ตอนที่ 1 : พระพรหมเจ้าขา
“เสียดายจัง ตะวันน่าจะมาเร็วกว่านี้” ตะวันนึกแปลกใจเมื่อพี่หลินทักทายด้วยประโยคนี้ ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในร้าน
“ทำไมเหรอครับ”
“คุณเมธกับลูกชายเพิ่งกลับไป เขาฝากนี่ไว้ให้ตะวันด้วย” พี่หลินยื่นกล่องขนมยื่นให้เขา มันเป็นขนมไดฟุกุสีขาวนวลตา
“ให้ทำไมครับ”
“คุณเมธเอามาขอบคุณที่ตะวันยกหนังสือให้ลูกชายครั้งก่อน เห็นว่าชอบหนังสือเล่มนั้นมาก ให้อ่านให้ฟังเกือบทุกคืน”
“เป็นพ่อที่ดูรักลูกดีนะครับ” เขาอดชมไม่ได้
“มาก พี่เห็นแล้วยังอิจฉา อยากได้พ่อของลูกแบบนี้บ้าง ที่อยู่ที่บ้านไม่ไหว” หลินพูดติดตลก ถึงสามีที่บ้าน
“แต่พูดก็พูดนะ พี่ไม่เคยเห็นแม่ของหนูดลเลย เห็นมาที่นี่กี่ครั้งก็มากันแค่สองคนพ่อลูก”
“ครับ” ผมยิ้มน้อยๆ พยายามไม่พูดอะไรต่อ
“หรือว่าจะเลิกกันไปแล้วคะ”
“ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ ขอบคุณที่เก็บไว้ให้นะครับพี่หลิน เดี๋ยวผมขอเดินดูหนังสือก่อน” ตะวันเอ่ยขอตัว เขาไม่ชอบพูดเรื่องส่วนตัวของคนอื่น
ตะวันไล่มือไปตามชั้นหนังสือที่เข้ามาใหม่ เขามองจากชั้นบนลงไปยังชั้นล่างช้าๆ ไล่ไปทีละชั้น ก่อนสะดุดตาเข้ากับบางอย่างที่ตกอยู่บนพื้น ตะวันก้มลงไปเก็บขึ้นมา มันเป็นแหวนทองคำขาวแบบเรียบ ขนาดของแหวนน่าจะเป็นของผู้ชาย ตะวันยกขึ้นมอง มีสลักอักษร MT เป็นตัวหวัดเขียนอย่างสวยงาม ของใคร? ตะวันนิ่วหน้า ทำแหวนหายจากนิ้วไม่รู้ตัวบ้างเลยหรือ
“ขอโทษครับ!” เสียงเปิดประตูอย่างรีบเร่งดังขึ้น ตะวันหันไปมองที่มาของเสียง ร่างสูงที่เขาคุ้นตาอุ้มเด็กชายตัวเล็กเดินเร็วๆ ไปที่เคาน์เตอร์
“ผมทำแหวนตกเอาไว้ มีใครเก็บได้ไหมครับ”
“ไม่มีนะคะคุณเมธแต่น่าจะยังอยู่ในร้าน ตั้งแต่คุณเมธเดินออกไปก็มีตะวันเข้ามาคนเดียว” ใบหน้าคมสันหันมามองตะวัน เขาจึงส่งยิ้มให้
“วงนี้หรือเปล่าครับ ผมเพิ่งเจอมันตกที่พื้น” ตะวันชูแหวนในมือให้ดู
“ใช่ครับ” สีหน้าของชายหนุ่มโล่งอก “ขอบคุณมากครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” ตะวันเดินเข้าไปหา ยังแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ชายหนุ่มทำแหวนหาย
“น่าจะตกตอนผมล้วงกระเป๋า” คนพูดเหมือนเดาได้ว่าเขาข้องใจ
“นี่ครับ” ตะวันยิ้มน้อยๆ ส่งแหวนคืนให้กับเจ้าของ
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มยื่นมือมารับก่อนหย่อนลงกระเป๋ากางเกง ตะวันอดสะดุดใจไม่ได้ ดูแล้วน่าจะเป็นแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน ทำไมถึงถอดเก็บไว้ แต่ยังไงมันไม่ใช่เรื่องที่เขาควรสอดรู้
“ขนม” เสียงเล็กๆ กระซิบคนพ่อ นิ้วเล็กๆ ชี้มาที่ขนมในมือของตะวัน
“อันนี้ของพี่ พ่อเอามาฝาก ของดลอยู่ที่บ้าน” เด็กน้อยเอียงคอมองขนมในมือของตะวัน
“ของพี่เหรอ” หนูน้อยซุกหน้ากับบ่าของพ่อ ถามด้วยน้ำเสียงเบา
“ใช่ครับของพี่”
“อยากทานหรือเปล่าครับ” ตะวันถามเด็กน้อยด้วยสายตาเอ็นดู แต่คนเป็นพ่อรีบปฏิเสธ
“ไม่เป็นไร ที่บ้านยังมีอยู่อีกหลายกล่อง”
“ท่าทางแกจะชอบนะครับ”
“ครับ ของโปรดเลย” สายตาของหนูน้อยยังไม่ละไปจากขนม ปากเล็กๆ ขยับกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ตะวันมองด้วยความเอ็นดู เขาจัดการแกะกล่องขนม ก่อนส่งไดฟูกุลูกเล็กให้กับเด็กชาย
“นี่ครับพี่ให้”
หนูน้อยมองเขาด้วยสายตากลัวๆ กล้าๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองคุณพ่อ เมื่อชายหนุ่มพยักหน้า เด็กชายจึงเอื้อมมือมารับ
“ทำยังไงก่อนลูก”
“ขอบคุณครับ” หนูน้อยยกมือไหว้ ค้อมศีรษะลงต่ำแบบที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี ตะวันยิ่งนึกเอ็นดูเข้าไปใหญ่
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่เก็บแหวนให้ แล้วก็เรื่องหนังสือคราวก่อนด้วย”
“หนังสือพี่เหรอ” หนูน้อยถามพ่อ สายตาลอบมองตะวันอย่างสนใจ
“ใช่ลูก พี่คนนี้ที่พ่อบอกว่าใจดียกหนังสือให้ดลไงครับ”
“พี่ใจดี” หนูน้อยพูดเสียงเบา รอยยิ้มอายๆ ที่ส่งมาให้ เอาหัวใจของตะวันไปทั้งดวง
“จำได้ไหมเอ่ย พ่อบอกว่าถ้าเจอพี่ต้องทำยังไงครับ”
“ขอบคุณครับ ดลชอบหนังสือ” เด็กชายยกมือไหว้เขาอีกครั้ง แม้จะขี้อายแต่ก็พูดได้ชัดเจน
“เก่งมาก” ร่างสูงพูดกับลูกชายก่อนหันมายิ้มให้เขา “เมื่อกี้ผมมาคุณยังไม่มา แต่พอเจอกันอีกทีผมมัวแต่ห่วงเรื่องแหวน เลยลืมให้ลูกขอบคุณ”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอบคุณก็ได้”
“ให้พูดดีแล้วครับ ผมอยากสอนลูกไปด้วย แกขี้อาย ยังไม่ค่อยกล้าแสดงออกเท่าไหร่”
“แต่น้องน่ารักมากๆ เลย” ตะวันชื่นชม
“พี่น่ารัก” เสียงเล็กๆ ดังขึ้น คล้ายพูดเลียนแบบเขา พอตะวันหันไปมองหนูน้อยก็รีบซ่อนหน้า เห็นเพียงรอยยิ้มเขินบนริมฝีปากเล็ก
“ตั้งแต่เจอกันมาเพิ่งได้ยินหนูดลพูดเยอะๆ วันนี้เอง” พี่หลินเจ้าของร้านทักขึ้น “สงสัยจะถูกชะตากับตะวันนะคะ”
“น่าจะใช่ครับ ปกติไม่ค่อยยอมพูดกับใคร ผมลืมแนะนำตัวไปเลย ผมชื่อเมธ” เมธส่งมือให้กับเด็กหนุ่มตรงหน้า สีหน้าของอีกฝ่ายดูลังเลก่อนที่มือเรียวจะยื่นออกมาจับกับมือเขา
“ผมชื่อตะวันครับ” มือนั้นปล่อยออกก่อนที่เจ้าตัวจะยกขึ้นไหว้ เมธรู้แล้วว่าเพราะอะไรเมื่อครู่อีกฝ่ายถึงมีสีหน้าเช่นนั้น คงไม่ชินที่กับการที่เขาจับมือแทนการไหว้
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อน ไว้เจอกันใหม่”
“ครับ ขอบคุณสำหรับของฝากนะครับ” ตะวันค้อมศีรษะให้เมธ ก่อนยกมือขึ้นโบก ส่งยิ้มให้กับหนูน้อย “บ๊ายบายครับ” เด็กชายมีท่าทีลังเล ก่อนจะยกมือขึ้นน้อยๆ โบกตอบเขา
“น่ารักจริงๆ นะคะ ดูนุ่มนิ่มเชียว” ตะวันหันไปยิ้มให้กับเจ้าของร้าน เสียงประตูปิดลง
“แต่เห็นคุณเมธเก็บแหวนแล้วพี่ว่าคงไม่ได้อยู่กับแฟนแน่เลย สงสารเด็กนะคะ ออกจะน่ารัก”
“อาจไม่ใช่ก็ได้ครับ” ตะวันเองก็คิดแบบนั้น แต่เขาคิดว่าไม่ควรเออออไปด้วย
“ได้หนังสือไหมคะ” ตะวันโล่งอกที่เจ้าของร้านยอมเปลี่ยนเรื่อง
“วันนี้น่าจะไม่ได้ครับพี่หลิน ผมดูๆ แล้วยังไม่มีเล่มไหนถูกใจ”
“งั้นอาทิตย์หน้าแวะมาใหม่นะคะ”
“ครับ” ตะวันยังดูหนังสือไม่ครบ แต่คิดว่าเอาไว้ค่อยมาดูใหม่อาทิตย์หน้าจะดีกว่า เขากลัวเจ้าของร้านจะชวนเขาคุยเรื่องชายหนุ่มที่เพิ่งออกไปอีก
“พี่ตะวันๆ” เสียงน้องสาวของตะวันตะโกนเรียกดังลั่น ก่อนเสียงประตูห้องนอนของเขาจะเปิดออก
“เบาๆ ก็ได้จันทร์”
“ก็จันทร์ตื่นเต้นนี่นา” ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง จันทร์อายุห่างกับเขาสี่ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่สี่
“ตื่นเต้นเรื่องอะไร”
“เมื่อกี้ตอนกลับมาจันทร์ขี่จักรยานสวนกับพี่สุดหล่ออีกแล้ว”
“หนีไปบ้านเพชรมาอีกแล้วใช่ไหมแม่รู้หรือเปล่า” บ้านเพื่อนของจันทร์อยู่โครงการถัดไป เป็นของบริษัทเดียวกันแต่คนละเฟส
“แม่รู้ จันทร์บอกแม่แล้ว ก็พี่ตะวันไม่ค่อยอยู่จันทร์เหงานี่นา” ตะวันอยู่หอพักเล็กๆ ไม่ไกลจากมหาลัย กลับบ้านมาเฉพาะวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ พ่อพาพวกเขาย้ายบ้านมาที่นี่สมัยตะวันเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ห้า ทำให้บ้านของเขาอยู่ห่างจากมหาลัยมากเกินไป ปีแรกตะวันยังทนเดินทางไปกลับ ใช้เวลาครั้งละสองชั่วโมงกว่า จนพ่อเห็นว่าเขาคงไม่ไหวแน่ จึงเช่าหอพักเล็กๆ ให้อยู่
“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าเพิ่งคิดเรื่องผู้ชาย พี่ห้ามเข้าใจไหม เอาไว้เราโตก่อนพี่ถึงจะอนุญาต”
“พี่ตะวันก็ จันทร์แค่ชอบว่าหล่อดี ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย อายุมากกว่าจันทร์ตั้งเยอะ จันทร์รู้น่าว่าต้องตั้งใจเรียน”
“พี่ก็นึกว่าเป็นเด็กวัยรุ่นหรือไม่ก็นักศึกษามหาลัย”
“เปล่าทำงานแล้ว พี่ตะวันต้องได้เห็นหล่อมากกก” น้องสาวของตะวันลากเสียงยาว แต่จู่ๆ ก็ทำปากยื่นเล็กน้อย “แต่สงสัยจะมีลูกแล้ว วันนี้เห็นมากับเด็กคนหนึ่ง หน้าตาน่ารักเชียว”
“ก็ถ้าหล่ออย่างเราบอก มีครอบครัวแล้วก็ไม่แปลก”
“นั่นสิเนอะ คนหล่อๆ จะเหลือได้ยังไง สงสัยต้องจองไว้ตั้งแต่เด็ก จันทร์ไปจองลูกชายเขาไว้เลยดีไหมพี่ตะวัน”
“หึๆ ก็เข้าท่าดีนะ ลองดูสิ”
“อย่าหัวเราะไป จันทร์เอาจริงนะเอ้า ห่างกันแค่สิบห้าสิบหกปีเอง แป๊บๆ ก็โตทันกันแล้ว”
“ยายเด็กบ๊อง” ตะวันเขกศีรษะน้องสาวตัวเอง “อย่าเอาแต่พูดเล่น ไปอาบน้ำได้แล้วเดี๋ยวแม่ดุ”
“ใครว่าจันทร์พูดเล่น” จันทร์ย่นจมูก “พี่ตะวันไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตเหรอ อาจจะมีด้ายแดงผูกนิ้วก้อยจันทร์กับหนูนั่นไว้ก็ได้นะ” จันทร์ชูนิ้วก้อยมาตรงหน้าเขา ตะวันหัวเราะออกมาเบาๆ
“ถ้าโตขึ้นมาไม่หล่อเหมือนพ่อ พี่จะขำเรา”
“ไม่มีทางหรอก หน้าตาออกจะน่ารัก ดูยังไงก็หล่อแน่นอน พี่ตะวันเชื่อจันทร์สิ พ่อออกจะหล่อขนาดนั้น” จันทร์ยกมือขึ้นไหว้ “เพี้ยงง พระพรหมเจ้าขา ขอให้บ้านเราได้คนหล่อๆ แบบนั้นมาเป็นลูกเขยบ้างเถอะเจ้าค่ะ สาธุ”
“เพี้ยนใหญ่แล้วเรา ไปอาบน้ำได้แล้ว”
“ค่าๆ รู้แล้ว ไปเดี๋ยวนี้แหละ” จันทร์กระโดดลงจากเตียงเดินไปที่ประตู สายลมเย็นๆ พัดผ่านตะวัน เขาหันไปมองหันเห็นประตูห้องปิดพอดี น่าจะเป็นเพราะจันทร์เปิดประตูลมถึงพัดเข้ามา
ตะวันหมดความสนใจเขาหันกลับมาอ่านหนังสือในมือต่อ สายตาเหลือบไปเห็นกล่องขนมที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาหยิบออกมาลองชิมชิ้นหนึ่ง นึกถึงคนให้ จะว่าไปแล้วเขาก็เพิ่งเจอผู้ชายมีลูกที่หน้าตาดีมากมา แถมลูกโตมาน่าจะหล่อเหมือนกัน หรือเดี๋ยวนี้คนมีลูกแล้วจะหล่อทุกคน ตะวันหัวเราะออกมาเบาๆ ขำความคิดของตัวเอง ถ้าสักวันเขาก็มีลูกก็อยากให้น่ารักแบบนั้นบ้าง
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin