[เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4  (อ่าน 21697 ครั้ง)

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
สงสารสองมากกกกไม่อยากให้รบสมหวังเลย

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อื้อหือออ อาทิตย์ขโมยซีนจริงๆ ด้วย

หมั่นไส้รบอ่ะ หมั่นไส้มากด้วย คุณสองอย่าเพิ่งใจอ่อนง่ายๆนะ

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
รบควรรีบมาง้อสองนะถ้ารักสอง
ส่วนคู่อาทิตย์แย่งซีนมาก

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ชอบๆๆๆๆ
เข้ามารออ่านด้วย

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ตอนที่ 4

เวลาคือเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง

รพัฒน์เพิ่งรู้ว่ามันคือสัจธรรมที่จริงยิ่งกว่าจริง

สองอาทิตย์ผ่านพ้นไปดูแสนยาวนานราวกับสองปี การใช้ชีวิตดูไม่เหมือนเก่าทั้งที่กิจวัตรทุกอย่างยังคงเป็นปกติ บางอย่างซึ่งติดอยู่ในความคิดและความรู้สึกกัดกร่อนอารมณ์จนพานให้ลูกน้องหลายคนหวาดผวา

เช่นในยามนี้ที่เรือนร่างสูงใหญ่ในชุดสูทเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าเดินเข้ามาในห้องประชุม บรรยากาศจอแจก่อนหน้าก็พลันเงียบกริบลงราวกับอยู่ในสถานที่งดใช้เสียง

“คุณปรานต์จะมาใช่ไหม”

เสียงทุ้มเรียบนิ่งดังก้องไปทั่วห้องจนทุกคนสะดุ้งแล้วหันมองหน้ากันเลิกลัก

“ชะ ใช่ค่ะคุณรบ ทางนั้นแจ้งว่าวันนี้คุณปรานต์จะเข้ามาคุยงานเองเพราะกลับมาจากต่างประเทศแล้วค่ะ”

“แล้วสารินไปไหน จวนจะได้เวลาแล้วทำไมยังไม่มาสักที”

ประโยคที่เอ่ยถึงอีกคนไม่รู้ว่าด้วยตำแหน่งหรือเพราะความรู้สึกของตัวเอง การประชุมที่รู้ดีว่าจะต้องเจอใครทำให้รพัฒน์ตั้งตารอคอยมาทั้งคืน

อยากเห็นหน้า

“เอ่อ สารินเตรียมตัวพรีเซนต์อยู่ครับ อีกเดี๋ยวคงเข้ามา”

อดิศรณ์เอ่ยตอบขณะคนฟังทำราวกับเป็นเพียงลมผ่านหู ทว่าข้างในช่างต่างกันลิบลับ ท่าทางภายนอกคือผู้บริหารหนุ่มกำลังจดจ่ออยู่กับการอ่านเอกสารประชุมอย่างจริงจัง หากแต่ความจริงแล้วประสาทสัมผัสของท่านประธานกลับจดจ่ออยู่เพียงบานประตู และเมื่อคนที่รอคอยมาถึงอัตราการเต้นของหัวใจก็ผิดจังหวะไป

ถึงกับใจเต้นงั้นเลยงั้นหรือ

“เป็นไงบ้างสอง”

ผู้เป็นรุ่นพี่กระซิบถามยามสารินนั่งลงข้างตัว เพราะสิ่งที่แตกต่างจากการประชุมครั้งก่อนๆคือการมาของใครบางคนซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความโหด...โหดทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

ปรานต์ นฤนาทบดี

“โอเคครับ”

ความเป็นห่วงถูกตอบกลับด้วยคำสั้นๆและรอยยิ้มบางเบา สารินลอบสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกความมั่นใจอีกครั้ง พยายามมีสมาธิกับงานตรงหน้าทั้งที่รู้ดีว่าตอนนี้สมาธิของตัวเองกำลังถูกรบกวนด้วยสิ่งใด

คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ...

การประชุมซึ่งมีใครอีกคนรวมอยู่ด้วยทำให้สารินเกิดความสั่นไหวได้มากกว่าการต้องพรีเซนต์ให้ปรานต์ฟัง แม้จะพยายามกดความสนใจให้จดจ่ออยู่กับงานทว่าสุดท้ายแล้วความรู้สึกข้างในก็เป็นฝ่ายชนะ ดวงตาไม่รักดีหันไปมองรพัฒน์อย่างไม่อาจห้าม และเป็นจังหวะเดียวกับที่คนถูกมองเงยหน้าขึ้นมา...

เสี้ยววินาทีที่สายตาประสานก่อนสารินจะเบือนหลบไปทางอื่น เป็นเสี้ยววินาทีที่ทำให้ใจพังครืนลงมาไม่มีชิ้นดี สติทั้งหมดปลิวหายจนแทบลืมเลือนแม้กระทั่งเรื่องงานในหัว

“หวังว่าคุณจะไม่ทำให้บริษัทผิดหวัง”

เสียงทุ้มราบเรียบจากผู้มีอำนาจสูงสุดเรียกสายตาสารินให้หันกลับไปสบอีกครั้ง ประโยคที่ตั้งใจสื่อถึงเพียงคนเดียวกลับก่อความเสียวสันหลังให้เกิดกับทุกคน ใบหน้าของอีกฝ่ายราบเรียบ ดวงตาที่ทอดมองมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

นั่นสินะ...คงเป็นเขาที่เป็นบ้าอยู่ฝ่ายเดียว

“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”

เสียงที่ตอบกลับไปเรียบนิ่งและจริงจังจนแม้แต่สารินยังชื่นชมกับการแสดงของตัวเอง สายตาที่ยังคงประสานกันกำลังก่อความรู้สึกให้หมุนวนสั่นไหว หากไม่มีฝีเท้าหนักแน่นของใครบางคนดังขึ้นขัด บรรยากาศแปลกๆระหว่างผู้บริหารและพนักงานคงทำให้คนในห้องขาดอากาศหายใจด้วยความอึดอัด

เรือนร่างสูงใหญ่พอๆกับรพัฒน์เดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าห้อง เพียงแค่ปรานต์ นฤนาทบดีปรากฏกายบรรยากาศอึมครึมก็แปรเปลี่ยนเป็นมืดมิด ใบหน้านั้นดูดีจนผู้หญิงหลายคนยอมสยบหากแต่ในความดูดีนั้นกลับมีความไม่น่าเข้าหาที่มากกว่า

มันเรียบนิ่งและแผ่ไปด้วยรังสีแห่งความน่ากลัว

“สวัสดีครับคุณปรานต์”

รพัฒน์หยัดกายขึ้นพลางกล่าวคำทักทายอีกฝ่ายอย่างที่ควรทำ ทั้งสองมีความคุ้นเคยกันอยู่พอสมควรการแนะนำชื่อตัวเองจึงเป็นสิ่งไม่จำเป็น

“สวัสดีครับ...หวังว่าทุกคนในที่นี่คงเตรียมตัวพร้อมกันแล้ว”

เสียงทุ้มเย็นเยียบยามเอ่ยเข้าเรื่องอย่างไม่ต้องการเสียเวลาเรียกความสั่นไหวจนหลายคนในห้องลอบกลืนน้ำลายตัวเอง

“ครับ ทางเราเตรียมพร้อมเสมอ”

“ดี ผมหวังว่าความคืบหน้าของโปรเจกต์นี้จะเป็นที่น่าพอใจ...เริ่มประชุมได้”
สิ้นเสียงทรงอำนาจ ปรานต์และพนักงานของ KC Corporation ก็เดินมาทรุดตัวนั่งลงประจำที่ ทุกย่างก้าวของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและน่าเกรงขาม

จากนั้นการประชุมที่แสนหฤโหดก็เริ่มต้นขึ้น และกินเวลาไปตลอดทั้งวัน

--

ตลอดทั้งอาทิตย์เวลาทุกนาทีแทบถูกงานกลืนหาย สมองและร่างกายถูกใช้งานไปกับหน้าที่จนเรื่องของใครบางคนเลือนไปจากความคิดชั่วคราว

เวลานี้พระอาทิตย์ลาลับจนท้องฟ้าสดใสกลายเป็นมืดมิด เหลือเพียงหลอดไฟที่ทำหน้าที่ส่องสว่างแทนแสงจากธรรมชาติ สารินยืนมองเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกบานกว้าง บริเวณห้องน้ำของบริษัทเหลือเพียงชายหนุ่มที่อยู่ในนี้

ความเหนื่อยล้ากัดกินจนสองแขนต้องวางค้ำลงกับขอบอ่างล้างมือ ก่อนเสียงถอนหายใจจะดังขึ้นในวินาทีต่อมา

“ดูท่าว่าบริษัทผมจะใช้แรงงานพนักงานหนักมาก”

เสียงทุ้มซึ่งดังขึ้นทำให้คนที่กำลังปล่อยความคิดให้ล่องลอยหันขวับไปมอง แม้ใจจะหล่นวูบจนแทบซวนเซยามเห็นคนที่ยืนอยู่เต็มตา แต่สติก็ยังดึงรั้งตัวเองให้รักษาท่าทีเอาไว้ได้ทัน

“ก็พอสมควรครับ”

สารินตอบตามความจริงพลางหยัดกายยืนตรงแล้วเอื้อมไปหยิบทิชชู่มาเช็ดมือ ภายนอกทุกอย่างอาจดูเป็นปกติทว่าชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าทุกการกระทำนี้ถูกทำเพื่อลดความสั่นไหวของตัวเอง โดยมีดวงตาคมจับจ้องการเคลื่อนไหวไม่วางตา เวลาแสนยาวนานในความรู้สึกพลันทำให้รพัฒน์ไม่อาจจะละสายตาไปไหนเลยสักวินาที

หากความรู้สึกที่พาตัวเองก้าวตามอีกฝ่ายมาที่นี่รุนแรงเพียงใด ความรู้สึกในตอนนี้ยามได้เห็นอยู่ตรงหน้ามันทวีความรุนแรงกว่าหลายเท่า

เขาเพิ่งรู้ในวินาทีนี้เองว่าตัวเอง‘คิดถึง’สารินเพียงใด

“ผมจะให้โบนัสให้สมกับความเหนื่อยของคุณ”

แม้ความจริงอยากจะพูดเรื่องอื่นแต่คนไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรก็ยังเอ่ยเรื่องงานต่อเพื่อรั้งให้บทสนทนายืดออกไป

“ขอบคุณครับ”

สารินตอบรับเพียงสั้นๆจากนั้นทิชชู่ในมือก็ถูกทิ้งลงถังขยะ “ถ้าท่านประธานไม่มีอะไรแล้วก็ขอทางด้วยครับ”

ภาษาและท่าทางแสนห่างเหินทำให้รพัฒน์ไม่อาจทานทนจนต้องก้าวท้าวเข้าไปหาอีกคน ขณะที่สารินก็ขยับถอยหลังโดยอัตโนมัติ

ไม่ได้รังเกียจหากแต่กลัวใจตัวเองจะรับไม่ไหว

“สอง...”

“หลีกทางด้วยครับ”

เพียงเสียงทุ้มที่เหมือนจะเว้าวอนเอ่ยเรียกชื่อ คนใจไม่แข็งก็เอ่ยขัดในทันใด

ชื่อตัวเองที่หลุดออกจากปากอีกฝ่ายมันมีอนุภาพร้ายแรงกว่าการได้ยินจากใครที่ไหนหลายเท่า

“ผมไม่หลีก”

“ท่านประธะ...”

“หยุดเรียกผมแบบนั้นสักที”

คราวนี้รพัฒน์ก้าวพรวดมาจนประชิดตัวยามกระชากเสียงพูดห้วนจัด ท่าทางซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจ คำเรียกขานที่ตอกย้ำถึงสถานะอันห่างเหินระคายหูและความรู้สึกจนดวงตาคมวาวโรจน์

เขาอยากจะซื้อคำว่าท่านประธานแล้วโยนทิ้งออกไปนอกโลก!

“ทำไมล่ะครับ ในเมื่อคุณเป็นเจ้าของบริษัทนี้”

สารินถามกลับเสียงเรียบทั้งที่ความใกล้ชิดตรงหน้ากำลังเขย่าความรู้สึกจนสั่นไหวโคลงเคลง

ไม่ รู้สึกมากแค่ไหนก็ห้ามแสดงออกให้อีกฝ่ายหัวเราะเยาะ

“ตอนนี้ วินาทีนี้มีแค่คุณกับผม ไม่ใช่ท่านประธานกับพนักงานในบริษัท”

“หึ คุณกับผมงั้นเหรอ?”

“...”

“มันไม่มีคำนั้นตั้งแต่สามอาทิตย์ก่อนแล้วครับคุณรพัฒน์”

หรืออาจจะไม่เคยมีมาตลอด

สารินสบสายตามองคนตรงหน้า ส่งความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองไปให้อีกฝ่ายอย่างจงใจ

“ผมคิดถึงคุณ”

เสียงทุ้มที่เอ่ยสารภาพความรู้สึกทอดอ่อนลงทันใดเมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของสาริน

รพัฒน์รู้ว่าตัวเองมันแย่แค่ไหน และถึงแม้ครั้งนี้มันอาจดูเห็นแก่ตัวจนเกินยอมรับกับการจะรั้งคนที่กำลังเดินออกไปให้กลับมา...แต่เขาก็จะทำ

ประโยคซึ่งเป็นเหมือนค้อนทุบลงมากลางหัวให้สมองคนฟังอื้ออึง แววตาลุ่มลึกตรงหน้ามีอะไรบางอย่างจนใจของสารินแอบคาดหวังและยินดี ทว่าความเจ็บปวดและทุกอย่างในอดีตก็ย้ำเตือนว่าอย่าหลงเชื่อภาพลวงนี้

พอแล้ว

“ทำไม คนอื่นมันสนองคุณได้ไม่ถึงใจเหมือนผมงั้นเหรอ” วาจาเผ็ดร้อนแสนรุนแรงมาพร้อมกับรอยยิ้มเยาะ

“สอง!”

“อยากก็บอกว่าอยากครับ อย่ามาทำเป็นพูดว่าคิดถึง”

คำพูดดูถูกความรู้สึกทำให้รพัฒน์ไม่อาจทนฟังได้อีก แรงมหาศาลจู่โจมเข้าหาร่างที่สูงใหญ่น้อยกว่าจนสารินเซไปติดผนัง จากนั้นเรือนกายแกร่งจึงตามเข้ามาแนบชิดอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันจะได้ขัดขืนดิ้นรน เรียวปากได้รูปก็ฉกวูบมาทาบทับ กลืนกินประโยคที่ไม่น่าฟังให้หมดสิ้นด้วยอารมณ์รุนแรง

แม้จะพยายามหลบหลีกลิ้นร้อนที่ไล่กวาดต้อนดูดดึงแต่รพัฒน์ก็คือรพัฒน์ ไม่ว่าจะความรู้สึกหรือสัมผัสก็ไม่อาจหลีกหนีได้พ้น จนท้ายที่สุดแล้วสารินต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้

ยอมแพ้กับการดิ้นรนด้วยรู้ว่ามันสูญแรงเปล่า จากการขัดขืนจึงแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย ปล่อยให้อีกคนทำตามใจจนกว่าจะพอ

เมื่อคนตรงหน้าต่อต้านด้วยการเฉยเมย ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ จึงเป็นรพัฒน์ที่ค่อยๆรู้สึกตัวจนสัมผัสบุ่มบ่ามเอาแต่ใจกลายเป็นทาบทับแน่นิ่ง ทุกอย่างหยุดชะงักจนราวกับเวลาหยุดเดิน นานหลายวินาทีกว่าริมฝีปากร้ายจะผละออกไปเชื่องช้า

“สอง”

“...”

“ผม...”

“คุณมันก็แบบนี้ เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว...ไม่เคยเปลี่ยน”

แววตาผิดหวังระคนเจ็บปวดจากคนที่แนบชิดกันทำให้รพัฒน์สะอึกจนพูดไม่ออก น้ำเสียงในประโยคนี้ไร้ซึ่งความเกรี้ยวกราด ไร้ซึ่งความรุนแรง มันเรียบเรื่อย แผ่วเบา ทว่าส่งผลต่อคนฟังได้ราวกับเป็นพายุ

“ผมขอโทษ”

คำนี้ที่ไม่เคยออกจากปากถูกเอื้อนเอ่ยออกมา รพัฒน์เพิ่งรู้ว่าในวินาทีนี้ว่าตัวเองมันแย่เกินกว่าจะให้อภัย ท่าทางของสารินบ่งบอกให้รับรู้จนรู้สึกละอาย

แต่ยังไงเขาก็ปล่อยสารินไปไม่ได้ ต่อให้จะถูกตราหน้าว่าเลวแค่ไหนก็ตาม

“หึ ผมคงจะรู้สึกดีถ้าได้ยินในวันนั้น แต่วันนี้คำขอโทษนี้มันไม่มีค่าอะไรเลยสักนิด”

“...”

“ไม่มีค่าสำหรับผมเหมือนกับตัวคุณ”

ทุกถ้อยคำนั้นบาดลึกและเสียดใจคนฟังจนร่างกายสูงใหญ่ไร้เรี่ยวแรงขืนเอาไว้ยามถูกอีกคนผลักออก สารินลอบสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อคนเอาแต่ใจยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง ร่างกายสั่นไหวถูกพยายามควบคุมจนมันเริ่มกลับมาเป็นปกติ สองมือที่กำแน่นจนชาคลายออกจากกัน ก่อนขาแกร่งจะก้าวเดินเพื่อออกไปจากตรงนี้

หมับ

“ผมรู้ว่าคนอย่างผมมันแย่เกินกว่าที่คุณจะให้อภัย”

“...”

“แต่ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับโอกาสนั้นอีกครั้ง”

คนที่รั้งแขนเอาไว้เดินอ้อมหยุดอยู่ตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นฉายความมาดมั่นจริงจังจนความหวาดหวั่นก่อเกิดขึ้นในใจ ด้วยเพราะรู้ดีว่าหากอีกฝ่ายได้มุ่งมั่น คนอย่างรพัฒน์จะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้สิ่งนั้นมา

มือหนาที่วางจับอยู่บนท่อนแขนเลื่อนลงมากอบกุมมือใหญ่ซึ่งมีขนาดไม่ต่างกัน ความอุ่นร้อนจากปลายนิ้วแผ่ซ่านไปทั่วกระทั่งลามไล้จนถึงใจอันหนาวเหน็บ ก่อนที่อีกคนจะขยับออกและหนีหายรพัฒน์ก็ทาบทับสัมผัสลงไปบนริมฝีปากนั้นอีกครั้ง

แนบชิด ติดตรึง ไร้ซึ่งการรุกราน

นานหลายวินาทีแล้วผละออกอย่างเชื่องช้า จากนั้นจึงไล้สัมผัสเรื่อยมาไปตามสันจมูกโด่ง ขยับขึ้นไปกระทั่งจรดริมฝีปากลงบนหน้าผาก

“ผมจะทำให้คุณกลับมาเป็นของผม...ด้วยความรู้สึก ไม่ใช่ความต้องการ”

พูดจบความใกล้ชิดก็ขยับถอยห่าง ดวงตาคมกวาดมองคนที่ยืนนิ่งอีกครั้งก่อนร่างสูงจะยอมหมุนตัวเดินออกไป ทิ้งให้สัมผัสเมื่อครู่และประโยคสุดท้ายสลักลึกอยู่ในใจและความคิดของใครอีกคน

 
[ 55 % ]

 “คุณรพัฒน์คะ คือ...คุณรรินมาขอพบค่ะ”

ชื่อคนที่มาขอเข้าพบทำให้มือหนาที่กำลังตวัดเซ็นเอกสารอยู่ชะงัก หากแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธประตูบานกว้างก็ถูกเปิดเข้ามาด้วยฝีมือของผู้หญิงคนนั้น

คนซึ่งขึ้นชื่อว่าแม่แต่ไม่เคยทำตัวเป็นแม่

“จะเข้ามาพบลูกชายตัวเองคงไม่ต้องรอคำอนุญาตหรอกใช่ไหม”

รพัฒน์จ้องอีกฝ่ายอย่างเบื่อหน่ายจากนั้นจึงส่งแฟ้มเอกสารให้กับเลขา ก่อนอีกฝ่ายจะรีบรับแล้วเดินออกไปอย่างรู้งาน

“ไม่ต้องรอคำอนุญาต แต่ก็ควรต้องมีมารยาทเคาะประตูก่อนเข้ามา”

“แม่คิดว่ามันไม่ได้จำเป็น”

“อย่าแทนตัวเองด้วยคำที่ไม่เหมาะสมกับคุณขนาดนั้น ผมฟังแล้วจั๊กจี้หู”

ประโยคและสีหน้าของคนเป็นลูกทำลายความนิ่งสงบของท่าทีนั้น จนใบหน้าสวยซึ่งดูอ่อนกว่าอายุจริงทอความวาวโรจน์อย่างไม่อาจปกปิดอาการ

“ฉันเองก็ไม่อยากจะพูดกับแกนักหรอกนะ”

อีกฝ่ายกัดฟันพูดเสียงลอดไรฟัน ธาตุแท้ที่เป็นความจริงถูกเปิดเผยต่างจากตอนเพิ่งเข้ามาราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ

 นี่แหละความจริงที่ผู้หญิงคนนี้เป็น

“ไม่อยากพูดก็เชิญกลับไป ผมเองก็ไม่อยากฟัง”

“หึ ฉันก็ไม่อยากอยู่ที่นี่นานนักหรอก ที่มาก็แค่จะมาบอกอะไรที่ทำให้แกตาสว่าง...โอ๊ะ อันดับแรกต้องแสดงความยินดีด้วยนะจ๊ะที่เลิกกับความผิดเพศนั้นได้แล้ว ก็อย่างว่านะ มันไม่มีทางคงทนอย่างที่ฉันว่าเอาไว้ เห็นว่าอดีตคู่นอนของแกก็มีผัวใหม่อย่างรวดเร็วเลยนี่ ร่านไม่เบานะ”

พลัก

เพียงไม่กี่วินาทีรพัฒน์ก็ผุดลุกขึ้นแล้วก้าวถึงตัวคนพูด การกระทำทุกอย่างไปก่อนความคิด รวมถึงมือหนาซึ่งวางอยู่บนปลายคางของคนซึ่งมีความคิดแสนน่ารังเกียจ

สิ่งที่น่าเสียใจที่สุดคือความจริงที่ว่าเขาเกิดมาจากผู้หญิงคนนี้

“คุณคงรู้จักคำนี้ดีสินะถึงได้ว่าคนอื่นไปทั่ว”

“นี่ฉันเป็นแม่แกนะ!” แรงบนมือหนาเริ่มลงน้ำหนักมากขึ้นจนใบหน้าเบ้บิดด้วยความเจ็บ

“คนอย่างคุณอย่าว่าแต่เป็นแม่เลย เป็นคนยังไม่สมควร”

“แก! ไอ้ลูกชั่ว”

“ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นลูกของคุณ...ก่อนจะว่าคนอื่นน่ารังเกียจดูตัวเองก่อนเถอะ ความคิดและคำพูดของคุณมันน่ารังเกียจกว่าอะไรเป็นไหนๆ”

“หึ มันไม่น่ารังเกียจเท่าการมั่วซั่วของอีตัวนั่นหรอก”

อีกฝ่ายสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมและรพัฒน์ก็ยอมปล่อยโดยง่ายเพราะไม่อยากแตะต้องคนซึ่งมีความคิดสปรกแบบนี้นานนัก

“ฉันมาบอกบุญ ถ้าแกอยากตาสว่างคืนนี้ก็ไปที่นี่”

กระดาษแผ่นเล็กในมือนั้นถูกปาใส่อกแกร่งก่อนมันร่วงหล่นลงบนพื้น

“...”

“แล้วจะได้รู้ว่าพวกแกมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าฉัน”

คนซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เอ่ยทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะหมุนตัวกลับไป จากนั้นเสียงปิดประตูดังปังอย่างรุนแรงก็ดังตามมา

กระดาษบางอย่างที่ปลิวตกอยู่บนพื้นกระตุ้นให้รพัฒน์เอื้อมมือไปหยิบมัน ข้อความที่ปรากฏมีเพียงเวลาและสถานที่จนคิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อพลิกอีกด้านแล้วก็ไม่พบอะไรมากกว่านั้น พลางประโยคคำพูดเมื่อครู่ก็ไหลเข้ามาในหัว

‘แล้วจะได้รู้ว่าพวกแกมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าฉัน’

บางอย่างข้างในมันบอกกับเขาว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับสาริน




21.00 น. โรงแรม xxx ห้อง 3015

ร่างสูงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูซึ่งมีเลขห้องประดับอยู่ชัดเจน ชั่ววินาทีหนึ่งในอกเกิดความวูบโหวงอย่างไม่เข้าใจ จนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อลดอาการนั้น ตรงปลายเท้ามีซองบางอย่างวางอยู่ให้เห็นอย่างจงใจ หลายนาทีกว่ารพัฒน์จะก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา

ลูกกุญแจ...

ดวงตาคมจ้องมองลูกกุญแจในมือก่อนจะเหลือบมองลูกบิดตรงหน้า

เปิดเข้าไปแล้วจะเจอกับอะไร...ผู้หญิงคนนั้นวางแผนอะไรอยู่กันแน่

หลากหลายความคิดวิ่งวนเข้ามาในหัวจนชายหนุ่มต้องเรียกสติตัวเอง ยามตัดสินใจได้มือหนาจึงสอดลูกกุญแจเข้าไปในลูกบิด ก่อนวินาทีต่อมาจะเกิดเสียงปลดล็อคดังคลิก จากนั้นบานประตูจึงค่อยๆถูกเปิดเข้าไป

“อะ อึก”

“อืม”

เสียงแผ่วๆนั้นพาให้ท่อนขาแกร่งก้าวตรงไปหาต้นเสียง ขณะเริ่มรู้สึกว่าอากาศในปอดมันลดลงจนแทบหายใจไม่ออก น้ำลายก้อนเหนียวถูกกลืนลงคอเชื่องช้า ในอกเต้นรัวด้วยจังหวะแห่งความหวาดกลัว

วินาทีที่ผู้ชายซึ่งเข้มแข็ง ไม่เคยหวั่นกลัวต่อสิ่งใดมาตลอดชีวิตเกิดกลัวขึ้นมาจับใจ

กลัว...กลัวว่าเสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงของคนที่ตัวเองคิด

“อือ อาร์ต”

เสียงนั้น...ที่เคยแหบพร่ายามเรียกชื่อเขา

กึก

ภาพตรงหน้ายามเดินเข้ามาถึงข้างในราวกับฟ้าผ่าลงมากลางหัว ดั่งขาสองข้างถูกเหล็กหลายสิบกิโลถ่วงเอาไว้ให้ก้าวต่อไม่ออก สองร่างซึ่งแนบชิดนัวเนียขยับไหวกระทั่งคนที่คร่อมอยู่ด้านบนหันมาเห็น กิจกรรมร้อนแรงจึงหยุดชะงัก

“คุณ!” เสียงร้องอย่างตกใจดังขึ้นในวินาทีนั้น

ยิ่งกว่าสองร่างเปลือยเปล่าคือบางอย่างตรงปลายเท้าซึ่งมีสภาพบ่งบอกว่าถูกผ่านการใช้งานแล้วเรียบร้อย
ถุงยางอนามัย

สารินและอาทิตย์รีบตลบผ้าห่มมาคลุมตัวขณะเบิกตามองอีกคนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงหน้า สองมือหนากำเข้าหากันจนแขนสั่นระริก ปลายเล็บสั้นกุดจิกเข้าหาผิวเนื้อจนบริเวณนั้นเกิดความชา

แม้จะรู้อยู่แล้วว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันอย่างไรแต่การได้เห็นมันห้ามความรู้สึกไม่ได้

“คุณเข้ามาได้ยังไง” สารินถามขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน

ประโยคคำถามแทบไม่เข้าหูรพัฒน์เลยแม้แต่น้อย ในหัวมีเพียงภาพเมื่อครู่จนลืมแม้แต่จะหายใจ ยามอกสะท้านเยือกเมื่อพยายามเอาอากาศเข้าปอดจึงได้รู้

ทรมานราวกับกำลังจมน้ำ ราวกับที่ตรงนี้ไม่มีแม้แต่อากาศให้หายใจ

“สอง...” เสียงที่หลุดออกจากปากไปดังแผ่วเหมือนเพ้อละเมอ

ข้างในปวดหนึบจนเหมือนหัวใจถูกกระชากออกไป ทรมานจนรพัฒน์ไม่คาดคิดมาก่อนว่าความรู้สึกแสนรุนแรงนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง

ทั้งที่เขาก็ทำกับคนอื่น ทว่าเมื่อเห็นภาพนี้เต็มตากลับทำใจไม่ได้   

สารินคงรู้สึกเหมือนกันสินะ ถึงจะไม่เคยเห็นชัดๆแต่ก็เกือบจะ...คงไม่ได้ต่างกัน

นี่คือสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจให้เห็น

“ความรู้สึกของคุณตลอดมา...”

“...”

“ผมเข้าใจแล้ว”

“...”

“ขอโทษ”

ตลอดเวลาที่ต้องอดทน สารินทำได้ยังไงกัน...ตอนนี้เขาเหมือนจะตายแล้ว

ความรู้สึกที่เพิ่งพานพบและเข้าใจวิ่งเข้ามากระแทกจนคนที่ไม่เคยสั่นไหวกับสิ่งใดแทบไม่มีแรงก้าวเดิน ยิ่งกว่าร่างกายคือหัวใจที่อ่อนแรงเหมือนอยากหยุดทำงาน มันหนักอึ้ง ร้าวราน ราวกับไม่มียังจะทรมานน้อยกว่า

เอามีดมากรีดแล้วควักออกไปยังไม่เจ็บเท่านี้

ประโยคนั้นทำให้คนฟังวูบไหวจนต้องเบือนหน้าหนี มือซึ่งจับชายผ้าห่มอยู่กำแน่นไม่แพ้มือของคนตรงหน้า

รพัฒน์ไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่านั้นเมื่อภาพตรงหน้าบ่งบอกทุกอย่างชัดเจน ดวงตาคมกวาดสายตามองคนทั้งคู่บนเตียงอีกครั้งก่อนจะตั้งสติ รวบรวมแรงแล้วหมุนกายกลับอย่างเชื่องช้า แต่ละย่างก้าวหนักอึ้งจนกว่าจะเดินออกจากห้องมาได้เหมือนต้องใช้พลังไปอย่างมหาศาล

ชายหนุ่มแทบไม่รู้ตัวว่าตัวเองกลับมาที่บ้านได้ยังไง ทุกอย่างมันล่องลอย ปวดหนึบ จนชาไปทั้งร่างกาย

ฮวบ

“เจ้านาย!”

เสียงร้องของคนขับรถดังขึ้นด้วยความตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นนายทรุดลงทันทีที่ก้าวลงจากรถ ท่าทางของรพัฒน์ทำให้ไม่มีใครกล้าขยับเข้ามาใกล้ ได้แต่ยืนมองด้วยความตกใจและสงสัย

อะไรที่ทำให้คนอย่างรพัฒน์มีสภาพเป็นอย่างนี้

ขณะที่ความคิดของคนซึ่งไร้เรี่ยวแรงมีเพียงเสียงและภาพก่อนหน้าตราตรึงอยู่ในหัว ก่อนเปลือกตาหนาจะปิดลงอย่างไม่อาจทานทน

ขณะที่เขาก็เป็นของคนอื่น แต่ตอนนี้ทำไมความรู้สึกรับไม่ได้กลับรุนแรงขนาดนี้

รพัฒน์ไม่ได้รับไม่ได้ที่สารินมีอะไรกับคนอื่น หากแต่ความหมายของการรับไม่ได้นี้คือความทรมานนั้นช่างรุนแรงเกินทน

ผู้หญิงคนนั้นชนะที่ทำให้เขาอ่อนแอได้ขนาดนี้ แต่สิ่งที่พูดกลับถูกแค่เพียงเสี้ยวเดียว

คนที่น่ารังเกียจไม่ใช่สารินเลยแม้แต่น้อย...แต่เป็นตัวเขาเองที่น่ารังเกียจตลอดมา

[100%]

คุณรบโดนเอาคืนแล้วววว :mew6: ฮือ เจ็บแทนง่ะ รุนแรงสุดเท่าที่เคยเขียนมาแล้วค่ะ อย่างที่รู้กันว่าโซแอลไม่ถนัดม่า เพราะงั้นเลยไม่แน่ใจว่าครึ่งหลังนี้เป็นไง คนอ่านอ่านแล้วหน่วงกันบ้างหรือเปล่า ยังไงส่งฟีดแบคกลับมาหน่อยนะคะ :call:

ตอนหน้าจบแล้วเน่อ~




แฟนเพจ : https://www.facebook.com/writerexsoull/
Twitter : https://twitter.com/exsoull_
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2017 17:59:29 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ไม่รู้จะอยู่ข้างไหนดีเลยค่ะ ดูเจ็บปวดไปหมด สงสารคุณรบนะ แต่..อยากให้คุณสองใจแข็งนานๆ:z3:
งั้นเราขออยู่ข้างๆคุณปราณต์ดีกว่าา~~~~~

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :o12: :o12: :o12:
ดีจายยยยย คุณสองของเค้ามาแล้ว

ออฟไลน์ kail

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สงสารคุณสองงงงงง แต่แอบปันใจให้คุณปรานต์ รอพาร์ทคุณปรานต์~~~~

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คุณสองค้าเอาให้หนักๆค่ะเมินคุณรบไปสนใจคุณปรานต์ดีกว่า

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คุณรบเปิดเกมส์รุก...ว่าแต่คุณปรานต์นี่ อะไร ยังไง  :m28: :m28: :m28:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 03.39

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารทั้งคู่เลย

 :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
รอดูต่อ ๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
อาทิตย์ของคุณปรานต์รึเปล่าน้าาาาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
น่าสนใจ ปรานต์ อาร์ต  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

รบ ทำให้ได้จริงๆนะ
ที่จะให้สองรับรู้ความรู้สึกของตัวเอง ไม่ใช่แค่ต้องการ
รบ สอง :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
สองน่าจะวางแผนไว้ ร่วมมือกับอาทิตย์ ดัดหลังรบ

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :laugh: :laugh: เป็นไงหละโฮ๊ะๆๆๆๆ หู้ยยยย สะใจแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เจ็บกันทุกฝ่าย...ลามมาถึงคนอ่านเลย  :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อะไรกันนี่

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอยยยย นี่คือจัดฉากเฉยๆใช่ไหมคะ? (ก็คุณแม่เล่นบอกรายละเอียดล่วงหน้าได้พร้อม แถมยังมีการเตรียมกุญแจไว้ให้อีก)

แล้วอาทิตย์ออกมาเที่ยวซนข้างนอกแบบนี้ คุณคนนั้นเขาจะไม่โกรธเอาหรือคะ?

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เอาทั้งคู่เลยได้ไหมคะ  :-[

ออฟไลน์ wifesuju

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทั้งสมน้ำหน้า ทั้งสงสาร ฮือออออ ไหนอาทิตย์มีสามีแล้วไงคะ เค้าขังไว้แล้วออกมาได้ยังงายยยย คุณสามีรีบมาเอาอาทิตย์ไปเดี๋ยวนี้เลย รอคู่อาทิตย์ค่ะ น่าจะแซ่บ  :impress2:

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
สมน้ำหน้าคุณรบแรงๆ  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ช่วงเอาคืน ฮ่าๆๆๆๆๆ
จริง หรือจัดฉากกันน่ะ
รอออออ

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
มันยังไงยังไงอยู่นาาาาา :m28:
เจ็บหนักหน่อยนะคะคุณรบ ถึงเวลาเอาคืน :z2:

ออฟไลน์ lalun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6


ตอนที่ 5


หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

สารินถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะกำลังสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก พลางสมองก็หวนนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนได้เมื่ออาทิตย์ก่อน

รพัฒน์หายไปเลย ไม่แม้แต่เจอหน้าที่บริษัท แม้อีกฝ่ายจะมาทำงานปกติแต่ดูเหมือนว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงการต้องเจอกัน

ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ

ชายหนุ่มกระซิบบอกตัวเองในใจก่อนจะเดินออกจากห้องนอน รับประทานอาหารเช้าง่ายๆเช่นขนมปังปิ้งกับกับกาแฟดำหนึ่งแก้ว จากนั้นจึงหยิบกระเป๋าทำงานขึ้นมา เตรียมตัวออกจากห้องดั่งเช่นทุกวัน

ฟุบ

สารินผงะก้าวถอยหลังอย่างตกใจเมื่อยามเปิดประตูไปแล้วพบว่ามีบางอย่างล้มฟุบลงตรงหน้า หากว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้ตกใจแล้ว การเห็นเต็มตาว่าร่างนี้เป็นใครคือสิ่งที่น่าตกใจกว่า

รพัฒน์

คนที่นั่งอยู่ตรงนี้มากว่าค่อนคืนค่อยๆขยับกายเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองล้มฟุบลงบนพื้น แขนแกร่งยันค้ำพลางยันกายขึ้นนั่ง พร้องทั้งสะบัดหัวไล่ความมึนงง โดยไม่รู้ว่ายามนี้มีใครยืนอยู่ตรงหน้า

อืม เผลอหลับไปอย่างนั้นหรือ

ใบหน้าคมก้มลงยามขยับนิ้วนวดวนขมับของตัวเองเพื่อคลายความล้า แสงสว่างจากหลอดไฟยามค่ำคืนถูกแทนที่ด้วยแสงจากดวงอาทิตย์บ่งบอกว่าเป็นเวลาเช้า ขณะกำลังหมุนนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาหางตาก็เหลือบเห็นปลายรองเท้าของใครบางคน

“สอง” เสียงเรียกชื่อนั้นแผ่วเบาก่อนรพัฒน์จะขยับกายลุกขึ้นยืน

“คุณมาทำอะไรที่นี่”

สภาพชุดทำงานที่ไม่ได้กเรียบร้อย ยับย่น บ่งบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในชุดของเมื่อวาน ภาพที่เกิดคำถามขึ้นว่าแล้วรพัฒน์มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และมาทำไม อีกทั้งใบหน้าคร้ามคมยังมีไรหนวดขึ้นเขียวครึ้ม ใบหน้าซูบเซียวกว่าเคย

“ผม...”

คำตอบนั้นถูกเว้นหายไปเมื่อเจ้าตัวไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรตอบ

ตลอดทั้งอาทิตย์รพัฒน์มาที่นี่ทุกคืนหลังจากเจ้าของห้องกลับมา นั่งเฝ้าอยู่หลายชั่วโมงจนถึงค่อนคืน ทว่าวันนี้กลับผิดแปลกไปเมื่อความเหนื่อยล้าจากการนอนน้อยหลายวันติดกัดกินร่างกายจนเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น

แค่ได้เห็นหน้าห้องก็ยังดี...

“คุณอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เมื่อคืน?” คนถูกถามพยักหน้ารับ ยามอีกคนกวาดสายตามอง “เข้าไปล้างหน้าสักหน่อยไหม”

ประโยคนั้นของสารินเรียกความแปลกใจให้เกิดขึ้นในอก ก่อนรพัฒน์จะรีบพยักหน้าให้เจ้าของห้องหมุนตัวกลับเข้าไป จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินตาม

นานแค่ไหนกันที่ไม่ได้มาที่นี่

เพียงแค่ก้าวเท้าเข้ามา ความคิดถึงก็ไหลวนอาบทั่วกาย ดวงตาคมกวาดมองไปทั่วห้อง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่เว้นแม้แต่หนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ

ยิ่งกว่าคิดถึงสถานที่คือคิดถึงเจ้าของแผ่นหลังตรงหน้า

เขาคิดถึงสาริน...

“คุณคงรู้อยู่แล้วว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน ผ้าเช็ดตัวสำรองก็อยู่ที่เดิม” สารินหมุนตัวกลับมาพูด

แม้มีหลายสิ่งอยากพูด อยากถาม อยากหาเหตุผลแต่ก็เลือกเก็บมันไว้ข้างใน เก็บท่าทีและอาการทุกอย่างให้อยู่ภายใต้ใบหน้าเรียบราวกับรู้สึกปกติ...ถึงมันจะไม่ปกติตั้งแต่เห็นอีกฝ่ายนอนฟุบอยู่หน้าห้องแล้วก็ตาม

“อืม”

รพัฒน์รับคำก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำอย่างคุ้นเคย จัดการล้างหน้าล้างตาจนสดชื่นเรียบร้อย จากนั้นจึงเปิดตู้ใต้อ่างล้างหน้า หยิบผ้าเช็ดตัวซึ่งถูกวางไว้ในนั้นออกมา

ทว่าเมื่อนึกได้ว่ามันอาจถูกเตรียมไว้เผื่อใครมือก็หยุดชะงัก พินิจอยู่หลายนาทีแล้ววางลงที่เดิม เปลี่ยนเป็นหันไปหยิบทิชชู่มาซับน้ำตามใบหน้าออกแทน

ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำ ขณะที่เจ้าของห้องนั่งรออยู่ตรงโซฟากลางห้อง

“คุณมาที่นี่ทำไม?” 

สารินเป็นฝ่ายลุกขึ้นถาม เปิดบทสนทนาอย่างไม่อยากเสียเวลาเนื่องจากกำลังจะไปทำงานสาย อีกฝ่ายเป็นเจ้าของบริษัทจะเข้างานตอนไหนก็ได้ แต่เขาไม่ใช่จึงไม่อาจจะทำอย่างนั้น

“ผม...คิดถึง”

คำตอบนั้นแสนสั้นทว่ามีพลังทำลายล้างใจคนฟังอย่างรุนแรง

นึกว่ารังเกียจกันไปแล้วเสียอีก

“วันนั้นมันยังไม่ชัดเจนอีกหรือไง”

“ชัด แต่ผมไม่สนใจตรงนั้น” รพัฒน์เอ่ยตอบด้วยสายตาจริงใจและน้ำเสียงมั่นคง

แววตานี้คือรพัฒน์ที่สารินรู้จักมาตลอดหนึ่งปี มันมีความเด็ดเดี่ยว มั่นคง ท่าทางซึ่งบ่งบอกว่าอีกฝ่ายตัดสินดีแล้ว

“...”

“มันคงเห็นแก่ตัวเกินไปที่ผมจะว่าคุณในเมื่อตัวเองทำมากกว่านั้น เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉะนั้นคุณมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้”

“...”

“แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธว่าอยากเข้าไปกระชากคุณออก อยากจะฆ่าหมอนั่น”

เรือนกายสูงใหญ่ขยับเข้ามาจนระยะห่างระหว่างคนสองคนเหลือเพียงครึ่งก้าว ความใกล้ชิดนี้ทำให้สารินสั่นไหวอยู่ในอก ใกล้จนกลิ่นกายแสนคุ้นเคยกรุ่นติด อบอวลอยู่ปลายจมูก

ทุกคำในประโยคนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะออกจากปากของคนตรงหน้า สารินไม่เคยคาดหวังเลยสักนิดว่าจะได้ยิน ต่อมามือก็ถูกดึงไปกุมเอาไว้

“ผมรู้แล้วว่าตัวเองผิดและแย่ รู้แล้วว่าคุณทรมานแค่ไหน ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะรอ รอคุณเลิกกับหมอนั่น”

“แล้วคุณจะรอไปทำไม”

“รอให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ในฐานะใหม่...ฐานะคนรัก”

สถานะที่ได้ยินส่งผลให้สารินนิ่งอึ้งเหมือนถูกสาป หัวใจที่เหมือนถูกทำลายจนย่อยยับเหมือนกลับมามีชีวิตและเต้นด้วยจังหวะอันถี่รัว หากไม่ต้องรักษาท่าทีเอาไว้น้ำตาที่เครือคลอคงไหลออกมาอย่างไม่อาย

มัน...

“คนรักงั้นหรือ อะไรที่ทำให้คุณต้องการแบบนั้น”

ชายหนุ่มกลืนน้ำตาที่จะไหลซึมให้ไหลกลับเข้าไปแล้วเอ่ยถาม

“ผมคิดว่าผมรักคุณ...ที่คิดเพราะไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไงกันแน่ แต่ในนี้มันเจ็บเหมือนจะตายตอนเห็นภาพวันนั้น คิดถึงทุกวินาทีที่มีคุณอยู่ข้างๆ คิดถึงทุกวัน”

หากสถานะที่ได้ยินเหมือนดั่งคำที่สาปให้แน่นิ่ง คำรักจากรพัฒน์ก็เป็นดั่งยาพิษแสนหวานที่ทำลายทุกประสารทสัมผัสจนทุกอย่างในหัวว่างเปล่าอื้ออึ้ง

ผมคิดว่า ผมรักคุณ

ผมรักคุณ

“คิดถึงทุกวันแต่ผมก็ยังเห็นคุณมีความสุขกับคนอื่นดี”

กว่าจะเรียกสติตัวเองแล้วเปล่งคำพูดได้ก็เกือบแสดงอาการให้อีกฝ่ายรู้

“แกล้งมีความสุขต่างหาก ตั้งแต่ที่คุณเดินจากไปผมไม่เคยมีความสุขจริงๆเลยสักวัน”

“งั้นเหรอ...ผม-ไม่-เชื่อ”

เอ่ยตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำก่อนจะหมุนตัวไปหยิบกระเป๋าทำงานซึ่งวางอยู่บนโซฟามาไว้ในมือ ทว่าต่อมาทั้งร่างก็ถูกรวบเข้าไปกอดจนแผ่นอกแกร่งแนบชิดอยู่กับแผ่นหลัง

สารินยืนนิ่งจากนั้นวินาทีต่อมาจึงสัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่ทิ้งลงมาบนไหล่ ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดอยู่กับซอกคอ

“ยังไม่ต้องเชื่อตอนนี้ก็ได้ เพราะผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น”

“...”

“ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะสอง”

กลิ่นอายคุ้นเคยและสัมผัสแสนโหยหาทำให้ใบหน้าคมขยับซุกซบเข้าหาความอุ่นจากซอกคอหอมมากกว่าเดิม ผิวกายเรียบลื่นที่ชอบไล้จูบกระตุ้นความคิดถึงจนไม่อยากจะคลายอ้อมกอดให้ต้องห่าง รพัฒน์อยากกักอีกคนเอาไว้ไม่ให้ไปไหนแล้วกอดเอาไว้อย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน

คิดถึงมาก

“แต่ผมคบอยู่กับอาทิตย์” คนด้านหลังชะงักกึก พลางสูดลมหายใจเข้าลึก

“ผมจะรอ”

“คนอย่างคุณน่ะหรือจะทำได้”

“ผมจะทำให้เห็น ขอแค่คุณยังให้โอกาสให้ผมได้พิสูจน์...อย่าไล่กันไปไหนก็พอ”

“ไม่มีโอกาสสำหรับคนมักมาก”

“ผมจะไม่ยุ่งกับใครระหว่างรอคุณ”

สารินยืนนิ่งไม่เอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธ อ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดกันมากว่าร้อยครั้งรัดแน่นขึ้นราวกับย้ำคำพูดของเจ้าตัว สัมผัสที่โอบล้อมรอบกายไม่ยอมคลายออกห่างเลยสักวินาที

“ให้ผมได้พิสูจน์ตัวเองสักครั้งนะ” คนด้านหลังกระซิบขอเว้าวอน

ท่าทางที่สารินไม่คุ้นชินกำลังจะละลายน้ำแข็งและบาดแผลในใจจนต้องขืนกายออก ก่อนจะใจอ่อนมากไปกว่านี้ จากนั้นจึงหมุนตัวไปหาคนด้านหลัง

“ถ้าผมคบกับอาทิตย์ไปตลอดล่ะ”         
           
“ผม...ก็จะรอตลอดไป”

“หึ คำพูดมันก็แค่ลมปาก”

“ก็ให้ผมได้พิสูจน์ ผมไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ อ้อนวอนขอคุณทั้งที่จะหาคนใหม่ที่ไหนก็ได้ แต่ผมทำเพราะนี่คือคุณ เพราะ...”

“ผมจะไม่เชื่ออะไรทั้งนั้นจนกว่าจะได้เห็น” เอ่ยขัดขึ้นเมื่อรู้ว่าอีกคนจะเอ่ยคำว่าอะไรต่อจากนั้น

คำรักมันมีผลต่อความรู้สึกมากมาย สารินไม่อาจทนฟังได้ซ้ำอีกครั้งแม้ในใจจะรู้สึกยินดี

“ผมจะทำให้เห็น”

รพัฒน์ยืนยันหนักแน่น ดวงตาคมที่มองสบมาไม่มีแววสั่นไหวดั่งเช่นวันในโรงแรมนั้น วันที่สารินยอมรับว่าท่าทางของอีกฝ่ายมันมีความเจ็บปวดเจืออยู่มากมายจนสัมผัสได้

“สิ่งแรกที่ต้องรับผิดชอบคือการที่คุณทำให้ผมไปทำงานสาย”

กระเป๋าทำงานในมือถูกกำกระชับจากนั้นร่างสูงไม่ต่างกันจึงเดินเบี่ยงหลบคนที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า เพื่อออกจากห้องไปทำงานทั้งยังเพราะต้องการเลี่ยงอีกคน

แค่นี้ก็มากเกินกว่าใจจะรับไหว ทุกอย่างมันรวดเร็วและเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

คนอย่างรพัฒน์ ภัคโภคินน่ะหรือที่มาร้องขอพิสูจน์ตัวเองกับเขา

“ผมจะโทรไปบอกคุณฐากูรว่าคุณมาสายเพราะผม” รพัฒน์รีบเดินตาม

“จะทำอะไรก็ทำเถอะ แค่รับผิดชอบไม่ให้ผมโดนด่าก็พอ”

“สอง” คนถูกเรียกขมวดคิ้วก่อนจะหันมา ทว่ายังไม่ทันจะถามว่ามีอะไรสัมผัสหนักๆก็ทาบทับลงมาบนริมฝีปาก “เดี๋ยวผมไปส่ง”

พอผละออกคนทำอะไรตามใจก็ยกยิ้มอย่างน่าหมั่นไส้

“ผมไม่ได้อนุญาตให้คุณจูบ”

“ยังไม่ได้จูบ แค่เอาปากไปแตะ”

“คุณรพัฒน์ อย่าลืมว่าผมมีคนที่คบด้วยอยู่แล้ว”

รอยยิ้มนั้นเลือนหายไปทันใด จากนั้นจึงเอ่ยพูดด้วยประโยคแสนเอาแต่ใจ

“คุณไม่พูดมันก็ไม่รู้หรอก”

“ก็เหมือนที่ผมจูบกับเขาแล้วคุณก็คงไม่รู้งั้นสิ”

ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นความเจ็บปวดของรพัฒน์ก็ฉายชัดออกมาทางดวงตา ดูเหมือนชายหนุ่มจะตั้งใจไม่เก็บอาการให้สารินได้เห็น แม้ชั่ววูบจะรู้สึกผิดทว่าคนเคยเจ็บก็บอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อน

เขาเจอมาเยอะกว่านี้มาก

“เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บริษัท” อีกคนเอ่ยเปลี่ยนเรื่องในทันทีราวกับไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อ

“รถติด ผมจะไปรถไฟฟ้า”

“แต่...”

“คุณกลับไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่าไหมคุณรพัฒน์”

“เรียกผมว่ารบเหมือนเดิมสิ” คนตัวโตท้วงติงพลางขมวดคิ้วมุ่น

“มันไม่เหมือนเดิมแล้ว”

สารินเอ่ยตอบสั้นๆแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้อง ทิ้งคนที่นิ่งไปไว้ข้างหลังอยู่อย่างนั้น จนเมื่อรพัฒน์สลัดความปวดหนึบในใจและตั้งสติได้จึงรีบตามออกไป

สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้สารินไปทำงานเองแต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็เดินไปส่งจนกระทั่งอีกคนเดินเข้ารถไฟฟ้า ดวงคมจับจ้องอยู่ที่ท้ายขบวนรถไฟกระทั่งภาพนั้นหายลับไปจากสายตา ก่อนมุมปากได้รูปจะยกยิ้มเป็นรอยยิ้มแรกในรอบเดือน

เท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว...ที่เหลือก็แค่พิสูจน์ตัวเองให้สารินเห็น

ต่อให้มันจะเป็นเดือน เป็นปี หรือเป็นสิบปีก็ตาม


END.

​มาแล้วววว สุดท้ายก็มาถึงตอนจบจนได้ เย้~ ตอนจบนี้อาจสั้นหน่อย แต่ตั้งใจให้มันจบลงที่ตรงนี้จริงๆค่ะ

ตอนแต่งเรื่องนี้จริงๆไม่ได้คิดอะไรมากเลย อยากลองฝึกดราม่า ฝึกการเขียนในอีกแบบ

และเป็นความโชคดีที่สำนักพิมพ์สนใจอยากทำเรื่องนี้เป็นเล่มเล็ก ด้วยเพราะปกติคนเขียนไม่ได้แต่งแบบนี้บ่อยนักจึงยินดีมากถ้าหากจะได้เก็บเป็นรูปเล่ม(เรื่องรายละเอียดฝากติดตามที่เพจนะคะ ไม่หนักหนาเกินไปสำหรับคนอ่านแน่นอน)

ก็เหมาะเจาะที่ว่าตอนพิเศษในเล่มก็จะเป็นตอนที่คุณรบได้พิสูจน์ตัวเองให้ได้เห็น มีความหวานขึ้นกว่าในตอนปกติ เดี๋ยวจะลงให้อ่านกันหนึ่งตอนนะคะ

สุดท้ายนี้ต้องบอกว่าขอบคุณทุกคนมากๆสำหรับคอมเมนต์ สำหรับกำลังใจ ถ้าไม่มีคนอ่านคนเขียนก็ไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้จริงๆค่ะ

ถึงเวลาต้องบอกลากันอีกครั้งแล้ว แล้วพบกันใหม่เรื่องหน้านะคะ(ยังมีพี่หินน๊า)...รัก


Writer Ex-SoulL

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2017 21:18:36 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :ling1:รู้สึกค้าง

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
จบซะแล้ววววว อย่างนี้ก็สงสารคุณอาทิตย์เลยนะคะเนี่ย ถ้าอนาคตสองจะกลับไปหาคุณรบ ใจก็ยังรักคุณรบ  :ling3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด