[เรื่องสั้น] C L O S E - F R I E N D #เพื่อนสนิทที่ไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท [จบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] C L O S E - F R I E N D #เพื่อนสนิทที่ไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท [จบ]  (อ่าน 11516 ครั้ง)

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2018 16:20:12 โดย candyon »

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Close Friend
#เพื่อนสนิทที่ไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท



“หลังจากนี้กูจะไม่จูบกับมึงแล้วนะ” ผมพูดจบก็หันไปเล่นเกมต่อ ส่วนคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกันเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะส่งเสียงงอแงแล้วเอาคางมาวางพักที่บ่าผม

“ล้อเล่นใช่ไหมวะ”

“หน้ากูเหมือนคนล้อเล่น”

“มึงจะไม่จูบกูจริงๆดิ”

“เออ”

“ทำไมล่ะ”

“ก็เพราะตอนนี้มึงมีแฟน”

“แล้วไง?” ยังจะมีหน้ามาถามตาใสใส่อีก ผมผลักหัวเพื่อนสนิทจนมันร้องโวยวายแต่ก็ยังไม่ยอมเอาคางออกจากบ่าผม “มีแฟนแล้วทำไมถึงจูบไม่ได้ มึงแม่งไร้สาระ”

“มึงต่างหากที่ไร้สาระ”ผมดีดหน้าผากเขาด้วยความหมั่นไส้ไปที ทำปากยู่แบบนี้คิดว่าน่ารักงั้นเหรอ

เออออ น่ารัก

“กูไร้สาระตรงไหนวะ ไม่มีเถอะ มึงนั่นแหละที่ไร้สาระ”  เขาลูบหน้าผากที่โดนผมดีดเบาๆก่อนจะช้อนตาขึ้นมองผมอีกรอบ “หรือว่ากูทำอะไรผิดไป”

“ผิด”

“ตรงไหน”

“ตรงที่มึงมาจูบกับคนอื่นอย่างกูไง”

“มึงไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย”

“แล้วกูเป็นใคร”

“เพื่อนสนิท” มันพูดพร้อมกับเอาหัวไถที่บ่าผมอย่างอ้อนๆ

“เพื่อนสนิทกับแฟนถ้าเทียบกันแล้วมึงว่าอะไรสำคัญกว่า”

“...”

“เงียบเพราะคุณรู้ใช่ไหมว่าแฟนสำคัญกว่า”ผมเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองเพราะผมต้องการจริงจังในบทสนทนา เขาเองก็คงจะรู้ว่าผมเริ่มเข้าโหมดจริงจัง

“...”

“ถ้าคุณคิดเหมือนผม...คุณก็ไม่ควรทำแบบนี้กับคนที่ไม่ใช่แฟน”

“แต่ว่าแฟนกูคงไม่รู้...”

“ถึงเขาจะไม่รู้ว่าเราทำอะไรกัน แต่เราก็ควรให้เกียรติแฟนคุณหรือเปล่าครับ!” ผมเผลอขึ้นเสียงในตอนท้าย

“ทำไมต้องดุกันด้วย”

“ดุดิ เพราะคุณไม่ยอมแยกแยะระหว่างเพื่อนกับแฟน คุณควรสงสารเขาเพราะนั่นน่ะแฟนคุณ ส่วนผมก็แค่...เพื่อน”

“อื้อ รู้แล้ว” เสียงอ่อยไปเลย แต่สิ่งที่ผมพูดไปมันเป็นเรื่องที่เราทั้งคู่ควรจะทำมาตั้งนานแล้ว เพราะเราสองคนโตขึ้นเรื่อยๆการจะมาจูบปลอบกันพร่ำเพรื่อแบบแต่ก่อนก็คงไม่ได้

ส่วนสาเหตุที่เราเริ่มจูบกันมาจากผมที่อยากปลอบเขาล้วนๆ แต่ก่อนตอนเด็กสิ่งที่เราทำกันมันไม่ใช่การจูบดูดดื่มแบบนี้หรอก มันก็แค่กอดแน่นๆแล้วก้มลงไปหอมแก้มหรือไม่ก็จูบที่หน้าผากเท่านั้น

อาจเพราะเขาไม่เคยมีพี่น้อง พ่อแม่ก็ไม่ค่อยทำแบบนี้ พอได้รับสัมผัสอุ่นๆจากผมมันเลยทำให้เขารู้สึกชอบหลังจากนั้นเวลาที่โดนใครแกล้ง หรือเสียใจมากๆเขาก็จะมาหาผมแล้วพูดว่า มึงอยากได้กำลังใจอ่ะ

ใครได้ยินประโยคนั้นพร้อมกับสีหน้าอ้อนๆ ร้อยทั้งร้อยก็ต้องใจอ่อนป่ะวะ

แน่นอนว่าผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

ส่วนเรื่องจูบที่ปาก...ตอนแรกมันก็เริ่มจากการจุ๊บที่ปากเท่านั้นแหละ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจู่ๆผมถึงมีความคิดอยากลองเปลี่ยนจากจุ๊บที่ปากมาเป็นการจูบที่ดูดดื่มแทน

ผมไม่ได้คิดไว้หรอกครับว่ามันจะเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ถ้าไม่ติดว่าลองดูแล้วมันติดใจผมก็คงไม่คิดที่จะทำต่อ ยิ่งครั้งแรกที่จูบกันเสร็จ สีหน้าเขาแสดงออกมาทันทีเลยว่าทั้งเขินและอายจนผมอดถามเขาในทิศทางตรงกันข้ามไม่ได้



‘ไม่ชอบหรือเปล่า ต่อไปไม่ทำก็ได้นะ’

‘...’

‘ถ้างั้นไม่ทำ โทษทีว่ะ’

‘ไม่เอาดิ ทำแบบนี้แหละ กูชอบ...แบบนี้’



เชื่อไหมว่าอากัปกิริยาของคนตรงหน้ามันโคตรน่ารัก ทุกสิ่งที่เขาแสดงออกมามันตรึงผมไว้จนหัวใจแทบหยุดเต้น

สุดท้าย...ผมก็ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นได้

ผมชอบเขาทันทีและก็ชอบมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งตอนนี้อยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่สามแล้วผมก็ยังชอบเขาอยู่

ที่ผ่านมาผมใช้ความสนิทสนมตักตวงเอาความสุขจากเขามากจนบางครั้งก็ไม่อยากให้เขามีใคร

แต่แน่นอนแหละ เราเป็นเพื่อนสนิท แถมเป็นผู้ชายเหมือนกัน ความรักที่แม้ตอนนี้จะเปิดกว้างแต่มันก็อาจจะไม่กว้างพอสำหรับผมกับเขา

เพราะงั้นผมเลยอยากพอ หยุดความรู้สึกของตัวเองไว้แค่นี้

แล้วยิ่งมารู้ว่าเขามีแฟนเมื่อหลายเดือนก่อนผมก็ยิ่งคิดว่าตัวเองไม่สามารถสู้แฟนของเขาได้ และที่สำคัญคือผมไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเราด้วย

ดังนั้นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมคือสิ่งที่ดีที่สุด

“เข้าใจแล้วใช่ไหม” ผมหันไปถามเขาอีกรอบ เจ้าตัวพยักหน้าแกนๆแล้วมุดหน้าลงกับบ่าผมอยู่นานหลายนาที จนเป็นผมที่ทนไม่ไหวขยับบ่าข้างที่เขามุดอยู่ขึ้นลงเบาๆเพื่อเรียกให้เขาเงยหน้าขึ้นมองผม “เป็นไรเนี่ย”

“ก็แค่กำลังคิด”

“คิด?”

“อื้อ แค่คิดว่าเหตุผลที่มึงไม่ยอมจูบกู จริงๆแล้วเป็นเพราะมึงมีคนคุยหรือเปล่า”

“...” ผมเงียบไม่ได้บอกเขาว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาพูด แต่การเงียบก็ทำให้คนตรงหน้าเข้าใจไปอีกทาง

“เรื่องจริงสินะ”

“...”เป็นอีกคำถามที่ผมเลือกจะไม่ตอบ

ความเงียบระหว่างเราเกิดขึ้นชั่วขณะ พอหันไปเลิกคิ้วถามเจ้าตัวก็ส่ายหน้าบอกทำนองว่าไม่มีอะไรกลับมาแทน

ผมเองก็ไม่อยากเข้าไปวุ่นวายในความคิดเขาเลยเลือกที่จะกลับมาโฟกัสที่เกมตรงหน้าแม้ในใจจะร้อนรนที่คนข้างกายเงียบซึมก็ตาม

“มึง...” ในที่สุดก็เป็นเขาที่เอ่ยปากพูดกับผมก่อน

“ว่า?”

“ในเมื่อหลังจากนี้เราจะไม่จูบกันแล้ว...กูขอจูบกับมึงเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมวะ”

“...” ผมมองหน้าเขา

“ไม่ได้สินะ”

“ยังไม่ทันพูดเลยว่าไม่ได้” ผมถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ ก่อนจะช้อนคางคนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิทขึ้นมาจูบเบาๆ เรียวลิ้นเล็กถูกดูดกลืนเป็นจังหวะ เสี้ยวหน้าถูกขยับให้พอดีกันก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นมานั่งคร่อมบนตักผม มือเล็กวางพาดบนบ่าอย่างที่เขาชอบทำ

ความหวานบนปลายลิ้นถูกแลกเปลี่ยนกันครั้งแล้วครั้งเล่า แม้กระทั่งร่างกายก็ขยับแนบชิดเข้าหากันอย่างลืมตัว

“มึง...” ผมเอ่ยปากเรียกเขา

“แฮ่ก แฮ่ก”

“พอเถอะ” เพราะถ้าทำมากกว่านี้คนที่ทนไม่ไหวคงจะเป็นผม

“อึก...อื้อ...” เขาหลับตาลงพร้อมกับขยับออกจากตัวผม จังหวะที่ลุกขึ้นมันมีความเย็นของหยดน้ำตกกระทบลงมาบนใบหน้าผม

“เดี๋ยวดิ...” คาดเดาได้ไม่ยากเลยว่าสิ่งที่ร่วงหล่นลงมาคือน้ำตาของเขา

“เดี๋ยวอะไรอีกล่ะ เอาไว้ค่อยคุยกันวันจันทร์ละกัน ยังไงก็ขอบคุณมึงมากนะสำหรับการจูบปลอบที่ผ่านมา ฝันดีเว้ยเจอกันวันจันทร์” พูดจบเขาก็เดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองที่วางอยู่บนเตียงทันที

ปัง!!

ยังไม่ได้ทันได้พูดอะไรออกไปคนตัวเล็กก็เดินออกจากห้องผมไปแล้ว จะเหลือทิ้งไว้ก็แค่ความเงียบกับความไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงร้องไห้ออกมาแบบนั้น

ไม่เข้าใจจริงๆ



✦✦✦
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2018 11:39:12 โดย candyon »

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Close Friend 2
#เพื่อนสนิทที่ไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท

น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวคือความเสียใจที่ถูกยกเลิกข้อตกลง

ผมแอบชอบเพื่อนสนิท จำไม่ได้เหมือนกันว่าชอบเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่รู้ตัวอีกทีความรู้สึกเหล่านี้ก็อัดแน่นอยู่ในหัวใจจนแทบจะเอ่อล้น

“มึง...มันไม่ได้ผลหรอก” หลังจากปรับความรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในรถพักใหญ่ผมก็โทรหาเพื่อนอีกคนทันที

เพื่อน...ที่ถูกยืมมือมาเป็นแฟนเมื่อหลายเดือนก่อน

(ยังไง)

“ก็...วันนี้มันยกเลิกข้อตกลงบางอย่างของกูกับมันแล้ว”

(ข้อตกลงอะไรทำไมกูไม่รู้)

“ข้อตกลงที่กูกับมันรู้กันอยู่สองคนไง”

(ถ้ามึงจะมาพูดปิดๆเปิดๆใส่กูแบบนี้ก็ไม่ต้องเล่านะ เพราะกูไม่ว่าง)

“อะไรคือไม่ว่างวะ ไหนมึงบอกว่าถ้าเป็นเรื่องกูกับมันมึงว่างเสมอ”

(ก็ตอนนี้กูกำลังตามปั่นโหวตให้แก๊งผัวกูอยู่เลยไม่ค่อยมีเวลามาเล่นสนุกกับมึงไงคะ) ผมถอนหายใจออกมาทันทีที่เพื่อนพูดถึงนักร้องเกาหลีของมัน (แต่กูจะว่างให้มึงทันทีถ้ามึงบอกข้อตกลงระหว่างมึงกับมันให้กูฟัง)

“ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก”

(แล้วมันอะไรล่ะ)

เล่าดีไหมวะ

(ถ้าไม่รีบเล่ากูจะวางแล้วนะจ๊ะ)

“เล่าดิเล่า ก็คือ...ปกติกูกับมันถ้ามีเรื่องเศร้าๆหรือมีเรื่องที่อยากให้ปลอบใจกันเมื่อไหร่ กูกับมันมักจะใช้การจูบเป็นการปลอบ” ผมพูดเสียงเบามาก เพราะรู้สึกอายที่มาเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง

(เดี๋ยวนะ จูบปลอบเหรอ)

“เออ”

(จูบปลอบ!! ว๊ายยย ตายแล้ววววววว อกอีแป้นจะแตกจ้า) เสียงหวีดร้องดังขึ้นที่ปลายสายอยู่นานจนผมต้องรีบเบรกเพื่อนตัวเองก่อน

“กรี๊ดพอยัง”

(ไม่ไหวว่ะ หัวใจกูรับเรื่องนี้ไม่ไหวจริงๆ)

“นี่คือจะไม่ฟังต่อใช่ไหมกูจะได้วาง”

(โว้ยยยย อะไรของมึงเนี่ย แค่กรี๊ดนิดๆหน่อยๆทำเป็นงอนไปได้ อย่าหัวเสียดิเพื่อน)

“เออ” ก็ที่มันหัวเสียได้ง่ายเพราะจู่ๆคนที่ตัวเองชอบดันเลิกข้อตกลงที่เราเคยทำไว้ด้วยกันมาหลายปี รู้หรอกว่ามันดูสมเหตุสมผลกับการเลิกจูบกันเพราะผมมีแฟน(ปลอมๆ)หรือเขามีคนคุย

แต่สิ่งนี้มันไม่ใช่หลักใหญ่ใจความของการมีแฟน(ปลอมๆ)ของผม เพราะการที่ผมแกล้งมีแฟนก็เพื่อที่เขาจะได้รู้สึกหึงหวงและรู้ใจตัวเองสักทีว่าเขารู้สึกยังไง

แต่วันนี้เขากลับทำให้ผมตาสว่างเพราะที่ผ่านมาเป็นผมเองที่คิดไปคนเดียวว่าเขาชอบ

จูบอ่อนโยน วิธีการดูแล หรือแม้แต่เวลาที่อยู่ข้างๆ ทั้งหมดที่เขาทำก็แค่ในฐานะเพื่อนสนิทคนหนึ่งเท่านั้น

(อ่าว เงียบทำไมเนี่ย)

“...”

(เชี่ย มึงร้องไห้งั้นเหรอ)

“กูเปล่า” ไม่ได้ร้องแค่รู้สึกจุกและเจ็บในใจเฉยๆ

(แล้วที่มันยกเลิกจูบกับมึงเนี่ย...แม่งไม่อยากพูดเลย พูดทีไรกูเขินทุกที)

“เขินมากไหม”

(มากกกก)

“ถ้าเขินมากกูจะวางแล้วนะ”

(เออๆเข้าเรื่องแล้ว คือที่มันเลิกจูบเพราะมึงมีแฟนใช่ป่ะ)

“เออส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนกูคิดว่ามันก็น่าจะมีคนคุย”

(คนคุยเหรอ?)

“อืม”

(ไม่น่าใช่นะ...กูว่าเรื่องนี้มึงตัดทิ้งไปได้เลย ส่วนเรื่องที่เลิกจูบเพราะมึงมีแฟนเนี่ยกูว่าเข้าเค้า) เสียงมันดีใจเหมือนคนที่รู้ในทุกๆอย่าง (กูว่ามันเศร้าเลยเลิกจูบ ไม่อยากจูบทับรอยใคร กรี๊ดดด อยากข้อความไปบอกเพื่อนมึงจังว่ากูไม่มีทางจูบกับคนแบบมึงแน่ๆ)

“...”

(เพราะงั้นคอนเฟิร์มเลยค่ะว่ามันชอบมึงแน่นอน)

“ไม่รู้ว่ะ”

(เรื่องอื่นฉลาด แล้วทำไมเรื่องนี้ทำไมถึงโง่นัก!!)

“มึงไม่ได้เป็นกูมึงจะรู้อะไร”

(กูรู้ เชื่อกูสิว่ามันชอบมึงแน่นอน) แม่งไปเอาความมั่นใจมาจากใจวะ ขนาดผมยังไม่กล้าฟันธงเลยว่ามันชอบ ยิ่งวันนี้มาเจอเหตุการณ์นี้อีกก็ยิ่งไม่แน่ใจเข้าไปใหญ่

“แล้วถ้าสมมติว่ามันชอบกูจริงทำไมมันต้องเลิกจูบกูด้วย”

(โอ๊ยยย กูบอกเหตุผลไปแล้วไงคะว่ามันเศร้าไม่อยากจูบทับรอยใคร มึงนี่ลำไยจริงๆ มัวแต่ลีลาร่ำไรอยู่นั่น เนี่ยกูบอกมึงไปแล้วตั้งแรกว่าให้สารภาพกับมันไปเลยว่าชอบ ไม่ใช่มาทำเรื่องแกล้งมีฟงมีแฟนให้มันยุ่งยากซับซ้อนขนาดนี้)

ผมก็บอกเหตุผลไปแล้วเหมือนกันว่าที่แกล้งมีแฟนเพราะนี่เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ผมดูเขาออกว่ารู้สึกยังไงกับผม

ส่วนการบอกเพื่อนสนิทที่คบกันมาเกินสิบปีว่าชอบ... ผมว่ามันเป็นความเสี่ยงที่น่ากลัวเกินไปเพราะคงไม่มีใครรับได้ถ้าการบอกชอบของเราที่นอกจากจะไม่สมหวังแล้วยังต้องสูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไปหนึ่งคน

ดังนั้นทางออกเดียวสำหรับผมคือการแกล้งมีแฟนแล้วดูปฏิกิริยาของเขา แต่แล้วไงล่ะสุดท้าย ความจริงว่าเขาไม่ได้ชอบผมก็ปรากฏขึ้นอย่างที่เห็น

(งั้นเอางี้ มึงนัดมันออกมากินเหล้า แล้วช่วยกันมอมมัน เค้นความจริงจากปากว่าสรุปแล้วมันชอบมึงหรือเปล่าดีไหม)

“แต่ว่า...”

(มันเป็นทางเดียวแล้วเว้ย ถ้ามันไม่ได้ชอบมึงก็แค่ตัดใจแล้วเดินต่อ แถมมึงไม่ต้องกังวลว่ามันจะเลิกเป็นเพื่อนด้วยเพราะมันไม่รู้ว่ามึงรู้สึกยังไงกับมัน แต่ถ้าสมมติมันชอบมึงก็รุกแม่งเลย ไม่ต้องรออะไรทั้งนั้น จริงๆกูน่าจะเสนอวิธีนี้ให้มึงตั้งนานแล้วนะ มัวแต่ลำไยทำทีว่ามีแฟนเพื่อดูพฤติกรรมมันอยู่ได้)

“...” ผมยังลังเลไม่แน่ใจว่ามันเป็นวิธีที่โอเคหรือเปล่า

(ไม่ต้องลังเลอะไรแล้ว เจอกันร้านเดิม เดี๋ยวกูเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบออกไปเลย)

“มึงกูว่า...”

(ไม่ต้องปฏิเสธเชี่ยอะไรทั้งนั้นค่ะ แค่นี้นะ ไว้เจอกัน) สายถูกตัดไปทันที ส่วนผมก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยนึกไปแล้วก็เซ็งจริงๆผมไม่ควรกุเรื่องแฟนปลอมๆขึ้นมาตั้งแต่แรก

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะกระจกทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปดูว่าใครพอเห็นว่าเป็นมันผมถึงค่อยลดกระจกลง

“ทำไมมานอนฟุบแบบนี้วะ ไม่สบายหรือเปล่า” น้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับมือหนาที่ยื่นมาแตะหน้าผากผม

“เปล่า ว่าแต่มึงเถอะแต่งตัวกำลังจะไปไหนวะ”

“พี่ที่ร้านโทรมาว่านักร้องประจำป่วยกูเลยต้องไปแทน”

“ไปด้วยดิ”

“ห้ะ??”

“ไปด้วยได้ไหม” ไม่รู้หรอกว่าส่งสายตาอ้อนๆไปหาเขาหรือเปล่า แต่การที่มันยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมเบาๆแบบนี้แสดงว่าหน้าผมคงอ้อนมันน่าดู

“ไปดิ งั้นเอารถมึงไป”

“ไม่เอาอ่ะ เวลานี้รถติดจะตายห่า เอามอเตอร์ไซค์มึงนั่นแหละไป” ผมออกจากรถแล้วปิดล็อกก่อนจะไลน์ไปบอกแฟนปลอมๆของตัวเองว่ากำลังจะไปอีกร้านนึงแทน “ขี้เกียจใส่หมวก”

“ถ้างั้นก็ไม่ต้องใส่ ใกล้แค่นี้เองคงไม่มีด่าน แต่ถ้าขับรถแล้วแหกโค้งหัวทิ่มตายขึ้นมาก็อย่าหาว่ากูไม่เตือนละกัน”

“เออรู้แล้วน่า” ทุกครั้งที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ ผมจะชอบเอาคางไปวางซบบนบ่าเขา ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าชอบให้ลมเย็นๆปะทะเข้าที่ใบหน้า แต่อีกส่วนก็เพื่อความสุขของตัวเองล้วนๆ

ความสุข...ที่ได้มองหน้าด้านข้างของคนขับ

และก็เป็นความสุข...ที่ได้ซบจมูกลงบนไหล่กว้างเวลาที่เขาเผลอไผล

ปกติผมไม่เคยกอดเอวเขาเลยสักครั้ง มากสุดก็แค่จับเสื้อ แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรเหมือนกัน

“หืม” คนขับรถคงรู้สึกถึงมือผมที่โอบกอดรอบเอวเขา เสียงครางในลำคอถึงดังขึ้นด้วยความสงสัยแบบนี้

“ก็แค่อยากอ้อน...ไม่ได้เหรอ”

“ได้ดิ ทำไมจะไม่ได้” มือข้างหนึ่งปล่อยจากแฮนรถมอเตอร์ไซค์แล้วเอื้อมมาขยี้หัวผมช้าๆ สัมผัสอบอุ่นตราตรึงจนไม่อยากให้เขาปล่อยมือ แต่แน่นอนแหละการโฟกัสที่ทางข้างหน้าสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

เราสองคนใช้เวลาไม่เกินยี่สิบนาทีในการขับรถมาถึงร้าน ตอนแรกพี่เจ้าของร้านจะให้ผมไปนั่งโต๊ะเดียวกับเขา แต่พอเดินเข้ามาแฟนปลอมๆของผมก็รีบเข้ามาทักและควงเข้าที่แขนผมทันที

“เราจองโต๊ะไว้แล้ว ไปนั่งด้วยกันนะ” ไม่พูดเปล่าเธอลากพวกเราไปตรงโต๊ะที่ถูกจองไว้หน้าเวทีด้วย

“เดี๋ยวกูไปเตรียมตัวก่อน มึงก็อยู่กับแฟนไปละกัน”

“อ่าว”

“เออตามนี้” มันผลักหัวผมแล้วเดินไปตรงข้างเวที

“หล่อมาก เห็นใกล้ๆแล้วก็อยากจะลากกลับบ้านเลยอ่ะ” คนข้างกายผมพูดแล้วหันไปมองคนที่เพิ่งแยกกัน

“พูดอะไรของมึงเนี่ย” ผมหันไปขมวดคิ้วใส่เพื่อนตัวเอง

“โอเคๆ รู้จ้าว่าหวง ไม่พูดแล้วก็ได้” ก็ไม่ได้หวงขนาดนั้นป่ะวะ

“แล้วนี่สั่งเหล้าไปหรือยัง”

“สั่งแล้วเรียบร้อย ภารกิจมอมเหล้าเพื่อนมึงวันนี้ เชื่อมือกูได้เลยค่ะ กูจัดแต่ตัวเด็ดๆทั้งนั้น” ผมพยักหน้าให้มันเบาๆก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างเวทีอีกรอบ เขากำลังประชุมกับคนในวง คงกำลังตกลงกันแหละว่าจะร้องเพลงอะไรบ้าง

สีหน้าตอนจริงจังก็หล่อเสียจนน่าหมั่นไส้ โต๊ะสาวแถวนี้นั่งมองมันจนแทบจะสิง นี่ถ้าผมหล่อได้สักครึ่งหนึ่งของมัน ผมอาจจะไม่ต้องมานั่งจมปลักแอบหลงรักเพื่อนตัวเองแบบนี้ก็ได้

เออไงคนที่กูหลงรักก็มันนั่นแหละจะใคร

“เอาละครับหลังจากนี้จะเป็นการเล่นดนตรีสดของวงเก่าแต่นักร้องหน้าใหม่ หล่อๆแบบนี้บอกก่อนนะครับว่ายังไม่มีแฟน” เสียงกรี๊ดและตะโกนดังขึ้นทั่วร้าน บางคนถึงกับโบกไม้โบกมือให้นักร้องหน้าใหม่ในวันนี้ “แต่ส่วนจะมีคนคุยไหมก็ไปถามกับเจ้าตัวเองเลยละกัน ตอนนี้เชิญพบกับพวกเขาได้เลยยยยย!!!”

เสียงกรี๊ดยังดังขึ้นต่อเนื่องจนผมเผลอยกนิ้วขึ้นอุดหู

“แฟนมึงนี่ร้อนแรงจริงๆ”

“หึ” ผมหัวเราะออกมาอย่างขื่นๆ ถ้ามันเป็นแฟนผมจริงๆก็คงดี

ระหว่างที่รอวงดนตรีซาวด์เช็ค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกับแกล้มที่เพื่อนผมสั่งก็มาถึง

“มาค่าระหว่างรอเพื่อนมึงเล่นดนตรีก็จิบแอลกอฮอล์เล่นๆไปก่อน” ผมพยักหน้าแล้วยกน้ำสีอำพันขึ้นดื่มเรื่อยๆ เพราะแฟนปลอมๆที่มาด้วยกันนอกจากจะชวนคุยแล้วก็ทำหน้าที่มือชงส่งแก้วต่อแก้วให้ผมตลอด อดคิดไม่ได้ว่ามันกำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากมอมเพื่อนสนิทผมเป็นมอมผมแทนหรือเปล่า

“สรุปมึงจะมอมกูหรือมอมมัน”

“มอมมันสิ แต่มันยังไม่มาไง มึงก็กินไปพลางๆก่อน นั่นไงมันจะร้องเพลงแล้ว” สายตาผมละจากเพื่อนข้างกายไปที่เวทีแทน ออร่าความหล่อของเขายังคงโดดเด่นเหมือนเดิม เสียงกรี๊ดจากสาวแท้และเทียมในร้านดังขึ้นเป็นระยะๆ ยิ่งเวลาที่เขายิ้มออกมาเสียงกรี๊ดแทบจะดังกลบเสียงดนตรีไปเลย

“ถ้างานนี้มันไม่ยอมสารภาพว่าชอบ มึงก็อ่อยแล้วให้มันจับมึงทำเมียเลยนะ”

“ทำไมกูต้องเป็นเมีย เป็นผัวไม่ได้เหรอ”

“หนังหน้าอย่างมึงแน่ใจเหรอคะว่าเป็นผัว” พูดเสร็จก็ผลักหัวผมจนแทบทิ่ม คือมึงเป็นผู้หญิงแบบไหนของมึงเนี่ย

“รู้ฉันรู้ยังไงก็คงไม่ต่าง...รู้ฉันรู้ยังไงเธอก็เลือกเขา...รู้ถึงฉันขอร้องยังไงเธอคงต้องลืมเรื่องของเราเพราะว่าเขาดีกว่าเพราะเขาสำคัญกว่า” น้ำเสียงคุ้นเคยมาพร้อมกับเพลงคุ้นหู

“หล่อเว่อร์ ตอนไม่ร้องก็หล่อแล้วนะเพราะอ้าปากร้องเพลงแม่งหล่อกว่าเดิมอีก” ได้ยินเสียงเพื่อนพูดอยู่ข้างๆแต่ไม่ได้เข้าหูผมสักนิด เพราะตอนนี้ผมกำลังโฟกัสสายตาเขาที่ส่งตรงมายังผม

“แต่อยากจะขอร้องเธออีกครั้ง รักฉันรักฉันเถอะนะจะไม่ทำให้เธอเสียใจ” ทั้งสายตาและน้ำเสียงมันทำเอาหัวใจผมเต้นโครมครามไม่หยุด เพื่อนสนิทที่กำลังร้องเพลง please ของอะตอม ยังไม่ละสายตาไปจากผม

“มึงๆ” จนกระทั่งเพื่อนที่นั่งข้างกันเอียงหัวเข้ามาใกล้แล้วทำท่ากระซิบบางอย่าง

“ว่า”

“เห็นแบบนี้ ชะนีฟันธงเลยค่ะว่าชอบมึงแน่นอน ดูดิมองมึงสายตาหวานเยิ้มเชียว นี่แค่กูเอียงหัวมาซบมึงมันก็หน้าตึงซะแบบนั้น ชอบก็บอกว่าชอบกันสิวะ จะปิดบังกันเพื่ออะไร สาววายอย่างฉันลุ้นค่า” ผมส่ายหัวแล้วมองกลับไปที่เวที มีบ้างที่เขาหันไปเล่นกับคนดูแต่ส่วนใหญ่ก็มองมาทางผม

เขาร้องเพลงจบไปหลายเพลงและในทุกๆเพลงที่ร้องมันมีความหมายทั้งเศร้า เหงา และแอบรัก นี่ถ้าผมไม่คิดไปเองคนเดียว ผมว่าสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อออกมาคือเขาชอบผมนะ...

แล้วทำไมเขาถึงไม่อยากจูบกับผมอีกวะ

ทำไม

“ขอบคุณทุกคนมากๆนะครับ” นักร้องนำพูดขอบคุณคนดูหลังจากที่หมดเวลาเล่นดนตรีสด ในมือเขามีกระดาษเล็กๆที่คาดว่าน่าจะเป็นเบอร์โทรของสาวในร้าน ผมถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ เลือกจะชอบคนหน้าตาดีก็ต้องทำใจเรื่องนี้สินะ

แก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าถูกยกขึ้นดื่มอีกครั้ง ผมมองตามนักร้องนำจนเขาลงไปยืนข้างเวที สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้คือผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาคุยกับเขาด้วยท่าทางสนิทสนม รอยยิ้มและมือของผู้หญิงคนนั้นที่จับบ่าเขาบ่งบอกว่าทั้งสองคนรู้จักกันเป็นอย่างดีและแน่นอนไม่ใช่แค่ผมที่คิดไปเอง

“คงเป็นคนรู้จักแหละ” เพื่อนที่นั่งข้างกันตบบ่าผมเบาๆ

“เห็นแค่นี้ก็รู้เหตุผลของมันแล้วว่าคืออะไร ไม่ต้องมอมแล้วมั้ง”

“มอมค่ะ ยังไงวันนี้ไม่มึงก็มันที่ต้องเป็นคนได้” เหล้าถูกเติมเรื่อยๆ ส่วนผมก็ส่งมันเข้าปากตัวเองเรื่อยๆเหมือนกัน รู้ตัวอีกทีก็เหมือนสติผมจะไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว



✦✦✦
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2018 11:39:55 โดย candyon »

ออฟไลน์ candyon

  • นาฬิกาแก้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Close Friend - End
#เพื่อนสนิทที่ไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท

“ทำไมสภาพมันเป็นแบบนี้อ่ะ” ผมเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วเห็นคนตัวเล็กสภาพแย่มาก เมาหัวราน้ำ ในมือยังคงกระดกแก้วสีสวยลงคอเรื่อยๆ

“เราพยายามห้ามแล้วนะ แต่แบบก็อย่างที่เห็น มันทำตัวเหมือนคนอกหัก” จะอกหักได้ไงในเมื่อเธอที่เป็นแฟนมันก็นั่งอยู่ข้างๆ ผมขมวดคิ้วไม่ได้พูดอะไรแต่ขยับนั่งลงข้างเขา

“เมาแล้วนะมึง”

“เออเมาแล้ว” ยอมรับง่ายๆแบบนี้ก็ได้เหรอวะ ผมส่ายหัวแล้วลากเก้าอี้มันให้ขยับมานั่งอยู่ตรงหว่างขาตัวเองก่อนจะหันไปเรียกเด็กเสิร์ฟที่เดินมาพอดี “ขอโทษนะครับ พี่ขอผ้าเย็นกับเครื่องดื่มแก้แฮงค์สักขวดสิ”

“ได้ครับได้” พอเด็กเสิร์ฟรับปากผมก็หันมาหาคนที่เมาไม่รู้เรื่อง

“พอไหม เลิกกินได้แล้ว” ผมดึงแก้วในมือเขาออก ส่วนเจ้าตัวก็เบ้ปากเพราะโดนขัดใจ ท่าทางของเขาแม่งโคตรน่ารัก นี่ถ้าไม่ติดว่าแฟนมึงนั่งข้างๆกูจะกัดปากมึงให้บวมเลยคอยดู

“เบื่อมึง”

“...” ผมไม่ตอบแต่ปล่อยให้คนที่ปากบอกว่าเบื่อผมซบเข้าที่บ่า คงเมาและใกล้จะหลับเต็มที เหนื่อยฉิบหายเจอแบบนี้คงต้องรอให้เขาสร่างเมาสักพักเพราะไม่งั้นคงได้ร่วงไปกองกับพื้นระหว่างที่ผมกำลังขับมอเตอร์ไซค์

“นี่นาย” ผมเงยหน้าจากเพื่อนสนิทไปที่ใครอีกคนที่นั่งอยู่อีกด้าน

“ครับ”

“เรามีเรื่องจะถามนายเรื่องนึงว่ะ นายตอบเราได้ไหม” ผมขมวดคิ้วไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาจะถามมันคืออะไร

“ถ้าตอบได้ก็จะตอบ”

“ก็ถ้านายตอบเราตามความจริง เราก็จะบอกความลับของคนที่กำลังเมาซบนายอยู่ตอนนี้”

“ความลับอะไรกูไม่มีความลับเถอะ” จู่ๆคนที่เมาก็เงยหน้าขึ้นมาโวยวายแต่โวยวายได้สักพักก็ขยับมาซบที่บ่าผมเหมือนเดิม ส่วนแฟนของเขาที่นั่งอยู่ก็เอียงคอมองราวกับจะจับผิดว่าคนที่ซบผมอยู่หลับไปแล้วหรือยัง

พอเห็นว่าน่าจะหลับไปแล้วเธอถึงค่อยเงยหน้าขึ้นมามองผม

“?”

“ถามจริงนายชอบมันใช่ไหม” ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแฟนเพื่อนเอ่ยถามเบาๆพร้อมกับชี้นิ้วไปยังคนที่ซบผมอยู่

“...” ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไรออกไป

“ตอบมาเถอะน่า สัญญาว่าจะไม่บอกใคร”

“...”

“บอกแล้วไงว่าสัญญาจะปิดปากเงียบ เราไม่ว่าอะไรหรอก นายชอบมันใช่ป่ะ”

“อืมใช่ ขอโทษด้วยนะ” ผมพูดขอโทษแฟนของเพื่อนสนิทเพราะไม่อยากให้เธอคิดมาก “เราไม่เข้าไปวุ่นวายหรือทำให้มันกับเธอไม่สบายใจแน่นอน”

“นั่นไงกูว่าแล้ววว” เธอพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆจนผมแอบตกใจ ไม่เข้าใจกับการกระทำที่เธอแสดงออกมาเท่าไหร่ “ส่วนความลับที่เราจะบอกนายก็คือ เรากับมัน จริงๆแล้วไม่ได้เป็นแฟนกันนะ แค่แกล้งเป็นแฟนกันเฉยๆ”

“แกล้งทำไม”

“อืมมม นายก็ลองถามคนที่ซบนายดูละกันว่าทำไมเขาต้องทำแบบนั้น” สมองผมประมวลความคิดบางอย่างออกมาเป็นฉากๆ เหตุผลเดียวที่ดูจะมีน้ำหนักมากที่สุดในหัวคือเขาแกล้งมีแฟนเพื่อที่จะให้ผมหึง“ยังไงเรากลับก่อนละกัน เงินค่าเหล้าก็จ่ายด้วยนะเพราะเราไม่ได้กิน เราแค่สั่งมามอมไอ้นี่”

เธอชี้นิ้วไปที่คนเมาไม่รู้เรื่องก่อนจะลุกขึ้นยืน

“อ้อ สุดท้ายนี้เราอยากบอกนายสักหนึ่งประโยค ถ้าเมื่อไหร่ที่โอกาสมันวิ่งเข้ามาแล้วก็อย่าไปรอนะนาย เขาอ่อยขนาดนี้ คืนนี้ก็อย่าพลาดโอกาสล่ะ เราเป็นกำลังใจให้เว้ย ขอให้ได้ขอให้โดน”

แล้วเธอก็เดินไปด้วยสีหน้าฟินๆ ส่วนผมก็ยังงงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นนิดหน่อยแต่ก็พอจะลำดับเหตุการณ์ต่างๆได้บ้าง

“ผ้าเย็นกับเครื่องดื่มแก้แฮงค์ได้แล้วครับพี่”

“ขอบคุณมาก เดี๋ยวน้องเช็กบิลเลยนะ”

“อ้อ ไม่เป็นไรพี่ พอดีเฮียเขาสั่งมาแล้วว่าไม่ต้องคิดเงินโต๊ะนี้ ส่วนเหล้าที่เหลือจะฝากหรือจะเอากลับดีครับ”

“งั้นฝากไว้ละกัน” ผมพูดกับเด็กเสิร์ฟไม่กี่นาทีก็หันกลับมาดูคนที่ซบบ่าผมอยู่ แต่แปลกตรงที่ทำไมหูแม่งแดงกว่าเมื่อกี้วะ

จะว่าเกิดจากอาการเมาไหมก็ไม่น่าใช่เพราะตอนแรกที่เมาหูเขาก็ไม่ได้แดงขนาดนี้

อย่าบอกนะว่า...

“มึงได้ยินที่กูพูดกับแฟนปลอมๆของมึงเมื่อกี้ใช่ไหม”เขาเงียบ พอผมยักไหล่ เจ้าตัวก็ส่ายหน้าไปมา

ท่าทางแบบนี้ล้านเปอร์เซ็นต์คือได้ยินแน่นอน

เสียงเพลงในร้านยังดังขึ้นเรื่อยๆ คนทั่วไปไม่ได้สนใจเราสองคนเท่าไหร่นัก เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่คนเมาจะเลื้อยและทรงตัวไม่อยู่

“ที่นี่คนเยอะ เดี๋ยวออกไปคุยข้างนอกนะ”

“...”

“ถ้ายังแกล้งหลับอยู่กูจะอุ้มออกไปจริงๆ” เขาเด้งตัวขึ้นทันทีก่อนจะยู่หน้าไม่พอในน้อยๆ ใบหน้าแดงก่ำไม่สามารถเดาได้ว่าเกิดจากความเมาหรือความเขินที่ได้ยินคำสารภาพของผมก่อนหน้านี้กันแน่

ไม่รอให้ความสงสัยเข้ามากัดกินความรู้สึกผมลุกขึ้นยืนแล้วกระตุกดึงมือเพื่อนสนิทให้ออกไปนอกร้านพร้อมกัน

“นั่งลง” ผมบอกให้เข้าขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองก่อนจะแทรกกายเข้าไปอยู่ตรงช่องว่างระหว่างขาเขา

“มึง...”

“อะไรครับ” ยิ้มกรุ้มกริ่มส่งกลับไปให้คนที่หน้าแดงขึ้นทุกที

“ทำไมต้องแทรกเข้ามาด้วยเนี่ย”

“คนดื้อจะได้ไม่ดิ้นไง หรือถ้ามึงไม่ถนัดก็เอาขากอดเอวกูไว้ก็ได้ ปกติก็ทำอยู่แล้วเวลาที่มึงขึ้นมานั่งบนตักแล้วจูบ”

“สัด!!” ผมไม่ตอบโต้อะไร แค่เปิดเครื่องดื่มแก้แฮงค์ส่งไปให้เขา “ดื่มซะจะได้หายเมา”

“ขอบใจ” ผมจบเจ้าตัวก็แกะฝาแล้วเริ่มดื่มมันทันที ส่วนผมก็หันไปแกะผ้าเย็นแล้วเริ่มเช็ดหน้าให้เขา ตอนแรกก็ดื้อดึงจะเช็ดเองนั่นแหละ แต่ผมไม่ยอมไง เขาเลยได้แต่นั่งหน้าบึ้งอยู่บนรถ

“หน้าแดงนะเรา”

“กูเมาไง”

“อ่าวเหรอคิดว่าแดงเพราะกูสารภาพรักซะอีก”

“...” เขาเงียบหันหน้าหนีไปทางอื่น คงกำลังเขินกับสิ่งที่ผมพูดเสียเต็มประดา

“มึงคงได้ยินที่กูสารภาพไปแล้ว” ผมเอ่ยปากพูดออกมาอีกครั้งเพราะไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ ไหนๆเขาก็รู้อยู่แล้วว่าผมชอบ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาแล้วแหละว่าจะพูดมันออกมาเมื่อไหร่

“ไม่ได้ยินเถอะ ใครจะไปได้ยินเสียงเพลงในร้านก็ดังขนาดนั้น โอ๊ยยย ได้ยินแล้วได้ยินนน” ผมดึงแก้มเขาเต็มแรงข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้

“ถ้าได้ยินก็แสดงว่ามึงรู้แล้วว่ากูรู้สึกไง”

“อื้อรู้...มั้งนะ”

“มั้งนะเหรอ”

“อ้าารู้แล้ว รู้แล้วครับ” เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดแก้มตัวเองไว้ราวกับกลัวว่าผมจะดึงแก้มเขาอีก ใช่ครับไม่ดึงแก้มแต่ดีดหน้าผากแทน

“ถ้าในเมื่อมึงรู้แล้ว หลังจากนี้ก็อยู่ที่มึงแล้วแหละว่าจะพูดออกมาไหม ถ้าไม่พูดคืนนี้กูจะถือว่ามึงไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันซึ่งตอนนี้...ก็เหลือเวลาอีกสิบนาทีถึงจะหมดวัน”

“...”

“มึงก็คิดเอาเองละกันว่าจะให้ความรู้สึกมันจบหรือจะให้มันไปต่อ” นอกจากจะใช้คำพูดกดดันแล้วผมก็ตีกรอบของเวลาให้เขาพูดว่าชอบผมภายในวันนี้ให้ได้

แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่พูด

ผมเองก็ไม่พูดเหมือนกันแค่ใช้ผ้าเย็นเช็ดไปตามใบหน้า ซอกคอ ใบหูของเขาเรื่อยๆจนกระทั่งเวลาผ่านไปพักใหญ่

“เหลือเวลาอีกหนึ่งนาทีนะ” ผมก้มดูนาฬิกา แล้วเริ่มนับเข็มวินาทีที่ลดลง “ยี่สิบ สิบเก้า สิบแปด...สิบเจ็ด...สิบหก...สิบ...เก้า”

“เดี๋ยวดิ”

“หก...ห้า...สี่”

“ชอบ! กูชอบมึง กูชอบมึงแล้ว ได้ยินไหมเนี่ย!!!”

“...”

“ทันไหมอ่ะ”

“...”

“ไม่ทันเหรอ”

“ทันดิ...ทำไมจะไม่ทัน รอมาตั้งหลายปีแค่ไม่กี่วินาทีที่มึงสารภาพกูเลื่อนให้อีกสักสิบนาทีก็ยังได้”

“มึงแม่ง...” ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปแค่ขยับหน้าไปใกล้เขาก่อนจะกดจูบลงไปที่ริมฝีปากเล็กเบาๆ จูบครั้งนี้มันหวานกว่าครั้งไหนๆเพราะมันเป็นจูบแรกของสถานะคนรักไม่ใช่เพื่อนสนิทอย่างที่เคย “แล้วไม่ต้องมาทำหน้าระรื่นครับ กลับหอไปคุณเจอจัดหนักแน่ กล้ามากนะคุณที่เอามุกแฟนปลอมๆมาใช้กับผม...”

จริงๆความรักไม่ได้ซับซ้อน มันก็แค่ต้องการความจริงใจ ไม่จำเป็นต้องมีมุกหรือลูกเล่นใดๆมาตรวจสอบเพราะถ้าสารภาพออกไปแล้วใจตรงกัน เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาไปกับระยะทางที่เค้นหาคำตอบว่าเขาชอบเราไหม อีกทั้งยังได้ตักตวงความสุขจากคำว่ารักได้เต็มที่

แต่ถ้าสารภาพไปแล้วมันไม่ใช่ เราก็จะสามารถยอมรับและทำใจกับความผิดหวังได้เร็วขึ้น

ส่วนความรักที่เริ่มต้นจาก เพื่อนสนิท มันอาจจะมีความเสี่ยงในอนาคตหากเราเลิกกัน แต่ในเมื่อเลือกที่จะรักแล้ว เราก็แค่ต้องพร้อมและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็เท่านั้นเอง


- End -
จบแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ
ถ้าชอบฝากให้กำลังใจด้วยนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2018 11:40:16 โดย candyon »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
งูย..ยยยยยย น่ารักมากๆ :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ benbencoffee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารัก..พล็อตเดิมๆแต่ก็ไม่เคยเบื่อ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
หูยยยยยยยยยยยยย  :hao7:
น่ารักอะะ 5555555555
อยากอ่านตอนจัดเต็มจังเลยฮะ ขอสเปที please ~~~~~~  :mew1:

ออฟไลน์ ฟ้าใสคนนอกโลก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบจูบปลอบใจ น่ารักกก  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
งู้ยยย ก็ว่าถ้ามีแฟนแล้วทำไมน้วยคุณเพื่อนจัง
คราวนี้ก็น้วยแบบชัดเจนได้แล้วเนอะ ฮาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คิดว่าจะดราม่าซะแล้ว เปิดมาแบบปุ้งป้าง
แต่ชอบแบบนี้ค่า ลุ้นดี55555 น่ารักด้วย

ออฟไลน์ 15magnitude

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินไปหมดแล้ววววว >////<

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
งุ้ยยยน่ารักอ่ะเขินจูบปลอบ

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ vy0Cik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น่ารักจังค่ะ อยากเปงเพื่อนที่รู้ทุกอย่างแบบนี้บ้าง ชั้นจะเชียร์ให้เค้าได้กันทุกวันเลย55555

ออฟไลน์ チイ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากให้มีสเปหลังจากเค้าขยับสถานะกันไปแล้วนะคะ

อ่านแล้วเขินคุณอย่างนั้นคุณอย่างนี้ ฮือออ

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ผมฟินจนตัวจะแตกแล้วครับคุณ

ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น่ารักกกกกกกกกกกกกน่ารักกกกกกกกกกมากกกกกกก

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ฮื่อออ น่ารักมากเลยค่า อยากอ่านสเปหลังจากนี้เลย

ออฟไลน์ wichiwiwie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มนุษย์สาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แงงงงงง เขินเด้ออออออ  อยากให้ทำเรื่องยาวเลย น่ารักกกกกกก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด