[เรื่องสั้น] Hug you 1 minute (ตอนเดียวจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Hug you 1 minute (ตอนเดียวจบ)  (อ่าน 3288 ครั้ง)

ออฟไลน์ candleguard

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------




“ นัท มึงรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ พี่บอลเรียกให้ไปหาแป๊บนึงว่ะ ” ไอ้มอสเพื่อนสนิทที่อยู่คณะเดียวกับผมหันมาบอกหลังวางโทรศัพท์



“ ให้กูไปเป็นเพื่อนมั้ย ” ผมถาม แต่มันกลับส่ายหน้า



“อย่าเลย ขามึงเพิ่งหายเจ็บ มึงนั่งรอนี่แหละ กูไปแป๊บเดียวจริงๆ เดี๋ยวมา ”



“เออ งั้นก็ได้ อย่านานนักล่ะ ” ผมรับคำ หลังจากแผ่นหลังของอีกฝ่ายหายไปจากสายตา ผมก็ทรุดตัวลงนั่งริมสระน้ำหลังมหาวิทยาลัย ก่อนจะค่อยๆ เอนหลังนอนลงบนผืนหญ้านุ่มนิ่มที่ส่งกลิ่นดินหอมจางๆ พาให้รู้สึกสดชื่นยามโพล้เพล้เช่นนี้



ผมนอนมองผืนหญ้า มันเป็นหญ้าพันธุ์คุ้นตาที่สมัยเด็กผมคลุกคลีเล่นอยู่กับมันทุกวัน จะว่าไปแล้วก็ชวนให้นึกถึงคนคนนึงขึ้นมาแฮะ…





สมัยที่ผมยังเด็ก ผมเรียนอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ผมมีเพื่อนที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและคู่กัดอยู่คนนึงมันชื่อ ‘ ไอ้บิ๊ก ’ เรารู้จักกันตอนป.2 เพราะดันจับสลากได้มานั่งข้างกัน



ไอ้บิ๊กตัวมันบิ๊กสมชื่อ มันทั้งอ้วนและตัวใหญ่ พุงก็โต นมก็ย้อย นิสัยเหมือนไจแอนท์ ในขณะที่ผมทั้งผอมทั้งเตี้ยเลยกลายเป็นลิ่วล้อของมันไปโดยปริยาย ไอ้บิ๊กเนี่ยจะว่ามันนิสัยดีก็ไม่ใช่ จะว่าว่าแม่งชั่วร้ายก็ไม่เชิง วันๆ นึงผมจะต้องทะเลาะกับมันไม่ต่ำกว่าสองครั้ง และไม่นานก็จะดีกับมันใหม่เหมือนเป็นวัฏจักรของยุง โดยผมต้องเป็นคนง้อมันก่อนทุกครั้งไม่ว่าผมจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ผมจำไม่ได้แล้วว่าเคยทะเลาะอะไรกับมันมาบ้าง แต่รู้อยู่อย่างเดียวว่ามันไม่เคยเป็นฝ่ายง้อผมก่อน ผมที่เป็นกึ่งๆ ลิ่วล้อของมันก็เลยต้องเป็นคนตามง้อมันทุกครั้ง เพราะผมดันสนิทกับมันแค่คนเดียวในห้อง พอมันไม่คุยกับผม ผมก็ไม่รู้จะไปคุยกับใคร



ยามปกติที่ไม่ได้ทะเลาะกัน พวกเราก็เล่นด้วยกันสนุกดี พวกเราชอบเล่นผจญภัยโดยสมมติว่าสวนหย่อมของโรงเรียนเป็นป่า น้ำพุกลางสวนหย่อมคือน้ำตกเอาไว้อาบน้ำ ส่วนบ่อบัวหน้าตึกอำนวยการคือแม่น้ำที่เราต้องใช้กิ่งไม้ตกปลาขึ้นมาย่างไฟกินเป็นอาหาร



‘ดูนี่สินัท เราตกปลาได้เยอะแยะเลย ’ ไอ้บิ๊กชูกิ่งไม้ที่เสียบใบไม้แห้งไว้หลายใบให้ผมดู



‘โอ้โห ! บิ๊กตกปลาเก่งจัง สอนเราบ้างสิ ’ ไอ้ผมก็เล่นตามอย่างสมจริงสมจัง มโนว่าไอ้ใบไม้พวกนั้นเป็นปลา



‘ นายต้องทำแบบนี้ ใส่เหยื่อแล้วค่อยๆ หย่อนเบ็ดลงไป ’ ว่าแล้วไอ้บิ๊กก็จุ่มปลายกิ่งไม้ลงไปในบ่อน้ำที่มีแต่ใบบัว หอยทาก และ ปลาหางนกยูง



‘ โอ๊ะ! ปลาติดเบ็ดแล้ว ’ ไอ้บิ๊กทำแอ็คติ้งได้โอเว่อร์มาก แขนป้อมๆ อ้วนๆ ของมันสั่นไม่หยุดจนต้องใช้สองมือจับเบ็ดกิ่งไม้ไว้



‘ เฮ้ย! ยืนเฉยทำไมล่ะ มาช่วยกันดึงเบ็ดสิ โหยยย ปลาตัวใหญ่แน่ๆ ’ ผมรีบกระโจนไปจับรอบเอวที่มีแต่ห่วงยางของมันพลางช่วยดึงสุดแรง ก่อนที่เราทั้งคู่จะล้มลงบนสนามหญ้าพร้อมกัน



‘ นี่ไง ได้ปลาแล้ว ตัวใหญ่ป่ะล่ะ ’ ไอ้บิ๊กควานหาใบหูกวางแห้งๆ มาเสียบกิ่งไม้ ชูให้ผมดู



‘ อู้หู ! น่าอร่อยจัง ’ ผมรีบอวยมันทันที



( พอผมโตขึ้น นึกถึงวีรกรรมตอนเล่นกับมันทีไรก็อายตัวเองทุกที กรูทำไปด้ายยยยยT///T)





ไอ้บิ๊กเอากิ่งไม้มากองสุมๆ กัน เอากิ่งไม้อันนึงมาปั่นๆ แบบที่เห็นเขาทำกันในหนังเวลาจะจุดไฟในป่า ผมรีบเอาเหล่าปลาที่ตกได้มาเสียบกิ่งไม้ปักไว้รอบๆ กองไฟ ( ที่ไม่มีไฟขึ้นสักนิดแม้ว่าไอ้บิ๊กจะปั่นจนพื้นดินเป็นรูแล้วก็ตาม -*- )



‘ แล้วข้าวล่ะ ’ ผมถาม



‘ เอ…ข้าวหรอ ’ มันทำท่าคิด



‘นี่รู้ป่าว ในโรงเรียนเรามีต้นข้าวขึ้นด้วยแหละ ’ ผมเหลือบมองพื้นหญ้าที่พวกเรานั่งกันอยู่ ลักษณะของมันดูคล้ายๆ ต้นข้าวจิ๋วเลย ผมเด็ดต้นหญ้าขึ้นมาให้มันดู



‘ นี่มันต้นหญ้าต่างหาก ’



‘ ผิดแล้ว แม่เราบอกว่านี่เป็นต้นข้าวจิ๋ว ชาวนาเขาไม่ปลูกกันเพราะมันเล็กเกินไป คนอื่นชอบเข้าใจผิดว่ามันเป็นหญ้า แต่ที่จริงมันเป็นต้นข้าวนะจะบอกให้ ’ ผมรีบโม้ทันที พลางวางท่าอย่างผู้ทรงภูมิ ไอ้บิ๊กทำหน้าตาไม่เชื่อนัก ผมเลยพิสูจน์ให้มันดูด้วยการกินสดๆ (แล้วแอบคายทิ้งตอนมันเผลอ)



‘ ตอนนั่งรอแม่มารับหลังเลิกเรียน เวลาหิวๆ เราก็กินข้าวจิ๋วรอประจำแหละ ในโรงเรียนนี้มีเรารู้อยู่คนเดียวว่ามันเป็นข้าวจิ๋ว เราเห็นว่านายเป็นเพื่อนซี้หรอกนะถึงยอมบอก ’



ไอ้บิ๊กทำหน้าเหมือนได้ล่วงรู้ความลับอันยิ่งใหญ่ของจักรวาลก็ไม่ปาน หลังจากวันนั้นเวลาเราเล่นผจญภัยในป่าด้วยกัน ไอ้บิ๊กก็จะกินหญ้าพันธุ์นั้นเป็นข้าวเสมอ ( มันกินจริงๆ นะ กินแบบกลืนลงไป ไม่ใช่กินแล้วแอบคายเหมือนผม ฮ่าๆ ๆ )



นอกจากเล่นผจญภัยแล้ว ก็มีเล่นเป็นฮีโร่กับตัวร้าย ผมโดนบังคับให้เล่นเป็นไอ้ตัวกี๊ๆ ๆ ที่เป็นลูกกระจ๊อกของพวกปีศาจในขบวนการห้าสี ส่วนตัวมันก็ผูกขาดบทฮีโร่ ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลยTT



บางทีเราก็เล่นเป็นนินจากัน เวลาจะใช้วิชาก็ต้องชูสองนิ้วไว้ระดับอกแล้วพูดว่า ‘…นินๆ ’ ครั้งนึง ไอ้บิ๊กพยายามโชว์เทพวิชาล่องหนให้ผมดูด้วยการบริกรรมคาถา



‘หายตัว! นินๆ ’ วันนั้นผมเพิ่งทะเลาะกับมันไปตอนเช้าเรื่องที่มันทำสีไม้ผมหักแล้วไม่ยอมเหลาคืน ด้วยอารมณ์เซ็งจิตก็เลยไม่คิดอยากรับมุกมันเหมือนเคย



‘ ไม่เห็นจะหายเลย เรายังเห็นนายยืนอยู่นี่เลย ’ ผมว่า



‘ เพราะนายเป็นนินจาเหมือนเรา ก็เลยมองเห็นน่ะสิ! เราหายตัวได้จริงๆ นะจะบอกให้ ’



‘ ไม่เชื่อ นายมันไอ้ขี้โม้ ’ ก็บอกแล้วไง วันนี้อารมณ์บ่จอย ไม่อยากเล่นด้วย



‘ แน่จริงไปเปิดกระโปรงยัยจีจี้พิสูจน์ว่านายล่องหนได้จริงๆ สิ ’ ผมชี้ไปที่เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินเลียไอติมอยู่



‘ ได้! ได้เลย คอยดูก็แล้วกัน ’ ไอ้บิ๊กเป็นคนไม่ชอบให้ใครมาสบประมาท พอผมท้ามันก็รับคำทันที มันร้องว่า ‘ สุดยอดวิชาหายตัว นินๆ !’ แล้วรีบวิ่งไปเปิดกระโปรงยัยจีจี้ขี้มูกยืด แต่ขณะที่มันกำลังจะวิ่งหนีดันเจอครูเวรที่เดินอยู่แถวนั้นจับได้คาตา มันเลยโดนลากเข้าห้องปกครอง โดนไม้เรียวไปสองทีพร้อมกับโดนลงความประพฤติ ผมที่เขย่งเท้ายืนมองทางหน้าต่างแอบหัวเราะคิกคักสะใจที่ได้เอาคืนหลังจากทะเลาะกันไปเมื่อเช้า



พอออกจากห้องปกครองปุ๊บ ดูเหมือนไอ้บิ๊กมันจะโกรธผมมาก ตลอดการเรียนช่วงบ่ายเราทะเลาะกันไม่หยุด ทั้งปาดินสอ ยางลบ ใส่กัน แอบหยิกกัน มันตีผม ผมตีมัน ตีกันไปตีกันมาอยู่แบบนั้นพอครูหันกลับมาพวกผมก็ทำเป็นตั้งใจเรียน พอหันกลับไปก็ตีกันต่อ ไอ้บิ๊กเอาดินสอมาขีดสมุดผม ผมเลยขีดสมุดมันกลับบ้าง ขีดกันไปขีดกันมาจนชักทนกันไม่ไหวเลยเปลี่ยนมาใช้กำปั้นทุบกันแทน คราวนี้ครูหันมาเห็นตอนผมเงื้อกำปั้นจะทุบมันกลับพอดีซะด้วย



‘จอมพล กับ ณัฐพล ออกมานี่เดี๋ยวนี้ !’ ครูสังคมจอมเฮี๊ยบชื่ออุไรวรรณเรียกพวกเราออกไป เพื่อนในห้องหันมามองพวกผมที่นั่งอยู่หลังสุดเป็นตาเดียว



ผมและมันต่างก็อิดออดไม่ยอมออกไป



‘ ออกมาเร็วๆ เข้า ไม่งั้นจะโดนไม้เรียวนะ ’ สุดท้ายผมกับมันเลยจำต้องเดินออกไปยืนหน้าห้อง ผมทั้งโมโหไอ้บิ๊ก ทั้งกลัวครูตี ทั้งอายเพื่อนในห้อง



‘ ไหนเล่ามาซิทะเลาะอะไรกัน ทุบกันตุ๊บตั๊บอยู่ได้ ’ ผมและมันสามัคคีกันเงียบไม่มีใครคิดจะเล่า นี่มันเรื่องของเด็กผู้ใหญ่อย่างครูอย่ามายุ่งหน่า! หลังจากรอพักหนึ่งก็ยังไม่มีใครคิดจะเล่าครูก็พูดขึ้นว่า



‘ตกลงไม่มีใครคิดจะเล่าใช่มั้ย… ไม่เล่าก็ไม่เล่า แต่ครูขอสั่งให้พวกเธอคืนดีกันเดี๋ยวนี้เลย!’ บร๊ะ อ่านการ์ตูนมากไปป่ะเนี่ยครู ใครมันจะดีกันง่ายขนาดนั้น



ผมกับมันจ้องหน้ากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออยู่หน้าห้องไม่มีทีท่าว่าอยากจะคืนดีกันแม้แต่น้อย จนคุณครูได้แต่ถอนหายใจแล้วพูดว่า



‘ งั้น ณัฐพลกอดจอมพลเดี๋ยวนี้ ’



‘={}=!!’ <<< หน้าผม ไอ้บิ๊ก และ ผองเพื่อนป.2/5



‘ หรืออยากโดนไม้เรียวคนละสิบทีแล้วเรียกผู้ปกครองมาคุย..เร็ว..ณัฐพลกอดจอมพล’



ครูยืนจ้องหน้ากดดันผม คนทั้งห้องก็จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว ความรู้สึกในตอนนั้นแย่กว่านี้ไม่มีอีกแล้วสำหรับเด็กปอสอง



‘ทำไมผมต้องกอดบิ๊กก่อนด้วย ก็บิ๊กปายางลบใส่ผมก่อน…’ ผมไม่ยอมเป็นฝ่ายกอดมันก่อนหรอก ถ้าผมเป็นฝ่ายกอดมันก่อนก็เท่ากับผมเป็นฝ่ายแพ้น่ะสิ!



‘ใครเริ่มก่อนครูไม่รู้ แต่เมื่อกี๊ครูเห็นเธอเงื้อมือจะทุบจอมพลเพราะฉะนั้นเธอต้องเข้าไปกอดขอคืนดีกับเขาก่อน ’



ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้มากๆ ไม่เคยรู้สึกย่ำแย่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ผมไม่ผิดสักหน่อยคนต้นเรื่องน่ะมันบิ๊กชัดๆ ถ้าบิ๊กไม่มาอวดว่าหายตัวได้ผมก็คงไม่ท้าให้มันพิสูจน์จนโดนเข้าห้องปกครองแล้วมานั่งทะเลาะกันต่อที่ห้องเรียนจนโดนครูจับได้หรอก แล้วทำไมทุกคนต้องโทษว่าผมเป็นคนผิด ทำไมทุกคนต้องมองมาที่ผมแบบนั้นด้วย!



ไอ้บิ๊กที่ยืนเยื้องไปทางด้านหลังครูทำหน้าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผม พอครูหันกลับไปมันก็แกล้งทำหน้านิ่งๆ หึย! เจ็บใจๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไอ้ชั่ว ผมเกลียดมัน คราวนี้ผมจะไม่คุยกับมันอีกแล้วตลอดชีวิตเลย!



ผมกัดฟันยกมือขึ้นโอบอีกฝ่ายเร็วๆ ทีนึงแล้วรีบผละออกทันที



‘กอดใหม่! ให้มันจริงใจหน่อย ถ้าไม่คืนดีกันก็กอดกันไปจนกว่าจะหมดคาบ ครูจะเริ่มสอนแล้ว เสียเวลาจริงๆ ’



ก็กอดแล้วจะเอาอะไรอีกล่ะ! แค่นี้ก็จะบ้าตายอยู่แล้วนะครู! แต่ถ้าจะต้องกอดมันไปทั้งคาบผมก็…ฮึก…



หมับบบ



ผมกอดมันแน่น ซุกหน้าลงกับอกที่มีนมย้อยๆ นิ่มๆ ประสาคนอ้วนพลางนับหนึ่งถึงหกสิบในใจ ผมจะกอดมันแค่หนึ่งนาที หนึ่งนาทีเท่านั้น



พอครบหนึ่งนาที ผมก็ผละออกจากมัน กลั้นใจตบบ่ามันไปสองทีแล้วพูดว่า ‘หายกันนะ’ แล้วเดินกลับที่นั่ง ครูกลับมาสอนตามปกติอีกครั้งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมทำเป็นก้มหน้าก้มตาตั้งใจเรียน แต่น้ำตาลูกผู้ชายหยดแหมะๆ ลงบนสมุด



ไอ้บิ๊กเหมือนจะรู้สึกผิด มันพยายามง้อผมเป็นครั้งแรกตลอดทั้งคาบ แต่ผมก็ไม่สนใจมันอีกแล้ว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมไม่คุยไม่เล่นกับมันอีกเลย เวลานั่งเรียนก็ไม่มองหน้า ตอนพักมันมาชวนเล่นก็ไม่เล่นด้วย ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกคบมัน พอกันที



นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมโกรธใครนานที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา ผมไม่คุยกับมันสามเดือน ช่วงเวลานั้นทั้งผมและมันต่างก็อึดอัดและทรมานด้วยกันทั้งคู่ เวลาผมเห็นมันเดินมาผมจะรู้สึกปวดแน่นในหน้าอก ทุกครั้งที่ผมเห็นสีหน้าสำนึกผิดและอมทุกข์ของมันผมรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกทุกที แต่ทิฐิที่มีก็ทำให้ผมเชิดหน้าไม่ยอมรับคำขอโทษจากมัน เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเหนื่อยกับการโกรธ ตั้งแต่ผมโกรธกับมันผมไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน



การมาโรงเรียนกลายเป็นสิ่งที่ผมเกลียด ผมไม่อยากเจอไอ้บิ๊ก ความโกรธที่มีมันจางหายไปนานแล้ว แต่เพราะผมกับมันไม่เคยโกรธกันนานอย่างนี้มาก่อนจนผมไม่รู้จะคืนดีกับมันยังไง ตลอดสามเดือนไอ้บิ๊กพยายามตามง้อผมด้วยวิธีต่างๆ นานา แต่ก็โดนผมตวาดแว๊ดใส่ ไม่ก็เบือนหน้าหนี จนระยะหลังมันไม่ค่อยกล้ามาตอแยกับผมอีกแล้ว ผมได้แต่ภาวนาต่อรูปปั้นนักบุญที่เขาว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์ ขอให้มันมาง้อผมอีกสักครั้ง คราวนี้ผมจะยอมคืนดีไม่เล่นตัวอีกแล้วจริงๆ นะครับท่านนักบุญ



ดูเหมือนคำขอของผมจะเป็นผล ไม่กี่วันต่อมาหลังเลิกเรียน ขณะที่ผมกำลังเดินไปซื้อไอติมที่สหกรณ์ ผมก็เจอเข้ากับไอ้บิ๊กที่เดินถือไอติมยักษ์คู่สีส้มสวนทางมา มันหยุดกึก ผมเองก็หยุดเดินเหมือนกัน มันมองผมอย่างประหลาดใจ เพราะปกติผมจะต้องสะบัดหน้าหนีแล้วเดินสวนไป ไอ้บิ๊กทำหน้าคิดหนัก มันเหลือบมองผมก่อนจะหักไอติมยักษ์คู่แล้วยื่นให้ผมขาหนึ่ง ผมมองหน้ามันที่มีแต่แววตาหวาดหวั่นปนสำนึกผิด ก่อนจะรับยักษ์คู่ขานั้นมา



มันยิ้มกว้างจนตาหยี เราโผเข้ากอดพลางตบไหล่กันอย่างไม่ถือโทษกันอีกแล้ว ผละออกมายิ้มให้กัน ความสัมพันธ์ที่แตกร้าวไปสมานกลับคืนดังเดิม



หลังจากคืนดีกัน ผมก็ไม่เคยทะเลาะกับมันอีกเลย มีอะไรมันก็จะยอมลงให้ผมก่อนเสมอ ถ้าผมโกรธมันก็จะเป็นฝ่ายง้อไม่ว่าผมจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม



ผมกับไอ้บิ๊กอยู่ด้วยกันจนถึงปอสาม พอขึ้นปอสี่ มันก็ต้องย้ายไปต่างประเทศพร้อมครอบครัว จำได้ว่าวันนั้นมันเดินพาร่างอุ้ยอ้ายพร้อมน้ำตาคลอเบ้ามาบอกข่าวร้ายนี้กับผม เราร้องไห้กอดคอกันกลางระเบียงทางเดินเลยทีเดียว



วันที่ไอ้บิ๊กมาเรียนวันสุดท้าย ผมเลือกใบไม้แห้งที่รูปร่างสวยรูหนอนเจาะน้อยที่สุด กับ หญ้าที่เคยติ๋งต่างว่าเป็นข้าวห่อใส่ผ้าเช็ดหน้าลายหมีสีน้ำตาลสุดโปรดที่ผมรักที่สุด



‘ บิ๊ก นี่ข้าวกลางวัน เอาไว้ไปกินบนเครื่องบินเวลาหิวนะ ’ ผมยื่นห่อเสบียงใบไม้ให้มัน ไอ้บิ๊กมองผมอย่างซาบซึ้ง มันยื่นมือมารับห่อเสบียง ประคับประคองอย่างดีราวกับเป็นของล้ำค่า



‘ ขอบใจนะนัท เราจะไม่ลืมนายเลย เราสัญญา ’



‘เราก็จะไม่มีวันลืมนาย เราสัญญา ’







“เล่นมิวสิคอยู่รึไงมึง” ผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ไอ้มอสยืนยิ้มแฉ่งอยู่ด้านหลัง มันฉุดแขนผมให้ลุกขึ้นเดินไปด้วยกัน



“แล้วตกลงพี่บอลเรียกมึงไปทำไมวะ”



“ก็อาจารย์รพีน่ะสิ แกแจ้งชื่อว่ากูยังเก็บชั่วโมงบำเพ็ญประโยชน์ไม่ครบ กูเลยต้องไปขอให้พี่บอลช่วยหาพวกโครงการบำเพ็ญประโยชน์ให้กูหน่อย” มันว่าพลางชูแผ่นกระดาษสองใบในมือให้ผมดู มันเป็นใบสมัครค่ายอาสาสร้างฝายชะลอน้ำในจังหวัดทางเหนือแห่งหนึ่งในช่วงวันหยุดยาวสิ้นเดือนนี้



“นัท กูเอาใบสมัครมาเผื่อมึงด้วย ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยจิ” มันทำหน้าตาเว้าวอน



“ไม่เอาโว้ย กูจะกลับบ้าน อีกอย่างกูก็เก็บชั่วโมงครบแล้วด้วย กูจะไปให้เหนื่อยทำด๋อยอะไร”



“เฮ้ย ไมมึงเก็บครบเร็วจังวะ กูไม่เห็นมึงจะทำไรเลย”



“มึงนึกดูดีๆ กูไม่ทำไรที่ไหน กูไปบริจาคเลือดเฟ้ย บริจาคครั้งนึงเท่ากับบำเพ็ญประโยชน์ 10 ชั่วโมง กูชวนมึงแล้วมึงบอกกลัวเข็ม ไม่ยอมไปเองช่วยไม่ได้” ปีนี้ผมบริจาคโลหิตไปสามครั้งก็เก็บได้ 30 ชั่วโมง อีก 20 ชั่วโมงผมก็ไปช่วยงานอาจารย์ พิมพ์งานมั่ง ยกของมั่ง จนสะสมชั่วโมงครบ 50 ชั่วโมง ผ่านเกณฑ์บังคับของมหาลัยพอดี ไอ้มอสมันมัวแต่เตร็ดเตร่ผมเตือนแล้วก็ไม่ฟังเป็นไงล่ะ ถ้ามันเก็บชั่วโมงไม่ครบ ต่อให้สอบผ่านทุกวิชาก็ขึ้นปีสองไม่ได้หรอกครับ เหอๆ ๆ



“โถ่มึง นะๆ ๆ เดี๋ยวกูออกค่าสมัครให้ด้วยก็ได้ กูไม่อยากไปคนเดียวอ่ะ มันเหว่ว้า…”



“ว้าเหว่เหอะ ไม่เอาโว้ย ไงๆ กูก็ไม่ไป กูไม่ชอบเดินป่า ไปชวนพี่บอลนู่น”



“โห นี่มึงเป็นเพื่อนกูป่ะเนี่ย!”



“มึงทำตัวเอง กูชวนมึงเก็บชั่วโมงตลอดมึงก็ไม่เคยสนใจ ทีนี้ทำมาเป็นไฟลนก้น สมน้ำหน้า ไปเลยไป กูไม่เอาด้วยหรอก จะนอนตีพุงอยู่บ้าน” ผมยักไหล่ใส่มันอย่างไม่แคร์





{ Big ‘s part }



“บิ๊ก มึงเห็นโปสเตอร์บนบอร์ดยัง ที่เป็นค่ายอาสาของมหา’ ลัยเอน่ะ” ร่างสูงเงยหน้าขั้นมองคนพูดพลางพยักหน้า



“รู้แล้ว นี่ไงกูกรอกใบสมัครอยู่” บิ๊กชูใบสมัครที่ปริ๊นท์ออกมาจากคอมให้เพื่อนที่ชื่อเฟียสดู



“โห มึงไวมากอ่ะ สมฉายา ‘น้องบิ๊ก รักษ์โลก’ จริงๆ ฮ่าๆ ๆ ค่ายไหนเข้าป่าแม่งไปหมด มึงมีความหลังฝังใจอะไรกับป่าป่ะเนี่ย หรือชาติที่แล้วมึงเป็นพวกกระซู่กรูปีวะ ชาตินี้ถึงโหยหาบ้านเกิดจริงนะมึง”



“ไอ่สัส ถ้าชาติที่แล้วกูเกิดเป็นสัตว์ มึงก็ต้องเป็นสัตว์ด้วยเหมือนกันล่ะ กูว่าหน้าอย่างมึงนะชาติที่แล้วน่าจะเป็นไฮยีน่าไม่ก็จิ้งจอกว่ะ เผลอเป็นไม่ได้ลอบกัดกูตลอด”



“กระซู่! ไมมึงพูดกับเพื่อนแสนดีที่อุตส่าห์คาบข่าวดีมาบอกมึงแบบนี้วะ” ไอ้เฟียสทำเป็นค้อนผมครับ ถุ้ย หยุดทำได้มั้ย อุบาทว์ว่ะ



“คราวหลังไฮยีน่าไม่ต้องมาบอกกรูปีก็ได้ เดี๋ยวกรูปีหาเอง ไม่ง้อ”



แล้วผมกับมันก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน คุยกับไอ้เฟียสนี่ไม่เคยหาสาระได้เลยจริงๆ มันพาผมออกทะเลได้ตลอดอ่ะ นี่ยังไม่ครบองค์ประชุมนะ ยังมีไอ้แตงโมอีกคน วันนี้มันโดดเรียนบินไปงานวันคล้ายวันเกิดย่ามันที่ลำปาง ไอ้นี่ก็ไร้สาระพอกัน วันๆ พ่นแต่เรื่องบ้าๆ บอๆ ผมอยู่กับพวกมันแล้วใกล้จะปญอ.ตามพวกมันทุกที



“แล้วนี่มึงจะไปกับกูมั้ย ถ้าจะไปเดี๋ยวปริ๊นท์ใบสมัครให้”



“ก็ไปแหละ หยุดยาวอยู่บ้านก็ไม่มีไรทำ ไอ้แตงก็ไปนะเพราะมันกะว่าจบค่ายจะแวะบ้านมันด้วยเลย”



ผมกับไอ้เฟียสเลยช่วยกันกรอกใบสมัครกับจ่ายค่าเข้าร่วมแทนไอ้แตงไปก่อน ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เฟียสไอ้แตงโมจะยอมไปเดินป่าเป็นเพื่อนผมบ่อยๆ ใครๆ ก็รู้ว่าหนุ่มคณะบริหารอย่างเราๆ น่ะรักสบายกันซะส่วนมาก



ผมคิดว่าสักวันคงจะได้เจอนัทเพื่อนที่ผมแอบชอบมาตั้งแต่เด็กคนนั้นในป่าเพราะเราชอบเล่นผจญภัยในป่าด้วยกัน ถ้าผมไปค่ายที่ต้องเข้าป่าบ่อยๆ ผมต้องได้เจอนัทแน่ๆ ก็แอบกังวลนะว่าเราจะจำกันได้หรือเปล่า เพราะผมจำชื่อ นามสกุลจริงของมันไม่ได้ซะด้วย จำได้แค่ว่าชื่อจริงมันดูโหลๆ แต่ในใจลึกๆ ของผมมันบอกนะว่า ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไปขนาดไหน ผมจะต้องจำเขาได้แน่ๆ



{ Big ‘s part end }








คนเราพบกัน...เพราะวาสนา



จากกัน...เพราะโชคชะตา



กลับมาพบกัน...เพราะพรหมลิขิต





ถ้าพรหมลิขิตมีจริง เราจะต้องได้พบกันอีกแน่ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง…



‘ ขอบใจนะนัท เราจะไม่ลืมนายเลย เราสัญญา ’



‘เราก็จะไม่มีวันลืมนาย เราสัญญา ’



ผมเชื่อนะ..ว่าพรหมลิขิตมีจริง:)



เเล้วคุณล่ะ เชื่อในพรหมลิขิตมั้ย?







-The End-








เรื่องสั้นอื่นๆ

—>ลักพาตัว<— https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66645.0
Hug you 1 minute https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66687.0
เพราะถูก...คลุมถุงชน https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71068.0

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2019 07:54:21 โดย candleguard »

ออฟไลน์ NORMOR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
กลับมาเจอกันเถอะ ทั้งบิ๊ก ทั้งนัทเลย  :call:

ขอบคุณมากนะคะ เรื่องน่ารักจัง  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
รอบุพเพ...

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เฮ้ยมันได้อะ!!! ต้องมีต่อนะไรท์ แงๆๆ เค้ายังไม่ได้เจอกันเลย :katai1:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ยังดีที่ตอนเด็กๆบิ๊กกับนัทคืนดีกันได้จากกันด้วยดี ตอนกอดกันร้องไห้เด็กๆน่าสงสารมากเลย :mew4:

 :pig4:

ออฟไลน์ mhaparn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากให้มีเรื่องยาวเลยค่ะ น่ารักจัง  :-[

ออฟไลน์ Piechicofic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขาจะเจอกันยังไงนะ  :ling1:

ออฟไลน์ Fufufeel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอให้เขาเจอจกันเร็วๆนะ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เฮ้ยย!! เรื่องดีเลย ภาษาสวย บรรยายดี แต่ทำไมมันจบแค่เน่~~ 555 อยากให้เขามาเจอกันก่อน สานต่อความสัมพันธ์สักนิด คงฟินน่าดู ชอบตอนเด็กเล่นตกปลากินหญ้าแห้งอ่ะ 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด