<<รอยบาป The Series>> บาปที่ไม่ได้ก่อ บทนำ [06/11/63]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<รอยบาป The Series>> บาปที่ไม่ได้ก่อ บทนำ [06/11/63]  (อ่าน 12651 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
รวมคนบาป5555 :o8: :o8:

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เรื่องแรกว่าบาปแล้วเรื่องสองนี่บาปกว่าาาาาา
แต่อัไรบาปๆแบบนี้ชอบนักละ

ออฟไลน์ KittybabymApi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
อ่านเรื่องแรกจบท่านเจ้าอาวาสหนุ่มเป็นผู้เสียสละมากพลีตนเพื่อพิธีบูชายัญเชียวนะ555 ไม่มีใครเดือดร้อนกับเรื่องนี้เลย หมู่บ้านได้ผลประโยชน์จากการทำรีสอร์ท วัดได้มีส่วนร่วมกับชุมชน ส่วนเจ้าของรีสอร์ทไม่ต้องพูดถึงน่าจะสุขสุดๆ อิอิ วินวินทุกฝ่ายหุหุ
เรื่องที่สองเปิดตัวได้น่าประทับใจมากค่ะ รออ่านด้วยใจจดจ่อค่ะ
ชอบงานของไร้ท์ทุกเรื่องนะคะ โดยเฉพาะงานเขียนที่ใครๆก็ห้ามแต่ไร้ท์beloveก็แต่ง ถูกใจกดล้านไลค์เลยค่ะ 

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โอ้โหหหหความบาปที่แท้ทรู ปกติเคยอ่านแต่แบบพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยง ก็อยากจะรู้ปมที่นภทำแบบนี้

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                                   บาปกตัญญู

                                                                      บทที่ 1



              นภขับรถยนต์ไปจอดที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในเวลาโพล้เพล้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเบอร์โปรดที่บันทึกไว้ แต่รอจนกระทั่งสายตัดไปปลายทางก็ยังไม่รับสาย เขาเพียรโทรไปอีกหลายครั้งผลก็ยังคงเป็นเช่นเดิมจนเริ่มจะกระวนกระวาย แต่แอพลิเคชันไลน์ที่ส่งสัญญานว่ามีข้อความเข้าทำให้ต้องรีบเปิดอ่าน


              “พ่อกลับบ้านก่อนเลย ห้องเชียร์ซันยังไม่เลิก”


              หัวคิ้วของชายวัยสี่สิบต้นๆย่นเข้าหากัน เขารีบพิมพ์ตอบกลับไป


             “แล้วซันจะกลับบ้านยังไง นี่มันมืดแล้วนะ”


               นิ่งรอหลายอึดใจกว่าอีกฝ่ายจะส่งข้อความตอบกลับมา


              “พี่รหัสของซันจะไปส่ง ไม่ต้องกลัวน่าไว้ใจได้ พ่อกลับเหอะ”


               ถึงแม้จะไม่ชอบใจนักแต่นภก็ต้องจำยอมขับรถกลับบ้านโดยไม่มีลูกชายกลับด้วย เขาควรจะทำใจได้แล้วว่าตะวันโตจนเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแล้ว คนเป็นพ่อก็ต้องปล่อยให้ลูกเติบโตไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ แต่นภก็ยังทำใจไม่ได้จริงๆ


               ภรรยาของนภครรภ์เป็นพิษ และจากพ่อกับลูกไปตั้งแต่อาทิตย์แรกที่คลอดตะวันออกมา นภกลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ประคบประหงมทารกน้อยราวกับแก้วตาดวงใจ ให้สมกับที่ภรรยาที่รักสละชีวิตมอบสิ่งแทนใจให้เขา เวลาทั้งหมดนอกจากเรื่องงานนภทุ่มเทให้เด็กชายตะวันจนกระทั่งบุตรชายเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นหนุ่มน้อยในวันนี้ ตะวันหน้าตาเหมือนแม่มาก ยิ่งมองนภก็เห็นเงาของภรรยาที่จากไปอยู่บนใบหน้าหวานกว่าเด็กชายคนอื่น ยิ่งทำให้นภรักและหวงแหนตะวันเหนือสิ่งอื่นใด


                 เขาไปรับไปส่งตะวันทุกเช้าทุกเย็น เมื่อคราวตัดสินใจซื้อบ้านนภเลือกทำเลที่ดีที่สุดซึ่งใกล้ที่ทำงานและแหล่งการศึกษา เขามีเงินเก็บจากการทำงานและเพราะไม่ใช่คนเที่ยวเตร่จึงไม่เดือดร้อนนัก แม้แต่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งนี้ก็เป็นทางเลือกที่เขาเลือกให้ตะวันเมื่อจบมัธยมปลาย เพื่อที่นภจะยังไปรับไปส่งลูกได้เช่นเดิม แต่ทว่าภายในเดือนแรกตั้งแต่เปิดเทอม ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป


               ตะวันตื่นเต้นมากกับชีวิตนักศึกษา และมักจะนำเรื่องต่างๆมาเล่าให้ผู้เป็นพ่อฟังเสมอ ในระยะนี้คงไม่มีอะไรมากไปกว่าเทศกาลการรับน้องและห้องเชียร์


                “ไม่รุนแรงหรอกพ่อ ไม่มีพี่ว้าก มีแต่พี่สันทนาการมาสอนร้องเพลงมหาลัย พี่รหัสของซันชื่อพี่เบียร์ เป็นเดือนคณะด้วยนะ พี่เขาอยู่วงการบันเทิงด้วย เห็นว่าเล่นซีรีส์วายอยู่”


                “ซีรีส์วายคืออะไร”


                 จำได้ว่าเขาถามลูกเช่นนั้น สังคมเด็กสมัยนี้ล้ำหน้าจนตามแทบไม่ทันแม้ว่านภจะพยายามทำตัวให้ทันสมัยเข้ากับวัยรุ่นแล้วก็ตาม


                “ละครชายรักชายไงพ่อ ฮิตมากนะ พวกเพื่อนผู้หญิงของซันมันดูกันทุกคนเลย”


                นภได้แต่เออออตามลูก สงสัยว่าจะต้องหาซีรีส์วายที่ว่าเปิดดูเพื่อให้คุยกับตะวันรู้เรื่อง


                 เขาขับรถกลับมาถึงบ้านจัดสรรชั้นเดียวหลังหนึ่งที่มีรั้วรอบขอบชิด ครอบครัวที่มีเพียงพ่อกับลูกไม่ต้องการบ้านหลังใหญ่ไปกว่านี้ บ้านที่มีเพียงสองห้องนอนคือห้องของเขากับตะวัน แต่ส่วนใหญ่พ่อลูกก็จะนอนในห้องเดียวกันเกือบทุกคืน นภอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านั่งรอลูกชายด้วยความเป็นห่วง จนโทรศัพท์มือถือดังขึ้น


              “สวัสดีครับคุณกิ๊ก มีอะไรหรือเปล่าครับ”


                ผู้จัดการสาวใหญ่ในบริษัทเดียวกันนั่นเองที่โทรหาเขา พ่อม่ายเรือพ่วงรูปหล่อมาดดีในตำแหน่งหน้าที่ผู้จัดการใหญ่ของบริษัท สาวๆต่างก็จับจ้องว่าเขาจะเลือกสตรีนางไหนมาเป็นคู่ใจคนใหม่หรือไม่ ใช่ว่านภจะไม่รู้ถึงกิตติศัพท์ของตัวเอง แต่เพราะภาระดูแลลูกทำให้เขาไม่มีเวลาให้ผู้หญิงคนไหน แต่ตอนนี้ตะวันเริ่มห่างจากอก นภอาจจะมีสายตาเมียงมองสาวสักคนก็ได้


                “ค่ะ คุณนภ เมื่อตอนอยู่บริษัทกิ๊กไม่กล้ารบกวนเวลา ขอกิ๊กปรึกษาตอนนี้นะคะ”


               สาวเจ้าชวนพูดคุยเรื่องงาน นภก็ให้คำปรึกษาไปตามเรื่อง ใจวอกแวกมองแต่หน้าประตูรั้วว่าเมื่อไหร่ตะวันจะกลับมา


                “คุณนภน่ารักและใจดีมากเลยค่ะ ขอให้กิ๊กได้เลี้ยงข้าวสักมื้อตอบแทนน้ำใจได้ไหมคะ”


                 เสียงหวานลอดมาตามโทรศัพท์พร้อมๆกับเสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้ารั้วทำให้นภเสียสมาธิ


                 “ผมต้องรับส่งซันน่ะครับคุณกิ๊ก”


                 “งั้นกิ๊กจะไปทำอาหารให้คุณนภกับน้องซันที่บ้านดีไหมคะ พรุ่งนี้ดีไหม”


                “ครับๆ”


                 เขาตอบส่งๆไปเช่นนั้นก่อนจะวางหูและก้าวไปที่ประตูบ้านยืดคอมองบุตรชายที่ก้าวลงมาจากรถยนต์คันหรูพร้อมกับผู้ชายในชุดนักศึกษาหน้าตาดีคนหนึ่ง หัวใจของคนเป็นพ่อเต้นแรงเมื่อเห็นทั้งคู่พูดคุยกันสีหน้ายิ้มแย้ม และไอ้หนุ่มแปลกหน้ายังบังอาจยกมือมาขยี้ผมนุ่มของตะวันอีกด้วย


                “อ้าวพ่อ”


               ลูกชายเปิดประตูรั้วเดินเข้ามาเมื่อรถยนต์คันนั้นขับจากไปแล้ว นภย่นหัวคิ้วเอ่ยถามเสียงเข้ม


              “ใครน่ะซัน”


              “พี่เบียร์ไง พี่รหัสของซันที่เคยเล่าให้พ่อฟัง เขาอาสามาส่งซันตอนที่ห้องเชียร์เลิก พ่อจะได้ไม่ต้องไปรับซันตอนค่ำแบบนี้”


               “สนิทกับเขาเร็วจังนะเรา”


                ไม่รู้เลยว่าทำไมจะต้องส่งเสียงราวค่อนขอดตะวันด้วย แต่พอเห็นความสนิทสนมที่ตะวันมีต่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ตนเองแล้วนภก็แอบหัวร้อน


               “พี่เบียร์คุยเก่ง อัธยาศัยดี ใครๆก็ชอบเขา ซันอาบน้ำก่อนนะเหนียวตัวจัง”


                เด็กหนุ่มร่างเล็กหน้าหวานเดินผิวปากคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ นภเข้าไปรอบุตรชายในห้องนอนห้องเล็กของตะวัน ไม่นานเจ้าของห้องก็เดินเข้ามาโดยมีผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่าง เผยให้เห็นผิวผ่องเนียนแทบทุกรูขุมขน เมื่อตะวันนั่งลงบนเตียงนภก็ใช้โลชั่นเทใส่ฝ่ามือทาไปตามแขนขาเรียวตามด้วยแป้งเด็กกลิ่นละมุนเช่นปกติทุกครั้ง แม้ว่าลูกจะโตแล้วก็ตาม


              “พ่อไม่ต้องทำให้ซันขนาดนี้แล้วก็ได้ ซันโตแล้ว”


               ลูกชายเอ่ยออกมาทำให้คนเป็นพ่อใจแป้ว


               “โตแค่ไหนซันก็ยังเด็กสำหรับพ่ออยู่ดี พ่อรักซันมากนะรู้ใช่ไหม มา มาจูบกันก่อนนอนเร็ว”


                 นภดึงตะวันให้มานั่งบนตัก เด็กหนุ่มยกแขนคล้องคอบิดาด้วยความเคยชิน นภใช้ปลายนิ้วแตะไล้ที่เรียวปากนุ่มก่อนจะประทับริมฝีปากตนเองตามไป เขาส่งลิ้นชื้นเข้าไปในโพรงปากเล็กตวัดลิ้นนุ่มเข้าหาตัว ตะวันเกาะเกี่ยวลิ้นตอบอย่างที่ทำเป็นประจำ แต่ครั้งนี้จูบของพ่อรุนแรงกว่าทุกครั้ง


                “อื้อ พ่อ เบาหน่อย ซันเจ็บปาก”


                 เด็กหนุ่มประท้วงพร้อมทั้งดันไหล่กว้างของพ่อ นภจึงค่อยรู้สึกตัวและถอนจูบอย่างตกใจ


               “เจ็บเหรอซัน พ่อขอโทษ”


                อาจเป็นเพราะเห็นความสนิทสนมของซันกับรุ่นพี่ เขาจึงลืมตัว นภลูบริมฝีปากนุ่มอย่างรู้สึกผิด


               “นอนนะครับคนดีของพ่อ พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าๆไปมหาวิทยาลัย”


                นภวางร่างเล็กลงบนเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมกายให้ตะวันอย่างทะนุถนอม เขาจูบเบาๆที่หน้าผากก่อนจะเดินไปปิดไฟแล้วก้าวออกจากห้องไปยังห้องของตนเอง นภล้มตัวนอนยกมือก่ายหน้าผาก เขาไม่ชอบความรู้สึกวุ่นวายใจและความหวงแหนเกินปกตินี้เลย จนดึกกว่าจะข่มตาหลับลงได้







              เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงทำลายความเงียบในยามดึกสงัด ฝนเทลงมาห่าใหญ่พร้อมกับหอบลมฝนพัดครืนมาด้วย นภสะดุ้งตื่นขึ้นมาในความมืดด้วยความตกใจ เปล่า เขาไม่ได้กลัวเสียงฟ้า ตะวันต่างหากที่กลัวเสียงดังเหล่านี้ตั้งแต่เด็ก นภคิดจะลุกไปหาลูกที่ห้องแต่ช้ากว่าตะวันที่เปิดประตูห้องของเขาเข้ามาและถลาซุกอกพ่อ


               “พ่อ ฟ้าผ่า”


                 ร่างจ้อยกอดก่ายแน่นหนาเหมือนสมัยยังเด็ก นภกอดตอบพลางลูกผมตะวันเบามือ


                “ไม่เป็นไรแล้วซัน อยู่กับพ่อแล้ว”


                 แล้วอย่างนี้จะไม่ให้นภเป็นห่วงตะวันได้อย่างไร เมื่อเจ้าตัวยังคล้ายทารกที่ต้องดูแลเช่นนี้ นภดึงร่างบางให้เอนกายลงบนเตียงพลางดึงผ้าห่มมาคลุมทั้งคู่ ภายใต้ผ้าห่มผืนอุ่นเขากับตะวันกอดกันกลมจนแทบไม่มีช่องว่าง


               “หายกลัวหรือยังเด็กดี”


                นภเชยคางมนขึ้น สบตากับดวงตากลมโตในความมืด ดวงตาคู่นี้ช่างเหมือนภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว เหมือนจนหัวใจเต้นสะท้อนด้วยความโหยหา


                เขาจูบที่เปลือกตา ไล่ระดับลงมาจนถึงปากอิ่มฉ่ำ นภสอนจูบเช่นนี้ให้ตะวันตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายจนไม่รู้สึกเก้อเขิน นภบอกกับตะวันว่านี่คือการแสดงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกันและตะวันก็เข้าใจเช่นนั้นมาโดยตลอด


                ตะวันเผยอปากรับ จูบของพ่อในวันนี้แปลกไปกว่าทุกวัน มันทำให้เขาปวดมวนในห้องจนต้องหายใจหอบหนัก พ่อของเขากอดร่างหนักหน่วงจนเนื้อหนังเสียดสี เขาตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดของพ่อ


                “พ่อ ซัน อึก ปวดตรงนี้”


                เขาดึงมือพ่อให้มากอบกุมแก่นกายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดนอน ตะวันถูไถมันเข้ากับมือใหญ่ของนภ อุ้งมือร้อนสอดเข้าไปในร่มผ้าก่อนจะกอบกุมส่วนยื่นที่ขยายตัวพลางยิ้มออกมา


                “นี่ไม่ได้เอาออกหลายวันแล้วใช่ไหม ให้พ่อช่วยเหมือนเคยนะ”


                นิ้วสากเกี่ยวดึงกางเกงขายาวเนื้อบางเบาออกจนพ้นท่อนขาเรียว เขาดึงร่างบางของตะวันให้ลุกมานั่งคร่อมอยู่ตรงแผงอกของเขา นภนอนหงายมองท่อนเนื้อเล็กที่ขยายตัวน่าอึดอัดของบุตรชาย มือร้อนบีบกระชับมันนวดเฟ้นเป็นจังหวะ ตะวันเหยียดกายกัดฟันปรือตาอย่างเสียวซ่านกับการกระทำของบิดา


                “อื้ม พ่อ”


              “ใส่เข้ามาเลยซัน พ่อรออยู่”


                นภเปิดปากกว้าง ตะวันที่นั่งทับแผงอกขยับเอวดันเข้าสู่ช่องปากของเขา นภกลืนกินเข้าไปจนเต็มคำเขาใช้ลิ้นโลมเลียทุกส่วน และขยับปากรูดรั้งช้าๆ


               “โอ พ่อ เสียวจัง”


                 ตะวันแหงนหน้าส่งเสียงแข่งกับลมฝน นภใช้มือวางบนหนั่นเนื้อบั้นท้ายและควบคุมให้ตะวันขยับเอวเข้าออก ท่อนเนื้อของลูกร้อนระอุอยู่ในช่องปากที่เขาทั้งดูดและดุนอย่างเช่นที่ทำมาตั้งแต่ตะวันเริ่มแตกพาน เขาเข้าใจธรรมชาติของผู้ชายว่าต้องระบายความต้องการออก และนภก็ทำเช่นนี้เพื่อช่วยให้ตะวันสบายตัว


               “ขยับสิครับซัน”


               เมื่อผู้เป็นพ่อส่งเสียงอู้อี้บอกมา ตะวันจึงเริ่มขยับเอง เด็กหนุ่มเลื่อนกายให้ความเป็นชายของตนนั้นสัมผัสแทรกซึมอยู่ในช่องปากของพ่อ แรงขับของความต้องการบีบคั้นจนต้องเร่งเร้าใส่พ่อ


               “พ่อ พ่อจ๋า อีกนิดเดียว”


                เขากระแทกใส่ปากพ่อแต่พ่อก็ไม่เคยต่อว่า แรงเท่าไหร่พ่อก็พร้อมจะรองรับความต้องการเสมอ ตะวันสูดลมเข้าปากเมื่อในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยออกมาในช่องปากร้อนชื้นนั่นเอง พ่อยังคงดูดดุนความต้องการของเขาออกไปจนหยดสุดท้าย ตอนนั้นตะวันแหงนหน้าผ่อนลมหายใจไปกับความผ่อนคลายที่บังเกิดขึ้น





มีต่ออีกนิด...




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-10-2018 00:36:27 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


อ่านต่อตรงนี้...



                “สบายตัวหรือยังคนเก่ง”


                 นภดึงร่างบางลงจากอกให้มานอนอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง มุมปากของเขายังชื้นไปด้วยคราบความต้องการของลูกแต่นภไม่ถือสา ตะวันยิ้มสดใสพยักหน้าให้พลางหอมแก้มพ่อดังฟอด


               “สบายมากเลยพ่อ ขอบคุณนะครับ”


                มือเรียวของตะวันป่ายไปมาไปพบกับความแข็งขันของบิดาที่ไม่ได้ต่างอะไรจากเขาเมื่อครู่ เพียงแต่ขนาดของบิดาใหญ่โตกว่าเขามาก ตะวันเองก็รู้ว่าบิดาต้องการระบายออกเช่นกัน ตลอดชีวิตที่ผ่านมานภไม่เคยคิดจะหาแม่เลี้ยงมาให้ และยังดูแลตะวันมาโดยตลอด สองพ่อลูกก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกัน


                “พ่อเองก็ไม่ได้เอาออกมาหลายวันแล้วใช่ปะ มา ให้ตะวันช่วยบ้าง”


                 ตะวันเลื่อนกายลงต่ำ เขาดึงกางเกงขาสั้นที่พ่อใส่นอนลงมาถึงต้นขา ความใหญ่โตพลันเด้งกายอวดจนเกือบเป็นเส้นตรงอยู่ต่อหน้าแต่ตะวันชินตาเสียแล้ว เมื่อเรียนรู้เรื่องระบบของร่างกายและการปลดปล่อยสัญชาตญาณทางเพศด้วยการสอนของบิดา เขาเองก็รับอาสาที่จะช่วยเหลือพ่อบ้างตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมา


                 ครั้งแรกตะวันเคยตื่นตากับขนาดของพ่อ เทียบกับของตนเองแล้วตะวันกลายเป็นหนอนน้อยไปเลย ตะวันคิดว่าความเป็นชายของพ่อมันดูดีเหลือเกิน บางครั้งก็แอบอิจฉาพ่ออยู่เหมือนกัน


                 “โห พ่อ วันนี้เป็นมังกรเลยนะ”


                   ลูกชายหลิ่วตาให้ นภหัวเราะเบาๆพลางขยี้ผมนุ่มอย่างแสนรัก เขามองใบหน้าหวานผลุบโผล่ระหว่างขาพลางส่งลิ้นออกมาโลมเลีย เขาสอนให้ตะวันทำเช่นเดียวกับไอศกรีมที่เด็กหนุ่มโปรดปราน ลิ้นเล็กลากขึ้นลงตั้งโคนยันปลายมนก่อนตวัดยอดแล้วเม้มปากตาม นภถึงกับกัดฟันแน่น


                  “อา ดีมากลูก”


                  ตะวันดูดเม้มราวกับของหวานแสนอร่อย เขาเปิดปากเล็กให้กว้างที่สุดแล้วกดใบหน้าตนเองลงมาตามความยาวช้าๆ ลำคอของเขากลืนกินได้ไม่ถึงโคนดีนักแต่หนุ่มน้อยใช้กลีบปากนุ่มช่วยเม้มแล้วยกใบหน้าขึ้น เขาเหลือบตามองบิดาที่หลับตาลงคล้อยเคลิ้มอย่างพึงพอใจ


                  เขาเองก็รักพ่อมาก นภดูแลเขาใกล้ชิดแต่ตะวันก็ไม่ได้อึดอัด ดีเสียอีกที่มีพ่ออยู่ด้วย แม้บางครั้งจะมีหญิงอื่นมาเกาะแกะแต่แค่ตะวันทำหน้าบึ้งนภก็จะรู้แล้วว่าลูกไม่ชอบ ตะวันไม่อยากมีแม่ใหม่เขาไม่ต้องการให้ใครมาแย่งความรักของพ่อไปจากเขา


               มือใหญ่ของพ่อสอดเข้ามาในกลุ่มผมของเขาแล้วขยำเบาๆ แค่นี้ตะวันก็รู้ว่าพ่อรู้สึกดี เขาขยับใบหน้าขึ้นลงอย่างลิงโลด ความแข็งขันของพ่อเปียกชื้นด้วยน้ำลายใสของเขา


                  “ทำไมเก่งอย่างนี้นะลูกพ่อ”


                    นภสวนเอวเข้าใส่ปากเล็กที่ทำงานต่อเนื่อง เมื่อถึงจังหวะนี้ตะวันรู้แล้วว่าความต้องการของพ่อถึงขีดสุด มือเรียวกำโคนใหญ่ไว้แน่นพลางรูดรั้งไปพร้อมกับการดูดเม้มของปาก อีกไม่ถึงอึดใจพ่อของเขาก็เกร็งค้างพลันพุ่งน้ำอุ่นเข้าสู่ลำคอของเขา ตะวันกลืนกินอย่างเคยชินกับรสของบิดา เขาค่อยๆยกหัวคืนอิสระให้บิดาที่ยังหอบหนักอยู่


                 “อีกหน่อยซันต้องเก่งมากจนพ่อสู้ไม่ได้แน่”


                  นภดึงร่างบางเปลือยท่อนล่างเข้ามากอด ใช้นิ้วเช็ดคราบของตนบนปากฉ่ำออกจนหมด เขาจูบตะวันอีกครั้งก่อนจะผละออกอย่างอ้อยอิ่งเมื่อเห็นเปลือกตานั้นปิดลงอย่างง่วงงุน


               “นอนหลับนะครับเด็กดีของพ่อ พ่อจะกอดซันทั้งคืนเลย”


                 ตะวันยิ้มรับทั้งที่ดวงตาปิดสนิท เขาหลับลงในอ้อมกอดแสนอบอุ่นของพ่อ นภลูบหลังลูบไหล่กล่อมนอนจนกระทั่งได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอจึงได้คลายอ้อมกอดพอให้ไม่อึดอัด นภหอมแก้มนุ่มอีกครั้งก่อนจะปิดตาตัวเองตาม


                “พ่อจะรักซัน รักตลอดไป”


                 นภหลับลงไปโดยมีลูกชายอยู่ในอ้อมกอดตลอดคืน





                                                            TBC


                                                  อิจฉาความรักของพ่อลูกเขาไหมล่ะ ^^



                                                   :impress: :impress: :impress: :impress: :impress: :impress:


ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ความบาปที่แท้ทรู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เสี้ยวหนึ่งในใจคุณพ่อเห็นซันเป็นตัวแทนของแม่ป่าวคะ ตอนหน้าขอบาปแบบขนลุกๆนะคะ เอาให้เจ๊คนที่จะมาบ้านตะลึงไปเลย :hao7:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                         บาปกตัญญู

                                                           บทที่ 2




                อาหารเย็นในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้น่าอึดอัดเหลือเกินสำหรับตะวัน เมื่อโต๊ะอาหารมีคนนอกมาร่วมรับประทานอาหารด้วย เป็นผู้หญิงวัยสามสิบกว่าๆ แต่งหน้าอ่อนๆ นั่งอยู่ข้างพ่อของตะวันและคอยตักอาหารมาวางในจานของพ่อ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสของผู้หญิงคนนี้ทำให้หนุ่มน้อยสีหน้าบูดบึ้งยิ่งขึ้นทุกที


                  พ่อบอกว่าเจ้าหล่อนชื่อคุณกิ๊ก เป็นผู้จัดการทีมหนึ่งในสาขาที่พ่อเป็นผู้จัดการใหญ่ แวบเดียวตะวันก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนี้กำลังหมายปองนภอยู่ ตะวันเคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาหลายครั้งตั้งแต่เขาจำความได้ ใช่สิ พ่อของเขาทั้งหล่อทั้งเก่ง ผู้หญิงหลายคนก็อยากจะเคลมพ่อทั้งนั้น


                 “ทานอีกสิคะคุณนภ อาหารเจ้านี้อร่อยมาก กิ๊กขับรถไปซื้อมาสำหรับมื้อนี้โดยเฉพาะ อ้าว น้องซัน อิ่มแล้วหรือคะลูก ทำไมข้าวยังเหลือเยอะขนาดนี้ เนี่ย กินแค่นี้ถึงได้ผอมจัง”


                 ความเจ้ากี้เจ้าการเหล่านั้นทำให้ตะวันวางช้อนส้อมลงดังแกร๊ง นภหันมามองพลางส่งยิ้มอ่อนให้ลูกชาย


                 “อิ่มแล้วหรือซัน”


                 “ครับพ่อ” เขาตอบพลางลุกขึ้นยืนตวัดหางตาใส่คนนอก “พ่อกินข้าวต่อเถอะ เดี๋ยวซันจะยกถ้วยจานที่หมดแล้วไปล้างก่อน”


                 ตะวันหยิบจานใส่อาหารที่หมดแล้วซ้อนกันก่อนจะยกเดินผ่านโต๊ะอาหารเข้าไปยังส่วนครัวด้านหลัง เขาเปิดก๊อกน้ำให้น้ำเย็นไหลผ่านขณะที่ตนเองยืนเม้มริมฝีปากอย่างขัดเคือง


                 ท่าทางเอาอกเอาใจของผู้หญิงคนล่าสุดดูเป็นธรรมชาติจนตะวันหวั่นใจ หลายครั้งที่มีผู้หญิงมาเกาะแกะบิดาเขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน หากนภเปิดใจคบกับผู้หญิงคนนี้ ตะวันคงใจหาย


               “พี่ช่วยล้างจานนะคะน้องซัน”


               ตะวันสะดุ้ง เขาหันขวับไปมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาพร้อมจานชามอีกชุด หล่อนเบียดเข้ามายืนหน้าอ่างล้างจานและจัดการอย่างคล่องแคล่ว


              “คุณนภเป็นผู้ชายที่ดีมากเลยนะคะ เป็นหัวหน้าที่ดีและเป็นคุณพ่อที่ดี”


              หล่อนเอ่ยขึ้นมาโดยไม่ได้มองหน้าตะวันสักนิด ราวกับประโยคเหล่านั้นบอกเล่าให้อากาศฟัง


              “พี่ทราบมาว่าคุณแม่ของน้องซันเสียไปนานแล้ว และคุณนภทำหน้าที่คุณพ่อโดยไม่ยอมมีใครใหม่เพราะอยากดูแลน้องซัน แต่พี่ว่าคุณนภเองก็ควรจะมีใครดูแลเขาเช่นกัน”


             “คุณพูดเหมือนกับว่าอยากเป็นคนๆนั้นเลยนะครับ”


             ตะวันพยายามกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กดให้ราบเรียบที่สุด ถึงอย่างไรเขาก็ถูกปลูกฝังเรื่องมารยาทการแสดงออกมาตั้งแต่เด็ก กิ๊กหันหน้าสบตาพลางยิ้มหวาน แต่ตะวันมองเห็นรอยประหารส่งผ่านมาจากยิ้มนั้น


              “ถ้าคุณนภเปิดโอกาสพี่ก็อยากจะเป็นคนที่ดูแลคุณนภค่ะ น้องซันคิดดูสิว่าคุณพ่อต้องอดทนมานานแค่ไหน ต้องเสียสละชีวิตส่วนตัวไปนานเท่าไหร่ที่เลี้ยงน้องซันมา ตอนนี้น้องซันก็โตจนเข้ามหาวิทยาลัย อายุสิบแปดสิบเก้าแล้ว ถ้าอยู่ต่างประเทศต้องย้ายออกไปใช้ชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำไป  น้องซันควรจะปล่อยให้คุณพ่อได้มีความสุขบ้างตามธรรมชาติของมนุษย์เรานะคะ”


               จานกองใหญ่ที่ล้างเสร็จแล้วคว่ำเรียงกันอยู่บนชั้นวาง กิ๊กเช็ดมือจนแห้งแล้วเดินจากไปหลังจากฝังระเบิดลูกใหญ่ไว้ในหัวใจของตะวัน เขาอดคิดไม่ได้ว่าตนเองเป็นตัวขัดขวางความสุขของบิดาจริงอย่างที่ผู้หญิงคนนี้พูดหรือไม่ ขอบตาของตะวันร้อนผ่าว เขาไม่กล้าเดินออกไปภายนอกเพื่อเห็นภาพหญิงคนนั้นกับบิดา ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเจ็บจนใจจะขาดขนาดนี้






                “ซัน ทำไมมานั่งเงียบๆในครัวล่ะลูก”


                 เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ของผู้หญิงคนนั้นขับออกไปนอกบ้านแล้ว พ่อของเขาจึงได้เดินเข้ามาหาในครัวที่ตะวันนั่งหน้าบึ้งตึงเพียงลำพัง


                “ซันไม่อยากเป็นก้างขวางคอใคร”


               เสียงแข็งของบุตรชายทำให้นภผิดสังเกต เขาขยี้ผมของตะวันพลางเอ่ยนุ่ม


              “ก้างอะไรกัน คุณกิ๊กเขาก็แค่มาเยี่ยมที่บ้าน”


              ตะวันแอบก้มหน้าเบ้ปาก อยากให้พ่อมาเห็นมาได้ยินตอนเจ้าหล่อนพูดจากระทบกระเทียบเพื่อไล่ให้เขาออกไปให้พ้นชีวิตของพ่อชะมัด พ่อคงไม่บอกว่าเขาแค่มาเยี่ยมแน่ๆ


              “เขาอยากได้พ่อ พ่อก็รู้ ไม่ต้องรักษาน้ำใจซันหรอก”


              “พูดอะไรแบบนั้นล่ะซัน” นภตกใจเมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำของลูก “แล้วนี่ร้องไห้ทำไม คิดมากอะไรอีก พ่อเคยบอกแล้วไงว่าจะไม่หาแม่ใหม่มาให้”


            “ตอนนั้นซันยังเด็ก แต่ตอนนี้ซันโตแล้วซันดูแลตัวเองได้ ซันไม่อยากเห็นแก่ตัวที่ดึงพ่อไว้แบบนี้”


            “ซันไม่เคยดึงพ่อไว้ พ่ออยากดูแลซันเอง เพราะพ่อรักซัน”


               นภดึงร่างบางเข้ามากอดแนบอก น้ำตาของตะวันเปียกอยู่บนอกเสื้อของเขา ตะวันเกลือกกลิ้งใบหน้าอยู่กับอกกว้างที่ดูแลเขามาตั้งแต่ลมหายใจแรกของชีวิต


             “แต่พ่อก็ต้องมีชีวิตของพ่อเอง ซันเป็นตัวถ่วงในชีวิตพ่อ”


              ได้ยินเสียงเครือตัดพ้อนภก็รีบเชยคางมนให้เงยขึ้น ตะวันตกใจเมื่อเห็นนัยน์ตาดุก่อนที่พ่อของเขาจะบดจูบใส่กลีบปากเล็ก ตะวันไม่ปฏิเสธแม้ว่าจูบนั้นจะทำให้เขาเจ็บ


                 “พ่ออย่าทำแบบนี้” ตะวันกล่าวเสียงสั่นพร่าเมื่อนภยอมถอนจูบ “มันยิ่งทำให้ซันตัดใจจากพ่อไม่ได้”


                “ไม่ต้องตัดสิ พ่อรักซัน เราอยู่กันไปแบบนี้ก็ได้ พ่อจะไม่มีใครทั้งนั้น”


                ร่างจ้อยสะบัดหนี ตะวันเบี่ยงกายเดินลิ่วเข้าไปในห้องตนเองแล้วล็อกประตู เขาวิ่งไปที่เตียงแล้วโถมกายลงไปร้องไห้เพราะเดียดฉันท์ความเห็นแก่ตัวลึกๆในจิตใจ แม้ว่านภจะตามมาเคาะประตูร้องเรียกหลายครั้งเขาก็ไม่ยอมเปิดจนกระทั่งบิดายอมแพ้เงียบเสียง หนุ่มน้อยพลิกกายนอนหงายมองเพดานเหม่อลอย หัวใจมีแต่ความสับสน


                เขาไม่ควรยึดพ่อไว้เช่นนี้ นภความมีอิสระอย่างเช่นผู้หญิงคนนั้นพูด ทุกวันนี้นภต้องมีตะวันเป็นภาระจนลืมไปแล้วว่าชีวิตส่วนตัวคืออะไร ตะวันหลับตาลงเมื่อคิดว่าเขาควรจะคืนสิ่งเหล่านั้นให้พ่อเสียที







               “ซันครับ ซันของพ่อ”


              ร่างสูงโถมทับลงมาทำให้ตะวันร้อนผ่าวไปทั้งตัว เขาลืมตาขึ้นมองสบตากับนภที่ตอนนี้หวานกว่าทุกวัน


              “พ่อ พ่อจ๋า”


               ตะวันผวากอด เขาไม่ได้ห้ามเมื่อนภซุกหน้าลงกับซอกคอของเขา ซ้ำยังเอียงคอให้บิดาได้ขบเม้มถนัดถนี่ รับรู้ได้ถึงสัมผัสเนื้อแนบเนื้อ ผิวกายของพ่อชื้นเหงื่อแต่ยิ่งทำให้หนุ่มน้อยกระเจิดกระเจิงไปหมด


             “ลูกชายพ่อหอมจัง กลิ่นแป้งที่พ่อทาให้ทุกวันใช่ไหม”


              นภลากริมฝีปากลงมาตามเนินไหล่ เขาแวะขบเม้มเบาๆ ก่อนเลื่อนใบหน้าต่ำลงมา จูบลงไปที่เนินอกเรียบนุ่มเนียนของบุตรชายก่อนจะตวัดเบาๆที่ยอดอก


              “อื้อ พ่อ”


             ตะวันแอ่นกายขึ้นราวกับมีแรงดึงดูด รสลิ้นของพ่อในวันนี้ราวกับไม่ใช่บิดาคนเดิม มันร้อนแรงหากแต่หวานฉ่ำจนร่างบางสั่นสะท้าน ครั้นนภเลื่อนหน้าต่ำลงไปหาหน้าท้อง ตะวันก็ปวดร้าวไปทั้งตัว มันเป็นความอึดอัดคับข้องที่อยากจะระบายออกมาใจจะขาด


              “ตรงนี้ก็หอม”


                พ่อจรดจมูกลงไปบนท่อนเนื้อเล็กแนบอยู่กับเนินน้อย นภอ้าปากกว้างครอบลงไปแล้วโลมเลียด้วยลิ้นร้อน ตะวันแหงนหน้าส่งเสียงหวานแว่วคล้ายเจ็บปวดแต่ความจริงคือสยิวซ่าน ท่อนขาเรียวเล็กตวัดคล้องไปรอบลำคอบิดาแล้วกดให้เขายิ่งแนบหน้าลงไปกับเนินเนื้อพลางดูดดุนเอร็ดอร่อย


                  “พ่อจ๋า ซันไม่ไหวแล้ว ซันปวดไปหมดทั้งตัวเลย ช่วยซันหน่อยนะ”


                ส่งเสียงสั่นพร่าเชื้อเชิญ ใครเล่าจะอดใจไหว นภยันกายขึ้นอวดร่างที่ยังแข็งแรงแม้ว่าวัยจะล่วงเข้าเลขสี่แล้ว ความแข็งแกร่งผงาดง้ำจนตะวันใจเต้นตึกตัก หนุ่มน้อยชันขาตั้งฉากรอรับเมื่อนภดันเอวเข้าสู่ร่างของบุตรชายอย่างนุ่มนวล


              “พ่อ ดีจังเลย ตรงนั้น”


            ฝ่ายออกคำสั่งคือบุตรชาย และบิดาก็กระทำดังใจต้องการ สะโพกหนั่นแน่นโยกรับการขับเคลื่อนของนภที่กระทั้นกายเข้าใส่ ตะวันได้ยินเสียงตนเองครางฮืออย่างถูกใจ


              “พ่อจ๋า อีกนิดนะ อีกนิดเดียว ไม่ไหวแล้ว”


              พรวด!!


                เปลือกตาพลันเปิดกว้างพลางสะดุ้งสุดตัว ตะวันผุดลุกขึ้นมานั่งหอบ เขาตั้งสติจนรู้ว่าตนเองยังอยู่เพียงลำพังในห้องส่วนตัว เขาก้มหน้ามองเป้ากางเกงที่เปียกชื้นหลังจากสะดุ้งตื่นจากฝัน หนุ่มน้อยยกสองมือลูบหน้าตนเองเมื่อรู้ว่าบิดาติดตามไปถึงในฝันและยังเป็นคนที่ทำให้เขาปลดปล่อยออกมาด้วย


              น่าละอายเหลือเกิน


             ตะวันเจ็บจี๊ดกับคำว่าศีลธรรม เขาไม่ควรจะคิดเช่นนี้กับบิดาแท้ๆ จะทำอย่างไรเพื่อจะให้ความเจ็บปวดเหล่านั้นจางหายไปได้ จะทำอย่างไรดี





มีต่ออีกนิด....



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2018 00:08:18 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้....



              “หายโกรธพ่อหรือยัง”


              นภเอ่ยถามในเช้าวันรุ่งขึ้นขณะขับรถไปส่งตะวันที่มหาวิทยาลัย สีหน้าของบุตรชายยังไม่ดีนัก ขอบตาคล้ำเหมือนคนอดนอน


             “ซันไม่ได้โกรธพ่อสักหน่อย คิดมากน่า”


             ฝืนยิ้มแต่ก็ยากเย็นเหลือเกิน การเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย


             “แล้วเย็นนี้ให้พ่อมารับกี่โมง”


           “ซันกลับบ้านเองได้ พ่อไม่ต้องมารับหรอก”


           “ทำไมล่ะ พ่อก็มารับซันทุกวันอยู่แล้วนี่”


            นภจอดรถหน้าประตูมหาวิทยาลัย เขาหันมามองด้วยความสงสัย ขณะหนึ่งที่เขาเห็นสีหน้าของบุตรชายเปลี่ยนไป


            “ซันโตแล้ว พ่อปล่อยให้ซันใช้ชีวิตของซันบ้างเหอะ ซันต้องมีเพื่อน มีสังคม ไม่ใช่อยู่แต่กับบ้านนะ”


            “ซัน”


               ตะวันเปิดประตูรถและก้าวลงไป เขาเดินลิ่วโดยไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำว่าบิดาจะรู้สึกเช่นไรกับคำพูดของเขา ความจริงตะวันไม่ใช่เด็กก้าวร้าว แต่เขาต้องทำเพื่อแยกตัวให้พ้นจากความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้น


             กิจกรรมการเรียนระหว่างวันทำให้ตะวันพอจะลืมเรื่องต่างๆลงไปได้บ้าง จนกระทั่งถึงช่วงบ่ายที่เขาต้องเข้าห้องเชียร์รับน้อง พี่รหัสของเขาเดินตรงมาหาเมื่อกิจกรรมห้องเชียร์เลิกแล้ว เบียร์ยื่นถุงพลาสติกที่บรรจุขวดเครื่องดื่มส่งให้ตะวัน


             “กินสิซัน ร้องเพลงเสียงแหบแห้งหมดแล้ว”


             ตะวันรับถุงนั้น เขาหยิบเครื่องดื่มขวดหนึ่งขึ้นมา


            “พี่เบียร์ นี่มันมีแอลกอฮอล์นี่”


              “นิดหน่อยเองซัน” เบียร์มองเขาอย่างเอ็นดู “แอลกอฮอล์แค่สามเปอร์เซ็นเองไม่ทำให้เมาหรอก พวกพี่กินเหล้ากันทียิ่งกว่านี้อีก”


              “แต่ผมไม่เคยกินนี่พี่ เดี๋ยวเมา”


              “เมาก็ไม่เห็นเป็นไร พี่ขับรถไปส่งที่บ้านได้อยู่แล้ว น่า คิดไรมากว้า พี่รหัสเลี้ยงทั้งที โตแล้วกินได้ไม่ใช่เด็กๆสักหน่อย”


               ปลายประโยคคล้ายท้าทายนิดๆ ตะวันกระดกขวดปล่อยให้น้ำรสหวานร้อนผ่านลงคอ เพราะความไม่เคยชินทำให้หน้าแดงสุกปลั่ง เขาไม่ทันได้มองดวงตาสมหวังของเบียร์ที่จ้องอยู่


                 “อร่อยใช่ไหมล่ะ รสชาติไม่บาดคอ กินให้หมดขวดเลยสิ”


                เมื่อพี่รหัสคะยั้นคะยอตะวันจึงกระดกขวดกินจนหมด ความอุ่นร้อนครอบครองการรับรู้ในสมองต้องสะบัดหน้าไปมา เบียร์วางแขนพาดบ่าของรุ่นน้องพลางประคองไว้


              “นี่เมาจริงหรือเปล่าซัน อ้าว ตายห่า พรุ่งนี้ต้องไปถ่ายซีรีส์ ยังไม่ได้ท่องบทเลย ซันไปช่วยพี่ต่อบทที่หอได้ไหม พี่จะได้จำเร็วขึ้นหน่อย”


              “หือ ยังไงนะพี่เบียร์”


              ตะวันคิดตามอย่างเชื่องช้า เขามึนศีรษะไปหมดแล้วตอนนี้


            “ไปหอพี่ ไปช่วยพี่ต่อบทหน่อยนะ”


              เบียร์ไม่รอคำตอบ เขาหันไปตะโกนบอกเพื่อนของตะวันว่าจะพาตะวันไปก่อน เบียร์โอบบ่าให้ตะวันเดินโซเซตามเขาไปขึ้นรถสปอร์ตคันหรูโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้ตะวันคัดค้าน ตะวันนั่งสะลึมสะลือไม่นานก็ถึงหอพักราคาแพงที่เบียร์พักอยู่ เขายังคงอยู่ในความควบคุมของเบียร์เช่นเคย


               “ห้องพี่เอง นั่งที่โซฟานี่ก่อน”


              เบียร์ปล่อยให้ตะวันนั่งซึมอยู่ครู่หนึ่งเขาจึงเดินกลับมาพร้อมกระดาษปึกหนึ่ง


              “นี่ บทพูด ซันเล่นเป็นตัวนายเอกนะ ฉากนี้พี่จะต้องสารภาพรัก ซันอ่านบทพูดตอบโต้กับพี่”


              ตะวันรับบทมาอ่านตามที่เบียร์บอกไว้ เมื่อซ้อมบทกันไปสักพัก เขารู้สึกว่าเบียร์ขยับเข้าใกล้เขาเรื่อยๆ มือเรียวถูกเบียร์ดึงไปกุมไว้


             “กูรักมึง”


              เขาพูดตามบทและดึงตะวันเข้ามากอด ตะวันฝืนกายไว้ด้วยความตกใจ


              “เฮ้ย เดี๋ยวสิพี่เบียร์ กอดผมทำไม”


              “ตามบทไง พี่ต้องจูบนายเอก ซันให้พี่ซ้อมบทหน่อยนะ”


              ไม่ทันห้ามเบียร์ก็ชิงจูบลงมาที่ปาก ตะวันตาเหลือกก่อนจะดิ้นรนขัดขืน


             “พี่ ไม่ไหวแล้ว ผมจะกลับบ้าน”


              ข้อมือเล็กถูกเบียร์ยึดไว้ สายตาของเขาบ่งบอกถึงความต้องการในตัวน้องรหัสจนตะวันหวาดหวั่น


              “รีบกลับทำไมล่ะซัน อยู่กับพี่ก่อนสิ รู้หรือเปล่าว่าซันน่ารักมาก มากจนพี่อดใจไม่อยู่แล้ว”


               ตะวันตัวสั่น เขาก่นด่าตัวเองเมื่อรู้ว่าหลงกลเบียร์เข้าแล้ว เปลือกตาหวานปิดลงด้วยความหวาดกลัวเมื่อรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น


              “พ่อ พ่อช่วยซันด้วย”







               นภกระวนกระวายเมื่อเย็นแล้วแต่ยังติดต่อตะวันไม่ได้ เขาขับรถมารอที่หน้ามหาวิทยาลัยพักใหญ่ พยายามโทรศัพท์หาตะวันก็ไม่รับสาย ในที่สุดความอดทนก็สิ้นสุดลง เขาขับรถไปจอดหน้าคณะที่ตะวันเรียนอยู่


               “หนู ๆ รู้จักตะวันไหมครับ ผมเป็นพ่อตะวัน”


              เขาเอ่ยทักนักศึกษาสาวในชุดเฟรชชี่ เด็กสาวพยักหน้ารับพลางยกมือไหว้นภ


             “ซันไปไหนครับ ผมติดต่อเขาไม่ได้เลย”


             “ซันไปกับพี่เบียร์นี่คะ ใช่ไหมแก”


            หันไปถามกันเพื่อความมั่นใจ เพื่อนอีกคนพยักหน้ารับ


             “เห็นพี่เบียร์บอกให้ไปช่วยต่อบทที่หอพักแล้วจะไปส่งที่บ้านนี่คะ”


             นภใจหาย เขารีบเอ่ยถามต่อทันที


            “คนไหนเป็นเพื่อนเบียร์บ้าง พาผมไปที่หอของเบียร์หน่อยได้ไหม ผมมีเรื่องด่วนจะต้องพาซันกลับ”


             หัวใจของคนเป็นพ่อร้อนรน แต่ก็ต้องพยายามควบคุมให้เย็นไว้ นภพาเพื่อนของเบียร์ไปที่รถเพื่อนำทางไปยังหอพักของเบียร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่นภจะทำได้ เขาภาวนาให้เรื่องอาจไม่เป็นดั่งที่คิด แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ไว้ใจพี่รหัสของตะวัน หากเกิดเรื่องร้ายกับลูกนภคงจะเสียใจที่สุดในชีวิต




                                                                 TBC


                                                ไงล่ะทีนี้ พ่อนภจะไปทันไหมเนี่ย




                                    :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2018 00:14:41 โดย Belove »

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ขอให้พ่อนภไปทันด้วยเถอะ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ขอให้ช่วยลูกทันด้วยนะ พ่อ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
นั่นไง เป็นเรื่องแล้ว
เพราะความซื่อและความไว้ใจนี่แหละนะ
พ่อนภไปทันแน่นอน ทีนี้ซันจะได้รู้ว่าต้องระวังตัว

พาร์ทสองนี้ บาปยาวนานแน่นอนค่ะ
รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขอให้ไปทันทีเท้อ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ยัยผู้หญิงนี่อยากเป็นเมียเขาจนว่าร้ายใส่ลูกเขาเลยเหรอ เกินไปมั้ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พ่อน่าจะไปไม่ทัน ไม่งั้นเรื่องนี้จะไม่มีดราม่า 555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พ่อนภจะไปทันไหนนะ

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ทางพุทธเพศเดียวกันไม่บาปนี่
ต้องเป็นทางคริสต์คาทอลิกอ่ะ ถึงจะบาปเต็มๆ.

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                           บาปกตัญญู

                                                             บทที่ 3



             “ห้องนี้ครับคุณพ่อน้องซัน นั่นไง มีรองเท้าไอ้เบียร์กับน้องซันถอดวางหน้าห้อง เบียร์ ไอ้เบียร์ เปิดประตูห้องหน่อย พ่อน้องซันมารับโว้ย”


           ไม่มีการตอบรับแม้เวลาจะผ่านไปอึดใจหนึ่งแล้ว แถมยังได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากด้านใน นภทนไม่ไหวจึงเป็นคนยกมือทุบประตูห้องเสียเอง


            “เบียร์ เปิดประตูเดี๋ยวนี้ พาซันออกมาด้วย”


             เสียงของเขาห้วนจัดจนเพื่อนของเบียร์หน้าเสียต้องรีบช่วยตะโกนเรียกอีกแรงแต่ก็ยังไม่ได้ผล


            “เอาไงดีครับคุณอา มันอยู่ในนี้แหละรถมันก็จอดอยู่ข้างล่าง”


             นภตัดสินใจโดยด่วน ประตูเป็นแบบเปิดเข้าไปด้านใน  เขาลองขยับลูกบิดประตู ถึงแม้จะล็อกไว้แต่ก็ไม่ได้แน่นหนานัก นภจึงออกแรงใช้ไหล่กระแทกไปที่ประตูแรงๆ ไม่กี่ครั้งประตูจึงเปิดกว้าง เขารีบก้าวพรวดเข้าไปด้านในทันที


             “ซัน!”


            เมื่อนภก้าวเข้าไปด้านในก็ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่ง ผู้เป็นพ่อนัยน์ตาเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น บุตรชายที่เฝ้าทะนุถนอมนอนดิ้นรนน้ำตานองหน้าเสื้อผ้าบางส่วนหลุดลุ่ย ขณะที่เจ้าของห้องทับคร่อมอยู่เบื้องบน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นถ้านภมาช้ากว่านี้ไปอีกนิดเดียว


              “ฉิบหายแล้วไอ้เบียร์ เสือกปล้ำรุ่นน้อง”


              เพื่อนของเบียร์หน้าซีดเผือด ไม่ผิดกับคนก่อเรื่องเมื่อเห็นบิดาของตะวันยืนจังก้าอยู่ สีหน้าเกรี้ยวกราดของผู้สูงวัยกว่าทำให้เบียร์ตระหนก


             “พ่อ!”


            ตะวันใจชื้น เขานึกว่าตนเองจะถูกข่มเหงเสียแล้ว ไม่รู้ว่าบิดามาที่นี่ได้อย่างไรแต่ตอนนี้เขาฉวยโอกาสที่เบียร์ยังตกตะลึงผลักร่างหนาออกแล้วรีบวิ่งไปหลบหลังบิดาทันที


             “พ่อ ช่วยซันด้วย”


            นภลืมตัวขาดสติ ดูด้วยสายตาแม้จะยังมั่นใจว่าตะวันปลอดภัย แต่กระนั้นเขาก็โกรธมากจนก้าวพรวดเข้าไปชกหน้าเบียร์จนล้มคว่ำคว้าพื้นและถลาจะเข้าไปกระทืบซ้ำ


            “ไอ้เบียร์”


            “พ่อ พอก่อน”


            เพื่อนของเบียร์รีบเข้าไปประคองเมื่อเห็นเพื่อนน็อคคาหมัดเดียว ตะวันเองก็รีบเข้าไปกอดเอวพ่อเพราะกลัวจะรุนแรงกว่านี้ นภหันมาตวาดบุตรชาย


            “อย่าห้าม มันทำเหี้ยๆกับซันจะปล่อยมันไว้ทำไม”


            “พ่อ เดี๋ยวพี่เบียร์เจ็บหนักพ่อจะเดือดร้อนไปด้วยนะ ซันไม่เป็นอะไร เรารีบกลับบ้านกันดีกว่า ซันไม่อยากอยู่ที่นี่”


            ตะวันออกแรงลากนภที่ยังโกรธจัดออกจากห้อง ขณะลงลิฟท์ไปยังชั้นหนึ่งและขึ้นรถยนต์กลับบ้านสองพ่อลูกไม่ได้เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว ตะวันรู้ว่าตนเองผิดที่ดื้อรั้นจนเกิดเรื่อง เขานั่งน้ำตาไหลมาตลอดทาง ส่วนนภนั้นขับรถไปก็กัดฟันกรอดๆ โมโหรุ่นพี่ของตะวันและโมโหลูกของเขาด้วยที่ริจะโตเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่ความจริงนั้นไร้เดียงสาเหลือเกิน


             “พ่อ”


            เมื่อถึงบ้าน นภก็เดินหนีเข้าบ้านลิ่วๆจนตะวันต้องรีบก้าวตามเข้ามา หนุ่มน้อยเรียกตามหลังบิดาน้ำเสียงปนสะอื้น


            “พ่อยังโกรธซันอยู่เหรอ”


            “ซันทำผิด” นภหันมาส่งเสียงดุลูกชายเป็นครั้งแรกในชีวิต “พ่อเข้าใจว่าซันอยากโตเป็นผู้ใหญ่ แต่การโตมันไม่ได้เกิดขึ้นได้ในวันเดียว แล้วเห็นหรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าพ่อไปช้ากว่านี้ เรื่องมันจะเลยเถิดไปถึงไหน”


             “ฮือ ซันรู้แล้วครับพ่อ ต่อไปนี้ซันจะไม่ดื้อแล้ว”


              นภถอนหายใจเมื่อโทสะคลายลงบ้างแล้ว เขาหันไปมองบุตรชายแล้วกล่าวเสียงเข้ม


            “แต่ถึงยังไงซันก็ต้องถูกทำโทษนะ พ่อจะตีซันเป็นครั้งแรกในชีวิต ซันเข้าใจใช่ไหม”


              หนุ่มน้อยพยักหน้า เขากลั้นสะอื้นแล้วยกมือกอดอกยืนหันข้าง นภคว้าไม้บรรทัดแข็งมาแล้วพูดกับตะวัน


              “พ่อจะตีซันสามครั้งเพื่อให้ซันจำไว้ ต่อจากนี้จะได้ไม่ทำอะไรผิดอีก”


             เสียงไม้บรรทัดแหวกอากาศกระทบก้นตะวันแต่ละครั้งนภเองก็แทบขาดใจ เลี้ยงลูกมาจนโตเข้ามหาวิทยาลัยไม่เคยสักครั้งที่จะลงไม้ลงมือเช่นนี้ แต่เพื่อให้ตะวันจำเขาจึงต้องลงโทษ ส่วนตะวันนั้นเจ็บกายไม่เท่าเจ็บใจ เขาสำนึกผิดแล้วและสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำอะไรเช่นนี้อีก


              เมื่อตีครบสามครั้งนภก็โยนไม้บรรทัดทิ้ง เขาพยายามที่จะไม่โอ๋ตะวันตอนนี้


            “ไปอาบน้ำพักผ่อนได้แล้วซัน”


             ตะวันเดินเข้าห้องทันที เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าไปอาบน้ำ และเมื่อเดินกลับเข้ามาในห้องก็พบว่าบิดามารออยู่แล้วพร้อมโลชั่นทาผิวและแป้งเด็กเช่นเคย แต่วันนี้นภเงียบขรึมกว่าทุกวัน กระนั้นสายตาที่มองตะวันยังอ่อนโยนเหมือนเดิม


             “มานั่งที่เตียงสิ ยืนก้มหน้าอยู่ทำไมล่ะซัน”


            ตะวันที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันท่อนล่างเดินมานั่งข้างบิดา สายตาของนภทำให้ตะวันอยากเลือนหายไปเสียเหลือเกิน เมื่อนภจ้องมองร่องรอยที่ถูกเบียร์ทำร้ายแล้วกัดฟันจนสันกรามขึ้น รอยแดงเพราะถูกรัดรอบลำคอขึ้นเป็นปื้น อีกทั้งรอยฟกช้ำตามแขนขานั่นอีก


           “เจ็บหรือเปล่าซัน”


          ก้มหน้าต่ำไม่กล้าบอกพ่อว่าเจ็บ นภถอนหายใจก่อนจะหยิบยาแก้ฟกช้ำมาทาและนวดเบาๆ


          “แล้วที่พ่อตีล่ะ เจ็บไหม”


            คราวนี้ตะวันส่ายหน้า แต่นภไม่เชื่อ


            “นอนคว่ำให้พ่อดูหน่อยว่าเป็นรอยหรือเปล่า”


           ตะวันรีบนอนคว่ำซุกหน้าลงกับหมอน ปล่อยให้บิดาดึงผ้าเช็ดตัวออกจนเปลือยทั้งตัว นภจ้องมองรอยสีแดงจางๆบนบั้นท้ายเนียนขาวแล้วอดจะลูบเบาๆไม่ได้


           “บอกพ่อได้ไหม ว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ ทำไมถึงบอกพ่อว่าอยากเป็นผู้ใหญ่แล้วจะไปจากพ่อ”


           เสียงนภไม่ได้ดุเหมือนตอนที่ตีเขาแล้ว แต่น้ำเสียงน้อยใจและตัดพ้อแทนจนตะวันหันมากล่าวเสียงเครือ


              “ซันไม่ได้อยากไปจากพ่อ แต่มีคนอยากให้ซันไป เขาบอกว่าซันควรจะปล่อยให้พ่อมีชีวิตของตัวเองบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เลี้ยงซัน”


           นภงงงัน ใครกันกล้าพูดขนาดนี้กับลูกของเขา


           “ชีวิตของพ่อก็คือเลี้ยงซัน ไม่มีชีวิตส่วนตัวที่ไหนอีก ซันคือชีวิตของพ่อนะลูก”


           ตะวันทนไม่ไหว เขาลุกขึ้นมาใบหน้าเปื้อนน้ำตา ความน้อยใจกลับมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องนี้


              “คุณกิ๊กของพ่อไงล่ะ เขาอยากมาเป็นเมียพ่อ เขาบอกว่าซันโตแล้วควรจะปล่อยให้พ่อเป็นอิสระ และเขาพร้อมจะดูแลพ่อ ที่เขาพูดมันก็จริง แม่ตายไปนานแล้วพ่อก็ควรมีคนมาดูแลสักที เพราะแบบนี้ไงซันถึงอยากเป็นผู้ใหญ่เพื่อไม่ให้พ่อเป็นห่วง พ่อจะได้ไม่เหนื่อยที่ต้องมาดูแลซัน”


            “ซัน”


           สองมือใหญ่ประคองกรอบหน้าหวานให้หยุดตัดพ้อ นภใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาอาบแก้ม ดวงตาหวานราวกับเพชรสบตากับเขา มันแดงเรื่อฉ่ำน้ำตาจนน่าสงสาร


           “ที่พ่อทำทุกอย่างเพราะพ่อเต็มใจ พ่อรักซัน อย่าไปฟังคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อ ถ้าซันอยากไปขอให้ไปเพราะซันพร้อมจะไป ไม่ใช่เพราะคนอื่นมาทำให้ซันอยากไป ซันรักพ่อหรือเปล่า”


            “รัก ซันรักพ่อ รักจนไม่อยากเสียพ่อให้ใคร”


             ตะวันพยักหน้า เขาแนบแก้มกับฝ่ามือนุ่มของพ่อ อาการเหล่านั้นทำให้นภหัวใจอ่อนวูบ เขาโน้มใบหน้าไปจูบที่เปลือกตาและไล่มาที่จมูกโด่งก่อนจะหยุดที่กลีบปากสั่นระริก


              เด็กหนุ่มเงยหน้ารับ เขารอให้บิดาสอดลิ้นเข้ามาแทบไม่ไหว ลิ้นเล็กตวัดหาอย่างเรียกร้องจนบิดาต้องตามใจด้วยการเกี่ยวพันลึกซึ้งในโพรงปากหวาน ตะวันเบียดกายขึ้นไปนั่งบนตักคล้องคอนภไว้ให้จูบนั้นยิ่งตราตรึง ร่างกายของตะวันร้อนผ่าวราวกับมีไข้ แต่เขารู้ว่ามันไม่ใช่ มันเป็นเพราะเขาต้องการบิดาต่างหากเล่า


             ตะวันไม่ได้เดียงสาจนไม่รู้ว่ามันผิดที่คิดเกินเลยกับบิดาแท้ๆของตนเอง แต่ทำอย่างไรได้เมื่อนภเป็นทุกอย่างในชีวิตของเขา เพียงแต่ตะวันพูดออกมาไม่ได้จนต้องเก็บมันไว้ในใจแล้วทำเป็นไร้เดียงสาเมื่อนภสอนให้เขาจูบและช่วยปลดปล่อยซึ่งกันภายนอก พ่อลูกที่ไหนก็ไม่ทำกันแบบนี้เพราะคำว่าศีลธรรมมันค้ำคออยู่ ศีลธรรมนี่เองที่ยั้งเขาไว้เพราะไม่อยากให้นภต้องมาพลอยทำผิดไปด้วย


             แต่ตอนนี้ความต้องการทั้งร่างกายและจิตใจที่อ่อนแอมันช่างรุนแรงเหลือเกิน มันรุนแรงและเย้ายวนจนตะวันอยากจะโยนทุกอย่างทิ้งไปแล้วทำอย่างที่เขาต้องการ


             “ซัน จูบหวานเหลือเกินลูก”


              ร่างนุ่มเนียนบดเบียดอยู่ในอ้อมกอด สั่นสะท้านแต่ไม่ยอมปล่อย บั้นท้ายทับอยู่ตรงกลางกายยั่วเย้าจนนภเตลิด เขาผละจากกลีบปากนุ่มไปที่ซอกคอหอมกลิ่นสบู่ นภจูบไล่ไปตามรอยแดงที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายราวกับจะปลอบให้หายเจ็บ


             “พ่อก็จูบหวาน”



              ร่างเล็กพึมพำพลางเอียงคอให้บิดาได้ซุกไซ้ถนัด ทุกครั้งที่ริมฝีปากแห้งของพ่อสัมผัสไปตามเนื้อนุ่มตะวันก็แทบผวา อึดใจนภจึงวางเขาลงไปบนที่นอนและตามทาบทับ ตอนนั้นเองที่ทั้งคู่มีโอกาสสบตากัน


            ความหมายที่ส่งผ่านคือความรักและต่างก็ต้องการในกันและกัน มันโหยหารุนแรงจนไม่มีอะไรมาห้ามได้อีกแล้ว มือใหญ่ของนภลูบไล้ไปตามเนื้อตัวแสนนุ่มที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่ลมหายใจแรกอย่างทะนุถนอม ก่อนจะเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นจนกลายเป็นเค้นคลึงในส่วนอ่อนไหว ตะวันได้แต่กัดฟันเมื่อเขาเริ่มหายใจกระชั้นเพราะแรงปรารถนา


              เริ่มต้นที่นภจูบลงตรงลาดไหล่ แล้วไล่มาตามเนื้อเนียนบนหน้าอก ยอดอกสีชมพูอ่อนดึงความสนใจจนต้องตวัดลิ้นโลมเลียทั้งสองฝั่งจนเปียกชื้น ได้ยินเสียงแผ่วเบาดังแว่วมาจากปากเล็กเป็นระยะ


             “พ่อ พ่อจ๋า”


              มือเรียวกำผ้าปูที่นอนขยำยับย่นเมื่อบิดาดันต้นขาให้ยกสูงเปิดทางให้เห็นจุดซ่อนเร้นในร่องก้น นภซุกหน้าลงไปจูบอย่างไม่รังเกียจ ตะวันคือส่วนหนึ่งของชีวิตเขา เขารักแม้กระทั่งหยดเหงื่อที่ระเหยออกมาจากร่างนี้ นภตวัดลิ้นสู่รอยจีบพับสีชมพูเช่นเดียวกับยอดอก รู้สึกได้ว่าตะวันสั่นสะท้านไปทั้งตัว


             “พ่อ ตะวันทรมาน”


              ลูกชายคร่ำครวญเสียงแหบพร่าพลางผงกหัวมองเขาอย่างเว้าวอน นภสติขาดผึง เขายันกายขึ้นถ่มน้ำลายรดส่วนแข็งขันของตัวเอง ในวินาทีเร่งด่วนและกะทันหันเช่นนี้ เขานึกไม่ออกว่าจะใช้อะไรช่วยให้ตะวันเจ็บน้อยที่สุดหากเขาจะมอบความเป็นผู้ใหญ่ครั้งแรกให้แก่หนุ่มน้อย


              “ซันจูบพ่อนะครับคนเก่ง”


             เมื่อทาบทับอีกครั้งนภจึงสั่งตะวันเช่นนั้น บุตรชายไม่รอช้ายกแขนคล้องคอบิดาไปจูบทันที ระหว่างนั้นเองที่นภใช้ปลายนิ้วนวดเฟ้นรอบช่องทางเล็ก เขาค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปเพื่อเปิดทางเตรียมพร้อม จากนั้นเขาจึงจ่อความเป็นชายหน้าทางเข้า นภจูบดูดดุนลิ้นเล็กพร้อมกับดันเอวเข้าไปทันที




มีต่ออีกนิด.....




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2019 22:57:23 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


อ่านต่อตรงนี้....


             “อื้ออออ”


           ร่างเล็กกระตุกเกร็งทั้งตัวเมื่อถูกสอดใส่เข้าไปในครั้งแรก ได้ยินเสียงอึกอักจากลำคอที่ถูกปิดบังด้วยจูบหนัก นภลูบผมนุ่มช้าๆเมื่อเขาดันเอวเข้าสู่ร่างกายของตะวันทีละนิดจนกระทั่งเข้าไปได้สุดทางจึงหยุดพัก


            “เจ็บไหมครับซัน”


            นภปลอบประโลมเหมือนทุกครั้งที่ตะวันร้องไห้โยเย แต่วันนี้ตะวันเจ็บเพราะการกระทำของเขา รอให้ตะวันหายเจ็บ เขาจะทดแทนด้วยความสุขสมในครั้งแรกที่จะสอนให้เด็กน้อยได้รู้จักโลกของผู้ใหญ่


            “อื้อ ซันเจ็บ แต่ อึก ตอนนี้มัน ฮือ...”


             เมื่อนภลองขยับให้เกิดการเสียดสีภายใน มันช่างกระตุ้นความรู้สึกให้ยิ่งโหมหนัก เจ็บก็ส่วนหนึ่ง ความต้องการก็อีกส่วนหนึ่ง ตะวันกัดฟันเมื่อนภค่อยๆดึงกายออกเล็กน้อยแล้วดันกลับเข้าไปใหม่


            “ฮึก พ่อจ๋า”


            แหงนหน้าครางฮือกับอาการเสียวซ่านที่พุ่งพรวดขึ้นมา เมื่อนภเห็นตะวันแสดงออกเช่นนั้นเขาจึงค่อยๆดึงกายออกมากขึ้นแล้วดันเข้าไปด้วยแรงที่มากขึ้น ทำหลายๆครั้งจนกระทั่งไม่เห็นความเจ็บปวดจากสีหน้าหวานอีกแล้ว จะมีก็แต่ดวงตาฉ่ำหวานขณะกอดก่ายเขาไว้


             “พ่อจะทำแรงขึ้นแล้วนะครับคนเก่ง”


            จูบปลอบที่หน้าผากชื้นเหงื่อเมื่อเขาเร่งความเร็วของเอวและสะโพกให้มากขึ้น ร่างกายของลูกบีบรัดจนไฟยิ่งโหมหนัก นภเองก็อดจะส่งเสียงทุ้มต่ำระบายอารมณ์ออกมาไม่ได้ เขากอดตะวันไว้แนบอกเมื่อกำลังจูงมือกันไปสู่จุดหมาย


            “พ่อ อื้อ ซันปวดไปทั้งตัวเลย”


             ตะวันบิดกายเร่า เหมือนร่างกายจะระเบิดแต่ยังไม่ระเบิด มันอึดอัดทรมานทุกครั้งที่พ่อกระแทกเอวเข้ามา เขาเรียนรู้ที่จะโยกเอวรับ ตะวันเริ่มรู้ว่าความเสียวกระสันจะมาเยือนเมื่อเขาขยับเข้าจังหวะ แต่แล้วเมื่อร่างกายบีบคั้นหนักหน่วงเด็กหนุ่มก็รีบคว้าจุดอ่อนไหวของตนเองมาบีบนวดไปมา เขาส่งเสียงดังลั่นห้องเมื่อมันปลดปล่อยความรู้สึกทั้งมวลออกมาเป็นน้ำขาวขุ่น ตะวันเบิกตากว้างเมื่อความผ่อนคลายมาเยือนทดแทนทันที


            “ซัน บีบพ่อแน่นไปหมดเลยลูก พ่อก็จะเสร็จแล้ว”


              นภเร่งเอวรอบสุดท้าย เมื่อรู้ว่าตนเองใกล้ถึงที่หมายจึงดึงเอวออกมา ผลผลิตพุ่งวาบเป็นสายรินรดต้นขาของตะวัน เขาหอบหนักทิ้งกายนอนเคียงข้างและดึงตะวันเข้ามากอด


              “เก่งมากครับ พ่อมีความสุขมาก”


               เมื่อความต้องการผ่านพ้น ตะวันหน้าเสียเมื่อนึกถึงศีลธรรมที่ได้รับการสั่งสอนจากสังคมมาตั้งแต่เด็ก


              “เราทำความผิดกันนะครับ”


             เด็กน้อยในอ้อมกอดกระซิบเสียงแหบพร่าเมื่อเรียนรู้บทเรียนสำคัญในชีวิต


             “ซันไม่ชอบหรือครับที่เรามีความสุขกัน”


              นภโอบกอดตอบขณะที่ตะวันหน้าแดงก่ำ ปฏิเสธได้ที่ไหนกับความสุขสมที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา


             “ซันมีความสุข แต่ซันรู้ว่ามันผิด ผิดเพราะเราเป็นพ่อลูกกัน ถ้าคนอื่นรู้ว่าเรา...”


             “เรามีกันแค่สองคน ซันคือชีวิตของพ่อ พ่อรักซัน ซันก็รักพ่อ แล้วเราจะต้องสนใจคนอื่นทำไม เขาไม่ได้มาเกี่ยวข้องกับเรานี่”


            นภเองก็รู้ แต่ใครเล่าจะดูแลหวงแหนตะวันได้ดีกว่าเขาที่เป็นพ่อแท้ๆและเลี้ยงตะวันมาตั้งแต่เกิด นภสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าเขาจะดูแลตะวันตลอดไป


                ตะวันได้แต่ยิ้มอยู่กับอ้อมกอดของนภ ชีวิตของเขาเกิดจากพ่อ และตอนนี้เขาก็เป็นของพ่อโดยสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ บางทีเขาอาจต้องโยนความรู้สึกผิดทิ้งไปเพื่อไขว่คว้าหาความสุข ต่อจากนี้เขาจะไม่ให้ใครมายุ่งกับพ่อที่เป็นสมบัติของเขา ตะวันและนภมีเพียงกันและกันเท่านั้น







              เสียงกริ่งดังจากหน้าประตู ตะวันที่นั่งอยู่ในอ้อมกอดของบิดาดูรายการทางโทรทัศน์โผล่หน้าไปมองทางหน้าต่าง เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนเป็นใครเด็กหนุ่มจึงยกยิ้มเล็กน้อย


            “ใครมาลูก”


             “พ่อนั่งนี่เถอะ เดี๋ยวซันไปดูเอง”


              เด็กหนุ่มก้าวไปที่ประตูรั้ว พลางสบตาสาวใหญ่ด้วยรอยยิ้มเย็น


            “สวัสดีครับคุณกิ๊ก”


            “สวัสดีค่ะน้องซัน พี่มาหาผู้จัดการ อยู่ใช่ไหมคะเห็นรถจอดอยู่”


           ตะวันเหลียวไปมองในบ้าน ก่อนหันกลับมาเผชิญหน้า


           “อยู่ครับ แต่พ่อบอกว่าให้คุณกิ๊กกลับไป แล้วไม่ต้องมาที่บ้านนี้อีก”


            สาวใหญ่หน้าเสีย คิ้วที่วาดจนโก่งขมวดเกือบชนกัน


           “ทำไมล่ะคะ ทำไมพี่จะมาไม่ได้”


            ตะวันยิ้มไร้เดียงสา เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้


           “พ่อบอกว่าอยากรู้จักกับคุณกิ๊กแค่เรื่องงาน ไม่อยากให้คุณกิ๊กมาวุ่นวายที่บ้านจนเกินงาม ที่บ้านนี้อยู่กันแค่ผมกับพ่อก็พอแล้ว ไม่ต้องมีคนอื่นก็ได้ อ้อ พ่อยังบอกอีกว่า ถ้าคุณกิ๊กยังดื้อพ่อจะใช้อำนาจบีบคุณกิ๊กเรื่องงานทั้งที่พ่อไม่อยากทำเลย คุณกิ๊กสงสารพ่ออย่าให้พ่อต้องใช้อำนาจในทางผิดๆเลยนะครับ เพราะฉะนั้นคุณกิ๊กกลับไปเถอะครับ สวัสดีครับ”


           พูดประโยคยาวยืดจบตะวันก็ยกมือไหว้ลวกๆแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บใจของเจ้าหล่อนอีก เขาเดินตัวปลิวเข้าไปซุกอ้อมกอดของบิดาในวันหยุดแสนอบอุ่น


            “ก่อเรื่องอะไรอีกล่ะตัวแสบ”


            นภบีบจมูกโด่งอย่างเอ็นดู ตะวันหัวเราะก่อนเล่าให้ฟัง นภรู้เรื่องแล้วถึงกับส่ายหน้า


           “เอาพ่อไปอ้าง แล้วคุณกิ๊กเขาจะมองหน้าพ่อยังไง”


            “ไม่รู้ไม่ชี้ ซันไม่อยากให้เขามายุ่งกับพ่อนี่นา”


            ตะวันพองลมทำแก้มป่องเหมือนยังเด็ก นภมองอย่างรู้ทัน


            “หึงพ่อใช่ไหม ก็บอกแล้วว่าพ่อมีซันคนเดียว”


            ดวงตาหวานกลิ้งเจ้าเล่ห์ ตะวันกระซิบกระซาบมีเลศนัย


            “ไม่เชื่อ พ่อต้องพิสูจน์”


            นภส่ายหน้าระอากับลูกชายเพียงคนเดียว แต่เขาก็อุ้มร่างเล็กเข้าไปนอนในห้องนอนของเขาที่บัดนี้ตะวันย้ายเข้ามานอนด้วยถาวรแล้ว บิดาโยนลูกชายลงบนเตียงกว้าง


              “ซ่านักใช่ไหมเจ้าตัวแสบ พ่อจะจัดการให้หมดแรงเลยคอยดู”


            ตะวันยักคิ้วให้พ่อ และรอรับร่างสูงที่โถมกายเข้าหา ต่อจากนี้เขากับพ่อจะมีชีวิตอยู่เพื่อกันและกัน เมื่อทั้งคู่มีหัวใจที่เป็นดวงเดียวกันไม่ว่าสิ่งไหนก็แยกให้จากกันไม่ได้


          “ซันรักพ่อ”


           เสียงเล็กครวญครางเมื่อบิดากับสอนบทเรียนครั้งใหม่ให้เขา


           “พ่อก็รักซัน เราจะรักกันตลอดไป”


            นภเอ่ยคำสัญญา เขารักตะวัน เด็กน้อยคือแสงสว่างของชีวิต รักและห่วงจนกลายเป็นหวงแหนสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ สมบัติที่ไม่อาจแลกมาด้วยสิ่งใด สมบัติที่ภรรยายอมยกชีวิตตนเองให้เพื่อเป็นสิ่งแทนใจ


             นภรักษาสัจจะว่าจะดูแลสมบัติของเขาตลอดไป




                                                                จบตอน


                                       เย้ๆๆ ในที่สุดก็มาแต่งตอนจบหลังทิ้งร้างเป็นเดือน 555

                                        บาปต่อไปอยากอ่านแนวไหน คอมเมนต์บอกได้นะคะ



                                   :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2019 23:05:41 โดย Belove »

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 o13 มันยอดเยี่ยมมากกกกก ....  o13

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
สุดๆ ต่อไปขอเป็น กล้ามชนกล้าม

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :pighaun:  ไม่รู้ว่าจะต้องเม้นอย่างไร ใหรู้สึกบาปน้อยหน่อย   แต่รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                        บาปที่ไม่ได้ก่อ

                                                               บทนำ


          “อย่าทำแบบนี้เลยพี่อาชว์ ผมกราบละ”


           อาชว์มองคนที่นอนตัวสั่นอยู่ใต้ร่างด้วยดวงตาเฉยเมยสลับกับแววตาแห่งความเกลียดชัง ใบหน้าของคนที่หลอกลวงและทำให้เขาต้องเจ็บช้ำคล้ายจะผุดขึ้นมาซ้อนทับอยู่บนใบหน้าของสามตุลา


          “ผมรู้ว่าพี่เสียใจ พี่กำลังเจ็บปวดและพี่กำลังเมา แต่ผมขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้กับผม”


          “แกขอร้องฉันงั้นหรือสาม”


           เขาแค่นเสียงหัวเราะเยาะหยันก่อนจะผลักร่างที่บางกว่าเขาให้หงายหลังลงไปบนเตียงกว้างอีกครั้ง อาชว์ออกแรงแค่นิดเดียวเขาก็ยึดข้อแขนที่ดิ้นรนเพื่ออิสรภาพนั้นไว้ได้ เขาตรึงมันลงไปเหนือหัวของร่างเปลือยเปล่าที่ตัวเองเป็นคนฉีกเสื้อผ้าจนขาดวิ่น บัดนี้ไม่เหลือความยับยั้งชั่งใจอีกแล้วเมื่อไฟแค้นกำลังโชนแสง


           “ในวันที่ฉันคุกเข่าขอร้องพี่สาวแกล่ะสาม วันที่ฉันต้องเจ็บปวด สูญสิ้นศักดิ์ศรี มีใครเคยเห็นหัวฉันบ้างไหม ทั้งแก ทั้งพี่สาวแก”


            “ฮึก พี่อาชว์ แต่ผมไม่ได้...”


             สามตุลาพยายามดิ้นรนแต่กำลังของอาชว์มากมายเกินกว่าเขาจะดิ้นหลุด ชายหนุ่มเบิกตากว้างเมื่ออาชว์คว้าเสื้อเชิ้ตที่เพิ่งถูกกระชากขาดมามัดข้อมือทั้งสองของของเขาไว้แน่น ชายผ้าอีกข้างถูกตลบไปมัดกับช่องหัวเตียงจนแน่นหนา


            “ไม่ พี่อาชว์ อย่า”


            พยายามกระถดกายหนีแต่อาชว์กลับกระชากปลายเท้าของสามตุลากลับมา มิหนำซ้ำยังแยกปลายเท้าทั้งสองออกจากกันก่อนที่ร่างแกร่งจะแทรกมาอยู่ตรงกลาง


           “แกต้องชดใช้แทนพี่สาวแก บาปทั้งหมดที่พี่สาวแกทำกับฉันจงรับไปเถอะ”


            ดวงตาของสามตุลาเบิกกว้างเมื่อช่องทางของเขาถูกชำแรกโดยไม่ทันตั้งตัว เขาอ้าปากค้างเมื่อความเจ็บปวดแล่นวาบราวกับร่างกายกำลังปริแตก น้ำตาใสไหลหยดจากหางตาจนเปียกปอนที่ไรผม


            หัวใจของเขาแตกสลายเมื่อต้องกลายเป็นผู้ชดใช้กับบาปที่เขาไม่ได้เป็นคนก่อ




                                                       TBC

                                              มาเคาะสนิมกันหน่อย


                                              :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2020 22:45:30 โดย Belove »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด