ตอนที่ 27 อิสรภาพ END
Chapter 27
SL cute boy
ไม่มีอะไรจะพูด ไม่มีอะไรจะเอ่ย จากที่ตามติดสถานการณ์มาตั้งแต่ต้นเรียกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่ชาวเรา #คีณนน อย่างเราไม่มีงานทำอย่างสมบูรณ์ ...4 ปี นี่มันพลังเรือดำน้ำแล้วค่ะคุณขา
คีณนั่งยิ้มขำเมื่ออ่านแคปชั่นเพจคิ้วท์บอยเจ้าประจำพร้อมรูปประกอบสองรูปที่แคปมาจากไอจีของคนสองคน รูปแรกมาจากไอจีของณนน เป็นรูปที่พึ่งถ่ายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าแต่มีท่าทางเหมือนรูปที่สองจากไอจีของคีณอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ส่วนรูปที่คีณได้อัพลงโซเชี่ยลมันก็คือรูปคู่รูปแรกที่เขาอยากจะอัพใจจะขาด
‘4 years anniversery’
จงตายไปด้วยแคปชั่นคู่
คีณกดไลค์คอมเมนต์นึงที่เตะตาจนห้ามนิ้วตัวเองเอาไว้ไม่ได้ อยากจะตอบเหลือเกินว่าให้รอคอมโบเซ็ตแล้วค่อยตายทีเดียวน่าจะดีกว่า หลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้นเป็นเหตุผลทางอ้อมให้พ่อของคีณออกมาพูดเรื่องลูกชายและเพื่อนชายคนสนิทมันก็ไม่เคยมีอะไรชัดเจนไปมากกว่านั้น ทั้งณนนและคีณปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปตามทางของมัน พวกเขาไม่เคยออกมาพูด ไม่เคยออกมาตอบคำถามใด ๆ คงจะมีเพียงการกระทำที่ไม่ได้สนใจใครอีกต่อไปเท่านั้นที่ทำให้ความสัมพันธ์มันชัดเจนขึ้นในสายตาคนอื่น
“ผมตอบคำถามแทนลูกชายทั้งหมดไม่ได้หรอกครับ แต่เขาคงเลือกทางเดินของเขาเองแล้ว และผมมองว่าต่อให้สังคมส่วนใหญ่อาจจะไม่เห็นด้วย ผมก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเขา…”
คำพูดของผู้เป็นพ่อในวันนั้นมันทำให้คีณลดอคติใด ๆ ในใจไปได้มาก เขาเข้าใจแล้วว่าท้ายที่สุดการเปิดอกคุยกันไม่ว่าเรื่องไหนมันก็เป็นผลดีทั้งนั้น ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ก็เช่นกัน การปิดบังความลับหรือเก็บความจริงอะไรไว้มันไม่ช่วยให้อะไรในชีวิตคุณดีขึ้นได้เลย ...ข้อนี้ ณนนรู้ดี
‘คีณรออยู่หน้าคณะนะครับ’
ณนนอ่านแชทไลน์ในโทรศัพท์แล้วกดสติ๊กเกอร์โอเคตอบกลับพร้อมยิ้มบาง ๆ กับตัวเอง วันนี้เป็นวันพิเศษครบรอบ 4 ปีของเขาและคีณ วันพิเศษที่ต่างไปจากทุกปีโดยสิ้นเชิง ทั้งเรื่องไปต่างประเทศไม่ได้เพราะณนนติดสอบ ทั้งเรื่องที่ได้อัพเดทโซเชี่ยลแบบที่ใคร ๆ เขาก็ทำกัน และเรื่องที่สามารถฉลองยิ่งใหญ่เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งถ้าใจต้องการ
ความรู้สึก… แฮปปี้เหมือนพึ่งคบกันวันแรก
‘อยากกินเมนูอะไรเป็นพิเศษมั้ย’
‘อะไรก็ได้’
‘ไม่เอาดิ นนต้องเลือก วันนี้ฉลองสามอย่างเลยนะ’
‘คือ?’
‘ครบสี่ปี นนสอบเสร็จ แล้วก็เงินเดือนเดือนแรกของคีณ’
ดูเหมือนว่าคนที่ยังรอเพื่อนอยู่ที่หน้าห้องสอบอย่างณนนจะฉีกยิ้มออกมาไม่หยุด ตอนนี้คีณเข้าทำงานเป็นเรื่องเป็นราวในบริษัทของพ่อ แต่ความหัวรั้นก็ทำให้ว่าที่เจ้าของช่องอย่างเขาอยากจะทำงานในตำแหน่ง Editor ธรรมดาฐานเงินเดือนขั้นต่ำเท่านั้น แต่ก็นั่นล่ะ ความภูมิใจของเขาล่ะ ออ… อีกอย่าง ตอนนี้พ่อหนุ่มจบใหม่ไฟแรงยังมีอีกงานที่ทำเป็นประจำ
คนขับรถเน็ตไอดอลขวัญใจสาววาย
ตั้งแต่ณนนเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นก็ไม่มีครั้งไหนที่คีณจะปล่อยให้เขาได้จับรถอีกเลย แทนที่คนประสบเหตุจะกลัว กลับกลายเป็นคีณเสียเองที่หวาดวิตกจนต้องคอยไปรับไปส่งณนนไม่เคยขาด เรียกได้ว่างานนี้คีณโผล่ที่หน้าคณะวิทย์จนเพจคิ้วท์บอยเบื่อจะลงรูปแอบถ่ายไปแล้ว
‘โอเค เดี๋ยวรอนีลก่อน มันยังไม่ออกมา’
ณนนชะเง้อมองประตูห้องสอบอีกครั้งแต่ก็ยังไม่เห็นมีวี่แววเพื่อนสนิท นี่ถ้าไม่รอนีลออกมาโวยวายเรื่องข้อสอบเหมือนทุกครั้งกรุ๊ปไลน์แชทจะต้องแตกเพราะระเบิดลงแน่ ๆ อีกอย่างวิชานี้มีแค่ณนนกับนีลที่ลงเรียน เฟย์กับเทมก็คงจะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ? ในส่วนนี้ไม่ได้
เนี่ยล่ะ ที่เขาว่า มีเพื่อนยังไงให้เหมือนมีแม่
‘แล้วนนทำข้อสอบได้มั้ย’
‘ได้ทำ’
‘อ้าวเห้ย’
‘ก็เมื่อคืนหมามันกวน ไม่ได้อ่านหนังสือเลย’
เมื่อเห็นสติ๊กเกอร์เจ้าหัวกลมร้องไห้ที่แสนจะเรียกตีนจากคีณ ณนนก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าอย่างไม่ต้องคิดมากนัก ไม่ใช่อะไรหรอก ก็ตอนนี้นีลเดินโซเซหัวฟูออกมาจากห้องสอบแล้วน่ะสิ แถมสีหน้าท่าทางยังเหมือนคนพึ่งผ่านการผจญภัยขั้นสุดมาจนคนมองแทบจะหลุดขำ
“ไอ้นนนนนนนน”
“ไงมึง สาธยายมา”
“ไอ้เชี่ยยยย มันดอกจิกมากอ่ะ คือไอ้ที่กูอ่านแบบเน้นมาดันออกช้อยอ่ะ แล้วที่ออกข้อเขียนกูไม่ได้อ่านซักตัว สิบคะแนนอ่ะมึง พัง แบบนี้กูพังยับแน่ ๆ กูจะต้องไปดรอป! ดรอป! ดรอปคือทางรอดของกู!” ...นี่ล่ะ นีลหลังสอบตัวจริงเสียงจริงล่ะ
“โอเคยัง”
“ไม่อ่ะ ครั้งนี้กูว่ากูตกมีนแน่ ๆ”
“จริง ๆ กูก็ทำไม่ได้นะ หลายคนที่ออกมาเขาก็บอกว่ามันยาก” ณนนเลิกคิ้วมองนีลที่แววตายังล่องลอยก่อนจะเดินนำนีลออกมาเพื่อลงมาที่หน้าคณะ ถ้าขืนยืนรอให้นีลสติครบถ้วนมีหวังคงได้เจอคีณอีกทีก็ตอนครบรอบห้าปีแน่ ๆ
“จริงป่ะ”
“เออจริง”
“งั้นกูสบายใจได้ใช่ม่ะ”
“อือ รีบเดินหน่อยมึง คีณรอกูนานแล้ว”
“โธ่ ผัวมารอก็ไม่บอก”
ป๊าป!! ไวกว่าความคิด ฝ่ามืออรหันต์ก็ประทับลงกลางกระหม่อมของหญิงสาวจนหน้าแทบทิ่ม ณนนใช้สายตาเหล่มองนีลแรง ๆ ก่อนจะจับที่ต้นแขนให้อีกฝ่ายเลิกส่งสายตาล้อ ๆ แล้วเดินตามมาซักที
“มึงนี่มัน…”
“ทำไมคะ หรือว่าคุณณนนจะเถียงเพื่อนว่าพี่คีณไม่ใช่จุดจุดจุดหรอคะ”
“นีลลลลล” นีลรับเม้มปากแน่นหุบประโยคต่อไปเข้าปากทันทีเมื่อณนนเริ่มส่งสายตาที่ดุขึ้นและง้างมือขวาขึ้นเหนือหัว จะว่าไปก็สนุกดีที่สามารถปั่นให้ณนนหัวร้อนได้ แถมไอ้อาการหัวร้อนที่มาจากการเขินอายเนี่ยมันยิ่งน่าล้อเสียยิ่งกว่าอะไร
“วันนี้วันครบรอบสี่ปีหรอ พี่คีณจะพาไปไหนอ่ะ” หญิงสาวเอ่ยพูดกับเพื่อนสนิทข้างตัวอีกครั้งเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือตอนที่รอลิฟต์ลงไปยังชั้นล่าง ฟีดข่าวเฟสบุ๊คเธอตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรเป็นประเด็นไปกว่าการประกาศตัวชัดเจนในวันครบรอบสี่ปี
“คงไม่ไปไหนวะ พ่อพี่คีณชวนไปกินข้าวที่บ้าน”
“เช็ดเข้!”
“นีล อุทานให้มันเป็นผู้หญิงหน่อยดิวะ”
“นี่มึงจะเข้าบ้านพี่คีณแล้วถูกม่ะ”
“ก็เปล่า พ่อเขาชวนหลายครั้งแล้วแต่กูไม่ได้ไปซักที”
“มึง…” หลังจากก้าวเข้ามาในลิฟต์ นีลก็เริ่มดึงชายเสื้อณนนพร้อมกับสีหน้ามุ่งมั่นแปลก ๆ ที่คนมองอดที่จะขมวดคิ้วสงสัยไม่ได้
“ว่า”
“ฝากกูเข้าไปเป็นนางเอกหน่อย… กูอยากผจญภัยหาสามีในโลกกว้าง”
“ตลก”
“ก็ดูดิ ของดี ๆ ก็เจอมึงคาบไปกินซะแล้ว นี่ถ้าไอ้เทมมีผัวเข้าอีกคนโลกกูไม่มืดมนอับแสงเลยหรอ”
“มึงก็น่ารักในแบบของมึงป่ะ เดี๋ยวก็มีคนหน้ามืดมาจีบมึงเองแหละ” ถึงคราวณนนฉีกยิ้มล้อนีลได้อย่างเต็มปาก เรียวขายาวก้าวออกจากลิฟท์แล้วรีบเดินผ่านโถงอาคารโดยไม่ได้รอให้เพื่อนที่ช่วงขาสั้นกว่าตามมาตบหัว ณนนมองหาใครบางคนที่ควรจะนั่งรออยู่ตรงม้าหินที่ประจำหน้าคณะ
ตู้ดดดด ตู้ดดดดด ณนนยกโทรศัพท์ขึ้นโทรหา แต่เสียงสัญญาณตอบรับซ้ำ ๆ ก็ยิ่งทำให้ชวนคิดว่าคีณหายไปไหนทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไลน์มาบอกว่าอยู่ที่หน้าคณะแล้วแท้ ๆ
‘อยู่ไหนอ่ะ นนลงมาแล้ว’
อีกฝ่ายกดอ่านแชทแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับมาอย่างใด ณนนหยุดยืนอยู่กับที่หันไปมองนีลที่เดินอืดอาดตามมาก่อนจะกดส่งสติ๊กเกอร์ไปตามคีณสองสามครั้ง
‘อยู่ไหนเนี่ย’
‘อยู่นี่’
‘ไหน’
ณนนหันมองรอบตัวอีกครั้ง แต่ในจังหวะที่หันกลับไปด้านหลังร่างกายของเขาก็ชะงักลง มือที่ถือโทรศัพท์อยู่เมื่อครู่ค่อย ๆ ลดลงข้างตัว ดวงตาคู่เดิมสั่นระริกเป็นประกาย ก่อนที่ท้ายที่สุดแล้วรอบยิ้มสดใสก็ออกมาทักทายคนทั้งโลก ที่อยู่ในสายตาณนนตอนนี้คือคีณพร้อมรอยยิ้มเขิน ๆ ที่หาดูไม่ได้บ่อยนัก และที่พิเศษกว่านั้นก็คงจะไม่พ้นกลุ่มลูกโป่งสีขาวช่อยักษ์ในมือ
“เล่นอะไรเนี่ย”
“ไม่ได้เล่นซักหน่อย” ณนนเริ่มเกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อเมื่อคีณเริ่มเดินเข้ามาใกล้ ๆ และก็ดูเหมือนว่าเขาทั้งคู่จะเป็นจุดสนใจเพิ่มมากขึ้นด้วย
“ไม่เล่นบ้าอะไร เล่นใหญ่ด้วย”
“ก็ไม่นะ” คีณยกยิ้มที่มุมปากขำ ๆ ทดแทนความเขินของตัวเองที่มีอยู่ไม่น้อย ก่อนจะยื่นช่อลูกโป่งออกไปตรงหน้า
“คือ…?”
“ฝากถือหน่อยดิ” ไม่พูดเปล่าคีณคว้ามือณนนขึ้นมาแล้วยัดริ้บบิ้นสีฟ้าที่ถูกมัดปมรวมกันไว้ในมือณนนทันที ณนนค่อย ๆ มองตามจากมือตัวเองขึ้นไปจนถึงตัวลูกโป่งสีขาวมุกที่รวมตัวกันมากกว่ายี่สิบใบด้านบน แต่ที่สะกดตาได้มากกว่าก็คงจะเป็นคนตรงหน้าที่ค่อย ๆ ทรุดตัวลงคุกเข่ากับพร้อมพร้อมลูกโป่งอีกหนึ่งลูกในมือ
“คีณ ลุกขึ้นเลยนะ จะทำอะไร” ไอร้อนขึ้นหน้าณนนจนใบหน้าแทบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาด จะไม่ให้เขินยังไงไหว ตั้งแต่คบกับมาคีณเคยทำอะไรที่มันรัชดาลัยเธียเตอร์แบบนี้บ่อย ๆ ซะที่ไหน แถมที่ผ่านมามันมีคนมุงดูขนาดนี้ที่ไหนกันล่ะ!
“จะขอแต่งงานมั้ง”
“ห่ะ!!”
“นน… จำได้มั้ย ที่โรงพยาบาลที่คีณบอกว่าจะขอจีบนนอีกครั้ง”
“จ...จำได้”
“แล้วนนก็บอกว่าจะใจอ่อนให้คีณด้วย” คีณคว้ามือซ้ายของณนนมาจับไว้หลวม ๆ
“ต...ตอนนั้นก็แค่พูดเล่นกันป่ะ”
“แต่คีณเอาจริงนี่นา…. จีบมาตั้งหลายเดือน ใจอ่อนแล้วรึยังครับ”
“เหอะ…” ณนนสบถสั้น ๆ ก่อนจะเอียงหน้ามองไปอีกทาง
“เหอะอะไร ยังไม่ใจอ่อนอีกหรอครับ”
“ใจอ่อนตั้งแต่วันแรกแล้วเถอะ” ถึงเสียงที่ตอบออกมามันจะเรียบเหลือทน แต่หัวใจด้านในของคนพูดมันกลับกลายเป็นสีชมพูพาสเทลและพร้อมที่จะเต้นจังหวะซุมบ้าทะลุออกมาได้ทุกเมื่อ
“ก็ดี…”
“ดีอะไรไม่ทราบ”
“เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคีณตลอดไปนะ… ไม่ได้จะจีบมาเป็นแฟน แต่จีบมาเป็นอีกครึ่งชีวิตของคีณ”
“........” ณนนถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินประโยคจริงจังและสีหน้ามุ่งมั่นอย่างไม่ทันตั้งตัว มือหนาเพิ่มแรงสัมผัสมากขึ้น ขณะที่ณนนเองก็ออกแรงบีบมืออีกฝ่ายกลับไปเช่นกัน
“นน… คีณขอจองไว้ก่อนนะ” คีณค่อย ๆ คลายมือที่จับกันไว้ออก ก่อนจะบรรจงผูกริ้บบิ้นลูกโป่งใบเดียวที่เหลือในมือที่ปลายนิ้วนางข้างซ้ายของคนที่หัวใจรักแทบจะเต้นจนหลุดออกจากอก เมื่อริ้บบิ้นถูกผูกมัดเป็นปมง่าย ๆ จนแน่นคีณก็ค่อย ๆ คลายมือออกให้แหวนทองคำขาวเกลี้ยงเกลาแสนธรรมดาที่กำเอาไว้ในมือค่อย ๆ ไหลไปตามเส้นริ้บบิ้นยาวจนถึงช่วงปลายนิ้วของคนถูกเซอร์ไพร์ส
แหวนวงนึงที่คีณตั้งใจสั่งทำขึ้นมาเพื่อวันวันนึงและเพื่อคนที่ยืนอยู่ในช่วงชีวิตเขามาตลอดสี่ปี
“.........”
“ไม่ตอบ แปลว่าตกลงนะครับ” คีณสวมแหวนเข้าที่เรียวนิ้วของณนนขณะที่เอาแต่มองหน้าอึ้ง ๆ ของเจ้าตัวตาไม่กระพริบ ความรักความจริงใจทั้งหมดที่มีมันถูกถ่ายทอดออกไปในทุกการกระทำตลอดเวลาที่คนสองคนคบกัน ส่วนแหวนวงนี้มันก็แค่เครื่องหมายที่คอยย้ำเตือนว่าวันนี้คีณสัญญาอะไรไว้เท่านั้น
“คีณ… คือว่า”
“คีณสัญญาจะดูแลนนอย่างดี จะไม่ทำให้นนเสียใจ จะรักนนไปแบบนี้เรื่อย ๆ เราสองคนจะมีวันพรุ่งนี้ไปด้วยกันนะครับ” คีณชันตัวยืนขึ้นสุดความสูง ฝ่ามือประครองกรอบหน้าณนนเอาไว้ ก้มจรดหน้าผากชิดจนได้ไออุ่นลมหายใจของกันและกัน
“ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ไม่เคยปล่อยมือกันเลย ขอบคุณที่อดทนกับความงี่เง่าของนนมาตลอด ขอบคุณที่รักคีณที่สุดเลย”
“รักที่สุดเหมือนกัน” ริมฝีปากของทั้งคู่ค่อย ๆ เคลื่อนเข้าชิดกัน รสความหวานจากสัมผัสที่เคลื่อนไหวเบา ๆ ทำให้เวลารอบตัวคล้ายจะหยุดหมุนไปชั่วขณะ คนที่ถูกประครองกรอบหน้าได้รูปเอาไว้เผลอปล่อยช่อลูกโป่งออกจากมือ ช่อลูกโป่งสีขาวลอยตามแรงลมขึ้นฟ้าไกลออกไปเรื่อย ๆ เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
“ไว้เก็บตังค์เองได้ซักก้อนจะไปขอนะ”
“ขอบ้าอะไรเล่า!”
“ก็ขอแต่งงานไง”
“เงินอะไรกัน แค่ลูกโป่งโง่ ๆ ลูกสองลูกก็แต่งแล้วเว้ย!”
อันที่จริงความรักของคนเราก็ไม่ต่างอะไรกับลูกโป่งพวกนั้น ที่มันจะเดินทางไปได้เรื่อย ๆ ก็ต่อเมื่อไม่มีเงื่อนไขใดเหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้หยุดอยู่ที่เดิม สำหรับคีณและณนนก็เช่นกันที่พวกเขาทั้งคู่พิสูจน์แล้วว่าอิสรภาพทางความรักมันทำให้เรื่องราวดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ
อย่ากลัวที่จะรัก
อย่ากลัวที่จะแสดงออก
อย่ากลัวที่จะเสียรักนั้นไป
แต่จงกลัว ‘ความลับ’ ที่จะขัง ‘ความรัก’ ของคุณ ไม่ว่าเหตุผลใด
แด่ทุกคน ที่มั่นใจในความรักมั่นคงของตนเอง
The end
.
.
.
“อีเหี้ย…. ธาตุอากาศที่แท้จริง” นีลพึมพำกับตัวเองเบา ๆ เมื่อสองขามันยึดแน่นติดกับพื้นขณะที่มองเห็นเหตุการณ์ม้าโพนี่ในทุ่งลาเวนเดอร์ตรงหน้า คีณอุ้มณนนขึ้นตัวลอยเหมือนโลกทั้งใบมีแค่เราสอง หญิงสาวโสดสนิทอ้าปากค้างทั้ง ๆ ที่มือขวาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายคลิปตามสัญชาตญาณความเสือก แต่เอาเถอะเพราะตอนนี้ทั้งคีณและณนนคงไม่ได้สนใจสายตาร้อยคู่ที่นี่ หรือสายตานับล้านคู่ที่ไหนทั้งนั้น เรื่องราวที่ต้องปิดเป็นความลับมันจบแล้ว…
“เสียเวลาแอ๊บปิดไว้เป็นปี ๆ ดีเว่อร์”
“นั่นดิวะ เปิดตั้งแต่แรกก็จบ”
“เออ… เชี่ย!!” นีลสะดุ้งเมื่อมีคนมายืนพึมพำอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเทมเพื่อนชายคนสนิทของเธออีกคนที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากหลุมไหนถึงได้มายืนทันเหตุทันการณ์อยู่ตรงนี้
“ตกใจอะไรเบอร์นั้น”
“มึงมาทำอะไรเนี่ย ไม่มีสอบไม่ใช่ไง”
“กูมาจัดการอะไรนิดหน่อย”
“อะไรวะ”
“เทม!” ดูเหมือนว่าเสียงที่สามจะเป็นคำตอบให้นีลได้อย่างดีชนิดที่เรียกว่างงเป็นไก่โดนต่อยตาแหกยิ่งกว่าเดิม เจ้าของเสียงนั่นเป็นผู้ชายหน้าทะเล้นที่มาพร้อมหัวเกรียนและช็อบวิศวะ
นั่นมัน….
“ซีซั่น…” นีลเอ่ยชื่อผู้มาเยือนในลำคอให้ได้ยินเพียงคนเดียว แต่แล้วตาตี่ ๆ ของเธอก็ต้องหมุนเป็นเลขแปดรอบทิศ
เชี่ย!! อากงเสีย!! อาม่าตาย!!
วินาทีที่แล้วซีซั่นวิ่งพุ่งเข้ามา…
เข้ามา…
โว้ยยยยย…
“อ….อ…ไอ้เทม….ไอ้ซีซั่นมันห….หอมแก้มมึง…!!”
“ไอ้เวร!!” ฝ่าเท้าอรหันต์ไวกว่าความคิดใด ๆ ซีซั่นหน้าทิ่มลงไปกับพื้นด้วยแรงอาฆาตขึ้นหน้าของเทม เจ้าตัวยกแขนเพื่อนอย่างนีลเช็ดหน้าตัวเองป่อย ๆ นี่ถ้าไม่เกรงใจคงจะถอดถุงเท้ามาเช็ดความสกปรกออกซะให้รู้แล้วรู้รอด
“อย่าด่าแรงสิครับแฟน”
“ใครแฟนมึง!”
สาบานได้ว่านีลกำลังทำตาโตที่สุดในชีวิต แถมสมองก็โล่งไปหมดเหตุเพราะคิดตามสิ่งที่เห็นและได้ยินไม่ทันแม้แต่น้อย หากมองตามองศานิ้วชี้ของไอ้ตัวที่นอนพงาบอยู่กับพื้นแล้วล่ะก็ มันพุ่งตรงมายังเทมอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้
งานนี้โลกของนีลคงได้มืดมนอับแสงสมใจ
“คนนี้… แฟนผม”
Coming soon
ไอ้บ้าแฟนผม เทม x ซีซั่น
.
.
Talk : ในที่สุดก็อัพจบจนได้ค่า ฝากแฟนผมคนไหนไว้กับคนอ่านอีกซักเรื่อง
และ ณ วันนี้เรื่องของ เทม x ซีซั่น เริ่มอัพแล้วที่ readawrite fictionlog และธัญวลัยค่ะ ฝากติดตามด้วยเน้อ ในเล้าเดี๋ยวจะอัพเดตเก็บตกในภายหลังเน้อ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบมาถึงจุดนี้ ทุกวิว ทุกเมนต์ เป็นกำลังใจดี ๆ สำหรับผู้เขียนเสมอค่ะ