ตอนที่ 12
หลังจากถูกถีบไปครั้งหนึ่ง คีธก็เริ่มเข้าใจความรุนแรงของการเป็น 'สัตว์บก'
จริงอยู่ว่าเขาคุ้นเคยกับการ 'จัดอันดับ' ของวาฬในบ่อเดียวกัน แต่มันให้ความรู้สึกต่างกันทั้งในเรื่องของความรู้สึกและความเจ็บปวด
คุณเชสไม่ได้มีความคิดเรื่องการจัดอันดับ อีกฝ่ายไม่เคยพูดถึง ไม่เคยแสดงออก ทำให้เขารู้สึกเท่าเทียมมากกว่า แม้คีธจะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายอยู่ในตำแหน่งสูงสุดสำหรับมนุษย์ด้วยกันก็ตาม ต่างจากวาฬตัวอื่นที่มักจะย้ำเสมอว่าเขาอยู่ในตำแหน่งต่ำสุดของกลุ่ม
นั่นไม่ใช่ปัญหา... คีธเคยชินกับมัน เขาอยู่ในตำแหน่งนั้นมาตลอดชีวิต
จะมีคุณเชสอยู่สูงกว่าอีกสักคนคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
ปัญหาคือการถีบของคุณเชสเจ็บกว่าการจัดอันดับหลายเท่า ซึ่งเขาตีความได้ว่ามันเป็นเรื่องของ 'สัตว์บก' และ 'สัตว์น้ำ' เพราะวาฬที่ตัวใหญ่กว่าเขายังชนไม่เจ็บเท่าคุณเชสถีบเลย
นั่นแปลว่าถ้าคุณเชสตัวเท่าเขาในร่างมนุษย์ อีกฝ่ายจะต้องแรงเยอะกว่านี้แน่นอน คีธโล่งใจขึ้นมาอย่างประหลาดที่เขาตัวโตกว่า
วาฬหนุ่มมองภาพยนตร์ที่ฉายขึ้นจอ... เขาดูไม่รู้เรื่อง
นี่ติดนิสัยคิดมากมาจากคุณเชสแล้วสินะ
เขาชะโงกไปดูแผงควบคุมที่อยู่บนแท่นวางแขน ปรับลดเสียงที่ดังจนหนวกหู และเปิดเมนูขึ้นมาเพื่อหาสิ่งที่น่าสนใจกว่า คุณเชสบอกว่าจะไปจัดการอะไรบางอย่าง และขอให้เขานั่งดูโทรทัศน์ไปพลาง หรือนอนหลับไป ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่การเดินเพ่นพ่านไปทั่ว
...คุณเชสไม่เคยห้ามเขาเปลี่ยนช่อง
เจ้าของบ้านเลิกทำความเข้าใจกับกฎเกณฑ์ในชีวิตหลังความตาย ตั้งแต่เขาหายใจได้ เหนื่อยเป็น หัวใจเต้นปกติราวกับมนุษย์ทั่วไป แต่ไม่ต้องกินอาหาร ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ปราศจากผู้คนยกเว้นคีธ มีกลางวัน กลางคืน พระจันทร์ ดวงดาว ข้างขึ้น ข้างแรม
โลกที่บอกไม่ได้ว่านี่เป็นความฝัน ความจริง หรือความตาย
สิ่งที่คุณเชสเป็นกังวลในตอนนี้นั่นก็คือเรื่องของกิจวัตรประจำวัน
คุณเชสรื้อกล่องในห้องเก็บของออกมาเพื่อหาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เขาเคยสำรองไว้ เขาไม่ได้กลับบ้านบ่อย จึงไม่กักตุนอะไรมาก และไม่ได้คิดด้วยว่าเมื่อตายแล้วจะได้กลับมา
สบู่ใกล้จะหมด...
คุณเชสไม่คิดว่าชีวิตหลังความตายนี้ เขาจะสามารถสั่งซื้อของพวกนั้นได้เหมือนตอนมีชีวิต มันจึงกลายเป็นปัญหาให้ขบคิดว่า ถ้าของเหล่านี้หมดไปจริงๆ เขาควรจะทำอย่างไรต่อ
ทำสบู่เอง อย่างที่คีธเคยชวนเหรอ...
เขารื้อเจอกล่องสบู่สำรองอีกกล่องเดียว ซึ่งปริมาณมันอาจจะมากพอสำหรับหนึ่งปี แต่หากเทียบกับช่วงเวลาที่เขามีชีวิตแล้ว หนึ่งปีนั้นไม่นานเลย
หากจะลดการอาบน้ำ... นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่รับได้เท่าไหร่
วันละครั้งในฤดูหนาวก็เป็นตัวเลขที่รับได้มากที่สุดแล้ว
ร่างโปร่งขบริมฝีปาก รื้อทั้งยาสระผม และน้ำยาซักผ้าออกมาตรวจสอบ และคำนวณว่าแต่ละอย่างจะสามารถใช้ได้อีกนานเท่าใด เขาควรจะทำอย่างไร ถ้ามันหมดไป และไม่สามารถหาสิ่งใหม่มาแทนได้
...นี่มนุษย์ต้องพึ่งพาของพวกนี้ในการดำรงชีวิตจริงๆ
คุณเชสกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเมื่อเสียงโทรทัศน์ในห้องนั่นเล่นเงียบไป คีธดูหนังจบแล้วหรือ ทั้งที่เขาคำนวณเวลาเอาไว้ตั้งสองชั่วโมงที่จะทำให้เจ้าวาฬนี่นั่งเฉยๆ ได้
"นั่นคุณทำอะไร"
เจ้าของบ้านอ้าปากค้าง เห็นว่า 'สัตว์โลก' เปิดหนังอีกเรื่องหนึ่ง
"คุณไม่ได้ห้ามเปลี่ยนช่อง" ดูมันย้อนเข้าสิ...
"โอเค คุณฉลาด" คุณเชสถอนใจ "คุณสังเกตผมแล้วก็ทำตาม"
คนถูกชมไม่ได้หันมอง แต่ยกนิ้วชี้ขึ้นพร้อมกับนิ้วโป้ง อันเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องหมายถูก
...นี่ไปหัดอะไรแบบนี้มาจากไหนกัน!
ดวงตาสีฟ้าของอีกฝ่ายยังมองจอโทรทัศน์ ดูเขาจะสนใจมันมากเป็นพิเศษ สิ่งที่ฉายอยู่เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่องหนึ่ง
เวรล่ะ แอนโธเน่...
"ทำไมคุณเลือกเรื่องนี้" เจ้าบ้านเดินไปนั่งด้วย พยายามชวนคุยเพื่อหาเหตุผลในการเปลี่ยนหรือปิดมัน เพราะเขายังไม่อยากให้คีธเรียนรู้ 'พฤติกรรมใหม่'
"ผมดูเรื่องที่คุณเปิดให้ไม่รู้เรื่อง"
"คุณหมายถึงหนังสำหรับเด็กอายุไม่เกินสิบสองปีน่ะเหรอ"
"คุณเชสบอกว่าผมอายุยี่สิบสี่" ...แต่สมองคีธยังระบุอายุ 'มนุษย์' ไม่ได้ไง
"คุณก็เลยไม่อยากดูหนังเด็ก" คุณเชสมองแท็บที่วางอยู่บนโต๊ะ หยิบขึ้นเปิดรายละเอียดดูว่าหนังเรื่องนั้นชื่อว่าอะไร เกี่ยวกับอะไร และที่สำคัญที่สุด... เรตเท่าไหร่
สิบแปดบวก...
...แอนโธเน่ เชสคิดว่าตัวเองเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่แย่ที่สุด เขาลืมไปว่าเด็กมันเรียนรู้เร็ว
"ผมอ่านตัวเลขออกน่า" คีธดูจะอ่านใจเขาได้อีกด้วย "แล้วก็... มันไม่ได้มีอะไรนี่"
จากแถบระบุเวลา... คีธดูมาค่อนเรื่องแล้ว
"ผมแค่..." คุณเชสถอนใจ "ผมแค่กลัวว่าคุณจะเจออะไรที่ไม่เหมาะสม"
"สำหรับมนุษย์... ผมโตแล้ว"
"ใช่ ถ้ามองแค่อายุ" เจ้าของบ้านนวดขมับ "แต่คุณ... ใช้ชีวิตเป็นวาฬมาตลอด จู่ๆ จะมาเป็นมนุษย์ ผมตีความว่าคุณเป็นเด็ก"
"ถ้าเด็กกว่าคุณก็ถูก..." ร่างสูงเหลือบมอง "คุณกลัวผมรึเปล่า"
คนถูกถามชะงักไป "ผมหายใจติดขัดเหรอ"
"เปล่า... หัวใจคุณเต้นแรง"
นั่นคงเป็นเหตุผลที่คีธลดเสียงทีวีลง เพราะอีกฝ่ายดูจะหูดีเป็นพิเศษ
"ผม... ตีความว่าคุณพยายามจัดอันดับ" คีธเริ่ม "ผมอยู่ในอันดับต่ำที่สุดมาตลอด ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณจะพยายามอยู่สูงแค่ไหน แต่วาฬตัวอื่นในฝูงของผม... ไม่เคยกลัวคนที่อยู่ในอันดับต่ำกว่า"
คุณเชสเลิกคิ้วข้างหนึ่ง พยายามจับต้นชนปลาย "คุณหมายถึงที่ผมถีบคุณวันก่อน"
...บ้าจริง มันไม่ใช่เรื่องการจัดอันดับอะไรทั้งนั้น เขาแค่สั่งสอน
แต่การสั่งสอนสำหรับวาฬคือการจัดอันดับความอาวุโสในฝูง
"โอเค... ผมกลัว แต่มันไม่ใช่เรื่องการจัดอันดับ ผมไม่ได้กลัวว่าคุณจะพลิกขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสเหนือกว่าหรืออะไรทำนองนั้น นี่ไม่ใช่ระบบฝูง" คุณเชสเริ่ม "เราเท่าเทียมกัน คีธ..."
"แล้วคุณกลัวอะไร..."
กลัว... คุณเชสหลบตามองพื้นขณะใคร่ครวญคำตอบ
"กลัวคุณจะรู้มากไป" อดีตผู้บริหารสบตาคู่สนทนา "คุณฉลาด มีไหวพริบ หัวไว ช่างสังเกต เรียนรู้เร็ว แต่คุณยังไม่มีความยับยั้งชั่งใจ และใช้ตรรกะเดิมของคุณในการตัดสินใจทำอะไรหลายอย่าง" เขาพูดตรง และตรงเกินไปจนคิดว่าคีธอาจจะเสียใจที่ได้ยินแบบนั้น แต่ในแววของวาฬกลับเหมือนเดิม คีธพยายามทำความเข้าใจอย่างที่เขาพยายามมาตลอด
"ฟังดูแย่..." คีธจับใจความได้แค่นั้น "คุณตอบไม่ตรงกับที่คุณคิด"
นี่มันเครื่องจับเท็จที่มีชีวิตหรือยังไงกัน!
คุณเชสถอนใจ "มนุษย์แสดงออกได้หลากหลายกว่าสัตว์ และเรามีระดับการแสดงออกที่ซับซ้อนกว่ามาก ผมแค่กลัวว่าคุณเลียนแบบทุกสิ่งที่เห็น... ทั้งที่คุณไม่เข้าใจความหมายของพฤติกรรมนั้น ผมถึงระวังในการเปิดหนังให้คุณดู" แล้วคีธก็ดันเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนช่องได้เร็วมาก
"อย่างเรื่อง 'ทำรัก' น่ะเหรอ" ...ไปเอาคำนั้นมาจากหนังแน่ๆ!
คุณเชสเม้มปาก และยกนิ้วชี้ขึ้นเป็นคำสั่งห้ามพูดต่อ
"มนุษย์ไม่ได้ทำแบบนั้นกับทุกคน" หากจะพูดให้ถูก... ก็ไม่ใช่มนุษย์ทุกคนที่จะยึดตรรกะนี้ แต่เป็นตัวเขาเองต่างหาก "คุณยังไม่รู้จักคำว่ารัก... และผมรู้ประวัติคุณ ผมรู้จักโครงสร้างทางสังคมของคุณ ผมไม่โทษคุณ แต่... อย่าใช้ตรรกะแบบนั้นกับผม"
สรุปว่าคุณเชสกลัวเขา... ทำรัก...
คีธไม่พูดอะไรด้วยอีกฝ่ายยังไม่ลดมือ
"แล้วก็เปลี่ยนคำด้วย..." ร่างโปร่งคิดหนัก ในเมื่อคีธดูจะรู้จักพฤติกรรมนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่เรียกไม่ถูก "ไม่.. คุณลืมคำนั้นจะดีกว่า มันยังเร็วไปที่คุณจะรู้จัก"
"ผมเคยทำน่า" ...รู้แล้วว่าเคย! อ่านรายงานอยู่!
คีธจับมือที่ยกค้างของคุณเชส "ผมแค่อยากรู้ว่ามนุษย์แสดงออกยังไง ในเมื่อทำแบบนั้นก็ไม่ได้ ทำแบบนี้ก็ไม่ได้ และคุณก็... ปากไม่ตรงกับใจ คุณไม่เคยบอกว่าผมควรแสดงออกยังไง"
คุณเชสรู้สึกเหมือนได้รับเหตุผลที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนถูกด่า
"ถ้าผมถูกใจใคร ก็แค่ไปว่ายด้วย คลอเคลียด้วย อยู่ใกล้ๆ แต่คุณบอกว่าทำไม่ได้ แล้วยังไง..." ดวงตาสีฟ้าสดจับจ้องคู่สนทนาขณะพูด "ผมไม่อยากแสดงออกผิดๆ ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี ผมชอบคุณมาก... บอกไปตั้งหลายครั้งแล้ว"
การพูดโดยไม่รู้ความหมายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเชสกลัวยิ่งกว่าอะไร
เขาไม่ได้กลัวคีธ เขากลัวตัวเอง
เขากลัวตัวเองจะรักข้างเดียว... กับสัตว์...
"หายใจติดขัดอีกแล้ว" คีธปล่อยมือ ยอมถอยไปเมื่อรู้สึกได้ถึงบรรยากาศอึดอัด
"ผมกลัวตัวเอง" คุณเชสจับมืออีกฝ่ายไว้แทน "คุณเคยเป็นสัตว์ คีธ... วิธีการคิดของผมกับคุณต่างกัน ผมกลัวว่าเราจะเข้าใจไม่ตรงกัน ผมกลัวว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายเดียวที่คิดไปไกล"
วาฬไม่มีรูปแบบชีวิตคู่ ไม่ว่าสายพันธุ์ไหนก็ไม่มีทั้งนั้น...
"หยุดย้ำคำว่าสัตว์กับผมได้ไหม"
"..."
คีธเงยมองทีละน้อย "รักผม.... ที่จิตวิญญาณได้ไหม"
สัตว์ตัวหนึ่งจะอยากเป็นมนุษย์ในชีวิตหลังความตายเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่ความรู้สึกผูกพัน และโหยหา จะพยายามเข้าใจความซับซ้อนของอารมณ์ไปทำไม หากไม่ใช่เพราะอยากค้นหาว่า 'รัก' สำหรับมนุษย์คืออะไร ...และมันใช่สิ่งที่เขารู้สึกหรือเปล่า
"ไปจำมาจากหนังใช่ไหม" ร่างโปร่งดึงอีกฝ่ายมาแนบหน้าผาก "บอกทีว่าผมผิด ที่คิดว่าคุณไม่มีวันเข้าใจความหมายของมัน"
คีธไม่ตอบ แต่แนบริมฝีปากจูบแทน
...สัตว์โลกไม่น่ารัก
"คุณกำลังทำให้ผมหมดความอดทน" จากมือที่ประคองใบหน้า คุณเชสค่อยๆ เคลื่อนไปที่ลำคอหนาและรั้งเข้ามาใกล้ "แสบนักนะ..."
"ผมยังไม่โกรธที่คุณหลอกเรื่องจูบ"
คีธรู้แล้วว่าจูบจริงๆ คืออะไร...
"รู้ไปก็เท่านั้น มือสมัครเล่น" มนุษย์ไม่จูบกับใครพร่ำเพรื่อ อย่างน้อยก็ไม่ใช่จูบแบบนี้ คุณเชสกัดปากตัวเองชั่งใจ ก่อนจะแนบจูบกลับ กดนิ้วโป้งที่ปลายคางให้คีธเผยอริมฝีปากรับ ลิ้นอุ่นๆ แตะลากผ่านริมฝีปาก สอดเข้าไปในโพรงปากเนิบช้าและนุ่มนวล
นี่อาจเป็นการแสดงอำนาจเหนือกว่าอย่างหนึ่งก็ได้
คนสูงกว่าตกใจ เขาเท้าแขนยันตัวเองไว้ไม่ให้น้ำหนักตัวโถมใส่อีกฝ่าย
"ผมถึงไม่อยากให้คุณเสพสื่อเกินอายุ" ร่างโปร่งกระซิบติดริมฝีปาก ขบเบาๆ อย่างมันเขี้ยว "เอามือไปวางตรงไหน..." ฝ่ามือของคีธวางอยู่บนหน้าท้อง ปลายนิ้วลากไล้บนผิวหนังอุ่นร้อนใต้เสื้อ และหากเคลื่อนต่ำลงไปก็คงไม่ต้องอธิบายต่อ "อย่าเลียนแบบหนัง"
"ถ้าไม่อยากให้เลียนแบบ... คุณเชสคงต้องสอน" ดูมันเถอะ...
"อย่าอ้อมค้อม" คนฟังนิ่วหน้า รู้สึกเหมือนโดนข่มขู่จากคนใต้บัญชาตัวเอง
แขนกำยำสอดรั้งใต้เอวสอบ ร่างสูงก้มลงบดริมฝีปากจูบพร้อมเบียดกายเข้าหา แนบเนียนเสียจนหลงคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่คิด
อย่าเร่งเร้าให้มากนักเลย
คุณเชสสอดนิ้วเข้าไปในกลุ่มผมสีเข้ม หยุดชั่งใจว่าควรหยุดหรือไม่
'รักผม... ที่จิตวิญญาณได้ไหม'
"อืม..." ร่างโปร่งครางในลำคอ... เขาตัดสินใจ "ถอยก่อน คีธ..."
แผ่นหลังเขาเอนแนบโซฟา ขณะที่สะโพกถูกรั้งลอยขึ้นให้สัมผัสกับคนเบื้องบน รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่กำลังก่อตัวของทั้งคู่
คีธสูดหายใจ ยอมปล่อยมือและถอยออก
เพียงอึดใจเดียว คุณเชสก็ยันตัวเองขึ้น กดให้เขานอนลงกับพื้นแทน "กฎของผมมีข้อเดียว..." ร่างโปร่งเอื้อมมือไปกดปุ่มบนแผงควบคุมบนที่พักแขน โทรทัศน์ถูกปิด เช่นเดียวกับระบบฟิล์มกรองแสงบนกระจกทุกบานค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ ปิดกั้นแสงสว่างจากภายนอกจนหมด
"ห้ามเปิดไฟ"
พวกเขาจูบกันในความมืด กระดุมเสื้อของคีธถูกปลดอย่างรวดเร็ว เปิดเผยแผ่นอกกว้างกำยำ อีกฝ่ายเรียนรู้เร็ว ยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเข็มขัดถูกถอดออก อำนวยความสะดวดให้คุณเชสช่วยถอดกางเกงให้พ้นทาง
"คุณไม่รู้จักชั้นในใช่ไหม..." ร่างโปร่งขำ "ว่าจะไม่สงสัยแล้วเชียว"
คุณเชสสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายสอดมือเข้าไปในกางเกงของเขา "ก็จะใส่ทำไมตั้งหลายชั้น"
"เดี๋ยว..." ร่างโปร่งแอ่นตัวหนี หลบสัมผัสมือที่นวดคลึงร่องสะโพก "อยู่เฉยๆ เดี๋ยวผมจัดการเอง" เขาหยัดตัวขึ้นถอดกางเกงออก รู้สึกได้ถึงท่อนแขนที่โอบกอดแผ่นหลังเอาไว้
เขาคร่อมอยู่บนตัวคีธ เขารู้ถึงความต้องการนั่น
อย่าหยุด แอนโธเน่... มาถึงขั้นนี้แล้ว
อย่าว่าแต่ความต้องการของอีกฝ่ายเลย ร่างโปร่งพยายามดึงชายเสื้อปกปิดตัวเอง
คีธยึดแขนเขาเอาไว้ จรดริมฝีปากคลอเคลีย "คุณเชส..." เขารู้ว่าอีกฝ่ายลังเล และรู้ว่าหากไม่ใช่ความรู้สึกพิเศษ เขาคงจะไม่รีรออยู่ด้วยอย่างแน่นอน "ผมทำได้นะ"
"คุณยังถอดเสื้อผมไม่เป็นด้วยซ้ำ" คนเหนือกว่ายิ้มเย้า แม้เสียงของเขาจะแหบพร่า "เลิกชายขึ้น..." มือใหญ่จับชายเสื้อ และค่อยๆ รั้งขึ้นถึงอก คุณเชสเม้มปากเล็กน้อยก่อนยกแขนให้อีกฝ่ายถอดสเวตเตอร์ออกให้
นี่เขาต้องกล้าขนาดไหนในการสอนคนอื่นถอดเสื้อผ้าตัวเอง
คีธจูบลงกลางอก ยึดแขนคนตรงหน้าเอาไว้ ดันให้เขาแอ่นกายรับสัมผัสวาบหวาม ขณะที่ช่วงล่างกดบดเบียดกันด้วยความปรารถนา
คนเบื้องบนกลั้นใจ ขยับมือของตนไปกอบกุมตัวตนของอีกฝ่าย
"...! " คีธสะดุ้ง ปล่อยมือจากแขนคุณเชส กอบกุมสะโพกแน่นเอาไว้แทน
"อวดเก่ง" เสียงแหบพร่ากระซิบหยัน แล้วจึงกดร่างตัวเองลงไปครอบครองความอุ่นร้อนที่จ่อจดแนบชิด คุณเชสมุ่นคิ้ว ระบายลมหายใจหนักหน่วงออกมา นิ่วหน้าและสะกดกลั้นไม่ให้น้ำตาเอ่อขึ้นมาด้วยความรู้สึกเจ็บ
คีธกอดรั้งเอวสอบ สัมผัสได้ถึงความร้อนจากคนตรงหน้าที่ดูดกลืนความปรารถนาของเขา หยดเหงื่อผุดซึมทั้งที่อากาศเย็นเฉียบ ลมหายใจติดขัดทว่าไม่ได้เกิดจากความอึดอัดใจ
แต่อึดอัดกายต่างหาก... แต่มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ไม่ดี
คีธลืมตาขึ้น เขาเงยมองร่างโปร่ง ทั้งคู่สบตาในความมืด ก่อนที่คุณเชสจะจิกบ่าของเขาโดยแรง
"คุณ..." คิ้วเรียวขมวดมุ่น กัดฟันกรอดราวเจ็บใจในความไม่รอบคอบของตัวเอง "มองเห็นในความมืดใช่ไหม" คีธอาจมีร่างมนุษย์ แต่อีกฝ่ายไม่เคยบอกว่าละทิ้งความสามารถเดิมไป
"เห็น" คีธยอมรับ "มันไม่ได้น่าเกลียดเลย..." เขายังคงเลือกคำไม่ถูกเหมือนเคย
คุณเชสควบคุมอารมณ์ เขากัดปากตัวเองเมื่อเบื้องล่างเริ่มขยับเนิบนาบ มือข้างหนึ่งยึดบ่ากว้างเอาไว้เป็นหลักพยุง ส่วนอีกข้างยึดข้อมือคีธเอาไว้ไม่ให้เขาออกแรงขยำสะโพกแน่นในมือ ขยับสวนทีละน้อยราวกับหาจังหวะสอดประสาน
"ไม่ต้องเขินหรอก คุณเชส" ร่างสูงปลอบ แต่มันทำให้คนเบื้องบนยิ้มขำ
...คำพูดคำจาน่ารักเหมือนไม่ได้กำลังทำเรื่องสัปดนอยู่
"ผมไม่ได้เขิน" เขาแก้ไข "ผมพยายามจะไม่ร้อง"
สะโพกมนเร่งจังหวะขึ้น รับกันกับเบื้องล่างที่เริ่มเข้าใจหลายอย่าง คีธแนบหน้าผากหาเขา ระบายลมหายใจหนักๆ มือใหญ่เคลื่อนลงไปถึงต้นขา เหนี่ยวรั้งให้เบื้องบนกดกายลงมารับการสอดแทรก ทั้งสองร่างเคลื่อนไหวอยู่ในความมืด และความเงียบก็ช่วยให้เสียงสัมผัสหยาบโลนดังไปทั่วห้อง
"คีธ... เบา...! "
มือเรียวเหนี่ยวรั้งบ่ากว้าง แม้จะแอ่นร่างเข้าหาด้วยยินยอม แต่จังหวะดุดันหนักหน่วงขึ้นทุกวินาทีทำให้ความคิดกระจัดกระจาย คุณเชสครางเสียงแผ่วอย่างกลั้นไม่ได้ กอดก่ายคนตรงหน้าเอาไว้แน่น
"อือ...! " อีกฝ่ายกระแทกเข้ามาจนสุดไม่กี่ครั้ง ก่อนที่ปลดปล่อยอย่างรุนแรง
บ้าจริง... ลืมเรื่องถุงยางไปสนิท
แต่ถามว่าจะใช้ไปเพื่ออะไรก็คงตอบยากเหมือนกัน มันคงเป็นแค่ความเคยชิน
ไม่ได้นอนกับใครมาเกือบสิบปีแล้ว ต่อให้มีถุงยางมันก็คงหมดอายุ
"อย่าเพิ่งพูดอะไร" คุณเชสซบหน้ากับบ่าหนา ปรับลมหายใจให้เป็นปกติ "ขอพักก่อน... แล้วค่อยว่ากัน"
--------------------------------------------------
คู่มือเลี้ยงวาฬร่างมนุษย์ฉบับ (อดีต) CEO เกร็ดความรู้ที่ 12
วาฬเพชฌฆาต 'จัดอันดับ' กันด้วยการใช้กำลัง
วาฬเพชฌฆาตในธรรมชาติมีวิธีการจัดอันดับทางสังคมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการยกหางฟาดน้ำ ว่ายชน ขบกราม หรือถากฟัน ซึ่งวาฬที่อยู่ในอันดับต่ำสุดของฝูงมักจะมีรอยถาก (rake) ปรากฏอยู่บนผิวหนังเสมอ