LOVE❤SONGㅣเพลง♬บำบัดรักตอนที่ 1
"น้องแอร์ .. น้องแอร์สนใจพวกพี่หน่อยค่ะ" เสียงรุ่นพี่ในคณะคนหนึ่งกำลังเรียกผมซ้ำๆ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเรียกกี่หนแล้วผมเองกำลังเหวอไม่หายเรื่องที่เจอพี่คิม รักแรกของผม เลยตอบส่งๆ ส่วนเรื่องที่ กลุ่มรุ่นพี่มาให้จัดการก๊อบปี้ข้อมูลในชมรม ผมแทบไม่ได้ฟังพี่เขาเลยครับ
ตั้งแต่วันที่ผมเห็นพี่คิมที่ลานจอดรถวันนั้น ผ่านมาสองอาทิตย์แล้วครับ แต่ก็ยังไม่เห็นพี่เขาโผล่มาในมหาวิทยาลัยเลยโรงอาหารก็ไม่เจอ ผมเองยังสงสัยอยู่ว่า พี่คิมเขาเรียนที่นี่หรือเปล่า เพราะวันนั้นที่เห็น ก็ใส่ชุดลำลองไม่ได้สวมชุดนักศึกษา เห็นขับรถของคุณพ่อ แต่ก็ไม่ยักจะเห็นคุณพ่อมาด้วย เพราะจำได้ว่าแม่กะพ่อพี่คิม แยกทางกันตั้งแต่พี่คิมเด็กๆ
(แหนะ ผมนี่รู้ดีจังนะ ไปสืบมาทุกอย่าง)
"ขอโทษจริงๆครับ " ผมเองทำหน้าเจื่อนๆ เพราะตอนนี้ในใจก็มีแต่เรื่องพี่คิม ไม่ได้สนใจเรื่องในชมรมเลยแม้แต่น้อย
รุ่นพี่สามคนที่มามุง มารื้อกระดาษแถวโต๊ะผมต่างพากันส่ายหัว เพราะดูผมไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย
"น้องแอร์ พวกพี่คาดหวังในตัวน้องมากเลยนะคะ ชมรมเราผ่านมาสามปี ไม่เคยได้งบอะไรเลย พอมาปีนี้
พี่เห็นว่าน้องมีความสามารถพิเศษ เล่นไวโอลินได้ พี่เลยมีความหวังมาบ้าง ที่ชมรมเราจะไม่ต้องยุบ"
ผมนี่หน้าซีดเลยครับ เจอพูดตรงๆเข้าไปแบบนั้น คนที่พูดก็คือ พี่หมวยเล็ก รองประธานชมรม ที่เล่นดนตรีไม่เป็นเลยสักอย่าง
แต่มีหน้าที่บริหารจัดการเรื่อง งบชมรม(ที่มีอยู่น้อยนิด) เห็นว่าบางเดือน พี่หมวยต้องควักเงินตัวเองจ่าย
ค่าอุปกรณ์ ค่าบำรุงเครื่องมือต่างๆด้วยครับ เวลาพี่หมวยบ่นอะไรในชมรม ทุกคนเลยตั้งใจฟังเป็นพิเศษ
และเงียบไม่มีต่อล้อต่อเถียง ผมแอบคิดเหมือนกันนะครับ ว่าทำไมสาวสวย บุคลิกดีมีชาติตระกูลอย่างพี่หมวย
ทำไมต้องมาจมอยู่กับชมรมนี้ด้วย
"ไอ้...แอร์ กูว่าแล้วว่ามึงต้องอยู่ที่นี่ กูนี่เดินหามึงขาลากเลยอ่ะ" เสียงแหลมๆแบบนี้
ผมไม่ต้องเดินไปเปิดประตูชมรมผมก็รู้แล้วว่าต้องเป็นไอ้บอย รูมเมทเพลย์บอยเพื่อนผม ที่วันๆเอาแต่ควงสาวไม่ซ้ำหน้า
วันนี้มันนึกไงมาตามผมถึงตึกชมรมวะ? ชมรมคอมพิวเตอร์ของมันก็อยู่กันคนละตึกนี่หว่า...
"มีอะไรบอย..แอร์กำลังคุยธุระกับพี่หมวยอยู่"
ผมพูดพลางชี้ไป ให้ไอ้บอยดูหน้าพี่หมวยก่อนจะโวกเวกเสียงดังในชมรม จนไอ้บอยต้องเหวอเมื่อเห็นพี่หมวยกำลังยืนกอดอกมองหน้าอยู่
"โหเจ๊...ไม่ต้องตาเขียวใส่ผมก็ได้มั้ง ผมแวะมาหาแอร์เฉยๆ เอาของมาให้มันอ่ะ"
บอยที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย กระดุมเสื้อ เรียกว่าเว้นสามเม็ด บุคลิกเพลย์บอยของจริง
หันไปหยิบซองเอกสารที่เหน็บมากับกางเกง เอาออกมายื่นให้ผม
"ซองอะไรวะบอย" ผมถามพลางรับซองเอกสารที่ไอ้บอยยื่นมาให้แบบงงๆ
"มึงเปิดดูเดี๋ยวรู้เองแหละ กูไปละ" บอยไม่ได้ตอบอะไรผม แล้วหันหลังโบกมือเป็นสัญญาณว่าไว้คุยกันทีหลัง
ผมยังไม่ได้เปิดซองที่รับมาเลยครับ เพราะต้องจัดการเรื่องเอกสารชมรม แล้ววันนี้ผมต้องซ้อมไวโอลินด้วย
ไม่ได้เล่นมาสองอาทิตย์ เพราะมัวแต่ยุ่งๆเรื่องหอ เรื่องเรียน ...เรื่องพี่คิมอีก
ผมสงสัยมากเลยนะ ชมรมนี้ ครึ่งนึงจะเป็นคนที่เล่นดนตรีไม่เป็น และในชมรมจะไม่มีคนเล่นเปียโนเลยสักคน
ทั้งๆที่ชมรมนี้ มีเปียโนยามาฮ่าอย่างดี ราคาเป็นล้านตั้งอยู่กลางห้องชมรม
"พี่หมวยครับ ผมอยู่ชมรมมาสองอาทิตย์แล้ว แต่ทำไมผมไม่เคยเจอหน้า ประธานชมรมเลยครับ
ผมก็แวะมาชมรมเกือบทุกวันนะ" ผมพูดพลางเคาะกองเอกสารที่กระจายอยู่ตรงหน้า
"ประธานชมรมเรา นานๆจะมาทีนึง เขาไม่ค่อยสบายน่ะ...ทำไมหรอแอร์ แอร์อยากเจอเขาหรอ"
พี่หมวยพูดพลางเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเล็กน้อย พร้อมปรายตามองไปที่เปียโนยามาฮ่ากลางห้องชมรม
"ก็อยากเจอนะครับ อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร เล่นดนตรีอะไร เผื่อเล่นไวโอลินเหมือนผมไง เผื่อจะช่วยผมปรับเสียง"
ผมก็พูดไปงั้นแหละ แค่อยากรู้อยากเห็นเฉยๆอ่ะ
"ปกติเขาจะมาชมรมตอนเย็นๆ วันจันทร์บางทีก็มาบางทีก็ไม่มา แล้วแต่อ่ะ เพราะว่า.."
พี่หมวยเล่าไปเรื่อย จนต้องเอามือมายกปิดปากตัวเอง พลางทำสีหน้าตำหนิตัวเอง ที่พูดมากเกินไป
สร้างความงงให้ผมไม่น้อย แต่เอาเข้าจริงผมก็แค่อยากรู้ ไม่ได้สนใจเรื่องราวอะไรเท่าไหร่ เลยไม่ได้ถามอะไรพี่หมวยต่อ
วันนี้เพลงไวโอลิน ที่ซ้อม เอามาจากเพลงประกอบภาพยนต์ ซีเคร็ท ครับ พี่หมวยเป็นคนเลือกให้
เพลงนี้ผมเล่นเป็นครั้งที่สอง ยังไม่ค่อยชินมือเท่าไหร่ แต่ก็พยายามทำความเข้าใจโน๊ตอยู่
ถึงรุ่นพี่ในห้องส่วนใหญ่จะบอกว่าผมเล่นดีแล้ว ผมก็ยังหวั่นๆอยู่ เพราะว่าขาดซ้อมตั้งสองอาทิตย์
จะบอกว่าเล่นดีแล้วมันคงยังพูดยากอยู่ ยิ่งมีเรื่องภายในใจ ยิ่งแล้วใหญ่ ไวโอลินเวลาเล่น
ถ้าในใจเรามีปัญหาอะไรก็ตาม ส่วนใหญ่มันก็จะถ่ายทอดออกมาให้ได้ยินจากเพลงเนี่ยแหละครับ ผมเองก็รู้ข้อนี้ดี
สำหรับผมความพยายามคงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดแล้ว เพราะผมไม่ได้เล่นไวโอลินเป็นตั้งแต่แรกๆ
พึ่งจะมาหัดเอาจริงจังก็ตอนมัธยมปลาย พรสวรรค์นั้นคงไม่ต้องพูดถึง ไม่มีครับ(ฮา) มีแต่ความพยายามอย่างเดียว
ผมซ้อมกับรุ่นพี่ในชมรมเกือบชั่วโมง ซึ่งผมมารู้เอาทีหลังว่า ไอ้บอยที่ว่ากลับไปแล้ว
จริงๆแอบยืนฟังอยู่หน้าห้องชมรมด้วย มันจะแอบฟังทำไมวะ มายืนฟังดีๆก็ได้ปะ ไม่มีใครจะว่าแม่งหรอก
คนเรานี่ก็แปลกดีเนอะ
"ไปก่อนนะพี่ วันนี้ผมมีการบ้านด้วย"
ผมยกมือไหว้ทุกคนในชมรม รีบวิ่งจู๊ดกลับหอ และไม่ลืมหนีบซองเอกสารสีน้ำตาลที่บอยฝากมาให้ผม พกติดตัวไปด้วย
"น้องแว่นจ๋าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา" ผมวิ่งผ่านตึกวิศวะ เห็นกลุ่มวิศวะเพื่อนไอ้บอยกำลังตอกตะปูอะไรสักอย่าง
หนึ่งในนั้นคือบุ๊ค เด็กวิศวะที่ประกาศตัวตั้งแต่ตอนเจอผมวันแรกว่าอยากจีบผม แน่นอนมันคงพูดเล่นผมว่า
หน้าตาแบบมัน หุ่นแบบมัน คงมีคนชอบมันเพียบ ต่อให้มันประกาศตัวชัดเจนว่า มันหญิงก็ได้ชายก็ดี ก็เถอะนะ
"อารายยยยบุ๊ค...เมื่อไหร่จะเรียกชื่อเราเนี่ย เราชื่อแอร์ไม่ได้ชื่อน้องแว่นนะ"
ผมพูดพลางหอบแฮ่กๆ เพราะแบกของมาหลายอย่าง ชีท หนังสือเรียน วันนี้ผมไม่ได้แบกเป้มาด้วย เพราะลืมไว้ที่หอ
"เพิ่งซ้อมไวโอลินเสร็จหรอ ... แบกของเยอะจังอ่ะ...ไปส่งป่าว กลับหอใช่ปะ" ไอ้บุ๊คพูดพลางชี้ไปที่รถมัน
"แหม...ส่งบ้านมึงดิ น้อยๆหน่อยมึง งานอาจารย์ยังไม่เสร็จเลย" พวกกลุ่มวิศวะตะโกนด่าบุ๊คกันใหญ่
ผมได้แต่ทำหน้าฮา พร้อมกับโบกมือว่าไม่เป็นไร "เดี๋ยวเรากลับเองได้บุ๊ค หออยู่แค่นี้เอง ขอบใจนะ"
"เห้ยย เดี๋ยวดิ๊" ได้เสียงไอ้บุ๊คจากไกลๆ แต่ผมก็เดินจ้ำอ้าวต่อ เพราะส่วนหนึ่งเกรงใจด้วยแหละ
จะมาส่งทำไมล่ะ งานตัวเองก็มีอยู่ อีกอย่างนี่ไม่ได้คิดอะไรกะไอ้บุ๊คด้วยแหละ เกรงใจอะ
เหนื่อยเหมือนกันครับกว่าจะถึงหอ หอ A จะอยู่ไกลมาก เพราะว่าราคาไม่แพง ต่างจากพวกบุ๊คที่อยู่หอ B
หอนั้นนอกจากอยู่ใกล้แล้วยังมีพวกเครื่องซักผ้าให้ด้วยทีี่ชั้นล่างด้วยครับ แต่ผมไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่
เพราะร้านสะดวกซื้อที่หอ A ของอร่อยเยอะกว่า (ฮา)
อย่างพายทูน่าที่หอ A นี่คือโคตรอร่อยเลย ทำร้อนๆ เที่ยงก็ขายหมดแล้ว
"ไอ้แอร์ ๆๆ ซื้่อของกินมาปะ กูหิวมากกกก" ทันทีที่ผมกลับถึงห้อง นี่คือคำทักทายแรกจากไอ้บอยครับ
"ไม่มีว้อย กูแทบจะคาบแล้วเนี่ย แบกของมาพะรุงพะรังมาก" ผมพูดพลางโยนของที่แบกมาลงบนเตียง
"มึงไปกินข้าวหมูแดงร้านนั้นเป็นเพื่อนกูหน่อย กูหิวอ่ะ" ไอ้บอยชี้ไปทางข้างหลังหอ
"ไม่ไปได้ไหมวะ กูอยากอาบน้ำ" ผมบ่ายเบี่ยง "นี่วันจันทร์ด้วย เค้าจะขายหรอ วันจันทร์ส่วนใหญ่ร้านเขาหยุดนะ"
"มึงไม่ไป งั้นมึงไม่ต้องเอานี่" ไอ้บอยดึงซองสีน้ำตาลไป
"ซองอะไรของมึง เอาไปเหอะ กูยังไม่ได้แกะดูเลย" ผมขมวดคิ้วเชิงรำคาญความเยอะของมัน
"มึงแน่ใจนะ มึงแน่ใจนะว่าไม่เอา" ซองอะไรว่ะกูชักอยากรู้แล้วเนี่ย
"มึงหาใครอยู่ล่ะ พี่คิมสุดที่รักของมึงไม่ใช่หรอ" เอ้าไอ้บ้า ผมนี่ตาค้างเลยครับ
ใครจะไปนึกว่าไอ้ซองบ้านี่คือ ซองที่ผมอยากได้ที่สุดในชีวิตในตอนนี้ แม่ง รู้งี้ผมแกะดูตั้งแต่อยู่ในชมรมแล้ว
"กูไปสืบมาสองวัน ให้เด็กกู ช่วยสืบด้วย ...กูก็ว่าคนอะไรวะ ลึกลับชิบหาย
มันจะเป็นไปได้ไง เรียนที่เดียวกัน แต่หาตัวไม่เจอสองอาทิตย์"
ไอ้บอยตอนนี้นอนกระดิกเท้าอยู่บนเตียง ทำหน้าพอใจนิดหน่อย ที่รู้สึกมีอำนาจต่อรองผมขึ้นมาเฉย
"เอ้า เอาไป ไม่ต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้ไหมวะ กูหยอกเล่น"
ไอ้ห่า นี่สีหน้าผมออกขนาดนั้นเลยหรอวะ ผมตื่นเต้นอะใช่ แต่ไม่นึกว่าตัวเองจะออกอาการขนาดนี้
ไอ้บอยเองก็หน้าเสีย นึกว่าผมจะร้องจริง
ผมรีบแกะซองสีน้ำตาล ทันทีที่แกะซอง รูปถ่ายจำนวนสี่สิบ ห้าสิบใบก็ไหลลงมา
....ใช่จริงๆ ทั้งหมดเป็นรูปพี่คิมจริงๆ อยู่ในอิริยาบทต่างๆ บางรูปก็กินข้าวอยู่ บางรูปก็ขับรถอยู่
"มึงนี่...เป็นหน่วยสืบราชการลับหรือไงวะ ไอ้บอย"
ผมช๊อคที่ไอ้บอยหารูปพี่คิมมาจากไหนเยอะแยะขนาดนี้ บางรูปนี่ชวนช๊อคเหมือนกัน
เช่นรูปพี่คิมกำลังตากผ้าอยู่ที่ระเบียงชั้นห้า
"ไอ้พี่คิมของมึงเนี่ย แม่งโคตรฮ๊อทอะ มันอยู่นิเทศ เอกโฆษณา กูก็ไม่ค่อยรู้หรอก
กูให้เพื่อนๆกู กะเด็กกูช่วยสืบอะ ตอนแรกก็หาไม่เจอหรอก แต่แม่งมาแจ๊คพอตตอนแม่งเดินมาพอดี
ตอนกูช่วยพวกเด็กนิเทศทำงานอยู่พอดี"
ใจผมหล่นตุ๊บลงไปอยู่ตาตุ่ม ตอนไอ้บอยบอก พี่คิมโคตรฮอท แต่แม่งก็ชัวร์อยู่แล้วปะวะ หล่อขนาดนั้น
สมัยเรียนม.ปลายแม่งก็โคตร สุภาพบุรุษ เรียนก็เก่ง กีฬาแม่งก็เก่ง เรียกว่า โคตรครบ
"ตกลงจะไปกินข้าวกะกูได้ยังอะ" ไอ้บอยยักคิ้ว ทำหน้ากวนตีน
"เออไปก็ไป ไอ้ห่า" ผมพูดพลางขยี้ตา สงสัยฝุ่นมันเข้าตาผมอะ
สรุปไม่ได้กินข้าวหมูแดงครับ ร้านปิด ผมเลยพามันไปกินร้านบะหมี่หมูแดงแทน หน้าเซเว่น
ระหว่างที่รอบะหมี่มาเสิร์ฟ ผมก็นั่งหยิบรูปพี่คิมมาดูทีละใบ
"จอกสัสเลยว่ะ แอบรักเขาข้างเดียว" ไอ้บอยยิ้มๆ พร้อมแซวผม
"ไม่แอบแล้วมึง กูเคยไปบอกชอบพี่เขาแล้ว สมัยเรียนม.ปลาย" ผมพูดจบ ทำไอ้บอยตาโต
"แล้วเป็นไงวะ"
"พี่เขาหาว่ากูล้อเล่น พี่เขาหัวเราะกูเฉยเลยอ่ะ"
"แห้วซะแล้วเพื่อนกู..โอ๋ๆ เอากูเป็นแฟนแก้ขัดไปก่อนไหมมึง ฮ่าๆ"
"มึงบ้าปะ ช่วงนี้ของขาดหรอมึงอะ"
ผมได้แต่ปรามมัน เพราะว่าผมรู้ดี ว่าถ้าใครได้เป็นแฟนกะบอย คงต้องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันแน่ๆ
เพราะมันเจ้าชู้มากกกกกกกก อีกอย่าง ผมกะมันนี่ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรแบบนั้นเลย
มันออกแนวเป็นเพื่อนสนิทคนนึงของผมมากกว่า อย่างว่าแหละเนอะครับ
บางคนอาจจะเป็นเพื่อนที่เพอร์เฟค แต่เป็นแฟนที่ห่วยมากก็เป็นไปได้
"กินหน่อยมึง กูเป็นคนชวนมึงมากินก็จริง แต่มึงช่วยดูสภาพตัวเองตอนนี้ด้วย
กินอะไรหน่อย ตัวมึงเล็กจะเท่ามดอยู่ละ" มันพูดพลางเอามือมาขยี้หัวผม
ผมกินบะหมี่ สลับกับดูรูปพี่คิมไปเรื่อยๆ จนเลื่อนมาถึงภาพถ่ายสุดท้าย
ที่ทำให้ผมช๊อคจนเกือบตกเก้าอี้ จนไอ้บอยต้องเงยหน้าจากชามบะหมี่มามองผม ว่าเป็นอะไร
รูปใบสุดท้ายที่ผมกำลังถืออยู่ เป็นรูปพี่คิมกำลังเล่นเปียโนอยู่ในห้องชมรมดนตรี ซึ่งในรูปดูท่าทางพี่คิมจะไม่รู้ตัวด้วยครับ
ว่าโดนแอบถ่าย เพราะพี่คิมกำลังใช้มือข้างเดียวเล่นเปียโน ส่วนมืออีกข้างกำลังคลำสมุดโน้ตอยู่
โดยกำลังหรี่ตาดูสมุดโน้ตอยู่ ผมคงจะช๊อครอบสองแน่ๆ ถ้ารู้ว่าพี่คิมกับประธานชมรมดนตรี
ที่ผมไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อนนั้นคือคนคนเดียวกัน ไม่ไหวแล้วผม ไม่ว่าจะเป็นตามที่ผมคิดหรือเปล่า แต่ตอนนี้ช๊อคมาก
"นี่กี่..กี่โมงแล้ววะบอย" ผมถามบอยทั้งๆที่ตัวเองสวมนาฬิกาข้อมืออยู่
"อีกสิบนาทีหกโมงเย็น" ผมนี่ยืนขึ้นเลยครับ รีบเก็บรูปใส่กระเป๋าสะพาย
"ไอ้บอย กูฝากจ่ายตังด้วย กูลืมของไว้ที่ห้องดนตรีว่ะ" ผมพูดตะกุกตะกัก พร้อมรีบวิ่งกลับเข้าไปที่มหาลัย
"เห้ย รีบไปไหนว๊ะ..." ไอ้บอยนั่งงง พร้อมเกาหัวแกรกๆ
ผมรีบวิ่งหอบแฮ่กๆจนมาถึงตึกวิศวะ ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่สักคนแล้ว
แม่งเชือกรองเท้าหลุดผมยังไม่ก้มลงไปผูกเลยครับ คิดดูว่าผมรีบแค่ไหน เหนื่อยด้วยจุกด้วย สงสัยเพราะบะหมี่เมื่อกี้
ผมมาถึงห้องชมรมดนตรี ไฟเปิดอยู่ครับ แต่ประตูปิด ผมลองแง้มประตูเปิดดูในห้อง
เห็นกระดาษเอกสารกระจายรอบห้องเลยครับ แต่ไม่เจอใครสักคน ผมเลยเข้าไปเก็บ
พร้อมถอนใจนิดหน่อย คิดว่าจะเจอพี่คิมแล้วแท้ๆ สงสัยผมเข้าใจผิดไปเองแหละ มันจะเป็นไปได้ไง
พี่คิมของผมเนี่ยนะ จะเป็นคนเดียวกันกับประธานชมรมดนตรี
ไม่น่าเป็นไปได้หรอกครับ ผมบอกกับตัวเอง เพราะว่าสมัยม.ปลาย ผมไม่ยักจำได้ว่าพี่คิมเล่นเปียโนได้
ผมพึมพำกับตัวเองพร้อมถือกระดาษเอกสารชมรม ที่ผมเก็บกวาดเสร็จไว้ในมือ
"ไง...ไม่กลับหอหรอ จะมืดแล้วนะ"
เสียงนี้....
เสียงแบบนี้....
ผมหันหน้าไปตามที่มาของเสียงนั้น พี่คิมจริงๆครับ ถึงพี่เขาจะหน้าตาอิดโรยไปบ้าง
แต่ว่าก็ยังดูดีเหมือนเดิม รอยยิ้มแบบนี้ ยิ้มกวนตีน แบบเดียวกัน เหมือนเมื่อปีนั้น
ที่ผมรวบรวมความกล้าไปสารภาพรักแล้วแห้ว
"พี่คิม พี่คิมใช่ไหมพี่" ผมถามแก้เขินไปงั้นแหละ จะไม่ใช่ได้ไงล่ะ แม่ง
"ผมแอร์ แอร์เด็กห้องห้าอ่ะ" ผมพูดย้ำไป เผื่อพี่คิมเขาจะจำได้ แต่ดูเหมือนเขาจะจำไม่ได้เลยครับ(เศร้า)
"ตอนม.ปลาย น้องเรียนที่เดียวกะพี่ใช่ปะ" พี่คิมทำหน้างงๆ
"ใช่ครับพี่ ผมไปก่อนนะ" คือไม่แปลกหรอกเขาจำเราไม่ได้อะ เพราะเราไม่ได้สำคัญอะไรกับเขาไง
ดูทรงแล้วเขาน่าจะมีแฟนแล้วล่ะ หล่อขนาดนี้ไม่มีก็บ้าแล้ว สงสัยได้อกหักดังเป๊าะรอบสอง
"เดี๋ยวไอ้น้อง......" ผมวิ่งกลับหอแล้วครับ ได้ยินเสียงพี่คิมเรียกแหละ แต่ตอนนี้หัวมันเบาๆครับ ฮ่าๆ
ขอกลับไปงีบที่ห้องดีกว่า กลับห้องไป เดี๋ยวต้องโดนไอ้บอยแซวอีกแหง๋ๆ ว่าดีใจที่เจอคนที่ชอบแทบตาย
แต่เขาดันจำเราไม่ได้(ฮา)
TBC*