ซึโยชิที่สำรวจห้องคุมขังแสนหรูหราของตัวเองครบทุกซอกทุกมุมแล้วก็กลับมานั่งซุกตัวเองอยู่ตรงซอกเตียง สองมือประสานกันวางอยู่บนตัก มันแดงเถือกเพราะถูกใช้งานอย่างหนักจากการพยายามหาทางหนีไปจากห้องนี้
ในบรรดาผู้ติดตามของรังสิมันต์ทั้งสามคน เขาเป็นคนที่เข้ามาร่วมทีมหลังสุด ตอนที่คุณรังสิมันต์พบกับคุณน้ำฟ้าแม่ของคุณหนูไวโอลินเป็นตอนที่เขาเพิ่งเริ่มเข้ามาทำงานได้ไม่กี่ปี มาคัสเป็นมือขวาของเจ้านายเพราะจริงๆแล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆกัน ทั้งสองคนเรียนด้วยกันและร่วมกันทำงานมาตลอด บางครั้งที่เจ้านายไม่อยู่ มาคัสก็เป็นคนสั่งการแทนได้ อีกคนคือเตโช มือซ้ายของรังสิมันต์ ชำนาญศาสตร์การต่อสู้ทุกแขนง โดยเฉพาะการบังคับยานพาหนะประเภทต่างๆ เทคนิคการยิงปืนหรือการขับรถเขาก็ได้มาจากเตโชนี่แหละที่ถ่ายทอดมาให้ ส่วนเขา โดยพื้นฐานเขาถนัดพวกเทคโนโลยีต่างๆมากกว่า สืบค้นข้อมูลและเจาะระบบ
ก่อนหน้านี้ตอนที่เจ้านายบอกให้เขามาเป็นคนดูแลคุณหนูไวโอลิน เขายังเคยแอบน้อยใจเลยว่าเป็นเพราะเขาห่วยที่สุด มีความสามารถน้อยที่สุดหรือเปล่า เจ้านายถึงบอกให้เขาไปดูแลคนอื่น
และตอนนี้เขารู้แล้ว...ว่าคงเป็นเพราะเขาห่วยจริงๆ
แค่ดูแลคุณหนูผู้แทบจะไม่มีศัตรูเลยแค่คนเดียวเขายังทำไม่ได้เลย
หนุ่มญี่ปุ่นถอนใจให้กับความดวงซวยตอนวัยปลายสามสิบ ตอนเขามีช่วงอายุเข้าวัยเบญจเพส เตโชบอกเขาว่าคนไทยเชื่อว่านั่นคือช่วงที่ดวงตกที่สุด แต่สำหรับเขามันน่าจะเป็นปีนี้มากกว่า โดนจับมาขังในห้องสุดหรู แต่หาวิธีหนีออกไปไม่ได้ อัปยศอดสูที่สุด
ถ้าไม่ติดว่าต้องออกไปตามหาคุณหนูให้เจอ เขาคงต้องหยิบดาบมาทำฮาราคีรีตัวเอง
...ติ๊ง...
เสียงประตูอัตโนมัติดังขึ้น ซึโยชิสะดุ้งสุดตัวแล้วหมอบลง เตียงนี่มันสูงเกือบเมตร แถมยังมีม่านย้อยระโยงรยางค์
เสียงฝีเท้าแผ่วเบาค่อยๆเดินมาหยุดอยู่ที่ปลายเตียง เงาเลือนรางที่ซึโยชิเห็นผ่านผ้าม่านคลุมเตียงคือผู้ชายคนเดิม แต่ตอนนี้เขาอยู่ในชุดสูทสากล ท่าทางเหมือนเพิ่งกลับมาจากทำงาน ชายคนนั้นหยุดปลายเท้าแค่ตรงปลายเตียง แล้วหันศีรษะมองไปรอบห้อง แน่ล่ะ สภาพมันดูไม่จืดเลยทีเดียว
กระจกบานใหญ่มีร่องรอยงัดแงะตรงขอบและมีรอยร้าวกระจัดกระจายอยู่ทั่วแต่มันไม่แตก ข้างๆมีเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ทำจากเหล็กคว่ำอยู่ ตรงมุมห้องและตามซอกหลืบต่างๆมีเศษซากสีดำและกระจกกลมๆแตกละเอียด คนเป็นเจ้าของห้องหัวเราะลึกในลำคอเบาๆกับสภาพห้องตัวเอง ดูท่าไม่ได้อนาทรร้อนใจหรือโมโหโกรธาเหมือนที่ซึโยชิคาดไว้ด้วย
“ความพยายามดี แต่...เสียใจด้วย ที่มันไม่ได้ผล” ชายคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงบนเตียง เอามือปลดเนคไทด์และกระดุมเสื้อออกสองสามเม็ด
“นี่ ถอดเสื้อให้หน่อยสิ”
“...”
“อย่าให้พูดซ้ำ ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในอารมณ์สุนทรีย์นักหรอก”
“...”
“...”
“เอ๊ะ...เฮ้ย! เฮ้ย ไม่ๆ ปล่อย!” ซึโยชิเริ่มซึ้งแล้วกับนิสัยของคนคนนี้ คำว่าไม่พูดซ้ำของหมอนี่คือตามนั้นจริงๆ เพราะพอหลังจากที่เขาไม่ยอมตอบและไม่ยอมขยับตัวหมอนั่นก็ลุกเดินก้าวยาวๆมาที่เขาแล้วจับตัวเขาขึ้นพาดบ่า เสร็จแล้วก็จับโยนเขาลงไปบนเตียง
“ทำบ้าอะไรเนี่ย!!”
“ถอดเสื้อ...ให้ฉัน” คนพูดใช้มือตัวเองกดข้อมือของคนที่ดิ้นรนขัดขืนเอาไว้ข้างหมอน แล้วเอาเข่ากดสองขาที่เริ่มขยับเพื่อหวังทำร้ายจุดยุทธศาสตร์ของเขาให้อยู่นิ่ง สรุปว่าร่างของซึโยชิถูกตรึงเอาไว้บนเตียงโดยสมบูรณ์
ซึโยชิไม่ใช่คนใช้แรงทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ ซึ่งโดยทั่วไปคนประเทศเขาก็ไม่ได้ตัวใหญ่อยู่แล้ว เป็นไซส์ผู้ชายเอเชียปกติที่มีความสูงไม่เกิน 180 เซนติเมตร ส่วนคนที่คร่อมตัวเขาเอาไว้จนจมเตียงนี่ประเมินด้วยสายตาคร่าวๆแล้วพอๆกับคุณมาคัสเลยทีเดียว ซึ่งคุณมาคัสเป็นลูกครึ่งยุโรป ไซส์ใหญ่พิเศษทั้งส่วนสูงและกล้ามแขน
เขาไม่ควรดิ้นอย่างโง่ๆให้เหมือนปลาถูกทุบ การโอนอ่อนผ่อนตามน่าจะเป็นทางที่ดีกว่า
“ปล่อยมือสิ ไม่งั้นจะถอดให้ได้ยังไง”
ซึโยชิแทบจะกัดฟันกรอดตอนที่เอ่ยปากพูด อีกฝ่ายยิ้มเยาะตรงมุมปาก แล้วยอมปล่อยมือที่กดเอาไว้ข้างหนึ่งให้เป็นอิสระ หนุ่มญี่ปุ่นพยายามตีหน้าเฉยชาตอนที่ถอดเนคไทด์ออกจากคอคนที่จ้องเขาด้วยนัยน์ตาสีประหลาด ความจริงเอาอยากดึงให้มันแน่นๆมากกว่าที่จะถอดออกมามากกว่า แต่...
เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ สีตานี้ ทำไมเขารู้สึกคุ้นๆเหมือนเคยเห็นมาก่อน
“ถอดเสื้อด้วย คนที่นี่เขาไม่นิยมอาบน้ำทั้งสภาพนี้หรอกนะ”
“ไม่บอกให้ผมไปช่วยคุณอาบน้ำด้วยเสียเลยล่ะ” ซึโยชิเงยมองสบคนที่อยู่เหนือกว่า รู้สึกหมั่นไส้ความมั่นอกมั่นใจของมันเต็มกำลัง แล้วยิ่งตอนที่ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมามองเขาใกล้ๆแล้วหรี่ตาเหมือนกำลังประเมินเขาราวประเมินสินค้าด้วยแล้ว มันน่าจิ้มให้ลูกตาแตกนัก
“ถ้าได้ฉันจะยอมให้ใช้สัญญาณอินเทอร์เนตในนี้ก็ได้นะ”
“ผมประชด” ซึโยชิพูดด้วยอารมณ์โกรธ แต่ถึงจะโกรธอย่างไรเขาก็ต้องมีสติ “แต่ข้อเสนอของคุณก็น่าสนใจดี แค่ช่วยอาบน้ำอย่างเดียวใช่มั้ย”
“กับถอดเสื้อผ้าด้วย” หนุ่มอาหรับผิวสีแทนมองผู้ชายเอเชียผิวขาวที่พูดตอบกลับมาอย่างไม่คาดคิดด้วยความนึกสนุก หมอนี่ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเท่าไหร่
ซึโยชิเม้มปากแล้วกระชากมือซ้ายให้หลุดออกมาจากการจับกุม เขาพยายามจะดันอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นนั่งดีๆจะได้ถอดเสื้อให้ได้ง่ายๆแต่ว่าเจ้าของห้องกลับไม่ยินยิม ยังคงทิ้งน้ำหนักตัวและกำลังแขนคร่อมทับเขาไว้เหมือนเดิม หนุ่มญี่ปุ่นจ้องสบตาคนที่มีพละกำลังเหนือกว่า อารมณ์ขุ่นมัวชัดเริ่มพุ่งสูงจนคำว่าสติแทบจะคุมไม่อยู่ ตอนที่ยกมือปลดกระดุมให้มันถึงใกล้เคียงกับคำว่ากระชาดเสียมากกว่าปลดด้วยซ้ำ
เสื้อเชิ้ตค่อยๆถูกดึงให้หลุดจากแขนทีละข้าง เผยให้เห็นร่างกายกำยำแข็งแกร่งพร้อมแปดแพคแน่นๆที่ซึโยชิไม่ค่อยจะมีเพราะพักหลังๆเขานั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่าลู่วิ่งในยิม วีเชฟที่แนบขอบอันเดอร์แวร์หายเข้าไปตรงขอบกางเกง ซึโยชิถอนสายตาจากส่วนนั้นให้มองสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย ช่วงอกและไหล่ปลาร้าของหมอนี่เหมือนคุณมาคัสจริงๆ มันดูกว้างและแข็งแรง ขนพรมจางๆตรงระหว่างอกก็ไม่ได้ดูน่าเกลียด มันมีสีน้ำตาลอ่อนและหยักศกเล็กน้อยดูนุ่มนิ่มน่าสางมือเล่นด้วยซ้ำ เสียแต่เขาไม่ได้มีรสนิยมพิศวาสเพศเดียวกันสักเท่าไหร่ บวกกับอคติที่มีอยู่แล้วเป็นพื้นเดิมทำให้ซึโยชิมองว่ามันน่าเกลียดและรกรุงรังไม่ต่างจากลิงอุรังอุตังเลยทีเดียว
“ไม่ต้องทำหน้ารังเกียจเปิดเผยขนาดนั้นก็ได้ เพราะถึงยังไงเธอก็ต้อง...ล้างมันให้สะอาด ทุกส่วน” ปลายเสียงแผ่วเบาลงกระซิบตรงข้างหู ซึโยชิเบือนหน้าหนี อยู่มาสามสิบกว่าปีไม่เคยถูกใครจับกดใต้ร่างในสถานการณ์น่าอับอายขนาดนี้มาก่อนเลย
“หน้าไม่อาย” เขาอยากจะด่าให้มันแรงกว่านี้อยู่หรอกนะ แต่ติดตรงที่คำด่าภาษาอังกฤษในสต็อกคำศัพท์ของเขามีไม่มาก แต่ถ้าให้ด่าเป็นภาษาถิ่นเกิดของเขาหรือภาษาไทยล่ะก็ จัดให้ได้ครบทั้ง 4 ภาคเลยแม่งเอ๊ย!
“ขอบคุณที่ชม” คนหน้าด้านรับคำด่าเป็นคำชมเอ่ยตอบ นัยน์ตาพราวระยับกับการต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่มีเกรงกลัว แต่ลูกกวางก็คือลูกกวางอยู่ดี จะมาสู้ราชสีห์อย่างเขามันเร็วไปหมื่นปีล่ะนะ
“แต่คำว่าหน้าไม่อายเนี่ย...มันควรจะใช้กับการกระทำแบบนี้มากกว่า” คนพูดก้มหน้าลงไปจนปลายจมูกแทบจะชนกับจมูกของคนใต้ร่าง ซึโยชิเม้มปากแน่นตอนที่หมอนั่นค่อยๆก้มหน้าลงมาหา ฝ่ามือข้างหนึ่งของหมอนั่นสอดเข้ามาใต้คอ ส่วนอีกข้างนำทางมือเขาไปที่หัวเข็มขัด หนุ่มญี่ปุ่นชักเริ่มหัวใจเต้นแรง ไม่รู้จะโกรธหรือจะอายหรือจะต้องรู้สึกอะไรก่อนหลังดีเลย
นี่หมอนี่มันเอาจริงเหรอวะเนี่ย!
“เดี๋ยว หยุดก่อน แค่กางเกงคุณถอดเองดีกว่า” ซึโยชิรีบพูดเสียงแอบสั่นเมื่อตอนนี้มือเขาสัมผัสกับหัวเข็มขัดหนุ่มอาหรับเต็มๆ ถ้าพลาดลงล่างไปอีกนิดเดียวนี่โดนไอ้นั่นแน่ๆ แค่ตรงนี้มือเขาก็เย็นจนรู้สึกว่าหัวเข็มขัดมันร้อนจนแทบลวกมือเขาแล้ว
“สัญญาควรเป็นสัญญา จะถอดให้ฉันดีๆหรือจะต้องให้บังคับ” กรงนิ้วแข็งแรงล็อกมือเขาไว้ตรงเป้ากางเกงแน่นหนา น้ำเสียงคำพูดข่มขู่ชัดเจนว่าไม่มีการพูดซ้ำ
หนุ่มญี่ปุ่นวัยสามสิบกว่าหายใจหอบแรง ไม่เข้าใจเป้าหมายและจุดประสงค์ของการบังคับเขาทำเรื่องแบบนี้เอาเสียเลย นี่หมอนี่หวังจับคุณหนูมาเคลมแล้วหวังเรียกค่าไถ่ ทั้งที่ก็ดูเป็นคนมีเงินขนาดสั่งทำหน้าต่างด้วยกระจกกันกระสุนระดับ A+++ ได้เนี่ยนะ โง่! โง่มาก
ไม่ใช่หมอนี่หรอกนะ...เขานี่แหละ ที่พลาดด้วยสถานการณ์ประมาทแบบโง่ๆจนโดนชายอาหรับสุดวิปริตนี่จับตัวมา!
“เดี๋ยวก่อน ขอถามอะไร..หน่อยได้มั้ย” ซึโยชิเบี่ยงหน้าหนีไม่ให้แก้มโดนปลายจมูกของคนที่ยังโน้มตัวเองอยู่เหนือร่างเขาไม่เลิก ชาติก่อนเกิดเป็นสิงโตหรือไงถึงชอบอยู่ท่านี้นานๆเนี่ย
“ถ้าฉันตอบ แล้วฉันจะได้ประโยชน์อะไร”
คอนเส็ปนักธุรกิจชัดๆ ลงทุนต้องได้กำไร คอนเส็ปที่แสนคุ้นเคย
“แล้วจะเอาอะไร” ซึโยชิถามกลับ อีกฝ่ายยิ้มมุมปากแต่ไม่พูดอะไร กลับเอาแต่จ้องเขาแล้วแสดงท่าทีว่าอนุญาตให้เขาพูดได้ “คุณให้คนไปจับผมมาทำไม”
“ที่ให้จับมาไม่ใช่นาย” หนุ่มอาหรับสวนคำพูด “แต่เป็นคุณหนูของนายต่างหาก..”
“...” หนุ่มญี่ปุ่นแทบอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน นี่หมายความว่า...ที่ผ่านมา หมอนี่รู้ว่าเขาคือใครมาตลอดงั้นหรือ
“ลูกน้องฉันอาจจะโง่ แต่ฉันไม่...ฉันต้องรู้สิว่าคนที่ฉันต้องการเจอคือใคร และหน้าตาเขาเป็นแบบไหน ..เอาล่ะ ฉันตอบคำถามของนายแล้ว คราวนี้ถึงตาฉันถามบ้าง” หนุ่มอาหรับยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจกับสีหน้าตื่นตระหนกของหนุ่มญี่ปุ่น ใบหน้าจิ้มลิ้ม ผิวขาวนวลเนียนราวน้ำนม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโตไม่มีริ้วรอย แถมแก้มแดงเลือดฝาดจางๆยามที่โดนเขาหยอกล้อแล้วเจ้าตัวเปลี่ยนอารมณ์ไปมา ยอมรับว่าเขาชักเริ่มติดใจผู้ชายเอเชียคนนี้เข้าไม่น้อยเลยทีเดียว
“ตอบคำถามมาอย่าโกหก คุณหนูตัวน้อยของนายอยู่ที่ไหน มิสเตอร์อาคิยามะ ซึโยชิ”
“...” ถึงตรงนี้ซึโยชิอ้าปากค้างเพราะตกใจอย่างจริงจัง เขาไม่คิดว่าหมอนี่จะรู้จักเขา รู้จักแม้กระทั่งชื่อและนามสกุลอย่างชัดเจนเสียด้วย
“ทำหน้าตาตลกจริงนะ ตกใจมากเหรอที่ปิดบังความจริงไม่สำเร็จ” หนุ่มอาหรับเอ่ยน้ำเสียงคล้ายตลกจริงๆกับสีหน้าที่ได้ยิน ทว่าประโยคต่อมาใบหน้าหล่อเหลาแบบอาหรับก็ถูกปรับให้ไร้รอยยิ้ม เผยความจริงจังเข้ามาแทนที่ “บอกมา ว่าคุณหนูของนายอยู่ที่ไหน”
“...” หนุ่มญี่ปุ่นหุบปากฉับ เม้มปากแน่น ชักเริ่มหนาวสันหลังและขนต้นคอลุกชัน ผู้ชายคนนี้...เป็นใครกันแน่
“ฉันจะไม่พูดซ้ำ และนายคงไม่อยากรู้หรอก ว่าฉันจะทำยังไงเพื่อให้นายพูดออกมา”
“ฉันไม่รู้ และถึงรู้ฉันก็จะไม่มีวันบอก” ซึโยชิแน่วแน่ในเรื่องนี้ มั่นใจว่าต่อให้ต้องโดนทรมานแค่ไหนเขาก็จะไม่มีทางปริปาก
อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกว่ายังได้ปกป้องคุณหนูไวโอลินได้อยู่บ้าง
“แล้วนายจะต้องเสียใจ...ที่พูดออกมาแบบนี้”
สีตาของหนุ่มอาหรับเข้มขึ้นในทันที การโดนขัดใจไม่ใช่ความรู้สึกทั่วไปที่เขาเคยชิน หนุ่มเอเชียคนนี้พลาดมากที่คิดเริ่มเกมส์ถามตอบแต่ทำให้เขาขาดทุน
เจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ตวัดเสื้อเชิ้ตทิ้งลงไปข้างเตียง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วใช้สองมือฉุดกระชากร่างของหนุ่มญี่ปุ่นเข้าห้องแต่งตัวและทะลุเข้าสู่ห้องน้ำไปราวกับลากหมอนข้าง
-----------------------------------------------------------
สงสารคุณโยชิมาก
สองคนโน้นเล่นไม่ได้ตัวใหญ่ไปแถมโหดด้วย อีกอย่างคุณคนนั้นเขารีเควสบอกอยากแสดงกับหนุ่มญี่ปุ่น อ่ะจัดไปค่ะอย่าให้เสีย!