไปเกือบครึ่งเลย” ผมยู่ปาก มองไอติมแหว่งๆในมือ

แกล้งผมแน่ๆ ปกติพี่ดีนไม่ชอบกินอะไรแบบนี้ แต่นี่จงใจกัดไปตั้งเยอะอ่ะ

“พึ่งรู้ว่ามึงงก”

ยังจะทำหน้าแบบนั้นอีก ถึงผมจะชอบพี่มากขนาดไหน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่กล้าว่านะ กวนตีนอ่ะ
แฮ่ ก็ได้แต่ว่าในใจแหละครับ ขืนพูดออกไป คงได้ตีนของจริง


“ไม่ได้งก ก็พี่ดีนแกล้งยางอ่ะ”

“กูแกล้งอะไรมึง”

“นี่ไง” ผมยื่นหลักฐานที่แหว่งไปครึ่งแท่งให้พี่ดีนดู

“ไม่กินแล้วหรอ กูเอาไปทิ้งให้”

“เห้ย ไม่ใช่” ผมรีบหันไอติมหลบ เมื่อมือแกร่งทำท่าจะหันมาคว้าเอาไอติมชาไทยในมือผมไปจริงๆ

“รีบกินเข้า ละลายหมดแล้ว”   

ผมพยักหน้ารับ เมื่อเห็นว่าไอติมเริ่มละลายตามที่พี่ดีนบอก
พวกเราเดินตามหลังพี่ปีย์กับพี่ชัชไปเรื่อย หยุดดูบ้างบางร้าน โดนส่วนใหญ่จะเป็นพี่ปีย์กับพี่ชับที่แวะดูของ เพราะพี่ดีนไม่ได้สนใจจะซื้ออะไร
ผมเองก็ไม่ได้อยากได้อะไรเพิ่ม อิ่มแล้ว คืนนี้ฝันดีแล้วล่ะครับ



“วันศุกร์หน้าน้องยางว่างมั้ย ไปเที่ยวกัน ชวนฝุ่นไปด้วย”

“ว่างครับ แต่ฝุ่นผมไม่แน่ใจ ต้องถามมันก่อน จะไปไหนกันหรอครับ” ผมเอ่ยถามพี่ปีย์เมื่อเราเดินกลับมาถึงคณะวิศวะ ที่มีรถพี่ปีย์และพี่ชัชจอดอยู่

“ผับ สนใจป่าว เคยไปหรือยังเราหน่ะ”

“ยังเลย ไปครับไป” ผมเอ่ยตอบตกลงไปโดยไม่ต้องหยุดคิด แล้วคิดว่าไอ้ฝุ่นเองก็เช่นกัน ผมยังไม่เคยเที่ยวกลางคืนตามร้านแบบนี้เลย อยากลองไปเหมือนกันแฮะ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉิบหายแล้วมึง พาลูกเขาหนีเที่ยวป่าววะ” พี่ชัชขำเมื่อเห็นท่าทางของผม จนผมต้องยิ้มเขิน

“ไม่เป็นไรครับ พ่ออนุญาตแล้ว”

“หืออ พ่อรู้ได้ไง” พี่ชัช เลิกคิ้วถาม

“พ่อเคยบอกครับ ประสบการณ์ชีวิต อนุญาตให้ไปได้ ” พ่อผมเคยบอกไว้จริงครับ ก่อนจะย้ายขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพ พ่อเรียกผมไปนั่งคุยอยู่ตั้งนาน สอนนู้นนี่ แนะนำว่าถ้ามีโอกาสก็ใช้ชีวิตให้เต็มที่เท่าที่เราอยากทำเลย แต่ต้องมีสติ และไม่ยุ่งกับสิ่งผิดกฎหมาย

“แล้วพี่ดีนไปด้วยมั้ยครับ”

“มันต้องไปอยู่แล้วล่ะ ต้องไปเฝ้าไอ้ริว”

ผมเกือบสะดุดขาตัวเองล้ม เมื่อได้ยินคำตอบนั้นจากปากพี่ปีย์ และเมื่อหันไปมองพี่ดีน ก็เห็นเจ้าตัวไหวไหล่ เหมือนเป็นเรื่องปกติ


 อ่า~ หายใจไม่ออกเลยแฮะ


Tbc.






วันนี้มาดึกเลย ดีใจน้องหมูได้ออกจากถ้ำมา 4 คนแล้ว ที่เหลือรีบตามออกมานะ ขอให้ทุกคนปลอดภัย
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ ขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่เรื่อยๆนะคะ
#พี่ดีนน้องยาง
อันนี้ทวิตเตอร์เราเอง เปิดไว้สำหรับพูดคุยเรื่องนิยายค่า~ @hidebehindback


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
คนแอบรักก็จะเสียศูนย์ง่ายๆหน่อยค่ะ 55555 สงสารน้ำยาง

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ตบแยบทำร้ายอักแล้วอ่า  ¥__¥ สงสารน้ำยาง  โดนคนแต่ง เอ้ย พี่ดีนและผองเพื่อนทำร้ายเบาๆ  :katai1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
มันก็จะหน่วงๆไป

 :ling1:
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
พี่ดีนมาเคลียร์ให้ชัดๆเลยนะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โถ่ววววว น้องยางไม่ต้องสะดุดลูก
แต่เรื่องมริว มันก้อเปนประเด็นที่ค้องเคลียร์แหล่ะน๊าาาา

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เอ๊ะ ริวนี่ยังไง เคลียร์เลยยยย

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ เช้าวันพุธ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2

ตอนที่ 11 ใกล้หรือไกล


ผ่านมาเป็นเดือนแล้วที่ผมเอาตัวเข้าไปวุ่นวายใกล้ชิดกับพี่ดีน เกือบทุกเย็นที่เรามีนัดกินข้าวกัน ถ้าวันไหนใครสักคนเลิกช้า หรือติดทำงานที่คณะจนกลับหอดึกดื่น อีกคนจะซื้อข้าวไว้ให้ แล้วรอทานพร้อมกันที่ห้องใครสักคนสลับกันไปแล้วแต่วัน พวกเราไม่ได้ตกลงกันเป็นเรื่องเป็นราวหรอกครับ ไม่รู้เมื่อไรเหมือนกันที่มันลงล็อกแบบนี้

เสาร์ อาทิตย์ที่พี่ดีนกลับบ้านตามปกติ ผมก็จะนอนเล่นอยู่ที่หอคนเดียว ผมไม่ได้แวะไปบ้านพี่ดีนอีกเลยหลังจากวันนั้น คิดถึงเจ้าหมาตัวอ้วนขนฟูทั้งสองเหมือนกันแฮะ คิดถึงแม่พี่ดีนด้วย

ถึงแม้ผมไม่ได้แวะไปที่บ้านพี่ดีน ทุกครั้งที่พี่เขากลับมามักจะหอบเอาอาหารและขนมติดไม้ติดมือมาฝากทุกครั้ง เจ้าตัวบอกว่าแม่ฝากมาให้ผมครับ

แฮ่ ดีจัง~ 

ผมคิดว่าเราสนิทกันมากขึ้น แต่ความสัมพันธ์ไม่ขยับไปจากเดิมเท่าไหร่

จะให้ขยับได้ยังไงล่ะครับ ในเมื่อผมยังไม่ได้ลงมือจีบพี่เขาเลย

เกิดมาไม่เคยจีบใคร และไม่เคยมีใครมาจีบ ประสบการณ์อะไรไม่มีหรอกครับ ใช้สถานการณ์ บวกกับความพยายามล้วนๆ หวังว่าพี่ดีนพอรับรู้ได้บ้างนะครับ ว่าที่ผมเอาตัวเข้าไปวอแว วุ่นวายกับเขาบ่อยๆเนี้ย เพราะว่าผมอยากอยู่ใกล้พี่เขาตลอด

ได้แต่ภาวนาในใจ ขอให้มันเป็นไปด้วยดีเถิด

เอ๊ะ หรือผมควรไปไหว้พระขอคู่ ตามที่มีรีวิวในอินเตอร์เน็ตดีครับ

ไม่สิ!! มีที่ไหนศักดิ์สิทธิ์ ไปกราบไหว้ แล้วท่านใจดีมอบพี่ดีนให้ผมบ้างครับ ผมไม่เองมาก ขออะไรเยอะแยะเลย ขอแค่พี่ดีนเอง
   


แต่ใช่ว่าผมตามติดพี่ดีนแจตลอดทั้งวันหรอกนะครับ ยังไม่ถึงขนาดนั้น และไม่คิดจะทำถึงขั้นนั้นด้วย มันออกจะดูน่ากลัวเกินไป
กลางวันพวกเราก็ใช้ชีวิตตามปกติ แถมคณะผมกับคณะพี่ดีนก็ไม่ได้ใกล้กันเลย ถ้าให้เดินไปที่ตึกพี่เขาก็ใช้เวลาเป็นสิบนาทีเหมือนกันครับ

ผมยังมีเพื่อนคบอยู่นะครับ ไม่ได้ตัวคนเดียว คอยแต่จะวิ่งตามพี่เขา แฮ่ะๆ ยังสนิทกับเพื่อนในคณะดีอยู่ กลางวันก็พากันยกโขยงไปกินข้าวด้วยกันที่โรงอาหาร บางวันก็จับกลุ่มกันไปหาของกินอร่อยๆใกล้มหาลัย

“มึงจะให้กูมารับหรือไปพร้อมพี่ดีน”

ฝุ่นถามขึ้นระหว่างที่เรากำลังกวาดข้าวของบนโต๊ะลงกระเป๋า คืนนี้เรามีนัดกับกลุ่มพี่ดีน หลังจากวันนั้นที่พี่ปีย์ฝากผมชวนฝุ่นให้ไปเที่ยวด้วยกัน มันแทบไม่เสียเวลาคิดอย่างที่ผมเดาไว้ตั้งแต่แรก  แต่เพราะวิชาเรียนวันนี้แน่นทั้งเช้าและบ่าย สูบเอาพลังไปใช้จนหมดหลอด สภาพผมกับไอ้ฝุ่นตอนนี้เลยไม่ต่างกันเท่าไร นี่ถ้าไม่มีนัดจะรีบกลับไปอาบน้ำแล้วกระโดดลงเตียง

ยังไม่ทันจบเทอมแรกเลย ผมเริ่มเห็นอนาคตตัวเองอยู่รำไร ต่อไปต้องเรียนหนักจนหัวฟูแน่เลย ไม่ได้การล่ะครับ เกิดยุ่งเรื่องเรียนไม่มีเวลาไปวอแวพี่ดีน แล้วถ้าระดับความสนิทของผมและพี่เขาลดลง คงต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ 

ฉะนั้น ช้าไม่ได้แล้วครับ ต้องจีบให้ติดก่อนขึ้นปีสอง!!

ผมตั้งปณิธานเอาไว้ในใจ กับเรื่องเรียนไม่รู้ว่าตั้งใจขนาดนี้ด้วยหรือเปล่า


“ไปพร้อมพี่ดีน เจอกันที่ร้านเลย”
“มึงนี่สนิทกับพี่เขาจังเลยนะ เลิกเรียนปุ๊บ กูหมดประโยชน์ทันที” ฝุ่นมองหน้าผมด้วยสายตาหมั่นไส้
“อะไรเล่า ก็ฝุ่นรีบกลับบ้านไม่ใช่หรอ ทิ้งเราเองแล้วยังจะหาว่าเราทิ้ง” ผมบึนปากใส่มันกลับหนึ่งที
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้น กูหมั่นไส้อยากหยิกปากมึง”
ผมหัวเราะขำ สะบัดหน้าหนีอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าฝุ่นมันเอาจริง นี่จะหยิกเพื่อนได้ลงคอเลยหรอ ใจร้าย

“ไอ้ยาง กูถามอะไรหน่อยดิ”
“อื้อ ถ้าไม่ใช่ความลับเราจะยอมบอกให้” ยังคงเล่นลิ้นกับเพื่อนไปเรื่อย ทั้งๆที่จับน้ำเสียงของฝุ่นได้ว่าครั้งนี้มันจริงจัง
“มึง ชอบพี่ดีนหรอวะ” ฝุ่นหันมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นใครเหลืออยู่ในห้อง ก็เริ่มพูดต่อ
“คือ.. กูแอบสังเกตมาสักพักแล้ว เห้ยๆ กูไม่ได้ว่าอะไร แค่ถามให้แน่ใจไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น”
ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนจนไอ้ฝุ่นต้องเอ่ยทัก แต่ที่แน่ๆ ผมไม่ได้ตกใจที่เพื่อนสนิทจับความรู้สึกผมได้ เพราะไม่ได้คิดปิดบังอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ทันตั้งตัวที่จู่ๆมันมาถามแบบนี้

“มึงไม่ต้องกลัวว่ากูจะรังเกียจหรืออะไรนะเว้ย นี่ปี2018แล้ว ใครเขามาเหยียดเพศกัน กูรับได้ไม่ว่ามึงจะเป็นยังไง”
“เอ่อ…คือเราก็ไม่ได้กลัวฝุ่นเกลียดหรอก เรารู้ว่าฝุ่นไม่ใช่คนแบบนั้น แค่ไม่ทันได้ตั้งตัวหน่ะ”
“แล้วตกลงว่าไง?”
“ก็…อื้อ ตามนั้นแหละ”
“นั่นไงกูว่าแล้ว เจอพี่ดีนทีไรมึงนี่หางกระดิก”
“เห้ยยย เราดูแรดขนาดนั้นเลยหรอ” นี่ผมเก็บอาการไม่อยู่ขนาดนี้เลยหรอวะ
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้ยาง เปล่าเว้ย กูแค่ได้ยินคำว่าพี่ดีนออกจากปากมึงบ่อยก็เท่านั้นแหละ”
“ตกใจหรือเปล่าที่เรา เอ่อ…ชอบผู้ชาย” ผมเอ่ยออกมาเบาๆเหมือนกลัวใครจะได้ยิน ท้ายประโยคมีขยับเข้าไปกระซิบใกล้หูเพื่อนสนิท ยกมือขึ้นป้องปาก จนมันหัวเราะเสียงดัง ให้ผมต้องตีไหล่มันไปเต็มแรง
“โอ๊ยย มือหนักฉิบหาย” ไอ้ฝุ่นลูบมือตรงตำแหน่งที่ผมฝากฝามือไว้ “ก็พอเดาออกอยู่หรอก มึงดูไม่เหมาะจะเป็นผัวใคร”
“ก็ไม่เคยคิดอยากเป็นหรอกนะ แต่แบบ ดูออกง่ายขนาดนั้นเลยหรอกวะ” ผมไม่ได้พยายามปิดรสนิยมตัวเอง แต่ก็มั่นใจอีกแหละว่าไม่ได้ออกตัวแรงขนาดสังเกตได้ง่ายแบบนั้น

เอ๊ะ หรือผมไม่รู้ตัวครับ แบบคิดไปเองคนเดียว


“ไม่หรอก กูอยู่กับมึงบ่อยด้วยมั้ง เลยจับสังเกตได้”
“อ่ออ ขี้เสือกนี่เอง”
“เดี๋ยวเถอะมึง”

ผมหัวเราะร่า เมื่อไอ้ฝุ่นยกเท้าขึ้นถีบก้นผมเบาๆให้ต้องวิ่งหนี

“รู้แบบนี้แล้วระวังผีผลักนะ อยู่ใกล้เราบ่อยๆหน่ะ”
“ถุ้ย”
“ทำเป็นเล่นไป อย่ามาหลงเสน่ห์เรานะ” ผมยิ้มล้อเพื่อนตัวเองอย่างสนุกสนาน ตั้งแต่เปิดเทอมมาก็มีฝุ่นเนี้ยแหละครับที่คอยอยู่ข้างๆผม ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน จนเริ่มสนิทกันมากขึ้นช่วงทำกิจกรรมรับน้อง กลายเป็นว่าผมมีฝุ่นเป็นเพื่อนที่สนิทใจที่สุดเพียงคนเดียว จริงๆแล้วเพื่อนคนอื่นในคณะผมก็สนิท คุยเล่นกันได้ ไปเที่ยว ไปกินข้าวด้วยกัน แต่กับฝุ่นจะอยู่ในจุดที่พิเศษกว่าใครในคณะ และผมมั่นใจว่าความสัมพันธ์ของเราคือเพื่อนจริงๆ โดยที่ไม่มีใครสักคนเผลอคิดเกินเลย จึงกล้าพูดเล่นกับมันไปแบบนี้

“โธ่ น้องยางครับ ระดับพี่ฝุ่นคนนี้ภูมิต้านทานดี เสน่ห์แบบเด็กหัดคลานอย่างมึงทำอะไรพี่ฝุ่นสุดหล่อไม่ได้หรอก” พูดจบก็ผลักหัวผมหนึ่งทีเหมือนอย่างที่ชอบทำเวลานึกหมันเขี้ยว

“กูเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้อง พอได้รู้จักมึง ทำให้กูนึกขึ้นได้ว่าตอนเด็กๆเคยอ้อนขอน้องจากแม่ มึงเองก็น่าเอ็นดูจนกูอยากเอามาเลี้ยง”
“ทำไมฟังดูเหมือนตัวเองเป็นหมา”
“เออ เหมือนอยู่นะ” ไอ้ฝุ่นว่าพร้อมส่งมือมาเกาคางผมเล่น
“เพราะฉะนั้นคิดว่ากูเป็นพี่มึงอีกคนก็ได้ มาอยู่ไกลบ้านคนเดียวแบบนี้มึงอาจจะเหงา”
“อายุเท่ากันแท้ๆ อยากแก่กว่าเราซะงั้น”
“ทั้งหมดที่จะบอกคือ ถ้ามึงมีปัญหาอะไร ไม่ว่าเรื่องไหน มึงยังมีกู โอเค๊?”

ผมเข้าใจดีถึงสิ่งที่ไอ้ฝุ่นอยากจะบอก มันคงกลัวผมผิดหวังกับความรักล่ะมั่ง เลยพยายามบอกเป็นในๆว่าผมยังมีมันที่คอยให้คำปรึกษาและคอยอยู่เคียงข้าง เพราะความรักของผมมันไม่เหมือนคนทั่วไป ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับความรักของเพศเดียวกันได้ แต่ผมก็โชคดีมากๆที่คนรอบข้างเข้าใจ ทั้งเพื่อนสนิทและคนในครอบครัว

แม้ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าคนที่ผมแอบรัก เขาจะรับผมได้หรือเปล่า

คิดได้แบบนั้น ความรู้สึกที่มองไม่เห็นก็ตีตื้นขึ้นมาจนขอบตาร้อนผ่าว คงเป็นทั้งความกังวลว่าจะผิดหวัง บวกกับคิดถึงความโชคดีที่ได้รับจากคนใกล้ตัว

“ฮืออ กอดหน่อยยย เรารักฝุ่นที่สุดเลย” ผมโผเข้ากอดเพื่อนสนิทไว้แน่น วางแก้มลงบนไหล่แข็งแรง
“เพราะมึงขี้อ้อนแบบนี้ไง กูเลยอยากเก็บมึงมาเลี้ยง”
“เอาอีกแล้ว ไม่ใช่หมาไง”
“แต่กูว่าผมมึงก็นุ่มเหมือนขนหมาที่บ้านกูเลยวะ”
“ไอ้เชี้ยยย” ผมผละออกมาจากกอดไอ้ฝุ่น เพื่อไปวิ่งไล่เตะมันจนเหนื่อย


 


    ผมนัดพี่ดีนไว้ตอนทุ่มครึ่ง นี่ก็ใกล้เวลานัดแล้วครับ ผมแต่งตัวเรียบร้อยก่อนเช็คน้ำ เช็คปลั๊กไฟในห้องว่าปิดเรียบร้อยดีแล้วจึงไปยืนเคาะประตูห้องตรงข้าม รออยู่ไม่นานประตูบานนั้นก็เปิดออกมาพร้อมกับผู้ชายรูปหล่อตัวสูงที่ผมแอบรัก
พี่ดีนชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ใช่เพราะผมแต่งตัววาบหวิว ขาสั้น เสื้อบางอะไรหรอกนะครับ ไม่ต้องคิดว่าพี่แกจะไล่ให้ผมไปเปลี่ยนเสื้อเพราะหวงอะไรทำนองนั้นด้วย

เพราะเหตุผลที่พี่เขามอง คือเราสองคนบังเอิญแต่งตัวคล้ายกัน

พี่ดีนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แขนเสื้อที่ยาวนั้นถูกพับอย่างไม่เป็นระเบียบขึ้นมาถึงข้อศอก ชายเสื้อเชิ้ตที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวถูกยัดเข้าไปในกางเกงสแล็คสีดำที่ยาวเหนือตาตุ่มขึ้นมาเล็กน้อย กับรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังสีขาวคาดดำ


เรียบแต่หล่อจนผมตาลาย ให้ตายสิ ทำไมต้องหล่อแบบนี้ด้วยอ่ะ


ส่วนผมสวมเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวคอวีที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวผมประมาณหนึ่งไซส์ ชายเสื้อถูกปล่อยยาวอยู่ระดับสะโพก กับกางเกงยีนส์ผ้าเดนิมสีซีดยาวเหนือข้อเท้ากับรองเท้าผ้าใบสีขาวล้วน

นี่ไม่ได้นัดกันในไลน์เลยนะครับ

“เอ่อ..ไปกันเลยมั้ยครับ” ผมเอ่ยขึ้นมา เพราะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย คิดว่าพี่ดีนเองคงคิดเหมือนกันว่าเราแต่งตัวเหมือนนัดกันไว้
เจ้าตัวพยักหน้าให้ ก่อนจะออกตัวให้ผมก้าวตีคู่กันไป


พวกเราเลือกนั่งแท็กซี่มายังร้านที่พี่ปีย์จองไว้ ร้านอยู่ห่างจากมหาลัยค่อนข้างไกล เพราะตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร จริงๆแล้วรถพี่ดีนยังจอดอยู่ใต้หอ แต่เจ้าตัวเลือกไม่ขับรถมา จะได้ไม่เป็นภาระตอนกลับและเสี่ยงอันตรายหากดื่มเข้าไปเยอะ

ผมกับพี่ดีนมาถึงร้านในอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลัง โดยมีพี่ปีย์ พี่ไทเกอร์ และไอ้ฝุ่นมาถึงก่อนหน้าแล้ว

ผมยกมือไหว้ทักทายพี่ๆ แอบแปลกใจที่วันนี้เจอพี่ไทเกอร์ด้วย หนุ่มลูกครึ่งอีกคนในกลุ่มพี่ดีน ปกติแล้วไม่ค่อยได้เจอพี่เขาเท่าไหร่หรอกครับ เพราะพี่แกมามหาลัยเพื่อเรียนอย่างเดียว กิจกรรมต่างๆของทางมหาลัยพี่ไทเกอร์ไม่เคยเข้าร่วมเลยฮะ แต่ก็ไม่ผิดกฏอะไรเพราะฝั่งอินเตอร์มีนักศึกษาต่างชาติอยู่เยอะ การทำกิจกรรมจึงไม่เหมือนกับฝั่งภาคปกติ ซึ่งไม่เน้นว่าทุกคนต้องเข้าร่วม ถ้ากิจกรรมนั้นไม่ส่งผลต่อคะแนนหรือหน่วยกิต

“ว่าไง ลิตเติ้ลแบร์ สบายดีนะ”
“สบายดีครับ ไม่เจอพี่ไทเกอร์นานเลย” ผมยิ้มรับ ก่อนจะทักทายอีกฝ่ายกลับไป

พวกพี่ปีย์เคยบอกว่าผมเหมือนลูกหมีโพลาร์ บ่อยครั้งจึงได้ยินพวกพี่ๆเขาเรียกผมว่าน้องหมี
ฟังดูแล้วตลกดี แต่ช่วยเรียกให้ชัดๆด้วยครับ อย่าเพี้ยนเชียวนะ


 “สั่งอะไรมากินกันก่อนมั้ย ดึกๆอาจจะต้องเคลียร์เก้าอี้ออก” พี่ปีย์เอ่ยพร้อมกับยื่นเมนูมาให้ผม
ผมพยักหน้ารับ ทั้งที่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาเก้าอี้ออก แต่ไม่ได้สนใจจะหาคำตอบอะไร นอกจากมองหาเมนูมารองท้อง ก่อนจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่งั้นผมน็อคเร็วแน่นอนฮ่ะ ทั้งเพลียเพราะการเรียน ไหนจะท้องว่างอีก ไม่ควรแตะแอลกออฮอล์ในเวลานี้เป็นอย่างยิ่ง 


ผมไม่เคยเที่ยวกลางคืน ไม่เคยเข้าผับ แต่ใช่ว่าผมจะดื่มไม่เป็นนะครับ
พ่อกับพี่ปาล์มฝึกให้ผมลองดื่มตั้งแต่อายุ 15
ผมลองมาหมดแล้ว ตั้งแต่ไวน์รสชาติหวานที่มีขายตามร้านสะดวกซื้อ
เหล้าเบียร์ทั้งไทยและนอก ตั้งแต่ราคาถูกยันคุณภาพดี
ไวน์ แชมเปญ หรือแม้กระทั่งเหล้าเถื่อนที่ลุงๆคนสวนแอบต้มกันเอง ผมก็เคยลองมาแล้วครับ
แต่ครั้งเดียวไม่เอาอีกเลย เพราะมันร้อนจนแสบคอไปหมด

ผมดื่มได้ ไม่ถึงขั้นคอแข็ง แต่รับรองว่าไม่ถูกมอมง่ายๆแน่นอนครับ เพราะมีเทรนเนอร์ดีอย่างพี่ปาล์มที่เคยจัดให้ผมจนเมาหัวทิ่ม เพื่อให้รู้ว่าเวลาเมาแล้วผมจะเป็นยังไง 

ผลออกมาคือผมจะอะเลิร์ทในช่วงที่กำลังกึ่ม ถ้าถึงจุดนั้นแล้วยังไปต่อ ผมจะเปลี่ยนเป็นนิ่ง จากนั้นก็ฟุบ หลับไปเลย แถมกรนด้วย ฮ้า

เพราะงั้น ผมจึงรู้ลิมิตตัวเองและวิธีทำให้สร่าง


หลังจากที่นั่งทานและดื่มไปได้สักระยะ พี่ริวและพี่ชัชก็มาสมทบ เป็นอันว่าครบองค์ประชุม
พี่ริวนั่งลงตรงเก้าอี้ว่างข้างพี่ดีน ตำแหน่งเดียวกับผมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยมีพี่ดีนนั่งตรงหัวโต๊ะ
ข้างๆผมก็มีไอ้ฝุ่นและพี่ชัช  ส่วนข้างพี่ริวนั้นมีพี่ปีย์กับพี่ไทเกอร์


ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ4ทุ่ม คนเริ่มทยอยเข้ามาจนแน่นร้าน จากตอนแรกที่เห็นโล่งๆ มีโต๊ะว่าง ตอนนี้แน่นขนัดเลยครับ เสียงเพลงจากวงดนตรีสดเปลี่ยนจากเพลงช้าฟังสบายๆ เป็นดนตรีหนักๆ จังหวะเร็วขึ้น จนคนแถวนั้นเริ่มลุกขึ้นขยับตัว
ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมต้องเก็บเก้าอี้ยัดไว้ใต้โต๊ะ แล้วเปลี่ยนมายืนแทน
เพราะถ้าเราไม่เลื่อนเก้าอี้เก็บ คงต้องขึ้นไปเต้นบนโต๊ะกันล่ะครับ
พื้นที่มันแคบเสียจนหลังผมแทบจะพิงกับคนที่นั่งโต๊ะข้างๆ
ตอนนี้ทุกคนในโต๊ะผมเริ่มลุกขึ้น เก็บเก้าอี้กันแล้วครับ


พวกพี่ๆเขาเสน่ห์แรงกันมาก มีคนเข้ามาชนแก้วด้วยเพียบเลย ไอ้ฝุ่นก็มีไม่น้อยเลยครับ
แต่ทำไมไม่มีใครเข้ามาหาผมบ้างอ่ะ
แต่ไม่เป็นไรหรอกฮะ ชนกับไอ้ฝุ่นสองคนก็ได้


ส่วนพี่ดีนหรอครับ


ตัวติดพี่ริวแจเลย คอยยืนระวังไม่ให้ใครเข้ามาใกล้พี่ริวจนเกินไป อย่างที่ผมเคยบอก พี่ริวน่ารักตามแบบฉบับผู้ชายญี่ปุ่นที่ตัวเล็กๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีคนเข้าหาเยอะแยะแทบไม่ขาด
และทั้งหมดที่เข้ามามีแต่ผู้ชายทั้งนั้นเลยฮะ

แต่พี่ริวดูไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ใครมาขอชนแก้วด้วยก็ให้ชน แต่ถ้าใครเริ่มเข้าใกล้หรือมานัวเนีย พี่ดีนจะรีบเอาตัวไปกันไว้ ให้พี่ริวต้องหัวเราะ แล้วเต้นต่ออย่างสบายใจ

ผมทำเป็นไม่สนใจ ดื่มและเต้นไปกับไอ้ฝุ่น ทำเหมือนไม่เห็นภาพอะไร ทั้งที่ในใจมันวูบโหวงแปลกๆ
ก็ภาพที่ผมเห็นตรงหน้า คือพี่ดีนเกาะเอวพี่ริวไว้หลวมๆ ไม่ให้ใครเข้าใกล้ และไม่ให้พี่ริวเดินไปไกลจากโต๊ะให้คนแปลกหน้าเข้ามาหิ้ว

ดูท่าทางพี่ริวคงเริ่มเมาแล้วล่ะครับ

ผมชักอยากเมาขึ้นมาบ้างแฮะ ต้องโทษสัญชาตญาณการป้องกันตัวของตัวเอง ที่ถูกพี่ปาล์มฝังหัวไว้ตั้งแต่เด็ก พอร่างกายใกล้จะเลยขีดจำกัดที่จะประครองสติตัวเองได้ สมองจะสั่งการให้ผมหยุดและทำร่างกายให้สร่างก่อนจะเมามายไปเสียก่อน


“มึงโอเคมั้ย”
ไอ้ฝุ่นก้มลงพูดชิดใบหูผม แข่งกับเสียงเพลงกระหึม ผมพยักหน้า พร้อมกับยิ้มน้อยๆให้มัน
“แต่หน้ามึงแย่”
“เราไม่เป็นไรหรอก”

หลังจากประโยคนั้น ฝุ่นมันจับตัวผม หันหลังให้กับโต๊ะของพวกเรา แล้วเนียนไปเต้นรวมกับโต๊ะข้างๆ ไม่รู้มันไปผูกมิตรไว้ตอนไหน แต่แบบนี้ก็ดีครับ ไม่เช่นนั้นผมคงต้องเผลอหันไปมองพี่ดีนบ่อยๆ
โต๊ะข้างๆเป็นผู้ชายทั้งโต๊ะ เหมือนกับโต๊ะเราเลยครับ ดูจากหน้าตาแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน เขายกแก้วขึ้นมาเป็นสัญญาณให้เราชนแก้วกับเขา


เกร้ง


เป็นอันว่าพวกเราได้ทำความรู้จักกันเรียบร้อยผ่านเสียงแก้วที่กระทบกัน
ง่ายแบบนี้เลยแฮะ



ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ เราเริ่มเบียดกัน แต่ไม่ได้อึดอัดจนหายใจไม่ออก
ผมคงดื่มไปเยอะพอสมควร  เพราะไอ้ฝุ่นขยันชงเหล้าให้ไม่ยอมให้แก้วว่างเลย
พอเริ่มกึ่มใกล้จะเลยลิมิต ผมจึงวางแก้วทิ้งไว้บนโต๊ะ แล้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
ฝุ่นอาสาจะไปเป็นเพื่อน แต่เพราะมันพึ่งกลับมาจากห้องน้ำ ผมเลยบอกปฏิเสธไป
ใกล้ๆแค่นี้เอง ผมเดินไปเองได้สบายมาก
แต่เดินไปได้สองสามก้าว จู่ๆผมก็เซหงายหลังเพราะแรงดึงรั้งไว้ตรงเอว


“กูไปเป็นเพื่อน” พี่ดีนก้มลงพูดข้างหู ผมหันหลังไปมองหน้าพี่เขาให้ชัดๆ ก่อนจะส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร แล้วแกะแขนพี่เขาออก ก่อนเดินมุ่งหน้าไปทางห้องน้ำ




เมื่อจัดการธุระเรียบร้อย เดินออกมาหน้าห้องน้ำ กลับเจอพี่ดีนยืนรออยู่

เมื่อเขาเห็นผมจึงเข้ามาจูงมือผมไว้ 

“คนเยอะ กูพากลับ” ผมยืนนิ่งๆไม่ยอมขยับตามเขา จนเจ้าตัวต้องหยุดแล้วหันมามอง
“เมาหรือไง” พี่ดีนเปลี่ยนจากจับมือ มาลูบแก้มผมเบาๆ

ผมมองการกระทำของพี่เขาโดยไม่หลบสายตาหรือเอ่ยอะไร
ในหัวตอนนี้ตีกันยุ่งเหยิง ต้องเป็นผลมาจากแอลกอฮอล์แน่ๆ ทำให้ภาพที่ดีนตรงหน้ามันดูสับสนไปหมด
หลายครั้งผมก็เผลอคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ไม่เคยกล้าจะถามออกไปเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเราพึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน เกิดทั้งหมดที่ผมเข้าใจเป็นเรื่องที่คิดไปเอง ทุกอย่างคงจบ และเดาไม่ออกเลยว่ามันจะกลับไปจุดเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่งในฐานะของรุ่นพี่และรุ่นน้องได้อย่างเดิมหรือเปล่า

ขอผมใช้เวลาอยู่ใกล้พี่เขาอีกนิด เพราะถ้ามันไม่เป็นอย่างที่ผมหวังไว้ อย่างน้อยยังมีเรื่องดีๆให้ย้อนกลับมาคิดถึง 


“จะกลับเลยมั๊ย กูจะได้โทรไปบอกไอ้ปีย์ว่าขอกลับก่อน” นิ้วโป้งอุ่นๆยังคงลูบแก้มผมไม่หายไปไหน
“แล้วพี่ริว”
“ริวทำไม”
“ไม่มีอะไรครับ ผมยังไม่เมาหรอก” ผมหลบสายตาพี่เขาหลังจากประโยคนั้น
“กลับไปที่โต๊ะเถอะ”

ผมพยักหน้ารับ แล้วยอมให้เจ้าตัวจูงมือกลับไป







ถึงได้บอกว่าผมสับสน

เพราะเมื่อเรามาถึงโต๊ะ พี่ดีนก็กลับไปประกบตัวพี่ริวเหมือนเดิม ปล่อยให้ผมมองตามก่อนจะลอบถอนหายใจ
บอกตัวเองให้เลิกสนใจพี่เขาแล้วกลับไปสนุกกับไอ้ฝุ่นและเพื่อนข้างโต๊ะต่อ

หลังจากออกไปสูดอากาศข้างนอก ผมก็กลับมาดื่มต่อให้ตัวเองกึ่มๆ จะได้ไม่โฟกัสไปที่ใครให้ใจมันวุ่นวาย


Tbc.



ไม่อยากตัดจบแบบนี้เลยอ่ะ แต่ถ้าไปต่อมันจะยาวมากๆ
สัญญาว่าตอนหน้าเราจะรู้ว่าพี่ดีนวางพี่ริวไว้ตำแหน่งไหน ใกล้หรือไกล จากที่พี่ดีนวางน้องยางไว้
ไว้ใจพี่ดีนกันนะคะ

ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และกำลังใจค่ะ
รักน๊าาา
#พี่ดีนน้องยาง 


ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
น้ำยางสู้ๆลูก  อย่าทำไรวู่วามนะ
พี่ดีนมาเคลียร์ด่วน น้องมันนอยส์แล้ว

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
ไอ้พี่ดีนนนนนนนนนนนนนนนนนน สงสารน้องงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ดีนริวนี่ยังไงแฟนกันไหมหรือแค่ไม้กันหมาเฉยๆ สงสารน้ำยางอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
พี่ดีน! อยากให้น้องงอล ให้อิพี่ดีนง้อยาวๆ
หึหึ....

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ เช้าวันพุธ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2

ตอนที่ 12 ความรู้สึก


-ดีน-

   แปลก

ผมสังเกตมาสักพักแล้วว่าน้ำยางทำตัวแปลกๆ หลายครั้งที่ผมหันไปมองมันเพราะเป็นห่วง กลัวใครเข้ามาชนหรือเอาอะไรแปลกๆให้ดื่ม เพราะน้องมันพึ่งเคยมาที่แบบนี้ครั้งแรก ต่อให้ฝุ่นอยู่ข้างๆมัน ผมก็ยังไม่สบายใจ

หลายครั้งที่เราบังเอิญสบตากัน เหมือนน้ำยางเองก็คอยมองผมอยู่ตลอด แต่แทนที่จะยิ้มให้ หรือเรียกหาผมเหมือนอย่างเคย เจ้าเด็กนั่นกลับหลบสายตาทันทีที่เราสบกัน

หลายครั้งเข้าจึงมั่นใจว่าต้องเกิดอะไร

ยอมรับเลยว่าผมไม่ไหวใจความคิดมัน

ผมไม่อยากให้เราผิดใจกันไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม และสิ่งนี้เป็นสัญญาณอันตรายที่ผมนึกกลัวและอยากวิ่งหนีมาโดยตลอด แต่เด็กคนนี้กำลังทำให้กำแพงที่ผมแอบสร้างมันไว้ในใจเกิดรอยร้าว และแปลกยิ่งกว่าที่ผมเอาแต่มองรอยแตกตามแนวกำแพงนั้นโดยไม่พยายามหาอะไรมาอุดหรือเสริมให้มันกลับมาทำงานเต็มประสิทธิภาพดังเดิม

บางที ถ้าน้องมันข้ามกำแพงนี้มาได้ ผมคงปล่อยเลยตามเลย

แม้ว่าในอนาคต ผมอาจจะเผลอทำร้ายมันเข้า


“กูฝากริวด้วย อย่าให้มันเดินไปไหน” ตอนนี้ที่โต๊ะเหลือสมาชิกแค่ 4 คน ไทเกอร์บังเอิญเจอคนรู้จัก ตอนนี้มันเลยหนีไปเต้นกับกลุ่มนู้นแล้ว ส่วนไอ้ชัชหายไปกับสาวที่มันเล็งไว้ ผมดึงแขนไอ้ปีย์ที่เต้นไม่สนใจใครให้หันมาดูแลริวแทนผม ก่อนที่จะเดินไปยังกลุ่มที่น้ำยางยืนอยู่


ผมขยับเข้าไปยืนซ้อนหลังมันเงียบๆ ไม่ได้เรียกหรือเข้าไปร่วมกลุ่ม
แค่ยืนใกล้ๆคอยระวังไม่ให้ใครเข้าใกล้น้องมันเกินไป
ผมแอบสังเกตเห็นหลายรอบอีกเหมือนกันว่าไอ้เด็กโต๊ะข้างๆพยายามจับเอวน้ำยางอยู่หลายครั้ง ยังดีที่ไอ้เด็กวุ่นวายไม่ได้เมาจนไม่มีสติ เพราะทุกครั้งที่มันรู้ตัวก็มักจะเนียนพลิกตัวหลบแขนนั้น
ยังดีที่ไม่ปล่อยตัว

เมื่อสถานการณ์ตรงหน้าไม่มีอะไรให้น่าห่วงเพราะน้ำยางไม่ได้ทำตัวเหลวไหล ผมจริงเลื่อนเอาเก้าอี้ของตัวเองที่สอดเก็บไว้ใต้โต๊ะออกมานั่ง ผมไม่ใช่ขาเที่ยว ดื่มได้ ฟังเพลงได้ แต่เต้นไม่เป็น ทุกครั้งที่มาเพราะไม่อยากขัดเพื่อน เลยถือโอกาสมาคลายเครียด
แต่เหตุผลหลักที่ต้องมาทุกครั้งเพราะต้องมาเฝ้าใครบ้างคน คนที่ผมต้องคอยดูแลเขาไม่ให้คลาดสายตา

ริว



แต่ตอนนี้ดูเหมือนคนที่ผมต้องห่วงกลับเป็นไอ้เด็กห้องตรงข้าม ผมไม่รู้ว่ามันดื่มได้เยอะขนาดไหน แต่เท่าที่คอยสังเกต คือเยอะพอสมควร

ไม่ว่าเพื่อนสนิทมันยื่นอะไรให้ น้ำยางไม่ปฏิเสธ
เห็นว่าสนิทกัน คงช่วยดูแลกันได้เลยไม่อยากขัดให้เสียบรรยากาศ
และไม่รู้จะห้ามปรามในฐานะอะไร
แต่ให้ตายเถอะ
จะให้นั่งมองเฉยๆแบบนี้ไม่ได้แล้ว
ทำไมไอ้ฝุ่นถึงไม่ห้าม!!


ผมดีดตัวออกจากที่นั่งอยู่ทันที รีบก้าวไปดึงแขนน้ำยางให้หลุดจากอ้อมกอดของไอ้เด็กโต๊ะข้างๆ ละสายตาจากน้องมันได้ไม่กี่วิ เพราะคอยพะวงเป็นห่วงใครอีกคน เมื่อหันกลับไปที่น้ำยางก็ได้เรื่อง
ถ้าช้าเพียงนิด น้ำยางคงโดนไอ้เวรนั่นจูบไปแล้ว

“อ๊ะ” น้องมันเซจนเกือบล้ม ดีที่ผมรับไว้ทัน ยังมีหน้ามายิ้มให้อีก เกือบโดนลากแล้วมั้ย ไอ้เด็กนี่
“เมาแล้ว” ถึงว่าตามันเยิ้มแบบนี้คงไม่ทันได้ระวังตัว
“พี่ดีน” เสียงเพลงดังจนผมไม่ได้ยินเสียงมัน แต่เพราะเรายืนใกล้กันมาก จึงรู้ว่าน้องมันพูดว่าอะไร
“กลับเลยมั้ย”

มันส่ายหน้า ยิ้มตาเยิ้มให้ผม ก่อนจะขยับตัวเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลง
เห็นแบบนั้นเลยปล่อยเลยตามเลย ให้มันสนุกอีกหน่อย โดยที่ผมยังเกาะเอวมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
ถ้าไม่ยอมกลับ ก็ยืนมันอย่างนี้จนร้านปิดเลยแล้วกัน
น้ำยางมันสูงเลยไหล่ผมมานิดหน่อย ระดับที่เอาคางไปเกยหัวมันได้สบายๆ
ตอนนี้เลยต้องก้มลงมองมันที่กำลังขยับตัวตามจังหวะเสียงเพลงอยู่ในวงแขนผม
มันเองก็เงยหน้าขึ้นมองผมอยู่ตลอด เต้นไปหัวเราะไปจนผมเองก็เผลอมองมันด้วยรอยยิ้ม
“เต้นหน่อยเร็ว คิก”

น้องมันยกมือขึ้นมาหยิกแก้มผมทั้งสองข้างเบาๆ ก่อนจะหัวเราะคิกคักเพราะผมหุบรอยยิ้มแล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วส่งไปแทน
“ยุ่ง” ผมดึงมือมันออกจากแก้มตัวเอง แรงหยิกไม่ได้ทำให้เจ็บ ก่อนน้องมันจะย้ายมือมาโอบรอบคอผมไว้
“ยิ้ม ยิ้ม” เพราะเห็นผมยังทำหน้ายุ่ง น้ำยางเลยเขย่งตัวขึ้นมาให้ใบหน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน ก่อนจะส่งยิ้มจนตาเป็นสระอิ
ผมต้องกระชับแขนที่ยึดเกาะเอวน้องมันไว้ให้แน่นขึ้น เพราะกลัวเจ้าตัวจะเซล้ม


เราใกล้กันมากกว่าครั้งไหน

และรอยร้าวบนกำแพงดูเหมือนจะแผ่ขยายขึ้นเป็นวงกว้าง




“ไอ้ริว มึงจะไปไหน”

ผมผละออกจากตัวน้ำยางทันทีที่ได้ยินเสียง เห็นริวพยายามดันตัวออกจากไอ้ปีย์ที่กอดมันไว้ไม่ให้ดิ้นหนี
“ไอ้เหี้ย แรงเยอะฉิบหาย เมาแล้วแม่งเป็นงี้ตลอด”
ผมมองดูสองคนนั้น จนแน่ใจแล้วว่าไอ้ปีย์ต้องการตัวช่วย จึงหันไปมองเด็กตรงหน้าที่ตอนนี้ยังคงจ้องผมไม่ละสายตาไปไหน
“เดี๋ยวกูมา มึงนั่งนี่” ดึงน้ำยางไปตรงตำแหน่งที่ผมเคยนั่งอยู่ กดไหล่มันลงให้นั่งรอ
น้องมันทำตามอย่างว่าง่าย หน้าตาเซื่องซึมเหมือนคนง่วงนอน
“กูจัดการเอง” เดินเข้าไปคว้าแขนริวเอาไว้ ก่อนบอกไอ้ปีย์ว่าให้เป็นหน้าที่ผม
“มึงพามันกลับเลยก็ได้นะ กูว่าเมาแล้ว”
ผมพยักหน้าเห็นด้วยตามที่เพื่อนบอก มองดูเวลาตรงข้อมือตัวเอง อีกครึ่งชั่วโมงจะตีสอง กลับเลยก็แล้วกัน
“ริว” ผมตบแก้มริวเบาๆให้เจ้าหัวให้สติ หยิบขวดน้ำเปล่าที่วางอยู่ใกล้มือ ส่งให้ดื่ม
“ไหวมั้ย”
คนตรงหน้าพยักหน้าให้
“กลับกันเลยนะ”
“เข้าห้องน้ำ” ริวพูดขึ้นมาหลังจากดื่มน้ำในขวดจนเกือบหมด สงสัยที่ดิ้นเมื่อกี้คงอยากเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ยอมบอกความต้องการ ไอ้ปีย์เลยเข้าใจผิด
“ดีนพาไป” ผมพยุงริวไว้ เดินผ่านหน้าน้ำยางก็เห็นมันนั่งนิ่งๆมองตามเหมือนอยากจะพูดอะไร
“เดี๋ยวกูมา อย่าไปไหน” ผมเอื้อมมือมาแตะแก้มกลมของมันเบาๆ ก่อนจะบอกออกไป






-น้ำยาง-


“ผมกลับเองก็ได้ พี่ดีนไปกับพี่ริวเถอะ” ผมเอ่ยปฏิเสธเมื่อเราเดินออกมานอกร้านเพื่อเรียกแท็กซี่ มองพี่ดีนที่กำลังประคองพี่ริวไว้ไม่ให้ล้ม
“มาด้วยกันก็กลับด้วยกัน”
“แต่พี่ริวเมา พี่ดีนกลับกับพี่ริวหน่ะดีแล้วครับ” เพราะผมไม่อยากไปด้วย ให้นั่งแท็กซี่ไปคนเดียวยังดีกว่า
“เดี๋ยวผมไปส่งไอ้ยางมันเองพี่ ไม่ต้องห่วง” ฝุ่นมันมาช่วยเรียกแท็กซี่ให้ เพราะพี่ดีนกำลังประคองพี่ริวไว้ ไม่สะดวกโบกแท็กซี่เอง ส่วนผมก็ไม่รู้เส้นทาง เกิดแท็กซี่ถามผมก็อธิบายไม่ถูก ไม่รู้ว่าบ้านพี่ริวอยู่แถวไหน
“ไม่เป็นไร ให้น้ำยางกลับกับพี่ บ้านฝุ่นอยู่คนละทาง อย่าอ้อมไปมาเลย”
ไอ้ฝุ่นเหลือบหันมามองผม ก่อนไหวไหล่คล้ายบอกว่า กูช่วยมึงได้แค่นี้
ผมถอนหายใจ ปล่อยเลยตามเลย จะทำอะไรก็ทำเถอะครับ
เหนื่อยแล้ว อยากนอน
ผมสร่างตั้งแต่พี่ดีนพาพี่ริวหายไปเข้าห้องน้ำแล้วล่ะ จริงๆยังมีสติอยู่ตลอด เพียงแต่ช่วงหลังๆมันกึ่มจนเกือบจะหงายหลัง ถ้าพี่ดีนไม่ลากออกมาคงเมาไม่ต่างจากพี่ริวแหงๆ
และเพราะมันกึ่ม เลยเผลอทำอะไรแบบนั้นไป นึกถึงมันตอนนี้ก็ได้แต่อายตัวเอง


เมื่อเรียกแท็กซี่ได้แล้ว ผมเสียสละนั่งข้างพี่คนขับ เพราะไม่อยากไปนั่งเบียดกันข้างหลัง ตลอดทางไม่มีใครพูดอะไร พี่ริวหลับคอพับพิงไหล่พี่ดีนไปเรียบร้อยแล้ว

ที่รู้เพราะผมแอบหันไปมองครับ
จากตอนแรกที่ง่วงๆตอนนี้เลยตาสว่างขึ้นมาเสียเฉย

นั่งฟังเพลงที่พี่แท็กซี่เปิดไว้ มองบรรยากาศข้างทางที่ต่อให้ดึกดื่นแค่ไหน ริมทางยังมีผู้คนให้เห็นบ้าง ต่างจากต่างจังหวัดลิบลับเลยครับ


แถวบ้านผม เมื่อพระอาทิตย์หลบหายไปหลังภูเขาลูกโตกลืนกินแสงสว่างจนหมด ทุกคนก็เข้าบ้านปิดเงียบ ไม่มีออกมาเดินข้างนอกให้งูเงี้ยวมันชกเอาหรอกครับ

คิดถึงบ้านสวนจัง อยากออกไปนอนตรงเฉลียงบ้าน ฟังเพลงแล้วดูพระจันทร์





เมื่อรถแท็กซี่ขับมาจอดในดอนโดแห่งหนึ่ง ผมไม่มั่นใจว่าตอนนี้เราอยู่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพ แต่ยังเป็นใจกลางเมืองที่ไม่ไกลจากร้านที่เราไปมากนัก

ผมลงจากรถ ก่อนจะเปิดประตูให้พี่ดีน เข้าไปช่วยเขาพยุงพี่ริวที่หลับสนิท คอยประครองจับตัวพี่ริวขึ้นหลังพี่ดีนให้เรียบร้อยแล้วก็เดินตามหลังสองคนนั้นเข้าไปในอาคาร

“นั่งรอตรงนี้ เดี๋ยวลงมา” พี่ดีนบอกพร้อมพยักหน้าไปทางมุมที่มีโซฟาตั้งอยู่
ผมไม่เอ่ยตอบรับอะไร ทำแค่เดินไปยังตำแหน่งที่พี่เขาบอก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นรอเวลา







แต่เดี๋ยวอะไรล่ะ

นี่อีก สิบนาทีจะครบหนึ่งชั่วโมงที่พี่เขาหายขึ้นไปบนห้องแล้วนะ
ใจอยากจะโทรถามแต่ก็ไม่กล้าขึ้นมาเสียเฉย
เอาไงดีอ่ะ หนีกลับหอคนเดียวเลยดีมั้ยนะ
รออยู่พักใหญ่ชักจะหิว เมื่อกี้ตอนลงจากแท็กซี่ ผมเห็นว่าหน้าตึกมีร้านสะดวกซื้อด้วย
ไปเดินเล่นในนั้นก่อนแล้วกัน ถ้าตีสามเมื่อไรยังไม่ออกมา ผมหนีกลับจริงนะ
แล้วจะโกธรจริงๆด้วย



สุดท้ายผมไม่ได้อะไรติดมือออกมานอกจากน้ำเปล่าหนึ่งขวด จู่ๆก็ไม่อยากกินขึ้นมาเฉยเลย
เดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ มุ่งตรงไปยังล็อบบี้ของคอนโดที่เคยนั่งรอ
แต่ดันลืมว่าตัวเองไม่มีคีย์การ์ด จะกลับเข้าไปยังล่ะเนี้ย
ผมถอนหายใจให้กับความซื่อบื้อของตัวเอง มองเข้าไปยังไม่มีวีแววว่าพี่ดีนจะลงมา เลยตัดสินใจไปนั่งรอตรงม้านั่งใต้ตนไม้ ฝั่งตรงข้ามกับร้านสะดวกซื้อ ถ้าพี่ดีนกลับมา มองจากมุมนี้ก็จะเห็น
มืดก็มืด ยุงก็เยอะ เมื่อไรจะมาอ่ะ
ถ้าช้าก็โทรมาบอกกันสักหน่อยก็ดี ผมจะได้รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน
แต่ให้ดีไม่ควรบังคับให้ผมตามมาด้วยตั้งแต่แรก คิดแล้วก็เผลอน้อยใจขึ้นมาจนกระบอกตามันร้อนไปหมด
ต้องเงยหน้าขึ้นมองฟ้าไม่งั้นน้ำตาได้ไหลออกมาแน่ๆ

“ใจร้ายชะมัด” ทำได้แค่เอ่ยฟ้องกับพระจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนฟ้า
 





“น้ำยาง” ผมหันไปตามเสียงเรียก หลังจากที่แหงนหน้ามองพระจันทร์อยู่นานสองนาน
“รอนานไหม”
“นาน ถ้าช้าอีกนิดจะหนีกลับแล้ว”
“ขอโทษ โทรศัพท์กูแบตหมด”
“ทำอะไรอยู่หรอครับ”
“เช็ดตัวให้ริวหน่ะ มันอ้วก”
“ให้ยางกลับก่อนก็ได้” จะลากมาด้วยทำไม พี่จะได้นอนค้างที่นี่ไปเลย

“กูปล่อยมึงกลับคนเดียวได้ยังไง”

“แล้วพี่ปล่อยให้ผมนั่งรอคนเดียวตั้งนานแบบนี้ได้ยังไง” ผมอดไม่ได้ สวนกลับไปอย่างไม่ทันยั้งคิด

“กูขอโทษ”

“กลับกันเถอะครับ ใกล้จะเช้าแล้ว” ผมรู้ตัวว่างี่เง่า ยังโชคดีที่พี่ดีนไม่ว้ากใส่ ไม่งั้นผมคงเตลิดไปไกลแน่ๆ
เราสองคนเดินออกมาหน้าคอนโด ผมมองหาแท็กซี่ แต่พี่ดีนดันคว้าข้อมือผมไว้ แล้วพาเดินไปอีกทาง
เราเดินจูงมือกันไปเรื่อย พี่เขาไม่พูดอะไร ผมก็ได้แต่ก้มหน้าเดินตามเขาไปต้อยๆ สายตามันเอาแต่มองมือเราสองคนที่จับกันไว้ไม่ยอมปล่อย



“เดินอ้อมไปข้างหลังตึกนี่ก็ถึงบ้านกูแล้ว ไม่คุ้นทางเลยหรือไง”
“เด็กบ้านนอกแบบผม จำทางในกรุงเทพไม่ได้หรอกครับ” ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าบ้านพี่ดีน กับคอนโดพี่ริวจะอยู่ใกล้กันแค่นี้
“คืนนี้นอนที่บ้านกูแล้วกัน”
“ยางกลับหอดีกว่าครับ”
“นอนบ้านกูนี่แหละ”
“แต่ยางอยากกลับ”
“อย่าดื้อได้มั้ย แล้วเป็นอะไร เดี๋ยวผมเดี๋ยวยาง”

เรายื้อยุดอยู่หน้าบ้านพี่เขา สุดท้ายผมก็ยอมแพ้ เดินตามพี่ดีนเข้าไปในบ้าน

บ้านทั้งหลังเงียบสนิท แน่ล่ะครับ คงหลับกันหมดแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงไก่ก็จะตื่นแล้วอ่ะ

เมื่อเข้ามาถึงในตัวบ้าน ผมก็สะดุ้งเพราะเสียงเห่าของเจ้ารูฟี่และช็อปเปอร์ พี่ดีนดุเจ้าหมาสองตัวนั้นให้เบาๆ เพราะกลัวพ่อกับแม่จะตกใจ มันจึงเปลี่ยนจากเห่า มากระโดดใส่เราแทน

ผมลูบหัวมันเล่นก่อนพี่ดีนจะดึงแขนให้ขึ้นไปข้างบน ทิ้งให้เจ้าหมาสองตัว นั่งมองอยู่ตรงตีนบันได ส่ายหางดุ๊กดิ๊กมองตาแป๋ว

“ไปนอนได้แล้วเด็น” พี่ดีนพูดทิ้งท้าย ทั้งสองตัวจึงเลิกมองตามพวกเรา แล้วเดินหายไปในความมืด ผมเดาว่าคงเดินไปจุดที่มันนอนอยู่ก่อนหน้านี้ล่ะมั้งครับ




“มึงไปอาบน้ำเดี๋ยวกูไปบอกพ่อกับแม่ก่อน เมื่อกี้เห็นไฟห้องนอนเปิด คงตื่นเพราะเสียงไอ้เด็น”
ผมรับผ้าขนหนูและชุดนอนจากมือพี่ดีน ก่อนเจ้าตัวก็หันหลังเดินออกไปจากห้อง

เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว พี่ดีนก็สลับเข้าไปอาบบ้าง ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่ตั้งอยู่ปลายเตียง รอจนกระทั่งเจ้าของห้องเดินออกมาจากห้องน้ำ

เขาเลิกคิ้วเมื่อเห็นผมยังรออยู่

“ทำไมไม่นอน”
“ไม่รู้ว่าต้องนอนตรงไหนครับ”
“ก็บนเตียงไง”
“แล้วพี่ล่ะ”
“มึงไม่คิดจะให้กูไปนอนบนโซฟาใช่มั้ย”
“เปล่าครับ ยางนอนบนโซฟาแล้วกัน”
“กูบอกให้นอนบนเตียง จะไปนอนบนโซฟาทำไม
“กลัวพี่อึดอัด”

หลังจบประโยคนั้นผมก็ได้ยินเสียงพี่เขาถอนหายใจ คือไม่ได้เก็บอาการใดๆทั้งสิ้นเลยครับ ถอนหายใจออกมาโต่งๆให้ผมเห็นเลย

“ไปนอนบนเตียงไป กูง่วงจะตายแล้ว”

เพราะไม่อยากขัดใจพี่เขาให้ต้องหงุดหงิด ผมจึงยอมทำตามคำบอก คลานขึ้นไปบนเตียง มองตามพี่ดีนที่เดินไปปิดไฟจนทั้งห้องมืดสนิท แต่เพราะแรงยวบข้างกาย ทำให้ผมทราบว่าพี่เขาขึ้นมาบนเตียงแล้วเช่นเดียว
“นอนได้แล้ว” พี่ดีนทิ้งตัวลงนอน ผมจึงค่อยๆสอดร่างเข้าไปใต้ผ้าห่มผื่นหนา





บรรยากาศตอนนี้มันอึดอัดเกินไป ผมทนไม่ได้กับก้อนอะไรไม่รู้ที่จุกบริเวณอกซ้าย และรู้ว่าพี่เขาก็ยังไม่หลับ เพราะยังพลิกตัวไปมา เหมือนหาท่านอนที่ลงตัว 
   
“ทำไมให้ยางตามกลับมาด้วยล่ะครับ”
“บอกเหตุผลไปแล้ว”
“แต่ยางไม่เข้าใจ ถ้าปล่อยยางกลับไปเอง พี่จะได้ไม่ต้องลำบาก” ผมนอนตะแคงข้างหันไปทางพี่ดีน ลืมตาในความมืด เห็นแผ่นหลังพี่ดีนลางๆ จากแสงสว่างภายนอกที่รอดเข้ามาทางหน้าต่าง
“ลำบากตรงไหน” พี่ดีนขยับพลิกตัวหันหน้าเข้าหาผม ตอนนี้เราเลยนอนมองหน้ากันในความมืด
“พี่จะได้อยู่กับพี่ริว ไม่ต้องมาพะวงเพราะผม”
“แล้วทำไมกูต้องอยู่กับริว”
“พี่ดูเป็นห่วงพี่ริวมาก”
“ใช่ กูเป็นห่วงมันมาก”


ลมหายใจผมสะดุด เพราะประโยคนั้น เหมือนอากาศในห้องนี้มีไม่พอให้หายใจ

“แต่กูเป็นห่วงมึงเหมือนกัน”

คงเป็นเพราะเราปรับสายตาให้ชินกับความมืดได้แล้ว ภาพตรงหน้าจึงชัดเจนขึ้นกว่าเดิม ผมเห็นพี่ดีนค่อยๆเอื้อมมือมาลูบแก้มผมเบาๆ

“กูต้องดูแลริวเพราะหน้าที่”

ผมกลัว กลัวคำตอบถ้าผมถามมันออกไป

“หน้าที่แฟนหรอครับ” แต่ก็ทนอึดอัดไม่ไหว ต่อให้กลัวแค่ไหนกลับเลือกวิ่งเข้าหา


“ใช่”


ฮึก


คำคำเดียว แต่ส่งผลกระทบได้เร็วเสียยิ่งกว่าอะไร ทำไมคืนนี้ผมถึงควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย รู้ตัวอีกทีก็ถามคำถามอะไรออกไปเสียเยอะเยอะ

รู้ตัวอีกทีน้ำตาก็ไหลออกมาเสียเฉย


“ร้องไห้ทำไม” พี่ดีนขยับตัวลุกขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟตรงหัวเตียง

ผมรีบยกมือขึ้นปิดใบหน้าตัวเอง ใจอยากหยุดเสียงสะอื้น แต่ก็ทำไม่ได้

เป็นบ้าอะไรทำไมจู่ๆก็ห้ามตัวเองไม่ได้แบบนี้


“ไม่ได้ร้อง” ผมพูดเสียงอู้อี้ ส่ายหน้าไปมา แต่ยังไม่ยอมเอามือออก
“น้ำยาง ลุกขึ้นมา”
“ผมอยากกลับหอ”
“ลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
“ไว้วันหลังได้มั้ยครับ ขอยางกลับห้องก่อนนะ” ผมพลิกตัวนอนหันหลังให้พี่ดีน งอเข่าขึ้นมาจนเกือบชิดอก มือทั้งสองยังกดปิดหน้าตัวเองไว้แน่น ไม่กล้าแม้แต่จะลุกขึ้นจากเตียงทั้งที่ใจอยากหนีไปให้พ้นๆ
แต่ไม่นานความอบอุ่นก็เคลื่อนขึ้นมาทาบทับแผ่นหลังของผมไว้ พร้อมกับแก้มอุ่นของพี่ดีนที่ทิ้งลงทับหลังมือผม
พี่เขากอดผมไว้เหมือนต้องการปลอบให้หยุดร้อง
เพราะแบบนี้ไง ผมถึงทนไม่ไหว
งงไปหมดแล้ว








“ริวเป็นแฟนพี่กู”

“ห๊ะ”

“ฟังกูต่อได้หรือยัง”

“เอ่ออ…”

“จำได้มั้ยที่เคยบอกว่ามีพี่ชายฝาแฝด”
“จำได้ครับ”
“แล้วที่เคยบอกว่าตอนนี้อยู่อังกฤษ”
“จำได้” ผมเกร็งตัวขึ้นมานิดหน่อย เพราะตอนนี้พี่ดีนยังกอดผมไว้ไม่ยอมปล่อย นี่เรานอนกันท่าไหนวะเนี้ย
“แดนมันเลยฝากให้กูช่วยดูแลริว”
“อ่อออ” ผมตอบรับคล้ายคนละเมอ ตอนนี้สับสนไปหมดแล้วครับ เรียกสติกลับมาหลังจากที่ก๊อกแตกไป
“อ่อ อะไร แล้วร้องไห้ทำไม”
“ไม่ได้ร้อง”
“แต่กูเห็น ร้องทำไม”
“แล้วพี่กอดยางทำไม” จนมุมเมื่อไร เปลี่ยนเรื่องให้ไวเลยครับ

“กู..ไม่อยากเห็นมึงร้องไห้ ยิ่งถ้ามันเป็นเพราะกู กูยิ่งไม่อยากเห็น”


ผมรับรู้ได้ถึงน้ำหนักที่ทิ้งลงมาบนตัวผม พี่ดีนเปลี่ยนตำแหน่ง ทิ้งศีรษะลงบนหมอนใบเดียวกัน ก่อนจะกระชับวงแขนของเขาให้แน่นขึ้น

“เพราะฉะนั้น อย่าร้องไห้เพราะพี่เลยนะ” ริมฝีปากอุ่นแตะลงเบาๆบนไหล่ของผม  “ให้มันเป็นเหมือนตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว”


หลังจากประโยคนั้นเราสองคนก็ไม่พูดอะไรกันอีก ผมนอนนิ่งๆคิดทบทวนคำพูดที่พี่ดีนเอ่ยออกมา ยังคงไม่เข้าในว่าพี่เขาต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรับรู้ได้ในวันนี้คืออ้อมกอดคนของที่ผมแอบรัก
มันอุ่นกว่าที่เคยจินตนาการไว้เสียอีก


Tbc.


นี่ถ้าเป็นพี่ดีน จะจีบน้องยางงงงงง
ถ้ามีคำผิดหลงเหลืออยู่ ขอโทษด้วยนะคะ แง้
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ กำลังใจที่สำคัญเลย~
ยังไม่ได้ปั่นตอนหน้าเลยยยยย




ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
" ให้มันเป็นเหมือนตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว"
หมายความว่าไงอ่ะ ให้น้องมันอยู่แบบแอบรักไปอย่างนี้ ไม่ต้องคบกันเป็นแฟนงั้นเหรอ
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :z3:

รักแฟนพี่ตัวเองหรอ หรือไง
ทำไมน้องมีความสุขแล้วแต่เรายังไม่เครีย

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
พีดีน อะไรยังงัย ชักแปลกๆแล้วนะเนี่ย ริวเองก็ไม่ค่อยน่าไว้ใจ -"-

สงสารน้องยาง อะไรก็ไม่ชัดเจนสักอย่าง อย่าร้องนะลูกกกกก

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
รำคาญดีนอ่ะ ต้องให้เสียอะไรไปแล้ว
ถึงจะหายเห็นแก่ตัวรึเปล่า ตอนนี้ทำอะไรนึกแค่ตังเองเกินไปไหม...

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด