[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] I Hate You, I Love You, I Hate that...
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] I Hate You, I Love You, I Hate that...  (อ่าน 4568 ครั้ง)

ออฟไลน์ Moonfang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ Moonfang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0


I Hate You, I Love You, I Hate that...




        “มาๆๆ เดินเร็วหน่อยไอ้ศิน! พวกแม่งจองโต๊ะไว้ฟากโน้น นู่นๆ”

        “เห็นแล้วน่า ขอกูเข้าห้องน้ำแป๊บเดี๋ยวตามไป”

        “จะตามมาแน่นา ไม่ใช่ไปแล้วไปลับหายวับชิ่งกลับก่อนนะมึง”

        “เออ ไม่ชิ่งหรอก ก็ถ้ากูไปใครจะเป็นคนเก็บศพพวกมึงทั้งหลายทุกคนกลับหอวะครับ”

        “ฮ่าๆๆ รู้ก็ดี”

        ผมกลอกตาค้อนใส่ไอ้แบงก์ก่อนจะแยกกันชั่วคราว มันดิ่งไปหาเพื่อนอีกสองที่มาถึงก่อนแล้ว ส่วนผมปลีกตัวแวะเข้าห้องน้ำ

        โดยพื้นฐานแล้วผมไม่ใช่สายแข็ง...แต่คืนนี้ก็ยอมตามใจเพื่อนในกลุ่ม (หลังจากโดนเซ้าซี้ไม่เลิก) มาฉลองกันที่ร้านเหล้าหลังมหาลัย (ลำบากกูต้องรอแบกกลับหออีก) เนื่องในโอกาสสอบมิดเทอมเสร็จ (ซึ่งพวกแม่งก็ไม่ได้สำเหนียกแม้แต่น้อยว่ามีรายงานอีกสองชิ้นต้องส่งมะรืนนี้)

        เพลย์ลิสต์เพลงฮิตประจำร้านเหล้าเล่นไปเรื่อย ส่วนใหญ่เป็นเพลงอกหัก ผมฮัมเพลงงมงายของบอดี้สแลมขณะทอดน่องเลาะตามทางเดินติดกำแพงอิฐไปยังห้องน้ำหลังร้าน มองดอกกล้วยไม้ที่แขวนประดับข้างทางไปเรื่อย

        และในตอนที่กำลังจะเลี้ยวตรงทางแยกนั้น...

        พลั่ก!

        ชนเข้ากับคนที่เดินสวนมาพอดีแบบเต็มๆ

        “อ...อูย ขอโทษครับผมไม่ทันมอง”

        “ครับๆ ไม่เป็นไร ผมเองก็...ศิน?”

        แล้วประโยคอะไรก็ตามอีกฝ่ายตั้งใจจะพูดก็หยุดอยู่แค่นั้น

        ผมเองก็ชะงักค้าง

        เราสบตากัน เงียบกริบ

        คนตรงหน้าผมคือ ’ภากร’...ซึ่งเป็นทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นในชื่อเดียว คนทั้งคณะชอบเรียกมันภากรๆ ไม่เคยเห็นใครเรียกแค่ไอ้ภาหรือไอ้กรสักที เราเข้ามารุ่นเดียวกันแต่มันอายุมากกว่าคนในรุ่นปีนึงเพราะซิ่วมาจากที่อื่น

        ภากรเป็นมนุษย์ประเภทเด็กหลังห้องที่ชอบหลับสลับโดดแต่ดันสอบได้ท็อปแทบทุกครั้งมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวันมันเมาไปแล้วสี่ ด้วยความที่ผิวแทนหุ่นดีเบ้าหน้าใช้ได้ก็เลยเอื้อต่อนิสัยขี้หลีและความเป็นเสือผู้หญิงของอีกฝ่ายสุดๆ เคยหยุดที่ใครนานเสียที่ไหนล่ะมันน่ะ

        ถ้าถามว่าทำไมผมรู้ละเอียดขนาดนี้...

        “ศิน...เออ...” พอเห็นว่าเป็นผมอีกฝ่ายก็หน้าเจื่อนไปเลย อึกอักอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยเค้นคำพูดออกมาจนได้ว่า “...ขอโทษนะ”

        ผมไม่รู้หรอกว่ามันขอโทษเรื่องไหน เรื่องที่เดินชน หรือเรื่องที่ผ่านมา

        ทั้งหมดที่ผมทำก็คือพยักหน้าตอบรับสองที แล้วเดินผ่านมันไปโดยไม่เอ่ยอะไรกลับไปสักคำ

        เพลงงมงายยังคงดังมาจากลำโพงร้าน

        ผมเก็บไปร้องต่อเงียบๆ แค่เพียงในใจ





        หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินไปหาผองเพื่อนทั้งสามซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้ในพื้นที่กลางแจ้ง ไอ้เพชรไอ้เพียวโบกไม้โบกมือเรียก ส่วนไอ้แบงก์กำลังแหกปากร้องเพลงอยู่คนเดียวอย่างเมามัน

        ผมทิ้งตัวนั่งตรงเก้าอี้ว่างข้างไอ้เพชร เอื้อมมือหยิบไก่คลุกฝุ่นของอร่อยประจำร้านเข้าปากเคี้ยวหงับๆ ส่วนไอ้เพียวที่ยังนินทาอาจารย์ในคณะแบบติดลมก็ชง 285 ผสมโค้กส่งมาให้ ไม่เข้มมาก แค่พอให้กรึ่มๆ สนุกไปกับบรรยากาศ

        “เฮ้ยมึง โต๊ะนั้น...” อยู่ๆ ไอ้แบงก์ก็ร้องทัก

        “โต๊ะไหนอะไรยังไง” ไอ้เพชรเหลียวมองตามสายตาเพื่อนแล้วก็ชะงักไปอีกคน “อ้าวนั่น...ภากรป้ะ?”

        “ไหนๆๆ มันอยู่ไหน” ไอ้เพียวนี่ชะโงกหน้าหาแบบขี้เสือกเต็มอัตรา

        ผมเองก็หันไปมองเช่นกัน แล้วก็เจอจริงๆ ภากรนั่งฉายเดี่ยวอยู่ตรงเก้าอี้สตูล...ที่จริงก็ไม่น่าเรียกว่าเดี่ยว เหมือนจะกำลังจีบหญิงที่นั่งติดกันอยู่ชัดๆ มันนั่งเอียงข้างเอามือเท้าแก้มคุยกับสาว ขยับมือสางผมที่ยาวปรกท้ายทอยของตัวเองแก้เก้อบ้างเป็นระยะ ต่างหูแป้นเล็กสะท้อนแสงไฟวิบวับบาดตา หน้าแดงเรื่อๆ แบบที่คงเป็นเพราะแก้วเครื่องดื่มในมือมากกว่าเขิน

        มันเป็นคนมีเสน่ห์ ผมยอมรับ

        พูดจาปากหวานเจ๊าะแจ๊ะไปเรื่อย แถมยังยิ้มหวานได้แบบที่ทำให้สมองคนมองหยุดทำงาน

        ลองได้มาโดนมันจีบเถอะ รับรองใจสั่นกันทุกราย

        ตอนนั้นเองที่มันเหมือนจะรู้สึกตัวว่าตกเป็นเป้าสายตาจึงมองเลยไหล่ของหญิงสาวข้ามฟากสนามหญ้ามาทางนี้ มันหยุดกึกทันทีที่สบตากับผมเข้าอย่างจัง

        ผมมองตอบเพียงไม่นาน ก่อนจะเป็นฝ่ายถอนสายตาออกก่อนแล้วหันกลับมาหยิบกับแกล้มกินต่อโดยไม่เหลียวกลับไปอีก

        แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกที...ก็ดันพบว่าทั้งโต๊ะกำลังมองผมเป็นตาเดียวแทน

        “อะไร จะมองกูเพื่อ?”

        “มึงกับมันยังไม่ดีกันอีกเหรอ”

        ไอ้ห่าแบงก์นี่ก็ถามตรงไป

        แต่เอาจริงๆ...นอกจากไอ้แบงก์ที่เคยเค้นคอผมจนรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าผมกับภากรเคยคบกันในรูปแบบที่มากกว่าเพื่อน พวกมันรู้แค่ว่าเราทะเลาะกันรุนแรงแล้วไม่กลับมาดีกันอีกเลย แค่นั้น

        เมื่อก่อนภากรเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับผมและไอ้แบงก์ไอ้เพชรไอ้เพียวนี่แหละ ไปไหนไปกัน เฮ้วๆ ตามประสา มันเป็นพวกหัวร้อนแถมชอบหาเรื่องใส่ตัวทำให้ผมต้องตามประกบดูแลเป็นพิเศษเสมอๆ ตอนนั้นจะเรียกว่าเป็นเพื่อนสนิทกันก็ได้

        จนกระทั่งหลังจากคืนหนึ่ง...ที่มีเหตุให้เมาหัวทิ่มกันทั้งคู่ ความสัมพันธ์ของเราก็มาถึงจุดเปลี่ยน

        ...



        ผมตื่นเช้ามาบนเตียงของตัวเองด้วยอาการปวดหัวจี๊ด อย่างแรกที่รู้ตัวคือ โอย แฮงก์แน่ๆ

        อย่างที่สองที่รู้สึกคือทำไมมันเย็นๆ โล่งๆ หือ...เมื่อคืนถอดเสื้อผ้านอนเหรอ?

        และอย่างที่สาม...

        เมื่อหันไปทางขวามือผมก็ชะงัก ภากรอยู่ตรงนั้น บนเตียงเดียวกันกับผม เนื้อตัวเปลือยเปล่าดึงผ้าห่มปิดมาถึงเอว กำลังนั่งหลังเอนหลังพิงหัวเตียงมองมาที่ผมด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน

        “ภากร?”

        “โทษที...เมื่อคืนกูไม่น่ายุให้มึงแดกเยอะขนาดนั้น”

        สีหน้าแปลกๆ ของมันทำให้ผมสังหรณ์ใจ

        “เมื่อคืนมึงกับกู...”

        “เออ”

        เล่นตอบมาสั้นๆ คำเดียวแบบนี้ทำเอาผมไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกยังไงดี ได้แต่มองคนตรงหน้าตาค้าง ส่วนมันคราวนี้หลบตาไปแล้ว

        คลับคล้ายคลับคลาว่ายังจำความรู้สึกเมื่อคืนได้บ้าง เลือนรางเหมือนความฝัน ภาพตัดที่แทบเรียบเรียงไม่ได้ของการเกี่ยวกระหวัดที่ร้อนแรง อิ่มเอม...และมีอะไรบางอย่างที่ชวนโหยหาเสียจนผมนึกแปลกใจตัวเอง

        ตอนนั้นเองที่ผมค้นพบความจริงบางอย่างในจิตใจ ผมไม่ได้รู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้นขนาดนั้น และไม่ว่าความรู้สึกนี้จะเรียกว่าอะไร...ผมไม่ได้รังเกียจภากร

        “ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนแล้วค่อยคุยกันเหอะ” หลังจากตั้งสติได้แล้วผมก็พูดกับมันด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด แต่อีกคนฟังแล้วหน้าเสีย ส่ายหัวปฏิเสธ

        “ลุกไม่ได้”

        “ทำไมวะ”

        “...” มันเม้มปากแน่นอยู่นาน สุดท้ายก็สารภาพเสียงอ่อย “...เจ็บ”

        สมองผมหยุดทำงานไปสิบวินาที ก่อนจะสั่งการให้ผมพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายที่สะดุ้งโหยงทันควัน แต่ผมไม่สน เลิกผ้าห่มบนตัวมันขึ้นโดยไม่ขออนุญาตและไม่แคร์ด้วยว่ามันจะแก้ผ้าอยู่หรือเปล่า

        ผ้าปูที่นอนบริเวณนั้นนอกจากจะเปื้อนคราบของเหลวบางอย่างแล้วยังมีรอยเลือดสีแดงหยดเป็นดวง

        ผมตะปบหมับเข้าที่ข้อพับเข่าข้างซ้ายของภากรแล้วดันให้ยกขึ้นสุดแรง เล่นเอามันแหกปากร้องเสียงหลง “อ๊ากกก! เจ็บๆๆๆ ไอ้เหี้ยศินกูเจ็บบบ!!!”

        ผมยอมปล่อยขามันหลังจากเห็นชัดแล้วว่านอกจากบนผ้าปู บริเวณต้นขาของเพื่อนก็มีคราบเลือดแห้งติดอยู่เหมือนกัน “เออะ...โทษที กูไม่รู้”

        “กูก็บอกอยู่ว่าเจ็บอะ ไอ้สัสเอ๊ย มึงแม่งก็ไม่ยั้งเลย ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ...”

        “ฮ...เฮ้ย เชี่ย นี่มึงร้องเหรอ!?”

        “พ่อมึงดิ มั่วแล้ว กูไม่ได้ร้อง!”

        ยอมรับว่าตกใจกว่าเดิมนิดหน่อย คือทีแรกที่ตื่นมาเจอสภาพแบบนี้ก็อุตส่าห์ทำใจแล้วว่าเมื่อคืนตัวเองคงโดนมันเอาแหงๆ แต่ใครจะไปนึกว่าผมจะเป็นฝ่ายไปทำไอ้คนที่ได้ชื่อว่าเพลย์บอยตัวพ่อประจำแก๊งคนนี้ซะได้ ไม่รู้ว่าภากรมันอายหรือเสียเซลฟ์ แต่หน้ามันตอนน้ำตาคลอๆ แถมตัวสั่นน้อยๆ แม่ง...โคตรน่าสงสารจนผมใจหาย

        มันไม่ได้โวยวายหรือเกร็งตัวหนีตอนที่ผมขยับเข้าไปกอดแล้วลูบหัวลูบไหล่เป็นการปลอบ

        “กูไม่บอกใครหรอก สัญญา” ผมกระซิบบอกมัน “กูขอโทษ ขอโทษจริงๆ ถ้าอยากให้ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกูทำให้มึงได้นะ ถ้าอยากกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมกูก็ทำให้ได้...”

        “นั่นแหละปัญหา”

        มันพูดขัดขึ้นกลางคัน อีกฝ่ายถอนหายใจแล้วก็แปะหน้าผากทิ้งน้ำหนักลงมาที่ไหล่ของผม

        น้ำเสียงของฝ่ายนั้นฟังดูก้ำกึ่งระหว่างอาย กระดาก กับไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง...แบบเดียวกันกับที่ผมคิดว่าตัวเองก็รู้สึกเหมือนกัน

        และดีไม่ดีอาจจะรู้สึกมาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว

        “ศิน...กูไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม”




        ...

        เราไม่เคยบอกใครถึงเรื่องในคืนนั้น ต่อหน้าเพื่อนคนอื่นเราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็รู้กันเองสองคนว่ากำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ

        ความจริงไม่ต้องศึกษานิสัยใจคออะไรมากหรอก เราต่างคนก็ต่างรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งนั่นแหละปัญหา...

        ผมรู้จักภากรดีเกินไป มันอาจจะเป็นเพื่อนที่เข้าขากันไม่เลวนัก...แต่ผมรู้ว่ามันจะเป็นแฟนที่ดีให้ใครไม่ได้ตราบใดที่ยังไม่เลิกนิสัยเสียเก่าๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเจ้าชู้

        ทว่าสุดท้ายผมก็ใจอ่อนจนได้...ใจอ่อนให้กับใบหน้าเศร้าๆ และดวงตาหวานปนโศกคู่นั้นแหละ

        อย่างที่เคยบอกไป ลองได้มาโดนมันจีบเถอะรับรองใจสั่นกันทุกราย

        แต่ผมว่าเหตุผลที่ผมตอบตกลงคบกับมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกผิวเผินแบบนั้นหรอก

        ผมว่าผมรักมันนะ...ผมรักจริงๆ และยิ่งนานวันความรู้สึกที่ว่าก็ยิ่งเพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการปลดล็อก

        รักจนโง่ รักจนหลอกตัวเองว่าคงจะเปลี่ยนมันได้

        น่าเสียดายที่ภากรก็คือภากร มันยังคงความคาสโนว่าจีบสาวเจ้าชู้ไปเรื่อยเหมือนเดิม ยึดติดกับภาพโง่ๆ ว่าตัวเองเป็นเพลย์บอยที่เท่เสียเต็มประดาล่ะมั้ง ผมปรามมันจนเหนื่อยใจ บ่อยเข้าก็เริ่มสงสัยว่ามันจะเอายังไงกับความสัมพันธ์ของเรากันแน่

        มันดูเสียเซลฟ์ที่เป็นฝ่ายรับในคราวนั้น ถึงอย่างนั้นก็ยังยื้อผมไว้ ช่วงที่แอบคบกันโดยไม่บอกคนอื่นเราไม่เคยมีอะไรกันอีกซ้ำสองนะ อารมณ์แบบ...เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือจูบกันได้และใจสั่นด้วย

        แต่ขณะเดียวกันมันก็ยังควงหญิงอื่นไม่ซ้ำหน้าแทบจะทุกวันเว้นวัน อะไรของแม่งวะ มันอยากให้ผมรักแต่ตัวมันล่ะเคยรักผมมั้ย เห็นผมเป็นของเล่นของมันเหมือนกันกับผู้หญิงคนอื่นๆ ในสต็อกหรือไง จนหนสุดท้ายผมก็ระเบิดออกมา ยื่นคำขาดให้กลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม...เหมือนเดิมในที่นี้คือเหมือนเดิมจริงๆ แบบที่เราเคยเป็นก่อนจะล้ำเส้นกันไปในคืนนั้น

        แต่ก็ภากรอีกนั่นแหละที่เลือกจะปฏิเสธ


        ‘ไม่...ไม่ได้ กูกลับไปเป็นเพื่อนกับมึงไม่ได้แล้วศิน’

        ‘ถ้างั้นก็พอที! แม้แต่เพื่อนก็ไม่ต้องเป็นกันแล้ว!!’



        สองเดือนแล้วนับจากวันนั้น...เราไม่กลับมาคุยกันอีกเลย





        “ไอ้ศิน ไอ้ห่า กูถามมึงอยู่เนี่ยได้ยินมั้ย”

        “ห...หือ? อะไรนะ”

        ผมสะดุ้ง พอกะพริบตาอีกสองสามทีถึงตั้งสติได้ว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ร้านเหล้ากับกลุ่มเพื่อน

        แบงก์นั่งกอดอก ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ “กูถามว่ามึงกับมันอะ...ยังไม่ดีกันอีกเหรอ”

        เพชรกับเพียวก็มองมาอย่างสนอกสนใจเหมือนกัน ผมถอนหายใจเฮือก

        “ยัง ก็ไม่ได้คุยกันตั้งแต่วันนั้นแหละ”

        “แย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ...” ไอ้เพชรถามจ๋อยๆ มันไม่ชอบเวลาเห็นเพื่อนทะเลาะกัน

        ผมยักไหล่ ไม่ยอมตอบอะไรกลับไป บรรยากาศอึมครึมอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งไอ้เพียวกู้สถานการณ์กลับมาด้วยการเปลี่ยนหัวข้อสนทนากลับไปเป็นนินทาอาจารย์ที่ภาคต่อ จากนั้นเพื่อนทั้งวงก็ไม่พูดชื่อภากรออกมาให้ผมได้ยินอีก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2018 03:04:13 โดย Moonfang »

ออฟไลน์ Moonfang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
        พวกเรานั่งชิวรับลมกันสบายๆ ฝอยเรื่องชาวบ้าน เรื่องเกม สลับกับร้องเพลงอกหักโดนๆ แล้วก็กระเดือกเหล้าลงคอ

        ประมาณเที่ยงคืนไอ้เพชรก็พูดอ้อแอ้ไม่เป็นภาษามนุษย์ ส่วนไอ้เพียวเมาแล้วเริ่มปากหมาท้าตีนคนเดินผ่านไปผ่านมาไปทั่ว

        “กลับเลยมั้ย” ในที่สุดไอ้แบงก์ก็ถามขึ้น

        “ก็ดี อยู่นานกว่านี้เดี๋ยวไอ้เพียวจะไปล่อตีนใครเข้า” ผมเห็นด้วย ก่อนจะตั้งข้อสังเกต “แต่แปลกนะ วันนี้มึงไม่ยักเมา ปกติไปรายแรกเลยมึงอะ”

        แบงก์หัวเราะหึ ก่อนจะก้มกดสมาร์ทโฟนเรียกแกรบแท็กซี่ “เอาไอ้พวกนี้ไปไว้หอกูแล้วกัน”

        “อ้าว ไหนว่าคืนนี้จะมาค้างที่หอกูกันไง”

        “เปลี่ยนใจแล้ว กูพาพวกแม่งกลับเองได้ ส่วนมึง...” มันเหล่ตาไปยังอีกโต๊ะที่อยู่ไกลออกไป “ไปเก็บศพไอ้ภากรกลับเถอะ ตายห่าอยู่นู่น”

        ผมยอมหันกลับไปอีกครั้ง ภากรนั่งอยู่คนเดียว หน้าแดงแจ๋หลับตาพริ้มเอนหัวฟุบโต๊ะไม่กระดิกกระเดี้ย ข้างๆ มีลีโอสองขวดกับแก้วเหล้าที่ตะแคงหก

        น่าสมเพชชิบหาย...

        “ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ” ผมมองสภาพมันแล้วแค่นเสียงเหอะ

        “แต่มันเหมือนจะมาคนเดียวนะ ทิ้งไว้แบบนี้ไม่ดีมั้ง” ไอ้แบงก์นี่ก็ยังไง เซ้าซี้จังวะ วันนี้มาในบทพ่อสื่อหรือไง

        “มันเป็นผู้ชาย ปล่อยทิ้งไว้จะเสียหายอะไร” ผมยังเถียง

        “งั้นมึงเห็นไอ้หนวดเสื้อน้ำเงินนั่นมะ”

        “เห็น ทำไม”

        ”กูไม่ไว้ใจ แม่งเดินวนเวียนแถวไอ้ภากรอยู่สามสี่รอบละ...แล้วมึงดูสายตามัน”

        “...”

        “...”

         “สัสเอ๊ย...”

        “ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก ไปพามันกลับเหอะ”

        “เออ ก็ได้ แล้วเจอกันนะถ้างั้น”

        ผมหัวเสียเป็นบ้า

        คนอะไรหาเรื่องให้เป็นห่วงได้อยู่เรื่อย ถ้ารู้ตัวว่าจะเมาเป็นหมาแบบนี้อย่างน้อยหนีบเพื่อนมาด้วยสักคนก็ยังดี เคยทำอะไรคิดหน้าคิดหลังบ้างรึเปล่าวะ

        ตอนเดินไปหามันไอ้หนวดนั่นก็เข้าถึงตัวแม่งแล้ว แถมยังเอื้อมมือไปลูบๆ บั้นท้ายมันอีกต่างหาก ไม่รู้ลวนลามหรือกำลังหากระเป๋าตังค์กับของมีค่า ผมรีบพุ่งเข้าไป ปรี๊ดเส้นเลือดในสมองแทบแตก “มึง! ออกไปเลยนะ อย่ามายุ่งกับเพื่อนกู!!”

        สงสัยเพราะผมเสียงดังไปนิดไอ้หนวดนั่นก็เลยตกใจเผ่นไปทันที ผมไม่ได้ตามไปเอาเรื่องเพราะไอ้ตัวที่น่าห่วงแม่งยังนอนเมาแอ๋อยู่นี่ ผมได้แต่ทำเสียงฮึดฮัดในลำคอแล้วเขย่าตัวคนตรงหน้าเบาๆ

        “ภากร ไอ้ภากร! ลุก กลับได้แล้ว”

        คนตรงหน้ายังคงหลับตา มุ่นหัวคิ้วคล้ายรำคาญแล้วยกมือปัดเปะปะ ร้องครางเหมือนแมวง่วง

        “ลืมตา ไอ้สัส จะนอนนี่ไม่ได้ บอกให้ลุกไง!” ผมตีแก้มแดงจัดของมันเพียะๆ อย่างหัวเสีย

        คราวนี้อีกฝ่ายยอมปรือตาขึ้นนิดหนึ่ง แล้วก็ขมวดคิ้ว

        “...ศิน?”

        “เออ กูเอง จะลุกได้ยัง”

        “ศิน...ศิน ศิน ศิน” คนเมาหัวเราะคิกคัก

        “เป็นเชี่ยไร ชื่อกูมันตลกหรือไง”

        “น้องศิน~ เขียนศอศาลา มาจากชื่อจริงว่าศศิน...” ภากรยังคงพูดพล่ามอ้อแอ้ไปเรื่อย “ฮิๆๆ มึงไม่ใช่มันหรอก...มันสนใจอะไรกูที่หนายยย มัน มันไม่รัก กู ฮ่าๆๆๆ...ฮึก มึงรู้ป้ะ เชี่ยแบงก์บอกว่าวันนี้ไอ้ศินมันจะมานี่กูก็อุตส่าห์ตามมา มาเพื่อโดนมันเมินอะไอ้เหี้ย”

        ผมฟังถึงตรงนี้แล้วคิ้วกระตุก อ้อ กะแล้วเชียว แผนไอ้ห่าแบงก์นี่เองที่ให้เรากลับมาเจอกัน ไอ้นี่แม่งยุ่งไม่เข้าเรื่อง ไว้จะคิดบัญชีกับมันทีหลัง

        "แล้วมึงรู้มั้ย ไอ้ศินนะ...ฮึก จะเกลียดก็เกลียดดิวะ แต่ แต่นี่แม่ง ทำเหมือนกูเป็นอากาศ ทำยังไงมันก็ไม่สนใจอะ ไม่สนใจกูสักนิดเลย ฮือ..."

        “โว้ย! ถ้าไม่สนใจกูปล่อยมึงโดนหิ้วไปแล้ว ไอ้ห่า หยุดเพ้อแล้วลุกซะทีดิ๊!!”





        กว่าจะพามันกลับถึงหอได้แม่งทุลักทุเลไม่น้อย

        แถมพอเข้าห้องมายังมีท่าทีพะอืดพะอม ดีว่าผมทันสังเกตเห็นก่อนเลยส่งมันไปนั่งกอดโถส้วมได้ทันก่อนมันจะทำตัวเองและพื้นห้องเลอะเทอะ ผมย่อตัวลงลูบหลังอีกฝ่ายช้าๆ จนอาการมันค่อยทุเลาถึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาชุบน้ำ

        “หันมานี่ เช็ดหน้าเช็ดตาหน่อย”

        ภากรยังนั่งมึนจากการโก่งคออ้วกไม่ยอมหันมา ผมเลยต้องเอามือนึงล็อกท้ายทอยมันไว้ ส่วนอีกมือเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดปากมันให้สะอาด

        “เอ้า ลุกๆ บ้วนน้ำกลั้วปากหน่อย แสบคอมั้ยเดี๋ยวกูไปหยิบน้ำให้”

        นานแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำอะไรอย่างนี้ แต่ทุกอย่างทุกขั้นตอนกลับยังเคยชินเหมือนวันวาน ตั้งแต่คบกันเป็นเพื่อนจนตกลงเป็นแฟนผมก็ดูแลมันแบบนี้ประจำ

        กระทั่งความสัมพันธ์ของเราไม่เหลืออะไรเลยนั่นแหละ...ความเคยชินพวกนี้ถึงหายไปจากชีวิต

        ผมประคองอีกฝ่ายเดินโซเซมาถึงเตียงจนได้ มันดูมีสติมากขึ้นแล้วแต่ทีนี้ดันเปลี่ยนเป็นสะอื้นฮึกๆ ไม่หยุดแทน โอย กูจะทำยังไงกับมึงดีเนี่ย

        “เปลี่ยนเสื้อก่อนมึง กลิ่นเหล้าหึ่งเลย” ผมหยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นของตัวเองจากตู้ส่งให้มันที่นั่งอยู่ตรงขอบเตียง แต่อีกฝ่ายยังเอาแต่สะอื้นจนไหล่สั่นเงียบๆ เรียกยังไงก็ไม่ยอมตอบ

        รู้สึกจนใจจริงๆ สุดท้ายก็เลยก้าวไปวางเสื้อไว้ข้างๆ มัน แต่ตอนที่จะถอยกลับมานั่นเองภากรก็ดึงมือผมไว้

        “ศิน” มันเรียกชื่อผมแผ่วเบา จับให้ฝ่ามือผมแนบกับหน้าตัวเอง พึมพำคล้ายละเมอ “...กลับมาแล้วเหรอ จะกลับมาใช่มั้ย”

        ผมยืนนิ่ง ไม่รู้จะตอบไปว่ายังไง

        ให้ตอบว่าผมจะกลับมาอย่างนั้นเหรอ...ก็คงไม่ใช่

        “ศิน กูขอโทษ” หยาดน้ำตาเปียกชื้นหยดลงบนมือผม “ขอโทษที่ทิ้งมึง กูรู้...กูแม่งเหี้ย กูผิดเองทุกอย่าง กูขอโทษ...”

        ผมถอนหายใจ

        “มึงรู้ว่าทำตัวแบบนั้นกูจะเสียใจ แต่มึงก็ยังทำ”

        คราวนี้มันร้องไห้โฮออกมาตรงนั้นเลย

        มือที่ทาบไว้บนหลังมือของผมสั่นไปหมด

        “กู...กูแค่ไม่มั่นใจตัวเอง ฮึก กูกลัว ศิน กูไม่เคยชอบผู้ชาย กูชอบมึงนะ แต่...แต่ตอนนั้นกูกลัว กูไม่กล้าเลือกมึง กูขอโทษ”

        ผมอยากจะสวนออกไปว่ากูก็ไม่เคยคิดจะชอบผู้ชายเหมือนกันนั่นแหละ มึงเป็นคนแรก แต่กูก็ไม่เห็นใจร้ายใส่มึงเลยนี่

        แต่พอได้มานิ่งคิดดูอีกที...อาจเทียบกันไม่ได้เสียทีเดียว ผมเป็นคนประเภทที่อะไรยังไงก็ได้ พอรู้ว่านอนกับเพื่อนตัวเองไปก็ยังแค่ช็อกๆ นิดหน่อยแต่แป๊บเดียวก็ทำใจได้ แต่ภากรไม่ใช่ มันเป็นคนที่มีความมั่นใจในความหล่อความเท่ของตัวเองสูง เกี้ยวสาวเก่งเป็นเลิศ และเข้าขั้นเสือผู้หญิง

        การที่วันนึงตื่นมาพบว่าเพิ่งจะมีอะไรกับเพื่อนแถมตัวเองยังเป็นฝ่ายรับอีกคงสะเทือนใจเอาเรื่อง

        ตอนนั้นเองที่ผมกระจ่างกับทุกการกระทำที่ผ่านมาของมัน ภากรรั้งผมไว้ แต่ขณะเดียวกันก็ม่อหญิงไปทั่ว...ผมว่าคงเป็นเพราะมันยังไม่อยากยอมรับความรู้สึกตัวเอง ไม่อยากยอมรับว่าชอบผมที่เป็นผู้ชาย แต่มันก็ไม่กล้าปล่อยมือจึงทิ้งเรื่องของเราไว้แบบครึ่งๆ กลางๆ ไม่กล้าเดินหน้า ขณะเดียวกันก็ไม่กล้าถอยหลัง

        ความคิดนั้นทำให้ผมหดหู่

        หากสังคมเราเปิดกว้างมากกว่านี้ แบบที่เราจะรักใครก็ได้โดยต้องไม่แคร์สายตาคนอื่น...ไม่แน่ว่าผมอาจจะเปลี่ยนภากรให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ อาจจะทำได้จริงๆ

        น่าเสียดาย...

        “ไอ้ศิน...” พอเห็นว่าผมเงียบไม่ตอบ คนตรงหน้าก็ดูใจเสีย

        ผมถอนหายใจอีกรอบ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ภากร มันเห็นแบบนั้นแล้วก็กางแขนโผเข้าหาทันที ผมรับมันเข้ามาในอ้อมกอดโดยไม่พูดอะไร ภากรซุกหน้าลงกับไหล่ของผมร้องไห้จนตัวสั่น การได้มาเห็นคนอีโก้จัดและไม่ชอบเผยด้านอ่อนแอให้ใครรับรู้มาฟูมฟายน้ำตาไหลเป็นเขื่อนแตกแบบนี้...ผมเจ็บปวดจริงๆ

        ผมได้แต่กอดมันไว้อย่างนั้น ทบทวนความรู้สึกตัวเอง

        “ตอนนั้นมันแย่มากนะเว้ย ความรู้สึกแม่งแย่จนกูไม่อยากจะยอมรับ” ภากรกระชับวงแขนรอบตัวผมแน่นขึ้น “แต่ตอนที่ไม่มีมึงแล้ว...มันแย่ยิ่งกว่า ฮึก แย่กว่าตอนไหนๆ ถ้าย้อนเวลาได้...กูจะยอมทุกอย่าง อะไรที่มึงขอให้เลิกกูก็จะเลิก ขอแค่ได้อยู่กับมึง ได้รักมึง”

        จากนั้นริมฝีปากนุ่มก็ประกบจูบลงมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

        พร้อมกันกับเสียงขอร้องอ้อนวอนอันสั่นเครือ

        “ศิน...ศินไม่รักกูแล้วเหรอ ศิน...”

        กูรักมึงมาตลอด ใครกันแน่ที่ไม่รัก ภากร

        ผมเม้มปากตัวเองแน่นสนิท ไม่ตอบสนองอะไรทั้งนั้น

        ภากรยังคงพยายามเล็มไล้กลีบปากของผม ดูดดึงด้วยอารมณ์เว้าวอนร้องขอ ใจผมสั่น มันเก่ง...ยอมรับเลยว่ามันเก่งจริงๆ

        เมื่อเห็นว่าผมยังไม่ใจอ่อนอีกฝ่ายจึงยิ่งรุกหนัก พลิกตัวแล้วคร่อมขาสองข้างบนตัวผม

        “เดี๋ยว มึงจะทำอะไ...”

        คำถามที่เหลือกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อคนตรงหน้าบดสะโพกลงบนตักผมแบบเน้นๆ ทีแรกภากรเองก็ยังเงอะงะกับตำแหน่งที่ไม่คุ้นชินแต่ไม่นานมันก็จับจุดได้ โยกขย่มตรงจุดสำคัญแบบไม่มีพลาด ในขณะเดียวกันก็ยังพยายามเปิดปากของผมอีกครั้งด้วยริมฝีปากของตัวเอง

        และด้วยความเคารพ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน

        ผมป้อนจูบสนองตอบในที่สุด ยอมเปิดปากให้อีกฝ่ายสอดลิ้นเข้ามา ความชื้นแฉะจากเรียวลิ้นมาพร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์เข้มข้นในลมหายใจ กระหวัดเกี่ยวหยอกล้อให้อุณหภูมิในกายยิ่งร้อนรุ่ม เราผลัดกันถอดเสื้อผ้าให้กันและกันจนรู้สึกตัวอีกทีก็เนื้อตัวเปล่าเปลือย ผมลูบไล้ไปตามผิวกายสีแทนละเอียดของคนตรงหน้า ขยำเคล้นคลึงแบบเต็มไม้เต็มมือ

        ภากรดันร่างผมให้ไปนั่งชิดหัวเตียง จูบผมแรงๆ อีกครั้งจากนั้นก็ลากลิ้นลงต่ำ ผ่านลำคอ ช่วงอก หน้าท้อง มาจนถึงส่วนสำคัญที่มันขยับชักรูดอยู่ในอุ้งมือ

        อีกฝ่ายช้อนตามองผม...ทีแรกยังมีแววลังเลให้เห็น แต่จากนั้นก็ครอบริมฝีปากลงมา

        ผมจิกมือกับผ้าปูที่นอนแน่นในตอนที่ภากรใช้ทั้งมือและปากจัดการกับส่วนสำคัญให้ ลิ้นชื้นๆ ลากเลียตั้งแต่โคนและใช้ปากดูดเม้มตรงปลายหลายๆ ที ก่อนจะใช้ฟันครูดตามความยาวย้อนจากโคนขึ้นมาใหม่ ทั้งขบทั้งเลียและทำแบบเดิมซ้ำๆ เล่นเอาผมเสียวจนต้องเอามือข้างหนึ่งขยุ้มกลุ่มผมของอีกฝ่ายเป็นการระบายอารมณ์

        “ภ...ภา กร อื้อ!”

        ความรู้สึกพวยพุ่งแตะจุดสูงสุดและได้รับการปลดปล่อย ภาพตรงหน้าพร่าเบลอไปชั่วขณะ ภากรยังคงใช้มือรูดรั้งส่วนนั้นอีกสองสามครั้งและรองรับน้ำสีขุ่นไว้ในอุ้งมือ

        “ศิน...” คนเรียกขยับตัวมานั่งคร่อมตักผมไว้อีกครั้ง เสียงกระเส่าแหบพร่า หยาดน้ำตาที่ยังค้างอยู่บนแพขนตาดูพร่างพราวยิ่งกว่าดาวดวงไหน “ให้กูเป็นของมึงนะ กูอยากเป็นของมึง กูรัก...กูรักมึง”

        มันใช้มือข้างหนึ่งรั้งใบหน้าของผมเข้าหาหน้าอกของมันที่แอ่นรับ และในขณะที่ผมดูดดุนตุ่มไตบนหน้าอกสีแทนสวย มือของอีกฝ่ายซึ่งยังเหนอะของเหลวขุ่นขาวก็ขยับไปด้านหลังของตน

        “อื๊อ!” ภากรเกร็งตัวและหายใจแรงขึ้นจนผมรู้สึกได้ สะโพกอีกฝ่ายเริ่มขยับน้อยๆ เป็นจังหวะรับกับนิ้วตัวเองที่ส่งเข้าไปในช่องทางเบื้องหลัง

        มันถึงขั้นโยนศักดิ์ศรีที่เคยทำลายความสัมพันธ์ของเราทิ้งไปและยอมให้ขนาดนี้ ผมเองก็ไม่อยากจะใจร้ายให้อีกฝ่ายต้องเจ็บตัวมากเกินจำเป็น มือหนึ่งจึงใช้นิ้วโป้งไล้วนและกดขยี้บนส่วนยอดของหน้าอกอีกข้าง ส่วนอีกมือเลื่อนลงไปชักรูดส่วนกลางกลายเพื่อช่วยให้มันผ่อนคลาย

        “หายใจก่อน ไม่ต้องรีบ” ผมเงยหน้าไซ้ตามซอกคอของมันขึ้นไปถึงข้างแก้ม ก่อนจะขบลงบนติ่งหูที่มีต่างหูวาววับล่อตานั่น “มา กูช่วย”

        ผมดึงมือของมันออกแล้วแทนที่ช่องทางด้านหลังด้วยนิ้วของตัวเองแทน สอดนิ้วกลางเข้าไปเป็นนิ้วแรก แช่ค้างไว้ครู่หนึ่งจึงตามด้วยนิ้วชี้อีกนิ้ว ขยับเข้าออกไม่กี่ทีคนบนร่างเขาก็ครางหวิว ขาสั่นจนผมรู้สึกได้ ให้คนอื่นทำให้ก็ต้องเสียวกว่าทำเองแหงล่ะ

        “อ...อึก ไอ้ศิน ตรง ตรงนั้น”

        “ตรงนั้นไหน นี่เหรอ”

        “ฮึก เร็ว เร็วอีก”

        นิ้วนางสอดเพิ่มเข้าไปเป็นนิ้วที่สาม งอข้อนิ้วเล็กน้อยจี้จุดกระสันที่ทำให้ภากรสวนสะโพกเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งช่องทางที่ตอดรัดแน่นเริ่มจะอ่อนนุ่มขึ้นกว่าเดิมบ้างผมจึงค่อยถอนนิ้วออก ภากรขยับตามมือที่ผละไปอย่างขัดใจ

        มันอ้าปากหอบหนักๆ หน้าแดงไปทั้งแถบ ยันมือไว้กับอกของเขาแล้วกระซิบบอกเสียงขาดห้วง

        “อ...เอา เอาเลยนะ”

        “ก็เอาสิ ไม่ได้ห้ามนี่”

        มันฟังแล้วยิ้มออกมาทั้งที่เม็ดเหงื่อผุดพรายเต็มหน้า และให้ตายสิ...รอยยิ้มหวานแบบที่ทำให้ผมแทบลืมหายใจนั่นอีกแล้ว

        “กูอยากเป็นของมึงนะศิน กูจะเป็นของมึง...ของมึงแค่คนเดียว”

        พูดจบคนตรงหน้าที่จ่อแท่งเอ็นของผมรอไว้พร้อมอยู่แล้วก็กดร่างตัวเองลงมา

        แม้จะเบิกทางด้วยนิ้วสามนิ้วแล้วแต่ช่องทางยังคงคับแน่น ภากรส่งเสียงอุทานเฮือกและหยุดค้างเพียงกดร่างให้ผมเข้าไปได้แค่ส่วนหัว ก่อนจะครางสั่นน่าฟังอีกครั้งตอนกดลึกมาได้เกือบครึ่ง โพรงอุ่นตอดรัดร่างกายของผมที่รุกล้ำเข้าไปในตัวอีกฝ่าย โคตรเสียวจนอยากกระแทกแรงๆ สักทีแต่ก็ยั้งไว้เพราะกลัวอีกคนจะเจ็บ

        “อะ...ศิน มึง อุก อึดอัด ชิบหายเลย”

        “ก็ถึงบอกให้ใจเย็นๆ อา...ไม่ต้องรีบ มึงแม่ง โคตรแน่น”

        “แต่กู กูอยาก...”

        ภากรขยับสะโพกขึ้นลงในที่สุด เชิดหน้าแหงนขึ้นร้องครางไม่ได้ศัพท์อยู่บนตักของผม ยิ่งมันจับจุดที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีได้ก็ยิ่งขยับเร็วขึ้น แรงขึ้น เอาแต่ใจ เร่าร้อน

        ตอนนั้นแหละที่ความอดทนผมขาดผึง เอื้อมมือคว้าจับบั้นท้ายของมันไว้ บีบขยำและนำจังหวะกระแทกถี่รัว เติมเต็มความต้องการของกันและกัน เน้นย้ำตรงจุดลึกที่สุดพร้อมทั้งรัวลิ้นปรนเปรอคนบนร่างอย่างหวังช่วยกระตุ้นความเสียวซ่าน และนั่นก็ดูจะได้ผล มันกอดขยุ้มหัวของผมแน่น ซอยสะโพกถี่ๆ เข้าหาผมที่เด้งตัวสวนรับทุกจังหวะ

        หน้ามันตอนนี้โคตรเซ็กซี่เร้าอารมณ์ โดยเฉพาะเมื่อมองจากมุมเสยที่อีกฝ่ายกำลังควบขี่อยู่บนตัวผม

        ไฟแห่งอารมณ์โหมกระหน่ำ เสียงกระซิบพร่ำร้องเรียกชื่อของผมดังจากปากของคนบนร่าง ช่องทางนั้นขมิบตอดรัด แล้วร่างของคนตรงหน้ากระตุกถี่ก่อนจะปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นเปรอะเต็มหน้าท้องของผม แทบจะพร้อมกันกับที่ผมปล่อยออกมาข้างในตัวมัน

        ภากรระบายลมหายใจพรูแล้วซบปุลงกับไหล่ของผมทั้งที่ร่างกายเรายังเชื่อมติดกันอย่างนั้น เหงื่อซึมชื้นตามขมับและไรผมที่เปียกลู่ติดหน้าผาก ริมฝีปากเผยอน้อยๆ โกยอากาศเข้าปอด น่าดึงดูดเสียจนผมอดไม่ได้ที่จะก้มจูบริมฝีปากของมันอีกครั้ง คนตรงหน้าย่นหัวคิ้ว ทำเสียงครางประท้วงในลำคอ

        “แฮ่ก...เหนื่อย เหนื่อยกว่าที่คิดอีกว่ะ” มันบ่นพึมหลังจากที่ผมยอมผละริมฝีปากออกไป

        “แล้วชอบหรือไม่ชอบ” ผมแกล้งถามกระเซ้า ลูบบั้นเอวสีแทนเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือลงต่ำ บีบคลึงเนินเนื้อตึงแน่น

        คราวนี้คนตรงหน้ายิ้มร้ายตอบ

        จากนั้นก็ควงสะโพกเป็นวงกลมแล้วกดลึกลงมาใหม่

        “อืม...ก็ไม่รู้สินะ”





        เช้าวันนี้ไม่เหมือนเช้าวันนั้น ผมตื่นมาโดยมีสติรับรู้เต็มร้อยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

        ภากรนอนหลับตาพริ้มหนุนหัวบนต้นแขนของผม อยู่ในอ้อมกอดของผม ไอ้ตัวแสบเจ้าปัญหาในตอนนี้ดูน่ารักไร้พิษภัยเหลือเกินในยามหลับ อดไม่ได้ที่จะช่วยเกลี่ยเส้นผมที่ตกระใบหน้าออกให้อีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา

        อยู่ๆ ก็นึกสงสัย...ผมน่ะจำได้ แต่คนตรงหน้าสิจะจำเรื่องเมื่อคืนได้หรือเปล่า

        “อือ...ศิน?”

        ความคิดทั้งมวลหยุดชะงักเมื่ออีกฝ่ายครางงัวเงียปรือตาขึ้นมอง

        เราสบตากัน ผมใจเต้นระทึก

        ก่อนที่ภากรจะหลับตาลงอีกครั้ง ยกแขนยกขากอดก่ายรอบตัวผมเหมือนเป็นหมอนข้างแล้วก็เอาแก้มไถกับอกของผมไปมา “งือออ มึงกอดอุ่นอะ ตัวนิ่มดีจัง...ฮิๆ ไอ้เด็กอ้วน”

        ยั่วกันแต่เช้าเดี๋ยวพ่อก็จับฟัดอีกรอบเลยนี่

        ชัวร์แล้วว่าคนตรงหน้ายังจำได้แน่ๆ แถมยังไม่มีท่าทีต่อต้านกลายๆ แบบที่ตื่นมาวันนั้นแล้วด้วย ผมลอบถอนหายใจโล่งอกก่อนจะด่ากลับไปว่า

        “มึงนั่นแหละที่ผอมเกินไป ไอ้ห่า กินข้าวกินปลาซะบ้างไม่ใช่วันๆ แดกแต่เหล้า”

        “ฮื่อ...น้องศินไม่เอาไม่ดุพี่ดิค้าบบบ”

        กลับมาอีกแล้วกับคำเรียกแบบเก่า ตอนคบกันบางครั้งมันชอบแทนตัวเองว่าพี่แล้วเรียกผมว่าน้อง มันบอกว่าน่ารักดี แต่ผมว่าอีกฝ่ายพยายามข่มด้วยคำแบ่งรุ่นเพื่อแก้เขินมากกว่า

        ซึ่งนั่นก็ฟังดูน่ารักจริงๆ นั่นแหละ ผมเลยปล่อยให้เรียกไปตามสบายเวลาที่มันนึกครึ้มอกครึ้มใจอยากจะเรียก

        “ก็มันจริงมั้ยล่ะหืม มึงแม่งไม่ชอบดูแลตัวเอง”

        “ก็รู้นี่ว่าพี่ดูแลตัวเองไม่เก่ง...” พ่อเสือร้ายกลายร่างเป็นลูกแมวคลอเคลียอยู่กับอกผมไปเรียบร้อย ก่อนจะช้อนตามองมาอย่างออดอ้อน “ศินช่วยมาดูแลหน่อยดิ”

        ผมฟังแล้วหัวเราะเหอะๆ ยีหัวอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยว

        “มึงก็อยู่ให้กูดูแลสิภากร อย่าทิ้งกูไปไหนอีก...กูขอแค่นี้มึงทำให้กูได้มั้ยล่ะ”

        คราวนี้อีกฝ่ายชะงักไปนิด

        แล้วจึงขยับใบหน้าฝังเข้ากับอกของผม ตอบกลับเสียงอู้อี้

        “อือ ไม่ทำแล้ว กูได้บทเรียนแล้วล่ะ...บทเรียนที่โคตรเจ็บเลยด้วย ขอบใจนะที่ให้โอกาสกูอีกครั้ง”

        ภากรระบายลมหายใจพรู

        วงแขนกอดกระชับรอบตัวของผมแน่นกว่าเดิมเล็กน้อยขณะเอ่ยประโยคต่อมา

        “กูจะไม่ขว้างหัวใจตัวเองทิ้งแล้วศิน จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว กูสัญญา...”








(The End)
***********************************************************************************
สมาชิกใหม่ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่า
ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้นะคะ เป็นเรื่องแรกที่ลงในเล้าเป็ดเลย  :o8:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2018 17:42:55 โดย Moonfang »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ดีใจที่ได้กลับมารักกัน... :pig4:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เฮ้อ ลุ้นว่าจะจบแฮปปี้ไหมมากอะ 555555555
สนุก  o13

ออฟไลน์ Hyenas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :katai5:
คิดว่าจะเศร้าเสียแล้ว ลุ้นมากกก ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ Stmmltww

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
งื้อ พี่ภากรโดนน้องกินเฉย555555

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จุดจบของเสือ ก็คือแมวเชื่องๆนี่เอง :hao6:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ลุ้นมากว่าจะจบแบบไหน :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เปิดเรื่องมาด้วยดราม่า คิดว่าจะจบด้วยน้ำตาซะแล้วค่ะ ฮ่าาา
พออ่านจบแล้วถึงกับต้องร้องเรียก ภากรลูกกกกกกก จากเพลย์บอยทิ้งเขาก่อนคนนั้นกลายมาคนบดๆ ยั่วๆขนาดนี้ได้ยังไงงงง
ถ้าเป็นศินจะจับตีเลยๆๆๆ  :hao7:

ออฟไลน์ lostinthelight

  • 엑소엘
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยิ้มจนแก้มจะแตกอยู่แล้ว เขินมากกก :mew3: :impress2:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
แฮปปี้นะจ๊ะ น้องภากร

ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
กูจะไม่ขว้างหัวใจตัวเองทิ้งแล้วศิน


 :ling1: เขิน

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ๊ยยยสนุกกกอ่ะ หน่วงเบาๆ แต่ฟินตอนจบ อุกรี๊ด :)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด