สวัสดีครับ
ขอโทษด้วยจริงๆ ครับที่เมื่อวานไม่ได้ส่งเรื่องมาเลย เพราะงานยุ่งตั้งแต่เช้า พอกลางคืนจะส่งเมลมาให้คุณนาย ระบบเนทที่คอนโดก็ล่มอีก (แต่ถึงเนทผมจะไม่ล่ม ถึงส่งได้กว่าคุณนายมันจะมาโพสให้ก็คงดึก เพราะว่า เมื่อวานได้ข่าวว่ามันไปกินข้าวกับเพื่อนซะเพลิน แถมขากลับหาทางด่วนไม่เจอ หลงทางไปกันใหญ่ กว่าจะถึงบ้านได้ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว ....... ใครให้แกเผาฉันว่ะ จะเล่าเรื่องก็เล่าไปดิ๊ ..... มันว่าครับ)
แต่เมื่อวานก็ไม่มีอะไรมากครับ ผมตื่นแต่เช้าตามเคย และตอนผมตื่นไอ้ป่านยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่เหมือนเึคย ผมก็เตรียมอาหารเช้าง่ายๆ ไว้แล้วก็รีบไปทำงานเพราะมีประชุมเช้าอย่างที่บอกไปวันก่อนน่ะครับ มาถึงที่ทำงานก็วุ่นเลย ดีอย่างที่ผมมารถไม่ติด เพราะว่าเมื่อวานเห็นมีคนบอกว่ารถติดเพราะติดม๊อบกันหลายคนอยู่
พวกที่ทำงานผมก็จับกลุ่มคุยกันเรื่องการเมืองกันใหญ่ แต่ผม no comment อย่างที่บอกล่ะครับ การเมืองไม่ยุ่ง การมุ้งกางไม่เป็น
เมื่อวานเลิกงานก็ไปฟิตเนสครับ ไอ้ป่านมันตามมาจากที่ทำงานมัน ก็เล่นฟิตเนสกันไปตามปกติ หนนี้ดีหน่อย ไม่มีเทรนเนอร์คนไหนมากวน ก็เล่นๆ กันไปครับ พอเล่นจนเหนื่อยและครบที่เซทไว้แล้ว ก็ไปแวะกินข้าวกันก่อนกลับคอนโด
ตอนกินข้าวกันไอ้ป่านก็ดูเหมือนคิดๆ อะไรอยู่
ป่าน ทำไมหน้ายุ่งๆ ยังงั้นล่ะ งานมีปัญหาอะไรเหรอ ผมถามมัน
ก็ไม่เชิงอ่ะเอ
แล้วมีเรื่องอะไรล่ะ ดูเหมือนเครียดๆ
ไม่รู้สิเอ ป่านอาจจะคิดมากไปก็ได้ มันว่าแล้วก็ถอนหายใจ
ไหนมีเื่รื่องอะไร เล่าให้เอฟังสิ เพื่อจะได้ช่วยคิดไง
ก็ ไม่รู้สิเอ ป่านไม่แน่ใจหรอก บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้
ลองเล่ามาก่อน เพราะถ้าไม่มีอะไร ป่านจะไม่หน้ามุ่ยแบบนี้หรอก ผมบอกมัน
ก็เมื่อวันเสาร์ที่ป่านกลับบ้านไปน่ะ ที่ป่านบอกเอว่า จะต้องไปกินข้าวกับแม่จำได้ไหม (ผมพยักหน้า) ทีนี้ก็ตอนไปกินข้าว แม่เขาก็บอกว่าเขาชวนเพื่อนๆ เขามาด้วย ป่านก็พอรู้จักนะ ทีนี้มีคนนึง มากับลูกสาว (ผมเริ่มขมวดคิ้วตาม) ก็มาแนะนำๆ อะไรไปตามปกติืแหล่ะ ป่านก็ไม่ได้อะไรกับเขาหรอก คือแม่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีจะแบบจับคู่หรือพูดในทำนองว่าให้ป่านจีบอะไรน้องเขาหรอกอ่ะ (ผมพยักหน้าอีก และยังขมวดคิ้วอยู่)
ก็แค่กินข้าวอะไรไป แล้วก็แยกกันกลับ ป่านก็กลับบ้านกับแม่ แม่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรเหมือนในละครนะ ที่แบบเวลาตัวแม่ๆ ชอบจับคู่ให้ลูก พอหลอกให้มาเจอกันแล้วจะถามทีหลังว่า คนนี้เป็นไงน่ารักไหม ชอบไหม อะไรแบบนี้น่ะ
อืม แล้วยังไงล่ะป่าน
แล้วเขาก็ไ่ม่ได้อะไรนะ แต่พอวันนี้ดิ อยู่ๆ แม่ก็โทรมาหาป่านบอกว่า จะให้น้องคนนั้นเขามาฝึุกงานที่บริษัทน่ะ เพราะเขาเพิ่งเรียนจบมาจะให้มาลองทำงานดู แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีกนะ
(ผมชักขมวดคิ้วตาม)
นี่แหล่ะเอ ป่านก็ไม่รู้ว่าป่านอาจจะคิดมากไปเองหรือเปล่า เพราะแม่ก็แค่บอกให้มาลองฝึกงานดูแค่นั้นเอง
แล้วน้องเขาสวยไหม ผมถามมัน
ก็สวยมั้ง แต่เขาดูคุณหนูๆ หน่อยน่ะ แต่คงไม่ใช่อย่างที่ป่านคิดหรอกมั้ง
ก็ดูๆ กันไปแล้วกันป่าน มันก็อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ผมก็ปลอบๆ มันไป แต่บอกตรงๆ ก็ตะหงิืดๆ ในใจเหมือนกันครับ
แล้วเขาจะเริ่มมาทำงานตอนไหนอ่ะ
ก็หลังสงกรานต์น่ะ หรือไม่ก็อาจจะต้นเดือนหน้า
อืม ก็ดูๆ กันไปแล้วกันป่าน
แต่เรื่องแบบจะมาจับคู่ให้เนี่ย สมัยนี้คงไม่มีแล้วนะ
คงไม่หรอก เอว่าอย่างมาก แม่ป่านอาจจะพามาแนะนำให้พิจารณาว่าถูกใจไหมมากกว่า ผมแกล้งแหย่มัน
โห แบบนั้นก็ไม่ไหวนะ แล้วป่านจะทำยังไงล่ะ
ก็ยังไม่ต้องทำอะไรหรอก เฉยๆ ไว้ แล้วค่อยว่ากันไป
แล้วเราก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้อีก เพราะจริงๆ ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนป่านมันนั่นแหล่ะครับ ว่าแม่มันจะแค่พามาให้ทำงานเฉยๆ หรือมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า เรื่องแบบนี้คงต้องดูกันไปเรื่อยๆ
แต่ป่านก็เข้าข่ายหนุ่มในฝันของสาวๆ ได้นะครับ โสด(โดยนิตินัย) หล่อ รวย ฐานะทางบ้านดี หน้าที่การงานดี แต่ก็นั่นแหล่ะ กังวลไปก่อนมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร ก็ค่อยๆ ดูไปว่าเขาจะมายังไงกัน แล้วอีกอย่าง ถ้าเราเฉยๆ เสีย ก็คงไม่เป็นไร จริงไหมครับ
ผมก็บอกป่านมันไปแบบนี้ ก็ดูมันสบายใจขึ้นหน่อย มันก็บอกผมอีกว่า ตอนแรกมันก็ว่าจะยังไม่บอกผมหรอก เพราะมันยังไม่รู้ว่าเขาจะมายังไงกันแน่ แต่ผมถามมันด้วย พอดี ก็เลยบอก ตอนแรกมันกะว่าจะบอกผมตอนเขาเริ่มมาทำงาน เพื่อมีอะไร ผมจะได้ไม่ระแวงว่ามันจะโดนตะล่อมไปหรือเปล่า ถ้าแม่มันเกิดจะหาสาวให้จริงๆ
ก็ต้องดูกันต่อไปล่ะครับ
แต่คงไม่มีอะไรมั้ง
หวังว่านะครับ
ตอนนี้ไปทำงานก่อนล่ะครับ
เอ (กำลังดูลาดเลา) กับ ป่าน (นี่ก็กำลังดูอยู่เหมือนกัน) ครับ