ตอนที่ 14: บอกรัก“พี่ศิลาโทรหาคุณพ่อสิครับว่าเป็นยังไงกันบ้าง กินข้าวเย็นกันหรือยัง ไปเที่ยวสนุกไหม” ศิลายิ้มขำเมื่อคนที่เขาอยากพามาสวีทด้วยเอาแต่พูดถึงลูกชายไม่ขาดปาก
“เดี๋ยวก็ได้ พี่เพิ่งโทรไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน ฝุ่นลืมแล้วเหรอ”
“เปล่าครับ” ฝุ่นส่ายหน้า อดเขินไม่ได้เมื่อถูกศิลาท้วงขึ้นมาด้วยเสียงพูดปนขำ
“เรากินข้าวให้เสร็จก่อน เดี๋ยวค่อยโทรไปหาลูก จะได้คุยกันสบายๆ ดีไหมครับ”
“ครับ”
“ฝุ่นไม่ชอบที่นี่เหรอ” ศิลาแกล้งถาม เขารู้คำตอบดีอยู่แล้ว สังเกตจากอาการตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายของอีกฝ่าย เมื่อเขาพาขึ้นมายังร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้าของตึกสูงแห่งหนึ่ง ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้รอบหนึ่งร้อยแปดสิบองศา
“ชอบสิครับ ร้านสวยมากๆ ผมถ่ายรูปไปตั้งหลายเยอะ ยังนึกอยากพาพ่อกับแม่มาเลย ขอเก็บเงินอีกนิดจะพามาให้ได้เลยครับ”
“ไม่ต้องเก็บเดี๋ยวพี่พามาเอง” ฝุ่นจ้องเขาโตจ้อง ก่อนรีบส่ายหน้าแรงๆ ท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจกลัวเขาเข้าใจผิด
“ผมไม่ได้พูดเพราะอยากให้พี่ศิลาพามานะครับ ผมขอบคุณมากแต่ผมจะเก็บเงินพาที่บ้านมาเอง”
“พูดแบบนี้พี่น้อยใจนะ”
“น้อยใจอะไรครับ” คนตาโตอยู่แล้วยิ่งโตเข้าไปใหญ่ เมื่อเห็นสีหน้าปราศจากรอยยิ้มของเขา
“พ่อแม่ของฝุ่นก็เหมือนพ่อแม่ของพี่ ทำไมพี่ถึงจะพาพวกท่านมากินไม่ได้”
“ก็ผมเกรงใจ” ฝุ่นพูดเสียงอ่อย ลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนยื่นมือมาวางทับบนมือของเขาด้วยท่าทางเก้อเขิน “ผมไม่ได้คิดเป็นอื่นจริงๆ นะครับ”
“ไม่รู้สิ จนป่านนี้ฝุ่นก็ยังไม่บอกที่บ้านเรื่องพี่ ทุกวันนี้เจอหน้าที่บ้านของฝุ่นพี่ยังเป็นเจ้านายลูกชายท่านอยู่เหมือนเดิม” ศิลาทำหน้านิ่งเพราะอยากให้รู้ว่าเขาจริงจังเรื่องนี้
“ก็ผม..ผม..”
“ฝุ่นไม่มั่นใจในตัวพี่เหรอถึงยังไม่บอกทางบ้าน”
“เปล่าครับ เปล่า” ฝุ่นโบกมือทั้งสองข้างไปมา
“หรือเพราะพี่เป็นผู้ชาย”
“ก็มีส่วนครับ” ฝุ่นไม่คิดจะปฏิเสธ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเป็นเพราะเขายังรู้สึกเหมือนว่ามันไม่ใช่ความจริง “ผมยังกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็เชื่อว่าถ้าผมบอก พ่อกับแม่และน้องๆ จะเข้าใจและยอมรับได้ครับ” ฝุ่นรีบบอกเพราะไม่อยากให้ศิลาคิดมาก
“ถึงยังไงเราก็ต้องบอกท่านให้รับรู้ พี่อยากให้ท่านรู้ว่าฝุ่นอยู่บ้านพี่ในฐานะอะไร มีความสำคัญแค่ไหน ตกลงไหมครับ”
“ตกลงครับ”
“ถ้าพี่ถามอีกทียังไม่ได้คุย พี่จะบุกไปเรียนท่านด้วยตัวเอง”
“พี่ศิลาอย่าขู่ผมสิครับ” ฝุ่นเรียกเสียงอ่อน พอเป็นเรื่องพวกนี้ศิลาจะดูเป็นผู้ใหญ่และน่าเกรงขามขึ้นมาทันที เล่นเอาฝุ่นชักกลัว
“ไม่ได้ขู่ เรื่องแบบนี้พี่ไม่ปล่อยนานแน่ อยู่ที่ฝุ่นเลยว่าจะบอกเองหรือให้พี่ไปบอก”
“ครับๆ เดี๋ยวผมบอกเอง”
“ดีมาก บอกแล้วก็เรียนท่านด้วยว่าพี่จะขอเข้าไปสวัสดี”
“ก็เคยทักทายกันแล้ว” ศิลาไปส่งเขาที่บ้านบ่อยๆ ในวันที่ฝุ่นหยุดเขาจะกลับไปนอนที่บ้านสัปดาห์ละครั้งหรืออย่างน้อยสองสัปดาห์ครั้งเพื่อให้หายคิดถึงทางบ้าน บางครั้งเขาก็พาหนูน้อยโมเดลไปค้างด้วย
“อย่ามาทำเป็นไม่เข้าใจครับ ฝุ่นฉลาดจะตายทำไมจะไม่รู้ว่าพี่พูดถึงอะไร”
“ครับผม พอใจหรือยังครับผู้ใหญ่เอาแต่ใจ”
“ก็ยังดีกว่าเด็กเฉไฉบางคนล่ะน่า” ฝุ่นแอบแลบย่นจมูกใส่ก่อนทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเจอสายตาวาววับที่มองมา การอยู่ด้วยกันแค่สองคนทำให้คุยกันได้เต็มที่เพราะไม่ต้องคอยระวังคำพูด แต่เขาก็อดคิดถึงหนูน้อยโมเดลไม่ได้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างหนอ
✪✣✤✥✦✣✤✥✦✧✪
“ถอนใจทำไมครับ ไม่สนุกเหรอ” ศิลาถามเมื่อคนที่เพิ่งกลับจากดินเนอร์หรูแต่กลับเอาแต่ถอนใจ
“เปล่าครับ ผมคิดถึงหนูโม”
“หึๆ มานี่มา” ศิลาดึงฝุ่นลงนั่งข้างกาย เขานั่งพักให้หายเมื่อยจากการขับรถอยู่ที่โซฟารับแขก ในขณะที่ฝุ่นเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำสะอาดมาให้ดื่ม
“ไม่ชอบเหรอที่จะได้พักสบายๆ หนึ่งวัน”
“ก็ผมไม่ได้เหนื่อยนี่ครับ”
“เลี้ยงเด็กใครว่าไม่เหนื่อย ไม่อย่างนั้นพี่จะจ้างพี่เลี้ยงเหรอ”
“หนูโมเลี้ยงง่ายครับ เป็นเด็กดี รู้จักคิดรู้จักทำ ผมเลยไม่เหนื่อย”
“ตัวป่วนน้อยๆ สิไม่ว่า” ศิลายิ้มเมื่อคิดถึงความป่วนของลูกชายในอดีต “ก่อนฝุ่นจะมาบ้านพี่เละเทะน่าดู เจ้าตัวเล็กเอาซะพี่เลี้ยงกระเจิง”
“ไม่ใช่เด็กหรอกครับที่เละเทะ ผู้ใหญ่มากกว่า”
“อ่า..ไม่น่าพูดเลยเรา เข้าตัวจนได้”
“ก็มันเรื่องจริงนี่ครับ ถ้าผู้ใหญ่มีระเบียบเด็กก็จะมีระเบียบตาม”
“ทราบแล้วครับ ตอนนี้น่ารักทั้งพ่อทั้งลูกแล้ว ไม่แสบไม่ป่วน เป็นเด็กดีของฝุ่นทั้งคู่” คนพูดดึงอีกคนเข้ามากอดทำตัวอ้อนเต็มที่
“อย่ามาตีเนียนครับพี่ศิลา” ฝุ่นพยายามผละตัวออกแต่ไม่สำเร็จ
“ไม่ได้ตีเนียน พี่อยากกอดฝุ่นอย่างนี้ตั้งแต่ที่ร้านแล้ว ดีนะที่ยับยั้งชั่งใจเอาไว้ได้”
“เกินไปครับ” ฝุ่นหมั่นไส้ที่คนพูดทำเหมือนเป็นบุญคุณหนักหนาที่ไม่กอดเขาในที่สาธารณะ
“เกินที่ไหน ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าฝุ่นน่ากอดขนาดไหน พอกอดแล้วก็ไม่อยากปล่อย” คนได้กอดดึงคนตัวเล็กกว่าขึ้นมานั่งบนตัก กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น “เฮ้อ ค่อยสมกับที่ต้องอดทนหน่อย”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ฝุ่นสางมือเข้าไปในเส้นผมของศิลา ขำมากกว่าจนลืมเขิน
“แปลว่าไม่รู้ถึงเสน่ห์ของตัวเอง มาครับพี่จะสาธิตให้ดูว่าฝุ่นมีเสน่ห์ขนาดไหน” คนพูดจับหน้าเขาให้ก้มลงมาหา
ก่อนริมฝีปากหนาจะทาบทับเข้ามาโดยที่ฝุ่นไม่ทันได้ตั้งตัว ตาของเขาเบิกกว้างเมื่อริมฝีปากสัมผัสกัน
“พี่ศิลา” เสียงประท้วงของฝุ่นแผ่วเบา มือพยายามผลักอกหนาของอีกฝ่ายออก แต่เหมือนมันไม่มีน้ำหนักเหลืออยู่ มือของเขาสั่นน้อยๆ จนฝุ่นต้องทาบทับเอาไว้อย่างนั้น
“พี่รักฝุ่นนะ” เสียงแหบพร่ามาพร้อมกับจูบราวกับพายุ ยาวนานจนฝุ่นหายใจไม่ทัน สมองของเขาพร่าเบลอ
“หยุด..หยุดก่อนครับ” ฝุ่นใช้แรงอันน้อยนิดยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของศิลา
“ทำไมครับคนเก่ง” คนถามดึงมือของเขาออก แตะไล่ริมฝีปากไปทั่วแก้ม ทำเอาฝุ่นคิดอะไรไม่ออก
“ผม..ผมไม่เคย”
“เด็กน้อยของพี่” คำสารภาพของเขาแทนที่จะทำให้อีกฝ่ายหยุด กลับกลายเป็นฝุ่นถูกจู่โจมไปทั่วใบหน้า ริมฝีปากร้อนแตะไล่ตั้งแต่หน้าผาก ปลายจมูก แก้ม และสุดท้ายที่ริมฝีปาก แรงบดเบียนทำให้ร่างกายของเขารุ่มร้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลิ้นสากนิดๆ ถูกส่งผ่านเข้ามาควานหาความหวาน ฝุ่นเงอะงะไม่แน่ใจว่าเขากำลังพยายามหนีหรือกำลังตอบสนองอยู่กันแน่ ร่างกายมันเป็นไปโดยอัตโนมัติ
“พี่ศิลา”
“ครับ” เสียงกระซิบตอบรับชิดริมฝีปาก
“ผมกลัว” ฝุ่นสารภาพออกมาแผ่วเบา
“อย่ากลัวเลย พี่ขอแค่ชื่นใจฝุ่นเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ให้พี่ได้ไหมครับ”
“ไม่..ไม่รังแกผมนะครับ”
“ไม่ครับ”
“อื้อ” ฝุ่นพูดได้แค่นั้นก่อนริมฝีปากหนาจะทาบทับลงมาอีกครั้ง ความหอมหวานทำให้ฝุ่นเตลิดไปไกล เขาทำได้เพียงแค่เผยอปากรับสัมผัสจากศิลา ปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นผู้นำทาง และสอนบทเรียนแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
“อ๊ะ” ฝุ่นสะดุ้งเมื่อมือเย็นสอดเข้ามาภายใต้เสื้อเชิ้ตที่เข้าสวมใส่ ร่างกายของเขาบิดเกร็งเมื่อมือนั้นลากไล้ไปทั่วแผ่นอก ก่อนสะกิดเข้ากับยอดอกของเขา
“พี่..พี่ศิลา” ฝุ่นไม่รู้เลยว่าเสียงแตกพร่าของเขาทำให้ร่างสูงหมดความอดทน ศิลาช้อนตัวฝุ่นขึ้นอุ้ม สาวเท้ายาวๆ ตรงไปยังบันไดขึ้นชั้นบน
“ทำอะไรครับ!” ฝุ่นพูดเสียงหลง รีบโอบมือไปรอบคอกอดไว้เพราะกลัวตก
“พาฝุ่นไปห้องนอน” คนพูดก้าวอย่างมั่นคงราวกับไม่ได้อุ้มเขาอยู่
“ห้องนอน! “ฝุ่นตาโตรับรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น “นะ.ไหนว่าไม่รังแกผมไงครับ”
“ต้องโทษฝุ่นเองนะอยากน่ารักทำไม”
“ความผิดผมที่ไหน” ฝุ่นประท้วง เขาไมได้ทำอะไรเลย คนตัวโตต่างหากรุกเขาจนทำอะไรไม่ถูก
“ใช่สิ ทำให้พี่หลงรักขนาดนี้ ต้องรับผิดชอบพี่แล้วล่ะ”
“ดูพูดเข้าครับ ผมไม่อยากคุยกับพี่ศิลาแล้ว” ฝุ่นซุกหน้าเข้ากับซอกคอของศิลา ไม่อยากยอมรับว่าเขาเองก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายหยุดเช่นกัน ฝุ่นไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าเขาอยากให้ศิลากอดเขาเอาไว้แบบนี้อย่าปล่อย
“หึๆ พี่ก็ไม่อยากพูดกับฝุ่นเหมือนกัน มาทำอย่างอื่นกันดีกว่า”
“พี่ศิลา!!” ฝุ่นร้องได้แค่นั้นก่อนที่ประตูห้องจะปิดลง หลังจากนั้นศิลาก็ใช้ร่างกายบอกรักเขาเกือบทั้งคืน
✪✣✤✥✦✣✤✥✦✧✪
“ออกจากหัวหินกันตั้งแต่เช้าเลยเหรอครับ ผมนึกว่าจะกลับมาเย็นๆ” ศิลาแปลกใจเมื่อเห็นบิดาพาลูกชายมาส่งที่บ้านตั้งแต่ยังไม่เที่ยงตรง
“เจ้าตัวเล็กน่ะสิปกติก็อยู่กับปู่กับย่าได้สบายมาก แต่คราวนี้เอาไม่อยู่จริงๆ งอแงจะกลับบ้านท่าเดียว” พ่อของเขาลูบหัวหลานด้วยความเอ็นดู
“คิดถึงพ่อเหรอครับ” ศิลาย่อตัวลงนั่งหน้าเก้าอี้ที่ลูกชายนั่งอยู่
“เปล่า ร้องหาอาฝุ่นทั้งคืน”
“หมดกัน” ศิลาหัวเราะออกมาเสียงดัง เมื่อบิดาของเขาเฉลย
“อาฝู่นหนาย” หนูน้อยโมเดลมองไม่เห็นอาฝุ่น หน้าเล็กๆ หันไปรอบๆ มองหาคนที่คิดถึง
“อาฝุ่นไม่สบายครับ นอนอยู่ที่ห้อง”
“ไม่ชาบายเหยอ”
“ใช่ครับ โมเดลอย่าเพิ่งกวนอาฝุ่นนะลูก รอให้หายก่อน”
“ม่าย โมม่ายกวนฝู่น”
“เดี๋ยววันนี้พ่อเลี้ยงโมเดลเอง อาฝุ่นจะได้พัก”
“พักเยย โมเด็กดี น้างนิ่งๆ นิ่งๆ เยย”
“เก่งมากครับ”
“แล้วฝุ่นเป็นอะไรล่ะศิลา พาน้องไปหาหมอหรือยัง”
“กินยาแล้วครับพ่อ ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ผมอยากให้พักจะได้หายเร็วๆ”
“ยังไงก็ดูอาการน้องด้วย ถ้าไม่ดีขึ้นอย่าลืมพาไปหาหมอ” พ่อของเขากำชับด้วยความเป็นห่วง
“ให้แม่พาโมเดลไปอยู่ที่บ้านก่อนไหม ศิลาเลี้ยงเองจะไหวหรือเปล่า” ถึงแม้จะเป็นคนญี่ปุ่นแต่เนื่องจากแต่งงานอยู่เมื่อไทยมานาน แม่ของศิลาจึงพูดไทยได้อย่างชัดเจน
“ไม่เป็นไรครับผมดูไหว เดี๋ยวคนป่วยจะทนไม่ไหวแล่นไปหาโมเดลที่บ้าน ตั้งแต่ไปก็เอาแต่บ่นคิดถึงทั้งวัน”
“หึๆ ถ้าอย่างนั้นก็พอกันทั้งอาทั้งหลาน เจ้าตัวเล็กนี่ก็เอาแต่คิดถึงอาฝุ่น”
“โมคิดถึงฝู่นนน”
“ดีใจจังเลยค่ะคุณ” มารดาของศิลายิ้มปลื้ม รู้สึกถึงความผูกพันระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่
“ดีสิ เป็นผู้เป็นคนกับเขาเสียที”
“โมเดลเหรอครับพ่อ”
“แกนั่นแหละยังมีหน้ามาถาม”
“ฮ่าๆ” ศิลาคิดอยู่แล้วแต่ก็ยังอยากถาม
“มีของดีอยู่ก็ต้องรู้จักรักษาเอาไว้ให้ดีรู้ไหม คนที่รักลูกเราจริงไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ นี่ลูกมันถึงกับร้องไห้หาต้องรักกันขนาดไหน”
“ผมทราบครับพ่อ จะรักษาเอาไว้อย่างดีไม่ปล่อยไปไหนเป็นอันขาด”
“อย่าพูดแบบนั้น ผู้ชายพวกนี้ไม่เคยรู้อะไรเลย ถ้าฝุ่นมาได้ยินเข้าจะคิดยังไง เดี๋ยวน้องจะนึกว่าที่ให้อยู่เพราะจะเอาไว้เลี้ยงลูก เป็นแม่น้อยใจตาย”
“ใช่ที่ไหนครับแม่ ผมน่ะไม่ใช่รักอย่างเดียวตอนนี้เคารพด้วย อีกนิดก็จะซื้อดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชาแล้ว”
“ฮ่าๆ”
“หัวเราะอะไรคะคุณ ดูพูดกันเข้า” แม่ของศิลาตีแขนสามีแรงๆ ค่าที่หัวเราะชอบใจในสิ่งที่ลูกชายพูดโดยไม่ห้ามปราม
“โธ่คุณ นิดๆ หน่อยๆ ลูกมันก็พูดอยู่ว่ามันรักของมัน หนูฝุ่นก็ผู้ชายคุณลืมหรือเปล่า คงไม่คิดมากเหมือนคุณมั้ง”
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงหนูฝุ่นก็ถือเป็นลูกสะใภ้ คนเป็นแม่สามีก็ต้องปกป้อง”
ฝุ่นยืนหน้าแดงอยู่บนชานพักบันได หัวใจของเขาอิ่มเอิบกับสิ่งที่ได้ยิน ฝุ่นไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง เขาลุกขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงพูดคุยดังแว่วๆ จึงคิดจะลงมาทักทายผู้ใหญ่สักนิด แต่เมื่อได้ยินชื่อของตัวเองฝุ่นจึงหยุดเดินไม่อยากทำให้ผู้ใหญ่ตกใจที่เขาลงมาได้ยิน
“โมก๊ะล้ากฝู่น” หนูน้อยไม่รู้ว่าผู้ใหญ่พูดอะไร รู้แต่ว่าพ่อบอกว่ารักฝุ่น เขาก็รักเหมือนกันเลยอยากจะบอกบ้าง
“รักมากไหมลูก”
“มากก” หนูน้อยโมเดลลากเสียงยาว แถมกางมือเสียกว้าง เรียกเสียงหัวเราะด้วยความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ ฝุ่นไม่อาจหยุดรอยยิ้มที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับหัวใจที่พองโตได้ เขามีผู้ชายที่รักเขา มีลูกชายตัวน้อยที่แสนน่ารักน่าชัง และมีผู้ใหญ่ที่พร้อมจะให้ความรักกับเขา ผู้ก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกคนใหม่ของครอบครัว ฝุ่นไม่ขออะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“อาฝุ่นก็รักโมกับคุณพ่อมากเหมือนกันครับ” ฝุ่นพูดออกไปเบาๆ เขาให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าเขาจะดูแลครอบครัวที่น่ารักนี้เอาไว้อย่างดีเช่นกัน
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
**เรื่องนี้ไม่มีฉากกุ๊กกิ๊กนะคะ อยากให้เป็นนิยายความรักแบบครอบครัว อ่านสบายๆ อีกสองตอนก็จบแล้ว
** สรุปไม่สวีทน้า เพราะฝุ่นมัวแต่คิดถึงลูกชาย ><
** ใครคิดถึงหนูโม พรุ่งนี้จะมาวาดลวดลายเต็มๆ ให้ได้ฟัดกันค่า
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin