พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ex-soulL ที่ 02-10-2017 05:30:32

หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 02-10-2017 05:30:32
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

----------------------------------



♠ เสน่หา ♠
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 02-10-2017 05:49:01
สเน่หา...พาให้หลงใหลมัวเมา

จนอาจทำให้ลืมเลือนบางอย่าง




ตอนที่ 1

แกร๊ก

เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นแผ่วในความมืดมิด ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มวัยทำงานเดินลากเท้า พาร่างกายอันหนักอึ้งเข้าห้องเชื่องช้ายามที่ระบบไฟค่อยๆเริ่มทำงานอัตโนมัติ

จากความมืดแปรเปลี่ยนเป็นสว่างด้วยแสงนวลของหลอดไฟ ความเหนื่อยล้าทำให้เจ้าของห้องเดินมาทิ้งตัวนอนคว่ำลงบนโซฟา ซุกหน้าเข้าหาความอ่อนนุ่มของเนื้อกำมะหยี่พรางปิดเปลือกตาลงอย่างหมดแรง

การประชุมของวันนี้กินเวลาและพลังไปจนแทบเหลือแต่ซากกลับมา

ก๊อก ก๊อก

ทว่ายังไม่ทันจะหลุดเข้าสู่ห้วงนิทราเพื่อเพิ่มพลังที่มีอยู่เพียงน้อยนิดอย่างใจอยาก เสียงเคาะประตูตามมารยาทพร้อมทั้งเสียงบานประตูที่ถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของผู้มาเยือนก็รั้งสติชายหนุ่มเอาไว้

จังหวะฝีเท้าหนักๆซึ่งเป็นเอกลักษณ์และกลิ่นกายอันแสนคุ้นเคยตรงเข้ามาใกล้ ก่อนจะทันได้เปิดเปลือกตาขึ้นแรงยวบตรงข้างตัวก็บ่งบอกว่าอีกฝ่ายนั่งลงข้างกันเป็นที่เรียบร้อย

“บริษัทผมใช้แรงงานพนักงานหนักขนาดนี้เลยหรือ”

เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพรางลากสัมผัสไปตามหลังคอของคนหมดสภาพ จากนั้นจึงเคล้นคลึงลงน้ำหนักเป็นจุดยามสายตาจับจ้องอยู่บนผิวเนื้อเนียนที่ฝ่ามือแตะต้องอยู่ด้วยความรู้สึกอยากฝากฝังร่องรอยลงไป

มันเนียนละเอียดและลื่นมือจนไม่อยากให้มองไปแล้วพบแต่ความว่างเปล่า...‘รพัฒน์’อาจจะดูโรคจิตที่มักคิดว่ารอยช้ำสีกุหลาบนั้นเหมาะกับผิวสีแทนนี้เหลือเกิน

แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดเมื่อรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ชอบใจให้ทำอย่างนั้น ยามพลั้งเผลอยั้งใจไม่ทันคราวใดจึงโดนเสือดุตรงหน้าขู่ใส่ไปเสียทุกครั้ง

“ยังมีหน้ามาพูด”

ยังไม่ทันได้ทำตามใจอยาก เสือตัวใหญ่ก็ขู่ออกมาทั้งที่ร่างกายอ่อนแรง ก่อนสิ่งที่คนตรงหน้าทำจะเรียกเสียงหัวเราะให้หลุดจากลำคอ

เวลาสัตว์ที่ดุร้ายอ้อนมันมีวิธีการยังไง...ใช่การยกหัวขึ้นมานอนบนตักแล้วซุกซบใบหน้าเข้ากับหน้าขาของเขาเช่นตอนนี้หรือเปล่า

หากคิดว่าสัตว์ป่าตัวนี้ออดอ้อนไม่เป็นเห็นทีจะคิดผิด แม้จะไม่ได้เข้ามาคลอเคลีย ทำตัวน่ารักดั่งแมวแต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้คนถูกอ้อนยกยิ้มเอ็นดู จากสัมผัสตรงลำคอจึงเลื่อนมือขึ้นมาเป็นสางผมให้แผ่วเบา

“วันนี้คุณทำได้ดีมาก คอนเซ็ปต์และข้อมูลที่หามาไร้ที่ติ และผมชอบที่สุดเวลาคุณยืนพรีเซนต์งานด้วยความจริงจังอยู่ตรงหน้า...รู้ใช่ไหมว่าผมไม่ละสายตาจากคุณเลยแม้แต่วินาทีเดียว”

“ที่ไม่ละสายตาเพราะคุณต้องการต้อนผมให้จนมุมน่ะสิ”

‘สาริน’เอ่ยขึ้นเสียงเขียวยามนึกไปถึงเหตุการณ์ในห้องประชุม อีกฝ่ายซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารสูงสุดซัดคำถามมาไม่ยั้งจนเกือบจะเอาตัวไม่รอด แม้ดวงตาคมจะไม่ละไปไหนเลยสักวินาทีแต่มันไม่ใช่ความเสน่ห์หาแต่เป็นสายตาแห่งความกดดัน

ทีบนเตียงไม่เห็นจะเป็นแบบนั้น

“ใครว่า ผมช่วยคุณต่างหาก การถามของผมมันเปิดช่องให้คุณได้โชว์สิ่งที่คุณเตรียมมา และมันโดดเด่นจนโปรเจกต์นี้ผ่านการอนุมัติอย่างไร้ข้อกังขา”

“จริงหรือ!”

ความเหนื่อยถูกลืมเลือน ความอ่อนล้าถูกสลัดทิ้งเมื่อได้ยินสิ่งที่ออกจากปากของคน รพัฒน์ทอดมองท่าทางของคนตรงหน้าแล้วหลุดหัวเราะ แม้จะทำไม่ถูกที่นำข้อมูลของบริษัทมาบอกก่อนแต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาอยากให้รางวัลคนเก่ง

“จริง บอร์ดบริหารทุกคนเลือกโปรเจกต์ของคุณ”

คำยืนยันนั้นทำให้สารินขยับตัวขึ้นนั่ง ลืมความเหนื่อย ความล้า และความหิวทั้งหมดไปแทบจะในทันที

“เยส ผมเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะทำสำเร็จคุณรู้ไหม ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งอาทิตย์”

“ผมรู้ เพราะงั้นผมถึงได้ให้รางวัลด้วยการมาบอกคุณทันทีนี่ไง”

สารินเหนื่อยและทุ่มเทแค่ไหนชายหนุ่มรู้ดี ตลอดทั้งอาทิตย์อีกฝ่ายทุ่มเวลาไปกับงานจนไม่มีเวลาแม้แต่จะนอน และนั่นทำให้รพัฒน์หงุดหงิดกับการไม่ได้กินเนื้อเสือนุ่มๆจนเอาไปลงกับลูกน้องหลายคน

“อยากมาบอกผมหรืออยากมาทำอะไรกันแน่”

ประโยคนั้นทำให้คนโดนรู้ทันยกยิ้ม ยอมรับง่ายๆด้วยการไม่ปฏิเสธจนได้รับค้อนหนึ่งวงมาเป็นรางวัล

“ก็ไม่ได้กินคุณมาเป็นอาทิตย์ จะให้ผมทนได้ยังไง”

“ผมยังทนได้”

“แน่ใจหรือว่าทนได้”

มือหนาวางลงมาตรงกลางกาย นัยน์ตาคมทอความเจ้าเล่ห์และยั่วยวน ไม่เพียงแต่แตะต้องลงมาตามอำเภอใจแต่รพัฒน์ยังขยับลูบไล้ปลุกความต้องการอย่างถือวิสาสะ

“ผมเหนื่อยนะรบ” ชื่อเล่นที่นานๆทีจะถูกเอ่ยเรียกทำให้สัมผัสนั้นหยุดชะงัก

“คุณขี้โกง”

“ผมขี้โกงตรงไหน?” สารินถามกลับยิ้มๆ

เขาไม่ยอมให้อีกฝ่ายเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว หากยอมง่ายๆก็ย่อมโดนเบื่อโดยง่าย แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำให้สั่นไหวเพียงใดแต่ก็ควรมีชั้นเชิงในการยอม ไม่อย่างนั้นคนอย่าง รพัฒน์ ภัคโภคิน คงเบื่อตั้งแต่คืนแรกที่ได้ร่างกายเขาไป

อะไรที่ได้มายากๆผู้ชายมักจะชอบเสมอ

“คุณขี้โกงสอง”

“คุณเองก็ขี้โกง”

ไม่เพียงแต่การได้ยินชื่อเล่นที่เป็นจุดอ่อนของรพัฒน์ แต่นั่นก็เป็นจุดอ่อนของสารินเช่นเดียวกัน...

“คุณไม่คิดถึงผมหรือไง”

คำว่าคิดถึงไม่ใช่คิดถึงในแบบอ่อนหวานแต่สิ่งที่อีกฝ่ายหมายถึงมันคือความร้อนแรงและลีลาบนเตียงหรือที่เรียกง่ายๆว่าเซ็กส์

สารินถอนหายใจยามมองสบกับดวงตาที่เต็มไปความต้องการ บางอย่างซึ่งคับแน่นอยู่ใต้ซิบกางเกงเด่นหราตั้งแต่ที่เขาได้หันไปเห็น

“อย่าถามด้วยคำที่ฟังดูหวานหูถ้าคุณไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น”

“ผมหมายถึงอย่างนั้นสิ...ผมคิดถึงคุณ”

เสียงกระซิบถ้อยคำหวานที่แสนหลอกลวงดังขึ้นอยู่ข้างหู ก่อนลมหายใจร้อนผ่าวจะเป่ารินรดซอกคอ จากนั้นความนุ่มหยุ่นชื้นแฉะก็แตะลงบนผิวเนื้อในวินาทีต่อมา

คิดถึงแค่ร่างกายกันสินะ...

“รอบเดียวเท่านั้นรบ ผมเหนื่อย”

“อืม ตกลง”

-----

“โกรธผมหรือ”

ปลายจมูกโด่งคลอเคลียอยู่กับไหล่กว้างของคนที่นอนพลิกตัวไปอีกฝั่งยามเอ่ยถาม ผิวสีแทนบางส่วนซึ่งโผล่พ้นผ้าห่มผืนหนามีร่องรอยของความร้อนแรงแต่งแต้มอยู่ประปราย แต่ถึงอย่างนั้นบริเวณลำคอที่เจ้าของหวงแหนก็ยังคงไร้ซึ่งร่องรอยไม่มีอะไรผิดปกติเช่นเดิม

ยามบ่ายของวันหยุดที่ทั้งสองเพิ่งตื่นมีเพียงความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วตั้งแต่ตื่นมา ดูท่าว่ารพัฒน์จะทำให้เสือตัวนี้ไม่พอใจเข้าเนื่องจากไม่อาจห้ามอารมณ์ของตัวเองจนพลั้งเผลอทำมากกว่าข้อตกลง จนสารินหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนทันทีที่ปลอดปล่อยความต้องการครั้งสอง

“...”

“สอง...ผมขอโทษ”

เสียงจุ๊บเบาๆและความอุ่นร้อนจากปากของอีกคนสัมผัสลงบนลาดไหล่ขณะที่สารินยังคงสนใจอยู่เพียงพนังสีขาวตรงหน้า

ที่จริงก็ไม่ได้โกรธอะไรอีกฝ่ายเพียงแต่หากตามใจมากเกินไปก็คงจะเคยตัว...แค่นี้เขาก็เหนื่อยจะแย่

“ผมอดใจไม่ไหวจริงๆ”

“ผมบอกคุณแล้วว่าเหนื่อย”

“...ผมขอโทษ”

คนผิดเอ่ยเสียงอ่อนยามสารินพลิกตัวกลับมาหา ท่าทางเหมือนหมีตัวใหญ่กำลังเศร้าสร้อยเกือบทำให้คนทำเป็นโกรธหลุดหัวเราะ แม้จะบอกว่าท่าทางนั้นดูตลกแต่ก็รู้ดีว่ามันมีความรู้สึกบางอย่างซึ่งมีผลต่อหัวใจมากกว่าความขบขันเจืออยู่

ความรู้สึกยินดีที่อีกคนทำราวกับว่า...แคร์กัน

“อย่าใช้แรงงานผมมากนัก ผมแก่แล้ว รองรับความต้องการที่มากเกินของคุณไม่ไหวหรอกนะ”

โดยปกติแล้วถ้าอาทิตย์ที่ผ่านมาสารินไม่ติดงานคนอย่างรพัฒน์สามารถทำเรื่องแบบนั้นได้ทุกวัน แรกๆหนักถึงขั้นที่ทำวันละหลายรอบจนต้องทำข้อตกลงว่าให้ทำได้เพียงวันละหนึ่งครั้ง โดยหากวันไหนรพัฒน์ไม่ได้ทำ เจ้าตัวก็จะบวกเพิ่มในวันถัดไป

“นั่นก็เพราะคุณ...คุณคือคนที่ผมถูกใจที่สุดเลยรู้ไหมสอง”

ประโยคนั้นควรทำให้คนฟังดีใจแต่เพราะรู้ดีว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกที่ออกมาจากใจของคนพูดชายหนุ่มจึงทำได้เพียงยิ้มขมขื่นกับตัวเอง

ถูกใจของรพัฒน์มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกจากความสนุกทางร่างกาย

นั่นสินะ แล้วเขาจะหลงดีใจกับท่าทางงอนง้อก่อนหน้าไปทำไมกัน...ไร้สาระสิ้นดี

“วันนึงคุณคงเจอคนที่ถูกใจมากกว่าผม”

วันที่สารินกลัวว่ามันจะมาถึงในเร็ววัน

“ไม่รู้สิ ตอนนี้ผมมีความสุขอยู่กับคุณจนไม่ได้คิดถึงคนอื่นเลย” อีกฝ่ายพูดด้วยรอยยิ้มสบายๆ

“หึ ไม่ได้คิดถึงคนอื่นแล้วอาทิตย์ที่ผ่านมา?”

คนอย่างรพัฒน์ไม่อาจอดทนเก็บความต้องการเอาไว้ได้นานขนาดนั้นเขารู้ดี แม้จะไม่เคยถาม ไม่เคยเข้าไปยุ่งเพราะเกินขอบเขตของสถานะตัวเองแต่ใช่ว่าไม่รู้ ต่อให้จะเจ็บแปลบทุกครั้งเมื่อรับรู้หรือนึกถึงแต่คนอย่างเขาจะทำอะไรได้ในเมื่อไม่ได้เป็นเจ้าของคนคนนี้

ไม่แม้แต่จะมีสิทธิ์ใดๆ...ทั้งร่างกายและหัวใจ

“ไม่มีใครทำให้ผมสนุกได้เท่าคุณเลยสักคน”

ฝ่ามือหนายกขึ้นไล้ไปตามข้างแก้มยามเอ่ยคำตอบอันหวานหู รพัฒน์ไม่มีแววตกใจทั้งยังเอ่ยพูดด้วยท่าทีปกติ

เป็นสารินเองที่ควรจะชินและมองว่าปกติบ้างสินะ

“ผมควรดีใจใช่ไหม”

“แน่นอน...ว่าแต่คุณหายโกรธผมเรื่องเมื่อคืนหรือยัง”

สัมผัสที่ไล้อยู่บนแก้มเลื่อนลงมายังริมฝีปาก ข้อนิ้วแกร่งขยับไปมาอยู่บนความนุ่มหยุ่นเชื่องช้าราวกับกำลังกล่อมคนโกรธให้ใจอ่อน

“ผมมีสิทธิ์โกรธคุณด้วยหรือ”

“อย่าพูดอย่างนั้นสิสอง ถ้าคุณยังโกรธผมก็จะง้อ”

ยิ่งคนตัวโตกว่าทำเหมือนกับแคร์กันมากเท่าไหร่ใจของชายหนุ่มยิ่งเจ็บ...มันก็แค่เหมือนแต่ไม่ใช่

การถูกให้ความหวังนี้เองที่เกี่ยวพันและกังขังความรู้สึกเอาไว้จนแทบไร้เรี่ยวแรงหาทางออก บางคราวจึงเผลอยินดีกับการกระทำที่เป็นเหมือนภาพลวงตานี้ก่อนวินาทีต่อมาจะต้องหัวเราะเยาะให้ตัวเองกับความรู้สึกโง่ๆของตัวเอง

“อย่าพูดว่าง้อเลยรบ เราเลยวัยที่จะใช้คำนั้นกันแล้ว มันฟังดูตลก”

ผู้ชายตัวโตวัยทำงานสองคนกับคำกิ๊กก๊อกของเด็กรุ่นใหม่ฟังดูไม่เข้ากันเลยสักนิด

ง้อหรือ? ยังไงล่ะ สารินไม่ได้รับมือการกระทำที่เรียกว่าง้องอนจบเกือบจะลืมไปด้วยซ้ำว่ามันเป็นยังไง โกรธกัน ไม่พอใจ ขึ้นเตียงเดี๋ยวก็จบ

“ไม่เห็นตลกตรงไหน ผมง้อคุณเป็นนะ”

คิ้วได้รูปเลิกขึ้นเมื่อได้ยินรพัฒน์ยืนยันอย่างนั้น ประกายวาววับในดวงตาคมทำให้เกิดความอยากรู้ว่าคนพูดจะทำอย่างไร

“หึ ไหน จะง้อผมยังไง”

จุ๊บ

สัมผัสบางเบาแนบลงมาบนริมฝีปากที่จูบกันมาเป็นร้อยเป็นพันครั้งก่อนจะผละออกโดยไม่ได้รุกล้ำอะไรมากไปกว่านั้น ความร้อนผ่าวติดตรึงอยู่ไม่กี่วินาทีจนเกือบจะไม่รู้สึก ทว่าการกระทำที่เขาบอกว่ามันเด็กนี้กลับเล่นงานคนโดนง้อจนใจเต้นแรง

“ง้อนะครับ”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะประโยคแสนหวาน รอยยิ้มอ่อนโยน จูบบางเบา...หรือเพราะความโง่เง่ารอบที่ล้านของตัวเองที่ทำให้สารินแพ้ราบคาบ

สุดท้ายเขาก็ยอมโง่ให้กับการกระทำที่เป็นเพียงแค่ภาพหลอกตานี้อีกเช่นเคย


-----

“คิดยังไงถึงชวนผมออกมาทานข้าวข้างนอก”

สารินเอ่ยถามคนตรงหน้าเมื่ออาหารเช้าในยามสี่โมงเย็นกลายเป็นมื้ออาหารสุดหรูที่รพัฒน์ชวนออกมาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า กว่าจะทันรู้ตัวว่าถูกพามาที่ไหนก็เมื่อมาถึงจุดหมายแล้วเรียบร้อย ระยะห่างของแต่ละโต๊ะทำให้รู้สึกเป็นส่วนตัวสมกับราคา พวกเขาไม่ได้มาสถานที่แบบนี้กันบ่อยนักจึงนึกสงสัยว่าอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายนึกอยากจะมา

“ก็ไม่คิดยังไง ผมแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ”

“ไม่ได้ทำดีเพื่อเอาใจผมเพราะไปทำอะไรสักอย่างมาใช่ไหม”

คำถามและดวงตาที่หรี่มองมาอย่างจับผิดทำให้คนถูกถามหลุดหัวเราะ แม้ว่าสารินจะไม่ใช่คนช่างเอาอกเอาใจหรือน่าทะนุถนอมเช่นแต่สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มอยู่กับคนตรงหน้าได้คือความสบายใจที่หาไม่ได้จากคนอื่น

สารินคือความสบายของเขา...

“ถ้าจะทำอะไรสักอย่างก็คงเป็นเรื่องที่เผลอกินคุณเกินไปหนึ่งรอบนั่นแหละ”

คำตอบนั้นทำให้คนฟังค้อนขวับ แม้ว่าระยะห่างของแต่ละโต๊ะจะห่างออกไปไกลจนไม่มีทางได้ยินทว่าการพูดเรื่องนั้นในสถานที่แบบนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก

“ถ้าอย่างนั้นวันนี้คุณก็งดไปเลย”

“ได้ยังไง ผมอุตสาห์ไม่กินคุณเป็นอาทิตย์เพราะปล่อยให้ทำงาน ถ้าผมทดเจ็ดวันนั้นความจริงผมต้องได้กินคุณเพิ่มอีกเจ็ดรอบเลยนะ”

ใบหน้าของรพัฒน์จริงจังราวกับนี่คือเรื่องงานซึ่งมีมูลค่าเป็นร้อยล้าน

“ให้ผมพักบ้างเถอะ ทำทุกวันคุณไม่เบื่อผมบ้างหรือไง”

“ไม่ ให้ผมทำอีกตอนนี้ยังได้”

“แต่ตอนนี้ผมหิวจะแย่แล้ว เมื่อไหร่อาหารจะมา”

หากให้คุยกันเรื่องนี้รพัฒน์คงสามารถคุยได้ไม่จบสิ้นจึงต้องยกเรื่องอื่นมาเป็นหัวข้อสนทนา ยิ่งพูดสารินยิ่งอยากข่วนใบหน้าของอีกคนให้เป็นรอย ตลอดทั้งวันนอกจากน้ำแล้วก็ไม่มีอะไรที่ตกถึงท้อง กว่าจะสามารถขุดตัวเองขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวได้ก็กินเวลามากกว่าปกติในขณะที่คนทำกลับอารมณ์ดียิ้มหน้าระรื่นตลอดทั้งวัน

“คงอีกไม่นานหรอก...นั่นไง เหมือนจะมาพอดี”

พูดยังไม่ทันจบประโยคดีบริกรก็เข็นรถซึ่งมีอาหารหน้าตาน่าทานเดินตรงมา ยามอาหารเซตแรกถูกวางลงบนโต๊ะเรียบร้อยสารินจึงไม่รอช้าหยิบมีดและซ่อมมาจัดการสเต็กตรงหน้าในทันที

จะให้รออะไรในเมื่อเขาหิวจะตายอยู่แล้ว

“ใจเย็นๆสิสอง เดี๋ยวติดคอ”

คนถูกเตือนทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองขณะที่ปากยังคงเคี้ยวตุ้ยๆรีบกลืนอาหารลงคอด้วยความหิวโหย รพัฒน์มองท่าทางนั้นพลางยกยิ้ม คนเคร่งขรึมยามอยู่บริษัทถูกลบด้วยภาพนี้จนแทบไม่เหลือเค้า ด้านที่หลายคนไม่เคยเห็นกลับเป็นเขาที่เห็นมันมาแล้วแทบทุกด้าน

“ผมหิว”

“ผมรู้ แต่ค่อยๆกินก็ได้”

มือหนาเอื้อมมาตรงหน้าจากอีกฝั่งก่อนข้อนิ้วแกร่งจะตวัดเช็ดบางอย่างให้ตรงมุมปาก การกระทำนั้นทำให้สารินหยุดชะงัก ซอสรสเลิศซึ่งติดไปตรงปลายนิ้วถูกทำความสะอาดด้วยการไล้เลียชิมรสต่อกัน

“อืม อร่อยดีนะ คุณชอบไหม”

คนถามเอ่ยถามด้วยท่าทางสบายๆโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำเมื่อครู่ส่งผลให้ใครบางคนใจเต้นจนโครมคราม

ให้ตาย อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแต่กลับมาใจเต้นเหมือนเด็กสิบห้า!

“...ก็อร่อยดี” เสียงกระแอมไอดังขึ้นเพื่อตั้งสติก่อนสารินจะรีบกลับมาสนใจเพียงอาหารตรงหน้าต่อ

“งั้นก็กินเยอะๆ”

“รู้แล้วน่า คุณเองก็กินเถอะ”

รพัฒน์พยักหน้ารับ ปล่อยให้คนหิวกินไปโดยไม่รบกวนอะไรอีกยามที่ตัวเองก็เริ่มต้นจัดการอาหารในจานของตัวเองเช่นเดียวกัน
 
มื้ออาหารดำเนินไปอย่างไร้ซึ่งบทสนทนา ต่างคนต่างนั่งทานอาหารของตัวเองเงียบๆกระทั่งทุกเมนูซึ่งถูกทยอยนำมาเสิร์ฟหมดลงรวมทั้งของหวานที่เป็นอย่างสุดท้าย

“คุณอยากไปไหนต่อหรือเปล่า ไหนๆก็มาถึงห้างแล้วไปเดินดูอะไรกันสักหน่อยไหม” รพัฒน์เอ่ยถามขึ้น

“ตามใจคุณ”

“อืม ถ้าอย่างนั้นผมขอไปเข้าห้องน้ำสักหน่อย หรือว่าคุณจะไปด้วยกัน”

“ไม่ล่ะ เชิญคุณตามสบาย”

เมื่อร่างสูงเดินออกไปสารินจึงมีโอกาสได้นั่งสำรวจบรรยากาศรอบร้านอย่างเงียบๆ ก่อนหน้านี้มัวแต่หิวและสนใจเพียงแค่อาหารจึงแทบไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่รพัฒน์พามาที่นี่ รสชาติของอาหารและบรรยากาศรอบๆถือว่าไม่เลวแต่โดยปกติแล้วเขาและอีกฝ่ายไม่ได้ชอบการออกมาทานอาหารข้างนอกนักจึงน่าจะไม่ได้มาใช้บริการบ่อยๆ

แต่ถ้ารพัฒน์จะมากับคนอื่น อันนี้เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน...

“เห็นไกลๆไม่แน่ใจเลยเดินเข้ามาหา แล้วก็เป็นนายไม่ผิดจริงๆด้วย”

เสียงหวานแหลมของใครบางคนฉุดรั้งสติและสายตาของสารินให้กลับมาตรงหน้า เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านี้เป็นใครจึงรีบขยับตัวลุกขึ้นแล้วโค้งให้ทั้งที่ในใจอยากเดินหนีไปด้วยความเบื่อหน่าย

“สวัสดีครับ”

“มากับลูกชายฉันล่ะสิ รบยังไม่เลิกคั่วอยู่กับนายอีกหรือไง นานกว่าที่ฉันคิดเอาไว้นะ...หรือว่าเป็นนายเองที่พยายามรั้งลูกชายของฉันเอาไว้”

ประโยคจำพวกที่อีกฝ่ายมักพูดอยู่เสมอดังขึ้นอีกครั้งจนสารินได้แต่คิดกับตัวเองในใจว่าทำไมซื้อหวยถึงไม่ถูกแบบนี้

“ผมไม่ได้รั้งคุณรบครับ แต่คุณรบไม่เคยอยากไปไหนเอง”

ประโยคตอกกลับเรียบๆไร้ซึ่งอารมณ์และความเกรี้ยวกราดเล่นงานผู้หญิงตรงหน้ากลับได้มากกว่าความโมโห สายตาของผู้มีอายุวาวไรจน์ราวกับอยากจะฉีกทึ้งร่างเขาออกเป็นชิ้นๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้สารินรู้สึกหวั่นกลัวเลยแม้แต่น้อย

“หน้าไม่อาย! ผิดมนุษย์ผิดเพศแล้วยังมีหน้ามาพูดได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ตารบเขาก็แค่ตื่นเต้นกับของแปลกอย่างนายเท่านั้นแหละ สุดท้ายอะไรที่เป็นของเทียมมันก็ไม่ถาวรไม่เหมือนกับของธรรมชาติ”

“แล้วผมจะรอจนกว่าจะถึงวันนั้นครับ”

“หึ ฉันเป็นแม่ ฉันรู้ดีว่าลูกชายตัวเองเป็นคนยังไง อีกไม่นานเขาก็จะทิ้งนายเหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมา”

“...”

“ฉันเตือนด้วยความหวังดี...ออกไปจากชีวิตของตารบซะก่อนที่นายจะทำให้ลูกชายฉันแปดเปื้อนและน่ารังเกียจมากไปกว่านี้”

“...”

“อ้อ อีกอย่าง...ความใคร่น่ะมันไม่คงทนเหมือนความรักหรอก นายเองก็รู้ดีนี่ว่าตารบไม่ได้รักนาย เพราะถ้ารักอาทิตย์ที่แล้วเขาคงไม่ไปไหนต่อไหนกับใครไม่ซ้ำหน้าหรอกจริงไหม”

รรินมองคนรุ่นลูกตรงหน้าด้วยสายตาเย้ยหยันระคนสมเพช เมื่อเอ่ยทุกสิ่งที่อยากพูดไปจนหมดจึงหมุนตัวกลับแล้วเดินออกจากร้านพลางทิ้งถ้อยคำไว้ทำลายอีกคนด้วยความสะใจ

ความรักของเพศเดียวกันมันเป็นเรื่องน่ารังเกียจจะตายไป!

ทางด้านของสาริน ชายหนุ่มได้แต่ทรุดตัวนั่งลงอย่างเหนื่อยหน่าย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่ของรพัฒน์เข้ามาหาแล้วเอ่ยพูดด้วยถ้อยคำประเภทนี้ แม้จะบอกว่าชินชาและไม่เคยถือสาแต่ประโยคสุดท้ายนั้นก็ส่งผลต่อความรู้สึกได้ไม่น้อย

‘ความใคร่น่ะมันไม่คงทนเหมือนความรักหรอก’

เขารู้...เขารู้ดีโดยไม่ต้องให้อีกฝ่ายมาบอกเลยด้วยซ้ำ

“เมื่อกี้เหมือนผมเห็นผู้หญิงคนนั้น เธอได้เข้ามาหาคุณหรือเปล่าสอง”

รพัฒน์กลับมาจากห้องน้ำแล้วเห็นหลังของผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกไปจากร้านแว๊บๆแต่ไม่ทันได้มองให้แน่ชัดว่าใช่ผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่าจึงเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

ผู้หญิงคนนั้น...คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่แต่ไม่เคยทำตัวเหมือนแม่

รรินทิ้งเขาให้ผู้เป็นพ่อดูแลตั้งแต่วันแรกที่คลอดออกมา ไม่แม้แต่จะสนใจใยดีหรือให้นมสักหยด ตลอดเวลาที่เติบโตรพัฒน์ไม่เคยได้รับความรักและการดูแลจากคนเป็นแม่ สิ่งเดียวที่ผู้หญิงคนนั้นต้องการจากตัวเขาก็มีแค่ผลประโยชน์

“ไม่มีใครเข้ามาหาผมสักคน คุณคงตาฝาด”

“แน่ใจนะว่าไม่ใช่เธอ”

“ผมจะโกหกคุณไปทำไมกัน...เรียบร้อยหรือยัง ผมนึกขึ้นได้ว่ามีของที่อยากจะไปดูอยู่พอดี”

สารินขยับตัวลุกขึ้นเต็มความสูง สลัดความคิดและประโยคที่ไหลวนอยู่ในหัวให้ออกไปยามปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติโดยพยายามไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ รพัฒน์ฉลาดเป็นกรดฉะนั้นจึงต้องเก็บท่าทีให้แนบเนียน

“ถ้าคุณว่าอย่างนั้นผมก็จะเชื่อ...คุณอยากไปดูอะไรก็ตามสบาย วันนี้ผมตามใจไม่อั้น”

“ใจปล้ำจังเลยนะ ถ้าอย่างนั้นผมจะเหมาให้คุณหมดตัว”

“หึ ก็เอาสิ ผมมีปัญญาจ่าย”

สารินส่ายหน้าน้อยๆให้กับความอวดรวยนั้นก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำออกจากร้านเพื่อเดินดูของอย่างที่ตั้งใจ

ในขณะที่ยังพอมีเวลาเขาขอตักตวงความสุขที่หลอกลวงตัวเองนี้เอาไว้ก่อนแล้วกัน...

-----

“สอง...จะขึ้นไปชั้นบนอยู่แล้วใช่ไหม งั้นพี่ฝากนี่ไปไว้ในห้องประธานหน่อย เมื่อกี้ลืมแนบไปด้วยน่ะ”

เอกสารหนึ่งแผ่นถูกยื่นมาให้ตรงหน้าจากคนที่มีศักดิ์เป็นเพื่อนร่วมงาน อดิศรณ์เป็นรุ่นพี่ที่เข้ามาทำงานที่นี่ก่อนและคอยให้คำปรึกษาต่างๆแก่สารินเป็นอย่างดี

“ได้ครับ”

“เอาเข้าไปวางไว้กับแฟ้มบนโต๊ะเลยนะ แต่ถ้าคุณรพัฒน์ไม่อยู่ก็เอาคืนมาเดี๋ยวพี่จะเอาไปให้คุณธานินทร์เซ็นก่อน”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะหยิบแฟ้มงานของตัวเองที่ต้องเอาไปส่งรองประธานมาไว้ในมือ จากนั้นจึงเดินไปทางลิฟต์แล้วกดไปยังชั้นบนสุดพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพิมพ์ข้อความหาใครบางคน

ถามให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายอยู่ห้องไหมจะได้ไม่ต้องแวะไปให้เสียเวลา

'ผมมีเอกสารจะให้เซ็น คุณอยู่ที่ห้องหรือเปล่า?'

ไม่นานนักรพัฒน์ก็ตอบกลับมา

'ผมออกมาคุยงานกับลูกค้า ถ้ามีอะไรสำคัญฝากเอาไว้ที่คุณสมรได้เลย'

เป็นอันว่าเข้าใจ สารินเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวมาถึงชั้นจุดหมาย ชายหนุ่มแวะเอาเอกสารไปให้รองประธานซึ่งต้องการรายละเอียดเรื่องโปรเจกต์ที่นำเสนอไปทว่าเมื่อคุยงานของตัวเองเสร็จเรียบร้อยเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“ฮัลโหลครับ”

(สอง พี่ฝากเอางานไปไว้ในห้องคุณรพัฒน์เลยนะ พอดีคุณธานินทร์ไม่อยู่)

“ฝากคุณสมรไว้ได้ไหมครับ”

(พี่เจอคุณสมรที่คอฟฟี่ช็อปเมื่อกี้เอง สองเอาเข้าไปไว้กับแฟ้มเอกสารบนโต๊ะเลยพี่กลัวเอกสารมันปลิวหาย)

“งั้นก็ได้ครับ”

(โอเค)

ปลายสายกดวางไปขณะที่สารินหมุนตัวไปอีกทางซึ่งเป็นห้องของผู้มีอำนาจสูงสุด หน้าห้องซึ่งเป็นโต๊ะทำงานของเลขาส่วนตัวไร้ซึ่งวี่แววของเจ้าของ ขณะที่ประตูซึ่งถูกปิดไม่สนิททำให้คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากัน

รีบร้อนออกไปจนไม่ได้ปิดประตูเลยหรือยังไง?

“อะ อย่าเพิ่งสิคะรบ”

มือที่วางลงบนลูกบิดชะงักกึกเมื่อเสียงที่เล็ดลอดออกมาเป็นเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งและจากประโยคที่ได้ยินมันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าใครกำลังทำอะไร

“อ๊ะ อื้อ รบคะ เบาๆค่ะ”

เสียงครางหวานดังเล็ดลอดออกมาจากในห้องโดยไม่ต้องนึกคิดหรือตีความอะไรให้มากไปกว่านั้น มือที่วางอยู่ที่เดิมกำเข้าหากันแน่น ข้อความซึ่งตอบกลับมาว่าออกไปคุยงานกับลูกค้าย้อนกลับเข้ามาในความคิด

สารินไม่เคยโกรธที่อีกคนมีความสัมพันธ์กับคนอื่นแต่สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกโกรธในคราวนี้คือการที่อีกฝ่ายโกหก...

และสารินเลือกจะเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ให้คนทั้งสองได้ตั้งตัว

“อุ๊ย!”

หญิงสาวสะสวยในสภาพกึ่งเปลือยรีบคว้าเสื้อที่ตกอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาปิดช่วงบนของตัวเองเอาไว้ยามที่รพัฒน์ทำได้เพียงผละใบหน้าออกจากทรวงอกเปลือยเปล่านั่น

“สอง!”

TBC.


คุณรบคนชั่ววววว ใจร้ายกับคุณสองมาก หึ่ยๆๆๆๆ แต่งเองโมโหเอง :katai1: :katai1:

มาต่อจนครบ100%แล้ววว เป็นกำลังใจและคอมเมนท์ติชมกันหน่อยนะคะ  :call: :call: (ไม่งั้นจะทิ้งให้ค้างนานๆเล้ย)  :mew3: :mew3:



Fanpage : https://www.facebook.com/writerexsoull/
Tw : https://twitter.com/exsoull_
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 02/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-10-2017 07:36:56
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 02/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 02-10-2017 10:04:29
เลือดกำเดากะลังจะหยดแล้วเชียว..ตัดฉับได้ประทับใจ รอ...อออ ครัช  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 02/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 02-10-2017 14:14:45
สัมผัสได้ชัดเจนมากค่ะ
คือถ้าเป็นแค่เสน่หาล้วนๆที่ไว้ใช้ระบายก็เจ็บเกินแล้วนะ
แต่ถ้าเป็นเสน่หาที่ผูกร้อยไว้ใช้งานจนหมดคุณค่า
รอวันถีบส่งด้วยเพียงเพราะเบื่อ หรือมีใหม่กว่าไบร์ทกว่านี่ ร้องไห้รอเลยไหม?
กลัวbadendอ่า แต่น่าติดตามมากๆค่ะ รออ่านอยู่น้า ขอบคุณค่า^^ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 02/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 02-10-2017 16:52:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: Sutharat ที่ 07-10-2017 09:06:10
คนเราถ้าหลงเสน่กันมันก็อยู่กันไม่นานถ้าไม่มีใจแต่การกระทำของรบเหมือนคนจับปลาสองมือมากกว่าเพราะสองต้องมีดีกว่าเสน่ที่รบหลงไหล
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 07-10-2017 09:21:22
 :fire: จัดการแล้วถีบหัวส่งเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: spy_dummy ที่ 07-10-2017 09:27:20
รอวันให้สองทิ้งคุณรบค่ะ พูดแค่นี้ หึ!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 07-10-2017 09:27:56
สองสตรองมากกับคำว่า“ไม่มีใครทำให้ผมสนุกได้เท่าคุณเลยสักคน” ทนฟังได้ยังง้ายยยย(เสียงสู้งงงง)
คืออ่าน100%แล้วไม่โกรธเกลียดรบเท่าหงุดหงิดสอง ก็ยอมทนเองไง
ถ้าทั้งๆที่ก็รู้ แล้วก็ยอมรับได้ ก็อย่ายอมให้ตัวเองเจ็บปวดสิ
ถ้ารู้ว่าเป็นได้แค่sexที่ถึงใจยังไงๆก็ไม่มีวันใช่รัก ก็ต้องถนอมหัวใจตัวเอง
(สารินไม่เคยโกรธที่อีกคนมีความสัมพันธ์กับคนอื่นแต่สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกโกรธในคราวนี้คือการที่อีกฝ่ายโกหก...)
บรรทัดนี้ทำป้าเจ็บปวดมากๆ คือสองจะทนต่อไปใช่ไหมถ้ารบไม่ได้โกหกรอบนี้????
ไม่ประหลาดใจเลยว่าทำไมรบไม่เห็นคุณค่าของสองซะที เพราะสองยังไม่รักและเห็นค่าของตัวเองเลย
ทำตัวเป็นสัตว์เลี้ยงที่พอใจกับแค่เศษกระดูกที่เขาคอยหยิบยื่นให้ เพื่อร้อยไว้ใช้งานและใช้บำบัดใคร่
อยากบอกแรงๆเลยนะว่าสองไม่มีสิทธิ์โกรธอะไรรบเลยนะ เพราะคุณมอบอำนาจให้เขาแบบเบ็ดเสร็จเอง
แต่ยังไงๆป้าก็รอให้สองเลิกยอมอยู่นะคะ
(เม้นท์แรงไปไหม ยังไงก็ขอโทษไว้ล่วงหน้านะคะ^^)
ตามไปอ่านไปเม้นท์ที่ธัญมาก่อนแล้วมาอ่านที่นี่อีกรอบ ดีใจมากๆที่ไปลงที่นั่นด้วย
ชอบอ่านที่ธัญค่ะ ตัวหนังสือปรับง่ายอ่านง่ายดี 555แก่เนอะ
รอสองจัดหนักอยู่นะคะ สนุกมากๆเรื่องนี้ ขอบคุณค่ะ :กอด1:


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-10-2017 09:37:44
สะ-เทือน-ไต   :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 07-10-2017 12:06:22
 :fire: ฮึ่ยยยยย
มาต่อเร็วๆนะ อยากรู้จุดจบของไอ้คุณรบ 5555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 07-10-2017 13:26:05
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: maneethewa ที่ 07-10-2017 18:24:28
กระโดดถีบยอดอกเลยยยยยยย  :z6:
ฮึ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: minminty ที่ 08-10-2017 15:38:23
คุณสองไปหาหนุ่มเอ๊าะๆมาดามใจเลยค่ะฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-10-2017 17:47:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 1 07/10/60 *อัพครบ
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 12-10-2017 23:39:42
 :katai1:เกลียดพวกหลายใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2(ครบ) 24/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 14-10-2017 05:33:28
ตอนที่ 2

“สอง!”

เสียงตะโกนเรียกชื่ออีกคนดังก้องเมื่อรพัฒน์เห็นเต็มตาว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า ทุกอย่างพลันหยุดนิ่ง สมองอันชาญฉลาดหยุดทำงานจนไม่แม้แต่จะสามารถประมวลผลได้ว่าต้องขยับออก ท่าทางทุกอย่างหยุดอยู่แบบนั้นราวกับโดนแช่แข็ง

จริงอยู่ที่เขาและสองไม่มีข้อมูกผัดกันแต่ก็รู้ว่าเหตุการณ์นี้มันเป็นการไม่ให้เกียรติอีกคนเพียงใด

“ผมเอาเอกสารมาให้แล้วเห็นประตูเปิดแง้มไว้ นึกว่าคุณลืมปิดห้อง”

สารินเอ่ยเสียงเรียบไม่แสดงออกถึงความสั่นไหวทั้งที่ในใจทรุดลงไม่ต่างจากหน้าดินยามเจอแผ่นดินไหว ถึงจะรับรู้ตลอดมาแต่การได้เห็นเต็มๆตาก็ส่งผลต่อความรู้สึกจนแม้แต่ตัวเองยังเพิ่งรู้ตัวว่าความเจ็บปวดมันเกิดขึ้นได้มากมายกว่าที่คิด

เขาอดทนมามากเกินไปแล้วหรือเปล่า...

“ผม...”

“แต่ตอนนี้ดูท่าว่ามีอะไรน่าสนใจกว่าการเอาเอกสารมาให้คุณเซ็นซะแล้ว”

เรือนร่างสูงใหญ่ที่แทบไม่แตกต่างกันก้าวเท้าอาดๆตรงมา ดวงตาที่รพัฒน์มองว่ามันมีเสน่ห์ยั่วเย้ายามอยู่บนเตียงมองสบกับหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวจนคนถูกมองหน้าแดงซ่าน ช่วงบนเปลือยเปล่าซึ่งถูกปกปิดด้วยเสื้อในมือราวกับค่อยๆถูกแผดเผาด้วยสายตาคู่นั้น ยิ่งยามอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้จนหยุดยืนอยู่ตรงหน้า เธอก็พลันลืมเลือนเหตุการณ์ก่อนหน้าไปจนหมดสิ้น

ฝ่ามือหนายกขึ้นมาไล้แก้มเนียนของหญิงสาวยามปรายตามองไปยังอีกคนที่มองมาอย่างเริ่มไม่พอใจ

“คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมอยากจะขอร่วมด้วย”

ประโยคที่ตั้งใจสื่อถึงทั้งสองคนทำให้รพัฒน์กัดฟันกรอด คิดไม่ถึงว่าสารินจะทำแบบนี้จนความรู้สึกไม่พอใจวิ่งพล่านเข้ามาในอก

พลั่ก

ฝ่ามือบนใบหน้านวลผ่องถูกปัดออกรุนแรงด้วยฝีมือของคนขี้หวง

“คุณพูดอะไร!”

“ทำไมล่ะ ผมว่ามันก็น่าสนุกดี คุณคงไม่ว่าอะไรนะถ้าผู้หญิงไม่ได้รังเกียจ”

คนถูกถามไม่ได้ตอบรับหากแต่สายตาเขินอายและท่าทางไม่ปฏิเสธตรงหน้าทำให้สารินยิ้มเยาะ ทว่าก่อนจะได้ยั่วโมโหอีกคนมากไปกว่านั้นรพัฒน์ก็เข้ามาขวางระหว่างทั้งสอง สายตาแห่งความกรุ่นโกรธตวัดไปมองที่หญิงสาวแล้วออกคำสั่ง

“รีบแต่งตัวแล้วก็ออกไปซะ!”

“ระ รบ”

“ออกไป!!”

เสียงกัมปนาทดังก้องไปทั่วจนคนถูกตวาดรีบสวมเสื้อลวกๆแล้วคว้าเสื้อคลุมตัวนอกมาสวมทับอีกชั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าของตัวเองลุกลี้ลุกลนออกจากห้องไปทั้งที่ใจยังนึกเสียดายกับท่าทางของสาริน

เธออยากสานสัมพันธ์ต่อถ้าเป็นไปได้...

ทันทีที่บุคคลที่สามออกจากห้องไปและแน่ใจว่าประตูถูกปิดลงสนิทรพัฒน์ก็ตวัดสายตามามองคนตรงหน้า ความไม่พอใจก่อกำเนิดขึ้นมาอย่างรุนแรงจนไม่รู้ว่ามันมากมายขนาดนี้ด้วยสาเหตุไหน

รู้เพียงแต่ว่าไม่พอใจจนอยากจะจับสารินมากัดให้จมเขี้ยว ตีตราจองบนเรือนกายนี้ทุกอณูพื้นที่เพื่อตอกย้ำให้อีกฝ่ายรู้ว่าร่างกายนี้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว!

“คุณตั้งใจจะทำอะไรสอง” รพัฒน์เอ่ยถามเสียงรอดไรฟัน

“ทำไม คุณหวงผู้หญิงคนนั้นหรือ”

ประโยคที่ทั้งอยากรู้และหวาดกลัวถูกถามออกไปด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ทุกอย่างถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเฉยชาทั้งที่ข้างในแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี

มันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่สารินจะอดทนไหว

เขายอมเป็นคนโง่มาตลอดก็จริง แต่ใช่ว่าคนโง่จะยอมตลอดไป...

“ผมไม่ได้หวงเธอ”

“แล้วคุณไม่พอใจผมเรื่องอะไร เรื่องแบบนี้ผู้ชายเขาไม่ถืออยู่แล้วไม่ใช่หรือไง...สามคนก็ตื่นเต้นไปอีกแบบ”

“สาริน!”

เสียงตะโกนมาพร้อมกับมือหนาที่ตะปบลงบนไหล่อีกทั้งยังออกแรงบีบจนความเจ็บเกิดขึ้นในวินาทีต่อมา สารินจ้องตาอีกคนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ค้นหาความจริงและความรู้สึกที่เฝ้าเพียรอยากรู้โดยหวังว่าจะพบเจอกับอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

ก่อนชายหนุ่มจะพบว่าไม่เจออะไรแบบนั้นเลยสักนิด ดวงตาคู่นี้มีเพียงความเสน่หาที่มอบให้ มีแต่ความลุ่มหลงหลอกลวงโดยปราศจากความรักอย่างสิ้นเชิง

“คุณไม่พอใจอะไรกันแน่รบ ผมไม่เข้าใจ”

เสียงน้ำที่เอ่ยถามอ่อนลงเพราะข้างในเริ่มอ่อนแรง ชั่ววินาทีหนึ่งสารินเกิดความคาดหวังในคำตอบนั้นหากแต่สติอันน้อยนิดก็บอกตัวเองว่าอย่าเผลอไผลกับสิ่งลวงหลอกที่ไม่มีวันเป็นจริง

คิดว่าอีกคนจะหวงเขาหรือ หึ ต่อให้หวงจริงก็คงเป็นเพราะคำว่าศักดิ์ศรีเสียมากกว่า

“ยังต้องถามอีกหรือไง คุณเป็นของผมคนเดียวนะสอง!”

“งั้นเหรอ...แล้วคุณเป็นของผมคนเดียวหรือเปล่า”

ที่ผ่านมาถึงรับรู้แต่ไม่เคยเห็น ถึงสัมผัสได้แต่ไม่เคยได้รับการโกหก สารินเคยถามตัวเองว่ายอมทนอยู่ในสถานะนี้ทำไมแต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบจากตัวเอง พร่ำถามว่าเขารับได้จริงๆหรือที่ร่างกายซึ่งกกกอดตัวเองนี้ก็กอดคนอื่นๆเช่นเดียวกัน
 
วินาทีนี้เองที่ชายหนุ่มรู้ว่าตัวเองรับไม่ได้ แต่แค่หลอกตัวเองมาตลอดว่ารับได้...

“...”

“ทำไมผมต้องเป็นของคุณคนเดียวในเมื่อคุณเป็นของใครต่อใคร”

“สอง!”

“ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมรบว่าผมทนได้ทุกอย่างยกเว้นการโกหก”

เพราะการโกหกนำพาความเสียใจมาให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายมันก็จะพังทลายทุกอย่างให้แหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี

“...” ประโยคนั้นทำให้คนมีความผิดพูดไม่ออก

“เพราะการโกหกจะพรากทุกอย่างไปจากคุณ...โดยเฉพาะความเชื่อใจ”

“...”

“ผมเหนื่อยแล้วรบ”

“...”

“เรากลับมาเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องกันเหมือนเดิมเถอะ”

“คุณกำลังจะบอกเลิกผมงั้นเหรอ!”

รพัฒน์เอ่ยถามทั้งที่ในหัวมีแต่เพียงคำว่ากลับมาเป็นเจ้านายกับลูกน้องกันเหมือนเดิม มือทั้งสองข้างสั่นไหวจนต้องกำเข้าหากันแน่น ในอกเหมือนถูกบีบอัดด้วยอะไรบางอย่างจนหายใจไม่ออกสวนทางกับช่องท้องที่วูบโหวงด้วยความรู้สึกใจหาย

ใจหายงั้นหรือ...

“เลิก? ตลกน่ารบ สถานะของเรามันใช้คำนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำไป...จะเลิกได้ยังไงในเมื่อเราไม่ได้คบกัน”

สารินยกยิ้มขื่นยามเอ่ยความจริงแสนเจ็บปวด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายลืมตัวหรืออะไรไรแต่เขารู้ตัวดีว่าสถานะของตัวเองและรพัฒน์ไม่อาจมีสิทธิ์จะใช้คำนั้น

และประโยคนั้นทำให้คนลืมตัวชะงักกึก

“คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกให้เรากลับมาเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องเหมือนเดิม จำไม่ได้หรือว่าวันนั้นผมบอกว่าแค่ผมเท่านั้นที่มีสิทธิ์ควบคุมความสัมพันธ์นี้”

นิสัยแย่ๆอย่างหนึ่งของมนุษย์คือเมื่อทะเลาะกันสมองจะสั่งการให้พูดอะไรก็ได้ให้อีกฝ่ายเจ็บปวดที่สุดและตอนนี้สมองของรพัฒน์กำลังสั่งให้ทำแบบนั้นโดยไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะตามมา

รู้เพียงแต่ตัวเองต้องทำให้อีกฝ่ายเจ็บอย่างที่ตัวเองเจ็บ...การอยากเอาชนะอยู่เหนือทุกสิ่งด้วยลืมไปว่านี่ไม่ใช่การแข่งขัน เพราะเมื่อคิดอย่างนั้นสุดท้ายแล้วคนที่คิดว่าตัวเองชนะนั่นแหละที่จะเจ็บปวดที่สุด

“งั้นคุณก็พูดออกมา...จบความสัมพันธ์นี้ด้วยตัวคุณเอง”

สองมือของคนพูดกำแน่นไม่ต่างจากอีกคน สารินรู้สึกเหมือนมีใครกระชากหัวใจออกไปยามขยับปากเอื้อนเอ่ยคำว่าจบความสัมพันธ์ ไม่คาดคิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้ทั้งที่ทนได้มาเป็นปี

แต่ก็นั่นแหละ ความอดทนของคนมีขีดจำกัด...ตอนนี้เขาเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยจนแม้แต่การถอยห่างยังไม่ทรมานเท่า

“ผมไม่จบ”

คนเห็นแก่ตัวก็ยังคงเป็นคนเห็นแก่ตัว

รพัฒน์เป็นคนเห็นแก่ตัวเขายอมรับและรู้ตัวดี ต่อให้ใครจะตราหน้าว่าอย่างนั้นทว่าความรู้สึกสูญเสียที่ถาโถมเข้ามาก็เกินกว่าจะรับไหวจนไม่อาจปล่อยมือจากคนตรงหน้า สารินต้องอยู่กับเขา...จนกว่าเขาพอใจที่จะปล่อยเอง

“คุณมันเห็นแก่ตัว”

“ใช่ ผมเห็นแก่ตัว”

“คิดว่าผมจะทนคุณไปตลอดเหรอ”

“...”

สายตาคู่นั้นมองตรงมาราวกับจะบอกว่าไม่มีสารินคนเดิมในวันเก่า ไม่มีคนคอยอดทนปิดหูปิดตากับทุกเรื่องเช่นที่ผ่านมา สีหน้าและแววตาของคนตรงหน้าทำให้ความกลัวแล่นเข้ามาในอก รพัฒน์รู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองเย็นเยียบไปตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

เหมือนว่าครั้งนี้เขาจะต้องสูญเสียอีกคนไปจริงๆ...

“ไม่รบ ผมเหนื่อยเกินกว่าที่จะอยู่แบบนี้แล้ว”

“ไม่...”

“ถึงคุณไม่ยอมจบผมก็จะจบมัน...พอกันที”

 วินาทีนี้รพัฒน์รับรู้แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะรั้งสารินไว้อีกต่อไป ดวงตาคู่นั้นแน่วแน่และไม่มีแววสั่นไหวเลยสักนิด มันชัดเจนจนเขาไม่มีแรงแม้แต่จะพูดอะไร

“...”

“เอกสารนี้ ตรวจดูและเซ็นให้ด้วยนะครับ...ท่านประธาน”

สารินวางกระดาษในมือลงบนโต๊ะทำงานของอีกฝ่าย สบตามองคนที่ตัวเองรักราวกับจะกักเก็บภาพนี้เอาไว้ให้นานที่สุด ชั่ววินาทีหนึ่งภาพแห่งความสุขยามอยู่กับรพัฒน์ก็ฉายแว๊บขึ้นมาในหัว

มันจะเป็นสิ่งดีๆที่เขาเลือกเก็บไว้

“ลาก่อน”

คำบอกลาแสนแผ่วเบาถูกเอ่ยทิ้งท้ายก่อนชายหนุ่มจะหมุนตัวสาวเท้าออกมาเร็วๆให้พ้นจากตรงนั้น ประตูบานกว้างปิดลงกักกั้นคนทั้งสองเอาไว้ราวกับมันตัดขาดหัวใจทั้งสองออกจากกันตลอดกาล

พอแล้วสาริน...พอได้แล้ว

สารินเดินลงมาจากชั้นของผู้มีอำนาจสูงสุดด้วยสติที่ไม่ครบถ้วน ความรู้สึกวูบโหวงแล่นงานจนเหมือนตัวลอยขณะก้าวเดิน ในอกปวดหนึบจนพลันทำให้ดวงตาแดงก่ำ เหมือนอยากจะร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออก น้ำตามากมายรินรดอยู่เพียงข้างในจนเกินกว่าจะแสดงออกมา

ขณะที่คนซึ่งคิดว่าไม่ได้รู้สึกอะไรนอกจากสนุกและถูกใจกับอีกฝ่ายกลับมีน้ำตาไหลลงมาเชื่องช้า...

--

“ทำไมมานั่งดื่มอยู่คนเดียวล่ะครับ”

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งทรุดตัวนั่งลงข้างๆพลางเอ่ยถามคนที่ตัวเองคุ้นเคยเมื่อบังเอิญมาสังสรรค์กับเพื่อนแล้วเข้าเจอกับสาริน

คนถูกทักหันไปมองเก้าอี้บาร์ข้างตัวขณะที่ในมือก็หมุนแก้วเครื่องเดิมซึ่งนับจำนวนไม่ได้ไปด้วย

“อาทิตย์”

“ไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดีนะครับ”

อาทิตย์เป็นคนที่เข้ามาเฟลิตสารินอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะยอมห่างไปในที่สุดเพราะชายหนุ่มไม่เล่นด้วย อีกฝ่ายเรียกได้ว่าดูดีในระดับหนึ่งทว่าในตอนนั้นสารินไม่มีสายตาเอาไว้มองใครยกเว้นเพียงคนๆเดียว...

“ผมสบายดี”

“อืม สบายดีจริงเหรอ ดูจากตอนนี้แล้วผมว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ”

“แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่”

สารินเอ่ยถามยามยกแก้วเครื่องดื่มในมือตัวเองขึ้นมาจิบ เลี่ยงบทสนทนานั้นอย่างจงใจโดยที่อาทิตย์ก็รู้ดีจึงหลุดหัวเราะออกมาและไม่เซ้าซี้คนตรงหน้าต่อ

สารินยังคงมีเสน่ห์น่าค้นหาเหมือนเดิม...

“ผมมาดริ้งค์กับเพื่อนตามประสาแล้วก็บังเอิญเห็นคุณเข้า”

“งั้นก็ไปกับเพื่อนสิ”

เสียงก้นแก้วกระทบกับพื้นบาร์ดังแผ่ว สารินวางเครื่องดื่มในมือลงแล้วหันกลับมามองคนที่อายุน้อยกว่า รอยยิ้มของอีกฝ่ายแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าแทบจะตลอดเวลาขณะที่ดวงตาก็ทอความกรุ้มกริ่มอย่างไม่ปิดบังความรู้สึก

“ปล่อยเพื่อนผมไปเถอะ อยู่เป็นเพื่อนคุณคงดีกว่า”

“ไม่...”

“อย่าปฏิเสธเลยครับ ผมแค่จะอยู่กับคุณโดยไม่ก่อกวนหรือพูดอะไรให้ต้องรำคาญทั้งนั้น”

ฉลาดในการพูดและวางตัว...

อาทิตย์รู้ดีว่าตอนนี้สารินไม่พร้อมจะพูดคุยหรือเปิดเผยอะไรทั้งนั้น อีกคนต้องการจะอยู่เงียบๆแต่ถึงอย่างนั้นในช่วงเวลาที่อ่อนแอการมีใครสักคนเคียงข้างก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอยู่ลึกๆ

ใครสักคนที่ไม่ไปไหนและไม่จำเป็นต้องพูดปลอบด้วยถ้อยคำ...

“ไม่ได้คาดหวังว่าจะหิ้วผมขึ้นเตียงด้วยใช่ไหม”

คำถามนั้นทำให้คนถูกรู้ทันหลุดหัวเราะพลางยกมือขึ้นมาปัดปลายจมูกแก้เขิน

“อย่าถามในสิ่งที่คุณก็รู้คำตอบสิ”

รอยยิ้มและสายตาของคนเด็กกว่าไม่มีแววจะปกปิดความต้องการ สารินมองสบกับแววตาจริงจังตรงหน้าด้วยความคิดที่หมุนวนอยู่ในหัว ภาพของรพัฒน์ทับซ้อนขึ้นมาก่อนชายหนุ่มจะสลัดมันออกแล้วยกเครื่องดื่มขึ้นมาจิบอีกครั้ง

“คิดว่าตัวเองจะได้ในสิ่งที่หวังหรือเปล่า”

“ก็อยู่ที่ว่าคุณจะยอมให้ผมอยู่เป็นเพื่อนไหม”

“...ก็ดีเหมือนกัน”

สารินเอ่ยตอบพลางทอดมองคนข้างตัวด้วยสายตาซึ่งยากจะคาดเดา...แต่ถึงอย่างนั้นคำตอบนั้นก็ทำให้อาทิตย์ยกยิ้มด้วยความยินดี

--

21.33 น.

รพัฒน์ยืนมองบานประตูที่เปิดเข้าออกมาเป็นร้อยรอบราวกับว่าไม่เคยเห็นมันมาก่อน กว่าครึ่งชั่วโมงที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนี้หากแต่ไม่มีความกล้าที่จะเปิดมันเข้าไป

เหตุการณ์เมื่อบ่ายรบกวนความคิดและจิตใจของเขาจนไม่เป็นอันจะทำอะไร ความจริงที่ว่าสารินทิ้งไปแล้วทำให้ไม่อาจยอมรับได้จนทำให้ต้องไตร่ตรองและทบทวนทุกอย่างก่อนจะคิดได้ว่าการคุยกันโดยที่มีสติและใจเย็นขึ้นน่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

ก๊อก ก๊อก

สุดท้ายแล้วเมื่อการยืนอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ รพัฒน์จึงสูดลมหายใจเข้าลึก ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเป็นสัญญาณจากนั้นจึงยืนรอเจ้าของมาเปิดทั้งที่ปกติแล้วจะเปิดเข้าไปด้วยตัวเอง

แกร๊ก

วินาทีที่เสียงเปิดประตูดังขึ้นชายหนุ่มอดยอมรับไม่ได้ว่าความไม่มั่นใจนั้นแล่นวาบเข้ามาในอก ความไม่มั่นใจที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งสำหรับคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงอย่างรพัฒน์

แต่แล้วคนที่ปรากฏตัวหลังบานประตูนั้นกลับเป็นคนที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้

“คุณเป็นใคร”

เสียงที่เอ่ยถามกดต่ำลงโดยไม่รู้ตัว ความไม่พอใจวิ่งแซงทุกความรู้สึกจนกรามแกร่งบดเข้าหากันแน่น ดวงตาคมวาวโรจน์ขึ้นโดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ สภาพเสื้อผ้าของคนตรงหน้าหลุดลุ่ยไม่เรียบร้อยราวกับเร่งรีบหยิบมันมาสวมยิ่งทำให้รพัฒน์อยากเข้าไปขย้ำคออีกฝ่าย

ทำอะไรกันถึงเพิ่งจะสวมเสื้อผ้า!

“เอ่อ ถ้าคุณมาหาเจ้าของห้องก็เชิญข้างในก่อนครับ พอดีว่าสองอาบน้ำอยู่”

คำเรียกขานสนิทสนมทำให้รพัฒน์แทบขาดสติ ทว่าฟางเส้นสุดท้ายที่ใกล้ขาดวิ่นก็เตือนตัวเองว่าให้เดินเข้าไปในห้องเพื่อรอคุยกับคนที่ต้องการเจอ

สารินจะได้ตอบทุกอย่างในทุกเรื่องทีเดียว

“ใครมาหาผ...”

ปลายประโยคหายเข้าไปในลำคอเมื่อคนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำเห็นแขกผู้มาเยือนเข้าเต็มตา

รพัฒน์คิดว่าตัวเองมีความใจเย็นมากพอที่สามารถเดินเข้ามาในห้องนี้ได้โดยไม่ตั๊นหน้าคนที่มาเปิดประตูให้ไปเสียก่อน ทว่าภาพตรงหน้ากลับทำให้ความอดทนที่เขาพยายามมีมันขาดผึง

สาบเสื้อคลุมอาบน้ำที่ไม่เรียบร้อยนั้นเปิดเผยผิวเนื้อเนียนบนหน้าอกหนั่นแน่นบางส่วนและถึงแม้เจ้าของเรือนร่างจะรีบดึงชายเสื้อมาปิดอย่างรวดเร็วแต่ดวงตาคมก็ยังเร็วพอจะมองเห็นร่องรอยบางอย่างเข้า

รอยช้ำเป็นจ้ำสองสามรอยบนแผ่นอกและลำคอนั่น...

“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ!”

ไม่ใช่เพียงแต่คำพูดที่ดุดันแต่ร่างกายสูงใหญ่ก็เคลื่อนไหวรวดเร็วก่อนข้อมือหนาจะตกอยู่ในมือของอีกฝ่ายโดยแรงบีบมากมายนั้นทำให้สารินขมวดคิ้ว

“คุณรออยู่ข้างนอกนี่แล้วกัน” สารินหันไปบอกอีกคนซึ่งยืนงงๆอย่างไม่รู้เรื่องราว

“ไม่ต้องรอ กลับไป!”

“อาทิตย์เป็นแขกของผมและผมเป็นเจ้าของห้อง คุณไม่มีสิทธิ์ไล่เขา”

ประโยคเรียบๆจากคนตรงหน้าทำให้รพัฒน์ออกแรงมากขึ้นอีกจนสารินทนความเจ็บไม่ไหว

“ผมเจ็บ”

“ผมทำให้คุณเจ็บได้มากกว่านี้อีก...บอกไอ้หน้าอ่อนนี่ให้กลับไปซะ” สารินมองสบกับดวงตาที่วาวไรจน์ยิ่งกว่าครั้งไหนนิ่งก่อนจะลอบถอนหายใจ

เขารู้จักรพัฒน์ดี หากอยากจะลองดีผู้ชายคนนี้จะทำให้ได้เห็นว่าพายุที่แท้จริงมันทำลายล้างอะไรได้บ้าง

“โทษทีอาร์ต แต่วันนี้คุณกลับไปก่อนเถอะ”

อาทิตย์มองคนทั้งสองสลับไปมา บรรยากาศอึมครึมมืดมัวทำให้ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์บางอย่างจนต้องยอมพยักหน้ารับในที่สุด

“ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมนะ” ประโยคนั้นและการรับคำของสารินทำให้รพัฒน์กัดฟันฟันกรอด

และเมื่อประตูห้องกว้างปิดลงฝ่ามือใหญ่ที่กำข้อมือของอีกคนเอาไว้แน่นก็สะบัดออกสุดแรง เสียงหายใจของรพัฒน์ดังฟืดฟาดราวกับสัตว์ป่าที่กำลังโมโหจัด

“คุณไม่มีสิทธ์มาทำแบบนี้นะ”

“หึ ตัดใจได้เร็วเชียวนะ ไม่ทันไรก็พาผู้ชายอื่นขึ้นห้องทั้งที่เพิ่งตัดขาดกับผมเมื่อบ่ายแถมยังไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ขาดไม่ได้เลยใช่ไหมเรื่องแบบนี้ หรือว่าที่ผ่านมาก็ลากใครต่อใครขึ้นห้องโดยที่ผมไม่รู้”

“รพัฒน์!”

หากว่าเหตุการณ์เมื่อบ่ายทำให้สารินโกรธแล้วมันเทียบไม่ได้กับยามได้ยินประโยคนี้เลยสักนิด

และถึงแม้จะโกรธเพียงไหนก็กลับมีความรู้สึกหนึ่งที่มากกว่าความรู้สึกอื่นๆ...นั่นคือความเจ็บปวด เจ็บกับคำดูถูกนั้นจนหายใจแทบไม่ออก

ทั้งที่ผ่านมาเขามีแค่อีกฝ่ายมาตลอดในขณะที่รพัฒน์มีใครต่อใคร

“ทำไม รอยนั่นคิดว่าผมไม่เห็นหรือ”

ยิ่งคิดชายหนุ่มยิ่งโมโหจนอยากกระชากคนตรงหน้าเข้าไปในห้องน้ำแล้วใช้หินขัดรอยนั้นออกแรงๆ

รอยที่มาทับรอยของเขา

“แล้วทำไม ผมจะทำอะไรกับใครแล้วมันทำไมในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้ก็อย่าลืมสิว่าเราไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันมากไปกว่าเรื่องเซ็กส์ พอลงจากเตียงกับคุณแล้วผมจะมีอะไรกับใครมันจะผิดยังไงในเมื่อคุณยังมีได้”

“สาริน!”

“พอผมพูดแล้วรับไม่ได้เหรอ”

“...”

“คุณทำให้ผมรู้ว่าเรื่องวันนี้ผมตัดสินใจได้ถูกต้องที่สุด...ไม่ว่าคุณจะมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ออกไปซะ”

“ผมไม่ไป แล้วก็อย่าหวังว่าผมจะปล่อยให้คุณไปเป็นของคนอื่นอีก”

ร่างสูงออกแรงผลักจนคนไม่ได้ตั้งตัวล้มทรุดลงบนโซฟากลางห้อง ยังไม่ทันจะได้ขยับตัวรพัฒน์ก็ตามมาทาบทับ เนื่องจากขนาดตัวที่พอกันแถมแรงอีกคนยังมีมากกว่าจึงทำให้สารินไม่อาจหลุดออกจากพันธนาการนี้โดยง่าย

“ปล่อยผม!”

คนโมโหไม่ฟังฟ้าฟังฝนออกแรงกดคนใต้ร่างเอาไว้สุดแรงในขณะที่สารินก็ดิ้นรนจนสาบเสื้อคลุมอาบน้ำหลุดลุ่ยเพราะการขยับตัว เปิดเผยช่วงอกบางส่วนและเปิดเผยให้ได้เห็นร่องรอยนั้นเต็มตา

“โอ๊ย”

แรงกัดตรงซอกคอแรงจนสารินหลุดเสียงร้อง รพัฒน์กัดจนแทบจมเขี้ยวไม่มีการออมแรงกระทั่งคิดว่าเลือดต้องไหลออกมาและเกิดแผล หมาบ้าตัวใหญ่กัดไปทั่วทิ้งความเจ็บไว้ทุกที่จนน้ำตาซึม

จะทำร้ายกันทั้งร่างกายและจิตใจเลยหรือไง...

“ถ้าคุณยังเป็นบ้าอยู่แบบนี้ผมจะลาออก” ถ้อยคำนั้นทำให้รพัฒน์ชะงักกึก

“...”

“ลาออกแล้วก็จะย้ายออกจากที่นี่ จะไปในที่ที่ไม่มีวันเจอคุณอีก”

ทุกถ้อยคำที่ออกมาจากปากของสารินราวกับน้ำกรดรินรดลงกลางใจ มันทำลายและสร้างความเจ็บปวดให้ใจคนฟังจนรพัฒน์แทบลืมเลือนความโมโหก่อนหน้าไปหมดสิ้นเพราะมันถูกแทนที่ด้วยความวูบโหวง

มากกว่าตอนที่อีกฝ่ายบอกว่าให้จบความสัมพันธ์แบบนี้เสียอีก

“อยากไปจากผมขนาดนั้นเลยหรือไง”

ใบหน้าคมเงยขึ้นจากซอกคอของคนใต้ร่าง ดวงตาซึ่งเมื่อครู่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธกลับมีแววเจ็บปวด

ราวกับคนไม่มีหัวใจเจ็บไม่ต่างกัน

“ผมไม่มีเหตุผลที่ต้องทนอยู่”

และคำตอบนั้นทำก็ทำให้คนฟังอ่อนแรงจนไม่อาจรั้งอีกคนได้อีกต่อไป รพัฒน์ผละออก หยัดกายลุกขึ้นยามจ้องมองคนบนโซฟาที่ค่อยๆขยับตัวลุกเชื่องช้า ต่อมามือหนาก็ล้วงเข้าไปในกางเกง

“กุญแจและคีย์การ์ดห้องคุณ ผมคืนให้” รพัฒน์วางมันลงบนโต๊ะหน้าโซฟา

“...”

“ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่...แต่ผมจะบอกว่าตลอดหนึ่งปีนี้ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับคุณ”

“...”

“หนึ่งปีพอดีสินะ”

สองสายตาสบกันนิ่งด้วยความรู้สึกมากมาย สารินกลั้นใจไม่ให้น้ำตาไหลยามได้ยินประโยคนั้นและยามที่เห็นอีกฝ่ายค่อยๆขยับตัวไปทางประตู

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”

และนั่นคือถ้อยคำสุดท้ายของการจากลาก่อนประตูจะปิดลงตัดขาดความสัมพันธ์ที่แสนเจ็บปวดนี้ให้สิ้นสุด ตัดขาดในวันครบรอบหนึ่งปีของการเจอกัน

ไม่ใช่เพียงแค่สารินที่จำได้แต่อีกฝ่ายก็จำได้...

TBC.

มาต่อแล้วววว~ มีใครอ่านแล้วเจ็บกับทั้งคุณรบและคุณสองเหมือนคนเขียนไหมคะ ฮือออออ สงสารคุณทั้งสองคนเลย(เอ่อ สงสารคุณรบน้อยกว่าก็ได้ค่ะ><)  มาลุ้นกับคู่นี้ด้วยกันนะคะะะะะ

ขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยนะคะ~  :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2 14/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-10-2017 08:11:50
เห็นใจคุณสอง...เห็นภาพบาดตาไม่อยากให้เจ็บแบบนั้นเลย #ทีมสอง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2 14/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 14-10-2017 10:39:02
รอที่เหลือ :katai4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2 14/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 14-10-2017 16:42:27
ชอบค่ะ ชอบที่ดราม่ามันหน่วงแต่ไม่นาน(ก็มันเรื่องสั้นน่ะป้า..ฮา..)
คือในเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ น่าจะยังมีอีกหลายคนที่จะยอมหลอกตัวเองต่อ
เพราะรักเขามาก เพราะไม่สามารถอยู่โดยไม่มีเขาได้
เพราะยอมทนอยู่กับเขาอย่างเจ็บปวดต่อไป ยังไงก็ยังดีกว่าตัดใจจากไปนอนร้องไห้อยู่คนเดียว
การที่สองตัดใจเป็นเรื่องที่ควรกระทำ เพื่อกระตุ้นให้รบสำรวจความรู้สึกที่แท้จริงในใจ
การเปิดใจให้คนอื่นเข้ามา(เล็กๆ) ก็น่าจะดีกว่าจมกับความเศร้าอยู่คนเดียว
รอสองรักษาหัวใจให้แข็งแรง รอรบรู้ตัวว่าคำตอบที่สองถาม ที่ถูกต้องแล้วรบควรจะตอบว่าอะไร
รออ่านต่อนะคะ^^ ขอบคุณค่า :กอด1:
  ปล.โมเม้นท์สองชวนสาว3pเป็นอะไรที่แซ่บมากกกก ได้ความสะใจไปอีกเยอะเลยค่ะ
สองเก่งอย่างนี้ อ่านอนาคตรบได้ไม่ยาก 5555 :hao3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2 14/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 15-10-2017 01:12:23
รบอย่าได้คิดนาน ถ้าช้าเกินไปอาจจะต้องเสียเมียไปจริง ๆ
รีบตามไปง้อด้วยละ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2 14/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: p-n-t ที่ 15-10-2017 19:05:18
รอซ้ำเติมคุณรบอยู่ค่าาาาา
มาไวๆ นะคะ ฮือออออออ
 :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2 14/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 15-10-2017 23:45:06
ก่อนจะแฮปปี้ก็ขอแบบเจ็บๆนะคะ เอาให้รู้สำนึก  :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2 14/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 16-10-2017 09:27:00
สนุกมาก รอค่ะ รอซ้ำเติมคุณรบ  :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2 14/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 16-10-2017 10:03:54
สนุกมากค่ะ
สงสารสองจัง :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2(ครบ) 24/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: sripaerrr ที่ 24-10-2017 04:04:45
คุณสองต้องลาออกกกก ลาออกเลยค่า  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2(ครบ) 24/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 24-10-2017 06:57:21
 :angry2: :angry2: :angry2: สมน้ำหน้าคุณรบ หึ หึหึ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2(ครบ) 24/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: kail ที่ 24-10-2017 08:20:48
คุณสองเริดมาก เชิดใส่รัวๆเลยนะ อีคุณรบก็ยังดี ถ้าวันนี้ข่มขืนคุณสองนะ จะไปเชียร์อาทิตย์แทนไม่ให้ได้ผุดได้เกิดเลย อินมากกก หาหนุ่มๆมาปลอบใจอาทิตย์สักคนเถอะ นางน่ารักดี
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2(ครบ) 24/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-10-2017 10:07:47
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2(ครบ) 24/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-10-2017 12:52:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2(ครบ) 24/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 24-10-2017 13:11:09
กว่าจะใจตรงกันก็ต้องมีบทเรียน จัดหนักเลยนะสองเอาให้เข็ด :m16:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2(ครบ) 24/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 25-10-2017 16:52:15
สงสารสารินจัง :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 2(ครบ) 24/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 25-10-2017 23:32:51
ฮือออออ
เอาจริงคือสงสารทั้งคู่เลย
แต่เราทีมคุณสอง สงสารคุณสองมากกว่านิดนึง
ก้คุณรบทำอะไรไม่คิดอะ แถมยังพูดจาไม่คิดอีก
รีบหาทางง้อเร็วๆเลย ยังรักอยุ่ทั้งคู่
ลองเปิดใจคุยกัน มันอาจจะดีขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 02-11-2017 15:40:17
ตอนที่ 3

1 สัปดาห์ผ่านไป

“ทำไมคุณรบรุนแรงจัง มีเรื่องเครียดเหรอครับ”

ใบหน้าของคนพูดอิงซบเข้ากับแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่า ยังไม่ทันที่ท่อนแขนนั้นจะสอดรอบเอวสอบดังหวัง เจ้าของเรือนกายแกร่งก็ขยับลุกจนเกือบทำให้คนไม่ได้ตั้งตัววืดตกจากเตียง

“เช็ควางอยู่ข้างนอก หวังว่าออกมาจากห้องน้ำฉันจะไม่เห็นนาย”

คนตัวใหญ่เอ่ยทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนร่างกายซึ่งไร้สิ่งปกปิดใดๆจะเดินตรงไปทางห้องน้ำ ทิ้งคนบนเตียงเอาไว้อย่างไม่มีเยื่อใย

กระแสน้ำถูกเปิดให้ริดรดตัวเองจนสุดแรง มือหนายกขึ้นเสยผมที่เปียกลู่พลางสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความหงุดหงิดทั้งๆที่เพิ่งจะระบายมันไปกับเซ็กส์อันรุนแรงเมื่อครู่

เป็นอาทิตย์แล้วแต่ความรู้สึกนี้ยังคงติดอยู่ไม่ไปไหน ไม่ลดลง ไม่จางหาย ไม่ว่าจะระบายอารมณ์ไปกับอะไร

ไม่มีทาง เขาไม่มีทางเป็นแบบนี้เพราะสาริน แค่การถูกใจจะนำพาความรู้สึกแบบนี้ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร...ความรู้สึกที่ราวกับว่าเป็นความรัก

“ไม่มีทาง!”

กำปั้นหนาทุบปักเข้ากับกำแพงระบายความอึดอัดทั้งหมดในจิตใจ กรามแกร่งบดเข้าหากัน ดวงคาคมจับจ้องอยู่กับเพียงหยดน้ำซึ่งไหลผ่านสายตาไปช้าๆพลางปล่อยทุกความรู้สึกให้หลุดลอย


‘ผมจะอาบน้ำ’

‘ก็อาบสิ’

‘อาบสิก็หยุดมือของคุณได้แล้ว’

ร่างกายเปลือยเปล่าสีแทนเนียนละเอียดยามเปียกน้ำมันให้ความรู้สึกลื่นมือน่าลูบไล้จนคนที่เพียงจะแกล้งชักเลยเถิดไปมากกว่าที่ตั้งใจ

‘ไม่ใช้มืองั้นใช้ปาก’ เสียงทุ้มกระซิบชิดริมใบหูก่อนลิ้นร้อนจะแตะลงไล้เลียไปตามหลังคอแผ่วเบา

‘ปากก็ห้าม’ เสียงนั้นเริ่มสั่นไหวจนคนตัวโตยกยิ้ม

‘งั้นก็เหลือแค่...’

คำท้ายประโยคถูกอธิบายด้วยการบดเบียดถูไถส่วนนั้นเข้าหา บางอย่างซึ่งใหญ่โตร้อนผ่าวพรั่งพร้อมทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งจะทำกันไปถึงสองรอบ

‘วันนี้คุณทำเกินโควตาแล้วนะ’

‘แล้วใครสนกัน’


อยู่ดีๆเหตุการณ์เมื่ออดีตก็แล่นวาบเข้ามาจนความรู้สึกที่ตั้งใจปล่อยให้ล่องลอยวกกลับมารุนแรงกว่าเดิม เสียงสบถจากริมฝีปากได้รูปยาวเหยียดก่อนชายหนุ่มจะพยายามดับอารมณ์ของตัวเองด้วยการอาบน้ำชำระร่างกาย

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ภาพความทรงจำของเขากับสารินมันมากมายขนาดนี้...

ไม่! แค่เซ็กส์ที่ถูกใจจะหาจากใครที่ไหนก็ได้ คนอย่างรพัฒน์ ภัคโภคิณ จะหาคนถูกใจใหม่มันง่ายนิดเดียว

--

“ได้ยินข่าวมาว่าอาทิตย์นี้คนขึ้นไปหาคุณรบไม่ซ้ำหน้ากันเลยนะแก”

“ทั้งชายและหญิงเลยแหละ แซ่บเวอร์”

“เป็นฉันก็เอาอ่ะ หล่อ รวยขนาดนั้น”

บทสนทนาซุบซิบจากกลุ่มของพนักงานสาวทางด้านหลังทำให้มือที่ถือแก้วกาแฟสั่นระริกจนสารินต้องถอนหายใจแล้ววางมันลงที่เดิม นิ้วมือแกร่งยกขึ้นมานวดขมับตัวเองขณะพยายามสลัดความคิดอันฟุ้งซ่านออกจากหัวก่อนจะต้องกลับขึ้นไปทำงาน

ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องที่เพิ่งได้ยินนั้นรบกวนจิตใจจนวูบไหว...เขารู้และเขาเห็นทุกอย่าง

การกระทำซึ่งยิ่งชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด

“อ้าว มานั่งอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะสอง” เสียงเอ่ยทักจากอดิศรณ์ทำให้สารินเงยหน้าขึ้นมอง

“มึนหัวเลยลงมาหากาแฟสักแก้วครับ”

“พอดีเลย พี่จะบอกเรื่องบริษัทที่ลงทุนกับโปรเจกต์ของเรา” อีกฝ่ายเอ่ยพูดพลางทรุดตัวลงตรงข้าม

“ครับ ตกลงกันได้แล้วหรือ”

“เมื่อกี้นี้เลยสดๆร้อน”

“บริษัทไหนครับ”

“KC Corporation”

“หืม นักลงทุนรายใหญ่เลยนี่”

“ใช่ งานช้างมหาศาลแต่เงินก็มหาศาลเช่นกัน”

เมื่อพูดถึงเรื่องเงินอีกฝ่ายก็หัวเราะร่วนแล้วเล่ารายละเอียดให้ฟังคร่าวๆก่อนจะเดินไปสั่งกาแฟจากนั้นจึงแจ้งข่าวว่าพรุ่งนี้จะมีการประชุมให้ต้องเตรียมตัว

เมื่อกลับขึ้นมาทำงานอีกครั้งความคิดวุ่นวายต่างๆก็ค่อยๆเลือนหาย การทำงานทำให้สารินลืมเรื่องของอีกฝ่ายไปได้บ้างแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาเพียงสั้นๆก็ตาม




(ผมไปรับนะ)

“ไม่เป็นไร วันนี้ผมกลับดึก” สารินกรอกเสียงตอบกลับไปสายยามที่นิ้วมือยังคงรัวใส่แป้นคีย์บอร์ดจนมองแทบไม่ทัน

(ผมรอได้)

“อย่าเลยอาร์ต”

(ผมอยากเจอคุณ) ประโยคนั้นทำให้คนที่ฟังบ้างไม่ฟังบ้างชะงักกึก

“พรุ่งนี้ก็ได้เจอ แล้วคืนนี้ผมจะโทรหา”

(เห้อ ขัดใจคุณไม่ได้สินะ...โอเค เอาอย่างนั้นก็ได้)

“ไว้คุยกันนะ”

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายรับคำโทรศัพท์ในมือจึงถูกวางลงบนโต๊ะ สารินมุ่งความสนใจทั้งหมดไปแค่กับงานตรงหน้า กระทั่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ยามละสายตาจากหน้าจอขึ้นมามองรอบตัวจึงได้รู้ว่าเหลือเพียงตัวเองที่ยังนั่งทำงานอยู่คนเดียว

ภาพอันแสนชินตาตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา สารินทำงานจนดึกดื่นและกลับเป็นคนสุดท้ายแทบทุกวันเนื่องจากไม่มีใครให้ต้องรีบกลับไปรอ...

เมื่อรู้ตัวว่าเผลอนึกถึงจึงรีบสลัดความคิดนั้นออกแล้วปิดคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อย มือหนาเก็บของบนโต๊ะให้เข้าที่เข้าทาง ตรวจเช็กทุกอย่างจนแน่ใจก่อนจะคว้ากระเป๋าทำงานมาไว้ในมือแล้วเดินตรงไปยังลิฟต์ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อพบว่ามันกำลังเคลื่อนตัวลงมาจากชั้นบน

มีคนยังไม่กลับเหมือนกันงั้นหรือ?

ติ๊ง

“อะ อื้อ คุณรบครับ”

และเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกภาพที่ได้เห็นก็ทำให้สารินอยากจะเปลี่ยนไปเดินลงด้วยบันไดหนีไฟ

ยอมเดินจากชั้นยี่สิบสามเลยก็ได้ อะไรก็ได้ทั้งนั้น...

สองร่างซึ่งซุกไซร้นัวเนียกันอยู่ข้างในผละออกจากกันเพียงนิดเมื่อหนึ่งคนในนั้นหันมาเห็นบุคคลที่สาม ภาพที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ปรากฏอยู่ตรงหน้าราวกับฟ้ากำลังกลั่นแกล้ง ยามที่ใบหน้าคมผละออกจากซอกคอของอีกคนแล้วเงยขึ้นมองสารินรู้สึกราวกับลมหายใจของตัวเองถูกกระชากออกไป

เพิ่งผ่านมาอาทิตย์เดียวแต่ความรู้สึกเหมือนมันผ่านมานานเหลือเกิน

“เข้ามาสิ”

เสียงทุ้มเอ่ยบอกยามร่างสูงหยัดกายขึ้นตรงพร้อมทั้งขยับมากดลิฟต์รอเมื่อมันกำลังจะปิดลง สารินลอบสูดลมหายใจเข้าลึก รวบรวมสติและจิตใจที่แสนสั่นไหวก่อนจะพาขาอันไร้เรี่ยวแรงก้าวเข้าไปในนั้นทั้งที่ใจอยากจะวิ่งหนีไปให้พ้น

แค่เจอหน้าก็เจ็บไปทั้งใจ แต่นี่เจอพร้อมกับภาพที่ไม่อยากจะเห็น...

มันสาหัส


“คะ คุณรบ มีคนอื่นอยู่ด้วยนะครับ”

เพียงแค่ประตูลิฟต์ปิดลงร่างสูงก็คว้าตัวอีกคนเข้ามาซุกไซร้อีกครั้งโดยไม่สนว่าจะมีใครอื่นอยู่ตรงนี้ เสียงที่ได้ยินและภาพจากหางตาทำให้มือที่จับสายกระเป๋าอยู่กำแน่นเข้าหากัน สายตาของสารินถูกสะกดให้จับจ้องอยู่บนเพียงตัวเลขซึ่งค่อยๆลดลง หวังให้มันถึงชั้นหนึ่งภายในชั่วพริบตา

อยากออกไปจากตรงนี้ ถ้าโดดลงไปได้เขาก็ยอมโดด

“สนใจทำไม”

“อะ อื้อ คุณรบ ไม่เอาครับ”

“แต่ฉันจะเอา...”

สารินไม่ได้หันไปมองคนทั้งสอง พยายามไม่สนใจกับเสียงและการเคลื่อนไหวทางด้านหลังหากแต่หูกลับตั้งใจฟังจนอยากจะตัดมันทิ้งเสียตรงนี้

ยิ่งยามได้ยินเสียงการดูดดึงขบเม้มดังขึ้นในความเงียบในอกยิ่งพลันเจ็บจนหายใจไม่ออก ภาพตรงหน้าพร่าเลือนวูบไหวทั้งที่ดวงตาไม่มีหยดน้ำ

เขาโกรธอีกคนที่ทำเรื่องแบบนี้ในที่แบบนี้ได้อย่างน่าไม่อาย...แต่กลับโกรธตัวเองมากกว่าที่ไม่อาจลดความรู้สึกในใจลงได้

ทำไมถึงยังรู้สึกกับคนนิสัยไม่ดีคนนี้อยู่อีก

ติ๊ง

สุดท้ายสิ่งที่ภาวนาก็มาถึง แม้จะทรมานจนอยากรีบวิ่งออกไปแต่สารินก็ยังมีสติพอที่จะก้าวเดินอย่างเชื่องช้าและมั่นคง รักษาท่าทีนี้เอาไว้ราวกับไม่มีความสะทกสะท้านใดๆ คนทั้งสองไม่ได้ก้าวตามออกมาเนื่องจากต้องลงไปยังชั้นGซึ่งเป็นชั้นของลานจอดรถ ในขณะที่สารินนั้นนั่งรถไฟฟ้ามาทำงาน

ปึก

ทว่าเพียงแค่ประตูลิฟต์ปิดลงเรือนร่างสูงใหญ่กลับไร้เรี่ยวแรงจนสองขาทรุดลงกับพื้น ทุกจังหวะของหัวใจเต้นด้วยความเจ็บปวดจนต้องยกมือมากุมมันเอาไว้

“อึก” สารินไม่ได้ร้องไห้ ไม่มีน้ำตาสักหยด แต่ข้างในกลับเจ็บปวดจนต้องทุบหน้าอกตัวเองแรงๆ

เจ็บจนมือหนาอันสั่นเทาต้องล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อควานหาโทรศัพท์แล้วต่อสายหาใครบางคน

(จะเปลี่ยนใจให้ผมไปรับเหรอครับ)

“มะ มา มารับผมที”

แม้จะพยายามควบคุมตัวเองอย่างสุดความสามารถหากแต่สุดท้ายแล้วความทรมานก็ทำให้น้ำเสียงนั้นสั่นไหวจนปลายสายรีบตอบกลับมาด้วยความร้อนรน

(คุณเป็นอะไรหรือเปล่าสอง ไม่สบายเหรอ ตอนนี้อยู่ที่ไหน ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้)

“ผม...ผมอยู่ที่หน้าบริษัท”

(รออยู่ตรงนั้นนะ แล้วผมจะรีบไป)

อาทิตย์วางสายไปแล้วในขณะที่สารินทำได้เพียงแค่ปล่อยโทรศัพท์ในมือให้ล่วงตกลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง...

เขาไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืนด้วยซ้ำไป

--

“เฮ้ กระดกขนาดนี้เดี๋ยวก็ได้น็อกคาที่”

“อย่ามาห้ามฉันน่าแพทริก”

“ฉันจะไม่ห้ามหรอกถ้านายไม่เรียกฉันออกมาแล้วเอาแต่นั่งซดเหล้าอยู่แบบนี้ จะให้มานั่งเฝ้านายกินเหล้าสู้ฉันกลับบ้านไปอยู่กับกานต์รักดีกว่า”

แพทริก เบรนเนแกนพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาเป็นรอบที่ร้อยเมื่อคนที่โทรนัดให้ออกมาหาเอาแต่นั่งดื่มเหล้าไม่พูดไม่จา เพราะอาการของอีกฝ่ายดูท่าจะหนักหนาสาหัสชายหนุ่มจึงยอมรับนัดทั้งที่ปกติแล้วไม่อยากจะห่างจากคนรักเลยสักวินาที

แค่นี้ก็คิดถึงจะตายแล้ว อยากกลับไปกอดจะแย่

“ทำไมนายถึงได้ติดเมียนัก”

“อ้าว ไม่ให้ติดเมียแล้วจะให้ติดใคร รักใครก็ต้องอยากอยู่กับคนนั้นมันถูกต้องแล้ว”

“อยากอยู่ด้วยหมายถึงรักงั้นหรือ” ประโยคของแพทริกสะกิดความรู้สึกในอกจนต้องหยุดคิดเรื่องของตัวเอง

หงุดหงิดเมื่อไม่ได้เจอ งุ่นง่านเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกันเช่นเมื่อก่อน ทรมานเมื่อยามเจอหน้าแต่ไม่อาจได้สัมผัส...แบบนั้นเรียกอยากอยู่ด้วยหรือเปล่า

แล้วถ้าอยากอยู่ด้วยหมายถึงว่ารักงั้นหรือ...

“ก็ใช่สิ เปรียบเทียบง่ายๆ...กับคู่นอนนายเคยอยากอยู่ด้วยเฉยๆหรือเปล่า รู้สึกว่าเจอหน้าแล้วหายเหนื่อยไหม”

ไม่

“...”

“เวลาเหนื่อยฉันนึกถึงแต่กานต์รัก ไม่ว่าจะตอนไหนแค่มีกานต์รักอยู่ด้วยฉันก็สุขใจ”

สุขใจ...

การจะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องคิดอะไร การได้อยู่ด้วยกันบนเตียงแล้วปล่อยเวลาผ่านไปเรื่อยๆ การถูกดูแลเอาใจใส่ นั่นคือสิ่งที่รพัฒน์โปรดปรานที่สุดยามอยู่กับสาริน...แบบนั้นมันเรียกว่าความสุขใจหรือเปล่า

แม้ไม่รู้แต่ชายหนุ่มก็รู้ดีว่าตอนนั้นเขามีความสุขมากกว่าตอนนี้

“เฮ้อ เรื่องคุณสองน่ะ ฉันอยากให้นายทบทวนตัวเองดีๆก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป”

แพทริกเอ่ยเตือน ด้วยอาการและท่าทางของเพื่อนแล้วมันบอกได้เป็นอย่างดีว่ารพัฒน์รักอีกฝ่ายเข้าให้ ทว่าคนไม่เคยมีความรักกลับยังไม่รู้ตัว เรื่องแบบนี้เขาเองก็ไม่อยากพูดนักเพราะเป็นเรื่องของคนสองคน

“ทบทวนเหรอ ทบทวนอะไรล่ะ”

“ทบทวนตรงนี้...และตรงนี้” เอ่ยบอกพลางเคาะนิ้วลงบนอกและขมับของคนโง่เขลาเบาๆ

การกระทำที่ทำให้รพัฒน์นิ่งคิด พลันในหัวก็เกิดภาพเมื่อค่ำที่ผ่านมา...สาเหตุที่เขาต้องมานั่งอยู่ตรงนี้

ภาพของสารินเมื่อตอนเจอกันในลิฟต์มันทำลายล้างชายหนุ่มได้รุนแรงมากกว่าที่เขาตั้งใจจะทำร้ายอีกคน

เขารู้ว่าสารินยังไม่กลับ รู้ว่าสารินกำลังจะต้องเดินมากดลิฟต์...ทุกอย่างมันเกิดจากความตั้งใจทั้งสิ้น

ทั้งที่คิดว่าอีกฝ่ายต้องรู้สึกแย่ ต้องเจ็บปวดทรมานใจแต่รพัฒน์กลับรู้สึกว่าเป็นตัวเองต่างหากที่รู้สึกอย่างนั้น

เหมือนคนว่ายน้ำไม่เป็นที่จมน้ำเมื่อเห็นแผ่นหลังคุ้นตาก้าวออกไปโดยไม่สนใจ สองมืออยากจะกระชากสารินเข้าหา อยากดึงเข้ามากอด จูบ ทำทุกอย่างแต่กลับทำไม่ได้จนรู้สึกเหมือนข้างในมันอึดอัดจนหายใจไม่ออก

ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร...

“แล้วความรักมันคืออะไร”

“ฉันไม่รู้ว่าสำหรับคนอื่นมันคืออะไร แต่สำหรับฉันมันคือการคิดถึงทุกวินาที คือการที่ไม่มีอีกคนอยู่ในชีวิตไม่ได้ แค่ไม่เจอกานต์รักชั่วโมงเดียวฉันก็อยากจะตายแล้ว...คำว่าความรักคืออะไรมันแล้วแต่คน เอาง่ายๆคือถ้านายทนเห็นเขาเป็นของคนอื่นไม่ได้ก็นั่นแหละความรัก”

ทนเห็นเป็นของคนอื่นไม่ได้เหรอ...

ใช่การที่เขาอยากจะฆ่าไอ้อาทิตย์นั่นตอนเห็นมันอยู่ในห้องของอีกคนหรือเปล่า

ใช่การที่เขาอยากกระชากอีกคนมาอยู่ใต้ร่าง แล้วตอกย้ำด้วยสัมผัสว่าเป็นแค่ของเขาใช่หรือเปล่า

“ไม่มีเขาแล้วแกใช้ชีวิตได้แบบปกติได้ไหม ไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่ได้นึกถึงเลยสักนิดใช่หรือเปล่า”

“...”

“ถ้าไม่ใช่ก็แสดงว่านายรักเขา”

“ถ้าไม่มีคุณรักนายจะอยู่ได้ไหม จะเป็นยังไง”

เรื่องความรักเมียแพทริกขึ้นชื่อลือเลื่องอย่างที่สุดทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่ได้แตกต่างจากใครในกลุ่ม คำถามซึ่งอยากนำมาเปรียบเทียบกับอาการของตัวเองจึงถูกเอ่ยออกไป

“ถ้าไม่มีกานต์รักให้ฉันตายคงง่ายกว่า...ถ้าตายไม่ได้ก็คงอยู่เหมือนตายทั้งเป็น ไม่มีวันพบกับคำว่าความสุขอีกเลยตลอดชีวิต”

ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไม่มีวินาทีไหนเลยที่รพัฒน์รู้สึกว่าตัวเองมีความสุข...แบบนี้ใช่ความรักหรือเปล่า

เขารักสารินงั้นหรือ

--

“คุณโอเคไหม”

อาทิตย์เอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นท่าทางนิ่งงัน ยามไปถึงอีกฝ่ายก็นั่งทรุดตัวอยู่กับพื้นไม่ขยับเขยื้อนจนเขาใจเสีย นานหลายนาทีกว่าสารินจะค่อยๆขยับกายลุกขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ยอมเอ่ยอะไรมาตลอดทางกระทั่งถึงคอนโด

เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นอีกแล้วเหรอ

“...ขอบคุณที่มารับผม” ดวงตาเลื่อนลอยหันกลับมามองคนข้างตัวก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยขอบคุณเสียงเบา

“ไม่เป็นไรสอง ว่าแต่คุณโอเคใช่ไหม ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนหรือเปล่า”

“ผมอยากอยู่คนเดียว”

อาจดูเห็นแก่ตัวที่โทรเรียกอีกฝ่ายแค่เพื่อมารับ ทว่าจิตใจและสมองของสารินในตอนนี้ไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับใครทั้งนั้น

“ให้ผมอยู่ด้วยเถอะนะ คุณอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก”

“แต่...”

“สัญญาว่าจะไม่พูดอะไรให้คุณต้องรำคาญ”

ความพยายามของอีกฝ่ายทำให้สารินหมดซึ่งคำจะปฏิเสธ ดวงตาที่แสนเหนื่อยล้าค่อยๆเหม่อมองไปรอบห้อง ก่อนภาพมากมายของใครบางคนจะไหลวนเข้ามาให้เจ็บปวดใจ

“อย่าร้องไห้สิ” น้ำตาซึ่งไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัวถูกเช็ดออกให้แผ่วเบา

“...”

“อย่าร้องไห้ให้คนไม่ดีแบบนั้นเลย”

ร่างกายหนาถูกรั้งเข้ามาในอ้อมกอดโดยคนที่กำลังอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงขัดขืน อาทิตย์ลูบไล้หลังกว้างปลอบประโลม สารินไม่ได้สะอื้นไห้จนตัวโยน ไม่มีเสียงร้องสะอึกสะอื้น หากแต่ความเปียกชื้นเล็กๆบนไหล่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกคนกำลังอ่อนแอ

ตลอดเวลาทั้งอาทิตย์แม้สารินจะเสียใจแต่ก็ไม่เคยแสดงท่าทางเช่นนี้ นั่นหมายความว่าวันนี้ต้องมีเหตุการณ์อะไรที่พังทลายความเข้มแข็งของเจ้าตัวให้ไม่เหลือชิ้นดี

ความเงียบปกคลุมร่างสูงใหญ่ที่แนบชิดทั้งสอง เป็นเวลานานหลายนาทีกระทั่งคนเสียใจตั้งสติได้แล้วค่อยๆผละออก น้ำตาที่เลอะอยู่บนใบหน้าแห้งเหือดจนเหลือเพียงคราบจางๆ

อ่อนแอแบบนี้ไม่สมเป็นตัวเองเลยสักนิด...

เขาควรจะปล่อยวางเรื่องของรพัฒน์สักที

“ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” คำถามจากอีกคนได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้า “ผมขอถามอะไรหน่อยได้หรือเปล่า”

“อืม”

เอ่ยอนุญาตพลางลอบสูดลมหายใจเข้าลึก ท่าทีอ่อนแอที่เผลอแสดงออกอย่างไม่อาจห้ามทำให้สารินบอกกับตัวเองว่าจะไม่มีวันเป็นอย่างนั้นอีก

“ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้...คุณรู้สึกกับเขาน้อยลงบ้างไหม”

คำตอบนั้นมันฉายวาบขึ้นมาในหัวโดยไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อย ราวกับเป็นสัญชาตญาณ เป็นจิตสำนึกที่ไม่ต้องเสียเวลาไตร่ตรองหาคำตอบ

ไม่เลย...

ทั้งที่ถูกทำร้ายจิตใจตลอดมากระทั่งเจอเรื่องในวันนี้แต่ข้างในมันกลับไม่รู้สึกน้อยลงจนสารินยังไม่เข้าใจตัวเอง

ทว่าถึงแม้จะไม่ไม่น้อยลงแต่ก็ไม่อยากกลับไปแล้ว...พอแล้ว

“มันจะเป็นไปได้ไหมที่วันหนึ่งจะเป็นผมที่อยู่ในความรู้สึกของคุณบ้าง”

ฝ่ามือใหญ่ถูกดึงไปจับยามดวงตาของคนพูดทอความมั่นคงจริงใจ ตั้งแต่วันที่เจอกันในร้านเหล้าจนถึงวันนี้อาทิตย์คือคนที่คอยอยู่เคียงข้างตลอดมา ชายหนุ่มรู้ซึ้งถึงความดีนี้หากแต่คำตอบของคำถามนั้นยังคงเป็นได้เพียงความเงียบราวกับสารินจะบอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้

“ได้หรือเปล่าสอง”

อาทิตย์เร่งเร้าเมื่อยังเห็นคนตรงหน้านิ่งเงียบ เขาไม่ได้คาดหวังว่าอีกคนจะเปิดใจรับตัวเองวันนี้หรือพรุ่งนี้ ขอแค่วันใดวันหนึ่งที่สารินพร้อมจะลืมใครคนนั้น

“ผม...” 

ริมฝีปากที่กำลังจะขยับตอบถูกทาบทับลงมาจนท้ายประโยคหายลับเข้าไปในลำคอ ชั่ววินาทีที่คำตอบนั้นจะถูกเอื้อนเอ่ยกลับกลายเป็นอาทิตย์เองที่หวาดกลัวจนไม่กล้าฟัง

เขารู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว...

อาการนิ่งงันไม่ได้ผละออกทำให้ชายหนุ่มใจชื้นว่าอีกคนไม่ปฏิเสธสัมผัสนี้ เรียวปากได้รูปจึงค่อยๆละเลียดบดเบียดเข้าหา ลิ้นร้อนไล้เลียเชื่องช้าใจเย็น สารินยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้นก่อนความอ่อนโยนของคนตรงหน้าจะทำให้เปลือกตาหนาปรือปิดลง

จูบอ่อนละมุนไร้ซึ่งความเร่งเร้า ราวกับอาทิตย์ค่อยๆปลอบประโลมความเจ็บให้เลือนหาย ทุกสัมผัสนี้เต็มไปด้วยความใส่ใจ...หากแต่มันกลับเป็นสัมผัสที่ใจไม่ต้องการ

อาการแข็งขืนยามลิ้นร้อนสอดแทรกรุกล้ำให้คำตอบได้กระจ่างชัดมากกว่าคำพูด ท้ายที่สุดแล้วอาทิตย์จึงละสัมผัสออกพลางยกยิ้มด้วยความยอมแพ้

“คุณไม่ต้องตอบหรอก...ผมรู้แล้ว” รอยยิ้มที่ราวกับเข้าใจและไม่ถือโทษใดๆยิ่งทำให้คนมองรู้สึกผิด

เป็นสารินเองที่เห็นแก่ตัวกับอีกฝ่าย

“ผมขอโทษ”

“อย่างน้อยผมก็ยังเป็นเพื่อนคุณได้ใช่ไหม” อีกคนถามขณะยังระบายยิ้ม

“ได้แน่นอน...อย่ามาเสียเวลากับคนอย่างผมเลย”

“ผมมีเวลาอีกมากมาย” ...หรือเปล่า

มีเวลามากมายงั้นหรือ

“ทั้งชีวิตเลย”

ความมั่นคงที่สารินมีต่อใครคนนั้นเป็นอาทิตย์เองที่อยากได้รับมันบ้าง การถูกใครสักคนรักด้วยความรู้สึกจริงๆมันเป็นยังไงนะ

น่าอิจฉาใครบางคนที่ได้รับความรู้สึกนั้น...

--

เรือนร่างสูงเพรียวเดินลากเท้าตรงไปยังห้องของตัวเองด้วยความเหนื่อยอ่อน กระบอกตาและขมับปวดหนึบจนอยากทิ้งตัวลงบนเตียงเดี๋ยวนี้ ตลอดคืนที่ผ่านมาชายหนุ่มอยู่เป็นเพื่อนสารินกระทั่งถึงตอนเช้าจึงได้กลับ และถือเป็นความโชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดไม่อย่างนั้นคงไม่พ้นต้องโทรไปลางานหนึ่งวัน

คีย์การ์ดถูกทาบทับก่อนบานประตูจะถูกเปิดเข้าไปด้วยมือหนา ทว่าในห้องที่ควรมืดมิดกลับมีแสงไฟถูกเปิดเอาไว้บ่งบอกให้รู้ว่ามีใครอยู่ในนี้

“กลับมาได้สักทีนะ”

เสียงทุ้มเอ่ยเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งที่สาดซัดเข้ามารุนแรงจนแทบล้มทั้งยืน เรือนกายสูงใหญ่ในชุดทำงานหลุดลุ่ยหยัดกายขึ้นจากโซฟากลางห้องเชื่องช้า ดวงตาคู่นั้นดูอันตรายและน่ากลัวจนอาทิตย์เผลอก้าวถอยหลัง

กะ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่

“ฉันบอกเอาไว้ว่ายังไง...ให้ทำตัวดีๆใช่ไหม”

ยิ่งฝ่ายนั้นก้าวเข้ามาใกล้เท่าไหร่คนกลัวยิ่งก้าวถอยหลังจนกระทั่งแผ่นหลังแนบชิดกับบานประตู ไร้ซึ่งหนทางจะหลีกหนี

“หนึ่งเดือนที่ฉันไม่อยู่คงจะสนุกมากเลยสินะ”

“...”

ปึก

เฮือก

กำปั้นใหญ่ทุบปึกลงบนประตูทางด้านหลังทำให้อาทิตย์สะดุ้งจนสุดตัว ร่างทั้งร่างเกร็งสั่นด้วยความหวาดหวั่นอย่างไม่อาจจะควบคุม

มัจจุราชตัวร้ายกลับมาแล้ว...

“ดูท่าว่าฉันจะปล่อยให้นายมีอิสระมากเกินไปสินะถึงได้แรดไปรักใครต่อใคร”

ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆลากไล้สัมผัสไปตามลำคอแผ่วเบาหากแต่เท่านั้นกลับรุนแรงสำหรับอาทิตย์จนน้ำตาหยดใสไหลมาคลอหน่วย

เขารู้ดีว่าคนตรงหน้านี้กำลังโกรธเพียงไหน

“อึก...” จากเพียงลากไล้กลายเป็นแรงบีบจนทำให้ลมหายใจของชายหนุ่มติดขัด

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมี อยู่แต่ในห้องนี้ บนเตียงนั้น แล้วคอยรองรับความต้องการของฉันอย่างเดียว!”

TBC.

เรื่องของคุณอาทิตย์แย่งซีนมากกกก >< เอาเรื่องคุณอาทิตย์มายั่วแค่นี้แหละค่ะ อิอิ แต่คุณอาทิตย์ยังไม่ไปไหน ยังดื้อได้อีก เดี๋ยวได้โดนหนักกว่านี้อีก(แต่เราจะไม่ลงรายละเอียดหรอก ต้องติดตาม คิก) :mew3:
ส่วนใครที่คิดถึงคุณแพทคนหลงเมียก็เอามาแจมให้หายคิดถึงด้วยน๊าาาา ไว้ตอนหน้ามาดูคุณรบโดนแก้แค้นกันค่ะ :mew1: 

ปล.ขอกำลังใจให้คนเขียนหน่อยน๊า~


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 02-11-2017 16:27:51
โอ้ยยยคุณรบ
สงสารสองจริงๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-11-2017 17:44:41
นังคุณรบจะต้องโดนแก้แค้นอย่างสาสม !!  :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 02-11-2017 18:14:44
คุณอาร์ตหลบไป๊!!! คุณสองเป็นของช้านนนนนนน  :hao7: :hao7: :hao7:
แลดูจะแฮปปี้ที่คุณสองเป็นทุกข์ กร๊ากกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: tsuki_1112 ที่ 02-11-2017 18:27:34
โกรธแทน เสียใจแทน   :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 02-11-2017 18:42:39
โอ๊ยยยยยยย เกลียดอิตารบมากกกกกกกก :fire:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 02-11-2017 18:44:43
ไอ้คุณร๊บ..บบบบบบบบบบบ @$$%*&&*)*^%$# อยากจะด่าเป็นภาษาต่างดาว  :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 02-11-2017 18:55:33
ฮือออออออออออออ หนักหน่วงมาก ร้องไห้จนปวดหัวเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 02-11-2017 19:39:26
อยากเป็นเพื่อนสาวของสอง ที่อยู่ด้วยกันในลิฟต์ ชั้นจะตบคุณรบสักสามสี่ที
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 02-11-2017 21:16:21
จงหลอกตัวเองต่อไปอีคุณรบ  :m31: :m16:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: PaePT ที่ 02-11-2017 21:26:49
นึกว่าจบแล้วซะอีก อยากอ่านต่อแล้วววววววว  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: sripaerrr ที่ 02-11-2017 22:00:13
ต้องเอาคืนค่ะ ต้องเอาคืนอย่างสาสมมมม!!!!! :fire:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Byeolismes ที่ 02-11-2017 22:29:02
เปลี่ยนพระเอกเถอะค่ะ 55555 :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 02-11-2017 23:42:51
ตอนที่แล้วเรายังสงสารคุณรบอยู่เลย
เอาความสงสารของเราคืนมาาาาา
ทำไมทำกับคุณสองแบบนี้
จะประลดกันก้ทำด้วยวิธีอื่นสิ
ให้เหนภาพบาดตา ขนาดนี้มันเกินไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-11-2017 01:43:53
 :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 08-11-2017 13:45:51
คุณร๊บบบบบบบบบบบบ
ทำไมทำแบบนี้!!!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 08-11-2017 20:17:58
ทำไปแล้วก็เจ็บปวดเองแค่ยอมรับว่ารักมันยากเกินไปหรืออย่างไรกันนะ
คุณอาทิตย์แย่งซีนมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-11-2017 20:47:23
อ้าปากค้าง..น้ำลายไหล อาทิตย์เป็นคนมีเจ้าของ   o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 08-11-2017 22:09:14
จัดไปให้สาแก่ใจเลยค่ะ หึๆ เราจะคอยซ้ำคุณรบ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Sutharat ที่ 09-11-2017 10:29:06
จัดหนักจัดเต็มเลยค่ะแก้แค้นให้สองให้สะใจรีบมาต่อไวๆนะคะ :fire:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 09-11-2017 19:53:49
 :3125:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 09-11-2017 20:25:20
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-11-2017 00:12:04
คุณรบแย่มาก !!!!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 10-11-2017 06:10:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 10-11-2017 14:09:50
เกินไปแล้วคุณรบ!!! :fire:
ไม่ยอมคุยกันดีๆสักทีแบบนี้มันจะได้กลับมามั้ย
คุยสิคุย! / อินไรเบอร์นั้น ถถถถ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 11-11-2017 15:55:36
ฮือออออ สงสารคุณสองมากเลย ทำไมคุณรบถึงทำตัวได้ใจร้ายมากขนาดนี้กันล่ะค่ะ

แล้วเนี่ย...จะรุ้ใจตัวเองได้หรือยัง มัวแต่ทำซึนอยู่แบบนี้ คุณสองก็เสียใจไม่จบไม่สิ้น  :katai1:

ทิ้งท้ายเรื่องคุณอาทิตย์ไว้ให้อยากติดตามเรื่องต่อเลย  :katai5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: pipoo ที่ 13-11-2017 01:20:15
สงสารสองมากกกกไม่อยากให้รบสมหวังเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 13-11-2017 18:57:32
อื้อหือออ อาทิตย์ขโมยซีนจริงๆ ด้วย

หมั่นไส้รบอ่ะ หมั่นไส้มากด้วย คุณสองอย่าเพิ่งใจอ่อนง่ายๆนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 16-11-2017 07:45:04
รบควรรีบมาง้อสองนะถ้ารักสอง
ส่วนคู่อาทิตย์แย่งซีนมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (100%) 08/11/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-11-2017 16:41:18
ชอบๆๆๆๆ
เข้ามารออ่านด้วย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 06-12-2017 18:16:04
ตอนที่ 4

เวลาคือเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง

รพัฒน์เพิ่งรู้ว่ามันคือสัจธรรมที่จริงยิ่งกว่าจริง

สองอาทิตย์ผ่านพ้นไปดูแสนยาวนานราวกับสองปี การใช้ชีวิตดูไม่เหมือนเก่าทั้งที่กิจวัตรทุกอย่างยังคงเป็นปกติ บางอย่างซึ่งติดอยู่ในความคิดและความรู้สึกกัดกร่อนอารมณ์จนพานให้ลูกน้องหลายคนหวาดผวา

เช่นในยามนี้ที่เรือนร่างสูงใหญ่ในชุดสูทเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าเดินเข้ามาในห้องประชุม บรรยากาศจอแจก่อนหน้าก็พลันเงียบกริบลงราวกับอยู่ในสถานที่งดใช้เสียง

“คุณปรานต์จะมาใช่ไหม”

เสียงทุ้มเรียบนิ่งดังก้องไปทั่วห้องจนทุกคนสะดุ้งแล้วหันมองหน้ากันเลิกลัก

“ชะ ใช่ค่ะคุณรบ ทางนั้นแจ้งว่าวันนี้คุณปรานต์จะเข้ามาคุยงานเองเพราะกลับมาจากต่างประเทศแล้วค่ะ”

“แล้วสารินไปไหน จวนจะได้เวลาแล้วทำไมยังไม่มาสักที”

ประโยคที่เอ่ยถึงอีกคนไม่รู้ว่าด้วยตำแหน่งหรือเพราะความรู้สึกของตัวเอง การประชุมที่รู้ดีว่าจะต้องเจอใครทำให้รพัฒน์ตั้งตารอคอยมาทั้งคืน

อยากเห็นหน้า

“เอ่อ สารินเตรียมตัวพรีเซนต์อยู่ครับ อีกเดี๋ยวคงเข้ามา”

อดิศรณ์เอ่ยตอบขณะคนฟังทำราวกับเป็นเพียงลมผ่านหู ทว่าข้างในช่างต่างกันลิบลับ ท่าทางภายนอกคือผู้บริหารหนุ่มกำลังจดจ่ออยู่กับการอ่านเอกสารประชุมอย่างจริงจัง หากแต่ความจริงแล้วประสาทสัมผัสของท่านประธานกลับจดจ่ออยู่เพียงบานประตู และเมื่อคนที่รอคอยมาถึงอัตราการเต้นของหัวใจก็ผิดจังหวะไป

ถึงกับใจเต้นงั้นเลยงั้นหรือ

“เป็นไงบ้างสอง”

ผู้เป็นรุ่นพี่กระซิบถามยามสารินนั่งลงข้างตัว เพราะสิ่งที่แตกต่างจากการประชุมครั้งก่อนๆคือการมาของใครบางคนซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความโหด...โหดทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

ปรานต์ นฤนาทบดี

“โอเคครับ”

ความเป็นห่วงถูกตอบกลับด้วยคำสั้นๆและรอยยิ้มบางเบา สารินลอบสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกความมั่นใจอีกครั้ง พยายามมีสมาธิกับงานตรงหน้าทั้งที่รู้ดีว่าตอนนี้สมาธิของตัวเองกำลังถูกรบกวนด้วยสิ่งใด

คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ...

การประชุมซึ่งมีใครอีกคนรวมอยู่ด้วยทำให้สารินเกิดความสั่นไหวได้มากกว่าการต้องพรีเซนต์ให้ปรานต์ฟัง แม้จะพยายามกดความสนใจให้จดจ่ออยู่กับงานทว่าสุดท้ายแล้วความรู้สึกข้างในก็เป็นฝ่ายชนะ ดวงตาไม่รักดีหันไปมองรพัฒน์อย่างไม่อาจห้าม และเป็นจังหวะเดียวกับที่คนถูกมองเงยหน้าขึ้นมา...

เสี้ยววินาทีที่สายตาประสานก่อนสารินจะเบือนหลบไปทางอื่น เป็นเสี้ยววินาทีที่ทำให้ใจพังครืนลงมาไม่มีชิ้นดี สติทั้งหมดปลิวหายจนแทบลืมเลือนแม้กระทั่งเรื่องงานในหัว

“หวังว่าคุณจะไม่ทำให้บริษัทผิดหวัง”

เสียงทุ้มราบเรียบจากผู้มีอำนาจสูงสุดเรียกสายตาสารินให้หันกลับไปสบอีกครั้ง ประโยคที่ตั้งใจสื่อถึงเพียงคนเดียวกลับก่อความเสียวสันหลังให้เกิดกับทุกคน ใบหน้าของอีกฝ่ายราบเรียบ ดวงตาที่ทอดมองมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

นั่นสินะ...คงเป็นเขาที่เป็นบ้าอยู่ฝ่ายเดียว

“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”

เสียงที่ตอบกลับไปเรียบนิ่งและจริงจังจนแม้แต่สารินยังชื่นชมกับการแสดงของตัวเอง สายตาที่ยังคงประสานกันกำลังก่อความรู้สึกให้หมุนวนสั่นไหว หากไม่มีฝีเท้าหนักแน่นของใครบางคนดังขึ้นขัด บรรยากาศแปลกๆระหว่างผู้บริหารและพนักงานคงทำให้คนในห้องขาดอากาศหายใจด้วยความอึดอัด

เรือนร่างสูงใหญ่พอๆกับรพัฒน์เดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าห้อง เพียงแค่ปรานต์ นฤนาทบดีปรากฏกายบรรยากาศอึมครึมก็แปรเปลี่ยนเป็นมืดมิด ใบหน้านั้นดูดีจนผู้หญิงหลายคนยอมสยบหากแต่ในความดูดีนั้นกลับมีความไม่น่าเข้าหาที่มากกว่า

มันเรียบนิ่งและแผ่ไปด้วยรังสีแห่งความน่ากลัว

“สวัสดีครับคุณปรานต์”

รพัฒน์หยัดกายขึ้นพลางกล่าวคำทักทายอีกฝ่ายอย่างที่ควรทำ ทั้งสองมีความคุ้นเคยกันอยู่พอสมควรการแนะนำชื่อตัวเองจึงเป็นสิ่งไม่จำเป็น

“สวัสดีครับ...หวังว่าทุกคนในที่นี่คงเตรียมตัวพร้อมกันแล้ว”

เสียงทุ้มเย็นเยียบยามเอ่ยเข้าเรื่องอย่างไม่ต้องการเสียเวลาเรียกความสั่นไหวจนหลายคนในห้องลอบกลืนน้ำลายตัวเอง

“ครับ ทางเราเตรียมพร้อมเสมอ”

“ดี ผมหวังว่าความคืบหน้าของโปรเจกต์นี้จะเป็นที่น่าพอใจ...เริ่มประชุมได้”
สิ้นเสียงทรงอำนาจ ปรานต์และพนักงานของ KC Corporation ก็เดินมาทรุดตัวนั่งลงประจำที่ ทุกย่างก้าวของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและน่าเกรงขาม

จากนั้นการประชุมที่แสนหฤโหดก็เริ่มต้นขึ้น และกินเวลาไปตลอดทั้งวัน

--

ตลอดทั้งอาทิตย์เวลาทุกนาทีแทบถูกงานกลืนหาย สมองและร่างกายถูกใช้งานไปกับหน้าที่จนเรื่องของใครบางคนเลือนไปจากความคิดชั่วคราว

เวลานี้พระอาทิตย์ลาลับจนท้องฟ้าสดใสกลายเป็นมืดมิด เหลือเพียงหลอดไฟที่ทำหน้าที่ส่องสว่างแทนแสงจากธรรมชาติ สารินยืนมองเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกบานกว้าง บริเวณห้องน้ำของบริษัทเหลือเพียงชายหนุ่มที่อยู่ในนี้

ความเหนื่อยล้ากัดกินจนสองแขนต้องวางค้ำลงกับขอบอ่างล้างมือ ก่อนเสียงถอนหายใจจะดังขึ้นในวินาทีต่อมา

“ดูท่าว่าบริษัทผมจะใช้แรงงานพนักงานหนักมาก”

เสียงทุ้มซึ่งดังขึ้นทำให้คนที่กำลังปล่อยความคิดให้ล่องลอยหันขวับไปมอง แม้ใจจะหล่นวูบจนแทบซวนเซยามเห็นคนที่ยืนอยู่เต็มตา แต่สติก็ยังดึงรั้งตัวเองให้รักษาท่าทีเอาไว้ได้ทัน

“ก็พอสมควรครับ”

สารินตอบตามความจริงพลางหยัดกายยืนตรงแล้วเอื้อมไปหยิบทิชชู่มาเช็ดมือ ภายนอกทุกอย่างอาจดูเป็นปกติทว่าชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าทุกการกระทำนี้ถูกทำเพื่อลดความสั่นไหวของตัวเอง โดยมีดวงตาคมจับจ้องการเคลื่อนไหวไม่วางตา เวลาแสนยาวนานในความรู้สึกพลันทำให้รพัฒน์ไม่อาจจะละสายตาไปไหนเลยสักวินาที

หากความรู้สึกที่พาตัวเองก้าวตามอีกฝ่ายมาที่นี่รุนแรงเพียงใด ความรู้สึกในตอนนี้ยามได้เห็นอยู่ตรงหน้ามันทวีความรุนแรงกว่าหลายเท่า

เขาเพิ่งรู้ในวินาทีนี้เองว่าตัวเอง‘คิดถึง’สารินเพียงใด

“ผมจะให้โบนัสให้สมกับความเหนื่อยของคุณ”

แม้ความจริงอยากจะพูดเรื่องอื่นแต่คนไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรก็ยังเอ่ยเรื่องงานต่อเพื่อรั้งให้บทสนทนายืดออกไป

“ขอบคุณครับ”

สารินตอบรับเพียงสั้นๆจากนั้นทิชชู่ในมือก็ถูกทิ้งลงถังขยะ “ถ้าท่านประธานไม่มีอะไรแล้วก็ขอทางด้วยครับ”

ภาษาและท่าทางแสนห่างเหินทำให้รพัฒน์ไม่อาจทานทนจนต้องก้าวท้าวเข้าไปหาอีกคน ขณะที่สารินก็ขยับถอยหลังโดยอัตโนมัติ

ไม่ได้รังเกียจหากแต่กลัวใจตัวเองจะรับไม่ไหว

“สอง...”

“หลีกทางด้วยครับ”

เพียงเสียงทุ้มที่เหมือนจะเว้าวอนเอ่ยเรียกชื่อ คนใจไม่แข็งก็เอ่ยขัดในทันใด

ชื่อตัวเองที่หลุดออกจากปากอีกฝ่ายมันมีอนุภาพร้ายแรงกว่าการได้ยินจากใครที่ไหนหลายเท่า

“ผมไม่หลีก”

“ท่านประธะ...”

“หยุดเรียกผมแบบนั้นสักที”

คราวนี้รพัฒน์ก้าวพรวดมาจนประชิดตัวยามกระชากเสียงพูดห้วนจัด ท่าทางซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจ คำเรียกขานที่ตอกย้ำถึงสถานะอันห่างเหินระคายหูและความรู้สึกจนดวงตาคมวาวโรจน์

เขาอยากจะซื้อคำว่าท่านประธานแล้วโยนทิ้งออกไปนอกโลก!

“ทำไมล่ะครับ ในเมื่อคุณเป็นเจ้าของบริษัทนี้”

สารินถามกลับเสียงเรียบทั้งที่ความใกล้ชิดตรงหน้ากำลังเขย่าความรู้สึกจนสั่นไหวโคลงเคลง

ไม่ รู้สึกมากแค่ไหนก็ห้ามแสดงออกให้อีกฝ่ายหัวเราะเยาะ

“ตอนนี้ วินาทีนี้มีแค่คุณกับผม ไม่ใช่ท่านประธานกับพนักงานในบริษัท”

“หึ คุณกับผมงั้นเหรอ?”

“...”

“มันไม่มีคำนั้นตั้งแต่สามอาทิตย์ก่อนแล้วครับคุณรพัฒน์”

หรืออาจจะไม่เคยมีมาตลอด

สารินสบสายตามองคนตรงหน้า ส่งความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองไปให้อีกฝ่ายอย่างจงใจ

“ผมคิดถึงคุณ”

เสียงทุ้มที่เอ่ยสารภาพความรู้สึกทอดอ่อนลงทันใดเมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของสาริน

รพัฒน์รู้ว่าตัวเองมันแย่แค่ไหน และถึงแม้ครั้งนี้มันอาจดูเห็นแก่ตัวจนเกินยอมรับกับการจะรั้งคนที่กำลังเดินออกไปให้กลับมา...แต่เขาก็จะทำ

ประโยคซึ่งเป็นเหมือนค้อนทุบลงมากลางหัวให้สมองคนฟังอื้ออึง แววตาลุ่มลึกตรงหน้ามีอะไรบางอย่างจนใจของสารินแอบคาดหวังและยินดี ทว่าความเจ็บปวดและทุกอย่างในอดีตก็ย้ำเตือนว่าอย่าหลงเชื่อภาพลวงนี้

พอแล้ว

“ทำไม คนอื่นมันสนองคุณได้ไม่ถึงใจเหมือนผมงั้นเหรอ” วาจาเผ็ดร้อนแสนรุนแรงมาพร้อมกับรอยยิ้มเยาะ

“สอง!”

“อยากก็บอกว่าอยากครับ อย่ามาทำเป็นพูดว่าคิดถึง”

คำพูดดูถูกความรู้สึกทำให้รพัฒน์ไม่อาจทนฟังได้อีก แรงมหาศาลจู่โจมเข้าหาร่างที่สูงใหญ่น้อยกว่าจนสารินเซไปติดผนัง จากนั้นเรือนกายแกร่งจึงตามเข้ามาแนบชิดอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันจะได้ขัดขืนดิ้นรน เรียวปากได้รูปก็ฉกวูบมาทาบทับ กลืนกินประโยคที่ไม่น่าฟังให้หมดสิ้นด้วยอารมณ์รุนแรง

แม้จะพยายามหลบหลีกลิ้นร้อนที่ไล่กวาดต้อนดูดดึงแต่รพัฒน์ก็คือรพัฒน์ ไม่ว่าจะความรู้สึกหรือสัมผัสก็ไม่อาจหลีกหนีได้พ้น จนท้ายที่สุดแล้วสารินต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้

ยอมแพ้กับการดิ้นรนด้วยรู้ว่ามันสูญแรงเปล่า จากการขัดขืนจึงแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย ปล่อยให้อีกคนทำตามใจจนกว่าจะพอ

เมื่อคนตรงหน้าต่อต้านด้วยการเฉยเมย ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ จึงเป็นรพัฒน์ที่ค่อยๆรู้สึกตัวจนสัมผัสบุ่มบ่ามเอาแต่ใจกลายเป็นทาบทับแน่นิ่ง ทุกอย่างหยุดชะงักจนราวกับเวลาหยุดเดิน นานหลายวินาทีกว่าริมฝีปากร้ายจะผละออกไปเชื่องช้า

“สอง”

“...”

“ผม...”

“คุณมันก็แบบนี้ เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว...ไม่เคยเปลี่ยน”

แววตาผิดหวังระคนเจ็บปวดจากคนที่แนบชิดกันทำให้รพัฒน์สะอึกจนพูดไม่ออก น้ำเสียงในประโยคนี้ไร้ซึ่งความเกรี้ยวกราด ไร้ซึ่งความรุนแรง มันเรียบเรื่อย แผ่วเบา ทว่าส่งผลต่อคนฟังได้ราวกับเป็นพายุ

“ผมขอโทษ”

คำนี้ที่ไม่เคยออกจากปากถูกเอื้อนเอ่ยออกมา รพัฒน์เพิ่งรู้ว่าในวินาทีนี้ว่าตัวเองมันแย่เกินกว่าจะให้อภัย ท่าทางของสารินบ่งบอกให้รับรู้จนรู้สึกละอาย

แต่ยังไงเขาก็ปล่อยสารินไปไม่ได้ ต่อให้จะถูกตราหน้าว่าเลวแค่ไหนก็ตาม

“หึ ผมคงจะรู้สึกดีถ้าได้ยินในวันนั้น แต่วันนี้คำขอโทษนี้มันไม่มีค่าอะไรเลยสักนิด”

“...”

“ไม่มีค่าสำหรับผมเหมือนกับตัวคุณ”

ทุกถ้อยคำนั้นบาดลึกและเสียดใจคนฟังจนร่างกายสูงใหญ่ไร้เรี่ยวแรงขืนเอาไว้ยามถูกอีกคนผลักออก สารินลอบสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อคนเอาแต่ใจยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง ร่างกายสั่นไหวถูกพยายามควบคุมจนมันเริ่มกลับมาเป็นปกติ สองมือที่กำแน่นจนชาคลายออกจากกัน ก่อนขาแกร่งจะก้าวเดินเพื่อออกไปจากตรงนี้

หมับ

“ผมรู้ว่าคนอย่างผมมันแย่เกินกว่าที่คุณจะให้อภัย”

“...”

“แต่ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับโอกาสนั้นอีกครั้ง”

คนที่รั้งแขนเอาไว้เดินอ้อมหยุดอยู่ตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นฉายความมาดมั่นจริงจังจนความหวาดหวั่นก่อเกิดขึ้นในใจ ด้วยเพราะรู้ดีว่าหากอีกฝ่ายได้มุ่งมั่น คนอย่างรพัฒน์จะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้สิ่งนั้นมา

มือหนาที่วางจับอยู่บนท่อนแขนเลื่อนลงมากอบกุมมือใหญ่ซึ่งมีขนาดไม่ต่างกัน ความอุ่นร้อนจากปลายนิ้วแผ่ซ่านไปทั่วกระทั่งลามไล้จนถึงใจอันหนาวเหน็บ ก่อนที่อีกคนจะขยับออกและหนีหายรพัฒน์ก็ทาบทับสัมผัสลงไปบนริมฝีปากนั้นอีกครั้ง

แนบชิด ติดตรึง ไร้ซึ่งการรุกราน

นานหลายวินาทีแล้วผละออกอย่างเชื่องช้า จากนั้นจึงไล้สัมผัสเรื่อยมาไปตามสันจมูกโด่ง ขยับขึ้นไปกระทั่งจรดริมฝีปากลงบนหน้าผาก

“ผมจะทำให้คุณกลับมาเป็นของผม...ด้วยความรู้สึก ไม่ใช่ความต้องการ”

พูดจบความใกล้ชิดก็ขยับถอยห่าง ดวงตาคมกวาดมองคนที่ยืนนิ่งอีกครั้งก่อนร่างสูงจะยอมหมุนตัวเดินออกไป ทิ้งให้สัมผัสเมื่อครู่และประโยคสุดท้ายสลักลึกอยู่ในใจและความคิดของใครอีกคน

 
[ 55 % ]

 “คุณรพัฒน์คะ คือ...คุณรรินมาขอพบค่ะ”

ชื่อคนที่มาขอเข้าพบทำให้มือหนาที่กำลังตวัดเซ็นเอกสารอยู่ชะงัก หากแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธประตูบานกว้างก็ถูกเปิดเข้ามาด้วยฝีมือของผู้หญิงคนนั้น

คนซึ่งขึ้นชื่อว่าแม่แต่ไม่เคยทำตัวเป็นแม่

“จะเข้ามาพบลูกชายตัวเองคงไม่ต้องรอคำอนุญาตหรอกใช่ไหม”

รพัฒน์จ้องอีกฝ่ายอย่างเบื่อหน่ายจากนั้นจึงส่งแฟ้มเอกสารให้กับเลขา ก่อนอีกฝ่ายจะรีบรับแล้วเดินออกไปอย่างรู้งาน

“ไม่ต้องรอคำอนุญาต แต่ก็ควรต้องมีมารยาทเคาะประตูก่อนเข้ามา”

“แม่คิดว่ามันไม่ได้จำเป็น”

“อย่าแทนตัวเองด้วยคำที่ไม่เหมาะสมกับคุณขนาดนั้น ผมฟังแล้วจั๊กจี้หู”

ประโยคและสีหน้าของคนเป็นลูกทำลายความนิ่งสงบของท่าทีนั้น จนใบหน้าสวยซึ่งดูอ่อนกว่าอายุจริงทอความวาวโรจน์อย่างไม่อาจปกปิดอาการ

“ฉันเองก็ไม่อยากจะพูดกับแกนักหรอกนะ”

อีกฝ่ายกัดฟันพูดเสียงลอดไรฟัน ธาตุแท้ที่เป็นความจริงถูกเปิดเผยต่างจากตอนเพิ่งเข้ามาราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ

 นี่แหละความจริงที่ผู้หญิงคนนี้เป็น

“ไม่อยากพูดก็เชิญกลับไป ผมเองก็ไม่อยากฟัง”

“หึ ฉันก็ไม่อยากอยู่ที่นี่นานนักหรอก ที่มาก็แค่จะมาบอกอะไรที่ทำให้แกตาสว่าง...โอ๊ะ อันดับแรกต้องแสดงความยินดีด้วยนะจ๊ะที่เลิกกับความผิดเพศนั้นได้แล้ว ก็อย่างว่านะ มันไม่มีทางคงทนอย่างที่ฉันว่าเอาไว้ เห็นว่าอดีตคู่นอนของแกก็มีผัวใหม่อย่างรวดเร็วเลยนี่ ร่านไม่เบานะ”

พลัก

เพียงไม่กี่วินาทีรพัฒน์ก็ผุดลุกขึ้นแล้วก้าวถึงตัวคนพูด การกระทำทุกอย่างไปก่อนความคิด รวมถึงมือหนาซึ่งวางอยู่บนปลายคางของคนซึ่งมีความคิดแสนน่ารังเกียจ

สิ่งที่น่าเสียใจที่สุดคือความจริงที่ว่าเขาเกิดมาจากผู้หญิงคนนี้

“คุณคงรู้จักคำนี้ดีสินะถึงได้ว่าคนอื่นไปทั่ว”

“นี่ฉันเป็นแม่แกนะ!” แรงบนมือหนาเริ่มลงน้ำหนักมากขึ้นจนใบหน้าเบ้บิดด้วยความเจ็บ

“คนอย่างคุณอย่าว่าแต่เป็นแม่เลย เป็นคนยังไม่สมควร”

“แก! ไอ้ลูกชั่ว”

“ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นลูกของคุณ...ก่อนจะว่าคนอื่นน่ารังเกียจดูตัวเองก่อนเถอะ ความคิดและคำพูดของคุณมันน่ารังเกียจกว่าอะไรเป็นไหนๆ”

“หึ มันไม่น่ารังเกียจเท่าการมั่วซั่วของอีตัวนั่นหรอก”

อีกฝ่ายสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมและรพัฒน์ก็ยอมปล่อยโดยง่ายเพราะไม่อยากแตะต้องคนซึ่งมีความคิดสปรกแบบนี้นานนัก

“ฉันมาบอกบุญ ถ้าแกอยากตาสว่างคืนนี้ก็ไปที่นี่”

กระดาษแผ่นเล็กในมือนั้นถูกปาใส่อกแกร่งก่อนมันร่วงหล่นลงบนพื้น

“...”

“แล้วจะได้รู้ว่าพวกแกมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าฉัน”

คนซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เอ่ยทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะหมุนตัวกลับไป จากนั้นเสียงปิดประตูดังปังอย่างรุนแรงก็ดังตามมา

กระดาษบางอย่างที่ปลิวตกอยู่บนพื้นกระตุ้นให้รพัฒน์เอื้อมมือไปหยิบมัน ข้อความที่ปรากฏมีเพียงเวลาและสถานที่จนคิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อพลิกอีกด้านแล้วก็ไม่พบอะไรมากกว่านั้น พลางประโยคคำพูดเมื่อครู่ก็ไหลเข้ามาในหัว

‘แล้วจะได้รู้ว่าพวกแกมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าฉัน’

บางอย่างข้างในมันบอกกับเขาว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับสาริน




21.00 น. โรงแรม xxx ห้อง 3015

ร่างสูงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูซึ่งมีเลขห้องประดับอยู่ชัดเจน ชั่ววินาทีหนึ่งในอกเกิดความวูบโหวงอย่างไม่เข้าใจ จนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อลดอาการนั้น ตรงปลายเท้ามีซองบางอย่างวางอยู่ให้เห็นอย่างจงใจ หลายนาทีกว่ารพัฒน์จะก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา

ลูกกุญแจ...

ดวงตาคมจ้องมองลูกกุญแจในมือก่อนจะเหลือบมองลูกบิดตรงหน้า

เปิดเข้าไปแล้วจะเจอกับอะไร...ผู้หญิงคนนั้นวางแผนอะไรอยู่กันแน่

หลากหลายความคิดวิ่งวนเข้ามาในหัวจนชายหนุ่มต้องเรียกสติตัวเอง ยามตัดสินใจได้มือหนาจึงสอดลูกกุญแจเข้าไปในลูกบิด ก่อนวินาทีต่อมาจะเกิดเสียงปลดล็อคดังคลิก จากนั้นบานประตูจึงค่อยๆถูกเปิดเข้าไป

“อะ อึก”

“อืม”

เสียงแผ่วๆนั้นพาให้ท่อนขาแกร่งก้าวตรงไปหาต้นเสียง ขณะเริ่มรู้สึกว่าอากาศในปอดมันลดลงจนแทบหายใจไม่ออก น้ำลายก้อนเหนียวถูกกลืนลงคอเชื่องช้า ในอกเต้นรัวด้วยจังหวะแห่งความหวาดกลัว

วินาทีที่ผู้ชายซึ่งเข้มแข็ง ไม่เคยหวั่นกลัวต่อสิ่งใดมาตลอดชีวิตเกิดกลัวขึ้นมาจับใจ

กลัว...กลัวว่าเสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงของคนที่ตัวเองคิด

“อือ อาร์ต”

เสียงนั้น...ที่เคยแหบพร่ายามเรียกชื่อเขา

กึก

ภาพตรงหน้ายามเดินเข้ามาถึงข้างในราวกับฟ้าผ่าลงมากลางหัว ดั่งขาสองข้างถูกเหล็กหลายสิบกิโลถ่วงเอาไว้ให้ก้าวต่อไม่ออก สองร่างซึ่งแนบชิดนัวเนียขยับไหวกระทั่งคนที่คร่อมอยู่ด้านบนหันมาเห็น กิจกรรมร้อนแรงจึงหยุดชะงัก

“คุณ!” เสียงร้องอย่างตกใจดังขึ้นในวินาทีนั้น

ยิ่งกว่าสองร่างเปลือยเปล่าคือบางอย่างตรงปลายเท้าซึ่งมีสภาพบ่งบอกว่าถูกผ่านการใช้งานแล้วเรียบร้อย
ถุงยางอนามัย

สารินและอาทิตย์รีบตลบผ้าห่มมาคลุมตัวขณะเบิกตามองอีกคนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงหน้า สองมือหนากำเข้าหากันจนแขนสั่นระริก ปลายเล็บสั้นกุดจิกเข้าหาผิวเนื้อจนบริเวณนั้นเกิดความชา

แม้จะรู้อยู่แล้วว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันอย่างไรแต่การได้เห็นมันห้ามความรู้สึกไม่ได้

“คุณเข้ามาได้ยังไง” สารินถามขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน

ประโยคคำถามแทบไม่เข้าหูรพัฒน์เลยแม้แต่น้อย ในหัวมีเพียงภาพเมื่อครู่จนลืมแม้แต่จะหายใจ ยามอกสะท้านเยือกเมื่อพยายามเอาอากาศเข้าปอดจึงได้รู้

ทรมานราวกับกำลังจมน้ำ ราวกับที่ตรงนี้ไม่มีแม้แต่อากาศให้หายใจ

“สอง...” เสียงที่หลุดออกจากปากไปดังแผ่วเหมือนเพ้อละเมอ

ข้างในปวดหนึบจนเหมือนหัวใจถูกกระชากออกไป ทรมานจนรพัฒน์ไม่คาดคิดมาก่อนว่าความรู้สึกแสนรุนแรงนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง

ทั้งที่เขาก็ทำกับคนอื่น ทว่าเมื่อเห็นภาพนี้เต็มตากลับทำใจไม่ได้   

สารินคงรู้สึกเหมือนกันสินะ ถึงจะไม่เคยเห็นชัดๆแต่ก็เกือบจะ...คงไม่ได้ต่างกัน

นี่คือสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจให้เห็น

“ความรู้สึกของคุณตลอดมา...”

“...”

“ผมเข้าใจแล้ว”

“...”

“ขอโทษ”

ตลอดเวลาที่ต้องอดทน สารินทำได้ยังไงกัน...ตอนนี้เขาเหมือนจะตายแล้ว

ความรู้สึกที่เพิ่งพานพบและเข้าใจวิ่งเข้ามากระแทกจนคนที่ไม่เคยสั่นไหวกับสิ่งใดแทบไม่มีแรงก้าวเดิน ยิ่งกว่าร่างกายคือหัวใจที่อ่อนแรงเหมือนอยากหยุดทำงาน มันหนักอึ้ง ร้าวราน ราวกับไม่มียังจะทรมานน้อยกว่า

เอามีดมากรีดแล้วควักออกไปยังไม่เจ็บเท่านี้

ประโยคนั้นทำให้คนฟังวูบไหวจนต้องเบือนหน้าหนี มือซึ่งจับชายผ้าห่มอยู่กำแน่นไม่แพ้มือของคนตรงหน้า

รพัฒน์ไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่านั้นเมื่อภาพตรงหน้าบ่งบอกทุกอย่างชัดเจน ดวงตาคมกวาดสายตามองคนทั้งคู่บนเตียงอีกครั้งก่อนจะตั้งสติ รวบรวมแรงแล้วหมุนกายกลับอย่างเชื่องช้า แต่ละย่างก้าวหนักอึ้งจนกว่าจะเดินออกจากห้องมาได้เหมือนต้องใช้พลังไปอย่างมหาศาล

ชายหนุ่มแทบไม่รู้ตัวว่าตัวเองกลับมาที่บ้านได้ยังไง ทุกอย่างมันล่องลอย ปวดหนึบ จนชาไปทั้งร่างกาย

ฮวบ

“เจ้านาย!”

เสียงร้องของคนขับรถดังขึ้นด้วยความตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นนายทรุดลงทันทีที่ก้าวลงจากรถ ท่าทางของรพัฒน์ทำให้ไม่มีใครกล้าขยับเข้ามาใกล้ ได้แต่ยืนมองด้วยความตกใจและสงสัย

อะไรที่ทำให้คนอย่างรพัฒน์มีสภาพเป็นอย่างนี้

ขณะที่ความคิดของคนซึ่งไร้เรี่ยวแรงมีเพียงเสียงและภาพก่อนหน้าตราตรึงอยู่ในหัว ก่อนเปลือกตาหนาจะปิดลงอย่างไม่อาจทานทน

ขณะที่เขาก็เป็นของคนอื่น แต่ตอนนี้ทำไมความรู้สึกรับไม่ได้กลับรุนแรงขนาดนี้

รพัฒน์ไม่ได้รับไม่ได้ที่สารินมีอะไรกับคนอื่น หากแต่ความหมายของการรับไม่ได้นี้คือความทรมานนั้นช่างรุนแรงเกินทน

ผู้หญิงคนนั้นชนะที่ทำให้เขาอ่อนแอได้ขนาดนี้ แต่สิ่งที่พูดกลับถูกแค่เพียงเสี้ยวเดียว

คนที่น่ารังเกียจไม่ใช่สารินเลยแม้แต่น้อย...แต่เป็นตัวเขาเองที่น่ารังเกียจตลอดมา

[100%]

คุณรบโดนเอาคืนแล้วววว :mew6: ฮือ เจ็บแทนง่ะ รุนแรงสุดเท่าที่เคยเขียนมาแล้วค่ะ อย่างที่รู้กันว่าโซแอลไม่ถนัดม่า เพราะงั้นเลยไม่แน่ใจว่าครึ่งหลังนี้เป็นไง คนอ่านอ่านแล้วหน่วงกันบ้างหรือเปล่า ยังไงส่งฟีดแบคกลับมาหน่อยนะคะ :call:

ตอนหน้าจบแล้วเน่อ~




แฟนเพจ : https://www.facebook.com/writerexsoull/
Twitter : https://twitter.com/exsoull_
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (55%) 06/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: sripaerrr ที่ 06-12-2017 18:39:13
ไม่รู้จะอยู่ข้างไหนดีเลยค่ะ ดูเจ็บปวดไปหมด สงสารคุณรบนะ แต่..อยากให้คุณสองใจแข็งนานๆ:z3:
งั้นเราขออยู่ข้างๆคุณปราณต์ดีกว่าา~~~~~
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (55%) 06/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 06-12-2017 18:44:54
 :o12: :o12: :o12:
ดีจายยยยย คุณสองของเค้ามาแล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (55%) 06/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kail ที่ 06-12-2017 18:46:37
สงสารคุณสองงงงงง แต่แอบปันใจให้คุณปรานต์ รอพาร์ทคุณปรานต์~~~~
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (55%) 06/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 06-12-2017 19:21:54
คุณสองค้าเอาให้หนักๆค่ะเมินคุณรบไปสนใจคุณปรานต์ดีกว่า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (55%) 06/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-12-2017 20:44:48
คุณรบเปิดเกมส์รุก...ว่าแต่คุณปรานต์นี่ อะไร ยังไง  :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (55%) 06/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: 03.39 ที่ 06-12-2017 22:21:29
สงสารทั้งคู่เลย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (55%) 06/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-12-2017 23:42:08
รอดูต่อ ๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (55%) 06/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-12-2017 01:44:49
อาทิตย์ของคุณปรานต์รึเปล่าน้าาาาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (55%) 06/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-12-2017 10:05:40
น่าสนใจ ปรานต์ อาร์ต  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

รบ ทำให้ได้จริงๆนะ
ที่จะให้สองรับรู้ความรู้สึกของตัวเอง ไม่ใช่แค่ต้องการ
รบ สอง :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 08-12-2017 18:45:51
สองน่าจะวางแผนไว้ ร่วมมือกับอาทิตย์ ดัดหลังรบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 08-12-2017 19:05:53
 :laugh: :laugh: เป็นไงหละโฮ๊ะๆๆๆๆ หู้ยยยย สะใจแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-12-2017 20:47:51
เจ็บกันทุกฝ่าย...ลามมาถึงคนอ่านเลย  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-12-2017 20:56:38
อะไรกันนี่
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 08-12-2017 21:35:04
โอยยยย นี่คือจัดฉากเฉยๆใช่ไหมคะ? (ก็คุณแม่เล่นบอกรายละเอียดล่วงหน้าได้พร้อม แถมยังมีการเตรียมกุญแจไว้ให้อีก)

แล้วอาทิตย์ออกมาเที่ยวซนข้างนอกแบบนี้ คุณคนนั้นเขาจะไม่โกรธเอาหรือคะ?
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 08-12-2017 22:06:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 09-12-2017 02:18:28
เอาทั้งคู่เลยได้ไหมคะ  :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: wifesuju ที่ 09-12-2017 10:20:55
ทั้งสมน้ำหน้า ทั้งสงสาร ฮือออออ ไหนอาทิตย์มีสามีแล้วไงคะ เค้าขังไว้แล้วออกมาได้ยังงายยยย คุณสามีรีบมาเอาอาทิตย์ไปเดี๋ยวนี้เลย รอคู่อาทิตย์ค่ะ น่าจะแซ่บ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: maneethewa ที่ 09-12-2017 10:25:42
สมน้ำหน้าคุณรบแรงๆ  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 09-12-2017 14:23:41
ช่วงเอาคืน ฮ่าๆๆๆๆๆ
จริง หรือจัดฉากกันน่ะ
รอออออ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 09-12-2017 22:29:04
มันยังไงยังไงอยู่นาาาาา :m28:
เจ็บหนักหน่อยนะคะคุณรบ ถึงเวลาเอาคืน :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: lalun ที่ 11-12-2017 16:02:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 11-12-2017 20:26:54


ตอนที่ 5


หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

สารินถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะกำลังสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก พลางสมองก็หวนนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนได้เมื่ออาทิตย์ก่อน

รพัฒน์หายไปเลย ไม่แม้แต่เจอหน้าที่บริษัท แม้อีกฝ่ายจะมาทำงานปกติแต่ดูเหมือนว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงการต้องเจอกัน

ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ

ชายหนุ่มกระซิบบอกตัวเองในใจก่อนจะเดินออกจากห้องนอน รับประทานอาหารเช้าง่ายๆเช่นขนมปังปิ้งกับกับกาแฟดำหนึ่งแก้ว จากนั้นจึงหยิบกระเป๋าทำงานขึ้นมา เตรียมตัวออกจากห้องดั่งเช่นทุกวัน

ฟุบ

สารินผงะก้าวถอยหลังอย่างตกใจเมื่อยามเปิดประตูไปแล้วพบว่ามีบางอย่างล้มฟุบลงตรงหน้า หากว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้ตกใจแล้ว การเห็นเต็มตาว่าร่างนี้เป็นใครคือสิ่งที่น่าตกใจกว่า

รพัฒน์

คนที่นั่งอยู่ตรงนี้มากว่าค่อนคืนค่อยๆขยับกายเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองล้มฟุบลงบนพื้น แขนแกร่งยันค้ำพลางยันกายขึ้นนั่ง พร้องทั้งสะบัดหัวไล่ความมึนงง โดยไม่รู้ว่ายามนี้มีใครยืนอยู่ตรงหน้า

อืม เผลอหลับไปอย่างนั้นหรือ

ใบหน้าคมก้มลงยามขยับนิ้วนวดวนขมับของตัวเองเพื่อคลายความล้า แสงสว่างจากหลอดไฟยามค่ำคืนถูกแทนที่ด้วยแสงจากดวงอาทิตย์บ่งบอกว่าเป็นเวลาเช้า ขณะกำลังหมุนนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาหางตาก็เหลือบเห็นปลายรองเท้าของใครบางคน

“สอง” เสียงเรียกชื่อนั้นแผ่วเบาก่อนรพัฒน์จะขยับกายลุกขึ้นยืน

“คุณมาทำอะไรที่นี่”

สภาพชุดทำงานที่ไม่ได้กเรียบร้อย ยับย่น บ่งบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในชุดของเมื่อวาน ภาพที่เกิดคำถามขึ้นว่าแล้วรพัฒน์มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และมาทำไม อีกทั้งใบหน้าคร้ามคมยังมีไรหนวดขึ้นเขียวครึ้ม ใบหน้าซูบเซียวกว่าเคย

“ผม...”

คำตอบนั้นถูกเว้นหายไปเมื่อเจ้าตัวไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรตอบ

ตลอดทั้งอาทิตย์รพัฒน์มาที่นี่ทุกคืนหลังจากเจ้าของห้องกลับมา นั่งเฝ้าอยู่หลายชั่วโมงจนถึงค่อนคืน ทว่าวันนี้กลับผิดแปลกไปเมื่อความเหนื่อยล้าจากการนอนน้อยหลายวันติดกัดกินร่างกายจนเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น

แค่ได้เห็นหน้าห้องก็ยังดี...

“คุณอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เมื่อคืน?” คนถูกถามพยักหน้ารับ ยามอีกคนกวาดสายตามอง “เข้าไปล้างหน้าสักหน่อยไหม”

ประโยคนั้นของสารินเรียกความแปลกใจให้เกิดขึ้นในอก ก่อนรพัฒน์จะรีบพยักหน้าให้เจ้าของห้องหมุนตัวกลับเข้าไป จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินตาม

นานแค่ไหนกันที่ไม่ได้มาที่นี่

เพียงแค่ก้าวเท้าเข้ามา ความคิดถึงก็ไหลวนอาบทั่วกาย ดวงตาคมกวาดมองไปทั่วห้อง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่เว้นแม้แต่หนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ

ยิ่งกว่าคิดถึงสถานที่คือคิดถึงเจ้าของแผ่นหลังตรงหน้า

เขาคิดถึงสาริน...

“คุณคงรู้อยู่แล้วว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน ผ้าเช็ดตัวสำรองก็อยู่ที่เดิม” สารินหมุนตัวกลับมาพูด

แม้มีหลายสิ่งอยากพูด อยากถาม อยากหาเหตุผลแต่ก็เลือกเก็บมันไว้ข้างใน เก็บท่าทีและอาการทุกอย่างให้อยู่ภายใต้ใบหน้าเรียบราวกับรู้สึกปกติ...ถึงมันจะไม่ปกติตั้งแต่เห็นอีกฝ่ายนอนฟุบอยู่หน้าห้องแล้วก็ตาม

“อืม”

รพัฒน์รับคำก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำอย่างคุ้นเคย จัดการล้างหน้าล้างตาจนสดชื่นเรียบร้อย จากนั้นจึงเปิดตู้ใต้อ่างล้างหน้า หยิบผ้าเช็ดตัวซึ่งถูกวางไว้ในนั้นออกมา

ทว่าเมื่อนึกได้ว่ามันอาจถูกเตรียมไว้เผื่อใครมือก็หยุดชะงัก พินิจอยู่หลายนาทีแล้ววางลงที่เดิม เปลี่ยนเป็นหันไปหยิบทิชชู่มาซับน้ำตามใบหน้าออกแทน

ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำ ขณะที่เจ้าของห้องนั่งรออยู่ตรงโซฟากลางห้อง

“คุณมาที่นี่ทำไม?” 

สารินเป็นฝ่ายลุกขึ้นถาม เปิดบทสนทนาอย่างไม่อยากเสียเวลาเนื่องจากกำลังจะไปทำงานสาย อีกฝ่ายเป็นเจ้าของบริษัทจะเข้างานตอนไหนก็ได้ แต่เขาไม่ใช่จึงไม่อาจจะทำอย่างนั้น

“ผม...คิดถึง”

คำตอบนั้นแสนสั้นทว่ามีพลังทำลายล้างใจคนฟังอย่างรุนแรง

นึกว่ารังเกียจกันไปแล้วเสียอีก

“วันนั้นมันยังไม่ชัดเจนอีกหรือไง”

“ชัด แต่ผมไม่สนใจตรงนั้น” รพัฒน์เอ่ยตอบด้วยสายตาจริงใจและน้ำเสียงมั่นคง

แววตานี้คือรพัฒน์ที่สารินรู้จักมาตลอดหนึ่งปี มันมีความเด็ดเดี่ยว มั่นคง ท่าทางซึ่งบ่งบอกว่าอีกฝ่ายตัดสินดีแล้ว

“...”

“มันคงเห็นแก่ตัวเกินไปที่ผมจะว่าคุณในเมื่อตัวเองทำมากกว่านั้น เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉะนั้นคุณมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้”

“...”

“แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธว่าอยากเข้าไปกระชากคุณออก อยากจะฆ่าหมอนั่น”

เรือนกายสูงใหญ่ขยับเข้ามาจนระยะห่างระหว่างคนสองคนเหลือเพียงครึ่งก้าว ความใกล้ชิดนี้ทำให้สารินสั่นไหวอยู่ในอก ใกล้จนกลิ่นกายแสนคุ้นเคยกรุ่นติด อบอวลอยู่ปลายจมูก

ทุกคำในประโยคนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะออกจากปากของคนตรงหน้า สารินไม่เคยคาดหวังเลยสักนิดว่าจะได้ยิน ต่อมามือก็ถูกดึงไปกุมเอาไว้

“ผมรู้แล้วว่าตัวเองผิดและแย่ รู้แล้วว่าคุณทรมานแค่ไหน ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะรอ รอคุณเลิกกับหมอนั่น”

“แล้วคุณจะรอไปทำไม”

“รอให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ในฐานะใหม่...ฐานะคนรัก”

สถานะที่ได้ยินส่งผลให้สารินนิ่งอึ้งเหมือนถูกสาป หัวใจที่เหมือนถูกทำลายจนย่อยยับเหมือนกลับมามีชีวิตและเต้นด้วยจังหวะอันถี่รัว หากไม่ต้องรักษาท่าทีเอาไว้น้ำตาที่เครือคลอคงไหลออกมาอย่างไม่อาย

มัน...

“คนรักงั้นหรือ อะไรที่ทำให้คุณต้องการแบบนั้น”

ชายหนุ่มกลืนน้ำตาที่จะไหลซึมให้ไหลกลับเข้าไปแล้วเอ่ยถาม

“ผมคิดว่าผมรักคุณ...ที่คิดเพราะไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไงกันแน่ แต่ในนี้มันเจ็บเหมือนจะตายตอนเห็นภาพวันนั้น คิดถึงทุกวินาทีที่มีคุณอยู่ข้างๆ คิดถึงทุกวัน”

หากสถานะที่ได้ยินเหมือนดั่งคำที่สาปให้แน่นิ่ง คำรักจากรพัฒน์ก็เป็นดั่งยาพิษแสนหวานที่ทำลายทุกประสารทสัมผัสจนทุกอย่างในหัวว่างเปล่าอื้ออึ้ง

ผมคิดว่า ผมรักคุณ

ผมรักคุณ

“คิดถึงทุกวันแต่ผมก็ยังเห็นคุณมีความสุขกับคนอื่นดี”

กว่าจะเรียกสติตัวเองแล้วเปล่งคำพูดได้ก็เกือบแสดงอาการให้อีกฝ่ายรู้

“แกล้งมีความสุขต่างหาก ตั้งแต่ที่คุณเดินจากไปผมไม่เคยมีความสุขจริงๆเลยสักวัน”

“งั้นเหรอ...ผม-ไม่-เชื่อ”

เอ่ยตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำก่อนจะหมุนตัวไปหยิบกระเป๋าทำงานซึ่งวางอยู่บนโซฟามาไว้ในมือ ทว่าต่อมาทั้งร่างก็ถูกรวบเข้าไปกอดจนแผ่นอกแกร่งแนบชิดอยู่กับแผ่นหลัง

สารินยืนนิ่งจากนั้นวินาทีต่อมาจึงสัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่ทิ้งลงมาบนไหล่ ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดอยู่กับซอกคอ

“ยังไม่ต้องเชื่อตอนนี้ก็ได้ เพราะผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น”

“...”

“ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะสอง”

กลิ่นอายคุ้นเคยและสัมผัสแสนโหยหาทำให้ใบหน้าคมขยับซุกซบเข้าหาความอุ่นจากซอกคอหอมมากกว่าเดิม ผิวกายเรียบลื่นที่ชอบไล้จูบกระตุ้นความคิดถึงจนไม่อยากจะคลายอ้อมกอดให้ต้องห่าง รพัฒน์อยากกักอีกคนเอาไว้ไม่ให้ไปไหนแล้วกอดเอาไว้อย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน

คิดถึงมาก

“แต่ผมคบอยู่กับอาทิตย์” คนด้านหลังชะงักกึก พลางสูดลมหายใจเข้าลึก

“ผมจะรอ”

“คนอย่างคุณน่ะหรือจะทำได้”

“ผมจะทำให้เห็น ขอแค่คุณยังให้โอกาสให้ผมได้พิสูจน์...อย่าไล่กันไปไหนก็พอ”

“ไม่มีโอกาสสำหรับคนมักมาก”

“ผมจะไม่ยุ่งกับใครระหว่างรอคุณ”

สารินยืนนิ่งไม่เอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธ อ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดกันมากว่าร้อยครั้งรัดแน่นขึ้นราวกับย้ำคำพูดของเจ้าตัว สัมผัสที่โอบล้อมรอบกายไม่ยอมคลายออกห่างเลยสักวินาที

“ให้ผมได้พิสูจน์ตัวเองสักครั้งนะ” คนด้านหลังกระซิบขอเว้าวอน

ท่าทางที่สารินไม่คุ้นชินกำลังจะละลายน้ำแข็งและบาดแผลในใจจนต้องขืนกายออก ก่อนจะใจอ่อนมากไปกว่านี้ จากนั้นจึงหมุนตัวไปหาคนด้านหลัง

“ถ้าผมคบกับอาทิตย์ไปตลอดล่ะ”         
           
“ผม...ก็จะรอตลอดไป”

“หึ คำพูดมันก็แค่ลมปาก”

“ก็ให้ผมได้พิสูจน์ ผมไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ อ้อนวอนขอคุณทั้งที่จะหาคนใหม่ที่ไหนก็ได้ แต่ผมทำเพราะนี่คือคุณ เพราะ...”

“ผมจะไม่เชื่ออะไรทั้งนั้นจนกว่าจะได้เห็น” เอ่ยขัดขึ้นเมื่อรู้ว่าอีกคนจะเอ่ยคำว่าอะไรต่อจากนั้น

คำรักมันมีผลต่อความรู้สึกมากมาย สารินไม่อาจทนฟังได้ซ้ำอีกครั้งแม้ในใจจะรู้สึกยินดี

“ผมจะทำให้เห็น”

รพัฒน์ยืนยันหนักแน่น ดวงตาคมที่มองสบมาไม่มีแววสั่นไหวดั่งเช่นวันในโรงแรมนั้น วันที่สารินยอมรับว่าท่าทางของอีกฝ่ายมันมีความเจ็บปวดเจืออยู่มากมายจนสัมผัสได้

“สิ่งแรกที่ต้องรับผิดชอบคือการที่คุณทำให้ผมไปทำงานสาย”

กระเป๋าทำงานในมือถูกกำกระชับจากนั้นร่างสูงไม่ต่างกันจึงเดินเบี่ยงหลบคนที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า เพื่อออกจากห้องไปทำงานทั้งยังเพราะต้องการเลี่ยงอีกคน

แค่นี้ก็มากเกินกว่าใจจะรับไหว ทุกอย่างมันรวดเร็วและเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

คนอย่างรพัฒน์ ภัคโภคินน่ะหรือที่มาร้องขอพิสูจน์ตัวเองกับเขา

“ผมจะโทรไปบอกคุณฐากูรว่าคุณมาสายเพราะผม” รพัฒน์รีบเดินตาม

“จะทำอะไรก็ทำเถอะ แค่รับผิดชอบไม่ให้ผมโดนด่าก็พอ”

“สอง” คนถูกเรียกขมวดคิ้วก่อนจะหันมา ทว่ายังไม่ทันจะถามว่ามีอะไรสัมผัสหนักๆก็ทาบทับลงมาบนริมฝีปาก “เดี๋ยวผมไปส่ง”

พอผละออกคนทำอะไรตามใจก็ยกยิ้มอย่างน่าหมั่นไส้

“ผมไม่ได้อนุญาตให้คุณจูบ”

“ยังไม่ได้จูบ แค่เอาปากไปแตะ”

“คุณรพัฒน์ อย่าลืมว่าผมมีคนที่คบด้วยอยู่แล้ว”

รอยยิ้มนั้นเลือนหายไปทันใด จากนั้นจึงเอ่ยพูดด้วยประโยคแสนเอาแต่ใจ

“คุณไม่พูดมันก็ไม่รู้หรอก”

“ก็เหมือนที่ผมจูบกับเขาแล้วคุณก็คงไม่รู้งั้นสิ”

ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นความเจ็บปวดของรพัฒน์ก็ฉายชัดออกมาทางดวงตา ดูเหมือนชายหนุ่มจะตั้งใจไม่เก็บอาการให้สารินได้เห็น แม้ชั่ววูบจะรู้สึกผิดทว่าคนเคยเจ็บก็บอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อน

เขาเจอมาเยอะกว่านี้มาก

“เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บริษัท” อีกคนเอ่ยเปลี่ยนเรื่องในทันทีราวกับไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อ

“รถติด ผมจะไปรถไฟฟ้า”

“แต่...”

“คุณกลับไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่าไหมคุณรพัฒน์”

“เรียกผมว่ารบเหมือนเดิมสิ” คนตัวโตท้วงติงพลางขมวดคิ้วมุ่น

“มันไม่เหมือนเดิมแล้ว”

สารินเอ่ยตอบสั้นๆแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้อง ทิ้งคนที่นิ่งไปไว้ข้างหลังอยู่อย่างนั้น จนเมื่อรพัฒน์สลัดความปวดหนึบในใจและตั้งสติได้จึงรีบตามออกไป

สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้สารินไปทำงานเองแต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็เดินไปส่งจนกระทั่งอีกคนเดินเข้ารถไฟฟ้า ดวงคมจับจ้องอยู่ที่ท้ายขบวนรถไฟกระทั่งภาพนั้นหายลับไปจากสายตา ก่อนมุมปากได้รูปจะยกยิ้มเป็นรอยยิ้มแรกในรอบเดือน

เท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว...ที่เหลือก็แค่พิสูจน์ตัวเองให้สารินเห็น

ต่อให้มันจะเป็นเดือน เป็นปี หรือเป็นสิบปีก็ตาม


END.

​มาแล้วววว สุดท้ายก็มาถึงตอนจบจนได้ เย้~ ตอนจบนี้อาจสั้นหน่อย แต่ตั้งใจให้มันจบลงที่ตรงนี้จริงๆค่ะ

ตอนแต่งเรื่องนี้จริงๆไม่ได้คิดอะไรมากเลย อยากลองฝึกดราม่า ฝึกการเขียนในอีกแบบ

และเป็นความโชคดีที่สำนักพิมพ์สนใจอยากทำเรื่องนี้เป็นเล่มเล็ก ด้วยเพราะปกติคนเขียนไม่ได้แต่งแบบนี้บ่อยนักจึงยินดีมากถ้าหากจะได้เก็บเป็นรูปเล่ม(เรื่องรายละเอียดฝากติดตามที่เพจนะคะ ไม่หนักหนาเกินไปสำหรับคนอ่านแน่นอน)

ก็เหมาะเจาะที่ว่าตอนพิเศษในเล่มก็จะเป็นตอนที่คุณรบได้พิสูจน์ตัวเองให้ได้เห็น มีความหวานขึ้นกว่าในตอนปกติ เดี๋ยวจะลงให้อ่านกันหนึ่งตอนนะคะ

สุดท้ายนี้ต้องบอกว่าขอบคุณทุกคนมากๆสำหรับคอมเมนต์ สำหรับกำลังใจ ถ้าไม่มีคนอ่านคนเขียนก็ไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้จริงๆค่ะ

ถึงเวลาต้องบอกลากันอีกครั้งแล้ว แล้วพบกันใหม่เรื่องหน้านะคะ(ยังมีพี่หินน๊า)...รัก


Writer Ex-SoulL

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 11-12-2017 20:31:09
 :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 11-12-2017 20:42:50
 :ling1:รู้สึกค้าง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-12-2017 20:50:50
จบซะแล้ววววว อย่างนี้ก็สงสารคุณอาทิตย์เลยนะคะเนี่ย ถ้าอนาคตสองจะกลับไปหาคุณรบ ใจก็ยังรักคุณรบ  :ling3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-12-2017 21:21:56
จบแบบนี้จริงอ่ะ
งื้อออออ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 11-12-2017 21:35:41
 คุณรบต้องสู้นะคะ อย่าตบะแตกน้า เรื่องอาทิตย์ไม่น่าจะมีปัญหา รายนั้นมีคนหึงโหดคอยคุมอยู่แล้ว
คิดว่าคนนั้นน่าจะเป็นคุณปรานต์รึเปล่า เดาจากความสามารถในการทำบรรยากาศห้องที่อึมครึมให้มืดมิดได้กับตอนคุกคามอาทิตย์ ที่พี่แกมาสายโหดเชียว ยังไงก็รออ่านเรื่องนี้นะคะ
 แอบสงสัยนิดนึงค่ะว่ายัยคุณหญิงรรินเนี่ยไปรู้เรื่องโรงแรมได้ยังไง
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-12-2017 23:04:50
ถึงจะไม่ปลื้มคุณรบนัก...แต่ก้อแอบสงสารหน่ะนะ   :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-12-2017 02:21:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: mumii009 ที่ 12-12-2017 07:07:29
โวยยยยยยยย
555555555555555555
แต่นั่นก็ดีกว่าการยอมกลับไปง่ายๆ
ถึงจะปวดใจแต่การเจ็บซ้ำๆก็ไม่ดีกับตัวเอง
ขอบคุณคนเขียนด้วยครับ
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 12-12-2017 07:22:01
สารินยืมมืออาทิตย์ทำไมแล้วอาทิตย์ก็เหมือนจะมีใครบางคนอยู่แล้วหรือเปล่าค้างมากฮือๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: CLShunny ที่ 12-12-2017 08:18:45
ขอต่อได้ไหมคะืำเป็นเมคะทงยาวเลยดีกว่า55555555เอาเรื่องของอาทิตย์ด้วนเราคิดว่าแซ่บลืม! :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Patar1728 ที่ 12-12-2017 18:29:41
มาต่ออีกได้มั้ย ไม่ชอบคิดเองฮือออ :heaven
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 14-12-2017 22:31:15
เอ้อออออออ
 
มารอดูกันว่า สอง จะใจแข็งได้นานแค่ไหน

มารอดูกันว่า คุณรบ จะพยายามได้มากสักแค่ไหน

มารอดูกันว่า คนแต่ง จะมาต่อเมื่อไหร่

มารอดูกันว่า คนอ่าน จะทำยังไงกับคนเขียนดี

หื้มมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-12-2017 09:04:33
สนุกเลยเจอสองโหมดนี้ไป รบก็พิสูจน์เลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 16-12-2017 14:30:43
อย่าใจแข็งนานนะคุณสอง  :mew2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Byeolismes ที่ 16-12-2017 16:44:06
เราคิดว่าสารินอยากให้เรื่องทุกอย่างมันจบ เลยร่วมมือแม่รบแน่ๆเลย ขอตอนพิเศษทีค่ะ;-; :katai1: :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 16-12-2017 21:06:39
เง้อออ  อยากอ่านต่อออ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 16-12-2017 23:49:43
รอตอนพิเศษ  o13

รอเรื่องอาทิตย์  :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ฟ้าใสคนนอกโลก ที่ 17-12-2017 17:17:32
บอกได้คำเดียวว่า “ดี”  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 18-12-2017 22:57:13

(Special)

[Reveal the secret.]

1 เดือนผ่านไป

“ถ้าเขาจะตามคุณมาขนาดนี้ก็เชิญมานั่งด้วยกันเลยดีไหม”

อาทิตย์กล่าวด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเมื่อเหลือบสายตาไปเห็นใครบางคนซึ่งนั่งเยื้องไปสามสี่โต๊ะ ขณะดวงตาของฝ่ายนั้นจับจ้องตรงมาทางนี้ไม่วางตา

“ให้ห่างกันบ้างเถอะ เขาตามผมอย่างกับเงา” สารินเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ

ตั้งแต่วันนั้นรพัฒน์ก็แทบจะพิสูจน์ตัวเองทุกวินาที บทพิสูจน์ที่อีกฝ่ายทึกทักเองว่าการตามติดคือสิ่งที่จะทำให้เห็นว่าเจ้าตัวไม่ได้ยุ่งกับใครและสนใจอยู่กับแค่เพียงคนเดียว

ตามติดจนแทบจะรู้อยู่แล้วว่าสารินกับอาทิตย์ไม่ได้เจอกันเลยสักครั้ง

“ก็ไม่แปลกหรอก ดูท่าว่าเขาจะหึงจะหวงคุณมาก”

เห็นแล้วอาทิตย์ยังนึกอิจฉา พอตกลงกันได้คนตรงหน้าก็ดูดีขึ้นกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมามากโข

“ขอให้เป็นอย่างนี้ให้ได้ตลอด...ว่าแต่คุณเถอะ หายไปไหน ดูเหมือนคุณไม่ค่อยสบายนัก”

ท่าทางของคนตรงหน้าดูอ่อนแรง อีกทั้งใบหน้ายังซีดเผือดกว่าเคยจนต้องเอ่ยทัก หนึ่งเดือนที่ผ่านมาอาทิตย์ไม่ได้ติดต่อมาและแทบไม่ตอบข้อความ กว่าจะได้คุยและนัดออกมาได้ก็ดูไม่ค่อยสะดวกนัก

“ผะ ผมติดงานนิดหน่อย”

“งั้นเหรอ...ผมยังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเรื่องวันนั้นคุณอย่างเป็นทางการสักที วันนี้เลยมีของเล็กๆน้อยๆมาตอบแทน ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือนะอาร์ต”

กล่องของขวัญเล็กๆถูกหยิบออกมายื่นให้บนโต๊ะเพื่อแทนคำขอบคุณสำหรับทุกอย่าง

เรื่องวันนั้นที่ถูก‘จัดฉาก’ขึ้นและอีกฝ่ายก็ยอมช่วยเหลือจนนำพาความสัมพันธ์ระหว่างสารินและรพัฒน์มาถึงวันนี้

ใช่ มันเป็นเพียงการจัดฉาก

แม่ของรพัฒน์เข้าหาอาทิตย์และจ้างอีกฝ่ายให้พาสารินไปที่โรงแรม จากนั้นก็หลอกล่อรพัฒน์มาหวังให้เห็นภาพบาดตา จริงอยู่ที่อีกคนเห็นภาพดั่งที่ผู้หญิงคนนั้นต้องการแต่เบื้องหลังมันกลับไม่เป็นอย่างนั้น

เพราะรพัฒน์มัวแต่อึ้งกับภาพตรงหน้าจึงไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว‘บางอย่าง’ไม่ได้ถูกสอดเข้ามาอีกทั้งยังมีอะไรแปะไว้อย่างดี ทุกอย่างเป็นแค่ละครฉากหนึ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อวัดใจ ด้วยอยากรู้ว่าถ้าเห็นแบบนั้นอีกคนจะทำอย่างไร การร้องขอโอกาสเป็นเพียงแค่ลมปากหรือเป็นความรู้สึกจากใจอย่างที่เจ้าตัวเคยพูด

ทุกอย่างจึงต้องขอบคุณคนตรงหน้าที่นำเรื่องมาบอกและยอมให้ความร่วมมือ กระทั่งตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงคิดว่าทุกอย่างเรียบร้อย เป็นไปดั่งที่ตัวเองต้องการ

“ไม่เป็นไรเลยสอง เล็กน้อย”

“รับไปเถอะ อย่าให้ผมต้องเสียน้ำใจ” อาทิตย์เหลือบมองของตรงหน้าก่อนจะยอมเอื้อมมือไปรับมันในที่สุด

“แล้วนี่คุณจะให้เขารู้เมื่อไหร่ว่าไม่เคยมีอะไรกับผม

“จนกว่าผมจะมั่นใจ”

อาทิตย์ยกยิ้มเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของสาริน จากวันที่ตกลงว่าจะเป็นเพื่อนกันดูเหมือนจะเกิดความสบายใจกับอีกฝ่ายได้มากกว่า ตัวเขาเองเมื่อเลิกหวังได้ก็สบายขึ้น ทั้งใจและ...กาย

ทว่าความสบายใจเป็นอันต้องอันตรธานหายไปเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ของใครบางคนเดินเข้ามาในร้าน เจ้าของดวงตาแสนเหี้ยมปรายสายตามามองเพียงชั่ววินาที แต่มันกลับทิ้งความเยือกเย็นเอาไว้ยาวนานจนคนมองขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัว

“สะ สอง ผมต้องไปแล้ว”

“อ้าว คุณมีธุระต่อเหรอ”

“ใช่ๆ เรื่องด่วนน่ะ ไว้คุยกันนะ”

อาทิตย์เอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะลุกลี้ลุกลนเก็บของแล้วกล่าวลาอีกครั้ง จากนั้นจึงรีบเดินจนแทบกลายเป็นวิ่งออกไปจากร้าน ขณะที่ใครบางคนแวะทักทายรพัฒน์ซึ่งนั่งมองสารินอยู่ไม่วางตา

“คุณปรานต์มาทานข้าวหรือครับ” รพัฒน์ถามขึ้นเมื่ออีกคนเดินเข้ามาทัก

ปรานต์ปรายสายตาแสนเย็นเยียบไปยังคนที่รีบร้อนออกจากร้าน จนเมื่อร่างของใครคนนั้นลับจากสายตาจึงหันกลับมาตอบ

“ครับ แล้วคุณล่ะ”

“มารอคนรักน่ะครับ” คราวนี้สายตาของปรานต์เหลือบมองไปทางสารินที่กำลังจะเดินเข้ามาทักทาย

“สวัสดีครับคุณปรานต์”

“สวัสดีครับ ผมมีธุระต้องไป คงไม่รบกวนเวลาคุณสองคนแล้ว”

“ไม่ทานข้าวแล้วเหรอครับ?”

รพัฒน์เอ่ยถามเมื่ออีกฝ่ายบอกว่ามาทานข้าวแต่กลับจะออกไปทั้งที่ยังไม่แม้แต่จะนั่งลงดูเมนู

“คงไม่แล้ว มีธุระด่วน

“งั้นก็เชิญเลยครับ ไว้คุยกันที่บริษัท”

ปรานต์พยักหน้ารับก่อนจะปรายตามองทางสารินอีกครั้งจนคนถูกมองค้อมหัวลงให้พร้อมเอ่ยคำลา

“สวัสดีครับ”

อีกคนพยักหน้ารับจากนั้นจึงหมุนตัวแล้วสาวเท้ายาวๆออกไปจากร้านจนคนทั้งสองหันมองหน้ากันด้วยความงุนงง

“ทำไมมันรีบกลับ แล้วคุณคุยอะไรกับหมอนั่น ทำไมต้องมีของให้ด้วย”

ยังไม่ทันได้ถามถึงเรื่องปรานต์ รพัฒน์ก็เอ่ยขึ้นแทรกเสียงขุ่น พร้อมทั้งหยัดกายขึ้นยืนประจันหน้า ขณะดวงตาเต็มไปด้วยความขุ่นมัว

“อาร์ตมีธุระ คนคบกันให้ของกันมันจะแปลกตรงไหน”

คราวนี้ความไม่พอใจฉายชัดออกมายิ่งกว่าเดิม ท่าทางซึ่งทำให้สารินลอบยิ้มกับตัวเองในใจ

“คบอะไรไม่มาหาเลยสักวัน ผมยังมาหาคุณบ่อยกว่ามันเลย”

“คบกันจำเป็นต้องเจอกันบ่อยหรือไง ถึงไม่ได้เจอผมก็คุยกับอาร์ตทุกวัน”

“ก็แค่คุย จะมาสู้คนที่มาหาทุกวันได้ยังไง”

“คนอื่นเขาไม่ได้ว่างงานเหมือนคุณ”

“ไม่ว่างผมก็ต้องไปเจอหน้าคุณ”

ประโยคนี้เป็นดั่งสัญญาณสิ้นสุดบทสนทนา รพัฒน์พูดออกมารวดเร็วอย่างไม่คิดหรือตรึกตรองใดๆ ทว่ากลับส่งผลให้คนฟังรู้สึกจนประโยคที่จะตอบกลับหายเข้าไปในลำคอดื้อๆ

“คุณให้ของมันก็ต้องให้ผมด้วย”

คนตัวใหญ่กลายสภาพเป็นเด็กโข่งเอาแต่ใจ ยืนหน้าบึ้ง คิ้วขมวด จนสารินนึกอยากจะหยิบไม้แขวนเสื้อมาหวดสักทีสองที

“เรื่องอะไร คุณกับผมไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“เป็น”

“เป็นอะไร”

“เป็นผัวเก่าคุณ”

ประโยคนั้นถูกจงใจพูดให้เสียงดังลั่น จนคนซึ่งอยู่ในร้านจำนวนพอสมควรหันพรึบมามอง

“รพัฒน์!”

สารินกระซิบเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงลอดไรฟัน ขณะอยากจะฟาดคนตรงหน้าเต็มแรง

คนตั้งใจแกล้งยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทีหน้าดำหน้าแดงของคนซึ่งเรียกได้ว่าเป็น‘เมียเก่า’ก็คงไม่ผิด ดวงตาคู่สวยที่ขึงมองจ้องเขม็งถูกโต้ตอบด้วยรอยยิ้มพร่างพรายจนสารินหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ความอับอายจากคนรอบข้างพลันทำให้ไม่อาจทนอยู่ต่อได้จนต้องรีบสาวเท้าออกมาโดยไม่รั้งรอ

หมียักษ์หน้าด้าน!

ฉายาที่มักเปรียบเทียบว่ารพัฒน์คล้ายคลึงถูกเอ่ยในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่ายามจ้ำเท้าเร็วๆออกมาจากร้าน

“สอง รอผมด้วยสิ”

ได้ยินเสียงร้องเรียกดังตามมาทว่าแน่นอนว่าคนถูกเรียกไม่มีทางหยุดรอ หากแต่สารินเดินไปได้ไม่ไกลนักรพัฒน์ก็ตามมาทันด้วยช่วงขายาวๆของเจ้าตัว

“คุณงอนอะไร ผมไม่ได้พูดอะไรผิด”

“ผมไม่ได้งอน”

สารินหันมาตอบทันใด คำว่างอนมันไม่เหมาะกับอายุและคุณวุฒิของตัวเองจนต้องปฏิเสธเสียงเขียว

ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นกันแล้ว

“ไม่ได้งอนแล้วเดินหนีมาทำไม”

“ผมไม่ได้หน้าไม่อายเหมือนคุณ”

“ไม่เห็นต้องอาย เซ็กส์มันเป็นเรื่องธรรมดา เราอายุตั้งปูนนี้กันแล้ว”

ขาที่ก้าวเร็วๆหยุดลงทันใด ก่อนสารินจะหันไปพูดกับคนข้างตัว

“ใช่ มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่การเอามาพูดในที่สาธารณะแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา และตอนนี้อย่าลืมว่าสถานะของคุณคืออะไร ทุกการกระทำส่งผลต่ออนาคต อย่าทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ได้รับการให้เกียรติ”

ริมฝีปากได้รูปเม้มเป็นเส้นตรงเมื่อไม่คาดคิดว่าคำพูดของตัวเองจะส่งผลให้สารินรู้สึกอย่างนั้น ขณะที่คนพูดลอบถอนหายใจแผ่วเบา

ความจริงแล้วสารินไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น ลึกๆแล้วกลับรู้สึกดีด้วยซ้ำ ทว่าทุกอย่างถูกเอ่ยเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ใจมากไปกว่านี้ เพียงเท่านี้ตลอดเวลาหนึ่งเดือนรพัฒน์ก็ขยับเข้ามาใกล้กว่าที่ขีดเส้นเอาไว้แล้ว

“ผมไม่ได้ไม่ให้เกียรติคุณ”

“แต่คำพูดของคุณมันทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้น”

“ขอโทษครับ”

สารินเกือบหลุดยิ้มเมื่อหมียักษ์ตรงหน้าเอ่ยออกมาเสียงอ่อย หนึ่งในสิ่งที่รพัฒน์เวอร์ชันใหม่พัฒนาขึ้น

อีกฝ่ายมักกล่าวคำขอโทษทันใดเมื่อรู้ว่าทำผิดหรือทำในสิ่งไม่สมควร หากเป็นแต่ก่อนคำขอโทษจากใจนี้แทบจะไม่ออกจากปากร้ายๆให้ได้ยิน

คนถูกขอโทษไม่ได้ตอบรับอะไร ทำเพียงแค่หมุนตัวเดินต่อจนร่างใหญ่ต้องรีบก้าวตามมา

“คุณหายโกรธผมนะ”

“...”

“สอง”

“อย่าพูดแบบนั้นอีก” สารินเอ่ยเสียงเรียบ

“ครับ”

การรับคำที่คงหวังผลให้ใจอ่อน สารินรู้ทันว่าอีกฝ่ายจงใจพูดแบบนี้ และถึงแม้มันจะได้ผลเพียงใดก็ไม่มีทางถูกแสดงออก ภายนอกจึงมีเพียงใบหน้าเรียบนิ่งราวกับไม่สนใจ ขณะคนข้างตัวก็เดินตามไม่ห่างพลางพยายามหาเรื่องอื่นมาคุยทั้งที่ชายหนุ่มเอ่ยตอบบ้างไม่ตอบบ้าง

“สอง นั่นมันรองเท้าแบบที่คุณเคยดูไว้นี่”

ร่างสูงเอ่ยพูดก่อนจะแวะเข้าช็อปนั้นไปโดยไม่คิดจะเอ่ยถาม สารินขมวดคิ้วเมื่อนึกไม่ออกว่าตัวเองดูเอาไว้เมื่อไหร่ แต่เพราะรูปทรงโดนใจถึงได้เดินตาม ยามแอบลอบยิ้มให้กับคนที่กำลังก้มๆเงยๆดูรองเท้าอยู่ในร้าน

แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันนี้ วันที่ความเสียใจชอกช้ำมองไม่เห็นทางออกถูกแทนที่ด้วยความสุขใจ

รพัฒน์ไม่ต้องดีขึ้นหรือพยายามเอาใจเขามากมาย...แค่ไม่มีคนอื่นและเป็นแบบในตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว

“สวยกว่าในรูปอีกว่าไหม”

อีกฝ่ายหันมาถามเมื่อสารินเดินตามจนไปหยุดอยู่ตรงหน้ารองเท้าคู่เป้าหมาย

“ผมจำไม่ได้”

“แล้วนี่สวยไหม”

“ก็ดี”

เมื่อได้รับคำตอบคนถามก็พยักหน้าหงึกหงักกับตัวเองจากนั้นจึงส่งเสียงเรียกพนักงานที่อยู่ใกล้ตัวแล้วบอกไซซ์ที่ต้องการพร้อมทั้งส่งบัตรเครดิตให้ พลันคิ้วของสารินจะขมวดเป็นปมเมื่อจำได้ดีว่าไซซ์ที่รพัฒน์บอกไปไม่ใช่ขนาดเท้าของเจ้าตัว...แต่เป็นขนาดเท้าของเขาเอง

ขณะกำลังจะอ้าปากถามใครบางคนที่เดินเข้ามาก็หยุดคำพูดนั้นเอาไว้

“เห็นเรื่องทุเรศๆแล้วยังยุ่งอยู่กับของทุเรศแบบนี้อีกหรือไง”

ประโยคร้ายๆมาพร้อมกับคนที่เป็นดั่งคำพูดตัวเอง ปฏิกิริยาก้าวมายืนข้างหน้าราวกับปกป้องคนข้างหลังเป็นไปโดยอัตโนมัติ รพัฒน์ก้าวขึ้นมาจ้องหน้าอีกฝ่าย ส่งความรู้สึกรังเกียจไปให้อย่างเต็มเปี่ยม

“ไม่มีอะไรทุเรศไปกว่าคนอย่างคุณ”

“แก!...”

“ระวังคำพูดหน่อยสิครับคุณรริน เดี๋ยวภาพลักษณ์ที่คุณอุตสาห์ปั้นแต่งอย่างยากลำบากจะหลุดออกมา”

“แกมันโง่”

“คุณต่างหากที่โง่...อย่ามายุ่งกับเรื่องของผมกับสารินอีก ที่ผ่านมาผมไม่ทำอะไรคุณเพราะยังถือว่าเป็นคนให้กำเนิด แต่จากนี้มันไม่มีโอกาสนั้นแล้ว”

“นี่แกหมายความว่ายังไง”

“ถ้าคุณมายุ่งกับสารินอีก...” ร่างซึ่งสูงกว่าผู้หญิงตรงหน้าหลายสิบเซนก้าวเท้าไปใกล้จากนั้นจึงโน้มใบหน้าลงกระซิบข้างหู “เรื่องสัมพันธ์สวาทกับคนขับรถของคุณคงได้หลุดไปถึงแวดวงไฮโซจอมปลอม”

เอ่ยจบก็ก้าวกลับมายืนที่เดิมด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความเหนือกว่า ขณะที่อีกฝ่ายตกใจจนเก็บอาการไว้ไม่มิด ทั้งร่างเกร็งสั่นจนคนมองสังเกตได้

“คุณรู้ดีใช่ไหมว่าสิ่งเดียวที่ผมได้รับมาจากคนอย่างคุณ...คือความเลือดเย็น”

ประโยคที่เป็นยิ่งกว่าคำยืนยันว่าพร้อมจะทำจริงทำให้รรินขนลุกซู่ด้วยความหวั่นกลัว

ใช่ เธอรู้ดี...รพัฒน์เลือดเย็นได้ไม่ต่างจากตัวเอง

“เอ่อ สินค้าของคุณลูกค้าค่ะ”

เสียงของพนักงานดังขึ้นขัดบรรยากาศมืดมัวก่อนรพัฒน์จะละสายตาจากคนตรงหน้าแล้วหยิบปากกามาตวัดเซ็นลงบนสลิปพลางรับของมาถือไว้ในมือ วินาต่อมาจึงได้ยินเสียงกล่าวขอบคุณ จากนั้นพนักงานจึงรีบเดินงุดๆออกไป

“ลานะครับ”

น้ำเสียงที่กล่าวลาเจือไปด้วยความเย้ยหยันไม่ต่างจากดวงตาคู่คม รพัฒน์หมุนตัวไปคว้ามือคนด้านหลังที่ทำเพียงยืนนิ่งมาตลอด จากนั้นจึงออกแรงรั้งให้ก้าวผ่านร่างที่ทำได้เพียงนิ่งงัน

กระทั่งเดินออกจากร้านมาไกลสารินจึงกระตุกมือที่จับอยู่แน่นเป็นสัญญาณ

“ปล่อยได้แล้ว” คนถูกรั้งเอาไว้หยุดเดินแล้วหันกลับมา

“ผู้หญิงคนนั้นจะไม่มายุ่งกับเรื่องนี้อีก”

รพัฒน์เอ่ยเสียงจริงจัง และถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามปกปิดความรู้สึกของตัวเองแค่ไหน สารินก็ยังสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ลึกๆ

แม่...ยังไงก็คือแม่ อีกฝ่ายปฏิเสธข้อนี้ไม่ได้ ความรู้สึกส่วนลึกก็เช่นกัน

“เธอเป็นแม่ ไม่แปลกที่จะทำอย่างนี้”

“เธอไม่เคยเป็นแม่ผม ไม่เลยสักวินาที”

ชั่วแวบที่แววตาคู่นั้นไม่อาจเก็บความรู้สึกได้อีกจนมันเต็มไปด้วยความสั่นไหว

“ถ้าไม่สนใจก็คงไม่ตามยุ่งกับเรื่องของคุณ”

“สนใจเพราะว่าเกลียด การเกิดมาของคนอย่างผมทำให้ผู้หญิงคนนั้นสูญเสียหลายอย่าง”

ยิ่งพูดมือที่จับกันอยู่ไม่ยอมปล่อยยิ่งบีบแน่นขึ้น แน่นจนสารินรู้สึกเจ็บหากแต่ก็ไม่ได้เอ่ยบอกหรือปล่อยสัมผัสนั้นออก

“ไม่มีแม่คนไหนเกลียดลูกตัวเอง”

ดวงตาคมที่มักเรียบนิ่งไม่สนใจอะไรสั่นไหวจนนัยน์ตาแดงก่ำ สารินกระชับมือที่ก่อนหน้าร้องขอให้ปล่อยแน่นขึ้น ละทิ้งการไว้ตัวของตัวเองลงชั่วครู่

“เหมือนที่ไม่มีลูกคนไหนสามารถเกลียดแม่ตัวเองได้...ใช่ไหม?”

รพัฒน์กลืนน้ำลายลงคออย่างสะกดกลั้นความรู้สึกเมื่อประโยคนี้พุ่งทะลุมากลางใจ สารินมองคนที่ปิดเปลือกตาลงราวกับอยากปิดกั้นทุกสิ่งอย่างด้วยความเป็นห่วงโดยที่อีกฝ่ายไม่มีโอกาสได้เห็น

“กลับกันเถอะ”

มือหนาหลุดออกจากการเกาะกุมก่อนประโยคนั้นจะดังขึ้นให้ดวงตาที่ปิดลงขยับเปิด ภาพตรงหน้าที่ได้เห็นคือแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆก้าวห่างออกไป รพัฒน์จึงสูดลมหายใจเข้าลึก ก้มหน้าลงมองปลายเท้า พลันเมื่อตั้งสติได้จึงก้าวตามสารินไปเงียบๆ

บางทีการปลอบประโลมอาจไม่ใช่จากคำพูด แต่เป็นการอยู่เคียงข้างแบบเงียบๆเท่านั้นเอง.


END.

หวังว่าจะคลายข้อสงสัยที่หลายคนสงสัยได้นะคะะะะ ส่วนเรื่องของคุณอาทิตย์ขออนุญาตยกยอดไปเฉลยในเรื่องสั้นเขาเอง
จริงๆส่วนนี้จะมาพร้อมกับตอนจบที่ลงไป แต่คิดว่าอันนั้นตั้งใจเป็นตอนจบแล้วเลยลงเท่านั้นเพื่อให้สมกับเป็นตอนจบที่ตั้งใจเอาไว้ ส่วนนี้เลยเป็นเหมือนสเปเชียลนะคะ

ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์และการติดตาม ขอบคุณมากจริงๆค่ะ

ปล.สุดท้ายแล้วโซแอลก็ขอแสดงความเสียใจกับแฟนๆของจงฮยอนและSHINEEสำหรับการสูญเสียครั้งนี้ด้วยนะคะ

#RIP
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-12-2017 23:05:00
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-12-2017 23:43:41
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-12-2017 07:38:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: lalun ที่ 19-12-2017 10:00:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 19-12-2017 10:20:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Mamars ที่ 19-12-2017 11:52:14
ขอบคุณนะคะ รอเล่มรวมนะคะ แล้วก็รอคู่อาทิตย์ปรานต์ด้วยค่า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-12-2017 12:51:15
ปรานต์กะอาทิตย์  :hao3:รออุดหนุนเล่ม ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ชนว.ต้องผ่านไปให้ได้เพื่อจงฮยอนและเมมเบอร์ งือ..อออ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: gemgems ที่ 19-12-2017 14:07:56
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ ได้แต่เป็นกำลังใจให้อาทิตย์ ฮืออออ กลัวใจคุณปรานต์ ส่วนตอนนี้คุณรบน่ารักมากค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 19-12-2017 16:19:29
โล่งใจเคลียร์รอคุณอาทิตย์กับคุณปรานต์รักคนแต่งนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-12-2017 20:37:05
มีตอยพิเศษด้วยอ่ะ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-12-2017 21:59:35
อยากรู้ปมที่บ้านขึ้นมาบ้างแล้ว ทำไมคุณแม่ถึงดูเป็นนางร้ายขนาดนี้อ่าา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 26-12-2017 14:43:11
สองมีความอดทนมากลูก อดทนมาตั้งหนึ่งปีให้เค้าพิสูจน์ตัวเองนานๆนะ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 30-06-2018 07:03:41
รพัฒน์มีการพัฒนาขึ้นในทางที่ดี  :katai2-1:
แต่ยังไม่อยากให้สารินใจอ่อนเลย สู้ต่อไปนะคุณรพัฒน์!

รออ่านเรื่องอาทิตย์คุณปรานต์นะคะ  :call:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Nefrit ที่ 30-06-2018 09:31:02
สนุกมาค่ะ หน่วงกำลังดี :o8:
เรื่องสั้นของคุณปราณต์และคุณอาทิตย์น่าติดตามมาก

ขอบคุณคุณโซแอลค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 30-06-2018 13:55:29
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ 
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 3 (45%) 02/12/60 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-07-2018 05:23:25
เอ้าอาทิ้ดดดดด :katai1: แง้ สงสารทั้งอาร์ตทั้งสองเลย ฮือ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 4 (ครบ) 08/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-07-2018 05:35:39
เดี๋ยวนะ คุณปรานต์.... ทำไมเรามีความรู้สึกว่าคือคนที่อยู่ในห้อง

ของอาร์ตวันนั้น ต้องใช่แน่ๆ ส่วนคุณรบเป็นยังไงบ้างคะ :laugh:

เข้าใจความรู้สึกของสองบ้างแล้วใช่ไหม!

เอ้อส่วนอาร์ต นายยังอยู่ดีอยู่ใช่ไหม ไม่โดนคุณปรานต์ทำอะไรใช่ไหม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : ตอนที่ 5 (จบ) 11/12/60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-07-2018 05:42:28
 :a5:  เดี๋ยวววววววววว จบแล้วจริง  o22

รู้สึกมึนๆ ขอคนมาพยุงเราทีค่ะ  o2 :freeze:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-07-2018 05:52:36
 :a5: รอบสอง เอ้า! สรุปกับอาร์ตไม่เคยมีอะไรกัน

แล้วคิสมาร์กตอนนั้นล่ะ ที่รบมาหาสองที่ห้องอ่ะ

โอ๊ะ! กรี๊ดๆๆๆๆ ผช.คนนั้นที่อยู่กับอาร์ตคือคุณปรานต์จริงด้วย

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 06-07-2018 23:15:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: patompong888 ที่ 09-07-2018 17:11:35


    :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-09-2018 19:48:51
นั่นไง รักเดียวแต่แรกก็จบแล้ว
ไม่โดนทิ้งไม่รู้สึกเนาะรบ

สองก็อดทนเพราะอยากอยู่ใกล้
แต่คนเราก็มีขีดจำกัดอะนะ

เจ็บกันถ้วนหน้า ตอนนี้รบก็โดนเอาคืนตามระเบียบจ้า
แล้วแม่รบก็ใช้คนใกล้ตัวมาก ต้องขอบคุณอาร์ตนะที่ช่วย
แต่สงสารอาร์ตเลยค่ะ แต่เห็นเงาปรานต์ ก็หลอนแล้วอะ

ขอบคุณมากนะคะ จะรอติดตามไปเรื่อยๆ เลยจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ♠เสน่หา♠ : special 18/12/60 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 03-11-2019 15:15:33
กว่าจะรู้ใจตัวเอง กว่าจะรู้ว่ารักเป็นยังไง ชอกช้ำใจไปเยอะ ดีนะ ได้โอกาสแก้ตัว เหมาะสมกันดีคู่นี้ หน่วงๆอึนๆดี สนุกๆ ชอบๆ