━╃ ♥ ☞ ★ ค น ใ น ใ จ ★ ☜ ♥ ╄━บทที่ 16 20/12/18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ━╃ ♥ ☞ ★ ค น ใ น ใ จ ★ ☜ ♥ ╄━บทที่ 16 20/12/18  (อ่าน 10278 ครั้ง)

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

สวัสดีค้า ^^

วันนี้มาเปิดเรื่องใหม่แล้วค้า ห่างหายไปนานพอดูเลยย

เรื่องนี้จะเป็นแนวใส ๆ ละมุน ๆ ไม่เน้นดราม่า ไม่มีเรื่องพลิก และไม่ยาวมากนะคะ :mew1:

ยังไงก็ฝากเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมอก อ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ

เพจของคนเขียน : https://facebook.com/flymoon.midnight


ขอฝากผลงานเรื่องเก่าของคนเขียนไว้นะคะ ^^

เรื่องยาว

สุริยายอแสง จันทราคล้อย : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41291.0
ตำนานรักสองราชวงศ์ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32113.0
EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44135.0
[Omegaverse]Indispensable ขาด... ไม่ได้ https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58709.0

เรื่องสั้น

เรือจ้างลำแกร่ง : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36513.0 [เพื่อระลึกถึงครูที่จากไป 14 กันยายน]
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-12-2018 22:37:50 โดย midnight »

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
Intro


ร่างสูงโปร่งของคนกลุ่มหนึ่งที่วิ่งไปวิ่งมาในสนามสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเขียวดึงดูดสายตาของคนมากมายที่นั่งอยู่โดยรอบให้รวมกันอยู่ที่จุด ๆ เดียว ไม่สิ... ไม่ใช่เพียงแต่ดึงดูดสายตา แต่ดึงดูดผู้คนจำนวนไม่น้อยให้มานั่งหายใจรวมกันในสนามกีฬากว้างของมหาวิทยาลัย



แน่ล่ะ ในเมื่อเหล่าเดือนและคนที่น่าจับตามองของหลายชั้นปีมากระจุกรวมกันอยู่ในสนามบอลในร่มแห่งนี้ สาว ๆ ที่ยังโสด หรือไม่โสดแต่ทำตัวเหมือนโสด รวมไปถึงหนุ่ม ๆ มากหน้าหลายตาย่อมให้ความสนใจมามุงดูกลุ่มคนหน้าตาดีเหล่านี้อยู่แล้ว



สาว ๆ น่ะมากรี๊ดกร๊าดชายในฝันเก็บเอาไปมโนว่าเป็นผัวอย่างฟิน ๆ แอบถามรูปลงเรียกไลค์ในเฟสอีกสักนิดให้พอกรุบกริบหัวใจ ส่วนชายหนุ่มส่วนใหญ่ก็คงมาส่องสาวที่มาชื่นชมชายอื่นนั่นล่ะ มีส่วนมากยังไงมันก็ต้องมีส่วนน้อย



และหนึ่งในส่วนน้อยนั้นก็คงเป็นตัวเขาเอง



“เขม มึงส่องคนไหนอยู่วะ”คำถามจากเพื่อนสนิทที่ถามมันทุกครั้งที่มานั่งรวมตัวกันบนอัศจรรย์ข้างสนามฟุตบอลแห่งนี้ “บอกกันหน่อยดิ๊ กูอยากรู้ว่าสเปคหนุ่มเวอร์จิ้นอย่างมึงจะเป็นยังไง”



“เรื่องของเราน่า”เขมทิวาบอกปัดคำถามเพื่อนเหมือนทุกครั้ง ดวงตาสีน้ำตาลภายใต้แว่นไร้กรอบเหลือบมองร่างสูงโปร่งของใครอีกคนแล้วอมยิ้มบาง “เอาเป็นว่าเราไม่มองคนเดียวกับนายแน่ นิด”



“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกเท็นไงวะ”เทนนิส หรือนิดที่เพื่อน ๆ ชอบเรียกโวยวายขึ้นมาเสียงดัง พาให้สายตาของคนที่อยู่ไม่ไกลตวัดสายตามามองคนที่ส่งคลื่นเสียงรบกวนชาวบ้านเขา “ชื่อกูออกจะเท่ อิคุณหนูแม่งเรียกกูเสียทุกที”



“ถ้าเราเป็นคุณหนู ทุกคนคงเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายกันหมดแล้วล่ะนิด”เขมหัวเราะออกมาเบา ๆ ก็มันจริงนี่ ถ้าเด็กเสิร์ฟร้านข้าวต้มอย่างเขาเป็นคุณหนู ทุกคนบนโลกที่มีฐานะหน่อยก็เป็นเจ้าหญิงเจ้าชายกันหมดแล้ว แค่เงินจะกินให้อิ่มครบทุกมื้อเขาบางเดือนยังแทบจะไม่พอเลยด้วยซ้ำไป แต่ที่เพื่อนเรียกเขาว่าคุณหนู มันก็มีเหตุผลของมันอยู่เหมือนกัน “ใกล้ได้เวลาไปทำงานละ เราไปก่อนนะ”



“เขม มึงควรหางานอื่นที่ได้เงินมากกว่านี้ทำได้แล้วนะ”ทัศน์ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ เปรยขึ้นมา “ทำทุกวันตั้งแต่หกโมงถึงเที่ยงคืนไม่ได้พัก แต่ได้แค่สี่พันห้า มันจะไปพอใช้อะไร”



“เรายังหางานที่ดีกว่าไม่ได้นี่ ทัศน์ ทำไปก่อนนั่นแหละ เราไหว”เขมส่งยิ้มให้เพื่อนที่ส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ “เจ้สวยเขาใจดีนะ เขาให้ข้าวเรามากินแทบทุกวันเลย”



“แต่สี่พันห้า แค่ค่าหอก็จะหมดแล้วนะเว้ย”เทนนิสที่อยากจะบ่นเรื่องนี้กับเพื่อนมานานถือโอกาสเปิดประเด็นขึ้นมาทันที “อย่างน้อยสักหกพันก็ยังดี”



“ไม่เอาน่า เราใช้พออยู่แหละ”มือขาวที่ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถหยิบจับยกเสิร์ฟของร้อนได้อย่างคล่องแคล่วคว้าเอาเป้สีซีด ๆ ขึ้นมาพาดบ่า “ไปนะ แล้วเจอกัน”



“ว่าแต่คุณหนูจะไม่บอกจริงอ่ะ ว่าที่มานั่งหายใจทิ้งข้างสนามบอลบ่อย ๆ แบบนี้เพราะใคร”เพื่อนขี้เสือกของเขายังคงถามซ้ำอีกครั้ง และยังคงแน่นอนว่าเขาไม่คิดจะตอบ “เออ เดี๋ยวกูสืบเองก็ได้ว้า”



“เอาที่สบายใจเลย นิด”เขมโบกมือลาเพื่อนแล้ววิ่งเหยาะ ๆ ลงจากอัศจรรย์ไป



อืมมมม จะให้เขาบอกไปได้ยังไงกันล่ะว่าเขาแอบมามองรุ่นพี่คนนั้นที่มักจะมาเล่นฟุตบอลกับเพื่อนดาวเดือนของเขา



จะให้บอกไปได้ยังไงว่าเขาชอบผู้ชาย... แถมเป็นการแอบชอบอยู่ฝ่ายเดียวมาตั้งแต่อยู่โรงเรียนมัธยมแล้ว



เพราะงั้นเรื่องนี้เขาจะต้องเก็บเอาไว้... ใช่ เก็บรุ่นพี่คนนั้นเอาไว้ในใจก็พอ...



ให้เป็นแค่คนในใจของเขาก็พอ



แค่ได้เห็นสักนิดพอแล้วจริง ๆ

๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒

เรื่องใหม่มาแล้วค้า แม้โอเมก้าซีรีย์ยังเขียนไม่ถึงไหนก็ตาม

ยังไงก็ฝากติดตาม #คนในใจ ด้วยนะคะ แวะมาพูดคุยกรีดร้องกันได้ทั้งในเพจและทวิตค้าา

รักกก

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชอบแนวนี้มากๆเลยค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อุ๊ยชอบ ปูเสื่อรอจ้า

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 1

ข้าวต้มกับคนๆนั้น



ร้านข้าวต้มเจ้สวยที่เขมทิวาทำงานอยู่นั้น เป็นร้านขนาดกลางสองห้องแถวที่มีลูกค้าประจำจำนวนไม่น้อย แต่เด็กเสิร์ฟในร้านนั้นมีแค่เขากับรุ่นพี่ต่างคณะอีกสองคน และมีลูกชายใจสาวของเจ้สวยเป็นคนคอยจัดร้านและช่วยแม่โรยเครื่องบนชามก่อนเสิร์ฟ รวม ๆ แล้วคนทำงานในร้านนี้มีแค่ห้าคนเท่านั้น ถ้าถามถึงคนล้างจานก็เป็นพวกเด็กเสิร์ฟนี่แหละ ผลัดกันไปก้มหน้าก้มตาล้างหลังร้านในช่วงว่าง


ทันทีที่ร้านเปิดไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ลูกค้าก็มาจับจองที่นั่งกันไปเกือบครึ่งร้านแล้ว และกว่าครึ่งของลูกค้าที่มาอุดหนุนนั้น ก็เป็นสาว ๆ ที่มากันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไปจนถึงกลุ่มใหญ่ ๆ ซึ่งเห็นหน้ากันแทบทุกวันจนเขมอดคิดในใจไม่ได้ว่าข้าวต้มเจ้สวยมันอร่อยจนลูกค้าติดใจหรือว่าร้านอาหารตามสั่งทำช้าเลยมากินของที่ได้ไว ๆ กันแทน


แต่จะถามออกไปให้โดนกระบวยเจ้สวยฟาดหัวก็ใช่ที่ เพราะวั้นก็จงปล่อยให้เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบแบบนี้ต่อไปน่ะดีแล้ว


“ปลาสี่ รวมสอง กุ้งสามนะครับ”เขมทวนรายการอาหารของลูกค้าที่จดไว้ในมือให้กับเจ้าตัวได้ฟังก่อนจะส่งยิ้มการค้าให้ “รอสักครู่นะครับ”


เด็กหนุ่มก้าวขายาว ๆ เอาใบไปเสียบไว้ที่โต๊ะเล็กข้างที่ปรุงรสใกล้มือเจ้สวย ยกเอาข้าวต้มที่ทำเสร็จแล้วไปเสิร์ฟอีกโต๊ะที่สั่งมาก่อนหน้านี้


“มาแล้วครับ ขอโทษที่ต้องทำให้รอนะครับ”รอยยิ้มบางที่ประดับบนใบหน้าตลอดเวลากับดวงตาที่เปร่งประกายสดใสนั้นต่อให้นั่งรอนานกว่านี้อีกสักหน่อยก็คงโกรธไม่ลง สาว ๆ ที่รอข้าวต้มมาเป็นครึ่งชั่วโมงพากันส่งยิ้มกลับไปให้กับเด็กเสิร์ฟหน้ามนอย่างไม่ถือสา “ที่สั่งไว้ได้รับครบแล้วนะครับ”


“ค่ะ”พวกเธอตอบรับ ก่อนที่สาวน้อยแก้มป่องคนนึงจะยื่นกระดาษเช็ดหน้ามาให้กับเขา “เหนื่อยแย่เลยนะคะ น้องเขม สู้ ๆ นะ”


“ขอบคุณครับ”เขมรับเอากระดาษเปียกนั้นมาซับหน้าโดยดี และเก็บกระดาษแผ่นเล็กที่มีเลขเขียนอยู่ชุดนึงใส่ลงในกระเป๋า ไม่ได้ทิ้งหรือยื่นกลับไปให้เธอเสียน้ำใจ


แต่เรื่องสานต่อนั้นก็คงไม่เช่นกัน ลำพังแค่ตัวเขาคนเดียวก็ยังแทบจะเอาตัวเองไม่รอดเลย


ร่างโปร่งจด ยก เสิร์ฟวนไปอยู่อย่างนี้นับชั่วโมงก่อนจะมุดไปหลังร้านเพื่อล้างชามเมื่อเห็นว่าชามที่มีพร่องลงไปมาก และรุ่นพี่เขาสามารถรับงานหน้าร้านเพียงคนเดียวได้


โทรศัพย์มือถือรุ่นเก่ากลางใหม่ถูกหยิบออกมาเป็นแอพริเคชั่นสีน้ำเงินที่มีตัวอักษรลำดับที่หกในภาษาอังกฤษแปะอยู่ในกรอบขึ้นมาส่องคนที่แอบไปมองเกือบทุกวันจากที่ไกล ๆ


คนในใจของเขานั่นล่ะ


“เฮ้ย เขม ออกมาช่วยกันก่อน สงครามว่ะ”อาร์ต ซึ่งเป็นรุ่นพี่จากคณะนิเทศน์โผล่มาลากรุ่นน้องต่างคณะจากหลังร้านให้ออกมารับหน้าคลื่นมนุษย์ที่กำลังโถมเข้ามาในร้าน “ไปรับโต๊ะเดือนเลยมึง รอบที่แล้วกูติดเฟรมไปหน้าเหียกชิบ”


“รอบนี้เลยให้ผมเหียกแทนเหรอครับพี่”เขมหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะคว้ากระดาษไปเตรียมจดออเดอร์โดยดี

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกวาดมองกลุ่มคนที่กำลังลากโต๊ะมาติดกันก่อนจะถอดหายใจเบา ๆ คน ๆ นั้นคงไม่มากินกับเพื่อน ๆ คนอื่น... อาจจะมีนัดกับคนที่กำลังดูใจกันก็ได้


หรือเขามีแฟนแบบเงียบ ๆ ไปแล้วนะ


“เขม”เด็กหนุ่มหันขวับไปหาต้นเสียงทางด้านหลัง “ผมปรกหน้าแล้วนะ”


ยางรัดแกงเส้นสีแดงสดใสถูกนำมารัดผมหน้าม้าที่เริ่มยาวเกินพอดีของน้องเล็กแห่งร้านเจ้สวยให้เด้งขึ้นชี้ฟ้าเป็นโมเอะพอร์ยน่ารักในสายตาของผู้จัดทำ


แต่... มองยังไงก็เป็นจุกชิสุสำหรับผู้ถูกกระทำน่ะนะ


“พี่ไวท์!”เขมทำหน้ายู่ใส่รุ่นพี่คณะศิลปกรรมศาสตร์ที่ชอบแกล้งเขาหน้านิ่ง ๆ มือขาวขยับไปจะดึงจุกออก แต่ก็โดนดักซะทุกทาง “พี่ไวท์ อย่าแกล้งผม”


“ไม่ได้แกล้ง”หน้านิ่ง ๆ ของพี่ใหญ่ร้านเจ้สวยก็ยังคงนิ่งไม่มีเปลี่ยนแปลง “แบบนี้แหละ น่ารัก เยี่ยมไปเลย”


มันคงจะน่าเชื่อ ถ้าพี่ท่านไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงโมโนโทนและยังคงคอนเซปหน้านิ่งแม้จะยกนิ้วโป้งขึ้นกดไลค์ก็ตามที


“ไม่ต้องทำหน้าหมางง พี่ว่าดีน้องก็ต้องว่าดี ไปทำงานได้ละ ชิ่ว ๆ”อาร์ตยิ้มกว้างขณะโบกมือไล้ให้น้องเล็กไปรับออเดอร์สักมี “น่า เกิดแน่นอนไม่ต้องห่วง เชื่อพี่”


“...”คนเป็นน้องอย่างเขาก็คงได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมโดยดี


เขมทิวาก้าวขายาว ๆ เข้าไปที่โต๊ะของพวกเดือนมหาลัยและผองเพื่อน กลุ่มเดียวกับที่เขาแอบไปนั่งส่องก่อนมาทำงานนั่นล่ะ เขาแอบมองหาใครบางคนอีกครั้งแบบเนียน ๆ แต่ก็ยังไม่เห็นเหมือนเดิม


“รับอะไรดีครับ”เขมเอ่ยถามลูกค้าที่นั่งโต๊ะกันเรียบร้อยแล้วด้วยเสียงนุ่ม รอยยิ้มสดใสถูกแจกจ่ายออกไปไม่มีกั๊ก “เมนูแนะนำวันนี้เป็นข้าวต้มต้มยำปลาเก๋าเสิร์ฟพร้อมน้ำเก๊กฮวยครับ”


“เอา!!”


“เอาด้วย!!!~”


“มีพิเศษไหมน้อง”


“เอาข้าวต้มกุ๊ยกับกุ้งทอด”


สงครามการสั่งอาหารเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความมึนงงของคนรับออเดอร์ คิ้วสีเข้มขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิดใจขณะที่มือขาวจดเมนูที่ได้ยินลงในกระดาษโดยที่ตามองหน้าของคนที่สั่งเรียงคนไป เหล่าคนดังของมหาลัยก็เหมือนจะเข้าใจภาษากายอย่างดี ตามองใคร คนนั้นสั่ง ไม่แย่งกันจนไม่รู้เรื่องเหมือนก่อนหน้า


“เฮ้ ไอ้ต่าย ทางนี้ ๆ”เสียงเรียกเพื่อนที่ดังขึ้นทะลุปล้องทำเอาเด็กหนุ่มนอกกลุ่มสะดุ้งเบา ๆ ดวงตาคู่สวยภายใต้แว่นใสสั่นไหวชั่ววินาทีก่อนเจ้าตัวจะเรียกสติกลับมาให้นิ่งได้ดังเดิม


พี่ต่าย...


เขมทิวาเหลือบมองไปยังคนที่เข้ามาใหม่ด้วยใจที่เต้นรัว ริมฝีปากซีดเม้มเข้าหากันแน่นกลั้นยิ้มเอาไว้เมื่อเห็นว่าคนในใจของเขาไม่ได้พาใครมาด้วย


“สั่งเลย ๆ พวกกูสั่งกันละ”ยังไม่ทันที่คนดังของเศรษฐศาสตร์จะก้าวมานั่งโต๊ะ เหล่าเพื่อนผู้มีน้ำใจก็ร้องบอกเขากันแล้ว “เมนูเด็ดร้านนี้มีเพียบ สั่งเลยมึง”


“ไม่ให้ดูเมนูเลยเหรอวะ”ต่ายส่ายหน้าให้เพื่อนอย่างระอาใจ เขาไม่ได้มากินร้านนี้บ่อย ๆ สักหน่อย ถึงจะรู้จักเมนูเด็ดที่เพื่อนบอก “เอาข้าวต้มกุ๊ยกับยำกุ้งแห้งครับน้อง”


“...”มือที่จับปากกาไว้นั้นกำปากกาแน่นจนขึ้นข้อขาว ทั้งร่างของเขาเกร็งแข็งจนขยับไม่ได้ ต่างจากหัวใจที่เต้นรัวยามที่ร่างสูงนั้นเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ หูทั้งสองข้างก็อื้ออึงจนไม่ได้ยินเสียงที่ส่งมาถึง


เขาไม่เคยเข้าใกล้คนในใจขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้ง


“เฮ้ย น้องมันกลัวนายว่ะ ต่าย”เสียงแซวจากเพื่อนในโต๊ะดังขึ้น ตามด้วยเสียงหัวเราะจากเพื่อนคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ด้วยกัน ”น้องครับ เพื่อนพี่ไม่กัดนะ ไม่ต้องไปกลัว มัน มันออกจะใจดี”


รณกฤตมองหน้ารุ่นน้องร่วมมหาลัยนิ่ง ก่อนจะยื่นมือไปดันแว่นที่เหมือนจะร่วงออกจากหน้าน้องให้เข้าที่ แล้วเลื่อนมือไปดีดจุกชิสุบนหัวอย่างเอ็นดู


“อ๊ะ”เขมที่เรียกสติกลับมาได้อุทานเสียงเบา ดวงหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขินอายเขาก้มหน้าลงไม่กล้าสู้หน้าคนตรงหน้า “ขอโทษครับ เอ่อ... พี่รับเป็นข้ามต้มกุ๊ยกับยำกุ้งแห้งถูกไหมครับ”


ถึงแม้จะตื่นเต้นจนตัวแข็ง แต่เขมก็ยังจำเมนูที่คนในใจของเขาสั่งออกมาได้แม่นยำ แม่นยิ่งกว่าฟังอาจารย์พูดในคลาสเรียนอีก


“จุกน่ารักดีนะ”ต่ายดีดผมที่ชี้โด่เด่นั้นอีกหลายครั้งจนพออกพอใจ “เอาน้ำส้มมะนาวปั่นด้วยอีกแก้วนึงละกัน”


“คะ ครับ”เขมรีบจดรายการอาหารลงในกระดาษแล้วก้าวขาฉับ ๆ ไปส่งใบให้เจ๊สวยอย่างไวที่สุดเท่าที่คนส่วนสูง 178 จะทำได้


แค่ได้อยู่ใกล้ใจเขาก็เต้นซะเหมือนจะกระเด็นหลุดจากอกแล้ว นี่ถ้าต้องอยู่ตรงนั้นนาน ๆ เขาอาจจะช็อคไปเลยก็ได้


พี่ต่ายใกล้ ๆ มีเสน่ห์ยิ่งกว่าตอนที่เห็นจากมุมไกล ๆ ซะอีก


“ไอ้เขม เหม่ออะไรของเอ็งวะ”เจ๊สวยยกกระบวยตักน้ำแกงชี้หน้าลูกจ้างที่มายืนเอ๋ออยู่ตรงหน้าพักนึงแล้ว “ไปทำงานได้แล้วเอ็ง นี่ ไปเสิร์ฟโต๊ะหนุ่มหล่อซะ แล้วอย่าไปแกล้งทำหกให้เขามีรูปตลกออกไปล่ะ”


ปากเจ๊สวยน่ะพูดกับเขา แต่ตามองอาร์ตที่เคยทำวีรกรรมเด็ดดวงเอาไว้ในครั้งก่อนที่ เหล่าหนุ่มหล่ออาหารตาชั้นยอดมารวมตัวกันกินมื้อใหญ่ที่ร้านด้วยสายตาอาฆาต ก็ลูกจ้างสุดที่รักของเจ๊ก็ดันไปทำสะดุดตัวเองคว่ำชามข้าวลงกลางโต๊ะจนทุกคนแตกฮือหน้านี่เหวอกันหมด แล้วดันมีคนมือดีถ่ายรูปไปลงเพจหนุ่มหล่อบอกต่อด้วย ทำเอาร้านแทบแตกจากสาว ๆ ผู้เกรี้ยวกราด


“ให้พี่อาร์ตหรือพี่ไวท์ไปแทนไม่ได้เหรอครับ”เขมทิวาโอดครวญเมื่อได้ยินคำสั่งของคุณเจ้าของร้านที่เคารพรัก


“อย่ามางุ้งงิ้ง ไปได้แล้ว”ชามข้าวต้มสองชามถูกยัดใส่มือ เขมถอนหายใจน้อย ๆ ก่อนจะเดินไปเสิร์ฟโดยดี


จะงี่เง่ามากได้ยังไง นายจ้างสั่งมานี่


“ข้ามต้มต้มยำปลาเก๋าครับ”ชามเซรามิคสีขาวสะอาดตาถูกวางลงบนโต๊ะยาว “ที่เหลือรอสักครู่นะครับ”


“น้องเขม พี่อยากได้พริกไทย”เจ้าของชื่อที่กำลังจะเดินผละออกไปสะดุ้งโหยง ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยนั้นหันกลับมามองเหล่ารุ่นพี่ด้วยความตกใจ “น้อง ตกใจอะไรน่ะ”


“พี่รู้จักชื่อผมด้วยเหรอครับ”เขมทิวาเอ่ยถามออกไปด้วยความอยากรู้ เขาไม่ใช่คนที่โดดเด่น ไม่เคยสร้างวีรกรรมอะไร


เรียกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเลยด้วยซ้ำ


“ไม่รู้ตัวล่ะสิ”เดือนปีสองจากคณะนิติศาสตร์หันมามองหน้าคนที่เหมือนจะไม่รู้จักตัวเองดีพอพร้อมส่งรอยยิ้มขำ ๆ ให้กับเจ้าตัว “น้องได้ลงเพจบ่อยมากเลยนะไม่ค่อยได้เปิดดูล่ะสิ“


“เพจอะไรเหรอครับ”ท่าทางไม่รู้เรื่องอะไรเลยของรุ่นน้องทำให้พวกเขาหัวเราะออกมาอีกครั้ง


“เพจ Cute boy ของมหาลัยไง แล้วยังมีเพจผู้ชายเป็นของทุกคนอีกเพจที่เอารูปน้องไปลงบ่อย ๆ ไม่รู้ตัวจริงอ่ะ”พี่โจโจ้เดือนปีสี่จากวิศวกรรมศาสตร์มองหน้าเอ๋อ ๆ ของรุ่นน้องต่างคณะอย่างไม่เชื่อสายตา “เอาจริงดิ น้องเล่นโซเชียลบ้างไหมเนี่ย”


“เล่นบ้างครับ...”สำหรับเขา โซเชียลมีเดียมีเอาไว้ส่อง ig ของคนในใจน่ะ ส่วนเฟสบุ๊คถ้าจะมีที่ติดตามจริง ๆ ก็แต่เพจหนุ่มหล่อบอกต่อด้วยเพจเดียวเพราะลงรูปพี่ต่ายบ่อย ๆ ที่เหลือคือไม่ได้สนใจอะไรเลย... รวมไปถึงคำขอเป็นเพื่อนและแจ้งเตือนต่าง ๆ ด้วย


“ไอ้เขม มาเอาข้าวต้มมาอย่ามัวแต่เม้าเดี๋ยวของเย็นหมด”เสียงสูงของคนที่สวยที่สุดในร้านแว้ดเข้ามาในหู “มีอีกหลายชาม อย่ามาอู้!!!”


“ครับ ๆ มาแล้วแล้วครับ”เขมปัดความรู้สึกในใจไปเก็บไว้ในลิ้นชักแล้วหันกลับมาทำหน้าที่ของตนเองให้เสร็จก่อน


แต่เขาก็ตั้งปณิธานไว้แล้วว่าคืนนี้จะไปเปิดเพจต่าง ๆ ดูทั้งหมดเลย


“ต่าย มึงนั่งยิ้มอะไรอยู่คนเดียววะ”เดือนเศรษฐศาสตร์ปีสองหันมาถามเพื่อนสนิทที่นั่งอมยิ้มอยู่กับตัวเอง “เล็งใครไว้หรือไง”


“เปล่าแค่คิดว่ามองเพลินดีนะ”คำตอบที่ไม่ได้ทำให้คำถามกระจ่างขึ้นเลยสักนิด “ ไม่ต้องสนใจกูทุกเรื่องก็ได้โอเว่น”


“เอ้า ว่ากูเสือกอีก”โอเว่นเบ้ปากก่อนจะเลิกสนใจเพื่อนที่เข้าสู่โลกส่วนตัว ปล่อยมันไป เอาเวลาไปชนโคล่ากับเพื่อนคนอื่นดีกว่า


แต่ถ้าเป็นวันศุกร์ก็ขอชนด้วยน้ำหมักแล้วกันนะ



หลังเลิกงานจากร้านเจ๊สวย เขมก็รีบกลับห้องไปเปิดแอปพลิเคชั่นสีน้ำเงินดูทันที


“Cute boy อย่างนั้นเหรอ”ปลายนิ้วเรียวฉบับคนมือสวยพิมพ์ชื่อเพจที่คุ้นเคยอยู่พอประมณลงไปในช่องค้นหา “เฮ้ย”


แก้มใสขึ้นสีแดงก่ำเมื่อเห็นรูปที่เพิ่งถูกอัพขึ้นมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเป็นรูปที่เขาโดนพี่ต่ายแกล้งในร้านเจ๊สวย


Cute boys

ว๊าย ตาเถร อะไรกันคะเนี่ย ทำไมเจ้าชายเศรษฐศาสตร์ไปหยอกเล่นกับคุณหนูอักษรแบบน้านนน นั่ลลั๊กอ่ะ #เจ้าชายตอนชิวหล่อมว๊าก #ไหนใครว่าหนุ่มแว่นเชย #หนุ่มแว่นโมเอ้มากค่ะลูก ทำไมมอ.zzz มีแต่คนหน้าตาดีแบบนี้ล่ะคะ

*** แนบรูป ***



เขมเบิกตากว้างมองรูปที่โคตรชัดในมือถือ นี่เขาจะม้วนตัวลงในผ้าห่มไปทุบ ๆ ๆ เตียงก่อนดี หรือจะหวีดร้องว่าซวยแล้วก่อนดีนะ... นิ้วโป้งเขาก็ดูจะทำงานผสานกับหัวใจมากเกินไปหน่อย เผลอแปปเดียว ไปกดเซฟรูปเข้าเครื่องซะอย่างนั้น


ว่าแต่... ถ้าไปขอไฟล์ใหญ่มาอัดใส่กรอบตั้งบนโต๊ะเขาจะหาว่าโรคจิตไหมนะ


เขาเลื่อนไปดูรูปเก่า ๆ ที่เพจเคยลง เห็นรูปตัวเองในที่ต่าง ๆ ลงอยู่ บางรูปไม่ใช่ที่มหาลัยหรือร้านเจ๊สวยด้วยซ้ำไป หลายรูปมีชื่อเขาแท็กอยู่ในคอมเม้นด้วยซ้ำ


สรุปเขามึนหรือเขาโง่นะ ที่ตอนแรกนึกว่ารูปที่เพื่อน ๆ แท็กเขาในเพจเป็นรูปที่เพื่อนถ่ายให้เล่น ๆ ไม่ได้เอะใจดูชื่อเช่ออะไรเลยสักครั้ง


นี่เขามีสตอล์กเกอร์ติดตามตัวด้วยเหรอเนี่ย...



พระเจ้า! สตอล์กเกอร์ที่มีสตอล์กเกอร์ติดตามตัว...!!

เดี๋ยวนะ ๆ ชิบหายแล้ว แบบนี้ก็มีคนรู้น่ะสิว่าเขาแอบมองใครคนนึงอยู่แทบทุกวัน





เหมือนงานจะเข้าหรือเปล่านะ เขมทิวา





@@@@@@@@@

มาอัพต่อแล้วเจ้าค่ะ ออเจ้า

น้องเขมของเราน่ารักไหมคะ^^ น่อออ แล้วพี่ต่ายของเรามองอะไรอยู่น้าาา

ยังไงก็ฝากติดตาม #คนในใจ ด้วยนะคะ แวะมาพูดคุยกรีดร้องกันได้ทั้งในเพจและทวิตค้าา

จะมาอัพเรื่อย ๆ นะคะ

รักกก

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
พี่ต่าย ... ดูท่าจะเป็นพระเอกน่ารัก ๆ

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
คงไม่ใช่แค่น้องเขมแล้วล่ะ พี่ต่ายเองก็คงมองน้องอยู่เหมือนกัน

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 2
คนในใจกับสนามฟุตบอล

มหาวิทยาลัยวันนี้สำหรับเขมทิวายังคงเหมือนเดิม วิวทิวทัศน์ในการเดินจากหอไปยังตึกเรียนก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสายตาของคนที่มองมาด้วยความสนอกสนใจ

เขารู้สึกเหมือนกับว่าตนเองเป็นซุป’ตาร์ยังไงไม่รู้

“เขมมมม พี่รณกฤตตัวจริงหล่อไหมม”แอนเดรีย หรือจริงๆมันชื่อเอ หนุ่มตัวสูงหัวใจนางสาวไทยแล่นมาซบหนุ่มแว่นของคณะ ดวงตาที่ติดขนตาหนาเป็นกันสาดกระพรือเสียจนเขมกลัวว่าเพื่อนจะบินขึ้นไปติดอยู่บนเพดาลห้องเลคเชอร์ “แบบว่า เราเห็นนะตัวเองงง สวีทกับสามีเราอ่ะ”

“สวีทอะไร เราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”เขมขยับมือมาลูบหัวคนที่ซุกไซร้อยู่ตรงอกท่ามกลางสายตาเอือมระอาของเพื่อนร่วมคลาส

“ถ้าเป็นเขมเรายอมให้เป็นเมียหลวงของสามีเราก็ได้”ริมฝีปากที่แต่งแต้มลิปกรอสกดจูบที่แก้มขาวทิ้งรอยมัน ๆ อมชมพูเอาไว้เป็นอนุสรณ์ “เจ้าชายเศรษฐศาสตร์กับคุณหนูอักษร เข้ากั๊น เข้ากัน”

“ไม่เอาน่า แอนเดรีย พี่เขาเสียหายหมด”เขมหัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อเพื่อนชายหัวใจสาวลวนลามเขาด้วยการลูบไล้อกที่มีความนูนแค่ตรงหัวนมของเขา “จั๊กจี้นะ แอนเดรีย”

“เนี่ย พวกหล่อนเห็นมะ เขมยังเรียกชื่อฉันถูกเลย”แอนเดรียตวัดสายตาไปมองแก๊งชะนีเพื่อนสาวของเธอที่พากันทำตามองบน

“กลับมานั่งนี่ได้ละไอ้เอ”ลิลี่ ดาวคณะอักษรของปีหนึ่งกวักมือเรียกเพื่อนที่จะแปลงร่างเป็นตุ๊กแกเกาะตัวของคนเรียบร้อยให้กลับหลุมสักที “เขม นายก็ไม่ต้องไปตามใจมันมากก็ได้ เหลิงหมดละ”

“กรี๊ดดด ยัยดอกขาว อย่ามายั่วยุสามีคนที่แปดสิบหกของฉันนะยะ”เขมหัวเราะออกมาอีกเมื่อเจ้าแม่ขนตาปลอมหันไปกรีดร้องใส่กลุ่มเพื่อนของเธอ “แล้วอีกอย่างนะหล่อน เอ เอ็น ดี อาร์ อี เอ แอนเดรียย่ะ”

“ไอ้เอ มึงหยุดฝันแล้วปล่อยเพื่อนไปนั่งได้แล้ว”แก๊งสาวงามอักษรกวักมือเรียกเพื่อนอีกครั้ง แอนเดรียทำหน้าบึ้งกระทืบเท้าตึงตังเดินไปนั่งปุรวมกลุ่มโดยดี

แต่ไม่ถึงสามนาทีก็นั่งเม้ามอยกับเพื่อนแล้ว...

“เฮ้ย เขม วันนี้จะไปสนามฟุตบอลไหม”เทนนิสถามเพื่อนที่เดินมานั่งประจำที่ เขาส่งกระดาษทิชชู่ที่ทัศน์ยื่นมาให้ส่งให้กับเพื่อนที่มีรอยลิปติดแก้มเป็นวงใหญ่

“ขอบใจ... ทำไมวันนี้มาชวนล่ะ”เขมรับทิชชู่มาเช็ดแก้มของตัวเอง ก่อนจะทิ้งลงในกระเป๋าเพื่อนสนิทอย่างหน้าตาเฉย

“นิสัยนะมึง”ถึงจะผลักหัวเพื่อนซี้ไปที แต่เทนนิสก็ไม่ได้หยิบซากอารยธรรมในกระเป๋าปาคืนเพื่อนไป เพราะตัวเขาทำบ่อยกว่าเขมทิวาซะอีก “แล้วสรุปไปไหม”

“แล้วสรุปทำไมชวน”เขมถามคำถามเดิมกลับด้วยสีหน้ากวน ๆ ดวงตาคู่สวยนั้นพราวระยับประกายรู้ทันเพื่อนสนิท

“วันนี้หลีดลงซ้อม กูจะไปดูพี่เนย จบไหมครับคุณหนู”คนที่หมายปองสาวรุ่นพี่ตอบอย่างเซ็ง ๆ “รู้อยู่แล้วยังจะถามอีก มึงเนี่ย”

“มันจะเอามึงไปบังหน้า มึงไม่ต้องไปก็ได้เขม”ทัศน์ปิดหนังสือในมือลง ตาเหล่มองคนที่ส่งสายตาอาฆาตมาให้ด้วยความเฉยชา “มันป๊อด”

“กูไม่ได้ป๊อด”เทนนิสหันไปเถียงเพื่อนที่เอาความจริงมาแฉอย่างหน้าตาเฉยทันที “เขาเรียกว่ารู้สึกประหม่าเมื่อได้สบตากับเธอต่างหาก”

กระดาษทิชชูใช้แล้วถูกปาใส่คนขี้ป๊อดแต่ไม่ยอมรับตัวเอง ไม่พอยังแถสีข้างถลอกให้เพื่อนร่วมแก๊งและคนแอบฟังหัวเราะอีก
ไม่รู้เหรอว่าการทำให้คนอื่นหัวเราะท้องแข็งมันเป็นบาป

“ไปก็ไปสิ ก่อนถึงเวลาเปิดร้านเจ๊สวยยังไงก็ว่างอยู่แล้ว”เขมตกปากรับคำไป แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าในใจเขาตะโกนกว่าไปตั้งแต่คำแรกที่ชวนแล้วล่ะ แต่จะให้รับคำทันทีที่ชวนมันก็ดูจะน่าสงสัยไปสักหน่อย แค่ทุกวันนี้ที่ต้องเลี่ยงการตอบคำถามที่ว่าจะไปนั่งตากลมข้างสนามฟุตบอลทำไมบ่อย ๆ ก็แย่ละ “แน่ใจนะว่านายไม่ได้ป๊อดน่ะ นิดนิสคุง”

“กูจะบอกอีกครั้งว่ากูชื่อเทนนิสครับ”คุณชายเทนนิสทำหน้าเซ็ง เขากะว่าจะหาอะไรสักอย่างมาปาใส่เพื่อนที่บังอาจมาตั้งชื่อใหม่ให้เขา แต่เหมือนดาวโชคดีจะเข้าข้างเพื่อนแว่นเสมอ

“เรามาเริ่มกันเลยนะ”อาจารย์สาวเสียงโมโนโทนที่สอนวิชาเรียนรวมบังคับของมหาวิทยาลัยมาถึงก็ต่อโปรเจคเตอร์ฉายสไลด์สอนทันที “ต่อจากคราวที่แล้วนะคะ สงครามในสมัย...”

ด้วยน้ำเสียงมีเสน่ห์มนต์ขลังขั้นสุดของอาจารย์ผู้เป็นที่รักของเหล่านักศึกษานั้น ดลบันดานให้ห้วงนิทรามาสู่เด็ก ๆ ของเธอจนเข้าฌานไปกว่าครึ่งห้อง โซเชียลที่ไว้นั่งเขี่ยแก้ง่วงก็เอาไม่อยู่ แม้แต่ทัศน์ที่เป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนมาตั้งแต่ประถมจนจบม.ปลายยังอดสัปหงกไม่ได้

คงเหลือแต่คนที่นั่งดูดกาแฟกระป๋องที่จิ๊กมาจากหนึ่งในสาวงามแบบคิดเองเออเองของอักษรอย่างเขมทิวาเท่านั้นที่ยังนั่งหลังตรงจดไปดูดกาแฟด้วยหลอดนมขวดไป

”ยังไงก็สู้คาปูชิโน่ไม่ได้อยู่ดีล่ะน้า~”ไม่วายมีการบ่นไปกินไปด้วย ”แต่ก็อยากกินโกโก้ปั่นอยู่เหมือนกันแหะ หรือเอาเป็นนมโอรีโอ้ดี”

คนอัจฉริยะมักคุยกับตัวเอง... ล่ะมั้ง

เสียงของอาจารย์สาวยังคงดังต่อเนื่องตลอดสามชั่วโมงของการเรียนในช่วงเช้า เหล่านักรบที่มาสู้ศึกในห้องเรียนนั้นสยบแทบเท้าอาจารย์ไปแทบหมดสิ้น

“เอาล่ะ พี่ให้การบ้านไปอ่านและเขียนสรุปบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่ชอบมาคนละเรื่องส่งคาบหน้าเป็นคะแนนนะ วันนี้เลิกคลาสได้”ด้วยความเล็งเห็นความอัจฉริยะภาพในตัวของนักศึกษาส่วนใหญ่ ผู้เป็นอาจารย์จึงขอส่งเสริมเด็ก ๆ ที่น่ารักของเธอด้วยการบ้านง่าย ๆ สักหน่อย

“ใครลอกเน็ตมาจะโดนหักคะแนนและทำใหม่เป็นสองเท่านะคะ”

คำเตือนส่งท้ายเรียกเสียงโอดครวญในใจของเหล่าคนขยันแห่งปี แต่ทุกคนก็จำต้องยอมรับในชะตากรรมนั้น และทำต่อไป
โรงอาหารของตึกรวมในเวลากลางวันไม่ต่างจากสมรภูมิรบดี ๆ ที่ทุกคนต่างแย่งชิงจานอาหารในร้านอร่อย ผู้ที่ถูกลิขิตไว้ให้อยู่เหนือผู้อื่นก็จะได้จานเด็ดไปในวันนี้ เขมทิวาเองก็เป็นคนโชคดีคนนั้นเหมือนกัน

”กระเพราะหมูสับเต้าหู้ไข่ได้แล้วจ๊ะ”จานข้าวที่มีทั้งข้าวและกับพูนจานเลื่อนส่งมาตรงหน้าของเด็กหนุ่ม “ของหนูไม่ไข่ สี่สิบบาทจ๊ะ”

“นี่ครับ”เขมวางแบงค์ยี่สิบสองใบลงบนมือของแม่ค้าวัยกลางคน ก่อนจะหยิบจานข้าวมาราดพริกน้ำปลาแล้วเดินตัวปลิวไปที่โต๊ะ นั่งจุ้มปุ๊กรอเพื่อนที่ยังอยู่ในสนามรบ ไม่รู้ว่าจะแห้วไหมนะนั่น

“โหยยยย เขมแม่ง ได้ของดีอีกละ”เทนนิสวางจานข้าวขาหมูลงอย่างเซ็ง ๆ ไอ้ที่เขาซื้อมามันก็อร่อยแหละ แต่ไม่เท่าของเพื่อนอ่ะ “เขาลั่นใส่เต้าหู้มาให้ทั้งหลอดเลยใช่ไหมวะ”

“น่าจะหลอดครึ่ง”ทัศน์ชะโงกหัวมาจากทางด้านหลัง ในมือเขามีก๋วยเตี๋ยวน้ำตกส่งกลิ่นหอมฉุยของสมุนไพรที่พ่อครัวอัดลงไปในหม้อ

“พลังของหนุ่มแว่น...”เพื่อนสองคนหันไปมองหน้าเจ้าของจานข้าวที่ดูจะพิเศษกว่าคนอื่นในราคาธรรมดา “สุดยอด!!”

“นายก็ไปเล่นกับนิดนะทัศน์”เขมหัวเราะกับความขี้แซวของเพื่อน ถึงมันจะจริงที่จานข้าวขอเขามันดูจะล้น ๆ ไปสักหน่อยก็เถอะ “รีบกินจะได้ไปทำรายงานกัน”

“โหยยยย”เทนนิสโหยหวนขึ้นทันทีที่พูดถึงงานอันไม่น่าพิสมัย อยู่มหาลัยแล้วทำไมต้องมานั่งเขียนรายงานงก ๆ กันด้วยวะเนี่ยยย

“ท่องไว้นิส พี่หลีด พี่หลีด พี่หลีด”เสียงสะกดจิตของทัศน์ที่ฟัง ๆ ไปแล้วความหมายมันชักจะเพี้ยน ๆ อย่างบอกไม่ถูก “พี่หลีด พี่หลีด พ—”

“เอิ่ม มึง ไม่ต้องมากล่อมกูเลย”คนที่เล็งสาวรุ่นพี่ไว้เบรกเพื่อนทันทีพร้อมทำหน้าสยอง “ทำไมกูฟังแรก ๆ ก็พี่หลีด และพอฟังเรื่อย ๆ แล้วเป็นพวงหลีดวะ”

“เราอุตส่าไม่พูดละนะนิด”เขมที่นั่งกลั้นหัวเราะตั้งแต่พี่หลีดสองคำแรกหลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่จริง ๆ “ลากเสียงยาวชีวิตก็เปลี่ยนได้”

“ลงโลงไปเลยย เฮ้~”คนที่ลากเสียงยาวรับทุกเพื่อนหน้านิ่ง สองแขนชูขึ้นมืออยู่ระดับหัว ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมโต๊ะได้มากกว่าเดิม

“พอ ๆ แดก!”คนที่ตกเป็นเป้ารีบปิดเรื่องคุยด้วยการตักข้าวขาหมูคำโตเข้าปากไป “อะอีบไออำอายอานไอไอ้อ๋อ”

“กินให้หมดคำก่อนค่อยพูดสินิด”เขมแยกเขี้ยวใส่เพื่อนที่ทำตัวเป็นเด็ก ก่อนจะลงมือกินข้าวในจานของตนเองบ้าง

“ครับ ๆ คุณหนู”คุณหนูนี่คุณหนูจริง ๆ เลย “กระผมจะทำตามคำคุณหนูเดี๋ยวนี้ล่ะขอรับ”

ฉายาคุณหนูของเขมทิวาไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอย ๆ เรียกสนุกปากอย่างที่บางคนคิด แต่มาจากนิสัยของเจ้าตัวที่ค่อนข้างจะเรียบร้อย ไม่พูดคำหยาบคาย และใบหน้าที่จะติดอมยิ้มตลอดเวลา รวมไปถึงการจัดระเบียบชีวิตของตัวเองที่ออกจะเป๊ะไปไม่หน่อย เพื่อน ๆ และพี่ ๆ ในคณะเลยเรียกเขาว่าคุณหนูด้วยความเอ็นดู ไม่ใช่ความหมั่นไส้ส่วนตัว ซึ่งเจ้าตัวก็น้อมรับโดยดี ไม่ว่าอะไร
ถึงจะไม่ค่อยมีเวลาให้ใครเพราะต้องทำงานพิเศษ แต่คนหน้าตาดี เรียนดี น้ำใจดี ไม่หยิ่ง ใครมันจะไปเกลียดลงกันล่ะ


ห้องสมุดก็ยังเป็นแหล่งพักพึงของเหล่านิสิตนักศึกษาที่ต้องการจะหาความรู้เพิ่มเติมใส่สมอง หาข้อมูลไปทำรายงาน และ...

“มึงกลับไปนอนหอไป ไอ้นิส”เป็นที่พักผ่อนที่เงียบสงบ เย็นสบายสำหรับหลาย ๆ คนด้วย “กูกับเขมจะทำรายงาน เกะกะ”

“น่า ของีบแปปเดียว เดี๋ยวกูลุกขึ้นมาทำ”เสียงยาน ๆ ยืด ๆ ของคนที่กินอิ่มต้องนอนหลับตอบกลับเพื่อนสนิท “แปปเดียวเอง...”
จบคำที่เอ่ย เจ้าตัวก็ไปเฝ้าพระอินทร์อย่างเป็นสุข

เขมทิวามองคนที่หลับอุตุภายในเวลาไม่กี่นาทีได้ด้วยความอิจฉา ตัวเขาถ้าไม่เหนื่อยจัดจริง ๆ กว่าจะกล่อมตัวเองหลับไปก็นานโข

แป้งกระป๋องถูกหยิบออกมาจากส่วนลึกของกระเป๋า เขมสบตากับทัศน์แล้วยิ้ม ทัศน์เองก็ส่งยิ้มกลับมาอย่างรู้ทันความคิดเพื่อน

“ปะแป้งก่อนนอนนะเด็กดี”ทัศน์คว้าแป้งเด็กในมือเพื่อนมาบีบพ่นใส่คนหลับลึกจนหอมฉุยขาวเนียน “จะได้หลับสบาย”

สองเพื่อนขยันยกนิ้วโป้งให้แก่กันก่อนจะหันไปก้มหน้าก้มตาทำงาน ทิ้งผลงานชิ้นเองระดับที่แวนโก๊ะยังต้องตะลึง ดาวินชีต้องศิโรราบให้เหล่าคนที่มาเยอะยังห้องสมุดชั้นสามได้เชยชม

เมื่อปลายปากกาของสองหนุ่มจรดตัวอักษรสุดท้ายลงบนกระดาษ ดวงตาที่ปิดสนิทของสหายคนที่สามก็ลืมขึ้นอย่างรู้เวลา

“ฮัดเช้ย”แป้งสีขาวฟุ้งตามแรงลมที่พ่นออกมาพร้อมละอองน้ำขนาดเล็กที่กระเด็นไกลหลายเมตร “พวกมึงเล่นอะไรกันเนี่ยยยยย”

“ปะแป้งก่อนนอนไง”ทัศน์ตอบกลับหน้าตาเฉย ในขณะที่เขมนั่งหัวเราะเทนนิสที่ทำหน้ายุ่งเหยิง มือถือขวดแป้งแกว่งไปมาเชิงบอกว่า นี่ไง แป้งกระป๋องนี่ไงที่อยู่บนหัวนาย “บริการย้อมสีผมฟรี มีกลิ่นหอม ล้างออกได้ในทันทีเพียงเอาน้ำราด”

“หุบปากไปเลยแม่ง”เทนนิสแยกเขี้ยวให้เพื่อนด้วยความหงุดหงิด แต่จะโวยวายไปก็เท่านั้น เขาเปิดช่องให้พวกมันเอง “จำไว้นะพวกมึงงง”

ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นไปห้องน้ำ ทุกย่างก้าวมีออร่าสีขาวฟุ้งกระจายส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไปทุกอณู ผมสีดำสนิทนั้นกลายเป็นสีขาวไปเกือบทั้งหัวแต่กลับไม่ทำให้คนผิวเหลืองคนนี้ดำได้

“ถ้านิดทำตัวดี ๆ หน่อยก็คงจะได้เป็นเดือนคณะไปแล้วเนอะ ทัศน์”เขมรู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ของเขาอยากเป็นเดือนคณะไม่น้อย เพราะอยากมีตำแหน่งไปจีบสาวที่ชอบ แต่ก็ชวดไปเพราะท่าทีทะเล้นกวนเบื้องล่างและการเห็นการนอนเป็นสิ่งสำคัญมากกว่างานในชีวิตประจำวันนั่น

“เอาน่า ไม่ได้ตำแหน่งเดือนไม่ได้หมายความว่ามันจะชวดสาวนี่”คนที่ไม่เห็นตำแหน่งเดือนคณะอยู่ในสายตายักไหล่ ส่วนมือนั้นกวาดของลงกระเป๋าเตรียมตัวออกจากห้องสมุด “คุณหนูเถอะ เอาแต่นั่งมองระวังจะชวดเอานะ”

“บางทีการมองอย่างเดียวมันก็มีความสุขมากกว่าการยื่นมือไปแตะต้องนะทัศน์”ดวงตาที่ประกายระยับหันไปสบกับเพื่อนที่มองมาด้วยความเป็นห่วง “น่า ไม่ต้องห่วงหรอก เรารู้ลิมิตของเราดีนะ”

“ตามใจ”ไม่ใช่เรื่องของเขาจะพูดอะไรได้มาก ก็ได้แต่มองเพื่อนที่ดูจะแอบรักคนอื่นอยู่ข้างเดียวแบบนี้ต่อไป
เผื่อสักวัน... อาจจะต้องยื่นไหล่กว้าง ๆ นี่ไปให้ซบก็ได้

“มึงงง ไปกันได้แล้วววว”หยดน้ำเป้ง ๆ กระเด็นมาโดนชายหนุ่มสองคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะพาลให้สะดุ้งโหยง “จะถึงเวลาแล้วเนี่ย ชักช้าาา”

เทนนิสคว้าเอากระเป๋าขึ้นมาคุ้ยเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัว แล้วเหวี่ยงกระเป๋าใบเดิมนั่นไปให้เพื่อนถือไว้ แน่นอน ใครจะไปกล้าใช้คุณหนูถือของกัน

ตำแหน่งคนถือของนี่ต้องเป็นขี้ข้า only!!


สนามฟุตบอสในช่วงเย็นก็ยังคงเต็มไปด้วยผู้คนที่มานั่งเล่นกินลมชมวิวเหมือนทุกวัน เขมกับเพื่อนที่เพิ่งมาถึงก็พากันเดินไปที่นั่งประจำเหมือนทุกวัน

แต่มันก็มีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิมอยู่...

“อ้าว น้องเขม มาด้วยเหรอ”เสียงเรียกที่ทำเอาคนที่กำลังเดินขึ้นอัศจรรย์สะดุ้งเฮือก “ไปนั่งอะไรบนนั้น มา ๆ ลงมานั่งข้างล่างเลย”

ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในสมองเด็กหนุ่มคือ นี่เขาไปสนิทกับกลุ่มเดือนดังของมหาลัยถึงขนาดที่มีการกวักมือเรียกหยอย ๆ ให้ไปนั่งริมสนามตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“ไปดิ เขม พี่เขาเรียกแล้วน่ะ”แต่เหมือนจะมีคนได้ประโยชน์จากความสนิทสนมที่มาอย่างไม่รู้อิโหน่อิดหน่นี่เหมือนกันล่ะนะ

คนที่รักน้ำ รักปลา รักโรงเรียน รักเพื่อน อย่างเขมทิวา มีหรือที่จะปฏิเสธเพื่อนสนิทที่ออกกน้าออกตาอย่างเต็มกำลังว่าอยากจะลงไปรอดูสาวที่ชอบใกล้ ๆ ลง เขาเดินนำเพื่อนทั้งสองลงไปนั่งที่เก้าอี้โค้ชข้างสนามอย่างไม่อิดออดอะไร

แต่ในใจน่ะ โวยวายเต็มที่แล้ว

“น้องคุณหนู วันนี้ไม่ทำงานเหรอครับ”เทียน เดือนปีสองคณะอักษรศาสตร์รุ่นพี่ของก๊วนสามหน่อทิ้งตัวลงข้าง ๆ เด็กหนุ่มที่ทำหน้าแหย ๆ “โดนเพื่อนฝืนใจมาหรือไง”

“เปล่าครับพี่เทียน ผมแค่มานั่งหนีแดดรับลมรอเวลาร้านเจ้สวยเปิดน่ะครับ”รอยยิ้มอบอุ่นราวกับพระอาทิตย์ยามเช้าที่เป็นจุดขายของเขมทิวาถูกยกขึ้นมาใช้

“เอ้า ใครมานั่งส่งยิ้มละมุนละไมอยู่ตรงนี้เนี่ย”โจโจ้คนกวนประจำหมู่เดือนโผล่มาข้างหลังเดือนบัญชีที่เป็นคนโบกมือเรียกน้อง ๆ ลงมา เขาแกล้งทำตาโตใส่รุ่นน้องที่นั่งหน้าสลอนเรียงสามอยู่ตรงหน้า ส่วนรุ่นพี่ที่นั่งเป็นคนที่สี่นั่น... เมิน ๆ ไป “โอ๊ะโอ วันนี้คุณหนูเขมพาเพื่อน ๆ มานั่งดูเดือนด้วยเหรอเนี่ย”

“มานั่งดูหลีดครับรุ่นพี่”ตอบนิ่ม ๆ ตามสไตร์ของเขมทิวา เลยได้เขี้ยวสองข้างส่งมาตอบแทน

“พูดงี้ลงมาไฟท์กันในสนามเลยมา”คนเป็นรุ่นพี่เชิดปาดขึ้น สายตามองมาอย่างท้าทาย แต่เหมือนเจ้ารุ่นน้องที่หมายตานั่นจะไม่รู้สึกรู้สาเลย

“ผมเล่นบอลไม่ค่อยเป็นหรอกครับ”เขมส่ายหน้าให้กับคนท้า แล้วหันไปสบตากับเพื่อนสนิทอย่างรู้กัน

“งั้นเล่นอะไรเป็นล่ะ”สัมผัสหนัก ๆ ที่หัวมาพร้อมกับเสียงที่ทำให้หัวใจคนฟังเต้นรัว แก้มขาวขึ้นสีเรื่อเมื่อความอบอุ่นจากมือข้าวนั้นแผ่ซ่านลงมาทั่วกาย

“อา... เอ่อ ผม...”คำถามง่าย ๆ กลับตอบยากขึ้นมาเมื่อสมองนั้นว่างเปล่า เสียงหัวใจที่เต้นดังกลบเสียงรอบข้างยิ่งทำให้สติที่พอมีอยู่เลือนรางลง “ผมเล่นบาสได้ครับ”

เก่งด้วย... แต่ไม่พูดนะ เดี๋ยวจะหาว่าอวดตัว

“งั้นพรุ่งนี้มาเล่นด้วยกันซักแมตช์สิ”กระเป๋าใบขนาดกลางถูกวางลงบนตักของเขมพร้อมผ้าขนหนูผืนสะอาดคล้องลงที่คอ “ฝากหน่อย”

“คะ ครับ”เขมรวบกระเป๋าที่ยังงมีไออุ่นจาง ๆ จากผู้เป็นเจ้าของไว้ในอ้อมแขน แอบสูดดมเนียน ๆ ไม่ให้ใครเห็นแล้วกรีดร้องก้องในใจ

ถึงจะไม่สมหวัง แต่ได้เห็นใกล้เข้ามาอีกนิด สนิทขึ้นมาอีกหน่อยมันก็ดีถมแล้วจริง ๆ

“มีน้ำกับขนมปังในกระเป๋า ถ้าหิวก็หยิบมากินได้เลยนะ”มือร้อนขยี้หัวทุย ๆ ของรุ่นน้องต่างคณะที่ยิ้มค้างด้วยความเอ็นดู

“แล้วพี่ต่ายจะกินอะไรล่ะครับ”เขมถามกลับไปด้วยความเป็นห่วงปนเกรงใจในความใจดีของรุ่นพี่ต่างคณะ “ผมไม่หิวหรอกครับ”

“พี่ก็กิน...”เสียงที่ลากยาวกับดวงตาคมที่เลื่อนมองสบตาก่อนจะหลุบลงมาที่ริมฝีปากสีอ่อน พาให้คนถูกมองหน้าเห่อร้อนขึ้นไปอีก “กินข้าวกับเพื่อนน่ะสิ หรือน้องเขมสนใจไปกินกับพี่สักมื้อล่ะครับ”

คำถามที่ไม่ได้รอคำตอบ...

ทิ้งระเบิดตูมใหญ่ไว้ก่อนจะลงสนามอีกนะ คนในใจ!

ดวงตาสีน้ำตาลคู่เดิมยังคงมองคนเดิมที่อยู่ในใจไม่ห่าง ยิ้มให้กับลูกที่ยิงเข้า เสียดายกับลูกที่ยิงพลาดคละเคล้ากันไปจนฟ้ามืดลง

มัวมองคนที่อยู่ในใจมานานนับปีอย่างเพลิดเพลินจนลืมเวลาไปทำงานพิเศษจนต้องวิ่งหูตั้งไปที่ร้านและโดนเจ้คนสวยของร้านมองด้วยสายตาคาดโทษไปหนึ่งดอก และได้ป้ายอภัยโทษทันทีที่เหล่าเดือนยกโขยงมากินข้าวต้มที่ร้านในเวลาต่อมา

ในคืนนั้น เขมทิวาจับจ้องรูปในเพจ Cute boys ที่ลงรูปตัวเขากำลังยื่นผ้าขนหนูให้กับพี่ต่ายด้วยรอยยิ้มหวานอยู่นานสองนาน นี่ตัวเขาออกนอกหน้าเกินไปหรือเปล่านะ แต่ในวินาทีนั้นเขาก็อดที่จะยิ้มให้กำลังใจคนที่เพิ่งแข่งชนะเพื่อนมาหมาด ๆ ไม่ได้

“รูปนี้ถ่ายได้ดีจังเลยน้า”เด็กหนุ่มอดที่จะเปรยออกมาไม่ได้ เขาหมายมั่นตั้งใจไว้แล้วล่ะว่าจะต้องเอารูปนี้ไปอัดให้ได้

และในตอนนี้นายเขมทิวานั้นก็มัวแต่อ่านแฮชแทคไป เขินไป อ่านคอมเม้นไป กลิ้งไป จนลืมคำพูดบางคำของคนในใจที่ทิ้งไว้ตั้งแต่ต้นไปเสียสนิทเลย...

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

มาอัพตอนที่สองแล้วค้า ไม่ค่อยได้เปิดคอมเลยไม่ค่อยได้อัพเลย ขอโทษด้วยนะคะ จะพยายามอัพให้ถี่ขึ้นค้า

^^

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่ต่ายก็ชอบน้องใช่ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
งูยยยยยยยยยย เขิน  สงสารทัศ ก็สงสาร แต่มันเขินจริงๆค่ะ 55555555 :hao6:

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 3
มิตรภาพ

ห้องเรียนในคาบเช้าช่วงต้นของการสอนมักจะมีนิสิตนักศึกษานั่งกันอยู่บางตา และจะบางอยู่อย่างนั้นหากว่าไม่มีการเช็คชื่อในเวลาถัดไป

นักศึกษาปีหนึ่งส่วนใหญ่นั้นจะมาเข้าเรียนกันตรงเวลาในตอนต้นเทอม และต่อย ๆ สายมากขึ้นเมื่อรับรู้ถึงนิสัยของอาจารย์ผู้สอนแต่ละคน จนไปถึงหยุดเรียนไปดื้อ ๆ แล้วยืมเลคเชอร์เพื่อนไปจดแทนก็มีไม่น้อย

แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่เขมทิวาคนขยันแน่นอน

“อ้าว เขม มาแต่เช้าเลย”เสียงใสของเพื่อนสาวในคณะเอ่ยทักคนที่นั่งอ่านการ์ตูนในมือถืออยู่กลางห้อง “วันนี้ไม่อ่านหนังสือเรียนแหะ”

“เราไม่ได้ขยันขนาดนั้นนะ เมล”เขมยิ้มให้กับเพื่อนที่มาทักทายและหัวเราะออกมาเบา ๆ “ถ้าเราอ่านหนังสือเรียนทั้งวันเราอาจจะกลายเป็นตาลุงหัวใสปิ๊งสะท้อนแดดก็ได้นะ”

“โอ้ย คุณหนู ต่อให้ไม่มีผมก็ยังดูดีเหอะ”คาราเมลกรอกตามองคนที่ดูจะไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองหน้าตาดีอย่างเซ็ง ๆ “ได้เปิดเฟสอัพเดตเรื่องส่วนตัวยัง”

“มีอะไรเหรอ เมล”มือขาวหยิบเอาสมาร์ทโฟนคู่ใจออกมาเปิดหน้าไทม์ไลน์อัพเดทข่าวคร่าวตามคำเพื่อน แต่ยังไม่ทันที่จะได้เลื่อนดูอะไร มันก็มีสิ่งที่ทำให้เขมทิวาตกใจเสียก่อนหน้าแล้ว “เฮ้ย”

แจ้งเตือนหลักร้อยนี่มันอะไรกันวะ!!!

นิ้วโป้งสะบัดไถจอมือถือไล่หาต้นเหตุที่ทำให้เฟสบุ๊คเขาแจ้งเตือนทะลัก อินบ็อกทลาย เฟรนด์แอดถล่มด้วยสีหน้าที่ยังคงยิ้ม แต่หัวคิ้วมุ่นเข้

หากันอย่างหงุดหงิดเบา ๆ

อันที่จริงแล้วต้นทางมันก็หาไม่ยากเท่าไหร่ เพจเดิม ๆ ที่ลงรูปใหม่ ๆ พร้อมแคปชั่นชวนจิ้นที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาววายทั่วทุกมุมเพจให้มารวมกัน


Cute boys
ว้ายยย มานี่เร็วววววเหล่าชะนี เก้ง กวาง บ่างน้อย ๆ ของเดี๊ยน ดู๊ดูเจ้าชายเศรษฐศาสตร์สิคะ คู๊ณณณณ ว่ารูปส่งผ้าหวานแหววเมื่อคืนมดขึ้นแล้ว นี่ค่ะ รูปใหม่ แหม่ มองตาหวานแบบนี้ไม่ขย้ำคุณหนูลงท้องไปเลยล่ะเจ้าคะะะะ โอ้ยยย มีซัมติงอะไรกันชิมิ ๆ #พี่ต่ายน้องเขม #เจ้าชายเศรษฐศาสตร์กับคุณหนูอักษร #ตกหลุมรักหนุ่มแว่นหน้าใส #ตาหวานฉ่ำ



รูปที่แนบอยู่ด้านล่างเป็นรูปที่เขมกำลังก้มลงไปหยิบกระเป๋าเตรียมจะลุกไปทำงานพิเศษโดยมีสายตาของต่ายที่มองมาเหมือนในโลกนี้มีกันแค่สองคน

มือขาวคว่ำมือถือลงพร้อมฟุบหน้าลงกับโต๊ะ สองแก้มร้อนฉ่าแดงก่ำลามใบถึงใบหูที่ถูกปิดไว้ด้วยกลุ่มผมนุ่ม ให้ตายเถอะ ใจเขาเต้นแรงอีกแล้ว

ใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าเขมจะควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจให้กลับมาเป็นปกติได้ สายตาคู่นั้นมันชวนให้เข้าใจผิดดีจริง ๆ เลย
คนอย่างรณกฤตจะมาสนใจอะไรเขมทิวาเล่า

แต่ถึงจะบอกตัวเองอย่างนั้น เมื่อมีเพื่อนมาถาม มาแซว เขมก็อดที่จะหน้าแดงไม่ได้ทุกที

การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยก็เหมือนทุกวัน อาจารย์เสียงโมโนโทนชวนหลับมีมากกว่าอาจารย์ที่สอนแล้วทำให้ศิษย์รู้สึกกระชุ่มกระชวย และเด็กหลับย่อมมีมากกว่าเด็กตั้งใจเรียน

ถึงจะว่าอย่างนั้น มันก็มีช่วงที่เด็กตื่นตัวอยู่เหมือนกันนะ

“หยิบมือถือขึ้นมานะคะ แล้วเปิดเว็ปหรือแอพ kahoot แล้วพิมพ์เลขเข้าตามนี้เลยค่ะ ตั้งชื่อเป็นรหัสนักศึกษาเลยนะคะ”ช่วงเวลาสุดหรรษาอย่างหารควิชท้ายคาบมาถึงแล้ว เหล่านักนอนรีบลุกกันตาลีตาเหลือกหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดยิก สบายล่ะ เป็นเว็ป ไม่ใช่กระดาษ มองเพื่อนง่ายมาก

“ครูให้เวลาข้อละยี่สิบห้าวินาทีนะคะ”

“โหยยยย”เสียงโหยหวนของเหล่านิสิตนักศึกษาดังลั่นห้อง ยี่สิบห้าวินาทีแค่อ่านชอยส์ก็เกือบหมดเวลาแล้วไหม โหดชะมัดเลยครูคนนี้

เมื่อเข้าโปรแกรมกันมาครบจำนวนแล้ว การควิชที่แข่งกันด้วยความไวของสมองสองมือและอินเตอร์เน็ตก็เริ่มขึ้น

สามสิบข้อโจทย์ยาว ๆ ชอยส์ยาก ๆ มาเน้น ๆ เล่นเอาเด็ก ๆ ในห้องเหี่ยวแห้งกันไปเป็นแถบ ๆ ก่อนจะเหลือกตาขึ้นมาดูอันดับ 1 ของคลาสที่โปรแกรมคำนวณคะแนนออกมา

“อืมมม ครูว่าแล้วว่าต้องเป็นเธอ”ครูวัยกลางคนยิ่มเมื่อเห็นรหัสนักศึกษาที่คุ้นตาเด่นหราอยู่บนหน้าจอโพรเจ็คเตอร์ “เขมทิวา ออกมารับรางวัล”

เสียงฮือฮาดังอื้ออึงเมื่อทุกคนได้ยินคำว่ารางวัล สำหรับเหล่าอาจารย์ที่มักจะให้ปากกาด้ามนึงจากนับสิบในโหลราคาไม่เกินสองร้อย ของที่กำลังถูกหยิบออกมาจากซองน้ำตาลนั่นน่าสนใจอย่างแรง

“อะ นี่ รางวัลสำหรับคนเก่งของครู”บัตรกำนัลเงินสดร้านอาหารซิสเลอร์สามใบ ใบละ 500 บาท ถูกส่งมาให้กับคนที่ได้ควิชท็อปวันในวันนี้ เขมเบิกตากว้างมองอาจารย์ที่ส่งยิ้มมาให้ด้วยความตกใจ “เอาไปสิ”

“ขอบคุณครับ”สองมือพนมกลางอกก้มหน้าลงไหว้อาจารย์ที่มอบของให้ ของที่อาจจะดูเล็กน้อยสำหรับใครหลายคนที่มีอันจะกิน แต่มันมากเกินไปในความรู้สึกสำหรับคนที่ไม่ได้มีมากอย่างคนอื่นเขา

“ครูให้เธอเพิ่มจากที่ตั้งไว้เพราะเธอเป็นเด็กดี รักษาความดีของเธอเอาไว้นะ”มือที่เริ่มมีริ้วรอยแห่งกาลเวลาที่พัดผ่านจับบ่ากว้างของเด็กที่เธอเอ็นดู ส่งกำลังใจไปให้กับเด็กที่เธอสัมภาษณ์ในตอนเข้าเรียนมาเองกับมือ “เอาล่ะ ไปพักได้”

เสียงกล่าวของคุณและเก็บของลุกจากโต๊ะดังขึ้นต่อเนื่องโดยไม่มีเสียงซุบซิบอะไร คงด้วยทุกคนในนี้รู้กันดีกว่าคุณหนูอักษรนั้นมันยาจกติดดินแต่ไหน รางวัลที่ได้มานั่นก็ไม่ได้มากจนว้าวขนาดที่จะมานั่งอิจฉาอะไรให้ตัวเองเป็นคนงี่เง่าในสายตาคนอื่นด้วย

“ไป ๆ กินข้าววว”เทนนิสยืดตัวบิดขี้เกียจไป เดินลากขาไป แลดูจะบ่งบอกถึงกิจกรรมก่อนหน้าที่เจ้าตัวทำไปหน่อย “ไปกินเมื่อไหร่บอกด้วย กูไปเป็นเพื่อน จ่ายเอง มึงไม่ต้องเลี้ยง”

คำดักคอที่ได้รับการพยักหน้าเห็นด้วยจากเพื่อนสนิทอีกคนที่ถือกระเป๋าลงมาให้กับเขมเบ่นเอาคนที่กำลังจะเอ่ยปากต้องกลืนคำพูดลงท้องไป

“กินข้าวววว”เด็กหนุ่มคนร่าเริงและแสนทะเล้นลากเพื่อนทั้งสองไปที่ประตูห้องที่ยังปิดสนิท “โอมมม จงเปิด จงเปิด อาโลโฮโมล่าาา”

“งี่เง่าน่า นิส เล่นเป็นเด็กไปได้”ทัศน์ส่ายหน้าให้กับความปัญญาอ่อนของเพื่อนที่กำลังทำท่าร่ายมนต์ เขายื่นมือจะไปเปิดประตูห้องเรียน แต่ยังไม่ทันที่จะได้เปิดประตูนั้นออก ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาซะก่อน “เฮ้ย!”

”เชี่ย กูมีเวทมนตร์”เสียงพึมพำจากไอ้คนที่ยังเมาแอร์ดังมาจากด้านหลังจนน่ามอบหลังมือให้เป็นรางวัล

“พี่ต่าย!”เขมอุทานชื่อของคนที่เปิดประตูเข้ามาแผ่วเบา แต่ก็ดังพอให้เพื่อนทั้งสองได้ยิน

“ไง”เสียงทักทายที่มาพร้อมรอยยิ้มเจิดจ้า และมีเสียงกรีดร้องอู้อี้ในลำคอเป็นแบล็กกาวน์ด้านหลัง ต่ายยื่นมือถือดังเอากระเป๋าเป้สรซีดของรุ่นน้องตรงหน้ามาถือไว้โดยไม่เอ่ยคำขอ “เลิกเรียนแล้วใช่ไหม”

“ค ครับ”เขมเอ่ยรับคำทั้งที่สมองนั้นขาวโพลน สองแก้มใสขึ้นสีเปล่งปลั่งเมื่อสบกับสายตาที่มองตรงมาที่ตัวเขา สายตาของรณกฤตนั้นยังคงทำให้หัวใจดวงน้อยของเขมทิวาเต้นรัว แม้ช่วงนี้เขาจะได้พบหน้าอีกฝ่ายทุกวันก็ตามที “พี่ต่ายมีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ก็มารับไปกินข้าว...”มืออีกข้างที่สวมข้อมือทองคำขาวเอาไว้วาดมือมาจับข้อมือเล็กของใครอีกคนเอาไว้ “แล้วก็มารับไปเล่นบาสด้วยกันสักหน่อย”

“ห๊ะ!?”หน้าเหวอ ๆ ของเขมทิวานั้นแทนที่จะน่าขำ กลับน่าเอ็นดูในสายตาของรณกฤต จนอดที่จะเลื่อนมือไปบีบแก้มใส ๆ นั่นไม่ได้ “เล่นบาสเหรอครับ”

“ที่พี่ชวนเมื่อวานไงครับน้องเขม”บู้ม~ ไม่รู้ว่าจะมีใครได้ยินเสียงระเบิดบนหน้าของเขาไหม แต่คำว่า ‘น้องเขม’ ที่ถูกเรียกออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ พร้อมกับสายตาเอ็นดูนั่น เล่นเอาเขาสมองใสไปเลย

แบบว่า มันโล่งเรียบเนียนไร้รอยหยักขึ้นมาทันที

“พี่ต่ายเอาจริงเหรอครับ”คำถามที่ส่งออกไปเหมือนจะดูท้าทายปนกวนเบื้องล่าง แต่ดวงตาใสแจ๋วที่มองมาตาปริบ ๆ นั้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวถามมาจากใจจริง ไม่มีอะไรแฝง

“น้องบอกพี่ว่าน้องเล่นบาสได้”รอยยิ้มละมุนละไมที่เขมทิวาพ่ายแพ้แย้มส่งมาให้ใจที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก “พี่อยากเล่นกับน้องนะครับ”

น้ำเสียงที่เหมือนจะมีแววอ้อนหน่อย ๆ พาใจละลาย ไม่บงไม่บางอีกต่อไป ละลายหายไปเลย ไม่ใช่แค่ใจของเขมนะ แต่เหล่าผู้ฟังที่ดีซึ่งยืนเรียงเอียงหูอยู่ข้างหลังก็ละลายกลายเป็นน้ำเช่นกัน

“ก็ได้ครับ...”ใครมันจะไปปฏิเสธลงกันล่ะ “พวกผมมีแค่สามคน... เดี๋ยวจะลองตามเพื่อนอีกสองคนมานะครับ”

“ครับ”มือของต่ายขยับไปจับข้อมือที่เล็กกว่าตนอีกครั้ง “แต่ก่อนหน้านั้น เราไปกินข้าวกันก่อนนะครับ น้องเขม”
ระเหยไปเลย ใจเอย~


นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขมมีเพื่อนร่วมโต๊ะที่กินยาวไปทั้งโต๊ะหน้าขาวตัวยาวของโรงอาหารรวม และทุกคนกินเมนูไม่ซ้ำกันเลย

เนื้อปลาลวกสีขาวสวยถูกคีบมาวางในชามก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำใสของเขมด้วยฝีมือของคนข้าง ๆ เขมหันไปมองรุ่นพี่ที่กำลังเอาใจเขาอย่างแปลกใจ ก่อนจะคีบหมูหมักในชามตัวเองไปวางลงบนชามของต่ายบ้าง

“เฮ้ ๆ ไม่จำเป็นต้องมาหวานกันกลางโรงอาหารไหม พวกนายน่ะ”เฟรม เดือนคณะเศรษฐศาสตร์ เพื่อนสนิทคนนึงของต่ายอาสาเป็นต้นเสียงในการแซวเพื่อน แน่นอนว่ามีเสียงเป่าปากจากเหล่าผู้ร่วมโต๊ะเป็นแบล็กกาวน์ให้ด้วย

ไม่เว้นแม้แต่สองเกลอของเขม ที่ไหลลื่นร่วมวงไปด้วย

เขมทิวามองทั้งเพื่อนทั้งรุ่นพี่ที่ส่งสายตาล้อเลียนเลิกลั่ก แต่เมื่อเห็นคนถูกแซวอีกคนทำตัวนิ่งเฉย เขาเลยตัดสินใจเลียนแบบคนในใจเขา

“ทำนิ่งนะ ทำนิ่ง”เทนนิสหรี่ตามองเพื่อนที่หลบสายตาเขาไปก่อนแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “สรุปมึงมีซัมติงกับเจ้าชายเศรษฐศาสตร์อย่างที่เพจบอกจริง ๆ ใช่มะ ไอ้คุณหนู”

“นิด โทรหาเจมส์กับแซนยัง”เขมปัดคำถามเพื่อนเบี่ยงประเด็นทิ้งทันที กับคำถามที่ไม่อยากหาคำตอบ มันก็ยากที่จะตอบได้นะ

“โทรแล้ว สองคนนั้นกำลังมา”ทัศน์เป็นคนตอบคำถาม หลังจากนั่งเงียบฉกไข่พะโล้ของเทนนิสมาและโยนไข่แดงกลับลงจานเพื่อนที่ยังล้อเพื่อนอีกคนด้วยสายตาไม่หยุด “กินข้าวได้แล้ว อย่ามัวแต่จ้องคนอื่นมาก เดี๋ยวก็เจอพ่อหรอก”

“พ่อก็นั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วไง นั่นอ่ะ ๆ”เทนนิสที่ยังไม่คิดจะก้มลงมองจานข้าวตัวเองหัวเราะลั่น “พ่อทูลหัวไง ไม่เห็นต้องทำตาดุเล— เชี่ยยยยย”

คราวนี้กลายเป็นคนทั้งโต๊ะหัวเราะคน ๆ เดียวเมื่อเจ้าของไข่รู้แล้วว่าโดนเลาะไข่ขาวไป เสียงโวยวายประกอบกับเสียงช้อนกระทบกันยิ่งเรียกเสียงหัวเราะจากรุ่นพี่ให้มากขึ้นไปอีก

“โอ้ย น้องเขม เพื่อนน้องรับจ๊อบเล่นตลกคาเฟ่เหรอ”รองเดือนมหาลัยจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ทานขึ้นหลังจากหัวเราะจนน้ำตาเล็ดไปยกใหญ่

“เอ่อ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงละมั้งครับ ผมก็เริ่มไม่แน่ใจเหมือนกัน”เขมทิวามองเพื่อนที่ยังฟันดาบด้วยช้อนส้อมพร้อมยิ้มแหย

กว่าสงครามแย่งชิงไข่ขาวพะโล้จะจบทุกคนในโต๊ะก็กินจนอิ่มแล้ว สุดท้ายเทนนิสก็ได้ไก่ทอดมาสองชิ้นแทนไข่ขาวทั้งลูกเล่นเอาเจ้าตัวหงุดหงิดไปหลายนาที

หลังจากมื้ออาหารที่น่ารักจบลง ทุกคนก็พากันไปสนามบาสเก็ตบอลในโรงยิมติดแอร์ นั่ง ๆ เดิน ๆ ให้อาหารย่อยอยู่พักใหญ่จนกระทั่งเด็กปีหนึ่งที่ไม่คุ้นหน้าสองคนมาถึง

“เจมส์ แซน”เขมยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้เพื่อนที่เพิ่งเดินเข้ามาเห็น ส่วนมืออีกข้างเก็บใบโคลเวอร์ในเกมน้องกบเดินทางอยู่ “อ๊ะ ชามไม้ ๆ”

หนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวผู้มาใหม่เดินถือถูกชิ้นปิ้งพร้อมน้ำปั้นหน้าตาน่าซดเข้ามา ทั้งคู่เดินตรงไปหาเพื่อนที่มีความสูงเท่ามาตรฐานชายไทยที่ไม่ได้กินนมเสริมแคลเซียมครั้งยังเด็ก

“อะ โกโก้มิลล์ครีมชีสคุกกี้แอนด์ครีมเฟรบเป้ดาร์กช็อกโกแลตวิปครีม”ชื่อเมนูที่ฟังดูแล้วน่าจะเสริมสร้างห่วงยางรอบเอวได้มากจนสาว ๆ สายความงามต้องทำหน้าแหยงไปตาม ๆ กันถูกส่งมาให้คนขยันของกลุ่ม “บราวนี่โอมาร์เก็ตหมดเลยไม่ได้ให้เขาใส่มาให้นะ”

“เท่าไหร่อ่ะแซน”เขมรับน้ำจากเพื่อนมาดูดอย่างมีความสุข เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เขาชอบกิน แต่ไม่ค่อยได้กินเพราะหาร้านที่จะซื้อยากมาก ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนแซนนี่ล่ะที่ไปซื้อมาให้

“ไม่รู้ เราสะสมตัวปั้ม”เพื่อนแซนของเขมตอบไม่ตรงคำถาม เป็นอันรู้ว่าเธอจะไม่รับเงินเด็ดขาดถึงแม้ว่าจะยัดใส่มือก็ตามที
สาวน้อยคนเดียวของกลุ่มใครก็ห้ามขัดใจ

“ไอ้แซนมันไปปักหลักหน้าร้านซื้อมาเลย แดกให้หมดยันแก้วเลยนะเว้ย”เจมส์เหล่มองแก้วน้ำปั่นในมือเพื่อนอย่างเซ็ง ๆ “กูยืนแทะเท็กซัสหมดไปสองชิ้นยังไม่ได้มาเลย ไอ้แก้วเนี้ย”

“แกไม่ได้เป็นคนต่อแถวมะ”แซนเท้าเอวถลึงตามองเพื่อน ด้วยส่วนสูงระดับนางแบบบวกรองเท้าผ้าใบเสริมส้นสองนิ้วครึ่ง ทำให้สาวเจ้าไม่จำเป็นต้องเงยหน้าคุยกับเพื่อน

“อร่อยเหรอ”รณกฤตหันมาถามรุ่นน้องที่กำลังจะเอ่ยปากห้ามทัพ

“สดชื่นดีนะครับ พี่ต่าย”เมื่อคนในใจหันมาคุยด้วย เพื่อนก็หมดความสำคัญลงไปกว่าครึ่ง เขมหันมาหาพี่ต่ายอย่างไม่ลังเลเลย

“งั้นเหรอ”ใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม เขมทิวาเบิกตาโพรงมองดวงหน้าหล่อเหลาของรุ่นพี่ที่แอบมองมานานปีอย่างทำอะไรไม่ถูก “อืม ไม่หวานมาก กำลังดีเลย”

“เอิ่ม สรุปเรียกพวกเรามาแข่งบาสหรือดูนายโชว์หวานอ่ะ”เจมส์หรี่ตามองเพื่อนที่ก้มหน้างุด หูเหอนี่แดงก่ำ “จะจีบเพื่อนผมต้องหาใบโคลเวอร์สี่กลีบมาขอนะเออ”

“หืม??”ต่ายเบือนหน้าไปมองเพื่อนของรุ่นน้องอย่างสนใจ “ใบโคลเวอร์?”

“เจมส์!”เขมหันไปแยกเขี้ยวให้เพื่อนก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง “พอ ๆ จะแข่งบาสใช่ไหมครับ เพื่อนผมมาครบแล้ว ลงสนามกันเถอะ”

เขมทิวาก้าวลงสนามไปก่อนเป็นคนแรก ก่อนที่เพื่อนและรุ่นพี่จะตามกันออกมา
ผู้เล่นสองทีมยืนประจันหน้ากันภายในสนามโดยฝั่งนึงสวมชุดบอลกันมา และอีกฝั่งเป็นชุดนักศึกษาที่พับแขนขึ้นเรียบร้อย

“เล่นจริงจังหรือชิวอ่ะ”แซนถามขึ้นก่อนที่ลูกบาสจะถูกโยนขึ้นให้แย่งชิง

“เอาสนุกละกัน”ทัศน์ที่ยืนตั้งท่าโดดเป็นคนหันมาตอบเพื่อน “ไม่ต้องซีเรียส”

ไม่ซีเรียส... ไม่เลยสักนิด

เมื่อเปิดเกมมาทีมรุ่นน้องก็รุกทำแต้มทันทีด้วยการ์ดนอกที่มีความไวในการตัดและส่งลูกให้ปีกนอกทำแต้มภายในไม่ถึงสองนาที
ฝั่งรุ่นพี่เองก็ไม่น้อยหน้า ชู้ตสามแต้มขึ้นนำไปในนาทีต่อมา

รุ่นพี่รุ่นน้องยังคงผลัดกันรุกรับในสิบนาทีอย่างไม่มีใครยอมใคร เมื่อฝ่ายนึงนำ อีกฝ่ายก็ตีตื้นขึ้นนำในเวลาต่อมาเช่นกัน

“เขม นายไปดักพี่เบอร์ 28 ไว้ พี่คนนี้ของแรง”เมื่อเกมเล่นจนจบ ควอเตอร์หนึ่ง เจมส์ที่ถือตำแหน่งกัปตันทีมก็เรียกเพื่อนที่ดื่มน้ำกันเรียบร้อยแล้วมาสุมหัวประชุม “แซน เธอเปลี่ยนมาเน้นการตัดลูกส่งให้ทัศน์ ส่วนนิส นายลงไปกันแป้นเราไว้อย่าให้พวกเขาทำแต้มได้อีก”

“อะ อืม”เขมที่เป็นปีกนอกของทีมรับคำ เขาเป็นตัวทำแต้มหลักคนนึงของทีม แต่ไม่ได้แม่นเท่าทัศน์กับเจมส์ที่ได้ชู้ตเป็นลง “เบอร์ 28 นะ”

เบอร์ 28... พี่ต่าย

“ตอนแรกว่าจะชิว แต่ขอเปลี่ยนเป็นเล่นจริงจังแล้วกัน”เจมส์กระตุกยิ้มขึ้นเมื่อนึกถึงความสนุกในสนามที่ไม่ได้สัมผัสมานาน “เรียกเหงื่อกันหน่อยนะเพื่อน”

“ถ้าพวกเราชนะ เราให้น้องปอมเขมตัวนึงเลย เอ้า”คำว่าน้องปอมที่หลุดออกมาจากปากแซนทำเขมทิวาตาลุกวาว เจ้าขนนุ่มที่เขาได้แต่มองเพราะค่าตัวสูงเกินกว่าที่เขาจะเอาเงินเก็บออกมารับเลี้ยง

“ถ้าชนะ เวลาน้องปอมไม่สบาย เดี๋ยวค่ารักษากูจ่ายเอง”แม้แต่คนเล่นไปเรื่อยอย่างเทนนิสก็เอากับเขาด้วย “แต่ถึงเวลานั้น กูจะได้จ่ายไหมวะ”

“อะไรของนายอ่ะ”เขมหันไปมองหน้าเพื่อนงง ๆ คำพูดมันทำไมดูมีความนัยน์แปลก ๆ หว่า “เราจ่ายเองได้นะ เงินเก็บเราพอจะเลี้ยงน้องได้”

“อันที่จริงกูไม่ได้หมายถึงแบบนั้น...”คำพูดพึมพำเบา ๆ ของเทนนิสถูกเสียงนกหวีดหมดเวลาพักกลบไป เจ้าตัวมองเพื่อนที่ทำหน้างง ๆ เอ๋อ ๆ แล้วหัวเราะออกมา “ไป ๆ ไปเอาชัยชนะมากัน”

“A M I T Y fight!!!!”

ควอเตอร์ที่สองเริ่มขึ้นพร้อมกับกระแสเกมที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อทีมรุ่นน้องส่งคนมาดักตัวทำแต้มของทีมรุ่นพี่ไว้จนไม่สามารถรับลูกจากเพื่อนคนอื่นได้

แต้มที่เกือบจะเสมอกันอยู่นั้นขยับขึ้นอย่างช้า ๆ โดยทีมรุ่นน้องนำอยู่หนึ่งแต้มตลอด สร้างความกดดันให้กับฝั่งรุ่นพี่ไม่น้อย เมื่อเวลาไหลผ่านไปจนจะหมดควอเตอร์ที่สองแล้ว

การแข่งกันที่กดดันนี้ดำเนินไปจนถึงช่วงทดเวลา เขมเหลือบมองสกอร์ที่ยังนิ่งอยู่ที่ 37 : 37 และตัวเขายังต้องดักพี่ต่ายที่พยายามหลบออกไปทำแต้มเอาไว้

1 นาทีสุดท้ายของการแข่ง เขมตัดสินใจผละตัวออกจากรณกฤตเพื่อวิ่งไปช่วยส่งบอลให้เพื่อนชู้ต แต่ก็ถูกคนในใจดักทางเอาไว้ เขาเม้มปากแน่นก่อนจะใช้ประโยชน์จากความผอมและแรงที่เหลืออยู่วิ่งสไลด์หลบรุ่นพี่เบอร์ 28 ออกไปตัดลูกส่งให้เจมส์
ปรี๊ดดดดดดดด

เสียงนกหวีดดังขึ้นพร้อมลูกที่ลอยออกไปเลยแป้น ทำให้ทั้งสองทีมเสมอกันอย่างน่าเสียดาย เสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือจากผู้เข้าชมที่มากันเต็มสนามตั้งแต่เมื่อไหร่ตอบไม่ได้ดังลั่น เรียกสีหน้าเหวอ ๆ ของนักกีฬาหลายคนออกมาเป็นรูปหลุดที่น่ารักหลายรูปเลยล่ะ

“โทษทีเพื่อน”เจมส์เข้ามาขอโทษเพื่อน ๆ ที่ยืนหอบกันอยู่กลางสนาม “กูพลาดเอง ขอโทษว่ะ”

“เออช่างเหอะ”เสียงที่แฝงความเซ็งเอาไว้ของเขมทำให้เพื่อนยิ้มแหย “ยังไงก็เป็นเกมที่สนุกมากเลย ขอบคุณนะ เจมส์ แซน ที่มาเล่นด้วยกัน”

“ไม่ได้ออกกำลังกายขนาดนี้มาตั้งแต่ม.4 แล้วน้า~”แซนยืดตัวบิดขี้เกียจไปหลายยก ก่อนจะแจกจ่ายยิ้มสดใสกวาดใจหนุ่ม ๆ มากหน้าในโรงยิมแห่งนี้ “เดี๋ยวรอน้องไปฉีดยาเข็มแรกก่อนนะ ค่อยไปเอา”

“จริงเหรอ”รอยยิ้มกว้างที่หาดูได้ยากของเขมทิวาทำให้หลายคนใจสั่น ดวงตาที่ประกายระยับยิ่งเสริมออร่าความสดใสให้กับเจ้าตัว “จริงนะ แซน”

“แน่นอนสิ”สาวเจ้าเอามือเจ้าเอวเชิดหน้าขึ้นสวย ๆ ให้เพื่อนสนิทที่รู้ไส้รู้พุงกันดีวิ่งเข้ามากอด “เหม็นเหงื่อว่ะ ออกไปเลย ชิ่วว”

“เป็นแมตช์ที่ดีว่ะ น้อง”เฟรมเป็นคนแรกที่เดินมาหารุ่นน้องที่ยังมีแรงกระโดดโลดเต้นกันอยู่ หลังจากที่พวกเขาเอาผ้าเย็นโปะหน้ากันแล้ว “หนุกมาก พวกน้องเล่นกันเก่งชิบ”

“พวกเราเป็นดรีมทีมกันนี่คะ”แซนยักคิ้วให้กับรุ่นพี่ที่ไม่รู้จักกวน ๆ “เส้นยึดไปหน่อย ไม่งั้นพี่ไม่ทางเสมอกับพวกหนูหรอก”

“ไม่ค่อยเลยนะ ๆ”นิ้วเย็น ๆ จิ้มไปที่หน้าผากชื้นเหงื่อของหญิงสาวคนเดียวในสนาม เล่นเอาน้องปีหนึ่งสี่คนหัวเราะออกมาเมื่อสาวเจ้าทำปากแหลมส่งให้ “ไปฟิตมาสิ คราวหน้าจะได้รู้ผลกัน”

“แล้วคอยดูนะคะ หึ”แซนแลบลิ้นใส่รุ่นพี่ก่อนจะเดินไปคุ้ยหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าตัวเองบ้าง

“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ”เขมส่งยิ้มให้กับรุ่นพี่ทั้งห้าที่ลงสนาม และคนอื่น ๆ ที่มานั่งเชียร์ มาเป็นกรรมการให้กับการแข่งครั้งนี้

“อะ”ถุงพลาสติกสีขาวทึบถูกส่งให้เมื่อร่างโปร่งเดินเข้ามาข้างสนามแล้ว “ไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยนใช่ไหมครับ น้องเขม”

“ครับ...”มือขาวรับเอาถุงนั้นมาเปิดดู ข้างในเป็นเสื้อสีดำกับกางเกงที่ถูกพับใส่ไว้เรียบร้อย “นี่คือ...”

“เสื้อผ้าของพี่เอง น้องเอาไปเปลี่ยนหลังจากอาบน้ำนะครับ”รอยยิ้มอุ่น ๆ ที่ทำให้เขมเขินทุกครั้งที่เห็นนั้นยังคงมีประสิทธิภาพที่แรงกล้าไม่สร่าง “ไม่ต้องปฏิเสธเลย พี่มีอีกชุดครับ ไม่ต้องห่วง”

“อ่า... ครับ”เขมทิวายิ้มเขินเมื่อรุ่นพี่ดักทางตนได้ เขาเลยจำใจยอมที่จะเอาเสื้อผ้าหอม ๆ ชุดนี้ไปเปลี่ยนหลังจากอาบน้ำในห้องอาบน้ำของโรงยิมโดยดี

จำใจ... แน่เหรอ

สบู่ของพี่ต่าย แชมพูของพี่ต่าย ผ้าเข็ดตัวของพี่ต่าย เสื้อผ้าก็ของพี่ต่าย กลิ่นของพี่ต่ายกำลังโอบรอบตัวของเขา

เขมก็ไม่อยากจะยอมรับหรอกนะ...

กลิ่นของพี่ต่าย โคตรฟินเลยอ่ะ

น้องปอมจงเจริญ พี่ต่ายจง... อะไรดีน้า~

เฮ้อ วันนี้เป็นวันของเขมทิวาจริง ๆ

What a beautiful day!

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

บทที่สามมาแล้วค้าา สต็อกตอนมีถึงตอนที่เจ็ดนิดๆ จะทยอยลงไปเรื่อย ๆ นะคะ ><

สัญญาว่าหวาน ไม่ไซร้โค้ง ไม่นอกเรื่อง ไม่มีคู่รองให้เด่นกว่าคู่หลักค่ะ  :mew3:

ฝาก #คนในใจ ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ

 :mew1:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
สนุกและน่ารักมากกกกจ้า  ติดตามจ้า

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

วันของน้องเขมจริงๆ

ออฟไลน์ datytime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ต่ายรุกจีบเขมแล้วชอบๆสนุกดี

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
โอ้ น่าสนใจ ติดตามจ้า  :z13:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ━╃ ♥ ☞ ★ ค น ใ น ใ จ ★ ☜ ♥ ╄━ บทนำ 7/4/18
« ตอบ #19 เมื่อ: 18-05-2018 18:47:59 »





ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 4

เพราะเขาคือเขมทิวา



ครืด ครืด ครืด



เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ว่างอยู่บนหัวเตียงดังขึ้น ปลุกเจ้าชายนิทราให้ฟื้นคืนมาสู่โลกความเป็นจริงในยามเช้าตรู่



ความจริง... ที่มันไม่ได้สวยงามเหมือนความฝัน



“ฮัลโหลครับ”เขมกดรับโทรศัพท์ที่สั่นไม่หยุด ทั้งที่ร่างกายเขายังบอกว่าอยากนอนให้เต็มที่กว่านี้อีกสักหน่อย “ฮัลโหล”



“พี่เขมยังไม่ตื่นอีกเหรอ”เสียงใสที่ดูจะติดอารมณ์หวุดหงิดหน่อย ๆ ดังลอดมาตามคลื่นโทรศัพท์ “ทำไมพี่ขี้เกียจแบบนี้ล่ะ”



“เบ็ตตี้...”จากที่กำลังเมาขี้ตา เขมทิวาก็สะดุ้งลุกพรวดจากเตียงนอนขึ้นมาทันที เมื่อรู้ตัวว่าน้องสาวต่างมารดาเป็นคนโทรมา “หนูเบ็ตมีอะไรหรือเปล่าคะ”



“พี่ หนูอยากเรียนพิเศษ”คำพูดที่ได้ยินทำให้ผู้ฟังนั้นขยี้ตามองชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างตกใจ “พี่ ฟังหนูอยู่เปล่า”



“หนูเบ็ตจะเรียนพิเศษเหรอคะ”เขมถามย้ำกลับไปอีกครั้ง นี่เขาหูไม่ฝาดใช่ไหม “หนูเบ็ตบอกคุณแม่หรือยังคะ”



“หนูบอกคุณแม่แล้วค่ะ แต่คุณแม่บอกว่าถ้าหนูจะเรียนหนูต้องออกเงินเอง”ถ้อยคำที่ได้ยินพาให้เขมฉงนใจนักอย่างคุณน้าบิวจะไม่ตามใจเบ็ตตี้เหรอ “พี่ หนูอยากเรียนพิเศษอ่ะพี่ทำงานพิเศษอยู่ไม่ใช่หรอ ช่วยหนูออกหน่อยได้ไหม”



“ค่าเรียนหนูเท่าไหร่คะ”เขมถามกับไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทั้งที่ในใจรู้สึกว่างเปล่า ร่างทั้งร่างชาวูบตั้งแต่หัวจรดเท้า



“ชั่วโมงละสองร้อยห้าสิบ เรียนเสาร์อาทิตย์ วันละสองชั่วโมง”จำนวนเงินที่คูณออกมาแล้วมากกว่าเงินเดือนที่ได้จากร้านเจ้สวยทั้งเดือนทำเอาคนเป็นพี่หน้าซีด “พี่ช่วยหนูครึ่งเดียวก็พอ อีกครึ่งเดี๋ยวหนูเก็บเอง”



“เรียนตัวต่อตัวเหรอคะหนูเบ็ต”ครึ่งนึงของทั้งหมดก็สองพันถ้วน เป็นจำนวนเงินที่มากพอดูเลย



“ใช่ค่ะ เพื่อนหนูไปเรียนกันมาแล้วได้คะแนนดี ๆ กันทั้งนั้นเลย”เสียงของเบ็ตตี้แฝงความอิจฉาไว้จนผู้ฟังสัมผัสได้ “หนูก็อยากได้คะแนนดี ๆ บ้าง พี่ต้องช่วยหนู”



“...”ถ้อยคำที่เอาแต่ใจนั่นทำให้เขมลำบากใจ “ต้องจ่ายทุกวันที่ไปเรียนใช่ไหมคะ หนูเบ็ต”



“จ่ายเป็นรายเดือนค่ะ”สาวเจ้าตอบกลับมาเสียงใส “น่า พี่เขม พี่ข่วยหนูแต่เดือนละสองพันเอง พี่ทำงานพิเศษก็ได้เงินเดือนอยู่แล้วนี่ ละยังได้จากคุณพ่อด้วย ยังไงก็เหลือ ๆ นี่คะ”



“อะ. อืม”สุดท้ายเขมก็ปฏิเสธน้องสาวของตนไม่ลง เขาได้เงินจากที่บ้านแค่เดือนละสองพันห้า ได้จากเจ๊สวยสี่พันห้า รวมแล้วเดือนนึงเขาได้เงินเจ็ดพัน ค่าหอสี่พัน เหลือสามพัน ตอนนี้ต้องให้น้องไปเรียนอีกสองพัน... “หนูเบ็ตส่งเลขบัญชีมาให้พี่ในไลน์นะคะ”



“ค่ะ พี่เขมน่ารักที่สุดเลยยย”เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว สาวน้อยก็กดวางสายไปทันที ไม่คิดจะพูดคุยอะไรอย่างอื่นกับคนเป็นพี่เลย



“เฮ้อ”จากที่ง่วง ๆ อยู่ ตอนนี้เขาตื่นเต็มตาแล้ว กับภาระใหม่ที่ทำให้เขาต้องคิดมากขึ้น ตอนแรกก็มีเงินเหลือพอจะเลี้ยงน้องปอมอยู่หรอก แต่ถ้าต้องแบ่งไปให้น้องเรียนพิเศษแบบนี้...



มันจะไปพอได้ยังไงกันนะ



ร่างโปร่งเดินไปดึงลิ้นชักที่โต๊ะหนังสือ หยิบสมุดบัญชีที่เก็บสะสมเงินเอาไว้ขึ้นมาเปิดดู ตัวเลขห้าหลักที่เห็นในนั้นอาจจะทำให้ใจชื้นขึ้นส่วนนึง แต่อีกส่วนนึงมันร้องบอกว่า ไม่ควรจะหยิบมันออกมาใช้



เขาคงต้องหาทางอื่นที่ดีกว่านี้...



เขมทิวาเลือกที่จะสลัดความเครียดออกไปก่อน เขาคว้าผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเรียนในตอนสิบโมงเช้า



แต่ตอนนี้... เจ็ดโมงตรง



ร่างสูงโปร่งในชุดนักศึกษาถูกระเบียบเป๊ะเดินออกมาจากห้องพักขนาดเล็กในตอนแปดโมงเช้า ลากขาเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย



สองชั่วโมงมันมากพอที่จะทำให้เขมเดินไปเรียนด้วยสปีดหอยทากได้อย่างสบาย ๆ



ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองอาหารเช้าที่ขายตามรายทาง ทั้งโจ๊ก ข้าวต้ม น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง รวมไปถึงอาหารตามสั่งต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคิดไม่ออกว่าควรจะซื้ออะไรกินดี



ชีวิตเด็กหอก็แบบนี้ กินอะไรซ้ำ ๆ จนเบื่อไปข้าง แต่ก็ต้องทนต่อไป



สุดท้ายแล้ว เขมก็เลือกที่จะนั่งลงที่ร้านโจ๊กหอม ๆ ร้านนึงที่คนขายค่อนข้างจะชราภาพมากแล้ว รสชาติอร่อย ลูกค้าไม่เยอะมากเพราะรอแกทำกันไม่ไหว



แต่เรื่องรอคงไม่เป็นปัญหาสำหรับคนที่มีเวลาสโลวไลฟ์ได้เป็นชั่วโมงถึงจะเข้าเรียนหรอก



“โจ๊กหมูเด้งไม่ขิงครับ”เขมเดินมาสั่งอาม่าที่กำลังงก ๆ เงิ่น ๆ หยิบชามมาเรียงเตรียมขายของ “ให้ผมช่วยนะครับ”



“อาตี๋ ลื้อเป็นลูกค้า ไปนั่ง ๆ”อาม่าขายโจ๊กปฏิเสธความช่วยเหลือที่ถูกยื่นมาทันที “เดี๋ยวอาม่าเอาโจ๊กไปให้ อาตี๋ไปนั่งเถอะ”



“ครับ”ถึงปากจะขานรับ แต่มือนั้นยื่นไปช่วยหยิบจับจัดชามให้สูงพอที่อาม่าจะหยิบจับได้สะดวก ก่อนจะไปนั่งโต๊ะโดยดี



เขมหยิบเอามือถือขึ้นมาเปิดดูเพจต่าง ๆ ที่ระยะนี้เหมือนจะลงรูปคู่ตัวเขากับรณกฤตเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งมันทำให้เขาเขินทุกทีที่เห็น



ร่มเงาที่พาดทับมานั้นไม่ทำให้เขนทิวาเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ เขายังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่สองแก้มใสแดงระเรื่ออยู่โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ตอนนี้เขามีเพื่อนร่วมโต๊ะแล้ว



“รูปนี้สวยนะ”เสียงปริศนาดังขึ้นใกล้ ๆ หู ในขณะที่เขากำลังดูรูปตอนที่ตัวเขาเองออกมาจากห้องน้ำในชุดของพี่ต่ายอยู่



“ครับ”เขมขานรับด้วยรอยยิ้ม ก็รูปนี้มันสวยจริง ๆ ทั้งแสง ทั้งท่าทาง มันลงตัวอย่างน่าประหลาด ลงตัวซะจนดูเหมือนว่าพวกเขา...



“เหมือนคนรักกันเลย”เสียงนุ่ม ๆ เสียงเดิมพูดความในใจของเขาออกมา เล่นเอาหัวใจเขาเต้นรัว เลือดทั้งร่างเหมือนจะถูกสูบฉีดมาไว้ที่สองแก้ม “เขินเหรอ?”



“!!!”เขมเงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนาที่เนียนมานั่งด้วยแล้วอ้าปากค้าง เวงตาคู่สวยเบิกโพรงอย่างตกใจที่เห็นคนตรงหน้า



“เอ้า แมลงวันเข้าปากหมดแล้ว”นิ้วเรียวสวยได้รูปยื่นมาดันคางเขาขึ้นให้ปากปิดลง “ตานี่จะถลนออกมาเป็นชิวาวาแล้วนะ น้องเขม”



“ผมชอบปอมมากกว่านะครับ”ริมฝีปากบางยกขึ้นเป็นสามเหลี่ยมให้กับคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ “ชิวาวามันขนไม่ฟูอ่ะ”



“แต่ปอมไม่ได้ตาถลนนี่ครับ”คู่สนทนาเองก็ไม่ได้ยอมให้โดยง่าย ดวงตาคมหรี่มองคนที่ทำหน้ายู่แล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ “แต่น้องเขมน่ารัก ให้เป็นปอมปอมก็ได้ครับ”



“พี่ต่าย!!!”เขมทำปากสามเหลี่ยมใส่คู่สนทนาที่อยู่ ๆ ก็โผล่มาร่วมโต๊ะเฉยเลย “พี่ต้องชมว่าผมหล่อสิครับถึงจะถูก”



“งั้นเหรอ”มืออุ่นยื่นมาจับคางเรียวดันไปซ้ายทีขวาทียกเสยทีขาดก็แต่กดลง ก่อนจะส่ายหน้าน้อย ๆ “มองยังไงก็น่ารักมากกว่าหล่อนะ”



“พี่ต่าย!!!”เป็นอีกครั้บที่เขมทิวาเรียกชื่อเล่นของรณกฤตด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติ สองแก้มแดงเรื่อขึ้นมา ไม่รู้ว่าเขินหรือว่าโกรธเหมือนกัน



แต่ที่รู้... คือใจเขาเต้นแรงมาก... มาก ๆ เลยล่ะ



“ช่วงนี้หนุ่มหน้าหวานอปป้าเกาหลีโอนี่ญี่ปุ่นกำลังมาแรง ฮอตใหญ่เลยล่ะสิ”ต่ายเองก็ยังหาเรื่องมาแซวรุ่นน้องไม่เลิก



ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงชอบดูความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของรุ่นน้องคนนี้นัก... อาจจะเพราะเป็นเด็กที่น่าแกล้งก็ได้ หรืออาจจะเพราอย่างอื่น... ที่เขายังไม่อยากพูดออกมา



“ฮอตอะไรล่ะครับ”เขมยิ้มขำแล้วส่ายหน้า “คนอย่างผมไม่ได้มีอะไรให้คนมาสนใจหรอกครับพี่ต่าย”



หน้าตาธรรมดา เงินก็ไม่มี ถึงมีใครมาสนใจ แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่เขาจะเลือกกัน... เป็นประโยคที่อยูในใจของเด็กหนุ่ม และเขาไม่คิดจะพูดมันออกมาให้ใครได้ยิน



เรื่องบางเรื่องเก็บเอาไว้ในใจอย่างเดียวจะดีกว่า



โลกแห่งความจริงกับโลกแห่งความฝันมันย่อมต่างกันเสมอ



มืออุ่นยื่มาขยี้กลุ่มผมนุ่มของคุณหนูอักษรด้วยความเอ็นดู... หรืออาจจะหมั่นเขี้ยวก็ได้



โจ๊ะร้อน ๆ ควันลอยล่องถูกวางลงบนโต๊ะด้วยมือหญิงชราเจ้าของร้าน ดวงตาที่มีนิ้วรอยแห่งวัยเหลือบมองคนหนุ่มทั้งสองก่อนจะยิ้มตาหยียิงฟันที่อยู่ไม่ครบทุกซี่แล้วให้กับพวกเขา



“อาตี๋เป็นแฟนกันรึ”คำถามที่ถูกส่งมาทำเอาเด็กหนุ่มที่อ่อนวัยสุดสำลักอากาศเสียดื้อ ๆ ตรงนั้นเลย “อาตี๋น่ารักกันดี ม่าชอบ”



“เปล่านะครับ”แก้มขาวขึ้นสีเรื่ออีกครั้งกับคำแซวของหญิงสูงวัยที่หรี่ตามองเขาอยู่ “ผมกับพี่เขาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมมหาลัยกันน่ะครับ”



“ไม่รู้สิครับ”ในขณะที่เขมกำลังอธิบาย ต่ายกลับตอบไปอีกอย่าง รอยยิ้มที่ไร้ความหมายคลี่ทับใบหน้าหล่อเหลา “ตอนนี้ก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องอย่างที่น้องเขาบอกนั่นล่ะครับ... มั้งนะ”



“พี่ต่าย!!!”คำพูดสองแง่สามง่ามที่คนตรงหน้าเอ่ยออกมาชวนให้คิดไปไกล “เดี๋ยวก็มีคนเข้าใจผิดหรอกครับ”



“งั้นเหรอ”ต่ายเบนสายตามาสบดับดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น ประกายความเป็นกังวลที่ฉาบบางในแววตาที่จ้องมองเขานั้นถูกกลบด้วยแก้มแดง ๆ หูแดง ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเกินจากความเขินหรือความโกรธ



แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า



“กินข้าวกันเถอะครับ เดี๋ยวจะสายเอา”เขมเปลี่ยนเรื่องพูดก่อนที่เขาจะเขินไปมากกว่านี้



”ครับ ๆ คุณหนู”เสียงทุ้ม ๆ นั้นยังไม่วายที่จะแซวรุ่นน้องด้วยฉายาในคณะ “เชิญคุณหนูลงมือทานก่อนเลยครับ”



“พี่ต่ายแกล้งเขมอีกแล้ว”คำเรียงแทนตัวที่หลุดออกไปทำเอาคนฟังยิ้มหวาน ในขณะที่คนพูดสะดุ้งโหยงกับความเผลอตัวของตนเอง



“น้องเขมน่าแกล้งนี่ครับ”คำพูดที่ออกมานั้นได้รับค่าตอบแทนเป็นสายตาค้อน ๆ ภายใต้กรอบแว่นจากรุ่นน้องคนดี “น่ารักด้วย”



คำหยอดที่ส่งมาต่อเนื่องนั้นทำให้เขมอยากตะโกนออกมาดัง ๆ ว่า เขินนะโว้ย หัวใจทำงานหนักนะไม่รู้บ้างหรือไง



เขาเลยเลือกที่จะตัดบทสนทนาด้วยการตักโจ๊กคำใหญ่เข้าปาก ความร้อนระอุของโจ๊กที่เพิ่งต้มเสร็จไม่นานคลุ้งไปทั่วปากจนน้ำตาเล็ด



“คายออกมาก่อนสิครับ น้องเขม เร็ว”รณกฤตบอกกับรุ่นน้องด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่มือนั้นรีบเทน้ำใส่แก้วที่มีน้ำแข็งอยู่เต็ม “คายออกมาแล้วกินน้ำก่อนเร็วครับ”



“อื้อออ”เขมส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมพยายามกลืนโจ๊กเข้าไปจนหมด จะให้คายออกมาต่อหน้าคนในใจของเขา...



ทำไม่ได้หรอก



“ปากแดงหมดแล้ว”สัมผัสเย็น ๆ จากปลายนิ้วของรุ่นพี่ที่แตะบนริมฝีปากเขาพาให้ร่างทั้งร่างแข็งทื่อ “เจ็บไหม”



เขมอ้าปากหุบปากเป็นปลาทองขาดน้ำ เสียงของเขาเหมือนจะหายไปชั่วขณะ เลยต้องส่ายหน้าเป็นคำตอบแทน



ทั้งสองนั่นกินโจ๊กกันจนหมดถ้วย ต่างคนต่างจ่ายค่าอาหารเช้าของตัวเองไป ทั้งที่ต่ายอยากจะเลี้ยงน้องแทบขาดใจ แต่สายตาที่มองปรามมานั่น ก็ทำให้เขาก็ไม่อยากขัดใจเช่นกัน



“น้องเขมไปเรียนยังไงครับ”หลังจากที่ทั้งคู่ก้าวออกมาจากร้านแล้ว รณกฤตก็หันไปถามคนที่เด็กกว่าอย่างใคร่รู้



“เดี๋ยวผมเดินไปเรื่อย ๆ น่ะครับ”เจ้าตัวก็ตอบกลับอย่างสบาย ๆ ด้วยรอยยิ้มสดใส “ผมเรียนตั้งสิบโมง เดินไปทันอยู่แล้ว”



“รอตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่มารับ”คำสั่งที่ส่งมาก่อนร่างสูงจะก้าวยาว ๆ ไป เล่นเอาคนรับคำสั่งทำหน้าเหวอ



นี่พี่ท่านไม่ฟังข้าน้อยเลยรึ!



เขมทิวายืนเก็บไบโคลเวอร์และจัดโต๊ะไว้ให้น้องกบในเกมส์จัดของลงกระเป๋าไปเที่ยวระหว่างรอสารถีพิเศษไปเอารถมารับ เขาชะเง้อคอมองซ้ายมองขวาอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี และไม่นู้ว่าจะมองหารถแบบไหนดี

พี่ต่ายจะขับรถแบบไหนมาเรียนกันนะ



ในขณะที่กำลังสอดส่องสายตามองอยู่นั้น มอเตอร์ไซค์สัญชาติญี่ปุ่นคันนึงก็มาจอดตรงหน้า พร้อมยื่นหมวกกันน็อคมาให้



“...”เขมลังเลที่จะรับหมวกกันน็อคนั้นมา เขามองมันสลับกับคนขับที่ยังสวมหมวกเต็มใบปิดบังใบหน้าอยู่



“ใส่แล้วขึ้นรถสิครับ”เสียงที่คุ้ยเคยดังมาจากคนตรวหน้า ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดแผ่นกันลมขึ้นให้เห็นใบหน้าของตนเอง “ทำหน้าหมางงทำไมครับน้องเขม”



“เปล่าครับ...”เขมยิ้มหวานส่งให้กลบเกลื่อน แล้วรับหมวกกันน็อคมาใสโดยดี ขาเรียวตวัดขึ้นคร่อมซ้อนมอไซค์คันเล็กอย่างทะมัดทะแมงทั้งที่ใจนั้นสั่นรัว



“จับแน่น ๆ นะครับ”คำเตือนเป็นนัย ๆ ที่ส่งมานั้นทำให้มือเล็กกำเหล็กที่ยื่อนออกมาด้านหลังแน่น



แต่เมื่อรถสองล้อขับเคลื่อนไปได้ไม่ถึงร้อยเมตร ลองมือของเขมนั้นก็ต้องมาเกาะเอวของรุ่นพี่ที่รักแทน



เขาไม่ค่อยได้ขึ้นมอไซค์เท่าไหร่นัก เพราะรถเมล์ รถสองแถวราคาถูกกว่า และเขาก็ไม่ค่อยจะชื่นชอบความเร็วสักเท่าไหร่...



ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงอาคารเรียนรวม เขมโดดลงจากมอไซค์ที่นั่งมา ปลดหมวกกันน็อคส่งคืนให้กับต่ายทั้งที่มือยังสั่น ก่อนจะกล่าวขอบคุณแล้วเดินสะโหลสะเหลไปตามทาง



“วันนี้น้องเลิกกี่โมงครับ”ยังไม่ทันที่จะเดินไปได้ไกล คำถามจากคนมาส่งก็ดังไล่หลังมาเสียก่อน



“สามครึ่งครับ”จริง ๆ แล้วเขมก็อยากตอบให้มากกว่านี้แต่ความวูบไหวในท้องมันไม่นำพาให้พูดเลยสักนิด



“เดี๋ยวพี่มารับไปกินข้าวนะครับ ละก็... ไม่เรียกแทนตัวเองว่าเขมแล้วเหรอครับ น่ารักดีนะ พี่ชอบ”ประโยคบอกเล่าถูกส่งมาก่อนที่เจ้าตัวจะซิ่งรถหายไป ทิ้งให้คนฟังยืนตาค้างอยู่ตรงนั้น



ระเบิดลูกใหญ่ถูกทิ้งลงมาในใจตัวน้อยที่ดูจะทำงานหนักเกินไปแล้วในวันนี้



เขิน เขิน เขินมากเลยว้อยยยยย





การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นที่น่าพูดถึงนัก เพราะสวรรค์ของนิสิตนักศึกษาคือเวลาเลิกเรียน

แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สำหรับคนที่มีนัดกับคนในใจหลังเลิกเรียนละมั้ง



“เมียหลวงขราาาาา”เสียงแหลมสูงของสาวงามประเภทสองดังปรี๊ดขึ้นหลังจากที่เลิกคลาสเรียนเรียบร้อยแล้ว “เล่นกีตาร์ให้เมียน้อยคนนี้ฟังหน่อยได้ไหมคะ”



กีตาร์โปร่งตัวใหม่เงาวับถูกยื่นส่งมาให้เด็กหนุ่มที่นั่งมองฟ้าอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าอาคาร เรียกว่ายัดใส่มือเลยดีกว่า



”เอาเพลงอะไรดีล่ะครับ แอนเดรีย”เขมถามคนที่คิดว่าตัวเองเป็นสาวน้อยวัยใสด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่น



“น้องอยากฟังคุณพี่เล่นเพลงของเราสองคนเจ้าค่ะ”จะให้เล่นเพลงให้ฟังยังทิ้งปริศนาธรรมให้อีก เขมส่ายหน้าน้อย ๆ แล้วมองตรงไปข้างหน้า ปลายนิ้วเรียวเขี่ยปิ๊กอันเล็กราคาเบา ๆ ออกมากรีดสายเริ่มบรรเลงบทเพลงที่เพื่อนต้องการ



“สบตาเธอคนนี้ไม่รู้ฉันเป็นอย่างไร

เธอตราตรึงในฝันดั่งแสงจันทร์อันสดใส

ห่างไกลยังเฝ้ารอใกล้กันฉันก็หวั่นไหว

เหลียวมองจันทร์ต้องทำให้คิดถึงเธอ



ไม่ว่าอยู่แห่งไหนดั่งเรามีสายใยผูกพัน

ใจไม่เคยเปลี่ยนผันจากเธอคนนี้”เสียงนุ่มฟังรื่นหูขับขานบทเพลงที่กำลังยอดฮิตออกมาพร้อยรอยยิ้มหวาน ๆ กวาดใจคนมองไปมากองตรงหน้า



“ฟ้าดินแยกเราเท่าไรไม่ขาด

ภพชาติพรากเราห่างกันไม่ได้

เมื่อบุพเพสันนิวาสมั่นหมายให้เจอ

ผู้ใดเข้ามาไม่เคยไหวหวั่น

เหมือนใจฉันเกิดมาเพื่อเป็นของเธอ

รอวันพบเจอเคียงข้างรักเธอนิรันดร์”เสียงทุ้มอีกเสียงร้องประสาน ดวงตาสองคู่สบมองกันสื่อความหมาย



โลกส่วนตัวที่ถูกสร้างขึ้นอย่างไม่รู้ตัวทำดาเมจคนโดยรอบให้ลงไปแดดิ้นกับความหวานของคู่จิ้นที่สาววายหลายคนกราบกรานให้เป็นคู่จริงสักที สมาร์ทโฟนหลายหลายยี่ห้อถูกยกขึ้นมาอัดคลิปของคนทั้งคู่เอาไว้เตรียมแข่งกันอัพลงโซเชียล ราวกับว่าใครอีพขึ้นก่อนคนนั้นจะได้รางวัลไป



ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ที่งดงามนั้น มีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองภาพที่เหมือนจะมีพื้นหลังเป็นสีม่วงพาสเทลอยู่เงียบ ๆ ครุ่นคิดตัดสินใจอะไรบางอย่างอยู่ในใจ



ก่อนที่เขาจะเดินหันหลังจากไป...



@@@@@@@@@@@



มาอัพแล้วเจ้าค้าาาา


พี่ต่ายของเขมรุกหนักอีกแล้ววว น้องเขมเราก็ม้วนเอา ๆ เลยย



ฝากติดตาม ติชม และฝากแชร์ #คนในใจ กันด้วยนะคะ ☺️ อ่านทุกความคิดเห็นและน้อมรับมาปรับแก้ในตอนต่อ ๆ ไปเสมอค้า

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เฮ้อออออ กินหญ้้าแทนแล้ว ซื้อข้าวคงไม่พอ

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
น้องเขมชีวิตด้านการเงินน้องนี่รันทดสุดๆ :mew5: :mew5: :mew5:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ใครแอบมองอะ ทัศน์หรอ

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 5

กำลังใจ



หลังจากฝ่าวงล้อมผู้ชมเพลงสดมาได้แล้ว รณกฤตก็พาเขมทิวาไปหาร้านอาหารที่คนไม่มากนักเพื่อกินอาหารเย็นกัน

อาหารเย็นตอนสี่โมงนี่แหละ ไม่อ้วน

ร้านอาหารที่มีทั้งของจากแม่น้ำและทะเลสด ๆ หาได้ยากในเมืองที่มีแต่ทะเลเทียม แม่น้ำสีขุ่นทอดยาว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหาไม่ได้ซะเลย

“...”เขมพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นราคาที่เด่นหราอยู่ท้ายชื่อเมนูอาหาร เขาเหลือบมองท่าทีสบาย ๆ ของรุ่นพี่ตรงหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะปิดเมนูวางลง

“ให้พี่สั่งใช่ไหมครับ”รณกฤตยิ้มขำเมื่อเห็นเขมทำหน้าจุด เขาก็พอจะเดาได้อยู่หรอกว่าน้องคงไม่กล้าสั่งของราคาสูง ๆ มากิน “เอากุ้งแม่น้ำเผาโลนึง ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนใส่เอ็นหมู กระพงผัดฉ่า ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว ปูผัดพริกไทยดำ ข้าวเปล่าสองจานครับ”

เมนูที่ถูกร่ายออกมาจากริมฝีปากหยักทำให้ดวงตาสีเข้มเบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบเท่าไข่ห่านจนเกรงว่าถ้าสั่งมากกว่านี้ตาของคุณหนูอักษรอาจจะถลนออกมาเลยก็ได้

“แล้วก็น้ำส้มปั่นแก้วนึง นมแคนตาลูปแก้วนึงครับ”ต่ายวางเมนูลงแล้วยิ้มให้น้อง ”อยากกินอะไรเพิ่มไหมครับ น้องเขม”

“เฉาก๊วยนมสดใส่น้ำตาลทรายแดงครับ”ในเมื่อรุ่นพี่มีใจอยากจะเลี้ยง เขาก็จะไม่ปฏิเสธที่จะสั่ง ถึงจะตะลึงกับรายการที่สั่งมาเพราะไอ้ราคาที่ห้อยท้ายไปรอบก็เถอะ ยังไงที่สั่งเพิ่มไปก็แค่ของหวานเล็ก ๆ น้อย ๆ ราคาไม่ถึงครึ่งของอาหารคาวที่ถูกสุดด้วยซ้ำ “เอาสองถ้วยนะครับ”

เขาไม่ใช่นางเอกละครที่จะทำเหนียมอายกับพระเอกเวลาไปกินข้าวสองต่อสองสักหน่อย อีกอย่างพี่ท่านสั่งแต่ของแพงมาอยู่แล้ว เพิ่มอีกนิดขนหน้าแข่งไม่ร่วงหรอกน่า

แต่ให้เพิ่มกว่านี้เขาก็เกรงใจเหมือนกัน

“ครับ รอสักครู่นะครับคุณลูกค้า”บริกรหนุ่มหน้าใสยิ้มให้กับลูกค้าทั้งสองก่อนจะเดินหายลับไป

“สองถ้วยจะกินหมดเหรอ”ต่ายแซวรุ่นน้องที่นั่งโปรยยิ้มตาหยี มองร่างกายผอม ๆ ที่ไม่ถึงขั้นขาดสารอาหารอย่างพิจารณา

“หมดสิครับ”เขมยิ้มยิงฟันส่งให้เจ้ามือเลี้ยงข้าวอย่างอารมณ์ดี “ไม่หมดก็ห่อกลับไปกินที่หอได้”

“งั้นสั่งเพิ่มอีกสิ จะได้เก็บเอาไว้กิน”ต่ายทำท่าจะเปิดเมนูเพื่อสั่งของมาเพิ่ม แต่ก็โดนมือเล็กดักเอาไว้ก่อน

“ไม่เอาครับ”เสียงที่ถูกกดให้เข้มดุนั้นแทนที่จะทำให้กลัว แต่กลับทำให้ต่ายเอ็นดูซะอย่างนั้น

”ไม่เอาเหรอ...”เสียงที่ลากยาวของรุ่นพี่นั้นฟังดูไม่น่าไว้วางใจสักเท่าไหร่เลย “นั่นสินะ เก็บไว้นาน ๆ มันก็ไม่อร่อยละ”

เขมถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างน้อยพี่ต่ายก็พอจะเข้าใจเขาอยู่บ้างล่ะนะ ค่อยโล่งใจหน่อย ถึงประเด็นจะไม่ใช่เรื่องความอร่อยก็เถอะ

เหมือนจะขัดแย้งในตัวเอง แต่เขาก็ไม่อยากให้รณกฤตเสียเงินเลี้ยงข้าวเขามากไปกว่านี้แล้ว ไอ้ครั้นจะขอหารก็... ไม่มีเงินอ่ะ

“ไว้พี่พาไปหาของอร่อยกินเรื่อย ๆ ดีกว่า”ยังไม่ทันที่จะได้สบายใจหายใจคล่องเขมก็ต้องขอถอนคำพูดก่อนหน้าซะแล้ว

“สายเปย์เหรอครับ”เขมกระตุกยิ้มมุมปาก ดวงตาภายใต้กรอบแว่นหรี่มองคนที่ทำหน้ายิ้ม ๆ ตรงหน้า “ระวังผมจะหลอกถลุงพี่หมดตัวนะ”

เล่นมา เล่นกลับ ไม่โกง!!!

“แปลว่าน้องเขมยินดีจะมากินข้าวเย็นกับพี่ทุกวันใช่ไหมครับ”คำพูดที่ได้รับกลับมาทำเอาคนฟังต้องมุดหน้าลงกับโต๊ะ... ไม่โกงก็แพ้ได้... ตั้งแต่ได้แค่มองจนตอนนี้ได้ร่วมโต๊ะอาหารกันเขายังไม่เคยชนะคน ๆ นี้ได้เลย

แพ้ใจทุกที

อันที่จริงเขมทิวาไม่ใช่ว่าจะไม่เขินหรือไม่ประหม่าที่ได้พูดคุยกับคนในใจของเขา แต่จิตใต้สำนึกโง่ ๆ ที่มีอยู่มันบอกให้เขาทำเรื่องโง่ ๆ ดูสักครั้งบ้าง

มีโอกาสที่จะพัฒนา มันก็ต้องลองกันดูสักตั้ง เขมเลยเลือกที่จะข่มทุกอย่างลงในใจเพื่อที่จะได้พูดคุยกับรณกฤตสักครั้ง

เขาจะได้ไม่เสียใจในภายหลัง

บทสนทนาที่เงียบลงแต่มันกลับไม่ได้ทำให้บรรยากาศอึมครึมเลยสักนิด

“เหมือนเจ้าชายจะเป็นจุดสนใจนะครับ”เขมที่เหลือบตามองรอบ ๆ แล้วเห็นสายตาของใครหลายคนมองมาที่โต๊ะนั้นก็อดที่จะแซวเจ้าชายเศรษฐศาสตร์ไม่ได้

“เหรอครับคุณหนู”ต่ายเคาะนิ้วลงกับที่เท้าแขนยิ้ม ๆ “หึงเหรอครับ”

“เปล่าสักหน่อย”เขมหน้าแดงลามไปถึงใบหูอีกครั้ง นี่เขาโดนคนในใจวางระเบิดมากี่ลูกแล้วนะวันนี้

อาจจะเพราะเคยชินจากการเป็นจุดรวมสายตารณกฤตจึงทำตัวสบาย ๆ นั่งสไลด์มือถือรออาหารมาเสิร์ฟได้อย่างชิว ๆ จนเขมทิวาอยากจะเอาอย่างบ้าง

แต่ยังไม่ทันที่จะได้ปลดล็อคหน้าจอ แรงสั่นสะเทือนจากการมีสายเข้าก็มาแทรกก่อนแล้ว ชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอนั้นทำให้รอยยิ้มของเขมเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

“ฮัลโหลครับ”ถึงจะไม่อยากรับสายแค่ไหน แต่สุดท้ายยังไงก็ต้องรับอยู่ดี “หนูเบ็ต มีอะไรเหรอครับ”

“ทำไมพี่ไม่โอนเงินให้หนู”น้ำเสียงเกรี้ยวกราดลอดมาตามสายพัดเอารอยยิ้มที่ฉาบหน้าคุณหนูผู้อบอุ่นหายวับไป

“หนูเบ็ต”เขมข่มความไม่พอใจที่กำลังพุ่งริ้วขึ้นมาลงท้องไป ”กลางเดือนแบบนี้เงินพี่ยังไม่ออกหรอกนะคะ ถ้าหนูเบ็ตจะรีบใช้ หนูเบ็ตคุยกับคุณน้าดูยังไงก็ได้ไวกว่ามาขอจากพี่นะคะ”

“พี่เขม!!!”เสียงแหลมสูงเรียกชื่อของพี่ชายคนละแม่ดังลั่นออกมานอกสายจนเรียกสายตาของใครอีกคนให้นิ่วหน้ามองมาได้ “พี่จะมาให้ความหวังหนูทำไม!!”

“เบ็ตตี้ เบ็ตตี้ควรจะรู้แก่ใจนะครับว่าพี่ก็ยังเป็นแค่นักเรียนนักศึกษาคนนึง ไม่ใช่คนที่ทำงานแล้ว”เสียงที่ถูกกดลงจนต่ำกว่าปกติทำให้คนเป็นน้องสาวสูดลมหายใจลึก “อย่างที่พี่บอก ถ้าเบ็ตตี้รอไม่ได้ก็ไปคุยกับคุณน้าเอานะครับ”

“ใช่สิ ก็หนูทันโง่กว่าพี่มาตลอดนี่”สาวน้อยที่รู้แล้วว่าพี่ชายของเธอเริ่มโกรธ และเธอต้องเป็นฝ่ายถอยออก “ถ้าสิ้นเดือนหนูไม่ได้ หนูจะตามไปเอาถึงที่ห้องพี่เลย”

สายโทรศัพท์ตัดไปแล้ว ทิ้งอารมณ์คุกกรุ่นไว้ในใจของใครอีกคน เขมมองหน้าจอที่มืดดับลงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

“น้องสาวเหรอ”ต่ายถามขึ้นเมื่อสีหน้าของรุ่นน้องดูดีขึ้นบ้างแล้ว “อายุเท่าไหร่แล้วน่ะ ดูเป็นเด็กที่เอาแต่ใจอยู่นะ”

“น้องสาวต่างแม่น่ะครับ”รอยยิ้มบางระบายขึ้นบนใบหน้า “ปีนี้ก็สิบห้าแล้ว กำลังหัวเลี้ยวหัวต่อเลยล่ะครับ คุณน้าเขามีลูกยากพอมีเบ็ตตี้มาคนนึงเขาก็ดีใจมาก เลยรักและตามใจลูกสาวมากจนอาจจะดูเป็นการรังแกลูกไปสักหน่อยน่ะครับ”

“งั้นเหรอ”ต่ายพยักหน้ารับรู้และไม่ถามต่อ แต่มองสบเข้าไปในดวงตาที่มีร่องรอยของความเศร้าหมองเจืออยู่

เขารอ... รอให้น้องร่วมสถาบันคนนี้พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเอง

“จริง ๆ เบ็ตตี้เป็นเด็กน่ารักนะครับ แต่ทุกคนตามใจมากเกินไปจนกลายเป็นความเคยชิน”เขมถอนหายใจอีกครั้งแล้วยิ้มหม่น “ผมเองก็ตามใจเขามากเหมือนกัน... จะว่าใครได้”

“อยู่กันที่นี่จริง ๆ ด้วย”เสียงสดใสที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นก่อนที่สาวสวยในชุดนักศึกษาที่ติดเข็มมอ.เดียวกับทั้งสองไว้จะเดินตรงตรงมาที่โต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่

“สวัสดีครับ พี่พรีม”รณกฤตทักทายคนมาใหม่ยิ้ม ๆ ตัวเขาอยู่ปีสองแล้วเลยพอจะคุ้นหน้าคุ้นตาคนอยู่บ้าง ต่างจากน้องปีหนึ่งที่ยกมือไหว้แต่เอียงหัวอย่างงุนงงอยู่ “พี่พรีมเขาเป็นเลขาสโมสรนักศึกษาน่ะ”

“น้องเขมนี่ น่ารักจัง”ปลายนิ้วเรียวที่ตัดเล็บมนเข้ารูปแต่งแต้มยาทาเล็บเป็นลายอลิสน่ารักจิ้มแก้มนุ่มไปจึกนึง “แก้มนุ่มนิ่มมากอ่ะ”

จากจิ้ม... เปลี่ยนเป็นบีบเบา ๆ จนคนถูกรุกรานแอบคิดว่ารุ่นพี่คนสวยคนนี้กำลังคิดว่าแก้มเขาเป็นดินน้ำมันหรือเปล่า

“เอ่อ... แล้วพี่พรีมมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”เขมทิวาตบบทสนทนากลับเข้าสู่ประเด็นก่อนที่แก้มเขาจะช้ำจากแรงบีบที่มากขึ้นเรื่อย ๆ

“อ้อออ จริงด้วย”พรีมตบมือดังแปะพร้อมทำหน้าราวกับว่าเพิ่งนึกเรื่องสำคัญออก “พี่มีเรื่องสำคัญจากพี่ช้างมาบอกน้องทั้งคู่เลย อ๊ะ พี่ช้างเป็นประธานสโมฯ รุ่นนี้นะคะ น้องเขม”

พรีมหันไปอธิบายเพิ่มเติมให้กับเฟรชชี่ที่อาจจะยังไม่รู้จักสโมสรนักศึกษาดี เธอยิ้มหวานส่งให้สองหนุ่มหน้าตาดีพาใจฟ่องฟูด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ

“เรื่องสำคัญ?”ต่ายทวนคำของสาวรุ่นพี่แล้วหันไปมองหน้าที่ดูงงยิ่งกว่าหมางงของน้องเล็กในวงสนทนา “เรื่องอะไรครับ”

“ก็แบบว่า...”สาวเจ้าลากเสียงยาวเพิ่มความอยากรู้ของรุ่นน้อง แต่ก็เหมือนจะไม่ค่อยมีปฏิกิริยาตอบรับกันสักเท่าไหร่ “พี่ได้รับคำสั่งจากพี่ช้างมาให้ทาบทามน้องสองคนมาทำกิจกรรมของมหาลัยนิดหน่อยน่ะ”

“...”คำว่ากิจกรรมของมหาลัยทำให้สีหน้าของสองหนุ่มเปลี่ยนไป คนนึงที่โดนร้องขอมาตั้งแต่เป็นเฟรชชี่หุบยิ้มลงแล้วเบนสายตาหนี ส่วนอีกคนมีสีหน้าที่ดูย่ำแย่ลง

“อ่าว ทำไมทำหน้ากันแบบนั้นล่ะ ยิ้มสิ ยิ้มมม”พรีมเสียเซลฟ์ไปไม่น้อยเมื่อเห็นสีหน้าที่ค่อนจะไปทางย่ำแย่ของหนุ่ม ๆ “พี่แค่จะมาทาบทามน้อง ๆ ให้มาเป็นคฑากรในงานกีฬาของมหาลัยเองนะ”

“ผมต้องทำงานพิเศษ คงไม่มีเวลาไปฝึกซ้อมน่ะครับ”เขมทิวาเกริ่นขึ้นมาก่อน สำหรับเขาการหาภาระใส่บ่าเพิ่มในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดี “ผมคงไม่ไหว พี่พรีมไปชวนคนอื่นน่าจะดีกว่านะครับ”

“ผมปวดหลัง”ฝั่งรณกฤตเองก็ไม่พูดเปล่า หยิบแผ่นแปะแก้ปวดขึ้นมาแปะหลังตรงนั้นเลย “ยืดหลังตรง ๆ เดินมาก ๆ ไม่ไหวหรอกครับ”

เขมหลุดขำออกมาอย่ากลั้นไม่อยู่ เขาเพิ่งรู้เหมือนกันนะว่าคนในใจของเขาก็มีมุมกวน ๆ อยู่เหมือนกัน

“นี่ น้องเขมต้องไปทำงานพิเศษน่ะ ฉันเข้าใจ แต่ไอ้ข้ออ้างปวดหลังแล้วหยิบกอเอี๊ยะขึ้นมาแปะนี่ขอซื้อเถอะ”พรีมเม้าเอวมองเจ้าชายเศรษฐศาสตร์อย่างสุดเซ็ง “น่า ช่วยพี่หน่อน ไม่ต้องไปซ้อมกันทุกวันก็ได้ เอาแค่พอจำท่าได้ก็พอ”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่ไม่ไปชวนคนที่อยากเป็นล่ะครับ”หากเป็นคนอื่นเธอก็คงคิดว่ากำลังรวนเธออยู่แน่ แต่ดวงตาภายใต้แว่นไร้กรอบนั่นเต็มไปด้วยคำถามและแฝงไปด้วยความจริงจังอย่างบอกไม่ถูก

“มันเป็นผลโหวตน่ะ คฑากรพิเศษเราจะเชิญคนที่ได้เสียงส่วนใหญ่ของสโมฯห้าคนแรกมาร่วมขบวน แล้วปีนี้คู่น้องมาแรงแซงทุกโค้งเลย”เสียงใสอธิบายออกมาอย่างใจเย็น ”ไม่ต้องเป๊ะเวอร์ก็ได้ ถือว่าช่วยกันหน่อยนะ”

การที่มีรุ่นพี่มายืนขอร้องอยู่ตรงหน้ามันทำให้เขมทิวารู้สึกกดดันและใจอ่อนไปในคราวเดียวกัน เขาเหลือบมองคนที่ทำเป็นทุบหลังตัวเองเบา ๆ ทำเนียนไม่เลิก

แต่ตอนนี้เขาก็ชักอยากได้แผ่นแปะแก้ปวดนั่นมาแปะหน้าผากแล้วเหมือนกัน

“ไม่ได้จริง ๆ เหรอ”เสียงที่แฝงความหม่นหมองเอาไว้ ยิ่งทำให้คุณหนูอักษรผู้ใจดีกับทุกคนใจอ่อนยวบ

“ผมไม่ได้มีเวลาให้ทุกคนมากเท่าไหร่... แต่จะพยายามนะครับ”สุดท้ายเขมก็ตกปากรับคำไปจนได้

“เฮ้อ”เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่กังมาจากคนที่แกล้งทำเป็นไม่สนใจอยู่นาน “สุดท้ายพี่ก็ได้ในสิ่งที่ต้องการจนได้”

“แต๊งกิ้วนะคะ หนุ่ม ๆ เอาไว้พี่จะมานักเวลาซ้อมอีกทีเนอะ”แน่นอนว่าเธอไม่สะเทือนไปกับคำพูดเน็บแนบที่แสนจะจุ๋มจิ๋มของคุณเจ้าขายหรอก “ไปละจ้า ทานให้อร่อยนะเด็ก ๆ โอ๊ะ มื้อนี้พี่ช่วยออกห้าร้อย อะ ๆ เป็นค่าเสียเงลาดินเนอร์สุดหรูนะจ๊ะ”

แบงค์สีม่วงถูกวางแปะลงบนโต๊ะ ก่อนที่สาวเจ้าจะจรลีหนีหายไปไม่เหลียวหลังกลับมา

“พี่เขาน่าจะไปขายประกันภัยนะครับ”เขมเปรยขึ้นหลังจากที่หญิงสาวลับสายตาไป “มาไว เคลมไว ไปไว”

“ใจน้องก็ไปไวเหมือนกัน”ต่ายยื่นมือมาผลักหัวคนใจอ่อนด้วยแรงที่ไม่เบาไปทีนึง “หาเรื่องลำบากให้ตัวเองเก่งนักนะ คุณหนู”

“พี่ไม่ห้ามผมล่ะครับ”เขมทำหน้ายู่ใส่คนที่ตั้งท่าจะว่าเขา แต่ตอนที่เขาเผลอหลุดปากรับคำไปกลับไม่ขัด

“ความผิดพี่เองแหละ”สองมือยกขึ้นยอมแพ้ พอดีกันเวลาที่อาหารจานแรกมาเสิร์ฟพร้อมข้าวเปล่า “กินข้าวกันเถอะ”

เสียงช้อนกระทบจานข้าวเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นในมื้อเย็นวันนี้ ต่ายเหลือบมองรุ่ยย้องที่ตักกับข้าวกินด้วยท่าทีเรียบร้อย

แต่... ความไวมันไม่ได้เรียบร้อยเหมือนท่าทางเลย

อาหารที่ว่าเยอะก็ราบเป็นหน้ากอง หมดทุกอย่างไม่เหลือทิ้งให้ต้องเสียดาย เป็นมือที่ค่อนข้างจะคุ้มเงินที่จ่ายไป

“กินเยอะเหมือนกันนะ”รณกฤตมองคนที่นั่งลูบพุ่งอยู่ข้าง ๆ หลังจากออกรถมาเจอไฟแดงแห่งกรุงเทพ “ป่องขึ้นนะเนี่ย”

ก็... อดจะแซวสักหน่อยไม่ได้น่ะ

“พี่ขับรถไปเลยครับ”เขมเบือนหน้าไปมองวิวนอกรถ เขาก็เผลอตัวตามใจปากต่อหน้าคนที่ไม่ถือว่าสนิทนักไปได้

ต่ายหัวเราะในลำคอแล้วหันไปตั้งใจขับรถไปส่งคุณหนูทำงาน

เมื่อในรถเงียบเสียงลง ความคิดต่าง ๆ ที่ถูกกดไว้ก็ล่องลอยขึ้นมาในสมองจนใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เป็นนิจนั้นนิ่งเฉย

วันนี้เขารับภาระมาใส่บ่าอีกแล้ว จะทำยังไงต่อไปต้องคิดให้ดีอีกที... จะเปลี่ยนงานไปทำที่อื่นมันก็รู้สึกเกรงใจเจ๊สวยที่ให้โอกาสเขาในวันที่มันแทบจะไม่เหลือทางอะไร จ่ายค่ามัดจำหอให้ตอนแรกเข้า แล้วยังค่าน้ำค่าไฟอีก

เขาคิดมากอีกแล้ว... เกลียดนิสัยตรงนี้ของตัวเองแต่มันก็แก้ได้ยากชะมัด

“ถึงแล้ว...”เสียงที่ดังลอดเข้ามาในความคิดฉุดสติที่ล่องลอยไปของเด็กหนุ่มกลับมา “น้อวเขมครับ”

“ครับ??”เขมที่กำชังปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวหันไปหาคนที่เรียกตน

“จำไว้นะ...”มืออุ่นยื่นมาลูบกลุ่มผมนุ่มด้วยความอ่อนโยน... เช่นเดียวกับดวงตาที่ทอดมองมา “เพียงแค่พูด ปัญหาบางอย่างมันก็แก้ไข้ได้ไม่ยาก”

“...”

“น้องเขมไม่เคยถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวนะครับ”



+++++++++++++++++



พี่ต่าย พี่ต่ายยยยยยยยยยยย

เขียน ๆ ไป อิจฉาน้องเขมเหลือเกินที่มีคนเทคแคร์ขนาดนี้ ฮอลลลล (ชีวิตจริงไม่เคยจะมีกับเขาบ้าง ฮรึก ๆ)



ฝาก #คนในใจ #พี่ต่ายน้องเขม ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ



^^

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อยากตบ นังเบตตี้ มันต้องไม่ได้เอาเงินไปเรียนพิเศษแน่ๆ !

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เขมเองก็รู้ว่าภาระค่าใช้จ่ายตัวเองไม่พอยังตามใจน้องอีก
ต่อให้เบ็ตจะบุกมาหาถึงห้องถ้าเขมไม่ใจอ่อนเบ็ตจะทำอะไรได้


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
สนุก  ติดตามจ้า

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
เรื่องเงินนี่มันไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด