พิมพ์หน้านี้ - Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: be-silent ที่ 24-03-2018 18:55:27

หัวข้อ: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 24-03-2018 18:55:27
อ้างถึง
**********************************************************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
                                                     

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
*********************************************************************
ตีพิมพ์กับ Mee-d Publishing

(https://www.picz.in.th/images/2018/10/18/kpe2nR.jpg)

วางจำหน่ายครั้งแรกที่ งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ หนังสือเข้างาน 23 ตุลาคม 2561

จำนวนตอนพิเศษ 5 ตอน (3 ตอนยังไม่เคยลงเว็บ)
ภาพปก : Ding Dong
ราคา : 210 บาท ลด 10% เหลือ 189 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ

https://www.facebook.com/MeedeesContents/

Who is he แฟนผม...คนไหน?


“นั่นแฟนผม”


คนเดียวกับที่เจอเมื่อกลางวัน
คนเดียวกับคนแปลกหน้าที่ผมทำเหมือนไม่รู้จัก
คนเดียวกับที่เพื่อนถามว่าเขามีแฟนรึยัง
และคนคนเดียวคนนี้ ...ที่กุมหัวใจไว้ทั้งดวง


ใช่แล้วล่ะ....

คุณที่กำลังอ่านจนถึงบรรทัดนี้รู้เรื่องแล้วก็เหยียบให้มิด....
เพราะว่ามันคือ...ความลับ
แล้ววันนึงคุณจะรู้เองว่า

"แฟนผม...คนไหน"



BE SILENT



ขอบคุณทุกคอมเมนต์ทุกกำลังใจล่วงหน้าค่ะ :hao5:
#แฟนผมคนไหน


นิยายเรื่องอื่น ๆ ของ BE SILENT
[END] The Faded Memory ▲ หมอกสีจาง
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63162.0
[END] ◄◄◄ VILLAIN | ร้ายออกฤทธิ์ ►►►
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66336.0
[END] THAT CRAZY GUY★★★ไอ้บ้าแฟนผม
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67793.0
[END] Route เส้นทางการเดินรัก (Only at Fictionlog)
https://fictionlog.co/b/5b0e540e9c4f5f1b4d74e4a2
◢ ◣กลิ่นฝนฤดูหนาว◢ ◣
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68459.0

ฝากติดตามนักเขียน
ทวิตเตอร์ @BESILENT1993
เพจ https://www.facebook.com/besilentnovel/

หัวข้อ: Re: Who is he แฟนผม...คนไหน?
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 24-03-2018 18:59:12
Prologue





3.02 AM ช่วงเวลาที่คนเราควรจะทิ้งตัวเองลงบนเตียงนุ่ม ๆ ซุกตัวในผ้าห่มหนา ๆ แล้วหลับฝันดีเพื่อเตรียมตัวสำหรับเช้าวันใหม่ แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังลืมตาตื่นอยู่ในเวลานี้ ซึ่งนั่นก็รวมถึงเจ้าของใบหน้าคมคายที่นั่งเลื่อนสกอเม้าส์อยู่บนเก้าอี้ทั้งชุดนักศึกษาอย่างหมดอะไรตายอยาก ‘เหนื่อย’ นี่คงเป็นคำเดียวที่อ่านออกจากขอบตาคล้ำ ๆ ที่เกือบจะกลบความหล่อเหลานั่น ก็แค่เกือบนั่นแหละเพราะองค์ประกอบบนใบหน้าของเจ้าตัวที่รวมกันได้อย่างลงตัวมันเกินกว่าที่ความทรุดโทรมจากการโหมงานจะทำอะไรได้

‘ไอ้คีณ รูปล่าสุดใช้ได้ล่ะว่ะ มึงปิดจ็อบได้’

เจ้าของชื่อที่ปรากฏอยู่บนแอพพลิเคชั่นไลน์เหลือบตามองหน้าจอสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดก่อนจะถอนหายใจพรวดแล้วเอนตัวลงไปกับเก้าอี้อย่างอ่อนแรง นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของโปรเจคจบนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์อย่างเขา มือเรียวขยี้เข้าที่หัวคิ้วแรง ๆ ก่อนจะโยกคอตัวเองไปมาคลายความเมื่อยล้า ก็ไอ้แสงไฟสลัว ๆ จากโคมไฟอันเล็กมันชวนให้ปวดตาซะเหลือเกิน โปรแกรมตัดต่อถูกปิดลงหลังเจ้าของเครื่องได้ทำการเซฟไฟล์เป็นอย่างดี แต่แทนที่เขาจะปิดเครื่องแล้วหอบร่างลงเตียงนอน มือเรียวนั่นกลับคลิกเลือกโปรแกรมบราวเซอร์ขึ้นมาเปิดเว็บไซต์ยอดฮิตอย่างเฟสบุ๊คแทน





SL Cute Boy

15 ชั่วโมงที่แล้ว

พี่คีณ นิเทศ ถ่ายงานอยู่โรงอาหารศิลปศาสตร์ ใครอยากเจอมาให้ไวเลยนะ





คีณกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นรูปตัวเองมุมเผลอแบกกล้องพะรุงพะรังเหงื่อเต็มหน้าโชว์หราอยู่หน้าเพจคิ้วท์บอยของมหาลัย จะหาว่าหลงตัวเองก็ได้แต่ไอ้รูปอุบาทว์ ๆ แบบนี้ก็เรียกไลค์ได้เกือบสองหมื่น แถมคอมเมนต์ชวนขำอีกหลักร้อย ซึ่งก็ไม่พ้นคำชมรูปลักษณ์ภายนอกและคำแทะโลมจากสาว ๆ ทั้งนอกและในรั้วมหาลัย …บางทีก็รวมถึงหนุ่ม ๆ ด้วยน่ะนะ









น้องหนูนา ขยันปลูกพืช : พี่คีณขาาาา ทำไมไม่มาแถวคณะเกษตรบ้าง

Neen Neenlaneen : งานโคตรดีเลยอ่ะ แฟนก็ไม่มี เรายังมีหวังใช่มั้ย

ฉันทนา วาซาบิ : ได้ข่าวว่ากิ๊กอยู่กับพะพลอยไม่ใช่หรอคนนี้

เด็กหญิงไปนา แม่ส่งมาเรียน : หล่ออ่ะ เห็นออกรายการตื่นไปนอนวันก่อน

Kittyza Ebaa500 : พี่แกโสดนะ เราคอนเฟิร์ม





คนที่ถูกกล่าวถึงได้แต่หัวเราะในลำคอให้กับทุกคนที่พยายามเป็นผู้รู้ในชีวิตคนอื่น แต่ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับคนที่เป็นที่จับจ้องอย่างเขา ไอ้เรื่องหน้าตาที่พ่อแม่ให้มาก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่ทุกคนดูจะให้ความสนใจก็คงเป็นเพราะชื่อของพ่อที่แทบจะสักอยู่บนหน้า พ่อบังเกิดเกล้าของเขาเป็นดาราใหญ่ในวงการที่ตอนนี้หันมาเป็นเจ้าของและผู้บริหารช่องดิจิตอลที่กำลังไปได้สวย เพราะฉะนั้นพื้นฐานครอบครัวก็เลยอยู่ในระดับดีมากและเป็นที่รู้จักตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกเลยด้วยซ้ำ ...ออ หยุดคิดได้เลยว่านายอาคีณคนนี้คิดจะพึ่งใบบุญของพ่อสร้างผลงานในวงการ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็คงไม่มานั่งหลังแข็งอยู่ตรงนี้หรอก

หน้าเพจค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไล่ไปตามไทม์ไลน์เวลา บุคคลที่ถูกจัดว่าหน้าตาดีมากหน้าหลายตาในมหาลัยผลัดกันโชว์หน้าหล่อ ๆ ที่ไม่รู้ว่ากลุ่มแอดมินไปสรรหามาจากไหนมาอัพเดตมันแทบทุกต้นชั่วโมง ที่น่าแปลกใจอีกอย่างก็คือกลุ่มคนที่เหมือนจะไม่มีงานการทำเฝ้าเพจเม้นไลค์มันได้ทั้งวัน เขาเลื่อนไปเรื่อย ๆ อย่างไม่สนใจอะไรมากมายนักก่อนที่จะมาสะดุดอยู่ที่ภาพนึงแล้วจ้องมองนิ่ง ๆ อย่างไม่อาจคาดเดาอารมณ์ได้





SL Cute Boy



19 ชั่วโมงที่แล้ว

ต้อนรับเช้าวันนี้ด้วย ณนน คณะวิทย์ เจ้าเก่าเจ้าเดิม เพิ่มเติมคือความสดใส > [] <





ผู้ชายที่อยู่ในภาพยกมือชูสองนิ้วยิ้มให้กล้องโชว์ฟันขาว ๆ ที่เรียงได้รูป ผมสีน้ำตาลเข้มนั่นขับใบหน้าขาว ๆ ที่องค์ประกอบดูตระเตรียมมาอย่างบรรจงให้ดูโดดเด่นขึ้นไปอีก ...โคตรหล่อ... มันคือคำแรกที่ปรากฎขึ้นในหัวคีณทันทีที่เห็น เขาจ้องมันอยู่นานพอที่จะเก็บรายละเอียดทุกอย่างในรูป จำนวนไลค์ขึ้นหลักสองหมื่นยืนยันว่าคน ๆ นี้เองก็ฮอตอยู่ไม่เบา และดูท่าแล้วบางทีอาจจะฮอตกว่าเขาด้วยซ้ำไป

Kittyza Ebaa500 : ฉันอยากจะร้องไห้ ทำไมฉันไม่ได้เป็นแฟนเขา

Wawawa Lunlalun : โสด โสด โสด คนนี้เขียนป้ายโสดตัวโต ๆ คณะเดียวกัน ฉันยืนยัน

แอนนา ป้าแอนนี่ : น่ารักมากแอดไปเจอมาที่ไหนค่ะ คนนี้ตามขอถ่ายรูปไม่เคยทันเลย

แอนนี่ ย่าแอนนา : ตัวจริงหล่อมากอ่ะ หน้าใส๊ใส

Neen Neenlaneen : เพื่อนเราเองจ้าาาาา



Season Patitan : คนนี้ผมจอง กำลังหาวิธีจีบอยู่





เดี๋ยวนะ





Season Patitan : คนนี้ผมจอง กำลังหาวิธีจีบอยู่ --------- 1468 ไลค์





อ่านคอมเมนต์นี้แล้วคิ้วมันกระตุกแปลก ๆ แถมประโยคพิลึกนั่นก็ยังสะท้อนไปมาในหัว เจ้าของรูปโปร์ไฟล์หัวเกรียนใส่ช็อปนี่มันเป็นใครทำไมถึงได้ไลค์ในคอมเมนต์มากมายขนาดนี้ แถมยังมีคนมาเมนต์ตอบเชิงให้กำลังใจอย่างมีนัยยะ ถ้าจะไม่ดีแล้วแหะ จู่ ๆ คีณก็รู้สึกหัวเสีย หงุดหงิดขึ้นมาซะแบบนั้น แบบนี้ดูเหมือนว่าคีณจะไม่ชอบใจเอาซะแล้ว

ฟู่!! คีณพยายามหายใจเข้าออกควบคุมสติตัวเอง แต่ระหว่างที่เขากำลังใช้ลมหายใจกำหนดอารมณ์อยู่ตอนนี้สายตาเขาก็ไม่ได้อยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกต่อไป เพราะว่ามันกำลังโฟกัสไปยังอีกหนึ่งชีวิตในห้องนี้ที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียง เจ้าตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเปิดไฟสลัว ๆ ทำงานให้เสียสายตาเล่น

ร่างสูงค่อย ๆ เดินมายังคนที่กำลังหลับใหลก่อนจะนั่งลงข้างเตียงแล้วจดจ้องใบหน้านั้นท่ามกลางความมืด ค่อย ๆ ใช้เรียวนิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ไม่เป็นทรงให้ออกไปจากกรอบหน้า ริมฝีปากบาง ๆ ดูเหมือนมีแรงดึงดูดนั่นเชื้อเชิญให้เขาทำอะไรซักอย่าง ...ซึ่งแน่นอนว่าคำเชิญของมันนั้นได้ผล ร่างสูงก้มลงประกบริมฝีปากพยายามใช้ลิ้นเปิดปากของคนที่กำลังหลับ สองแขนสอดเข้าใต้ตัวโอบรัดร่างนั้นไว้ราวกลับจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัวผ่านริมฝีปากนี้ รสจูบที่ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เรียกให้คนที่กำลังหลับฝันได้สติอย่างไม่ยากนัก คนที่โดนจู่โจมขณะหลับเลือกที่จะลืมตาขึ้นมองคีณเพียงแวบหนึ่ง แล้วหลับตาพริ้มตอบโต้รสจูบนั้นกลับพร้อมกับการคล้องสองแขนไว้ที่คอของอีกฝ่ายให้อะไร ๆ มันดูง่ายขึ้น คีณค่อย ๆ ถอนจูบออกแล้วทิ้งตัวคร่อมอีกฝ่ายไว้ทั้งร่าง คราวนี้ริมฝีปากเดิมเริ่มซุกซนดูดเม้มไปตามซอกคอและไล่ต่ำลงมาเรื่อย ๆ ตามมือที่เจ้าเล่ห์ล้วงไปลูกคลำยอดอกใต้ร่มผ้าอย่างหวังผล และดูเหมือนคนที่ถูกทับจะตอบสนองด้วยการตื่นเต็มตาแต่ก็ยังมีอาการงอแงราวกับเด็กไม่มีผิด

"อือ จะนอนน่าคีณ"

ไร้การตอบรับจากอีกฝ่ายเพราะเขากำลังเครื่องติดอย่างฉุดไว้ไม่อยู่ ความต้องการดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นทุกวินาที ร่างที่แกร่งกว่าดึงเสื้อของฝ่ายตรงข้ามออกโดยไม่สนใจท่าทางอิดออด ร่องรอยแดงเผยชัดทันทีที่เขาถอนปากออกจุดแล้วจุดเล่า สิ่งที่คีณคิดมันมักจะถูกเสมอ อย่างเช่นตอนนี้ที่เขาคิดว่าอีกคนก็คงจะต้องการเขาในที่สุด คนที่เคยอยู่ใต้ร่างออกแรงผลักเพียงเล็กหน่อยคีณรวบร่างของอีกคนพลิกให้ขึ้นมาอยู่บนตัวเขาแทน ใบหน้ายุ่ง ๆ ที่ถูกรบกวนจากการนอนยันตัวเองนั่งคร่อมอีกฝ่ายไว้ก่อนจะแกะกระดุมชุดนักศึกษาของคีณลวก ๆ ราวกับไม่สนใจว่ามันจะขาดอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

"น้ำก็ไม่อาบ เน่าว่ะ"

"เน่าก็แฟน ก็เอาได้เหมือนกันป่ะล่ะ" คีณรวบคออีกคนมาบดเบียดรสจูบเร่าร้อนอีกครั้ง คราวนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ สองร่างที่เบียดชิดสัมผัสกันไปมาราวกับหื่นกระหายมาแสนนาน คีณเริ่มลุกล้ำส่วนล่างของอีกฝ่ายช้า ๆ ก่อนจะก้มกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูเพื่อดำเนินบทเพลงรักต่อไป

"จำไว้นะ ...นายเป็นของฉันคนเดียว"









TBC



เป็นอีกเรื่องนี่ทำมาลงในเล้า

อย่าลืมคอมเมนต์ติชมกันให้หัวใจคนเขียนพองโตซักนิดนะคะ ><
หัวข้อ: Re: Who is he แฟนผม...คนไหน?
เริ่มหัวข้อโดย: เปลว แว๊บแว๊บ ที่ 25-03-2018 03:34:52
ขอเดาว่าณนนค่าาา
หัวข้อ: Re: Who is he แฟนผม...คนไหน?
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-03-2018 16:51:55
คนนั้นในเพจแน่เลยยยย รอมาลงเล้านะคะ ไม่ถนัดที่อื่นเลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: Who is he แฟนผม...คนไหน?
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 25-03-2018 17:53:16
ตอนที่ 1 นายแบบจำเป็น ตากล้องจำใจ?


เฟรน ดอม คีณ กลุ่มเพื่อนสนิทที่ร่วมหัวชนท้ายมาทำโปรเจคจบด้วยกัน งานนิทรรศการแสดงภาพถ่ายของพวกกำลังจะจัดแสดงพร้อม ๆ กันกับผลงานอื่น ๆ ของเพื่อนร่วมคณะ ในเวลาที่เหลืออีกไม่ถึงสองสัปดาห์ หลังจากที่ตรากตำกันมาร่วมสองเดือนงานของพวกเขาก็เรียบร้อยไปกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็น ใครว่างานถ่ายภาพง่ายก็ขอให้เปลี่ยนความคิดซะใหม่ ก็ไอ้ภาพนิ่งธรรมดาเนี่ยแหละที่ถ่ายออกมาให้สื่ออารมณ์ได้ยากจนคนถ่ายปวดหัว โดยเฉพาะงานพอร์ตเทรตที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

จะถ่ายยังไงใครคนในภาพมีความรู้สึก...

"ไอ้ดอมเวลาถ่ายมึงระวังเรื่อง ISO ด้วยนะเว้ย เซ็ตไอ้ขจรศักดิ์เมื่อวันก่อน กูงมแทบตายแม่งนอยซ์ไปหมด”

คีณบ่นอุบระหว่างที่กำลังวุ่นวายจัดการเหล่าอุปกรณ์ที่อยู่ตรงหน้า ขจรศักดิ์ที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนมันคือหมาไทยแท้เจ้าที่ประจำคณะนิเทศนี่เอง งานถ่ายวันนี้ยึดเอาสตูดิโอเล็ก ๆ ของคณะเป็นโลเคชั่น จริง ๆ โปรเจคภาพถ่ายครั้งนี้ก็ไม่ได้สนใจสถานที่ซักเท่าไหร่ เพราะเน้นเอาอารมณ์ของคนและสัตว์ในภาพเป็นหลักซะมากกว่า พวกเขาแบ่งหน้าที่กันชัดเจน คีณจะรับหน้าที่เลือกและจัดการอีดิทภาพ ดอมก็เป็นตากล้องมือฉมังที่เคยได้รางวัลระดับประเทศ ส่วนเฟรนก็จะจัดการในส่วนของพรีเซนเทชั่นและวางคอนเซปงานทั้งหมด

"ทำเป็นบ่น กูก็เห็นมึงทำได้ทุกที” ดอมทำเหมือนไม่สนใจ วุ่นวายกับการหมุนเลนกล้องตัวโปรด

"ก็ไอ้เชี่ยเฟรนแม่งจับผิดกูทุกจุด เมื่อคืนกว่าจะได้นอน" นึกแล้วมันก็แค้นใจ ที่คนตรวจงานอย่างเฟรนจับผิดแม้กระทั่งจุดแสงเล็ก ๆ ที่คนทั่วไปก็มองแทบจะไม่เห็น

ป๊าป!!

"อ้าวว คุณคีณครับ คุณไม่ได้นอน ผมก็ไม่ได้นอนเหมือนคุณนะครับ" เฟรนฟาดม้วนกระดาษลงไปที่กลางหัวของผู้เป็นเพื่อนเบา ๆ ตราบใดที่งานไม่เสร็จและจัดเตรียมพรีเซนต์ให้เรียบร้อยเขาเองก็คงจะนอนไม่ลงเหมือนกัน

สามหนุ่มวุ่นวายกับการเตรียมอุปกรณ์จนทุกอย่างพร้อมสรรพ ด้วยสถานที่ที่เป็นระบบปิดควบคุมได้ทั้งหมดทำให้วันนี้ดูเหมือนอะไรก็ง่ายไปหมด ไม่งั้นก็เสี่ยงทั้งสภาพอากาศ แสง ลม หรือแม้กระทั่งคนที่ตามกรี๊ดสามหล่อตัวท็อปของนิเทศ โดยเฉพาะคีณ ที่ไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไรก็สามารถเป็นประเด็นไปได้ซะทุกอย่าง

"แบบมึงเมื่อไหร่จะมาว่ะ" ดอมเอ่ยปากถามเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วแต่ดันขาดนายแบบที่เฟรนเป็นคนรับผิดชอบหามาให้เหมาะกับงานถ่ายชิ้นสุดท้ายนี้

"เดี๋ยวน้องเขาก็มามั้ง เห็นว่าเลิกเรียนห้าโมง"

"น้อง... ไหนมึงบอกเอาไอ้เท็นรุ่นเรา" คีณเอ่ยปากถามอย่างไม่แปลกใจนัก ก็ไอ้เฟรนเพื่อนเขาคนนี้ทำอะไรเคยปรึกษาใครซะที่ไหนล่ะ

"เห้ยไม่ได้ดิ กูคิดล่ะ ถ้าเราเอาคนกันเองในคณะงานเราแม่งจะไม่มีจุดพีคเลยว่ะ กูเลยคิดว่าน่าจะเป็นคนที่ดัง ๆ สาวกรี๊ดหน่อย ...วินาทีนี้ตอนคนนี้เท่านั้น" เฟรนกล่าวอย่างภาคภูมิใจในความคิดตัวเอง

"นี่ถ้ามึงคิดเอาไอ้เหี้ยคีณ กล้องกูเสียแน่ ๆ ครั้งก่อนที่มันไปถ่ายโฆษณาชาเขียว บริษัทเขาถึงกับถูกปิด...โธ่ ลูกพ่อ"

"เชี่ยดอม เดี๋ยวเจอตีน" คีณอดจะเสียงดังชี้นิ้วกลางใส่เพื่อนไม่ได้ ก็ไอ้ท่าทางโอบกอดกล้องอย่างหวงแหนนั่นมันน่าถีบให้ล้มคะมำซะเหลือเกิน

"กูไม่เอาไอ้คีณหรอกเชี่ยดอม ...แต่คนเนี้ยเด็ดกว่าเพื่อนเราอีก ...ยอดไลค์อันดับหนึ่งเพจคิ้วท์บอยเลยนะเว้ย" ชื่อของใครบางคนฉายชัดในหัวคีณ ดวงตาคมฉายแววคล้ายตกใจเล็ก ๆ แทบจะทันที เพื่อนพูดมาขนาดนี้แล้วทำไมเขาจะเดาไม่ออกว่าเป็นใคร ถ้าไม่ใช่...

"สวัสดีครับ" ร่างโปรงดันประตูแล้วแทรกตัวเข้ามาในห้อง ณนน ปี2 คณะวิทย์ตัวเป็น ๆ แม้คำพูดจาและน้ำเสียงจะเป็นมิตร รอยยิ้มที่ฉาบก็อาจทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ล้มตายไปได้เช่นกัน แต่ไฉนเลยแววตาของเขากลับนิ่งเหมือนไร้อารมณ์เมื่อทอดสายตาผ่านคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ...มันก็แปลกดีที่ใครคนนั้นก็เปลี่ยนสายตาให้นิ่งสงบในวินาทีที่สบตากัน

"น้องณนน มาพอดี พวกพี่กำลังรอเลย" เฟรนเข้าไปทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีพาณนนเข้ามานั่งเตรียมความพร้อมยังที่นั่งว่างของโซฟาเล็ก ๆ ส่วนใครอีกคนที่กลายเป็นคนนั่งข้าง ๆ ก็ลากนิ้วไปมาบนทัชแพดคอมพิวเตอร์ด้วยมือที่ออกจะเกร็ง ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ

"ขอโทษที่มาช้านะครับ"

"เฮ้ยไม่เป็นไร นั่นดอมเพื่อนพี่ ส่วนนี่ไอ้คีณ เดี๋ยวรอไอ้ดอมเตรียมกล้องอีกแปบนะ" เฟรนแนะนำเพื่อนตัวเองทีละคน ดอมพยักหน้าให้รุ่นน้องมารยาทดีที่กำลังยกมือไหว้ ส่วนคีณก็หันมายักคิ้วเบา ๆ ให้ณนนที่ตีสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่ต้องการทำความรู้จักกับใครนัก

ในระหว่างที่ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง ดอมมัวแต่สนใจหน้ากล้องที่ดูจะยังไม่เรียบร้อย ด้านเฟรนก็เอาแต่ยืนกดดันผู้เป็นเพื่อนเพราะเกรงใจรุ่นน้องต่างคณะที่ไหว้วานให้มาถ่ายงานนี้ให้ฟรี ๆ ทั้งที่ปกติคนดังคนนี้สามารถเรียกเงินได้ในหลักหมื่น ด้านสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ดูไม่มีท่าที่จะปฏิสัมพันธ์กันซักนิด ต่างฝ่ายต่างนั่งหายใจทิ้งในที่ของตัวเอง จะว่าไปนี่ก็เป็นภาพที่ควรบันทึกเก็บไว้ ระดับตัวท็อปของมหาลัยสองคนที่ควบตำแหน่งคนดังในโลกออนไลน์นั่งอยู่ด้วยกันแต่หันหน้าไปคนล่ะทาง... เผลอ ๆ ภาพนี้อาจจะสร้างข่าวเกาเหลาให้ชาวเน็ตหยิบมาเล่นซัก 3-4 วันก็ได้

"ณนนพร้อมมั้ย" เฟรนหันมาถามหลังดูท่าว่าดอมจะตั้งกล้องเสร็จเรียบร้อย

"เรียกผมว่านนเฉย ๆ ก็ได้ครับพี่" คนที่พึ่งเรียกตัวเองสั้น ๆ ว่านนยิ้มกว้างก่อนจะเดินไปหน้าเซ็ตอย่างรู้งาน คีณเหลือบมองแผ่นหลังนั่นเล็ก ๆ ก่อนจะทำเหมือนสนใจคอมพิวเตอร์ตรงหน้าตัวเอง

"โอเค งั้นเราเริ่มกันเลยนะ" ดอมผู้ใจร้อนตั้งท่าพร้อมจะกดชัตเตอร์ได้ทุกเมื่อ แต่นายแบบจำเป็นของเราก็ยังงง ๆ เกี่ยวกับงานวันนี้อยู่ดี ถึงจะได้รับสารมาว่าเป็นการถ่ายภาพง่าย ๆ ไม่มีพิธีรีตองก็เถอะ

"เดี๋ยวครับพี่ ...ผมต้องทำไง"

"ไม่ยาก พี่แค่ต้องการให้เราแสดงอารมณ์ให้มากที่สุด ...อารมณ์อะไรก็ได้ที่เราคิดว่าเราทำได้ดี ให้คนมองมองแล้วรู้ในทันทีว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่"

"...เอ่อ ครับ" ณนนตอบรับทั้ง ๆ ที่ในใจกำลังค้านหัวชนฝา ก็ไอ้แบบนี้ล่ะที่โคตรยาก ...แสดงอารมณ์อะไรก็ได้เนี่ยนะ แล้วจะให้ไอ้นนทำยังไงว่ะ ร้องไห้หรอ? แหกปากยิ้มหรอ?

ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นทันทีที่ณนนทำสมาธิพร้อมถ่าย เสียงชัตเตอร์รัวขึ้นเป็นจังหวะแล้วหยุดพักเพื่อเช็คภาพเป็นระยะ หลายภาพหลายอารมณ์เป็นที่พอใจของเฟรนและดอมแต่ถึงยังไงมันก็ยังดูขาดสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าอารมณ์ทางสายตา

"พี่อยากได้แบบแสดงออกไม่เยอะ แต่แววตามันแสดงอารมณ์อ่ะ" ดอมเสนอระหว่างที่กำลังเช็คภาพอย่างลวก ๆ เฟรนพยักหน้าเห็นด้วย คีณที่นั่งเหลือบตามองโดยไม่รู้ตัวจนแทบจะตาเหล่อยู่นานสองนานถึงกับต้องพูดอะไรออกมาบ้าง

"พวกมึงก็เอาแค่รูปเดียว จะเอาอะไรนักหนาวะ" น้ำเสียงเรียบ ๆ นั่นฟังผ่าน ๆ ก็เหมือนตั้งใจจะกวนตีนให้ได้ซักแผลที่ปาก ณนนมองผ่าน ๆ และพยายามไม่สนใจน้ำเสียงของคนที่คล้ายจะหาเรื่อง

"ไอ้คีณครับ มึงไม่ช่วยก็นั่งหุบปากไปเลยครับ" ดอมหันมาคาดโทษเพื่อนตัวเอง ส่วนเฟรนนั้นไม่พูดจาใด ๆ แต่เดินไปพับจอคอมพิวเตอร์พกพาในมือเพื่อนโดยที่อีกฝ่ายได้แต่อ้าปากหวอเถียงอะไรไม่ออก

"เอาแต่นั่งเล่นเกมปลูกผัก อย่าคิดว่ากูไม่เห็น มาช่วยกันดิวะ ...สัด" พยางค์สุดท้ายที่เฟรนพยายามเน้นนี่แซบไปถึงทรวง ก็ดูหน้ารุ่นน้องคนนั้นที่กำลังมองสิ เหมือนว่ากำลังเอือมระอาไม่มีผิด

"ช่วยไรวะ กะอิแค่รูปเดียว" คีณบ่นอุบเบา ๆ ให้ตัวเองได้ยินคนเดียว แต่ก็ยอมเดินมาหน้าเซ็ตแต่โดยดี เสียงชัตเตอร์เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และดูเหมือนมันก็ยังไม่เป็นที่พอใจซักที

"ได้มั้ยครับพี่ ผมพยายามแล้วนะ" ณนนเองก็ดูจะเสียความมั่นใจไปอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการแสดงอารมณ์บนใบหน้านิ่ง ๆ แล้วให้ใครก็ไม่รู้มาเดาว่ากำลังรู้สึกยังไง

"อีกทีนะ" ดอมว่า ก่อนที่จะตั้งสมาธิเข้าไปที่กล้องอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นคนที่ตั้งใจอู้มานานอย่างคีณ ก็คว้าหมับเข้าที่กล้องสุดรักของเพื่อนสนิทจนเจ้าตัวแทบจะร้องกรี๊ดให้สาวแตกกันไปข้าง

"เชี่ยคีณ ไรเนี่ย"

"กูถ่ายเอง มึงมันไม่ได้เรื่อง" คีณว่า ทั้งเฟรนทั้งดอมทำหน้างง ๆ เพราะกิตติศัพท์การถ่ายรูปของคีณมัน...

"มึงได้ด็อกวิชาพอร์ทเทต" เฟรนกำลังจี้ใจดำคนที่กำลังจะตั้งท่าเท่ ๆ ถ่ายรูป แต่นั่นก็ทำให้เขายกยิ้มที่มุมปาก แล้วจ้องตาใครบางคนราวกับให้ตั้งใจฟังสิ่งที่เขาจะพูดต่อไปนี้

"ก็ที่กูได้ด็อก ...เพราะนายแบบกูเขาไม่ให้ความร่วมมือ"

"พ่องเถอะ จนทุกวันนี้กูยังไม่รู้เลยว่ามึงไปถ่ายใครมา ติดมาแต่ตีน ขา แขน แม้แต่หางคิ้วยังไม่โผล่มาในรูป อาจารย์ไม่ให้เอฟก็บุญล่ะสัด" ดอมร่ายยาวส่ายหัวแรง แต่ที่แรงกว่าจังหวะสายหัวของดอมก็คงจะเป็นหัวใจของใครบางคนตอนนี้

"ก็เคยสัญญาไว้ ว่าจะถ่ายเขาแค่คนเดียว" คีณยกกล้องขึ้นอยู่ระดับสายตา ดวงตาคมของเขาจ้องมองใครอีกคนผ่านเลนส์ก่อนจะรัวชัตเตอร์โดยไม่ให้สัญญาณใด ๆ ก่อนที่เสียงชัตเตอร์สุดท้ายจะจบลงคนที่ถูกถ่ายก็มองทะลุเข้าไปในเลนส์กล้องราวกับดวงตาสองคู่ได้จ้องมองกัน ช่วงเวลาไม่ถึงสามสิบวินาทีนี้ดอมกับเฟรนยืนมองเพื่อนตัวเองอย่างไม่เข้าใจและมั่นใจมากว่ารูปที่ออกมาคงใช้ไม่ได้แน่นอน

แต่พวกเขากำลังคิดผิด

"อ่ะ ...คืนนี้ส่งไฟล์ให้กูด้วย ง่วงว่ะ จะกลับไปนอน" คีณส่งกล้องคืนให้เพื่อนก่อนจะคว้าข้าวของตัวเองแล้วเดินออกไปโดยไม่มีคำล่ำลาใด ๆ

"เฮ้ยมึง กูว่าเวิร์คว่ะ... คือรูปมันไม่ได้สื่อแค่อารมณ์เดียวอ่ะ แล้วสายตาน้องนนแม่งชัดมาก มึงดูดิ"

"เชี่ยคีณแม่งฟลุ๊คสัด กดมั่ว ๆ เสือกได้เฉย"

ณนนยืนงงอยู่คนเดียวที่เห็นรุ่นพี่สองคนรุมทึ้งกล้องและตะลึงงันกับรูปที่พึ่งถูกบันทึกเมื่อครู่ ภาพของเด็กหนุ่มที่มีสีหน้าเรียบเฉยจ้องมองกล้องด้วยแววตาที่เป็นประกาย แม้ใบหน้าจะนิ่งสนิทแต่กลับมีแดงระเรื่อที่แก้มจาง ๆ จุดสำคัญของภาพน่าจะอยู่ที่ดวงตาที่อ่านความหมายได้มากมายเหลือเกิน คล้ายคนในภาพกำลังมีสุข กำลังอาย และคล้ายหัวใจของเขากำลังพองโตในเวลาเดียวกัน

"น้องนน รูปเมื่อกี้โคตรเจ๋ง ดีกว่าที่พี่คิดอีก เก่งมากว่ะไอ้น้อง" เฟรนออกปากชมณนนเปราะ เจ้าตัวได้แต่ยิ้มบาง ๆ เพราะรู้ตัวดีว่าไม่ได้ทำอะไรเลยซักนิด ไอ้คนที่ทำเดินปัดตูดออกไปนู่นแล้ว

ครืด เสียงสั่นเบา ๆ จากโทรศัพท์มือถือเรียกให้ณนนเช็คข้อความใหม่จากโปรแกรมแชท ข้อความที่ทำให้เขาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงแทบไม่ทัน

'เขินอ่ะดิ :) '
หัวข้อ: Re: Who is he แฟนผม...คนไหน?
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 25-03-2018 17:54:41
ตอนที่ 2 ใครกันแน่ที่ดื้อ


สถานบันเทิงชื่อดังใจกลางกรุงเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นและคนดังให้มาร่วมสนุกเคล้าเสียงเพลงและแอลกอฮอล เช่นเดียวกันกับณนนและกลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่บริเวณชั้นสองของร้านเพราะไม่ต้องการเสียงเพลงที่ดังมากนัก

"ไอ้นน วันนี้มึงไปถ่ายงานให้พี่เฟรนเป็นไงบ้างวะ" เจ้าของเสียงคือเทม ผู้ที่เป็นฝ่ายเจรจาให้ณนนไปถ่ายงานโปรเจคของกลุ่มหนุ่มนิเทศเมื่อกลางวัน งานนี้เขาก็ถูกพี่เฟรนรุ่นพี่ที่โรงเรียนมัธยมขอร้องให้ช่วยมาอีกที ซึ่งก็โชคดีที่เพื่อนสนิทของเขาอย่างณนนก็เต็มใจที่จะทำให้

"ก็ดีว่ะ ถ่ายแค่นิดเดียว" ณนนที่แกว่งแก้วน้ำแข็งพร้อมเครื่องดื่มสีอำพันอยู่นานก็ยกแก้วเครื่องดื่มจรดริมฝีปากบางก่อนจะกลืนลงไปอึกใหญ่ ๆ

"ไอ้พี่เฟรนขอบคุณกูใหญ่ กูก็ไม่เข้าใจกลุ่มเขาก็มีไอ้พี่คีณน่าจะเรียกสาวได้เป็นร้อย ไม่น่าต้องถึงมึง"

"งานโปรเจคระดับนี้ เขาก็ไม่อยากใช้คนในกลุ่มมั้ง กูก็ไม่ค่อยได้สนใจ ไปช่วยถ่ายเสร็จแล้วก็กลับเลย"

"คงงั้นว่ะ งานนิทรรศนิเทศปีนี้เห็นว่าจัดใหญ่น่าดู"

"เออ...แล้วมึงงงงงเจอพี่คีณของกูป่ะ" นีลหญิงสาวหน้าหมวยที่ตอนนี้สีหน้าแดงระเรื่อทิ้งหัวลงกับจุดสนใจของค่ำคืนอย่างณนนพร้อมกับถามถึงคนดังอีกคนที่คิดว่าเพื่อนน่าจะไปเจอมาเมื่อกลางวัน นี่ก็เป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลเข้าควบคุมสติ เลยแทบจะลืมความเป็นกุลสตรีที่พยายามสร้างภาพมาตลอด

"เจอ" ณนนตอบสั้น ๆ พร้อมกับผลักหัวเพื่อนเบา ๆ ให้ไปซบลงที่ไหล่ของเฟย์เพื่อนผู้หญิงอีกคนแทน ไม่ใช่ว่ารังเกียจเพื่อน แต่ครั้งก่อนที่เขาแบกนีลที่เมาขึ้นหลังไปส่งหอก็มีกลุ่มคนประหลาดถ่ายรูปไปลงเพจคิ้วท์บอยจนไอจีนีลโดนถล่ม ยอดฟอลโล่วจากหลักร้อยทะยานไปหลักพันชั่วข้ามคืน

"เป็นไงว่ะ ...หล่อมากป่ะ"

"โอ๊ยยยย อีนีล หัวมึงจะจุ่มจานถั่วอยู่ล่ะเนี่ย" แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เสียงตอบจากณนน เพราะเจ้าตัวยังคงยกแก้วกระดกเหล้าลงคออีกอึกใหญ่ ๆ แต่เจ้าของเสียงตอนนี้คือเฟย์ที่กำลังเหนื่อยใจกับเพื่อนตัวเองที่เมาง่ายซะเหลือเกิน

"เชี่ย ไรเล่าาาาา กูกำลังสืบถึงว่าที่ผัวกูอยู่ มึงอย่ามาขัดเซ่ ...ว่าไงว่ะนน ...หล่อป่ะ ...มีเมียมานั่งเฝ้ามั้ยมึง เอิ๊กกกกกกกก"

"ธรรมดาว่ะ ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ" ณนนตอบเรียบ ๆ ยกแก้วขึ้นจ่อปากอย่างต่อเนื่อง

"มึงกันซีนอ่ะ เขาต้องหล่อกว่ามึงแน่ๆ " ณนนไม่พูด แต่คว้าเอาเม็ดถั่วในจานกับแก้มเขวี้ยงใส่หน้าเพื่อนไปอย่างเอือมระอา

"มึงแย่ว่ะ แทนที่จะถามมาให้เพื่อนว่าเขาไม่มีเมียจริง ๆ รึเปล่า ....นี่ไม่รู้ชาวบ้านเขาหลงอะไรมึง พี่คีณแม่งหล่อกว่าตั้งเยอะ ....เนอะเฟย์"

"กูเนอะกับมึงก็เหี้ยล่ะ เมาแล้วพูดมากนะมึงอ่ะ"

"กู.... ไม่ได้พูดมาก กูก็พูดอยู่เรื่องเดียวเนี่ย มึงคิดดูดิ หน้าตาระดับนั้น บ้านก็รวย พ่อก็ดังจะไม่มีแฟนจริงอ๋อว่ะ..... นี่นะ....เป็นไอ้นนของเราเนี่ยไม่แปลกใจ แม่งหล่อแต่ปากหมา"

"โอ๊ยยยย ไอ้นีล เขาแขนออกจากคอกู" สาวเจ้ารัดแขนเข้าที่คอณนนอย่างไม่รู้ตัว เล่นเอาคนถูกคุมคามทำท่าทีหวงเนื้อหวงตัวแทบไม่ทัน

"ไอ้นีล มึงนี่เสียลุคแม่พระของรุ่นหมด เมาแล้วเลื้อนฉิบหาย กลับกันยังพวกมึง กูกลัวแม่งลุกขึ้นมาไล่จูบผู้ชายหมดร้าน"

เทมที่นั่งดูมานานยกข้อมือขึ้นสำรวจเวลาพร้อมชักชวนคนอื่นกลับ ณนนไม่ตอบอะไรแค่ก็ยกเหล้าที่เหลือในแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดเป็นคนตอบ สุดท้ายเทมเลยต้องแบกเพื่อนสาวขึ้นหลังอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนจะรับหน้าที่ไปส่งสองสาวที่หอเหมือนอย่างเคย ชายสองหญิงสองโบกมือลากันหน้าร้านก่อนที่ณนนจะแยกไปที่รถตัวเอง

เจ้าเต่าทองโฟลคสวาเกนแล่นด้วยความเร็วต่ำเพราะแอลกอฮอลที่คนขับรับเข้าไปมันเริ่มออกฤทธิ์ แต่เขาก็ยังประครองสติกลับถึงฐานที่มั่นของตัวเองได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่าจังหวะการจอดจะกินพื้นที่ที่ควรจะจอดรถได้สามคันก็ตามที ณนนพุ่งตรงเข้าลิฟท์กดชั้น 7 อย่างคุ้นชิน ก่อนจะเดินเอียงซ้ายไปตามทางจนเสียบคีย์การ์ดเข้าห้องตัวเองได้ทันเวลาก่อนที่เจ้าตัวจะเรอเอิ๊กใหญ่ด้วยอากาศในท้องออกมา

“เอิ๊กกกกกก อุ๊บบบ" เสียงเรอเอิ๊กใหญ่มันหลุดออกไปก่อนที่ณนนจะตะครุบปิดปากตัวเองไว้ได้ทัน ห้องที่ตกแต่งด้วยโทนสีเทานี้เป็นห้องไซต์กลาง ๆ ทั่วไปที่แยกส่วนเพียงห้องครัวกับห้องน้ำ ส่วนของเตียงนอนและห้องนั่งเล่นนั้นรวมอยู่ด้วยกัน ณนนพยายามเดินทั่วห้องนั่นเพื่อหาอะไรบางอย่าง คิ้วเล็ก ๆ ขมวดเป็นปมก่อนจะไปหยุดยืนที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ยังสว่างไสวค้างหน้าโปรแกรมที่เขาไม่รู้จักชื่อเรียก ภาพที่ปรากฎอยู่บนจอนั้นมันเป็นภาพของช่วงดวงตาที่เหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแต่ตอนนี้ตาเขาออกหวานเยิ้มกว่าในรูปเท่านั้น ณนนอดไม่ได้ที่จะทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้แล้วสกอร์เม้าส์ดูภาพส่วนที่เหลืออย่างตั้งใจ

"ทำอะไร จะพังงานกันรึไงห่ะ" เสียงที่ดังจากด้านหลังทำเอาณนนหยุดชะงักก่อนจะหันกลับไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าประตูช้า ๆ บุคคลในชุดนอนที่มองมาทางเขาอย่างเอ็นดูราวกับเขาเป็นเด็ก ๆ ในมือเจ้าของเสียงถือถุงโจ๊กแกว่งไปมาแทนคำตอบเพราะรู้ดีว่ามันจะมีคำถามต่อไปเกิดขึ้น

"ไปไหนมา" นั่นไง ...เดาไว้ไม่มีผิด

"นี่ไง ไปซื้อมารอ ...รู้ว่ามีคนแถวนี้ไม่กินข้าวแล้วหนีไปกินเหล้า" ร่างสูงในชุดนอนว่าแล้ววางถุงโจ๊กไว้บนโต๊ะอาหาร ก่อนจะเดินตรงไปยังคนที่หันหน้ามามองคอแทบหักอยู่บนเก้าอี้

"รู้ดีว่ะ"

"อ้าว นี่ใคร...นี่แฟนนนนะ" ร่างสูงก้มลงกดจมูกลงแก้มที่แดงจัดเพราะฤทธิ์เหล้า ก่อนจะทำหน้าเหย่เกเพราะกลิ่นไม่พึงประสงค์มันมีมากเกินควร

"ฮาฮ่าา สมน้ำหน้าว่ะ" ณนนลุกหนีออกมาจากโต๊ะทำงานของอีกคน ก่อนที่จะไปเผลอทำลายงานเข้าจริง ๆ

"นี่กินไปกี่แก้วห่ะ" ร่างสูงดูจะไม่ยอมกับเสียงหัวเราะแห้ง ๆ เมื่อครู่ คว้าแขนเจ้าตัวไว้ก่อนจะดึงเข้ามากอดจากด้านหลัง กลิ่นแอลกอฮอลที่ทำให้แสบจมูกเมื่อครู่ ในยามนี้มันกลับดูเย้ายวนอย่างน่าประหลาด

"เจ็ด...ไม่ดิ...แปดมั้ง"

"บอกไม่เคยฟัง ว่าไม่เกินสาม" ร่างสูงกดจมูกไล่ลงมาตั้งแต่หลังใบหู คนที่อยู่ในอ้อมกอดดิ้นเล็ก ๆ เพราะความรู้สึกจั๊กจี้ในจุดสำคัญที่มีส่วนในการปลุกเร้าอารมณ์เช่นนี้

“ก็นาน ๆ ทีป่ะ"

"หึ จะนานจะบ่อยก็อย่ากินเยอะ ...แล้วเจ็ดแก้วหน้าแดงขนาดนี้ผสมอะไร โซดา? " ณนนส่ายหน้าพรืด คนที่ยุ่งอยู่กับการสูดจมูกบนไหล่เขาตอนนี้ขมวดคิ้วเล็ก ๆ กับความดื้อรั้น

"อย่าบอกนะว่าเพียว"

"ป่าว" ได้ยินคำปฏิเสธดังนั้น ร่างสูงก็ถอนหายใจเล็ก ๆ เพราะคิดว่าไอ้ตัวแสบนี่กินเหล้าแปดแก้วเพียว ๆ แล้วขับรถท้ายมโลกมาซะแล้ว

"....น้ำแข็ง" คำต่อมาเล่นเอาคนฟังท้อใจยิ่งกว่าเดิม ไม่แปลกใจเลยที่วันนี้ณนนหน้าแดงกล่ำขนาดนี้

"ดื้อว่ะ แล้วขับกลับมาได้ไง ทำไมไม่โทรหาห่ะ"

"โทรหาแล้วจะไปรับหรอ ...ไปรับได้หรอ" คำถามสั้น ๆ นั้นทำให้ห้องเงียบลงถนัดตา ร่างสูงที่อยู่ด้านหลังกระชับแขนให้กอดนี้มันแน่นกว่าเดิม คนในอ้อมกอดขยับตัวพลิกร่างให้หน้าหันมาซุกลงที่ไหล่ของร่างสูงแทน ก่อนจะรู้สึกว่าแรงโอบกระชับนั่นมัน...

"แน่นไปละ อึดอัด ปล่อยเลย"

"ไม่ปล่อย ...จนกว่าจะได้ทำโทษ"

"เรื่องดิ ทำไรผิด" ณนนดิ้นคลุกอยู่ในอ้อมแขนคนตัวสูงกว่า ยิ่งดิ้นกลิ่นแอลกอฮอลก็คละคลุ้งไปทั่วร่าง ตอกย้ำความผิดโดยที่คนคาดโทษแทบไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำใด

"เรื่องที่หนึ่ง...ไปกินเหล้าทั้ง ๆ ที่ไม่กินข้าวเย็น"

"ก็นีลมันชวน ขัดได้ซะที่ไหน อีกอย่างร้านเหล้ามันก็มีกับแกล้มป่ะว่ะ"

"เรื่องที่สอง...กินเกินลิมิต"

"ก็ไม่เห็นจะเมาตรงไหน"

"หึ... ดื้อฉิบ ...แล้วไอ้เรื่องที่สามเนี่ยสำคัญสุด ...ไอ้เฟรนให้ไปถ่ายงานทำไมไม่บอกห่ะ" ประเด็นสุดท้ายนี่เล่นเอาณนนมุดตัวออกจากแขนอีกคนแล้วเซแถ่ดไปพิงอยู่กับผนังห้องอย่างเลือกไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้แปดแก้วที่กลืนลงคอก็ทำให้โลกหมุนกลับด้านไปถึงเพียงนี้

"เซอร์ไพร์สป่ะวะ...หึ ฮะฮาา" ไม่ต้องรอให้ณนนหัวเราะได้เต็มปากอีกฝ่ายก็ใช้ความรวดเร็วพรวดเข้าครอบครองปากเล็ก ๆ นั่น รสสัมผัสอ้อยอิ่งจนอีกฝ่ายรับรสแอลกอฮอลจนแสบไปทั่วจมูก ร่างเล็กถูกบดเบียดชิดไปกับผนังแทบจะทั้งร่าง สองแขนพาดขึ้นคอเล่นกับเส้นผมของอีกฝ่ายอย่างเคยชิน

"อืออออ ...อย่ากัดดิวะ" ณนนถึงกับดึงหน้าหนีเมื่ออีกฝ่ายกัดปากลงเบา ๆ ที่ริมฝีปาก แต่ภาพมันจะดูแปลก ๆ นิดหน่อยตรงที่จังหวะนั้นณนนขยุ้มผมของอีกฝ่ายติดมือไปด้วยจนหน้าแหงน

"โอ๊ยยย อย่าโหดดิดื้อ"

"ใครดื้อกันแน่" อีกฝ่ายไม่ตอบแต่ก้มลงให้หน้าผากแตะกันสนิทจนลมหายหายใจของคนสองคนแทบจะเป็นหนึ่งเดียว สายตาสองคู่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว

"ถ้าครั้งหน้า... โทรหานะ ...จะไปรับ ....คีณหวง" เจ้าของเสียงกดจูบเบา ๆ ลงกลางกระหม่อมของคนที่เตี้ยกว่าเล็กน้อย



คีณ......

คนเดียวกับที่เขาเจอเมื่อกลางวัน

คนเดียวกับคนแปลกหน้าที่ณนนทำเหมือนไม่รู้จัก

คนเดียวกับที่เพื่อนถามว่าเขามีแฟนรึยัง

และคนคนเดียวคนนี้ ...ที่กุมหัวใจไว้ทั้งดวง

ใช่แล้วล่ะ.... คุณที่กำลังอ่านจนถึงบรรทัดนี้รู้เรื่องแล้วก็เหยียบให้มิด....

เพราะว่ามันคือ ...ความลับ


หัวข้อ: Re: Who is he แฟนผม...คนไหน?
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 25-03-2018 17:55:41
ตอนที่ 3 หงุดหงิดใจเมื่อเห็นเธอกับเขา


"อย่าลืมนะคร๊าบบบบบ งานแสดงผลงานนิเทศประจำปี เรามีบูธแสดงผลงานของรุ่นพี่ปี 4 มากมายให้ท่านชม แต่ทีเด็ดของเรามันอยู่ที่การแสดงมินิคอนเสิร์ตและละครเวที 3 เรื่อง 3 รส บัตรราคา 50 บาทเท่านั้นบันเทิงทั้งงานเช้าจรดเย็น รบกวนทุกท่านให้ความกรุณาด้วยนะคร๊าบบบบ"

เสียงประกาศจากโทรโข่งดังกึกก้องไปทั่วโถงคณะวิทยาศาสตร์ เวลาเที่ยงตรงแบบนี้แหละเหมาะอย่างยิ่งที่ชาวคณะนิเทศจะเกณฑ์ไพร่พลคนหน้าตาดีมาเดินถือกล่อง ถือป้าย ขายบัตร เรียกได้ว่ามีทั้งคนที่เต็มใจเหลือเกินที่จะมาเดินโชว์หน้าที่หมดไปหลายแสน แล้วก็คนที่ขัดใจเหลือทนที่ต้องมาเดินฉีกยิ้มท่ามกลางประชากรที่จับจ้องมาเป็นตาเดียวแบบนี้ หนึ่งในคนที่โดนขัดใจก็คือหนุ่มคีณที่เดินขายบัตรสลับกับการถ่ายรูป ....ทำไงได้กับยุคโซเชี่ยล ต่อให้ไม่ใช่ดาราเต็มตัวแต่มีคนติดตามในไอจีครึ่งล้านคุณก็เป็นคนที่เหมือนจะดังฉิบหายได้...

"ไอ้นีล นั่นไงพี่คีณของมึง ไปขอเขาเป็นผัวสิ" เฟย์กระทุ้งศอกเพื่อนสาวที่นั่งจ้องกลุ่มผู้มาเยือนตาเป็นมัน

"บ้า มึงพูดอะไร น่าเกียจ"

"OMG อย่ามาแอ๊บค่ะ จะแรดก็แรด"

"ไม่ได้หรอก ปกติกูเป็นคนเรียบร้อยมึงก็รู้"

"หรอ"

"เรียบร้อยกับผีสิ ที่มึงไล่ปล้ำกูในรถเพราะคิดว่าเป็นพี่คีณของมึงกูยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ" เทมพูดลอย ๆ โดยไม่หันมามองหน้าคว่ำ ๆ ของสาวหน้าหมวยเลยซักนิด

"เงียบไปเลยเทม กูแค่เมาเถอะ"

"จ้า ครั้งก่อนโน้นเมาก็ให้ไอ้นนแบกจนเป็นเรื่อง ครั้งนี้ก็จะปล้ำกู นี่ถ้ามึงไปกับผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่กูกับนนมึงแย่แน่นีล ดูแลตัวเองหน่อยสิวะ ว่ามั้ยไอ้นน" เทมพาดแขนลงช่วงไหล่ของเพื่อนสนิทแต่ก็ได้เพียงแต่ความเงียบกลับมา เพราะว่าณนนคนนี้สติไม่ได้อยู่ในวงสนทนาเมื่อครู่เลยซักนิด

"นน มองไรวะ"

"มันจะมองอะไร มองนมตู้มเด็กนิเทศอ่ะดิ วันนี้แม่งคัดกันมาเดินชัด ๆ ปกติกูก็ไม่มีคนจีบอยู่ละ แล้วแบบนี้จะเอาอะไรไปสู้" เฟย์เบ้ปากแรง เรียกให้นีลที่เอาแต่ก้ม เงยหน้าขึ้นมองโดยอัตโนมัติ ตอนนี้ทั้งโต๊ะจดจ้องไปยังกลุ่มคนกลุ่มเดียวกัน

"กูว่างานนี้มึงได้แน่นน มองมึงตาเป็นมันทั้งผู้ทั้งชะนี" เฟย์มองสลับไปมาระหว่างใบหน้าผู้เป็นเพื่อนและกลุ่มคนที่โวกเวกอยู่ตรงหน้า

"ตลกละ" ณนนละสายตาลงจากกลุ่มคนตรงนั้น ข้างในใจเขาตอนนี้มันหงุดหงิดแปลก ๆ คีณที่มีสีหน้ายิ้มแย้มเดินคู่กับเพื่อนผู้หญิงสาวสวยเพื่อขายบัตรมันชวนให้เขาหงุดหงิดซะเหลือเกิน จริง ๆ ถ้าเป็นคนอื่นมันก็ไม่เป็นอะไรหรอกแต่นี่มันเป็นพะพลอย สาวสวยคู่จิ้นที่มีคนพยายามจับคู่ให้คีณตลอดเวลา ปกติก็เคยเห็นแต่รูปคู่แนบชิดที่เจ้าตัวเคยบอกว่าไม่คิดอะไร แต่พอมาเห็นกับตาครั้งแรกแบบนี้แล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะ...

"เชี่ยนน!! กูแซวแค่นี้มึงขยำงานกูทำไมเนี่ย" สติสัมปชัญญะเริ่มกลับมาอีกครั้ง เมื่อเฟย์ง้างมือขวาที่กำแน่นของเขาออกเผยให้เห็นรายงานผลแลปที่ยืมเฟย์มาดูเมื่อไม่กี่นาทีก่อน อืม... ตอนนี้ก็เหมือนเป็นแค่ก้อนขยะ

"เห้ย กูขอโทษ เดี๋ยวกูลอกให้ใหม่"

"แปลกนะมึงอ่ะ" เทมโยกหัวเพื่อนไปครั้งนึงเบา ๆ ก่อนที่สายตาจะไปโฟกัสเพื่อนสาวอีกคนที่มองไปยังคนขายตั๋วรูปหล่อ ขาว สูง มีออร่าราวกับจะกินเข้าไปให้ได้

"ไอ้นีล เบา มองให้เบา เดี๋ยวเมียเขามาว่านะมึง"

"เมียอะไรไอ้เทม กูไปสืบมาเรียบร้อยแล้ว พี่คีณเขาโสดเว้ย โสดสนิทแม้แต่คนคุยก็ไม่มี" “แล้วพี่พะพลอยอ่ะ กูว่าเขาน่ารักมากเลยนะเว้ย” “เพื่อนกันย่ะ มองปากกู ...เพื่อน!”

"ให้มันจริงเหอะ สภาพแบบนี้ไม่น่าโสดป่ะวะ แม่งรอดปากหมาปากแมวไปได้ยังไง"

"มึงจะเอาอะไร๊! มึงดูไอ้นนเพื่อนมึงนี่ เบาซะที่ไหน อันดับหนึ่งของมหาลัยนะคะ หล่อขนาดนี้ คนจ้องจะแดกตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยยันประตูเมืองเชียงใหม่ แต่เสือกไม่มีแฟน กูไม่เข้าใจคือหล่อระดับสองคนนี้หากินยากขนาดนั้นเลยหรอวะ" สุดท้ายณนนก็ถูกจับมาเป็นประเด็นอีกจนได้ เจ้าตัวยกยิ้มที่มุมปากให้กับเรื่องที่ไม่เคยมีใครรู้

"อาจจะมีแต่ไม่มีใครรู้ก็ได้" สาบานได้ว่าเมื่อครู่ณนนพูดกับตัวเองเบา ๆ แต่บังเอิญว่าเพื่อนอีกสามคนดันได้ยินแบบชัดเจนแจ่มแจ๋ว

"หืมมมม มึงหมายถึงใครไอ้นน มึงหรือพี่คีณ" นีลคาดคั้นอย่างเอาเรื่อง เป็นไปไม่ได้ที่เพื่อนเขาคนนี้จะมีแฟน ส่วนพี่คีณว่าที่สามีก็คงจะไม่ทำร้ายจิตใจภรรยามโนอย่างเธอขนาดนั้น

"ก็....ทั้งคู่" ณนนพยายามตอบให้เหมือนเรื่องปกติและไม่คิดอะไร แต่ป่าวเลยสำหรับเพื่อน ๆ เพราะตอนนี้ทุกคนคิดตามไปกันใหญ่

"มึงมีแฟนหรอนน" เทมเป็นคนแรกที่ถามขึ้นด้วยความสงสัย

"ป่าว กูก็แค่เปรียบเปรย"

"แล้วพี่คีณของกู..."

"มานู่นแล้ว มึงก็ถามสิ" เฟย์ตัดทุกความสงสัยในโต๊ะแล้วบุ่ยปากไปยังกลุ่มคนที่กำลังเดินตรงมายังโต๊ะ สาวสวยที่เดินนำนั่นคือพะพลอยสาวสวยที่ไม่เหมือนกับพวกพิมพ์นิยม พะพลอยสวยแบบเป็นเอกลักษณ์ด้วยรูปหน้าเฉี่ยว ๆ แต่มีดวงตากลมโตหวาน ๆ เป็นที่ต้องจาต้องใจของชายหนุ่มทั่วไป ซึ่งแน่นอน ...ยกเว้นณนน...

"สวัสดีค่าาาา สนใจซื้อบัตรเข้าร่วมงานมั้ยคะ" พะพลอยส่งยิ้มหวานจนณนนต้องเบ้หน้าหนีไปอีกทางอย่างเนียน ๆ ไม่ถูกชะตา ไม่ชอบ ไม่รู้ทำไม คงจะเพราะเธอกำลังยืนเกาะแขนใครบางคนอยู่ล่ะมั้ง

"ครับ ...แต่ผมขออนุญาตมีคำถามนิดนึงได้มั้ยครับ" เทมยักคิ้วชั่วร้ายใส่เพื่อนสาวที่พยายามเก๊กหน้าให้เป็นปกติ

"ยินดีค่ะ"

"พอดีเพื่อนผมเขาสงสัย ...ว่าพี่คีณมีแฟนแล้วยัง" เมื่อถูกยิงคำถามที่ตรงขนาดนี้ผู้กุมความลับทั้งสองก็หันหน้ามามองกันโดยอัตโนมัติ มันไม่ใช่สีหน้าตระหนกที่กลัวความลับจะหลุด แต่มันเป็นสีหน้าขำ ๆ กับประเด็นที่ถูกหยิบยกออกมามากกว่า

"เชี่ยเทม!! " นีลเอื้อมมือไปดึงหูเพื่อนเข้าอย่างจัง จนคนที่ถูกถามอดจะอมยิ้มตามไม่ได้ คีณเงียบไปแวบนึงก่อนจะเบี่ยงตัวออกให้หลุดจากการเกาะกุมของหญิงสาวคนข้าง ๆ อย่างไม่น่าเกลียด

"สำหรับคำตอบ..." คีณเลือกที่มองก้มต่ำลงพื้นแทนที่จะมองหน้าใครซักคน ก็รู้ว่ามันผิดมารยาทแต่คนที่อยากมองหน้าไม่ได้อยู่ในสถานะที่มองหน้าได้ตอนนี้นี่นา

"มีแฟนแล้วครับ รักมากด้วย" คำตอบที่หลุดออกมาทำให้คนฟังอย่างณนนก็ต้องก้มหน้าลงพื้นไปเหมือนกัน ขืนเงยหน้าขึ้นมาตอนนี้หน้าเขาต้องฉาบไปด้วยสีแดงแน่ ๆ อีกอย่างคือในหัวมึงโล่งโปร่งไปหมด มันดีใจอย่างบอกไม่ถูก แค่นี้มันก็ดีมากแล้ว มากจนผู้หญิงคนข้าง ๆ เมื่อกี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอีกต่อไป

"ว่าไงไอ้นน จะเอามั้ย" แรงกระแทกจากไหล่เพื่อนข้าง ๆ ทำให้ณนนเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งแล้วรู้ว่าตัวเองใช้เวลาหลุดเข้าไปในห้วงความคิดไม่ใช่น้อย

"ห่ะ"

"บัตรเข้างาน พี่เขายืนรออยู่เนี่ย"

"ไม่อ่ะ" ณนนเบนหน้าหนีชายหนุ่มรุ่นพี่ที่ยิ้มแปลก ๆ ใส่เขาอยู่ตอนนี้ ...ตกลงเมื่อกี้ นั่นคือแกล้งกันใช่มั้ย

"งั้น 3 ใบ 150 ค่ะ" คีณยื่นบัตรตามจำนวนที่พะพลอยทวนแล้วยื่นไปให้นีลที่เต็มใจรับแบบสุด ๆ

"พี่คีณคะ มันเกินมาใบนึง"

"ไม่เกิน ...ใบนั้นให้ณนน" ได้ยินแบบนั้นคนที่ถูกกล่าวถึงก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็ก ๆ อยากจะด่าเข้าให้ซักยก บอกว่าไม่ไปยังจะพูดไม่รู้เรื่องอีกหรอว่ะ

"ก็ผมบอกว่า...." ณนนตีเสียงเรียบแต่ก็ยังไม่ทันจะได้พูดจบเสียงเริงร่าของอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน

"พี่ให้ฟรี ...ตอบแทนที่เรามาถ่ายงานให้" คีณดึงบัตรใบนึงจากนีลมายัดใส่มือณนนที่เริ่มจะงอคิ้วเข้าหากันเพราะไม่พอใจแต่จำต้องเก็บอารมณ์ คนที่ดื้อดึงก็ดูเหมือนว่าจะตั้งใจให้ณนนหงุดหงิดถึงได้รีบเดินออกไปแบบนั้น ...มันไม่ใช่เรื่องเงินโว้ยยยย แค่นี้ไม่เข้าใจรึไงวะ

คือไม่อยากไปเจอเข้าใจป่ะ

ถ้าไปเห็นเกาะแขนเกาะขากับผู้หญิงมันหงุดหงิดโอเคป่ะ

หัวข้อ: Re: Who is he แฟนผม...คนไหน?
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 25-03-2018 17:57:08
ตอนที่ 4 การจัดการขั้นเด็ดขาด





SL Cute Boy

4 ชั่วโมงที่แล้ว

อะไรยังไง?

ภาพชายหนุ่มเดินกางร่มให้หญิงสาวท่ามกลางแดดจ้ามันช่างโรแมนติกซะเหลือเกิน อย่างกับฉากในซีรีย์เกาหลีที่พระเอกเสียสละร่มทั้งคันให้นางเอกด้วยความเป็นห่วง คนที่มองภาพผ่านจอมือถืออยู่ตอนนี้อยากจะกรีดร้องให้กับความเป็นสุภาพบุรุษ และเขินอายให้กับรอยยิ้มละมุนละไมนั่นซักยก...ถ้าผู้หญิงในภาพนั่นเป็นเธอ

"หรือว่าพี่คีณจะเป็นแฟนกับยัยพะแนงนั่นจริง ๆ วะนน"

"เขาชื่อพะพลอย" ณนนตอบเรียบ ๆ เมื่อเห็นเพื่อนตัวเองดูจะเป็นกังวลกับประเด็นใหม่นี่ซะเหลือเกิน ส่วนตัวเขาเองน่ะหรอนอกจากจะไม่ใส่ใจแล้วยังไม่คิดสนใจจะเปิดดูด้วย ...หึ ค่อยดูมันทีเดียวในห้องแล้วก็ทิ้งระเบิดปรมาณูมันให้พังกันไปข้าง

"มันต้องใช่แน่ ๆ เลยว่ะ เพราะตอนพี่คีณพูดว่ามีแฟน สีหน้าเหมือนตั้งใจให้ใครได้ยิน"

"มโน"

"กูว่าจริง สายตาที่สองคนนั้นเหลือบมองกันมันมีอะไร"

"นีล มึงหยุดเพ้อแล้วนั่งเงียบ ๆ ได้ป่ะ เดี๋ยวกูจะทิ้งให้มึงนั่งแดกยุงอยู่คนเดียว!! " หงุดหงิด ...หงุดหงิดจนเผลอว๊ากหน้านิ่งใส่เพื่อนตัวเอง ทั้ง ๆ ที่พึ่งขันอาสานั่งตากยุงรอพ่อมารับเป็นเพื่อนที่หน้าคณะ แต่ถ้าเพื่อนสุดน่ารักคนข้าง ๆ ไม่หยุดพ่ามเรื่องไม่เป็นเรื่อง (ที่ทำให้เขาหงุดหงิด) คงได้นั่งเป็นเหยื่อบูชายันต์ยุงคนเดียวแน่ ๆ

"ก...ก็ได้วะ"

".............." เงียบ ทั้งอย่างรอบข้างเงียบลงถนัด จะได้ยินก็แต่เสียงลูกบาสจากสนามวิศวะข้าง ๆ คณะ ณนนถอนหายใจเล็ก ๆ ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิดที่ตวาดใส่เพื่อน แต่รู้สึกคิดผิดที่เป็นคนอยู่เป็นเพื่อนมันต่างหาก ...นีลในตำนานเรื่องเอ๋อ เรื่องเว่อร์ เรื่องคีณนี่ยกให้เลยเถอะ เผลอ ๆ อาจจะรู้จักคีณดีมากกว่าเขาด้วยซ้ำ

"เห้ย มีรูปมึงวันนี้ด้วยว่ะ ที่โรงอาหาร" นีลชูจอโทรศัพท์ขึ้นตรงหน้าเขาราวกับเมื่อกี้ไม่ได้ยินอะไรที่น่าสะเทือนใจ ...ทั้ง ๆ ที่ณนนกำลังรู้สึกผิดที่เสียงดังใส่เพื่อนแท้ ๆ

"กำลังแดกขนมจีบเนี่ยนะ เชี่ย! "

"มีแต่คนชมมึงว่าน่ารัก รูปแดกหนมจีบมึงนี่ได้ไลค์สองหมื่นหนึ่งเลยนะ ....อืมมมมม" นีลจ้องหน้าเพื่อนข้าง ๆ สลับกับรูปในจอ ก็คงจะปฏิเสธไม่ลงว่าหนังหน้าดีไม่ว่าท่าไหน ทำอะไรจริง ๆ

"อะไรอีกล่ะ"

"กำลังพิจารณาว่ามึงกับพี่คีณของกูใครหล่อกว่ากัน"

"กูหล่อกว่า"

"จากที่กูใกล้ชิดมาแล้วทั้งสองคน..."

"มึงไปใกล้ชิดไอ้พี่คีณตอนไหน"

"เอาน่า อย่าขัดกูสิวะ" นีลเริ่มหงุดหงิดที่เพื่อนหน้าหล่อข้าง ๆ พยายามจะขัดทุกอย่างที่เธอพยายามจะพูด ...ถ้าชีวิตไม่ได้มโนบ้างให้มันรู้ไปไอ้นน

"ไง แล้วตกลงยังไง" ณนนเลิกคิ้วถาม สองมือก็ยกขึ้นปัดยุงที่พยายามเข้ามารบกวนทั้ง ๆ ที่แต่งตัวมิดชิดชุดนักศึกษาเต็มยศ ให้ตายเถอะ....พวกมึงนี่พยายามเป็นเลิศจริง ๆ เดี๋ยววันหลังแม่มจะให้รางวัลด้วยไบก้อน

"กินกันไม่ลงว่ะ ...ลงความเห็นเลยว่ามึงกับพี่คีณไม่ควรมีแฟน ...กูเสียดายของ" น้ำเสียงจริงจังของนีลทำให้ณนนแทบจะกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ โอเค ....งานนี้ไม่เสียดายของแน่นีล แต่อาจจะได้เสียน้ำตา หึหึ

20.30 น.

ณนนโบกมือส่งเพื่อนที่ขึ้นรถสี่ประตูของที่บ้านออกไปเรียบร้อย คราวนี้ก็เหลือแต่เขาที่ควรจะออกจากตรงนี้ก่อนที่จะสร้างสุสานยุงได้อย่างจริงจัง ร่างโปรงบางคลายชายเสื้อออกจากกางเกง มือซ้ายล้วงกระเป๋า มือขวาควงกุญแจรถตัวเองด้วยท่าทางชิว ๆ ....นี่เขาไม่ได้เก๊ก จะเก๊กทำไมล่ะก็แถวนี้แทบจะเหลือเขาแค่คนเดียว แต่ไอ้ท่าตอนนี้มันออกมาแบบอัตโนมัติต่างหาก แม้เจ้าตัวก็ยังไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามันชวนกรี๊ดแค่ไหน

"เฮ้ย ไรวะเนี่ย" ณนนพยายามกดปุ่มสตาร์ทรถซ้ำ ๆ ก็พบอาการไม่สู้ดีนัก เจ้าเครื่องยนตร์นี่ตอบสนองเพียงเสี้ยววินาทีแล้วก็ดับสิ้นชีพไปแทบจะทันที ณนนหอบร่างตัวเองมายืนพิงอยู่ข้างรถด้วยอารมณ์เซ็ง ๆ เพราะเริ่มจะแน่ใจแล้วว่าไอ้เต่าลูกรักได้ทรยศเขาเรียบร้อยแล้ว

ตู้ดดดดด ตู้ดดดดด

เป้าหมายแรกที่ณนนจะติดต่อความช่วยเหลือนั่นก็คือเทมที่อีกฝ่ายตอบรับเขาด้วยการไม่คิดจะรับโทรศัพท์ จบกัน ...เพื่อนคนเดียวที่หวังว่าจะพึ่งพาได้ยามยาก

xxx

รายชื่อที่ถูกเมมไว้ด้วยตัว x สามตัวโชว์หราอยู่ที่หน้ารายชื่อโทรออกนานพอที่จะทำให้ณนนชั่งใจ ...ไม่อยากรบกวน วันนี้คีณมีซ้อมวงดนตรีกับเพื่อนที่คณะ ถ้าโทรไปตอนนี้ต้องรีบแจ้นตูดออกมาแน่ ๆ ความเกรงใจที่ไม่ควรจะมีดันโผล่มาซะได้ เอาไงดี ...ไอ้นนคนนี้ควรโทรหรือยืนให้เป็นเหยื่อยุงต่อตรงนี้

ตู้ดดดดดดดดดดดดดดด ตู้ดดดดดดดดดดดดดดด ตู้ดดดดดดดดดดดดดดด

“เชี่ย!!”

'ปิดเครื่อง? เออดี รถสตาร์ทไม่ติด จะได้นอนแม่งที่คณะนี่แหละ'

เสียงสัญญาณยาว ๆ จากปลายสายมันชัดเจนว่าอีกฝ่ายปิดเครื่อง คราวนี้ไอ้ความเกรงใจเมื่อครู่กลับกลายเป็นรู้สึกหงุดหงิดจนไลน์ไปหาอีกฝ่ายด้วยอาการประชด เวลาแบบนี้นี่คิดจะพึ่งพาใครซักคนไม่ได้เลยรึไง จริง ๆ จะกลับด้วยแทคซี่ตอนนี้เลยก็ได้ แต่ในใจมันก็นึกเป็นห่วงรถ คันนี้ขอแม่นานมากกว่าจะได้ บ้านก็ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังอะไรขนาดที่ว่าจอดรถทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ได้นี่หว่า

"โทษนะ มีอะไรให้เราช่วยเปล่า" ณนนหันไปมองเจ้าของเสียงที่โผล่มาอย่างงง ๆ มนุษย์ผู้ชายมีผมติดหนังหัวไม่เกิน 2 มิล หอบลูกบาสพะรุงพะรังยิ้มกว้างเหมือนคนไม่เคยยิ้ม ขออนุญาตมองแรงตั้งแต่หัวจรดเท้า ใครมันจะยืนยิ้มให้คนแปลกหน้าได้ขนาดนั้นถ้ามันไม่บ้า

"ไม่"

"เห้ย ก็เราเห็นอยู่ว่ารถนายสตาร์ทไม่ติด" คนแปลกหน้านี่เดินวนรอบรถอย่างถือวิสาสะ ณนนมองตามแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

"อืม สงสัยแบตหมด แต่ไม่เป็น..."

"เดี๋ยวเราช่วย เอารถเรามาจั้มพ์ไฟน่าจะพอขับไปได้" คนแปลกหน้าคนเดิมพยายามแสดงน้ำใจด้วยการยืนเคาะฝากระโปรงหน้ารถ แต่พอเห็นสายตาหวงแหนจากเจ้าของก็หดมือกลับแทบจะไม่หัน มาเคาะหลังเต่าโดยไม่ขอเจ้าของ ถ้าไม่หยุดนี่ไม่ตายดีแน่ ๆ

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเพื่อนเราก็มา" สมมติว่ามีใครรับโทรศัพท์ไอ้นนคนนี้ซักคนน่ะนะ

"ณนน นายไม่ต้องเกรงใจเราหรอก เราเต็มใจ รถเราจอดอยู่วิดวะนี่เอง" เจ้าตัวชี้ไม้ชี้มือไปยังคณะที่ไฟยังสว่างและมีเสียงโห่ฮามาเป็นระรอก คิดไปคิดมาถ้ารับน้ำใจของคนแปลกหน้านี่ไว้ก็คงไม่แย่เท่าไหร่

"งั้นก็ ขอบคุณ"

"......."

"......." งง... ณนนขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังยืนยิ้มอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยือน แถมยังคล้ายมีเครื่องหมายคำถามปรากฎบนหน้าไอ้หน้าแปลกนี่ด้วย ...อะไรว่ะ ทำหน้าแบบนี้ต้องการอะไร ตังค์ ...เอ๊ะ หรือจะถ่ายรูปคู่?

"ทำไมไม่ถามอ่ะ"

"ถาม...ถามอะไร"

"ก็ถามว่าเรารู้ชื่อนายได้ยังไง"

"ต้องถามหรอ ใครก็รู้จักเราป่ะวะ" ณนนไม่ได้พูดออกไปตรง ๆ แต่พูดเบา ๆ คนเดียวให้อีกฝ่ายพอจับใจความได้ เอาเถอะ กับอิแค่สีหน้าเหลือทนของเขาตอนนี้อีกฝ่ายก็คงจะเข้าใจความหมายแล้ว นี่ไม่ได้หลงตัวเองนะขอบอก แต่กล้าพูดว่า 90% ของมหาลัยนี้ใคร ๆ ก็รู้จักณนนไม่เว้นแม้แต่ไอ้ด่างหน้าสนามกีฬากลาง

"โหยยยย อย่างน้อยถามว่าเราชื่ออะไรก็ยังดีอ่ะ"

"อันนี้ก็ต้องถามหรอ? " ความนี้ณนนพูดออกไปตรง ๆ จ้องหน้าอีกฝั่งเขม็ง นี่ไม่มีใครเคยบอกหรอว่าจ้องหน้าคนอื่นแบบนี้มันไม่น่ากลัวเลยซักนิด

"ไม่ก็ได้ ...เราชื่อซีซั่นนะ อยู่วิดวะโยธา ปีสองเหมือนนนแหละ ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ เดี๋ยวเราไปเอารถก่อน ยืนรออยู่ตรงนี้นะ" ซีซั่น... ชื่อของคนแปลกหน้าที่พึ่งวิ่งหอบร่างไปโดยไม่ถามความสมัครใจคนที่จะถูกช่วยเหลือซักนิด แล้วไอ้วิธีแนะนำตัวแบบนี้มันคืออะไร ใครคิดจะเรียกมึงว่าพี่ว่ะ?

หมับ!! ระหว่างที่ณนนมองตามหลังเพื่อนใหม่? อย่างเพลียจิต ข้อมือซ้ายของเขาก็ถูกคว้าหมับด้วยแรงบีบแรง ๆ และแรงกระชากที่ทำให้แทบจะทำล้มลงเอาหน้าไถลไปกับพื้น พอตั้งสติได้ก็เห็นหน้าของผู้ร้ายสะท้อนกับแสงไฟสีส้มชัดขึ้น

"คีณ"

"ไง มาช้าไปป่ะ ยังไม่โดนคาบไปแดกเนอะ" คีณยังคงกำข้อมือนั้นแน่นขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่ามันไม่ได้มีท่าทีขัดขืนซักนิดเลยก็ตาม

"คีณณณณ ไรเนี่ย ไม่ไปปปปปป" ร่างสูงเดินนำมายังรถบีเอ็มซีรีย์สี่ก่อนจะยัดอีกฝ่ายเข้าไปนั่งข้างคนขับทั้ง ๆ ที่ดูไม่เต็มใจนัก

ไม่ล่ะ จากลักษณะสีหน้า น่าจะไม่พอใจมาก

"นั่งไปเลย" ขณะที่คนนึงยกมือชี้หน้า

"ไม่!! รถนนล่ะ" อีกคนก็ตั้งท่าจะถีบกลางหว่างขาคนที่ยืนขวางประตูรถอยู่

"หึ... ไอ้เต่าทิ้งไว้นี่แหละ เดี๋ยวค่อยโทรให้ร้านมาทำ เค๊" แต่เสียใจ...นอกจากจะหลบทันแล้วจังหวะการปิดประตูรถใส่หน้าแฟนเมื่อกี้ไอ้คีณก็หล่อมากด้วย

"ไอ้คีณ... ถ้าออกรถนะ" ท่าทางคาดโทษนั่นมันก็ดูโหดดีอยู่หรอกถ้าไม่ถูกอีกฝ่ายที่เข้านั่งประจำที่คนขับโยนความผิดที่ไม่ได้ก่อให้มาซะก่อน

"ไม่ต้องมาพูด ไม่ต้องมาทำโมโห อย่าให้เห็นอีกนะว่าอยู่ใกล้ไอ้กรมอุตุนั้น ห้ามพูด ห้ามคุย ห้ามให้มันเห็นหน้า เข้าใจป่ะ!! " ร่างสูงออกรถโดยไม่หันมามองจังหวะกระพริบตาอ้าปากข้างของคนข้าง ๆ ขออนุญาตให้ณนนได้เรียบเรียงก่อน...

"ใครคือกรมอุตุ"

"ก็ไอ้วิศวะหน้าตาหน้าถีบเมื่อกี้ไง"

"เขาชื่อซีซั่นป่ะว่ะ เขาก็แค่อยากจะช่วย"

"นั่นไง รู้ชื่อกันแล้วด้วย" คีณตบพวงมาลัยรถดังฉาดใหญ่ ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ณนนเข้าใจอะไรมากขึ้นเลย

"แล้วยังไง ก็เขามีน้ำใจ ไม่เหมือนคนแถวนี้ โทรไปมันก็ปิดเครื่องใส่"

"ก็แบตหมด พอชาร์ตแล้วก็รีบมาเลยเนี่ย ....เดี๋ยว อย่าเปลี่ยนเรื่อง เรื่องนี้ค่อยไว้ขอโทษทีหลัง"

"โอ๊ยยยย เป็นอะไรเนี่ย"

"ก็หงุดหงิด ไอ้ซีซั่นเนี่ย คีณจำหน้ามันโคตรแม่น ไอ้หัวเกรียน ไอ้กรมอุตุ ไอ้วิศวะโยธาที่เกือบจะโดนรีไทน์ ไอ้หน้าหมาที่ประกาศจีบแฟนคนอื่นกลางเพจคิ้วท์บอย! ก็ไอ้นี่แหละที่โพสเต๊าะนนทุกวัน! " รู้ลึกรู้จริงต้องคีณคนนี้เท่านั้น เขาตามส่องหารายละเอียดคนคนนี้มาพักใหญ่ หลังจากที่เจอข้อความแทะโลมคนข้าง ๆ มันซะทุกรูป ยิ่งเห็นมันยิ้มให้นนเมื่อกี้แล้วยิ่งหงุดหงิด เกือบตบะแตกวิ่งไปถีบไข่ซักยกสองยก

"หึหึ ฮาว่ะ"

"มีไรฮาวะ! "

"มีคนหึง หึงจนหูแดงไปหมดแล้ว" ว่าตามนั้นแล้วณนนก็เอื้อมมือไปบิดหูซ้ายคนขับรถแรง ๆ จนเจ้าของหูมีสีหน้าเหยเกตามแรงมือ

"โอ้ย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ นน ๆ ๆ ๆ ๆ "

"ปัญญาอ่อนว่ะ ถึงมันจะจีบจริงแล้วไง คิดว่าจะชอบมันหรอ"

"ไม่มีทาง ตัวท็อปอยู่ตรงนี้แล้วทั้งคน ...คีณไว้ใจนน แต่ไม่ไว้ใจมัน"

"ครับบบบบ พ่อตัวท็อป"

"งั้น... ต้องประกาศจองไว้ก่อน จะได้ไม่โดนแย่ง" จู่ ๆ คีณก็เลี้ยวรถเข้าข้างทางก่อนจะแบมือเพื่อขออะไรบางอย่างจากคนข้าง ๆ

"อะไร"

"ขอมือถือ"

"จะทำอะไรบอกก่อน"

"เหอะน่า รับรองว่ามันเวิร์ค แล้วจะไม่มีใครมายุ่งกับนนอีกเลย" ณนนชั่งใจเล็ก ๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้อีกฝ่าย คีณกดรหัสผ่านอย่างคุ้นชินเพราะมันเป็นโค้ดลับรหัสเดียวกับเครื่องตัวเอง ก่อนที่นิ้วเรียวจะจิ้มที่โปรแกรมอัพรูปสุดฮิตอย่างอินสตราแกรม แล้วเลื่อนหารูปในเครื่องที่ณนนถ่ายไว้แต่ไม่เคยคิดจะลง สุดท้ายผู้ถูกเลือกก็คือรูปในร้านเบเกอร์รี่ชื่อไม่ดังที่เคยแอบไปกินด้วยกันเมื่อเดือนก่อน เค้กหนึ่งชิ้นถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นแก้วกาแฟสองแก้ว

อัพโหลด คีณกดอัพโหลดอย่างไม่ลังเล ก่อนจะหันมากระตุกยิ้มราวกับผู้ชนะ รูปน่ะมันธรรมดา แต่ที่เด็ดน่ะ มันแคปชั่น . . .

Nanonnon

1 minutes ago

อาจเป็นเพราะว่าเราคู่กัน …ขอโทษครับ …มีคู่แล้ว

.

.

.

"ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก" เสียงหวีดร้องหงุดหงิดของเจ้าของห้องอาจทำให้ห้องข้าง ๆ อาจไม่เป็นสุขไปเลยทั้งคืน แต่งานนี้ขอให้เห็นใจผู้ชายคนนี้ ผู้ที่เคยลั่นวาจาเอาไว้อย่างมั่นอกมั่นใจว่า...

"รับรองว่ามันเวิร์ค แล้วจะไม่มีใครมายุ่งกับนนอีกเลย"

ซึ่งตอนนี้เขาอยากจะกลับคำพูดซะเหลือเกิน ก็ไอ้คอมเมนต์ใต้รูปที่ทำให้เจ้าของไอจีหัวเราะสะใจกับความพินาศของแผนเขาอยู่นี่น่ะสิ

17,879 likes

ฮั่นแน่ มีความรักหรอพี่ณนน

น้องนน พี่เสียใจ

Neenlaneen : อะไรของมึง มีอะไรที่กูไม่รู้ @Fayefreeya @OverTemp พวกมึงมาดูเร็ว

สาวไหนเป็นผู้โชคดีกันเนี่ย ฮือออออออออออ ไม่ ไม่ ไม่ นังนั่นมันเป็นใคร!

seasonPT : เจอกันวันนี้ น่ารักจังครับ

พี่ซีไปกับนนมาหรอ

อะไรยังไงคู่นี้

เฮ้ยเอาจริงดิ กรี๊ดดดดด #ทีมซีนน

พี่นนไม่ชอบผู้หญิงหรอ เสียใจอ่ะ

เรื่องนี้ถึงหูคิ้วท์บอยแน่ #ซีนน

กรี๊ดดดดด ในที่สุดฝันก็เป็นจริง เราเชียร์คู่นี้ #ทีมซีนน



seasonPT : ป่าวครับ นนชอบใครไม่รู้ แต่เราชอบนน แต่คิดว่าเดี๋ยวนนก็ชอบเรา ^^~



"อร๊ากกกกกก ไอ้อุตุ ฝากไว้ก่อนนะมึง!! "



TBC

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 4 การจัดการขั้นเด็ดขาด 25/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 25-03-2018 19:57:03
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 4 การจัดการขั้นเด็ดขาด 25/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 26-03-2018 20:50:18
ตอนที่ 5 หัวร้อน?



ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก มายาคติที่ใครหลายคนคิดว่านำมาใช้กับความรักแล้วมันจะได้ผล ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนต้นคิดเอาแนวคิดนี้มายัดใส่หัวมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะชายหนุ่มหัวเกรียนที่นั่งยิ้มแฉ่งใส่อันดับหนึ่งของมหาลัยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าเขาจะเต็มใจให้เข้ามาใกล้ขนาดนี้หรือไม่ ...หรือจริง ๆ แล้วถ้าใช้คำพูดว่าไม่สนที่เขาแสดงอาการรำคาญคงจะถูกมากกว่า

“นน กูว่ามันเอาจริงว่ะ นี่มันตามมึงมาตั้งแต่เช้าแล้วนะเว้ย”

เทมกระซิบใส่หูเพื่อนทั้ง ๆ ที่สายตายังเอาแต่จ้องคนที่นั่งแหกปากยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้าม เคยได้ยินกิตติศัพท์ซีซั่นเด็กวิศวะที่ออกตัวว่าชอบเพื่อนตัวเองมานาน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นตัวเป็น ๆ มาเดินตามติดเป็นวิญญาณคนอวดผีตั้งแต่เช้าโดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่มองลงมา หรือถ้าจะให้เทมมองในแง่ร้าย มันก็มองได้แง่เดียวคือผู้ชายใส่ช็อบที่นั่งอยู่ตรงหน้าต้องพยายามใช้กระแสจิตของคนรอบข้างบีบบังคับให้เพื่อนเขาสมยอมแน่ ๆ

“...............” ณนนเงยหน้าออกจากหนังสือเล่มหนาในมือ เหลือบตามองคนแปลกหน้าที่เคยเจอกันครั้งแรกหน้าคณะเมื่อหลายวันก่อน ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าการปล่อยให้มันแนะนำตัวในวันนั้น จะนำมาซึ่งปัญหาไม่จบสิ้นขนาดนี้

“ไง ตกลงจะไปกินข้าวกับเรามั้ย”

“ไม่” คำตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ หลุดออกจากปากณนนรอบที่ล้าน แต่ก็ดูเหมือนคนฟังจะเข้าใจยากซะเหลือเกิน

“แต่วันนั้นเราอุตส่าห์ช่วย ไปตอบแทนเราหน่อยไม่ได้หรอ”

“ช่วยอะไร นึกให้มันดี ๆ ว่านายได้ช่วยรึยัง” ณนนตอบอย่างเรียบ ๆ ก็จริงอยู่ที่วันนั้นซีซั่นยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ยังไม่ทันจะได้เป็นฮีโร่ก็ถูกตัวร้ายอย่างคีณเข้ามาตัดหน้าโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวนี่นา

“ถ้าจะช่วย ...ช่วยลุกออกไปได้แล้วมั้ง” นีลพูดออกมาเงียบ ๆ ก่อนจะหันไปแทคมือกับเฟย์และเทมที่รำคาญผู้ชายตรงหน้าแบบไม่เคยเป็นมาก่อน คนอะไรจะพกความมั่นใจมาเต็มร้อยเกินหน้าหน้าตาแบบนั้น แค่คิดว่าเพื่อนสุดหล่อของเขามีผู้ชายมาจีบมันก็พิลึกแล้ว แต่นี่ดันเป็นผู้ชายที่ดูอันตรายและโรคจิตไปซะอีก

“ใจร้ายจัง จะไม่ใจอ่อนให้เราจริง ๆ หรอ”

“เสียเวลาเปล่าว่ะ กลับไปเหอะ ขอบคุณแล้วกันที่วันนั้นจะเข้ามาช่วย แต่ไม่ต้องเข้ามายุ่งอีกจะดี ไม่ชอบคนทวงบุญคุณ ...ออ ...แล้วไอ้ที่ไปเม้นตามรูปในเพจ ในไอจีก็ไม่ต้อง ไม่ชอบ” จริง ๆ คำว่าไม่ชอบตอนท้ายนั่นณนนพูดแทนใครอีกคนมากกว่า ก็ไอ้คนที่พยายามโทรมารัว ๆ ตอนนี้จนเขาต้องปิดเสียง ถ้าจะให้ณนนเดาก็คงไม่พ้นมีมือดีปั่นข้อมูลอะไรในโลกออนไลน์จนอีกฝ่ายกดโทรออกย้ำ ๆ เหมือนคนเป็นสันนิบาตที่กดจนหยุดไม่ได้แบบนี้

“เราทำไม่ได้หรอกนน ...ตอนนี้เราเดินหน้ามาแล้ว”

“นี่จะต้องการอะไรนักหนาวะ” ณนนโคลงหน้าไปมาอย่างหัวเสีย ไม่ใช่ว่าอยากจะเสียมารยาทแต่การที่เราตัดบัวไม่เหลือใยตั้งแต่ต้นมันก็ดีกว่าไม่ใช่หรอ ร้อยทั้งร้อยที่อยากจะเหลือมิตรภาพกับคนที่ไม่ใช่สุดท้ายมันก็เหลือคนต้องเจ็บอยู่ดี

“ตามมาตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่รู้อีกหรอ ....ว่าเราต้องการจีบนน”

.

.

.

.

ในขณะที่ณนนกำลังต่อสู้กับบุคคลนิสัยประหลาดที่จู่ ๆ ก็เข้ามารุกโดยไม่ทันตั้งป้อมรับ ขณะนี้เหตุการณ์อีกฝั่งก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า คุณเคยคิดมั้ยว่าคุณเองสามารถขับรถเร็วได้แต่ไหน? อาจจะซักร้อยแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่านั้น แต่ ณ เหตุการณ์ปัจจุบันตอนนี้มีชายคนนึงที่พยายามจะเหยียบบีเอ็มให้มิดทะลุไมล์เพราะความดันในใจมันกำลังสูง ถ้าเป็นไปได้รถของเขาก็คงจะขับเคลื่อนด้วยความเร็วกว่าสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ไอ้ที่เกริ่นมาทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้ทั้ง ๆ ที่คนขับเลือดแทบจะขึ้นหน้าแล้วก็ตาม

"โถ่เว้ยยยยย เดินเร็ว ๆ สิวะ" คีณบ่นพึมพำคนเดียวนิ้วชี้ขวาเคาะพวงมาลัยรถรัว ๆ ราวกับกลุ่มก้อนนักศึกษาตรงหน้าจะพากันเดินให้เร็วขึ้น เหงื่อเม็ดโตไหลย้อนมาที่ข้างหูทั้ง ๆ ที่อากาศในรถเย็นเฉียบ นี่สินะที่เขาเรียกว่าอาการร้อนรน ...ร้อนรนที่กลัวจะเสียของของตัวเองไป

ก่อนหน้านี้ไม่ถึง 20 นาทีคีณยังนอนดูทีวีที่ห้องสบายใจเฉิบเพราะว่าวันนี้ไม่มีเรียน นอนเช้าตื่นอีกทีห้าโมงเย็นได้อย่างชิว ๆ แถมโปรเจคจบก็ดูใกล้จะเรียบร้อยไม่มีอะไรให้รีบทำมากมาย แต่แล้วบรรยากาศดี ๆ ก็จบลงเมื่อหน้าเฟซบุ๊คของใครบางคนที่เขากดติดตามความเคลื่อนไหวไว้เมื่อคืนอัพโหลดรูปข้อมือของคนคุ้นเคยที่เขาจำนาฬิกาได้เป็นอย่างดีพร้อมแคปชั่นที่ทำให้คีณแทบจะคว้าปืนมายิงกรอกปากตัวเองให้ตาย ๆ ซักที

"มารอรับไปทานข้าว ทำไมไม่ใจอ่อนซักที"

ก่อนไปกินข้าว กินตีนกูก่อนละกันมึง ไอ้กรมอุตุ

ยิ่งคิดย้อนถึงประโยคชวนเลี่ยนนั่นก็อยากจะเหยียบให้มิด ครั้งก่อน ๆ ก็ออกหน้าออกตาทางโซเชี่ยล เมื่อคืนก่อนโน้นก็เข้ามายุ่มย่ามตอนที่ณนนรถเสีย เพราะงั้นการที่เข้าจู่โจมแบบนี้ไอ้คีณไม่มีทางอยู่เฉยแน่ แล้วนี่เจ้าตัวอย่างณนนก็เกิดจะไม่รับโทรศัพท์ ไม่อ่านไลน์ขึ้นมาซะงั้น หึ ขอบอกเลยว่าตอนนี้อะไรก็รั้งไอ้คีณไว้ไม่อยู่ทั้งนั้น ทั้งรูปแอบถ่ายที่มีคนลงเพจ ทั้งแคปชั่นที่เหมือนจะอวยพรให้ได้เสียกันในเร็ววัน มันก็ยิ่งเร่งปฏิกิริยาให้เขาจอดรถหน้าคณะวิทย์ในที่สุด...

สถิติความเร็ว 20 นาทีทันทีที่เห็นรูป

เดี๋ยวนะ...

ร่างสูงชะงักเมื่อเปิดประตูลงจากรถแล้วสายตาหลายสิบคู่จ้องมองอันดับหนึ่งจากนิเทศมาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาสั้นรองเท้าแตะ ผมไม่เซ็ต ตอนนี้คีณเลยฉุกคิดอะไรบางอย่างได้จนเกือบจะหันหลังกลับไป ...ไม่ใช่เพราะการแต่งตัวของตัวเองที่อาจจะดูแปลกไปจากทุกทีเพราะว่าความรีบร้อน แต่เป็นเพราะอีกเรื่องที่มัวแต่โมโหจนลืมคิดไปเสียสนิท

...นี่มาในฐานะอะไร

คนรู้จักก็ไม่ได้

เพื่อนก็ไม่ใช่

รุ่นพี่ก็ไม่เชิง

แฟน... ใช่

แต่... ไอ้สัด!! กูเป็นแฟนแต่ไม่มีสิทธิเดินเจ้าไปไล่เตะคนที่เต๊าะแฟนกูเนี่ยนะ

ไม่ ...ไอ้คีณคนนี้จะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด

สายตาซุบซิบนินทามองมาเป็นระยะเมื่อหนุ่มนิเทศนอกเครื่องแบบเดินเข้ามาคณะวิทย์ในช่วงเวลาเที่ยงตรง คีณปรายตามองไปทั่วโถงอาคารแปบเดียวก็เจอเป้าหมายที่นั่งหน้ามุ่ยคล้ายไม่สบอารมณ์อยู่ไม่ไกลจากตรงที่เขายืน คีณกำมือแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่าสมาชิกบนโต๊ะที่ณนนนั่งอยู่มันมีใครบางคนที่ไม่ควรนั่งยิ้มแป้นแล้นอยู่ตรงนั้น คีณถอนหายใจเข้าแรง ๆ แล้วพุ่งตัวเข้าไปยังเป้าหมายแทบจะทันที ลืมมันไปหมดแล้วว่ามาในฐานะอะไรถ้าตอนนี้พาณนนออกไปจากไอ้ซีซั่นไม่ได้ ...ไอ้ซีซั่นก็ต้องนอนตายกลายเป็นศพอยู่ที่นี่

“....พ....พี่....ค....” คนแรกที่เงยหน้าทักผู้มาเยือนคือนีล หน้าของหญิงสาวฉาบไปด้วยรอยแดงปื้น นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่คีณในตำนานในระยะใกล้ขนาดนี้ แถมยังมาในสีหน้าที่....เย็นชาเกินจะคาดเดา....

จะเย็นชา ชาเย็น หรือชาเขียว ...แต่แม่มโคตรพ่อโคตรแม่หล่อเลยว่ะ

คีณแทบไม่ได้สนใจสายตางง ๆ ของคนบนโต๊ะ ทั้งเทม เฟย์ นีล ที่เขาพอจะรู้จักชื่อแต่ไม่เคยทักทาย เพราะสองสิ่งที่เขาสนใจตอนนี้ หนึ่งคือณนนที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วส่งสายตาที่มีเครื่องหมายคำถามมาให้ หึ...คำถามนี่ไม่ต้องหาคำตอบแล้วล่ะมั้ง ถ้าณนนรับโทรศัพท์หรือแค่ตอบไลน์เรื่องมันก็จะไม่เกิด ส่วนอย่างที่สองที่สนใจคือไอ้กรมอุตุที่พยายามมองเหมือนคีณเป็นตัวประหลาด แล้วหันไปมองณนนด้วยสายตาหวานเชื่อม ...เห็นหน้าแล้วมันก็เผลอกัดฟันกำหมัดด้วยความโมโห นี่ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างแล้วปล่อยให้มันเข้าใกล้ณนนมากกว่านี้ มันต้องเกิดโศกนาฏกรรมแน่ ๆ

ไอ้คีณต้องได้ฆ่าคนแล้วตัดหัวมันเสียบประจาร

“นนไปด้วยกันหน่อย” คีณพยายามพูดเรียบ ๆ ทั้ง ๆ ที่ในใจมันอยากจะเข้าไปลากณนนออกไปเหมือนพระเอกละครสววรค์เบี่ยง เกลียดสายตาที่ซีซั่นมองมันเป็นสายตาที่ตีตราจองเป็นเจ้าของ ...ของที่เป็นของคนอื่น

“.............” ทุกสิ่งตกอยู่ในภวังค์ความเงียบ เฟย์ นีล เทมมองหน้ากันงง ๆ ด้านซีซั่นก็ย้ายสายตามาจ้องคีณแทนเพราะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ใครรับรู้ไม่ได้ก็บ้าแล้ว เพราะสายตาที่คนตัวสูงจ้องมองณนนตอนนี้มันคือสายตาของคนโกรธจัดที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ ณนนนั่งนิ่งก้มหน้าแล้วถอนหายใจพรืดใหญ่ สองคนเคยตกลงกันแล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งย่ามเรื่องของกันและกัน นั่นก็หมายถึงการมาครั้งนี้ของคีณมันละเมิดข้อตกลงแบบสุด ๆ แต่ตอนนี้ใครเขาสนกันล่ะ สิ่งเดียวที่คีณสนใจคือทำยังไงถึงจะทำให้ไอ้หัวเกรียนตรงหน้าหายไปอย่างถาวรต่างหาก

“อ...ไอ้นน” เทมกระทุ้งศอกใส่ผู้เป็นเพื่อนที่นั่งนิ่งราวกับไม่ได้มีใครบางคนมายืนอยู่ตรงหน้า ณนนเงยหน้าขึ้นมาสบตาคีณแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ สั้น ๆ ตามบทบาทของคนที่ไม่เคยรู้จักกัน

“ครับ”

“พอดีงานที่เคยไปถ่ายให้มันมีปัญหา รบกวนไปถ่ายแก้ให้หน่อย” โกหกหน้าด้าน ๆ ....แต่เขาว่าการโกหกอย่างมีเหตุผลนี่มันไม่ผิดบาปไม่ใช่หรอ

“เดี๋ยวไปให้แล้วกัน” คำว่าเดี๋ยวที่ใช้บวกกับท่าทางไม่สนใจของณนนทำให้คีณแทบลมออกหู เทมสังเกตุเหตุการณ์แปลกประหลาดนี่ด้วยการมองหน้าณนนสลับกับคีณไปมา ...คนนึงจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนอีกคนก็มองกลับไปด้วยสายตาปลงตก

“ไปตอนนี้”

“ตอนนี้ผมไม่ว่าง”

“ก็บอกว่าตอนนี้ไงนน!” เสียงตะคอกเบา ๆ นั่นมันออกมาอย่างลืมตัว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดังมากแต่ท่าทางขึงขังเกิดเหตุของคนตรงหน้าก็เล่นเอาสติของอีกคนขาดผึ่งไปด้วยเหมือนกัน

“คีณ!! ทำไมไม่เข้าใจวะ!” สายตาหลายคู่มองแล้วหันไปซุบซิบกับกลุ่มเพื่อน แต่สายตาอีกสามคู่ที่นั่งอยู่บนโต๊ะตอนนี้เอาแต่จ้องคนทั้งคู่แล้วก็พูดอะไรไม่ออก พวกเขายังจับต้นชนปลายเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ได้เลยซักนิด เท่าที่รู้เพื่อนเขาไม่เคยสนิทชิดเชื้ออะไรกับรุ่นพี่ที่ตะหง่านอยู่ตรงหน้า แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้รุ่นพี่คนนี้ดูโกรธจัดแล้วเพื่อนของเขาก็ดูคล้ายจะสติแตกตามไปด้วยแบบนี้

“ไป” คีณไม่สนใจอะไรอีกแล้ว สายตาส่ายไปมาแวบนึงก่อนจะคว้าเอากระเป๋าณนนที่วางอยู่บนโต๊ะกวาดเอาข้าวของเท่าที่จำได้ใส่ลงไปในนั้น แต่ก็ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบง่าย ๆ เพราะผู้สังเกตการณ์ที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้นคิดจะมาเป็นพระเอกตอนนี้ ....ตอนที่ตัวจริงเขามาอาระวาด

“เดี๋ยวสิครับพี่” ซีซั่นคว้าแขนของคนที่ไล่เก็บข้าวของของคนอื่นอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่คีณจะโยกตัวหลบให้มืออีกฝ่ายหลุดออกอย่างง่าย ๆ

“.........” คีณไม่ตอบโต้อะไร มองไปยังณนนอีกครั้ง พร้อมทั้งสื่อสารทางสายตาว่าถ้าครั้งนี้ยังไม่ยอมไปด้วยกัน ได้เกิดการกระชากลากถูแน่ ๆ

“ณนนไปกับพี่ไม่ได้หรอก ...เขามีนัดทานข้าวกับผม” เสียงของคนที่ดูมั่นใจมาก ๆ เรียกเสียงหัวเราะหึหึได้ในลำคอคีณ สังเกตจากสีหน้าเบิกตางง ๆ ของณนนก็รู้แล้วว่าไม่มีใครจะไปกินข้าวกับไอ้กรมอุตุนี่ทั้งนั้น

“ไง จะไปกับมันหรอ”

“ใช่”

“กูไม่ได้ถามมึง” คีณมองกลับไปยังคนที่ตอบคำถามคนอื่นอย่างเหยียด ๆ สายตาของซีซั่นที่มองมายังคีณมันดูเข้มขึ้นคล้ายเสือสองตัวกำลังขู่ฟ่อใส่กัน ณนนเป็นคนเดียวที่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากจบเรื่องนี้ให้ได้เร็วที่สุด ...จบแบบวิน ๆ ทั้งสองฝ่าย

“แต่จะตอบแทน พี่จะทำไม"

“เคยบอกหรอว่าจะไปด้วย” เสียงเรียบ ๆ ของณนนจบเรื่องทุกสิ่งได้ในทันที ถึงตาที่คีณจะได้กระตุกยิ้มร้ายอย่างผู้ชนะ แล้วเอาความรู้สึกที่ทำให้หน้าตึงทิ้งไปซะที ....แต่ดูเหมือนว่าซีซั่นจะเป็นคนเก็บความรู้สึกหน้าชาเอาไปไว้ซะเอง

“จะไปถ่ายงานก็ไป” ณนนกระชากกระเป๋าในมือคีณมาถือเอง ก่อนจะเดินนำออกไปโดยไม่ร่ำลาเพื่อนตัวเองซักคำ และไม่รอให้ใครได้ถามอะไรทั้งนั้น ถึงคีณไม่มาเขาก็คิดหาวิธีที่จะชิ่งหนีซีซั่นอยู่แล้ว ...แต่ก็นั่นแหละที่ทำให้เขารู้สึกโกรธในใจถึงแม้ในใจลึก ๆ มันจะแอบยิ้มที่ได้รู้สึกแบบนี้บ้างก็เถอะ

ความรู้สึกที่เป็นของสำคัญ....

“เจอกันที่ห้อง” คีณพูดลอย ๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคนระหว่างที่เดินแซงณนนออกไปจากคณะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าณนนถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่ในรอบสิบนาที แต่พอเห็นคนที่เดินแซงหน้าไปชัด ๆ อารมณ์ขุ่น ๆ ในใจมันก็หายไปซะหมด แถมอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ซักที ...คนอย่างคีณเนี่ยนะที่จะใส่กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะมาเดินต่อหน้าสาธารณะชน ...ตลกสิ้นดี

ย้อนกลับมาที่โต๊ะสถานที่เกิดเหตุ คนก่อประเด็นโดยไม่รู้ตัวอย่างซีซั่นลุกเดินออกไปอย่างหัวเสีย ความรู้สึกที่เหมือนโดนฉีกหน้านี่มันทำให้เจ็บแปลบเหลือเกิน ใครจะรู้ว่าเขาพยายามมามากแค่ไหนที่จะได้เข้าใกล้ณนน ทั้งเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนที่หวังจะเป็นฮีโร่ แต่ก็ถูกอีกฝ่ายทิ้งความหวังดีไว้โดยไม่อาลัยอาวรณ์ แถมก่อนหน้านี้ที่พยายามบังเอิญมาให้เจ้าตัวเห็นหน้าบ่อย ๆ แต่เขาก็ไม่สนใจจะมองหน้าเลยซักนิด ไหนจะเรื่องที่พยายามใช้เหล่าขาจิ้นให้เป็นประโยชน์แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลในชีวิตจริงซักนิด เจ็บหนักสุด ๆ ก็คงจะเป็นวันนี้ ...วันแรกที่เขาหาแบบตรง ๆ สารภาพแบบจริงจังว่าขอจีบ แต่ก็ดันจบลงตรงที่เขาปฏิเสธต่อหน้าคนอื่นแบบไม่รักษาน้ำใจ

....แต่นี่มันก็แค่เริ่มต้นเว้ยไอ้ซี พระเอกนิยายส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น....

ถ้าจะไม่พูดถึงผู้เผชิญเหตุอีกสามคนก็คงจะไม่ได้ เพื่อนสามคนที่เหมือนกำลังคิดวิเคราะห์บางอย่างอยู่ในหัว โดยเฉพาะชายหนุ่มที่เริ่มกระตุกยิ้มตั้งแต่วินาทีที่คีณคว้าเอากระเป๋าณนนได้ถูกใบ แถมยังหยิบของทุกชิ้นลงกระเป๋าได้อย่างเหมาะเจาะ ...มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ใครซักคนจะจำรายละเอียดของคนอื่นได้แม่น และคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญเช่นกันที่เฟรนพึ่งโทรมาขอบคุณเรื่องงานถ่ายของณนนที่ผ่านไปด้วยดี....

“มึงว่า กูจะจำของทุกชิ้นของพวกมึงได้ป่ะวะ” เสียงเย็น ๆ ของเทมกำลังเรียกสติให้กับเพื่อนอีกสองคน โดยเฉพาะนีลที่ดูจะเออเร่อเพราะไม่อยากจะประมวลผลตามภาพที่เห็นซักเท่าไหร่

“...ท...ทำไมไอ้นนเรียกพี่คีณของกูว่าคีณเฉย ๆ ...ได้ไงอ่ะ ...ไปสนิทกันตอนไหน”

“กูว่างานนี้อาจไม่ใช่พี่คีณของมึง” เทมว่า ก่อนที่นีลจะมองหน้าเพื่อนสองคนสลับไปมาอย่างต้องการคำตอบ แต่ยิ่งจินตนาการเท่าไหร่ก็ยิ่งชวนให้กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนแม่ไก่ที่ฟูมฟักไข่มานานแต่วันดีคืนดีไข่ก็แตกแล้วก็ออกมาเป็นลูกจระเข้ แต่เพราะว่าเรื่องของเพื่อนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินกว่าที่จะคาดเดา เพื่อนสาวแสนดีอย่างเฟย์จึงขอจบประเด็นด้วยการเปิดหัวข้อสนทนาใหม่ในไลน์กลุ่มที่จะไม่มีรายชื่อของณนน...



Group invitation

‘ความลับของไอ้นน’

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 4 การจัดการขั้นเด็ดขาด 25/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 26-03-2018 20:51:58
ตอนที่ 6 เรื่องเข้าใจที่ไม่เคยเข้าใจ


บรรยากาศบนโซฟาในห้องเงียบ ๆ ที่ได้ยินเพียงแต่เสียงแอร์ตอนนี้มันดูน่าอึดอัดแปลก ๆ สองคนที่ขับรถคนล่ะคันกลับมาถึงก็ยังไม่ยอมพูดจาอะไรกันซักคำ โซฟายาวสามที่นั่งก็ถูกจับจองคนล่ะฝั่งโดยเว้นที่ตรงกลางไว้อย่างตั้งใจ นี่ไม่ใช่การที่ผู้ชายสองคนโกรธกันจนไม่พูดไม่จา แต่มันเป็นสงครามประสาทที่ใครเงียบกว่าได้เปรียบต่างหาก แต่ก็ไม่รู้ว่างานนี้ผู้ชนะจะเป็นใคร ...จะเป็นณนนที่เอาแต่นั่งมองเล็บตัวเองแล้วเกาแขนเกาขาไปพลาง ๆ อย่างสบายใจหรือจะเป็นคีณที่นั่งตีหน้ามึนคิ้วขมวดไม่พูดจาจนปวดหน้าไปหมด ...งานนี้ก็คงไม่ต้องเดาผู้ชนะกันมาก เพราะว่ามันก็พอจะมองเห็นอยู่ลาง ๆ แล้วล่ะ

“นี่จะไม่พูดใช่ป่ะ” ก็เป็นไปตามคาดเป็นคีณที่ยอมเปิดปากออกก่อนอย่างพ่ายแพ้แล้วทิ้งตัวไหลพิงไปกับโซฟาเหมือนคนอ่อนแรง

“ก็รอให้พูดก่อน”

“หึ ...นี่ไม่คิดจะง้อกันเลยซักนิดใช่มั้ย” คีณเหลือบตามองคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟาเหมือนเด็ก ๆ ทั้งที่เขาเกือบจะระเบิดอารมณ์ออกมาอยู่แล้ว แต่ณนนก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ได้

“ขอโทษ” เสียงอ่อย ๆ ของคนข้าง ๆ ทำให้คีณกระตุกยิ้มเบา ๆ จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรซักนิด มันแค่หึงจนหน้ามืด แล้วถ้าจะมาทำลืม ๆ ตอนนี้มันก็คงเสียฟอร์มแย่

“เรื่องไหน”

“ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบไลน์ ก็ตอนนั้นพวกเพื่อนมันอยู่ แล้วนี่อะไรถล่มโทรอย่างกับใครจะตาย”

“ก็คีณนี่แหละจะตาย! มันประกาศจีบแฟนตัวเองแบบนั้น จะให้อยู่เฉย ๆ ได้ยังไงวะ!” อาการหัวเสียออกท่าทางของคีณทำให้ณนนกลั้นขำจนแก้มป่อง ดูเหมือนบรรยากาศอึดอัดเมื่อซักรู่จะเริ่มเบาบางลงพร้อมความรู้สึกขุ่นเล็ก ๆ ในใจของคนทั้งสองที่ได้ระบายออกมา ...สำหรับคนรักกัน มันก็ไม่มีอะไรดีมากไปกว่าการพยายามเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย เหมือนที่ณนนพยายามทำความเข้าใจคีณมาตลอดระยะทางที่ขับรถ เพราะว่าถ้าเขาเป็นคีณก็ไม่มีรู้ว่าจะเก็บอารมณ์ได้มากเท่าคีณหรือเปล่า

“ก็ไม่ใช่ครั้งแรกป่ะ ตั้งแต่คบกันมามีคนมาจีบนนตั้งกี่คน ...ของคีณด้วยอย่าให้นับ” คราวนี้ณนนเป็นฝ่ายไถลตัวลงไปกับโซฟาบ้าง นึกแล้วก็ประหลาดใจที่เขาสองคนอยู่เป็นคนในความลับของกันและกันมาได้เกือบสามปีโดยไม่มีใครระแคะระคายซักนิด ก็ไม่ใช่ว่าจะปิดบังโดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนสนิท ถ้ามีคนถามก็คงจะตอบ แต่นี่ไม่มีใครถามตรง ๆ มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่พูดออกไปให้คนอื่นงงเล่น

“มันไม่เหมือนกันนี่หว่า ไอ้ห่านี่ดูมันอันตราย คำพูดคำจาที่มันโพสต์ก็กวนตีน สายตาที่มันมองนนก็ยิ่งดูไม่น่าไว้ใจ แล้วโคตรหงุดหงิดเลยเวลาคนในเน็ตแม่งชอบจับคู่ให้มันกับนน แม่งจิ้นไม่ดูตาม้าตาเรือเลย... ปัญญาอ่อนป่ะ แบบนี้มันก็ยิ่งได้ใจดิ มันมีกองเชียร์ คีณไม่มีใครซักคน” คีณร่ายยาวตามสิ่งที่รู้สึกในใจตัวเองตอนนี้ ข้อสุดท้ายนี่ก็คงจะยิ่งเป็นจุดอ่อน เพราะคีณไว้ใจนนแทบจะเต็มร้อยแต่ไอ้คนรอบข้างนี่แหละที่ทำให้เป็นกังวล โดยเฉพาะชาวเน็ตที่ทำตัวเป็นเจ้าชีวิตคนอื่นไปซะทุกเรื่อง

“แล้วเวลาที่นนเห็นคีณกับพี่พลอยอ่ะ ...ก็คงรู้สึกเหมือนกันมั้ง” ณนนนึกถึงเรื่องที่ตัวเองแอบหงุดหงิดเมื่อวันก่อนแล้วสลดสีหน้าลงเล็ก ๆ จริงอย่างที่คีณพูดทุกอย่าง ความรู้สึกตอนที่เห็นคนข้างกายตัวเองมีความเหมาะสมกับคนอื่นมันก็เล่นเอาควบคุมความน้อยใจจนพาลหงุดหงิดไม่ได้เหมือนกัน

“...นน นี่หึงหรอ โอ๋ ๆ นะ” คีณกระโดดตัวขยับเข้ามานั่งใกล้ ๆ ณนน ก่อนจะทิ้งทั้งตัวลงกับโซฟาโดยไม่ลืมที่จะฝากหัวไว้กับตักของคนข้าง ๆ

“โอ๋อะไร ตลกตายชัก”

“ไม่ตลกแปลว่าหึงจริงใช่ป่ะ”

“ไม่มั้ง หึหึ”

“แต่นนก็รู้ว่าคีณกับพลอยไม่มีอะไร”

“ก็เหมือนที่คีณรู้นั่นแหละว่านนกับไอ้ซีซั่นนั่นก็ไม่มีอะไร กับคนไหนก็ไม่มีทั้งนั้น นานแล้วนะคีณตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ...เราสองคนไม่เคยเปลี่ยนซักนิด แล้วทำไมเราต้องอ่อนไหวกับคำพูดคนอื่นด้วยวะ”

“ครับ ๆ ทราบแล้วครับ”

“แล้วคราวหลังไม่ต้องไปทำแบบวันนี้แล้วนะ นี่ไม่รู้นนต้องไปตอบคำถามพวกนั้นยังไง” ณนนก้มหน้ามองคนในตักแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเกลี่ยไล้ไปมาตามแนวสันกราม คีณเงยหน้าขึ้นสบตานิ่งแววตาจริงจัง

“ก็บอกความจริง... ก็พูดไปเลยว่าเราเป็นแฟนกัน”

“................” ณนนเงียบลงเมื่อเห็นแววตาจริงจังคู่นั้นส่งมา แววตาของคีณครั้งนี้มันไม่ใช่ทีเล่นทีจริงอย่างทุกที แต่มันจริงจังจนเขากลัว ...กลัวเหตุผลที่ขังคนสองคนไว้ในห้องมันจะพุ่งตรงมาทำร้ายพวกเขาอย่างที่เคยกังวลไว้จริง ๆ

“...ไม่ได้หรอ ...ก็ลืมไป” น้ำเสียงน้อยใจพร้อมสายตาที่หันไปมองทางอื่นทำให้มือที่เคยลูบไปมาตามกรอบหน้าก็หยุดชะงักไปเช่นกัน หลายครั้งที่คุยกันเรื่องนี้แต่ผลสรุปสุดท้ายก็จบลงที่เงื่อนไขเดิมอยู่ดี





‘จะไม่มีใครรู้เรื่องที่เราคบกันจนกว่าจะถึงเวลา’

คีณไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะไปบอกใครต่อใครได้ว่าชอบผู้ชาย ไม่ใช่เพราะห่วงชื่อเสียงเล็กน้อยของตัวเอง แต่เป็นเพราะชื่อพ่อที่เด่นชัดอยู่ในทุกช่วงชีวิตต่างหาก หลายครั้งที่คีณพยายามจะเปิดเรื่องนี้ซักที แต่ก็เป็นณนนที่ยังคงยืนยันเก็บเรื่องความสัมพันธ์ไว้ในที่ที่เขาคิดว่ามันควรอยู่ เวลาเกือบจะสามปีมันเป็นเวลาไม่น้อยเลยซักนิด แต่แปลกที่ความเคยชินกับการใช้ชีวิตแบบไม่เคยทำให้ใจมันเคยชินได้เลยซักที

คนนึงก็ห่วงที่อีกฝ่ายต้องมาหลบซ่อนด้วยเหตุผลบ้า ๆ ทั้งที่ไม่จำเป็น

อีกคนนึงก็ห่วงที่ตัวเองอาจจะเป็นเหตุผลบ้า ๆ ที่ทำชีวิตอีกฝ่ายพัง

“คีณก็รู้ว่ามันไม่ได้... ถ้าพ่อคีณรู้ ...แล้วไหนจะอนาคตของคีณ....อีกอย่าง...” ไม่ต้องรอให้ณนนพูดจบ คีณลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ จ้องหน้าคนพูดราวกับสั่งให้หยุด เหตุผลเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ที่ณนนยกมา เหตุผลเดิม ๆ ที่ตอนคบกันครั้งแรกคีณยังคิดว่าอนาคตในวงการบันเทิงที่พ่อปูทางไว้ให้มันสำคัญ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าอะไรมันสำคัญกว่า ...ไม่สิ ...จริง ๆ ก็รู้มาตั้งนานแล้ว

“อนาคตที่ไม่มีนนมันจะดียังไงวะ ...คีณพูดจริงนะ คีณสนนนแค่คนเดียว อยากลงรูปคู่กันบ้าง อยากแสดงความเป็นเจ้าของ อยากประกาศให้โลกรู้โดยไม่ต้องมีใครถาม ...ว่าเรารักกัน”

“ยังไม่ใช่ตอนนี้...” ตอนนี้ที่คีณกำลังจะมีอนาคต ตอนนี้ที่คีณกำลังจะเรียนจบแบบที่พ่อหวัง ตอนนี้ที่คีณกำลังจะมีอนาคตดี ๆ ในวงการอย่างที่เคยฝัน ณนนรู้ดีว่าเขาห่วงคีณมากเกินไปจนลืมนึกห่วงความรู้สึกตัวเอง

“นน... แต่...”

“ไม่ใช่ตอนนี้... อยู่แบบนี้มันก็...”

“ทำไม กลัวเรตติ้งตกหรอ กำลังดังนี่”

“...........” แววตานิ่ง ๆ ของคีณที่จ้องมามันทำให้ณนนอ่านความรู้สึกใด ๆ ไม่ออก รู้ดีว่าคนตรงหน้ากำลังรู้สึกโกรธถึงได้ตัดสินใจลุกขึ้นพร้อมจะเดินหนีราวกับไม่ได้สนใจคำพูดใด ๆ แบบนี้ คุยกันไปก็ทะเลาะกันโดยไม่จำเป็นซะเปล่า ๆ ถึงแม้ว่าประโยคเมื่อกี้มันจะฟังดูดูถูกความรักเกินไปหน่อยก็เถอะ

“ยังไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะตอนไหนวะ ...เบื่อ.... กูก็อยากจะไปดูหนัง ไปกินข้าวแบบคนอื่นบ้างป่ะ ไม่ใช่กลับมากินข้าวกล่อง ดูหนังแผ่นที่ออกโรงแล้วแบบนี้ ...กูแม่งโคตรเบื่อเลยว่ะ” น้ำเสียงสั่น ๆ ไม่ได้ทำให้ณนนหันไปมองคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม เพราะน้ำตาเจ้ากรรมมันเอ่อมาชิดขอบตาตั้งแต่คำว่าเบื่อคำแรก แล้วไหนจะสรรพนามที่เปลี่ยนไปนั่นอีก

“..........”

“แล้วกูต้องทำยังไงวะ เหมือนกูไม่ได้เป็นเจ้าของมึงเลย ....ก...กูหึงมึงไม่ได้ กูไปรับไปส่งมึงไม่ได้ กูดูแลมึงไม่ได้ แต่คนอื่นมีสิทธิทำในทุกอย่างที่กูทำไม่ได้...” เสียงของคีณสั่นขึ้นราวกับกำลังต่อสู้ไม่ให้น้ำตาเจ้ากรรมมันไหลออกมา ด้านคนที่ยืนฟังก็ได้แต่ยกหลังมือปาดคราบน้ำที่ไหลมาเคลือบแก้มตั้งแต่วินาทีไหนก็ไม่รู้ ความรู้สึกแย่ ๆ ในใจตอนนี้มันไม่ใช่โกรธ แต่ความรู้สึกทุกอย่างที่พรั่งพรูมาจากอีกฝ่ายมันก็เป็นสิ่งที่เขารู้สึกเช่นกัน แล้วทำไม...เหตุผลอะไรที่คนสองคนจะมาทะเลาะกันเพราะเรื่องที่เข้าใจกันดีที่สุด

“กูก็แค่ไม่อยากเสียมึงไป ...มึงเข้าใจมั้ยนน...”

“..........จะอ..อ.ออกไปข้างนอกนะ” ณนนไม่ตอบ ไม่หันไปมอง แต่กลับหันหน้าไปทางประตูก้าวเดินอย่างเชื่องช้าเพราะความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ในอก เกลียดบรรยากาศตอนนี้ เกลียดตัวเองที่ห่วงเขา คิดแทนเขามากไปจนตัวเองต้องเป็นแบบนี้ ถ้าได้ห่างกันซักชั่วโมงหรือสองชั่วโมงอะไร ๆ มันก็อาจจะดีขึ้นเหมือนทุกครั้ง ที่ต่างฝ่ายต่างก็แกล้งทำเป็นลืมประเด็นนี้ไปแล้วก็กลับมาเป็นณนนและคีณคนเดิม

“ไม่ต้อง...เดี๋ยวไปเอง” ยังไม่ทันที่มือเรียวจะได้เอื้อมมือไปสัมผัสลูกบิดประตู ใครอีกคนก็ก้าวยาวแทรกตัวจนไหล่สัมผัสกันเบา ๆ ออกจากห้องไปแทน ก่อนเสียงปิดประตูดังปังจะทำให้คนในห้องทรุดตัวลงไปกับพื้นราวกับคนหมดแรง ...มันกำลังจะดีอยู่แล้วเชียว ...เรากำลังจะคุยกันรู้เรื่อง เราจะจบเรื่องบ้า ๆ วันนี้ด้วยการไม่ทะเลาะกัน เราจะยิ้มให้กัน ชวนกันหัวเราะเหมือนทุกที แล้วความรู้สึกที่ทำให้เขาร้องไห้อยู่ตอนนี้คือมันอะไร...

คนที่ปิดประตูลงเองก็ใช่ว่าจะไม่เสียใจ ความรู้สึกกับคำพูดแย่ ๆ ของตัวเองมันก็มีมากไม่แพ้กัน ร่างสูงพาตัวเองเดินลงบันไดหนีไฟลงมาทีล่ะชั้นช้า ๆ ...เขาจะปล่อยให้ณนนออกมาได้ยังไง ออกมาคนเดียวแล้วจะไปร้องไห้ที่ไหน แล้วใครจะปลอบ ใครจะดูแลไม่ให้คิดมากไปกว่าเดิม ขอเวลาไม่นานให้ความรู้สึกเฮงซวยของตัวเองที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่มันหายไปแล้วจะเป็นคนกลับไปปลอบโยนด้วยตัวเอง จะกลับไปกินข้าวกล่องดูหนังด้วยกันแบบเดิม เพราะทั้งหมดนั่นมันคือความสุขของเขา ความสุขทั้งหมดที่เขาชอบ ทั้งหมดของอนาคตที่เขาต้องการ

และทั้งหมดนั่นมันคือณนน

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 4 การจัดการขั้นเด็ดขาด 25/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 26-03-2018 20:53:13
ตอนที่ 7 ยินดีที่ได้รู้จักเด็กม.ปลายคนนั้น


ทางเดินชั้นเจ็ดของคอนโดหรูเงียบกริบจนได้ยินเสียงฝีเท้าเจ้าของห้อง 704 กระทบพื้นไปมาในยามวิกาล ใบหน้าไร้รอยยิ้มของคีณมองเหม่อไปตามทางเดินอย่างครุ่นคิด ...ตีหนึ่ง เขาปล่อยตัวเองอยู่กับแก้วเหล้าคนเดียวจนเวลาล่วงเลยไปนานกว่าที่คาด คนที่เขาทิ้งไว้ในห้องจะเป็นยังไงบ้าง จะได้กินข้าวรึยัง สบายใจขึ้นบ้างรึเปล่า หรือในใจจะยังขุ่นมัวเพราะรู้สึกแย่แบบที่เขากำลังเป็น

ไม่น่าพูดแบบนั้น ไม่น่าเดินออกมาแบบนั้น

ถึงจะคิดแบบนี้แต่ก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้อยู่ดี

คีณยืนถอนหายใจอยู่หน้าห้องครู่ใหญ่ ก่อนจะแตะคีย์การ์ดเข้าไปในห้องเพื่อพบกับความว่างเปล่าที่เขาไม่ได้เตรียมใจมาเจอ ไฟภายในห้องถูกเปิดทิ้งไว้เป็นสิ่งเดียวที่รอต้อนรับเขา ที่ทำให้ใจเหี่ยวลงไปมาก ๆ ก็คงจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่เปิดทิ้งไว้เผยให้เห็นไม้แขวนว่าง ๆ เกือบสิบอัน ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนมีก้อนอะไรขึ้นมาจุก ๆ ที่อก ร่างสูงทิ้งตัวลงกับโซฟาตัวเดียวกันกับเมื่อช่วงเย็น เพียงแต่ตอนนี้มันไม่มีใครนั่งอยู่อีกฝั่งแล้วเท่านั้น ดวงตาคู่นั้นมองไปยังกระดาษโน้ตที่ดึงมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์นิ่ง ๆ อยากจะร้องไห้อีกซักทีกับความงี่เง่าของตัวเอง ความงี่เง่าที่อาจกำลังทำให้ใครอีกคนเสียใจกว่าที่เขากำลังเป็น

'มันยังแย่ว่ะคีณ ไว้โอเคเมื่อไหร่ ...เจอกันนะ ^^~'

รูปอิโมติคอลยิ้มนั่นยิ่งทำให้คีณทึ้งหัวตัวเองอย่างขาดสติ เกือบสามปีที่เขามีณนนเคียงข้างในทุก ๆ คืน เกือบสามปีที่ทั้งสองคนจะรีบกลับมาที่ห้องเพราะรู้ว่ามีใครอีกคนที่รออยู่ และนี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่คีณกำลังสั่นเพราะกลัวว่าจะเสียณนนไปจริง ๆ ...มันเป็นความรู้สึกของคนที่ไม่เคยได้เป็นเจ้าของในสิ่งที่ฟูมฟักรักและถนอมมานาน ...มันผิดมากนักรึไงที่อยากจะบอกให้ใคร ๆ ได้รู้ซักที ไอ้เรื่องชื่อเสียงของเขาหรือของใครก็ตามมันไม่ได้สำคัญเท่าคนที่รักซักนิด

ตู้ดดดด ตู้ดดดด

"ไง ถึงห้องแล้วหรอ" มือมันเผลอกดโทรไปแบบไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรับสายรึเปล่า อาจจะตัดสายทิ้งหรือปิดเครื่องหนีไปเลยก็ได้ แต่ทันทีที่เสียงสัญญาณรอสายเงียบลง แล้วน้ำเสียงใส ๆ ที่เหมือนเป็นปกติแทรกเข้ามา คีณก็เม้มปากแน่นจุกในความรู้สึกยิ่งกว่าเดิม

"นน ...อยู่ไหน" เสียงเรียบ ๆ ที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและความรู้สึกผิดถูกส่งผ่านไปยังปลายสายได้อย่างดี

"ห้องเทม"

"...คืนนี้จะไม่กลับมาหรอ เห็นเอาเสื้อผ้าไปด้วย"

"........" การเงียบเสียงของปลายสายทำให้คีณรู้สึกหนัก ๆ ที่หัวขึ้นอักระดับ

"ห...ให้คีณไปรับได้มั้ย"

"ไม่ต้องหรอก..."

"โกรธคีณมากเลยหรอ ขอโทษ ...ขอโทษ คีณขอโทษ

"เฮ้ย ก็ไม่ได้โกรธขนาดนั้น ...คีณนอนเหอะ มันดึกแล้ว แล้วเดี๋ยวค่อยเจอกัน"

"ขอร้อง ...ให้คีณไปรับนะ"

ไม่รู้ว่าเสียงขอร้องของเขามันจะเบาไปรึเปล่าปลายสายจึงตอบกลับด้วยการวางสายไปซะดื้อ ๆ สมองของคนที่พลาดมันตื้อไปหมด ความรู้สึกโทษตัวเองตีคู่มาพร้อมความรู้สึกน้อยใจอีกฝ่าย เขาก็แค่อยากมีตัวตนในชีวิตกันและกัน ไม่เคยต้องการชื่อเสียงเงินทองที่คนรอบกายพยายามจะให้มาตั้งแต่เกิด นึกแล้วก็ขำที่ไม่ได้ยินดียินร้ายกับชื่อเสียงปลอม ๆ เลยซักนิด โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ใคร ๆ ก็ดังขึ้นมาได้ชั่วข้ามคืน แต่จะทำยังไงได้ที่คนสองคนในชีวิตดันแคร์เรื่องพวกนี้ซะยิ่งกว่าอะไร

คนที่หนึ่ง... พ่อ

คนที่สอง... เด็กคนนั้น คนที่เจอกันครั้งแรกเมื่อสามปีก่อน

.

.

.

"พวกเราพึ่ง ม.5 ทำไมต้องให้มาดูด้วยวะ"

"ก็พวกพี่ม.6 แม่งโดดเรียนกันหมด หวยก็มาตกที่เรา กูอุตส่าห์คิดว่าคาบนี้จะหนีไปนอนห้องสมุดแท้ ๆ "

บทสนทนาของนักเรียนชั้นม.ปลายข้างต้น บ่งบอกสถานการณ์ในหอประชุมตอนนี้ได้เป็นอย่างดี การที่เด็กม.5 ถูกต้อนมาเข้ารับฟังการแนะแนวจากรุ่นพี่มหาลัยมันไม่ใช่เรื่องบันเทิงที่พวกเขาจะต้องดีใจเลยซักนิด ใช่เรื่องที่จะต้องมาเครียดก่อนเวลาอันควรซะที่ไหน ส่วนคนที่เครียดเป็นพิเศษก็คงจะหนีไม่พ้นคนที่นั่งโดดเดี่ยวด้านหลังสุดของแถว

โดนเพื่อนในกลุ่มทรยศทิ้งไว้คนเดียว

...แถมจะโดดตามเพื่อนก็ไม่ได้ ไอ้ที่เคยขาดไปแทบจะหมดสิทธิ์สอบอยู่แล้ว

กิจกรรมในหอประชุมก็สุดแสนจะน่าเบื่อ ไม่มีความคุ้มค่าที่สละเวลาโดดเรียนมานั่งเลยซักนิด รุ่นพี่มหาลัยผลัดกันขึ้นแนะนำตัวรวมถึงเล่าประสบการณ์ชีวิตนักศึกษา ณนนไม่ได้สนใจอะไรนัก ก็พอจะรู้เรื่องคร่าว ๆ ว่าเป็นตัวแทนจากแต่ล่ะคณะมาแนะแนวอะไรทำนองนั้น มองไปบนเวทีอยู่หลายครั้งแต่ทุกครั้งก็ส่ายหัวแบบเบื่อ ๆ ยังไม่ได้เตรียมใจมาฟังเรื่องเครียด ๆ ที่ตัดสินชะตาชีวิตแบบนี้ซักหน่อย ไว้ม.5 เทอมสองค่อยคิดก็ยังทันไม่ใช่หรอ





เงยหน้านับไฟบนเพดานก็แล้ว

ก้มลงนับฝุ่นบนพื้นก็แล้ว

...เชี่ย ...อะไรจะเสียเวลาขนาดนี้วะ

"เฮ้ยน้อง จะนั่งตาลอยไปไหนวะ" เสียงที่ดังขึ้นข้างหูเรียกให้ณนนหันไปมองหน้าคนที่เข้ามาทักทาย คนที่โค้งตัวลงมามองตอนนี้มองยังไงมันก็คือคนเดียวกันกับคนดังในอินเตอร์เน็ต ไม่สิ คนนี้ที่เคยเห็นในทีวีตอนเด็ก ๆ ด้วย โครงหน้าชัด ๆ นี่เหมือนในรูปไม่มีผิด ไหนจะรอยยิ้มพิมพ์ใจที่เห็นฟันครบทุกซี่นั่น ...ไม่ผิดตัวแน่

"...เอ่อ" จังหวะที่ตาสองคู่บังเอิญประสานกันเป็นหนึ่งเดียว คนที่เด็กกว่าก็แอบเผลอมองลึกลงไปในนั้นอย่างไม่รู้ตัว

“เฮ้!”

“ค...ครับ!”

"น้องอ่ะ ทำไมนั่งตาลอยขนาดนั้น" เสียงถามซ้ำทำให้ณนนดึงตัวเองกลับมาที่สถานการณ์ตรงหน้า ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาผูกไทด์หลวม ๆ ทิ้งตัวลงนั่งที่ว่างข้าง ๆ แล้วยัดแผ่นพับมหาลัยที่ไม่คิดอยากจะได้ใส่ลงมาในมือ

"เปล่าครับ" คำตอบสั้น ๆ ตบท้ายด้วยการเหยียดยิ้มแบบไม่เปิดปากตามมารยาทมันทำให้คนที่เข้ามาทักทายเป็นฝ่ายตกลงไปในภวังค์บางอย่างบ้าง

"เราชื่อณนนใช่ป่ะ"

"ครับ? " เครื่องหมายคำถามหลุดออกมาโชว์ทางสีหน้าของคนถูกถาม มันต้องเป็นเขาไม่ใช่หรือที่จะต้องถามคนที่นั่งข้าง ๆ ว่าใช่...คีณ...คนดังรึเปล่า

"เอ่อ...คือพี่เคยเห็นเราในเว็บบอร์ด พวกกระทู้คนหล่อในโรงเรียนอะไรทำนองนั้น"

"...อ๋อ....บอร์ด...." ณนนมองคนข้าง ๆ ที่กำลังทำสีหน้ายากแบบงง ๆ ก็แปลกดีที่จู่ ๆ มีคนดังจำเขาได้ซะงั้น …กับกระทู้ในเว็บที่มีคนดูไม่ถึงหมื่นเนี่ยนะ

"คือพี่จะมาโรงเรียนนี้ก็เลยหาข้อมูลมา ...อืม ...ใช่"

"อ๋อ ครับ"

“...จริง ๆ ก็ถามเอาจากครูที่นั่งอยู่ข้างหน้าเมื่อกี้เอง แหะ ๆ” คีณยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเองแก้เก้อ แต่มันก็เก้อจริง ๆ นั่นแหละเพราะไอ้เด็กมัธยมหน้าใสข้าง ๆ ได้แต่ทำตาปริบ ๆ ไม่ได้สนใจและไม่คิดจะทำความเข้าใจกับอาการลนลานของเขาเลยซักนิด

“ครับ” …ช่วยหันมาสนใจกันหน่อยเหอะ

“คงรู้จักพี่เนอะ แนะนำตัวอีกทีล่ะกัน พี่ชื่อคีณอยู่นิเทศปีหนึ่ง”

“ครับ” ...ช่วยมีอารมณ์ร่วมกับการแนะนำตัวซักหน่อยได้มั้ยล่ะ

"โอยยยย นี่พูดครับได้อย่างเดียวหรอ... ถ้าอยากรู้อะไร ถามพี่ได้ ถามเลย ๆ โอเคเปล่า"

"ไม่มีอะไรจะถามนี่ครับ"

"พี่พูดจริงนะ ถามอะไรก็ได้ที่เราอยากรู้อ่ะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก"

"มานั่งทำอะไรตรงนี้....ครับ" คำตอบตรง ๆ ที่เกือบจะลืมคำว่าครับของณนนเรียกรอยยิ้มบาง ๆ บนหน้าของอีกฝ่าย อย่างน้อยมันก็ดีกว่าคำว่าครับ ครับ ครับ ก็แล้วกันว่ะ

"....นั่นไง โดนเล่นแล้วไง" คีณเกาหัวตัวเองมุ่ยหน้าเล็ก ๆ เหล่ตามองสีหน้าของคนข้าง ๆ ที่ดูเรียบเฉยจนเดาอะไรไม่ได้เลย …นี่คนดังทั้งคนมานั่งข้าง ๆ ไม่คิดจะตื่นเต้นหน่อยเลยรึไงว่ะ ...นี่คีณนะเว้ย คนเขารู้จักกันตั้งแต่เกิด สาว ๆ กรี๊ดกันตั้งแต่หน้าประตูโรงเรียน ปั๊ดโธ่!

"ก็ผมเห็นเพื่อนพี่เขาอยู่ข้างหน้ากัน"

"ก็ไม่มีอะไร เห็นเราแล้วก็อยากมาคุยด้วย เห็นนั่งคนเดียว"ณนนมองไปรอบตัวแล้วก็พบว่าโคตรจริง ตำแหน่งที่นั่งของเขามันช่างโดดเดี่ยวอะไรขนาดนี้

"ขอบคุณครับ แต่ผมว่าผมนั่งคนเดียวจะดี..."

“อยู่คนเดียวมันไม่ดีหรอก ...มันเหงา” คีณปรบมือตามจังหวะของกิจกรรมด้านหน้า พาลเอาคนที่นั่งเซ็ง ๆ ต้องขยับมือตามไปด้วย ตอนนี้ความเคร่งเครียดได้จบลงแล้ว เหล่านักเรียนได้รับอนุญาตให้แบ่งกลุ่มไปศึกษาตามคณะที่สนใจ ...หรือเท่าที่เห็นบางคนก็เข้าไปหารุ่นพี่ที่ถูกใจแทนซะงั้น

“นี่ผมถามจริง ...พี่ว่างหรอ” เป็นครั้งแรกในรอบชั่วโมงที่ณนนสนใจกลุ่มนักศึกษาที่พยายามเอนเตอร์เทนอยู่ด้านหน้าบูธคณะของตัวเอง ไหนจะพวกที่เข้าไปแนะนำรายคนให้รุ่นน้องอีก ไม่เห็นจะมีใครว่างมาทำตัวไร้สาระซักคน

“ก็ไม่ว่างนะ กำลังให้คำปรึกษาเราอยู่ไง”

“.................”

“เฮ้ย อย่าเงียบใส่สิ”

“ผมไม่ได้อยากจะปรึกษาอะไรเลยนะ ...ทำไมพี่ไม่ไปฝั่งนู้น” ณนนชี้นิ้วไปยังกลุ่มนั่งเรียนหญิงหน้าบูธคณะนิเทศที่ยืนกลั้นเสียงกรี๊ดจ้องมายังคีณแทบจะทุกอนูรูขุมขน

“ไม่อ่ะ อยากคุยกับณนน เออ...ชื่อเราเรียกยากว่ะ พี่เรียกนนได้ป่ะ”

“เรื่องของพี่เถอะครับ” ณนนดันตัวเองลุกขึ้นมองซ้ายขวาราวกับจะหาทางหนีทีไล่ แต่สีหน้าเข้ม ๆ ของครูที่ยืนเป็นยักษ์วัดแจ้งเฝ้าทางออกก็ทำเอาชะงักไปเหมือนกัน... อดทนไว้... เหลือเวลาอีกสามนาทีจะหมดคาบ อีกนิดเดียวจะได้เป็นอิสระแล้ว

“แล้วเราอยากเรียนอะไร คิดไว้ยัง"

“..................” อีกสองนาที

“เงียบ แปลว่ายังไม่คิด”

“..................” อีกหนึ่งนาที

“มอห้าแล้วต้องเริ่มคิดแล้วนะ”

“ผมว่าพี่ไม่ต้องย....” สิบวิ....





"มีแฟนยัง"

แปบนะ... เมื่อกี้เสียงอะไรดังเข้าหูไอ้นน

หมดกัน... เวลาแม่งหยุดไปหมดเลย

"เอ๋? " คำถามที่แทรกเข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเรียกความมึนงงขั้นสุดให้กับคนถูกถาม ไหนจะท่าทางลุกลี้ลุกลนบวกกับสายตาลอกแลกของเจ้าของคำถามที่ครั้งนี้เห็นเต็มตาอีก

“เดี๋ยวพี่จะกลับแล้ว ถ่ายรูปกัน” คีณอาศัยจังหวะที่ณนนกำลังจะทำความเข้าใจรายละเอียดของสถานการณ์ตรงหน้า คว้าข้อมือออกแรงเพียงเล็กน้อยดึงร่างโปร่งบางเข้ามาใกล้ ก่อนที่มืออีกข้างจะยกขึ้นกดเซลฟี่โดยไม่ถามความสมัครใจ





เชี่ย.... แม่งเร็วไปหมด จังหวะถ่ายรูปเมื่อกี้แม่งไม่ถึงสามวินาทีด้วยซ้ำ

"รบกวนน้องนนส่งรูปให้ด้วยนะ" เสียงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูในช่วงเวลานี้มันดังกว่าเสียงรอบข้างเป็นล้านเท่า ตัวการยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อนักเรียน แล้ววิ่งปรู้ดออกไปรวมกลุ่มกับเพื่อนราวกับเมื่อครู่ไม่ได้พูดอะไรแปลกประหลาดทิ้งท้ายไว้ทั้งนั้น ณนนก้มมองโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าแล้วพยายามเก็บคำสบถต่าง ๆ นานาไว้เพียงในใจ

อะไรของมึงว่ะไอ้พี่คีณ

พูดเชี่ยไรไม่เคลียร์ซักอย่าง

แล้วไอ้โทรศัพท์ในกระเป๋ากูนี่ก็ของมึงไม่ใช่หรอ

“บ้าเอ๊ย!! …..เฮ้ยพี่!! พี่ครับ!!”

.

.

.

ตลกดี

คิดถึงเรื่องเก่า ๆ แล้วก็นั่งยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า ไม่รู้ว่าทำไมการอยู่คนเดียวมันถึงทำให้ฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้ พูดถึงเรื่องวันนั้นก็ยังคงอายไม่หาย ก็แค่คิดว่ามุกแจกเบอร์มันเก่าไปก็เลยแจกมือถือมันทั้งเครื่อง ...เอ้า! เชื่อสิ ไม่ได้เบลอความน่ารักจนทำอะไรพลาดไปทั้งนั้นแหละ แต่เอาเถอะยังไงซะผลลัพธ์มันก็คุ้ม อย่างน้อย ๆ วันนั้นก็โดนรุ่นน้องหัวดื้อฟิวส์ขาดด่ายกชุดไปเหมือนกัน





แต่แลกกับการได้คุยกันยาวขึ้นมันก็โอ

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงโทรศัพท์แจ้งปลุกเวลาเจ็ดโมงตรง เวลาที่ควรจะตื่นอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนตามปกติ ...แต่สงสัยวันนี้จะพิเศษหน่อยเพราะคีณอาบน้ำแต่งตัวเสร็จตั้งแต่ก่อนหกโมงเช้า จะว่าตื่นเช้ามันก็ไม่ถูกเพราะต่อให้หัวถึงหมอนตาเจ้ากรรมมันก็หลับไม่ลงซักที จะนับแกะจนหมดฝูงก็ไม่มีทางหลับลงได้ทั้งนั้น นั่นล่ะ... ก็เป็นอันเข้าใจกันได้ว่ายังไม่ได้นอน และเช้านี้มันก็มีอะไรให้ทำ...

รถคันหรูจอดเทียบอยู่ข้างตึกหอพักรวมใกล้ ๆ มหาลัย เจ้าของรถมองซ้ายขวาหาความเป็นไปได้ที่จะได้เจอใครคนนั้นที่ทำให้คิดไม่ตกทั้งคืน ....หยุดเลย คุณหยุดคิดไปเลยว่าไอ้อาการหลบอยู่หลังเสาของคีณตอนนี้มันเรียกว่าปอดแหก ขอให้เรียกว่าการปลอดภัยไว้ก่อน ถ้าเกิดสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปแล้วณนนหลบหน้าหนักเข้าไปอีกจะทำยังไง ดีไม่ดีจะโกรธเลเวลสิบกับการกระทำอุกอาจนี่อีก

ชีวิต ...โคตรลำบาก

.

.

.

“เหมือนกูลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องว่ะนน มึงออกไปก่อนเลย เดี๋ยวกูขึ้นไปเอา” เทมเผยสีหน้าเซ็ง ๆ เมื่อค้นกระเป๋าสะพายในมือตัวเองแล้วไม่เจอของสำคัญที่เปรียบเสมือนปัจจัยที่ห้า เพื่อนข้างกายที่มาขออาศัยนอนด้วยเมื่อคืนพยักหน้ารับ ก่อนจะพาร่างอันห่อเหี่ยวออกมาจากลิฟท์แต่เพียงคนเดียว เทมมองตามหลังเพื่อนที่เดินออกไปแล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจทิ้ง มาขอนอนด้วยเพราะอะไรก็ไม่บอกซักคำ แถมทำตัวเงียบเป็นเป่าสากทั้งคืน

นี่ถ้าไม่รู้จักเพื่อนคนนี้ดี คงคิดว่ามันอกหักรักคุดมาแน่ ๆ

ร่างโปร่งยืนรอเพื่อนที่มุมนึงของทางออก ดวงตาที่ออกจะช้ำ ๆ มองโทรศัพท์ตัวเองในมือด้วยใจที่มันหวิว ๆ เหลือเกิน ถึงตอนนี้แล้วโคตรจะรู้สึกผิดที่หนีออกมาแบบนั้น พึ่งจะรู้ตัวว่าการงอนแล้วหนีมามันงี่เง่าเหมือนนางเอกละครช่องเจ็ดแบบสุด ๆ แต่จะให้ทำยังไงล่ะเพราะถ้ากลับตั้งแต่ตอนที่คิดได้ก็คงโดนเพื่อนที่อุตส่าห์เป็นห่วงเฉ่งกระบาลเอาแน่ ๆ แค่นี้ก็คงจะถูกซักมากพออยู่แล้ว

‘Good Morning’

ข้อความเล็ก ๆ ที่เด้งเตือนมาจากแอปสีเขียวเรียกรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของณนนได้อยู่เหมือนกัน เจ้าตัวกดอ่านและกำลังจะพิมพ์ตอบกลับอย่างไม่ต้องคิดอะไรมากนัก แต่ก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะได้กดส่งไปให้อีกฝ่าย หางตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปเห็นคนประหลาดที่ลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หลังเสาไม่ไกลจากที่เขายืนนัก

อันนี้ดูละครมากไปหรือโง่

ตัวเท่าควายยืนหลบอยู่หลังเสา

‘มาทำไม’

คนอ่านข้อความสะดุ้งตัวเบา ๆ ก่อนจะยื่นตัวออกไปให้ใครอีกคนได้เห็นเต็ม ๆ ตา …สภาพไม่ต่างกัน... คือเดียวที่สามารถพูดพร้อมกันได้ตอนนี้ คีณโบกมือเบา ๆ เพราะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์ไหนแน่ ...ให้ตายเถอะ นี่มันครั้งแรกเลยที่ทะเลาะกันแล้วต้องมาง้อกันข้างนอกแบบนี้ ตาไอ้คีณคนนี้แทบจะกรอกไปมาครบสามร้อยหกสิบองศาอยู่แล้ว ก็ยังดีที่เวลาช่างเหมาะเจาะไม่มีคนเดินผ่านไปมา ...ขอเวลาง้อแฟนซักสองนาทีก็แล้วกัน

“เอ่อ…..”

“ไปมึง! กูแม่งโคตรเบลอ อยู่ในกระเป๋ากางเกงนี่เอง”

หมับ!! ณนนถึงกับสะดุ้งพรวดเมื่อมีมือดีสัมผัสเข้าที่ไหล่ขวา เทมกลายเป็นคนทำลายเวลาสองนาทีของเพื่อนและรุ่นพี่แปลกหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ ด้านคนที่กำลังจะเข้ามาทักทายแฟนตัวเองเมื่อครู่ก็ต้องวิ่งปรู้ดถลาเข้าลิฟท์ราวกับหนีภัยธรรมชาติ แถมในจังหวะนั้นลิฟท์เฮงซวยก็ดันกำลังจะปิด เกือบมีข่าวหน้าหนึ่งลูกดาราโดนลิฟท์หนีบตายคาที่อยู่แล้วเชียว

เชี่ย... จังหวะเมื่อกี้แม่งเร็วจนหอบเลยว่ะ

ขอร้องล่ะ ...ลืม ๆ ฉากอนาถของไอ้คีณเมื่อกี้ไปซะ

“งั้นก็ไปกันเหอะ เดี๋ยวสายไอ้เฟย์บ่น”

“เออ ...แต่เมื่อกี้มึงเห็นอะไรป่ะ กูเห็นเหมือนพี่คีณแวบ ๆ” เทมพยายามคิดเพราะแปลกใจ เมื่อครู่เหมือนจะเห็นอะไรผ่านตาไปในเสี้ยววินาที เท่าที่รู้พี่คีณไม่มีทางมาอยู่หอเดียวกับเขาได้แน่ ๆ แต่ไอ้ที่ปลายตาเขาดันไปเห็นเมื่อกี้มันคลับคล้ายคลับคลาเหลือเกินว่าจะใช่ แต่ก็ช่างเหอะมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขานี่หว่า

“ตามึงฝาด” ณนนไม่ได้ยืนรอให้เพื่อนตั้งข้อสังเกตอะไรมากไปกว่านี้ เทมมองเพื่อนที่เดินนำออกไปก่อนจะหันหัวมองไปรอบตัวอีกครั้ง เกือบลืมไปซะสนิทว่าเพื่อนคนนี้มีประเด็นอะไรอยู่ และแน่นอนว่าคราวนี้มันกำลังจะกลายเป็นธุระของเขาอย่างแท้จริง...



‘ด่วนว่ะ กูเจอพี่คีณหน้าหอ’

ขอแสดงความยินดีด้วย ...ที่แชทกลุ่มกำลังจะครึกครื้นแต่เช้า...




หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 4 การจัดการขั้นเด็ดขาด 25/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 26-03-2018 21:23:34
ตอนที่ 8 เมื่อความลับยากที่จะปิด



FayFIN : ‘พวกมึงสิบนาฬิกา เห็นป่ะ’

OverTemp : ‘จริงด้วยว่ะ กูว่าทะแม่ง ๆ ละ’

Neenla : ‘พวกมึงมันจิตอกุศล เขามากับเพื่อนมึงก็เห็น’

“พวกมึงเป็นอะไรกันวะ”

วงแตก…

สองสาวหนึ่งหนุ่มเงยหน้าออกมาจากโทรศัพท์แทบจะทันทีที่หนึ่งในหัวข้อสนทนาเอ่ยทักเพราะสังเกตเห็นอาการยุกยิก ๆ บนใบหน้าเพื่อนมาได้ซักพัก โดยเฉพาะเฟย์ที่บุ้ยปากยู่หน้าไปมาเหมือนกำลังคันอะไรซักอย่าง ...จริง ๆ ก็คันปากนั่นแหละ อยากจะถามให้มันรู้แล้วรู้รอดว่าเรื่องเมื่อคืนที่เทมเล่าให้ฟังกับรุ่นพี่หน้าหล่อที่นั่งหลบมุมอยู่ตรงม้าหินอ่อนหน้าคณะมีอะไรเกี่ยวข้องกันรึเปล่า

“เปล่านี่หว่า” เทมออกตัวคนแรก ยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงไม่ให้มีพิรุธ แต่สายตาก็ยังเหลือบมองคนที่นั่งห่างไปไม่ไกลอยู่เนือง ๆ ถ้าจะให้เดาณนนก็คงยังไม่เห็นคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเพราะเอาแต่หันหน้าไปอีกทาง

“พวกมึงเอาแต่ก้มหน้าแชทตั้งแต่เช้าแล้วนะเว้ย”

“กูคุยกับม้า อากงกูเข้าโรงบาล!” นีลขอโทษนะอากง ...นีลคิดอะไรไม่ออกแล้วจริง ๆ

“เพื่อนกูสมัยมัธยมมันมาปรึกษาเรื่องแฟน กูก็เลยต้องคุย...ว...เว้ย”

"เออ!! พวกมึง!! วันนี้ไปกินข้าวไหนดีวะ กูเบื่อร้านป้าโรงอาหารคณะเราฉิบหาย" ณ จุดนี้เฟย์คิดอะไรไม่ออกแล้วจริง ๆ ตัดบทเปลี่ยนเรื่องไปเลยก็แล้วกัน ....เก๊าขอโต้ดดดนะนน ก็เล่นไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังเองนี่นา

"ถ้าพวกมึงจะออกไปข้างนอก ...กูไม่ไปนะ" คำตอบเย็นชาน้ำแข็งร้อยก้อนของณนนทำเอาคนถามอย่างเฟย์หันหน้ามองเพื่อนอีกสองคนอย่างหาตัวช่วย นีลส่งสายตาปริบ ๆ ที่ไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้เพราะเธอก็เจออาการเหวี่ยงรอบด้านและรังสีอำมหิตของณนนมาตั้งแต่เช้าแล้วเหมือนกัน ส่วนอีกคนในกลุ่มอย่างเทมก็ยังคงมองผู้มาเยือนที่ม้าหินอ่อนไม่วางตา ...มันต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาแน่ ๆ

...ก็แน่ล่ะ เมื่อวานรุ่นพี่คนนี้มาหาณนนถึงที่แถมยังจำของทุกชิ้นได้ราวกับเป็นของตัวเอง ตกดึกไอ้เพื่อนหน้าหล่อนี่หอบกระเป๋าไปขอนอนด้วยโดยไม่มีเหตุผล แถมตบท้ายค่ำคืนด้วยสายจากใครซักคนที่ทำให้ซึมหนักไปทั้งคืน แถมเช้าวันนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เห็นหน้าพี่คีณที่หอตัวเอง

"เห้ย มึงไม่ไป พวกกูจะไปได้ไงวะ"

"อ...เออ ใช่ ๆ " เฟย์เสริมนีลอย่างไม่มีทางเลือกนัก ได้แต่ห่วงอาการแปลกประหลาดของเพื่อนอยู่ในใจ

"เออ มึงมีเพื่อน ไม่ใช่ไม่มี อย่าคิดว่าอยู่คนเดียว" ณนนมองหน้าเทมนิ่งแล้วเม้มปากเป็นเส้นตรง ทำไมถึงจะไม่เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายกำลังจะสื่อ จะว่าไปเขาก็ผิดอยู่ไม่น้อยที่ไปขอความช่วยเหลือโดยไม่ยอมปริปากเล่าอะไรให้ฟังเลยซักคำ

"...กูรู้ ขอบคุณว่ะ" คนพูดก้มหน้านิ่งจนกระทั่งท่อนแขนอีกคนพาดลงบ่า ความรู้สึกตื้อ ๆ ตั้งแต่เมื่อคืนมันเลยลดลงไปได้บ้าง ความรู้สึกตอนนี้มันไม่ได้โกรธคีณเลยซักนิด แต่มันเป็นความรู้สึกผิด จนไม่กล้าที่จะเจอหน้าเขาในเวลาที่ใจมันไม่ปกติ …ที่เจอเมื่อเช้าใจมันก็สั่นจะแย่อยู่แล้ว

ผิด ...รู้สึกว่าเป็นตัวเองที่ผิด

"ขอบคุณอะไรวะ พวกกูแค่อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนเอง"

สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงที่โรงอาหารเล็ก ๆ ของคณะวิทย์ บรรยากาศเซ็งแซ่ไม่ได้ทำให้คนคิดมากเจริญอาหารขึ้นมาเลยซักนิด แถมมีโอกาสที่ข้าวมันไก่ในจานจะถูกซื้อมาจิ้มเล่นแล้วทิ้งไปอีกต่างหาก เพื่อนอีกสามก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วทำตัวเป็นปกติเผื่อณนนจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง แต่บอกเลยว่าทุกคนคิดผิด เพราะบรรยากาศที่พยายามให้เป็นปกติกันอยู่นั้น มันกำลังจะไม่ปกติอีกต่อไปแล้ว

"นน เราซื้อขนมหม้อแกงเพชรบุรีมาฝากจากรังสิต" ไอ้วิศวะหัวเกรียนที่ยืนหิ้วถุงขนมไม่ดูตาม้าตาเรือตอนนี้นี่เรียกสายตามองบนจากเทม เฟย์ และนีลได้ระดับแรงสุด นี่ขนาดเมื่อวานโดนปฏิเสธหนักขนาดนั้นก็ยัง (หน้าด้าน) สู้ไม่ถอย นี่ไม่ได้มองหน้าคนที่โดนตื้อหน่อยหรอว่าเขายินดียินร้ายอะไรด้วยมั้ย

"นี่ เราว่านายกลับไปเหอะ วันนี้ไอ้นนมันอารมณ์ไม่ดี"

"อ้าว นนเป็นไรอ่ะ กินขนมเรามั้ย ช่วยได้นะ" นอกจากซีซั่นจะไม่ฟังสิ่งที่เทมพยายามใจเย็นพูดแล้ว ยังถือวิสาสะแหวกทางดันเทมที่นั่งข้างณนนออกห่างแล้วแทรกลงไปตรงกลางอย่างหน้าไม่อายซะแบบนั้น

ไอ้เวรซีซั่น มึงไม่ผลักกูให้ตกเก้าอี้ไปเลยล่ะ

แล้วก็เอาหม้อแกงรังสิตหัวพ่องออกไปด้วยโว้ย!

"ไม่เป็นไร" เสียงตอบเรียบ ๆ พร้อมกับหน้านิ่ง ๆ ที่หันมองไปอีกทางนั่นเหมือนจะยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ว่าเริ่มเกิดอาการรำคาญ ไอ้ตัวการถึงได้ทำการเปิดกล่องขนมแกะห่อ เอาช้อนจ้วงพร้อมยื่นไปจ่อตรงปากณนนโดยไม่สนใจสายตาจิกระดับแปดจากอีกสามคนที่นั่งอยู่

"นาย เราว่านายทำแบบนี่ไม่เหมาะป่ะ คนเยอะแยะ ไม่อายหรอ" เฟย์พยายามพูดอย่างใจเย็น ซีซั่นหันไปมองรอบตัวตามที่ได้ยินก่อนจะเหยียดยิ้มกว้าง

"ก็เราจีบนนอยู่ เราไม่ทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ หรอก ...เรื่องความสัมพันธ์มันไม่ควรมาหลบ ๆ ซ่อน ๆ รู้ป่าว" คนพูดไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำให้ณนนมีสีหน้าที่ตึงเครียดขึ้นไปกว่าเดิม แววตาเหม่อ ๆ เมื่อครู่มองต่ำลงก่อนจะทิ้งช้อนส้อมแล้วกุมสองมือตัวเองนิ่ง ๆ

"ดูแค่นี้รู้ว่านนมันไม่ชอบ ทำไมหน้าด้านว่ะ" เฟย์ที่ตะครุบปากนีลไว้ไม่ทันก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ใส่ซีซั่น แต่ประโยคสบถข้างต้นนี่มันก็ไม่ได้ทำให้คนฟังลดความกล้าลงเลยซักนิด

"ไม่มีใครทำอะไรสำเร็จโดยไม่พยายามหรอก" แต่ดูเหมือนครั้งนี้วิศวะชะตาขาดจะพยายามมากไป ถึงได้กล้าอาจหาญยกมือขึ้นแตะหัวณนนแล้วขยี้ไปมาเบา ๆ เจ้าตัวเอาแต่นั่งจมในเรื่องของตัวเองรู้ตัวอีกทีก็ต้องเอียงตัวหลบไปอีกทางแต่ก็ยังไม่ทันที่หัวจะพ้นมืออีกฝ่ายก็เกิดสัญญาณบางอย่างที่ทำให้ทุกสิ่งบริเวณนี้ชะงักไปซะก่อน

เพล้ง!!!!!

เสียงจานกระเบื้องกระทบพื้นทำให้ทุกสายตาจดจ้องไปยังมุมหนึ่งของโรงอาหาร ซึ่งอยู่ห่างไปจากตำแหน่งที่ณนนนั่งอยู่พอสมควร เจ้าของจานกำลังขบกรามแน่นมองมายังโต๊ะของณนนยังตั้งใจ ...แต่มันเป็นสายตาว่าง ๆ ไม่มีความหมายใดและเกินกว่าที่ผู้คนจะอ่านออก เพราะฉะนั้นเหตุการณ์จากนี้ก็จะอยู่ในขอบเขตของการคาดเดาจากบุคคลรอบข้างเพียงเท่านั้น

"ปล่อยเพื่อนกูเลยมึง" เทมที่ตั้งสติได้ก่อนใครก็ดึงมือกาวที่แปะบนหัวเพื่อนออกแล้วมองเหตุการณ์อย่างกังวล มั่นใจแล้วว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ที่คีณเบอร์หนึ่งนิเทศจะหอบเพื่อนอีกสองมากินข้าวคณะวิทย์ที่ห่างคณะตัวเองไปอีกสี่ช่วงถนน ...และถ้าจะให้เดา มันก็ไม่น่าบังเอิญที่คนเราจะเผลอปัดจานตัวเองตกทั้ง ๆ ที่กำลังกินอยู่

แค่นี้มันก็ชัดเจนมากแล้วล่ะ

"พี่คีณ อีกแล้วหรอวะ ...ไม่นะ" นีลพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นใครบางคนเดินอาด ๆ เข้ามาโดยมีเพื่อนทั้งรั้งทั้งตามอย่างไม่เข้าใจ สายตาของทุกคนสะกดนิ่งกับเหตุการณ์ตรงหน้า โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนของทั้งคีณและอีกคนที่กำลังหันหน้าหนีไปอีกทาง

"เชี่ยคีณ อะไรของมึงเนี่ย" เฟรนพยายามรั้งแขนเพื่อนที่จู่ ๆ ก็ปัดจานข้าวทิ้งแล้วเดินดุ่ม ๆ มาเหมือนคนไม่มีสติ ดีไม่ดีถ้าห้ามไม่ฟังก็จะคิดว่าผีเข้า ชวนมากินข้าวคณะวิทย์ว่าแปลกแล้วแต่ท่าทางเหมือนคนโมโหนี่ยิ่งแปลกกว่า

"นน...." เสียงของคนที่พึ่งมาถึงมันเป็นเสียงที่อ่อนโยนจนเพื่อนทั้งสองต้องหันไปเลิกคิ้วงง ๆ ใส่กัน คำพูดคำเดียวนั่นก็ทำให้คนฟังรู้สึกอ่อนยวบได้ง่าย ๆ ณนนตัดสินใจลุกและเดินผ่านคีณออกไปโดยไม่คิดแม้แต่จะเงยหน้ามอง ...ถ้ามองตอนนี้มีหวังต้องได้ร้องไห้เป็นเด็กแน่ ๆ

"นน!! " ส่วนเสียงหลังเป็นของเจ้าของหม้อแกงที่อิมพอร์ตมาจากเพชรบุรี นอกจากจะรั้งร่างโปร่งของคนที่กำลังเดินออกไปไม่ได้แล้ว ยังทำให้รั้งร่างตัวเองยืนอยู่กับพื้นไม่อยู่ด้วย

"............"ตุบ!!! คีณกระแทกไหล่แรงใส่คนที่กำลังจะลังจะเดินตามณนนออกไป ปิดท้ายด้วยการกวาดเอาของฝากที่อุตส่าห์ถือมาให้ล่วงลงไปกับพื้นโดยไม่พูดไม่เจรจาใด ๆ ซักคำ เฟรนกับดอมได้แต่มองเหตุการณ์เพราะไม่รู้หัวเรื่องที่จะนำมาห้ามปรามเพื่อนได้เลย ส่วนอีกสามคนบนโต๊ะก็กำลังเก็บข้อมูลด้วยสายตาอย่างตั้งใจ

“นน นน!!”

ณนนที่ตัดสินใจลุกออกมาสับขาให้เร็วขึ้น ยังไม่อยากเจอตอนนี้ ใครจะหาว่างี่เง่าก็ช่างเถอะ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะต้องปั้นหน้าทำเป็นไม่รู้จักใส่กันทั้ง ๆ ที่ใจมันยากจะร้องไห้เข้ากระโดดกอดเขาแทบตาย

เดี๋ยว ...มันเป็นเราเองไม่ใช่หรอที่บอกว่ามันยังไม่ถึงเวลา แล้วตอนนี้ใจมันจะมาเรียกร้องอะไรวะ

คิดได้แบบนั้นสองขามันก็หยุดเดินขึ้นมาซะดื้อ ๆ จังหวะเดียวกันนั้นฝ่ามืออุ่น ๆ ก็สวมทับเข้าที่หลังมือก่อนจะสอดประสานมือเย็บเฉียบของเขาแน่น ไม่สนอีกแล้ว จะไม่สนอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าจะสายตาหรือเสียงนินทาที่กำลังอื้ออึงไปในสารพัดรูปแบบ สิ่งเดียวที่คีณสนก็คือคนตรงหน้าตอนนี้

แต่เชื่อเถอะ ...เพจคิ้วท์บอยต้องแตกแน่ ๆ

"ยังไงก็ได้ ...แบบไหนก็ได้ที่นนต้องการ แบบไหนที่นนมีความสุข คีณก็จะเป็นแบบนั้น ...ขอร้องนะ อย่าหนีกันไปแบบนี้" น้ำเสียงอบอุ่นที่แฝงความน้อยใจจากด้านหลังก็ยังไม่ทำให้ณนนหันกลับไปมองได้ สุดท้ายมือหนาที่เกาะกุมอยู่ฝ่ายเดียวก็ปล่อยมือออกช้า ๆ พร้อมความรู้สึกชาเล็ก ๆ ที่ปลายหัวใจ

"จริง ๆ ก็แค่ไม่อยากทะเลาะกัน ...เสียใจว่ะที่มันเป็นแบบนี้"

"ก็มาง้อแล้วไง ไม่โกรธกันแล้วไม่ใช่หรอ"

"ไม่ได้โกรธ แค่เสียใจ แค่รู้สึกผิด..."

"เรารู้สึกเหมือนกัน ...ทำไมไม่หันหน้ามาคุยกันวะนน"

"งั้นต่อไปนี้...ถ...ถ้ามีคนถาม..."

"คีณจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว ...ขอโทษ อย่าเป็นแบบนี้เลยนะ" เสียงที่อ่อนลงของคนข้างหลังทำให้อดไม่ได้ที่จะหันหลับมามอง แววตาละห้อยนั่นมันช่างขัดกับบุคลิคของร่างสูงจนแทบจะหลุดยิ้ม

“มันคงเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก”

“..........................”

"นนว่านนผิดเองว่ะ ...ขอเวลาอีกแปบ แล้วนนจะพูดเอง ถ้าใครถามตรง ๆ เมื่อไหร่ ...เราสองคนก็จะบอกเขาตรง ๆ โอเคป่ะ" จบประโยครอยยิ้มกว้างก็ผุดขึ้นมาบนหน้าคนฟัง ไม่ได้คิดว่าจะได้มาฟังประโยคที่มันดีกับใจในตอนนี้

“งั้นเริ่มจากไอ้ดอมไอ้เฟรนได้ใช่มั้ย”

“ถ้าเริ่มจากเพื่อนเราก็คงไม่เร็วไปแล้วมั้ง” ร่างสูงพยักหน้าเล็ก ๆ โยกหัวไปมาด้วยความดีใจเหมือนคนบ้า ส่วนคนพูดก็เดินออกไปด้วยอารมณ์ที่ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก อย่างน้อยวันต่อ ๆ ไปก็ไม่ต้องมีเรื่องอะไรปิดบังเพื่อนตัวเองอีกต่อไปแล้ว

ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นเปิดตัวที่ดี

มั้ง


หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 4 การจัดการขั้นเด็ดขาด 25/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 26-03-2018 21:27:14
ตอนที่ 9 คำถามที่ต้องการคำตอบ




เหตุการณ์เมื่อช่วงเที่ยงถูกบันทึกไว้ทั้งทางสายตาและด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เท่าที่ยุคนี้จะมีได้ เชื่อว่าอีกไม่เกินสองจุดห้านาทีทั้งภาพทั้งคลิปน่าจะผุดขึ้นเต็มโซเชี่ยล แต่ก็คงโชคดีอยู่อย่างที่คนแอบมุงมันเยอะขนาดนี้ เยอะจนขนาดที่ว่าไม่มีใครได้ยินเสียงใดและนำไปจับใจความได้เลย ...ก็ช่วยไม่ได้ใครใช้ให้แอบเม้าท์จนเสียงมันดังกระหึ่มขนาดนั้นล่ะ

เป็นคนดังว่าลำบากแล้ว

จริง ๆ เป็นคนเสือกน่าจะลำบากกว่า...

SL Cute Boy

1 ชั่วโมงที่แล้ว

กรี๊ดดดดดดด อะไรกันคะ ข่าวล่ามาไว มาแรงมากในต้นชั่วโมงนี้ เขาว่าคีณนิเทศไปตามจีบณนนถึงคณะ แถมรถไฟชนโบ้มกับซีซั่นขวัญใจชาวเพจที่ออกตัวจีบไปก่อนหน้า แต่ก็มีอีกกระแสว่าเป็นแค่แผนโปรโมทนิทรรศการนิเทศประจำปีของคีณที่ณนนไปถ่ายงานให้ แต่งานนี้ถึงความจริงจะเป็นยังไง สาววายเยี่ยงแอดมินก็เซฟรูปจับมือมานอนฟินรัว ๆ คร่าาาาาา





Kittyza Ebaa500 : จับมือประสานแบบนี้ เขาถือว่าได้เสียกันแล้ว

ชาติชาย สมชาตรี : =พวกมึงโดนหลอก นี่มันแผนโปรโมทงาน

แอนนา ป้าแอนนี่ : เปลี่ยนใจแป๊บนะ ขอโทษนะซีซั่น

สาววายซ่า เทพซ่าลูซิเฟอร์ : #ทีมซีซั่น #ทีมมาก่อน

ศักดินา ย่าส่งมาเรียน : สร้างกระแสว่ะ ทำยังไงก็ไม่ดังแล้วสินะไอ้คีณเนี่ย

Chanathip tunnatat : เราเห็นซีซั่นโดนคีณผลักด้วย แม่งกร่าง นิสัยไม่ดี

ฉันทนา วาซาบิ : เหตุการณ์จริงเขาไม่ได้จับมือค่ะ เขาจะตีกัน นนจะหนี คีณเลยคว้ามือไว้เฉย ๆ

แอนนี่ ย่าแอนนา : เห็นคีณที่คณะวิทย์ตั้งแต่สาย ๆ ว่าละแปลก ๆ มาเฝ้าณนนนี่เอง

น้องหนูนา ขยันปลูกพืช : เขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คงเป็นไวรัลอะไรซักอย่างแน่

Inwza ROV : ไอ้นนอะไรนี่ดูท่าทางอยากดังว่ะ คหสต.

"คนพวกนี้แม่งทำเหมือนรู้ดีฉิบหาย"

“ทำไมวะ”

“มึงดูดิ พูดจาเหมือนมาอยู่ในเหตุการณ์แล้วเสือกลงท้ายว่า คหสต. ...ความเห็นส้นตีนอ่ะดิ”

"อ้าว แล้วมึงรู้หรอนีล"

"เออ... ไม่รู้ว่ะ" เสียงหัวเราะในลำคอเพื่อนสาวสองคนดังพอให้ณนนเหลือบตามองเบา ๆ ก็รู้สึกผิดอยู่หรอก ที่ผ่านมานานหลายชั่วโมงขนาดนี้ยังไม่ปริปากบอกเพื่อนซักคำ ก็รู้ว่าพากันมาเปิดปาร์ตี้น้ำโค้กขนมถุงที่ห้องเทมเพื่อหวังผล ...แต่มันก็มีใครถามอะไรขึ้นมานี่นา

"หึ พวกมึงก็จินตนาการไม่แพ้คนพวกนั้นหรอกน่า" เทมว่าก่อนจะคว้าขนมเข้าปากมองหน้าเพื่อนที่นั่งนิ่งฟังคนอื่นพูดเรื่องตัวเองมาร่วมชั่วโมง

"หรือมึงไม่คิด มึงตัวดีเลยไอ้เทม แถมคิดประหลาด ๆ แบบที่มันเป็นไปไม่ได้อีก"

"ไหน มึงบอกมาดินีลมึงคิดยังไง" หัวข้อสนทนาใหม่เริ่มต้นขึ้นเพราะประชดคนต้นเรื่องที่ยังนั่งมองเพื่อนนินทาไม่รู้ร้อนรู้หนาว คราวนี้นีล เฟย์ และเทมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะทนเงียบไปได้อีกนานแค่ไหน

"ง่าย ๆ ครั้งก่อนเขามาเรื่องงาน ...นี่ก็ต้องเป็นแผนโปรโมทงาน" นีลกล่าวอย่างมั่นใจ คว้าขนมเข้าปากเคี้ยวกร้วม ๆ ก่อนที่เสียงต่อมาก็ทำให้แทบกลืนอะไรไม่ลง

"ไม่ใช่" เพื่อนสามคนหันไปมองณนนแล้วเลิกคิ้วเป็นสัญญาณที่ดีให้กัน ก่อนที่สัญชาตญาณนักสืบจะเริ่มต่อไป

"งั้นก็ต้องเป็นพวกรายการล้อกันเล่น สาระแนงี้" นีลยังยิงคำถามต่อ

"ไม่"

"มึงซ้อมละคร"

"ไม่"

"มึงไปติดหนี้พี่คีณของกู"

"ไม่ใช่"

“มึงจีบหญิงคนเดียวกันกับเขา”

“เปล่า”

“พี่คีณเป็นพี่ชายมึงที่ผลัดพรากกันมานาน”

“มึงจะบ้าหรอ”

“พ่อมึงจะแต่งงานกับแม่พี่คีณ”

“พ่อกูตายแล้ว”

“มึงถูกหวย พี่คีณมาดักปล้น”

"นีล มึงหยุดเลย หยุดเดี๋ยวนี้ แล้วนั่งเฉย ๆ กูเอง" เฟย์เริ่มทนไม่ไหวที่เห็นเพื่อนยิงคำถามสติเฟื่องที่เบี่ยงเบนประเด็นจนแทบจะกู่ไม่กลับ นี่ก็คงเพราะต้องการจะเข้าข้างตัวเองไม่ให้พี่คีณในดวงใจมีมลทินสินะ

ของจริงมันต้องแบบนี้

"เขามาจีบมึง..." คำถามที่ตรงประเด็นเล่นเอาทั้งห้องเงียบ คนถูกถามเห็นหน้าจดจ่อของเพื่อนก็หลุดหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่คำตอบจะเล่นเอาเพื่อน ๆ ตบเขาฉาดเพราะความผิดหวัง

"ไม่ใช่ว่ะ" คำปฏิเสธนั่นถึงแม้จะทำให้ถอนหายใจโล่งอกออกมาได้ แต่มันก็ยิ่งทำให้ทั้งเทม เฟย์ และนีลคิดจนคิ้วขมวดเป็นปมเข้าไปใหญ่ ...หัวข้อใหญ่ที่ทุกคนคาดการณ์ไว้ดันพลาดไปซะแล้ว นี่การทุ่มเทแชทกลุ่มทั้งคืนกำลังจะคว้าน้ำเหลวงั้นหรอ

"เชี่ย!! ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นอย่างอื่นไปได้ไงวะ ไอ้อาการที่กูเห็นเขาต้องมีใจให้มึงแน่ ๆ เว้นแต่มึงจะเป็นผัวเมียกันอยู่แล้วจนเขามาตามหึงมึง"

"อันนี้ ...มึงถามป่ะ"

"........"

"........"

"........"

เพราะการเผลอสบถของเทมบรรยากาศภายในห้องก็ดูจะร้อนขึ้นไปถนัดตา นักสืบทั้งสามเริ่มมีเหงื่อไหลขึ้นมาที่ไรผมเพราะดูเหมือนว่าจะเข้าใกล้ผลลัพธ์ไปอีกระดับ ...ผลลัพธ์ที่พยายามปฏิเสธกันว่าไม่มีทางเป็นจริงก่อนหน้านี้ …แค่มาจีบก็คิดว่ามากพอแล้ว คงไม่ใช่หรอกมั้ง...

"มึง...คบกับพี่คีณอยู่" คำถามตรงประเด็นจากเทมก็ทำให้คนที่กำลังลุ้นลำคอแห้งผาก

"....ก....กูคอแห้ง" โดยเฉพาะนีลที่คว้าเอาแก้วน้ำอัดลมไปไว้ในมือก่อนจะดื่มลงคอไปอึกใหญ่

"มึง...ตอบดิวะ" เฟย์เร่ง เหตุเพราะท่าทางเงียบใส่คล้ายตั้งสติของเพื่อน

มึงจะตั้งสตินานเกินไปแล้ว ลุ้นจนจั๊กแร้เปียกหมดล่ะเนี่ย

"ใช่"

คำตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ นี่ทำให้ณนนรู้สึกสบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อย่างน้อยต่อไปนี้ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังเพื่อนกลุ่มนี้อีกต่อไปแล้ว แต่ในทางกลับกันคนที่กำลังรู้สึกไม่สบาย จิตใจโหว่งเหว่ง หัวใจเต้นตึบ ๆ คล้ายจะเป็นลมชักก็คงจะเป็นอีกสามคนที่อาจจะแน่นิ่งเร็ว ๆ นี้

“ไม่จริงอ่ะ”

“อือ ...ไม่”

“...ไม่เป็นความจริง”

“ไม่จริงที่มันไม่จริง”

"เชี่ย ...อีเฟย์อยากตาย เพราะพวกมึงนี่ไง ที่ทำให้กูไม่มีผัว" เฟย์บ่นลอย ๆ คล้ายคนที่เริ่มไม่มีสติ ตอนนี้ก็ดูเหมือนมีเทมคนเดียวที่ดูจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ ด้านนีลก็ดูท่าว่าจะเสียสติจนไม่อาจรับรู้อะไรอีก

"นานแค่ไหนแล้ว" เทมเริ่มยิงคำถามอีกครั้ง

"ก็เกือบสาม..."

"สามเดือน? "

"ไม่ใช่ สาม..."

"ก็แน่ล่ะ แม่งนานขนาดนั้นกูจะไม่รู้ได้ไง งั้นก็สามอาทิตย์ แต่มันก็ก่อนหน้าที่พี่เฟรนวานให้มึงไปถ่ายงานอีกนี่หว่า"

"อีเฟย์ ...ต...เติมน้ำให้กูดิ....ห...หิวน้ำ" นีลเริ่มลนเพราะลำคอที่แห้งผากราวกับขาดน้ำมาซักเจ็ดวัน ไม่อยากจะคิดว่าเธอเพ้อถึงคนที่เพื่อนคบให้เพื่อนฟังทุกวันมาสามอาทิตย์

"เปล่า"

"งั้นก็จบ ...สรุปก็แค่สามวัน กูว่าล...."

"สามปี"

ปู้ดดดดดดดดดดด!! น้ำอัดลมที่พึ่งจะลงปากนีลในจังหวะที่เธอเริ่มสบายใจกับคำว่าสามวันได้พรวยพุ่งออกมาพร้อม ๆ กับสติที่ได้ยินแบบชัดเจนว่าสามปี ส่วนเหยื่อที่ตกเป็นกระโถนรับน้ำไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ไอ้คนที่ด่วนสรุปว่าเป็นแค่สามวันนี่แหละ แต่จะให้ไอ้เทมลุกขึ้นมาโวยวายตอนนี้มันก็ไม่ใช่ที่ ...คือสติจะถามเพื่อนต่อยังไม่มีเลย

"พวกมึงเงียบกันทำไมวะ โกรธหรอ"

"ป...เปล่า กูแค่กำลังงง"เฟย์เป็นคนแรกที่ขยับปากพูดหลังจากตกใจไปอยู่นาน มันจะเป็นไปได้ยังไงที่คนจะคบกันมาสามปีโดยที่ไม่มีใครรู้เลยซักคน โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่อยู่ด้วยกันแทบทุกวันเนี่ยนะ

"มึงเล่าดิ"

"ก็เจอกันตั้งแต่กูอยู่ม.5 เขามาจีบกูก่อน"

"แล้วมึงปิดเงียบขนาดนี้เพื่ออะไร ได้ไงวะ"

"พวกมึงก็รู้ว่าพ่อเขาเป็นใคร คีณในอนาคตควรจะเป็นแบบไหน ....เพราะงั้นมันเป็นแบบนี้ก็ถูกแล้ว"

"ชั่วนี่หว่า คบเพื่อนกูแต่เสือกห่วงอนาคตตัวเอง"

"ไม่ใช่เว้ย ...กูเลือกเอง"

"มึงบ้าป่ะวะ งั้นมึงก็ต้องอยู่แบบนี้ไปตลอด กว่าจะได้เจอกันแต่ละที จะมีความสุขได้ไงวะ"

"ก็เจอกันทุกวันอยู่แล้วป่ะ"

"อย่าบอกนะว่าอยู่ด้วยกันตลอด ...แล้วที่มาหากูเมื่อคืนก็คือหนีเขามา" คนถูกถามยักคิ้วเขิน ๆ แทนคำตอบ

“อ๋ออออ ไอ้ที่ไม่เคยยอมให้พวกกูขึ้นห้องเพราะงี้ใช่ม่ะ”

“...ก...ก็เออ”

"มึง แม่ง เหี้ย มาก" ก็รู้อยู่แก่ใจว่านั่นไม่ใช่คำชมแต่ณนนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะร่าไปกับอาการใกล้หัวใจจะวายของเพื่อน โดยเฉพาะคนที่ทิ้งตัวฟุบลงไปกับพื้นคล้ายคนหมดสติตอนนี้...

"เชี่ย....เชี่ย....." นี่นีลเอง...ไม่ใช่ใคร

"โอ๊ยยย อีนีล กูล่ะสงสารมึงจริง ๆ มึงก็นะไอ้นน มันเพ้อถึงแฟนตัวเองทุกวัน ไม่รู้สึกอะไรเลยรึไงวะ" เฟย์ลูบไปมาบนหัวเพื่อนด้วยความสมเพช ส่วนปากก็หันไปหาคนที่กำลังนั่งสบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

"...แล้วมึง เคยเห็นติ่งได้ผู้ชายในโปสเตอร์เป็นผัวมั้ยล่ะ" คำตอบแสนสะเทือนใจนี้ทำให้นีลได้สติแทบจะทันที ดวงตาตี่ ๆ นั่นพยายามจ้องเพื่อนตัวเองด้วยสายตาเครียดแค้น ก่อนจะเกิดกิจกรรมวิ่งไล่จับที่ณนนเป็นผู้ถูกล่าขึ้นในห้อง....

ถ้าวันนี้กูไม่ได้เอาเลือดหัวไอ้นนออก อย่าเรียกกูว่านีล!!


TBC
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 9 คำถามที่ต้องการคำตอบ 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 26-03-2018 22:00:19
ตอนที่ 10 ปัญหาของความลับ




หากตอนนี้ณนนกำลังถูกเพื่อนโจมตีวิ่งไล่ฟัดเพราะความจริงที่ถูกเปิดเผย อีกฟากหนึ่งในเวลาเดียวกัน คีณก็กำลังตกเป็นผู้ถูกล่าเฉกเช่นเดียวกัน

"กูล่ะอยากกราบมึงจริง ๆ แม่งทำได้ไงวะ"

"เชี่ยดอม มึงดูนี่ดิ ใช่งานเซ็ตเดียวกับที่มันถ่ายส่งอาจารย์ป่ะวะ"

ขณะนี้เพื่อนรักอย่างดอมและเฟรนกำลังเดินสืบหาพยานหลักฐานทั่วห้องของเพื่อนสนิทอย่างเพลินใจ ห้องพักที่พึ่งได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาครั้งแรกหลังจากพยายามขอขึ้นมาหลายครั้งตั้งแต่รู้จักกันแต่ดันไม่สำเร็จ ...ส่วนการได้รับอนุญาตครั้งนี้มันก็มาจากการคาดคั้นเอาความจริงที่ทำเป็นเหมือนพูดออกมายากซะเหลือเกิน

'ถ้ามึงไม่ให้กูกับไอ้ดอมขึ้นห้องมึง มึงไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกูอีกไอ้คีณ'

'เออ ให้มันรู้ไป ว่าขนาดพวกกูยังบอกห่าอะไรไม่ได้'

"โห ไอ้สัด ส่งอาจารย์ล่ะมีแต่ตีน รูปดี ๆ ล่ะเก็บไว้ดูเอง" ดอมพลิกอัลบั้มรูปในมืออย่างใจเย็น ตั้งแต่มาถึงห้องนี้ก็มีเรื่องให้สนุกไม่หยุด ส่วนเฟรนตอนนี้ก็กำลังจับจ้องเป้าหมายต่อไปที่พุ่งเข้ามาให้ระดับสายตา

กรอบรูปข้างเตียง

"เฮ้ย!! " คีณที่ดันเกิดอาการเขินขึ้นมากระทันหันคว้าเอากรอบรูปที่หลบอยู่หลังนาฬิกาปลุกมากอดแนบไว้กับลำตัว ...เชี่ยเอ๊ย แบบนี้เสียลุคหมดเลยกู

"เอามานี่...หึหึ" เสียงเย็น ๆ กับจังหวะการแสยะยิ้มคล้ายตัวร้ายในละครของเฟรนทำให้คีณยอมยื่นกรอบรูปให้แต่โดยดี ผู้มาเยือนทั้งสองรุมทึ้งกรอบรูปนั่นก่อนจะเงยหน้ามามองเพื่อนด้วยดวงตาแววโรจน์

"รูปคู่ซะด้วย ...รูปแรกหรอวะ" เฟรนใช้เสียงโทนสองที่ดูจะอ้อนตีนกับเพื่อน เอาเข้าจริงยิ่งเห็นคีณหัวเสียเขาก็ยิ่งสนุก ต้องเอาคืนให้เข็ดที่หลอกให้เพื่อนเป็นควายสุพรรณมาเป็นปี ๆ

"นี่มึงเลี้ยงต้อยน้องแม่งมาตั้งแต่มัธยมเลยหรอ ...สัด วันถ่ายงานทำไมกูไม่เอะใจเลยวะ" ดอมมองภาพคนสองคนที่อารมณ์ช่างต่างกันเหลือเกิน คนนึงใส่ชุดมัธยมขมวดคิ้วเป็นปม ส่วนอีกคนอยู่ในชุดนักศึกษาพร้อมดวงหน้าที่ติดจะเจ้าเล่ห์ …รูปที่อาศัยจังหวะสามวิได้มาในวันแรก

"ก็มึงโง่"

"เพื่อนคีณครับ ...ไม่ใช่เวลาจะมาแข็งข้อกับพวกกูนะครับ ไม่ดี ๆ " เฟรนยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเพื่อนหัวจรดเท้าอย่างเหนือกว่า คนถูกกดดันกัดฟันกรอดรอวันที่จะถึงตาตัวเองบ้างซักครั้ง

"ในรูปนี่มึงปีหนึ่งป่ะ"

"เออ"

"เดี๋ยว...ชุดนักเรียนน้องนนคุ้น ๆ ว่ะ มึงว่าป่ะเฟรน"

"อ๋อ กูนึกออกล่ะ โรงเรียนไอ้บีมที่มันชวนเราไปแนะแนวตอนปีหนึ่งไงมึง กูจำเข็มโรงเรียนได้..."

"โอ้โห...ไม่ธรรมดานะครับ ม่อเด็กมาได้โดยที่เพื่อนไม่รู้" คีณยักคิ้วรับราวกับมันเป็นคำชม นึกแล้วก็ต้องขอบคุณความบ้าบิ่นของตัวเองอยู่เหมือนกันที่เข้าไปหาณนนโดยไม่คิดอะไรซักอย่าง ตอนนั้นก็แค่มองแล้วชอบ ลืมคิดไปด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะชอบตัวเองที่เป็นผู้ชายรึเปล่า แต่ก็นั่นแหละ แจ็คพ็อตแตกยิ่งกว่าถูกหวย

"นี่ถ้าแฟนคลับมึงกับแฟนคลับน้องรู้นะ มีชักตายตาตั้งกันมั่งล่ะมึง"

"ขนาดเรื่องวันนี้ยังเป็นประเด็นเต็มนิวฟีดกูเลยสัด งานนี้มึงอยู่ยากกว่าเดิมแน่ ชีวิตมึงต้องโดนถ่ายทอดสด" สิ้นคำเฟรนคีณก็ถอนหายใจทิ้งราวกับไม่แคร์คำพูดของคนอื่นที่กล่าวถึงเรื่องนี้

"เฟรน มึงว่าถ้าเราเอาความลับมันไปขาย จะมีตังค์พอไปถอยกล้องตัวใหม่ป่ะว่ะ"

"ส้นตีนเหอะ เงียบปากไปเลยพวกมึงอ่ะ จะมีคนรู้แค่พวกมึงแล้วก็กลุ่มเพื่อนณนน" เฟรนและดอมพยักหน้างึกงักให้กับคำประกาศิตนั่น ทั้ง ๆ ที่สองคนก็พอจะมองออกว่าเรื่องนี้คงจะปิดไว้ได้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

"แล้วนี่ พ่อมึงไม่รู้ใช่ป่ะ..." เฟรนถามย้ำให้กับคำถามที่เขาเองก็พอจะมีคำตอบ

"อืม ก็เลยต้องปิดอยู่นี่ไง"

"เห้อ เกิดเป็นลูกคนดัง ดังตั้งแต่ยังไม่ทันตัดสายรกอย่างมึงก็ลำบากว่ะ" เฟรนตบไหล่เพื่อนสองสามครั้ง ถึงคำพูดจะดูไม่ซึ้งเท้าไหร่นักแต่คีณก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจจากฝ่ามือหนัก ๆ ที่กระทบลงไหล่

"นี่ปี 2017 แล้วนะมึง สาววายเต็มเมือง คู่จิ้นคู่เกย์ที่เขาคบกันแล้วไปได้ดีก็ทีตั้งเยอะ พ่อมึงก็น่าจะเข้าใจป่ะวะ" คีณมองหน้าดอมราวกับกำลังคิดตาม ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ เพราะรู้ดีว่าพ่อฝากความหวังไว้กับลูกคนนี้ขนาดไหน อนาคตของธุรกิจบันเทิงที่พ่ออยากให้สานต่อ ชื่อเสียงที่พ่ออยากให้มี ...แต่มันก็แค่สิ่งที่พ่อต้องการ

"กูเคยอยากบอกพ่อนะ อยากเปิดเรื่องนี้ แต่นนไม่ยอม ที่ทะเลาะกันเมื่อวานก็เพราะเรื่องนี้ ...ยังไงก็ไม่ยอมท่าเดียว.."

"เอาเหอะว่ะ น้องมันก็คงห่วงมึงนั่นแหละ"

"เออ ช่างแม่ง อย่างน้อยตอนนี้พวกมึงก็โทรคุยกันถนัด ไม่ต้องมาทำเป็นโทรผงโทรผิดละ"

"แบบโทรคุยกับประกันงี้ป่ะมึง 5555555" คีณฟาดขาเบา ๆ ไปที่ช่วงตัวเพื่อนหลังเสียงหัวเราะครืนหลังจากคำพูดล้อ ๆ ของดอมจบลง สองหนุ่มยังคงนั่งซักไซร้ผู้เป็นเพื่อนอยู่พักใหญ่ก่อนจะถูกเจ้าของห้องไล่ให้กลับไปอยู่ในที่ชอบ ๆ พร้อมให้คำสัญญาว่าจะพาคนกุมความลับไปเลี้ยงเหล้ามื้อใหญ่เป็นการปิดปาก

"พวกกูไปแล้ว อย่านอนร้องไห้นะมึง"

"เออ!! ไอ้พวกเหี้ยนี่!! "

หลังจากปล่อยสัตว์เลื้อยคลานไล่หลังเพื่อนเป็นที่เรียบร้อย ร่างสูงก็ทิ้งตัวลงกับโซฟาปล่อยความคิดเรื่อยเปื่อยพลางยิ้มบาง ๆ ให้กับตัวเอง คิดถึงใครอีกคนที่ยังไม่ยอมกลับมานอนด้วยกันในคืนนี้ พอบทจะดื้อล่ะก็ดื้อจนน่าตี นึกแล้วมันน่าจะจับหอมแก้มกลางคณะวิทย์มันซะให้เข็ด ว่าแล้วก็เช็คกระแสในโซเชี่ยลซักหน่อยว่าจะบ้าคลั่งแบบที่เพื่อนสองตัวกระซิบบอกไว้ก่อนหน้านี้รึเปล่า

#คีณนน

คีณกระตุกยิ้มให้เทรนฮิตในแอปโซเชี่ยลนกสีฟ้า ที่คลิกเข้าไปก็เจอแต่เสียงกรี๊ดที่แทบจะทะลุผ่านตัวหนังสือ จะพีคสุดก็การที่คนเหล่านั้นเรียบเรียงเรื่องราวได้พอดิบพอดี 140 ตัวอักษร ทั้งรูป ทั้งคลิป หรือแม้แต่รูปแก้วกาแฟที่บังคับอัพให้อีกคนเมื่อวันก่อนก็ถูกจับมาเป็นประเด็นได้อย่างเหมาะเจาะ





@pppnobrain สร้างกระแสว่ะ เบื่อพวกวัลลาบี #คีณนน

@Kukkik2016 อีนนอะไรนี่ดูก็ออกป่ะว่ะตุ๊ด แอ๊บเป็นแมนอยู่นั่น #คีณนน

@Singopera ณนนจะเกาะคีณดังหรอ เล่นง่ายว่ะ #คีณนน

@Lunlabelle นี่ตกลงว่าจะหารตังค์ค่างานคนล่ะกี่บาทล่ะ ยุคนี้พวกสวยวายปัญญาอ่อนมันชอบ #คีณนน

แต่จะว่าไป... คำพูดของหลาย ๆ คนก็ทำให้โกรธได้เหมือนกัน มันธรรมดาว่าถ้ามีคนที่ชอบมันก็ต้องมีกลุ่มขั้วตรงข้าม แต่สำหรับคนพวกนี้ถ้าไม่รู้ข้อเท็จจริงใด ๆ ก็ควรจะอยู่เฉย ๆ เพราะไม่งั้นไอ้คีณได้ตามไปกระทืบถึงบ้านแน่ โดยเฉพาะไอ้พวกที่ว่าณนนเสียหายทั้งที่ไม่มีความจริงเลยซักนิด ...ถ้าได้เจอเมื่อไหร่ เตรียมเรียกรถพยาบาลแสตนด์บายไว้ได้เลย ….ไอ้คีณขอเตือน

@PerwFvg นี่ลิงค์ข่าวพ่อคีณเหยียดนักแสดงเกย์เมื่อปี 54 อย่างพีคอ่ะ #คีณนน

@Reasonway คีณนี่ลูกภาวัชที่เป็นเจ้าของช่อง Knews ป่ะวะ #คีณนน

ข้อความนี้ทำให้คีณชะงัก ลืมไปซะสนิท... ป่านนี้คุณพ่อตัวอย่างคงจะเห็นกระแสพวกนี้ของลูกตัวเองแล้ว ...เขาควรจะต้องกังวลรึเปล่านะ ...แต่นี่มันแค่จับมือกันไม่ถึงนาที ที่เหลือคนก็ไปมโนเองทั้งนั้นถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งมันจะจริงก็เถอะ

ครืด ๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าแค่นึกถึงคนเป็นพ่อก็จะโทรมาได้เวลาอย่างพอดิบพอดี ตอนนี้ต่อให้ถอนหายใจทิ้งก็คงยังน้อยไปเพราะว่าพ่อคงไม่ได้โทรมาถามสารทุกข์สุขดิบแบบปกติแน่ ๆ

"ครับพ่อ"

"ไง...เงียบไปเลยนะช่วงนี้"

"ผมยุ่ง ๆ พ่อมีอะไร" ถามออกไปโง่ ๆ ทั้ง ๆ ที่ในใจคีณก็รู้อยู่แล้วว่ามันคือเรื่องไหน

"ไปทำอะไรมาล่ะ"

"ก็หาเรทติ้งช่องเพิ่มให้พ่อไง ไม่ดีหรอ"

"อย่ามาเล่นลิ้นพ่อ"

"ก็ไม่มีอะไร แค่เรื่องเข้าใจผิด"

"ให้มันจริงเถอะ อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าแกจะทำอะไร ขอร้องเหอะว่ะ ฉันอาย ที่จะต้องมีลูกที่หาทางดังด้วยวิธีที่ดาราชั้นต่ำมันทำกันแบบนี้ ...ยุคนี้ สมัยนี้ อยากดังก็ทำตัวให้ไอ้พวกบ้ามันจับจิ้น ...วิธีสกปรก!! "

"พ่อไม่เว้นช่องให้ผมเถียงเลยหรอ ที่เห็นก็แค่จับมือป่ะวะ แล้วใครอยากจะดังถามหน่อย ผมหรือพ่อ" คีณตะคอกไปยังปลายสายด้วยความโมโห พ่อลูกที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันก็ดูเหมือนจะมีแผลเพิ่มขึ้นมาอีกแผลจนได้

"หุบปากไปเลยนะไอ้คีณ! แล้วอย่าให้ฉันเห็นกระแสบ้า ๆ ที่แกพยายามปั่นขึ้นมาอีก! ฉันเบื่อที่จะต้องคอยตามเช็ดให้แก"

"ก็บอกว่าเรื่องมันไม่มีอะไร พ่อจะสนใจทำไมวะ"

"กระแสที่ว่าลูกชายฉันอาจจะเป็นเกย์ ฉันไม่สนใจได้หรอ! " คีณเม้มปากเป็นเส้นตรง กำโทรศัพท์แน่นแทบจะให้มันแหลกลงไปตรงหน้า ...ก็เพราะแบบนี้ไง เพราะเขาเกิดมามีพ่อที่ไม่เคยเข้าใจเลย เรื่องทุกอย่างมันถึงได้ดูยุ่งยากไปซะหมดแบบนี้

"...หึ งั้นพ่อก็เตรียมตัวรอตอบคำถามเรื่องลูกชายเป็นเกย์ได้เลย!! "เสียงตวาดลั่นของชายหนุ่มเป็นประโยคสุดท้ายของบทสนทนาพ่อลูกที่เคยได้รางวัลครอบครัวตัวอย่างเมื่อหลายปีก่อน ...ครอบครัวที่เบื้องหลังไม่เคยเป็นครอบครัวจริง ๆ เลยซักครั้ง ครอบครัวที่มีแค่เขากับพ่อ ครอบครัวที่ผู้เป็นพ่อไม่เคยเปิดใจกับอะไรที่เขาต้องการ

แต่ว่าตอนนี้มันคงใกล้ถึงเวลาหลุดจากคำบัญชาการ

และได้เป็นตัวเองซักที
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 9 คำถามที่ต้องการคำตอบ 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 26-03-2018 22:03:32
ตอนที่ 11 ไม่เป็นไร บอกเลยฉันไม่เป็นไร



ป็อก!!

ป็อก!!

ป็อก!!

เสียงเคาะนิ้วกับพวงมาลัยรถดังเป็นจังหวะ เวลาเจ็ดโมงสิบห้านาทีในเช้าวันเสาร์คงไม่ค่อยมีใครเขาตื่นมานั่งแกร่วในรถให้ตูดชาเล่นหรอก โดยเฉพาะการจอดรถหน้าหอคนอื่นยาวนานหลายชั่วโมงแบบนี้ คีณยกมือขึ้นปิดปากหาววอดนับครั้งไม่ถ้วน ตาก็ยังพุ่งตรงไปยังทางออกทางเดียวของหอพักเล็ก ๆ นี่ ...เขาจะไม่ยอมให้ณนนคราดสายตาไปไหนอีก ยังไงซะก็ต้องลงมา จะสาย บ่าย เย็น หรือข้ามวันก็จะรอ ก็ลงทุนมารอตั้งแต่เช้าแล้วนี่หว่า

.

จริง ๆ ก็เรียกว่าเช้าไม่ได้หรอก เพราะว่าแหกขี้ตาตื่นมาตั้งแต่ตีสี่

.

ก็ช่วยไม่ได้นี่ ก็ไอ้ตัวดื้อดันเล่นตัวให้เป็นสีสันกับชีวิต ทั้งที่ดูเหมือนไม่ได้งอนกันแล้วแท้ ๆ ก็ยังจะขอมานอนกับเพื่อนให้กระวนกระวายใจเล่น แล้วนี่รับรองได้ถ้าโทรไปบอกว่าอยู่ด้านล่างคงเล่นตัวไม่ยอมลงมาแน่ ๆ ไม่ได้เห็นใจคนที่นอนคนเดียวมาสองคืนติดบ้างเลย ...ห้องแม่งโคตรเงียบ แอร์แม่งโคตรหนาว ใจก็โคตรวุ่นวาย

นี่สินะข้อดีของการห่างกันบ้าง ถึงจะรู้ว่าคิดถึงกันแค่ไหน

"โทรดีป่ะวะ" คีณพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พลางหมุนโทรศัพท์ในมือไปมา ใจจริงก็อยากจะเซอร์ไพร์ส คิดไปคิดมาถ้าโทรก็ไม่ต้องมานั่งเป็นง่อยในรถ ...แต่ถ้าโทรแล้วไม่ยอมลงมาหาล่ะวะ ...ถ้างั้นก็ปล่อยให้เวลามันเดินต่อไปแล้วกัน

8.30 น.

เวลาล่วงเลยไปอีกหนี่งชั่วโมง คีณถอนหายใจเพราะเห็นทีการนั่งเปิดแอร์อยู่ในรถอาจทำให้เหน็บชาไปทั้งตัวก็เป็นได้ ร่างสูงตัดสินใจดับเครื่องยนต์แล้วออกมายืดเส้นยืดสายนอกรถ แต่สายตาก็ยังคงมุ่งมั่นจับจ้องทางเข้าออกของหอพัก

"เดี๋ยวนะ ...ไอ้เต่า" ไม่รู้ว่าอะไรแวบเข้ามาในหัวในจังหวะที่กำลังบิดซ้ายบิดขวาไล่ความปวดเมื่อย สายตาหันไปมองรถโฟลคคู่ใจของณนนที่เคยมองเห็นตอนที่มาถึงโดยพลัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะฉุกคิดได้ช้าไปหลายนาที เพราะว่าตอนนี้สสารที่เป็นรถทั้งคันได้อันตธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้ง ๆ ที่มั่นใจเหลือเกินว่าเฝ้าเอาไว้อย่างดี

เต่าน้อยแม่งคลานหนีกระต่ายป่าไปแล้ว

"แม่งเอ๊ยยย พลาดไปได้ไงว่ะเนี่ย" ป๊าป!! ขอโทษเถอะแต่ตอนนี้มันอดไม่ได้ที่จะตีแรง ๆ เข้าที่หัวตัวเองซักที ไอ้เต่าที่เฝ้าไว้คลานหนีไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทางคนออกน่ะจริงอยู่ที่มีทางเดียว ...แต่ทางรถออกแม่งมีสองทางนี่หว่า แถมหลับ ๆ ตื่น ๆ มองแต่ทางคนออก นี่คงจะเผลอละสายตาตอนจังหวะที่ง่วงจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่สินะ ...แล้วตกลงนี่ลงทุนมาเฝ้าตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันเพื่ออะไร?

"คีณ! มาทำไรอ่ะ" โอเค ไม่ใช่เพื่อสิ่งนี้แน่ ๆ

"อ้าวพลอย" คีณหันไปยิ้มให้เพื่อนสาวที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาอย่างอารมณ์ดี ลืมไปซะสนิทว่าเธอก็อยู่หอนี้ด้วยเหมือนกัน

"ไง มาหาใครหรอ"

"....เอ่อ... รุ่นน้องน่ะ เราให้มันยืมหนังสือ เลยจะมาเอาคืน" พะพลอยพยักหน้าเบา ๆ โดยไม่ได้เห็นสีหน้ายาก ๆ ของคีณเลยซักนิด

"ใคร พลอยรู้จักป่ะ"

"เอ่อ ไม่หรอก รุ่นน้องที่เราเคยรู้จักน่ะ ไม่ใช่ที่คณะ"

"หรอ อืม..." พะพลอยทำหน้าเหมือนเข้าใจ ยิ้มหวาน ๆ บาง ๆ ส่งคืนกลับไป

"แล้วนี่พลอยจะไปไหนแต่เช้า วันนี้วันเสาร์"

"ไม่ได้จะไปไหน แต่พึ่งกลับ เมื่อคืนไปตัดงานห้องเอยมายันเช้าเลย"

"กลุ่มพลอยอย่าทำดีมากดิ เดี๋ยววันพรีเซนต์กลุ่มคีณจะโดนด่ายับเอา"

"สาบานค่ะคุณคีณ ลำพังแค่ชื่อคุณ อาจารย์ก็แทบจะคลานเข่าเทคะแนนให้หมดกระปุกล่ะค่าาา" น้ำเสียงลากยากกึ่งประชดประชันของพะพลอยดูเหมือนจะเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนทั้งคู่ในยามเช้า

"เอออออ เจองานเนี้ยบของพลอยอำนาจในมือคีณก็สั่นสะเทือนเหมือนกันแหละน่า"

"จ้าาาาาาา งั้นพลอยไม่กวนละ ขึ้นห้องนอนดีกว่า ง่วงจะแย่ ยืนคุยไปคุยมาตาจะปิดละเนี่ย"

"ไปเลย ไปไป เดี๋ยวจะกลับล่ะเหมือนกัน" คีณเอื้อมมือไปแตะหัวเพื่อนที่กำลังแกล้งเอียงเอนไปมา ก่อนจะยกมือโบกลาเบา ๆ สำหรับการเจอเพื่อนเกือบสนิท? ที่เจอโดยไม่ตั้งใจครั้งนี้

"เห้ออออ ไม่น่าทำกันเลยนน" หลังจากที่มองพะพลอยเดินเข้าตัวตึกไปจนลับตา คีณก็กลับเข้ามาโหมดเดิมอย่างไม่รู้ตัว ทิ้งตัวพิงลงข้างตัวรถอย่างหมดอะไรตายอยาก และกำลังคิดไม่ตกว่าควรจะจัดการคนที่พึ่งจะออกอาการดื้อนี่ได้ยังไง

.

ลากไปติดเกาะแบบจำเลยรักซะเลยดีมั้ยวะ แม่ง! เอาให้เข็ด!

เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น….

เออ! ปล่อยให้เครียดหน้าดำมาสองวันนี่แหละ โคตรขุ่น!

.

"คีณ!! นึกว่าจะไปซะแล้ว" เสียงเดิมกลับมาทำให้คีณหลุดจากภวังค์ฉากจำเลยรักในหัว ร่างสูงเอียงคอมองอาการหอบ ๆ ของพะพลอยที่ดูจะมีเรื่องคอขาดบาดตาย กระทั่งประโยคต่อมาจะทำให้เข้าใจอาการรีบจนหอบตัวโยนของคนตรงหน้า

"เห้ย มีไร ทำไมหอบเชียว "

“คือ.... อ....อา”

“ใจเย็น ตั้งสติก่อนพลอย”

"อ...อาจารย์กิตติโทรหา เล่มโปรเจคของกลุ่มคีณกับเรามีปัญหา ให้เข้าไปหาแกเดี๋ยวนี้เลย" พะพลอยพูดไปก็หอบตัวโยน ใบหน้าใส ๆ แต้มชมพูระเรื่อเพราะความเหนื่อย ยังไม่ทันที่จะเดินถึงหน้าห้องตัวเองด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องวิ่งลงมาโดยไม่รอลิฟท์เพราะสายเร่งด่วนจากอาจารย์ประจำภาควิชา ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือโชคดีที่เพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคนยังยืนอยู่ที่เดิม

.

อาจจะโชคดีที่แจ้งข่าวได้รวดเร็ว

อาจจะโชคดีที่รถคันหรูเคลื่อนออกไปยังคณะนิเทศศาสตร์ได้ทันเวลา

และอาจจะโชคดีที่คีณชวนพะพลอยขึ้นรถไปด้วยกันอย่างไม่ต้องคิด

เอ๊ะ.... หรือว่าโดยรวมทั้งหมดของเรื่องในเช้านี้แล้วมันคือโชคร้ายกันนะ

ไม่สิ มันไม่ใช่โชคร้าย มันก็แค่ลางร้ายต่างหาก...

.

.

.

Neenla: ไอ้นน มึงจะเฉยไม่ได้นะเว้ย

FayFIN : เออ กูเห็นด้วยกับนีล มึงต้องทำอะไรซักอยาก

Neenla : มึงออกไปหาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างด้วยซ้ำ ห้องก็ไม่อยู่ แถมหลักฐานคาตาขนาดนี้ โวยวายหน่อยเป็นไงมึง

OverTemp : พวกมึงอยู่เฉย ๆ ดีกว่า เรื่องของมัน ให้มันจัดการเอง

บางทีเวลาใครอ่านไลน์คุณแล้วไม่ตอบ เขาก็อาจจะมีเหตุผลของเขาที่คุณควรจะทำความเข้าใจ เช่นเดียวกับตอนนี้ที่ณนนนั่งมองแชทไลน์กลุ่มที่เพื่อนดูจะเดือดร้อนแทนแทบจะทุกอย่างเพราะความเป็นห่วง ...มันเกิดอะไรขึ้นน่ะหรอ... ก็ไม่มีอะไรมากนักหรอก ก็แค่ณนนกลับมาที่ห้องตั้งแต่ช่วงตีห้าของวันแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าและเสียงหายใจของปลวกในห้องเท่านั้น เจ้าตัวนั่งอยู่ในความมืดจนฟ้าสว่างจ้าเพราะความรู้สึกแปลก ๆ ที่ไม่กล้าจะคาดเดา ...ที่กลับมาเพราะว่ามันนอนไม่หลับ คงเพราะว่าไม่เคยไปนอนที่อื่นเลยซักครั้ง คืนแรกก็ใจมันก็วุ่นแทบจะแย่ จะให้ผ่านคืนสองไปมันก็คงจะยากกว่า และเช่นเดียวกันกับอีกคนที่ไม่เคยไปค้างที่อื่นเลย ต่อให้เมาปลิ้นเละเป็นหมา หรืองานเยอะแค่ไหนก็จะกลับมานอนที่ห้องตลอด

หายไปไหนกันนะ

แก้แค้นกันใช่มั้ย...

FayFIN : 'มึงอย่าเงียบดิว่ะนน กูใจคอไม่ดี'

'พวกมึงเงียบไปได้ป่ะว่ะ ถ้ารู้แล้ววุ่นวายแบบนี้กูไม่บอกตั้งแต่แรกหรอก'

ยังดีที่ก่อนจะกดปุ่มส่งข้อความณนนหยุดคิดขึ้นมาซะก่อน ถึงได้ลบข้อความที่ใช้อารมณ์พวกนั้นก่อนที่มันจะทำร้ายใจคนอ่านที่กำลังเป็นห่วง

'ไม่เป็นไร กูโอเค'

จริง ๆ ก็ไม่โอเคหรอก ก่อนหน้านี้มันอาจจะโอเค แต่หลังจากมีใครซักคนแทคโพสต์ ๆ นึงขึ้นมาในเฟสบุ๊คของคีณและเพจคิ้วท์บอยเจ้าปัญหาทุกอย่างมันก็ไม่โอเคอีกต่อไป...

ดับฝันสายมโนนะคะ ของจริงมาล่ะค่ะ เห็นกับสองตา พี่คีณมาส่งพี่พะพลอยที่หอตั้งแต่เช้าเลย แถมยืนรอกันก่อนจะออกไปด้วยกันต่ออีกด้วยนะคร้าคุณ เพื่อนที่ไหนเขาทำแบบนี้บอกหนูที มุ้งมิ้งน่ารักแค่ไหนหลักฐานตามรูป เพื่อนจริงจริ๊งงงงที่จับหัวกันยิ้มละมุนนี่แค่เพื่อนเท่านั้นแก ขออภัยที่ออกมาดับฟิน 'พวกกระแสมโน' เร็วเกินไปหน่อยนะคะ แต่ของจริงยังไงมันก็คือของจริง

ชาติชาย สมชาตรี  : นั่นไงกูว่าละ

แอนนา ป้าแอนนี่ : แม่งจบกันเลยกู ทีมคีณนนของกู

ฉันทนา วาซาบิ : มาส่งที่หอตอนเช้า ...เมื่อคืนไปไหนกันมาล่ะ

น้องหนูนา ขยันปลูกพืช : จบกระแสเกย์ปลอม ๆ นะคะ เลิกยัดเยียด เลิกจิ้นค่ะ รำคาญ

สาววายซ่า เทพซ่าลูซิเฟอร์ : กลับเช้าก็อยู่ด้วยกันทั้งคืน แล้วก็พากลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพากันออกไปเที่ยวอีก ...แฟนคู่ไหน ๆ ก็ทำแบบนี้ อย่าปากแข็งว่าเพื่อนเลย

Kittyza Ebaa500  : เวร กูยังฟิน #คีณนน ได้ไม่ทันข้ามวัน TT

เจ็บว่ะ

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นอะไรที่เกี่ยวกับคีณและพะพลอย เห็นกับตาก็เคยมาแล้ว แต่นี่มันเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าไม่รู้อะไรเลย จริงเท็จแค่ไหนกับโพสนั่น ไปด้วยกันมาจริง ๆ น่ะหรอ ...ในคืนที่เราไม่อยู่แบบนี้ใช่มั้ย

xxx

ณนนมองรายชื่อที่พร้อมให้กดโทรออกครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าเป็นทุกครั้งก็คงจะไม่ลังเล มือเรียวกดแอปแชทสีเขียวอีกครั้งก่อนจะมองข้ามแชทค้างในกลุ่มไลน์ของเพื่อนไป ตอนนี้อยู่ในไลน์ของคีณแล้ว ทั้ง ๆ ที่ในหัวมันมีคำถามมากมายแต่มือมันก็ไม่ยอมพิมพ์ข้อความเสียที...

FayFIN : ‘Sent you a new photo’

FayFIN : ‘มึง มาอีกรูปว่ะ’

แชทไลน์ใหม่ที่เด้งเตือนขึ้นมาทำให้ณนนกดเข้าไปดูอย่างไม่ลังเล ภาพแคปหน้าจอเฟซบุ๊คที่เขากำลังดูช่างชวนให้กำมือแน่นขึ้นซะเหลือเกิน ดูคีณกับพะพลอยจะมีความสุขดีในร้านขนมชื่อดัง

‘อยู่ไหน’

ตาใครตามัน... คราวนี้เป็นคิวของณนนบ้างที่ต้องหึงจนเลือดขึ้นตา สองคำสั้น ๆ ถูกส่งไปยังปลายทาง คนส่งนั่งเคาะจอโทรศัพท์รออย่างใจจดใจจ่อ 1….2…..3….. พ่องเถอะ! ตอบดิวะ ถ้าแต่ละวินาทีมันจะนานขนาดนี้

xxx : ‘Sent you a sticker’

xxx : ‘คีณทำงานอยู่ เดี๋ยวโทรหานะ’

ดูเหมือนสติ๊กเกอร์รูปไก่อารมณ์ดีอาจจะยิ่งทำให้คนส่งชะตาขาดและทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลงไปอีก นี่คงจะยังไม่รู้ถึงชะตากรรมตัวเอง คนอ่านที่มีอาการคิดมากอยู่ก่อนหน้าสติก็มาขาดผึ่งลงทันทีเพราะภาพที่เห็นในโซเชี่ยลกับคำพูดจากปากเจ้าตัวมันไม่สอดคล้องกันซักเท่าไหร่

ได้คำตอบแล้วคิดมากยิ่งกว่าเดิม นั่งนิ่งยิ่งกว่าเดิม เพิ่มเติมคือไม่กล้าหยิบมือถือขึ้นมาอีก

.

เชี่ยเอ๊ย!!

นอนแม่ง

โอ๊ยยยยยยยยยยยยย

นอนไม่หลับโว้ย

.

ภาพผู้ชายตัวไม่เล็กทึ้งหัวตัวเองดิ้นครุกอยู่บนเตียงมันคงทุเรศสิ้นดี ณนนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่นาที กี่ชั่วโมง รู้แค่ว่าแดดมันทะลุม่านเข้ามาเรื่อย ๆ แถมแอร์ในห้องก็ไม่ได้ชวนเย็นใจเลยซักนิด แต่ขอสาบานในโลกนี้ไม่มีใครใจเย็นเรื่องแฟนเท่าณนนอีกแล้ว

เย็น…

เย็นจนจะร้อนในตายอยู่แล้วแม่งงงงงงง!

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 9 คำถามที่ต้องการคำตอบ 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 26-03-2018 22:04:30
ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น


ติ๊ด! แกร๊ก!

เสียงคีย์การ์ดเปิดห้องยืนยันได้ว่ามีผู้มาเยือน ณนนผุดตัวขึ้นนั่งแทบจะทันที เป้าหมายที่พึ่งกลับเข้ามามองคนที่นั่งหัวยุ่งแล้วเปิดปากยิ้มกว้าง โผตัวเข้ามาจะกอดโดยไม่ได้สนใจสีหน้าบูด ๆ ของณนนเลยซักนิด ณนนโยกตัวหลบสองแขนที่กางออกมาอย่างกับจะเตรียมบิน พอการกอดมันวืดไปซะดื้อ ๆ คีณก็ทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ คนหัวยุ่งแล้วจัดการขยี้ผมให้มันไม่เป็นทรงมากกว่าเดิม สีหน้าช่างมีความสุขซะเหลือเกิน ยิ้มเหมือนถูกรางวัลเลขท้ายสามตัว

"นี่แน่ะ!! ไอ้ดื้อออออ ทิ้งไปตั้งสองวัน ขอกอดแค่นี้ก็ไม่ได้"

ยัง ...ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองอีก

"............."

"เป็นไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น"

".............." นอกจากจะไม่ได้คำตอบแล้วยังโดนมองแรงจนเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปด้วย

"ยังโกรธอยู่หรอ"

".............."

"ไหนว่าไม่งอนกันแล้วไง"

"............"

"นน อะไรอีก"

".............." คนถูกถามเลิกคิ้วมอง นี่ต้องให้พูดมั้ยว่ามาตั้งแต่กี่โมง เจอโพสป่วนประสาทเข้าไปกี่ครั้ง

"นี่ เป็นอะไร" คีณไม่ยอมแพ้ความเงียบง่าย ๆ หรอก ทิ้งหัวลงตักณนนโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่สายตาเจ้าของตักก็มองแรงขั้นสุดบวกกันบรรยากาศอึมครึมตอนนี้ทำให้คีณเริ่มรู้ตัวแล้วเด้งตัวเองขึ้นมานั่งแบบเดิม

.

เชี่ย พังแน่... นอนตักได้ไม่ถึง 3 วิ ...

...งานนี้ กูมีคดีแน่ ๆ

.

"นี่คีณทำอะไรผิดอีกเนี่ย"

ปั๊ก!! ณนนยังคงสวมบทบาทนิ่งเงียบ หยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองเขวี้ยงเข้าไปกลางหัวของคนที่ยังทำเป็นไม่รู้ตัวว่าไปทำอะไรผิดมา คีณลูบหัวตัวเองป้อย ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์เครื่องตรงหน้าขึ้นมาแบบงง ๆ แต่ทันทีที่ปลดล็อคทุกอย่างก็เคลียร์แบบชัดเจน ...ก็ไอ้แชทกลุ่มที่เปิดค้างไว้มันตอบแทนได้ทุกอย่าง

ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง

FayFIN : ‘Sent you a photo’

FayFIN : ไงมึง ล่าสุดไปส่งกันด้วยว่ะ

OverTemp : เฟย์ก็บอกว่าพอแล้วไง ให้มันเคลียร์เอง

ซีด ...ไอ้คีณหน้าซีดเป็นไก่แจ้ต้มไปแล้ว ไม่ได้กลัวความผิดนะแต่เงยหน้าขึ้นจากจอแล้วเจอหน้าอำมหิตมันก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว

"นน ...กลับมาหาคีณตั้งแต่ตีห้าเลยหรอ" ไม่ได้แอบอ่านนะ ก็อนุญาตให้อ่านนี่หว่า

"..........."

"จริง ๆ แล้วที่คีณไม่อยู่ห้องเพราะว่าคีณไปรอนนที่หอเทมตั้งแต่ตีสี่แล้ว..."

"เหอะ..." นั่นล่ะครับท่าน... คำแรกที่ณนนพูดออกมา จี้ใจไอ้คีณเหลือเกิน

"เชื่อกันดินน ไม่เคยโกหกป่ะวะ"

"แล้ว? " ณนนกอดอกจ้องมองอย่างเอาเรื่อง คือถ้าประโยคต่อไปพูดไม่เข้าหูชีวิตไอ้คีณจบแน่ ๆ

"ก็นนหนีกลับห้องมานี่ไง โชคดีนะที่คีณหันไปเห็นว่าไอ้เต่าไม่อยู่แล้วก็เลย...."

"ไปกับพี่พลอย ...ออ หรือจริง ๆ อาจจะพึ่งกลับมาด้วยกัน"

"นี่หยุดงอนแล้วฟังกันก่อน" คีณประคองใบหน้าของณนนไว้ด้วยสองมือ จะเรียกว่าประคองก็คงไม่ถูกซะทีเดียวเพราะมือหนาล็อคแน่นไม่ให้โอกาสณนนในการขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิด ....จับแน่นจนแก้มโย้ตามแรงมือไปหมด

"ออยเอ เอ็บบบบ" เสียงอู้อี้ของคนที่พยายามดิ้นทำให้คีณหลุดขำออกมาเบา ๆ ....ไอ้ดื้อเอ๊ย ไม่งอนจริงก็บอก ดิ้นแต่หัวตัวไม่ขยับมันจะหลุดมั้ยล่ะ

"ฟัง!! "

ปั๊ก!! ...ขอคืนคำที่คิดไว้เมื่อกี้ว่างอนไม่จริง เพราะจังหวะการถีบเข้าที่ท้องน้อยนี่เล่นเอาจุกใช่เล่น นี่คงจะเล็งคีณน้อยไว้แต่พลาดเป้าสินะ

"อ่อยยยย" ร้องอ่อย ๆ ปล่อย ๆ ไปเถอะ ต่อให้จุกจนตาเหลือกไอ้คีณก็จะไม่ยอมปล่อยแน่ ๆ

"...ฟัง! ที่คีณออกไปกับพลอยเพราะเรื่องโปรเจค โอเค๊! แล้วเมื่อคืนก็ไม่ได้ไปไหนต่อไหนกันมาด้วย บังเอิญเจอกันหน้าตึก แล้วอาจารย์ก็เปลี่ยนนัดจากคณะมาเป็นที่คาเฟ่ ถ้ายังมีข้อสงสัยไปถามไอ้ดอมหรือไม่ก็ไอ้เฟรน จบนะ!! " ไม่ต้องรอให้ณนนได้เอ่ยปากเถียง คนที่เป็นจำเลยอยู่ก็ประกบริมฝีปากลงยังปากนุ่ม ๆ ของอีกฝ่าย รสจูบนิ่ม ๆ แต่โหยหาดูดกลืนลมหายใจทั้งหมดของคนทั้งคู่ ฝ่ามือที่เคยประครองเพียงใบหน้าเคลื่อนเข้าเค้นที่บริเวณท้ายทอยเพื่อให้อะไร ๆ มันง่ายขึ้น

"อื้ออออ"

"ห้ามหนีไปอีกนะ" เสียงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูดังขึ้นหลังจากที่ปล่อยปากออกจากกัน ณนนทิ้งหัวลงกับไหล่ของฝั่งตรงข้ามก่อนจะถูกดึงเข้าไปกอดแน่นทดแทนความรู้สึกที่หายไป

"ขอโทษที่งี่เง่า" ณนนหลับตาแน่นพุ่งตัวเข้ากอดอีกฝ่ายเต็มแรงจนหงายหลังลงไปกันเตียง คีณปล่อยตัวเองให้ถูกทับไว้แบบนั้นมือข้างนึงกอดเอวไง้หลวม ๆ ส่วนอีกข้างก็ลูบเส้นผมยุ่ง ๆ นั่นไปมาด้วยความรัก

"รู้ว่างี่เง่าจะหนีไปทำไมห่ะ"

"ก็เสียใจป่ะวะ ใครใช้ให้พูดว่าเบื่อ"

"ก็ลืมไปมีแฟนขี้งอน"

"หึ แล้ววันนี้ที่บ้านใช้นกพิราบสื่อสารรึไงห่ะ ไปหาไม่รู้จักโทร คราวหลังเอาหินถูกันก่อกองไฟส่งสัญญาณควันไปก็ได้" คีณกระชับกอดให้แน่นขึ้นพลิกตัวให้ใครอีกคนลงไปอยู่ใต้ร่างแทน ก่อนจะชันแขนขึ้นมองใบหน้าหล่อใสเอาการนี่ดูยังไงก็รู้ว่ายังไม่หายโกรธซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะคดีหลังที่ต่างฝ่ายต่างรอกันโดยไม่ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์

"ก็กลัวว่าโทรแล้วจะไม่ยอมมาเจอ"

"แล้วไม่คิดว่านนก็จะคิดถึงบ้างหรอ"

"คิดนะ ...แต่คิดไม่ถึงว่าจะน่ารักขนาดนี้" คีณจรดหน้าผากของคนสองคนชิดกัน มือไม้ก็เริ่มจะซุกซนจนคนที่ถูกล้วงไปใต้เสื้อถึงกับกระตุกยิ้ม

"หยุด!! " ...นั่นแหละ คำตอบของการกระตุกยิ้มที่ว่า ปฏิเสธด้วยปากไม่พอต้องยกเข่าใส่คีณน้อยจนหน้าหงายล้มตึงไปนี่แหละตัวจริงณนนเขาล่ะ ....ล้วงเข้าไปยังไม่พ้นท้องน้อยเลยด้วยซ้ำ

"โอ๊ยยยย แม่งงงง"

"ใครบอกว่าหายโกรธวะ เรื่องเมื่อเช้ายังไงก็ไม่หาย" ณนนพูดเสียงดังฟังชัด คีณไม่รู้หรอกว่าเสียงหนักแน่นนั่นมันจริงจังแค่ไหน แต่มันก็มากพอให้มองตามหลังคนที่เดินเข้าห้องน้ำไปด้วยสมองที่ครุ่นคิด ...ต้องทำยังไง

"นน ...ทำไงจะหายโกรธอ่ะ" ไอ้คีณอยากให้ตัดภาพฉากนี้ทิ้งไปจากสารบบ ภาพไอ้คีณเกาะประตูห้องน้ำนี่มันหมดมาดมาก ไม่ควรค่าแก่การจดจำ

"คิดเอาเองสิวะ! " ได้ยินแบบนั้นดวงตาของคีณก็เริ่มฉายแววโรจน์ ...เป็นคนพูดเองนะ ...อนุญาตพี่คีณแล้วนะครับน้องณนน

"........."

คนที่นั่งลงหน้าห้องน้ำกำลังใช้สมาธิอย่างสูงในการทำอะไรบางอย่างบนโทรศัพท์มือถือของตัวเอง นิ้วหัวแม่รัวสัมผัสจอเป็นจังหวะ ...รอยยิ้มร้าย ๆ เริ่มกระตุกชัดบนใบหน้าสลับกับการอมยิ้มหัวเราะราวกับกำลังแกล้งคนที่แสนงอนซะเหลือเกิน ...รอยยิ้มแบบนี้อยากยิ้มมานานแล้ว

"คีณ..."

"ครับ"

"หิวข้าว ...ไปซื้อมา แล้วจะหายโกรธ”

"อ่าหะ...มาม่ามี" อย่าพึ่งชวนคุยเรื่องอื่นได้มั้ยล่ะ ไอ้คีณกำลังใช้สมาธิอยู่

"คีณ ...บอกว่าหิวข้าว" ณนนที่ไม่พอใจกับคำตอบแรกของคีณเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วก็ผูกคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นไอ้ตัวร้ายที่นั่งยิ้มกับจอโทรศัพท์อย่างเป็นปลื้ม เนียนมาฉี่แปบเดียวแต่ไอ้สีหน้าแบบนี้มัน...

...เชี่ย มีเรื่องซวยแน่ ๆ

"เอามานี่" ณนนคว้าเอาโทรศัพท์ของคีณมาไว้ในมือแล้วเลือดสีแดงก็ฉีดขึ้นทั่วใบหน้า จะบอกว่ายังไงดีล่ะ จะโกรธมันก็ไม่ได้โกรธ จะดีใจก็ไม่เพราะมันก็ออกจะเขินซะมากกว่า

"คีณก็คิดได้แค่นี้แหละ แต่นนสัญญาแล้วนะ ว่าถ้ามีใครถามก็จะตอบตรง ๆ " คีณพาดแขนลงกับไหล่ของคนที่กำลังก้มหน้างุดเพราะหลักฐานการง้อในมือตัวเอง

.

โอเค ครั้งนี้ให้ทีมพ่อบ้านใจกล้าเป็นฝ่ายชนะ...

.

Kintapat Keen : วันนี้ผมมีเรื่องมาชี้แจ้งครับ ในช่วงเช้าที่มีคนโพสรูปผมกับพลอย ผมขอยืนยันว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ผมพึ่งเจอกับพลอยหน้าหอแล้วบังเอิญต้องไปแก้งานโปรเจคด้วยกันเท่านั้น ผมกับเพื่อนเป็นเพื่อนที่ดีกันมาตลอด ผมไม่อยากให้เข้าใจผิดกัน พลอยเป็นผู้หญิงจะเสียหายครับ อันที่จริงผมมีแฟนอยู่แล้ว เราคบกันมานานและเขากำลังเข้าใจผิดกับเรื่องนี้ ผมไม่เคยออกมาพูดกับกระแสในอินเตอร์เน็ตครั้งไหน ๆ เลย แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกว่าผมควรจะต้องพูด จะได้เข้าใจตรงกันว่าผมกับพลอยเป็นเพื่อนกัน และผมก็รักแฟนผมมาก แถมเขาก็ง้อยากด้วย ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

สุดท้ายนี้เมื่อถึงเวลาก็จะรู้เองว่าแฟนผม ...คนไหน

รักแฟน คีณ,2560



หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 27-03-2018 11:58:54
คีณคนจริง แฟนผมคนไหนมาจากคีณนี่เอง
ชอบความตัวท็อปของทั้งคู่ แล้วคุณพ่อคีณจะระเบิดลงมั้ยนะ กลัวดราม่า
 ขอสารภาพว่าหลายครั้งเลยที่อ่านชื่อณนนผ่านๆเป็นถนน  :laugh:
ติดตามค่ะๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: fanhy ที่ 27-03-2018 13:49:15
น่ารัก รอให้เปิดตัว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: ptp ที่ 27-03-2018 14:13:59
ต่อออ ฮือน่ารัก  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-03-2018 15:40:22
ดูท่าพ่อคีณเนี่ยแหละเจ้าของมาม่าชามโต๊โต


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 27-03-2018 16:48:58
ติดตามค่าาา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 27-03-2018 20:59:38
ตอนที่ 13 หรือว่าถึงเวลาที่ต้องทำอะไรซักอย่าง?



"เชี่ยยยยยย ลงข่าวหนังสือพิมพ์เลยนะเว้ย นี่เขาว่ารายการเม้าส์ซอยเก้าก็เอาเรื่องนี้ไปพูด ตีนของเจ๊มึงนี่แม่งเด็ดจริง ๆ "

หัวข้อสนทนาสำหรับเย็นวันนี้คงหนีไม่พ้นกระแสที่กำลังเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปทั่ว ข่าวที่ถูกแชร์ในทั่วโลกอินเตอร์เน็ตมันไวซะยิ่งกว่าอะไรดี เผลอกระพริบตาแค่ครั้งเดียวก็กระจายไปทั่วซะแล้ว...

* ‘*ช็อค!! หนุ่มคีณ ทายาทช่องดิจิตอลชื่อดังประกาศชัดมีแฟนแล้ว หักอกสาว ๆ ทั่วประเทศ’

ก็ไม่รู้ว่าจะพาดหัวข่าวให้มันเว่อร์วังอลังการเรียกยอดไลค์ไปทำไมนักหนา กับอีเรื่องแค่นี้ชาวเน็ตยังไม่ต้องช็อคหรอก

เอาไว้รู้ว่าแฟนเป็นผู้ชายค่อยช็อค

หรือเอาไว้ช็อคทีเดียวตอนรู้ว่าเป็นเน็ตไอดอลคนดังก็ได้

"กูระดับไหนแล้ว แค่นี้กระจอก" เจ้าตัวที่เป็นข่าวดังชั่วข้ามคืนยักไหล่ชิว ๆ ตอบเจ๊บีมเพื่อนชายใจหญิงร่วมรุ่นที่หูไวตาไวเรื่องข่าวอย่าบอกใคร สีหน้าขำ ๆ ที่กำลังแสดงอยู่นี่คล้ายกับไม่ระคายกับข่าวที่กำลังเป็นประเด็นสนทนาให้คนทั้งมหาลัยจับกลุ่มคุยกันเลยซักนิด โดยเฉพาะสายเม้าท์อย่างหนุ่มสาวคณะนิเทศที่มาช่วยกันจัดสถานที่สำหรับงานแสดงผลงานที่กำลังจะเริ่มขึ้น

"ทำเป็นคุย มึงก็ไม่กล้าเปิดตัวว่าเป็นใครล่ะว้า" เฟรนก้มลงกระซิบที่หูคนที่ขะมักเขม้นทาสีไม้ฉากอยู่ข้าง ๆ นี่ก็ถือว่ามีความปราณีแล้วนะถึงได้กระซิบบอกแค่สองคน ไม่งั้นประชาชีอีกเป็นสิบได้พุ่งตรงเข้ามาสาวไส้แน่

"หุบปากไปเลยมึง! " คีณยกแปรงทาสีขึ้นจ่อหน้าเพื่อน ถ้ายังไม่หยุดพูดหน้าได้ขาวออร่าด้วยทีโอเอแน่ ๆ

"นี่ตีนถามจริง ใครวะ มหาลัยเราป่ะ คณะไหน? " เจ๊บีมเริ่มทำการสืบสวนอีกครั้ง เฟรนและดอมหันหน้ายักคิ้วให้กันเพราะรู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ๊บีมคนนี้เริ่มสืบสาวเรื่องใด ...เรื่องนั้นจะต้องกระจ่างในที่สุด และการจะให้เจ๊บีมรู้ควรจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายในสากลโลก เพราะอะไรน่ะหรอ... เจ๊บีมรู้ โลกรู้ จักรวาลรู้

งั้นข้อตกลงที่ว่าถ้ามีใครถามจะพูดตรง ๆ ควรเว้นเจ๊บีมเอาไว้คนนึง!

"กูชื่อคีณปะวะ ตีนนั่นมันหน้ามึงเจ๊ เดี๋ยวโดนก้านคอ" ...พอได้มั้ยล่ะ สเต็ปการเปลี่ยนเรื่องของไอคีณ ...ไม่มีใครเห็นสายตาล่อกแล่กนี่ใช่มั้ย

"อย่ามาเปลี่ยนเรื่องค่ะ กูเรียกมึงงี้ตั้งแต่ปีหนึ่งละเนอะ" นั่นไงล่ะคีณกำลังเจอฤทธิ์เจ๊บีมในตำนานเข้าแล้ว

"เออ!! เดี๋ยวค่อยรู้ไม่ได้รึไงว่ะเจ๊"

“ไม่ได้ ยังไงยะ ตกลงว่าใคร”

“...กู ...ไม่ ...บอก!!”

"อะไรกันคะคุณ กับเพื่อนกับฝูงทำเป็นหวงความลับหรอ ...หรือว่ามันมีอะไรมากกว่าแค่มึงมีแฟน... ปกติก็เห็นมึงเป็นประเด็นกับอิพลอยบ่อย ๆ ไม่เห็นออกมาดิ้นห่าอะไร”

“ก็.....”

“พูดดดดดด”

“ก็กูไม่อยากให้คนเข้าใจผิด พลอยมันเป็นผู้หญิง มันเสียหาย”

“แค่นั้นหรอ”

“เออ”

“แล้ว….มึงเคยเป็นประเด็นร้อนฮอตฉ่ากับคนนั้นของมึงบ้างม่ะ”

“ไม่รู้”

“ไม่รู้ก็แปลได้ว่ามี… อืม ...เดี๋ยวนะ... เกี่ยวกับที่มึงมีข่าวกับน้องณนนหน้าใสของกูก่อนหน้านี้ป่ะ ไม่ใช่ใช่มั้ย! " ...จบกันไอ้มือที่ทาสีอยู่มือกี้แม่งหยุดชะงักไปราวกับมีคนมาสะกิดที่สวิตช์ ...บอกแล้วว่าอิเจ๊นี่มันร้าย สมกับที่เป็นท็อปของคลาสเขียนบท ประติดประต่อเรื่องได้เก่งจริง ๆ

"ไม่เกี่ยวหรอก กับน้องนนนั่นเรื่องงานเว้ย" คีณเงยหน้ามองเพื่อนที่ออกตัวแทนอย่างรู้ทัน ...กลัวไม่ได้แดกเหล้าที่ติดสินบนไว้สินะ หึ...แต่ก็ถือว่าไอ้คีณไม่ได้ผิดสัญญาเรื่องถามตรงตอบตรงแล้วกันนะ

"อีดอกดอม มีออกตัวแทนนะมึง ทำงานเป็นทีม กูคุยกับตีนย่ะ"

"เออ ไม่เสือกก็ได้วะ"

"กับน้องนนไม่มีไรจริงหรอ กูเห็นคลิปที่มึงไปจับมือน้องเขาคุยอะไรกันตั้งนานสองนาน" ยัง... ยังอีก ยังไม่หยุดอีก

"ก็เรื่องงาน" คีณตอบส่ง ๆ ไม่กล้าหันมาสบตาคนถาม ก็ดูสีหน้าจับผิดตอนนี้สิ ใครกล้ามองก็บ้าแล้ว

"จริงหรอ แต่มึงมองน้องเขาตาเยิ้มเลยนะ"

"เออ จะซักจนกูสะอาดเลยมั้ยอิเจ๊"

"ถ้าไม่มีอะไรก็โอเค เพราะถ้าน้องณนนของกูต้องตกเป็นของมึงตามที่กูคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า กูคงจะเสียดายมากกกกกกก ....แต่กูจะยังไม่วางใจจนกว่ากูจะรู้ว่าใครเป็นแฟนที่มึงพูดถึง"

"แล้วมึงไม่เสียดายกูหรอบีม กูหล่อนะ"

"ไม่ล่ะค่ะ กูรู้ไส้รู้พุงมึงหมดแล้ว ก็แค่แปลกใจนิดหน่อยที่ผู้อย่างมึงมีเมียแล้วกูไม่รู้ แต่กูไม่คิดเสียดายให้เป็นประวัติเสียหายในชีวิตแน่" ระหว่างที่เจ๊บีมกำลังจีบปากจีบคอพูดคล้ายสะอิดสะเอียนเพื่อนหน้าหล่อคนนี้เต็มทน เพื่อน ๆ รอบ ๆ ไม่เว้นแม้แต่คีณก็อดที่จะขำกับท่าทางเหล่านั้นไม่ได้ จนกระทั่งประโยคต่อมาของเจ๊บีมที่เล่นเอาดอมและเฟรนหันมากลืนน้ำลายใส่กันโดยไม่ได้นัดหมาย

"มึงไม่มีอะไรในกอไผ่กับน้องนนก็ดีล่ะ น้องซีซั่นของกูจะได้ไม่มีคู่แข่ง เหมาะสมกันอย่างกะกิ่งทองใบหยก จีบกันน่ารักฉิบหาย กูล่ะเชียร์"

"มึงพูดอะไรนะอิเจ๊!! " คีณลุกขึ้นชี้หน้าเจ๊บีมด้วยแปรงทาสีหน้าท่าทางที่ดูโกรธจัด ไอ้ชื่อที่ไม่คิดอยากจะได้ยินกลับมาให้เกิดอาการโมโหได้อีกแล้ว เจ๊บีมกระพริบตาปริบ ๆ ราวกับยังไม่รู้ตัวซักนิดว่าทำอะไรผิดตรงไหน

"อ...ไอ้คีณ ไปเอารูปกันมึง ร้านโทรตามแล้ว! " เฟรนดูจะตั้งสติได้เป็นคนแรกและรู้ว่าเพื่อนของเขากำลังถูกจับจ้องด้วยคนทั้งคณะ

"เออ พวกมึงไปช่วยกันขนไป" ดอมเสริม ด้านเฟรนก็ดึงเอาแปรงทาสีออกจากมือคีณทิ้งมันลงถังอย่างรีบ ๆ ก่อนจะพยายามดันหลังเพื่อนให้ออกจากการเป็นจุดสนใจ แต่เหมือนว่าตอนนี้คนที่มองตามหลังสองหนุ่มตอนนี้กำลังยิ้มเบา ๆ พูดกับตัวเองอย่างพอใจ ...ฉลาดกว่าอิบีมไม่มีอีกแล้ว

"อุ๊บส์ ไม่มีอะไรจริง ๆ ด้วย"

.

.

.

"ไอ้ห่าคีณ อิเจ๊บีมสงสัยหนักกว่าเก่าแน่ ความแตกกูไม่ช่วยนะเว้ย อิเจ๊รู้มึงเป็นข่าวไปถึงดาวอังคารแน่"

"มันจะสงสัยก็เพราะมึงลากกูออกมาเนี่ยแหละ"

"ก็มึงเล่นองค์ลงขนาดนั้น ห่า จะรอให้มันถามมั้ยล่ะว่าโมโหเรื่องอะไร" เฟรนเดินนำคีณออกมานั่งสงบสติด้านหลังคณะ แต่ดูท่าแล้วคีณไม่มีวี่แววนี่จะสงบลงเลยซักนิด

"ก็แม่งจี้จุดกูนี่หว่า"

"มึงก็ใจเย็นป่ะวะ ดูท่าแล้วน้องนนก็ไม่ได้สนใจไอ้เด็กนั่น เห็นแม่งเพ้อลงเฟซอยู่คนเดียว"

"พวกมึงไม่รู้อะไร ไอ้เหี้ยนี่มันแม่งพยายามเข้าหานนทุกช่องทาง"

"งั้นกูว่ามึงต้องทำอะไรซักอย่างล่ะว่ะ ปล่อยไว้แบบนี้สุขภาพจิตมึงเสียแน่ ๆ ที่จู่ ๆ ความแตกจนพวกกูรู้ก็เพราะเรื่องไอ้เด็กนี่ไม่ใช่รึไง"

"กูทำไงดีวะ... ทำยังไงมันถึงจะออกไปซักที"

"ทำอะไรก็ได้ให้ทุกอย่างจบ หรือไม่ แทนที่มึงจะหาทางไล่มันไป ทำไมไม่หาทางจัดการกับตัวเองวะ ถ้าเป็นกู กูรู้ว่าเขามีเจ้าของแล้วกูไม่ยุ่งหรอก" ดูเหมือนคำพูดของเฟรนจะจุดประกายไอเดียดี ๆ ของคีณขึ้นมาอีกครั้ง ร่างสูงหลับตาแน่นคิดแผนการดี ๆ ไว้เป็นฉาก ๆ ในหัว ...แผนที่ยังไม่รับประกันว่าจะล่มไม่เป็นท่ารึเปล่า

"กูจะเปิดตัว” เฟรนเลิกตามองเพื่อนที่กำลังมีสีหน้ามุ่งมันด้วยความแปลกใจเล็ก ๆ

“ไหนมึงว่าน้องนนไม่ยอม แล้วเขาจะให้มึงพูดหรอ"

"นั่นแหละมิชชั่นที่กูต้องทำ..."

“มีมิชชั่นอะไรหรอ… ให้บีมช่วยมั้ยคะเพื่อนรัก” เสียงเย็น ๆ ที่ดังขึ้นจากด้านหลังแทบจะหยุดวงโคจรของกลุ่มสุริยะจักรวาล ...บอกได้คำเดียว งานนี้ถ้าไม่ให้เพื่อนบีมร่วมวงด้วยล่ะก็…

มีแต่ซวยกับซวย

เอาล่ะ ขออนุญาตจุดธูปสามดอกบนบานลูกหมูสามตัวล่วงหน้าให้แผนการเปิดตัวเป็นไปได้ดี...

สาธุ





หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 27-03-2018 21:00:52
ตอนที่ 14 เสียใจด้วยที่เรื่องนี้ไม่ใช่พระเอก



ปาร์ตี้สุกี้หม้อใหญ่ของกลุ่มเพื่อนคณะวิทย์สติเฟื่องกำลังเริ่มต้น เฟย์จัดการเททุกสรรพสิ่งเท่าที่จะหามายัดใส่ท้องได้ลงหม้อ โดยมีเจ้าของสถานที่อย่างเทมเป็นผู้กำกับอยู่ข้าง ๆ การล้อมวงครั้งนี้ไม่ได้เกิดเนื่องในโอกาสพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากโอกาส 'อยากแดก' ที่นีลเป็นคนเสนอและทุกคนก็เต็มใจสนอง

"แดกเสร็จแล้วคืนนี้ไปต่อป่ะ แม่งไม่ได้ไปตื้ดนานล่ะว่ะ" เทมเสนอขณะที่จ้องหม้อที่เดือดปุด ๆ ตาไม่กระพริบ

"แล้วทำไมไม่ซื้อมาแดกที่ห้องวะ ตั้งวงขนาดนี้ล่ะ กูไม่ขยันไปหรอก ขี้เกียจกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย" เฟย์ว่า

"กูเห็นด้วย" ณนนพูดเรียบ ๆ ระหว่างที่ยังเอาแต่เล่นมือถือไม่ยอมหยุดตั้งแต่ก้นสัมผัสพื้นห้องเทม เรื่องของเรื่องคือเจ้าตัวเอาแต่อ่านกระแสเรื่องที่ใครบางคนก่อไว้ ...ถึงจะยิ้มแป้นที่คีณประกาศชัดและไม่ค่อยมีใครพุ่งเป้าแฟนปริศนามายังตัวเอง แต่ในใจลึก ๆ มันก็ยังแอบเป็นกังวลอยู่ดี





รู้สึกเหมือนความลับกำลังจะแตกเร็ว ๆ นี้





"แหม่ ...กลัวพี่คีณว่าล่ะสิมึง" นีลจิ้มนิ้วเขิน ๆ กับตัวเองจนเทมต้องถอนหายใจ ดูเหมือนอดีตแฟนคลับอันดับหนึ่งของคีณคนนี้จะได้เสียสติและกลายเป็นแฟนคลับคู่จิ้นคีณนนไปเรียบร้อย

...ก็ถ้าตัวเองไม่ได้ แต่ไม่ได้เสียเขาให้ชะนีหน้าไหนมันก็แฮปปี้ดี อิอิ

"ไม่เกี่ยวเว้ย อย่างกับก่อนหน้านี้กูมีปัญหาเวลาไปแดกเหล้ากับพวกมึงงั้นแหละ"

"มึงอาจจะไปมีปัญหากันที่ห้องก็ได้ ใครจะไปรู้" ถ้าไม่ติดว่านีลเป็นผู้หญิงณนนคงจะฟาดลงกลางหัวเข้าซักที ก่อนหน้านี้ก็เงียบไปจนคิดว่าจะโกรธ ที่ไหนได้ตอนนี้เป็นบ้าพูดมากกว่าเดิมอีก

"บ้านมึงเถอะ" ณนนไม่สนใจ คีบสุกี้ในถ้วยที่เฟย์ตักประเคนให้เข้าปาก ใครจะว่าบ้าก็คงต้องยอมที่กินไปยิ้มไปแบบตอนนี้ นี่ล่ะนะที่เขามีเพื่อนดี ๆ มีชัยไปกว่าครึ่ง นอกจากจะไม่มีใครโกรธณนนที่ปิดบังเรื่องใหญ่ขนาดนี้มาเป็นปี ๆ ทุกคนยังเป็นห่วงเป็นใยและเปิดใจรับจนเจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะปลื้ม แถมยังไม่มีใครตั้งข้อสงสัยเรื่องที่เขาชอบผู้ชายด้วยกันเลยซักนิด

แล้วเพื่อนสามคนนี้จะใช้เป็นบรรทัดฐานของคนทั่วไปได้รึเปล่านะ

ตึ้ง

ตึ้ง

ตึ้ง

เสียงแชทไลน์ติดกันสามครั้งทำให้ณนนต้องละสายตาจากถ้วยสุกี้แล้วมองรายชื่อเพื่อนใหม่ที่พึ่งแอดมาผ่านไลน์ไอดีด้วยความฉงน ไม่สงสัยหรอกว่าเป็นใครเพราะรูปดิสยิ้มแป้นแล้นท่าทางน่าถีบเนี่ยมันชัดเจนอยู่แล้ว แต่ที่กำลังสงสัยคือไปเอาไลน์เขามาจากไหนต่างหาก

Season'See

'สวัสดีครับ'

'เราซีเองนะ'

Season'See Sent you a new stricker

สติ๊กเกอร์รูปท่านผู้นำเกาหลีเหนือถืออมยิ้ม...

'อืม ดี'

ณนนพิมพ์ตอบไปตามมารยาทที่ควรจะมี อย่างน้อยเขาคนนี้ก็เคยคิดยื่นมือมาช่วยในยามที่เดือดร้อนครั้งนึง ถึงแม้ว่ายังไม่ทันจะได้ช่วยเพราะมีใครบางคนมาขวางไว้ ผูกมิตรไว้บ้างก็คงดีกว่าสร้างศัตรู ถึงใครบางคนมันจะขู่ฟ่อใส่ตลอดเวลาก็เถอะ

'โอเคป่าวที่เราแอดมา ไปแอบขอมาจากเพื่อนที่คณะนน'

'แค่อยากคุย'

ณนนเม้มปากเบา ๆ หยุดคิดไปแวบนึง เอาจริง ๆ ก็คงจะไม่โอเคเท่าไหร่ที่ซีซั่นพยายามสารพัดวิธีในการเข้าหา จริง ๆ เขาควรจะชินกับการถูกจีบได้แล้วเพราะทั้งหญิงทั้งชายก็แวะเวียนเข้ามาขายขนมจีบไม่เคยหยุด แต่สำหรับรายที่พยายามปฏิเสธยังไงก็ยิ่งเข้าใกล้ก็พึ่งจะเคยเห็นนี่ล่ะ

'ไม่เป็นไร'

ดูเหมือนว่าปลายทางจะเงียบไปไม่มีการตอบกลับ ณนนหันมาร่วมวงสุกี้เฮฮากับอีกสามคนที่เหลือเพราะไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนกระทั่งเสียงเตือนครั้งต่อมาที่ทำให้ขมวดคิ้วขึ้นมาได้อีกครั้ง

'ไม่เกลียดเราใช่ป่ะ ที่เราทำอยู่ตอนนี้'

'ที่เราทำ ที่เราจีบ เราจริงจังนะ’

"คุยกับใครว่ะนน ดูทำหน้า" เทมจับสังเกตสีหน้ายาก ๆ ของเพื่อนได้จนต้องเอ่ยถาม ณนนยักไหล่ตอบราวกับไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก

"ซีซั่นว่ะ ไม่รู้ไปเอาไลน์กูมาจากใคร"

"เชี่ยนี่แม่งโคตรมีความพยายาม นี่ขนาดเกือบโดนพี่คีณฆ่าตายตั้งสองรอบ แถมมึงปฏิเสธซะออกนอกหน้าขนาดนั้น"

ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง

"ไรนักหนาว่ะ มาดูดิ กูจัดการให้" ถึงเวลาที่เทมจะออกโรงปกป้องเพื่อนบ้างแล้ว ฮีโร่จำเป็นสละตะเกียบพุ่งเข้าชาร์ตโทรศัพท์ราวกับเป็นของตัวเอง

"สาบานว่าอยากช่วย ไม่ได้อยากเสือก" เฟย์ได้พูดแทนใจทุกคนไปหมดแล้ว แต่เจ้าตัวสะทกสะท้านซะทีไหน

‘อย่าพยายามเลย มันไม่ได้ผลหรอก เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า’

'เราจะพยายาม'

'มันเป็นสิทธิของเราที่จะพยายามไม่ใช่หรอ'

‘นนยังไม่เคยเปิดโอกาสให้เราซักครั้ง ขอแค่โอกาสไม่ได้หรอ’

'ต่อให้นายไม่ชอบเรา หรือนายมีใครในใจอยู่แล้ว เราจะทำให้นายชอบเราให้ได้'

'บทสุดท้ายของเรื่องนี้ ...มันจะต้องเป็นเรา'

เทมอ่านออกเสียงแชทในมืออย่างออกรส วงสุกี้หยุดชะงักกันมาจ้องเจ้าของมือถืออย่างตั้งใจ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวกำลังคีบผักเข้าปากราวกับไม่ได้สนใจอะไรเลย

"แม่งอ่านนิยายมากไปป่ะวะ กูสัมผัสได้แต่ความเลี่ยน"

"มึงจะตอบเองหรือให้กูตอบ" เทมยื่นมือถือคืนให้ สบตาเจ้าของเครื่องเพียงนิดเพื่อต้องการคำตอบ แต่แล้วเทมก็ได้กระตุกยิ้มแรง ๆ เมื่อณนนพยักหน้ายืนยันให้เขาจัดการเรื่องนี้ได้เองกับมือ เจ้าตัวพิมพ์ตอบเพียงสั้น ๆ ขัดใจเพื่อนฝูงที่รอลุ้นละครโรแมนติกดราม่าฉากต่อไป

'พอเถอะสัด เรื่องนี้มึงไม่ใช่พระเอก! '

.

Block Season'see

ขอโทษที ...นี่ไม่ใช่นิยายเอเลี่ยนปะทะพรีเดเตอร์

.

“ถ้ามันมาวุ่นวายกับมึงอีกบอกกูเลยนะ”

“เออ ขอบคุณว่ะเทม พวกมึงทุกคนด้วย”

พูดตรง ๆ คือสิ่งที่เทมทำก็คือสิ่งที่ณนนอยากจะทำ ...ไม่อยากมีปัญหา คนเราไม่ควรให้ความหวังใครมากมายเพียงเพราะเขาก็ดูเป็นคนดี กี่รายแล้วที่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังเพราะการคุยที่มั่นใจว่าตัวเองไม่คิดอะไร ณนนไม่ได้กลัวตัวเองเผลอไผล แต่กลัวว่าอีกคนจะถลำเข้ามาจนยากที่จะเดินออกไปง่าย ๆ แค่ตอนนี้ก็เรื่องให้คิดมากพออยู่แล้ว มันอาจจะดูใจร้ายที่ไม่เปิดโอกาสให้คนที่เขามา

.

แต่มันจะไม่ดูใจร้ายกับคีณหรอถ้าเขาคุยกับคนที่เข้ามาจีบแม้ว่าจะไม่ได้คิดอะไรก็ตาม

แม่งเอ๊ย อยู่ดี ๆ ก็เขิน

.

"กูว่ามึงหนักละ แดกสุกี้แล้วหน้าแดง อะไรของมึง" เฟย์โบกมือไปมาตรงหน้า

"ป่าวว่ะ คิดอะไรเพลิน ๆ "

"คิดถึงพี่คีณ คิคิ อร๊ายยยยยย" โอเค... หน้าที่ของนีลมีเท่านี้ หลังจากหมดบทบาทในการชื่นชมคีณแล้วที่เหลือก็คงมีแต่ชงและชง.... แต่เกรงว่าฟันจะหักก่อนตะเกียบที่คาบอยู่ในปากน่ะสิ

"นีล กินไปเลยมึงอ่ะ"

"ฮั่นแน่ มันจริงใช่มั้ยล่ะมึง นี่ถ้าบอกพวกกูตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องทำตัวเก็บกดมาขนาดนี้หร๊อกกกกก"

ปั๊กกกกก!!

“มึงนั่งแดกไปเฉย ๆ เลยครับผม!”

ดูเหมือนว่าตะเกียบในมือณนนมันจะไวกว่าความคิดไปหน่อย ถึงได้ลอยละลิ่วตกลงการหัวนีลแบบนั้น ลืมไปเลยเรื่องที่จะไม่ทำร้ายร่างกายเพื่อนผู้หญิง สุดท้ายกว่าสุกี้จะหมดหม้อจนทุกคนหนังท้องตึงเวลาก็ล่วงเลยไปเกินสองทุ่ม เป็นหน้าที่ของณนนที่จะต้องไปส่งเพื่อนสาวสองคนที่พักอยู่ด้วยกันอีกหอซึ่งไม่ไกลนัก นั่นก็หมายความว่ากว่าเจ้าตัวจะขับเจ้าเต่ากลับที่พักได้ก็สามทุ่มกว่าเข้าพอดี

ร่างโปร่งจอดรถที่ลานชั้นใต้ดินคอนโดตำแหน่งเดิมเหมือนอย่างเคย ดีที่จ่ายค่าจอดเป็นรายปีไว้เลยหายห่วงเรื่องหาที่จอด ดับเครื่องยนต์ก้าวลงจากรถมาได้ก็ไม่ลืมที่จะหันไปมองรถอีกคันของใครบางคนที่จอดประจำอยู่อีกฝั่ง เจ้าบีเอ็มคันเดิมจอดอยู่ในตำแหน่งเรียบร้อยทั้งที่ณนนคิดว่าจะกลับดึกมากกว่านี้

"แฮ่!! "

"เหี้ย!! " ณนนสะดุ้งตัวโยนเมื่อมีมือปริศนาคว้าหมับเข้าที่เอว แขนขวายกขึ้นฟาดเต็มแรงตามสัญชาตญาณ แต่ผู้มาเยือนก็คว้าหมับเข้าให้ราวกับรู้จังหวะการตกใจเป็นอย่างดี

"โห เหี้ยเลยหรอ" เสียงติดตลกเจ้าของมือผีนี่ไม่ใช่ใคร ก็เจ้าของบีเอ็มซีรีย์สี่คันนั้นนั่นแหละ

"เออ เล่นไรไม่เข้าท่า ...ฮ...555555" ณนนเด้งตัวหนีผู้มาเยือน ตีหน้ายักษ์เตรียมคาดโทษเอาความเต็มที่ แต่พอหันไปมองหน้าชัด ๆ เท่านั้นแหละ หลุดขำแทบพูดไม่เป็นภาษา สภาพคีณตอนนี้มอมแมมไปด้วยทั้งสีทั้งฝุ่น พีคสุดก็คงเป็นจุกบนหัวที่ถูกมัดไว้ด้วยยางมัดถุงแกง

หมดกัน เก๊กหล่อมาทั้งชีวิต

"ขำอะไร ไม่เห็นตลก" คีณลูบหัวตัวเองป้อย ๆ เพราะว่าจริง ๆ ก็แอบอายอยู่เหมือนกัน ดีที่ช่วงเวลานี้ลานจอดรถใต้อาคารไม่ใช่ช่วงเวลาที่มีผู้คนเดินผลุกผล่าน ให้เพื่อนที่คณะมันขำก็มากเกินพอที่จะอายแล้ว

"ไปทำไรมา สภาพ" ณนนมองคีณตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วกลั้นขำ สีที่เลอะไปทั้งตัวขนาดนี้มันไม่ได้มาจากการขับพู่กันทำงานอย่างเดียวแน่ ๆ มันเหมือนทิ้งทั้งตัวลงไปคลุกในจานสีซะมากกว่า

"อีเจ๊บีมอ่ะดิ มันรู้เรื่องเราแล้วนะ พอรู้ปั๊บก็ได้ทีเป็นต่อ นี่ถ้าไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างมันข่าวกระจายทั้งคณะแน่ ๆ เละ...หมดหล่อเลย..." ณนนผวาเล็กๆ เมื่ออีกฝ่ายวางคางลงมาที่ไหล ดวงตานั่นฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่เรื่องปกติที่เขาสองคนจะเป็นคนรู้จักกันที่นี่ ถึงแม้ว่าบรรยากาศรอบข้างนี่ไม่ชวนให้ต้องกังวลก็เถอะ

“พี่บีมที่เป็นประธานชมรมสันทนาการอ่ะหรอ”

“เออ นั่นแหละ”

"น่าสงสาร" ณนนโยกหัวเบา ๆ ให้กระทบกับคนที่ทิ้งน้ำหนักหัวไว้ที่ไหล่ ใบหน้าเปื้อนฝุ่นดูท่าจะเปื้อนยิ้มแทนคล้ายหายเหนื่อยทั้งที่เตรียมงานมาทั้งวัน

"วันงานไปดูนิทรรศการคีณนะ ตอนบ่ายมีร้องเพลงด้วย"

"แต่..." ณนนฉุกคิดเบา ๆ ไม่ใช่ไม่อยากไป แต่เบื่อการถูกจับจ้องซะมากกว่า

"พาเพื่อนไปด้วยก็ได้ อยากให้ไปจริง ๆ "

"ก็ได้ แต่ถ้าโดนแย่งซีนไม่รู้ด้วยนะ"

"เรื่องได้ซีนเนี่ย... เดี๋ยวรู้กัน หึหึ" คีณบิดจมูกของอีกฝ่ายไปมาจนหน้าบู้บี้โยกไปตามแรงมือ

"ครับ...เดี๋ยวรู้กัน"

"เดี๋ยว ๆ แกะจุกให้ก่อน" เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะเดินต่อ คีณก้มหัวลงเล็กน้อยหวังได้รับความช่วยเหลือในการแกะจุกผมที่แก้เองยังไงก็ไม่ออก แต่สิ่งที่ได้รับคือการเขกหัวแรง ๆ จากฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น ...ไร้ความปราณี

"ไปแกะบนห้อง" ณนนกระตุกยิ้มเบา ๆ แล้วเดินหนีอีกคนเข้าตัวตึก แสงไฟที่สว่างวาบด้านในทำให้คนที่เดินตามรู้ตัวว่าต้องรักษาระยะห่างในการเดินแค่ไหน

“บนห้องมันจะไม่ได้แกะแค่จุกอ่ะดิ”

“..................” โอเค ...นิ้วกลางจากสองมือที่ได้รับนี่แทนคำตอบได้มากมายจริง ๆ

"นนนนนน แกะให้หน่อยเหอะ .....อาย"

"เดินมาขนาดนี้ไม่ต้องอายละป่ะ"

"งั้นถ้าจะให้เดินแบบนี้ ต้องอาบน้ำให้ด้วย" ได้ยินแบบนั้นดวงตาขวาง ๆ ก็หันไปมองแทบจะทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคบกันมาขนาดนี้ก็ยังจะเสือกเขินจนหูแดงอีก

"เป็นง่อยหรอ"

"ถ้าเป็นง่อยแล้วแฟนอาบน้ำให้ ...เป็นก็ได้" คีณทิ้งตัวเซเข้าหาณนนที่กำลังยืนรอลิฟต์ แต่เสียดายที่อีกฝ่ายรู้ทันผนังตึกจึงเป็นที่รับน้ำหนักไว้แทน

“พี่คีณครับ ...แฟนพี่ ใครหรอ....”

“ไว้ถึงเวลาพี่ค่อยบอกนะครับน้องนน ...ว่าแฟนพี่คนไหน” รอยยิ้มกว้าง ๆ ของคนสองคนมันชัดเจนในความรู้สึก แม้ว่าการแสดงออกภายนอก ณ เวลานี้มันเหมือนเป็นแค่คนรู้จักที่บังเอิญเจอกันก็ตาม

"โทษนะครับพี่ ลิฟท์มาแล้ว จะไปด้วยกันมั้ย" ณนนยักคิ้วเชื้อเชิญอีกฝ่ายเมื่อลิฟท์เปิดออก คีณเดินตามเข้าไปโคลงหัวยิ้มอย่างพอใจเมื่อในลิฟท์ไม่มีใคร

"ไปครับ"

"ชั้นไหนครับพี่" ณนนหันมาถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามีจุดหมายปลายทางเป็นชั้นเดียวกัน ห้องเดียวกัน ...อาการกวนตีน... นี่ยิ่งทำให้คีณรู้สึกหมั่นเขี้ยวอยากจะกัดอีกฝ่ายให้หายคันเขี้ยวซะให้เข็ด

"ชั้นร...."

"ชั้นรักนาย ...มุกพี่โคตรเก่าเลยครับ" การโดนดักมุกสมัยพระเจ้าเหาด้วยหน้านิ่ง ๆ นี่ก็ยิ่งทำให้ความหมั่นไส้มันเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ

อยากกินแม่งเข้าไปทั้งตัว

"น้องครับ...น้องว่า ก่อนที่ลิฟท์จะเปิด พี่จะจูบ.... ทันมั้ย" คีณยื่นหน้าเข้ามาใกล้ อีกฝ่ายกระตุกยิ้มจรดริมฝีปากลงเบา ๆ แทนคำตอบ

"แล้วถ้าทัน... แค่นี้มันจะพอหรอครับ" ณนนทิ้งให้อีกฝ่ายยืนยิ้มกริ่มคนเดียวทันทีที่ลิฟท์เปิดออก พอตั้งสติได้ร่างสูงก็ก้าวยาวตามไปมองเป้าหมายที่เดินนำอยู่อย่างไม่วางตา

...อย่าคิดว่าคืนนี้จะได้นอนดี ๆ

....ไม่รู้ล่ะ....ใครใช้ให้ยั่ววะ







หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 27-03-2018 21:04:18
ตอนที่ 15 รูปถ่ายหลายอารมณ์



"ดูจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษเลยนะครับสำหรับโซนผลงานภาพจากสามหนุ่มสามมุมประจำคณะเรา ตัวผมเองก็ไม่ค่อยมั่นใจซักเท่าไหร่ว่าเพราะฝีมือเจ้าของผลงาน หรือเพราะหน้าตาของคนที่อยู่ในภาพไฮไลท์กันแน่"

"ใช่แล้วล่ะค่ะคุณบีม แต่โซนอื่นก็ไม่ได้น้อยหน้ากันเลยนะคะ ผลงานจากชมรมหนังสั้นก็ดูจะเป็นที่นิยมเช่นกัน เรียกได้ว่าชาวนิเทศของเรามีความสามารถมากมายหลายด้านจริง ๆ ค่ะ"

สองพิธีกรหลักประจำงานปฏิบัติหน้าที่กันอย่างแข็งขัน เสียงเจื้อยแจ้วดังไปทั่วคณะนิเทศศาสตร์เป็นการสร้างสีสันของงานเพิ่มขึ้นได้มากทีเดียว ใต้ลานคณะตอนนี้ถูกแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ให้ผู้มาเยือนได้เลือกชม ไม่ว่าจะเป็นผลงานของรุ่นพี่ปีสี่ หรือผลงานต่าง ๆ ของรุ่นน้อง ส่วนไฮไลท์ของงานจริง ๆ ก็คงจะเป็นละครเวทีและมินิคอนเสิร์ตที่เรียกเสียงกรี๊ดและชิงพื้นที่สื่อได้แทบทุกปี ก็เรียกได้ว่างานนี้อลังการคุ้มค่าบัตร 50 บาทนั่นแหละ

"หูวววว นักข่าวเยอะว่ะ" เทมเอ่ยปากขึ้นเมื่อเดินมาถึงบริเวณหน้างาน จริง ๆ ส่วนใหญ่ของนักข่าวที่มาก็จะเป็นรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว ส่วนอีกกลุ่มก็มาตามเก็บภาพเหล่าดาราดังที่กลับมาเยือนสถาบันเก่า

"ก็เยอะแบบนี้ทุกปีป่ะวะ" เทมมองหน้าคนตอบอย่างณนนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

"หรออออ แปลว่ามึงแอบมาหลายปีแล้วใช่มั้ยวะเพื่อน"

"สัด! ...แค่มีคนเล่าให้ฟังเว้ย" ณนนก้มหน้าหลบสายตาจับผิดของเทม ให้ตายเถอะในเวลานี้เหมือนชีวิตอยู่ใต้อำนาจเพื่อนทุกคนที่กุมความลับไว้อยู่ นี่ดีที่นีลกับเฟย์ติดธุระมาด้วยไม่ได้ ไม่งั้นได้เจอแซวทุกก้าวที่เดินแน่

"อ๋อหรออออ ...ว่าแต่ไหนพี่คีณของมึงวะ"

"เงียบปากไปเลยมึง ถ้าคนอื่นได้ยินที่มึงพูด กูเตะไข่แตกแน่" ดูเหมือนว่าเทมไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่นิด สองหนุ่มเดินมายังทางเข้างานเพื่อตรวจบัตร ถึงงานนี้จะเก็บค่าเข้าชมแต่ก็คนแน่นราวกับดูฟรี ก็แน่ล่ะ ดาราบางคนที่คุณอาจจะเจออยู่ในงานแค่เดินผ่านก็คุ้มยิ่งกว่าค่าบัตรซะอีก

"น้องนน มาเหมือนกันหรอคะเนี่ย" หญิงสาวไม่ได้ให้ความสนใจคนที่กำลังยื่นบัตร รับมันมาปั้มส่ง ๆ แล้วก็ยื่นคืนให้เทมอย่างไม่ค่อยให้ความสนใจนัก ทำไงได้ นานทีปีหนจะเห็นณนนตัวเป็น ๆ ใกล้ขนาดนี้

"ครับ พอดีมาดูงานที่เคยมาถ่ายให้พี่เฟรน"

"กลุ่มพี่คีณน่ะครับ! " ณนนถลึงตาใส่เพื่อนที่พูดในสิ่งที่ไม่จำเป็นจะต้องพูด ตกลงนี่คิดถูกหรือคิดผิดที่ชวนเพื่อนมาเป็นไม้กันหมา มันเหมือนชวนหมามาด้วยชัด ๆ

"งานกลุ่มพี่คีณคนมุงอย่างเยอะ อาจารย์ชมเปราะเลย อิจฉามาก ที่สำคัญรูปน้องนนน่ารักม๊ากมาก"

"ขอบคุณครับ" ณนนยิ้มบาง ๆ แทนอาการเขินที่ถูกชม ร่างบางพยายามมองไปรอบ ๆ งานเพื่อหาใครซักคนที่คาดว่าน่าจะอยู่แถวนี้ แต่ดูเหมือนว่าคีณจะไม่ได้อยู่ในระดับสายตาที่มองเห็นได้จากจุดที่ยืน

"เฮ้ย ๆ ไอ้หมี เดินดี ๆ " เสียงเอะอะจากทางด้านหลังทำให้อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง ภาพที่ณนนเห็นคือเจ้ามาสคอตตุ๊กตาหมีขั้วโลกล้มหน้าทิ่มเกือกกลิ้งตัวไปมาอยู่กับพื้น ณนนมองการยันตัวเองให้ยืนขึ้นของ ‘ไอ้หมี’ แล้วก็แทบจะหลุดขำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชุดหรือเพราะสัญชาตญาณเมื่อใส่มาสคอต ท่าทางมันถึงได้น่ารักน่าเอ็นดูขนาดนั้น

"เอ้า ๆ ลำบากขนาดนั้นคลานเอาก็ได้มั้ง" เทมเองก็กำลังลุ้นกับการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากพื้นของไอ้หมีเช่นกัน และดูเหมือนว่าผู้คนรอบข้างส่วนใหญ่ก็กำลังลุ้นไปด้วย ...ลุ้นที่หนึ่งไอ้หมีนั่นจะยืนทรงตัวได้มั้ย ...ลุ้นที่สองอากาศประเทศไทยร้อนขนาดนี้ไอ้หมีจะได้ตายก่อนยืนมั้ย





ตึง!!

โอเค....เอาเป็นว่าไอ้หมีได้หงายท้องตึงไปเป็นรอบที่สอง





"ไปเหอะมึง จะได้รีบกลับ" ณนนละความสนใจจากเจ้าตัวมาสคอตประจำงาน ดึงแขนเพื่อนตัวเองที่กำลังตื่นตากับทุกสิ่งทันทีเข้าไปภายในบริเวณงานซ้ำ ๆ ให้เดินต่อไปโดยไว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเองก็เป็นที่สนใจอยู่ไม่น้อย ทั้งคนในงานทั้งนักข่าวหลายสำนักก็ยกกล้องขึ้นมาเก็บหน้าใส ๆ ไว้ไม่แพ้คนในวงการตัวจริงที่มีชื่อเสียง

"ไหนบูธพี่คีณว่ะ"

"เดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เจอมั้ง" เทมพยักหน้าตามที่ณนนพูด บรรยากาศในงานชวนให้ทั้งสองคนตื่นเต้นอยู่ไม่เบา แต่กว่าจะเดินไปได้แต่ล่ะก้าวนั้นก็ช่างยากเย็นเสียเหลือก่อน ก็หนุ่มฮอตที่เดินมากับเทมตอนนี้ต้องหยุดแวะถ่ายรูปกับประชาชีทุกสิบวินาที ไหนจะต้องทิ้งจังหวะหยุดยืนแจกยิ้มตามมารยาทอีก...





จะให้ทำไงได้ คนมันหล่อ





เดินไม่นานนักทั้งสองคนก็มาถึงจุดที่คนมุงอยู่ก่อนหน้าจำนวนไม่น้อย แปลกดีที่นิทรรศการภาพถ่ายแสนหน้าเบื่อกลับได้รับความสนใจท่วมท้น บูธแสดงผลงานภาพของกลุ่มคีณถูกจัดไว้อย่างง่าย ๆ โทนสีขาวดำที่ใช้ตกแต่งดึงความรู้สึกในภาพถ่ายออกว่าได้เกือบจะทั้งหมด ณนนมองทีละรูปอย่างตั้งใจจนเผลอยิ้มบาง ๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว รูปสัตว์น้อยใหญ่ ผู้คนหลากหลายช่วงวัยที่ถูกจัดวางคอนเซปมาเป็นอย่างดี เห็นคีณอดหลับอดนอนมาเป็นเดือนงานวันนี้ก็คงทำให้เจ้าตัวยิ้มแก้มปริแล้วสินะ

"รูปนี้มึงน่ารักว่ะ ธรรมชาติโคตร" ณนนหยุดมองตัวเองในรูปถ่ายนิ่ง ๆ รูปนี้ที่คีณทำให้ใจสั่นก่อนถ่าย ขนาดของรูปใหญ่ยักษ์สูงเกือบสองเมตรทำให้เห็นทุกอนูของภาพ แต่ความชัดเจนของอารมณ์ในรูปนี้มันดันไม่มีซักนิด สีหน้าของเขาในภาพมันหลากหลายอารมณ์คล้ายคนที่กำลังปิดบังความรู้สึกบางอย่างที่มันคลุมเครือ

อืม...จะว่าไปไอ้ที่ว่ามามันก็อารมณ์จริง ๆ ไม่ใช่หรอ

มันก็คงชัดเจนในแบบของมัน

"อ้าวน้องนน" เสียงทักทายจากด้านหลังไม่ได้ทำให้ณนนล่ะสายตาจากรูปได้เลยแม้แต่น้อย กลับกลายเป็นผู้เอ่ยทักต้องชะโงกหน้าไปมองสีหน้าคนที่จ้องรูปตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย





รูปที่มีเงาสะท้อนของคนถ่ายอยู่ในแววตา...

เงาสะท้อนที่ชัดเจนว่ามีใครบางคนอยู่ในนั้น...

แค่มันไม่เคยชัดเจนว่าเป็นใคร...





"อ้าวพี่เฟรน หวัดดี" เฟรนตบบ่ารุ่นน้องเก่าอย่างเทมแทนคำทักทาย ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินถอยออกมาคุยกันไม่ไกลนัก

"เจ๋งว่ะพี่ คนโคตรเยอะ"

"ก็ต้องขอบคุณมึงนั่นแหละ งานนี้ได้รับความสนใจจากรูปน้องนนล้วน ๆ ถ้าไม่ได้มึงกูไม่มีมีรูปเรียกแขกแบบนี้แน่"

"ธรรมดาว่ะพี่ อย่าลืมสัญญาที่จะพาไปเลี้ยงเหล้าละกัน"

"เออ ไว้กูว่างก่อนดิเชี่ย"

"โหหห รอคนคิวเยอะอย่างพี่ เมื่อไหร่จะได้แดกวะ"

"เชื่อกูเหอะ มึงกับกูเป็นดองกันขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวมึงก็ได้แดกฟรี"

"พูดแล้วยังช็อคไม่หายเลยว่ะพี่”

“เออดิวะ กูแม่งโคตรงง วันนั้นมันแม่งหงุดหงิดเหมือนคนบ้าลากพวกกูไปนั่งเฝ้าคณะมึงทั้งวัน ถามเหี้ยไรก็ไม่ตอบ กูก็นึกว่าจะไปจีบสาว ...ที่ไหนได้”

“เออ ...ว่าแต่เพื่อนพี่ไปไหนวะ" เทมถามขึ้นเมื่อพยายามมองหาคนต้นเรื่องอย่างคีณที่ยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็น นี่ไม่รู้ว่าคนดังเขาต้องรอจังหวะเปิดตัวพีค ๆ หรือยังไง ชวนแฟนตัวเองมาแท้ ๆ แต่ไม่ยักโผล่มาให้เห็นหนังหน้า

"ไอ้ดอมหรอ เดี๋ยวมันมีเล่นมินิคอน อยู่หลังเวทีมั้ง มึงมีธุระอะไรกับมันวะ"

"กวนตีน"

"กวนตีนหรอ กูรุ่นพี่มึงนะ!! " รอช้าฝ่ามืออรหันต์ของเฟรนก็ประทับลงกลางหัวรุ่นน้องอย่างไม่ออมแรง

"ก็พี่กวนตีนก่อนป่ะวะ" คนถูกทำร้ายลูบหัวตัวเองป้อย ไอ้คนข้าง ๆ นี่จงใจยียวนชัด ๆ สาบานมาเถอะว่าเมื่อกี้ไม่รู้ว่าหมายถึงใคร

"กูเปล่านี่" เฟรนยักไหล่ไม่สนใจความผิดตัวเองที่รุ่นน้องกำลังยัดเยียดให้ ...ก็เมื่อกี้ถามหาเพื่อนกูนี่หว่า เพื่อนกูมีไอ้คีณคนเดียวที่ไหน

"พี่เฟรนสวัสดีครับ ...ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ เทมกลับกันเหอะว่ะ" จังหวะนั้นณนนก็ถอยออกมาจากจุดที่ยืนเหม่ออยู่คนเดียวครู่เพราะคนเริ่มเยอะขึ้นถนัดตา ยืนมองมากไปกว่านี้อาจจะผิดสังเกตพวกหูไวตาไวขึ้นมาก็ได้ อีกอย่างดูเหมือนว่าตัวเจ้าเองกำลังเรียกคนเข้ามาแน่นบูธได้มากกว่าเดิมซะอีก แต่ก็นั่นล่ะที่ทำให้อยากออกไปจากตรงนี้เร็ว ๆ สายตาที่กำลังมองอย่างจับผิดมันน่าอึดอัดชะมัด

"เฮ้ย พึ่งมาป่ะวะ กูยังหายใจไม่คุ้มค่าบัตร 50 บาทเลยเชี่ย"

"ห้ามกลับ!! " การเผลอลั่นเสียงออกมาพร้อมสีหน้าที่ดูจะลนลานของเฟรนทำให้เทมถึงกับเลิกตามอง คนเป็นรุ่นพี่ขยิบตาแรงเป็นสัญญาณรัว ๆ ว่าให้ช่วยกันรั้งคนตรงหน้านี้ไว้ก่อนไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ถึงเทมจะไม่เข้าใจเหตุผลแต่ก็พอจะเดาอะไรออกอยู่บ้าง

สงสัยจะมีเรื่องราวดี ๆ

"เออ อย่าพึ่งกลับ! กูจะรอดูคอนเสิร์ต"

"อยู่ก่อนดินน ไอ้คีณมันยังไม่เจอนนเลย" ก็นั่นแหละที่ทำให้อยากจะกลับ เห็นบอกว่าอยากให้มานักหนาแล้วเจ้าตัวหายไปไหนซะล่ะ ออ สงสัยไปยืนถ่ายรูปอยู่กับสาว ๆ ตรงไหนซักมุมล่ะมั้ง

"......"

"ไม่ต้องมองหาหรอก มันคงวุ่น ๆ อยู่หลังเวทีกับไอ้ดอมมั้ง เดี๋ยวซักพักวงพวกมันก็จะขึ้นแล้ว"

ถ้าจะบอกว่าไม่ได้มองหาตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วใช่มั้ย... โอเค ไอ้นนยอมแพ้พยักหน้ายอมรับก็ได้

“เออ เห็นมั้ย รอดูก่อนสิวะ”

"งั้น ผมฝากบอกด้วยแล้วกัน ว่าผมอยู่ไม่นาน" อย่างนึงที่ไม่ชอบคือการที่จะต้องอยู่ท่ามกลางสายตามากมายขนาดนี้ ...ส่วนอีกอย่างที่ทำให้ไม่อยากอยู่นานก็คงเป็นเพราะตาขวาที่กระตุกรัว ๆ อยู่ตอนนี้ล่ะมั้ง

"นี่ก็เดินไม่เคยรอกูเลย" เทมบ่นอุบขณะเดินตามเพื่อนออกมาแบบไม่คิดจะชวน เอะอะเดิน เอะอะหยุด ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนรักก็คงจะกระโดดกัดหัวเข้าให้ซักที เขาสองคนเดินรอบงานไปเรื่อย ๆ หลาย ๆ ส่วนก็น่าสนใจจนทำให้หยุดยืนได้อยู่พักใหญ่ แต่ดูเหมือนว่างานนี้เทมจะกลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวไปโดยปริยาย ทั้งเป็นขาตั้งกล้องจำเป็นให้กับแฟนคลับ ทั้งคอยตอบคำถามเรื่องคู่จิ้นกับคีณที่ดูเหมือนเพื่อนตัวเองไม่ค่อยอยากจะตอบ โดยเฉพาะประเด็นล่าสุดแฟนของคีณที่ไม่รู้ว่าคนไหน สุดยอดจินตนาการของบางคนก็ยังเล็งมาที่ณนนจนได้ ดีที่เพื่อนอย่างเทมหัวไวเลยทำให้รอดมาได้ทุกด่าน

"ปกติมึงหลีกคำถามพวกนี้มาได้ไงวะ ตั้งสามปี กูตอบแทนมึงแค่สามนาทีกูยังเหนื่อยเลย"

"ก็สามปีมันไม่ขึ้นเกิดเหตุการณ์แบบช่วงนี้นี่หว่า"

"งั้นกูว่ามึงต้องไปขอบคุณไอ้ซีซั่น ไม่ได้มันความลับมึงไม่เกือบแตกแบบนี้แน่ แล้วถ้ามันไม่เข้ามาจนพี่คีณหึงจนตาลาย กูก็ไม่ได้ตาสว่างหรอก"

"อันนี้มึงชมมัน ไม่ได้ด่ากูถูกม่ะ"

"ครับ ถูกครับ!! "

"คุยอะไรกันอยู่หรอครับ" ผู้มาเยือนที่ยืนยิ้มเด่นสง่าอยู่ตรงหน้านี่ไม่รู้ว่าโผล่มาตั้งแต่วินาทีไหน แต่ทันทีที่เทมสังเกตเห็นดวงตาของเขาก็หมุนกรอกเป็นเลขแปดแทบจะทันที คนอะไรที่ชอบโผล่มาไม่ดูเวลา อารมณ์ ลมฟ้าอากาศใด ๆ นั้น นี่ขนาดโดนด่าว่าหน้าด้านหน้าทนแต่สกิลความยิ้มสู้ก็ยังอยู่ครบ ...เออสัด เอากะมันสิ

"เรียนวิศวะ มาทำห่าอะไรงานนิเทศวะ" ไม่แน่ใจว่าที่เทมพูดมันเรียกว่าพูดในใจได้มั้ย ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้ออกเสียงชัดแต่ปากก็อ้ากว้างช้า ๆ ให้ใครอีกคนอ่านออกทุกคำ

"แล้วเรียนคณะวิทย์เนี่ย ...มาศึกษาธาตุอากาศอะไรแถวนี้หรอครับ"

แค่ณนนกระพริบตาเบา ๆ สองครั้งก็ดูรู้แล้วว่ามนุษย์สองตัวตรงหน้านี่ต้องเปิดศึกแน่ ๆ แต่เชื่อเถอะต่อให้เดินหนีออกมาไอ้จอมตื้อก็ยังเดินตามไม่หยุด และถ้าเป็นแบบนั้นเพื่อนของเขาก็ไม่มีทางหุบปาก

"หยุดถลึงตาใส่กันแบบนั้นได้มั้ยวะ ทั้งสองคนนั่นแหละ คนมองกันหมดแล้ว"

จ้องกันจนจะเหมือนหมาปั๊คแย่งกระดูกไก่อยู่แล้ว

"ได้ข่าวว่าเพื่อนผมบล็อคคุณมึงแล้วนะ นี่ยังมีหน้ามาอีกหรอครับ" เทมปรับสีหน้าให้ดูนอบน้อมในฉับพลัน แต่ไอ้น้ำเสียงใส ๆ นั่นฟังไกล ๆ ยังอ่านออกเลยว่ามันเฟคสุด ๆ …พูดซะขนาดนี้ด่าว่าเหี้ยตรง ๆ เลยยังเจ็บน้อยกว่า

"ก็เพราะว่าบล็อคไง ถึงมาหา"

"เชี่ย ...มีความด้าน"

"หึ... ขอเวลาคุยกับนนซักเดี๋ยวได้ป่ะ" แววตาละห้อยที่มองณนนตอนนี้ยิ่งทำให้เทมรู้สึกเอือมระอา ถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะสงสารก็ได้ แต่ตาละห้อยที่อยู่บนหน้าเกรียน ๆ นี่มันเกินจะทำใจให้สงสารได้จริง ๆ

"นี่มึงไล่กูหรอ!! " ณนนเห็นท่าไม่ดีดึงไหล่เพื่อนตัวเองเชิงเป็นการบอกว่าไม่เป็นไร เพราะถ้าขืนยังให้เทมทำหน้าที่บอดี้การ์ดต่อไป มีหวังคนได้มุงดูมวยมากกว่ามินิคอนเสิร์ตแน่ ๆ

"ถึงกับต้องบล็อคกันเลยหรอนน" ซีซั่นเบ้ปากเบา ๆ ให้เทมก่อนจะหันกลับไปตีหน้าใสซื่อใส่คนที่กำลังห้ามทับ

"ก็จะให้ทำยังไง เราว่าเราพยายามปฏิเสธดี ๆ หลายครั้งแล้วนะ" ใช่ จะให้ทำยังไงในเมื่อเพื่อนเราลงมือบล็อคเองกับมือ

"เราไม่มีโอกาสขนาดนั้นเลยหรอ"

"เออ!!! ไม่มี!!! " เทมตอบแทนเสียงดังฟังชัด คนที่ถูกปฏิเสธพยักหน้าเบา ๆ เม้มริมฝีปากแน่นราวกับกำลังทำความเข้าใจกับความจริงตรงหน้า ถึงแม้ว่ามันไม่ได้ง่ายเลยก็ตาม

ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็เลิกยุ่งไปตั้งแต่คืนที่เขาทิ้งให้รอหน้าคณะแล้วเปล่าวะ

"เป็นเพื่อนกันได้นะเว้ย อย่าเหนื่อยเลยว่ะ"

"งั้นถ้าเพื่อน เร.....เหวออออออ"

ตุ๊บบบบ!! ตึงงงงง!! เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่ไอ้หมีขั้วโลกทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วงทับซีซั่นทั้งร่างจนหน้าลงไปแนบกับพื้น ถ้ามองไม่ผิดก่อนไอ้หมีนี่จะเสียจังหวะล้มตัวกลม ๆ ของมันได้กอดรัดเหยื่อทั้งร่างอย่างกับตั้งใจจะให้ล้มไปด้วยกัน

ไอ้หมีนั่นยังดีที่มีชุดหนา ๆ มาป้องกัน แต่ไอ้คนที่ตกเป็นเหยื่อก็คงพูดได้แค่คำเดียว ...ซวยไป

"โอ๊ยยย พ่องงงงง มึงเดินยังไงว่ะเนี่ย" มาสคอตหมีอ้วนพุงพุ้ยไม่มีปากเสียงยันตัวเองลุกขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากผู้ชายอีกคนที่พาเดินมา มันยกมือปิดปากแบ๊ว ๆ ของตัวเองแล้วส่ายตูดดุกดิกที่ดูแล้วน่าเตะแรง ๆ เข้าให้ซักที

“ฮา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”

“ไปเหอะมึง” เป็นณนนที่ตั้งสติได้ก่อนถึงได้ลากเพื่อนตัวเองที่หัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายแทรกตัวไปในฝูงชนเพื่อหลบหลีกคนที่ยังแน่นิ่งอยู่กับพื้น อย่าหาว่าแล้งน้ำใจนักเลยที่เดินหนีออกมาโดยไม่คิดจะช่วย เพราะว่าแค่นี้คนก็มองจะแย่อยู่แล้ว

เอาเป็นว่าขอแสดงน้ำใจด้วยการชื่นชมในความพยายามแล้วเดินจากมาก็แล้วกัน

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 12 โพสต์ดับฟิน ปิดตายคู่จิ้น 26/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 27-03-2018 21:06:17
ตอนที่ 16 Post or Discard



“สวัสดีค่าาาาาา วู้วววววว พร้อมกันแล้วรึยังงงง!!” เสียงของพิธีกรบนเวทีเป็นสัญญาณว่ากิจกรรมต่อไปในงานนิทรรศการกำลังจะเริ่มขึ้น ณนนที่กำลังหาทางหนีทีไล่ก็เบียดตัวเขามาอยู่จุดกึ่งกลางของฝูงชนอย่างเลือกไม่ได้ แถมตอนนี้ก็ดูจะสายไปที่จะคิดออกไปยืนหลบที่มุมไหนซักมุม ก็ยังดีที่ช่องว่างรอบตัวไม่ได้ทำให้อึดอัดเท่าไหร่นัก เดี๋ยวค่อยหาจังหวะแทรกตัวออกไปก็แล้วกัน

.

ถ้าเทมไม่ส่งสายตาอ้อนวอนอ้อนตีนออกมา

เชื่อเถอะไม่มีทางได้เจอณนนตรงนี้แน่!

.

ไม่กี่วินาทีต่อมาเสียงซาวด์เช็คก็เริ่มต้น ผู้คนเริ่มให้ความสนใจเวทีกลางอีกมากหลังจากปล่อยให้สองพิธีกรให้ความพยายามในการดึงความสนใจอยู่พักใหญ่ หนึ่งในนักดนตรีที่ณนนพอจะคุ้นหน้าก็มีดอมที่อยู่ในตำแหน่งมือเบสของวง ...ส่วนใครอีกคนที่จำได้ดีว่าทำหน้าที่ร้องนำไม่ได้อยู่บนเวทีในตอนนี้

"พี่คีณล่ะวะ" เป็นเทมที่พูดขึ้นมาลอย ๆ ส่วนคนข้าง ๆ ก็ได้แต่ขมวดคิ้วเบา ๆ เพราะก็สงสัยไม่แพ้กัน อยู่ในงานมาจะครบชั่วโมงอยู่แล้วยังไม่ได้เห็นแม้แต่เงาหัว

"ไม่รู้ว่ะ" ณนนก้มหน้าลงกับพื้นไม่อยากให้ความสนใจอะไรมากนักถึงแม้ในใจมันกำลังมองหาใครคนนั้นอยู่เหมือนกันกับเพื่อนก็เถอะ

"สวัสดีคร๊าบบบบบบ" เสียงกรี๊ดระงมทำให้คนก้มหน้าต้องเงยขึ้นไปมอง ที่มาของเสียงทักทายคือดอมแทนที่จะเป็นคีณ ร่างโปร่งขมวดคิ้วเล็ก ๆ เมื่อเริ่มสังเกตเห็นว่าพื้นที่บนเวทีถูกจัดไว้พอดีสำหรับสี่คน ...ที่ไม่มีคีณ

"ก่อนอื่นนะครับ ต้องขอแจ้งเลยว่าวันนี้มีเหตุขัดข้องจากนักร้องนำของเรานิดหน่อย" เสียงอื้ออึงเริ่มดังขึ้นรอบ ๆ เทมหันไปมองหน้าเพื่อนข้าง ๆ ก็เจอแต่เครื่องหมายคำถามเช่นกัน สีหน้าที่ไม่ดีของนนตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ร่างโปร่งมองไปรอบกายเพื่อพยายามหาคำตอบ ถ้าติดปัญหาอะไรก็ควรจะโทรบอกกันซักนิดไม่ใช่หรอจะได้ไม่ต้องมาเก้อแบบนี้

"เฮ้ย ตกลงยังไงวะ"

"......." ณนนไม่ได้ตอบคำถาม เพราะในจังหวะที่เผลอสบตากับดอมบนเวทีก็ถูกอีกฝ่ายจ้องมองอย่างจริงจัง ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากสายตานั่นมันเหมือนกำลังถูกบังคับให้ยืนนิ่งอยู่กับที่

"สำหรับเพลงแรกนะครับ เป็นเพลงที่คีณเพื่อนสนิทของผมตั้งใจจะมอบให้ใครคนนึงที่ยืนอยู่ตรงนี้...." สิ้นเสียงของดอมก็ดูเหมือนทุกอย่างจะอื้ออึงมากกว่าเดิม สายตาหลายคู่หันมองรอบตัวเองว่าใครจะเป็นผู้โชคดีคนนั้น แต่สายตาของดอมที่กำลังมองลงมามันชัดเจนในใจณนนว่าเป็นผู้โชคดีคนนั้น...





ผู้โชคดีตัวจริงที่กำลังยืนใจสั่นไม่เป็นตัวเอง

นี่มันอะไร

ไม่ได้ดีใจเลยซักนิด

มันมีแต่ความกลัว....





"จริง ๆ คีณมันก็อยากจะร้องเพลงนี้ด้วยตัวเองนะครับ แต่มันแค่ยังไม่เคยมีโอกาส ผมขอเป็นตัวแทนของเพื่อนพูดในสิ่งที่มันไม่เคยได้พูดให้ใครฟังก็แล้วกัน" ผู้คนในงานเข้ามามุงที่เวทีเพิ่มมากกว่าเดิมเมื่ออินโทรเพลงขึ้น ณนนที่กำลังเก็บทุกอย่างไว้ในใจเงยหน้าขึ้นมาก็ไม่เห็นเพื่อนตัวเองแล้ว เทมหายออกไปจากข้างตัวตั้งแต่จังหวะไหนก็ไม่รู้ …ควรทำยังไง ...ในภาวะที่กำลังใจสั่นและมือเย็นเฉียบแบบนี้

.

“เธอคือทุกสิ่ง ในความจริงในความฝัน

คือทุกอย่างเหมือนใจต้องการ

เธอเป็นนิทาน ที่ฉันอ่าน ก่อนหลับตาและนอนฝัน

เธอคือหัวใจ ไม่ว่าใครไม่อาจเทียมเทียบเท่าเธอ

ช่างโชคดีที่เจอ ได้ตกหลุมรักเธอ

ได้มีเธอ เคียงข้างกัน”

.

ตึ้ง!! เสียงเพลงที่เหมือนจะสะกดทุกอย่างให้หยุดนิ่ง ยังทำให้ณนนมีอาการคล้ายคนหัวใจหยุดเต้นได้ไม่เท่าข้อความแชทที่เด้งเข้ามาได้อย่างเหมาะเจาะ ในหัวเขาตอนนี้เหตุผลหลายอย่างมันตีกันไปหมด ...เขาควรจะฟังอะไร ฟังเสียงเพลงที่กำลังโน้มน้าว เสียงของเหตุผลที่มี เสียงของความกลัวทุกอย่าง หรือเสียงหัวใจตัวเอง

.

'ขอบคุณนะ ขอบคุณที่อยู่ข้าง ๆ กัน'

.

“คงจะมีเพียงเธอทำให้โลกนั้นหยุดหมุน เพียงเธอสบตาฉัน

คงจะมีเพียงเธอที่หยุดหัวใจของฉันไว้ตรงนี้ ตรงที่เธอ”

'ขอบคุณที่นนยอมสละทุกอย่างเพื่อคีณ แต่คีณไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว แค่มีนนก็พอแล้ว'

“เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ

ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ”

.

‘ครั้งหน้าขอโอกาสให้คีณร้องเพลงนี้ให้ฟังเองบนเวทีได้มั้ย’

.

“นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด

ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว”

.

‘ขอโอกาสให้เราสองคนได้รักกันจริง ๆ ได้มั้ยครับ’

.

จู่ ๆ ก็เหมือนน้ำตามันจะไหลมาเอ่อ ๆ รอบตาไม่รู้ตัว การสู้กับเหตุผลของตัวเองมันไม่ได้ง่ายเลย ถึงแม้ว่าจะรับปากไปแล้วว่ายังไงวันนั้นมันก็ต้องมาถึง แต่สำหรับวันนี้...วันที่ณนนไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเลยซักนิดมันช่างยากเหลือเกินที่จะตัดสินใจใด ๆ ณนนถอนหายใจเข้าออกแรง ๆ นับหนึ่งถึงสิบในใจหลายครั้งราวกับคนหูดับ ก่อนที่ท้ายที่สุดสมองมันจะบอกให้ถอยหลังออกจากจุดที่ยืน แต่แล้วจังหวะนั้นแผ่นหลังของเขาก็กระทบกับอะไรบางอย่างที่ทำให้สองขาและเหตุการณ์รอบตัวหยุดนิ่งไปราวกับกดปุ่มพอร์ช

มาสคอตหมีตัวเดิมที่ถอดส่วนที่เป็นถุงมือออก เผยให้เห็นมือเรียวที่กำลังพิมพ์อะไรบางอย่างในมือถืออย่างยากลำบาก สองมือยกมือถือขึ้นมามองในช่องเล็ก ๆ ภายใต้ชุดที่ดูจะอึดอัดนั่น เห็นแค่มือก็นึกภาพใบหน้าของคนในชุดได้ชัดเจนทั้งหมด

.

ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เอะใจ....

.

"คีณ" เสียงเบา ๆ นั่นพูดกับตัวเอง เจอแบบนี้เข้าไปก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน จู่ ๆ น้ำตาเจ้ากรรมมันก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ซะอย่างนั้น ...หรือว่าสุดท้ายแล้วความรู้สึกที่กลั้นเอาไว้แทบตายมันก็ยังอ่อนแอจนสู้สมองตัวเองไม่ได้อยู่ดี





“เธอคือรักจริง ฉันยอมทิ้งทุกๆ อย่างเพียงเพื่อเธอ

ดั่งฟ้าให้มาเจอ ให้เธอคู่กับฉัน

ให้เราได้เดินเคียงข้างกันนับจากนี้”

.

'ให้โอกาสคีณพิสูจน์ตัวเองนะ อย่ากลัวเลย ผลทุกอย่างเราจะต้องผ่านไปด้วยกัน'

.

“เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ

ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ

นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด

ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียง

เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอ เพียงเธอที่รอ

ฉันขอภาวนาต่อหน้าฟ้าอันแสนไกล

นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด

เกิดชาติไหนฉันมีเธอ มีเธอเพียง คนเดียว”

.

'รัก ...แค่นี้เป็นเหตุผลข้อเดียวให้เรามายืนด้วยกันได้มั้ย'

.

ณนนไม่ได้สนใจสายตารอบข้างที่เริ่มหันมาให้ความสนใจอีกต่อไปแล้ว ดวงตาที่เปื้อนคราบน้ำตามองคีณในชุดมาสคอตนิ่ง ...ทำไมจะไม่ได้ ก็ไม่ใช่เหตุผลข้อเดียวข้อนี้รึไงที่ทำให้เขาสองคนเก็บทุกอย่างมาได้นานขนาดนี้ แต่มันก็ยังมีสิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่หรอ ไหนจะครอบครัว สังคม อนาคต ชีวิต ถ้าผลของมันไม่ได้ทำให้ความรักของคนสองคนเรียบหรูสวยงาม ...ณนนเองก็มีสิทธิที่จะกลัวการไม่ได้รักไม่ใช่หรอ

.

'คีณให้นนเลือก ไม่ว่านนจะเลือกทางเส้นไหนให้กับเราสองคน เราจะรักกันเหมือนเดิม'

.

คล้ายว่าณนนจะมีสีหน้าที่เครียดขึ้นมากกว่าเก่า มือเย็นเฉียบรับโทรศัพท์มือถือที่เจ้าของชุดมาสคอตยื่นมาด้วยมือสั่น ๆ ร่างโปร่งปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาเป็นสายโดยไม่มีเสียงสะอื้นใด สภาวะหูดับตาพร่าตอนนี้ทำให้เขาสองคนมองไม่เห็นและไม่ได้ยินทุกสิ่งรอบกายที่กำลังพุ่งความสนใจมาอีกต่อไปแล้ว

.

คนนี้แฟนผม

.

ข้อความสั้น ๆ ในแอปเฟซบุ๊คถูกแนบรูปถ่ายรูปแรกที่อีกฝ่ายถ่ายไว้โดยที่ณนนไม่เต็มใจ รูปที่อีกฝ่ายภูมิใจนักหนาแม้ณนนจะบ่นไปหลายครั้งว่าเขาหน้าเหวอ ทั้งหมดมันอาจจะเป็นโพสต์ที่ตอบทุกคำถาม ทุกข้อสงสัย หรือทุกกระแสได้ จะเหลือก็เพียงแต่เจ้าของมือเย็น ๆ ที่จะเป็นคนตัดสินว่าจะให้มันได้ทำหน้าที่ของมันหรือไม่...

Post

or

Discard

.

.

TBC
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 16 Post or Discard 27/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 27-03-2018 23:36:26
เฮ้ย บีบคั้นสุดๆ เข้าใจนนอะ แต่..ถ้าไม่ลองดู จะรู้ผลของมันไหม นน ลองดูนะ

ีรีบมาต่อนะคะ รออยู่นะ
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 16 Post or Discard 27/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: กฤตย ที่ 28-03-2018 14:27:41
 :-[  :-[ มาต่อไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 16 Post or Discard 27/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 28-03-2018 22:40:05
น้ำตาจิไหล งือ มันต้องไม่โพสแน่เลย
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 16 Post or Discard 27/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 29-03-2018 09:38:24
ตอนที่ 17 การตัดสินใจ




เวลาที่คนเราเดินทางจนถึงจุดนึงของชีวิต มันมักจะมีทางแยกมาวัดใจได้เสมอ แต่สำหรับณนนแล้วทางแยกที่เขายืนอยู่ตอนนี้มันยากต่อการตัดสินใจเลือกเหลือเกิน จะรู้ได้ยังไงว่าทางที่ใจเลือกมันจะไม่ใช่เหว และทางที่สมองเลือกมันไม่ใช่ทางตัน





ทำยังไงดี

ตัดสินใจแบบไหนถึงจะถูก





ดวงตากลมยังคงสั่นระริกเมื่อมองหน้าจอโทรศัพท์ในมือ นิ้วที่ค้างเติ่งอยู่ตอนนี้ควรจะสัมผัสลงตรงไหน ลมหายใจหนัก ๆ ถูกปล่อยออกมาอีกครั้งก่อนที่การตัดสินใจครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น สุดท้ายแล้วสองทางตรงหน้าเขาก็ต้องเลือกซักทางอยู่ดี





Discard





เจ้าหมีพุงพุ้ยถึงกับคอตกรับโทรศัพท์เครื่องเดิมกลับคืนมาด้วยใจที่มันห่อเหี่ยว แต่ไม่เป็นไรหรอก คีณเข้าใจและยอมรับกับการตัดสินใจของคนตรงหน้า เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วต่อให้เรื่องราวความสัมพันธ์ของเขามันจะไม่มีวันได้บอกใคร เขาก็ยังคงรักณนนอยู่ดี

ด้านคนที่ตัดสินใจไปแล้วก็กลับอยู่ในสภาวะที่หัวใจมันหล่นไปถึงตาตุ่ม ...คิดผิด... ความรู้สึกตอนนี้คือกำลังรู้สึกผิดกับการตัดสินใจชั่ววูบของตัวเอง ทำไมไม่รู้จักคิดว่าคนตรงหน้าจะเสียใจแค่ไหน ยิ่งเห็นเจ้าหมีนั่นนิ่งไปยิ่งอยากจะย้อนเวลากลับไปซักสิบวินาที แต่จะทำยังไงได้ ก็เขาตัดสินใจไปแล้ว





หรือจริง ๆ มันก็ยังมีทางที่ดีกว่าการย้อนเวลากลับไปแก้ไข





เสี้ยววินาทีที่ความรู้สึกแย่เข้าควบคุมคนทั้งคู่ สองมือของคนที่ตัดสินใจใหม่อีกครั้งก็คว้าหมับเข้าที่ส่วนหัวของชุดมาสคอตหมีก่อนจะยกมันออกโดยไม่ทันให้คนที่อยู่ข้างในได้ทันตั้งตัว ร่างสูงหยีตารับแสงเพื่อมองคนตรงหน้าให้ได้ชัดเจนขึ้น ใบหน้าขาว ๆ และเส้นผมนั่นเปียกไปด้วยเหงื่อเหตุเพราะอยู่ในชุดแสนจะอึดอัดนี่ตั้งแต่เช้าเพื่อรอเซอร์ไพร์สใครบางคน





...คนที่ยืนยิ้มทั้งน้ำตาอยู่ตรงหน้า

...คนที่พึ่งตัดสินใจยื่นหน้ามาชิดจนริมฝีปากสัมผัสกันแผ่วเบาสร้างแสงแฟลชสว่างวาบไปทั่วทั้งงาน





"ง...ไง ...ตกลงคนไหนแฟนค...คีณ" เสียงสั่น ๆ นั่นทำให้คนฟังอดไม่ได้ที่จะเกลี่ยมือเบา ๆ ไล่คราบน้ำตาที่แก้ม สุดท้ายแล้วเวลานี้สายตาและเสียงนินทาของใครต่อใครก็คงไม่สำคัญ

"คนนี้ไง" มือที่เกลี่ยแก้มใสอยู่เมื่อครู่เข้าประครองกรอบหน้าก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากชมพูระเรื่อนั่นซ้ำ แต่ทิ้งจังหวะเนิ่นนานตามความเรียกร้องของหัวใจตัวเอง เสียงกรี๊ดที่ดังระงมไปทั้งงานเรียกสติณนนคืนกลับมาเด้งตัวหนีพร้อมรอยแดงฉาดทั่วใบหน้า ร่างสูงมองไปรอบตัวก็รู้เหตุผลว่าทำไมคนตรงหน้าถึงเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

"กรี๊ดดดดดดดดดด!! "

"อร๊ายยยยยยยยย แก ดูดิ นนเขินหน้าแดงใหญ่เลยอ่ะ"

"ตกลงคนนี้ใช่ป่ะแฟนคีณอ่ะ น่ารักว่ะ"

“เห็นมั้ยมึง กูบอกแล้ว ถ่ายเก็บไว้ ถ่าย ๆ ๆ ๆ "





ตึก

ตึก

ตึก

ช่วยบอกทีว่าการตัดสินใจของณนนครั้งนี้มันไม่ได้ผิดพลาดไป





"นน ไปเร็ว" คีณไม่รอให้ฝูงนักข่าวที่กำลังบันทึกภาพกรูเข้ามาถามในเรื่องที่ยังไม่อยากตอบตอนนี้แน่ ๆ เขาจับฝ่ามือของณนนไว้แน่นก่อนจะพยายามพาวิ่งออกไปให้พ้นจากตรงนั้น โดยที่เหมือนว่าจะลืมอะไรไปบางอย่าง

ตุ๊บบบ!!

เชี่ย... ชุดหมี แค่เดินก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว

ไอ้หมีล้มกลิ้งลงไปกับพื้นอีกครั้ง คนที่ถูกจับมืออยู่ก่อนหน้าใช้ความพยายามดึงไอ้ตัวกลม ๆ ขึ้นมาจากพื้นอย่างยากลำบาก ...แม่งเอ๊ย เกือบเท่แล้วเชียว หมดแล้วชีวิตไอ้คีณ ไม่เหลือเหี้ยอะไรให้อายแล้ว

"กรี๊ดดดดดดดด แกกกกกก น่ารักโคตรรรรร!! "

“โอ๊ยยยยยยย มึง อะไรกันวะเนี่ย”

"น้องคีณ!! หยุดก่อนครับ!! "

"ขอสัมภาษณ์ก่อนนะคะน้องคีณ!! "

ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะไม่ทันการแล้ว ฝูงนักข่าวที่เข้ามารายล้อมมันกลายเป็นกำลังกั้นไม่ให้ทั้งสองคนเดินหนีไปไหน คีณยังคงกำมืออีกฝ่ายแน่นหันไปมองใบหน้ากังวลนั่นด้วยสีหน้าที่ตรงกันข้าม แต่ถึงแม้ความมั่นใจผ่านรอยยิ้มที่คีณส่งมามันจะทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่กลุ่มแร้งที่ล้อมกรอบเข้ามาคุ้ยข่าวนี่ก็ทำให้เหงื่อตกอยู่ดี

"คนนี้รึเปล่าคะ แฟนที่คีณโพสถึง"

"คุณพ่อทราบเรื่องนี้รึเปล่าครับ"

"หรือว่ามันเป็นโปรเจคใหม่อะไรรึเปล่าครับ"

"ตอบหน่อยค่ะน้องคีณ"

แม่งเอ๊ยยย!! ตอบเชี่ยไรล่ะ!! เช็คหน้าแฟนกูด้วย!!

"เดี๋ยวก่อนนะครับ! หยุดก่อน พี่ ๆ นักข่าวถอยห่างนิดนึงครับ" เสียงสวรรค์นั่นไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อนเฟรนสุดที่รักเข้ามาเป็นคนกลางโดยไม่มีใครเชื้อเชิญ ดวงตาเจ้าเล่ห์หันมาขยิบเบา ๆ ให้ผู้เป็นเพื่อนก่อนจะพยายามใช้สองแขนดันกองทัพนักข่าวออกไป

"ใจเย็น ๆ นะครับ พี่ ๆ ได้สัมภาษณ์แน่นอน" เทมเป็นอีกคนที่กำลังเพิ่มช่องว่างระหว่างเพื่อนตัวเองกับคนกลุ่มนี้ ...ให้ตายเถอะ ทั้งนักข่าว ทั้งคนที่รอเสือก ถ้าพวกมึงสองตัวรอดวันนี้ก็ต้องเอาหัวหมูมาถวายกูแล้วล่ะ

"เอ่อ เดี๋ยวขออนุญาตรอคีณมันถอดชุดแปบนึงนะครับเดี๋ยวไม่หล่อ"

"ห่ะ"

"เออ!! มึงถอดไปเหอะน่า!! " ช่วยขนาดที่ขยิบตาจนจะเป็นตะคริวขนาดนี้ ไม่ทำตามก็เรื่องของมึงแล้วล่ะ

คีณกับณนนหันมามองหน้ากันก่อนจะทำตามอย่างว่าง่าย ชุดหมีหนักอึ้งถูกถอดออกเหลือแค่เสื้อยืดสีขาวชุ่มเหงื่อกับยีนส์ขาสี้นธรรมดาที่ดูจะคล่องตัวกว่าเมื่อครู่มาก ...เดี๋ยวก่อนนะ ...คล่องตัวหรอ

"แกกกกกกก เขาถอดชุดให้กันด้วยอ่ะ"

"มึงดูที่เขามองกันดิวะ"

"เพจคิ้วท์บอยมีไลฟ์สดด้วยอ่ะ ดี๊ดี"





ฉิบ... ไลฟ์สด เมื่อกี้ว่าใส่ชุดหมีขั้วโลกนะ ไม่ใช่หมีแพนด้า





"เอางี้นะครับ ทั้งสองคนตั้งโต๊ะแถลงเป็นเรื่องเป็นราวเลยน่าจะดีกว่า ผมว่าเดี๋ยวพี่ ๆ ไปสัมภาษณ์ที่มุมนู้นทีเดียวเลย" เฟรนพยายามใช้คำพูดหลอกล่อ กลุ่มนักข่าวหันไปปรึกษากันเพียงเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลงอย่างไม่ยากนัก

"เชิญทางนี้เลยครับ ...ตามผมมา" เฟรนหันไปมองเทมเชิงให้สัญญาณ กลุ่มคนหิวข่าวหลงกลเดินตามเฟรนโดยไม่คิดเลยว่าตัวเองกำลังจะพลาดบทสัมภาษณ์พาดหัวใหญ่ในวันนี้ไปซะแล้ว

"ไป" เทมสะกิดแขนทั้งสองคนทันทีที่เหล่านักข่าวหันหลังให้

"ไปยังไงวะมึง คนยืนมุงขนาดนี้"

"มือมึงเกาะกันเป็นปลาหมึกขนาดนั้น ก็วิ่งลากกันออกไปซิวะ! "

"กรี๊ดดดดดดดด!! " เสียงกรีดร้องทำให้ลำโพงแทบจะแตกดังไปทั่วทั้งงาน ต้นเสียงคือพิธีกรชาย? อย่างบีมที่วีดร้องอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์ ทุกคนดูจะตกอยู่ในสภาวะแช่แข็งเพราะเสียงที่เกินจะไพเราะ ก่อนที่เสียงผ่านไมค์ต่อมาจะทำให้คีณและนนได้สติก่อนชาวบ้านชาวช่อง

"วิ่งสิคะมึง!!! อีดอก ยืนรอนายกมาตีดริบบิ้นหรอคะ วิ่งงงงงงงงง!! " สองร่างพากันสิ่งฝ่าผู้คนแบบไม่คิดชีวิต กว่ากลุ่มนักข่าวจะคิดได้ว่าถูกหลอกก็ไม่อาจวิ่งฝ่าฝูงคนที่เริ่มมีสติได้ง่าย ๆ ซะแล้ว









ขอบคุณว่ะ

ขอบคุณไอ้ดอมที่ยอมร้องเพลงที่มึงไม่อยากร้อง

ขอบคุณเฟรนและเทมที่คอยช่วย

ขอบคุณเจ๊บีมที่คิดแผนให้ แถมด้วยปล่อยเสียงนรกแตก

ขอบคุณชุดหมีที่โคตรร้อน

ขอบคุณณนน... ขอบคุณ... ขอบคุณจริง ๆ

.

.

.

.

TBC
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 16 Post or Discard 27/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 29-03-2018 09:39:08
ตอนที่ 18 ก็จะเขินอายไปทำไม





“หนักป่าว นนเดินเองได้นะ”

“ไม่หนัก วันนี้แรงเยอะ จะแบกไปให้ถึงห้องเลย” คีณกระชับคนที่แบกไว้บนหลังให้แน่นขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าตอนนี้ทำให้คีณเองก็ลืมที่จะหนักและเหนื่อยกับการแบกผู้ชายตัวไม่เล็กอีกคนไว้บนหลัง เรื่องของเรื่องก็คือหลังจากที่พากันวิ่งออกมาจากความวุ่นวายในงานคีณก็พึ่งตระหนักดีว่าตัวเองไม่มีรองเท้าติดเท้ามาซักข้าง ทางออกที่ดีที่สุดก็คือการยึดรองเท้าของอีกฝ่ายมาใส่ทับส้นซะ ถึงจะงอแงไม่ยอมอยู่นานก็ตาม แล้วจะให้แฟนเดินเท้าเปล่าแทนมันก็ไม่ใช่เรื่องถูกมั้ย





วิธีนี้แหละดีที่สุด

ถึงคนแม่งจะยืนมองแล้วกรี๊ดใส่เหมือนดูขบวนนกแพนกวินก็ช่างมันเถอะ

ใครสน

ก็กูจะสวีท





“ไม่หนักก็เดินเร็วหน่อยดิ อายจะตายอยู่แล้ว” ณนนก้มหน้างุดลงไปบนเสื้อที่เปียกเหงื่อ ครั้งแรกในชีวิตที่ต้องมาขี่หลังกันท่ามการสายตาผู้คนกลางวันแสก ๆ ทำไมอะไร ๆ มันก็เร็วไปหมดจนตั้งตัวไม่ทันแบบนี้วะ

“ไม่เอาอ่ะ ...อยากเดินแบบนี้นาน ๆ”

“งั้นจะลงเดิน”

“ไม่เอา”

“คีณ มันอายนะเว้ยยยยย” ถึงปากจะพูดไปแต่ดูเหมือนคนแบกจะไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยซักนิด

“อายหรือว่าเขินเอาดี ๆ”

“มันก็เหมือนกันป่ะ”

“ไม่เหมือนดิ เพราะต้องนี้คีณไม่อายเลย แต่เขินมากกว่าที่ได้เปิดตัวแฟนจริง ๆ ซักที”





บ้าจริง… เขินจริงด้วยวะ





“.......เชี่ย” ณนนเม้มปากเรียบสนิทไม่ปริปากเถียงอะไรออกมาอีก ก็แน่ล่ะสีหน้าแดงเรื่อมันชัดเจนว่าโคตรจะเขินจนไม่ควรจะหน้าด้านเถียงอะไรออกมาอีก

“ขอบคุณนะครับ”

“เรื่อง…”

“เรื่องเมื่อกี้ไง ขอบคุณนะที่ทำให้มันดีกว่าที่คิดไว้มากเลย”

“ขอบคุณเหมือนกัน” ถึงปากจะไม่ยอมพูดออกไปว่าขอบคุณเรื่องอะไร แต่ก็ดูเหมือนว่าคนที่แบกณนนไว้กับหลังจะคิดเข้าข้างตัวเองจนยิ้มแก้มแตกออกมาจนเกือบจะเสียลุคเท่ ๆ คูล ๆ แต่ช่างเถอะ ณ จุดนี้ ‘แฟน’ ที่แบกอยู่บนหลังก็ทำให้หล่อมากขึ้นพอแล้ว

“ฮือออออออ มึงดูนั่นนนน เขาแบกกันมาอ่ะมึงงงงง”





ถ้าไม่เชื่อก็ดูสีหน้าผู้หญิงที่ทิศสิบนาฬิกาคนนั้นสิ นี่ถ้างับหัวเพื่อนเข้าปากได้ก็คงทำไปแล้ว





“คีณ…”

“หืม”

“ให้นนลงเดินมั้ย”

“ไม่เอาดิ จะยอมให้แฟนตัวเองเท้าเปื้อนได้ไง อยู่เฉย ๆ ไปเหอะน่า อีกนิดนึงก็จะถึงลานจอดรถแล้ว”

“เว่อร์”

“ไม่ได้หรอก รอมาตั้งสามปีกว่าจะได้เปิดตัว เปิดตัวแล้วก็ต้องใส่ความแฟนให้สุด เข้าใจป่ะ” คีณเอียงหน้าไปด้านหลังแต่ก็ไม่ได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายแม้แต่เสี้ยว ก็ตอนนี้ณนนอาการหนักก้มหน้างุดไม่พูดจา ไอ้คำพูดหวานเลี่ยนชวนอ้วกของคีณน่ะมันไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ฝูงซอมบี้ที่เริ่มตามรุมอยู่รอบตัวห่าง ๆ ตอนนี้ต่างหากที่ทำให้อดที่จะรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้





แม่ม!! จะตามถ่ายทอดสดกันเป็นหมีแพนด้าเลยรึไงฟ่ะ





“เข้าใจ แต่นนอยากเดิน ขอลงตอนนี้เลย”

“แต่ว่า…” คำค้านหรือแม้แต่มือกาวของคีณมันไม่ได้ผล ณนนโดดตัวลงจากหลังเปียกเหงื่อในที่สุด ทันทีที่เท้าเปล่าสัมผัสลงกับพื้นซีเมนต์เจ้าตัวก็สะดุ้งโหยงขึ้นมา เพราะเศษก้อนดินดินทรายมันระคายเท้าจนรู้สึกเจ็บ แต่ ณ จุดนี้ถ้าจะโอดโอยออกไปก็เท่ากับว่าแพ้น่ะสิ

“ป่ะ เดินต่อ”

“หึ… หึหึ” คีณกระตุกยิ้มแรงเพราะเห็นจังหวะที่อีกฝ่ายพยายามแสดงสีหน้าว่าแฮปปี้ดีซะเหลือเกิน มือหนาก้มลงถอดรองเท้าคู่เล็กออกมา ก่อนจะถือมันไว้ด้วยมือซ้ายเพราะรู้ดีว่าเจ้าของมันก็คงไม่ยอมเอากลับไปใส่เองแน่นอน

“ถอดทำไม”

“ถ้าคืนให้ก็จะไม่ใส่ใช่ป่ะ” นอกจากจะไม่ตอบ ร่างสูงก็ยังจะเพิ่มประโยคคำถามเข้าไปในบทสนทนา ไม่สิ… นั่นมันก็แค่ประโยคบอกเล่าที่เขาและร่างโปร่งตรงหน้ารู้คำตอบดี

“อือ” เห็นมั้ยล่ะ ไอ้คีณเดาไว้ไม่มีผิด

“งั้นก็เดินไปด้วยกันแบบนี้แหละ” ว่าแล้วมืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็สวมเข้ากับมืออีกข้างของณนน คนตัวเล็กกว่าเดินตามแรงมือของคีณโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก ครั้งแรกกับความรู้สึกอิ่มเอมกับการจับมือ ณนนเคยคิดว่าการคบกันเป็นเรื่องของคนแค่สองคน แต่ตอนนี้ ตอนที่คนมากมายกำลังจะก้าวเข้ามายุ่งกับเรื่องราวของเขาและคนที่กำลังเดินนำเขากลับไม่ได้รู้สึกเปลี่ยนไปซักนิด





จะรู้กันแค่สองคน

หรือจะมีกี่คนที่เข้ามายุ่งวุ่นวาย

ยังไงรักมันก็คือรัก

เข้าใจแล้ว…





“ต่อจากตอนนี้มันจะเป็นยังไง”

“หืม”

“อีกไม่กี่นาทีข่าวคงกระจายทั่วโซเชี่ยล เราจะทำยังไง” คีณชะงักไปแวบหนึ่งก่อนจะกระชับมือของณนนให้แน่นขึ้นแล้วเดินต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ก็ไม่ต้องทำอะไร”

“แล้วเรื่องพ่อคีณ…”

“ไม่ต้องห่วงหรอกนน เชื่อคีณ เราก็แค่กลับห้องไปนอนถอดเสื้อผ้ากอดกันก็พอ….” น้ำเสียงประโยคหลังที่แฝงความทะลึ่งเอาไว้ทำให้ณนนยกศอกกระทุ้งเข้าช่วงท้องคนข้าง ๆ อย่างอัตโนมัติ เห็นแววไม่ดีซะแล้วสิ งานนี้ดูเหมือนว่าไอ้แฟนตัวแสบจะได้เปิดตัวแล้วจะเอาใหญ่

“นอนกอด...ตีน...ก่อนเถอะ”

“โหดว่ะ”

“จะโหดกว่านี้ถ้ายังไม่รีบเดินอีก อยากให้คนเขาเดินตามไลฟ์สดนักรึไง”

“ก็ช่างสิ คงไม่มีอะไรพีคได้เท่าจุ๊บที่คณะเมื่อกี้แล้วมั้ง”

“............” ก็จะอะไรล่ะ ที่เงียบแบบนี้ก็เพราะว่ามันเถียงไม่ออกน่ะสิ

“เงียบทำไม ตัวเองเป็นคนจุ๊บคนอื่นเขาก่อนแท้ ๆ”

“ไม่รู้เว้ย!” ณนนทำท่าจะสะบัดมือออกแต่คีณกลับใช้โอกาสนี้จับมันไว้ให้แน่นยิ่งกว่าเดิม

“เธอคือทุกสิ่งในความจริงในความฝัน…” จู่ ๆ คีณก็พึมพรำเพลงขึ้นมาเบา ๆ ให้ได้ยินกันเพียงสองคน เพลงเพลงเดิมที่ได้ยินในคณะนิเทศเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่ตอนนี้มันกำลังออกจากปากคนที่ตั้งใจอยากจะร้องให้ณนนฟังด้วยตัวเอง

“ก่อนจะร้องเพลงรีบเดินให้ถึงรถก่อนมั้ยล่ะ”

“เธอคือหัวใจ ไม่ว่าใครไม่อาจเทียมเทียบเท่าเธอ ช่างโชคดีที่เจอ ได้ตกหลุมรักเธอ

ได้มีเธอเคียงข้างกาย” ขอแสดงความเสียใจกับณนนด้วยเพราะ ณ จุดนี้นายคีณคนหล่อได้ทำหน้าทำตาไม่รู้ไม่ชี้ร้องพริ้มต่อไปราวกับกำลังจูงมือกันเดินบนพื้นหญ้า





หญ้าก็เชี่ยแล้ว…





“อารมณ์ไหนห่ะ เจ็บเท้าแล้ว เร็วเหอะน่า”

“คงจะมีเพียงเธอ ทำให้โลกนั้นหยุดหมุนเพียงเธอสบตาฉัน คงจะมีเพียงเธอ ที่หยุดหัวใจของฉันไว้ตรงนี­้ ตรงที่เธอ…”

“..........” โลกหยุดหมุนอะไรกัน… วินาที่ที่สบตามองลงไปชัด ๆ ตอนนี้มันเหมือนโลกหมุนเร็วขึ้นต่างหาก แต่เป็นการหมุนรอบตัวคนแค่สองคนเท่านั้น

“เธอเพียงคนเดียว และเพียงเธอที่ต้องการ ฉันจะทำทุกๆ ทาง ด้วยวิญญาณและหัวใจ นั่นคือฉันจะรักเธอ ไม่ว่าเป็นเมื่อไหร่สถานใ­ด

ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว”

“...พอแล้ว”

“ไม่ชอบหรอ ตั้งใจร้องให้เลยนะ แค่ฝากไอ้ดอมร้องให้ฟังไปก่อน”

“ก็....”

“เธอคือรักจริง ฉันยอมทิ้งทุกๆ อย่าง เพียงเพื่อเธอ ดั่งฟ้าให้มาเจอ ให้เธอคู่กับฉัน ให้เราได้เดินเคียงข้างกันนับจากนี้”

“นั่น! พวกเราน้องคีณอยู่ทางนั้น”

เดินเคียงกันอะไรล่ะ วิ่งสิครับพี่น้องนักข่าววิ่งตุบตับเข้ามาอย่างกับฝูงแร้งลงขนาดนั้น งานนี้คู่รักที่เปิดตัวแบบอลังการก็ได้แต่ใส่ตีนหมาวิ่งไปจนถึงรถก่อนจะรอดเงื้อมมือแร้งหิวขาวได้อย่างหวุดหวิด





เอาเถอะ





ต่อจากนี้ถ้าเรื่องจะวุ่นวายยังไงก็ช่างมัน

เพราะอยากน้อยตอนนี้โลกก็รู้แล้วว่าแฟนผม...คือเขาคนนี้

.

.

.

TBC





หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 16 Post or Discard 27/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 29-03-2018 09:42:08
ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้



“เราจะนั่งมองมันแบบนี้อีกนานมั้ย”

“ก็คงจนกว่ามันจะสั่นจนพังไปเองอ่ะ ถ้านนไม่ยอมปิดเครื่องหรือไม่ก็ปิดแจ้งเตือนมันไปซักที” คีณตอบด้วยน้ำเสียงที่เหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร การแจ้งเตือนจากทั้งเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม หรือแม้แต่ไลน์ยังคงเด้งเข้าเครื่องของณนนไม่มีหยุด แต่ในเมื่อสัญญากันเอาไว้แล้วว่าจะวันนี้จะไม่สนใจอะไรที่เป็นผลพวงมาจากการเปิดตัวแบบอลังการดาวล้านดวง เพราะฉะนั้น… ก็ปล่อยให้ทุกอย่างมันไปตามกลไกความเสือกของชาวโลกนั่นแหละถูกแล้ว

“ปิดเครื่องแล้วถ้ามีธุระสำคัญขึ้นมาจะทำยังไง” ณนนว่าพลางหยิบโทรศัพท์คว่ำหน้าลงกับโซฟา ให้ตายเถอะ ไอ้หนังคอมเมดี้บนจอทีวีนี่ก็ไม่ได้ทำให้ขำขึ้นมาได้เลย แล้วไหนจะไอ้คนมือไวที่เลื้อยไปเลื้อยมาอยู่ข้างตัวนี่อีก

“ไม่เห็นต้องสน”

“ง่ายเนอะ”

“อือ ไม่เห็นมีไรยาก” ก็แน่ล่ะเพราะคีณได้ดำเนินการปิดเครื่องตัวเองไปเรียบร้อยโรงเรียนไทย นั่นก็เพราะพอจะเดาออกว่าจะเกิดความวุ่นวายอะไรขึ้นบ้างในโลกโซเชี่ยล อีกอย่างเบอร์โทรศัพท์ตัวเองก็เป็นสิ่งที่นักข่าวหาได้ไม่ยาก ไม่ใช่ว่าจะอยากจะหลบเลี่ยงความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นหรอกนะ แต่ขอพักใจกับคนข้าง ๆ ซักแปบแล้วกัน

“ยากแน่ถ้ายังไม่หยุดเอามือล้วงเข้ามาในเสื้อ...” สายตาดุ ๆ ส่งมาจนคีณชักมือกลับแทบไม่ทัน ขอร้องล่ะคุณผู้อ่านอย่าใช้สายตาแบบนั้นมองไอ้คีณเพราะว่านี่ไม่ใช่การกลัวเมีย แต่เขาเรียกว่าอยู่ในระยะเกรงใจ

“งั้น ...กางเกงแทนได้ป่ะ”

ป๊าปป!!

“โอ๊ยยยย” เวรกรรมของไอ้คีณมือยังไม่แตะขอบกางเกงเลยด้วยซ้ำ โดนตีแสกหน้ามาเหม่งแทบแตก

“มีอารมณ์รึไงห่ะ สถานการณ์แบบนี้”

“เออ มี”

“ทะลึ่ง ข้าวก็ยังไม่กิน น้ำก็ยังไม่อาบ”

“แปลว่าถ้ากินข้าวอาบน้ำแล้ว...” วงแขนแกร่งโอบณนนเข้ามาจนปลายจมูกเกลี่ยไปมาอยู่ที่กลุ่มผม มือไม้ที่เป็นเหมือนปลาหมึกก็เริ่มต้นภารกิจรัดเข้าที่ช่วงเอวอีกฝ่ายแทบจะไม่มีทางหนีทีไล่ ยิ่งเห็นดวงตาหงุดหงิดขัดแย้งกันกับพวงแก้มสีชมพูเพราะความเขินก็ยิ่งทำให้คีณได้ใจ

“.........” ซวยแล้วณนน เผลอพูดออกไปมัดตัวเองแท้ ๆ

“อาบน้ำอย่างเดียวได้มั้ยอ่ะ อยากกินนนมากกว่าข้าว”

“อยากกินอะไรนะ…”

“ก็...กิน….นนไงครับ” ริมฝีปากหนาก้มลงเพียงนิดเพื่อกระซิบที่ข้างหู ณนนกระตุกยิ้มบางก่อนจะเอียงหน้าสัมผัสเรียวปากลงที่กรอบหน้าของคีณเบา ๆ ให้อีกฝ่ายนึกดีใจ ก่อนที่เสียงโอดโอยจะดังลั่นห้องในระดับที่เรียกว่าพญาปลวกได้ยินก็คงจะตื่น

“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย”

ไอ้แผงฟันที่กัดเข้าที่ช่วงคางนี่มันเบาจนแทบไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่ไอ้มือที่เอื้อมมาบิดหูเต็มแรงนี่สิจะให้หยุดร้องยังไงไหว

“อย่าพึ่งเล่น ยังอารมณ์ไม่ดี เข้าใจนะครับ”

“ครับ ๆ ๆ ๆ คีณเข้าใจแล้วครับนน โอ๊ยยยยยย นนนนนนนน"

“ดี” ณนนยอมปล่อยมือในที่สุด คนเจ็บลูบหูตัวเองป้อย ๆ แต่ก็ยังไม่วายส่งสายตาเจ้าเล่ห์คล้ายกำลังครุ่นคิดวางแผนการบางอย่าง ...ไม่ได้หรอก น้องชายไอ้คีณพร้อมขนาดนี้แล้ว คุณแฟนจะมาทำตัวไม่พร้อมแบบนี้ไม่ได้

“เมนส์มารึไงห่ะ”

“เมนส์บ้านพ่องสิ ป่านนี้เรื่องเราไปถึงไหนต่อไหนแล้วไม่รู้ จะมีอารมณ์มาลูบ ๆ คลำ ๆ อีก”

“พูดไม่เพราะเลย…”

“ก็มัน….”

“แบบนี้ต้องโดนลงโทษ” ว่าแล้วคีณก็ออกแรงเกี่ยวทั้งร่างของณนนขึ้นมาไว้บนตัก ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะครอบครองเรียวปากบางนุ่มหยุ่นเอาไว้ด้วยไอร้อนที่ช้าแต่นุ่มนวลจนยากที่จะปฏิเสธ มือสองข้างเริ่มซุกซนตามสัญชาตญาณและดูเหมือนว่ามันกำลังจะยั้งเอาไว้ไม่อยู่

“อือ…..คีณณณ” เจ้าของชื่อไม่ได้ใส่ใจเสียงทัดทาน ริมฝีปากหนาเคลื่อนมาสร้างรอยที่ขมับซ้ายและไล้ลงมาเรื่อย ๆ เกมแสนร้อนดำเนินต่อไปโดยที่คีณเข้าใจว่าในที่สุดณนนก็กลายเป็นผู้ตามเกม และเรื่องก็คงจะจบเหมือนทุกทีถ้าไม่เกิดเหตุ….

“โอ๊ยยยยยยยยยย”

เสียงร้องโอดโอยครั้งที่สามที่อาจจะดังไปถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ

“ถ้าไม่หยุด! จะไม่ได้ไปอีกสามเดือน!”

“ครับ ๆ ...โอ๊ยยย หยุดครับบบบ” น่าสงสารคีณที่ต้องมองตามคนที่ลุกเข้าห้องน้ำไปตาละห้อย แต่ก็ควรจะสงสารคีณน้อยมากกว่าที่โดนเข่าของผู้ทรงอิทธิพลทุ้งเข้าเต็มแรง…

โอ้โห… ไอ้คีณอิ่มขึ้นมาทันทีเลยครับผม…

.

.

.

ไถ่โทษ คำง่าย ๆ ที่ณนนถูกคีณยัดเยียดให้ต้องทำตาม คิดไปคิดมาถ้ายอมดี ๆ ก็คงไม่ต้องมาวิตกมากกว่าเดิมขนาดนี้… ให้ตายเถอะ นี่มันมื้อแรกที่เขาสองคนต้องมานั่งกินข้าวพร้อมกันในร้านตามสั่งแถวมหาลัย… ถ้าณนนไม่โดนบังคับ อย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นหน้าที่นี่ ก็เหตุการณ์มันพึ่งสด ๆ ร้อน ๆ ขนาดนั้นแถมยังตัดขาดจากโลกอินเตอร์เน็ตมาหลายชั่วโมง ถึงจะตัดสินใจทำเปิดตัวไปแล้วก็เถอะ ลึก ๆ มันก็ยังอดกังวลผลที่จะตามมาไม่ได้อยู่ดี โดยเฉพาะ… ผลที่จะเกิดกับคีณ

“ทำไมทำหน้างั้น ปกติชอบกระเพราไก่สับร้านนี้ไม่ใช่หรอ” ยังจะมาถามอีก ก็ปกติเคยมานั่งกินพร้อมกันซะที่ไหนล่ะ ถ้าไม่มากินกับกลุ่มเพื่อนก็จะเป็นคีณที่ซื้อไปให้กินที่ห้อง

“ไม่รู้สึกว่ามีคนมองบ้างหรอ”

“ก็ไม่เห็นแปลก ปกติเราสองคนก็มีคนสนใจอยู่แล้ว” คีณตักข้าวผัดกุ้งในจานเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ประกอบกับการมองคนตรงหน้าตาไม่กระพริบ ...น่ารัก จะให้มองอีกกี่ปี กี่วัน หรืออีกชาติ ณนนโหมดที่พึ่งสระผมมาหมาด ๆ เส้นผมปรกลงมาเกือบจะครึ่งหน้า หน้าใส ๆ ปากชมพูโดยธรรมชาติก็ยังน่ามองสำหรับเขามากอยู่ดี

น่ากินไม่มีเปลี่ยน…

“ก็ตอนนี้มันมากขึ้นเป็นสองเท่า”

“เดี๋ยวพอคนเขาชินก็เลิกมองกันไปเองอ่ะ”

“แล้วเมื่อไหร่คีณจะเลิกมองนน จะกินข้าว!”

“ทำไมอ่ะ อยากมอง แฟนน่ารัก” ไม่ว่าเปล่า คีณยังเอื้อมมือปัดเส้นผมที่แทบจะทิ่มเข้าตาขวาของอีกฝ่ายออก ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มเบา ๆ ในจังหวะที่เนียนมาบีบจมูกณนนด้วยความหมั่นเขี้ยว

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด” เสียงประสานวีดร้องจากโต๊ะในสุดทำให้ทั้งสองคนต้องหันไปมองอย่างเลือกไม่ได้ ภาพที่เห็นคือผู้หญิงสามคนกำลังเหลือบตามองไปทางอื่นทั้งที่กลั้นเสียงร้องอย่างบ้าคลั่ง คนนึงคาบช้อน คนนึงยกมือปิดปากตัวเอง ส่วนอีกคนก้มลงกับโต๊ะจนแทบจะแทะโต๊ะกินแทนข้าว และที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นโทรศัพท์มือถือที่เจ้าของตั้งใจถ่ายภาพแบบไม่เนียน

“รีบกินเหอะ”

“ทำไมอ่ะ ...อายหรอ”

“อย่าพูดแบบนี้อีกนะคีณ ...ไม่ได้อาย แค่ไม่ชิน” ณนนชี้นิ้วขึ้นคาดโทษคนที่เอะอะก็จะทำเหมือนว่าน้อยใจ ก็รู้แหละว่าจริง ๆ คีณก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรแต่มันก็อดห่วงความรู้สึกของอีกฝ่ายไม่ได้

“คร๊าบบบบบบบ งั้นคีณรีบกินเนอะ”

“มันต้องยิ้มเบอร์นั้นเลยหรอ”

“แน่นอน ไม่เคยมีความสุขเท่าวันนี้มาก่อนเลยรู้ป่ะ” ดูเหมือนอาหารทั้งสองจานจะเป็นหม้ายไปซะแล้ว เพราะทั้งคีณและณนนดูจะอิ่มทิพย์เพราะหันมาจ้องตากับแทนมองเม็ดข้าว ไอ้คนที่นั่งมองมานานอย่างคีณน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้คนที่ตั้งใจจะมองคาดโทษเขาแล้วตกบ่วงเสียเองเนี่ยสิ หน้าแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

“แปลว่าที่คบกันมาตั้งนานไม่มีความสุขหรอ”

“คนละแบบ… ตอนนี้คีณมีความสุขม๊ากกกกมากเพราะเป็นเจ้าของนนได้ซักที”

“ก็เป็นเจ้าของกันตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ”

“.....ไม่หรอก” คีณส่ายหน้าเบา ๆ เอื้อมมือไปเกลี่ยเส้นผมบนใบหน้าณนนอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาเคลื่อนมันมาประครองกรอบหน้าเล็กเอาไว้เพื่อที่จะได้มองเข้าไปในดวงตาได้ชัดเจนขึ้น

“ทำไม”

“คีณเคยอยากหวง อยากห่วง อยากหึง อยากทำทุกอย่างให้ทุกคนรู้ว่านนเป็นของคีณ แต่ตอนที่เราทะเลาะกัน มันทำให้คีณรู้ว่าการเป็นเจ้าของที่คีณต้องการจริง ๆ คือคีณต้องปกป้องคนของคีณ ดูแลเขาให้ดีที่สุด และทำทุกอย่างให้ตัวเขาและคนอื่นรับรู้ว่าคีณจะรักเขาแค่คนเดียว”

“น...น...ไหนบอกจะรีบกิน กิน ๆ เข้าไปเลยนะ” ณนนเบี่ยงหน้าหนีแล้วก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปากจนแทบจะเคี้ยวไม่ทัน นั่นก็ยิ่งทำให้คนที่พึ่งพูดประโยคชวนเบาหวานขึ้นฉีกยิ้มได้มากขึ้นกว่าเก่า มื้ออาหารดำเนินต่อไปอีกไม่นานนัก แน่นอนว่าจานของคีณยังเหลือเกือบครึ่งเพราะอิ่มอกอิ่มใจ ส่วนจานของณนนนั้นเกลี้ยงไม่เหลือข้าวแม้แต่เม็ดเดียวเพราะเจ้าตัวรีบจ้วงเข้าปากแก้เขิน

ไม่นานนักคีณก็เรียกเจ้าของร้านที่คุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดีมาคิดเงิน เจ๊เจ้าของร้านเหลือบมองคนทั้งคู่แล้วยิ้มกรุ่มกริ่มอย่างอดไม่ได้ ใครจะไปคิดว่าลูกค้าหล่อ ๆ ขาประจำสองคนจะมานั่งร่วมโต๊ะและเรียกลูกค้าแปลกหน้าเข้ามาได้อีกหลายโต๊ะ

“เอ่อ…” ณนนที่กำลัวจะลุกออกจากที่นั่งต้องชะงักลงเมื่อหนึ่งในสมาชิกหญิงสาวที่กลั้นกรี๊ดแทบเป็นแทบตายเมื่อซักครู่วิ่งเข้ามายืนอ้ำอึ้งอยู่ตรงหน้าคีณ

“มีอะไรรึเปล่าครับ”

“ขอถ่ายรูปคู่ได้มั้ยคะพี่คีณ”

“ได้ครับ” คีณเหลือบตามองณนนแล้วกระตุกยิ้มบ้าง เขารับโทรศัพท์ที่เปิดโหมดกล้องจากหญิงสาวมาถือไว้ในมือ เธอทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่คีณก็ดันยกมือห้ามไว้แล้วรีบเดินอ้อมไปอีกฝั่งของโต๊ะทันที

แชะ แชะ

“แบบนี้ใช่มั้ยครับ”

“วี้ดดดดด ใช่ค่ะ!!!” เจ้าของเครื่องรับโทรศัพท์กลับไปด้วยมือสั่น ๆ ภาพในโทรศัพท์ทำเอาสาววายอย่างเธอแทบสิ้นชีพ คีณโน้มตัวลงไปเอาหน้าแนบหน้ากับณนนก่อนจะลั่นชัตเตอร์สองครั้งติดโดยที่เธอไม่ต้องอธิบายคำว่ารูปคู่ให้มากความ คอยดูเถอะ… คืนนี้เธอจะป่วนแทคคู่ #ทีมคีณนน ด้วยรูปนี้ให้ติดเทรนไทยกันไปข้าง!

“คีณ!”

“อะไรครับ”

“...........” ตาย… ฉากกระทุ้งศอกเข้าช่วงท้องแล้วคีณยิ้มรับเมื่อครู่ทำเธอตายตรงนี้ได้ง่าย ๆ แน่นอน

“เอ่อ ขอตัวก่อนนะครับ”

“พี่สองคนเป็นแฟนกันใช่มั้ยคะ!!” ประโยคดังลั่นจากสาวเจ้าทำเอาทั้งร้านนิ่งสนิท ณนนที่พึ่งเอ่ยปากขอตัวช็อคนิ่งจนแทบจะทิ้งตัวลงไปนั่งกับเก้าอี้อีกครั้ง คนถามก็เอาแต่บิดตัวหมุนเกลียวเพราะเขินคำพูดของตัวเองที่ไม่รู้ตัวว่าใส่ระดับความดังไปหลายเดซิเบล

“เอ่อ…. คือ….” คีณเป็นคนเปิดปากออกมาแต่ก็ยังอึกอักเมื่อมองเห็นแววตาอึ้ง ๆ ของคนที่ยืนตะลึงอยู่ข้างตัว

สงสัยจะช็อคที่ถูกจู่โจม จับมือให้กำลังใจหน่อยก็แล้วกัน

“งือออออออ อย่าพึ่งค่ะพี่คีณ อย่าพึ่งตอบ!!” ว่าแล้วโทรศัพท์เครื่องเดิมของเธอก็ถูกเปิดเข้าที่โหมดกล้องอีกครั้ง จะพิเศษหน่อยก็ตรงที่มันถูกกดอัดวิดิโออย่างตั้งใจและสั่นให้หน่อยที่สุดแม้มือของเธอจะสั่นพั่บ ๆ เหมือนเทพเจ้ากวนอิมเข้าสิงแล้วก็ตาม

“พี่ตอบได้ยังครับ” คีณถามออกมาแต่แววตาดันโฟกัสที่เจ้าของมือเล็กที่กุมเอาไว้ แววตาที่ไม่ได้กังวลอะไรมากมายก็ยิ่งทำให้เขากล้าที่จะตอบ

“ค่ะ!!!”

“ถ้าคิดเรื่องพี่กับณนนไว้แบบไหน… ก็คงเป็นแบบนั้นแหละครับ เพราะพี่เป็นอะไรก็ได้สำหรับเขา”

“............”

“ได้คำตอบแล้ว ขอตัวนะครับ” สองมือกระชับเข้าหากันแน่นขึ้นก่อนที่คีณจะเดินนำพาณนนออกจากร้าน ทิ้งไว้แต่เพียงอาการอึ้ง ๆ ของคนทั้งร้าน และสีหน้าแดงฉาดของเจ้าของโทรศัพท์ที่อัดคลิปวินาทีฟินโลกแตกนั่นไว้ได้ทุกคำพูด และขอแสดงความยินดีด้วยที่กล่องแจ้งเตือนทวิตเตอร์และเฟสบุ๊คของเธอในคืนนี้จะเด้งรัวเป็นพิเศษ





MungmingfinY : ได้เวลาหักไม้พายทิ้ง เรือเราแล่นเองได้ #ทีมคีณนน [Video]

.

.

.

TBC
แวะมาอัพค่า จะพยายามเข็นลงให้จบภายในวันนี้นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 29-03-2018 13:04:33
เลิฟๆ มีความน่ารัก อวดกันสุด
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-03-2018 13:18:20
 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
กำลังหวานเลยยยยยย คุณพ่ออย่าเพิ่งมานะ ทางที่ดีไม่มาเลยจะดีมากกกกกก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 29-03-2018 13:54:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 30-03-2018 20:04:33
ตอนที่ 20 เรื่องที่หนีไม่พ้น



SL Cute Boy

11 ชั่วโมงที่แล้ว

โอย ๆ ยังไม่ทันข้ามวันก็มีคลิปสองโผล่มา หลักฐานเต็มตาคาคลิป ร้านป้าอู้ดข้างมอจะต้องเป็นตำนาน งานนี้ขอเอาเกียรติแอดมินเป็นพยาน ดิฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าสองคิวท์บอยตัวท็อปแบบไปโป๊ะป๊ะสปาร์ครักกันตอนไหน จริงหรือหลอก เพราะถ้าจะเปิดตัวด้วยการจุ๊บ ๆ แล้วหวานต่อเนื่องโนสนโนแคร์ชาวโลกแบบนี้ สาววายจะมีไม้พายไว้ทำไม เรือมันแล่นด้วยมอเตอร์ค่ะคุณณณณ

“มึงว่าถ้าเขารู้ว่าไอ้นนมันคบพี่คีณจริง แล้วเป็นระยะเวลาเท่าไหร่… เขาจะช็อคแบบเรามั้ยวะ” นีลแทบไม่ละสายตาออกจากหน้าจอ คอมเมนต์นับร้อยนับพัน และโพสต์ตามเพจซุบซิบดาราทำให้เธอลืมที่จะตั้งใจเรียนในคลาสวันนี้ไปโดยสิ้นเชิง ออ นี่ยังไม่รวมที่สื่อกระแสหลักทำคอนเทนต์ออกมาเป็นเรื่องเป็นราว ก็เพราะชื่อคีณลูกชายเจ้าของช่องดิจิตอลชื่อดังนั่นแหละที่ทำให้ข่าวกระจายง่ายยิ่งกว่าฝุ่น เอาเถอะ ในฐานะเพื่อนผู้แสนเสือกและปรารถนาดีก็ได้แต่ภาวนาว่าคงไม่มีอะไรจะพีคไปกว่านี้แล้วล่ะมั้ง

“จะเหลือหรอ” เฟย์ตอบขณะที่ยังไม่นำสายตาตัวเองออกจากจอโทรศัพท์เช่นกัน

“ก็คงจะช็อคไปแวบนึงละมั้ง เดี๋ยวเรื่องเงียบมันก็คงซา ๆ ไปเอง” เทมเสริมคล้ายให้กำลังใจตัวเองและเพื่อนไปพร้อมกัน ก็เพราะเมื่อคืนน่ะ….

“โอโห แต่เมื่อคืนอินีลคนนี้นี่หูชาเลยนะ คนแทบจะทั้งคณะทั้งโทรหา ทักแชทมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย”

“กูก็ไม่ต่างหรอก แล้วมึงอ่ะไอ้นน เป็นไงบ้าง” เทมเสริมพร้อมปรายตาไปข้างตัวด้านขวาที่มีณนนนั่งอยู่ หนุ่มคิวท์บอยที่ดังเยี่ยงระเบิดปรมาณูกำลังนั่งขมวดคิ้วกังวลกับข้อความมากมายทันทีที่เปิดเครื่องโทรศัพท์ ก็ยอมรับแหละว่าเฟสบุ๊คและไอจีของเขามักมีคนแทครูปหรือข้อความมาประจำแต่สำหรับครั้งนี้มันมากเกินกว่าจะตามย้อนอ่านได้หมด แถมแต่ละข้อความก็ทำให้อารมณ์พลิกไปพลิกมายิ่งกว่าเล่นเครื่องเล่นตีลังกา

“ก็โอเคมั้ง…”

: โอ๊ยยยย ฟินค่า รีเพลย์คลิปวนไป

: คีณอยู่ในหมีตลอดเลยหรอ โคตรโรแมนติกอ่า

: เขาคบกันนานแล้วยัง ใครรู้บอกที

: สร้างกระแสเดบิวท์เข้าวงการหนังเกย์ป่ะ หยะแหยงว่ะ

: ว่าที่อันดับหนึ่งคู่จิ้นแน่ ๆ

: ไปสืบมา เขาแอบคบกันมาหลายเดือนละ

: พ่อคีณเคยออกมาเหยียดนักแสดงเกย์ในสังกัดตัวเองเมื่อปีก่อน แล้วนี่ลูกจะเป็นเอง?

: สังคมเป็นอะไรกันไปหมดวะ

: ความรักมันไม่มีข้อจำกัดหรอก รอเขาออกมาพูดเองดีกว่า

: ย้อนเฟสทั้งคีณทั้งนน เคยเช็คออนที่ญี่ปุ่นในช่วงเวลาเดียวกันด้วยอ่ะ

: รักแบบนี้ไปไม่รอดหรอก

“หน้าโอเคฉิบหายอ่ะ” เทมส่ายหัวให้กับสีหน้าที่แสดงออกชัดว่าไม่โอเคเท่าไหร่นักของณนน

“เอามานี่ เลิกดู” เฟย์ที่อยู่ไกลจากณนนที่สุดดันเป็นคนที่เอื้อมสุดตัวมาแย่งเอามือถือออกจากมือณนน ก่อนที่เธอจะปิดล็อคมันแล้ววางไว้ตรงหน้าตัวเองแทน

“เฮ้ย! เฟยยยย์”

“ยิ่งอ่าน มึงก็ยิ่งแย่ป่ะ ฝากไว้กับกูก่อนอ่ะดีละ”

“กูไม่เป็นไร…”

“น่าเชื่อตาย ไม่ต้องดูแล้ว” เทมเสริมก่อนจะพยายามพลิกเอกสารเรียนตรงหน้าให้ตรงกับสไลด์โชว์บนจอของอาจารย์ที่ยังสอนแบบไม่สนเสียงคุยกันลั่นของนักศึกษาทั้งชั้นเรียน

“กูก็แค่ยังไม่ชินมั้ง… เรื่องกูกับคีณมันไม่เคยถูกเปิดออกมาใครวิจารณ์ จริง ๆ ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็คือสิ่งที่กูกลัว” ณนนพูดสิ่งที่รู้สึกออกมาหมด เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อวานหลังเกิดเรื่องคีณถึงห้ามไม่ให้เปิดโซเชี่ยลนักหนา ส่วนตอนนี้ทั้งที่สัญญาไว้ว่าถ้าเปิดดูแล้วจะไม่เก็บมาคิดมากแต่มันก็อดไม่ได้อยู่ดี เอาเข้าจริง ๆ การรักในที่แจ้งครั้งแรกของคนสองคนมันมีผลกับคนอื่นมากกว่าที่คิดเอาไว้

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ดีเว้ย มึงกับพี่คีณคบกันหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาหลายปีไม่อึดอักหรอวะ เปิดตัวแบบนี้มันง่ายกว่าตั้งเยอะ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก” เทมตบที่บ่าณนนเบา ๆ

“จริง ส่วนเรื่องขี้ปากคนอื่น ไม่ต้องไปสนใจหรอก”

“อือ ขอบคุณพวกมึงนะเว้ย โดยเฉพาะมึงเทมเมื่อวานไม่ได้มึงกูแย่แน่”

“กูไม่เท่าไหร่หรอก ต้องยกความดีความชอบให้ไอ้พี่เฟรนที่สมองไว”

“เหี้ย!!” อยู่ ๆ นีลที่เอาแต่เลื่อนไทม์ไลน์ไม่ได้สนใจโลกก็โพล่งขึ้นมาเสียงดัง จนทั้งอาจารย์และนักศึกษาร่วมใจกันหันมามองหาต้นตอ ลำบากกลุ่มเพื่อนที่ต้องช่วยกันทั้งเอามือยัดปากและโบกไม้โบกมือปฏิเสธว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“อะไรของมึงเนี่ยอีนีล” เฟย์ลืมตัวปิดปากนีลแน่น จนตาตี่ ๆ เริ่มโตขึ้นเพราะความอัดอั้นอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา

“เออ ดีที่อาจารย์คนนี้แกไม่ค่อยสดใจอะไร”

“อืออออ อวกอึงอู” ขณะที่ปากถูกเฟย์ปิดเอาไว้แน่น มือไม้ที่ยังว่างก็พยายามยื่นโทรศัพท์ให้เทมได้อ่านบางอย่างที่ทำให้เธออุทานเป็นสัตว์เลื้อยคลานสี่ขาออกมา

“อะไรของมึงวะ”

“เอาไออู”

“ไอ้เฟย์ มึงปล่อยมันดิ”

“สัญญากับกูก่อนว่าจะไม่แหกปาก”

“อือ อืออออออ” นีลพยักหน้ารัว ขณะที่ณนนเองก็มองเหตุการณ์ป่วน ๆ ของเพื่อน ๆ ด้วยความสนใจไม่น้อย

“อย่าส่งเสียงนะมึง” เฟย์ยอมปล่อยมือในที่สุด เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระนีลก็ใช้เวลาหอบแห่กเพราะหายใจไม่ทันอยู่ไม่ถึงสิบวินาที

“พ...พวกมึงดูข่าวนี่” ในที่สุดเทมก็รับโทรศัพท์ของนีลเอาไว้ในมือ เขาสบตาเพื่อนอีกสองคนเล็ก ๆ ก่อนจะเป็นคนแรกที่อ่านเนื้อหาบางอย่างบนเว็บไซต์ของสำนักพิมพ์หัวใหญ่ของประเทศ

“ผู้บริหารช่องใหญ่ออกมาปฏิ…..” เทมที่เหมือนจะพึมพำเนื้อหาข่าวในตอนแรกกลับเม้มปากแน่นแล้วเหลือบตามองณนนแล้วกดล็อคเครื่องพร้อมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอในทันที

“มีอะไร”

“เออ นั่นดิ ไรวะ” เฟย์ที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรก็แสดงออกชัดเจนว่าอยากรู้เสียเหลือเกิน ผิดกันกับเทมและนีลที่สบตากันก็รู้ว่าควรจะปิดปากเงียบแล้วปิดเครื่องมือสื่อสารทั้งมวลไปซะ

“ไม่มีอะไรหรอก นีลมันบ้าไปเอง ใช่มั้ยมึง”

“เออ! กูนั่งอยู่แล้วนึกถึงสวนลุมเลยมีตัวเอี้ยหลุดออกมา!”

“ตลกละ ไหนเอามานี่ เปิดให้กูดู” เฟย์อาศัยช่วงแขนยาว ๆ เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์นีลมาไว้ในมือ แต่มันก็ยังติดพาสเวิร์ดทำให้เธอเข้าถึงข้อมูลไม่ได้อยู่ดี

“อย่าดูเลยมึง”

“อะไรของมึงวะเทม มึงก็อีกคนอีนีล หน้าเป็นเหน็บหรอ ขยิบอยู่ได้…..” เสียงเฟย์ในประโยคหลังมันอ่อนลงอย่างชัดเจน เพราะเธอเริ่มแปลความหมายใบหน้าชักกระตุกของนีลได้แล้วว่า… เรื่องนี้เธอจะรู้ตอนไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่ต่อหน้าณนนตอนนี้!

“มีอะไรที่เกี่ยวกับกูรึเปล่า”

“เอ่อ….” ทั้งสามคนพูดไม่ออกเมื่อสิ่งที่ณนนพูดมันถูกจุดเข้าอย่างจัง เทมถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะดึงนิ้วนีลไปปลดล็อคเครื่องโทรศัพท์แล้วยื่นมันให้ณนนแต่โดยดี ยังไงณนนก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่ดี อีกอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรขนาดนั้น (มั้ง)

“มึงเห็นข่าวนี้รึยัง”

“ข่าว…” ณนนขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าไม่ค่อยโอเคของเพื่อน มือเรียวเลื่อนอ่านทุกอย่างที่อยู่ในจอช้า ๆ อย่างตั้งใจ แววตาที่เคยกังวลกำลังดูเป็นกังวลมากเสียยิ่งกว่าเก่า เนื้อข่าวชวนให้กัดปากแน่น แม้ยังไม่ได้เปิดคลิปเพื่อดูสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียงของคนที่ถูกสัมภาษณ์เลยก็ตาม

‘ผู้บริหารช่องใหญ่ออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง! ลูกชายไม่ได้เป็นเกย์!’

‘คุณภาวัช ผู้บริหารช่องดิจิตอลชื่อดังอย่าง KNews ออกมาตั้งโต๊ะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข่าวของหนุ่มคีณ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่กำลังโด่งดังอยู่ในโลกโซเชี่ยล โดยคุณภาวัชได้ชี้แจ้งกับนักข่าวว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงเท่านั้น และยืนยันว่าลูกชายไม่ได้มีพฤติกรรมชอบพอกับเพศเดียวกันแน่นอน….’

“ไอ้นน มึง….”

“เดี๋ยวกูมานะ นีลส่งลิงค์ให้กูที” ณนนลุกขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เขาหยิบโทรศัพท์ตัวเองแล้วเดินออกจากห้องเรียนทันที กลุ่มเพื่อนมองตามด้วยความเป็นห่วง แต่ก็รู้ดีว่าคงทำอะไรไม่ได้มากนอกจากการเป็นกำลังใจอยู่ในที่ของเพื่อนตรงนี้

ทันทีที่ออกจากห้องเรียน ณนนก็ทิ้งตัวพิงเข้ากับผนังตึกที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไปมานัก ลิงค์ข่าวที่นีลส่งมาคงไม่มีประโยชน์นักเพราะตอนนี้เฟซบุ๊คของเขาถูกแทคเข้ากับโพสต์ข่าวมากมายที่มีเนื้อหาเดียวกัน ชั่งใจอยู่ไม่นานนิ้วเรียวก็ตัดสินใจกดเปิดคลิปสัมภาษณ์ ไม่สิ… การตั้งโต๊ะแบบนี้มันเหมือนการแถลงข่าวอย่างตั้งใจซะมากกว่า

“คลิปที่หลุดออกมา คุณภาวัชมีความเห็นยังไงครับ”

“เท่าที่ผมทราบในเบื้องต้นมันเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น เห็นว่าเป็นงานที่คีณลูกชายผมจะต้องช่วยมหาวิทยาลัย ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเรื่องราวมันจะไปกันใหญ่ขนาดนี้”

“หลังเป็นข่าว น้องคีณพูดถึงเรื่องนี้ว่ายังไงบ้างคะ”

“ส่วนตัวผมยังไม่ได้คุยกับลูกมากมายนัก เพราะไม่คิดว่าเรื่องนี้มันสำคัญอะไรขนาดนั้น”

ณนนเลื่อนมือบนจอเพื่อข้ามดูการสัมภาษณ์เป็นช่วง ๆ หัวใจของเขามันเริ่มเต้นเร็วและแรงไม่รู้ว่าเพราะเนื้อหาข่าวที่กระทบตัวเอง หรือเพราะสายตาของคนให้สัมภาษณ์ที่จ้องมองผ่านกล้องจนแทบจะทะลุจอออกมา ...ยอมรับแบบคนขี้ขลาดตาขาวเลยก็ได้ว่าตอนนี้ณนนกำลังกลัว… กลัวในสิ่งที่เคยกลัวมาตลอด

“มีการจับผิดบนโลกอินเตอร์เน็ต ว่าทั้งสองคนคบหากันแน่นอน ถ้าสุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องจริง คุณภาวัชคิดว่า…”

“ผมว่าผมเป็นพ่อคีณนะ พ่อก็ต้องรู้จักลูกมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ผมมั่นใจว่าลูกผมยังปกติ ไม่ใช่ว่าผมไม่ยอมรับเพศที่สาม แล้วก็ไม่ได้รังเกียจอย่างที่โลกอินเตอร์เน็ตเคยโจมตี แต่ผมยืนยันว่าเท่าที่ผมทราบตอนนี้มันไม่มีอะไรเลย”

“ยืนยันว่าเป็นแค่การโปรโมทงานใช่มั้ยครับ”

“ครับ ผมขอยืนยันในส่วนที่ผมทราบ”

“เป็นกระแสแรงขนาดนี้ มีโอกาสนำมาต่อยอดในช่องมั้ยคะ”

“จับคู่จิ้นมาเล่นซีรีย์แบบที่ช่องอื่นเขาทำกันน่ะหรอครับ ผมว่ารอดูต่อไปแล้วกันนะครับ แต่ถ้ามีโอกาสคงต้องรอกระแสจางลงไปซะก่อน เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่”

“น้องณนนที่เป็นข่าวกับน้องคีณก็เป็นที่รู้จักพอสมควร มีโอกาสจะได้ร่วมงานกับทางช่องมั้ยครับ”

“ส่วนตัวผมยังไม่เคยเจอเด็กคนนี้นะ แต่ถ้ามีโอกาส ผมก็ยินดีครับ”

หนุ่มใหญ่วัยกลางคนยิ้มบาง ๆ ที่เหมือนจะจริงใจผ่านกล้องออกมา แววตาที่พยายามส่งสารออกมานั้นมันได้ผลกับณนนเต็ม ๆ จะให้บรรยายความรู้สึกตอนนี้ออกมายังไงดีล่ะ มันทั้งกลัว ทั้งกังวลจนไม่รู้จะรู้สึกแบบไหนก่อนดี และสิ่งเดียวที่คิดออกตอนนี้ก็คือภาพหัวร้อนของคีณที่ชัดเจนขึ้นมา โดยเฉพาะกับเรื่อง...พ่อ

Rrrrrrrrrrrrrr

ขณะที่เอาแต่จ้องจออยู่นั้น สายเรียกเข้าจากเบอร์ที่คุ้นเคยก็ทำให้ณนนสะดุ้งเฮือกใหญ่ ตัวอักษรเอ็กซ์เรียงติดกันสามตัวมันบอกชัดเจนว่าคนที่โทรเข้ามาได้อย่างถูกจังหวะเป็นใคร ณนนกดรับสายคีณโดยไม่ต้องคิดอะไรมากนัก แม้ว่าจังหวะนี้เขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องข่าวชวนหัวร้อนนั่นแล้วรึยังก็ตาม

“ว่าไงคีณ”

“เลิกเรียนรึยัง…”

“ยัง… แต่คุยได้ นนออกมาเข้าห้องน้ำ” ณนนเลี่ยงที่จะพูดความจริงเพราะรู้ว่าคีณเองก็เป็นห่วงเขาในเรื่องความรู้สึกกับข่าวพวกนี้อยู่มาก แต่ทำไงได้ ไม่คิดมากวันนี้ พรุ่งนี้ มะรืน มะเรื่อง ก็ต้องเก็บมาคิดอยู่ดี

“อือ…”

“มีอะไรรึเปล่า”

“เปล่า คีณจะโทรมาบอกว่าเย็นนี้กินข้าวด้วยไม่ได้แล้วนะ”

“ทำไมอ่ะ”

“พอดีมีเรื่องด่วนนิดหน่อย อาจจะกลับดึก ๆ ด้วย ไม่ต้องรอ”

“คีณ…” จะให้พูดยังไงดีว่าตอนนี้ณนนสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงแปลก ๆ ในทุกประโยคที่คีณกำลังพูดออกมา

“ครับ”

“ถามได้มั้ยว่าจะไปไหน…”

“คีณจะกลับไปกินข้าวกับพ่อ ไม่มีอะไรหรอก” ณนนอดที่จะถอนใจไม่ได้ เพราะมันไม่ต่างจากที่เขาคาดนัก

“คุยกับพ่อดี ๆ ยังไงนนเชื่อว่าลึก ๆ เขาก็เข้าใจคีณทุกเรื่องแหละ”

“คือ…”

“นนเห็นข่าวแล้วนะ”

“ขอโทษนะ… ขอโทษที่ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้”

“ไม่เป็นไร นนเข้าใจ คีณอย่าใจร้อนนะ กับเรื่องพ่อเห็นคีณใจร้อนทุกทีเลย”

“นน ...ไปหาพ่อด้วยกันมั้ย”

“ห่ะ…!” ยอมรับตรง ๆ ก็คือณนนเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อย และไม่เคยคิดรับมือกับคำเชิญชวนในรูปแบบนี้ของคีณ

“ก็ถ้าคีณใจร้อน นนจะได้ช่วยทำให้มันเย็นลงไง”

“แต่ว่า…”

“ตอนแรกก็ว่าจะไปเคลียร์คนเดียวให้มันรู้ดำรู้แดง แต่พอได้ยินเสียงนนแล้ว… ไปด้วยกันนะครับ”

“โอเค ไปก็ไป”

ณนนก็ตอบตกลงอย่างเลือกไม่ได้ ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วมันจะมีทางเลือกอื่นได้อีกหรอ? แต่ไม่ว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง ถูกพ่อกีดกันแบบละครน้ำเน่า หรือสนับสนุนให้รักกันแบบนิยายโลกสวย สุดท้ายแล้วเขาสองคนก็หนีความจริงแบบที่เคยทำไม่ได้อยู่ดี

หลีกหนีไม่ได้อยู่ดี...





หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 30-03-2018 20:05:10
ตอนที่ 21 เห็นแก่ตัว

SL cute boy

15 นาทีที่แล้ว

แอดมินตามติดสุด ๆ ค่าาาา ต้องขอบคุณลูกเพจด้วยที่ส่งข่าวกันอยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดก็ตามภาพ คีณไปรับณนนถึงหน้าคณะ จูงมือขึ้นรถกระหนุงกระหนิง แล้วที่คุณพ่อสามี เอ๊ยยยย คุณพ่อคีณออกมาพูดล่มเรือพวกเราเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนมันยังไงคะเนี่ย ตาย ๆ แบบนี้สาววาย หนุ่มวายต่อเรือไม่ทัน งงไปหมดล้าวววว

ดูเหมือนว่าเพจคิ้วท์บอยของมหาลัยจะกลายร่างอวตารเป็นเพจแฟนคลับสองหนุ่มสุดฮอตเต็มตัวซะแล้ว ถึงได้คอยรายงานสถานการณ์สดแทบทุกความเคลื่อนไหวไม่ขาดตกบกพร่อง งานนี้นอกจากโลกโซเชี่ยลจะกดไลค์กดแชร์กันปั่นป่วน โลกของความเป็นจริงก็ดูจะยุ่งเหยิงอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในใจของคีณที่มันกำลังตีกันยุ่งเหยิงเพราะมีเรื่องบุพการีเข้ามาเพิ่มให้ปวดหัวมากขึ้นไปอีก ...หลังจากฟังสัมภาษณ์ของพ่อทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น

“คีณ ต...ต้องจับมือด้วยหรอ” ณนนถามย้ำเมื่อคีณกุมมือเขาเอาไว้แน่น ไม่ต้องคิดนานนักคนที่ตัวสูงกว่าก็พยักหน้ารับแล้วกระชับมือให้แน่นขึ้นกว่าเดิม เขาพาณนนมาถึงตึก KNews เพื่ออะไรก็รู้อยู่แก่ใจ ก่อนหน้านี้ก็ชั่งใจคิดมามาก คงต้องขอบคุณพ่อบังเกิดเกล้าที่ช่วยออกมาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้อะไร ๆ มันเร็วขึ้น ...เพราะฉะนั้นจะมาลังเลวินาทีนี้คงไม่ได้อีกแล้ว

“ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่จับมือกันนี่”

“แต่ว่า…”

“ไม่มีแต่” คีณไม่ได้สนใจคำทัดทานอะไร หรือแม้แต่สายตาคนทั้งตึกที่มองพวกเขาเป็นตาเดียว คีณไม่ค่อยได้มาที่นี่บ่อยนักทั้งที่เป็นถึงลูกชายคนเดียวของเจ้าของช่อง เว้นก็แต่ตอนที่มีงานหรือว่าเหตุจำเป็นที่ได้รับการร้องขอจากผู้ใหญ่คนอื่นในช่องเท่านั้น ไม่ปฏิเสธหรอกว่าลึก ๆ แล้วตัวเขาเองก็รักงานในวงการบันเทิงแต่เขาไม่ต้องการอะไรก็ตามที่ถูกยื่นมาจากภาวัชพ่อของเขา เพราะงั้นการที่จะเห็นคีณมาหาผู้เป็นพ่อที่นี่โอกาสมันก็แทบจะเป็นศูนย์ ….ยกเว้นวันนี้ วันที่จำเป็นต้องมาเคลียร์บางเรื่องให้เรียบร้อย

“ผมมาขอพบคุณภาวัช” หลังจากที่เดินผ่านด่านยามและประชาสัมพันธ์เข้ามาโดยไม่คิดจะแลกบัตร ตอนนี้คีณก็ยืนอยู่หน้าห้องผู้บริหารที่มีเลขาวัยกลางคนกำลังแสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ร่างสูงกระชับมือณนนให้รู้สึกถนัดขึ้นก่อนจะหันไปสบตากับแววตากังวลของอีกฝ่ายในระหว่างที่รอเลขาวัยทองระลึกชาติได้ว่าควรจะทำอะไร

“ดิฉันว่าคงไม่ได้…”

“ทำไม…!”

“เอ่อ… ค… คุณคีณค่ะ คือว่าคุณภาวัชแจ้งไว้ว่าไม่สะดวกรับแขกวันนี้น่ะค่ะ”

“งั้นก็แล้วไป ผมไม่ใช่แขก… ผมเป็นลูกชายเขา” คีณกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะพุ่งตัวพลักประตูเข้ามาไปในห้องที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา ชายวัยห้าสิบปลาย ๆ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานใหญ่ดูดีไม่เหมือนคนเริ่มจะมีอายุซักนิด เขาเงยหน้าขึ้นจากแทบเล็ตในมือมองผู้มาเยือนอย่างไม่แปลกใจนัก ลูกชายคนเดียวที่มีแววตาโกรธซ่อนอยู่ชัดเจน และเด็กหนุ่มอีกคนที่ลูกชายตัวดีจับมือเอาไว้ไม่ปล่อย แถมดูท่าทีแขกคนพิเศษนี้ไม่ได้คิดแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตา

“เรื่องมารยาทไม่มีใครเคยสอนแกรึไง”

“ขอโทษครับ แม่ผมตายแล้ว และพ่อก็ไม่เคยสอน” ณนนกระตุกมือคีณเบา ๆ แม้จะเคยได้ยินมาบ้างว่าคีณกับพ่อไม่ถูกกันนักแต่ก็ไม่ได้คิดว่าคำทักทายของสองพ่อลูกมันจะออกมาในรูปแบบชวนตีแบบนี้

“หึ… ออกไป วันนี้ฉันไม่รับแขก”

“พ่อต้องคุยกับผม”

“หึ น่าขำ วันนี้ลูกชายฉันอยากจะคุยจนต้องถ่อมาหาถึงที่”

“ผมไม่ขำ พ่อพูดแบบนั้นได้ยังไง พ่อให้สัมภาษณ์เรื่องผมโดยไม่ถามผมซักคำได้ยังไง!!” ดูเหมือนยิ่งเห็นสีหน้าพ่อตัวเองก็จะยิ่งทำให้คีณเกรี้ยวกราดขึ้นมาและพุ่งตรงเข้าประเด็นที่ทำให้ร้อนใจได้ไวขึ้น

“ทำไม ฉันพูดอะไรผิดไปงั้นหรอ”

“ผิดทุกประโยค! เพราะลูกชายพ่อมันเป็นเกย์!!”

“คีณ…” ณนนพยายามใช้สองมือรั้งแขนและอารมณ์ครุกกรุ่นของคีณเอาไว้พร้อม ๆ กัน แต่ก็คงจะยากเพราะแค่เขาเผลอสบตากับภาวัชแวบเดียวก็รับรู้ได้ทันทีว่าพ่อลูกคู่นี้ก็คงจะไม่ยอมกันง่าย ๆ

“แล้วไอ้ที่ยืนอยู่ข้างลูกพ่อตอนนี้ก็คือคนที่มันรัก! ได้ยินมั้ยว่าลูกพ่อเป็นเกย์!”

“คีณพอได้แล้ว” เปล่าประโยชน์… ไม่ว่าณนนจะออกแรงดึงแขนคีณไว้มากเท่าไหร่ก็แทบไม่มีผล เพราะตอนนี้อารมณ์และความรู้สึกที่เสียไปมันกำลังอยู่เหนือเหตุผลทั้งหมด

“ฉันได้ยินแล้วว่าลูกชายฉันมันผิดปกติและกำลังจะสร้างปัญหาให้ฉัน” ผู้เป็นพ่อเหลือบตามองณนนเพียงนิดก่อนจะใช้สายตาทั้งหมดมองลูกชายตัวเองที่ไม่ได้เจอเสียนานแบบหัวจรดเท้า ความห่างเหินที่เขาไม่ได้ตั้งใจให้เกิดมันทำให้วันนี้เขาเองก็รู้สึกสะท้อนอยู่ในใจไม่น้อยว่าถ้าวันนี้ภรรยาของเขายังอยู่คงจะพูดคุยกับลูกชายได้ดีกว่านี้

“ถ้าผมสร้างปัญหางั้นหรอ… ไม่ใช่เพราะว่าพ่อเข้ามายุ่งเรื่องของผมหรอครับ คนเห็นแก่ตัวอย่างพ่อก็มีแต่โยนปัญหาให้คนอื่นเท่านั้นแหละ!”

“เจ้าคีณ!!” ปัง!! ภาวัชตบโต๊ะจนเกิดเสียงดังจนณนนอดที่จะสะดุ้งตัวตามไม่ได้ ร่างสูงใหญ่เหยียดยืนขึ้นด้วยความโกรธที่มีอยู่ไม่น้อย และนั่นก็ทำให้คีณดึงมือออกจากคนรักแล้วเคลื่อนตัวเองมาบังเจ้าตัวที่ดูจะตกใจกลัวไว้ด้านหลัง

“ที่ผมมา ผมไม่ได้หวังให้พ่อเข้าใจ แต่เผื่อว่าพ่อจะเข้าใจเรื่องผมผิด ๆ ผมเลยอยากจะมายืนยันกับพ่อว่าผมรักนนจริง ๆ และผมก็ไม่ใช่ตัวปัญหา”

“ที่แกคิดอยู่ตอนนี้นั่นแหละที่มันเป็นปัญหา เมื่อไหร่แกจะโตเป็นผู้ใหญ่ซักทีเจ้าคีณ คิดว่าฉันทุ่มเทไปมากเท่าไหร่ในการสร้างที่นี่และรักษามันไว้เพื่อแก!”

“พ่อรักษามันไว้เพื่อตัวพ่อเองต่างหาก เห็นแก่ตัว!”

“ใครกันแน่ที่เห็นแก่ตัว” เสียงเรียบเย็นของคนที่เป็นผู้ใหญ่ทำเอาณนนที่เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นกำมือตัวเองจนชื้นแฉะ มันกำลังทำให้เขารู้สึกผิดและคิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันผิดพลาด มันไม่มีอะไรดีอย่างที่คิดซักนิด… ไม่มี… ไม่มีเลย…

“พ่อยังมีหน้ามาย้อนถามผมอีกหรอ หึ”

“งั้นก็คงจะเป็นฉันที่เห็นแก่ตัวอย่างที่แกว่า…” ภาวัชกระตุกยิ้มมุมปากราวกับผู้ชนะเมื่อเขาเลื่อนลิ้นชักหยิบซองสีน้ำตาลขึ้นมาเททุกสิ่งในนั้นลงกับโต๊ะ ภาพถ่ายมากมายที่เห็นเล่นเอาใจของคีณสั่นไม่เป็นจังหวะ แม้แต่ณนนเองที่ชำเลืองตามองจากด้านหลังก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดจนใจมันโหวงไปหมด

“นี่….”

“แกคิดว่าความเห็นแก่ตัวของฉันมันปิดเรื่องนี้มานานเท่าไหร่ ตั้งแต่แกเริ่มคบกับเด็กคนนี้ล่ะมั้ง” คราวนี้ภาวัชเหลือบมองณนนแบบจริงจังเป็นครั้งแรก ภาพในมุมแอบถ่ายที่เห็นมันก็เป็นเครื่องยืนยันชัดเจนว่าภาวัชรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหน รูปจากลานจอดรถใต้คอนโด รูปจากญี่ปุ่นที่นักเจอกันเมื่อปีก่อน รูปจากร้านอาหารโทรม ๆ ขณะที่ณนนยังคงใส่ชุดนักเรียน หรือแม้แต่รูปถ่ายที่ควรจะอยู่แค่ในโทรศัพท์ของคีณก็ยังอยู่บนโต๊ะนี้ด้วย

“พ่อแอบสืบเรื่องผมมาตลอด...”

“เปล่า… แกเองต่างหากที่ปิดความลับด้วยวิธีเด็ก ๆ”

“ดี งั้นผมก็จะจบเรื่องนี้ด้วยวิธีเด็ก ๆ เหมือนกัน”

“ฉันจบเรื่องนี้ให้แกแล้วคีณ”

“จบแบบที่พ่อต้องการ… จบแบบหน้าตัวเมียน่ะหรอ!!”

“ฉันเป็นพ่อแกนะ!”

ผลั่ก!! ผู้เป็นพ่อสาวหมัดเข้าแก้มขวาคีณอย่างไม่ต้องคิด ฤทธิ์จากความโมโหก็เล่นเอาใบหน้าลูกชายชาวาบไปไม่น้อย จากที่คีณพยายามกดความโมโหเอาไว้ก็กลายเป็นทุกสิ่งระเบิดตูมในวินาทีนั้นทันที คำว่าผู้ให้กำเนิดหายไปจากสมองทำให้เขาพุ่งพรวดเข้าไปกระชากคอเสื้อผู้เป็นพ่อไว้ในมือทันที ...โกรธ ...โกรธที่รู้สึกว่าไม่เคยได้รับความเข้าใจแม้แต่ครั้งเดียว แววตาสั่นระริกและน้ำตาที่พร้อมจะไหลออกมาทุกเมื่อก็พอจะอธิบายความรู้สึกร่างสูงตอนนี้ได้ดี

“พ่อ… พ่อที่ไม่เคยเข้าใจใครนอกจากตัวเอง เลือกได้ผมก็ไม่อยากมีนักหรอก!”

“คีณ อย่าทำแบบนี้” ณนนที่ดูจะตกใจก็พุ่งเข้าไปพยายามดึงคีณออกมาจากการกระทำที่ไม่ควร แต่แรงที่มีน้อยกว่าแต่ก็ทำให้คีณอ่อนลงได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“นนปล่อย”

“ไหนบอกอยากให้นนมาด้วยจะได้ใจเย็นลงไง…” คีณละสายตาจากภาวัชแล้วหันมามองแววตาผิดหวังจากคนข้างตัวในที่สุด มือหนาปล่อยคอเสื้อที่ยับเป็นรอยอย่างไม่เต็มใจนัก ความโมโหและอคติมากมายทำให้คีณไม่อาจเห็นสีหน้าเสียใจไม่น้อยเพียงวูบหนึ่งของผู้เป็นพ่อ

“หึ… พ่อมันไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าเมียที่เป็นผู้ชายสินะ”

“พ่อ!!!!!”

“แกคิดรึไงว่าไอ้รักแบบนี้มันจะไปได้ไกล มันเป็นรักที่จะทำให้ชีวิตแกวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น” กลายเป็นณนนที่รู้สึกกับประโยคนี้จนเผลอค่อย ๆ ปล่อยมือที่รั้งร่างของคีณเอาไว้ ...รักที่ไปได้ไม่ไกลงั้นหรอ

“งั้นพ่อคอยดูก็แล้วกัน! ว่าสิ่งที่พ่อกำลังดูถูกผม มันผิด!!”

“ฉันไม่ได้อยากจะดูถูก แต่แกคิดว่าความรักแบบที่แกเป็นมันจะเป็นที่ยอมรับแค่ไหนกันเชียว ในวงการทุกวันนี้ก็จับคู่จิ้นกันเพียงเพราะหวังทำเงิน สังคมมันไม่เคยยอมรับได้จริง ๆ หรอก เคยคิดมั้ยว่าชีวิตจะเป็นยังไง ถ้าตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันคนนี้ไม่คอยตามปิดข่าว ไม่เอาเงินยัดปากนักข่าวเอาไว้ป่านนี้ชีวิตแกคงจะไม่ต่างกับสัตว์ในกรงที่มีแต่คนจับตามอง!!”

“ผมไม่เคยต้องการให้ใครยอมรับ แม้แต่คุณก็ตาม!! แต่ที่ผมมาที่นี่ตอนนี้เพราะอยากให้คุณรับรู้ไว้ว่าผมจะไม่มีทางยอมรับในสิ่งที่คุณพูด!! ...ออ อีกอย่างถ้าคุณจะเปรียบผมเป็นสัตว์ในกรง ก็เป็นคุณนั่นแหละที่ขังผมเอาไว้!!!”

“เจ้าคีณ!!”

“ไปกันเถอะนน” คีณพยายามเก็บอารมณ์ทั้งหมดไว้ก่อนจะรวบข้อมือณนนข้างนึงให้เดินตาม แต่ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้ออกจากห้องผู้บริหารอย่างที่ตั้งใจ เสียงที่เริ่มพูดไม่หยุดก็รั้งณนนเอาไว้จนคีณไม่อาจก้าวเท้าเดินต่อ

“ชื่อณนนใช่มั้ยนายน่ะ ยังไม่ได้คุยกันเลยนะ ถ้ามีโอกาสฉันก็ขอเชิญอีกครั้งก็แล้วกัน ...เราคงต้องทำความรู้จักกันอีกยาว เพราะคงไม่มีใครที่ลูกชายคนเดียวของฉันยอมฟังได้เท่านายอีกแล้ว” ไม่รู้ทำไมณนนถึงสัมผัสได้ถึงความน้อยใจเต็มประโยคไปหมด เขาหันกลับไปมองสีหน้าของภาวัชเพียงนิดก่อนที่แรงดึงจากคีณครั้งที่สองจะทำให้ออกจากห้องนั้นทั้งที่ยังมีอะไรค้างอยู่ในใจ

“จะพานนไปไหน”

“ไปทำอะไรก็ได้ให้เรื่องนี้มันชัดเจนแบบที่ควรจะเป็นซักที” คีณก้าวขายาว ๆ ลากณนนไปตามทางเท่าที่จำได้ก่อนจะสอดสายตาหาป้ายนำทางหาห้องที่ต้องการ ป้าย on air ที่สว่างวาบหน้าห้องรายการสดทำให้เขากระตุกยิ้มได้อย่างพอใจ… รายการข่าวที่เรตติ้งดีที่สุดของช่องอาจจะมีสถิติเรตติ้งที่สูงที่สุดในวันนี้ก็ได้

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ คีณคิดจะทำอะไร!” ณนนใช้แรงกระตุกคีณเอาไว้ก่อนจะดันประตูเข้าไปในห้องออกอากาศ จริง ๆ คนคบกันมานานก็พอจะเดาใจออกว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไรโดยไม่ต้องเอ่ยถาม แต่ณนนแค่เพียงต้องการให้คีณใช้สติเพื่อความแน่ใจในทุกการกระทำเท่านั้น

“ก็ทำให้พ่อรู้ไงว่าคีณไม่ได้แคร์อะไรกับสิ่งที่เขาทำเลย”

“คีณจะประชดพ่อโดยไม่คิดแบบนี้ไม่ได้… ทำไมไม่คุยกันดี ๆ”

“นนเห็นมั้ย! เห็นมั้ยว่าต่อให้คีณพูด เขาก็ไม่เคยฟังอะไรเลย”

“คีณก็ไม่ฟังเขาเหมือนกัน…”

“นน!” ยอมรับตรง ๆ ว่าคีณกำลังโมโหจนลืมควบคุมตัวเองไปบ้าง แขนแกร่งข้างหนึ่งยันเข้ากับกำแพงบังร่างณนนไว้ไม่ให้หลีกไปไหน ...จะให้อธิบายความรู้สึกตอนนี้ยังไงดีล่ะ ก็แค่ไม่ชอบใจนักที่ณนนทำเหมือนว่าสิ่งที่เขาทำมันผิดนักหนา

“ที่พ่อคีณพูด….”

“ทำไม! มันตรงใจนนรึไง ใช่สิ ไอ้การปิดบังหลอกลวงคนอื่นมันก็เป็นความต้องการของนนมาตั้งนานนี่ เปิดตัวกันได้วันเดียวก็จะเปลี่ยนใจกลับไปอยู่ในหลุมเหมือนเดิมแล้วหรอ!”

ปั๊ก!! หมัดหนัก ๆ ซัดเข้ากำแพงอย่างที่เจ้าของมือไม่รู้สึกเจ็บ แต่แล้วแววตาผิดหวังจากณนนก็เล่นเอาคีณจุกขึ้นมาที่อกแทบจะทันที ความรู้สึกผิดที่ตื้อขึ้นมากำลังทำให้ใจชาวาบและอยากจะโอบกอดคนตรงหน้าเอาไว้ให้แน่น

“ก็เพราะคีณเป็นแบบนี้ไงถึงไม่เคยเห็นความหวังดีของใครเลย” ณนนผลักช่วงอกคีณให้ออกห่างจากตัวเอง แล้วรีบเดินเลี่ยงออกมาโดยไส่คิดแม้แต่จะหันกลับไปฟังเสียงที่ตามหลังมาในแทบทุกก้าว สุดท้ายแล้วถึงแม้สายตามากมายที่มองเข้ามาจะทำให้ใบหน้าณนนต้องเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไรแต่ใจข้างในมันก็อดที่จะเจ็บปวดไม่ได้อยู่ดี สายตารอบตัวที่มองเขาไม่ต่างกับตัวประหลาด หรือว่ามันจะจริง… จริงอย่างที่พ่อคีณพูด…

พวกเขาตอนนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ในกรง



หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 30-03-2018 20:05:45
ตอนที่ 22 รู้สึกผิด



“ถ้าจริงอย่างที่มึงเล่า กูว่าพ่อพี่คีณเขาก็คงไม่ได้ใจร้ายใจดำอะไรนักหนา ก็อาจจะเป็นคนประเภทปากแข็งแต่ใจดี” เทมออกความคิดเห็นเมื่อนั่งฟังณนนปรับทุกข์มาได้ครู่ใหญ่ สีหน้าวิตกกังวลมันชัดเจนว่าคนเล่าไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่สบายใจเลยแม้แค่น้อย ใบหน้าขาวสะอาดฉาบไปด้วยรอยยับย่นพร้อม ๆ กับแววตาเสียใจที่ระคนความรู้สึกเจ็บแปลบที่พึ่งจะทะเลาะกับคนที่รักในเรื่องที่ไม่ควร

“แค่คีณเขาไม่ได้คิดแบบมึง” ณนนทรุดหน้าลงกับเข่าตัวเองรอบที่ร้อย ความรู้สึกหลากหลายพาเขาให้มาหาที่พึ่งอย่างเทมถึงห้องพัก แล้วก็ไม่ผิดหวังนับชั่วโมงที่นั่งอยู่ที่นี่มันทำให้เขาสบายใจและใจเย็นขึ้นอย่างน่าประหลาด แต่ลึก ๆ ในใจมันก็เรียกร้องนึกถึงแต่คนที่พึ่งจะเดินหนีออกมาอยู่ดี ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคีณจะรู้สึกเจ็บยังไง หรือว่าคีณโดดเดี่ยวเรื่องครอบครัวมามากแค่ไหน เขารู้ดี รู้มาตลอด และตอนนี้ณนนแค่ไม่อยากจะเป็นปัจจัยนึงที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคีณกับพ่อแย่ลงมากไปกว่าเดิม

“คงต้องใช้เวลาว่ะ มึงเองก็เถอะ เข้าใจพี่คีณเขาดีนี่หว่า ทำไมถึงงอนเขามา ...กูว่าเขาก็คงจะรู้สึกแย่นะ กูแค่ทะเลาะกับแม่เรื่องเด็ดใบกระเพราใจยังแทบจะเซ”

“กูก็แย่”

“เออ กูรู้”

“จะทำไงดีวะ”

“มึงคิดว่าไงล่ะ”

“กูอยากให้คีณเห็นความหวังดีของคนอื่นบ้าง ถึงแม้มันจะไม่ใช่ทางที่ตัวเองต้องการแต่เขาก็ไม่ควรที่จะใช้อคิติมองข้ามมันไม่ใช่หรอ”

“นน… แต่มึงอย่าลืมเห็นความหวังดีของพี่คีณนะเว้ย เขายอมเปิดตัว พามึงไปหาพ่อเขาทั้งที่รู้ว่าผลมันอาจจะออกมาไม่ดีนั่นเพราะเขารักมึง ...ถ้ามึงอยากให้เขามองข้ามอคติ มึงก็ต้องมองข้ามความรู้สึกที่ทำให้มึงรู้สึกแย่ไปบ้างเหมือนกัน”

“มึงว่ากูผิดหรอวะเทม…”

“เปล่า… ไม่ใช่ พวกมึงผิดกันทั้งคู่ และตอนนี้ไม่มึงก็พี่คีณ ใครซักคนต้องยอมรับความผิดนั่นให้ได้ก่อน”

“มึงหมายถึง ไม่กูก็เขาต้องเป็นฝ่ายง้อก่อนอ่ะดิ”

“ก็ไม่รู้สินะ” เทมยักไหล่ราวกับเข้าใจสถานการณ์ของเพื่อนมากเหลือเกิน แต่เปล่าเลยในความเป็นจริงเทมก็แค่พยายามใช้ความรู้สึกพูดในสิ่งที่น่าจะเป็นเท่านั้น

“กูไปอาบน้ำก่อนนะ มึงก็ลองคิดดูละกัน” เทมตบมือขวาลงที่ไหล่ของเพื่อนเบา ๆ เพื่อสร้างกำลังใจก่อนจะปลีกตัวเข้าไปในห้องน้ำทิ้งณนนไว้ให้ได้คิดอะไร ๆ เพียงลำพังซักพักอย่างตั้งใจ

“จริง ๆ แล้ว… ส่วนนึงก็คงผิดที่กูเอง” เสียงพึมพำเบา ๆ ที่เหมือนจะพูดกับเทมนั้นในความจริงแล้วมีเพียงณนนเท่านั้นที่ได้ยินเสียงของตัวเอง มือเรียวเอื้อมหยิบโทรศัพท์ที่ปิดเสียงเอาไว้ข้างตัว สายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับมากมายเมื่อราวชั่วโมงก่อนทำให้ใจอ่อนยวบลงไปกว่าครึ่ง ไหนจะข้อความจากแชทไลน์ที่เคยเมินเฉยเพราะอารมณ์นั่นอีก

ก็นั่นสินะ…

มีใครบ้างที่ทะเลาะกับแฟนแล้วไม่เอาตัวเองเป็นใหญ่...

‘นนรับสายหน่อย’

‘อยู่ไหนครับ’

‘ขอโทษ’

คำ ๆ เดียวทำให้ณนนเม้มริมฝีปากเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว นั่นสินะ จริงอย่างที่เทมบอกไม่เขาก็คีณฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งควรจะรับรู้และเข้าใจในความผิดของตัวเอง กี่ครั้งแล้วที่ตัวเขาเองหนีออกมาในตอนที่ไม่เข้าใจกัน และนี่ก็คงเป็นอีกครั้งที่ต้องมาทะเลาะกันในเรื่องที่เข้าใจกันดียิ่งกว่าใคร

พอกันที…

ตู้ดดด ตู้ดดด ตู้ดดด

ณนนกดโทรศัพท์โทรหาคีณโดยไม่ต้องคิดซ้ำคิดซ้อนให้มันมากความ แต่เสียงสัญญาณยาว ๆ ก็กำลังบอกว่าปลายทางคงจะไม่รับสายง่าย ๆ ในตอนนี้ คิ้วเรียวเริ่มขมวดขึ้นเมื่อต้องโทรซ้ำเป็นครั้งที่สองที่สาม ณนนเหลือบตามองนาฬิกาที่ผนังห้องแล้วก็ได้แต่คิดไม่ตก เวลาเกือบจะห้าทุ่มแบบนี้จะมีเหตุผลซักกี่ข้อที่คีณจะไม่ยอมรับสาย

“ทำไมไม่รับ…” ณนนเงียบลงเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะบ่นอีกฝ่ายโดยที่เขาไม่ได้ยิน และที่สำคัญยิ่งพูดมันก็ยิ่งตอกย้ำความงี่เง่าของตัวเองนั่นแหละ

จะนอนหลับตายอยู่บนเตียงก็คงเป็นไปไม่ได้สำหรับคนตาแข็งอย่างคีณ

ถ้าไม่ใช่โกรธจนไม่อยากจะคุยก็คงจะอยู่ที่ไหนซักที่…

ใช่… ที่ไหนซักที่…

.

.

.

“คีณ! ไอ้คีณ! กูว่ามึงพอได้แล้วมั้ง”

สิ่งที่เฟรนพูดไม่อาจทะลุเข้าได้ถึงประสาทการรับรู้ของคีณ เสียงเพลงกลางผับหรูใจกลางกรุงมันดังเดินกว่าที่คนที่เริ่มเมาจะรับรู้อะไรได้อีก นอกจากจังหวะเพลงที่ตึ๊บ ๆ อยู่ในหัวและจังหวะหัวใจหน่วง ๆ ที่ทำให้รสชาติสุราทุกอึกมันช่างกร่อยยิ่งกว่าน้ำล้างเท้าปู่ย่าตายายตอนวันสงกรานต์

“เฮ้ย! ได้ยินกูป่ะเนี่ย” เฟรนใช้หลังมือดันช่วงแขนเพื่อนข้างที่กำลังถือแก้วเบา ๆ ให้ละสายตาออกมาจากเครื่องดื่มมึนเมา เจ้าของดวงตาหมอง ๆ เหลือบตามองเพื่อนแค่วินาทีก้อนจะยกแก้วเครื่องดื่มในมือซดเข้าลำคอในรวดเดียว

“อือ”

“พอเหอะ นี่มึงแดกเยอะไปแล้วนะเว้ย”

“หรอ” เฟรนส่ายหัวให้กับคำตอบน่ากระถืบของเพื่อนสนิท ถ้าไม่รักกันจริงเฟรนคงไม่ยอมทิ้งเกมยิงซอมบี้แล้วออกมาหาคีณตามคำเรียกร้องที่ดูเหมือนจะน่าสงสารเมื่อราว ๆ สองชั่วโมงก่อน คิดแล้วมันก็น่าคว้าขวดเหล้าฟาดหัวเข้าซักที ตอนมีแฟนก็ไม่เคยจะบอก ทีตอนนี้ทะเลาะกัน งอนกัน ก็ดันลำบากเพื่อนที่เป็นหมาหัวเน่ามีเขามาตั้งหลายปี ...ไอ้หัวกรวย

“กูว่ามึงกลับดีกว่า ป่านนี้น้องนนรอมึงแย่แล้ว”

“ไม่หรอก เขาไม่รับโทรศัพท์กูก็แปลว่าไม่น่าจะอยู่ห้อง”

“ตอนนี้มึงก็ไม่รับโทรศัพท์เขาเหมือนกันป่ะวะ” เฟรนยกแก้วตัวเองขึ้นจิบบาง ๆ พอรู้รสชาติขมเฝื่อนของเครื่องดื่มในแก้ว เพราะรู้อนาคตชะตากรรมตัวเองดีว่าวันนี้ถ้าไม่ได้แบกคิ้วท์บอยคนดังกลับก็คงต้องลากร่างตรงหน้าออกไปแล้วเรียกปอเต๊กตึ้งแน่นอน

“กู….คือ กู…..”

“งอนเขาบ้างแล้วก็พูด สัด มากงมากูอะไร”

“กูผิดอะไรวะ”

“มึงถามกูแบบนี้รอบที่ร้อยแล้วไอ้คีณ แล้วกูก็จะตอบแบบเดิม ...มึงนั่นแหละที่รู้ตัวดีว่าผิดหรือไม่ผิด”

“กูไม่รู้” สุราในขวดถูกยกรวดเทพรวดเดียวจนเต็มแก้ว ใบหน้าของคีณเริ่มดูแดงกล่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

“เออ ถ้ายังไม่รู้ก็ช่างหัวมึงเถอะ ถ้ากูเป็นน้องนนกูไม่ยอมมาดีด้วยแน่ ๆ”

“.............” แก้วที่กำลังจะสัมผัสริมฝีปากชะงักลง คีณเหลือบตามองเพื่อนแบบจริงจังครั้งแรกตั้งแต่นั่งมา ความเงียบท่ามกลางเสียงเพลงดังกำลังทำให้คีณได้คิดแล้วคิดอีกกับสิ่งที่เพื่อนพูด

“วางทิฐิเรื่องพ่อมึงลงบ้างเหอะว่ะ นี่มึงลามมาจนทำให้น้องนนเสียใจแล้วนะเว้ย ...ถ้ามึงไม่โอเคกับสิ่งที่พ่อมึงทำมึงก็ต้องไม่ทำแบบนั้น มึงบอกว่าพ่อมึงไม่เคยฟังใครเลย แล้วตอนนี้มึงฟังใครบ้างรึเปล่า”

“..............” แก้วในมือถูกวางลงกับโต๊ะเสียดื้อ ๆ ไม่มีใครรู้ว่าคีณกำลังคิดแบบไหนนอกจากตัวเขาเอง

“ถ้ากูเป็นมึงกูก็คงจะสติแตกเหมือนกัน แต่กูคงไม่พูดจากับแฟนกูแบบที่มึงทำ”

“กูแค่หวังให้เขาเข้าใจกู”

“ที่ยอมเปิดตัวกับมึงโดยไม่สนใจอะไรมันยังไม่แปลว่าน้องมันเข้าใจมึงอีกหรอวะ เชี่ยคีณ คนที่เข้าใจเราจริง ๆ หาได้ไม่ใช่ง่าย ๆ นะเว้ย”

“กูแม่งโคตรเหี้ยเลยว่ะ”

“เกิดมายี่สิบกว่าปีพึ่งจะรู้ตัวหรอครับมึง”

“หึ...กูยอมให้ด่าเลยวันนี้”

“เอ้า ไอ้นี่! นึกว่าจะสำนึก แดกต่ออีก” เฟรนส่ายหัวแทบจะรอบที่ร้อย แถมคราวนี้คีณยังกระดกรวดเดียวยิ่งกว่าน้ำเปล่า แต่แล้วคนนั่งมองอย่างเฟรนก็ต้องละสายตามาสนใจโทรศัพท์ตัวเองตรงหน้าที่กำลังสั่นครืดเพราะเบอร์โทรเข้าที่ไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนัก

“เออ ว่าไง” เมื่อได้ยินเสียงปลายสายเฟรนก็เหลือบตามองคีณโดยอัตโนมัติแถมท้ายด้วยการกระตุกยิ้มใส่เพื่อนที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร

“เอออยู่ ได้ยินมั้ยวะ ...เสียงดังมากเลยว่ะ รอแปบ เดี๋ยวกูหาที่คุยก่อน”

“ไปไหนวะ”

“รุ่นน้องกูโทรมา กูไปคุยโทรศัพท์แปบ” คีณพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจและไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก สุดท้ายสายตาของเขามันก็กลับมาโฟกัสที่ตัวเองและโทรศัพท์เครื่องเก่งตรงหน้า สายเรียกเข้าซ้ำ ๆ จากณนนมันได้เงียบหายไปแล้ว ไม่รู้สิ เขาแค่รู้สึกว่ายังไม่ควรจะพูดกันตอนนี้ ถ้าขืนฝืนความเมาตัวเองพูดอะไรแย่ ๆ ออกไปอีกมันก็อาจจะไปกันใหญ่

เสียงดนตรีที่ดังต่อเนื่องยิ่งทำให้คีณยกแก้วจรดริมฝีปากไม่หยุด แสงไฟสลัวสว่างวาบขึ้นในทุกจังหวะเพลงอย่างเหมาะเจาะ เฟรนหายไปพักใหญ่ก็ยิ่งทำให้การใช้ความคิดคนเดียวเพลินกว่าที่คาด และแน่นอนว่ามันยิ่งทำให้สุราเป็นอันตรายกับร่างกายและสติมากขึ้นเท่านั้น ...ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเขาเมาจนขาดสติขึ้นมาเรื่องราวมันจะจบยังไง

คงไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอกมั้ง

แค่มั้งนะ...

“ขอโทษนะคะ มาคนคนเดียวหรอ” เสียงทักทายที่เข้ามากระซิบข้างหูแทบไม่ได้ทำให้คีณสะทกสะท้านหรือหันไปสนใจได้ เขาทำเพียงแค่เหล่หางตามองสาวสวยที่เข้ามาประชิดตัวโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับหน้าอกซิลิโคนที่เข้ามาถูแขนข้างขวา ...ของพันธ์นี้ไม่ทำให้ไอ้คีณหายตายด้านหรอก

“เปล่า” คีณตอบเสียงห้วนพร้อมดันแขนปัดตัวสาวเจ้าให้ออกห่าง แต่ดูเหมือนว่าอาการเมาจะทำให้ใช้แรงไม่ได้เท่าที่ควร ...เมาแล้วง่อยแดกแบบครบสูตร

“งั้นมากับใคร… แฟนหรอ”

“เพื่อน”

“ไหนเพื่อนล่ะคะ ให้เรานั่งเป็นเพื่อนแทนให้เอามั้ย”

“ไม่ต้อง”

เชี่ย….! บอกว่าไม่แล้วฟังกันที่ไหนล่ะ เธอแทรกตัวลงนั่งตรงตำแหน่งที่เฟรนเคยนั่งเมื่อครู่หน้าตาเฉย คีณเมื่อเห็นท่าไม่มีว่าจะมีเรื่องน่ารำคาญเข้ามาก็รีบชะเง้อคอหาผู้เป็นเพื่อน แต่คงไร้ประโยชน์เพราะเฟรนหายหัวเข้ากลีบเมฆไปเรียบร้อย ไม่รู้ว่าออกไปคุยโทรศัพท์ถึงชายแดนประเทศหรือยังไง นี่ถ้าคนเมาอย่างคีณถูกลวงไปฆ่าก็คงกลับมาเจออีกทีตอนหนอนขึ้นนั่นแหละ

“ชื่อหวานนะคะ”

“........”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ...คีณ” เธอคนเดิมแนะนำตัวเสร็จสรรพพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ๆ สมชื่อ คีณใช้เพียงสายตาแสดงออกความไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดจาอะไรที่ไม่ดีออกไปทั้งที่ในใจมันอยากจะด่าใจจะขาด ไม่ใช่ว่าเขาชอบผู้ชายแล้วจะทำยังไงกับผู้หญิงก็ได้นี่นา ยังไงซะก็ต้องให้เกียรติในฐานะเพศแม่อยู่ดี

“รู้จักผมหรอ”

“คนดังอย่างคุณใครกันจะไม่รู้จัก”

“ถ้ารู้จักผมก็คงเห็นข่าวดังช่วงวันสองวันนี้แล้ว”

“ข่าวพวกนั้นเชื่อได้หรอคะ…”

“ก็เชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง” คีณยังคงทำเหมือนให้ความสนใจกับแอลกอฮอลในแก้วมากกว่า แม้ว่าจะมีคนมาสะกิดต่อมดราม่าที่ฝังลึกด้วยการพูดถึงเรื่องที่พึ่งทำให้ทะเลาะกับแฟนมาหมาด ๆ

“งั้นข่าวที่ว่าคุณเป็นเกย์ล่ะจริงมั้ย” ได้ยินคำถามนั้นคีณก็เริ่มกระตุกยิ้มแรง ๆ ที่มุมปาก น่าตลกดีนะที่มีผู้หญิงคนนึงมานั่งจีบปากจีบคออ่อยแล้วถามว่าเป็นเกย์รึเปล่า มันก็ไม่ใช่คำถามที่ตอบยากอะไรนักหรอก ตอนนี้เขาก็แต่หงุดหงิดกับสีหน้าท่าทางที่เธอกำลังทำ

“คุณต้องการอะไร”

“ก็เปล่านี่คะ ...เห็นว่าคุณน่าสนใจดี”

“น่าสนใจแง่ไหนล่ะ แง่ที่พ่อผมรวย ผมดัง หรือว่าผมมีข่าวเป็นเกย์”

“ถ้าฉันตอบว่าฉันสนใจประเด็นสุดท้าย… คุณจะมีคำตอบให้ฉันมั้ยล่ะคะ”

“แล้วคุณจะเอาคำตอบไปทำไม”

“จะพูดตรง ๆ แล้วกันนะคะ ฉันพนันกับเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงมุมนู้นว่าคุณจะเป็นเกย์จริงรึเปล่า… ซึ่งถ้าคุณไม่ชอบผู้หญิงจริง ๆ ฉันจะชนะเกมนี้”

“ผมเป็นเกย์ และผมชอบผู้ชาย”

“งั้นขอพิสูจน์ได้มั้ยคะ…” ดวงตาสองคู่กำลังมองกันอย่างไม่ยอมแพ้ คีณพยายามคิดหาคำตอบว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ แต่ยิ่งมองลึกเข้าไปเกวียนร้อยเล่มก็พาเหรดออกมาจนแทบจะหลบไม่พ้น คนที่ยิ่งหงุดหงิดใจอยู่เป็นทุนเดิม ก็ได้แต่หวังว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ทำให้เรื่องมันพังมากไปกว่านี้ก็แล้วกัน…

แต่เรื่องของโชคชะตามันคงไม่ง่ายแบบนั้น เพราะว่าตอนนี้เฟรนที่ทำทีออกมาคุยโทรศัพท์นอกร้านกำลังโบกมือทักทายใครบางคนที่พึ่งจะมาถึงสถานบันเทิงกลางดึกพร้อมรอยยิ้มหม่น ๆ และคน ๆ นี้ไม่ได้มีอาการแตกต่างอะไรจากเพื่อนเขาซักนิด

แค่หวังคงไม่พอ คงต้องช่วยกันภาวนาให้เรื่องนี้ ...ไม่พัง...

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 30-03-2018 20:06:19
ตอนที่ 23 ความผิดพลาด



หากคุณเคยรู้ถึงฤทธิ์แอลกอฮอลก็คงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าตลก ๆ ของหลายคนที่สิ้นสติแล้วทำอะไรโง่ ๆ เพราะเครื่องดื่มมึนเมาเหล่านี้ บางคนก็ถูกเพื่อนล้อไปชั่วลูกชั่วหลาน ส่วนบางคนไอ้น้ำเมาเนรคุณก็ทำให้ครอบครัวร้าวฉานจนยากจะต่อติด

แล้วคุณล่ะ… คิดว่าสถานการณ์ที่สุราพาไปของคีณจะจบลงยังไง

และสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนจะจินตนาการถึงมันก็คือ….

“คุณจูบเก่งจัง” หญิงสาวพูดขึ้นยิ้ม ๆ เมื่อคนที่พึ่งได้สติผละตัวออกในเวลาที่ไม่ทันกาล จุมพิตงง ๆ ทำเอาคีณติดสตั้นพูดอะไรไม่ออกได้แต่ขมวดคิ้วแล้วกำมือระบายความรู้สึกหัวเสียที่เสียรู้ผู้หญิงคนนี้เข้าซะได้

“ผมเป็นเกย์และผมชอบผู้ชาย”

“งั้นฉันขอพิสูจน์ได้มั้ยล่ะคะ…”

“พิสูจน์อะไรของคุณ”

“จูบ… ถ้าคุณจูบแล้วไม่เกิดอารมณ์ ฉันจะยอมเชื่อคุณก็ได้”

“หึ ผมจำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอ”

“ก็ถ้าฉันยังไม่ได้คำตอบที่แน่ใจซักที ฉันก็จะไม่ไปไหน…. หรือว่า… คุณไม่กล้า”

เชี่ย!! พลาด!!

“ขอบคุณที่ทำให้ฉันชนะพนันเพื่อน ๆ นะคะ ...จริง ๆ เรื่องคุณเป็นเกย์ฉันวางเงินไว้แค่หมื่นเดียว ส่วนเรื่องทำให้คุณจูบ….สามหมื่น ขอบคุณค่ะ”

แม่งโว้ยยยย! เป็นคำขอบคุณที่อยากจะทำให้ตัวเองลืม ๆ ไปซะว่าเกิดมาจากมนุษย์เพศเดียวกับผู้หญิงคนนี้ ที่เขาว่ามารยาร้อยเล่มเกวียนยังน้อยไป ไอ้คีณให้ไปเลยพันตู้คอนเทนเนอร์! แล้วไอ้การที่คีณโน้มหน้าลงไปสัมผัสเพียงด้านนอกริมฝีปากเธอเมื่อครู่ก็แค่อยากจะให้เรื่องมันจบ ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับผู้หญิงแปลกหน้าให้มากความ แล้วใครจะไปคิดว่าตอนนี้เธอจะเดินปัดตูดกลับไปที่โต๊ะพร้อมเสียงเฮครืนใหญ่ของพรรคพวกที่โต๊ะ

โลกแม่งอยู่ยาก

ปั้ง!! แก้วเหล้าในมือถูกวางกระแทกกับโต๊ะจนแทบจะแตกเสียให้ได้ เสียรู้ไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้ แล้วตอนนี้ยังไง? คีณทั้งเสียรู้และเสียหน้า แถมแฟนก็ยังมาโกรธ เพื่อนก็ทิ้ง เหล้าก็จะหมด อะไรกันวะเนี่ย!

แม่งอยู่ยากโคตร ๆ!

แล้วไอ้เงาที่มันกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามาจนทาบทับร่างที่ก้มหน้าก้มตามองโต๊ะนี่มันใครอีก ถ้าเป็นพวกกวนประสาทอีกพ่อจะฟาดด้วยขวดเหล้าแล้วไปจบที่โรงพัก แต่ถ้าเป็นไอ้เฟรนก็อยากจะขอถีบเข้ากลางเอวซักทีข้อหาทิ้งให้เพื่อนเผชิญชะตากรรมอยู่คนเดียว

“มึงหายไปไหนมาไอ้….เฮ้ย! นน!!”

เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่คีณได้สบกับตาแดง ๆ ของผู้มาเยือน ณนนถอยร่างตัวเองออกมาเมื่อรู้สึกว่าพยุงความรู้สึกเอาไว้ไม่ไหว ภาพที่เห็นทั้งหมดจากมุมไกล ๆ มันทำให้รู้สึกคลั่งจนอยากจะเข้ามาโวยวายให้แตกกันไปข้าง แต่เอาเข้าจริงณนนกลับรู้สึกเจ็บจนพูดอะไรไม่ออกแถมน้ำตาเฮงซวยก็ไหลออกมาซะดื้อ ๆ

“นน! จะเดินหนีคีณทำไม” คีณพาเอาร่างเซ ๆ ที่เกือบจะยืนหยัดไม่อยู่ของตัวเองเดินตามณนนแทบจะทุกก้าว แต่ก็ดูเหมือนว่ายังช้ากว่าอยู่ดี ยิ่งเห็นมือไม้ของคนเดินนำยกขึ้นคล้ายเช็ดคราบบางอย่างบนใบหน้าก็ยิ่งทำให้สมองของคีณรีบประมวลผลไปกันใหญ่ ณนนมาได้ยังไง ทำไม และอะไรกันแน่ที่ทำให้ร้องไห้แบบนั้น

หรือว่า…

“ปล่อย” ณนนพยายามสบัดเอามือที่คว้าข้อแขนขวาของเขาออก แต่ก็ดูเหมือนว่าคนที่เดินตามออกมานอกร้านจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือไปง่าย ๆ

“นน… คีณขอโทษ” คีณพูดออกไปโดยไม่ถามหาความผิดของตัวเองซักคำ เขารู้ตัวดีว่าตัวเองผิดเต็มประตูทุกเรื่องที่ทำให้ทะเลาะกันวันนี้ และอาจจะผิดมากไปกว่านั้นถ้าเมื่อครู่ณนนดันเห็นอะไรที่ชวนเข้าใจผิดเข้าจริง ๆ

“บอกให้ปล่อยไง” ณนนรู้ดีว่าเสียงตัวเองกำลังสั่น ไม่ได้ตั้งใจมาเจออะไรแบบนี้เลยซักนิด หัวสมองของเขามันเบาโหวงจนไม่อยากจะเรียบเรียงคำพูดอะไรออกมา ตลกดีที่รีบมาทันทีที่เฟรนบอกว่าคีณอยู่ที่นี่ ...และตลกสิ้นดีที่ณนนตั้งใจมาง้อเพื่อให้พวกเขากลับไปกอดกันเหมือนเดิม

“เมื่อกี้นนเห็น…”

“เห็น! ทำไมล่ะ!” ณนนแผดเสียงสั่น ๆ ออกไปเพราะควบคุมตัวเองแทบไม่ได้ คนที่เมาอยู่เดิมก็ยิ่งออกแรงบีบแขนเล็ก ๆ ไม่ให้ดิ้นหลุดไปไหน

“ตรงนี้คนเยอะ ไปคุยกันที่อื่น” คีณออกแรงดึงณนนตั้งแต่ยังพูดไม่จบประโยค เรี่ยวแรงที่มีลากอีกฝ่ายให้เดินตามโดยไม่ลืมที่จะทะนุถนอมด้วยการหันไปมองใบหน้าที่ดูไม่ดีเป็นระยะ ๆ ไม่นานนักทั้งสองคนที่มาหยุดอยู่ที่ลานจอดรถด้านข้างร้าน คีณมองรอบตัวเห็นผู้คนไม่มากนักก็ยอมปล่อยให้ณนนเป็นอิสระ

“จะพูดอะไรก็พูด”

“...น...นนมาได้ยังไง แล้วไอ้เฟรน” คีณพยายามเปิดบทสนทนาด้วยการเบี่ยงประเด็นไปเสียก่อน เขารู้ว่าในใจคนรักตอนนี้มันคงจะร้อนรุ่มจนไม่สามารถรับฟังอะไรแน่ ๆ

“พี่เฟรนกลับไปกับเทมแล้ว ส่วนอีกเรื่อง… เทมโทรหาพี่เฟรนให้เพราะแฟนนนมันไม่ยอมรับโทรศัพท์ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไม…”

“นน… คือ…” คีณพยายามจะเอื้อมมือไปเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มณนนอีกครั้ง แต่เจ้าตัวก็ปัดมือเขาออกแล้วใช้หลังมือเช็ดน้ำตาเสียเองโดยไม่คิดจะเงยหน้าจากพื้นมองหน้าคีณด้วยซ้ำ

“ขอโทษที่มา แค่อยากจะมาง้อ... ไม่ได้อยากมาเจออะไรแบบนี้” คำว่าง้อคำเดียวทำให้คีณแทบไม่ได้ยินคำอื่นในประโยค หัวใจดวงโตชาวาบเพราะไม่รู้ว่าหลายนาทีก่อนที่ตัวเองเอาแต่ดื่มด่ำความเมาคนที่รักจะว้าวุ่นใจขนาดไหน

“คีณขอโทษนะนน ทั้งเรื่องเมื่อกี้ แล้วก็เรื่องวันนี้… ทุกเรื่อง” สัญชาตญาณบอกให้คีณดึงตัวอีกฝ่ายเข้าไปกอด แต่ยิ่งกลายเป็นว่าคนที่ถูกกอดร้องไห้ออกมาระลอกใหญ่ คีณจะขอโทษเพื่ออะไรในเมื่อในใจณนนมันไม่ได้มีความโกรธหลงเหลืออยู่เลย และในทางกลับกันภาพที่พึ่งเห็นเมื่อครู่ก็ลบออกไปจากหัวตอนนี้ไม่ได้เหมือนกัน

จะทำยังไงดี…

“ฮึก… ปล่อย! ฮือออออ”

“คีณไม่ได้ตั้งใจ ผู้หญิงคนนั้นเขาเข้ามาท้าทายให้คีณจูบ คีณไม่เคยแม้แต่จะคิดนอกใจนนเลยนะ” ณนนดันร่างตัวเองออกมาจากอ้อมกอดวินาทีนั้นดวงตาผิดหวังมองไปยังอีกฝ่ายทั้งที่ไม่อยากจะมอง ...กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนและยอมเชื่ออะไรง่าย ๆ แบบที่ลึก ๆ ในใจมันเรียกร้อง

“ท้าทายหรอ!! แล้วถ้ามีคนท้าให้คีณไปตายคีณจะไปมั้ยล่ะ!”

“นน ฟังกันก่อนสิ”

“ตอบมาสิ! ฮึก ทีมีคนท้าให้จูบยังทำเลย ถ้านนท้าให้ไปตายซะจะไปมั้ย!”

“อย่างี่เง่าได้มั้ยนน พูดกันดี ๆ ได้มั้ย เรื่องมันไม่มีอะไรเลยเว้ย!” พูดกันตรง ๆ ก็คือความเมากำลังทำคีณหัวร้อนมากกว่าที่ควรจะเป็น กับเรื่องที่ตัวเขาเองคิดว่าเล็กน้อยแค่ณนนเปิดใจรับฟังกันบ้างมันก็จบไม่ใช่หรอ

“เออ ก็รู้ตัวว่างี่เง่า! โคตรงี่เง่าเลยด้วย แล้วรู้อะไรมั้ย… ตอนที่นนตัดสินใจทิ้งความงี่เง่ามาที่นี่เพื่อให้เราเข้าใจกันมันยากมากนะเว้ย แต่วินาทีที่เห็นภาพนั้นมันทำให้นนไม่เหลือเหตุผลอะไรเลยเว้ย! ไม่ว่าจะเพราะอะไร รู้ไว้ว่ามันโคตรเจ็บ โคตรอยากจะงี่เง่าเลยว่ะ”

“คีณไม่ได้… ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้” คีณพยายามใช้สัมผัสดึงใจณนนกลับมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนมือที่เย็นเฉียบจะช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้ว่ามันจะเข้าเกาะกุมฝ่ามือของคู่สนทนาเอาไว้แน่น ความเงียบเข้าครอบคลุมบรรยากาศแม้จะมีผู้คนเดินผ่านอยู่เป็นระยะ ฝ่ายหนึ่งก็ไม่อยากให้เรื่องเล็กน้อยสร้างบาดแผลในใจ ส่วนอีกฝ่ายก็พยายามเหลือเกินที่จะมองข้ามบาดแผลเล็กน้อยนั่นไป

“........”

“คีณรักนนแค่ไหนนนก็รู้ ผู้หญิงคนนั้นเขาเข้ามากวนโมโหเรื่องที่คีณเป็นเกย์… แล้วคีณก็ตกหลุมพลางที่เขาวางไว้แค่นั้นเอง ถ้านนไม่เชื่อคีณยินดีจะพิสูจน์ทุกอย่างจริง ๆ ...ขอร้องนะอย่าให้เรื่องอื่นมาทำให้เราแย่มากไปกว่าเรื่องที่มีอยู่ตอนนี้ได้มั้ย”

“........” การที่ณนนเงียบไม่ตอบอะไรออกไปอีกมันทำให้คีณใจเสียและรู้สึกเสียใจยิ่งกว่าเก่า ถ้าเลือกได้เขาคงอยากได้ยินคำด่าทอเจ็บแสบชวนโมโหมากกว่า

“นน”

“ขอไปสงบสติอารมณ์ก่อนแล้วกัน แล้วเราค่อยคุยกัน” ทางเลือกจบการทะเลาะด้วยการเดินหนีถูกหยิบมาใช้อีกครั้ง แต่เวลานี้คีณคงไม่อยากจะทำแบบนั้นนัก ไม่งั้นคงไม่เอื้อมรั้งข้อมือของณนนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ไม่รู้ทำไม... เขาแค่รู้สึกว่าถ้าเขาปล่อยให้ณนนเดินจากไปครั้งนี้ เขาอาจจะไม่ได้รักเดียวกลับมาอีกเลยก็ได้

“คือ…”

“ถือว่าขอร้องแล้วกัน ตอนนี้นนไม่ไหวแล้วจริง ๆ” คีณคงอยากจะตะโกนออกไปให้มันดัง ๆ ว่าตอนนี้สภาพตัวเขาเองมันก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

“นนจะไปไหน…”

“ไปไหนก็ได้ ขอแค่ไม่มีคีณในหัวซักนาที” แววตาที่พยายามเย็นชามองไปยังคีณเชิงขอร้อง มือหนาค่อย ๆ ผ่อนแรงจนข้อมือเล็กหลุดออกเป็นอิสระในที่สุด ร่างกายที่แทบจะไร้แรงเดินออกห่างไปเรื่อย ๆ โดยที่ตัวคีณเองไม่อาจจะรั้งเอาไว้ได้ ภาพสุดท้ายคือเจ้าโฟลคสวาเกนคันคุ้นเคยถูกเจ้าของขับออกไปจนแทบจะลับตา

ทำอะไรไม่ได้เลยงั้นหรอ…

สองขาเตะฝุ่นหญ้าที่พื้นแทนความหงุดหงิดข้างใน ดวงตาทั้งคู่หลับลงแน่นก่อนที่คีณจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อตั้งสติตัวเองว่าควรจะทำยังไงต่อไป เขาคงทนปล่อยให้มันค้างคาอยู่แบบนี้ได้ไม่นาน และคงทนไม่ได้หากต้องตื่นนอนโดยไร้อ้อมกอดของใครบางคน…

ตู้ดดดด ตู้ดดดดด ตู้ดดดด





เอี๊ยดดดดดด! โครม!!!!

เสียงห้ามล้อยังยาวเหยียดก่อนที่เสียงดังโครมใหญ่จะทำให้คีณหันมองรอบตัวโดยอัตโนมัติ ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มชาวาบและไม่อาจพูดอะไรในใจออกมาได้อีก มือขวาเผลอปล่อยโทรศัพท์ที่พี่งจะกดต่อสายถึงณนนล่วงลงสู่พื้น และยิ่งไปกว่านั้นริมฝีปากสั่น ๆ กับขอบน้ำตาร้อนผ่าวกำลังตอบสนองความกลัวในใจ ...เจ้าโฟลคสวาเกนคันนั้นพลิกคว่ำหมุนเคว้งอยู่บนท้องถนน ไม่ว่าที่ที่เขายืนอยู่ตรงนี้มันจะไกลสายตาซักเท่าไหร่แต่มันก็ชัดเจนพอที่จะเห็นรอยยุบจากแรงกระแทกของโครงเหล็กรอบคัน...

“ไปไหนก็ได้ ขอแค่ไม่มีคีณในหัวซักนาที”

ไม่ได้นะ...

ห้ามหายไป...

ไม่ว่าจะนาที หรือแม้แต่วินาทีเดียว….

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 30-03-2018 20:07:05
ตอนที่ 24 ล้มทั้งยืน




“นน! นนได้ยินคีณมั้ย! อย่าหลับนะ ...มองหน้าคีณสิ นนครับ… นน!” เสียงเรียกของชายหนุ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ และอาการที่แสดงมันก็ดูยิ่งกว่าเสียสติ หยดน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มขณะที่สองมือเอาแต่ทุบตัวรถที่พลิกหงายจนน่าใจหาย คงนับว่าโชคดีที่คนขับด้านในถูกรั้งเอาไว้ด้วยเข็มขัดนิรภัย แม้ว่าตัวรถส่วนที่สัมผัสพื้นตอนนี้จะยุบลงไปมากกว่าครึ่ง ของเหลวสีแดงข้นไหลทั่วกรอบหน้าคนเจ็บจนคนอีกคนที่กำลังมองแทบจะขาดใจตายลงไปเสียให้ได้





“นน! นนครับ…. นน ฮึก… ณนน”





“คุณออกมาก่อน! ...ใครก็ได้แจ้งตำรวจทีครับ!”





ดวงตาคู่นั้นมันกำลังค่อย ๆ ปิดลงเรื่อย ๆ ดวงตาที่เคยสดใส ดวงตาที่พึ่งมองคีณอย่างตัดพ้อและเสียใจเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ...ขอได้มั้ย กลับมามองกันก่อน กลับมางอแงใส่กันอีกซักครั้ง อย่าปล่อยให้เจ้าของดวงตาอีกคู่ทรมานใจและเจ็บปวดมากกว่าแบบนี้เลย





“ปล่อยผม! นน! นน!”





“คุณมีสติหน่อยสิ! ออกมาก่อน!” ก็จริงอย่างที่พลเมืองดีแปลกหน้าคนนี้ว่า ตอนนี้คีณไม่เหลือสติติดตัวแม้แต่นิด ไม่นานนักเขาก็ถูกหิ้วปีกลากออกมาอีกมุมโดยคนไม่รู้จัก รถฉุกเฉินจากมูลนิธิมาถึงในเวลาไม่กี่นาทีให้หลัง ภาพตรงหน้าค่อย ๆ ไกลจากตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ผู้คนรอบกายเริ่มเข้ามามุงดูเหตุการณ์โดยทิ้งคนที่กำลังฟูมฟายคล้ายหัวใจหล่นหายไว้เพียงด้านหลัง





ถ้าย้อนเวลากลับไปได้…

คีณจะไม่ยอมผิดใจกันไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไรก็ตาม

จะไม่ใช้เครื่องดื่มนรกพวกนั้นเป็นการแก้ปัญหา

จะไม่ยอมให้อีกฝ่ายเดินจากมาทั้งที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง

จะไม่ปล่อยให้ตัวเองไร้สติจนช่วยเหลือคนที่รักไม่ได้เลยซักอย่าง





ไม่

แต่เพราะว่าความเป็นจริงเขาย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เลยซักนิด

และตอนนี้คงไม่มีอะไรแย่ยิ่งไปกว่าการจมอยู่ในความรู้สึกผิดที่ยากเกินกว่าจะแก้ตัว





ทั้งหมดมันเป็นเพราะตัวเขาเอง





ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด





สัญญาณเครื่องมือทางกลางแพทย์ยังคงดังต่อเนื่องท่ามกลางความเงียบและเสียงลมหายใจเบา ๆ ของคนที่นอนนิ่งสนิทอยู่บนเตียง รอยช้ำและรอยแผลทั่วร่างกายบ่งบอกได้ดีว่าณนนผ่านวิกฤตมาได้ไม่ง่ายนัก แขนขวาถูกเข้าเฝือกอ่อนเอาไว้เพื่อรอการผ่าตัด ขณะที่ผลตรวจอวัยวะภายในก็คงต้องรออีกหลายชั่วโมง ก็ยังนับว่าโชคดีที่ลมหายใจสม่ำเสมอของคนเจ็บทำให้จิตใจของใครอีกคนไม่ได้แย่มากไปกว่าเดิม





“ไม่ต้องห่วงนะครับคุณป้า หมอบอกว่าไม่มีอะไรน่าห่วง ...ครับ ทางนี้ผมจะดูแลให้เองครับ” เทมรู้ดีว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเขาทันทีที่ทราบข่าว และยิ่งวินาทีที่ต้องเป็นคนแจ้งข่าวร้ายไปยังแม่ของณนนที่ตอนนี้ทำงานอยู่ไกลอีกซีกโลกมันก็ยิ่งยากต่อการทำตัวให้เข้มแข็งมากขึ้นไปใหญ่ เขามองผู้เป็นเพื่อนบนเตียงแล้วก็ต้องถอนหายใจคลายความกังวลให้ตัวเองอีกครั้ง อดเป็นห่วงไม่ได้จริง ๆ ว่าคนที่ยังร้องไห้ไม่หยุดจะต้องแอดมิทเพิ่มอีกเตียง





“พี่คีณครับ พี่ไปพักก่อนดีมั้ย เดี๋ยวคืนนี้ผมเฝ้าเอง ไอ้เฟย์ก็กำลังจะมาแล้ว”





“.........” คีณส่ายหน้าแทนคำตอบ ตอนนี้ร่างสูงนั่งทิ้งตัวอยู่บนโซฟามองณนนจากระยะไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่อยากทิ้งไออุ่นในชีวิตไว้คนเดียวและในขณะเดียวกันก็ทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นภาพที่ทำให้เจ็บไปทั้งใจเช่นกัน





“มึงไหวมั้ย”





“..........” แน่นอนว่าคีณส่ายหน้าตอบอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหลับตาลงพร้อมร่างกายที่ยังสั่นเทาจากการร้องไห้และแรงสัมผัสที่บ่าจากเฟรนผู้เป็นเพื่อน นับตั้งแต่ตอนที่เสียแม่ไปตอนยังเด็กก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ตัวเองอ่อนแอจนแทบจะทนไม่ไหวเหมือนตอนนี้





“น้องมันไม่เป็นอะไรแล้ว หมอเขาก็บอกแล้วไงว่าไม่น่าห่วง มึงอย่าเครียดดิวะ”





“ทุกอย่างมันเป็นเพราะกู นนเป็นแบบนี้ก็เพราะกู”





“ไอ้คีณ มึงจะโทษตัวเองเพื่อ… ใครจะอยากให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นมา”





“...........” ใช่… คีณไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิด แต่เรื่องทั้งหมดจุดเรื่องต้นมันก็มาจากเขา ถ้าวันนี้ไม่ใจร้อนจนทำให้ทะเลาะกันวันนี้ก็คงเป็นเพียงวันดี ๆ วันนึงเท่านั้น





“...........”





“งั้นก็แล้วแต่มึงนะ ถ้าคิดว่านนมันตื่นขึ้นมาเห็นมึงสภาพนี้แล้วจะดีใจ ก็เชิญฟูมฟายโทษตัวเองต่อไปเลย” เมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่มีท่าทีที่จะหยุดโทษตัวเอง และไม่มีบทสนทนาอะไรหลุดออกมาอีก เฟรนก็ตัดบทด้วยการเดินหายออกไปจากห้องพักคนไข้ ด้านเทมเองก็รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศตรงหน้าจนต้องตัดสินใจออกไปยืดเส้นยืดสายด้านนอกเช่นกัน





“พี่คีณครับ… เพื่อนผมถึงมันเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกคนอื่นมากกว่าตัวเอง ผมว่าข้อนี้พี่รู้ดีกว่าผมซะอีก” เทมทิ้งท้ายเอาไว้ให้คีณคิดมากยิ่งไปกว่าเดิม ก็เพราะว่ารู้ไงถึงได้นั่งร้องไห้กอดรัดความผิดเอาไว้เสียเอง มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะเข้มแข็งในช่วงเวลาแบบนี้





“แม่มาทำอะไรที่โรงพยาบาลครับพ่อ ไหนแม่บอกว่าจะไปซื้อหุ่นยนต์มาให้คีณไง”





“ฟังพ่อนะคีณ ...รถแม่เขาเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย แต่คีณไม่ต้องเป็นห่วงนะ แม่จะปลอดภัย”





แม่จะปลอดภัย





ประโยคที่ทำให้เด็กไร้เดียงสายังวิ่งเล่นหน้าห้องฉุกเฉินโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร รู้ตัวอีกทีคีณก็เสียแม่อันเป็นที่รักไปแล้วตลอดกาลโดยไม่มีโอกาสแม้ซักวินาทีจะได้ร่ำลา แล้วจะให้ทำยังไงได้นอกจากโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุให้แม่ต้องขับรถออกไปจากบ้าน… ภาพความทรงจำจาง ๆ สะท้อนเข้ามาในหัวเป็นฉาก ๆ ตอนนี้คีณกำลังกลัวว่าจะสูญเสียคนที่เขารักเป็นครั้งที่ 2 และถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเขาคนนี้ก็คงจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองแน่ ๆ





“เทม…”





ทนไม่ไหว





คีณรู้ดีว่าตัวเองทนเห็นภาพคนป่วยบนเตียงพร้อมมือไม้สั่นเทาไม่ได้ จึงตัดสินใจเดินตามออกมาเพื่อรั้งเทมหรือใครซักคนเอาไว้ เขาไม่อยากให้ในห้องนั่นไม่มีใคร และไม่อยากให้ใจตัวเองมันพังไปมากกว่านี้ด้วยเช่นกัน





“ครับ”





“พี่… พี่ฝากก่อนนะ” เทมเข้าใจประโยคนี้ได้ไม่ยาก เฟรนที่ยืนอยู่ด้วยดันหลังรุ่นน้องให้กลับเข้าไปตามเดิม ก่อนที่ตัวเขาจะเดินตามคีณออกมาตามทางเรื่อย ๆ ด้วยความรู้สึกเป็นห่วง เพื่อนสนิทเขาถึงมันจะไม่ใช่คนแข็งทื่ออะไรมากมายแต่เขาก็ไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้มีอาการที่เหมือนจะเสียสูญจนไร้แรงทรงตัวแบบนี้





“ไม่เป็นไรหรอกมึง ขอกูสงบสติอารมณ์ตัวเองซักพัก” คีณทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ระหว่างทางเดิน สบตาผู้เป็นเพื่อนแวบนึงก่อนจะเหม่อมองออกไปตรงหน้าอย่างไร้จุดหมายเช่นเดิม





“จะให้กูอยู่เป็นเพื่อนมั้ย”





“ไม่เป็นไร มึงเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนเทมดีกว่า”





“มึงอย่าเครียด เลิกคิดมากได้แล้ว ที่กูพูดกูหมายความตามนั้นจริง ๆ ณนนคงไม่ชอบถ้ารู้ว่ามึงเป็นแบบนี้ มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีเหตุผลที่มึงจะต้องมาเก็บความผิดไว้กับตัวเองเลยนะเว้ย”





“มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งนึง….” คีณเผลอคิดถึงเหตุการณ์ในวัยเด็กอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหยุดพูดแล้วกระตุกยิ้มเศร้า ๆ ให้กับความรู้สึกย่ำแย่ของตัวเอง





“มึง….”





“ช่างเถอะว่ะ ขอกูอยู่คนเดียวซักพักนะ”





เฟรนไม่พูดอะไรออกมาอีก เขาค่อย ๆ ปลีกตัวเองออกมาช้า ๆ ทิ้งเพื่อนสนิทเอาไว้ตรงนั้นตามคำขอ ไม่สิ… เขาไม่ได้ปล่อยคีณนั่งหลับตาแน่นสนิทไว้ตรงนั้นตามที่เจ้าตัวต้องการ แต่เขายอมเดินออกมาเพราะใครอีกคนที่กำลังทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ คีณต่างหาก





“....มึง” คีณกำลังจะสบถคำหยาบออกมาบ่นเพื่อนที่เหมือนจะพูดไม่รู้เรื่อง แต่ต้องชะงักลงเมื่อเห็นว่าใครกำลังนั่งอยู่ข้างตัวเขาตอนนี้





“เป็นไง”





“พ่อ… พ่อมาได้ยังไง”





“ข่าวเต็มทีวี แชร์กันทั่วเฟซบุ๊คขนาดนั้น แกจะไม่ให้ฉันร้อนใจมาหาลูกฉันเลยหรอ”





“ที่แท้ก็แค่ห่วงเรื่องข่าว ผมไม่ทำอะไรให้กระทบพ่อหรอก กลับไปเถอะ” ผู้เป็นพ่อเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะเหยียดยิ้มบาง ๆ ใช้สายตาว่างเปล่ามองไปอีกทางคล้ายกับไม่ได้สนใจใยดีอะไรลูกชายมากนัก





“เจ้าเด็กนั่นเป็นยังไงบ้าง”





“ไม่เกี่ยวอะไรกับพ่อ”





“แล้วแกเป็นยังไงบ้าง”





“...........” คีณไม่ตอบและทำได้แค่เพียงทอดสายตาลงกับพื้นเบื้องล่างเพราะว่ามันเหมือนว่าก้อนบางอย่างมาจุกอยู่ที่อกเขาตอนนี้





“ในคลิปที่คนแชร์กันแกดูไม่ค่อยดีเลย มีอะไรอยากจะระบายออกมาบ้างมั้ย ถ้าอึดอัดที่จะคุยกับฉันก็คิดซะว่าฉันไม่ใช่พ่อแกก็ได้”





“...........”





“อยากร้องไห้… ก็ร้อง” ภาวัชเอื้อมแขนโอบร่างลูกชายคนเดียวเข้ามากอดเอาไว้หลวม ๆ ยากนักที่ผู้ชายแข็ง ๆ อย่างเขาจะกอดลูกชายคนนี้เอาไว้โดยไม่เคอะเขิน ครั้งสุดท้ายก็คงจะเป็นตอนที่เขาบังคับลูกชายคนนี้ไปรับรางวัลครอบครัวดีเด่นจอมปลอมด้วยกัน





“............”





“แต่ฉันไม่ให้แกโทษตัวเองแล้วนะ… ไม่ให้ทำแบบนั้นแล้ว” แรงสัมผัสเบา ๆ ที่หัวจากผู้เป็นพ่อทำให้คีณน้ำตาไหลออกมาได้ง่าย ๆ ใบหน้าของเขาซุกลงกับช่วงไหล่แล้วสะอึกสะอื้นออกมาเหมือนใจจะขาด ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ภาวัชลูบศรีษะลูกชายเป็นจังหวะไปมาช้า ๆ เพื่อปลอบใจ ...ก็เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าคีณจะรู้สึกแบบไหน เพราะตอนนั้นที่เขาเสียแม่ของคีณไปมันก็คงทรมานไม่ต่างกัน





จะต่างกันก็ตรงที่ตอนนั้นเขาไม่มีโอกาสแก้ตัวอะไรเลย





“พ่อ… ผมกลัว”





“กลัวอะไร แกมันเก่งจะตาย เจ้าเด็กณนนนั่นก็คงจะสู้อยู่ไม่น้อย ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว”





“ผมกลัวว่าจะต้องเสียนนไป… ฮึก ผมไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว ฮืออออ”





“ไร้สาระ เป็นคนปวกเปียกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้คีณลูกฉันมันสู้จะตายไป กับเรื่องแต่นี้มันไม่มานั่งร้องไห้แบบนี้หรอก”





“พ่อไม่เข้าใจ”





“ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ… ฉันเข้าใจความสูญเสียดีจนไม่อยากให้แกเสียเวลาตรงนี้ไปโดยไร้ประโยชน์ต่างหาก”





“....”





“กับแม่แก ที่ทำให้แกโทษตัวเองอยู่ทุกวันนี้ ที่ทำให้ฉันกลายเป็นเหมือนพ่อเลว ๆ คนนึงที่เห็นแก่เงิน แก่งาน ชื่อเสียงพวกนั้น…. ฉันไม่เคยได้แม้แต่จะบอกลาเลยด้วยซ้ำ ไม่มีเวลาที่จะได้รู้ตัวแม้ซักวินาที แต่กับเจ้าเด็กณนน… แกเหลือเวลาอีกทั้งชีวิตกับเขา เชื่อฉันสิ เลิกโทษตัวเอง เลิกคิดไปไกล เจ้าเด็กนั่นไม่เป็นอะไรหรอก”





“.........” ความรู้สึกจุกแปลก ๆ ทำให้คีณพูดไม่ออก ซ้ำยังซุกหน้าเข้ากับไหล่ของผู้เป็นพ่อราวกับเด็ก ๆ ครั้งสุดท้ายที่เขาเคยอยู่ในไออุ่นของพ่อแบบนี้ก็คงจะเป็นช่วงที่สูญเสียแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ แล้ววันนี้ตอนนี้เขากำลังกลับไปเป็นเด็กไม่รู้จักโตอีกครั้ง





“ถ้าณนนฟื้นแล้ว ชวนเขาไปกินข้าวด้วยกันมั้ย ร้านประจำสมัยก่อนที่แกเคยชอบ ...หรือว่าจะกลับไปกินที่บ้านเราดี เราไม่ได้นั่งโต๊ะกินข้าวด้วยกันนานแล้ว”





“นี่พ่อ…” คีณเงยหน้ามองภาวัชอย่างไม่เข้าใจนัก แต่คนที่ภายนอกดูแข็งก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่วันยังค่ำ ภาวัชไม่ยอมมองหน้าลูกชายเพราะในใจยังรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย





“ฉันพอแล้ว ต่อให้ผิดสัญญากับแม่แกเรื่องที่จะดูแลแกให้ดีก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น… เห็นข่าวลูกตัวเองเป็นเกย์ก็คงดีกว่าข่าวลูกร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร… อยากทำอะไรก็ทำ วิธีปกป้องดูแลลูกของฉันมันคงไม่ดีเท่าไหร่ บางทีแม่แกอาจจะนั่งโมโหไม่ชอบใจอยู่ก็ได้”





“.........”





“ที่มันเป็นแบบนี้คงเพราะเชือกที่ฉันเคยคิดว่าจะพาแกไปตามทางมันคงจะตึงเกินไป… ต่อไปนี้ก็ถือเชือกเดินนำตัวเองก็แล้วกัน”





“ผ...ผมขอโทษ”





“พ่อก็คงต้องขอโทษ….เหมือนกัน”





ความเงียบเข้าปกคลุมชายกลางคนกับลูกชายคนเดียวไปอีกพักใหญ่ ก็คงจะเป็นเรื่องดีที่ความรู้สึกภายในมันได้ทะลุออกมาจากอารมณ์แข็งกร้าว คราวนี้ก็คงต้องหวังพึ่งโชคชะตาให้เรื่องราวเรื่องนี้จบลงพร้อมความทรงจำดี ๆ





เรื่องราวที่ทำให้คุณและคุณเป็นสุขใจ

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 30-03-2018 20:07:55
ตอนที่ 25 คนโทษตัวเอง



“ณนน หนุ่มคนดังในโลกโซเชี่ยลเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำหน้าผับดัง คู่กรณีรับเป็นฝ่ายหลับในจนเกิดเหตุดังกล่าว…”





“ทำไมมึงจะต้องจีบปากจีบคอพูดขนาดนั้นคะอีนีลลลล” ดูเหมือนว่าเฟย์จะเหลืออดและหงุดหงิดไม่น้อยเมื่อนีลพยายามอ่านข่าวฮอตฮิตในเช้าวันนี้ด้วยสำเนียงไก่ประกาศิต ก็แน่ล่ะเพราะว่าเฟย์กับเทมมาเฝ้าเพื่อนสนิทอย่างณนนตั้งแต่เมื่อคืน ระหว่างที่นีลพึ่งวิ่งหน้าตั้งมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน





“เพื่ออรรถรสในการรับชมย่ะ!”





“พวกมึงอย่าเสียงดังดินี่โรงพยาบาล” เทมสะกิดสองสาวให้เบาเสียงลงเมื่อดูท่าว่าอาจจะเกิดเหตุชลมุนเถียงกันเยี่ยงโต้วาทีได้ทุกเมื่อ ตอนนี้พวกเขานั่งอยู่ที่โซนรับรองนอกห้องพักของณนนจึงไม่อยากให้มันรบกวนคนอื่นมากนัก





“เออว่ะ โทษที” นีลยกสองมืออุดปากตัวเองเหมือนจะสำนึกผิด แต่เปล่าเลยเพราะว่าหลังจากนั้นแค่สามวินาทีเธอก็อ่านข่าวนั้นต่อด้วยเสียงไก่ประกาศิตคนเดิมที่มีอาการเป็นหวัด





“ส่วนคลิปหนุ่มคนสนิทร้องไห้แทบไม่มีสติที่มีพลเมืองดีถ่ายไว้ ณ ที่เกิดเหตุก็ถูกแชร์อย่างต่อเนื่องในเช้าวันนี้ เป็นการตอกย้ำปริศนากันต่อไปในเรื่องของความสัมพันธ์สองหนุ่ม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพียงวันเดียวภาวัชพ่อของหนุ่มคีณออกมาปฏิเสธแบบหัวชนฝาไปแล้วแท้ ๆ แต่เห็นแบบนี้แล้วเจ้เผือกมั่นใจว่าต้องมีอะไรในกอไผ่แน่นอน…”





“พลเมืองดีพ่อง” เทมส่ายหัวเมื่อฟังข่าวซุบซิบยอดแชร์หลักพันเช้านี้จากปากนีลจนจบ ริมฝีปากเขาจรดดื่มกาแฟที่อยู่ในมือคลายง่วง ก็ตลกดีที่อุบัติเหตุครั้งนี้คนกลับให้ความสำคัญกับข่าวแบบนี้มากกว่าเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เกิดขึ้น





“นั่นดิวะ เกิดเรื่องแบบนี้แทนที่จะช่วยมัวแต่ถ่ายคลิป” เฟย์ว่า





“สื่อก็เล่นแต่ข่าวพวกนี้ อาการไอ้นนไม่เห็นเจ้าไหนจะสนใจลงข่าว”





“แต่คลิปที่เขาแชร์กัน กูเห็นแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมพี่คีณสภาพแย่แบบนี้”





“คิดดูเถอะ ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้พี่คีณยังไม่ยอมนอน เอาแต่โทษตัวเองจนกูกับพี่เฟรนไม่รู้จะทำยังไง แต่ถ้าเป็นกูก็คงตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกันนักมั้ง” เทมพูดออกไปตามที่ตนคิด นีลพยักหน้ารับรู้ระหว่างที่ยังเลื่อนฟีดข่าวในเฟซบุ๊คอ่านต่อไปเรื่อย ๆ แล้วงานนี้ก็คงไม่ต้องเดาเพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ออกอาการมั่นอกมั่นใจว่าคีณและณนนต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแบบที่คาดคิดเอาไว้แน่นอน





: เห็นคลิปแล้วพูดอะไรไม่ออกเลย มันชัดอยู่แล้ว ณนนหายไว ๆ นะ

: แล้วที่พ่อคีณออกมาพูดคืออะไร… ชัดขนาดนี้

: แฟนเราอยู่ในผับตอนนั้น เห็นว่าสองคนนี้ทะเลาะกันตั้งแต่ในร้านแล้วก็ตามกันออกมา

: ความจริงเป็นยังไงช่างเถอะ ขอให้ณนนปลอดภัยก็พอ





“แล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นได้ไงวะ ไหนว่าไอ้นนไปนอนห้องมึง แล้วทำไม…” นีลถามคำถามที่ยังคาใจ เทมเหลือบตามองเฟย์ที่เล่าให้ฟังไปแล้วเมื่อคืนแวบนึง ก่อนจะเล่าให้นีลฟังอีกคน





“ก็นั่นแหละที่ไอ้นนมันทะเลาะกับพี่คีณมาอยู่ห้องกู… มันติดต่อพี่คีณไม่ได้ กูเลยโทรหาพี่เฟรนแล้วพามันไปที่นั่น หลังจากนั้นกูกับพี่เฟรนก็ออกมาเลย มารู้อีกทีก็ตอนพี่คีณโทรหา”





“แม่ง แล้วก็ไม่โทรหากู”





“ก็กูรู้ว่ามึงออกมาลำบาก รอบอกตอนเช้าดีกว่าเดี๋ยวจะนอนไม่หลับซะเปล่า ๆ”





“ก็เป็นซะแบบนี้อ่ะ” นีลอดไม่ได้ที่จะผลักเข้าที่หัวของเทมเบา ๆ โทษฐานที่ทำให้รู้เรื่องช้ากว่าชาวบ้านเขาไปเกือบสิบก้าว





“มึงมาคงวุ่นวายคูณสองไปอีกอ่ะอีนีล” เฟย์ว่าขำ ๆ ก่อนที่จะไถลตัวลงไปกับโซฟาอย่างน้อยล้า อดคิดไม่ได้เลยว่าขนาดเธอที่เมื่อคืนได้นอนไปงีบใหญ่ยังมีอาการเพลียขนาดนี้ แล้วคนที่แทบไม่พักเลยอย่างคีณจะทนอยู่ได้ยังไง





“อีเหี้ย…!”





“นีล กูบอกว่าอย่าเสียงดัง”





“พ...พวกมึงดู” นีลเรียกเพื่อนทั้งสองมาดูสิ่งที่ทำให้เธออึ้งจนอยากจะกรี๊ดอยู่ตรงหน้า วิดิโอไลฟ์สดจากสื่อหลักเจ้าหนึ่งกำลังมียอดวิวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้สิว่าทำไมถึงได้รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งนึง





การแถลงข่าวของคุณภาวัช





“สวัสดีครับ วันนี้ผมต้องขอโทษที่รบกวนสื่อมวลชนตั้งแต่เช้า แต่อย่างที่ทุกท่านเห็นข่าวกัน ผมจึงมีสองเรื่องที่จะต้องพูดเพราะไม่อยากทิ้งมันไว้ให้เป็นประเด็นเข้าใจผิดกันอีก เรื่องที่หนึ่งอาการของณนนตอนนี้เท่าที่ผมทราบคือพ้นขีดอันตรายแล้ว รายละเอียดอาการต่าง ๆ คงต้องรอทางแพทย์อีกที และเบื้องต้นผมได้ส่งทนายตามเรื่องคดีความต่าง ๆ ที่คงต้องว่ากันตามความจริง…”





“ออกมาพูดแบบนี้แปลว่าน้องณนนเป็นเด็กในสังกัดช่องคุณภาวัชแล้วใช่มั้ยคะ”





“เปล่าครับ ณนนไม่ใช่นักแสดงในสังกัดช่องเราแต่อย่างใด แต่ถ้าจะถามต่อว่าทำไมผมถึงต้องออกมาพูดเรื่องนี้ คำตอบมันอยู่ในเรื่องที่สองที่ผมจะพูด แต่ก่อนอื่นผมคงต้องบอกว่าผมไม่ได้ออกมาพูดในฐานะผู้บริหารช่อง แต่ผมออกมาพูดในฐานะ….พ่อคนนึงเท่านั้น…..”

.

.

.





08.45 น.

เวลาที่หลายคนกำลังเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำงาน การเรียน กิจวัตรประจำวัน หรือบางคนเวลานี้ก็เป็นเพียงเวลาที่กำลังงัวเงียไม่อยากตื่นเท่านั้น แต่สำหรับคีณแล้วนี่คือช่วงเวลาที่หลับไม่ลงและไม่สามารถเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ได้เลยซักอย่าง





“นน… คีณขอโทษ” เสียงแผ่วเบากระซิบลงข้างหูคนป่วย หยดน้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้งโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ร้องขอ ถ้าเลือกได้ก็อยากจะให้คนที่นอนเจ็บเป็นเขาเสียเอง นี่สินะที่ใครเคยบอกไว้ว่าหากหัวใจทั้งดวงของเราเจ็บปวด ที่ทรมานมากกว่าก็คงจะเป็นร่างกายที่เหมือนจะไร้ใจของตัวเราเอง





“ขอโทษ…” มือหนาที่กำลังเกลี่ยไรผมรอบกรอบหน้าของณนนมันสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลมหายใจสม่ำเสมอไม่ได้ทำให้คีณสบายใจขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น ท้ายที่สุดแล้วการเกาะกุมจับฝ่ามือเย็นเฉียบเอาไว้ก็ดูจะเป็นทางออกที่ทำให้เขาสบายใจที่สุดในตอนนี้





อย่างน้อยก็ได้มั่นใจว่าณนนจะไม่หายไปไหน





ความเงียบในห้องพักดำเนินตามเวลาต่อไปเรื่อย ๆ แม้คีณจะรู้สึกล้าและอาจจะล้มลงไปเพราะความเพลียได้ทุกเมื่อ แต่เขาเองก็ไม่คิดที่จะละสายตาออกไปจากณนนแม้ซักวินาที ระหว่างที่คนอื่น ๆ อย่างเฟรน เทม และเฟย์เข้าสู่ห้วงนิทรากันไปแล้วเมื่อคืนเขาก็นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคืนเช่นกัน ...คีณจะหลับลงได้ก็ต่อเมื่อณนนตื่นมาฟังเสียงคนงี่เง่าที่กำลังเอาแต่โทษตัวเองแล้วด่าสวนเข้าให้ซักที วินาทีนี้ ตอนนี้จะตื่นขึ้นมาโกรธกัน โวยวายใส่กันก็คงต้องยอม





“อีกสามเดือนเราจะคบกันครบสี่ปีแล้วนะ ปีนี้นนอยากไปไหน” แม้จะรู้ดีว่าคงจะไร้คำตอบแต่คีณก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาพยายามยิ้มบาง ๆ พร้อมกับการกระชับมือแน่นขึ้นคล้ายตั้งใจอยากให้ณนนได้รู้สึกว่าเขาอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้





“นนอยากไปสวิตส์นี่… แต่คีณว่ารอช่วงปิดเทอมดีกว่าจะได้อยู่ทัวร์ยุโรปกันด้วย”





“หรือว่าเราไปหาแม่นนกันมั้ย นนคิดถึงท่านไม่ใช่หรอ…”





“งั้นนนตื่นขึ้นมานะ… ถ้าแม่เห็นนนเป็นแบบนี้คงจะไม่สบายใจ” คีณพยายามกลั้นตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมาอีก ใครก็คงจะพูดได้ว่าเขาควรเข้มแข็งและทำใจให้สบาย แต่เชื่อเถอะ คนที่กำลังพูดแบบนั้นไม่เคยรู้สึกแบบที่เขากำลังเป็นซักคน





“เรื่องเมื่อวานที่คีณใจร้อน… ขอโทษนะ ไม่รู้ว่าต้องขอโทษอีกกี่ครั้งถึงจะพอ”





“พ่อ…. พ่อเขาเข้าใจแล้ว เมื่อคืนเขามาเยี่ยมนนด้วยนะ เขาอาจจะหวังดีอย่างที่นนว่า”





“คีณมันก็ไม่เคยเห็นความหวังดีของใครเลยจริง ๆ นั่นแหละ… ไม่เคยเลย” ศรีษะหนักอึ้งค่อย ๆ ฟุบลงกับเตียงเคียงข้างฝ่ามือที่จับเอาไว้ไม่ปล่อย คีณมองมือมีร่องรอยของการบาดเจ็บแล้วก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปกว่าเดิม





“คีณไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย… เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ได้ ไม่ต้องให้ใครรู้ ไม่ต้องให้ใครเข้ามาวุ่นวาย แค่มีนนกับคีณสองคนในที่ของเรามันก็พอแล้ว”





“แล้วต่อไปคีณไม่ให้ขับรถแล้วนะรู้มั้ย”





“คีณก็จะไม่กินเหล้าจนเมา พลั้งทำอะไรบ้า ๆ ลงไปแบบวันนี้อีกแล้ว”





“ห้ามกินเหล้าอีกเลย ตลอดชีวิต”





“............” เสียงเบา ๆ ที่ไม่ใสนักมันดังพอที่จะทำให้คีณดึงความรู้สึกกลับมาสนใจมือข้างนี้ที่กำลังออกแรงสัมผัสตอบเขาตั้งแต่วินาทีไหนก็ไม่รู้ รอยยิ้มฉาบขึ้นบนใบหน้าทันทีที่เขาหันไปเห็นว่าคนบนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยแววตาที่ยังคาดโทษใส่อยู่ไม่น้อย





“ว่าไง…”





“นน…”





“ว่าไงจะกินเหล้าอีกมั้ย”





“อือ ไม่กินแล้ว… ไม่กินเลย”





“ร...ร้องไห้ทำไมเนี่ย” ดูเหมือนว่าคนที่พึ่งได้สติก็จะงงอยู่ไม่น้อยที่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาไม่หยุด





“อย่าเป็นแบบนี้อีกนะ เจ็บมากมั้ย”





“ไม่เป็นไร… หยุดร้องไห้ได้แล้วครับ” ณนนกำมืออีกฝ่ายแน่น แม้ว่าเขาจะตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกเจ็บแปรบไปทั้งตัว และรู้สึกมึนงงอยู่มากกับเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่ภาพสุดท้ายที่เห็นก่อนจะสิ้นสติลงและภาพแรกที่เห็นเมื่อลืมตาตื่นก็ทำให้เขารู้สึกว่าการเจ็บครั้งนี้มันช่างเบาบางอย่างน่าประหลาด





“ตอนที่เห็นนนหลับไป ใจคีณมันแทบขาดแล้วรู้มั้ย โคตรกลัวเลย” คีณใช้ริมฝีปากสัมผัสเบา ๆ ที่หน้าผาก ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าตัวเองซบลงที่ช่วงไหล่ของณนน





“ตอนที่ภาพคีณมันเบลอขึ้นทุกที… ก็โคตรกลัวเหมือนกัน” สิ่งที่เจ้าของร่างกายบาดเจ็บจะทำได้ก็คงแค่ทิ้งน้ำหนักเบา ๆ ให้ศรีษะได้สัมผัสกับใครอีกคน





“ไม่โกรธกันแล้วนะครับ… ไม่เอาแล้ว”





“อือ ไม่โกรธแล้ว ยกเว้น...”





“ยกเว้น….” คีณเงยหน้าขึ้นมามองณนนก่อนจะทวนคำตามอย่างไม่เข้าใจนัก แต่แววตาที่เหมือนจะยิ้ม ๆ ของอีกฝ่ายก็ทำให้เบาใจได้ไปเปราะนึง





“ยกเว้นเรื่องที่ผับ ยังต้องการให้ง้ออยู่นะ”





“ได้ จะง้อให้ไม่กล้างอนอีกเลย คอยดู!” คีณหลุดยิ้มกว้างออกมาทั้งคราบน้ำตาในที่สุด ความรู้สึกแย่ ๆ ทั้งหมดถูกยกออกจากอกจนเช้าวันใหม่ดูสดใสขึ้นทันตา พอตั้งสติทิ้งความดีใจได้เขาก็ทำสิ่งที่ควรจะทำคือเรียกพยาบาลเข้ามาตรวจเช็คอาการคนป่วยที่ตื่นขึ้นมาพูดจ้อแทบไม่หยุด และสุดท้ายคนที่พร่ำโทษตัวเองแทบตายก็หลับลงพร้อมความโล่งใจได้เสียที

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 30-03-2018 20:08:43
ตอนที่ 26 คนขี้งอน



“เทม… กูอยากกินน้ำ”





“ได้”





“เทม… กูคันแขนอ่ะ”





“เออ กูเกาให้”





“เทม… ปวดฉี่”





“โอเค”





“มึง”





“เทม…”





“ไอ้เทม…”





“เทม ช่วยกูหน่อย”





โว้ยยยยยยยยยย เสียงโวยวายในใจเทมดังขึ้นรอบที่ร้อยเห็นจะได้ ดูเหมือนว่าตอนนี้คนเจ็บจะแผลงฤทธิ์ด้วยเลเวลขั้นสุด ก็จะอะไรซะอีกล่ะก็ไอ้อาการงอนแฟนที่บังเอิญทำให้เพื่อนฝูงเดือดร้อนเนี่ยแหละ แถมคนถูกเมินใส่อย่างคีณก็ดันจ๋อยเหมือนหมาน้อยโดนจับตอน ได้แต่ทำตาปริบ ๆ เมื่อพยายามทำทุกอย่างแล้วก็ยังไม่สามารถทำลายกำแพงสูงระดับเด็กสองขวบปีนที่ณนนสร้างขึ้นมาได้ซักที





ก็ช่วยไปงอนไปง้อกันตอนสารร่างครบ 32 ได้มั้ยวะ





“ว่าไงมึง” เทมเงยหน้าขึ้นจากจอมือถือแม้ในใจจะหงุดหงิดเล็ก ๆ เพราะรู้ดีว่าชะตากรรมต่อไปของตนเองจะเป็นเช่นไร





“นนอยากได้อะไร ให้คีณช่วยนะ” ไวกว่าความคิด รุ่นพี่คณะนิเทศที่นั่งอยู่โซฟาตัวเดียวกับเขาดีดตัวเองขึ้นแล้วสาวเท้ายาวไปข้างเตียงคนป่วยราวกับหายตัวได้ แล้วเชื่อเถอะเหตุการณ์กงเกวียนกำเกวียนก็เริ่มต้นเหมือนทุกครั้งในรอบวัน





“เรียกเทม ไม่ได้ยินหรอ”





นี่ล่ะชะตากรรมของเทมคนดีคนเดิมเพิ่มเติมคือเพื่อนงอนผัว





“เทมดูนนมาทั้งวันแล้ว ให้เทมพักเถอะ” คีณพยายามเกลี่ยกล่อมด้วยวิธีเรียกความเห็นอกเห็นใจให้เพื่อนที่กลายเป็นบุรุษพยาบาลจำเป็น ณนนชะงักไปแวบนึงเพราะลึก ๆ แล้วตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากให้เพื่อนมาลำบาก แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อตอนนี้เขาไม่มีช้อยที่ดีกว่านี้แล้วนี่นา จะเป็นเฟย์หรือนีลก็คงไม่เหมาะนักที่จะต้องมาดูแลเพื่อนผู้ชายอย่างใกล้ชิด





“งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวเรียกพยาบาลก็ได้”





“นนนนนนน”





“เอาคืนมา” ณนนพยายามใช้มืออีกข้างที่เกือบจะใช้งานได้ปกติเอื้อมหยิบกริ่งเรียกพยาบาลแต่ก็ถูกณนนฉวยเอาไปได้เสียก่อน





“จะลำบากพยาบาลทำไม”





“ก็เทมเหนื่อยแล้ว”





“แต่คีณยังไม่ได้ทำอะไรเลย ให้คีณดูแลนนได้มั้ย เลิกงอนนะครับ”





“ไหนบอกจะง้อให้ไม่กล้างอนอีก มาขอให้หายงอนง่าย ๆ แบบนี้อ่ะนะ”





“แต่ว่า…”





“แต่ว่าอะไร”





“โอเค… ยอมแล้ว ๆ เทม… นนเรียก”





“เกม….. โอเวอร์” เทมยิ้มแหยทันทีที่คีณต้องเซถลากลับมานั่งที่เดิมพร้อมสีหน้าบอกบุญไม่รับ ถึงแม้ว่าเทมจะไม่รู้ว่าณนนจะต้องออกงอนทำไมนักหนา แต่จากรูปการณ์แล้วงานนี้คงเล่นเอาคีณเข็ดไปอีกนาน





“พี่ฝากด้วย เหนื่อยหน่อยนะ”





“หึ พี่นั่นแหละเหนื่อยหน่อยนะ” เทมยิ้มขำตบให้กำลังใจคีณเบา ๆ ที่หน้าขา เดาไม่ถูกเลยว่าถ้าณนนไม่ได้เจ็บป่วยอะไรอาการที่งอนตอนนี้มันจะรุนแรงแค่ไหนและเจ้าตัวจะแผลงฤทธิ์หรือแปลงกายเอาร่างไหนออกมา แต่ช่างเถอะยังไงเทมก็มองสายตางอน ๆ นั่นออกว่าณนนแค่ยังเสียใจลึก ๆ แต่ก็ไม่ได้เหลือความโกรธหรือเก็บความรู้สึกแย่ ๆ ไว้ข้างในเลยอยู่ดี อย่างที่เขาพึ่งพูดนั่นแหละ งานนี้คีณคงต้องเหนื่อยหน่อยแล้ว





หลังจากที่เทมช่วยหมุนเตียงขึ้นให้ณนนอยู่ในท่าสบาย ๆ คล้ายกำลังนั่งเอาหลังอยู่กับเตียงตามที่เจ้าตัวต้องการ ก็ดูเหมือนว่าคราวนี้สงครามประสาทเสียของเทมจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อถึงเวลามื้ออาหารเย็นของคนป่วยที่คีณหมายมั่นปั้นมือจะเป็นคนป้อนเสียให้ได้





“ช่วงนี้คนไข้ทานอาหารอ่อนตามคุณหมอสั่งก่อนนะคะ ยาในแก้วทานทันทีหลังมื้ออาหาร อีกประมาณชั่วโมงนึงคุณหมอจะเข้ามาตรวจแล้วก็แจ้งผลการเอกซเรย์เพิ่มเติม ถ้าโชคดีคนไข้อาจจะไม่ต้องผ่าตัดที่แขน ออ ถ้ามีปัญหากดเรียกพยาบาลนะคะ” ณนนพยักหน้ารับรู้ไม่ต่างกับคนเฝ้าอีกสองคนที่พยักหน้าขึ้นลงเข้าใจสิ่งที่เธอพูดออกมายาวเหยียด ถ้าเป็นอย่างที่พยาบาลว่าก็คงดีสินะเพราะคีณคงไม่ต้องมานั่งกังวลเมื่อณนนเข้าห้องผ่าตัด แค่จินตนาการภาพตอนนี้ก็เหมือนคีณเห็นอนาคตตัวเองที่ฟูมฟายคิดมากไม่เลิก





“มึง” ตามที่คาดไม่มีผิด ณนนส่งเสียงเบา ๆ แต่สายตาพุ่งชัดว่าต้องการใครในเวลานี้





“ครับคุณนน เพื่อนเทมมาแล้วคร้าบบบบบ” เทมออกเสียงเชิงล้อเดินเอื่อย ๆ ไปเปิดสำรับอาหารคนป่วยอย่างเซ็ง ๆ ที่เซ็งเนี่ยไม่ใช่เพราะว่าต้องมาดูแลเพื่อนหรอกนะแต่เซ็งเพราะถูกเพื่อนใช้เป็นเครื่องมือต่างหาก ฮืออออออ





“ดีมาก”





Rrrrrrrr แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือสิ่งใดลิขิต จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์เทมก็ดังขึ้นจนเจ้าตัวต้องละจากตรงนั้น เขามองชื่อสายเรียกเข้าบนจอแบบงง ๆ ก่อนจะจำใจกดรับสายระหว่างที่เหลือบตามองเพื่อนสนิทเป็นระยะ ๆ





“สวัสดีดีครับ…. เอ่อ… ครับ” เทมเหลือบตามองณนนอีกครั้งก่อนจะพูดออกมาคล้ายกำลังลำบากใจเสียเหลือเกิน





“มึง กูออกไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะ ให้พี่คีณป้อนไปก่อน” ถึงคราวคนที่นั่งบนโซฟาได้กระตุกยิ้มอยากผู้ชนะ คีณลุกขึ้นพร้อมรอยยิ้มโดยไม่ต้องรอเสียงใดเพิ่มเติม ในจังหวะนั้นที่คีณเดินสวนกับเทมอีกฝ่ายก็เผยสีหน้าที่….ไม่ต่างกัน





“แล้วอย่ากลับมาอีกนะ” คีณส่งเสียงเบา ๆ ลอดไรฟันในจังหวะที่สวนกัน รอยยิ้มตัวร้ายในละครหลังข่าวฉายชัดเมื่อเทมเหลือบมองรายชื่อสายเรียกเข้าในโทรศัพท์ตัวเองอีกครั้ง





“ร้ายนะพี่” เทมก็พยายามส่งเสียงที่มีความเบาไม่แพ้กันออกไป ...เห้อ ชื่อคุ้น ๆ เหมือนชื่อแฟนเพื่อนที่พึ่งเมมโมรี่เอาไว้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเลยแหะ





เอาเถอะ เอาเข้าจริงก็ไม่รู้ใครร้ายกว่ากัน





“เรามากินข้าวกันดีกว่า” ว่าแล้วคีณก็ค่อย ๆ เปิดชุดอาหารตรงหน้าณนนโดยแกล้งไม่สนใจสีหน้าหงุดหงิดที่ชัดขึ้นเรื่อย ๆ





“ไม่”





“นน จะงอนคีณแค่ไหนก็ได้แต่อย่าทำให้มันกระทบตัวเองได้มั้ย” คีณเคลื่อนช้อนข้าวต้มที่ดูจืดชืดไปตรงหน้าคนรัก เขายิ้มบาง ๆ ให้คนที่กำลังงอนหวังให้ใจอ่อนลง





“งั้นจะกินเอง”





“แขนเดี้ยงขนาดนี้เนี่ยนะ หยุดพยายามเลย อย่าดื้อ!”





“......” ณนนเบือนหน้าหนีคีณไปอีกทาง จนอีกฝ่ายอดที่จะลากลมหายใจยาว ๆ ออกมาไม่ได้





“ณนน…” คราวนี้คีณเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปหนักแน่นขึ้น ช้อนอาการถูกวางลงกับภาชนะตรงหน้าเช่นเดิม ก่อนที่คีณจะทรุดตัวลงกับเก้าอี้มองคนบนเตียงด้วยสายตาที่แทบจะอ่านไม่ออก ใครจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ถ้าไม่ใช่ณนนที่ไม่ยอมมองดวงตาคู่นี้เพื่อรับรู้ความหมายนั้นเสียที





“อะไร”





“คีณรู้ว่าคีณผิด ผิดมาก… แต่ที่คีณทำอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่แค่การง้อ แต่มันคือการที่คนคนนึงอยากจะดูแลคนที่รัก เข้าใจมั้ยครับ”





“......” ณนนเหลือบตามองคนข้าง ๆ เพียงนิดก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วมองไปอีกทางเช่นเดิม





“...งั้นถ้าคีณดูแลนนไม่ได้ ...เราก็ควรจะจบกัน คีณทนให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้” วินาทีที่ได้ยินประโยคนี้ก็ทำให้ณนนหันมามองเจ้าของเสียงโดยอัตโนมัติ อะไรกัน? จะยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้เนี่ยนะ ง่ายเกินไปรึเปล่า





เชี่ย ไอ้นน! อย่าหน้าเสียแบบนี้สิวะ!





“คีณ…”





“ครับ” ดูเหมือนว่าคีณจะพอใจที่เห็นณนนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ถึงได้แอบก้มหน้ามองพื้นแล้วกระตุกยิ้มกับตัวเองคนเดียวแบบนั้น





“...ม...ม...หมายความว่าไง”





“เราเลิกกันนะ…” คีณพูดเสียงเรียบก่อนจะค่อย ๆ ตีหน้าเศร้าขึ้นมองคนป่วยที่กำลังมีอาการเอ๋อติดบัคไปชั่วขณะ แต่พอเห็นสีหน้าไม่สู้ดีนั่นคีณก็เอื้อมมือข้างนึงเข้าประครองกรอบหน้าณนนไว้ในมือโดยที่ไม่ต้องคิดให้เสียเวลานัก





“นี่…”





“ให้พี่จีบได้มั้ยครับ ...น้องณนน” คีณฉีกยิ้มกว้าง ขณะที่ณนนต้องเปลี่ยนสีหน้าให้งงขึ้นอีกระดับเมื่อไม่รู้ว่าสิ่งที่คีณทำอยู่ตอนนี้มันคืออะไร ...คืออาการเบื้องต้นของโรคไบโพล่าหรอ





“อะไรของคีณเนี่ย” คีณไม่ได้ตอบอะไรออกไปในทันที เขาค่อย ๆ ใช้ช้อนคนอาหารคนป่วยในชาม ก่อนจะตักข้าวต้มยื่นไปตรงหน้าณนนพร้อมสายตาวาบวับราวกับกำลังตกหลุมรักใครซักคน





ก็คงใช่ ที่คีณกำลังจะทำคือการหลงรักใครบางคนอีกครั้ง





“พี่ชื่อคีณนะ กำลังจะเรียนจบ ...ตอนนี้ยังไม่มีแฟน พอดีพึ่งเลิกกัน” คีณเคลื่อนช้อนเข้าไปใกล้ริมฝีปากณนนอีกนิดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังเม้มปากนิ่งและมองมายังเขาเพราะไม่เข้าใจอะไรนัก





“เล่นอะไรเนี่ย ไม่ตลกนะ”





“พอดีพี่เห็นเราอยู่ในห้องนี้คนเดียวก็เลยอยากจะมานั่งคุยเป็นเพื่อน ...เอ่อ เปล่าหรอก จริง ๆ คือพี่ชอบเราก็เลยวางแผนให้เพื่อนเราเดินออกไป” คีณเคลื่อนช้อนเข้าไปอีกครั้งจนมันแทบจะชิดริมฝีปาก และนั่นก็ได้ผลเพราะคนที่ทำเป็นงอนกำลังเผลอใจเต้นและอ้าปากทานอาหารคำแรกเข้าไปในที่สุด





“.......”





“อร่อยมั้ย”





“.......” ณนนส่ายหน้าขณะที่มองคีณตาไม่กระพริบ คนข้าง ๆ เขาตอนนี้เอาแต่ยิ้มและมองมาที่เขาแทบไม่ละสายตาเช่นกัน ถึงลึก ๆ จะเริ่มเดาออกว่านี่คงจะเป็นวิธีการง้อในรูปแบบของคีณแต่มันก็อดที่จะรู้สึกตื่นเต้นและแปลกใจไม่ได้





“ถ้าไม่อร่อย… พี่มีร้านนึงเสนอเอามั้ย ร้านข้าวแถว ๆ มหาลัยพี่ รับรองจะติดใจ แฟนเก่าพี่เขาชอบมาก”





“แล้วแฟนพี่… เขาไปไหนแล้วล่ะ” คีณตักข้าวคำที่สองบรรจงป้อนให้คนป่วยอีกครั้ง





“อย่าพูดถึงเขาเลย พี่ทำผิดกับเขามาก”





“.......”





“ตอนนี้สนใจแค่เรื่องที่พี่จะจีบเราก็พอนะ”





“.......”





“พี่จีบไม่เก่งหรอก แต่จะพยายาม ให้โอกาสกันหน่อยแล้วกัน” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมณนนถึงเกือบจะหลุดยิ้มออกมาซะง่าย ๆ ก็คงจะเป็นเพราะประโยคที่คีณพูดมันเป็นประโยคเดียวกันกับครั้งแรกที่เขาได้ยินอีกฝ่ายสารภาพขอจีบออกมาตรง ๆ เกือบลืมไปเลยว่าครั้งนึงคีณเคยเป็นผู้ชายที่ใช้ความมุ้งมิ้งโลกโพนี่สีชมพูจีบณนนจนใจอ่อน





“แล้วถ้าไม่มีโอกาสจะให้ล่ะ”





“ไม่ได้หรอก ถ้าไม่ให้ พี่ก็จะขโมยมันมา” ณนนพยักหน้ารับแต่ก็ยังแกล้งดึงหน้ามึนตึงเอาไว้ก่อน แม้ว่าตอนนี้จะอ้าปากรับข้าวคำที่สามสี่ห้าจนหมดฟอร์มแล้วก็ตาม





“แล้วพี่จะจีบผมยังไง”





“ก็จะตามไปเรื่อย ๆ จนเผลอใจอ่อน”





“ผมเป็นคนใจแข็งนะพี่”





“ไม่ยากหรอก พี่จะคอยไปรับหน้าโรงเรียน โทรไปหาบ่อย ๆ ส่งข้อความ เฟสไทม์ ข้าวกล่องจากร้านเจ้าอร่อย แล้วก็… ไม่รู้ดิ… พาไปดูหนังมั้ง”





“ที่ว่าดูหนังเนี่ย ต้องนั่งคนละฝั่งของโรงด้วยมั้ย หรือไม่ก็รอบดึกช่วยยามปิดห้าง” เมื่อเห็นสีหน้าที่เหวอ ๆ ออกจะเหวี่ยงเล็ก ๆ ของคีณแล้วก็ทำให้ณนนหลุดยิ้มออกมาได้ในที่สุด ก็เมื่อหลายปีก่อนมันเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริง ๆ นี่นา





“ใครเขาจะทำแบบนั้นกัน…คนจีบกัน เป็นแฟนกันที่ไหนจะทำแบบนั้น จริงมั้ยครับ” ถึงแม้ว่าตอนนี้รอยแผลทั่วหน้าจะทำให้แสดงอารมณ์ออกมาได้ไม่มากแต่แววตาณนนมันชัดว่าโดนจี้จุดเข้าให้แล้ว โอเค… ยอมรับก็ได้ว่าเป็นเขาเองที่ไม่กล้าเปิดเผยความจริงตอนที่มีคนดังเข้ามาจีบ





“พี่ดังจะตาย อีกอย่างผมเป็นผู้ชายนะ ไม่กลัวเสียชื่อเสียอนาคตหรอ”





“พี่ไม่กลัวหรอก หรือว่าเรากลัว… น้องณนนครับตอนนี้พี่ไม่กลัวอะไรเลย กลัวไม่ได้รักเรามากกว่า”





“.......” มือหนายกขึ้นประครองกรอบหน้าณนนอีกครั้ง เรียวนิ้วเคลื่อนผ่านรอยแผลเบา ๆ ก่อนจะกระชับมือเพื่อบังคับให้เจ้าของใบหน้าจ้องมองเพียงแค่ดวงตาคมของตนเอง





“ณนน… ให้พี่จีบนะ เราสองคนจะทำทุกอย่างที่อยากทำ ไปทุกที่ที่อยากไป เราจะไม่สนใจสายตาหรือคำพูดของใครที่เขาไม่มีวันเข้าใจคำว่ารักของเรา”





“........” ณนนนิ่งเงียบปล่อยให้อีกฝ่ายพูดในสิ่งที่ต้องการ





“สิ่งที่มันผิดพลาดคงจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เราเริ่มต้นนับจากร้อยถึงร้อยกันใหม่ได้นี่นา เริ่มกันใหม่… เรามาเริ่มต้นกันใหม่ทุกเรื่อง… ทุก ๆ เรื่อง”





“.........”





“ยกเว้นอยู่เรื่องเดียว ...พี่เลิกรักณนนจากที่มันเต็มร้อยแล้วเริ่มต้นใหม่ไม่ได้จริง ๆ”





“คีณ…” ขอบตาร้อนผ่าวและน้ำตาที่เริ่มปริ่มออกมามันทำให้รู้ว่าภายในใจณนนมันกำลังอ่อนยวบลงไปหมด ...เริ่มนับจากร้อยถึงร้อยมันอาจจะเป็นสิ่งที่ตัวเขาเองต้องการมาตลอดก็ได้ คนเราก็อาจจะต้องการแค่คนรักซักคนที่เข้ากันได้ โดยที่ไม่สนใจว่าความรักครั้งนี้มันจะเห็นแก่ตัวจนทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียอะไรไปรึเปล่า





ตอนนี้ณนนรู้ตัวแล้วว่าควรเห็นแก่ตัวซักครั้ง





“ให้พี่จีบ… น้องณนนอีกครั้งนะครับ” คีณไม่ได้รอให้อีกฝ่ายเอ่ยถึงคำตอบ เขายืนขึ้นสุดความสูง สร้างสัมผัสเล็ก ๆ บรรจงจูบที่ช่วงหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา จังหวะนั้นณนนก็เผลอยอมให้น้ำตามันไหลออกมาเป็นสายจาง ๆ ก่อนจะทิ้งร่างกายที่ยังบาดเจ็บเอาไว้ในอ้อมกอดของคีณอย่างเต็มใจ





เริ่มต้นกันใหม่

เริ่มต้นในแบบที่ควรจะเป็น

เริ่มต้นรักใครซักคนให้มากขึ้นกว่าเดิมทุกวินาที





“อือ เดี๋ยวจะใจอ่อนให้อีกรอบแล้วกัน” คีณจุมพิตลงที่หน้าผากณนนซ้ำเป็นครั้งที่สอง รอยยิ้มของคนทั้งคู่คงจะพาให้ผ่านเรื่องร้าย ๆ ครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย และไออุ่นจากทุกความรู้สึกก็คงจะทำให้พร้อมจะเริ่มต้นใหม่ในทุก ๆ วันเช่นกัน





เรื่องของความรักจะในสถานะไหน จะเป็นใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ ความเข้าใจก็คงจะสำคัญที่สุด กับทั้งคีณและณนนก็เช่นกัน ที่ต่อให้อยู่ในความลับต่อไปหรือเดินจับมือกันออกมาจากตรงนั้น…





รัก… มันก็คือรักอยู่ดี

หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 30-03-2018 20:17:07
ตอนที่ 27 อิสรภาพ END


Chapter 27



SL cute boy

ไม่มีอะไรจะพูด ไม่มีอะไรจะเอ่ย จากที่ตามติดสถานการณ์มาตั้งแต่ต้นเรียกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่ชาวเรา #คีณนน อย่างเราไม่มีงานทำอย่างสมบูรณ์ ...4 ปี นี่มันพลังเรือดำน้ำแล้วค่ะคุณขา

คีณนั่งยิ้มขำเมื่ออ่านแคปชั่นเพจคิ้วท์บอยเจ้าประจำพร้อมรูปประกอบสองรูปที่แคปมาจากไอจีของคนสองคน รูปแรกมาจากไอจีของณนน เป็นรูปที่พึ่งถ่ายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าแต่มีท่าทางเหมือนรูปที่สองจากไอจีของคีณอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ส่วนรูปที่คีณได้อัพลงโซเชี่ยลมันก็คือรูปคู่รูปแรกที่เขาอยากจะอัพใจจะขาด





‘4 years anniversery’





จงตายไปด้วยแคปชั่นคู่





คีณกดไลค์คอมเมนต์นึงที่เตะตาจนห้ามนิ้วตัวเองเอาไว้ไม่ได้ อยากจะตอบเหลือเกินว่าให้รอคอมโบเซ็ตแล้วค่อยตายทีเดียวน่าจะดีกว่า หลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้นเป็นเหตุผลทางอ้อมให้พ่อของคีณออกมาพูดเรื่องลูกชายและเพื่อนชายคนสนิทมันก็ไม่เคยมีอะไรชัดเจนไปมากกว่านั้น ทั้งณนนและคีณปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปตามทางของมัน พวกเขาไม่เคยออกมาพูด ไม่เคยออกมาตอบคำถามใด ๆ คงจะมีเพียงการกระทำที่ไม่ได้สนใจใครอีกต่อไปเท่านั้นที่ทำให้ความสัมพันธ์มันชัดเจนขึ้นในสายตาคนอื่น





“ผมตอบคำถามแทนลูกชายทั้งหมดไม่ได้หรอกครับ แต่เขาคงเลือกทางเดินของเขาเองแล้ว และผมมองว่าต่อให้สังคมส่วนใหญ่อาจจะไม่เห็นด้วย ผมก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเขา…”





คำพูดของผู้เป็นพ่อในวันนั้นมันทำให้คีณลดอคติใด ๆ ในใจไปได้มาก เขาเข้าใจแล้วว่าท้ายที่สุดการเปิดอกคุยกันไม่ว่าเรื่องไหนมันก็เป็นผลดีทั้งนั้น ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ก็เช่นกัน การปิดบังความลับหรือเก็บความจริงอะไรไว้มันไม่ช่วยให้อะไรในชีวิตคุณดีขึ้นได้เลย ...ข้อนี้ ณนนรู้ดี





‘คีณรออยู่หน้าคณะนะครับ’





ณนนอ่านแชทไลน์ในโทรศัพท์แล้วกดสติ๊กเกอร์โอเคตอบกลับพร้อมยิ้มบาง ๆ กับตัวเอง วันนี้เป็นวันพิเศษครบรอบ 4 ปีของเขาและคีณ วันพิเศษที่ต่างไปจากทุกปีโดยสิ้นเชิง ทั้งเรื่องไปต่างประเทศไม่ได้เพราะณนนติดสอบ ทั้งเรื่องที่ได้อัพเดทโซเชี่ยลแบบที่ใคร ๆ เขาก็ทำกัน และเรื่องที่สามารถฉลองยิ่งใหญ่เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งถ้าใจต้องการ





ความรู้สึก… แฮปปี้เหมือนพึ่งคบกันวันแรก





‘อยากกินเมนูอะไรเป็นพิเศษมั้ย’





‘อะไรก็ได้’





‘ไม่เอาดิ นนต้องเลือก วันนี้ฉลองสามอย่างเลยนะ’





‘คือ?’





‘ครบสี่ปี นนสอบเสร็จ แล้วก็เงินเดือนเดือนแรกของคีณ’





ดูเหมือนว่าคนที่ยังรอเพื่อนอยู่ที่หน้าห้องสอบอย่างณนนจะฉีกยิ้มออกมาไม่หยุด ตอนนี้คีณเข้าทำงานเป็นเรื่องเป็นราวในบริษัทของพ่อ แต่ความหัวรั้นก็ทำให้ว่าที่เจ้าของช่องอย่างเขาอยากจะทำงานในตำแหน่ง Editor ธรรมดาฐานเงินเดือนขั้นต่ำเท่านั้น แต่ก็นั่นล่ะ ความภูมิใจของเขาล่ะ ออ… อีกอย่าง ตอนนี้พ่อหนุ่มจบใหม่ไฟแรงยังมีอีกงานที่ทำเป็นประจำ





คนขับรถเน็ตไอดอลขวัญใจสาววาย





ตั้งแต่ณนนเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นก็ไม่มีครั้งไหนที่คีณจะปล่อยให้เขาได้จับรถอีกเลย แทนที่คนประสบเหตุจะกลัว กลับกลายเป็นคีณเสียเองที่หวาดวิตกจนต้องคอยไปรับไปส่งณนนไม่เคยขาด เรียกได้ว่างานนี้คีณโผล่ที่หน้าคณะวิทย์จนเพจคิ้วท์บอยเบื่อจะลงรูปแอบถ่ายไปแล้ว





‘โอเค เดี๋ยวรอนีลก่อน มันยังไม่ออกมา’





ณนนชะเง้อมองประตูห้องสอบอีกครั้งแต่ก็ยังไม่เห็นมีวี่แววเพื่อนสนิท นี่ถ้าไม่รอนีลออกมาโวยวายเรื่องข้อสอบเหมือนทุกครั้งกรุ๊ปไลน์แชทจะต้องแตกเพราะระเบิดลงแน่ ๆ อีกอย่างวิชานี้มีแค่ณนนกับนีลที่ลงเรียน เฟย์กับเทมก็คงจะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ? ในส่วนนี้ไม่ได้





เนี่ยล่ะ ที่เขาว่า มีเพื่อนยังไงให้เหมือนมีแม่





‘แล้วนนทำข้อสอบได้มั้ย’





‘ได้ทำ’





‘อ้าวเห้ย’





‘ก็เมื่อคืนหมามันกวน ไม่ได้อ่านหนังสือเลย’





เมื่อเห็นสติ๊กเกอร์เจ้าหัวกลมร้องไห้ที่แสนจะเรียกตีนจากคีณ ณนนก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าอย่างไม่ต้องคิดมากนัก ไม่ใช่อะไรหรอก ก็ตอนนี้นีลเดินโซเซหัวฟูออกมาจากห้องสอบแล้วน่ะสิ แถมสีหน้าท่าทางยังเหมือนคนพึ่งผ่านการผจญภัยขั้นสุดมาจนคนมองแทบจะหลุดขำ





“ไอ้นนนนนนนน”





“ไงมึง สาธยายมา”





“ไอ้เชี่ยยยย มันดอกจิกมากอ่ะ คือไอ้ที่กูอ่านแบบเน้นมาดันออกช้อยอ่ะ แล้วที่ออกข้อเขียนกูไม่ได้อ่านซักตัว สิบคะแนนอ่ะมึง พัง แบบนี้กูพังยับแน่ ๆ กูจะต้องไปดรอป! ดรอป! ดรอปคือทางรอดของกู!” ...นี่ล่ะ นีลหลังสอบตัวจริงเสียงจริงล่ะ





“โอเคยัง”





“ไม่อ่ะ ครั้งนี้กูว่ากูตกมีนแน่ ๆ”





“จริง ๆ กูก็ทำไม่ได้นะ หลายคนที่ออกมาเขาก็บอกว่ามันยาก” ณนนเลิกคิ้วมองนีลที่แววตายังล่องลอยก่อนจะเดินนำนีลออกมาเพื่อลงมาที่หน้าคณะ ถ้าขืนยืนรอให้นีลสติครบถ้วนมีหวังคงได้เจอคีณอีกทีก็ตอนครบรอบห้าปีแน่ ๆ





“จริงป่ะ”





“เออจริง”





“งั้นกูสบายใจได้ใช่ม่ะ”





“อือ รีบเดินหน่อยมึง คีณรอกูนานแล้ว”





“โธ่ ผัวมารอก็ไม่บอก”





ป๊าป!! ไวกว่าความคิด ฝ่ามืออรหันต์ก็ประทับลงกลางกระหม่อมของหญิงสาวจนหน้าแทบทิ่ม ณนนใช้สายตาเหล่มองนีลแรง ๆ ก่อนจะจับที่ต้นแขนให้อีกฝ่ายเลิกส่งสายตาล้อ ๆ แล้วเดินตามมาซักที





“มึงนี่มัน…”





“ทำไมคะ หรือว่าคุณณนนจะเถียงเพื่อนว่าพี่คีณไม่ใช่จุดจุดจุดหรอคะ”





“นีลลลลล” นีลรับเม้มปากแน่นหุบประโยคต่อไปเข้าปากทันทีเมื่อณนนเริ่มส่งสายตาที่ดุขึ้นและง้างมือขวาขึ้นเหนือหัว จะว่าไปก็สนุกดีที่สามารถปั่นให้ณนนหัวร้อนได้ แถมไอ้อาการหัวร้อนที่มาจากการเขินอายเนี่ยมันยิ่งน่าล้อเสียยิ่งกว่าอะไร





“วันนี้วันครบรอบสี่ปีหรอ พี่คีณจะพาไปไหนอ่ะ” หญิงสาวเอ่ยพูดกับเพื่อนสนิทข้างตัวอีกครั้งเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือตอนที่รอลิฟต์ลงไปยังชั้นล่าง ฟีดข่าวเฟสบุ๊คเธอตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรเป็นประเด็นไปกว่าการประกาศตัวชัดเจนในวันครบรอบสี่ปี





“คงไม่ไปไหนวะ พ่อพี่คีณชวนไปกินข้าวที่บ้าน”





“เช็ดเข้!”





“นีล อุทานให้มันเป็นผู้หญิงหน่อยดิวะ”





“นี่มึงจะเข้าบ้านพี่คีณแล้วถูกม่ะ”





“ก็เปล่า พ่อเขาชวนหลายครั้งแล้วแต่กูไม่ได้ไปซักที”





“มึง…” หลังจากก้าวเข้ามาในลิฟต์ นีลก็เริ่มดึงชายเสื้อณนนพร้อมกับสีหน้ามุ่งมั่นแปลก ๆ ที่คนมองอดที่จะขมวดคิ้วสงสัยไม่ได้





“ว่า”





“ฝากกูเข้าไปเป็นนางเอกหน่อย… กูอยากผจญภัยหาสามีในโลกกว้าง”





“ตลก”





“ก็ดูดิ ของดี ๆ ก็เจอมึงคาบไปกินซะแล้ว นี่ถ้าไอ้เทมมีผัวเข้าอีกคนโลกกูไม่มืดมนอับแสงเลยหรอ”





“มึงก็น่ารักในแบบของมึงป่ะ เดี๋ยวก็มีคนหน้ามืดมาจีบมึงเองแหละ” ถึงคราวณนนฉีกยิ้มล้อนีลได้อย่างเต็มปาก เรียวขายาวก้าวออกจากลิฟท์แล้วรีบเดินผ่านโถงอาคารโดยไม่ได้รอให้เพื่อนที่ช่วงขาสั้นกว่าตามมาตบหัว ณนนมองหาใครบางคนที่ควรจะนั่งรออยู่ตรงม้าหินที่ประจำหน้าคณะ





ตู้ดดดด ตู้ดดดดด ณนนยกโทรศัพท์ขึ้นโทรหา แต่เสียงสัญญาณตอบรับซ้ำ ๆ ก็ยิ่งทำให้ชวนคิดว่าคีณหายไปไหนทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไลน์มาบอกว่าอยู่ที่หน้าคณะแล้วแท้ ๆ





‘อยู่ไหนอ่ะ นนลงมาแล้ว’





อีกฝ่ายกดอ่านแชทแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับมาอย่างใด ณนนหยุดยืนอยู่กับที่หันไปมองนีลที่เดินอืดอาดตามมาก่อนจะกดส่งสติ๊กเกอร์ไปตามคีณสองสามครั้ง





‘อยู่ไหนเนี่ย’





‘อยู่นี่’





‘ไหน’





ณนนหันมองรอบตัวอีกครั้ง แต่ในจังหวะที่หันกลับไปด้านหลังร่างกายของเขาก็ชะงักลง มือที่ถือโทรศัพท์อยู่เมื่อครู่ค่อย ๆ ลดลงข้างตัว ดวงตาคู่เดิมสั่นระริกเป็นประกาย ก่อนที่ท้ายที่สุดแล้วรอบยิ้มสดใสก็ออกมาทักทายคนทั้งโลก ที่อยู่ในสายตาณนนตอนนี้คือคีณพร้อมรอยยิ้มเขิน ๆ ที่หาดูไม่ได้บ่อยนัก และที่พิเศษกว่านั้นก็คงจะไม่พ้นกลุ่มลูกโป่งสีขาวช่อยักษ์ในมือ





“เล่นอะไรเนี่ย”





“ไม่ได้เล่นซักหน่อย” ณนนเริ่มเกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อเมื่อคีณเริ่มเดินเข้ามาใกล้ ๆ และก็ดูเหมือนว่าเขาทั้งคู่จะเป็นจุดสนใจเพิ่มมากขึ้นด้วย





“ไม่เล่นบ้าอะไร เล่นใหญ่ด้วย”





“ก็ไม่นะ” คีณยกยิ้มที่มุมปากขำ ๆ ทดแทนความเขินของตัวเองที่มีอยู่ไม่น้อย ก่อนจะยื่นช่อลูกโป่งออกไปตรงหน้า





“คือ…?”





“ฝากถือหน่อยดิ” ไม่พูดเปล่าคีณคว้ามือณนนขึ้นมาแล้วยัดริ้บบิ้นสีฟ้าที่ถูกมัดปมรวมกันไว้ในมือณนนทันที ณนนค่อย ๆ มองตามจากมือตัวเองขึ้นไปจนถึงตัวลูกโป่งสีขาวมุกที่รวมตัวกันมากกว่ายี่สิบใบด้านบน แต่ที่สะกดตาได้มากกว่าก็คงจะเป็นคนตรงหน้าที่ค่อย ๆ ทรุดตัวลงคุกเข่ากับพร้อมพร้อมลูกโป่งอีกหนึ่งลูกในมือ





“คีณ ลุกขึ้นเลยนะ จะทำอะไร” ไอร้อนขึ้นหน้าณนนจนใบหน้าแทบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาด จะไม่ให้เขินยังไงไหว ตั้งแต่คบกับมาคีณเคยทำอะไรที่มันรัชดาลัยเธียเตอร์แบบนี้บ่อย ๆ ซะที่ไหน แถมที่ผ่านมามันมีคนมุงดูขนาดนี้ที่ไหนกันล่ะ!





“จะขอแต่งงานมั้ง”





“ห่ะ!!”





“นน… จำได้มั้ย ที่โรงพยาบาลที่คีณบอกว่าจะขอจีบนนอีกครั้ง”





“จ...จำได้”





“แล้วนนก็บอกว่าจะใจอ่อนให้คีณด้วย” คีณคว้ามือซ้ายของณนนมาจับไว้หลวม ๆ





“ต...ตอนนั้นก็แค่พูดเล่นกันป่ะ”





“แต่คีณเอาจริงนี่นา…. จีบมาตั้งหลายเดือน ใจอ่อนแล้วรึยังครับ”





“เหอะ…” ณนนสบถสั้น ๆ ก่อนจะเอียงหน้ามองไปอีกทาง





“เหอะอะไร ยังไม่ใจอ่อนอีกหรอครับ”





“ใจอ่อนตั้งแต่วันแรกแล้วเถอะ” ถึงเสียงที่ตอบออกมามันจะเรียบเหลือทน แต่หัวใจด้านในของคนพูดมันกลับกลายเป็นสีชมพูพาสเทลและพร้อมที่จะเต้นจังหวะซุมบ้าทะลุออกมาได้ทุกเมื่อ





“ก็ดี…”





“ดีอะไรไม่ทราบ”





“เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคีณตลอดไปนะ… ไม่ได้จะจีบมาเป็นแฟน แต่จีบมาเป็นอีกครึ่งชีวิตของคีณ”





“........” ณนนถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินประโยคจริงจังและสีหน้ามุ่งมั่นอย่างไม่ทันตั้งตัว มือหนาเพิ่มแรงสัมผัสมากขึ้น ขณะที่ณนนเองก็ออกแรงบีบมืออีกฝ่ายกลับไปเช่นกัน





“นน… คีณขอจองไว้ก่อนนะ” คีณค่อย ๆ คลายมือที่จับกันไว้ออก ก่อนจะบรรจงผูกริ้บบิ้นลูกโป่งใบเดียวที่เหลือในมือที่ปลายนิ้วนางข้างซ้ายของคนที่หัวใจรักแทบจะเต้นจนหลุดออกจากอก เมื่อริ้บบิ้นถูกผูกมัดเป็นปมง่าย ๆ จนแน่นคีณก็ค่อย ๆ คลายมือออกให้แหวนทองคำขาวเกลี้ยงเกลาแสนธรรมดาที่กำเอาไว้ในมือค่อย ๆ ไหลไปตามเส้นริ้บบิ้นยาวจนถึงช่วงปลายนิ้วของคนถูกเซอร์ไพร์ส





แหวนวงนึงที่คีณตั้งใจสั่งทำขึ้นมาเพื่อวันวันนึงและเพื่อคนที่ยืนอยู่ในช่วงชีวิตเขามาตลอดสี่ปี





“.........”





“ไม่ตอบ แปลว่าตกลงนะครับ” คีณสวมแหวนเข้าที่เรียวนิ้วของณนนขณะที่เอาแต่มองหน้าอึ้ง ๆ ของเจ้าตัวตาไม่กระพริบ ความรักความจริงใจทั้งหมดที่มีมันถูกถ่ายทอดออกไปในทุกการกระทำตลอดเวลาที่คนสองคนคบกัน ส่วนแหวนวงนี้มันก็แค่เครื่องหมายที่คอยย้ำเตือนว่าวันนี้คีณสัญญาอะไรไว้เท่านั้น





“คีณ… คือว่า”





“คีณสัญญาจะดูแลนนอย่างดี จะไม่ทำให้นนเสียใจ จะรักนนไปแบบนี้เรื่อย ๆ เราสองคนจะมีวันพรุ่งนี้ไปด้วยกันนะครับ” คีณชันตัวยืนขึ้นสุดความสูง ฝ่ามือประครองกรอบหน้าณนนเอาไว้ ก้มจรดหน้าผากชิดจนได้ไออุ่นลมหายใจของกันและกัน





“ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ไม่เคยปล่อยมือกันเลย ขอบคุณที่อดทนกับความงี่เง่าของนนมาตลอด ขอบคุณที่รักคีณที่สุดเลย”





“รักที่สุดเหมือนกัน” ริมฝีปากของทั้งคู่ค่อย ๆ เคลื่อนเข้าชิดกัน รสความหวานจากสัมผัสที่เคลื่อนไหวเบา ๆ ทำให้เวลารอบตัวคล้ายจะหยุดหมุนไปชั่วขณะ คนที่ถูกประครองกรอบหน้าได้รูปเอาไว้เผลอปล่อยช่อลูกโป่งออกจากมือ ช่อลูกโป่งสีขาวลอยตามแรงลมขึ้นฟ้าไกลออกไปเรื่อย ๆ เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระ





“ไว้เก็บตังค์เองได้ซักก้อนจะไปขอนะ”





“ขอบ้าอะไรเล่า!”





“ก็ขอแต่งงานไง”





“เงินอะไรกัน แค่ลูกโป่งโง่ ๆ ลูกสองลูกก็แต่งแล้วเว้ย!”





อันที่จริงความรักของคนเราก็ไม่ต่างอะไรกับลูกโป่งพวกนั้น ที่มันจะเดินทางไปได้เรื่อย ๆ ก็ต่อเมื่อไม่มีเงื่อนไขใดเหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้หยุดอยู่ที่เดิม สำหรับคีณและณนนก็เช่นกันที่พวกเขาทั้งคู่พิสูจน์แล้วว่าอิสรภาพทางความรักมันทำให้เรื่องราวดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ





อย่ากลัวที่จะรัก

อย่ากลัวที่จะแสดงออก

อย่ากลัวที่จะเสียรักนั้นไป

แต่จงกลัว ‘ความลับ’ ที่จะขัง ‘ความรัก’ ของคุณ ไม่ว่าเหตุผลใด





แด่ทุกคน ที่มั่นใจในความรักมั่นคงของตนเอง









The end





.

.

.





“อีเหี้ย…. ธาตุอากาศที่แท้จริง” นีลพึมพำกับตัวเองเบา ๆ เมื่อสองขามันยึดแน่นติดกับพื้นขณะที่มองเห็นเหตุการณ์ม้าโพนี่ในทุ่งลาเวนเดอร์ตรงหน้า คีณอุ้มณนนขึ้นตัวลอยเหมือนโลกทั้งใบมีแค่เราสอง หญิงสาวโสดสนิทอ้าปากค้างทั้ง ๆ ที่มือขวาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายคลิปตามสัญชาตญาณความเสือก แต่เอาเถอะเพราะตอนนี้ทั้งคีณและณนนคงไม่ได้สนใจสายตาร้อยคู่ที่นี่ หรือสายตานับล้านคู่ที่ไหนทั้งนั้น เรื่องราวที่ต้องปิดเป็นความลับมันจบแล้ว…





“เสียเวลาแอ๊บปิดไว้เป็นปี ๆ ดีเว่อร์”





“นั่นดิวะ เปิดตั้งแต่แรกก็จบ”





“เออ… เชี่ย!!” นีลสะดุ้งเมื่อมีคนมายืนพึมพำอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเทมเพื่อนชายคนสนิทของเธออีกคนที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากหลุมไหนถึงได้มายืนทันเหตุทันการณ์อยู่ตรงนี้





“ตกใจอะไรเบอร์นั้น”





“มึงมาทำอะไรเนี่ย ไม่มีสอบไม่ใช่ไง”





“กูมาจัดการอะไรนิดหน่อย”





“อะไรวะ”





“เทม!” ดูเหมือนว่าเสียงที่สามจะเป็นคำตอบให้นีลได้อย่างดีชนิดที่เรียกว่างงเป็นไก่โดนต่อยตาแหกยิ่งกว่าเดิม เจ้าของเสียงนั่นเป็นผู้ชายหน้าทะเล้นที่มาพร้อมหัวเกรียนและช็อบวิศวะ





นั่นมัน….





“ซีซั่น…” นีลเอ่ยชื่อผู้มาเยือนในลำคอให้ได้ยินเพียงคนเดียว แต่แล้วตาตี่ ๆ ของเธอก็ต้องหมุนเป็นเลขแปดรอบทิศ





เชี่ย!! อากงเสีย!! อาม่าตาย!!

วินาทีที่แล้วซีซั่นวิ่งพุ่งเข้ามา…

เข้ามา…

โว้ยยยยย…





“อ….อ…ไอ้เทม….ไอ้ซีซั่นมันห….หอมแก้มมึง…!!”





“ไอ้เวร!!” ฝ่าเท้าอรหันต์ไวกว่าความคิดใด ๆ ซีซั่นหน้าทิ่มลงไปกับพื้นด้วยแรงอาฆาตขึ้นหน้าของเทม เจ้าตัวยกแขนเพื่อนอย่างนีลเช็ดหน้าตัวเองป่อย ๆ นี่ถ้าไม่เกรงใจคงจะถอดถุงเท้ามาเช็ดความสกปรกออกซะให้รู้แล้วรู้รอด





“อย่าด่าแรงสิครับแฟน”





“ใครแฟนมึง!”





สาบานได้ว่านีลกำลังทำตาโตที่สุดในชีวิต แถมสมองก็โล่งไปหมดเหตุเพราะคิดตามสิ่งที่เห็นและได้ยินไม่ทันแม้แต่น้อย หากมองตามองศานิ้วชี้ของไอ้ตัวที่นอนพงาบอยู่กับพื้นแล้วล่ะก็ มันพุ่งตรงมายังเทมอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้





งานนี้โลกของนีลคงได้มืดมนอับแสงสมใจ





“คนนี้… แฟนผม”





Coming soon





ไอ้บ้าแฟนผม เทม x ซีซั่น

.

.

Talk : ในที่สุดก็อัพจบจนได้ค่า ฝากแฟนผมคนไหนไว้กับคนอ่านอีกซักเรื่อง
และ ณ วันนี้เรื่องของ เทม x ซีซั่น เริ่มอัพแล้วที่ readawrite fictionlog และธัญวลัยค่ะ ฝากติดตามด้วยเน้อ ในเล้าเดี๋ยวจะอัพเดตเก็บตกในภายหลังเน้อ

ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบมาถึงจุดนี้ ทุกวิว ทุกเมนต์ เป็นกำลังใจดี ๆ สำหรับผู้เขียนเสมอค่ะ
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 30-03-2018 21:10:36
 :3123:ขอบคุนคนเขียนคร่า อ่านจุใจมากกกกก555
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 31-03-2018 01:19:20
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 31-03-2018 04:35:14
น่ารักมากเลย ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-03-2018 11:34:00
นี่ถ้านนไม่เกิดอุบัติเหตุจนได้เห็นคีณร้องไห้คุณพ่อจะยอมรับความรักของทั้งคู่ไหม
รออ่านเทม ซีซั่น เกลียดขี้หน้ากันยังไงไหงเป็นแฟนกันซะแล้ววววว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 31-03-2018 19:54:47
สนุกมากมายค่ะ ตอนแรกนึกว่าคุณพ่อจะดราม่าเยอะกว่านี้ซะอีก แต่แค่นี้ดีแล้วเนาะ
ขอบคุณสำหรับนิยายจ้า^^
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: naezapril ที่ 31-03-2018 23:13:31
ความเข้าใจกันนี่มันพลังร้ายแรงจริงๆ
คู่นี้น่ารักก ก ก 
ขอบคุณครับผม รอคู่ต่อไป
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-04-2018 17:05:21
สนุกดี  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: KittybabymApi ที่ 02-04-2018 14:11:17
ขอบคุณค่ะไร้ท์ได้อ่านนิยายสนุกๆจบไปอีกเรื่อง รอเรื่องใหม่เลย เทมซีซั่น ถ้าไร้ท์จะมีเมตตาก็มาลงตอนพิเศษให้อ่านบ้างนะคะ แหะแหะ รอคอยไร้ท์ที่แสนใจดีลงให้เนาะ :3123:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 02-04-2018 16:57:13
 :o8: :-[ น่ารักไปหมด
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 05-04-2018 13:43:18
ขอบคุณนิยายดีๆคนเขียนเขียนได้น่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 06-04-2018 02:11:21
ขอบคุณมากค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 06-04-2018 08:32:55
 :L2:


น่ารัก  ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-04-2018 14:40:31
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 06-04-2018 14:55:27
เหมือนคุณพ่อก็น่าจะยอมรับแต่แรกแล้วนะ แต่ด้วยความอยากสู้กับลูก ไม่ยอมกันเลย ณนนน่ารักมากๆ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 08-04-2018 12:24:37
ขอบคุณ​มาก​ค่ะ​ แต่งดี อ่านลื่นไหล สนุก
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 08-04-2018 16:19:03
จริงๆพล็อตเรื่องธรรมดานะ แต่!!!! ภาษาดีอ่ะ อ่านสนุก มีอะไรให้ติดตามตลอด.. o13
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-04-2018 11:23:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 11-04-2018 00:21:46
โอ้ยยยย ดีมาก
ภาษาดี บรรยายดี เข้าถึงความรุ้สึกอ่ะ
ตัวละครก็ดี ชัดเจน ณนนน่ารัก พี่คีนก็น่ารัก

เป็นอีกเรื่องเลยที่อ่านแล้วลื่นไหล ไม่สะดุด

เป็นกำลงัใจให้คนเขียนสร้างผลงานดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 13-04-2018 07:36:12
สนุกดีค่ะ เขียนดี
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: nijikii ที่ 14-04-2018 07:14:00
โอ้ยยยยยยยยยยยยย
เรื่องนี้คือดีเวอร์

ตอนแรกมโนไปแล้วว่าจะจบแบบ bad ending กลัวคีณจะฆ่าตัวตายบ้างล่ะ กลัวนนจะประสบอุบัติเหตุความจำเสื่อมงี้
กลัวพ่อสั่งให้เลิก
มโนไปทั้งที่ยังอ่านไม่จบ
5555555555

เนื้อเรื่องมันทำให้เราอินจนร้องไห้เลย
ความรักที่เป็นความลับ มันไม่มีความสุขจริงๆ
ดีที่ทั้งสองคนเข้าใจกัน
และจับมือกันไว้แต่ไม่ได้แน่นเกินไปจนมองไม่เห็นสิ่งต่างๆรอบตัว
มันดีที่สุดท้ายพ่อลูกเข้าใจกัน
และคีณณนนพร้อมที่จะเรียนรู้คำว่ารักไปด้วยกันอีกครั้ง

แต่เซอร์ไพรส์สุดคือเทมซีซัน รึซีซันเทม
ไปสปาร์กกันตอนไหนนนนนน
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: marsmarseiei ที่ 14-04-2018 12:35:51
ตอนคีณร้องไห้นี่จะร้องตามกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 14-04-2018 13:18:27
 o13 :pig4:  สนุกค่ะ   ขอตอนพิเศษบ้างสักนิดนะคะ
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-04-2018 23:15:59
ใจเต้นแรงมากกกเขินอะ
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 16 Post or Discard 27/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 16-04-2018 01:51:48
ไม่ใช่ว่าะอเห็นข่าวนี่แล้วทะเลาะกันใหญ่โต แถมม่าตามมาหรอกนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 19 เรือลำนี้แล่นเองได้ 29/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 16-04-2018 02:39:57
 :sad4: แง้ น้ำตาซึมตอนที่พ่อกับคีณกอดปลอบกัน
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 16-04-2018 03:07:04
 :m1: ตายแล้ววววว เทมกับกรมอุตุ 555555555

 ส่วนคู่หลักนั้นก็หวานแหววที่สุดเลย ฮือออ

ขอบคุณผู้แต่งมากนะคะ เรานึกว่าจะม่ามากมายสะอีก

แต่ดีแล้วล่ะค่ะ เพราะเราไม่ค่อยโอกับม่าเลย 
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 17-04-2018 11:34:54
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนและทุกคอมเมนต์มาก ๆ เลยค่ะ ขอแจ้งว่สตอรพิเศษที่ลงเว็บอื่นได้ติดเหรียญไว้ อาจจะนำมาลงในเล้าในอีกซักพักค่า ส่วนคู่เทม×ซีซั่น ถ้ามีเวลาว่างแล้วจะมาอัพในเล้าให้เท่าเว็บอื่นนะคะ ^6^
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 18-04-2018 07:32:58
น่ารักมาก จ้า
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: nizzarinz ที่ 21-04-2018 00:41:55
เพิ่งเข้ามาอ่านนนน วดเดียวจบเลย ชอบมากค่ะ น่าร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 19-05-2018 00:56:38
ดีกับใจมากกกกกกก

น้ำตาไหลเลยล่ะค่ะ ตอนที่ได้คุยกับพ่อแบบดีๆ แล้วก็เข้าใจกันในที่สุด

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: houkuto ที่ 20-05-2018 17:57:13
ชอบพี่คีณ คนขี้หึง กับ น้อง ณนน คนขี้ขี้งอน จังค่ะ :กอด1:
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่านนะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 02-06-2018 03:03:10
 :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L2: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Emmaline ที่ 02-07-2018 03:26:49
ลุ้นมากว่าจะลงเอยแบบไหน เหล้าพาขาดสติยั้งคิดจริงๆเลย เลิกเด็ดขาดไปเลยนะคิณ!!! ช่วงนนอยู่โรงบาลรัองไห้หนักมาก แต่ในที่สุดก็แฮปปี้  :mew1:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 03-07-2018 20:44:38
น้องนน น่ารักจัง ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 09-07-2018 05:22:43
เรื่องน่ารักดีค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 15-07-2018 16:05:12
หื้ยยยยย น่ารักได้อีก  :impress2:
ตอนนี้นีลน่าสงสารมาก โลกอันอับแสง 555555
รออ่าน เทม+ซีซั่นเด้ออออ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END จบแล้วค่าาาา 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 22-08-2018 17:51:21
 :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ? ❤ แฟนผม...คนไหน | ตอนที่ 27 อิสรภาพ END [สนพ. Mee-D] 30/3/2561
เริ่มหัวข้อโดย: be-silent ที่ 18-10-2018 21:46:02
แจ้งข่าวตีพิมพ์กับ Mee-d Publishing

(https://www.picz.in.th/images/2018/10/18/kpe2nR.jpg)

วางจำหน่ายครั้งแรกที่ งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ หนังสือเข้างาน 23 ตุลาคม 2561


ภาพปก : Ding Dong
ราคา : 210 บาท ลด 10% เหลือ 189 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ

https://www.facebook.com/MeedeesContents/

เว็บไซต์สยามอินเตอร์ https://bit.ly/2P3NX6t
ฝากเปย์ พี่คีณ x ณนน ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | END [สนพ. Mee-D] แจ้งข่าวงานหนังสือ 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 18-10-2018 21:55:24
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 22-10-2018 20:40:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-05-2019 08:50:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 30-06-2019 08:44:07
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: น่ารักค่ะ ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 28-03-2020 09:02:37
น่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Sillyfoolstupid ที่ 28-03-2020 18:49:08
จากที่เคยสนใจคนรอบข้างมากจนเกินไป กลายเป็นไม่สนใครไปเลยจ้า พลังเรือดำน้ำจากกองทัพไทย ว้ายยย ไม่ได้เหรอ
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 29-03-2020 17:37:05
ขอบคุณค่ะสำหรับนิยายดีๆ  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: Gimlongdeep ที่ 29-03-2020 23:28:34
แง้ๆๆๆๆ อ่านแล้วน่ารักมากเลยค่ะ ทุกตัวละครเลยยย ปรบมือให้คนเขียน เขียนดีมากๆๆค่ะ ภาษาสวย
ชอบเนื้อเรื่องและตัวละครมากกกกกก ปรบมือให้พระเอกค่ะในความคีพความเท่ของพี่เขา ส่วนเราเป็นกำหลังใจให้นีลนะ5555555
 :katai4: เป็นกำลังใจให้นีกเขียนครับบผม
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 14-04-2020 14:23:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Who is he ❤ แฟนผมคนไหน? | แจ้งข่าวหน้า 3 18/10/61
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 29-09-2020 08:19:22
อ่านรวดเดียวจบเป็นติดงอมแงมเลยยยย

 :L2: :L2: :pig4: :L2: :L2: