Re: บุพเพอาละวาด (อิสตรีฤาจะมีดีเท่าตุ้ด) ตอนที่ 21-23 4/6/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: บุพเพอาละวาด (อิสตรีฤาจะมีดีเท่าตุ้ด) ตอนที่ 21-23 4/6/62  (อ่าน 7293 ครั้ง)

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
ชอบๆ
อยากอ่านต่อจังคะ
รอๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 




                                             ตอนที่ 12
                                        ไหของรักของข้า
ไหทำจากดินเหนียวแกะสลักลายไทยอ่อนช้อยถูกนำมาตั้งเอาไว้หน้าประตูหอนอน
 ผู้ที่เดินนำบ่าวทั้งคู่ถลาเข้าไปหยิบไหขึ้นมากอดเอาไว้ ราวกับมันเป็นของรักของหวง

“ไหของข้า ของรักของข้า”
วันพุธพลันคิดไปถึงตัวละครตัวหนึ่งจากภาพยนตร์มหากาพย์ฟอร์มยักษ์ที่เขาชื่นชอบ
เขาแนบแก้มลงไปที่เนื้อไหเย็บเฉียบ พลางหลับตาพริ้ม

“ของรักของข้า”เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง
 เมื่อจินตนาการถึงใบหน้างามของแม่หญิงพุดซ้อนค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าของกอลลัมนุ่งห่มสไบสีสันสดใส

“แม่หญิงเจ้าขา”บ่าวทั้งสองนั่งลงด้านข้าง
ถึงจะเริ่มคุ้นชินกับความวิปลาสของผู้เป็นนาย แต่ก็ยังอดประหลาดใจในถ้อยคำและท่าทีที่นายสาวแสดงออกมาไม่ได้

“พี่แกลบ พี่น้อย ขอบใจมากนะจ๊ะที่อุตสาห์ไปหาไหมาให้ฉันจนได้”

“บ่าวมิรู้ความดอกเจ้าค่ะ”อีแกลบปฏิเสธ

“บ่าวเยี่ยงกันเจ้าค่ะ”อีน้อยรีบพูดตาม

“อ้าว แล้วกัน แล้วไหมันจากไหนล่ะพี่”คราวนี้ผู้ที่กอดไหเอาไว้วางมันลงในทันที

“หรือว่ามันจะลอยมาเอง”ดวงตากลมใสจ้องอีน้อยกับอีแกลบเขม็ง

“ไหลอยได้ดอกฤาแม่หญิง”

“ก็ไหผีสิงไงพี่”คราวนี้พยายามกรอกลูกตาไปมาพร้อมพูดเสียงยานคาง

“ไหผีหรือเจ้าคะ”สองบ่าวขยับร่างห่างออกไป ความกลัวเอ่อล้นทะลักเข้ามา

“ข้าจะเอาเจ้าสองคนมาอยู่ในไหกับข้า”วันพุธยื่นไหใบนั้นเข้าไปใกล้อีน้อย อีแกลบ
อีบ่าวทั้งสองหวีดเสียงขึ้นมาด้วยความกลัว แล้วจึงวิ่งไปรอบพาลัยหน้าหอนอน
โดยมีร่างระหงของแม่หญิงพุดซ้อนถือไหวิ่งตาม
 ช่างเป็นภาพที่แสนจะโกลาหลยิ่งนัก



ผู้ที่ยืนแอบสังเกตการณ์อยู่ คลี่ยิ้มกว้าง ดวงตากลมโตบนใบหน้าสีแทนฉายแววเอ็นดูออกมาชัดเจน
 หมื่นเทิดรู้สึกยินดียิ่งนัก แม่หญิงวิปลาสผู้นั้นชื่นชอบไหที่เขาแอบจัดหามาตั้งเอาไว้ให้
 เขาอยากจะบอกนางเหลือเกิน เขาคือเจ้าของใบนั้น หากแต่ถ้าทำอันใดชัดเจนเกินไป
มันคงจะไม่สมควรนัก เพราะถึงอย่างไรนางก็ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมายของขุนเพลิง ผู้เป็นพี่ชายของเขา





แม่หญิงจำแลงนั่งอยู่บนเตียงตั่งบริเวณหน้าโรงครัว ข้างกายของแม่หญิงพุดซ้อนคือวัตถุดิบในการทำอาหารประจำชาติ
ที่ซึ่งเป็นอาหารที่วันพุธโปรดปานมากที่สุดในปฐพีนี้ อาหารง่ายๆที่ประกอบไปด้วยปลา เกลือ และข้าวสารคั่วโขลกแหลก
หรือที่คนสมัยใหม่ เรียกข้าวคั่ว นั่นแหละ


อีบัวชะเง้อคอมองผ่านกลุ่มพวกบ่าวที่มาออกันเต็ม รายล้อมอยู่รอบเตียงตั่งที่ซึ่งมีหญิงงามกำลังทำทีชมดชม้อย
 จับโน่นทีจับนั่นที ริมฝีปากบางก็สาธยายความให้พวกบ่าวที่เฝ้าชมได้หัวเราะครื้นเครงกันเป็นระยะ
หญิงสาวผู้ที่หัวใจมีเพียงความริษยายิ้มเย้ยหยัน หล่อนจะต้องนำความนี้ไปแจ้งแก่คุณหญิงพร้อม
 การที่แม่หญิงพุดซ้อนลงมาเล่นหัวกับพวกบ่าวทั้งชายหญิงเยี่ยงนี้ มันช่างเป็นการมิบังควรยิ่งนัก
 ครานี้เถิดหนาคุณหญิงพร้อมจะต้องลงหวายแม่หญิงพุดซ้อน
แค่เพียงภาพความนึกคิด อีบัวก็อิ่มเอมในหัวใจขึ้นมาจนล้นพ้น





“ไม่ได้นะจ๊ะ ทำแบบนั้นเดี๋ยวปลาช้ำหมด ปลาช้ำไม่เหมือนคนช้ำนะคะ
เพราะคนช้ำเดี๋ยวพอมี*หลัวใหม่ก็หายช้ำ แต่ปลาช้ำเน่าลูกเดียวรู้ไหมจ๊ะ พี่แกลบ พี่น้อย”
วันพุธอธิบาย พร้อมดึงปลาแล้วลงมือขอดเกล็ดและควักเครื่องในไส้ควักขี้ออก
 เพื่อเป็นตัวอย่างให้บ่าวคู่ใจได้เห็นขั้นตอนการทำที่ถูกต้อง

“มันต้องแบบนี้ ทำได้ไหม ถ้าทำได้และเข้าแล้วก็ Go ลงมือได้เลย”

“โกเจ้าคะ”อีน้อยยิ้มกว้าง อีแกลบหัวเราะคิกอย่างถูกอกถูกใจ

วันพุธง่วนอยู่กับงานตรงหน้าจนไม่ทันได้สังเกตกลุ่มบ่าวที่แหวกกันออกเป็นทางยาว ราวกับทะเลแหวกของโมเสด

“แม่พุดซ้อนนั่นออเจ้ากำลังทำอันใดฤา”เสียงทรงอำนาจของคุณหญิงพร้อมกล่าวขึ้น
ดวงหน้างามเงยขึ้นไปจับจ้อง
ตายแล้ว อีพุด งานเข้ามึงอีกแล้วไหม
 ชายหนุ่มแสยะยิ้มเก้อเขินเพราะสมองเกิดแบงค์ขึ้นมา

“คุณหญิงถามมิได้ยินดอกฤา”อีบัวแทรกเสียง เมื่อคุณหญิงพร้อมจ้องมองหล่อนจึงถอยร่างหลบไป

“คุณป้าไม่รู้จักปลาร้าหรือเจ้าคะ”

“กิริยาทราม ข้าเป็นผู้ใหญ่ออเจ้าจักย้อนคำข้าได้ฤา”ผู้พูดดูจริงจังจนวันพุธหน้าเสีย

“ขอโทษค่ะคุณป้า ข้าแค่จะบอกคุณป้าว่า ข้ากำลังทำปลาร้า”

“ทำปลาร้า”ผู้สูงวัยทวนคำ

“คืออันใด”กล่าวจบก็นั่งลงที่เตียงตั่งใกล้แม่หญิงพุดซ้อน ช้อนสายตามองมาด้วยความสนใจ
คุณป้าไม่รู้จักปลาร้า แล้วปลาร้ามันเกิดขึ้นครั้งแรกสมัยไหนหว่าไอ้พุด วันพุธถามตัวเอง

“ปลาร้าก็คือการเอาปลามาหมักกับเกลือและข้าวคั่วแล้วเก็บไว้รับประทาน คุณป้ารู้ไหมเจ้าคะว่าเมนูส้มตำปลาร้าแซ่บเวอร์
 เรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติถึงขั้นเป็นเมนูโกอินเตอร์เลยนะเจ้าคะ”

“พูดจาหารู้ความไม่”ผู้ฟังอ่อนใจ

“เอาปลาที่ควักไส้ที่ล้างสะอาดแล้ว เคล้ากับเกลือและข้าวคั่วแล้วยัดลงไปในไหแบบนี้นะเจ้าคะ”
วันพุธอธิบายต่อ โดยที่ไม่ได้สนใจว่าผู้ฟังจะเข้าใจไหม

“ดองปลาดอกฤา”คุณหญิงพร้อมเริ่มจะเข้าใจ

“จะเรียกว่าปลาดองก็คงไม่ผิดเจ้าคะ”ดวงหน้ารียาวของแม่หญิงพุดซ้อนคลี่ยิ้มกว้าง

“ให้ข้าลองชิมได้หรือไม่เล่า”ผู้อาวุโสรู้สึกเอ็นดูขึ้นมา ด้วยเห็นการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความพยายาม

“ต้องรออีกหนึ่งปี ถึงจะกินได้ค่ะคุณป้า”วันพุธในร่างงามร้องห้ามเสียงหลง
 เมื่ออีกฝ่ายหยิบชิ้นปลาที่คลุกเคล้าแล้วหมายจะเอาเข้าปาก

“เอาเถิด ข้าจักคอย ข้าเองก็ใคร่รู้ยิ่งนัก ออเจ้าจักมีฝีมือสักเพียงไหนกัน
 อีแกลบอีน้อยดูแลนายของมึงให้ดี อย่าให้ทำอันใดพิเรนท์ไปมากว่าที่เป็น”คุณหญิงลุกขึ้นแล้วเดินกลับขึ้นเรือนไป

วันพุธหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ปลาร้าช่วยชีวิตแท้ๆ

เขาพยักหน้าให้อีบ่าวทั้งสองเอาปลาร้ายัดลงไปในไหจนเต็ม แล้วจึงทำการปิดฝาเอาไว้อย่างมิดชิด
ปลาร้าของข้าหมักได้ที่เมื่อใด ปลาร้าแม่พุดจะดังไกลทั่วทั้งอยุธยา
 รับรองว่าไม่ใช่แค่คุณป้าเท่านั้นที่จะต้องมาขอร้องให้อีพุดทำปลาร้าให้กินอีกไหแล้วไหเล่า
 แต่คนทั้งพระนครต้องเลื่องลือ จนอีพุดกลายเป็นตำนานไปในที่สุด

ปลาร้าแม่พุดแม่เอ้ย ไม่ว่าจะทำ ต้ม ยำ ทำ แกง  ถ้าได้ใส่ปลาร้าแม่พุด รับประกันความแซ่บเวอร์ค่าคุณ


อีบัวกัดกรามแน่น เมื่อทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่หล่อนคาดหวังเอาไว้
ไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็ไม่มีวันยอมแพ้แม่หญิงพุดซ้อนเด็ดขาด
 หล่อนจะต้องทำทุกวิถีทางให้แม่หญิงพุดซ้อนถูกโบยให้จงได้

ภาษากะเทยวันละคำ
หลัว = ผัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2018 16:50:44 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
หลี = ไม่ขอแปลนะคะไม่สุภาพ   :laugh:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
กว่าจะได้กิน ล่อเป็นปี ทำปลาแดดเดียวก่อนไม่ได้หรอ  o18

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
                                 ตอนที่ 13
                              แหวนแทนใจ
เวลาผันเปลี่ยนไปตามฤดูกาล จากวันสู่เดือน ก่อนเคลื่อนไปสู่ปี ถึงแม้วันพุธจะคิดถึงบ้านที่เขาจากมามากเพียงไร แต่ความสุขจากผู้คนที่รายล้อมแม่หญิงพุดซ้อนอยู่ในห้วงเวลานี้ ก็ทำให้เขามีความสุขมากมาย ผู้คนที่มากด้วยน้ำจิตน้ำใจ ไร้ซึ่งหน้ากากที่สวมใส่เช่นสังคมสมัยใหม่ ถ้าหากเขาไม่คิดถึงคุณยายและผู้เป็นมารดา เขาคงอยากจะใช้ชีวิตอยู่ในร่างของแม่หญิงพุดซ้อนมากกว่าที่จะกลับไปเป็นอีวันพุธตุ้ดร่างยักษ์
“แม่หญิงเจ้าขา”อีแกลบเรียกขานทำให้ผู้ที่กำลังยืนเหม่อสะดุ้ง
“แหวนที่แม่หญิงสั่งเรียบร้อยแล้วเจ้าคะ”อีน้อยเสริมทัพขึ้น วันพุธยื่นมือไปรับแหวนทองคำจากช่างทองร่างสูงตรงหน้า แหวนวงนั้นถูกทำขึ้นมาด้วยฝีมือละเอียด แกะสลักลวดลายงดงามแบบไร้ซึ่งรอยต่อ หน้าเรียบ ขอบตรง เนื้อทองถูกขัดจนสุกเปล่ง หากแต่มันเป็นแหวนที่เหมาะสำหรับผู้ชายมากกว่าที่จะใช้สวมลงไปในนิ้วสวยของแม่หญิงพุดซ้อน
“แม่หญิงจักเอาแหวนวงนี้ไปทำอันใดฤาเจ้าคะ”อีแกลบสาระแนถาม หากแต่ผู้เป็นนายไม่ได้ตอบ เขาเดินนำสองบ่าวออกไปจากโรงทำทอง ใบหน้างามเปื้อนยิ้มระยับ ดวงตาเป็นประกายฉายแววแห่งความสุขออกมาอย่างโจ่งแจ้ง

บริเวณเรือนหลังใหญ่ของออกยาพัชระช่างคึกครื้นผิดแปลกไปจากเดิม ผู้คนทั้งหญิงชายแต่งกายชุดไทยเต็มยศเดินกันให้ขวักไขว่ไปหมด วันพุธเดินอ้อมมายังโรงครัวที่บรรดาบ่าวกำลังวุ่นวายจัดเตรียมอาหาร
“แม่หญิงเจ้าขา ขึ้นเรือนไปผลัดผ้าเถิดเจ้าค่ะ”สองบ่าววิ่งแกลมเดินตามหลังมา
“ไหฉันอยู่ไหนพี่น้อย พี่แกลบ”บ่าวผู้ภักดีไถลร่างเข้าไปอุ้มไหที่บรรจุปลาร้าเอาไว้ออกมาวางตรงหน้า วันพุธยิ้มได้เวลาที่เขาจะแสดงให้คนเห็นว่าปลาร้าฝีมือเขาอร่อยมากที่สุดในปฐพีแล้วซินะ
พวกบ่าวที่กำลังง่วนอยู่กับงานหยุดมือ มุ่งเข้ามาล้อมวงล้อมไหปลาร้า
“จะเปิดไหฤาแม่หญิง”อีน้อยถาม อีบัวที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ทำตาโต ก่อนจะรีบลนลานขึ้นไปบนเรือน
“มีอะไรฤาอีบัว หน้าตื่นมาเชียวนะเอ็ง”อีใบว่า อีบัวยื่นหน้าไปกระซิบกระซาบ ก่อนที่อีใบจะเข้าไปกระซิบบอกคุณหญิงพร้อมที่กำลังยื่นฟังออกยาเสวนาราชการอยู่

“เปิดไหปลาร้าของออเจ้าแล้วฤา”เสียงคุณหญิงพร้อมดังขึ้น พวกบ่าวที่ยืนหน้าสลอนอยู่จึงรีบนั่งคุกเข้าลงไป
“เจ้าคะ คุณป้า”วันพุธจ้องอีบัวที่เดินลอยหน้าลอยตาตามหลังอีใบมา แม้!!คาบข่าวไปบอกเจ้านายได้เร็วเสียจริงนะนังชะนี แบบนี้มันน่าจะเอาปลาร้าราดหัวนัก
“ข้าฤาก็อยากรู้ความนัก ว่าปลาร้าของออเจ้าจักเป็นเยี่ยงไร”ผู้สูงด้วยอำนาจพยักหน้าให้แม่หญิงพุดซ้อนเปิดไหปลาร้า เพื่อจะพิสูจน์อาหารที่ผู้ลงมือทำคุยนักหนาว่า โคตะระแซ่บ
“เปิดไหได้เลยจ๊ะพี่แกลบ”
อีแกลบทำตามคำสั่ง ดึงฝาไหให้เปิดออกมา กลิ่นเหม็นของปลาร้าโชยคลุ้งไปทั่ว ที่ปากไหมีหนอนตัวใหญ่ไต่ออกมาทักทาย แม่หญิงพุดซ้อนสูดลมหายใจ หอมกลิ่นปลาร้าและข้าวคั่วจนรู้สึกน้ำลายสอ
หากแต่ผู้คนที่รายล้อมอยู่ต่างเบือนหน้าหนี บ้างก็ยกมือขึ้นปิดจมูก บ้างก็โก่งคออาเจียนออกมา
“ปลาเน่าจนหนอนขึ้นเยี่ยงนี้จะกินเข้าไปได้ฤา”อีบัวว่าพร้อมโก่งคออาเจียนออกมา
“ปลาร้าที่ดีต้องมีหนอน”ผู้เป็นเจ้าของปลาร้าไหนั้นยังแสดงความภาคภูมิใจ
คุณหญิงพร้อมส่ายหน้า รู้สึกผิดหวังในตัวของแม่หญิงพุดซ้อน
“เอาปลาเน่าของออเจ้าไปทิ้งเสีย อีน้อยอีแกลบดูแลนายของพวกเอ็ง อย่าให้ทำเรื่องอับอายอันใดอีก ข้ามิอยากให้วันมงคลของลูกชายข้าต้องมามัวหม่นด้วยความพิเรนท์ของนายของพวกเอ็ง”หญิงสูงวัยชายหางตามองแม่หญิงพุดซ้อนแวบหนึ่ง
“ข้าจะขึ้นเรือนแล้ว อีใบ” อีใบตามไปรับใช้ผู้เป็นนายทันที ส่วนอีบัวหันมายิ้มเยาะแม่หญิงพุดซ้อนด้วยความสาแก่ใจ
“รีบเอาปลาเน่าของนายพวกมึงไปทิ้งให้พ้นเรือนเสียเล่าอีน้อย อีแกลบ”
“ขอให้ได้ลองชิมก่อนเถอะ รับรองจะเปลี่ยนใจแทบไม่ทัน”วันพุธพึมพำ ไม่อยากจะใส่ใจคำพูดถากถางของอีบัว
“พี่แกลบ จกปลาร้าออกมาจากไห”
“จก ออกมา อันใดฤาเจ้าคะ”อีแกลบที่ยืนเอามืออุดจมูกตัวเองอยู่พูดอู้อี้
“ล้วงปลาร้าออกมาจากไหให้หมด”
“ล้วงปลาเน่าออกมาจากไห”คนฟังทวนคำ
“ใช่”วันพุธเริ่มโมโหนิดหน่อยที่เห็นท่าทางของบ่าวทั้งสองที่กำลังแสดงความรังเกียจปลาร้าอยู่เช่นเดียวกัน
“ไยมิเอาไปทิ้งเสียทั้งไหเล่าเจ้าคะ”อีน้อยให้ความเห็น
“ใครบอกฉันจะทิ้ง พี่แกลบล้วงปลาร้าออกมาจากไหให้หมด ส่วนพี่น้อยไปเตรียมของให้ฉันที ฉันจะทำให้ทุกคนรู้ว่าปลาร้าของแม่หญิงพุดซ้อนมันรสชาติอร่อยที่สุดในโลก”

อาหารคาวหวานถูกลำเลียงขึ้นมาบนเรือน เพื่อจัดเลี้ยงแขกเหรื่อที่มาร่วมงานครบรอบวันเกิดของหมื่นเทิดเทศาบุตรชายคนเล็กของออกยาพัชระและคุณหญิงพร้อม
และหนึ่งในนั้นคืออาหารแปลกตา ที่สรรสร้างขึ้นมาด้วยฝีมือของแม่หญิงพุดซ้อน ร่างบางขึ้นเรือนมาทั้งที่เหงื่อโทรมกาย หล่อนรีบกรีดกรายเข้าไปนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของวันเกิด
“ส้มตำปลาร้า ฉันทำให้คุณหมื่นกินเป็นของขวัญวันเกิด”
“ส้มตำ”หมื่นเทิดเทศายื่นหน้าเข้ามามอง
“ทำจาก มะละกอ มะเขือเทศ และปลาร้าค่ะ”คนทำภาคภูมิใจนัก
“กลิ่นช่างเหม็นเหลือทน”ขุนเพลิงยกมือขึ้นอุดจมูก
“ก็ปลาเน่าจนหนอนขึ้น จะไม่เหม็นเยี่ยงไร”อีบัวเสริม แต่เมื่อถูกคุณหญิงพร้อมตำหนิด้วยสายตา หล่อนจึงลดตัวลงไป
“แน่แก่ใจฤาแม่พุดซ้อน ว่ากินได้”เจ้าของวันเกิดดึงจานส้มตำปลาร้าขึ้นมาดม
“จะว่าเหม็นก็เหม็นแต่จะว่าหอมก็ไม่ผิด”เขาว่าต่อ
“หอมสิเจ้าคะ ลองเลย รับรองแซ่บอีหลี”คุณหญิงพร้อมถอนหายใจ ในขณะที่ออกยาพัชระอมยิ้ม หมื่นเทิดตักส้มตำปลาร้าใส่ปาก เขาเบิกตากว้างเมื่อลิ้นสัมผัสรสชาติกลมกล่อมของส้มตำปลาร้า ที่ซึ่งมีทั้งรสเผ็ด เค็ม และเปรี้ยว
“แบบนี่สินะที่ออเจ้าเรียกว่า แสบ”เขาหันมายิ้มกว้างให้แม่หญิงพุดซ้อน
“ขอบน้ำใจออเจ้านัก”
“แสบหรือพ่อเทิด”คุณหญิงพร้อมยื่นหน้ามาถาม
“แซ่บ เจ้าค่ะ”วันพุธหยิบจานส้มตำปลาร้าอีกจาน ส่งให้แก่คุณหญิงพร้อม เขามั่นใจนักหนาว่าฝีมือตำส้มตำของเขาไม่เคยเป็นสองรองใคร
คุณหญิงพร้อมรับไปลองชิม พลางชักสีหน้า
“ข้าไม่อยากจะเชื่อ ว่ารสชาติปลาเน่าของออเจ้าจะอร่อยลิ้นถึงเพียงนี้”คนฟังหน้าบาน เมื่อเห็นแขกเหรื่อเริ่มลงมือชิมส้มตำปลาร้าตามคุณหญิง
“ขออีกจานได้หรือไหมเล่า”หมื่นเทิดถามด้วยรอยยิ้ม มีเพียงขุนเพลิงที่ยังลังเลที่จะลองชิมอาหารแปลกตาตรงหน้า
“ยังมีอีกเยอะเจ้าค่ะ”อีแกลบสอดขึ้นมา อีน้อยจึงตบต้นแขนตักเตือน
“ข้าขอด้วย”คุณหญิงพร้อมว่า วันพุธหันไปเบ้ปากให้อีบัว ที่กำลังหน้าคว่ำ
เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับอีพุด เจ้าแม่สากทองสองสมัย เรื่องดุ้นๆแบบนี้ อุ๋ยไม่ใช่สิ เรื่องใช้สาก อีพุดชนะเลิศอยู่แล้ว


วันพุธมองตัวเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่ แม่หญิงพุดซ้อนงดงามเหนือคำบรรยาย หากแต่ทำไมเขายังรู้สึกประหม่า เขามองวัตถุในมือ วัตถุที่เขาตั้งใจจะนำไปมอบให้หมื่นเทิดเทศาเป็นของขวัญวันเกิด เขาค่อยๆพาร่างงามของแม่หญิงพุดซ้อนก้าวผ่านธรณีประตูลงปลายเท้าเบาดุจแมวย่องด้วยกลัวบ่าวคนสนิททั้งสองที่กำลังหลับอยู่หน้าหอนอนจะตื่นขึ้นมา เขาอยากจะไปคนเดียวมากกว่าที่จะมีผู้ติดตามไม่ห่างกาย
เรือนออกยาพัชระเงียบลงแล้ว เพราะแขกเหรื่อเริ่มทยอยกลับจนใกล้หมด คุณหญิงพร้อม และออกยาท่านก็ขึ้นเรือนไปแล้ว มีเพียงขุนเพลิงกับหมื่นเทิดเท่านั้นที่ยังยืนส่งแขกอยู่ เมื่อขุนเพลิงเดินเลี่ยงออกไป วันพุธจึงย่องเข้ามายืนด้านหลังร่างกำยำของเจ้าของวันเกิด
เขากระแอมเบาๆ ดวงหน้าคมสันจึงหันกลับมามอง
“แม่หญิงพุดซ้อน”ฝ่ายชายทำตาโต
“น้ำค้างตกแล้ว ออเจ้าลงมาทำอันใดกัน”คนฟังเงยหน้าขึ้นมอง จ้องไปทั่วบริเวณ
“ไม่เห็นมีน้ำค้างสักหยด”พร้อมพึมพำในลำคอ
“ข้าหมายถึง มันดึกโขแล้ว ออเจ้าย่องลงจากหอนอนมาตามลำพังเยี่ยงนี้ มันมิ.....”
“มิบังควร”เสียงแหลมสอดขึ้นมา พลางถอนหายใจอย่างรำคาญ
ทำไมวะ ทำอะไรก็ไม่บังควรไปทุกอย่าง
“ออเจ้ารู้ความ ก็ดีแล้ว กลับขึ้นเรือนไปเสียเถิด หญิงชายมิควรอยู่กันลำพังยามน้ำค้างตก”
“ฉันแค่จะเอาของขวัญวัดเกิดมาให้คุณหมื่น”ว่าพร้อมยื่นถุงผ้าขนาดเล็กทำจากกำมะหยี่สีแดงสดให้
“อันใดฤา”
“รับไปเปิดดูก็รู้เองแหละน่า”พวงแก้มขาวเข้มขึ้น เมื่อมือแข็งแรงยื่นมารับถุงผ้ากำมะหยี่
“Happy Brith Day นะ”พูดจบก็ผละเดินออกมา ทิ้งให้อีกฝ่ายยืนอมยิ้มอยู่ตามลำพัง
“ขอบน้ำใจเจ้านัก แม่พุดซ้อน”หมื่นเทิดเทศารำพัน พลางเทสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในถุงกำมะหยี่สีแดงออกมา แหวนทองคำแกะสลักลวดลายงดงามแบบไร้ซึ่งรอยต่อ หน้าเรียบ ขอบตรง เนื้อทองถูกขัดเงาวับ ชายหนุ่มยิ้มกว้างหัวใจชุ่มชื่นราวได้น้ำทิพย์มาชโลม ถ้อยคำและดวงหน้าของแม่หญิงพุดซ้อนลอยเด่นขึ้นมา ความสุขใจทั้งหมดทำให้เขาลืมสิ้นว่าหล่อนเป็นคู่หมายของขุนเพลิงผู้เป็นพี่ชาย  เขาสวมลงไปในนิ้วนางมันหลวมเล็กน้อย หากเมื่อครุ่นคิดว่าคงไม่สมควรนักเขาจึงเปลี่ยนมันมาสวมที่นิ้วกลางแทน ไม่ว่าเขาจะสวมแหวนไว้ที่นิ้วไหนมันก็หาสำคัญไม่ เพราะแหวนวงนี้จะเป็นแหวนแทนใจที่แม่หญิงพุดซ้อนมอบให้แก่เขา และแหวนวงนี้จะเป็นของขวัญที่มีคุณค่าต่อจิตใจของเขาตลอดไป

ขุนเพลิงถอยออกมาจากพาลัย หลังยืนมองชายหนุ่มและหญิงสาวมอบแหวนแทนใจให้กัน หัวใจของเขาร้อนรุ่มราวกับถูกไฟไหม้ ชายหนุ่มกำมือแน่นแววตาที่เคยอาทรผุดความชิงชังขึ้นมาแทนที่

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
         ตอนที่ 14
                       ต๊าย ตาย ผู้ชายจะเยตุ้ด
แสงจันทร์ทอแสงนวลผ่องสาดเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดอ้าเอาไว้ ฉาบใบหน้าเปื้อนยิ้มของอิสตรีผู้เลอโฉม ดวงตาของเจ้าหล่อนวาวระยับฉายแววแห่งความสุขใจออกมาชัดเจน บ่อยครั้งที่หล่อนดึงชายผ้าห่มขึ้นมากัดเบาๆ พร้อมทุบมือลงไปที่เตียงนอนแสดงจริตขวยเขินออกมาจนเกินหญิง
“บ้า ๆ ๆ ผู้ชายบ้าอะไร น่ารักชะมัด”สองแก้มแดงจัดขึ้นอีก เมื่อรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้าคมสันผุดขึ้นมาในมโนจิต จู่ๆใบหน้าขาวจัดของชายหนุ่มอีกคนก็แวบขึ้นมาเคียงคู่กัน
“จะรักน้องก็เสียดายพี่ จะเอาพี่ก็เสียดายน้อง สวยเลือกได้จริงๆนะหล่อนอีพุด”วันพุธนอนสะบัดสะดิ้งไปมา ลืมไปเสียสิ้นว่าตัวเองเป็นแค่กะเทยอ้วนหาใช่แม่หญิงพุดซ้อนคนงามไม่
เสียงดังแกรกกรากดังขึ้นที่หน้าต่างดึงชายอ้วนในร่างหญิงงามให้ออกมาจากมโนอันสวยหรู ร่างงามลุกขึ้นนั่งมองออกไปทางหน้าต่าง จู่ๆเขาก็คิดถึงหนังสยองขวัญที่มีผีปืนขึ้นมาทางหน้าต่าง ตายล่ะว้า จะเรียกอีสองบ่าวก็ดึกมากโขแล้ว ขืนไม่มีอะไรก็เสียหน้าแย่ วันพุธจึงตัดสินใจดึงผ้าห่มมาคุมโปงเอาไว้แทน
“หรือว่าจะเป็นขโมย”เขาถามตัวเอง แต่จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเรือนของออกยาพัชระมีพวกบ่าวเฝ้าดูแลเวรยามอยู่มากมาย วันพุธดึงปิ่นปักผมที่วางเอาไว้หัวเตียงนอนมากำเอาไว้แน่น
“ต้องเป็นผีแน่นอน”เขาบอกตัวเองอีกครั้ง รู้สึกขนแขนลุกซู่ ก่อนที่จะสอดปิ่นปักผมลงไปไว้ใต้หมอน
เสียงตึก ตึก ดังเข้ามาใกล้เตียงนอน ผู้ที่อยู่ใต้ผ้าห่มเริ่มตัวสั่น เหงื่อผุดออกมาเต็มใบหน้า
“นะโมตะสะ พะขะวะโต”วันพุธเริ่มสวดมนต์เท่าที่พอจะนึกขึ้นมาได้ ผ้าห่มที่ห่มคุมอยู่ค่อยๆถูกดึงเลื่อนจนหลุดไป หากแต่ร่างของแม่หญิงพุดซ้อนยังนอนพนมมือหลับตาปี๋ด้วยความกลัว
“อย่ามาหลอกมาหลอนฉันเลย ฉันจะทำบุญไปให้”วันพุธรู้สึกถึงเตียงที่ยวบลงไปราวกับมีใครบางคนนั่งลงข้างกายแม่หญิงพุดซ้อน
“พี่เอง แม่พุดซ้อน”เสียงทุ้มและมืออุ่นๆที่ยื่นมาจับมือที่กำลังพนมอยู่ ทำให้วันพุธค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา
“ขุนเพลิง......คุณพี่”เขารีบแก้คำให้ถูกต้อง
“มิใช่ผีสางเทวดาที่ใดดอก”คราวนี้ความกลัวเริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความประหลาดใจมากกว่า นี่ถ้าวันพุธยังอยู่ในร่างอ้วนใหญ่ของตนเอง เขาคงจะดีใจมากที่มีผู้ชายหล่อล่ำขนาดนี้ปีนเข้ามาหาถึงในห้องนอน
รับรองว่าอีพุดไม่ปล่อยให้กลับไปมือเปล่าอย่างแน่นอน
งานดีแบบนี้รับรองมีเสียน้ำ
“คุณพี่เข้ามาทำไม”ร่างบางถอยไปจนชิดหัวเตียง
“มิต้องหวาดกลัวพี่ดอก พี่แค่อยากจะมาถามความบางอย่างเพียงเท่านั้น”ขุนเพลิงยังพูดด้วยท่าทางสง่าเช่นเคย
“ถามอะไร”
“ออเจ้ามีใจให้หมื่นเทิดจริงหรือไม่”คราวนี้น้ำเสียงคนถามเข้มขึ้น
“ถามอะไรก็ไม่รู้”วันพุธหัวใจเต้นแรง หรือขุนเพลิงจะเห็นเขาออกไปอ่อยหมื่นเทิดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา แต่จะว่าไปแล้วเขาก็ชอบหมื่นเทิดจริงๆซะด้วย
“ออเจ้าคงจะลืมไปแล้วกระมัง ว่าออเจ้าเป็นคู่หมายของพี่ ถ้าหากออเจ้ายังพอจะจำได้ ออเจ้าช่วยตอบให้พี่มั่นใจได้ไหมเล่าว่าออเจ้าไม่ได้มีจิตพิศมัยน้องชายของพี่”ร่างสูงของชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น
“คือ ว่า .....”ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนวันพุธคิดอะไรไม่ทัน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะตอบขุนเพลิงว่าอย่างไรดี
“ถ้าออเจ้าบริสุทธิ์ใจจริง ออเจ้าจะต้องยอมเป็นเมียของพี่ เพราะถึงอย่างไรออเจ้าก็ต้องออกเรือนไปกับพี่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะช้าจะเร็ว พี่หวงออเจ้านักหนา ดังนั้นพี่จึงควรตัดไฟเสียแต่ต้นลม เมื่อออเจ้าเป็นเมียพี่แล้ว ออเจ้าจะได้ไม่ปันใจไปให้ชายอื่นได้อีก”วันพุธฟังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาพูดหมายความว่าอย่างไร ร่างสูงของขุนเพลิงเคลื่อนเข้ามาจู่โจมเขาอย่างรวดเร็ว

ตายแล้ว+++ กะเทยกำลังจะถูกผู้ชายข่มขืนค่าคุณขา

กลิ่นหอมของชายหนุ่มทำให้วันพุธลืมที่จะขัดขืน ใบหน้าหล่อจัดที่มีไรหนวดเขียวเข้มตัดกับผิวขาวละมุนซุกไซส์จนวันพุธรู้สึกอ่อนระทวยไปหมด
พ่อแก้ว แม่แก้ว สาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมาอีพุดยังไม่เคยถูกผู้ชายหล่อล่ำขั้นเทพขนาดนี้*เย มาก่อน 
โอ้ย!!!!!มันดีเหลือเกิน พี่เพลิงขา

ขุนเพลิงอมยิ้มเมื่อเห็นว่าแม่หญิงพุดซ้อนไม่ได้ขัดขืนแม้แต่เพียงน้อยนิด เขาดึงเสือคอจีนที่สวมอยู่ออกอวดกล้ามแกร่งงดงามจนวันพุธเผลอใจยกมือขึ้นมาลูบคลำเล่น เขาไล้นิ้วเรียวยาวไปตามลอนกล้ามท้องแบนราบที่เป็นคลื่นลอนราวกับลูกระนาด ปล่อยให้ขุนเพลิงเชยชมพวงแก้มตามอำเภอใจ มือของวันพุธเลือนต่ำลงมาเรื่อยๆจนถึงขอบโจงกระเบนของขุนเพลิง เขาชะงักมือเอาไว้ทั้งๆที่ใจอยากจะเลื่อนลงไปสัมผัสมันใจจะขาด
ร่างนี้ไม่ใช่ร่างกายของเขา เขาจะมาใช้มันบำบัดความต้องการตามอำเภอใจไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรแม่หญิงพุดซ้อนก็เป็นผู้หญิง จู่ๆความผิดชอบชั่วดีก็วิ่งเข้ามาล้อมกรอบการกระทำของเขาเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณพี่”เขาดันอกแกร่งออกไป ขุนเพลิงหยุดโรมรันร่างงามชั่วครู่
“ถ้าหากข้าเป็นผู้ชายร่างอ้วนขี้เหร่ คุณพี่ยังจะทำแบบนี้กับข้าไหม”ฝ่ายชายหัวเราะเสียงดัง
“วาจาเจ้าช่างประหลาดนัก”
“ตอบก่อนสิเจ้าคะ”วันพุธดันร่างลุกขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียง
“พี่จะทำเยี่ยงนี้แก่ออเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น”กล่าวจบร่างกำยำก็โถมเข้ามาโรมรันร่างแม่หญิงพุดซ้อนต่อ วันพุธผ่อนลมหายใจออกมา ขุนเพลิงเพียงแค่อยากเชยชมและแสดงความเป็นเจ้าของแม่หญิงพุดซ้อนเท่านั้น เพราะบ่อยครั้งที่เขาเห็นขุนเพลิงย่องเข้าไปหาอีบัว และคนอย่างขุนเพลิงไม่มีทางหันมาแลกะเทยร่างอ้วนอย่างแน่แท้ เขาตัดสินใจได้แล้ว เขาจะไม่มีวันยอมทำผิดต่อแม่หญิงพุดซ้อนเป็นอันขาด ถึงแม้เขาจะอยากกินขุนเพลิงมากขนาดไหนก็ตาม เขาดันร่างสูงออกไปอีกครั้ง พร้อมๆกับที่ขุนเพลิงดึงโจงกะเบนออกอวดศักดา วันพุธจ้องเขม็งพลางหัวเราะออกมาเสียงดัง
“มันเล็กน่ารัก น่าตัดไปทำพวงกุญแจจังเลย”ขุนเพลิงทำหน้าสงสัย แต่มือยังพยายามจะปลดเปลื้องผ้าแถบของแม่หญิงพุดซ้อนออกเพื่อเชยชมปทุมถันคู่งามให้สมใจ
“หยุดเถอะคุณพี่”วันพุธรีบเบี่ยงตัวออกมาทันที
“ข้าไม่ยอมคุณพี่เด็ดขาด”ขุนเพลิงหน้าเสีย
“ใช่ ข้าจะถอนหมั้นจากคุณพี่ เพราะข้ารักหมื่นเทิดเทศา”ชายหนุ่มร่างเปลือยเปล่ายืนตะลึงงัน  คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินถ้อยคำบัดสีจากปากของหญิงอันเป็นที่รัก
“พี่ไม่ยอมให้ออเจ้าไปเป็นเมียผู้ใดได้ดอก”ใบหน้าขาวแดงจัดด้วยความโกรธ เข้ากระชากร่างบางของแม่หญิงพุดซ้อนเข้ามากอด ก่อนจะผลักลงไปที่เตียงนอนอีกครั้ง
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย”วันพุธว่า หากแต่ขุนเพลิงที่กำลังเดือดขั้นสุดก็ไม่ยอมฟัง เขาตรงเข้าไปหาแม่หญิงพุดซ้อน วันพุธจึงได้แหกปากร้องออกมาจนสุดเสียง
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย พี่แกลบพี่น้อย ช่วยข้าด้วย”

ภาษาเกย์วันละคำ
*เย  = ร่วมเพศ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ส้มตำปลาร้า แซ่บน้ำลายไหลตามเลย   :ling1: :ling1: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LAFIA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คิดถึงแม่นางตุ้ด เอ้ย พุธ จะแย่แล้ว  :heaven

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
                             
                                        ตอนที่ 15
                                      ฮีโร่ของอีพุด
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย พี่แกลบพี่น้อย ช่วยข้าด้วย” หัวใจของวันพุธเต้นแรงขึ้น เสียงกระซิบดังขึ้นในโสตประสาท
“ผู้ชายหล่อล่ำขนาดนี้ ยอมๆเขาไปเถอะอีพุด เมื่อก่อนหน้าปลวกกว่านี้ มึงยังเคยซื้อกินเลย ดีออก”ร่างกำยำของขุนเพลิงยังโถมทับอยู่บนร่างอรชร
“ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด”วันพุธพล่ามออกมา พลางเอื้อมมือไปคว้าปิ่นปักผมเอามากำเอาไว้แน่น
“ปล่อยข้าเถิดคุณพี่”หากแต่ร่างกำยำยังพยายามจะเชยชมเรือนกายของแม่หญิงพุดซ้อนให้ได้ดั่งใจ
“ออเจ้าช่างงามเหลือเกิน”น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความปรารถนา
“ข้าบอกให้ปล่อย”วันพุธฝืนกาย หากแต่ไม่สามารถสู้แรงชายหล่อล่ำได้ ช่วงเวลานั้นมันช่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผู้ที่ลงมือกระทำแทบไม่ทันยั้งคิด วันพุธรวบรวมพละกำลังทั้งหมดผลักร่างกำยำจนกระเด็นออกไป พร้อมๆกับประตูหอนอนเปิดผ่างเข้ามา มือเรียวยาวจ้วงแทงปิ่นปักผมไปยังร่างของขุนเพลิง
“แม่พุดซ้อน อย่า”ผู้พึ่งโผล่เข้ามาในหอนอนร้องปราม ก่อนจะวิ่งเอาร่างเข้ามาขวางเอาไว้ ปิ่นปักผมแหลมคมจึงปักลงไปที่ช่องท้องของเขา แทนผู้เป็นพี่ชาย หมื่นเทิดเทศาทรุดลงไป เลือดสีแดงฉานค่อยๆซึมออกมา อีน้อยกับอีแกลบที่ก้าวตามหลังเข้ามาหวีดร้องขึ้น ปิ่นปักผมหลุดออกจากมือของแม่หญิงพุดซ้อน เขารีบโผเข้าไปประคองร่างชุ่มเลือดขึ้นมาโอบกอดเอาไว้
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ  นายอย่าเป็นอะไรไปนะ”น้ำตาของวันพุธไหลออกมาอาบแก้มของแม่หญิงพุดซ้อน
ร่างกำยำหายใจหอบถี่ จ้องมองผู้ที่กำลังโอบกอดอยู่ เลือดที่ไหลนองออกมา ทำให้ดวงตาของเราเริ่มพล่าเลือน ใบหน้างดงามของแม่หญิงพุดซ้อนค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าอวบอูมของบุรุษผู้หนึ่ง
“ข้ารักหมื่นเทิด หมื่นเทิดต้องไม่เป็นอะไรนะ”วันพุธพลั่งพลูความในใจทั้งหมดออกมา รู้สึกราวหัวใจกำลังจะขาดรอนๆ

ไม่นะอีพุด แกกำลังจะเป็นฆาตกรฆ่าผู้ชายที่แกรัก

“ออเจ้าเป็นผู้ใด”ถ้อยคำนั้นแทบไม่หลุดออกมาจากริมฝีปาก ก่อนที่เจ้าของร่างจะหมดสติลงไป

ขุนเพลิงเฝ้ามองด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและเจ็บแค้น เมื่อแม่หญิงที่เป็นคู่หมายมีใจให้น้องชายเพียงผู้เดียว เขาตรงเข้าไปกระชากร่างบางออกมาจากหมื่นเทิดเทศา ร่างบางกระเด็นตามแรงกระชาก
“แม่หญิง”อีน้อยกับอีแกลบโผเข้าไป
“กูสั่งให้พวกมึงออกไป”ชายหนุ่มตะโกนขึ้น สองบ่าวถอยหลังกรูหากแต่เบื้องลึกยังรู้สึกห่วงใยนายสาวอยู่มากโข
“ออกไป ตามคนมาช่วยหมื่นเทิด แล้วอย่าเปิดปากพูดอันใด ไม่เช่นนั้นกูจะเฉดหัวพวกมึงไปเสียให้พ้นเรือนของกู”อีน้อยลนลานออกจากหอนอนไป พร้อมกับอีแกลบ

ดวงหน้าคมสันจับจ้องใบหน้าของแม่หญิงพุดซ้อน  ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดระคนผิดหวัง
“ออเจ้าจักต้องออกเรือนกับพี่เท่านั้น”
“ไม่ ฉันรักหมื่นเทิด”

หล่อเรื่องนั้นไม่เถียง แต่เลวแล้วยังปิกาจู่เล็กนิดเดียวอีพุธรับไม่ได้

วันพุธสะบัดปลายเสียง พลางเชิดหน้าขึ้นสูง ถ้าไม่ติดว่าเวลานี้เขารู้สึกเป็นห่วงชายหนุ่มผู้นั้น เขาคงจะรู้สึกราวกับว่าตัวเองคือ เบลล่า ดาราสาวสวยที่มีหนุ่มๆมายื้อแย่งกัน

เบลล่าเขาคือทอง ส่วนตัวแกคือทองก้อน ช่างกล้าเอาตัวเองไปเทียบกับเขานะยะหล่อน

“ถ้าหากออเจ้าไม่ยอมออกเรือนแก่พี่ พี่จะบอกกล่าวแก่ออกยาและคุณหญิงท่าน ว่าออเจ้าคือผู้ที่ลงมือกระทำแก่หมื่นเทิดเทศา ออเจ้าลองไตร่ตรองดูเอาเถิด ว่าการนี้จะลงเอยเยี่ยงใด”คำขู่ของชายหนุ่มได้ผล วันพุธนิ่งเงียบไปนาน ไม่มีผู้ใดเป็นพยานว่าขุนเพลิงกำลังจะปลุกปล้ำแม่หญิงพุดซ้อน และเขาเองก็รู้สึกผิดและเจ็บปวดที่เป็นผู้ลงมือจ้วงแทงหมื่นเทิดเทศา วันพุธฝืนพยักหน้ารับคำ

เอาเถอะอีพุธ วาสนาของเอ็งมีเพียงแค่นี้ อย่างน้อยก็ถือว่าช่วยให้ชายที่แกรักได้ครองคู่กับคนที่คู่ควร ส่วนไอ้ขุนเพลิงมันเหมาะสมแล้วที่จะมีเมียเป็นกะเทยอ้วนเช่นแก ถ้าหากออกเรือนไปเมื่อไหร่ ควรดูฤทธิ์อีพุธบ้างก็แล้วกัน


             ขุนเพลิงเปล่าประกาศออกไปว่าโจรขึ้นปล้นเรือนนอนแม่หญิงพุดซ้อน หมื่นเทิดเทศาเข้ามาช่วยเหลือพวกโจรจึงแทงจนได้รับบาดเจ็บ หมอยาถูกตามมาเพื่อทำการรักษาชายหนุ่มผู้เป็นฮีโร่ของวันพุธ เมื่อเขาฟื้นคืนสติบุคคลแรกที่เขากล่าวถามถึงนั่นก็คือ แม่หญิงพุดซ้อน คุณหญิงพร้อมบอกกล่าวว่าแม่หญิงพุดซ้อนปลอดภัยดี ชายหนุ่มจึงรู้สึกโล่งใจ ภาพของชายอวบที่เกิดนิมิตรขึ้นต่างหากที่ยังติดค้างคาอยู่ในความรู้สึกของเขา
“เจ้าเป็นผู้ใดกัน”แม้แลเห็นดวงหน้าเพียงเสี้ยวนาที หากแต่กลับรู้สึกถึงความคุ้นเคยยิ่งนัก ชายหนุ่มหาได้ติดใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในหอนอนของแม่หญิงคนงามไม่  เขาเชื่อเรื่องไม่จริงที่ผู้เป็นพี่ชายบอกกล่าวแก่ทุกคน ไม่ใช่เขาไม่มีจิตปฏิพัทธ์ต่อผู้ลึกลับผู้นั้น หากแต่ถ้าหากเขาสืบค้นความจริงให้กระจ่าง เขาเกรงยิ่งนักว่าความผิดทั้งหมดจะตกไปอยู่ที่ผู้ที่เขามอบหัวใจรักให้ไป อีกทั้งขุนเพลิงยังมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะออกเรือนกับแม่หญิงพุดซ้อน เขาต่างหากที่ไม่มีสิทธิอันใดเลย นอกเสียความรักและความจริงใจที่มอบให้ไป โดยไม่ได้สนใจว่าตัวตนที่แท้จริงของแม่หญิงพุดซ้อนคือผู้ใดกันแน่

ดวงจันทร์วันเพ็ญสาดแสงกระจ่างใสกระทบพาลัยเรือนไทยหลังงามแลสว่างไสวราวกับเพลากลางวัน วันพุธสั่งให้อีน้อยกับอีแกลบช่วยดูต้นทางให้ ก่อนที่เขาจะย่องเข้าไปภายในหอนอนของหมื่นเทิดเทศา
ชายหนุ่มผู้นั้นงัวเงียขึ้นจ้องมองเขา ก่อนจะดันร่างมานั่งพิงพนักบริเวณหัวเตียง
“ออเจ้าเข้ามาไยเล่า รู้หรือไม่ว่ามันมิควร ที่ชายหญิงจักอยู่ร่วมกันตามลำพังในเคหะสถานเยี่ยงนี้”
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ”วันพุธรู้สึกรำคาญกับความมมากพิธีรีตองในขนบธรรมเนียมประเพณี
“คุณหมื่นเป็นอย่างไรบ้าง”น้ำเสียงของแม่หญิงพุดซ้อนอ่อนลง
“ข้าไม่เป็นอันใดดอก ผู้เข้มแข็งเยี่ยงข้า แค่ปิ่นปักผมมีฤาจะครณา”
“แม้ ยังจะทำปากเก่งอีก”วันพุธเบ้ปาก
“ออเจ้ากล่าวว่าอันใดฤา”ผู้พูดอมยิ้ม ราวกับเริ่มชินชากันภาษาที่แปลกหู
“ข้าอยากอธิบายความจริงให้คุณหมื่นฟัง”วันพุธขยับมานั่งชิดขอบเตียง อดไม่ได้ที่จะมองกล้ามแกร่งเปลือยเปล่าของผู้ที่นอนอยู่บนเตียง

ขนาดไม่สบายยังแซ่บขนาดนี้ คนคิดรู้สึกถึงน้ำลายที่หลั่งออกมาเต็มปาก แบบนี้นี่เองที่เขาเรียกว่า เห็นแล้วน้ำลายไหล

“อธิบาย”คนฟังย้ำถาม
“ข้าหมายความว่า ข้าจะมาพูดความจริงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในหอนอนคืนนั้น ข้าไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายคุณหมื่น มันเป็นเหตุสุดวิสัย”
“ข้าเชื่อออเจ้า”ดวงตาคู่นั้นทอดมาด้วยความเชื่อมั่น หากแต่ยังแฝงเร้นด้วยคำถามบางประการ
“ขุนเพลิงจะเข้าไปหักหารน้ำใจแม่หญิงพุดซ้อน ข้าจึงจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อแม่หญิงพุดซ้อน”ผู้ฟังหาได้มีความประหลาดใจในถ้อยคำประหลาดนั้นไม่ เขาเชื่อมั่นว่าภายในร่างของแม่หญิงพุดซ้อนหาใช่วิญญาณที่แท้จริงของหล่อนไม่
“หากจะกล่าวความจริง ก็ขอให้กล่าวมาเสียให้หมดสิ้นเถิด”วันพุธรู้สึกเสียวสันหลังวูบ หมื่นเทิดเทศาพูดราวกับรู้ว่าอะไรคืออะไร
“ข้าได้บอกเล่าเรื่องจริงไปหมดสิ้นแล้ว”ร่างงามของหญิงสาวลุกขึ้นยืน หากแต่ชายหนุ่มรีบฉุดข้อมือของหล่อนเอาไว้ ร่างนั้นเซถลาลงมาซบดวงหน้าลงบนแผงอกกว้างเปลือยเปล่า
เป็นครั้งที่วันพุธรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ทำให้ใบหน้างามของแม่หญิงพุดซ้อนแดงระเรื่อ
นี่มึงกำลังเขินอายหรือวะ อีพุธ เขาเค้นเสียงตามตนเอง อยากจะหัวเราะออกเป็นภาษาลู
เขารีบดึงร่างของแม่หญิงพุดซ้อนขึ้นมานั่ง
“บอกข้าเถิด ออเจ้าเป็นผู้ใด มาจากแห่งไหน และต้องการอันใด”ถ้อยคำถามนั้นหนักแน่น จนผู้ฟังรู้สึกอึดอัด
“อย่ากล่าวความเท็จต่อข้าเลย ภายในหอนอนของแม่หญิงพุดซ้อน ข้ามองเห็นดวงหน้าของออเจ้า ออเจ้าไม่ใช่อิสตรี หากแต่เป็นบุรุษเพศที่มีกิริยาอาการคล้ายอิสตรีเพียงเท่านั้น”วันพุธนิ่งงัน ริมฝีปากหนักราวกับถูกถ่วงด้วยหินก้อนใหญ่
หมื่นเทิดเทศามองเห็นร่างอ้วนของเขาที่ซ้อนทับอยู่ภายในร่างงามของอิสตรี ความรู้สึกที่ดีที่มีมา คงหมดสิ้นกันคราวนี้ จะมีผู้ชายที่ไหนที่จะยอมรับกะเทยขี้เหร่ร่างอ้วนได้
   “ในเมื่อคุณหมื่นรู้และเห็นทุกอย่างแล้ว ข้าก็ไม่มีเรื่องใดต้องบอกกล่าวอีก ข้าเป็นผู้ใด มาจากที่ใด ไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่ข้าไม่ใช่แม่หญิงพุดซ้อน และข้าไม่ใช่อิสตรี หากแต่ข้าไม่เคยต้องการมา และไม่เคยมีเจตนาไม่ดีต่อร่างกายของแม่หญิงพุดซ้อน”วันพุธสูดหายใจเข้า เป็นครั้งแรกที่เขาโหยหาตัวตนที่แท้จริงของตนเอง เขาอยากไปจากที่นี้ จากกลับไปยังสถานที่เขาได้จากมา อยากไปให้พ้นแววตาคมเข้มที่กำลังจ้องเขม็งมาที่เขา
   “ข้าจะไม่ร้องขออะไรจากคุณหมื่น ความจริงที่คุณหมื่นได้รับรู้ ขอให้คุณหมื่นจัดการทุกอย่างตามที่เห็นสมควรเถิด”วิญญาณชายหนุ่มอวบอ้วน พาร่างบางโผออกไปจากหอนอนของหมื่นเทิดในทันที เขาไม่ต้องการให้ชายหนุ่มผู้นั้นรังเกียจเขาเช่นเดียวกับที่ทุกๆคนรังเกียจในตัวตนที่แท้จริงเขา ความเสียใจระคนตระหนกทำให้วันพุธไม่ได้ยินแม้เสียงเรียกขานที่ตามหลังมาจากบุรุษหนุ่มผู้ที่ไม่ได้มีความคิดและรู้สึกเช่นที่วันพุธเข้าใจ
ภาษาเกย์วันละคำ
ภาษาลู = คือภาษาเฉพาะที่ใช้ในหมู่เกย์และสาวประเภทสอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2019 10:57:45 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2





                                       ตอนที่ 16
                                   ฉันนี่แหละ คืออีพุด
ร่างอวบอ้วนของวันพุธอยู่ในชุดไทยสีทองอร่าม พร้อมเครื่องทรงครบชุด ใบหน้าถูกทาด้วยแป้งสีขาว ริมฝีปากเขียนเป็นรูปหัวใจเล็กจ้อยทาด้วยลิปสติกสีแดงจัดในแบบฉบับของนางในที่กำลังจะเข้าถวายตัว ถ้าหากไม่เหมือนก็คงจะติดตรงที่นมที่ห้อยย้อยทั้งสองข้างของเขา ถ้ามองผิวเผินในเวลานี้ วันพุธดูไม่ได้แตกต่างจากผีเด็กในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง จูออน  เลยสักนิดเดียว

นี่คืองามที่สุดในชีวิตมึงแล้วหรือยะ อีพุธ

ขนาดตัวของเขาเองยังอดที่จะหัวเราะสภาพตัวของตัวเองไม่ได้ พานสีทองอร่ามมีใบตองกล้วยพับงามหยดย้อย ที่ซึ่งผู้ถือยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีชื่อเรียกว่าอะไร หากแต่ก็รับมาถือเอาไว้ เมื่อคุณหญิงพร้อมยื่นมันมาให้เขา

นี่มันเกิดอะไรขึ้นหว่า มองดูแล้วมันคล้ายพิธีถวายตัว
หรือว่านี่คืองานแต่งงานของเขากับขุนเพลิงรูปหล่อ
ว้าย ต๊ายแว้ว อีพุด นี่แกกำลังจะตกเป็นเมียพ่อพวงกุญแจน่ารักจริงๆหรือนี่

วันพุธเดินซอยเท้าถี่ยิบ เสียงกำไลข้อเท้ากระทบกันดังมาราวกลับจะให้จังหวะในการเดินของเขา ประตูหอนอนถูกเปิดออก ทั่วทั้งห้องนั้นถูกประดับประดาด้วยกุหลาบสีแดง ไม่เว้นแม้บนเตียงนอนที่มีผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด ร่างกำยำเปลือยเปล่าของบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งนั่งหันหลังอยู่บนเตียง ประตูหอนอนถูกปิดลงไปก่อนที่ชายผู้นั้นจะหันกลับมาช้าๆ
“ไอ้เทรด”
“คุณหมื่น”วันพุธอ้าปากหวอไม่แน่ใจชายตรงหน้าคือไอ้เทรดเพื่อนรักหรือหมื่นเทิดเทศากันแน่ เพราะเขาทั้งสองคนหน้าตาเหมือนกันราวกับคนๆเดียวกัน หากแต่สายตาวาววับกับจับจ้องบนใบหน้าคมสันของผู้ที่นั่งยิ้มอยู่บนเตียง แล้วจึงค่อยๆละสายตาลงมาสำรวจแผงกว้างและกล้ามแกร่ง ต่ำลงมาจนถึงคลื่นลอนที่เรียกว่าซิกแพค ไรขนสีดำที่หน้าท้องไล่เรียงต่ำลงไป
ชายหนุ่มหุ่นแน่นกระตุกผ้าผืนจ้อยที่บิดบังอยู่ออกไปในทันที

โอ้!!!!! แม่เจ้า
ฟุตลอง บิ๊กไบค์ ใหญ่จนทิ่มตา
แถมยังสุกงอมพร้อมรับประทานได้ทันที
พานทองในมือหล่นลงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น
สมใจมึงแล้วอีพุด
วันพุธกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่
สวยมักนก ตลกมักได้ เขาแผดเสียงหัวเราะออกมา ไม่สนใจแล้วว่าชายตรงหน้าจะเป็นหมื่นเทิดเทศาหรือไอ้เทรดกันแน่ ในเวลาอีพุดได้หมดถ้าสดชื่น
หนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ตรงหน้าพยักหน้าให้เขาเข้ามาใกล้ พลางเหลือบมองที่ฟุตลองแท่งยาวใหญ่แล้วยักคิ้วหนาเชิญชวน ร่างอ้วนของวันพุธรีบโผเข้าไปจนเต้าไขมันกระเพื่อม
อีพุดเข้าแล้ว นี่มันไม่ใช่พิธีถวายตัวหรือแต่งงาน
หากแต่มันคือ วันถวายบัว
นาทีทองแบบนี้ อีพุดไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่
อ้อยจะเข้าปากช้างใครก็ขวางทางไม่อยู่

วันพุดรู้สึกราวกับตัวเองเป็นช้างที่กำลังตกมันทั้งโขลก เขาอ้าปากกว้างหมายจะกินให้อิ่มหนำใจ
หากแต่จู่ๆแสงสีขาวก็สว่างจ้าขึ้นมา มันแยงตาจนเขารู้สึกแสบตาทั้งสองข้าง
ร่างของแม่หญิงพุดซ้อนกระตุก แล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมาช้าๆ
“แม่หญิงฝันร้ายหรือเจ้าคะ”อีแกลบจับมือของนายสาวเอาไว้
“บ่าวปลุกแม่หญิงอยู่นานโข หากแต่แม่หญิงกับอ้าปากราวกับแม่ปลาบู่กำลังจะฮุบเหยื่อ”อีน้อยเสริม

จะมาปลุกกูทำไมเอาตอนนี้ นกเลยกู
   
วันพุธสะบัดหน้าไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ รู้สึกเสียดายเป็นล้นพ้นที่อดได้ชิมบิ๊กลองของหมื่นเทิดเทศา
   “นก นก นก อารมณ์เสีย”แม่หญิงพุดซ้อนโพล่งคำพูดแสนประหลาดออกมาอย่างสุดทน
   “นกฤาเจ้าค่ะ อีแกลบเอ็งปล่อยให้นกบินเข้ามาภายในหอนอนของแม่หญิงได้เยี่ยงไร”อีน้อยว่า แล้วบ่าวทั้งสองคนจึงลุกขึ้นเที่ยวมองหานกที่นายสาวพูดถึงจนทั่วทั้งหอนอน
   “ไม่เห็นมีนกสักตัว แม่หญิงเจ้าขา”
   
จะไม่มีได้ยังไงเล่า นกยักษ์นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ไง

ใบหน้าแสนงามที่หยิกงอค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา ราวกับกำลังคิดเรื่องสนุกๆอยู่ อีแกลบหยิบพัดขึ้นมาโบกให้เจ้านายเพราะอากาศเริ่มร้อนทั้งๆที่พึ่งจะก้าวเข้าสู่ปลายเดือนมีนาคม
   “พี่น้อย ช่วยหาผ้าถุงให้ข้าสักผืนเถิด”
   “ผ้าถุง”อีน้อยชักสีหน้า
   “ผ้านุ่งนั่นแหละข้าร้อน ข้าจะไปอาบน้ำ”
   “เจ้าคะ”อีน้อยผละออกไปรื้อหีบผ้า แล้วหยิบผ้านุ่งมามอบให้นายสาว วันพุธในร่างงามลุกขึ้นผลัดผ้า ใช้ผ้านุ่งนุ่งแบบกระโจมอก
   “แม่หญิงอย่านะเจ้าคะ”ผู้ภักดีทั้งสองร้องห้ามขึ้นพร้อมกัน
   “ข้าร้อน ข้าจะไปเล่นน้ำดับร้อนซะหน่อยนะพี่”พูดจบก็วิ่งตรงไปยังท่าน้ำ
   “แม่หญิงมิบังควรดอกเจ้าคะ”อีน้อยกับอีแกลบวิ่งวุ่นจนศีรษะชนกันครั้งแล้วครั้งเล่า บ่าวทั้งสองจำต้องควานหาผ้านุ่งของตัวเอง แล้วจึงได้วิ่งตามนายสาวไปยังท่าน้ำ


 ร่าอรชรของแม่หญิงพุดซ้อนแหวกว่ายอยู่กลางลำน้ำ หาได้สนใจสายตาทั้งชายหนุ่มชายแก่ที่พายเรือผ่านไปมาไม่ โดยมีอีน้อยกับอีแกลบคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง
“กลับหอนอนเถิดเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวคุณหญิงท่านออกมาพบเจอเข้าจักเป็นเรื่องใหญ่นะเจ้าคะ”สองบ่าวพยายามร้องขอครั้งแล้วครั้งเล่าหากแต่ผู้เป็นนายกับหาได้สนใจจะฟังไม่
“พี่น้อยพี่แกลบมาเล่นตีโป่งด้วยกันเร็ว”วันพุธนึกสนุกขึ้นมา ใช้มือข้างหนึ่งพุ้ยน้ำเข้าไปในชายผ้า ผ้านุ่งจึงเริ่มพองลมขึ้นเหมือนลูกโป่งขนาดใหญ่ เขาใช้มืออีกข้างคอยรั้งชายผ้านุ่งให้อยู่ใต้น้ำเพื่อกันไม่ให้อากาศที่อยู่ภายในออกไปได้
“แม่หญิงเจ้าขา”อีน้อยโอดครวญ
“มิบังควร”วันพุธว่า ก่อนจะปล่อยให้ผ้านุ่งกลับสู่สภาพเดิม
“เจ้าค่า”สองสาวพูดพร้อมเพียงกัน
“ถ้าพี่น้อยกับพี่แกลบสามารถงมกุ้งได้มากกว่าข้า ข้าจะยอมกลับขึ้นหอนอน”ผู้พูดว่าแล้วก็รีบดำน้ำลงไปงมกุ้งภายในแม่น้ำทันที ถึงสองบ่าวจะอ่อนใจหากแต่ก็หาได้ขัดความประสงค์ของเจ้านายที่รักไม่

เรือพายสองลำพายลัดเลาะลำน้ำมาช้าๆ แล้วจอดบริเวณที่แม่หญิงพุดซ้อนกำลังดำน้ำงมกุ้งอยู่ ร่างของหญิงสาวโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำพร้อมกุ้งตัวใหญ่ในมือ ดวงหน้าเข้มคมสันผู้เป็นฝีพายส่งยิ้มกว้างมาทักทาย
“ถึงต้องลงมางมกุ้งเองเลยฤาออเจ้า”วันพุธโยนกุ้งแม่น้ำในมือขึ้นไปบนฝั่ง แล้วจึงพนมมือไหว้
ชายหนุ่มหน้าตาละหม้ายหมื่นเดชาชาญส่งยิ้มมาให้หล่อนเช่นเดียวกัน วันพุธกวาดสายตาไปยังเรือพายอีกลำแม่หญิงลำดวนคนงามถือร่มนั่งอยู่บนลำเรือ โดยมีบ่าวอีกคนทำหน้าที่เป็นฝีพายให้
“ข้ามาเยี่ยมเยียนหมื่นเทิศเทศา ได้ข่าวเรื่องโจรขึ้นเรือนแล้วใจหาย ออเจ้าปลอดภัยดีฤา”แม่หญิงลำดวนเอ่ยถามบ้าง
“ถ้าไม่ปลอดภัยคงไม่ลงมาดำผุดดำว่ายในลำน้ำเช่นนี้กระมัง”ชายหนุ่มฝีพายเรือลำหน้าตอบคำถามแทน พร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ
“ออเจ้ารู้จักพ่อด่านน้องชายของข้าไว้เสียเถิด พ่อด่านออเจ้าผู้นี้คือแม่หญิงพุดซ้อน คู่หมายของขุนเพลิงพาน”หมื่นเดชาชาญแนะนำ วันพุธยกมือไหว้ชายหนุ่มคนใหม่ ชั่วครู่ที่เขาเห็นอาการบางอย่างในสีหน้าเมื่อพี่ด้วงหรือหมื่นเดชาชาญแนะนำว่าแม่หญิงพุดซ้อนคือคู่หมายของขุนเพลงกระจิดริด
“เชิญเถิดเจ้าคะ หมื่นเทิดเทศาอยู่บนเรือน”ดวงหน้าสีแทนของพ่อด่านจ้องมองแม่หญิงพุดซ้อน ก่อนจะเชิดหน้าหนีไปทางอื่น ในแบบฉบับทีวันพุธเรียกว่า
เชิ่ดใส่

แกว่าใช่ใช่ป่ะอีพุด
จะเหลือไหมล่ะแก รังสีแรงขนาดนี้
นี่มันไม่ใช่พ่อด่านแน่นอน หากแต่น่าจะเป็นขุ่นแม่ด่าน
เรื่องแบบนี้มันต้องพิสูจน์

วันพุธลอยตัวเข้ามาใกล้ลำเรือของพี่ด้วงและพ่อด่าน ก่อนที่เขาจะใช้สองมือเขย่าและทำท่าจะล่มเรือ
“แม่หญิงทำอันใดเจ้าคะ”อีน้อยอีแกลบตกใจรีบว่ายน้ำเข้ามาช่วยกับจับลำเรือของหมื่นเดชาชาญเอาไว้
พี่ด้วงหัวเราะเสียงดัง ในขณะที่พ่อด่านร้อง
“ว้าย.......”ออกมาเสียงดังเช่นเดียวกัน

ขุ่นแม่ด่าน แน่นอนล้าน%

วันพุธไม่ได้สนใจจะฟังความอันใดอีก เขาว่ายน้ำแล้วก้าวขึ้นไปยังท่าน้ำ อีน้อยกับอีแกลบกราบขอโทษคนทั้งสามแทนเจ้านาย แล้วจึงว่ายน้ำกลับมาขึ้นฝั่ง ช่วยกันเก็บกุ้งแม่น้ำที่งมมาได้ วิ่งตามเจ้านายสาวกลับหอนอนไป
“อย่าไปถือสาหาความหล่อนเลยนะเจ้าคะพี่ด่าน แม่หญิงพุดซ้อนชอบเย้าผู้อื่นเล่นเสมอ”แม่หญิงลำดวนเอ่ยปากขึ้นเมื่อเรือพายจอดเทียบท่าเรียบร้อย
“พี่เห็นด้วยกับแม่หญิงลำดวน”ชายหนุ่มผู้พี่อมยิ้ม
“ขอรับ”ผู้ที่โดนทดสอบความสาวส่ายหน้า แม่หญิงผู้นั้นนอกจากความงามยังมีชีวิตชีวา ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้มีรอยยิ้มได้เสมอ เขาไม่แปลกใจเลยที่ขุนเพลิงพานมอบความรักให้หล่อนได้มากมายขนาดนั้น


“ประเดี๋ยวแม่จะรีบหาฤกษ์หายามที่ดีที่สุดให้ ขุนเพลิงมิต้องกังวลใจไปดอก หลังวันขึ้นปีใหม่ ออเจ้าจักได้ออกเรือนแก่แม่หญิงพุดซ้อนเป็นแน่แท้”คุณหญิงพร้อมกล่าวขึ้นแล้วเดินนำบุตรชายออกมายืนบริเวณพาลัยของเรือนไทย
“กระผมขอบน้ำใจนายแม่ขอรับ”ชายหนุ่มพนมไหว้เมื่อสิ่งที่เขาต้องการได้รับการตอบรับที่พึงใจ
“นั่นเรือหมื่นเดชาชาญกับพ่อด้วงไม่ใช่ฤา”ขุนเพลิงมองตามที่ผู้เป็นมารดาชี้มือ
“ขอรับ”
“แล้วนั่นผู้ใดอยู่ในลำน้ำ แล้วพยายามจะล่มเรือหมื่นท่านกันเล่า”คุณหญิงยกมือขึ้นทาบอก
“อย่าบอกข้านะ ว่าเป็นแม่หญิงพุดซ้อน”ร่างอวบทำท่าลมจะจับ ชายหนุ่มจึงต้องรีบพยุงมารดาให้มานั่งลงที่พาลัยเรือน
“อีบัว อีใบหายหัวไปไหนกันหมดวะ หายาหอมละลายน้ำมาให้คุณหญิงท่านบัดเดี๋ยวนี้”


ภาษาตุ้ดวันละคำ
นก = แห้ว อดได้ผู้ชาย
ถวายบัว = ออรัลเซ็กซ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2019 11:54:20 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
  ตอนที่ 17
                               อีพุดกะเทยนก2019
หมื่นเดชาชาญ แม่หญิงลำดวน และพ่อด่านขึ้นเรือนมากราบคุณหญิงพร้อม
“ออกยาท่านกับคุณหญิงจำปาทราบข่าวเรื่องที่หมื่นเทิดเทศาถูกพวกโจรทำร้าย จึงห่วงใยยิ่งนัก ท่านทั้งสองไหว้วานให้อิฉันนำอาหารบำรุงมามอบให้หมื่นท่านเจ้าค่ะ”แม่หญิงลำดวนกล่าว
“กระผมและพ่อด่านถือวิสาสะตามแม่หญิงลำดวนมาด้วย ด้วยห่วงใยหมื่นเทิดเทศาเช่นเดียวกันขอรับ”หมื่นเดชาชาญบอกกล่าวแก่คุณหญิงเจ้าของเรือน
“ขอบน้ำใจเหลือเกิน พ่อเทิดมิได้เจ็บหนักดอก พักผ่อนรักษาตัวเองไม่กี่เพลาคงหายดีแล้ว ฝากออเจ้ากราบน้ำใจของออกยาโหราธิบดีกับคุณหญิงจำปาด้วย เพลานี้หมื่นเทิดอยู่ภายในหอนอน เชิญออเจ้าทั้งสามเข้าไปเยี่ยมเยียนได้ตามสบาย”เจ้าของเรือนพยักหน้าให้อีบัวนำทางบุคคลทั้งสามเข้าไปภายในหอนอนของบุตรชายคนเล็ก
“ขุนเพลิงพานไม่อยู่เรือนหรือขอรับ”พ่อด่านกล่าวถามขึ้น
“พ่อเพลิงออกไปราชการกับออกยาท่านเมื่อครู่ พ่อด่านมีอันใดต่อพ่อเพลิงฤา”
“หามีไม่ขอรับ”พ่อด่านก้มหน้าหลบสายตาผู้ใหญ่ ก่อนจะคลานตามผู้เป็นพี่ชายออกไป

“ขอบน้ำใจออเจ้าทั้งสามที่ห่วงใยข้า”หมื่นเทิดเทศากล่าวขึ้นหลังพูดจาถามสาระทุกข์สุขดิบกันมาพอสมควร
“จับไอ้โจรชั่วได้หรือยังเล่าขอรับ”หมื่นเดชาชาญถามขึ้น
คนฟังสะดุ้ง เพราะทราบว่าไม่ได้มีโจรดังข่าวลือที่แพร่ออกไป
“ขุนเพลิงเป็นผู้จัดการเรื่องนี้”เขาตอบคำถามแล้วหันไปยังแม่หญิงลำดวน
“นั่นอะไรฤา กลิ่นหอมเสียจริง”หญิงสาวยิ้ม
“รังนกเจ้าค่ะ ตังหวนพ่อค้าชาวจีนนำมากำนัลแก่เจ้าคุณพ่อ ตังหวนกล่าวว่ามีคุณประโยชน์ต่อผู้บาดเจ็บโข อิฉันขออนุญาตป้อนให้ท่านหมื่นนะเจ้าคะ”
ชายหนุ่มยิ้มรับไมตรีนั้น ก่อนที่แม่หญิงคนงามจะนำซุปรังนกมาป้อมจนถึงปาก คำแล้วคำเล่า

วันพุธกำลังวุ่นวายอยู่กับการทำข้าวต้มกุ้ง เขาตั้งใจจะนำไปมอบให้แก่หมื่นเทิดเทศา ถึงจะยังหวั่นใจเรื่องที่ชายหนุ่มผู้นั้นทราบความจริงว่าเขาไม่ใช่แม่หญิงพุดซ้อน หากแต่เขาเองก็อดที่จะห่วงใยชายที่เขาหลงรักไม่ได้
“แม่หญิงทำข้าวต้มกุ้งมาให้ท่านหมื่นรับทาน แม่หญิงยังจัดใส่สำรับให้คุณหญิงท่านด้วยนะเจ้าคะ”อีน้อยที่ถือถ้วยข้าวต้มกุ้งเดินตามเจ้านายสาวมาบอกกล่าวคุณหญิงพร้อมที่นั่งอยู่พาลัยเรือน
“กุ้งที่เจ้านายของเอ็งลงไปงมจนต้องไปเที่ยวล่มเรือผู้อื่นนะฤา”ผู้สูงวัยว่า

เอาแล้วไงอีพุด คราวนี้โดนเทศนายาวเป็นแน่แท้

“ไปๆ ยกเข้าไปให้พ่อเทิดในหอนอนโน้น”หญิงสูงวัยว่าพลางโบกมือ ถึงจะรู้สึกเอือมระอาในพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของหญิงสาวตรงหน้า แต่ก็อดที่เอ็นดูในท่าทีที่ไร้จริตจะก้านของหล่อนไม่ได้

ภาพแรกที่วันพุธมองเห็นเมื่อก้าวเข้ามาภายในหอนอนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ นั่นคือภาพของแม่หญิงลำดวนที่กำลังป้อนรังนกให้แก่หมื่นเทิด เขาเผลอกระทืบเท้าปัง แล้วคว้าถ้วยข้าวต้มกุ้งมาถือเอาไว้ซะเอง

อีตาหมื่นขี้เก๊ก แค่ถูกแทงไม่ได้เป็นง่อยซะหน่อย ทำไมต้องให้ชะนีป้อนข้าวป้อนน้ำด้วยยะ ตักกินเองมันจะตายหรือไงกัน
อย่ากงอย่ากินมันเลยข้าวต้ม
จู่ๆวันพุธก็เกิดหัวเสียขึ้นมา
หล่อนไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ยะอีพุด ว่าอาการที่หล่อนกำลังเป็นอยู่เขาเรียกว่า ลมเพชรจะหึง

วันพุธจ้องมองชายหนุ่มทั้งสามคนที่อยู่ภายในหอนอน

อีตาหมื่นทำได้ อีพุดก็ทำได้เหมือนกัน

“ข้าทำข้าวต้มกุ้ง พ่อด่านลองชิมหน่อยนะเจ้าคะ ถือเสียว่าแทนคำขอโทษที่ข้าแกล้งเย้าพ่อด่านเมื่อครู่”ผู้ถือถ้วยข้าวต้มมองหมื่นเทิดแว่บหนึ่งจึงเดินเลี่ยงมาหาพ่อด่านที่นั่งอยู่ข้างผู้เป็นพี่ชาย หมื่นเดชาชาญมองกริยาของแม่หญิงพุดซ้อน เขาแอบเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้เป็นผู้ชิมรสข้าวต้มกุ้งถ้วยนั้น
วันพุธนั่งลงด้านข้างพ่อด่าน ที่รับข้าวต้มไปจากมือของเขา
“ขอบน้ำใจออเจ้านัก”
“ข้าวต้มมันร้อนนักเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าป้อนให้พ่อด่านเอง”พูดจบก็ตักข้าวต้มป้อนให้ชายหนุ่ม ชายหนุ่มสองคนที่เหลือจ้องเขม็งด้วยความตกใจ
“อร่อยหรือไม่เจ้าคะ”ผู้ป้อนทำเสียงฉอเลาะ วางช้อนลงแล้วใช้ผ้าที่เหน็บอยู่ชายพกยกขึ้นมาเช็ดริมฝีปากของผู้ถูกป้อน
“อุ้ย!! ข้าวต้มเลอะปาก”พ่อด่านนั่งตัวแข็งทื่อ ไม่รู้จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
หมื่นเทิดเทศากระแอมออกมาเสียงดัง จ้องมองมายังวันพุธ สายตาพิฆาตติเตียนที่แม่หญิงพุดซ้อนทำกริยาไม่สมควร

เชอะ!!! มันไม่สมควรตกไหนยะอีตาหมื่นบ้า ในเมื่อลูกสาวกำลังป้อนข้าวต้มให้ขุ่นแม่ ถ้าหากเขาไปป้อนข้าวต้มให้หมื่นเดชาชาญ แบบนั้นถึงจะเรียกว่าไม่สมควร

วันพุธแอบลอบมองพ่อด่าน รู้สึกสงสารขุ่นแม่จับใจที่ถูกเขาใช้เป็นเครื่องมือแกล้งอีตาหมื่นจอมเจ้าชู้
“ออเจ้ามาก็ดีแล้ว พี่เอาตลับแป้งมาฝากออเจ้า”หมื่นเดชาชาญว่าพร้อมส่งตลับแป้งทำจากฝ้าไหมสีทองมาให้
“ขอบคุณนะเจ้าคะ แม้ถ้าเปลี่ยนเป็นกระเป๋ากุดชี่คงจะดีกว่านี้”
“ออเจ้าไม่ถูกใจฤา”
“ถูกใจเจ้าค่ะ”
อีใบโผล่เข้ามาภายในหอนอน
“คุณหญิงให้หาแม่หญิงพุดซ้อนเจ้าค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นอิฉัน หมื่นเดชาชาญและพ่อด้วงก็คงต้องลากลับเช่นเดียวกัน”แม่หญิงลำดวนพนมมือไหว้หมื่นเทิดเทศา
วันพุธเบ้ปากก่อนจะก้าวออกจากหอนอนของชายหนุ่มไป


หลังแขกผู้มาเยือนทั้งสามพายเรือลับสายตาไปแล้ว ผู้สูงวัยที่กำลังนั่งนิ่งอยู่ก็เอ่ยปากขึ้นทันที
“ความจริงข้าก็ไม่อยากลงโทษออเจ้าดอก หากแต่ถ้าไม่ทำ บ่าวมันจะหาว่าข้าลำเอียงได้”อีบัวที่นั่งอยู่ชิดกับอีใบแสยะยิ้มรู้สึกสาสมใจ หล่อนเองที่คาบข่าวเรื่องที่แม่หญิงพุดซ้อนทำฉอเลาะกับพ่อด่านมาบอกกล่าวแก่คุณหญิงพร้อม
“ออเจ้าเป็นหญิงมิควรทำกิริยาเยี่ยงนั้น ผู้อื่นจะหาว่าข้ามิอบรมสั่งสอน พ่อด่านมิใช่คู่หมายของออเจ้า ที่ออเจ้าจักต้องไปถึงเนื้อถึงตัว รวมไปถึงเรื่องที่ออเจ้าลงไปงมกุ้งและพยายามจะล่มเรือหมื่นเดชาชาญก็ล้วนเป็นเรื่องมิสมควรอย่างยิ่ง ออเจ้าจักยอมรับหรือไม่ว่าออเจ้ากระทำผิด”
“เป็นความผิดของบ่าวทั้งสองเองเจ้าค่ะ”อีน้อยกับอีแกลบรีบออกตัวรับผิดแทน
“ไม่ต้องหรอกพี่น้อย พี่แกลบ ให้คุณป้าลงโทษฉันเถอะ”วันพุธซึ้งในน้ำใจของบ่าวทั้งสองคน
“อิฉันยอมรับความผิดเจ้าค่ะคุณป้า”
“ทำผิดแล้วรู้จักยอมรับผิด ข้าภูมิใจในตัวออเจ้านัก”ผู้สูงวัยยิ้มด้วยความเมตตา
“ประเดี๋ยวบ่าวจะไปเอาหวายมาให้คุณหญิงท่านเองเจ้าค่ะ”อีบัวสาระแนออกมา
“เอ็งจะนำเอาหวายมาเฆี่ยนเอ็งฤานังบัว”เมื่อคุณหญิงพร้อมพูดเช่นนั้น อีบัวจึงรีบก้มลงไปหมอบที่พื้นทันที
“ข้าขอทำโทษแม่หญิงพุดซ้อน โดยไม่ให้ผู้ใดจัดสำรับมื้อค่ำให้แม่หญิงพุดซ้อนเป็นเพลาสามมื้อค่ำ”
“ให้อดข้าวเย็นสามวันหรือเจ้าคะ”วันพุธทำเสียงสูง
ต๊ายๆๆๆ แค่อดข้าวมื้อเดียวอีพุดก็จะลงแดงตายอยู่แล้ว นี้จะให้อดข้าวเย็นตั้งสามวันมีหวังอีพุดลงแดงตายอย่างเขียดแน่นอนค่า

“คุณป้าเจ้าขา เปลี่ยนเป็นโบยดีกว่านะเจ้าคะ”ริมฝีปากงามโอดครวญ
“แค่ลงหวายออเจ้าคงหาได้หลาบจำไม่”คุณหญิงพร้อมยิ้ม ด้วยรู้เท่านั้นว่าแม่หญิงคนงามมีความสุขในการลิ้มรสอาหารคาวหวานมากมายขนาดไหน
หมื่นเทิดเทศาที่แอบยืนมองที่ประตูหอนอน หัวเราะร่วนเมื่อแม่หญิงพุดซ้อนนั่งหน้าคว่ำอยู่ต่อหน้าคุณหญิงพร้อม



วันพุธนอนกระสับกระส่ายไปมา เขาพยายามข่มตาให้หลับลงไปหากแต่ท้องเจ้ากรรมกลับส่งเสียงร้องคำรามด้วยความหิว
“หิว หิว หิว”เขาลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ ลืมกริยากุลสตรีจนหมดสิ้น อีน้อยกับอีแกลบคลานเข้าใกล้
“กุน ละ สะ ติม เจ้าค่ะแม่หญิง”     
ผู้ถูกตักเตือนจึงต้องเปลี่ยนกริยาใหม่ให้ถูกต้อง
“ฉันหิวมาก หิวแบบว่ากินช้างได้ทั้งโขลก พี่น้อยพี่แกลบช่วยไปหาอะไรในโรงครัวมาให้ฉันกินหน่อยได้ไหม”
“มิบังควรดอกเจ้าค่ะ”สองสาวว่าพร้อมกัน
วันพุธทำหน้างอ สะบัดหน้ามองออกไปทางหน้าต่างที่พระจันทร์ดวงโตกำลังทรงกรดฉายแสงอร่ามอยู่
พระจันทร์สวยขนาดนี้ แต่เขากลับไม่มีอารมณ์จะชมจันทร์ เพราะความหิวเป็นเหตุ
“ฉันจะออกไปชมจันทร์ เผื่อจะคลายความหิวลงบ้าง”พูดจบก็คว้าเอาผ้าแพรมาคลุมไหล่แล้วก้าวข้าวธรณีประตูออกจากหอนอนไป
“รอบ่าวด้วยเจ้าค่ะ แม่หญิงเจ้าขา”

วันพุธจ้องมองดวงจันทร์ดวงใหญ่บนท้องฟ้า ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นข้าวไข่เจียวจานยักษ์ ราดด้วยซอสพริก เขาจำได้ดีว่ามันคืออาหารโปรดของไอ้เทรดเพื่อนรักของเขา
นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เจอไอ้เทรด
และนานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้กินข้าวไข่เจียว
   “ถ้าได้กินข้าวไข่เจียวสักจาน คงฟินไม่น้อยเนาะพี่แกลบพี่น้อย”เขานึกพลางกลืนน้ำคอลงคอฮึกใหญ่
   “ข้าวไข่เจียวฤา”เสียงทุ้มดังขึ้น ร่างกำยำของหมื่นเทิดยืนเด่นอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ ส่วนบ่าวทั้งสองหลบไปยืนอยู่ด้านหลังแทน
   “ออเจ้าทำให้ข้ากินบ้างจะได้หรือไม่ ข้าชักอยากลองชิมไอ้ที่ออเจ้าเรียกว่าข้าวไข่เจียว”ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ ท่าทางของเขาดูแข็งแรงขึ้นมากแล้ว
   “เมื่อเช้าข้าก็อดกินข้าวต้มกุ้งฝีมือออเจ้ามาหนหนึ่งแล้ว คงจักดีมิน้อยหากออเจ้าจักเมตตาแก่ผู้ที่กำลังหิวโหย”

นี่อีตาหมื่น กำลังประชดประชันแกอยู่ใช่ไหมวะอีพุด
ปากดีแบบนี้ เดี๋ยวอีพุดก็จับกินซะนี่ จะกินตั้งแต่หัวจดหางเลยทีเดียวเชียว

   “มาทางนี้เถิด”ชายหนุ่มผู้ที่ซึ่งมาถึงผายมือไปทางโรงครัว เขาทราบดีว่าคนตรงหน้าของเขากำลังหิวจัดขนาดไหน เขาจึงวางแผนการที่จะช่วยเหลือหล่อน
   “พี่แกลบกับพี่น้อยกลับหอนอนไปก่อน ข้าจะไปส่งเจ้านายของพวกเจ้าเอง”เขาหันไปบอกคนติดตามแม่หญิงพุดซ้อน
   “ไม่ได้ คุณป้าห้ามไม่ให้ข้าไปโรงครัว”หัวใจหนุ่มร่างอ้วนลิงโลด ทำท่าทางว่าไม่อยากไป แต่ความจริงแทบจะออกวิ่งร้อยเมตรให้ถึงโรงครัวให้เร็วที่สุด
   “คุณหญิงท่านคงมิว่ากระไรดอก ถ้าหากออเจ้าจะไปโรงครัวเพื่อทำมื้อดึกให้ข้า”ดวงหน้าคมสันยิ้มอย่างรู้เท่านั้น เขาเดินนำแม่หญิงพุดซ้อนไปยังโรงครัว โดยที่ไม่ได้สนใจว่าร่างอรชรจะสาวเท้าตามเขามาหรือไม่ เพราะเขามั่นใจนักหนาว่าผู้ที่กำลังหิวจัดไม่มีทางที่จะยอมพลาดในโอกาสที่เขามอบให้ไป

   ไข่เจียวเหลืองอร่ามราดบนข้าวสวยวางอยู่ตรงเบื้องหน้าของชายหนุ่ม
“นี่ฤาข้าวไข่เจียวของออเจ้า”
“ใครได้ชิมฝีมือเจียวไข่ของอีพุด ติดใจทุกราย โดยเฉพาะไอ้เทรด”จู่ๆวันพุธก็รู้สึกคิดถึงเพื่อนรักขึ้นมาจับหัวใจ
“ไอ้เทรด คือผู้ใดฤา”ผู้นั่งตรงหน้าทำตาแป๋ว หากแต่วันพุธกลับไม่ตอบคำถามเขา ชายหนุ่มจึงลงมือรับประทานข้าวไข่เจียว
“หือ”เขาร้องคราง รู้สึกติดใจในรสชาติจริงดังคำผู้ที่อวดตนเอาไว้
วันพุธยิ้มกว้าง รู้สึกภาคภูมิใจที่สุด ก่อนที่ลงมือจัดการอาหารด้วยความหิวจัด
หมื่นเทิดเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองแม่หญิงพุดซ้อนที่กำลังลงมือกินข้าวไข่เจียวอย่างเอร็ดอร่อย จนลืมแม้จะรักษากริยาอาการ หล่อนเปิดข้าวเข้าปากคำแล้วคำเล่าจนเม็ดข้าวติดริมฝีปากงาม เขาจึงเอื้อมมือไปหมายจะช่วยเช็ดออกให้ วันพุธสะดุ้ง ผู้ต้องการช่วยเหลือคลี่ยิ้มกว้าง
   “ข้าเพียงจักเขี่ยเมล็ดข้าวออกจากริมฝีปากให้ออเจ้า”เขาว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
   
แม้!!!มีโมเมนต์แบบนี้กับคนอื่นเขาเหมือนกันเนาะ อีตาคุณหมื่นขี้เก๊ก
   
“ไม่ต้อง”
   “ให้ข้าช่วยออเจ้าเถิด”หมื่นเทิดเทศาขยับเข้ามาใกล้ ใช้มือเขี่ยเมล็ดข้าวสุกออกจากริมฝีปากแม่หญิงพุดซ้อน
สายตาคมกริบสอดประสานมา มันคว้านลงลึกถึงจิตใจผู้ที่นั่งอยู่ตรงหน้า วันพุธหัวใจเต้นแรง รู้สึกประหม่าขึ้นมา เมื่อใบหน้าสีแทนคมสันเลื่อนเข้ามาใกล้จนเกือบจะแนบชิด
   ดวงหน้าอวบอูมของใครคนหนึ่งผุดซ้อนทับขึ้นมาบนดวงหน้างามของแม่หญิงผุดซ้อน แววตาซุกซุนคู่นั้นสบประสานกับสายตาของผู้จับจ้อง มันคือแววตาคู่เดียวกันกับที่เขาเห็นบนใบหน้าของแม่หญิงพุดซ้อนมาโดยตลอด
   วันพุธหลับตาลง รอให้ชายหนุ่มหุ่นล่ำประทับจูบลงมา
   และแล้ววันที่แกรอคอยก็เดินทางมาถึงซะทีนะอีพุด
วันที่ผู้ชายจะตกถึงท้องซะที

เวลาหมุนผ่านไปเนิ่นนาน หากไร้ซึ่งริมฝีปากของชายหนุ่มผู้ที่วันพุธเฝ้าคอย เขาจึงค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมาช้าๆ ดวงหน้าคมสันกำลังจ้องมองเขาเขม็ง
“ออเจ้าเป็นผู้ใดบอกข้ามาเถิด”ชายหนุ่มถามขึ้น

หมดกัน ความฝันของอีพุด
นกแล้วนกอีก จะให้นกไปอีกกี่ชาติกี่ภพกันเนี่ย
กะเทยเซรง
วันพุธสะบัดหน้าหนี ฝืนรักษาฟอร์มที่เคลิ้มตัวรอคอยจูบจากเขา

“ข้าชื่อวันพุธ”เขาตอบพร้อมสะบัดปลายเสียง
“ออเจ้าไม่ใช่อิสตรี”คนฟังทำท่าสนใจขึ้นมา
“ร่างกายข้าไม่ใช่ แต่จิตใจข้าเป็นอิสตรี100%”
“ข้าหาเข้าใจออเจ้าไม่”
“ข้าเกิดมามีร่างกายเป็นชาย หากแต่หัวใจของข้าเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่ข้าจำความได้”วันพุธพยายามอธิบาย
“ข้ายังหาได้เข้าใจไม่”
“คุณหมื่นไม่ต้องเข้าใจก็ได้ คุณหมื่นรู้เพียงว่าข้าไม่ใช่ผี และข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้ามาอยู่ในร่างของแม่หญิงพุดซ้อนได้อย่างไร และจะกลับไปยังที่ที่ข้าจากมาได้อย่างไร”คราวนี้คนพูดตีหน้าเศร้า
“ข้าเชื่อคำออเจ้า ข้ารู้ว่าออเจ้าไม่ใช่คนเลวร้าย แล้วออเจ้าจักทำเช่นใดต่อไป หรืออเจ้าจักยอมออกเรือนไปกับขุนเพลิง”
“ไม่ ข้าไม่แต่งงานกับขุนเพลิงกระจิดริดเด็ดขาด ข้าไม่ได้รักเขา แต่ข้ารักคุณหมื่น”คราวนี้คนพูดรีบดึงมือมาปิดปากตัวเองเอาไว้

ตายแล้ว แก้วแตก อีพุดเผลอบอกรักผู้ชายออกไปก่อนแล้ว
เกิดมาในชีวิตไม่เคยบอกรักใครก่อน
มีแต่ผู้ชายมารุมบอกรัก

หมื่นเทิดเทศายิ้ม เขาเลื่อนมือมาเกาะกุมมือของวันพุธเอาไว้
“ใจของข้าก็มอบให้ออเจ้าไปแล้วเช่นเดียวกัน”
“ว่าไงนะ”วันพุธโพล่งออกมาเสียงดัง

หมื่นเทิดบอกว่าเขารักมึงว่ะอีพุด
มึงได้ยินใช่ไหม
เพ้อเจ้าหนักแล้ว เขาหลงรักร่างของแม่หญิงพุดซ้อนต่างหาก
อย่าเข้าข้างตัวเองนักเลย อีโง่พุด

“คุณหมื่นไม่ได้รักข้าดอก คุณหมื่นรักแม่หญิงพุดซ้อน ข้าเป็นเพียงชายอ้วน หน้าตาน่าเกลียดที่มาอาศัยอยู่ในร่างของแม่หญิงพุดซ้อนเท่านั้น หากคุณหมื่นได้เห็นตัวจริงของข้า คุณหมื่นคงจะเกลียดข้าด้วยซ้ำไป”พูดจบก็ถอนหายใจออกมา
การยอมรับความจริงคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของวันพุธ
“ข้าไม่ได้รักเรือนกายงดงามของแม่หญิงพุดซ้อนดอก หากแต่ข้าหลงรักจิตใจงดงามที่อยู่ในเรือนกายของแม่หญิงพุดซ้อนต่างหาก แล้วเช่นนี้ออเจ้าคิดว่าผู้ที่ข้ารักคือผู้ใดกัน ระหว่างออเจ้ากับแม่หญิงพุดซ้อน”หมื่นเทิดเทศาชี้มือมาตรงหัวใจของวันพุธ พร้อมกับคำหวานที่ทำให้คนฟังตัวเบาหวิว มันช่างเป็นประโยคบอกรักที่เด็ดดวงที่สุดเท่าที่เขาได้ยินมา ใบหน้าคมสันทอประกายระยับอยู่ตรงหน้า
ไม่ลงไม่รอมันอีกต่อไปแล้วอีพุด นานๆจะมีผู้ชายมาบอกรักแบบนี้
ถ้ามัวรอให้เขาจูบแกก่อน มีหวังแกต้อง นก อีกแน่นอน

วันพุธโผเข้าไปจูบชายหนุ่มตรงหน้าทันที หมื่นเทิดเทศาจูบตอบเขากลับมาอย่างดูดดื่ม ก่อนที่วันพุธจะใช้มือลูบคลำไปตามกล้ามแกร่งของเขา

พ่อคุณทำไม่มันแน่นไปหมดแบบนี้
อารมณ์รักของกะเทยอ้วนพวยพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด วันพุธค่อยๆเลื่อนมือลงมาสัมผัสซิกแพคแน่นๆ แล้วค่อยขยับเลื่อนต่ำลงมาอีก

อีพุดกำลังจะกลายเป็นนักผจญอนาคอนด้า
มาดูกันว่า คนอย่างอีพุดจะสามารถจับอนาคอนด้ายักษ์ด้วยมือเปล่าได้หรือไม่ หากแต่มือเรียวยาวลูบไล้ไปยังไม่ถึงเป้าหมาย มือแข็งแรงก็จับมือของแม่หญิงพุดซ้อนเอาไว้ซะก่อน

หมดกัน ดับฝันกะเทยอีกแล้ว

“ถ้าขนาดนี้แล้ว ไปหอนอนข้าเถอะ ข้ายอมคุณหมื่นทุกอย่าง คุณหมื่นจะมีเซ็กซ์กับข้ากี่รอบ ข้ายอมทั้งหมด”หมื่นเทิดเทศาขยับร่างห่างออกมา
“เซ็กซ์”

สงสัยอีตาหมื่นจะไม่เข้าใจ
ในเวลานี้อีพุดไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
ไม่ว่าอย่างไรอีพุดจะต้องพิชิตอนาคอนด้าของอีตาหมื่นให้สำเร็จให้ได้

“โล้สำเภาไง”เขาคิดถึงฉากหนึ่งในละครดังขึ้นมา
คราวนี้คนฟังหน้าแดงก่ำ แดงเลยไปจนถึงใบหูทั้งสองข้าง
“ออเจ้าชวนข้าไปโล้สำเภอฤา”ริมฝีปากบางคลี่ยิ้ม รู้สึกกระดากอายขึ้นมา เกิดมาไม่เคยมีผู้ใดชวนเข้าหอนอนไปโล้สำเภามาก่อน
วันพุธยักคิ้ว ทำดวงตาเป็นประกาย
“จะทำอันใดก็อย่าให้มันเกินงามนัก ข้าชักเอือมระอาออเจ้าเหลือทน หมดอารมณ์จักเสวนาด้วยอีกต่อไป”หมื่นเทิดยิ้มกว้าง เอื้อมมือมาโคลงศีรษะแม่หญิงพุดซ้อนแผ่วเบา
“ฝันดีนะออเจ้า”ชายหนุ่มผู้นั้นลุกขึ้น แล้วสะบัดก้นเดินหนีไปจากโรงครัวทันที
“เดี๋ยวก่อนสิคุณหมื่น คุณหมื่นจะปล่อยให้อีพุดอารมณ์ค้างแบบนี้ไม่ได้นะ”วันพุธลุกขึ้นยืน

โธ่เอ้ย อีพุดที่น่าสงสาร นึกไปไหนถึงไหน
อย่าว่าแต่จะได้พิชิตอนาคอนด้ายักษ์เลย
ไส้เดือนสักตัว ยังไม่ตกถึงท้อง
อดอีกแล้วอีพุด นกจ้า นกอีกแล้วจ้า
สงสัยต้องเรียกตัวเองว่า อีพุดกะเทยนก 2019 แล้วมั้งแก


ภาษาตุ้ดวันละคำ
นก=พลาด ชวด หรือ อด

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
ตอนที่ 18
                      เปิดตัวขุ่นแม่
เช้าวันที่อากาศแสนจะสดใส ลมร้อนหอบเอากลิ่นมวลดอกไม้หอมฟุ้งอยู่ในละอองอากาศ  เช่นเดียวกับดวงหน้ากระจ่างใสที่อาบไปด้วยความสุข วันพุธกำลังคิดย้อนกลับไปถึงหนังสือเล่มเก่าที่เคยเก็บเอาไว้ในกล่องเก็บของรวมกับหนังสือนิยายย้อนยุค  หนังสือเล่มที่เขาเคยอ่านเป็นหนังสือนอกเวลาในสมัยที่เขายังเป็นเด็ก นั่นก็คือ หนังสือที่ชื่อ “เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก”วันพุธจำได้ว่าเสน่ห์ที่ทำให้เขาหลงใหลหนังสือเล่มนั้นก็คือการนำเสนอเรื่องอาหารการกินในสมัยก่อน ผู้เขียนเล่าว่า ผู้คนในสมัยก่อนมักจะกินอาหารที่หาได้ตามฤดูนั้นๆ เช่น ในฤดูที่มีกุ้งมาก อาหารส่วนใหญ่จึงมักทำจากกุ้งเช่น ต้มยำกุ้ง หรือข้าวต้มกุ้ง แต่เมนูที่ขาดไม่ได้ของคุณยายในสมัยที่ยังเด็กก็คือ กุ้งย่างจิ้มกับน้ำปลามะกอก เมื่อผู้ที่กำลังครุ่นคิดจินตนาการตามเขาถึงกลับต้องกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ พลางมองกุ้งแม่น้ำที่เหลือจากทำข้าวต้มกุ้งเมื่อวาน ชายหนุ่มยิ้มเผยฟันขาวสะอาดของแม่หญิงพุดซ้อน เมนูกุ้งเผาน้ำปลามะกอกนี่ล่ะคืออาหารที่เขาจะลงมือทำในเช้าวันนี้
“พอถ่านแดงได้ที่ เอากุ้งลงเผาในเตาถ่านเลยนะจ๊ะพี่แกลบ เนื้อกุ้งจะได้มีรสชาติหวาน”เขาบอกบ่าวคนสนิทที่กำลังง่วนอยู่กับการติดไฟในเตาถ่าน ก่อนจะหันกลับมาบอกบ่าวอีกคนที่เสนอตัวช่วยทำน้ำปลามะกอก ซอยกระเทียม พริกขี้หนู และเฉือนมะกอกให้เป็นชิ้น ไม่ต้องเอาเมล็ดนะจ๊ะพี่น้อย”
“เจ้าค่ะ แม่หญิง”อีน้อยรับคำพลางยิ้มกว้างกับอีแกลบ บ่าวทั้งสองรู้สึกสุขใจโขที่เห็นนายสาวดูสดชื่นและมีความสุข
เมื่อทุกอย่างพร้อมวันพุธจึงสั่งการให้พวกบ่าวยกสำรับขึ้นไปบนเรือน เขายังมีน้ำใจแบ่งปันกุ้งเผาน้ำปลามะกอกให้พวกบ่าวได้กินกันทั้งเรือน
“ลงครัวเองเลยฤาออเจ้า”ออกยาพัชระเอ่ยถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พลางชะโงกใบหน้าไปมองอาหารในสำรับ
วันพุธกวาดตามองไปยังคุณหญิงพร้อม ขุนเพลิงพาน และทิ้งหางตาให้ชายหนุ่มผิวสีแทนอีกคน
“กุ้งเผาน้ำปลามะกอกเจ้าค่ะ”
“น่าทานยิ่งนัก”คุณหญิงพร้อมออกปากชม
“ออเจ้าคงจะทราบข่าวแล้วใช่หรือไม่ ถึงได้ตื่นแต่ไก่โห่มาจัดหาสำรับด้วยหน้าตาแจ่มใสเช่นนี้”ผู้สูงวัยกล่าวต่อพลางเหลือบตาไปมองบุตรชายคนโตที่นั่งยิ้มกว้างด้วยความชื่นบานเช่นเดียวกัน หากแต่วันพุธกลับไม่ได้สนใจฟัง เขามัวกำลังจดจ้องวิธีการรับประทานของออกยาพัชระอยู่
“คุณลุงต้องนำกุ้งเนื้อแน่นจิ้มลงไปในน้ำปลามะกอกแบบนี้นะเจ้าคะ”เขาพูดออกมา พลางแกะกุ้งเผาจิ้มน้ำปลามะกอกแล้วส่งเข้าปากของตนเอง

โอ้ย+++มันช่างอร่อยเหลือเกินคุณๆเอ้ย
อีพุดฟินเว่อร์

“คุณพี่เจ้าขา”คุณหญิงพร้อมหันไปสะกิดผู้เป็นสามี ออกยาพัชระจึงได้วางกุ้งเผาในมือลงไป
“หลังวันขึ้นปีใหม่ฤกษ์ดีนัก สมภารวัดใหญ่ชัยมงคลว่าอย่างนั้น ออเจ้าคงต้องเตรียมตัวเอาไว้ เพราะเหลือเพลาอีกมินานแล้ว”
“คุณลุงจะจัดงานอะไรฤาเจ้าคะ”แม่หญิงพุดซ้อนพูดพลางแกะเนื้อกุ้งไปพลาง
“ฤกษ์แต่งงานของออเจ้ากับพ่อเพลิงอย่างไรเล่า”สตรีสูงวัยเป็นผู้ให้คำตอบแทน
“ว่าไงนะเจ้าคะ”กุ้งในมือของแม่หญิงคนงามหล่นไปในถ้วยน้ำปลามะกอกทันที
เขามองไปยังชายหนุ่มผู้ที่พึ่งบอกรักเขาในค่ำคืนที่ผ่านมา หากแต่หมื่นเทิดเทศากลับเมินหน้าหนี ไม่ยอมแม้แต่จะสบสายตากับเขา

หรืออีตาหมื่นนั่นคงจะแค่แกล้งยอกแกเล่นซินะอีพุด
ใช่ซินะ แกมันก็แค่กะเทยอ้วน
ผู้ชายแท้ๆที่ไหนเขาจะมาสนใจ

วันพุธรู้สึกร้อนผ่าวที่ดวงตา หากแต่พยายามเก็บอาการเอาไว้

หัวใจเจ็บปวดราวถูกเชือด
ขำไม่ออกแล้วไงแก อีพุดเอ้ย

“วันขึ้นปีใหม่ที่กำลังจักมาถึง พ่อเพลิงจงพาน้องไปก่อเจดีย์ทรายที่วัดใหญ่ชัยมงคลตามประเพณี อย่าลืมนำพานบายศรีไปไหว้ท่านสมภารเสียด้วย อย่างไรเสียท่านก็เป็นผู้ผู้ปล่อยฤกษ์หามยามดีให้แก่ออเจ้าทั้งสองในงานมงคลคราวนี้”
“ขอรับเจ้าคุณพ่อ”ขุนเพลิงพานจ้องมองมายังแม่หญิงพุดซ้อนด้วยความเสน่หาที่สมหวังดังใจหมาย ในขณะที่อีกฝ่ายนั่งก้มหน้านิ่งแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนชายหนุ่มผู้น้องทำได้เพียงแอบมองหญิงสาวผู้นั้น ราวกับพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกมากมายไม่ให้ผู้ใดมองเห็น


ทุกครั้งที่จะได้ไปเที่ยวชมกรุงศรีอยุธยาวันพุธมักจะลิงโลดด้วยความตื่นเต้นเสมอ หากเพลานี้เขากลับนั่งเศร้าอยู่หน้าคันฉ่องบานใหญ่ ปล่อยให้อีน้อยกับอีแกลบแต่งองค์ทรงเครื่องให้ตามอำเภอใจ หัวใจของเขายังเต็มไปด้วยคำถาม ผู้ชายคนนั้นเพิ่งจะบอกรักเขา รักที่เขาเป็นเขา รักที่เขาเป็นกะเทย แต่ทำไมผู้ชายคนนั้นไม่คิดจะกางปีกปกป้องเขาบ้าง

ยิ่งคิดยิ่งเศร้าจับใจ
อาการคนอกหักมันเป็นเช่นนี้ใช่ไหมวะอีพุด

เขาเอ่ยถามตัวเองเมื่อกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
“แม่หญิงเจ้าขา”อีน้อยกับอีแกลบนั่งลงคว้ามือของแม่หญิงพุดซ้อนมาจับเอาไว้แนบแก้ม บ่าวทั้งสองมองหล่อนด้วยน้ำตาเต็มตา
“อย่าทุกข์ใจอันใดอีกเลยนะเจ้าค่ะ วันนี้วันปีใหม่แม่หญิงของบ่าวควรจักต้องยิ้มแย้มและสดใส แม่หญิงจักได้มีสุขใจตลอดไปทั้งปีนี้นะเจ้าคะ”
“ขอบใจมากนะพี่น้อยพี่แกลบ”วันพุธฝืนยิ้มแล้วปัดน้ำตาทิ้ง เมื่อเสียงเคาะประตูหอนอนดังขึ้น
“นั่นสิเนาะ ในเมื่อเราไม่สามารถแก้ไขมันได้ เราก็ต้องยิ้มรับกับมัน”เขาว่าพลางพยักหน้าไปบ่าวคนหนึ่งไปเปิดประตูหอนอน
ขุนเพลิงพานแต่งกายเต็มยศ ดูหล่อเหลาราวกับเทพบุตรลงมาจุติก็ไม่ปาน หากเป็นเมื่อก่อนวันพุธคงจะยินดียิ่งนักที่จะมีสามีหล่อขั้นเทพ แถมยังหน้าตาเหมือนดาราหนุ่มที่เขาแอบหลงรักราวกับคนเดียวกัน หากแต่ในเวลานี้เขากลับกำลังมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป อาจจะเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและทัศนคติของเขา

การที่เราจะรักใครสักคนและใช้ชีวิตร่วมกับเขา มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปร่างและหน้าตาหากแต่มันขึ้นอยู่กับความรักและจิตใจของบุคคลบุคคลนั้นต่างหาก

วันพุธผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบา

เอาเถิดอีพุด ทำวันนี้ให้มันดีที่สุดก็แล้วกัน
 เรื่องของอนาคตก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตไป

เขาเดินตามขุนเพลิงพานไปโดยมีอีน้อยและอีแกลบรวมไปถึงบ่าวผู้ชายอีกสองสามคนติดตามขบวนมาด้วย หมื่นเทิดเทศายืนกอดอกนิ่งอยู่ตรงพาลัยเรือน เมื่อขบวนของเขาเคลื่อนผ่านมา ชายหนุ่มผู้นั้นก็รีบหลบหายเข้าไปภายในหอนอนทันที

แน่แท้แล้วอีพุดเอ้ย เขาคงเห็นแกเป็นแค่ตัวตลก
เหมือนที่ใครต่อใครต่างก็เห็นแก่เป็นกะเทยอ้วนจอมตลก

แสงหลากสีระยับส่องประกายวับวาวสาดส่องมาชายหนุ่มร่างอ้วนที่สวมอาภรณ์ของอิสตรี ใบหน้าถูกฉาบเอาไว้ด้วยเครื่องสำอางจนหนาเตอะเพื่อให้เข้ากับวิกผมหยิกฟูสูงบนศีรษะ ร่างอวบใหญ่ราวช้างพังกำพังยืนจับมือกับช้างพังอีกตัว ทำท่าทางราวกับกำลังประกวดนางงามจักรวาล
“และผู้ที่ได้เป็นธิดาช้างจำแลงประจำปีนี้ได้แก่”
“อีพุด อีพุด อีพุด”เสียงบรรดาเพื่อนสาวของวันพุธที่ยืนอยู่หน้าเวทีตะโกนเชียร์
“นางสาววันพุธ ช้างกระทืบโรง”ทั้งมงกุฎและสายสะพายถาโถมเข้ามาหาผู้ที่พึ่งได้รับตำแหน่งธิดาช้างจำแลง วันพุธหมายจะโอบกอดเพื่อนสาวผู้พ่ายแพ้แก่เขา หากแต่ชายอ้วนในร่างธิดาช้างกับเชิดหน้าหนี  แล้วเอื้อมมือไปคว้ามงกุฎมาสวมที่ศีรษะของตนเอง ก่อนที่ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นบนเวที ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของบรรดาผู้ชม

“ออเจ้าจะประดับดอกไม้บนยอดเจดีย์ด้วยตนเองหรือไม่”เสียงทุ้มดังขึ้นดึงวันพุธออกมาจากภวังค์ เขาส่ายใบหน้าหลับตาลงไม่ได้สนใจหนุ่มสาวชาวอยุโธยาที่กำลังเล่นสาดน้ำในวันปีใหม่
ได้โปรดเถิด
ขออย่าให้หมื่นเทิดเทศาเห็นเขาเป็นตัวตลกเช่นทุกๆคนเลย
หัวใจของอีพุดคงเจ็บปวดจนยากจะเยียวยาได้

เมื่อเขาเปิดเปลือกตาขึ้น พ่อด่านก็ยืนยิ้มอยู่ไม่ห่าง หากแต่สายตาของชายหนุ่มผู้นั้นกลับหาได้มองมาที่แม่หญิงพุดซ้อนไม่ ดวงตาวาววับจับจ้องอยู่ที่ร่างล่ำสันของขุนเพลิงพาน แววตาแบบนั้น รอยยิ้มเช่นนั้น ไม่ผิดแน่

อีขุ่นแม่ด่านอยากกินขุนเพลิงกระจิดริด

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
                      ตอนที่ 19
                     ร้ายนะยะ อีบัว
เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องระงมดังเข้ามาภายในหอนอน แสงนวลของดวงจันทร์ในคืนวันปีใหม่ไทยแทรกผ่านหน้าต่างที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้ วันพุธนั่งนิ่งอยู่หน้าคันฉ่องกำลังเพ่งพิศภาพเรือนกายงามของแม่หญิงพุดซ้อน ด้วยอากาศที่ค่อนข้างอบอ้าวอีน้อยและอีแกลบจึงนำพัดมานั่งโบกไปมาอยู่ด้านข้างเจ้านายสาว
“แม่หญิงพุดซ้อนจะดีใจหรือเสียใจนะที่ได้ออกเรือนกับขุนเพลิงพาน”เขาพึมพรำ
“ป่านนี้แม่หญิงจะไปอยู่ที่ไหน จะคิดถึงร่างงามของตัวเองหรือไม่ นี่ก็เกือบจะสามปีแล้วที่แม่หญิงทิ้งร่างกายไป”วันพุธหลับตาลง ยกมือมากอดอกตัวเองเอาไว้ เมื่อจู่ๆก็เกิดรู้สึกเสียวสันหลังวาบ รู้สึกราวกับอากาศรอบข้างเย็นเฉียบลงกลางคัน
เสียงร้องไห้คร่ำครวญของอิสตรีนางหนึ่งดังลอดบานประตูเข้ามาภายในหอนอน วันพุธลืมตาโพลงขึ้นมาจ้องสองบ่าวเขม็ง
“ได้ยินไหม พี่น้อย พี่แกลบ”สองบ่าวพยักหน้าพร้อมเพียงกัน
“หรือว่าจะเป็นสุกี้น้ำแม่หญิงพุดซ้อน”
“สุ ขี้ น้ำ คืออันใดฤาเจ้าคะ”อีน้อยวางพัดในมือลง
“ผี”วันพุธตอบ ขนแขนเริ่มตั้งชั้นขึ้นมา


เวรแล้วอีพุด ดันปากเสียไปถามความเห็นเขา
สุกี้น้ำแม่หญิงพุดซ้อนถึงได้แล่นมาตอบคำถามของแกจนถึงที่

“ผีหรือเจ้าคะ”อีแกลบวางพัดลงบ้างแล้วขยับเข้ามานั่งชิดอีน้อยด้วยท่าทางหวาดกลัว
เสียงร้องไห้โหยหวนยังดังอยู่ต่อเนื่อง
“พี่สองคนออกไปดูซิ”หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าพร้อมกัน
“บ่าวกลัวสุขี้น้ำเจ้าค่าแม่หญิง”
“บ่าวด้วยเจ้าค่า”คนพูดกอดกันกลม
“ไม่ได้เรื่องเลยพี่สองคน”วันพุธลุกขึ้นยืน ปัดความกลัวทิ้งไป เอาน่าถึงอย่างไร เขาก็ยังมีความเป็นผู้ชายอยู่บ้าง เขาเอื้อมมือไปหยิบตะเกียง ก่อนจะค่อยๆแง้มบานประตูหอนอนออกไปช้าๆ
“เอ้า ตามมาสิพี่”ผู้เป็นนายหันไปบอก เมื่อสองสาวใหญ่ยังคงนั่งกอดกันกลมอยู่ที่เดิม
“ไม่เจ้าค่ะ บ่าวกลัว”
“จะตามมาไหม ถ้าไม่ตามมาจะไล่ให้ออกไปจากหอนอนทั้งคู่”เมื่อนายสาวขู่ อีน้อยและอีแกลบจึงค่อยๆคลานตามเจ้านายสาวมาช้าๆ

วันพุธยกตะเกียงในมือขึ้นสูงแล้วเดินตามเสียงร้องไห้ที่ดังมาจากตรงพาลัยเรือนหน้าหอนอนของแม่หญิงพุดซ้อน อิสตรีผู้นั้นนุ่งโจงและผ้าแถบสีน้ำตาลเข้ม หล่อนนั่งหันหลัง แผ่นหลังของหล่อนสั่นเทิ้มทุกครั้งที่หล่อนสะอื้นไห้ หิ่งห้อยหลายตัวบินผ่านหน้าของวันพุธไป
“เธอ เธอ”วันพุธเรียกเสียงเบา รู้สึกกลัวจนฉี่จะราด ร่างเล็กตรงหน้าหยุดสะอื้นไห้ แล้วค่อยหันกลับมาเชื่องช้า

“อีบัว”อีน้อยกับอีแกลบตะเบ็งเสียงดัง
“เอ็งสาระแนมานั่งเป่าปี่อันใดหน้าหอนอนของแม่หญิงของข้า”อีน้อยว่าเสียงแข็ง
“นั่นประไร ทำเอาแม่หญิงของข้ากลัว สุ ขี้น้ำ แทบตาย”อีแกลบเสริม
“เขาเรียกว่า สุกี้น้ำจ๊ะพี่แกลบ”วันพุธแก้คำผิดให้ อีบัวทำท่าจะโผเข้ามาใกล้ร่างของแม่หญิงคนงาม หากแต่บ่าวทั้งสองกลับรีบตรงเข้ามาขวางทางเอาไว้ในทันที
“ไม่เป็นไรหรอกพี่น้อยพี่แกลบ”วันพุธเป็นฝ่ายเดินแหวกสองผู้อารักษ์ขาออกไป เขาวางตะเกียงในมือแล้วนั่งลงข้างอีบัว
“แม่บัวเป็นอะไรหรือ ถึงได้มานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว”
“แม่หญิงเจ้าขา”อีบัวพนมมือขึ้นน้ำตาไหลพรากออกมาอีก
“ช่วยอีบัวด้วยเถิดเจ้าค่ะ อีบัวมองไม่เห็นผู้ใดอีกแล้วนอกเสียจากแม่หญิง”วันพุธรู้สึกเวทนาหญิงสาวตรงหน้าด้วยความจริงใจ
“แม่หญิงกำลังจะออกเรือนแก่ขุนเพลิงท่านจริงหรือไม่เจ้าคะ”
วันพุธผ่อนลมหายใจออกมา เขาพอจะเดาเรื่องราวได้แล้ว ว่าเหตุใดอีบัวจึงต้องมานั่งร้องห่มร้องไห้หน้าหอนอนของแม่หญิงพุดซ้อน
“ฉันก็ไม่อยากจะทำอย่างนั้นหรอกนะแม่บัว”
“อีบัวรู้ดีเจ้าค่ะว่าอีบัวต้อยต่ำนัก อีบัวมิเคยจักเอาตนไปเปรียบเทียบกับแม่หญิง หากแต่ขุนเพลิงท่านหาได้ปราณีอีบัวไม่ อีบัวจึงบากหน้ามาร้องขอให้แม่หญิงช่วยเหลือ ขอเพียงขุนเพลิงท่านเมตตาอีบัวบ้างเพียงน้อยนิด อย่าทอดทิ้งอีบัว อีบัวจะไม่ร้องขออันใดอีกเลยเจ้าค่ะ”
“มันมิมากไปฤาอีบัว”อีแกลบแทรกขึ้นมา
“ถ้าหากมีเพียงลำพังแค่อีบัว อีบัวจะไม่ทำให้แม่หญิงต้องร้อนใจเช่นนี้ดอก หากแต่เพลานี้อีบัวมิได้ตัวคนเดียวอีกต่อไป”คนพูดยกมือมากุมที่ท้องของตนเอง
“เอ็งตั้งท้องฤาอีบัว”อีน้อยว่าพลางยกมือขึ้นมาทาบอก
“เห็นแก่เด็กน้อยที่กำลังจะเกิดมาเถิดแม่หญิงเจ้าขา”อีบัวโผเข้ามาสวมกอดขาของแม่หญิงพุดซ้อนเอาไว้ หล่อนตั้งใจให้น้ำตาของหล่อนหยดลงไปบนผิวเนื้อของแม่หญิงพุดซ้อนเพื่อเรียกคะแนนสงสาร

ร้ายใช่เล่นนะยะ นังบัว

“ถ้าหากแม่หญิงมีจิตอารีต่ออีบัว อีบัวสาบานว่าจะมอบความภักดีต่อแม่หญิงไปจนสิ้นลมหายใจ”วันพุธลุกขึ้นยืนเมื่ออีแกลบนั่งลงแกะมือของอีบัวให้ออกไปจากขาของแม่หญิงพุดซ้อน
“น้ำหน้าเยี่ยงเอ็งนะฤาที่จะยอมภักดีต่อผู้อื่น”
“จริงแท้อีแกลบ ข้าเห็นด้วยกับเอ็ง ไม่ใช่เพราะแม่เอ็งดอกฤาที่ทำให้แม่หญิงเกือบตายเมื่อคราโน้น”วันพุธนิ่งงัน ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาบอกกล่าวต่ออีบัว

นี่แกกำลังจะแย่งผัวชะนีหรือวะอีพุด
แกมันไม่ใช่แม่หญิงการะเกดจากบุพเพสันนิวาส และแกก็คงไม่ใช่แม่มณีจันทร์แห่งทวิภพ แต่แกมันคืออีเรยา จากดอกส้มสีทองต่างหาก

ให้เลวกว่านี้ ฉันก็ยังยินดีจะทำทุกอย่าง
ชีวิตขอเลือกเส้นทางเส้นเดียวที่นำไปสู่จุดหมาย
ถ้าเลวแล้วได้ครอบครอง ฉันยอมให้มองว่าร้าย
ต้องเปลืองตัวและหัวใจ ต้องแย่งชิงใคร ฉันจะทำ

วันพุธยกมือขึ้นมากำ แล้วดึงเข้ามาหาหัวใจของตัวเอง พลางร้อง
เพลงออกมาด้วยเสียงอันดัง
   “แม่หญิงเจ้าขา”อีแกลบกระตุกชายผ้านุ่งของเจ้านายเบามือ อีบัวจ้องมองเขม็ง
   “ฤาแม่หญิงพุดซ้อนจะวิปลาสไปแล้ว”หล่อนรำพันแก่ตนเอง
   “ขอโทษที อินไปหน่อย”เมื่อตั้งสติได้วันพุธก็ทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง
   “เอาเถิด ฉันสัญญาว่าฉันจะช่วยเหลือแม่บัว เท่าที่ฉันจะทำได้ ฉันไม่ยอมให้ขุนเพลิงพานทอดทิ้งแม่บัวอย่างแน่นอน”อีบัวก้มลงกราบแม่หญิงพุดซ้อน หล่อนแอบยิ้มมุมปาก หล่อนยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผัวอันเป็นที่รัก หล่อนจะไม่ยอมให้ขุนเพลิงพานได้แต่งงานออกเรือนกับแม่หญิงพุดซ้อนเด็ดขาด ผู้หญิงคนเดียวที่จะอยู่เคียงข้างขุนเพลิงพานหาใช่ผู้ใดไม่ นอกเสียจากตัวของหล่อนเอง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2



                     ตอนที่ 20
                         ยิ้ม
วันพุธนั่งลงหน้าคันฉ่องอีกครั้ง ในสมองกำลังครุ่นคิดว่าจะสามารถช่วยเหลืออีบัวได้อย่างไร จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงตะกุกตะกักดังขึ้นบริเวณหน้าต่างหอนอน เขาหันไปมองอีน้อยอีแกลบ
“สุ ขี้ น้ำ ใช่หรือไม่เจ้าคะ”ริมฝีปากอีแกลบสั่นระริก
“เพ้อเจ้อน่าพี่แกลบ ผีมีจริงที่ไหนกันเล่า”วันพุธลุกขึ้นยืน มองหาอาวุธที่พอจะป้องกันตัวได้ เวลานี้เขาไม่ได้คิดว่าที่มาของเสียงกุกกักบริเวณหน้าต่างคือวิญญาณของแม่หญิงพุดซ้อนอีกแล้ว หากแต่เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นพวกโจรที่จะแอบขึ้นมาในหอนอนของแม่หญิงพุดซ้อน
วันพุธกำท่อนไม้ในมือแน่น ก้าวฉับไปที่หน้าต่าง ฟาดไม้ลงไปที่ร่างที่โผล่พ้นขอบหน้าต่างขึ้นมา หากแต่ชายหนุ่มผู้นั้นกลับกระโจนหลบเข้ามาภายในหอนอนอย่างทันท่วงที
“คุณหมื่น”วันพุดวางท่อนไม้ลง
“ปีนเข้ามาหอนอนของข้าเยี่ยงนี้  รู้หรือไม่เจ้าคะว่ามันมิสมควรกระทำ”คนพูดเดินมานั่งลงตรงคันฉ่องอีกหน อีน้อยกับอีแกลบหัวเราะคิกคักเมื่อหมื่นเทิดเทศายกมือขึ้นมาจับเส้นผม ท่าทางเคอะเขินที่ถูกคนอย่างวันพุธตำหนิในเรื่องสิ่งที่ไม่สมควรพึงกระทำ
“ออเจ้าอย่าถือสาข้าเลย ข้าเพียงอยากมาปรับความในใจแก่ออเจ้า มิต้องการให้ออเจ้าเข้าใจข้าผิดไปมากกว่านี้”เขาเดินมานั่งลงข้างหญิงสาว
“เมื่อคราที่ออเจ้ากลับมาจากวัดใหญ่ชัยมงคล ออเจ้าทำราวกับข้าไร้ซึ่งตัวตน ข้ากังวลใจยิ่งนัก”
“ทำเป็นพูดดีไป ตอนที่ออกญาท่านบอกว่าจะให้ข้าออกเรือนกับขุนเพลิงไม่เห็นว่าอะไรสักคำ”วันพุธนึกในใจหากแต่ไม่ได้กล่าวออกมา
“เอ็งสองคนออกไปรอหน้าหอนอนก่อน”หมื่นเทิดเทศาโบกมือไล่บ่าวทั้งสอง
“ไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น พี่น้อยพี่แกลบ”คนพูดเชิดหน้าคอตั้งสูง เมื่อรู้ว่าตนเองกำลังถือไผ่เหนือกว่า
“ถ้าข้ามารบกวนออเจ้า ข้าขออภัย ข้ามิได้มีเจตนาอื่นใดนอกจากจะอธิบายความให้ออเจ้ารับฟัง”เจ้าของร่างล่ำสันลุกขึ้นยืน ทำท่าจะปีนกลับออกไปจากทางที่เข้ามา วันพุธใจหล่นวูบ เขารีบคว้าข้อมือแข็งแรงของหมื่นเทิดเอาไว้

แม้ หัวก็ไม่ล้าน ทำเป็นใจน้อยนะอีตาหมื่นบ้า

“ออกไปสิ พี่น้อยพี่แกลบ จะมัวมานั่งเสนอหน้าอยู่ทำไม”อีน้อยกับแกลบจ้องหน้ากันและกัน ก่อนจะคลานออกไปจากหอนอน หลังจากปิดประตูหอนอนสองสาวใหญ่ก็แนบใบหูลงไปที่ประตูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เอ็งคิดเหมือนที่ข้ากำลังคิดหรือไม่วะอีน้อย”
“ข้าก็กำลังคิดเหมือนที่เอ็งกำลังคิดนั่นแหละอีแกลบ”
“เรื่องแม่หญิงกับหมื่นท่านใช่ไหมวะ”อีแกลบทำน้ำเสียงตื่นเต้น
“หาใช่ไม่ ข้ากำลังคิดว่าเมื่อใดเอ็งจะเอาตีนออกไปจากตีนของข้าเสียที”อีแกลบมองเท้าของตนที่เหยียบเท้าของอีน้อยอยู่ ก่อนจะยกเท้าหนีออกไปอย่างละอาย
“อีน้อย....”อีน้อยยกมือขึ้นมาจุปากให้อีแกลบเงียบเสียง เมื่อชายหนุ่มและหญิงสาวที่อยู่ภายในหอนอนเริ่มต้นสนทนากัน

“ข้าเกรงว่าจะมีผู้ใดเห็นเข้า มันจักมิงาม ข้าจึงปีนเข้ามาหาออเจ้าเยี่ยงนี้ ข้ารู้ตัวดีว่าขลาดเขลานักที่ไม่กล้าออกตัวปกป้องออเจ้า ถ้าหากข้าเป็นออเจ้าข้าก็คงไม่พึงใจโข”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว”แม่หญิงคนงามยังทำท่าทางแสนงอน
“ข้าอยากให้ออเจ้าเข้าใจ แม่หญิงพุดซ้อนมีศักดิ์เป็นคู่หมายของขุนเพลิงพานผู้เป็นพี่ชายของข้า ถ้าหากข้าแย่งแม่หญิงพุดซ้อนมาเป็นของข้า ก็เท่ากับข้าทำร้ายครอบครัว ทำให้เจ้าคุณพ่อและเจ้าคุณแม่ต้องอับอายผู้คน ทำให้พี่ชายต้องเสียใจ ข้าไม่สามารถเป็นคนอกตัญญูได้ ข้ายอมเป็นผู้เจ็บปวดเสียเอง ข้าอยากให้ออเจ้าเห็นใจข้าด้วย”
“ถึงอย่างไรข้าก็จะไม่แต่งงานกับขุนเพลิง เพราะตอนนี้อีบัวกำลังตั้งท้องลูกของขุนเพลิง ข้าจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับคุณลุงคุณป้า ข้าเชื่อว่าท่านทั้งสองต้องยอมยกเลิกงานแต่งงานระหว่างขุนเพลิงกับแม่หญิงพุดซ้อนอย่างแน่นอน”คนพูดเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
หมื่นเทิดเทศาถอนหายใจออกมา
“ออเจ้าคงจะลืมไปกระมัง อีบัวเป็นเพียงบ่าวในเรือน ขุนเพลิงท่านจะมีเมียบ่าวสักกี่คนก็ย่อมได้ มันมิใช่เรื่องเสื่อมเสียอันใด หากแต่เมียตบเมียแต่งจะต้องมาจากตระกูลที่สมน้ำสมเนื้อกัน ออเจ้าจึงต้องออกเรือนแก่ขุนเพลิงพานหาหลีกเลี่ยงได้ไม่”

จริงด้วย อีพุดเอ้ย แกมันโง่พิลึกพิลั่น
ผู้ชายสมัยกรุงศรีใครเขามีเมียคนเดียวกันเล่า
แกจำละครเรื่องนางทาสไม่ได้หรือไงจ๊ะ
อีตาท่านเจ้าคุณมีเมียเป็นโขยง
 ยัยเมียแต่งซะอีกที่เป็นฝ่ายหาเมียบ่าวมาให้ผัวตัวเอง

วันพุธหมดสิ้นหนทางที่จะช่วยทั้งตัวเองและอีบัว
“เรื่องระหว่างเราคงต้องจบสิ้นเพียงเท่านี้”น้ำคำนั้นเบาหวิว วันพุธจ้องมองใบหน้าคมสันตรงหน้า
“คุณหมื่นรักแม่หญิงพุดซ้อนบ้างหรือไม่”ชายหนุ่มดึงมือยาวเรียวมาเกาะกุมเอาไว้ แม้มิได้กล่าวถ้อยคำอันใดออกมา หากแต่แววตาคู่นั้นกลับแสดงความรู้สึกทั้งหมดให้วันพุธทราบอย่างแจ่มแจ้ง
“ถ้ารักทำไมยอมให้แม่หญิงพุดซ้อนไปเป็นเมียคนอื่น”ชายหนุ่มวางมือ ใบหน้าแดงจัดขึ้นมา
“ข้ามิได้รักแม่หญิงพุดซ้อน”เขาจ้องตาของวันพุธ
“ข้ารักออเจ้า ออเจ้าที่เรียกตนเองว่าอีพุด”
“คุณหมื่นรักข้าเป็นเรื่องจริงฤา”วันพุธดีใจโผเข้าไปสวมกอดร่างกำยำอย่างลืมตัว หากแต่ชายหนุ่มกลับเป็นฝ่ายรีบดึงร่างของแม่หญิงพุดซ้อนออกไป
“ข้ารักออเจ้า แล้วจักมีประโยชน์อันใด ในเมื่อออเจ้าอยู่ในร่างของแม่หญิงพุดซ้อนคู่หมายของพี่ชายข้า”
“คุณหมื่นไม่ต้องกลัวนะ อีพุดสัญญาว่าจะหาทาง ยกเลิกงานแต่งงานให้ได้ อีพุดจะไม่ให้ใครเป็นผัว นอกจากพี่เทิดของอีพุดคนเดียว”
หมื่นเทิดเทศาอมยิ้ม

ดีจริงโว้ย ที่ได้เป็นตัวของตัวเองซะที
ต้องแอปแอ้เป็นกุลสตรีมาตั้งนานสองนาน

“พี่เทิดสุดหล่อ”วันพุธเขยิบเข้าไปใกล้
“ว่าอย่างใดฤา อีพุด”ใบหน้าสีแทนยิ้มกรุ่มกริ่ม
“ตายแล้ว เรียก พุดเฉยๆ นะคะ อีกอีพุดมันมิบังควร”ชายในร่างหญิงงามตีต้นแขนอีกฝ่ายเบามือ
“ว่าอย่างใดฤา พุดเฉยๆ”
วันพุธหัวเราะเสียงดังเมื่ออีกฝ่ายรู้จักที่จะหยอกเอิ้นเขา
“พี่เทิดรักอีพุด อีพุดก็รักพี่เทิด ในเมื่อเรารักกัน เราก็น่าจะยิ้มกันได้แล้วนะเจ้าคะ”แม่หญิงพุดซ้อนแสดงจริตกะเทยออกมา อีกฝ่ายหัวเราะร่วนแล้วแกล้งยิ้มยิงฟันกว้าง
“ไม่ใช่เจ้าค่ะ”

อีพุดก็ลืมไปว่าพี่เทิดของอีพุดคงไม่รู้จักว่ายิ้มคืออะไร

“ยิ้มคือโล้สำเภา”วันพุธบอกออกมาพร้อมทำท่าทางเขินอายราวกับสาวน้อย
“กริยาออเจ้าช่างต่ำทรามนัก”

เอ้า อีตาบ้านี่ ทำไมมาด่าแฟนแรงขนาดนี้เนี่ย
แต่เห็นรอยยิ้มแล้ว อีพุดไม่โกรธพี่เทิดหรอกจ้า ยกโทษให้

“ก็อีพุดรักพี่เทิดนี้น่า อีพุดอยากถูกพี่เทิดยิ้ม ยิ้มอีพุดหน่อยนะ นะ นะ นะ”คนพูดทำเสียงออดอ้อน หมื่นเทิดส่ายศีรษะอย่างเอือมระอา
“ข้าทำเยี่ยงนั้นมิได้ดอก ถึงอย่างไรร่างกายก็ไม่ใช่ของออเจ้า ออเจ้ามิรู้สึกผิดต่อแม่หญิงพุดซ้อนดอกฤา พี่จะเตือนออเจ้าเอาไว้ ถึงเยี่ยงไรออเจ้าก็ยังเป็นแม่หญิงพุดซ้อน จงรักษากริยาให้ดีงามจักดีกว่า”
วันพุธนิ่งเงียบเมื่อถูกดุ ลืมฟังไปแม้กระทั่งเขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองว่าพี่
“ดึกโขแล้ว พี่คงต้องกลับหอนอนก่อน ออเจ้าคิดอ่านประการใดได้ บอกกล่าวพี่ด้วย”ชายหนุ่มลุกขึ้นไปยืนที่หน้าต่าง มองกลับมายังร่างงามที่นั่งหน้าคว่ำอยู่
“ฝันดีนะ พุด”
“เจ้าค่ะ”วันพุธกระแทกเสียง
“รอคอยให้เพลานั้นมาถึง พี่จะยิ้มออเจ้าให้สมใจออเจ้า พี่ให้สัญญา”กล่าวจบชายหนุ่มผู้นั้นก็กระโจนลงไปจากหอนอนของแม่หญิงพุดซ้อน หายลับไปในความมืด

เดี๋ยวนะ
“รอคอยให้เพลานั้นมาถึง พี่จะยิ้มออเจ้าให้สมใจออเจ้า พี่ให้สัญญา”
วันพุธทวนคำพูดของหมื่นเทิดเทศา
ขนลุกค่า
ความจริงแล้วอีตาหมื่นขี้เก๊กก็อยากยิ้มแกใจจะขาดแล้วอีพุด
แม้ ทั้งหล่อ ทั่งล่ำ แถมเป็นคนดีที่หนึ่ง
นี่แหละค่า ผัวในอนาคตของอีพุด
ไม่เป็นไรค่า อีพุดคอยได้ อีพุดจะคอยวันที่ถูกพี่เทิดยิ้มนะคะ
ฝันดีค่าพี่เทิดของอีพุด

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2

                       ตอนที่ 21
                  แผนร้ายของอีพุด
ผู้ที่นั่งครุ่นคิดอยู่ตลอดทั้งคืน ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นไปมา ปลุกให้บ่าวคู่ใจทั้งสองคนที่นอนหลับอยู่ด้านข้างสะดุ้งตื่นขึ้น
“ฉันคิดออกแล้วพี่น้อย พี่แกลบ ว่าจะยกเลิกงานแต่งงานได้อย่างไร”ร่างงามกำมมือเต้นท่าชูศรี เชิญยิ้ม ตลกชื่อดังในยุคที่เขาจากมา
“กุลสตรีเจ้าค่า แม่หญิง”อีแกลบเตือนบ่อยครั้ง จนสามารถออกเสียงได้ถูกต้อง หากแต่ผู้เป็นนายไม่ได้สนใจฟัง เขาบึ่งออกไปจากหอนอน
“แม่หญิงเจ้าขา ยังมิได้ล้างหน้าสีฟันเลยนะเจ้าคะ”หญิงวัยกลางคนทั้งสองวิ่งแจ้นตามหลังไป

“ออเจ้าชวนพี่ไปเรือนหมื่นเดชาชาญทำการใดฤา”ขุนเพลิงพานผู้ที่กำลังใช้ไม้พายจ้วงลงไปในลำน้ำเอ่ยถามผู้ที่นั่งถือร่มอยู่หน้าลำเรือ
“อิฉันอยากไปบอกกล่าวข่าวมงคลของอิฉันกับคุณพี่แก่พี่ด้วงด้วยตนเอง”ผู้ตอบยิ้มแย้ม ยิ่งสร้างความฉงนแก่อีกฝ่าย

เชอะ อย่างขุนเพลิงกระจิดริดนะหรือ
จะรู้เท่าทันแผนการร้ายของอีพุด

วันพุธแสร้งยิ้มหวานส่งมาให้
“พี่เห็นควรแก่ออเจ้า”
“เยี่ยงนั้นคุณพี่ก็รีบจ้ำเข้าเถิดเจ้าค่ะ”หญิงสาวว่าที่คู่หมายมองไปทางอื่น เมื่ออีกฝ่ายจ้องมาด้วยแววตาหวานฉ่ำ

เรือนไม้สักทองหลังงามปลูกติดกับแม่น้ำไม่ได้แตกต่างจากเรือนของออกญาพัชระ
“มาเหนื่อยๆทานน้ำทานท่าให้ชื่นใจเสียก่อนเถิด”เจ้าของเรือนเชื้อเชิญเมื่อขุนเพลิงพานและแม่หญิงพุดซ้อนนั่งลงตรงพาลัยเรือนไทยหลังงาม
“ออกญากับคุณหญิงท่านมิอยู่ดอก เดินทางไปละโว้หลายเพลาแล้ว”หมื่นเดชาชาญบอกกล่าวเมื่อหญิงสาวผู้มาเยือนสอดส่องสายตามองไปรอบบริเวณ
“ข้ากับแม่หญิงพุดซ้อนจักมาเรียนเชิญท่านไปงานมงคลของเราสองคน”ชายหนุ่มผิวขาวพูดด้วยความภาคภูมิใจ ใบหน้าของผู้ฟังสลดลงเล็กน้อย ก่อนจะชักสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ
“ข้ายินดีด้วยนะขอรับ”เขาหันไปจ้องมองแม่หญิงพุดซ้อนที่ยังกวาดสายตามองไปทั่ว ราวกับกำลังมองหาใครบางคนอยู่
“พี่ยินดีแก่ออเจ้าด้วยแม่พุดซ้อน”
“เจ้าค่ะ”
“ออเจ้ามองหาผู้ใดอยู่ฤา”คู่หมายของหล่อนเป็นผู้กล่าวถาม
“พ่อด่านเจ้าค่ะ อิฉันยังไม่เห็นพ่อด่านเลย”
“พ่อด่านคุมพวกบ่าวทำกับข้าวกับปลาอยู่ที่โรงครัว น้องชายพี่ผู้นี้ ชอบเหลือเกินเรื่องเช่นนี้”
“อิฉันก็ชอบเจ้าค่ะ อิฉันขอไปโรงครัวได้หรือไม่เจ้าคะ”วันพุธถามเจ้าของบ้าน แต่เมื่อเห็นแววตาเชิงติเตียวของคู่หมายของแม่หญิงพุดซ้อน เขาก็หันไปพูดด้วยเสียวหวานหยด
“อิฉันขอเข้าไปดูกับข้าวกับปลาเรือนพี่ด้วง เมื่อออกเรือนแล้วอิฉันจักได้ทำให้คุณพี่รับทาน อนุญาตอิฉันนะเจ้าคะ คุณพี่และพี่ด้วงจะได้ปรึกษาหารือเรื่องงานราชการกันด้วย อิฉันนั่งอยู่ด้วยก็หาได้มีประโยชน์อันใดไม่”
ท่าทีฉอเลาะ เอาอกเอาใจ ทำให้ฝ่ายชายยิ้มออก
“ไปเถิด”เขาเอ่ยปากอนุญาต  แม่หญิงพุดซ้อนจึงได้ก้าวลงจากเรือนไป

หมื่นเดชาชาญและพ่อด่านเดินมาส่งสองหนุ่มสาวที่ท่าเรือ หลังจากไหว้ผู้เจ้าของเรือนแล้ว แม่หญิงพุดซ้อนก็หันไปบกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างแก่พ่อด่าน ก่อนที่จะก้าวลงเรือตามขุนเพลิงพานไป

ถึงแม้ขุนเพลิงพานจะไม่พอใจนักที่คู่หมายแสดงกริยาสนิทสนมกับพ่อด่านจนเกินงาน หากแต่เขาก็เก็บอาการเอาไว้ เขาจ้วงพายเชื่องช้า ด้วยอยากมีเวลาอยู่ตามลำพังกับหญิงสาวที่เขาปรารถนาให้นานขึ้น ตลอดระยะเวลาที่นั่งเรือกลับเรือน แม่หญิงพุดซ้อนไม่ได้กล่าวถ้อยคำใดต่อเขาอีก จนเขาอดที่จะตั้งคำถามไม่ได้
“ออเจ้าคุยเรื่องอันใดแก่พ่อด่านฤา”
“พ่อด่านบอกกล่าววิธีที่จะทำให้คุณพี่เมตตาอิฉันเมื่ออิฉันออกเรือนไปกับคุณพี่”วันพุธแสร้งเอียงอาย
“บอกพี่ได้หรือไม่เล่า”คนฟังชอบใจ
“ไม่มีอันใดมากดอกเจ้าคะ พ่อด่านบอกอิฉันว่าให้อิฉันตามใจคุณพี่ให้มาก อย่าขัดใจคุณพี่ หากคุณพี่ต้องการสิ่งใดก็ต้องมอบให้แก่คุณพี่”วันพุธหันหน้าไปเบ้ปากทางอื่น

หล่อนช่างตอแหลขึ้นทุกวันนะอีพุด
สงสัยหล่อนคงจะอยู่ในร่างผู้หญิงนานเกินไป
จนลืมไปว่าความจริงแล้ว หล่อนเป็นแค่กะเทย
แต่เพื่อแผนการ จะเลวร้ายแค่ไหน
แกก็ต้องทำให้สำเร็จนะวันพุธ ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ
นี้ถ้าหากเจ๊มีมี่อยู่ด้านข้าง นางคงจะแขวะแกว่า เล่นใหญ่รัชดาลัยขนาดนี้ ควรได้รับรางวัลออสการ์



“อิฉันอยากให้คุณพี่มีความสุข ถึงอย่างไรเราก็จะออกเรือนด้วยกัน คืนนี้คุณพี่มาหาอิฉันที่หอนอนสิเจ้าคะ คุณพี่อยากได้อันใด อิฉันจะไม่ขัดขืนคุณพี่”
“จริงฤาแม่พุดซ้อน”ขุนเพลิงพานหัวใจเต้นแรง ในที่สุดสิ่งที่ต้องการ เขาก็จะได้เชยชมสมใจ
แม่หญิงพุดซ้อนเนียมอาย บิดข้อมือตัวเองไปมา ยักไหล่ซ้ายทีขวาที ราวกับถ้าสามารถหายไปจากตรงนั้นได้ หล่อนก็คงทำไปแล้ว แต่ถ้าหากวันพุธเห็นจริตมารยาที่ตัวเองกำลังแสดงผ่านทางกระจกเงา เขาคงจะอยากกระโดดถีบผู้หญิงคนนั้นด้วยความหมั่นไส้มากกว่าจะคิดว่าหล่อนกำลังเหนียมอายแบบที่อิสตรีเขากำลังกระทำกัน

แค่เพียงพระอาทิตย์สิ้นแสง พ่อด่านก้าวเข้ามาภายในหอนอนของแม่หญิงพุดซ้อนพร้อมกับโหลยาดองสูตรพิเศษ วันพุธไล่ให้อีน้อยกับอีแกลบไปดูต้นทาง ก่อนที่จะบอกให้พ่อด่านไปแอบอยู่ใต้เตียงนอน
“ออเจ้าแน่ใจฤา”ชายหนุ่มผู้มาเยือนยังมีท่าทีกังวลใจ
“แน่ใจเจ้าค่ะ”วันพุธรับคำหนักแน่น

ถ้าอยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือสิจ๊ะ
อยากกินผู้ชายก็ต้องใจกล้านะคะขุ่นแม่เจ้าขา

พ่อด่านพยักหน้า แล้วรีบแทรกตัวเข้าไปใต้เตียงนอนของแม่หญิงพุดซ้อน เมื่อมีเสียงเคาะประตูหอนอนดังขึ้น  ชายหนุ่มในร่างของหญิงงามนวยนาดมาเปิดประตู ร่างนั้นปะพรมน้ำอบเสียหอมกรุ่น พยายามทิ้งสายตายั่วยวน
“เชิญเจ้าค่ะ คุณพี่”ขุนเพลงพานเอื้อมไปปิดประตู แล้วรวบร่างงามเข้ามาสวมกอด เขาสูดดมพวงแก้มหอมด้วยไฟปรารถนา แม่หญิงพุดซ้อนขัดขืนพองามก่อนนำร่างมานั่งลงที่โต๊ะไม้สักทอง
“ดื่มเสียหน่อย”หล่อนดึงคนโทที่บรรจุยาดองสูตรพิเศษของพ่อด่านขึ้นมาวาง
“พี่อยากดื่มกินออเจ้ามากเสียกว่า”ชายหนุ่มว่า ดวงตาเป็นประกาย
“มิต้องรีบร้อนดอกเจ้าค่ะ”วันพุธเบี่ยงตัวหลบไปเทยาดองมามอบให้ขุนเพลิงชายหนุ่มยิ้มรับมาดื่มพรววเดียว
“อีกจอกนะเจ้าคะ คุณพี่ของอิฉันเก่งที่สุด”วันพุธออกมาชม และคะยั้นคะยอให้ขุนเพลิงดื่มยาดองแก้วแล้วแก้วเล่า
“พี่ไม่ไหวแล้ว”ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกว่าสายตาพล่าเรือนลงไป อารมณ์ชายในกายพวยพุ่งด้วยฤทธิ์แห่งที่อยู่ในเหล้ายาดอง
วันพุธลุกขึ้นยืน แล้วเรียกให้พ่อด่านออกมาจากใต้เตียง เขาพยักหน้าให้ชายหนุ่มผู้พิศวาสขุนเพลิงพานนั่งลงไปแทนที่
“แม่พุดซ้อน พี่รักออเจ้ามากเหลือเกิน”ชายหนุ่มผู้กำลังเมาทั้งเหล้าและรสชาติของยาดองที่ปลุกกำหนัดจนลุกโชน แยกไม่ออกแม้กระทั้งเรือนกายของชายหรือหญิง เขาระดมทั้งกอดทั้งจูบพ่อด่าน ส่วนตัวพ่อด่านเองก็รู้สึกมีความสุขไม่น้อย วันพุธก้าวข้ามธรณีประตูออกมา
“ขอให้มีความสุขนะคะขุ่นแม่”เขายื่นหน้าไปบอกพ่อด่านที่กำลังถูกขุนเพลิงพานประคองไปยังเตียงนอน ก่อนจะปิดประตูหอนอน

อีพุดคงไม่ต้องเล่าต่อนะคะ
ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างขุนเพลิงพานกับขุ่นแม่ด่าน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
                                    ตอนที่ 22
                     อิสระที่รอคอย

เพียงเสียงไก่โห่แรก ขุนเพลิงพานก็ลืมตาตื่นขึ้น เขายิ้มด้วยความสุขใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปกอดร่างเปลือยที่นอนหลับอยู่เคียงข้าง
“พี่มีความสุขเหลือเกินแม่พุดซ้อน”เขาโน้นใบหน้าหวังจะจุมพิตคู่หมายคนงาม หากแต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าของผู้ที่นอนเคียงข้างอยู่ ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งสุดตัว ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นไปนั่ง พลางดึงผ้าห่มมาปกคลุมร่างกำยำ ในจังหวะเดียวกันกับที่วันพุธและหมื่นเทิดเทศาเปิดประตูเข้ามาภายในหอนอนของแม่หญิงพุดซ้อน
“คุณพี่”วันพุธยกมือแม่หญิงพุดซ้อนมือขึ้นมาทาบอก แสดงอาการตกใจ
เขาเล่นใหญ่เสียจนชายหนุ่มที่ตามเขาเข้ามาด้วยต้องหัวเราะออกมา
“พี่ พี่ ไม่...........”ชายหนุ่มหุ่นแซ่บตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เมื่อชายผู้ที่นอนด้านข้างงัวเงียลุกขึ้น
“มันเกิดอันใดขึ้นฤาขอรับ”หมื่นเทิดเทศาโยนอาภรณ์ของสองหนุ่มไปให้ ขุนเพลิงพานรีบสวมใส่โดยเร็ว ใบหน้าของเขาดูตกใจราวกับผู้ที่พึ่งผ่านเรื่องราวสยดสยองมาหมาดๆ
“หลังจากข้าแวะมาทักทายหมื่นท่าน แม่พุดซ้อนเอ่ยปากขอแรงให้ข้ามาช่วยนำขุนเพลิงท่านกลับหอนอน ด้วยท่านเมามายยิ่งนัก มิฟังความอันใด เรื่องมันจึงลงเอยอย่างที่พวกท่านเห็นอยู่ ข้าเสียใจยิ่งนัก ที่ถูกขุนท่านเล่นสวาทโดยมิได้ยินยอม”พ่อด่านแสร้งร่ำไห้ ทั้งที่ความจริงค่ำคืนที่ผ่านมามันสุดแสนจะวาบหวาม เขาลุกขึ้น แม่หญิงพุดซ้อนทำมือแสดงความหมายว่า โอเค ชายหนุ่มทำสัญลักษณ์ตอบกลับมา เขาได้ทุกอย่างอย่างที่หวังแล้ว ขุนเพลิงพานถึงจะไม่มโหฬารหากแต่ก็แซ่บไม่เบา เขาจ้องมองชายหนุ่มผู้นั้น ถึงอยากจะครอบครองให้เป็นของตน คงจะไม่มีหนทางเป็นไปได้ ดังนั้นแค่ค่ำคืนที่ดีที่สุดพ่อด่านก็พึงใจแล้ว เขาจะจดจำเอาไว้ตลอดไป
“พ่อด่านเจ้าขา เห็นแก่อิฉัน ขอพ่อด่านอย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ผู้ใดรับรู้เลยนะเจ้าค่ะ อิฉันกราบ”แม่หญิงจอมตีเนียนพนมมือไหว้พ่อด่าน
“ข้าเห็นแก่แม่พุดซ้อน ข้าจะปิดหูปิดตาให้สนิท”พูดจบเขาก็ยักคิ้วให้เจ้าแผนการ แล้วจึงก้าวออกไปจากหอนอน
ทิ้งให้ขุนเพลิงพานผู้น่าสงสารยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุบขมับของตนเองเอาไว้
“คุณพี่เล่นสวาทกับพ่อด่านเยี่ยงนี้ มันผิดจารีตประเพณีนะขอรับ ถ้าหากความนี้รู้ถึงหูออกญาและคุณหญิงท่าน ท่านทั้งสองคงต้องตรอมใจมากโข”
“พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ออเจ้าต้องเชื่อพี่ พี่มิใช่พวกชอบเล่นสวาท”น้ำเสียงนั้นทำเอาคนฟังใจหาย รู้สึกผิดขึ้นมาจับหัวใจ
“กระผมเชื่อขอรับ แต่.....”เขาหันไปมองแม่หญิงพุดซ้อน
“อิฉันจะให้เรื่องนี้ตายไปพร้อมกับอิฉัน จะไม่มีผู้ใดได้ล่วงรู้ เพราะอิฉันเองก็มิต้องการให้คุณลุงคุณป้าต้องอับอายผู้คน”วันพุธแสร้งร้องไห้ออกมา
มันช่างน่าหมั่นไส้มากกว่าน่าสงสาร
หมื่นเทิดเทศาสะกิดที่ข้อมือของหล่อนให้หยุดร้องไห้ ด้วยเกรงว่าขุนเพลิงพานจะหาเชื่อที่เขาแสดงออกมาไม่
“ถ้าหากคุณพี่ยอมล้มเลิกงานแต่งงานของเรา และปล่อยอิฉันให้อิสระ อิฉันจะไม่ลืมบุญคุณคุณพี่เลย แต่ถ้าให้อิฉันออกเรือนกับพวกชอบเล่นสวาทอิฉันคงทำไม่ได้”
“พี่หาได้เป็นเช่นนั้นดอกออเจ้า”ขุนเพลิงพานยืนกราน
คราวนี้วันพุธปล่อยโฮออกมาเสียงดังกว่าเดิม เขาซุกใบหน้าแม่หญิงคนงามลงไปร่ำไห้บนฝ่ามือ
“อิฉันจะทำเยี่ยงไร จะมีหน้าไปเจอผู้ใดได้อีก”
“ก็ได้พี่ยอม พี่ยอมแล้ว พี่จะขอให้ออกญาท่านล้มเลิกเรื่องที่พี่จักออกเรือนแก่ออเจ้า และพี่ยอมปล่อยให้ออเจ้าเป็นอิสระ แต่ออเจ้าต้องรับปากว่าจะเก็บเรื่องพ่อด่านเป็นความลับไปตลอด”ชายหนุ่มผู้พลาดพลั้งถอนหาย เขาไม่มีหนทางอื่นที่ดีกว่านี้
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะที่คุณพี่เข้าใจอิฉัน”
ความสำเร็จในวันนี้ ไม่ได้ทำให้วันพุธภาคภูมิใจแต่ประการใด ในทางตรงข้ามเขากลับรู้สึกว่าตัวเองช่างน่ารังเกียจ หากแต่เขาก็ต้องกระทำ และเขาจะทำให้ขุนเพลิงพานยอมรับลูกที่เกิดจากอีบัวให้ได้ เพื่อเป็นการไถ่โทษที่เขาได้กระทำเรื่องทั้งหมดขึ้นมา

ขุนเพลิงพานทรุดลงนั่งบนเตียงภายในหอนอนของเขา เขาพยายามครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เกิดขึ้น เขาจดจำได้เพียงว่าแม่หญิงพุดซ้อน คะยั้นคะยอให้เขาดื่ม หลังจากนั้นเขาก็จำเรื่องราวไม่ได้อีกเลย จวบจนเมื่อตื่นขึ้นมาพร้อมพ่อด่าน ชายหนุ่มยกมือมาทุบท้ายทอย รู้สึกหลังอึ้งทั้งจากฤทธิ์ของเหล้าและยาปลุกกำหนัดที่อยู่ภายในยาดอง
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่อีบัวจะถือขันบรรจุน้ำผสมน้ำผึ้งเข้ามา
“ท่านหมื่นบอกแก่อิฉันว่าท่านขุนอาการมิค่อยดี อีบัวทำน้ำผสมน้ำผึ้งมาให้ท่านขุนดื่ม ดื่มเสียหน่อยนะเจ้าคะ อาการจะได้ดีขึ้น”ผู้พูดยื่นขันน้ำมาให้ด้วยความห่วงใย หากแต่ชายหนุ่มกับปัดมันทิ้งโดยหาความใยดีไม่
“ออกไป กูอยากอยู่ลำพังผู้เดียว”
“ให้บ่าวอยู่ดูแลขุนท่านเถิดเจ้าค่ะ”หญิงสาวตรงเข้ามาจับที่ต้นขาของเขา หัวใจของหล่อนในเวลานี้เต็มไปด้วยความรักและความเทิดทูน
“กูบอกให้มึงออกไป”เขาตวาดพร้อมสะบัดขาจนหล่อนล้มคว่ำลง
“ทูนหัวของเมีย อย่าทอดเมียเลยนะเจ้าคะ อีบัวยอมให้ขุนท่านออกเรือนแก่แม่หญิงพุดซ้อน ขอเพียงขุนท่านเมตตาอีบัวบ้าง อีบัวก็พอใจแล้ว”หล่อนตรงเข้ามากอดขาของชายหนุ่มเอาไว้
“มึงฟังกูเอาไว้นะอีบัว แม่หญิงพุดซ้อนจะเป็นเมียเพียงคนเดียวของกู หากหล่อนรู้ว่ากูมากรักหลายเมีย หล่อนจะไม่ยอมออกเรือนแก่กู มึงคงพอเข้าใจ ว่ามึงจักต้องทำเยี่ยงใดต่อไป”
ร่างเล็กบางสะดุ้ง
“แม่หญิงรับคำของอีบัว แม่หญิงยินยอมให้ขุนท่านมีอีบัวเป็นเมีย แม่หญิงเมตตาอีบัวยิ่งนัก ขอขุนท่านเมตตาอีบัวบ้างเถิด”หล่อนพนมขึ้น น้ำตาไหลลงอาบสองแก้ม
“นี่มึงเองดอกฤาที่สาระแนเอาความไปแจ้งต่อคู่หมายของกู มิน่าเล่าหล่อนถึงเย็นชาต่อกูยิ่งนัก หล่อนไม่เคยแจ้งประสงค์ต่อกูว่าต้องการให้มึงเป็นเมียอีกคนของกู มึงเอาความใดมาพูดเล่า”สายตาที่จ้องมามีเพียงความโกรธไร้ซึ่งความรักเช่นที่เคยมีมาก่อน
“ไม่จริง แม่หญิงต้องรักษาสัจจะต่ออีบัว”อีบัวกัดกรามแน่น รู้สึกเกลียดชังแม่หญิงพุดซ้อนขึ้นเป็นพันเท่าทวีคูณ แม่หญิงผู้นั้นแสดงความเมตตาต่อหล่อน หากแต่ความจริงแล้วแม่หญิงผู้สูงส่งกลับไม่รักษาแม้ถ้อยคำที่กล่าวออกมา
“บ่าวกำลังตั้งท้อง ลูกของขุนท่านนะเจ้าคะ”หล่อนโยนไพ่ใบสุดในท้ายมือ เพื่อยื้อชายหนุ่มที่หมดสิ้นความรักในตัวหล่อนแล้ว มันหาได้มีประโยชน์อันใดต่อหล่อนไม่
“มึงอย่ากำเริบให้มันมากนัก มึงจะที่ใดก็ไป ก่อนที่กูจะให้พวกบ่าวมาลากตัวมึงออกไปเฆี่ยนจนหลังขาด”ขุนเพลิงพานสะบัดเท้าอีกครั้ง ร่างบางกระเด็นไปกระแทกขอบเตียง หล่อนยกมือมากุมท้องเอาไว้ ร่ำไห้ออกมา ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก

อีพุดซ้อน มึงไม่รักษาคำมั่นที่ให้แก่กู
กูจะมิปล่อยให้มึงมีความสุข

อีบัวกำมือแน่น ใช้ฟันกัดริมฝีปากของตนเองจนเลือดซึมออกมา ความเจ็บปวดนั้นหาได้เท่าเทียมต่อความเจ็บปวดในหัวใจของหล่อนในเวลานี้ หล่อนคลานออกไปจากหอนอนที่ครั้งหนึ่งหล่อนเคยให้ร่วมหลับนอนกับชายหนุ่มสูงศักดิ์ ชายผู้ที่หลอนรักมากกว่าชีวิตของตนเอง หล่อนจะไม่ยอมให้แม่หญิงผู้นั้นมาพรากเขาไปจากหล่อน หล่อนจะทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอันใดก็ตาม

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
ตอนที่ 23
                         ลาก่อน
บริเวณพาลัยของเรือนไทยหลังงาม บรรดาเจ้านายของเรือนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ออกญาพัชระ คุณหญิงพร้อม ขุนเพลิงพาน หมื่นเทิดเทศา และแม่หญิงพุดซ้อน  สำรับเช้าถูกนำขึ้นมาจัดวาง โดยอีน้อย อีแกลบ และอีบัว อีใบนั่งโบกพัดอยู่ข้างผู้เป็นเจ้านาย
“มื้อนี้เป็นฝีมือผู้ใดฤา”ประมุขของเรือนหันมาถามแม่หญิงพุดซ้อน
“ยายพิศเจ้าค่ะ”อีน้อยตอบคำถามแทนเจ้านาย
“ลุงฤาก็คิดว่าจักได้ชิมฝีมือแม่พุดซ้อนเสียอีก”
“แม่หญิงนอนไม่ค่อยหลับ จึงไม่มีเรี่ยวแรงลุกมาจัดหาสำรับเจ้าค่ะ”คราวนี้อีแกลบตอบคำถามแทน
“มึงสองตัวจะสาระแนตอบคำถามออกญาท่านทำอันใด ท่านเจรจาแก่เจ้านายของพวกมึง หาใช่มึงสองคนไม่”คุณหญิงพร้อมตบเขาฉาด
“มิเป็นอันใดดอกแม่พร้อม”น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเอ็ดดู
“แล้วนั้นพ่อเพลิงคงจักนอนมิหลับเช่นกันกระมัง หน้าตาถึงได้เป็นเยี่ยงนั้น เพลานี้อากาศร้อนอบอ้าวนัก ประเดี๋ยวข้าจะสั่งพวกเจ๊กให้เอาน้ำแข็งมาวางในหอนอนให้แก่ทุกคน อากาศจะเย็นสบายขึ้นมาบ้าง”ออกญาพัชระกล่าว เมื่อบ่าวจัดสำรับจนเรียนร้อย เขาก็พยักหน้าให้ทุกคนลงมือรับประทาน
“น้ำมะนาวโห่เจ้าค่ะ บ่าวต้มเอง ดื่มเสียก่อนรับทาน อาการนอนไม่หลับจะได้ดีขึ้นนะเจ้าคะ”อีแกลบยกขันบรรจุน้ำมะนาวโห่ส่งให้เจ้านาย ความจริงเรื่องที่วันพุธนอนไม่หลับ มันเป็นเพราะเรื่องที่เขาพยายามครุ่นคิดว่าจะช่วยอีบัวได้อย่างไร เขาหันไปมองอีบัวที่นั่งก้มหน้าอยู่ บ่าวผู้นั้นมีท่าทางอ่อนล้า ใต้ดวงตาของหล่อนมีสีคล้ำจนมองเห็นถนัดตา วันพุธผ่อนลมหายใจยกขันมา
“อย่าเจ้าค่ะ”อีบัวว่าพลางคลานเข้ามาใกล้
“ทำไมฤา”เขาถาม
“น้ำมะนาวโห่ต้องดื่มตอนร้อนจัด ประเดี๋ยวบ่าวจะนำไปอุ่นให้แม่หญิงนะเจ้าคะ”ผู้พูดนั่งก้มหลบสายตา
“โธ่เอ้ย ไม่เป็นไรหรอกแม่บัว ฉันดื่มได้”แม่หญิงพุดซ้อนเผยยิ้มให้อีบัว ก่อนจะดื่มน้ำในขันจนหมด

วันพุธรู้สึกมวนในช่องท้อง ร่างบางของแม่หญิงพุดซ้อนกระตุกจนเขาต้องล้มไปนอนที่พื้น ริมฝีปากงามมีน้ำลายไหลฟูมออกมา หัวใจของแม่หญิงพุดซ้อนอ่อนแรงลง กล้ามเนื้อดวงตาหนักอึ้ง ในขณะที่สองตากำลังจะปิดลงไป
ไม่นะวันพุธแกจะตายแบบนี้ไม่ได้นะ
เขามองไปที่ระเบียงเรือนภาพยายพิศหัวหน้าโรงครัวยกสำรับขนมหวานขึ้นมาบนเรือน ก่อนที่ภาพต่างๆจะพล่าเรือนจนมองแทบไม่เห็นอีกต่อไป
“อีแกลบมึงวางยานายมึงฤา”คุณหญิงพร้อมตะโกน อีแกลบหมอบลงกราบ
“บ่าวเปล่านะเจ้าคะ”หมื่นเทิดเทศาโผเข้ามาประคองร่างของแม่หญิงพุดซ้อน เขาโอบกอดร่างงามเอาไว้แน่น
“พ่อเพลงรีบไปทำน้ำยารางจืดมาให้เร็วไวที่สุด”ออกญาพัชระเองก็ตกใจไม่น้อย
“อีน้อยไปเอาไข่ไก่มา”
“เจ้าค่ะ”อีน้อยวิ่งตรงไปโรงครัวด้วยรวดเร็ว ก่อนจะกลับมาพร้อมไข่ไก่ ชายสูงวัยกรอกไข่สดเข้าไปในปากผู้ถูกวางยาพิษ
“พิษดอกลั่นทม”ออกญาพัชระว่า
“แม่หญิงเจ้าขา อย่าทิ้งอีแกลบไปนะเจ้าคะ”บ่าผู้ภักดีร่ำไห้จนตัวสั่น ในขณะที่อีบัวนั่งนิ่ง ขุนเพลิงกลับมาพร้อมน้ำยารางจืด เขาส่งให้น้องชายเป็นผู้กรอกเข้าไปในปากของแม่หญิงพุดซ้อน
“ข้าเห็นอีบัวมันวนเวียนอยู่ที่ขันน้ำมะนาวโห่”ยายพิศว่าขึ้น
“ไม่ผิดแน่ขอรับ คราวที่แล้วแม่ของมันก็วางยาแม่พุดซ้อนด้วยพิษดอกลั่นทม มีมันเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ทราบว่าจะใช้พิษจากดอกลั่นลมอย่างไรให้ไร้กลิ่น”ขุนเพลิงมองอีบัวด้วยแววตารังเกียจ
“เป็นมึงจริงฤาอีบัว”คุณหญิงพร้อมถาม ในขณะที่ขุนเพลิงเดินเข้าไปแล้วฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้าของอีบัวสุดแรง หญิงผู้อาภัพล้มคว่ำลงไป ก่อนจะคลานเข้ามากราบแทบเท้าแม่หญิงพุดซ้อน
“บ่าวขอโทษ บ่าว บ่าวยอมรับ”อีบัวร่ำไห้ออกมา ความริษยามันครอบงำจนหล่อนทำเรื่องเลวร้ายลงไป
“ไปเอาหวายมาให้กูอีใบ กูจะเฆี่ยนมันให้ตาย”ขุนเพลิงตะเบ็งเสียง
“อย่า อย่า”วันพุธที่กำลังรู้สึกว่าวิญญาณของตนจะหลุดลอยออกจากร่างของแม่หญิงพุดซ้อนร้องปรามเขาไม่ได้ติดใจโกรธเคืองหญิงสาวผู้นั้นด้วยซ้ำ เขาเข้าใจความรู้สึกที่อีบัวมี อีบ่าวผู้มีใจรักมั่นคงคงเจ็บปวดแสนสาหัสถึงกล้ากระทำการเช่นนี้ได้
ให้อภัยแม่บัว อกต้องให้อภัยหล่อน
แกจะโกรธผู้ที่มีหัวใจรักมั่นคงขนาดนั้นไม่ได้นะอีพุด

“แม่บัวกำลังตังท้อง คุณลุงคุณป้าให้อภัยแม่บัวด้วย”เขาพยายามรวบรวมพละกำลังทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือแม่บัวเป็นครั้งสุดท้ายถ้าหากเขาต้องจากร่างของแม่หญิงพุดซ้อนไปเพราะถูกอีบัววางยาพิษเขา มันก็สมควรยิ่งแล้ว
“บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ แม่หญิง”อีบัวร่ำไห้ สำนึกในความเมตตาที่หญิงที่ตนเกลียดชังมองให้
“ฉันจะทำตามที่ออเจ้าขอ”คุณหญิงพร้อมว่า
“นำแม่พุดซ้อนไปโรงหมอก่อนเถิดขอรับ”หมื่นเทิดกล่าวด้วยความห่วงใย
“ไม่ต้อง ไม่เจ้าคะ ฉันรู้ดีว่าฉันกำลังจะจากไป ฉันขอโทษทุกคน ฉันเชื่อว่าทุกคนคงรู้แล้ว ว่าฉันไม่ใช่แม่หญิงพุดซ้อน มันคงถึงเวลาของฉันแล้ว”
วันพุธมองไปทางขุนเพลิงพาน
“ขุนเพลิงเจ้าขา ฉันขอโทษ ฉันไม่เคยมีเจตนาจะทำร้ายคุณ ฉันแค่อยากให้ขุนเพลิงดูแลและรับผิดชอบแม่บัว ขุนเพลิงทำเพื่อฉันได้ไหม”ชายหนุ่มพยักหน้า
“คุณลุงคุณป้าเจ้าขา ฉันฝากแม่น้อยแม่แกลบด้วยนะเจ้าคะ”ออกญาพัชรพยักหน้าเช่นกัน
“พี่น้อยพี่แกลบฉันรักพี่นะ”
“แม่หญิงเจ้าขา”อีน้อยกับอีแกลบร่ำไห้ ซุกใบหน้าแนบไปลงที่เท้าของแม่หญิงพุดซ้อน
“พี่เทิด ฉันรักพี่เทิด พี่เทิดไม่ต้องเสียใจ อย่างน้อยพี่เทิดก็ทำให้ฉันรู้จักความรักที่แท้จริง ความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวเอง ฉันจะรอพบพี่เทิด ไม่ว่าจะชาติไหนๆ บุพเพที่นำฉันมาพบพี่เทิด มันไม่ใช่บุพเพสันนิวาส หากแต่มันคือบุพเพอาละวาด ที่อาละวาดจนฉันได้พบรักแท้”วันพุธเอื้อมไปจับใบหน้าของหมื่นเทิดเทศา
“พี่ก็รักออเจ้า ไม่ว่าออเจ้าจะเป็นผู้ใด ออเจ้าคือผู้ที่พี่จะรักและจะติดตามหาทุกภพทุกชาติไป พี่สัญญาว่าพี่จะบวชตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ เพื่อให้ผลบุญส่งให้พี่ได้พบออเจ้าอีก พี่รักวันพุธ รักมากที่สุด”ชายหนุ่มก้มลงจูบหน้าผากแม่หญิงหญิงแผ่วเบา
เสียงสีขาวสว่างจ้าขึ้นอีกแล้ว หลุมดำหลุมเดิมหมุนวนเข้ามาใกล้อีกครั้ง ก่อนจะเกิดแรงดึงดูดมหาศาล ภาพตรงหน้าของวันพุธค่อยๆจางหายไป เมื่อร่างของเขาถูกดูดดึงลงไปภายในหลุมสีดำในท้ายที่สุด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด